กจิ กรรมการเรียนรู้ 30. แบง่ หวั ขอ้ ในบทเรียนให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาคน้ คว้าและอภปิ ราย จากนัน้ สรา้ งเปน็ งานนำเสนอดว้ ยโปรแกรม PowerPoint 31. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มมานำเสนองาน โดยใหเ้ พอื่ นแต่ละกลมุ่ ลงคะแนน ตามกิจกรรม 9.1 32. ครูให้คำแนะนำและอธบิ ายเพิ่มเติม 33. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ค้นคว้าศึกษาข้อมูลเกีย่ วกบั ไวรสั คอมพิวเตอร์ และการปอ้ งกันภัย คุกคามจากอินเทอร์เนต็ แล้วสร้างเป็นงานนำเสนอ ตามกจิ กรรม 9.2 34. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ มานำเสนองาน โดยครูใหค้ ะแนะและอธบิ ายเพมิ่ เติม 35. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ คน้ คว้าศกึ ษาข้อมูลเก่ียวกบั ไวรสั คอมพวิ เตอร์ และการปอ้ งกนั ภัย คกุ คามจากอนิ เทอรเ์ น็ต แลว้ สรา้ งเป็นงานนำเสนอ ตามกจิ กรรม 9.2 36. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ มานำเสนองาน โดยครใู ห้คะแนะและอธบิ ายเพิ่มเติม 37. ครูบรรยายถงึ ผลกระทบตอ่ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยยกตวั อย่างเปรยี บเทียบ จากนั้นใหน้ กั เรียนวจิ ารณ์และเสนอความคิดเหน็ เพมิ่ เตมิ หลักฐานการเรียนรู้ 17. ข้อมลู การทำกจิ กรรมการเรยี นรู้ 18. คะแนนที่ได้จากการทำกิจกรรมการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ - สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งเรยี น - ใช้คำถามตรวจสอบความรู้ - การทำกจิ กรรมการเรียนรทู้ า้ ยบทเรียน กิจกรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย ให้นกั เรยี นทำกจิ กรรมท้ายบทเรยี น เอกสารอ้างองิ หนังสอื ประกอบการเรยี น วชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี รหสั 2001-2001 เรียบ เรียงโดย โกมล ศิรสิ มบรู ณเ์ วช สำนักพมิ พ์ศนู ย์สง่ เสรมิ อาชวี ะ
ใบความรูห้ นว่ ยท่ี 9 จรยิ ธรรมและความรับผดิ ชอบในการใชง้ านคอมพวิ เตอร์ 1.สทิ ธิผลงานบนอนิ เทอรเ์ นต็ นับตัง้ แต่เทคโนโลยสี ารสนเทศเข้ามามบี ทบาทในชวี ติ ประจำวนั การใชเ้ ทคโนโลยเี ป็นไปอยา่ ง กว้างขวางในทุกๆด้านสรา้ งประโยชนอ์ ยา่ งมากต่อการ นำไปประยกุ ตใ์ ช้งานในทางกลบั กัน ความก้าวหนา้ ทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศน้กี ็สง่ ผลใหเ้ กดิ ผลกระทบทางด้านลบทงั้ เปน็ หนทางใน การกอ่ อาชญากรรมการเส่ียงภัยทางด้านธรุ กจิ การแพร่วัฒนธรรมและกระจายขา่ วสารทไ่ี มเ่ หมาะสม อย่างรวดเรว็ ทำใหข้ ้อมลู หรือโปรแกรมถกู ทำลายไดง้ า่ ยท้ังหลายเหล่านล้ี ว้ นเกิดจากการขาดจรยิ ธรรม และความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอรก์ บั ระบบสารสนเทศท้งั สนิ้ 1.สิทธิผลงานบนอินเทอรเ์ นต็ สิทธิผลงานบนอินเตอร์เนต็ เป็นสทิ ธิหรอื อำนาจอันชอบธรรมซ่ึงบคุ คลพงึ มพี ึงไดโ้ ดยไม่ไปเบียดเบยี น คนอ่นื ในสิง่ ทเี่ ป็นผลจากการสร้างสรรค์งานทเี่ ผยแพรอ่ ยบู่ นอินเทอร์เน็ตดงั นั้นการละเมดิ สทิ ธิผลงาน บนอนิ เตอร์เนต็ จงึ เปน็ การกระทำใดๆโดยจงใจหรอื ประมาทเลนิ เล่อทำใหผ้ ู้อื่นได้รบั ความเสียหายใน สทิ ธิหรอื อำนาจอนั ชอบธรรมซึ่งบคุ คลพึงมีพึงได้ตอ่ ผลงานทส่ี ร้างสรรคแ์ ละเผยแพรบ่ นอนิ เตอรเ์ น็ต ในปัจจุบนั การใช้งานและการเขา้ ถงึ สารสนเทศบนอินเตอรเ์ นต็ มีการละเมิดสทิ ธิผลงานทางการ คัดลอกหรอื ทำซำ้ ซงึ่ สาเหตุมาจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการเผยแพรง่ านสรา้ งสรรค์เปน็ ใน ลักษณะไรเ้ ขตแดนทำให้การละเมดิ สทิ ธิเปน็ ไปไดง้ ่ายโดยเฉพาะอย่างย่งิ งานสร้างสรรคส์ ว่ นใหญถ่ กู สร้างและเก็บในรปู แบบอเิ ลก็ ทรอนิกสร์ ปู แบบสอ่ื ดจิ ทิ ลั ทั้งทมี่ ีเปน็ ไฟลข์ ้อมลู ภาพเสยี งหรอื แม้กระท่งั ภาพยนตรส์ ัญญาณโทรทศั น์ในรปู แบบดจิ ทิ ลั เหล่านถ้ี ูกละเมดิ สิทธิผลงานได้ง่ายด้วยวธิ ีการทำซ้ำตา่ งๆ หรอื แมก้ ระทงั่ การจัดเกบ็ ผลงานที่ไม่ได้อยใู่ นรูปแบบดจิ ิทลั เช่นการวาดภาพเอกสารจดบนั ทกึ ก็ สามารถถูกทำซ้ำได้โดยง่ายด้วยการสแกนและตกแตง่ ภาพ การจัดการกบั ผลงานทเ่ี ผยแพรบ่ นอินเทอรเ์ น็ตนส้ี ามารถใชเ้ ทคนคิ การเขา้ รหสั ผลงานเชน่ ภาพเพลง หรือซอฟตแ์ วรค์ อมพิวเตอรซ์ ึง่ ผู้ได้รบั อนุญาตให้ใชง้ านอนั มลี ิขสิทธิ์เทา่ น้นั จงึ จะสามารถถอดรหสั ได้ การเขา้ รหสั ดงั กล่าวยังเป็นการทำใหแ้ นใ่ จวา่ ขอ้ มลู ของผลงานอันมีลิขสทิ ธ์ิทไ่ี ด้รบั การรักษาความ ปลอดภยั จากผทู้ ีพ่ ยายามเขา้ ถงึ ระบบในระหวา่ งท่ขี ้อมลู ถูกสง่ จากเครอื ข่ายหน่งึ ไปส่อู กี เครือขา่ ยหน่งึ ทางอนิ เตอรเ์ น็ตนอกจากนั้นยังใช้เทคนิคควบคมุ การเขา้ ถึงดว้ ยการฝงั พิเศษไวใ้ นขอ้ มูลเชน่ ลายเซ็น ดิจิทลั เพอื่ ใช้ในการพิสจู น์ความแทจ้ ริงของขอ้ มลู หรือไฟล์ว่าเป็นผลงานท่ีสง่ มาจากผสู้ ง่ ทแ่ี ทจ้ รงิ หรือไม่และไมถ่ กู เปล่ียนแปลงแตอ่ ยา่ งใดและสามารถปอ้ งกนั ได้ด้วยการใส่ลายนำ้ (Water Mark) ลง ไปในเอกสารซึง่ รายน้ำน้ีไมส่ ามารถแยกออกจากผลงานไดท้ ำให้ยากแกก่ ารทำซำ้ 2.อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เปน็ การกระทำทผ่ี ิดกฎหมายใดใดซ่งึ อาศยั หรือมคี วามเก่ยี วเนอ่ื ง กับระบบคอมพิวเตอร์หรือเครอื ข่ายหรือการกระทำทผี่ ดิ กฎหมายโดยใชว้ ิธกี ารทางอเิ ล็กทรอนิกส์เพอ่ื
โจมตรี ะบบคอมพิวเตอรแ์ ละข้อมลู ทอ่ี ยบู่ นระบบอาชญากรรมทางคอมพวิ เตอรท์ เ่ี กดิ ขึน้ มากและสง่ ผล กระทบโดยตรงตอ่ ประชาชนและผบู้ ริโภคได้แก่ 2.1 อาชญากรรมทางคอมพวิ เตอรเ์ กีย่ วกบั การเงนิ ลกั ษณะกรรมเปน็ อาชญากรรมท่ีขดั ขวางความสามารถขององคก์ รธุรกจิ ในการทำธุรกรรมหรอื การ ดำเนนิ กิจกรรมทางธุรกจิ ตา่ งๆผ่านสอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์คอมพวิ เตอรเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศ การส่อื สาร และอนิ เตอรเ์ น็ต 2.2 อาชญากรรมทางคอมพิวเตอรเ์ ก่ยี วกบั การละเมดิ ลิขสิทธ์ิ ลักษณะอาชยากรรมเปน็ การคัดลอกผลงานทมี่ ลี กั ษะสทิ ธิ์ในปจั จุบันคอมพิวเตอร์และอินเทอรเ์ น็ตถูก ใชเ้ ป็นสื่อเพอ่ื จำหนา่ ยหรอื เผยแพรผ่ ลงานสร้างสรรค์และถูกใช้เป็นสือ่ ในการก่ออาชญากรรมดว้ ย เช่นกัน 2.3 อาชญากรรมทางคอมพิวเตอรเ์ กีย่ วกบั การเจาะระบบ ลกั ษณะอาชญากรรมเป็นการให้ไดม้ าซง่ึ สทิ ธใิ นการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอรห์ รอื เครือข่ายโดยไมไ่ ด้ รับอนญุ าตและในบางกรณีอาจหมายถงึ การใช้สิทธิการเข้าถงึ นโี้ ดยไมไ่ ด้รบั อนุญาตนอกจากน้ีการเจาะ ระบบยังอาจรองรบั อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในรปู แบบอืน่ ๆเชน่ การปลอมแปลงการกอ่ การร้าย เป็นตน้
2.4 อาชญากรรมทางคอมพวิ เตอรเ์ กยี่ วกบั การกอ่ การร้ายทางคอมพวิ เตอร์ การกระทำทเ่ี ข้าขา่ ยการกอ่ การรา้ ยทางอเิ ล็กทรอนกิ สจ์ ะเกย่ี วขอ้ งกบั การเจาะระบบคอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื กอ่ เหตรุ นุ แรงตอ่ บคุ คลหรือทรัพยส์ นิ 2.5 อาชญากรรมทางคอมพวิ เตอรเ์ กีย่ วกบั ภาพอนาจารทางอินเทอร์เนต็ อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตถือว่าเป็นการกระทำทีข่ ัดต่อกฎหมายโดยมีอินเตอรเ์ น็ตเปน็ ชอ่ งทาง สำคญั สำหรบั การก่ออาชญากรรมซงึ่ จะตอ้ งมกี ารควบคุมช่องทางการสอ่ื สารและการเขา้ ถงึ
3.จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสานสนเทศ จรยิ ธรรม มาจากคำว่า ”จรยิ ” กบั ”ธรรมะ” จรยิ หมายถึง ความประพฤติ กริ ยิ าทคี่ วรประพฤติ ธรรมะ หมายถงึ คุณความดี คำสั่งสอน หลักประพฤตปิ ฏบิ ัตใิ นศาสนา ความจริง ความยตุ ธิ รรม ความ ถูกตอ้ ง กฎเกณฑ์ กฎหมาย เม่ือพจิ ารณาตามรปู คำ จริยธรรม จึงหมายถงึ ธรรมทเ่ี ปน็ ข้อประพฤติ ปฏิบัติ ศิลธรรมกฎศลี ธรรม ความรับผดิ ชอบ หมายถึง การยอมรบั ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการกระทำใดๆ ทงั้ ทต่ี นเองกระทำ หรือผู้อื่น กระทำ ไม่วา่ สงิ่ น้ันจะดหี รอื ไม่ จะสำเร็จหรือไม่ เชน่ ความรบั ผิดชอบตอ่ งานหรอื หนา้ ท่ที ี่ตอ้ งปฏบิ ัติ ใหส้ ำเรจ็ ลลุ ่วงตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมายหรือทไี่ ด้กำหนดไว้ ไมว่ า่ เดก็ หรอื ผ้ใู หญ่ควรมีความความ รับผิดชอบ ซ่ึงอาจแตกตา่ งกนั ไปตามวยั วุฒแิ ละคณุ วฒุ ิ จรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอร์ เป็นหลักศีลธรรมจรรยาทกี่ ำหนดขนึ้ เพอื่ ใชเ้ ปน็ แนวทางปฏบิ ตั ิ หรอื ควบคุมการใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศและงานอาชีพ รวมไปถงึ การ ยอมรบั ผลทเี่ กดิ ขนึ้ จากการกระทำท่ีเกี่ยวขอ้ ง โดยทัว่ ไปเมอื่ พิจารณาถึงจริยธรรมในการใช้ คอมพิวเตอร์และระบบสานสนเทศแล้ว จะกล่าวถงึ 4 ประเด็นที่รู้จกั กันในคำว่า PAPA ประกอบด้วย 3.1 ความเปน็ สว่ นตวั (Information Privacy) เปน็ ความเปน็ ส่วนตวั ของข้อมลู และสารสนเทศทเ่ี ปน็ สทิ ธทิ เี่ จ้าของสามารถท่ีจะควบคมุ ขอ้ มลู ของ ตนเองในการเปดิ เผยใหก้ บั ผอู้ ่ืน หรอื ผ้ทู เี่ กบ็ ข้อมลู เองก็มหี นา้ ท่ีความรับผดิ ชอบในการเกบ็ รกั ษาขอ้ มูล ของบุคคลอ่นื ท่ีมีอยู่ไมใ่ ห้แพรก่ ระจายออกไปโดยไม่ได้รบั ความยินยอมจากเจ้าของข้อมลู การละเมิด ความเปน็ ส่วนตัวในข้อมลู ของตนเองทเี่ กดิ ขน้ึ ในปจั จบุ นั เช่น ประเดน็ การเข้าไปดูขอ้ ความในจดหมาย อเิ ลก็ ทรอนิกส์ การบนั ทึกขอ้ มลู ในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ การใชเ้ ทคโนโลยใี นการติดตามความ เคลอ่ื นไหวหรือพฤตกิ รรมของบคุ คล การใชข้ ้อมลู ของลูกคา้ จากแหล่งต่างๆ เพอ่ื ผลประโยชนใ์ นการ ขยายตลาดหรอื การรวบรวมขอ้ มูลตวั ผูอ้ ่นื เพอื่ นำไปสร้างฐานขอ้ มูลประวัติลกู คา้ ขึ้นมาใหม่แล้วนำไป ขายใหก้ ับบริษทั อ่นื เป็นต้น 3.2 ความถูกตอ้ ง (Information Accuracy) ความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู เป็นสว่ นสำคญั ทจ่ี ะทำให้ข้อมลู นั้นมคี วามนา่ เชื่อถือ โดยเฉพาะการใช้ คอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื การรวบรวม จดั เกบ็ และเรยี กใช้ข้อมลู ผ้ทู เี่ กยี่ วข้องจะต้องมจี ริยธรรมรบั ผิดชอบต่อ ความถกู ตอ้ ง การจัดเก็บ การเผยแพร่ขอ้ มลู และรบั ผดิ ชอบหากเกดิ ขอ้ ผิดพลาด ดงั นัน้ ในการจดั ทำข้อมลู และสารสนเทศใหม้ ีความถกู ตอ้ งและนา่ เชอ่ื ถือนั้น ควรให้สทิ ธแ์ิ ก่ บคุ ลากรในการเขา้ ไปตรวจสอบความถกู ตอ้ งของข้อมูลตนเองไดก้ อ่ นทจ่ี ะจัดเกบ็ รวมถึงการปรบั ปรงุ ให้ขอ้ มูลมคี วามทนั สมัยอยู่เสมอ 3.3 ความเป็นเจา้ ของ (Information Property)
สทิ ธิความเป็นเจา้ ของ หมายถึง กรรมสทิ ธใิ์ นการถอื ครองทรพั ยส์ ิน อันเป็นทรัพยส์ นิ ทัว่ ไปทจ่ี บั ตอ้ งได้ หรืออาจเป็นทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญาท่จี บั ต้องไม่ได้ แต่สามารถถา่ ยทอดและบันทกึ ลงในสอ่ื ต่างๆ ได้ ซ่ึง การละเมิดสทิ ธิหรือการละเมิดความเป็นเจา้ ของในทรพั ยส์ ินโดยเฉพาะซอฟต์แวร์ ถอื วา่ เปน็ การผิด จริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ การใช้ซอฟตแ์ วรท์ ่ีถกู ต้องตามลขิ สทิ ธน์ิ น้ั ตอ้ งพจิ ารณาดว้ ยว่าท่ีซ้อื มาอย่างถูกต้อง สามารถใช้งานได้ ระดบั ใด ตดิ ตัง้ ไดเ้ คร่อื งเดยี วหรอื หลายเครอ่ื ง เป็นเจา้ ของไดแ้ ค่ไหน คดั ลอกให้ผอู้ ่ืนไดห้ รือไม่ 3.4 การเขา้ ถึงข้อมลู (Data Accessibility) การเขา้ ถึงขอ้ มลู เปน็ การใหบ้ ุคคลเข้าถงึ ข้อมลู และใชป้ ระโยชน์ในขอ้ มูลไดก้ ารเขา้ ถงึ ขอ้ มูลใดๆจะตอ้ ง มวี ิธกี ารป้องกันกบั ขอ้ มลู ของผใู้ ช้ทไี่ มม่ สี ว่ นเกี่ยวข้องและเปน็ การรกั ษาความลับของขอ้ มลู เชน่ สทิ ธิใน การบนั ทกึ สทิ ธิในการแกไ้ ข ปรบั ปรุง และสทิ ธิในการลบ ในปจั จุบนั ระบบคอมพิวเตอร์ไดถ้ กู ออกแบบ ระบบรกั ษาความปลอดภัยใหม้ กี ารกำหนดสทิ ธติ ามระดบั ของผู้ใชง้ าน 4.กฎหมายท่เี กี่ยวขอ้ งกบั การใช้คอมพวิ เตอรก์ บั ระบบสานสนเทศ กฎหมายท่เี ก่ียวขอ้ งกบั การใชค้ อมพิวเตอรก์ บั ระบบสานสนเทศเปน็ พระราชบญั ญัตวิ ่าด้วย การกระทำความผดิ เก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ 2550 พระราชบญั ญตั ิฉบบั นีแ้ บง่ เป็น 2 ส่วนหลัก คอื หมวด 1 ว่าด้วยความผิดเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ และหมวด 2 วา่ ด้วยเร่ืองอำนาจหน้าทีแ่ ละบทบาทของ พนักงานเจ้าหน้าท่ดี งั นี้ หมวด 1 ว่าด้วยความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วย มาตรา 5 ระบวุ า่ ผใู้ ดเข้าถึงโดยมชิ อบซงึ่ ระบบคอมพิวเตอรม์ มี าตรการปอ้ งกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการน้ันมิไดม้ ไี ว้สำหรบั ตน ต้องระวางโทษจำคกุ ไมเ่ กนิ หกเดือน หรอื ปรบั เงินไมเ่ กนิ หนงึ่ หมืน่ บาท หรอื ทั้งจำ ทัง้ ปรบั ซึง่ จะเห็นวา่ ผู้ทแี่ อบเปิดเครอื่ งผู้อืน่ ท่ีป้องกันไวเ้ พื่อเข้าไปใชง้ านจะมคี วามผิด ตามมาตรานี้ มาตรา 7 ระบวุ ่าผใู้ ดเขา้ ถงึ โดยมิชอบซึง่ ข้อมลู คอมพิวเตอรท์ ่มี มี าตรการป้องกนั การเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิไดม้ ไี วส้ ำหรบั ตน ต้องระวางโทษจำคกุ ไมเ่ กนิ สองปี หรือปรบั ไมเ่ กินสหี่ มื่นบาทหรือ ทง้ั จำ ทง้ั ปรับ ดว้ ยความผดิ จะแยกเป็น 2 สว่ น คือ การเขา้ ถงึ ระบบคอมพวิ เตอร์โดยมิชอบ และการ เข้าอา้ งถงึ ขอ้ มลู คอมพิวเตอรโ์ ดยมิชอบ ซงึ่ จะทำใหผ้ ูท้ ่แี อบเขา้ ใชเ้ ครอ่ื งทม่ี กี ารปอ้ งกนั ไว้เพ่อื ดูขอ้ มลู หรอื ขโมยขอ้ มลู มีความผิด มาตรา 9 ระบุว่าผู้ใดทำใหเ้ สยี หาย ทำลาย แก้ไข เปลย่ี นแปลง หรอื เพ่ิมเตมิ ไม่วา่ ทง้ั หมดหรอื บางสว่ น ซงึ่ ขอ้ มลู คอมพิวเตอรข์ องผู้อื่นโดยมิชอบ ตอ้ งระวางโทษจำคุกไมเ่ กนิ ห้าปี หรือปรับไม่เกนิ หนงึ่ แสนบาท หรอื ทง้ั จำทง้ั ปรับ มาตรา 10 ระบุว่าผู้ใดกระทำดว้ ยประการใดโดยมชิ อบ เพ่ือให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของ ผู้อ่ืนถกู ระงบั ชลอ ขดั ขวาง หรอื รบกวน จนไมส่ ามารถทำงานได้ ตามปกตติ อ้ งระวางโทษจำคกุ ไมเ่ กนิ
หา้ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินหนงึ่ แสนบาท หรือทั้งจำ ทง้ั ปรับ ซง่ึ จะทำให้ผทู้ ่ีแอบเขา้ เครื่องผอู้ น่ื ไปลบไฟล์ สรา้ งไวรสั ทำลายขอ้ มลู หรอื แกไ้ ขขอ้ มลู ทำใหเ้ ครอ่ื งทำงานผิดปกติ จะมีความผดิ ตามมาตราน้ี มาตรา11ระบุว่าผใู้ ดสง่ ขอ้ มลู คอมพวิ เตอรห์ รอื จดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์แกบ่ คุ คลอ่ืน โดยปกปดิ หรือ ปลอมแปลงแหลง่ ที่มาของการสง่ ข้อมลู ดงั กล่าว อนั เป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพวิ เตอร์ของ บุคคลอืน่ โดยปกติสขุ ต้องระวางโทษปรบั ไมเ่ กนิ หน่งึ แสนบาท มาตรา12ระบุว่าการกระทำความผดิ ตามมาตรา๙หรือมาตรา 10 (1) ก่อใหเ้ กิดความเสียหายแกป่ ระชาชนไม่ว่าความเสียหายนน้ั จะเกิดขึน้ ในทนั ทีหรอื ภายหลังและไม่ วา่ จะเกดิ ขึ้นพรอ้ มกันหรอื ไม่ตอ้ งระวางโทษจำคกุ ไม่เกนิ สองปีและปรบั ไม่เกินสองแสนบาท (2) เป็นการกระทำโดยประการที่นา่ จะเกดิ ความเสียหายตอ่ ข้อมูลคอมพวิ เตอร์ หรือระบบ คอมพิวเตอรท์ เ่ี กีย่ วกบั การรักษาความม่นั คงปลอดภยั ของประเทศความปลอดภยั สาธารณะ ความ มนั่ คงทางเศรษฐกจิ ของประเทศ หรือบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ หรอื ระบบคอมพิวเตอรท์ ่ีมีไวเ้ พ่อื ประโยชน์สาธารณะ ตอ้ งระวางโทษจำคกุ ต้ังแตส่ ามปีถงึ สบิ ห้าปี และ ปรับตงั้ แต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท มาตรานอ้ี าจจะสง่ ผลใหผ้ ู้ทตี่ อบกระทสู้ ง่ ต่อจดหมายอเิ ล็กทรอนิกสท์ ่ีแอบอา้ งใส่ร้ายป้ายสจี นทำให้ เกดิ ความเสียหาย สง่ ผลกระทบในวงกว้าง มาตรา14ระบุวา่ ผู้ใดกระทำความผดิ ทร่ี ะบุไว้ดังต่อไปน้ี ต้องระวางโทษไมเ่ กินห้าปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ หนึ่งแสนบาท หรอื ทงั้ จำ ทงั้ ปรับ (1) การนำสรู่ ะบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมลู คอมพวิ เตอรป์ ลอมไมว่ า่ ทง้ั หมดหรอื บางส่วน หรอื ข้อมลู คอมพิวเตอรอ์ ันเปน็ เทจ็ โดยประการท่นี ่าจะเกิดความเสียหายแกผ่ อู้ ื่นหรอื ประชาชน (2) การนำเขา้ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซงึ่ ข้อมูลคอมพิวเตอรอ์ ันเปน็ เทจ็ โดยประการที่นา่ จะเกดิ ความ เสยี หายตอ่ ความมั่นคงของประเทศหรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความตนื่ ตระหนกแกป่ ระชาชน (3) การนำเขา้ สู่ระบบคอมพวิ เตอรซ์ ึง่ ขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์ใดใดอนั เป็นความผิดเกีย่ วกบั ความ มัน่ คงแหง่ ราชอาณาจักรหรอื ความผดิ เกย่ี วกับการกอ่ การร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพวิ เตอร์ซงึ่ ข้อมลู คอมพิวเตอร์ใดใดทมี่ ลี ักษณะอันลามกและขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์ น้ันประชาชนทั่วไปอาจเขา้ ถึงได้ (5) การเผยแพร่หรอื สง่ ตอ่ ซงึ่ ข้อมลู คอมพวิ เตอรโ์ ดยรอู้ ยู่แลว้ ว่าเปน็ ขอ้ มลู คอมพิวเตอรต์ าม (1) (2) (3) หรือ (4) มาตรานี้มผี ลต่อผู้ใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ ทแี่ สดงความเหน็ กล่าวอ้างแบบไม่มหี ลกั ฐานส่งตอ่ จดหมาย อเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่มี ภี าพลามกอนาจาร มาตรา15ระบุว่าผูใ้ ห้บรกิ ารผู้ใดจงใจสนับสนนุ หรือยินยอมใหม้ ีการกระทำความผิดตามมาตรา 14 ใน ระบบคอมพวิ เตอรท์ อี่ ยใู่ นความควบคุมของตน ตอ้ งระวางโทษเชน่ เดยี วกับผกู้ ระทำความผดิ ตาม มาตรา 14
มาตรา16ระบวุ า่ ผใู้ ดนำเข้าสูร่ ะบบคอมพวิ เตอร์ที่ประชาชนทวั่ ไปเขา้ ถงึ ไดซ้ ึ่งขอ้ มลู คอมพวิ เตอรท์ ่ี ปรากฏเปน็ ภาพของผอู้ ่ืน และภาพน้ันเปน็ ภาพทเี่ กิดจากการสรา้ งขนึ้ ตดั ต่อ แตง่ เตมิ หรือดัดแปลง ดว้ ยวธิ กี ารทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรอื วิธีการอนื่ ใดทง้ั นีโ้ ดยประการที่นา่ จะทำใหผ้ ูอ้ ืน่ นัน้ เสียช่อื เสยี ง ถกู ดูหมิ่นถูก เกลยี ดชัง หรือไดร้ ับความอบั อาย ต้องระวางโทษจำคุกไมเ่ กินสามปหี รือปรบั ไม่เกนิ หกหม่นื บาทหรือทงั้ จำทงั้ ปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหน่ึง เปน็ การนำข้อมูลคอมพิวเตอรโ์ ดยสจุ ริต ผกู้ ระทำไมม่ คี วามผดิ ความผิด ตามวรรคหนง่ึ เปน็ ความผดิ อนั ยอมความได้ ถา้ ผ้เู สยี หายในความผดิ ตามวรรคหนงึ่ ตายเสียก่อนร้องทุกข์ ใหบ้ ิดา มารดา คสู่ มรส หรือบตุ รของ ผเู้ สยี หายรอ้ งทุกขไ์ ด้ และใหถ้ อื วา่ เป็นผเู้ สียหาย จะเห็นไดว้ า่ เจ้าของเว็บไซต์มผี ้คู นเขา้ ใช้ตอบขอ้ ความตา่ งๆ จะต้องรบั ผดิ ชอบสิ่งทีเ่ กดิ ข้ึนบนเวบ็ ไซต์ ด้วย มาตรา17ผใู้ ดกระทำความผิดตามพระราชบญั ญัตินน้ี อกราชอาณาจักร และ (1) ผ้กู ระทำความผิดน้นั เป็นคนไทยและรฐั บาลแหง่ ประเทศท่คี วามผดิ ได้เกดิ ข้ึนหรือผู้เสียหายได้รอ้ ง ขอให้ลงโทษหรือ (2) ผู้กระทำความผิดนน้ั เป็นคนตา่ งดา้ วและรฐั บาลคนไทยหรอื คนไทยเป็นผเู้ สียหายและผเู้ สียหายได้ รอ้ งขอใหล้ งโทษจะต้องรบั โทษภายในราชอาณาจักร หมวด 2 วา่ ด้วยเร่ืองอำนาจหน้าทีแ่ ละบทบาทของพนกั งานเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วยมาตราที่ 18 ถงึ มาตราท่ี 30 ปจั จบุ นั ระบบคอมพวิ เตอรเ์ ป็นเครอื่ งมอื สำคญั ของการประกอบกจิ การและการดำเนนิ จ มนุษยห์ าก มีผู้กระทำใดๆ ใหร้ ะบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามสง่ั ที่กำหนดไว้ หรอื ทำใหก้ ารทำงาน ผิดพลาดไปจากคำสั่งทกี่ ำหนดไว้ หรอื ใช้วิธีการใดๆ เข้าล่วงรูข้ อ้ มลู แกไ้ ข หรอื ทำลายข้อมลู ของ บุคคลอน่ื ในระบบคอมพิวเตอรโ์ ดยมชิ อบ หรอื ใช้ระบบคอมพิวเตอรเ์ พือ่ เผยแพร่ข้อมลู คอมพวิ เตอร์ อนั เป็นเทจ็ หรือมีลกั ษณะอนั ลามกอนาจาร ย่อมกอ่ ให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทอื นตอ่ เศรษฐกจิ สงั คม และความม่ันคงของรฐั รวมทั้งความสงบสุขและศลี ธรรมอนั ดีของประชาชน สมควร กำหนดมาตราเพ่อื ป้องกนั และปราบปรามการกระทำดังกล่าว จงึ จำเปน็ และเป็นเหตผุ ลในการ ประกาศใช้พระราชบญั ญัติฉบบั นี้
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… บูรณาการคณุ ธรรมจริยธรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… ดา้ นความรู้ (K) …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… ด้านกระบวนการ (P) …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… สมรรถนะสำคัญผเู้ รียน (C) …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… ปญั หาอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……… (ลงชอ่ื ) ……………………………………………………ผสู้ อน ( นายนติ โิ รจน์ มีพวงผล ) ตำแหนง่ ครูผูส้ อน วันท.ี่ ...........................................
ความคิดเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษา หรอื ผทู้ ีเ่ ก่ียวขอ้ ง (....) ได้ตรวจสอบแล้วเหน็ ว่ามคี วามเหมาะสม และเหน็ ควรใหน้ ำไปใชส้ อนได้ (....) ควรปรบั ปรงุ คอื ............................................................................................................................................... ................. ................................................................................................................. ............................................... (ลงชื่อ..................................................... ( นายวีระ แถมกระโทก) ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ วันที่............................................ (....) ได้ตรวจสอบแลว้ เหน็ ว่ามคี วามเหมาะสม และเหน็ ควรใหน้ ำไปใช้สอนได้ (....) ควรปรับปรงุ คอื ................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. .................................. (ลงชอ่ื ) ..................................................... ( ดร.สรุ ศักด์ิ จันพลา ) ผู้อำนวยการวทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาจลุ มณสี รุ นารี ขามสะแกแสง วันที่................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111