นางสาวเบญจมาภรณ์ หุน่ งาม ป.บัณฑติ วิชาชีพครู รุ่น ๒๓ หมู่ 3 เลขท่ี 3 สรุปบทความ บทความที่ 1 ผศ.ดร.สมหมาย จันทร์เรือง./(2020).//ครูในยุค Disruption/สืบค้น /12 เมษายน 2565,//จาก http://doh.hpc.go.th/bs/topicDisplay.php?id=339 ครใู นยุค Disruption พึงปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1. ศึกษาหาความรเู้ กี่ยวกับเทคโนโลยสี มยั ใหม่ และฝกึ ปฏบิ ตั เิ พอื่ สามารถใช้สอ่ื เหลา่ นั้นให้ได้ เชน่ การอบรม หรอื การปฏบิ ัติ เปน็ ตน้ 2. การรู้จักนาสื่อคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน หรอื computer Assisted Instruction : CAI) มาเปน็ เคร่อื งมอื ใหผ้ ู้เรยี น สามารถเรียนรดู้ ว้ ยตนเองในลักษณะการนาเสนอที่มีทง้ั ตวั อักษร ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว เพอ่ื ดึงดูดให้ ผูเ้ รยี นเกิดความสนใจเรียนรมู้ ากยิ่งขึน้ 3. ครูตอ้ งมคี วามรู้ตามศาสตร์ของแตล่ ะสาขาวชิ า ควรตระหนักว่าเคร่ืองมอื และอุปกรณเ์ หลา่ นเ้ี ป็นเพียงสื่อการ สอนเท่านนั้ มใิ ช่ใหผ้ เู้ รยี นไปค้นควา้ เองอย่างอิสระ โดยครูไมไ่ ดม้ ีบทบาทใดๆ เลย 4. ครคู วรรจู้ ักใชบ้ ทเรยี นออนไลน์ หรือ E-learning การเรียนการสอนบนเว็บ (Web-Based Learning) E-Book หรอื กระดานอัจฉรยิ ะ (Interactive Board) หรอื ขอ้ มลู ผ่านเครอื ข่าย Internet 5. หากไมส่ ามารถศึกษาหาประสบการณ์จากสอ่ื เหล่าน้นั ได้ ก็ควร Disrupt ตัวเอง แลว้ เปลย่ี นไปประกอบอาชพี อ่นื ที่ไม่ต้องใช้ความรู้ความชานาญเกยี่ วกับสอื่ สารสนเทศท่ีกลา่ วมาน้ี บทความท่ี 2 พิศวสั น์ สุวรรณมรรคา./(2021).//ปรบั มาตรฐานวิชาชีพครใู หม่ เตรยี มนกั เรียนให้พร้อมสาหรับอนาคต/ สบื ค้น /12 เมษายน 2565,//จาก https://www.educathai.com/knowledge/articles/472 มาตรฐานวิชาชีพใหม่สาหรับครู โดยมีจดุ มงุ่ หมายเพ่ือให้อานาจครูฝึกฝนผู้เรียนท่ีจะกลายเป็นผู้นาในอนาคต มาตรฐานวชิ าชพี นค้ี าดหวงั วา่ ครจู ะต้องเปน็ • ผูอ้ บรมสัง่ สอนที่ใสใ่ จกับการเตบิ โตอยา่ งรอบด้าน • ผรู้ ว่ มสรา้ งความรูท้ ีส่ ร้างแรงบันดาลใจ • แบบอย่างที่ม่งุ ม่ันของความเป็นมอื อาชพี บทความที่ 3 กระทรวงศึกษาธิการ./(2018).//ครูยคุ ใหม่...สร้างเด็กไทย 4.0/สบื คน้ /12 เมษายน 2565,//จาก https://gnews.apps.go.th/news?news=6358 กระทรวงศึกษาธิการ ได้เตรียมการเพื่อการสร้างเด็กไทยสู่อนาคต ด้วยการส่งเสริมและกาหนดเชิง นโยบายทจี่ ะทาใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงไปทต่ี น้ น้า คือ “ครู” เพราะครจู ะเปน็ ผทู้ ่ีจะก่อใหเ้ กิด การเปลี่ยนแปลง ท่ีตัวลูกศิษย์ กระบวนการท่ีจะทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงชุมชนของครูและบุคลากร ทางการศึกษาท่ีจะต้อง มาร่วมกันคิด ร่วมกันออกแบบ ร่วมกันวางแผน ร่วมกันปฏบิ ัติการเพ่ือสร้างสมรรถนะ ท่ีจาเป็นและสอดคล้อง กบั โลกอนาคต
บทความ 1.สอนอย่างไรให้ (ครู) Active ก่อนที่ครูจะสอนเด็กๆ ให้เกิดการเรียนรู้ที่ Active มากข้ึน ครูจาเป็นที่จะตอ้ งมีการจดั การเรียนการ สอนที่ Active และน่าสนใจ ซ่ึงส่ิงน้ีอาจจะเป็นจุดเริ่มตน้ การเรียนรู้ของเดก็ ซ่ึงกิจกรรม Workshop ในคร้ังน้ี ภายใตห้ ัวขอ้ “สอนอย่างไรให้ (ครู) Active” จะเป็ นแนวทางในการช่วยครูให้สอนไดอ้ ย่าง Active ดว้ ย เทคนิคที่หลากหลายทชี่ ่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของเด็กให้เพิ่มมากข้ึน สาหรับเป้าหมายในกิจกรรมคร้ังน้ี คือ การทาความเขา้ ใจ Active Teacher คืออะไร การปรับบุคลกิ เปลี่ยน Mindset ให้ชีวิต (ครู) Active ท้ังหน้ากล้องและหน้าช้ันเรียน การปรับอุปกรณ์ ฉากเพ่ือการสอน ออนไลน์ที่ดีข้ึน การกระตุน้ การมีส่วนร่วมในการเรียนออนไลน์ กรณีศึกษา : เทคนิคการใช้ iPad ร่วมกบั Mac เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการเรียนออนไลน์ผ่าน Zoom การ Update การใช้ Application พ้ืนฐานที่เป็ น ปัจจุบนั ใน Feature ท่ีลึกข้ึน เพื่อการจดั การเรียนรู้ท้งั ออนไลน์และออนไซต์สาหรับครูที่ Active และการ สร้างอวตารแบบใหม่ๆ ดว้ ย LoomAi Active Teaching เกิดจากครูที่มีความเข้าใจ ในทฤษฎีลาดับข้ันความต้องการของมาสโลว์ (Maslow’s Hierarchy of Needs) ซ่ึงเป็นแนวคิดที่นกั จิตวิทยาเสนอว่า มนุษยจ์ ะถูกกระตุน้ ให้เติมเต็มความ ตอ้ งการข้นั พ้ืนฐานในลาดบั ตน้ ก่อนที่จะมีการพฒั นาความตอ้ งการน้ีออกไปจากดา้ นล่างสู่ดา้ นบน แบ่ง ออกเป็ น 5 ข้นั คือ กายภาพ ความปลอดภยั ความมน่ั คง ความรักหรือการเป็ นเจา้ ของ ความเคารพ และการ บรรลุความหมายหรือความสมบูรณ์ของชีวิต และจากกิจกรรมในคร้ังน้ี จะเห็นไดว้ ่า การบรรลุความหมาย
หรือความสมบูรณ์ของชีวิตในการเป็ นครูน้ัน ก็คือการเป็ นครูท่ีดีเป็ นสิ่งสาคญั โดยเร่ิมจากการจัด ปรับ อุปกรณ์ ฉาก การต้งั ค่ากลอ้ ง การแชร์สไลดใ์ ห้เหมาะสม เพ่ือการสอนออนไลนท์ ่ีดีข้ึน และการปรับบุคลิก เปลี่ยน Mindset ใหช้ ีวิต (ครู) Active ท้งั หนา้ กลอ้ งและหนา้ ช้นั เรียน โดยมแี นวคิดดงั น้ี ครูไมต่ อ้ งรู้ทุกเรื่อง ครูทบี่ อกว่ารู้ทกุ เร่ือง “อนั ตราย” แตค่ รูตอ้ งรู้ใน “วชิ าทตี่ นสอน” พร้อมปรับเปล่ียนเรียนรู้ไปกบั ศษิ ย์ ฝึกหายใจเขา้ ทางจมกู หายใจออกทางปาก (พูด) เทา่ น้นั เสียงสาคญั กว่าภาพเช่ือมคาพดู “ควบคุมเวลา” ปานกลางคอ่ นขา้ งเร็วอยา่ ชา้ มีเวลาใหพ้ ดู ซ้าและทบทวน การใชเ้ สียงของครู ความเร็วในการพูด เวน้ ช่วงเพ่ือสร้างความต่นื เตน้ น้าเสียงชดั ถอ้ ยชดั คา เสียงดงั ค่อยและ สูงต่า เพือ่ กระตนุ้ การเรียนรู้ของศษิ ย์ ใชเ้ ทคนิค สบตา อยา่ นึก คดิ ลกึ อยา่ อา้ (การอทุ านเวลาที่กาลงั ใชค้ วามคดิ ) ควบคุม เวลา อยา่ ชา้ วยั รุ่นเซง็ ซ่ึงในการกระตนุ้ การมสี ่วนร่วมในการเรียนออนไลน์ ครูไมจ่ าเป็นตอ้ งยึดตดิ App ใดเป็นพิเศษ ครูสามารถ ใช้ App ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย จากการจดั กลุ่ม App เช่น การใช้ Ipad มี App AR VR Metaverse การคน้ หา ขอ้ มูลดว้ ยตนเอง Kahoot Hologo Classdojo ฯลฯ ซ่ึงเป็นแอปพลิเคชน่ั สาหรบั การเรียนรู้ ท้งั น้ี ครูตอ้ งรู้ก่อน วา่ Learning Outcome ของApp เหลา่ น้ีคอื อะไร ในทางกลบั กนั ยงั มี App ในกลมุ่ ทีห่ ลากหลาย เช่น กลมุ่ Creativity and Productivity กลุ่ม Workflow and Cloud Storage และกลุ่ม Collaboration ครูสามารถเลือกใช้ ฟรีและเหมาะกบั ครูได้ เพือ่ เพ่ิมประสิทธิภาพการเรียนออนไลน์ สาหรบั เทคนิคการใช้ iPad ร่วมกบั Mac เพอ่ื เพมิ่ ประสิทธิภาพการเรียนออนไลนผ์ า่ น Zoom ซ่ึง ปัจจุบนั สามารถใช้ Zoom เพือ่ การศกึ ษาในลกั ษณะของ Synchronous ซ่ึงมีส่วนทเี่ กี่ยวขอ้ งหลกั ๆ สาคญั 5 ส่วน คอื Teaching and Learning, Virtual Classes, Student Engagement, Professional Development และ Community Engagement ท้งั น้ี ครูสามารถใช้ Zoom สาหรบั การสอนในรูปแบบ Synchronous Online Courses ได้ ซ่ึงมีเทคนิคการใช้ iPad ร่วมกบั Zoom ดงั น้ี 1) การใช้ Raise hand (ยกมือ) และการเปิ ด All emoji จะทาให้ครูไดม้ ี Feature ที่หลากหลาย เช่น ป่ มุ Yes No Slower หรือ Faster ซ่ึงทาให้นกั เรียนสามารถบอกครูผสู้ อนไดจ้ ากการกดป่มุ อีกท้งั ยงั เป็นการกระตุน้ ผูเ้ รียน ได้ โดยการ Set up ใน www.zoom.us เลือก “Setting” เลือก “Meeting reactions” คลกิ “All emojis” 2) การปิ ดไมค์ ปิ ดเสียง โดยการเลือก “ON” ท่ี “Mute all participants when they join a meeting”
3) การใช้ iPad กบั โปรแกรม Zoom ที่สามารถใช้ไดก้ บั Apple Pencil / Keyboard โดยการใชผ้ ่าน App Notability ซ่ึงมีวิธีการใชท้ ่หี ลากหลายและมีขอ้ ดี คือ 3.1) สามารถขยายรูปภาพทอี่ ยใู่ น File .pdf ใหน้ ักเรียนดูในแตล่ ะส่วนของภาพดว้ ยความรวดเร็ว 3.2) สามารถอธิบายกระบวนการต่างๆ โดยการวาดหรือเขยี นทบั ลงบนเอกสารFile .pdf 3.3) สามารถ Highlight ไดห้ ลากหลายสี และลบออกดว้ ยความรวดเร็วเม่ือใช้ Apple Pencil 3.4) สามารถขา้ มไปยงั หนา้ ทต่ี อ้ งการไดอ้ ยา่ งรวดเร็วโดยแตะ Slide หนา้ ที่ตอ้ งการไปใน All pages 3.5) สามารถแทรกภาพทถ่ี า่ ยจาก iPad เขา้ สู่ File .pdf ท่ีเปิ ดบน App Notability ไดท้ นั ที 4) การใช้ Feature การเคลอื่ นยา้ ยมหัศจรรย์ ส่ิงน้ีจะช่วยใหค้ รูสามารถ Active การสอนไดม้ ากข้นึ ท้งั น้ี แนะนาใหค้ รูสามารถเรียนรู้เพ่ิมเติมไดท้ ี่ Apple Teacher หรือ Apple Learning Center ซ่ึงเป็นแหล่งเรียนรู้ การสอนแบบ Active ไดอ้ ยา่ งหลากหลายมากข้นึ สาหรบั การ Update การใช้ Application พ้ืนฐานที่เป็นปัจจุบนั ใน Feature ทล่ี ึกข้นึ เพอ่ื การจดั การเรียนรู้ท้งั ออนไลน์และออนไซตส์ าหรบั ครูท่ี Active เช่น 1) App Kahoot 2) App Padlet ซ่ึงสามารถใชไ้ ดฟ้ รี 3 Padlet ท้งั น้ีมี Feature ปกติ ท้งั Map Canvas และ Timeline 3) การใช้ Quizizz มโี หมด Lesson, Drawing, Audio response และ Video response ในการทารูปแบบ บทเรียนออนไลน์ และการสร้าง Quiz และเดก็ สามารถตอบกลบั ในรูปแบบของวดิ ีโอไดอ้ กี ดว้ ย 4) Wordwall สามารถเขา้ ใชง้ านผ่าน wordwall.net/th ได้ 5 รูปแบบฟรี เช่น Randomwheel, Open the box เป็ นตน้ 5) Spatial.io สามารถพมิ พ์ Sticky Note ได้ 6) การใช้ Clips สามารถสร้างรูปแบบอวตารจาก Emoji ได้ และการสร้างอวตารแบบใหม่ๆ ดว้ ย LoomAi โดยการเขา้ เวบ็ ไซต์ loomai.com/loomielive หรือโหลด App LoomAi Avatar Creator ท้งั น้ี สามารถทาเป็น สติกเกอร์ไลน์ หรือรูปถา่ ยภาพนิ่งได้
อยา่ งไรกต็ าม ชีวติ ของเราตอ้ ง Active และในคร้ังน้ี การ Active จริงๆ อยทู่ ค่ี รู ซ่ึงกิจกรรมในคร้ังน้ี ถอื ไดว้ า่ ครบถว้ นท้งั เทคนิคและวิธีการ ครูไดเ้ รียนรู้และเขา้ ใจถึง Active Teaching มากข้นึ รวมไปถงึ เคร่ืองมอื ใน การสร้างอวตารให้ครูสามารถนากลบั ไปใชใ้ นการเรียนการสอนมากข้นึ เพ่ือให้เป็นการกระตุน้ ใหน้ กั เรียน เกิดความสนใจ และเกิดการเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึนตอ่ ไป ผศ.ดร.รัฐสภา แก่นแกว้ ผชู้ ่วยผอ. ศูนยม์ ีเดีย ดา้ นวิชาการ มหาวทิ ยาลยั ศรีปทมุ
2.การใช้เทคโนโลยี เพอ่ื สนับสนุนการจดั การเรียนการสอน กิจกรรม PLC Happy Hour Live Online คร้ังท่ี 4 โครงการ สนบั สนุนโรงเรียนพฒั นาตนเอง รุ่นที่ 1 และรุ่น ที่ 2 ต่อเนื่องในปี 2564 หวั ขอ้ “การใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื สนบั สนุนการจดั การเรียนการสอน” กิจกรรม PLC Happy Hour Live Online คร้ังท่ี 4 โครงการสนบั สนุนโรงเรียนพฒั นาตนเอง รุ่นท่ี 1 และรุ่นท่ี 2 ต่อเน่ืองในปี 2564 ในคร้ังน้ี เป็นการแลกเปล่ยี น พูดคุย การนาเทคโนโลยมี าใช้ในการจดั การเรียนการ สอนมคี วามสาคญั อยา่ งไร ทาไมจึงตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยีในการจดั การเรียนรู้ โดยเฉพาะในช่วงท่มี ีการแพร่ ระบาดของโรคโควดิ -19 ทท่ี าใหเ้ กิดรูปแบบการจดั การเรียนการสอนแบบผสมผสาน ในยคุ ดิจิทลั สื่อเทคโนโลยีเป็นเคร่ืองมอื สาคญั อกี รูปแบบหน่ึง ทช่ี ่วยให้ครูจดั การเรียนการสอน รวมไปถึง เป็นการพฒั นาผูเ้ รียนใหด้ ีย่งิ ข้นึ เนื่องจากปัจจบุ นั เดก็ ๆ มีความรู้ ความสามารถทางดา้ นเทคโนโลยีมากข้นึ อกี ท้งั อุปกรณ์ต่างๆ ท่ีรองรบั การเรียนรู้ของนกั เรียนค่อนขา้ งหลากหลาย และเพ่อื ให้ผูเ้ รียนไดเ้ กิดสมรรถนะ ต่างๆ การนาเทคโนโลยมี าบูรณาการร่วมกบั การจดั การเรียนการสอนจึงเป็นสิ่งสาคญั และมคี วามจาเป็น อยา่ งยง่ิ ในการเปิ ดโอกาสให้ผูเ้ รียน ไดใ้ ชค้ วามสามารถของตนเองในการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ อกี ท้งั ยงั กระตนุ้ ความสนใจในการเรียนไดม้ ากข้ึน จากการใช้เทคโนโลยีในการสร้างส่ือให้มคี วามหลากหลาย และ ยงั เป็นการเตรียมความพร้อมของนกั เรียนเพ่อื เขา้ สู่สงั คมยคุ ใหม่ ดงั น้นั เทคโนโลยจี ึงเป็นทางเลือกในการ เรียน เพ่ือตอบสนองการเรียนรู้ที่แตกตา่ งของนกั เรียนได้ ท้งั น้ี ในการจดั การเรียนการสอนของครูไดม้ ีรูปแบบ หรือเคร่ืองมอื ในการใชเ้ ทคโนโลยใี นหอ้ งเรียนจดั การ เรียนรู้ อาทิ การใชก้ ิจกรรม Makerspace โดยผา่ นกระบวนการ STEAM Design Process ในการจดั การ
เรียนรู้และนาเสนอผลงานผา่ นคลิปวิดีโอ การใชแ้ อปพลิเคชน่ั ต่างๆ เช่น AR, Google workspace, ClassDojo, Flipgrid, Task123, Q Info, Quizizz, Wordwall และ Line เป็นตน้ เพอื่ เป็นเคร่ืองมือช่วยในการ จดั การเรียนการสอน การสะทอ้ นผลของผเู้ รียน รวมไปถึงการวดั และประเมนิ ผล สาหรับเทคนิค และวธิ ีการในการนาเทคโนโลยีมาใชใ้ นห้องเรียนปกติ และหอ้ งเรียนออนไลน์น้นั สิ่งที่ตอ้ ง คานึง คอื การใชแ้ อปพลิเคชน่ั ท่ีนกั เรียนสามารถเขา้ ถงึ ไดง้ า่ ย เหมาะกบั บริบทของนกั เรียน รองรับทุก อปุ กรณ์ สะดวกตอ่ การเรียนไดท้ ุกสถานท่ี ทุกเวลา เนื่องจากความพร้อมทางดา้ นอุปกรณแ์ ตกต่างกนั การ สร้างความเขา้ ใจในการใชง้ านแอปพลเิ คชน่ั ร่วมกนั ใชก้ ารประเมินเพือ่ การพฒั นา โดยวดั จากผลงาน เนน้ เช็คความเขา้ ใจหลงั จบคาบเรียนโดยการสรุปตามความถนดั จะเห็นไดว้ ่า ในการนาเทคโนโลยีเขา้ มาใช้ในการจดั การเรียนการสอน ทาให้ผูเ้ รียนสามารถเรียนรู้ไดท้ กุ เวลา ทกุ สถานทีส่ ่งเสริมการเรียนรู้อสิ ระของผเู้ รียน ฝึกให้ผเู้ รียนคิดเป็นและสามารถแกป้ ัญหาไดด้ ว้ ยตนเอง มีพ้ืนทีใ่ นการแสดงความคิดเห็น และเตรียมนกั เรียนให้พร้อม สาหรับการเป็นพลเมอื งดิจิทลั ในอนาคต และ ครูผูส้ อนยงั สามารถจดั กิจกรรมไดห้ ลากหลายท่ีดึงดดู ความสนใจของผูเ้ รียนไดม้ ากข้นึ ทาใหก้ ารจดั การและ การบริหารสารสนเทศเป็นระบบ ง่ายตอ่ การจดั เก็บ สะดวกในการประเมนิ เพราะการใชเ้ ทคโนโลยมี งุ่ ให้ ผเู้ รียนประเมินตนเองไดอ้ ีกดว้ ย โดยในปัจจุบนั ทกุ สถานศึกษาไดม้ ีการปรบั ใชเ้ ทคโนโลยีสาหรับการศึกษาอยา่ งแพร่หลาย ดว้ ยวิธีการท่ี แตกต่างกนั ตามแตล่ ะบริบทของโรงเรียน นกั เรียน และสภาพแวดลอ้ ม ถึงแมว้ า่ จะมีขอ้ จากดั ในการจดั การ เรียนรู้ระหว่างนกั เรียน ครู และผปู้ กครอง แตแ่ นวทาง เทคนิคและวิธีการในการสร้างการเรียนรู้ยงั คง ขบั เคลอ่ื น เพื่อใหก้ ารเรียนรู้ของนกั เรียนไดด้ าเนินต่อไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ สามารถรบั ชมยอ้ นหลงั ได้ ที่ fb.watch/aO2V5MP06a/ ครูกิตติศักดิ์ สังฆะกาโล โรงเรียนบ้านยกกระบัตร สพป.สมทุ รสาคร ครูเกษรินทร์ เป็งจันทร์ โรงเรียนป่ าจีว้ ังแดง สพป.เชียงใหม่ เขต 2 ครูภูเบศวร์ รัตนมงคล โรงเรียนบ่นตองกาย สพป.เชียงใหม่ เขต 4 ครูปณิธิ ทองคา โรงเรียนแม่คือวิทยา สพป.เชียงใหม่ เขต 1
3.เม่ือนกั เรียนเรียนออนไลน์ ครูควรประเมนิ อย่างไร ความรู้ที่มปี ระสบการณ์ท่เี พิม่ ข้ึน และจากการศกึ ษาเพ่ิมเติมท้งั ในส่วนที่เป็นเอกสาร ส่วนท่เี ป็น website และส่วนทเ่ี ป็น youtube ทาให้คิดวา่ เมือ่ เราจดั การเรียนการสอนแบบออนไลน์ การประเมนิ ก็ควรปรับตวั ใน ลกั ษณะออนไลน์เช่นกนั (ไมใ่ ช่ google form / KAHOOT / Plickers) How to ของผมมดี งั ตอ่ ไปน้ี 1. ครูเราตอ้ งไวใ้ จนกั เรียน ตอ้ งกา้ วขา้ มคาว่า นกั เรียนจะลอกกนั นกั เรียนจะ copy งานมาส่ง หรือ นกั เรียนจะเปิ ดหนงั สือเวลาทาขอ้ สอบ เป็นตน้ หากครูเราไมไ่ วใ้ จนกั เรียน การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ สาหรบั การเรียนการสอนออนไลนน์ ้นั จะไมส่ ามารถทาได้ และทีส่ าคญั ตอ้ งสื่อสารกบั ผปู้ กครองให้เขา้ ใจ ตรงกนั เสียกอ่ นว่า การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้สาหรับการเรียนการสอนออนไลน์น้นั เราจะ focus ไปท่ี การพฒั นานกั เรียนเป็นรายบคุ คล ซ่ึงอาจจะไม่สอดคลอ้ งกบั ความคาดหวงั ท่ผี ปู้ กครองต้งั ไว้ พบกนั คนละ คร่ึงทางคือทางออกท่ีดีท่สี ุดในสถานการณแ์ บบน้ี 2. คณะครู นกั เรียน และผปู้ กครอง (ถา้ เป็นไปได)้ เราควรร่วมกนั กาหนด focus การเรียนรู้ใน สถานการณไ์ มป่ กตกิ อ่ นวา่ เราจะ focus อะไรมากกว่ากนั ระหวา่ ง Learning Process หรือ Learning Outcome • Learning Process เช่น หากนกั เรียนเลอื กท่จี ะบริโภคผกั สวนครวั ทปี่ ลอดภยั นกั เรียนควรมีข้นั ตอน การปลกู อยา่ งไร (นกั เรียนอาจหาข้นั ตอนการปลกู จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และลองทดลองปลกู จริง)
• Learning Outcome เช่น หากนกั เรียนเลือกทจี่ ะบริโภคผกั สวนครวั ทปี่ ลอดภยั นกั เรียนควรเลือกผกั สวนครวั ทม่ี ีลกั ษณะอยา่ งไร (นกั เรียนอาจหาลกั ษณะผกั สวนครวั ทปี่ ลอดภยั จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ) ในส่วนตวั ผม ผมคิดวา่ เราควร focus ไปที่ Learning Process มากกว่า Learning Outcome เพราะคาว่า Competency base กาลงั เขา้ มาในวงการศกึ ษาไทย และผมกเ็ ช่ือตอ่ ไปว่า คาวา่ Competency base น้นั ควรมุ่ง ไปท่ี Learning Process มากกว่า Learning Outcome Learning Process จะช่วยแกป้ ัญหาสุภาษิตไทยคาว่า ความรู้ทว่ มหัวแตเ่ อาตวั ไมร่ อด ท่ีเอาตวั ไม่รอดเพราะ เราไม่ไดฝ้ ึกนกั เรียนไปท่ี Learning Process แตเ่ ราฝึกนกั เรียนไปที่ Learning Outcome (เรามุ่งเนน้ ไปที่ ลกั ษณะของผกั สวนครัวทป่ี ลอดภยั แต่เราไมม่ งุ่ เนน้ ไปทว่ี ธิ ีการไดม้ าซ่ึงผกั สวนครัวท่ปี ลอดภยั ) ประเด็นเพิม่ เติมเร่ืองการ focus การเรียนรู้ คือ ถา้ เป็นไปไดค้ วรกาหนดร่วมกนั กบั นกั เรียน เพ่ือให้ นกั เรียนไดท้ ราบ และตระหนกั ไดว้ า่ เป้าหมายสุดทา้ ยของการเรียนวิชาน้ี ในสถานการณแ์ บบน้ี คือ อะไร? และควรเพิม่ น้าหนกั ความสาคญั ใหค้ รอบคลมุ ถึงสมรรถนะพ้นื ฐานของนกั เรียนมากกวา่ มาตรฐาน ตวั ช้ีวดั ตามหลกั สูตร 2551 ท้งั น้ีเพอื่ เป็นการเตรียมครูและนกั เรียนใหเ้ ขา้ สู่หลกั สูตรฐานสมรรถนะต่อไป 3. งานหรือกิจกรรมทีม่ อบหมายใหก้ บั นกั เรียนน้นั (Learning Activity) ควรเป็นงานทสี่ อดคลอ้ ง กบั จดุ focus การเรียนรู้ (จากขอ้ 2) กาหนดสถานการณ์ทเ่ี ชื่อมโยงกบั ชีวติ จริง / สถานการณ์จริง / ความ สนใจของนกั เรียน / จิตวทิ ยาการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวยั และทา้ ทายสาหรบั การเรียนรู้ของนกั เรียน เช่น วคั ซีน Covid 19 เช้ือเป็นเช้ือตาย เป็นอยา่ งไร หรือ การอา่ นกราฟจานวนผูต้ ิดเช้ือ Covid 19 ในเดือน กนั ยายน 2564 หรือ Food Delivery เหมาะสมกบั สถานการณป์ ัจจบุ นั อยา่ งไร เป็นตน้ แลว้ นาส่ิงทไี่ ดจ้ าก การศึกษาคน้ ควา้ มาสกดั เป็น Mind Map / Infographic / Clip VDO ซ่ึงเป็นภาระงานทีส่ อดคลอ้ งกบั โลก ความเป็ นจริ ง ทส่ี าคญั ผมคิดว่าควรเป็นการมอบหมายงานทีเ่ นน้ กระบวนการกลมุ่ (ถา้ ทาได)้ ท้งั น้ีเพอื่ เป็นการฝึกนกั เรียน ในเร่ืองของการปรึกษาหารือ การระดมสมอง การแสดงความคดิ เห็น การคน้ ควา้ การอภิปรายร่วมกนั การใชเ้ ทคโนโลยีในเชิงสร้างสรรค์ หรือแมก้ ระทง่ั การฝึกจริยธรรมทางวิชาการ เช่น วิธีการเขียนอา้ งอิง เมอ่ื เรา copy งานจาก internet หรือคนอน่ื เป็นตน้ ประเดน็ เพ่มิ เติมเรื่องการมอบหมายงาน คอื การมอบหมายงานหรือกิจกรรมควรสอดคลอ้ งกบั วยั ของ นกั เรียน ศกั ยภาพของผปู้ กครอง ไม่ควรมอบหมายงานท่มี ากเกินไป หรือนอ้ ยเกินไป ตอ้ งให้นกั เรียนรู้สึกทา้ ทายความสามารถ และที่สาคญั ครูเราตอ้ งสามารถตรวจงานทมี่ อบหมายน้นั ใหเ้ สร็จทนั เวลา (ไดจ้ ริง)
4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั กาหนดกตกิ าท่ใี ชใ้ นการประเมนิ (Learning Assessment) ระยะเวลา สาหรบั การส่งงาน เกณฑก์ ารเลอื กชิ้นงานเพอ่ื รับการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ ร่องรอยหรือหลกั ฐานใน การประเมนิ และใครควรเป็นผปู้ ระเมินชิ้นงานน้ัน เช่น ตนเอง เพ่ือน ครู หรือผปู้ กครอง ในส่วนตวั ผม ผม คดิ ว่าเม่ือนกั เรียนเรียนรู้ที่บา้ น ภาระงาน ช้ินงาน ผปู้ กครองควรมีส่วนร่วมในการประเมิน ประเดน็ เพ่ิมเติมเรื่องการกาหนดร่วมกนั คือ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเรียนการสอนออนไลนต์ อนน้ีมหี ลายชนิด เช่น Google classroom , ZOOM , Facebook , Line , Vroom , Microsoft team หรือ DEEP ตรงน้ีควรคุยกนั ในระดบั โรงเรียนก่อนวา่ กลุม่ สาระการเรียนรู้ของเรา หรือโรงเรียนของเราจะเลือกใชเ้ คร่ืองมือชนิดไหน? ไมใ่ ช่วา่ วชิ าน้ีใช้ MS Team วชิ าน้นั ใช้ Google classroom วิชาโนน้ ใช้ ZOOM หากไมค่ ยุ กนั แลว้ ปัญหาจะ เกิดตามมา เพราะความถนดั ของครูแตล่ ะคนยอ่ มไมเ่ หมือนกนั และนกั เรียนกบั ผปู้ กครองจะปรับ mode การ เรียนรู้และการประเมนิ ของนกั เรียนไมท่ นั 5. การเรียนการสอนออนไลนน์ ้นั ปฏสิ มั พนั ธ์ระหวา่ งครูและนกั เรียนจะเกิดข้ึนนอ้ ยมาก นกั เรียนอาจจะ สงสัยในส่ิงท่คี รูทาการประเมิน จะไปถามครูกไ็ ม่ใช่เวลา เพราะตอนน้ีกส็ ามทมุ่ กว่าแลว้ เป็นตน้ สิ่งทผ่ี มจะ เนน้ ย้าในขอ้ น้ีมี 3 เร่ืองคือ • จุด focus การเรียนรู้ (Learning Process หรือ Learning Outcome) ตอ้ งชดั เจนวา่ คอื อะไร สมรรถนะ ของนกั เรียนท่อี ยากให้เกิดคืออะไร วิธีการท่ีเราใชป้ ระเมินน้นั สอดคลอ้ งกบั จดุ focus การเรียนรู้ / สมรรถนะของนกั เรียนมากนอ้ ยเพียงใด เพราะฉะน้นั การมีส่วนร่วมของทกุ ฝ่ ายจึงมีความสาคญั มาก ส่วนค่าความยากง่าย อานาจจาแนก และความเช่ือมนั่ ผมวา่ เรายืดหยนุ่ ไดอ้ ยใู่ นสถานการณแ์ บบน้ี • คาช้ีแจง สถานการณ์ คาถาม คาตอบ และเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนตอ้ งชดั เจน ไม่ว่าจะเป็นเพ่อื นครูอ่าน นกั เรียนอ่าน ผปู้ กครองอา่ น ภาษาวดั ผลเรียกวา่ มคี วามปรนยั พูดง่าย ๆ คอื ใครอ่าน ก็ไมง่ ง • งานหรือกิจกรรมทีม่ อบหมายให้กบั นกั เรียนน้นั (Learning Activity) ควรมนี อ้ ยชิ้น บูรณาการ ช้ินงานควรเป็นสิ่งทโ่ี รงเรียนควรทาเป็นอยา่ งยง่ิ นอ้ ยช้ินแต่ตอ้ งสามารถสะทอ้ นภาพความสาเร็จ หรือสารสนเทศของจุด focus การเรียนรู้ (Learning Process หรือ Learning Outcome) ของนกั เรียน ไดค้ รอบคลมุ มากท่สี ุด (เป้าหมายเพอ่ื พฒั นานกั เรียนเป็นรายบุคคล) 6. การสอบออนไลน์ ไม่วา่ ครูเราจะใช้ Google form , Microsoft forms , Socrative , Quiz หรือ Captivate ควรเป็นการสอบที่ม่งุ เนน้ เพอ่ื ให้นกั เรียนไดท้ บทวนความรู้ของตนเองหลงั จากท่ีเรียนในเน้ือหา น้นั จบแลว้
สอบเสร็จรู้คะแนนทนั ที สอบเสร็จรู้วา่ ตวั เองทาขอ้ ไหนถกู ทาขอ้ ไหนผิด ทาถกู เพราะอะไร ทาผิดเพราะ อะไร ไม่ควรนามาใชส้ อบเพ่ือตดั สินความรู้ของนกั เรียน เราควรปลอ่ ยวางบา้ งในส่วนน้ี ส่วนการสอบเก็บคะแนนน้นั ควรเป็นคาถามทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั บริบทชีวิตจริง นกั เรียนสนใจ ทา้ ทาย ความสามารถของนกั เรียน เนน้ การคิดข้นั สูง เคร่ืองมือที่เหมาะสม เช่น ขอ้ สอบแบบอตั นยั หรือการ มอบหมายงานในลกั ษณะระยะยาว เช่น Project base learning เมอ่ื ทางานเสร็จแลว้ ให้นาเสนอช้ินงานดว้ ย Multimedia หรือการทา Portfolio เป็นตน้ (ดูขอ้ 3 , 4 และ 5 ประกอบ) แลว้ นกั เรียนจะลอกงานกนั มาส่ง ไหม? ณ สถานการณแ์ บบน้ีเราคงตอ้ งเช่ือใจนกั เรียน 7. สืบเน่ืองจากขอ้ 5 และขอ้ 6 เม่อื ครูเราตรวจงานท่มี อบหมายแลว้ ลาดบั ตอ่ ไปคอื การ Feedback งานน้นั ๆคนื กลบั นกั เรียน อยา่ งท่ีผมเกริ่นนาในเบ้อื งตน้ ว่า การวดั และประเมินผลสาหรบั การเรียนการสอน ออนไลนน์ ้นั ครูเราควรให้น้าหนกั ของการวดั ผลเพือ่ พฒั นานกั เรียนเป็นรายบคุ คล เพราะฉะน้นั Feedback เป็นรายคนจึงสาคญั มาก การ Feedback มี 3 ลกั ษณะดงั น้ี 1. Feed Up หมายถึง ใหข้ อ้ มลู นกั เรียนเพือ่ กระตนุ้ การเรียนรู้ สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ 2. Feed Back หมายถึง ให้ขอ้ มูลนกั เรียนเกี่ยวกบั ผลการเรียนรู้ คุณภาพการเรียนรู้ จดุ เด่น จุดดอ้ ยทค่ี วร พฒั นา และวิธีการพฒั นา และตอ้ งเป็นการสื่อสารเชิงบวกเท่าน้นั 3. Feed Forward หมายถงึ ใหข้ อ้ มูลนกั เรียนเพือ่ เป็นการตอ่ ยอดในการเรียนรู้ หรือเพอ่ื พฒั นาการเรียนรู้ของ นกั เรียนในอนาคต เช่น แหลง่ การเรียนรู้เพิ่มเติม วิธีการเรียนรู้ใหม่ ๆ เป็นตน้ ประเดน็ เพ่ิมเตมิ เร่ืองการ Feed คือ ครูเราตอ้ งทาการ feed เป็นระยะ ๆ โดยตอ้ งคานึงถึงความเหมาะสม หลงั จากท่นี กั เรียนส่งงานเสร็จแลว้ (อยา่ ปลอ่ ยช่วงนานเกิน) และทีส่ าคญั ควรเป็นการ feed แบบส่วนตวั หรือกลมุ่ เล็ก ๆ ไม่ควรเป็นสาธารณะ เป้าหมายคอื เพอื่ ใหน้ กั เรียนนาผลของการ feed ไปพฒั นางานในช้ิน ตอ่ ไป ยืนยนั ครับวา่ งานควรนอ้ ยชิ้น แต่ไดส้ ารสนเทศจากผลการสอบกลบั คืนมามหาศาล และการ feed น้นั ไม่จาเป็นตอ้ งเป็นเรื่องวชิ าการอยา่ งเดียว อาจจะ feed ในลกั ษณะของการสอบถามสารทกุ ขส์ ุกดิบของ นกั เรียนกไ็ ด้ เพอื่ ใหน้ กั เรียนไดร้ ู้สึกว่า ครูยงั คงห่วงใยนกั เรียนเสมอ
8. สืบเนื่องจากขอ้ 7 เมือ่ เรา feed นกั เรียนไปแลว้ สิ่งทค่ี รูควรทาเป็นปัจจุบนั คือ การจดบนั ทึก รายละเอยี ดของงานทนี่ กั เรียนส่ง ครูควร print งานของนกั เรียนออกมา ตรงน้ีโรงเรียนตอ้ งสนบั สนุน งบประมาณ ขอ้ ความการ feed ทส่ี ่งคืนนกั เรียน บนั ทกึ การส่งงาน บนั ทึกการเขา้ ช้นั เรียน บนั ทกึ การมสี ่วน ร่วมในช้นั เรียนออนไลน์ บนั ทกึ การ comment บนั ทึกการแสดงความคิดเห็น หรือบนั ทึกผลการทดสอบยอ่ ย ระหว่างเรียน เพราะตรงน้ีคอื ร่องรอยหลกั ฐานไวใ้ ชป้ ระกอบข้นั ตอนที่ 10 – 11 ตอ่ ไป ประเด็นเพม่ิ เตมิ เรื่องการจดบนั ทึก คอื ครูเราตอ้ งทาปฏทิ นิ การปฏบิ ตั ิงานในส่วนน้ีใหช้ ดั เจน และพยายาม ทาทกุ อยา่ งให้เป็นปัจจบุ นั ความสาคญั ของการจดบนั ทึก คือ เพื่อเป็นการสังเกตและตรวจสอบ ความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนเป็นรายคน หรือรายกลมุ่ ประเดน็ น้ีสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ท่ี 3 ดว้ ยวา่ งานที่มอบหมาย น้นั อยา่ มากเกินไป และอยา่ นอ้ ยจนเกินไป สุดทา้ ยแลว้ ครูเราตอ้ งตรวจงานน้นั ใหท้ นั เพราะนกั เรียนรอ feed 9. ช่องทางในการตดิ ต่อสื่อสารกบั นกั เรียน ในขอ้ น้ีส่วนใหญแ่ ลว้ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการเรียนการ สอนออนไลนจ์ ะมมี าให้ เช่น Webboard , Chatroom , Email หรือกระทแู้ จง้ ขา่ วสารการเรียนต่าง ๆ ตรงน้ีครู เราอาจประยกุ ตใ์ ชร้ ่วมกบั Facebook group หรือ Line group กจ็ ะทาใหก้ ารติดต่อสื่อสารกบั นกั เรียนมี ประสิทธิภาพมากยิง่ ข้นึ 10. ครูเรากต็ อ้ งมีการประเมินหอ้ งเรียนออนไลนข์ องเราเป็นระยะดว้ ย ไม่วา่ จะเป็นการประเมิน เน้ือหา การประเมนิ ส่ือการเรียนการสอน การประเมนิ ใบงานต่าง ๆ เพราะส่ิงตา่ ง ๆ เหลา่ น้ีเป็นสิ่งครูได้ จดั ทาข้นึ และนาไปใส่ไวใ้ นหอ้ งเรียนออนไลน์ เพราะฉะน้นั ตอ้ งประเมินดว้ ยวา่ เม่อื นกั เรียนเรียนดว้ ยตนเอง ทบ่ี า้ นแลว้ นกั เรียนเขา้ ใจเน้ือหาไหม? อยากใหค้ รูแกไ้ ขหรือปรับปรุงตรงไหนไหม? เป็นตน้ เราประเมิน เพอื่ พฒั นาความรู้ของนกั เรียน และในขณะเดียวกนั นกั เรียนก็ควรประเมนิ ครู เพ่ือครูเราจะไดน้ าผลการ ประเมินไปพฒั นาหอ้ งเรียนออนไลนข์ องครูเราเป็นลาดบั ตอ่ ไป ขอ้ สุดทา้ ย และเป็นขอ้ สาคญั มาก ๆ คอื อยา่ มงุ่ เนน้ ไปทค่ี วามรู้อยา่ งเดียว ควรมงุ่ เนน้ ไปท่กี ารประเมนิ กิจวตั รประจาวนั การประเมนิ สภาพจิตใจ สภาพความเครียดของนกั เรียนดว้ ย ศน.รัชภูมิ สมสมัย สานักงานศึกษาธิการจังหวดั เชียงใหม่
จากบทความท้งั 3บทความ ในมมุ มองในประเทศไทยกบั สภาพการณ์ทป่ี รากฏ (Situation Study) สามารถมองเหน็ กระแสความ เปลย่ี นแปลงและมปี ระเด็นสาคัญทเี่ ป็ นเหตผุ ลและความเกยี่ วข้องกับความจาเป็ นในการพฒั นาครูรุ่นใหม่ การพฒั นาครูรุ่นใหม่และวิชาชีพครู สรุปได้ คือ 1. ประเดน็ ความลม้ เหลวดา้ นคณุ ภาพของผเู้ รียน ซ่ึงปรากฎขอ้ มูลเชิงประจกั ษใ์ นการแขง่ ขนั ทางวชิ าการใน ระดบั นานาชาติหรือในระดบั เอเชียและการจดั คุณภาพการบริหารจดั การทรพั ยากรบคุ คล ระดบั นานาชาติ ของสถาบนั IMD ซ่ึงพบวา่ คณุ ภาพของประเทศไทยอยอู่ นั ดบั ทา้ ย ๆ 2. ประเด็นความเคลอ่ื นไหวเกี่ยวกบั นโยบายการปฏิรูปการศึกษา ไดก้ ่อให้เกิดแนวทางและมาตรการปฏิรูป หลกั สูตรการเรียนการสอนปฏิรูปครูและบุคลากรทางการศึกษาและปฏิรูปโรงเรียน 3. ประเด็นการใชก้ ฎหมายให้เป็นกลไกสาคญั ในการบริหารจดั การดา้ นการศึกษา นอกเหนือจากแผนการ ศึกษาแห่งชาติ ซ่ึงพบว่า กฎหมายหลกั และกฎหมายประกอบทางการศึกษาทาให้เกิดผลบงั คบั และคิดคน้ แกไ้ ขเพิ่มเตมิ เพ่ือการเปลีย่ นแปลงทส่ี าคญั เก่ียวกบั ครู และหลกั สูตรพฒั นาครู เช่น การเนน้ คุณภาพผลผลติ โครงสร้างการบริหารองคก์ ารครู การบริหารงานบุคคล การจดั องคก์ รวชิ าชีพ การออกใบประกอบวชิ าชีพ ตามเกณฑม์ าตรฐานวิชาชีพครู จรรยาบรรณวชิ าชีพครู การอนุมตั หิ ลกั สูตร คุณวุฒิ วิทยฐานะ คา่ ตอบแทนวิชาชีพครูและการยกฐานะวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพช้นั สูง 4. ประเด็นการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผูเ้ รียนเป็นศนู ยก์ ลาง ก่อให้เกิดกระแสการปฏริ ูปกระบวนการเรียนรู้ การ ปรับปรุงบทบาทและการปรับพฤตกิ รรมการสอนของครู ใหเ้ ป็นครูยคุ ใหม่ที่มีท้งั ศาสตร์ (Science) คือ ความลมุ่ ลึกจดั เจนในเน้ือหา ( Subject Matters) มีศลิ ปการสอน (Methodology) คอื มเี ทคนิควิธีการถ่ายทอด การจดั กิจกรรมทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลางอยา่ งมีความสุขและตระหนกั ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รียนเป็นสาคญั 5. ประเด็นจดุ เนน้ ของแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติฉบบั ที่ 8 (พ.ศ.2540 – 2544) และ แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตฉิ บบั ท่ี 9 (พ.ศ.2545 – 2549) ไดว้ เิ คราะห์ให้เห็นจุดดอ้ ยในคณุ ภาพ และความสามารถของคนไทยจึงไดก้ าหนดแนวทางการพฒั นาท่ีเนน้ การพฒั นาศกั ยภาพของคนเป็นสาคญั มี แผนพฒั นาครูอยา่ งตอ่ เน่ืองชดั เจนโดยเนน้ คณุ ภาพครูและวิธีการสร้างครูรุ่นใหม่ และสอดคลอ้ งสมั พนั ธ์ ระหวา่ งการบริหารครู การใชค้ รูและการพฒั นาครู 6. ประเด็นที่ช้ีให้เห็นความสาคญั ต่อการเรียนรู้อยา่ งเป็นระบบ และการมีผลการเรียนรู้ (Learning Outcomes) ท่มี คี วามน่าเชื่อถอื เป็นท่ยี อมรบั และเนน้ การวิจยั ช้นั เรียน กระบวนการเหลา่ น้ีเป็นกระแสสาคญั ต่อการปฏริ ูปบทบาทของครูให้เป็นผนู้ าทางวชิ าการท่ีใชพ้ นั ธกิจและทิศทางเพ่อื สร้างสรรคผ์ ลงานให้ปรากฏ
และนาไปสู่การเป็นนกั แกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบและปรับปรุงกาหนดตาแหน่งเป็น ครูมืออาชีพ เป็นครู ตน้ แบบ เป็นครูผูเ้ ชี่ยวชาญ เป็นครูนกั วจิ ยั เป็นครูผนู้ าทางวิชาการ เป็นครูนกั เปลยี่ นแปลง โดยใชผ้ ลงาน ศึกษาวจิ ยั เป็นเคร่ืองช้ีวดั และประเมินผลคณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ านอยา่ งเป็นระบบตอ่ เน่ือง 7. ประเด็นการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ไดก้ ่อใหเ้ กิดกิจกรรมการประเมนิ คณุ ภาพการควบคมุ คณุ ภาพและ การตรวจสอบคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา การกาหนดเกณฑม์ าตรฐานดา้ นปัจจยั ดา้ นกระบวนการ และผลผลติ ทางการศึกษาเพอ่ื นาไปสู่การประกนั คุณภาพตามเกณฑม์ าตรฐานท้งั น้ีโดยมีการประเมินคุณภาพ ภายในและภายนอกและนาไปสู่การพฒั นาสถานะภาพผสู้ อนและผบู้ ริหารสถานศึกษาตามมาตรฐานสากล 8. ประเด็นกระแสโลกาภิวฒั น์ (Globalization Currently) ที่ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วในดา้ น วิสัยทศั น์ สังคม สิ่งแวดลอ้ ม เศรษฐกิจ การเมอื ง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ละการสื่อสาร ท้งั ทางบวกและทางลบ แนวคดิ คา่ นิยม ความเชื่อไดก้ อ่ ให้เกิดการเปล่ียนแปลงในดา้ นการดารงชีวติ การ เรียนรู้ สังคมความรู้ สงั คมปราชญแ์ ละผลกระทบในการพฒั นาครู การพฒั นาภาวะผนู้ าทางวิชาการและ วิชาชีพครูอยา่ งสาคญั (โณทยั อดุ มบุญญานุภาพ, 2543)
สรุป การพฒั ทักษะการพัฒนาครู ทกั ษะการเปลย่ี นแปลงท่สี ำคัญ 3 ประการ 1. สรา้ งบรรยากาศใหเ้ กิดความรู้สกึ หรอื ทัศนคตทิ างบวก 2. แสวงหาความรู้เกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง 3. พฒั นาและปรบั ปรุงตนเอง และแสวงหาการสนบั สนนุ จากบคุ คลในอาชีพเดียว แนวทางการส่งเสริมพฒั นาผปู้ ระกอบวิชาชีพครูสู่มาตรฐานวิชาชพี 9 ประการ 1. ความตอ้ งการอบรมวชิ าเฉพาะสำหรบั การเร่มิ ตน้ เป็นครู 2. ความต้องการสิ่งตอบแทนทเี่ ป็นความก้าวหนา้ ในสายวิชาชีพ 3. ความตอ้ งการได้รับการยอมรับในสถานะภาพและความเปน็ มอื อาชพี 4. ความต้องการท่จี ะสามารถจดั การกบั การเปล่ยี นแปลง 5. ความตอ้ งการเป็นผรู้ อบรู้ในสาระวชิ า 6. ความต้องการพฒั นาทกั ษะใหม่ๆ 7. ความต้องการทจ่ี ะธำรงรกั ษาความมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 8. ความตอ้ งการมบี ทบาทท่ชี ดั เจน 9. ความต้องการการศึกษาในระหวา่ งประจำการ ชว่ งอาชีพครูกบั การพัฒนาวิชาชพี 3 ชว่ ง ไดแ้ ก่ ชว่ งครูใหม่ (Novice) ช่วงตอนกลางของ อาชีพ (Mid-career) และชว่ งต โมเดลน้แี บง่ ช่วงอาชีพครูเป็น 6 ช่วง ซง่ึ แตล่ ะชว่ งมีความตอ้ งการพัฒนาวิชาชพี ครทู ่ีแ 1. นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี 2. ครบู รรจใุ หม่
ป บทความ นางสาวสาธิดา สาระวัน หมูท่ ่3ี ฒนาความเปน็ ครู รหสั นักศึกษา 647190305 วกนั 3. ครูวิชาชพี 4. ครูเชี่ยวชาญ ตอนปลายของอาชีพ 5. ครทู ีม่ ชี ือ่ เสียง แตกตา่ งกันดังนี้ 6. ครูปลดเกษียณและออกจากอาชีพ ข้อเสนอแนะในการวางแผนพฒั นา วิชาชีพครู 1. การวางแผนพัฒนาวิชาชีพสำหรบั ครู 2. โครงการพัฒนาวชิ าชีพจะประสบความสำเร็จ 3. พงึ ระลกึ เสมอวา่ การเรยี นรเู้ ป็นการเดินทาง 4. การให้ข้อมูลยอ้ นกลับท่ีสร้างสรรค์ 5. การสร้างความไวว้ างใจระหว่างผู้ บริหารและครู ผูบ้ ริหาร แนวทางการพัฒนาครใู นประเทศไทย โดยควรพัฒนาใหมีมาตรฐานวิชาชีพ 3 ดาน ไดแก 1. มาตรฐานความรูและประสบการณวชิ าชีพของครู 2. มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ าน มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ าน 3. มาตรฐานการปฏบิ ัติตน
ชือ่ -สกลุ ..นายวสนั ต์.....แดง...รหสั นกั ศกึ ษา...647190306................หมู่เรยี น.....3........ อันธิกา บุญเลิศ. (2564). บทความทางวิชาการ \"พลังครูไทยวิถีใหม่ ฉลาดรู้เท่าทันดิจิตอล”. สืบค้น 15 เมษายน 2565, จาก https://www.kroobannok.com/board_view.php?b_id=176642&bcat_id=16 สรปุ บทความ “พลังครูไทยวถิ ีใหม่ ฉลาดรู้เท่าทนั ดจิ ิตอล” การเรยี นการสอนในยุคปจั จุบันที่เรียกว่า ยคุ ไอที ทาใหค้ รตู ้องมีความรู้และความสามารถในการเพื่อที่จะ กา้ วทันตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ปัจจุบันเทคโนโลยีไดเ้ ข้ามามบี ทบาทมากย่ิงขึ้น ครูต้องพยายามตดิ ตามและทาความเข้าใจกับเทคโนโลยี ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะสามารถนาเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน และพัฒนาทักษะ ต่างๆอย่างต่อเนื่องๆ ด้วยเหตุผลการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีนี้ บทบาทและภารกิจครูต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน ภายใต้วิถีใหม่ (New Normal) ครูผู้สอนต้องสามารถเชื่อมโยง การเรียนรู้ และการทางาน ซึ่งครูต้องเข้าใจ และ นาไปสู่การปรับการเรียนการสอนให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ มีการกาหนดเป้าหมายการเรียนรู้แบบ องค์รวมดังน้ี 1. (Purposeful Learning) การเรียนรู้อย่างมี “ความมุ่งมั่นและเป้าหมาย” เป็นเป้าหมายที่เกิดจาก แรงบนั ดาลใจ ความสนใจหรือความม่งุ ม่ันของเด็ก 2. (Generative Learning) โดยให้ความสาคัญกับการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประยุกตใ์ ช้ มีความยืดหยุน่ ทางความคิด เปดิ มุมมองใหม่ ๆ การเรยี นรแู้ บบมสี ่วนร่วม และแบ่งปนั 3. (Collective Learning) การเรยี นร้แู บบรว่ มมอื คือการเรยี นรู้เป็นกลุ่มยอ่ ย มีสมาชิก 3-6 คน สมาชิก ในกลุ่มมีความสามารถทแี่ ตกต่างกัน สมาชกิ ช่วยกนั เรยี นร้เู พ่อื ไปสเู่ ป้าหมายของกลมุ่ 4.(Result Based Learning) ) เป็นการปลกู ฝงั ให้ผูเ้ รียนรว่ มกนั คิด ตลอดจนการเรียนรู้โดยเน้น ผลสัมฤทธ์ิทางการศึกษา ความเป็นครูจะต้องสร้างคุณค่าทางสังคมร่วมกับคุณค่าความเป็นมนุษย์ รวมถึงต้องสร้างหลักคิดเพื่อให้ ผู้เรียนเปลี่ยนแนวคิดในการคิดเพื่อตัวเองไปสู่การให้ผู้เรียนมีความไว้วางใจ การเกื้อกูล การแบ่งปัน และความ ร่วมมือร่วมใจ ครูต้องสร้างให้ผู้เรียนเกิดความสมดุลในชีวิต เพื่อเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ซึ่งสอดรับกับ “หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง” ครจู ะตอ้ งถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจ ความสมดุลของระบบ ท้ังความสมดลุ ระหวา่ งมนษุ ย์ กับธรรมชาติ ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ระหว่างการเรียนรู้ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ปัญญาประดิษฐ์กับปัญญา มนุษย์ และเขา้ ใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มหาราช บรมนาถบพติ ร ดังนั้น การเป็นครยู ุกต์ใหม่ตอ้ งพยายามปรับตัวเขา้ หาเทคโนโลยใี หม่ๆที่เกิดขึ้น อย่างใช้คาว่าแกแ่ ล้วเกิด จะเรียนรู้ เพื่อนาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน ทาให้ทั้งผู้เรียนและครูก้าวเข้าไปสู่ ศตวรรษที่ 21 พร้อมๆกันเพือ่ สร้างทักษะการแก้ปญั หาของผูเ้ รียนดว้ ยการใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล ทาให้ไปสูย่ ุควิถใี หม่ หรือ New Normal
ชอ่ื -สกลุ ..นายวสนั ต์.....แดง...รหสั นักศกึ ษา...647190306................หมู่เรยี น.....3........ ชลันดา พนั แซง. (2556). บทบาทครูกับความคิดสรา้ งสรรค์กบั การพัฒนานักเรยี นในศตวรรษที่ 21. สบื คน้ 15 เมษายน 2565, จาก https://chalandaf.wordpress.com/ครูในศตวรรษท่ี-21/ สรปุ บทความ บทบาทครกู บั ความคิดสร้างสรรค์กบั การพัฒนานักเรยี นในศตวรรษท่ี 21 ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เขียนหนังสือ “ครูเพื่อศิษย์” กล่าวไว้ว่า หัวใจในการเรียนรู้ใน ศตวรรษท่ี 21 ไม่ใช่การสอน แต่หัวใจอยู่ที่การเรียน ครูจึงยิ่งสาคัญ เพราะต้องมีหน้าที่เป็นครูฝึกการทางานของ ลูกศิษย์มากกว่าการสอนทั่วไป “ครูจึงไม่เน้นสอน แต่ต้องตั้งคาถามไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งเด็กดื้อ เกเร กระทา ความผิด แต่ทาอย่างไรให้เด็กเหล่านั้นเกิดกระบวนการเรียนรู้ โดยที่ไม่มีใครบอก เป็นเรียนรู้จากข้างใน ทักษะการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จึงอยู่ที่การทาเอง ปฏิบัติเอง คิดเอง (Learning by Doing) โดยเริ่มจากการเรียนรู้ผ่าน โครงงาน (Project Base Learning) ทาให้เหน็ ว่า การจัดการเรียนรู้ไดด้ ีนั้น ครูและนักเรียนสามารถทาร่วมกันได้” “ครจู ึงเป็นผู้ทาหน้าทอ่ี อกแบบการเรียนรู้ ทาร่วมกนั เปน็ ทีม และมีการปรบั ประเมิน รว่ มกนั กบั ครู และนักเรียนเอง ซ่ึงจะชว่ ยใหน้ ักเรียนได้เรยี นทกั ษะการทางานเป็นทีม (Collaboration skill) ฟังคนอน่ื แลว้ ก็เรียนรู้ความแตกต่าง ท่ีต้องเกดิ ขน้ึ มากกว่าการเรยี นแบบแข่งขัน และถา้ จะให้ลึกต้องให้ครชู วนเด็กสะท้อนความคิดผ่านบทเรียน แล้วครู ก็ชกั ชวนใหเ้ กดิ การคิดประเมนิ รว่ มกัน เป็นลกั ษณะ “โปรเจค็ ทซ์ อ้ นโปรเจ็คท์” สังคมไทยที่ผ่านมา ผุ้ที่มีประสพการจะทาหน้าที่เป็นผู้ถ่ายถอดความรู้โดยไม่คิดผลประโยชน์ ผู้ถ่ายทอด นั้นเรียกว่า ครู ต่อมามีการพัฒนาระบบการศึกษามากยิ่งขึ้น จึงทาให้เกิดอาชีพครู มีค่าตอบแทน จึงมีคนนิยมมา ประกอบอาชีพครูมากยิง่ ขนึ้ จึงมีการคัดคนดี คนเกง่ มาทาการฝกึ หดั เพื่อออกไปทาอาชีพครู ตอ่ มามีความต้องการ เรียนเพื่อเป็นครูมากยิ่งขึ้น จึงมีการออกกฎหมายให้มีการศึกษาภาคบังคับเพื่อควบคุมการเรียนการสอนสาหรับ บคุ คลท่ีจะเข้ามาและออกไปประกอบวชิ าชพี ครู ดังนั้นครูในศตวรรษที่21 ตามความคิด จะต้องเป็นครูที่มีความสามารถในหลายๆด้านและมี ความสามารถที่รอบรู้และทันกับโลกที่มีการพัฒนาและครูในศตวรรษท่ี21 และมีการนาเทคโนโลยีเข้ามาจัดการใน การจัดการเรยี นการสอนท่ใี หม่ๆ กับผ้เู รียนใหเ้ หมาะสม ส่กู ารพฒั นานักเรียนในศตวรรษท่ี 21 ดงั นี้ 1. ผู้เรยี นเปน็ ผ้จู ัดการเรอ่ื งการเรียนรู้ของตนเอง 2. การเรียนรจู้ ะใชร้ ะบบเครอื ขา่ ย 3. หลักสูตรจะถูกจัดแยกเป็นประเภท(catalogue curriculum) ผู้เรียนมีโอกาสเลือกเรียนหลักสูตรที่ หลากหลายมากขึ้น เช่น สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนเต็มเวลาในสถานศึกษาทั้งหลักสูตร(full time) หรือจะเรียนท่ี บา้ นท้ังหมด หรอื จะเลือกเรยี นท่บี า้ นและเรียนท่ี โรงเรียนบางเวลากไ็ ด้ (flexi– time schooling plan) 4. มแี ผนการเรียนร้เู ปน็ รายบุคคล (personal learning plan) 5. การเรียนรจู้ ากคอมพิวเตอรจ์ ะเข้ามามีบทบาทมากขน้ึ 6. ครูมีบทบาทในฐานะเป็นตวั แทนของการเรียนรู้ (learning agent)
ช่อื -สกลุ ..นายวสันต์.....แดง...รหสั นักศึกษา...647190306................หมู่เรยี น.....3........ 7. ระบบการประเมนิ จะหลากหลายมากข้นึ ไมไ่ ด้วัดเฉพาะความรูใ้ นแบบทดสอบเทา่ นั้น เช่น การสอบวิชา ดนตรี จะไม่สอบเฉพาะภาคทฤษฎี ผู้เรียนต้องสอบภาคปฏิบัติด้วย เพราะผู้ที่ทาข้อสอบได้หมด อาจจะเล่นดนตรี ไม่ได้เลยตามทไ่ี ด้กลา่ วมาแล้วข้างตน้ ดังนั้น กระบวนการเรียนการสอนของครูในศตวรรษท่ี 21 จะต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบด้วยวิธีการจัดการ เรียนการสอนแบบใหม่ๆ หากครูหรือผู้สอนยังคงใช้วิธีการเดมิ ๆ หรือมีความเชื่อแบบเดิม ๆ ในการสอน จะทาให้ นกั เรยี นเมอื่ จบการศึกษาออกไปแลว้ ปรับตัวกบั โลกภายนอกได้ เนอ่ื งจากภายนอกสถานศกึ ษานั้นจะมงี านท่ีท้าทาย นักเรียนเป็นจานวนมากและยังมีปัญหาอีกมากมายที่นักเรียนต้องออกไปค้นหาบูรณาการสังเคราะห์ข้อมูลต่างๆ และมองหาวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างไปจากเดิม นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง และต้องรู้จักร่วมมือในการ ทางานกับผ้อู ื่นด้วยๆ
ช่ือ-สกุล..นายวสันต์.....แดง...รหสั นกั ศึกษา...647190306................หมู่เรยี น.....3........ Learn Education. (2561). เปิดทักษะ 5C เพือ่ พฒั นาสู่การเปน็ ครมู ืออาชพี . สืบคน้ 15 เมษายน 2565, จาก https://www.learneducation.co.th/เปดิ ทักษะ-5C-เพื่อพัฒนาสู/ เปิดทกั ษะ 5C เพื่อพัฒนาสู่การเปน็ ครูมืออาชพี ทักษะ 5 C คืออะไร ปัจจุบัน เทคโนโลยีมกี ารพัฒนาไปอย่างรวดเรว็ เป็นอย่างมาก ทางด้านการเรยี นการ สอนจึงต้องมีการปรับตัวและนาเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้มาใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งตัวครูเองก็ต้องมีการปรับตัว และหาวิธีการมาประยุกต์การสอนให้ทนั สมัย ทักษะ 5C ซึ่งเป็นทักษะจาเป็นที่คุณครูยคุ ปัจจุบันควรนามาปรบั ใช้ สอนเด็ก โดยทักษะ 5C เพือ่ การพัฒนาสู่การเป็นครูมอื อาชีพ มดี งั น้ี 1. ทกั ษะ C1 : Curriculum development skills ทักษะการพฒั นาหนว่ ยการเรียนรูบ้ ูรณาการ หมายถงึ หลกั สตู รท่ีมกี ารผสมผสานสาระตั้งแต่สองกลุ่มสาระการเรียนรู้หรือสองวชิ าข้ึนไป หรือกลุ่มสาระ วิชาเดียวกันโดยจัดเป็นหน่วยการเรียนรู้ ภายใต้หัวเร่ือง(theme) อย่างสมดุลและเชื่อมโยงกับชีวิตจรงิ ซึ่งแสดงให้ เห็นความเกี่ยวขอ้ งโดยใช้เครือข่ายความคิด(web) ดังน้ี 1) กาหนดหวั เรอ่ื ง(theme) โดยสามารถกาหนดไดจ้ าก 1.1) จากมโนทัศน์(concept) 1.2) จากประเด็นปัญหา (problem) 1.3) จากเรื่องทเี่ ป็นปญั หา(issue) 1.4) จากเรือ่ งทีต่ ้องใช้ในการสืบสอบ/แกป้ ัญหา (problem solving) 1.5) จากแหล่งการเรยี นร้ทู ่ีเอื้อตอ่ การค้นควา้ (resource learning) 1.6) จากความสนใจของผู้เรียน(student’s interest) 2) ทาเครือขา่ ยความคิด (web) หรอื ผงั ความคดิ (concept map) 3) จดั เรียงลาดบั เน้ือหาและทักษะต่างๆ ทเ่ี กีย่ วข้องกับหวั เร่อื งเพื่อนาไปวางแผนการจดั การเรียนรู้ 4) วางแผนจัดการเรยี นรู้ โดยระบุมโนทศั น์สาคญั และกาหนดวตั ถุประสงค์ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เตรยี ม สอื่ การเรยี นร้แู ละแหล่งการเรียนรู้ และกาหนดวิธีการประเมินการเรียนรู้ 2. ทกั ษะ C2 : Child – centerd approach skills ทักษะการจัดการเรียนการสอนทเี่ น้นผเู้ รียนเปน็ ศนู ยก์ ลาง เป็นการสอนท่เี นน้ ใหผ้ ูเ้ รียนสร้างความรู้ใหม่ และสง่ิ ประดษิ ฐ์ใหม่ โดยการใชก้ ระบวนการทางกระบวนการ คิด กระบวนการทางานเป็นกลุ่ม และใหผ้ ู้เรียนมปี ฏิสัมพันธแ์ ละมสี ว่ นรว่ มในการเรียน 3. ทกั ษะ C3 : Classroom innovation implementation ทกั ษะการใชน้ วัตกรรมการเรียนร้ใู นชั้นเรียน ยก นวัตกรรมการเรยี นร้มู าใชป้ ระกอบในชัน้ เรียน ได้แก่ 1) โมเดลซิปปา(CIPPA MODEL) คอื รูปแบบที่เป็นแนวคิดเพอื่ ใชจ้ ดั การเรียนการสอนทเ่ี นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั
ช่อื -สกุล..นายวสนั ต.์ ....แดง...รหสั นักศึกษา...647190306................หมู่เรยี น.....3........ 2) การเรยี นการสอนทเ่ี น้นผเู้ รียนเป็นศูนย์กลาง(child-centered instruction) คือการจัดการเรียนการ สอนทีเ่ นน้ ให้ผูเ้ รียนสรา้ งความรูด้ ว้ ยตนเองโดยใช้กระบวนการทางปัญญาและกระบวนการทางสงั คม 3) การเรียนแบบกลุ่ม(group learning) และการเรียนแบบร่วมมือ(co-operative learning) ผู้เขียน อธิบายเกี่ยวกับ กระบวนการกลุ่ม คือบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ทางานร่วมกันเพื่อประโยชน์ร่วมกัน กลุ่มมี 3 องค์ประกอบสาคัญคือ หัวหนา้ สมาชิก และกระบวนการกล่มุ 4) พหุปัญญา(multiple intelligences) คือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ผู้สอนควรใช้กิจกรรม หลากหลายวิธีการสอนและเทคนิคการสอนหลากหลาย เพื่อการพัฒนาปัญญาเฉพาะด้านที่ถนัดรวมทั้งการพัฒนา ปัญญาหลากหลายให้กบั ผู้เรียนทกุ ๆคน โดยคานึงถงึ ความสอดคล้องกบั ศักยภาพ ความถนัด ความสนใจของผ้เู รยี น 5) ผงั กราฟฟิก(graphic organizers) คือ แบบของการส่ือสารเพือ่ ใช้นาเสนอข้อมูลที่ได้จากการรวบรวม อย่างเปน็ ระบบ มคี วามเขา้ ใจงา่ ย กระชับ กะทดั รัด ชดั เจน 4. ทักษะ C4 : Classroom authentic assessment ทกั ษะการประเมินการเรียนรู้ตามสภาพจรงิ การประเมนิ การเรียนรู้ตามสภาพจรงิ เป็นการประเมนิ ในเร่อื งต่อไปน้ี 1) ผลการเรียนด้านวิชาการ คือ ความรู้ ความเขา้ ใจในสาระ 2) การใช้กระบวนการคดิ คือ การใชก้ ระบวนการแก้ปัญหา การใช้วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์และการใช้ กระบวนการสร้างความรู้ 3) ทกั ษะ เช่น ทักษะการนาเสนอ ทักษะการเขียน ทักษะการทางานเปน็ ทีม ทักษะการวิจัย 4) คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ เชน่ การพฒั นาเจตคติต่อการเรียน การรกั เรยี น ความเปน็ พลเมืองดี ใฝร่ ูใ้ ฝ่ เรียน 5) นิสัยการทางาน เชน่ การทางานไดส้ าเร็จตรงเวลา ความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน 5. ทักษะ C5 : Classroom action research ทักษะการวจิ ัยปฏบิ ตั กิ ารในช้ันเรียน การวจิ ยั ปฏิบัติการในช้นั เรียน หมายถงึ การวจิ ยั ประเภทปฏบิ ัตกิ าร (action research) มี เป้าหมายเพื่อนาผลการวจิ ยั ไปใช้ปฏิบตั ิงานจริง โดยมคี รเู ป็นผ้ทู าวิจยั มีความสาคญั คอื เปน็ การพัฒนาหลักสูตรและ ปรับปรุงวิธีการสอน เป็นการพัฒนาวิชาชีพครู เป็นการแสดงความก้าวหน้าของวิชาชีพครู และ เป็นการส่งเสริม สนับสนนุ ความกา้ วหน้าของการวิจยั ดา้ นการศึกษา ทง้ั นค้ี ณุ ครูสามารถนาทกั 5C ไปประยุกต์ปรบั ใชใ้ หเ้ ข้ากับรูปแบบการสอนในยุคปจั จุบนั และพัฒนาสู่ การเป็นครูมืออาชพี ได้นน่ั เอง
ช่อื -สกลุ ..นายวสันต.์ ....แดง...รหสั นกั ศกึ ษา...647190306................หมู่เรยี น.....3........
นายสมชาย ศรีภูม่นั หมูที่ 3 เลขท่ี 7 รหสั 647190307 บทความเกี่ยวกับประเด็น การพฒั นาวชิ าชีพครู หรือการพัฒนาความเป)นครู หรือความเปน) ครูในยุคใหม ช่ือบทความ 1. แนวทางการพัฒนาครวู ถิ ีใหมฉลาดรูเทาทันดิจิทลั 2. ครูมืออาชพี กับการศึกษาไทยยคุ สังคม New normal 3. ครูในศตวรรษที่ 21 Teachers in the 21st Century เอกสารอา, งองิ (รูปแบบ APA) ราณีจีนสุทธ์ิ, หทัยภัทร จีนสุทธิ์. (2564). แนวทางการพัฒนาครูวิถีใหมฉลาดรู,เทาทันดิจิทัล. มหาวิทยาลัยมหา จุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตหนองคาย สำนกั งานเขตพนี้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษานนทบรุ ี. พระพรหมพิริยะ ถาวโร (มาลัยรักษO). (2564). ครูมืออาชีพกับการศึกษาไทยยุคสังคม New normal. วิทยาลัย สงฆOพทุ ธโสธร มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั . ประสาท เนืองเฉลิม. (2562). ครูในศตวรรษที่ 21Teachers in the 21st Century. รองศาสตราจารยO คณะ ศกึ ษาศาสตรO มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม.
การใชดิจทิ ลั อยางชาญฉลาดและเทา สรปุ ทนั ดจิ ทิ ัลท่ีเหมาะสมใน 8 ดาน 1. ทกั ษะในการรกั ษาอตั ลกั ษณท& ี่ดขี องตนเอง (Digital Citizen Identity) แนวทางการพ 2. ทักษะในการรกั ษาขอมูลสวนตัว (Privacy Management) ฉลาดรเู ทา 3. ทกั ษะการคิดวิเคราะห& (Critical Thinking) 4. ทักษะในการรกั ษาความปลอดภยั ของตนเองในโลกไซเบอร& (Cybersecurity Management) 5. ทกั ษะในการจัดสรรเวลาหนาจอ (Screen Time Management) 6. ทักษะในการบรหิ ารจัดการขอมูลที่ผใู ชงานมกี ารท้ิงไวบนโลกออนไลน& (DigitalFootprints) 7. ทักษะในการรับมือกับการกลน่ั แกลงบนโลกไซเบอร& (Cyberbullying Management) 8. ทักษะการใชเทคโนโลยอี ยางมจี ริยธรรม (DigitalEmpathy) การนำเทคโนโลยีดิจทิ ลั เขามาประยุกต#ใช แนวทางการพัฒนาครวู ิถใี หมฉลาดรเู ทาทนั ดิจทิ ัล กบั การจัดการเรยี นการสอน ครตู องมคี วามรคู วามเขาใจในเทคนิคและวธิ กี ารในการจัดเรยี น การสอนทงั้ รูปแบบดจิ ิทลั ออนไลนแ& ละออฟไลน&การสอ่ื สารและ การทำงานรวมกนั ของครแู ละนกั เรียน ครจู งึ จำเปนตองพฒั นา ตนเองอยางเปนระบบและตอเนอ่ื ง
บทบาทของครูวถิ ใี หมฉลาดรเู ทาทันดจิ ทิ ัล บทบาทหนาทขี่ องครู ครูวถิ ใี หมจงึ ตองเปนทงั้ นกั สอน นกั ออกแบบ นักการตลาด นกั จดั การและนกั วจิ ยั โดยเฉพาะ บทบาทการสรางสรรคก& ระบวนการเรยี นรทู สี่ งเสรมิ การพัฒนาสงั คมและอารมณข& องผเู รียน พัฒนาครวู ถิ ีใหม การจดั การเรียนการสอนรูปแบบดิจทิ ลั ออนไลน# การจัดการเรยี นการสอน าทนั ดจิ ิทลั ครูตองมคี วามรูความเขาใจทง้ั หลกั ทฤษฎที างการศกึ ษา หลักการเรยี นรจู ติ วทิ ยาการศกึ ษา การถายทอดความรู การนำเสนอเนอ้ื หา การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน และ การถายทอดกลยุทธโ& ดยมอี งคป& ระกอบท่ีสำคญั คอื เนอื้ หา และสื่อการเรยี น ระบบนำสงสารสนเทศและการสอ่ื สาร ระบบสื่อสารและปฏสิ ัมพนั ธท& างการเรยี น ระบบการวัดและ ประเมนิ ผลระบบสนบั สนนุ การเรยี น ผูสอนและผเู รยี น โดย ใชเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ออนไลน&เปนเครอื่ งมอื
หารอื และวางแผนรว' มกันของบุคคลทีม่ ี บทบาทครูกบั การพฒั นา ครมู อื อาชีพกบั การ ส'วนเก่ียวขอ, งในทกุ ภาคสว' น ตง้ั แตผ' ,ู การศึกษาไทยยุคสังคม New n กำหนดนโยบาย ผ,บู ริหารสถานศกึ ษา ครู บุคลากรทางศกึ ษา ผป,ู ระกอบการใน New Normal ภาคธุรกจิ และภาคประชาสงั คม พอ' แม' ผ,ปู กครอง และทสี่ ำคญั ท่สี ุด คอื ตวั นกั เรยี น สรปุ ยคุ New Normal ครูผู,สอนต,องปรบั ตัวเข,าสูก' ารเรยี นการสอนแบบ ออนไลน; จัดให,การเรยี นการสอนสามารถเขา, ถึงเดก็ ทุกคนได,อย'างมี ประสทิ ธภิ าพ ไม'ว'าจะเปน= ระบบอินเทอร;เน็ททตี่ อ, งมีความเสถยี ร ระบบถ'ายทอดผา' นทวี ี อุปกรณเ; ทคโนโลยใี นชุมชนทขี่ าดแคลน การ จัดตารางเรยี น พร,อมท้ังความสามารถในการสอนออนไลนข; อง ครูผส,ู อน ควรได,รบั การพัฒนา ปรับตวั เหน็ ถึงประโยชน;ของการใช, เทคโนโลยี เรยี นรู,ผ'านหน,าจอคอมพิวเตอร; เพิ่มทัศนคตทิ ่ีดตี 'อการ เรียนออนไลน; ฝก@ ให,มคี วามรับผิดชอบต'อตวั เองในการจัดการเวลา และการศกึ ษาเองทีบ่ ,าน การเรียนในยุควถิ ีใหม'บทบาทท่สี ำคญั ของครู ท่เี ปน= ผสู, อนโดยการให,ความรู,อยา' งเดียวต,องเปลี่ยนแปลงไปเพราะ การเรยี นรข,ู องผเ,ู รียนแต'ละบคุ คลเกดิ ขึ้นจากการลงมือปฏิบัติดว, ย ตนเองจนมีประสบการณส; 'วนบุคคลและนำประสบการณเ; หล'าน้นั มา วเิ คราะห;และสังเคราะหเ; ปน= องค;ความร,แู ละเมือ่ ปฏิบตั บิ 'อยๆซ้ำๆจะ พัฒนาเปน= ทกั ษะส่ังสมเป=นความเชยี่ วชาญในท่ีสดุ การเรยี นรขู, องแต' ละบุคคลน้นั เกิดจากการมปี ระสบการณต; 'างๆของบคุ คลนั้นเองและ สามารถเรียนรไู, ดต, ลอดชวี ติ และนำไปสู'การเปลย่ี นแปลงความคดิ และ พฤติกรรมโดยเฉพาะด,านความคิดนั้นเป=นพลังที่นำไปส'ูการสรา, งสรรค; สงิ่ ต'างๆ ทีเ่ ป=นประโยชน;ต'อสว' นรวมซ่งึ เปน= สงิ่ สำคญั และจำเป=น สำหรบั การดำรงชวี ติ อย'างมีคณุ ภาพในโลกปจF จุบนั และอนาคต
รปู แบบการเรียนร!ูและ รปู แบบการเรยี นร!ู พฒั นาการเรียนการสอน 1) ผู!ทีเ่ รียนรท!ู างสายตา (Visual Learner) 2) ผทู! เี่ รียนรท!ู างโสตประสาท (Auditory Learner) ยุคใหมB 3) ผท!ู เ่ี รยี นรท!ู างรBางกายและความรสู! กึ (Kinesthetic Learner) รศกึ ษาไทยยุคสงั คม ลกั ษณะของการจดั กจิ กรรม 1.Active Learning normal เนน! ผเ!ู รยี นเปน$ สำคัญ 2.Construct 3.Resource INSERT TEXT HERE 4.Thinking 5.Happiness บทบาทของครยู คุ สังคม 6.Participation New normal 7.Individualization 8.Good Habit บทบาทการโค!ช กระบวนการโคช! เพอ่ื พฒั นา ศักยภาพผู!เรยี น 1. Feed – up 2. Power questions 3. Acting & Checking 4. Feedback 5. Feed – forward 6. Lesson learned
ศตวรรษท่ี 21 มคี วามกาวหนาของ บทสรปุ เทคโนโลยีสารสนเทศและวทิ ยาการต%างๆ อยา% งรวดวดเรว็ ครูจงึ ตองปรบั ความคดิ ครูในศตวร เปลี่ยนแปลงวิธกี ารและประเมินการเรยี นรู Teachers in the ของตนเองอยา% งตอ% เนอ่ื ง สามารถเชื่อมโยง หลกั สูตร การเรียนการสอน และการ ประเมนิ การเรียนรูใหเหมาะสมตามบรบิ ท ของหองเรยี นเปล่ียนแปลงทัง้ ความรู รูปแบบ วิธกี าร แต%เหนอื สง่ิ อ่ืนใดครตู อง บรรลซุ ่งึ ศักยภาพแห%งตน (Self- actualization) ว%ามีความรู ความสามารถ และเป6นบคุ คลแหง% การเรยี นรู ก%อนท่ีจะชว% ย ใหผูเรียนบรรลศุ ักยภาพของตนเองเชน% กนั เมื่อครเู ปลีย่ นแปลงและปรบั ตวั ใหเท%าทัน แลวยอ% มบ%มเพาะใหผเู รียนเปน6 บคุ คลแห%ง การเรียนรู รจู กั นำเครอื่ งมอื วิธกี าร และ ทักษะการเรยี นรูท่ีจำเป6นมาใชในการ ดำรงชีวติ ไดอยา% งปกตสิ ุข การพัฒนาครูควรเช่ือมโยงทัง้ ความรู ครใู นศตวรรษท่ี 21 ทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค7 กับการพัฒนาตนเอง โดยตองปรับความคดิ เสียใหมว% า% การ เปน6 ครยู คุ ศตวรรษท่ี 21 ตองเรยี นรู และพฒั นาตนเองมากกว%าอดีต เน่ืองจากความรมู ีมหาศาลและ หลากหลายวธิ ีการ การพัฒนาตนเอง ของครใู นศตวรรษที่ 21 วา% ตอง ปรับเปลยี่ นทัง้ วธิ ีคิด วธิ ีปฏบิ ัติ ประเมินตนเอง และปรับปรงุ ต%อยอด
ครกู บั การเปลยี่ นแปลง ครูตองทำความเขาใจในธรรมชาติการเรียนรู และการปรับตัว รวมทัง้ วธิ กี ารเขาถึงความรูของผเู รยี นตอง ปรับเปลี่ยนวธิ คี ิดและปรับตวั ใหเทา% ทันกบั วิทยาการรว% มสมยั ตองเรียนรูอยต%ู ลอดเวลา คนควาหาความรใู หมๆ% เพือ่ ใหเทา% ทนั กบั บรบิ ทที่เปลยี่ นแปลงไป ท่ีสำคัญครตู องปรับ ความคิดเปลีย่ นแปลงวิธกี าร ประเมินผลการ ปฏิบัติ และปรับปรุงตอ% ยอด รรษท่ี 21 1. การจัดสภาพแวดลอมและบรรยากาศของหองเรยี น e 21st Century เป6นศนู ย7กลาง 2. ผูเรยี นคอื ผูผลติ ความรดู วยตนเอง 3. บูรณาการความรตู %างๆ ท่มี มี าใชในการสรางสรรค7 และพัฒนาองค7ความรใู หม% ลกั ษณะสำคญั ของครู 4. แบบอยา% งทางสังคม มจี รรยาบรรณ คุณธรรม ในศตวรรษท่ี 21 จรยิ ธรรม 5. พฒั นาทักษะกระบวนการคดิ ข้นั สูง 6. ส%งเสริมการเรยี นรตู ามวยั และเตม็ ตามศักยภาพ 7. มีวิสัยทัศน7และตกผลึกทางความคิด 8. ฉลาดรูในการใชเทคโนโลยี 9. มองโลกแบบองคร7 วม 10. ปฏริ ปู ตนเองอยา% งสม่ำเสมอ
นางสาวอาภาวรรณ ปิยนสุ รณ์ หมู่ 3 รหสั นกั ศกึ ษา 647190308 ทัศนา ประสานตรี. (2561). การปลกู ฝังจิตวิญญาณความเป็นครู Teacher’s Spiritual Cultivation. วารสารวิชาการ หลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร. ปีที่ 10 ฉบับท่ี 29 เดอื น กันยายน-ธันวาคม 2561. ทัศนา ประสานตรี. (2561) ได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ การปลูกฝังจิตวิญญาณความเป็นครูTeacher’s Spiritual Cultivation. นักวชิ าการหลายคนได้จำแนกองค์ประกอบของจิตวิญญาณความเป็นครูไว้แตกต่างกัน ผเู้ ขยี นจึง ได้วิเคราะห์และสังเคราะห์ และสามารถจำแนกองค์ประกอบได้ดังน้ี 1) ด้านความรัก ความเมตตา 2) ด้าน ความรับผิดชอบหรือการปฏิบัติตามหนา้ ท่ี 3) ด้านความรักศรัทธาในวิชาชพี ครู 4) ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรม 5) ดา้ นความเสยี สละและความอดทน 6) การมมี นุษย์สัมพันธแ์ ละ 7) ดา้ นการเปน็ แบบอยา่ งทีด่ ตี อ่ ศิษย์ 7) ด้านการเป็ น 1) ด้านความรกั การปลูกฝังจิตวิญญาณความเป็นครู แบบอย่างที่ดีต่อ ความเมตตา เป็นการทำให้ครูมีพฤติกรรมหรือลักษณะการ แสดงออก ที่ทำให้ศิษย์มีความเจริญก้าวหน้า ศษิ ย์ โดยการอบรม สั่งสอน ใหม้ ีความรู้ คณุ ธรรม ฝัง ใจด้านความดี ไม่เห็นแก่ตัว และมองเห็นจิต 6) การมีมนุษย์ การปลกู ฝังจติ 2) ด้านความ ของผู้อื่น ในการปลูกฝังจิตวิญญาณความเป็น สัมพนั ธแ์ ละ วิญญาณความ รบั ผดิ ชอบหรอื การ ครู ควรดำเนินการ 7 ด้าน คือ ปฏิบตั ติ ามหนา้ ท่ี เปน็ ครู 5) ด้านความ 3) ดา้ นความรัก เสียสละและความ ศรทั ธาในวิชาชีพ อดทน ครู 4) ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1) ด้านความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ ควรปลูกฝังให้ครูมีใจผูกพันด้วยความห่วงใยศิษย์ สามารถ แนะนำใหก้ ำลังใจแกศ่ ษิ ยท์ กุ คนได้ มีจิตใจโอบอ้อมอารี ความรักต่อศิษย์ 2) ด้านความรับผดิ ชอบหรือการปฏบิ ัติตามหน้าท่ี คอื การยอมรับผลทงั้ ท่ีดีและไม่ดีในกิจการที่ตนได้ ท าลงไปหรือที่อย่นู ความดแู ลของตน 3) ด้านความรักศรัทธาในวิชาชีพครู ควรปลูกฝัง ให้ครูมีความเชื่อถือ ความเลื่อมใสและความผูกพนั ด้วย ความหว่ งใยตอ่ บุคคลหรอื องค์กรวิชาชพี ครู 4) ด้านคุณธรรมจริยธรรม ควรปลูกฝังให้ครูมีความขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ วินัย สุภาพ สะอาด สามัคคีและมนี ้ำใจ
นางสาวอาภาวรรณ ปิยนสุ รณ์ หมู่ 3 รหสั นกั ศกึ ษา 647190308 5) ด้านความเสียสละและความอดทน คือการให้ครูยินยอมให้สิ่งของที่ตนมีอยู่ให้กับศิษย์ เพื่อนครู ผบู้ รหิ าร ผปู้ กครอง ผอู้ น่ื หรอื ส่วนรวมสำหรับความอดทนเป็นการปลกู ฝังใหค้ รูยอมรับสภาพ ความยากลำบาก ในส่งิ ท่ไี มเ่ ป็นทพ่ี อใจหรอื ต่ออารมณ์หรอื ถอ้ ยคำทท่ี ำให้เจบ็ แค้นใจ 6) การมมี นษุ ย์สัมพันธ์ ควรปลูกฝังใหค้ รกู ารรูจ้ ักตน การเขา้ ใจผอู้ ื่น และการมีสภาพแวดล้อมที่ดี 7) ด้านการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อศิษย์ ควรปลูกฝังให้ครูเป็นแบบอย่างที่ดี คือ การให้ครูประพฤติ ประพฤตติ นเป็นตวั อยา่ งท่ดี ีทงั้ ทางกาย วาจาและจิตใจ
นางสาวอาภาวรรณ ปิยนสุ รณ์ หมู่ 3 รหสั นกั ศกึ ษา 647190308 สุรีย์มาศ สุขกสิ. (2563). การศึกษาความต้องการพัฒนาครูมืออาชีพสู่ความเป็นประเทศไทย 4.0. วารสารวชิ าการศรี ปทมุ ชลบุรี. ปีที่ 16 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563. สุรีย์มาศ สุขกสิ. (2563) ได้ศึกษาวิจัยเพ่ือศึกษาความต้องการพัฒนาครูมอื อาชีพสู่ความเปน็ ประเทศไทย 4.0 โดยมีวัตถุประสงค์วิจัย 1) ศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2) การสร้างกลยุทธ์การ พฒั นาครูมืออาชีพสู่ความเป็นประเทศไทย 4.0 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1, เขต 2 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด จำนวน 354 คน โดยกำหนดขนาดของกลุม่ ตัวอย่างโดยใชต้ ารางของเครจซีแ่ ละมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับได้ค่าอำนาจจำแนกอยู่ ระหวา่ ง 0.31-0.89 และมคี า่ ความเชื่อมนั่ เทา่ กับ 0.93 สถติ ทิ ีใ่ ช้ในการวจิ ัย ไดแ้ ก่ คา่ รอ้ ยละ คา่ เฉลย่ี และคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่าความต้องการพัฒนาครูมืออาชีพสู่ความเป็นประเทศไทย 4.0 โดยรวมอยู่ในระดับ มาก เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายดา้ นพบว่าทกุ ด้านอยู่ในระดบั มากเรยี งตามค่าเฉลยี่ จากมากไปหานอ้ ย 3 ลำดับ คอื 1. การจดั กิจกรรม การเรียนรู้ 3. ดา้ นการวัดและ 2. ดา้ นการวจิ ยั ใน ประเมนิ ผล ชัน้ เรียน 1. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ กจิ กรรมสง่ เสรมิ ความคดิ สร้างสรรค์ กจิ กรรมเสรมิ สร้างเจตคติท่ีดี ในเนื้อหาวิชาทีเ่ รยี น และกิจกรรมกระตุ้นความสนใจในการเรยี นใหเ้ หมาะสมกับพัฒนาการของผเู้ รยี น 2. ด้านการวิจัยในชั้นเรียน ได้แก่ นำผลการวิจัยมาใช้ในการแก้ปัญหา พัฒนาการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ ประเมินผลพัฒนาการของผู้เรียนหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและความ ต้องการของผู้เรยี นกอ่ นดำเนนิ การวจิ ัย 3. ดา้ นการวดั และประเมนิ ผล ได้แก่ วเิ คราะหผ์ ู้เรียนกอ่ นกำหนดเกณฑ์การประเมินผ้เู รียน นำผลการ ประเมินมาปรับปรุงพัฒนาเกณฑ์การประเมินให้เหมาะสมกับศักยภาพของนักเรียน และวัดผลประเมินผล ผ้เู รยี นโดยเน้นสภาพจริง
นางสาวอาภาวรรณ ปิยนสุ รณ์ หมู่ 3 รหสั นกั ศกึ ษา 647190308 ประวิต เอราวรรณ์. (2562). การสังเคราะห์ระบบและแนวทางการปฏริ ูปการพัฒนาวิชาชีพครู:จากแนวคิดการ เรียนรู้เชิงวิชาชีพสู่การปฏิบัติ. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย ปีที่ 11 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562). ประวิต เอราวรรณ์. (2562) ได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสังเคราะห์ระบบและแนวทางการปฏิรูปการพัฒนา วชิ าชพี คร:ู จากแนวคดิ การเรียนรู้เชงิ วิชาชีพสกู่ ารปฏิบัติ โดยมีวัตถุประสงคเ์ พ่ือวเิ คราะหแ์ ละสังเคราะห์ระบบ การพัฒนาวิชาชีพครูโดยใช้แนวคิด การเรียนรู้เชิงวิชาชีพ และพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายและการนำสู่การ ปฏิบัติในการปรับปรงุ ระบบการฝึกหัด ครูและพัฒนาวิชาชีพครูของประเทศไทย ระเบียบวิธวี ิจัยทีใ่ ช้เป็นการ วิจัยเอกสารและใช้วธิ ีการวิเคราะห์เนือ้ หา สาระเพอ่ื สรา้ งขอ้ สรุปเชงิ ระบบใน 5 ประเด็นคือ ระบบในปัจจุบัน องค์ความรู้ที่มีต้นแบบที่ดีจากประเทศที่มีคุณภาพผลลัพธ์ทางการศึกษาในระดับสูง ข้อเสนอจากหน่วยงาน ตา่ งๆ และระบบทค่ี วรจะเป็น ผลการวิจัย พบว่า ระบบการพัฒนาวิชาชีพครูมี13 ระบบย่อยใน 6 ช่วงวัยของวิชาชีพต้องได้รับการ ปรับปรุงคุณภาพของ ระบบอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ยกระดับคุณภาพครูของไทยให้สามารถเทียบเคียงคุณภาพ การศึกษากับประเทศ ต่างๆ ได้และต้องพัฒนาเพื่อยกระดับการปฏิบัติงานของผู้เกี่ยวข้องในทุกระบบไป พรอ้ มๆ กนั
นางสาวยวุ ดี โพแกว้ เลขท่ี 9 หมู่ 3 บทสรุป ผู้ที่จะมาเป็นครูควรได้รับการปลูกฝังจิตวิญญาณ ความเป็นครู คือการทำให้ครูมีพฤติกรรมหรือลักษณะ การแสดงออก ในการปลูกฝังจิตวิญญาณความเป็นครู ควรดำเนินการ ดังนี้ 1. ด้านความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ ควรปลูกฝังให้ ครูมีใจผูกพันด้วยความห่วงใยศิษย์ สามารถแนะนำให้กำลังใจ แก่ศิษย์ทุกคนได้ 2. ด้านความ รับผิดชอบ ควรปลูกฝังให้ครูมีความรับผิดชอบ คือ การยอมรับผลทั้งที่ดีและไม่ดีในกิจการที่ตนได้ทำลงไปหรือท่ี อย่นู ความดแู ลของตน 3. ดา้ นความรักและศรทั ธาในวิชาชีพครูควรปลูกฝงั ให้ครูมคี วามเช่อื ถอื ความเล่ือมใสและ ความผกู พันดว้ ย ความห่วงใยต่อบคุ คลหรือองค์กรวิชาชีพครู 4. ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ควรปลูกฝังให้ครูมีความ ขยัน ประหยัด ซือ่ สัตย์ วินัย สุภาพ สะอาด สามัคคีและมีน้ำใจ 5. ด้านความเสยี สละและความอดทน ควรปลูกฝงั ให้ ครูมีความเสียสละ สำหรับความอดทนเป็นการปลูกฝังให้ครูยอมรับสภาพ ความยากลำบาก ในสิ่งที่ไม่เป็นที่ พอใจหรอื ต่ออารมณ์หรอื ถอ้ ยคำที่ทำให้เจ็บแคน้ ใจ 6. ด้านการมีมนษุ ยสัมพนั ธ์ ควรปลกู ฝังให้ครูการรจู้ ักตน การ เขา้ ใจผอู้ น่ื และการมสี ภาพแวดลอ้ มท่ีดี 7. ดา้ นการเป็นแบบอยา่ งท่ีดีต่อศษิ ย์ ควรปลูกฝงั ให้ ครูเป็นแบบอย่างที่ดี คือ การใหค้ รปู ระพฤตปิ ระพฤติตน เป็นตวั อย่างท่ีดที ง้ั ทางกาย วาจาและจิตใจ ครูท่ีดตี ้องทำความเข้าใจในธรรมชาตกิ ารเรียนรูร้ วมทัง้ วิธีการเขา้ ถึงความรขู้ องผู้เรยี น ตอ้ งปรับเปลี่ยนวิธี คิดและปรับตัวให้เท่าทันกับวิทยาการร่วมสมัย ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นครูศตวรรษที่ 21 จะต้องพัฒนา ตนเองในหลากหลายรูปแบบและวิธีการจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสมจะต้องมคี วามก้าวหน้าของเทคโนโลยี สารสนเทศและวิทยาการต่างๆ อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะช่วยให้ผู้เรียนบรรลุศักยภาพของตนเองได้ ครูก็ต้อง เปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เท่าทันแล้วย่อมบ่มเพาะให้ผู้เรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ รู้จักนำเครื่องมือวิธีการ และทกั ษะการเรียนร้ทู ี่จำเปน็ มาใชใ้ นการดำรงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งปกตสิ ขุ ดังนั้นแนวทางการพัฒนาครูวถิ ีใหม่ฉลาดรู้เท่าทันดจิ ิทัล สามารถพัฒนาตนเองให้มีความรู้เกี่ยวกับทักษะ ในการใช้ดิจิทัลอย่างชาญฉลาดและเท่าทันดิจิทัลที่เหมาะสมใน 8 ด้าน ดังน้ี 1. ทักษะในการรักษาอัตลักษณ์ที่ดี ของตนเองผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ ฯลฯ เพื่อดึงดูดให้มีผู้เข้ามาติดตามในการซื้อการขายออนไลน์ 2. ทักษะในการรักษาข้อมูลส่วนตัว การไม่เปิดเผยข้อมูลของตนเองบนโลกออนไลน์มากเกินไป 3. ทักษะการคิด วิเคราะห์ มีวิจารณญาณทจ่ี ำเป็นตอ่ การเลอื ก จดั ประเภท วิเคราะห์ ตีความ และเขา้ ใจขอ้ มลู ขา่ วสาร 4. ทกั ษะใน การรักษาความปลอดภยั ของตนเองในโลกไซเบอร์ การไม่ส่งรูปหรือข้อมลู สำคญั ลงบนอินเทอรเ์ น็ตถงึ แม้ว่าจะเป็น การส่งแบบส่วนตัวก็ตาม 5. ทักษะในการจัดสรรเวลาหน้าจอ กรณีท่ีจำเป็นต้องใช้หน้าจอเป็นระยะเวลานานควร หยุดพักผ่อนเป็นระยะและขยับร่างกายบ้าง 6. ทักษะในการบริหารจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้งานมีการทิ้งไว้บนโลก ออนไลน์ หลีกเลี่ยงการโพสต์ทรัพย์สินทีม่ คี ่ามีราคาบนพ้ืนท่ีสาธารณะเพราะอาจตกเป็นเหย่ือของอาชญากรรมได้ 7. ทักษะในการรับมือกับการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ การเก็บหลักฐานเพื่อบังคับใช้ทางกฎหมายกับผู้ที่กล่ัน แกล้ง 8. ทักษะการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม การโพสต์ข้อความหรือแชร์สิ่งใดต้องคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ เปน็ หลกั โดยตระหนักอยูเ่ สมอว่าขอ้ มูลท่ีนำเสนอนเป็นขอ้ มลู ท่มี ีการกล่ันกรองและตรวจสอบความถกู ตอ้ งแล้ว
นางสาวยวุ ดี โพแกว้ เลขท่ี 9 หมู่ 3 แหลง่ ขอ้ มลู อ้างอิง ทศั นา ประสานตร. (2561). การปลูกฝงั จิตวญิ ญาณความเป็นครู. วารสารวิชาการหลกั สูตรและ การสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ปีที่ 10 ฉบับที่ 29 เดือนกันยายน-ธันวาคม 2561. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2565 จาก https://jci.snru.ac.th/Files/Article/20-ArticleTextFile-20190812143045.pdf ประสาท เนืองเฉลิม. (2562). ครูในศตวรรษที่ 21. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคามีที่ 39 ฉบับที่ 1 มกราคม - กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2565 จาก http://www.journal.msu.ac.th/upload/articles/article2588_98823.pdf ราณี จีนสุทธิ์และหทัยภัทร จีนสุทธ์ิ. (2564). แนวทางการพฒั นาครูวิถีใหม่ฉลาดรู้เท่าทันดจิ ิทัล. คุรุสภา วิทยาจารย์ JOURNAL OF TEACHER PROFESSIONAL DEVELOPMENT สืบค้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2565 จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/withayajarnjournal/article/view/244933/166151
บทสรุป การพฒั นาวชิ าชพี ครเู ปน็ การเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่อื งของครู จึงตอ้ งออกแบบกิจกรรมพฒั นาวิชาชพี ท่ีบูรณา การกบั การทำ งานเพอ่ื ใหค้ รไู ด้ปรบั ปรงุ การสอนที่จะส่งผลตอ่ การพฒั นาศกั ยภาพการเรียนรูข้ องนักเรยี น ความสำเร็จของทุกรูปแบบทุกกจิ กรรมของการพัฒนาวิชาชีพครูจำ เป็นทีค่ รูตอ้ งมพี นั ธสญั ญาตอ่ การเรยี นรูท้ ี่ กระตือรือรน้ ในการพฒั นาตนเอง การจัดสรรเวลา และไดร้ บั การสนบั สนุนทรพั ยากรตา่ งๆ จากผู้บรหิ ารเพ่ือที่ ครูสามารถนำ ส่ิงที่ตนไดเ้ รยี นร้สู ู่การปฏบิ ัตสิ อนในงานประจำ และไดร้ ับข้อมลู ย้อนกลบั อย่างสมำ่ เสมอจาก เพอื่ นร่วมงาน และผู้บรหิ าร และครใู นยุคศตวรรษ ที่ 21 ต้องสอนโดยยดึ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั หมายถึง การที่ครทู ำหน้าที่เป็นผู้ ช่วยเหลือ สนับสนุนใหผ้ ู้เรยี นพฒั นาตนไดเ้ ต็มตามศักยภาพ ใช้เทคโนโลยีมาเปน็ แรงกระตนุ้ สรรหา เทคนิค การสอนแบบใหมโ่ ดยสอดคลอ้ งกับความจำเปน็ เพื่อการดำรงชวี ิตในสงั คมที่ทนั สมยั มนษุ ย์ในยุค ใหม่ต้อง เรียนรสู้ ่ิงใหม่ ๆ ตลอดเวลาครจู ะต้องฝึกนิสยั ให้ผู้เรยี นรกั การเรียนร้ปู รับเปลยี่ นความคิดได้งา่ ย มี การเรียนรู้ อย่างตอ่ เน่อื งและสอนวธิ เี รยี นมากกวา่ สอนเน้ือหา เพราะเน้ือหาในยุคสมัยนมี้ ากเกนิ กวา่ ทจี่ ะ เรยี นรู้ไดอ้ ย่าง พอเพยี งมีการปรับเปล่ยี นอยตู่ ลอดเวลา อีกทง้ั ยุคศตวรรษท่ี 21 หรอื ยุคดจิ ิตอลน้ี เทคโนโลยสี ารสนเทศเปน็ เคร่ืองมอื สำคญั ในการนำมา ประยกุ ต์ใช้ท้ังด้านการพฒั นาครูและการจัดการเรียนการสอน ครจู ึงควรมที ักษะท้งั 8 ดา้ น ตามแนวคิด C- Teacher นอกจากน้ีปญั หาอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่ีขัดขวางการพฒั นาครูและการเรียนการสอนต้องไดร้ ับการแกไ้ ข ให้ถกู จดุ และครอบคลุม แนวทางการพฒั นาครตู ้องทำควบคู่กนั ไปทง้ั ด้านนโยบายทีม่ าสนบั สนนุ และการ พัฒนาตนเองของครู ซงึ่ ต้องอาศยั ความตระหนกั และความรว่ มมอื จากทุกภาคส่วน รวมถงึ การเปิดใจรบั สง่ิ ใหม่ และการปรับตวั ของครดู ้วย หมายเหต:ุ (C-Teacher)รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง 8 ประการคอื 1. Content ครูตอ้ งมีความรแู้ ละทักษะในเรือ่ งทสี่ อนเปน็ อยา่ งดี หากไมร่ จู้ รงิ ในเรอื่ งที่สอนแล้ว ก็ ยากท่ี นกั เรียนจะมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในเน้อื หานั้น ๆ 2. Computer (ICT) Integration ครูต้องมที ักษะในการใช้เทคโนโลยีเขา้ มาช่วยในการ จัดการเรียนการสอน เน่อื งจากกจิ กรรมการเรยี นการสอนทใี่ ช้เทคโนโลยจี ะชว่ ยกระตนุ้ ความสนใจใหก้ บั นกั เรียน และหากออกแบบ กิจกรรมการเรียนการสอนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ จะชว่ ยสง่ เสริมความรู้และ ทกั ษะที่ต้องการได้เปน็ อย่างดี 3. Constructionist ครูผู้สอนต้องเข้าใจแนวคิดท่ีว่า ผเู้ รียนสามารถสรา้ งองค์ความรไู้ ด้ด้วยตัวเอง โดย เชอื่ มโยงความรู้เดิมทีม่ ีอยู่ภายในเข้ากับการไดล้ งมือปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ดงั น้ันครจู งึ ควรน าแนวคิดน้ีไป พัฒนา วางแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพ่อื ใหน้ ักเรียนเกิดความรู้ท่ีคงทนและเกิดทกั ษะท่ีตอ้ งการ
4. Connectivity ครตู ้องสามารถจดั กิจกรรมให้เช่ือมโยงระหวา่ งผู้เรยี นด้วยกนั ผู้เรยี นกับครู ครู ภายใน สถานศึกษาเดยี วกนั หรือตา่ งสถานศกึ ษา ระหวา่ งสถานศกึ ษา และสถานศกึ ษากับชุมชน เพอื่ สรา้ ง สภาพแวดลอ้ มในการเรยี นรทู้ ่ีเปน็ ประโยชน์ ให้นกั เรยี นได้ลงมอื ปฏิบตั ิอันจะกอ่ ใหเ้ กดิ ประสบการณ์ตรงกบั นักเรยี น 5. Collaboration ครูมีบทบาทในการจดั กิจกรรมการเรยี นร้ใู นลักษณะการเรยี นรู้แบบรว่ มมอื ระหว่าง นักเรยี นกับครู และนกั เรียนกับนกั เรยี นดว้ ยกนั เพือ่ ฝกึ ทกั ษะการท างานเป็นทมี การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง และ ทักษะส าคญั อื่น ๆ ที่เก่ียวข้อง 6. Communication ครูตอ้ งมที ักษะการสื่อสาร ท้ังการบรรยาย การยกตวั อยา่ ง การเลือกใช้สอ่ื และการน าเสนอ รวมถงึ การจดั สภาพแวดล้อมให้เอือ้ ต่อการเรยี นรู้ เพอ่ื ถ่ายทอดความรใู้ ห้กับนักเรียนได้อยา่ งเหมาะสม 7. Creativity ครูต้องออกแบบ สร้างสรรคก์ ิจกรรมการเรียนรู้ จดั สภาพแวดล้อมให้เอ้ือตอ่ การ เรียนรดู้ ว้ ย ตนเองของผูเ้ รียนมากกว่าการเป็นผู้ถ่ายทอดความรูห้ น้าห้องเพยี งอย่างเดียว 8. Caring ครตู ้องมมี ทุ ติ าจติ ต่อนกั เรียน ต้องแสดงออกถึงความรัก ความหว่ งใยอย่าง จริงใจตอ่ นกั เรยี น เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเกิดความเช่อื ใจ สง่ ผลใหเ้ กดิ สภาพการเรยี นรูต้ ่ืนตวั แบบผอ่ นคลาย ซึ่ง เป็นสภาพทน่ี ักเรยี นจะ เรียนรไู้ ดด้ ที ีส่ ดุ อา้ งองิ วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคามปที ่ี 11 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มีนาคม พ.ศ. 2560.การ พัฒนาวิชาชีพครู Teacher Professional Development.สืบค้าเม่ือ 12 เมษายน 2565.จาก http://edu.msu.ac.th/journal/home/journal_file/317.pdf พระครสู ุตวรธรรมกิจ,ผศ.ดร. พระมหาพงศ์ทราทิตย์ สธุ ีโร มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาลัยสงฆ์ร้อยเอด็ .การพฒั นาครไู ทยสู่ศตวรรษท่ี 21 Development of Thai Teachers to 21st Century. วารสารบณั ฑิตสาเกตปริทรรศน์ ปีท่ี 5 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม - ธันวาคม 2563. ภาสกร เรอื งรอง, ประหยัด จริ ะวรพงศ์ * วณิชชา แม่นยา, วลิ าวลั ย์ สมยาโรน, ศรัณยู หมื่นเดช, ชไม พร ศรสี รุ าช.เทคโนโลยีการศึกษากบั ครูไทยในศตวรรษท่ี 21. สบื ค้าเมอื่ 12 เมษายน 2565.จาก https://hooahz.files.wordpress.com/2013/11/e0b980e0b897e0b884e0b982e0b899e0b982e0b 8a5e0b8a2e0b8b5e0b881e0b8b2e0b8a3e0b8a8e0b8b6e0b881e0b8a9e0b8b2e0b881e0b8b1 e0b89ae0b884e0b8a3.pdf
Search