วิชาสังคมศึกษา ม.ต้น

ม.ต้น แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ า สังคมศกึ ษา สค 21001 โดย นางสาววาสนา อุ้ยอลงกรณ์ ตำแหน่งครูอำสำสมคั รฯ กศน.อำเภอเกำะชำ้ ง จงั หวดั ตรำด สำนกั งำน กศน.จงั หวดั ตรำด



คานา แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา รหัส สค 21001 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้นเล่มน้ี จดั ทาขึ้น โดยมวี ัตถปุ ระสงค์เพื่อใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ สาหรบั นกั ศึกษา กศน. ในการจดั ทาแผนการ เรยี นรู้ครงั้ น้ี ได้วิเคราะห์ ความยากง่ายของเนอ้ื หาจากผังขอ้ สอบ กาหนดวัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้ผ้เู รียนได้มี ความรู้ มที กั ษะ มีเจตคตทิ ีด่ ี และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่ผเู้ รียนไดร้ บั จากการเรียนรู้ ตามกระบวนการที่ กาหนดในแผน แผนจดั การเรียนรู้เลม่ นี้ ประกอบด้วยคาอธิบายรายวิชา แผนจัดการเรยี นรแู้ บบรายวิชา ใบความรู้ ใบงาน แบบบนั ทึกความรู้ แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อครู กศน. และผู้เกี่ยวข้อง หากมขี ้อผิดพลาดประการใดขอรับคาเสนอแนะเพื่อปรบั ปรุงและพฒั นาตอ่ ไป คณะผ้จู ัดทา

สารบญั 1 2-3 คานา 4 หน้า 5-12 แนะนาการใช้แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 13-22 โครงสร้างหลกั สูตร 23-33 ผงั มโนทัศน์ 34-43 ผังการออกขอ้ สอบ แผนการจัดการเรียนรู้ คร้ังที่ 1 ภูมิศาสตรก์ ายภาพทวีปเอเชยี แผนการจดั การเรยี นรู้ ครั้งที่ 2 ประวัติศาสตร์ทวปี เอเชยี แผนการจัดการเรยี นรู้ คร้ังที่ 3 เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง ภาคผนวก คณะผ้จู ดั ทา

1 แนะนาการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสงั คม รหัสรายวิชา สค 21001 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ (3 หนว่ ยกิต) ตามหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าสังคม รหสั รายวิชา สค 21001 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หลักสูตร การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 จดั ทาขนึ้ เพ่ือใหค้ รู กศน.ไดใ้ ชเ้ ปน็ แนวทาง ในการจัดการเรียนรู้ โดยครู กศน. สามารถปฏิบัติตามขนั้ ตอนดังน้ี 1. ศึกษาคาอธิบายรายวชิ าและรายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวชิ า 2. ศกึ ษารายละเอียดของเนื้อหาแตล่ ะเร่อื งให้ชดั เจน 3. ศกึ ษารายละเอยี ดของแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาไทย 4. ศึกษารายละเอยี ดวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล ส่ือ/แหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆ 5. ศกึ ษารายละเอียดใบงาน ใบความรู้ทใี่ ชใ้ นการจัดการเรยี นรู้ พรอ้ มทงั้ จัดเตรียมเอกสารให้พร้อม กบั จานวนผ้เู รยี น 6. กอ่ นการจดั การเรยี นรูใ้ ห้ครูช้แี จงรายละเอียดของเน้ือหา จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 7. ให้ผเู้ รยี น ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจให้คะแนน วเิ คราะหผ์ เู้ รยี นตามคะแนน เพือ่ นาไปวาง แผนการจัดการเรียนรู้รายสปั ดาห์ให้สอดคล้อง เหมาะสม 8. ในแต่ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ใหน้ ักศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน จากนัน้ เรยี นรตู้ ามแผน และทาแบบทดสอบหลังเรียนในแต่ละแผน เฉลยแบบทดสอบ เพื่อสร้างความเข้าใจในเนื้อหาให้ มากย่งิ ข้นึ 9. เม่ือจัดการเรียนรคู้ รบทุกแผนแลว้ ให้ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน ตรวจให้คะแนน เปรยี บเทียบคะแนนก่อนเรียน หลังเรียน แจง้ คะแนนใหผ้ เู้ รยี นทราบผล 10. ทดสอบประมวลผลความรู้ จากแบบทดสอบประมวลความรู้ ตรวจสอบให้คะแนนและเฉลย เพอ่ื สร้างความเข้าใจในเนื้อหาให้มากยิ่งขนึ้ 11. วเิ คราะหค์ ะแนนรว่ มกับผู้เรยี น เพื่อใหผ้ เู้ รียนและครูไดจ้ ัดการเรยี นร้เู พ่มิ เติมในเนื้อหา ท่ีผู้เรียน ยังไมเ่ ข้าใจและยงั ไมผ่ ่านเกณฑ์ 12. การจัดการเรยี นร้เู พมิ่ เติม อาจใช้วธิ กี ารตวิ การเรยี นจากสอ่ื การสอนเสริม และทา แบบทดสอบ หลาย ๆ ครั้ง เพื่อให้เขา้ ใจในเนื้อหามากขนึ้

2

3



4



5



6



7



8



9



10



11



12

13 แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายสปั ดาห์ ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ กศน.อาเภอเกาะช้าง จงั หวดั ตราด 1. ครั้งที่ 1 สัปดาหท์ ่.ี ...............วันท.ี่ ..............เดือน.........................................พ.ศ................................ 2. วชิ าสงั คมศกึ ษา รหสั สค 21001 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 3 หน่วยกติ 3. มาตรฐานการเรียนร้ทู ี่ 5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถงึ ความสาคัญเกย่ี วกับภมู ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง สามารถนามาปรบั ใชใ้ นการดารงชวี ติ สาระสาคญั การศกึ ษาเรยี นรูเ้ กีย่ วกับความเปลย่ี นแปลงของส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพทั้งของประเทศไทยและทวีปเอเชีย ววิ ัฒนาการความสมั พนั ธข์ องมนุษย์กบั สิ่งแวดลอ้ ม การจัดการทรพั ยากรที่มอี ยู่อยา่ งจากัดเพ่อื ให้ใช้อยา่ งเพียงพอ ในการผลติ และบรโิ ภค การใช้ขอ้ มลู ทางประวัติศาสตรเ์ พื่อวิเคราะห์เหตุการณใ์ นอนาคต การเรยี นรเู้ ร่อื งการเมือง การปกครอง สามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นการดาเนินชีวติ ประจาวันได้ 4. เนอื้ หาตามหลกั สตู ร เรอ่ื งท่ี 1 ภูมศิ าสตร์กายภาพทวีปเอเชีย 1.1 ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์กายภาพของประเทศตา่ งๆ ในทวีปเอเชยี ทต่ี ง้ั อาณาเขต ภูมิประเทศ ภูมอิ ากาศ 1.2 การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิศาสตรก์ ายภาพของทวีปเอเชยี 1.3 กรณตี ัวอย่าง การเปลีย่ นแปลงสภาพภูมศิ าสตรก์ ายภาพท่สี ่งผลกระทบต่อวถิ ชี วี ติ ความเปน็ อยู่ ของประชากรไทยและทวีปเอเชยี 1.4 วิธใี ช้เคร่อื งมือทางภมู ิ ศาสตร์ แผนท่ี ลกู โลกWebsite ดาวเทียม GIS GPRS ฯลฯ 1.5 สภาพภมู ิศาสตรท์ างกายภาพของประเทศไทยท่สี ง่ ผลต่อทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ มตา่ งๆเช่น ลา คลอง หนอง บึง ทะเลชายฝง่ั สัตว์ปา่ สตั ว์ปา่ สัตวน์ า้ จืด เปลอื กหอยแนวปะการงั และอื่นๆ 1.6 ความสาคญั ของการดารงชวี ติ ใหส้ อดคล้องกบั สภาพทรัพยากรในประเทศไทย และประเทศ ต่างๆ ในทวีปเอเชีย 1.7 กรณีตวั อยา่ งการปรับตัวในการดารงชีวิตทสี่ อดคล้องกับสภาพ ทรัพยากรในประเทศไทยและ ประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย

14 5. ผลการเรียนร้ทู คี่ าดหวัง (ตัวช้วี ัด) 1.บอกท่ตี ั้งและอาณาเขตของประเทศในทวีปเอเชยี ได้ 2. บอกลกั ษณะภูมิศาสตร์ทางกายภาพของประเทศในทวปี เอเชียได้ 3. บอกลักษณะภูมิอากาศของประเทศในทวีปเอเชยี เอเชียได้ 4.บอกสาเหตขุ องการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ศิ าสตร์ทางกายภาพในทวีปเอเชียได้ 5.บอกผลกระทบที่เกดิ จากการเปลีย่ นแปลงของสภาพภูมิศาสตรท์ างกายภาพต่อประชากรและส่ิงแวดล้อมได้ 6.ยกตวั อย่างการเปล่ียนแปลงสภาพภมู ิศาสตรท์ างกายภาพทส่ี ่งผลกระทบต่อวิถชี วี ติ ความเปน็ อยู่ของ ประชากรไทยและทวปี เอเชยี ได้ 7.บอกประโยชน์ของเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์แต่ละชนดิ ได้ 8.เลอื กใช้เคร่ืองมือทางภูมศิ าสตรไ์ ด้เหมาะสมกบั สถานการณ์ 9.อธิบายความสาคญั ของสภาพภมู ศิ าสตรท์ างกายภาพของประเทศไทยท่สี ่งผลตอ่ สง่ิ มีชวี ิตได้ 10.อธบิ ายความสัมพันธ์ของสภาพภมู ิศาสตร์ทางกายภาพที่มีตอ่ การเกดิ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ในทวีปเอเชยี ได้ 11.นาความรเู้ กีย่ วกับทรพั ยากรธรรมชาตขิ องทวีปเชยี มาปรบั ใช้ในการดารงชีวิตได้ 12.ยกตัวอย่างการดารงชีวติ ท่ีใชท้ รัพยากรของประเทศไทยไดอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ 13.ยกตวั อย่างการดารงชวี ิตท่ีใช้ทรพั ยากรของประเทศในทวีปเอเชียได้อย่างคุ้มคา่ 6. กระบวนการจัดการเรียนรแู้ ละกิจกรรม ขน้ั นา กิจกรรมนันทนาการ - ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ - ใหผ้ ู้เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น - ครรู ว่ มแลกเปลย่ี นเรียนรเู้ กี่ยวกบั ภมู ศิ าสตร์กายภาพของประเทศในทวีปเอเชยี ได้ ขนั้ สอน - ครแู ละผู้เรียนได้ไปศึกษาค้นคว้าตามหวั ข้อท่มี อบหมายในแบบเรียนรู้ ระบุปญั หาตามประเด่นท่ีกล่มุ ได้รบั มอบหมาย(บรู ณาการกับสะเตม็ ศกึ ษา)

15 - ผูเ้ รียนศึกษาใบความรู้ จาก QR – CORD 1. วธิ ีใช้เคร่ืองมอื ทางภูมิ ศาสตร์ แผนที่ ลกู โลกWebsite ดาวเทยี ม GIS GPRS ฯลฯ สภาพ ภมู ศิ าสตร์ทางกายภาพของประเทศไทยท่ีสง่ ผลต่อทรัพยากรและส่งิ แวดลอ้ มตา่ งๆเชน่ ลาคลอง หนอง บงึ ทะเล ชายฝ่งั สัตวป์ า่ สัตว์ป่า สตั วน์ า้ จดื เปลือกหอยแนวปะการงั และอื่นๆความสาคัญของการดารงชีวติ ให้สอดคล้องกับ สภาพทรัพยากรในประเทศไทย และประเทศตา่ งๆ ในทวีปเอเชีย กรณตี ัวอย่างการปรบั ตัวในการดารงชีวติ ท่ี สอดคล้องกบั สภาพ ทรัพยากรในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชยี 2. ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์กายภาพของประเทศตา่ งๆ ในทวีปเอเชีย ทตี่ ้งั อาณาเขต ภูมปิ ระเทศ ภูมิอากาศ การเปลย่ี นแปลงทางสภาพภูมิศาสตร์กายภาพของทวปี เอเชีย และกรณตี วั อย่าง การเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิศาสตร์กายภาพทส่ี ่งผลกระทบต่อวถิ ีชวี ิต ความเป็นอยู่ของประชากรไทยและทวปี เอเชีย - ครแู ละผเู้ รียนร่วมดาเนนิ การแก้ปญั หาโดยการทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ แก่ไขป้ ญั หา - นาเสนอหนา้ ชัน้ เรียนครแู ละผู้เรยี นร่วมกันสรปุ เนอ้ื หา ขัน้ สรุป - ครูสรปุ องค์ความรู้เรอ่ื ง ลักษณะทางภูมศิ าสตร์กายภาพของประเทศในทวปี เอเชียและมอบหมายงาน - ครูและผเู้ รียนตอบขอ้ ซักถามรว่ มกนั และแลกเปลีย่ นเรียนรู้ - ให้ผูเ้ รยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น ใบงาน เรือ่ งเครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ งานที่มอบหมาย ใหผ้ เู้ รียนคน้ ควา้ ความรูเ้ พิ่มเติม และทาใบงาน 7. ส่อื แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาสังคมศกึ ษา 2. ใบงานที่ 1 เร่อื งภูมิศาสตรก์ ายภาพเอเชยี

16 3. แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรยี น 4. คอมพิวเตอร์/อนิ เตอรเ์ นต็ /สมารท์ โฟน 8. การวัดและประเมนิ ผล 1. ทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรยี น 2. ทาใบงาน 3. การนาเสนอ 9. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล การวดั ผลตามจุดประสงค์ เคร่อื งมือการวดั ผล เกณฑ์การประเมินผล ความรู้ (Knowledge) แบบทดสอบ ผา่ นการตอบคาถามได้ อธบิ ายลกั ษณะทางภูมิศาสตร์ 80% ข้ึนไป กายภาพของประเทศ ทกั ษะ (Skill) ใบงานวชิ าสงั คม ผู้เรยี นจับประเด็นสาคัญ เข้าใจใน เลือกหัวลกั ษณะกายภาพ ศกึ ษา หลกั การฟัง การดู 80% ขึน้ ไปมมี ารยาท ดาเนนิ การเสนอ ในการฟัง และการดู เจตคติ (Attitude) การมีส่วนรว่ มใน ผู้เรยี น 80% ข้ึนไปมีสว่ นรว่ มในการ มีความรสู้ ึก เจตคติที่ดตี ่อ การอธิบายความ อธิบายแลกเปลยี่ นความคิดเห็น การฟงั การดู คดิ เห็น แบบมเี หตุผล

17 ใบงาน ใบงานที่ 1 เครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์และภมู ิสารสนเทศ ใบงานท่ี 2 เรื่องอาณาเขตของประเทศในทวปี เอเชยี

18 ใบความรู้ เรื่องทวปี เอเชยี จากเอกสารแบบเรียนรายวชิ าสังคมศึกษาระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ สค 21001 ของสานักงาน กศน. คลิปเกย่ี วกบั ทวีปเอเชีย บอกเกย่ี วกบั ที่ตง้ั อาณาเขต บอกลักษณะภูมศิ าสตรท์ างกายภาพของประเทศในทวีปเอเชีย เร่อื งเก่ียวกับเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ เรื่องเกีย่ วกับภูมอิ ากาศและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

19 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลงั เรยี น หนว่ ยท่ี 1 ภูมศิ าสตรก์ ายภาพทวปี เอเชยี 13 ขอ้ คาชแ้ี จง : ให้ผ้เู รียนใช้สมารท์ โฟน สแกนแบบทดสอบน้ี ใชเ้ วลาในการทาแบบทดสอบ 15 นาที ในกระดาษคาตอบที่ แจกให้ (ไฟลเ์ อกสารข้อสอบ)

20 เฉลย แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน 1.ทวีปเอเชยี มีอาณาเขตติดกับทวปี ใด ก.ทวีปยโุ รป ข.ทวปี อเมริกา ค.ทวปี แอฟริกา ง.แอนตรากติการ์ 2.ทเิ บตเขตปกครองตนเองของสาธารณรฐั ประชาชน จนี ซึ่งต้งั อยู่ บนเทือกเขาหมิ าลัยมลี ักษณะภมู ิ ประเทศแบบใด ก.ท่ีราบสูง ข.ป่าดิบช้นื ค.ทะเลทราย ง.ทร่ี าบลมุ่ แมน่ า้ 3.ประเทศอนิ โดนเี ซียมสี ภาพภมู ิอากาศแบบใด ก.ป่าดบิ ชน้ื ข.ทะเลทราย ค.เมดเิ ตอร์เรเนยี น ง.ทุ่งหญา้ ก่ึงทะเลทรายแถบอบอุ่น 4.ข้อใดเปน็ สาเหตขุ องการเปล่ยี นแปลงสภาพทาง ภูมิศาสตร์ กายภาพของทวีปเอเชีย ก.การเพิ่มขึ้นของจานวนประชากรมนุษย์ ข.การใชท้ รพั ยากรทเี่ พ่ิมมากข้นึ ของมนษุ ย์ ค.การล่าสตั ว์ทมี่ ากเกินความพอดี ง.ปรากฎการณภ์ าวะโลกร้อน 5. ผลกระทบทีเ่ กดิ จากการเปลยี่ นแปลง สภาพทาง ภมู ศิ าสตร์ กายภาพของทวีปเอเชยี คือข้อใด ก.ผลผลติ ทางการเกษตรสามารถผลติ ไดน้ ้อยลง ข.อตั ราการเกิดของประชากรมนุษย์ลดน้อยลง ค.สัตว์บางสายพันธม์ุ จี านวนเพมิ่ ขึ้นจนสง่ ผลเสยี ต่อ ระบบนิเวศ ง.ทีอ่ ยูอ่ าศยั ของมนษุ ย์ถกู ทาลาย 6.การเกิดแผน่ ดนิ ไหว สึนามิหรอื พายุไซโคลนสง่ ผลตอ่ การดารงชวี ิตของมนุษยอ์ ย่างไร ก.มนุษยอ์ ดอยากและล้มตายเป็นจานวนมาก ข.เกิดการโยกย้ายถน่ิ ฐานเพ่อื ความอยู่รอด ค.มพี นื้ ทีแ่ ห้งแลง้ ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย ง.พื้นทป่ี ่าลดน้อยลงจนขาดทรัพยากรอย่างรนุ แรง 7.การเดินทางในปา่ ควรนาเครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ ชนดิ ใดไปด้วย ก.เข็มทศิ ข.ลูกโลก ค.รปู ถ่ายทางอากาศ ง.รปู ถ่ายจากดาวเทียม 8.วราลี ตอ้ งการแข่งขนั รถยนตแ์ รลลี่จาก กรงุ เทพฯถึงสกลนคร ควรนาอปุ กรณใ์ ดติดไปด้วย ก.เข็มทิศ ข.ลกู โลก ค.เคร่ืองจีพเี อส ง.แผนที่โลก 9.เพราะเหตุใดภาคกลางจงึ เป็นแหล่งเพาะปลูกที สาคัญของประเทศไทย ก.อยู่ตดิ กบั ทะเล ข.เป็นพื้นทร่ี าบสูงฝนตกชกุ ตลอดปี ค.มที ิวเขาเปน็ แนวกาแพงกันลมมรสุมท้ังสองดา้ น ง.มคี วามอุดมสมบรู ณ์จากดินตะกอนแมน่ ้าพดั พามาทับถม

21 10.เหตใุ ดพ้นื ท่ใี นแถบทเิ บตถึงแห้งแล้งและไม่ ค่อยมีพชื พรรณเติบโต ก.ฝนไม่คอ่ ยตก ข.อยู่ไกลจากแหล่งน้า ค.อยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตร ง.เปน็ พนื้ ทรี่ าบสงู ลมมรสุมพดั พาความชน้ื จากทะเลเขา้ มาไมไ่ ด้ 11.หากอยากลงทุนทาเหมืองพลอย ควรหาสภาพพื้นที่ในลักษณะใด ก.ปา่ ดบิ ชน้ื ข.ภูเขาไฟ ค.ภเู ขาไฟเกา่ ง.ทะเลทราย 12.บคุ คลใดใชท้ รัพยากรได้คุ้มคา่ มากทส่ี ุด ก.สมศรี กนิ ข้าวหมดทุกมื้อ ข.สายใจ นาเส้ือผา้ เกา่ ไปบริจาค ค.สมใจ เปดิ โรงงานรีไซเคิลขยะเพื่อนากลบั มาใช้ ใหม่ ง.จอนวิค นากระดาษที่ไม่ใชแ้ ล้วมาพบั เปน็ ถุง กล้วยแขก 13.ประเทศใดใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้คุ้มค่ามากท่ีสุด ก.ประเทศไทยนาขี้เล่ือยท่ีได้จากการตัดไมม้ าแปร รปู เป็นไม้อัดสง่ ขาย ข.ประเทศบูรไนออกกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสตกิ ตามร้านคา้ ค.ประเทศสิงคโ์ ปรนาขยะมากลน่ั เป็นพลงั งาน ทดแทน ง.สาธารณรฐั ประชาชน จนี นาอุจจาระคนมาใช้ ในการทาเกษตรกรรม กิจกรรมนันทนาการ (สาหรบั คร)ู

22 บนั ทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ กศน.ตาบลเกาะช้าง อาเภอเกาะช้าง จงั หวดั ตราด สปั ดาหท์ .่ี .............................วนั ......................เดือน..........................พ.ศ............................ ระดบั ม.ตน้ สาระวิชาการพฒั นาสงั คม วชิ า สังคมศกึ ษา รหัสวิชา สค 21001 เน้ือหา/สาระทีส่ อน ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................... ................................ กิจกรรมการเรียนการสอน ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ .............................................................................................................................................................. ........................... ปัญหา/อุปสรรค การเรียนการสอน ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ วธิ ีการแก้ปญั หา .......................................................................................................................................... ............................................... .................................................................................... ..................................................................................................... ลงช่ือ..............................................ครผู ูส้ อน (................................................) ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................................................................................. ........................ ลงชื่อ..............................................ผ้บู ริหารสถานศึกษา (................................................)

23 แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรยี นที 2 ปีการศกึ ษา 2564 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น กศน.อาเภอเกาะช้าง จงั หวดั ตราด 1. ครงั้ ท่ี 2 สัปดาห์ท.่ี ...............วนั ท่ี...............เดือน........................พ.ศ...................... 2. วิชาสังคมศกึ ษา (สค21001). จานวน 3 หนว่ ยกติ มาตรฐานท่ี 5.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนังถงึ ความสาคัญเกย่ี วกบั ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง สามารถนามาปรับใชใ้ นการดาเนินชวี ติ 3. หน่วยการเรียนร/ู้ เรือ่ ง ประวัติศาสตร์ทวปี เอเชยี 4. สาระสาคัญ ทวปี เอเชยี ประกอบด้วย ประเทศสมาชิกหลายประเทศในทน่ี จ้ี ะกล่าวถึงประวัตศิ าสตร์ของประเทศ ในแถบเอเชยี ท่ีมีพรมแดนตดิ และใกล้เคยี งกับประเทศไทย ไดแ้ ก่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจนี อินเดีย สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศกัมพูชา ประเทศมาเลเซยี สาธารณรัฐแหง่ สหภาพพม่า อนิ โดนเี ซีย ฟลิ ิปปินส์ และประเทศญี่ป่นุ โดยสงั เขป นอกจากน้ีไดเ้ กิดเหตกุ ารณ์สาคญั ๆ ในประเทศไทยและประเทศในทวปี เอเชยี ทน่ี ่าสนใจ เชน่ ยคุ ลา่ อาณานคิ ม และยุคสงครามเย็น สาระสาคัญของสนธสิ ัญญาเบาว์ร่ิง และผลกระทบของสนธสิ ญั ญาเบาว์ริ่ง เป็นต้น 5. เน้อื หา 6.1 ประวตั ศิ าสตร์สงั เขปของประเทศในทวปี เอเชีย ได้แก่ - ประวัติศาสตรป์ ระเทศประเทศสาธารณรัฐประชาชนจนี - ประวัตศิ าสตรป์ ระเทศอนิ เดยี - ประวัตศิ าสตร์ประเทศญ่ีปนุ่ - ประวัตศิ าสตร์ประเทศกมั พูชา - ประวัตศิ าสตร์ประเทศสาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว - ประวัติศาสตรป์ ระเทศสาธารณรฐั แห่งสหภาพพม่า - ประวตั ศิ าสตร์ประเทศอนิ โดนีเซยี - ประวัตศิ าสตรป์ ระเทศฟิลิปปินส์ - ประวัติศาสตรป์ ระเทศมาเลเซีย

24 6.2 เหตกุ ารณส์ าคัญทางประวัตศิ าสตรท์ ่เี กดิ ขึน้ ในประเทศไทยและประเทศในทวีปเอเชยี - ยุคลา่ อาณานคิ ม - ยคุ สงครามเยน็ - สาระสาคัญของสนธิสญั ญาเบาวรงิ่ - ผลกระทบของสนธสิ ัญญาเบาวริ่ง - ประเทศไทยเขารวม สงครามโลกครั้งที่ 1 และครง้ั ที่ 2 - การเปลีย่ นแปลงการ ปกครองของประเทศไทยในป พ.ศ. 2475 - สภาพโดยทว่ั ไปกอนการเปล่ียนแปลง - สาเหตุของการเปลยี่ นแปลง - การดาเนินการเปลย่ี นแปลง - ผลกระทบท่ีเกิดขึ้น - พระราชกรณยี กิจของ รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจาสริ กิ ิตพระบรมราชนิ นี าถ ในรัชกาลท่ี 9 ทม่ี ผี ลตอการเปล่ียนแปลงของประเทศไทย 7. จุดประสงค์การเรยี นรู้/ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง 7.1 บอกถงึ ประวตั ิศาสตรโ์ ดยสังเขปของประเทศสาธารณรฐั ประชาชนจีน อนิ เดยี และประเทศญปี่ ุ่นได้ 7.2 บอกความเปนมาของประวัติศาสตรในประเทศ เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตได้ 7.3 อธบิ ายความสมั พนั ธของประวัติศาสตรประเทศจนี อินเดีย ญ่ีปุน กับประเทศ ในแถบ เอเชยี ตะวันออกเฉียงใตได้ 7.4 อธิบายความสมั พนั ธของประวัตศิ าสตรระหวางประเทศ ในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตได้ 7.5 ระบุสาเหตขุ องเหตุการณสาคัญทางประวัติศาสตรท่ีเกิดข้ึนในประเทศไทยได 7.6 บอกผลกระทบท่เี กิดจากเหตุการณสาคัญทางประวัติศาสตรทีเ่ กิดข้ึนกบั ประเทศในทวปี เอเชยี ได 7.7 วิเคราะหเหตกุ ารณสาคญั ในอดีตทีส่ งผลตอความเปลี่ยนแปลงที่เกดิ ขึ้นกบั ประเทศไทยใน ดานตาง ๆ ได 7.8 อธิบายเหตุการณในอดีตทสี่ งผลตอความเปล่ยี นแปลงทีเ่ กิดขึน้ กบั ประเทศในทวีปเอเชียได 7.9 บอกประโยชนพระราชกรณียกจิ ของรัชกาลที่ 9 หรอื พระนางเจาสิริกิตพระบรมราชินนี าถ ในรัชกาลท่ี 9 ได

25 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้และกจิ กรรมเพิ่มเตมิ ขน้ั นา 1. ครูนาเข้าส่บู ทเรียนโดยใชก้ ิจกรรม “ ผลไม้ทายประเทศ” เพื่อสร้างความคุ้นเคยในการเข้ารว่ มกจิ กรรมของ ผเู้ รยี นเกีย่ วกับประเทศในทวปี เอเชยี QR กิจกรรม “ ผลไม้ทายประเทศ” 2. ครูถามผู้เรยี นวา่ “เร่ืองที่กาลังจะเรยี นตรงกับคา่ นิยม 12 ประการ ข้อใดบ้าง และคอื อะไร”(ข้อ 1 รักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ / ข้อ 2 ซอื่ สตั ย์ เสียสละ อดทนได้ / ข้อ 5 รกั ษา วัฒนธรรม ประจาชาติ / ขอ้ 6 ไมข่ าด ศีลธรรม ศาสนา / ข้อ 7 เรยี นรู้ อธิปไตย ของประชา / ขอ้ 8 รักษา วนิ ัย กฎหมายไทย/ ข้อ 11 ตอ้ ง เขม้ แขง็ ทัง้ กายและใจและข้อ 12 คิดอะไร ให้สว่ นรวม) 3. ครเู ปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนซักถามข้อสงสัย และชีแ้ จงจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขนั้ สอน 1. ครูอธิบายโดยยกตวั อย่าง เรื่องความสมั พนั ธ์ของประวตั ศิ าสตรประเทศจีน อินเดยี ญ่ปี ุน กับ ประเทศในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ 2. ผ้เู รยี นแบง่ กลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาค้นคว้าจากส่ือแบบเรยี น และอภิปราย บนั ทึกเป็นแผนผังแนวคิด (Mind Mapping) เกี่ยวกบั เร่ืองต่อไปน้ี 2.1 วเิ คราะห์เหตกุ ารณ์ในอดีตท่สี ่งผลตอ่ ความเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดขน้ึ กับประเทศไทยและประเทศ ในทวปี เอเชีย QR เพราะเหตุใด \"สยาม\" จึงไมเ่ คยเป็นเมืองข้ึนสมัยยุคล่าอาณานิคม ที่มา https://www.tnews.co.th/contents/336771

26 QR ประเทศไทยในยุคสงครามเยน็ ทมี่ า https://www.youtube.com/watch?v=f-wHhIpTONk QR สนธสิ ญั ญาเบาว์รงิ ทม่ี า https://www.youtube.com/watch?v=301W64aSR3w 2.2 ประโยชน์พระราชกรณยี กิจของรชั กาลที่ 9 หรอื พระนางเจาสิริกิต์พระบรมราชินนี าถใน รัชกาลที่ 9 3. ใหต้ วั แทนผ้เู รียนออกมาสรุปความรทู้ ี่ได้รับในครั้งน้ีให้ผูเ้ รยี นคนอน่ื ๆ ฟงั ขัน้ สรุป 1. ครูพร้อมผูเ้ รยี นสรปุ ความรใู้ นเนอื้ หาเร่อื งประวัตศิ าสตรท์ วีปเอเชีย 2. ผเู้ รยี นซกั ถามและแลกเปลีย่ นความรู้ งานทีม่ อบหมาย ให้ผ้เู รยี นคน้ ควา้ เพ่ิมเติม เร่ืองประวตั ิศาสตร์ทวปี เอเชยี และการทป่ี ระเทศไทยเขารวม สงครามโลกครั้งท่ี 1 และคร้ังที่ 2 จากสือ่ /แหล่งเรยี นรู้ เช่น หอ้ งสมุด, บา้ นหนังสอื อัจฉรยิ ะ, กศน.ตาบล, อินเทอร์เนต็ พร้อมจัดทาเป็นรูปเลม่ รายงาน

27 9. สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ 9.1 หนงั สือแบบเรยี น 9.2 สอ่ื QR Cord 9.3 อินเตอรเ์ น็ต 9.4 ใบงาน 10. การวัดผลและประเมินผล 10.1 ใบงาน 10.2 ทักษะการพูดโตต้ อบ

28 ใบงาน เร่ืองประวตั ิศาสตร์ทวีปเอเชยี คาช้ีแจง : ให้ผู้เรียนแบ่งกลมุ่ รว่ มกันศึกษาค้นคว้าจากสื่อแบบเรียน และอภิปราย บันทกึ เป็นแผนผงั แนวคิด (Mind Mapping) ลงกระดาษกรฟุ๊ เกี่ยวกับเรอื่ งต่อไปน้ี 1 วิเคราะห์เหตุการณใ์ นอดีตท่สี ง่ ผลต่อความเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ ขึ้นกบั ประเทศไทยและประเทศในทวีปเอเชีย QR เพราะเหตใุ ด \"สยาม\" จึงไม่เคยเปน็ เมืองขึน้ สมัยยคุ ลา่ อาณานิคม ท่ีมา https://www.tnews.co.th/contents/336771 QR ประเทศไทยในยุคสงครามเย็น ท่มี า https://www.youtube.com/watch?v=f-wHhIpTONk QR สนธิสัญญาเบาว์ริง ท่มี า https://www.youtube.com/watch?v=301W64aSR3w

29 2. จงเขยี นอธิบายประโยชนพ์ ระราชกรณยี กิจของรัชกาลที่ 9 ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................ ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................ ........................................................................................................ ..................................... ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................ ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................ ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................ ............................................................................................................................................. 3. ให้ผเู้ รยี นคน้ ควา้ เพิ่มเตมิ เรื่องประวัติศาสตร์ทวปี เอเชยี และการที่ประเทศไทยเขารวม สงครามโลกครัง้ ท่ี 1 และครง้ั ที่ 2 จากส่อื /แหลง่ เรียนรู้ เชน่ ห้องสมุด, บา้ นหนงั สอื อัจฉรยิ ะ, กศน.ตาบล, อินเทอรเ์ น็ต พร้อมจดั ทาเปน็ รูปเล่มรายงาน (สง่ ภายในระยะเวลาที่ กาหนด)

30 แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรยี น เรอ่ื งประวตั ศิ าสตร์ทวีปเอเชีย วิชาสังคมศกึ ษา สค 21001 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น (3 หน่วยกิต) คาชแี้ จง ให้ผูเ้ รียนเลอื กคาตอบที่ถูกท่ีสุดเพยี งข้อเดยี ว 7. สนธสิ ัญญาเบาว์รงิ มผี ลกรทบด้านเศรษฐกิจแบบ เงนิ ตรา 1. ข้อใดเป็นแฟชน่ั ที่บ่งบอกความเปน็ เอกลักษณ์ของชาวจีน ก. ก่เี พา่ ในสมัยรชั กาลท่ี 4ตามข้อใด ข. เสอื้ กก๊ั ก. ใช้ธนบตั รแทนเงนิ พดด้วง ค. เส้อื คลุม ข. เกิดธนาคารพาณชิ ยข์ องเอกชน ง. เสือ้ คอปก ค. การจัดตง้ั โรงกษาปณผ์ ลิตเหรยี ญโลหะ ง. การตั้งหนว่ ยเงินตราเปน็ บาทและสตางค์ 2. กบฏหยา่ ซานในพม่าเกิดจากสาเหตุใด 8. ขอ้ ใดคือจดุ เรมิ่ ตน้ ของสงครามเยน็ ก. การแย่งอานาจ ก. การแขง่ ขันเพื่อสรา้ งอาวธุ ข. การเคลื่อนไหวทางการเมอื ง ข. การแยง่ ผลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ ค. การไมส่ ามคั คีของคนในชาติ ค. การตอ่ ส้ดู ้านอุดมการณ์ 2 ข้ัวอานาจ ง. การเก็บส่วยของรฐั ไมเ่ ปน็ ธรรม ง. การต่อตา้ นการขยายตัวของลทั ธิทุนนยิ ม 9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ผลของการเขา้ ร่วมสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 3. ประเทศใดในแถบเอเชียท่ีมีปริมาณการค้าสง่ ออกมากที่สดุ ของประเทศไทย ก. จีน ญี่ปนุ่ ก. ไทยตอ้ งส่งทหารไปชว่ ยญป่ี ุ่นรบ ข. พมา่ ไทย ข. เกดิ ขบวนการเสรไี ทย ซ่งึ ให้พ้นจากการยดึ ครอง ค. ไทย บรไู น ค. ไทยไดร้ บั เกียรตเิ ป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ง. มาเลเซยี บรไู น ง. ไทยได้ดนิ แดนเชียงตงุ และสีจ่ ังหวดั ภาคใตท้ ต่ี ้องเสีย 4. พระแกว้ มรกตเดิมเปน็ ของชาตใิ ด แก่อังกฤษกลบั มาโดยถาวร ก. จนี ข. พม่า 10. ขอ้ ใด ไม่ใช่ประโยชนข์ องการนาปรชั ญาเศรษฐกิจ ค. ลาว ง. อินโดนีเซีย พอเพยี งมาประยุกตใ์ ช้ 5. ข้อใดเป็นมูลเหตุสาคัญที่ไทย “ทาการคา้ สาเภา” ก. ขา้ ราชการชัน้ สูงต้องการหารายได้พิเศษ ก. เกิดความสมคั รสมานสามัคคใี นชุมชน ข. ตอ้ งการเลยี นแบบการคา้ ขายของชาวจีน ข. เพ่ือเพม่ิ สามารถในการแข่งขัน ให้มีกาไรที่สงู ขน้ึ ค. สนิ คา้ ของไทยเปน็ ทตี่ ้องการของตา่ งชาติ ได้กาไรดี ค. เศรษฐกจิ ชมุ ชนเกิดความเขม้ แข็งลดการพึง่ พา ง. พระมหากษัตรยิ ต์ ้องการใหไ้ ทยเป็นทีร่ จู้ ักของต่างชาติ เศรษฐกิจจากภายนอก 6. สนธิสัญญาเบาว์รงิ ท่ไี ทยกากับองั กฤษ มีสาเหตุจากข้อใด ง. คนในชุมชนดาเนนิ ชีวติ อย่างมีความสุข เพราะทกุ ก. การให้สิทธิพเิ ศษพ่อค้าจีน ข. การใช้ระบบการคา้ เสรีของไทย คนพออยู่พอกนิ ค. การใชร้ ะบบผกู ขาดการคา้ ของไทย ง. ฝ่ายไทยกดี กนั การนาเข้าสนิ คา้ ของอังกฤษ

31 แบบทดสอบ ก่อนเรียน-หลังเรียน (ไฟลเ์ อกสาร) ลงิ ้ ค์Google Form https://docs.google.com/forms/d/1XBJQhLoa6j0yPTN2zVyv4nkl2YfpRKF-y2I345V8P5A/edit

32 เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน เรือ่ งประวตั ิศาสตรท์ วปี เอเชีย วชิ าสังคมศกึ ษา สค 21001 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (3 หน่วยกติ ) ขอ้ เฉลย ข้อ เฉลย 1ก 6ค 2ง 7ค 3ก 8ก 4ค 9ง 5ข 10 ข

33 บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ กศน.ตาบลเกาะช้าง อาเภอเกาะชา้ ง จังหวัดตราด สัปดาหท์ ่ี..............................วัน......................เดอื น..........................พ.ศ............................ ระดบั ม.ตน้ สาระวิชาการพัฒนาสงั คม วิชา สังคมศกึ ษา รหสั วิชา สค 21001 เนอ้ื หา/สาระท่สี อน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. กจิ กรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .................................................................................................................... .......................................................... .ปัญหา/อปุ สรรค การเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. วธิ กี ารแกป้ ญั หา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ..............................................ครผู ู้สอน (................................................) ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ..............................................ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา (................................................)

34 แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ กศน.อาเภอเกาะชา้ ง จงั หวัดตราด 1. ครงั้ ท่ี 3 สัปดาหท์ ่ี วนั ท่ี เดอื น…………..…… ……………พ.ศ.…………… ………… 2. วชิ าสงั คมศึกษา (สค21001). จานวน 3 หนว่ ยกิต 3. มาตรฐานที่5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนังถึงความสาคัญเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง สามารถนามาปรับใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ 4. หนว่ ยการเรียนรู้/เรอ่ื ง เศรษฐศาสตร์.การเมืองการปกครอง 5. สาระสาคัญ เศรษฐศาสตร์เปน็ วิชาที่ว่าด้วยเรือ่ งเกี่ยวกับการกระจายทรัพยากรท่ีมอี ยู่อยา่ งจากัดใหส้ ามารถ สนองต่อความต้องการของคนในสังคมอยา่ งเปน็ ธรรมการพัฒนาเศรษฐกจิ เป็นการเปล่ียนแปลงโครงสรา้ ง ทางสงั คม การเมืองและเศรษฐกจิ ให้อย่ใู นภาวะท่ีเหมาะสม โดยแต่ละประเทศจะมีจะมุ่งหมายในการ พฒั นาเศรษฐกจิ ทไ่ี ม่เหมือนกนั ทั้งนี้ขึ้นอยกู่ บั ทรัพยากรการผลิต สภาพภูมิศาสตร์ตลอดจนพืน้ ฐานทาง วัฒนธรรมทแ่ี ตกต่างโดยมีเป้าหมายเหมือนกนั คือต้องการให้เกิดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกจิ ประชากรของประเทศมีมาตรฐานการครองชีพท่สี งู ขึน้ รัฐธรรมนูญเป็นหัวใจสาคญั ของระบอบประชาธิปไตย กลา่ วคือ เปน็ กฎหมายสงู สดุ ว่าด้วยการจดั ระเบยี บการปกครอง โดยยดึ มัน่ หลกั การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษตั ริย์เปน็ ประมขุ มีรปู แบบการปกครองแบบอานาจอธปิ ไตยซง่ึ เป็นอานาจสงู สดุ ในการปกครองประชาชนและการใช้อานาจ ตอ้ งเป็นไปตามรัฐธรรมนญู โดยมีบทบัญญตั ิกฎหมายรองรับประชาชนจึงตอ้ งมหี นา้ ทปี่ ฏิบัติตนตอ่ บา้ นเมอื งตามท่ีกาหนดไวใ้ นกฎหมายรฐั ธรรมนูญ 6. เนอ้ื หา 6.1 ความหมาย ความสาคัญของเศรษฐศาสตร์มหาภาคและจุลภาค 6.2 ระบบเศรษฐกจิ ในประเทศไทย 6.3 หลักการและวิธกี ารเลือกใช้ทรพั ยากรเพอื่ การผลิต 6.4 คุณธรรมในการผลิตและการบริโภค 6.5 กฎหมายและขอ้ มลู การคุ้มครองผู้บรโิ ภค 6.6 หน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองผ้บู ริโภค 6.7 การพทิ ักษส์ ทิ ธแิ ละผลประโยชน์ของผ้รู โิ ภค 6.8 ความสาคญั ของกลมุ่ ทางเศรษฐกิจในทวปี เอเชยี 6.9 กลุ่มทางเศรษฐกิจต่างๆในทวีปเอเชยี 6.10 ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน 6.11 สภาพเศรษฐกจิ ของประเทศไทยและประเทศตา่ งๆในประทวีปเอเชีย 6.12 ระบบเศรษฐกิจของประเทศตา่ งๆในประทวปี เอเชีย

35 6.13 ลักษณะประเภทสนิ ค้านาเข้าและสนิ ค้าส่งออกของประเทศต่างๆในประทวีปเอเชยี ความสาคัญของกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ในทวีปเอเชยี 6.14 การปกครองระบอบประชาธิปไตย และระบอบอนื่ ๆ 6.15 การเปรียบเทยี บรปู แบบทางการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยและระบอบอื่นๆ ในทวีปเอเชยี 7. จดุ ประสงค์การเรียนร/ู้ ผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวงั 7.1 อธบิ ายความหมาย ความสาคญั ของเศรษฐศาสตรม์ หาภาคและจุลภาคได้ 7.2 บอกข้อดีบอกข้อดีข้อเสยี ของระบบเศรษฐกจิ ในประเทศไทยได้ 7.3 บอกหลกั การและวิธีการเลือกใช้ทรัพยากรเพื่อการผลิตได้ 7.4 บอกคุณธรรมในการผลิตได้ 7.5 เลือกใช้บริการหน่วยงานท่ีมหี นา้ ที่ค้มุ ครองผู้บริโภคได้ 7.6 บอกสทิ ธิและผลประโยชนข์ องผู้บรโิ ภคได้ 7.7 อธบิ ายความสาคัญของกล่มุ ทางเศรษฐกิจในทวีปเอเชยี ได้ 7.8 อธบิ ายพรอ้ มยกตัวอยา่ งระบบเศรษฐกิจในประเทศไทยได้ 7.9 อธิบายผลกระทบของการเป็นสมาชกิ กลุ่มประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียนของประเทศไทยได้ 7.10 นาเสนอผลการเปรยี บเทียบสภาพเศรษฐศาสตร์ของประเทศในทวีปเอเชียได้ 7.11 อธบิ ายระบบเศรษฐกจิ ของประเทศต่างๆในประทวปี เอเชยี 7.12 อธิบายลักษณะประเภทสินค้านาเข้าและสนิ ค้าสง่ ออกของประเทศตา่ งๆในประทวปี เอเชยี 7.13 อธิบายรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและการปกครองในระบอบอืน่ ๆ นอกเหนือจากระบอบประชาธปิ ไตยได้ 7.14 อธิบายข้อดขี ้อเสยี ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้ 7.15 อธิบายข้อดขี ้อเสียของการปกครองระบอบเผด็จการได้ 7.16 เปรียบเทียบรูปแบบการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยกับการปกครองรูปแบบ สังคมนิยม 7.17 ยกตัวอยา่ งการปฏบิ ัตติ นไดเ้ หมาะสมกบั ระบอบการปกครองในประเทศที่อาศยั อยู่ 8. กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมเพิ่มเติม ข้ันนา กิจกรรมนนั ทนาการ 1. ครูสอบถามผ้เู รยี นว่าจากทอี่ า่ นหนังสือพิมพแ์ ละดูขา่ ว จากโทรทัศน์ผูเ้ รยี นคิดวา่ เศรษฐกิจในในประเทศไทย ปัจจบุ ันเปน็ อยา่ งไร 2. ครถู ามผู้เรียนว่า “เร่ืองท่ีกาลังจะเรยี นตรงกับค่านยิ ม 12 ประการ ข้อใดบา้ ง และคืออะไร”(ข้อ 2 ซอ่ื สตั ย์

36 เสียสละ อดทนได้ / ข้อ 6 ไม่ขาด ศลี ธรรม ศาสนา / ขอ้ 7 เรียนรู้ อธิปไตย ของประชา / ขอ้ 8 รกั ษา วนิ ยั กฎหมายไทย/ ข้อ 11 ต้อง เขม้ แข็ง ทั้งกายและใจและข้อ 12 คิด อะไร ให้ส่วนรวม) 3. ช้ีแจงจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขน้ั สอน 1. ครูอธิบายเร่อื ง เศรษฐศาสตร์และการเมืองการปกครอง 2. ผู้เรยี นแบง่ กลุ่ม 3กลุ่ม ใหผ้ ู้เรียนจบั ฉลากเลอื กเรือ่ งท่ีต้องค้นคว้าและสรุปเนอ้ื หาทไ่ี ด้ ออกมาในรปู แบบผงั มโนทัศน์ (Mapping) 3. ตัวแทนผู้เรยี นแต่ละกลุ่ม นาเสนอหนา้ ชน้ั เรียนในรปู แบบผังมโนทัศน์ (Mapping) ข้ันสรุป 1. ครูสรปุ ความรู้ในเน้ือหาเรอ่ื งเศรษฐศาสตร์และการเมืองการปกครอง 2. ผ้เู รียนซักถามและแลกเปลย่ี นความรู้ งานท่ีมอบหมาย ให้ผูเ้ รียนคน้ คว้าเพิ่มเติมและทาใบงาน จากแหลง่ เรียนรหู้ ้องสมุด, บ้านหนังสอื อจั ฉริยะ, กศน.ตาบล, อินเทอร์เน็ต 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 9.1 หนังสอื แบบเรียน 9.2 ใบความรู้ 9.3 ใบงาน 9.4 แบบทดสอบ 10. การวดั ผลและประเมินผล 10.1 ใบงาน 10.2 แบบทดสอบ

37 ใบงาน วชิ าสังคมศกึ ษา สค 21001 ม.ตน้ เรื่องเศรษฐศาสตรแ์ ละการเมอื งการปกครอง (รวมเน้ือหา)