ศิลปะการประพนั ธใ์ นวรรณคดไี ทย วชิ าภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
วรรณคดีโบราณของไทย มีจดุ ม่งุ หมายหลกั เพ่อื การอา่ นฟัง เสยี งและการประกอบการแสดงมหรสพ เช่น บทละคร บทพากย์ เป็ น ตน้ ดงั น้นั กวจี งึ ตอ้ งเลอื กสรรถอ้ ยคาํ ใหไ้ พเราะเป็ นพเิ ศษ นอกจากน้ีวรรณคดจี ะตอ้ งมเี น้ือหาท่ีสอ่ื ความหมาย ทง้ั เพอ่ื ความบนั เทิงใจและความจรรโลงใจดว้ ย ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
เม่ือกวีกบั ประพนั ธว์ รรณคดสี กั เร่อื งหน่ึง กวจี ะตอ้ งคดิ เน้ือหาข้ึนมา แลว้ คิดหากลวิธีการประพนั ธใ์ หผ้ ลงานน้นั ออกมา อยา่ งเหมาะเจาะ กลวธิ ีในการประพนั ธด์ งั กลา่ ว เรยี กว่า วรรณศิลป์ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
วรรณศิลป์ หมายถงึ ศิลปะในการประพนั ธ์ เป็ นศิลปะท่ีทาํ ให้ วรรณคดมี ีความหมาย ความงาม และความไพเราะจบั ใจผูอ้ า่ น ตวั อย่าง เช่น บทพรรณนาธรรมชาติ ในรา่ ยยาวมหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑม์ หาพน พระราชนิพนธพ์ ระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
“ ......แลถนดั ในเบ้อื งหนา้ โน่นกเ็ ขาใหญ่ยอดเย่ยี มโพยมอยา่ ง พยบั เมฆ มีพรรณขาวดาํ แดงดูดเิ รกดงั รายรตั นนพมณีแนมน่าใครช่ ม ครน้ั แสงพระสรุ ยิ ะสอ่ งระดมกด็ ูเด่นดงั ดวงดาววาวแวววะวาบๆ ท่ีเว้งิ วงุ้ วิจติ รจาํ รสั จาํ รูญรุง่ เป็นสรี งุ้ พงุ่ พน้ เพยี งคคั นมั พรพ้นื นภากาศ.....” ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
ศิลปะการประพนั ธใ์ นวรรณคดไี ทย ท่ีควรรูใ้ นเบ้อื งตน้ ไดแ้ ก่ การเลน่ เสยี ง การเลน่ คาํ การใชภ้ าพพจน์ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
1. การเลน่ เสยี ง คือ การเลอื กสรรคาํ ใหม้ ีเสยี งสมั ผสั เป็ นพเิ ศษกว่าปกติ เพ่อื ใหเ้ กดิ ทาํ นองเสยี งท่ไี พเราะน่าฟัง และเพ่อื อวดฝีมอื ของกวี การเลน่ เสยี งแบ่งเป็ น 3 ลกั ษณะ คอื การเลน่ เสยี งสมั ผสั สระ การเลน่ สมั ผสั พยญั ชนะ และการเลน่ เสยี งวรรณยกุ ต์ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ เสยี งพยญั ชนะหรอื เสยี งอกั ษร คอื การใชส้ มั ผสั พยญั ชนะ หลายพยางคต์ ดิ ๆกนั คาํ ประพนั ธร์ อ้ ยกรองโดยทวั่ ไปไม่บงั คบั สมั ผสั พยญั ชนะ แตก่ วี นิยมใชเ้ สยี งสมั ผสั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความไพเราะ เช่น ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
จบิ จบั เจาเจา่ เจา้ รงั มา (เลน่ ตวั “จ”) จอกจาบจนั่ จรรจา จา่ จา้ (เลน่ ตวั “จ”) เคา้ คอ้ ยค่อยคอยหา เหน็ โทษ (เลน่ ตวั “ค”) ซอนซ่อนซอ้ นสร้วิ หนา้ น่ิงเรา้ เอาขวญั (เลน่ ตวั “ซ”) ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
นกนอ้ ยนอนแนบน้ํา ในนา (เลน่ ตวั “น”) ตมเตอะติดเตม็ ตา ต่ืนเตน้ (เลน่ ตวั “ต”) จบิ จาบจบั เจรจา จะแจม่ (เลน่ ตวั “จ”) เรไรรอ่ นรอ้ งเรน้ เรยี บรอ้ ยรมิ วงั (เลน่ ตวั “ร”) ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
แลลงิ ลงิ ลอดไม้ ลางลงิ แลลกู ลงิ ลงชิง ลูกไม้ ลงิ ลมไลล่ มติง ลงิ โลด หนีนา แลลูกลงิ ลางไหล้ ลอดเล้ยี วลางลงิ (เลน่ ตวั “ล”) ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
เม่ือมงั่ มีมากมายมติ รหมายมอง เม่ือมวั หมองมิตรมองเหมอื นหมูหมา เม่ือไม่มีหมดมติ รม่งุ มองมา เม่ือมอดมว้ ยแมห้ มูหมาไม่มามอง (เลน่ ตวั “ม”) ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ เสยี งสระ คอื การใชส้ มั ผสั สระ หลายพยางคต์ ดิ ๆกนั เป็นสมั ผสั สระนอกเหนือจากขอ้ บงั คบั ของฉนั ทลกั ษณ์ โดยการเพม่ิ สมั ผสั สระในวรรค เช่น ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
ดูหนูสูร่ ูงู งูสดุ สูห้ นูสูง้ ู หนูงสู ูด้ ูอยู่ รูปงทู ูห่ นูมูทู พรูพรู ดูงขู ู่ฝูดฝ้ ู สดุ สู้ หนูสูร่ ูงูงู งอู ยู่ งสู ูห้ นูหนูสู้ รูปถมู้ ทู ู (เลน่ เสยี งสระ อู ) หนูรูง้ งู ูรู้ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
บางครง้ั อาจเลน่ เสยี งสระหรอื สมั ผสั ในในบางจดุ เช่น จะหกั อน่ื ขนื หกั กจ็ กั ได้ หกั อาลยั น้ีไม่หลดุ สดุ จะหกั สารพดั ตดั ขาดประหลาดนัก แต่ตดั รกั น้ีไม่ขาดประหลาดใจ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
บางครง้ั อาจเลน่ เสยี งสระหรอื สมั ผสั ในในบางจดุ เช่น แลว้ สอนวา่ อย่าไวใ้ จมนุษย์ มนั แสนสดุ ลกึ ล้าํ เหลอื กาํ หนด ถงึ เถาวลั ยพ์ นั เก่ยี วท่เี ล้ยี วลด กไ็ ม่คดเหมอื นหน่ีงในน้ําใจคน ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ เสยี งวรรณยกุ ต์ คอื การใชค้ าํ ท่ไี ลร่ ะดบั เสยี งวรรณยกุ ต์ 2 หรอื 3 ระดบั เป็นชดุ ๆไป เช่น ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
เสยี งซอออ๋ ออ่ ออ้ เออ่ื ยเพลง จบั ป่ีเตรง๋ เตรง้ เตรง๋ เต่งตอ้ ง ขลยุ่ ตรยุ๋ ตรยุ่ ตรุย้ เหนง เหน่งเน่ง รนาดเฮย ฆอ้ งหน่องหนองน่องหนอ้ ง ผรง่ึ พร้งึ พง่ึ ตโภน ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
