Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือเรียนวิทยาการคำนวณ ม.5 อักษรเจริญทัศ

หนังสือเรียนวิทยาการคำนวณ ม.5 อักษรเจริญทัศ

Published by sureerat09.09, 2019-05-28 06:00:52

Description: หนังสือเรียนวิทยาการคำนวณ ม.5 อักษรเจริญทัศ

Search

Read the Text Version

คาํ นาํ ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการไดปรับปรุงหลักสูตรและประกาศใชมาตรฐานการเรียนรูและตัวช้ีวัด กลุมสาระ การเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ทงั้ นเ้ี พอื่ ใหส อดรบั กบั การเปลยี่ นแปลงดา นตา ง ๆ และพฒั นาผเู รยี นใหม ที กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร ตลอดจน มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค และมีทักษะในศตวรรษท่ี 21 เมื่อหลักสูตรมีการเปล่ียนแปลง ภาระหนาท่ีหน่ึงของครูที่จะตองดําเนินการ คือ พัฒนาและออกแบบ หนวยการเรยี นรูใ หม จัดทําแผนการจัดการเรียนรใู หมใหส อดคลอ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู ตวั ชวี้ ดั ผลการเรยี นรู รวมทงั้ จดุ เนน ตามทมี่ าตรฐานการเรยี นรแู ละตวั ชวี้ ดั กลมุ สาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ไดก าํ หนดไว เพ่ือชวยใหการปฏิบัติงานของครูผูสอนสะดวกมากย่ิงข้ึน ทางบริษัท อักษรเจริญทัศนจึงไดจัดทําเอกสาร “แนวทางการจดั การเรียนการสอน” รายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ชนั้ ม.5 สําหรบั ใหครูผูสอน ไดนําไปประยุกตใชใหสอดคลองกับหลักสูตรของสถานศึกษา ซ่ึงภายในเลมมีขอมูลที่จําเปนสําหรับครูผูสอนเพ่ือ นาํ ไปใชงาน ดังน้ี 01 02 สรปุ หลกั สตู ร ตวั อยา่ ง • คําอธิบายรายวิชา หนงั สอื เรยี น • โครงสรางรายวิชา เอกสารแนวทาง การจดั การเรยี นการสอน ตวั อยา่ ง หลกั สตู รฉบบั ปรบั ปรงุ ’60 05 PowerPoint New Version ตวั อย่างแผน การจัดการเรยี นรู้ ตวั อย่างค่มู อื ครู 03 • โครงสรา งแผนฯ • โครงสรา งคูมือครู • ตวั อยา งแผนฯ • ตัวอยา งคูมือครู 04 หวังเปนอยา งย่ิงวา เอกสาร “แนวทางการจัดการเรยี นการสอน” เลม นี้ จะชวยใหการพัฒนาหลกั สูตรของ ครผู ูส อนและสถานศกึ ษามีความสะดวก เห็นตัวอยางแนวทางการจัดการเรียนการสอน และทาํ ใหผเู รียนเกิดทกั ษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตรต ามทห่ี ลกั สตู รไดกาํ หนดเปาหมายไว บรษิ ัท อักษรเจริญทศั น อจท. จํากดั A

























หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา1หนว ยการเรียนรูที่ วิทยาการคอมพิวเตอร ส่อื ดจิ ทิ ัล และเทคโนโลยี สารสนเทศกบั การดาํ เนนิ ชวี ติ วิทยาการคอมพิวเตอร ส่ือดิจิทัล และเทคโนโลยี สารสนเทศมีบทบาทสําคัญตอการดําเนินชีวิตของ ผคู นในสงั คมปจ จุบันเปน อยา งมาก ตัวชวี้ ัด ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สอ่ื ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยสี ารสนเทศในการ แก้ปัญหา หรอื เพิ่มมลู ค่าให้กับบรกิ ารหรือผลิตภัณฑ์ทใ่ี ชใ้ นชีวติ จริงอยา่ งสร้างสรรค์ 12

นักเรียนคิดวา วิทยาการ 1 ดวิทําเยนาินกชาวี ริตคอมพวิ เตอรกบั การ คอมพวิ เตอรม คี วามสาํ คญั ตอ เทคโนโลยที จ่ี ะเกดิ ขน้ึ ใน อนาคตอยา งไร วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) เป็น ศาสตร์ที่เก่ียวข้องกับการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีการค�านวณทาง คอมพิวเตอร์ และทฤษฎีการประมวลผลสารสนเทศ ท้ังด้าน ซอฟตแ์ วร์ ฮารด์ แวร์ และเครอื ขา่ ย โดยวทิ ยาการคอมพวิ เตอรจ์ ะประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั คอมพิวเตอร์ ตัง้ แตร่ ะดับนามธรรม หรอื ความคดิ เชงิ ทฤษฎี เช่น การวเิ คราะหแ์ ละการสังเคราะห์ ขน้ั ตอนวธิ ี ไปจนถงึ ระดบั รปู ธรรม เชน่ ทฤษฎภี าษาโปรแกรม ทฤษฎกี ารพฒั นาซอฟตแ์ วร์ ทฤษฎี ทางดา้ นฮารด์ แวร์ ทฤษฎกี ารจัดการข้อมูล ทฤษฎสี ่ือสารและเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ การเรียนรู้ศาสตร์ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จะน�าไปสู่การคิดค้นทฤษฎีและนวัตกรรม ใหม่ ทัง้ นเ้ี พอื่ ตอบสนองต่อความตอ้ งการของการใช้เทคโนโลยีของคนในสังคม ทีต่ ้องการอะไรที่ เรว็ ขน้ึ สะดวกขนึ้ และมปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ โดยหวั ขอ้ ทค่ี วรศกึ ษาเกยี่ วกบั วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ มีดงั น้ี 1. การพฒั นาซอฟต์แวร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยการเขยี นโปรแกรมภาษาต่าง ๆ ไม่วา่ จะเปน็ โปรแกรมภาษาไพทอน (Python) โปรแกรมภาษาซี (C) โปรแกรมภาษาจาวา (Java) หรอื โปรแกรมภาษา SQL จะต้องเรยี นรถู้ งึ หลักการเขียนโปรแกรม และการออกแบบอัลกอรทิ ึม เพอ่ื ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ออกมาให้มีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน ท้ังที่อยู่ ในรูปแบบของเวบ็ แอปพลเิ คชนั (Web Application) โมบายแอปพลิเคชัน (Mobile Application) เดสกท์ อ็ ปแอปพลเิ คชนั (Desktop Application) เกม (Games) และการพฒั นาซอฟตแ์ วรท์ ฝี่ งั ตวั ลง บนอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สต์ า่ ง ๆ เชน่ การพฒั นา เว็บแอปพลิเคชันให้ข้อมูลเก่ียวกับการรักษา พยาบาลเบ้ืองต้นแก่ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย การ พฒั นาโมบายแอปพลเิ คชนั ในการแจง้ เตอื นภยั การพัฒนาเดสก์ท็อปแอปพลิเคชันการบันทึก ข้อมูลการปฏิบัติงาน การพัฒนาเกมเพ่ือ ส่งเสริมพัฒนาการทางการเรียนรู้ของเด็กที่มี พัฒนาการทางสมองช้า การพฒั นาซอฟตแ์ วร์ ฝังตัวลงบนอุปกรณ์ตรวจจับสภาพอากาศเพื่อ การจดั การการเกษตร หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา 3 13

