Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กฎหมายแรงงานและประกันสังคม

กฎหมายแรงงานและประกันสังคม

Published by chutapron, 2018-04-24 00:28:43

Description: จุฑาภรณ์ คงรักษ์กวิน

Search

Read the Text Version

กฎหมายคุ้มครองแรงงาน(The Labor Protection Law) จุฑาภรณ์ คงรักษ์กวนิ

นายจ้าง กาไร การเตบิ โตของธุรกจิ การมน่ั คงในธุรกจิ คุณภาพชีวติ ทดี่ ีลูกจ้าง รายได้ ความมน่ั คงในรายได้ ความก้าวหน้าใน การทางาน



กฎหมายแรงงานฉบับสาคญั ก . กฎหมายสัญญาจ้างแรงงาน ป.พ.พ. บรรพ 3 มาตรา 575-586 เนือ้ หา จ้างแรงงาน สิทธิหน้าท่ี ความระงบั ของสัญญาจ้างข. กฎหมายคุ้มครองแรงงาน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541(แก้ไข 2551และ2553) เนือ้ หา กาหนดมาตรฐานข้นั ต่าของการจ้างงาน เพอ่ื คุ้มครองลูกจ้าง

ค. กฎหมายเงนิ ทดแทน พ.ร.บ. เงนิ ทดแทน 2537 เนือ้ หา คุ้มครองลูกจ้างทปี่ ระสบอนั ตราย เจ็บป่ วย สูญหายเนื่องจากการทางานง. กฎหมายแรงงานสัมพนั ธ์ พ.ร.บ. แรงงานสัมพนั ธ์ 2518 เนือ้ หา ข้อตกลงเกย่ี วกบั สภาพการจ้าง องค์กรแรงงาน การระงบั ข้อพพิ าทแรงงาน การกระทาอนั ไม่เป็ นธรรม

จ. กฎหมายศาลแรงงาน พ.ร.บ.จดั ต้งั ศาลแรงงานและวธิ ีพจิ ารณาคดแี รงงาน 2522 (แก้ไข 2550) เนือ้ หา ศาลแรงงาน การดาเนินคดแี รงงาน และ เลกิ จ้างไม่เป็ นธรรม

ประกนั การทางาน ห้ามนายจ้างเรียกหรือรับหลกั ประกนั การทางาน หรือ หลกั ประกนั ความเสียหายจากการทางาน ไม่ว่าจะเป็ น เงนิ ทรัพย์สิน หรือคา้ ประกนั ด้วยบุคคลจากลูกจ้าง เว้นแต่ ลกั ษณะหรือสภาพของงานเป็ นไปตามประกาศ กระทรวงแรงงาน(มาตรา 10 วรรคหน่ึง)

ฎกี า 6636-6638/2547 เงนิ ทนี่ ายจ้างเรียกเกบ็ จากลูกจ้างทสี่ ่งไปฝึ กอบรมทก่ี รุงเทพฯ โดยมีข้อตกลงว่าจะต้องทางานกบั นายจ้างเป็ นเวลา 2 ปี หากทางานไม่ครบให้นายจ้างมสี ิทธิริบเงนิ ดงั กล่าว ไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างไรกย็ งั เป็ นเงินประกนั การทางาน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครอง ฯมาตรา 10 ทก่ี ฎหมายห้ามนายจ้างเรียก หรือรับเงินประกนั การทางานจากลูกจ้าง

การเรียกประกนั การทางานอยู่ภายใต้ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง หลกั เกณฑ์และวธิ ีการเรียกหรือรับหลกัประกนั การทางานฯ ลงวนั ท่ี 3 มถิ ุนายน 2551ฎกี า 3304/2545 ลูกจ้างทางานเป็ นผู้จดั การสถานีบริการนา้ มัน มีหน้าทด่ี ูแลสินค้าในร้านสะดวกซื้อ นายจ้างมีสิทธิเรียกประกนั การทางานได้ฎกี า 6157/2546 ลูกจ้างทางานเป็ นผู้จดั การอาคารชุดมีอานาจรับเงนิ จากลูกค้า ควบคุมดูแลการเกบ็ เงนิ และค่าใช้จ่ายต่างๆ นายจ้างมสี ิทธิเรียกประกนั การทางานได้

กรณนี ายจ้างเรียกหรือรับหลกั ประกนั การทางานหรือหลกั ประกนั ความเสียหายจากการทางาน เมอื่ นายจ้างเลกิ จ้าง ลูกจ้างลาออก หรือสัญญาประกนั สิ้นอายุ ให้นายจ้างคนื หลกั ประกนั พร้อมดอกเบยี้ ถ้ามใี ห้แก่ลูกจ้างภายใน 7 วนั นับแต่วนั ทนี่ ายจ้างเลกิ จ้าง ลูกจ้างลาออกหรือสัญญาประกนั สิ้นอายุ แล้วแต่กรณี (มาตรา 10วรรคสอง)

การเปลย่ี นตวั นายจ้าง ในกรณที ี่กจิ การใดมกี ารเปลย่ี นตัวนายจ้าง เน่ืองจาก การโอน รับมรดกหรือโดยประการอนื่ ใด หรือกรณี นายจ้างเป็ นนิตบิ ุคคล และมกี ารจดทะเบียนเปลยี่ น แปลง โอน หรือควบกบั นิตบิ ุคคลใด สิทธิต่างๆทลี่ ูกจ้าง มีต่อนายจ้างเดมิ เช่นใด ให้ลูกจ้างมีสิทธิเช่นว่าน้ันต่อไป และให้นายจ้างใหม่รับไปท้งั สิทธิและหน้าที่ อนั เกย่ี วกบั ลูกจ้างน้ันทุกประการ (มาตรา 13)

ฎกี า 7242-7254/2545 กรณมี าตรา 13 เป็ นเร่ืองเปลย่ี นตวั นายจ้าง มุ่งคุ้มครองลูกจ้างไม่ให้ต้องถูกออกจากงานหรือถูกลดิ รอนสิทธิและผลประโยชน์ ทเ่ี ป็ นผลสืบเน่ืองมาจากการโอนกจิ การหรือควบรวมกจิ การของนายจ้างตามกฎหมาย ธนาคารจาเลยที่ 1 ควบรวมกจิ การกบั ธนาคาร ซ. เป็ นธนาคารจาเลยที่ 2 ทาให้จาเลยที่ 1สิ้นสภาพลง จาเลยที่ 2 นายจ้างใหม่ต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของลูกจ้างจาเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองฯมาตรา 13

ฎกี า 1605/2551 พ.ร.บ.คุ้มครองฯ มาตรา 13 ใช้กบั กรณีเปลยี่ นแปลงตวั นายจ้าง มีผลให้นายจ้างใหม่ต้องรับสิทธิและหน้าทเ่ี กย่ี วกบั ลูกจ้างทมี่ ีอยู่กบั นายจ้างเดมิ มาด้วยแต่หากเป็ นการโอนสิทธิความเป็ นนายจ้างให้แก่นายจ้างใหม่น้ัน กรณตี ้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 577 ซึ่งนายจ้างเดมิและนายจ้างใหม่จะทาได้ เมื่อลกู จ้างยนิ ยอมพร้อมใจด้วยและเมื่อยนิ ยอมแล้ว ลกู จ้างจงึ ต้องปฏิบตั ติ ามข้อบังคบัเกย่ี วกบั การทางาน ระเบียบ หรือคาส่ังของนายจ้างใหม่ด้วยเช่นกนั

การห้ามเลอื กปฏบิ ัตเิ น่ืองจากเพศ ให้นายจ้างปฏบิ ัตติ ่อลูกจ้างชายและหญงิ โดยเท่าเทยี มกนั ในการจ้างงาน เว้นแต่ ลกั ษณะหรือสภาพของงานไม่อาจ ปฏิบตั เิ ช่นน้ันได้(มาตรา 15) ฎกี า 6011-6017/2545 นายจ้างมขี ้อบังคบั การทางานให้ ลูกจ้างชายเกษยี นเมอื่ อายุครบ 55 ปี หญงิ เมือ่ อายุครบ 50 ปี เป็ นการปฏิบัตติ ่อลูกจ้างชายและหญงิ โดยไม่เท่า เทยี มกนั ตกเป็ นโมฆะ ไม่มผี ลใช้บังคบั (ดูฎกี า 865/2548)

ฎกี า 1562/2548 นายจ้างให้คนงานชายหญงิ เกษยี นเม่อือายุครบ 50 ปี พนักงานโฟร์แมนชายหญิงเกษยี นเมื่ออายุครบ 55 ปี หัวหน้าโฟร์แมนชายหญงิ เกษยี นเมื่ออายุครบ 57 ปี เป็ นการกาหนดความแตกต่างตามตาแหน่งของลูกจ้าง ไม่ได้เอาข้อแตกต่างในเรื่องเพศมาเป็ นข้อกาหนด ลูกจ้างชายหญงิ ตาแหน่งเดยี วกนั ใช้หลกั เกณฑ์อย่างเดยี วกนั คาส่ังเกษยี ณอายขุ องนายจ้าง ไม่ขดั ต่อพ.ร.บ. ค้มุ ครองฯ มาตรา 15

วนั เวลาทางาน เวลาพกั ก. เวลาทางานปกต(ิ regular working times) ให้นายจ้างประกาศกาหนดเวลาทางานปกตโิ ดยกาหนด เวลาเร่ิมต้นและสิ้นสุดการทางาน วนั หนึ่งไม่เกนิ 8 ชั่วโมงและสัปดาห์หนง่ึ ไม่เกนิ 48 ชั่วโมง เว้นแต่ งาน ทอ่ี าจเป็ นอนั ตรายต่อสุขภาพและความปลอดภยั ของ ลูกจ้างวนั หน่ึงไม่เกนิ 7 ชั่วโมงและสัปดาห์หน่ึงไม่เกนิ 42 ชั่วโมง (มาตรา 23 วรรคหนง่ึ )

กรณนี ายจ้างไม่อาจประกาศกาหนดเวลาเร่ิมต้นและสิ้นสุด การทางานในแต่ละวนั ได้ เนื่องจากลกั ษณะหรือสภาพของงาน ให้นายจ้างและลูกจ้างตกลงกาหนดช่ัวโมงทางานปกติ วนั หน่ึงไม่เกนิ 8 ชั่วโมงและสัปดาห์หนงึ่ ไม่เกนิ 48 ชั่วโมง (มาตรา 23 วรรคสาม)ฎกี า 8825/2547 งานทล่ี ูกจ้างทาเป็ นงานทอ่ี าจเป็ นอนั ตรายต่อสุขภาพและความปลอดภยั นายจ้างกาหนดเวลาทางานปกติวนั ละ 8 ช่ัวโมง ตกเป็ นโมฆะ จะต้องจ่ายค่าล่วงเวลาสาหรับการทางานเกนิ ไปวนั ละ 1 ช่ัวโมงให้ลูกจ้าง

ข. เวลาพกั (rest period)ในวนั ทม่ี กี ารทางาน ให้นายจ้างจดั ให้ลูกจ้างมเี วลาพกัระหว่างการทางานวนั หนงึ่ ไม่น้อยกว่า 1 ช่ัวโมงหลงั จากทางานมาแล้วไม่เกนิ 5 ชั่วโมงตดิ ต่อกนั อาจพกั คร้ังหน่ึงน้อยกว่า 1 ช่ัวโมงได้ แต่รวมแล้ววนั หนง่ึต้องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง(มาตรา 27 วรรคหน่งึ )ฎกี า 2841/2531 ลูกจ้างทางานระหว่าง 08.00 ถึง 16.00นกะหนงึ่ และ 16.00 ถงึ 24.00 น กะหนึ่ง โดยมเี วลาพกักะละคร่ึงชั่วโมง เป็ นการฝ่ าฝื นกฎหมาย

เวลาพกั หรือไม่ฎกี า 3675-3676/2526 ลูกจ้างเป็ นพนักงานตดั กระจกโดยใช้เคร่ืองอตั โนมัติ ต้องยนื ตดั กระจก 50 นาทีและหยุดรอกระจกทสี่ ่งเข้ามาใหม่ 20 นาที กะหนึ่งทางาน8 ช่ัวโมง 15 นาที รวมเวลาหยุดไม่ต้องทางานระหว่างรอกระจก รวม 2 ชั่วโมง 20 นาที ในระหว่างเวลาที่รอกระจก ลกู จ้างมีอิสระทจ่ี ะทานอาหาร สูบบุหรี่หรือเข้าห้องนา้ ได้ เพราะจะไม่มีงานให้ทาในระหว่างน้ันถอื ว่าเวลาทหี่ ยดุ รอกระจกเป็ นเวลาพกั ตามกฎหมายแล้ว(ดูฎกี า 3506/2527)

เวลาพกั ระหว่างการทางาน ไม่นับรวมเป็ นเวลาทางานเว้นแต่เวลาพกั รวมแล้ววนั หน่ึงเกนิ 2 ช่ัวโมง ให้นับเวลาที่เกนิ น้ันเป็ นเวลาทางานปกติ(มาตรา 27 วรรคสาม)กรณมี กี ารทางานล่วงเวลาต่อจากเวลาทางานปกตไิ ม่น้อยกว่า 2 ช่ัวโมง นายจ้างต้องจดั ให้ลูกจ้างมเี วลาพกัไม่น้อยกว่า 20 นาที ก่อนลูกจ้างเร่ิมทางานล่วงเวลา(มาตรา 27 วรรคสี่)

ความในวรรคหน่ึงและวรรคสี่มิให้ใช้บงั คบั กรณีลูกจ้างทางานทมี่ ีลกั ษณะหรือสภาพของงานต้องทาตดิ ต่อกนั ไป โดยได้รับความยนิ ยอมจากลูกจ้าง หรือเป็ นงานฉุกเฉิน (มาตรา 27 วรรคห้า)ฎกี า 3117/2529 นายจ้างประกอบธุรกจิ ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ มลี ูกค้าเข้าชมมากกว่าปกตเิ น่ืองจากเป็ นเทศกาลตรุษจนี ถอื ไม่ได้ว่าเป็ นงานฉุกเฉิน นายจ้างจะส่ังให้ลูกจ้างทางานระหว่างเวลาพกั 12.00 ถงึ 13.00 นโดยไม่ได้รับความยนิ ยอมจากลูกจ้างไม่ได้

วนั หยุดก. วนั หยุดประจาสัปดาห์(weekly holiday) ให้นายจ้างจดั ให้ลูกจ้างมีวนั หยดุ ประจาสัปดาห์ สัปดาห์ หนึ่งไม่น้อยกว่า 1 วนั โดยมรี ะยะห่างกนั ไม่เกนิ 6 วนั นายจ้างลูกจ้างอาจตกลงล่วงหน้าให้มวี นั หยดุ ประจา สัปดาห์วนั ใดกไ็ ด้ (มาตรา 28 วรรคหนึ่ง)ลูกจ้างทางานโรงแรม งานขนส่ง งานในป่ า งานในท่ี ทุรกนั ดาร อาจตกลงสะสมและเลอ่ื นไปหยุดได้ แต่ต้อง ไม่เกนิ ส่ีสัปดาห์ติดต่อกนั (มาตรา 28 วรรคสอง)

ข. วนั หยุดตามประเพณ(ี traditional holiday)ให้นายจ้างประกาศวนั หยดุ ตามประเพณใี ห้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าปี หน่ึงไม่น้อยกว่า 13 วนั โดยรวมวนั แรงงานแห่งชาตดิ ้วย (มาตรา 29 วรรคหนงึ่ )ให้นายจ้างพจิ ารณากาหนดวนั หยดุ ตามประเพณจี ากวนั หยดุ ราชการประจาปี วนั หยุดทางศาสนา หรือขนบธรรมเนียมประเพณที ้องถน่ิ (มาตรา 29 วรรคสอง)

ในกรณวี นั หยดุ ตามประเพณตี รงกบั วนั หยุดประจาสัปดาห์ของลูกจ้าง ให้ลูกจ้างหยุดชดเชยในวนั ทางานถัดไป (มาตรา 29 วรรคสาม)ฎกี า 4321-4323/2548 นายจ้างประกาศให้วนั อาทิตย์ที่ 6เม.ย. เป็ นวนั หยุดตามประเพณี ต่อมานายจ้างเปลย่ี นให้หยุดวนั เสาร์ที่ 12 เม.ย.แทน เป็ นคาสั่งทีไ่ ม่ชอบ วนั จนั ทร์ที่ 7 เม.ย. ยงั เป็ นวนั หยุดชดเชย การทล่ี ูกจ้างมาทางานเพยี งคร่ึงวนั ไม่ถือว่าเป็ นการละทงิ้ หน้าท่ี หรือจงใจทาให้นายจ้างได้รับความเสียหาย

ค. วนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี (annual vacation)ลูกจ้างทท่ี างานตดิ ต่อกนั มาแล้วครบหน่ึงปี มีสิทธิหยดุพกั ผ่อนประจาปี ได้ปี หนึ่งไม่น้อยกว่า 6 วนั ทางาน โดยนายจ้างกาหนดล่วงหน้าหรือกาหนดตามทน่ี ายจ้างลูกจ้างตกลงกนั (มาตรา 30 วรรคหนงึ่ )

ใช้กบั ลูกจ้างทุกประเภทฎกี า 1902/2523 ลูกจ้างทางานสัปดาห์ละ 3 วนั เม่ือทางานครบปี ย่อมมสี ิทธิหยดุ พกั ผ่อนประจาปี ได้หยุดข้นั ตา่ ปี ละ 6 วนั ทางานฎกี า 3460/2526 นายจ้างมีระเบียบให้ลูกจ้างทล่ี าไม่เกนิ36 วนั มสี ิทธิหยดุ พกั ผ่อนประจาปี ปี ละ 10 วนั ลูกจ้างที่ลาเกนิ 36 วนั ขอลาหยุดพกั ผ่อนประจาปี นายจ้างไม่อนุญาต แม้ลูกจ้างไม่มสี ิทธิลาหยุดพกั ผ่อนประจาปี10 วนั ตามระเบียบ แต่กย็ งั มสี ิทธิหยดุ พกั ผ่อนประจาปี6 วนั ได้ตามกฎหมาย

ฎกี า 254/2524 นายจ้างมรี ะเบียบให้หยุดพกั ผ่อน ประจาปี ปี ละ 10 วนั หากลาคร่อมวนั หยดุ ให้นับ วนั หยุดประจาสัปดาห์รวมด้วย เมอ่ื หักวนั หยุดประจา สัปดาห์แล้ว ยงั เหลอื ปี ละ 8 วนั จงึ ไม่ต่ากว่ากฎหมาย ระเบียบของนายจ้างเช่นนีม้ ีผลบงั คบั ได้การกาหนดวนั หยุดพกั ผ่อนประจาปี นายจ้างอาจกาหนด ฝ่ ายเดยี ว หรือกาหนดตามทน่ี ายจ้างลูกจ้างตกลงกนัปี ละ 6 วนั ทางาน อาจเป็ นปี อายุงานหรือปี ปฏทิ นิ

 หากนายจ้างกาหนดให้ลูกจ้างหยุดพกั ผ่อนประจาปีแล้ว แต่ลูกจ้างไม่หยุด ถอื ว่าสละสิทธิฎกี า 3460/2525 นายจ้างกาหนดให้ลูกจ้างหยดุ พกั ผ่อนประจาปี โดยกาหนดให้หยุดต้งั แต่วนั ที่ 9 สิงหาคม2527 เป็ นต้นไป ถอื ว่านายจ้างได้กาหนดวนั หยุดล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้างแล้ว เมอื่ ลูกจ้างไม่หยดุ ตามที่กาหนด นายจ้างไม่มหี น้าทต่ี ้องจ่ายค่าจ้างสาหรับวนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี ให้แก่ลูกจ้าง (ฎกี า 2816-2822/2529 และ 3025/2526)

 ถ้านายจ้างมีหน้าท่ีกาหนด แต่ไม่กาหนดให้ลูกจ้าง หยุดพกั ผ่อนประจาปี หรือหยุดไม่ครบ ต้องจ่ายค่า ทางานในวนั หยุดเสมือนให้ลูกจ้างมาทางานในวนั หยดุ (มาตรา 64)ฎกี า 9117/2546 ตามข้อบงั คบั ฯ นายจ้างเป็ นผู้กาหนด วนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี ให้แก่ลูกจ้าง แต่มิได้กาหนด ให้ แม้ลูกจ้างมิได้แสดงความจานงขอหยดุ กไ็ ม่เป็ น เหตุให้นายจ้างหลุดพ้นจากหน้าที่ ทจ่ี ะต้องกาหนด วนั หยุดพกั ผ่อนประจาปี นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้าง สาหรับวนั หยุดพกั ผ่อนประจาปี ให้แก่ลูกจ้าง

 นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงล่วงหน้าให้สะสมและ เลอ่ื นวนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี ทย่ี งั ไม่ได้หยุดรวมเข้า กบั ปี ต่อๆไปได้(มาตรา 30 วรรคสาม) กรณนี ายจ้างเลกิ จ้างลกู จ้างโดยไม่มคี วามผดิ ตาม มาตรา 119 ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง สาหรับ วนั หยุดพกั ผ่อนประจาปี ในปี ทเ่ี ลกิ จ้างตามส่วนของ วนั หยุดพกั ผ่อนประจาปี ทล่ี ูกจ้างมสี ิทธิ รวมท้งั วนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี สะสม(มาตรา 67 วรรคหน่ึง)

ฎกี า 2226/2545 นายจ้างเลกิ จ้างเพราะต้องการปรับผังองค์กรเพอื่ เหมาะสมแก่การปฏบิ ตั หิ น้าทแ่ี ละลดค่าใช้จ่ายเป็ นการเลกิ จ้างโดยลกู จ้างไม่ได้กระทาผดิ ลูกจ้างมสี ิทธิได้รับค่าจ้างสาหรับวนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปี ตามส่วนฎกี า 497-528/2544 ลูกจ้างเข้าร่วมโครงการเกษยี ณอายุก่อนครบกาหนด นายจ้างไม่ได้เป็ นฝ่ ายเลกิ จ้าง จงึ ไม่ต้องรับผดิ จ่ายค่าจ้างสาหรับวนั หยดุ พกั ผ่อนประจาปีตามมาตรา 67 (และฎกี า 8324/2544 )

 กรณลี ูกจ้างบอกเลกิ สัญญาหรือนายจ้างเลกิ จ้าง ไม่ว่าการเลกิ จ้างน้ันเป็ นกรณตี ามมาตรา 119 หรือไม่กต็ ามให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างสาหรับวนั หยุดพกั ผ่อนประจาปีสะสมทล่ี ูกจ้างมสี ิทธิได้รับให้แก่ลูกจ้าง (มาตรา 67วรรคสอง)

ค่าจ้างเงนิ ทน่ี ายจ้างและลูกจ้าง ตกลงกนั จ่ายเป็ นค่าตอบแทนการทางานตามสัญญาจ้าง สาหรับระยะเวลาทางานตามปกตหิ รือจ่ายโดยคานวณตามผลงานทล่ี ูกจ้างทาได้ในเวลาทางานปกตขิ องวนั ทางาน และให้หมายรวมถงึเงนิ ทนี่ ายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในวนั หยุดและวนั ลาที่ลูกจ้างไม่ได้ทางาน แต่มีสิทธิได้รับ(มาตรา 5)

ก. ค่าจ้างต้องเป็ นเงิน (pay in cash) สิ่งตอบแทนท่ีไม่ใช่เงิน เช่น สิ่งของ ผลประโยชน์อนื่ ทีไ่ ม่ใช่เงิน (pay in kind)ไม่เป็ นค่าจ้างฎกี า 2513/2545 อาหารทน่ี ายจ้างจดั ให้แก่ลูกจ้างวนั ละ3 มือ้ มอื้ ละ 40 บาท รวมเป็ นเงนิ วนั ละ 120 บาท ไม่ใช่เงนิ ทนี่ ายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเพอ่ื ตอบแทนการทางานตามสัญญาจ้าง ไม่ถอื เป็ นค่าจ้าง

ข. ค่าจ้างต้องจ่ายเพอ่ื ตอบแทนการทางานตามสัญญาจ้างเช่น เงนิ เดอื น ค่าแรงรายวนัฎกี า 2966-2968/2548 เงินค่าครองชีพฎกี า876/2544 เงนิ เบยี้ เลยี้ งทางานต่างจังหวดั ฎกี า2770/2528 เงินเพม่ิ พเิ ศษสาหรับการทางานเป็ นกะฎกี า4309-4310/2541 เงินค่านายหน้า จากการขายและเกบ็ เงนิ ค่าสินค้าฎกี า 5394-5404/2547 ค่าคอมมชิ ชั่น/ค่าเที่ยวของพนักงานขบั รถ 

หากจ่ายเพอื่ วตั ถุประสงค์อนื่ เช่น เป็ นสวสั ดกิ าร เป็ นค่าใช้จ่ายในการทางาน เพอ่ื จูงใจให้ทางานมาก ทางานดีให้รักองค์กรไม่ออกจากงาน ฯลฯ ไม่เป็ นค่าจ้างฎกี า 6526/2545 ค่าเช่าบ้าน Xฎกี า 3118/2529 เงินช่วยค่าอาหาร เงนิ ช่วยค่าซักรีดและเงินช่วยค่าพาหนะ Xฎกี า 1982/2531 เงนิ ช่วยเหลอื บุตร Xฎกี า 4786-4087/2528 เงนิ ช่วยเหลอื ค่าไฟฟ้ า Xฎกี า 3155/2532 เงนิ ค่าอาหารกลางวนั X

ฎกี า 3802/2527 ค่าจอดรถ X ฎกี า 1528/2548 เงินโบนสั ประจาปี X ฎกี า 9313-9976/2547 เบยี้ ขยนั X ฎกี า 3728/2524 เงนิ เพมิ่ จูงใจ X ฎกี า 3895/2528 เงนิ เดอื นเดอื นท่ี 13 Xค. จ่ายสาหรับการทางานในวนั และเวลาทางานปกติ ฎกี า 2873/2530 ค่าล่วงเวลา X ฎกี า 1525/2538 ค่าทางานในวนั หยดุ X

การทางานล่วงเวลา การทางานนอก หรือ เกนิ เวลาทางานปกติ หรือเกนิ ช่ัวโมงทางานแต่ละวนั ทนี่ ายจ้าง ลูกจ้างตกลงกนั เช่นตกลงกนั ให้ลูกจ้างทางานวนั ละ 8 ชั่วโมงการทนี่ ายจ้างให้ลูกจ้างทางานในช่ัวโมงท่ี 9 เป็ นต้นไป ถือว่าเป็ นการทางานล่วงเวลา ห้ามใช้ลูกจ้างทางานล่วงเวลา เว้นแต่ ลูกจ้างยนิ ยอมเป็ นคราวๆ ไป ห้าม - งานทอ่ี าจเป็ นอนั ตรายต่อสุขภาพ + ความปลอดภัยของลูกจ้าง

การทางานในวนั หยุด• ห้ามใช้ลูกจ้างทางานในวนั หยุด เว้นแต่ลกั ษณะงานต้องตดิ ต่องานฉุกเฉิน ให้ทาเท่าทจ่ี าเป็ น• งานโรงแรม สถานมหรสพ งานขนส่ง งานขายอาหาร ร้านขายเคร่ืองดมื่สโมสร สมาคม สถานพยาบาล งานตามกฎกระทรวง นายจ้างให้ทางานได้• เพอื่ ประโยชน์แก่การผลติ จาหน่าย บริการ นายจ้างให้ทางานในวันหยุดเท่าท่ีจาเป็ น โดยลูกจ้างยนิ ยอมเป็ นคราวๆ ไป

จานวนชั่วโมงการทางานล่วงเวลา และการทางานในวนั หยุด กฎหมายคุ้มครองจานวนชั่วโมงการทางานล่วงเวลาและการทางานในวนั หยุด รวมกนั แล้ว ต้องไม่เกนิ 36 ชั่วโมงต่อ สัปดาห์

อตั ราการจ่ายค่าล่วงเวลา• ค่าล่วงเวลาในวนั ทางานปกติ จ่าย 1.5 เท่าของอตั ราค่าจ้างต่อช่ัวโมงในวนั ทางานตามจานวนชั่วโมงทที่ า• ค่าล่วงเวลาในวนั หยุด จ่าย 3 เท่าของอตั ราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวนั ทางานตามจานวนชั่วโมงที่ทา

ค่าจ้างในวนั หยุด• วนั หยุดทล่ี กู จ้างมีสิทธิ ได้รับค่าจ้าง จ่าย 1 เท่าของอตั ราค่าจ้างต่อช่ัวโมงในวนั ทางานตามจานวนชั่วโมงท่ีทา• วนั หยุดทล่ี ูกจ้างไม่มีสิทธิ ได้รับค่าจ้าง จ่าย 2 เท่าของอตั ราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวนั ทางานตามจานวนชั่วโมงทท่ี า

วนั ลา 1. ลาป่ วย 2. ลาเพอื่ ทาหมนั 3. ลาเพอื่ กจิ ธุระอนั จาเป็ น 4. ลาเพอื่ รับราชการทหาร 5. ลาเพอ่ื การฝึ กอบรมพฒั นาความรู้ 6. ลาเพอื่ คลอดบุตร

ลาป่ วย 1. ลาป่ วยเท่าทปี่ ่ วยจริง - 3 วนั ขนึ้ ไป แสดงใบรับรองแพทย์ - กรณปี ระสบอนั ตราย เจ็บป่ วยจากการทางาน ลาคลอดบุตร ไม่ถือเป็ นการลาป่ วย 2. ได้ค่าจ้างไม่เกนิ 30 วนั ทางาน ต่อปี

ลาเพอื่ทาหมนั 1. ลาได้ตามแพทย์แผนปัจจุบันช้ันหน่ึงกาหนด 2. ได้ค่าจ้างเท่าวนั ลา

ลาเพอื่ กจิ ธุระ อนั จาเป็ น 1. ลาได้ตามข้อบังคบั เกยี่ วกบั การทางานทก่ี าหนดไว้ 2. จะได้ค่าจ้างหรือไม่ เป็ นไปตามข้อบังคบั ฯ กาหนด

ลาเพอื่ รับรายการทหาร 1. ลาได้ตามวนั ที่ทางราชการทหารกาหนด 2. ได้ค่าจ้างไม่เกนิ 60 วนั ต่อปี

ลาเพอื่ การฝึ ก 1. ลูกจ้างทเ่ี ป็ นเดก็ ทม่ี อี ายตุ ่ากว่า18 ปี อบรม - มสี ิทธิลาเพอื่ เข้าอบรมรับการฝึ กทจ่ี ัดโดยพฒั นาความรู้ สถานศึกษาหรือหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน - โดยได้ค่าจ้างเท่ากบั วนั ทางานตลอดระยะเวลา ทลี่ าแต่ปี หน่ึงไม่เกนิ 30 วนั

ลาเพอื่คลอดบุตร 1. ครรภ์หน่ึงไม่เกนิ 90 วนั 2. ได้ค่าจ้างไม่เกนิ 45 วนั นอกจากนีก้ ฎหมายยงั ห้ามมใิ ห้นายจ้าง เลกิ จ้างลกู จ้างเพราะเหตุมคี รรภ์

อตั ราค่าชดเชย ม.118 การจ่ายค่าชดเชย นายจ้างค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง เม่อื นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทางานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ไม่ว่าจะเป็ น เพราะเหตุสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือไม่ก็ตาม 1. ครบ 120 วนั ไม่ครบปี จ่าย 30 วนั 2. ครบ 1 ปี ไม่ครบ 3 ปี จ่าย 90 วนั 3. ครบ 3 ปี ไม่ครบ 6 ปี จ่าย 180 วนั 4. ครบ 6 ปี ไม่ครบ 10 ปี จ่าย 240 วนั 5. ครบ 10 ปี จ่าย 300 วนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook