-46- 8. ชอื่ โครงกำรวิจัย : กำรศึกษำองคป์ ระกอบทำงโภชนำกำรและกำรใช้ประโยชนท์ ำงยำจำกขำ้ ว พนั ธ์พุ ้นื เมืองในจงั หวดั ปทุมธำนี (ระยะท่ี 3) The Studies of Nutritional Composition and Using Medical Utilization from the Native Varieties of Rice in Pathum Thani Province 1. ประเภทเงนิ อุดหนุนโครงกำรวิจัย โครงการวิจยั พนื้ ฐาน โครงการวิจยั ประยกุ ต์ โครงการวิจัยและพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวจิ ยั ผลผลิตผลงานวิจยั เพื่อสรา้ งองคค์ วามรู้ ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพ่ือถ่ายทอดเทคโนโลยี 3. รำยชือ่ ผู้วจิ ัย 3.1 ผศ.ดร.อนิ ทิรา ลิจนั ทร์พร หัวหนา้ โครงการวิจยั 3.2 ผศ.ดร.ปาลิดา ตง้ั อนรุ ัตน์ ผรู้ ่วมวจิ ยั 3.3 ผศ.ดร. นันทช์ นก นันทะไชย ผู้รว่ มวจิ ัย 4. ได้รับจดั สรรงบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เป็นเงินจานวน 800,000 บาท (แปดแสนบาทถ้วน) 5. เริ่มทำกำรวจิ ัยเม่ือ 1 ตุลาคม 2561 ถงึ 30 กันยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเก่ยี วกบั ผลงำนควำมกำ้ วหน้ำของกำรวจิ ัย 6.1 วัตถุประสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพอ่ื สนองพระราชดารโิ ครงการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพชื อันเน่ืองมาจากพระราชดาริ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพอื่ ศึกษาองคป์ ระกอบทางโภชนาการของขา้ วพนั ธ์ุพ้ืนเมืองในจังหวัดปทมุ ธานี 6.1.3 เพอ่ื ศกึ ษาการใชป้ ระโยชนท์ างยาของขา้ วพนั ธพุ์ ้นื เมืองในจังหวดั ปทมุ ธานี 6.2 กำรดำเนนิ งำนวจิ ัยตำมทเ่ี สนอไวใ้ นโครงกำรวิจัยกับงำนวจิ ัยท่ีไดด้ ำเนินกำรไปแล้ว 2561 2562 การดาเนนิ งาน ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. . 1. เตรียมอปุ กรณแ์ ละสารเคมี 2.ดาเนนิ การทดลองและ วเิ คราะห์ผล 3.เขียนรายงานและสรุปผล หมายเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนินกำรวิจัยที่ไดด้ ำเนินกำรไปแล้ว คิดเป็นรอ้ ยละ 100 ของโครงการ ได้แก่ จากการวิเคราะหอ์ งค์ประกอบทางเคมีของพันธ์ุข้าวพบว่าข้าวทุกพันธุ์ให้พลังงานอยู่ในช่วง 360.74- 369.01 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรตและความช้ืนอยู่ในช่วง 72.94-77.32 และ 8.92-13.04 กรัมต่อ 100 กรัม ข้าวขาวกล่ิน และข้าวลืมผัวมีปริมาณเถ้าต่าสุด ในขณะท่ีข้าวพันธ์ุอื่น มีเถ้าอยู่ในช่วง 1.00-1.82 กรัมต่อ 100 กรัม ข้าวเหนียวก่าเปลือกขาวมีไขมันต่าสุดเท่ากับ 2.91 นอกน้ันพันธ์ุข้าวอื่นๆ อยู่ในข่วง 3.10-3.77 กรัมต่อ
-47- 100 กรมั ปรมิ าณโปรตีนในข้าวเหนียวก่ากัญญามีปริมาณมากที่สุดเท่ากับ 10.06 กรัมต่อ 100 กรัม และใยอาหารใน ข้าวเจ้าหอมมะลิดามปี ริมาณมากท่ีสดุ เท่ากบั 3.00 กรมั ต่อ 100 กรมั เมื่อวิเคราะห์วิตามินอีพบว่าข้าวเจ้าหอมมะลิดา มีปริมาณมากกว่าข้าวพันธ์ุอ่ืน ข้าวขาวกล่ินมีปริมาณเหล็กมากท่ีสุด โฟลิกมีปริมาณมากสุดในข้าวเจ้าหอมนางพญา แม่ทองดา และไนอะซินมีในข้าวเจ้าหอมใบเตยมากท่ีสุด ข้าวเจ้าหอมกระดังงาและข้าวเหนียวลืมผัวมีปริมาณ สารประกอบฟนี อลิกและสารตา้ นอนุมลู อสิ ระสูงตามลาดับ 6.4 งบประมำณทไ่ี ด้จ่ำยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจ่ำย (สารวจถึง 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 228,500 800,000 บำท 2. งบประมำณทีใ่ ชไ้ ป 0 800,542.47 บำท 0 บาท 2.1 งบบุคลากร -542.47 บาท ค่าตอบแทนนกั วจิ ยั 543,467.47 บาท คา่ ตอบแทนผ้ชู ่วยนกั วิจยั 0 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนินการ 0 บาท ค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทาง 0 บาท คา่ ใช้จ่ายในการฝึกอบรม 0 บาท ค่าจา้ งพิมพเ์ อกสาร 0 บาท ค่าไปรษณีย์ โทรเลข คา่ โทรศพั ท์ 0 บาท คา่ วสั ดุอุปกรณ์ บาท 28,575 บาท 2.3 งบลงทุน (ถ้ามี) บำท ค่าใช้จ่ายในการจดั ซื้อครุภัณฑ/์ สิ่งก่อสร้าง 2.4 ค่าสาธารณูปโภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ผศ.ดร. อินทริ า ลจิ นั ทร์พร หัวหนา้ โครงการ
-48- 9. ชอ่ื โครงกำรวิจัย : กำรศึกษำปริมำณสำรต้ำนอนุมลู อิสระและคลอโรฟิลล์ในใบบัวบำทป่ี ลกู ในพน้ื ที่ จงั หวัดปทุมธำนเี พือ่ ต่อยอดสกู่ ำรพัฒนำผลติ ภัณฑ์ Study of Antioxidant and Chlorophyll Contents in Water snowflake Leaves (Bua Ba) Cultivated in Pathum Thani Province for Further Product Development 1. ประเภทเงินอุดหนุนโครงกำรวจิ ยั โครงการวจิ ยั พนื้ ฐาน โครงการวจิ ยั ประยกุ ต์ โครงการวิจยั และพัฒนา 2. ผลผลติ งำนวิจัย ผลผลติ ผลงานวิจัยเพื่อสร้างองคค์ วามรู้ ผลผลติ ผลงานวิจัยเพ่อื ถ่ายทอดเทคโนโลยี 3. รำยช่อื ผู้วจิ ัย 3.1 ดร.ลลติ า ศิรวิ ัฒนานนท์ หัวหน้าโครงการวิจยั 3.2 ดร.นวพร ลาภส่งผล ผรู้ ว่ มวจิ ยั 4. ไดร้ บั จัดสรรงบประมำณ งบประมาณรายจา่ ยประจาปี 2562 เป็นเงนิ จานวน 410,000.- บาท ( ส่ีแสนหน่งึ หมืน่ บาทถว้ น ) 5. เร่ิมทำกำรวจิ ัยเมื่อ 1 ตลุ าคม 2561 ถงึ 30 กันยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกีย่ วกบั ผลงำนควำมก้ำวหน้ำของกำรวจิ ัย 6.1 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพื่อสนองพระราชดาริโครงการอนุรกั ษ์พนั ธุกรรมพชื อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพือ่ ศึกษาปริมาณสารต้านอนมุ ูลอิสระ ใยอาหาร และคลอโรฟิลลใ์ นใบบัวบา 6.2 กำรดำเนนิ งำนวิจัยตำมทเ่ี สนอไว้ในโครงกำรวิจัยกบั งำนวิจยั ที่ได้ดำเนนิ กำรไปแล้ว การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. กาหนดแผนดาเนนิ การใน รายละเอียด 2. รวบรวมเอกสารทเี่ ก่ียวข้อง และนาผลการวจิ ัยดา้ นต่างๆ มาเชือ่ มโยงองคค์ วามรู้เขา้ ด้วยกัน 3. สารวจพ้ืนทีเ่ พอ่ื ใหไ้ ด้วตั ถุดบิ 4. ทาการทดลอง 5. วเิ คราะห์และเปรยี บเทยี บ ผลการทดลอง 6. ประมวลผลข้อมลู การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 7. จดั ทารายงานความกา้ วหน้า 8. จดั ทารายงานฉบับสมบูรณ์ หมำยเหตุ : แผน ผล
-49- 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวจิ ยั ทไ่ี ดด้ ำเนินกำรไปแล้ว คดิ เป็นรอ้ ยละ.100..ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 ลกั ษณะทางกายภาพของผงใบบวั 6.3.2 องคป์ ระกอบทางเคมีของผงใบบัว 6.3.3 คุณคา่ ทางโภชนาการของผงใบบัว ลกั ษณะปรำกฏใบบัวและผงใบบัว
-50- 6.4 งบประมำณทไี่ ดจ้ ำ่ ยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจ่ำย (สารวจถงึ 30 กันยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 410,000 บำท 2. งบประมำณท่ใี ชไ้ ป 402,980 บำท 0 บาท 2.1 งบบคุ ลากร 0 บาท ค่าตอบแทนนักวจิ ยั 0 บาท ค่าตอบแทนผูช้ ่วยนกั วิจยั 0 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนินการ 0 บาท ค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทาง 0 บาท ค่าใช้จา่ ยในการฝึกอบรม 0 บาท ค่าจ้างพิมพ์เอกสาร 0 402,980 บาท คา่ ไปรษณีย์ โทรเลข คา่ โทรศัพท์ 0 บาท คา่ วสั ดุอปุ กรณ์ 0 บาท 0 บาท 2.3 งบลงทุน (ถา้ มี) บำท ค่าใชจ้ ่ายในการจัดซ้อื ครุภณั ฑ์/ส่งิ ก่อสรา้ ง 7,020 2.4 คา่ สาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ดร. ลลติ า ศริ ิวฒั นานนท์ หัวหน้าโครงการ
-51- 10. ช่ือโครงกำรวจิ ยั : ผลไมอ้ ัดเม็ดเสริมโปรไบโอตกิ Fruits tablet supplemented with probiotic 1. ประเภทเงินอดุ หนุนโครงกำรวจิ ยั โครงการวจิ ัยพื้นฐาน โครงการวิจยั ประยกุ ต์ โครงการวจิ ัยและพฒั นา 2. ผลผลิตงำนวิจยั ผลผลติ ผลงานวจิ ยั เพอ่ื สรา้ งองค์ความรู้ ผลผลิตผลงานวิจัยเพื่อถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยชื่อผูว้ ิจัย 3.1 ผศ.ดร.ปาลดิ า ต้ังอนรุ ตั น์ หัวหน้าโครงการวิจยั 3.2 ผศ.ดร.อินทิรา ลจิ นั ทร์พร ผรู้ ่วมวจิ ัย 3.3 ผศ.ดร.นันทช์ นก นนั ทะไชย ผรู้ ่วมวิจัย 4. ได้รับจดั สรรงบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เปน็ เงนิ จานวน 350,000 บาท ( สามแสนหา้ หมนื่ บาทถ้วน) 5. เรม่ิ ทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ตุลาคม 2561 ถงึ 30 กนั ยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกย่ี วกับผลงำนควำมกำ้ วหน้ำของกำรวจิ ัย 6.1 วัตถปุ ระสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพ่ือสนองพระราชดารโิ ครงการอนุรกั ษ์พันธุกรรมพชื อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพอ่ื ศึกษาการผลิตนา้ ผลไมแ้ ละโปรไบโอติกผงด้วยวิธีทาแหง้ แบบโฟมแมทต่อการรอดชีวิตของ โปรไบโอตกิ และคุณภาพทางเคมีกายภาพของผลิตภัณฑ์ 6.1.3 เพอ่ื ศกึ ษาสภาวะท่เี หมาะสมในการทาผลไม้อดั เม็ดเสรมิ โปรไบโอตกิ ในต่อการรอดชีวิตของโปร ไบโอติก และคุณภาพทางเคมีกายภาพ กิจกรรมการตา้ นอนมุ ลู อสิ ระของผลิตภณั ฑ์อัดเม็ด 6.1.4 เพื่อศึกษาอายุการเก็บรักษาและการยอมรับของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ผลไม้ผงเสริมโปรไบโอ ติกอัดเม็ด 6.2 กำรดำเนนิ งำนวจิ ยั ตำมท่ีเสนอไว้ในโครงกำรวิจัยกบั งำนวจิ ัยที่ไดด้ ำเนนิ กำรไปแลว้ การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. เตรยี มวตั ถุดิบ อปุ กรณ์ สารเคมี เชื้อจุลนิ ทรยี ์ 2. การเตรยี มผงผักเสรมิ โปร ไบโอตกิ 3. ศกึ ษาปริมาณสารท่ีสง่ ผลต่อ การอดั เมด็ 4. ศึกษาการเปลย่ี นแปลง คุณภาพ และอายกุ ารเก็บรักษา ในบรรจุภณั ฑ์
-52- การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 5. ศกึ ษาการยอมรับของ ผู้บริโภค พรอ้ มฉลาก ผล และรายงานฉบบั สมบูรณ์ หมำยเหตุ : แผน 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจยั ที่ไดด้ ำเนนิ กำรไปแล้ว คิดเปน็ รอ้ ยละ...... 90...... ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 บรู ณาการเรียนการสอนกับรายวิชาเทคโนโลยีอาหารหมกั ดอง 6.3.2 ได้ผลิตภณั ฑ์ต้นแบบ 6.3.3 ผลงานตพี มิ พ์อยูร่ ะหว่างดาเนินการ ภำพที่ 1 ผลติ ภัณฑต์ ้นแบบผลไม้อัดเมด็ เสรมิ โปรไบโอติก
-53- 6.4 งบประมำณทไี่ ด้จำ่ ยไปแล้ว แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถงึ 30 กันยายน 2561) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 350,000 บำท 2. งบประมำณท่ีใช้ไป 315,000 บำท 0 บาท 2.1 งบบคุ ลากร 0 บาท คา่ ตอบแทนนกั วจิ ยั 0 บาท ค่าตอบแทนผ้ชู ่วยนักวิจยั 0 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนนิ การ 0 บาท คา่ ใชจ้ ่ายในการเดินทาง 0 บาท ค่าใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม 0 บาท ค่าจา้ งพิมพเ์ อกสาร 0 บาท ค่าไปรษณีย์ โทรเลข ค่าโทรศัพท์ 0 บาท ค่าวสั ดุอปุ กรณ์ 0 บาท 0 บาท 2.3 งบลงทุน (ถา้ มี) 35,000 บำท ค่าใช้จา่ ยในการจดั ซือ้ ครภุ ณั ฑ์/สงิ่ ก่อสรา้ ง 2.4 ค่าสาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ผศ.ดร.ปาลิดา ตัง้ อนรุ ตั น์ หวั หน้าโครงการ
-54- 11. ชอ่ื โครงกำรวิจัย : กำรพัฒนำผลติ ภัณฑ์เสน้ บะหม่ีผำ Development of Fresh water algae (Wolffia globosa) Yellow Noodle 1. ประเภทเงนิ อดุ หนนุ โครงกำรวจิ ยั โครงการวจิ ัยพื้นฐาน โครงการวจิ ยั ประยุกต์ โครงการวจิ ัยและพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวจิ ัย ผลผลติ ผลงานวิจัยเพือ่ สรา้ งองคค์ วามรู้ ผลผลติ ผลงานวจิ ยั เพื่อถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยช่ือผู้วจิ ัย 3.1 ผศ.ดร.เลอลักษณ์ เสถียรรตั น์ หวั หน้าโครงการวจิ ยั 3.2 อาจารยเ์ กรยี งศักด์ิ สิงห์แก้ว ผูร้ ่วมวจิ ยั 4. ไดร้ บั จดั สรรงบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เป็นเงินจานวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถว้ น) 5. เร่มิ ทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ตุลาคม 2561 ถงึ 30 กันยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกยี่ วกับผลงำนควำมกำ้ วหน้ำของกำรวิจัย 6.1 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพอื่ สนองพระราชดารโิ ครงการอนรุ กั ษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ (อพ.สธ.) 6.1.2 การทดสอบทดสอบฤทธต์ิ า้ นอนุมูลอิสระของผา 6.1.3 การทดสอบทางประสาทสัมผสั ผลติ ภัณฑเ์ ส้นบะหมี่ผา 6.1.4 ถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารทาผลติ ภัณฑ์เส้นบะหมผี่ า 6.2 กำรดำเนนิ งำนวิจัยตำมทเี่ สนอไวใ้ นโครงกำรวิจัยกบั งำนวิจัยทไี่ ดด้ ำเนนิ กำรไปแล้ว การดาเนินงาน พ.ศ. 2561 พ.ศ. 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. รวบรวมเอกสารงาน 2. กาหนดแผนการ ศึกษา 3. รวบรวมวัตถดุ บิ 4. ทดสอบฤทธิ์ 5. พฒั นาผลติ ภณั ฑ์ 6. ทดสอบประสาท สัมผสั 7. การทดสอบคุณภาพ การดาเนนิ งาน พ.ศ. 2561 พ.ศ. 2562 8. จัดทารูปเล่ม ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 9. ถ่ายทอดเทคโนโลยี 10. เผยแพรผ่ ลงานวิจยั หมำยเหตุ : แผน ผล
-55- 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจัยที่ไดด้ ำเนินกำรไปแลว้ คิดเปน็ ร้อยละ .....100......... ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 ทดสอบฤทธต์ิ า้ นอนุมูลอสิ ระ ผลการศึกษาสามารถสรุปว่าสารสกัดผามีฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระต่า สารสกัดผาอบแห้งที่อุณหภูมิ 40 องศา เซลเซียส มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดีท่ีสุด รองลงมาคือ สารสกัดจากผาท่ีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในการ อบแหง้ ผาจงึ มีผลต่อฤทธิ์ตา้ นอนุมลู อสิ ระของสารสกัดผา ตำรำงที่ 1 ผลการทดสอบฤทธ์ิตา้ นอนุมลู อิสระดว้ ยวิธี DPPH radical scavenging สารสกดั ผา ทอี่ ณุ หภมู แิ ตกต่างกัน อุณหภมู ทิ ่ีอบผา 1 2 EC50 (µg/ml)) EC50 (องศาเซลเซยี ส ) 353.22 350.79 3 351.63±1.38 1851.25 1856.92 1855.69±3.97 40 787.36 780.91 350.87 785.05±3.59 50 812.01 823.26 1858.90 921.52±9.04 60 133.54 132.90 786.89 133.08±0.39 70 829.91 BHT 132.81 ตำรำงที่ 2 ผลการทดสอบฤทธ์ติ ้านอนุมูลอสิ ระดว้ ยวธิ ี DPPH radical scavenging activity ของสารสกัดผาท่ีอณุ หภูมแิ ตกต่างกัน อุณหภมู ทิ ่ีอบผา EC50 values of DPPH (องศาเซลเซียส ) (Mean±SEM, µg/ml)) 40 351.63±1.38 50 1855.69±3.97 60 785.05±3.59 70 921.52±9.04 BHT 133.08±0.39
-56- 2000 1855.69 1800 1600 1400 1200 785.05 921.52 1000 µg/ml 800 600 133.08 400 351.63 200 0 40°C 50°C 60°C 70°C BHT ภำพที่ 1 การทดสอบฤทธ์ิตา้ นอนุมูลอิสระด้วยวธิ ี DPPH radical scavenging ของสารสกดั ผา ทอี่ ุณหภูมิแตกตา่ ง 6.3.2 ทดสอบประสาทสัมผัส 1) การทดสอบทางประสาทสมั ผสั เส้นบะหม่ไี ขส่ ตู รมาตรฐาน ตำรำงที่ 1 คะแนนการยอมรับของผบู้ รโิ ภคตอ่ ผลิตภัณฑ์เส้นบะหมี่ไข่สูตรมาตรฐาน 3 สูตร เกณฑก์ ำรประเมิน เส้นบะหมี่ไข่สูตรมำตรฐำน ลกั ษณะทป่ี รากฏ สูตรที่ 1 (199) สตู รท่ี 2 (354) สูตรที่ 3 (681) สี 5.98 ± 1.02b 7.82 ± 0.91a 7.76 ± 0.65b กลน่ิ 5.96 ± 1.08b 7.76 ± 0.89a 7.78 ± 0.95b รสชาติ 5.94 ±1.11b 7.94 ± 0.89a 7.78 ± 0.84b ความนุ่ม 5.92 ± 1.29b 7.96 ± 0.83a 7.96 ± 0.80b ความหนบึ 5.98 ± 0.95b 7.98 ±0.84a 7.84 ± 0.79b ความชอบโดยรวม 5.96 ± 1.19b 8.10 ± 0.78a 7.90 ± 0.88b 6.12 ± 1.08b 8.20 ± 0.83a 7.98 ± 0.71b หมายเหตุ : เลขท่ีมีอักษรเดียวกันในแนวนอนแสดงว่าไมม่ ีความแตกตา่ งกนั อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติ (P<0.05)
-57- 2) การทดสอบทางประสาทสัมผัสผลิตภณั ฑเ์ ส้นบะหม่ีผาท่ีอุณหภมู ิแตกตา่ งกัน ตำรำงที่ 2 คะแนนการยอมรับของผู้บริโภคต่อผลิตภณั ฑ์เสน้ บะหมี่ผาที่อุณหภมู แิ ตกต่างกัน 3 สูตร สตู รเส้นบะหมี่ผำ เกณฑก์ ำรประเมนิ สตู รท่ี 1 (40c) สตู รท่ี 2 (50c) สูตรที่ 3 (60c) สูตรที่ 4 (70c) ลักษณะท่ปี รากฏ 6.54 ± 0.99b 7.75 ± 1.02a 6.55 ± 1.06b 6.37 ± 1.22b สี 6.42 ± 1.12b 7.66 ± 1.07a 6.48 ± 1.06b 6.27 ± 1.27b กล่นิ 6.48 ± 0.95b 7.72 ± 1.13a 6.46 ± 1.16b 6.30 ± 1.30b รสชาติ 6.42 ± 1.13b 7.56 ± 1.21a 6.46 ± 1.11b 6.41 ±1.17b ความนุ่ม 6.43 ± 1.28b 7.63 ± 1.21a 6.42 ± 1.13b 6.34 ± 1.28b ความหนึบ 6.42 ± 1.13b 7.66 ± 1.20a 6.50 ± 1.12b 6.33 ± 1.21b ความชอบโดยรวม 6.57 ± 1.08b 7.78 ± 1.03a 6.56 ± 0.98b 6.41 ± 1.24b หมายเหตุ : เลขท่มี อี ักษรเดียวกันในแนวนอนแสดงวา่ ไมม่ ีความแตกตา่ งกันอย่างมีนยั สาคัญทางสถิติ (P<0.05) 3) การทดสอบทางประสาทสัมผัสเส้นบะหม่ีผาทป่ี รมิ าณผาผงแตกต่างกัน ตำรำงที่ 3 คะแนนการยอมรบั ของผู้บริโภคต่อผลติ ภณั ฑ์เส้นบะหม่ผี าท่ีปรมิ าณผาผงแตกตา่ ง 3 สตู ร สตู รเส้นบะหม่ีผำ เกณฑ์กำรประเมิน 8 กรัม (1%) 16 กรมั (2%) 24 กรัม (3%) ลกั ษณะท่ีปรากฏ (138) (593) (988) สี 6.67 ± 0.90b 7.66 ± 0.90a 6.80 ± 0.96b กลน่ิ 6.62 ± 0.98b 7.77 ± 0.80a 6.58 ± 0.98b รสชาติ 6.78 ± 0.94b 8.46 ± 0.94a 6.52 ± 0.94b ความน่มุ 6.67 ± 1.05b 7.76 ± 1.00a 6.56 ± 1.03b ความหนบึ 6.71 ± 1.01b 7.85 ± 0.93a 6.62 ± 0.93b ความชอบโดยรวม 6.70 ± 0.89b 7.83 ± 0.97a 6.59 ± 0.93b 6.80 ± 0.89b 7.89 ± 0.86a 6.64 ± 0.99b หมายเหตุ : เลขท่มี อี ักษรเดยี วกนั ในแนวนอนแสดงว่าไม่มีความแตกต่างกนั อยา่ งมีนยั สาคัญทางสถิติ (P<0.05)
-58- 4) การทดสอบทางประสาทสมั ผัสเส้นบะหม่สี มุนไพร ตำรำงท่ี 4 คะแนนการยอมรับของผ้บู รโิ ภคต่อผลติ ภัณฑ์เส้นบะหมสี่ มนุ ไพร 4 สูตร เกณฑก์ ำรประเมิน ใบเตย(243) สูตรบะหม่ีสมุนไพร ใบรำงจดื (458) ใบยำ่ นำง (522) ใบบวั บก862) ลกั ษณะท่ปี รากฏ 6.26 ± 1.13 ab 5.98 ± 1.12 b 5.98 ± 1.23b 6.58 ± 1.12a สี 6.62 ± 1.17 ab 6.26 ± 1.02 b 5.46 ± 1.06c 6.92 ± 1.15a กลน่ิ 6.72 ± 0.92b 6.36 ± 1.10 b 5.78 ± 1.07c 7.180 ± 1.06a รสชาติ 6.36 ± 1.00b 6.30 ± 1.03 b 5.70 ± 1.09 c 6.88 ± 1.20a ความนมุ่ 6.54 ± 0.97b 6.40 ± 0.88 b 5.74 ±0.77 c 7.02 ± 1.04a ความหนบึ 6.28 ± 0.97b 6.24 ± 0.74 b 5.86 ± 1.03 c 6.98 ± 1.02a เน้ือสัมผัส 6.32 ± 0.97b 6.36 ± 0.96 b 5.68 ± 0.99 c 6.94 ± 1.11a ความชอบโดยรวม 6.44 ± 0.92b 6.38 ± 0.92 b 5.86 ± 1.01 c 7.16 ± 1.11a หมายเหตุ : เลขท่ีมีอักษรเดยี วกันในแนวนอนแสดงว่าไม่มีความแตกต่างกนั อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติ (P<0.05) 6.3.1 ถา่ ยทอดเทคโนโลยี สถานที่จดั กิจกรรม : ณ องค์การบริหารส่วนตาบลคลองสาม ตาบลคลองสาม อาเภอคลองหลวง จังหวัด ปทมุ ธานี ระยะเวลา : จานวน 2 วนั วนั ที่ 22-23 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ : จานวน 38 คน
-59- ประมวลภำพกจิ กรรม โครงกำรถำ่ ยทอดเทคโนโลยีเร่ือง “กำรพัฒนำผลติ ภณั ฑ์เส้นบะหมี่ผำ” โดย คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี ณ องค์การบริหารส่วนตาบลคลองสาม ตาบลคลองสาม อาเภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี วันเสาร์ - อาทติ ย์ท่ี 22-23 มิถุนายน 2562 วัตถดุ ิบในกำรอบรมกำรพัฒนำผลิตภณั ฑ์เสน้ บะหม่ีผำ
-60- กำรบรรยำยเร่ือง ชนดิ ประโยชน์ และคุณคำ่ ทำงโภชนำกำรของผำ กำรบรรยำยเรอื่ ง ผลิตภณั ฑเ์ สน้ บะหมผี่ ำ กำรสำธิตทำผลติ ภัณฑเ์ สน้ บะหมี่ผำ กำรสำธติ ทำหมูโสร่งจำกผลิตภณั ฑ์เสน้ บะหม่ีผำ
-61- ผเู้ ขำ้ รบั กำรอบรมทำหมโู สร่งจำกผลิตภณั ฑเ์ สน้ บะหมี่ผำ หมโู สรง่ เส้นบะหม่ีผำ
-62- 6.5 งบประมำณทไี่ ด้จำ่ ยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถงึ 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 5,200 200,000 บำท 2. งบประมำณทใ่ี ช้ไป 194,800 200,000 บำท 72,700 บาท 2.1 งบบุคลากร 122,100 0 บาท คา่ ตอบแทนนักวจิ ัย บาท ค่าตอบแทนผชู้ ว่ ยนกั วิจัย บาท บาท 2.2 งบดาเนินการ บาท คา่ ใช้จ่ายในการเดินทาง บาท ค่าใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม บาท ค่าจ้างพิมพเ์ อกสาร บาท คา่ ไปรษณยี ์ โทรเลข ค่าโทรศพั ท์ บาท ค่าวสั ดอุ ปุ กรณ์ บาท 2.3 งบลงทนุ (ถ้ามี) บาท คา่ ใชจ้ า่ ยในการจัดซอื้ ครุภัณฑ์/สิ่งก่อสร้าง บำท 2.4 ค่าสาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ผศ.ดร.เลอลักษณ์ เสถยี รรัตน์ หวั หนา้ โครงการ
-63- 12. ช่อื โครงกำรวิจัย : กำรพฒั นำเคร่ืองด่มื สมุนไพรเสริมกลบี ดอกบัวหลวงทดแทนสำรให้ควำมหวำน จำกหญ้ำหวำน Development of Herbal Drinks mixed Petal of the Lotus Blossom supplement sweetener from stevia. 1. ประเภทเงนิ อดุ หนนุ โครงกำรวิจยั โครงการวิจยั พืน้ ฐาน โครงการวิจยั ประยุกต์ โครงการวจิ ัยและพัฒนา 2. ผลผลิตงำนวิจยั ผลผลติ ผลงานวจิ ัยเพอ่ื สร้างองค์ความรู้ ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพ่ือถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยช่อื ผ้วู ิจัย 3.1 นางสาวอรอมุ า คาแดง หัวหนา้ โครงการวิจัย 3.2 นางสาวรตั นาภรณ์ มะโนกิจ ผรู้ ว่ มวจิ ัย 3.3 นายเกรยี งศักดิ์ สิงห์แก้ว ผรู้ ว่ มวิจัย 4. ได้รบั จดั สรรงบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เปน็ เงนิ จานวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) 5. เริม่ ทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ต.ค. 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกย่ี วกับผลงำนควำมก้ำวหน้ำของกำรวจิ ัย 6.1 วตั ถุประสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพอ่ื สนองพระราชดาริโครงการอนุรักษ์พนั ธกุ รรมพชื อันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริฯ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพอื่ ศึกษาสูตรมาตรฐาน และกระบวนการผลิตเครื่องดม่ื สมุนไพรเสรมิ กลีบดอกบัวหลวง 6.1.3 เพอ่ื ศึกษาปรมิ าณหญา้ หวานในสมนุ ไพรในเครื่องด่มื สมนุ ไพรเสรมิ กลีบดอกบัวหลวง 6.1.4 เพอ่ื ศึกษาคณุ คา่ ทางโภชนาการในเครื่องดม่ื สมุนไพรเสริมกลบี ดอกบวั หลวงทดแทนสารให้ ความหวานจากหญ้าหวาน 6.1.5 เพ่ือศึกษาปริมาณสารต้านอนมุ ลู อิสระในเครอื่ งด่ืมสมุนไพรเสรมิ กลีบดอกบัวหลวงทดแทนสาร ใหค้ วามหวานจากหญ้าหวาน 6.1.6 เพ่ือศึกษาการยอมรบั ของผบู้ ริโภคตอ่ เคร่ืองด่ืมสมุนไพรเสรมิ กลบี ดอกบัวหลวงทดแทนสารให้ ความหวานจากหญา้ หวาน 6.1.7 เพือ่ ศึกษาอายุการเก็บของเครอ่ื งดมื่ สมนุ ไพรเสริมกลบี ดอกบัวหลวงทดแทนสารให้ความหวาน จากหญา้ หวาน 6.1.8 เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ชุมชนทเี่ กย่ี วข้องได้
-64- 6.2 กำรดำเนนิ งำนวจิ ัยตำมทีเ่ สนอไว้ในโครงกำรวิจัยกบั งำนวจิ ัยทีไ่ ด้ดำเนนิ กำรไปแลว้ การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ศกึ ษาข้อมลู พื้นฐานของ ดอกบวั หลวง กลบี ดอกบวั หลวง สมนุ ไพร เคร่อื งดมื่ สมนุ ไพร/ ทฤษฏี กรรมวิธกี ารผลติ เคร่อื งดื่มสมนุ ไพร 2 ชนิด คอื นา้ สมุนไพรฝางเสรมิ กลบี ดอกบัว หลวง และนา้ สมนุ ไพรมะตมู ผสมกระเจี๊ยบเสรมิ กลีบดอกบัว หลวง 2. ศกึ ษาตารับมาตรฐาน กรรมวิธกี ารผลติ /เตรยี มวัตถดุ ิบ การผลิตเคร่ืองดมื่ สมุนไพร 2 ชนิด คือ นา้ สมุนไพรฝางเสรมิ กลีบดอกบวั หลวง และนา้ สมนุ ไพรมะตูมผสมกระเจ๊ียบ 3.ศึกษาปรมิ าณหญ้าหวานตอ่ น้า สมุนไพรในการผลิตเคร่ืองดม่ื สมนุ ไพร 2 ชนิด 4. ศึกษาคณุ คา่ ทางโภชนาการ ในเครื่องดื่มสมุนไพรเสริมกลบี ดอกบัวหลวงทดแทนสารให้ ความหวานจากหญา้ หวาน 5. ศกึ ษาปรมิ าณสารต้านอนุมลู อิสระในเคร่อื งดมื่ สมุนไพรเสรมิ กลบี ดอกบัวหลวงทดแทนสารให้ ความหวานจากหญา้ หวาน 6. ศึกษาการยอมรบั เคร่ืองดมื่ สมุนไพรเสริมกลีบดอกบัวหลวง ทดแทนสารใหค้ วามหวานจาก หญ้าหวาน
-65- การดาเนินงาน 2561 2562 7. ศกึ ษาอายกุ ารเก็บของ ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. เครอื่ งดม่ื สมุนไพรเสริมกลีบ ดอกบัวหลวงทดแทนสารให้ ผล ความหวานจากหญา้ หวาน 8. การถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ ชุมชน 9. ตดิ ตามผลการถ่ายทอด เทคโนโลยสี ชู่ ุมชน 10. สรุปเลม่ รายงาน โครงการวจิ ัย หมายเหตุ : แผน 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจยั ท่ไี ดด้ ำเนินกำรไปแล้ว คิดเปน็ ร้อยละ...80…… ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 การศึกษาสูตรมาตรฐานและกระบวนการผลิตที่เหมาะสมในน้าสมุนไพรฝาง คือ สูตรของนิร นาม (2558) เปน็ สตู รมาตรฐานทเ่ี หมาะสมสาหรับการทาน้าฝางเสริมกลีบบัวหลวง เพราะน้าฝางท่ีได้มีสีสวย ใส และ สูตรมาตรฐานและกรรมวิธีการผลิตน้ามะตูมผสมกระเจี๊ยบ สูตรของนิรนาม (2552) เป็นสูตรมาตรฐานท่ีเหมาะสม สาหรับการทาน้ามะตูมผสมกระเจี๊ยบเสริมเพราะน้ามะตูมท่ีได้มีสีสวย ใส กลิ่นหอม มีรสชาติและความหวาน พอเหมาะ และผู้ทดสอบให้คะแนนความชอบทุกคุณลักษณะมากที่สุด ปริมาณดอกกระเจ๊ียบสดท่ีเหมาะสมในน้า มะตูม คอื การใช้ปรมิ าณดอกกระเจี๊ยบร้อยละ 12.5 และการใช้ปรมิ าณดอกกระเจยี๊ บแห้งที่เหมาะสมในน้ามะตูม คือ การใช้ปริมาณดอกกระเจี๊ยบแห้ง 9 กรัม หากเปรียบเทียบการใช้ดอกกระเจี๊ยบแห้งเป็นลักษณะท่ีเหมาะสมในน้า มะตูม 6.3.2 การศึกษาปรมิ าณกลีบดอกบัวหลวงในเคร่ืองด่ืมสมุนไพรเสริมกลีบดอกบัวหลวง พบว่าการใช้ ปริมาณกลีบดอกบัวหลวงสด 10 กรัมใช้น้าตาลทราย 50 กรัม ค่าสีท่ีวัดได้คือ L* = 20.7 a+** = 8.7 b-***= 2.6 ค่า ความหวาน 22%บริกซ์ เป็นปริมาณที่เหมาะสมในการผลิตเครื่องด่ืมสมุนไพรฝางเสริมกลีบดอกบัวหลวงสด และการ ใช้ปริมาณกลีบดอกบัวหลวงอบแห้ง 5 กรัมใช้น้าตาลทราย 50 กรัม ค่าสีที่วัดได้คือ L* = 22.9 a+** = 6.7 b-***= 3.3 ค่าความหวาน 15%บริกซ์ เป็นปริมาณท่ีเหมาะสมในการผลิตเคร่ืองด่ืมสมุนไพรฝางเสริมกลีบดอกบัวหลวงอบแห้ง ผู้ ทดสอบให้คะแนนความชอบโดยรวมมากทีส่ ดุ โดยเครือ่ งด่ืมสมนุ ไพรฝางเสรมิ กลีบดอกบัวหลวงอบแห้งที่ได้มีสีสวย ใส กลิน่ หอม ความหวานพอเหมาะ และผ้ทู ดสอบยอมรบั จงึ เป็นตารับทีเ่ หมาะสมสาหรับเครื่องดื่มสมุนไพรฝางเสริมกลีบ ดอกบัวหลวงอบแห้ง หากเปรียบเทียบการใช้กลีบดอกบัวหลวงสดและอบแห้งในน้าฝาง พบว่าการใช้กลีบดอกบัว หลวงแห้งเป็นลักษณะท่ีเหมาะสมในน้าฝาง และการใช้ปริมาณกลีบดอกบัวหลวงสด 25 กรัม ค่าสีท่ีวัดได้คือ L* = 22.9 a+** = 6.7 b-***= 3.3 ค่าความหวาน 10%บรกิ ซ์ เปน็ ปริมาณท่ีเหมาะสมในการผลิตเครอ่ื งดม่ื สมนุ ไพรมะตูมผสม ดอกกระเจ๊ียบเสริมกลีบดอกบัวหลวงสด ส่วนการใช้ปริมาณกลีบดอกบัวหลวงอบแห้ง 10 กรัม ค่าสีที่วัดได้คือ L* = 22.9 a+** = 6.7 b-***= 3.3 คา่ ความหวาน 10%บริกซ์ เป็นปรมิ าณที่เหมาะสมในการผลิตเครอื่ งดืม่ สมนุ ไพรมะตูมผสม ดอกกระเจย๊ี บเสริมกลบี ดอกบวั หลวงอบแหง้ และเปรยี บเทียบการใช้กลบี ดอกบัวหลวงสดและอบแห้งในน้ามะตูมผสม กระเจยี๊ บ พบว่า การใชก้ ลีบดอกบวั หลวงแห้งเปน็ ลักษณะที่เหมาะสมในน้ามะตมู ผสมกระเจี๊ยบ
-66- 6.3.3 การศึกษาการใช้หญา้ หวานในเคร่อื งด่ืมสมุนไพร พบว่า การใช้หญ้าหวานในเครื่องดื่มสมุนไพร ฝางเสริมกลีบดอกบัวหลวง พบว่า การใช้สารสกัดหญ้าหวาน 18 กรัม เป็นปริมาณที่เหมาะสมในการผลิตเครื่องด่ืม สมนุ ไพรฝางเสริมกลีบดอกบัวหลวง 6.3.4 การศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของเครื่องด่ืมสมุนไพรเสริมกลีบดอกบัวหลวง และใช้หญ้า หวานทดแทนน้าตาลทราย พบว่า การใช้หญ้าหวานในเครื่องด่ืมสมุนไพรมีปริมาณพลังงานและคาร์โบไฮเดรตลด น้อยลง และการเสริมกลีบดอกบัวหลวงในเคร่ืองดื่มสมุนไพรฝางและมะตูมผสมกระเจี๊ยบทาให้มีปริมาณโพลีฟีนอล เพิม่ ขึ้น ซง่ึ โฟลิฟีนอล ลดระดบั cholesterol และ triglyceride ในเลอื ดได้ 6.3.5 การศกึ ษาปรมิ าณฤทธิ์สารต้านอนมุ ูลอิสระของน้าสมุนไพรเสริมกลีบดอกบัวหลวงจากดอกบัว หลวง พบวา่ การรบั ประทานนา้ กระเจย๊ี บจะใหค้ ะแนนมากที่สุด รองลงมา คือ คือน้ามะตูมผสมกระเจ๊ียบเสริมดอกบัว หวง ดงั นน้ั การเสิมกลบี ดอกบวั หลวงในน้าสมุนไพรน้ัน ทาให้มีฤทธกิ์ ารต้านอนมุ ูลอิสระได้ 6.3.6 การศึกษาต้นทุนการผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรฝางเสริมดอกบัวหลวง และใช้หญ้าหวานทดแทน การใช้น้าตาลทราย ต้นทุนการผลิตน้าสมุนไพรฝางเสริมกลีบบัวหลวงและใช้ผลิตภัณฑ์หญ้าหวานทดแทนน้าตาลใน หน่ึงหน่วยบริโภค มรี าคา 3.77 บาท หรือประมาณ 4 บาท (200 มิลลิลิตร หรือ 1 ขวด) ส่วนต้นทุนการผลิตน้ามะตูม ผสมกระเจี๊ยบเสรมิ กลบี บัวหลวง และใช้ผลิตภณั ฑ์หญา้ หวานทดแทน น้าตาลทรายพร้อมบริโภค ในหน่ึงหน่วยบริโภค มีราคา 4.23 บาท หรอื ประมาณ 5 บาท (200 มิลลลิ ติ ร หรอื 1 ขวด) 6.3.7 การศึกษาอายุการเก็บของน้าสมุนไพรฝางเสริมกลีบบัวหลวงและใช้ผลิตภัณฑ์หญ้าหวาน ทดแทนน้าตาลและเคร่ืองดื่มสมุนไพรมะตูมผสมกระเจ๊ียบเสริมกลีบบัวหลวง ในอุณหภูมิห้อง 3 วัน และในอุณหภูมิ ตู้เย็น 5 วัน ได้ผลดังน้ี คุณภาพด้านเคมีและกายภาพของน้าสมุนไพรฝางเสริมกลีบบัวหลวงใช้หญ้าหวานทดแทน น้าตาลจากผลการทดสอบคุณสมบัติทางกายภาพของน้าสมุนไพรฝางเสริมกลีบบัวหลวงและใช้ผลิตภัณฑ์หญ้าหวาน ทดแทนน้าตาล พบว่า พบว่า ค่า L ท่ีการเก็บรักษาอุณหภูมิห้อง มีความสว่างต่าสุดในวันท่ี 0 และค่อยๆต่าลงเรื่อยๆ คา่ L ท่กี ารเกบ็ รักษาอณุ หภมู ติ ้เู ยน็ มคี วามสวา่ งลดลงสุดในวันที่ 3 และความสว่างค่อยๆลดลงในวันท่ี 4 ส่วนอายุการ เก็บรักษาของน้าสมุนไพรฝางเสริมกลบี บวั หลวงใช้หญ้าหวานทดแทนน้าตาล พบว่า อายุการเก็บรักษาน้าสมุนไพรฝาง เสริมกลีบบัวหลวงใช้หญ้าหวานทดแทนน้าตาลนั้น อุณหภูมิของอายุการเก็บเริ่มต้นค่าpH ท่ี 7.7 ในวันที่ 0 และเริ่ม เปล่ยี นแปลงสงู สุดในวนั ที่ 1 มีค่า pH 7 และในวนั ท่ี 6 และ 5 คา่ pH ค่อยๆลดต่าลงเรื่อยๆ ซึ่งจะแตกต่างกับค่าpHที่ มีอายุการเก็บรกั ษาในอณุ หภมู ติ ู้เย็น ในวันท่ี 0 คา่ pH เรม่ิ ตน้ ที่ 7.7 และมpี Hเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันท่ี0 วันที่2, 3 และ 4มี ค่า pH เทา่ กัน วันที่ 8 มีคา่ มคี ่าpHเพ่มิ ขึ้นสูงท่สี ุดสังเกตได้จากในกราฟ จะสังเกตได้ว่าค่า pHที่มี ค่า <7 เป็นอาหาร ทเ่ี ป็นดา่ งสูง ส่วนอายุการเกบ็ ของน้าสมนุ ไพรฝางเสริมกลบี บวั หลวงใชห้ ญา้ หวานทดแทนน้าตาลการแช่น้าสมุนไพรใน อณุ หภมู ิต้เู ยน็ จะเน่าเสยี ช้ากว่าอุณหภมู ิหอ้ งเนอ่ื งจาก การแชเ่ ยน็ (chilling) เป็นกรรมวิธีท่ีควบคุมอุณหภูมิของอาหาร ไว้ที่อุณหภูมิ -1 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียส เพื่อลดอัตราการเกิดปฏิกิริยาทางชีวเคมี และการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากจลุ ินทรีย์ วธิ นี จ้ี ะทาให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงคุณคา่ ทางโภชนาการ และคุณสมบัติทางประสาทสัมผัสน้อยที่สุด และระดบั ความพึงพอใจของผูบ้ รโิ ภคมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากใน การศกึ ษาอายุการเก็บน้ามะตูมผสมกระเจี๊ยบเสรมิ กลีบบวั หลวงและใชผ้ ลิตภณั ฑห์ ญ้า หวานทดแทน น้าตาล คืออุณหภูมิห้อง และอุณหภูมิ ตู้เย็นโดยในอุณหภูมิห้องสามารถเก็บรักษาได้ 3 วัน และในอุณหภูมิตู้เย็น สามารถเก็บได้ 5 วัน สีของ เครื่องดื่มน้าสมุนไพรมะตูมผสมกระเจี๊ยบเสริมกลีบบัวหลวง ค่าความสว่าง(Lightness) เท่ากับ15.96 ค่าสีแดง (a+) เท่ากับ 1.6 และค่าสีเหลือง (b+) เท่ากับ 4.4 ท้าให้น้ามีสีแดงเข้มอมน้าตาลเล็กน้อย และค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) 2.4 มีรสชาติเปร้ียว จากการทดสอบความชอบทางประสาทสัมผัส ของผู้บริโภคหลัง การทดสอบเครื่องด่ืมน้าสมุนไพรมะตูมผสมกระเจี๊ยบเสริมกลีบบัวหลวง และใช้ ผลิตภัณฑ์หญ้าหวานทดแทนน้าตาล พบว่า เครอ่ื งดืม่ น้าสมุนไพรในด้านลักษณะที่ปรากฏ สี กลิ่น(รส ด่ืม) ความหวาน และความชอบโดยรวม ผู้บริโภคให้ ระดับคะแนนเฉล่ียความชอบอยู่ในระดับ 3.68 อยู่ในระดับชอบปานกลาง แสดงให้เห็นว่าน้าสมุนไพรท่ีเก็บใน
-67- อุณหภูมิห้องมีค่าคะแนนเฉลี่ย ลักษณะ ท่ีปรากฏ, ความใส, กล่ินรส(ด่ืม), ความหวาน และความชอบโดยรวม มากกวา่ นา้ สมนุ ไพรทเี่ กบ็ ใน อุณหภมู ิหอ้ ง ซง่ึ ระดบั คะแนนเฉล่ียของน้าสมุนไพรท่ีเก็บรักษาในอุณหภูมิตู้เย็นมีคะแนน เฉล่ีย ความชอบมากกว่าน้าสมุนไพรท่ีเก็บรักษาในอุณหภูมิห้อง และการยอมรับเครื่องด่ืมน้าสมุนไพรของ ผู้บริโภค มากสุดคือวนั ที่ 0 ค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 4.9 และลดลงเรื่อยๆเมื่อเก็บไว้นาน คุณภาพด้านเคมีและกายภาพของน้าสมุนไพร ฝางเสริมกลบี บัวหลวงใชห้ ญ้าหวานทดแทนนา้ ตาลจากผลการทดสอบคุณสมบัติทางกายภาพของน้าสมุนไพรฝางเสริม กลีบบวั หลวงและใชผ้ ลิตภัณฑ์หญ้าหวานทดแทนนา้ ตาล พบว่า ค่า L ท่ีการเก็บรักษาอุณหภูมิห้อง มีความสว่างต่าสุด ในวันท่ี 0 และค่อยๆต่าลงเรื่อยๆ ค่า L ที่การเก็บรักษาอุณหภูมิตู้เย็นมีความสว่างลดลงสุดในวันท่ี 3 และความสว่าง ค่อยๆ ลดลงในวันที่ 4 และอายุการเก็บรักษาของน้าสมุนไพรฝางเสริมกลีบบัวหลวงใช้หญ้าหวานทดแทนน้าตาล พบว่า อายุการเก็บรักษานา้ สมุนไพรฝางเสรมิ กลบี บวั หลวงใช้หญ้าหวานทดแทนน้าตาลนั้น อุณหภูมิของอายุการเก็บ เร่ิมต้นค่าpH ท่ี 7.7 ในวันท่ี 0 และเริ่มเปลี่ยนแปลงสูงสุดในวันท่ี 1 มีค่า pH 7 และในวันที่ 6 และ 5 ค่า pH ค่อยๆ ลดตา่ ลงเร่ือยๆ ซึง่ จะแตกตา่ งกับค่าpHทม่ี อี ายุการเก็บรักษาในอณุ หภมู ิตเู้ ยน็ ในวันที่ 0 คา่ pH เริ่มต้นท่ี 7.7 และมีpH เพมิ่ ข้นึ สูงสดุ ในวันท่ี0 วันที่2, 3 และ 4มีค่า pH เท่ากัน วันที่ 8 มีค่า มีค่าpHเพ่ิมข้ึนสูงท่ีสุดสังเกตได้จากในกราฟ จะ สังเกตได้ว่าค่า pHท่ีมี ค่า <7 เป็นอาหารที่เป็นด่างสูง ส่วนศึกษาอายุการเก็บของน้าสมุนไพรฝางเสริมกลีบบัวหลวง ใช้หญ้าหวานทดแทนน้าตาลการแช่น้าสมุนไพรในอุณหภูมิตู้เย็นจะเน่าเสียช้ากว่าอุณหภูมิห้องเนื่องจาก การแช่เย็น (chilling) เปน็ กรรมวธิ ที ี่ควบคมุ อุณหภูมิของอาหารไวท้ อ่ี ณุ หภมู ิ -1 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียส เพ่ือลดอัตรา การเกิดปฏิกิริยาทางชีวเคมี และการเปล่ียนแปลงเนื่องจากจุลินทรีย์ วิธีนี้จะทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงคุณค่าทาง โภชนาการ และคุณสมบัติทางประสาทสัมผัสน้อยที่สุด ด้านระดับความพึงพอใจของผู้บริโภคมีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมากในการศึกษาอายุการเก็บน้ามะตูมผสมกระเจี๊ยบเสริมกลีบบัวหลวงและใช้ผลิตภัณฑ์หญ้า หวานทดแทน น้าตาล ศึกษาถึงวันท่ีสามารถเก็บน้าสมุนไพรไว้ได้โดยยังเป็นท่ียอมรับของผู้บริโภค ส่วนอายุการเก็บรักษาน้ามะตูม ผสมกระเจี๊ยบเสริมกลีบบัวหลวง และใช้ ผลิตภัณฑ์หญ้าหวานทดแทนน้าตาลที่เก็บในอุณหภูมิที่แตกต่างกันท่ีคือ อณุ หภมู ิหอ้ ง และอณุ หภูมิ ตเู้ ย็นโดยในอุณหภมู หิ ้องสามารถเกบ็ รกั ษาได้ 3 วัน และในอุณหภูมิตู้เย็นสามารถเก็บได้ 5 วนั สีของ เครอื่ งดืม่ นา้ สมุนไพรมะตูมผสมกระเจ๊ียบเสริมกลีบบัวหลวง ค่าความสว่าง(Lightness) เท่ากับ15.96 ค่าสี แดง (a+) เทา่ กบั 1.6 และค่าสีเหลอื ง (b+) เทา่ กับ 4.4 ทา้ ให้น้ามสี ีแดงเข้มอมน้าตาลเล็กน้อย และค่าความเป็นกรด- ดา่ ง (pH) 2.4 มีรสชาตเิ ปรี้ยว จากการทดสอบความชอบทางประสาทสัมผสั ของผบู้ ริโภคหลงั การทดสอบเคร่ืองด่ืมน้า สมุนไพรมะตูมผสมกระเจี๊ยบเสริมกลีบบัวหลวง และใช้ ผลิตภัณฑ์หญ้าหวานทดแทนน้าตาล พบว่า เครื่องดื่มน้า สมนุ ไพรในด้านลักษณะท่ีปรากฏ สี กลิ่น(รส ดื่ม) ความหวาน และความชอบโดยรวม ผู้บริโภคให้ระดับคะแนนเฉลี่ย ความชอบอยู่ในระดบั 3.68 อยู่ในระดับชอบปานกลาง แสดงใหเ้ หน็ ว่าํน้านา้ สมนุ ไพรทเี่ ก็บในอุณหภูมิห้องมีค่าคะแนน เฉลี่ย ลักษณะ ท่ีปรากฏ, ความใส, กลิ่นรส(ดื่ม), ความหวาน และความชอบโดยรวม มากกว่าน้าสมุนไพรที่เก็บใน อุณหภูมิห้อง ซึ่งระดับคะแนนเฉล่ียของน้าสมุนไพรท่ีเก็บรักษาในอุณหภูมิตู้เย็นมีคะแนนเฉล่ีย ความชอบมากกว่าน้า สมนุ ไพรทีเ่ ก็บรักษาในอุณหภูมหิ อ้ ง และการยอมรับเครื่องด่ืมน้าสมุนไพรของ ผู้บริโภคมากสุดคือวันท่ี 0 ค่าเฉล่ีย อยู่ ท่ี 4.9 และลดลงเรอ่ื ยๆเม่ือเกบ็ ไว้นาน 6.3.8 การถา่ ยทอดเทคโนโลยีสู่ชมุ ชน คือ กลมุ่ แมบ่ า้ นขนมไทย คลองสาม ตาบลคลองหลวง อาเภอ คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้เข้าร่วมรับความรู้จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีจานวน 32 คน ในวันท่ี 11-12 มิถุนายน 2562 ณ อบต. คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จานวน 32 คน พบว่า ผู้เข้าร่วมรับการถ่ายทอด เทคโนโลยีส่วนใหญ่ 90% เป็นเพศหญิง และมีอายุ 51 ปีข้ึนไป คิดเป็นร้อยละ 75 รองลงมาอยู่ ในช่วงอายุ 31-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 25 มีอาชีพแม่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 40.63 รองลงมา คือ รับจ้าง คิดเป็นร้อยละ 21.88 ส่วนธุรกิจ ส่วนตัว บาเหน็จ/บานาญ ค้าขายและ พ่อบ้าน คือ ร้อยละ 12.5, 12.5, 9.38 และ 3.13 ตามลาดับ ส่วนวันท่ี 12 มถิ นุ ายน 2562 จานวน 32 คน พบว่า ผู้เข้าร่วมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เป็นเพศหญิง และมี อายุ 51 ปขี ึน้ ไป คดิ เป็นร้อยละ 64 มีอายุอยใู่ นชว่ ง 31-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 33 มีอาชีพแม่บ้านร้อยละ 40 รองลงมา
-68- รับราชการรอ้ ยละ 20 สว่ นรับจา้ ง ธรุ กจิ สว่ นตัว ค้าขายและบาเหน็จ/บานาญ ร้อยละ 10 ระดับความพึงพอใจในการ ถ่ายทอดเทคโนโลยีน้ัน พบว่า ประเด็นความคิดเห็น/ความรู้/ความเข้าใจ/การนาไปใช้ทั้ง 2 วัน ผู้เข้าร่วมอบรมมี ความพึงพอใจในระดับมาก และมีข้อเสนอแนะเพอ่ื ผู้จัดนาไปปรับปรุงและพัฒนาต่อไป คือ อยากให้ตอนอบรมมีผลไม้ เพื่อสุขภาพ อยากให้เพิ่มเครื่องด่ืมสุขภาพ อยากให้จัดฝึกอบรมบ่อยๆ อยากฝึกอาชีพที่เกี่ยวกับอาหารหรือการ ทาอาหาร เพิ่มระยะเวลาในการอบรมมากขึ้น อยากใหบ้ รรยายมากๆ และสถานทีเ่ ล็กเกินไป 6.5 งบประมำณทีไ่ ดจ้ ่ำยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถงึ 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร - 200,000 บำท 2. งบประมำณท่ีใช้ไป - 199,820 บำท - บาท 2.1 งบบคุ ลำกร 180 บาท ค่าตอบแทนนักวิจยั 7,800 บาท ค่าตอบแทนผูช้ ว่ ยนักวจิ ยั 3,960 บาท 13,200 บาท 2.2 งบดำเนินกำร 2,100 บาท ค่าตอบแทนวทิ ยากร 17,500 บาท คา่ อาหารวา่ งและเคร่ืองดื่ม 25,000 บาท คา่ อาหารกลางวนั 15,000 บาท ค่าจดั ทาเอกสาร 112,760 บาท คา่ ทดสอบคุณค่าทางโภชนาการ 2,500 บาท ค่าทดสอบสารต้านอนุมลู อสิ ระ คา่ ทดสอบน้าตาลในอาหาร - บาท ค่าวดั สดุทดลอง - บำท คา่ วัสดุสานกั งาน - บาท 2.3 งบลงทนุ (ถ้ำมี) บาท คา่ ใช้จ่ายในการจัดซอื้ ครภุ ณั ฑ์/สิง่ ก่อสร้าง บำท 2.4 คา่ สาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ 6.6 งำนท่ีจะทำต่อไปและกำหนดเวลำดำเนินกำร กำรดำเนินงำน 2562 2563 ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ย่ืนจดอนุสิทธิบัตร เผยแพรผ่ ลงานทางวิชาการ นางสาวอรอมุ า คาแดง หัวหนา้ โครงการ
-69- 13. ชอื่ โครงกำรวิจยั : กำรพัฒนำกำ้ นบวั หลวงอดั แห้งสำหรับผลติ ภณั ฑ์งำนประดิษฐ์ The Development of Dry Forming Compressed Lotus Stalk for Craft Products 1. ประเภทเงนิ อดุ หนนุ โครงกำรวิจัย โครงการวิจยั พ้ืนฐาน โครงการวิจัยประยกุ ต์ โครงการวจิ ยั และพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวจิ ัย ผลผลิตผลงานวจิ ยั เพอื่ สร้างองคค์ วามรู้ ผลผลติ ผลงานวิจยั เพอื่ ถ่ายทอดเทคโนโลยี 3. รำยชื่อผ้วู จิ ัย 3.1 ดร.สุภา จุฬคุปต์ หัวหนา้ โครงการวจิ ัย 3.2 ผศ.ไศลเพชร ศรีสุวรรณ ผรู้ ว่ มวิจยั 4. ได้รบั จัดสรรงบประมำณ งบประมาณรายจา่ ยประจาปี 2562 เปน็ เงนิ จานวน 250,000 บาท (สองแสนห้าหม่ืนบาทถ้วน) 5. เร่มิ ทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ต.ค. 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกยี่ วกับผลงำนควำมก้ำวหน้ำของกำรวิจัย 6.1 วัตถุประสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพอ่ื สนองพระราชดาริโครงการอนรุ กั ษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริฯ (อพ.สธ.) 6.1.2 ศึกษาลักษณะทว่ั ไปของก้านบวั หลวง 6.1.3 ทดสอบสมบตั ทิ างกายภาพของกา้ นบัวหลวง 6.1.4 ออกแบบและประดิษฐผ์ ลติ ภณั ฑจ์ ากกา้ นบัวหลวงอัดแหง้ 6.1.5 สารวจความพึงพอใจของผู้บรโิ ภคตอ่ ผลิตภัณฑ์กา้ นบวั หลวงอัดแห้ง 6.1.6 ถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารประดิษฐ์ผลติ ภัณฑ์จากกา้ นบัวอดั แห้ง
-70- 6.2 กำรดำเนนิ งำนวิจัยตำมทีเ่ สนอไว้ในโครงกำรวิจัยกับงำนวิจัยท่ีไดด้ ำเนินกำรไปแลว้ การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. การศึกษาขอ้ มลู /ทฤษฎี พืน้ ฐานการอัดแหง้ กา้ นบวั 2. รวบรวมข้อมูล 3. ออกแบบและประดษิ ฐ์ ผลติ ภณั ฑจ์ ากก้านบวั อัดแห้ง 6 แบบ 4. จัดอบรมเพือ่ ถา่ ยทอด เทคโนโลยีเผยแพรผ่ ลงานที่ ไดร้ บั จากการวจิ ยั 5. สรปุ ประเมินผลเขยี นรายงาน ตามแบบแผนการวจิ ัย หมำยเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจัยท่ไี ด้ดำเนนิ กำรไปแล้ว คิดเปน็ รอ้ ยละ...100…… ของโครงการ ได้แก่ 6.3.1 ศกึ ษากรรมวธิ กี ารอัดแห้งกา้ นบัวหลวง เพ่ือพัฒนาให้เหมาะสมกบั การผลิตผลติ ภณั ฑ์ 6.3.2 ออกแบบและประดิษฐ์ผลติ ภณั ฑจ์ ากกา้ นบวั หลวงอดั แหง้ 6 แบบ 6.3.3 ถ่ายทอดเทคโนโลยีการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากก้านบัวหลวงอัดแห้ง ในเขตจังหวัด ปทุมธานี (กลุ่มงานประดิษฐ์แม่บ้านพรพิมาน ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี) จานวน 35 คน (แต่มีผู้สนใจเข้าอบรม 45 คน) ผลติ ภัณฑ์จำกกำ้ นบวั หลวงอัดแห้ง
-71- ผลติ ภณั ฑจ์ ำกกำ้ นบวั หลวงอดั แหง้
-72- ผลติ ภณั ฑจ์ ำกกำ้ นบวั หลวงอดั แหง้
-73- ผลติ ภณั ฑจ์ ำกกำ้ นบวั หลวงอดั แหง้
-74- ภำพกจิ กรรมกำรถำ่ ยทอดเทคโนโลยกี ำรพฒั นำก้ำนบวั หลวงอัดแหง้ ณ ศนู ย์กำรเรยี นร้หู มู่บ้ำนพรพิมำน ต.รงั สิต อ.ธญั บุรี จ.ปทมุ ธำนี วันท่ี 27 กรกฎำคม พ.ศ. 2562
-75-
-76- 6.4 งบประมำณท่ีได้จำ่ ยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถงึ 30 กันยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 25,000 250,000 บำท 2. งบประมำณทใ่ี ช้ไป 25,000 249,450 บำท - บาท 2.1 งบบุคลากร 213,200 550 บาท คา่ ตอบแทนนักวิจยั 6,000 บาท คา่ ตอบแทนผูช้ ่วยนกั วจิ ยั 5,000 บาท 7,000 บาท 2.2 งบดาเนนิ การ 19,800 บาท คา่ วเิ คราะห์ขอ้ มลู 170,500 บาท คา่ เกบ็ ขอ้ มลู 4,900 บาท ค่าจา้ งพิมพเ์ อกสาร - บาท คา่ ทดสอบทางห้องปฏบิ ัติการ 11,250 บาท คา่ วสั ดุอปุ กรณ์ บาท บาท คา่ ถ่ายทอดเทคโนโลยี บำท 2.3 งบลงทนุ (ถา้ มี) 2.4 ค่าสาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ 6.5 งำนทจี่ ะทำต่อไปและกำหนดเวลำดำเนินกำร กำรดำเนนิ งำน 2562 2563 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. จดอนุสิทธิบตั ร เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ 6.6 คำชีแ้ จงเพมิ่ เติม โครงการวิจัยเรื่อง การพัฒนาก้านบัวหลวงอัดแห้งสาหรับผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ น้ีเป็นการเพิ่ม มูลค่าให้กับก้านบัวหลวงซ่ึงเป็นพืชพื้นบ้านประจาจังหวัดปทุมธานี ช่วยกาจัดเศษวัสดุเหลือทิ้งจากเกษตรกรรม เป็น ทางเลือกใหม่ท่ีทาให้เกิดผลิตภัณฑ์และวัสดุงานประดิษฐ์ใหม่ๆท่ีช่วยรักษาส่ิงแวดล้อมเพิ่มข้ึน เป็นอาชีพทางเลือก ให้กับเกษตรกรในช่วงทีไ่ ม่สามารถเพาะปลูกได้ และสรา้ งอาชพี และรายได้ให้กบั ชุมชน (สง่ ผลใหช้ ุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ ดีข้ึน ลดปญั หาสงั คม) ดร.สภุ า จุฬคุปต์ หวั หนา้ โครงการ
-77- 14. ชื่อโครงกำรวิจัย : กำรศึกษำควำมหลำกหลำยของแบคทีเรยี ยอ่ ยสลำยสำรเคมีกำจัดศตั รพู ชื ท่ี ตกค้ำงในพ้ืนที่เกษตรกรรม เพอ่ื กำรประยกุ ตใ์ ชส้ ำหรับพัฒนำพืน้ ท่เี กษตร อนิ ทรยี ์ Study of the diversity of pesticide residue-detoxifying bacteria from agricultural field for organic farming cultivation Craft Products 1. ประเภทเงินอดุ หนนุ โครงกำรวจิ ัย โครงการวจิ ัยพ้ืนฐาน โครงการวิจยั ประยกุ ต์ โครงการวจิ ัยและพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวจิ ยั ผลผลิตผลงานวิจยั เพอ่ื สร้างองคค์ วามรู้ ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพอื่ ถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยชือ่ ผวู้ จิ ัย 3.1 ดร.จนั ทมิ า ฑีฆะ หวั หนา้ โครงการวจิ ยั 3.2 ผศ.สจุ ยา ฤทธศิ ร ผรู้ ว่ มวิจยั 3.3 ดร.อษั ฎาวธุ อารีสริ สิ ุข ผู้ร่วมวิจัย 4. ไดร้ บั จัดสรรงบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เปน็ เงนิ จานวน 440,000 บาท (ส่ีแสนส่ีหมน่ื บาทถ้วน) 5. เร่มิ ทำกำรวจิ ัยเมื่อ 1 ต.ค. 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกี่ยวกบั ผลงำนควำมกำ้ วหน้ำของกำรวจิ ัย 6.1 วัตถปุ ระสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพอ่ื สนองพระราชดารโิ ครงการอนรุ ักษ์พันธกุ รรมพืชอนั เนื่องมาจากพระราชดารฯิ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพื่อคัดเลอื กแบคทีเรยี ท่ีสามารถย่อยสลายสารเคมีกาจดั ศตั รพู ชื ตกค้างในแหลง่ เกษตรกรรม 6.1.3 เพอื่ ทดสอบความสามารถของแบคทีเรียกลุ่มท่ีคดั แยกได้ ในการยอ่ ยสลายสารเคมีกาจดั ศตั รูพชื ตกคา้ ง 6.1.4 เพอื่ จาแนกสายพันธแ์ุ บคทเี รียกล่มุ ทคี่ ดั แยกได้ ด้วยวธิ ี 16s rDNA
-78- 6.2 กำรดำเนนิ งำนวิจัยตำมท่ีเสนอไว้ในโครงกำรวจิ ัยกับงำนวจิ ัยที่ไดด้ ำเนินกำรไปแลว้ การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ทบทวนวรรณกรรม 2. วางแผนการทดลอง 3. การสารวจและสัมภาษณ์ เกษตรกร 4. การวิเคราะห์ปรมิ าณ สารเคมกี าจดั ศัตรพู ืชตกค้างใน พ้นื ที่เกษตรกรรม 5. การคดั แยกเช้อื แบคทเี รยี ย่อยสลายสารเคมกี าจดั ศตั รพู ชื ตกคา้ ง 6. การทดสอบประสทิ ธิภาพ ของแบคทีเรยี กลุ่ม ในการย่อย สลายสารเคมกี าจดั ศตั รูพืช ตกค้าง 7. การจาแนกสายพนั ธ์ุ แบคทเี รียทีค่ ัดเลอื กได้ดว้ ยวธิ ี 16S rDNA 8. สรปุ ผลและจดั ทารายงาน 9. จัดอบรมเชิงปฏิบตั ิการ หมำยเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนินกำรวิจัยทไ่ี ด้ดำเนนิ กำรไปแลว้ คิดเปน็ รอ้ ยละ...100…… ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 การสารวจและสัมภาษณ์เกษตรกร จากการลงพืน้ ที่สารวจแปลงเกษตรและสัมภาษณ์เกษตรกรบริเวณ ตาบลบงึ กาสาม อาเภอ หนองเสอื จงั หวดั ปทุมธานี จานวน 12 ราย เกยี่ วกบั ประวัติการใช้สารเคมีในพ้ืนทแี่ ปลงเกษตร แสดงได้ดังตารางท่ี 1
-79- ตำรำงที่ 1 ข้อมลู การสมั ภาษณเ์ กษตรกรบริเวณ ตาบลบงึ กาสาม อาเภอหนองเสือ จงั หวดั ปทมุ ธานี ลำดับที่ ชนดิ พชื ท่ี ลักษณะดิน ประวัติกำรใชส้ ำรเคมี สำรเคมีทใ่ี ช้ 1 เพำะปลูก ดินเหนียว (บางพื้นที่ อะบาเม็กตนิ , โปรวาโด, ไมไ่ ดม้ ีการใชส้ ารเคมี พาราควอต, ไกลโฟเซต 2 กล้วย เป็นดนิ รว่ น) มาประมาณ 1 ปี 3 ใช้พาราควอตฆา่ หญ้า พาราควอต, อามเู ร่, 4 ตะไคร้ ดินผสม (ดนิ รว่ นผสม กอ่ นทาการเพาะปลกู พอสซ์, ฟรู าดาน 5 ดินเหนียว) ใช้สารเคมีฆา่ เช้ือรา 6 มะเขือพวง และหนอนในพชื และ - 7 ตะไคร้ ดินเหนยี ว มกี ารโรยฟรู าดานก่อน 8 การเกบ็ เก่ยี ว 2-3 กรัมม็อกโซน, ไกลโฟเซต, ตะไคร้ ดินเหนียว เดอื น แลนเนท, เมทาแลกซิล 9 ตะไคร้ ไม่มีการใชส้ ารเคมี 10 ดินเหนยี ว มีความ มีการใชย้ าฆา่ หญา้ ฉีด - พรกิ , ตะไคร้ เป็นกรดสูง แบบดูดซมึ กอ่ นการ ปยุ๋ เคมีเรอื ใบสตู รสมอ, เพาะปลูก ใชย้ าน็อค นาขา้ ว, ไผ่ตง ดนิ เหนียว อมน้า หนอนร่วมกับยากัน อามูเร่ เชื้อรา และมีการฉดี กลว้ ยหอม, กหุ ลาบ ดนิ แขง็ ฮอรโ์ มนเพิม่ เติม ไกลโฟเซต, พาราควอต, กล้วย, มะพร้าว, ไมไ่ ด้มกี ารใชส้ ารเคมี อะบาแมกตนิ , พอสซ์ ดนิ เหนียว ดินเปรี้ยว มาประมาณ 7-8 ปี มะไฟ, มนั ใชส้ ารเคมผี สมกบั พอสซ์ ดนิ เหนยี ว อมุ้ นา้ สารอินทรยี ์ มีการใช้ สารเคมกี ันเช้อื รา ไกลโฟเซต, อะมเู ร่, ดินผสม (ดนิ ร่วนผสม มีการใช้ยาฆ่าหญ้าก่อน โปรวาโด, Start B1 ดนิ เหนียว) เพาะปลูก มีการใช้ยา ฆา่ แมลง ปยุ๋ ยเู รยี และ ไกลโฟเซต, กรมั มอ็ กโซน, ใชป้ ยุ๋ อนิ ทรยี ์ผสมกบั พาราควอต, มาลาไธออน, ปยุ๋ เคมี ใชป้ ุ๋ยอนิ ทรยี ์ผสมกับ ปยุ๋ เคมี มีการใช้ยา กาจัดเพลย้ี ใช้ป๋ยุ เคมีตลอดการ เกบ็ เกี่ยว มีกรใชย้ าฆ่าหญ้า ยา ฆ่าหนอน ยากนั เช้ือรา และฮอรโ์ มนเพ่ือเร่ง ราก ใช้สารเคมสี ลบั การ สารอนิ ทรยี ์ (กอ่ นหน้า
-80- ลำดับที่ ชนดิ พืชที่ ลักษณะดนิ ประวัติกำรใช้สำรเคมี สำรเคมที ใ่ี ช้ เพำะปลูก แมนโคแซบ, พรีวาธอน 11 สาปะหลัง นใ้ี ช้เพยี งสารเคมีมา 12 ฟลู าดาน, ไกลโฟเซต ขา้ มหอมปทุม 20 ปี) มีการใชย้ าฆา่ ไกลโฟเซต มันสาปะหลัง แมลงและยาฆ่าหญา้ ดินเหนียว ดินเปรี้ยว ไมไ่ ด้มกี ารใช้สารเคมี มา 3 ปี ดนิ เหนยี ว มกี ารใชย้ าฆ่าหญ้า เพียงอย่างเดียว 6.3.2 การวเิ คราะหป์ ริมาณสารเคมีกาจัดศตั รูพชื ตกค้างในพืน้ ท่เี กษตรกรรม ทาการเกบ็ ตัวอย่างดินจากพื้นท่แี ปลงเกษตร 19 แปลง โดยเก็บดินตัวอย่างท่ีระดับความลึก 0-40 เซนติเมตร นาดินตัวอย่างมาวัดค่าความเป็นกรดด่าง บันทึกลักษณะของดิน จากน้ันสกัดดินตัวอย่างด้วยเครื่อง SPE เพื่อนาของเหลวท่ีได้ มาวิเคราะห์หาสารเคมีที่อยู่ในดินโดยใช้เครื่อง Gas Chromatograph-Mass Spectrometer (GC-MS) แสดงไดด้ งั ตาราง ตำรำงที่ 2 ลักษณะของดินและค่าความเป็นกรด-ดา่ ง รหัสตัวอยำ่ ง ลักษณะดิน ค่ำควำมเปน็ กรด-ด่ำง 6.34 SS01 ดนิ ผสม 5.92 4.85 SS02 ดินผสม 4.95 4.37 SS03 ดินเหนยี ว 4.16 SS04 ดินเหนียว SS05.1 ดินเหนยี ว ดนิ เปรีย้ ว SS05.2 ดินเหนยี ว ดินเปรย้ี ว ตำรำงท่ี 2 ลกั ษณะของดนิ และคำ่ ควำมเปน็ กรด-ด่ำง (ต่อ) รหสั ตัวอยำ่ ง ลักษณะดิน ค่ำควำมเป็นกรด-ดำ่ ง SS06 ดนิ เหนยี ว 4.32 SS07.1 ดินแขง็ 6.76 SS07.2 ดนิ แข็ง 7.24 SS08.1 ดินเหนยี ว 4.29 SS08.2 ดินเหนยี ว 5.47 SS09.1 ดินเหนียว 4.72 SS09.2 ดนิ เหนยี ว 5.95 SS10.1 ดินเหนยี ว 4.76 SS10.2 ดนิ เหนยี ว 6.55 SS10.3 ดนิ เหนยี ว 5.88 SS10.4 ดินเหนียว 4.20 SS11 ดินเหนียว ดนิ เปร้ียว 4.44 SS12 ดินเหนยี ว 6.91
-81- ตำรำงท่ี 3 สารเคมที ว่ี ิเคราะหไ์ ดใ้ นดนิ ตัวอย่างด้วยเคร่ือง Gas Chromatograph-Mass Spectrometer รหสั ตวั อย่ำง สำรเคมที ่พี บ SS01 Hydroxylamine Methoxyacetic acid, benzyl ester SS02 Nickel tetracarbonyl SS03 Hydroxylamine SS04 SS05.1 Trimethylsilyl ethaneperoxoate SS05.2 SS06 Hydroxylamine SS07.1 Methoxyacetic acid, benzyl ester Hydroxylamine Trimethylsilyl ethaneperoxoate Hydroxylamine Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol Hydroxylamine ตำรำงที่ 3 สารเคมีท่วี ิเคราะหไ์ ด้ในดนิ ตัวอย่างด้วยเคร่ือง Gas Chromatograph-Mass Spectrometer (ตอ่ ) รหสั ตวั อย่ำง สำรเคมีที่พบ SS07.2 SS08.1 Nickel tetracarbonyl SS08.2 Methyl Alcohol SS09.1 SS09.2 Nickel tetracarbonyl SS10.1 Methyl Alcohol SS10.2 SS10.3 Nickel tetracarbonyl SS10.4 Methyl Alcohol SS11 Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol
รหสั ตวั อย่ำง -82- SS12 สำรเคมที พี่ บ Nickel tetracarbonyl Methyl Alcohol 6.3.3 การคัดแยกเชอ้ื แบคทีเรียยอ่ ยสลายสารเคมกี าจัดศัตรพู ืชตกค้าง จากการศึกษาการคัดแยกแบคทเี รยี จากตวั อยา่ งพ้ืนทกี่ ารเกษตร จากในพนื้ ที่อาเภอหนองเสือ ตาบล บงึ กาสาม จังหวดั ปทุมธานี ท่ีทาการเกษตรแบบเคมี สามารถแยกจุลินทรีย์ท่ีได้ ท้ังหมด 13 ไอโซเลต และทาการย้อม แกรมเพ่ือดลู ักษณะของแบคทเี รยี พบวา่ เปน็ แบคทเี รียแกรมบวกทั้งหมด 3 ไอโซเลต และ เปน็ แบคทเี รยี แกรมลบ ทั้งหมด 10 ไอโซเลต แยกตามลกั ษณะรปู รา่ งเปน็ แบคทีเรียรปู ทอ่ น 8 ไอโซเลต รูปกลม 5 ไอโซเลต ตำรำงท่ี 4 ปรมิ าณและลกั ษณะของจลุ นิ ทรีย์ท่คี ดั แยกไดใ้ นดนิ ดนิ ปรมิ าณจลุ ินทรยี ์ทัง้ หมดในดิน รูปร่าง ลักษณะไอโซเลตที่พบในดิน รหัสไอโซเลต (CFU/g) C01 SS04 17.0x105 กลม สีขาวใส ตรงกลางฟูๆสขี าว C02 18.4x105 ท่อน สเี ขยี ว ขอบเรียบ ผิวมนั C03 SS06 15.3x105 ท่อน สขี าวอมชมพู ขอบเรยี บ ผิวมนั C04 SS07.1 20.4x106 กลม สสี ้ม ขอบเรยี บ ผวิ มัน C05 SS07.2 11.3x106 กลม สีขาวเทา ตรงกลางฟงุ้ ฟู C06 SS08.1 79.0x105 กลม สเี หลอื งใส ผิวมัน C07 SS08.2 13.2x105 ท่อน สีขอบขาวขนุ่ ตรงกลางจุดสดี า C08 70.0x104 ทอ่ น สขี าวขนุ่ อมชมพู ขอบหยัก ผิวมัน C09 SS09.2 12.9x105 กลม สีชมพบู านเย็น ขอบเรียบ ผวิ มัน C10 SS11 19.0x105 ทอ่ น เส้นใยสขี าวขุ่น C11 SS12 ทอ่ น สมี ่วงใส ขอบเรยี บ ผวิ มนั C12 SS13 ท่อน เส้นใยสีขาวอมชมพู C13 ทอ่ น สีแดงอมม่วงตรงกลางสีขาวเทา 6.3.3 การจาแนกสายพนั ธุ์แบคทเี รียท่ีคัดเลือกได้ดว้ ยวิธี 16S rDNA จากจลุ ินทรยี ์ทค่ี ดั แยกได้ 13 ไอโซเลท สามารถเพาะเล้ยี งไดเ้ พียง 10 ไอโซเลท ทาการ วเิ คราะหล์ าดับนิวคลีโอไทด์ด้วย 16 s rDNA และนาลาดับนวิ คลโี อไทด์ที่ไดม้ าเปรยี บเทียบกบั ฐานขอ้ มูล GenBank ของ National Center for Biotechnology Information (NCBI) ไดส้ กลุ และชนิดของแบคทเี รยี ได้ดังตารางท่ี 5 ตำรำงที่ 5 ระบสุ ายพันธแุ์ บคทเี รยี ทค่ี ดั แยกได้ ลาดับ Isolates Description Per.Ident Bitscore E-value 99.25 2649 0.0 1 C2-1 Burkholderia 99.26 2699 0.0 (1,706 bp) cepacia (NR_104978.1) 2 C2-2 Bacillus subtilis (1,703 bp) (NR_102783.2)
-83- ลาดบั Isolates Description Per.Ident Bitscore E-value 2704 0.0 3 C3 Bacillus aryabhattai 99.60 (1,675 bp) (NR_115953.1) 2706 0.0 4 C4 Exiguobacterium (1,741 bp) acetylicum (NR_043479.1) 99.20 ตำรำงที่ 5 ระบุสายพันธแ์ุ บคทีเรยี ทคี่ ดั แยกได้ (ต่อ) ลาดบั Isolates Description Per.Ident Bitscore E-value 5 C5 Staphylococcus (1,724 bp) epidermidis (NR_113957.1) 99.53 2687 0.0 6 C6 Acinetobacter pittii 99.12 2658 0.0 (1,722 bp) (NR_117621.1) 7 C8 Bacillus aryabhattai 99.47 2721 0.0 (1,724 bp) (NR_115953.1) 8 C9 Pantoea dispersa 97.03 2492 0.0 (1,722 bp) (NR_116797.1) 9 C10 Bacillus albus 98.06 2601 0.0 (1,711 bp) (NR_157729.1) 10 C11 Chromobacterium (1,804 bp) violaceum (NR_113595.1) 97.88 2525 0.0 6.4 งบประมำณท่ีไดจ้ ่ำยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถึง 30 กันยายน 2562) 7 งบประมำณรวมโครงกำร 440,000 บำท 2. งบประมำณท่ใี ช้ไป 438,154 บำท 2.1 งบบคุ ลากร 0 บาท ค่าตอบแทนนกั วจิ ยั 0 บาท คา่ ตอบแทนผู้ชว่ ยนกั วจิ ยั 0 บาท 2.2 งบดาเนินการ 0 บาท ค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทาง 0 บาท ค่าใชจ้ า่ ยในการฝึกอบรม 0 6,260 บาท คา่ จ้างพิมพเ์ อกสาร 0 บาท ค่าไปรษณยี ์ โทรเลข คา่ โทรศพั ท์ 0 บาท คา่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ 0 217,894 บาท คา่ จา้ งเหมาวิเคราะห์ตวั อย่าง 214,000 บาท 2.3 งบลงทนุ (ถา้ มี) 0 บาท ค่าใชจ้ า่ ยในการจดั ซ้ือครุภณั ฑ/์ สิง่ ก่อสรา้ ง 0 บาท 2.4 คา่ สาธารณูปโภค 5% 0 บาท 3. งบประมำณคงเหลือ 1,846 บำท
-84- 6.5 งำนท่ีจะทำต่อไปและกำหนดเวลำดำเนนิ กำร การดาเนินงาน 2562 2563 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ปรับสภาวะในการ วเิ คราะหต์ วั อย่างสารเคมี ในดิน ด้วย GC-MS 2. ส่งตัวอย่างดินจาก แปลง ไปวิเคราะหส์ าร ตกค้างทีห่ อ้ งปฏบิ ัติการ กลาง จานวน 3 ตัวอย่าง 3. จดั ทาเลม่ รายงานฉบับ สมบูรณ์ 6.6 คำช้แี จงเพมิ่ เติม จากการสัมภาษณ์เกษตรกรท้ังหมด 13 ราย พบการใช้สารเคมีชนิดต่างๆ ในการเพาะปลูกพืช มากกว่า 10 ชนิด (ตารางท่ี 1) แต่เมื่อนาดินจากแปลงเกษตรกรรมแหล่งต่างๆ มาวิเคราะห์สารตกค้างในดิน ด้วยวิธี GC-MS พบเพียง Hydroxylamine Methoxyacetic acid, Benzyl ester, Nickel tetracarbonyl และ Trimethylsilyl ethaneperoxoate ดังแสดงในตารางที่ 2 ทางผู้วิจัยจึงต้องทาการปรับสภาวะในการวิเคราะห์ดิน ด้วย GC-MS (โดยใช้ตัวอย่างท่ีสกัดไว้แล้ว) เพิ่มเติม และต้องส่งตัวอย่างดินจากแปลงเกษตรกรรม อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง ไปวิเคราะห์ท่ีห้องปฏิบัติการกลาง เพื่อยืนยันผลการทดลองท่ีวิเคราะห์ได้ในห้องปฏิบัติการ ทา ให้ต้องขอ ขยายเวลาในการจดั ทารูปเลม่ รายงานฉบับสมบรู ณ์ ดร.จนั ทมิ า ฑีฆะ หวั หน้าโครงการ
-85- 15. ช่อื โครงกำรวจิ ัย : กำรเพิ่มผลผลติ แคลลสั กำนพลทู ไี่ ด้จำกกำรเพำะเลย้ี งเนอื้ เย่อื 1. ประเภทเงินอุดหนนุ โครงกำรวจิ ัย โครงการวจิ ัยพื้นฐาน โครงการวิจัยประยกุ ต์ โครงการวิจัยและพฒั นา 2. ผลผลิตงำนวิจัย ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพ่ือสรา้ งองค์ความรู้ ผลผลิตผลงานวจิ ยั เพอื่ ถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยช่อื ผู้วจิ ัย 3.1 ผศ.ดร.นพรตั น์ พุทธกาล หัวหน้าโครงการวจิ ัย 3.2 ดร.มรกต พทุ ธกาล ผูร้ ว่ มวิจัย 3.3 ดร.เสาวณยี ์ บัวโทน ผ้รู ่วมวจิ ยั 3.4 ดร.กลั ยา โมกขพันธ์ุ ผ้รู ่วมวจิ ยั 4. ไดร้ ับจัดสรรงบประมำณ งบประมาณรายจา่ ยประจาปี 2562 งบประมาณเงินรายไดป้ ระจาปี 2562 เปน็ เงินจานวน 360,000 บาท (สามแสนหกหมน่ื บาทถ้วน) 5. เร่ิมทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ต.ค. 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเก่ียวกับผลงำนควำมกำ้ วหนำ้ ของกำรวิจัย 6.1 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพื่อสนองพระราชดาริโครงการอนรุ ักษ์พนั ธุกรรมพืชอันเนอื่ งมาจากพระราชดารฯิ (อพ.สธ.) 6.1.2 วิเคราะหห์ าสารยูจินอลและองค์ประกอบทางเคมีของสารสกดั แคลลัสใบกานพลทู ่ีได้จากสตู ร อาหาร WPM ทก่ี ระตุ้นด้วยฮอร์โมนควบคมุ การเจรญิ เติบโตระดับความเข้มขน้ แตกต่างกัน 6.1.3ทดสอบฤทธท์ิ างชีวภาพของสารสกัดอดั เมด็ น้ามนั กานพลู สารสกัดอัดเมด็ ดอกแหง้ กานพลู และสารสกัดอัดเม็ดแคลลสั ใบกานพลูทรี่ ะดับความเข้มข้น 100 ppm ต่ออาการตอบสนองของปลาดุกอุยเทศขนาด 5-8 เซนตริเมตร น้าหนัก 5-10 กรมั และฤทธติ์ อ่ การตา้ นเชื้อแบคทีเรียก่อโรคชนิด Escherichia coli, Bacillus subtilis และ Staphylococcus aureus 6.1.4 ถา่ ยทอดกรรมวธิ กี ารเพิม่ ผลผลิตแคลลสั กานพลู และสารสกดั แคลลสั กานพลูอดั เมด็ สผู่ ู้ ประกอบ หรือเกษตรกรเพ่ือประโยชนก์ ารประยกุ ตใ์ ช้ผลติ ภณั ฑก์ านพลใู นการพักปลา หรืออนุบาลสัตว์นา้ วยั อ่อน
-86- 6.2 กำรดำเนินงำนวจิ ัยตำมทเ่ี สนอไว้ในโครงกำรวิจัยกับงำนวจิ ยั ท่ไี ดด้ ำเนินกำรไปแล้ว การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. เตรียมวสั ด/ุ อุปกรณ์ วิเคราะหห์ าองค์ประกอบทาง เคมขี องสารสกัดดอก ใบ และ แคลลสั กานพลู 2.จัดซื้อวสุ ดใุ นการดาเนนิ การ เตรยี มสตู รอาหารท่เี ตมิ ฮอร์โมน เพอื่ กระตุน้ การเกิดแคลลสั และการเพ่มิ ปรมิ าณแคลลสั กานพลู 3.ทาการสกดั สารและทดสอบ ฤทธิส์ ารสกดั อัดเม็ดตอ่ การพัก ปลา หรือสัตวน์ ้าวยั ออ่ น 4. ทาการอดั เมด็ กานพลู 5. ดาเนินการจดั อบรมถ่ายทอด องค์ความรู้ 6. ปดิ โครงการ สรปุ รายงาน และเบิกคา่ ตอบแทน หมำยเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจยั ท่ไี ด้ดำเนินกำรไปแล้ว คิดเปน็ ร้อยละ...100…… ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 นาผลการทดสอบบางสว่ นไปตีพิมพใ์ นวารสาร TCI (กลมุ่ 1) ชว่ งต้นปงี บประมาณ 2562 63.2 นาบรู ณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชา ชีววิเคราะห์ (ระดับบัณฑิตศึกษา ในภาคเรียนท่ี 2/2561) 6.3.3 ปรับแก้ไขเพ่ิมเติมคาขออนุสิทธิบัตร เลขท่ี 1703000457 ช่ือผลงาน “กรรมวิธีการผลิต แคลลสั กานพลูอดั เม็ดสาหรับพักและขนส่งปลา” 6.3.4 วางแผนการออกแบบฉลาก และหบี หอ่ ผลผลิตท่ไี ด้
-87- 6.4 งบประมำณท่ีไดจ้ ่ำยไปแล้ว แยกตำมหมวดรำยจ่ำย (สารวจถงึ 30 กันยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 36,000 360,000 บำท 2. งบประมำณทใี่ ช้ไป 36,000 360,000 บำท 0 บำท 2.1 งบบคุ ลำกร 307,800 0 บาท คา่ ตอบแทนนักวจิ ัย 0 บาท ค่าตอบแทนผู้ช่วยนักวิจยั 0 บำท 130,000 บาท 2.2 งบดำเนินกำร 0 บาท ค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทาง 177,800 บาท ค่าใช้จา่ ยในการฝึกอบรม 0 บาท คา่ ใชส้ อย 0 บาท ค่าไปรษณยี ์ โทรเลข ค่าโทรศพั ท์ 16,200 บาท คา่ วสั ดอุ ุปกรณ์ 0 บาท 2.3 งบลงทุน (ถา้ มี) บาท ค่าใชจ้ ่ายในการจัดซ้ือครุภัณฑ์/สง่ิ ก่อสรา้ ง บำท 2.4 คา่ สาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ 6.5 คำช้ีแจงเพม่ิ เตมิ การทาวิจัยคร้งั น้ีมรี ะยะเวลา 1 ปี ทีส่ ามารถขยายปรมิ าณแคลลสั การพลู และนามาทดสอบฤทธ์ิได้ผลตามที่ วางแผนไว้ แต่ด้วยระยะเวลาจากัดจึงยังไม่ได้ขยายผลการศึกษาสู่ภาคสนาม และมีแผนการออกแบบผลิ ตภัณฑ์เพื่อ นาไปใช้ในการทดสอบสภาพจริงในระดับฟาร์มของเกษตรกรต่อไป ภำพที1่ แคลลสั อัดเมด็ กานพลู และขยายผลสูก่ ารเร่งตายอดเสรมิ ฤทธ์ิการสงบน่ิงปลา
-88- โครงกำรถำ่ ยทอดองค์ควำมรู้เร่ือง กำรเพ่มิ ผลผลิตแคลลัสกำนพลทู ไ่ี ดจ้ ำกกำรเพำะเลย้ี งเนอ้ื เยื่อ ณ ศูนย์วิทยำศำสนตร์เพอ่ื กำรศกึ ษำรังสิค 10 สิงหำคม 2562 (ห้องปฏิบตั กิ ำรเพำะเลี้ยงเน้อื เย่ือพืช) อบรมถ่ำยทอดองคค์ วำมรกู้ ำรเพิ่มผลผลติ แคลลัสกำนพลู (10 ส.ค. 62) ผศ.ดร.นพรตั น์ พุทธกาล หัวหนา้ โครงการ
-89- 16. ชอ่ื โครงกำรวจิ ยั : กำรอนุรกั ษส์ ำยพนั ธขุ์ ำ้ วหอมพื้นเมืองจังหวัดปทุมธำนี The conservation of PathumThani Local fragrant rice 1. ประเภทเงินอดุ หนุนโครงกำรวิจยั โครงการวจิ ยั พน้ื ฐาน โครงการวจิ ยั ประยกุ ต์ โครงการวิจัยและพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวจิ ยั ผลผลติ ผลงานวจิ ยั เพื่อสรา้ งองค์ความรู้ ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพอ่ื ถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยชอื่ ผ้วู ิจัย 3.1 ผศ.ดร.เนตรนภิส แก้วชว่ ย หัวหนา้ โครงการวิจัย 4. ไดร้ ับจดั สรรงบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 งบประมาณเงินรายได้ประจาปี 2562 เป็นเงินจานวน 600,000 บาท (หกแสนบาทถ้วน) 5. เรมิ่ ทำกำรวจิ ัยเม่ือ 1 ต.ค. 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกย่ี วกับผลงำนควำมกำ้ วหน้ำของกำรวิจัย 6.1 วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพอื่ สนองพระราชดาริโครงการอนรุ ักษ์พนั ธุกรรมพชื อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริฯ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพอ่ื เกบ็ รวบรวมสายพันธุ์ขา้ วหอมพน้ื เมอื งจงั หวดั ปทุมธานี 6.1.3 เพื่อหาสภาวะทีเ่ หมาะสมในการสรา้ งชดุ ทดสอบการแยกสายพนั ธช์ุ ้าวหอม และสายพันธขุ์ า้ ว ไม่หอม 6.2 กำรดำเนนิ งำนวิจัยตำมทเี่ สนอไวใ้ นโครงกำรวิจัยกบั งำนวจิ ัยท่ไี ดด้ ำเนินกำรไปแลว้ การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. - ประชมุ คณะวิจยั สรุปเน้อื งาน กาหนดการ แบ่งงานความ รบั ผิดชอบ - เก็บรวบรวมสายพนั ธขุ์ ้าวพื้นเมือง 2. - ศึกษาวิธกี ารสกดั สารหอมจาก ขา้ วพ้ืนเมอื งจงั หวดั ปทุมธานี - สกัดสารหอม และวิเคราะห์ ปริมาณสารหอม จากขา้ วพน้ื เมอื ง จังหวัดปทุมธานี 3. สกดั ดเี อ็นเอ จากขา้ วพนื้ เมือง จังหวัดปทุมธานี
-90- การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 4. - สรา้ งชุดทดสอบเพ่อื แยกสาย ผล พันธ์ุขา้ วหอม และข้าวไมห่ อมจาก ขา้ วพน้ื เมอื งจงั หวดั ปทุมธานี - ศกึ ษาความสมั พนั ธ์เชงิ พ้ืนทกี่ ับ ปรมิ าณสารหอม 5 - ศกึ ษาสายพันธุ์ขา้ วหอมที่แยกได้ จากชดุ ทดสอบ กบั ปรมิ าณสารหอม - วเิ คราะหข์ อ้ มลู และสรปุ - ประเมินผลการดาเนินการ โครงการวิจยั และเตรยี มเอกสาร สาหรบั เผยแพรส่ ู่เกษตรกร - ตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวจิ ยั หมำยเหตุ : แผน 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจยั ที่ได้ดำเนินกำรไปแลว้ คิดเปน็ ร้อยละ...100…… ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 เกบ็ รวบรวมขา้ ว 12 สายพันธุ์ 6.3.2 ได้ผลลักษณะขา้ วแตล่ ะสายพันธท์ุ เี่ ก็บรวบรวมได้ 6.3.3 ได้ปรมิ าณโพรลนี ของขา้ วแตล่ ะสาบพันธุ์ 6.3.4 ได้ผลการเจรญิ เตบิ โตของข้าวแต่ละสายพันธุใ์ นชว่ งการงอกถึงอายุ 5 วัน 6.3.5 ได้ปรมิ าณโพรลนี ของข้าวแต่ละสายพนั ธใุ์ นช่วงการงอกถงึ อายุ 5 วนั 6.3.6 ไดผ้ ลการทดสอบการหาสภาวะท่ีเหมาะสมในการสร้างชุดทดสอบการแยกสายพันธ์ุช้าวหอม และสายพนั ธ์ขุ า้ วไม่หอม 1) สายพันธุ์ข้าว ภำพที่ 1 แสดงลักษณะประจาพนั ธุ์ของข้าวปทุมธานี 12 สายพนั ธุ์
-91- ตำรำงที่ 1 แสดงลกั ษณะประจาพันธ์ุของข้าวปทุมธานี 12 สายพนั ธุ์ ลำดับ สำยพนั ธ์ุ ควำมยำวเมลด็ ควำมยำวเมลด็ ขำ้ วเปลอื ก (cm) ข้ำวสำร (cm) 1 มะล1ิ 05 0.94 0.78 2 ปทุมธานี 1 1.04 0.74 3 หอมปทมุ 1.14 0.80 4 กข.6 0.96 0.66 5 กข.31 1.06 0.74 6 กข.41 1.06 0.78 7 กข. 49 1.06 0.88 8 กข.57 1.04 0.76 9 เจ็คเชย 1.08 0.78 10 ชยั นาท 1.08 0.76 11 พษิ นโุ ลก 2 1.06 0.86 12 ไรซ์เบอรี่ 0.94 0.66 ตำรำงที่ 2 แสดงการแยกสายพนั ธ์ขุ า้ วหอม และสายพนั ธขุ์ ้าวไมห่ อม 12 สายพนั ธ์ุ สำยพนั ธุ์ขำ้ ว ปรมิ ำณสำรหอม (2AP) ปริมำณโพรลีน ข้ำวหอม/ข้ำวไมห่ อม (g/g) (g/g) มะล1ิ 05 655.1 4.70 F ปทมุ ธานี 1 154.6 2.56 F หอมปทมุ 102.0 6.75 F กข.6 323.3 4.70 F กข.31 4.3 2.48 N กข.41 4.7 2.48 N กข. 49 7.3 3.50 N กข.57 3.9 2.65 N เจ็คเชย 4.3 2.74 N ชยั นาท 6.0 4.02 N พิษนโุ ลก 2 10.3 4.20 F ไรซ์เบอร่ี 8.2 7.10 N F= Fragrant rice (ข้าวหอม) N= Non-Fragrant rice (ข้าวไมห่ อม)
-92- 2) การสร้างชดุ ทดสอบการแยกสายพนั ธ์ขุ า้ วหอม และสายพันธุ์ข้าวไมห่ อม 1. การหาสภาวะท่เี หมาะสม ตำรำงที่ 3 ผลของอณุ หภูมิ อุณหภมู ิ (˚C) วัดค่าการดูดกลืนแสงทีค่ วามยาวคลื่น 505 nm. เฉล่ยี SD 35 คร้ังท่ี 1 ครั้งท่ี 2 คร้ังท่ี 3 0.170 0.0054 37 0.188 0.0026 40 0.176 0.165 0.16 0.0143 0.0049 0.186 0.187 0.191 0.011 0.012 0.020 0.25 0.20 ่คำกำร ูดดกลืนแสง 0.15 0.10 0.05 0.00 37 40 35 อุณหภูมิ (องศำเซลเซยี ส) ภำพที่ 2 ผลของอุณหภูมิ
-93- ตำรำงที่ 4 ผลของเวลาในการเกดิ ปฏิกิริยา เวลา (นาท)ี วดั ค่าการดูดกลืนแสงทค่ี วามยาวคล่นื 505 nm. เฉลย่ี SD 10 ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งท่ี 3 0.068 0.011 20 0.109 0.008 40 0.080 0.059 0.064 0.124 0.021 60 0.189 0.005 70 0.100 0.113 0.144 0.180 0.016 0.100 0.133 0.140 0.185 0.189 0.194 0.0179 0.0178 0.0185 ่คำกำร ูดดก ืลนแสง 0.25 0.20 0.15 20 40 60 70 0.10 เวลำในกำรเกิดปฏกิ ิรยิ ำ (นำท)ี 0.05 0.00 10 รปู ที่ 3 ผลของเวลาในการเกิดปฏิกริ ยิ า
-94- 2. สกดั DNA จากขา้ ว 12 สายพนั ธ์ุ ตำรำงที่ 5 ขา้ ว 12 สายพันธท์ุ ใ่ี ชใ้ นการศึกษา สายพนั ธ์ุข้าว เมลด็ ข้าว ต้นข้าว กข 31 กข 41 กข 57 ไรทเ์ บอร์ร่ี
-95- ตำรำงท่ี 5 ข้าว 12 สายพันธ์ุท่ใี ชใ้ นการศึกษา (ตอ่ ) สายพนั ธ์ุข้าว เมลด็ ข้าว ต้นข้าว หอมมะลิ 105 ปทุมธานี เจก๊ เชย หอมปทุม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321