Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการเรียนการสอนและประเมินผล Soft skills

คู่มือการเรียนการสอนและประเมินผล Soft skills

Published by benz bnez, 2021-09-25 09:50:50

Description: คู่มือการเรียนการสอนและประเมินผล Soft skills

Search

Read the Text Version

ค่มู ือ การเรยี นการสอนและประเมนิ ผล Soft skills สำนักวิชาศกึ ษาทวั่ ไป สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบงั

คำนำ คู่มือการเรียนการสอนและประเมินผล Soft skills ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้สอน รายวิชาตา่ ง ๆ ในหมวดวิชาศึกษาท่ัวไป ของสถาบันเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าเจา้ คุณทหารลาดกระบงั สำหรับ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ ละการประเมินผลการเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นา Soft skills ให้กบั ผเู้ รยี น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจา้ คุณทหารลาดกระบัง ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนา Soft skills ให้กบั นักศึกษา โดยแบ่งเปน็ 11 ด้าน ดงั นี้ 1. การคดิ วิเคราะหแ์ ละการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ (Analytical and Critical Thinking) 2. การแกป้ ญั หาเชงิ ซับซ้อน (Complex Problem Solving) 3. การคดิ สร้างสรรค์ (Creative Thinking) 4. การบรหิ ารความสัมพนั ธ์กับผู้อ่ืน (Interpersonal Management) 5. ความซอ่ื สัตย์และความพากเพยี รพยายาม (Integrity and Perseverance) 6. การเรยี นรู้เชงิ รุกและการใฝร่ ู้ (Active Learning & Learning Strategies) 7. ความอดทน ยืดหยุ่น และฟ้ืนตัวจากสภาวะความเครียด (Resilience, Stress Tolerance and Flexibility) 8. การเป็นผูน้ ำและผเู้ ปล่ยี นแปลงสงั คม (Leadership and Social Influence) 9. การสอื่ สารอย่างมีประสทิ ธภิ าพ (Effective Communication) 10. การเป็นผู้ประกอบการและการลงทุน (Entrepreneurship and Investment) 11. การรู้เท่าทันดิจิทัลและการผลิตสื่อดิจิทัล (Digital Quotient Literacy and Digital Media Production) คมู่ ือฉบับน้ี ประกอบดว้ ยเคร่อื งมอื การประเมนิ ทีแ่ บ่งเปน็ 3 ประเภท คอื เกณฑก์ ารประเมนิ แบบองค์ รวม (Holistic Rubrics) เกณฑ์การประเมนิ แบบแยกส่วน (Analytic Rubrics) และ เกณฑก์ ารประเมินแบบ ประเดน็ เดย่ี ว (Single-Point Rubric) และตัวอย่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื สง่ เสรมิ Soft skills ทั้งนี้ สำนักวิชาศึกษาท่ัวไป หวังเป็นอย่างยิ่งวา่ ผู้สอนรายวิชาศกึ ษาทั่วไป จะสามารถใช้คู่มือฉบับน้ี เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการประเมินผลการเรียนรูเ้ พื่อพัฒนา Soft skills ให้กับ ผู้เรยี นได้ สำนักวิชาศึกษาทัว่ ไป

สารบัญ หน้า เคร่ืองมอื การประเมิน Soft Skills สำหรบั รายวชิ าศกึ ษาทั่วไป ………………………………….…….. 1 ด้านท่ี 1: การคดิ วิเคราะหแ์ ละการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ นยิ ามความหมาย ……………………………………………………………………………………………….. 2 แบบประเมิน Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 3 แบบประเมิน Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 4 แบบประเมิน Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 5 ด้านท่ี 2: การแกป้ ัญหาเชิงซบั ซ้อน นิยามความหมาย ………………………………………….…………………………………………………… 6 แบบประเมนิ Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 7 แบบประเมนิ Analytic Rubrics ……………….………………………………………………………… 8 แบบประเมิน Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 9 ด้านท่ี 3: การคิดสรา้ งสรรค์ นิยามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 10 แบบประเมนิ Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 11 แบบประเมิน Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 12 แบบประเมนิ Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 13 ด้านที่ 4: การบรหิ ารความสัมพันธก์ บั ผ้อู ืน่ นิยามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 14 แบบประเมิน Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 15 แบบประเมนิ Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 16 แบบประเมิน Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 17 ด้านท่ี 5: ความซื่อสตั ย์และความพากเพยี รพยายาม นยิ ามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 18 แบบประเมนิ Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 19 แบบประเมิน Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 20 แบบประเมนิ Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 21 ด้านที่ 6: การเรียนรูเ้ ชิงรกุ และการใฝร่ ู้ นิยามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 22 แบบประเมิน Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 23 แบบประเมิน Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 24

หนา้ แบบประเมนิ Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 25 ด้านที่ 7: ความอดทน ยดื หยุ่น และฟนื้ ตวั จากสภาวะความเครียด นยิ ามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 26 แบบประเมิน Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 27 แบบประเมิน Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 28 แบบประเมิน Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 29 ด้านท่ี 8: การเปน็ ผนู้ ำและผูเ้ ปล่ยี นแปลงสังคม นยิ ามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 30 แบบประเมนิ Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 31 แบบประเมนิ Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 32 แบบประเมนิ Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 33 ดา้ นท่ี 9: การสอ่ื สารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ นยิ ามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 34 แบบประเมนิ Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 35 แบบประเมนิ Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 36 แบบประเมนิ Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 37 ด้านที่ 10: การเปน็ ผ้ปู ระกอบการและการลงทนุ นยิ ามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 38 แบบประเมนิ Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 39 แบบประเมิน Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 40 แบบประเมนิ Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 41 ดา้ นท่ี 11: การรู้เทา่ ทันดิจทิ ลั และการผลิตสอื่ ดจิ ิทลั นยิ ามความหมาย ………………………………………………………………………………………………. 42 แบบประเมิน Holistic Rubrics …………………………………………………………………………… 43 แบบประเมิน Analytic Rubrics …………………………………………………………………………. 44 แบบประเมิน Single-Point Rubrics …………………………………………………………………… 45 แบบฟอรม์ การประเมนิ Soft skills รายบคุ คล ……………………………………………………………… 46 แบบฟอรม์ การประเมนิ Soft skills รายชัน้ เรยี น …………………………………………………………… 47 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นา Soft skills …………………………………………………………... 48 การแสดงบทบาทสมมติ ………………………………………………………………………………………. 50 การสรา้ งสถานการณจ์ ำลอง ………………………………………………………………………………… 52

หนา้ การเรยี นรทู้ เี่ น้นทกั ษะกระบวนการคิด …………………………………………………………………. 54 เพ่ือนสอนเพอ่ื น …………………………………………………………………………………………………. 56 การจัดการเรียนรโู้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน …………………………………………………………………. 58 การจัดการเรียนร้โู ดยใช้โครงงานเปน็ ฐาน ……………………………………………………………… 60 เทคนคิ จกิ๊ ซอว์ …………………………………………………………………………………………………… 62 ตัวอย่างการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พฒั นา Soft skills ใหแ้ กผ่ เู้ รยี น …………………….......... 64

1 เครอ่ื งมอื การประเมนิ Soft Skills สำหรบั รายวิชาศึกษาทั่วไป (Soft Skills Assessment Tools for General Education Courses) ขัน้ ตอนการใชเ้ คร่ืองมือการประเมิน Soft Skills สำหรับรายวิชาศกึ ษาทัว่ ไป 1. วิเคราะหผ์ ลลัพธ์การเรียนรใู้ นรายวิชา 2. ออกแบบการจดั การเรยี นรใู้ นรายวิชา 3. ออกแบบการประเมินการเรียนรใู้ นรายวิชาด้วยการศึกษาคู่มือการประเมินและเลือกใช้เครื่องมอื ประเมินการเรยี นรู้ 4. นำผลการประเมนิ การเรียนรู้ไปใชเ้ พ่ือปรบั ปรุงและพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ประเภทของเครือ่ งมอื และจุดมุ่งหมายในการนำไปใช้ เครื่องมือการประเมนิ Soft Skills ในคู่มอื นีม้ ี 3 ประเภทตามประเดน็ การประเมนิ ทัง้ 11 ด้าน (รวมถงึ องคป์ ระกอบยอ่ ย) โดยเคร่อื งมือแต่ละประเภทมจี ุดมงุ่ หมายในการนำไปใชด้ งั นี้ ประเภทท่ี 1 (Type xA) เป็นลักษณะของแบบประเมินที่ใช้เกณฑ์การประเมินแบบองค์รวม (Holistic Rubrics) ที่เน้นการ ประเมนิ แบบบรู ณาการในภาพรวม องิ การประเมินและตดั สินคณุ คา่ โดยรวม สามารถใชใ้ นการประเมนิ ผลลพั ธ์ การเรียนรู้ของผู้เรียนได้ง่ายและรวดเร็วในเวลาอันจำกัด สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กหรอื ใหญ่ได้ แต่อาจ ประเมนิ รายละเอยี ดปลีกยอ่ ยไมล่ ะเอยี ดเทา่ กับเกณฑ์การประเมนิ แบบแยกส่วน (Analytic Rubrics) ประเภทที่ 2 (Type xB) เป็นลักษณะของแบบประเมินที่ใช้เกณฑ์การประเมินแบบแยกส่วน (Analytic Rubrics) ที่เน้นการ ประเมินแบบวิเคราะหแ์ ยกตามองคป์ ระกอบของประเด็นที่ทำการประเมิน สามารถใช้ในการประเมินผลลัพธ์ การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นในประเดน็ ทม่ี ีความละเอยี ด เฉพาะเจาะจง อาจใชร้ ะยะเวลาในการประเมนิ คอ่ นข้างมาก ตอ่ การประเมินผู้เรยี นเปน็ รายบคุ คลหรือรายกลมุ่ ประเภทที่ 3 (Type xC) เป็นลกั ษณะของแบบประเมนิ ท่ีใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ แบบประเดน็ เด่ยี ว (Single-Point Rubric) ที่เนน้ การให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) แก่ผู้เรียน ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานที่เป็นตัวตั้ง โดยมีจุดเน้นที่การให้ สารสนเทศ (information) ที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนาผู้เรียน (Areas of Improvement) และแนวทางการส่งเสริมหรือตอ่ ยอด (Above and Beyond) เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ ผู้สอน สามารถใชใ้ นการสะทอ้ นผลงานหรอื การปฏิบัติงานของผ้เู รียนเป็นรายบคุ คลหรอื รายกลมุ่ กไ็ ด้ หมายเหตุ สัญลักษณ์ x หมายถงึ Soft Skills ทงั้ 11 ดา้ น

2 1. การคดิ วิเคราะห์และการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ (Analytical and Critical Thinking) นยิ ามความหมาย 1. การคิดวิเคราะห์และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Analytical and Critical Thinking) หมายถึง ความสามารถในการระบุความสำคญั ความสมั พนั ธ์ และหลักการของเนอ้ื หา เหตุการณ์ หรอื เร่อื งราว รวมถึงความสามารถในการคดิ อย่างมีเหตผุ ลและไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ในการพิจารณาข้อมลู ที่เป็นปัญหา เหตุการณ์ เรื่องราว หรือสถานการณท์ ี่คลุมเครือ โดยใช้การ ประเมินสถานการณ์ การตีความ การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมินผลและการสรุปอ้างอิงจาก ข้อมูลที่เชื่อถือได้มาสนับสนุนเพือ่ นำไปใช้ในการตัดสินใจที่จะเชื่อหรือลงมือกระทำสิ่งต่าง ๆ ท่ี ถกู ตอ้ งและเหมาะสม มอี งคป์ ระกอบ 4 ด้าน ดงั นี้ 1.1 การระบุความสำคัญ หมายถึง ความสามารถในการแจกแจงลักษณะ ความสำคัญ หรือองค์ประกอบของเนื้อหา เหตุการณ์ หรือเร่ืองราวในเชงิ เหตุและผล 1.2 การระบุความสมั พนั ธ์อย่างมีเหตุผล หมายถงึ ความสามารถในการพิจารณาข้อมูลท่ี เป็นปัญหา เหตุการณ์ หรือเรื่องราวและสามารถอธิบายความสัมพันธ์หรือการเชื่อมโยงเนื้อหา เหตุการณ์ หรือเรอ่ื งราวอย่างสมเหตุสมผล 1.3 การระบุหลักการ หมายถึง ความสามารถในการอธิบายหลักการท่ีสนับสนุนการระบุ ความสัมพันธ์เนื้อหา เหตุการณ์ หรือเรื่องราว ในลักษณะการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ แนวคิด ทฤษฎอี ยา่ งสมเหตุสมผลและมคี วามนา่ เช่ือถือ 1.4 การประเมินสถานการณ์ หมายถึง ความสามารถในการตีความ การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมนิ และการสรปุ อา้ งอิงจากขอ้ มลู ทเ่ี ช่อื ถอื ได้มาสนับสนนุ เนือ้ หา เหตุการณ์ หรอื เรอื่ งราว ไดอ้ ยา่ งชดั เจน

แบบประเมนิ การคดิ วเิ คราะห์และการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ 3 Type 1A (Holistic Rubrics) 3210 ผเู้ รยี นสามารถแจกแจง ผู้เรียนสามารถแจกแจง ผเู้ รยี นสามารถแจกแจง ผู้เรียนไม่สามารถแสดง ลกั ษณะสำคัญหรือ ลักษณะสำคัญหรอื ลกั ษณะสำคญั หรือ ความสามารถดา้ นการ องค์ประกอบของเนอ้ื หา องคป์ ระกอบของเนอื้ หา องค์ประกอบของเนอ้ื หา คิดวเิ คราะห์และการคดิ เหตุการณ์ เรือ่ งราวใน เหตุการณ์ เรื่องราวใน เหตุการณ์ เรอ่ื งราวใน อยา่ งมีวจิ ารณญาณตาม เชิงเหตแุ ละผล และ เชงิ เหตุและผล และ เชิงเหตุและผล และ เกณฑร์ ะดับคะแนน 1-3 อธบิ ายความสมั พนั ธ์ อธบิ ายความสมั พันธ์ อธิบายความสมั พนั ธ์ และระบุหลกั การที่ และระบุหลักการที่ และระบหุ ลักการที่ สนบั สนนุ ในลกั ษณะของ สนับสนุนในลกั ษณะของ สนับสนุนในลกั ษณะของ การประยุกต์ใช้องค์ การประยกุ ตใ์ ช้องค์ การประยกุ ตใ์ ชอ้ งค์ ความรู้ แนวคิด ทฤษฎที ี่ ความรู้ แนวคิด ทฤษฎีท่ี ความรู้ แนวคิด ทฤษฎที ่ี มีความนา่ เชอ่ื ถืออย่าง มคี วามนา่ เชือ่ ถืออยา่ ง ขาดความนา่ เชอื่ ถอื และ สมเหตุสมผล และ สมเหตุสมผล แตย่ ังไม่ ไม่สมเหตสุ มผล และยงั สามารถตีความ สามารถตีความ ไม่สามารถตคี วาม วเิ คราะหข์ ้อมูล ประเมิน วเิ คราะห์ข้อมลู ประเมนิ วเิ คราะหข์ อ้ มลู ประเมิน และสรปุ อา้ งองิ จาก และสรุปอา้ งองิ จาก และสรุปอ้างอิงจาก ข้อมลู ได้อยา่ งชัดเจน ข้อมลู ไดอ้ ย่างชัดเจน ขอ้ มูลได้อยา่ งชดั เจน การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถงึ การคดิ วเิ คราะหแ์ ละการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณอยู่ในระดบั ดี ¡ 2 หมายถงึ การคดิ วเิ คราะหแ์ ละการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณอยู่ในระดับปานกลาง ¡ 1 หมายถึง การคิดวเิ คราะหแ์ ละการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณอยใู่ นระดบั พอใช้ ¡ 0 หมายถึง การคิดวิเคราะหแ์ ละการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณอยู่ในระดับปรับปรงุ

แบบประเมนิ การคิดวเิ คราะห์และการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 4 Type 1B (Analytic Rubrics) องคป์ ระกอบยอ่ ย 3 2 1 0 1. การระบุ ความสำคัญ ผู้เรยี นสามารถแจกแจง ผูเ้ รียนสามารถแจกแจง ผเู้ รียนสามารถแจกแจง ผู้เรยี นไม่สามารถแสดง ลกั ษณะ ความสำคญั หรอื ลกั ษณะ ความสำคญั หรอื ลกั ษณะ ความสำคญั หรอื ความสามารถในการระบุ 2. การระบุ องค์ประกอบของเนอ้ื หา องคป์ ระกอบของเนอ้ื หา องค์ประกอบของเนอ้ื หา ความสำคัญตามเกณฑ์ ความสัมพันธ์ เหตุการณ์ หรอื เร่ืองราว เหตุการณ์ หรอื เรื่องราว เหตุการณ์ หรอื เร่ืองราว ระดบั คะแนน 1-3 อยา่ งมีเหตุผล ได้อย่างชดั เจนและมี ไดช้ ัดเจนแตข่ าดความ ได้ไมช่ ัดเจนและขาด ความเป็นเหตุและผล เปน็ เหตแุ ละผล ความเปน็ เหตุและผล ผเู้ รยี นไม่สามารถแสดง 3. การระบุ ผู้เรียนสามารถพจิ ารณา ผู้เรยี นสามารถพิจารณา ความสามารถในการระบุ หลกั การ ข้อมลู เหตุการณ์ หรอื ขอ้ มูลที่ เหตกุ ารณ์ หรอื ผู้เรยี นสามารถพจิ ารณา ความสัมพันธ์อย่างมี เรื่องราว และสามารถ เรอ่ื งราว และสามารถ ขอ้ มลู เหตุการณ์ หรือ เหตุผลตามเกณฑ์ระดบั 4. การประเมิน อธบิ ายความสัมพนั ธ์หรอื อธบิ ายความสัมพันธ์หรอื เรอ่ื งราว และสามารถ คะแนน 1-3 สถานการณ์ การเชือ่ มโยงเนอ้ื หา การเชื่อมโยงเนอ้ื หา อธิบายความสมั พนั ธห์ รอื เหตกุ ารณ์ หรอื เรื่องราว เหตุการณ์ หรือเร่ืองราว การเช่ือมโยงเน้ือหา ผ้เู รยี นไมส่ ามารถแสดง ไดอ้ ย่างชดั เจนและ ได้อยา่ งชัดเจนและแต่ เหตกุ ารณ์ หรอื เรื่องราว ความสามารถในการระบุ สมเหตุสมผล ขาดความสมเหตุสมผล ไดไ้ มช่ ัดเจนและขาด หลักการตามเกณฑ์ระดับ ผเู้ รียนสามารถอธบิ าย ผเู้ รียนสามารถอธิบาย ความสมเหตุสมผล คะแนน 1-3 หลกั การท่สี นับสนนุ หลักการที่สนับสนนุ ความสมั พันธ์ของเนอ้ื หา ความสัมพันธ์ของเนอ้ื หา ผู้เรยี นสามารถอธิบาย ผู้เรยี นไมส่ ามารถแสดง เหตุการณ์ หรอื เร่ืองราว เหตกุ ารณ์ หรือเร่ืองราว หลกั การทสี่ นบั สนนุ ความสามารถในการ โดยประยกุ ตใ์ ช้องค์ โดยประยุกต์ใชอ้ งค์ ความสมั พนั ธ์ของเนือ้ หา ประเมนิ สถานการณ์ตาม ความรู้ แนวคิด ทฤษฎี ความรู้ แนวคดิ ทฤษฎแี ต่ เหตกุ ารณ์ หรือเร่ืองราว เกณฑร์ ะดบั คะแนน 1-3 อยา่ งสมเหตุสมผลและ ขาดความสมเหตสุ มผล แตข่ าดการประยกุ ตใ์ ช้ น่าเชอื่ ถอื และน่าเช่ือถือ องค์ความรู้ แนวคดิ ทฤษฎีและขาดความ ผูเ้ รยี นสามารถตคี วาม ผเู้ รียนสามารถตีความ สมเหตสุ มผลและ วเิ คราะห์ขอ้ มูล ประเมิน วเิ คราะห์ขอ้ มูล ประเมนิ น่าเชอื่ ถอื และสรุปอ้างองิ จากข้อมูล และสรปุ อ้างอิงจากขอ้ มูล ท่ีเชอ่ื ถอื ได้มาสนบั สนนุ ทเ่ี ชอ่ื ถือไดม้ าสนับสนุน ผเู้ รยี นสามารถตคี วาม เน้ือหา เหตกุ ารณ์ หรือ เน้ือหา เหตุการณ์ หรือ วิเคราะห์ข้อมูล ประเมนิ เร่อื งราวไดอ้ ยา่ งชัดเจน เร่อื งราวได้แตข่ าดความ แต่สรปุ อ้างอิงจากข้อมูล ชัดเจน ทข่ี าดความเชื่อถอื ได้มา สนบั สนนุ เนือ้ หา เหตกุ ารณ์ หรอื เรื่องราว และขาดความชัดเจน การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถงึ การคิดวิเคราะหแ์ ละการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณอยใู่ นระดับดี ¡ 7-9 หมายถึง การคิดวิเคราะห์และการคิดอย่างมวี ิจารณญาณอยูใ่ นระดบั ปานกลาง ¡ 4-6 หมายถึง การคิดวเิ คราะหแ์ ละการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณอยู่ในระดบั พอใช้ ¡ 0-3 หมายถึง การคิดวเิ คราะห์และการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณอยใู่ นระดบั ปรับปรุง

5 แบบประเมินการคิดวิเคราะห์และการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ Type 1C (Single-Point Rubric) ประเด็นเพื่อการปรับปรุง เกณฑ์การประเมินการคดิ ประเด็นที่สำเรจ็ และการตอ่ ยอด (Areas of Improvement) วิเคราะห์และการคดิ อยา่ งมี (Above and Beyond) วจิ ารณญาณ 1. การระบคุ วามสำคญั ( ......... / ......... คะแนน) ผูเ้ รยี นสามารถแจกแจงลักษณะ ความสำคญั หรือองค์ประกอบของ เนอ้ื หา เหตกุ ารณ์ หรือเรือ่ งราวได้ อย่างชัดเจนและมีความเป็นเหตุและ ผล 2. การระบุความสัมพันธ์อยา่ งมี เหตผุ ล ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรียนสามารถพจิ ารณาข้อมลู เหตกุ ารณ์ หรอื เร่ืองราว และสามารถ อธบิ ายความสมั พันธ์หรือการเชื่อมโยง เน้ือหา เหตกุ ารณ์ หรือเร่ืองราวได้ อย่างชดั เจนและสมเหตุสมผล 3. การระบุหลักการ ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รยี นสามารถอธิบายหลกั การท่ี สนับสนุนความสัมพันธ์ของเน้ือหา เหตกุ ารณ์ หรือเรื่องราว โดย ประยุกต์ใช้องคค์ วามรู้ แนวคดิ ทฤษฎี อยา่ งสมเหตุสมผลและนา่ เช่ือถือ 4. การประเมนิ สถานการณ์ ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนสามารถตคี วาม วเิ คราะห์ขอ้ มลู ประเมนิ และสรุปอ้างองิ จากข้อมลู ท่ี เชื่อถอื ได้มาสนบั สนุนเนื้อหา เหตุการณ์ หรือเรอ่ื งราวได้อย่างชดั เจน

6 2. การแก้ปัญหาเชิงซบั ซ้อน (Complex Problem Solving) นยิ ามความหมาย การแก้ปัญหาเชิงซับซ้อน (Complex Problem Solving) หมายถึง ความสามารถใน การค้นหาวิธีการจัดการผลกระทบที่จะไม่ทำให้เกิดผลกระทบซ้ำ ผ่านการสังเคราะหส์ าเหตุจาก ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มปัจจัยต่าง ๆ และมองหารูปแบบการเปลี่ยนแปลง โดยพิจารณา ความสัมพันธ์ของผลกระทบต่าง ๆ โดยเป็นการคิดเชิงระบบ การมองภาพเป็นองค์รวมของ องคป์ ระกอบท่มี คี วามเกย่ี วขอ้ งกันหรือมอี ทิ ธพิ ลตอ่ กนั มอี งค์ประกอบ 4 ด้าน ดงั นี้ 2.1 การวิเคราะห์สถานการณ์ หมายถึง ความสามารถในการระบุสถานการณ์หรือ เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นที่ส่งผลกระทบและต้องการการจัดการอย่างละเอียดและชัดเจน การ จัดลำดับความสำคญั และความเร่งด่วน การวางแผนและหาวิธีการจัดการเพื่อให้การดำเนินงานมี ประสิทธิภาพและเกิดประสิทธผิ ลสงู สดุ 2.2 การคิดเชิงระบบ หมายถึง ความสามารถในการคิดแบบองค์รวมของแบบแผนหรือ โครงสร้างในลักษณะเป็นเครือข่ายลำดับชั้นอย่างมีปฏิสัมพันธ์ที่ทุกส่วนมีการเชื่อมต่อกันทั้ง โดยตรงและโดยออ้ ม 2.3 การแสวงหาวิธีแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ หมายถงึ ความสามารถในการประมวลวิธีการ แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนด้วยการคิดค้นหาวิธีการใหม่ที่แปลกแตกต่างไปจากเดิมหรือการค้นหา กระบวนการทีม่ อี ยู่แล้วนำไปบูรณาการกบั ความคิดทมี่ ีอยู่และแปลกใหม่ไปจากเดิมเพ่ือให้รองรับ กบั ปัญหาความซับซอ้ นได้ 2.4 การปรับตัวหรือยืดหยุ่นตามสถานการณ์ หมายถึง ความสามารถในการมองหาทาง แก้ไขปัญหาได้อยา่ งหลากหลายโดยไมย่ ึดติดกับรูปแบบเดิม และการปรับเปลี่ยนแนวความคิดให้ สอดคลอ้ งกบั การแก้ไขปญั หาหรอื สถานการณท์ ี่เกิดขนึ้

7 แบบประเมนิ การแกป้ ัญหาเชงิ ซบั ซอ้ น Type 2A (Holistic Rubrics) 3 2 1 0 ผู้เรียนสามารถระบุ ผู้เรียนสามารถระบุ ผ้เู รียนสามารถระบุ ผ้เู รียนไมส่ ามารถแสดง สถานการณใ์ นการ สถานการณใ์ นการ สถานการณใ์ นการ ความสามารถดา้ นการ แก้ปญั หาได้อยา่ ง แกป้ ญั หาไดอ้ ย่าง แก้ปัญหาได้อยา่ ง แก้ปญั หาเชงิ ซบั ซอ้ น ละเอยี ดและชดั เจน ละเอยี ดและชดั เจน ละเอยี ดและชัดเจน ตามเกณฑร์ ะดบั คะแนน จดั ลำดบั ความสำคญั จัดลำดบั ความสำคัญ จัดลำดับความสำคัญ 1-3 วางแผนและหาวธิ กี าร วางแผนและหาวธิ ีการ วางแผนและหาวิธีการ จดั การโดยคดิ แบบองค์ จดั การโดยคดิ แบบองค์ จัดการแต่ยังขาดการคิด รวมอยา่ งมแี บบแผน รวมอยา่ งมแี บบแผน แบบองคร์ วมอย่างมี หรือโครงสร้าง ประมวล หรือโครงสร้าง ประมวล แบบแผนหรอื โครงสรา้ ง วธิ ีการแก้ไขปัญหาท่ี วิธกี ารแก้ไขปญั หาที่ และขาดการประมวล ซับซอ้ นไดอ้ ย่าง ซับซอ้ นไดแ้ ต่ขาดความ วิธกี ารแกไ้ ขปัญหาที่ หลากหลาย หลากหลาย ซบั ซ้อนไดแ้ ละขาดความ หลากหลาย การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถึง การแก้ปัญหาเชิงซับซ้อนอยใู่ นระดบั ดี ¡ 2 หมายถึง การแกป้ ัญหาเชิงซับซ้อนอยใู่ นระดับปานกลาง ¡ 1 หมายถึง การแกป้ ัญหาเชงิ ซับซอ้ นอย่ใู นระดบั พอใช้ ¡ 0 หมายถงึ การแก้ปัญหาเชงิ ซับซ้อนอยู่ในระดับปรบั ปรงุ

แบบประเมินการแก้ปญั หาเชิงซบั ซอ้ น 8 Type 2B (Analytic Rubrics) องคป์ ระกอบยอ่ ย 3210 1. การวิเคราะห์ ผเู้ รียนสามารถระบุ ผเู้ รียนสามารถระบุ ผเู้ รยี นสามารถระบุ ผเู้ รยี นไมส่ ามารถแสดง สถานการณ์ สถานการณ์ที่เกดิ ขึน้ และ สถานการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ และ สถานการณ์ท่เี กิดขึน้ แตย่ งั ไม่ ความสามารถในการ 2. การคิดเชิง ระบบ จัดลำดบั ความสำคัญ จัดลำดบั ความสำคญั สามารถจดั ลำดบั ความสำคัญ วิเคราะห์สถานการณ์ตาม 3. การแสวงหา เรง่ ด่วน รวมถงึ การวางแผน เร่งด่วน แตก่ ารวางแผนหา เร่งด่วน และการวางแผนหา เกณฑ์ระดบั คะแนน 1-3 วิธีแก้ไขอย่าง สร้างสรรค์ หาวิธีการจัดการเพื่อให้การ วธิ ีการจดั การยงั ขาดความ วิธกี ารจดั การยังขาดความ 4. การปรบั ตวั ดำเนนิ งานมปี ระสทิ ธภิ าพ ชัดเจนทท่ี ำให้การ ชัดเจนทท่ี ำให้การดำเนนิ งาน หรอื ยดื หยุ่นตาม สถานการณ์ และประสิทธผิ ล ดำเนนิ งานมปี ระสิทธิ ภาพ มีประสทิ ธิ ภาพและ และประสิทธิผล ประสทิ ธผิ ล ผเู้ รียนสามารถคดิ แบบองค์ ผู้เรยี นสามารถคดิ แบบองค์ ผเู้ รยี นสามารถคิดแบบองค์ ผู้เรยี นไม่สามารถแสดง รวมของแบบแผนหรอื รวมของแบบแผนหรือ รวมของแบบแผนหรือ ความสามารถในการคดิ เชงิ โครงสรา้ งในลกั ษณะเป็น โครงสร้างในลักษณะเป็น โครงสร้างแตย่ ังไม่เป็น ระบบตามเกณฑ์ระดบั เครือขา่ ยลำดับชน้ั อย่างมี เครือข่ายลำดับชนั้ อย่างมี เครือข่ายลำดับช้นั อย่างมี คะแนน 1-3 ปฏสิ มั พนั ธท์ ท่ี กุ สว่ นมีการ ปฏสิ ัมพันธ์แต่ยงั ขาดความ ปฏสิ มั พนั ธ์และขาดความ เช่อื มตอ่ กันทง้ั โดยตรงและ เชือ่ มตอ่ กนั ทัง้ โดยตรงและ เชอื่ มต่อกันท้งั โดยตรงและ โดยอ้อม โดยอ้อม โดยอ้อม ผ้เู รียนสามารถประมวล ผู้เรยี นสามารถประมวล ผูเ้ รยี นสามารถประมวล ผู้เรียนไมส่ ามารถแสดง วิธีการแกไ้ ขปญั หาด้วย วธิ กี ารแก้ไขปญั หาด้วย วิธกี ารแกไ้ ขปัญหาได้แต่ ความสามารถในการ วธิ ีการใหม่ที่แตกตา่ งไป วิธกี ารใหมท่ ีแ่ ตกต่างไปจาก วธิ ีการใหมย่ ังไม่แตกต่างไป แสวงหาวิธแี กไ้ ขอยา่ ง จากเดิม หรือบูรณาการกับ เดมิ แตย่ งั ขาดการ จากเดมิ และยงั ขาดการบรู สร้างสรรคต์ ามเกณฑ์ระดับ ความคดิ ทแ่ี ปลกใหมห่ รือ บูรณาการกับความคดิ ท่ี ณาการกบั ความคิดทแี่ ปลก คะแนน 1-3 ความคดิ ที่มอี ย่เู ดิมได้ แปลกใหม่หรือความคิดที่มี ใหมห่ รอื ความคิดท่ีมอี ยู่ อย่เู ดมิ เดิม ผ้เู รียนสามารถแก้ไขปัญหา ผ้เู รยี นสามารถแก้ไขปญั หา ผ้เู รียนสามารถแก้ไขปญั หา ผู้เรยี นไม่สามารถแสดง ไดห้ ลากหลายไม่ยึดตดิ กบั ได้หลากหลายไม่ยึดติดกับ ได้หลากหลายแตย่ ังยดึ ตดิ ความสามารถในการ รูปแบบเดมิ ปรับเปลีย่ น รูปแบบเดิม แต่ยงั ไม่ กับรูปแบบเดิม และยงั ไม่ ปรับตวั หรือยดื หยนุ่ ตาม แนวความคิดให้สอดคล้อง สามารถปรับเปลยี่ น สามารถปรับเปล่ยี น สถานการณต์ ามเกณฑ์ กับการแกไ้ ขปัญหาหรอื แนวความคิดใหส้ อดคล้อง แนวความคดิ ให้สอดคล้อง ระดบั คะแนน 1-3 สถานการณ์ กับการแก้ไขปญั หาหรอื กบั การแก้ไขปญั หาหรอื สถานการณ์ สถานการณ์ การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถงึ การแกป้ ัญหาเชิงซบั ซ้อนอยใู่ นระดบั ดี ¡ 7-9 หมายถงึ การแกป้ ัญหาเชิงซบั ซ้อนอยใู่ นระดับปานกลาง ¡ 4-6 หมายถงึ การแก้ปัญหาเชิงซับซอ้ นอยูใ่ นระดับพอใช้ ¡ 0-3 หมายถงึ การแกป้ ัญหาเชิงซบั ซอ้ นอย่ใู นระดับปรับปรงุ

9 แบบประเมินการแกป้ ัญหาเชงิ ซบั ซอ้ น Type 2C (Single-Point Rubric) ประเด็นเพือ่ การปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ประเด็นท่สี ำเร็จและการต่อยอด (Areas of Improvement) การแก้ปญั หาเชิงซับซ้อน (Above and Beyond) 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรยี นสามารถระบุสถานการณท์ ่ี เกิดข้ึนและ จดั ลำดบั ความสำคญั เรง่ ด่วน รวมถึงการวางแผนหาวิธีการ จดั การเพ่ือใหก้ ารดำเนนิ งานมี ประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผล 2. การคิดเชิงระบบ ( ......... / ......... คะแนน) ผูเ้ รยี นสามารถคดิ แบบองคร์ วมของ แบบแผนหรอื โครงสร้างในลักษณะเป็น เครอื ขา่ ยลำดับชั้นอยา่ งมปี ฏิสัมพันธ์ท่ี ทุกส่วนมีการเช่อื มต่อกันทัง้ โดยตรง และโดยออ้ ม 3. การแสวงหาวธิ ีแก้ไขอยา่ ง สรา้ งสรรค์ ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรยี นสามารถประมวลวธิ ีการแก้ไข ปัญหาด้วยวิธกี ารใหมท่ ีแ่ ตกต่างไปจาก เดิมหรอื บรู ณาการกับความคิดทแี่ ปลก ใหม่ 4. การปรบั ตวั หรือยดื หยุ่นตาม สถานการณ์ ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรยี นสามารถแก้ไขปญั หาได้ หลากหลายไม่ยึดตดิ กับรปู แบบเดมิ ปรบั เปลยี่ นแนวความคดิ ใหส้ อดคลอ้ ง กับการแก้ไขปัญหาหรือสถานการณ์

10 3. การคดิ สรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) นยิ ามความหมาย การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) หมายถึง ความสามารถในการมองเห็น ความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ แล้วขยายขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่สู่ ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นความคิดที่เปิดกว้าง คิดหลายแง่หลายมุม ไม่ปิดกั้น ความคิดของตน โดยเปิดใจกว้างในการเรียนรู้และยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากที่เคย เรยี นรู้ สามารถเชอ่ื มโยงต่อยอดการคิดในสิ่งท่ีแปลกใหม่ไปจากเดมิ และสามารถริเรมิ่ สิ่งใหม่ท่ีต่อ ยอดมาจากความคดิ นัน้ ได้ มีองคป์ ระกอบ 4 ด้าน ดังน้ี 3.1 การคิดริเริม่ หมายถึง ความสามารถในการคิดสิง่ ที่แปลกใหม่ แตกต่างจากความคดิ ธรรมดาท่วั ไป หรอื ดดั แปลงประยุกตเ์ ปน็ ความคิดใหม่ ซึง่ อาจไม่เคยมีใครนกึ หรอื คิดขน้ึ มากอ่ น 3.2 การคิดคล่องแคล่ว หมายถึง ความสามารถในการคิดหาคำตอบได้อย่างรวดเรว็ โดย เป็นคำตอบท่ีได้ค้นคว้าหาทางเลือกท่ีหลากหลายมาแล้ว และเปน็ คำตอบท่ีเหมาะสม สามารถคิด ออกมาใหไ้ ด้จำนวนมากในชว่ งเวลาที่จำกดั 3.3 การคิดยืดหยุ่น หมายถึง ความสามารถในการคิดหาคำตอบได้หลายอย่างหลาย ประเภท และมีความหลากหลาย 3.4 การคิดละเอียดลออ หมายถึง ความสามารถในการคิดขยายภาพความคิดแรกให้ได้ ความชัดเจน ครบถ้วนในทกุ ประเด็น และมคี วามหมายสมบูรณม์ ากข้นึ

แบบประเมินการคดิ สร้างสรรค์ 11 Type 3A (Holistic Rubrics) 3210 ผูเ้ รียนสามารถคิดสง่ิ ท่ี ผเู้ รยี นสามารถคิดสงิ่ ท่ี ผเู้ รียนสามารถคิดสง่ิ ท่ี ผูเ้ รยี นไม่สามารถแสดง แปลกใหมห่ รือดัดแปลง แปลกใหมห่ รือดัดแปลง แปลกใหมห่ รอื ดดั แปลง ความสามารถดา้ นการ ประยกุ ตเ์ ป็นความคิด ประยกุ ตเ์ ป็นความคิด ประยุกตเ์ ปน็ ความคดิ คดิ สร้างสรรค์ตามเกณฑ์ ใหม่ในการคดิ หาคำตอบ ใหมใ่ นการคดิ หาคำตอบ ใหม่ในการคิดหาคำตอบ ระดับคะแนน 1-3 ได้อยา่ งหลากหลายและ ได้อย่างหลากหลายและ แต่ยงั ขาดความ รวดเร็วในชว่ งเวลาท่ี รวดเร็วในชว่ งเวลาท่ี หลากหลายและรวดเรว็ จำกดั สามารถขยาย จำกดั แต่ยังไม่สามารถ ในช่วงเวลาทจ่ี ำกดั และ ภาพความคดิ ได้ชัดเจน ขยายภาพความคดิ ได้ ยงั ไมส่ ามารถขยายภาพ ครบถ้วนในทกุ ประเดน็ ชัดเจน ครบถว้ นในทุก ความคดิ ได้ชัดเจน และมคี วามหมาย ประเดน็ และขาด ครบถ้วนในทกุ ประเด็น สมบรู ณ์ ความหมายทส่ี มบรู ณ์ และขาดความหมายที่ สมบรู ณ์ การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถงึ การคดิ สรา้ งสรรค์อยูใ่ นระดบั ดี ¡ 2 หมายถึง การคิดสร้างสรรคอ์ ยู่ในระดบั ปานกลาง ¡ 1 หมายถึง การคิดสรา้ งสรรค์อย่ใู นระดับพอใช้ ¡ 0 หมายถึง การคดิ สร้างสรรค์อยูใ่ นระดบั ปรบั ปรุง

แบบประเมินการคิดสร้างสรรค์ 12 Type 3B (Analytic Rubrics) องค์ประกอบยอ่ ย 3 2 1 0 1. การคดิ ริเรม่ิ ผู้เรียนสามารถคิดสิ่งท่ี ผู้เรยี นสามารถคดิ สงิ่ ที่ ผู้เรียนสามารถคดิ ส่งิ ที่ ผู้เรียนไม่สามารถแสดง แปลกใหม่แตกต่างไปจาก แปลกใหม่แตกตา่ งไปจาก แปลกใหมแ่ ตย่ งั ไม่ ความสามารถในการคดิ 2. การคิด ท่วั ไป ดัดแปลงประยกุ ต์ ทัว่ ไป แตย่ งั ไม่สามารถ แตกตา่ งไปจากทวั่ ไป รเิ ริ่มตามเกณฑร์ ะดับ คลอ่ งแคลว่ เปน็ ความคิดใหม่ทีไ่ มเ่ คย ดดั แปลงประยุกต์เป็น และยงั ไมส่ ามารถ คะแนน 1-3 เกิดข้ึนมาก่อน ความคดิ ใหม่ทไ่ี มเ่ คยเกิด ดดั แปลงประยุกต์เปน็ 3. การคดิ ยดื หยุน่ ขน้ึ มากอ่ น ความคดิ ใหม่ทีไ่ ม่เคยเกิด ผเู้ รียนไมส่ ามารถแสดง ผ้เู รยี นสามารถคิดหา ขน้ึ มาก่อน ความสามารถในการคดิ 4. การคิด คำตอบได้เหมาะสมและ ผูเ้ รียนสามารถคดิ หา คล่องแคล่วตามเกณฑ์ ละเอียดลออ หลากหลาย โดยสามารถ คำตอบได้เหมาะสมและ ผู้เรียนสามารถคดิ หา ระดบั คะแนน 1-3 คดิ ไดอ้ ย่างรวดเร็วใน หลากหลาย แต่ขาดความ คำตอบไดเ้ หมาะสมแต่ ชว่ งเวลาทีจ่ ำกัด รวดเรว็ ในชว่ งเวลาท่ี ขาดความหลากหลาย ผ้เู รียนไมส่ ามารถแสดง ผเู้ รียนสามารถคิดหา จำกัด และขาดความรวดเรว็ ใน ความสามารถในการคดิ คำตอบไดห้ ลายอยา่ ง ผเู้ รยี นสามารถคดิ หา ช่วงเวลาท่ีจำกัด ยดื หยุ่นตามเกณฑร์ ะดบั หลายประเภท และมี คำตอบไดห้ ลายอย่าง คะแนน 1-3 ความหลากหลาย ชัดเจน หลายประเภท แตย่ ังขาด ผเู้ รียนสามารถคิดหา ภายในแตล่ ะประเภท ความหลากหลายหรอื คำตอบได้หลายอยา่ ง ผู้เรยี นไม่สามารถแสดง ความชัดเจนภายในแต่ละ หลายประเภท แต่ยังขาด ความสามารถในการคดิ ผู้เรยี นสามารถขยายภาพ ประเภท ความหลากหลายและ ละเอียดลออตาม ความคดิ แรกไดช้ ัดเจน ผเู้ รียนสามารถขยายภาพ ความชัดเจนภายในแต่ละ สถานการณ์ตามเกณฑ์ ครบถ้วนในทุกประเด็น ความคดิ แรกได้ชัดเจน ประเภท ระดบั คะแนน 1-3 และมคี วามหมายสมบูรณ์ ครบถว้ นในทุกประเดน็ แต่ยงั ขาดความหมายท่ี ผู้เรยี นสามารถขยายภาพ สมบูรณ์ ความคดิ แรกไดช้ ดั เจน แตย่ งั ขาดความครบถว้ น และขาดความหมายท่ี สมบูรณ์ การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถงึ การคดิ สร้างสรรค์อยู่ในระดับดี ¡ 7-9 หมายถงึ การคดิ สรา้ งสรรค์อยใู่ นระดบั ปานกลาง ¡ 4-6 หมายถงึ การคดิ สรา้ งสรรค์อยู่ในระดับพอใช้ ¡ 0-3 หมายถงึ การคดิ สรา้ งสรรค์อยใู่ นระดบั ปรับปรงุ

13 แบบประเมินการคดิ สร้างสรรค์ Type 3C (Single-Point Rubric) ประเดน็ เพื่อการปรับปรงุ เกณฑก์ ารประเมิน ประเดน็ ท่ีสำเร็จและการตอ่ ยอด (Areas of Improvement) การคดิ สรา้ งสรรค์ (Above and Beyond) 1. การคิดรเิ รม่ิ ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนสามารถคดิ สิง่ ที่แปลกใหม่ แตกตา่ งไปจากทั่วไป ดดั แปลง ประยกุ ตเ์ ปน็ ความคิดใหม่ท่ีไม่เคยเกดิ ข้นึ มากอ่ น 2. การคิดคลอ่ งแคล่ว ( ......... / ......... คะแนน) ผูเ้ รยี นสามารถคดิ หาคำตอบได้ เหมาะสมและหลากหลาย โดยสามารถ คิดได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาทจ่ี ำกดั 3. การคิดยืดหยนุ่ ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนสามารถคดิ หาคำตอบไดห้ ลาย อย่างหลายประเภท และมีความ หลากหลาย ชัดเจนภายในแต่ละ ประเภท 4. การคิดละเอยี ดลออ ( ......... / ......... คะแนน) ผูเ้ รยี นสามารถขยายภาพความคิดแรกได้ ชดั เจน ครบถว้ นในทุกประเด็น และมี ความหมายสมบูรณ์

14 4. การบริหารความสัมพันธ์กบั ผอู้ ื่น (Interpersonal Management) นยิ ามความหมาย การบริหารความสัมพันธ์กับผู้อื่น (Interpersonal Management) หมายถึง ความสามารถในการสร้างปฏสิ มั พนั ธ์และความเข้าใจกันของบุคคลแต่ละคน รวมท้งั การเข้าใจคน อื่น การรับฟังกัน การฟังอย่างตั้งใจ การสร้างความเข้าใจร่วมกัน การสื่อสารเพื่อสร้าง ความสัมพนั ธ์ การโน้มน้าวใจผูอ้ ่นื และการปฏบิ ัติตอ่ ผู้อน่ื มีองค์ประกอบ 4 ด้าน ดงั น้ี 4.1 การทำงานรว่ มกับผู้อื่น หมายถึง ความสามารถในการใหค้ วามรว่ มมือในการทำงาน กับผู้อื่น มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกัน ตระหนักในความสำคัญของกันและกัน แสดงออกถึงการ ยอมรับ ให้เกยี รติกนั และรับฟงั ความคิดเห็นของผอู้ ่นื 4.2 การปรับตัวได้อย่างเหมาะสมและยืดหยุ่นในการทำงาน หมายถึง ความสามารถใน การปรบั ตวั ให้เขา้ กบั บคุ คลและสภาพแวดล้อมทเ่ี ปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยนรปู แบบการทำงานของ ตนเองใหเ้ ขา้ กบั แนวทางการทำงานของกลุม่ ได้ 4.3 การมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม หมายถึง ความสามารถในการปฏิบัตติ ามกฎหรือมติ ของกลุ่มด้วยการยอมรับ พยายามทำหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผล กระทบต่อกลมุ่ ยอมรับสง่ิ ที่เกิดขน้ึ จากการกระทำของกลุ่ม 4.4 การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี หมายถึง ความสามารถในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้โดยมีการ โต้ตอบและมีการตอบสนองต่อกันและกัน สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองให้แสดงทั้งทาง คำพดู และปฏิกิรยิ าทา่ ทางให้เป็นเชิงบวกต่อตนเองและเพื่อนร่วมงานได้ และรู้จักวิธีการส่ือสารที่ เหมาะสม ถูกกาลเทศะ

15 แบบประเมินการบริหารความสมั พันธ์กับผอู้ น่ื Type 4A (Holistic Rubrics) 3210 ผูเ้ รียนรบั ฟงั ความ ผูเ้ รยี นรบั ฟังความ ผู้เรียนรบั ฟังความ ผู้เรยี นไมส่ ามารถแสดง คดิ เหน็ ของผู้อนื่ ปรบั ตัว คิดเหน็ ของผอู้ น่ื ปรบั ตวั คดิ เหน็ ของผูอ้ ่นื บา้ ง ความสามารถดา้ นการ ใหเ้ ข้ากับการ ใหเ้ ขา้ กับการ พยายามปรบั ตัวใหเ้ ข้า บรหิ ารความสมั พันธก์ ับ เปลี่ยนแปลง ปฏบิ ตั ิตาม เปลย่ี นแปลง ปฏิบตั ิตาม กบั การเปลยี่ นแปลง แต่ ผู้อ่นื ตามเกณฑร์ ะดบั กฎหรอื มตขิ องกล่มุ ทำ กฎหรือมตขิ องกลุม่ ทำ ขาดการปฏบิ ตั ิตามกฎ คะแนน 1-3 หนา้ ทขี่ องตนท่ีได้รับ หน้าที่ของตนท่ีได้รับ หรือมติของกลุม่ หรือ มอบหมาย ยอมรบั สิ่งที่ มอบหมาย ยอมรับสิ่งที่ ขาดการทำหน้าทีข่ องตน เกิดขึน้ มกี ารโต้ตอบ เกิดขน้ึ มกี ารโต้ตอบ ท่ีได้รับมอบหมาย และตอบสนองซึ่งกัน และตอบสนองซ่งึ กัน ยอมรบั สง่ิ ทเี่ กดิ ขน้ึ มี และกนั รจู้ กั ควบคุม และกนั แตข่ าดการ การโตต้ อบและ พฤตกิ รรมของตนเอง ควบคมุ พฤตกิ รรมของ ตอบสนองซง่ึ กนั และกนั และรจู้ กั วิธีการส่อื สารท่ี ตนเองและขาดวธิ ีการ และขาดการควบคมุ เหมาะสม สือ่ สารทเี่ หมาะสม พฤติกรรมของตนเอง และขาดวิธีการสื่อสารท่ี เหมาะสม การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถงึ การบรหิ ารความสัมพนั ธ์กับผ้อู ืน่ อยู่ในระดบั ดี ¡ 2 หมายถงึ การบรหิ ารความสมั พันธ์กบั ผอู้ น่ื อยู่ในระดบั ปานกลาง ¡ 1 หมายถึง การบริหารความสมั พันธก์ บั ผู้อื่นอยู่ในระดบั พอใช้ ¡ 0 หมายถึง การบริหารความสัมพันธก์ ับผูอ้ ื่นอยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ

16 แบบประเมนิ การบรหิ ารความสัมพันธ์กับผู้อ่นื Type 4B (Analytic Rubrics) องค์ประกอบย่อย 3 2 1 0 1. การทำงาน ผเู้ รียนรว่ มมอื ในการ ผู้เรียนร่วมมือในการ ผู้เรยี นร่วมมอื ในการ ผู้เรียนไมส่ ามารถแสดง รว่ มกบั ผอู้ น่ื ทำงานกบั ผอู้ ่นื และมี ทำงานกับผู้อ่นื และมี ทำงานกับผอู้ ่นื แต่ยงั ขาด ความสามารถในการ ปฏิสัมพันธ์ทางสงั คม ปฏสิ มั พนั ธ์ทางสังคม แต่ ปฏิสมั พนั ธท์ างสังคม ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ตาม 2. การปรบั ตวั ได้ แสดงออกถึงการยอมรับ ขาดการแสดงออกถงึ การ และขาดการแสดงออกถึง เกณฑ์ระดับคะแนน 1-3 อย่างเหมาะสม ให้เกยี รติ และรบั ฟงั ยอมรบั ให้เกยี รติ และรบั การยอมรบั ให้เกยี รติ และยืดหยนุ่ ในการ ความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อื่น และรบั ฟังความคิดเหน็ ผู้เรียนไมส่ ามารถแสดง ทำงาน ของผอู้ ่นื ความสามารถในการ ผู้เรยี นสามารถปรบั ตวั ให้ ผู้เรยี นสามารถปรบั ตวั ให้ ปรบั ตัวได้อย่างเหมาะสม 3. การมคี วาม เขา้ กับบคุ คลและ เขา้ กบั บุคคลและ ผเู้ รยี นสามารถปรบั ตวั ให้ และยดื หยุ่นในการทำงาน รบั ผดิ ชอบตอ่ สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อม เขา้ กบั บุคคลและ ตามเกณฑ์ระดับคะแนน สังคม ปรบั เปลยี่ นรูปแบบการ ปรับเปลยี่ นรูปแบบการ สภาพแวดลอ้ ม แต่ยงั ไม่ 1-3 ทำงานของตนเองให้เขา้ ทำงานของตนเองแตย่ งั สามารถปรบั เปลีย่ น 4. การมมี นษุ ย กับแนวทางการทำงาน ไม่เข้ากับแนวทางการ รปู แบบการทำงานของ ผู้เรยี นไม่สามารถแสดง สมั พนั ธท์ ี่ดี ของกลุ่มได้ ทำงานของกลุ่มได้ ตนเองและยังไมเ่ ขา้ กบั ความสามารถในการมี แนวทางการทำงานของ ความรับผิดชอบตอ่ สังคม ผู้เรยี นสามารถปฏิบตั ติ าม ผเู้ รียนสามารถปฏบิ ัตติ าม กลุ่มได้ ตามเกณฑ์ระดบั คะแนน กฎหรอื มตขิ องกลุ่มดว้ ย กฎหรอื มติของกลมุ่ ด้วย 1-3 การยอมรับ พยายามทำ การยอมรบั พยายามทำ ผู้เรยี นสามารถปฏบิ ตั ติ าม หนา้ ที่ของตนที่ได้รบั หนา้ ท่ขี องตนทไ่ี ด้รับ กฎหรอื มติของกลมุ่ ด้วย ผเู้ รยี นไม่สามารถแสดง มอบหมายใหด้ ีทส่ี ดุ และ มอบหมายใหด้ ที ่สี ดุ แต่ การยอมรบั แตข่ าดการ ความสามารถในการมี ยอมรับส่ิงที่เกดิ ขึ้นจาก ขาดการยอมรบั สิ่งท่ี พยายามทำหน้าท่ีของตน มนุษยสัมพนั ธ์ทดี่ ตี าม การกระทำของกลุ่ม เกดิ ขนึ้ จากการกระทำ ท่ีไดร้ ับมอบหมายให้ดี เกณฑร์ ะดบั คะแนน 1-3 ของกลมุ่ ที่สดุ และขาดการยอมรับ ผเู้ รยี นโตต้ อบและ ผู้เรียนโตต้ อบและ สง่ิ ที่เกิดขนึ้ จากการ ตอบสนองต่อกันและกนั ตอบสนองต่อกันและกัน กระทำของกลุ่ม สามารถควบคุม สามารถควบคุม พฤตกิ รรมของตนเอง พฤติกรรมของตนเอง แต่ ผเู้ รยี นโตต้ อบและ รจู้ ักวธิ กี ารสื่อสารท่ี ขาดการส่ือสารท่ี ตอบสนองตอ่ กันและกนั เหมาะสมตามกาลเทศะ เหมาะสมตามกาลเทศะ แตไ่ มส่ ามารถควบคมุ พฤตกิ รรมของตนเอง และขาดการส่ือสารที่ เหมาะสมตามกาลเทศะ การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถงึ การบริหารความสัมพันธก์ บั ผอู้ น่ื อยูใ่ นระดบั ดี ¡ 7-9 หมายถงึ การบริหารความสัมพันธก์ ับผ้อู ื่นอยู่ในระดบั ปานกลาง ¡ 4-6 หมายถงึ การบรหิ ารความสัมพันธก์ ับผู้อื่นอยใู่ นระดับพอใช้ ¡ 0-3 หมายถึง การบริหารความสัมพันธ์กับผู้อ่ืนอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง

17 แบบประเมินการบริหารความสมั พันธก์ ับผอู้ นื่ Type 4C (Single-Point Rubric) ประเดน็ เพื่อการปรับปรงุ เกณฑก์ ารประเมนิ การบรหิ าร ประเดน็ ท่สี ำเรจ็ และการตอ่ ยอด (Areas of Improvement) ความสัมพนั ธก์ บั ผู้อนื่ (Above and Beyond) 1. การทำงานร่วมกบั ผูอ้ น่ื ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรียนร่วมมือในการทำงานกับผู้อืน่ และมปี ฏิสมั พันธ์ทางสงั คม แสดงออก ถงึ การยอมรบั ให้เกียรติ และรับฟัง ความคิดเหน็ ของผู้อ่นื 2. การปรบั ตัวได้อย่างเหมาะสม และยดื หยุ่นในการทำงาน ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรียนสามารถปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั บุคคล และสภาพแวดล้อม ปรับเปลีย่ น รูปแบบการทำงานของตนเองให้เข้ากบั แนวทางการทำงานของกลุ่มได้ 3. การมีความรบั ผดิ ชอบต่อ สังคม ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รยี นสามารถปฏบิ ตั ติ ามกฎหรือมติ ของกลุ่มด้วยการยอมรับ พยายามทำ หนา้ ทีข่ องตนทไี่ ดร้ ับมอบหมายให้ดี ทสี่ ุด และยอมรับสงิ่ ทเี่ กดิ ขนึ้ จากการ กระทำของกลุม่ 4. การมมี นษุ ยสมั พันธ์ที่ดี ( ......... / ......... คะแนน) ผูเ้ รยี นโต้ตอบและตอบสนองต่อกนั และกัน สามารถควบคุมพฤติกรรมของ ตนเอง รู้จกั วธิ ีการสื่อสารทีเ่ หมาะสม ตามกาลเทศะ

18 5. ความซือ่ สัตยแ์ ละความพากเพยี รพยายาม (Integrity and Perseverance) นยิ ามความหมาย ความซื่อสัตยแ์ ละความพากเพียรพยายาม (Integrity and Perseverance) หมายถึง คณุ ลักษณะท่ีแสดงออกผา่ นพฤตกิ รรมท่แี สดงถึงการทำหนา้ ท่ีท่ีได้รับมอบหมายดว้ ยความซ่ือสัตย์ สุจริต และมีความมุ่งมั่นเพียรพยายามในการทำหน้าที่โดยยึดหลักความถูกต้องตามกฎระเบียบ ของสว่ นรวม มอี งคป์ ระกอบ 2 ด้าน ดังน้ี 5.1 ความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ต่อตนเอง และต่อผู้อื่น หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงออกถึง การเคารพกฎระเบียบส่วนรวม เคารพผู้อื่น และเคารพตนเอง รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย โดยยึดถือและยนื หยัดในส่ิงที่ถูกต้อง 5.2 ความพากเพียรพยายาม หมายถงึ พฤติกรรมทแี่ สดงออกถึงความม่งุ ม่ันในการทำงาน หรือทำหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ และการติดตามความก้าวหน้าของงานท่ี ได้รับมอบหมาย

19 แบบประเมินความซอ่ื สัตย์และความพากเพียรพยายาม Type 5A (Holistic Rubrics) 3210 ผ้เู รียนแสดงออกถึงการ ผเู้ รียนแสดงออกถึงการ ผเู้ รียนแสดงออกถงึ การ ผ้เู รียนไม่สามารถแสดง เคารพกฎระเบียบ เคารพกฎระเบียบ เคารพกฎระเบียบ ความซ่อื สตั ยแ์ ละความ ส่วนรวม เคารพผ้อู ืน่ ส่วนรวม เคารพผอู้ ่นื ส่วนรวม เคารพผู้อ่ืน พากเพียรพยายามตาม และเคารพตนเอง และเคารพตนเอง และเคารพตนเอง เกณฑ์ระดบั คะแนน 1-3 รบั ผิดชอบงานท่ีไดร้ ับ รับผิดชอบงานท่ีได้รับ รบั ผดิ ชอบงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย มุ่งมัน่ ในการ มอบหมาย มงุ่ ม่นั ในการ มอบหมาย แต่ขาดความ ทำงานหรือทำหนา้ ทท่ี ี่ ทำงานหรือทำหน้าทีท่ ี่ มุง่ มั่นในการทำงานหรอื ได้รบั มอบหมายอย่าง ไดร้ ับมอบหมายอยา่ ง ทำหนา้ ทีท่ ี่ไดร้ ับ เตม็ ความสามารถ และ เต็มความสามารถ แต่ มอบหมายอย่างเตม็ ติดตามความกา้ วหน้า ขาดการติดตามความ ความสามารถ และขาด ของงานที่ไดร้ บั ก้าวหน้าของงานทไ่ี ดร้ บั การติดตามความ มอบหมาย มอบหมาย กา้ วหน้าของงานที่ไดร้ ับ มอบหมาย การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถงึ ความซ่ือสตั ยแ์ ละความพากเพียรพยายามอยูใ่ นระดบั ดี ¡ 2 หมายถงึ ความซือ่ สัตย์และความพากเพียรพยายามอยใู่ นระดับปานกลาง ¡ 1 หมายถงึ ความซอ่ื สัตยแ์ ละความพากเพยี รพยายามอยูใ่ นระดับพอใช้ ¡ 0 หมายถึง ความซอ่ื สัตยแ์ ละความพากเพยี รพยายามอยใู่ นระดบั ปรับปรงุ

แบบประเมินความซอ่ื สัตย์และความพากเพียรพยายาม 20 Type 5B (Analytic Rubrics) องค์ประกอบย่อย 3 2 1 0 1. ความซอ่ื สตั ย์ ผเู้ รียนแสดงออกถงึ การ ผเู้ รยี นแสดงออกถึงการ ผเู้ รยี นแสดงออกถงึ การ ผู้เรียนไมส่ ามารถแสดง ตอ่ หน้าท่ี ต่อ เคารพกฎระเบียบ เคารพกฎระเบยี บ เคารพกฎระเบียบ ความสามารถดา้ นความ ตนเอง และต่อ สว่ นรวม เคารพผู้อน่ื ส่วนรวม เคารพผอู้ ่นื ส่วนรวม เคารพผอู้ ่ืน ซ่ือสตั ยต์ ่อหนา้ ที่ ต่อ ผอู้ ่นื และเคารพตนเอง และเคารพตนเอง และเคารพตนเอง แต่ขาด ตนเอง และต่อผู้อนื่ ตาม รับผดิ ชอบงานท่ีได้รับ รับผดิ ชอบงานที่ไดร้ บั ความรับผดิ ชอบงานที่ เกณฑ์ระดับคะแนน 1-3 2. ความพากเพียร มอบหมายโดยยึดถอื และ มอบหมายแตข่ าดการ ได้รับมอบหมายและขาด พยายาม ยืนหยดั ในสง่ิ ท่ีถกู ต้อง ยดึ ถอื และยนื หยัดในสงิ่ ท่ี การยึดถือและยนื หยดั ใน ผู้เรยี นไม่สามารถแสดง ถูกต้อง สิ่งทถ่ี กู ตอ้ ง ความพากเพียรพยายาม ผเู้ รยี นแสดงออกถึงความ ตามเกณฑ์ระดับคะแนน มงุ่ ม่ันในการทำงานหรือ ผู้เรยี นแสดงออกถึงความ ผเู้ รยี นแสดงออกถงึ ความ 1-3 ทำหนา้ ทท่ี ี่ได้รับ มุ่งมนั่ ในการทำงานหรอื มุ่งมัน่ ในการทำงานหรอื มอบหมายอยา่ งเตม็ ทำหน้าทที่ ไี่ ด้รบั ทำหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับ ความสามารถ และการ มอบหมายอยา่ งเตม็ มอบหมายแตย่ ังไมเ่ ต็ม ติดตามความก้าวหนา้ ของ ความสามารถ แต่ขาด ความสามารถและขาด งานท่ีไดร้ ับมอบหมาย การติดตามความก้าวหน้า การติดตามความก้าวหนา้ ของงานท่ไี ด้รับ ของงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย มอบหมาย การแปลความหมาย หมายถึง ความซ่อื สัตย์และความพากเพยี รพยายามอยใู่ นระดบั ดี ¡ 5-6 หมายถงึ ความซื่อสตั ย์และความพากเพียรพยายามอยู่ในระดบั ปานกลาง ¡ 3-4 หมายถึง ความซ่อื สัตย์และความพากเพยี รพยายามอยู่ในระดบั พอใช้ ¡ 1-2 หมายถงึ ความซื่อสัตย์และความพากเพยี รพยายามอย่ใู นระดับปรบั ปรงุ ¡0

21 แบบประเมินความซ่ือสตั ย์และความพากเพยี รพยายาม Type 5C (Single-Point Rubric) ประเดน็ เพ่อื การปรับปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ ความซื่อสัตย์ ประเดน็ ทสี่ ำเรจ็ และการต่อยอด (Areas of Improvement) และความพากเพยี รพยายาม (Above and Beyond) 1. ความซื่อสัตยต์ ่อหนา้ ที่ ตอ่ ตนเอง และต่อผอู้ ่ืน ( ......... / ......... คะแนน) เคารพกฎระเบยี บสว่ นรวม เคารพผู้อ่นื และเคารพตนเอง รบั ผดิ ชอบงานท่ี ได้รบั มอบหมายโดยยึดถอื และยืนหยดั ในสิ่งที่ถูกตอ้ ง 2. ความพากเพียรพยายาม ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนแสดงออกถงึ ความม่งุ ม่ันในการ ทำงานหรอื ทำหน้าทท่ี ่ีไดร้ บั มอบหมาย อย่างเตม็ ความสามารถ และการ ติดตามความกา้ วหน้าของงานทไ่ี ด้รับ มอบหมาย

22 6. การเรียนรู้เชงิ รกุ และการใฝร่ ู้ (Active Learning & Learning Strategies) นิยามความหมาย การเรียนรู้เชิงรุกและการใฝ่รู้ (Active Learning & Learning Strategies) หมายถึง ความสามารถในการวางแผนและตั้งเปา้ หมายการเรียนรู้ ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยกลยุทธ์ การเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ระบุสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมได้ เช่ือมโยงความรเู้ ดิมกบั ความรู้ใหม่ และสามารถประยุกต์ความรทู้ ่ีได้รับไปใชป้ ระโยชน์ในการเรียน และในชวี ิตประจำวนั ไดเ้ ปน็ อย่างดี มีองคป์ ระกอบ 4 ด้าน ดังน้ี 6.1 การวางแผนการเรียนรู้ หมายถึง ความสามารถในการกำหนดวัตถุประสงค์ในการ เรียนรู้ด้วยตนเอง จัดลำดบั ความสำคัญของสงิ่ ท่ีตอ้ งเรียนรู้ และกำหนดระยะเวลาท่เี หมาะสมและ เป็นไปไดเ้ พอื่ ให้บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ 6.2 การเลือกใช้วิธีการเรียนรู้ของตนเองที่เหมาะสม หมายถึง ความสามารถในการ กำหนดวิธีการเรียนรู้ของตนเองให้เหมาะสมกบั เน้ือหา เวลา และทรัพยากรที่มี สามารถประเมิน วิธีการเรยี นรทู้ ี่ใช้ และปรับเปลยี่ นใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ทม่ี กี ารเปลยี่ นแปลง 6.3 การแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง หมายถึง ความสามารถในการค้นคว้าหาความรู้ด้วย ตนเอง รแู้ หลง่ ทรัพยากรสำหรับการเรยี นรู้ สามารถระบสุ ง่ิ ทีต่ อ้ งเรียนรเู้ พิ่มเตมิ ได้ สามารถสะท้อน ตนเอง และประเมินความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของตนเองได้ 6.4 การสร้างองค์ความรู้ใหม่ หมายถึง ความสามารถในการเชื่อมโยงความรู้เดิมกับ ความรู้ใหม่ เช่อื มโยงประสบการณ์เดมิ เขา้ กบั ประสบการณใ์ หม่ การวิเคราะหค์ วามสำคญั ของส่ิงที่ เรียนรู้เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และประยุกต์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในการเรียนและใน ชวี ิตประจำวันได้

แบบประเมินการเรียนรเู้ ชงิ รกุ และการใฝร่ ู้ 23 Type 6A (Holistic Rubrics) 3210 ผูเ้ รียนสามารถกำหนด ผู้เรียนสามารถกำหนด ผเู้ รยี นสามารถกำหนด ผเู้ รยี นไมส่ ามารถแสดง และประเมินรปู แบบ และประเมินรปู แบบ และประเมินรปู แบบ ความสามารถในการ วิธกี ารเรยี นร้ทู ่ี วธิ กี ารเรียนรูท้ ี่ วิธีการเรยี นรู้ที่ เรียนรู้เชงิ รุกและการใฝ่รู้ หลากหลายและ หลากหลายและ หลากหลายและ ตามเกณฑร์ ะดบั คะแนน ปรับเปลย่ี นวธิ กี ารอยา่ ง ปรบั เปลย่ี นวิธกี ารอย่าง ปรับเปลีย่ นวธิ กี ารอยา่ ง 1-3 เหมาะสม สามารถ เหมาะสม สามารถ เหมาะสม แตข่ าดการ คน้ คว้าหาความรู้ คน้ ควา้ หาความรู้ คน้ คว้าหาความรู้ สะท้อนและประเมนิ สะทอ้ นและประเมิน สะท้อนและประเมนิ ความก้าวหนา้ การเรยี นรู้ ความกา้ วหนา้ การเรยี นรู้ ความก้าวหน้าการเรียนรู้ ของตนเอง เชื่อมโยง ของตนเอง แตข่ าดการ ของตนเอง และขาดการ ความรแู้ ละ เช่อื มโยงความร้แู ละ เช่ือมโยงความรแู้ ละ ประสบการณใ์ หม่ ประสบการณ์ใหม่ และ ประสบการณใ์ หม่ และ วิเคราะห์ความสำคัญ ขาดการวเิ คราะห์ ขาดการวิเคราะห์ และประยกุ ต์ความรทู้ ี่ ความสำคญั และ ความสำคญั และ ไดร้ ับไปใช้ประโยชนไ์ ด้ ประยุกตค์ วามรู้ทีไ่ ด้รบั ประยุกตค์ วามรูท้ ่ไี ดร้ บั ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ไปใช้ประโยชนไ์ ด้ การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถึง การเรยี นรเู้ ชิงรุกและการใฝร่ อู้ ยใู่ นระดับดี ¡ 2 หมายถึง การเรยี นรเู้ ชงิ รกุ และการใฝ่รอู้ ยูใ่ นระดับปานกลาง ¡ 1 หมายถึง การเรยี นรู้เชิงรกุ และการใฝร่ อู้ ย่ใู นระดับพอใช้ ¡ 0 หมายถึง การเรยี นรเู้ ชงิ รุกและการใฝ่รอู้ ยู่ในระดบั ปรับปรุง

24 แบบประเมินการเรยี นรู้เชิงรกุ และการใฝ่รู้ Type 6B (Analytic Rubrics) องคป์ ระกอบย่อย 3 2 1 0 1. การวางแผน ผเู้ รียนสามารถกำหนด ผเู้ รียนสามารถกำหนด ผู้เรยี นสามารถกำหนด ผู#เรียนไมส่ ามารถแสดง การเรียนรู้ วตั ถุประสงค์การเรียนรู้ วตั ถุประสงค์การเรียนรู้ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ ความสามารถในการวาง ด้วยตนเอง จดั ลำดับ ด้วยตนเอง จดั ลำดบั ดว้ ยตนเอง แตไ่ มส่ ามารถ แผนการเรียนรู้ตามเกณฑ์ 2. การเลอื กใช้ ความสำคญั ของสง่ิ ทตี่ อ้ ง ความสำคัญของสง่ิ ทต่ี ้อง จัดลำดับความสำคญั ของ ระดบั คะแนน 1-3 วิธีการเรยี นรขู้ อง เรียนรู้ และกำหนด เรียนรู้ แตไ่ มส่ ามารถ ส่งิ ที่ต้องเรียนรู้ และไม่ ตนเองท่ีเหมาะสม ระยะเวลาอยา่ งเหมาะสม กำหนดระยะเวลาอย่าง สามารถกำหนด ผ#เู รียนไมส่ ามารถแสดง เหมาะสม ระยะเวลาอยา่ งเหมาะสม ความสามารถในการ 3. การแสวงหา ผูเ้ รียนสามารถกำหนด ผู้เรยี นสามารถกำหนด เลือกใชก้ ลยทุ ธก์ ารเรียนรู้ ความรู้ดว้ ยตนเอง วิธีการเรียนรู้ท่ี วธิ ีการเรยี นรทู้ ี่ ผู้เรียนสามารถกำหนด ท่ีหลากหลายตามเกณฑ์ หลากหลาย เหมาะสมกับ หลากหลาย เหมาะสมกบั วธิ ีการเรียนรู้ที่ ระดบั คะแนน 1-3 4. การสรา้ งองค์ เนือ้ หาและรปู แบบการ เนอ้ื หาและรูปแบบการ หลากหลาย แตไ่ ม่ ความรูใ้ หม่ เรยี นรู้ สามารถประเมนิ เรยี นรู้ แตไ่ มส่ ามารถ เหมาะสมกบั เนอื้ หาและ ผเ#ู รยี นไม่สามารถแสดง รูปแบบการเรียนรูแ้ ละ ประเมนิ รปู แบบการ รูปแบบการเรียนรู้ และ ความสามารถในการ ปรับเปลย่ี นอย่าง เรยี นรแู้ ละปรับเปล่ียนได้ ไม่สามารถประเมนิ แสวงหาความรดู้ ว้ ย เหมาะสม อย่างเหมาะสม รปู แบบการเรยี นรแู้ ละ ตนเองตามเกณฑ์ระดบั ปรับเปล่ยี นได้อยา่ ง คะแนน 1-3 ผเู้ รียนสามารถค้นควา้ หา ผูเ้ รียนสามารถค้นควา้ หา เหมาะสม ความรดู้ ้วยตนเอง ร้แู หลง่ ความร้ดู ว้ ยตนเอง ร้แู หลง่ ผเ#ู รียนไมส่ ามารถแสดง ทรัพยากรการเรียนรู้ ทรพั ยากรการเรยี นรู้ แต่ ผู้เรยี นสามารถคน้ ควา้ หา ความสามารถในการสรา้ ง สามารถสะทอ้ นและ ไมส่ ามารถสะทอ้ นและ ความรู้ดว้ ยตนเอง แต่ องคค์ วามรู้ใหม่ตาม ประเมนิ ความก้าวหน้าใน ประเมินความกา้ วหน้าใน ขาดการร้แู หลง่ ทรัพยากร เกณฑ์ระดบั คะแนน 1-3 การเรียนรขู้ องตนเองได้ การเรยี นรู้ของตนเองได้ การเรียนรู้ และไม่ สามารถสะท้อนและ ผเู้ รียนสามารถเช่อื มโยง ผเู้ รียนสามารถเชอื่ มโยง ประเมนิ ความก้าวหน้าใน ความรูแ้ ละประสบการณ์ ความรู้และประสบการณ์ การเรียนรูข้ องตนเองได้ ใหม่ วเิ คราะหค์ วาม ใหม่ วิเคราะหค์ วาม สำคัญของสิ่งท่เี รยี นรู้ สำคญั ของส่ิงทเ่ี รียนรู้ แต่ ผู้เรยี นสามารถเชอ่ื มโยง และประยกุ ตค์ วามรทู้ ่ไี ดส้ ู่ ไม่สามารถประยกุ ต์ ความรแู้ ละประสบการณ์ การนำไปใช้ ความรูท้ ี่ไดส้ กู่ ารนำไปใช้ ใหม่ แตไ่ ม่สามารถ วิเคราะหค์ วามสำคญั ของ ส่งิ ทเี่ รียนร้แู ละไม่ สามารถประยกุ ต์ความรทู้ ี่ ไดส้ ่กู ารนำไปใช้ การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถึง การเรียนรเู้ ชงิ รกุ และการใฝร่ อู้ ยใู่ นระดับดี ¡ 7-9 หมายถงึ การเรียนรู้เชิงรุกและการใฝ่รอู้ ยใู่ นระดบั ปานกลาง ¡ 4-6 หมายถงึ การเรียนรเู้ ชงิ รุกและการใฝ่รอู้ ย่ใู นระดับพอใช้ ¡ 0-3 หมายถงึ การเรียนร้เู ชิงรุกและการใฝ่รอู้ ยู่ในระดับปรบั ปรงุ

25 แบบประเมินการเรยี นรู้เชิงรกุ และการใฝร่ ู้ Type 6C (Single-Point Rubric) ประเด็นเพือ่ การปรับปรงุ เกณฑ์การประเมนิ ประเดน็ ทีส่ ำเรจ็ และการตอ่ ยอด (Areas of Improvement) การเรยี นร้เู ชงิ รุกและการใฝร่ ู้ (Above and Beyond) 1. การวางแผนการเรียนรู้ ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รยี นสามารถกำหนดวตั ถุประสงค์ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง จดั ลำดับ ความสำคัญของสงิ่ ทตี่ ้องเรียนรู้ และ กำหนดระยะเวลาอยา่ งเหมาะสม 2. การเลอื กใชว้ ิธีการเรียนรขู้ อง ตนเองที่เหมาะสม ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รยี นสามารถกำหนดวิธกี ารเรยี นรทู้ ี่ หลากหลาย เหมาะสมกับเนอ้ื หาและ รปู แบบการเรียนรู้ สามารถประเมนิ รูปแบบการเรียนรู้และปรับเปลย่ี น อย่างเหมาะสม 3. การแสวงหาความรู้ดว้ ย ตนเอง ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รยี นสามารถค้นคว้าหาความรดู้ ้วย ตนเอง ร้แู หล่งทรัพยากรการเรียนรู้ สามารถสะท้อนและประเมิน ความกา้ วหน้าในการเรียนรขู้ องตนเอง ได้ 4. การสรา้ งองคค์ วามร้ใู หม่ ( ......... / ......... คะแนน) ผ้เู รียนสามารถเชื่อมโยงความร้แู ละ ประสบการณใ์ หม่ วเิ คราะห์ความ สำคัญของสง่ิ ทีเ่ รยี นรู้ และประยุกต์ ความรู้ทไี่ ด้สู่การนำไปใช้

26 7. ความอดทน ยดื หยนุ่ และฟื้นตัวจากสภาวะความเครียด (Resilience, Stress Tolerance and Flexibility) นยิ ามความหมาย ความอดทน ยืดหยุ่น และฟื้นตัวจากสภาวะความเครียด (Resilience, Stress Tolerance and Flexibility) หมายถึง ความสามารถในการรับมือ อดทน และปรับตัวต่อ อุปสรรค แรงกดดันจากปัญหาหรือสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยสามารถยอมรับความเป็นจริง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น และมองหาประโยชน์จากอุปสรรค แรงกดดันของปัญหา และสามารถ เผชญิ หนา้ กบั สถานการณไ์ ด้ มอี งคป์ ระกอบ 3 ดา้ น ดงั นี้ 7.1 การยอมรับความจริง หมายถึง ความสามารถในการมองปัญหาหรืออุปสรรคอย่าง ตรงไปตรงมา การเทียบเคียงเหตุการณ์กับกรณีแวดลอ้ ม และการคิดทบทวนหาทางแกไ้ ขปัญหา ต่อไป 7.2 การทบทวนตนเอง หมายถึง ความสามารถในการค้นหาจุดอ่อน จุดแข็ง และการ วเิ คราะห์หาส่งิ ทเ่ี ปน็ สาเหตุเพ่อื นำไปสูก่ ารหาทางแกไ้ ขของตนเอง 7.3 การฟื้นตวั หมายถงึ ความสามารถในการวางปญั หาและมองหาช่องทางท่ีแตกต่างไป จากเดมิ และการใชจ้ ุดแขง็ ทีม่ ีในการปรบั เข้ากบั สถานการณ์ทีต่ อ้ งเผชิญ

แบบประเมินความอดทน ยืดหยนุ่ 27 และฟน้ื ตัวจากสภาวะความเครียด Type 7A (Holistic Rubrics) 3 2 1 0 ผเู้ รยี นสามารถมอง ผู้เรียนสามารถมอง ผู้เรยี นสามารถมอง ผูเ้ รยี นไมส่ ามารถแสดง ปัญหาหรอื อปุ สรรค ปัญหาหรอื อุปสรรค ปัญหาหรอื อปุ สรรค ความอดทน ยืดหยุน่ อย่างตรงไปตรงมา อย่างตรงไปตรงมา อยา่ งตรงไปตรงมา และฟ้ืนตวั จากสภาวะ เทียบเคียงเหตุการณ์กับ เทียบเคยี งเหตุการณ์กับ เทยี บเคยี งเหตุการณ์กบั ความเครยี ดตามเกณฑ์ กรณแี วดลอ้ ม คดิ กรณีแวดล้อม คิด กรณแี วดล้อม แตไ่ ม่ ระดบั คะแนน 1-3 ทบทวนหาทางแก้ไข ทบทวนหาทางแกไ้ ข สามารถคิดทบทวน ปญั หา วเิ คราะหส์ ่งิ ท่ี ปญั หา วิเคราะหส์ งิ่ ที่ หาทางแกไ้ ขปญั หาหรือ เปน็ สาเหตเุ พอื่ นำไปสู่ เป็นสาเหตเุ พอื่ นำไปสู่ วิเคราะหส์ งิ่ ที่เป็นสาเหตุ การแกไ้ ขปัญหา หา การแก้ไขปญั หา แตไ่ ม่ เพ่ือนำไปสู่การแกไ้ ข ช่องทางทแ่ี ตกต่างจาก สามารถหาช่องทางที่ ปญั หา และไม่สามารถ เดิม ใชจ้ ุดแขง็ ในการ แตกต่างจากเดิมหรอื ใช้ หาชอ่ งทางทแ่ี ตกต่าง ปรับตัวเขา้ กับ จดุ แข็งในการปรบั ตวั เขา้ จากเดมิ หรอื ใชจ้ ดุ แข็งใน สถานการณ์ทตี่ ้องเผชญิ กบั สถานการณท์ ตี่ ้อง การปรบั ตัวเขา้ กบั เผชญิ สถานการณท์ ีต่ ้องเผชญิ การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถึง ความอดทน ยดื หยนุ่ และฟื้นตัวจากสภาวะความเครยี ดอยู่ในระดบั ดี ¡ 2 หมายถึง ความอดทน ยดื หยนุ่ และฟื้นตัวจากสภาวะความเครยี ดอยู่ในระดับปานกลาง ¡ 1 หมายถงึ ความอดทน ยดื หยุ่น และฟน้ื ตวั จากสภาวะความเครียดอยใู่ นระดบั พอใช้ ¡ 0 หมายถงึ ความอดทน ยืดหยนุ่ และฟน้ื ตวั จากสภาวะความเครียดอย่ใู นระดบั ปรับปรุง

แบบประเมินความอดทน ยดื หยุ่น 28 และฟื้นตัวจากสภาวะความเครียด Type 7B (Analytic Rubrics) องค์ประกอบยอ่ ย 3 2 1 0 1. การยอมรบั ความจรงิ ผเู้ รียนสามารถมองปัญหา ผเู้ รียนสามารถมองปญั หา ผเู้ รียนสามารถมองปญั หา ผ#เู รยี นไม่สามารถแสดง หรืออุปสรรคอย่าง หรืออุปสรรคอย่าง หรอื อุปสรรคอย่าง ความสามารถในการ 2. การทบทวน ตรงไปตรงมา เทยี บเคยี ง ตรงไปตรงมา เทยี บเคียง ตรงไปตรงมา แตไ่ ม่ ยอมรบั ความจริงตาม ตนเอง เหตกุ ารณก์ ับกรณี เหตุการณ์กับกรณี สามารถเทียบเคยี ง เกณฑ์ระดับคะแนน 1-3 แวดล้อม และคดิ ทบทวน แวดลอ้ ม แต่ไม่สามารถ เหตกุ ารณก์ บั กรณี 3. การฟน้ื ตวั หาทางแก้ไขปญั หา คดิ ทบทวนหาทางแก้ไข แวดลอ้ มและไมส่ ามารถ ผูเ# รียนไมส่ ามารถแสดง ปญั หา คดิ ทบทวนหาทางแก้ไข ความสามารถในการ ผเู้ รยี นสามารถค้นหา ปญั หา ทบทวนตนเองตามเกณฑ์ จดุ อ่อน จดุ แข็ง วเิ คราะห์ ผู้เรยี นสามารถคน้ หา ผเู้ รียนสามารถค้นหา ระดบั คะแนน 1-3 หาสิง่ ทีเ่ ป็นสาเหตเุ พือ่ จดุ ออ่ น จุดแขง็ แตข่ าด จุดออ่ น จดุ แข็ง แตไ่ ม่ นำไปสูก่ ารหาทางแกไ้ ข ความชดั เจนในการ สามารถวิเคราะหห์ าส่ิงที่ ผ#ูเรยี นไมส่ ามารถแสดง ปญั หา วิเคราะห์หาส่งิ ทเ่ี ปน็ เป็นสาเหตเุ พือ่ นำไปสู่ ความสามารถในการฟ้นื สาเหตเุ พอ่ื นำไปส่กู ารหา การหาทางแก้ไขปญั หา ตวั ตามเกณฑ์ระดับ ผู้เรียนสามารถวางปัญหา ทางแกไ้ ขปัญหา คะแนน 1-3 ท่ีเกดิ ข้ึนได้ และมองหา ผู้เรียนสามารถวางปญั หา ผเู้ รยี นสามารถวางปญั หา ชอ่ งทางทแ่ี ตกต่างไปจาก ทีเ่ กดิ ข้นึ ได้ และมองหา ท่ีเกิดขึ้นได้ แตไ่ มส่ ามารถ เดมิ ใช้จุดแข็งท่มี ีในการ ช่องทางทแี่ ตกต่างไปจาก มองหาช่องทางทแ่ี ตกต่าง ปรบั เขา้ กับสถานการณท์ ี่ เดมิ แตไ่ มส่ ามารถใช้จุด ไปจากเดมิ และไม่ ต้องเผชิญ แข็งทมี่ ีในการปรบั เข้ากับ สามารถใช้จุดแขง็ ทม่ี ใี น สถานการณ์ที่ตอ้ งเผชญิ การปรับเข้ากับ สถานการณ์ที่ต้องเผชิญ การแปลความหมาย ¡ 7-9 หมายถึง ความอดทน ยืดหย่นุ และฟ้นื ตวั จากสภาวะความเครยี ดอย่ใู นระดบั ดี ¡ 4-6 หมายถงึ ความอดทน ยืดหยุน่ และฟ้นื ตัวจากสภาวะความเครียดอยู่ในระดบั ปานกลาง ¡ 1-3 หมายถึง ความอดทน ยดื หยุน่ และฟื้นตัวจากสภาวะความเครียดอยู่ในระดบั พอใช้ ¡ 0 หมายถึง ความอดทน ยืดหย่นุ และฟ้ืนตัวจากสภาวะความเครยี ดอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง

29 แบบประเมนิ ความอดทน ยดื หยนุ่ Type 7C และฟ้นื ตัวจากสภาวะความเครียด (Single-Point Rubric) ประเด็นเพอื่ การปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ ความอดทน ประเดน็ ท่ีสำเร็จและการต่อยอด (Areas of Improvement) ยืดหยุ่น และฟนื้ ตวั จากสภาวะ (Above and Beyond) ความเครียด 1. การยอมรบั ความจริง ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนสามารถมองปัญหาหรอื อปุ สรรคอย่างตรงไปตรงมา เทียบเคียง เหตกุ ารณก์ บั กรณีแวดลอ้ ม และคิด ทบทวนหาทางแก้ไขปญั หา 2. การทบทวนตนเอง ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนสามารถคน้ หาจดุ อ่อน จดุ แข็ง วเิ คราะหห์ าสงิ่ ทีเ่ ปน็ สาเหตุเพ่อื นำไปสู่ การหาทางแกไ้ ขปัญหา 3. การฟืน้ ตวั ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรยี นสามารถวางปัญหาที่เกดิ ขน้ึ ได้ และมองหาช่องทางที่แตกต่างไปจาก เดมิ ใชจ้ ุดแข็งทม่ี ีในการปรับเขา้ กบั สถานการณ์ทต่ี ้องเผชิญ

30 8. การเปน็ ผู้นำและผู้เปล่ียนแปลงสงั คม (Leadership and Social Influence) นยิ ามความหมาย การเป็นผู้นำและผู้เปลี่ยนแปลงสังคม (Leadership and Social Influence) หมายถึง ความสามารถในการทำใหเ้ กิดความรว่ มมือกันในการทำงาน การนำและโน้มน้าวบคุ คล อื่นให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือทัศนคติในทางทีด่ ีเพ่ือใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมที่ดีขึ้น มี ความกล้าหาญในการเป็นผู้นำการเปล่ียนแปลง การเป็นผู้นำในการแสดงความรับผิดชอบต่อผล ของการกระทำ รวมถึงการเป็นต้นแบบในหลกั ประพฤติและการแสดงทศั นคติ มีองค์ประกอบ 4 ดา้ น ดงั นี้ 8.1 การทำให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน หมายถึง ความสามารถในการแบ่งงาน กำหนดหน้าที่ บริหารการทำงาน และบริหารความสัมพันธ์ของสมาชิกในทีม สร้างแรงจูงใจให้ สมาชกิ ในทีมเกดิ พลังในการทำงาน กระตือรือร้น เคารพซึ่งกนั และกัน และรู้สึกถึงการมีส่วนร่วม ในการทำงาน 8.2 การโน้มนา้ วจูงใจ หมายถงึ ความสามารถในการจงู ใจ หรือการสรา้ งคา่ นยิ ม ใหบ้ คุ คล อน่ื ปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมหรือทัศนคติในทางท่ีดี ด้วยวธิ กี ารท่ีเหมาะสม ชีแ้ นะให้บุคคลอ่ืนได้เห็น คุณคา่ และประโยชนข์ องการปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมหรือทัศนคติในทางท่ีดี 8.3 การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง หมายถึง ความสามารถในการวิเคราะห์ความ เปล่ยี นแปลงทอี่ าจเกดิ ข้ึน วเิ คราะหข์ อ้ ดี ข้อเสยี และผลกระทบของการเปล่ียนแปลง วิเคราะห์ผู้ท่ี อาจได้รับผลกระทบที่อาจต่อต้านการเปลี่ยนแปลง สามารถชี้นำให้ผู้ตามเห็นคุณค่าของการ เปลี่ยนแปลง และแสดงความรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลของการตดั สินใจของตน 8.4 การเปน็ ต้นแบบในการทำงาน หมายถึง พฤตกิ รรมทแี่ สดงออกถงึ ความรบั ผิดชอบใน หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การตรงต่อเวลา การให้เกียรติและเคารพในบทบาทหน้าที่ของเพื่อน ร่วมงาน

31 แบบประเมนิ การเป็นผู้นำและผู้เปลีย่ นแปลงสงั คม Type 8A (Holistic Rubrics) 3210 ผเู้ รยี นสามารถบรหิ าร ผู้เรียนสามารถบริหาร ผเู้ รียนสามารถบริหาร ผเู้ รยี นไมส่ ามารถแสดง การทำงานและ การทำงานและ การทำงานและ การเปน็ ผู้นำและผู้ ความสมั พันธข์ องสมาชกิ ความสัมพนั ธ์ของสมาชกิ ความสัมพันธ์ของสมาชิก เปล่ยี นแปลงสงั คมตาม สร้างแรงจงู ใจใหเ้ กดิ พลงั สรา้ งแรงจงู ใจใหเ้ กิดพลงั สร้างแรงจงู ใจใหเ้ กิดพลัง เกณฑร์ ะดบั คะแนน 1-3 ในการทำงาน สรา้ ง ในการทำงาน สร้าง ในการทำงาน สร้าง คา่ นยิ มการปรับเปลีย่ น คา่ นยิ มการปรับเปลย่ี น คา่ นยิ มการปรับเปลยี่ น พฤติกรรมหรอื ทศั นคติ พฤตกิ รรมหรอื ทัศนคติ พฤตกิ รรมหรือทศั นคติ ในทางทดี่ ี วเิ คราะห์ ในทางทดี่ ี วเิ คราะห์ ในทางที่ดี แต่ไม่สามารถ ความเปล่ยี นแปลงและ ความเปลี่ยนแปลงและ วิเคราะห์ความ ผลกระทบ ช้ีนำให้ผู้ตาม ผลกระทบ ช้ีนำให้ผตู้ าม เปลี่ยนแปลงและ เห็นคุณคา่ ของการ เห็นคุณคา่ ของการ ผลกระทบหรือชน้ี ำใหผ้ ู้ เปล่ยี นแปลง รบั ผดิ ชอบ เปล่ยี นแปลง แต่ขาด ตามเหน็ คุณค่าของการ ตอ่ หน้าที่ ให้เกยี รตแิ ละ ความรับผดิ ชอบต่อ เปลี่ยนแปลง และขาด เคารพบทบาทหน้าที่ หน้าท่ีหรอื การใหเ้ กียรติ ความรับผดิ ชอบตอ่ ของเพอ่ื นรว่ มงาน และเคารพบทบาท หนา้ ที่หรอื การใหเ้ กียรติ หนา้ ทข่ี องเพือ่ นร่วมงาน และเคารพบทบาท หน้าท่ีของเพอื่ นร่วมงาน การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถึง การเปน็ ผ้นู ำและผเู้ ปลี่ยนแปลงสงั คมอยู่ในระดับดี ¡ 2 หมายถึง การเปน็ ผู้นำและผู้เปลี่ยนแปลงสงั คมอยู่ในระดบั ปานกลาง ¡ 1 หมายถึง การเป็นผู้นำและผู้เปลีย่ นแปลงสังคมอยู่ในระดับพอใช้ ¡ 0 หมายถงึ การเปน็ ผู้นำและผเู้ ปลยี่ นแปลงสงั คมอยใู่ นระดับปรับปรุง

แบบประเมินการเป็นผูน้ ำและผเู้ ปลยี่ นแปลงสงั คม 32 Type 8B (Analytic Rubrics) องค์ประกอบยอ่ ย 3 2 1 0 1. การทำใหเ้ กิด ผู้เรยี นสามารถบรหิ าร ผูเ้ รยี นสามารถบรหิ าร ผู้เรียนสามารถบริหาร ผู#เรยี นไม่สามารถแสดง ความร่วมมือใน การทำงานและความ การทำงานและความ การทำงานและความ ความสามารถในการทำ การทำงาน สมั พนั ธ์ สร้างแรงจงู ใจให้ สัมพันธ์ สร้างแรงจงู ใจให้ สัมพนั ธ์ แต่ยังขาดการ ให้เกดิ ความร่วมมือใน สมาชกิ ในทีมเกิดพลงั ใน สมาชกิ ในทีมเกิดพลังใน สร้างแรงจูงใจให้สมาชิก การทำงานตามเกณฑ์ 2. การโนม้ น้าวจูง การทำงานและเกิดความ การทำงานและเกิดความ ในทีมเกดิ พลังในการ ระดับคะแนน 1-3 ใจ กระตอื รอื ร้น เคารพซงึ่ กระตอื รอื รน้ แตย่ งั ขาด ทำงานและเกิดความ กนั และกนั ความเคารพซงึ่ กนั และกนั กระตอื รอื ร้นและขาด ผ#เู รยี นไมส่ ามารถแสดง 3. การเปน็ ผนู้ ำ ความเคารพซงึ่ กันและกัน ความสามารถในการโน้ม การเปลย่ี นแปลง ผูเ้ รยี นสามารถจงู ใจ ผเู้ รยี นสามารถจูงใจ ผู้เรียนสามารถจูงใจ น้าวจงู ใจตามเกณฑร์ ะดับ ชแ้ี นะและสร้างค่านยิ มให้ ชี้แนะและสรา้ งคา่ นยิ มให้ ชี้แนะแต่ยงั ไมส่ ามารถ คะแนน 1-3 4. การเปน็ บุคคลอื่นปรบั เปลย่ี น บุคคลอ่นื ปรบั เปลยี่ น สรา้ งคา่ นิยมใหบ้ คุ คลอืน่ ต้นแบบในการ พฤตกิ รรมหรอื ทัศนคติ พฤตกิ รรมหรือทัศนคติ ปรับเปล่ียนพฤติกรรม ผ#เู รียนไม่สามารถแสดง ทำงาน ในทางทดี่ ี ในทางทดี่ ีแตย่ งั ขาดความ หรือทศั นคติในทางทดี่ ี ความสามารถในการเป็น ชัดเจน ผู้นำการเปลย่ี นแปลงตาม ผเู้ รียนสามารถวิเคราะห์ ผู้เรยี นสามารถวเิ คราะห์ ผเู้ รยี นสามารถวิเคราะห์ เกณฑ์ระดับคะแนน 1-3 ผลกระทบของการ ผลกระทบของการ ผลกระทบของการ เปลย่ี นแปลง สามารถ เปลยี่ นแปลง สามารถ เปลยี่ นแปลง แต่ไม่ ผเ#ู รยี นไม่สามารถแสดง ช้นี ำให้ผูต้ ามเห็นคณุ ค่า ชน้ี ำใหผ้ ตู้ ามเหน็ คณุ ค่า สามารถชี้นำใหผ้ ู้ตามเหน็ ความสามารถในการเป็น ของการเปล่ียนแปลง ของการเปล่ยี นแปลง แต่ คณุ คา่ ของการ ตน้ แบบในการทำงาน แสดงความรับผิดชอบตอ่ ขาดการแสดงความ เปลย่ี นแปลงและขาดการ ตามเกณฑ์ระดบั คะแนน การตดั สนิ ใจของตนเอง รบั ผดิ ชอบต่อการ แสดงความรบั ผิดชอบตอ่ 1-3 ตัดสนิ ใจของตนเอง การตัดสนิ ใจของตนเอง ผู้เรยี นสามารถแสดงออก ผู้เรียนสามารถแสดงออก ผู้เรียนสามารถแสดงออก ถงึ ความรับผิดชอบใน ถึงความรับผดิ ชอบใน ถึงความรับผิดชอบใน หนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย หนา้ ท่ีทีไ่ ด้รบั มอบหมาย หน้าทีท่ ี่ไดร้ ับมอบหมาย ให้เกยี รติและเคารพ แตข่ าดการให้เกยี รตแิ ละ แต่ยงั ขาดความชดั เจน บทบาทหน้าท่ขี องเพอ่ื น เคารพบทบาทหนา้ ทีข่ อง และขาดการใหเ้ กยี รติ ร่วมงาน เพ่อื นรว่ มงาน และเคารพบทบาทหนา้ ท่ี ของเพอื่ นร่วมงาน การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถงึ การเปน็ ผนู้ ำและผเู้ ปลย่ี นแปลงสังคมอยู่ในระดบั ดี ¡ 7-9 หมายถงึ การเปน็ ผู้นำและผู้เปลี่ยนแปลงสงั คมอยใู่ นระดับปานกลาง ¡ 4-6 หมายถึง การเปน็ ผ้นู ำและผูเ้ ปล่ยี นแปลงสงั คมอยูใ่ นระดบั พอใช้ ¡ 0-3 หมายถึง การเป็นผนู้ ำและผเู้ ปลย่ี นแปลงสังคมอยใู่ นระดบั ปรบั ปรงุ

33 แบบประเมินการเปน็ ผนู้ ำและผเู้ ปลีย่ นแปลงสังคม Type 8C (Single-Point Rubric) ประเดน็ เพือ่ การปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ การเปน็ ผ้นู ำ ประเดน็ ท่สี ำเร็จและการตอ่ ยอด (Areas of Improvement) และผเู้ ปล่ยี นแปลงสังคม (Above and Beyond) 1. การทำให้เกดิ ความร่วมมือใน การทำงาน ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรยี นสามารถบรหิ ารการทำงานและ ความ สัมพันธ์ สรา้ งแรงจงู ใจให้ สมาชิกในทีมเกดิ พลังในการทำงาน และเกิดความกระตอื รือร้น เคารพซ่ึง กนั และกัน 2. การโน้มน้าวจูงใจ ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรยี นสามารถจูงใจ ชีแ้ นะและสร้าง คา่ นยิ มให้บคุ คลอน่ื ปรบั เปลยี่ น พฤติกรรมหรอื ทศั นคตใิ นทางทีด่ ี 3. การเปน็ ผนู้ ำการเปลีย่ นแปลง ( ......... / ......... คะแนน) ผ้เู รียนสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบของ การเปลีย่ นแปลง สามารถช้ีนำให้ผูต้ าม เห็นคุณคา่ ของการเปลยี่ นแปลง แสดง ความรับผดิ ชอบต่อการตดั สินใจของ ตนเอง 4. การเปน็ ต้นแบบในการทำงาน ( ......... / ......... คะแนน) ผูเ้ รียนสามารถแสดงออกถึงความ รบั ผิดชอบในหน้าท่ที ไ่ี ด้รับมอบหมาย ใหเ้ กยี รติและเคารพบทบาทหน้าทข่ี อง เพอ่ื นร่วมงาน

34 9. การสื่อสารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (Effective Communication) นิยามความหมาย การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication) หมายถึง ความ สามารถในการรับและสง่ สารเพอื่ ถ่ายทอดความคิด ความรู้ และทศั นคติของตนอย่างเหมาะสมกับ วัฒนธรรมและสถานการณ์ต่าง ๆ ความสามารถในการจับประเด็นอย่างเข้าใจ ที่ช่วยให้เกิดการ แสดงออกและสื่อสารโตต้ อบกับผูร้ บั สารไดอ้ ย่างตรงประเดน็ และมปี ระสิทธิภาพ มีองค์ประกอบ 4 ดา้ น ดงั น้ี 9.1 การเรียบเรียงสิ่งที่จะสื่อสารให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมและสถานการณ์ หมายถึง ความสามารถในการจับประเด็น เรียงลำดับ จัดหมวดหมู่สารที่ต้องการจะสื่อออกไปได้ อย่าง เหมาะสมกับวัฒนธรรม และสถานการณ์ 9.2 การใช้เครื่องมือในการสื่อสารที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมและสถานการณ์ หมายถึง ความสามารถในการเลอื กเคร่อื งมอื สอ่ื สาร และเลือกกลวธิ กี ารสอื่ สาร ทเี่ หมาะสมกับประเภทของ สาร ผรู้ บั สาร วัฒนธรรมและสถานการณ์ 9.3 การถ่ายทอดโดยใช้วัจนภาษาและอวัจนภาษาที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมและ สถานการณ์ หมายถึง ความสามารถในการใช้ถ้อยคำ การแสดงท่าทาง การแสดงสีหน้า การใช้ สายตา ท่ีเหมาะสมกับวัฒนธรรมและสถานการณ์ 9.4 การโต้ตอบกับผู้อืน่ หมายถึง ความสามารถในการสรุปประเด็นจากส่ิงที่ฟังหรืออา่ น แล้วสามารถตอบกลับไดอ้ ย่างตรงประเด็น ชัดเจน มีเหตุผลสนับสนุน ความสามารถในการแก้ไข ปญั หาเฉพาะหนา้ เมื่อผู้ฟังสะทอ้ นความคิดเหน็ ท่ีแตกตา่ งจากสิ่งที่สอ่ื สารออกไป

แบบประเมินการสื่อสารอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 35 Type 9A (Holistic Rubrics) 3210 ผูเ้ รยี นสามารถจบั ผ้เู รยี นสามารถจบั ผเู้ รยี นสามารถจบั ผเู้ รยี นไมส่ ามารถแสดง ประเด็นของสารท่ี ประเดน็ ของสารที่ ประเดน็ ของสารท่ี ความสามารถในการ ต้องการส่ือไดอ้ ย่าง ตอ้ งการสื่อไดอ้ ย่าง ตอ้ งการสื่อไดอ้ ยา่ ง สอ่ื สารอยา่ งมี เหมาะสม เลอื ก เหมาะสม เลอื ก เหมาะสม เลอื ก ประสทิ ธภิ าพตามเกณฑ์ เครอ่ื งมอื สอ่ื สาร วธิ ีการ เคร่อื งมอื สอ่ื สาร วิธกี าร เครอ่ื งมือสอื่ สาร วิธีการ ระดับคะแนน 1-3 ถ้อยคำ การแสดงทา่ ทาง ถ้อยคำ การแสดงท่าทาง ถอ้ ยคำ การแสดงท่าทาง ทเ่ี หมาะสม สรุป ทเ่ี หมาะสม สรุป ทเี่ หมาะสม แตไ่ ม่ ประเด็นและตอบกลบั ได้ ประเด็นและตอบกลบั ได้ สามารถสรปุ ประเดน็ อยา่ งตรงประเด็น มี ตรงประเด็น มีเหตผุ ล และตอบกลบั ไดต้ รง เหตผุ ลสนับสนนุ แกไ้ ข สนับสนนุ แต่ไมส่ ามารถ ประเดน็ หรือขาดเหตุผล ปัญหาเฉพาะหน้าและ แกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้า สนบั สนุน และไม่ สะทอ้ นความคดิ เหน็ ได้ และสะทอ้ นความ สามารถแก้ไขปญั หา คดิ เหน็ ได้ เฉพาะหน้าและสะทอ้ น ความคิดเห็นได้ การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถึง การสื่อสารอย่างมปี ระสิทธภิ าพอยใู่ นระดบั ดี ¡ 2 หมายถงึ การสอ่ื สารอย่างมีประสิทธภิ าพอยูใ่ นระดบั ปานกลาง ¡ 1 หมายถงึ การส่อื สารอย่างมปี ระสิทธภิ าพอยูใ่ นระดับพอใช้ ¡ 0 หมายถึง การส่ือสารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพอยู่ในระดับปรับปรุง

แบบประเมินการส่อื สารอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 36 Type 9B (Analytic Rubrics) องคป์ ระกอบยอ่ ย 3 2 1 0 1. การเรยี บเรียง สิ่งท่จี ะส่อื สารให้ ผูเ้ รยี นสามารถจับ ผเู้ รยี นสามารถจับ ผเู้ รยี นสามารถจับ ผเ#ู รยี นไม่สามารถแสดง เหมาะสมกับ ประเด็น เรยี งลำดับ จัด ประเด็น เรียงลำดับ จัด ประเด็น เรียงลำดับ จดั ความสามารถในการเรียบ วฒั นธรรมและ หมวดหมสู่ ารทต่ี อ้ งการ หมวดหมสู่ ารทีต่ ้องการ หมวดหมู่สารทต่ี อ้ งการ เรยี งสิ่งท่ีจะสื่อสารให้ สถานการณ์ จะสอื่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม จะส่อื ได้แตย่ งั ขาดความ จะสอ่ื ไดเ้ พียงบางสว่ น เกมาะสมกบั วัฒนธรรม กับวฒั นธรรมและ เหมาะสมกับวฒั นธรรม และยังขาดความ และสถานการณ์ตาม 2. การใช้ สถานการณ์ และสถานการณ์ เหมาะสมกบั วฒั นธรรม เกณฑร์ ะดับคะแนน 1-3 เครอ่ื งมือในการ และสถานการณ์ สอ่ื สารทีเ่ หมาะสม ผเู้ รยี นสามารถเลอื ก ผเู้ รยี นสามารถเลือก ผู#เรยี นไมส่ ามารถแสดง กับวัฒนธรรมและ เครอ่ื งมอื และกลวิธีการ เครอื่ งมอื และกลวิธีการ ผู้เรยี นสามารถเลอื ก ความสามารถในการใช้ สถานการณ์ สอ่ื สารทีเ่ หมาะสมกบั สือ่ สารแต่ยงั ขาดความ เครอื่ งมอื หรือกลวธิ กี าร เคร่ืองมอื ในการส่อื สารท่ี ประเภทของสาร ผูร้ ับ เหมาะสมกบั ประเภทของ สือ่ สารอย่างใดอยา่ งหนง่ึ เหมาะสมกบั วัฒนธรรม 3. การถ่ายทอดโดย สาร วฒั นธรรมและ สาร ผู้รับสาร วฒั นธรรม และยังขาดความ และสถานการณ์ตาม ใชว้ จั นภาษา สถานการณ์ และสถานการณ์ เหมาะสมกบั ประเภทของ เกณฑร์ ะดับคะแนน 1-3 และอวจั นภาษาที่ สาร ผู้รับสาร วฒั นธรรม เหมาะสมกับ ผู้เรียนสามารถใช้ถอ้ ยคำ ผเู้ รยี นสามารถใช้ถ้อยคำ และสถานการณ์ ผู#เรียนไมส่ ามารถแสดง วัฒนธรรมและ แสดงทา่ ทาง แสดงสีหนา้ แสดงทา่ ทาง แสดงสหี นา้ ความสามารถในการ สถานการณ์ ใช้สายตาทีเ่ หมาะสมกบั ใช้สายตาแต่ยังขาดความ ผูเ้ รียนสามารถใชถ้ อ้ ยคำ ถ่ายทอดโดยใช้วัจนภาษา วัฒนธรรมและ เหมาะสมกับวัฒนธรรม แสดงทา่ ทาง แสดงสหี น้า และอวจั นภาษาที่ 4. การโต้ตอบกบั สถานการณ์ และสถานการณ์ ใช้สายตาได้เพียงอย่างใด เหมาะสมกับวฒั นธรรม ผู้อืน่ อย่างหนึ่งและยงั ขาด และสถานการณ์ตาม ผเู้ รียนสามารถสรุป ผ้เู รียนสามารถสรปุ ความเหมาะสมกบั เกณฑ์ระดับคะแนน 1-3 ประเดน็ จากสิ่งทฟี่ งั หรือ ประเดน็ จากสิ่งทฟ่ี ังหรอื วฒั นธรรมและ ผเู# รียนไม่สามารถแสดง อ่านและตอบกลับได้ อ่านและตอบกลับได้ สถานการณ์ ความสามารถในการตอบ อย่างตรงประเด็น มี อยา่ งตรงประเด็น มี โตก้ บั ผู้อืน่ ตามเกณฑ์ เหตผุ ลสนับสนุน แก้ไข เหตุผลสนับสนุน แต่ยังไม่ ผู้เรยี นสามารถสรุป ระดบั คะแนน 1-3 ปัญหาเฉพาะหนา้ และ สามารถแกไ้ ขปญั หา ประเด็นจากส่งิ ที่ฟงั หรือ สะทอ้ นความคดิ เหน็ ได้ เฉพาะหนา้ และสะท้อน อ่านและตอบกลบั ได้แต่ ความคดิ เห็นได้ ยังไม่ตรงประเดน็ ขาด เหตผุ ลสนบั สนุน และยัง ไม่สามารถแกไ้ ขปญั หา เฉพาะหน้าและสะท้อน ความคดิ เหน็ ได้ การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถึง การสอื่ สารอยา่ งมีประสิทธิภาพอยใู่ นระดบั ดี ¡ 7-9 หมายถึง การส่อื สารอย่างมีประสิทธิภาพอย่ใู นระดบั ปานกลาง ¡ 4-6 หมายถงึ การสอื่ สารอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพอยใู่ นระดบั พอใช้ ¡ 0-3 หมายถงึ การสอ่ื สารอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ในระดบั ปรับปรงุ

37 แบบประเมินการสอ่ื สารอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ Type 9C (Single-Point Rubric) ประเดน็ เพ่อื การปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ การส่ือสาร ประเด็นทส่ี ำเร็จและการตอ่ ยอด (Areas of Improvement) อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ (Above and Beyond) 1. การเรียบเรยี งสิ่งท่ีจะสอ่ื สาร ให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมและ สถานการณ์ ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนสามารถจบั ประเด็น เรยี งลำดบั จดั หมวดหมูส่ ารทต่ี อ้ งการจะส่ือได้ อย่างเหมาะสมกบั วัฒนธรรมและ สถานการณ์ 2. การใช้เครอื่ งมอื ในการส่อื สาร ที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมและ สถานการณ์ ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรียนสามารถเลือกเคร่อื งมือและ กลวิธีการสือ่ สารทเี่ หมาะสมกบั ประเภทของสาร ผู้รบั สาร วัฒนธรรม และสถานการณ์ 3. การถา่ ยทอดโดยใชว้ ัจนภาษา และอวจั นภาษาทเี่ หมาะสมกับ วัฒนธรรมและสถานการณ์ ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรยี นสามารถใชถ้ ้อยคำ แสดงทา่ ทาง แสดงสหี นา้ ใชส้ ายตาทีเ่ หมาะสมกับ วฒั นธรรมและสถานการณ์ 4. การโต้ตอบกบั ผ้อู น่ื ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนสามารถสรุปประเดน็ จากส่งิ ทฟ่ี งั หรือ อ่านและตอบกลับไดอ้ ย่างตรงประเด็น มี เหตุผลสนับสนุน แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและ สะทอ้ นความคดิ เห็นได้

38 10. การเปน็ ผู้ประกอบการและการลงทนุ (Entrepreneurship and Investment) นิยามความหมาย การเป็นผู้ประกอบการและการลงทุน (Entrepreneurship and Investment) หมายถึง ความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ในการวางแผนและการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ในการสรา้ งสรรคน์ วัตกรรมโดยเรียนร้แู ละวเิ คราะหจ์ ากสถานการณ์หรือปัญหารอบตัว วิเคราะหจ์ ดุ แข็ง จุดอ่อนและจุดเส่ียงของธุรกิจ มีความสามารถในการจัดการทางการเงินและการ ลงทุน สามารถจดั การกับความล้มเหลวเพอื่ หาช่องทางปรับปรุงใหอ้ ยู่รอดได้ รวมถงึ การมีคุณธรรม และจริยธรรมในการเปน็ ผปู้ ระกอบการท่ีดี มอี งค์ประกอบ 4 ด้าน ดังนี้ 10.1 การคิดเชิงออกแบบในการสร้างสรรค์นวัตกรรม หมายถงึ ความสามารถในการคิด เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยการเข้าใจปัญหา กำหนดปัญหาอย่างชัดเจน ระดมความคิด สร้าง ต้นแบบ และทดสอบ ในการวิเคราะห์ความต้องการ แนวโน้มการเปล่ียนแปลง และการมองเหน็ โอกาสในการนำเทคโนโลยีมาตอบสนองความต้องการของผ้บู รโิ ภค 10.2 การวางแผนธุรกิจ หมายถึง ความสามารถในการ วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน ความ เสี่ยงของธุรกิจ คู่แข่ง และสภาพแวดล้อมในการดำเนินธรุ กิจ การวางแผนทรัพยากรที่ใช้ในการ เริ่มต้นธุรกิจ การกำหนดเป้าหมายของธุรกจิ ที่เป็นไปได้และวัดผลได้ และการเตรียมแผนรองรบั กรณฉี กุ เฉินทส่ี ถานการณ์ไมเ่ ป็นไปตามแผนและวางแผนปรับปรงุ ธุรกิจเพอื่ ให้อยู่รอดได้ 10.3 การจัดการทางการเงินและการลงทุน หมายถึง ความสามารถในการวางแผนด้าน การเงนิ ทใี่ ชใ้ นการลงทนุ รแู้ หลง่ ที่มาของเงินลงทุน และวเิ คราะหผ์ ลตอบแทนจากการลงทนุ 10.4 การมีคุณธรรมและจริยธรรมในการเป็นผู้ประกอบการ หมายถึง พฤติกรรมท่ี แสดงออกถงึ การทำในสิง่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ตรงไปตรงมา ถกู ตอ้ งตามกฎหมาย และสามารถตรวจสอบทมี่ า ทีไ่ ปได้

แบบประเมนิ การเป็นผปู้ ระกอบการและการลงทนุ 39 Type 10A (Holistic Rubrics) 3210 ผเู้ รียนสามารถคดิ ผูเ้ รยี นสามารถคดิ ผเู้ รยี นสามารถคิด ผเู้ รยี นไมส่ ามารถแสดง สร้างสรรคน์ วัตกรรม สร้างสรรคน์ วัตกรรม สร้างสรรค์นวตั กรรม ความสามารถในการเป็น ดว้ ยกระบวนการคิดเชงิ ด้วยกระบวนการคดิ เชิง ดว้ ยกระบวนการคิดเชงิ ผูป้ ระกอบการและการ ออกแบบ วเิ คราะห์ ออกแบบวเิ คราะห์ความ ออกแบบ แตไ่ มส่ ามารถ ลงทุนตามเกณฑร์ ะดบั ความเสีย่ ง วางแผน เสย่ี ง วางแผนทรพั ยากร วิเคราะหค์ วามเส่ียง คะแนน 1-3 ทรัพยากร กำหนด กำหนดเป้าหมายของ วางแผนทรพั ยากร เปา้ หมายของธุรกิจ ธุรกิจ เตรียมแผนรองรบั กำหนดเป้าหมายของ เตรยี มแผนรองรบั และ และปรบั ปรงุ ธุรกจิ ด้วย ธุรกิจ เตรยี มแผนรองรบั ปรบั ปรงุ ธุรกจิ ด้วย กระบวนการคดิ เชิง และปรับปรงุ ธรุ กจิ ด้วย กระบวนการคดิ เชิง ออกแบบแตไ่ มส่ ามารถ กระบวนการคดิ เชิง ออกแบบวางแผนและ วางแผนและวเิ คราะห์ ออกแบบหรือไม่สามารถ วเิ คราะหผ์ ลตอบแทน ผลตอบแทนด้านการเงิน วางแผนและวเิ คราะห์ ด้านการเงนิ ทีใ่ ชล้ งทนุ ทีใ่ ช้ลงทนุ หรือไมท่ ำใน ผลตอบแทนดา้ นการเงิน ทำในสิ่งทีถ่ กู ต้อง สง่ิ ที่ถกู ตอ้ ง ทใ่ี ช้ลงทนุ หรือไมท่ ำใน ตรงไปตรงมา ตาม ตรงไปตรงมา ตาม สง่ิ ที่ถูกตอ้ ง กฎหมาย และตรวจสอบ กฎหมาย และตรวจสอบ ตรงไปตรงมา ตาม ได้ ได้ กฎหมาย และตรวจสอบ ได้ การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถงึ การเปน็ ผู้ประกอบการและการลงทนุ อยใู่ นระดบั ดี ¡ 2 หมายถึง การเปน็ ผ้ปู ระกอบการและการลงทุนอยู่ในระดบั ปานกลาง ¡ 1 หมายถึง การเปน็ ผู้ประกอบการและการลงทุนอยใู่ นระดับพอใช้ ¡ 0 หมายถงึ การเปน็ ผู้ประกอบการและการลงทนุ อยู่ในระดบั ปรับปรุง

แบบประเมินการเปน็ ผปู้ ระกอบการและการลงทุน 40 Type 10B (Analytic Rubrics) องค์ประกอบย่อย 3 2 1 0 1. การคดิ เชงิ ผู้เรียนสามารถวเิ คราะห์ ผเู้ รยี นสามารถวิเคราะห์ ผเู้ รียนสามารถวิเคราะห์ ผูเ# รียนไมส่ ามารถแสดง ออกแบบในการ ความต้องการและ ความตอ้ งการและ ความต้องการและ ความสามารถการ สร้างสรรค์ แนวโนม้ การเปล่ยี นแปลง แนวโนม้ การเปลีย่ นแปลง แนวโน้มการเปล่ียนแปลง มองเหน็ โอกาสในการ นวัตกรรม ของผู้บรโิ ภค นำ ของผู้บรโิ ภค แต่ไม่ ของผู้บรโิ ภคไดเ้ พยี งอย่าง สร้างสรรค์นวตั กรรมตาม เทคโนโลยมี าตอบสนอง สามารถนำเทคโนโลยีมา ใดอยา่ งหนึ่งและไม่ เกณฑ์ระดับคะแนน 1-3 2. การวางแผน ความต้องการของ ตอบสนองความต้องการ สามารถนำเทคโนโลยีมา ธุรกจิ ผูบ้ ริโภค ของผบู้ ริโภค ตอบสนองความตอ้ งการ ผ#เู รยี นไม่สามารถแสดง ของผู้บริโภค ความสามารถในการ 3. การจดั การทาง ผู้เรยี นสามารถวเิ คราะห์ ผู้เรยี นสามารถวิเคราะห์ ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ วางแผนธรุ กจิ ตามเกณฑ์ การเงนิ และการ ความเสี่ยงของธรุ กจิ ความเส่ยี งของธุรกิจ ความเส่ยี งของธรุ กิจ ระดบั คะแนน 1-3 ลงทุน วางแผนทรพั ยากร วางแผนทรัพยากร วางแผนทรัพยากร กำหนดเปา้ หมาย เตรียม กำหนดเปา้ หมาย เตรยี ม กำหนดเป้าหมาย แต่ขาด ผู#เรียนไม่สามารถแสดง 4. การมคี ณุ ธรรม แผนรองรบั กรณฉี กุ เฉิน แผนรองรบั กรณีฉกุ เฉิน การเตรยี มแผนรองรบั ความสามารถในการ และจริยธรรมใน วางแผนปรบั ปรงุ ธรุ กจิ ได้ แตไ่ มส่ ามารถวางแผน กรณีฉกุ เฉนิ และไม่ จดั การทางการเงินและ การเปน็ โดยประยุกตใ์ ช้ ปรับปรงุ ธรุ กิจได้ สามารถวางแผนปรับปรงุ การลงทุนตามเกณฑ์ ผปู้ ระกอบการ กระบวนการคดิ เชิง ธุรกิจได้ ระดับคะแนน 1-3 ออกแบบ ผเู้ รียนสามารถวางแผน ผเู้ รยี นสามารถวางแผน การเงนิ ในการลงทุน รู้ ผเู้ รียนสามารถวางแผน ผเู# รยี นไม่สามารถแสดง การเงินในการลงทนุ รู้ แหลง่ ท่ีมาของเงนิ ลงทุน การเงนิ ในการลงทนุ แต่ การมีคณุ ธรรมและ แหล่งท่ีมาของเงินลงทนุ แต่ไม่สามารถวเิ คราะห์ ยังไม่รู้แหล่งทีม่ าของเงิน จริยธรรมในการเปน็ วเิ คราะหผ์ ลตอบแทน ผลตอบแทนจากการ ลงทุน และไมส่ ามารถ ผ้ปู ระกอบการตามเกณฑ์ จากการลงทุน ลงทนุ วิเคราะห์ผลตอบแทน ระดับคะแนน 1-3 ผู้เรียนแสดงออกถงึ การ จากการลงทนุ ผเู้ รยี นแสดงออกถงึ การ ทำในส่ิงที่ถกู ตอ้ ง ผู้เรยี นแสดงออกถึงการ ทำในสงิ่ ทีถ่ กู ต้อง ตรงไปตรงมาตาม ทำในสิ่งที่ถกู ตอ้ ง ตรงไปตรงมาตาม กฎหมายแต่ไม่สามารถ ตรงไปตรงมาตาม กฎหมายและสามารถ ตรวจสอบทีม่ าท่ีไปได้ กฎหมายแตข่ าดความ ตรวจสอบทีม่ าทไี่ ปได้ ชดั เจนและไม่สามารถ ตรวจสอบที่มาทไ่ี ปได้ การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถงึ การเป็นผปู้ ระกอบการและการลงทนุ อยใู่ นระดับดี ¡ 7-9 หมายถงึ การเปน็ ผ้ปู ระกอบการและการลงทนุ อยู่ในระดับปานกลาง ¡ 4-6 หมายถึง การเปน็ ผ้ปู ระกอบการและการลงทนุ อยู่ในระดบั พอใช้ ¡ 0-3 หมายถงึ การเปน็ ผู้ประกอบการและการลงทุนอยูใ่ นระดับปรบั ปรุง

41 แบบประเมินการเป็นผปู้ ระกอบการและการลงทนุ Type 10C (Single-Point Rubric) ประเด็นเพือ่ การปรับปรงุ เกณฑก์ ารประเมนิ การเปน็ ประเด็นทสี่ ำเรจ็ และการต่อยอด (Areas of Improvement) ผูป้ ระกอบการและการลงทนุ (Above and Beyond) 1. การคิดเชิงออกแบบในการ สรา้ งสรรค์นวตั กรรม ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รียนสามารถวิเคราะห์ความตอ้ งการ และแนวโน้มการเปลย่ี นแปลงของ ผู้บริโภค นำเทคโนโลยมี าตอบสนอง ความต้องการของผบู้ รโิ ภค 2. การวางแผนธรุ กิจ ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรยี นสามารถวเิ คราะห์ ความเสยี่ ง ของธรุ กจิ วางแผนทรพั ยากรกำหนด เปา้ หมาย เตรียมแผนรองรบั กรณี ฉุกเฉนิ วางแผนปรบั ปรงุ ธรุ กจิ ได้ 3. การจดั การทางการเงินและ การลงทุน ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรียนสามารถวางแผนการเงินในการ ลงทนุ รู้แหลง่ ทม่ี าของเงินลงทุน วเิ คราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุน 4. การมีคณุ ธรรมและจริยธรรม ในการเป็นผูป้ ระกอบการ ( ......... / ......... คะแนน) ผูเ้ รียนแสดงออกถงึ การทำในส่ิงท่ี ถูกต้อง ตรงไปตรงมาตามกฎหมาย และสามารถตรวจสอบทีม่ าที่ไปได้

42 11. การร้เู ทา่ ทนั ดจิ ิทัลและการผลติ สื่อดจิ ิทัล (Digital Quotient Literacy and Digital Media Production) นิยามความหมาย การรู้เท่าทันดิจิทัลและการผลิตสื่อดิจิทัล (Digital Quotient Literacy and Digital Media Production) หมายถงึ ความสามารถในการใช้ชวี ิตอยูใ่ นโลกดจิ ิทัลไดอ้ ยา่ งปลอดภัย นำ เทคโนโลยีดิจิทัลท่ีมีอยู่ในปจั จุบันทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวรม์ าใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการ ปฏิบัติงาน และสร้างคุณค่าใหแ้ ก่ตนเอง และผู้อื่น รวมทั้งสามารถผลิตสื่อดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาส ทางธุรกิจออนไลน์และใช้ชวี ติ ในยุคดจิ ิทลั ได้ มอี งค์ประกอบ 5 ดา้ น ดงั น้ี 11.1 การมีทัศนคติและค่านิยมที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ หมายถึง การ แสดงความรู้สึก ท่าที ความคิดเห็นเชิงบวก ที่มีต่อการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ การยอมรับการ เปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยี และการใชช้ ีวติ ประจำวนั ท่ีเก่ียวข้องกับเทคโนโลยีต่าง ๆ การมีความ พรอ้ มในการเรียนร้กู ารใช้เทคโนโลยีสมัยใหมอ่ ยูเ่ สมอ 11.2 การป้องกันตนเองจากภัยคุกคามในโลกออนไลน์ หมายถึง ความสามารถในการ รับมอื กบั สถานการณ์ Cyber bullying การรูจ้ กั ป้องกนั ตัวเอง การรวู้ ธิ ปี กปอ้ งข้อมูลส่วนตน รู้เท่า ทันและจัดการกับการกลั่นแกล้ง หรือการคกุ คามขม่ ขู่บนโลกออนไลน์ มคี วามรคู้ วามเข้าใจในเรื่อง กฎหมายและระเบียบกติกาการใช้สื่อคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสามารถจัดการ ปัญหาเบื้องตน้ ไดอ้ ยา่ งชาญฉลาด ทกุ คร้งั เมื่ออยใู่ นโลกออนไลน์ 11.3 การบรหิ ารจัดการเวลาหน้าจอ หมายถึง ความสามารถในการควบคุมตนเองในการ ใช้งานอุปกรณ์และเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ สามารถแบ่งเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิด สมดลุ ระหว่างการใช้เวลาบนหน้าจอ และกิจกรรมอืน่ ที่ตอ้ งทำในชีวิตประจำวัน โดยไม่กระทบต่อ สุขภาพของตนเอง และความสมั พันธก์ บั คนรอบข้าง 11.4 การผลิตสื่อดิจิทัล หมายถือ ความสามารถในการเรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยีด้วย ตนเอง การใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับผลิตสื่อดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ หรือใช้ สอื่ สารสิ่งทต่ี ้องการได้

แบบประเมนิ การรู้เท่าทนั ดจิ ทิ ลั และการผลติ ส่ือดจิ ิทัล 43 Type 11A (Holistic Rubrics) 3210 ผู้เรยี นยอมรบั การ ผู้เรยี นยอมรบั การ ผเู้ รียนยอมรบั การ ผเู้ รยี นไม่สามารถแสดง เปล่ียนแปลงทาง เปลีย่ นแปลงทาง เปลี่ยนแปลงทาง ความสามารถในการ เทคโนโลยี เรียนรกู้ ารใช้ เทคโนโลยี เรยี นรกู้ ารใช้ เทคโนโลยี เรียนรูก้ ารใช้ รเู้ ทา่ ทันดิจทิ ลั และการ เทคโนโลยสี มัยใหม่ เทคโนโลยีสมยั ใหม่ เทคโนโลยสี มัยใหม่ แต่ ผลติ ส่ือดิจทิ ัลตามเกณฑ์ รูเ้ ท่าทันและจดั การ ร้เู ทา่ ทนั และจัดการ ขาดการรเู้ ท่าทนั และ ระดับคะแนน 1-3 รับมอื กับการระรานทาง รับมอื กับการระรานทาง จดั การรับมือกบั การ ไซเบอร์ ร้แู ละเข้าใจ ไซเบอร์ รู้และเข้าใจ ระรานทางไซเบอร์ รู้ กฎหมายการใช้ กฎหมายการใช้ หรอื ขาดความเข้าใจ สื่อคอมพวิ เตอร์และสอ่ื สื่อคอมพิวเตอรแ์ ละสอ่ื กฎหมายการใช้ สงั คมออนไลน์ ควบคมุ สงั คมออนไลน์ แต่ขาด สื่อคอมพิวเตอร์และสอ่ื ตนเองในการใช้ การควบคมุ ตนเองในการ สงั คมออนไลน์ และขาด เทคโนโลยีดิจทิ ลั เรยี นรู้ ใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั หรือ การควบคุมตนเองในการ การใชง้ านเทคโนโลยี ขาดการเรียนร้กู ารใช้ ใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทลั หรือ สำหรับผลติ สือ่ ดจิ ทิ ัล งานเทคโนโลยสี ำหรบั ขาดการเรียนรู้การใช้ ผลิตสอื่ ดิจทิ ลั งานเทคโนโลยสี ำหรบั ผลติ สื่อดิจทิ ลั การแปลความหมาย ¡ 3 หมายถึง การรเู้ ท่าทันดจิ ิทลั และการผลติ ส่ือดิจิทลั อย่ใู นระดับดี ¡ 2 หมายถงึ การรูเ้ ท่าทันดจิ ิทลั และการผลติ สื่อดจิ ทิ ลั อย่ใู นระดบั ปานกลาง ¡ 1 หมายถึง การร้เู ท่าทันดิจิทัลและการผลติ สื่อดจิ ิทลั อยู่ในระดับพอใช้ ¡ 0 หมายถงึ การรู้เท่าทันดิจิทลั และการผลิตสอ่ื ดิจทิ ัลอยใู่ นระดับปรับปรุง

แบบประเมนิ การรเู้ ท่าทนั ดจิ ทิ ัลและการผลิตสอื่ ดิจทิ ลั 44 Type 11B (Analytic Rubrics) องคป์ ระกอบยอ่ ย 3 2 1 0 1. การมีทศั นคติ และคา่ นยิ มที่ ผู้เรียนแสดงคณุ ลกั ษณะ ผเู้ รียนแสดงคณุ ลักษณะ ผเู้ รยี นแสดงคณุ ลกั ษณะ ผ#เู รียนไมส่ ามารถแสดง จำเปน็ ต่อการใช้ เชิงบวกต่อโลกออนไลน์ เชงิ บวกตอ่ โลกออนไลน์ เชิงบวกตอ่ โลกออนไลน์ การมที ัศนคตแิ ละค่านยิ ม ชวี ติ ในโลก ยอมรับการเปล่ียนแปลง ยอมรับการเปลยี่ นแปลง ยอมรับการเปลย่ี นแปลง ท่ีจำเปน็ ตอ่ การใช้ชีวติ ใน ออนไลน์ ทางเทคโนโลยี ใช้ ทางเทคโนโลยี ใช้ ทางเทคโนโลยี แตข่ าด โลกออนไลน์ตามเกณฑ์ เทคโนโลยใี น เทคโนโลยีใน การใช้เทคโนโลยีใน ระดับคะแนน 1-3 2. การปอ้ งกนั ชีวิตประจำวนั พรอ้ มใน ชวี ติ ประจำวัน แตข่ าด ชีวิตประจำวนั และขาด ตนเองจากภยั การเรยี นรูก้ ารใช้ ความพร้อมในการเรยี นรู้ ความพร้อมในการเรียนรู้ ผู#เรยี นไมส่ ามารถแสดง คุกคามในโลก เทคโนโลยสี มยั ใหม่ การใช้เทคโนโลยสี มยั ใหม่ การใช้เทคโนโลยสี มัยใหม่ ความสามารถในการ ออนไลน์ ผเู้ รียนสามารถรับมอื กบั ป้องกนั ตนเองจากภยั การระรานทางไซเบอร์ ผู้เรยี นสามารถรับมือกับ ผู้เรยี นสามารถรับมือกบั คกุ คามในโลกออนไลน์ 3. การบรหิ าร ในการปอ้ งกนั ตนเอง การระรานทางไซเบอร์ การระรานทางไซเบอร์ ตามเกณฑ์ระดบั คะแนน จดั การเวลา รูเ้ ท่าทันและจัดการกบั ในการป้องกนั ตนเอง ในการป้องกันตนเอง แต่ 1-3 หน้าจอ การคกุ คามขม่ ข่บู นโลก รเู้ ทา่ ทันและจัดการกับ ขาดการรู้เท่าทันและ ออนไลน์ รู้และเขา้ ใจ การคุกคามข่มข่บู นโลก จดั การกับการคกุ คาม ผ#เู รียนไม่สามารถแสดง 4. การผลติ สือ่ กฎหมายคอมพวิ เตอร์ ออนไลน์ แตข่ าดความรู้ ข่มขู่บนโลกออนไลน์หรือ ความสามารถในการ ดจิ ิทลั ความเขา้ ใจกฎหมาย ขาดความรคู้ วามเขา้ ใจ บริหารจดั การเวลา ผู้เรียนสามารถควบคุม คอมพวิ เตอร์ กฎหมายคอมพิวเตอร์ หน้าจอตามเกณฑ์ระดบั ตนเองในการใช้งาน คะแนน 1-3 อปุ กรณ์และเทคโนโลยี ผเู้ รียนสามารถควบคุม ผู้เรยี นสามารถควบคุม ดิจิทลั สามารถแบง่ เวลา ตนเองในการใชง้ าน ตนเองในการใช้งาน ผ#เู รียนไม่สามารถแสดง ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ อุปกรณแ์ ละเทคโนโลยี อุปกรณ์และเทคโนโลยี ความสามารถในการผลิต ดิจทิ ลั แต่ขาด ดจิ ิทลั ได้ในระดับหนึ่ง สอ่ื ดจิ ิทัลตามเกณฑ์ระดบั ผู้เรยี นสามารถเรยี นรู้การ ความสามารถในการแบ่ง และขาดความสามารถใน คะแนน 1-3 ใช้งานเทคโนโลยดี ้วย เวลาได้อยา่ งมี การแบ่งเวลาไดอ้ ย่างมี ตนเอง ใชฮ้ าร์ดแวร์และ ประสิทธิภาพ ประสิทธภิ าพ ซอฟต์แวรส์ ำหรบั ผลติ สอ่ื ดิจิทัลได้ ผ้เู รยี นสามารถเรยี นร้กู าร ผเู้ รียนสามารถเรียนรูก้ าร ใชง้ านเทคโนโลยดี ว้ ย ใชง้ านเทคโนโลยีด้วย ตนเอง แตไ่ มส่ ามารถใช้ ตนเองไดพ้ อสมควร แต่ ฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์ ไม่สามารถใช้ฮาร์ดแวร์ สำหรับผลติ สือ่ ดจิ ทิ ลั ได้ และซอฟตแ์ วรส์ ำหรับ ผลิตสอื่ ดิจิทลั ได้ การแปลความหมาย ¡ 10-12 หมายถงึ การร้เู ท่าทันดิจทิ ลั และการผลิตสอ่ื ดจิ ิทัลอยใู่ นระดับดี ¡ 7-9 หมายถึง การรูเ้ ท่าทนั ดจิ ทิ ลั และการผลติ สอ่ื ดิจทิ ลั อย่ใู นระดบั ปานกลาง ¡ 4-6 หมายถึง การรู้เท่าทันดิจทิ ลั และการผลติ ส่ือดจิ ิทลั อยใู่ นระดบั พอใช้ ¡ 0-3 หมายถงึ การรูเ้ ทา่ ทันดจิ ทิ ลั และการผลิตส่ือดิจทิ ลั อยใู่ นระดับปรับปรุง

45 แบบประเมนิ การรเู้ ทา่ ทันดจิ ทิ ลั และการผลติ ส่อื ดิจิทัล Type 11C (Single-Point Rubric) ประเด็นเพอ่ื การปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมินการรเู้ ทา่ ทนั ประเด็นที่สำเรจ็ และการตอ่ ยอด (Areas of Improvement) ดจิ ิทลั และการผลติ ส่อื ดิจทิ ัล (Above and Beyond) 1. การมีทัศนคตแิ ละค่านยิ มท่ี จำเป็นตอ่ การใช้ชีวติ ในโลก ออนไลน์ ( ......... / ......... คะแนน) ผู้เรียนแสดงคุณลักษณะเชงิ บวกตอ่ โลกออนไลน์ ยอมรับการเปลยี่ นแปลง ทางเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีใน ชีวติ ประจำวัน พรอ้ มในการเรียนรู้การ ใช้เทคโนโลยีสมยั ใหม่ 2. การป้องกันตนเองจากภยั คุกคามในโลกออนไลน์ ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รยี นสามารถรับมอื กบั การระราน ทางไซเบอร์ ในการปอ้ งกันตนเอง รู้เท่าทนั และจัดการกับการคุกคามขม่ ขู่ บนโลกออนไลน์ ร้แู ละเข้าใจกฎหมาย คอมพวิ เตอร์ 3. การบริหารจดั การเวลา หน้าจอ ( ......... / ......... คะแนน) ผูเ้ รียนสามารถควบคุมตนเองในการใช้ งานอุปกรณแ์ ละเทคโนโลยดี ิจิทัล สามารถแบ่งเวลาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ 4. การผลิตส่ือดจิ ิทัล ( ......... / ......... คะแนน) ผเู้ รยี นสามารถเรียนรกู้ ารใช้งาน เทคโนโลยดี ้วยตนเอง ใชฮ้ าร์ดแวรแ์ ละ ซอฟต์แวรส์ ำหรบั ผลิตสอื่ ดิจิทลั ได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook