139 ABC JOURNAL ตารางที่ 1 ผลงานวิจัยและบทความวิชาการที่ดำ�เนินงานเสร็จสิ้น ระหว่างปี พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2561 ที่ งานวิจยั ผู้จดั ท�ำ 1 ศักยภาพชุมชนและแนวทางการจัดการโลจิสติกส์ ส�ำ หรับการผลิตก้อนเห็ดและ กิตติศกั ดิ์ จิตต์เกื้อ และคณะ การแปรรปู หมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จังหวัดภูเกต็ 2 การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนการแปรรปู เห็ดจากชุมชนผลิตเห็ดอินทรีย์ จารวุ รรณ พรหมเงิน และคณะ บ้านลิพอน หัวหาร-บ่อแร่ 3 การศึกษาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเห็ด สู่การรับรองมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ กิตติศกั ดิ์ จิตต์เกื้อ และคณะ หมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จังหวัดภเู ก็ต 4 ต้นทนุ และผลกำ�ไรผลิตภัณฑ์เหด็ จารุวรรณ พรหมเงิน และคณะ 5 การศึกษาแนวทางในการควบคุมคณุ ภาพดอกเห็ดนางฟ้า โดยใช้เทคนิค 7QC Tools หาญพล มิตรวงศ์ กรณีศึกษาหมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จังหวดั ภเู กต็ 6 การประยกุ ต์ใช้แนวคิดการควบคุมคณุ ภาพที่ของเสียเปน็ ศนู ย์ สู่การเพิม่ ผลิตภาพ รงั สรรค์ พลสมคั ร สำ�หรับกลุ่มวิสาหกิจชมุ ชนผลิตเหด็ อินทรีย์ จงั หวดั ภเู กต็ 7 แนวทางการลดความสญู เปล่า กระบวนการผลิตก้อนเชื้อเห็ด ศนู ย์เรียนรู้การผลิต จารวุ รรณ พรหมเงิน และคณะ เหด็ อินทรีย์ บ้านลิพอน หวั หาร-บ่อแร่ หมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จังหวัดภเู กต็ 8 พันธกิจสัมพนั ธ์มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตกับสงั คมสู่การพฒั นาเศรษฐกิจชุมชน กิตติศักดิ์ จิตต์เกื้อ และคณะ แบบมีส่วนร่วมอย่างย่งั ยืน กรณีหมู่บ้านผลิตเห็ดอินทรีย์ ต�ำ บลศรีสนุ ทร อ�ำ เภอถลาง จงั หวดั ภูเก็ต (บทความวิชาการ) นอกจากนี้นักศึกษาและคณาจารย์ในสาขาวิชาได้นำ�ผลงาน ผู้วิจัยนำ�ปัญหาจากชุมชนที่ค้นพบจากการปฏิบัติงาน มา วจิ ยั จ�ำ นวน 2 ผลงาน เขา้ รว่ มน�ำ เสนอผลงานภาคนทิ รรศการในงาน พัฒนาเป็นโจทย์วิจัย นอกจากจะเป็นปัญหาของชุมชนแล้ว ใน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2559 (Thailand Research Expo เชิงวิชาการก็ยังมีช่องว่างของความรู้ (กาญจนา แก้วเทพ, 2559) 2016)” งานวจิ ยั เพอื่ การผลติ และเพมิ่ มลู คา่ สนิ คา้ เกษตรและอาหาร ผู้วิจัยจึงนำ�แนวคิดลีนซึ่งเป็นแนวคิดและหลักการขจัดความ ระหว่างวนั ที่ 17-21 สิงหาคม พ.ศ. 2559 (ภาพที่ 2) สูญเปล่าของกระบวนการท�ำ งานซึ่งทำ�ให้เกิดต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อ อย่างไรก็ตามแม้ว่ากลุ่มชุมชนฯ ได้นำ�ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจาก มุ่งหวังให้เกิดการปรับตัว ปรับการทำ�งานตอบสนองต่อตลาด งานวิจัยมาใช้ประโยชน์เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ในแต่ละลักษณะ และผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพเหนือคู่แข่งขัน งานย่อยๆ ของกลุ่มชุมชนฯ ยังพบประเด็นสำ�คัญที่ควรเร่งดำ�เนิน รายอื่นๆ ในตลาดเดียวกัน มาประยุกต์กับการจัดการและการ การปรับปรุงแก้ไข เช่น ในการประชุมสามัญประจำ�ปีของกลุ่มฯ ดำ�เนินงานของกลุ่มชุมชนฯ ที่จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจชุมชนฐานราก เดือนธันวาคม พ.ศ. 2558 เพื่อสรุปผลการดำ�เนินงานในรอบปี ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเข้มแข็ง ซึ่ง พร้อมรับการจัดสรรกำ�ไรจากหุ้นทีแ่ ต่ละคนถือครอง ชมุ ชนได้ร่วม เศรษฐกิจของชมุ ชนฐานรากจะนำ�พาธรุ กิจของประเทศในภาพรวม ปรกึ ษาหารือเกีย่ วกบั การดำ�เนนิ งานและปญั หาตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขึ้น เช่น ไปสู่การพัฒนาแบบยั่งยืนได้ ทั้งนี้ผู้วิจัยมีแนวคิดจากโครงการ เอกสาร อุปกรณ์เครือ่ งมือ วางปะปนกัน เสียเวลาค้นหา เครื่องมือ โตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ที่ได้ชูประเด็นแนวคิดของการทำ�งานรวม ช�ำ รุดเสียหาย แสงสว่าง ความร้อน สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมกับ ถึงวิธีการทำ�งาน การปฏิบัติงานของตนที่โดดเด่นหรือที่เรียกว่า ผู้ปฏิบตั ิงาน การบรรจุก้อน การนึง่ เหด็ ต้องใช้เวลา ทำ�ให้เมื่อยล้า ปรัชญาการผลิตแบบโตโยต้ามาประยุกต์ใช้และช่วยให้เกิดวิธีการ จากการท�ำ งาน และแนวทางการน�ำ ผลิตภณั ฑ์ สินค้าของกลุ่มเพือ่ ทำ�งานอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมแก่ จำ�หน่ายสู่เชิงพาณิชย์ ผู้วิจัยจึงได้รวบรวมประเด็นความต้องการ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SME) สอดคล้องกับการพัฒนาการ ร่วมกับชุมชนจัดเวทีประชาคมเพื่อร่วมกันวิเคราะห์หาแนวทางลด ด�ำ เนินงานของหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า อำ�เภอพนมสารคาม ปัญหาอุปสรรคจากการดำ�เนินงาน และหาแนวทางการพัฒนา จังหวัดฉะเชิงเทรา ทีย่ ึดหลัก “มุ่งมั่นสร้างวินยั สร้างความสามัคคี ส่วนงานให้เป็นไปในแนวทางสู่ความยงั่ ยืน เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้” จากการน�ำ 5ส เข้ามาบริหารจดั การ จน วารสารวิจยั เพื่อการพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 140 สามารถคว้ารางวัล 5ส ระดับประเทศจากงานประกวด Thailand เครือ่ งมือเครื่องใช้ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการยศาสตร์ของ 5S Award 2012 โดยสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ด้วย กระบวนการทำ�งานและมุ่งหวังว่าการดำ�เนินงานนี้จะช่วยเสริม รางวลั ชนะเลิศอนั ดบั 1 Diamond Award แนวทางการดำ�เนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสู่การเป็น “ศูนย์ ผู้วิจัยจึงนำ�เสนอประเด็นดังกล่าวในเวทีการประชุมกลุ่ม มี เรยี นรผู้ ลติ เหด็ อนิ ทรยี ”์ ทนี่ ำ�วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม ขอ้ สรปุ เปน็ มตขิ องกลุ่มทีจ่ ะน�ำ ทฤษฎีทางวิชาการและกระบวนการ มาใช้ในสภาพจริงของการด�ำ เนินงานในกลุ่มฯ ในขณะเดียวกันสิ่ง ทางวทิ ยาศาสตรม์ าด�ำ เนนิ การ ดงั นนั้ โจทยว์ จิ ยั จงึ ถกู พฒั นาขึน้ เปน็ ที่ควรเพิ่มขึ้น คือ ความรู้และพลังของผู้ปฏิบัติงาน ประสิทธิภาพ รูปแบบการวิจัยและพฒั นา (Research and development) ควบคู่ ความสามารถของกลุ่มชุมชนในแนวทางความยั่งยืน รวมถึงการ กับการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory action ตอบสนองตรงกับความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า research) โดยดำ�เนินการระหว่างมกราคม พ.ศ. 2559 ถึงกนั ยายน ลีน (Lean) แปลว่า “ผอม เพรียว บาง” หากเปรียบเทียบ พ.ศ. 2561 ด้วยกระบวนการต่างๆ ร่วมกับการสร้างการเรียนรู้ กับ “คน” หมายถึง คนที่มีร่างกาย แขง็ แรง สมส่วน ปราศจากไข ร่วมกันระหว่างสมาชิกชมุ ชนและผู้วิจัย มัน กระฉับกระเฉง ดังนั้นหากเปรียบเทียบกับหน่วยงานจึงหมาย ถึง หน่วยงานที่ดําเนินงานโดยปราศจากความสูญเปล่าในทุกๆ กระบวนการ สามารถปรับตัวตอบสนองต่อความต้องการของ แนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งงานวิจัยที่นำ�แนวคิดลีนมาปรับประยุกต์ใช้ เช่น การศึกษาปัญหาและความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นและปรับปรุง กระบวนการผลิตเครื่องปรับอากาศ (สุชาดี ธำ�รงสุข และคณะ, แนวคิดแบบลีน (Lean thinking) เป็นแนวคิดการบริหาร 2559) ที่เกิดจากการผลิตทีม่ ากเกินความจ�ำ เป็น การเคลื่อนไหวที่ จัดการการผลิตที่เป็นที่ยอมรับระดับสากล มีเป้าหมายเพื่อสร้าง ไม่จ�ำ เป็น การเคลือ่ นย้ายสิ่งของทีไ่ ม่จ�ำ เป็น การรอคอยที่ไม่จ�ำ เป็น คุณค่าโดยมุ่งขจัดความสูญเปล่า (Waste) หรือที่รู้จักกันในชื่อ รวมถึงการใช้พื้นที่เพื่อจัดวางสิ่งของระหว่างการผลิต ด้วยการ ความสูญเปล่า 7 ประการ (7 Waste) คิดค้นโดย Mr. Shigeo ประยกุ ตใ์ ชเ้ ครอื่ งมอื ระบบการผลติ แบบโตโยตา้ (Toyota production Shingo และ Mr. Taiichi Ohno ประกอบด้วย ความสูญเปล่าจาก system: TPS) และสายธารคณุ ค่า (Value stream mapping หรือ การผลิตสินค้ามากเกินไป (Overproduction) การเก็บวัสดุคงคลัง VSM) เพื่อวิเคราะห์กระบวนการและเวลา ทำ�การปรับปรุงด้วย (Inventory) การขนส่ง (Transportation) การเคลื่อนไหว (Motion) กิจกรรม TPS ปรับความสมดุลของปริมาณงาน จากการศึกษา กระบวนการผลิต (Processing) การรอคอย (Delay) และการผลิต พบว่าเวลาในการส่งมอบชิ้นส่วนให้ลูกค้าลดลง พื้นที่เพิ่มขึ้นและ ของเสยี (Defect) ซงึ่ ภายหลงั การด�ำ เนนิ งานวจิ ยั สงิ่ ทคี่ วรลดนอ้ ยลง พนักงานในกระบวนการผลิตลดลง สอดคล้องกับงานวิจัยของ คอื ความสญู เปลา่ จากการปฏบิ ตั งิ านเพอื่ ลดเวลาการคน้ หาสงิ่ ของ กิตติชัย อธิกุลรัตน์ และ ภัทรพงษ์ ภาคภมู ิ (2560) เพื่อลดความ ภาพที่ 2 การนำ�ผลงานวิจยั น�ำ เสนอภาคนิทรรศการในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2559” ณ ศูนย์ประชมุ บางกอกคอนเวนชนั เซน็ เตอร์ เซ็นทรลั เวิลด์ ราชประสงค์ จงั หวัดกรุงเทพมหานคร วารสารวิจัยเพือ่ การพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
141 ABC JOURNAL สูญเปล่าในกระบวนการผลิตให้เกิดการไหลอย่างต่อเนื่อง โดย วิธีดำ�เนินการวิจัย การใชภ้ าพสายธารคณุ คา่ ปจั จบุ นั และสายธารคณุ คา่ ในอนาคตของ ผลิตภณั ฑ์และใช้การศึกษาวิธีการทำ�งาน เพื่อปรับปรงุ การท�ำ งาน ลดความสูญเปล่าในกระบวนการโดยการประยุกต์ใช้ 5ส ร่วมใน ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง การปรับปรงุ ผลการวิจัยทำ�ให้สามารถเพิม่ กำ�ลงั การผลิตจากเดิม และสามารถปรบั ปรงุ สภาพแวดลอ้ มในการปฏบิ ตั งิ านท�ำ ใหล้ ดระยะ ประชากรคือ สมาชิกวิสาหกิจชุมชนผลิตเห็ดอินทรีย์ บ้าน ทางเคลื่อนย้ายงาน และสอดคล้องกับงานวิจัยของ ปฐมชัย พิชิต ลิพอน หัวหาร-บ่อแร่ ตำ�บลศรีสุนทร อำ�เภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ผจงกิจ (2561) ได้นำ�หลักการลีนและการจัดสมดุลสายการผลิต ใช้วิธีการสุ่มตวั อย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยเลือก มาประยุกต์ใช้ เพื่อลดความสูญเสียจากการรอคอย จากการขนส่ง สมาชิกชุมชนที่มีประสบการณ์ในการทำ�งานมากกว่า 3 ปี และมี และจากกระบวนการที่ไม่เหมาะสมเพื่อจัดระบบสายการผลิตใหม่ ความพร้อมในการเข้าร่วมกิจกรรม กลุ่มตัวอย่างจำ�นวน 8 คน โดยใชต้ วั ชวี้ ดั คอื รอบเวลาในการผลติ ประสทิ ธภิ าพการท�ำ งานและ ระหว่าง มกราคม พ.ศ. 2559 ถึง กันยายน พ.ศ. 2561 ผลิตภาพในการผลิตแชสซีส์ จากการศึกษาพบว่าเมือ่ เปรียบเทียบ กระบวนการก่อนและหลังการปรับปรุงสามารถลดความสูญเสีย การรวบรวมข้อมูล ประสทิ ธภิ าพการผลติ เพมิ่ ขนึ้ อยา่ งไรกต็ าม งานวจิ ยั ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การยศาสตร์ (Ergonomics) เพื่อศึกษาแนวทางการปรับปรุงด้าน ขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ิ จากเอกสารทางวชิ าการ เชน่ บทความวชิ าการ การยศาสตร์ของพนกั งานวาดเซรามิก โดยดำ�เนินการศึกษาข้อมลู บทความวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ การประยุกต์ใช้วิถีแห่งลีน เบื้องต้นเกี่ยวกับปัจจัยอันตรายจากการทำ�งาน การสำ�รวจพื้นที่ กับงานที่เกี่ยวข้องในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและการเกษตร การ และกิจกรรมข้อเสนอแนะ (อนิรุจน์ มะโนธรรม, 2560) ได้นำ� ออกแบบเครื่องมือ วิธีการปฏิบัติงานที่เหมาะสมทางการยศาสตร์ เสนอการปรับปรุงการทำ�งาน พบว่าควรส่งเสริมการใช้อุปกรณ์ และข้อมูลปฐมภูมิ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลกระบวนการผลิต สำ�หรับช่วยเคลื่อนย้ายสิ่งของ การขจัดอุปกรณ์เครื่องมือที่ไม่เป็น การไหลของงานเพอื่ ส�ำ รวจปญั หาทเี่ กดิ ขึน้ จากกระบวนการท�ำ งาน ระเบียบ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมและสถานีงานให้เหมาะสม ของผู้ปฏิบัติงานโดยการสังเกตพฤติกรรมการท�ำ งาน การสนทนา การปรับปรุงด้านการปรับเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อหลีกเลี่ยงความ กลมุ่ (Focus group) โดยเลอื กแบบเจาะจง เนอื่ งดว้ ยเปน็ ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน เมื่อยล้า การขนย้ายชิ้นงานที่มีน้�ำ หนักมากด้วยวิธีการที่เหมาะสม ในกระบวนการดำ�เนินงานของกลุ่ม รวมถึงการระดมสมองค้นหา การจดั เกบ็ อปุ กรณ์เครือ่ งมือต่างๆ อย่างเปน็ ระเบียบและปลอดภยั สาเหตุของกระบวนการที่เกิดปัญหาจากขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยมีเป้าหมายเพือ่ ลดปญั หาที่ได้วิเคราะห์ร่วมกนั ดังตารางที่ 2 วตั ถปุ ระสงคก์ ารวิจัย ผลการวิจัย 1) นำ�แนวทฤษฎี 5ส มาดำ�เนินการปรับปรุงสถานที่ปฏิบัติ ผลการด�ำ เนินงานการปรับปรุงสถานที่ 5ส งานของกลุ่มชุมชนฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการ ผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำ�หน่าย (Primary Good หลังจากที่ผู้วิจัยดำ�เนินการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ Manufacturing Practice: Primary GMP) 5ส ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับบริบทกลุ่มชุมชนฯ จึงเริ่มดำ�เนิน 2) ศึกษากระบวนการทำ�งานและแนวทางการเพิ่ม การปรับปรุงทั้งด้านสถานที่การผลิตและห้องปฏิบัติการแปรรูป ประสิทธิภาพด้านเวลาสำ�หรับการจัดเรียงก้อนเชื้อเห็ดในถุง เพื่อเตรียมการรองรับการตรวจประเมินรับรองมาตรฐานต่างๆ ที่ พลาสติก เกี่ยวข้อง (ภาพที่ 3 และภาพที่ 4) และมุ่งหวงั ให้เป็น “ศูนย์เรียนรู้ 3) ศึกษากระบวนการทำ�งานและแนวทางการเพิ่มประสิทธิ การผลิตเห็ดอินทรีย์” โดยเน้นเป็นสถานที่สำ�หรับการแปรรูป ภาพด้านกระบวนการบรรจุก้อนเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก ผลิตภัณฑ์จากเห็ดสด คือ น้ำ�เห็ดเพื่อสุขภาพ แหนมเห็ดและเห็ด 4) สงั เคราะห์แผนธรุ กิจชุมชนสู่การดำ�เนินงานเชิงพาณิชย์ สวรรค์ ปัจจุบันได้ใช้สถานที่ดังกล่าวเพื่อการแปรรูป การต้อนรับ วารสารวิจยั เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 142 ตารางที่ 2 การด�ำ เนินงานวิจัย ด้าน การดำ�เนินงานวิจัย / ทฤษฎีวิชาการและเครื่องมือที่ใช้ มาตรฐานสถานที่ ใช้ทฤษฎีทางวิชาการ 5ส เพื่อให้ความรู้และปฏิบตั ิการร่วมกับชมุ ชนอย่างต่อเนือ่ ง รวมถึงน�ำ แนวคิดด้านคุณภาพ และการบริหารจัดการซึ่งเป็นเครื่องมือสำ�หรับการปรับปรุงขั้นพื้นฐาน ไม่ยุ่งยากเหมาะสำ�หรับการดำ�เนินงาน ได้ง่าย ประสิทธิภาพด้านเวลา ศึกษากระบวนการท�ำ งาน โดย 1) ศึกษาข้อมลู กระบวนการผลิตก้อนเชื้อเห็ดในถงุ พลาสติก เริ่มจากกระบวนการ นำ�วัตถุดิบมาผสมเข้าด้วยกันจนถึงกระบวนการจัดเรียงก้อนเชื้อเห็ดเพื่อน�ำ ส่งลูกค้า ด้วยการบันทึกเป็นภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวของแต่ละข้ันตอน 2) ศึกษาเวลาการทำ�งานของกระบวนการการจัดเรียงก้อนเชื้อเห็ดในถุง พลาสติก โดยใช้ทฤษฎีการศึกษาเวลา (Time study) เพื่อศึกษางานและวิเคราะห์ขั้นตอนด้านเวลาการปฏิบตั ิงาน 3) ปรบั ปรุงกระบวนการจดั เรียงก้อนเชื้อเหด็ ในถงุ พลาสติก โดยใช้แผนผังสายธารคุณค่า (Value Stream Mapping หรือ VSM) ร่วมกับการสร้างอุปกรณ์ช่วยจับก้อนเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก เพื่อลดความสูญเปล่ามาประยุกต์ใช้ต่อ การปฏิบตั ิงาน ประสิทธิภาพ ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคนคิ ทางการยศาสตรเ์ ปน็ ศาสตรท์ วี่ า่ ดว้ ยการออกแบบสถานทใี่ นการทำ�งาน หรอื อปุ กรณ์ เครอื่ งจกั ร ด้านการท�ำ งาน สิง่ แวดล้อมและระบบที่ใช้ โดยน�ำ เอาความสามารถของมนษุ ย์ ด้านลกั ษณะทางกายภาพ สรีรวิทยาและจิตวิทยา แผนธรุ กิจชุมชน มาเปน็ ปจั จยั สำ�คญั เพอื่ พจิ ารณาการออกแบบ เพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ ความปลอดภยั สขุ ภาพอนามยั และความเปน็ อยู่ทีด่ ีของผู้ปฏิบตั ิงานนั้นๆ เทคนิคนี้ใช้เพือ่ ค้นหาสาเหตกุ บั กรณีปญั หาข้างต้นทีส่ ำ�รวจ โดยผู้วิจยั เลือกใช้วิธี RULA (Rapid Upper Limb Assessment) (McAtamney & Corlett, 1993) และวิธี REBA (Rapid Entire Body Assessment) (Hignett & McAtamney, 2000) ใช้การสังเกตเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลกระบวนการทำ�งานในสภาพการณ์ปัจจุบัน ควบคกู่ บั การถา่ ยภาพนงิ่ และการบนั ทกึ วดิ โี อเพอื่ นำ�มาวเิ คราะหท์ า่ ทางในการทำ�งานตามหลกั การยศาสตร์ โดยนำ� เอาข้อมูลเหล่านั้นมาประเมินโดยใช้แบบฟอร์มมาตรฐานของ McAtamney & Corlett (1993) โดย (1) RULA ท�ำ การ บนั ทึกท่าทางขณะท�ำ งาน แบ่งเปน็ 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม A หมายถึงบริเวณแขนและข้อมือ และกลุ่ม B หมายถึง บริเวณ ลำ�คอ ลำ�ตวั และขา โดยพิจารณาช่วงการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย แล้วน�ำ มาประเมินเป็นระดบั คะแนน ตามข้อก�ำ หนดต่างๆ และ (2) REBA ท�ำ การบันทึกท่าทางขณะท�ำ งาน แบ่งเปน็ 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม A หมายถึงบริเวณ ล�ำ คอ ล�ำ ตัว และขา และกลุ่ม B หมายถึง บริเวณแขนและข้อมือ รวมถึงพิจารณาช่วงการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย แล้วนำ�มาประเมินเป็นระดับคะแนนตามข้อกำ�หนด และทำ�การออกแบบเพื่อปรับปรุงกระบวน การท�ำ งาน ศกึ ษาและน�ำ แผนธรุ กจิ ลนี แคนวาสมาประยกุ ตเ์ พอื่ วเิ คราะหส์ ำ�หรบั ธรุ กจิ เกดิ ใหมข่ องชมุ ชน โดยลนี แคนวาส เหมาะ สำ�หรับกลุ่มธุรกิจ Startup มองเห็นภาพรวมได้ทั้งหมด ลดข้ันตอนที่ไม่จ�ำ เป็นของการออกแบบการดำ�เนินธุรกิจ สามารถจดั ท�ำ ผลติ ภณั ฑต์ น้ แบบและทดลองตลาดตรงกบั ความตอ้ งการของลกู คา้ ทมี่ กี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ซึ่งต่างกบั รปู แบบของแผนธรุ กิจผืนผ้าใบ (Business Model Canvas) เนื่องจากลีนแคนวาสให้ความส�ำ คัญกบั ความ ตอ้ งการทแี่ ทจ้ รงิ ของกลมุ่ ลกู คา้ เปา้ หมายดว้ ยการทดสอบสมมตฐิ านทถี่ กู สรา้ งขนึ้ แลว้ น�ำ มาผลติ เปน็ สนิ คา้ ตวั อยา่ ง พร้อมทดสอบตลาดด้วยการสอบถามและด�ำ เนินการปรับปรงุ สินค้า วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
143 ABC JOURNAL ภาพที่ 3 กิจกรรมการให้ความรู้ 5ส และอบรมปฏิบัติการ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้ใช้เป็นสถานที่อบรม กลุ่มเป้าหมาย 17 โรงเรียนและ 3 ชุมชน กว่า 1,400 คน นอกจาก ปฏิบัติการภายใต้โครงการเชื่อมโยงผลผลิตอินทรีย์สู่ผู้บริโภค ได้ นี้กล่มุ ชมุ ชนฯ ไดน้ �ำ 5ส มาด�ำ เนินงาน (ตารางที่ 3) ร่วมกบั หลกั การ รบั การสนบั สนนุ การด�ำ เนนิ งานจากส�ำ นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การ มาตรฐานสถานทีผ่ ลิต (Primary GMP) เป็นส่วนหนึง่ ทีส่ �ำ คญั ที่ช่วย สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อดำ�เนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ ให้กลุ่มชมุ ชนฯ ได้รบั มาตรฐานเลขสารระบบอาหารในเครือ่ งหมาย ยุวชน เยาวชน ประชาชน ครอบคลุมทุกอ�ำ เภอในจังหวัดภูเก็ต มี อย. เมือ่ พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา ตารางที่ 3 สรปุ การด�ำ เนินงานและเป้าหมาย 5ส 5ส เป้าหมาย ส1 สะสาง การแยกของที่จ�ำ เปน็ ออกจากของทีไ่ ม่จ�ำ เป็นและขจัดของที่ไม่จำ�เป็นออกไป ส2 สะดวก การจัดวางหรือจัดเกบ็ สิ่งของต่างๆ ในสถานทีท่ �ำ งานอย่างเป็นระบบเพือ่ ความสะดวก ส�ำ หรบั การหยิบใช้งาน เน้น ส3 สะอาด ความปลอดภัยและคงไว้ซึง่ คณุ ภาพประสิทธิภาพในการทำ�งาน ส4 สขุ ลกั ษณะ ตรวจสอบความผิดปกติ เพือ่ ท�ำ ความสะอาด โดยปัด กวาด เชด็ ถู เครือ่ งมือ เครื่องจกั ร วัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ เปน็ การตรวจสอบและบ�ำ รุงรกั ษาไปด้วย ร่วมพฒั นา สร้างมาตรฐานสถานที่ โดยปรบั ปรุงขยายพื้นทีจ่ ากเดิมทีย่ งั เป็นพื้นปนู และพื้นดิน ให้เปน็ พื้นกระเบื้อง และต่อเติมหลงั คาใหม่ เพือ่ รองรับคณะศึกษาดูงาน ให้สามารถรองรับปริมาณเพิ่มมากขึ้น ส5 สร้างนิสัย เตราียมนอรยู้ เ่าพงื่อสกมา่�ำ รเสคม้นอควป้าฏปิบรัตะิตยาุกมตร์แะลเบะียปบรบัแลใชะ้ขร้อวบมงัถคึงบักอารยส่ารง้าเคงรน่งิสคัยรใัดนการมีจิตส�ำ นึก ทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติงาน วารสารวิจัยเพื่อการพฒั นาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 144 ภาพที่ 4 การน�ำ ความรู้ 5ส มาประยุกต์ใช้กับการปรบั ปรงุ สถานที่ของชมุ ชนส�ำ หรับแปรรปู ผลิตภณั ฑ์จากเหด็ ผลการวิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพเวลาการจัดเรียงก้อน ได้คร้ังละ 2 ก้อน (ยกด้วยมือซ้ายและขวา) ดังน้ัน เกษตรต้องยก เชื้อเหด็ ในถงุ พลาสติก ก้อนเชื้อเหด็ ทั้งสิ้นจ�ำ นวน 6 ครั้งต่อ 1 ตะกร้า โดยมีค่าเฉลีย่ การ จากการศึกษาข้อมูลกระบวนการผลิตก้อนเชื้อเห็ดใน ปฏิบัติงานในการยกก้อนเชื้อในขั้นตอนนี้ไม่น้อยกว่า 864 ครั้งต่อ ถุงพลาสติก ซึ่งเริ่มต้นจากกระบวนการผสมส่วนผสมจนถึง วัน เพื่อนำ�ก้อนเชื้อเห็ดที่บรรจุในตะกร้าเข้าสู่กระบวนการนึ่งใน กระบวนการจดั เรยี งกอ้ นเชอื้ เหด็ เพอื่ น�ำ สง่ ลกู คา้ มขี นั้ ตอนดงั แสดง ลำ�ดับถัดไป โดยเตานึ่งก้อนเชื้อเห็ดสามารถรองรับปริมาณก้อน ในภาพที่ 5 เชอื้ เหด็ ไดส้ งู สดุ 1,700-2,000 กอ้ น เมอื่ น�ำ แนวคดิ ลนี โดยประยกุ ต์ จากภาพที่ 5 แสดงผังการไหลของงาน ขั้นตอนย่อยของ ทฤษฎีทางวิชาการความเร็วในการผลิต (Takt time) ซึ่งปกติใช้ กระบวนการผลิตก้อนเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก และภาพที่ 6 แสดง ความเร็วในการผลิตเพื่อกำ�หนดจังหวะการผลิตสินค้าต่อชิ้นให้ แบบแปลนสถานที่ทำ�งานพบว่า กระบวนการจัดเรียงก้อนเชื้อเห็ด เป็นไปตามจงั หวะทีล่ กู ค้าต้องการ หมายความว่า พนักงานทกุ คน ในถงุ พลาสติก เกษตรกรต้องนำ�ก้อนเชื้อเหด็ จำ�นวน 12 ก้อน บรรจุ ต้องควบคุมจังหวะการผลิตสิ่งของในหนึ่งสถานีการผลิตให้นานไม่ ลงในตะกร้า 1 ใบ ซึง่ การยกก้อนเชื้อเหด็ ในแต่ละครั้ง เกษตรกรยก เกนิ เวลาทกี่ �ำ หนดไว้ การค�ำ นวณหาความเรว็ ในการผลติ ดงั สมการ วารสารวิจัยเพื่อการพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
