สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 4. ความดันโลหิตเป็นค่าไม่คงที่ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทุกวินาที การวัดซ้ำในเวลาท ่ี ใกล้เคียงกันอาจได้คนละค่า แต่กจ็ ะไม่ควรจะแตกต่างกนั นกั 5. ความดนั โลหติ ข้นึ กบั ทา่ ของผ้ถู กู วัดดว้ ย ทา่ นอนความดันโลหติ มักจะสงู กว่าทา่ ยนื 6. นอกจากนั้นยงั ขึน้ กบั สิ่งกระตุ้นต่างๆ เชน่ อาหาร บหุ ร่ี อากาศ กจิ กรรมทกี่ ระทำอยใู่ นขณะนัน้ รวมทัง้ สภาพจิตใจด้วย ในผูส้ ูงอายุ มักจะตรวจพบภาวะความดนั โลหติ สูงชนิดซสิ โตลกิ (isolated systolic hypertension, ISH) หมายถึงความดันตัวบนสูงเพียงค่าเดียว ในขณะท่ีความดันตัวล่างไม่สูง จากการสำรวจพบได้บ่อยกว่า ร้อยละ 20 ของผู้สูงอายุ และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคกล้ามเน้ือหัวใจหนา รวมท้ังโรคหัวใจโต ซึ่งเป็นปัจจัย บ่งช้ีที่สำคัญในการทำนายว่าผู้ป่วยมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิตมากกว่า บุคคลทว่ั ไป การรักษาด้วยยาลดความดนั โลหิต สามารถลดภาวะกล้ามเน้อื หวั ใจหนา และหัวใจโตได้ และยงั ชว่ ย ลดอัตราการเกดิ อมั พาตและภาวะหัวใจล้มเหลว การวัดอุณหภมู ิรา่ งกาย (วดั ไข้) และการเช็ดตวั ผูส้ งู อายุ การวัดไข้เป็นการวัดอุณหภูมิของร่างกาย (ความร้อนของร่างกาย) ด้วยเคร่ืองวัดอุณหภูมิ เรียกว่า เทอรโ์ มมเิ ตอร ์ วิธีวัดอุณหภูมิทน่ี ยิ ม มี 2 ทาง 1. วดั ทางปาก ใชเ้ วลา 3-5 นาที อุณหภมู ิปกตไิ ด้เทา่ กับ 37.5 ํc 2. วัดทางรักแร้ ใชเ้ วลา 5 นาที อณุ หภมู ปิ กติเทา่ กับ 36.5 ํc การวดั อณุ หภมู ิ หากสูงกวา่ 37.5 ํc หมายความวา่ รา่ งกายมีไข ้ การเชด็ ตวั เพือ่ ลดไข้ อปุ กรณ์ เครอ่ื งใช้ อา่ งนำ้ 1 ใบ ผา้ ขนหนเู ล็ก 3 ผนื ผา้ เช็ดตัว 1 ผนื วธิ ีเชด็ ตัวเพอ่ื ลดไข ้ 1) เตรียมอุปกรณเ์ ช็ดตัว ลดไข ้ 2) ถอดเสอื้ ผ้าผู้ป่วยออก 3) ใช้ผา้ ขนหนูท่ีบดิ น้ำพอหมาดๆ ลูบหน้า วางผ้าไว้ซอกคอและหลังหู พกั ไว้สกั ครู ่ 4) บดิ ผ้าผืนใหม่ลูบหนา้ อก ลำตวั พกั ผ้าไวบ้ ริเวณหัวใจ 5) ใชผ้ า้ บิดหมาดๆ เช็ดแขนด้านไกลตวั จากปลายแขนเขา้ หาหัวใจ พกั ไว้ท่ฝี า่ มือ ข้อพับศอก รกั แร้ 6) เช็ดแขนดา้ นใกล้ตวั ทำเชน่ เดยี วกบั (ข้อ 5) 7) เชด็ ขาด้านไกลตัว จากปลายขาเข้าหาหัวใจ พับผา้ ไว้ที่ฝ่าเท้า ข้อพบั ใตเ้ ขา่ ขาหนบี 8) เชด็ ขาด้านใกลต้ วั ทำเชน่ เดยี วกบั ขอ้ (ข้อ 7) 9) พลิกตะแคงผู้ปว่ ย เพือ่ เช็ดหลังโดยเริม่ จากก้นกบไปหาหวั ใจ 10) ใสเ่ สือ้ ผ้าให้เรยี บร้อย (ควรใส่เสอ้ื ผ้าบางๆ เพื่อระบายความรอ้ น) 46 คมู่ ือแนวทางการอบรมผู้ดูแลผสู้ ูงอายุระยะยาว
การนับหายใจ สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ “การหายใจ” เปน็ การแสดงการสดู ออกซเิ จนเขา้ ส่รู า่ งกาย โดยผ่านจมกู หลอดลม และปอด ทเ่ี รียกวา่ การหายใจเข้า และเป็นการแสดงการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายโดยผ่านปอด หลอดลม และ จมกู ทเี่ รียกว่า การหายใจออก การตรวจนับการหายใจเป็นการสงั เกตว่ามกี ารหายใจที่ผิดปกตหิ รอื ไม่ ในจงั หวะ และจำนวนคร้ัง/นาที โดยวิธีการสังเกตไมใ่ ห้ผู้ถกู สังเกตรตู้ ัว เพราะอาจทำใหข้ ดั เขนิ หายใจเร็วขึ้นหรือช้าลงได ้ วธิ ีการสังเกต 1) ผถู้ กู สังเกตอาจนอนหงายหรือนอนตะแคงหรือนัง่ ในทา่ ที่สบาย 2) สังเกตการณ์หายใจเข้าโดยดูหน้าอกที่พองขึ้น และการหายใจออกโดยดูหน้าอกที่ยุบลง นับ เป็นการหายใจ 1 ครั้ง 3) นบั จำนวนครั้งการหายใจใน 1 นาท ี “การหายใจปกติ” ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุจะมีการหายใจประมาณ 16-20 ครั้งต่อนาที “การหายใจที ่ ผิดปกติ” คือ การหายใจที่เร็วมาก ซ่ึงอาจเรียกอาการหายใจเร็วว่า “หอบ” ผู้ท่ีมีอาการหอบจะแสดงอาการ เหน่ือยเวลาหายใจเข้าหนา้ อกจะบมุ๋ บางครั้งมหี นา้ เขียวเพราะขาดออกซเิ จน แหล่งขอ้ มูล : - คู่มอื การปฏบิ ัตงิ านการสรา้ งและดแู ลสุขภาพผ้สู ูงอายุสำหรับอาสาสมคั ร, สำนกั สง่ เสริมสุขภาพ - กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ , กุมภาพันธ์ 2552. - ดร.จรยิ าวัตร คมพยคั ฆ,์ นิตยสารหมอชาวบา้ น เล่ม 102. 47 ค่มู ือแนวทางการอบรมผ้ดู ูแลผสู้ งู อายรุ ะยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ใบความรู้ท่ี 5.3 เร่ือง อาการเจ็บป่วยท่ีพบบ่อยในผู้สูงอายุและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 1. อาการหน้ามดื -วิงเวยี น-เปน็ ลม ผู้สูงอายุมักมีอาการหน้ามืด วิงเวียน และเป็นลมอยู่เสมอ ความจริงอาการดังกล่าวไม่ใช่โรค แต่เป็น อาการท่ีเช่ือมโยงกันอย่างหนึ่ง ซ่ึงเกิดขึ้นทันทีทันใด โดยมากนักจะเกิดในขณะปรับเปล่ียนท่าทาง หรือเปล่ียน อิริยาบถ เช่น นอนแล้วลุก หรือนั่งอยู่แล้วลุกข้ึนทันที หรือการที่ร่างกายต้องออกกำลังมากเกินไป เคร่งเครียด มากเกินไป บางครั้งอาจเปน็ เพียงหน้ามืด ตาลาย สกั ครู่ แล้วหายไป บางครัง้ เป็นมาก จะมีอาการวิงเวยี น ตามมา แล้วจึงหายไป หรือบางคร้ังเป็นมากถึงที่สุด หลังวิงเวียน แทนท่ีจะหาย กลับเป็นมากข้ึนถึงเป็นลมหมดสติไป ในทส่ี ุด อย่างไรก็ตาม อาการหน้ามืด-วิงเวียน-เป็นลมในผู้สูงอายุ มักจะเป็นชั่วขณะสั้นๆ แล้วหายไปเอง ไม่เกิดอันตรายแต่อย่างใด แต่เป็นเคร่ืองเตือนสติผู้สูงอายุว่าเป็นผู้ที่ร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรงนัก จำเป็นต้อง ดแู ลเอาใจใส่สุขภาพตนเองให้มากขน้ึ สาเหตทุ ่ีเกิดอาการดงั กล่าว เกดิ จากการทส่ี มองไดร้ บั ออกซิเจน ซง่ึ นำพาไปโดยเลอื ด ไมเ่ พียงพอหรอื จะพูดใหเ้ ขา้ ใจง่ายๆ ก็คงตอ้ ง พูดว่า เลือดสมองไม่เพียงพอ ธรรมดาคนเรา ถ้ายืน หรือนั่ง หรือเดิน สมองเป็นอวัยวะส่วนที่อยู่สูงที่สุดของ รา่ งกาย ดังน้ันเลือดทจี่ ะขนึ้ ไปเลยี้ งสมอง จึงต้องสบู ฉีดข้ึนไปดว้ ย กำลงั แรงมากกว่าเลือดทีไ่ ปเลีย้ งทอ้ ง หรอื แขน ขา ซง่ึ อยูต่ ำ่ กวา่ เปรยี บง่ายๆ เหมอื นเราอยูใ่ นบา้ นสองชัน้ นำ้ ประปาที่จะข้นึ ชัน้ บนต้องดันแรงกว่าชนั้ ลา่ งจงึ จะ ขึ้นไปถึงได้ เช่น ในขณะท่ีเรานอน เลือดจากหัวใจถูกสูบฉีดไปเลี้ยงสมอง ซ่ึงขณะนอนจะอยู่ในแนวราบเดียวกับ หัวใจ แรงดันเลือดก็ไม่จำเป็นต้องมากนัก เลือดก็ไปถึงสมองได้ แต่พอเราลุกข้ึนนั่งหรือยืน สมองจะอยู่สูงกว่า หัวใจ แรงดันเลอื ด ทจี่ ะไปสสู่ มองจะถกู ปรับใหแ้ รงขนึ้ กวา่ เก่า เพอ่ื ใหเ้ ลอื ดขนึ้ สู่สมองได้ ในจำนวนเทา่ เดมิ กลไก ปรบั แรงดนั เลอื ดเชน่ นี้ เปน็ กลไกอตั โนมตั ขิ องรา่ งกาย ในคนหนมุ่ คนสาวหรอื ผสู้ งู อายทุ ีส่ มบูรณ์แข็งแรง กลไกจะ ปรบั เปลยี่ นได้ทนั ที โดยไมใ่ ช้เวลาเปน็ พิเศษจึงไมท่ ำให้ร่างกายร้สู กึ ผดิ ปกตแิ ตอ่ ยา่ งใด แต่ในผู้สูงอายุท่ีไม่สมบูรณ์แข็งแรง หรือคนท่ีมีโรคในร่างกายบางอย่าง กลไกอัตโนมัติควบคุมแรงดัน เลือดดังกล่าว เสื่อมสภาพลง ทำให้การปรับเปล่ียนแรงดันเลือดไม่ดีเท่าที่ควร จนกว่าร่างกายสามารถปรับกลไก อัตโนมัติ ทำให้แรงดันเลือดเข้าสู่สภาวะปกติ หัวสมองได้รับเลือดเพียงพอ อาการดังกล่าวก็จะค่อยๆ หายไปเอง ไมถ่ งึ กบั ทำใหส้ มองพกิ าร หรือเสียชีวติ แตป่ ระการใด ในคนสูงอายุ จะพบอาการน้ีมากในการเปลี่ยนแปลงอิริยาบถต่างๆ หรือ การออกแรงเบ่งนานๆ แล้ว คลายเบ่งทนั ทีทนั ใด ทเ่ี หน็ ได้ชดั และพบบ่อย ไดแ้ ก่ ขณะนง่ั โดยเฉพาะนงั่ ยองๆ ทำกิจวัตรประจำวันแล้วลุกขึน้ ยนื ทนั ที จะมอี าการดงั กลา่ ว เพราะขณะนง่ั ยองๆ ชอ่ งทอ้ งถูกกดดนั ด้วยเขา่ ทำให้ช่องท้องเลก็ ลง เลอื ดส่วนใหญ่ ท่ีอยูใ่ นช่องทอ้ ง จะถกู ดนั ข้ึนสสู่ มองหรือเบือ้ งบนมาก แตพ่ อลุกขึ้นยืนทนั ที ช่องทอ้ งถูกคลายจากการกดจะขยาย ตัวออกทันที จะทำหน้าที่คล้ายฟองน้ำ ดูดเอาเลือดจากส่วนบนลงล่างสู่ช่องท้องทันที ถ้ากลไกอัตโนมัติ ปรับ เปล่ียนแรงดนั โลหติ ดงั กล่าวไม่ดพี อ กจ็ ะทำให้สมองขาดเลอื ด มีอาการหนา้ มดื เกดิ ขึน้ ทนั ที 48 คู่มอื แนวทางการอบรมผ้ดู ูแลผ้สู งู อายรุ ะยะยาว
การป้องกนั อนั ตราย จากอาการหน้ามืด-วงิ เวยี น-เปน็ ลม ดงั น้ี สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ 1) ในการปรับเปล่ียนอิริยาบถต่างๆ ต้องระวังอย่ากระทำโดยรวดเร็วเกินไปโดยเฉพาะผู้ที่สูงอายุ มากๆ ต้งั แต่ 80 ปีขึ้นไป ตอ้ งระวังมากข้นึ เปน็ พิเศษ 2) ควรตรวจสอบสมรรถภาพความสมบูรณแ์ ขง็ แรงของเราอยูเ่ สมอ ซึ่งผ้สู งู อายุอาจทดสอบได้ดว้ ยตนเอง 3) เมื่อมีอาการหน้ามืด ก่อนวิงเวียนและเป็นลม ถ้าท่านมีสติดี จงน่ังหรือนอนราบลงกับพื้น เมื่อ อาการดีข้ึนจึงค่อยปรับเปลี่ยนอิริยาบถแต่ละน้อย ช้าๆ ร่างกายจะสามารถปรับสภาพตนเองได้โดยมิต้อง วิตกกังวลจนเกินไป จำไว้ว่าหน้ามืด-เป็นลม เฉยๆ จะไม่ถึงแก่ชีวิต อย่าตกอกตกใจเกินกว่าเหตุ แต่เป็นเครื่อง บ่งช้วี ่าเราจะต้องส่งเสรมิ สุขภาพร่างกายของเราใหด้ กี วา่ เก่า 4) ในห้องน้ำ-หอ้ งส้วม ควรมีราวที่ชว่ ยในการพยงุ ตวั ตดิ ไวเ้ สมอ จะช่วยได้มาก 5) ถ้าเคยหนา้ มดื เป็นลม ไม่ควรออกกำลงั กายโดยวิธวี า่ ยน้ำหรอื ใช้อุปกรณ์ออกกำลังทีเ่ ป็นอนั ตราย เชน่ มีเคร่ืองยนตก์ ลไกทีย่ งุ่ ยาก 6) ยาต่างๆ ท่ีมี ถ้าผู้สูงอายุมิได้เป็นโรคอะไรโดยเฉพาะ จะสู่การส่งเสริมด้วยโภชนาการท่ีเหมาะสม ถกู ตอ้ ง และการออกกำลงั กายสม่ำเสมอ 7) สำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการหน้ามืดวิงเวียนจนถึงเป็นลม เมื่อได้รับการปฐมพยาบาลจนดีข้ึนแล้ว สมควรจะไปพบแพทย์ เพ่ือค้นหาว่าอาจมีโรคอันเปน็ ตน้ เหตุอยู่หรือไม่ แล้วปฏบิ ัติตนตามท่แี พทย์แนะนำ ปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น 1. เม่อื ท่านพบผู้สงู อายหุ นา้ มืด-วงิ เวยี น เปน็ ลม จงพยุงตัวผู้สงู อายไุ วใ้ ห้ได้ ค่อยๆ พยงุ ใหน้ ัง่ และนอน ราบลง โดยมากผู้สูงอายุที่เป็นลมจะมีมือ เท้าอ่อน เย็น และมีเหงื่อออก จงคลายเส้ือผ้าให้หลวม ให้นอนหัวต่ำ ถ้าเป็นไปได้ยกปลายเท้าสูง (เพ่ือให้เลือดไปสู่สมองได้มากข้ึน) และระมัดระวังอย่าให้หกล้มเพราะจะทำให้เกิด โรคกระดกู หกั แทรกซอ้ นตามมา 2. ถา้ มียาดมทกี่ ระตนุ้ หัวใจ เชน่ แอมโมเนียหอม ใหช้ บุ สำลีสา่ ยไปมาทีจ่ มูก 3. ใชผ้ า้ ชบุ นำ้ เชด็ บริเวณ แขนขา ชว่ ยโบกพัดให้ได้อากาศดีๆ 4. ถ้าการเปน็ ลมธรรมดาเท่าน้ัน ผเู้ ปน็ ลมก็จะคอ่ ยฟื้นตวั ขนึ้ เราควรให้ความม่ันใจวา่ ไมเ่ ปน็ ไร ให้พกั จนอาการดีขน้ึ จงึ คอ่ ยเคลอ่ื นไหวต่อไป 2. อาการลมชกั เมื่อพบเห็นผู้สูงอายุกำลังชัก คนจำนวนมากรู้สึกว่าไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีเคร่ืองมือท่ีจะช่วยเหลือ การปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นไม่ได้สลับซับซ้อนเพียงแต่ทำเป็นข้ันตอนหลักสำคัญคือป้องกันการได้รับบาดเจ็บ จนกวา่ จะรู้สกึ ตวั คืนมา การปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น 1) ใจเยน็ อย่าต่ืนตระหนก 2) จดั ให้ผสู้ งู อายอุ ยู่ในทา่ สบายบนพ้นื หรือผิวราบ หาอะไรหนนุ ศีรษะ หันหน้าไปดา้ นใดด้านหนึ่งเพอื่ ไมใ่ ห้สำลักและทางเดินหายใจโล่ง ถา้ น่ังอยหู่ ันศรี ษะไปดา้ นหนึ่งใหข้ องเหลวไหลอกมาจากปาก 49 คมู่ ือแนวทางการอบรมผดู้ ูแลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 3) ไม่อยู่ในที่แออดั และคอยกนั คนทีไ่ ม่เก่ยี วข้องให้หา่ ง เชน่ พวกไทยมงุ 4) เช็ดนำ้ ลาย หรอื ส่ิงท่ีอาจอดุ ก้นั การหายใจ เช่น ฟันปลอม หรือ เศษอาหาร 5) อย่าเอาอะไรใส่ในปากผู้สูงอายุ ซ่ึงเป็นสิ่งตรงข้ามกับที่ชาวบ้านมักจะทำกัน ผู้สูงอายุที่กำลังชัก อาจกดั น้วิ ท่านได้ 6) อย่าไปกอดรัดผู้สูงอายุ ถ้าผู้สูงอายุชักแล้วมีการด้ิน อย่าไปจับรัดตัว พึงระวังความปลอดภัยของ ตัวเองด้วย 7) อยา่ ให้นำ้ , ยาหรืออาหารแกผ่ ู้สงู อายจุ นกว่าจะรู้สึกตวั ด ี 8) ถา้ อาการชกั ยังไมห่ ยุดหรือชักติดตอ่ ซ้ำๆกันหลายครัง้ นานกวา่ 5 นาทคี วรเรยี กรถพยาบาล 9) ให้กำลังใจแก่ผู้สูงอายุและปลอบใจคนรอบข้างด้วยเช่นกัน หลังจากชัก ควรจัดให้นอนตะแคงไป ทางซา้ ย ควรระลึกว่าผ้สู ูงอายอุ าจสำลกั ไดก้ อ่ นท่จี ะรสู้ ึกตวั เตม็ ท่ี ดงั น้นั ควรตะแคงหนา้ เพอ่ื ว่าถา้ ผูส้ ูงอายุอาเจยี น จะไดไ้ ม่สำลกั เข้าหลอดลม และอยกู่ บั ผ้สู งู อายจุ นกวา่ จะรสู้ กึ ตวั เต็มที่ (ประมาณ 5-20 นาท)ี 10) หากผู้สูงอายุมอี าการชักแบบเหมอ่ น่ิง อาการชักแบบน้สี ว่ นมากเราไมต่ ้องทำอะไรมาก ถ้าผู้สูงอายุ มอี าการเหม่อนงิ่ ไปช่ัวขณะหรือแขนขากระตกุ ชั่วขณะ บางรายมีอาการงง สับสน มพี ฤติกรรมแปลกๆ เช่น เคย้ี ว ปาก มือคว้าสิง่ ของ วธิ ีชว่ ยเหลือ คอื 10.1 เฝ้าดูอย่างระมัดระวังและถ้าเรารู้ว่าอาการแบบนี้เป็นอาการชัก อธิบายให้ผู้คนรอบข้าง ทราบ เพราะบางครั้งคนทว่ั ไปเข้าใจว่าผู้ป่วยเปน็ โรคจิต, เมาหรือใชย้ าเสพติด 10.2 พยายามอยา่ ส่งเสยี งดงั หรือเอะอะโวยวาย 10.3 พยายามป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับผู้สูงอายุ เช่น บันไดที่สูงชัน, ถนน, ของร้อนเช่น กระทะ หมอ้ นำ้ และอยา่ พยายามจับยดึ ผู้ป่วยยกเวน้ ว่าผปู้ ่วยกำลงั มอี บุ ัติเหตุหรอื ไดร้ บั อันตราย สว่ นมากอาการ ชักจะหยุดเอง ถ้าเราไปจบั ยดึ ผู้สูงอายอุ าจมีสัญชาตญาณต่อสูค้ นท่ีมาจบั ยดึ 10.4 อยกู่ ับผสู้ งู อายจุ นกระทัง่ รู้สกึ ตวั ดี และอาจช่วยพากลับบา้ น 11) ควรนำผู้สูงอายุส่งโรงพยาบาลเมื่อ ชักเกินกว่า 5 นาที ชักติดๆกัน หายใจติดขัด และได้รับการ บาดเจบ็ ท่ีรนุ แรงระหวา่ งชัก 3. อาการทอ้ งร่วง/ทอ้ งเสีย อาหารเป็นพษิ และโรคกระเพาะอาหาร การปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ 3.1 อาการท้องร่วง/ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ โรคท้องร่วง/ท้องเสีย หมายถึง การถ่ายอุจจาระเหลวหรือมีน้ำมากกว่าปกติ 3 ครั้ง หรือถ่าย เปน็ นำ้ 1 คร้ัง หรือถ่ายมมี ูกเลอื ด 1 ครัง้ ในเวลา 1 วนั การปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นดังนี้ 1) ดม่ื นำ้ มากๆ บอ่ ยๆ 2) รับประทานผงน้ำตาลเกลือแร่ หรืออาจผสมเองโดยใช้น้ำสุก 1 ขวดกลม (ขวดน้ำปลา ขวดใหญ่) ผสมน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลอื ปน่ คร่ึงชอ้ นชา 3) รับประทานอาหารออ่ น/อาหารเหลว งดอาหารแข็ง อาหารรสจัดและอาหารทม่ี ีกาก 50 คมู่ อื แนวทางการอบรมผดู้ ูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว
ในกรณีปวดท้องอย่างรุนแรงเกิน 6 ชั่วโมง อาเจียนรุนแรงท้องแข็งหรือถ่ายอุจจาระออกมา สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ เป็น สดี ำให้นำสง่ โรงพยาบาลทนั ท ี 3.2 อาการโรคกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารมักมีอาการปวดแสบ ปวดต้ือ ปวดเสียดหรือจุกแน่น ตรงบริเวณใต้ล้ินปี่ อาการปวดเหล่านี้ เป็นได้ทั้งเวลาก่อนกินอาหารหรือหลังกินอาหารใหม่ๆ และเวลาท้องว่าง เช่น เวลาหิวข้าว ตอนเช้ามืด หรือก่อนนอนตอนดึกๆ ก็ปวดท้องโรคกระเพาะได้เช่นกัน บางคนอาจเป็นๆ หายๆ เวลาเป็นมักจะ ปวดนานคร้ังละ 15-30 นาที วันละหลายคร้ังตามมื้ออาหาร เม่ือมีอาการโรคกระเพาะอาหารควรปฏิบัติตน ดังน ี้ 1) รีบรับประทานข้าว ด่ืมน้ำ ดื่มนม ยาลดกรด ยาเคลือบเยื่อบุกระเพาะ หรือยาแผนปัจจุบัน ตา่ งๆ หรือยาสมุนไพรท่ใี ช้ไดผ้ ลดี ได้แก่ ขม้นิ ชนั เป็นต้น 2) รับประทานอาหารใหต้ รงเวลาทกุ ม้ือ อยา่ ปลอ่ ยใหห้ วิ เพื่อใหก้ รดและนำ้ ยอ่ ยทห่ี ลัง่ ออกมาได้ ทำหน้าทใ่ี นการยอ่ ยอาหารแทนทจี่ ะไประคายเคอื งเยอื่ บุกระเพาะอาหารและสำไส้ และในขณะกนิ อาหารควรดื่ม น้ำบ้าง เพ่อื ชว่ ยให้การบดเคย้ี วอาหารดขี นึ้ 3) ควรดมื่ นำ้ มากๆระหว่างมอ้ื ใหไ้ ดว้ นั ละ 8–10 แก้ว 4) งดสูบบหุ ร่ี ชา กาแฟ น้ำอัดลม งดอาหารรสเผด็ จัด เปร้ียวจัด 5) รับประทานยาอย่างต่อเน่ือง และควรพบแพทย์ตามนัด และหลีกเล่ียงการใช้ยาแอสไพริน เน่อื งจากระคายเคืองกระเพาะ 4. อาการเปน็ ลม หมดสติ อาการผู้ทเ่ี ป็นลม หมดสติ คอื ไม่รู้สกึ ตวั หรอื หมดสตไิ ปอย่างฉบั พลนั หนา้ ซีด มือเทา้ เยน็ เหงือ่ ออก หายใจลกึ และชา้ ตัวอ่อนปวกเปยี ก การปฐมพยาบาลเบือ้ งตน้ 1) ให้นอนศีรษะต่ำ (ไม่ต้องหนุนหมอน) ปลดเสื้อผ้าและเข็ดขัดให้หลวม เพ่ือให้เลือดไปเลี้ยงสมอง ได้เร็วและพอเพียง 2) หา้ มคนมงุ ดู เพือ่ ให้อากาศถ่ายเทได้ 3) ให้ดมยาแอมโมเนยี หอม หรืออาจใชผ้ า้ เยน็ เช็ดบรเิ วณคอและใบหน้า จะช่วยใหร้ สู้ ึกตัวเรว็ 4) ห้ามกินหรือด่มื อะไรในขณะทย่ี งั ไมฟ่ น้ื 5) เม่อื เร่มิ รู้สึกตัว ใหน้ อนต่อ อยา่ พึง่ ลุกนง่ั เร็วเกนิ ไป 6) เมอ่ื ผู้สูงอายุเริ่มกลืนอะไรได้ อาจใหด้ ื่มนำ้ หรือนำ้ หวาน 7) ถ้ายังไมฟ่ ืน้ ภายใน 15 นาที ใหส้ ่งโรงพยาบาลทนั ที 8) ถ้าผสู้ ูงอายหุ ยดุ หายใจให้ผายปอด โดยวธิ ีเป่าปากแล้วนำสง่ โรงพยาบาลดว่ น 51 คู่มือแนวทางการอบรมผูด้ ูแลผู้สงู อายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 5. อาการบาดเจ็บ มบี าดแผล การปฐมพยาบาล หมายถึง การให้ความช่วยเหลือต่อผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วย ณ สถานท่ีเกิดเหตุ โดยใช้ อุปกรณเ์ ทา่ ที่หาไดใ้ นขณะนั้น ก่อนทผ่ี ้บู าดเจ็บจะไดร้ ับการดแู ลรกั ษาจากแพทย์หรอื สง่ ผลไปยังโรงพยาบาล การทำแผลทว่ั ไป 1) ลา้ งมอื ใหส้ ะอาด 2) ทำแผลทส่ี ะอาดกอ่ นแผลสกปรก 3) เชด็ รอบแผลดว้ ยสำลีชบุ แอลกอฮอล์ (เชด็ วนจากด้านในออกมาด้านนอกทางเดยี ว) 4) ปดิ ปากแผลดว้ ยผา้ กอซหรือผา้ สะอาด 5) อยา่ ให้แผลถูกนำ้ จะทำเป็นหนอง หรอื หายช้า กรณีแผลลึกถึงกระดูกหรอื กระดกู โผล ่ 1) ห้ามเลือดทนั ท ี 2) ใช้ผ้าสะอาดคลุม ห้ามจับกระดกู ยดั เขา้ ไป 3) รบี พาไปพบแพทยท์ ันที กรณีแผลต้นื หรอื มีดบาด 1) บีบเลอื ดออกบา้ ง 2) ล้างดว้ ยนำ้ สะอาดและสบู่ 3) ใสย่ าสำหรบั แผลสด เชน่ เบตาดนี 4) ปิดแผลเพ่อื ใหข้ อบแผลสมานติดกัน กรณีแผลถลอกท่วั ไป 1) ลา้ งแผลด้วยน้ำและสบู่ ใหส้ ิ่งสกปรกออกให้หมด 2) เชด็ ดว้ ยแอลกอฮอล์ ทาดว้ ยทิงเจอรแ์ ผลสด 3) ไมต่ อ้ งปดิ แผล การห้ามเลอื ด หลกั การหา้ มเลอื ดตอ้ งคำนงึ ถึง 1) ความปลอดภัยของตัวเอง การป้องกันการติดเช้ือท่ีต้องไปสัมผัสกับบาดแผล และเลือดของผู้ป่วย โดยตรง ควรใชถ้ งุ มือยาง หรือหาวัสดใุ กลต้ ัว เช่น ถงุ พลาสตกิ 2) บาดแผลเล็ก กดโดยตรงบนบาดแผล บาดแผลใหญ่ข้ึน ให้ใช้ฝ่ามือกดปากแผลไว้ วิธีที่ดีท่ีสุดคือ ใชผ้ ้าสะอาดพบั หนาๆ กดลงบนแผล 3) ใช้ผ้ายึดพนั ทบั ผ้าทป่ี ดิ กดบาดแผลไว้ 4) ถา้ เลือดออกมาก อยา่ เสียเวลาทำแผลใหใ้ ชม้ ือกดบนแผล 5) ถา้ เลือดยังไมห่ ยุด ใหใ้ ชน้ ้วิ มือกดตรงจดุ เส้นเลือดแดงที่มาเล้ยี ง 6) เฝ้าระวงั อาการชอ็ ก ในกรณีฉุกเฉินให้ใช้เสื้อ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าพันคอ หรือถ้าไม่มีจริงๆ ให้ใช้ฝ่ามือกดลงไปบนบาดแผล ตรงๆ ได้เลย นานประมาณ 10 นาที ถ้าเลือดยังไม่หยุดให้เติมผ้าชิ้นใหม่กดลงไปบนผ้าชิ้นเดิมที่ปิดอยู่บน บาดแผล 52 คู่มอื แนวทางการอบรมผ้ดู แู ลผูส้ ูงอายรุ ะยะยาว
6. การดูแลผู้สูงอายปุ วด/เวยี นศีรษะที่มอี าการปวด/เวยี นศรี ษะ เป็นหวัดและภมู แิ พ ้ สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ เมื่อมีอาการปวดศีรษะ/เวียนหวั ควร • บบี นวดศรี ษะและตน้ คอเบาๆ โดยใช้นวิ้ หัวแม่มือและประคบด้วยความร้อน • แนะนำใหผ้ ู้สูงอายุนอนหลบั พักผอ่ นให้เพยี งพอ • แนะนำให้งดเคร่ืองดืม่ ประเภทแอลกอฮอล์ อาหารที่ผสมผงชูรส ผลไมเ้ ปรีย้ วจดั เมื่อเป็นหวัด • พักผอ่ นใหเ้ พียงพอ หากมไี ขค้ วรเชด็ ตวั ลดไขแ้ ละกินยาลดไข ้ • รกั ษาร่างกายให้อบอุ่น ไมค่ วรสระผมหรอื อาบนำ้ ดว้ ยนำ้ เย็น • หากมีนำ้ มูก ควรหลกี เลี่ยงการส่งั นำ้ มูกแรงๆ • อยา่ ใช้ของร่วมกับผทู้ เ่ี ป็นหวัดหรอื อย่รู ว่ มกับผ้ทู ่เี ป็นหวดั • ไมจ่ ำเปน็ ต้องกินยาปฏิชีวนะและไมค่ วรซือ้ ยามากินเอง • หากเป็นหวดั คดั จมกู โดยไม่ทราบสาเหตชุ ดั เจนนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์ อาการภูมิแพ ้ • หลีกเลีย่ งสิ่งท่แี พ้ เช่น ความเยน็ ความร้อน ฝุ่นละออง ขนสัตว์ ละอองเกสร นุน่ อาหารทะเล เปน็ ตน้ • ถา้ เปน็ ภมู แิ พ้ไม่มาก ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งกนิ ยา หรอื ซอ้ื ยาชดุ มากนิ เอง แหล่งข้อมลู : กรมอนามัย. คู่มือการปฏิบัติงานการสร้างและดูแลสุขภาพผู้สูงอายุสำหรับอาสาสมัคร. กรุงเทพฯ ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย, 2552. 53 คู่มอื แนวทางการอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายรุ ะยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 6 แผนการสอนที่ เรื่อง การดแู ลชว่ ยเหลือผู้สงู อายุท่ชี ว่ ยเหลอื ตนเองไมไ่ ด้ เน่อื งจากความชราภาพ วตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้ • วัตถปุ ระสงคท์ ว่ั ไป เพ่ือให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที ่ ชว่ ยเหลอื ตนเองไม่ได้ • วตั ถปุ ระสงค์เฉพาะ เพื่อให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที ่ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เน่ืองจากชราภาพท่ีมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ ระบบขับถ่าย ระบบอวัยวะสืบพนั ธไ์ุ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เป้าหมาย แผนการสอนน้มี ุ่งหมายใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรม เขา้ ใจวัตถปุ ระสงค์ ขั้นตอน แนวทาง และประเด็นสำคัญ ของการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ รวมทั้งนำทักษะที่ได้มาใช้ในการดูแลผู้สูงอายุท่ีช่วยเหลือ ตนเองไม่ได้ ได้อย่างเหมาะสม และสามารถบรู ณาการความรทู้ ไ่ี ด้ ไปปรับใช้ในการปฏบิ ตั ิงานจรงิ ได ้ เน้ือหาวชิ า - ระบบทางเดนิ อาหาร - ระบบทางเดินหายใจ - ระบบขบั ถา่ ย - ระบบอวยั วะสบื พนั ธ์ ุ ระยะเวลา ทฤษฎี 16 ช่วั โมง ปฏบิ ตั ิ 26 ช่วั โมง วิธีการสอน - การบรรยาย - การซกั ถาม - การแสดงบทบาทสมมต/ิ การฝึกปฏิบัติ 54 คมู่ ือแนวทางการอบรมผู้ดแู ลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว
ข้ันตอนการดำเนินกจิ กรรม สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ 1. การบรรยายภาคทฤษฎีเกี่ยวกับการดแู ลชว่ ยเหลือผูส้ ูงอายุที่ชว่ ยเหลอื ตนเองไมไ่ ด ้ 2. การฝกึ ภาคปฏบิ ตั ิ โดยการ - แบ่งกลุม่ สาธิตการให้อาหารทางสายยางและการดแู ลสายยางให้อาหาร - แบง่ กลุ่มสาธติ การดแู ลสายสวนปสั สาวะ สอ่ื ประกอบการเรียน / อปุ กรณ์ - สอ่ื อิเลคทรอนคิ ส ์ - แผ่นพบั - โปสเตอร์ - ภาพพลกิ การประเมินผล - การสงั เกต - การซกั ถาม - ผลจากการฝกึ ปฏบิ ตั ิ 55 คมู่ อื แนวทางการอบรมผู้ดแู ลผ้สู ูงอายรุ ะยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ใบความรู้ที่ 6 เรื่อง การดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุท่ีช่วยเหลือตนเองไม่ได ้ ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวหรือไม่สามารถปฏิบัติกิจวัติประจำวันได้ ผู้ดูแลและครอบครัวจะต้อง ช่วยเหลือในการทำกิจกรรมท้งั หมดในเร่อื ง การทำความสะอาด ไดแ้ ก ่ การทำความสะอาดภายในช่องปาก สำหรับผู้สูงอายุท่ีไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ผู้ดูแลควรใช้ แปรงสีฟัน หรือผ้าชุบน้ำเกลือ ถูบริเวณฟัน ลิ้น และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดซ้ำบริเวณฟัน กระพุ้งแก้มและลิ้น โดยเช็ดให้ถึงโคนลิ้นเพ่ือเอาเสมหะหรือน้ำลายเหนียวให้มากท่ีสุด ในขณะทำความสะอาดควรตะแคงหน้า ผู้สูงอายุไปด้านใดด้านหน่ึงเพ่ือป้องกันการสำลักน้ำหรือน้ำลาย ข้อสำคัญ ควรทำความสะอาดภายในช่องปาก ก่อนรบั ประทานอาหารหรอื ภายหลังรับประทานอาหาร 2 ชัว่ โมง เพือ่ ปอ้ งกนั การเกดิ อาการคล่นื ไส้และอาเจยี น ในกรณีที่ผู้ป่วยรับประทานอาหารทางปาก ควรให้บ้วนปากทุกคร้ังหลังรับประทานอาหารและรักษาความชุ่มชื้น บรเิ วณรมิ ฝปี ากโดยทาวาสลนิ บอ่ ยๆ การทำความสะอาดรา่ งกาย ควรทำอย่างน้อยวนั ละ 1-2 คร้งั ถ้าสามารถเคลอ่ื นย้ายผู้ป่วยได้ควรพา ไปอาบน้ำ ถึงแม้จะมีสายยางใหอ้ าหาร หรือคาสายสวนปัสสาวะกพ็ าไปอาบนำ้ ได้ แต่ถ้าไม่สามารถเคลือ่ นย้ายได้ ให้เช็ดตวั บนท่นี อน ฟอกสบูแ่ ละเชด็ ให้สะอาด หลังทำความสะอาดรา่ งกายเสร็จแลว้ ควรทาโลช่ัน เพ่ือให้ผวิ หนัง ชุ่มชื้น แต่ไม่ควรทาแป้งมากนักตามบริเวณซอกอับต่างๆ เช่น รักแร้ ขาหนีบ และใต้ราวนม เพราะจะทำให้เกิด เช้อื ราและเปน็ แผลได้ ส่วนมอื และเท้าควรแชน่ ำ้ ถลู า้ งคราบสกปรกออกให้หมด การทำความสะอาดศรี ษะและผม ควรสระผมอย่างน้อยอาทติ ย์ละ 2-3 ครงั้ และควรตัดผมให้สัน้ เพ่อื ความสะดวกในการดูแลรักษา การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ ในกรณีท่ีไม่สามารถทำเองได้ควรล้างน้ำหรือเช็ดให้สะอาด และ ซับใหแ้ หง้ การกระตุ้นการรบั รู้ และความทรงจำ ในกรณีผสู้ ูงอายทุ ม่ี ีปัญหาการรับรู้และความทรงจำ ควรมีการ พูดคุยกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ และจัดให้อยู่ในสถานที่ที่ผู้สูงอายุคุ้นเคย หรือให้ดูโทรทัศน์ ปฏิทิน นาฬิกา รูปภาพ มีการบอกถึงวัน เวลาและสถานที่ ฟังวิทยุ ตลอดจน สนับสนุนให้ผู้สูงอายุพบปะกับบุคคลท่ีชอบหรือ คุ้นเคย เช่น ลูกหลาน เพื่อน หรือเพื่อนบ้าน แต่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรให้เวลาผู้สูงอายุในการปรับตัว ไม่ควรเร่งเร้า จนเกินไป นอกจากนั้นควรประเมินว่าผู้ป่วยสูงอายุมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นหรือการได้ยินลดลงหรือไม่ ถ้ามี ควรแก้ไขหรอื หาอปุ กรณช์ ่วยเหลอื การรับประทานอาหาร เน่ืองจากผู้สูงอายุบางรายมีโรคประจำตัว จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนอาหารให้ เหมาะสมกับโรคท่ีเป็นอยู่ เช่น ผู้ป่วยท่ีมีความดันโลหิตสูงไม่ควรรับประทานอาหารท่ีมีรสเค็ม เช่น น้ำปลา เตา้ เจี้ยว ปลาเคม็ หรอื ของหมักดอง ผทู้ ี่มโี รคเบาหวานควรควบคมุ อาหารหวาน ขนมหวานหรอื ผลไมท้ ีม่ รี สหวาน ส่วนผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงควรงดอาหารมีไขมัน หรือโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง ไขมันสัตว์ ของทอด กะทิ ปลาหมึก ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางด้านการกลืน หรือสำลักอาหารบ่อยคร้ัง ในระยะแรกอาจต้องให้ 56 คู่มอื แนวทางการอบรมผดู้ ูแลผู้สูงอายุระยะยาว
อาหารทางสายยาง เม่ือระบบการกลืนดีขึ้น(โดยสังเกตจากการที่ผู้ป่วยสามารถกลืนน้ำลายตนเองได้) จึงให้ สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ รับประทานอาหารทางปากโดยจัดให้ผู้ป่วยน่ังหรือยกศีรษะสูง อาหารควรวางในระดับลานสายตาของผู้สูงอายุ และอาหารทใ่ี ห้ควรมีลกั ษณะข้นออ่ นนุ่มเหมาะต่อการเคย้ี ว อุณหภูมไิ มเ่ ย็นหรือร้อนจนเกินไป รสไมจ่ ดั ถา้ ผ้ปู ว่ ย รับอาหารได้น้อย ควรจัดอาหารให้วันละ 5-6 ครั้ง หลังรับประทานอาหารควรให้ผู้สูงอายุนั่ง หรือนอนในท่า ศรี ษะสูงตอ่ อยา่ งนอ้ ย ครึ่งถึง 1 ชัว่ โมง ผู้ป่วยสงู อายุมักมีอาการเบ่ืออาหาร ผดู้ ูแลควรปรับเปลย่ี นสถานที่ มกี าร รับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัว จัดเตรียมอาหารที่ผู้ป่วยสูงอายุชอบ หรือจัดอาหารให้น่ารับประทาน มากข้ึน นอกจากนั้นผู้ดูแลควรประเมินว่าผู้ป่วยสูงอายุได้รับอาหารเพียงพอหรือไม่ โดยดูจากน้ำหนักหรือรูปร่าง ของผ้ปู ว่ ยสงู อายวุ า่ อว้ นขน้ึ หรือผอมลง การดื่มน้ำ ผู้สูงอายุบางคนสำลักง่าย โดยเฉพาะการดื่มน้ำจะลำบากกว่าการกลืน อาหารที่มีลักษณะ ข้นหรืออ่อน ดังนั้นการให้น้ำควรเพ่ิมความระมัดระวัง อาจให้ในรูปของอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำปนอยู่ด้วย หรือป้อนน้ำด้วยช้อนเล็กข้างๆกระพุ้งแก้มหรือให้น้ำทางสายให้อาหาร โดยให้ประมาณวันละลิตรครึ่งถึง 2 ลิตร (ในกรณีที่ไม่จำกัดน้ำ) อาจให้หลังรับประทานอาหารและระหว่างม้ืออาหาร และควรสังเกตสีของปัสสาวะ ถ้าสี เข้มควรให้น้ำเพม่ิ ผ้สู งู อายทุ ไี่ ดร้ ับนำ้ เพียงพอปสั สาวะจะมีสเี หลืองอ่อนและจำนวนปัสสาวะทอี่ อกมาควรสัมพันธ์ กบั น้ำท่ใี ห้ คือเมือ่ ใหน้ ้ำมากปัสสาวะจะมากขนึ้ เมือ่ ใหน้ ้ำน้อยปัสสาวะจะนอ้ ยลง สว่ นผทู้ ีต่ อ้ งจำกดั น้ำ เช่นผู้ทีม่ ี โรคหวั ใจ ไตวาย ควรปรึกษาแพทย์ หรือพยาบาลทีด่ ูแล การดแู ลผปู้ ว่ ยใส่สายยางหรอื ท่อใหอ้ าหาร ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้หรือรับประทานอาหารได้แต่ไม่เพียงพอ แพทย์ มักแนะนำการให้อาหารผ่านทางสายยางหรือท่อให้อาหารเสมอ และจะใส่สายยางหรือท่อให้อาหารน้ีไว้จนกว่า ผู้ป่วยจะสามารถกลับมารับประทานอาหารทางปากได้อย่างพอเพียง ในช่วงที่ผู้ป่วยใส่สายยางหรือท่อให้อาหาร ถ้ายังสามารถรับประทานทางปากได้บ้าง และแพทย์ไม่ได้ห้ามรับประทานทางปาก ผู้ป่วยสามารถรับประทาน ทางปากรว่ มไปด้วยได้ตามความสามารถทีจ่ ะทำได้ เพราะจะทำใหไ้ ด้อาหารเพิม่ มากขึ้น ไดร้ บั รู้รสชาติอาหาร ซึ่ง จะช่วยใหม้ ีคุณภาพชวี ติ ท่ีดขี นึ้ แพทยจ์ ะหา้ มรับประทานอาหารทางปากเมอ่ื มรี อยร่วั หรือรทู ะลุระหวา่ งทางเดนิ อาหารกับอวัยวะข้างเคยี ง เชน่ ทะลุเขา้ เนื้อเยื่อรอบ ๆ คอ ในกรณีของการผ่าตดั ในมะเร็งกล่องเสียง หรือกรณมี ี รอยทะลุระหว่างหลอดอาหารกับหลอดลมในผู้ป่วยมะเร็งหลอดอาหาร เป็นต้น การให้อาหารทางสายยางหรือ ท่อให้อาหาร อาจต้องทำโดยการใส่สายยางหรือท่อให้อาหารเข้าทางรูจมูก ผ่านลำคอและหลอดอาหารลงสู่ กระเพาะอาหาร หรืออาจโดยทำการผ่าตัดเล็กทางหน้าท้องใส่ท่อผ่านผิวหนังเข้ากระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก โดยตรง หลกั การดแู ลทส่ี ำคญั คอื 1. ระมดั ระวังไม่ใหส้ ายยางหรอื ทอ่ ใหอ้ าหารหลดุ 2. รู้ว่าเมอื่ ไรสายยางหรอื ท่อให้อาหารตัน 3. รกั ษาความสะอาดของสายยางหรอื ท่อใหอ้ าหาร 4. รักษาความสะอาดของผวิ หนงั หรือแผลบริเวณท่ใี ส่สายยางหรอื ทอ่ ให้อาหาร 5. รู้วธิ กี ารเตรียมอาหาร ใส่ทางสายยางหรอื ทอ่ ให้อาหาร 57 คมู่ อื แนวทางการอบรมผดู้ แู ลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 6. รู้วธิ ีให้อาหารผ่านสายยางหรอื ทอ่ ใหอ้ าหาร 7. รวู้ ิธที ำความสะอาดอุปกรณใ์ หอ้ าหาร อาหารและวิธกี ารใหอ้ าหารผ่านสายยางหรือทอ่ ให้อาหาร 1. ใหอ้ าหารได้ทุกประเภท ถ้าไมม่ ีข้อจำกดั จากโรคบางโรค เชน่ เบาหวาน ความดัน หรอื โรคผวิ หนงั เปน็ ตน้ 2. อาหารต้องเป็นอาหารเหลว หรืออาหารปน่ั 3. ตอ้ งเปน็ อาหารทสี่ ะอาด ถกู หลกั อนามัย ปรุงสุกและสด 4. ปริมาณอาหารแต่ละครั้งต้องไม่มากเกินไป ถ้ามากเกินไปอาหารจะล้นออกมาทางสายยาง หรือ ทอ่ ใหอ้ าหาร หรืออาจทำให้ผู้ปว่ ยแน่นทอ้ ง อดึ อัด สำลักได้ ดงั นั้น จึงควรสังเกต และปรบั ใหพ้ อเหมาะพอควร 5. ในขณะให้อาหาร ผู้ป่วยควรอยู่ในท่านั่ง หรือถ้านั่งไม่ได้ ควรเป็นท่านอนเอนตัว ไม่ใช่นอนราบ เพอื่ ช่วยใหอ้ าหารไหลลงกระเพาะอาหารได้สะดวกขึน้ และไมส่ ำลกั 6. ควรให้อาหารช้าๆ ทล่ี ะน้อยจนกว่าจะหมด ประมาณ 15-30 นาท ี 7. ถ้าระหว่างให้อาหารมีการติดตัน อย่าพยายามดัน เพราะอาจจะทำให้สายยาง หรือท่อให้อาหาร แตกและเปน็ อนั ตรายได้ ควรแจง้ แพทยห์ รอื พยาบาล 8. ให้สงั เกตว่า สายยางหรือท่อให้อาหารตนั แตก ฉีกเป่ือย หรอื เปลา่ ถ้าตนั อาหารจะไหลไมส่ ะดวก หรอื มีการตดิ ไหลไมล่ ง และอาหารอาจไหลยอ้ นกลับ ถา้ แตก ฉกี เป่อื ย จะมีนำ้ หรอื เศษอาหารซมึ ออกมา หากมี เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ดงั กลา่ วเกดิ ข้นึ ให้แจง้ แพทย์หรอื พยาบาลทันท ี 9. หลังจากให้อาหารเสร็จทุกคร้ัง ควรใส่น้ำสะอาดตามลงไปเล็กน้อย เพ่ือทำความสะอาดสายยาง หรือทอ่ ใหอ้ าหาร ไม่ใหเ้ ศษอาหารตดิ ค้างอนั เปน็ บอ่ เกดิ ของเชอ้ื โรคได้ 10. หลังให้อาหารเสร็จแล้ว ควรปิดปากสายยางหรือท่อให้อาหารให้สนิท เพื่อกันอาหารหรือน้ำย่อย ไมใ่ ห้ไหลย้อนกลับ 11. หลังการให้อาหาร ควรให้ผู้ป่วยน่ังลงสักพัก หรือลุกเดินช้าๆ เพ่ือให้อาหารผ่านจากกระเพาะเข้า ลำไสไ้ ดเ้ ร็วขน้ึ ไม่ควรนอนทันที เพราะอาจทำให้อาหารไหลย้อนกลบั ได้ และเพอ่ื ชว่ ยลดอาการอืดแนน่ ท้อง 12. ถ้าให้อาหารแล้วมีอาการไอหรือสำลักเสมอ ต้องแจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันที เพื่อหาสาเหตุการ ไอหรือสำลัก เพราะอาจทำใหอ้ าหารไหลย้อนกลบั เข้าไปในปอด ทำใหป้ อดอกั เสบได้ 13. ถา้ ผ้ปู ว่ ยหวิ ในระหวา่ งม้ือ สามารถใหอ้ าหารเสรมิ เพ่มิ เตมิ ได้ ถ้ายังรบั ประทานทางปากได้ก็อาจให้ ทางปากร่วมด้วยได้ การดแู ลผปู้ ว่ ยสูงอายุทใ่ี หอ้ าหารทางสายยาง 1. ระมดั ระวังไม่ใหส้ ายยางหรือทอ่ ใหอ้ าหารหลุด ถ้าสายยางหลุดและรบั ประทานอาหารทางปากไม่ได้ ต้องแจ้งแพทย์หรอื พยาบาลทนั ที แตห่ ากว่ายงั สามารถรบั ประทานทางปากได้ ก็สามารถไปพบแพทยใ์ นวนั -เวลา ราชการได้ 2. ผู้ป่วยควรเรียนรู้วิธีทำความสะอาดสายยางหรือท่อให้อาหารจากพยาบาล และปฏิบัติตามโดย เครง่ ครดั 58 คู่มอื แนวทางการอบรมผูด้ แู ลผสู้ งู อายุระยะยาว
3. สายยางหรือท่อให้อาหารจะมีอายุการใช้งาน ท้ังนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของสายยางหรือท่อให้อาหาร สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ จึงควรสังเกต ถ้าเส่ือมสภาพควรแจ้งแพทย์หรือพยาบาลเพ่ือเปล่ียนใหม่ วิธีสังเกตสายยางหรือท่อให้อาหาร เส่อื มสภาพคอื มลี กั ษณะเป่อื ย มีน้ำหรือเศษอาหารซมึ ออกมาขณะใหอ้ าหาร หรอื มีรอยฉกี ขาดรั่วซมึ เป็นตน้ การดแู ลผิวหนงั บริเวณท่ีใสส่ ายยางหรอื ทอ่ ให้อาหาร 1. ทำความสะอาดดว้ ยน้ำยาแอลกอฮอลห์ รือนำ้ ยาเบต้าดีน วนั ละ 2 คร้ัง เชา้ -เย็น แตถ่ ้าสกปรกมาก กเ็ พมิ่ การทำความสะอาดได้อกี ตามความเหมาะสม 2. ไมจ่ ำเปน็ ต้องปิดแผลบริเวณน้นั แต่ถ้ามีอาการระคายเคืองให้ใช้ผ้ากอซสะอาดปิดได้ หากไม่ทราบ วธิ ีปฏิบัติ ควรสอบถามและฝึกปฏิบตั จิ ากพยาบาล 3. สังเกตว่ามีการอักเสบติดเชื้อบริเวณผิวหนังส่วนนั้นหรือเปล่า ถ้ามีต้องแจ้งแพทย์หรือพยาบาล ลักษณะการอกั เสบติดเชือ้ คือ ผิวหนังจะแดงเจ็บและอาจมตี ุ่มหนอง การรบั ประทานยา ควรได้รบั อย่างสม่ำเสมอและถกู ต้อง โดยเฉพาะยาลดความดันโลหติ สงู ยาละลาย ลม่ิ เลือด ยาลดไขมัน ยารกั ษาโรคเบาหวาน ในกรณที ีผ่ ู้ปว่ ยรบั ประทานยาละลายลม่ิ เลือด เช่น ยาวาฟารนิ หรือ ยาละลายเกร็ดเลือดเช่นยาแอสไพริน ผู้ดูแลควรสังเกตผลข้างเคียงของยาท่ีอาจจะเกิดขึ้น เช่น มีเลือดออกตาม ไรฟนั จุดจ้ำเลือดตามรา่ งกาย การปวดแสบท้องบรเิ วณใตล้ น้ิ ปม่ี ากผดิ ปกติ ถา่ ยดำหรอื ปสั สาวะเป็นสีนำ้ ล้างเนื้อ ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือพบแพทย์ทันที ส่วนผู้ป่วยท่ีไม่มีปัญหาการกลืน ควรกลืนยาเป็นเม็ด ไม่ควรบดยาหรือ ละลายน้ำ เพราะจะทำให้การออกฤทธิ์ของยาไม่สม่ำเสมอ เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง ยากันชัก ยาขยาย หลอดลม การดูแลผู้ป่วยสงู อายุท่มี เี ครื่องช่วยหายใจ ดแู ลใหไ้ ดร้ บั ออกซิเจนเพียงพอและไม่มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ โดย 1. ประเมนิ สภาพผปู้ ว่ ย 2. ตรวจและบนั ทึกขอ้ มูลของเครอื่ งช่วยหายใจ 3. ดดู เสมะเพ่อื ให้ทางเดินหายใจโล่ง 4. กรณที ผ่ี ูป้ ว่ ยใสท่ ่อชว่ ยหายใจ ดูแลท่อชว่ ยหายใจให้อย่ใู นตำแหนง่ ท่ีเหมาะสม 5. บันทึกปริมาตรอากาศที่หายใจออกของผู้ป่วยแต่ละครั้ง อย่างน้อย วันละครั้ง เพ่ือประเมินความ ก้าวหนา้ ของผปู้ ่วย 6. ดแู ลเครอื่ งชว่ ยหายใจให้ทำงานอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 7. ประเมินสภาพและป้องกนั การตดิ เช้ือของทางเดนิ หายใจ 8. สงั เกตลกั ษณะสีกลิ่นของเสมหะ เก็บเสมหะส่งเพาะเช้อื และติดตามผล ลดความเจ็บปวดทุกขท์ รมานและไมเ่ กดิ ภาวะแทรกซอ้ น โดย 1. ดูแลทำความสะอาดชอ่ งปาก 2. ปอ้ งกันการเล่ือนหลุดของท่อช่วยหายใจโดยตดิ พลาสเตอร์ใหเ้ หมาะสม 3. ระวงั ไม่ให้สายดงึ รงั้ 4. ปอ้ งกันการบาดเจ็บของทางเดนิ หายใจ 5. ปอ้ งกันการติดเช้อื ในระบบทางเดนิ หายใจ 59 คู่มือแนวทางการอบรมผูด้ แู ลผู้สงู อายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 6. ปอ้ งกันการดึงทอ่ โดยการผูกมดั อยา่ งระมัดระวัง มีการส่อื สารความต้องการไดเ้ หมาะสม โดย 1. ประเมนิ ความสามารถของผู้ป่วยทใ่ี ช้ในการติดต่อสอื่ สาร 2. หาวธิ กี ารสือ่ สารแทนคำพดู 3. หมน่ั ไต่ถามความตอ้ งการของผปู้ ว่ ย 4. ใชค้ ำพดู ช้าๆ ชัดๆ ในการติดต่อสื่อสาร 5. อธบิ ายใหญ้ าติเข้าใจถึงปญั หาและสาเหตุของการส่อื สารลำบาก 6. จดั กรงิ่ หรอื ออดไว้ใกล้ตวั ผู้ปว่ ย พักผอ่ นนอนหลบั ได้มากข้นึ โดย 1. ให้ผปู้ ว่ ยเปน็ ส่วนตัว ตามความเหมาะสม 2. ดแู ลด้านจติ สงั คมและสิง่ แวดลอ้ มเพือ่ สง่ เสริมการนอนหลับ การนอน ผู้ป่วยอาจมีแบบแผนการนอนเปลี่ยนแปลงไป โดยไม่ค่อยนอนในตอนกลางคืนแต่จะนอน มากใน ตอนกลางวัน ผูด้ ูแลจึงควรจดั ใหผ้ สู้ ูงอายทุ ำกจิ กรรมในตอนกลางวนั เช่น อ่านหนังสือให้ฟัง ดูโทรทัศน์ ออกกำลังกายและควรจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบเงียบในตอนกลางคืน บางครั้งการนอนคนเดียวอาจทำให้ผู้สูงอายุ เกิดความกลัวหรือรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นท่ีต้องการของครอบครัว หรือไม่สุขสบาย เนื่องจากต้องนอนท่าเดิมนานๆ หรือเกิดความเจ็บปวดเนื่องจากการยึดเกร็งของกล้ามเน้ือผู้ดูแลควรประเมินว่าการนอนไม่หลับเกิดจากสาเหตุใด เพ่ือใหก้ ารชว่ ยเหลอื ได้อย่างเหมาะสม การขับถ่าย ผู้ป่วยส่วนมากมักมีปัญหากลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะค่ังค้างไม่สามารถถ่ายออกได้หมด หรือไม่สามารถปัสสาวะออกได้เอง อาจจะต้องคาสายสวนปัสสาวะควรทำความสะอาดอวัยวะขับถ่ายโดยการ ล้างนำ้ และใช้ผา้ นมุ่ ๆ หรอื สำลชี ุบน้ำเชด็ อยา่ งนอ้ ยวันละ 2-3 ครง้ั ในรายท่ีมีปสั สาวะรด กะปรบิ กะปรอย ผู้ดแู ล ควรกดบรเิ วณเหนอื หวั เหน่าอย่างน่มุ นวล เพอ่ื ให้มีปสั สาวะเหลอื คา้ งในกระเพาะปสั สาวะนอ้ ยท่ีสุด และทำความ สะอาดบริเวณอวัยวะขับถ่ายทุกครั้ง ในรายท่ีใช้แผ่นรองซับ หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูปควรมีการเปล่ียนบ่อยๆ เพ่ือ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน เชน่ การติดเชือ้ ทางเดนิ ปัสสาวะ การเกิดเชือ้ ราและการเกิดแผลกดทับ ผ้ปู ่วยสูงอายบุ าง คนอาจมปี ญั หาในเรอ่ื งทอ้ งผกู เนือ่ งจากไม่ไดเ้ คลอื่ นไหวร่างกายจึงควรเนน้ ใหม้ ีกิจกรรม เชน่ การเปลย่ี นทา่ การ ลุกนงั่ เดนิ หรอื ให้รับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ เชน่ ผักต้มนม่ิ ๆ สม้ มะละกอ ลกู พรนุ ควรหลกี เล่ยี ง อาหารทีม่ ีรสจัดใหน้ ำ้ อยา่ งเพียงพอ นอกจากน้ันควรมีการกระตุน้ หรอื ฝกึ การขบั ถ่ายทั้งปสั สาวะและอจุ จาระโดย การจดั ใหผ้ ู้ป่วยน่งั ขณะถา่ ย ปรบั เวลาให้เหมาะสมและจดั สถานท่ีใหเ้ ป็นสดั สว่ น แตถ่ ้าไมถ่ ่ายอุจจาระเกนิ 2 วนั หรอื การขบั ถา่ ยเปลี่ยนแบบแผนไปจากเดิม (กอ่ นป่วย) อาจให้ยาระบาย สวนหรือลว้ งอจุ จาระ การดแู ลผปู้ ว่ ยใสส่ ายสวนปัสสาวะ การสวนปัสสาวะหมายถึงการใส่ท่อยางหรือท่อพลาสติกขนาดเล็กผ่านทางรูเปิดของท่อปัสสาวะเข้าไป ยังกระเพาะปัสสาวะเพ่ือเป็นทางให้ปัสสาวะไหลออกมา วัตถุประสงค์ เพ่ือลดการค่ังค้างของปัสสาวะใน กระเพาะปัสสาวะของผู้ปว่ ยและในรายท่ีผูป้ ว่ ยไม่สามารถขับถ่ายปัสสาวะได้เอง 60 คมู่ อื แนวทางการอบรมผดู้ ูแลผ้สู งู อายรุ ะยะยาว
ข้อบง่ ช้ใี นการใสส่ ายสวน สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ 1. ในภาวะทมี่ กี ารคัง่ คา้ งของน้ำปัสสาวะ 2. ภาวะที่มีการอุดตนั ของทางเดินปัสสาวะ 3. เมอ่ื ต้องการวัดปริมาณน้ำปสั สาวะ 4. ในผปู้ ่วยเร้อื รังทไี่ ม่สามารถควบคุมการขบั ถ่ายได้ 5. กอ่ นและหลังผา่ ตดั 6. รกั ษาภาวะประสาทกระเพาะปัสสาวะพิการ 7. มแี ผลกดทับและไมส่ ามารถควบคมุ การขบั ถ่ายได ้ ในภาวะปสั สาวะราด ควบคมุ การปสั สาวะไม่ได้ และมีการระคายเคอื งของผวิ หนัง การดูแลผปู้ ่วยที่ใส่คาสายสวนปสั สาวะ ในผู้ป่วยบางรายมีความจำเป็นต้องคาสายสวนปัสสาวะต่อเนื่องจากโรงพยาบาลกลับไปท่ีบ้าน การ ดูแลผู้ป่วยท่ีคาสายสวนปสั สาวะอย่างถกู ต้อง จะชว่ ยป้องกนั การอุดตนั ของสายสวนปัสสาวะ และป้องกันการตดิ เช้อื ในระบบทางเดนิ ปสั สาวะ วตั ถุประสงค์ เพ่ือเปน็ ทางใหน้ ำ้ ปสั สาวะไหลได้ตลอดเวลา โดยผา่ นทางทอ่ เล็กที่คา อยู่บริเวณกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ โดยมีลูกโป่งที่บรรจุด้วยน้ำกล่ัน บริเวณคอกระเพาะปัสสาวะ เพ่ือ ปอ้ งกันการเลอื่ นหลดุ ของสายปัสสาวะ ขน้ั ตอนการดูแลผปู้ ว่ ยทใี่ สส่ ายสวนปสั สาวะ 1. ดูแลให้ถุงปัสสาวะอยู่ต่ำกว่าบริเวณกระเพาะปัสสาวะของผู้ป่วยเสมอ เพ่ือป้องกันการไหลย้อน กลับของปัสสาวะเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะซ่ึงอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ถ้าจำเป็นต้องยกถุงปัสสาวะให้สูงกว่า ระดับกระเพาะปัสสาวะดังกล่าว จะต้องพับสายสวนปัสสาวะก่อนชั่วคราว โดยการใช้มือพับ หรือใช้ยางรัดสาย สวนปสั สาวะ แล้วรีบคลายออก เมอื่ จัดวางใหอ้ ยูใ่ นสภาพเดิม 2. ดูแลสายสวนปัสสาวะและถงุ ปสั สาวะให้เป็นระบบปดิ เสมอ โดยตอ้ งไมม่ รี อยแตก ร่ัวซมึ ซ่งึ จะเป็น ชอ่ งทางนำเชื้อโรคเข้าสู่ระบบได้ 3. ดูแลสายสวนปัสสาวะไม่ให้เลื่อนเข้า–ออก หรือเกิดการดึงร้ังของสาย โดยผู้หญิงยึดสายสวน ปัสสาวะติดกับหน้าขาด้วยพลาสเตอร์ ในผู้ชายยึดสายสวนปัสสาวะติดบนหน้าท้องเหนือหัวหน่าว และไม่ดึงสาย สวนปสั สาวะออกเอง เพราะอาจเกิดอนั ตรายต่อท่อปัสสาวะ 4. ไม่ควรน่ังทับสายสวนปัสสาวะ หรือนั่งทับถุงรองรับน้ำปัสสาวะ ดูแลสายสวนปัสสาวะไม่ให้เกิด การอุดตัน โดยการคลึงบริเวณสายสวนปัสสาวะ และหม่ันสังเกตว่าปัสสาวะไหลลงถุงรองรับน้ำปัสสาวะได้ สะดวก 5. เทปสั สาวะออกจากถงุ วันละ 2–3 ครง้ั หรืออยา่ งน้อย ทุก 8 ช่วั โมง 6. ทำความสะอาดรูเปิดของท่อปัสสาวะด้วย สำลีชุบ 70% แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ 10% โพวดี ีนกอ่ นและหลงั การเทปัสสาวะออก 7. ดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8–12 แก้วหรือปริมาณน้ำตาม คำแนะนำของแพทย์ – พยาบาล และควรมีการเปลีย่ นอิริยาบทเสมอ เพอื่ ป้องกนั การตกตะกอนของปัสสาวะ 61 คมู่ อื แนวทางการอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 8. ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ุและรูเปิดของท่อปัสสาวะทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น ดว้ ยสบแู่ ละนำ้ ขยับสายปสั สาวะหมุนไปมาเล็กนอ้ ยเพ่ือให้ปลายสายไมอ่ ดุ ตัน 9. สามารถอาบน้ำทำความสะอาดได้ตามปกติ และไมค่ วรโรยแป้งบรเิ วณอวยั วะสบื พันธ ์ 10. บันทึกจำนวนปัสสาวะในแต่ละวัน เพ่ือดูปริมาณของปัสสาวะ และสังเกตหากมีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะแดง มีหนอง ขุ่น เป็นตะกอน ปวดท้อง ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นปวดแสบร้อนบริเวณท่อปัสสาวะ หนาวส่นั มีไข้ ควรรบั ปรึกษาแพทย์ 11. ควรเปล่ียนสายสวนปัสสาวะทุก 4 สัปดาห์ หรือเร็วกว่าน้ีในรายท่ีมีการอุดตันหรือเกิดความ ผิดปกติ โดยไปพบแพทย์เม่ือมีอาการผิดปกติดังกล่าว การทำกายภาพบำบัด ผู้ป่วยผู้สูงอายุจะมีระบบการไหลเวียนเลือดไม่ดีบริเวณแขนและขาด้านท ี่ อ่อนแรงหรือด้านที่ไม่มีความรู้สึก ทำให้เกิดการบวมของแขนและขาด้านน้ัน ขณะนอนจึงควรใช้หมอนหรือวัสดุ รองบริเวณที่บวมให้สูงข้ึนกว่าลำตัว ขณะนั่งควรยกเท้าให้สูง และใช้หมอนรองใต้แขนที่อ่อนแรง นอกจากน้ัน แขนขาท่ีอ่อนแรง หรือไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน มักเกิดการเห่ียวลีบของกล้ามเน้ือ หรือเกิดการติดแข็งของ ข้อ ผู้ดูแลจึงควรกระตุ้นให้ผูป้ ว่ ยเคล่ือนไหวหรือทำการเคล่อื นไหวให้ทุกขอ้ เชน่ ขอ้ นว้ิ ขอ้ ศอก ขอ้ ไหล่ ข้อสะโพก ขอ้ เข่าและขอ้ เท้า โดยทำอยา่ งนอ้ ยวันละ 2 เวลา เวลาละ 10-15 ครง้ั ในแตล่ ะทา่ และทส่ี ำคัญจะช่วยใหผ้ ู้ปว่ ย มีแรงเรว็ ขนึ้ การส่ือสาร ผู้ป่วยที่มีปัญหาพูดไม่ได้หรือพูดไม่ชัด ได้ยินเสียงแต่แปลความหมายของเสียงไม่ได้ เน่ืองจากประสาทส่ังการเสีย โดยเฉพาะผู้ป่วยท่ีมีอัมพาตของแขนและขาซีกขวา มักมีปัญหาในการพูด เช่นพูด ไม่ได้หรือพูดตะกุกตะกัก ปัญหาในการส่ือสารน้ีจะทำให้ผู้สูงอายุเกิดความทุกข์ทรมานใจ และอาจเกิดภาวะ ซึมเศร้า ท้อแท้หรือหงุดหงิด ผู้ดูแลควรใจเย็นในการสื่อสาร อาจใช้การเขียน พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม ช้าๆ และ ใช้คำง่ายๆสั้นๆ ขณะพูดควรให้ผู้ป่วยได้เห็นหน้าผู้พูดหรือสามารถอ่านปากได้ หรือใช้สัญลักษณ์ส่ือแทนคำพูด นอกจากนั้นผู้ดูแลและครอบครัวควรตั้งใจฟัง ให้เวลากับผู้ป่วยในการคิดหรือตอบ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยบอก ส่งิ ท่ตี นเองต้องการ การป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน ปัญหาของภาวะแทรกซ้อนท่ีพบได้บ่อยในผู้ป่วยสูงอายุได้แก่ การเกิดแผลกดทับ การยึดตดิ ของขอ้ การขาดอาหาร การหกล้ม การตดิ เชื้อ เชน่ โรคปอดบวม ทางเดินปัสสาวะ อักเสบ ดังนั้นผู้ดูแลจึงควรหมั่นทำความสะอาดร่างกายให้ผู้ป่วย และดูแลผิวหนังให้ชุ่มชื้นโดยการทาโลชั่นอยู่ เสมอ พลกิ ตะแคงตวั อยา่ งน้อยทุก 2 ช่วั โมง เปลี่ยนอิรยิ าบถ จดั หาทนี่ อนที่นุ่ม หรือหาอปุ กรณเ์ สรมิ เช่นท่นี อน ลม ฟองน้ำ และระวังการสำลกั อาหารหรอื น้ำลาย การดูแลทางด้านจิตใจและอารมณ์ ผู้ป่วยสูงอายุส่วนมากมักมีอาการซึมเศร้า ก้าวร้าว ร้องไห้ อาจ เน่ืองจากความผิดปกติในสมอง การไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องพ่ึงพาผู้อ่ืนหรือการเปล่ียนแปลงบทบาท ผูด้ ูแลและครอบครวั ควรใหค้ วามสนใจ เอาใจใส่ พูดคยุ ใหก้ ำลังใจ ให้ความเคารพ ยอมรบั ในการตัดสินใจ และมี ความกระตือรือร้นในการดูแลอย่างสม่ำเสมอ หรือปรับเปล่ียนบรรยากาศให้ผู้สูงอายุรู้สึกสดชื่น หลีกเลี่ยง เหตกุ ารณท์ ีท่ ำใหเ้ กดิ ความกระทบกระเทอื นใจ การจัดสถานท่ีและสิ่งแวดล้อม สถานที่ควรเป็นท่ีผู้ป่วยคุ้นเคย เพ่ือเกิดความม่ันใจในการที่จะทำ กิจวัตรประจำวันต่างๆและเป็นการกระตุ้นความทรงจำ ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนสถานท่ี หรือเคล่ือนย้ายสิ่งของ เปลี่ยนไปจากเดิม ควรอธิบายให้ผู้ป่วยทราบก่อน และจัดให้มีคนอยู่ด้วยเพ่ือให้เกิดความมั่นใจในกรณีที่ผู้ป่วย 62 คู่มอื แนวทางการอบรมผ้ดู ูแลผู้สงู อายรุ ะยะยาว
ลุกนั่งหรือพอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง เตียงนอนควรเป็นเตียงเต้ียและมีท่ีจับเพ่ือให้ผู้ป่วยสะดวกในการลุกนั่งหรือ สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ ยืน แต่ถ้าไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เลย ควรเป็นเตียงสูงเพ่ือสะดวกในการดูแลของผู้ดูแล ที่นอนไม่ควรนุ่ม หรือแข็งเกินไป ส่ิงแวดล้อมควรจัดบริเวณภายในห้องให้เป็นระเบียบ สะอาด อากาศถ่ายเทได้สะดวก ของใช้ท่ี จำเป็นควรวางไวข้ า้ งท่ีผูป้ ่วยเห็นและสามารถหยิบไดง้ า่ ย เพศสัมพันธ์ ผู้ป่วยยังคงมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่บางรายมีความต้องการทางเพศลดลง จึงทำให้การม ี เพศสัมพันธ์ของผู้ป่วยและคู่สมรสเปลี่ยนแปลงไป บางคร้ังผู้ป่วยและคู่สมรส มีความกลัวว่าเมื่อมีเพศสัมพันธ ์ จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลง นอกจากน้ียาบางตัวอาจทำให้เกิดความผิดปกติเก่ียวกับเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะใน ผูส้ งู อายชุ ายดังนั้นคู่สมรสจะตอ้ งมีความเขา้ ใจและสามารถปรกึ ษากบั แพทยห์ รือพยาบาล เอกสารอ้างอิง และแหล่งคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ 1. งานการพยาบาลป้องกนั โรค และส่งเสรมิ สุขภาพ 2. ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ดี 63 คมู่ อื แนวทางการอบรมผ้ดู ูแลผสู้ งู อายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ใบงานท่ี 6 เรื่อง การดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ คำช้แี จง ให้ผู้เข้ารับการอบรมแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แสดงบทบาทสมมติเป็นผู้สูงอายุและฝึกปฏิบัติ ในเร่อื ง 1. การดูแลผู้ปว่ ยสูงอายุช่วยเหลอื ตนเองไมไ่ ดท้ ่ใี ส่สายยางหรอื ท่อใหอ้ าหาร 2. การดแู ลผปู้ ่วยสงู อายุชว่ ยเหลอื ตนเองไม่ไดท้ ีใ่ สส่ ายสวนปัสสาวะ จากน้ันให้ผู้แทนของกลุ่มนำเสนอ และวิทยากรให้คำแนะนำ/ข้อเสนอแนะ อธิบายข้อสงสัยรวมทั้ง สรุปในประเด็นสำคัญของการดูแลผู้ป่วยสูงอายุช่วยเหลือตนเองไม่ได้ที่ใส่สายยางหรือท่อให้อาหาร และผู้ป่วย ใสส่ ายสวนปสั สาวะ 64 คู่มอื แนวทางการอบรมผูด้ แู ลผู้สงู อายรุ ะยะยาว
7 แผนการสอนท่ี สำ ันกส่งเสริม ุสขภาพ เร่ือง การใช้ยาในวัยสงู อายุ วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นร้ ู • วตั ถุประสงค์ท่วั ไป เพ่ือให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับยาในวัยสูงอายุสามารถดูแลช่วยเหลือการใช้ยาใน ผสู้ ูงอายตุ ามคำสง่ั ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ปลอดภัย • วตั ถุประสงค์เฉพาะ 1. เพื่อให้ ผู้ดูแลสามารถบอกความสำคัญและหลกั ของการใชย้ าเบอ้ื งต้นได ้ 2. เพื่อให้ผดู้ แู ลสามารถบอกประเภทของยาท่ีใช้บอ่ ยในผู้สูงอายุได้ 3. เพ่อื ให้ผดู้ ูแลสามารถเตรยี มยาหรือจดั ยาให้ผ้สู งู อายุได้ถกู ต้อง เนอ้ื หาวิชา 1. ความสำคญั และหลกั การใช้ยาเบือ้ งตน้ 2. ยาทีใ่ ช้บอ่ ยในผู้สูงอายุและผลขา้ งเคียงจากการใชย้ า 3. แนวทางปฏบิ ัติในการให้ยาในผู้สูงอาย ุ ระยะเวลา ทฤษฎี 7 ชว่ั โมง รปู แบบ / วธิ ีการสอน - การบรรยาย - การสาธิตตวั อย่างยา - การถาม-ตอบ คำถามกลุ่มใหญ ่ ขั้นตอนการดำเนนิ กจิ กรรม 1. วิทยากรนำเข้าสู่บทเรียนด้วยคำถามการใช้ยาในผู้สูงอายุมีความสำคัญอย่างไร สรุปความสำคัญ และนำโยงเข้าส่เู นอื้ หาความสำคัญของการใช้ยาในผ้สู งู อายุ หลกั การใชย้ าเบือ้ งตน้ ยาที่ใชบ้ ่อยในผ้สู งู อายุ ชว่ งนี้ อาจมคี ำถามสลับเนอ้ื หา วา่ ใครเคยเห็นผู้สูงอายใุ ช้ยาชนดิ ใดบ้าง สรปุ ยาทีใ่ ชบ้ ่อยโยงเข้าเนอื้ หา สาธติ ตัวอยา่ งยา จากน้ันบรรยายผลข้างเคียงของยา ถามผู้ดูแลถึงอาการข้างเคียงต่างๆ ว่าเคยประสบหรือไม่ สรุปและโยงเข้าสู่ เน้อื หาแนวทางปฏบิ ัตใิ นการให้ยาในผสู้ งู อาย ุ 65 คู่มือแนวทางการอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายรุ ะยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 2. แบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรม ตามความเหมาะสมกลุ่มละไม่เกิน 10 คน เขียนปัญหาการใช้ยาใน ผูส้ ูงอายุ และการแกป้ ัญหา 3. รว่ มกนั สรุปปัญหาการใช้ยาและการแก้ปญั หา ของทกุ กลมุ่ 4. วิทยากรสรุปปญั หาท้ังหมด และอธิบายแนวทางแกไ้ ขปัญหาทถ่ี ูกต้อง ส่อื ประกอบการเรยี นการสอน / อุปกรณ ์ 1. หนงั สือคู่มอื หลักสูตรการดแู ลผสู้ ูงอายุทบ่ี า้ น หลกั สตู ร 420 ชั่วโมง 2. ส่ือการอบรม : ไฟลน์ ำเสนอ โปสเตอร์ แผน่ พับ ตัวอยา่ งยา คำแนะนำสำหรับวทิ ยากร 1. ควรจัดเตรียมตวั อยา่ งยาทใ่ี ช้บอ่ ยในผสู้ งู อายไุ ดแ้ ก่ ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ปวดกลา้ มเน้ือ ยาคลาย กล้ามเน้อื ยาหอม ยาแกห้ วดั ยาคลายเครียด ยารักษาโรคเรอื้ รัง เป็นต้น 2. ควรใหค้ วามร้โู ดยใหผ้ ้เู ข้ารบั การอบรมมสี ่วนรว่ มมากท่ีสดุ การประเมินผล 1. สงั เกตการมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม และแสดงความคดิ เหน็ 2. สังเกตการณ์มสี ว่ นร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่ม 66 คมู่ อื แนวทางการอบรมผดู้ แู ลผู้สูงอายรุ ะยะยาว
ใบความรู้ที่ 7.1 สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ เรื่อง ความสำคัญของการใช้ยาในผู้สูงอาย ุ ดังท่ีทราบมาแล้วว่าผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านสรีระภาพและพยาธิสภาพของร่างกาย ท่ีเส่ือมไปตามอายุท่ีมากขึ้น ระบบการย่อยและการดูดซึมแม้แต่ความทนต่อการใช้ยาย่อมแตกต่างไปจากวัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุสว่ นใหญม่ ักจะมีโรคประจำตวั จงึ ต้องมีความระมัดระวังในการใช้ยาเพิ่มมากข้ึนเป็นพิเศษ ดงั นนั้ ผูท้ ่ดี ูแลผูส้ งู อายทุ บ่ี า้ นควรมีความร้เู บื้องต้นอยา่ งงา่ ยดงั น ้ี หลกั การให้ยา ทน่ี ิยมกันเป็นสากล คือ กฎ 5 R เพอ่ื ใชป้ ระกอบการพิจารณากอ่ นใหย้ า ดังน้ ี R1 Right Person คอื ใหถ้ กู ต้องกบั คน คือ ตัวผปู้ ว่ ยทส่ี ูงอาย ุ R2 Right Drug คือ ให้ถูกชนิดยา ซึ่งจะบง่ บอกถงึ สรรพคุณยาในการรักษาโรคแต่ละโรคทีแ่ ตกต่างกัน R3 Right Dose คอื ใหถ้ ูกขนาดยา เชน่ เป็นมิลลกิ รัม, เมด็ แคปซลู หรือเปน็ หยด R4 Right Route คือ ใหถ้ กู ทาง เช่น ทางปาก ทางผวิ หนงั หยอดตา หรือ เหน็บทวารหนกั R5 Right time คอื ใหถ้ กู เวลา เชน่ กอ่ นอาหารเช้า หรอื หลังอาหาร หรือใหเ้ มื่อมอี าการและ ใหว้ ันละกคี่ ร้ัง เป็นต้น หรอื จำหลกั งา่ ยๆในการเตอื นตนเอง คอื - ยาของใคร - ชนิดไหน - ขนาดเทา่ ไร - ใหท้ างใด - เวลาใด นอกจากหลักการให้ยาที่ถูกต้องแล้วสิ่งท่ีควรทราบไว้เป็นพ้ืนฐานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ คือ ประเภทของ ยาท่นี ิยมใชใ้ นปัจจบุ ัน ดงั นี ้ ประเภทของยา แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญๆ่ คอื 1. ประเภทยาใช้ภายใน ไดแ้ ก่ ยาทใ่ี หเ้ ข้าไปในร่างกายโดยการรบั ประทาน หรอื การฉดี เช่น ยาเม็ด แคปซลู ยาน้ำ ยาผง หรือยาฉดี เป็นต้น 2. ประเภทยาใช้ภายนอก ได้แก่ ยาท่ีใช้ภายนอกร่างกายห้ามรับประทาน เช่น ครีม ยาหยอดตา ยาเหนบ็ ยาพน่ เป็นตน้ (มักเขยี นฉลากสีแดงติดขา้ งกลอ่ งวา่ “ยาใช้ภายนอก ห้ามรบั ประทาน”) 67 ค่มู อื แนวทางการอบรมผู้ดูแลผสู้ ูงอายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ตัวอย่างยาท่ใี ชภ้ ายนอก เชน่ 1. ยาทางผิวหนงั ตา่ งๆ เป็นลักษณะครีม เช่น ยาแกป้ วด เคล็ดขัดยอก (Methyl Salicylate), บาล์ม, - ยาแกเ้ ชื้อรา เช่น clotrimazole cream - ยาทาแก้คนั เชน่ (calamind lotion) 2. ยาหยอดตาตา่ งๆ เชน่ มกั ใช้แก้ระคายเคอื ง, หรือทดแทนน้ำตาเทยี ม หรอื รักษาโรคตาบางชนิด 3. ยาทาแผลตา่ งๆ เชน่ แอลกอฮอลส์ 70%, เบตาดนี เป็นตน้ - เมอื่ ใชแ้ ล้วควรปดิ ฝาใหส้ นทิ ระวงั การระเหยซง่ึ จะทำใหป้ ระสิทธิภาพของยาลดลง เอกสารอา้ งอิงและแหลง่ ค้นคว้าเพิ่มเตมิ 1. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. (2542). สาระน่ารู้เพื่อผู้สูงวัย. คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล. กรงุ เทพมหานคร. 2. พวงผกา คงวัฒนานนท์. (2546). การใช้ยา และแนวทางการักษา ในเอกสารประกอบการสอน รายวชิ าการพยาบาลพน้ื ฐาน. ปทุมธาน.ี คณะพยาบาลศาสตรม์ หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. 3. สภาการพยาบาล รว่ มกับชมรมเภสัชกรรมชนบท และสภาเภสัชกรรม. (2545). คมู่ ือการใชย้ าใน การรักษาพยาบาลโรคเบ้ืองต้นสำหรับผู้ประวิชาชีพ พยาบาลและการผดุงครรภ์ช้ันหน่ึง สภาการพยาบาล. นนทบรุ ี. 4. สรุ เกียรติ อาชานานุภาพ. (2543). ตำราตรวจรกั ษาโรคทั่วไป หลักการวนิ ิจฉยั / 280 โรคและ การดแู ลรกั ษา. กรุงเทพฯ. สำนกั พมิ พ์หมอชาวบา้ น. 68 คู่มอื แนวทางการอบรมผดู้ ูแลผสู้ งู อายุระยะยาว
ใบความรู้ที่ 7.2 สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ เร่ือง ยาที่ใช้บ่อยในผู้สูงอายุ และผลข้างเคียงจากการใช้ยา ประเภทของยาภายใน ทีใ่ ช้กับโรคเรอื้ รงั ทมี่ ักพบบอ่ ยในผสู้ งู อายุ มดี ังนี้ ก. ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง มีจุดประสงค์เพื่อลดระดับความดันเลือดให้ต่ำลง จะโดยวิธีการ ขับปัสสาวะ หรือการลดการทำงานของหัวใจ ซึ่งแพทย์มักให้ยาในผู้ที่ไม่สมารถควบคุมความดันเลือดให้อย ู่ ระดับท่ีปกติได้ และมักให้พร้อมกับคำแนะนำการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น ลดการกินเค็ม อาหารที่มีมันหรือกะทิ ของหมักดอง ลดเคร่ืองดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์และงดสูบบุหร่ี และลดความวิตกกังวล หมั่นออกกำลังกาย พกั ผ่อนให้เพยี งพอ เปน็ ตน้ ตัวอย่างชนดิ ยา - Enalapril (5 มลิ ลกิ รมั หรอื 20 มิลลกิ รัม) - Aldomet (50 มิลลิกรัม หรอื 100 มลิ ลกิ รมั ) - HCTZ หรอื DCT (50 มลิ ลกิ รัม) หรือ Moduratic มีฤทธิข์ บั ปสั สาวะ - Adalat CR (40 มิลลกิ รัม) - Cozaar (50 มิลลิกรมั ) - Atenelol (50 มิลลิกรัม) เปน็ ต้น ผลข้างเคยี งทอ่ี าจพบจากการใชย้ า - ระดบั ความดนั เลอื ดต่ำ หน้ามดื คลา้ ยจะเปน็ ลม หรอื อาจมคี ล่ืนไส้ อาเจียน ข้อควรปฏบิ ัติ ควรนอนพักและวัดระดับความดนั เลือด หรือนำส่งแพทย ์ ข. ยารักษาโรคเบาหวาน มีจุดประสงค์เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดโดยเพ่ิมการดูดซึมน้ำตาล ไปใช้ให้เกดิ พลงั งาน ไม่สะสมในกระแสเลือดมากเกนิ ไป มีทงั้ ชนิดฉดี และรับประทาน ตวั อย่างชนิดยา ชนิดรับประทาน เช่น Glipizide (5 มิลลิกรัม), Minidiab (5 มิลลิกรัม), Glucophage (500 มิลลิกรมั ) เปน็ ตน้ ชนดิ ฉีด เชน่ อินซลู นิ ผลขา้ งเคียงทอ่ี าจพบจากการใชย้ า - ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป อาจมีอาการใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม หมดสติ ได้ ข้อควรปฏิบัติ ควรพกลูกอมหรือให้ดื่มน้ำหวานสักแก้วถ้าไม่ดีขึ้นหรือหมดสติควรพาไปพบแพทย ์ โดยด่วน (ถา้ หมดสติหา้ มใหอ้ าหารและน้ำทางปาก เพราะอาจสำลกั ได)้ ค. ยารักษาโรคหัวใจ มีจุดประสงค์เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพหรือช่วยลดการทำงานของหัวใจ ทำให้ หัวใจสามารถบีบตัวสูบฉีดเลือดไปเลยี้ งรา่ งกายได้ดขี ึน้ 69 คมู่ อื แนวทางการอบรมผู้ดแู ลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ตัวอย่างชนดิ ยา เช่น Propanolol (50 มิลลิกรัม), Isordil (10 มิลลิกรัม), Herbessor (30 มิลลิกรัมหรือ 60 มลิ ลกิ รัม) เปน็ ตน้ ผลข้างเคยี งทอี่ าจพบจากการใชย้ า - อาจเกิดการเต้นของหัวใจผิดปกติ เช่น เต้นช้าไปหรือเต้นเร็วไป ทำให้เกิดอาการเหนื่อยหอบ, เจบ็ แนน่ หนา้ อก ออ่ นเพลยี ไม่มีแรง เป็นต้น ข้อควรปฏิบัติ หากมียาอมใต้ลิ้นให้อมครั้งละ 1 เม็ดถ้าไม่หายให้อมติดต่อกัน 3 คร้ังห่างกัน ครั้งละ 5 นาที ถ้าไม่ดขี น้ึ ในระหวา่ งอมยาเม็ดท่ี 2 ควรนำส่งแพทย์ทนั ที หากมีอาการเจบ็ แนน่ หนา้ อกควรนำส่ง ถงึ มือแพทย์ภายในเวลาไม่เกิน 2 ช่ัวโมง ง. ยารกั ษาการเจ็บปว่ ยทัว่ ไป 1. ยาลดไข้ ปวดหัว ตัวร้อน เช่น พาราเซตามอล (500) ขนาดรับประทาน 2 เม็ด ทุก 4–6 ช่วั โมงหรอื เมอ่ื มีอาการ 2. ยาแก้ปวดข้อ กระดกู กลา้ มเน้อื เช่น อนิ โดซดิ บรูเฟน ไอบรูเฟน นาโพซิน ขนาดรับประทาน ตามขนาดท่กี ำหนดไว้ ไม่ควรรับประทานทาน ตอนท้องว่างเพราะจะทำใหเ้ ป็นแผลในกระเพาะอาหารได ้ 3. ยาแกค้ ลนื่ ไส้ อาเจยี น เมารถ เชน่ ดาบามนิ (Dramamine) โมตเิ ลยี ม (Motilium) เป็นตน้ รับประทานก่อนเดินทางประมาณคร่งึ ช่วั โมง 4. ยาแก้ทอ้ งเสยี เช่น ผงเกลือแร่ (ขนาดรับประทานตามที่ระบุขา้ งซอง) หรือถ้าไม่มี ใช้น้ำตม้ สกุ 1 ขวดกลม (750 ซซี ี) หรอื 3 แกว้ + เกลือ ½ ชช. นำ้ ตาลทราย 2 ชต. รับประทานภายใน 24 ชั่วโมง (ระวงั การ ใช้ในผทู้ เ่ี ป็นโรคไต) 5. ยาแก้ไข้หวัดลดน้ำมูก เช่น ทิฟฟ่ี แอคติเฟต (Actifed) (ปัจจุบันควรระวังการใช้ในผู้สูงอายุ) นอกจากนี้ยงั มี ยาแกแ้ พ้ ยาแกไ้ อ ยาขับเสมหะ เป็นต้น หมายเหต ุ ถ้ายาเปน็ แคปซลู ไม่ควรแกะออกเพราะจะทำให้การออกฤทธิ์ของยาไม่ดเี ท่าทค่ี วร เอกสารอา้ งองิ และแหลง่ ค้นควา้ เพมิ่ เติม 1. การพยาบาลร่วมกับชมรมเภสัชกรรมชนบท และสภาเภสัชกรรม. (2545). คู่มือการใช้ยาใน การรักษาพยาบาลโรคเบ้ืองต้นสำหรับผู้ประวิชาชีพ พยาบาลและการผดุงครรภ์ช้ันหน่ึง สภาการพยาบาล. นนทบุรี. 2. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. (2542). สาระน่ารู้เพ่ือผู้สูงวัย. คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล. กรุงเทพมหานคร. 3. พวงผกา คงวฒั นานนท.์ (2546). การใช้ยา และแนวทางการกั ษา ในเอกสารประกอบการสอน รายวชิ าการพยาบาลพ้นื ฐาน. ปทมุ ธานี. คณะพยาบาลศาสตรม์ หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. 4. สุรเกียรติ อาชานานภุ าพ. (2543). ตำราตรวจรักษาโรคท่วั ไป หลักการวนิ ิจฉัย / 280 โรคและ การดแู ลรกั ษา. กรงุ เทพฯ. สำนกั พิมพ์หมอชาวบ้าน. 70 คมู่ ือแนวทางการอบรมผดู้ ูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว
ใบความรู้ท่ี 7.3 สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการให้ยาในผู้สูงอาย ุ 1. ผู้ดูแลควรศึกษาถึง รูปร่าง ลักษณะและสรรพคุณของยาแต่ละชนิดท่ีรับประทานอยู่เป็นประจำ และแนะนำผู้สูงอายุทราบด้วย (เวลาแพทย์ถามจำสรรพคุณยาไม่ได้ก็ยังบอกรูปร่างลักษณะของยาได้ เช่น เมด็ กลมแบนขนาดเลก็ สสี ้ม รับประทานครง้ั ละคร่ึงเม็ดตอนเช้า เป็นตน้ ) 2. เขยี นขนาดและวิธีรบั ประทานตวั โตๆ ตดิ บนฉลากยา (กรณีที่ผู้สูงอายุยังอา่ นหนงั สอื ได้ด)ี 3. อาจใสก่ ลอ่ งแยกช้ันยา เชน่ เช้า – กลางวนั – เย็น – กอ่ นนอน (กอ่ นหรือหลงั อาหาร) เพราะเคย มผี ้สู ูงอายุหลงลมื รับประทานยาซ้ำ ทำใหเ้ กิดอนั ตรายมาก 4. สถานท่ีเก็บยา ควรให้ปลอดภัยและเก็บไว้ห่างจากมือเด็ก (เพราะเคยมีเด็กหยิบยาไปรับประทาน โดยผใู้ หญไ่ มท่ ราบซงึ่ อนั ตรายมาก) บางชนดิ ต้องเกบ็ ใหพ้ น้ แสง (มกั มขี วดสีชาหรอื ห่อฟอย) ยาฉดี เบาหวานและ ยาหยอดตาจะเกบ็ ไวบ้ รเิ วณฝาตเู้ ยน็ 5. ถา้ เปน็ ไปไดผ้ ดู้ ูแลผู้สูงอายคุ วรหยิบยาใหร้ ับประทานเองกับมอื วธิ ีนจ้ี ะปลอดภยั ท่สี ดุ 6. ผู้ดูแลควรหมั่นพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์เป็นประจำตามกำหนดนัด หรือไปก่อนกำหนดนัดเมื่อ มอี าการผิดปกติขน้ึ ขอ้ ควรระวงั ในการใช้ยาในผ้สู งู อายุ ทีค่ วรทราบมดี งั น้ ี 1. ยามีปฏิกริ ิยาตอ่ กนั คอื การเกิดปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งการใช้ยาตง้ั แต่ 2 ชนดิ ข้ึนไป ซงึ่ บางครัง้ สามารถ ใช้ยาร่วมกนั ไดแ้ ตค่ วรเพิ่มระยะเวลาใหห้ า่ งกนั ประมาณ 1-2 ชม. เพือ่ ปอ้ งกันการลดการดดู ซมึ ของยาอกี ตวั หนง่ึ เชน่ ยาแก้ปวดหลายชนิด จะใช้ควบคู่กับยาลดกรดหรือยาเคลอื บกระเพาะ เชน่ cimethidine หรือ Alum milk ยาเม็ดบำรุงเลือดไม่ควรรับประทานร่วมกับนมเพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงควร รบั ประทานเว้นชว่ งห่างจากการดืม่ นม 2 ชว่ั โมง 2. การหยบิ ยาผดิ ลืมกินยาหรอื กินยาเกนิ ขนาดจากการหลงลืม เชน่ คนไขร้ ับประทานยาลดความดัน โลหิต 2 ครั้ง (เพราะคิดว่ายังไม่ได้กิน) ทำให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนศีรษะเน่ืองจากระดับความดันโลหิตลดลง ต่ำเกินไป ซง่ึ ขอ้ นีจ้ ะเป็นอนั ตรายต่อผู้สูงอายมุ ากอาจทำให้สมองขาดเลอื ดไปเลีย้ งได้ 3. การชอบรับประทานยาสมุนไพรบางชนิดที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน หรือการรับประทานยา ชุดที่ซื้อรับประทานเองตามคำแนะนำของเพื่อนบ้านหรือหมอตี๋ ซ่ึงส่วนใหญ่จะมีสารสเตียรอยด์ (steroid) จะมี อาการดขี ้ึนในช่วงแรกๆต่อเม่อื รบั ประทานไปนาน ๆ จะเกิดผลเสียตอ่ ไตและสุขภาพอยา่ งมาก 4. หากเกิดอาการแพย้ า เช่น มผี น่ื ขึน้ คนั บวม แนน่ หน้าอกหายใจไมอ่ อกให้หยดุ ยาทันทีและรบี มา พบแพทย์ และจำยาชนิดทแ่ี พ้ไวเ้ พอ่ื ให้ประวตั ติ ่อการรกั ษาทกุ ครั้ง 5. ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันบางกลุ่มทำให้ไอมาก ยาบางกลุ่มทำให้ท้องเสีย ปากแหง้ เปน็ ต้น ต่างๆ เหล่านีค้ วรปรกึ ษาแพทย ์ 6. การใช้ยาสมุนไพรหรือยาแพทย์แผนโบราณ ยาผีบอก ควรใช้การพิจารณาและควรระมัดระวัง ศกึ ษาจากผู้ที่ผา่ นการอบรมมาเท่านนั้ เพราะอาจเกิดอนั ตรายต่อไตและตับไดภ้ ายหลงั 71 ค่มู ือแนวทางการอบรมผดู้ แู ลผสู้ งู อายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ เอกสารอา้ งองิ และแหลง่ ค้นควา้ เพม่ิ เตมิ 1. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. (2542). สาระน่ารู้เพ่ือผู้สูงวัย. คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล. กรุงเทพมหานคร. 2. พวงผกา คงวฒั นานนท.์ (2546). การใชย้ า และแนวทางการกั ษา ในเอกสารประกอบการสอน รายวชิ าการพยาบาลพ้นื ฐาน. ปทุมธาน.ี คณะพยาบาลศาสตรม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ 3. สภาการพยาบาล ร่วมกับชมรมเภสัชกรรมชนบท และสภาเภสชั กรรม. (2545). คู่มอื การใช้ยาใน การรักษาพยาบาลโรคเบื้องต้นสำหรับผู้ประวิชาชีพ พยาบาลและการผดุงครรภ์ช้ันหน่ึง สภาการพยาบาล. นนทบรุ ี. 4. สรุ เกียรติ อาชานานุภาพ. (2543). ตำราตรวจรกั ษาโรคท่ัวไป หลักการวินจิ ฉัย / 280 โรคและ การดแู ลรกั ษา. กรุงเทพฯ. สำนกั พมิ พห์ มอชาวบา้ น. 72 คู่มอื แนวทางการอบรมผดู้ ูแลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว
ใบงานท่ี 7.1 สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ คำช้ีแจง ให้ผูเ้ ขา้ รบั การอบรม แบ่งออกเปน็ กล่มุ ๆ กลุม่ ละไม่เกิน 10 คน ร่วมกนั อภิปรายในหัวขอ้ ต่อไปน ้ี 1. การใชย้ าในผูส้ ูงอายมุ คี วามสำคัญอยา่ งไร 2. ยาท่ีใชบ้ อ่ ยในผู้สูงอายมุ อี ะไรบา้ ง 3. ปญั หาท่ีพบในการใชย้ าในผู้สงู อายมุ ีอะไรบ้าง 4. แนวทางแกป้ ัญหาควรเปน็ อยา่ งไร 5. เลือกตัวแทนกลมุ่ นำเสนอ 6. วิทยากรสรปุ ใหค้ ำแนะนำ อธิบาย และสรปุ 73 คมู่ ือแนวทางการอบรมผดู้ แู ลผ้สู งู อายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 8 แผนการสอนที่ เรอ่ื ง การส่งเสรมิ สขุ ภาพผ้สู ูงอายุ : อาหารและโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ วัตถปุ ระสงค์การเรียนร้ ู • วัตถุประสงคท์ ว่ั ไป เพอ่ื ให้ผ้ดู แู ลผสู้ งู อายุ มีความรู้ ความเข้าใจในการสง่ เสรมิ สขุ ภาพผสู้ ูงอายุ เร่อื งอาหารและโภชนาการ สำหรบั ผูส้ งู อายุ • วัตถปุ ระสงค์เฉพาะ เพ่อื ให้ผูด้ ูแลผสู้ งู อายุ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการสง่ เสรมิ สุขภาพผูส้ ูงอายุ เรือ่ งอาหารและโภชนาการ สำหรบั ผ้สู งู อายุ และสามารถนำไปใชไ้ ด้อย่างถกู ต้อง เนอ้ื หาวชิ า - อาหารหลกั 5 หม ู่ - ความต้องการสารอาหารในผู้สงู อาย ุ - การประเมนิ ภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุ - หลักการจัดอาหารสำหรับผสู้ ูงอาย ุ - ขอ้ ควรพจิ ารณาในการกำหนดอาหารสำหรบั ผู้สูงอายุ ระยะเวลา ทฤษฎี 4 ชั่วโมง ปฏิบตั ิ 3 ชัว่ โมง วธิ กี ารสอน - การบรรยาย - การซักถาม - การแสดงบทบาทสมมติ/การฝึกปฏิบัต ิ ข้นั ตอนการดำเนินกจิ กรรม 1. การบรรยายภาคทฤษฎีเก่ียวกับอาหารและโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ 2. การฝึกภาคปฏิบัติ โดยการให้ผู้เข้ารับการอบรมแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แสดงบทบาทสมมติ เปน็ ผสู้ ูงอายุ และร่วมกนั อภปิ รายเร่ือง 74 คู่มอื แนวทางการอบรมผดู้ แู ลผู้สงู อายรุ ะยะยาว
- อาหารหลกั 5 หมูไ่ ดแ้ กอ่ ะไรบ้าง สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ - ความต้องการสารอาหารในผสู้ งู อายุเปน็ อยา่ งไร - การประเมินภาวะโภชนาการในผสู้ งู อายุเป็นอยา่ งไร - หลกั การจัดอาหารสำหรับผ้สู งู อายุเป็นอยา่ งไร - ข้อควรพจิ ารณาในการกำหนดอาหารสำหรับผู้สูงอายุได้แกอ่ ะไรบ้าง สื่อประกอบการเรียน / อปุ กรณ ์ - สื่ออิเลคทรอนิคส์ - แผ่นพับ - โปสเตอร ์ - ภาพพลกิ การประเมนิ ผล - การสงั เกต - การซกั ถาม - ผลจากการฝึกปฏบิ ตั ิ 75 คมู่ อื แนวทางการอบรมผู้ดูแลผ้สู ูงอายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ใบความรู้ที่ 8.1 เร่ืองการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ อาหารและโภชนาการสำหรบั ผูส้ ูงอายุ ในวัยผู้สูงอายุ จะมีการเปลี่ยนแปลงทางร่ายกาย จิตใจ และสังคม โดยเฉพาะทางร่างกาย แต่คง ไมเ่ ทา่ กันทกุ คน ทำให้ประสทิ ธิภาพการทำงานของอวัยวะตา่ งๆ เสอ่ื มถอย การเปลย่ี นแปลงของระบบต่างๆ ของ ร่างกาย ผู้สูงอายุ จึงมีความต้องการพลังงานและสารอาหารเหมือนบุคคลวัยอ่ืนๆ เพียงแต่ต้องการในปริมาณที่ ลดน้อยลง เพื่อให้ผสู้ ูงอายมุ ีสขุ ภาพแข็งแรง อายยุ ืน ควรกินใหเ้ ป็น คอื ปฏบิ ตั ติ ามโภชนบญั ญัต ิ ขอ้ ปฏิบตั กิ ารกินอาหารเพอ่ื สขุ ภาพทีด่ ีของคนไทยหรือโภชนบัญญัติ 9 ประการ 1. กินอาหารครบ 5 หมู่ แตล่ ะหม่ใู หห้ ลากหลายและหมั่นดแู ลน้ำหนักตัว 1.1 กนิ อาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมใู่ หห้ ลากหลาย ประเทศไทย แบง่ อาหารเป็น 5 หมู่ ดังนี ้ หมทู่ ่ี 1 นม ไข่ เน้อื สตั วต์ ่างๆ ถ่ัวเมลด็ แหง้ และงา หมทู่ ่ี 2 ขา้ ว แป้ง เผือก มัน น้ำตาล หมู่ที่ 3 ผักตา่ งๆ หมทู่ ี่ 4 ผลไมต้ ่างๆ หมู่ที่ 5 ไขมันและน้ำมนั จากพืชละสัตว์ ในวันหน่ึงๆ ผู้สูงอายุ ควรเลือกกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ในปริมาณที่พอเหมาะ และ แตล่ ะหมู่ ควรเลือกกนิ ใหห้ ลากหลาย เพ่อื ให้ไดส้ ารอาหารต่างๆ ครบตามความต้องการของร่างกาย 1.2 หมน่ั ดแู ลน้ำหนกั ตวั ผูส้ งู อายุ หม่ันดูแลนำ้ หนกั ตวั ให้อยใู่ นเกณฑ์ปกติ ควรชั่งนำ้ หนักตัว อย่างนอ้ ย เดือนละคร้งั การประเมินว่าน้ำหนักตวั อยใู่ นเกณฑ์ปกตหิ รือไม่ ทำได้หลายวิธ ี 1.2.1 การประเมินด้วยสายตา วิธีนี้ใช้ประเมินผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักตัวน้อย ผอมมากๆ หรือ ผูส้ ูงอายทุ ี่อ้วนมาก สามารถดดู ้วยตา เรมิ่ จากใช้หลักง่ายๆ โดยยืนตัวตรง มองปลายเทา้ ของตวั เอง โดยไม่งอตวั หรอื กม้ ถา้ มองไมเ่ หน็ ปลายน้วิ เท้า แสดงว่าอว้ น หรือดเู งาตนเองในกระจกวา่ มไี ขมนั ตามส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย มากกว่าท่คี วรจะเปน็ หรือไม ่ ลักษณะของความอว้ น มี 3 ลกั ษณะ - อ้วนแบบผลแอปเป้ลิ มีไขมันสะสมบริเวณสว่ นบนของร่างกาย บรเิ วณทอ้ ง กลางลำตวั - อ้วนแบบลูกแพร์ มีไขมนั สะสมบริเวณส่วนลา่ งของรา่ งกาย ขาหนบี สะโพก และตามแขน ขา - อ้วนแบบผลส้ม อ้วน กลมท้งั ตัว 1.2.2 การใช้สัดส่วนของรอบเอวหารด้วยรอบสะโพก โดยการวัดเส้นรอบเอวและเส้นรอบสะโพก แลว้ นำไปคำนวณหาอัตราส่วนของเสน้ รอบเอวต่อเส้นรอบสะโพก (Waist Hip Ratio : WHR) ซงึ่ มสี ตู ร = รอบเอว รอบสะโพก 76 คู่มือแนวทางการอบรมผดู้ แู ลผู้สูงอายุระยะยาว
ผชู้ าย คา่ WHR ไม่ควรเกิน 1.0 ถา้ ค่า WHR เกินทกี่ ำหนดแสดงวา่ อ้วน สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ ผหู้ ญงิ คา่ WHR ไมค่ วรเกิน 0.8 1.2.3 การหาคา่ ดัชนมี วลกาย โดยการชงั่ น้ำหนักตวั เปน็ กิโลกรัม วดั สว่ นสงู เป็นเมตร แลว้ นำไป คำนวณโดยใช้สูตร ดัชนีมวลกาย = นำ้ หนัก (กิโลกรมั ) สว่ นสงู (เมตร)2 ดชั นีมวลกาย นอ้ ยกว่า 18.5 กก./ม2 = ผอมหรือนำ้ หนักตำ่ กว่าเกณฑ์ 18.5 - 24.9 กก./ม2 = นำ้ หนกั ตัวปกต ิ 25.0 – 29.9 กก./ม2 = นำ้ หนักเกิน ต้งั แต่ 30 กก./ม2 = โรคอว้ น หากน้ำหนักตวั น้อย ผู้สงู อายคุ วร - กนิ อาหารทีม่ คี ณุ คา่ ทางโภชนาการมากขนึ้ เช่น เน้ือสตั ว์ โดยเฉพาะเน้อื ปลา นม ไข่ ถ่ัวเมล็ดแห้ง ผกั ผลไม้ - ออกกำลังกายเพ่ือกระตนุ้ ให้เกดิ ความอยากอาหาร - พกั ผอ่ นให้เพียงพอ - ทำจิตใจใหเ้ บิกบาน ไมเ่ ครยี ด หากนำ้ หนกั ตวั มากผสู้ งู อายุควร - กินอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ ทั้ง 3 มอ้ื แตล่ ดปริมาณ - ลดอาหารประเภทไขมนั แป้ง น้ำตาล อาหารรสหวานและเครือ่ งด่มื ทีป่ รุงแตง่ รสหวาน - กนิ ผัก ผลไม้ รสไมห่ วานจัด ใหม้ ากข้ึน - ไม่กนิ จบุ จิบ - ออกกำลังกาย และให้ร่างกายมกี ารเคล่ือนไหวใชพ้ ลังงาน - มคี วามต้ังใจ มุง่ มนั่ ที่จะลดน้ำหนัก 2. กนิ ข้าวเปน็ อาหารหลกั สลบั กับอาหารประเภทแปง้ เปน็ บางมอ้ื ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย เป็นแหล่งอาหารสำคัญท่ีให้พลังงาน สารอาหาร ท่ีมีมากในข้าว ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ผลิตภัณฑ์จากข้าวและธัญพืชอื่นๆ ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน เส้นหม่ี บะหม ี่ วุ้นเส้น ตลอดจนแปง้ ตา่ งๆ ให้พลังงานเช่นเดยี วกนั ผู้สูงอายุ ควรกินข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ เพราะมีสารอาหารโปรตีน ไขมัน ใยอาหาร แร่ธาตุ และวติ ามินในปรมิ าณทีส่ ูงกวา่ ขา้ วทีข่ ัดสีจนขาว หากร่างกายได้รับอาหารประเภทข้าวและแป้งเกินความต้องการ จะถูกเปล่ียนเป็นไขมัน เก็บไว้ ตามสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายเมือ่ สะสมมากข้ึน ทำให้เกดิ โรคอว้ นได ้ 77 คมู่ อื แนวทางการอบรมผูด้ แู ลผู้สูงอายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 3. กินพืชผักใหม้ ากและกนิ ผลไมเ้ ปน็ ประจำ พชื ผกั และผลไม้ เปน็ แหลง่ สำคญั ของวติ ามนิ เชน่ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และแรธ่ าตุ รวมท้ัง สารอ่ืนๆ ท่ีจำเป็นต่อร่างกาย เช่น ใยอาหาร ซึ่งช่วยในการขับถ่าย และนำโคเลสเตอรอล สารพิษท่ีก่อมะเร็ง บางชนิดออกจากร่างกาย ผ้สู ูงอายุ ควรกินพชื ผักให้หลากหลาย ทง้ั ผกั สีเขียว สเี หลอื ง สลบั กนั ไป แต่ควรตม้ ผกั ใหส้ ุก หรอื นึ่งจนสุก ไม่ควรบริโภคผักดิบเพราะย่อยยากและอาจเกิดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อได้ ผลไม้ ควรกินเป็นประจำ แตค่ วรจำกัดปรมิ าณการกินผลไมท้ ี่มีรสหวานจัด เช่น ลำไย ทเุ รียน ขนนุ เปน็ ต้น ผ้สู ูงอายุ ควรกนิ ผักและผลไมต้ ามฤดกู าล 4. กินปลา เนอ้ื สตั ว์ไมต่ ดิ มัน ไข่ ถวั่ เมลด็ แห้ง เป็นประจำ อาหารกลุ่มน้ีให้สารอาหารโปรตีน ช่วยในการเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโต และซ่อมแซม เนื้อเย่ือซงึ่ เสื่อมสลายให้อยู่ในสภาพปกติ ปลา เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่ดี ย่อยง่าย ไขมันต่ำ เหมาะกับผู้สูงอายุ แต่ต้องระวังก้างปลา ขณะรบั ประทาน ถ้ากนิ ปลาเล็กปลานอ้ ย ปลากระปอ๋ ง จะได้แคลเซียม ทำใหก้ ระดแู ละฟนั แขง็ แรง ถา้ กนิ ปลาทะเล ซง่ึ มีสารไอโอดีนจะป้องกันการขาดสารไอโอดนี ได ้ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถ้ากินจะลดการสะสมของไขมันในร่างกายการประกอบและปรุงเนื้อสัตว์ ควรสบั ให้ละเอียด และตม้ ใหเ้ ปื่อยเพอื่ ใหผ้ สู้ งู อายุสะดวกตอ่ การเคยี้ ว และการยอ่ ยอาหาร ไข่ ให้สารอาหารโปรตีนและแร่ธาตุเหล็กในปริมาณสูง ผู้สูงอายุ ท่ีมีภาวะโภชนาการปกติ กินไข่ สปั ดาหล์ ะ 2-3 ฟอง และควรปรับปรุงไข่ให้สกุ ดว้ ยความร้อน ถวั่ เมลด็ แห้ง เป็นแหลง่ อาหารโปรตนี ท่ีดี หาง่าย ราคาถูกถัว่ เมลด็ แหง้ นำมาประกอบอาหารไดท้ ัง้ อาหารคาว-หวาน หรอื จะบริโภคในรูปของผลติ ภณั ฑ์ตา่ งๆ เช่น เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ อาหารท่ที ำจากถว่ั เชน่ ถว่ั กวน ขนมไสถ้ ั่วตา่ ง ๆ ควรกนิ สลับกบั เน้อื สัตว์ เป็นประจำ งาดำ อดุ มด้วยโปรตีน ไขมนั วติ ามินอี แคลเซยี ม ผู้สงู อายุ ควรกนิ งาดำเปน็ ประจำ 5. ด่ืมนมใหเ้ หมาะสมตามวยั นม เป็นแหล่งของสารอาหารแคลเซียม และฟอสฟอรัส ช่วยให้กระดูกและฟัน แข็งแรง และ ยังเปน็ แหลง่ โปรตนี วิตามนิ บีสอง ผู้สูงอายุ ควรด่ืมนมพร่องมันเนย วันละ 1 แก้ว ควบคู่กับการออกกำลังกาย จะทำให้กระดูก แข็งแรง ชะลอความเสื่อมสลายของกระดูก ผู้สูงอายุ บางคนไม่สามารถด่ืมนมสดได้ เกิดปัญหาท้องเดินหรือท้องอืด แต่สามารถปรับเปล่ียน วิธีการด่ืมนมโดยการด่ืมนมครั้งละน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มข้ึน หรือดื่มนมหลังอาหารหรือเปล่ียนเป็นโยเกิร์ต ชนดิ ครีม น้ำเต้าหู้ ให้สารอาหารโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่มีแคลเซียม นอ้ ยกวา่ นมววั 78 คมู่ ือแนวทางการอบรมผดู้ ูแลผู้สงู อายุระยะยาว
ผสู้ งู อายุ ดมื่ ได้เป็นประจำเชน่ กนั สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ 6. กนิ อาหารท่ีมไี ขมนั แต่พอควร 79 ไขมนั ใหพ้ ลังงาน ความอบอุ่นแก่รา่ งกาย และเปน็ ตวั นำวติ ามินทลี่ ะลายในไขมัน เชน่ เอ ดี อี เค ไขมันในอาหารมีทง้ั ประเภทไขมนั อิ่มตัว และไขมนั ไม่อ่ิมตวั ไขมันอ่ิมตัวได้จาก เน้ือสัตว์ หนังสัตว์ น้ำมันจากพืช เคร่ืองในสัตว์ อาหารท่ีมีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง ตับ ปลาหมึก หอยนางรม ถ้ากินมาก จะทำให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง เส่ียงต่อการเป็น โรคหัวใจ ผ้สู งู อายุ - ควรกนิ อาหารประเภททอด ผัด และแกงกะทแิ ตพ่ อควร - เลอื กกินอาหารประเภทตม้ น่งึ ยา่ ง (ทไี่ ม่ไหม้เกรียม) อบ ยำ แกงไม่ใสก่ ะทิ เปน็ ประจำ 7. หลกี เล่ยี งการกนิ อาหารรสหวานจดั และเคม็ จัด - การกนิ อาหารรสหวานมาก เสีย่ งตอ่ การเกิดโรคอว้ น โรคหัวใจและหลอดเลอื ดได้ - การกินอาหารรสเคม็ จดั เส่ยี งตอ่ การเกดิ โรคความดนั โลหิตสงู ผสู้ ูงอายุ ควรหลีกเลยี่ งขนมหวาน เคร่ืองดมื่ ประเภทน้ำหวาน อาหารหมกั ดอง อาทเิ ช่น ผักดอง ผลไม้ดอง ไข่เคม็ ปลาร้า ปลาเค็ม เน้อื เค็ม เต้าเจย้ี ว เป็นต้น ขนมขบเคี้ยว ขนมอบกรอบ ขนมอบฟู แบบฝร่ัง 8. กนิ อาหารทสี่ ะอาด ปราศจากการปนเปื้อน สารปนเป้ือนในอาหาร หมายถงึ สารท่ีปนเปอ้ื นมากับอาหารซงึ่ เกดิ จาก - กระบวนการผลติ ปรุง ประกอบ - การจำหนา่ ยอาหารทไ่ี ม่ถูกสุขลักษณะ เชน่ ตามแผงลอยบนบาทวิถี - การใช้สารปรงุ แต่งอาหารที่ไม่ไดม้ าตรฐานและการใช้ เช่น สารบอแรกซ์ ฟอร์มาลนิ สารฟอกขาว - การใชส้ ีสงั เคราะห์ในปรมิ าณมาก หรอื ใช้สีย้อมผา้ - ยาฆา่ แมลง - สารกนั รา - สารพิษจากพชื และสตั วต์ ามธรรมชาต ิ ผสู้ งู อายุ ควรจะตอ้ งรจู้ ักวธิ กี ารเลือกซอื้ ปรุง ประกอบอาหารให้สะอาดและปลอดภยั 9. งดหรือลดเครื่องดื่มทม่ี แี อลกอฮอล ์ การด่ืมสุราหรือเคร่ืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ จะมีโทษและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ มคี วามเสย่ี งตอ่ การเกิดโรคความดนั โลหติ สูง โรคตับแขง็ โรคมะเรง็ หลอดอาหาร เปน็ ต้น ผู้สงู อายุ ทด่ี ่ืมเป็นประจำ ต้องลดปริมาณการดม่ื ให้นอ้ ยหากงดดมื่ ได้ กจ็ ะเป็นผลดตี อ่ สุขภาพ เมื่อผู้สูงอายุ ได้ปฏิบัติตามโภชนบัญญัติ 9 ประการแล้วต้องรู้จักเลือกกินอาหารให้ได้ สัดส่วน ในปรมิ าณทีเ่ หมาะสม ตามธงโภชนาการ คมู่ ือแนวทางการอบรมผดู้ ูแลผู้สูงอายุระยะยาว
สดั ส่วนอาหารของธงโภชนาการ ปริมาณอาหารท่ีแนะนำในแต่ละวนั สำหรบั ผ้สู ูงอาย ุ กลุม่ อาหาร หนว่ ย พลังงาน (กิโลแคลอร)ี 1,600 กลุ่มขา้ ว-แปง้ ทัพพ ี 8 ผกั ทพั พี 6 ผลไม้ ส่วน 4 เน้ือสตั ว์ ชอ้ นกนิ ขา้ ว 6 นม แก้ว 1 นำ้ มนั นำ้ ตาล และเกลือ ชอ้ นชา กนิ แตน่ ้อยเทา่ ทจ่ี ำเปน็ ตามตารางข้างต้น หน่วยตวงวัดท่ีใช้เป็นหน่วยท่ีใช้ในครัวเรือน เช่น ทัพพี ช้อนกินข้าว และแก้ว ยกเวน้ ผลไม้ แนะนำเปน็ สว่ น กินอาหารให้หลากหลายในแตล่ ะกลุม่ อาหาร ผู้สูงอายุ กินอาหารสลับสับเปล่ียนชนิดของอาหารในกลุ่มเดียวกันได้ แต่ไม่สามารถกินสับเปล่ียน ทดแทนอาหารตา่ งกลมุ่ ได้ เนื่องจากพลังงานและปริมาณสารอาหารไม่เท่ากัน สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ข้าว - แป้ง ขา้ วสุก 1 ทพั พี (60 กรัม) = ข้าวเหนยี ว ½ ทัพพี (35 กรมั ) = กว๋ ยเต๋ียว 1 ทพั พี (60 กรัม) = ขนมจนี 1 จบั (60 กรัม) = ขนมปงั 1 แผ่น (30 กรัม) ผกั (1 ทัพพี = 40 กรัม) ฟักทอง 1 ทัพพี = ผักคะนา้ สุก 1 ทพั พ ี = ผักบ้งุ จนี สกุ 1 ทพั พี = แตงกวาดิบ 2 ผลกลาง 80 คมู่ อื แนวทางการอบรมผดู้ แู ลผสู้ ูงอายุระยะยาว
ผลไม้ 1 สว่ น = เงาะ 4 ผล = ฝร่งั ½ ปลกลาง = กล้วยนำ้ หว้า 1 ผล = ส้มเขียวหวาน 1 ผลใหญ่ = มะม่วงดิบ ½ ผล = สับปะรด หรือมะระกอสุก หรอื แตงโม 6-8 ชิน้ พอคำ = ลองกองหรือลำไยหรือองุน่ 6-8 ผล เน้อื สัตว ์ ปลาทู 1 ชอ้ นกนิ ขา้ ว (1/2 ตวั ขนาดกลาง) = เนอื้ หมู 1 ชอ้ นกนิ ขา้ ว = ไขไ่ ก่ ½ ฟอง = เต้าห้ขู าวแขง็ ¼ ช้ิน = ถ่วั เมลด็ แหง้ สุก 2 ช้อนกนิ ข้าว นม นมสด 1 แก้ว = โยเกริ ต์ 1 ถว้ ย = นมพร่องมนั เนย 1 แกว้ หมายเหตุ ถา้ ไมด่ ม่ื นม ใหก้ ินปลากระป๋อง 2 ชน้ิ หรือปลาเล็ก ปลานอ้ ย 2 ชอ้ นกินข้าว หรอื เต้าหูแ้ ข็ง 1 แผ่น โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ มักเป็นโรคเร้ือรังและมีความเก่ียวข้องกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารและ การดำเนินชีวติ ดังน้นั ผู้สงู อายุ ควรรจู้ ักเลือกรบั ประทานอาหารและอาหารทค่ี วรงด โรคทพ่ี บบ่อยในผู้สงู อายุ ไดแ้ ก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ภาวะไขมนั ในเลอื ดสูง โรคหัวใจ ขาดเลอื ด โรคเก๊าฑ์ สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ 81 ค่มู ือแนวทางการอบรมผ้ดู แู ลผ้สู งู อายุระยะยาว
สำ ันกส่งเสริม ุสขภาพ 82 ใบความรู้ท่ี 8.2 72 คมู่ อื แนวทางการอบรมผดู้ แู ลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว เรื่องการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (อาหารและโภชนากĔïาÙรüสćöำหøĎšìรĊęǰับ.2ผู้สูงอายุ) đøĂČę ÜÖćøÿÜŠ đÿøöĉ ÿč×õćóñšÿĎ ÜĎ Ăć÷č ĂćĀćøĒúąēõßîćÖćøÿĞćĀøïĆ ñĎÿš ĎÜĂć÷č ตวั อย่างรายการอาหารสำหรบั ผู้สงู อายใุ น 1 êสĆüัปĂ÷ดćŠ าÜøหć ์÷ÖćøĂćĀćøÿćĞ ĀøïĆ ñĎšÿÜĎ Ăć÷Ĕč îǰǰÿĆðéćĀŤ öĚČĂĂćĀćø üĆîĂćìĉê÷Ť üĆîÝîĆ ìøŤ üĆîĂÜĆ Ùćø üĆîóíč üîĆ óùĀĆÿïéĊ üîĆ ýčÖøŤ üĆîđÿćøŤ öČĚĂđßćš ×ćš üêšöÖčÜš đÖ÷ĊĚ öĂĜĊ ×ćš üêšö ēÝÖŢ ĕÖĔŠ ÿĕŠ ×Š ×ćš üÿü÷ ×ćš üêöš ךćüêöš ðúć ĂćĀćøüŠćÜ ĕ׊đÝĊ÷ü êöš ÝéČ đúČĂéĀöĎĔïêĞćúÜċ êšöÝĆïÞćŠ ÷ ëüęĆ đ×÷Ċ üêöš îĞćĚ êćú öĚČĂÖúćÜüĆî ñĆéñÖĆ ïčšÜĔÿŠđêćš đÝ÷ĊĚ ü ÷ćĞ ðúćđúÖĘ ðúćîĂš ÷ đÖ÷ěĊ üîĚĞć ĂćĀćøüćŠ Ü ×îöôŦÖìĂÜ ëęĆüÖüî úÖĎ êćúúĂ÷ĒÖüš ×îöÖúšü÷ àðč ×ćš üēóé đêćš ăü÷ôøŢêč ÿúĆé Öúšü÷îĚĞćüćš öĚČĂđ÷Ęî Öüţ ÷đêĜ÷Ċ üĕÖŠ ×ćš üñéĆ ÖčÜš Öüţ ÷đêĊĜ÷üøćéĀîšćìąđú ךćüĀöĂĎ ïàĂÿöąđ×ČĂđìý Öüţ ÷đêĜ÷Ċ üĀúĂé ïąĀöĊîę ĂŠ ÜĕÖŠ îćĚĞ ×Üĉ öąúąÖĂÿč× öąöŠüÜÿÖč đÜćą ÿšöđßÜš ÿïĆ ðąøé ÿšöēĂ ×ćš üÿü÷ ÖĂŠ îîĂî îĚĞćĔïïĆüïÖ îĞćĚ ÿšöÙĚĆî îĚćĞ ÖøąđÝĊ÷ě ï îĞĚćêąĕÙøš îćĚĞ öąêĎö îĚćĞ ×ćš üēóé îĚćĞ óøÖĉ öąđ×ČĂđìý ×ćš üÿü÷ ×ćš üÿü÷ ךćüÿü÷ ךćüÿü÷ ךćüÿü÷ ךćüÿü÷ ñÖĆ ÿé îĞĚćóøÖĉ Öąðŗ ĒÖÜÿöš ñÖĆ øüö ĒÖÜÝéČ đêšćĀĎĂš ŠĂî Āúîđêćš đÝĚ÷Ċ ü ñĆéñĆÖÿÿĊę Āć÷ ñéĆ ñÖĆ Āüćî êöš ÝéČ îŠĂÜĕÖŠĔÿŠôÖŦ - ñÖĆ ÿé ĕ×êŠ ţčî îĚĞćóøÖĉ úÜđøČĂ ñÖĆ ÿé êöš ÿšöðúćìÿĎ é êšö÷ćĞ ðúćÖøąóÜ đĀéĘ ĀĂö ðúćìĎÿé ĒêÜēö ñÖĆ ÿé ðúćìĆïìĉöìĂé ßöóĎŠ ĒÙîêćúĎð ĒÖüš öĆÜÖø ĒÖÜđú÷Ċ Ü ÿöš đ×÷Ċ üĀüćî ĒĂðđðŪŗú îöóøĂŠ ÜöĆîđî÷ĂŠîč îöóøŠĂÜöĆîđî÷ĂîčŠ òøĆÜę îöóøĂŠ ÜöîĆ đî÷ĂŠîč îöóøŠĂÜöîĆ đî÷ĂŠčî îöóøŠĂÜöîĆ đî÷ĂŠčî îöóøĂŠ ÜöîĆ đî÷ĂčîŠ îöóøŠĂÜöîĆ đî÷ĂîŠč
โรคเบาหวาน อาการ • ปัสสาวะบ่อย และมีปริมาณมาก ปัสสาวะหลายครั้งตอนกลางคืน ในรายท่ีเป็นมากจะตรวจพบ นำ้ ตาลในปัสสาวะสงั เกตได้จากปัสสาวะแลว้ มีมดตอม • คอแหง้ กระหายน้ำ ดืม่ น้ำมาก • หิวบ่อย รบั ประทานจุ แตน่ ้ำหนกั ลด ออ่ นเพลยี • ถา้ เปน็ แผล จะหายยาก มกี ารติดเชื้อตามผวิ หนัง เกดิ ฝบี ่อย • คันตามผิวหนงั มีการตดิ เช้อื รา โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ บรเิ วณชอ่ งคลอดของผู้ปว่ ยเพศหญิง • ตาพรา่ มัว • ชาปลายมือปลายเท้าหยอ่ นสมรรถภาพทางเพศ • ไตวายเรือ้ รัง หมดสติจากสภาวะคัง่ ของกรดในเลอื ด หัวใจขากเลือด สมองขาดเลอื ด เกดิ อัมพาตได ้ โรคเบาหวาน อาหารทีก่ ินได้ อาหารทค่ี วรงด เนื้อสัตว์ เชน่ ปลา กุง้ หอย และเน้อื สตั วไ์ ม่ตดิ มนั เนอ้ื สัตว์ติดมนั ต่างๆ ขา้ วท่ไี มข่ ัดสีมาก อาหารท่ีมีน้ำตาลทุกชนดิ เชน่ ขนมหวาน ลกู อม ผักตา่ งๆ ฟกั ทอง เผอื ก มนั ผลไม้ เชน่ มะละกอ ส้มต่างๆ มะมว่ ง ผลไมร้ สหวานจัด เชน่ ขนนุ องนุ่ ลำไย ทุเรียน นอ้ ยหน่า ไขมนั จากพืช เชน่ น้ำมนั ถว่ั เหลอื น้ำมนั รำขา้ ว ไขมันทีไ่ ดจ้ ากสตั ว์ เช่นนำ้ มนั หมู เนย และอาหารทอด ทกุ ชนดิ อาหารทม่ี ีกะท ิ นำ้ เปลา่ เครอ่ื งดมื่ ทีม่ รี สหวานและท่ีมีแอลกอฮอล ์ น้ำชาท่ไี ม่ไดใ้ สน่ ้ำตาล โรคความดนั โลหิตสงู สำ ันกส่งเสริม ุสขภาพ อาการจำแนกได้ 3 ระยะ คือ ระยะแรกเริ่ม ส่วนใหญ่ผู้ปว่ ยจะไมม่ ีอาการทางรา่ งกายปรากฏให้เห็น ระยะปานกลาง ผ้ปู ่วยมกั ไม่รตู้ วั วา่ มคี วามดันโลหติ สูง อาการเปน็ ๆ หายๆ อาจปรากฏอาการผดิ ปกติ เช่น หวั ใจเต้นแรง ตืน่ เต้น นอนไม่หลบั มือสนั่ ปวดศีรษะ ระยะรุนแรง อาการที่พบคือ ปวดบริเวณท้ายทอยเป็นมากในเวลาตอนเช้า และดีข้ึนเรื่อยๆ ในช่วง บา่ ย/เยน็ อาจจะมอี าการมึนศีรษะ ตาพร่ามวั อ่อนเพลีย ใจสั่น 83 คู่มอื แนวทางการอบรมผ้ดู ูแลผ้สู ูงอายุระยะยาว
โรคความดนั โลหติ สูง อาหารที่ควรงด อาหารที่กนิ ได ้ เนือ้ สัตว์ทหี่ มัก และถนอมดว้ ยเกลอื น้ำปลา ซอี ๊ิว เชน่ นมพร่องมันเนย เนอื้ ปลา เน้ือสตั วไ์ มต่ ดิ มนั กุนเชยี ง ไสก้ รอก เบคอน หมแู ฮม ธญั พชื ทกุ ชนดิ ท่ใี ส่เกลอื ผลติ ภณั ฑ์แป้งที่ใสเ่ กลือ ขา้ ว ผลิตภัณฑ์จากแปง้ ทไี่ มใ่ ส่เกลอื ผักดอง และผกั กระป๋องทใ่ี สเ่ กลอื ผกั สด ผลไม้แปรรปู ทีม่ ีโซเดยี ม ผลไมเ้ ชือ่ ม-ดอง ผลไมก้ ระปอ๋ ง ผลไม้สด ท่ีมีเกลอื และสารกนั บูด ทม่ี โี ซเดยี ม อาหารทใี่ สผ่ งชรู ส ภาวะไขมนั ในเลือดสงู อาการ ระยะแรกมักไม่มีอาการ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดจากภาวะไขมันในเลือดสูง ควรเจาะ เลือดเพอื่ หาค่าระดับของไขมันในเลือด อาหารทก่ี ินได้ อาหารท่ีควรงด นมพร่องมนั เนย เนื้อปลา เนอ้ื สัตว์ไม่ตดิ มนั เครือ่ งในสตั ว์ หนังเปด็ หนงั ไก่ ไข่แดง อาหารทะเล บางชนดิ เชน่ หอยนางรม ปลาหมึก ข้าวที่ไมข่ ัดสีมาก ขนมหวานท่มี สี ว่ นประกอบของกะทิ ผกั สดต่างๆ ผลไม้สดตา่ งๆ ไขมันทไ่ี ด้จากสตั ว์ เชน่ นำ้ มนั หมู, เนย, ไขมันจากพชื ไขมันจากพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลอื ง, เชน่ นำ้ มันมะพร้าว, น้ำมันปาลม์ , และอาหารทอดทกุ ชนิด นำ้ มันขา้ วโพด, นำ้ มันรำขา้ ว สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ โรคหวั ใจขาดเลอื ด อาการ แบ่งได้ 2 กลุม่ ใหญ่ คอื กลมุ่ ท่ี 1 อาการโรคหัวใจขาดเลอื ด แบบแองจินาเปคทอรสี คือ เจ็บหนา้ อก ตำแหน่ง เจ็บหน้าอก บริเวณหลังกระดูกอก (กระดูกน้ีอยู่ตรงกลางด้านหน้าของทรวงอก) ผปู้ ว่ ยบางรายอาจมอี าการเจบ็ ร้าวไปทอ่ี ืน่ เชน่ ดา้ นในของแขนซ้าย คอ หลงั ขากรรไกร เปน็ ต้น กลุม่ ท่ี 2 อาการโรคหัวใจขาดเลือด แบบกล้ามเน้ือหัวใจตาย แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดไม่มีภาวะ แทรกซ้อน และชนิดท่ีมภี าวะแทรกซ้อน 2.1 อาการของผู้ป่วยกล้ามเน้ือหัวใจตายชนิดไม่มีภาวะแทรกซ้อน คือ เจ็บหน้าอกบริเวณ กลางหน้าอกตรงตำแหน่งใต้กระดูกอาจมีอาการเจ็บร้าวไปท่ี แขน คอ และไหล่ได้ ลักษณะท่ีเจ็บอาจเป็น แบบถูกบีบรัดแน่น หรือแสบรอ้ น อาการเจบ็ มากกวา่ 30 นาที 84 คมู่ ือแนวทางการอบรมผู้ดูแลผู้สงู อายุระยะยาว
2.2 อาการของผู้ป่วยกล้ามเน้ือหัวใจตายชนิดมีภาวะแทรกซ้อน นอกจากมีอาการเจ็บหน้าอก แบบที่ 2.1 (อาการของผูป้ ่วยกลา้ มเน้อื หวั ใจตายชนิดไมม่ ีภาวะแทรกซอ้ น) แลว้ ผปู้ ่วยจะมีอาการแทรกซ้อน เชน่ หัวใจเต้นเร็ว ผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้าผิดจังหวะ ภาวะหัวใจวาย ภาวะช็อคจากหัวใจ (Cardiogenic shock) (มอี าการผงิ หนังเยน็ ความจำสับสน ปัสสาวะนอ้ ย ความดัน ซสี โตลคิ ต่ำกว่า 80 มม.ปรอท) เปน็ ต้น อาหารทกี่ นิ ได้ อาหารท่คี วรงด นมพรอ่ งมันเนย เน้อื ปลา เนื้อสัตว์ไมต่ ิดมัน เน้ือสตั วท์ ต่ี ิดมนั ไข่แดง หนงั เปด็ หนงั ไก่ นม เนย เคร่อื งในสตั ว ์ ข้าว ขนมรสหวานจัด ผักสดตา่ งๆ ผลไม้สดตา่ งๆ ไขมนั ที่ได้จากสตั ว์ เช่น นำ้ มันหมู ไขมันจากพชื เช่น น้ำมันถั่วเหลอื ง, ไขมันจากพืช เช่น น้ำมนั ปาล์ม, นำ้ มันมะพร้าว, อาหารใส่กะทิ นำ้ มันข้าวโพด, นำ้ มันรำข้าว เครือ่ งดมื่ เช่น กาแฟ โรคเกา๊ ท์ อาการ แบง่ ได้ 3 ระยะ ระยะแรกเรมิ่ ปวดรนุ แรงทนั ที มักเกิดท่ีข้อน้ิวหวั แม่เท้าบอ่ ยทสี่ ุด ระยะพักไม่แสดงออก เป็นระยะทไ่ี ม่มอี าการแสดง แตป่ ริมาณกรดยูริคในเลือดยงั สูง ระยะเป็นโรคเกา๊ ท์เรอื้ รัง เป็นช่วงที่แสดงอาการของโรคเก๊าท์ เป็นระยะๆ อาหารที่กนิ ได้ อาหารท่คี วรงด นมพรอ่ งมันเนย เนอ้ื ปลา เนอ้ื สตั วไ์ ม่ติดมัน เนอ้ื สตั ว์ทตี่ ดิ มัน ไขแ่ ดง หนงั เปด็ หนงั ไก่ นม เนย เครือ่ งในสัตว ์ ข้าว ขนมรสหวานจดั ผักสดตา่ งๆ ผักจำพวก กระถนิ ชะอม ผลไม้สดต่างๆ ไขมันจากพชื เช่น น้ำมันถว่ั เหลือง, ไขมันที่ไดจ้ ากสตั ว์ เช่น น้ำมันหมู นำ้ มนั ขา้ วโพด, น้ำมนั รำข้าว ไขมนั จากพืช เช่น น้ำมันปาลม์ , นำ้ มันมะพร้าว เคร่อื งดื่มเหล้าและเบียร์ เอกสารอา้ งองิ และแหลง่ ค้นควา้ เพม่ิ เติม สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ 1. งานพยาบาลป้องกนั โรค และสง่ เสรมิ สขุ ภาพ 85 2. ภาควชิ าพยาบาลศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ด ี 3. สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ค่มู ือแนวทางการอบรมผู้ดูแลผูส้ งู อายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ใบงานที่ 8.1 เร่ือง การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ : อาหารและโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ คำชี้แจง ให้ผู้เข้ารับการอบรมแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แสดงบทบาทสมมติเป็นผู้สูงอายุ และร่วมกัน อภปิ รายเร่ือง 1. อาหารหลัก 5 หมู่ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง 2. ความต้องการสารอาหารในผสู้ งู อายุเป็นอย่างไร 3. การประเมนิ ภาวะโภชนาการในผูส้ งู อายุเป็นอย่างไร 4. หลกั การจัดอาหารสำหรบั ผูส้ ูงอายุเปน็ อย่างไร 5. ข้อควรพิจารณาในการกำหนดอาหารสำหรับผ้สู ูงอายุได้แก่อะไรบา้ ง 6. ให้ผ้แู ทนกลุ่มนำเสนอ 7. วิทยากรใหค้ ำแนะนำเพมิ่ เตมิ รวมทง้ั อธิบายและสรุปในประเด็น 86 คมู่ อื แนวทางการอบรมผู้ดูแลผ้สู ูงอายรุ ะยะยาว
แผนการสอน เรอื่ ง การออกกำลังกายท่ีเหมาะสมกบั ผู้สูงอายุ สำ ันกส่งเสริม ุสขภาพ วัตถุประสงคก์ ารเรียนร ู้ • วตั ถปุ ระสงค์ทัว่ ไป เพื่อให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุมีความรู้ ความเข้าใจในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และสามารถนำไปใช้ในการ ดแู ลผู้สงู อายุในชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง • วตั ถุประสงค์เฉพาะ เพือ่ ใหผ้ ู้เข้าอบรมสามารถ 1. อธบิ ายถึงการเปลยี่ นแปลงของร่างกายและสมรรถภาพตามวัย 2. อธิบายถงึ ประโยชน์ของการออกกำลงั กาย 3. อธิบายถงึ หลักปฏบิ ตั ิในการออกกำลงั กาย และสาธิตการบริหารรา่ งกายในผ้สู ูงอายไุ ด้ 4. อธบิ ายถงึ รปู แบบการออกกำลังกายและสาธติ การบริหารรา่ งกายผสู้ งู วยั นอนตดิ เตียงได้ เนอื้ หาวิชา 1. การเปลี่ยนแปลงของร่างกายและสมรรถภาพตามวยั 2. ประโยชนข์ องการออกกำลังกาย 3. หลกั ปฏบิ ัตใิ นการออกกำลงั กายและการบรหิ ารรา่ งกายสำหรับผูส้ งู อาย ุ 4. รปู แบบการออกกำลังกายเพอ่ื สุขภาพผู้สูงอายุ ระยะเวลา ทฤษฎี 4 ชัว่ โมง ปฏิบตั ิ 3 ช่วั โมง รปู แบบ / วิธีการสอน - การบรรยาย-การซักถาม - การฝกึ ปฏิบัติ ขนั้ ตอนการดำเนินกจิ กรรม 1. เข้าสบู่ ทเรยี นดว้ ยการสนทนา 2. อธิบายให้เข้าใจถึงความรู้พื้นฐานการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและสมรรถภาพตามวัย ตาม ใบความร้ทู ี่ 1 3. อธบิ ายให้ความรู้ เรอ่ื ง ประโยชนข์ องการออกกำลงั ตามใบความร้ทู ี่ 2 4. อธิบายให้ความรู้ เรื่อง หลักปฏิบัติในการออกกำลังกายและการบริหารร่างกายสำหรับผู้สูงอายุ ตามใบความรทู้ ่ี 3 5. อธบิ ายใหค้ วามรู้ เรอ่ื ง รูปแบบการออกกำลังกายเพ่อื สขุ ภาพผสู้ ูงอายุ ตามใบความรู้ที่ 4 87 คมู่ อื แนวทางการอบรมผู้ดูแลผสู้ ูงอายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 6. วิทยากรแนะนำอุปกรณ์และสถานทท่ี ีส่ ามารถออกกำลังกายทเี่ หมาะสมกับผ้สู ูงอายไุ ด ้ 7. วทิ ยากรสาธติ การออกกำลังกายแต่ละวธิ ี 8. ให้ผู้สูงอายุฝึกปฏบิ ัติ โดยแบง่ เป็นกลุ่ม 9. วทิ ยากรสังเกตฝกึ ปฏบิ ตั ิและแนะนำชว่ ยเหลอื การฝึกปฏบิ ัติให้ถกู ตอ้ ง สื่อประกอบการการเรียน / อุปกรณ์ 1. หนงั สือคูม่ ือ 2. ส่ือการสอน : โปสเตอร์ แผน่ พบั 3. อปุ กรณ์การออกกำลงั กายดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ เชน่ เกา้ อ้ี การประเมินผล 1. สงั เกตการณม์ ีส่วนร่วมแสดงความรบั ร ู้ 2. ฝกึ ปฏบิ ัติถูกตอ้ งตามขนั้ ตอน 3. ประเมินจากการสอบถาม 88 คมู่ อื แนวทางการอบรมผูด้ ูแลผ้สู ูงอายรุ ะยะยาว
ใบความรู้ที่ 1 สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ เรื่อง การเปล่ียนแปลงของร่างกายและสมรรถภาพตามวัย แนวคดิ การเจริญและการเส่ือมโทรมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายมนุษย์เกิดข้ึนอยู่ตลอดเวลา ในเด็กการเจริญ มีมากกว่า ร่างกายจึงมีการขยายขนาดท้ังด้านความสูงและด้านน้ำหนักตัว จนกระทั่งเม่ือโตเต็มที่ การขยายทาง ด้านความสูงจะหยุด ด้านน้ำหนักตัวจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ช้าๆ ส่วนใหญ่ไปในทางบวกคือเพ่ิมข้ึน การเจริญ ท่ีมีอยู่ในช่วงน้ีของชีวิตคือการซ่อมแซมส่วนที่เส่ือมโทรมไป ในผู้สูงอายุอัตราการเส่ือมโทรมมีมากกว่าการเจริญ จึงทำให้เกิดพยาธิสภาพในอวัยวะต่างๆ ได้โดยทั่วไป และเกิดเป็นโรคที่พบเสมอ อาทิเช่น หลอดเลือดตีบแข็ง ข้อตดิ ขัด โรคหัวใจเส่ือมสภาพ ถุงลมโปง่ พอง เป็นตน้ การเปลี่ยนแปลงตามวัยของคนแต่ละคนในแต่ละระยะมีการแตกต่างกันอยู่บ้าง จะเห็นได้ว่าคนบางคน ดูแก่กว่าอายุจริง แต่บางคนดูอ่อนกว่าอายุจริง สิ่งท่ีเป็นตัวกำหนดการเจริญและเสื่อมท่ีสำคัญคือ ลักษณะ จำเพาะในเซลล์ของแต่ละคนซ่ึงเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่สิ่งแวดล้อมก็สามารถเปลี่ยนแปลงอัตราการเจริญ และเส่ือมได้มาก อาทิ เชน่ ดินฟา้ อากาศ อาหาร งานอาชพี การออกกำลงั และการเล่นกีฬา การพักผ่อน ความ เคร่งเครียด ฯลฯ โดยทั่วไปหลังอายุ 30 ปีไปแล้ว ร่างกายจะค่อยๆ เส่ือมโทรมลงและสมรรถภาพจะค่อยๆ ลดลง ตามอายุท่ีเพมิ่ ข้นึ การเปลยี่ นแปลงทไี่ มอ่ าจเห็นไดด้ ว้ ยตาเปล่า คอื การเปลยี่ นแปลงของอวัยวะภายในของระบบ ตา่ งๆ ซึง่ มีการเปลย่ี นแปลงทั้งรปู รา่ ง องค์ประกอบ และหนา้ ทีก่ ารทำงาน การเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ และสงั คมของผูส้ งู อาย ุ สภาพร่างกาย จิตใจ ตลอดจนการดำรงอยู่ในสังคมของผู้สูงอายุ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากวัยอื่น เนื่องจากมีความเส่ือมของการทำงานระบบต่างๆ ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาท ระบบหัวใจและ หลอดเลอื ด ระบบขบั ถา่ ย ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบกระดูก และกลา้ มเนอื้ ซ่ึงการเปลีย่ นแปลงน้ี มกั จะเกิดขึ้นชา้ ๆ ในภาวะปกติอวัยวะของระบบต่างๆ ยังทำหน้าท่ีได้อย่างปกติ แต่ในภาวะบีบค้ัน ไม่ว่าจะเกิดจากทางอารมณ์ หรือทางร่างกาย หรือสังคม จะทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถรักษาสภาวะสมดุลของร่างกายไว้ได้ ทำให้เกิดอาการ ผดิ ปกติ และทำให้เปน็ อนั ตรายถึงแก่ชวี ิตไดง้ า่ ย การเปลยี่ นแปลงทางรา่ งกาย 1. ผวิ หนังผูส้ ูงอาย ุ ความยดื หย่นุ ของผวิ หนังลดลง ปริมาณไขมันทีส่ ะสมใตผ้ วิ หนงั กล็ ดลง ทำให้ผิวหนงั เป็นรอยเหยี่ วย่น เซลล์ท่ีผิวหนังแบ่งตัวช้าลง ทำให้การหายของบาดแผลตามผิวหนังช้าลง นอกจากนั้นต่อมเหง่ือและต่อมไขมันใน ผิวหนังจะทำงานลดลง ทำให้ผิวหนังแห้งและคันได้บ่อยๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ความชื้นในอากาศลดลง หรือ ผ้สู ูงอายุที่อาบน้ำอ่นุ วันละหลายหน ทำใหม้ ีการชะลา้ งไขมนั ทเี่ คลอื บผวิ หนังออกไป 89 คู่มือแนวทางการอบรมผดู้ แู ลผู้สูงอายรุ ะยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ 2. ระบบทางเดินอาหาร ช่องปากและฟัน เย่ือบุช่องปากบางลง แต่ยังสามารถแบ่งตัวเป็นปกติ น้ำลายจากต่อมน้ำลาย ลดลงบ้าง เน้ือฟันในผู้สูงอายุจะลดความทึบลง เหงือกร่นลงจากคอฟัน เน่ืองจากความเส่ือมของ alveolar bone ขณะที่กระดูกขากรรไกรหดลงเร่ือยๆ ทำให้ฟันเริ่มโยกคลอนได้ง่าย และยิ่งเม่ือมีหินปูนมาเกาะเกิดการ ติดเชอื้ ซำ้ เตมิ เหลา่ นี้เป็นปัจจัยที่ทำใหฟ้ ันร่วงกอ่ นอายุ 50 ปี และนำไปสู่ภาวะทพุ โภชนาการในทีส่ ุด หลอดอาหาร การไหลผา่ นของอาหารจากลำคอสู่กระเพาะอาหารชา้ ลง กระเพาะอาหาร นำ้ ยอ่ ยจากกระเพาะอาหารลดความเป็นกรดลง ตับ น้ำหนักของตับจะลดลงถึง 25% จากอายุ 20 ปี ถึง 70 ปี เนื่องจากเซลล์ตับลดจำนวนลง ปริมาณเลือดที่ไหลเวียนผ่านตับจึงลดได้ถึง 35% จากอายุ 20 ปี ถึง 90 ปี ทำให้การกำจัดยาที่เข้าสู่ร่างกาย ช้าลง ผู้สูงอายุจึงมคี วามโนม้ เอยี งในการเกดิ พษิ จากยาและแอลกอฮอล์ไดง้ ่ายกว่าบุคคลทั่วไป ลำไส้ มีการเคล่ือนตัวช้าลง ทำให้ท้องผูกได้ง่าย ส่วนความสามารถในการดูดซึมอาหารไม่ลดลง โดยเฉพาะการดูดซึมไขมันไม่แตกต่างไปจากคนวัยหนุ่มสาว แต่การดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนลดลง เล็กน้อย 3. ระบบการหายใจ ทรวงอก กระดูกสันหลังที่เป็นแกนหลักของทรวงอกบางลงจากภาวะกระดูกพรุน ซึ่งพบได้เสมอ ในผู้สูงอายุ ทำให้กระดูกสันหลังคดงอ ขณะเดียวกันกระดูกซ่ีโครงยุบห่อตัวเข้าหากัน ทำให้การยืดขยายของ ทรวงอกขณะที่มีการหายใจเข้าไม่เต็มที่เท่าท่ีควร จึงต้องอาศัยกระบังลมและกล้ามเน้ือหน้าท้องช่วยในการ หายใจเพ่ิมจากกล้ามเนื้อหน้าอก เมื่อผู้สูงอายุท่ีได้รับการผ่าตัดช่องท้อง จึงเกิดภาวะแทรกซ้อนทางการหายใจ หลงั ผา่ ตดั ไดง้ า่ ย ขณะเดียวกันการหายใจออก ซ่ึงต้องอาศยั การดีดตวั กลบั ของเนือ้ เยอ่ื elastin ในปอดทเ่ี สือ่ มลง ทำให้มีอากาศหลงเหลืออยู่ในปอดมากกว่าปกติ ทำให้การแลกเปล่ียนก๊าซอ๊อกซิเจนระหว่างอากาศที่หายใจเข้า กับเลือดท่ีไหลเวียนมารับอ๊อกซิเจนท่ีปอดด้อยประสิทธิภาพลง ระดับออกซิเจนในเลือดแดงจึงลดต่ำกว่าคน วยั หนมุ่ สาว หลอดลม ไมค่ อ่ ยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยกเว้นในผทู้ ส่ี ูบบหุ รเ่ี รื้อรัง เน้ือปอด จะสูญเสียความยืดหยุ่น เม่ือร่วมกับสภาวะท่ีทรวงอกขยายตัวไม่ได้เต็มที่ ทำให้การ ไหลเวียนของก๊าซในปอดไม่ดีเท่าท่ีควร เกิดการคั่งของก๊าซในปอด ส่วนท่ีไม่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนั้นผนังทเ่ี ป็นทางผ่านของการแลกเปลย่ี นก๊าซทั้ง 2 หนาตัวข้ึน ทำให้ผสู้ งู อายุ ทนต่อสภาวะทีต่ ้องการออกซเิ จนเพม่ิ ข้นึ ไมไ่ ด้ดเี ท่าทีค่ วร เช่น ขณะออกกำลังกาย 4. ระบบหัวใจและหลอดเลือด หัวใจ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจลดจำนวนลง มีเน้ือเยื่อพังผืดเพ่ิมมากข้ึน ในคนที่มีความดันโลหิตสูง เร้ือรัง ก็จะทำให้มีกล้ามเน้ือหัวใจหนาตัวขึ้น เซลล์ที่เป็นตัวกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจลดจำนวนลง ทำให้ จังหวะการเต้นของหัวใจผดิ ปกตไิ ปในผู้สูงอายุบางราย ล้ินหัวใจ โดยเฉพาะลิ้นที่ต้องทำงานหนัก จะเกิดความเสื่อม มีไขมันสะสมและหินปูนมาเกาะ ในทีส่ ดุ ทำให้การปดิ เปดิ ของลนิ้ หวั ใจไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพเท่าที่ควร โดยเฉพาะล้นิ เอออร์ตคิ หลอดเลอื ดแดง เซลลก์ ลา้ มเนอื้ เรียบทีผ่ นังหลอดเลอื ดแดงเพม่ิ จำนวนขึ้น เกิดมหี ยอ่ มของหนิ ปูน มาเกาะตามผนัง ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งจนอาจคลำได้เป็นลำ และอุดตันได้ง่ายเกิดอาการขาดเลือดมา 90 คมู่ ือแนวทางการอบรมผู้ดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว
หลอ่ เลี้ยงยังอวยั วะปลายทางได้ สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ 5. ระบบทางเดินปสั สาวะ ไต เป็นอวัยวะทม่ี กี ารเปล่ียนแปลงในผู้สูงอายุชัดเจนท่สี ุดอวัยวะหนึ่ง เพราะผู้สงู อายเุ กือบทกุ ราย แสดงความผิดปกตใิ นการทำงานของไต เมอ่ื ร่างกายต้องการปรบั ดลุ ย์น้ำและกรดดา่ งในภาวะผิดปกติ นำ้ หนกั ไต จะลดลงราว 20–30% โดยเฉพาะส่วนท่ีทำให้หน้าที่กรองของเสียต่างๆ ออกไป ทำให้การกำจัดยาออกจาก ร่างกายลดลง จงึ เป็นอีกปจั จัยท่ีทำใหผ้ สู้ ูงอายเุ กิดภาวะพษิ จากยาไดง้ า่ ยกว่าบคุ คลท่วั ไป กระเพาะปสั สาวะ จะมีความจุลดลง จำนวนปัสสาวะคา้ งเพ่ิมมากข้นึ หลงั การถ่ายปสั สาวะ ทำให้ ตอ้ งปัสสาวะบ่อยและอาจมปี สั สาวะราดไดบ้ อ่ ย ต่อมลูกหมาก จะหนาตัวขึ้นจนอุดตันท่อทางเดินปัสสาวะได้บ่อยๆ ทำให้ผู้สูงอายุชายปัสสาวะ บอ่ ย โดยเฉพาะเวลากลางคนื ถึงกับทำให้นอนไม่หลับไดบ้ อ่ ยๆ และถ้าตอ้ งเบง่ ปัสสาวะมากเปน็ เวลานาน ทำให้ มีไส้เล่อื นหรือรดิ สีดวงทวารตามมา 6. ระบบตอ่ มไรท้ ่อ ต่อมไทรอยด์ มักไม่ค่อยมีการเปล่ียนแปลงจากความชรา แต่ท่ีมีความสำคัญคือ เม่ือผู้สูงอายุใด เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ จะมีลักษณะอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจงและบางคร้ังทำให้คิดว่า เกดิ จาก ความชราเอง เชน่ เคล่อื นไหวเชื่องชา้ ลง, นำ้ หนักข้นึ , สติปัญญาลดต่ำลง, ทอ้ งผูก เป็นตน้ ขณะเดยี วกัน เม่ือผู้สูงอายุท่ีมีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินปกติ ที่เรียกต่อมไทรอยด์เป็นพิษ อาจมีอาการเซ่ืองซึม สับสน หรือหอบเหนื่อยจากภาวะหัวใจวาย แทนท่ีจะมีอาการตาโปน อุณหภูมิกายสูงกว่าปกติ รับประทานอาหารมาก แตผ่ อมลง เหมือนในวยั หนุม่ สาว เบาหวาน พบว่าในผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงท่ีเซลล์ส่วนท่ีฮอร์โมนอินซูลินไปออกฤทธิ์ ทำให้ อินซูลินไม่สามารถออกฤทธ์ิได้เต็มที่ จึงพบอุบัติการณ์ของเบาหวานเพิ่มสูงขึ้นตามอายุที่เพ่ิมมากข้ึน โดยเฉพาะ ผสู้ ูงอายุท่มี ีภาวะอ้วน ต่อมหมวกไต แม้ว่าน้ำหนักต่อมจะลดลงหลังอายุ 50 ปี แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นปกติ ยกเว้น ส่วนท่ีเกี่ยวกับการหลั่งฮอร์โมน Aldosterone ซ่ึงทำหน้าท่ีดูดซึมเกลือโซเดียมจากท่อไตลดลงตามอายุที่เพ่ิมข้ึน เม่ือผู้สูงอายุสูญเสียเกลือแร่ออกจากร่างกาย เช่น ขณะท่ีมีอาการท้องร่วง จึงมักทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลง มากกวา่ คนทว่ั ไป 7. ระบบประสาท สมอง น้ำหนักของสมองจะสูงสุดราว 1400 กรัม ท่ีอายุ 20 ปี และคงที่จนถึงอายุประมาณ 40–50 ปี จากนั้นลดลงราว 2–3% ต่อ 10 ปี จนกระทั่งอายุ 80 ปี น้ำหนักสมองจะลดลงราว 10% จากใน วัยหนุ่มสาว เน่ืองจากเซลล์ประสาทลดจำนวนลง ทำให้ขนาดของสมองเหี่ยวลง ช่องว่างระหว่างกลีบสมอง ถ่างกว้างออก สมองบางส่วนจะฝ่อตัวมากกว่าส่วนอ่ืน เช่นส่วนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความคิดอ่าน สติปัญญาท่ี กลีบสมองสว่ นหน้า หรอื ส่วนซึ่งรับผิดชอบเกีย่ วกบั ความจำที่ temporal cortex จะมีการสญู เสียเซลล์ประสาท มากทีส่ ดุ กวา่ สว่ นอื่น ขณะทกี่ ้านสมองและไขสนั หลงั ไมค่ อ่ ยมีการเปล่ยี นแปลง การรับรสและกลิ่น เน่ืองจากต่อมรับรสที่ล้ินลดจำนวนลง ประกอบกับน้ำลายจะข้นขึ้น ทำให้ ช่องปากแหง้ ไดง้ า่ ย ทำให้ความสามารถในการรับรสด้อยประสิทธิภาพลง ผสู้ งู อายจุ ึงมักรบั ประทานอาหารรสจดั ขึน้ โดยเฉพาะรสเค็มและรสหวาน 91 คู่มอื แนวทางการอบรมผู้ดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ การมองเห็น มีการเปลี่ยนแปลงต้ังแต่ที่เปลือกตาบนจะตกลงเล็กน้อย น้ำตาในเบ้าตามากขึ้น เน่ืองจากการอุดตันของท่อทางเดินน้ำตาและอาการเคืองตาเม่ือผู้ท่ีมีต้อกระจกอยู่ในท่ีๆ มีแสงสว่างจ้า ม่านตามี ขนาดเล็กลงเน่ืองจากกล้ามเน้ือส่วนที่ควบคุมการขยายตัวทำงานลดลง แก้วตาหรือเลนส์จะขุ่นข้ึนจากการสะสม โปรตนี ท่เี สื่อมสภาพ ทำใหแ้ สงผา่ นเลนสล์ ดลง นอกจากน้นั การมองเหน็ สจี ะลดลง 25% เม่ืออายุ 50 ปี และจะ ลดลงถงึ 50% เมอื่ อายุ 70 ปี ผูส้ ูงอายุจงึ มักชอบสที ี่สดสวา่ งมากกวา่ สอี ่ืน การได้ยิน มีการเปล่ียนแปลงของหูช้ันในท่ีเรียก Cochlear ทำให้สูญเสียความสามารถในการ ได้ยนิ เสียงความถีส่ ูงไป แต่ยังสามารถไดย้ นิ เสยี งในความถ่ตี ำ่ เหมอื นวยั หนุม่ สาวท่ีเรียก Presbycusis การทรงตัว พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง โดยเส้นประสาทท่ีรับผิดชอบอยู่ใกล้เคียงกับส่วนท ่ี รับผิดชอบการได้ยิน อาการวิงเวียนศีรษะรู้สึกว่าบ้านหมุน จึงเป็นส่ิงที่ผิดปกติเสมอ โดยเฉพาะเวลาเปลี่ยน ทา่ ทางและทศิ ทางของศีรษะรวดเร็ว สติปัญญา พบว่าผู้สูงอายุจะสูญเสียความจำระยะสั้น ต้องใช้เวลานานขึ้นในการนึกทบทวน ขณะท่ีความจำระยะยาวหรือเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นนานมาแล้วจะจำได้ดีกว่า ความสามารถในการแก้ปัญหาทาง ตรรกวิทยาลดลง ส่วนความสามารถในการเรียนรู้จะลดลงเม่ืออายุ 70 ปีข้ึนไป ปฏิกิริยาของร่างกายในการ ตอบสนองทันทตี อ่ สิง่ เรา้ ลดลงในคนอายุมากกวา่ 70 ปีดว้ ย การนอน พบว่ามีการเปล่ียนแปลงของคลื่นไฟฟ้าสมองขณะหลับ ทำให้ระยะเวลาท่ีอยู่ในระดับ หลับสนิทส้ันลง ทำให้ตน่ื กลางดกึ ไดบ้ ่อยๆ โดยเฉพาะในคนอายุ 65–95 ปี ผูส้ งู อายุจึงมกั รูส้ ึกวา่ ตัวเองนอนหลบั เคลิม้ เหมือนนอนไมเ่ ต็มอิ่มและพยายามพึ่งยานอนหลับมากเกินจำเปน็ ระบบประสาทอัตโนมัติ จะลดประสิทธิภาพลง มีผลต่ออาการผิดปกติที่พบบ่อยในผู้สูงอายุเช่น อาการหน้ามืดเม่ือลุกขึ้นยืนหรือน่ังเร็วๆ จากความดันโลหิตท่ีลดลง อาการปัสสาวะราด และการเส่ือม สมรรถภาพทางเพศ ชีพจรไม่เพิ่มมากเท่าท่ีควรเม่ือมีการออกกำลังกาย ทำให้สมรรถภาพในการออกกำลังกาย มีขดี จำกัด ภมู ิค้มุ กันในผสู้ งู อาย ุ ระบบภูมิคุ้มกันเป็นระบบของร่างกายที่ประกอบด้วยระบบย่อยๆ อีกหลายระบบทำงานประสานกัน ในการต่อสู้กับเชื้อโรคที่มีอยู่แล้วในร่างกายหรือพ่ีงจะเข้ามาใหม่ ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงในทางเส่ือมชัดเจน จากความชรา คือ ระบบภูมิคุ้มกันชนิดพ่ึงเซลล์ การท่ีผู้สูงอายุมีความบกพร่องในระบบน้ีเอง ทำให้อุบัติการณ์ ของวัณโรคและงูสวัดเพิ่มข้ึนในผู้สูงอายุ นอกจากนั้นยังมีข้อชี้ว่าอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ที่เพ่ิมขึ้นก็ น่าจะมีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันชนิดพึ่งเซลล์ที่ด้อยประสิทธิภาพลง การที่ร่างกายของผู้สูงอายุมีปฏิกิริยา ตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมด้วยระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดแปลกไป ทำให้อาการและอาการแสดงหลังการเจ็บป่วย ต่างไปจากผู้ป่วยท่ัวไปด้วย เช่น ภาวะท่ีอุณหภูมิในร่างกายไม่สูงข้ึนหรือกลับต่ำลงในการติดเชื้อในกระแสโลหิต เปน็ ตน้ การเปลยี่ นแปลงทางจติ ใจ ลักษณะการเปลีย่ นแปลงทีพ่ บในผูส้ ูงอายสุ ว่ นใหญ่ ได้แก่ 1. การรับรู้ ผู้สูงอายุมักยึดติดกับความคิดและเหตุผลของตัวเอง จะเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ ได้ยาก เพราะมี ความไม่ม่นั ใจในการปรบั ตวั 92 คมู่ ือแนวทางการอบรมผูด้ แู ลผสู้ งู อายรุ ะยะยาว
2. การแสดงออกทางอารมณ ลกั ษณะของความทอ้ แท้ ใจนอ้ ย หงุดหงิดง่าย โกรธงา่ ย และซมึ เศรา้ สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ 3. ความสนใจส่ิงแวดล้อมน้อยลง ผู้สูงอายุจะสนใจเฉพาะเร่ืองท่ีเก่ียวข้องกับตนเอง มากกว่าเร่ือง ของผู้อ่ืน การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม 1. ภาระหนา้ ทแ่ี ละบทบาททางสังคม จะลดนอ้ ยลง ทำให้ผูส้ ูงอายหุ า่ งไปจากสังคม 2. คนส่วนใหญ่มักมองว่า ผู้สูงอายุมีสมรรถภาพ และความสามารถลดน้อยลง จึงไม่ให้ความสำคัญ หรือไม่ให้ความรับผิดชอบ 3. จากบทบาทท่ีเคยเปน็ ผูน้ ำครอบครัว จะกลายเปน็ ผอู้ าศัย หรือผู้ตามในครอบครวั บรรณานุกรม 1. www.dd-nursinghome.com : การเปล่ียนแปลงทางร่างกาย จิตใจและสงั คมของผู้สงู อายุ 2. www.carenursinghome.com : การเปล่ียนแปลงในผสู้ งู อายุ 3. www.googleusercontent.com : ศูนยส์ ุขภาพโรงพยาบาลพหลพลพยหุ เสนา เรือ่ ง การเปล่ียนแปลงในผูส้ งู อายุ 93 ค่มู ือแนวทางการอบรมผ้ดู แู ลผูส้ ูงอายุระยะยาว
สำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง ประโยชน์ของการออกกำลังกายต่อผู้สูงอายุ แนวคิด ผลของการออกกำลังกายต่อการทำงานของร่างกาย จะเห็นไดว้ า่ การออกกำลังสามารถทำใหผ้ ู้สงู อายุ มีสมรรถภาพทางรา่ งกายดีขน้ึ ชะลอการเส่อื มของอวยั วะตา่ งๆ และสามารถฟนื้ ฟูอวัยวะทเ่ี สื่อมไปแล้วใหด้ ขี นึ้ ได้ ในการออกกำลังกายทุกครั้ง ผู้สูงอายุควรจะประเมินความเหมาะสม และความสามารถก่อน เช่น บางคนที่มี โรคประจำตัวเช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ว่าควรออกกำลังกายประเภทใด และมากน้อยเพียงใด การเร่ิมออกกำลังกายน้ันควรเร่ิมจากการศึกษาหลักการให้ถูกต้องก่อน แล้วค่อยๆ เริ่ม ไม่ควรหักโหมมากใน ครั้งแรกๆ เพื่อเป็นการปรับสภาพร่างกายก่อน การออกกำลังกายที่ดี ควรเป็นการออกกำลังกายท่ีต่อเน่ืองไม่ใช่ หักโหมทำเป็นครั้งคราว ควรเร่ิมจากการอุ่นร่างกาย (ประมาณ 5-10 นาที) ออกกำลังกาย (15-20 นาที) และ จบด้วยการผ่อนคลาย (5-10 นาที) ทุกครั้ง ในการออกำลังกายทุกครั้งไม่ควรกลั้นหายใจ หรือสูดลมหายใจ อยา่ งแรง ควรหายใจเขา้ และออกยาวๆ เพอ่ื ช่วยระบบการหายใจของร่างกาย การออกกำลงั กายท่ีเหมาะสมของ ผสู้ งู อายุน้นั ข้ึนอย่กู ับสภาพรา่ งกายของแต่ละคน ตัวอยา่ งของการออกกำลงั กายแบบต่างๆ ประโยชน์ของการออกกำลังกายต่อร่างกายผู้สูงอายุมีประโยชน์ท้ังทางตรงและทางอ้อม อาจสรุปได้ ดังน้ี 1. กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น การออกกำลังกายจะทำให้การไหลเวียนเลือดไปเล้ียงเซลล์ท้ัง ร่างกายได้ดี ขึ้น กล้ามเนื้อแข็งแรงข้ึน มีพลังท่ีสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดีข้ึน สังเกตได้จากคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือนักกีฬา ถ้าจับต้องตามกล้ามเนื้อ จะแข็งแรง เพราะอาหารที่รับประทานเข้าไปถูกใช้เป็นพลังงาน ไม่เหลือ สะสมเป็นไขมนั ใต้ผวิ หนงั อาจเปรยี บเทียบไดก้ บั กุ้งแมน่ ำ้ ทีต่ อ้ งวา่ ยน้ำทวนกระแสนำ้ เพื่อหาอาหาร เน้ือกงุ้ ชนดิ นี้จงึ มีเน้อื แนน่ รสชาตดิ ีกว่ากงุ้ เลี้ยง ทไี่ มต่ อ้ งออกแรงวา่ ยนำ้ หาอาหาร 2. การทรงตัวดี การออกกำลังกายอยู่เสมอ จะช่วยให้ทรงตัวดีขึ้น มีความกระฉับกระเฉงว่องไว เพราะร่างกายได้มีการเคล่ือนไหวอยู่เสมอ การประสานงานของกล้ามเน้ือ และอวัยวะต่างๆ จะทำงานได้ดีข้ึน และเดนิ ไดค้ ลอ่ งแคล่ว ไม่หกล้ม 3. ทรวดทรงดี การออกกำลังกายจะช่วยให้ทรวดทรงดีข้ึน สัดส่วนของร่างกายจะเหมาะ สมการ ออกกำลงั กายสม่ำเสมอยงั ช่วยควบคุมนำ้ หนักตัวใหค้ งท่ี ทำใหเ้ กิดความเช่ือม่ันในตัวเอง มีผลตอ่ สขุ ภาพจิตดว้ ย 4. ปอด หัวใจ หลอดเลือด ทำงานได้ดีข้ึน การออกกำลังกายอย่างถูกต้องตามหลักการและ สมำ่ เสมอ จะเพมิ่ การขนส่งออกซิเจนไปยังเซลลก์ ลา้ มเน้ือ และอวยั วะทีเ่ กยี่ วขอ้ งมากขน้ึ ทำให้หัวใจ หลอดเลอื ด และปอด มีความแข็งแรง อัตราการเต้นของหัวใจ และการหายใจ ขณะพักลดลง และจะช้ากว่าคนท่ีไม่ได ้ ออกกำลังกาย แสดงใหเ้ ห็นวา่ หวั ใจ ปอด และหลอดเลือด มสี มรรถภาพดี ปอดและหัวใจของคนท่อี อกกำลังกาย สม่ำเสมอ จึงไม่ตอ้ งทำงานหนกั ช่วยใหร้ ะบบไหลเวยี นเลอื ด ปอด หัวใจทำงานดขี ึน้ เพอ่ื ป้องกนั โรคหัวใจ ความ ดนั โลหติ สงู และชว่ ยใหไ้ มเ่ ป็นลมหนา้ มดื ง่าย 94 คู่มอื แนวทางการอบรมผดู้ ูแลผสู้ ูงอายุระยะยาว
5. ชะลอความเสอ่ื มของอวัยวะ ชว่ ยให้มีอายยุ นื ยาว การออกกำลงั กายท่ีเหมาะสมเปน็ ประจำจะช่วย สำ ันก ่สงเสริม ุสขภาพ ให้แก่ช้า และอายุยืนยาว เพราะกระดูกต่างๆ แข็งแรง กล้ามเนื้อแข็งแรง อวัยวะทุกส่วนของร่างกายทำหน้าท ี่ ได้ดีขึ้น 6. สมรรถภาพทางกายดี การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่เสริมสมรรถภาพทางกายทุกด้าน ด้าน เช่น ความแข็งแรงของกล้ามเน้ือ ความอ่อนตัว ความอดทน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันโรคต่างๆ โรค หลอดเลือดหัวใจเสอื่ มสมรรถภาพ โรคความดนั โลหติ สูง โรคอว้ น โรคเบาหวาน และโรคข้อต่อเสือ่ มสภาพ 7. ลดอัตราเสย่ี งต่อการเสียชีวิตดว้ ยโรคหัวใจ 8. ลดปัจจัยเส่ยี งทท่ี ำใหเ้ กดิ โรงมะเรง็ 9. ช่วยป้องกันโรคกระดกู ผุ ทำใหก้ ระดกู แข็งแรงไมห่ กั ง่าย 10. ชว่ ยใหร้ ะบบขับถา่ ยดีขน้ึ 11. ช่วยรักษาโรคบางชนดิ ได้ พบว่าผปู้ ่วยโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลอื ดสงู สามารถลดระดับ นำ้ ตาลและไขมนั ลงไดจ้ ากการออกกำลงั กาย 12. ทำให้พลังงานทางเพศดีขน้ึ ประโยชน์ของการออกกำลังกายต่อสภาพร่างกายของผู้สูงอายุดังกล่าว อาจถือได้ว่าเป็นการชะลอ “ความชรา” เน่ืองจากความชราไม่ได้ตัดสินด้วยอายุตามนาฬิกาอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์ประกอบอีก 3 อย่าง คือ 1. รปู กายท่ปี รากฏ 2. จติ ใจ 3. สมรรถภาพทางกาย ซงึ่ ผลของการออกกำลงั กายที่ถกู ตอ้ งจะทำใหอ้ งค์ประกอบทัง้ สามดีขนึ้ ได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานยืนยันทางการทดลองที่แน่นอนว่าการออกกำลังจะสามารถยืดอายุให้ ยืนยาวออกไป แต่จากผลของการออกกำลังกายต่างๆ ที่พิสูจน์ได้และประโยชน์จากการออกกำลังกายดังสรุป ข้างต้น รวมท้ังจากการปฏิบัติในการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบโดยการออกกำลัง แสดงให้เห็นว่า สามารถทำให้ผู้ป่วยดังกล่าวมีชีวิตยืนยาวต่อไปอย่างมีสมรรถภาพ ทำให้เช่ือได้ว่าการออกกำลังสามารถยืดอายุ ให้ยืนยาวออกไปได้อีก 95 คมู่ ือแนวทางการอบรมผู้ดแู ลผู้สงู อายรุ ะยะยาว
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264