บทบาทคอมพวิ เตอร์ในงานอุตสาหกรรม
การควบคุมการผลติ อาหารสัตว์ด้วยระบบ คอมพวิ เตอร์
การควบคุมการผลยติ อาหาร สัตวด์ ้วยระบบคอมพวิ เตอร์
บทบาทคอมพวิ เตอร์ในงานราชการ
งานทะเบยี นราษฎ์ การนับคะแนนและ เกบ็ ข้อมูลสถตสิ ัมโน ประกาศผลการเลือกต้ัง ประชากร บทบาทคอมพวิ เตอร์ในงานราชการ การคดิ ภาษีอาการ การเกบ็ เงนิ ค่า สาธารณูปโภค เช่น ค่านา้ ค่าไฟ ค่า โทรศัพท์ ฯลฯ
บทบาทและหน้าทใ่ี นการใช้คอมพวิ เตอร์ ของหน่วยงานราชการต่างๆ กระทรวงศึกษาธิการ ระบบการประชุมทางไกลผ่านคอมพวิ เตอร์ ทาประวตั คิ รู,สถิตนิ ักเรียนและโรงเรียน
บทบาทและหน้าท่ใี นการใช้คอมพวิ เตอร์ ของหน่วยงานราชการต่างๆ กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ จัดระบบเครือข่ายอนิ เตอร์เน็ต และเทคโนโลยี เพื่อเช่ือมโยงไปยงั สถาบนั ต่างๆ
บทบาทและหน้าทีใ่ นการใช้คอมพวิ เตอร์ ของหน่วยงานราชการต่างๆ กรมสรรพากร ใช้ในการจัดเกบ็ ภาษี บนั ทกึ ข้อมูลการเสียภาษี
บทบาทและหน้าทใ่ี นการใช้คอมพวิ เตอร์ ของหน่วยงานราชการต่างๆ กระทรวงยตุ ธิ รรม ใช้บันทึกคาพพิ ากษาของศาล เพ่ือประกอบการพจิ ารณาคดี
บทบาทและหน้าท่ีในการใช้คอมพวิ เตอร์ ของหน่วยงานราชการต่างๆ กระทรวงพานิชย์ ใช้ในการทาสถติ ขิ ้อมูลการค้าของประเทศ ทาดรรชนีราคา,เกบ็ ทะเบียนการค้า
บทบาทและหน้าท่ใี นการใช้คอมพวิ เตอร์ ของหน่วยงานราชการต่างๆ กระทรวงอุตสาหกรรม จัดเกบ็ ทะเบยี นโรงงาน ข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติ
บทบาทและหน้าทใ่ี นการใช้คอมพวิ เตอร์ ของหน่วยงานราชการต่างๆ กระทรวงเกษตร ใช้ในการรวบรวมข้อมูลผลผลติ ทาง การเกษตรเพื่อวางแผนกบั กระทรวงพานิช ในการส่ งเสริมการผลติ
สารสนเทศ ความหมายของสารสนเทศ ข้อ มู ล ที่ ส า ม า ร ถ น า ไ ป ใ ช้ ประโยชน์ได้ เพราะได้ผ่านการ ประมวลผลดว้ ยวิธีท่ีเหมาะสมและ ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ ตอ้ งการของผใู้ ช้
การจดั การข้อมูลยใหเ้ ป็ นสารสนเทศ 1. การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล เ ป็ น ข้ั น ต อ น ใ น ก า ร ร ว บ ร ว ม ข้อ มู ล ท่ี มี จ า น ว น ม า ก แ ล ะ ข้อ มู ล น้ี จ ะ ต้อ ง ไ ด้รั บ ก า ร ตรวจสอบเพ่ือความถูกตอ้ งและมี ความเชื่อถือได้
2. การดาเนินการประมวลผลข้อมูลให้กลายเป็ นสารสนเทศ เป็นวธี ีการที่นาขอ้ มูลน้นั มาประมวลผล
2.1 การจดั แบ่งข้อมูล
2.2 การจดั เรียงข้อมูล
2.3 การสรุปผล
2.4 การคานวณ
3. การดูแลรักษาสารสนเทศเพื่อใช้งาน ซ่ึงจะมีวิธีการและข้นั ตอนต่างๆ ใน การดูแลรักษาขอ้ มูลที่เป็นสารสนเทศแลว้
3.1 การเกบ็ รักษาข้อมูล
3.2 การค้นหาข้อมูล
3.3 การสาเนาข้อมูล
3.4 การส่ือสาร
วธิ ีการประมวลผลข้อมูล ก่อนจะนาขอ้ มูลไปใช้ประโยชน์ได้น้ัน จาเป็ นจะต้องผ่านการประมวลผลขอ้ มูลก่อน การประมวลผลข้อมูลน้ันต้ังแต่การรวบรวม ขอ้ มูล การแยกแยะ การตรวจสอบ การคานวณ การจดั ลาดบั การประมวลผลทาได้ 2 วิธี
1. การประมวลผลแบบเช่ือมตรง เป็ นการทางานในขณะท่ีขอ้ มูลวิ่ง ไปบนสายสัญญาณเช่ื อมต่อจากเคร่ื อง ปลายทาง ไปยงั ฐานขอ้ มูล ดงั น้นั จะเป็ น การประมวลผลโดยทนั ทีทนั ใด
2. การประมวลผลแบบกล่มุ เป็นการประมวลผลในเร่ืองที่ตอ้ งการเป็นคร้ังๆ
ระบบสารสนเทศ ระบบท่ีดาเนินการจดั การขอ้ มูลข่าวสารใน องค์กรให้สามารถนามาใช้ได้อย่างเป็ นระบบ ระเบียบ ดงั น้นั ระบบสารสนเทศจะประกอบดว้ ย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ผูใ้ ช้ กระบวนการ และตวั ขอ้ มูลหรือสารสนเทศ สามารถตรวจสอบและ ประเมินผลระบบน้นั ได้
ความหมายของระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ หมายถึง ระบบที่อาศยั เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เขา้ มา จดั การกบั ขอ้ มูลในองค์กร เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายที่ตอ้ งการอย่างมีประสิทธิภาพ ท้งั น้ีการจดั การในความหมายของระบบสารสนเทศมีหลายรูปแบบ เช่น การจดั เกบ็ การรวบรวม การประมวลผล การปรับเปล่ียน และการเผยแพร่สารสนเทศ เป็นตน้ ตวั อยา่ งเช่น ในการประมวลผลการสอบของ นกั เรียน
ตวั อย่างระบบสารสนเทศ แสดงผล ข้อมูล ประมวลผล
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ 1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) 2. ซอฟตแ์ วร์ (Software) 3. บคุ ลากร (User) 4. ขอ้ มูล (Data) 5. กระบวนการ (Procedure)
ฮาร์ดแวร์ เป็ นอุปกรณ์ท่ีใช้ในการ รับค่า ประมวลผล และแสดงผล น้ันออกมา ตลอดจนการเก็บ รวบรวมข้อมูล และสารอง ขอ้ มูลต่างๆ
ซอฟต์แวร์ (Software) โปรแกรมหรอื ชดุ คำส่งั ที่ทำใหค้ อมพิวเตอรท์ ำงำน ตำมลำดบั ข้ันตอนตำมโปรแกรมหรือชุดคำส่ังนั้นๆ โดยคอมพิวเตอร์น้ันจะ ทำงำนตำมคำส่งั ของซอฟตแ์ วรต์ ำ่ งๆ
ซอฟต์แวร์ กำรทำงำนพืน้ ฐำนของเครื่องคอมพิวเตอรจ์ ะใชข้ อ้ มูลท่ีเป็น เลขฐำนสองแทนคำ่ ขอ้ มลู เชน่ ตวั อกั ษร รูปภำพ หรอื แมแ้ ต่เสียงพดู และคอมพิวเตอรน์ น้ั อ่ำนไดเ้ พียงแคเ่ ลข 0 กบั 1 เทำ่ นน้ั
ประเภทซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ระบบ ระบบปฏิบัติการ ตวั แปลภาษา ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ ซอฟต์แวร์สาเร็จ ซอฟต์แวร์เฉพาะ
ซอฟต์แวร์ระบบ เป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ีถูกพฒั นำขึน้ เพ่ือมำใชจ้ ัดกำรกับระบบ ใน กำรดำเนนิ งำนพนื้ ฐำนตำ่ งๆ ของเครอื่ ง
ซอฟต์แวร์ระบบ หนำ้ ท่ีหลกั ของซอฟตแ์ วรร์ ะบบ คอื 1. กำรจดั กำรกบั หนว่ ยรบั เขำ้ และหนว่ ยสง่ ออก 2. กำรจดั กำรหน่วยควำมจำ 3. เป็นตวั เช่ือมตอ่ ระหวำ่ งผใู้ ชก้ บั คอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟตแ์ วรท์ ี่ถูกพฒั นำขึน้ ใชก้ บั งำนดำ้ นต่ำงๆ ตำมควำม ตอ้ งกำรของผใู้ ช้ และเฉพำะกบั งำนในดำ้ นตำ่ งๆ แบง่ ออกเป็น 2 กลมุ่ คือ 1. ซอฟตแ์ วรส์ ำเรจ็ รูป 2. ซอฟตแ์ วรเ์ ฉพำะ
ส่ วนบุคลากร บุคลำกรทำงคอมพิวเตอรท์ ี่ใช้ งำนและดแู ลเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ซ่ึงจะ มี ค ว ำ ม รู้เ กี่ ย ว กั บ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ส ำ ม ำ ร ถ ใ ช้ง ำ น ส่ัง ง ำ น เ พ่ื อ ใ ห้ คอมพวิ เตอรท์ ำงำน แบง่ ไดด้ งั นี้
1. ผู้จดั การระบบ ผวู้ ำงนโยบำยกำรใชค้ อมพิวเตอรใ์ หเ้ ป็นไปตำมเปำ้ หมำย ของหนว่ ยงำนตำ่ งๆ
2. นักวเิ คราะห์ระบบ ผทู้ ี่ศึกษำระบบงำนเดิมหรืองำนใหม่และทำกำรวิเครำะห์ ให้เหมำะสม ควำมเป็นไปได้ของระบบงำน และส่งต่อเพ่ือให้ นกั เขียนโปรแกรมเป็นผเู้ ขียนโปรแกรมขนึ้
3. นักเขียนโปรแกรม ผู้เขียนโปรแกรมต่ำงๆ ตำมควำมตอ้ งกำรของผู้ใช้ โดย เขียนตำมแผนผงั ที่นกั วเิ ครำะหร์ ะบบไดเ้ ขียนไว้
4. ผู้ใช้ ผูใ้ ชง้ ำนคอมพิวเตอรท์ ่วั ไป อำจจะตอ้ งศึกษำเรียนรู้ วิธีใช้ งำนเคร่อื งและโปรแกรม เพ่ือใชง้ ำนโปรแกรมต่ำงๆ ไดต้ ำมควำม ตอ้ งกำร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178