ในการพฒั นาซอฟตแ์ วรจ์ ะตอ้ งเลอื กรปู แบบใหเ้ หมาะสมกบั การนา� ไปใชง้ าน โดยรปู แบบ การพฒั นาโปรแกรมทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มมากทสี่ ดุ คอื Waterfall Model หรอื โมเดลนา�้ ตก เนอื่ งจาก มรี ปู แบบขนั้ ตอนวธิ กี ารดา� เนนิ งานทชี่ ดั เจน และงา่ ยตอ่ การนา� ไปใช้ โดยขนั้ ตอนในการดา� เนนิ งาน ของโมเดลนา้� ตก จะเริม่ ด�าเนนิ งานในข้ันตอนทห่ี นึ่งกอ่ น แล้วจึงด�าเนินงานในขน้ั ตอนที่สองและ ข้ันตอนถัดไปจนเสร็จ ซ่ึงในการด�าเนินงานน้ันจะไม่สามารถข้ามไปท�าขั้นตอนต่อไปได้เมื่อ ขน้ั ตอนทที่ า� อยยู่ งั ไมเ่ สรจ็ และไมส่ ามารถยอ้ นกลบั ไปทา� งานขนั้ ตอนกอ่ นหนา้ ได้ แตใ่ นปจั จบุ นั ได้ มกี ารปรบั ปรงุ รปู แบบการดา� เนนิ งานใหส้ ามารถยอ้ นกลบั มาแก้ไขขน้ั ตอนดา� เนนิ งานกอ่ นหนา้ ได้ การพัฒนาซอฟตแ์ วร์แบบ Waterfall Model มีขนั้ ตอนการด�าเนินงาน ดงั น้ี 1 การวางแผน เป็นข้ันตอนการวางแผน การวางแผน ด�าเนินงาน และรวบรวมความต้องการต่าง ๆ ของผใู้ ชง้ าน 2 การวิเคราะห์ระบบ เป็นการน�าความ ต้องการของผู้ใช้งานมาวิเคราะห์ เพ่ือหาข้อ การวิเคราะห์ระบบ สรุป การออกแบบระบบ 3 การออกแบบระบบ เป็นการออกแบบ รายงาน สว่ นตดิ ตอ่ ความสมั พนั ธต์ า่ ง ๆ ระหวา่ ง ผใู้ ชง้ านกับระบบ การพฒั นาระบบ 4 การพฒั นาระบบ เปน็ ขนั้ ตอนการลงมอื พัฒนาระบบเพ่ือใหไ้ ดซ้ อฟต์แวรท์ ตี่ อ้ งการ 5 การบ�ารงุ รกั ษาระบบ การบา� รงุ รกั ษาระบบ เปน็ การแกไ้ ขปญั หาที่อาจ0เ0ก1ิด01100101010001100010100011001010101001 ขซไป้ออใผฟชดิ ตง้ พาแ์ นลวราท์ดกี่พับัฒรนะบาเบสเรม็จ่อื แน1000ล01000�า0้ว101111000010000111110000010001101001100011001100000110010011100100000011101001100000011101000001111110000001101000110000ภ00100า11111พ00010ท10000ี ่01001100110.110011011 0ขผ0000110อัง1แ010ง0110ส1W010ด00000งa11ขte0้ันrตfaอllนMด�าoเdนeนิ l งาน 101001001100111001010101001100010100101010 010101000101001010010110010101001 00101100101010001100010100011001010101001 0010010100100100100101001001001010010100 101001001100111001010101001100010100101010 หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา 010101000101001010010110010101001 4 14

2. โครงสรา้ งและการควบคมุ ระบบคอมพวิ เตอร์ เปน็ การเรยี นรโู้ ครงสรา้ งและสถาปตั ยกรรม ทางดา้ นคอมพวิ เตอร์ ท้งั ด้านฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟตแ์ วร์พื้นฐานทค่ี อมพิวเตอรต์ อ้ ง มีเพ่อื ใช้ในการตดิ ต่อส่ือสารกับผู้ใช้งานทเ่ี รยี กวา่ “ระบบปฏิบตั ิการ” ใหท้ า� งานไดเ้ ร็วและมีความ เสถียรภาพ มีวงจรคอมพิวเตอร์ท่ีใช้เฉพาะงานที่เรียกว่า “ไมโครโปรเซสเซอร์” รวมถึงการ เขา้ รหสั ถอดรหสั เพ่ือใช้ในการควบคุมดูแลความปลอดภัยของขอ้ มูลทอ่ี ยู่ในเครอื่ งคอมพิวเตอร์ และบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยโครงสร้างของระบบคอมพิวเตอร์จะต้องประกอบไปด้วยส่วน ประกอบส�าคัญ 3 ส่วน คือ หน่วยรับข้อมูล (Input) หน่วยประมวลผลข้อมูล (Process) และ หนว่ ยแสดงผลขอ้ มูล (Output) หนว่ ยรบั หน่วยประมวล หนว่ ยแสดงผล ข้อมูล ผลขอ้ มลู ข้อมลู ภาพท ่ี 1.2 ผงั แสดงโครงสรา้ งระบบคอมพวิ เตอร์ 3. การสอ่ื สารระหวา่ งเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ภาพที่ 1.3 การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์สอ่ื สารหนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา หรอื อปุ กรณส์ อื่ สาร เปน็ การศกึ ษาเกย่ี วกบั ทฤษฎี การสอื่ สารขอ้ มลู โครงสรา้ ง และโปรโตคอลของ ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ การนา� คอมพวิ เตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มาเช่ือมต่อ ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพ่ือให้สามารถใช้ งานร่วมกัน รวมถึงการน�าคอมพิวเตอร์และ เทคโนโลยสี ารสนเทศไปใหบ้ รกิ ารผา่ นเครอื ขา่ ย อนิ เทอรเ์ นต็ และเครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ เชน่ สมารต์ โฟน แท็บเล็ต เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ 5 15

4. การนา� ไปใชง้ านดา้ นกราฟก และมลั ตมิ เี ดยี เปน็ การประยกุ ตเ์ อาหลกั การทางคณติ ศาสตร์ ไปผสานเขา้ กบั การออกแบบชนิ้ งานรปู รา่ งตา่ ง ๆ รวมถงึ การจดั การเรอ่ื งของภาพนง่ิ ภาพเคลอ่ื นไหว และเสียง โดยเฉพาะปจั จบุ นั ในเร่ืองของเทคโนโลยีการประมวล ผลภาพ (Image Processing) เปน็ กระบวนการการจดั การวเิ คราะห์ CinoRmeaSlcLiife สารสนเทศของรูปภาพ โดยใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผล เทคโนโลยีประมวล เชน่ ระบบการตรวจจบั ใบหนา้ การตรวจจบั ความเคลอ่ื นไหวของ ผลภาพถูกน�ามาประยุกต์ วัตถุ ซ่ึงมีหลักการท่ีส�าคัญ คือ การท�าให้ภาพมีความคมชัด ใช้ในหลายด้าน ด้านระบบ ปราศจากสญั ญาณรบกวน โดยการแบง่ สว่ นของวตั ถทุ สี่ นใจออก รักษาความปลอดภัยได้น�า จากภาพ เพ่อื นา� ภาพวัตถุที่ไดไ้ ปวเิ คราะห์หาขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณ เทคโนโลยปี ระมวลผลภาพ เช่น ขนาด รปู รา่ ง และทศิ ทางการเคลื่อนทข่ี องวัตถุ มาใช้ในการจดจา� ลายนว้ิ มอื จะเหน็ ไดว้ า่ ระบบตา่ งๆ ท่ีใชเ้ ทคโนโลยกี ารประมวลผล หรือการตรวจจับใบหน้า o_O ข้อมูลจะมีการประมวลผลภาพเป็นจ�านวนมาก และเป็น เพอื่ เฝา ระวงั การกอ่ การรา้ ย กระบวนการท่ีต้องท�าซา�้ ๆ ในรปู แบบเดมิ ซง่ึ งานในลกั ษณะนี้ ในอาคารสถานท่ีต่าง ๆ หากใช้คนในการวิเคราะห์ จะต้องใช้ก�าลังคนในการท�างานสูง ด้านการเกษตรได้น�ามาใช้ ใช้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลนานและอาจจะท�าให้เกิด ในการคดั แยกคณุ ภาพของ ขอ้ ผดิ พลาดขน้ึ ได้ ดงั นนั้ คอมพวิ เตอรจ์ งึ เปน็ องคป์ ระกอบสา� คญั พืชผลทางการเกษตร ในการท�าหน้าที่วิเคราะหแ์ ละประมวลผลภาพในระบบต่าง ๆ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณาภาพที ่ 1.4 การใช้เทคโนโลยีประมวลผลภาพในการตรวจจับใบหนา้ 6 16

5. การประยุกต์ใช้งานอย่างชาญฉลาด เป็นการสร้างระบบสารสนเทศท่ีมีความชาญ หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา ฉลาดหรอื ปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence : AI) เพื่อน�าไปประยุกต์ใช้ในการทา� งาน โดย เปน็ การพฒั นาระบบสารสนเทศท่มี ีแม่แบบมาจากมนุษย์หรือการเลียนแบบพฤตกิ รรมของมนุษย์ ซึ่งเปน็ การเรยี นรู้เกยี่ วกับกระบวนการคดิ การกระท�า การให้เหตุผล การอนุมาน การทา� งานของ สมอง และในปจั จบุ นั มกี ารพฒั นาความสามารถของปญั ญาประดษิ ฐ์ เพอ่ื ทจ่ี ะนา� เขา้ มาชว่ ยงานใน ดา้ นตา่ ง ๆ มากมาย เช่น หุน่ ยนต์ดแู ลผูป้ ่วยและผสู้ ูงอายุ หุ่นยนต์เพ่ือการแพทยค์ อยช่วยเหลือ ในการผา่ ตดั หนุ่ ยนต์เพื่อจดั การด้านการผลติ ในภาคอุตสาหกรรม ภาพท ่ี 1.5 การใช้ปัญญาประดษิ ฐ์ในงานด้านการแพทย์ 6. การคา� นวณและการประยกุ ต ์ใชง้ าน ระดับสูง เป็นการศึกษาค้นคว้า และน�าไปใช้ เกย่ี วกบั หลกั การคา� นวณของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ และวธิ กี ารนา� คอมพวิ เตอรไ์ ปใชใ้ นงานระดบั สงู ทีม่ คี วามยากในการนา� ไปประยกุ ต์ใช้งาน เช่น งานด้านชีวภาพ งานด้านวิทยาศาสตร์ งาน ด้านมลั ตมิ เี ดียขัน้ สงู ภาพท ่ี 1.6 การน�าคอมพวิ เตอรม์ าประยุกต์ใช้ ในงานดา้ นวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ 7 17

นักเรียนคิดวา สื่อดิจิทัล 2 สอ่ื ดิจทิ ลั กบั การดาํ เนินชวี ิต ในรูปแบบใดมีผลตอการ ดูแลสุขภาพของผูสูงอายุ สอ่ื ดจิ ทิ ลั (Digital Media) ท่นี า� มาใช้ในการด�าเนนิ ชีวติ มากทสี่ ดุ เปน็ การนา� เอาขอ้ ความ ภาพนงิ่ ภาพเคลอ่ื นไหว เสยี ง และวดิ โี อ มาจัดรูปแบบ โดยอาศัยเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ผสม ผสานกบั ความคดิ สรา้ งสรรคด์ า้ นดจิ ทิ ลั คอนเทนตข์ องผสู้ รา้ งสอ่ื เพื่อผลติ เป็นสื่อดจิ ิทัลท่ตี อบสนองต่อความต้องการของผู้บรโิ ภค เช่น ภาพยนตร์ โฆษณา การต์ นู เกมออนไลน์ สื่อการสอน ซ่ึงส่ือดิจิทัลเป็นนวัตกรรมที่สร้างข้ึนมาทดแทนส่ิงที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ ราคาถูกลงและรกั ษาไวซ้ ่ึงคุณภาพ เอือ้ ประโยชนต์ ่อการใชง้ าน และการได้มาซ่งึ สอื่ ดิจทิ ลั จะต้อง ประกอบดว้ ยเน้อื หา โปรแกรม และอุปกรณท์ ่ีใช้ในการสรา้ งสื่อ ในปจั จบุ นั ความตอ้ งการผลงานทางดา้ นสอื่ ดจิ ทิ ลั มจี า� นวนมาก โดยเฉพาะเมอ่ื ทกุ คนในสงั คม สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ไดง้ า่ ยผา่ นเทคโนโลยจี ากทกุ ทไ่ี ดอ้ ยา่ งไมจ่ า� กดั ทา� ใหท้ กุ หนว่ ยงาน ทกุ องคก์ ร ทุกสาขาวิชาชีพ ต้องการน�างานทางด้านส่ือดิจิทัลมาน�าเสนอต่อผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้า ถงึ ข้อมูลตา่ ง ๆ ของตนได้โดยตรง รวดเร็ว และถกู ตอ้ ง ทา� ให้รูปแบบของสื่อดิจทิ ัลมีการพฒั นา และแข่งขันกันมากข้นึ ทั้งในด้านเนื้อหา เทคโนโลยี รูปแบบ รวมถึงความคดิ สรา้ งสรรค์ เพ่อื ให้ ส่อื ดิจิทลั ช่วยสร้างมูลคา่ เพิม่ กบั สินค้าและบริการของตน หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณาCom Sciภาพที ่ 1.7 การน�าเสนอสือ่ ดิจทิ ลั ในรูปแบบต่าง ๆ Focus ´Ô¨Ô·ÑŤ͹෹µ (Digital Content) ดิจทิ ลั คอนเทนต์ คอื สารสนเทศทมี่ รี ปู แบบเปน็ ดจิ ทิ ลั โดยอาศยั การแสดงเนอ้ื หาผ่าน ทางอปุ กรณ์ดจิ ทิ ัลต่าง ๆ เชน่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณส์ ื่อสาร โทรทศั น์ โรงภาพยนตร์ 8 18

2.1 องคป ระกอบของส่อื ดิจิทัล การจดั ท�าส่ือดิจิทัลจะต้องประกอบด้วยองคป์ ระกอบสา� คัญ 5 ประการ ดังน้ี 1. ข้อความ เป็นส่วนที่เก่ียวข้องกับเนื้อหา เพื่อใช้แสดงรายละเอียดของเรื่องท่ีน�าเสนอ ซงึ่ ถอื ว่าเป็นองคป์ ระกอบพน้ื ฐานทสี่ า� คัญ 2. เสยี ง ถูกจดั เกบ็ อย่ใู นรูปของสญั ญาณดจิ ทิ ลั โดยสามารถท่จี ะปรับแตง่ โดยใช้โปรแกรม จดั การดา้ นเสียง เพื่อใหเ้ สยี งทไี่ ด้ยนิ มีความน่าสนใจ นา่ ตดิ ตาม 3. ภาพนงิ่ เปน็ ภาพทไ่ี มม่ กี ารเคลอื่ นไหว โดยอาจเปน็ ภาพถา่ ย ภาพวาด หรอื ภาพทต่ี กแตง่ ข้นึ มาดว้ ยโปรแกรมเฉพาะทาง ในปัจจุบันภาพนับว่าเป็นส่วนทีม่ ผี ลต่อผคู้ นเป็นอยา่ งมากในการ น�าเสนอผ่านสื่อดิจิทัล ซ่ึงภาพน้ันสามารถใช้ สอ่ื ความไดด้ กี วา่ ตวั อกั ษร และสามารถนา� เสนอ ผา่ นส่ือต่าง ๆ ไดง้ า่ ย 4. ภาพเคลื่อนไหว เป็นภาพกราฟิกท่ี มีการเคล่ือนไหวเพ่ือแสดงให้เห็นถึงข้ันตอน หรือปรากฏการณท์ ่เี กิดข้ึนอยา่ งต่อเนอื่ ง ทงั้ น้ี เพื่อสร้างสรรค์จินตนาการให้เกิดแรงจูงใจจาก ผ้เู ขา้ ชมเน้ือหา 5. วดิ โี อ ถือเปน็ ส่ือดิจิทัลที่ไดร้ บั ความ นิยมอย่างมาก เพราะสามารถน�าเสนอข้อมูล ทุกอย่างได้ ท้ังขอ้ ความ เสียง ภาพนง่ิ ภาพ เคลื่อนไหว ภาพท ่ี 1.8 ส่ือดิจิทลั กับการดา� เนนิ ชวี ติ จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ จะเหน็ ไดว้ า่ สอื่ ดจิ ทิ ลั ถือว่าเป็นส่ือท่ีมีบทบาทอย่างมากในโลกยุค ดจิ ทิ ลั และเปน็ เครอื่ งมอื ทท่ี รงอทิ ธพิ ลอยา่ งมาก ในการทา� การตลาด การท�าโฆษณา และยงั มี ความสอดคล้องกบั วถิ ชี วี ติ ของผคู้ นในทกุ วนั น้ี ท่ีใช้เวลาอยู่กับโลกออนไลน์นานขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเคร่ืองคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ซ่ึงข้อมูลต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นผ่านทางสื่อดิจิทัล ในปัจจุบันมีจ�านวนมากจนสามารถน�ามา วิเคราะห์เพอื่ ใช้ประโยชน์ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา 9 19

2.2 ประเภทของส่อื ดจิ ิทลั เนอ่ื งจากความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยที �าให้สื่อดจิ ิทัลมมี ากมายในปจั จุบนั โดยทส่ี อ่ื ดิจิทลั จะมีลักษณะและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันในแต่ละประเภท ซึ่งสื่อดิจิทัลท่ีพบเห็นได้ในปัจจุบัน มดี งั นี้ 1. CD Training คือ การสร้างส่ือ ดิจิทัลในลักษณะที่เป็น CD ท่ีใช้ในการสอน การใช้งาน จะมีลักษณะเป็นการสอนการใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เช่น การสอน ใช้โปรแกรมกราฟิก การสอนใช้โปรแกรม งานเอกสารตา่ ง ๆ นอกจากน้ัน CD Training ยังครอบคลุมไปถึงเร่ืองการสอนการท�างาน CD Training ของโปรแกรมต่าง ๆ โดยจะมีลักษณะเป็นการ สาธติ การท�างานของโปรแกรม 2. CD Presentation คือ การสร้าง สื่อดิจิทัลในลักษณะที่เป็น CD ท่ีใช้ส�าหรับ ในการน�าเสนอในสถานที่ต่าง ๆ เชน่ นา� เสนอ CD Presentation ข้อมูลในท่ีประชุม น�าเสนอข้อมูลบริษัทใน งานตา่ ง ๆ 3. CD/DVD คือ การสร้างสื่อดิจิทัล ในลักษณะที่เป็น CD และ DVD ภาพยนตร์ หรือการ์ตูนต่าง ๆ ท่ีมีการตัดต่อในลักษณะท่ี เป็น Movie Clip แลว้ น�ามาจัดเรยี งต่อกนั เป็น ภาพยนตร์ หรือการต์ นู 1 เร่อื ง CD/DVD 4. E-Book คือ การสร้างส่ือดิจิทัลใน ลกั ษณะทเี่ ปน็ การทา� เปน็ หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ซง่ึ สามารถสรา้ งโดยการแปลงไฟลเ์ อกสารตา่ งๆ ให้เป็น Webpage หรอื เปน็ PDF File โดยท่ี ผู้ใช้งานสามารถอ่านหนังสือหรือค้นหาข้อมูล ผ่านทาง E-Book ไดเ้ ลย E-Book หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา ภาพท ่ี 1.9 ส่ือดิจทิ ลั ประเภทตา่ ง ๆ 10 20

2.3 ข้อดแี ละขอ้ เสยี ของสื่อดจิ ิทัล เนอ่ื งจากความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีทา� ใหส้ อ่ื ดิจทิ ัลมีมากมายในปัจจบุ ัน โดยท่สี ่ือดิจทิ ลั จะมีลักษณะและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันในแต่ละประเภท ซ่ึงสื่อดิจิทัลที่พบเห็นได้ ในปัจจุบัน มขี ้อดแี ละข้อเสีย ดงั นี้ 1 ความคงทน ข้อมลู สอื่ ดจิ ทิ ลั ที่ สอื่ ดจิ ทิ ลั เกบ็ ไวใ้ นดจิ ทิ ลั มเี ดยี จะมคี ณุ ภาพ ข้อดี ขอ้ เสยี คงทน การเสอื่ มสภาพจะใชเ้ วลานาน และโอกาส สื่อดิจิทัลเป็นส่ิงที่สามารถน�าไป ท่ีจะเกิดข้อผิดพลาดหรือผิดเพ้ียนจะเกิดขึ้น กระท�าความผิดได้ง่าย เช่น การน�า ยากกวา่ ขอ้ มลู ทมี่ กี ารเกบ็ แบบตอ่ เนอ่ื ง เชน่ การ ภาพของบุคคลอื่นมาตัดต่อเป็นภาพ บนั ทกึ ภาพลงในวดี ทิ ศั นแ์ บบแอนะลอ็ ก และการ ลามกอนาจาร หรือการน�าผลงานของ บนั ทกึ ภาพวดี ทิ ศั น ใ์ นระบบดจิ ทิ ลั สา� หรบั แอนะลอ็ ก บุคคลอ่ืนมาท�าซ้�ากับส่ือท่ีมีลิขสิทธ์ิ ทใี่ ชเ้ ทปในการบนั ทกึ ขอ้ มลู เมอ่ื เทปยดื จะทา� ให้ ถูกตอ้ ง แตด่ ้วยข้อดขี องของสอ่ื ดิจทิ ัล คณุ ภาพของภาพลดลง ท่ีมีมากมาย ท�าให้แนวโน้มสื่อดิจิทัล 2 สามารถน�าไปใช้งานไดห้ ลากหลายวิธ ี ขอ้ มลู สามารถพัฒนาใหม้ คี ุณภาพดีขน้ึ และ ทจ่ี ดั เกบ็ ในแบบดจิ ทิ ลั เปน็ ขอ้ มลู ทสี่ ามารถแปลง มรี าคาลดลงไดอ้ กี อย่างต่อเนอ่ื ง ไปเปน็ ขอ้ มลู ในรปู แบบอนื่ ได ้ เชน่ ภาพถา่ ยทถ่ี า่ ย ด้วยกล้องดิจิทัล เมื่อได้เป็นข้อมูลภาพออกมา แลว้ สามารถพมิ พอ์ อกมาเปน็ รปู ภาพ หรอื จะให้ เปน็ รปู ภาพทีแ่ สดงบนหนา้ จอคอมพวิ เตอร์ก็ได้ 3 สามารถผสมผสานกับสื่อรูปแบบอ่ืนได้ เป็นการน�าสื่อดิจิทัลรูปแบบหน่ึงมาผสมผสาน กับส่ือดิจิทัลอีกรูปแบบหนึ่งได้ เช่น การน�าส่ือ ดจิ ิทลั ท่เี ป็นภาพเคลอื่ นไหวมาผสมผสานกับส่อื ดจิ ทิ ัลทเ่ี ป็นเสียงจนเกดิ เป็นสอ่ื อีกรูปแบบหนง่ึ 4 สามารถนา� มาปรบั แตง่ ไดง้ า่ ย โดยจะเป็นการ ปรับแต่งส่ือดิจิทัลประเภทภาพถ่าย วดิ โี อ และ เสียงใหม้ ีคณุ ภาพดีกว่าเดิม ภาพที่ 1.10 การนา� ภาพส่ือดิจิทลั มาปรบั แต่ง หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา ขอ้ เสยี ของสอ่ื ดจิ ทิ ลั 11 21

เทคโนโลยีสารสนเทศมี 3 ดเทําคเนโนินโชลวี ยิตีสารสนเทศกับการ ประโยชนตอการดําเนิน ชวี ติ อยา งไร การน�าเทคโนโลยีมาใช้ในการด�าเนินชีวิต จะเป็นการน�า เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดหาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ประมวลผลข้อมูล จัดการและจัดเก็บข้อมูล เรียกใช้หรือ แลกเปลยี่ นข้อมลู และเผยแพรข่ ้อมลู โดยขอ้ มูลทกี่ ล่าวถงึ นน้ั เป็นไดท้ ง้ั ขอ้ ความ ภาพน่งิ ภาพ เคลอื่ นไหว เสียง วิดโี อ และในปจั จบุ นั ขอ้ มลู ต่าง ๆ มเี ป็นจา� นวนมาก ดังน้นั เทคโนโลยีทางด้าน คอมพิวเตอร์จึงมีความส�าคัญเป็นอย่างมากในการเข้ามาด�าเนินการกับข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้การแสวงหาและการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ทันเวลา ประหยัด คา่ ใชจ้ า่ ย และมปี ระสทิ ธภิ าพ กจ็ า� เปน็ ตอ้ ง อาศยั เทคโนโลยีโทรคมนาคมร่วมดว้ ย นอกจากนก้ี ารทสี่ ารสนเทศจะกอ่ ให้ เกิดประโยชน์สูงสดุ ต่อผู้ใช้งานกต็ อ้ งอาศัย ทัง้ เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี โทรคมนาคม ดงั นน้ั จงึ กลา่ วไดว้ า่ เทคโนโลยี สารสนเทศครอบคลุมหลาย ๆ เทคโนโลยี หลัก เช่น เทคโนโลยีด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ ฐานขอ้ มลู เครอื ขา่ ย อปุ กรณ์ อเิ ล็กทรอนิกสต์ ่าง ๆ เทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันมี ภาพที ่ 1.11 เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การด�าเนินชีวติ ความส�าคัญในการเพ่ิมประสิทธิภาพและ สมรรถภาพในหลาย ๆ ด้าน เช่น การลด ตน้ ทนุ หรอื คา่ ใชจ้ า่ ย การเพมิ่ คณุ ภาพของ สนิ คา้ และบรกิ าร การสรา้ งกระบวนการหรอื กรรมวธิ ใี หม่ การสรา้ งผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ าร ต่าง ๆ ดังน้ันจึงเห็นว่าในปัจจุบันมีการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในเกือบทุกกิจกรรม ขององคก์ รหรอื หนว่ ยงาน เชน่ การแพทย์ การปกครอง สงั คม เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ภาพที่ 1.12 การนา� เทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ด้าน การแพทย์ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา 12 22

เมอ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทส�าคญั ตอ่ การด�าเนนิ ชวี ติ และชว่ ยใหเ้ กดิ ผลดี ตอ่ ผู้ใชง้ าน องคก์ รและหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ทนี่ า� เทคโนโลยสี ารสนเทศไปใช้ ซง่ึ เทคโนโลยสี ารสนเทศ มปี ระโยชน์ในด้านต่าง ๆ ดงั นี้ 1. ลดเวลาในการทา� งาน โดยเปน็ การนา� เอาเทคโนโลยคี อมพวิ เตอรท์ งั้ ฮารด์ แวร์ และซอฟตแ์ วร์ มาใชส้ า� หรบั การประมวลผล และจดั เกบ็ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ซงึ่ ทา� ใหส้ ามารถจดั เกบ็ ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ และ จดั เรียง แกไ้ ข และสืบคน้ ข้อมลู ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ 2. ลดต้นทุน เน่ืองจากระบบสารสนเทศนั้นสามารถจัดการกับงานที่มีความซับซ้อนได้ รวดเรว็ ซ่ึงจะชว่ ยลดระยะเวลาในการท�างาน และลดต้นทุนในการดา� เนนิ งาน 3. ช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ีท�าให้เกิดการสื่อสารที่รวดเร็ว และการสื่อสารที่รวดเร็วน้ันท�าให้สามารถส่งข้อมูลขนาดใหญ่ ระหว่างเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ได้ภายในเวลาอันรวดเรว็ เชน่ กนั 4. ชว่ ยให้การท�างานร่วมกนั เป็นไปอย่างราบรื่น โดยช่วยในการประสานงานกบั ฝ่ายต่าง ๆ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ อีกทง้ั ช่วยเพ่ิมความสะดวกในการสื่อสารข้อมูล จัดเรียงขอ้ มลู สืบค้นขอ้ มูล และการใช้ทรพั ยากรตา่ ง ๆ รว่ มกัน 5. ชว่ ยในการตดั สนิ ใจ เนอื่ งจากระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศสามารถประมวลผลและทา� การ แสดงผลข้อมูลต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ ซ่ึงจะช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นข้อมูลท่ีมี ขนาดใหญ่ไดช้ ดั เจนยงิ่ ข้ึน 6. เสรมิ สร้างคุณภาพชีวติ ท่ดี ีขน้ึ เน่อื งจากความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ของเทคโนโลยใี น ยุคปัจจุบันท่ีเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีสารสนเทศ ล้วนอ�านวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานและท�าให้ คุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานและบุคคลรอบข้าง เปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดขี ึ้น 7. สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยปัจจุบันมอี งค์กร หรอื บริษัทต่าง ๆ จา� นวน มากท่ีน�าเอาเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปใช้ใน การดา� เนนิ งานในสว่ นตา่ ง ๆ ในทางธรุ กจิ ทงั้ การ วเิ คราะหต์ น้ ทุน ก�าไร จุดแขง็ จดุ อ่อน ซึง่ หาก องค์กรใดรู้จักการน�าเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมก็จะสามารถสร้าง ความไดเ้ ปรียบในการแขง่ ขันได้มาก ภาพที่ 1.13 เทคโนโลยีการสอ่ื สาร หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา 13 23