บวั ตูมตมุ ต่มุ ตมุ้ กลางตม สูงสง่ ทนทานลม ลม่ ลม้ แมลงเมา้ เม่าเมาฉม ซมซราบ รูรูร่ ูร้ มิ กม้ พาดไมไ้ ทรทอง ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
เขาขนั คูคูค่ ู้ เคยี งสอง เย้อื งย่างนางยูงทอง ท่องทอ้ ง ทวิ ทงุ้ ทงุ่ ทงุ มอง มจั ฉพราศ เทาเทา่ เทา้ ยางหยอ้ ง เลยี บล้มิ รมิ ทาง ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
จบิ จบั เจาเจา่ เจา้ รงั มา จอกจาบจนั่ จรรจา จา่ จา้ เคา้ คอ้ ยค่อยคอยหา เหน็ โทษ ซอนซ่อนซอ้ นสร้วิ หนา้ น่ิงเรา้ เอาขวญั ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
จะจบั จองจอ่ งจอ้ งสง่ิ ใดน้ัน ดูสาํ คญั คนั่ คน้ั อยา่ งนั ฉงน อยา่ ลามลวงลว่ งลว้ งดูเลศกล คอ่ ยแคะคนคน่ คน้ ใหค้ วรการ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
อยา่ เคล้มิ คาํ คลาํ่ คล้าํ แต่ลาํ โลภ เท่ยี วหวงหว่ งหว้ งละโมภละเมอหาญ สง่ิ ใดปองป่องป้ องเป็นประธาน อยา่ ด่วนดานด่านดา้ นแตโ่ ดยใจ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
2. การเลน่ คาํ การเลน่ คาํ คอื การนําคาํ ท่มี ีรูปหรอื เสยี งพอ้ งกนั หรอื ใกลเ้ คยี งกนั มาเลน่ ในเชิงเสยี งและความหมาย การเลน่ คาํ มีหลายวธิ ี เช่น การเลน่ คาํ พอ้ ง การเลน่ คาํ หลายความหมาย เป็นตน้ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ คาํ พอ้ ง “ แกม้ ช้ําช้ําใครตอ้ ง อนั แกม้ นอ้ งช้ําเพราะชม ปลาทกุ ทกุ ขอ์ กตรม เหมอื นทกุ ขท์ ่พี จ่ี ากนอ้ ง ” กวใี ชก้ ารเลน่ คาํ สองแหง่ คอื เลน่ คาํ ว่า ช้ํา และคาํ วา่ ทกุ ข์ โดย กลา่ วถงึ ปลาท่ชี ่ือแกม้ ช้ําา มนั ช้ําเพราะใคร แต่แกม้ ของนางน้ัน ช้ําเพราะถกู กวเี ชยชม ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ คาํ ในท่นี ้ีใหค้ วามรูส้ กึ วา่ กวแี ละนางมี ความสมั พนั ธก์ นั อย่างใกลช้ ิด และเม่อื กวกี ลา่ วถงึ ปลาทกุ ทาํ ให้ ราํ ลกึ ถงึ ความทกุ ขท์ ่เี กดิ ข้นึ คอื เสยี ง ทกุ ทาํ ใหน้ ึกถงึ ความทกุ ข์ ท่ตี อ้ งจากนางมา เป็นการเลน่ คาํ โดยอาศยั คาํ พอ้ งเสยี งท่ที าํ ให้ ความรูส้ กึ วา่ การจากนางทาํ ใหก้ วเี ป็นทกุ ข์ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
ปลาสรอ้ ยลอยลอ่ งชล วา่ ยเวยี นวนปนกนั ไป เหมือนสรอ้ ยทรงทรามวยั ไม่เหน็ เจา้ เศรา้ บ่วาย กวเี ลน่ คาํ ว่า สรอ้ ย เม่ือกลา่ วถงึ ปลาสรอ้ ยคอื ช่ือของปลา ทาํ ใหร้ าํ ลกึ ถงึ สรอ้ ยท่นี างสวมใส่ เม่ือกวไี ม่เหน็ นางจงึ มแี ต่ ความเศรา้ การเลน่ คาํ ทาํ ใหผ้ ูอ้ า่ นรูส้ กึ ถงึ ความรกั ใคร่ ผูกพนั ท่กี ววมี ตี ่อนาง พบเหน็ สง่ิ ใดกส็ ะกดิ ใจใหน้ ึกถงึ นางอยู่ราํ่ ไป ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
“เหน็ รอหกั เหมือนหน่ึงรกั พร่ี อรา แตร่ อทา่ รง้ั ทกุ ขม์ าตามทาง” รอ คาํ แรก คอื หลกั ปกั กน้ั กระแสน้ํา สว่ น \"รอ\" ในคาํ ว่า \"รอรา\" คอื หยดุ และในคาํ วา่ \"รอท่า\" หมายถงึ คอย ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
“เบญจวรรณจบั วลั ยม์ าลี เหมือนวนั เจา้ วอนพใ่ี หต้ ามกวาง” กวเี ลน่ คาํ ท่มี ีเสยี ง \"วนั \" 3 คาํ คอื (เบญจ) วรรณ-วลั ย-์ วนั โดยนํามาใชใ้ หม้ ีความหมายสมั พนั ธก์ นั ไดอ้ ยา่ งกลมกลนื การ เลน่ คาํ พอ้ งเป็นกลวธิ กี ารประพนั ธท์ ่ีกวนี ิยมมาก ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
วา่ พลางทางชมคณานก โผนผกจบั ไมอ้งึ ม่ี เบญจวรรณจบั วลั ยม์ าลี เหมือนวนั พไ่ี กลสามสดุ ามา นางนวลจบั นางนวลนอน เหมอื นพแ่ี นบนวลสมรจนิ ตหรา จากพรากจบั จากจาํ นรรจา เหมอื นพจ่ี ากนางสการะวาตี ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
จากบทประพนั ธเ์ ป็นการเลน่ คาํ พอ้ งเสยี งคาํ ว่า “วรรณ, วลั ย์ และ วนั ” โดย วรรณ หมายถงึ นกเบญจวรรณ คาํ ว่า วลั ย์ หมายถงึ เถาวลั ยแ์ ละคาํ ว่า วนั หมายถงึ วนั ท่เี ป็นช่วงเวลา เป็นการเลน่ คาํ โดยพอ้ งเสยี ง แต่ความหมายต่างกนั นอกจากน้ี ยงั ปรากฏการเลน่ คาํ พอ้ ง คาํ ว่า “นวล” และคาํ ว่า “จาก” ซ่ึงเป็น การพอ้ งเสยี งและพอ้ งรูปแต่ความหมายตา่ งกนั ดว้ ย ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ คาํ ซ้าํ คอื การนําคาํ คาํ เดียวมาใชซ้ ้าํ ๆ ในท่ใี กล้ ๆ กนั เพอ่ื ย้าํ ความหมายของขอ้ ความใหห้ นักแน่นมากย่งิ ข้นึ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
รอนรอนสรุ ยิ ะโอ้ อสั ดง เรอ่ื ยเร่อื ยลบั เมรุลง คาํ่ แลว้ รอนรอนจติ จาํ นง นุชพ่ี เพยี งแม่ เรอ่ื ยเร่อื ยเรยี มคอยแกว้ คลบั คลา้ ยเรยี มเหลยี ว ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
หา้ มเพลงิ ไวอ้ ยา่ ให้ มคี วนั หา้ มสรุ ยิ ะแสงจนั ทร์ สอ่ งไซร้ หา้ มอายใุ หห้ นั คนื เลา่ หา้ มดงั่ น้ีไวไ้ ด้ จงึ หา้ มนินทา ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
“...สดุ สายนยั นาท่แี ม่จะตามไปเลง็ แล สดุ โสต แลว้ ท่แี ม่จะรบั ทราบฟงั สาํ เนียง สดุ สรุ เสยี งท่แี ม่จะราํ่ เรยี กพไิ ล รอ้ ง สดุ ฝีเทา้ ท่แี ม่จะเย้อื งยอ่ งยกย่างลงเหยยี บดนิ กส็ ดุ ส้นิ สดุ ปญั ญา สดุ หาสดุ คน้ เหน็ สดุ คดิ ..” ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ คาํ เชิงถาม คอื การเรยี งถอ้ ยคาํ ใหเ้ ป็นประโยคเชิงถาม แต่เจตนาท่ี แทจ้ รงิ ไม่ไดถ้ าม เพราะไม่ตอ้ งการคาํ ตอบ แตต่ อ้ งการเนน้ ให้ ขอ้ ความมนี ้ําหนกั ดึงดูดความสนใจและใหผ้ ูฟ้ งั คิดตาม บางท่าน อาจเรยี กวา่ “วาทศิลป์” ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
เปลกไ็ กวดาบกแ็ กว่งแข็งหรอื ไม่ ใช่อวดเบ่งหญงิ ไทยมใิ ช่ชวั่ ไหนไถถากตรากตราํ ไหนทาํ ครวั ใช่ดีแต่จะยวั่ ผวั เม่อื ไร เป็นการเลน่ คาํ ท่ีเป็ นคาํ ถามเพ่อื ใหผ้ ูฟ้ งั สะดดุ คดิ วา่ ท่ีจรงิ น้นั ผู้ หญิงไทยแข็งแกรง่ และมคี วามสามารถมากกว่าการใชเ้ สน่หผ์ ูกมดั ใจ สามอี ย่างท่มี กั จะเขา้ ใจกนั ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
โอเ้ จดียท์ ่ีสรา้ งยงั รา้ งรกั เสยี ดายนกั นึกน่าน้ําตากระเด็น กระน้ีหรอื ช่ือเสยี งเกยี รตยิ ศ จะมิหมดลว่ งหนา้ ทนั ตาเหน็ เป็นผูด้ ีมีมากแลว้ ยากเยน็ คดิ กเ็ ป็ นอนิจจงั เสยี ทง้ั น้นั ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การใชค้ าํ เชิงถามว่า “กระน้ีหรอื ” เป็ นการกระตนุ้ ใหผ้ ูฟ้ ังฉุกคดิ ว่าเม่อื เป็นเช่นน้ีแลว้ มีหรอื ท่ีช่ือเสยี งจะไม่สูญสลายไปตามภาวรวตั ถุ ทง้ั หลาย ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ คาํ หลายความหมาย ไม่เมาเหลา้ แต่เรายงั เมารกั สดุ จะหกั หา้ มจติ คดิ ไฉน ถงึ เมาเหลา้ เชา้ สายกห็ ายไป แต่เมาใจน้ีประจาํ ทกุ คาํ่ คนื บทประพนั ธน์ ้ีเลน่ คา “เมา” ใน ๓ แหง่ คือเมาเหลา้ เมารกั และ เมาใจ เมาเหลา้ คอื ด่ืมสรุ าเมามายไมไ่ ดส้ ติ สว่ นคาํ ว่า เมารกั เมาใจ สอ่ื ความหมายว่า ลมุ่ หลงในความรกั ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ คาํ อพั ภาส คาํ อพั ภาส คอื คาํ ซ้าํ ประเภทหน่ึงท่ีกรอ่ นเสยี งพยางคห์ นา้ เป็ นสระอะ เช่น สามยอดตลอดระยะระยบั วะวะวบั สลบั พรรณ ช่อฟ้ าตระการกลจะหยนั จะเยาะยวั่ ทิฆมั พร บทประพนธั ข์ า้ งตน้ คาํ อพั ภาส คอื คาํ ว่า วะวบั มาจากคา ว่า วบั วบั ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
การเลน่ คาํ อพั ภาส ท่อธารละหานหว้ ย กร็ ะรวยระรนิ วา รหี ลงั่ ถะถงั่ มา บมขาดผะผาดผงั บทประพนั ธข์ า้ งตน้ คาํ อพั ภาส คอื คาํ ว่า ระรวย มาจาก การกรอ่ นเสยี ง รวยรวย คาํ ว่า ถะถงั่ มาจาก ถงั่ ถงั่ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
3. การใชภ้ าพพจน์ คอื การใชถ้ อ้ ยคาํ เพอ่ื สรา้ งจนิ ตภาพ (ภาพในใจ) แกผ่ ูอ้ า่ น โดยการเรยี บเรยี งถอ้ ยคาํ ดว้ ยวธิ กี ารต่าง ๆ ใหพ้ เิ ศษกว่าปกติ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
อปุ มา คอื การเปรยี บสง่ิ หน่ึงเหมือนกบั สง่ิ หน่ึง โดยนํา สองสง่ิ ท่ตี า่ งจาํ พวกกนั แต่มีลกั ษณะเด่นเหมือนกนั มา เปรยี บเทยี บกนั โดยใชค้ าํ แสดงความเปรยี บวา่ “เหมือน เสมอื น คลา้ ย ดงั ดจุ ” ฯลฯ เช่น ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
อปุ มา เช่น สวยเหมอื นนางฟ้ า ซนเหมือนลงิ รอ้ งไหป้ านใจจะขาด เขาตะโกนเสยี งดงั ดงั่ ฟ้ ารอ้ ง เงยี บราวกบั ป่าชา้ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
อปุ มา เช่น ดีใจเหมอื นปลากระด่ไี ดน้ ้ํา เธอว่ายน้ําเกง่ เหมอื นปลา ดวงหนา้ นวลกระจา่ งดจุ ดวงจนั ทร์ ผมของเธอดาํ เหมอื นความมดื แหง่ ราตรี เหม็นเหมือนซากศพ ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
คณุ แม่หนาหนักเพ้ยี ง พสธุ า คณุ บดิ รดจุ อา กาศกวา้ ง คณุ พพ่ี า่ งศิขรา เมรุมาศ คณุ พระอาจารยอ์ า้ ง อาจสูส้ าคร ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
พระคณุ เป็นสง่ิ ท่เี ป็นนามธรรม เรามองไม่เหน็ และชวั่ ตวงวดั ไม่ได้ กวจี งึ ใชว้ ธิ เี ปรยี บกบั สง่ิ ท่เี ป็นรูปธรรมท่เี ราเคยเหน็ มากอ่ น เช่น แผ่นดิน ทอ้ งฟ้ า ภเู ขา และทอ้ งน้ํา ซ่ึงมลี กั ษณะ ใหญโ่ ตและมปี รมิ าณมาก เพอ่ื สอ่ื ความหมายวา่ พระคณุ ของ บคุ คลทง้ั 4 จาํ พวกน้นั ย่งิ ใหญม่ าก ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ่ตี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
สูงระหงทรงเพรยี วเรยี วลูด งามละมา้ ยคลา้ ยอฐู กะหลาป๋ า พศิ แต่หวั จรดเทา้ ขาวแตต่ า สองแกม้ กลั ยาดงั ลกู ยอ ค้วิ กง่ ดงั กง่ เขาดดี ฝ้ าย จมกู ละมา้ ยคลา้ ยพรา้ ขอ หกู ลวงดวงพกั ตรห์ กั งอ ลาํ คอโตตนั สน้ั กลม สองเตา้ หอ้ ยตงุ ดงั ถงุ ตะเคยี ว โคนเหย่ี วแหง้ รวบเหมอื นบวบตม้ เสวยสลายาจกุ พระโอษฐอ์ ม มนั น่าเชยน่าชมนางเทวี ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
อปุ ลกั ษณ์ อปุ ลกั ษณ์ คอื การเปรยี บเทยี บสองสง่ิ ท่ตี า่ งกนั แต่มี คณุ สมบตั บิ างประการรว่ มกนั โดยเปรยี บเทยี บวา่ สง่ิ หน่ึงเป็น สง่ิ หน่ึงโดยตรง หรอื เปรยี บโดยใชค้ าํ วา่ “คอื ” “เป็น” ภาษาไทยกบั ครูพต่ี ต่ี ี๋ – อาจารยพ์ รี ะเสก บรสิ ทุ ธ์บิ วั ทพิ ย์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103