สถานที่ท่องเที่ยวล่าสุด

แกรนดแ์ คนยอนเกาะนางคา ดินแดนแสนลึกลบั ทเ่ี พ่ิงถูกคน้ พบ ตง้ั อยู่ บ้านเกาะนางคา อาเภอ ปากพะยนู เป็นภาพของหินผาสวยงามท่มี ีรปู ทรงแปลกหแู ปลกตา เปน็ สถานทท่ี ี่เพ่ิงจะถูกคน้ พบ ไดไ้ มน่ านนัก สาเหตขุ องการเกดิ หินทม่ี ีลกั ษณะคล้ายแกรนด์แคนยอนนี้ เน่ืองจากวา่ สมยั กอ่ น พ้นื ที่บรเิ วณนี้มกี ารขดุ ดนิ ไปขายต่อมาเมอื่ ขดุ เข้าไปเร่ือยๆ ได้ไปพบกับก้อนหินใหญ่เหล่านีเ้ ขา้ จึง เปลย่ี นแปลงให้กลายเป็นสถานท่ีทอ่ งเท่ยี วนั่นเอง ซ่งึ แกรนด์แคนยอนแห่งนีถ้ ือไดว้ า่ ท่ีนเ่ี ป็นอกี หนึ่งแลนดม์ ารค์ ของจังหวดั พทั ลงุ และจดุ ท่นี า่ สนใจก็เป็นลกั ษณะของหนิ ทม่ี รี ูปทรงสวยงามนเ่ี อง

เกาะส่ี เกาะหา้ เปน็ หมเู่ กาะหนิ ปูน ทมี่ าของชือ่ ท่ีนา่ สนใจนเี้ นอื่ งมาจากเมื่อมองจากทศิ ใตแ้ ละทศิ เหนือจะเหน็ เป็นเกาะสเ่ี กาะ แต่ถา้ มองจากทศิ ตะวนั ตกจะเหน็ เปน็ เกาะห้าเกาะ จึงเรียกว่า เกาะสี่ เกาะหา้ หรือมีชือ่ เรยี กอกี ชอ่ื หนึง่ คอื เกาะรงั นก เน่ืองจากมีถ้าโพรงมากมายทเี่ ปน็ แหล่งอาศยั ของ นกนางแอ่นทะเลจานวนมาก จงึ เปน็ แหล่งรังนกคณุ ภาพเย่ยี มทไี่ ดร้ บั การกลา่ วขานในระดับโลก ประกอบดว้ ยเกาะเลก็ เกาะใหญม่ ากมาย ซ่ึงเปน็ ดินแดนประวัติศาสตร์ ธรรมชาติสมบูรณ์ เปน็ ท่ี ก่อกาเนดิ ชุมชน อารยธรรม ศิลปวฒั นธรรมนับพันปี และสืบเน่อื งมาเป็นวิถีชีวติ ปจั จุบนั ผสมผสานกบั วฒั นธรรมสมยั ใหม่ นอกจากนี้ยงั ได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ซ่ึงประดิษฐานอยูบ่ ริเวณเกาะหน้าเทวดา ชมจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ของรัชกาลที่ 5 บรเิ วณหนา้ ผาเบอื้ งหลัง

จดุ ชมววิ ควนไขห่ ด หรอื ควนกรวด เราสามารถเดนิ ขึน้ ไมส่ งู มากประมาณ 15 ถงึ 20 เมตร ด้านบนควนทาเปน็ จุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวของภเู ขาท่เี รียงรายสลบั ซับซ้อน มีจดุ ใหถ้ า่ ยรูปกับ ววิ มที ่นี ั่งใหพ้ ักผอ่ นผ่อนใจ สามารถมาถา่ ยรปู ดวงอาทติ ย์ตกตอนเย็นสวยงามมาก ด้านทิศ ตะวนั ออก ตอนเชา้ ชมพระอาทิตย์ข้ึนได้ และลุ้นว่าจะมที ะเลหมอกตอนหนา้ ฝนหรือไม่ นอกจาก การชมวิวถา่ ยรปู แล้ว ยงั มีพระพทุ ธรูปให้ไหวส้ กั การะบชู า สักการะองคพ์ ระโพธสิ ตั ว์กวนอิมปาง ประทานพร 2 พ่นี อ้ ง ซง่ึ ได้มีการอัญเชิญมาจากสานกั ปฏบิ ตั ิธรรมวัดพระสุขขี อาเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อประดิษฐานเป็นศูนย์รว่ มแหง่ ศรทั ธาของชาวอาเภอศรบี รรพต ทมี่ าของชอ่ื ควน ไข่หด ควนเปน็ ภาษาใตแ้ ปลวา่ เนนิ สงู ว่ากันวา่ แตก่ ่อนไม่มที างถนน กว่าจะบกุ บัน่ ปา่ ยปีนขึ้นไปได้ เลน่ เอาเหนอ่ื ยสาหสั สากรรจ์ จนถงึ กบั ไขห่ ดกนั เลยทีเดียว

ศูนย์ปฏบิ ตั ธิ รรมเขาแม่พนั ธร์ุ ัตน์ อาเภอกงหรา มีมุมเงียบสงบทา่ มกลางธรรมชาติรมิ เขตรักษา พนั ธุส์ ตั วป์ า่ เทอื กเขาบรรทดั พัทลุง อกี ทงั้ บรรยากาศทชี่ วนสมั ผัสรบั อรุณดว้ ยแสงยามเช้าทพ่ี ระ อาทิตยข์ ึน้ จากขอบฟา้ เปน็ แสงสที อง นั่งมองตรงจุดชมววิ แหลมไทร มองลงมายังพืน้ ทด่ี า้ นลา่ งใน หมบู่ ้านของตาบลกงหรา ทา่ มกลางไออ่นุ แสงแดดและหมอกบางๆ ที่พดั โชยมาพร้อมกบั ลมเยน็ พรอ้ มท้งั จดุ เจดียห์ ิน อีกมุมหนึง่ ที่เปน็ ลานกางเตน็ ท์หน้าศูนย์ปฏบิ ตั ธิ รรม ยามคา่ คืนที่เหมาะ สาหรบั นั่งดูดาว และถ่ายหมดู่ วงดาวเส้นทางช้างเผือกไดอ้ ย่างสวยงาม เปน็ ศนู ยป์ ฏิบัติธรรมท่ี ชาวบ้านในพืน้ ทไ่ี ด้มีศรทั ธาอุทศิ ท่ดี นิ เป็นพทุ ธบูชา นมิ นต์ใหพ้ ระสงฆม์ าปฏิบตั ธิ รรมตามศาสนกิจ เพ่อื ทานบุ ารุงศาสนา เป็นทีย่ ดึ เหน่ยี วทางจิตใจ

นาตกมโนราห์ อย่ใู นเขตรักษาพันธส์ุ ตั วป์ า่ เทอื กเขาบรรทัด เปน็ นา้ ตกขนาดกลางๆ ไมเ่ ล็กและไม่ ใหญม่ าก แตเ่ หมาะสุดๆ กบั การพกั ผอ่ นและเลน่ น้าชิลๆ ท่ีสาคัญคือมนี ้าใสสะอาด สายน้าไหลแรง กาลงั ดี กอ่ นจะไหลสู่ลาธาร ซึง่ ภายในลาธารกจ็ ะมีโขดหนิ เกาะแกง่ อย่ตู ามทาง ยังมสี ะพาน แขวนไว้เปน็ มมุ เช็คอนิ สวยๆ ให้ไดเ้ ดนิ ชมธรรมชาติรอบๆ และไฮไลทข์ องทเ่ี ด็กๆ น่าจะชอบกัน สุดๆ กค็ อื มี สไลดเ์ ดอร์สีฟ้า ทถ่ี ูกสรา้ งขน้ึ มาผา่ นเนนิ หินไหลลงสูต่ ัวน้าตก

อ่างเก็บนาปา่ พะยอม หรือในอีกชื่อหนึง่ เรยี กวา่ เขอื่ นวงั เลน อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ ชว่ ย เกษตรในช่วงหน้าแล้ง ชว่ ยแกไ้ ขปัญหาอุทกภยั และเปน็ แหลง่ น้าเพอ่ื ชาวบา้ นในพื้นท่ี มี บรรยากาศธรรมชาติ ทวิ ทัศน์ที่โอบลอ้ มดว้ ยขนุ เขาน้อยใหญ่ ผนื ปา่ และอากาศบรสิ ทุ ธิ์ เปน็ สถานท่เี หมาะแก่การตัง้ แคม้ ปห์ รอื มาพกั ผ่อนชลิ ๆ ใกล้เขื่อนกย็ ังมจี ุดชมวิวทมี่ องเห็นได้ 360 องศาอกี ด้วย

บ่อนาร้อนโหละ๊ จงั กระ ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา เปน็ แหลง่ ทอ่ งเที่ยวท่ีเกดิ ขึน้ ตาม ธรรมชาติ น้าพุรอ้ นบ้านโหล๊ะจังกระ เปน็ บ่อคอนกรีต ขนาดประมาณ 10 เมตร จานวน 2 บอ่ ไว้ สาหรบั อาบน้า 1 บอ่ นา้ ใส ไม่มกี ล่ินกามะถนั พบสาหร่ายสีเขยี ว - ขาว เล็กนอ้ ย เกดิ อยู่ท่รี าบ สวนยางพาราห่างจากเทือกเขาบรรทดั ทอ่ี ยทู่ างทิศตะวนั ตก 1 กม.

ชมุ ชนล่องแก่งลานข่อย หลังจากการก่อสร้างอา่ งเก็บน้าหว้ ยนา้ ใส อันเนอื่ งมาจากพระราชดาริ ซ่งึ เป็นโครงการพฒั นาลมุ่ น้าปากพนงั แลว้ เสร็จเมอ่ื ปี 2539 ได้มีกลมุ่ แกนนาหลากหลายองค์กร ไม่ ว่าจะเป็น กานนั ผู้ใหญบ่ า้ น องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ตลอดถึงคณะครูของโรงเรียนตา่ งๆใน พืน้ ท่ี ต.ลานขอ่ ย อ.ปา่ พะยอม มานัง่ ล้อมวงพูดคยุ เพ่อื ตอ่ ยอดการสร้างมูลค่าเพมิ่ จากนา้ ในอา่ งที่ ไหลส่ลู ุ่มน้าปากพนงั จ.นครศรีธรรมราช จนตกผลึกถงึ เร่อื งการท่องเท่ยี วโดยการลอ่ งแก่งในลา คลองบา้ นทา่ สา้ น ทอ้ งท่ีม.3 ต.ลานขอ่ ย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลงุ แต่สดุ ทา้ ยเรอื่ งดงั กลา่ วก็เงยี บ หงายไป ต่อมาเมอ่ื ปี 2551 ไดม้ บี ุคคลสาคัญที่พลกิ ฟ้ืนพื้นทีส่ แี ดงใหเ้ ป็นสเี ขียวจนวงการท่องเท่ยี ว ตอ้ งยกใหเ้ ปน็ เบอร์ 1 คือ นายโยธิน เขาไข่แก้ว ผู้จัดการลอ่ งแก่งหนานมดแดงนั่นเอง โดยเร่ิมแรก ไดน้ าเรอื พายคายัคมาจานวน 5 ลา แลว้ ชวนชาวบา้ นในพื้นท่มี าร่วมสารวจเสน้ ในลาคลองบ้าน ทา่ สา้ น แตป่ รากฏวา่ ไมม่ ีใครเอาด้วยเพราะภาพของตาบลลานขอ่ ยในขณะนน้ั นกั ทอ่ งเทย่ี วต่าง นกึ ถงึ กลุม่ ผู้มีอิทธพิ ลและการเรยี กคา่ คมุ้ ครอง

อ่างเก็บนา้ หว้ ยนา้ ใส หรือเข่อื นห้วยน้ำใส ตงั อยหู่ มู่ท่ี 5 ตำ้ บลวังอำ่ ง อ้ำเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมรำช และหม่ทู ่ี 3 ตำ้ บลลำนขอ่ ย อำ้ เภอป่ำพะยอม จงั หวัดพทั ลุง เปน็ อ่ำงเก็บนำ้ ขนำดใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยภูเขำมำกมำย บรรยำกำศดี วิวสวย น้ำใสสะอำด

วัดรัตนาราม ต้งั อยู่ เลขที่ ๕๙๗ หมู่ที่ ๑ บา้ นปากพะยูน ตาบลปากพะยนู อาเภอปากพะยนู จังหวัดพทั ลงุ ๙๓๑๒๐ สงั กดั คณะสงฆ์มหานิกาย พน้ื ท่ตี ้ังวดั เป็นท่ีเนนิ สงู ลาดต่ามาทางทิศ ตะวนั ออก มีทีด่ ินตง้ั วดั เนอื้ ที่ ๔๔ ไร่ ๑ งาน ๑๗ ตารางวา ตามเอกสาร ส.ค. เลขท่ี ๕๒๗ และ ๕๒๘ วัดรตั นารามสร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ วนั ที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๘ สมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั มหาราช แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เดมิ มนี ามวา่ “ วัด ปากพะยูน ” บางคน เรียกว่า “ วดั บ่อ หมาแปะ ” ไดม้ ี พระอธกิ ารสุก มาริเริม่ ดาเนนิ การ สรา้ ง วดั นี้ ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๔๔๐ วดั รตั นาราม ได้รบั พระราชทานวิสงุ คามสมี า วนั ท่ี ๑ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙ เขตวสิ งุ คามสีมากว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร ไดผ้ กู พทั ธสมี า พ.ศ. ๒๔๙๐ เจ้าอาวาส นามวา่ พระครบู วร สรนะ พระพทุ ธรัตนากร วดั รตั นาราม (บ่อหมาแปะ๊ ปากพะยนู ) กาลังบรู ณะ อยู่บนควนพระนอน ปากพะยนู พทั ลงุ

หมู่บา้ นหตั กรรมรูปหนงั ตะลุง เป็นศนู ย์ฝึกงานแกะหนงั ตะลุงแหง่ ภาคใต้ เปดิ เมอื่ ปี พ.ศ.2524 ตามพระราชดารขิ องสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ิต์ิ พระบรมราชินีนาถ โดยมีนายอม่ิ จนั ทรช์ มุ เป็น หวั หนา้ ศูนยฯ์ ศนู ย์หตั ถกรรมรูปหนงั บางแกว้ แกะรูปหนงั ตะลงุ หนังใหญ่ และรปู แบบใหม่ ๆ ตาม ผู้สัง่ ซือ้ เอกลกั ษณ์ของตัวหนงั ท่ีนี้เนน้ ท่ีรปู ทรงของตวั หนงั เป็นชิน้ งานท่ีมีนา้ หนัก เนน้ ธรรมชาติ ท่ี ศูนยศ์ ิลปหัตถกรรมรูปหนงั บางแกว้ สง่ จาหน่ายรูปหนังท่ัวประเทศและตา่ งประเทศ กว่า 16 ประเทศ

พิพิธภณั ฑ์พระครพู ทิ กั ษ์ชยั เขต (พิณ อภภิ โู ต) ต้ังอยู่ท่วี ดั รัตนวราราม อาเภอบางแก้ว จังหวัด พทั ลุง วดั รตั นวราราม เติมชอ่ื วัดโคกยา่ นาง เปน็ วัดทตี่ ั้งอยกู่ ลางชุมชนเเละมพี ทุ ธศาสนิกชนมา ประกอบกิจกรรมทางพระพทุ ธศาสนาเปน็ จานวนมาก ภายในวัดมพี ิพธิ ภณั ฑท์ ่นี ่าสนใจ คอื พิพิธภณั ฑพ์ ระครูพทิ ักษช์ ยั เขต (พณิ อภิภูโต) อดตี เจา้ อาวาสรตั นวราราม ผู้สรา้ งคณุ ประโยชน์ อย่างมากมาย ภายในพิพิธภณั ฑ์มีการแบ่งการจัดกจิ กรรมเป็นสว่ น ๆ เช่น ส่วนของศิลปวัตถุ - โบราณวตั ถุ คอื เหรยี ญกษาปณ์ ธนบตั ร โบราณเคร่อื งใชส้ มยั โบราณ พระพทุ ธรปู จาลองสมัยต่าง ๆ ขวานหนิ ขดั เครอ่ื งปัน้ ดนิ เผาราชวงศ์ซ้อง พระพทุ ธรปู สาริด สมดุ ข่อยและเครือ่ งใช้พืน้ เมืองตา่ ง ๆ และพิพิธภัณฑแ์ หง่ นเ้ี ปดิ ให้เขา้ ชมเฉพาะวนั สาคญั ทางศาสนาหรอื วนั สาคญั ที่ทางวัดจัดขนึ้ เทา่ นน้ั หากอยากเข้าชมประสานไปไดค้ ณุ จัด มุสิกเจรญิ ประธานมลู นธิ ิพระครูพิทักษ์ชยั เขต (พณิ อภภิ โู ต) หมายเลขโทรศัพท์ 084-748-5353

อ่างเกบ็ นาคลองปา่ บอน ตงั้ อยู่ทบ่ี ้านโหละ๊ หาร หมู่ 7 ตาบลทงุ่ นารี อาเภอปา่ บอน จงั หวดั พัทลงุ เมือ่ นักทอ่ งเทย่ี วมาเท่ยี วแลว้ จะไดเ้ หน็ ความสวยงามของอ่างเกบ็ นา้ และขุนเขา พร้อมดว้ ยได้ สักการะหลวงปทู่ วดอกี ดว้ ย

นาตกเขาคราม ตงั้ อย่ใู นเขตอุทยานแหง่ ชาติเขาปู่ - เขายา่ หมูท่ ี่ 10 บ้านป่าสน ตาบลบา้ นนา อาเภอศรนี ครนิ ทร์ จังหวดั พัทลุง น้าตกเขาคราม ตง้ั อยใู่ นเขต อุทยานแห่งชาตเิ ขาปู่ - เขาย่า หมู่ที่ 10 บ้านปา่ สน ตาบลบ้านนา อาเภอศรนี ครินทร์ จงั หวดั พทั ลุง ตน้ นา้ เกิดจาก เทือกเขาบรรทัด กระแสน้าไหลผ่านนาความชุ่มชน้ื แผป่ กคลมุ หลายท้องที่ เช่น ตาบลบ้านนา ตาบลลาสนิ ธุ์ ตาบล ร่มเมอื ง ตาบลนาท่อม และตาบลทา่ แค และลงส่ทู ะเลสาบสงขลาในทสี่ ุด น้าตกมีน้าตก 9 ชัน้ สงู ราว 700 เมตร หนา้ ผาสวยงาม ผาหินลาดกวา้ ง ในลาธารมีฝงู ปลาโสด ปลาหวด ปลาโทง ปลา แก้มช้า มาแหวกว่ายวนเวยี นอยู่

นาตกหนานหรูด พทั ลงุ เปิดตัวแหล่งท่องเท่ยี วใหม่ ใสสะอาด เย็นสดช่ืน ปลอดภยั สวยงาม เดินทางสะดวก น้าตกหนานหรูด เป็นน้าตกทีส่ วยงาม น้าใสสะอาด บรรยากาศรม่ รน่ื น่าเลน่ น้า มากๆ ปลอดภัยท้งั กบั ผู้ใหญ่และเด็กๆ สไลเดอรธ์ รรมชาติ สามารถเเวะไปเลน่ นา้ ไดท้ นี่ ้ี เปน็ อีกที่ หนึง่ ทน่ี า่ สนใจ พิกดั ของนา้ ตก อยู่ท่ี ม.2 บ้านคลองหรัง่ ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง เดินทางสะดวก อยู่ห่างจากลานทีจ่ อดรถของควนนกเต้นประมาณ 100 เมตร

นาตกไพรวลั ย์ ตงั้ อยู่ในหนว่ ยพิทกั ษ์ป่าบ้านพดู เขตรกั ษาพันธส์ุ ตั วป์ า่ เขาบรรทัด ตาบลคลอง เฉลิม จังหวดั พัทลงุ เปน็ นา้ ตกขนาดใหญ่ เงียบสงบรม่ เย็นด้วยพรรณไมน้ านาชนิด บริเวณน้าตกมี ร้านอาหารบรกิ าร การเดนิ ทางจากตัวเมืองพัทลุง ใชท้ างหลวงหมายเลข 4 ถงึ สามแยกกงหรา เลยี้ วขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4122 ประมาณ 29 กโิ ลเมตร และมปี ้ายบอกทางไปทางน้าตกอีก 3 กโิ ลเมตร มีรา้ นอาหารและที่จอดรถให้บริการ

ผาผึง ตง้ั อยู่ในเขตอุทยานแหง่ ชาตเิ ขาปู่ - เขายา่ เป็นผาหนิ ปนู สีขาวสงู ชนั อยู่หา่ งจากท่ีทาการ ประมาณ 250 เมตร ผึ้งทน่ี เี่ ปน็ ผง้ึ หลวง ทางเดินขน้ึ ไปดผู ้งึ มีระยะทางประมาณ 50 เมตร และอกี ไมน่ านจะมีการพฒั นาทางเดินโดยสรา้ งสะพานไมเ้ พื่อใหเ้ ดนิ ไปไดอ้ ยา่ งสะดวกขึ้น อุทยานแห่งชาติ ต้ังมาแลว้ 28 ปี ผึ้งมกี ารมาสรา้ งรงั ไว้ทผ่ี ากอ่ นทอ่ี ทุ ยานมาต้ังเสยี อกี สนั นษิ ฐานว่าการท่ผี ึ้งไป สร้างรังท่หี น้าผาเป็นเพราะหนคี นท่มี าคอยรบกวนเมอื่ ตอนท่ยี ังสรา้ งรงั อยู่บนตน้ ไม้ \"รังผึง้ รา้ ง\" มี คนนาไปทายาเสนห่ ไ์ ด้ หรอื เอาไปต้มทาเทยี นไขได้ สามารถสอบถามข้อมูลเพ่มิ เติมไดท้ ่อี ุทยาน แหง่ ชาติเขาปู่-เขายา่ 074-689-194-5

อทุ ยานเขาปู่-เขายา่ ตั้งอยูท่ ีบ่ ้านในวงั ตาบลเขาปู่ อาเภอศรบี รรพต จงั หวัดพัทลุง อย่หู า่ งจาก จงั หวัดพัทลุง 37 กโิ ลเมตร สามารถเข้าถึงได้โดยทางรถยนตจ์ ากตวั เมืองจงั หวัดพทั ลุง ไปตามทาง หลวงแผ่นดนิ หมายเลข 41 ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร แยกซา้ ยเข้าทางหลวงจงั หวดั หมายเลข 4164 ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร และแยกซา้ ยเขา้ ไปประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะ ถงึ ท่ที าการอุทยานแหง่ ชาติ อยหู่ ่างจากจังหวัดพทั ลุง 37 กโิ ลเมตร สามารถเขา้ ถึงได้โดยทาง รถยนต์ จากตัวเมืองจังหวัดพทั ลงุ ไปตามทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 41 ระยะทางประมาณ 20 กโิ ลเมตร แยกซา้ ยเขา้ ทางหลวงจังหวดั หมายเลข 4164 ระยะทาง ประมาณ 17กโิ ลเมตร และ แยกซา้ ยเข้าไปประมาณ 3 กโิ ลเมตร กจ็ ะถึงทที่ าการอุทยาน แหลง่ ทอ่ งเทีย่ วทส่ี าคัญไดแ้ ก่ น้าตก เหรยี งทอง ถา้ วังนายผดุ น้าตกควนประ นา้ ตกปากแจม่ ถา้ ร่ืนเทพนมิ ติ ถ้ามัจฉาปลาวน สาหรบั ผู้ ท่พี กั แรม ตอ้ งเตรียมเครื่องนอนและอปุ กรณใ์ นการพกั แรมไปเอง และตอ้ งเกบ็ และทาความ สะอาดท่พี กั ให้เรียบร้อย เมอื่ เลกิ ใชแ้ ลว้ ต้องระมดั ระวังมิให้ไฟลุกลามไปยังทอ่ี ่นื

ผาปลดหนี ตัง้ อยู่ทอ่ี าเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลงุ เป็นสถานท่ีท่ีพบใหม่ กาลงั อย่ใู นระหว่างการ พัฒนาเปน็ แหล่งทอ่ งเท่ียว มาเท่ียวทีน่ ีค่ วรจะเตรียมเตน็ ทแ์ ละอปุ กรณพ์ กั แรมมาด้วย ผาปลดหน้ี ตง้ั อยู่ทอี่ าเภอศรบี รรพต จงั หวัดพทั ลุง เป็นสถานทที่ พ่ี บใหม่กาลงั อยูใ่ นระหว่างการพฒั นาเปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี ว เมอื่ ขึ้นไปจะเหน็ สายน้าคน่ั กลาง ทวิ เขาสลับซบั ซอ้ นซอ้ น ปา่ ไมท้ ีส่ มบูรณ์ นัน่ คือ อ่างเก็บน้าป่าพะยอม อาเภอศรบี รรพต จังหวัดพทั ลุง

วดั ถาเกา่ โดยวดั แห่งนี้ ตั้งอยใู่ นเขตพนื้ ที่ของตงั้ อยทู่ ่หี มู่ท่ี 11 ตาบลเขาปู่ อาเภอศรีบรรพต จังหวดั พทั ลุง เปน็ วดั ที่มอี ายุประมาณ 200 ปมี าแล้ว เมอ่ื มาถงึ บรเิ วณ ก่อนเขา้ ถ้าก็จะเป็นทางเดิน ขึ้นไปเป็นอย่างดี ส่วนหน้าก็มีการดูแล ตกแตง่ สวนสวยงาม มตี น้ ไมห้ ลากหลายชนดิ เชน่ กล้วยปา่ และบอน ต่อมาเมื่อเดินข้นึ ไปซงึ่ มีบนั ไดไม่สูงมากประมาณ 50 เมตร ก็จะพบกบั ศาลาแปดเหล่ยี ม เกา่ แก่ ถัดข้ึนไปจะเปน็ ลานขนาดใหญท่ ี่มไี ว้สาหรบั ประกอบกิจกรรมตา่ งๆภายในวัด สว่ นของ ด้านบนนน้ั จะมถี ้าเปน็ ห้องโถง 1หอ้ ง ในถา้ มพี ระพุทธรูปโลหะ 3 องค์ หน้าตักประมาณ 80 ซม. สูงประมาณ 30 ซม. ปัจจบุ นั นี้วัดถา้ เก่าไดก้ ลายเป็นแคส่ ถานทท่ี ่องเทย่ี วเทา่ นั้น ปัจจุบนั ไมไ่ ด้ เปน็ วัดตอ่ ไปอกี แลว้

นาตกโตนสะตอ เท่ียวนา้ ตกโตนสะตอกบั การทอ่ งเที่ยวโดยชมุ ชนตาบลหนองธง พบกบั ธรรมชาติ ที่งดงามนา่ ไปเยย่ี มเยือน ต.หนองธง อ.ปา่ บอน จ.พทั ลงุ เปน็ อกี หนึ่งตาบลที่ชาวบ้านมีความ หลากหลายในอาชีพ โดยเฉพาะทางด้านการเกษตร ชาวบา้ นหลายครอบครัวยดึ อาชีพปลูกสละ ขายสร้างรายได้เล้ียงครอบครวั นกั ทอ่ เที่ยวนิยมเดินทางมาทอ่ งเท่ียวดงู านในการทาสวนเกษตร ไมไ่ ด้มมี ุมท่องเทย่ี วเชิงเกษตรเพยี งอย่างเดยี วหมูบ่ า้ นท่อี ยใู่ นแนวริมปา่ เขตรกั ษาพนั ธุ์สตั วป์ ่าเขา บรรทดั พัทลงุ เปิดเส้นทางการทอ่ งเที่ยวเดินปา่ ศึกษาระบบนิเวศน์ของปา่ ต้นน้าน้าตกโตนสะตอขน้ึ

นาตกนกรา ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลงุ เปน็ น้าตกขนาดเลก็ แต่มคี วามสวยงามมากแห่ง หนึ่ง ปจั จบุ ันเปน็ สถานทพ่ี ักผ่อนของนกั ท่องเทยี่ วที่นยิ มท่องเที่ยวพกั ผอ่ นทา่ มกลางผนื ปา่ ธรรมชาติของเขาบรรทัดบริเวณรอบๆมผี ืนปา่ และต้นไมม้ ากมาย เป็นแหลง่ ท่องเทย่ี วท่เี หมาะ สาหรับการพกั ผ่อนเลน่ น้า นอกจากน้ีแลว้ ยังมีเส้นทางการเดนิ ปา่ ระยะสน้ั ทางหมู่บ้านได้กาหนด เส้นทางศกึ ษาธรรมชาติใหน้ กั ทอ่ งเท่ยี วทตี่ อ้ งการเดนิ ปา่ และชมทวิ ทศั นบ์ ริเวณโดยรอบ

นาตกปากราง ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พทั ลงุ เปน็ น้าตกขนาดเลก็ ในหมบู่ า้ นแต่เป็นทีร่ ูจ้ กั ของนักท่องเที่ยวทว่ั ประเทศเพราะในช่วง 2 ปที ผ่ี า่ นมามผี ูช้ มุ ชนและชาวบา้ นไดร้ ่วมกนั จดั สรา้ ง สไลเดอร์จึงเป็นจดุ สนใจจุดเดน่ ท่ดี ึงดดู นกั ท่องเที่ยวใหม้ าท่องเท่ยี วโดยเฉพาะเดก็ ๆ

ชมธรรมชาตธิ ารนาเยน็ ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พทั ลงุ ธารนา้ เย็นเปน็ แหลง่ ทีเ่ ท่ยี วธรรมชาติ ท่ีตอ้ งนง่ั เรอื เข้าไปชมได้รับการโปรโมตจากการท่องเที่ยวให้เป็นแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วแห่งใหมข่ อง จงั หวดั พัทลงุ มีบรกิ ารนง่ั เรอื เขา้ ชมโดยชาวบา้ นจะพายเรือพานกั ท่องเที่ยวลอดถา้ เข้าไปดคู วาม สวยงามภายใน มนี า้ ไหลจากถ้าน้ีตลอดปีสามารถมองเหน็ ปลาน้อยใหญ่ วา่ ยวนไปวนมา บางจุด จะมีประกายระยบิ ระยับราวกบั เกรด็ เพชรสวยงาม บางจุดก็จะมีรปู รา่ งแปลกตา มีลวดลาย แปลกๆที่ผนังถา้

ถาลอกอ ต.เขาชยั สน อ.เขาชยั สน จ.พัทลงุ หรอื เรยี กอีกชอื่ หน่งึ วา่ “ถา้ สุขใจ” เป็นถา้ ขนาดใหญ่ ภายในถ้าเปน็ ห้องโถงมแี สงลอดผ่านในยามเทีย่ งวันเป็นถ้าทมี่ คี วามหลากหลายของหินงอกหิน ยอ้ ยทง่ี ดงามตระการตา รวม 10 กว่าจุดภายในถา้ มีอากาศที่เยน็ สบาย

ถาพระ หมทู่ ่ี ต.เขาชยั สน อ.เขาชยั สน จ.พัทลุง การเขา้ ชมถา้ พระตอ้ งเดนิ ข้ึนบนั ไดโดยข้ันแรกจะ เจอกับลานกวา้ งหน้าถา้ มลี ักษณะเหมือนหอ้ งโถงแบบเปิด ข้ึนไปจะเห็นต้นไมน้ ้อยใหญห่ ้อยลงมา สวยงาม ข้างในหอ้ งแรกจะมบี อ่ น้าที่เชอ่ื กันวา่ ศักดิ์สทิ ธส์ิ ามารถนาไปต้มยาได้ บริเวณด้านในของ ถา้ จะมเี สาไม้ทถ่ี ูกแกะสลักให้คล้ายพระพุทธรูปไว้สักการะบูชา มีจิตรกรรมบนฝาผนงั ถ้าทสี่ วยงาม ท่เี กี่ยวกบั พุทธประวัตขิ องสมเดจ็ พระสัมมาสมั พุทธเจ้า สว่ นด้านบนเปน็ ท่ีประดิษฐานของพระ นอนหรือพระบรรทม ชอ่ื วา่ พระวมิ ุตตะโร มพี ุทธลกั ษณะงดงามมาก

ซากฟอสซลิ ดกึ ดาบรรพ์ 200 ปี ต.มะกอกเหนอื อ.ควนขนนุ จ.พัทลงุ แหล่งซากดกึ ดาบรรพ์ 250 ลา้ นปที ่สี ะสมในช้ันหินทถ่ี กู ค้นพบ เมื่อปี พศ.2531 ซึ่งซากดึกดาบรรพ์ Thaisaurus chonglakmanii อกิ รีโอซอร์ (Ichthyosaur) Thaisaurus หรือสตั ว์ เล้ือยคลานทะเล เปน็ สตั ว์ครงึ่ บกครึ่งน้า มรี ปู รา่ งคลา้ ยปลา พบครัง้ แรกในประเทศไทย ที่เขาทอง วัดภเู ขาทอง ตาบลมะกอก เหนอื อาเภอควนขนนุ จังหวดั พทั ลุง โดย ดร.จงพันธ์ จงลกั ษมณี อดีตนักธรณวี ทิ ยา ไดพ้ บกะโหลก กระดูกสนั หลงั กระดกู ซี่โครง และรยางค์ ในชั้นหนิ ปูน หมวดหนิ ชัยบุรี ยุคไทรแอส สิค (Triassic period) มอี ายุประมาณ 230-250 ลา้ นปีมาแลว้ ก่อนมมี นษุ ย์ในภาคใต้ พร้อมๆกบั การก่อตัวของผืนดิน และสตั ว์ เกิดเทือกเขานครศรีธรรมราชกับเทอื กเขาสนั กาลาครี ี ซง่ึ เปน็ แกน ของภาคใต้

สวนพฤกษศาสตร์ ม.4 ต.พนางตุง อ.ควนขนนุ จ.พทั ลุง แหลง่ ท่องเทย่ี วทางธรรมชาตอิ ันเลือ่ งชื่อ ที่มอี าณาบริเวณกวา้ งขวางถึง 6,100 ไร่ ครอบคลุมพืน้ ทีเ่ ขตหา้ มล่าสตั วป์ า่ ทะเลนอ้ ยเขตป่าสงวน แห่งชาตปิ า่ คลองยวนและทด่ี ินสาธารณประโยชน์ทงุ่ สระ โดยได้รบั การก่อต้งั ขึ้นเมอ่ื ปี พ.ศ. 2537 เพือ่ รักษาปา่ พรผุ นื สุดท้ายของพัทลงุ เอาไว้ และเพ่อื ให้เปน็ แหล่งศกึ ษาเรียนรูเ้ กย่ี วกบั พนั ธ์พุ ืชและ สตั ว์ปา่ นานาชนิดทพ่ี บบรเิ วณนี้ กจิ กรรมนา่ ทา - พกั ผ่อนหยอ่ นใจในศาลาอเนกประสงค์ ชมววิ ทะเลสาบสงบงาม ซงึ่ เตม็ ไปด้วยความอดุ มสมบรู ณ์ของธรรมชาตปิ ่าพรุ เต็มไปด้วยตน้ เสมด็ ขาว และย่านลเิ ภา รวมท้งั พันธุ์ไม้อน่ื ๆ อย่างต้นหยีนา้ กระท่มุ คุระ ไทร อนิ ทนลิ นา้ ตนี เป็ดนา้ ทองหลางนา้ หว้า ต้นกก กระจูด เตยทะเล ปรงทะเล หญา้ ยงุ และบัวทีง่ อกงาม

เขตหา้ มล่าสตั วป์ ่าทะเลหลวง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวง เดมิ รจู้ ักกนั ในนาม อ่าวบางเต็ง โดยกรมอุทยานแหง่ ชาติสตั วป์ ่าและพันธ์พุ ืชไดส้ ง่ เจา้ หน้าที่เขา้ มาสารวจขอ้ มลู เบื้องต้นของพน้ื ที่ เพื่อที่จะดาเนินการจัดตง้ั เปน็ เขตห้ามลา่ สัตวป์ า่ ตั้งแต่ปีพทุ ธศักราช2540 มพี ้นื ท่ีรวมทงั้ สิ้น ประมาณ 600 ตารางกิโลเมตร หรือ 375,000 ไร่ ครอบคลุมพืน้ ท่ี 2 จงั หวัด คือ พัทลงุ สงขลา สานกั งานเขตฯ ตงั้ อยเู่ ลขที่ 151 หมูท่ ี่ 3 ตาบลจองถนนอาเภอเขาชยั สนจงั หวัดพัทลงุ

อาบนาแรแ่ ชน่ ารอ้ นทบี่ ่อนาร้อนเขาชัยสน บอ่ นา้ ร้อนเขาชยั สน เป็นกลน่ิ อายธรรมชาติท่ี นกั ทอ่ งเทย่ี วท้งั ในและตา่ งจงั หวัดเดินทางเขา้ มาทอ่ งเที่ยวและรกั ษาโรคเป็นจานวนมาก ตามตานานเลา่ ขานว่าในอดีตพื้นที่บ่อน้าร้อนเขาชัยสน เคยเปน็ ทะเลสาบทก่ี วา้ งใหญ่ กระทั่งมตี า ยายคหู่ นึ่งพายเรอื มาหาปลา แต่เรือเกิดรัว่ ขึ้น ตายายจงึ ไดอ้ ธษิ ฐานตอ่ ส่ิงศกั ดิ์สิทธ์เิ พ่ือขอให้ ช่วยชวี ิต ทนั ใดนัน้ ได้บงั เกิดสิ่งมหศั จรรยข์ น้ึ เมอ่ื น้าในทะเลสาบพลนั แห้งขอดลงในทนั ที สว่ นเศษ ดินและกอ้ นหนิ น้อยใหญท่ ่ีใต้ทะเลสาบได้มารวมกนั จนเกิดเปน็ ภเู ขาสงู ในพรบิ ตาและภเู ขาใน ตานานนนั่ คือ \"เขาชัยสน\" ในปจั จุบัน

หาดพทั ธทอง หาดพทั ธทอง อาเภอเขาชยั สน จังหวดั พัทลุง เป็นชายหาดทีม่ ตี ้นไมใ้ หญ่ให้ความร่ม รื่นอยู่เตม็ หาดเเละมีลมพัดตลอด ในทะเลใกล้ชายฝ่ังมตี น้ หญา้ และบนชายหาดมโี ตะ๊ น่งั สาหรับ ปกิ นิกกนั อยา่ งสะดวก ทน่ี ไ่ี ม่มีรา้ นขายอาหารและเคร่ืองด่มื ดังน้นั หากอยากมาพักผอ่ นก็ต้องนา อาหารมาเอง

แหลมจองถนน แหลมจองถนนเปน็ หมบู่ ้านชาวประมง ตัง้ อยบู่ นเนินเขา สามารถมองเห็นวิว ทะเลสาบสงขลา สามารถมองเหน็ ววิ ทะเลสาบสงขลาและหมู่เกาะรอบๆ ทั้งยังมีร้านอาหารเปดิ ใหบ้ ริการนกั ทอ่ งเทีย่ วอกี ดว้ ย แหลมจองถนนเปน็ หมบู่ า้ นชาวประมง อยู่ตาบลจองถนน จงั หวัด พทั ลุง หา่ งจากตวั เมืองพัทลุงไปตามเสน้ ทางสายเพชรเกษม เล้ยี วซา้ ยผ่านอาเภอเขาชัยสนไป ประมาณ 12 กโิ ลเมตร ระยะทางหา่ งจากตวั เมือง 39 กโิ ลเมตร อยบู่ นเนนิ ดินและลาดชันลงไปยัง ชายหาดทะเลสาบสงขลาสามารถมองเหน็ ทวิ ทัศน์ เกาะแก่งต่างๆ และยังมรี ้านอาหารบรกิ าร นกั ท่องเทย่ี วอีกดว้ ย

หลาดใต้โหนด ตั้งอยู่ บา้ นจนั นา อาเภอควนขนนุ จงั หวัดพทั ลุง ได้เริ่มตั้งขน้ึ จากแนวคิด “ตลาด สีเขียววฒั นธรรมชุมชนเพื่อสุขภาพ” พรอ้ มกับสโลแกนที่วา่ “ของกิน ของใช้ งานศลิ ป์ บา้ นบา้ น” เปิดโอกาสให้ชาวบา้ นในหมบู่ ้านและระแวกใกลเ้ คียง มาขายของ ไมว่ ่าจะเปน็ ของใชพ้ ื้นเมอื ง ของ กินพืน้ เมือง เป็นตน้ หนาดใต้โหนด เปดิ เฉพาะวนั อาทติ ย์ ต้งั แต่เวลา 08.00 น. – 15.00 น.

ศูนย์การเรยี นรู้นาโปแก นาโปแก ต้ังอยใู่ นอาเภอควนขนนุ บนถนนเส้นเดียวกับทางไปอทุ ยาน แห่งชาตนิ กน้าทะเลน้อย คาวา่ นาโปแก เปน็ ภาษาพืน้ บา้ นทอ้ งถ่ิน นากค็ ือ นาข้าว สว่ นคาวา่ \"โปแก\" เป็นสาเนยี งปักษใ์ ต้ หมายถงึ พ่อของแม่ พ่อแก่ พ่อเฒา่ หรือคณุ ตา เม่อื รวมความหมายที่ เขา้ ใจได้ ก็แปลวา่ ทน่ี าของคณุ ตา นั่นเองภายในพ้นื ทม่ี แี ปลงปลกู ขา้ วสาธิต ทีเ่ ตม็ ไปดว้ ยข้าวพนั ธุ์ พนื้ เมืองต่าง ๆ เชน่ ข้าวสังขห์ ยด ขา้ วซ้อมมือโบราณ ฯลฯ ตลอดจนเปน็ แหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรกร ไทย ทีน่ ักทอ่ งเที่ยวจะได้ลงแรงทาต้งั แต่การเกยี่ วข้าว ไถนา ดานา เลยี งควาย ขดุ บ่อปลา แถมมี ควายตวั เป็น ๆ ให้นักท่องเท่ียวสมั ผัสความรักน่าเอ็นดู และป้อนหญ้าได้อกี ด้วยนอกจากนย้ี งั มโี ซน รา้ นกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายสนิ ค้า การเกษตร และสินคา้ พ้ืนเมอื ง ซ่ึงแต่ละรา้ นเชอื่ มโยงกนั ดว้ ยสะพานไมท้ ่ีทอดยาวผา่ นทอ้ งนาเขยี วขจี ใหเ้ ราเพลิดเพลินไปกบั ววิ ทวิ ทัศน์ เดินเล่น ถ่ายรูป สูดอากาศดี รับลมเย็นๆ รายลอ้ มดว้ ยศาลาและกระท่อมไม้

สะพานปากประ เป็นคลองทีส่ าคญั ทางจงั หวัดพัทลงุ โดยเปน็ แหลง่ น้าที่สาคญั ของอาเภอควน ขนุนทไี่ หลรวมมาจากลานา้ สายต่างๆมาบรรจบกันเป็นคลองปากประแล้วไหลออกสทู่ ะเลสาบ สงขลา คลองปากประจึงเปรยี บเสมอื นเปน็ ประตเู ช่ือมสาคญั ของสายนา้ ที่ไวใ้ ชท้ างการเกษตรและ ให้ปลาต่างๆไดว้ า่ ยเขา้ ออก ทาให้บริเวณคลองปากประแห่งน้ีจึงกลายเป็นแหลง่ ชุมนมุ ของปลา และกลายเปน็ แหล่งจบั ปลาท่สี าคัญโดยมีชาวบ้านได้ตงั้ ยอดกั จับปลาเปน็ จานวนมากจนดยู ่งุ เหยิง เกดิ เป็นทวิ ทศั นท์ ่แี ปลกตา ในช่วงฤดูน้าจะไดเ้ หน็ วถิ ชี ีวติ การยกยอยักษแ์ ละดักจบั สตั วน์ า้ ของ ชาวบ้านบรเิ วณนี้

วัดเขาอ้อ วัดเขาอ้อ ตง้ั อยูท่ ห่ี มูท่ ่ี 3 ตาบลมะกอกเหนือ อาเภอควนขนนุ จงั หวัดพทั ลุง วดั เขาออ้ เปน็ แหล่งวทิ ยาคมทางไสยศาสตร์ ทม่ี ีช่ือเสยี งโด่งดงั มาแล้วตั้งแตส่ มัยโบราณ พระ เกจอิ าจารย์ ผู้สืบต่อวชิ าทางไสยศาสตร์ ตา่ งก็เปน็ ทีพ่ ่งึ ทีเ่ คารพศรัทธา ของประชาชนทว่ั ไป เช่น พระอาจารย์ทองเฒ่าพระครสู ทิ ธิยาภริ ัต(เอียด) พระอาจารย์นาแกว้ จันทร์ พระอาจารย์ศรีเงินวัด ดอนศาลาพระครูพิพัฒน์สิรธิ ร(อาจารย์คง) วดั บ้านสวน พระอาจารย์ปานวดั เขาอ้อ และ ทเ่ี ปน็ ฆราวาสท่ีคนทว่ั ไปรู้จกั กนั ดไี ด้แก่พล.ต.ต.ขุนพันธรกั ษร์ าชเดช เปน็ ตน้ ช่อื เสียงของวดั เขาออ้ ทผ่ี คู้ น ทว่ั ไปรูจ้ ักมกั จะเนน้ ไปในทางไสยเวทเสยี มากกว่าทง้ั ท่ีวดั เขาออ้ ยังมีดีมากกวา่ นนั้ โดยเฉพาะ วชิ าการแพทย์แผนโบราณพูดไดว้ ่าไม่มสี านักใหนทางภาคใต้ท่จี ะชดั เจนและได้ผลชะงดั เท่ากบั สานักนี้ แม้ปัจจุบันจะคลายลงไปบา้ ง แต่กห็ าได้สูญหายไปอย่างใดไม่ อย่างนอ้ ยทีส่ ุดยงั มพี ระ อาจารยห์ ลายรปู ที่สบื ทอดกันมา

ทะเลนอ้ ย อุทยานนกนา้ ทะเลนอ้ ย นับเปน็ เขตหา้ มล่าสัตวป์ า่ แห่งแรกของประเทศไทย สงั กัดกรม อทุ ยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพนั ธ์ุพืช กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม รอบ ๆ ทะเล นอ้ ย บริเวณพรุควนขี้เสียน เป็นแรมซารไ์ ซต์แหง่ แรกของประเทศไทย นักท่องเทีย่ วสามารถเช่า เรือจากทะเลนอ้ ยซึง่ มีใหบ้ ริการ 2 รปู แบบ คอื บรกิ ารนกั ทอ่ งเท่ียวโดยชมุ ชนทะเลนอ้ ย และ บริการสาหรบั นักวชิ าการ เพื่อศึกษาธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าท่ีอทุ ยานฯ คอยให้ความรู้ มีที่พัก สะดวกสบาย สาหรบั ขอ้ มลู เพม่ิ เติมกรณุ าตดิ ตอ่ อุทยานนกน้าทะเลนอ้ ย โทร 074-685230 การ เดินทางมาทะเลน้อยสามารถเดนิ ทางสะดวกท้ังทางเรอื และรถยนต์ ซ่ึงสามารถขบั มาตามเสน้ ทาง เรียบทะเล เช่น ขบั มาจากอาเภอระโนด สทงิ พระ อาเภอเมอื งสงขลาและอาเภอปากพะยูน ควนขนุน อาเภอเมืองพัทลงุ

บ้านพักเขตหา้ มลา่ สตั ว์ป่าทะเลน้อย ในพื้นทเ่ี ขตหา้ มล่าสตั วป์ า่ ฯ สารวจพบสตั ว์เล้ยี งลกู ดว้ ยนม ประมาณ 10 ชนดิ สตั ว์สะเทนิ น้าสะเทินบก 8 ชนิด สตั วเ์ ล้อื ยคลานอีก 25 ชนิดและ พันธุป์ ลาที่ พบอยา่ งนอ้ ย 45 ชนดิ

ดฝู งู ควายนา สะพานไสกลิง ชาวบ้านทะเลน้อยนาควายมาเล้ียงในพืน้ ทน่ี านกว่า 100 ปีมาแลว้ เป็นการปล่อยออกไปกนิ หญา้ เองตามทงุ่ หญา้ ขนาดใหญ่เหมอื นชาวบ้านในพื้นทีอ่ ืน่ แตด่ ้วยสภาพ ภมู ิศาสตรข์ องทะเลนอ้ ย ทาใหใ้ นชว่ งฤดนู ้าหลาก ท่งุ หญา้ ทเ่ี ปน็ แหลง่ หากนิ ของควายตอ้ งจมอยู่ใต้ ผนื นา้ เป็นเวลา 5 เดอื นใน 1 ปี สง่ ผลให้ควายต้องปรับตวั อาศัยหากนิ ด้วยการว่ายนา้ เปน็ ระยะ ทางไกล เพ่อื ดานา้ ลงไปกนิ หญา้ ที่จมอยูใ่ ต้น้า บางตวั สามารถดาน้าได้นานจะมดุ หัวลงน้า เทา้ หลงั ชี้ขน้ึ ฟา้ กนิ หญ้านา้ ไดค้ ราวละหลายนาที ส่วนลกู ควายตวั เล็กจะดาน้าลงไปทงั้ ตวั เปน็ ภาพทีช่ าว ทะเลน้อยเห็นชินตามาหลายชวั่ อายคุ น จนเรียกขานควายในทะเลน้อยวา่ \"ควายน้า\"

นาตกหมอ่ มจุ้ย นา้ ตกลานหม่อมจยุ้ อ.ตะโหมด จ.พทั ลงุ น้าตกลานหม่อมจยุ้ เปน็ นา้ ตกที่อยู่ ทา่ มกลางปา่ ทร่ี ่มรนื่ อย่ใู นบรเิ วณหนว่ ยพิทักษ์สตั ว์ป่าบ้านตะโหมด ลักษณะของน้าตกจะแบง่ เป็นชัน้ ๆ แตล่ ะชั้นมชี ่อื ตา่ งกนั มีแอง่ นา้ สามารถเลน่ นา้ ได้ การเดินทางจากอาเภอตะโหมด ใชเ้ สน้ ทางหมายเลข 4121 และต่อดว้ ย เสน้ ทางหมายเลข 4237 ประมาณ 18 กโิ ลเมตรจนถงึ วัดตะโหมด นา้ ตกจะอยูเ่ ลยวดั ตะโหมดไปประมาณ 4-5 กิโลเมตร

อ่างเกบ็ นาเขาหวั ช้าง อ่างเก็บนา้ เขาหัวชา้ ง โครงการอา่ งเกบ็ นา้ คลองหวั ช้างอันเนื่องมาจาก พระราชดาริ อาเภอตะโหมด จังหวัดพัทลงุ เมื่อวนั ที่ 3 กรกฎาคม 2556 นายพลากร สุวรรณรฐั องคมนตรี เป็นประธานพธิ เี ปดิ โครงการ เมอ่ื ปี 2505 นายเปรม อกั ษรสว่าง สมาชกิ สภาจังหวัด พทั ลุงและนายกพุทธกิ สมาคมบางแกว้ ไดน้ าสมาชกิ ฯ ยวุ กสิกรและประชนประมาณ 500 คน ขดุ ลอกเหมอื งสง่ น้าจากคลองตะโหมดหรือคลองทา่ เชยี ดเพอื่ นาไปใชใ้ นเขตอาเภอเขาชัยสน จงั หวดั พัทลงุ แตไ่ ม่ได้ผลเนื่องจากจะต้องขุดเหมอื งสง่ น้าลึกประมาณ 5-6 เมตร ซึ่งเกนิ กาลงั ที่เกษตรกร จะทาได้ ตอ้ งใชเ้ ทคนิคและเคร่ืองจักรเครื่องมือใน การดาเนนิ งานจึงร้องเรียนผ่านชลประทาน ภาคใต้ในสมัยนัน้ ขอให้พิจารณาเปิด โครงการทา่ เชยี ดขน้ึ เพื่อช่วยเหลอื พ้นื ที่เพาะปลูกดงั กลา่ ว ชลประทานภาคใตไ้ ดส้ ง่ เจา้ หน้าท่ีไป พิจารณาเหน็ วา่ ล่ทู างท่ีจะเปดิ การกอ่ สร้างโครงการฯ

น้าตกตะโหมด นา้ ตกตะโหมด หรอื นา้ ตกหม่อมจุย้ อาเภอตะโหมด จังหวัดพทั ลุง อย่หู ่างจากตวั อาเภอ 12 กม. การเดนิ ทางใชเ้ สน้ ทางหมายเลข 4121 และตอ่ ด้วยเส้นทางหมายเลข 4137 (อยทู่ างตอนใต้ของเมอื งพทั ลุง) แยกจากทางหลวงหมายเลข 4 เขา้ ไปจนถงึ วัดตะโหมดน้าตกจะอยู่ ในบรเิ วณหน่วยพทิ ักษ์สัตวป์ า่ ตะโหมด อยู่เลยวดั ตะโหมดไป 4-5 กม. เปน็ น้าตกทอ่ี ยทู่ ่ามกลางป่า ท่ีรม่ รน่ื ลักษณะของน้าตกจะแบ่งเป็นช้นั ๆ แตล่ ะชั้นมีชอื่ ต่างกนั มแี อง่ นา้ สามารถเลน่ นา้ ได้ มีลาน กวา้ งเหมาะแก่การพกั ผ่อนหย่อนใจ

นาตกลาดเตย น้าตกลาดเตยเป็นน้าตกทส่ี วยงามมาก อยหู่ า่ งจากที่ว่าการอาเภอตะโหมด 15 กม. เปน็ พนื้ ที่ของหมู่ที่ 4 บ้านโหละ๊ บา้ ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลงุ

ป่าชมุ ชนถาวรเฉลมิ พระเกียรติ การพัฒนาป่าชุมชนเปน็ แหล่งเรยี นร้โู ดยกระบวนการมีสว่ นรว่ ม ของชุมชนของปา่ ชมุ ชนเขาหวั ชา้ ง ตาบลตะโหมด อาเภอตะโหมด จงั หวัดพทั ลงุ

วังเจา้ เมืองพัทลุง อยทู่ ีถ่ นนอภยั อภิรกั ษ์ ตาบลลาปา อาเภอเมอื ง จังหวดั พทั ลุง วงั เจา้ เมืองพัทลุง ตั้งอยู่ที่ถนนอภยั อภิรกั ษ์ ตาบลลาปา อาเภอเมือง จงั หวัดพัทลุง อยหู่ า่ งจากตัว เมอื งประมาณ 6 กโิ ลเมตร ในอดตี วงั แหง่ นี้เคยใชเ้ ปน็ สถานทวี่ า่ ราชการและเปน็ ทพ่ี ักอาศัยของ เจ้าเมืองพัทลุง มีความสวยงามโดดเด่น ปจั จุบันถอื เปน็ แหลง่ ทอ่ งเท่ยี ว ทางประวตั ิศาสตร์ทส่ี าคัญ แห่งหน่ึงของจงั หวัด วังเจา้ เมืองพัทลุง เป็นทีร่ ูจ้ ักในอกี ช่อื หนงึ่ ว่า “วังเก่า – วังใหม่” เนอื่ งจาก ประกอบด้วย “วงั เก่า” และ “วงั ใหม่” ตัง้ อยใู่ นอาณาบรเิ วณเดยี วกนั สาหรบั “วังเกา่ ” นน้ั สร้าง ข้ึนในสมยั กรุงรตั นโกสินทร์ตอนตน้ ในสมยั ท่พี ระยาพทั ลงุ (นอ้ ย จนั ทโรจวงศ์) เปน็ เจา้ เมอื ง สว่ น “วงั ใหม่” ซง่ึ ตั้งอย่ทู างทิศใต้ ตดิ ชายคลองลาปา สร้างขน้ึ เมอื่ ปี พ.ศ. 2432 โดยพระยาอภัย บริรักษจ์ ักราวชิ ติ พพิ ธิ ภักดี (เนตร จนั ทโรจวงศ)์ บุตรชายของพระยาพัทลุง ผู้เป็นเจ้าเมอื งใน ขณะนนั้

วนอทุ ยานเมืองเก่าชัยบรุ ี หมูท่ ่ี 1 ตาบลชยั บรุ ี อาเภอเมอื ง จงั หวัดพัทลุง เมืองเกา่ ชยั บุรี คืออกี หน่งึ สถานที่ท่องเที่ยวที่มชี อื่ เสยี งในเขตวนอทุ ยานเมอื งเก่าชยั บุรี ซ่งึ ตัง้ อยู่ท่ีตาบลชัยบรุ ี อาเภอเมือง จังหวัดพทั ลุง เปน็ ชมุ ชนโบราณ เคยเปน็ ทต่ี ง้ั เมอื งพทั ลุงในสมยั อยธุ ยา ซึ่งพื้นทสี่ ่วน ใหญ่ของเมอื งเกา่ อยใู่ นหบุ เขา มคี ูเมือง กาแพงเมืองที่แข็งแรง มีปืนใหญไ่ ว้ป้องกนั ศตั รู ภายในเมอื งเก่ามีโบราณสถานท่มี ีประวัตคิ วามเปน็ มาปรากฏหลักฐานทางโบราณคดี เป็นอนสุ รณ์ สถานและมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดพัทลงุ ท่ีควรค่าแก่การอนรุ กั ษไ์ ว้ สิง่ สาคัญท่พี บบริเวณ เมืองเก่า เชน่ เจดีย์ กอ่ อิฐถือปนู ยอ่ มุมไม้สบิ สองพบบริเวณวดั เขา (ชา้ ง) เส้อื เมืองชัยบุรี ซงึ่ เป็นเนินดนิ รูปสามเหล่ยี มเคยเป็นท่ตี งั้ ของเสอ้ื เมอื งหรอื หลักเมอื งในสมัยอยุธยา

หาดแสนสุขลาปา อย่เู ลยวัดวังไปตามทางหลวงหมายเลข 4047 อีกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็น หาดทรายท่มี ที ิวสนร่มร่ืนรมิ ฝั่งทะเลสาบสงขลา มีศาลากลางนา้ ชอ่ื “ศาลาลาปาที่รกั ” สาหรบั ชม ทวิ ทัศนบ์ ริเวณทะเลสาบ และจากบรเิ วณชายหาดมีสะพานเชอ่ื มไปยังเกาะลอย ซ่ึงเปน็ เกาะที่เกดิ จากการทบั ถมของตะกอนปากนา้ ลาปา

เรอื นโบราณ เรือนโบราณสรา้ งเม่ือ พศ. 2547 เสรจ็ เมื่อ พศ. 2548 ดาเนนิ การสรา้ งโดย ภูมิ ปัญญาท้องถน่ิ นายขน อรณุ วงศ์ และคณะการสรา้ งเรอื นวิธีน้ีทาใหส้ ะดวกในการย้ายบ้าน ซึ่งนยิ มย้ายบา้ นทงั้ หลังโดยใชค้ นหาม โดยถอดสว่ นท่ีมนี ้าหนักมากออกเสียก่อน เช่น ฝา กระเบอ้ื ง มงุ หลงั คา ฯลฯ มเี รือนของนายแสง นางแปน้ นวลยัง จากบา้ นคอกวัว ตาบลชยั บรุ ี ไดม้ าโดยการ รื้อแล้วนามาสร้างใหมต่ ามสภาพเดมิ อายปุ ระมาณ 70 ปี เรอื นของนายลบ นางลี มาชว่ ย จาก บ้านแหลมยาง ตาบลปรางหมู่ ได้มาโดยการรอ้ื แล้วนามาสร้างใหม่ตามสภาพเดิม อายุประมาณ 80 ปี การออกแบบหลังคาเป็นหลงั คาทรงสงู มคี วามลาดชัน เพ่ือใหน้ า้ ฝนไหลผา่ นโดยสะดวก โดยท่ัวไปมี 3 แบบ คอื หลงั คาจว่ั หลงั คาปั้นหยา หลงั คาจัว่ มนิลา มีการตอ่ ชายคาออกไปคลุม บนั ได

อนุสาวรยี ์พระยาทุกขราษฎร์ (ช่วย) อนสุ าวรีย์พระยาชว่ ยทกุ ขราษฎร์ (ชว่ ย) ประดษิ ฐานอยูท่ ี่ สามแยกท่ามิหรา ในเขตเทศบาลเมืองพทั ลุง ตามประวัติกล่าวว่าพระยาทกุ ขราษฎร์ เดิมเป็นพระ ชอื่ พระมหาช่วย จาพรรษาอยทู่ ี่วดั ปา่ ลไิ ลยก์ ในสมัยรัชกาลที่ 1 ซึง่ ขณะน้ันเกดิ สงคราม 9 ทพั พระมหาช่วยได้ช่วยพระยาพทั ลงุ นาชาวบ้านเข้าต่อตา้ นกองทัพพมา่ จนแตกพ่ายต่อมาจงึ ลา สกิ ขาบทแลว้ ไดร้ บั การโปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ ป็นพระยาทุกขราษฎร์ ดารงตาแหน่งผชู้ ว่ ยทาราชการเมอื ง พทั ลงุ มตี าแหนง่ “พระยา” เทยี บเทา่ เจ้าเมอื ง

พระพทุ ธนริ โรคนั ตรายชัยวัฒนจ์ ตุรทิศ พระพุทธนิรโรคนั ตรายชยั วัฒน์จตรุ ทศิ หรอื ท่เี รยี กกันวา่ “พระสม่ี มุ เมอื ง” เปน็ พระพทุ ธรูปประจาภาคใต้ และปชู นียวัตถุคูเ่ มืองของพัทลงุ ประดษิ ฐานอยู่ ภายในศาลาจตุรมุข บริเวณดา้ นหน้าระหวา่ งศาลากลางจงั หวัด กบั ศาลจังหวัดพัทลุง เป็นพระพุทธรปู หล่อสมั ฤทธิ์ปางสมาธิ ทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลปัจจบุ ัน โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานไวท้ ่จี งั หวดั พทั ลงุ เมอื่ วนั ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2511