การใหบริการรถโดยสาร 4 กแาลระเบพรมิ่ กิ มาูลรคา่ ให้กบั สนิ คา้ สาธารณะควรนาํ เทคโนโลยี ดานใดมาชวยในการเพิ่ม มลู คา ของการบรกิ าร ปจั จุบนั วิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดจิ ิทัล และเทคโนโลยี สารสนเทศ นบั เปน็ เทคโนโลยหี นงึ่ ทเ่ี ขา้ มามบี ทบาทในการดา� เนนิ ชีวิตของมนุษย์ทั่วโลก เพราะช่วงเวลาของการใช้เทคโนโลยีใน หลายปท ผ่ี า่ นมาทา� ใหม้ นษุ ยเ์ หน็ วา่ เทคโนโลยมี าชว่ ยทา� ใหก้ ารดา� เนนิ ชวี ติ ของมนษุ ยม์ คี วามสะดวก สบายขน้ึ และยงั ชว่ ยใหก้ ารทา� งานตา่ ง ๆ ทนี่ า� เทคโนโลยเี ขา้ มาใชส้ า� เรจ็ ลลุ ว่ งได้ในเวลาอนั รวดเรว็ และได้ผลลัพธ์เป็นดังท่ีต้องการ อีกท้ังการเข้าถึงเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ง่าย เหตุ ดว้ ยราคาของอปุ กรณต์ า่ ง ๆ มรี าคาไมส่ งู จงึ ทา� ใหม้ กี ารนา� เทคโนโลยเี ขา้ มาชว่ ยแกไ้ ขปญั หาตา่ ง ๆ และเมื่อมนุษย์สามารถเขา้ ถึงเทคโนโลยี การน�าความรูท้ างด้านวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดิจทิ ัล และเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาประยกุ ตใ์ ชร้ ว่ มกบั การดา� เนนิ ชวี ติ กท็ า� ใหเ้ กดิ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ มากมาย และถกู จัดเกบ็ เข้าไว้ในระบบ และในปัจจบุ นั กม็ ีการนา� ขอ้ มลู ต่างๆ ท่ีเกิดขึน้ เหลา่ นนั้ มาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ โดยสามารถน�าเทคโนโลยไี ปชว่ ยเพิม่ มูลคา่ ใหก้ ับสนิ ค้าและบรกิ ารในด้านต่าง ๆ ดังน้ี 1. เทคโนโลยที างดา้ นฮารด์ แวร์ เปน็ การสรา้ งอปุ กรณต์ า่ ง ๆ เพอื่ นา� มาชว่ ยในกระบวนการ ผลติ เพอื่ ทา� ใหส้ ามารถสร้างผลติ ภณั ฑ์ต่าง ๆ ไดม้ ากข้ึน อีกทง้ั ยังเปน็ การลดเวลา ก�าลงั แรงงาน และต้นทุนการผลิตในระยะยาว อีกท้ังยังเป็นการก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์หรือการบริการใหม่ ๆ ท่ี แตกตา่ งออกไป ถือเป็นการเพ่ิมมูลคา่ การใหบ้ รกิ าร หรอื ผลติ ภัณฑ์ เชน่ การน�าหนุ่ ยนตม์ าใช้ใน การผลิตชิ้นสว่ นทางอิเลก็ ทรอนิกส์ การทา� อปุ กรณท์ ่ชี ่วยในดา้ นการเกษตร การท�าอุปกรณ์ในการ อา� นวยความสะดวกด้านการเลอื กซือ้ สินค้า หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณาภาพท่ี 1.14 การน�าเทคโนโลยีมาช่วยในการผลิตรถยนต์ 14 24

2. เทคโนโลยีทางด้านซอฟต์แวร์ เป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์ข้ึนเพ่ือช่วยเพ่ิมขีดความ หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา สามารถทั้งในด้านการผลิตสินค้าและบริการ โดยเฉพาะด้านสื่อดิจิทัลที่ท�าให้เข้าถึงสินค้าได้ง่าย และรวดเรว็ รวมถงึ การสรา้ งสอ่ื โฆษณาอนั เปน็ การทา� ใหเ้ กดิ การเพม่ิ ยอดขายของสนิ คา้ และบรกิ าร เช่น การสร้างส่ืออินโฟกราฟิกเพ่ือการโฆษณา การพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันในการใช้ บรกิ ารตา่ ง ๆ ภาพที ่ 1.15 การพัฒนาเว็บไชต์เพื่อใช้ในการส่ังซ้ือ ภาพท่ ี 1.16 การพฒั นาเวบ็ ไชตเ์ พอื่ ใช้ในการจดั การ สินคา้ ข้อมูล 3. เทคโนโลยดี า้ นการจดั การขอ้ มลู เนอื่ งจากในปจั จบุ นั มผี ใู้ ชง้ านเทคโนโลยตี า่ ง ๆ มากขน้ึ ทัง้ ชอ่ งทางการสื่อสารสงั คมออนไลน์ หรอื เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ ส่งผลใหม้ ีขอ้ มูลเกิดใหมต่ ลอดเวลา ซ่งึ ขอ้ มลู นนั้ จะถกู เกบ็ ไวใ้ นระบบฐานขอ้ มลู ทา� ใหส้ ามารถนา� ขอ้ มลู นนั้ ไปทา� การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ เพ่ือน�าข้อมูลมาช่วยเพ่ิมมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของตน เช่น การน�าข้อมูลการซ้ือสินค้า ของผู้ใช้มาวิเคราะห์เพ่ือการจัดโปรโมชนั การน�าข้อมลู การใช้งานผลิตภณั ฑ์ของแตล่ ะคนเพ่ือน�า มาใช้ในการปรบั ปรุงเปล่ยี นแปลงผลิตภณั ฑ์ใหเ้ หมาะสมกับผ้ใู ช้งานแต่ละคน Com Sci activity การเพม่ิ มลู คา่ ให้กบั สินคา้ และบรกิ าร ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 - 5 คน ออกแบบสนิ คา้ หรอื บรกิ ารทน่ี กั เรยี นสนใจมากลมุ่ ละ 1 อยา่ ง พรอ้ มกบั วเิ คราะหว์ ธิ กี ารในการเพมิ่ คณุ ภาพสนิ คา้ หรอื บรกิ ารในแตล่ ะดา้ น แลว้ สง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมาน�าเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น 15 25

ิวทยาการคอมพิวเตอร ่สือ ิดจิทัล และ ่สืกอา ิดรจิํดาทัเล ิน ักนบ ีชก ิวาตร ก ิสานรเ ้คพิ่ามแ ูมลละ ่คบาิรใก ้หา ักรบ เทคโนโลยีสารสนเทศกับการ ํดาเ ินน ีช ิวต เ ็ปนการน�าเอาข้อความ เ ีสยง ภาพ ิ่นง การเพ่ิมมูลค่าให้ ักบสินค้าและบริการ ภาพเค ่ลือนไหว และวิ ีดโอ มา ัจดรูปแบบ โดย สามารถน�าเทคโนโล ียใน ้ดาน ่ตาง ๆ มาประ ุยก ์ต อา ัศยเทคโนโลยีทาง ้ดานคอมพิวเตอ ์ร ผสมผสาน ใช้งานไ ้ด ซ่ึงเทคโนโล ีย ่ทีสามารถ �นามาพัฒนา ักบความ ิคดสร้างสรรค์ด้าน ิดจิ ัทลคอนเทนต์ เ ่ืพอเ ิ่พม ูมลค่าให้ ักบสินค้าและบริการ ได้แก่ ของ ู้ผส ้ราง ่ืสอ เพ่ือผลิตเ ็ปน ่สือ ิดจิทัล ่ทีตอบสนอง เทคโนโลยีทางด้านฮาร์ดแวร์ เทคโนโลยีทาง ต่อความ ้ตองการของผู้บริโภค ด้านซอฟต์แวร์ และเทคโนโล ียทางด้านการ ัจดการ ้ขอ ูมล Summary 26 วิทกัยบากกาารรดํคาอเมินนพิวชีเวิตตอ ร เทกัคบโกนโาลร ียํดาสเา ินรนสชีนเิวทตศ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา16 เป็นศาสตร์ ่ทีเกี่ยวข้องกับการ ึศกษา เ ็ปนการน�าเทคโนโล ียเ ้ขามา ่ชวยในการ ค้นคว้าทฤษ ีฎการค�านวณทางคอมพิวเตอร์ ัจดหา ้ขอมูล วิเคราะ ์ห ้ขอ ูมล ประมวลผล ้ขอมูล และทฤษ ีฎการประมวลผลสารสนเทศ ้ทัง ้ดาน ัจดการและ ัจดเ ็กบ ้ขอมูล เรียกใ ้ชหรือแลกเป ่ีลยน ซอฟ ์ตแว ์ร ฮา ์รดแว ์ร และเครือ ่ขาย โดยจะ ้ตอง ข้อมูล และเผยแพ ่ร ้ขอมูล ศึกษาในด้านการพัฒนาซอฟ ์ตแวร์ โครงส ้ราง และการควบคุมคอม ิพวเตอ ์ร การ ื่สอสารระห ่วาง CLICK HERE เคร่ืองคอมพิวเตอ ์รห ืรอ ุอปกร ์ณ ื่สอสาร การ �นา ไปใ ้ชงาน ้ดานกรา ิฟกและ ัมล ิต ีมเ ีดย การประยุก ์ต ใ ้ชงานอ ่ยางชาญฉลาด สุด ้ทาย คือ การ �คานวณ และการประยุกต์ใช้งานระ ัดบสูง

Self Check ให้นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจ โดยพิจารณาขอ้ ความว่าถกู หรือผิด แล้วบนั ทึกลงในสมุด หากพจิ ารณาขอ้ ความไม่ถกู ต้อง ใหก้ ลบั ไปทบทวนเนอ้ื หาตามหัวข้อทก่ี า� หนดให้ ถกู /ผิด ทบทวนหวั ขอ้ 1. รปู แบบการพฒั นาโปรแกรมท่ีได้รับความนยิ มมากท่สี ุด คือ Waterfall 1 Model หรือ โมเดลน้า� ตก 2. สื่อดิจิทัลมีองคป์ ระกอบส�าคัญ คือ ข้อความและเสยี ง 2 3. การนา� เทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการทา� งานตา่ งๆ จะชว่ ยใหป้ ระสทิ ธภิ าพ บัน ึทกลงในส ุมด 3 ของการทา� งานนน้ั เพมิ่ มากขนึ้ และทา� ใหต้ น้ ทนุ ในการทา� งานเพม่ิ มากขน้ึ 4 เชน่ กนั 4. การเพม่ิ มลู คา่ ใหก้ บั สนิ คา้ และบรกิ ารจา� เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งนา� เทคโนโลยที างดา้ น ฮาร์ดแวร์เข้ามาชว่ ย 5. การจดั ทา� เวบ็ ไซตห์ รอื แอปพลเิ คชนั สา� หรบั สนิ คา้ และบรกิ ารเปน็ การเพม่ิ 4 โอกาสในการเข้าถงึ สินคา้ และบริการนน้ั ๆ Unit Question 1 หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา คา� ชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคา� ถามตอ่ ไปนี้ 1 อธิบายความสมั พนั ธ์ของวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์กบั การดา� เนินชวี ติ 2 ยกตัวอยา่ งการนา� งานดา้ นกราฟิกและมัลติมเี ดยี ไปใชง้ านในชวี ิตประจ�าวัน 3 อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของสอ่ื ดจิ ิทัลกับการดา� เนินชีวติ 4 อธบิ ายเกย่ี วกับบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศกบั การด�าเนินชวี ติ 5 อธิบายถงึ วธิ ีการในการเพิ่มมลู คา่ ใหก้ ับสนิ ค้าและบริการ 17 27

แผนการจดั การเรยี นรู้ 01 02 รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี 05 03 04 (วทิ ยาการคาํ นวณ) ม.5ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั หลกั ตสวัตู อรยป่ารงบั ปรงุ ’60 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แผนการจดั การเรยี นรู้ หปลรกั ับสปตู รรงุ '60 รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ัด กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 M;S*LOY _EDÿ ;ETDI-þ T@Yh;2T;Iþ9DTJTL7E _9'a;aGDW¥Iþ9DT$TE'U;I5¦C«² ม.5 M;*S LOY _EÿD;ETDI-þ T@;hY 2T;I9þ DTJTL7E ม.5 นร. เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.4 -;;V 9EOBV-T7V เทคโนโลยี -;V;9E_,GVCLZ% ISBN : 978 - 616 - 203 - 767 - 2 OBV-T7V 'U=GVI (วิทยาการคำนวณ) บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จำกดั www.aksorn.com 52.-9 7 8 6 1 6 2 0 3 7 6 7 2 00.- บ1โทร41รโwษิท2.4w/รทั 2แถ.w/ฟอนแถ.กัaฟนกนkษตนซกsรต.์ซะoนเ0.์ะrจน0nา2รา.2วcญิว6o6เ2ขmเท2ขต2ศัต22พ2พนร์ร99อะะ99นนจA99คคทkรsร.((อoอจกกตัrตัำรnรโกโงุนงุนAดัเมทเมCทตั พTตั พิ 2มิ 2ม0ห0หาคนาสู่คคนาสู่ รคยาร1)ย01)2002000 -Sh;CS:DCJX$KT=9Wg² 7TCCT7E2T;$TE_EÿD;E`[ GR7IS -hÿI6S $GCZ LTER$TE_EDÿ ;EI[ þ9DTJTL7E ¥,<S<=E<S =EZ*@«J«2560¦ 7TCMG$S L[7E`$;$GT*$TEJX$KT%;hS @hY;2T;@Z9:JS$ET-¯²²® 28























แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องทตี่ รงกับระดบั คะแนน ลาดบั ที่ ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั ฟัง การทางาน ความมนี า้ ใจ การมี รวม ของนกั เรียน ความคิดเหน็ คนอน่ื ตามท่ไี ดร้ บั สว่ นร่วมใน 15 มอบหมาย การปรับปรุง คะแนน ผลงานกลุ่ม 321321321321321 ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../............... เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง 40

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 321 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี น 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทีเ่ ก่ยี วกบั สถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนจัดข้นึ 2. ซ่อื สตั ย์ สุจริต 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ีถูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัติในส่ิงท่ีถูกต้อง 3. มวี นิ ยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้ 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เช่ือฟังคาส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรยี น 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และส่ิงของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ 6. มงุ่ ม่ันในการทางาน 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ใหง้ านสาเร็จ 7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน 8.2 ร้จู กั การดูแลรกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มของห้องเรยี นและโรงเรยี น ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 51-60 ดีมาก พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 41-50 ดี 30-40 พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตบิ างครั้ง ให้ 1 คะแนน ปรับปรงุ ตา่ กวา่ 30 41

แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายการ เกณฑ์การประเมิน (ระดบั คุณภาพ) ระดับ ประเมนิ คุณภาพ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) 1. การออกแบบฉลาก ดมี าก ผลติ ภณั ฑส์ นิ ค้า OTOP ใชโ้ ปรแกรมในการ ใช้โปรแกรมในการ ใชโ้ ปรแกรมในการ ไม่สามารถใช้โปรแกรม ดี 2. ยกระดับและเพมิ่ มูลคา่ ออกแบบฉลาก ออกแบบฉลาก ออกแบบฉลาก ในการออกแบบฉลาก ใหผ้ ลติ ภณั ฑ์ พอใช้ ผลิตภณั ฑส์ ินคา้ OTOP ผลติ ภณั ฑ์สินคา้ OTOP ผลิตภณั ฑส์ นิ คา้ OTOP ผลติ ภณั ฑส์ ินคา้ OTOP 3. ความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ปรับปรุง ได้ดมี าก ได้ดี ไดค้ อ่ นขา้ งดี ได้ 4. ความสมบรู ณข์ องผลงาน สามารถยกระดบั และ สามารถยกระดบั และ สามารถยกระดบั และ ไม่สามารถยกระดบั และ 5. สง่ งานตรงเวลา เพ่มิ มูลคา่ ให้กับสนิ คา้ เพมิ่ มูลค่าให้กบั สนิ ค้า เพิ่มมลู ค่าใหก้ ับสนิ ค้า เพิม่ มลู ค่าให้กับสินคา้ ได้ดมี าก ได้ดี ได้คอ่ นขา้ งดี ได้ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ ไม่สามารถออกแบบ ผลิตภณั ฑ์ท่แี ตกต่างไป ผลติ ภณั ฑท์ แี่ ตกตา่ งไป ผลิตภณั ฑท์ แ่ี ตกต่างไป ผลติ ภณั ฑ์ที่แตกตา่ งไป จากเดิมไดด้ ีมาก จากเดิมไดด้ ี จากเดมิ ได้ค่อนข้างดี จากเดมิ ได้ ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น สมบูรณ์ดมี าก สมบรู ณ์ค่อนขา้ งดี สมบูรณด์ เี ปน็ บางส่วน สมบรู ณ์น้อย ส่งภาระงานภายในเวลา สง่ ภาระงานชา้ กวา่ สง่ ภาระงานชา้ กว่า สง่ ภาระงานช้ากว่า ท่ีกาหนด กาหนด 1 วนั กาหนด 2 วัน กาหนดเกิน 3 วนั ข้ึนไป เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 10-15 ดี 7-9 พอใช้ 1-6 ปรับปรุง 42

แบบประเมนิ ชิน้ งาน คาช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานของนักเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 2 1 ความถกู ต้องของเนือ้ หา   2 ความคดิ สร้างสรรค์    3 การจัดองค์ประกอบสมบูรณ์   4 การนาไปใช้ประโยชน์    5 ส่งงานตรงเวลา      รวม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง 43

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอรก์ ับการดาเนนิ ชวี ติ เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ัด ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปญั หาหรือเพ่มิ มลู คา่ ให้กบั บรกิ ารหรือผลิตภณั ฑท์ ่ีใช้ในชวี ติ จรงิ อยา่ งสร้างสรรค์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ได้ (K) 2. สืบคน้ ข้อมลู ท่ีเกย่ี วข้องกับวิทยาการคอมพิวเตอรไ์ ด้ (P) 3. เลง็ เห็นถงึ ความสาคัญของวิทยาการคอมพิวเตอร์ (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น การนาความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา เทคโนโลยสี ารสนเทศ มาใช้แกป้ ัญหากับชีวิตจริง 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีการคานวณทางคอมพิวเตอร์ และทฤษฎีการ ประมวลผลสารสนเทศ ทั้งด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเครือข่าย โดยวิทยาการคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหัวข้อท่ีเก่ียวข้อง ตั้งแตร่ ะดบั นามธรรมไปจนถึงระดับรูปธรรม ท้งั น้เี พ่ือตอบสนองต่อความต้องการของการใชเ้ ทคโนโลยขี องคนในสงั คมไทย 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 7. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 8. ทกั ษะการสอื่ สาร 9. ทักษะการทางานร่วมกนั 44

6. กจิ กรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงที่ 1 ข้นั นา ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 วิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศ กบั การดาเนนิ ชีวติ เพอ่ื วัดความร้เู ดิมของนกั เรียนกอ่ นเข้าสูก่ ิจกรรม 2. ครูถามคาถามประจาหวั ข้อวา่ “นกั เรยี นคดิ ว่าวทิ ยาการคอมพิวเตอรม์ ีความสาคัญต่อเทคโนโลยีที่จะเกดิ ขึ้นอนาคตอย่างไร” (แนวตอบ : วิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นศาสตร์ที่เก่ียวข้องกับการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีการคานวณทางคอมพิวเตอร์ และ ทฤษฎีการประมวลผลสารสนเทศต่าง ๆ และประกอบไปด้วยหัวข้อที่มีความเก่ียวข้องกับขั้นตอนวิธี ต้ังแต่ ระดับนามธรรมไปจนถึงระดับรูปธรรม ดังนั้น เทคโนโลยีท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคตจะต้องมีประสิทธิภาพ และ ตอบสนองตอ่ ความต้องการของคนในสงั คม) 3. ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนฟังเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันผู้คนในสังคมไทยต้องการอะไรท่ีเร็วขึ้น สะดวกข้ึน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนน้ั เพอ่ื ตอบสนองแกค่ วามตอ้ งการเหลา่ นจี้ ึงทาให้เกิดวิทยาการคอมพิวเตอร์ขึ้น เพ่ือนาไปสู่การคิดค้นทฤษฎี เทคโนโลยี และนวตั กรรมใหม่ ๆ” ขัน้ สอน ขัน้ ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore) 1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนศึกษาความหมายของวิทยาการคอมพิวเตอร์ และค้นหาหัวข้อท่ีควรศึกษาเกี่ยวกับวิทยาการ คอมพวิ เตอรจ์ ากหนังสือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 หรือศกึ ษาเพ่มิ เติมจากอินเทอร์เนต็ ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 2. ครสู ่มุ นกั เรียน 2-3 คน ออกมาอธิบายความหมายและหัวข้อท่ีเก่ียวข้องของวิทยาการคอมพิวเตอร์เพื่อขยายความเข้าใจของ ตนเองและเพือ่ นร่วมชน้ั 3. ครถู ามคาถามกระตุ้นความคดิ ของนกั เรยี นวา่ “ถ้าหากไมม่ ีวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ในสังคมไทยจะเปน็ อย่างไร” (แนวตอบ : จะไม่มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการ และจะทาให้สังคมไทยเป็นสังคมท่ีล้าหลัง ต่อการเปลี่ยนแปลง) 4. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทาการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ นักเรียนได้เข้าใจว่าการคิดค้นทฤษฎี เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ มีความซับซ้อนและเป็นลาดับข้ันตอน ทั้งน้ีก็เพื่อ ผลงานทตี่ รงตามความต้องการและมปี ระสิทธิภาพมากย่ิงข้นึ 5. ครูให้นกั เรียนจับกล่มุ กลมุ่ ละ 4–5 คน พรอ้ มส่งตัวแทนออกมาจับสลากหัวข้อเรือ่ ง โดยหวั ข้อเรื่องทก่ี าหนดให้ มีดงั น้ี 1. การพัฒนาซอฟต์แวร์ 2. โครงสร้างและการควบคุมระบบคอมพวิ เตอร์ 3. การสอื่ สารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ หรอื อุปกรณ์สือ่ สาร 4. การนาไปใช้งานด้านกราฟิก และมลั ติมเี ดยี 5. การประยุกต์ใช้งานอย่างชาญฉลาด 6. การคานวณและการประยุกตใ์ ช้งานระดบั สงู 45

ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 6. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนไดท้ าการศกึ ษา และสืบคน้ ขอ้ มลู ทางอินเทอร์เนต็ ตามหวั ข้อทแ่ี ต่ละกลุม่ ได้รับ 7. จากน้ันครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอข้อมูลตามที่ได้ไปสืบค้น และเปิดโอกาสให้นักเรียนกลุ่มอื่นสามารถซักถาม กลุม่ ท่นี าเสนอเพือ่ ขยายความรใู้ หเ้ ข้าใจมากยิ่งขึ้น 8. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ว่า “วิทยาการคอมพิวเตอร์ย่อมาจากวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ โดยเป็น ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีการคานวณสาหรับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ และในแง่ของศาสตร์ท่ีเก่ียวกับ คอมพิวเตอร์นัน้ วิทยาการคอมพิวเตอร์ถือว่าเปน็ ส่วนประกอบหนึ่งในห้าของสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ โดยสาขาที่เก่ียวข้องกับ คอมพวิ เตอร์จะประกอบไปด้วย สาขาวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สาขาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ สาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ สาขา เทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ” ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 9. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน การนาเสนอข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องของ ขอ้ มลู ข้นั สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกบั วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ และหวั ข้ออน่ื ๆ ท่เี กยี่ วข้อง 7. การวดั และประเมินผล รายการวัด วิธวี ัด เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ - ประเมินตามสภาพจริง 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ระดับคุณภาพ 2 - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น ผา่ นเกณฑ์ - ระดบั คณุ ภาพ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง ผา่ นเกณฑ์ - ระดับคณุ ภาพ 2 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ผา่ นเกณฑ์ - ระดับคุณภาพ 2 สือ่ ดิจทิ ัล และเทคโนโลยี ผ่านเกณฑ์ สารสนเทศกับการดาเนินชวี ติ 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจัด กิจกรรม 1) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม รายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอผลงาน - ผลงานทนี่ าเสนอ 3) พฤติกรรมการทางานกล่มุ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม 4) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ คุณลักษณะ ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ อันพงึ ประสงค์ และม่งุ มนั่ ในการทางาน 46

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 ส่อื การเรยี นรู้ - หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง วิทยาการคอมพิวเตอร์ สือ่ ดจิ ทิ ัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดาเนนิ ชีวิต 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - อนิ เทอรเ์ น็ต 47


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook