Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รุ่น23 หมู่1 Work 1-E-book (สรุปบทความ)

รุ่น23 หมู่1 Work 1-E-book (สรุปบทความ)

Published by technoamp, 2022-02-11 16:46:13

Description: รุ่น23 หมู่1 Work 1-E-book (สรุปบทความ)

Search

Read the Text Version

การจดั การเรียนรทู้ างออนไลนอ์ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพในยคุ ดจิ ทิ ลั (Efficiency in Online Learning Management of Digital Age) โดย... ดร. เจรญิ ภวู จิ ติ ร*์ นกั ทรพั ยากรบคุ คลชำนาญการพิเศษ อา้ งองิ จาก ดร. เจริญ ภูวิจิตร์.(2564). การจัดการเรียนรู้ทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล .กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์ สำนกั งานปลดั กระทรวง ศกึ ษาธิการ. Lorico DS. Lapitan, Jr.,/ Cristina E. Tiangco,/ Divine Angela G. Sumalinog,/ Noel S. Sabarillo, /Joey Mark Diaz. (2 0 2 1 ) . An Effective Blended Online Teaching and Learning Strategy during the COVID-19 Pandemic. Elsevier B.V.: Department of Chemical Engineering, Faculty of Engineering, University of Santo Tomas, Manila, Philippines. Wei Bao.(2020). COVID-19 and online teaching in higher education:A case study of Peking University. Ministry of Education of China: Institute of Education Economy, Peking University, Beijing,China. ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ในปัจจุบัน ส่งผลต่อการเลื่อนเปิด สถานศึกษา และเกิดการแพร่หลายของแนวทางจัดการเรียนรู้ออนไลน์ผ่าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสารสนเทศขึ้นอย่าง มากมาย ดังนั้น ครูผู้สอนในฐานะผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้แก่นักเรียน ต่างก็มีการปรับตัว และเตรียมทักษะเพื่อรับมือกับแนว ทางการจัดการเรียนรแู้ บบใหม่ วตั ถุประสงคข์ องการศึกษาในครง้ั น้มี ีดังนี้ ๑. เพ่ือทราบถึงการจัดการเรียนรทู้ างออนไลน์อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพในยุคดจิ ิทัล ๒. เพ่อื ใหส้ ามารถนำประโยชนจ์ ากการจดั การเรยี นรู้ทางออนไลน์อยา่ งมีประสิทธิภาพไป ประยกุ ตใ์ ช้ต่อไปได้ จากผลการวิจยั ทงั้ 3 เรื่อง ไดแ้ ก่ 1. An Effective Blended Online Teaching and Learning Strategy during the COVID-19 Pandemic โดย Lorico DS. Lapitan, Jr., Cristina E. Tiangco, Divine Angela G. Sumalinog, Noel S. Sabarillo, and Joey Mark Diaz (๒๕๖๔ ) 2. COVID-19 and online teaching in higher education:A case study of Peking University โ ด ย Wei Bao, Graduate School of Education,Institute of Education Economy 3. การจัดการเรียนรู้ทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล (Efficiency in Online Learning Management of Digital Age) โดยดร. เจรญิ ภูวจิ ติ ร์ จากการศึกษาดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า การจัดการเรียนรู้ทางออนไลน์อย่างมี ประสิทธิภาพในยุคดิจิทัลนั้นการจัดการ เรียนรู้ทางออนไลน์อย่างมี ประสิทธิภาพในยุคดิจิทัลนั้นพบว่ามี ๕ ทักษะในการจัดการเรียนรู้ทางออนไลน์ ๘ วิธีการสอนที่ สามารถ ส่งเสรมิ และกระตนุ้ การเรียนรขู้ องผู้เรยี น ๖ เคล็ดลับทีส่ รา้ งสรรค์บูรณาการการสอนออนไลน์และ เสรมิ สร้างการเรียนรู้ เชงิ รุก และรวมถึงการใช้กลยทุ ธ์การเรียนรู้แบบผสมผสาน ๕ องคป์ ระกอบ คือ การ คน้ พบ (Discover) การเรียนร้(ู Learn)

การฝึกปฏิบัติ(Practice) การร่วมมือ (Collaborate) และ การ ประเมิน (Assess) ซึ่งจะเปน็ ตัวเลือกที่มปี ระสิทธิภาพที่สามารถ นำมาปรบั ไปสกู่ ารสอนออนไลนไ์ ดด้ ังน้ี ๕ ทกั ษะในการจัดการเรยี นรทู้ างออนไลน์ ๑. ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือการศกึ ษา และการสร้างสรรค์ ๒. ทักษะการสือ่ สารทหี่ ลากหลาย ๓. ทกั ษะการบริหาร และจดั เวลาการเรยี นทีย่ ดื หยนุ่ แต่มปี ระสิทธภิ าพ ๔. ทกั ษะการจับประเดน็ และการคดิ วเิ คราะห์ ๕. ทักษะการประเมินผล และใหค้ ำแนะนำทีม่ คี ุณภาพและเหมาะสม ๘ วิธีการสอนทสี่ ามารถ สง่ เสรมิ และกระตนุ้ การเรียนร้ขู องผู้เรยี น ๑. กำหนดแนวทางทช่ี ดั เจน ๒. ออกแบบการสอนท่ีนา่ สนใจ ๓. เลือกเครือ่ งมือการสอนท่เี หมาะสม ๔. กระตุ้นให้นกั เรียนทำงานรว่ มกันแบบออนไลน์ ๕. ใช้ประโยชน์จากการทำงานทง้ั แบบกล่มุ และแบบเดี่ยว ๖. ใช้ทรัพยากรท่ีมอี ยู่ ๗. มีการปิดการสอน ๘. ใหน้ ักเรยี น Feedback ๖ เคล็ดลบั ทสี่ รา้ งสรรคบ์ ูรณาการการสอนออนไลน์ ๑. เตรียมแผนการเอาไวล้ ่วงหนา้ สำหรบั เหตกุ ารณ์ไมค่ าดฝนั ๒. แบง่ เนื้อหาออกเป็นสว่ นย่อย ๆ เพอื่ เพ่มิ ความสามารถในการจดจ่อของนักเรียน ๓. ใช้เสียงสรา้ งบรรยากาศในการเรียนรู้ ๔. ปฏิบตั งิ านร่วมกบั ผู้ชว่ ยสอน และลองขอความช่วยเหลอื จากทีมสนบั สนนุ ๕. เสริมสรา้ งการเรียนร้เู ชิงรกุ นอกชน้ั เรียน ๖. บรู ณาการเรียนการสอนแบบออนไลนร์ ่วมกบั การเรยี นรู้ด้วยตนเอง การใช้กลยทุ ธก์ ารเรียนรู้แบบผสมผสาน ๕ องค์ประกอบ 1. การค้นพบ (Discover) 2. การเรยี นร้(ู Learn) 3. การฝกึ ปฏบิ ัต(ิ Practice) 4. การรว่ มมือ (Collaborate) 5. การประเมนิ (Assess) เลขที่ 13 นางสาว ธนั ยพร ธญั รวฒั นศริ ิ ป.บณั ฑิต วิชาชีพครู ร่นุ 23 หมู่ 1

สรุปบทความทางวิชาการ ช่อื บทความ ความรทู้ ไี่ ด้รับ แหลง่ อ้างอิง -แนวคิดของ Jensen เรือ่ ง ขัน้ ตอนจัดการ สพุ จน์ ศิลปวฒั นา เกตุมณี มากมี และวารุณี เรียนรโู้ ดยใชส้ มอง 5 ขนั้ ตอน โพธาสินธ์ุ. (2565). การศึกษาผลการจัดการ 1.ขน้ั ตอนเตรียมความพรอ้ ม เรียนรโู้ ดยใช้สมองเป็นฐาน ในรายวชิ า 2.ข้ันตอนการรบั ความรใู้ หม่ ภาษาไทย วฒั นธรรมไทย และประวัติศาสตร์ 3.ขน้ั ตอนการเรียนรู้โดยละเอยี ด ไทย สาหรับนักเรยี นระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4.ขน้ั ตอนการจดจาซึบซับความรู้ 1 และ 2 แบบยดื หยุ่น โรงเรียนคริสเตยี น 5.ข้นั ตอนการบูรณาการต่อยอดความรู้ เยอรมนั เชยี งใหม่. วารสารมหาวิทยาลัยพายพั , -ส่ือและนวัตกรรมจดั การเรยี นรู้ (2), 11-16 1.สือ่ ของจริงตามธรรมชาติทีพ่ บเห็นได้ โดยทั่วไป สามารถสัมผัส คนุ เคย เข้าใจง่าย 2.ทัศนศึกษาสมั ผัสพน้ื ท่ีธรรมชาติ 3.กระดานเคลอ่ื นที่ สามารถติดบตั รติดบัตร ตวั อกั ษรหรอื ตัวเลข -วเิ คราะหแ์ ละประมวลผลข้อมูล ใชส้ ถิติเชงิ พรรณนา 1.รอ้ ยละ 2.คา่ เฉลย่ี 3.สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน 4.เปรียบเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหวา่ งกอ่ นเรียนและหลังเรยี น สรปุ ผล แผนการจดั การเรียนรแู้ บบใช้สมองเป็นฐาน เป็นแผนจัดการเรียนรู้ทีม่ ีประสทิ ธิภาพ และ การใชแ้ ผนจัดการเรยี นรูด้ ังกล่าวส่งผลให้ กลมุ่ เป้าหมายมผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลัง เรียนไดส้ ูงกวา่ ก่อนเรยี น

แหล่งอ้างอิง -แนวคดิ ของ Seligman and ปริยานชุ วฒุ ิ ชูประดษิ ฐ์ และสุภทั ร ชู Csikszentmihalyi เร่ือง จิตวทิ ยาเชิงบวก ประดษิ ฐ.์ (2565). จติ วิทยาเชิงบวก: กลยุทธ์ โดยสง่ ผลใหเ้ กิดความแขง็ แกร่งทางดา้ นจติ ใจ เพอื่ พัฒนาผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21, วารสาร และรา่ งกาย แบ่งออกเป็น 3 กล่มุ สังคมศาสตรแ์ ละมานษุ ยวิทยาเมืองพุทธ, (1), 1.กล่มุ แนวคดิ ของคุณลกั ษณะเชิงบวก 1-14 หรอื จุดแข็งของบคุ คล 2.กลุ่มแนวคดิ จิตวิทยาเชงิ บวก 3.กลมุ่ แนวคิดแนวโนม้ ของบคุ คลที่มีคณุ ลกั ษณเ์ ชงิ บวก -กรอบแนวความคดิ ของผู้การใชจ้ ิตวทิ ยาเชิง บวกเพ่ือพฒั นาทักษะของผูเ้ รียนในศตวรรษที่ 21 เรียกว่า CPAEM Model มี 5 ขั้นตอน 1.วเิ คราะห์สภาพชนั้ เรียนและจุดมงุ่ หมายการ พฒั นาผ้เู รียน(Contextual Analysis : C) 2.เตรยี มผู้เรียนใหพ้ ร้อมสู่การพฒั นา (Preparation : P) 3.ปฏิบัตกิ ิจกรรมการเรียนการสอน (Action : A) 4.ประเมนิ ผลและการใหข้ ้อมูลยอ้ นกลับ 5.กากับตดิ ตามผลและการพฒั นา (Monitoring) สรปุ ผล เปน็ การนาเสนอมโนทศั น์ใหมท่ ส่ี ามารถนาไปสู่ การปฏิบตั ิได้อยา่ งเปน็ ขัน้ ตอนตามหลกั วิชาการ โดยเนน้ ท่กี ารมีส่วนร่วมปฏสิ ัมพนั ธ์ ระหว่างผู้สอนและผเู้ รยี นในระดบั ชน้ั เรียน และสามารถนามาเป็นแนวทางในการจัด กจิ กรรมสร้างสรรค์การเรียนร้ใู หเ้ กิด ประสทิ ธผิ ลอย่างยงั่ ยนื

แหลง่ อา้ งอิง -แนวคิดของ John Dewey การสอนแบบ อมลวรรณ เดชสภุ า ปทั มาวดี เลห่ ์มงคล และ เนนผูเรียนเปนศนู ยกลาง (Child –centered อรพรรณ บตุ รกตัญญู. (2565). ผลการจัด teaching) การเรียนรูแบบแกปญหา กจิ กรรมประกอบอาหารท่ีมีตอพฤตกิ รรม (Problem solving) หรือเรียนดวยการปฏิบตั ิ ความเชอ่ื มั่นในตนเองของเดก็ ปฐมวยั . วารสาร (Learning by doing) มหาวิทยาลัยพายัพ, (2), 36-49 -เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู 1.แผนการจดั กิจกรรมประกอบอาหาร จานวน 16 แผน 2.แบบประเมินความเชื่อม่ันในตนเองของ เดก็ ปฐมวยั จานวน 9 ขอ้ 3.แบบบันทึกพฤตกิ รรมความเชอื่ มั่นในตนเอง ของเด็กปฐมวยั -วิเคราะห์และประเมนิ ผล 1.เชงิ ปรมิ าณ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน 2.เชงิ คุณภาพ (Standard Deviation) บนั ทึกความเช่ือมัน่ ในตนเองของเดก็ ปฐมวยั โดยจดั กิจกรรมประกอบอาหาร สรุปผล เดก็ ปฐมวยั มีคาเฉลยี่ คะแนนพฤติกรรมในแบบ ประเมนิ พฤตกิ รรมความเชื่อม่ันในตนเองของ เด็กปฐมวยั ทัง้ 3 ดาน หลังการทดลองที่ไดรบั การจดั กิจกรรมการประกอบอาหารสงู กวา กอนการทดลอง หมู่ 1 เลขท่ี 14 นางสาวจฑุ าวรรณ พีรชัยเดโช

การออกแบบรูปแบบการเรยี นการสอนดว้ ยกระบวนการเรยี นรู้แบบ MIAP บนเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์ กระบวนการเรียนรู้แบบ MIAP แบ่งเป็น 4 ขนั้ ตอน ดังนี้ ขน้ั สนใจปญั หา (Motivation) ผูส้ อนสรา้ งแรงจงู ใจด้วยการนำเข้าสู่บทเรียนจาก การตั้งคำถามให้อยู่ในกรอบของเนื้อหาตามจุดประสงค์การเรียนรู้ผ่านสื่อต่าง ๆ บน เทคโนโลยีการประมวลผลแบบ ขัน้ ศึกษาข้อมูล (Information) ผู้สอนให้เนือ้ หาหรือขอ้ มลู ทจ่ี ะทำการสอนแกผ่ ู้เรยี น ตามขอบเขตของจุดประสงค์การเรยี นรแู้ ละแผนการสอนทไ่ี ดจ้ ัดเตรยี มไว้ ข้ันพยายาม (Application) ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นฝกึ ปฏิบัตหิ รอื ฝึกหดั แก้ปัญหาด้วยโจทย์ ปัญหา หรอื แบบฝกึ หัดตามขอบเขตของเน้อื หาและกิจกรรมในขั้นศึกษาข้อมลู ขน้ั สำเรจ็ ผล (Progress) ผสู้ อนทำการเฉลยหรือให้คำตอบทถี่ ูกต้องแก่ผ้เู รียนบนเทคโนโลยี การประมวลผลแบบคลาวด์ เพื่อตรวจสอบหรอื ประเมินความสำเรจ็ ผลของผลงานหรอื ผล การฝึกหัดของผูเ้ รยี นทเี่ กดิ จากการเรยี นรู้ ทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 1) ทักษะชีวิตและการประกอบอาชีพ (Life and 2)ทักษะการเรียนรูและนวัตกรรม( Career Skills) Innovation Skills) แหลง่ อา้ งอิง ณัฐพล ธนเชวงสกลุ , ณมน จรี ังสุวรรณ. (2561). การออกแบบรปู แบบการเรียน นักศึกษาระดับปริญญาตรี เพอ่ื สงเสรมิ ทักษะการเรยี นรใู นศตวรรษท่ี 21. วารสารศึกษาศาสต

สรุปผล ผลการประเมนิ ความคิดเห็นของการวิเคราะหและสงั เคราะหกรอบของ รูปแบบ การเรียนการสอนดวยกระบวนการเรียนรูแบบ MIAP บนเทคโนโลยีการประมวลผลแบบ คลาวดของ นักศึกษาระดับปรญิ ญาตรี โดยรวมมรี ะดบั ความคดิ เหน็ อยูในระดับมากท่ีสุด ( X = 4.87, S.D. = 0.35) เมื่อพิจารณาเปนรายดาน พบวา ดานการวิเคราะหปจจัยนาํ เขา และดานการวิเคราะหความตองการจําเปนอยูใน ระดับมากที่สุด ( X = 5.00, S.D. = 0.00) รองลงมา คือ ดานการวิเคราะหกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ MIAP อยใู นระดบั มากที่สดุ ( X = 4.60, S.D. = 0.55) ตามลําดับ ผลการประเมนิ ความเหมาะสมของรูปแบบการเรยี นการสอนดวย กระบวนการ เรียนรูแบบ MIAP บนเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวดของนักศึกษาระดับปริญญา ตรี โดยรวม มีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมากที่สุด ( X = 4.90, S.D. = 0.32) เม่ือ พิจารณาเปนรายดาน พบวา ความเหมาะสมในการนํารปู แบบการเรียนการสอนดวยกระ บวนการเรียนรูแบบ MIAP บนเทคโนโลยีประมวลผล แบบคลาวดของนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี เพื่อสงเสริมทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ไปใชจริง อยูในระดับมาก ที่สุด ( X = 5.00, S.D. = 0.00) รองลงมา คือ ความเหมาะสมของผลการออกแบบ รปู แบบการเรียนการสอนดวย กระบวนการเรียนรูแบบ MIAP บนเทคโนโลยปี ระมวลผล แบบคลาวดของนักศึกษาระดับปริญญาตรี เพื่อสงเสริม ทักษะการเรียนรูในศตวรรษท่ี 21 อยใู นระดับมากทส่ี ดุ ( X = 4.90, S.D. = 0.32) ตามลาํ ดบั (Learning and 3) ทักษะดานขอมลู ขาวสาร การสือ่ สารและเทคโนโลยี (Information, Media, and Technology Skills) นการสอนดวยกระบวนการเรยี นรแู บบ MIAP บนเทคโนโลยกี ารประมวลผลแบบคลาวดของ ตร มหาวทิ ยาลยั นเรศวร, 20(4), 59-69.

มหาวิยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครกบั แนวคดิ การ จดั การเรยี นการสอน โดยใช้ ICT หลักการแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนอยู่ 4 ประการ 1. การสร้างสภาพแวดลอ้ มทใ่ี ช้เว็บไซตเ์ ปน็ ฐานการจดั การเรียนรู้ สไตล์การสอนของผู้สอน และการเรียนรูข้ องผเู้ รยี นท่ไี มส่ อดคลอ้ งกันมีผลให้ผ้เู รยี นเครยี ดไปจนถงึ ลม้ เหลวในการ เรยี นรู้ของ ผ้เู รยี น 2. การเรียนรู้ โดยไมม่ กี ารสอน หลกั การสำคัญ คือ 2.1 ผู้สอนเป็นผนู้ ำสง่ ข้อมูลใหม่ๆ กระตุ้นให้ผูเ้ รียนทำงาน 2.2 การให้ความร้ทู ่ีผ้เู รียนตอ้ งการจะช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกิดการเรยี นรู้ 2.3 ผเู้ รยี นเปลย่ี นบทบาทจากการเปน็ ผฟู้ งั เปน็ ผลู้ งมือปฏบิ ตั ิ 2.4 การใชเ้ วลาในการทำงาน 3. การใชง้ านเปน็ ฐานการเรยี นรู้ Jane Willis ได้เสนอกรอบแนวคดิ เชงิ กระบวนการไว้ 3 ประการ ได้แก่ 3.1 นำเขา้ สู่บทเรียน 3.2 วางแผนทำงานและรายงานผล 3.3 เนน้ ยำทกี่ ารใช้ภาษา วเิ คราะห์ และฝกึ ปฏิบัติ แหล่งอ้างอิง ดวงสุดา เตโชติรส. (2553) มหาวยิ าลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนครกบั แนวคดิ ก

4. การบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการสอน เครอื่ งมือ ICT ทส่ี ามารถนำมาประยุกต์ใช้ ในการ จัดการเรียนรู้ เพ่ือจัดการเรียนการสอนมี 4 ประเภท ดงั นี้ 4.1 ฮารด์ แวร์และอปุ กรณ์ต่อพว่ ง 4.2 ซอฟต์แวร์ทัว่ ไป โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ กราฟกิ และโปรแกรมมัลติมีเดยี 4.3 การจดั การและการใช้เวบ็ ไซต์ 4.4 ระบบจดั การเน้ือหาและการเรียนระหว่างอาจารยก์ บั นกั ศึกษา จากข้อมูลในบทความข้างต้น จะแสดงให้เห็นการใช้ ICT ในยุคเริ่มต้นของการน าระบบ คอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งมีประโยชน์และเป็นการเน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ ในปัจจุบันจึงมีการต่อยอด และพัฒนาระบบต่าง ๆ มากมาย เพื่อเป็นการส่งเสริม การเรยี นการสอนให้ สอดคล้องกับบรบิ ทของสงั คมในปจั จุบัน การ จดั การเรียนการสอนโดยใช้ ICT. วารสารวิชาการและวิจยั มทร.พระนคร, 4(1),1-9.

นักเทคโนโลยกี ารศึกษาในยุคดิจิทลั บทบาทของนักเทคโนโลยีการศกึ ษาในยคุ ดจิ ิทัล 5. 1. ทกั ษะความเขา้ ใจและใช้เทคโนโลยดี จิ ิทลั (Digital skill literacy) ขบั เป็นความรู้และทักษะที่นักเทคโนโลยีการศึกษาต้องเรียนรู้ในเรื่องของ สรุป เครื่องมือ อุปกรณ์ เพื่อให้สามารถข้าถึงได้โดยไม่จำกัดและสนับสนุนในการสร้าง เรยี นวัตกรรมการเรยี นร้เู พ่อื พัฒนาคุณภาพชีวิตใหด้ ขี ้ึน 1. ใ กิจก 2. ทกั ษะการรเู้ ท่าทนั เทคโนโลยสี ารสนเทศ (ICT literacy) การ มีความสามารถในการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการบริหาร 2. เ การ และจัดการระบบเปน็ ฐานข้อมูล สามารถนำไปต่อยอดใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพและประ การ สทิ ธพิ ลสูงสดุ วีด ประ 3. การรู้สารสนเทศ (Information literacy) 3. น นักเทคโนโลยีการศึกษาจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และเป็นผู้ที่ให้คำปรึ กษา กับอ เขา้ แนะนำการเลือกและการสร้างเทคโนโลยีในรูปแบบต่าง 1 ประเมินสารสนเทศและ 4. น วิเคราะห์ การใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์ต่อการพัฒนานวัตกรรม เทค ต่อไป ในร บน 4. การรู้เทา่ ทันสอื่ (Media literacy) มีความรู้ในการเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมในประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เกิด ประโยชน์ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ของการผลิตสื่อเทคโนโลยี แหล่งอา้ งองิ ปยิ าภรณ์ หนุนเพช็ ร, บญุ รตั น์ แผลงศร. (2564). นักเทคโนโลยีการศกึ ษาในยุคด , 18(2), 32-45.

. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Leadership) นักเทคโนโลยีการศึกษาต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในการ บเคลอ่ื นงานด้านเทคโนโลยีการศกึ ษา พฒั นานวตั กรรมเพื่อนำไปสรู่ ะดับสากล ปผล พบว่า บทบาทของเทคโนโลยีการศึกษาก่อนหนา้ การระบาด COVID-19 กับการ ยนการสอนโดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี ใช้ในลักษณะของการผลิตสื่อมัลติมีเดียที่เผยแพร่ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหรือขุด กรรมออนไลนห์ รือบทเรยี นออนไลน์ แบ่งเป็นบทเรียนออนไลนส์ ำหรับทีโ่ รงเรียน เป็น รเสริมทักษะใหผ้ เู้ รียนโดยการสอนหลกั ยังเปน็ การบรรยายจากผู้สอน เทคโนโลยี MOOC (Massive Open Online Courseware) ที่นำมาใช้ในการออกแบบ รเรยี น รสอนแบบออนไลน์และไม่จำกัดจำนวนผู้เรียน ผู้เรียนต้องศึกษาด้วยตนเองผ่านคลิป ีโอและเอกสารประกอบการสอนที่สร้างขึ้น มีแบบทดสอบหลังเรียนและใบ ะกาศนยี บตั รหากผา่ นตามเกณฑท์ ่ีกำหนด นำเทคโนโลยกี ารศึกษามาใชจ้ ัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานระหว่างการเผชิญหน้า ออนไลน์ เป็นการนำเอกสารใบความรู้ ไฟลน์ ำเสนอหรือคลปิ วีดโี อให้ผู้เรยี นศึกษาก่อน าชัน้ เรยี นจริง การสง่ ภาระงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายผ่านทางส่ือออนไลน์ นำเทคโนโลยีการศึกษามาใช้ในการเรียนการสอนแบบผสมผสานออนไลน์ร่วมกับ คนิคการสอน รูปแบบอื่น ๆ รูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ผสมกับแนวคิดบทเรียนแสวงความรู้ นเว็บ (Web Quest) ดิจิทัล. วารสารวิชาการแสงอสี าน มหาวทิ ยาลัยมหากุฏราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตอสี าน

นางสาวฐิติภา เพ็ชรจร ป.บัณฑติ วิชาชพี ครู รุน่ ท่ี23 หม1ู่ เลขท่ี16 สรปุ องคค์ วามรทู้ ่ีไดจ้ ากแตล่ ะบทความ - เทคโนโลยดี า้ นการจดั การเรียนการสอน บทความที่ 1 ดวงสุดา เตโชติรส. (2553) มหาวิยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครกับแนวคิดการ จัดการเรยี นการสอนโดยใช้ ICT. วารสารวิชาการและวจิ ัย มทร.พระนคร, 4(1),1-9. บทความที่ 2 บุญทิพย์ สริ ธิ รังศรี. (2563). การจดั การเรียนการสอนออนไลนส์ ู่กรอบมาตรฐานวิชาชีพ การสอนและสนบั สนุนการเรียนรู้ระดับอุดมศึกษา. ราชวิทยาลยั จุฬาภรณ,์ 2(3),1-17. บทความท่ี 3 ชตุ ิวฒั น์ สวุ ัตถิพงศ,์ อุบล ทองปญั ญา. (2563). การใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ัลเพื่อสง่ เสริมการ เรยี นรู้เชิงรุก. วารสารเทคโนโลยแี ละส่ือสารการศึกษา, 15(18),23-33. สรปุ บทความที่ 1 การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ ICT มีหลกั การแนวคิดในการจัดการเรยี นการสอนอยู่ 4 ประการ คือ 1. การสร้างสภาพแวดล้อมท่ีใช้เว็บไซต์เป็นฐานการจัดการเรียนรู้ สไตล์การสอนของผู้สอน และการเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีไม่สอดคล้องกันมีผลให้ผู้เรียนเครียดไปจนถึงล้มเหลวในการเรียนรู้ของ ผเู้ รียน 2. การเรียนรู้ โดยไมม่ ีการสอน หลกั การสาคญั คอื 2.1 ผู้สอนเป็นผู้นาส่งข้อมลู ใหม่ๆ กระต้นุ ให้ผ้เู รียนทางาน 2.2 การให้ความรู้ทีผ่ ู้เรยี นตอ้ งการจะช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกิดการเรยี นรู้ 2.3 ผเู้ รยี นเปลย่ี นบทบาทจากการเป็นผู้ฟังเป็นผู้ลงมอื ปฏิบัติ 2.4 การใชเ้ วลาในการทางาน 3. การใช้งานเป็นฐานการเรียนรู้ Jane Willis ได้เสนอกรอบแนวคิดเชิงกระบวนการไว้ 3 ประการ ได้แก่ 3.1 นาเข้าส่บู ทเรียน 3.2 วางแผนทางานและรายงานผล 3.3 เนน้ ยาทก่ี ารใชภ้ าษา วิเคราะห์ และฝกึ ปฏบิ ตั ิ 4. การบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการสอน เคร่ืองมือ ICT ที่สามารถนามาประยุกต์ใช้ในการ จดั การเรยี นรู้ เพื่อจดั การเรยี นการสอนมี 4 ประเภท ดงั นี 4.1 ฮารด์ แวร์และอปุ กรณต์ ่อพว่ ง 4.2 ซอฟตแ์ วร์ทั่วไป โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ กราฟกิ และโปรแกรมมลั ตมิ ีเดยี

4.3 การจัดการและการใช้เวบ็ ไซต์ 4.4 ระบบจัดการเนอื หาและการเรียนระหวา่ งอาจารยก์ บั นักศกึ ษา จากข้อมูลในบทความข้างต้น จะแสดงให้เห็นการใช้ ICT ในยุคเริ่มต้นของการนาระบบ คอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน ซึ่งมีประโยชน์และเป็นการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ในปัจจุบันจึงมีการต่อยอด และพฒั นาระบบต่างๆ มากมาย เพ่อื เป็นการส่งเสริมการเรียนการสอนให้ สอดคล้องกบั บรบิ ทของสงั คมในปัจจุบนั สรปุ บทความท่ี 2 การจัดการเรียนการสอนออนไลน์เพ่ือสร้างการเรียนรู้แก่ผู้เรียนตามกรอบมาตรฐานวิชาชีพการสอน และสนับสนนุ การเรียนรรู้ ะดับอดุ มศกึ ษา 1. ผเู้ รยี น 1.1 ความสามารถของผู้เรียน ผู้เขียนสอนผ่านโปรแกรม Microsoft teams ซ่ึงเป็น โปรแกรมทีม่ ีเคร่อื งมอื ตา่ ง ๆ ท่ีชว่ ยในการสอนใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และการประเมินผลการเตรยี ม ความพร้อม ผ่าน Google form 1.2 แรงจูงใจในการเรียนรู้ของผู้เรียน ผู้สอนเคยสอนวิชาหนึ่งบนอีเลิร์นนิง ใช้ LMS ของ Moodle ซึ่งมีโปรแกรม Chat แบบเขียนอยา่ งเดียว และผู้เขียนต้องเพิ่มการส่ือสารแบบพดู เช่น การใช้โปรแกรม skype เสรมิ ทาใหผ้ เู้ รียนเกิดแรงจงู ใจในการเรียน 1.3 ความพรอ้ มและการเตรียมตัวในการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น 2. วธิ กี ารสอน 2.1 การสอนแบบการบรรยาย บทเรียนออนไลน์แบบเปิด (Massive Open Online Course, MOOC) 2.2 การสอนแบบส่ือสารสองทาง ส่ือการสอนแบบ off line เช่น การทาเป็นโมดูลให้ ผู้เรียนได้เรียน แบบ Modular learning พร้อมอัดเป็น clip video สันๆ ที่เป็นโจทย์ แบบสอนสด หรือ แบบ real time มีปฏิสัมพันธ์ออนไลน์ เช่น google classroom หรือสอนผ่านโปรแกรมต่างๆ เชน่ Microsoft teams หรอื Zoom เปน็ ตน้ 2.3 การสอนแบบมอบหมายงาน การให้ทาโครงการ การศึกษาดูงาน หรือการทา workshop 3. ผสู้ อน 3.1 มคี วามรอบรใู้ นด้านเนอื หาวิชาท่สี อน 3.2 มีการเตรียมการสอน

3.3 มีความกระตอื รือรน้ ท่ีจะสอน 3.4 มีความสามารถนาความรทู้ ส่ี อนมาเช่ือมโยงกับประสบการณช์ วี ิตของผเู้ รียนได้ 3.5 มคี วามยดื หยนุ่ ในการเรียนการสอน 3.6 เรียนรรู้ ่วมกับผ้เู รียน จากข้อมูลในบทความข้างต้น จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบสาคัญของการศึกษาในปัจจุบันมี 3 องค์ประกอบหลักๆ คือ 1. ผู้เรียน 2. วิธีการสอน และ 3. ผู้สอน ด้านวิธีการสอนถือเป็นด้านที่มี ความสาคัญอย่างมากของการศึกษาในปัจจุบนั เน่ืองจากสถานการณ์ที่มีการเปล่ียนแปลง และความ ไมป่ ลอดภัยของโรคระบาด ทาให้ผสู้ อนต้องมกี ารปรับตวั และต้องเรียนรู้วธิ กี ารสอนใหม่ๆตลอดเวลา สรปุ บทความที่ 3 การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก อาจารย์ผู้สอนในระดับมหาวิทยาลัย ท่ีมี ประสบการณ์สอนมากกวา่ 8 ปีขึนไป สว่ นใหญเ่ คยใช้โปรแกรม/แอฟพลิเคชนั่ PowerPoint มากทสี่ ุด รองลงมา คือ Line และ Facebook Group ตามลาดบั เทคโนโลยกี ับการสนับสนุนการเรียนรเู้ ชิงรุก 1. โปรแกรม/แอปพลิเคชั่น Quizizz ใช้ในการทดสอบ ถามตอบระหว่างผู้สอน กับผูเ้ รียน 2. โปรแกรม Google Form และ Add on ส่วนเสริม Certify’em ใช้ควบคู่กัน Google Form สร้างเป็นแบบทดสอบออนไลน์ และใช้ส่วนเสริม Certify’em ในการสร้าง ประกาศนียบัตรหรือ Certificate รับรองว่าผู้เรียนสามารถทาแบบทดสอบได้ผ่านเกณฑ์ขันต่าเป็น รอ้ ยละ 3. โปรแกรม/แอปพลิเคช่ัน Padlet โดยผู้เรียนและผู้สอนสามารถโพสต์ข้อความ สื่อ ภาพ ตวั อักษร คลิปวีดีโอตา่ งๆ 4. โปรแกรม/แอปพลิเคชั่น Pinterest ใช้สาหรับค้นหาและเผยแพร่สื่อภาพหรือ สื่อวีดโี อตา่ งๆ 5. โปรแกรม/แอปพลิเคช่ัน Zappar สื่อภาพน่ิง ส่ือวีดีโอ สื่อ 3 มิติ ผู้สอนสามารถ ผลิตสื่อ AR อย่างง่ายๆ ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูปที่มีชื่อว่า Zapwork และผู้เรียนสามารถชมสื่อการ เรียนการสอนด้วยการใช้โปรแกรม/แอปพลเิ คช่นั Zappar 6. โปรแกรม Coggle ใชส้ าหรบั สรา้ งแผนผังความคิดร่วมกันระหวา่ งผู้เรียนบนเว็บ 7. โปรแกรม/แอปพลิเคชั่น Edmodo ระบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ทีท่ าให้ ผูส้ อนสามารถจดั การเรยี นรอู้ อนไลนร์ ว่ มกบั ผเู้ รยี นได้

จากข้อมูลในบทความข้างต้น จะเห็นว่าการเรียนการสอนในยุคไทยแลนด์ 4.0 ผู้สอนมีการ จดั การเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมคี วามกระตือรือร้น มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ สะดวกที่จะเรียนรู้ เชิงรุก มีโปรแกรม/แอปพลิเคชั่นมากมายให้เรียนรู้และสามารถเลือกใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์การ สอนของผ้สู อนไดอ้ ย่างเตม็ ที่

นายธนากร กลิน่ มาลยั 647190118 เลขท่ี 18 หมู่เรียนที่ 1 สรุปบทความ รัตติยากรวาปีกัง.ศศิพรพงศ์เพลินพิศ.สุชีรามะหิเมือง (2563). การพัฒนาความสามารถด้านการ เรียนรู้คําศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมของนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนฤทธิณรงค์รอน . วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 15 (18), 12-22. การพัฒนาการจดั การเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีความเปน็ จริงเสรมิ คือภาพเสมือน 3 มิติจาํ ลองเข้า สโู่ ลกจริง โดยรวบรวมข้อมูล ตัวอกั ษรภาพ และเสียง ลงในสื่อส่ิงพิมพ์โดยใช้สมาร์ตโฟนสแกนไปท่สี ื่อ สิ่งพิมพท์ ี่ไดร้ วบรวมไว้ขอ้ มลู จะประมวลผลผา่ นฮาร์ดแวร์และอุปกรณเ์ คลื่อนทที่ ่รี องรบั ตามท่ีผูว้ จิ ยั ได้ สร้างไว้ทั้งนี้ส่ือการเรียนรู้ คําศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมสอดคล้องกับ แผนการจัดการเรียนรู้ การนําเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมมาใช้ร่วมกับการ เรียนการสอนจะทําให้ เกิดการตอบสนองและเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ที่ผู้เรียน สามารถทําความ เข้าใจเนอื้ หาบทเรยี นได้ง่ายขึ้น มากกว่าการเรียนของผ้เู รียนที่เรียนโดยใชห้ นังสือเรยี นท่ีใช้เทคโนโลยี ความเปน็ จริงเสริม ในการนาํ เสนอภาพประกอบแบบสามมติ ิได้รับความนิยมกวา่ นักเรียนทเี่ รยี นโดยใช้ หนังสือ เรียนแบบปกติ และผเู้ รยี นมีความพึงพอใจหนังสือเรียนที่ใช้เทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม ใน การนําเสนอภาพประกอบแบบสามมิติ และยังทดลองใช้กับ โทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นักเรียน พกพาอยู่เป็นประจํา จึงทําให้การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยี ความเป็นจริงสามารถเข้าถึงผู้เรียนได้ อย่างท่ัวถึง กระต้นุ ใหผ้ ู้เรียนสนใจในการจัดการเรียนรูม้ ากย่งิ ข้ึน นภดล เลือดนักรบ.สุภาณี เสง็ ศร.พศิ ษิ ฐ์ พลธนะ. (2560). ICT: เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื สนับสนุน การเรียนรูส้ กู่ ารเปล่ียนแปลง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อตุ รดติ ถ,9 (1), 70-80. กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่นํา ไปสู่การเปล่ียนแปลงของสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 ผู้สอน หรือผู้จัดประสบการณ์เรียนรู้ให้กับผู้เรียน จะต้องให้ความสําคัญต่อบุคลิกภาพ พฤติกรรมและ ประสบการณ์เดิมท่ีนําไปสู่ประสบการณ์ใหม่ที่เกิดข้ึน การเปลี่ยนแปลงบทบาทของตนเองจากการ

สอน เป็นผู้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนคอยช่วยเหลือให้คําแนะนําต่อผู้เรียนด้วย เทคโนโลยี และสารสนเทศผู้สอนจําเป็นต้องเรียนรู้ควบคู่ไปกับ ผู้เรียน รวมท้ังการย้อนแย้ง ประสบการณ์เดิมของ ผู้เรียนท่ีนําไปสู่ประสบการณ์ใหม่ ด้วยข้อมูลและ หลักฐานเชิงประจักษ์จาก เทคโนโลยีและสารสนเทศ เช่น การให้ผู้เรียนได้เผชิญกับวิกฤติการณ์ท่ีไม่เป็นไปตามมุมมองเดิมของ ตน การเปดิ ใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง การคน้ หาทางเลือกใหม่ การวางแผนการกระทําใหม่ การหา ความรู้และทักษะสําหรับการปฏิบัติตามแผน การเริ่มทดลองทําตามบทบาทใหม่ และการบูรณาการ และผนวกจนเป็นวิถีชีวิตตามมุมมองใหม่ของตน ดังน้ัน ผู้จัดการเรียนการสอนและผู้เรียนต้อง ปรับเปลยี่ นบทบาทของตนเองทนี่ าํ ไปสกู่ ารเปลีย่ นแปลง ของสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 พันธยุทธ ทัศระเบียบ.อรุณ จุติผล.วันฉัตร ทิพย์มาศ. (2562). การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการ จัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนเอกชน สอนศาสนาอิสลาม ในจังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารนาค บุตรปรทิ รรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช,11 (1). 127-140. การศึกษาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้มีความสําคัญอย่างมากในการ เรียนการสอน เพราะการนําเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนเป็นการนําเอาเทคโนโลยีทาง คอมพิวเตอร์ หรือเครือข่ายท่ีเชื่อมต่อกันในการรับส่งข้อมูล หรือดาวเทียม หรือระบบคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน ฯลฯ จะช่วยให้ระบบการบริหารงาน และวธิ ีการ หรือความรู้ต่าง ๆ ที่รวบรวมได้นําไปสกู่ าร ปฏิบัติได้ และสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และทําให้ผู้เรียนมีความรู้และสามารถพัฒนา ตนเองได้ ซ่ึงสามารถใช้ประโยชนก์ ับผู้เรยี นในระบบการศึกษาตามอัธยาศัย สามารถเรียนรู้และพัฒนา ตนเองได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต ดังน้ันการนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอนจึงทํา ให้ครู มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการใช้วัสดุอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศมากที่สุดสูงสุด รองลงมาคือ ด้านการใช้ สารสนเทศในการเรียนการสอน ด้านการใช้แหล่งเทคโนโลยีสารสนเทศใน การเรียน การสอน และดา้ นการใช้ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอน นายธนากร กลิน่ มาลยั 647190118 เลขท่ี 18 หมเู่ รยี นที่ 1



นายวชั รพล อนิ ทรดนตรี ป.บัณฑิต วิชาชพี ครู รนุ่ ท่ี23 หม1ู่ เลขท1ี่ 9 สรุปองค์ความรูท้ ไี่ ดจ้ ากแต่ละบทความ เทคโนโลยดี ้านการจัดการเรียนการสอน บทความที่ 1 ชุติวฒั น์ สวุ ัตถิพงศ์ และอบุ ล ทองปญั ญา. (2563). การใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทลั เพ่ือสง่ เสริม การเรียนรูเ้ ชิงรุก. วารสารเทคโนโลยีและสือ่ สารการศึกษา ECT Journal, 15(18), 23-33 บทความที่ 2 อศั วนิ เนตรโพธแ์ิ ก้ว. (2557). นวัตกรรมสื่อสังคมกับประชาคมอคต.ิ วารสารนเิ ทศ ศาสตรแ์ ละนวัตกรรม นิดา้ , สถาบนั บัณฑิตพฒั นาบริหารศาสตร์,1(1), 19-32. บทความที่ 3 คนางค์ เชษฐบตุ ร. (2551).การรสู้ ารสนเทศ (Information Literacy):ทกั ษะแหง่ การ เรียนรู้. วารสารศึกษาท่ัวไป มหาวิทยาลัยราชภัฏอดุ รธานี,1(2), 12-15. สรปุ บทความที่ 1 การเรยี นการสอนในยุคใหม่ เม่อื มีการนาํ เทคโนโลยเี ขา้ มาประยุกต์ใช้กับระบบการศกึ ษา ทําให้การ เรยี นรูไ้ มไ่ ด้ถกู จํากัดเพียงในช้ันเรยี น ไมไ่ ด้ถูกจาํ กัดด้วยอายุ ผ้เู รียนร้สู ามารถเข้าถงึ รปู แบบการเรียน การสอน แหลง่ เรียนร้ไู ด้ด้วยเทคโนโลยี อนิ เทอรเ์ น็ตและทุกแพลตฟอร์มของการเรียนรู้ขอ้ ดขี องการ เรียนการสอนในยคุ ใหม่ คือการใช้แพลตฟอรม์ รปู แบบการเรยี นการสอนทผ่ี ู้เรียนสามารถเข้าถงึ ไดไ้ ม่ ซับซอ้ นสามารถบริหารจดั การเวลาการเรยี นรดู้ ้วยตนเองตามความต้องการ อย่างไรก็ตามผู้สอนตอ้ ง ปรับวิธีการเรยี นการสอนใหส้ อดคลอ้ งกับแพลตฟอรม์ ของการเรยี นรู้ในด้านเทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษา เพื่อให้ผสู้ อนและผู้เรียนมีปฏิสัมพนั ธ์ร่วมกนั เมอื่ ถามถึงความจําเป็นทส่ี ถานศึกษาต้องเปลยี่ นไปสู่ รูปแบบการเรยี นการสอนในยุคใหมท่ างผูเ้ ขียนบทความก็จะขอยกสถานการณ์โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19) ทําใหส้ ถานศึกษาไมส่ ามารถเปดิ การเรียนการสอนไดต้ ามปกตจิ ําเป็นต้องสร้าง ระบบการเรยี น 132| Journal of Social Science and Buddhistic Anthropology Vol.6 No.9(September 2021)การสอนการเรียนรรู้ ปู แบบออนไลนข์ นึ้ อยา่ งเรง่ ด่วน และผูเ้ รียนยงั ไม่ สามารถปรับตัวกับการเรยี นแบบออนไลน์ จงึ มอี ปุ สรรคในชว่ งเรม่ิ ตน้ ของการปรบั รปู แบบการเรียน การสอนหากสถานศึกษา ผ้สู อน และผ้เู รยี น เตรยี มความพร้อมในด้านการเรยี นการสอนออนไลน์ จะ สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มเพื่อการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งคมุ้ ค่า หลงั จากวกิ ฤต

สถานการณโ์ รคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) นผี้ า่ นไปได้ระบบการเรียนการสอนออนไลน์ จะมาเปน็ สว่ นหน่งึ ท่ีจะเปลย่ี นโฉมระบบการศกึ ษาและรูปแบบการเรียนรู้ในสถานศกึ ษา สรุปบทความท่ี 2 ในศตวรรษท่ี 21 สื่อดจิ ิทลั มบี ทบาทมากข้ึนท้ังในกรอบของภูมิภาคของประเทศใน อาเซียนเองไป จนถงึ ระดบั นานาชาติ ในระดับสากลมีการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและนวตั กรรม คอมพวิ เตอร์ สมัยใหม่เข้ามาบรู ณาการกับการส่ือสารของนิเทศศาสตร์เพื่อความรว่ มสมัยและ ทนั สมัย ทง้ั ใน รูปแบบของการบูรณาการกนั ภายในสาขา (Intradisciplinary) บูรณาการกันใน ลกั ษณะพหวุ ทิ ยาการ (Multidisciplinary) และบูรณาการกนั ในรูปแบบสหวิทยาการ (Interdisciplinary) ที่สามารถสรร สรา้ งการสื่อสารในรูปแบบใหมอ่ อกมาให้เป็นนวัตกรรมมากขึ้น รวมไปถึงการออกแบบส่อื ดจิ ิทัลใน รปู แบบใหม่ท่ผี ู้เขียนเรียกว่า “ส่ือดจิ ิทัลใหม่” (New Digital Media) ใหก้ ารสื่อสารท่ีมิใช่สอ่ื สารผา่ น ทางประสาทสัมผัสใดประสาทหนึง่ ของมนษุ ย์ แต่ ผา่ นทางประสาทสัมผสั ทง้ั ห้าทางท้ังหมดของมนุษย์ กลา่ วคอื การเห็น การไดย้ ิน การล้ิมรส การ ได้กลิ่น และการถูกต้องสัมผสั โดยอาศยั เทคโนโลยี นวตั กรรมทางด้านวศิ วกรรมศาสตร์ คอมพวิ เตอร์ อาทิ ความเป็นจริงเสรมิ เทคโนโลยีแฮปติกส์ และ เทคโนโลยีห่นุ ยนต์ ผสมผสานเข้า กบั ทฤษฎสี ่อื สารในทางนิเทศศาสตร์ ซึ่งตามรายงานการศกึ ษาตา่ ง ๆ ทั้งในประเทศและ ตา่ งประเทศตา่ งเหน็ พ้องไปในทศิ ทางเดียวกันว่าในอนาคตการบูรณาการเพือ่ สรา้ งสรรคก์ าร สอ่ื สารในรูปแบบใหมจ่ ะมีบทบาทความสาํ คัญมากขน้ึ อย่างมนี ยั สาํ คัญ ซึง่ ผู้เขียนเช่ือ วา่ ประเทศ ไทยเองก็ควรจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เทา่ ทันการเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงให้เท่าทนั งานวจิ ัย และการพัฒนาของประเทศอนื่ ในแถบอาเซยี นด้วยเช่นกนั สรปุ บทความท่ี 3 การคน้ คว้าอสิ ระเรอื่ งการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการบรหิ ารสถานศกึ ษาใน ศตวรรษที่ 21 ของโรงเรยี นแสนสขุ สังกัดสาํ นักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 18 มี วตั ถุประสงคเ์ พ่อื ศกึ ษา

1) สภาพการใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การบริหาสถานศกึ ษาในศตวรรษท่ี21ของ โรงเรยี นแสนสุข สังกัดสาํ นกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาเขต 18 2) ปญั หาและข้อเสนอแนะในการใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การบริหาร สถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนแสนสขุ สังกัดสํานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษาเขต 18 กลมุ่ ตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ครจู ํานวน 76คน กําหนดขนาดกลมุ่ ตัวอยา่ งโดย ใชต้ ารางส่มุ ตาม ตารางเครจซี่และมอร์แกน และสมุ่ แบบบ่งช้ันภูมิเคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการวจิ ัยเป็น แบบสอบถามแบบ มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5ระดับการวิเคราะหข์ อ้ มลู ใช้ความถีแ่ ละ ค่าร้อยละคา่ เฉลยี่ และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหาโดยสรุปผลการวิจัยอภิปราย ผลการวจิ ัยและ ข้อเสนอแนะในการวิจัยดังน้ี

บทความเร่ืองท่ี 1 เรือ่ ง แนวคิดการใช้สารสนเทศเพือ่ พฒั นาการเรยี นรูใ้ หเ้ กดิ กระบวนการคิด ผ้แู ตง่ ดร.ปรัชญนนั ท์ นิลสุข สรปุ การบ้านอิเลก็ ทรอนิกส์ ใชส้ าหรบั ติดตอ่ สอ่ื สารระหวา่ ผ้เู รยี น อาจารยเ์ ป็นเสมอื นสมุดประจานกั เรียน โดยที่ นักเรียนไมต่ อ้ งถอื สมดุ การบ้านจรงิ ๆ และใช้ส่งงานตามทีอ่ าจารยก์ าหนด เช่น ใหเ้ ขยี นรายงานโดยท่อี าจารย์ สามารถเปดิ ดูการบ้านอิเลก็ ทรอนิกสข์ องนักเรียนและเขียนบันทึกเพื่อตรวจงาน และให้คะแนนได้แตน่ กั เรียน จะเปดิ ดูไมไ่ ด้ การเรียนร้ใู นยคุ เทคโนโลยีสารสนเทศไม่ไดจ้ ากัดอยู่เฉพาะห้องเรยี นและครู การเรยี นการสอนแบบ ดงั้ เดิมจะ ลดนอ้ ยลง ความสัมพันธ์ระหวา่ งผเู้ รียนและผ้สู อนเปล่ียน เกดิ เปน็ กระบานการเรียนรู้แบบใหม่ จึงมี ความจาเปน็ อย่างเร่งด่วนทท่ี กุ ฝ่ายจะตอ้ งชว่ ยกันพฒั นาองค์ความรู้ใหมจ่ ากองคค์ วามรเู้ ดิมที่อยู่ เพ่ือก่อใหเ้ กดิ ประโยชนม์ ากท่สี ดุ

บทความเรื่อง ท่ี 2 เรื่อง ครูกบั เทคโนโลยีการสอนในศตวรรษที่ 21 ผูแ้ ต่ง 1.ฐิตวิ ัสส์ สขุ ป้อม 2.ณฏั ฐกรณ์ ปะพาน 3.ปยิ าภรณ์ เตชะเรืองรอง 4.อดุ ม ตะหนอ่ ง ประเทศไทยเดนิ ทางมาถึงยคุ ที่เรยี กวา่ 4.0 เป็นยุคแห่งนวัตกรรม มที ัง้ ผ้สู รา้ งผู้สอนและผู้เรียน ทุกคนคนต่างๆ ตอ้ งเป็นนกั คดิ นกั สร้างนวตั กรรม เพื่อใหภ้ าครฐั และภาคเอกชนเกิดความสร้างนวัตกรรมแล้วร่วมมือกนั ใหเ้ กิด ประโยนช์ เกดิ การพัฒนานวัตกรรมตา่ ง ๆ เชน่ ดา้ นการเรียนรู้จงึ เกดิ ขึ้นได้ทุกท่ที กุ เวลาแบบไรพ้ รมแดงผา่ น ระบบเครือข่าย หรอื เปน็ ห้องเรียนอีกหอ้ งท่ีสามารถเรียนไดต้ ลอดเวลา จากเดมิ ท่ีหอ้ งเรยี นสี่เหลี่ยมเลก็ ๆ ครู ทาหน้าท่ถี ่ายทอดวิชาความรใู้ ห้กับนักเรียนเพียงอย่างเดียว ผเู้ รยี นก็มีหนา้ ท่รี บั ความรจู้ ากครผู ู้สอน ยุค 4.0 จึง เปน็ ยคุ ท่นี าสื่อเทคโนโลยีเข้ามามีสว่ นรว่ มในการถ่ายทอดความรู้

บทความเร่ือง ที่ 3 เรื่อง การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ภายใต้สถานการณแ์ พร่ระบาดไวรสั COVID -19 ผูแ้ ตง่ 1. วทิ ยา วาโย 2. อภริ ดี เจริญนุกูล 3. ฉัตรสุดา กานกายันต์ 4.จรรยา คนใหญ่ การจัดการเรยี นการสอนแบบออนไลน์ เปน็ การจดั การเรยี นรู้ที่ผสมผสานองคค์ วามร้รู ่วมกบั นวตั กรรมการ เรยี นร้แู ละเทคโนโลยที ี่ทนั สมัย มรี ูปแบบการสอนท่หี ลากหลาย องค์ประกอบของการจดั การเรียนการสอน แบบออนไลน์ มีครูผู้สอน ผเู้ รยี น เนื้อหา สื่อการเรียนรูแ้ ละแหลง่ เรียนรู้ กระบวนการเรยี นรู้ กระบวนการ ติดตอ่ สือ่ สาร เครือขา่ ยเทคโนโลยี การวัดผลและการประเมนิ ผล จึงมรี ปู แบบเรยี นการสอนแบบออนไลน์ ด้านวิชาการลดนอ้ ยลง จงึ ต้องปรับรูปแบบการเรยี นการสอน ให้มคี วามเหมาะสม ซ่ึงการเรียนการสอนแบบออนไลนจ์ งึ ถอื ว่าเป็นส่วนสาคัญมากที่ทาให้เกดิ เรยี นร้แู ละ สามารถดาเนดิ การได้อยา่ งต่อเน่อื ง



นายศรายุธ โยธะบุรี ป.บัณฑิต วิชาชีพครู รุ่น 23 หมู่ที่ 1 เลขที่ 21 งานสรปุ 3 บทความ โดยให้นกั ศึกษาสรปุ แต่ละบทความเปน็ องคค์ วามรจู้ ากสง่ิ ท่ไี ดใ้ นแตล่ ะบทความ บทความท่ี 1 ณัฐรดาธรรมเวช. (2564). การพัฒนารปู แบบการจดั การเรยี นรู้ห้องเรียนกลบั ดา้ นรว่ มกับบทเรียนออนไลน์ เพอ่ื พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรือ่ งพอลิเมอร์. วารสารราชภัฏเพชรบรู ณส์ าร. กรงุ เทพฯ. มหาวิทยาลัย นอร์ทกรงุ เทพ. สบื คน้ จาก https://www.tci-thaijo.org/tdc/ ผวู้ ิจัยเลอื กศึกษาการพัฒนารูปแบบการเรยี นการสอนแบบหอ้ งเรียนกลบั ด้านร่วมกับบทเรยี นออนไลน์ เรอ่ื งพอลเิ มอร์ ซึ่งผวู้ จิ ยั จดั การสอนนอกห้องเรยี นโดยให้ผเู้ รียนกลับไปศึกษาบทเรียนออนไลนใ์ นระบบ LMS ทบี่ า้ น ผู้เรียนสามารถฝึกทบทวนซำ้ ๆ ได้ หรอื มอบหมายให้ผู้เรียนศกึ ษาค้นคว้าประเดน็ หัวข้อท่ีนา่ สนใจในบทเรยี นแล้วในช่วั โมง ถัดไปในห้องเรยี นให้ผเู้ รียนนำขอ้ มูลที่ได้จากการคน้ คว้ามาแสดงความคิดเหน็ และอภิปรายรว่ มกัน และร่วมกนั ทำ แบบฝกึ หัดในคาบเรียน วตั ถุประสงค์ของการวิจัย 1.เพ่ือหาประสทิ ธภิ าพของบทเรยี นออนไลน์ เรอ่ื งพอลิเมอร์ 2.เพอ่ื เปรียบเทยี บผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน เรอื่ ง พอลเิ มอร์ กอ่ นและหลงั การจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลบั ดา้ นรว่ มกบั บทเรยี นออนไลน์ 3.เพ่อื ศึกษาความพึงพอใจที่มตี อ่ รูปแบบการจัดการเรยี นรหู้ ้องเรยี นกลบั ดา้ นร่วมกบั บทเรยี นออนไลนเ์ ร่ือง พอลเิ มอร์ กล่มุ ตัวอยา่ งทีใ่ ช้ในการวจิ ยั คร้ังน้ีเป็น นักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาวชิ าเทคโนโลยมี ลั ตมิ ีเดียและแอนเิ มชัน คณะ เทคโนโลยสี ารสนเทศและนวตั กรรมดิจิทัลมหาวิทยาลัยนอร์ทกรงุ เทพ วธิ ดี ำเนินการการวิจยั และการเก็บรวบรวมขอ้ มลู 1.สรา้ งเครอ่ื งมอื ในการวิจยั 2.เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.เตรียมใบงานกจิ กรรมการจัดการเรยี นรหู้ ้องเรยี นกลบั ด้าน เรอ่ื งพอลเิ มอร์ และทำ QR Code ของแบบทดสอบ และทำ QR Code ของแบบสอบถามความพงึ พอใจ 4.การจดั การเรียนการสอนนอกห้องเรียนโดยใหผ้ ู้เรยี นกลับไปศกึ ษาบทเรยี นออนไลน์ในระบบ LMS ทบ่ี า้ น 5.การจัดการเรยี นการสอนในห้องเรยี น 6.ให้นักศกึ ษาประเมนิ ความพึงพอใจของผูเ้ รยี นตอ่ รูปแบบการจัดการเรียนรหู้ อ้ งเรยี นกลับด้านร่วมกับบทเรยี นออนไลน์ เรื่อง พอลิเมอร(์ แบบประเมนิ ความพึงพอใจออนไลนโ์ ดยใช้ Google Form)

นายศรายุธ โยธะบุรี ป.บณั ฑิต วิชาชพี ครู ร่นุ 23 หมู่ท่ี 1 เลขท่ี 21 สรปุ และวจิ ารณผ์ ล 1.ผลการประเมินประสทิ ธิภาพของบทเรียนออนไลน์ เร่ืองพอลเิ มอรใ์ นการจดั การเรียนรู้ครง้ั นี้ ผวู้ จิ ยั ไดน้ ำ บทเรยี นออนไลนเ์ ข้ามาใชใ้ นการจัดการเรยี นรูแ้ บบหอ้ งเรียนกลับด้าน ซง่ึ บทเรียนออนไลนม์ ีคณุ ภาพอยใู่ นระดับดี(x= 4.36, S.D. = 0.45) การประเมินประสทิ ธภิ าพของบทเรียนออนไลน์ เร่อื งพอลเิ มอร์พบว่า ประสทิ ธิภาพของบทเรยี น ออนไลน์ เรอื่ งพอลิเมอร(์ E1/E2) เท่ากบั 82.33/81.00 ซึง่ มีประสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80 ทก่ี ำหนดไว้ 2.ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เร่ือง พอลเิ มอร์ ก่อนและหลังการจัดการเรยี นรู้ห้องเรียนกลับดา้ นร่วมกบั บทเรยี น ออนไลน์ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น เรอื่ ง พอลิเมอร์ ก่อนและหลงั การจดั การเรยี นรหู้ ้องเรยี นกลบั ด้านร่วมกบั บทเรียน ออนไลน์สงู กว่ากอ่ นการจดั การเรียนรู้ อย่างมนี ัยสำคญั ทางสถิตทิ ่ีระดบั .01 ซึง่ สอดคล้องกับสมมตฐิ านทตี่ ง้ั ไว้ ทง้ั นี้ เนอ่ื งจากการจัดการเรยี นร้แู บบหอ้ งเรยี นกลบั ทาง เปน็ รูปแบบการเรียนรูท้ ่ีเน้นผูเ้ รยี นเปน็ ศนู ยก์ ลาง สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนได้ เรียนรู้ด้วยตนเอง 3.ผลความพึงพอใจของผเู้ รียนตอ่ รูปแบบการจดั การเรยี นรหู้ อ้ งเรยี นกลับดา้ นรว่ มกับบทเรียนออนไลนเ์ รอ่ื ง พอลิ เมอรค์ วามพงึ พอใจของผูเ้ รียนตอ่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ห้องเรยี นกลับดา้ นร่วมกบั บทเรยี นออนไลนเ์ รอ่ื ง พอลิเมอร์ โดย ภาพรวมผ้เู รยี นมคี วามพงึ พอใจอย่ใู นระดับมาก พิจารณาดา้ นการจดั การเรียนรู้ เปน็ รายขอ้ ขอ้ ท่มี คี ่าเฉล่ียสูงสดุ คือ ทำให้ สามารถเรยี นรไู้ ด้ดว้ ยตนเอง เวลาไหนกไ็ ด้ และทบทวนเน้อื หาไดซ้ ำ้ ๆตลอดเวลา มคี วามพึงพอใจอยใู่ นระดบั มากทสี่ ุด

นายศรายุธ โยธะบรุ ี ป.บัณฑิต วิชาชพี ครู รนุ่ 23 หมู่ที่ 1 เลขที่ 21 บทความท่ี 2 ชมภนู ชุ พุฒิเนตร. (2563). รูปแบบการพัฒนาทกั ษะดิจิทลั แบบออนไลน์ด้วยการเรยี นร้แู บบเชิงรกุ สาํ หรบั นกั ศกึ ษาวิชาชีพครู เพอ่ื เตรียมความพร้อมสู่ยคุ ไทยแลนด์ 4.0. วารสารวิชาการศรีปทุม. ชลบุรี. มหาวิทยาลยั ศรปี ทุม. สืบค้นจาก https://www.tci-thaijo.org/tdc/ ผู้วจิ ยั จึงมีความสนใจในกระบวนการเรียนรู้แบบเชิงรุก (active learning) มาเปน็ แนวทางในการศึกษาและ สังเคราะห์รูปแบบการพัฒนาทกั ษะดจิ ิทลั สาํ หรบั นักศึกษาวชิ าชีพครู เพอื่ เสริมสร้างทักษะทางปัญญาและสร้างทกั ษะ ดจิ ทิ ัลให้กบั นักศึกษา สามารถปรบั ประสบการณแ์ ละประยุกตใ์ ช้ทักษะดจิ ิทลั ในการออกแบบการจัดการเรียนร้ใู หแ้ ก่ ผู้เรียนของนกั ศกึ ษาวชิ าชีพครูได้ในอนาคต วัตถุประสงค์ของการวจิ ัย 1. เพอ่ื ศึกษาทักษะดิจทิ ลั ในปจั จุบันของนกั ศกึ ษาวชิ าชีพครู 2. เพื่อศึกษาความตอ้ งการในการพัฒนาทักษะดิจทิ ัลของนักศกึ ษาวชิ าชพี ครู 3. เพ่ือสงั เคราะหแ์ ละพัฒนารปู แบบการฝึกทักษะดจิ ทิ ัลแบบออนไลนด์ ว้ ยการเรียนรแู้ บบเชิงรกุ (active learning) สาํ หรับนกั ศึกษาวชิ าชพี ครู 4. ประเมินความเหมาะสมของรปู แบบการฝกึ ทักษะดจิ ิทลั แบบออนไลนด์ ้วยการเรยี นรู้แบบเชงิ รุก (active learning) สาํ หรับนกั ศกึ ษาวชิ าชพี ครู วธิ ีดาํ เนินการวจิ ัย ขน้ั ตอนที่ 1 การวจิ ัย สาํ รวจทกั ษะและความตอ้ งการในการพฒั นาทักษะดิจิทัลของนกั ศึกษาวิชาชพี ครู คณะศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์ สถาบนั การจัดการปญั ญาภิวฒั น์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบุรี และ มหาวิทยาลยั ราชภฏั กาญจนบุรี จํานวน 700 คน ขัน้ ตอนที่ 2 การสังเคราะหร์ ูปแบบการพฒั นาทกั ษะดจิ ทิ ลั แบบออนไลน์ด้วยการเรียนรแู้ บบเชงิ รุก โดยการดําเนินการ สมั ภาษณผ์ ใู้ หข้ อ้ มลู สาํ คัญ จํานวน 7 คน ในประเด็นทเ่ี กี่ยวกบั รปู แบบการพฒั นาทักษะดจิ ิทัล ขนั้ ตอนที่ 3 การพัฒนารูปแบบการพัฒนาทกั ษะดจิ ทิ ัลแบบออนไลนด์ ว้ ยการเรยี นรูแ้ บบเชงิ รุก ข้ันตอนท่ี 4 การประเมินผล โดยดําเนินการให้ผูเ้ ช่ียวชาญ จํานวน 3 คน ประเมินความเหมาะสมของรปู แบบการพัฒนา ทักษะดิจทิ ัลแบบออนไลนด์ ้วยการเรยี นรู้แบบเชิงรกุ

นายศรายธุ โยธะบุรี ป.บัณฑิต วิชาชีพครู รุ่น 23 หมู่ที่ 1 เลขท่ี 21 ผลการวิจยั การที่นักศึกษาวิชาชพี ครผู ่านการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัลมาบา้ งแล้ว ทาํ ให้เกิดทักษะการใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ในระดบั หนงึ่ แตก่ ารทนี่ กั ศกึ ษาวชิ าชีพครจู ะมคี วามร้คู วามเขา้ ใจและเกิดทกั ษะดิจิทัลอยา่ งชาํ นาญ ตอ้ งได้รบั การพฒั นาและ ฝึกฝนทักษะดิจิทลั อยา่ งต่อเนือ่ งเพือ่ เตรยี มความพรอ้ มและรเู้ ท่าทนั เทคโนโลยีที่มีการเปลยี่ นแปลงอยู่ตลอดเวลา

นายศรายุธ โยธะบรุ ี ป.บณั ฑติ วิชาชพี ครู รนุ่ 23 หมู่ที่ 1 เลขท่ี 21 บทความที่ 3 ชัดชัย แก้วตา, ศุภาวีร์ มากดี, ขนิษฐา อนิ ทะแสง, ธนั ญะลกั ษณ์ มากดี และอรรถพร วรรณทอง. (2563). การพัฒนาหลกั สูตรอบรม เรื่อง การประยุกต์ใช้แพลตฟอรม์ IoTเพ่ือสร้างนวัตกรรมดิจทิ ัลของผู้เรยี น. วารสารมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์. สุรินทร์. มหาวิทยาลัยราชภฏั สุรนิ ทร์. สบื ค้นจาก https://www.tci- thaijo.org/tdc/ ผูว้ ิจยั สรา้ งรูปแบบหลกั สูตรฝกึ อบรม การประยุกต์ใช้แพลตฟอรม์ IoTเพ่ือสรา้ งนวัตกรรมดิจิทลั ซึง่ เปน็ การ จดั เตรยี มระบบนิเวศ (Eco-System) ในการสร้างนวัตกรรม Internet of Thingsทเี่ กี่ยวกับการเขียนโปรแกรม การสรา้ ง ฮาร์ดแวร์ การเชือ่ มตอ่ การแสดงผลและการควบคมุ นวตั กรรม เพอื่ ให้ผ้เู ริ่มต้นพัฒนานวตั กรรมสามารถก้าวขา้ มปัญหา ดงั กล่าว สามารถสรา้ งสรรค์ผลงานนวตั กรรมให้มากย่งิ ขน้ึ วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ยั 1.เพอ่ื พัฒนาหลักสูตรฝกึ อบรม เรอ่ื ง การประยุกตใ์ ชแ้ พลตฟอร์ม IoTเพอื่ สรา้ งนวัตกรรมดจิ ิทัลของผ้เู รียน 2.เพอ่ื ศึกษาความพงึ พอใจตอ่ หลักสูตรฝึกอบรม เร่อื ง การประยกุ ตใ์ ช้แพลตฟอร์ม IoTเพ่อื สรา้ งนวตั กรรมดิจิทัลของผเู้ รยี น วิธีดำเนนิ การวจิ ยั 1.สรา้ งเครอื่ งมือและโปรแกรมที่ใชใ้ นการวิจัย 2.เลอื กประชากรกลมุ่ ผเู้ ชย่ี วชาญและกลุม่ ตวั อยา่ ง 3.การวิเคราะหข์ อ้ มูล ขน้ั ตอนการวจิ ยั วนั ที่ 1 ให้ผเู้ ข้ารว่ มฝกึ อบรม เข้าใจถงึ ความรู้พ้นื ฐาน Internet of Thing (IoT) พรอ้ มทง้ั เรมิ่ ใชโ้ ปรแกรมเกย่ี วกบั Internet of Thing (IoT) วันท่ี 2 ใหผ้ ูเ้ ข้ารว่ มฝึกอบรม ใชโ้ ปรแกรมเก่ยี วกบั Internet of Thing (IoT) และสรา้ งชนิ้ งานเกย่ี วกบั โปรแกรมเกี่ยวกับ Internet of Thing (IoT) และใหก้ ลุม่ ตัวอยา่ งท าแบบสอบถามความพงึ พอใจท่ีมตี ่อหลกั สตู รฝกึ อบรม เรื่อง การประยกุ ต์ใชแ้ พลตฟอร์ม IoTเพ่ือ สรา้ งนวตั กรรมดจิ ทิ ลั ผลการวิจัย ผลการศกึ ษาความพึงพอใจต่อหลักสตู รฝึกอบรม เร่ือง การประยกุ ตใ์ ช้แพลตฟอร์ม IoTเพ่อื สรา้ งนวัตกรรมดจิ ิทลั ของผู้เรียน พบว่า นกั เรยี นมีความ พึงพอใจตอ่ หลักสตู รฝกึ อบรม เรอื่ ง การประยกุ ต์ใช้แพลตฟอรม์ IoTเพ่ือสร้าง นวัตกรรมดจิ ทิ ลั ภาพรวมอยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ

นายศรายธุ โยธะบุรี ป.บณั ฑิต วิชาชพี ครู รุน่ 23 หมู่ท่ี 1 เลขท่ี 21 Bullet : การเขียนอ้างอิงรูปแบบ APA ✅เขยี นในรปู แบบ APA คือ ชอื่ ผแู้ ตง่ ./(ปพี ิมพ)์ .//ชอื่ บทความ.//ชอ่ื วารสาร,/เลขของปที ่/ี (เลขของฉบับท)ี่ ,/เลขหนา้ . ฉะนั้นคือเขยี น วชิ ยั อนนั พงษ์. (2563). เทคโนโลยีการสอนในศตวรรษท่ี 21. วารสารราชภฏั ยะลา, (2),101-111. วทิ ยานพิ นธฐ์ านขอ้ มลู ออนไลน์ ผู้แตง่ ./(ปพี ิมพ์)./ช่ือเร่ือง/(ปรญิ ญานพิ นธ์ปริญญาดษุ ฎีบณั ฑติ หรอื Doctoral dissertation หรอื วิทยานิพนธ์ ปรญิ ญา มหาบณั ฑติ หรอื master’s thesis)./สถานที่พิมพ.์ /ชอื่ สถาบัน. สืบค้นจาก หรอื Retrieved from http://www.xxxxxxxxx ✅ เช่น พรทิพย์ ว่องไวพิทยา. (2551). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อชว่ ยสนับสนุนการตัดสนิ ใจในการมอบหมายและตดิ ตาม ความก้าวหน้าของงาน กรณีศึกษาบัณฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั นเรศวร (วทิ ยานพิ นธ์ ปรญิ ญามหาบณั ฑติ ). พิษณโุ ลก. มหาวิทยาลยั นเรศวร. สบื ค้นจาก https://tdc.thailis.or.th/tdc/

นางสาวสกุ ัลยา เกตุแกว้ หมเู่ รยี นท่ี 1 เลขท่ี 23 ป.บัณฑิตรนุ่ ที่ 23 การเรียนการสอนแบบออนไลน์ภายใต้สถานการณ์แพรร่ ะบาด ของไวรสั COVID-19 : แนวคดิ และการประยุกต์ใช้จัดการเรียนการสอน วทิ ยา วาโย* , อภิรดี เจรญิ นกุ ลู **, ฉตั รสุดา กานกายันต์***, จรรยา คนใหญ่**** การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) ทำให้ เกิดการปรับตัวเปน็ วิถชี วี ติ แบบใหม่ (New Normal) โดยเฉพาะสถาบนั ทางการศึกษาทีไ่ ม่สามารถจดั การเรียนการ สอนแบบปกตไิ ด้ จึงจำเปน็ ตอ้ งใชร้ ูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพ่ือให้การเรียนรู้เกิดความต่อเนื่อง การ เรียนการสอนแบบออนไลนม์ อี งคป์ ระกอบ ได้แก่ ผสู้ อน ผู้เรยี น เนื้อหา ส่อื การเรียนและแหล่งเรียนรู้ กระบวนการ จัดการเรียนรู้ ระบบการติดต่อสื่อสาร ระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ การวัดและการประเมินผล รูปแบบ การเรียนการสอนมีหลากหลายวิธีที่ทำให้ผู้สอนและผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้การพิจารณาองค์ประกอบและ รูปแบบที่สอดคล้อง เหมาะสมกับลักษณะวิชา และบริบทของผู้เรียนจะนำไปสู่การประยุกต์ใช้สำหรับการจัดการ เรียนการสอนแบบออนไลน์อย่างมปี ระสิทธิภาพ ส่งผลใหผ้ ู้เรียนเกดิ ผลลัพธก์ ารเรียนรตู้ ามวัตถปุ ระสงค์ วิธกี ารเรียนการสอน การเรียนการสอนแบบออนไลน์ แนวคดิ และการประยุกตใ์ ชจ้ ัดการเรียนการสอน ➢ องคป์ ระกอบการจดั การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ การจดั การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ เป็นการจดั การเรียนรูท้ ่ผี สมผสานองคค์ วามรูร้ ว่ มกบั นวัตกรรมการเรียนรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีรูปแบบการสอนที่หลากหลาย องค์ประกอบของการจัดการเรียน การสอนแบบออนไลน์ สรุปไดด้ ังน้ี 1. ผู้สอน (Instructor) เป็นผู้ถ่ายทอดเนื้อหา องค์ความรู้ต่างๆให้กับผู้เรียนให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหา ประสบการณ์ ความเชยี่ วชาญของผู้สอน มีส่วนทำใหก้ ารสอนออนไลน์บรรลเุ ป้าหมาย ซงึ่ บทบาของผสู้ อนเป็นผู้ให้ คำแนะนำ (Guide) พี่เลี้ยง (Mentor) เป็นผู้ฝึก (Coach) อำนวยความสะตวก (Facilitators) เพื่อช่วยให้ผู้เรียน สามารถเลง็ เห็นศกั ยภาพของตนเองในด้านการเรียนรู้ รวมถึงการพัฒนาสมรรถนะในการเรียนทักษะด้านความรูท้ ่ี ใช้ในการทำงาน ความสามารถในการใช้เทคนิคต่างๆในการทำงานที่สอนกันได้ (Hard Skill) เพื่อนำไปสู่การ ปฏิบัติงานที่เหมาะสม และการพัฒนาทักษะด้านอารมณ์ ความสามารถในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมถึงการพัฒนา ตนเอง (Soft Skill) เพอื่ ให้สามารถอยู่ในสังคมรว่ มกับผู้อนื่ ได้อย่างมคี วามสุขรวมทั้งการสง่ เสริมให้เกิดความเข้าใจ เนื้อหาการเรียนได้รวดเร็วและนานขึ้น อย่างไรก็ตามผู้สอนต้องพัฒนาสมรรถนะด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมกระบวนการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาเฉพาะ หน้าขณะที่สอน และควรมีการตดิ ตามการเขา้ เรยี นของผ้เู รยี นอย่างต่อเน่ือง 2.ผู้เรียน (Student) เปน็ ผ้รู บั เน้อื หาและองคค์ วามรู้จากผสู้ อน ซ่ึงผเู้ รียนจำเป็นตอ้ งมคี วาม ในด้านการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศ การรู้เท่าทันสื่อ (Digital Literacy) สามารถสีบค้น วิเคราะห์ข้อมูล ประเมินเน้ือหาอย่างเป็นระบบ โดยใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อมูลได้อย่างเหมาะสม มีการเตรียม ความพร้อมในการเรียนรู้ เช่น การศึกษาขอบเขตของเนื้อหาก่อนเข้าเรียน การสืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการ เรยี นร้จู ากแหล่งเรยี นรู้ต่างๆ การเตรยี มระบบเครือข่ายอนิ เตอร์เนต็ ให้พร้อมใช้งาน การเตรียมสถานที่สำหรับการ

เรียนท่ีเหมาะสม การติดตอ่ ส่ือสารแบบดจิ ิหัสกับผูส้ อนเพื่อให้สามารถมีปฏสิ ัมพันธ์กับผูส้ อนได้เหมาะสม รวมทั้งมี ความฉลาดทางอารมณ์ในการใชส้ ือ่ (Digital Emotional Intelligence) อย่างเหมาะสม 3.เนื้อหา (Content) เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การเรียนการสอนบรรลุดามวัตถุประสงค์ เนื้อหาควรมีการ ออกแบบโครงสร้างตามวัตถุประสงค์ของรายวิชา มีการวางแผนผังรายวิชาเพื่อเป็นระบบนำทางเชื่อมโยงไปสู่ เนือ้ หาดา่ งๆในบทเรยี น สำหรับข้อความของเน้ือหาควรมีความชัดเจน กระชบั เขา้ ใจงา่ ย มีการปรบั ปรุงใหท้ ันสมัย อย่ตู ลอดเวลา เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รียนศกึ ษาทำความเขา้ ใจได้ด้วยตนเองอยา่ งเหมาะสม 4. สือ่ การเรยี นและแหลง่ เรียนรู้ (Instructional Media & Resources) ถอื วา่ มีความสำคัญ เป็นอย่างยิ่งต่อการจัดการศึกษา สื่อการสอนที่ดีจะเป็นส่วนช่วยให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจในเนื้อหาขณะท่ี เรียนได้ สื่อที่ใช้ในการสอนควรที่มีความแปลกใหม่ ดึงดูดความสนใจของผู้เรียนและกระตุ้นการเรียนรู้เช่น วิดีโอ ภาพน่ิง ภาพเคล่อื นไหว สถานการณ์จำลอง บทความวิชาการ เปน็ ต้น 5. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (Learning Process) เป็นกระบวนการออกแบบการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนตาม หัวขอ้ วัตถุประสงค์ เน้ือหา ส่อื การสอบ กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิธีการวดั ประเมนิ ผล โดยอาศยั เทคโนโลยีสารสนเทศ มาออกแบบวิธีการจัดการเรียนรู้กายใต้กระบวนการวิเคราะห์ (Analysis) วางแผนออกแบบ (Panning Design) นำไปใช้ (Implement) พัฒนา (Development) ประเมินผล (Evaluation) หลักสูตรการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ซ่ึง กระบวนการจัดการเรียนรู้ทมี่ ีประสิทธภิ าพ ควรส่งเสริมให้ผเู้ รียนได้สามารถนำเนื้อหาไปประยุกต์สู่การเรียนรู้ตาม สภาพจริง (Authentic Learning) 6. ระบบการติดต่อสื่อสาร (Communication Systems) มีส่วนสำคัญทำให้การจัดการเรียนการสอนแบบ ออนไลน์ประสบความสำเรจ็ ได้ ซึ่งการตดิ ต่อสือ่ สารแบ่งออกเปน็ 2 ชนิด ไดแ้ ก่ 1) การส่ือสารทางเดยี ว (One-Way Communication) เป็นการถา่ ยทอดเนอ้ื หาผ่านสือ่ การสอน เช่น วดิ โี อ (Video) PowerPoint ภาพนิ่ง (Stied) สถานการณ์จำลอง (Scenario) กรณีศึกษา (Case Study) โดยไม่มี ปฏสิ มั พันธ์ระหวา่ งผู้สอนกบั ผเู้ รยี น 2) การสื่อสารสองทาง (Two-Way Communication) เปน็ การถา่ ยทอดเนอื้ หาผา่ น สื่อการสอน เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) ระบบการจัดบทเรียน (Learning Management System: LAS) หรือการเรยี นโดยผ่านแอปพลเิ คชันการประชุมทางวิดีโอ เชน่ Google Hangout Meet, Zoom Meeting, Schoology, Webex , Microsoft Teams เป็นต้น 7. ระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ (Network Systems) เป็นช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้ การเรียนการสอนมคี วามราบร่ืน ระบบเครือขา่ ยสารสนเทศ ประกอบด้วย 1) ระบบเครือข่ายภายในสถาบัน (Intranet) เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในสถานศึกษา ซึ่งให้ ผ้เู รียนสามารถเขา้ มาใชเ้ ครอื ขา่ ยภายในสถานศึกษาสำหรับการเรยี นออนไลน์ได้ 2) ระบบเครือข่ายภายนอกนอกสถาบัน (Internet) ที่เชื่อมต่อระบบเครอข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเพื่อให้ สามารถตดิ ตอ่ ส่อื สารไดอ้ ย่างรวดเรว็ 8. การวัดและการประเมนิ ผล (Measurement and Evaluation) จำเปน็ ตอ้ งมีการวัดและ ประเมินผล โดยมีการวัดและประเมินผลทั้งระหว่างเรียน (Formative Assessment) เช่น การตั้งจำถามการ สงั เกตพฤติกรมผเู้ รียน สะทอ้ นคิด เปน็ ตน้ และภายหลงั จัดการเรียน (Summative Assessment) เช่น การทสอบ ตวั ยแบบทตสอบตา่ งๆ เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรยี น ประสทิ ธผิ ลของการเรยี น เพื่อสะท้อน ความสามารถ การเรียนรูข้ องผ้เู รียน ซึง่ ควรมีความหลากหลาย เพอื่ วดั ประเมินผลผ้เู รียนให้สอดคลอ้ งตามสภาพจริง

รูปแบบการเรยี นการสอนแบบออนไลนม์ ี หลากหลายวิธที ่ที ำให้ผู้สอนและผ้เู รียนมปี ฏสิ มั พันธร์ ่วมกนั สรุปไดด้ งั น้ี 1.การเรียนการสอนออนไลน์ด้วยรูปแบบ Massive Open Online Courses: MOOC เป็นรูปแบบการ เรียนการสอนออนไลน์ทม่ี ีการปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่างผสู้ อนและผูเ้ รียน ซ่ึงเปน็ หอ้ งเรยี นออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่สำหรับ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไปท่ีสนใจเข้าเรียนในสาขาทีต่ นเองต้องการพัฒนาโดยมีองค์ประกอบ ได้แก่ วิดีโอการสอนบรรยายเนื้อหาและการยกตัวอย่างประกอบ เอกสารการสอนแบบออนไลน์ การตอบได้แสดงความ คิดเหน็ ระหว่างผู้สอนและผู้เรยี น 2. การสอนด้วยรูปแบบ Modular Object Oriented Dynamic Learning Environment(Moodle) ซึ่งเป็นระบบการจัดการเรียนการสอนแบบเปิดเสมือนห้องเรียนจริง ทำให้ผู้สอนและผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ ระหว่างกันและกันได้ โดยผู้สอนสามารถออกแบบเนือ้ หา กิจกรรมการเรยี น แบบทดสอบ ช่องทางมอบหมายงาน และการสง่ งาน นอกจากน้ันมสี ามารถสร้างห้องสำหรับการตอบโต้ระหวา่ งผ้สู อนและผเู้ รยี นได้ 3. วิธีการเรียนการสอนออนไลน์ผ่านโปรแกรมการประชุมออนไลน์ ได้ เช่น โปรแกรม Zoom โปรแกรม Google Meeting Hangout เป็นต้น ซึ่งเป็นโปรแกรมการประชุมวิตีโอทางไกลที่ผู้สอนสามารถเตรียมเอกสาร ประกอบการสอน เช่น PowerPoint วิดีโอ รูปภาพ เอกสารการสอนในรูปของไฟล์ Word Excel เป็นต้น โดยที่ ผู้สอนและผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเรียนการสอนได้ รวมทั้งสามารถ บันทึกไฟล์ภายหลังการสอน เพื่อใหส้ ามารถเรียนย้อนหลงั ได้ การประยกุ ต์ใชก้ ารเรยี นการสอนแบบออนไลน์ การประยุกตใ์ ช้การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ แบง่ ออกเปน็ 3 ระยะ สรปุ ได้ดังนี้ ระยะก่อนการสอนออนไลน์ 1. ออกแบบวิธกี ารจดั การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ โดยพิจารณารปู แบบการเรียนการสอนใหเ้ หมาะสมกับ ลักษณะรายวชิ า คำนงึ ถึงความแตกต่างของผู้เรียนแตล่ ะคน เพื่อใหจ้ ัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ใด้สอดคล้อง กบั ผู้เรยี น โดยผูส้ อนควรวิเคราะหเ์ นื้อหาวิชาให้เหมาะสมสำหรับการเลือกใชว้ ธิ ีการจัดการเรียนรู้ โดยเฉพาะวิชาที่ จำเป็นต้องใช้ทักษะปฏิบัติ ควรเลือกใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานเพื่อให้ผู้เรียนสามารถฝึกทักษะปฏิบัติ รว่ มกับผูส้ อนและแก้ไขปัญหาหรอื ขอ้ สงสยั กบั ผสู้ อนได้ทันที 2. ออกแบบส่ือการเรียนการสอน ท่มี ีความทันสมัยหลากหลาย และเข้าใจงา่ ย เชน่ รปู ภาพ วดิ ีโอ คลิป การ์ตูน แอนิมชัน ข้อความกราฟิก เสียงพูด คนตรีประกอบ เพื่อกระตุ้นความสนใจ รวมทั้งสื่อที่ใช้ควรมี การเชื่อมโยงกับ เนื้อหาเพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจงา่ ยขนึ้ โดยเฉพาะอาจเลอื กใช้ส่อื ทมี่ ีอิทธิพลตอ่ ผู้เรียน เช่น ขา่ วสารสถาน การณ์เดน่ ดารานกั แสดง เครือขา่ ยสังคมออนไลน์ เป็นตน้ ร่วมกับเทคนคิ การถ่ายท อดผ่านสอื่ อย่างเหมาะสม จะส่งเสริมให้ผู้เรยี นเกดิ ความสนใจและกระตุน้ การเรยี นรไู้ ด้ แต่สง่ิ สำคญั สำหรับการนำสื่อมาใช้นัน้ ผสู้ อน ควรมีการวางแผน ออกแบบ ตรวจสอบ รวมท้งั นำสือ่ ไปทดลองใชก้ อ่ นแลว้ นำมาปรบั ปรุงแก้ไข เพอ่ื ให้ส่อื การ สอนมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับหวั ขอ้ การเรียนร้เู พ่ิมมากขน้ึ

3. ออกแบบเป้าหมายของการเรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาในด้านการเรียนรู้ตามหลัก 3R7C อย่าง เหมาะสม โดยสมรรถนะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มีความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับการปรับตัวเป็นวิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) ทางการศกึ ษา จากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศมาประยกุ ตก์ บั การเรียนการสอนแบบออนไลน์ ระยะระหว่างการสอนออนไลน์ ในระหว่างทีม่ กี ารเรยี นการสอนนนั้ ผสู้ อนควรมีการจดั กระบวนการสอนใหเ้ หมาะสม เพอ่ื ให้การเรียนการสอน เกิดความราบรื่น สอดคล้องตามแผนการสอน รวมทั้งผู้เรียนให้ความร่วมมือตลอดระยะเวลา การเรียน ซึ่งจาก ทฤษฎีการเรียนรู้ของกาเย่ (Gagne's Theory of Instruction)2s ที่ผู้สอนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ระหว่างการ สอนออนไลน์ ดังนี้ 1. เร่งเร้าความสนใจ (Gain Attention) กอ่ นเขา้ สู่เนื้อหา เช่น วิดีโอ รปู ภาพกราฟกิ สถานการณ์เดน่ ใน ปจั จุบนั หรอื การจดั ส่งิ แวดล้อมในการสอนให้มีความแปลกใหม่ เพ่ือให้เกดิ การเร่งเรา้ ความสนใจของผูเ้ รยี นและ อยากติดตามการเรยี นเพิ่มขึน้ 2. บอกวัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ (Specify Objective) เปา้ หมายของการเรียน เพื่อให้ผเู้ รยี นสามารถเตรยี ม ความพร้อมของตนเองในการเรยี นใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์ 3. ทบทวนความรเู้ ดิม (Activate Prior Knowledge) เปน็ การกระตนุ้ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถทบทวนองค์ความรเู้ ดิม ของตนเองและเชื่อมโยงสู่การเรียนเนอ้ื หาใหม่ไดง้ ่ายข้นึ เช่น การถาม-ตอบ การเล่าประสบการณเ์ รียน การสอบ กอ่ นเรียน (Pre-Test) เป็นต้น 4. นำเสนอเน้ือหาใหม่ (Present New Information) ผู้สอนควรนำเสนอเน้ือหาที่กระชับ มีภาพประกอบหรือมี ผงั ความคิด (Mind Mapping เพ่อื ให้มเี รยี นมีความเข้าใจสามารถสบี คน้ เนอื้ หาจากแหล่งเรียนรู้อน่ื ๆได้ 5. ชแี้ นะแนวทางการเรียนรู้ (Guide Leaning) วธิ ีการและข้นั ตอนของการเรยี นออนไลน์ ซง่ึ เป็น การแนะนำวิธี การบูรณาการความร้เู ดิมทม่ี เี ชอ่ื มโยงเข้ากบั ความรู้ใหม่ เพอ่ื นำไปส่กู ารใชค้ วามร้ทู ่เี หมาะสม 6. ตอบสนองบทเรียน (Elicit Response) ด้วยการมีส่วนร่วมระหว่างเรียน เช่น การตอบคำถามการแสดงความ คิดเหน็ ระหวา่ งเรยี น ท้ังการพูดและการเขียน (Chat Box) เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจเนอ้ื หาของผู้เรียน 7. ให้ข้อมูลย้อนกลับ (Provide Feedback) เป็นสะท้อนการรับการส่งข้อมูลของผู้สอนให้กับผู้เรียนเพื่อทบทวน เปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ 8. ประเมนิ เพื่อการปรบั ปรุงระหว่างการเรยี น (Formative Evaluation) เพ่ือปรับปรงุ ประสทิ ธิภาพของการเรียน การสอนทำใหผ้ ู้สอนสามารถปรับเนื้อห าบทเรยี นใหส้ อดคล้องกับผเู้ รยี น และจำแนกผู้เรียนตามระดับความรู้ความ เข้าใจได้\"ได้แก่ การตั้งคำถาม การให้ข้อมูลย้อนกลับ การสังเกตผู้เรียน ขณะที่มีการสอนแบบออนไลน์ เป็นต้น เพื่อให้ผู้สอนสามารถที่จะปรับการสอนให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งตรวจสอบความรู้ของผู้เรียนเพื่อไม่ให้เกิดความ เขา้ ใจท่ีคลาดเคลอ่ื น 9. เตรยี มกลยทุ ธก์ ารแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ ( Preparing Strategies) กรณที มี่ ีขอ้ จำกดั เกิดขน้ึ ระหว่างการเรียน การสอน อาจมีสาเหตุมาจากระบบเครือข่ายไม่เสถียร ผู้เรียนไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนจากอุปกรณ์ อเิ ล็กทรอนกิ สไ์ มเ่ พียงพอ หรือผู้เรยี นมขี อ้ จำกัดเรื่องคา่ ใช้จ่ายท่เี พิ่มขึ้นจากการใชง้ านอินเตอร์เนต็ รวมท้ังผู้สอนไม่ สามารถจัดการสอนออนไลน์แบบถ่ายทอดสดได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่จำเป็นต้องเร่งแก้ไขตามสาเหตุ เพื่อให้สามารถ จัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

10. สรุปผลการเรียนและการนำความรู้ไปใช้ (Enhance and Transfer) เป็นการสรุปมโนมติการเรียน หัวข้อท่ี สำคญั รวมทั้งเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนถามข้อสงสยั เพ่อื นำไปประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ต่อไป ระยะภายหลงั การสอนออนไลน์ 1. วัดประเมินผลการเรียนเพอ่ื สรปุ ผล (Summative Evaluation) หรอื ทดสอบความรขู้ องผเู้ รียน (Assess Performance) เป็นการทดสอบความรู้ความเข้าใจภายหลังการเรียนรู้ 26 ได้แก่ การเก็บคะแนนภายหลังการ เรียน การส่งขึ้นงาน การทดสอบด้วยข้อสอบ เช่น ข้อสอบอัตนัย ข้อสอบปรนัย การเติมคำ เป็นต้น เพื่อวัด ประเมนิ ผลผู้เรียนภายหลงั การเรียนรู้และจำแนกผเู้ รียนตามระดบั การวัดประเมนิ ผล 2. สะท้อนคิด (Reflection) และทบทวนหลังการปฏิบัติ (After Action Review: AAR) แบ่งเป็น 2 ช้ัน ตอน ขั้นตอนที่ 1 กรสรุปบทเรียนของผู้สอนร่วมกับผู้เรียน เกี่ยวกับเนื้อหาการเรียนรู้ ผลลัพธ์ การเรียนรู้ ปัญหา อปุ สรรคของการเรยี น เพอ่ื นำมาพฒั นาปรบั ปรงุ การเรียนการสอนใหม้ ปี ระสิทธิภาพ ขัน้ ตอนท่ี 2 การสรุปผลการสอนโดยการพจิ ารณาภาพรวมของการสอนตงั้ แตก่ ารเตรยี มความพร้อมก่อน การสอน ระหว่างการสอนว่ามคี วามสอดคลอ้ งของเนอ้ื หาและวิธกี ารสอนตามแผนการสอนมากนอ้ ยเพียงใด การประยุกต์การเรียนการสอนแบบออนไลน์ เป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องมีการออกแบบกิจกรรมการเรียนการ สอนทั้ง 3 ระยะ ได้แก่ ก่อน ระหว่าง และหลังสอน ให้มีความเหมาะสม รวมทั้งควรมีการปรับบทบาทของผู้สอน ผู้เรียน วิธีการสอน สื่อการเรียนการสอน การวัดประเมินผล และสรุปแก้ไขปัญหาจากการเรียนการสอนแบบ ออนไลน์อย่างต่อเนอื่ ง เพ่ือใหส้ ามารถนำไปประยุกตใ์ ชอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพต่อไป แหล่งอา้ งอิง วิทยา วาโย (2563).การเรียนการสอนแบบออนไลน์ภายใต้สถานการณ์แพรร่ ะบาดของไวรัส COVID-19 : แนวคดิ และการประยุกต์ใชจ้ ดั การเรียนการสอน.บทความวชิ าการ, (14) ,285-298

การพฒั นานวัตกรรมการเรียนรูร้ ะดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐานแบบมสี ว่ นร่วมกบั ชุมชนโดยใช้ พพิ ธิ ภัณฑแ์ ละแหล่งเรียนรูใ้ นทอ้ งถิ่น เพ่อื ส่งเสรมิ การเรียนรเู้ ชิงสรา้ งสรรค์ The Development of Learning Innovation for Basic Education Level with Community Participation on Museum and Local Learning Resources for the Creative Learning มาเรยี ม นิลพันธุ์ (Maream Nillapun)* ศิรวิ รรณ วณิชวัฒนวรชัย (Siriwan Vanichwatanavorachai)** การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์และสังเคราะห์ นวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยใช้พิพิธภัณฑ์และแหล่ง เรียนรใู้ นทอ้ งถ่นิ 2) เพ่ือพฒั นานวัตกรรมการเรียนรู้ 3) เพื่อศกึ ษาผลการใช้นวตั กรรมการเรยี นรู้ และ 4) เพอ่ื สงั เคราะหแ์ ละเสนอรปู แบบการพฒั นานวตั กรรมการเรยี นรู้ วธิ ีการเรียนการสอน เป็นการเรียนการสอนที่นำชุมชนเข้ามามีส่วนรวมในการเรียนการสอนในห้องเรียนเพื่อให้ ผู้เรียนมีความหลากหลายนอกเนื่องจากการเรียนในห้องเรียน ซึ่งเป็นการได้ลงมือปฎิบัติจริงและได้ แลกเปลีย่ นความรู้ ความคดิ และทัศนคตติของคนในชมุ ชนกับผเู้ รยี น เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการวจิ ัย ประกอบด้วย แบบสำรวจข้อมลู พน้ื ฐานของชมุ ชน สภาพพิพธิ ภณั ฑ/์ แหล่งเรียนรู้ในท้องถิน่ แบบสมั ภาษณ์ ประเดน็ การสนทนากล่มุ แบบประเมินการใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน วเิ คราะห์ข้อมูลเชงิ คณุ ภาพด้วยวธิ กี ารวเิ คราะห์เนอื้ หา (Content Analysis) วิธดี ำเนินการวิจัย การวจิ ัยคร้ังนี้เป็นการวจิ ัยและพัฒนา (Research and Development) ประเภทการวิจัยเชิง ปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) ในลักษณะของวิธีการวิจัยแบบ ผสมผสานวธิ ี (Mixed Methods Research) โดยมีข้นั ตอนการวจิ ัยดงั นี้ ขั้นตอนที่ 1 (R1) การศึกษาบริบทและนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบ มีส่วน ร่วมกบั ชุมชนโดยใชพ้ ิพธิ ภัณฑ์และแหล่งเรยี นรู้ในทอ้ งถิน่ เพื่อสง่ เสริมการเรียนรู้เชิงสรา้ งสรรค์ ในพื้นที่ 4 จังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ใน 8 จังหวัด ภูมิภาคตะวันตกที่เป็นเครือข่ายของมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นการวิจัย เชิงสารวจเพื่อศึกษาบริบท สภาพการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาว่ามีการนาพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเรียนรู้ใน ท้องถิ่นมาใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้หรอื ไม่ อย่างไร ศึกษาบริบทการมี

ส่วนร่วมของชุมชนหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา โดยดาเนินการศึกษาร่วมกับนักวิจัยท้องถิ่น มีการ ประชุมกลุ่มย่อยเพื่อทาความเขา้ ใจในกระบวนการวิจัยร่วมกันระหว่างบุคลากรของสถานศึกษา ผู้แทนหรือบคุ คล ในชุมชน ผู้รู้หรือผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น ดาเนินการเก็บข้อมูล ตรวจสอบ และสังเคราะห์ ข้อมูล รวมทั้งศึกษาแนวทางการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์แบบมีส่วนร่วมโดยบูรณาการพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ ในระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 (D1) การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วนร่วมกับ ชุมชนโดยใช้พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสรา้ งสรรค์ เป็นขั้นตอนการสร้าง รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเน้นกิจกรรมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ รูปแบบการมีส่วนร่วม และรปู แบบการใช้พพิ ธิ ภัณฑแ์ ละแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เชงิ สร้างสรรค์ นวัตกรรมการ เรยี นรู้ ประกอบดว้ ย หลักสตู รสถานศึกษาที่บรู ณาการพิพิธภณั ฑ์และแหล่งเรียนรู้ท้องถิน่ กิจกรรมบูรณาการ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ขั้นตอนที่ 3 (R2) การทดลองใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วนร่วมกับ ชุมชนโดยใช้พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ โดยคณะผู้วิจัย ที่ ปรึกษาโครงการวิจัย และนักวิจัยชุมชนต่างพื้นที่เข้าร่วมในกิจกรรมที่แต่ละพื้นที่จัดขึ้นตามแนวทาง การพัฒนา นวัตกรรมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ซึ่งได้จากการมีส่วนร่วมของชุมชน การให้ข้อเสนอแนะของคณะผู้วิจัยและ ที่ ปรึกษาโครงการวิจัย ตลอดจนการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ระหวา่ งนักวิจัยชุมชนแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ในระหว่างการทดลอง ใช้นวัตกรรมการเรยี นรคู้ อื หลักสตู รสถานศึกษาท่ีบูรณาการพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรยี นรทู้ ้องถนิ่ กิจกรรมบูรณาการ และกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ได้กาหนดให้มกี ารประเมนิ ผลและปรับปรุงให้เหมาะสมตลอดระยะเวลาการทดลอง ขั้นตอนที่ 4 (D2) ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนากระบวนการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยใช้พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นเพื่อส่งเสริม การ เรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ใช้วิธีการประเมนิ ทั้งเชิงปริมาณและเชงิ คุณภาพ โดยมีประเด็นสำคัญในการประเมนิ ได้แก่ รูปแบบการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระบวนการมีส่วนร่วม และการใช้พิพิธภัณฑ์ และแหลง่ เรยี นรูใ้ นท้องถิ่นเพอื่ ส่งเสรมิ การเรียนรู้เชงิ สร้างสรรค์ สรปุ ผลการวจิ ัย 1.ผลการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยใช้ พพิ ธิ ภณั ฑแ์ ละแหล่งเรยี นรู้ในท้องถน่ิ เพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรู้เชิงสร้างสรรค์พบว่า นวตั กรรมการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย หลกั สตู รสถานศึกษาท่ีบูรณาการพิพธิ ภัณฑแ์ ละแหลง่ เรียนรู้ทอ้ งถน่ิ กจิ กรรมบูรณาการ และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน 2. ผลการใชน้ วัตกรรมการเรียนร้รู ะดบั การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐานแบบมสี ว่ นร่วมกับชุมชนโดยใชพ้ ิพธิ ภัณฑ์และแหล่ง เรียนรู้ในท้องถ่ินเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์พบว่า กลุ่มเป้าหมายที่ใช้นวัตกรรมการ เรียนรู้ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน เกิดความตระหนักและมีจิตสานึกในการใช้พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นให้มี

ประโยชน์อย่างสูงสุด เกิดความรัก ชื่นชม หวงแหนและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันมีค่าของท้องถิ่นและของ ประเทศชาติ 3. ผลการสังเคราะห์และเสนอรูปแบบการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วน รว่ มกบั ชุมชนโดยใช้พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในท้องถ่ินเพอ่ื สง่ เสริมการเรยี นรเู้ ชิงสร้างสรรค์ มีผลการดาเนนิ การจำแนกเปน็ 4 ดา้ นดังนี้ 3.1 ดา้ นการวจิ ยั และพัฒนา การดาเนินการวจิ ยั ในพิพิธภัณฑ์/แหลง่ เรียนรใู้ นท้องถ่ินทง้ั 4 แห่ง มกี ารดาเนิน การวิจัยครบถว้ นและถูกต้องตามระเบียบวิธีวิจยั ผู้วิจยั สามารถออกแบบการวิจัยที่เน้นการวจิ ัยเชงิ ปฏิบัติการแบบ มีส่วนร่วม วิธีดาเนินการวิจัยได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัยที่ต้องการศึกษา ผลการวิจัยที่ได้ตอบ วัตถุประสงคก์ ารวจิ ยั ทไ่ี ด้กาหนดไว้ และสามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ 3.2 ด้านการมีส่วนร่วม การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้โดยใช้พิพิธภัณฑ์/แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นทั้ง 4 แห่ง สมาชกิ ในชุมชน มสี ่วนร่วมโดยมกี ารรว่ มคดิ ร่วมตัดสนิ ใจ รว่ มใหข้ อ้ มลู มสี ่วนร่วมในการดาเนินกิจกรรม ประเมิน และรว่ มรบั ผลประโยชน์ ในทุกขนั้ ตอนของการดาเนินกจิ กรรม 3.3 ด้านการเรยี นรู้ การพัฒนานวัตกรรมการเรยี นร้โู ดยใชพ้ ิพธิ ภัณฑ์/แหล่งเรียนรู้ในท้องถิน่ ทั้ง 4 แหง่ ทาให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เรียนรู้การดาเนินโครงการร่วมกัน และเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ มีความเชื่อม่ัน และภาคภูมใิ จในสง่ิ ทีเ่ รียนรู้ 3.4 ด้านความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้โดยใช้พิพิธภัณฑ์/แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นทั้ง 4 แห่ง ทาให้มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดริเริ่มในการทากิจกรรม สามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลายทาให้ ผู้เขา้ รว่ มโครงการหรอื กจิ กรรม สามารถผลติ ช้ินงานสรา้ งสรรค์ตา่ ง ๆ ได้ แหลง่ อา้ งอิง มาเรียม นิลพนั ธุ์ ,ศริ ิวรรณ วณชิ วฒั นวรชยั (2558).การพัฒนานวตั กรรมการเรียนรรู้ ะดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน แบบมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยใชพ้ ิพิธภณั ฑแ์ ละแหลง่ เรียนรู้ในท้องถน่ิ เพ่ือส่งเสริมการเรยี นรู้เชิงสรา้ งสรรค์, บทความวิชาการ, (1) ,48-61

การพฒั นานวตั กรรมการเรียนการสอนโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ เพือ่ เพิ่มผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นเรื่อง “ผลติ ภณั ฑก์ ารท่องเทยี่ ว” The Development of Teaching and Learning Innovation by Using Instructional Media for Enhancement of Learning Achievement towards Tourism Product ปริวรรต สมนกึ * งานวิจัยเร่ือง การพฒั นานวตั กรรมการเรียนการสอนโดยใช้ส่ือวีดีทัศน์เพ่ือเพิ่มผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนเร่อื ง “ผลิตภัณฑก์ ารทอ่ งเทยี่ ว” มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อ (1) วเิ คราะห์รายละเอียดของวิธีการสอนเรือ่ ง “ผลติ ภัณฑ์การท่องเท่ยี ว” ด้วยวธิ กี ารสอนแบบปกตกิ ับ วธิ กี ารสอนโดยใช้ส่อื วดี ิทศั นเ์ ป็นหลกั (2) เพ่อื เปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนักศึกษากลมุ่ ทดลองและกลุม่ ควบคมุ โดยวธิ กี ารสอนแบบ ปกติกับวิธีการสอนโดยใชส้ ือ่ วีดิทัศนเ์ ป็นหลกั (3) เพ่ือศึกษาระดบั ความพึงพอใจของนักศกึ ษากลุ่มทดลองท่ีมตี อ่ วธิ ีการสอนโดยใช้ส่ือวีดทิ ัศนเ์ ป็นหลัก วิธกี ารเรยี นการสอน เคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ นการวิจยั คือ แบบสอบถาม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ สอื่ วีดทิ ัศน์ วเิ คราะห์ข้อมลู แบบพรรณนาและใช้ สถิติ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน และ t-test วิธีดำเนินการวิจยั การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มทดลองที่เรียนแบบ นวัตกรรมสื่อวีดิทัศน์ จำนวน 20 คนและกลุ่มควบคุมที่เรียนแบบปกติ จำนวน 20 คน ของนักศึกษารายวิชา การตลาด เพื่อการท่องเท่ียวจำนวน 40 คน ในเรื่อง ผลิตภัณฑก์ ารท่องเที่ยวใช้วิธีการสุ่มตัวอยา่ งแบบอาศัยความ น่าจะเป็น โดย ใช้เทคนิคการสุ่มแบบง่ายออกมาเป็น 2 กลุ่มๆละ 20 คน เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ซึ่งใช้ เลขที่เรียงตามลำดับ ของนักศึกษาสลบั กนั ไป โดยดำเนนิ การวิจัยตามวัตถุประสงคข์ องการวจิ ยั ตาลำดบั กลา่ วคอื

(1) วิธีการสอนเรอ่ื ง “ผลติ ภณั ฑก์ ารท่องเท่ยี ว” ดว้ ยวธิ ีการสอนโดยใชก้ ารสอนแบบปกติกบั วิธีการสอนโดย ใช้สื่อวีดิ ทัศน์ ผู้วิจัยศึกษาได้ใช้การค้นคว้ารายละเอียดเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียตลอดจนคุณค่าของวิธีการสอน แบบปกติกับวิธี การสอนโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องประกอบการเขียนวิเคราะห์ข้อมลู แบบพรรณนา (2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของผู้เรียนเรื่อง “ผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว” โดยใช้วิธีการสอน แบบปกติกับวิธี การสอนด้วยสื่อวีดิทัศน์ มีขั้นตอนการวิจัยคือ ผู้เชี่ยวชาญสร้างสื่อวีดิทัศน์ประกอบการสอนเรื่อง “ผลิตภัณฑ์การท่อง เที่ยว” ที่ครอบคลุมประเด็น ความหมายของผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว ลักษณะเฉพาะ ระดับ ของผลติ ภัณฑ์ สว่ นประสม การตลาด วงจรชวี ิตผลิตภณั ฑ์ กลยทุ ธ์การตลาด และเทคนคิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์การ ทอ่ งเที่ยว ดำเนินการทดสอบผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นด้านความรู้ทั้งก่อน เรียนและหลังเรียน ด้วยวิธีการ สอนแบบปกติกับวิธีการสอนโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ และวิเคราะห์ด้วยสถิติ t-test ทั้ง สองกลุม่ (3) การวดั ระดับความพงึ พอใจของผเู้ รียนที่มตี ่อวิธีการสอนโดยใชส้ อ่ื วีดิทศั น์เปน็ หลัก ไดใ้ ช้ แบบสอบถาม เป็นคำถามแบบประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ประกอบด้วยระดบั ความพึงพอใจในด้านต่างๆ โดยมีเกณฑ์ การให้ค่าคะแนนจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุดตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ย นอกจากนั้น ผู้ วิจัยได้ ทดสอบเครื่องมือวิจัยตา่ งๆ โดยการหาความตรงด้านเนือ้ หา ความเชื่อถือได้ อำนาจการจำแนก และค่า ประสิทธิ ภาพของส่ือวีดิ ทัศน ์ ใช้ ระยะเวลาการวิจัยเป็นเวลา 12 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 ผลการวิจยั ผลการวิเคราะห์รายละเอียดของวิธีการสอนเรื่อง “ผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว” ด้วยวิธีการสอนแบบปกติกับ วิธกี ารสอนโดยใช้สอื่ วดี ทิ ัศนเ์ ป็นหลกั 1.1 วธิ ีการสอนแบบปกติ เปน็ วิธีสอนโดยใช้การบรรยายคือ กระบวนการท่ผี สู้ อนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนเกิด การเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยการพูด บอก เล่า อธิบาย สิ่งที่ต้องการสอนแก่ผู้เรียน ให้ผู้เรียนซักถาม แล้วประเมินการเรียนรู้ของผ้เู รียนดว้ ยวิธีใดวิธีหนึ่ง เป็นวธิ กี ารที่มุ่งช่วยให้ผู้เรยี นจำนวนมากได้เรียนรู้เน้ือหาสาระ หรือข้อความรู้จำนวนมากพร้อมๆ กันได้ในเวลาที่จำกัด สำหรับข้อดีของวิธีสอนโดยใช้การบรรยาย ได้แก่ เป็นวิธี สอนท่ใี ชเ้ วลานอ้ ย เมอ่ื เทยี บกบั วิธีสอนแบบอ่ืน ๆ เปน็ วิธสี อนทใ่ี ช้กบั ผูเ้ รียนจำนวนมากได้ เปน็ วิธีสอนท่ีสะดวก ไม่ ยงุ่ ยากและเป็นวิธสี อนทถี่ า่ ยทอดเนื้อหาสาระได้มาก ส่วนข้อจำกดั ได้แก่ เป็นวิธสี อนทผ่ี เู้ รียนมีบทบาทน้อย จงึ อาจ ทำใหผ้ ู้เรียนขาดความสนใจในการบรรยาย เป็นวธิ ีสอนที่อาศัยความสามารถของผบู้ รรยาย ถ้าผู้บรรยายไม่มีศิลปะ ในการบรรยายที่ดึงดูดใจผู้เรียน ผู้เรียนอาจขาดความสนใจ และถ้าผู้สอนขาดการเรียบเรียงเนื้อหาสาระอย่าง เหมาะสม ผู้เรียนอาจเกดิ ความไมเ่ ขา้ ใจ และไม่สามารถซักถามได้ (ถ้าผบู้ รรยายไมเ่ ปดิ โอกาส) และเปน็ วิธีสอนที่ไม่ สามารถสนองตอบความตอ้ งการและความแตกตา่ งระหว่างบุคคล 1.2 วิธีการสอนแบบใช้สื่อวีดิทัศน์ คือ กระบวนการที่ผู้สอนได้ใช้วัสดุ เครื่องมือ อุปกรณ์ รวมทั้งวิธีการต่าง ๆ เปน็ ตัวกลางในการส่ือความหมายใด ๆ เพอ่ื ถ่ายทอดความรู้ไปสู่ผเู้ รียนตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ท่ีกำหนดไว้ด้วย การทำสง่ิ ที่ซบั ซ้อนหรือเป็นนามธรรมเข้าใจยาก ให้เป็นรปู ธรรมทีเ่ หน็ ภาพชัดเจนและเข้าใจง่าย ทำให้ผู้เรียนเกิด ความสนใจและสามารถเรียนรู้ได้ในปริมาณที่มากขึ้น คุณค่าของวิธีสอนโดยการใช้สื่อ ได้แก่ ช่วยให้คุณภาพการ เรียนรู้ของผู้เรียนดีขึ้น ผู้เรียนสามารถจำได้มากและนานขึ้น ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ในปริมาณมากขึ้นในเวลาที่ กำหนดไว้และช่วยใหผ้ ู้เรียนมีความสนใจและมสี ่วนร่วมในกระบวนการเรยี นรู้

แหลง่ อ้างองิ ปริวรรต สมนกึ (2558การพัฒนานวัตกรรมการเรยี นการสอนโดยใช้สอื่ วีดิทัศน์เพ่ือเพ่มิ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น เร่ือง “ผลติ ภณั ฑ์การท่องเท่ียว”, บทความวชิ าการ, (1) ,4-17



E-BOOK SUMMARY อ.ผู้สอน : ออ..ดดรร..สสุุจธิิตดาตรปารีชจัานนทนร์ทล์อย อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาฯ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง MUBAN CHOMBUENG Rajabhat University


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook