Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 10

หน่วยที่ 10

Published by Sudachit Maneechote, 2018-07-26 00:16:39

Description: จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศ

Search

Read the Text Version

คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพอื่ งานอาชพีหนว่ ยที่ 10 จรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอรก์ บั ระบบสารสนเทศ

หนว่ ยท่ี 10 จรยิ ธรรมและความรบั ผิดชอบในการใชค้ อมพวิ เตอรก์ บั ระบบสารสนเทศเนอื้ หา 1. ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอร์กบั ระบบสารสนเทศ 3. พระราชบญั ญัตวิ า่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ 1. ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 1.1 ผลกระทบในทางบวก 1.1.1 ชว่ ยสง่ เสรมิ ความสะดวดสบายของมนุษย์ 1.1.2 ช่วยทาใหก้ ารผลติ ในอตุ สาหกรรมดขี ึ้น 1.1.3 ช่วยส่งเสริมการค้นควา้ วิจัยส่งิ ใหม่ 1.1.4 ชว่ ยส่งเสรมิ สขุ ภาพและความเป็นอยู่ทดี่ ขี ึ้น 1.1.5 ชว่ ยสง่ เสริมสติปญั ญาของมนุษย์ 1.1.6 เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจรญิ รุ่งเรือง 1.1.7 ชว่ ยให้เกิดความเข้าใจอันดรี ะหว่างกัน 1.1.8 ชว่ ยสง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตย 1.2 ผลกระทบในทางลบ 1.2.1 ทาใหเ้ กิดอาชญากรรม 1.2.2 ทาให้เกิดความสัมพนั ธข์ องมนุษย์ท่เี สอ่ื มถอย 1.2.3 ทาใหเ้ กดิ ความวิตกกงั วล 1.2.4 ทาใหเ้ กิดการเสยี งภัยทางด้านธุรกิจ 1.2.5 ทาใหก้ ารพัฒนาอาวธุ ท่มี ีอานาจสูงมากขนึ้ 1.2.6 ทาให้เกิดการแพรก่ ระจายวฒั นธรรมท่ไี มเ่ หมาะอยา่ งรวดเรว็2. จริยธรรมและความรับผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอร์กบั ระบบสารสนเทศ 2.1 จรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศ จริยธรรมหมายถึง หลกั ศีลธรรมจรรยาที่กาหนดข้ึนเพอ่ื ใชเ้ ปน็ แนวทางปฏบิ ตั ิ หรือควบคมุ การใช้งานระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ พิจารณา สรุปได้ 4 ประเดน็ คอื 2.1.1 ด้านความเป็นสว่ นตัว 2.1.2 ด้านความถูกตอ้ ง 2.1.3 ด้านความเป็นเจ้าของ 2.1.4 ด้านการเขา้ ถึง 2.2 จรรยาบรรณการใชเ้ ครือข่ายสงั คมออนไลน์

2.2.1 ใหร้ ะวงั การละเมดิ หรือสร้างความเสยี หายใหผ้ อู้ ืน่ 2.2.2 ให้แหลง่ ทม่ี าของขอ้ ความ ควรอ้างองิ แหล่งข่าวได้ 2.2.3 ไมก่ ระทาการรบกวนผ้อู น่ื ดว้ ยการโฆษณาเกินความจาเป็น 2.2.4 ดแู ลและแกไ้ ขหากตกเป็นเหย่ือจากโปรแกรมอันไม่พึงประสงค์ เพ่ือป้องกันมิให้คนอื่นตกเป็น เหย่ือ 2.3 บญั ญตั ิ 10 ประการ 2.3.1 ต้องไมใ่ ช้คอมพวิ เตอรท์ ารา้ ยคนอ่ืนหรอื ละเมดิ ผอู้ ่ืน 2.3.2 ต้องไมร่ บกวนการทางานผอู้ นื่ 2.3.3 ตอ้ งไม่สอดแนม แกไ้ ข หรอื เปดิ ดูแฟ้มข้อมลู ผูอ้ ื่น 2.3.4 ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอร์โจรกรรมข้อมลู ข่าวสาร 2.3.5 ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอรส์ รา้ งหลักฐานเทจ็ 2.3.6 ตอ้ งมจี รรยาบรรณการใช้เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ 2.3.7 ให้ระมดั ระวังในการละเมดิ หรอื สร้างความเสียหายใหผ้ ้อู ื่น 2.3.8 ใหแ้ หล่งที่มาของขอ้ ความ ควรอา้ งองิ แหล่งขา่ วได้ 2.3.9 ไมก่ ระทาการรบกวนผอู้ น่ื ดว้ ยการโฆษณาเกินความจาเปน็ 2.3.10 ดูแลและแกไ้ ขหากตกเป็นเหย่ือจากโปรแกรมอันไมพ่ ึงประสงค์ เพอื่ ป้องกันมิให้คนอื่นตกเป็น เหยือ่3. พระราชบญั ญัตวิ ่าดว้ ยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ พระราชบญั ญัติ วา่ ด้วยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันท่ี 10 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2550 เปน็ ปีท่ี 62 ในรชั กาลปัจจุบนั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยทีเ่ ป็นการสมควรมกี ฎหมายวา่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของสภานิติบัญญัติ แหง่ ชาติ ดงั ต่อไปน้ี มาตรา 1 พระราชบัญญัตินเ้ี รยี กว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550”

มาตรา 2[๑] พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกาหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป มาตรา 3 ในพระราชบัญญัติน้ี“ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เช่ือมการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกาหนดคาสั่ง ชุดคาส่ัง หรือสิ่งอ่ืนใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอปุ กรณ์ทาหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คาส่ัง ชุดคาส่ัง หรือส่ิงอื่นใดบรรดาท่ีอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอเิ ลก็ ทรอนิกส์ตามกฎหมายวา่ ด้วยธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกสด์ ้วย“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเก่ียวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ซ่ึงแสดงถึงแหล่งกาเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันท่ี ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่นๆ ทเ่ี ก่ียวข้องกับการตดิ ต่อส่อื สารของระบบคอมพวิ เตอร์นน้ั“ผ้ใู ห้บรกิ าร” หมายความวา่(1) ผใู้ หบ้ ริการแก่บุคคลอ่นื ในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอ่ืน โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ท้ังน้ี ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพ่ือประโยชน์ของบคุ คลอ่นื(2) ผู้ให้บรกิ ารเก็บรกั ษาข้อมลู คอมพวิ เตอร์เพ่ือประโยชน์ของบุคคลอ่ืน“ผใู้ ชบ้ ริการ” หมายความว่า ผูใ้ ช้บริการของผใู้ หบ้ ริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บรกิ ารหรอื ไม่กต็ าม“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผ้ซู ่ึงรฐั มนตรแี ตง่ ตั้งใหป้ ฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญตั ินี้“รฐั มนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรผี ู้รักษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบญั ญัตินี้ และใหม้ อี านาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้กฎกระทรวงนั้นเมอ่ื ไดป้ ระกาศในราชกจิ จานเุ บกษาแลว้ ให้ใช้บงั คับได้ หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซ่ึงระบบคอมพิวเตอร์ท่ีมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพ าะและมาตรการน้ันมไิ ดม้ ไี วส้ าหรับตน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหมื่นบาท หรือท้ังจาท้งั ปรับ มาตรา 6 ผใู้ ดล่วงรมู้ าตรการปอ้ งกนั การเขา้ ถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อ่ืนจัดทาขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านามาตรการดงั กลา่ วไปเปดิ เผยโดยมชิ อบในประการทน่ี ่าจะเกดิ ความเสยี หายแก่ผอู้ ่ืน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หนง่ึ ปี หรือปรับไม่เกนิ สองหมืน่ บาท หรอื ทั้งจาทงั้ ปรบั

มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซ่ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการน้นั มไิ ด้มีไว้สาหรบั ตน ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หม่ืนบาทหรือท้ังจาท้ังปรับ มาตรา 8 ผู้ใดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือดักรับไว้ซ่ึงข้อมลู คอมพวิ เตอร์ของผูอ้ ืน่ ท่อี ยรู่ ะหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพ่ือประโยชน์สาธารณะหรอื เพือ่ ให้บคุ คลท่ัวไปใช้ประโยชนไ์ ดต้ อ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกนิ หกหมน่ื บาท หรือทัง้ จาท้ังปรับ มาตรา 9 ผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งขอ้ มูลคอมพิวเตอรข์ องผอู้ ื่นโดยมชิ อบ ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ หา้ ปี หรือปรับไมเ่ กนิ หนง่ึ แสนบาท หรือทงั้ จาทั้งปรบั มาตรา 10 ผ้ใู ดกระทาด้วยประการใดโดยมิชอบ เพ่ือให้การทางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อ่ืนถูกระงบั ชะลอ ขดั ขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทางานตามปกติได้ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรบั ไมเ่ กนิ หน่งึ แสนบาท หรอื ทั้งจาทง้ั ปรับ มาตรา 11 ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอ่ืนโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหลง่ ท่มี าของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอ่ืนโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรบั ไม่เกินหน่ึงแสนบาท มาตรา 12 ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา 9 หรอื มาตรา 10(1) ก่อให้เกดิ ความเสยี หายแกป่ ระชาชน ไม่วา่ ความเสียหายน้ันจะเกิดขึน้ ในทันทหี รือในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดข้ึนพร้อมกนั หรือไม่ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกนิ สองแสนบาท(2) เปน็ การกระทาโดยประการท่นี ่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เก่ยี วกบั การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมน่ั คงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบรกิ ารสาธารณะ หรอื เปน็ การกระทาต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ทีม่ ีไว้เพ่ือประโยชนส์ าธารณะ ต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับต้ังแต่หกหม่ืนบาทถึงสามแสนบาทถา้ การกระทาความผิดตาม (2) เป็นเหตใุ ห้ผอู้ ่นื ถงึ แกค่ วามตาย ต้องระวางโทษจาคุกตง้ั แต่สิบปีถึงย่ีสิบปี มาตรา 13 ผู้ใดจาหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคาส่ังท่ีจัดทาข้ึนโดยเฉพาะเพ่ือนาไปใช้เป็นเคร่ืองมือในการกระทาความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 10 หรือมาตรา 11 ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ หน่งึ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินสองหม่ืนบาท หรือทั้งจาท้ังปรบั มาตรา 14 ผู้ใดกระทาความผิดท่ีระบุไว้ดังต่อไปน้ี ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหน่งึ แสนบาท หรือท้ังจาทง้ั ปรับ(1) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์อันเปน็ เท็จ โดยประการทน่ี า่ จะเกิดความเสียหายแกผ่ ูอ้ ืน่ หรือประชาชน

(2) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซง่ึ ข้อมลู คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อใหเ้ กดิ ความต่นื ตระหนกแกป่ ระชาชน(3) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเก่ียวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผดิ เก่ียวกบั การก่อการรา้ ยตามประมวลกฎหมายอาญา(4) นาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทว่ั ไปอาจเข้าถงึ ได้(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ(4) มาตรา 15 ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยนิ ยอมให้มีการกระทาความผิดตามมาตรา 14 ในระบบคอมพิวเตอร์ทีอ่ ยู่ในความควบคุมของตน ตอ้ งระวางโทษเช่นเดยี วกบั ผูก้ ระทาความผิดตามมาตรา 14 มาตรา 16 ผู้ใดนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ท่ีประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีปรากฏเป็นภาพของผอู้ ่นื และภาพน้นั เป็นภาพทเี่ กดิ จากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทาให้ผู้อื่นน้ันเสียช่ือเสียง ถูกดูหม่ิน ถูกเกลียดชงั หรือไดร้ บั ความอับอาย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือท้ังจาทัง้ ปรับถ้าการกระทาตามวรรคหนงึ่ เปน็ การนาเข้าขอ้ มลู คอมพวิ เตอรโ์ ดยสจุ ริต ผกู้ ระทาไม่มีความผิดความผิดตามวรรคหน่ึงเปน็ ความผิดอนั ยอมความได้ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหน่ึงตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสยี หายร้องทกุ ข์ได้ และใหถ้ อื ว่าเปน็ ผู้เสียหาย มาตรา 17 ผ้ใู ดกระทาความผิดตามพระราชบัญญตั ินี้นอกราชอาณาจักรและ(1) ผู้กระทาความผิดน้ันเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศท่ีความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอใหล้ งโทษ หรอื(2) ผู้กระทาความผิดน้ันเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจะตอ้ งรบั โทษภายในราชอาณาจักร หมวด 2 พนักงานเจ้าหนา้ ที่ มาตรา 18 ภายใต้บงั คบั มาตรา 19 เพือ่ ประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีท่ีมีเหตุอันควรเช่ือได้ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีมีอานาจอย่างหนึ่งอย่างใด

ดังต่อไปนี้ เฉพาะท่ีจาเป็นเพ่ือประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทาความผิดและหาตัวผกู้ ระทาความผดิ(1) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลท่ีเก่ียวข้องกับการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพ่ือให้ถอ้ ยคา สง่ คาชีแ้ จงเปน็ หนงั สอื หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดท่ีอยู่ในรูปแบบท่ีสามารถเข้าใจได้(2) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อส่ือสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรอื จากบุคคลอน่ื ทเี่ กี่ยวขอ้ ง(3) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเก่ียวกับผู้ใช้บริการท่ีต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผูใ้ ห้บรกิ ารให้แก่พนกั งานเจ้าหนา้ ที่(4) ทาสาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ท่ีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีท่ีระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าท่ี(5) สั่งให้บคุ คลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ท่ีใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมลู คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกลา่ วใหแ้ ก่พนกั งานเจา้ หน้าท่ี(6) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพวิ เตอร์ ขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์ ข้อมลู จราจรทางคอมพวิ เตอรห์ รืออุปกรณ์ท่ีใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทาความผิด หรือเพ่ือสืบสวนหาตัวผู้กระทาความผิดและส่ังให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพวิ เตอร์ ทีเ่ กยี่ วขอ้ งเท่าท่จี าเป็นใหด้ ้วยก็ได้(7) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทาการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับดังกลา่ ว(8) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จาเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผดิ และผกู้ ระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 19 การใช้อานาจของพนกั งานเจ้าหนา้ ทต่ี ามมาตรา 18 (4) (5) (6) (7) และ (8) ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทย่ี น่ื คารอ้ งตอ่ ศาลที่มีเขตอานาจเพอ่ื มีคาส่ังอนญุ าตใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ท่ดี าเนนิ การตามคาร้องทงั้ นี้ คาร้องตอ้ งระบุเหตุอันควรเช่ือไดว้ า่ บคุ คลใดกระทาหรอื กาลงั จะกระทาการอยา่ งหน่งึ อยา่ งใดอนั เปน็ความผดิ ตามพระราชบัญญัตนิ ี้ เหตุทต่ี ้องใชอ้ านาจ ลักษณะของการกระทาความผิด รายละเอียดเกี่ยวกบัอปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการกระทาความผดิ และผู้กระทาความผิด เท่าทส่ี ามารถจะระบุได้ ประกอบคาร้องด้วยในการพจิ ารณาคารอ้ งใหศ้ าลพิจารณาคาร้องดังกลา่ วโดยเร็วเมอื่ ศาลมคี าส่งั อนุญาตแล้ว ก่อนดาเนินการตามคาส่ังของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสาเนาบันทึกเหตุอนั ควรเช่อื ทท่ี าใหต้ ้องใชอ้ านาจตามมาตรา 18 (4) (5) (6) (7) และ (8) มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอรน์ ั้นไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้นให้พนกั งานเจา้ หน้าท่ีส่งมอบสาเนาบันทกึ นัน้ ใหแ้ กเ่ จา้ ของหรอื ผูค้ รอบครองดังกลา่ วในทันทีทีก่ ระทาได้

ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ทีผ่ เู้ ป็นหัวหนา้ ในการดาเนนิ การตามมาตรา 18 (4) (5) (6) (7) และ (8) ส่งสาเนาบนั ทึกรายละเอยี ดการดาเนินการและเหตุผลแห่งการดาเนินการใหศ้ าลที่มีเขตอานาจภายในสี่สิบแปดชว่ั โมงนบั แตเ่ วลาลงมอื ดาเนนิ การ เพอ่ื เปน็ หลักฐานการทาสาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 18 (4) ให้กระทาได้เฉพาะเม่ือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดาเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครองขอ้ มูลคอมพิวเตอรน์ นั้ เกินความจาเป็นการยดึ หรืออายัดตามมาตรา 18 (8) นอกจากจะต้องส่งมอบสาเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัดมอบให้เจ้าของหรือผคู้ รอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้วพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรืออายัดไว้เกินสามสบิ วนั มไิ ด้ ในกรณีจาเป็นท่ีต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคาร้องต่อศาลที่มีเขตอานาจเพือ่ ขอขยายเวลายดึ หรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายคร้ังรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิบวัน เมื่อหมดความจาเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกาหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจา้ หน้าทีต่ ้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ทย่ี ึดหรอื ถอนการอายดั โดยพลันหนังสอื แสดงการยดึ หรืออายดั ตามวรรคห้าใหเ้ ปน็ ไปตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง มาตรา 20 ในกรณีท่ีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทาให้แพร่หลาย ซ่ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีอาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามท่ีกาหนดไว้ในภาคสองลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 แหง่ ประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน พนกั งานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคาร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอานาจขอใหม้ ีคาส่ังระงับการทาให้แพร่หลายซ่ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์น้ันได้ในกรณีท่ีศาลมีคาสั่งให้ระงับการทาให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีทาการระงับการทาให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทาให้แพร่หลายซ่ึงขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์นน้ั ก็ได้ มาตรา 21 ในกรณที ีพ่ นักงานเจ้าหนา้ ที่พบว่า ข้อมูลคอมพวิ เตอร์ใดมีชุดคาสง่ั ไม่พงึ ประสงคร์ วมอยดู่ ว้ ยพนักงานเจ้าหนา้ ทอี่ าจยื่นคาร้องต่อศาลทีม่ เี ขตอานาจเพื่อขอให้มีคาสงั่ หา้ มจาหน่ายหรือเผยแพร่ หรอื ส่งัใหเ้ จ้าของหรอื ผคู้ รอบครองขอ้ มูลคอมพิวเตอรน์ ั้นระงับการใช้ ทาลายหรอื แก้ไขข้อมูลคอมพวิ เตอรน์ นั้ ได้หรอื จะกาหนดเง่ือนไขในการใช้ มไี ว้ในครอบครอง หรอื เผยแพร่ชดุ คาสง่ั ไมพ่ งึ ประสงค์ดงั กล่าวก็ได้ชุดคาสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคาสั่งที่มีผลทาให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือชดุ คาส่ังอืน่ เกดิ ความเสียหาย ถกู ทาลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพ่ิมเติมขัดข้อง หรือปฏิบตั ิงานไม่ตรงตามคาส่ังทีก่ าหนดไว้ หรอื โดยประการอ่ืนตามที่กาหนดในกฎกระทรวงท้ังน้ี เว้นแต่เป็นชุดคาสั่งท่ีมุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคาส่ังดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา 22 ห้ามมิใหพ้ นักงานเจ้าหน้าทีเ่ ปดิ เผยหรือส่งมอบขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพวิ เตอร์ หรอื ข้อมูลของผู้ใช้บรกิ าร ทีไ่ ดม้ าตามมาตรา 18 ใหแ้ กบ่ คุ คลใดความในวรรคหนึง่ มใิ ห้ใชบ้ งั คบั กับการกระทาเพือ่ ประโยชนใ์ นการดาเนินคดีกบั ผูก้ ระทาความผดิ ตามพระราชบญั ญัตินี้ หรอื เพ่ือประโยชนใ์ นการดาเนินคดกี บั พนกั งานเจ้าหน้าท่เี กีย่ วกับการใชอ้ านาจหนา้ ท่ีโดยมชิ อบ หรือเป็นการกระทาตามคาสั่งหรือทีไ่ ดร้ ับอนญุ าตจากศาลพนกั งานเจา้ หน้าที่ผูใ้ ดฝา่ ฝนื วรรคหนึ่งตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กินสามปี หรอื ปรับไมเ่ กินหกหมน่ื บาท หรือท้งั จาทั้งปรบั มาตรา 23 พนกั งานเจา้ หน้าที่ผ้ใู ดกระทาโดยประมาทเปน็ เหตใุ ห้ผอู้ ่นื ล่วงรูข้ อ้ มูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรอื ข้อมูลของผู้ใช้บริการ ทีไ่ ด้มาตามมาตรา 18 ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หนงึ่ปี หรอื ปรับไมเ่ กินสองหมื่นบาท หรอื ทงั้ จาทั้งปรับ มาตรา 24 ผู้ใดล่วงรขู้ อ้ มลู คอมพิวเตอร์ ขอ้ มูลจราจรทางคอมพวิ เตอรห์ รือข้อมลู ของผู้ใชบ้ รกิ าร ที่พนกั งานเจา้ หนา้ ทไ่ี ดม้ าตามมาตรา 18 และเปิดเผยข้อมูลน้ันตอ่ ผ้หู นง่ึ ผใู้ ด ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรอื ปรับไมเ่ กินสหี่ มืน่ บาท หรือทั้งจาทัง้ ปรับ มาตรา 25 ข้อมลู ข้อมลู คอมพวิ เตอร์ หรอื ข้อมลู จราจรทางคอมพวิ เตอร์ที่พนกั งานเจ้าหนา้ ทไ่ี ด้มาตามพระราชบญั ญัติน้ี ให้อ้างและรบั ฟงั เป็นพยานหลกั ฐานตามบทบัญญตั แิ ห่งประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญาหรือกฎหมายอ่นื อันว่าดว้ ยการสบื พยานได้ แต่ต้องเปน็ ชนิดทม่ี ไิ ดเ้ กิดขน้ึ จากการจูงใจมีคาม่ันสญั ญา ขูเ่ ขญ็ หลอกลวง หรือโดยมชิ อบประการอ่นื มาตรา 26 ผูใ้ ห้บริการตอ้ งเก็บรกั ษาขอ้ มูลจราจรทางคอมพวิ เตอร์ไว้ไมน่ อ้ ยกวา่ เกา้ สบิ วันนับแต่วนั ท่ีขอ้ มูลนั้นเข้าสูร่ ะบบคอมพวิ เตอร์ แตใ่ นกรณีจาเปน็ พนักงานเจ้าหน้าท่ีจะส่ังให้ผู้ใหบ้ ริการผใู้ ดเก็บรกั ษาข้อมูลจราจรทางคอมพวิ เตอรไ์ ว้เกินเก้าสิบวันแตไ่ ม่เกินหนึง่ ปีเปน็ กรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ผูใ้ ห้บริการจะต้องเกบ็ รกั ษาขอ้ มูลของผ้ใู ชบ้ รกิ ารเทา่ ท่ีจาเปน็ เพอ่ื ให้สามารถระบตุ ัวผู้ใช้บรกิ ารนับต้ังแต่เร่ิมใชบ้ รกิ ารและตอ้ งเก็บรักษาไวเ้ ป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ เกา้ สบิ วันนับต้งั แตก่ ารใชบ้ ริการส้นิ สุดลงความในวรรคหนึง่ จะใชก้ บั ผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมอ่ื ใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรปี ระกาศในราชกจิ จานุเบกษาผ้ใู ห้บริการผู้ใดไมป่ ฏิบตั ิตามมาตรานี้ ตอ้ งระวางโทษปรบั ไมเ่ กนิ ห้าแสนบาท มาตรา 27 ผใู้ ดไม่ปฏบิ ตั ิตามคาสง่ั ของศาลหรือพนกั งานเจา้ หนา้ ทที่ ี่สั่งตามมาตรา 18 หรือมาตรา 20หรือไม่ปฏิบตั ติ ามคาส่ังของศาลตามมาตรา 21 ตอ้ งระวางโทษปรบั ไม่เกนิ สองแสนบาทและปรบั เป็นรายวันอกี ไมเ่ กินวนั ละหา้ พันบาทจนกว่าจะปฏิบตั ใิ หถ้ ูกตอ้ ง มาตรา 28 การแตง่ ต้ังพนักงานเจ้าหน้าท่ตี ามพระราชบัญญตั ิน้ี ให้รฐั มนตรแี ต่งตงั้ จากผมู้ ีความรู้และความชานาญเกย่ี วกบั ระบบคอมพิวเตอรแ์ ละมีคุณสมบตั ติ ามท่ีรัฐมนตรีกาหนด

มาตรา 29 ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ีตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ีเปน็ พนกั งานฝา่ ยปกครองหรอื ตารวจชน้ั ผใู้ หญ่ตามประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญามีอานาจรับคาร้องทกุ ข์หรือรับคากลา่ วโทษ และมอี านาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ีในการจบั ควบคมุ ค้น การทาสานวนสอบสวนและดาเนินคดผี ู้กระทาความผดิ ตามพระราชบัญญตั ินี้บรรดาที่เปน็ อานาจของพนกั งานฝ่ายปกครองหรอื ตารวจชนั้ ผู้ใหญ่ หรอื พนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา ใหพ้ นักงานเจา้ หน้าทปี่ ระสานงานกบั พนักงานสอบสวนผูร้ ับผิดชอบเพือ่ดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ีต่อไปให้นายกรฐั มนตรีในฐานะผู้กากบั ดูแลสานักงานตารวจแห่งชาติและรฐั มนตรีมอี านาจร่วมกันกาหนดระเบียบเก่ียวกับแนวทางและวิธีปฏบิ ตั ใิ นการดาเนินการตามวรรคสอง มาตรา 30 ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี พนักงานเจา้ หน้าทตี่ ้องแสดงบตั รประจาตวั ต่อบคุ คลซึ่งเกย่ี วข้องบตั รประจาตวั ของพนกั งานเจ้าหนา้ ท่ใี หเ้ ป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรปี ระกาศในราชกิจจานเุ บกษา ผรู้ บั สนองพระบรมราชโองการ พลเอก สรุ ยุทธ์ จลุ านนท์ นายกรฐั มนตรีหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ เนือ่ งจากในปจั จุบนั ระบบคอมพิวเตอรไ์ ด้เปน็ สว่ นสาคญั ของการประกอบกิจการและการดารงชวี ติ ของมนุษย์ หากมผี ูก้ ระทาด้วยประการใดๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไมส่ ามารถทางานตามคาสงั่ ทก่ี าหนดไวห้ รือทาใหก้ ารทางานผดิ พลาดไปจากคาส่ังท่ีกาหนดไว้ หรอื ใช้วิธีการใดๆ เข้าลว่ งรู้ขอ้ มูล แก้ไข หรอื ทาลายข้อมูลของบคุ คลอ่ืนในระบบคอมพิวเตอร์โดยมชิ อบ หรอื ใชร้ ะบบคอมพวิ เตอรเ์ พื่อเผยแพร่ข้อมลู คอมพวิ เตอรอ์ นั เป็นเท็จหรอื มีลักษณะอันลามกอนาจาร ยอ่ มกอ่ ให้เกดิ ความเสยี หาย กระทบกระเทอื นต่อเศรษฐกิจ สังคม และความม่ันคงของรัฐ รวมทงั้ความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกาหนดมาตรการเพ่ือป้องกันและปราบปรามการกระทาดังกล่าว จงึ จาเปน็ ต้องตราพระราชบญั ญตั ิน้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook