Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงสร้างของพืชดอก

โครงสร้างของพืชดอก

Published by fanfan.ta2000, 2021-02-02 04:47:53

Description: โครงสร้างของพืชดอก

Search

Read the Text Version

BIOLOGY โครงสรา้ ง ของพชื ดอก ชีววิทยา ม.5 น่ารู้ BY : Miss.Piyathida Angkhapan ครูแฟนต้า คณะครุศาสตร์ สาขาวิทยาศสตร์ทัวไปและชีววิทยา 62040111105

โครงสร้างของดอก โครงสรา้ งของดอก ดอกไม้ประกอบด้วยสว่ นตา่ งๆ 4 สว่ น โดยแต่ละส่วนจะเรียงตวั จากช้นั ที่อยู่นอกสุดเข้าสู่สว่ น ใน คือ กลีบเล้ยี ง กลีบดอก เกสรตวั ผู้ และเกสรตวั เมียตามลาดบั โดยสว่ นประกอบทง้ั 4 นี้จะอยู่บน ฐานรองดอก ซง่ึ อยู่ปลายสดุ ของกา้ นชูดอกอกี ทหี นงึ่ ภาพที่ 1 โครงสร้างของดอก 1. กลีบเลย้ี ง (sepal) เปน็ ส่วนของดอกทอ่ี ยนู่ อกสดุ มสี เี ขยี ว เหมือนใบ และทาหนา้ ที่ สังเคราะหด์ ้วยแสงได้ กลีบเลี้ยงทาหนา้ ทห่ี ่อหมุ้ และปอ้ งกันอันตรายให้แกส่ ่วนของดอกทอี่ ยภู่ ายใน เม่อื ดอกบานแลว้ สว่ นของกลีบเล้ยี งอาจหมดหน้าทแ่ี ลว้ หลุดรว่ งไป วงของกลีบเล้ยี งเรยี กวา่ แค ลกิ ซ์ (calyx) กลีบเล้ียงท่ไี ม่ใช่สเี ขียวและทาหนา้ ที่ล่อแมลงใหม้ าผสมเกสรได้ เช่นเดยี วกับกลบี ดอก ใตก้ ลบี เลี้ยงมกี ลบี สีเขียวขนาดเลก็ เรียงตวั เปน็ วงอยู่ด้วย เรยี กวา่ ร้ิวประดบั (epicalyx) เชน่ ในดอกชบา และ พูร่ ะหง 2. กลีบดอก (petal) เปน็ สว่ นทอ่ี ยถู่ ดั จากกลีบเลีย้ งเข้ามากลบี ดอกมกั มสี ีสนั สวยงามเนอ่ื งจากมี รงควตั ถุ เช่น แอนโทไซยานินละลายอยใู่ นsap vacuole ทาใหเ้ กดิ สแี ดง สนี า้ เงิน ม่วง นอกจากนย้ี ังมี สารแอนโทแซนทิน ละลายอยู่ดว้ ยทาใหเ้ กดิ สีตา่ งๆ ไดห้ ลายสี ในดอกไมส้ ขี าว เนื่องจากในแซพแวควิ โอล ไมม่ รี งควตั ถชุ นิดใดบรรจุอยู่ หรือมแี อนโทแซนทนิ กไ็ ด้ สารสีเหลืองหรือสีแดงเกดิ จากรงควัตถุ ชนดิ แคโรทีนอยด์ กลีบดอกบางชนิดสามารถเปลีย่ นสีได้ เชน่ ดอกพดุ ตาน บางชนดิ มีกลน่ิ หอมเน่อื งจาก มตี ่อมกลนิ่ อยู่ดว้ ยและที่โคนกลบี ดอกมกั มีตอ่ มนา้ หวาน ชว่ ยในการลอ่ แมลง วงกลีบดอกเรียกว่า

คอโรลา (corolla) ถา้ หากกลีบเล้ยี งและกลบี ดอกเหมอื นกันจนแยกไมอ่ อกจะเรยี กรวมกันวา่ วงกลีบรวม (perianth) ไดแ้ ก่ จาปี จาปา บัวหลวง ทวิ ลิป เป็นตน้ 3. เกสรตัวผู้ (stamen) เป็นสว่ นทจี่ าเปน็ ตอ่ การสบื พนั ธ์ุ ทาหน้าท่สี ร้างเซลล์สืบพันธ์ุ เพศผู้ เกสรตัวผู้มกั มีหลายอนั และเรียงตัวเป็นวงเรยี กว่า แอนดรเี ซยี ม (androecium)เกสรตัวผู้ส่วนใหญ่ แยกกนั เป็นอนั ๆ แต่บางชนดิ อาจตดิ กัน หรอื อาจตดิ สว่ นอน่ื ของดอก เช่น เกสรตวั ผู้เชอื่ มตดิ กับกลีบ ดอก พบในดอกเข็ม ดอกลาโพง หรอื เกสรตัวผตู้ ดิ กบั เกสรตวั เมีย พบในดอกรัก ดอกเทยี น เกสรตัวผ้แู ตล่ ะอันประกอบด้วย 2 ส่วน 3.1 ก้านชูเกสรตัวผู้ (filament) เปน็ ส่วนทม่ี ีลกั ษณะเป็นเสน้ อาจรวมกันเปน็ กลุ่มหรือ แยกกันอาจยาวหรือสนั้ ซง่ึ ก็แลว้ แต่ชนดิ ของพชื ทาหน้าที่ชูอักเกสรตวั ผู้หรืออบั เรณู 3.2 อบั เกสรตวั ผู้ (anther) มลี ักษณะเป็นแทงกลมยาวหรอื ค่อนขา้ ง กลม 2 พู ภายในแบ่งเปน็ ถุงเล็กๆ 4 ถุง เรียกวา่ ถงุ เรณ(ู pollen sac) บรรจลุ ะอองเรณู (pollen grain)จานวนมากมีลักษณะเป็นเม็ดเลก็ ๆ สเี หลอื งๆ ผวิ ของละอองเรณแู ต่ละชนิดจะแตกตา่ ง กัน ละอองเรณทู าหนา้ ท่ี เป็นเซลลส์ ืบพันธเุ พศผู้ เมอ่ื ดอกเจริญเต็มทแี่ ล้วถุงละอองเรณจู ะแตก ออก ละอองเรณูก็จะปลิวออกมา เกสรตวั ผ้ใู นพชื แต่ละชนิดมีจานวนมากน้อยไม่เทา่ กัน ในพืชโบราณ หรือพชื ชนั้ ต่าเกสรตัวผูม้ ักมจี านวนมาก สว่ นพืชทมี่ ีววิ ัฒนาการสงู จานวนเกสรตัวผูจ้ ะลดนอ้ ยลง 4. เกสรตวั เมยี (pistil) เป็นชนั้ ที่อยู่ในสดุ เปล่ยี นแปลงมาจากใบเพอ่ื ทาหน้าที่สรา้ งเซลล์ สบื พันธุ์เพศเมยี จงึ เป็นอวัยวะสาคัญตอ่ การสืบพันธ์ุ ในหนึ่งดอกเกสรตวั เมียอาจมอี นั เดียวหรือหลาย อัน เรยี งตัวเปน็ วงของเกสรตัวเมยี เรยี กวา่ จิเนเซยี ม (gynaecium) เกสรตัวเมยี ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ 4.1 ยอดเกสรตัวเมีย (stigma) เป็นส่วนท่ีพองออกมีลกั ษณะเปน็ ตุม่ แผ่แบนเปน็ แฉก เปน็ พแู ละมนี ้าเหนียวๆ หรอื ขนคอยจับละอองเรณทู ล่ี อยมาตดิ 4.2 กา้ นชูเกสรตวั เมยี (style) เปน็ สว่ นทม่ี ีลักษณะเป็นเสน้ หรอื กา้ น เล็กๆ อาจยาวหรือส้ันเช่อื มต่อจากยอดเกสรตวั เมียลงส่รู งั ไข่ เป็นทางใหเ้ สปิรม์ นวิ เคลียสเข้าผสมกับไข่ 4.3 รงั ไข่ (ovary) เป็นส่วนที่พองออกมาลกั ษณะเปน็ กระเปาะยดึ กบั ฐานรองดอกหรืออาจฝงั อยูใ่ นฐานรองดอกภายในมีลักษณะเปน็ ห้องๆ เรียกวา่ โลคลุ (locule) ซง่ึ ภายในมีออวุล(ovule) บรรจอุ ยูแ่ ต่ละหนว่ ยของเกสรตวั เมยี ท่มี โี ลคุลท่หี อ่ หมุ้ ไข่ไว้ภายในเรยี กว่า คาร์เพล (carpel) ใน 1 โคคุล อาจมี 1 คารเ์ พล หรอื หลายคาร์เพลกไ็ ดแ้ ล้วแตช่ นดิ ของดอกไม้ เมื่อเกิดการ ปฏิสนธิแลว้ รังไข่จะเจรญิ เปน็ ผล สว่ นออวลุ เจรญิ เป็นเมล็ด

ภาพท่ี 2 แสดงเกสรตวั เมยี ชนดิ ตา่ งๆ

ชีววิทยา ม.5 น่ารู้ biology


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook