ดา้ นท่ี ๑
๑.๑. การแสดงออกทางอารมณ์ กิรยิ า ทา่ ทางและพูดส่อื สารได้เหมาะสมกับกาลเทศะต่อผ้เู รยี น
๑.๑. การแสดงออกทางอารมณ์ กิรยิ า ทา่ ทางและพูดส่อื สารได้เหมาะสมกับกาลเทศะต่อผ้เู รยี น
๑.๒. การแสดงออกทางอารมณ์กริ ยิ าท่าทางและพูดส่ือสารได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ต่อผ้บู งั คับบัญชา เพ่ือนร่วมงาน ผปู้ กครองและบุคคลอ่นื
๑.๒. การแสดงออกทางอารมณ์กริ ยิ าท่าทางและพูดส่ือสารได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ต่อผ้บู งั คับบัญชา เพ่ือนร่วมงาน ผปู้ กครองและบุคคลอ่นื
๑.๒. การแสดงออกทางอารมณ์กริ ยิ าท่าทางและพูดส่ือสารได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ต่อผ้บู งั คับบัญชา เพ่ือนร่วมงาน ผปู้ กครองและบุคคลอ่นื
๑.๒. การแสดงออกทางอารมณ์กริ ยิ าท่าทางและพูดส่ือสารได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ต่อผ้บู งั คับบัญชา เพ่ือนร่วมงาน ผปู้ กครองและบุคคลอ่นื
๑.๓. มีเจตคติเชิงบวกกบั ประเทศชาติ มคี วามจงรักภกั ดีต่อสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
๑.๔. ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย กฎระเบยี บหลักเกณฑท์ ี่เก่ยี วขอ้ ง กบั ความเปน็ ข้าราชการ
๑.๔. ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย กฎระเบยี บหลักเกณฑท์ ี่เก่ยี วขอ้ ง กบั ความเปน็ ข้าราชการ
๑.๕. ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย กฎระเบียบหลกั เกณฑท์ ่ีเก่ยี วขอ้ ง กับความเปน็ ข้าราชการครู
๑.๕. ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย กฎระเบียบหลกั เกณฑท์ ่ีเก่ยี วขอ้ ง กับความเปน็ ข้าราชการครู
๑.๕.ปฏบิ ัติตามกฎหมาย กฎระเบียบหลักเกณฑ์ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ความเปน็ ข้าราชการครู แต่งกายสภุ าพ สะอาด เรยี บรอ้ ยและถูกกาลเทศะ
๑.๖. การปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย
๒.๑ การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาทนี่ ับถืออย่างเครง่ ครดั (นอ้ มนาเอาหลกั คาสอนทางศาสนาพุทธมาประยกุ ต์ใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชวี ติ )
๒.๑ การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาทนี่ ับถืออย่างเครง่ ครดั (นอ้ มนาเอาหลกั คาสอนทางศาสนาพุทธมาประยกุ ต์ใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชวี ติ )
๒.๑ การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาทนี่ ับถืออย่างเครง่ ครดั (นอ้ มนาเอาหลกั คาสอนทางศาสนาพุทธมาประยกุ ต์ใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชวี ติ )
๒.๒.การเขา้ รว่ ม ส่งเสริม สนบั สนนุ ศาสนกิจของศาสนาท่ีนบั ถอื อยา่ งสม่าเสมอ (จดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยสอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมควบคูก่ บั ความรตู้ า่ งๆ)
๒.๒.การเขา้ รว่ ม ส่งเสริม สนบั สนนุ ศาสนกิจของศาสนาท่ีนบั ถอื อยา่ งสม่าเสมอ (จดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยสอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมควบคูก่ บั ความรตู้ า่ งๆ)
๒.๒.การเขา้ รว่ ม ส่งเสริม สนบั สนนุ ศาสนกิจของศาสนาท่ีนบั ถอื อยา่ งสม่าเสมอ (จดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยสอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมควบคูก่ บั ความรตู้ า่ งๆ)
๒.๓.การเหน็ ความสาคญั เขา้ รว่ ม ส่งเสริม สนบั สนุน เคารพ กิจกรรมท่แี สดงถึงจารีตประเพณวี ัฒนธรรมท้องถิ่นหรือชุมชน
๒.๓.การเหน็ ความสาคญั เขา้ รว่ ม ส่งเสริม สนบั สนุน เคารพ กิจกรรมท่แี สดงถึงจารีตประเพณวี ัฒนธรรมท้องถิ่นหรือชุมชน
๒.๓.การเหน็ ความสาคญั เขา้ รว่ ม ส่งเสริม สนบั สนุน เคารพ กิจกรรมท่แี สดงถึงจารีตประเพณวี ัฒนธรรมท้องถิ่นหรือชุมชน
๒.๔.การเห็นความสาคัญ เข้าร่วม ส่งเสรมิ สนับสนนุ กจิ กรรมที่แสดงถงึ จารีต ประเพณี วัฒนธรรมของชาติ
๒.๔.การเห็นความสาคัญ เข้าร่วม ส่งเสรมิ สนับสนนุ กจิ กรรมที่แสดงถงึ จารีต ประเพณี วัฒนธรรมของชาติ
๒.๔.การเห็นความสาคัญ เข้าร่วม ส่งเสรมิ สนับสนนุ กจิ กรรมที่แสดงถงึ จารีต ประเพณี วัฒนธรรมของชาติ
๒.๕.การมจี ติ บริการและจิตสาธารณะ
๒.๕.การมจี ติ บริการและจิตสาธารณะ
๒.๕.การมจี ติ บริการและจิตสาธารณะ
๒.๕.การมจี ติ บริการและจิตสาธารณะ
๒.๕.การมจี ติ บริการและจิตสาธารณะ
๒.๖.การต่อตา้ นการกระทาของบคุ คลหรอื กล่มุ บุคคล ท่สี ง่ ผลต่อความม่ันคงของชาติหรอื ผลกระทบเชงิ ลบต่อสงั คมโดยรวม
๓.๑.เขา้ อบรมเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ พฒั นาวชิ าชพี และพัฒนาบคุ ลิกภาพอยา่ งตอ่ เน่อื ง
๓.๑.เขา้ อบรมเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ พฒั นาวชิ าชพี และพัฒนาบคุ ลิกภาพอยา่ งตอ่ เน่อื ง
๓.๑.เขา้ อบรมเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ พฒั นาวชิ าชพี และพัฒนาบคุ ลิกภาพอยา่ งตอ่ เน่อื ง
๓.๒.การมวี สิ ยั ทศั น์ ร้แู ละเข้าใจ สนใจ ตดิ ตามการเปลยี่ นแปลง ด้านวทิ ยาการ เศรษฐกจิ สงั คม การเมอื งของไทยและนานาชาติ
๓.๓.ไม่อาศยั วชิ าชีพแสวงหาผลประโยชนท์ ี่ไมถ่ ูกตอ้ ง
๓.๓.ไม่อาศยั วชิ าชีพแสวงหาผลประโยชนท์ ี่ไมถ่ ูกตอ้ ง
๓.๔.อบรม ส่งั สอน ฝึกฝนและจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ม่งุ ม่นั ต่อการพฒั นาความรู้ ความสามารถของผู้เรยี นอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ
๓.๔.อบรม ส่งั สอน ฝึกฝนและจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ม่งุ ม่นั ต่อการพฒั นาความรู้ ความสามารถของผู้เรยี นอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ
๓.๕.ใหค้ วามสาคัญต่อการเข้ารว่ ม ส่งเสรมิ สนับสนุน กิจกรรมที่เก่ียวขอ้ งกบั วชิ าชพี อย่างสม่าเสมอ
๓.๕.ใหค้ วามสาคัญต่อการเข้ารว่ ม ส่งเสรมิ สนับสนุน กิจกรรมที่เก่ียวขอ้ งกบั วชิ าชพี อย่างสม่าเสมอ
๓.๖.มคี วามรัก เมตตา เอาใจใส่ ชว่ ยเหลือ สง่ เสริม สนบั สนุน ให้บริการผู้เรยี นทกุ คนด้วยความเสมอภาค
๓.๗.การประพฤติตนเป็นท่ียอมรับของผเู้ รียน ผูบ้ ริหาร เพอื่ นรว่ มงาน ผปู้ กครอง และชุมชน
๓.๗.การประพฤติตนเป็นท่ียอมรับของผเู้ รียน ผูบ้ ริหาร เพอื่ นรว่ มงาน ผปู้ กครอง และชุมชน
๓.๗.การประพฤติตนเป็นท่ียอมรับของผเู้ รียน ผูบ้ ริหาร เพอื่ นรว่ มงาน ผปู้ กครอง และชุมชน
๓.๘.การไมป่ ฏิบตั ติ นที่สง่ ผลเชงิ ลบต่อกายและใจของผู้เรยี น
Search
