Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่นล้อวงกลม

เล่นล้อวงกลม

Published by ปวีณ์กร คําเสียง, 2019-06-17 10:18:27

Description: คู่มือผู้รับบริการ เล่นล้อวงกลม

Search

Read the Text Version

เร่อื งเล่นลอ้ วงกลม ศูนยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พอื่ การศกึ ษาสระแกว้ สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ฐานการเรยี นรู้ท่ี 11 เรอ่ื ง เลน่ ลอ้ วงกลม

กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 11 เรอื่ ง เลน่ ลอ้ วงกลม เวลา 2 ชวั่ โมง แนวคดิ ล้อวงกลมหรอื ตลี กู ลอ้ เปน็ การละเลน่ พนื้ บ้านของไทย อปุ กรณใ์ นการเลน่ ประกอบไปดว้ ยวงลอ้ และ ไมต้ ที ท่ี าจากไม้ไผ่ ล้อวงกลมมวี ิธกี ารเลน่ โดยการออกแรงใช้ไม้ตหี รือผลักทข่ี อบของวงลอ้ ทาใหว้ งลอ้ เคลอื่ นท่ี เราสามารถนาวัสดุอุปกรณ์อ่ืนๆ ท่เี หมาะสมมาใชใ้ นการเลน่ ลอ้ วงกลมแทนวัสดทุ ที่ าจากไมไ้ ผ่ ในการแข่งขนั เล่นลอ้ วงกลมสามารถกาหนดระยะทางในการแขง่ ขัน โดยใชห้ น่วยทไ่ี มใ่ ช่หนว่ ยมาตรฐานในการวัดและบอก ระยะทาง วตั ถปุ ระสงค์ เมอ่ื สิ้นสุดแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรนู้ ีแ้ ล้ว ผู้รับบริการสามารถ 1. สงั เกตและระบลุ ักษณะทีป่ รากฏของวัสดทุ ี่นามาใชเ้ ปน็ ของเลน่ ลอ้ วงกลม 2. สงั เกตและอธบิ ายผลของการออกแรงท่มี ตี อ่ การเคลอ่ื นท่ขี องของเลน่ ล้อวงกลม 3. วดั และบอกระยะทางในการแขง่ ขนั ตีลอ้ วงกลมโดยใชห้ นว่ ยทีไ่ มใ่ ชห่ นว่ ยมาตรฐาน 4. ออกแบบวางแผนการเลน่ ตลี ้อวงกลมให้เขา้ เส้นชยั ได้เร็วที่สดุ เนอ้ื หา 1. แรงและการเคล่อื นที่ 2. การวัดระยะทาง 3. รูปทรงเรขาคณิต ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของผรู้ บั บรกิ าร กจิ กรรมทดสอบกอ่ นเรยี น เรอ่ื ง เลน่ ลอ้ วงกลม คาช้แี จง ใหผ้ ู้รับบริการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอื่ ง เลน่ ล้อวงกลม ซงึ่ มีขอ้ สอบท้งั หมดจานวน 5 ขอ้ (เม่ือผู้รับบรกิ ารทาแบบทดสอบเสรจ็ เรียบร้อยแล้ว ผู้รบั บรกิ ารสามารถตรวจคาตอบไดต้ ามเฉลยคาตอบทา้ ย กจิ กรรม)

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คะแนนทไี่ ด้…………คะแนน เรอ่ื ง เลน่ ลอ้ วงกลม คะแนนเต็ม 5 คะแนน คาชแ้ี จง 1. ใหผ้ ูร้ ับบรกิ ารกาเคร่ืองหมาย X (กากบาท) หน้าข้อที่ถกู ตอ้ งเพียงขอ้ เดียว 2. แบบทดสอบนี้มขี ้อสอบจานวน 5 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เมอ่ื ผู้รบั บริการทาแบบทดสอบเสรจ็ เรียบร้อยแลว้ ผู้รับบริการสามารถตรวจคาตอบได้ตามเฉลย คาตอบท้ายกิจกรรม 1. ทดลองใช้มือปดั ลกู บอลที่อยนู่ ง่ิ ผลจะเปน็ อยา่ งไร ก. ลูกบอลแตก ข. ลูกบอลเคลือ่ นที่ ค. ไม่เกิดการเปล่ียนแปลง ง. ถกู ทกุ ข้อ 2. กิจกรรมในขอ้ ใดทีเ่ ราต้องออกแรงมากท่ีสดุ ก. เดนิ ข. นอน ค. ยืน ง. นงั่ 3. ระยะทางจากโรงจอดรถถึงตวั บ้าน ก. เมตร ข. เซนติเมตร ค. กโิ ลเมตร ง. ถูกทุกขอ้ 4. ผา่ คร่ึงกลางทรงกลม จะมหี นา้ ตดั เปน็ รปู ใด ก. วงรี ข. วงกลม ค. สเี หล่ยี ม ง. ถูกทกุ ขอ้ 5. ขอ้ ใดเปน็ หนว่ ยวดั ความยาวทั้งหมด ก. เมตร กโิ ลเมตร กรัม ข. มลิ ลิเมตร เซนติเมตร กรมั ค. เซนตเิ มตร เมตร มิลลิเมตร ง. เมตร มลิ ลิเมตร กรัม

