Page |2 ลำดบั ท่ี รายการเอกสาร หนา้ ท่ี 3 1. ระเบียบวาระการประชมุ 2. รายชื่อผเู้ ข้าร่วมประชุม 4 3. รายงานการประชมุ 7 การปรกึ ษาหารอื เรอ่ื งแนวทางการจดั ทำความตกลงรว่ มมอื เพอ่ื การขบั เคลอ่ื นงาน “สรา้ งสขุ -ลดทุกข์ กลมุ่ แรงงานในระบบ” วนั พฤหัสบดที ี่ 22 ตลุ าคม พ.ศ.2563 เวลา 13.30-15.30 น. ณ หอ้ งประชมุ ปัญญาสติ อาคาร 4 ชน้ั 2 กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสุข จงั หวัดนนทบรุ ี 4. สาระสำคัญโครงการ 14 การฟ้นื ฟูคุณภาพชวี ติ กลมุ่ แรงงานในระบบภาคการผลิต ที่ได้รบั ผลกระทบจากโควดิ -19 : ลดรายจา่ ย เพิม่ รายได้ บรรเทาหนคี้ รัวเรอื น ระยะเวลาดำเนนิ การ : 5 มนี าคม 2564 – 4 มีนาคม 2565 (12 เดือน) 5. AAT Health Promotion (สร้างสุขลดทุกข์) 32
Page |3 ระเบยี บวาระการประชมุ การปรึกษาหารือ เร่อื งผลกระทบดา้ นสขุ ภาพจติ ต่อกลมุ่ แรงงานในระบบภายใตว้ ิกฤติการจ้างงานยคุ โควดิ -19 ระลอก 2 และทางออก วันจันทรท์ ่ี 8 มีนาคม 2564 เวลา 09.30-12.30 น. ณ หอ้ งประชมุ ช้นั 1 อาคาร 1 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบรุ ี จดั โดย โครงการฟ้นื ฟคู ุณภาพชีวติ กลุม่ แรงงานในระบบภาคการผลิตที่ไดร้ บั ผลกระทบจากโควิด-19 รว่ มกับ โครงการสรา้ งเสริมสขุ ภาพจติ เชงิ รกุ “กลุ่มวัยทำงาน” สรา้ งสขุ ลดทุกข์ สสส. ระเบยี บวาระที่ 1 ช้แี จงวตั ถปุ ระสงค์การประชมุ ระเบยี บวาระท่ี 2 โดยนางสาวบษุ ยรตั น์ กาญจนดษิ ฐ์ ผจู้ ัดการโครงการฟ้ืนฟคู ณุ ภาพชวี ติ กลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลติ ฯ อธิบดกี รมสขุ ภาพจิตกล่าวเปดิ การประชมุ ความสำคญั การดูแลด้านสขุ ภาพจติ กลุ่มแรงงานภาคอตุ สาหกรรมจากผลกระทบโควิด-19 ระเบยี บวาระที่ 3 เรอื่ งเพอื่ พจิ ารณา ระเบยี บวาระที่ 4 3.1 ผูแ้ ทนแตล่ ะสถานประกอบการนำเสนอวกิ ฤตกิ ารจ้างงานยคุ โควิด-19 และ ผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ 3.2 ผู้แทนบรษิ ัทออโตอ้ ัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอตวั อยา่ งทด่ี ีของ บรษิ ัทตอ่ การมีแผนงานดา้ นสขุ ภาพจิตโดยตรงในสถานประกอบการ 3.3 บทบาทกรมสขุ ภาพจติ และหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง ต่อการเยยี วยาผลกระทบ ที่เกิดขน้ึ 3.4 การนัดหมายลงพ้นื ทใี่ นบางสถานประกอบการที่จะรว่ มดำเนนิ การแกไ้ ขปัญหา เรือ่ งอืน่ ๆ 4.1 การนดั หมายการประชมุ คร้งั ต่อไป
Page |4 รายช่ือผู้เขา้ ร่วมประชมุ การปรกึ ษาหารือ เรอื่ งผลกระทบด้านสขุ ภาพจติ ต่อกลมุ่ แรงงานในระบบภายใตว้ กิ ฤติการจา้ งงานยคุ โควดิ -19 ระลอก 2 และทางออก วันจันทรท์ ี่ 8 มนี าคม 2564 เวลา 09.30-12.30 น. ณ ห้องประชมุ ช้นั 1 อาคาร 1 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ลำดับ ชอ่ื – สกุล / องค์กร หนว่ ยงาน กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ 1. แพทย์หญงิ พรรณพมิ ล วิปลุ ากร อธิบดีกรมสขุ ภาพจติ 2. รองอธบิ ดกี รมสขุ ภาพจิต 3. พญ.ดุษฎี จงึ ศริ กุลวิทย์ ผู้อำนวยการสถาบนั สุขภาพจติ เดก็ และวยั ร่นุ ราชครนิ ทร์ 4. ผู้อำนวยการศูนยส์ ุขภาพจิตที่ 6 จ.ชลบุรี 5. นายขจรศักด์ิ วีระวงศ์ ศนู ยส์ ขุ ภาพจิตที่ 6 จ.ชลบรุ ี 6. ผ้แู ทนกองสง่ เสรมิ และพัฒนาสขุ ภาพจิต ศูนยอ์ นามยั ท่ี 6 ชลบุรี กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ 7. นายแพทยพ์ นติ โลเ่ สถียรกิจ ผู้อำนวยการศูนยอ์ นามัยท่ี 6 จ.ชลบรุ ี 8. ดร.เพญ็ ศรี กองสมั ฤทธ์ิ ศูนยอ์ นามัยท่ี 6 จ.ชลบุรี สำนักงานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สำนกั 6 สำนักสร้างสรรค์โอกาส 9. นายวรี พงษ์ เกรียงสินยศ กรรมการบริหารแผนคณะที่ 6 สสส. 10. นางสาวพนิ ทสุ ร โพธอ์ิ ุไร สำนกั สรา้ งสรรค์โอกาส (สำนกั 6) บรษิ ัทออโต้อลั ลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกดั จ.ระยอง 11. นายจกั รกฤษณ์ พรหมสิทธิ์ ผูจ้ ัดการอาวโุ สฝา่ ยทรัพยากรบุคคล 12. นายชัยยุทธ สวัสดี ผจู้ ดั การฝ่ายทรัพยากรบุคคล 13. นายณรงคศ์ กั ด์ิ ยางสงา่ ผูช้ ว่ ยผจู้ ดั การฝา่ ยทรัพยากรบคุ คล 14. นายปิยพงษ์ สรรเสริญ ฝ่ายทรพั ยากรบุคคล 15. นายวฒุ ศิ กั ด์ิ สารุ ฝา่ ยทรพั ยากรบคุ คล 16. นางพรสมัย พทุ ธมิ ณี พยาบาล 17. นายสมเกียรติ เจยี ดกำจร ประธานสหภาพแรงงาน 18. นายอทุ ยั สรุ ิยะ ประธานสหภาพแรงงานระดบั บังคับบัญชา 19. นายธนฑัต เพิม่ พนู กรรมการสหภาพแรงงาน 20. นายไทพงษ์ วุฒศิ รี กรรมการสหภาพแรงงาน 21. นายมงคล เนอ่ื งจำนงค์ กรรมการสหภาพแรงงาน
Page |5 ลำดบั ชอื่ – สกุล / องค์กร หน่วยงาน บริษัท เอจีซี แฟลทกลาส ประเทศไทย จำกดั (มหาชน) โรงงานชลบรุ ี และโรงงานระยอง 22. นายนรชยั นรสภุ า ผ้จู ดั การฝา่ ยทรัพยากรบคุ คล 23. นายรงุ่ ธวิ า เจียมตน รองประธานสหภาพแรงงาน 24. นายวษิ ณุ เกลียวสนี าค กรรมการสหภาพแรงงาน 25. นายมานพ บญุ ปกครอง กรรมการสหภาพแรงงาน 26. นายสงกานต์ สกุลมั่นคง กรรมการสหภาพแรงงาน 27. นายพนมเดช สวุ รรณพันธ์ กรรมการสหภาพแรงงาน 28. นายสาคร หมจู ุน กรรมการสหภาพแรงงาน บรษิ ทั ไอเอชไอ เทอรโ์ บ (ประเทศไทย) จำกดั จ.ชลบรุ ี 29. นายไวยวฒุ ิ สกุ จิ พิรยิ ะพันธ์ ผจู้ ัดการฝ่ายทรพั ยากรบุคคล 30. นางสาวณภัสสร ฝ่ายทรัพยากรบคุ คล 31. นายนันทวัฒน์ วงศ์พฒั นกานต์ ประธานสหภาพแรงงาน 32. นายธนบดี พรหมราช เลขาธกิ ารสหภาพแรงงาน 33. นายสวุ รรณ หลาเพียร กรรมการสหภาพแรงงาน 34. นายณภัทร ทองดี กรรมการสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงาน วายเอ็มพี กรุ๊ป จ.ชลบุรี 35. นายวฒั นา สนั สา ประธานสหภาพแรงงาน 36. นาย ทรงวุฒิ บวั เบา กรรมการสหภาพแรงงาน 37. นายฉัตรชัย เน่อื งจำนงค์ กรรมการสหภาพแรงงาน 38. นายมลิวัตร แป๊ะและฉ่ำ กรรมการสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงาน ชนิ้ ส่วนยานยนต์ไทย จ.ฉะเชิงเทรา 39. นางสาวศริ ิจรรยาพร แจง้ ทองหลาง เลขาธกิ ารสหภาพแรงงาน 40. นางสาวศศธิ ร พรหมสขุ ันธ์ ผตู้ ดิ ตาม สหภาพแรงงาน ผลติ ภณั ฑ์ยานยนตไ์ ทย จ.สมทุ รสาคร 41. นายสุเนตร เพชรออ้ น ประธานสหภาพแรงงาน 42. นายอนุรักษ์ อรรคอดุ ม กรรมการสหภาพแรงงาน 43. นายสมคดิ ของนา กรรมการสหภาพแรงงาน 44. นายสาธิต ซาตุน กรรมการสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงาน รวมใจเพือ่ นสมั พนั ธ์ จ.สมทุ รสาคร 45. น.ส. ธนวรรณ ชมหอม ประธานสหภาพแรงงาน 46. น.ส.กัลยกร ทว้ มนาค กรรมการสหภาพแรงงาน
Page |6 ลำดับ ชอ่ื – สกุล / องค์กร หนว่ ยงาน สหภาพแรงงาน อตุ สาหกรรมสงิ่ ทอไทย จ.อา่ งทอง 47. นายพรี ะภทั ร ลอยละลวิ่ ประธานสหภาพแรงงาน 48. นายอรรถพล พลู ทอง กรรมการสหภาพแรงงาน 49. นายณฐั พง แปง้ นวล กรรมการสหภาพแรงงาน 50. นายฉตั รชัย แพงงาม กรรมการสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงาน พานาโซนิคแห่งประเทศไทย จ.สมทุ รปราการ 51. นายสญั ญา กรมไธสง ประธานสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงานนติ โต้ มาเทค (ประเทศไทย) จ.ชลบรุ ี 52. นางสาวณฐั ฐิญา เจตบรรจง ประธานสหภาพแรงงาน คณะทำงานโครงการ 53. นางสาวบุษยรัตน์ กาญจนดิษฐ์ ผู้จัดการโครงการฯ
Page |7 เอกสารเรื่องท่ี 1 รายงานการประชมุ การปรึกษาหารือ เรอ่ื งแนวทางการจัดทำความตกลงร่วมมือเพ่อื การขับเคลือ่ นงาน “สร้างสุข-ลดทุกข์ กลมุ่ แรงงานในระบบ” วันพฤหัสบดที ี่ 22 ตลุ าคม พ.ศ.2563 เวลา 13.30-15.30 น. ณ ห้องประชุมปญั ญาสติ อาคาร 4 ช้นั 2 กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ จังหวัดนนทบรุ ี
Page |8 บันทกึ การประชุม การปรกึ ษาหารือ เรื่องแนวทางการจัดทำความตกลงรว่ มมือเพือ่ การขบั เคลือ่ นงาน “สรา้ งสุข-ลดทกุ ข์ กล่มุ แรงงานในระบบ” วันพฤหสั บดีท่ี 22 ตุลาคม พ.ศ.2563 เวลา 13.30-15.30 น. ณ หอ้ งประชมุ ปญั ญาสติ อาคาร 4 ชน้ั 2 กรมสขุ ภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุ จังหวัดนนทบุรี จดั โดย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข รว่ มกับโครงการสร้างเสรมิ สขุ ภาพจติ เชงิ รกุ กล่มุ วัยแรงงาน \"การสร้างสุข ลดทุกข์” ภายใตก้ ารสนบั สนนุ จาก สสส. ผเู้ ขา้ รว่ มประชุม อธิบดีกรมสุขภาพจติ 1) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร ท่ปี รกึ ษากรรมการบริหารแผนคณะ 4 2) นายสจุ ิตต์ ไตรพทิ ักษ์ สำนกั งานกองทนุ สนับสนุนการเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์อนามัยที่ 6 จังหวัดชลบุรี กรมอนามัย 3) ดร.เพ็ญศรี กองสมั ฤทธ์ิ สำนกั โภชนาการ กรมอนามยั กรมอนามัย 4) นางสาวบงั อร ทองมอญ กองส่งเสรมิ และพฒั นาสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจิต 5) นางสาวนันทภ์ ัส ปกรานทอง กองสง่ เสรมิ และพฒั นาสุขภาพจติ กรมสุขภาพจติ 6) นางสาวภวมยั กาญจนจิรางกรู กองส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต 7) นางสาวนนั ทวดี วรวสุวิช ศูนย์สุขภาพจติ ท่ี 6 จงั หวัดชลบรุ ี กรมสุขภาพจติ 8) นายขจรศกั ดิ์ วรี ะวงศ์ นกั วิชาการอสิ ระ 9) แพทยห์ ญิงสารษิ ฐา สมทรัพย์ รองประธานบริษทั ฝ่ายทรัพยากรบุคคล 10) นายสถิรยุทธ แสงสุวรรณ บริษทั ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกดั จ.ระยอง ผู้จัดการอาวโุ ส บรษิ ทั ออโตอ้ ัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) 11) นายจักรกฤษณ์ พรหมสทิ ธิ์ จำกัด จ.ระยอง ผู้จัดการฝา่ ยทรพั ยากรบคุ คล บริษัท ออโตอ้ ัลลายแอนซ์ 12) นายชยั ยุทธ์ สวสั ดี (ประเทศไทย) จำกดั จ.ระยอง ผ้จู ดั การฝ่ายทรพั ยากรบคุ คล บริษัทออโต้อัลลายแอนซ์ฯ 13) นายสทิ ธา รักความสุข เจา้ หน้าท่ฝี ่ายทรัพยากรบคุ คล บริษัทออโตอ้ ลั ลายแอนซ์ 14) นายณรงศักด์ิ ยางสงา่ เจา้ หน้าทฝี่ ่ายทรพั ยากรบคุ คล บริษัทออโตอ้ ัลลายแอนซ์ 15) นายปิยพงษ์ สรรเสรญิ เจ้าหนา้ ทีฝ่ ่ายทรพั ยากรบคุ คล บรษิ ัทออโตอ้ ลั ลายแอนซ์ 16) นายวฒุ ิศกั ดิ์ สารุ พยาบาล บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด 17) นางพรสมยั พุทธิมณี GM HR & Safety บรษิ ัท ไอชิน ทาคาโอกา้ ฟาวน์ดริ 18) นางสาวศริ พิ รวดี กอผจญทรัพย์ บางปะกง จำกัด จ.ชลบุรี
19) นางสาวสุปรียา จันทรา Page |9 20) นายวฒั นา สนั สา 21) นายฉตั รชยั เนอ่ื งจำนงค์ บรษิ ัท ไอชิน ทาคาโอก้า ฟาวนด์ ริ บางปะกง จำกดั 22) นายทรงวฒุ ิ บวั เบา บรษิ ทั วายเอม็ พี เพรส แอนด์ ดายส์ (ไทยแลนด)์ จำกัด 23) นายเฉลมิ พล หาระมี บรษิ ทั วายเอม็ พี เพรส แอนด์ ดายสฯ์ จ.ชลบุรี 24) นางสาวอรพนิ หงษ์บญุ บรษิ ทั วายเอม็ พี เพรส แอนด์ ดายสฯ์ จ.ชลบุรี 25) นายมลิวตั ร แป๊ะและฉำ่ บรษิ ัทวายเอ็มพี เพรส แอนด์ ดายส์ฯ จ.ชลบรุ ี 26) นายไวยวุฒิ สุกิจพิริยะพนั ธ์ บริษัทวายเอม็ พี เพรส แอนด์ ดายส์ฯ จ.ชลบุรี บริษัทวายเอม็ พี เพรส แอนด์ ดายสฯ์ จ.ชลบุรี 27) นายนนั ทวฒั น์ วงศพ์ ฒั นกานต์ ผจู้ ดั การฝ่ายทรัพยากรบคุ คล บริษทั ไอเอชไอ เทอร์โบ (ประเทศไทย) จำกัด จ.ชลบรุ ี 28) นายธนบดี พรหมราช ประธานสหภาพแรงงาน บริษทั ไอเอชไอ เทอรโ์ บ 29) นายสุวรรณ หลาเพียร (ประเทศไทย) จำกัด 30) นางสาวสทุ ธาทพิ ย์ สงั คะบตุ ร บรษิ ทั ไอเอชไอ เทอรโ์ บ (ประเทศไทย) จำกดั บริษทั ไอเอชไอ เทอรโ์ บ (ประเทศไทย) จำกดั 31) นายจตรุ งค์ ไพรสิงห์ ประธานสหภาพแรงงาน บริษทั เอจีซี แฟลทกลาส 32) นายรงุ่ ธิวา เจียมตน ประเทศไทย จำกดั (มหาชน) รองประธานสหภาพแรงงาน บริษทั เอจซี ี แฟลทกลาสฯ 33) นายเพิ่มพงษ์ ทดั ศรี รองประธานสหภาพแรงงาน บริษัท เอจซี ี แฟลทกลาสฯ 34) นายสงกานต์ สกุลมัน่ คง พน้ื ทช่ี ลบุรี 35) นางอรพิน วมิ ลภูษิต เลขาธิการสหภาพแรงงานบรษิ ทั เอจซี ี แฟลทกลาสฯ 36) นางสาวบุษยรัตน์ กาญจนดษิ ฐ์ กรรมการสหภาพแรงงานบรษิ ทั เอจีซี แฟลทกลาสฯ โครงการสร้างเสรมิ สุขภาพจติ เชงิ รุก กลมุ่ วัยแรงงานฯ โครงการสร้างเสรมิ สขุ ภาพจติ เชงิ รกุ กลมุ่ วัยแรงงานฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2563 เวลา 13.30-15.30 น. กรมสุขภาพจิต กระทรวง สาธารณสุข ร่วมกับโครงการสร้างเสริมสุขภาพจิตเชิงรุก กลุ่มวัยแรงงาน \"การสร้างสุข ลดทุกข์” ภายใต้ การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักสนับสนุนการควบคุม ปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ (สำนัก 2) ได้จัดประชุมปรึกษาหารือ เรื่องแนวทางการจัดทำความตกลงร่วมมือ เพ่อื การขับเคล่อื นงาน“สรา้ งสุข-ลดทุกข์ กลุ่มแรงงานในระบบ” ณ หอ้ งประชมุ ปัญญาสติ อาคาร 4 ช้ัน 2 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุ จังหวัดนนทบุรี โดยมวี ตั ถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางการจัดทำความ ตกลงร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยงานภาครัฐในกระทรวงสาธารณสุขกับสถานประกอบการทั้ง 6 แห่ง เพ่ือ การขับเคล่ือนงานสร้างสุข-ลดทุกข์แรงงาน สามารถสรุปสาระสำคญั ของการประชมุ ได้ดังนี้
P a g e | 10 (1) กลา่ วเปิดและให้ขอ้ คดิ เหน็ แพทย์หญิงพรรณพิมล ปลุ ากร อธิบดีกรมสขุ ภาพจิต ไดก้ ล่าวเปดิ และให้ข้อคิดเห็น ดงั นี้ เป็นอีกครั้งที่ได้มาพบกัน เพราะพวกเรา ณ ที่นี้ ต่างมีเป้าหมายร่วม คือ “การลดทุกข์ สร้างสุข” โดยเฉพาะกระบวนการดูแลเรื่องสุขภาวะองค์รวมของคนทำงานอย่างเป็นระบบ และนี้จึงเป็นที่มาของการ ดำเนินการตาม 10 packages เพื่อที่จะทำให้ผู้ทำงานซึ่งเป็นช่วงวัยที่สำคัญต้องมีการดูแลสุขภาพในทุกมิติ มี สิง่ ใดบ้างที่มีประสิทธิภาพต่อการทำงาน และการวางแผนไปส่ชู ่วงวัยทไี่ มส่ ามารถทำงานได้ การทำงานของกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายสำคัญ คือ อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดียืนยาว ไม่นอน ยาว ดังนั้นเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง จึงต้องร่วมมือกันของหน่วยงานต่างๆในกระทรวงสาธารณสุข ที่มี การทำงานแบบระบบเครือขา่ ยเชื่อมโยงกันแม้จะต่างกรมกนั วัตถุประสงค์ในการประชุมครั้งนี้ คือ เพื่อติดตามการดำเนินงานจากการประชุมเมื่อวันที่ 16 กนั ยายน 2563 ซ่ึงวนั นมี้ เี รื่องของการวางแผนเพอื่ จดั ทำขอ้ ตกลง MOU เพอื่ ใหแ้ ผนสามารถขับเคลอ่ื นตอ่ ไปได้ ในแต่ละองค์กร โดยมีกลไกติดตามงานเพื่อให้บรรลุตามแผนที่ได้วางไว้ หนุนเสริมแผนงาน ซึ่งได้ตกลงว่าจะ ดำเนินการใหม้ ี MOU เพือ่ สนบั สนุนการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ ทั้งนี้อยากเห็นผลลัพธ์ 2 อย่าง คือ 1) เป้าหมายของโครงการที่ชัดเจนมากขึ้นในระดับองค์กร เน่ืองจากการทำ MOU จะทำให้สถานประกอบการมีเครื่องมือในการสื่อสารว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร เกิด การสร้างความยอมรับของคนทำงานในองค์กร 2) กลไกสนับสนุนที่เป็นกลไกกลาง เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนต่อ ในระดบั พื้นท่ี นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกันต่อว่าในเรื่อง 10 packages เป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งพบว่า คนทำงานที่อยู่ในระบบอาจจะไปอยู่นอกระบบได้ รวมถึงในกลุ่มที่เรียกว่า Gig Economy ส่วนใหญ่อยู่ใน ระบบและออกมาทำงานนอกระบบเนื่องจากมีต้นทุนในการทำงานอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นที่ต้องสร้าง กลไกเพ่ือมาดูแลในระยะยาว ท้ังกลุ่มคนทำงานในระบบและคนทำงานนอกระบบไปพร้อมกัน ในช่วงที่ผ่านมาแต่ละสถานประกอบการก็ได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องอาศัย การเชียร์อัพจาก FC เพื่อให้แผนงานตามโครงการเหล่านั้นดำเนินการขับเคลื่อนไปได้ การสร้าง health literacy โดยคำว่าสุขภาพจิตดีก็คือ การที่บุคคลสามารถจัดการ ดูแลสภาวะสุขภาพของตัวเอง หรืออารมณ์ ของตัวเองไดต้ ามสถานการณ์ ไมไ่ ด้แปลวา่ ไม่ได้มีปัญหาสขุ ภาพจติ คอื มีแต่สามารถจดั การได้ ดงั น้ันการทำงาน นี้จึงต้องเริ่มทำด้วยสิ่งที่มีความสุขก่อน ให้ทำเรื่องนั้นก่อน เรื่องไหนยังไม่มีความสุขอย่าพึ่งทำ เพราะจะ กลายเปน็ ความทุกข์แทน ตอ่ มานายสจุ ติ ต์ ไตรพทิ กั ษ์ ที่ปรกึ ษากรรมการบรหิ ารแผนคณะ 4 สำนักงานกองทนุ สนับสนนุ การ สรา้ งเสริมสขุ ภาพ (สสส.) กล่าวเสริมวา่ หากมามองในเรื่องสุขภาพจิต ทาง สสส. เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเรื่องของสุขภาพกายมีการ ดำเนินงานที่มากแล้ว ขณะเดียวกันแผนสุขภาพจิตได้ถูกกำหนดให้เป็นแผนชาติ ทางสสส. มีหน้าที่เสมือนเป็น น้ำมันหล่อลื่นเพื่อคอยสนับสนุนให้สามารถดำเนินการได้ในเบื้องต้น หลังจากนั้นก็ต้องเชื่อมต่อกับเจ้าภาพใน แต่ละเรื่องให้ได้ สสส.มีเครื่องมือในการสนับสนุนการทำงานในเรื่องสุขภาพจิตอยู่หลายสำนักที่สามารถนำมา
P a g e | 11 ปรับใช้ได้ในสถานประกอบการ สิ่งที่อยากเห็นคือ ทำในสิ่งที่ง่ายก่อน อะไรที่ทำได้ ทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ก่อน ทำให้สถานประกอบการเหน็ เป้าหมายเดยี วกนั เพ่ือใหส้ ามารถตกผลึกไดว้ ่าจะทำได้อย่างไรตอ่ ไป (2) แนวทางการจัดทำความตกลงร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยงานภาครัฐในกระทรวงสาธารณสุขกับ สถานประกอบการทงั้ 6 แห่ง เพื่อการขบั เคล่ือนงานสร้างสขุ -ลดทุกข์แรงงาน ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการจัดทำความตกลงร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยงาน ภาครัฐในกระทรวงสาธารณสุขกับสถานประกอบการท้ัง 6 แห่ง เพื่อการขับเคลื่อนงานสร้างสุข-ลดทุกข์ แรงงาน โดยมีนางอรพิน วิมลภูษิต ผู้จัดการโครงการสร้างเสริมสุขภาพจิตเชิงรุก กลุ่มวัยแรงงานฯ ทำ หนา้ ที่ผู้ดำเนินรายการ สามารถสรุปสาระสำคัญในแตล่ ะประเดน็ ย่อยได้ดงั นี้ (2.1) ความสำคัญของ MOU ที่มีต่อการปฏิบัตกิ ารในสถานประกอบการตามแผนงานท่ีได้กำหนด ไว้ รวม 3 ระดับ คอื ระดับองค์กร ระดับเครอื ข่ายสถานประกอบการ และระดบั หนว่ ยสนับสนุน ระดบั องค์กร ▪ เป็นเครื่องมือในการช่วยให้ผู้บริหารสถานประกอบการ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) พนักงาน และ สหภาพแรงงานมองภาพการขับเคล่ือนองค์กรเป็นภาพเดียวกัน และเกิดความร่วมมือกนั อย่างเปน็ รูปธรรม มีความชัดเจน เป็นการกระตุ้นให้เกิดการทำงานในสถานประกอบการผ่านการสนับสนุน จากฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเชื่อมต่อไปยังบริษัทในระบบห่วงโซก่ ารผลิต (supply chain) ใหม้ าร่วมมอื กันมากข้ึน มคี วามเช่อื ใจกนั มากขน้ึ ▪ MOU ช่วยในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการของทั้ง 6 สถานประกอบการ โดยเป็นการสร้างการ ยอมรับร่วมกันทั้งบริษัท ไม่ใช่เพียงในฝ่าย HR หรือสหภาพแรงงานเพียงเท่านั้น แต่เป็นระดับ องค์กรท่ีผูบ้ รหิ ารได้มี commitment ร่วมกันท่ีจะมงุ่ ไปข้างหนา้ อยา่ งมีทศิ ทาง ▪ เป็นเครื่องมือในการช่วยสหภาพแรงงานสื่อสารกับฝ่ายผู้บริหารและฝ่าย HR เพื่อการสนับสนุน ภารกจิ นี้ ระดับเครอื ขา่ ยสถานประกอบการ ▪ เกดิ การนำ Best Practice ของแตล่ ะสถานประกอบการมาแลกเปลย่ี นระหว่างกัน ▪ เกิดกระบวนการติดตามงานเพื่อพิจารณาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานประกอบการ และแนวทางแกไ้ ขปญั หาร่วมกัน อย่างน้อย 3เดอื น/ครงั้ หรอื 6 เดือน/คร้งั ▪ การจัดทำ MOU เป็นเสมือนการสร้างเครือข่ายระหว่างสถานประกอบการต่างๆเพื่อสร้างการ เรียนรู้ร่วมกัน แม้ไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมาย แต่ก็สามารถช่วยให้เกิดการขยายไปสู่ชุมชนรอบๆ สถานประกอบการได้ในอนาคตตอ่ ไป ▪ MOU ช่วยให้บริษัทออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สามารถไปเชื่อมต่อหนุนช่วยสถาน ประกอบการอน่ื ๆได้อยา่ งเปน็ ทางการ
P a g e | 12 ระดบั หน่วยสนับสนุน (FC) ▪ MOU จะนำไปสู่ MOA คือ Memorandum of Agreement ที่ในข้อตกลงนั้นๆ มีข้อความระบุ เป็นหลักเกณฑ์หรือวิธีการให้หน่วยงาน/บุคคล ที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติ หรือดำเนินการในเรื่องใด เรื่องหนึ่ง เป็นข้อกติกาข้อที่นัดหมายกันไว้หรือกำหนดไว้แล้ว เพื่อการบูรณาการการทำงานอย่าง เป็นระบบรว่ มกัน ต้งั แตร่ ะดับนโยบายกระทรวง กรม เขต จังหวดั และระดบั 6 สถานประกอบการ ▪ การมี commitment ในหน่วยสนับสนุนอย่างชัดเจนที่จะลงไปทำงานขับเคลื่อนภารกิจร่วมกับ สถานประกอบการตามความเชยี่ วชาญของแตล่ ะหน่วยนัน้ ๆ (2.2) สาระสำคัญของ MOU ที่อยากให้ปรากฏเป็นเนื้อหาใน MOU ควรประกอบด้วยประเด็น ใดบ้าง ▪ นอกจากการระบุถึงความสำคัญในข้อ 2.1 แล้ว ต้องเน้นย้ำให้เห็นได้ว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์ใน เชิงธุรกิจได้อย่างไรบ้าง ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เช่น การประหยัดงบประมาณในการ จ่ายเป็นคา่ สวัสดกิ ารรกั ษาพยาบาลท้งั ของพนกั งานและครอบครวั พนักงานทีส่ ูงข้ึนทุกปี , พนักงาน ท่มี ีสขุ ภาพดยี ่อมนำมาซึ่งผลผลิตทม่ี ปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลขององค์กร เพ่อื ทำให้บริษัทเห็น ความสำคัญในการดำเนนิ งานสรา้ งสุข-ลดทกุ ขน์ ี้ ▪ มีตัวอย่างรูปธรรมในบรษิ ัทออโตอ้ ัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่พบว่า ในช่วงที่ผา่ นมามีการ เคลมประกนั คอ่ นขา้ งสงู ประมาณ 120 % เมือ่ ดำเนนิ โครงการนี้แล้ว พบว่า มกี ารเคลมประกันอยู่ ที่ประมาณ 80 % หากทำให้ผู้บริหารเห็นได้วา่ หากพนักงานมสี ุขภาพดี ค่าใชจ้ ่ายในส่วนน้ีจะลดลง บรษิ ทั กจ็ ะสามารถนำงบประมาณไปลงทุนด้านอ่นื ๆไดเ้ พิ่มข้นึ ▪ การเชอ่ื มโยงเปา้ หมายของงานสร้างสุขลดทุกขก์ บั เปา้ หมายของบรษิ ัท ที่สนบั สนนุ ซ่งึ กันและกนั ▪ บทบาทของแต่ละส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้บริหาร , ฝ่ายผลิต , ฝ่าย HR , สหภาพแรงงาน , หน่วยงาน ภาครัฐ , โครงการฯ วา่ จะดำเนินการสนับสนุนในเรื่องใด อยา่ งไรบ้าง ▪ ประโยชนท์ ีแ่ รงงานจะไดร้ บั ทงั้ ในระหวา่ งการทำงานและออกจากงานไปแล้ว (2.3) ข้อเสนอต่อฝ่ายสนับสนุน (FC) เพื่อให้เกิดกระบวนการดำเนินการในสถานประกอบการได้ จรงิ ▪ การที่แต่ละองค์กรภาครัฐที่จะเข้ามาร่วมขับเคลื่อนต้องมี Action Plan ประกบไปกับสถาน ประกอบการแต่ละแห่งควบคู่กันไปด้วย ไม่ใช่เพียงการร้องขอสนับสนุนรายครั้งเท่านั้น แต่เป็น แผนความร่วมมือในการสนับสนนุ ท่ชี ดั เจน (2.4) กำหนดวนั ทำ MOU ▪ ในเบื้องต้นกำหนดไว้วันที่ 28 หรือ 29 มกราคม 2564 ▪ เจา้ ภาพหลกั ในการดำเนนิ การ และสถานทีใ่ ห้นัดหมายในภายหลัง
P a g e | 13 (3) แนวทางการสร้างความยอมรับตอ่ ผูบ้ รหิ ารสถานประกอบการ ก่อนที่จะมีการจัดทำความตกลงรว่ มมอื (MOU) ภายหลังจากที่มีการนำเสนอแนวทางการจัดทำความตกลงร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยงาน ภาครัฐในกระทรวงสาธารณสุขกับสถานประกอบการทั้ง 6 แห่ง เพื่อการขับเคลื่อนงานสร้างสุข-ลดทุกข์ แรงงานแล้ว วาระต่อมาเป็นการพิจารณาเรื่องแนวทางการสร้างความยอมรับต่อผู้บริหารสถาน ประกอบการก่อนท่จี ะมกี ารลงนาม MOU โดยท่ีประชุมมมี ติรว่ มกนั ดงั นี้ โครงการสร้างสุขลดทุกข์ฯ ร่วมกับฝ่าย HR บริษัทออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และ หน่วยงานสนับสนนุ ภาครัฐ เช่น กรมอนามยั กรมสุขภาพจติ รวมถงึ แพทยห์ ญงิ สาริษฐา สมทรัพย์ อดตี หัวหน้า กลุ่มอนามัยวัยทำงาน สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย เข้าพบผู้บริหารสูงสุดของสถานประกอบการท่ี เกยี่ วข้อง เพอ่ื ชแ้ี จงแนวทางการดำเนินงานและความสำคญั ทสี่ ถานประกอบการจะได้รับประโยชน์ สามารถลด ต้นทนุ ไดจ้ ริงในเดอื นธันวาคม 2563 และเดอื นมกราคม 2564 ตามวนั เวลาทส่ี ะดวก ในเดือนธันวาคม 2563 กำหนดการเขา้ พบประธานบริษทั ไอเอชไอ เทอร์โบ (ประเทศไทย) จำกดั ในเดือนมกราคม 2564 กำหนดการเข้าพบประธานบริษัท เอจีซี แฟลทกลาส ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ทงั้ น้ใี นชว่ งท้ายของการประชมุ ทป่ี ระชุมได้กำหนดวนั ติดตามงานร่วมกนั ทง้ั 6 สถานประกอบการ ครง้ั ตอ่ ไป ในวนั ท่ี 9 ธันวาคม 2563 เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ บรษิ ัท ไอเอชไอ เทอร์โบ (ประเทศไทย) จำกดั จงั หวดั ชลบุรี บันทกึ ประชมุ โดย บษุ ยรตั น์ กาญจนดษิ ฐ์
P a g e | 14 เอกสารเรอ่ื งท่ี 2 สาระสำคญั โครงการ การฟ้ืนฟูคณุ ภาพชวี ติ กลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลิต ทีไ่ ด้รับผลกระทบจากโควดิ -19 : ลดรายจ่าย เพ่มิ รายได้ บรรเทาหน้คี รัวเรอื น ระยะเวลาดำเนนิ การ : 5 มีนาคม 2564 – 4 มีนาคม 2565 (12 เดอื น)
P a g e | 15 สาระสำคญั โครงการ การฟน้ื ฟคู ุณภาพชวี ิตกลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลติ ทไ่ี ด้รับผลกระทบจากโควดิ -19 : ลดรายจ่าย เพิม่ รายได้ บรรเทาหน้คี รัวเรือน ระยะเวลาดำเนินการ : 5 มนี าคม 2564 – 4 มีนาคม 2565 (12 เดือน) ผ้รู บั ผดิ ชอบโครงการ : นางสาวบุษยรตั น์ กาญจนดิษฐ์ นกั วชิ าการสถาบันสง่ เสรมิ ภาคประชาสงั คม ภายใตก้ ารสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ สำนัก 6 สำนักสรา้ งสรรค์โอกาส (1) ความเปน็ มาในการดำเนินโครงการ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของไวรัสโควิด-19 ทเ่ี กิดขึ้นมาต้ังแตป่ ลายปี 2562 ต่อเนอื่ งมาปี 2563 ได้ สร้างวกิ ฤติทัง้ ทางด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจในระดับโลกอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน แม้ที่ผ่านมาประเทศไทย สามารถรับมือโควิด- 19 ได้ดีจนทั่วโลกให้การยอมรับ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส พร้อมท้ัง เยียวยาผไู้ ด้รบั ผลกระทบ มีมาตรการควบคมุ โรคเพ่ือให้ภาคธรุ กิจสามารถกลับมาดำเนินกจิ การไดต้ ามลำดบั แต่เมื่อมาถึงปี 2564 สถานการณ์ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง พร้อมกับรูปแบบการทำธุรกิจที่ เปลี่ยนแปลงไปภายใต้วิถีปกติใหม่ ทำให้แรงงานในภาคอุตสาหกรรมมีโอกาสได้รับผลกระทบมากและกลับเข้า สู่ตลาดแรงงานอีกครั้งได้ยาก มีแรงงานจำนวนมากต้องว่างงานอย่างฉับพลัน ประสบกับปัญหารายได้ไม่ เพียงพอต่อการยังชีพขั้นพื้นฐานในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลิตที่กระจายตัวทำงาน ในอตุ สาหกรรมประเภทตา่ งๆ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2563) ได้จำแนกประเภทการทำงานของแรงงานในประเทศไทยไว้ 3 ประเภท คือ 1) ภาคเกษตรกรรม รวมถึงการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตวน้ำ การเก็บหาของป่า กิจกรรมหลังการ เกบ็ เกีย่ วพชื ผล 2) ภาคการผลิต หมายถงึ งานในกระบวนการผลิตทกุ ประเภท รวมถึงงานกอ่ สร้าง 3) ภาคการบริการและการค้า เช่น การค้าขาย, การซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ, โรงแรม, ร้านอาหาร, การให้บริการด้านสขุ ภาพ, การขนส่ง, งานบรกิ ารนนั ทนาการตา่ งๆ ตัวเลข ณ เดอื นธันวาคม 2563 พบว่า จากจำนวนผู้มงี านทำในประเทศไทย 38.76 ลา้ นคน ทำงานใน ภาคบริการและการค้ามากท่ีสุด คือ 17.50 ล้านคน , ภาคเกษตรกรรม 13.48 ล้านคน และภาคการผลติ 7.78 ล้านคน แม้ว่าแรงงานในภาคกาคผลิตจะมีสัดส่วนน้อยที่สุด แต่กลับพบว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่สร้างความเจริญเติบโตมาจากภาคการผลิตเป็นสัดส่วนมากที่สุดประมาณ 48 % ตามด้วยภาคท่องเที่ยวและ บริการ 42 % ภาคเกษตร 10 %1 1 สำนักงานสถติ ิแห่งชาติ , ธันวาคม 2563
P a g e | 16 นี้จึงกล่าวได้ว่า โควิด-19 จึงเป็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบในมิติต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติ เศรษฐกจิ แรงงาน และการจ้างงาน แนวโนม้ ดังกลา่ วทำให้จำเปน็ ท่ีจะต้องมีการจดั ทำโครงการบางอย่างขึ้นมา เพื่อรองรับกลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงแรงงานบางส่วนที่อาจจำเป็นต้องกลับ ถนิ่ ฐานของตนเพือ่ ประกอบอาชพี ใหม่เป็นการถาวรในวนั ข้างหนา้ โครงการฯ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและสภาพแวดล้อมต่าง ๆที่เกี่ยวข้องต่อการฟื้นฟู คุณภาพชีวิตแรงงานในระบบภาคการผลิตทไ่ี ด้รบั ผลกระทบจากโควดิ -19 รวม 3 ประการ ดงั นี้ 1.1) ผลกระทบโควดิ -19 กบั ภาคอตุ สาหกรรมและภาคบริการในประเทศไทยโดยรวม เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยเป็น “ประเทศรับจ้างผลิตให้กับเจ้าของตราสินค้า” ทั้งยังเป็น “ประเทศที่ผลิตเพื่อส่งออก ไม่ได้เน้นการขายภายในประเทศ” อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จึงเป็นการลงทุนจาก ต่างประเทศ พึ่งพาชิ้นส่วน เทคโนโลยีการออกแบบ วัตถุดิบนำเข้า และคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ สนับสนุน การใช้แรงงานเขม้ ข้นและคา่ จ้างต่ำ ซึ่งได้กลายมาเปน็ ปัจจัยหลักในการดึงดูดการลงทนุ มายังประเทศไทย ดังท่ี พบในอุตสาหกรรมภาคการผลิตต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ , อุตสาหกรรม เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ , อุตสาหกรรมโลหะ , อุตสาหกรรมอาหาร , อุตสาหกรรมส่ิงทอ , อุตสาหกรรม กระดาษ เปน็ ตน้ เมื่อเศรษฐกิจไทยมีความเชื่อมโยงและพึ่งพากับเศรษฐกิจโลก อุตสาหกรรมไทยจึงเติบโตแบบไม่ สมบูรณ์และมีความเปราะบาง ต้องเผชิญกับความเสี่ยงยามโลกเกิดความผันผวนและวิกฤติ ดังที่พบล่าสุดใน กรณีของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ทั่วโลกต้องออกมาตรการปิดประเทศ การส่งออกสินค้าที่ถือว่า เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล ห่วงโซ่อุปทานการผลิต ( Global supply chain) ที่มีความเชื่อมโยงเกิดการชะงักงัน ทั้งไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบมาผลิต สินค้าที่ผลิตแล้วไม่ สามารถส่งออกได้ ยอดสั่งผลิตสินค้ามีการยกเลิกหรือชะลอการผลิตออกไปก่อน รวมทั้งคำสั่งซื้อสินค้าใน ปจั จุบนั ก็ไม่มี ส่งผลให้รายไดข้ องภาคเอกชนลดลง ขณะเดียวกันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยใน หลายปีที่ผ่านมาก็ดับสนิทลงไปพร้อมกันดว้ ย และส่งผลต่อธุรกิจสายการบิน โรงแรม บริษัทนำเที่ยว และอื่นๆ ทเ่ี กย่ี วเน่อื งติดตามมา หากมองยอ้ นไปในปี 2562 สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมรกิ ากบั จีนส่งผลให้การผลิต ในภาคอุตสาหกรรมลดลง ลดเงินค่าล่วงเวลา และลดการจ้างงานใหม่ ทำให้คนมีรายได้น้อยลง แรงงานส่วน หนึ่งจึงย้ายจากภาคอุตสาหกรรมไปภาคบริการ แต่มาวันนี้แรงงานที่จะย้ายไปสู่ภาคบริการก็ทำได้ยาก เพราะ ภาคบริการไดร้ ับผลกระทบอย่างมากจากโควดิ -19 เชน่ เดียวกัน เมื่อมกราคม 2564 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประเมินว่าการระบาดของโควิด-19 ทำให้มี แรงงานไดร้ ับผลกระทบกวา่ 4.7 ล้านคน ในจำนวนน้ีมีประมาณ 1.1 ล้านคน เสมือนว่างงาน (ทำงานต่ำกวา่ 4 ช่วั โมงต่อวัน) และเสีย่ งตกงานอกี 1 แสนคน ภายใตม้ าตรการควบคมุ เข้มงวด 28 จงั หวัด ซึง่ ครอบคลุมสัดส่วน กิจกรรมทางเศรษฐกิจ 3 ใน 4 หรือเกิน 50 % ของประเทศได้รับผลกระทบมากที่สุด2 สอดคล้องกับจำนวน 2 ผลกระทบของโควดิ 19 ระลอกใหมต่ ่อเศรษฐกจิ ไทย เผยแพรเ่ มื่อ 15 ม.ค. 64 (เอกสารอัดสำเนา)
P a g e | 17 ผู้ขอรับสิทธิว่างงานของกองทุนประกันสังคม ณ เดือนธันวาคม 2563 อยู่ที่ 3.95 แสนคน ซึ่งเป็นตัวเลขท่ี เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีเพียง 1.6-1.7 แสนคน3 กระทรวงแรงงานคาดการณ์ว่าภายในปี 2564 จะมีผู้ว่างงาน เพิ่มขึ้นเกิน 4 หมื่นคนจากสถานการณ์การเลิกจ้างที่สถานประกอบการต้องเผชิญกับผลกระทบจากโควิด-19 และมาตรการในการเยยี วยาของรัฐบาลในชว่ งท่ีผา่ นมายังไมเ่ พยี งพอ4 เมื่อเศรษฐกิจไทยอยู่ในสภาวะชะลอตัว สัดส่วนหนี้ครัวเรือนของไทยจึงค่อยๆ เพิ่มสูงข้ึน ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนบางส่วนค่อยๆ ลดลงไปตามลำดับ เนื่องจากครัวเรือนไทยมักมี รายได้นอกภาคเกษตรเป็นอันดับแรก เมื่อมีแรงงานตกงานหรือถูกลดเวลาทำงาน ครัวเรือนไทยจึงได้รับ ผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะในภาคเหนือ อีสาน และใต้ ที่ต้องพึ่งพาเงินโอนจากแรงงานในภาคอุตสาหกรรม และบริการเป็นหลัก ประกอบกับสถานการณ์ทางธรรมชาติ ภัยพิบัติต่างๆ ภัยแล้งในหลายพื้นที่ ทำให้รายได้ จากภาคการเกษตรที่จะมาช่วยหนุนกย็ ่ิงกลบั เป็นไปไม่ได้ เหล่านี้จึงทำให้รายได้ลดลงทุกทางและส่งผลต่อการกู้หนี้ยืมสินมาใช้อุปโภคบริโภคซึ่งเป็นรายจ่ายที่ แนน่ อน เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ คา่ ไฟ คา่ ใช้จ่ายไปโรงเรยี นของบุตรหลาน คา่ เกย่ี วเน่ืองกับความเจบ็ ป่วยของคน ในครอบครัว เป็นตน้ นี้ไม่นับบางสว่ นครัวเรือนตอ้ งแบกรบั แรงงานที่ตกงานและกลับมาอยู่บ้านต่างจังหวัดโดย ปราศจากเงนิ ชว่ ยเหลือจากสถานประกอบการ ทำให้ภาระหนี้ในครวั เรอื นจึงเพม่ิ สูงขึ้น 1.2) โควดิ -19 กับผลกระทบตอ่ กล่มุ แรงงานในระบบภาคการผลิต และการเยยี วยาของรฐั บาล เมื่อมาพิจารณาที่กลุ่มแรงงานในระบบในภาคการผลิตโดยตรง ซึ่งในที่นี้หมายถึง แรงงานที่ทำงานใน สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีสถานะเป็นลูกจ้างตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 และเข้าสู่ การเป็นผู้ประกันตนในมาตรา 33 ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 พบว่า สถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผล กระทบอย่างยงิ่ ยวดต่อกลมุ่ แรงงานในลักษณะตา่ งๆ ดังน้ี 1.2.1) ถูกเลกิ จ้างหรอื ให้ออกจากงานกอ่ นอายุครบ 55 ปี เมื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจขึ้นมา การเลิกจ้างเป็นทางออกที่สำคัญของภาคธุรกิจเพื่อให้สามารถ ประคับประคองอยู่รอดต่อไปได้ ในบางสถานประกอบการขนาดใหญ่หลายแห่งได้มีการขอให้พนักงานที่มีอายุ ค่อนข้างมากเลือกเกษียณอายุโดยความสมัครใจ เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทแทนการเลิกจ้าง โดยตรง การเลิกจ้างไดก้ ลายเป็นปญั หาสำคญั ขึ้นมา คือ การเลกิ จ้างในแรงงานกลุ่มทอี่ ายุ 45 ปขี ึ้นไป ซ่ึงในมิติ การจ้างงาน ถือว่าเป็นแรงงานผู้สูงอายุเมื่อกฎหมายได้กำหนดอายุเกษียณงานภาคเอกชนไว้ท่ีอายุ 55 ปี แรงงานกลุ่มนี้จำนวนไม่น้อยยังต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ ไม่มีเงินออม มีแต่หนี้สิน การไม่ได้ทำงานทำให้ขาด รายได้ อีกทั้งก็ไม่แน่ชัดว่าจะยังมีการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุหรือต่อเวลาเกษียณอายุอีกหรือไม่ ทำให้ แรงงานกลุ่มนี้จึงยากที่จะกลับเข้าสู่การทำงานในสถานประกอบการ และจะกลายเป็นผู้สูงอายุที่ตกงานถาวร และจะกระทบตอ่ ในระยะยาวกับสงั คมสูงวยั ของไทย 3 ขอ้ มูลสถิติกองทนุ ประกันสังคม , ธันวาคม 2563 4 ระบบเตอื นภัยด้านแรงงานประจำเดือนธนั วาคม 2563 กองเศรษฐกิจการแรงงาน สำนกั งานปลัดกระทรวงแรงงาน (เอกสารอัดสำเนา)
P a g e | 18 ขณะเดียวกันมีแรงงานอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบแม้จะอายุยังถึง 45 ปี คือ กลุ่มแรงงานที่ขาดทักษะ ใหม่ที่จะไปทำงานใหม่ๆในอนาคต ไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้กลับสู่ตลาดแรงงาน ได้ยาก แรงงานกลุ่มนี้มักมีการศึกษาค่อนข้างน้อยจึงทำให้การพัฒนาทักษะให้ทันเทคโนโลยีหรือ AI ค่อนข้าง ยาก ดังนั้นอาชีพใหม่ที่รองรับจึงต้องเป็นอาชีพที่ทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แทน เช่น อาชีพด้านการเกษตร เปน็ ต้น แต่ท่ีผา่ นมาการฝกึ อบรมในส่วนการพฒั นาฝีมอื แรงงานเพอ่ื เปลี่ยนสาขาอาชพี ก็ถกู ใหค้ วามสำคัญน้อย 1.2.2) ถกู ให้หยุดงานโดยไม่ได้รบั ค่าจ้างหรือท่เี รียกวา่ “NO WORK NO PAY” ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มีสถานประกอบการจำนวนมากที่ไมไ่ ด้เลิกจ้างพนกั งาน ทั้งเนื่องจากไม่มี เงนิ เพียงพอในการจ่ายคา่ ชดเชยตามทกี่ ฎหมายด้านแรงงานกำหนดไว้ กับการมีความหวงั ว่าจะมโี อกาสกลับมา เปิดสถานประกอบการได้อีกครั้งในเวลาที่เหมาะสม ทำให้แรงงานในกลุ่มนี้จึงต้องประสบปัญหาเรื่องการที่มี ข้อตกลงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างกันเองว่า ให้หยุดงานหรือลาหยุดโดยปราศจากการรับคา่ จ้างหรือที่เรียกวา่ “No work No pay” (กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำได้ ลูกจ้างต้องยินยอมก่อน) ตามระยะเวลาที่สถาน ประกอบการปิด เพื่อเป็นทางเลือกในการลดค่าใช้จ่ายแทนที่จะถูกเลิกจ้าง ทำให้รายได้ของลูกจ้างจึงขาด หายไปในช่วงการหยุดกิจการ ในกลุ่มนี้ยังพบในกลุ่มแรงงานเหมาช่วงที่ถูกส่งกลับบริษัทต้นสังกัดเพราะไม่มี งานทำ ทำให้ขาดรายได้แมไ้ มถ่ ูกเลกิ จ้างแตก่ ไ็ ม่ได้รับค่าจา้ งแตอ่ ยา่ งใด 1.2.3) ถกู ลดเวลาทำงานทั้งเวลาปกติและการทำงานล่วงเวลา (OT) พร้อมกบั รายได้ที่ได้รับลดลง สถานประกอบการหลายแห่งไดม้ กี ารปรับการทำงานเป็น Work from home และการสื่อสารมากขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีมาทดแทนแรงงานเพื่อลดความเสี่ยงโรคและลดต้นทุน ดังนั้นจึงมีการปรับลดชั่วโมงการ ทำงานพร้อมกับรายได้ที่ลดลง บางสถานประกอบการมีการนำมาตรา 75 ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาใช้ในการจา่ ยค่าจ้างให้กับลูกจา้ ง เพียง 75 % ของคา่ จ้างท่ีเคยได้รบั มาตรา 75 ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เป็นกฎหมายที่มีไว้เพื่อบรรเทานายจ้างกรณีท่ี นายจ้างมคี วามจำเป็นไมส่ ามารถประกอบกจิ การไดต้ ามปกติ และตอ้ งหยุดกิจการทั้งหมดหรือบางสว่ นเป็นการ ชั่วคราว กฎหมายได้กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างไม่น้อยกว่า 75 % ของค่าจ้างในวันทำงาน ที่ ลกู จ้างได้รับกอ่ นนายจา้ งหยุดกจิ การตลอดระยะเวลาท่ีนายจา้ งไม่ไดใ้ หล้ ูกจา้ งทำงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา มีสถานประกอบการมากถึง 4,458 แห่ง ที่ยื่นขอใช้มาตรา 75 หยุดกิจการชั่วคราว ซึ่งส่งผล กระทบตอ่ ลูกจ้างเป็นจำนวน 896,330 คน รวม 247,031 วนั โดยในจำนวนนี้หยุดกจิ การบางส่วน 2,117 แห่ง หยุดกจิ การทัง้ หมด 3,030 แห่ง สำหรับประเภทกิจการที่ใช้มาตรา 75 มากที่สุดอันดับ 1 อยู่ในกลุ่มของอุตสาหกรรมการผลิต ทั้งการ ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบสำหรับยานยนต์และเครื่องยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ อิเล็กทรอนิกส์ และการผลติ ผลิตภัณฑ์พลาสตกิ อันดับ 2 เป็นกิจการโรงแรมและภตั ตาคาร และอันดับ 3 เป็น กิจการบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและบริการทางธุรกิจ เช่น บริการจัดหางานและการสรรหาบุคลากร การให้เชา่ การขาย การซอ้ื และการดำเนนิ งานด้านอสงั หารมิ ทรัพย์
P a g e | 19 เหตุผลหลักที่ผู้ประกอบการเหล่านี้ใช้ยื่นขอแนวทางการหยุดกิจการตามมาตรา 75 คือ การระบาด ของ โควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซ้ือ และไม่มีคำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้าตามปกติ ทำให้เกิดภาวะขาดทุน สะสมจำนวนมาก ผลกระทบทั้ง 3 ประการทกี่ ลา่ วขา้ งตน้ มานน้ั จึงแสดงให้เห็นว่า 1) ระบบการศกึ ษายงั ไม่สามารถผลติ แรงงานให้มีทักษะที่หลากหลายและพรอ้ มในการปรบั ตัวได้ วิกฤตโควิดในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ระบบการศึกษายังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของ ตลาดแรงงานได้ มีแรงงานจำนวนไม่น้อยที่ได้เดินทางกลับบ้านเกิดของตน ไม่ได้มีงานใหม่ๆทำ ไม่สามารถ ปรับตัวทำงานได้ที่บ้านเกิด และยังคงรอคอยวันที่สถานประกอบการจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง แม้มีอีก หลายสถานประกอบการยังคงเปิดทำการและมีการจ้างงาน แต่เมื่อทักษะแรงงานไม่ได้ถูกเตรียมพร้อมให้ สามารถรองรบั การทำงานแบบอืน่ ได้ จึงไม่เกิดการจา้ งงานใหม่ๆขนึ้ มา 2) ระบบการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานของประเทศไทยยังไม่ทันสมัยกับบริบทจ้างงานปัจจุบัน และครอบคลุมทว่ั ถงึ แรงงานในระบบทุกกลมุ่ สถานการณ์โควิด-19 นี้ได้สะท้อนออกมาให้เห็นต่อว่า หลักสูตรการฝึกอบรมที่จัดโดยกรมพัฒนาฝีมอื แรงงาน กระทรวงแรงงาน ยังเป็นหลักสูตรที่ไม่สอดรับกับโลกหลังยุคโควิด ที่ควรเป็นหลักสูตรต่างๆเหล่าน้ี เช่น หลักสูตรด้านการตลาดดิจิตัล , การใช้โซเซียลมีเดียเป็นเครื่องมือทางการตลาด , การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อ นำมาใช้วางแผนธุรกิจ , หลักสูตรการสร้างผู้ประกอบการจากฐานทรัพยากรท้องถิ่น เป็นต้น ที่ควรต้องนำมา อบรมให้กับแรงงานกลุ่มต่างๆเพื่อความอยู่รอด แต่ยังไม่ได้รับความสนใจที่จะจัดโดยภาครัฐมากเท่าที่ควร จึง เป็นช่องว่างให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการแทน ผ่านการสมัครที่มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่สามารถเข้าถึงได้กับ แรงงานทุกคน นอกจากนั้นสถานประกอบการก็ไม่ได้ให้ความสำคัญในการฝึกอบรมแรงงานเพื่อการเปลี่ยนสาขา อาชีพเท่าที่ควร นอกจากฝึกอบรมให้เชี่ยวชาญในงานเฉพาะส่วนตนเองเท่านั้น เมื่อแรงงานต้องออกจากงา น เดิมทำให้จึงเป็นข้อจำกัดในการแสวงหางานใหม่ที่ถูกพัฒนามาจากทักษะเฉพาะทางและไม่สามารถหา งานได้ โดยงา่ ยอกี ต่อไปในโลกยุคหลงั โควิด-19 3) การขาดสวัสดิการรองรับและเพียงพอในการอยู่รอดอย่างน้อย 6 เดือน ในแรงงานที่มีอายุเกิน 40 ปี ท้งั ในกลมุ่ ทม่ี ีรายไดน้ ้อย, แรงงานทีม่ ีการจา้ งงานชั่วคราว, แรงงานรายวัน แรงงานในกลุ่มนี้มักจะเป็นแรงงานกลุ่มแรกที่จะต้องถูกให้ออกจากงานยามเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ เสมอๆ ซึ่งแรงงานกลุ่มนี้มักมีการศึกษาน้อย ไม่ได้รับการฝึกอบรมใดๆเพื่อให้มีทักษะเพิ่มขึ้น ดังนั้นแรงงาน กลุ่มนี้จะเกิดความเปราะบางยิ่งขึ้น เมื่อต้องออกจากระบบไปสู่นอกระบบก็ยิ่งประสบปัญหาเพราะไม่สามารถ เอาตัวรอดไดจ้ ากบรบิ ทภายนอกสถานประกอบการที่ไม่คุ้นชิน กระทัง่ งานทีต่ อ้ งทำกเ็ ป็นคนละประเภทและใช้ ทกั ษะคนละแบบกับงานท่ีทำในสถานประกอบการมาโดยตลอด จากผลกระทบทั้ง 3 ด้านใหญ่ๆที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อมาพิจารณาร่วมกับนโยบายรัฐบาลต่อ มาตรการฟ้นื ฟูและเยียวยากลุม่ แรงงานในระบบรปู แบบต่าง ๆ ซ่ึงมเี พยี ง ➢ลดเงินสมทบเขา้ กองทุนประกันสังคมของนายจ้างและลูกจา้ ง ซง่ึ เป็นผูป้ ระกันตนตามมาตรา 33
P a g e | 20 ➢เพมิ่ เงนิ ชดเชยกรณีว่างงานเพราะถูกเลกิ จ้างและลาออกเอง ➢ผปู้ ระกันตนทไ่ี มไ่ ดท้ ำงานเน่ืองจากมีเหตุสดุ วิสัยท่ีนายจ้างไม่ใหท้ ำงานใหไ้ ด้รับเงินทดแทนการขาด รายได้ 50 % ของค่าจ้างตลอดระยะเวลาทผี่ ปู้ ระกนั ตนไมไ่ ด้ทำงานแต่ไมเ่ กนิ 180 วนั ➢ ลดราคาขายปลีกก๊าซหงุ ต้ม (LPG) , ลดค่าไฟฟ้า , ลดคา่ น้ำประปา กล่าวได้ว่านโยบายดังกล่าวจงึ ไม่เพยี งพอและกลายเป็นช่องว่างสำคัญที่ตอ้ งจดั การต่อไป รวมทั้งยังคง มีแรงงานบางกล่มุ ทไี่ มส่ ามารถเขา้ ถึงมาตรการการชว่ ยเหลือของรฐั บาลได้ด้วยเช่นกัน เน่ืองจากข้อกำหนดของ รฐั บาลในการใหผ้ ขู้ อรบั การชว่ ยเหลอื ตามมาตรการตอ้ งลงทะเบยี นออนไลน์ 1.3) โอกาสและความท้าทายต่อการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตแรงงานในระบบภาคการผลิตที่ได้รับ ผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากผลกระทบจากสถานการณ์โควดิ -19 ท่ีกลา่ วถึงในข้างต้นแล้ว ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นโอกาสและ ความท้าทายต่อการฟ้ืนฟูคณุ ภาพชวี ติ แรงงานในระบบทีไ่ ด้รับผลกระทบจากโควิด-19 โครงการฯเห็นวา่ 1.3.1) ปัญหาการว่างงานที่ทำให้แรงงานขาดรายได้ท่ามกลางการมีรายจ่ายบางประเภทที่ยังคง ต้องจ่ายต่อไป มาตรการที่สำคัญในการบรรเทาผลกระทบจึงต้องเป็น “มาตรการเพิ่มรายได้” เพื่อให้ แรงงานสามารถใช้ชีวิตตอ่ ไปได้ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้มีอาชีพใหม่ ซึ่งเรือ่ งเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยกลไก และเครื่องมือต่างๆเข้ามาช่วย เพื่อให้อาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นมานี้นำมาสู่การมีรายได้ พร้อมๆไปกับการจัดการ รายจ่ายและวางแผนชวี ติ และการเงนิ ใหอ้ ย่รู อดได้จริงในอนาคตตอ่ ไป 1.3.2) การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิต วิกฤติครั้งนี้จะเอื้อไปสู่การ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ตั้งอยู่บนความสมเหตุสมผล สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ใช้ชีวิตอย่างพอประมาณ สอดคล้องกับสถานการณ์ ไม่ประมาท ดังนั้นการสร้างให้เกดิ ภูมิคุ้มกันจงึ เป็นหลักสำคัญสำหรับแรงงานที่ได้รบั ผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นภูมิคุ้มกันทางด้านร่างกาย ทางด้านจิตใจ และการเงิน คนที่สุขภาพแข็งแรงมีโอกาสท่ี จะได้รับผลกระทบถึงขั้นเสียชีวิตน้อยกว่าคนที่สุขภาพไม่ดี แรงงานที่มีเงินออมเพียงพอก็จะมีกันชนบรรเทา ความรุนแรงของผลกระทบทาง เศรษฐกิจได้ และจะช่วยให้สามารถก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากเย็น ในทุก สถานการณ์ในอนาคต สุขภาพกาย สขุ ภาพใจ และความมนั่ คงทางการเงินขึงเปน็ ภมู คิ ุ้มกันท่ีสำคัญท่ีสุดในชีวติ ตอ่ จากนี้ 1.3.3) ประสบการณ์โดยตรงของผู้เสนอโครงการฯและทีมงาน ที่ทำงานกับกลุ่มแรงงานในระบบ และสหภาพแรงงานต่างๆ ผ่านการสนับสนุนข้อมูลเชิงวิชาการ เพื่อการเจรจาต่อรองทั้งระดับสถาน ประกอบการและระดับนโยบายชาติมากว่า 10 ปี และการเข้าร่วมเจรจากับภาครัฐระดับต่างๆ พบว่า การ เปล่ยี นแปลงเชงิ โครงสรา้ ง กฎหมาย นโยบาย มาตรการต่างๆ หรอื ท่เี รยี กวา่ การเปลยี่ นแปลงระดบั บนเพ่ือการ เข้าถึงสวัสดิการและคุณภาพชีวิตที่ดีของแรงงาน จักต้องมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงระดับล่าง คือ ในตัว แรงงานควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะการวางแผนจัดการด้านสุขภาพกาย-ใจ-การเงิน-มีอาชีพทางเลือกควบคู่ไป กับงานประจำ จะกลายเป็นต้นทุนสำคัญที่จะสามารถเตรียมพร้อมแรงงานในระบบก่อนที่จะถึงวัยเกษียณอายุ
P a g e | 21 จากการทำงานได้อย่างมีคุณภาพ หรือหากวันหนึ่งเกิดวิกฤติต้องออกจากสถานประกอบการก็จะสามารถ ดำเนนิ ชวี ติ ตอ่ ไดโ้ ดยไม่เปราะบางจนเกนิ ไป และฝากชวี ติ ไว้กบั นโยบายรัฐเพียงเท่านัน้ 1.3.4) ประสบการณ์ในเชิงบริหารจัดการโครงการรายย่อยของผู้เสนอโครงการ เนื่องจากการรับผิดชอบโครงการนี้ต้องดำเนินไปพร้อมกับการบริหารจัดการโครงการย่อยอีก 13 โครงการ ผู้เสนอโครงการเคยมีประสบการณ์อย่างน้อย 3 ชุดโครงการที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหาร จัดการโครงการยอ่ ยใหบ้ รรลุวตั ถปุ ระสงค์ตามทก่ี ำหนดไว้ ดงั น้ี 1) การทำหน้าที่ผู้จัดการโครงการเพื่อพัฒนาชุดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีปัญหาสถานะ บุคคล เลขที่สัญญา 54-00-0528 ระยะเวลา: 1 มิถุนายน–30 กันยายน 2554 ภายใต้ สสส. สำนัก 9 โดยมี ภารกิจหลัก คือ ประสานงาน , จัดประชุม , วางกรอบแนวทางการทำงาน , อำนวยกระบวนการพัฒนา โครงการย่อยสำหรับภาคีหลักและภาคียุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านสวัสดิการ ด้านสถานะ บุคคล และด้านการคุ้มครองและเข้าถึงสิทธิแรงงาน เพื่อพัฒนาชุดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีปัญหา สถานะบคุ คล ส่งมอบให้ สสส.สำนกั 9 ดำเนินการจัดทำสัญญาโครงการแตล่ ะกลุม่ โครงการต่อไป โดยผลสำเร็จที่ไดใ้ นช่วงน้ัน คอื ได้ (ร่าง) ขอ้ เสนอโครงการจำนวน 4 กล่มุ โครงการ คือ กลมุ่ โครงการ สุขภาพ , กลุ่มโครงการการศึกษา ,กลุ่มโครงการสวัสดิการ และกลุ่มโครงการสิทธิแรงงาน ที่พร้อมเข้าสู่การ พิจารณากลั่นกรองทางวิชาการโดยคณะผู้ทรงวุฒิ และภายหลังจากนั้นข้อเสนอกลุ่มโครงการสุขภาพ , กลุ่ม โครงการการศึกษา และกลุ่มโครงการสวัสดิการ มีความพร้อมทำสัญญากับ สสส.สำนัก 9 ในการดำเนินการ ตอ่ ไป (กลุ่มสทิ ธิแรงงานขอถอนตัวที่จะดำเนินการในช่วงเวลาตอ่ มา) 2) การทำหน้าที่ผู้จัดการโครงการเพื่อพัฒนาแผนยุทธศาสตร์และชุดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวติ ผู้มีปัญหาสถานะบุคคลระยะที่ 2 เลขที่สัญญา 56-00-0223) ระยะเวลา: 1 กุมภาพันธ์ – 15 พฤษภาคม 2556 ภายใต้ สสส. สำนัก 9 เพื่อให้ได้ชุดข้อเสนอโครงการของภาคีเครือข่ายกลุ่มผู้มีปัญหาสถานะบุคคล ที่มี ความพร้อมในการเป็นหน่วย/กลไกการดำเนินงานในระดับพื้นท่ี ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการ การมี แผนปฏบิ ตั ิการ และการวางแผนงบประมาณสนบั สนนุ การทำงาน โดยผลสำเร็จที่ได้ในช่วงนั้น คือ ชุดข้อเสนอโครงการของภาคีเครือข่ายกลุ่มผู้มีปัญหาสถานะบุคคล จำนวน 4 ชุดโครงการที่พร้อมเข้าสู่การพิจารณา (review) ของคณะกรรมการฯ ได้แก่ ชุดโครงการพัฒนา คุณภาพชวี ติ ผู้มปี ัญหาสถานะบคุ คลกลมุ่ เปา้ หมายตามมติ ครม. 23 มี.ค.53 , ชุดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ มปี ัญหาสถานะบคุ คล กลุ่มแรงงานขา้ มชาติตามมติคณะรฐั มนตรรี ายปี กับกล่มุ ท่ีตกหล่นจากการขึ้นทะเบยี น , ชุดโครงการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตผู้มปี ญั หาสถานะบคุ คล กลมุ่ แรงงานข้ามชาตทิ ี่ผา่ นการพสิ ูจนส์ ญั ชาติแล้ว , ชุด โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผูม้ ปี ญั หาสถานะบคุ คล กลุ่มเดก็ และการศกึ ษา โดยภาคีท่โี ครงการทัง้ ช่วงท่ี 1 และ 2 ทำงานด้วย ไดแ้ ก่ (1) เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสุขภาพ ได้แก่ ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชน บนพื้นที่สูง (ศปส.), มูลนิธิพัฒนรักษ์, มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย, เครือข่ายสุขภาพชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง, ศนู ย์ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนภาคอีสาน (ศสอ.), โครงการปฏิบัติการเพ่อื สทิ ธคิ นจน, มลู นธิ ิเพอ่ื นหญิง
P a g e | 22 (2) เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการศึกษา ได้แก่ มูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท (มยช.) , มูลนิธิ เครือข่ายส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน, โครงการประสานชาติพันธุ์อันดามัน มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะ ประทีป, มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย, มูลนิธิร่วมมิตรไทย-พม่า (มรพ.) , กลุ่มมิตรมอญ, โครงการสตรี นานาชาติพันธุ์ (3) เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสถานะบุคคล ได้แก่ หน่วยงานพัฒนาและบริการสังคม สภา คริสตจักรในประเทศไทย, ศนู ย์ปฏิบตั ิการร่วมแก้ไขปญั หาประชาชนบนพนื้ ที่สงู (ศปส.) (4) เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการคุ้มครองและเข้าถึงสิทธิแรงงาน ได้แก่ มูลนิธิเครือข่าย ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน, โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย, มูลนิธิเพื่อนหญิง, มูลนิธิร่วมมิตรไทย- พมา่ , ศูนยส์ ง่ เสริมสทิ ธิมนษุ ยชนภาคอีสาน (ศสอ.), 3) การทำหน้าที่ผู้ประสานงานกลุ่มแรงงานในระบบ ภายใต้โครงการสร้างเสริมสุขภาพจิตเชิงรุก กลุ่มวัยแรงงาน “การสร้างสุข ลดทุกข์” ซึ่งรับผิดชอบโดยสมาคมวิถีทางเลือกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SADA) ได้รับการสนับสนุนจาก สสส. สำนัก 2 ระยะเวลา : 20 กุมภาพันธ์ 2563 – 18 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้กลุ่ม แรงงานในระบบ มีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อขยายองค์ความรู้จากสถานประกอบการสร้างสุข ลดทุกข์ ตน้ แบบสเู่ ครือข่ายสถานประกอบการขนาดใหญ่และกลาง เพ่อื พัฒนารปู แบบการสรา้ งเสริมสุขภาพจิตเชงิ รกุ อยา่ งเป็นองคร์ วม ภารกิจหลักที่ดำเนินการ คือ ทำหน้าที่ประสานงาน , จัดประชุม , วางกรอบแนวทางการทำงาน , อำนวยกระบวนการทำกิจกรรม , เข้าพบผู้กำหนดนโยบายทีเ่ กีย่ วข้อง สำหรับ 6 สถานประกอบการ ท่ีเข้าร่วม ภารกิจสร้างสุขลดทกุ ข์แรงงานในระบบ ซึ่งทั้ง 6 บริษัท เป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และชิน้ ส่วนยาน ยนต์ ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย 1 ใน 10 เป้าหมายของพื้นที่ EEC ผสมผสานทั้งสถานประกอบการขนาด ใหญ่และกลาง เป็นสถานประกอบการที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และสหภาพแรงงานได้เห็นชอบแล้วที่จะ ดำเนินงานรว่ มกันเพื่อลดความเสีย่ งดา้ นความเครียดและสุขภาพของคนทำงาน ได้แก่ 1) บรษิ ทั ออโต้อลั ลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกดั จ.ระยอง 2) บรษิ ัท วายเอม็ พี เพรส แอนด์ ดายส์ (ไทยแลนด์) จำกัด จ.ชลบุรี 3) บริษทั ไอซิน ทาคาโอก้า ฟาวน์ดริ บางปะกง จำกดั จ.ชลบรุ ี 4) บรษิ ทั ไอเอชไอ เทอรโ์ บ (ประเทศไทย) จำกดั จ.ชลบุรี 5) บรษิ ัท เอจีซี แฟลทกลาส ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) จ.ชลบรุ ี 6) บรษิ ัท ทาเคเบะ (ไทยแลนด์) จำกัด จ.ชลบุรี ผลสำคัญท่ีเกิดขึ้น ฯ เดือนธันวาคม 2563 คือ ได้แผนปฏิบัติการการขับเคลื่อนงาน “สร้างสุข-ลด ทุกข์” แรงงานในสถานประกอบการหลังยุค post-covid 19 ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ดว้ ย 10 Packages & Health Literacy ผ่านความร่วมมือระหว่างบรษิ ัทและสหภาพแรงงาน จำนวน 6 สถาน ประกอบการ (กนั ยายน 2563-สงิ หาคม 2564) โดยแผนฯดงั กลา่ วเป็นภาพสะท้องถึงความทุกขข์ องลกู จา้ งในท้งั 6 โรงงาน ประกอบดว้ ย
P a g e | 23 - ปัญหาด้านสุขภาพ การเผชิญกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่ยังเป็นปัญหาต้องจัดการ รวมถึงโรค อุบัติใหม่ต่างๆทั้งจากการทำงานและสภาพแวดล้อมทั้งในและนอกโรงงาน เช่น อาหารในโรงอาหารทีย่ งั ไม่เออ้ื ตอ่ โภชนาการที่เหมาะสม , พ้นื ท่ีออกกำลงั กายไม่เพยี งพอ - ปญั หาดา้ นการเงิน ท้งั การไม่มเี งนิ ออม หน้สี นิ มาก รายจ่ายมาก รายได้ไม่สมดลุ ไมม่ ีอาชพี ทางเลือก เข้ามาเสรมิ รายได้ บรหิ ารจัดการเงนิ ยังไม่ดพี อ - ปัญหาด้านสารเสพติดและผลกระทบต่อครอบครัว โดยเฉพาะการติดบุหรี่ , การเล่นหวยที่เป็น ปญั หาสำคัญมากของลูกจา้ งในขณะน้ี - ปัญหาด้านสุขภาพจิต ความเครียดต่างๆ โดยเฉพาะจากความไม่มัน่ คงในการจ้างงานจากผลกระทบ COVID-19 ท่นี ำมาสกู่ ารเปล่ียนแปลงสภาพการจ้างงานหลากหลายรปู แบบ (2) วตั ถุประสงค์ 2.1) เพือ่ พฒั นาศักยภาพแรงงานในระบบใหม้ ีความรู้และทกั ษะดา้ นการจัดการสุขภาพกาย สุขภาพใจ และการเงิน สำหรบั ใชเ้ ป็นพน้ื ฐานในการดำรงชีวติ วิถใี หม่ (New Normal) 2.2) เพื่อพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพที่ทำให้แรงงานได้มีรายได้เพิ่มและนำไปสู่การบรรเทา หนค้ี รวั เรอื นให้ลดลง (3) เปา้ หมายโครงการหรือผลทีค่ าดว่าจะไดร้ ับหลังส้นิ สุดระยะเวลาดำเนนิ งานใน 12 เดือน 3.1) แรงงานในระบบที่เข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 30 คน จาก 13 โครงการย่อย มีความรู้และทักษะ ด้านการเงิน มีการบริหารจัดการด้านการเงินที่ดี โดยชี้วัดจากการมีบัญชีครัวเรือนเป็นเครื่องมือในการวัดผล การเปลีย่ นแปลงพฤติกรรม 3.2) แรงงานทง้ั 13 กลมุ่ มอี าชีพทางเลือกทำควบคู่ไปกับงานประจำหรือมีอาชพี ใหม่ ที่อาชพี ดงั กล่าว นนั้ ได้นำไปสู่การเพม่ิ รายได้ ลดรายจา่ ย และการปลดหนีส้ นิ ในครวั เรือนได้จรงิ 3.3) แรงงานอย่างน้อย 30 คน จาก 13 โครงการย่อย มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น โดยมีการ วัดผลผ่านแบบสำรวจของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กับแบบสำรวจด้านสุขภาพกายของกรม อนามยั กระทรวงสาธารณสุข (4) ตัวชี้วัดตามวัตถปุ ระสงค์ วัตถปุ ระสงค์ ตวั ชี้วดั ตามวัตถุประสงค์ (4.1) เพือ่ พัฒนาศักยภาพแรงงานในระบบให้ (4.1.1) แรงงานตัวอย่าง อยา่ งนอ้ ย 30 คน (2-3 คนต่อ มีความรู้และทักษะดา้ นการจัดการสุขภาพ โครงการยอ่ ย) สามารถปรับเปลย่ี นพฤติกรรมด้านสขุ ภาพ กาย สขุ ภาพใจ และการเงิน สำหรับใชเ้ ปน็ กาย และหรือสขุ ภาพใจ และหรอื สุขภาพการเงนิ ผา่ น การมีเป้าหมายและแผนการสรา้ งสมดุลชวี ิตในระยะยาว
P a g e | 24 วตั ถุประสงค์ ตวั ชีว้ ัดตามวตั ถปุ ระสงค์ พ้นื ฐานในการดำรงชวี ติ วิถใี หม่ (New (4.1.2) แรงงานตวั อย่างสามารถนำความร้แู ละทกั ษะที่ Normal) ไดร้ ับ นำไปขยายผลตอ่ เพ่ือการปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรม และสภาพแวดล้อมในครอบครวั หรอื ญาติพ่นี ้องหรอื (4.2) เพอ่ื พฒั นาทกั ษะด้านการประกอบ บุคคลใกล้ชดิ เพิ่มข้ึนอย่างน้อย 13 ครอบครวั อาชพี ทีท่ ำให้แรงงานมรี ายได้เพ่มิ และนำไปสู่ (4.1.3) กรมอนามัย และกรมสุขภาพจติ กระทรวง การบรรเทาหนค้ี รัวเรอื นใหล้ ดลง สาธารณสุข มสี ่วนร่วมในการเป็นวิทยากรถา่ ยทอด ความรูแ้ ละใหค้ ำแนะนำ เพ่ือการปรับเปล่ียนพฤตกิ รรม ด้านสขุ ภาพกาย สุขภาพใจของแรงงาน (4.2.1) เกิดกลมุ่ แรงงาน 13 กล่มุ ทม่ี ีอาชพี ใหมห่ รือ อาชพี เสรมิ จากงานประจำ โดยมีการทำแผนวเิ คราะหต์ น้ ทุนเดิมของแรงงานแต่ละกลุ่ม เพอ่ื นำมาออกแบบการทำ อาชพี ใหม่ ที่มีตลาดรองรับทีแ่ น่นอน และสามารถนำไปสู่ การเพ่ิมรายได้ไดจ้ ริงในครัวเรอื น (4.2.2) เกิดความร่วมมือระหวา่ งกลุ่มแรงงาน กบั ฝา่ ย บรหิ ารในสถานประกอบการ หรือกลุ่มผู้ประกอบการใน ชมุ ชน เชน่ รา้ นอาหารตา่ งๆ เพอื่ เปดิ พ้ืนที่เช่อื มโยงให้ แรงงานในฐานะผผู้ ลติ สินคา้ กบั ผู้บรโิ ภคได้มาพบปะกนั ผา่ นการเป็นพนื้ ทตี่ ลาด (4.2.3) เกดิ การพฒั นาหรือฝึกอบรมอาชพี ใหแ้ รงงาน เพิม่ เติม และทกั ษะด้านต่างๆทเี่ กี่ยวข้อง เชน่ การ วางแผนจดั การการเงนิ , การนำเทคโนโลยสี มัยใหม่มาใช้ เพ่อื การส่งเสรมิ อาชพี , การยกระดบั ผลติ ภณั ฑข์ อง แรงงานให้นา่ สนใจ โดยเปน็ ความร่วมมือกับกรมพฒั นา ฝีมอื แรงงาน และกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน (5) กล่มุ เปา้ หมาย พน้ื ท่ี และขอบเขตดำเนินการ 5.1) กลุ่มเปา้ หมายและพน้ื ที่ดำเนินการ กลุ่มเป้าหมายที่โครงการฯมุ่งเน้นทำงานโดยตรง คือ กลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลิตที่ได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 13 กลุ่ม รวมอย่างน้อย 40 คน (กลุ่มละ 3-5 คน) ซ่ึง กระจายตัวอยู่ใน 6 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร (3 โรงงาน), ชลบุรี (4 โรงงาน) , นครปฐม (2 โรงงาน),
P a g e | 25 พระนครศรีอยุธยา (2 โรงงาน), ฉะเชิงเทรา (1 โรงงาน), ระยอง (1 โรงงาน) ทั้ง 13 กลุ่มนี้มาจาก กระบวนการคัดสรร ดงั น้ี - ผู้จัดทำและทีมงานในโครงการรู้จักและมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับทั้ง 13 กลุ่มแรงงานโดย พื้นฐานอยู่แล้ว เพราะต้องเข้าไปให้คำปรึกษาหารือด้านต่างๆโดยเฉพาะในมิติทางกฎหมาย ทำให้ทราบถึง ผลกระทบทไี่ ดร้ ับจากสถานการณ์โควิด-19 ท่ีมีรายละเอียดแตกต่างกนั ออกไป - แรงงานทั้ง 13 กลุ่ม ทราบเป้าหมายโครงการที่จะดำเนินการในเบื้องต้นแล้ว เห็นความสำคัญและ ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านสุขภาพการเงิน มีการวางแผนจัดการหนี้ การออม การสรา้ งรายไดเ้ พิม่ โดยเฉพาะการมีอาชพี ทางเลอื กหรืออาชีพใหม่ - แรงงานทั้ง 13 กลุ่ม ไม่เคยได้รับทุนสนับสนุนการทำงานโดยตรงจากสำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) แต่อยา่ งใด - มีแรงงาน 5 กลุ่ม คือ จากพื้นที่ชลบุรี 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท วายเอ็มพี เพรส แอนด์ ดายส์ (ไทย แลนด์) จำกัด , บริษัท ไอเอชไอ เทอร์โบ (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท ไอซิน ทาคาโอก้า ฟาวน์ดริ บางปะกง จำกัด , บริษัท เอจีซี แฟลทกลาส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โรงงานชลบุรี, พื้นที่ระยอง 1 บริษัท คือ บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีโอกาสเข้าร่วมอบรมและรับงบประมาณโรงงานละ 100,000 บาท มาดำเนินการ ภายใตโ้ ครงการ “สร้างสุขลดทุกขแ์ รงงานในระบบ” โดยสมาคมวถิ ีทางเลือกเพ่ือ การพัฒนาที่ยั่งยืน (SADA) เป็นผู้รับงบประมาณดำเนินการจาก สสส. สำนัก 2 ปี 2563-2564 ซึ่งมุ่งเน้นการ พัฒนากลไกร่วมกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) ในสถานประกอบการเพื่อการมีสุขภาพจิตที่ดีเป็นสำคัญ ดังน้ัน แม้จะเป็นบริษัทเดียวกันแต่กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการนี้เป็นคนละกลุ่มกัน มุ่งเน้นงานคนละระดับ งาน สรา้ งสุขลดทกุ ขท์ ำงานรว่ มกับฝา่ ยทรัพยากรบุคคลเปน็ หลกั จงึ ถือได้ว่าเปน็ การขยายผลไปยงั แรงงานกลุ่มอ่นื ๆ เพ่มิ เติมในบริษัทนน้ั ๆ โดยมรี ายละเอียดทั้ง 13 กลุ่ม จำแนกตามสภาพปัญหาได้ 4 ประเภท ดังนี้ จังหวดั ชอ่ื สถานประกอบการ ปัญหาทป่ี ระสบ ประเภทท่ี 1 : เป็นกลุม่ แรงงานทถี่ ูกเลิกจา้ งหรอื ลาออกจากงาน เพราะสถานการณโ์ ควดิ ตง้ั แตร่ ะลอกที่ 1 ปี 2563 ตอ่ เน่ืองระยะ 2 ปี 2564 จำนวน 2 โรงงาน สมุทรสาคร บริษทั พงศ์พาราโคดนั รับเบอร์ จำกดั เลขที่ 402 ถกู เลิกจา้ งเพราะสถานประกอบ ซอยเจรญิ รัชดา ถนนเศรษฐกจิ 1 ต.ออ้ มนอ้ ย การต้องการลดตน้ ทนุ การผลติ อ.กระท่มุ แบน จ.สมทุ รสาคร ผลติ ช้นิ สว่ นรถยนต์ และอยู่ในระหว่างหาอาชพี ใหม่ ทท่ี ำดว้ ยยาง มลี ูกจ้างประมาณ 500 คน คณะทำงานโครงการ 1. นายสมคิด ของนา 2. นายสาธติ ซาดนุ 3. นายสทุ ัศน์ ขนั ธแ์ กว้ กาศ
P a g e | 26 จงั หวัด ชอื่ สถานประกอบการ ปญั หาท่ปี ระสบ พระนครศรีอยธุ ยา บรษิ ทั มซิ ูโน พลาสตกิ จำกัด แรงงานบางสว่ นมรี ายไดไ้ ม่ เลขท่ี 49 หมู่ 3 สวนอตุ สาหกรรมโรจนะ เพียงพอทำให้ตอ้ งลาออกจาก ต.บา้ นชา้ ง อ.อทุ ัย จ.พระนครศรอี ยธุ ยา งานเพ่ือไปประกอบอาชพี เสริม ประกอบกจิ การผลติ แม่พมิ พแ์ ละฉดี งานพลาสติก อน่ื ๆ แต่ก็ยงั เป็นขอ้ จำกดั มลี ูกจา้ งประมาณ 300 คน คณะทำงานโครงการ 1. นายบญุ สง่ เชยี งสุข 2. นายอาคม เกตุสุวรรณ 3. นายธรรมภัทร์ วฒุ ิอ่ิน ประเภทท่ี 2 :เปน็ กลมุ่ แรงงานทีบ่ างวันยงั เขา้ ไปทำงานอยใู่ นสถานประกอบการ บางวนั ถกู สั่งใหห้ ยุด ไดร้ บั ค่าจ้างรายวนั ทต่ี ่ำกว่าอตั ราค่าจ้างขนั้ ต่ำ /ไม่จา่ ยคา่ จา้ ง/ มแี นวโนม้ จะปดิ กจิ การ รวม 2 โรงงาน สมทุ รสาคร ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรสี กุล พลาสตกิ มีการสั่งให้พนักงานหยุดงานโดย เลขท่ี 139/369-370 ม.13 ซ.เพชรเกษม 95 จ่ายค่าจ้างเพียงวันละ 200 บาท ต.ออ้ มน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ในวันท่ีหยุดงาน ทำให้รายไดข้ อง ประกอบกจิ การผลิตถงุ พลาสตกิ พนกั งานไม่พอใช้ มีลกู จ้างประมาณ 60 คน คณะทำงานโครงการ 1. น.ส.สุวรรณี แควน้ พดุ ซา 2. นายทวศี กั ดิ์ แสนทิ 3. น.ส.เกศมณี ยางงาม นครปฐม บริษทั ในกลมุ่ สหภาพแรงงานย่ายออ้ มน้อยออ้ ม ลูกจา้ งสว่ นใหญเ่ ป็นลกู จ้างทม่ี ี ใหญท่ ่สี นใจ เชน่ บริษทั นครหลวงถงุ เท้าไนล่อน อายุใกล้เกษยี ณ ไม่สามารถไปหา จำกดั จ.นครปฐม เลขที่ 21 ม.2 ต.ออ้ มใหญ่ อ. งานใหม่ทำได้ จงึ ตอ้ งทนทำงาน สามพราน จ.นครปฐม ประกอบกจิ การผลติ ถงุ แม้ทราบดีว่าบรษิ ทั มแี นวโน้มที่ เท้าไนล่อน มีลกู จา้ งประมาณ 100 คน จะปิดกิจการ เนอ่ื งจากมกี าร คณะทำงานโครงการ เลือ่ นจา่ ยคา่ จา้ งหลายครงั้ 1. น.ส.สรุ นิ ทร์ พิมพา 2. น.ส. รุง่ นภา รกั ศรี 3. น.ส.สงวน ขุนทรง
P a g e | 27 จังหวัด ชือ่ สถานประกอบการ ปญั หาท่ีประสบ ประเภทท่ี 3 : เป็นกลุ่มแรงงานที่ยังมสี ถานะเป็นลูกจ้าง แตไ่ มไ่ ด้เขา้ ไปทำงานในสถานประกอบการ (อยนู่ อกโรงงาน) ไดร้ บั คา่ จา้ งตามมาตรา 75 ใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 รวม 4 โรงงาน สมุทรสาคร บรษิ ทั ไทยการเ์ มนท์เอก็ ซปอรต์ จำกดั บริษทั ฯไดร้ ับผลกระทบเนอ่ื งจาก สาขาออ้ มนอ้ ย เลขที่ 129 ม. 4 ต.ออ้ มนอ้ ย ไมส่ ามารถส่งออกได้ จงึ มีการใช้ อ.กระทุม่ แบน จ.สมุทรสาคร ประกอบกิจการ มาตรการให้พนักงานหยุด โดย ประเภทตดั เย็บเสื้อผ้า มีลูกจา้ งประมาณ 1,300 จัดใหเ้ ป็นวนั หยุดพักผ่อน คน ลกู จา้ งไทยประมาณ 1,000 คน ลกู จ้างพมา่ ประจำปี มกี ารเปดิ โครงการให้ ประมาณ 300 คน เกษยี ณอายกุ อ่ นกำหนด และ คณะทำงานโครงการ การใชส้ ิทธิปิดการชวั่ คราว 1. น.ส.ธนวรรณ ชมหอม จา่ ยเงนิ 75 % ของค่าจา้ ง 2. น.ส.กลั ยกร ท้วมนาค 3. นายสกลภพ ฉลทู อง บรษิ ัท โตโยดา้ โกเซรบั เบอร์ (ประเทศไทย) จำกดั บรษิ ทั ไดน้ ำมาตรา 75 มาใชก้ บั เลขที่ 402/1 หมู่ 2 ซอยเจริญรัชดา ถ.เศรษฐกิจ คนงาน โดยคนงานไม่ต้องเข้ามา 1 ต.อ้อมนอ้ ย อ.กระทมุ่ แบน จ.สมทุ รสาคร ทำงานในโรงงานแตอ่ ยา่ งใด แต่ มีลูกจา้ งประมาณ 700 คน ผลติ ยางรถยนต์ เนือ่ งจากฐานคา่ จ้างคนงานต่ำคือ คณะทำงานโครงการ ประมาณ 10,000 บาท จงึ ทำให้ 1. นายสุเนตร เพชรอ้อน มหี น้สี นิ จำนวนมากทตี่ ้องเผชิญ 2. นางพรนภิ า เกตุวงศา 3. นายอนุรักษ์ อรรคอุดม พระนครศรีอยธุ ยา บรษิ ทั นากาชมิ ารบั เบอร์ (ประเทศไทย) จำกดั เลขที่ 39 หมู่ 9 นิคมอตุ สาหกรรมโรจนะ ต.อุทัย อ.อุทยั จ.พระนครศรอี ยธุ ยา ประกอบกิจการประเภททำชิ้นส่วนรถยนตท์ ีท่ ำ จากยาง มีลูกจา้ งประมาณ 300 คน คณะทำงานโครงการ 1. นายมานิตย์ ปานอิน 2. นายสมชาย โฉมชาย 3. นายทนงศักดิ์ พานแก้ว ชลบรุ ี บริษัท วายเอม็ พี เพรส แอนด์ ดายส์ (ไทยแลนด)์ บรษิ ทั ขาดสภาพคล่องไม่มคี ำสงั่ จำกดั เลขที่ 700/133 หมทู่ ่ี 1 ต.บา้ นเกา่ ซอ้ื สินค้า จนนำมาส่มู ีคำสั่งศาล อ.พานทอง จ.ชลบุรี ผลิตช้ินส่วนรถยนต์ ให้ฟ้ืนฟกู จิ การ มีการเลกิ จ้าง
P a g e | 28 จังหวดั ชื่อสถานประกอบการ ปัญหาท่ีประสบ มลี ูกจ้างประมาณ 600 คน ลกู จ้างเมื่อต้นปี 2564 จำนวน คณะทำงานโครงการ 400 คน ก่อนหนา้ นน้ั ประมาณ 1. นายวฒั นา สันสา 1 ปี บรษิ ทั ได้นำมาตรา 75 มาใช้ 2. นายทรงวุฒิ บัวเบา กบั คนงาน โดยคนงานไมต่ ้องเขา้ 3. นายฉตั รชัย เน่อื งจำนงค์ มาทำงานในโรงงานแต่อยา่ งใด 4. นายมลวิ ตั ร แปะ๊ และฉำ่ ประเภทที่ 4 :เป็นกลมุ่ แรงงานที่ยังทำงานอย่ใู นสถานประกอบการ แต่ได้รบั รายได้จากการทำงานลดลง ไมม่ ีรายไดจ้ ากการทำงานลว่ งเวลาแบบกอ่ น บางสถานประกอบการมกี ารนำโครงการเกษยี ณอายมุ าใช้ กบั แรงงานเพอื่ การลดตน้ ทนุ การผลติ รวม 5 โรงงาน ฉะเชงิ เทรา บริษัท ซังโกะไทยเอน็ จิเนียริง่ แอนด์ แรงงานมรี ายได้จากการทำงาน แมนูแฟคเจอรงิ่ จำกดั ลดลงเพราะไม่มีค่าล่วงเวลา เลขท่ี 90/3 หมู่ท่ี 9 ต.บางววั อ.บางปะกง เพราะคำสงั่ ซ้ือลดลง / สถาน จ.ฉะเชิงเทรา มลี กู จ้างประมาณ 1,000 คน ประกอบการนำโครงการ ผลติ ช้นิ ส่วนยานยนต์ เกษียณอายมุ าใช้ แรงงานมภี าวะ คณะทำงานโครงการ หน้ีสินจำนวนมาก และไม่มีการ ดำเนินการในนามสหภาพแรงงานช้ินส่วนยาน วางแผนจัดทำอาชพี อืน่ เสริมไว้ ยนต์ไทย หากตอ้ งออกจากงานในอนาคต 1. น.ส.ศริ ิจรรยาพร แจง้ ทองหลาง 2. น.ส.เครือวรรณ โคบตุ ร 3. นายนกิ ร เหล่าเขตกจิ ชลบรุ ี บริษทั ไอเอชไอ เทอรโ์ บ (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 700/487 ต.บา้ นเก่า อ.พานทอง จ.ชลบรุ ี มีลกู จา้ งประมาณ 600 คน ผลติ อะไหลแ่ ละชนิ้ ส่วนยานยนต์ คณะทำงานโครงการ 1. นายนนั ทวฒั น์ วงศพ์ ฒั นกานต์ 2. นายธนบดี พรมราช 3. นายพีระพงษ์ ลอื ชัย 4. นายณภัทร ทองดี 5. นายสวุ รรณ หลาเพียร
จังหวดั ชอ่ื สถานประกอบการ P a g e | 29 ระยอง บรษิ ัท ไอซิน ทาคาโอก้า ฟาวน์ดริ บางปะกง ปญั หาที่ประสบ จำกดั เลขที่ 700/89 ต.หน้าประดู่ อ.พานทอง จ.ชลบรุ ี ผลิตชน้ิ สว่ นรถยนต์ มลี กู จา้ งประมาณ 600 คน คณะทำงานโครงการ 1. นายอำนาจ มงคลชัย 2. นายปฐมพร ธนนั ท์หิรญั สุข 3. นายปราโมทย์ เขยี วแกล บริษัท เอจซี ี แฟลทกลาส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โรงงานชลบรุ ี และโรงงานระยอง โรงงานชลบุรี : นิคมอตุ สาหกรรมอมตะซิต้ี 700/22 หมู่ 6 ต. หนองไมแ้ ดง อ. เมอื ง จ. ชลบุรี โรงงานระยอง : 7/104 หมทู่ ่ี 4 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ. ระยอง ผลติ กระจกรถยนต์ มลี ูกจ้างรวม 2 โรงงาน ประมาณ 500 คน คณะทำงานโครงการ พื้นทชี่ ลบุรี 1. นายรงุ่ ธิวา เจียมตน 2. นายวิษณุ เกลียวสนี าค 3. นายมานพ บญุ ปกครอง พื้นทร่ี ะยอง 4. นายพนมเดช สุวรรณพนั ธ์ 5. นายสงกานต์ สกุลม่นั คง 6. นายสาคร หมูจนุ บรษิ ทั ออโต้อลั ลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด 49 หม่ทู ี่ 4 ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง มลี ูกจา้ งประมาณ 6,000 คน ผลติ รถยนต์ยหี่ อ้ ฟอร์ดและมาสดา้ คณะทำงานโครงการ 1. นายจักรกฤษณ์ พรหมสิทธ์ิ ผู้จัดการอาวุโส บริษัทฯ ที่กำลังดำเนินงานชมรมการเงินสำหรับ
จังหวัด ชื่อสถานประกอบการ P a g e | 30 กลมุ่ พนกั งานทเ่ี ส่ยี งในการเปน็ หนนี้ อกระบบและ ปญั หาทีป่ ระสบ ไม่สามารถจัดการได้ จำนวนสมาชิกปัจจุบัน ประมาณ 30 คน ที่ทางบริษัทกำลังดำเนินการ จดั การเรือ่ งแกไ้ ขปญั หาหน้ีสนิ อยู่ในปจั จบุ ัน 5.2) กลมุ่ เป้าหมายที่ไดร้ บั ประโยชน์จากการดำเนนิ งานโครงการฯ กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์ มาจากการที่แรงงานทั้ง 13 กลุ่มจาก 13 สถานประกอบการ ที่มา รวมกลุ่มกนั อย่างนอ้ ย 3 คนต่อสถานประกอบการ รวม 39 คน ทง้ั 39 คนนี้ จะสามารถนำความรู้และทักษะที่ ได้รับเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตนเอง โดยเฉพาะในด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพการเงิน นำไป ขยายผลต่อในครอบครัวของกลุ่มเป้าหมายที่มาเข้าร่วมโครงการโดยตรง โดยเฉพาะในเรื่องการมีรายได้เพิ่ม จากการมีอาชีพใหม่ เพื่อการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ บรรเทาหนี้ในครัวเรือน อย่างน้อยมีผู้ได้รับประโยชน์ต่อ ครอบครัวละ 5 คน ได้แก่ พ่อ แม่ ภรรยา สามี บุตร หรือญาติพี่น้องของทั้ง 39 คน รวมทั้งสิ้น 195 คน 5.3) ขอบเขตการดำเนนิ งาน เพือ่ ให้บรรลุเปา้ หมายระยะ 12 เดอื นและวัตถุประสงคท์ ั้ง 2 ข้อ ขอบเขตการดำเนนิ งานประกอบด้วย 5.3.1) งานพัฒนาศักยภาพแรงงานในระบบให้มีความรู้และทักษะด้านการจัดการสุขภาพกาย สขุ ภาพใจ และการเงนิ ในช่วง 4 เดือนแรก คือ มีนาคม-มิถุนายน 2564 กลุ่มแรงงานทั้ง 13 กลุ่มต้องเข้าร่วมอบรม เชิงปฏิบัติการก่อนจัดทำโครงการย่อย รวม 5 ครั้ง ผ่านการประสานความร่วมมือในหน่วยงานต่างๆท่ี เกย่ี วขอ้ ง ซง่ึ ผเู้ สนอโครงการไดม้ ีการทำงานร่วมกบั หนว่ ยงานตา่ งๆเหลา่ นี้อยูแ่ ลว้ ในปัจจบุ ัน ในการพัฒนา ใหเ้ กิดความร้คู วามเข้าใจเพอ่ื การปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมท่ีตรงกันก่อน โดยมวี ธิ กี ารดังนี้ - การอบรมครั้งที่ 1 เรื่อง ความสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรู้จักตนเอง เป็นการนำ หลักสูตรสร้างสุดลดทุกข์ ของโครงการสร้างสุขลดทุกข์แรงงาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนัก 2 ดำเนินงานโดยนางอรพิน วมิ ลภูษิต สมาคมวถิ ีทางเลอื กเพอ่ื การพฒั นาทย่ี ั่งยืน (SADA) มาใช้ - การอบรมครั้งที่ 2-3 เน้นเรื่องสุขภาพกาย-สุขภาพใจ เป็นการนำเครื่องมือต่างๆมาใช้ปรับ พฤติกรรม โดยประสานความร่วมมือกับสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กับสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วม เปน็ วิทยากรในการฝกึ อบรมผ่านหลกั สตู รจำนวน 2 หลกั สูตร คือ หลักสูตรที่ 1 10 แพคเกจกรมอนามัย โดยเลือกบางหลักสูตรที่เกี่ยวข้องมาใช้ในการอบรม ได้แก่ ชุดที่ 1 หุ่นดี สุขภาพดี เน้นจัดกิจกรรมทางกาย ชุดที่ 2 จิตสดใส ใจเป็นสุข เน้นการลด ความเครียดจากการทำงาน สร้างสุขไม่เครียด โดยมีตัวชี้วัดจากอัตราการขาด ลาป่วยของ
P a g e | 31 พนักงานลดลง (ใช้หลักสูตรกรมสุขภาพจิตโดยตรง) ชุดที่ 5 เตรียมเกษียณอย่างมีคุณค่า พาชีวา ยืนยาว เน้นการส่งเสริมการออม เพื่อรองรับอนาคต ชุดที่ 6 พิชิตออฟฟิศ ซินโดรม เป็นการจัด สถานทสี่ ่ิงแวดล้อมที่เออื้ ต่อการทำงาน ชุดที่ 8 สถานประกอบการดี ชีวสี ดใสไร้แอลกอฮอล์ บหุ รี่ ชุดท่ี 9 โรงอาหารปลอดภยั ใสใ่ จสุขภาพ ครอบคลุมคณุ ภาพอาหารในโรงอาหาร ครบ 5 หมู่ หลักสูตรที่ 2 กรมสุขภาพจิต เน้นเรื่องเทคนิคการสร้างสุข การคลายเครียด แบบคัดกรองและ ประเมนิ สุขภาพจติ วัยแรงงานกลุม่ เส่ยี งในเบื้องตน้ - การอบรมครั้งที่ 4 เน้นเรื่องสุขภาพการเงิน การจัดการหนี้ การวางแผนการออม ประสานความ ร่วมมือกับนายจักรกฤษณ์ พรหมสิทธิ์ ผู้จัดการอาวุโส บริษัทออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกดั จ.ระยอง ในการเปน็ วิทยากรรว่ มอบรม - การอบรมครั้งที่ 5 เน้นการพัฒนาโครงการย่อยเพื่อการพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพที่ทำ ให้แรงงานมีรายได้เพิ่มและนำไปสู่การบรรเทาหนี้ครัวเรือนให้ลดลงได้จริง โดยจะมีการประสาน ความร่วมมือในลักษณะ co-fund เพื่อการสนับสนุนการพัฒนาอาชีพ กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน รวมถึงสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เช่น วทิ ยาลัยเทคนคิ พระนครศรอี ยธุ ยา เพ่อื การรว่ มดำเนนิ การ (ไดม้ กี ารปรกึ ษาหารอื เบื้องตน้ ไว้แลว้ ) (5.3.2) การพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพที่ทำให้แรงงานมีรายได้เพิ่มและนำไปสู่การ บรรเทาหนี้ครัวเรือนให้ลดลง เป็นการสนับสนุนโครงการย่อยจำนวนทั้งสิ้น 13 โครงการ ในแรงงาน 13 กลุ่มที่เข้าร่วม (1 สถานประกอบการต่อ 1 โครงการเท่านั้น วงเงินไม่เกิน 80,000 บาท ทั้งน้ีหากแรงงาน แต่ละกลุ่มจะทำมากกว่า 1 โครงการ วงเงินทุกโครงการ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 80,000 บาท) ระยะเวลาดำเนินโครงการย่อย 7 เดือน เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายในโครงการฯนี้ยังคงทำงานหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ตั้งโรงงาน ไม่ได้กลับบ้านเกิด ดังนั้นโครงการจึงใช้โรงงานหรือชุมชนรอบโรงงานเป็นฐานการประกอบอาชีพ เน้นการเสริมศักยภาพในการ พัฒนาอาชีพ และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของสถานประกอบการในการส่งเสริมอาชีพของแรงงาน ควบคู่ไปกับการทำงานในโรงงานอยู่เดิม โดยค้นหาจุดแข็ง มองหาต้นทุนทรัพยากรในชุมชนรอบโรงงาน เช่น กองทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพของชุมชนต่างๆ เข้ามาสนับสนุน หรือการนำทรัพยากรจากท้องถิ่นบ้าน เกิดทต่ี ่างจังหวัด เพื่อนำมาสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั แรงงาน เน้นการสรา้ งอาชพี ได้จากสงิ่ ที่มีใกลต้ วั ตวั อยา่ งอาชีพทจี่ ะสามารถเกิดขึ้นได้ภายใตข้ อ้ จำกดั ดงั กล่าว เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ , การปลูกผัก อนิ ทรีย์ เห็ดอินทรยี ์ เพอื่ ใชบ้ รโิ ภคในครวั เรือนและสง่ โรงงานในชุมชน , การสร้างสนิ ค้าจากสมุนไพร , การเป็น บาริสต้า , ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ , ช่างตัดผม , ช่างปูกระเบื้อง , ช่างเสริมสวย , การทำอาหาร , การ นวดเพอ่ื สขุ ภาพ , การเลย้ี งไส้เดือนและสรา้ งรายได้เพิ่มจากปยุ๋ ไสเ้ ดอื น , การเพาะและแปรรูปเห็ด เป็นตน้ (6) งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 1,912,000 บาท แบ่งเป็น งบประมาณในส่วนการดำเนินงาน = 1,840,000 บาท กับ งบประมาณในสว่ นค่าตอบแทนผู้จดั การโครงการ (รวม 12 เดอื น) = 72,000 บาท (เดือนละ 6,000 บาท)
P a g e | 32 เอกสารเรอื่ งที่ 3 AAT Health Promotion (สรา้ งสขุ ลดทกุ ข์)
(สร้างสขุ ลดทกุ ข์)
พนักงานมีสวสั ดิการและ เป ความเป็นอยทู่ ่ีดี เป ไว สหภาพแรงงานฯ การมสี เขา้ ใจ
ปิดอก พนกั งานมีสวัสดกิ ารและ ปิดใจ ความเป็นอย่ทู ี่ดี วใ้ จ สว่ นร่วม จธรุ กจิ สหภาพแรงงานฯ
โครงการประชมุ สมั มนา การสรา้ งแรงงานอยา่ งยงั่ ยนื ณ หอ้ งประชุมภูสงิ ห์รสี อรท์ สตั หบี ช
นปี 1 ประจาปี 2561 ชลบรุ ี
โครงการประชมุ สมั มนา การสรา้ งแรงงานอยา่ งยงั่ ย ณ หอ้ งประชมุ สวนนงนุชพทั ยา ช
ยนื ปี2 ประจาปี 2562 ชลบุรี
การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื เพม่ิ ศกั ยภาพกลไกขบั เค โปรแกรมสรา้ งเอกภาพ สรา้ งวฒั นธรรมความเป็น ณ หอ้ งประชุมโรงแรมเจพารค์ ชลบุรี วนั ท่ี 17-1
คลอื่ น “สรา้ งสุข ลดทกุ ข”์ นทมี ขบั เคลอ่ื นองคก์ ร 18 กนั ยายน 2563
โครงการประชุมสมั มนา การสรา้ งแรงงานอยา่ งยงั่ ย ณ หอ้ งประชุมสวนนงนุช พทั ยา ช
ยนื ปี3 ประจาปี 2563 ชลบุรี
เหน สวสั ดกิ าร เงนิ เดอื น โบนัส รางวลั ค่าอาหาร รถรบั -ส่ง ฯลฯ
สวสั ดกิ าร นือ สุขภาพกายดี สุขภาพจติ ดี คุณภาพชวี ิตดี ***ไม่มหี นี้,อาชพี ทางเลือก*** ความมนั่ คงในอาชพี
สวสั ดกิ าร AATสวสั แต่…. เงินเดอื น โบนัส รางวลั ค่าอาหาร รถรบั -ส่ง ฯลฯ มสี ุขภาพทแ่ี ยล่ ง มหี น้ี
สดกิ ารดี สวสั ดกิ าร .???? สุขภาพกายดี สุขภาพจติ ดี คุณภาพชวี ติ ดี ***ไม่มหี น้ี,อาชพี ทางเลือก*** ความมนั่ คงในอาชพี มเี รอ่ื งยาเสพตดิ ความผนั ผวน ของเศรษฐกจิ
Search