ข้อมูล (Data) ขอ้ เท็จจริงอาจอยู่ในรูปแบบต่างๆ ไม่ ว่าจะเป็ นตวั หนังสือ แสง สี เสียง สัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ ภาพ วตั ถุ หรือหลายๆ อย่าง ผสมผสานกนั ซ่ึงขอ้ มูลที่ดีตอ้ งตรงกบั ความ ตอ้ งการของผใู้ ช้
คุณสมบตั ขิ องข้อมูลท่ีดี 1. ความถูกตอ้ งแม่นยา 2. มีความเป็นปัจจุบนั 3. ความสมบูรณ์ครบถว้ น 4. ความกะทดั รัด 5. ตรงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้
ประเภทของข้อมูล สามารถแบ่งประเภทของขอ้ มูลไดเ้ ป็น 2 ประเภท 1. ตามแหล่งกาเนิด 2. ตามลกั ษณะของขอ้ มูล
1. ตามแหล่งกาเนิด แบ่งได้ 2 ประเภท 1) ข้อมูลปฐมภูมิ หมายถึง ข้อมูลที่ได้ จากจุดกาเนิดขอ้ มูลน้นั ๆ หรือแหล่งของขอ้ มูล โดยตรง ซ่ึงจะได้จากการสอบถาม สัมภาษณ์ การสารวจ การจดบนั ทึก และอื่นๆ
1. ตามแหล่งกาเนิด แบ่งได้ 2 ประเภท 2) ขอ้ มูลทุติยภูมิ หมายถึง ขอ้ มูลท่ีได้ รวบรวมไวแ้ ลว้ ไม่จาเป็นจะตอ้ งไปหาขอ้ มูล เอง เช่น สถิติประชากรแต่ละจังหวดั สถิติ การส่งออกสินคา้ สถิติการนาเขา้ สินคา้ เป็ น ตน้ เพือ่ นาขอ้ มูลไปใชต้ ่อ
กระบวนการ (Procedure) ขั้นตอนท่ีผู้ใช้จะต้องทาตาม เพื่อให้ได้ งานเฉพาะอย่างจากคอมพิวเตอร์ซึ่งผู้ใช้ คอมพิวเตอร์ทุกคนต้องรู้การทางานพื้นฐาน ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เพ่ือท่ีจะสามารถใช้ งานไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
ลกั ษณะสารสนเทศที่ดี - มคี วามถูกต้อง - เข้าใจง่าย - มคี วามเช่ือถือได้ - มคี วามสมบูรณ์และครบถ้วน - มีความคุ้มทุน - มคี วามยืดหยุ่น - ตรงประเดน็ - มคี วามทันสมัย - สามารถตรวจสอบได้ - เข้าถึงได้ง่าย
การแทนข้อมลู ในคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ น้ันทางานด้วยหลัก อิเลก็ ทรอนิกส์ใชส้ ญั ญาณไฟฟ้าแทนตวั เลข น้นั คือ เลข 0 และ 1 ซ่ึงจะเป็ นเลขฐานสอง จึงมกั จะเรียกกนั วา่ “บิต”
เมื่อนาเลขหลายๆ บิตมารวมกนั จะแทนค่าเป็ นตวั อกั ษร ไม่ว่าจะเป็ น ภาษาไทยหรือภาษาองั กฤษ รวมไปถึง ทุกภาษาไดเ้ ลย โดยหลกั จะนิยมใช้กนั อยู่ 2 รหสั
1. รหสั แอสกี เป็นรหัสที่ใชแ้ ทนอกั ขระที่เป็นมาตราฐาน จะประกอบดว้ ย 8 บิต จะสามารถใชแ้ ทนรหสั ต่างๆ ไดถ้ ึง 256 แต่ภาษาองั กฤษรวมกนั ไม่เกิน 128 ตวั
1. รหสั แอสกี
1. รหสั แอสกี
2. รหัสเอบซีดกิ เป็ นการกาหนดรหัสแทนตวั อกั ขระที่ใชก้ นั แพร่หลายอีกอยา่ งหน่ึง การกาหนดรหสั จะใช้ 8 บิต หรือ 1 ไบร์ต่อ 1 อกั ขระ เหมือนกนั กบั รหสั แอสกี
2. รหัสเอบซีดกิ
ระบบเลขฐาน 2 ระบบเลขท่ีมีสัญลกั ษณ์เพียงสองตวั คือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หน่ึง) บางคร้ังอาจ หมายถึงการท่ีมีโอกาสเลือกไดเ้ พียง 2 ทาง เช่น ปิ ดกบั เปิ ด, ไม่ใช่กบั ใช่, เท็จกับจริง, ซา้ ยกบั ขวา เป็นตน้
ระบบเลขฐาน 2 ในปัจจุบนั เลขฐานสองเป็ นพ้ืนฐานในการทางานของคอมพิวเตอร์ โดยนาเอาหลกั การของเลขฐานสอง (สถานะไม่มีไฟฟ้า และ สถานะมี ไฟฟ้า) มาใชใ้ นการสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ท่ี มีหน่วยประมวลผลแบบ 32 หรือ 64 บิต หรือ มากกวา่ น้นั ซ่ึงสามารถเรียกไดว้ า่ เป็นการ ประมวลผลแบบดิจิทลั
ระบบเลขฐาน 2
ประเภทของระบบสารสนเทศ แบ่งออกเป็ น 3 ประเภท ระบบสารสนเทศที่สนบั สนุนการทางาน การจาแนกตามหนา้ ท่ีขององคก์ าร การจาแนกตามการใหก้ ารสนบั สนุนของระบบสารสนเทศ
1. ระบบสารสนเทศทสี่ นับสนุนการทางาน 1.1 ระบบประมวลผลรายการ เป็ น ระบบที่ทาหน้าท่ีในการปฏิบัติงานประจา ทาการบนั ทึกจดั เก็บ ประมวลผลรายการที่ เ กิ ด ข้ึ น ใ น แ ต่ ล ะ วัน โ ด ย ใ ช้ ร ะ บ บ คอมพิวเตอร์ทางานแทน
1. ระบบสารสนเทศทส่ี นับสนุนการทางาน 1.2 ระบบสานักงานอัตโนมัติ เป็ น ระบบท่ีสนับสนุนงานในสานักงาน หรื อ ธุรการของหน่วยงาน ซ่ึงจะเกี่ยวขอ้ งกบั การ จดั การเอกสารต่างๆ
1. ระบบสารสนเทศทส่ี นับสนุนการทางาน 1.3 ระบบงานสร้างความรู้ เป็ นระบบ ที่ช่วยสนับสนุนบุคลากรที่ทางานดา้ นการ สร้างความรู้ เพ่ือพฒั นาการคิด ผลิตภณั ฑ์ บริการ และความรู้ใหม่ๆ
2. ระบบสารสนเทศสาหรับผู้บริหารระดับสูง เป็ นระบบท่ีสร้างสารสนเทศเชิงกล ยุทธ์สาหรับผูบ้ ริหารระดบั สูง ซ่ึงทาหน้าท่ี กาหนดแผนระยะยาว และเป้าหมายของ องคก์ ร
ระบบสารสนเทศการจาแนกตามหน้าที่ขององค์การ 1. ระบบสารสนเทศดา้ นบญั ชี 2. ระบบสารสนเทศดา้ นการเงิน 3. ระบบสารสนเทศดา้ นการผลิต 4. ระบบสารสนเทศดา้ นการตลาด 5. ระบบสารสนเทศดา้ นทรัพยากรมนุษย์
3. การจาแนกตามการใหก้ ารสนับสนุนของระบบสารสนเทศ 3.1 ระบบสารสนเทศประมวลผล รายการ เป็ นระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกบั การ บนั ทึกและประมวลผลขอ้ มูลท่ีเกิดจากการ ทางานตลอด
3. การจาแนกตามการใหก้ ารสนับสนุนของระบบสารสนเทศ 3.2 ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ เป็ นระบบสารสนเทศสาหรับผูป้ ฏิบัติการ ระดับกลาง ใช้ในการวางแผน การบริหาร จดั การ และการควบคุม
3. การจาแนกตามการใหก้ ารสนับสนุนของระบบสารสนเทศ 3.3 ระบบสนบั สนุนการตดั สินใจ เป็ น ระบบที่ช่วยบริหารในการตดั สินใจสาหรับ ปัญหา โดยผใู้ ชโ้ ตต้ อบโดยตรงกบั ระบบ
ตวั อย่างระบบสารสนเทศในงานอาชีพ ระบบสารสนเทศทใ่ี ช้ในกจิ การเช่ารถ ระบบสารสนเทศในร้านอาหาร ระบบสารสนเทศในบริษทั ขายสินค้าหรือให้บริการ ระบบสารสนเทศในห้องสมุด
สรุป คอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มนุษย์ประดิษฐ์ ขึ้น เพื่อใช้ในการจดจา การ คานวณและประมวลผลตามคาส่ัง หลักการทางาน คือ การรับข้อมูลจากผู้ใช้ นามาประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ทาง อปุ กรณ์แสดงผล ระบบสารสนเทศเป็ นการนาข้อมูลยท่ีมีมาจัดการแลยะประมวลยผลยเพ่ือให้ บรรลยุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยยคี อมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอรแ์ ลยะระบบสารสนเทศ มีการพัฒนาความสามารถมากขึน้ แลยะ มีราคาต่าลยง ส่งผลยให้ระบบสารสนเทศใหม่ๆ ยังคงเกิดขึน้ อย่างต่อเน่ือง แลยะมี แนวโน้มจะเกดิ ขึน้ อกี มากมายในอนาคต
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178