145 ABC JOURNAL (ก) (ข) ภาพที่ 5 (ก) กระบวนการผลิตก้อนเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก และ (ข) ขั้นตอนย่อยของกระบวนการผลิตก้อนเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก ภาพที่ 6 แบบแปลนสถานทีท่ �ำ งาน (Floor plan) วารสารวิจัยเพือ่ การพฒั นาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 146 อัตราความต้องการของลูกค้ามีค่าเท่ากับ 53 วินาทีต่อก้อน น่ัน หมายความว่าเกษตรกรต้องใช้เวลาในการผลิตก้อนเชื้อเหด็ 1 ก้อน ให้เสรจ็ ภายใน 53 วินาที โดยน�ำ ค่าความเรว็ ในการผลิตไปเปรียบ เทยี บรอบเวลาการท�ำ งานของเกษตรกรแตล่ ะคนใชเ้ วลาเกนิ กวา่ คา่ ความเรว็ ในการผลิตหรือไม่ และเมือ่ พิจารณากระบวนการจดั เรียง ก้อนเชื้อเห็ดในถุงพลาสติกสามารถจำ�แนกกิจกรรมได้ดังตาราง ที่ 4 ซึง่ แสดงกระบวนการจดั เรียงก้อนเชื้อเหด็ ในถุงพลาสติกก่อน การปรับปรุง ท้ังนี้เวลารอคอยทั้ง 3 ข้ันตอนจะเท่ากัน เนื่องจาก จากข้อมูลความต้องการของลูกค้า 16,000 ก้อนต่อเดือน เป็นการท�ำ งานทีต่ ่อเนื่องของแต่ละข้ันตอน หลังจากนั้นน�ำ ข้อมลู ที่ วันทำ�งาน 30 วันต่อเดือน ดังนั้น ความต้องการของลูกค้าเฉลี่ย ได้เขียนแผนผังสายธารแห่งคุณค่า (Value Stream Mapping) หรือ 534 ก้อนต่อวนั ใน 1 วนั ทำ�งาน 8 ชั่วโมง หรือคิดเป็น 480 นาที VSM สถานะปจั จบุ ัน ดงั ภาพที่ 7 ตารางที่ 4 กระบวนการจดั เรียงก้อนเชื้อเหด็ ในถงุ พลาสติกกอ่ นการปรบั ปรงุ ลำ�ดบั กระบวนการ เวลาที่ใช้ ประเภท การวิเคราะห์คณุ ค่า 1 กองก้อนเชื้อเห็ดทีบ่ รรจุถงุ รอจดั เรียงลงตะกร้า (วินาที) ของกิจกรรม ของกิจกรรม 106,000 การรอคอย NVA 2 จดั เรียงก้อนเชื้อเหด็ ลงในตะกร้า เพื่อเตรียมการนึ่ง 33.78 การด�ำ เนินงาน VA 3 กองก้อนเชื้อเห็ดรอจดั เรียงก้อนเชื้อเหด็ เกบ็ ในโรงบ่ม 106,000 การรอคอย NVA การด�ำ เนินงาน VA 4 จัดเรียงก้อนเชื้อเห็ดเกบ็ ในโรงบ่ม 67.85 การรอคอย NVA 5 กองก้อนเชื้อเหด็ รอจัดเรียงก้อนเชื้อเหด็ ลงในตะกร้า เพื่อน�ำ ส่งลกู ค้า 106,000 การด�ำ เนินงาน VA 6 จดั เรียงก้อนเชื้อเหด็ ลงในตะกร้า เพือ่ น�ำ ส่งลูกค้า 46.54 วินาที เวลานำ�รวม 318,148.17 ภาพที่ 7 แผนผงั สายธารคุณค่าสถานะปจั จบุ นั วารสารวิจยั เพือ่ การพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
147 ABC JOURNAL จากแผนผังสายธารคุณค่าสถานะปัจจุบัน มีเวลานำ�รวม เชื้อเห็ดในถุงพลาสติก โดยภายหลังจากออกแบบอุปกรณ์และนำ� (Total lead time) มคี า่ เทา่ กบั 318,148.17 วนิ าที หรอื 5,302.47 นาที อุปกรณ์ไปใช้งาน ส่งผลให้การทำ�งานง่ายขึ้นและทำ�ให้รอบเวลา คิดเปน็ 88.37 ชวั่ โมง หรือ 3.68 วนั หากเปรียบเทียบกบั รอบเวลา ลดลง ดงั แสดงในตารางที่ 5 ทง้ั นเี้ วลารอคอยทง้ั 3 ขนั้ ตอนจะเทา่ กนั รวม (Cycle time) มคี า่ เทา่ กบั 148.17 วนิ าที เมือ่ พจิ ารณาตารางที่ 4 เนื่องจากเป็นการทำ�งานที่ต่อเนื่องของแต่ละข้ันตอน หลังจากน้ัน และภาพที่ 7 แสดงเวลาทไี่ มก่ อ่ ใหเ้ กดิ มลู คา่ เพมิ่ (Non-value added, นำ�มาเขียนสายธารแห่งคุณค่าสถานะอนาคตได้ดงั ภาพที่ 8 NVA) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 99.95 เปน็ เวลาทเี่ กดิ จากการกองรอของกอ้ น จากแผนผังสายธารคุณค่าสถานะอนาคต มีเวลานำ�รวม เชื้อเหด็ โดยปกติเกษตรกรจะต้องยกก้อนเชื้อเหด็ ครั้งละก้อนทำ�ให้ เท่ากับ 127,315.17 วินาที หรือ 2,121.92 นาที คิดเป็น 35.36 งานกองมีค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือ ช่ัวโมง หรือ 1.47 วัน หากเปรียบเทียบกับรอบเวลารวม เท่ากับ ไม่มีคุณค่าแก่กระบวนการ ผู้วิจัยจึงออกแบบอุปกรณ์ช่วยจบั ก้อน 115.17 วินาที เมื่อพิจารณาตารางที่ 5 และภาพที่ 8 แสดงให้เหน็ ตารางที่ 5 กระบวนการจัดเรียงก้อนเชื้อเห็ดในถุงพลาสติกหลังการปรบั ปรงุ ล�ำ ดบั กระบวนการ เวลาที่ใช้ ประเภท การวิเคราะห์คณุ ค่า 1 กองก้อนเชื้อเหด็ ที่บรรจถุ ุงรอจัดเรียงลงตะกร้า (วินาที) ของกิจกรรม ของกิจกรรม 42,400 การรอคอย NVA 2 จัดเรียงก้อนเชื้อเห็ดลงในตะกร้า เพื่อเตรียมการนึ่ง 22.52 การด�ำ เนินงาน VA การรอคอย NVA 3 กองก้อนเชื้อเหด็ รอจัดเรียงก้อนเชื้อเหด็ เกบ็ ในโรงบ่ม 42,400 การดำ�เนินงาน VA การรอคอย NVA 4 จดั เรียงก้อนเชื้อเห็ดเกบ็ ในโรงบ่ม 53.47 การด�ำ เนินงาน VA 5 กองก้อนเชื้อเห็ดรอจดั เรียงก้อนเชื้อเหด็ ลงในตะกร้า เพื่อน�ำ ส่งลูกค้า 42,400 วินาที 6 จัดเรียงก้อนเชื้อเห็ดลงในตะกร้า เพื่อน�ำ ส่งลูกค้า 39.18 เวลาน�ำ รวม 127,315.17 ภาพที่ 8 แผนผังสายธารคุณค่าสถานะอนาคต วารสารวิจยั เพือ่ การพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 148 เวลาที่ไม่ก่อให้เกิดมลู ค่าเพิม่ คิดเปน็ ร้อยละ 90.46 เปน็ เวลาทีเ่ กิด ชมุ ชนสามารถน�ำ มาใช้ประโยชน์ได้จริง แสดงในภาพที่ 9 จากการกองรอของก้อนเชื้อเห็ดทีล่ ดลง โดยเกษตรกรสามารถยก ก้อนเชื้อเห็ดครั้งละ 3 ก้อน จึงท�ำ ให้งานกองลดน้อยลง รวมถึงรอบ ผลการวิจัยการเพิม่ ประสิทธิภาพการท�ำ งาน เวลารวมลดลงอีกด้วย จากการวิเคราะห์ผังการไหลกระบวนการทำ�ก้อนเชื้อเห็ด ผลการศึกษาเพื่อการปรับปรุงกระบวนการจัดเรียงก้อนเชื้อ ร่วมกับการสังเกตการณ์ในการท�ำ งาน การเคลือ่ นไหวของร่างกาย เห็ดในถุงพลาสติกนี้ สอดคล้องกับงานวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติงาน การระดมสมอง การสนทนากลุ่ม พบ ของกระบวนการผลิตกระถางและลดความสูญเปล่าในการ ผลลัพธ์ดังนี้ ผู้ปฏิบัติงานเกิดความเมื่อยล้าระหว่างการบรรจุ รอคอยของ ภมี พรประเสรฐิ และ คณศิ ร ภนู คิ ม (2558) โดยผลจาก ส่วนผสมลงในถุงพลาสติก จากท่าทางซ้ำ�ๆ หลายครั้งติดต่อกัน การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพเวลาการจดั เรยี งกอ้ นเชอื้ เหด็ ในถงุ พลาสตกิ นี้ (ภาพที่ 10) หากต้องผลิตก้อนเชื้อเห็ดในปริมาณมากในแต่ละวัน (ก) (ข) ภาพที่ 9 (ก) อปุ กรณ์ช่วยจับก้อนเชื้อเหด็ ในถุงพลาสติก (ข) การใช้งานอุปกรณ์ ภาพที่ 10 กระบวนการบรรจุก้อนเชื้อเห็ดในถงุ พลาสติก วารสารวิจยั เพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
149 ABC JOURNAL ยงิ่ ท�ำ ใหเ้ กดิ ความเสยี่ งตอ่ การบาดเจบ็ สะสมของรา่ งกายมากขนึ้ อกี เกิดความเมื่อยล้าจากการปฏิบัติงาน โดยขยบั หัวไหล่ แขน ข้อมือ ประการหนงึ่ คอื ผปู้ ฏบิ ตั งิ านสว่ นใหญ่รอ้ ยละกวา่ 80ของกลมุ่ ชมุ ชนฯ และเอวในระดับมากเพื่อตักส่วนผสมวัตถุดิบจากลานเทกองน�ำ มา มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 45-60 ปี ทำ�ให้การทำ�งานของข้ันตอนนี้ใช้ บรรจุใส่ถุงพลาสติก สอดคล้องกับผลการประเมินด้วยวิธี RULA เวลามากขึน้ ผวู้ จิ ยั จงึ ดำ�เนนิ การประเมนิ วิธกี ารทำ�งานเพือ่ ประเมนิ และ REBA ดงั แสดงในภาพที่ 11 และ ภาพที่ 12 ตามล�ำ ดบั ความเสี่ยงและภาวะทางการยศาสตร์ ด้วยการใช้วิธี RULA และ จากผลลัพธ์และสรุปการประเมินท่าทางการทำ�งานก่อน วิธี REBA สำ�หรบั การยืนยันข้อมลู ทางวิชาการพบว่า ผู้ปฏิบตั ิงาน การปรับปรุง นำ�มาร่วมหาแนวทางปรับปรุงกระบวนการขั้นตอน (ก) ก่อน ทำ�การ ปรับปรุง (ข) หลัง ท�ำ การ ปรับปรุง ภาพที่ 11 การประเมินผลด้วยวิธี RULA (ก) ก่อน และ (ข) หลังท�ำ การปรบั ปรุง วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 150 (ก) กอ่ น ท�ำ การ ปรับปรงุ (ข) หลัง ท�ำ การ ปรบั ปรงุ ภาพที่ 12 การประเมินผลด้วยวิธี REBA (ก) ก่อน และ (ข) หลังท�ำ การปรับปรงุ ใหม่ สำ�หรับการบรรจุส่วนผสมก้อนเชื้อเห็ดเพาะในถุงพลาสติก เมตร รองรบั สว่ นผสมแทนการเทสว่ นผสมกองกบั พนื้ และดดั แปลง ผู้วิจยั และกลุม่ ชมุ ชนฯ นำ�การประยกุ ตค์ วามรู้จากลีน รวมถงึ ความ อุปกรณ์ตักส่วนผสมขึ้นใหม่ ซึ่งเดิมเป็นรูปแบบคล้ายที่ตักน้ำ�แข็ง สญู เปล่าจากการเคลือ่ นไหวทีไ่ ม่จ�ำ เปน็ และการยศาสตร์มาปรบั ใช้ และดำ�เนินการประเมินวิธีการทำ�งานเพื่อประเมินความเสี่ยงและ เป็นรูปแบบในลักษณะถาด มีขนาดกว้าง 1.20 เมตร และยาว 1.40 ภาวะทางการยศาสตร์ ดว้ ยวธิ กี ารประเมนิ REBA อกี ครงั้ (ภาพที่ 12) วารสารวิจยั เพือ่ การพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
151 ABC JOURNAL ผลจากการพัฒนาอุปกรณ์และกระบวนการบรรจุก้อน ไม่จำ�เป็นของเกษตรกรลดลงและส่งผลให้ความพึงพอใจในการ เชื้อเหด็ เพาะในถงุ พลาสติก ท�ำ งานเพิ่มขึ้นจากเดิม (วีรชยั มัฎฐารักษ์, 2561) การลดความเมือ่ ยล้าของผู้ปฏิบัติงาน นำ�ไปสู่ความสามารถ ของการเพิ่มผลผลิตที่สูงขึ้น โดยผู้ปฏิบัติงานสามารถลดความ ผลการด�ำ เนินงานดา้ นแผนธุรกิจ เมื่อยล้าหรือลดอาการบาดเจ็บจากการทำ�งาน นำ�ไปสู่การลดค่า ผู้วิจัยนำ�แนวทางการดำ�เนินงานแผนธุรกิจลีนแคนวาสมา รักษาพยาบาลและสิ่งที่สำ�คัญอย่างยิ่งคือ ผู้ปฏิบัติงานมีสุขภาพ ประยุกต์เพื่อร่วมวิเคราะห์สำ�หรับธุรกิจเกิดใหม่ของชุมชน มีข้อ กายและจิตทีด่ ี เพิ่มศักยภาพ เพิ่มรายได้ มีคุณภาพชีวิตทีด่ ีขึ้นและ สรปุ ดงั ภาพที่ 13 เป็นสังคมที่น่าอยู่ของสถานที่ท�ำ งาน โดยมีสิ่งที่ยืนยันผลลัพธ์จาก หลังจากผู้วิจัยและกลุ่มชุมชนฯ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวาง การสมั ภาษณ์และสนทนากลุ่มของผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ผลลัพธ์ แนวทางการด�ำ เนินงานการเติบโตของธรุ กิจ โดยน�ำ ลีนแคนวาสมา จากการประเมินระดับความเสี่ยงของกระบวนการทำ�งานก่อนการ จดั ท�ำ แผนธรุ กจิ ชมุ ชน (ภาพที่ 13) และไดร้ บั การสนบั สนนุ จากหนว่ ย ดำ�เนินงานโดยใช้วิธี RULA มีค่าเท่ากับ 7 วิธี REBA มีค่าเท่ากับ 8 งานภาครัฐ คือ สำ�นักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด และหลงั การด�ำ เนินงาน วิธี RULA มีค่าเท่ากับ 6 วิธี REBA มีค่า ยอ่ ม (สสว.) รวมถงึ หนว่ ยงานอนื่ ๆ ทสี่ นบั สนนุ การด�ำ เนนิ การพฒั นา เท่ากับ 4 สอดคล้องกับงานวิจัยเรื่องการศึกษาและพัฒนาเครื่อง สตู ร บรรจภุ ณั ฑแ์ ละฉลากผลติ ภณั ฑ์ โดยมผี ลผลติ คอื น้ำ�เหด็ หหู นู กวาดเก็บมูลแพะที่ช่วยทุ่นแรงให้กับเกษตรกร รวมถึงประหยัด ผสมขงิ ล�ำ ไยและพทุ ราจนี ผลติ ภณั ฑท์ ไี่ ดด้ �ำ เนนิ การนมี้ คี วามหลาก เวลาการท�ำ งาน (กนั ตภณ มะหาหมดั และ วรี ชยั มฎั ฐารกั ษ์, 2554) หลายเพิ่มขึ้น เป็นทางเลือกหนึ่งและตอบสนองความต้องการของ นอกจากนี้ปัญหาทางการยศาสตร์ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวที่ ผู้บริโภค รวมถึงมีขนาดบรรจุกะทดั รดั ดงั ภาพที่ 14 ภาพที่ 13 การวิเคราะห์การด�ำ เนินงานธรุ กิจชุมชนด้วยลีนแคนวาส วารสารวิจยั เพือ่ การพฒั นาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 152 ภาพที่ 14 ผลการด�ำ เนินงานเพือ่ เตรียมการจ�ำ หน่ายสู่เชิงพาณิชย์ สถานการณ์ใหม่ การประเมินผลลพั ธ์การเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดขึน้ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม งานวิจัยนี้เป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีความตั้งใจ และมีการวางแผน (กาญจนา แก้วเทพ, 2559) เพือ่ ให้เกิดผลลัพธ์ ที่เด่นชัดจากการดำ�เนินงาน ผู้วิจัยจึงร่วมกับกลุ่มชุมชนฯ ท�ำ การ ภายหลังจากงานวิจัยเสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์ ผู้วิจัยได้ ประเมินผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดขึ้นในประเดน็ ต่างๆ ดังนี้ ดำ�เนินการจดั เวทีชมุ ชนเพื่อคืนข้อมลู ผลการวิจยั ให้แก่กลุ่มชมุ ชนฯ 1) เชงิ ปรมิ าณ ท�ำ ใหม้ สี ถานทที่ �ำ การแปรรปู ของกลมุ่ ชมุ ชนฯ แม้สมาชิกบางรายจะรับรู้ รับทราบและร่วมทดลองอุปกรณ์ช่วย ซึง่ ใช้ 5ส ผนวกกบั หลักการมาตรฐานสถานที่ผลิต (Primary GMP) ในการบรรจุก้อนเชื้อเห็ดแล้ว โดยอาจรับรู้เพียงในด้านเดียวที่ยัง ชว่ ยใหส้ ถานทแี่ ปรรปู ของชมุ ชน สามารถไดร้ บั การรบั รองมาตรฐาน ไม่ครอบคลุมสิ่งที่ได้ดำ�เนินร่วมกัน นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางให้ เลขสารระบบอาหารในเครื่องหมาย อย. สมาชิกได้เสนอแนะ น�ำ เสนอผลลัพธ์เพิ่มเติมที่ได้ต่อการพัฒนาใน 2) เชิงคณุ ภาพ สามารถลดความเมื่อยล้าของร่างกายจาก ระยะต่อไป ท้ังนี้จากการจัดเวทีชุมชนเพือ่ คืนข้อมลู แก่ชุมชน พบว่า การปฏิบัติงาน ด้วยกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและมี 1) สมาชิกชมุ ชน เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทศั นคติที่ดีต่อ อปุ กรณช์ ว่ ยส�ำ หรบั บรรจกุ อ้ นเชือ้ เหด็ ทรี่ ว่ มกนั ดดั แปลงเพอื่ ใหก้ าร เครื่องมือการบริหารจดั การ 5ส และแนวคิดลีน ที่ได้ลงมือปฏิบัติ ท�ำ งานง่ายขึ้น ร่วมกันและได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ มีกำ�ลังใจ มั่นใจและ 3) ทิศทางของการเปลี่ยนแปลง กลุ่มชุมชนฯ มีความภาค ความภาคภมู ิใจในตนเอง ภูมิใจและความม่ันใจที่จะผลักดันการขับเคลื่อนกลุ่มให้สามารถ 2) กลมุ่ ชมุ ชนฯ มองเหน็ คณุ ค่าของการทำ�งานรปู แบบกลุ่ม ยกระดับการดำ�เนินงานท้ังการผลิตและการแปรรูปเห็ดสด โดย เกิดความรักความสามัคคี เกื้อกูลภายในกลุ่ม สิ่งเหล่านี้เป็นพลัง ปัจจุบันกำ�ลังวางแผนงานขยายแหล่งผลิตเห็ดต้นน้ำ�ด้วยแนวคิด เสริมความเข้มแข็ง นำ�ไปสู่ความเติบโต พัฒนาและยกระดับการ การบริการจัดการ 5ส และแนวคิดลีน รวมถึงการน�ำ ผลผลิตของ ดำ�เนินงานของกลุ่ม กลุ่มจำ�หน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า หลังจากที่ 3) กลไกการบริหารจัดการ เกิดรูปแบบการจัดการการ กลุ่มได้รบั รองมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ อย. ดำ�เนินงานของกลุ่มชุมชนฯ ที่คำ�นึงถึงการบริหารจัดการชุมชนใน 4) ผไู้ ดร้ บั ผล สมาชกิ ชมุ ชนมสี ขุ ภาพจติ และสขุ ภาพกายดขี นึ้ ด้าน 5ส และแนววิถีแห่งลีน โดยได้เสนอการพัฒนาการดำ�เนินงาน เกดิ ความสขุ และมปี ระสทิ ธภิ าพทเี่ พมิ่ ขนึ้ ส�ำ หรบั การท�ำ งานและเพมิ่ ต่อผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ละแวกใกล้เคียง จัดทำ�เป็นแหล่งต้นน้ำ� ทนุ ทางสงั คม ดา้ นผวู้ จิ ยั มงี านวจิ ยั เพอื่ แกไ้ ขปญั หาตามทชี่ มุ ชนคาด ของการผลิตเห็ดอินทรีย์ โดยเน้นกระบวนการผลิตการจ�ำ หน่าย หวังและต้องการ พร้อมก่อให้เกิดงานวิจัยอื่นๆ ในแวดวงวิชาการ ก้อนเชื้อเห็ดและคาดว่าจะสามารถดำ�เนินการได้ในราวต้นปี เพื่อสังคม ด้านสถาบันการศึกษาได้ตอบสนองภารกิจด้านการ พ.ศ. 2562 บริการวิชาการ การบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์และความเชื่อมโยง วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
153 ABC JOURNAL ความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านและบุคลากรทางการศึกษา ด้าน หลายด้านท้ังจากหน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชนที่สนับสนุน หน่วยงานรฐั และท้องถิ่น สามารถนำ�ผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ จดั และให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนือ่ ง สิง่ ส�ำ คญั ที่นกั วิจยั กบั สมาชิก ท�ำ ข้อมลู พื้นฐานเพือ่ ส่งเสริมความเปน็ อยู่ วิถีชีวิตของชาวบ้านหรือ กลุ่มชุมชนฯ ทำ�งานร่วมกนั ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี นนั่ คือ การ น�ำ ไปจดั ท�ำ แผนงานดา้ นการพฒั นามนษุ ยแ์ ละชมุ ชน ดา้ นหนว่ ยงาน เรียนรู้และเปิดโอกาสสำ�หรับการพัฒนาตนเองเพื่อความเข้มแข็ง เอกชนเกิดประโยชน์สำ�หรับการส่งเสริม สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของ ของกลุ่ม แม้ว่า ณ ปัจจบุ นั จะสิ้นสุดการสนับสนนุ งบประมาณจาก กลุ่มชุมชนฯ สร้างภาพลกั ษณ์ที่ดีต่อองค์กร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มชุมชนฯ ยังคงน�ำ หลัก ทฤษฎีทางวิชาการ การบริหารจัดการเพื่อการด�ำ เนินงานที่ผู้วิจัย รวมถงึ คณะท�ำ งานไดน้ �ำ มาถา่ ยทอดแกก่ ลมุ่ ชมุ ชนฯ รว่ มกนั วางแผน ผลกระทบและความยั่งยืน งานต่อไปในอนาคตที่จะดำ�เนินงาน ท้ังการเปิดพื้นที่ให้กลุ่มชุมชน ของการเปลีย่ นแปลง อนื่ ๆ เขา้ มาศกึ ษาดงู านเพอื่ แลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ะหวา่ งกนั การสาธติ กระบวนการ ขั้นตอนและอุปกรณ์ช่วยบรรจุก้อนเชื้อเห็ดเพาะใน ถุงพลาสติกที่ได้จากแนวคิดลีน เหมาะสำ�หรับกรณีการผลิตก้อน เชื้อเห็ดระดับครัวเรือนหรือในปริมาณไม่มาก โดยไม่ต้องลงทุนจัด 1) ดา้ นผูน้ ำ�และกลมุ่ ชมุ ชน การทีผ่ ู้นำ�ชุมชนในฐานะผู้ช่วย ซื้อเครื่องบรรจุก้อนเชื้อเห็ด มุ่งหวังว่าเกษตรกรผู้เพาะเห็ดรวมถึง ผู้ใหญ่บ้านและเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ เป็นบคุ คลสำ�คญั ผู้ที่เข้ามาเรียนรู้การผลิตเห็ดจะทราบวิธีคิด แนวทางการประยุกต์ ที่มุ่งมัน่ แสวงหาความรู้ วิธีการ งบประมาณ เพือ่ นำ�มาพัฒนากลุ่ม จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติการอย่างเหมาะสม และหวังว่าสิ่งเหล่านี้ อย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาส ถ่ายทอดให้แก่บคุ คลทุกระดบั เข้าใจการ จะเป็นกลไกหนึ่งที่สามารถธำ�รงรักษาสู่ความยั่งยืนโดยให้ชุมชน ผลติ และการบรหิ ารจดั การการเพาะเหด็ รวมถงึ กลมุ่ ชมุ ชนฯ มหี ลกั อืน่ ๆ สามารถเรียนรู้ ปรบั ประยุกต์หรืออาจแนะน�ำ บุคคลอืน่ ต่อได้ ประกนั ดา้ นโครงสรา้ งของวสิ าหกจิ ชมุ ชนในบทบาทหนา้ ทขี่ องแตล่ ะ นอกจากนี้ แนวทางเพื่อธำ�รงรักษาพัฒนาการที่เกิดขึ้นให้ คน เป็นแนวทางหนึ่งของการพฒั นาทีม่ ีความยงั่ ยืน คงอยู่น้ัน กลุ่มชุมชนฯ ได้วางแผนงานการเตรียมความพร้อมใน 2) แผนงานพัฒนาการดำ�เนินงาน จากการที่สมาชิกเริ่ม การเข้าประกวด 5ส ระดับพื้นที่ (5S Model Award) เพื่อเสนอ จากการรวมกลุ่มเปน็ วิสาหกิจชุมชนผลิตเหด็ อินทรีย์ โดยนำ�ความ ขอรับการตรวจรับรองและประเมินจากสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี เข้มแข็งของกลุ่มที่ถูกพัฒนาตามล�ำ ดับ สู่การยกระดับการด�ำ เนิน (ไทย-ญี่ปุ่น) ท้ังนี้เพื่อย้ำ�ความม่ันใจของความพร้อมด้านสถานที่ งานของกลมุ่ ใหอ้ ยรู่ อดและเตบิ โตตามเปา้ หมายทตี่ งั้ ไว้ กลมุ่ ชมุ ชนฯ อยู่เสมอ เพือ่ รองรบั การเยีย่ มชมศึกษาดงู านจากบคุ คล คณะดงู าน ได้รบั ความรู้ ทกั ษะ การปฏิบัติการเพือ่ ประกอบการดำ�เนินงานใน ต่างๆ ดังภาพที่ 15 ภาพที่ 15 การเยี่ยมชมสถานทีแ่ ปรรูปของกลุ่มชมุ ชนฯ โดยท่านองคมนตรี พลเอก ดาว์พงษ์ รตั นสุวรรณ วารสารวิจัยเพื่อการพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 154 3) การขยายผลความเชือ่ มโยงกบั กลุม่ ชมุ ชนอืน่ เพือ่ ให้ จากขอ้ มลู ทไี่ ดอ้ ธบิ ายมาขา้ งตน้ สามารถสรปุ ใจความส�ำ คญั มีกิจกรรมอย่างตอ่ เนือ่ งและเกดิ การเรยี นรู้อย่างไม่รู้จบ ณ ปจั จบุ นั ได้ว่า วิถีแห่งลีน ซึง่ เปน็ แนวคิดบริหารจดั การระดบั โลก ที่มกั น�ำ มา กลุ่มชมุ ชนฯ มีเครือข่ายในชมุ ชนอื่นๆ ภายในจังหวดั ภเู กต็ จ�ำ นวน 3 ประยุกต์ใช้กับหน่วยงานขนาดกลางและขนาดใหญ่เพื่อขจัดความ แหง่ โดยผนู้ �ำ และแกนน�ำ กลมุ่ ชมุ ชนฯ ท�ำ หนา้ ทเี่ ปน็ พเี่ ลยี้ งและใหค้ ำ� สญู เปล่าและเปลี่ยนเปน็ คุณค่า สามารถน�ำ มาปรบั ใช้ในหน่วยงาน ปรึกษาการผลิตเห็ดอินทรีย์ รวมถึงการขยายแนวคิดลีนและการ หรือกลุ่มเลก็ ๆ ได้ ดังเช่นกลุ่มชุมชนฯ แห่งนี้ ที่ร่วมเปิดใจ ร่วมเรียน ใช้นวัตกรรมสำ�หรับการดำ�เนินงานไปยังกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตเห็ด รู้ รว่ มคดิ รว่ มท�ำ รว่ มปฏบิ ตั กิ าร รว่ มปรบั ปรงุ และพฒั นาดา้ นตา่ งๆ แปลงใหญ่จังหวดั ภเู กต็ ด้วยความเข้าใจและผลลพั ธ์จากงานวิจัยดังกล่าว สามารถนำ�ไปสู่ 4) พัฒนาสู่งานวิชาการและโจทย์วิจัย จากผลลัพธ์งาน การยกระดบั การด�ำ เนนิ งานของกลมุ่ ชมุ ชนฯ รวมถงึ น�ำ ไปสแู่ นวทาง วิจยั นีเ้ ปน็ ตวั อย่างหนึง่ ทแี่ สดงให้เหน็ ถงึ การน�ำ ปญั หาทเี่ กดิ ขึ้นจาก แห่งความย่ังยืนของการดำ�เนินงานดังเจตนารมณ์ของกลุ่มชุมชนฯ การปฏิบัติงานของกลุ่มชุมชนฯ แม้จะเป็นเพียงปัญหาเล็กๆ จาก พรอ้ มกบั การเกดิ ความรกั ความสามคั คขี องกลมุ่ มากขนึ้ และยงั เปน็ การปฏิบัติงานในชีวิตประจ�ำ วัน หากกลุ่มชุมชนฯ รู้ เข้าใจ และยึด ส่วนช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตได้อีกทางหนึ่ง หลกั การน�ำ หรือประยกุ ตใ์ ชค้ วามรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เข้ามาช่วยสนับสนุนการทำ�งานของกลุ่มชุมชนฯ จะช่วยลดความ สญู เปล่าและเปลีย่ นไปเปน็ คณุ ค่า ดงั แนวคดิ ของลนี ทไี่ ด้นำ�เสนอไว้ กิตติกรรมประกาศ ข้างต้น ในขณะที่องค์ความรู้จากงานวิจัยนี้เกิดการขยายผลโดย สามารถสร้างนักวิชาการที่นำ�ความรู้ ความเชี่ยวชาญของตนมา ทำ�งานร่วมกับกลุ่มชุมชนฯ งานวิจัยที่ท�ำ เสร็จสิ้นแล้วคือ การเพิ่ม ผู้วิจัยขอขอบคุณสมาชิกวิสาหกิจชุมชนหมู่บ้านผลิตเห็ด ประสทิ ธภิ าพทางการยศาสตรใ์ นกระบวนการนงึ่ กอ้ นเชือ้ เหด็ กรณี อินทรีย์ บ้านลิพอน หัวหาร-บ่อแร่ ตำ�บลศรีสุนทร อำ�เภอถลาง ศึกษาศูนย์เรียนรู้การผลิตเห็ดอินทรีย์ บ้านลิพอน หัวหาร-บ่อแร่ จังหวัดภูเก็ต ทุกท่านที่ร่วมดำ�เนินงานทั้งการให้ข้อมูล การปฏิบัติ เพอื่ คน้ หาปญั หาทางการยศาสตรท์ สี่ ง่ ผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพและเสนอ การต่างๆ ขอขอบคณุ คลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภฏั ภูเกต็ แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ�งานทางการยศาสตร์สำ�หรับ ที่สนับสนุนงบการดำ�เนินงานต่างๆ รวมถึงจากโครงการพัฒนา กระบวนการนึง่ ก้อนเชื้อเหด็ รวมถึงการขยายผลบรู ณาการกบั การ ศกั ยภาพผปู้ ระกอบการและวสิ าหกจิ ชมุ ชน โครงการพฒั นาบรหิ าร จัดการเรียนการสอน กล่าวคือ ได้ดำ�เนินการปรับปรุงคำ�อธิบาย จัดการ ชุมชน ผู้ประกอบการด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ ในรายวิชา การจัดการลีนและซิกซ์ซิกม่าของหลักสูตรเทคโนโลยี นวัตกรรม ระหว่างปี พ.ศ. 2560 – พ.ศ. 2561 ที่ท�ำ ให้งานวิจัยนี้ บัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหการ คณะวิทยาศาสตร์และ สำ�เรจ็ ลลุ ่วงได้ดี ขอขอบคุณส�ำ นกั งานปลดั กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มหาวิทยาลยั ราชภฏั ภเู กต็ เพื่อให้นักศึกษาเข้ามาเรียน และเทคโนโลยีที่สนับสนุนงบประมาณการดำ�เนินงานตลอดระยะ รู้ สามารถน�ำ ประเดน็ ปัญหาที่ได้รับ มาทำ�เปน็ โครงงานหรือปญั หา เวลา 4 ปี ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 – พ.ศ. 2560 และที่ พิเศษช่วยเหลือแก่ชุมชนนี้หรือชุมชนอื่นๆ ได้ต่อไป นอกจากนี้ใน ส�ำ คญั คอื งบประมาณเหลอื จา่ ยจากกลมุ่ จงั หวดั ภาคใตฝ้ ง่ั อนั ดามนั แง่มุมการพัฒนาด้านนวัตกรรม ผู้วิจัยและกลุ่มชุมชนฯ ได้จด ปงี บประมาณ พ.ศ. 2556 ซงึ่ เปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ เหน็ ความสำ�คญั ของการ อนุสิทธิบัตรการนำ�นวัตกรรมมาใช้สำ�หรับการดำ�เนินงานของ ด�ำ เนนิ งานกลมุ่ ฯ สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การขบั เคลอื่ นจดุ ประกายความคดิ กลุ่ม จำ�นวน 1 รายการ คือ อุปกรณ์ช่วยคีบก้อนเชื้อเหด็ และก�ำ ลงั สู่การด�ำ เนินงานทีช่ ่วยสร้างพลังของการขับเคลื่อนกลุ่ม ดำ�เนินการพัฒนางานในส่วนอืน่ ๆ ที่เกีย่ วข้อง บรรณานกุ รม กันตภณ มะหาหมดั และ วีรชยั มัฎฐารกั ษ์. (2554). ปญั หาทางการยศาสตร์ในการท�ำ ความสะอาดมูลแพะของเกษตรกร. วิชชา วารสารวิชาการ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช, 30(1), 103-109. กาญจนา แก้วเทพ. (2559). บททดลองเสนอ: การเขียนบทความวิจัยเพือ่ สงั คม. วารสารวิจัยเพือ่ การพฒั นาเชิงพื้นที่, 8(2), 100-121. กติ ตชิ ยั อธกิ ลุ รตั น์ และ ภทั รพงษ์ ภาคภมู .ิ (2560). การประยกุ ตร์ ะบบการผลติ แบบลนี เพอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการผลติ กรณศี กึ ษา บรษิ ทั ย.ู พ.ี เอส. อุตสาหกรรม จำ�กัด. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, (6)3, 13-26. วารสารวิจยั เพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
155 ABC JOURNAL ปฐมชัย พิชิตผจงกิจ. (2561). การปรับปรุงกระบวนการผลิตแชสซีส์ของโรงงานประกอบรถบรรทุก. วารสารวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่, (25)2, 55-66. ภีม พรประเสริฐ และ คณิศร ภูนิคม. (2558). การลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิตกระถาง กรณีศึกษา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัด อบุ ลราชธานี. วารสารเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภฏั อบุ ลราชธานี, 3(6), 61-72. วรี ชยั มฎั ฐารกั ษ.์ (2561). การลดความสญู เสยี ในการท�ำ งานของเกษตรกรชาวสวนยางพาราดว้ ย วธิ กี ารประเมนิ ผลทางการยศาสตร:์ กรณศี กึ ษา ในพื้นที่อำ�เภอมะนงั จงั หวัดสตูล. วารสารวิชาการเทคโนโลยีอุตสาหกรรม, 14(1), 13-21. สชุ าดี ธำ�รงสุข, วนั ชัย แหลมหลักสกุล และ สมนึก วิสุทธิแพทย์. (2559).การลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิตของโรงงานผลิตเครือ่ งปรับ อากาศ. วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, (26)3, 451-461. อนริ จุ น์ มะโนธรรม. (2560). การศกึ ษาแนวทางการปรบั ปรงุ ดา้ นการยศาสตรข์ องพนกั งานวาดเซรามกิ ในโครงการพระราชดำ�รฯิ บา้ นทงุ่ จี้ อ�ำ เภอ เมืองปาน จังหวัดลำ�ปาง. วารสารวิชาการอตุ สาหกรรมศึกษา, (11)1, 107-118. Hignett, S. & McAtamney, L. (2000). REBA: Rapid entire body assessment. The Journal Applied Ergonomic, 31(2), 201-205. McAtamney, L. & Corlett, E. N. (1993). RULA: A survey method for the investigation of work-related upper limb disorders. The Journal Applied Ergonomics, 24(2), 91-99. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
การพฒั นาศูนย์ผลิตน้�ำ เชือ้ สกุ รในชุมชนส�ำ หรับผสมเทียม ในเกษตรกรรายยอ่ ย ต�ำ บลเมืองจงั จงั หวดั นา่ น บทความวิจัย วินยั แกว้ ละมุล1,* ขจร นิติวรารักษ1์ และ วิชัย ทนั ตศุภารักษ2์ วันทีร่ บั บทความ: 1สำ�นกั วิชาทรัพยากรการเกษตร จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวนั กรุงเทพมหานคร 10330 12 กุมภาพันธ์ 2562 2คณะสตั วแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวนั กรุงเทพมหานคร 10330 *ผูเ้ ขียนหลัก อีเมล: [email protected] วันแกไ้ ขบทความ: 16 เมษายน 2562 วันตอบรับบทความ: 17 เมษายน 2562 บทคดั ย่อ ผลิตน้ำ�เชื้อสุกร การพัฒนาระบบการบริหาร จดั การห้องปฏิบตั ิการผลิตน้ำ�เชื้อสกุ รและการให้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรส่วนใหญ่ในตำ�บล บรกิ ารน้�ำ เชอื้ แกเ่ กษตรกร ผลส�ำ เรจ็ ของโครงการ เมืองจัง จังหวัดน่าน เป็นผู้เลี้ยงรายย่อยและ คือสามารถพัฒนาบุคลากรด้านการผลิตน้ำ�เชื้อ รวมตัวเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรตำ�บลเมืองจัง จำ�นวน 4 คน มีพ่อสุกรพันธุ์ดีจำ�นวน 2 ตวั และ เกษตรกรส่วนใหญ่มีทักษะในการตรวจการเป็น ห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อสุกร ซึ่งให้บริการ สัดและการผสมเทียม เกษตรกรไม่มีพ่อพันธ์ุ น้ำ�เชื้อแก่เกษตรกรท้ังที่เป็นสมาชิกกลุ่มและ และไม่มีการผลิตน้ำ�เชื้อเพื่อใช้ภายในกลุ่ม เมื่อ นอกกลุ่ม ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2557 ถึง แม่สุกรเป็นสัดจะทำ�การผสมพันธ์ุโดยการผสม เดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 รวม 135 ราย ผลการ จริงหรือมารับน้ำ�เชื้อที่ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้ ดำ�เนินการส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของ เพือ่ ภูมิภาค จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปท�ำ การ เกษตรกรดังนี้ ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจของ ผสมเทียม บางครั้งน้ำ�เชื้อมีไม่เพียงพอหรือ เกษตรกรในกรณีแม่สุกรเป็นสัดและไม่ได้รับการ แม่สุกรแสดงอาการเป็นสัดในวันหยุดทำ�การ ผสมเทียม และประหยัดเวลาในการเดินทางมา ทำ�ให้ไม่สามารถผสมเทียมแม่สุกรได้ งานวิจัยนี้ รับน้ำ�เชื้อสุกรที่ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศูนย์ผลิตน้ำ�เชื้อ ภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โครงการนี้ สุกรในชุมชน โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม เป็นต้นแบบของการพึ่งพาตนเองในการพัฒนา ของชุมชน ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ เกษตรกรให้สามารถผลิตน้ำ�เชื้อสุกรสำ�หรับ คือ การทำ�ความเข้าใจชุมชนและศึกษาข้อมูล บริการเกษตรกรรายย่อยในชุมชนได้ พื้นฐานของเกษตรกร การอบรมบุคลากรด้าน การผลิตน้ำ�เชื้อสุกร การสร้างโรงเรือนพ่อสุกร ค�ำ สำ�คญั : จงั หวดั น่าน ตำ�บลเมืองจัง การผสม และจดั หาพอ่ สกุ รพนั ธด์ุ ี การจดั ตง้ั หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร เทียม น้ำ�เชื้อสกุ ร เกษตรกรรายย่อย วารสารวิจยั เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 หน้า 156-169
Development of Community Boar Semen Production Center for Artificial Insemination to be Used by Smallholder Farmers in Tambon Muang Jang, Nan Province Research Article Winai Kaewlamun1,*, Kajohn Nitiwararuk1 and Wichai Tantasuparak2 1School of Agricultural Resources, Chulalongkorn University, Bangkok, Thailand 10330 Received: 2Faculty of Veterinary Science, Chulalongkorn University, Bangkok, Thailand 10330 12 February 2019 *Corresponding author’s E-mail: [email protected] Revised: Abstract collection and a preparation training course are 16 April 2019 Accepted: 17 April 2019 organized to train a selected number of farmers. The majority of the pig farmers in the Tambon Boar housing and an artificial insemination Muang Jang, Nan Province are smallholder laboratory is established. A steering committee farmers and some of them have formed a pig is formed to manage the community boar semen production group. Farmers have been trained production center. The project succeeds in and are able to detect heat and perform artificial training four farmers who have passed the insemination (AI) in their sows. However, boars training course. They have obtained the skills are not reared on the farm and therefore boar necessary to produce chilled boar semen for semen is not produced to do on-farm AI. When artificial insemination. Two high genetic boars sows are observed to be in standing estrus, are introduced into the community boar semen farmers use a cool box to fetch the boar semen production center for semen collection. When from the Center of Learning Network for the operating, the center provides 135 individual Region (CLNR), Chulalongkorn University. farmers with 2 doses of chilled semen per time Sometimes boar semen provision is lower than to inseminate their sows during September 2014 the demand and sometimes the sow shows – October 2016. The results of the project have signs of standing estrus at the weekend when an impact on the socio-economics of the farmers the semen collection service is unavailable. by avoiding economic losses from insufficient Both problems lead to economic losses for semen production. The community boar semen the farmers because insemination cannot be production center is located in the community performed. This study aims to create a community which means that farmers do not waste time boar semen production center and produce going to the CLNR. This center can be a self-reliant high genetic boar semen to be used for artificial model for community boar semen production insemination in sows in the community. Farmer that is applicable to other communities. participation is recorded in all processes and activities within this study. The project starts by Keywords: Nan province, Tambon Muang Jang, gathering farmer data and information in order to Artificial insemination, Boar semen, Smallholder understand farmers and their needs. Boar semen farmer Area Based Development Research Journal ===== Vol. 11 No. 2 pp. 156-169
158 ABC JOURNAL บทน�ำ รว่ มกนั เพอื่ เสรมิ สรา้ งทกั ษะการเลยี้ งสกุ ร ระบบการจดั การอาหาร ระบบการตลาด และแปรรูปผลผลิตที่หลากหลาย อีกท้ังทำ�ให้ สมาชิกกลุ่มได้เรียนรู้เรื่องการออมและสวัสดิการชุมชน ซึ่งกลุ่ม จังหวัดน่านมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สูง ภูเขา และเป็นป่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสกุ รต�ำ บลเมืองจงั มีสมาชิกประมาณ 30 ครวั เรือน ต้นน้ำ�ที่สำ�คัญ มีพื้นที่ราบที่เหมาะสมต่อการทำ�การเกษตรทั้ง จากการส�ำ รวจข้อมลู เบื้องต้น พบว่า เกษตรกรต้องการการ ปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ประมาณร้อยละ 15 ของพื้นที่ท้ังจังหวัด พัฒนาและความรู้เพิ่มเติมในหลายๆ ด้าน เช่น องค์ความรู้ด้าน (สิทธิเดช พงศ์กิจวรสิน และ เขมรัฐ เถลิงศรี, 2558) ประชากร อาหาร การเลี้ยงสุกรแม่พนั ธ์ุ การจัดการด้านสุขภาพ และต้องการ สว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี การเกษตร เชน่ การปลกู ขา้ วโพดเลีย้ งสตั ว์ ให้กลุ่มสามารถผลิตน้ำ�เชื้อสุกรพ่อพันธุ์เพื่อใช้ในการผสมเทียม ยางพารา ไม้ผล และทำ�นา และการเลี้ยงปศสุ ตั ว์ การเลี้ยงปศสุ ัตว์ ได้ เปน็ การพึ่งพาตนเองภายในกลุ่ม ซึง่ ในปจั จุบันต้องไปรบั น้�ำ เชื้อ ส่วนใหญ่เป็นการเลี้ยงแบบเกษตรกรรายย่อย หรือการเลี้ยงแบบ สุกรพ่อพันธุ์เพื่อน�ำ มาผสมเทียม จากศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพือ่ หลังบ้าน การส่งเสริมการเลี้ยงสุกร เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับ ภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นหลัก เกษตรกรไม่สามารถ การส่งเสริมจากภาครัฐและองค์กรต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ ผลิตน้ำ�เชื้อสกุ รพ่อพนั ธ์ุได้ด้วยตวั เอง บางช่วงเวลาทีศ่ นู ย์เครือข่าย เกษตรกร และเป็นการผลิตอาหารเพื่อการบริโภคในจังหวัดน่าน การเรียนรู้เพื่อภมู ิภาค จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่สามารถผลิต และลดการนำ�เข้าเนื้อสุกรจากที่อื่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น้ำ�เชื้อสุกรเพื่อให้บริการได้ทันต่อความต้องการ ทำ�ให้เกษตรกร มีโครงการส่งเสริมพัฒนาระบบการเลี้ยงสุกรในจังหวัดน่าน มี ผู้เลี้ยงสุกรที่มีแม่พันธ์ุแสดงอาการเป็นสัดและต้องการน้ำ�เชื้อสุกร เป้าหมายเพื่อสร้างความม่ันคงทางอาหารโปรตีนจากสุกร และ พ่อพนั ธุ์ในช่วงเวลาน้ันประสบปญั หาขาดแคลนน้�ำ เชื้อสกุ รพ่อพนั ธ์ุ เป็นกลไกหนึ่งของการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ (วิชัย ทันตศุภารักษ์ และ หรือบางช่วงที่สุกรแสดงอาการเป็นสัดและพร้อมที่จะได้รับการ คณะ, 2552; วิชยั ทันตศุภารกั ษ์ และคณะ, 2553; วิชยั ทันตศภุ า ผสมเทยี มในวนั ทศี่ นู ยเ์ ครือขา่ ยการเรยี นรเู้ พอื่ ภมู ภิ าค จฬุ าลงกรณ์ รักษ์ และคณะ, 2554; วิชยั ทันตศุภารักษ์ และคณะ, 2555) และ มหาวิทยาลัยหยุดให้บริการน้ำ�เชื้อ เกษตรกรก็จะไม่มีน้ำ�เชื้อมาใช้ ได้พฒั นาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านพันธุ์สัตว์ อาหาร โรงเรือน และการ ผสมเทียม ส่งผลให้ไม่สามารถที่จะผสมสุกรแม่พันธ์ุที่กำ�ลังเป็น ตลาด (วินัย แก้วละมลุ และคณะ, 2561) ท�ำ ให้เกษตรกรมีทักษะ สดั ได้ ต้องรอรอบผสมในครั้งต่อไปใช้เวลาเฉลีย่ 21 วนั ท�ำ ให้เสีย และองค์ความรู้ในการเลี้ยงสุกร อย่างไรก็ตามเกษตรกรยังไม่ โอกาสในเชิงเศรษฐกิจ เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุกร สามารถพงึ่ พาตนเองในดา้ นการผลติ น้�ำ เชื้อสกุ รเพือ่ การผสมเทยี ม แม่พันธ์ุ เสียเวลาในการเดินทางมารบั น้�ำ เชื้อสกุ รพ่อพนั ธ์ุ หรืออาจ ทีมวิจยั จึงมีแนวคิดเพือ่ พฒั นาให้เกษตรกรสามารถพึง่ พาตนเองใน ต้องเรียกใช้บริการพ่อสุกรรับจ้างมาผสมพันธุ์ ซึ่งเสี่ยงต่อการติด ด้านการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรพันธุ์ดีเพื่อการผสมเทียม ซึ่งเป็นการยก โรคทางระบบสบื พนั ธต์ุ า่ งๆ อกี ทง้ั พอ่ สกุ รรบั จา้ งมจี ำ�นวนลดลงมาก ระดับความสามารถของเกษตรกรในการบริหารจัดการการเลี้ยง หลังจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยคณะสัตวแพทยศาสตร์ได้ สุกรในชุมชน รวมทั้งสร้างกระบวนการเรียนรู้และฝึกทักษะในการ จดั ตงั้ ศนู ยผ์ ลติ น้�ำ เชอื้ เพอื่ การผสมเทยี มทตี่ �ำ บลผาสงิ ห์ อ�ำ เภอเมอื ง เลี้ยงสุกรที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อสร้างความย่ังยืนในระยะยาว งาน จงั หวดั น่าน ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2549 จนถึงปจั จบุ นั วิจัยนี้เป็นกระบวนการพัฒนาเกษตรกรไปสู่การพึ่งพาตนเองใน การผลิตน้�ำ เชื้อสุกรพันธ์ุดีส�ำ หรับการผสมเทียมในระดับเกษตรกร รายย่อยที่มีการรวมกลุ่มในตำ�บลเมืองจัง มีระยะเวลาดำ�เนินการ กระบวนการทใ่ี ชใ้ นการเปลย่ี นแปลง ตั้งแต่เดือน กันยายน พ.ศ. 2557 ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 และการยอมรบั ของชมุ ชนเปา้ หมาย สถานการณ์ที่เป็นอยูเ่ ดิม 1) การทำ�ความเข้าใจและศึกษาขอ้ มลู ในพื้นที่ ขั้นตอนแรกของการดำ�เนินการ ทีมวิจัยลงพื้นที่พบ พื้นที่ตำ�บลเมืองจัง อำ�เภอภูเพียง จังหวัดน่าน มีเกษตรกร เกษตรกรเพื่อทำ�ความเข้าใจ และรับทราบข้อมูลพื้นฐานที่ ผเู้ ลยี้ งสกุ รกระจายอยใู่ นหมบู่ า้ นตา่ งๆ เกษตรกรผเู้ ลยี้ งสกุ รบางสว่ น เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสุกร ทักษะด้านการผสมเทียม ปัญหา และ มีการรวมกันจัดตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ซึ่งก่อต้ังขึ้นบน อุปสรรคต่างๆ ตลอดจนจำ�นวนประชากรสุกรแม่พันธ์ุ ท้ังที่เป็น ฐานการมสี ว่ นรว่ มและความสนใจของคนในตำ�บลเมอื งจงั ทจี่ ะสรา้ ง ของสมาชิกกลุ่มและนอกกลุ่ม ประชมุ วางแผนร่วมกบั สมาชิกกลุ่ม อาชีพเสริมภายในครอบครวั สร้างรายได้ สร้างกระบวนการเรียนรู้ ผู้เลี้ยงสุกร ถึงแนวทางการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ เพื่อรับฟัง วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 159 ความเห็น ข้อเสนอแนะ และวางแผนการปฏิบัติงานร่วมกัน ในการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรจะได้รับการตรวจประเมินการปฏิบัติงาน (ภาพที่ 1) จากสตั วบาล นายสตั วแพทย์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่าง น้อยปีละ 3 ครั้ง หรือในกรณีที่พบปัญหาหรือต้องการคำ�แนะนำ� 2) การอบรมบุคลากรดา้ นการผลิตน้�ำ เชือ้ สุกร เพิ่มเติมสามารถแจ้งทีมสัตวบาลหรือนายสัตวแพทย์ที่รับผิดชอบ ทีมวิจัยฝึกอบรมเกษตรกรให้ทำ�หน้าที่รีดน้ำ�เชื้อ เตรียม โครงการเพือ่ ให้คำ�แนะน�ำ และตรวจติดตามได้ตลอดเวลา น้ำ�เชื้อ และตรวจคุณภาพน้ำ�เชื้อที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ โดย ประสานขอความร่วมมือจากศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค 3) การจัดตั้งห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรและจัดหา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อจัดอบรมโดยใช้ห้องปฏิบัติการและ สกุ รพอ่ พันธุ์ดีเพือ่ ใช้ในการผลิตน้�ำ เชื้อผสมเทียม วัสดุอุปกรณ์ในศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค เกษตรกร เกษตรกรและผู้รับผิดชอบโครงการจัดสร้างห้องปฏิบัติ ที่มารับการอบรมได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับการปฏิบัติงานประจำ� การผลิตน้ำ�เชื้อสุกรพ่อพันธุ์ เพื่อเตรียมน้ำ�เชื้อสุกรพ่อพันธุ์ที่ถูก ของบุคลากรของศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค โดยมี สุขลักษณะให้กับผู้เลี้ยงสุกรตำ�บลเมืองจัง อำ�เภอภูเพียง จังหวัด เกษตรกรเข้าร่วมอบรมการผลิตน้ำ�เชื้อเพื่อการผสมเทียมจำ�นวน น่าน โดยพิจารณาสถานทีท่ ีเ่ หมาะสมร่วมกับเกษตรกร ซึ่งพื้นทีใ่ น 4 คน และเป็นเกษตรกรที่ผ่านการคัดเลือกโดยกลุ่มเกษตรกร การจัดตั้งห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรพ่อพันธ์ุ ควรเป็นพื้นที่ที่ กระบวนการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รีดน้ำ�เชื้อและเตรียมน้ำ�เชื้อสุกร สามารถให้บริการแก่สมาชิกได้สะดวกและรวดเร็ว ถูกสุขลักษณะ ดังภาพที่ 2 ตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับคัดเลือกจะฝึกอบรมการรีด กระบวนการก่อสร้างห้องปฏิบัติการผสมเทียมและคอก น้ำ�เชื้อและเตรียมน้ำ�เชื้อสุกร ณ ห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อสุกร พ่อพันธ์ุสกุ รดังภาพที่ 3 โดยสถานทีต่ ้ังห้องปฏิบัติการผลิตน้�ำ เชื้อ ของศนู ยเ์ ครือขา่ ยการเรยี นรเู้ พอื่ ภมู ภิ าค จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ผสมเทียมต้ังอยู่ที่ศูนย์การเรียนรู้โจ้โก้ ต�ำ บลเมืองจงั การก่อสร้าง เป็นระยะเวลา 7 วัน เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ดงั น้ันผู้เข้ารับ เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เช่น วัสดุอุปกรณ์และการ การฝกึ อบรมไดล้ งมอื ด�ำ เนนิ งานจรงิ และตอ้ งผา่ นการประเมนิ จาก ก่อสร้าง เป็นส่วนที่เกษตรกรรับผิดชอบ ภายใต้การดูแลรูปแบบ อาจารยท์ รี่ บั ผดิ ชอบโครงการ จงึ จะสามารถปฏบิ ตั งิ านในหอ้ งปฏบิ ตั ิ สถานที่โดยนายสัตวแพทย์และอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในการผลิต การเตรียมน้ำ�เชื้อผสมเทียมของชุมชนได้ โดยบุคลากรที่ทำ�หน้าที่ น้�ำ เชื้อสกุ ร ภาพที่ 1 การประชมุ กลุ่มเกษตรกร มีการนัดหมายประชมุ ร่วมกันเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อหารือในเรือ่ งต่างๆ หรืออบรม เพิ่มเติมความรู้ประจำ�เดือน วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
160 ABC JOURNAL ภาพที่ 2 กระบวนการอบรมบคุ ลากรด้านการผลิตน้�ำ เชื้อสกุ ร 4) การพัฒนาระบบการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการ ผลการวิจัย ผลิตน้ำ�เชือ้ สุกรและการให้บริการน้ำ�เชือ้ แก่สมาชิก 1) การท�ำ ความเข้าใจและศึกษาข้อมลู ในพื้นที่ เป้าหมายของโครงการคือ เพื่อให้เกิดความย่ังยืนใน การดำ�เนินงาน ดังนั้นห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรพ่อพันธ์ุจึง กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรตำ�บลเมืองจัง อำ�เภอภูเพียง ควรมีการจัดเก็บเงินเพื่อนำ�มาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์สิ้น จังหวัดน่าน มีจำ�นวนสมาชิก 26 คนประกอบด้วยสมาชิกจาก 5 เปลือง การเลี้ยงดูสุกรพ่อพันธ์ุ และเป็นค่าตอบแทนแก่บุคลากร หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 จ�ำ นวน 5 คน หมู่ที่ 2 จ�ำ นวน 3 คน หมู่ที่ 4 ที่ทำ�หน้าที่เตรียมน้ำ�เชื้อ ดังนั้นกลุ่มสมาชิกจึงกำ�หนดหลักเกณฑ์ จ�ำ นวน 1 คน หมู่ที่ 5 จำ�นวน 8 คน หมู่ที่ 8 จำ�นวน 1 คน หมู่ที่ 9 ข้อตกลงในการบริหารจัดการร่วมกัน โดยห้องปฏิบัติการผลิต จ�ำ นวน 3 คน และหมทู่ ี่ 10 จ�ำ นวน 5 คน เกษตรกรรวมกนั กอ่ ตงั้ กลมุ่ น้ำ�เชื้อสุกรพ่อพันธ์ุเพื่อการผสมเทียมที่จัดตั้งขึ้น เป็นของส่วนรวม มาต้ังแต่ พ.ศ. 2554 โดยมีที่ทำ�การกลุ่ม ณ ศูนย์การเรียนรู้โจ้โก้ ที่สมาชิกต้องร่วมกันดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ร่วมกัน ด้วยเหตุ บา้ นราษฎรส์ ามคั คี หมทู่ ี่ 8 ต�ำ บลเมอื งจงั อ�ำ เภอภเู พยี ง จงั หวดั นา่ น ที่สมาชิกของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรตำ�บลเมืองจังมีความเป็น วตั ถปุ ระสงคข์ องกลมุ่ คอื 1) เพอื่ เสรมิ สรา้ งใหส้ มาชกิ เกดิ การเรยี นรู้ เจ้าของร่วมในห้องปฏิบัติการตามกฎหมายจึงสามารถผลิตและน�ำ ทกั ษะการเลี้ยงสกุ ร ระบบการจัดการอาหารสุกร ระบบการตลาด น้�ำ เชื้อเหล่านี้ไปท�ำ การผสมเทียมแม่สุกรของตนเองได้ รวมท้ังการ และการแปรรูปผลผลิตจากสุกรที่หลากหลาย 2) เพื่อให้สมาชิก อนุโลมให้กับเกษตรกรที่แสดงเจตนาจะเข้าร่วมกลุ่มแต่ขอทดลอง กลมุ่ เรยี นรเู้ รอื่ งการออมและสวสั ดกิ ารชมุ ชน เกษตรกรมกี ารเลอื ก ก่อนตดั สินใจอีกคร้ัง ตั้งคณะกรรมการบริหารกลุ่มประกอบด้วย ประธาน รองประธาน วารสารวิจัยเพื่อการพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 161 ภาพที่ 3 การจัดตั้งห้องปฏิบตั ิการผลิตน้�ำ เชื้อสกุ รพ่อพันธ์ุดี เลขานุการ เหรัญญิก อาสาปศุสัตว์ ผู้ประสานงานโซนใต้ หมู่ที่ ว่างที่จะท�ำ กิจกรรมอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยได้ ที่ส�ำ คัญคือการเลี้ยง 2,5,8,10 ผู้ประสานงานโซนเหนือ หมู่ที่ 1,4,9 และ ผู้ดูแลจดั การ สุกรเป็นอาชีพที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและเร็ว สามารถทำ�ได้ต่อเนื่อง อาหารหม/ู ประสานการตลาด การสมัครเปน็ สมาชิกกลุ่มเลี้ยงสุกร ตลอดท้ังปีไม่มีฤดกู าล ตำ�บลเมืองจัง เกษตรกรต้องสมัครเป็นสมาชิกกองทุนสวัสดิการ รูปแบบการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรเป็นการเลี้ยงแบบ ชุมชนตำ�บลเมือง และระบบการออมกับสถาบันการเงินชุมชน เกษตรกรรายย่อย มีการเลี้ยงแม่พันธุ์สุกรเพื่อผลิตลูกสุกร การ (สหกรณ์เครดิตยูเนียนออมใจพัฒนา สาขาโจ้โก้) ซึ่งเงื่อนไขการ จัดการผลผลิตลูกสุกรที่ได้จากการเลี้ยงแม่พันธ์ุมีท้ังจำ�หน่ายลูก ออมขึ้นอยู่กบั กฎ กติกา และระเบียบของแต่ละสถาบันหรือองค์กร สุกรหย่านมหรือสุกรอนุบาลให้เกษตรกรรายอื่นไปขุนต่อ หรือ เหตผุ ลหรือเป้าหมายของการเลี้ยงสุกรของเกษตรกร คือ เกษตรกรเก็บไว้เลี้ยงเองและจำ�หน่ายเป็นสุกรขุน ระบบการเลี้ยง การเลี้ยงสุกรเป็นอาชีพทางเลือก อาชีพเสริม ทดแทนอาชีพเดิมที่ ทง้ั หมดเปน็ ฟารม์ แบบเปดิ โรงเรอื นท�ำ มาจากวสั ดทุ มี่ ใี นทอ้ งถนิ่ เปน็ ทำ�อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือการทำ�ไร่ข้าวโพด ซึ่งต้องใช้พื้นที่ ทนุ และ หลัก พื้นคอกมีทั้งที่เป็นพื้นซีเมนต์ทั้งหมด เป็นพื้นดินในระบบหมู แรงงานในการจดั การทสี่ งู แตกตา่ งจากการเลยี้ งสกุ รทใี่ ชพ้ ืน้ ทนี่ อ้ ย หลมุ หรือเป็นแบบกึง่ พื้นซีเมนต์กึง่ พื้นดิน แม่พนั ธุ์ทีเ่ ลี้ยงส่วนใหญ่ ใช้แรงงานน้อย และใช้เวลาในการจดั การดแู ลน้อย สามารถมีเวลา เปน็ แม่พนั ธ์ุ 2 สาย (แลนด์เรซ x ลาร์จไวท์) ใช้น้�ำ เชื้อพ่อพันธ์ุดรู ็อค วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
162 ABC JOURNAL ในการผสมเทยี ม เพอื่ ผลติ ลกู สกุ ร 3 สายพนั ธ์ุ (ลารจ์ ไวท์ x แลนดเ์ รซ มมั มี่ ลกู ไม่ดก x ดูร็อค) เลี้ยงเป็นสุกรขุน เกษตรกรบางส่วนเลี้ยงแม่พันธุ์ผสม 2) ปญั หาเรอื่ งเงนิ ลงทนุ เกษตรกรมปี ญั หาเรือ่ งเงนิ ทนุ ใน พื้นเมือง หรือเลี้ยงแม่พนั ธ์ุ 3 สาย เนือ่ งจากไม่สามารถหาแม่พันธ์ุ การดำ�เนินกิจการและขยายการผลิตให้มากขึ้น บางคร้ังเกษตรกร 2 สายได้ การจดั การดา้ นอาหารสว่ นใหญใ่ ชอ้ าหารส�ำ เรจ็ รปู ทซี่ อื้ มา ไมม่ เี งนิ ซือ้ อาหารสำ�หรบั เลีย้ งสกุ รจงึ จำ�เปน็ ตอ้ งขายสกุ รกอ่ นเวลา จากรา้ นคา้ เปน็ หลกั และเสรมิ ดว้ ยอาหารทสี่ ามารถหาไดใ้ นทอ้ งถนิ่ ที่เหมาะสมท�ำ ให้ขาดโอกาสได้รับผลก�ำ ไร เช่น การทำ�อาหารหมักจากต้นกล้วย นอกจากจะได้ผลผลิตเป็น 3) ปญั หาเรือ่ งการตลาดและราคาสกุ รขนุ ราคาจำ�หน่าย สุกรขุนแล้วเกษตรกรยังได้ผลผลิตปุ๋ยมูลสุกรมาใช้ในระบบ สุกรขุนเป็นไปตามกลไกตลาด ในสภาวะที่มีสุกรขุนออกสู่ตลาด การเกษตรอีกด้วย จ�ำ นวนมาก พ่อค้าจะกดราคาหรือซื้อในราคาถกู ในปี พ.ศ. 2557 กลมุ่ สามารถผลติ ลกู สกุ รไดจ้ �ำ นวน 1,223 4) ปญั หาเรอื่ งน้�ำ เชอื้ ไมเ่ พยี งพอและไมม่ นี ้�ำ เชอื้ ผสมเทยี ม ตวั มีสกุ รขุน 1,116 ตัว เมือ่ เกษตรกรสงั เกตพบแม่สกุ รแสดงอาการ เนื่องจากมีเกษตรกรมารับน้ำ�เชื้อจำ�นวนมาก หรือบางคร้ังแม่ เปน็ สัดและพร้อมผสมพนั ธุ์ เกษตรกรจะไปรับน้ำ�เชื้อสกุ รจากศนู ย์ พันธุ์สุกรแสดงอาการเป็นสัดและจำ�เป็นต้องผสมในวันหยุดซึ่ง เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตำ�บล ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผาสิงห์ อำ�เภอเมือง จังหวดั น่าน ซึง่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านของสมาชิก งดให้บริการน้ำ�เชื้อสุกร ทำ�ให้เกษตรกรไม่มีน้ำ�เชื้อมาผสมเทียม ประมาณ 12 -15 กิโลเมตร ในรอบนั้นๆ ต้องรอแม่พันธุ์แสดงอาการเป็นสัดในรอบถัดไป จากการวิเคราะห์ร่วมกันของเกษตรกรสรุปปัญหาและ อุปสรรคส่วนใหญ่ของการเลี้ยงสุกรคือ 2) การอบรมบคุ ลากรด้านการผลิตน้�ำ เชือ้ สกุ ร 1) ปัญหาเรื่องการขาดองค์ความรู้และขาดทักษะในการ เกษตรกรได้รับการคัดเลือกเข้ารับการฝึกอบรมตามที่ เลี้ยง เช่น การใช้อาหารหมูแต่ละช่วงวยั การผสมพันธ์ุ การจัดการ กำ�หนด (ภาพที่ 4) และผลส�ำ เร็จของการดำ�เนินการคือมีตัวแทน แม่พนั ธก์ุ อ่ นและหลงั คลอด การใชว้ คั ซีนและยาปฏชิ วี นะ ซงึ่ ปญั หา เกษตรกรทีผ่ ่านการอบรม การรีดน้�ำ เชื้อ การเตรียมน้ำ�เชื้อแช่เย็น ที่เกิดขึ้นตามมา เช่น การเกิดโรค แม่พนั ธุ์ผสมไม่ติด แท้งลูก เปน็ ส�ำ หรบั การผสมเทยี ม การเกบ็ รกั ษาน้�ำ เชือ้ และการดแู ลหอ้ งปฏบิ ตั ิ ภาพที่ 4 ตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ทีท่ ำ�หน้าทีใ่ นการดแู ลพ่อสุกรและผลิตน้�ำ เชื้อเข้ารบั การฝึกอบรม ทีศ่ ูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพือ่ ภมู ิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วารสารวิจยั เพือ่ การพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 163 การผลิตน้�ำ เชื้อสุกรจ�ำ นวน 4 คน ท้ัง 4 คนสามารถด�ำ เนินการรีด ผรู้ ดี น้�ำ เชือ้ ตอ้ งไดฝ้ กึ พอ่ สกุ รใหข้ ึน้ หนุ่ รดี น้�ำ เชือ้ ภายใตก้ ารดแู ลและ น้�ำ เชื้อและเตรียมน้�ำ เชื้อได้ด้วยตนเอง โดยในการปฏิบตั ิงานทีห่ ้อง แนะน�ำ ของสตั วบาลซงึ่ เปน็ ทมี ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ ผลจากการฝกึ ปฏิบัติการผสมเทียมจะมีเจ้าหน้าที่ 1 คน ที่ได้รับมอบหมายเป็น พ่อสุกรทั้งสองตวั สามารถขึ้นหุ่นและรีดน้�ำ เชื้อได้ทั้ง 2 ตวั คนหลักในการผลิตน้�ำ เชื้อ คนอื่นๆ จะคอยสนบั สนุนและหมุนเวียน การดำ�เนินการผลิตน้ำ�เชื้อเพื่อการผสมเทียมน้ันจะ มาทำ�งานแทนในกรณีที่คนรีดน้ำ�เชื้อและเตรียมน้ำ�เชื้อหลักไม่ ตมรีกวรจะสบุขวภนาพกพา่อรตสิุกดรตเปา็นมรคะวยบะอคยุม่าคงุสณมภ่ำ�าเสพมกอา(รภผาลพิตที่น7้ำ�) เดชงัื้อนแ้ันลจะึง สามารถปฏิบัติหน้าทีไ่ ด้ กำ�หนดให้ห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรพ่อพันธุ์อยู่ภายใต้การ 3) การจัดต้ังห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรและจัดหา กำ�กับดูแลของนายสัตวแพทย์ ผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการ สุกรพอ่ พันธด์ุ ีเพื่อใชใ้ นการผลิตน้�ำ เชือ้ ผสมเทียม สัตวแพทย์ชั้น 1 โดยในเบื้องต้นห้องปฏิบัติการนี้อยู่ภายใต้การดแู ล โรงเรอื นส�ำ หรบั สกุ รพอ่ พนั ธแ์ุ ละหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารผสมเทยี ม ของนายสตั วแพทยข์ องส�ำ นกั วชิ าทรพั ยากรการเกษตร จฬุ าลงกรณ์ (ภาพที่ 5) เป็นโรงเรือนขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 8.5 เมตร ก้ัน มหาวิทยาลยั เพือ่ ก�ำ กบั ดูแลการผลิตน้�ำ เชื้อสกุ รพ่อพันธ์ุให้เปน็ ไป เป็นคอกสุกรพ่อพันธ์ุจำ�นวน 2 คอก ขนาดกว้าง 2.5 เมตร ยาว ตามมาตรฐาน 2.8 เมตร ถัดจากคอกพ่อพันธ์ุสร้างเป็นห้องปฏิบัติการผสมเทียม ขนาดกว้าง 3.2 เมตร ยาว 4.5 เมตร ผู้รับผิดชอบโครงการจัดหา 4) การพัฒนาระบบการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการ เครอื่ งมอื และอปุ กรณต์ า่ งๆ ทใี่ ชใ้ นการเตรยี มน้ำ�เชอื้ สกุ รใหค้ รบถว้ น ผลิตน้�ำ เชื้อสุกรและการให้บริการน้�ำ เชือ้ แก่เกษตรกร เป็นห้องปฏิบัติการที่สามารถผลิตน้ำ�เชื้อสุกรได้ตามมาตรฐานใน กลุ่มเกษตรกรประชุมและก�ำ หนดรูปแบบการบริหารงาน ระดับเดียวกับห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อผสมเทียมในฟาร์มสุกร ห้องปฏิบัติการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรเพื่อการผสมเทียมร่วมกัน โดย ระดับอตุ สาหกรรมท่ัวไป ก�ำ หนดใหม้ คี ณะกรรมการ 1 คณะ ทคี่ อยก�ำ กบั ดแู ลการด�ำ เนินงาน โครงการนี้ได้จัดหาพ่อสุกรพันธ์ุดีให้แก่กลุ่มเกษตรกร โดยคัดเลือกจากสมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรของตำ�บล จ�ำ นวน 2 ตวั (ภาพที่ 6) เปน็ สกุ รพันธ์ุดูรอ็ คนำ�เข้ามาเลี้ยงในคอก เมืองจัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่ปฏิบัติงานที่หน่วยรีดน้ำ�เชื้อ พ่อพันธุ์ส�ำ หรบั รีดน้�ำ เชื้อ เกษตรกรทีผ่ ่านการฝึกอบรมและจะเปน็ และผลิตน้ำ�เชื้อสุกร ดังนี้ เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค ทำ�หน้าที่ผลิต ภาพที่ 5 สมาชิกของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรร่วมกนั ก่อสร้างโรงเรือนสกุ รพ่อพันธ์ุและห้องปฏิบตั ิการผลิตน้ำ�เชื้อเพื่อผสมเทียมสกุ ร วารสารวิจยั เพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
164 ABC JOURNAL ภาพที่ 6 พ่อสกุ รพนั ธุ์ดีสำ�หรบั รีดน้ำ�เชื้อส�ำ หรับให้บริการ ภาพที่ 7 เกษตรกรทีผ่ ่านการฝึกการรีดน้�ำ เชื้อและเตรียมน้ำ�เชื้อ เกษตรกร ผสมเทียมสกุ ร ปฏิบตั ิงานที่ห้องปฏิบตั ิการเตรียมน้�ำ เชื้อของชุมชน น้�ำ เชอื้ สกุ ร ดแู ลพอ่ พนั ธสุ์ กุ ร เจา้ หนา้ ทกี่ ารเงนิ ท�ำ หนา้ ทดี่ แู ลรายรบั สถานการณใ์ หม่ รายจ่าย เจ้าหน้าที่ประสานงานท�ำ หน้าที่ประสานงานในด้านต่างๆ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ ระหวา่ งเกษตรกรกบั ส�ำ นกั วชิ าทรพั ยากรการเกษตร และเจา้ หนา้ ที่ ซ่อมบำ�รงุ ทำ�หน้าทีซ่ ่อมบ�ำ รงุ โรงเรือน เครือ่ งมือและวัสดอุ ุปกรณ์ ต่างๆ ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยมีรายละเอียดโครงสร้างการ บริหารจัดการดังภาพที่ 8 ผลลัพธ์ของการดำ�เนินการโครงการ (ภาพที่ 9) มีดังนี้ หลังจากห้องปฏิบัติการสามารถผลิตน้ำ�เชื้อสุกรเพื่อให้ เกษตรกรมีความรู้และทักษะในการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรเพื่อการ บริการแก่เกษตรกรนำ�ไปผสมเทียมแม่สุกรของตนเองได้แล้ว จึง ผสมเทียมได้ด้วยตนเอง จากเดิมเกษตรกรต้องใช้วิธีการผสมจริง เริ่มให้บริการน้�ำ เชื้อแก่เกษตรกรต้ังแต่เดือน กันยายน พ.ศ. 2558 หรือไปรบั น้ำ�เชื้อจากที่อื่นมาผสมเทียม กระบวนการถ่ายทอดองค์ ในระยะเวลา 13 เดือน มีสถิติการให้บริการดังตารางที่ 1 โดยมี ความรู้และเทคโนโลยีทำ�ให้เกษตรกรพัฒนาองค์ความรู้และทักษะ เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรมาใช้บริการรวม 60 ราย ในการผลิตน้ำ�เชื้อได้ด้วยตนเอง เป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และเกษตรกรที่ไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรจำ�นวน 75 ราย และพฒั นาเกษตรกรให้มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองมากขึ้น รวมทั้งหมด 135 ราย เกษตรกรแต่ละรายจะได้รบั น้ำ�เชื้อจ�ำ นวน 2 เกษตรกรมีทางเลือกมากขึ้นและลดโอกาสสูญเสียทาง หลอด พร้อมท่อส�ำ หรบั การผสมเทียมจำ�นวน 2 ชิ้น และเกษตรกร เศรษฐกิจในกรณีที่ไม่สามารถมารับน้ำ�เชื้อที่ศูนย์เครือข่ายการ ต้องจ่ายค่าบำ�รุงในการผลิตน้ำ�เชื้อ โดยต้ังแต่เดือนกันยายน พ.ศ. เรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปผสมให้แม่สุกร 2558 – มีนาคม พ.ศ. 2559 จ่ายค่าบ�ำ รงุ หลอดละ 80 บาท และ ได้ เมื่อกลุ่มเกษตรกรสามารถผลิตน้�ำ เชื้อสุกรเพื่อการผสมเทียม ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2559 มีค่าใช้จ่ายเพือ่ การบริหารจดั การ เกษตรกรก็สามารถใช้บริการน้ำ�เชื้อของกลุ่มได้ โดยมีน้ำ�เชื้อ หลอดละ 100 บาท เมื่อจำ�แนกเกษตรกรตามพื้นที่อำ�เภอและ ที่ผลิตตามมาตรฐาน และไม่ต้องเดินทางไกล ประหยัดเวลา ตำ�บลของเกษตรกร (ตารางที่ 2) พบว่าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร นอกจากนี้ยังพบว่ามีเกษตรกรจากภายนอกกลุ่มที่สนใจเข้าร่วม ในตำ�บลเมืองจังประมาณร้อยละ 80 และเกษตรกรจากอำ�เภอ กลุ่มมารบั น้�ำ เชื้อไปผสมเทียมด้วย สันติสุขมารับน้ำ�เชื้อไปผสมเทียมร้อยละ 14 ของเกษตรกรที่ มารบั น้ำ�เชื้อทั้งหมด วารสารวิจยั เพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 165 ภาพที่ 8 ระบบการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการผลิตน้�ำ เชื้อสุกรพ่อพันธุ์ ตารางที่ 1 จ�ำ นวนเกษตรกรทมี่ ารบั น้�ำ เชอื้ สกุ รไปผสมเทยี มจ�ำ แนก ตารางที่ 2 จ�ำ นวนเกษตรกรทมี่ ารบั น้�ำ เชอื้ สกุ รไปผสมเทยี มจ�ำ แนก ตามการเป็นสมาชิกหรือไม่เป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ตามอ�ำ เภอและตำ�บล ตำ�บลเมืองจัง เดือน จ�ำ นวนเกษตรกรทีม่ ารบั น้ำ�เชื้อ (ราย) อ�ำ เภอ/ตำ�บล จ�ำ นวนเกษตรกร ร้อยละ ก.ย.-58 (ราย) ต.ค.-58 สมาชิก ไม่ใช่สมาชิก รวม อำ�เภอภูเพียง 80 พ.ย.-58 3 0 3 ตำ�บลเมืองจัง 108 79.25 ธ.ค.-58 8 4 12 ตำ�บลน้ำ�เกี๋ยน 107 0.75 9 8 17 1 14.07 7 7 14 อำ�เภอสันติสขุ 19 ม.ค.-59 0 0 0 ตำ�บลดู่พงษ์ 16 11.85 ก.พ.-59 5 6 11 มี.ค.-59 2 6 8 ตำ�บลป่าแลวหลวง 3 2.22 เม.ย.-59 5 4 9 อำ�เภอเมือง 2 1.48 พ.ค.-59 4 5 9 ตำ�บลสะเนียน 2 1.48 มิ.ย.-59 4 9 13 อ�ำ เภอแมจ่ ริม 5 3.70 ก.ค.-59 9 7 16 ส.ค.-59 1 10 11 ตำ�บลแม่จริม 5 3.70 ก.ย.-59 3 9 12 1 0.75 รวม (ราย) 60 75 135 อ�ำ เภอปวั 1 0.75 ตำ�บลอวน วารสารวิจัยเพือ่ การพฒั นาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
166 ABC JOURNAL ภาพที่ 9 ผลลพั ธ์ของการด�ำ เนินการโครงการ อภิปรายผล คุ้มค่าทางเศรษฐกิจกับรายจ่ายที่ต้องจ่ายเพื่อการเลี้ยงดูพ่อพันธุ์ อีกทั้งไม่สามารถเลือกใช้พ่อพันธุ์ที่มีพันธุกรรมที่ดีได้ นอกจากนี้ การผสมจริงโดยใช้พ่อพันธ์ุที่รับจ้างผสมมีโอกาสที่พ่อพันธุ์จะติด งานวิจัยด้านสุกรส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นการวิจัยเพื่อ โรคติดต่อจากการผสมพันธ์ุและพ่อพันธ์ุจะแพร่เชื้อโรคไปสู่แม่ พัฒนาสุกรในระบบอุตสาหกรรม เช่น โรคและการป้องกันโรค สกุ รตัวอืน่ ๆ ระบบสืบพันธุ์ อาหาร (Kedkovid et al., 2018; Nuntapaitoon ในปัจจุบันงานวิจัยและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการ et al., 2018) แต่ไม่พบงานวิจัยการพัฒนาระบบหรือศูนย์ผลิต ผสมเทียมมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Knox et al., น้�ำ เชื้อสกุ รเพือ่ การผสมเทียมในชุมชนส�ำ หรับเกษตรกรรายย่อยใน 2008; Knox, 2016; Roca et al., 2016) และจุฬาลงกรณ์ ลกั ษณะทเี่ กษตรกรรายยอ่ ยหรอื กลมุ่ เกษตรกรสามารถด�ำ เนนิ การ มหาวิทยาลยั ประสบความส�ำ เรจ็ ในการพฒั นาศนู ย์ผลิตน้�ำ เชือ้ เพือ่ ได้ด้วยตนเอง ถึงแม้เทคโนโลยีด้านการผสมเทียมจะมีมานานและ การผสมเทียมที่จังหวัดน่าน (Am-In et al., 2010; Visalvethaya แพร่หลายในประเทศไทยมากว่า 30 ปี (อรรณพ คุณาวงษ์กฤต, et al., 2011) ซึ่งทำ�การเลี้ยงพ่อพันธ์ุและให้บริการน้ำ�เชื้อสุกรแก่ 2543) และการวิจัยด้านการผสมเทียมที่ก้าวหน้ามากขึ้น เช่น การ เกษตรกรรายย่อยในจังหวัดน่าน และพบว่าเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ ใช้น้ำ�เชื้อแช่แข็งในการผสมเทียม (Buranaamnuay et al., 2010) ห่างไกลจากศูนย์ผลิตน้ำ�เชื้อไม่สะดวกในการเดินทางมารับน้ำ�เชื้อ ฟารม์ ขนาดใหญห่ รอื ระดบั อตุ สาหกรรมสว่ นใหญเ่ ลยี้ งสกุ รพอ่ พนั ธุ์ จึงมีแนวคิดในการตั้งศูนย์ผลิตน้ำ�เชื้อเพื่อการผสมเทียมสำ�หรับ และผลิตน้�ำ เชื้อสกุ รเพือ่ ใช้ภายในฟาร์ม (On-farm AI) แต่เกษตรกร เกษตรกรรายย่อยในพื้นทีต่ ่างๆ แต่ยงั ไม่ประสบความสำ�เรจ็ ในการ รายย่อยยังใช้วิธีการผสมจริงโดยใช้พ่อพันธุ์ที่เลี้ยงไว้ หรือจ้าง พัฒนาและจัดต้ังศูนย์ผสมเทียมส�ำ หรับเกษตรกรรายย่อย (มงคล พ่อพนั ธ์ุของเกษตรกรรายอื่นที่รับจ้างมาผสมให้ เนื่องจากลักษณะ เตชะก�ำ พุ และคณะ, 2548) การสง่ เสรมิ ในชว่ งนนั้ ไมไ่ ดม้ กี ระบวนการ การเลี้ยงสกุ รของเกษตรกรรายย่อยนั้นเลี้ยงในแม่พนั ธ์ุจำ�นวนน้อย กลุ่มหรือกระบวนการฝึกอบรมที่ชัดเจน อาจจะเป็นปัจจัยที่ท�ำ ให้ การเลี้ยงพ่อพันธ์ุเพื่อใช้สำ�หรับการผสมโดยเฉพาะน้ันไม่มีความ การด�ำ เนินการในคร้ังน้ันไม่ประสบความส�ำ เร็จ วารสารวิจยั เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 167 กิจกรโรคมรรง่วกมากรันนอี้ดยำ�่าเนงสินมก่ำ�าเรสกมับอกลเชุ่ม่นเกกษาตรรปกรระทชี่รุมวทมุกกเลดุ่มือแนละซมึ่งี อ�ำ เภอสันติสุข และหากเกษตรกรมารบั น้�ำ เชื้อที่ศูนย์เครือข่ายการ เรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะต้องผ่านตำ�บล สะท้อนถึงความเข้มแข็งของกลุ่ม และสมาชิกกลุ่มเห็นด้วยและ เมอื งจงั ดงั นนั้ การมสี ถานทผี่ ลติ ใหบ้ รกิ ารน้�ำ เชือ้ ทอี่ ยใู่ กลเ้ กษตรกร ให้การสนับสนุนการพัฒนาการพึ่งพาตนเองด้านการผลิตน้ำ�เชื้อ จะทำ�ให้เกษตรกรมีความสะดวกมากขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายใน และการผสมเทียม อีกทั้งสมาชิกส่วนใหญ่มีความสามารถในการ การเดินทาง การค�ำ นึงถึงปัจจยั ในเรื่องของพื้นทีใ่ ห้บริการและผู้รบั ผสมเทียมได้ด้วยตนเองซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาของโครงการที่ บริการ เปน็ ปจั จยั ทีต่ ้องน�ำ มาประกอบการพิจารณาเลือกกลมุ่ หรือ ด�ำ เนนิ การมากอ่ นหนา้ นี้ (วชิ ยั ทนั ตศภุ ารกั ษ์ และคณะ, 2552; วชิ ยั จุดสำ�หรับเป็นสถานที่เลี้ยงพ่อพันธ์ุสุกรเพื่อให้สามารถให้บริการ ทนั ตศภุ ารกั ษ์ และคณะ, 2553; วชิ ยั ทนั ตศภุ ารกั ษ์ และคณะ, 2554; การผสมเทียมได้อย่างทวั่ ถึงและมีประสิทธิภาพ วชิ ยั ทนั ตศภุ ารกั ษ์และคณะ,2555;Am-inetal.,2010;Visalvethaya et al., 2011) จึงทำ�ให้โครงการนี้ดำ�เนินการต่อยอดได้ง่ายขึ้น กระบวนการอบรมและพฒั นาเกษตรกรใหม้ คี วามสามารถใน สรุปผล การรดี น้�ำ เชอื้ และเตรยี มน้�ำ เชอื้ สกุ รเพอื่ การผสมเทยี มในโครงการนี้ ดำ�เนินการโดยทีมวิจัยซึ่งเป็นบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา มี สถานทีฝ่ กึ อบรมอยู่ในพื้นทีไ่ ม่ไกลจากกลุ่มเกษตรกรมากนกั ท�ำ ให้ งานวิจัยนี้สามารถพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ตำ�บล การฝกึ อบรมและการตดิ ตามประเมินผลเปน็ ไปโดยสะดวก สำ�หรบั เมอื งจงั ใหส้ ามารถเลยี้ งพอ่ สกุ รพนั ธด์ุ แี ละผลติ น้�ำ เชอื้ เพอื่ ใหบ้ รกิ าร กลุ่มเกษตรกรที่อยู่ห่างไกล ไม่มีสถาบันการศึกษา แนวทางการ แก่เกษตรกรนำ�ไปผสมเทียมกับแม่พันธุ์สุกรของตนได้ เกษตรกร ขยายผลโครงการหรือการพฒั นากลุ่มเกษตรกรให้มีความสามารถ ที่ได้รับการฝึกสามารถผลิตน้ำ�เชื้อสุกรได้ตามมาตรฐาน ในการผลิตน้ำ�เชื้อสุกรเพื่อการผสมเทียมได้น้ันอาจจะต้องเป็น กระบวนการดำ�เนินการในโครงการนี้ ประกอบด้วย 3 กระบวนการ กลไกของหน่วยงานภายใต้กรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแล หลกั คือ การพฒั นาผู้ปฏิบัติงานในการรีดน้�ำ เชื้อและเตรียมน้ำ�เชื้อ ด้านปศุสัตว์ของประเทศและมีสำ�นักงานปศุสัตว์ในระดับต่างๆ เพื่อการผสมเทียม การพัฒนาสถานที่เลี้ยงพ่อพันธ์ุสุกรและห้อง กระจายอยู่ทุกพื้นที่และมีบุคลากรที่เป็นนายสัตวแพทย์และ ปฏิบตั กิ ารในการตรวจคณุ ภาพและเตรียมน้�ำ เชือ้ การพฒั นาระบบ สัตวบาลปฏิบัติงานประจำ�อยู่ในพื้นที่ ทำ�หน้าที่เป็นพี่เลี้ยง การให้บริการและติดตามการผลิตน้ำ�เชื้อ สามารถผลิตน้ำ�เชื้อให้ สนับสนุนและให้ค�ำ ปรึกษา ดแู ลด้านสขุ ภาพสตั ว์ และแก้ปญั หาให้ บริการแก่เกษตรกรทั้งที่เป็นสมาชิกของกลุ่มและเกษตรกรที่ไม่ใช่ กบั เกษตรกร สมาชิกของกลุ่ม กระบวนการดำ�เนินการของโครงการนี้สามารถ เอกสารแผนงานวจิ ยั รายชนดิ สตั ว์ กรมปศสุ ตั ว์ ปี พ.ศ. 2559 เป็นต้นแบบนำ�ไปประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาเกษตรกรรายย่อยใน –2564 ระบุปัญหาในแผนว่า การผลิตสุกรของเกษตรกรรายย่อย พื้นที่อื่นๆ ได้ ไม่สามารถแข่งขันกับผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ในตลาดท่ัวไปได้ จึงมีแผนงานวิจยั เพือ่ แก้ไขปญั หานี้ ซึง่ การพฒั นากลุ่มเกษตรกรให้ สามารถผลิตน้�ำ เชื้อสุกรพันธ์ุดีเพื่อน�ำ ไปใช้ในการผสมเทียมได้ จะ ขอ้ เสนอแนะ นท�ำ�ำ ไใปหสเ้ กคู่ ดิ ณุ กภาราพพฒัขอนงาเนพอื้ นั สธกุกุ รรทรมี่มคีสวกุ ารมในสรมะ�่ำ ดเสบั มเกอษในตรระกดรบั รเาดยยี ยวอ่ กยนั ซแงึ่ ลจะะ กำ�หนดทิศทางทางการตลาดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้หากดำ�เนินการ 1) องค์ความรู้ด้านการเลี้ยงสุกรพ่อพันธ์ุและการเตรียม ร่วมกบั การผลิตสุกรในรูปแบบการผลิตแบบต่างๆ เช่น กรีนพอร์ค น้ำ�เชื้อแช่เย็นสำ�หรับผสมเทียมนั้น สามารถถ่ายทอดและปฏิบัติ (Green pork) สกุ รอินทรีย์ หรือการเลี้ยงสุกรแบบชีวภาพ จะทำ�ให้ ได้ในระดับเกษตรกรรายย่อย ผ่านกระบวนการพัฒนาที่เป็น เพิ่มมูลค่าของการจำ�หน่ายเนื้อสุกรที่ผลิตจากกลุ่มเกษตรกร ระบบ การส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตน้�ำ เชื้อสกุ รใช้ได้เองใน รายย่อยได้มากขึ้น ท้องถิ่นจะช่วยยกระดับและพัฒนาการผลิตสุกรของเกษตรกร จากข้อมูลการให้บริการน้ำ�เชื้อสุกรแก่เกษตรกรพบว่า พัฒนาพันธุกรรมสุกรและพัฒนาคุณภาพเนื้อสุกรให้มีคุณภาพใน จำ�นวนเกษตรกรที่มารับบริการน้ำ�เชื้อมีท้ังเกษตรกรที่เป็นสมาชิก ระดับเดียวกัน ตรงตามความต้องการของตลาดและเพิ่มศักยภาพ ของกลุ่มและเกษตรกรนอกกลุ่มจากทตี่ ่างๆ ทเี่ ดินทางมารบั น้ำ�เชือ้ ในการแข่งขันของเกษตรกรรายย่อยในตลาดท้องถิ่นได้ สกุ รไปผสมเทยี มใหก้ บั แมส่ กุ รทแี่ สดงอาการเปน็ สดั จากขอ้ มลู ชีใ้ ห้ 2) การพัฒนาการเลี้ยงสกุ รพ่อพันธ์ุและการผลิตน้�ำ เชื้อควร เห็นว่าเกษตรกรจากอำ�เภอสันติสุขใช้บริการน้ำ�เชื้อสุกรที่ผลิต พัฒนาในระดบั กลุ่มเกษตรกรหรือในระดบั พื้นที่ และเกษตรกรควร โดยกลุ่มเกษตรกรตำ�บลเมืองจัง ซึ่งตำ�บลเมืองจังมีเขตติดต่อกับ ไดร้ บั การพฒั นาทกั ษะดา้ นการตรวจการเปน็ สดั และการผสมเทยี ม วารสารวิจัยเพือ่ การพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
168 ABC JOURNAL มาก่อนและพัฒนาไปสู่การเลี้ยงสุกรพ่อพันธ์ุและการผลิตน้ำ�เชื้อ นอกจากนี้ควรมีการติดตามผลการใช้น้ำ�เชื้อในเรื่องของอัตราการ สำ�หรับการผสมเทียม ผสมติด ลักษณะของลูกสุกรที่เกิดจากการใช้น้ำ�เชื้อของศูนย์ผลิต 3) การพฒั นาการเลยี้ งสกุ รพอ่ พนั ธแ์ุ ละการผลติ น้�ำ เชือ้ ควร น้�ำ เชื้อในชมุ ชน เพื่อเป็นข้อมูลในการพฒั นาและเลือกพ่อพันธ์ุสกุ ร เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของภาครัฐหรือ ให้ตรงตามความต้องการและเกิดผลดีแก่เกษตรกร สถาบันการศึกษาในพื้นที่ จะทำ�ให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ การ ติดตาม ประเมินผลและพฒั นาอย่างต่อเนือ่ ง 4) การพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน ศูนย์ผลิตน้ำ�เชื้อสุกรใน กิตติกรรมประกาศ ชุมชนสำ�หรับการผสมเทียมจะต้องสามารถพึ่งพาตนเองในเรื่อง งบประมาณคา่ ใชจ้ า่ ยได้ โดยมแี นวทางคอื ควรด�ำ เนนิ การขอรบั รอง เป็นศูนย์น้ำ�เชื้อสุกรสำ�หรับผสมเทียมจากกรมปศุสัตว์ เป็นการ ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโครงการในด้านต่างๆ ดังนี้ เปิดกว้างให้ศูนย์ผลิตน้ำ�เชื้อสามารถผลิตและให้บริการแก่ งบประมาณในการดำ�เนินการได้รับการสนับสนุนจากธนาคาร สมาชิกของกลุ่มและยังสามารถจำ�หน่ายน้ำ�เชื้อให้กับเกษตรกร ไทยพาณิชย์ จำ�กัด (มหาชน) สำ�นักวิชาทรัพยากรการเกษตร ที่ไม่ใช่สมาชิก ทำ�ให้มีรายได้มาใช้ในการบริหารจัดการศูนย์ผลิต จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั และไดร้ บั การสนบั สนนุ พ่อพนั ธ์สุ กุ รจาก น้ำ�เชื้อ ลดการพึ่งพาปัจจัยจากภายนอก สามารถพึ่งพาตนเองได้ บริษทั เครือเจริญโภคภัณฑ์ บรรณานุกรม มงคล เตชะกำ�พ,ุ วิชยั ทนั ตศุภารกั ษ์, เผด็จ ธรรมรกั ษ์, วิไลพร จนั ทร์ไชย, จนั ทร์เพ็ญ สุวิมลธีระบตุ ร, นทั ธี อ่�ำ อินทร์, ... ประทีป ปญั ญาพรหม. (2548). โครงการการจัดตั้งศูนย์ผสมเทียมและการวิจัยด้านการผสมเทียม โครงการความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน. (รายงานวิจัยฉบับสมบรู ณ์). กรุงเทพฯ: คณะสตั วแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วิชยั ทนั ตศภุ ารกั ษ,์ มงคล เตชะกาํ พ,ุ จนั ทรเ์ พญ็ สวุ มิ ลธรี ะบตุ ร, วรี ธ์ มิ า วศิ าลเวทย,์ ฉลองศรี พลโยธา, ขจร นติ วิ รารกั ษ,์ ... ปวณี า ดลิ กสมั พนั ธ์. (2552). โครงการการขยายเครอื ขา่ ยเกษตรกรรายยอ่ ยและการเลยี้ งสกุ รดว้ ยวธิ เี กษตรธรรมชาตใิ นจงั หวดั นา่ น. (รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ)์ . กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วชิ ยั ทนั ตศภุ ารกั ษ,์ มงคล เตชะกาํ พ,ุ จนั ทรเ์ พญ็ สวุ มิ ลธรี ะบตุ ร, วรี ธ์ มิ า วศิ าลเวทย,์ ฉลองศรี พลโยธา, ขจร นติ วิ รารกั ษ,์ ... ปวณี า ดลิ กสมั พนั ธ.์ (2553). โครงการการขยายเครือขา่ ยเกษตรกรรายยอ่ ยและการเลีย้ งสกุ รดว้ ยวธิ ปี ศสุ ตั วอ์ นิ ทรยี ใ์ นจงั หวดั นา่ น. (รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ)์ . กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . วิชยั ทนั ตศภุ ารกั ษ,์ มงคล เตชะกาํ พ,ุ จนั ทรเ์ พญ็ สวุ มิ ลธรี ะบตุ ร, วรี ธ์ มิ า วศิ าลเวทย,์ ณ พทั ธ์ ปณั ฑกุ �ำ พล, ฉลองศรี พลโยธา, ... ขจร นติ วิ รารกั ษ.์ (2554). โครงการการขยายเครือขา่ ยเกษตรกรรายย่อยและการเลี้ยงสกุ รดว้ ยวิธีปศสุ ตั วอ์ นิ ทรีย์ในจงั หวดั นา่ น. (รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์). กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . วิชัย ทนั ตศภุ ารกั ษ,์ มงคล เตชะกาํ พ,ุ จนั ทรเ์ พญ็ สวุ มิ ลธรี ะบตุ ร, วรี ธ์ มิ า วศิ าลเวทย,์ ณ พทั ธ์ ปณั ฑกุ �ำ พล, ฉลองศรี พลโยธา, ... ขจร นติ วิ รารกั ษ.์ (2555). โครงการการพัฒนาแม่แบบเพื่อการส่งเสริมการผลิตสุกรอินทรีย์ การบริการด้านผสมเทียม และการสร้างฝูงผลิตแม่พนั ธุ์ทดแทน ให้กับการเลี้ยงสกุ รในระบบปศุสตั ว์อินทรีย์ที่ศนู ย์นวัตกรรมเพื่อการบริการวิชาการแก่ชุมชนน่าน. (รายงานวิจยั ฉบับสมบูรณ์). กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . วินัย แก้วละมลุ , ขจร นิติวรารกั ษ์, ศราวณี ขนั มณี และ วิชัย ทนั ตศุภารกั ษ์. (2561). การพฒั นาช่องทางจัดจ�ำ หน่ายเนื้อสุกรของกลุ่มเกษตรกร บ้านทุ่งขาม จังหวัดน่าน. วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที,่ 10(6), 453–470. สิทธิเดช พงศ์กิจวรสิน และ เขมรัฐ เถลิงศรี. (2558). ข้าวโพดเลี้ยงสตั ว์กบั การสญู เสียพื้นทีป่ ่า: ปัญญาและทางออก. เอกสารเผยแพร่สำ�นัก ประสานงานชดุ โครงการงานวจิ ยั เชงิ นโยบายเกษตรและเสรมิ สรา้ งเครอื ขา่ ยงานวจิ ยั เชงิ นโยบาย สถาบนั คลงั สมองของชาตริ ว่ มกบั สำ�นกั งาน กองทนุ สนบั สนนุ การวิจยั . กรุงเทพฯ: บริษทั ซีโน พับลิชชิ่ง แอนด์ แพคเกจจิ้ง จ�ำ กดั . อรรณพ คณุ าวงษ์กฤต. (2543). การศึกษาและวิจยั เพือ่ การผสมเทียมสกุ ร. เวชชสารสตั วแพทย์, 30(1), 13–17. วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 169 Am-In, N., Tantasuparuk, W., & Techakumphu, M. (2010). Comparison of artificial insemination with natural mating on smallholder farms in Thailand, and the effects of boar stimulation and distance of semen delivery on sow reproductive performance. Tropical Animal Health and Production, 42(5), 921–924. Buranaamnuay, K., Tummaruk, P., & Techakumphu, M. (2010). Intra-uterine insemination with low numbers of frozen–thawed boar spermatozoa in spontaneous and induced ovulating sows under field conditions. Livestock Science, 131, 115–118. Kedkovid, R., Woonwong, Y., Arunorat, J., Sirisereewan, C., Sangpratum, N., Lumyai M., ... Thanawongnuwech, R. (2018). Porcine circovirus type 3 (PCV3) infection in grower pigs from a Thai farm suffering from porcine respiratory disease complex (PRDC). Veterinary Microbiology, 215, 71–76. Knox, R. V. (2016). Artificial insemination in pigs today. Theriogenology, 85, 83–93. Knox, R., Levis, D., Safranski, T., & Singleton, W. (2008). An update on North American boar stud practices. Theriogenology, 70, 1202–1208. Nuntapaitoon, M., Muns, R., Theil, P. K., & Tummaruk, P. (2018). L-arginine supplementation in sow diet during late gestation decrease stillborn piglet, increase piglet birth weight and increase immunoglobulin G concentration in colostrum. Theriogenology, 121, 27–34. Roca, J., Parrilla, I., Bolarin, A., Martinez, E. A., & Rodriguez-Martinez, H. (2016). Will AI in pigs become more efficient?. Theriogenology, 86, 187–193. Visalvethaya, W., Tantasuparuk, W., & Techakumphu, M. (2011). The development of a model for artificial insemination by backyard pig farmers in Thailand. Tropical Animal Health and Production, 43, 787-793. วารสารวิจัยเพื่อการพฒั นาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
กระบวนการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน ด้วยพลงั ภาคีเครือข่ายจังหวดั ภูเก็ต บทความวิจยั ศิวพงศ์ ทองเจือ สาขาวิชาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภฏั ภเู ก็ต วนั ที่รับบทความ: อำ�เภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000 11 มกราคม 2562 ผู้เขียนหลกั อีเมล: [email protected] วนั แกไ้ ขบทความ: 5 มนี าคม 2562 วนั ตอบรบั บทความ: 8 มนี าคม 2562 บทคดั ย่อ ขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนนเกิดจากการ วิเคราะห์นโยบายและการวางแผนแบบปรึกษา ง า น วิ จั ย นี้ มี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ เ พื่ อ ศึ ก ษ า หารอื การเกบ็ ขอ้ มลู ทง้ั 3 ฐานขอ้ มลู เพอื่ ประกอบ กระบวนการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน การดำ�เนินการในกิจกรรมต่างๆ ของคณะทำ�งาน ผ่านกระบวนการทำ�งานในระดับจังหวัด การ ทำ�ให้เกิดรูปแบบกระบวนการในการขับเคลื่อน ด�ำ เนินงานแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 1) การประเมิน ความปลอดภัยทางถนนด้วยพลังภาคีเครือข่าย สถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนในจังหวัด ของจังหวัดภูเก็ต ผลวิจัยพบว่ากลไกการ ภเู กต็ 2) การพฒั นารปู แบบการขบั เคลอื่ นและการ เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นใน 2 ลักษณะ ได้แก่ 1) การ ด�ำ เนนิ งานความปลอดภยั ทางถนนในพน้ื ทจ่ี ดุ เสย่ี ง เปลย่ี นแปลงเชงิ นโยบายและแผนในระดบั วสิ ยั ทศั น์ โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบตั ิการแบบมีส่วนร่วม ด้วย ยุทธศาสตร์และมาตรการที่เกี่ยวข้อง เกิดกลไก เทคนิควิธีการประชุมแบบปรึกษาหารือ กลุ่ม ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายจากหน่วยงาน ตวั อยา่ งประกอบดว้ ย 1) คณะกรรมการขบั เคลอื่ น ตา่ งๆ การบรู ณาการแผนงานของแตล่ ะหนว่ ยงาน วอาุบรตั ะิเจหังตหุทวาัดงถ“นนนโจยงั บหาวยัดลภดูเกก็ตารใหสู้ตญ่ำ�เกสวีย่าช5ีวิ0ตจราากย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการลดอุบัติเหตุทางถนน และ 2) การเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ด้านมาตรฐาน ในปี 2563” และ 2) คณะท�ำ งานสนับสนุนการ และคุณภาพความปลอดภัยทางถนน เกิด ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรระดบั จงั หวดั ภเู กต็ (สอจร. โครงการแก้ไขจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพื่อ ภูเก็ต) วิเคราะห์ฐานข้อมูล ดังนี้ 1) ฐานข้อมูล การแก้ปัญหาเชิงพื้นทีด่ ้วยกระบวนการออกแบบ จากสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต 2) ฐานข้อมูลการ ถนนแบบสมบรู ณ์ โดยกระบวนการดงั กลา่ วน�ำ ไป เกิดอุบัติเหตุจากตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ สแู่ ผนในการปฏบิ ตั ิ สง่ ผลใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลง 3) ฐานข้อมูลจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบ ดา้ นกายภาพเปน็ ผลงานเชงิ ประจกั ษแ์ ละสามารถ ภัยจากรถ และตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจาก ชว่ ยลดการเกดิ อบุ ตั เิ หตใุ นพน้ื ทจ่ี ดุ เสย่ี ง สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เพื่อเชื่อมโยงกับ นโยบาย แผนงานโครงการ และการจัดกิจกรรม คำ�ส�ำ คัญ: จังหวดั ภูเก็ต ถนนแบบสมบูรณ์ ความ ด้วยการวิเคราะห์เชิงปริมาณด้านสถิติร่วมกับ ปลอดภัยทางถนน การวิเคราะห์นโยบายแบบ การวิเคราะห์เชิงคณุ ภาพ การพัฒนารูปแบบการ ปรึกษาหารือ อุบตั ิเหตทุ างถนน วารสารวิจยั เพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 หน้า 170-187
Implementation Procedure of Road Safety with Powerful Network in Phuket Province Research Article Siwaphong Thongjua Architectural Technology Program, Faculty of Science and Technology, Phuket Rajabhat University, Received: Muang District, Phuket Province, Thailand 83000 11 January 2019 Corresponding author’s E-mail: [email protected] Revised: 5 March 2019 Accepted: 8 March 2019 Abstract organization activities. For development of road safety campaign via participatory action research This research aims to evaluate road safety approach, triangulation of the three databases campaign through the cooperation at provincial facilitates the operations and activities of road level. The operation is divided into 2 phases: 1) safety campaign cooperation among stakeholders Safety assessment for road conditions in Phuket in Phuket province. Results of the research display province 2) Development of road safety campaign two types of change in mechanisms: 1) Changes and cooperation in accident-prone areas using in policy and plan in the level of vision, strategy participatory action research approach with and related procedures. Such cooperation of consultation conferences. The two groups of associates and various stakeholders from participants include: 1) Provincial committee of different sectors and integration of plan and policy “Reducing road traffic deaths in Phuket to 50 or leads to achievement in reducing road accidents. below by 2020” agenda and 2) Traffic Accident 2) Spatial changes in road safety standards Prevention Working Group in Phuket (Sor Or Jor and quality. A project has emerged to reduce Ror Phuket). Three data analysis tools include: 1) risks in accident-prone areas by redesigning public health database from Phuket Public Health for standard roads. The aforementioned Center 2) road traffic and accident database from procedures lead to practical implementation of Phuket Provincial Police Station and 3) statistical plans and policies which show empirical physical database from Road Accident Victims Protection changes as well as reduction of traffic accidents Company Limited. Additional information from in accident-prone areas. Asian Institute of Technology was employed for further statistical quantitative and qualitative Keywords: Phuket province, Complete street, analysis in order to link the project plans and Road safety, Policy analysis, Road accident Area Based Development Research Journal ===== Vol. 11 No. 2 pp. 170-187
172 ABC JOURNAL บทน�ำ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรสูงเป็นเวลาหลายปี โดยสาเหตุ ส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตมาจากการขับขี่ยานพาหนะ ร้อยละ 91 การเดินเท้า ร้อยละ 5 และการโดยสาร ร้อยละ 4 (สุรางค์ศรี จากการวิจยั ขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าอบุ ตั ิเหตุ ศีตมโนชญ์, 2561) ปัญหาในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากหน่วยงาน บนท้องถนนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตถึงปีละ 1.24 ล้านคน ต่างๆ ขาดการนำ�ข้อมูลมาจัดระบบและใช้ประโยชน์จากข้อมูลใน มมีารกายกไวด่า้ตร่ำ�้อจยนลถะึงป9า0นขกอลงาจงำ�นแลวนะผผูู้้ใเสช้ถียชนีวนิตสเ่วหนลใ่าหนญี้อ่ทยี่มู่ในีคปวราะมเเทสศี่ยทงี่ ภาพรวมของจงั หวัด ไม่มีการรวมตัวเป็นคณะท�ำ งานหรือเครือข่าย ได้แก่ คนเดินเท้าและผู้ใช้จักรยานยนต์ในประเทศกำ�ลังพัฒนา เพื่อบรู ณาการข้อมูลร่วมกนั ดงั นน้ั จงั หวดั ภเู กต็ จงึ ไดม้ กี ารจดั ตง้ั คณะทำ�งานในระดบั พนื้ ที่ (สถาบันวิจยั โลก, 2558) อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุและการเสียชีวิต โดยไดร้ บั การสนบั สนนุ งบประมาณจากส�ำ นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ เกิดจากปัจจัย 3 ด้าน ได้แก่ 1) ปัจจัยจากคน 2) ปัจจัยจากรถ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) ผา่ นคณะท�ำ งานสนบั สนนุ การปอ้ งกนั และ 3) ปัจจยั จากถนนหรือสภาพแวดล้อมทางถนน ซึง่ 2 ปจั จัย อบุ ตั ิเหตจุ ราจรระดับจงั หวดั ภูเกต็ (สอจร.ภูเกต็ ) เพื่อขับเคลือ่ นใน แรกเป็นปัจจัยที่ยากแก่การควบคุม แต่ปัจจัยข้อ 3 เป็นปัจจัยที่ ระดับนโยบายและยุทธศาสตร์ผ่านประสบการณ์ในพื้นที่จริง เพื่อ สามารถควบคุมและทำ�ให้ปลอดภัยได้ ข้อมูลรายงานสถานการณ์ เป็นจังหวัดต้นแบบของการจัดการและการแก้ปัญหาอุบัติเหตุทาง ความปลอดภยั ทางถนนโลกปี 2018 (World Health Organization, ถนน นอกจากนี้คณะกรรมการขับเคลื่อนยังได้รับความช่วยเหลือ 2018) ไดป้ ระมาณการเสยี ชวี ติ จากภยั บนทอ้ งถนนของประเทศไทย ด้านวิชาการและงบสนับสนนุ จาก มลู นิธิ Safer Roads Foundation ปี พ.ศ. 2561 อยู่ที่ 22,491 ราย คิดเป็น 32.7 คนต่อประชากร ประเทศอังกฤษ (The Safer Roads Foundation, 2019) เพือ่ ติดตาม 1 แสนคน ซึ่งตวั เลขดงั กล่าวลดลงจากรายงานในปี พ.ศ. 2558 ที่ ผลการด�ำ เนินงานและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนภายในจังหวัด ประมาณการผู้เสียชีวิต 24,237 ราย คิดเป็น 36.2 คนต่อประชากร ภเู ก็ตให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง 1 แสนคน ประเทศไทยมีอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงสุดเป็นอันดับ อย่างไรก็ตาม การดำ�เนินงานของภาคราชการในการแก้ไข 1 ในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะสัดส่วนการเสียชีวิตจากสาเหตุ ปญั หาอบุ ตั เิ หตบุ นทอ้ งถนนในชว่ งระยะเวลาทผี่ า่ นมาโดยเฉพาะใน การขับขี่รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ระดบั จงั หวดั พบวา่ หนว่ ยงานสว่ นภมู ภิ าคและระดบั องคก์ รปกครอง (เดอะสแตนดาร์ดทีม, 2561) และมีแนวโน้มเปน็ อันดบั 1 ของโลก ส่วนท้องถิ่นไม่ให้ความสำ�คัญในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เท่าที่ควร ท้ังนี้ องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้ปี พ.ศ. 2554 - 2563 เนื่องจากไม่ใช่ภาระงานหลัก และขาดการสนับสนุนด้านวิชาการ (ค.ศ. 2011-2020) เป็นทศวรรษของความปลอดภัยบนท้องถนน จึงทำ�ให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ (กรุงเทพธุรกิจ, 2556) โดยต้ังเป้าหมายคือลดการเสียชีวิตลง นอกจากนีก้ ารบรู ณาการของหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้องกบั อบุ ตั เิ หตทุ าง ครึ่งหนึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้า และในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ถนนในระดบั จงั หวดั ยงั ไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพเทา่ ทคี่ วร และขาดขอ้ มลู ที่ รัฐบาลไทยได้ประกาศให้เป็นทศวรรษความปลอดภัยทางถนน เพียงพอเพื่อวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุของหน่วยงานที่ จโดายกกอำ�ุบหัตนิเดหเตปุท้าาหงมถานยนในใหป้ตี พ่ำ�ก.ศว.่า251603คจนะตต้อ่องปลรดะอชัตารการกา1รเแสสียนชคีวนิต เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางถนน ทำ�ให้จำ�นวนผู้ได้รับบาดเจ็บ และจำ�นวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมีความคลาดเคลื่อน โดยบูรณาการการดำ�เนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งคณะกรรมการ (อำ�นวย บญุ รัตนไมตรี และคณะ, 2560) เพื่อทำ�งานเชิงบูรณาการในระดับพื้นที่ เพื่อบูรณาการด้านข้อมูล จังหวัดภูเก็ต มีอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รว่ มกนั ของหนว่ ยงานภาครฐั ภาคเอกชน ประชาชน และภาควชิ าการ จราจรสูงเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศมาตลอดระยะเวลากว่า จงึ เปน็ ทมี่ าของการสรา้ งกลไกในการขบั เคลอื่ นทมี่ พี ลงั เพอื่ กำ�หนด 10 ปี (ปี พ.ศ. 2540 - 2550) ในปี พ.ศ. 2557 สูงเป็นอนั ดับ 16 ของ วิสัยทัศน์ นโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการ และการนำ�แผนไป ประเทศ และเปน็ อนั ดบั 2 ของภาคใต้ จากการจดั อนั ดบั การเสยี ชวี ติ ปฏิบัติ โดยการผลักดันจากคณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกัน จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนน (สรุ างคศ์ รี ศตี มโนชญ,์ 2557) ระบวุ า่ ระหวา่ ง อุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัดภูเก็ต การประสานความร่วมมือ ปี พ.ศ. 2558-2559 จงั หวดั ภเู กต็ มอี ตั ราการเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตุ กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคส่วนราชการต่างๆ ซึ่ง ทางถนนเฉลยี่ เทา่ กบั 11.67 ต่อประชากร 1 แสนคน (หนว่ ยเฝ้าระวงั ประกอบด้วยคณะกรรมการที่เป็นสหสาขาวิชาชีพที่มีจิตอาสา และสะท้อนสถานการณค์ วามปลอดภยั ทางถนน, 2562) อตั ราการ เข้ารว่ มเปน็ คณะท�ำ งานภายใตแ้ ผนงานฯ เพือ่ ด�ำ เนินภารกิจรว่ มกนั บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร 4,952.55 ต่อประชากร 1 แสนคน จากการวิจัย พบว่ากระบวนการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในปัจจุบัน และเสียชีวิต 72.04 ต่อประชากร 1 แสนคน สถานการณ์การเสีย มีปัญหาดังนี้ 1) การประสานงานระหว่างหน่วยงานส่วนกลางกับ ชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดภูเก็ต มีอัตราการบาดเจ็บ หน่วยงานส่วนท้องถิ่นไม่สอดคล้องกนั 2) ปัญหาพื้นทีท่ บั ซ้อนของ วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 173 หนว่ ยงานหลกั ทรี่ บั ผดิ ชอบ 3) การขาดการวางแผนอยา่ งเปน็ ระบบ กระบวนการทใ่ี ชใ้ นการเปลย่ี นแปลง ของหน่วยงานปฏิบัติการ (ภาวิณี เอี่ยมตระกลู และคณะ, 2555) และการยอมรบั ของชมุ ชนเปา้ หมายดังนั้นการดำ�เนินการวิจัยจึงควรเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมี สว่ นรว่ ม โดยสรา้ งมติ ขิ องการรว่ มกนั เรยี นรสู้ กู่ ารคน้ หาปญั หาและ คิดค้นแนวทางเพือ่ แก้ไขปญั หาซึง่ เปน็ ฉนั ทามติเพือ่ ร่วมสร้างความ รับผิดชอบร่วมกันในภาคส่วนต่างๆ โดยนักวิจัยทำ�หน้าที่เป็นคณะ พื้นที่และขอบเขตการดำ�เนินงานวิจัยเชิงพื้นที่ ประกอบด้วย ท�ำ งานรว่ มกบั ภาคเี ครอื ขา่ ยตา่ งๆทเี่ กยี่ วขอ้ งเพอื่ บรู ณาการแผนงาน 3 อ�ำ เภอ ในจังหวัดภูเกต็ คือ อำ�เภอเมืองภูเกต็ อำ�เภอถลาง และ ต่างๆ ซึง่ เปน็ แนวทางส�ำ คญั ในการด�ำ เนินการเพือ่ ให้เกิดผลกระทบ อำ�เภอกะทู้ และขอบเขตของการดำ�เนินการศึกษาสถานการณ์ ต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นทีไ่ ด้อย่างเปน็ รปู ธรรมในอนาคต อบุ ตั เิ หตทุ างถนนของพื้นทีอ่ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ ใน 3 อ�ำ เภอ เพอื่ น�ำ ไปสกู่ ารพฒั นารปู แบบการขบั เคลอื่ นความปลอดภยั ทางถนน สถานการณ์ที่เป็นอยเู่ ดิม ในพื้นทีจ่ ดุ เสีย่ ง กำ�หนดระยะเวลา 3 ปี ระหว่างเดือนธนั วาคม พ.ศ. 2559 - เดอื นธนั วาคม พ.ศ. 2561 โดยปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความสำ�เรจ็ มีรายละเอียด ดังนี้ ข้อมูลในปี พ.ศ. 2561 (วันที่ 1 มกราคม - 31 กันยายน งานวจิ ยั นใ้ี ชก้ ารวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารแบบมสี ว่ นรว่ ม (Participatory 2561) รายงานสถานการณ์การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนใน action research) โดยใช้เทคนิคการประชุมแบบปรึกษาหารือและ 3 อำ�เภอของจังหวัดภูเก็ต พบว่าอำ�เภอเมืองภูเก็ต มีอัตราการ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นกระบวนการวิเคราะห์ 4 ระดับ (Four เสียชีวิตสงู เป็นอันดบั 1 จ�ำ นวน 51 ราย ร้อยละ 46 รองลงมาคือ levels of policy deliberation) ประกอบดว้ ย 1) การมเี หตผุ ลทสี่ นบั สนนุ อำ�เภอถลาง จำ�นวน 36 ราย ร้อยละ 33 และอำ�เภอกะทู้ จ�ำ นวน การสร้างและพฒั นานโยบายและแผนทีด่ ีควรจะอิงกบั หลกั ฐานเชิง 22 ราย รอ้ ยละ 20 โดยในเขตเทศบาลนครภเู กต็ ขอ้ มลู การบาดเจบ็ ประจกั ษท์ สี่ ามารถพสิ จู นไ์ ด้ (Empirical investigation) 2) การมเี หตผุ ล และเสยี ชวี ติ คอื 1) ผบู้ าดเจบ็ และเสยี ชวี ติ มแี นวโนม้ สงู ขนึ้ 2) เพศชาย สนบั สนนุ การสรา้ งและพฒั นานโยบายและแผนทดี่ คี วรจะสอดคลอ้ ง ประสบอุบัติเหตุมากกว่าเพศหญิง และช่วงอายุที่ประสบอุบัติเหตุ กับเงื่อนไขทีเ่ ฉพาะเจาะจงในบริบท (Contextual validation) 3) การ มากทีส่ ุดคือ วยั รุ่น นักเรียน นักศึกษา อายรุ ะหว่าง 11-20 ปี 3) มีเหตุผลในการก่อร่างสร้างนโยบายและแผนควรจะสอดรับกับค่า ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือช่วงเวลา 15.01-18.00 น. นิยมทางสงั คมที่มีอยู่ (Normative vindication) และ 4) การมีเหตุผล ซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน เลิกเรียนและ รองลงมาคือ 18.01-21.00 น. ทสี่ นบั สนนุ การสรา้ งและพฒั นานโยบายและแผนทดี่ คี วรจะสามารถ 4) ยานพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุดคือรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 94 มีส่วนร่วมสร้างสังคมที่พึงปรารถนาหรือสานฝันสู่สังคมที่ดีที่ผู้คน และ 5) คนเดินเท้าประสบอุบัติเหตุในเขตอำ�เภอเมือง ร้อยละ 4 ฝันถึงได้ (Ideological commitments) (ปิยะพงษ์ บุษบงก์, 2560) และประสบอบุ ตั ิเหตุในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ร้อยละ 3 จ�ำ นวน 56 และใช้แนวคิดการออกแบบถนนแบบสมบูรณ์ (Complete street) ราย โดยเฉลีย่ อาทิตย์ละ 1 ราย (คณะท�ำ งานสนับสนุนการป้องกนั (ศิวพงศ์ ทองเจือ, 2557) โดยมุ่งเน้นในเรื่องความปลอดภัยเป็น อบุ ตั ิเหตจุ ราจรระดับจังหวดั ภเู กต็ , 2558) อันดับแรก และอาศัยการดำ�เนินการมาตรการป้องกันและแก้ไข วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือ เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนตามยุทธศาสตร์ 3E ซึ่งได้แก่ วิศวกรรม ในจังหวัดภูเก็ต โดยมีคณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุ (Engineering) การศกึ ษา (Education) และ การบงั คบั ใช้ (Enforcement) จราจรระดับจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้สร้างกลไกในการขับเคลื่อนการ ใช้ลักษณะการศึกษาวิจัยด้วยการมองกรอบใหญ่ของการพัฒนา ด�ำ เนนิ กจิ กรรมทางวชิ าการอยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื มากกว่าการแยกส่วนเพื่อแก้ปัญหาในจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นการ และการสนับสนุนจาก ศูนย์อำ�นวยการความปลอดภัยทางถนน บูรณาการเพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุแบบองค์รวม เป็นหลักพื้นฐาน (ศปถ.) สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) และมลู นิธิ Safer Roads ของการทำ�งานซึ่งหมายถึงการศึกษาความต้องการใน Foundation ซึ่งได้มุ่งเน้นให้เกิดการสร้างสมดุลร่วมกันระหว่าง ระดับชุมชนและพื้นที่ การเปลี่ยนแนวทางการวางแผนไปสู่ การป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ความปลอดภัยในการจราจร การ กระบวนการออกแบบถนน แบ่งการด�ำ เนินงานออกเป็น 2 ระยะ บูรณาการด้านข้อมูลและสร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานที่ดูแล คือ ระยะที่ 1 การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน รับผิดชอบ การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อให้มีส่วนร่วม ระดบั จงั หวัด และระยะที่ 2 การพัฒนารปู แบบการขับเคลือ่ นและ ในการกำ�หนดทิศทางการสร้างความปลอดภัยทางถนน และการ ด�ำ เนินงานความปลอดภยั ทางถนนในพื้นที่จุดเสี่ยง การด�ำ เนินงาน จัดการเชิงพื้นที่ที่สอดคล้องตามความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น ทั้ง 2 ระยะ ผ่านกลไกการขบั เคลือ่ นด้วยคณะท�ำ งานสนับสนุนการ ผ่านกระบวนการวิจยั เชิงปฏิบตั ิการแบบมีส่วนร่วม ป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัดภูเก็ต โดยน�ำ ข้อมูลจากการ วารสารวิจยั เพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
174 ABC JOURNAL วจิ ยั เชงิ ปรมิ าณและขอ้ มลู ดา้ นสถติ มิ าวเิ คราะห์ น�ำ ไปสกู่ ารวางแผน เป็นหลกั (ตารางที่ 1) ร่วมกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการขับเคลื่อนความปลอดภัยทาง เครื่องมือ เครื่องมือที่ใช้แบ่งเป็น 3 ชุด จาก 3 หน่วยงาน ถนน และก่อให้เกิดการออกแบบพื้นที่เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนใน ได้แก่ สาธารณสขุ จงั หวดั ภเู กต็ ต�ำ รวจภธู รจงั หวดั ภเู กต็ และบริษทั พื้นทีจ่ ุดเสีย่ งต่อไป กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจังหวัดภูเก็ต ตามรายละเอียด แบบฟอร์มการบันทึกข้อมูลผังการชนและการเกิดอุบัติเหตุจังหวัด ระยะที่ 1 การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยทาง ภูเก็ต คือ ชดุ ที่ 1 ฐานข้อมูลจากสาธารณสุขจังหวัดภเู กต็ ชดุ ที่ 2 ถนนระดับจงั หวัด ฐานข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุจากตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และชุดที่ 3 ฐานขอ้ มลู จากบรษิ ทั กลางคมุ้ ครองผปู้ ระสบภยั จากรถ โดยไดร้ บั ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง คือ หน่วยงานส่วนภูมิภาคและองค์กร การตรวจสอบจากคณะท�ำ งานสนบั สนนุ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจร ปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้วิจัยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้วิธีการ ระดบั จังหวัดภูเกต็ หลังจากนั้นน�ำ ข้อมลู ท้ัง 3 ฐาน มาบนั ทึกและ สุ่มเชิงช่วงช้ัน (Stratified random sampling) เริ่มจากการจำ�แนก เปรียบเทียบเพื่อค�ำ นวณค่าสถิติเพื่อใช้ในการสรุปผลในแต่ละด้าน หน่วยงานราชการที่เกีย่ วข้อง ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ท้ังรายต�ำ บลและอ�ำ เภอ 1) คณะกรรมการขบั เคลอื่ นวาระจงั หวดั “นโยบายลดการ สญู เสียชีวิตจากอบุ ัติเหตุทางถนนจังหวดั ภูเกต็ ให้ต่�ำ กว่า 50 ราย ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อนและดำ�เนิน ในปี 2563” ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต (ประธาน งานความปลอดภัยทางถนนในพื้นทีจ่ ดุ เสีย่ ง กรรมการ) รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต (รองประธานกรรมการ) ผู้บังคับการตำ�รวจภูธรจังหวดั ภเู ก็ต (รองประธานกรรมการ) รอง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ภาคีเครือข่าย ได้แก่ คณะทำ�งาน ประธานแผนงานสนบั สนนุ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรระดบั จงั หวดั สนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัดภูเก็ต จำ�นวน ภูเก็ต (สอจร.) ที่ปรึกษา สอจร.ภาคใต้ (ที่ปรึกษา) และผู้เชี่ยวชาญ 11 หน่วยงาน เปน็ แกนหลักในการด�ำ เนินงาน ศึกษาวิจัย วิเคราะห์ ด้านสถาปัตยกรรมผังเมืองและผู้วิจัยเป็นคณะทำ�งาน โดยมี และสังเคราะห์ข้อมูล เพื่อปรึกษาหารือ และแสวงหาความร่วม ส่วนงานในระดับท้องถิ่นและส่วนภมู ิภาคเป็นกรรมการส่วนอืน่ ๆ ที่ มือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนอย่างต่อ เกี่ยวข้อง รวม 48 คน เพือ่ ให้ครอบคลุมกรอบการทำ�งานในระดบั เนื่อง และครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยได้รับการสนับสนุนจาก จังหวัด คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่ 1) ผลักดันความร่วมมือด้าน มูลนิธิ Safer Roads Foundation ในด้านวิชาการและงบประมาณ ความปลอดภัยทางถนนในโครงการแก้ไขจุดเสี่ยง 2) สังเคราะห์ ช่วยเหลือในการดำ�เนินงานลดอุบัติเหตุทางถนน และมีการ ข้อมูลอุบัติเหตุและปัจจัยเสี่ยง 3) ให้ข้อเสนอแนะต่อผู้ว่าราชการ ขับเคลื่อนการดำ�เนินงานความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่จุดเสี่ยง จังหวัดเพื่อให้เกิดการส่ังการ และการกำ�หนดนโยบายจังหวัด อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 - 2559 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 4) นำ�เสนอข้อมลู ความก้าวหน้า ข้อเสนอแนะ ปญั หา และอปุ สรรค เครื่องมือ การวิจัยเชิงปฏิบัติการเกิดจากการวิเคราะห์ ต่อที่ประชมุ จังหวดั ในแต่ละเดือน (สำ�นกั งานจังหวัดภูเกต็ , 2559) ของคณะทำ�งานว่า แผนยุทธศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ตและงานวิจัย 2) คณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจร ที่เกี่ยวข้องทั้งที่อยู่ระหว่างการดำ�เนินการหรือเสร็จสิ้นแล้วนั้น ระดบั จังหวดั ภูเก็ต จ�ำ นวน 11 หน่วยงาน ประกอบด้วย ผู้บงั คับการ ยังขาดการบูรณาการการวางแผนร่วมกันเพื่อเป็นกรอบใหญ่ของ ตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รองผู้บังคับการตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยุทธศาสตร์ในการพัฒนา และนำ�ไปสู่ทิศทางในการพัฒนาส่วน รองประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรใน ย่อยขององค์ประกอบอืน่ ๆ ภายใต้วิสยั ทศั น์ของการเปน็ เมืองน่าอยู่ ระดับจังหวดั (สอจร.) ที่ปรึกษา สอจร.ภาคใต้ ผู้อำ�นวยการแขวง และยงั่ ยนื ปญั หาและผลกระทบทเี่ กดิ จากการพฒั นาเมืองและการ ทางหลวงภูเก็ต หัวหน้าสำ�นักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต คืออุบัติเหตุบนท้องถนนและปัญหาการ จังหวัดภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต ผู้จัดการ จราจรมีแนวโน้มความรนุ แรงเพิม่ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตนุ ี้คณะ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภยั จากรถ จำ�กัด (สาขาภูเกต็ ) นายก ท�ำ งานจงึ มคี วามเหน็ วา่ มคี วามจ�ำ เปน็ ตอ้ งด�ำ เนนิ การศกึ ษาหาขอ้ มลู สโมสรโรตารี่ทุ่งคา ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมผังเมือง นาย เพมิ่ เตมิ รวมทงั้ ตอ้ งเสนอแนะทางเลอื กหรอื แนวทางการพฒั นาอนื่ ๆ แพทยส์ าธารณสขุ จงั หวดั นกั วชิ าการสาธารณสขุ ช�ำ นาญการ (สสจ. ทีส่ อดคล้องต่อสภาวการณ์และปญั หาในปจั จบุ นั ใน 2 ส่วน คือ ภูเก็ต) และเจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ ทั้งนี้ คณะกรรมการ ส่วนที่ 1 การเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณในการขับ ชุดนี้มีหน้าทีร่ ายงานผลการศึกษา วิเคราะห์ สงั เคราะห์ข้อมูล และ เคลื่อนงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยใช้ “ข้อมูล” เป็น ประเมินสถานการณ์ เพื่อแจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ในระดับ ตัวตั้ง ค้นหาปัญหาเพือ่ ด�ำ เนินการแก้ไข ติดตามประเมินผล โดยใช้ จงั หวัดรบั ทราบ โดยการรายงานจากคณะกรรมการฯ สอจร.ภเู กต็ แหล่งข้อมูลที่มีความถูกต้อง ชัดเจน ใกล้เคียงกับปัญหามากที่สุด วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 175 ตารางที่ 1 องค์ประกอบ บทบาทและหน้าที่ ของคณะกรรมการขบั เคลื่อน ท้ัง 2 กลุ่ม คจณาะกกอรุบรัตมิเกหาตรทุ ขาบั งเถคนลนื่อจนังวหาวรดัะภจงัูเกหต็ วใดั ห“้ตน่�ำ โกยวบ่าา5ย0ลดรกายารในสปญู ี 2เส5ีย6ช3ีว”ิต คณะทำ�งานสนบั สนนุ การป้องกนั อุบตั ิเหตจุ ราจรระดบั จังหวัดภเู กต็ (จำ�นวน 48 คน) (จ�ำ นวน 11 หน่วยงาน) ผู้ว่าราชการจงั หวดั ภูเกต็ (ประธานกรรมการ) ผู้บงั คบั การต�ำ รวจภูธรจังหวัดภูเกต็ รองผู้ว่าราชการจังหวดั ภูเกต็ (รองประธานกรรมการ) รองผู้บังคับการตำ�รวจภูธรจังหวดั ภูเกต็ ผู้บงั คับการต�ำ รวจภูธรจงั หวัดภเู ก็ต (รองประธานกรรมการ) รองประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกนั อบุ ตั ิเหตจุ ราจรในระดบั จังหวดั (สอจร.) ทีป่ รึกษา สอจร.ภาคใต้ ผู้อ�ำ นวยการแขวงทางหลวง ภูเกต็ รองประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกนั อบุ ตั ิเหตจุ ราจรในระดับ หวั หน้าส�ำ นักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ภเู กต็ จังหวัดภูเก็ต (สอจร.) ที่ปรึกษา สอจร.ภาคใต้ (ที่ปรึกษา) ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปตั ยกรรมผงั เมือง (ตวั แทนสถาบนั การศึกษา ขนส่งจงั หวัดภูเก็ต มหาวิทยาลยั ราชภฏั ภูเกต็ ) หัวหน้าหน่วยงานส่วนภมู ิภาคที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ แขวงการทางหลวง ท้องถิน่ จงั หวดั ภเู ก็ต ภเู กต็ สำ�นักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั ภเู กต็ ขนส่ง จงั หวัดภูเกต็ สาธารณสุขจังหวดั ภเู ก็ต ผู้จัดการบริษทั กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จ�ำ กัด (สาขาภูเก็ต) สถาบนั การศึกษาในพื้นที่ระดบั มธั ยม และอุดมศึกษา นายกสโมสรโรตารี่ทุ่งคา ผู้เชีย่ วชาญด้านสถาปตั ยกรรมผังเมือง (ตวั แทนสถาบนั การศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเกต็ ) นายแพทย์สาธารณสขุ จงั หวดั องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ทีเ่ กีย่ วข้อง ได้แก่ ท้องถิ่นจงั หวัดภเู ก็ต นักวิชาการสาธารณสุขชำ�นาญการ (สสจ.ภเู กต็ ) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในพื้นที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ บทบาทและหน้าที่ของคณะกรรมการฯ บทบาทและหน้าทีข่ องคณะกรรมการฯ คณะกรรมการชดุ นมี้ หี นา้ ที่ 1) ผลกั ดนั ความรว่ มมอื ดา้ นความปลอดภยั คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่รายงานผล ศึกษาวิเคราะห์และสังเคราะห์ ทางถนนในโครงการแก้ไขจุดเสี่ยง 2) สังเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุและ ข้อมูล และประเมินสถานการณ์ เพื่อแจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ปัจจัยเสี่ยง 3) ให้ข้อเสนอแนะต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้เกิดการ ในระดับจังหวัดรับทราบ โดยการรายงานจากคณะกรรมการฯ สอจร. สงั่ การ และการก�ำ หนดนโยบายจงั หวดั 4) น�ำ เสนอขอ้ มลู ความกา้ วหนา้ ภเู ก็ต เปน็ หลัก ข้อเสนอแนะ ปญั หา และอปุ สรรคต่อที่ประชุมจงั หวัดทกุ เดือน มาช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ ผ่านกระบวนการประชุมอย่างเป็น ในพื้นที่จุดเสีย่ งและพื้นทีร่ บั ผิดชอบของตนเอง นอกจากนี้ยังมีการ ทางการ (ภาพที่ 1) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำ�ทุกเดือนเพื่อดำ�เนินการ ประชุมคณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับ ตามมาตรการต่างๆ ที่เกีย่ วข้องในการป้องกันและลดอบุ ตั ิเหตุทาง จังหวัดภูเก็ต เพือ่ เตรียมข้อมลู น�ำ ประเด็นต่างๆ เข้าสู่การประชุม ถนนอยา่ งจรงิ จงั และตอ่ เนอื่ งตลอดทงั้ ปี การประชมุ คณะกรรมการ คพณูดคะุยกรระรหมวก่าางรภฯาคแีเลคะรปือรขะ่าชยุมออยย่า่างสงไมม่ำ�่เเปส็นมทอางการที่เน้นการพบปะ ขทับางเคถลนื่อนนจวงั หารวะดั จภังูเหกว็ตัดให“้ตน่�ำโยกบว่าาย5ล0ดกราายรสใูญนปเสี 2ีย5ช6ีว3ิต”จาจกะอมุบีกัตาริเหทต�ำ ุ ส่วนที่ 2 การพฒั นารปู แบบการขับเคลื่อนความปลอดภัย รายงานสรุปการประชุมในแต่ละครั้ง สำ�หรับการวิเคราะห์ข้อมูล ทางถนน เริ่มจากผู้วิจัยและรองประธานแผนงานสนับสนุนการ คณะทำ�งานใช้การวิเคราะห์ข้อมลู 3 ฐาน เพื่อท�ำ การวิเคราะห์และ ป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด (สอจร.) ที่ปรึกษา สอจร. รายงานผลพื้นทีจ่ ดุ เสีย่ งต่อการเกิดอบุ ตั ิเหตโุ ดยนำ�มาเปรียบเทียบ ภาคใต้ และผู้กำ�กับการ/หัวหน้างานจราจร สถานีตำ�รวจภูธรใน และตรวจสอบกบั ฐานขอ้ มลู จดั ท�ำ ประเดน็ และสรปุ เพอื่ แจง้ ใหผ้ เู้ ขา้ สังกัดตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีการประชุมร่วมกับหน่วยงาน ประชมุ ในทปี่ ระชมุ รบั ทราบเพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจและความตระหนกั ท้องถิ่น ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามีการดำ�เนินโครงการใน 2 วารสารวิจยั เพือ่ การพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
176 ABC JOURNAL ภาพที่ 1 การประชุมอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการขบั เคลื่อนวาระจงั หวัด “นโยบายลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน จังหวดั ภเู ก็ตให้ต่�ำ กว่า 50 ราย ในปี 2563” หน่วยงาน ได้แก่ เทศบาลนครภูเก็ต และเทศบาลเมืองป่าตอง และพัฒนานโยบายและแผนที่ดีควรจะอิงกับหลักฐานเชิงประจักษ์ เป็นลำ�ดับแรก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อสถานการณ์อุบัติเหตุ ทีส่ ามารถพิสจู น์ได้ 2) การมีเหตุผลสนบั สนนุ การสร้างและพัฒนา ทางถนนและการสร้างความปลอดภัยทางถนน จำ�นวน 3 เรื่อง นโยบายและแผนที่ดีควรจะสอดคล้องกับเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง ได้แก่ การบรรยายเผยแพร่ข้อมูลและให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรม ในบริบท 3) การมีเหตุผลในการก่อร่างสร้างนโยบายและแผนนั้น ดังนี้ 1) สถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนจังหวดั ภเู ก็ต ปี 2558 ควรจะสอดรับกับค่านิยมทางสังคมที่มีอยู่ และ 4) การมีเหตุผล 2) เรือ่ ง “ถนนแบบสมบรู ณ์: การออกแบบถนนสำ�หรบั เมืองน่าอยู่ ที่สนับสนุนการสร้างและพัฒนานโยบายและแผนที่ดีนั้นควรจะ (Complete street design)” และ 3) เรื่อง “การบูรณาการข้อมูล สามารถมสี ว่ นรว่ มสรา้ งสงั คมทพี่ งึ ปรารถนาหรอื สานฝนั สสู่ งั คมทดี่ ี 3 หน่วยงาน หรือข้อมูล 3 ฐาน กบั การแก้ปัญหาอุบตั ิเหตุในพื้นที่ ทผี่ คู้ นฝนั ถงึ ได้ โดยแนวคดิ นจี้ ะใชส้ �ำ หรบั การประชมุ กบั คณะท�ำ งาน จุดเสี่ยง” ท้ังนี้ ในการดำ�เนินการที่ผ่านมาของจังหวัดภูเก็ตจะใช้ สนบั สนนุ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรในระดบั จงั หวดั ภเู กต็ เนอื่ งจาก รปู แบบการพฒั นาระบบข้อมลู ถนนร่วมกบั ภาคีเครือข่ายในจงั หวดั มีรปู แบบไม่เปน็ ทางการและตามความสะดวกของผู้เข้าร่วมประชมุ ประกอบดว้ ย สอจร. ต�ำ รวจ แขวงทางหลวง สาธารณสขุ บรษิ ทั กลาง โดยแจ้งการนัดประชุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในกลุ่ม LINE ชื่อว่า เปน็ แกนหลกั ในการด�ำ เนินการด้านขอ้ มลู และเชือ่ มหนว่ ยงานตา่ งๆ “แกน สอจร.ภูเก็ต” ซึ่งมีการประชุมอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เช่น มูลนิธิกุศลธรรม สโมสรโรตารี่ ประชาสัมพันธ์ สื่อท้องถิ่น เพื่อรายงานผลและติดตามความคืบหน้า และเป็นการเตรียมการ องค์การบริหารส่วนตำ�บล (อบต.) เทศบาล สาขาวิชาเทคโนโลยี รายงานผลตอ่ คณะกรรมการชดุ ใหญ่ คอื คณะกรรมการขบั เคลอื่ น สถาปัตยกรรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย วาระจังหวัด ใ“หน้ตโ่�ำ ยกบวา่าย5ล0ดรกาายรใสนูญปีเ2ส5ีย6ช3ีว”ิตโจดายกรอูปุบแัตบิเบหกตาุทราปงรถะนชุมน ราชภฏั ภเู กต็ และหนว่ ยงานราชการอนื่ ๆ ในการสนบั สนนุ การท�ำ งาน จังหวดั ภูเกต็ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปญั หาอบุ ตั ิเหตทุ างถนน แบบปรกึ ษาหารอื มคี วามยดื หยนุ่ และสรา้ งความรว่ มแรงรว่ มใจกนั ท�ำ งานภายใต้บรรยากาศของความเป็นกันเอง (ภาพที่ 2) ความรหู้ รือความเชี่ยวชาญทีใ่ ช้ แนวคิดกระบวนทัศน์ทศวรรษความปลอดภัยทางถนน แนวคิดการประชุมแบบปรึกษาหารือ/การแลกเปลี่ยน ขององค์กรสหประชาชาติ (2011-2020) เรียนรู้ หลกั การส�ำ คญั ในการก�ำ หนดทศิ ทางของแผนทศวรรษความ ปลอดภยั ทางถนนได้ยึดแนวคิดระบบความปลอดภยั (Safe system กระบวนการวิเคราะห์ 4 ระดับ มีองค์ประกอบ 4 ประการ approach) โดยการปรับเปลี่ยนความรับผิดชอบเดิมของผู้ใช้ถนน (ปิยะพงษ์ บษุ บงก์, 2560) คือ 1) การมีเหตุผลที่สนบั สนุนการสร้าง ไปสู่ผู้รับผิดชอบในการออกแบบระบบ (System designer) ได้แก่ วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 177 ภาพที่ 2 การประชุมแบบปรึกษาหารือเพือ่ วิเคราะห์ฐานข้อมูล ของคณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกนั อบุ ตั ิเหตจุ ราจรระดบั จังหวดั ภเู ก็ต (สอจร.ภูเก็ต) ตำ�รวจ นักการเมือง วิศวกรจราจรและขนส่ง นักกฎหมาย นัก แนวคิดการออกแบบถนนแบบสมบูรณ์ (Complete ออกแบบชมุ ชนเมือง หน่วยงานด้านสาธารณสุข สถาบนั การศึกษา street) องค์กรไม่แสวงหากำ�ไร องค์กรทีไ่ ม่สงั กดั ภาครัฐ (กรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย, 2554) โดยมีหลกั การ 6 ข้อ ได้แก่ 1) พฒั นา หลักการออกแบบถนนแบบสมบูรณ์ให้ความสำ�คัญโดย และนำ�ไปสู่การปฏิบัติของยุทธศาสตร์และแผนงานเพื่อยกระดับ ค�ำ นึงถึงกลุ่มผู้ใช้งาน 4 ประเภท ได้แก่ กลุ่มคนเดินเท้า กลุ่มผู้ใช้ ความปลอดภัยอย่างย่ังยืน 2) ตั้งเป้าหมายที่จะลดอัตราความ จักรยาน กลุ่มผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนโดยเน้นระบบขนส่งมวลชน สญู เสียภายในปี 2020 โดยพิจารณาจากเป้าหมายที่มีอยู่ในแต่ละ สีเขียว และกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ตามล�ำ ดบั สำ�หรับแนวทางการพฒั นา ภูมิภาค 3) สร้างความเข้มแข็งด้านการจัดการเกี่ยวกบั การพัฒนา ถนนแบบสมบรู ณ์ได้คำ�นึงถึงปจั จยั 4 ด้าน ตามหลักการของถนน ศักยภาพในการกำ�หนดแนวทางและกิจกรรมที่จะช่วยยกระดับ แบบสมบูรณ์ และให้ความสำ�คัญกับผลประโยชน์ด้านอื่นๆ ที่ ความปลอดภยั ท้ังในระดับชาติ ภูมิภาค และระดบั โลก 4) ปรบั ปรุง ประชาชนจะได้รบั ได้แก่ 1) ความปลอดภยั /สุขภาพบนท้องถนน 2) คณุ ภาพของการจดั เก็บข้อมลู ในระดับชาติ ภูมิภาค และระดบั โลก ความเท่าเทียมกับทกุ กลุ่มผู้ใช้งาน 3) การเข้าถึงได้โดยง่ายทุกกลุ่ม 5) ติดตามความก้าวหน้าของตัวชี้วัดที่เป็นที่สนใจทั้งในระดับชาติ และ 4) การแบ่งสรรเชื่อมต่อในสิง่ ที่มีอยู่เดิม (ภาพที่ 3) ภมู ิภาค และระดบั โลก 6) ส่งเสริมการเพิม่ ขึ้นของการสนบั สนนุ เงิน การออกแบบถนนแบบสมบูรณ์ในข้ันต้นจึงมุ่งเน้นในเรื่อง ทนุ ดา้ นความปลอดภยั ทางถนน และการใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากร ความปลอดภยั เปน็ อนั ดบั แรก โดยอาศยั หลกั การ 3E ดงั ทไี่ ดก้ ลา่ วมา ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ รวมท้ังผลักดันให้ความปลอดภัยทางถนน มกี ารออกแบบองคก์ รและการเรยี นรจู้ ากความส�ำ เรจ็ ทแี่ สดงถงึ อตั เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการก่อสร้างโครงสร้างถนน ลักษณ์ และการน�ำ แผนไปปฏิบตั ิเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในการ (อำ�นวย บุญรตั นไมตรี และคณะ, 2560) จากแนวคิดดงั กล่าวเป็น ออกแบบถนนให้มีความสมบรู ณ์ ด้วยเทคนิคและวิธีการท�ำ ถนนให้ จุดเริ่มต้นของการประชุมและจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนวาระ ปลอดภัย โดยทั่วไปจะอาศัยพื้นฐานความชำ�นาญด้านวิศวกรรม ภจังูเกห็ตวดั ให“้ตน่ำ�โยกบวา่าย5ล0ดกราารยสใูญนปเสี ีย2ช5ีว6ิต3จ”าแกนอวบุ คตั ิดิเหนตี้นทุ ำ�าไปงถสนู่กนารจจงั หัดวตดั้ัง จราจร การพินิจพิจารณา รวมถึงการเปลีย่ นแปลงรูปโฉมใหม่ เช่น การให้คำ�แนะนำ�ในการเลี้ยว และระยะเวลาของการมองเห็นป้าย รปู แบบคณะกรรมการท�ำ งานชดุ เลก็ คือ คณะท�ำ งานสนบั สนนุ การ สญั ญาณจราจร และเทคนคิ การปฏบิ ตั ทิ สี่ ามารถเขา้ ใจไดอ้ ยา่ งเปน็ ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรระดบั จงั หวดั ภเู กต็ เพอื่ เปน็ คณะท�ำ งานหลกั ธรรมชาติ อยา่ งไรกต็ ามกญุ แจส�ำ คญั ดา้ นแนวคดิ การออกแบบถนน ในการประสานงานดา้ นยทุ ธศาสตร์ แผนงานและการดำ�เนนิ งานเชงิ ให้ปลอดภัย มี 5 ประการ (ศิวพงศ์ ทองเจือ, 2557) ได้แก่ พื้นที่นำ�ไปสู่การปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนนอย่าง 1) การท�ำ ถนนใหง้ ่ายต่อการใช้งานส�ำ หรบั ผูใ้ ช้ (Make the ยั่งยืนตามเป้าหมาย street easy to use) ความตอ้ งการขน้ั พืน้ ฐานทหี่ ลากหลายของผคู้ น วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
178 ABC JOURNAL ในเมือง คือ การขบั รถ การเดนิ และการปนั่ จกั รยาน เพือ่ เปน็ การลด นครภูเก็ต เพื่อดำ�เนินการออกแบบวงเวียนบริเวณแยกสะพานหิน ความเสยี่ งดา้ นอบุ ตั เิ หตจุ �ำ เปน็ ตอ้ งมเี งอื่ นไขในแนวทางทวี่ า่ จะตอ้ ง และบริเวณต่อเนื่อง โดยนำ�ผลงานที่ได้ออกแบบมาร่วมพิจารณา สรา้ งตวั อยา่ งของการขบั เคลอื่ นการจราจรตลอดเสน้ ทางของถนนที่ กบั คณะทำ�งาน จากน้ันน�ำ เสนอต่อนายกเทศมนตรีนครภเู ก็ต เพื่อ เปน็ โครงข่ายให้เชื่อมต่อกนั พจิ ารณาความเหมาะสมและการจดั หางบประมาณในการกอ่ สรา้ ง 2) การสร้างสรรค์ความปลอดภัยด้วยหมายเลข (Create ในข้ันตอนต่อไป (ภาพที่ 4) safety in number) การทำ�ให้ผู้ใช้ถนนได้รับการป้องกันจากการ บาดเจ็บ เช่น มีทางเดินเท้าและทางป่ันจักรยานที่ชัดเจนสามารถ มองเห็นได้ โดยหลักการออกแบบลำ�ดับของการจัดวาง จะต้อง ประยุกต์ใช้แนวทางของการออกแบบระยะสัญญาณจราจร และ ป้ายแสดงการลดการขับขีด่ ้วยความเรว็ ที่สงู เกินไป 3) การท�ำ สิ่งทีม่ องไม่เหน็ ให้มองเห็น (Make the invisible visible) การท�ำ ให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ง่ายรวมถึงองค์ ประกอบของป้ายและสัญญาณจราจร สัญลักษณ์ต่างๆ บนถนน เป็นต้น 4) การเลือกคุณภาพมากกว่าปริมาณ (Choose quality over quantity) ถนนและสี่แยกควรออกแบบตามลักษณะของรูป ทรงเรขาคณิต และออกแบบตามหลักการความสำ�คัญตามล�ำ ดบั 5) การมองภาพใหญ่มากกว่าส่วนย่อยหรือมองเฉพาะ จุดเล็กๆ ทีม่ ีปัญหา (Look beyond the (immediate) problem) การ ขยายขอบเขตของพื้นที่เป้าหมาย เพือ่ หาวิธีแก้ไขเชิงพื้นทีข่ องพื้นที่ ที่ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ ทั้งนี้ ผู้วิจยั ซึง่ เปน็ คณะกรรมการขับเคลือ่ นท้ัง 2 ชดุ ในฐานะ ผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมผังเมือง ภายหลังได้รับข้อมูลของ ภาพที่ 3 แนวคิดถนนแบบสมบูรณ์และเครือข่ายพันธมิตร พื้นทีจ่ ดุ เสีย่ ง ได้ดำ�เนินการเลือกพื้นทีท่ ีม่ ีความเสีย่ งในเขตเทศบาล (ที่มา: ศิวพงศ์ ทองเจือ, 2557) ภาพที่ 4 การประชมุ น�ำ เสนอแนวคิดการออกแบบวงเวียนในพื้นที่จดุ เสีย่ ง ของคณะท�ำ งานสนบั สนนุ การป้องกันอบุ ัติเหตุจราจร ระดับจงั หวดั ภเู กต็ (สอจร.ภูเก็ต) ตามหลกั การออกแบบถนนแบบสมบรู ณ์ วารสารวิจยั เพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 179 สถานการณใ์ หม่ ผลวเิ คราะหก์ ารประเมนิ สถานการณค์ วามปลอดภยั ทาง ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ ถนนในจังหวดั ภูเก็ต สถานการณ์การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน จงั หวัดภเู กต็ ปี พ.ศ. 2558 อ�ำ เภอเมืองภเู กต็ มีผู้บาดเจบ็ 5,323 ผลการวิจัยของระยะที่ 1 การประเมินสถานการณ์ความ ราย เสียชีวิต 52 ราย อ�ำ เภอกะทู้ มีผู้บาดเจบ็ 910 ราย เสียชีวิต ปลอดภยั ทางถนนระดบั จงั หวดั และระยะที่ 2 การพฒั นารปู แบบ 28 ราย อ�ำ เภอถลาง มีผู้บาดเจบ็ 508 ราย เสียชีวิต 57 ราย รวม การขับเคลื่อนและการดำ�เนินงานความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ ผู้บาดเจ็บ 6,741 ผู้เสียชีวิต 137 ราย สรปุ ว่า อ�ำ เภอเมืองภเู ก็ต มี จดุ เสี่ยง ก่อให้เกิดสถานการณ์ใหม่ที่เปลีย่ นแปลงไปจากเดิม ดงั นี้ อัตราผู้บาดเจ็บสูงเป็นอันดับ 1 ของการบาดเจ็บทั้งจังหวัดภูเก็ต 1) การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและแผนในระดับของ คิดเปน็ ร้อยละ 79 และเสียชีวิตสงู เป็นอนั ดบั 2 คิดเป็นร้อยละ 37 วิสยั ทัศน์ ยทุ ธศาสตร์ และมาตรการที่เกี่ยวขอ้ ง รองจากอำ�เภอถลาง หากพิจารณาการบาดเจ็บและเสียชีวิตราย คณะกรรมการขับเคลื่อนวาระจังหวัด “นโยบายลดการ ต�ำ บล เขตเทศบาลนครภูเก็ต ซึง่ ครอบคลมุ พื้นทีต่ ำ�บลตลาดเหนือ สูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดภูเก็ตให้ตำ�่ กว่า 50 ราย และตลาดใหญ่ การบาดเจบ็ สูงสดุ เป็นอันดบั 1 จ�ำ นวน 1,543 ราย ในปี 2563” จำ�นวน 48 คน ทีแ่ ต่งต้ังโดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเกต็ (ร้อยละ 30 ในอ�ำ เภอเมืองภูเกต็ ) และเสียชีวิต จ�ำ นวน 8 ราย สูง ซึง่ เปน็ ประธานในกระบวนการขบั เคลือ่ นความปลอดภยั ทางถนนที่ เป็นอันดับ 2 รองจากตำ�บลรษั ฎา ทีม่ ีผู้เสียชีวิต จ�ำ นวน 12 ราย เปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ เช่น มูลนิธิกุศลธรรม สโมสรโรตารี่ จากการรวบรวมข้อมูลการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้ข้อมูล 3 ประชาสัมพันธ์ สื่อท้องถิน่ อบต. เทศบาล เข้ามามีส่วนร่วมในการ ฐาน ได้แก่ 1) ฐานข้อมูลจากสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต 2) ข้อมูล แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ก่อให้เกิดความตระหนักรู้ถึงต้นตอ การเกิดอุบัติเหตุจากตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ 3) ฐานข้อมูล และปัญหาของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และเกิดความเข้มแข็ง จากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พบว่า ในปี พ.ศ. ของคณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด 2558 จงั หวดั ภเู ก็ตมีผู้เสียชีวิตจากอบุ ัติเหตุทางถนน 147 ราย ในปี ภูเก็ต (สอจร.ภูเก็ต) ภาคีเครือข่ายในพื้นที่เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหา พ.ศ. 2559 143 ราย และในปี พ.ศ. 2560 185 ราย ซึง่ ผู้เสียชีวิตมี และผลักดันให้แต่ละด้านสำ�เร็จเป็นรูปธรรมตามความเชี่ยวชาญที่ แนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2558-2560 คณะทำ�งานจึงทำ�การ มีอยู่ในแต่ละบคุ คล ก่อให้เกิดโครงการทีป่ ระสบความสำ�เร็จ คณะ ประเมินวิเคราะห์และสังเคราะห์ โดยแยกตามเพศ พบว่า ปี พ.ศ. กรรมการชุดนี้มีหน้าที่ 1) ผลักดันความร่วมมือกับมูลนิธิ Safer 2558 ผู้เสียชีวิตเปน็ เพศชาย 112 คน หญิง 34 คน ปี พ.ศ. 2559 Roads Foundation ในโครงการแก้ไขจุดเสี่ยง Red light camera เป็นเพศชาย 120 คน หญิง 23 คน ปี พ.ศ. 2560 มีผู้เสียชีวิตเปน็ และทางข้ามปลอดภัย 100 จุด ท่ัวเกาะภูเก็ต 2) แก้ไขถนนที่มี ชาย 124 คน หญิง 43 คน แยกตามช่วงอายุ พบว่า ผู้เสียชีวิตอายุ ความเสี่ยงสูงตามการประเมินของ IRAP ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับ ระหว่าง 14-20 ปี มากที่สุด รองลงมา อายุระหว่าง 20-24 ปี และ ได้ (อย่างน้อย 3 ดาว) ภายในปี พ.ศ. 2563 3) ผลกั ดันโครงการใช้ อายรุ ะหวา่ ง 30-34 ปี แยกตามประเภทพาหนะ พบวา่ จกั รยานยนต์ เทคโนโลยีในการบงั คับใช้กฎหมายทวั่ ท้ังเกาะภายในปี พ.ศ. 2560 มากทสี่ ดุ นอกจากนี้ หากมองในระดบั ประเทศ พบวา่ เดอื นธนั วาคม (Helmet/Speed/Red light/False lane) 4) สังเคราะห์ข้อมูลอบุ ัติเหตุ มผี เู้ สยี ชวี ติ มากทสี่ ดุ รองลงมาเปน็ เดอื นมกราคม และเดอื นมนี าคม ในแง่ของข้อมูลระบาดวิทยาและปัจจัยเสี่ยง 5) ให้ข้อเสนอแนะวิธี ตามล�ำ ดับ (กรมควบคุมโรค สำ�นกั โรคไม่ติดต่อ, 2562) การแก้ไขปัญหาต่อผู้ว่าราชการจงั หวดั เพื่อให้เกิดการสง่ั การ และ ต่อมาคณะทำ�งานได้ประชุมอย่างเป็นทางการเพื่อกำ�หนด การกำ�หนดนโยบายจงั หวดั และ 6) น�ำ เสนอข้อมูล ความก้าวหน้า ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติของคณะทำ�งานสนับสนุน ข้อเสนอแนะและปัญหาอุปสรรคต่อที่ประชุมกรรมการจังหวัด การป้องกันอบุ ตั ิเหตุจราจรระดับจงั หวดั ภเู ก็ต (สอจร.ภเู ก็ต) ใน 5 ทุกเดือน (คณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับ องค์ประกอบ (ภาพที่ 5) คือ 1) การสร้างมาตรการองค์กร 2) การ จังหวดั ภูเกต็ , 2559ก) ดงั น้ันการรับทราบบทบาทและข่าวสารของ กำ�หนดนโยบาย 3) การพฒั นาระบบข้อมลู 4) การประชาสมั พันธ์ ผมู้ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งในพืน้ ทเี่ พอื่ สรา้ งความเขา้ ใจและความตระหนกั จงึ สื่อสาธารณะ และ 5) การพัฒนาภาคีเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อน เปน็ สิง่ ที่ส�ำ คญั ในการดำ�เนินงาน การบริหารจัดการตามยุทธศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพและมีความ คล่องตัว วารสารวิจยั เพื่อการพฒั นาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
180 ABC JOURNAL ภาพที่ 5 การกำ�หนดยทุ ธศาสตร์การขบั เคลื่อนสู่การปฏิบัติ ของคณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกนั อุบัติเหตุจราจรระดับจังหวดั ภเู กต็ (สอจร.ภูเกต็ ) (ทีม่ า: คณะทำ�งานสนับสนนุ การป้องกนั อบุ ตั ิเหตจุ ราจรระดับจังหวัดภูเก็ต, 2558) ผลการศึกษาความปลอดภัยทางถนนระดับอำ�เภอแยก เวลาเลิกงาน เลิกเรียน รองลงมา คือ ช่วงเวลา 18.04-21.00 น. รายต�ำ บลในจงั หวดั ภูเกต็ ยานพาหนะที่เกิดเหตุ คือรถจกั รยานยนต์ ร้อยละ 94 คนเดินเท้า ประสบอุบัติเหตุในเขตอำ�เภอเมือง ร้อยละ 4 ผู้ประสบเหตุในเขต ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การบาดเจ็บและเสียชีวิตจาก เทศบาลนครภูเก็ต ร้อยละ 3 ซึ่งในเขตเทศบาลมีจำ�นวนสูงถึง อบุ ตั เิ หตทุ างถนน จงั หวดั ภเู กต็ ปี พ.ศ. 2558 จ�ำ นวนผบู้ าดเจบ็ แยก 56 ราย เฉลีย่ สปั ดาห์ละ 1 ราย 4) อตั ราการดืม่ แอลกอฮอล์ของ รายอ�ำ เภอ ดังตารางที่ 2 เมื่อพิจารณาจากข้อมูล 3 ฐาน ในพื้นที่ ผู้บาดเจบ็ เฉลี่ยร้อยละ 9 5) อตั ราการสวมหมวกนิรภยั ของผู้บาด 3 อำ�เภอ แยกรายตำ�บล และจัดลำ�ดับผู้บาดเจ็บจากมากที่สุดถึง เเจก็บิดจเาฉกลพีย่ ารห้อยนละละ้ม3ค5วแ่�ำ ลระ้อ6ย)ลสะา4เ0หตขุ องการบาดเจ็บจากอบุ ตั ิเหตุ น้อยทีส่ ดุ ใน 5 อันดับ ได้แก่ ตลาดใหญ่ 1,190 ราย วิชิต 1,162 ราย รัษฎา 1,036 ราย กะทู้ 729 ราย และฉลอง 657 ราย จำ�นวนผู้เสีย ชีวิตจากมากที่สุดไปถึงน้อยที่สุดใน 5 อันดับ ได้แก่ เทพกระษัตรี ปจั จยั ทเี่ ปน็ แนวทางในการขบั เคลอื่ นความปลอดภยั ทาง 16 ราย ไม้ขาว 16 ราย ป่าตอง 14 ราย รษั ฎา 16 ราย และวิชิต 10 ถนนในจงั หวัดภเู กต็ ราย (คณะท�ำ งานสนบั สนนุ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรระดบั จงั หวดั ภเู กต็ , 2559ค) 1. ผทู้ มี่ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งตระหนกั ถงึ ปญั หา คณะกรรมการ ผลการวิจัยพบว่า ข้อมูลความปลอดภัยทางถนนที่น่าสนใจ ขับเคลื่อนวาระจังหวัด ใ“หน้ตโ่ำ�ยกบวา่ายล5ด0การราสยูญในเปสี ีย2ช5ีว6ิต3จ”ากซอึ่งุบมัตีคิเณหตะุ มีดังนี้ 1) ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี เนื่องจาก ทางถนนจังหวัดภูเก็ต หนว่ ยงานตา่ งๆ ขาดมาตรการในการลดอบุ ตั เิ หตใุ นพนื้ ทรี่ บั ผดิ ชอบ กรรมการฯ ทั้งหมด 48 คน ตระหนักถึงปัญหาและรับทราบจาก ของตนเองอย่างจริงจัง ขาดการบูรณาการข้อมูลด้านอุบัติเหตุ คณะท�ำ งานสนบั สนนุ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรระดบั จงั หวดั ภเู กต็ ร่วมกนั 2) สัดส่วนเพศชายประสบอุบตั ิเหตุมากกว่าเพศหญิง โดย (สอจร.ภูเก็ต) ถึงรายงานผลข้อมูลที่เป็นวาระสำ�คัญ เพื่อให้คณะ ช่วงอายุที่ประสบอุบัติเหตุมากที่สุดคือ ช่วงวัยรุ่นและนักเรียน กรรมการขบั เคลือ่ นวาระจงั หวัดฯ รับทราบและน�ำ ข้อมลู ไปด�ำ เนิน นักศึกษา อายุระหว่าง 11-20 ปี คิดเป็นร้อยละ 37 ของทั้งหมด ตกดาิ รตแากม้ไตขรใวนจพสื้นอทบี่รกับาผริดดช�ำ อเนบนิ ขกอางรตในนเพอืน้ งทโอี่ ดยยา่ มงีกสามร�่ำ แเสจม้งขอ่าจวาสกาขรอ้แมลลูะ รองลงมาเป็นวยั รุ่นตอนปลาย และวัยทำ�งาน ร้อยละ 24 3) ช่วง เวลาที่เกิดเหตุมากที่สุด คือช่วงเวลา 15.01-18.00 น. ซึ่งเป็น ทีไ่ ด้รับการวิเคราะห์และสงั เคราะห์ในพื้นที่นั้นๆ วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 181 ตารางที่ 2 ข้อมลู สถานการณ์การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอบุ ตั ิเหตุทางถนน จงั หวัดภเู กต็ ปี พ.ศ. 2558 อำ�เภอเมืองภเู กต็ อำ�เภอถลาง อำ�เภอกะทู้ จ�ำ นวนผู้บาดเจ็บ 5,323 ราย จำ�นวนผู้บาดเจ็บ 910 ราย จ�ำ นวนผู้บาดเจบ็ 508 ราย จ�ำ นวนผู้เสียชีวิต 28 ราย จ�ำ นวนผู้เสียชีวิต 57 ราย จำ�นวนผู้เสียชีวิต 52 ราย ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจบ็ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจบ็ ผู้เสียชีวิต กะทู้ 10 ราย ตลาดใหญ่ 1,196 ราย ตลาดใหญ่ 5 ราย เทพกระษัตรี 116 ราย เทพกระษัตรี 16 ราย กะทู้ 729 ราย ป่าตอง 14 ราย ตลาดเหนือ 341 ราย ตลาดเหนือ 3 ราย ศรีสุนทร 131 ราย ศรีสนุ ทร 8 ราย ป่าตอง 149 ราย กมลา 4 ราย เกาะแก้ว 267 ราย เกาะแก้ว 1 ราย เชิงทะเล 83 ราย เชิงทะเล 10 ราย กมลา 15 ราย ทุ่งทอง ไม่มีผู้เสียชีวิต รษั ฎา 1,036 ราย รัษฎา 12 ราย ป่าคลอก 64 ราย ป่าคลอก 3 ราย ทุ่งทอง 17 ราย วิชิต 1,162 ราย วิชิต 10 ราย ไม้ขาว 75 ราย ไม้ขาว 16 ราย กะทู้ 729 ราย ฉลอง 657 ราย ฉลอง 9 ราย สาคู 38 ราย สาคู 4 ราย ราไวย์ 397 ราย ราไวย์ 4 ราย บางเทา 1 ราย บางเทา ไม่มีผู้เสียชีวิต กะรน 236 ราย กะรน 7 ราย ไม่ระบุ 36 ราย ไม่ระบุ 1 ราย (ที่มา: คณะท�ำ งานสนับสนุนการป้องกนั อบุ ตั ิเหตุจราจรระดบั จงั หวดั ภูเก็ต, 2559ก) 2. การบริหารจัดการข้อมูล ผลจากการประชุมสรุป การดำ�เนินการและแสวงหาความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วน คณะทำ�งานด้านข้อมูล คร้ังที่ 2/2559 ตามคำ�ส่ังคณะกรรมการ ท้องถิ่น (อปท.) และภาคเอกชน อย่างต่อเนือ่ งในการขบั เคลือ่ นงาน ขทับางเคถลนื่อนนจวงั หารวะัดจภังเู หกว็ตัดให“น้ตโ่ำ�ยกบวา่าย5ล0ดกราารยสูญในเปสีีย2ช5ีว6ิต3จ”ากสอรุบปุ ัตไดิเห้ ต2ุ ป้องกนั และลดอบุ ตั ิเหตุทางถนน โดยใช้ “ข้อมูล” เปน็ ตัวต้ัง ค้นพบ ปัญหา-ดำ�เนินการแก้ไข ติดตามประเมินผล โดยอาศัยข้อมูล ประเดน็ ไดแ้ ก่ 1) การเกบ็ ขอ้ มลู สถติ กิ ารเกดิ อบุ ตั เิ หตใุ นแตล่ ะอ�ำ เภอ จากแหล่งข้อมูลที่มีความถูกต้อง ชัดเจน ใกล้เคียงความเป็นจริง ซงึ่ เปน็ การเกบ็ ข้อมลู เพือ่ ประเมินก่อน และหลงั ด�ำ เนินการจรงิ โดย ของปัญหามากที่สุด มาช่วยในการสนับสนุนการตัดสินใจผ่าน กเนา้นรกกราะรจเกา็บยจข�ำ้อนมวูลนตราถมแเตงล่ื่อะนปไรขะดเังภนที้ ไตม้ตอ่ �ง่ำ เกปว็นา่ ช3่ว0งคเวนั ลแาลเดะียหวว้ กงเันวลมาี กระบวนการประชุมรูปแบบอย่างเป็นทางการ ผ่านคณะกรรมการ พัฒนาระบบข้อมูลจังหวัดภูเก็ต มีการประชุมโดยนำ�กรณีศึกษา สามารถขยายได้หากจำ�นวนที่สุ่มวัดไม่ครบ และ 2) การกำ�หนด การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมาวิเคราะห์หาสาเหตุ แนวทาง จุดเสี่ยงการเชื่อมโยงข้อมูลตามแบบฟอร์มผังบันทึกการชนการ แก้ไข และติดตามประเมินผล เปน็ ประจ�ำ ทุกเดือนผ่านการประชุม เกิดอุบัติเหตุให้ตรงกันระหว่างข้อมูลจากสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จคาณกะอกุบรัตริเมหกตาุทราขงบั ถเนคนลจือ่ ังนหววาัดระภจูเกงั หต็ วใดั ห“้ตน่�ำ โกยวบ่าาย5ล0ดรกาายรใสนญู ปเี ส2ีย5ช6ีว3ิต” ข้อมลู การเกิดอบุ ตั ิเหตจุ ากต�ำ รวจภธู รจงั หวดั ภเู กต็ และข้อมลู จาก บรษิ ทั กลางคมุ้ ครองผปู้ ระสบภยั จากรถ เพอื่ ใชใ้ นการบรหิ ารจดั การ เมสีรียอชงีวผิตู้วให่าร้ตา่�ำ ชกกว่าาร5จ0ังหราวยัดเมปีก็นาปรประระธชามุนคผณลักะทด�ำันงนานโยสบนาับยสลนดุนกกาารร พื้นทีจ่ ุดเสีย่ งของการเกิดอบุ ตั ิเหตุ โดยนำ�ข้อมูลไปวิเคราะห์สาเหตุ ของการเกิดอบุ ตั ิเหตุ และนำ�ไปใช้ตามหลักการออกแบบถนนแบบ ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรระดบั จงั หวดั ภเู กต็ (สอจร.ภเู กต็ ) เพอื่ เตรยี ม สมบรู ณ์ (Complete street) ในพื้นที่จุดเสีย่ ง โดยแบ่งประเภทงาน ข้อมูล นำ�ประเด็นต่างๆ เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ และภารกจิ ตามหลกั การดา้ นความปลอดภยั ทางถนนภายใตแ้ นวคดิ แภลาคะกีเคารรือปขร่าะยชอุมยแ่าบงบสปมร่ำ�ึกเสษมาหอาแรืลอะทจาี่เนก้นกกาารรปพระบสปาะนพงูดาคนุยขรอะงหควณ่าะง การออกแบบถนนแบบสมบรู ณ์ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านวิศวกรรม ด้าน การศึกษา และด้านการบังคบั ใช้ (ภาพที่ 6) ทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัดภูเก็ต 3. การมสี ว่ นรว่ มของภาคเี ครอื ขา่ ย การขบั เคลอื่ นงาน (สอจร.ภูเก็ต) ในแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจร ของจังหวัดภูเก็ตใช้รูปแบบภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย ตำ�รวจ (สอจร.) เพื่อรายงานต่อ มูลนิธิ Safer Roads Foundation โดยมี แขวงทางหลวง สาธารณสขุ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) Mr. Michael C Woodford เปน็ ประธานมลู นิธิฯ และได้มองเหน็ ความ บริษัทกลางฯ และคณะกรรมการ สอจร.ภูเก็ต เป็นแกนหลักใน พยายามและความมุ่งม่ันตั้งใจในการดำ�เนินงานป้องกันและลด วารสารวิจัยเพื่อการพฒั นาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
182 ABC JOURNAL ภาพที่ 6 ข้ันตอนกระบวนการทำ�งานของคณะทำ�งานสนบั สนนุ การป้องกันอบุ ัติเหตุจราจรระดบั จังหวดั ภเู ก็ต (สอจร.ภเู กต็ ) อบุ ตั เิ หตขุ องจงั หวดั ภเู กต็ จงึ แสดงเจตนารมณบ์ รจิ าคเงนิ ชว่ ยเหลอื การสรา้ งความเขม้ แข็งให้กบั ภาคีเครือข่าย งานด้านอุบัติเหตุ เพื่อให้การด�ำ เนินงานมีความต่อเนื่องและท�ำ ให้ ภาคีเครือข่ายสามารถด�ำ เนินโครงการต่างๆ ได้ต่อไป เปน็ ประเดน็ ทผี่ วู้ จิ ยั เหน็ ถงึ ความส�ำ คญั รว่ มกนั วา่ จะกอ่ ใหเ้ กดิ กลไกในการสร้างความปลอดภยั ทางถนนและผลกั ดนั ไปสู่นโยบาย 2) การเปลยี่ นแปลงเชงิ พนื้ ทดี่ า้ นมาตรฐานและคณุ ภาพ ถนนปลอดภัยในท้องถิ่น เนื่องจากชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้ได้รับผล ความปลอดภยั ทางถนน กระทบท้ังทางตรงและทางอ้อมจากการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่เกิด การแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนวาระจังหวัด ใ“หน้ตโย่ำ�บกาวย่า จากการพฒั นาเมืองและการท่องเทีย่ วของจงั หวดั ภเู กต็ นอกจากนี้ ลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดภูเก็ต ยังพบว่า คนในชุมชนไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผน 50 ราย ในปี 2563” และคณะทำ�งานสนบั สนนุ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตุ หรอื ก�ำ หนดทศิ ทางการพฒั นาไดเ้ ตม็ ที่ เนอื่ งจากการพฒั นาทเี่ ขา้ มา จราจรระดับจังหวัดภูเก็ต (สอจร.ภูเก็ต) ทำ�ให้เกิดการกำ�หนด ในจังหวัดภูเก็ตนั้นเกือบท้ังหมดเป็นนโยบายหรือแผนงานที่มาจาก นโยบายและแนวทางสำ�คัญร่วมกันในการจัดทำ�ข้อมูลตามคำ� ส่วนกลางหรือจังหวดั ซึง่ ในปจั จุบนั องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ จะ แนะน�ำ ดังนี้ มีอำ�นาจและงบประมาณในการดูแลจัดการพื้นที่ แต่อ�ำ นาจหน้าที่ วารสารวิจยั เพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 183 ตามกฎหมายที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีนั้นส่วนใหญ่เปน็ เรือ่ ง ในปี 2563” และคณะทำ�งานสนบั สนุนการป้องกันอบุ ัติเหตุจราจร ของการจดั การบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน ขณะทีก่ ารพฒั นาทาง ระดับจงั หวัดภูเกต็ ในฐานะผู้เชีย่ วชาญด้านสถาปัตยกรรมผังเมือง เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตที่มีอยู่นั้น เป็นนโยบาย ได้บูรณาการการเรียนการสอนกับรายวิชา 8365211 การวางผัง ระดับจังหวัดที่เกินขอบเขตอำ�นาจหน้าที่ งบประมาณและกำ�ลัง บริเวณและการออกแบบภูมิทัศน์ โดยมีนักศึกษาช้ันปีที่ 2 สาขา ความสามารถที่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัด วิชาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภูเกต็ จะดแู ลรบั ผิดชอบได้ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ภเู กต็ และไดส้ อนปฏบิ ตั กิ ารโครงการออกแบบ ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดภาคีเครือข่ายที่เกิดจากหน่วยงานต่างๆ ถนนแบบสมบรู ณใ์ นพนื้ ทศี่ กึ ษาจรงิ จากขอ้ มลู จดุ เสยี่ งทไี่ ดว้ เิ คราะห์ ภายในจงั หวดั ภเู กต็ ทมี่ คี วามเกยี่ วขอ้ งจากหลากหลายสาขาวชิ าชพี จากคณะท�ำ งานฯ มาด�ำ เนนิ การออกแบบ และน�ำ ผลงานทอี่ อกแบบ เข้ามาร่วมเป็นจิตอาสา โดยใช้ความรู้ความสามารถในแต่ละสาขา นำ�เสนอต่อคณะทำ�งานฯ อีกครั้ง จากนั้นคณะทำ�งานจึงเข้าร่วม เพื่อรวมตัวกันวางแผนแบบปรึกษาหารือ ให้มีการแลกเปลี่ยน การสรา้ งกลไกในการขบั เคลอื่ นโดยเสนอผลงานออกแบบตอ่ นายก เรียนรู้ข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์ของการพัฒนาเมืองที่เกิด เทศมนตรนี ครภเู กต็ เมอื่ วนั ที่ 22 ธนั วาคม พ.ศ. 2559 เพอื่ พจิ ารณา ขนึ้ จากผลกระทบดา้ นการทอ่ งเทยี่ วและผลกระทบทตี่ ามมาระหวา่ ง ความเหมาะสมและดำ�เนนิ การจดั หางบประมาณในการกอ่ สร้างใน ชุมชนท้องถิน่ ด้วยกนั เพือ่ ท�ำ ให้ชมุ ชนท้องถิ่นได้ตระหนกั และเข้าใจ อนาคต (ภาพที่ 8-9) นอกจากบริเวณพื้นทีจ่ ุดเสี่ยงดังกล่าว ผู้วิจัย ตรงกนั ถงึ สภาพปญั หาและวธิ กี ารแกไ้ ขทเี่ กดิ ขนึ้ รวมถงึ องคค์ วามรู้ ได้ออกแบบทางข้ามบริเวณหน้าโรงพยาบาลถลาง อำ�เภอถลาง ที่ได้รับในเชิงวิชาการ เพื่อนำ�ไปสู่ความร่วมมือกันระหว่างชุมชน จังหวัดภเู ก็ต ซึง่ เปน็ พื้นทีจ่ ดุ เสีย่ งอีกบริเวณ (ภาพที่ 10) ภาครัฐ และท้องถิ่น เพื่อกำ�หนดแผนนโยบายและวิสัยทัศน์ของ ประชาชนที่มีต่อชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการ วางแผนชุมชนอย่างมีเป้าหมายเพื่อให้ชุมชนเข้าใจในปัญหาต่างๆ ผลกระทบและความย่งั ยืน มีวิสัยทัศน์ร่วมกันเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนและนำ�ไปสู่ ของการเปลี่ยนแปลง เมืองน่าอยู่และย่ังยืนในอนาคต โดยโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจาก การทำ�งานอย่างต่อเนือ่ งมีดงั นี้ 1. โครงการแก้ไขจุดตัดวงเวียนสุรินทร์-นริศร จาก ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของการเปลี่ยนแปลง รายงานการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของบริษัทกลางคุ้มครอง สถานการณข์ องงานวจิ ยั นี้ ไดแ้ ก่ 1) การใหค้ วามส�ำ คญั ตอ่ วสิ ยั ทศั น์ ผู้ประสบภัยจากรถ บริเวณ 4 แยกนริศรตัดถนนสุรินทร์ รัศมี 1 และยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนนเป็นพันธกิจสำ�คัญใน กิโลเมตร (ภาพที่ 7) โดยพบว่าในช่วงปี พ.ศ. 2556-2558 มีแนว แผนพฒั นาจังหวัดและแผนปฏิบตั ิราชการ 4 ปี 2) การจัดต้ังคณะ โน้มสูงข้ึน โดยเฉพาะบริเวณส่ีแยกหรือจุดตัด จำ�นวนผู้บาดเจ็บ กรรมการขับเคลื่อนต้องเป็นข้าราชการประจำ� โดยมอบหมายให้ เพิม่ กว่าเท่าตวั จาก 16 คร้ัง เปน็ 36 คร้ัง และมีผู้เสียชีวิตในรัศมี เป็นภาระงานหลักในการดำ�เนินการให้มีความต่อเนื่อง 3) การให้ นี้ ในปี พ.ศ. 2558 จำ�นวน 5 ราย มูลนิธิ Safer Roads Foundation องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องจัดท�ำ แผนยุทธศาสตร์การ จึงได้สนับสนุนงบประมาณ 2,398,500 บาท จัดสร้างวงเวียน พฒั นาท้องถิ่น 4 ปี ให้สอดคล้องกบั แผนจงั หวัด โดยให้ยุทธศาสตร์ เทศบาลนครภูเก็ต ร่วมกับสถาปนิกจากสโมสรโรตารี่ทุ่งคา เป็น ความปลอดภยั ทางถนนเปน็ หนงึ่ ในแผนยทุ ธศาสตรห์ ลกั ของทอ้ งถนิ่ ผู้เขียนแบบด้านสถาปัตยกรรม และศาสตราจารย์ ดร. พิชยั ธานี จัดต้ังงบประมาณการดำ�เนินการออกแบบและก่อสร้างถนนแบบ รณานนท์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้ความเห็นเชิงวิชาการ สมบูรณ์โดยมีผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพประกอบด้วย นักออกแบบ หลังการเปิดใช้วงเวียนตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ.2558-ตุลาคม ชุมชนเมือง วิศวกรรมขนส่งและจราจร และผู้ตรวจสอบความ พ.ศ. 2559 พบว่ามีอุบัติเหตุ 1 คร้ัง มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 1 ปลอดภัยทางถนน เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการออกแบบปรับปรุง ราย (คณะท�ำ งานสนบั สนนุ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรระดบั จงั หวดั กายภาพถนน 4) การประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อ ภเู กต็ , 2559ข) เชื่อมโยงแผนงานนโยบายและยุทธศาสตร์ร่วมกัน โดยมีเป้าหมาย 2. โครงการออกแบบวงเวียนสะพานหินและบริเวณ ร่วมกันในการสร้างเมืองให้น่าอยู่และย่ังยืน ภายใต้เป้าหมายของ ต่อเนื่อง จากรายงานพื้นที่จุดเสีย่ งโดยอาศัยข้อมูล 3 ฐาน ได้ระบุ ความปลอดภัยทางถนนเป็นหัวใจสำ�คัญ 5) การให้ประชาชนมี ว่า บริเวณหน้าวิทยาลยั อาชีวศึกษาภเู กต็ -แยกสะพานหิน ในรัศมี สว่ นรว่ มในกระบวนการวางแผนอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เพอื่ สรา้ งวธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ี่ 300 เมตร เป็นจุดเสี่ยงทีค่ วรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ผู้วิจยั ซึง่ ดี (Best practice) 6) การนำ�แผนงานไปปฏิบัติในข้ันตอนต่อไป และ สเปูญ็นเหสนียึ่งชใีวนิตคจณากะกอรุบรตั มิเหกาตรุทขาับงเถคนลนื่อจนังวหาวรัดะภจเูงั กหต็ วดั ให“้ตน่�ำ โกยบว่าาย5ล0ดกราายร การประเมินและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง วารสารวิจัยเพื่อการพฒั นาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
184 ABC JOURNAL ภาพที่ 7 โครงการแก้ไขจดุ ตดั วงเวียนสรุ ินทร์-นริศร และการตีเส้นจราจรให้ความส�ำ คญั ต่อคนเดินเท้า ตามข้อมลู การวิเคราะห์ พื้นที่จดุ เสี่ยง ภาพที่ 8 ผลงานการออกแบบวงเวียนและปรบั ปรุงภมู ิทัศน์ถนนบริเวณหน้าวิทยาลยั อาชีวศึกษาภเู ก็ต-แยกสะพานหิน ในรศั มี 300 เมตร ตามข้อมลู การวิเคราะห์พื้นทีจ่ ดุ เสี่ยง ผลทีเ่ กิดต่อพื้นที่ การขับเคลื่อนความปลอดภยั ทางถนนเพื่อ ถึงเกิดการศึกษาเรียนรู้แนวทางการลดอุบัติเหตุจากฐานข้อมูลที่ ลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับเคลื่อนกลไกนโยบายในระดับจังหวัด ได้รับสู่การออกแบบเชิงประจักษ์ นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลถึง สำ�หรับผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบพื้นที่ รวมถึงประชาชนทั่วไป การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจราจรอย่างเข้มงวด ลด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านกายภาพถนน สามารถทำ�ให้เกิด ภาระในการทำ�งานของเจ้าหน้าที่ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น และขยาย เป็นรูปธรรมผ่านกระบวนการออกแบบถนนแบบสมบรู ณ์ ทำ�ให้ได้ ผลนำ�ไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับนโยบาย การออกแบบถนนที่ ถนนที่ช่วยลดอุบัติเหตุ สามารถขยายผลไปยังพื้นที่จุดเสี่ยงอื่นๆ มีมาตรฐานและคุณภาพ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้จาก ท่ัวทั้งจังหวัดภูเก็ต ส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนลดลง ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นตา่ งๆ การประสานงานกบั หนว่ ยงานราชการในพนื้ ที่ เกดิ ภาคเี ครอื ขา่ ยทรี่ ว่ มกนั พฒั นา ปรบั ปรงุ สง่ เสรมิ กายภาพถนนให้ และการเข้าไปมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยเพื่อท้องถิ่น เพื่อสร้าง ถูกต้องตามหลักการออกแบบชุมชนเมืองและหลักวิศวกรรม รวม ความตระหนักรู้ร่วมกัน วารสารวิจยั เพื่อการพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 185 ภาพที่ 9 ผลงานการออกแบบทางข้าม และสี่แยกบริเวณสี่แยกสะพานกอจ๊าน ตามข้อมูลการวิเคราะห์พื้นทีจ่ ดุ เสี่ยง ภาพที่ 10 ผลงานการออกแบบทางข้ามบริเวณหน้าโรงพยาบาลถลาง ตามข้อมูลการวิเคราะห์พื้นทีจ่ ดุ เสี่ยง ผลที่เกิดขึ้นต่อมหาวิทยาลัย นักวิจัยของมหาวิทยาลัยได้นำ� แนวทางการตดิ ตามและธ�ำ รงรกั ษา องค์ความรู้ด้านการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ ภายใต้แนวคิดถนนแบบ พฒั นาการทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหค้ งอยตู่ อ่ ไป สมบรู ณ์ โดยบรู ณาการกบั การเรียนการสอนในรายวิชาทีเ่ กีย่ วข้อง ฝึกปฏิบัติการออกแบบและนำ�เสนอต่อสาธารณชน ได้ร่วมคิด ร่วมทำ� ร่วมประเมิน กับทีมคณะกรรมการในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยคณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจร ก่อให้เกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติและจากสถานการณ์จริง รวม ระดบั จงั หวดั ภเู กต็ (สอจร.ภเู กต็ ) มาจากขา้ ราชการประจำ�และภาค ถึงกระตุ้นให้เกิดการขบั เคลือ่ นเพื่อขยายผลไปสู่การออกแบบพื้นที่ เอกชนเปน็ สำ�คัญ จาก 11 หน่วยงานราชการ เอกชน สถาบนั การ จุดเสี่ยงอื่นๆ ตอบสนองต่อพระราโชบายของยุทธศาสตร์ ศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกำ�ไร ที่มีความเกี่ยวข้องกับประเด็น มหาวิทยาลัยราชภัฏ 20 ปี สู่การเปน็ มหาวิทยาลัยเพือ่ การพัฒนา อุบัติเหตุและการสร้างความปลอดภัยทางถนน เกี่ยวข้องกับการ ท้องถิน่ โดยสมบรู ณ์ในอนาคต ประกอบอาชีพและการทำ�งานปกติ แม้การดำ�เนินภารกิจในช่วงที่ วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
186 ABC JOURNAL ผ่านมาจะมีงบประมาณสนบั สนนุ เปน็ กลไกขับเคลื่อนในระยะ 3 ปี 4) การมกี จิ กรรมตอ่ เนอื่ งและงบประมาณด�ำ เนนิ การ ต่อเนื่อง ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2559 - 2561 สรปุ ปจั จยั ในการติดตามและ การก�ำ หนดแผนงานกิจกรรมการเผยแพร่ข้อมูลพื้นที่จุดเสีย่ งต่างๆ รักษาพัฒนาการที่เกิดขึ้นให้คงอยู่ ดงั นี้ ภายในจังหวัดจากการวิเคราะห์ข้อมูล 3 ฐาน และการตรวจสอบ 1) การคดั เลอื กตวั บคุ คล เนอื่ งดว้ ยคณะท�ำ งานสนบั สนนุ ข้อมูลจากงานวิจัยประเมินดัชนีความปลอดภัยของโครงข่ายถนน การป้องกนั อบุ ตั ิเหตจุ ราจรระดบั จงั หวดั ภเู กต็ (สอจร.ภเู กต็ ) น้ันมา ในจงั หวดั ภเู กต็ โดยสถาบนั เทคโนโลยแี หง่ เอเชยี (กณั วรี ์ กนษิ ฐพ์ งศ,์ จากข้าราชการประจำ� จาก 11 หน่วยงานราชการ เอกชน สถาบนั 2559) คณะท�ำ งานจึงได้ส่งข้อมูลและเข้าประชมุ ชี้แจงแบบปรึกษา การศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกำ�ไร ทำ�ให้มีผู้เชี่ยวชาญและมี หารอื รว่ มกบั เทศบาลเมอื งปา่ ตอง ตอ่ มาจงึ มปี ระกาศเทศบาลเมอื ง ความเปน็ สหสาขาวชิ าชพี ซงึ่ พดู คยุ เรอื่ งเดยี วกนั มคี วามมนั่ คงดา้ น ปา่ ตอง เรอื่ ง แตง่ ตง้ั คณะท�ำ งานแกไ้ ขอบุ ตั เิ หตจุ ราจรในเขตเทศบาล อาชพี และมตี �ำ แหนง่ หนา้ ทกี่ ารงาน และเขา้ รว่ มเปน็ คณะทำ�งานดว้ ย เมืองป่าตอง (เทศบาลเมืองป่าตอง, 2559) ประกอบด้วยคณะที่ ความสมัครใจและจิตอาสาเป็นหลัก ปรึกษา และคณะท�ำ งาน เพือ่ ร่วมกนั แก้ปัญหาพื้นทีจ่ ุดเสี่ยงในเขต 2) การจดั ตงั้ กลมุ่ การจดั ตง้ั กลมุ่ เกดิ จากการชกั ชวนเขา้ เทศบาลเมืองป่าตอง การป้องกันและแก้ไขปัญหาจราจร เพื่อลด มาร่วมทำ�งานด้วยความเป็นจิตอาสาและความสมัครใจ ในช่วงที่ อุบัติเหตุทางถนน รวมถึงการออกแบบ เสนอแนะ ก�ำ หนดวิธีการ ผ่านมาหากมีการเปลีย่ นแปลงในระดับตวั บุคคล เช่น การโยกย้าย แกไ้ ขปญั หาเพือ่ ลดการเกดิ อบุ ตั เิ หตโุ ดยสามารถขยายผลทปี่ ระสบ ราชการ ทางต้นสังกัดก็จะแจ้งว่ามีงานอะไรที่เป็นภารกิจ การนัด ผลส�ำ เรจ็ ไปยังหน่วยงานต่างๆ ผ่านคณะกรรมการขบั เคลื่อนวาระ พบปะและพูดคุยภายในกลุ่มตามความสะดวกของแต่ละท่าน และ จังหวัดฯ เพื่อกระตุ้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตระหนักและ มีการเชิญเข้าร่วมกลุ่มเพื่อรับทราบภารกิจหลักนี้ ซึ่งลักษณะการ เห็นความสำ�คัญในการลดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยทาง ประชุมมกั จัดแบบไม่เป็นทางการ ถนนมากยิ่งขึ้น สามารถผลักดนั ไปสู่นโยบายและแผนงานในระดับ 3) การมีแผนงานที่ดีเพื่อชี้น�ำ ทาง การมีวิสัยทัศน์และ องค์กร ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อขยายผลไปยังพื้นที่ แผนทจี่ ะกา้ วไปขา้ งหนา้ หรอื ทศิ ทางทชี่ ดั เจน จะทำ�ใหผ้ ทู้ เี่ ขา้ มารว่ ม อืน่ ๆ ในอนาคต เข้าใจจดุ มงุ่ หมายและวตั ถปุ ระสงคข์ องภารกิจทจี่ ะเดนิ หน้า เปรยี บ เสมือนธงน�ำ ทมี่ คี วามชดั เจน นอกจากนีก้ ารเดนิ อยา่ งมกี ลยทุ ธแ์ ละ เป็นกระบวนการย่อมทำ�ให้เกิดความมีประสิทธิภาพของผลลัพธ์ กิตติกรรมประกาศ ที่ดี โดยใช้ข้อมลู 3 ฐาน เปน็ หวั ใจหลักในการขบั เคลือ่ นของคณะ ทำ�งานฯ ใช้เทคนิควงจรการบริหารงานคุณภาพ แบบ PDCA ได้แก่ Plan (วางแผน) Do (ปฏบิ ตั )ิ Check (ตรวจสอบ) และ Act (การดำ�เนนิ งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำ�งานบริการวิชาการเพื่อ การให้เหมาะสม) โดยในการประเมินตรวจสอบจะเป็นหน้าที่ของ สังคมของผู้วิจัย ในฐานะคณะกรรมการขับเคลื่อนวาระจังหวัด ผู้บังคับการตำ�รวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นรองประธานกรรมการ “ภนูเกโ็ตยบใหา้ตย่�ำลกดวก่าา5ร0สูญราเยสใียนปชีวี 2ิต5จ6า3ก”อใุบนัตติ�ำเหแหตนุท่งาผงู้เชถี่ยนวนชจาญังหดว้าัดน และรองประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรใน ระดับจังหวดั ภูเกต็ (สอจร.) เปน็ ทีป่ รึกษา เพือ่ ตรวจสอบผลลัพธ์ที่ สถาปัตยกรรมผังเมือง ตามค�ำ ส่ังจังหวดั ภูเกต็ ที่ 2193/2559 ณ เกิดจากการปฏิบัติเพื่อทบทวนแผนและปรับปรุงการด�ำ เนินการให้ วนั ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เป็นการแต่งตั้งโดย ผู้ว่าราชการ เหมาะสม โดยแจ้งรายงานในที่ประชุมคณะทำ�งานฯ ในรปู แบบการ จงั หวดั ภูเก็ต ซึง่ มีหน้าทีใ่ นการท�ำ งานเพือ่ ขบั เคลือ่ นการปฏิบัติงาน ประชมุ แบบปรึกษาหารือและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เชิงนโยบายและเชิงพื้นที่ในระดับจังหวัด บรรณานกุ รม กรมควบคุมโรค ส�ำ นกั โรคไม่ติดต่อ. (2562). ระบบบูรณาการการตายจากอบุ ัติเหตุทางถนน. สืบค้นเมื่อ 3 มกราคม 2562, จาก http://rti.ddc. moph.go.th/RTDDI/Modules/Report/Report11.aspx. กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั . (2554). แผนที่น�ำ ทางเชิงกลยุทธ์ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554-2563. สืบค้นเมื่อ 21 ธนั วาคม 2561, จาก www.thairsc.com/th/Document/strategic_map_roadsafety.pdf. กรงุ เทพธรุ กิจ. (2556). แผนไทยเดินหน้าแผนลดตายจากอบุ ตั ิเหตทุ างถนน. สืบค้นเมือ่ 21 ธนั วาคม 2561, จาก https://www.hfocus.org/content/ 2013/12/5789. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
ABC JOURNAL 187 กณั วีร์ กนิษฐ์พงศ์. (2559). เอกสารประกอบการบรรยาย โครงการการประเมินดชั นีความปลอดภยั ของโครงข่ายถนนในจงั หวดั ภเู กต็ . กรงุ เทพฯ: สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย. คณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัดภูเก็ต. (2559ก). เอกสารการดำ�เนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัด ภเู ก็ต. ภูเกต็ : คณะท�ำ งานสนบั สนนุ การป้องกันอุบตั ิเหตุจราจรระดบั จังหวัดภเู ก็ต. คณะท�ำ งานสนบั สนนุ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตจุ ราจรระดบั จงั หวดั ภเู กต็ . (2559ข). เอกสารรายงานพธิ เี ปดิ วงเวยี น สรุ นิ ทร-์ นรศิ ร ทไี่ ดร้ บั การสนบั สนนุ งบประมาณจากมูลนิธิ. ภูเกต็ : คณะท�ำ งานสนบั สนนุ การป้องกันอบุ ัติเหตุจราจรระดบั จังหวัดภเู ก็ต. คณะท�ำ งานสนับสนุนการป้องกนั อุบัติเหตจุ ราจรระดับจงั หวดั ภเู ก็ต. (2559ค). เอกสารประกอบการประชมุ เวที สอจร. สญั จรภาคใต้ วันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2559. ภูเก็ต: คณะท�ำ งานสนบั สนนุ การป้องกนั อุบตั ิเหตุจราจรระดบั จงั หวัดภเู กต็ . คณะทำ�งานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัดภูเก็ต. (2558). เอกสารสถานการณ์การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทาง ถนน เทศบาลนครภเู กต็ ปี 2558 (1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2558). ภเู กต็ : คณะท�ำ งานสนับสนุนการป้องกันอบุ ตั ิเหตจุ ราจรระดับจงั หวัด. เดอะสแตนดาร์ดทีม. (2561). รายงานองค์การอนามัยโลกเผย คนไทยตายบนถนนลดลง แต่ยังครองแชมป์อันดับ 1 ในเอเชีย. สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2562, จาก https://thestandard.co/road-accidents-2018. เทศบาลเมืองป่าตอง. (2559). ประกาศเทศบาลเมืองป่าตอง เรือ่ ง แต่งตั้งท�ำ งานแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง. ภเู ก็ต: สำ�นักงานเทศบาลเมืองป่าตอง. ปิยะพงษ์ บุษบงก์. (2560). การวิเคราะห์นโยบายและการวางแผนแบบปรึกษาหารือ. กรุงเทพฯ: ส�ำ นกั พิมพ์คอมม่อนบุ๊คส์. ภาวิณี เอีย่ มตระกูล, พิริยา ซิ้มเจริญ และ พรชัย จันทร์ถาวร (2555). แนวทางการศึกษาการวิจยั เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพือ่ ส่งเสริมความ ปลอดภยั ทางถนนของเมือง: กรณีศึกษา เทศบาลเมืองท่าโขลง จังหวดั ปทุมธานี. วารสารวิจยั และสาระสถาปตั ยกรรม/การผงั เมือง, 9(1), 61-81. ศิวพงศ์ ทองเจือ. (2557). การออกแบบถนนแบบสมบรู ณ์: นวัตกรรมการออกแบบถนนส�ำ หรบั เมืองน่าอยู่. สืบค้นเมื่อ 21 ธันวาคม 2561, จาก https://asiamuseum.co.th/paper/1903. สถาบนั วจิ ยั โลก. (2558). เมอื งปลอดภยั ดว้ ยการออกแบบ: แนวทางและตวั อยา่ งเพอื่ สง่ เสรมิ ความปลอดภยั ในการจราจรโดยการออกแบบชมุ ชน เมืองและท้องถนน ฉบับที่ 1.0. วอชิงตัน ดี.ซี.: World Resources Institutes. สำ�นักงานจังหวัดภูเก็ต. จ(ัง2ห5ว5ัด9ภ).ูเกคต็ ำ�ใสห่ัง้ตจ่�ำ ังกหวว่าัด5ภ0ูเกร็ตายเรใื่อนงปี แต่งต้ังอนุคณะกรรมการขับเคลื่อนวาระจังหวัด “นโยบายลดการสูญเสียชีวิตจาก อบุ ัติเหตทุ างถนน 2563 (2020). ภูเก็ต: ส�ำ นกั งานจังหวดั ภเู กต็ . สุรางค์ศรี ศีตมโนชญ์. (2557). เอกสารรายงานสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน ภาคใต้ ปี 2557. ภูเก็ต: แผนงานสนับสนุนการป้องกัน อุบตั ิเหตุจราจรระดบั จังหวัด (สอจร.ภาคใต้). สรุ างค์ศรี ศีตมโนชญ์. (2561). การพฒั นาความมีส่วนร่วมของภาคเี ครือขา่ ยในการบริหารจดั การแก้ไขปญั หาเมาแล้วขบั จงั หวดั ภเู กต็ . กรงุ เทพฯ: ศนู ย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธินโยบายถนนปลอดภยั ส�ำ นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ (สสส.), หน้า 7-20. หน่วยเฝ้าระวงั และสะทอ้ นสถานการณค์ วามปลอดภยั ทางถนน. (2562). อตั ราการเสยี ชีวิตจากอบุ ตั ิเหตทุ างถนนต่อประชากร 100,000 คน แยก รายจังหวัด เฉลีย่ ระหว่างปี 2558-2559. สืบค้นเมือ่ 11 มกราคม 2562, จาก http://trso.thairoads.org/statistic/watch/detail/137. อ�ำ นวย บญุ รัตนไมตรี, วฒั นา นนทชิต, นิพนธ์ ไตรสรณะกลุ และ ธณกฤษ งามมีศรี (2560). กระบวนทัศน์การจัดการความปลอดภัยทางถนน. วารสารดษุ ฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์, 7(1), 1-15. The Safer Roads Foundation. (2019). How the safer roads foundation came about. Retrieved February, 12, 2019, from http://www.safer roadsfoundation.org. World Health Organization. (2018). World health statistics 2018. Retrieved Mach, 4, 2019, from https://apps.who.int/iris/bitstream/hand le/10665/272596/9789241565585-eng.pdf?ua=1. วารสารวิจัยเพือ่ การพัฒนาเชิงพื้นที่ ===== ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2562
หลกั เกณฑก์ ารเสนอบทความงานวิจัย ส�ำ หรับวารสารวิจยั เพื่อการพฒั นาเชิงพืน้ ที่ ประเภทบทความ วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เป็นวารสารราย 2 เดือน เผยแพร่ปีละ 6 ฉบับ เปิดรับบทความวิชาการเพื่อการ บริการสงั คมจากทุกสาขาวิชา ในรูปแบบบทความวิจัย บทความปริทศั น์ กรณีศึกษา บทความเชิงนโยบาย และบทความรบั เชิญ ทีม่ ีเนื้อหาเกีย่ วข้องหรือเปน็ ผลมาจากการปฏิบัติการจริงกับชมุ ชน ทั้งภาษาไทยและภาษาองั กฤษ เกณฑ์การพิจารณาบทความ วารสารจะรบั พิจารณาบทความวิชาการเพือ่ สงั คม ทีเ่ น้นการประยกุ ต์วิชาการเพือ่ การสร้างการเปลีย่ นแปลง (Change) ในสงั คมหรือชมุ ชนเป้าหมาย โดยมีเนื้อหาตามประเด็นสำ�คัญดงั นี้ - สถานการณ์ทีเ่ ป็นอยู่เดิม - กระบวนการทีใ่ ช้ในการเปลี่ยนแปลงและการยอมรบั ของชมุ ชนเป้าหมาย - ความรู้หรือความเชีย่ วชาญทีใ่ ช้ - สถานการณ์ใหม่ทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปจากเดิม - ผลกระทบและความยง่ั ยืนของการเปลีย่ นแปลง ท้ังนี้บทความซึง่ เสนอเพือ่ ขอตีพิมพ์ ต้องเป็นบทความที่ไม่เคยเสนอขอตีพิมพ์หรือเผยแพร่ในเอกสาร วารสารฉบบั อืน่ ๆ มาก่อน ข้นั ตอนการรบั ตน้ ฉบบั และพิจารณาบทความ ประกอบด้วยขั้นตอนดงั นี้ 1) รบั ต้นฉบบั จากผู้เสนอบทความทาง Email: [email protected] หรือผ่านระบบ ThaiJo (https://www.tci-thaijo. org/index.php/abcjournal) 2) กองบรรณาธิการพิจารณาเบื้องต้นว่าบทความอยู่ในขอบข่ายเป้าหมายของวารสารหรือไม่ 3) กองบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับพร้อมแบบฟอร์มสำ�หรับการประเมิน จัดส่งยังผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญใน สาขาที่เกีย่ วข้อง อย่างน้อย 2 ท่าน พิจารณาให้ความเหน็ ว่าควรรับลงตีพิมพ์หรือไม่ รวมทั้งอาจให้ค�ำ แนะนำ�เพือ่ การปรับปรงุ แก้ไข และจัดส่งผลการประเมินยังผู้เขียนบทความ โดยท้ังนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิ และ ผู้เขียนบทความ จะไม่ทราบชื่อซึ่งกันและกัน (Double-blind peer review) 4) หลังจากที่ผู้เขียนได้ปรับปรุงแก้ไขบทความส่งกลับมายังกองบรรณาธิการพร้อมคำ�ชี้แจงการปรับปรุงแก้ไขแล้ว กองบรรณาธิการจะพิจารณาในขั้นสุดท้าย ว่ามีการปรับปรงุ แก้ไขครบถ้วนตามค�ำ แนะนำ�ของผู้ทรงคณุ วุฒิหรือไม่ หากเหน็ ว่า ครบถ้วนเหมาะสมกจ็ ะตอบรับตีพิมพ์โดยไม่จ�ำ เป็นต้องส่งให้ผู้ทรงคุณวฒุ ิพิจารณาอีก แต่หากไม่ครบถ้วนจะมีการแจ้งกลับยัง ผู้เขียนเพื่อปรบั ปรงุ เพิ่มเติมอีกครั้งหรืออาจปฏิเสธการตีพิมพ์ 5) กองบรรณาธิการจดั เตรียมบทความตามรปู แบบวารสาร แล้วส่งกลบั ให้ผู้เขียนตรวจสอบความถกู ต้อง ก่อนท�ำ การ รวมเล่มวารสารเพือ่ การเผยแพร่ออนไลน์ผ่านระบบ ThaiJo และเวบ็ ไซต์ http://abcjournal.trf.or.th รูปแบบของการเขียนบทความ 1) ต้นฉบับจากไฟล์ Microsoft Word 97 ขึ้นไป และไฟล์ PDF ความยาว 20-25 หน้ากระดาษ A4 อักษรฟอนต์ TH Niramit AS หรือ TH SarabunPSK ขนาด 14 point อาจมีภาพ ตาราง แผนผังหรือแผนภมู ิประกอบ ในกรณีภาพประกอบ ต้อง เป็นไฟล์ JPEG หรือ PNG ขนาดใหญ่กว่า 1 MB วารสารวิจยั เพื่อการพัฒนาเชิงพืน้ ที่ ===== ปีที่ 11 ฉบบั ที่ 1 มกราคม-กุมภาพันธ์ 2562
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104