กจิ กรรมการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ เรอ่ื ง เลน่ ลอ้ วงกลม คาช้แี จง 1. ใหผ้ รู้ บั บริการตอบคาถามในประเดน็ จานวน 4 ประเด็น ดงั นี้ ประเด็นที่ 1 “มีใครร้จู กั การเล่นล้อวงกลมบ้าง จงอธบิ ายมาพอเข้าใจ” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประเด็นท่ี 2 “อปุ กรณก์ ารเล่นมีรปู รา่ งลักษณะอยา่ งไร” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประเด็นที่ 3 “ทา่ นคดิ ว่าอุปกรณก์ ารเลน่ ทามาจากวสั ดุอะไร” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประเด็นที่ 4 “ท่านคดิ ว่าเพราะเหตใุ ดวงลอ้ จงึ เคลื่อนทไี่ ด้ ” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2..ให้ผู้รบั บรกิ ารและผู้จดั กิจกรรมสรุปสิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้เร่ืองเลน่ ล้อวงกลมรว่ มกนั ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… เฉลยแนวคาตอบ ประเด็นที่ 1 “มีใครรู้จกั การเล่นลอ้ วงกลมบา้ ง จงอธบิ ายมาพอเขา้ ใจ” (แนวคาตอบ ให้นักเรียน ตอบหรือบอกเล่าจากความร้หู รอื ประสบการณ์เดิม) ประเด็นที่ 2 “อุปกรณก์ ารเลน่ มีรูปร่างลกั ษณะอยา่ งไร” (แนวคาตอบ วงล้อเปน็ รปู วงกลมและไมต้ มี ี รปู ร่างเรยี วยาว) ประเดน็ ที่ 3 “ทา่ นคิดวา่ อุปกรณ์การเลน่ ทามาจากวสั ดุอะไร” (แนวคาตอบ ทาจากไม้ ไมไ้ ผ่ หรอื จากวสั ดุอ่ืน ๆ) ประเด็นท่ี 4 “ทา่ นคิดว่าเพราะเหตใุ ดวงลอ้ จงึ เคลื่อนท่ไี ด้ ” (แนวคาตอบ เพราะคนออกแรงตีไปทีว่ ง ลอ้ ) กจิ กรรมการออกแบบและปฏบิ ตั กิ ารทา เลน่ ลอ้ วงกลม วตั ถปุ ระสงค์ เมอื่ สน้ิ สดุ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นีแ้ ลว้ ผู้รับบริการสามารถ 1. สงั เกตและระบุลกั ษณะทีป่ รากฏของวัสดุทีน่ ามาใชเ้ ปน็ ของเลน่ ลอ้ วงกลม 2. สังเกตและอธบิ ายผลของการออกแรงท่มี ตี ่อการเคลื่อนทข่ี องของเลน่ ล้อวงกลม 3. วัดและบอกระยะทางในการแข่งขนั ตีล้อวงกลมโดยใชห้ นว่ ยทไ่ี มใ่ ชห่ น่วยมาตรฐาน 4. ออกแบบวางแผนการเลน่ ตลี ้อวงกลมใหเ้ ขา้ เส้นชยั ได้เร็วที่สุด

เนอ้ื หา 1. แรงและการเคลือ่ นที่ 2. การวัดระยะทาง 3. รปู ทรงเรขาคณิต คาชแี้ จง 1. แบ่งผรู้ ับบรกิ ารออกเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 5 - 10 คน 2. ใหผ้ ู้รับบรกิ ารแตล่ ะกลมุ่ ตามขอ้ 1 ปฏบิ ตั ติ ามใบกจิ กรรม เรอ่ื ง เลน่ ล้อวงกลม โดยดาเนนิ การตาม ขั้นตอนดังนี้ 2.1 อ่านเนอื้ หาเร่ือง เล่นลอ้ วงกลม 2.2 ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามท่กี าหนดให้ ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง เลน่ ลอ้ วงกลม เนอ้ื หาเรอ่ื ง เลน่ ลอ้ วงกลม ลอ้ วงกลมหรอื ตลี กู ลอ้ เปน็ การละเลน่ พื้นบา้ นของไทย อปุ กรณใ์ นการเล่นประกอบไปด้วยวงล้อและ ไมต้ ีท่ที าจากไม้ไผ่ ลอ้ วงกลมมีวธิ กี ารเล่นโดยการออกแรงใช้ไม้ตหี รอื ผลกั ท่ีขอบของวงลอ้ ทาใหว้ งล้อเคล่ือนที่ เราสามารถนาวสั ดอุ ปุ กรณอ์ นื่ ๆ ที่เหมาะสมมาใช้ในการเล่นล้อวงกลมแทนวสั ดทุ ่ที าจากไม้ไผ่ ในการแขง่ ขนั เล่นลอ้ วงกลมสามารถกาหนดระยะทางในการแข่งขัน โดยใช้หน่วยท่ีไมใ่ ชห่ น่วยมาตรฐานในการวดั และบอก ระยะทาง แรงและการเคลอ่ื นที่ แรง หมายถงึ ส่งิ ที่ทาให้วตั ถุเคลื่อนทหี่ รือเปลย่ี นตาแหนง่ ได้ เชน่ ทาให้วัตถุทีอ่ ยนู่ ิง่ เคลือ่ นทีไ่ ป หรือ ทาให้วตั ถทุ ี่เคลอ่ื นทีอ่ ยู่แล้วเคลอื่ นท่เี รว็ หรอื ช้าลง ตัวอย่างเมือ่ เราดนั หรือดึงประตู หรอื หนา้ ต่าง หรือแม้แต่ยกหนังสอื ยกกระเปา๋ เข็นรถ ทาไมประตู หน้าต่างถงึ เปิดปดิ ได้ ทาไมหนงั สอื หรอื กระเปา๋ จงึ ถูกยกข้ึน ทาไมรถยนต์หรอื รถเข็นจึงเคลื่อนทีไ่ ด้ และสงิ่ ท่ที า ให้วัตถตุ า่ งๆ ที่กล่าวมานี้เคลื่อนที่ได้ เราเรียกวา่ แรง แรงมหี ลายชนดิ ไดแ้ ก่ แรงยอ่ ย หมายถึง แรงทีเ่ ปน็ ส่วนประกอบของแรงหลายๆ แรง เชน่ การเล่นชกั เย่อ แยกเป็น สองฝา่ ย ถ้าจานวนคนเทา่ กนั ถา้ สองฝ่ายออกแรงเทา่ กัน จะไม่มฝี า่ ยใดชนะ แตถ่ า้ ฝา่ ยหน่ึงฝ่ายใดออกแรง มากกวา่ อกี ฝ่ายหนง่ึ ฝา่ ยท่ีออกแรงมากกวา่ จะชนะทนั ที

แรงลพั ธ์ หมายถึง ผลรวมของแรงยอ่ ยท้ังหมด หรือ ผลรวมแรงยอ่ ยสุดท้าย เชน่ ในภาพเลน่ ชักเย่อ ฝ่ายซา้ ยมือเปน็ ฝา่ ยชนะ เพราะผลของแรงลพั ธ์มีมากกวา่ ถ้ามีเพียงแรงเดยี วกจ็ ะแสดงตัวเปน็ ทง้ั แรง ยอ่ ยและแรงลพั ธ์ไปในตวั ผลของแรงลัพธท์ ม่ี ีคา่ เป็นศูนย์ จะทาให้สิง่ ตา่ งๆ หยดุ นิง่ อยกู่ บั ท่ี เชน่ ภาพการออก แรงผลักวัตถุสองขา้ งด้วยแรงทเี่ ทา่ กนั แรงดงึ คือ แรงทก่ี ระทาต่อวัตถุท่ีทาใหว้ ัตถุเคลื่อนท่ีเข้ามาหาตวั เรา เชน่ เราดึงแขนคณุ แมม่ า หาเรา เราลากเก้าอี้ เราดึงผา้ จากราวตากผา้ คนเลน่ ชักเยอ่ เด็กลากรถ เราลากควาย ฯลฯ แรงผลกั คอื แรงทีก่ ระทาตอ่ วตั ถทุ ท่ี าใหว้ ัตถเุ คล่อื นทีอ่ อกจากตวั เรา เช่น การผลักหน้าต่าง ผลกั ประตู เตะฟตุ บอล เขน็ รถ ตีลกู เทนนสิ ฯลฯ การใช้แรงผลกั สิ่งท่ีนง่ิ อย่กู ับที่กบั ส่งิ ทกี่ าลังเคลือ่ นท่ีอย่กู ต็ ่างกนั เชน่ เมื่อเตะฟตุ บอลทีก่ าลังกลิ้งไป ข้างหนา้ อย่แู ลว้ เราเตะต่อก็จะใชแ้ รงนอ้ ยกว่าเตะฟุตบอลทอี่ ยู่นง่ิ ส่วนบอลทีก่ าลังกลิง้ สวนทางมาหาตัวเรา เราตอ้ งใชแ้ รงผลักหรือเตะมากขนึ้ ดังน้ัน ถา้ เราใชแ้ รงผลักกับวัตถุทเ่ี คล่อื นทีไ่ ปทางเดียวกนั กับตวั เราจะใชแ้ รงน้อยกว่าผลักวตั ถทุ ่ี เคลอื่ นท่ีสวนทางกับเราหรือวง่ิ มาหาเรา แรงทาใหว้ ตั ถุเปลย่ี นแปลงรูปรา่ งอย่างไร ผลของการออกแรงไมใ่ ช่ทาใหว้ ัตถุเคลื่อนที่ไดห้ รอื หยดุ เคล่ือนที่เท่านั้น แต่แรงยงั มีผลตอ่ การ เปลยี่ นแปลงรปู รา่ งของวตั ถดุ ้วย เชน่ กระดาษที่ถูกขยา จะยับยู่ยี่ไม่เรยี บ เมอื่ เราออกแรงบบี หรือป้ัน ดิน เหนยี ว ดนิ น้ามนั ใหม้ รี ปู ร่างตามต้องการ จะเหน็ วา่ ดินมรี ูปรา่ งเปลีย่ นแปลงไป รปู รา่ งจะไมก่ ลบั มาอยู่ในสภาพ เดิม วตั ถุบางชนดิ เมอ่ื ออกแรงกระทาแล้วรปู ร่างของวตั ถจุ ะเปลี่ยนแปลงช่ัวคราว และจะกลับคนื เหมือนเดมิ เช่น ฟองนา้ ยางรดั ของ สปรงิ ลกู โปง่ ฯลฯ ดังน้นั เราจึงสรุปเร่ือง แรงไดด้ งั น้ี แรง คือ สิ่งที่ทาให้วัตถุเคลอื่ นท่ี แรงลพั ธ์ คอื ผลรวมของแรงย่อยทงั้ หมด ถา้ ผลรวมของแรงย่อยเป็นศูนย์วตั ถจุ ะไมเ่ คลอ่ื นท่ี แรงดึง คอื แรงทีท่ าใหว้ ัตถเุ คลือ่ นที่เขา้ มาหาตัวเรา แรงผลกั คอื แรงท่ที าให้วตั ถเุ คล่ือนท่ีออกจากตัวเรา แรงทาให้เกิดการเปลย่ี นแปลง คอื หลงั จากออกแรงแล้ว เกิดการเคล่อื นที่และเกดิ การเปลี่ยนแปลง รูปรา่ ง แรงผลกั กบั วัตถุเคลอื่ นทีไ่ ปทางเดียวกนั จะใชแ้ รงน้อยกว่าแรงทวี่ ัตถุเคล่ือนที่สวนทางหรือวง่ิ เข้าหา การวดั ระยะทาง การวัดระยะทาง หมายถงึ การหาความยาวระหว่างจดุ ที่ต้องการ โดยใชเ้ ครื่องมอื และวธิ ีต่างๆกัน และ มหี นว่ ยความยาวท่เี ปน็ มาตรฐาน สาหรบั กาหนดขนาดของระยะ หรือเป็นการหาระยะทาง ระหว่างเส้นด่ิงของ จุดท้ังสองท่ีความสูงเดียวกัน ระยะท่ีใช้วัดในการสารวจ มีลักษณะท่ีพึงประสงค์ 2 ประการคือ ต้องเป็น ระยะทางในแนวราบ และเป็นระยะในเส้นตรงการวัดระยะเพื่อหาความยาว หรือระยะห่างของจุดต่างๆ

จะตอ้ งมีหนว่ ยของระยะทเี่ ป็นสากลหรือเป็นทีร่ บั รแู้ ละใช้กันท่ัวไป หนว่ ยของระยะท่ียังคงใช้กนั ในปัจจุบันแบ่ง ไดเ้ ปน็ ระบบตา่ งๆ คอื 1. ระบบอังกฤษ กาหนดหน่วยระยะเปน็ น้ิว ฟุต หลา และไมล์โดยกาหนดคา่ ไวด้ งั น้ี 12 นวิ้ = 1 ฟุต 3 ฟตุ = 1 หลา 1,760 หลา = 1 ไมล์ ระยะ 1 ไมล์ในท่ีน้ีเป็นไมล์บก (Statute Mile) เมื่อเทียบเป็นฟุตแล้วจะยาว 5,280 ฟุต ถ้าเป็นระยะ 1 ไมล์ ทะเล (Nautical Mile) จะมคี วามยาว 6,080 ฟุตยาวกวา่ ไมลบ์ ก 800 ฟุต 2. ระบบเมตรกิ กาหนดของระยะไวด้ งั น้ี 10 มิลลเิ มตร = 1 เซนติเมตร 10 เซนติเมตร = 1 เดซเิ มตร 10 เดซิเมตร = 1 เมตร 10 เมตร = 1 เดคาเมตร 10 เดคาเมตร = 1 เฮกโตเมตร 10 เฮกโตเมตร = 1 กโิ ลเมตร ระบบเมตริกจะแบง่ หนว่ ยของระยะเป็นสว่ นยอ่ ยดงั กลา่ ว แตใ่ นประเทศไทยนิยมใช้เปน็ บางสว่ น คือ มิลลิเมตร เซนติเมตร เมตรและกิโลเมตร ขึ้นอยู่กับความยาวของระยะ กล่าวคือถ้าระยะสั้นจะวัดเป็นมิลลิเมตร เซนตเิ มตร หรอื เมตร แต่ระยะยาวจะวัดเป็นกิโลเมตร2.1.3 ระบบ SI Unit ( The International System of Unit ) หน่วยการวดั น้ีเกิดข้นึ เมื่อปคี .ศ.1960 เพอื่ ให้ทวั่ โลกใชห้ นว่ ยการวัดต่างๆเป็นหน่วยเดียวกัน ระยะหรือ ความยาวเป็นหนว่ ยพื้นฐาน (SI Base Unit) หน่วยของระบบ SI Unit มหี น่วยเป็นเมตร (Meter) ใช้สัญลักษณ์ m ถ้าหากเปน็ ระยะยาวจะใสต่ วั อักษรนาหนา้ หรอื ใช้ตัวเลขยกกาลงั ประกอบ เช่น 40 เมตร = 40 m. 600 เมตร = 600 m. 8,000 เมตร = 8 km. 8,000,000 จะเขียนเปน็ 8 × 10 6 m หรอื 8,000 km เปน็ ต้น 3. หน่วยวัดระยะของไทย ประเทศไทยมีหนว่ ยการวัดระยะที่เป็นเอกลกั ษณข์ องไทย คือ นิ้ว คืบ ศอก วา และเสน้ โดยมอี ตั ราเทยี บไดด้ ังน้ี 12 นวิ้ = 1 คืบ 2 คบื = 1 ศอก 4 ศอก = 1 วา 20 วา = 1 เส้น

400 เส้น = 1 โยชน์ หน่วยวดั ระยะของไทยเมอื่ เทยี บกบั เมตริกจะได้ดังนี้ 1 วา = 2 เมตร 1 เส้น = 40 เมตร ระยะทาง 400 เส้นจะเท่ากับ 16,000 เมตร หรือ 16 กิโลเมตร ประเทศไทยมกี ารวัดระยะเป็นเส้นในงานออกหนงั สอื สาคัญสาหรับทด่ี นิ โดยมหี น่วยเทยี บได้ ดังน้ี 1 เสน้ = 100 ขอ้ 1 ข้อ = 10 ปอยท์ 1 ปอยท์ = 10 ปวน 4. วธิ กี ารวัดระยะ การวดั ระยะโดยท่วั ไป แบ่งไดต้ ามลักษณะและวิธีท่ใี ชใ้ นการวัดระยะ 3 วธิ ี ดงั น้ี 1. การวัดระยะโดยวิธที างตรง (Direct Measurement) การวัดระยะโดยวิธีทางตรง เป็นวิธีการวัดที่ ตอ้ งมีการปฏบิ ตั เิ พอ่ื หาความยาวระหว่างจุดหรือตาแหน่งท่ีต้องการจริงๆ เช่น การใช้โซ่หรือเทป และการนับ กา้ ววดั ระยะ 2. การวดั ระยะโดยวธิ ีทางออ้ ม (Indirect Measurement) การวดั ระยะโดยวิธีทางอ้อมเป็นวิธีการหา ระยะระหว่างจุดที่ตอ้ งการโดยใช้เครือ่ งมือชนิดตา่ งๆและใช้วิธีการคานวณเข้าช่วยเพ่ือคานวณหาระยะแต่ไม่มี การปฏบิ ตั เิ พือ่ ทาการวัดระยะน้ันๆโดยตรง การวัดระยะทางอ้อมมีหลายวิธี เช่น การใช้เครื่องมือสับเทนบาร์ (Subtense Bar) การทาสเตเดีย (Stadia) และการวัดระยะบนแผนทีโ่ ดยการคานวณตามมาตราส่วน 40 3. การวัดระยะด้วยเครื่องมอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic Distance Measurement หรือ EDM.) รปู ทรงเรขาคณติ รปู เรขาคณติ / รปู ทรงเรขาคณติ รปู เรขาคณติ หมายถึง รปู ต่างๆ ทางเรขาคณิต เช่น รูปสามเหลี่ยม มดี ้าน 3 ด้าน มมี มุ 3 มมุ รูปสเี่ หลีย่ ม มดี ้าน 4 ด้าน มมี มุ 4 มมุ

รูปห้าเหล่ยี ม มดี ้าน 5 ดา้ น มมี ุม 5 มุม รปู หกเหล่ียม มีด้าน 6 ดา้ น มีมมุ 6 มมุ รูปแปดเหลีย่ ม มดี ้าน 8 ดา้ น มมี มุ 8 มุม รปู วงกลม มีเสน้ โค้งเป็นวงกลม และห่างจากจุดศูนย์กลางเปน็ ระยะทางเทา่ กัน รปู วงรี มเี สน้ เส้นโคง้ เป็นวงรี โดยห่างจากจุดศนู ย์กลางไมเ่ ทา่ กัน รปู ทรง เรขาคณติ รปู ทรงเรขาคณติ หมายถงึ รปู ท่ีมีสว่ นท่เี ปน็ พื้นผิว สว่ นสงู และสว่ นลึก หรือหนา รูปทรงกลม

รูปทรงสเี่ หลยี่ มมมุ ฉาก รปู ทรงกระบอก รปู เรขาคณติ สามมติ ิ ระดับช้นั มัธยมต้นน้ี นกั เรยี นควรมพี ื้นฐานเกีย่ วกบั พ้นื ท่ีผิวและปริมาตรท่ีควรทราบ ดังน้ี ปรซิ มึ ปรซิ มึ เปน็ รปู เรขาคณิตสามมิติทมี่ หี นา้ ตัด(ฐาน) ทงั้ สองข้างเปน็ รูปหลายเหลี่ยมท่ีเท่ากันทกุ ประการ หน้าตัด (ฐาน) ท้งั สองอยูใ่ นระนาบทข่ี นานกัน มหี น้าขา้ งเปน็ รปู สี่เหลี่ยมมมุ ฉาก การเรียกชื่อปรซิ ึมจะเรียก ตามรปู หนา้ ตัดของปริซึมสว่ นต่างๆของปรซิ มึ มชี ือ่ เรียก ดงั นี้ ทรงกระบอก ทรงกระบอก เป็นรูปเรขาคณติ สามมิติที่มีฐานสองฐานเปน็ รปู วงกลมที่เท่ากนั ทุกประการและอยบู่ น ระนาบทีข่ นานกนั และเม่อื ตัดรปู เรขาคณติ สามมิตนิ ้ันด้วยระนาบทีข่ นานกับฐานแล้ว จะไดห้ น้าตัดเปน็ วงกลม ทีเ่ ท่ากนั ทุกประการกนั ฐานเสมอ ด้านข้างเป็นผวิ เรยี บโค้งส่วนต่างๆของทรงกระบอก ขอ้ แตกตา่ งของปริซมึ กับทรงกระบอก คอื - ฐาน ปรซิ ึมเป็นรปู หลายเหลี่ยมทรงกระบอกเป็นวงกลม- ด้านขา้ ง ปรซิ ึมเป็นรปู สี่เหลี่ยมผืนผ้า ทรงกระบอกเปน็ ผวิ เรียบโค้ง พรี ะมดิ พรี ะมดิ เป็นรปู เรขาคณิตสามมติ ทิ ม่ี ีฐานเปน็ รปู เหลย่ี มใดๆ มียอดแหลมที่ไมอ่ ยบุ่ นระนาบเดยี วกันกบั ฐาน และหนา้ ทุกหน้าเป็นรปู สามเหลี่ยมทีม่ ีจดุ ยอดร่วมกันท่ียอดแหลมนน้ั การเรยี กช่ือพีระมิดจะเรยี กตามรูป ฐานของพรี ะมดิ สว่ นตา่ งๆของพีระมิด

กรวย กรวย เป็นรูปเรขาคณิตสามมิตทิ ี่มฐี านเปน็ รูปวงกลม มยี อดแหลมทีไ่ ม่อยใู่ นระนาบเดยี วกนั กับฐาน และเส้นที่ตอ่ ระหว่างจุดยอดกับจุดใดๆ บนขอบของฐานเป็นสว่ นของเส้นตรงดด้านขา้ งเป็นผิวโคง้ เรยี บระมิ ส่วนตา่ งๆของกรวย ข้อแตกตา่ งของพีระมดิ กับกรวย คอื - ฐาน พรี ะมดิ ฐานรูปหลายเหล่ียมกรวยฐานรปู วงกลม - ดา้ นข้าง พีระมดิ เป็นรูปสามเหล่ยี มผนื ผ้า กรวยเปน็ ผิวเรียบโคง้ ทรงกลม ทรงกลม เปน็ รปู เรขาคณิตสามมติ ทิ ี่มีด้านขา้ งเป็นผิวโคง้ เรียบ และจุดทกุ จุดบนผวิ โคง้ อยูห่ า่ งจากจุดคงทีจ่ ดุ หนง่ึ เป็นระยะเทา่ กัน เรียกจดุ คงทว่ี า่ จดุ ศนู ยก์ ลางของทรงกลม เรยี กระยะทเี่ ทา่ กนั วา่ รศั มีของทรงกลม สว่ นตา่ งๆของทรงกลม

กจิ กรรมการเล่น เลน่ ล้อวงกลม คาชี้แจง 1. ผรู้ บั บริการศึกษาใบความรู้สาหรับผู้รบั บริการ เรอื่ ง เลน่ ล้อวงกลม 2. ผรู้ บั บรกิ ารวดิ โี อคลปิ ตีลูกล้อ โดยให้ผู้รับบริการสังเกตและอภิปรายร่วมกนั 3. แบง่ ผรู้ ับบรกิ ารออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4 – 8 คน รบั วสั ดุอุปกรณ์ท่มี ีรปู เรขาคณิตแบบอื่น ๆ เช่น ทรง ส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก และลองเล่นเพื่อเปรียบเทียบกับวัสดุอุปกรณ์ที่มีรูปคล้ายรูปวงกลมว่ามีการ เคล่ือนท่ีเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร และสังเกตวา่ วสั ดุน้ันทามาจากอะไร 4. ผู้จัดกิจกรรมและผู้รับบรกิ ารรว่ มกนั กาหนดระยะทางของการแข่งขันและวิธีการวัดระยะทาง โดย อภปิ รายว่า สถานท่ีที่ใช้ในการแข่งขันต้องมีลักษณะอย่างไร ระยะทางจากจุดเริ่มต้นไปถึงสถานที่เส้นชัยไกล เท่าใด มีวธิ กี ารวดั ระยะทางได้อย่างไร หรือควรจะใช้หนว่ ยวัดหรือเครื่องมอื อะไรในการวัดระยะทาง หลังจากนัน้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เรียนร้รู ว่ มกนั ในการ ออกแบบวางแผนการเล่นตีล้อวงกลมให้เข้าเส้นชัยได้ เร็วท่ีสุด จะทาการแข่งขันหาผู้ที่ตีล้อวงกลมเข้าเส้นชัยได้เร็วที่สุดในระยะทางท่ีร่วมกัน โดยให้ผู้รับบริการใช้ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ไี ดร้ วบรวมกันมาและได้ลองเล่นไปแลว้ 5. ผูร้ ับบรกิ ารแต่ละกลมุ่ ลองนาอุปกรณท์ ีเ่ ตรียมไว้มาทดสอบการเล่นในบรเิ วณที่กาหนดขึ้นตาม วิธกี ารทีไ่ ดอ้ อกแบบไว้อย่างอสิ ระ ควรกาหนดเวลาเทา่ ไร 6. ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มช่วยกันระดมความคิดและปรับปรุงวิธีการเล่นหรือเปล่ียนอุปกรณ์ตาม ความคดิ ของแต่ละกลมุ่ ให้ผู้รบั บริการจากแต่ละกลมุ่ มาแขง่ ขันอกี รอบหน่งึ 7. เมอื่ เสรจ็ การแข่งขนั แล้ว ให้ตัวแทนกล่มุ ที่ชนะการแข่งขันออกมาแสดงอุปกรณแ์ ละบอกเล่าให้ เพ่ือนฟังในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ - มีอุปกรณอ์ ะไรบ้างทใี่ ชใ้ นการเลน่ ลอ้ วงกลม (แนวคาตอบ วงลอ้ และไม้ตี) - ในการตี มีวิธกี ารอย่างไรจงึ สามารถตลี ้อวงกลมใหเ้ ขา้ เส้นชัยได้เร็วทีส่ ุด (แนวคาตอบ ให้ตัวแทน กลุม่ สาธิตวิธกี ารตีให้เพอ่ื นด)ู บนั ทกึ ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามขนั้ ตอนที่ 1 ถงึ ขน้ั ตอนท่ี 7 โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้ 1. การยกตวั อยา่ งความรู้ทีน่ ามาใช้ในการตีลูกล้อวงกลม .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (เฉลยแนวคาตอบ ความร้ทู นี่ ามาใช้ในการตีลูกลอ้ วงกลม เชน่ วสั ดุอปุ กรณ์ทีม่ รี ปู คลา้ ยรูปวงกลมสามารถ เคล่อื นท่ีไดด้ ี)

2. การรา่ งแบบการเลน่ ล้อวงกลม พรอ้ มระบุวัสดุ อปุ กรณท์ ีใ่ ช้ในการเลน่ รวมท้ังอธบิ ายรายละเอียดอ่นื ๆ ช่ือชน้ิ งาน......................................................................................................... เฉลยแนวคาตอบ การรา่ งแบบกังหนั ลมเพ่ือผลติ ไฟฟ้าเปน็ กงั หนั ลมทร่ี บั พลังงานจลน์จากการเคลอื่ นทขี่ องลมและเปลี่ยนให้เปน็ พลงั งานกล จากนนั้ นาพลงั งานกลมาผลติ เป็นพลงั งานไฟฟ้า ปัจจุบันมีการนามาใชท้ ั้งกังหนั ลมขนาดเล็ก และ 3. บนั ทกึ ผลการทดสอบการเลน่ ล้อวงกลม ระดบั 2 เวลาที่ใช้ (วินาท)ี ครัง้ ท่ี 1 2 3 เวลาเฉล่ยี (เฉลยแนวคาตอบ การทดสอบการเลน่ ล้อวงกลม ระดับ 2 ใชเ้ วลาเข้าเส้นชยั นาน) 4. บันทกึ ผลการทดสอบการเล่นล้อวงกลม ระดบั 3 เวลาท่ีใช้ (วนิ าท)ี ครั้งท่ี 1 2 3 เวลาเฉล่ยี (เฉลยแนวคาตอบ การทดสอบการเล่นลอ้ วงกลม ระดับ 3 ใช้เวลาเข้าเสน้ ชัยไมน่ าน) ครง้ั ที่ 1 …….… วินาที ครง้ั ท่ี 2 ………. วนิ าที ครงั้ ที่ 3 ………. วินาที

5. อธบิ ายการปรบั ปรงุ การเล่นลอ้ วงกลม (กรณที ่ีผลการทดสอบไม่บรรลุผลตามทีต่ ้องการหรือมีการปรบั ปรงุ ชิ้นงาน) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (เฉลยแนวคาตอบ การปรบั ปรงุ การเล่นลอ้ วงกลม กรณที ี่ผลการทดสอบไมบ่ รรลุผลตามทต่ี ้องการหรอื มีการ ปรับปรุงชนิ้ งาน) คือ คร้งั ท่ี 1 ……………………………….……………………………….……………………………….……………………………. คร้งั ท่ี 2 ……………………………….……………………………….……………………………….………………………………. ครั้งที่ 3 ……………………………….……………………………….……………………………….………………………………. 6. บันทึกผลการแขง่ ขนั ของกลุม่ ตนเอง ผลการแข่งขนั รายการ เวลาท่ีใช้ ลาดบั ทไี่ ด้ (เฉลยแนวคาตอบ ผลการแขง่ ขันของกลุม่ ทัง้ 2 ครงั้ ใช้เวลาเฉลยี่ ประมาณ …………..วนิ าที) กจิ กรรมการระบปุ ญั หาและเงอื่ นไขจากสถานการณ์ คาช้แี จง 1. แบ่งผรู้ บั บริการออกเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 5 - 10 คน 2. ให้แต่ละกลุ่มตามขอ้ 1 โดยดาเนินการระบุปญั หาและเงื่อนไขจากสถานการณ์ที่กาหนดข้างล่าง สถานการณท์ กี่ าหนด ครอบครวั หนง่ึ มอี าชีพทานาเกลือ ซ่งึ การทานาเกลือจาเป็นต้องผนั น้าเขา้ สู่ทนี่ า โดยพบว่าบรเิ วณ พน้ื ท่ีนานั้นมีลมคอ่ นขา้ งแรงสมา่ เสมอตลอดทัง้ ปี ครอบครวั น้ตี อ้ งการประหยัดพลังงานจากการสูบน้าเข้านา ดว้ ยเครื่องสบู นา้ ทั่วไป จึงต้องการสร้างกงั หนั ลมเพื่อใชใ้ นการผนั นา้ เข้านา ภารกจิ ของผรู้ ับบรกิ ารแต่ละกลมุ่ คอื ออกแบบและสรา้ งกงั หนั ลมท่สี ามารถผนั นา้ เข้านาไดเ้ รว็ ท่สี ดุ โดยจาลองเหตุการณ์ด้วยการยกวัตถุที่ กาหนดใหไ้ ดเ้ รว็ ทส่ี ดุ

ผลการระบุปญั หาและเง่ือนไข จากสถานการณ์ท่กี าหนด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. เฉลยแนวคาตอบ ปัญหาและเง่ือนไข จากสถานการณ์ที่กาหนด คือ บริเวณพนื้ ท่นี าน้นั มลี มคอ่ นข้างแรงสม่าเสมอตลอด ทั้งปี จึงตอ้ งการสร้างกงั หนั ลมเพอ่ื ใชใ้ นการผันน้าเข้านาได้เร็วที่สดุ กจิ กรรมการนาสง่ิ ทีไ่ ด้เรียนรไู้ ปปฏิบัตแิ ละประยุกต์ใช้ คาช้แี จง ใหผ้ ้รู บั บริการแต่ละคน ตอบคาถามในประเดน็ “ท่านจะนาความรเู้ รือ่ ง กงั หนั ลมซุปเปอรแ์ มนไปปฏิบตั แิ ละประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งไร” ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. เฉลยแนวคาตอบ การนาความร้เู รอ่ื ง กงั หันลมซุปเปอร์แมนไปปฏิบตั แิ ละประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ดังนี้ 1. ใชใ้ นการสูบนา้ ซึง่ รบั พลังงานจลนจ์ ากลมพร้อมเปล่ยี นให้เป็นพลงั งานกล เพื่อใช้ในการสูบนา้ จาก บรเิ วณต่าข้นึ บริเวณสงู เพื่อใช้ทาการเกษตร หรือ เพ่ือการบรโิ ภค 2. ใชใ้ นการผลติ ไฟฟ้า รบั พลงั งานจลน์จากการเคลื่อนทพี่ ร้อมเปลี่ยนใหเ้ ป็นพลังงานกล แลว้ นา พลงั งานกลนน้ั มาผลิตเปน็ พลังงานไฟฟา้ ภมู ปิ ระเทศของบางประเทศทมี่ ีกระแสลมพัดอยา่ งรนุ แรงอย่าง สม่าเสมอ จะมกี ารนาพลังงานลมมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟา้ 3. ทานาเกลอื การใช้กังหนั ลมฉุดน้าเพ่อื ทานาเกลือ มใี นประเทศไทยมานานแล้ว โดยการประดษิ ฐ์ คดิ คน้ ข้ึนดว้ ยภูมิปัญญาชาวบา้ นในสมยั โบราณ เพ่ือใช้ในนาข้าว , นาเกลือ , นากงุ้ กอ่ ใหเ้ กิดรายไดใ้ นชมุ ชน 4. สรา้ งเป็นจดุ ดงึ ดูดนกั ท่องเทย่ี ว ทงุ่ กนั หันลมท่ยี นื สงู ตระหง่าน เรยี งรายกันอยใู่ นทุ่งกวา้ ง แลดู สวยงาม นอกจากจะใช้ประโยชน์ในการสร้างกระแสไฟฟา้ แลว้ ยงั สร้างเปน็ แลนดม์ าร์ค ใหน้ ักท่องเทย่ี วมา ถา่ ยรปู และชมวิว สร้างรายไดเ้ ขา้ ชุมชนได้อีกทาง

เฉลยแนวคาตอบ กจิ กรรมการระบปุ ัญหา กิจกรรมการนาส่ิงทไี่ ดเ้ รียนรู้ไปประยุกต์ กจิ กรรมทดสอบหลงั เรยี น เรอ่ื ง เลน่ ลอ้ วงกลม ใหผ้ รู้ บั บรกิ ารทาแบบทดสอบหลังเรยี นเรื่องไสก้ รอกอรอ่ ยดี มีประโยชน์ ซึ่งมขี อ้ สอบทง้ั หมดจานวน 5 ข้อ (เมอ่ื ผู้รับบรกิ ารทาแบบทดสอบเสรจ็ เรยี บร้อยแล้ว ผู้รับบริการสามารถตรวจคาตอบได้ตามเฉลยคาตอบ ท้ายกิจกรรม) แบบทดสอบหลงั เรยี น คะแนนทีไ่ ด…้ ………คะแนน เรอ่ื ง เลน่ ลอ้ วงกลม คะแนนเต็ม 5 คะแนน คาชีแ้ จง 1. ใหผ้ รู้ บั บริการกาเคร่ืองหมาย X (กากบาท) หน้าขอ้ ทถ่ี กู ต้องเพียงขอ้ เดียว 2. แบบทดสอบน้มี ขี อ้ สอบจานวน 5 ข้อๆ ละ 1 คะแนน 3. เม่อื ผู้รบั บริการทาแบบทดสอบเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว ผรู้ ับบริการสามารถตรวจคาตอบได้ตามเฉลย คาตอบท้ายกิจกรรม 1. ทดลองใชม้ อื ปดั ลกู บอลท่อี ยนู่ ง่ิ ผลจะเป็นอยา่ งไร ก. ลกู บอลแตก ข. ลกู บอลเคลื่อนท่ี ค. ไม่เกิดการเปลยี่ นแปลง ง. ถูกทุกข้อ 2. กจิ กรรมในขอ้ ใดทีเ่ ราตอ้ งออกแรงมากที่สดุ ก. เดิน ข. นอน ค. ยืน ง. น่งั 3. ระยะทางจากโรงจอดรถถึงตัวบ้าน ก. เมตร ข. เซนติเมตร ค. กิโลเมตร ง. ถูกทุกข้อ

4. ผ่าครง่ึ กลางทรงกลม จะมีหนา้ ตัดเปน็ รปู ใด ก. วงรี ข. วงกลม ค. สเี หลยี่ ม ง. ถกู ทุกข้อ 5. ขอ้ ใดเปน็ หน่วยวดั ความยาวท้ังหมด ก. เมตร กิโลเมตร กรมั ข. มิลลิเมตร เซนตเิ มตร กรัม ค. เซนตเิ มตร เมตร มิลลิเมตร ง. เมตร มลิ ลิเมตร กรัม

1. ข. ลูกบอลเคลอ่ื นท่ี เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ก. เดนิ เรอ่ื งเลน่ ลอ้ วงกลม 3. ก. ชักธงชาติ 4. ก. เมตร เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 5. ข. วงกลม เรอ่ื งเลน่ ลอ้ วงกลม 6. ค. เซนตเิ มตร เมตร มลิ ลเิ มตร 7. ก. กลอ่ งไมข้ ีด 8. ง. สายวดั ตัว 9. ค. หอ้ งเรยี นกว้าง 6 เมตร 10. ค. ตลบั เมตร 1. ข. ลูกบอลเคลอ่ื นที่ 2. ก. เดิน 3. ก. ชักธงชาติ 4. ก. เมตร 5. ข. วงกลม 6. ค. เซนตเิ มตร เมตร มิลลเิ มตร 7. ก. กล่องไมข้ ีด 8. ง. สายวดั ตัว 9. ค. หอ้ งเรียนกวา้ ง 6 เมตร 10. ค. ตลบั เมตร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook