Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้พันธะเคมี

แผนการจัดการเรียนรู้พันธะเคมี

Published by จรุณ แฝงกระโทก, 2022-09-07 14:34:40

Description: แผนการจัดการเรียนรู้พันธะเคมี

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าเคมี1 ว 31221 ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ พนั ธะเคมี โดย นายจรุณ แฝงกระโทก ครู โรงเรียนบ้านใหญ่พทิ ยาคม อาเภอครบุรี จังหวดั นครราชสีมา

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 รายวชิ าเคมี 1 รหัสวชิ า ว41205 กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนพนาสนวิทยา ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2549 สาระที่ 3 หน่วยท่ี 2 เร่ือง การเกดิ พนั ธะไอออนิก/โครงสร้างของสารประกอบไอออนิก เวลา 2.00 ช่ัวโมง มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง ยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน ม.4-6 สารวจตรวจสอบและวิเคราะห์ขอ้ มูล อภิปรายและอธิบายการ เกิดพนั ธะเคมีในโมเลกุลหรือในโครงผลึกของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารในเรื่อง จุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะกบั แรงยดึ เหนี่ยว ระหวา่ งอนุภาคของสารน้นั ………………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ปลายทาง อธิบายการเกิด โครงสร้าง การเขียนสูตร การเรียกชื่อ สมบตั ิและประโยชน์ของ สารประกอบไอออนิก ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั นาทาง 1. อธิบายเกี่ยวกบั กฎออกเตต การเกิดไอออนและการเกิดพนั ธะไอออนิกได้ 2. อธิบายเก่ียวกบั โครงสร้างและปัจจยั ที่มีผลต่อโครงสร้างของสารประกอบไอออนิกได้ เนื้อหา (รายละเอียดของเน้ือหา อยใู่ นใบความรู้ที่ 11) - พนั ธะไอออนิกและการเกิดพนั ธะไอออนิก - โครงสร้างของสารประกอบไอออนิก การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ 1. ครูนาอภิปรายถึงการทาใหส้ ารเปลี่ยนแปลง เช่น การหลอมเหลวเหล็กและโซเดียม คลอไรด์ การสลายโมเลกลุ ของไฮโดรเจน ซ่ึงจะตอ้ งมีการใชพ้ ลงั งาน 2. ครูทบทวนสมบตั ิของโลหะและอโลหะเกี่ยวกบั คา่ พลงั งานไอออไนเซชนั ลาดบั ที่ 1 การรับและการให้เวเลนซ์อิเล็กตรอน เพ่อื นาไปสู่ความรู้เร่ืองการเกิดพนั ธะไอออนิก 3. ครูใหค้ วามรู้นกั เรียนวา่ พนั ธะในอะตอมของธาตุแบ่งเป็น 3 พนั ธะ คือ พนั ธะไอออนิก พนั ธะโคเวเลนตแ์ ละพนั ธะโลหะ ซ่ึงเราจะไดศ้ ึกษาในรายละเอียดต่อไป

2. ข้นั สารวจและค้นหา 1. ครูทบทวนความรู้เรื่องการจดั อิเล็กตรอนของแกส๊ เฉ่ือย แลว้ ใหค้ วามรู้เรื่องกฎออกเตต การเกิดไอออนบวกและไอออนลบ รวมท้งั การเกิดพนั ธะไอออนิกและสารประกอบไอออนิกตาม รายละเอียดในใบความรู้ และร่วมกนั สรุปใหไ้ ดส้ าระสาคญั ดงั น้ี 1.1 กฎออกเตตเป็ นกฎท่ีกล่าวถึงการเกิดพนั ธะเคมีระหวา่ งอะตอม ซ่ึงมีการให้และรับ อิเลก็ ตรอน หรือใชอ้ ิเล็กตรอนร่วมกนั แลว้ ทาใหเ้ วเลนซ์อิเล็กตรอนของแตล่ ะอะตอมท่ีสร้างพนั ธะ เท่ากบั เวเลนซ์อิเล็กตรอนของแกส๊ เฉ่ือย ซ่ึงส่วนใหญ่จะเท่ากบั 8 1.2 อะตอมของธาตุโลหะมีขนาดใหญ่และมีคา่ พลงั งานไอออไนเซชนั ลาดบั ท่ี 1 ต่าจึงมี แนวโนม้ ที่จะเสียอิเลก็ ตรอนไดง้ ่ายเกิดเป็นไอออนบวกที่มีประจุเท่ากบั จานวนอิเล็กตรอนที่เสียไป ส่วนอะตอมของธาตุอโลหะที่มีขนาดเล็กและมีค่าพลงั งานไอออไนเซชนั ลาดบั ท่ี 1 สูง จึงมี แนวโนม้ ท่ีจะรับอิเลก็ ตรอนเกิดเป็นไอออนลบที่มีประจุเท่ากบั จานวนอิเล็กตรอนท่ีรับ เมื่ออะตอม ของโลหะรวมกบั อโลหะจะมีการใหแ้ ละรับอิเล็กตรอนเพือ่ ปรับใหม้ ีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนเป็ นไปตาม กฎออกเตต 1.3 ไอออนบวกและไอออนลบยดึ เหนี่ยวกนั ดว้ ยแรงดึงดูดระหวา่ งประจุไฟฟ้าตา่ งชนิด กนั เกิดเป็นพนั ธะเรียกวา่ พนั ธะไอออนิก และสารประกอบท่ีเกิดจากพนั ธะไอออนิกเรียกวา่ สารประกอบไอออนิก 2. ครูใหน้ กั เรียนพจิ ารณารูป 2.1 โครงสร้างผลึกของโซเดียมคลอไรดแ์ ละรูป 2.2 โครงสร้างผลึกของแคลเซียมฟลูออไรด์ หรือแบบจาลองท่ีสร้างข้ึนมา แลว้ ร่วมกนั อภิปราย ลกั ษณะของโครงผลึกเพื่อให้ไดข้ อ้ สรุปเกี่ยวกบั โครงสร้างของสารประกอบไอออนิก ดงั น้ี 2.1 สารไอออนิกที่มีสถานะของแขง็ ประกอบดว้ ยไอออนบวกรวมอยกู่ บั ไอออนลบ ต่อเนื่องสลบั กนั ไปท้งั สามมิติและแยกเป็นโมเลกลุ เด่ียวไมไ่ ด้ 2.2 โครงสร้างของสารประกอบไอออนิกแตล่ ะชนิดจะมีลกั ษณะแตกต่างกนั ข้ึนอยกู่ บั สดั ส่วนของจานวนประจุ ขนาดของไอออนและโครงสร้างผลึกของสารน้นั ๆ 3. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เพ่มิ เติม เรื่อง การเกิดพนั ธะไอออนิก / โครงสร้างของ สารประกอบไอออนิก ในใบความรู้ท่ี 11 และใหค้ วามรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั พนั ธะโคเวเลนต์ วา่ เป็น พนั ธะระหวา่ งธาตุอโลหะกบั ธาตุอโลหะ 4. ครูยกตวั อยา่ ง โดยใหน้ กั เรียนบอกชนิดของพนั ธะท่ีมีอยใู่ นสารประกอบต่อไปน้ี 1) ด่างทบั ทิม คาตอบ KMnO4 พนั ธะไอออนิกและโคเวเลนต์ คาตอบ MgSO4 . 7H2O พนั ธะไอออนิก และโคเวเลนต์ 2) ดีเกลือ คาตอบ พนั ธะโคเวเลนต์ คาตอบ 3) SiCl4 คาตอบ พนั ธะไอออนิก 4) GeCl2 5) PbCl4 พนั ธะโคเวเลนต์

6) Hg2Cl2 คาตอบ พนั ธะไอออนิก และโคเวเลนต์ 7) BiCl3 คาตอบ พนั ธะโคเวเลนต์ 8) เบนซิน คาตอบ C6H6 พนั ธะโคเวเลนต์ คาตอบ พนั ธะโคเวเลนต์ 9) BeF2 คาตอบ พนั ธะโคเวเลนต์ 10) BeO 4. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเน้ือหา เร่ือง การเกิดพนั ธะไอออนิก/โครงสร้าง ของสารประกอบไอออนิก วา่ มีส่วนไหนท่ีไมเ่ ขา้ ใจและใหค้ วามรู้เพ่ิมเติมในส่วนน้นั 3. ข้นั ลงข้อสรุป 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั เน้ือหาที่ไดเ้ รียนในวนั น้ี 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบ เรื่อง พนั ธะไอออนิก จากน้นั นกั เรียนและครูร่วมกนั เฉลย แบบทดสอบ นกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ ครูยกยอ่ งชมเชย ส่วนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑใ์ หก้ ลบั ไปทบทวน ความรู้ใหม่ แลว้ เขียนสรุปความมาใหค้ รูอา่ นในคาบต่อไป 3. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาความรู้ เร่ือง การเขียนสูตรและเรียกช่ือสารประกอบ ไอออนิก /พลงั งานกบั การเกิดสารประกอบไอออนิก ซ่ึงจะเรียนในคาบต่อไปมาล่วงหนา้ ส่ือการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ท่ี 11 เรื่อง การเกิดพนั ธะไอออนิก/โครงสร้างของสารประกอบไอออนิก 2. หนงั สือเรียนวชิ าเคมี 1 ของ สสวท. 3. แบบทดสอบ เรื่อง พนั ธะไอออนิก การวดั ผลประเมินผล การวดั ผลประเมนิ ผลดา้ น วธิ ีการวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารผา่ น 1. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 1.การสรุปความคิดรวบยอด 1.การสรุปความคิดรวบยอด 1. ทาไดถ้ ูกตอ้ ง 70 % ข้ึนไป 1.วดั จากแบบทดสอบ 1.แบบทดสอบหลงั เรียน 2. ทาแบบทดสอบถูก ชนิดปรนยั 4 ตวั เลือก 60 % ข้ึนไป 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 กระบวนการ ในช้นั เรียน ทางาน ข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะที่พงึ การสงั เกตพฤติกรรมความ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 ประสงค์ สนใจ และต้งั ใจเรียน สนใจและต้งั ใจเรียน ข้ึนไป

กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ความคิดเห็นของผ้บู ังคบั บญั ชา ความเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ความเห็นรองผอู้ านวยการ วทิ ยาศาสตร์ สถานศึกษา ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ลงชื่อ....................................................... ลงช่ือ................................................................. (นางสาวกมลวรรณ วิพรรณะ) ( นางสุจิตร อนนั ตนมณี) ความเห็นของผ้บู ริหารโรงเรียน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงช่ือ.......................................................... ( นายธวชั ชยั เนตินิธิวฒั นพงศ)์ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นใหญพ่ ิทยาคม ……………/………………/……………..

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 13 รายวชิ าเคมี 1 รหสั วชิ า ว41205 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนพนาสนวิทยา ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2549 สาระที่ 3 หน่วยท่ี 2 เร่ือง การเขียนสูตรและเรียกช่ือสารประกอบไอออนิก / พลงั งานกบั การเกดิ สารประกอบไอออนิก เวลา 2.00 ชั่วโมง มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง ยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน ม.4-6 สารวจตรวจสอบและวิเคราะห์ขอ้ มูล อภิปรายและอธิบายการ เกิดพนั ธะเคมีในโมเลกุลหรือในโครงผลึกของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารในเรื่อง จุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะกบั แรงยดึ เหน่ียว ระหวา่ งอนุภาคของสารน้นั ………………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ปลายทาง อธิบายการเกิด โครงสร้าง การเขียนสูตร การเรียกช่ือ สมบตั ิและประโยชนข์ อง สารประกอบไอออนิก ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั นาทาง 1. เขียนสูตรและการเรียกชื่อสารประกอบไอออนิกได้ 2. อธิบายเกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงพลงั งานในการเกิดสารประกอบไอออนิก รวมท้งั เขียน แผนภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงพลงั งานที่เกิดข้ึนได้ เนื้อหา (รายละเอียดของเน้ือหา อยใู่ นใบความรู้ที่ 12) 1. การเขียนสูตรสารประกอบไอออนิก 2. การเรียกช่ือสารประกอบไอออนิก 3. พลงั งานกบั การเกิดสารประกอบไอออนิก การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ ครูทบทวนความรู้เรื่อง การเกิดพนั ธะไอออนิก และโครงสร้างของสารประกอบไอออนิก ที่ไดเ้ รียนในคาบท่ีผา่ นมา โดย พนั ธะไอออนิก เกิดจาก ไอออนบวกและไอออนลบยดึ เหน่ียวกนั ดว้ ยแรงดึงดูดระหวา่ งประจุไฟฟ้าต่างชนิดกนั

2. ข้นั สารวจและค้นหา 1. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาการเกิดไอออนบวกและไอออนลบของธาตุในหมู่ตา่ งๆ รวมท้งั การ เรียกช่ือไอออนในตารางที่ 1 และ 2 ตามรายละเอียดในใบความรู้ 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายถึงวธิ ีเขียนสูตรสารประกอบไอออนิกท่ีเกิดจากไอออน บวกกบั ไอออนลบรวมตวั กนั พร้อมกบั เรียกชื่อสารประกอบไอออนิกท่ีเขียนข้ึนตามวธิ ีการเรียกชื่อ ตามรายละเอียดในใบความรู้ที่ 12 เช่น - NaCl อา่ นวา่ โซเดียมคลอไรด์ - CaI2 อา่ นวา่ แคลเซียมไอโอไดด์ - FeCl2 อา่ นวา่ ไอร์ออน (II) คลอไรด์ - FeCl3 อา่ นวา่ ไอร์ออน (III) คลอไรด์ - Na2SO4 อา่ นวา่ โซเดียมซลั เฟต - CaCO3 อ่านวา่ แคลเซียมคาร์บอเนต 3. ครูใหน้ กั เรียนฝึกเขียนสูตรและเรียกชื่อสารประกอบเพ่ิมเติม เพ่ือใหม้ ีความเขา้ ใจมากข้ึน 4. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั อภิปรายและช่วยกนั เขียนสูตรเอมพิริคลั ของ สารประกอบไอออนิกที่เกิดจากธาตุหมู่ IA IIA และ IIIA กบั หมูธ่ าตุหมู่ VA ซ่ึงควรจะเขียนได้ ดงั น้ี M3X M3X2 และ MX 5. ครูใหค้ วามรู้ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงพลงั งานในการเกิดสารประกอบโซเดียมคลอไรด์ จากปฏิกิริยาระหวา่ งโลหะโซเดียมกบั แกส๊ คลอรีนตามรายละเอียดในใบความรู้ ซ่ึงสรุปสาระสาคญั ไดด้ งั น้ี 5.1 มีการต้งั สมมติฐานวา่ การเกิดสารประกอบไอออนิกมีปฏิกิริยาเกิดข้ึนหลายข้นั ในแต่ ละข้นั จะมีการเปลี่ยนแปลงพลงั งาน โดยอาจเป็นการดูดหรือคายพลงั งาน 5.2 ปฏิกิริยาท่ีมีการดูดพลงั งานมากกวา่ หรือการคายพลงั งาน จดั เป็ นปฏิกิริยาแบบดูด พลงั งาน คา่ H จะมีเครื่องหมายเป็นบวก 5.3 ปฏิกิริยาท่ีมีการคายพลงั งานมากกวา่ หรือการดูดพลงั งาน จดั เป็ นปฏิกิริยาแบบคาย พลงั งาน ค่า H จะมีเคร่ืองหมายเป็นลบ 6. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภิปรายวา่ การเกิดปฏิกิริยาระหวา่ งโลหะโซเดียมกบั แก๊สคลอรีนเกิดเป็นโซเดียมคลอไรดเ์ ป็ นปฏิกิริยาแบบดูดพลงั งานหรือคายพลงั งาน ซ่ึงควรบอกได้ วา่ เป็นแบบคายพลงั งาน 7. ครูอธิบายการนาปฏิกิริยาในแต่ละข้นั ตอนมาเขียนเป็นแผนภาพแสดงการเปลี่ยนแปลง พลงั งานตามรายละเอียดในบทเรียน/ใบความรู้ 8. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเน้ือหา เรื่อง การเขียนสูตรและเรียกช่ือสารประกอบ ไอออนิก /พลงั งานกบั การเกิดสารประกอบไอออนิก วา่ มีส่วนไหนท่ีไมเ่ ขา้ ใจและใหค้ วามรู้เพ่มิ เติม

3. ข้ันลงข้อสรุป 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนสรุปความคิดรวบยอดเก่ียวกบั เน้ือหาท่ีไดเ้ รียนในวนั น้ี และทา แบบฝึ กเสริ มประสบการณ์ 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบ เร่ือง การเขียนสูตรและเรียกช่ือสารประกอบไอออนิก /พลงั งาน กบั การเกิดสารประกอบไอออนิก จากน้นั นกั เรียนและครูร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ นกั เรียนที่ผา่ น เกณฑ์ ครูยกยอ่ งชมเชย ส่วนนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นเกณฑใ์ หก้ ลบั ไปทบทวนความรู้ใหม่ แลว้ เขียนสรุป ความมาใหค้ รูอ่านในคาบต่อไป 3. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาความรู้ เร่ือง สมบตั ิของสารประกอบไอออนิก ซ่ึงจะ เรียนในคาบตอ่ ไปมาล่วงหนา้ ส่ือการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ที่ 12 เร่ือง การเขียนสูตรและเรียกช่ือสารประกอบไอออนิก /พลงั งานกบั การเกิดสารประกอบไอออนิก 2. หนงั สือเรียนวชิ าเคมี 1 ของ สสวท. 3. แบบทดสอบ เร่ือง การเขียนสูตรและเรียกช่ือสารประกอบไอออนิก /พลงั งานกบั การเกิด สารประกอบไอออนิก การวดั ผลประเมินผล การวดั ผลประเมินผลดา้ น วธิ ีการวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารผา่ น 1. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 1.การสรุปความคิดรวบยอด 1.การสรุปความคิดรวบยอด 1. ทาไดถ้ ูกตอ้ ง 70 % ข้ึนไป 1.วดั จากแบบทดสอบ 1.แบบทดสอบหลงั เรียน 2. ทาแบบทดสอบถกู ชนิดปรนยั 4 ตวั เลือก 60 % ข้ึนไป 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 กระบวนการ ในช้นั เรียน ทางาน ข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะที่พึง การสงั เกตพฤติกรรมความ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 ประสงค์ สนใจ และต้งั ใจเรียน สนใจและต้งั ใจเรียน ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

ความคิดเห็นของผู้บังคบั บัญชา ความเห็นรองผอู้ านวยการ ความเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สถานศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ลงชื่อ................................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสุจิตร อนนั ตนมณี) (นางสาวกมลวรรณ วพิ รรณะ) ความเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงชื่อ.......................................................... ( นายธวชั ชยั เนตินิธิวฒั นพงศ)์ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นใหญ่พิทยาคม ……………/………………/……………..

แบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง การเขียนสูตรสารประกอบไอออนิก 1. จงเขียนสูตรของสารประกอบไอออนิกที่เกิดจากการรวมตวั ของไอออนแต่ละคู่ตอ่ ไปน้ี Br- CN- SO42- HCO3- OH- NO3- Mg2+ K+ Ni2+ NH4+ Fe2+ Fe3+ 2.จงเขียนสูตรของสารประกอบไอออนิกท่ีเกิดข้ึนจากการรวมตวั ของธาตุตอ่ ไปน้ี ก. โพแทสเซียมกบั ออกซิเจน ข. แคลเซียมกบั โบรมีน ค. แมกนีเซียมกบั ไนโตรเจน ง. โซเดียมกบั โบรมีน จ. อะลูมิเนียมกบั ซลั เฟอร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เฉลยแบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง การเขยี นสูตรสารประกอบไอออนิก 1.เฉลย Br- CN- SO42- HCO3- OH- NO3- Mg2+ MgBr2 Mg(CN)2 MgSO4 Mg(HCO3)2 Mg(OH)2 Mg(NO3)2 K+ Ni2+ KBr KCN K2SO4 KHCO3 KOH KNO3 NH4+ Fe2+ NiBr2 Ni(CN)2 NiSO4 Ni(HCO3)2 Ni(OH)2 Ni(NO3)2 Fe3+ NH4Br NH4CN (NH4)2SO4 NH4HCO3 NH4OH NH4NO3 2.เฉลย FeBr2 Fe(CN)2 FeSO4 Fe(HCO3)2 Fe(OH)2 Fe(NO3)2 FeBr3 Fe(CN)3 Fe2(SO4)3 Fe(HCO3)3 Fe(OH)3 Fe(NO3)3 ก. K2O ข. CaBr2 ค. Mg3N2 ง. NaI จ. Al2S3

แบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง การเรียกช่ือสารประกอบไอออนิก 1.จงอา่ นช่ือของสารประกอบต่อไปน้ี 1.1 Bas 1.2 ZnO 1.3 K2CrO4 1.4 CSSO4 1.5 Cr2O3 1.6 FeSO4 1.7 Mg(HCO3)2 1.8 (NH4)HPO4 1.9 Ca(HSO3)2 1.10 Cu(OH)2 1.11 KClO4 1.12 KIO 1.13 KH2PO4 2.จงเขียนสูตรของสารประกอบต่อไปน้ี 2.1.อะลูมิเนียมซลั เฟต 2.2 โพแทสเซียมโครเมต 2.3.ซิลิคอนเตตระฟลูออไรด์ 2.4 เลด (II) อะซิเตต 2.5.ไอร์ออน (III) ออกไซด์ 2.6 ไตรคาร์บอนไดซลั ซลั ไฟด์ 2.7.โคบอลต์ (II) ไนเตรต 2.8 สตรอนเซียมไนเตรต 2.9.ทิน (IV) ออกไซด์ 2.10 แคลเซียมไดไฮโดรเจนฟอสเฟต 2.11.คลอรีนไดออกไซด์ 2.12 ฟอสฟอรัสไดคลอไรดไ์ ตรฟลูออไรด์ 2.13.เตตระซลั เฟอร์ไดไนไตรด์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เฉลยแบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เร่ือง การเรียกช่ือสารประกอบไอออนิก 1.แนวคิด 1.1 Bas แบเรียมซลั ไฟด์ 1.2 ZnO ซิงคอ์ อกไซด์ 1.3 K2CrO4 โพแทสเซียมโครเมต 1.4 CsSO4 ซีเซียมซลั เฟต 1.5 Cr2O3 โครเมียม(III)ออกไซด์ 1.6 FeSO4 ไอร์ออน (II) ซลั เฟต 1.7 Mg(HCO3)2 แมกนีเซียมไฮโดรเจนคาร์บอนเนต 1.8 (NH4)HPO4 แอมโมเนียมไฮโดรเจนฟอสเฟต 1.9 Ca(HSO3)2 แคลเซียมไฮโดรเจนไฮโดรเจนซลั ไฟต์ 1.10 Cu(OH)2คอปเปอร์(II)ไฮดรอกไซด์ 1.11 KClO4โพแทสเซียมเปอร์คลอเรต 1.12 KIO โพแทสเซียมไฮโปไอโอไดด์ 1.13 KH2PO4 โพแทสเซียมไดไฮโดรเจนฟอสเฟต

2.แนวคดิ 2.1.อะลูมิเนียมซลั เฟต; Al2(SO4)3 2.2 โพแทสเซียมโครเมต ; K2CrO4 2.3.ซิลิคอนเตตระฟลูออไรด์ ; SiF4 2.4 เลด (II) อะซิเตต ; (CH3COO)2Pb 2.5.ไอร์ออน (III) ออกไซด์ ; Fe2O3 2.6 ไตรคาร์บอนไดซลั ซลั ไฟด์; C3S2 2.7.โคบอลต์ (II) ไนเตรต ; Co(NO3)2 2.8 สตรอนเซียมไนเตรต ; Sr(NO3)2 2.9.ทิน (IV) ออกไซด์ ; SnO2 2.10 แคลเซียมไดไฮโดรเจนฟอสเฟต; Ca(H2PO4)2 2.11.คลอรีนไดออกไซด์ ; ClO2 2.12 ฟอสฟอรัสไดคลอไรดไ์ ตรฟลูออไรด์ ; PCl2F3 213.เตตระซลั เฟอร์ไดไนไตรด์ ; S4N2 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เร่ือง พลงั งานกบั การเกดิ สารประกอบไอออนิก ข้นั ตอนในการเกิด KBr (s) จาก K (s) กบั Br2 (l) สมการการเปล่ียนแปลง ชื่อพลงั งาน ประเภทพลงั งาน ค่าของพลงั งาน (kJ) 1. ฝ Br2 (l)  ฝ Br2 (g) 15.0 2. ฝ Br2 (l)  Br2 (g) 96.6 3. K (s)  K (s) 89.9 4. K (g)  K+ (g) + e- 418.4 5. Br (g) + e-  Br- (g) 341.4 6. K+ (g) + Br- (g)  KBr (s) 668.4 จงเติมขอ้ ความลงในช่องวา่ งและตอบคาถามต่อไปน้ี ก. จงเขียนสมการแสดงการเกิด KBr (s) ข. จงหา H  ของการเกิด KBr (s) f ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เฉลยแบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง พลงั งานกบั การเกดิ สารประกอบไอออนิก สมการการเปล่ียนแปลง ช่ือพลงั งาน ประเภท ค่าของพลงั งาน พลงั งาน (kJ) 1. 1/2 Br2 (l)  1/2 Br2 (g) พลงั งานการระเหิด ดูดพลงั งาน 15.0 2. 1/2 Br2 (l)  Br2 (g) พลงั งานสลายพนั ธะ ดูดพลงั งาน 96.6 3. K (s)  K (s) พลงั งานการระเหิด ดูดพลงั งาน 89.9 4. K (g)  K+ (g) + e- พลงั งานไอออไนเซชนั ดูดพลงั งาน 418.4 5. Br (g) + e-  Br- (g) พลงั งานสัมพรรคภาพอิเลก็ ตรอน คายพลงั งาน 341.4 6. K+ (g) + Br- (g)  KBr (s) คายพลงั งาน 668.4 พลงั งานแลตทิซ ก. K (s) + 1/2 Br2 (l)  KBr (s) ข. H  = พลงั งานท่ีดูดท้งั หมด - พลงั งานท่ีคายท้งั หมด f = ( 15 + 96.6 + 89.9 + 418.4 ) - ( 341.4 + 668.4 ) = 389.9 kJ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 รายวชิ าเคมี 1 รหสั วชิ า ว41205 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนพนาสนวิทยา ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2549 สาระท่ี 3 หน่วยท่ี 2 เร่ือง สมบตั ขิ องสารประกอบไอออนิก เวลา 2.00 ช่ัวโมง มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง ยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน ม.4-6 สารวจตรวจสอบและวิเคราะห์ขอ้ มูล อภิปรายและอธิบายการ เกิดพนั ธะเคมีในโมเลกุลหรือในโครงผลึกของสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารในเรื่อง จุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะกบั แรงยดึ เหนี่ยว ระหวา่ งอนุภาคของสารน้นั ………………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ปลายทาง ทาการทดลอง รวบรวมขอ้ มูล แปลความหมายขอ้ มูล และสรุปผลการทดลองเพ่ือศึกษา การเปลี่ยนแปลงพลงั งานของสารไอออนิกเม่ือละลายน้าและการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสารไอออนิก ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั นาทาง 1. อธิบายเก่ียวกบั สมบตั ิบางประการของสารประกอบไอออนิกได้ 2. ทาการทดลองและอธิบายเกี่ยวกบั การเปล่ียนแปลงพลงั งานของสารประกอบไอออนิก เมื่อละลายในน้าได้ เนื้อหา (รายละเอียดของเน้ือหา อยใู่ นใบความรู้ที่ 13) - กลไกของการละลายของสารประกอบไอออนิกในน้า - สรุปการละลายน้าของสารประกอบไอออนิก - พลงั งานกบั การละลายสารประกอบไอออนิก - สมการไอออนิก การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ ครูทบทวนความรู้เร่ือง การเขียนสูตรและการเรียกชื่อสารประกอบไอออนิก และพลงั งาน กบั การเกิดสารประกอบไอออนิก ที่เรียนผา่ นมา และแจง้ วา่ ในวนั น้ี เราจะร่วมกนั ศึกษา เร่ือง สมบตั ิ ของสารประกอบไอออนิกและการละลายของสารประกอบไอออนิกในน้า

2. ข้นั สารวจและค้นหา 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายถึงสมบตั ิของสารประกอบไอออนิกตามรายละเอียดใน ใบความรู้ ซ่ึงควรสรุปสาระสาคญั ไดด้ งั น้ี 1.1 สารประกอบไอออนิกประกอบดว้ ยไอออนบวกและไอออนลบยดึ เหน่ียวกนั อยา่ ง แขง็ แรง เมื่อทุบผลึกของสารประกอบไอออนิกและไอออนชนิดเดียวกนั เล่ือนไปอยตู่ รงกนั จึงเกิด แรงผลกั ระหวา่ งไอออน เป็ นเหตุใหผ้ ลึกเปราะและแตกไดง้ ่าย 1.2 เม่ือเป็ นของแขง็ ไมน่ าไฟฟ้า เพราะไอออนที่เป็ นองคป์ ระกอบยดึ เหน่ียวกนั อยา่ ง แขง็ แรงจน เคลื่อนที่ไมไ่ ด้ แต่เมื่อทาให้หลอมเหลวหรือละลายในน้าจะนาไฟฟ้าเพราะไอออน เคลื่อนท่ีไมไ่ ด้ 1.3 มีสถานะเป็นของแขง็ ที่อุณหภูมิหอ้ ง มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูง 1.4 มีสภาพละลายไดแ้ ตกตา่ งกนั บางชนิดมีคา่ สภาพละลายไดส้ ูง บางชนิดมีสภาพ ละลายไดต้ ่ามาก และบางชนิดไม่ละลายน้า 2. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 - 5 กลุ่มๆ ละ 4-5 คนและทาการทดลอง 2.1 เร่ือง การละลายของสารประกอบไอออนิกในน้า การทดลอง 2.1 การละลายของสารประกอบไอออนิกในนา้ การทดลองน้ีมีจุดมุ่งหมายเพ่ือศึกษาการเปล่ียนแปลงพลงั งานเม่ือสารประกอบไอออนิก ละลายในน้า จุดประสงค์การทดลอง 1. ทาการทดลองเพ่ือศึกษาการเปลี่ยนแปลงพลงั งานเมื่อสารประกอบไอออนิก ละลายในน้าได้ 2. อธิบายการเปล่ียนแปลงพลงั งานเม่ือสารประกอบไอออนิกละลายในน้าได้ เวลาทใ่ี ช้ อภิปรายก่อนการทดลอง 5 นาที ทดลอง 30 นาที อภิปรายหลงั การทดลอง 25 นาที 60 นาที รวม

สารเคมแี ละอุปกรณ์ ตอ่ 1 กลุ่ม รายการ 2 ชอ้ นเบอร์ 1 สารเคมี 2 ชอ้ นเบอร์ 1 1. คอปเปอร์ (II ) ซลั เฟตที่ปราศจากน้า 2 ชอ้ นเบอร์ 1 2. แอมโมเนียมคลอไรด์ 3. โซเดียมคลอไรด์ 75 cm3 4. น้า อปุ กรณ์ 1 อนั 1. แทง่ แกว้ คน 3 คนั ( ใชร้ ่วมกนั ) 2. ชอ้ นตกั สารเบอร์ 1 3. แคลอรีมิเตอร์ 1 ชุด 4. เทอร์มอมิเตอร์ขนาด 0 – 100 °C 1 อนั 5.โกร่งและท่ีบด 1 ชุด 6.กระบอกตวงขนาด 50 cm3 1 กระบอก 3. ก่อนทาการทดลองครูไดเ้ ตรียมสารล่วงหนา้ ดงั น้ี เตรียมคอปเปอร์ (II ) ซลั เฟตท่ีปราศจากน้า โดยบด CuSO4•5H2O ใหล้ ะเอียดนาไปเผา ในถว้ ยกระเบ้ืองดว้ ยไฟอ่อนๆ และคนตลอดเวลาเพ่ือป้องกนั การประทุ เมื่อน้าระเหยออกหมดจะ ไดผ้ งสีขาวของ CuSO4 ท่ีปราศจากน้า เกบ็ ผง CuSO4 ท่ีปราศจากน้าไวใ้ นขวดที่แห้งสนิทต้งั ไว้ ในที่เยน็ แลว้ ปิ ดฝาใหส้ นิทเพือ่ ป้องกนั การดูดความช้ืนจากภายนอก 4. ครูนาอภิปรายก่อนการทดลอง เพ่ือแนะนาเก่ียวกบั การทดลอง ดงั น้ี 4.1 เช็ด แคลอรีมิเตอร์ให้แหง้ ก่อนทาการทดลองทุกคร้ัง 4.2 เม่ือละลายสารในน้าแลว้ เตือนใหน้ กั เรียนอ่านอุณหภูมิจากเทอร์มอมิเตอร์ตลอด เวลาจนอุณหภูมิไม่เปล่ียนแปลง และบนั ทึกอุณหภูมิที่เพ่มิ ข้ึนไปสูงท่ีสุดหรือลดลงต่าที่สุด 5. นกั เรียนทาการทดลองตามรายละเอียดการทดลอง 2.1 เรื่อง การละลายของสารประกอบ ไอออนิกในน้าตามรายละเอียดในหนงั สือเรียน และบนั ทึกผลการทดลอง 6. ผลการทดลองของนกั เรียนควรเป็นดงั น้ี สาร มวลของสาร ( g ) อุณหภูมิของน้า ( °C ) อุณหภูมิของสารละลาย ( °C ) 1. CuSO4 1 31.0 35.0 2. NH4Cl 1 31.0 29.0 3. NaCl 1 31.0 30.5

7. จากผลการทดลองครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายผลการทดลองเก่ียวกบั อุณหภูมิของ สารละลาย เพ่ือใหไ้ ดข้ อ้ สรุปวา่ มีการเปลี่ยนแปลงพลงั งานเกิดข้ึน หลงั จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มนา ขอ้ สรุปมาอภิปรายร่วมกนั อีกคร้ังซ่ึงควรไดข้ อ้ สรุปวา่ 7.1 สารท้งั 3 ชนิดละลายน้าไดแ้ ตกตา่ งกนั ดงั ต่อไปน้ี NH4Cl ละลายในน้าไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว NaCl ละลายในน้าไดด้ ี CuSO4 ที่ปราศจาน้าละลายในน้าไดช้ า้ ๆ 7.2 การละลายของ CuSO4 ท่ีปราศจากน้าในน้า เป็นการเปล่ียนแปลงประเภทคาย พลงั งาน เพราะอุณหภูมิของสารละลายสูงข้ึน 7.3 การละลายของ NH4Cl ในน้า เป็นการเปล่ียนแปลงประเภทดูดพลงั งาน เพราะ อุณหภูมิของสารละลายลดลง 7.4 การละลายของ NaCl ในน้ามีการเปล่ียนแปลงพลงั งานนอ้ ยมาก เพราะอุณหภูมิ ของสารละลายเกือบจะคงที่ 8. ครูอธิบายเพ่ิมเติมถึงข้นั ตอนในการเกิดสารละลายของสารประกอบไอออนิกและ พลงั งานที่เก่ียวขอ้ งกบั การละลายของสารตามรายละเอียดในใบความรู้ 9. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเน้ือหา เร่ือง สมบตั ิบางประการของสารประกอบ ไอออนิก และการละลายของสารประกอบไอออนิกในน้า วา่ มีส่วนไหนที่ไม่เขา้ ใจและใหค้ วามรู้ เพิ่มเติมในส่วนน้นั 3. ข้นั ลงข้อสรุป 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั เน้ือหาท่ีไดเ้ รียนในวนั น้ี และ แบบฝึ กเสริ มประสบการณ์ 2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาความรู้ เร่ือง ปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก ซ่ึง จะเรียนในคาบตอ่ ไปมาล่วงหนา้ สื่อการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ที่ 13 เรื่อง สมบตั ิของสารประกอบไอออนิก 2. หนงั สือเรียนวชิ าเคมี 1 ของ สสวท. 3. อุปกรณ์การทดลองที่ 2.1 / ใบบนั ทึกกิจกรรม/การทดลอง กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

การวดั ผลประเมินผล การวดั ผลประเมนิ ผลดา้ น วธิ ีการวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารผา่ น 1.การสรุปความคิดรวบ 1. ทาไดถ้ ูกตอ้ ง 70 % 1. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 1.การสรุปความคิดรวบยอด ยอด ข้ึนไป 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 กระบวนการ การทดลองในช้นั เรียน ทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ ข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะที่พงึ การสงั เกตพฤติกรรมความ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 ประสงค์ สนใจ และต้งั ใจเรียน สนใจและต้งั ใจเรียน ข้ึนไป ความคิดเหน็ ของผ้บู ังคบั บญั ชา ความเห็นรองผอู้ านวยการ ความเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สถานศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ลงช่ือ................................................................. ลงช่ือ....................................................... ( นางสุจิตร อนนั ตนมณี) (นางสาวกมลวรรณ วพิ รรณะ) ความเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงช่ือ.......................................................... ( นายธวชั ชยั เนตินิธิวฒั นพงศ)์ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นใหญ่พิทยาคม ……………/………………/……………..

แบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เร่ือง การเกดิ สารละลายของสารประกอบไอออนิก 1. การละลาย NaOH (s) มี 2 ข้นั ตอน คือ ข้นั ที่ 1 ……………………………………. พลงั งานแลตทิซ = +662.4 kJ/mol ข้นั ที่ 2 ……………………………………. พลงั งานไฮเดรชนั = -816.8 kJ/mol ก. จงเขียนสมการแสดงการละลายในข้นั ที่ 1 และ 2 ข. จงหาพลงั งานในการละลาย NaOH (s) -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เฉลยแบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง การเกดิ สารละลายของสารประกอบไอออนิก ก. ข้นั ท่ี 1 NaOH (s)  Na+ (g) + OH- (g) ข้นั ที่ 2 Na+ (g) + OH- (g) H2O Na+ (aq) + OH- (aq) ข. พลงั งานในการละลาย NaOH = พลงั งานแลตทิซ + พลงั งานไฮเดรชนั = (+662.4 kJ) + ( -816.8 kJ) = -154.4 kJ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 รายวชิ าเคมี 1 รหัสวชิ า ว41205 กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนพนาสนวิทยา ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2549 สาระท่ี 3 หน่วยท่ี 2 เร่ือง ปฏกิ ริ ิยาของสารประกอบไอออนิก เวลา 2.00 ช่ัวโมง มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง ยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน ม.4-6 สารวจตรวจสอบและวเิ คราะห์ขอ้ มูล อภิปรายและอธิบายการ เกิดพนั ธะเคมีในโมเลกุลหรือในโครงผลึกของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารในเรื่อง จุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะกบั แรงยดึ เหนี่ยว ระหวา่ งอนุภาคของสารน้นั ………………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ปลายทาง ทาการทดลอง รวบรวมขอ้ มูล แปลความหมายขอ้ มูล และสรุปผลการทดลองเพ่ือศึกษา การเปล่ียนแปลงพลงั งานของสารไอออนิกเม่ือละลายน้าและการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสารไอออนิก ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั นาทาง 1. ทาการทดลองและอธิบายเก่ียวกบั ปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก พร้อมท้งั เขียน สมการไอออนิกและสมการไอออนิกสุทธิแสดงปฏิกิริยาที่เกิดข้ึนได้ เนื้อหา (รายละเอียดของเน้ือหา อยใู่ นใบความรู้ท่ี 13) - กลไกของการละลายของสารประกอบไอออนิกในน้า - สรุปการละลายน้าของสารประกอบไอออนิก - พลงั งานกบั การละลายสารประกอบไอออนิก - สมการไอออนิก การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ ครูทบทวนสมบตั ิและการละลายในน้าของสารประกอบไอออนิก ซ่ึงจะมีไอออนบวกและ ไอออนลบเกิดข้ึน และถา้ นาสารละลายท้งั 2 ชนิดมาผสมกนั จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดข้ึนหรือไม่ เพือ่ นาเขา้ สู่การทดลอง 2.2

2. ข้นั สารวจและค้นหา 1. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็น 4 - 5 กลุ่มๆ ละ 4-5 คนและทาการทดลอง 2.2 เร่ือง การเกิดปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก การทดลอง 2.2 การเกดิ ปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก การทดลองน้ีมีจุดมุง่ หมายเพ่ือศึกษาการเกิดปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก ซ่ึงจะ นาไปสู่การเขียนสมการไอออนิกและสมการไอออนิกสุทธิ จุดประสงค์การทดลอง 1. ทาการทดลองเพ่ือศึกษาการเกิดปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิกได้ 2. อธิบายผลที่เกิดข้ึนจากการท่ีสารประกอบไอออนิกทาปฏิกิกริยากนั พร้อมท้งั เขียน สมการไอออนิกและสมการไอออนิกสุทธิแสดงปฏิกิริยาท่ีเกิดข้ึนได้ เวลาทใี่ ช้ อภิปรายก่อนการทดลอง 5 นาที ทดลอง 20 นาที อภิปรายหลงั การทดลอง 35 นาที รวม 60 นาที สารเคมีและอปุ กรณ์ ต่อ 1 กล่มุ รายการ ใชส้ ารเคมีหมายเลข 1 – 3 ชนิดใดชนิดหน่ึง สารเคมี ชนิดละ 3 cm3 1. สารละลายแคลเซียมไฮดรอกไซด์ 1 cm3 2. สารละลายโซเดียมซลั เฟต 1 cm3 3. สารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์ 1 cm3 4. สารละลายโซเดียมคาร์บอเนต 5. สารละลายแอมโมเนียมคลอไรด์ 3 หลอด 6. สารละลายเลด (II ) ไนเตรต 6 กระบอก ( ใชร้ ่วมกนั ) อปุ กรณ์ 1. หลอดทดลองขนาดเล็ก 2. กระบอกตวงขนาด 10 cm3

2. ก่อนทาการทดลองครูไดเ้ ตรียมสารล่วงหนา้ โดย เตรียมสารละลายโดยใชส้ ารที่ กาหนดใหช้ นิดละ 2 g ละลายน้าปริมาตร 40 cm3 3. ครูนาอภิปรายก่อนการทดลอง โดยอาจกาหนดสารใหน้ กั เรียนทดลองกลุ่มละชนิด แลว้ นาผลที่ไดม้ าอภิปรายร่วมกนั เพอื่ ท่ีจะไดผ้ ลการทดลองครบทุกสาร 4. นกั เรียนทาการทดลองตามรายละเอียดการทดลอง 2.2 เรื่อง การเกิดปฏิกิริยาของ สารประกอบไอออนิก ตามรายละเอียดในหนงั สือเรียน และบนั ทึกผลการทดลอง 5. ผลการทดลองของนกั เรียนควรเป็นดงั น้ี สารละลาย การเปลยี่ นแปลงเม่ือเตมิ สารละลาย Ca( OH)2 Na2CO3 NH4Cl Pb( NO3)2 Na2SO4 เกิดตะกอนสีขาว ไม่เกิดตะกอน เกิดตะกอนสีขาว KI ไมเ่ กิดตะกอน ไม่เกิดตะกอน เกิดตะกอนสีขาว ไม่เกิดตะกอน ไมเ่ กิดตะกอน เกิดตะกอนสีเหลือง 6. จากผลการทดลองครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มแปลผลการทดลองและร่วมกนั อภิปรายตาม แนวคาถามทา้ ยการทดลอง จนไดข้ อ้ สรุป แลว้ นามาอภิปรายร่วมกนั อีกคร้ัง ซ่ึงควรสรุปไดว้ า่ 6.1 เม่ือผสมสารละลายสองชนิดเขา้ ดว้ ยกนั แลว้ ไมม่ ีตะกอนเกิดข้ึน แสดงวา่ ไอออนใน สารละลายไมร่ วมตวั กนั จึงไม่มีปฏิกิริยาเคมีเกิดข้ึน 6.2 เม่ือผสมสารละลายสองชนิดเขา้ ดว้ ยกนั แลว้ มีตะกอนเกิดข้ึน แสดงวา่ ไอออนใน สารละลายรวมตวั กนั เกิดเป็นสารละลายใหมท่ ่ีไม่ละลายน้า หรือมีปฏิกิริยาเคมีเกิดข้ึน 7. ครูอธิบายเพ่มิ เติมเก่ียวกบั ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดข้ึน การเขียนสมการไอออนิกและสมการไอ ออนิกสุทธิตามรายละเอียดในบทเรียน/ใบความรู้ แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนสมการไอออนิกและสมการ ไอออนิกสุทธิของ ปฏิกิริยาที่เกิดข้ึน 8. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มอภิปรายผลจากการผสมสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) กบั สารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์ (KI) เขา้ ดว้ ยกนั ซ่ึงควรสรุปไดว้ า่ ในสารละลายผสม ประกอบดว้ ยไอออนท่ีเป็ นองคป์ ระกอบของสารประกอบไอออนิกท้งั 2 ชนิด ซ่ึงประกอบดว้ ย ไอออน 4 ชนิดไดแ้ ก่ Na+ Cl- K+ และ I- ไอออนเหล่าน้ีจะไม่ทาปฏิกิริยาเคมีตอ่ กนั ดงั น้นั จึงไม่ เขียนเป็ นสมการเคมี 9. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเน้ือหา เร่ือง ปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก วา่ มีส่วนไหนท่ีไม่เขา้ ใจและใหค้ วามรู้เพมิ่ เติมในส่วนน้นั

3. ข้นั ลงข้อสรุป 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนสรุปความคิดรวบยอดเก่ียวกบั เน้ือหาท่ีไดเ้ รียนในวนั น้ี และ แบบฝึ กเสริ มประสบการณ์ 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบ เร่ือง พลงั งานกบั การละลายสารประกอบไอออนิก จากน้นั นกั เรียนและครูร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ นกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ ครูยกยอ่ งชมเชย ส่วนนกั เรียนที่ ไมผ่ า่ นเกณฑใ์ หก้ ลบั ไปทบทวนความรู้ใหม่ แลว้ เขียนสรุปความมาใหค้ รูอ่านในคาบตอ่ ไป 3. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาความรู้ เร่ือง การเกิดและชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ / การเขียนสูตรและเรียกชื่อสารโคเวเลนต์ ซ่ึงจะเรียนในคาบตอ่ ไปมาล่วงหนา้ ส่ือการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ท่ี 13 เร่ือง สมบตั ิของสารประกอบไอออนิก 2. หนงั สือเรียนวชิ าเคมี 1 ของ สสวท. 3. แบบทดสอบ เรื่อง พลงั งานกบั การละลายสารประกอบไอออนิก 4. อุปกรณ์การทดลองท่ี 2.2 / ใบบนั ทึกกิจกรรม/การทดลอง การวดั ผลประเมินผล การวดั ผลประเมินผลดา้ น วธิ ีการวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารผา่ น 1.การสรุปความคิดรวบ 1. ทาไดถ้ ูกตอ้ ง 70 % 1. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 1.การสรุปความคิดรวบยอด ยอด ข้ึนไป 2. ทาแบบทดสอบถกู 1.วดั จากแบบทดสอบ 1.แบบทดสอบหลงั เรียน 60 %ข้ึนไป ชนิดปรนยั 4 ตวั เลือก 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 กระบวนการ การทดลองในช้นั เรียน ทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ ข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพงึ การสงั เกตพฤติกรรมความ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 ประสงค์ สนใจ และต้งั ใจเรียน สนใจและต้งั ใจเรียน ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

ความคิดเห็นของผู้บังคบั บัญชา ความเห็นรองผอู้ านวยการ ความเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สถานศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ลงชื่อ................................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสุจิตร อนนั ตนมณี) (นางสาวกมลวรรณ วพิ รรณะ) ความเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงชื่อ.......................................................... ( นายธวชั ชยั เนตินิธิวฒั นพงศ)์ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นใหญ่พิทยาคม ……………/………………/……………..

แบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง ปฏกิ ริ ิยาของสารประกอบไอออนิก 1.จงเขียนสมการไอออนิกจากสมการของปฏิกิริยาตอ่ ไปน้ี ก. Cu (s) + AgNO3 (aq)  Cu(NO3)2 (aq) + Ag (s) ข. 2Na (s) + 2H2O (l)  2NaOH (aq) + H2 (g) 2.จงเขียนสมการไอออนิกจากการผสมสารละลายตา่ ง ๆ ตอ่ ไปน้ี ก. Ba(NO3)2 + K2SO4 ข. CuCl2 + H2O ค. NaCl + Ca(NO3)2 ง. LiCl + H2O ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เฉลยแบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง ปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก 1.แนวคิด ก. Cu (s) + 2Ag+ (aq)  Cu2+(aq) + Ag (s) ข. 2Na (s) + 2H2O (l)  2Na+ (aq) + OH- (aq) + H2 (g) 2.แนวคิด ก. Ba2+ (aq) + SO42- (aq)  BaSO4 (s) ข. Cu2+ (aq) + S2- (aq)  CuS (s) ค. Na+(aq) + Cl- (aq) + Ca2+(aq) + 2NO3- (aq)  Na+ (aq)+ Cl- (aq) + Ca2+ (aq) + 2NO3- (aq) ง. LiCl (s) H2O Li+ (aq) + Cl- (aq) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 รายวชิ าเคมี 1 รหัสวชิ า ว41205 กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนพนาสนวทิ ยา ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2549 สาระท่ี 3 หน่วยท่ี 2 เรื่อง การเกดิ และชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ /การเขยี นสูตรและ เรียกชื่อสารโคเวเลนต์ เวลา 2.00 ชั่วโมง มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง ยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน ม.4-6 สารวจตรวจสอบและวเิ คราะห์ขอ้ มูล อภิปรายและอธิบายการ เกิดพนั ธะเคมีในโมเลกลุ หรือในโครงผลึกของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารในเรื่อง จุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะกบั แรงยดึ เหน่ียว ระหวา่ งอนุภาคของสารน้นั ………………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ปลายทาง อธิบายการเกิดพนั ธะ การเขียนสูตร การเรียกช่ือ และระบุชนิดของพนั ธะโคเวเลนตใ์ น โมเลกลุ ความยาวพนั ธะ พลงั งานพนั ธะ โมเลกุลมีข้วั กบั ไม่มีข้วั ได้ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั นาทาง 1. อธิบายการเกิดพนั ธะโคเวเลนตแ์ ละสารโคเวเลนตไ์ ด้ 2. บอกความหมายของอิเล็กตรอนคู่ร่วมพนั ธะและอิเลก็ ตรอนคูโ่ ดดเดี่ยว รวมท้งั อธิบาย การเกิดพนั ธะเดี่ยว พนั ธะคู่ พนั ธะสาม และพนั ธะโคออร์ดิเนตโคเวเลนตไ์ ด้ 3. เขียนโครงสร้างลิวอิสของสารโคเวเลนตไ์ ด้ 4. ยกตวั อยา่ งโมเลกุลของสารโคเวเลนตท์ ี่ไมเ่ ป็นตามกฎออกซิเดชนั ได้ 5. เขียนสูตรโมเลกลุ และเรียกชื่อสารโคเวเลนตไ์ ด้ เนื้อหา (รายละเอียดของเน้ือหา อยใู่ นใบความรู้ท่ี 14) 1. การเกิดพนั ธะโคเวเลนต์ 2. ชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ 3. การเขียนสูตรโมเลกุล และการเรียกช่ือสารประกอบโคเวเลนต์ 4. การเขียนสูตรเคมี

การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ ครูนาอภิปราย จุดหลอมเหลว จุดเดือดและสมบตั ิการนาไฟฟ้าของน้าตาลทราย เอทานอล และกา๊ ซไฮโดรเจนซ่ึงแตกตา่ งจากสารประกอบไอออนิกที่ไดศ้ ึกษามาแลว้ เพื่อใหน้ กั เรียนเกิด แนวคิดวา่ สารเหล่าน้ีน่าจะมีการสร้างพนั ธะต่างจากสารประกอบไอออนิก เพือ่ นาไปสู่การศึกษา เรื่องพนั ธะโคเวเลนตต์ อ่ ไป 2. ข้นั สารวจและค้นหา 1. ครูอธิบายการเกิดพนั ธะโคเวเลนตร์ ะหวา่ งไฮโดรเจนสองอะตอมท่ีมีการใชอ้ ิเล็กตรอน ร่วมกนั รวมท้งั การเปลี่ยนแปลงพลงั งานขณะที่อะตอมไฮโดรเจนท้งั สองเขา้ มาใกลก้ นั จนเกิดเป็น โมเลกลุ ของแก๊สไฮโดรเจนตามรายละเอียดในบทเรียน/ใบความรู้ 2. ครูใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั การเกิดพนั ธะโคเวเลนตท์ ่ีอะตอมใชอ้ ิเล็กตรอนร่วมกนั เป็นคู่ การ เขียนแสดงพนั ธะดว้ ยโครงสร้างลิวอิส เพื่อนาไปสู่การเขา้ ใจเรื่องการเกิดพนั ธะเด่ียว อิเลก็ ตรอนคู่ ร่วมพนั ธะและอิเล็กตรอนคู่โดดเด่ียวตามรายละเอียดในใบความรู้ แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนโครงสร้าง ลิวอิสของโมเลกุลไฮโดรเจนฟลูออไรด์ คลอรีนและน้า และตอบคาถามเก่ียวกบั จานวน อิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว โดยยกตวั อยา่ ง โครงสร้างลิวอิสของ Cl2 และ PH3 เขียนแสดงไดด้ งั น้ี Cl Cl H PH H 3. ครูอธิบายเก่ียวกบั การเกิดพนั ธะคู่ พนั ธะสามและพนั ธะโออร์ดิเนตโคเวเลนต์ ซ่ึงเป็ น พนั ธะท่ีอิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะมาจากอะตอมใดอะตอมหน่ึงตามรายละเอียดในใบความรู้ แลว้ ให้ นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายการเกิดพนั ธะโคออร์ดิเนตโคเวเลนต์ โดยยกตวั อยา่ ง ดงั น้ี O C O O=C=O HC CH H C C H H H HH 4. ครูอธิบายวธิ ีการเขียนสูตรและหลกั การเรียกช่ือสารโคเวเลนตต์ ามรายละเอียดในใบ ความรู้ และยกตวั อยา่ งเพ่ิมเติมเพอ่ื ให้นกั เรียนไดฝ้ ึกเขียนสูตรและเรียกชื่อสารโคเวเลนต์ เช่น - N2O3 อา่ นวา่ ไดไนโตรเจนไตรออกไซด์ - PCl5 อ่านวา่ ฟอสฟอรัสเพนตะคลอไรด์ - CO อ่านวา่ คาร์บอนมอนอกไซด์

5. ครูใหค้ วามรู้นกั เรียน เร่ือง การเขียนสูตรเคมี สูตรโมเลกลุ สูตรอยา่ งง่าย สูตรโครงสร้าง สูตรแบบจุด สูตรแบบเส้น ตามรายละเอียดในใบความรู้ท่ี 14 6. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเน้ือหา เรื่อง การเกิดและชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ / การเขียนสูตรและเรียกชื่อสารโคเวเลนต์ วา่ มีส่วนไหนที่ไม่เขา้ ใจและใหค้ วามรู้เพมิ่ เติมในส่วนน้นั 3. ข้นั ลงข้อสรุป 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั เน้ือหาท่ีไดเ้ รียนในวนั น้ี และ แบบฝึ กเสริ มประสบการณ์ 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบ เร่ือง พนั ธะโคเวเลนตแ์ ละชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ จากน้นั นกั เรียนและครูร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ นกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ ครูยกยอ่ งชมเชย ส่วนนกั เรียนท่ีไม่ ผา่ นเกณฑใ์ หก้ ลบั ไปทบทวนความรู้ใหม่ แลว้ เขียนสรุปความมาใหค้ รูอ่านในคาบต่อไป 3. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาความรู้ เรื่อง กฎออกเตต / ความยาวพนั ธะและ พลงั งานพนั ธะ ซ่ึงจะเรียนในคาบตอ่ ไปมาล่วงหนา้ สื่อการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ที่ 14 เรื่อง การเกิดและชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ / การเรียกชื่อพนั ธะโคเวเลนต์ 2. หนงั สือเรียนวชิ าเคมี 1 ของ สสวท. 3. แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง พนั ธะโคเวเลนต์ / ชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ 4. แบบฝึกเสริมประสบการณ์ การวดั ผลประเมินผล การวดั ผลประเมนิ ผลดา้ น วธิ ีการวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารผา่ น 1. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 1.การสรุปความคิดรวบยอด 1.การสรุปความคิดรวบ 1. ทาไดถ้ กู ตอ้ ง 70 % 1.วดั จากแบบทดสอบ ยอด ข้ึนไป 2. ทาแบบทดสอบถกู 1.แบบทดสอบหลงั เรียน 60 % ข้ึนไป ชนิดปรนยั 4 ตวั เลือก 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 กระบวนการ การทดลองในช้นั เรียน ทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ ข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะที่พึง การสงั เกตพฤติกรรมความ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 ประสงค์ สนใจ และต้งั ใจเรียน สนใจและต้งั ใจเรียน ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

ความคิดเห็นของผู้บังคับบญั ชา ความเห็นรองผอู้ านวยการ ความเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สถานศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ลงชื่อ................................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสุจิตร อนนั ตนมณี) (นางสาวกมลวรรณ วิพรรณะ) ความเหน็ ของผู้บริหารโรงเรียน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงชื่อ.......................................................... ( นายธวชั ชยั เนตินิธิวฒั นพงศ)์ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นใหญพ่ ทิ ยาคม ……………/………………/……………..

แบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เร่ือง การเขยี นสูตรและการเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์ 1.จงอ่านช่ือสารประกอบโคเวเลนตต์ ่อไปน้ี N2O4 , N2O5 , PCl3 , BCl3 , SO3 , P4O10 2.จงเขียนสูตรสารประกอบโคเวเลนตต์ ่อไปน้ี ก. P กบั Cl ข. O กบั Cl 3.จงเขียนสูตรจากช่ือสารประกอบตอ่ ไปน้ี ก. คาร์บอนเตตระคลอไรด์ ข. ฟอสฟอรัสเพนตระฟลูออไรด์ ค. ซิลิคอนไดซลั ไฟด์ ง. เตตระฟอสฟอรัสไตรซลั ไฟด์ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เฉลยแบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง การเขยี นสูตรและการเรียกช่ือสารประกอบโคเวเลนต์ 1. ไดไนโตรเจนเตตระออกไซด์ , ไดไนโตรเจนเพนตะออกไซด์ , ฟอสฟอรัสไตรคลอไรด์ , โบรอนไตรคลอไรด์ , ซลั เฟอร์ไตรออกไซด์ , เตตระฟอสฟอรัสเดคะออกไซด์ 2. ก. PCl3 ข. OCl2 3. ก. CCl4 ข. PF5 ค. SiS2 ง. P4S3 -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 17 รายวชิ าเคมี 1 รหัสวชิ า ว41205 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนพนาสนวทิ ยา ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2549 สาระที่ 3 หน่วยท่ี 2 เรื่อง กฎออกเตต / ความยาวพนั ธะและพลงั งานพนั ธะ เวลา 2.00 ชั่วโมง มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง ยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน ม.4-6 สารวจตรวจสอบและวเิ คราะห์ขอ้ มูล อภิปรายและอธิบายการ เกิดพนั ธะเคมีในโมเลกลุ หรือในโครงผลึกของสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารในเร่ือง จุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะกบั แรงยดึ เหน่ียว ระหวา่ งอนุภาคของสารน้นั ………………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ปลายทาง อธิบายการเกิดพนั ธะ การเขียนสูตร การเรียกช่ือ และระบุชนิดของพนั ธะโคเวเลนตใ์ น โมเลกลุ ความยาวพนั ธะ พลงั งานพนั ธะโมเลกลุ มีข้วั กบั ไม่มีข้วั ได้ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั นาทาง 1. สรุปความสัมพนั ธ์ระหวา่ งชนิดของพนั ธะโคเวเลนต์ ความยาวพนั ธะและพลงั งาน พนั ธะได้ 2. ใชค้ า่ พลงั งานคานวณหาพลงั งานที่เปลี่ยนแปลงของปฏิกิริยาได้ เนื้อหา (รายละเอียดของเน้ือหา อยใู่ นใบความรู้ที่ 15) 1. กฎออกเตต และ ขอ้ ยกเวน้ สาหรับกฎออกเตต 2. พลงั งานพนั ธะ 3. ความยาวพนั ธะ การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ ครูทบทวนความรู้เร่ือง กฎออกเตต ท่ีครูเคยนาเสนอในเร่ืองสารประกอบไอออนิกมาแลว้ อีกคร้ัง โดยสรุปวา่ การที่อะตอมของธาตุต่าง ๆ รวมตวั กนั ดว้ ยสัดส่วนที่ทาใหม้ ีเวเลนตอ์ ิเลก็ ตรอน เท่ากบั 8 นกั วทิ ยาศาสตร์ไดต้ ้งั เป็ นกฎเรียกวา่ กฎออกเตต

2. ข้นั สารวจและค้นหา 1. ครูนาอภิปรายและใหค้ วามรู้ เก่ียวกบั กฎออกเตต ตามรายละเอียดในใบความรู้ท่ี 15 2. ครูอธิบายการเกิดพนั ธะโคเวเลนตใ์ นโมเลกลุ บางชนิดที่ไม่เป็นไปตามกฎออกเตต โดยยกตวั อยา่ งโมเลกุลที่มีจานวนเวเลนตอ์ ิเลก็ ตรอนรอบอะตอมกลางนอ้ ยกวา่ และมากกวา่ 8 ตามรายละเอียดในบทเรียน/ใบความรู้ แลว้ ร่วมกนั อภิปรายเพอ่ื ตอบคาถามซ่ึงสรุปไดด้ งั น้ี โครงสร้างลิวอิสของไนโตรเจนมอนอกไซด์ (NO) และไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) เขียนแสดงไดด้ งั น้ี NO ON O จากโครงสร้างลิวอิส พบวา่ อะตอมของไนโตรเจนโมเลกุล NO และ NO2 มีจานวน เวเลนซ์อิเล็กตรอนไม่เป็ นไปตามกฎออกเตต โดยมีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนนอ้ ยกวา่ 8 ( มีเวเลนซ์ เทา่ กบั 7 ) 3. ครูนาอภิปรายและใหค้ วามรู้เรื่อง ประโยชนข์ องกฎออกเตต ตามรายละเอียดใน ใบความรู้ 4. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั ความยาวพนั ธะและพลงั งานพนั ธะ เพือ่ ใหไ้ ด้ ขอ้ สรุปวา่ 4.1 ความยาวพนั ธะ คือ ระยะระหวา่ งนิวเคลียสของอะตอมคูห่ น่ึงที่สร้างพนั ธะต่อกนั ความยาวพนั ธะระหวา่ งอะตอมคูเ่ ดียวกนั จะข้ึนอยกู่ บั จานวนอิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะและชนิดของ สารประกอบ 4.2 ความยาวพนั ธะเฉลี่ยเป็นคา่ เฉล่ียของความยาวพนั ธะระหวา่ งอะตอมคู่น้นั ในโมเลกุล ของสารชนิดตา่ งๆ 4.3 พลงั งานพนั ธะคือ พลงั งานปริมาณนอ้ ยท่ีสุดที่ใชส้ ลายพนั ธะระหวา่ งอะตอมคูห่ น่ึง ภายในโมเลกุลท่ีอยใู่ นสถานะแก๊สใหเ้ ป็นอะตอมเด่ียว 4.4 พลงั งานพนั ธะของอะตอมคูเ่ ดียวกนั ในสารประกอบต่างชนิดกนั อาจมีคา่ ไม่เท่ากนั 4.5 พลงั งานพนั ธะเฉลี่ยเป็นคา่ เฉล่ียของพลงั งานท่ีตอ้ งใชส้ ลายพนั ธะระหวา่ งอะตอมคู่ น้นั ในโมเลกุลของสารชนิดต่างๆ 4.6 เม่ือเปรียบเทียบความยาวพนั ธะระหวา่ งอะตอมคู่เดียวกนั พบวา่ พนั ธะสามส้ันกวา่ พนั ธะคู่และพนั ธะเดี่ยว ส่วนพลงั งานพนั ธะพบวา่ พนั ธะสามมีพลงั งานพนั ธะมากกวา่ พนั ธะคูแ่ ละ พนั ธะเดี่ยว 5. ครูอธิบายถึงการคานวณหาพลงั งานของปฏิกิริยา (H) โดยใชค้ ่าพลงั งานพนั ธะ ซ่ึง พจิ ารณาจากผลรวมของพลงั งานท่ีตอ้ งใชส้ ลายพนั ธะในสารต้งั ตน้ กบั ผลรวมของพลงั งานที่คาย ออกเม่ือสร้างพนั ธะใหมใ่ นผลิตภณั ฑ์ ตามรายละเอียดในใบความรู้และยกตวั อยา่ งเพ่ิมเติม ดงั น้ี

ตวั อย่าง กาหนดสมการของปฏิกิริยาต่อไปน้ี 1) 1 N2 (g) + 1 O2 (g)  NO (g) ; H = +90 kJ 2 2 2) NO (g) + 1 O2 (g)  NO2 (g) ;  H = -56 kJ 2 3) 2NO2 (g)  N2O4 (g) ;  H = -58 kJ จงหาพลงั งานของปฏิกิริยา N2 (g) + 2 O2 (g)  N2O4 (g) วธิ ีทา 2 คูณสมการ (1) N2 (g) + O2 (g)  NO (g) ;  H = +180 kJ 2 คูณสมการ (2) 2NO (g) + O2 (g)  2NO2 (g) ;  H = -112 kJ สมการ (3) 2NO2 (g)  N2O4 (g) ;  H = -58 kJ รวมสมการท้งั หมด N2 (g) + 2 O2 (g)  N2O4 (g) ;  H = +10 kJ  พลงั งานของปฏิกิริยาคือ 10 kJ เป็นปฏิกิริยาประเภทดูดพลงั งาน 6. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเน้ือหา เรื่อง กฎออกเตต / ความยาวพนั ธะและ พลงั งานพนั ธะ วา่ มีส่วนไหนที่ไม่เขา้ ใจและใหค้ วามรู้เพม่ิ เติมในส่วนน้นั 3. ข้ันลงข้อสรุป 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนสรุปความคิดรวบยอดเก่ียวกบั เน้ือหาที่ไดเ้ รียนในวนั น้ี และ แบบฝึ กเสริ มประสบการณ์ 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบ เรื่อง ความยาวพนั ธะและพลงั งานพนั ธะ จากน้นั นกั เรียนและ ครูร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ นกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ ครูยกยอ่ งชมเชย ส่วนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑใ์ ห้ กลบั ไปทบทวนความรู้ใหม่ แลว้ เขียนสรุปความมาใหค้ รูอ่านในคาบต่อไป 3. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาความรู้ เร่ือง แนวคิดเก่ียวกบั เรโซแนนซ์ / รูปร่างของ โมเลกุล ซ่ึงจะเรียนในคาบต่อไปมาล่วงหนา้ ส่ือการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ท่ี 14 เรื่อง กฎออกเตต / ความยาวพนั ธะและพลงั งานพนั ธะ 2. หนงั สือเรียนวชิ าเคมี 1 ของ สสวท. 3. แบบทดสอบ เรื่อง ความยาวพนั ธะและพลงั งานพนั ธะ 4. แบบฝึกเสริมประสบการณ์

การวดั ผลประเมินผล การวดั ผลประเมินผลดา้ น วธิ ีการวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารผา่ น 1.การสรุปความคิดรวบ 1. ทาไดถ้ กู ตอ้ ง 70 % 1. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 1.การสรุปความคิดรวบยอด ยอด ข้ึนไป 2. ทาแบบทดสอบถูก 1.วดั จากแบบทดสอบ 1.แบบทดสอบหลงั เรียน 60 % ข้ึนไป ชนิดปรนยั 4 ตวั เลือก 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 กระบวนการ การทดลองในช้นั เรียน ทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ ข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพึง การสงั เกตพฤติกรรมความ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 ประสงค์ สนใจ และต้งั ใจเรียน สนใจและต้งั ใจเรียน ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ความคดิ เหน็ ของผ้บู ังคับบัญชา ความเห็นรองผอู้ านวยการ ความเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สถานศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ลงช่ือ................................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสุจิตร อนนั ตนมณี) (นางสาวกมลวรรณ วิพรรณะ) ความเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงชื่อ.......................................................... ( นายธวชั ชยั เนตินิธิวฒั นพงศ)์ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นใหญพ่ ทิ ยาคม ……………/………………/……………..

แบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เร่ือง กฎออกเตต ความยาวพนั ธะและพลงั งานพนั ธะ 1. ขอ้ ใดท่ีมีอิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะและอิเลก็ ตรอนคู่โดดเด่ียวรอบอะตอม A เป็นไปตาม กฎออกเตต ก. ข. A ค. ง. A A A จ. A ฉ. A ช. A ซ. A 2. จงเขียนสูตรแบบจุด และสูตรแบบเส้นของสารตอ่ ไปน้ี PCl3 SF2 BeF2 H2Se SnCl4 3. H2S (g) + 734 kJ  2H (g) + S (g) พลงั งานพนั ธะ (H - S) เท่ากบั ……………….. 4. XY3 (g) + 648 kJ  X (g) + 3Y (g) พลงั งานพนั ธะ (X - Y) เทา่ กบั ……………….. 5. การเปลี่ยนแปลงต่อไปน้ีเป็นประเภทดูดพลงั งานหรือคายพลงั งาน ก. P (g) + 3H (g)  PH3 (g) ข. CI4 (g)  C (g) + 4I (g) ค. Cl (g) + e-  Cl- (g) ง. Na (g)  Na+ (g) + e- จ. 2ClF (g)  Cl2 (g) + F2(g) ใหใ้ ชพ้ ลงั งานพนั ธะจากขอ้ มูลในตารางในใบความรู้ท่ี 15 6. จงหาคา่ พลงั งานในการเกิดเตตระฟลูออโรไฮดราซีน N2F4 N N (g) + 2(F - F) (g) F N-N F (g) F F ; H = ? 7. จงหาค่าพลงั งานในการเกิดคาร์บอนเตตระคลอไรด์ CCl4 จากปฏิกิริยา C (แกร์ไฟต)์ + 2Cl2 (g)  CCl4 (g)

กาหนดพลงั งานการระเหิดแกรไฟตเ์ ป็นไอ = 717 kJ/mol 8. ถา้ พลงั งานที่ไดจ้ ากการเกิดโมเลกุลกรดฟอร์มิก , HCO2H เทา่ กบั -378.6 kJ/mol ดงั สมการ C(แกรไฟต์ ) + O = O(g) + H - H (g) H - C - O - H (g) O จงหาคา่ พลงั งานพนั ธะ C = O ในโมเลกลุ กรดฟอร์มิก กาหนด พลงั งานการระเหิดแกรไฟตเ์ ป็ นไอ = 717 kJ/mol 9. CCl4 เป็นตวั ทาละลายท่ีสาคญั ในทางพาณิชย์ ถูกเตรียมข้ึนจากปฏิกิริยาของ Cl2 (g) กบั สารประกอบของคาร์บอน จงหา  H จากปฏิกิริยา CS2 (l) + 3Cl2 (g)  CCl4 (l) + S2Cl2 (l) กาหนดขอ้ มูลต่อไปน้ี 1. CS2 (l) + 3O2 (g)  CO2 (g) + SO2 (g) ;  H1 = -1077 kJ 2. 2S (s) + Cl2 (g)  S2Cl2 (l) ;  H2 = -60.2 kJ 3. C (s) + 2Cl2 (g)  CCl4 (l) ;  H3 = -135.4 kJ 4. S (s) + O2 (g)  SO2 (g) ;  H4 = -296.9 kJ 5. C (s) + O2 (g)  CO2 (g) ;  H5 = -393.5 kJ 10. กาหนด C (แกรไฟต)์ + 2H2 (g)  CH4 (g) ;  H = -78.4 kJ พลงั งานในการระเหิด ของแกรไฟตเ์ ป็นไอ = 717 kJ/mol และพลงั งานพนั ธะของ H - H = 436 kJ/mol จงคานวณหา พลงั งานพนั ธะของ C - H ในรูป CH4 น้ี --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เฉลยแบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง กฎออกเตต ความยาวพนั ธะและพลงั งานพนั ธะ 1. ขอ้ ก. ง. จ. และ ช. Cl P Cl F Be F F - Be - F 2. แนวคิด Cl H Se H H - Se - H Cl P Cl F-S-F Cl FSF Cl Cl Cl Sn Cl Cl Sn Cl Cl Cl 3. พลงั งานพนั ธะ (H - S) เท่ากบั 367 kJ 4. พลงั งานพนั ธะ (X - Y) เทา่ กบั 228 kJ 5. ก. คายพลงั งาน ข. ดูดพลงั งาน ค. คายพลงั งาน ง. ดูดพลงั งาน จ. บอกไม่ไดว้ า่ เป็ นดุดหรือคายพลงั งาน เพราะไมท่ ราบพลงั งานพนั ธะ 6. แนวคดิ สูตร   (สารตั ้ งต้ น) - (สารผลิ ตภั ณฑ)์ แทนคา่  H = [ D(N N) + 2D(F - F) ] - [4D(N - F) + D(N - N) ]  H = [ 945 + 2(159) ] - [ 4 (272) + 163 ]  H = +12 kJ 7. แนวคดิ สูตร   (สารตั ้ งต้ น) - (สารผลิ ตภั ณฑ)์ = [  H(แกรไฟต)์ + 2D (Cl -Cl) ] - [4D(C - C)] แทนคา่  H = [ 717 + 2(242)] - [ 4 (339)] = 1201 - 1356 = -155 kJ/mol

8. แนวคดิ สูตร   (สารตั ้ งต้ น) - (สารผลิ ตภั ณฑ)์ = [  H(แกรไฟต)์ +D(O =O) + D(H - H) ] - [ D(C - H) + D (C = O)+ D(C - O) + D (O - H)] แทนคา่ -378.6 = [717 + 498 + 436 ] - [413 + D (C = O) + 358 + 463] D (C = O) = 795.6 kJ 9. แนวคิด สมการคือ CS2 (l) + 3Cl2 (g)  CCl4 (l) + S2Cl2 (l) ไดจ้ ากปฏิกิริยา (1) + (2) + (3) - 2(4) - (5)  Hรวม = (  H1) + (  H2) + (  H3) - (2  H4) - (  H5) = (-1.77) + (-60.2) + (-135.4) - 2(296.9) - (393.5) = -285.3 kJ 10. แนวคิด C (แกรไฟต)์ + 2H2 (g)  CH4 (g) ;  H = -78.4 kJ สูตร   (สารตั ้ งต้ น) - (สารผลิ ตภั ณฑ)์  H = [  H(แกรไฟต)์ + 2D(H - H) ] - [ 4D(C - H)] -74.8 = [ 717 + 2(436) ] - [4D(C - H)] 4D(C - H) = 415.95 kJ/mol ****************************************************************************

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 18 รายวชิ าเคมี 1 รหัสวชิ า ว41205 กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนพนาสนวทิ ยา ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2549 สาระที่ 3 หน่วยที่ 2 เรื่อง แนวคดิ เกย่ี วกบั เรโซแนนซ์ / รูปร่างของโมเลกลุ เวลา 2.00 ช่ัวโมง มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง ยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ ส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน ม.4-6 สารวจตรวจสอบและวเิ คราะห์ขอ้ มูล อภิปรายและอธิบายการ เกิดพนั ธะเคมีในโมเลกุลหรือในโครงผลึกของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารในเรื่อง จุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะกบั แรงยดึ เหน่ียว ระหวา่ งอนุภาคของสารน้นั ………………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ปลายทาง อธิบายโครงสร้างของสารโคเวเลนตท์ ี่มีโครงสร้างเรโซแนนซ์ และทานายรูปร่างของ โมเลกุลโคเวเลนตไ์ ด้ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั นาทาง 1. อธิบายโครงสร้างของสารโคเวเลนตท์ ี่มีโคงสร้างเรโซแนนซ์ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ ง ประกอบดว้ ย 2. ทาการทดลองและอธิบายรูปร่างของโมเลกุลโคเวเลนตไ์ ด้ 3. ทานายรูปร่างของโมเลกุลโคเวเลนตเ์ มื่อทราบจานวนอิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะและ อิเลก็ ตรอนคู่โดดเด่ียวรอบอะตอมกลางได้ เนื้อหา (รายละเอียดของเน้ือหา อยใู่ นใบความรู้ท่ี 16) 1. แนวคิดเกี่ยวกบั เรโซแนนซ์ 2.โครงสร้างของโมเลกลุ โคเวเลนต์ 3. การทานายรูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ 4. อิเล็กตรอนคู่โดดเด่ียวกบั รูปร่างโมเลกลุ 5. หลกั การทานายรูปร่างโมเลกุลและไอออนโคเวเลนต์ 6. มุมระหวา่ งพนั ธะของโมเลกลุ โคเวเลนต์

การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ ครูทบทวนความรู้เร่ือง ประโยชนข์ องการศึกษาความยาวพนั ธะ ท่ีทาใหท้ ราบขอ้ มูล เกี่ยวกบั การรวมตวั ของอะตอมดว้ ยพนั ธะโคออร์ดิเนตโคเวเลนต์ ซ่ึงเป็นพนั ธะโคเวเลนตช์ นิดหน่ึง และทราบขอ้ มูลเก่ียวกบั ปรากฏการณ์เรโซแนนซ์ ซ่ึงจะไดศ้ ึกษาในวนั น้ี 2. ข้นั สารวจและค้นหา 1. ครูใหน้ กั เรียนเขียนโครงสร้างลิวอิสของโอโซน แลว้ ร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั ความยาว พนั ธะระหวา่ งอะตอมของออกซิเจน เพอื่ นาไปสู่ความเขา้ ใจเร่ืองโครงสร้างเรโซแนนซ์ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งโมเลกุลหรือไอออนที่มีโครงสร้างเรโซแนนซ์ตามรายละเอียดในใบความรู้ 2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั การศึกษารูปร่างโมเลกุลโคเวเลนตว์ า่ จาเป็ นตอ้ ง ทราบชนิดของธาตุองคป์ ระกอบและการจดั ตวั ของอะตอมในโมเลกุล รวมท้งั ความยาวพนั ธะและ มุมระหวา่ งพนั ธะ 3. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็น 4 - 5 กลุ่มๆ ละ 4-5 คนและทาการทดลอง 2.3 เรื่อง การจดั ตวั ของลูกโป่ งกบั รูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ การทดลอง 2.3 การจัดตัวของลกู โป่ งกบั รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ การทดลองน้ีมีจุดมุ่งหมายเพ่ือศึกษารูปร่างของโมเลกุลโคเวเลนตท์ ่ีมีจานวนอะตอมต้งั แต่ 3 อะตอมข้ึนไป โดยเปรียบเทียบกบั การจดั ตวั ของลูกโป่ ง จุดประสงค์การทดลอง 1. เปรียบเทียบทิศทางการจดั ตวั ของลูกโป่ งกบั ทิศทางของพนั ธะโคเวเลนตไ์ ด้ 2. อธิบายและเขียนแสดงรูปทรงเรขาคณิตของลูกโป่ งท่ีพนั ข้วั ติดกนั จานวน 2 3 4 5 และ 6 ลูกได้ 3. บอกรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนตจ์ ากการเปรียบเทียบกบั รูปร่างของลูกโป่ งท่ีพนั ข้วั ติดกนั ได้ เวลาทใี่ ช้ อภิปรายก่อนการทดลอง 10 นาที ทดลอง 20 นาที อภิปรายหลงั การทดลอง 30 นาที 60 นาที รวม

อปุ กรณ์ รายการ ต่อ 1 กล่มุ ลูกโป่ งกลมขนาดเล็ก 6 ลูก 4. ก่อนทาการทดลอง เพือ่ ให้นกั เรียนมองเห็นรูปร่างของทรงสี่หนา้ และทรงแปดหนา้ ได้ ชดั เจน ครูควรเตรียมสร้างแบบจาลองดงั น้ี 4.1 สร้างแบบจาลองรูปทรงส่ีหนา้ โดยตดั กระดาษออกเป็นรูปสามเหลี่ยมดา้ นเท่า ( ดา้ นละ 24 cm) ขีดเส้นโยงจุดก่ึงกลางของแต่ละดา้ นแลว้ พบั ตามรอยเส้นประ ดงั รูป 2.4 ( ก ) ในหนงั สือเรียน 4.2 สร้างแบบจาลองของรูปทรงแปดหนา้ โดยเขียนวงกลมรัศมี 12 cm บนกระดาษ จานวน 2 รูปแลว้ แบ่งเส้นรอบวงออกเป็ น 6 ส่วนเท่าๆกนั เขียนรูปหกเหลี่ยมดา้ นเท่าภายใน วงกลมน้ี ลากเส้นจากจุดศูนยก์ ลางไปยงั มุมของรูปหกเหล่ียมดา้ นเทา่ ตดั กระดาษเป็นรูปหก เหลี่ยม พบั ตามรอยเส้นที่ลากจากจุดศูนยก์ ลางไปยงั มุมของรูปหกเหลี่ยมแลว้ ตดั ทิ้ง 2 ส่วน ดงั รูป 2.4 ( ข ) แลว้ พบั เป็นรูปพีระมิดท้งั 2 รูปเขา้ ดว้ ยกนั โดยนาส่วนท่ีเป็นฐานสี่เหล่ียมมาประกบกนั จะไดเ้ ป็นทรงแปดหนา้ ตามท่ีตอ้ งการ 5. ครูนาอภิปรายก่อนการทดลอง เพ่อื ใหค้ าแนะนานกั เรียนก่อนทาการทดลองดงั น้ี 5.1 ตอ้ งเป่ าลูกโป่ งใหม้ ีขนาดเทา่ กนั และพนั ข้วั ของลูกโป่ งเขา้ ดว้ ยกนั โดยไมต่ อ้ งใช้ ยางหรือเชือกรัดจนเกิดปมที่ข้วั ของลูกโป่ ง 5.2 แนะนาใหร้ ู้จกั รูปทรงเรขาคณิตแบบต่างๆ เช่น ทรงส่ีหนา้ พีระมิดฐานสามเหลี่ยม พรี ะมิดคู่ฐานสามเหล่ียม และทรงแปดหนา้ 6. นกั เรียนทาการทดลองตามรายละเอียดการทดลอง 2.3 เร่ือง การจดั ตวั ของลูกโป่ งกบั รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนตต์ ามรายละเอียดในหนงั สือเรียน โดยพนั ข้วั ติดกนั จานวน 2 3 4 5 และ 6 ลูก 7. จากผลการทดลองครูนาอภิปรายเพ่อื ใหน้ กั เรียนทราบวา่ เมื่อพนั ลูกโป่ งเขา้ ดว้ ยกนั ลูกโป่ งจะเบียดกนั เองจนกระทงั่ อยหู่ ่างกนั มากที่สุด ถา้ ใหข้ ้วั ของลูกโป่ งที่พนั ติดกนั แทนตาแหน่ง ของอะตอมกลาง ส่วนพองลมของลูกโป่ งแทนกลุ่มหมอกของอิเล็กตรอนคู่ร่วมพนั ธะ และส่วน ตาแหน่งของอะตอมอ่ืนที่สร้างพนั ธะกบั อะตอมกลางอยตู่ รงปลายของลูกโป่ งแต่ละลูก ส่วนเส้น แกนของลูกโป่ งแทนทิศทางของพนั ธะและมุมระหวา่ งเส้นแกนของลูกโป่ งแทนมุมระหวา่ งพนั ธะ ต่อจากน้นั ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบรูปร่างของลูกโป่ งท่ีพนั ติดกนั กบั รูปทรงเรขาคณิต ซ่ึงสรุปไดว้ า่ ลูกโป่ งที่พนั ติดกนั 2 3 4 5 และ 6 ลูก จะมีรูปร่างเป็นเส้นตรง สามเหลี่ยมแบนราบ ทรงส่ีหนา้ พรี ะมิดคู่ฐานสามเหล่ียม และทรงแปดหนา้ ตามลาดบั

8. ครูยกตวั อยา่ งโมเลกลุ โคเวเลนตท์ ี่มีรูปร่างเช่นเดียวกบั ลูกโป่ งท่ีพนั ติดกนั พร้อมท้งั อธิบายเกี่ยวกบั รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนตท์ ี่ไมม่ ีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวตามรายละเอียดในใบความรู้ เพอ่ื ใหส้ รุปถึงรูปร่างของโมเลกลุ โคเวเลนตเ์ หล่าน้นั ได้ 9. ครูอธิบายเพิม่ เติมเก่ียวกบั รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนตท์ ่ีมีอิเล็กตรอนคู่โดดเด่ียวรอบ อะตอมกลาง รวมท้งั อิทธิพลของอิเล็กตรอนคู่โดดเด่ียวท่ีมีขนาดของมุมระหวา่ งพนั ธะตาม รายละเอียดในใบความรู้ แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปเกณฑใ์ นการพิจารณารูปร่างโมเลกุล โคเวเลนต์ ซ่ึงควรสรุปวา่ รูปร่างของโมเลกลุ โคเวเลนตข์ ้ึนอยกู่ บั จานวนพนั ธะและจานวน อิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวรอบอะตอมกลาง 10. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เพ่มิ เติม เก่ียวกบั หลกั การทานายรูปร่างโมเลกลุ และ ไอออนโคเวเลนต์ 11. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเน้ือหา เรื่อง แนวคิดเก่ียวกบั เรโซแนนซ์และ หลกั การทานายรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ วา่ มีส่วนไหนท่ีไม่เขา้ ใจและใหค้ วามรู้เพิม่ เติมในส่วนน้นั 3. ข้ันลงข้อสรุป 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนสรุปความคิดรวบยอดเก่ียวกบั เน้ือหาที่ไดเ้ รียนในวนั น้ี และ แบบฝึ กเสริ มประสบการณ์ 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบ เรื่อง สารประกอบโคเวเลนต์ / รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ จากน้นั ร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ นกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ ครูยกยอ่ งชมเชย ส่วนนกั เรียนท่ีไม่ผา่ น เกณฑใ์ หก้ ลบั ไปทบทวนความรู้ใหม่ แลว้ เขียนสรุปความมาใหค้ รูอ่านในคาบต่อไป 3. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาความรู้ เร่ือง สภาพข้วั ของโมเลกุลโคเวเลนต์ ซ่ึงจะ เรียนในคาบต่อไปมาล่วงหนา้ สื่อการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ท่ี 16 เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกบั เรโซแนนซ์ 2. หนงั สือเรียนวชิ าเคมี 1 ของ สสวท. 3. แบบทดสอบ เร่ือง สารประกอบโคเวเลนต์ / รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ 4. อุปกรณ์การทดลองที่ 2.23/ ใบบนั ทึกกิจกรรม/การทดลอง กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

การวดั ผลประเมินผล การวดั ผลประเมินผลดา้ น วธิ ีการวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารผา่ น 1.การสรุปความคิดรวบ 1. ทาไดถ้ ูกตอ้ ง 70 % 1. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 1.การสรุปความคิดรวบยอด ยอด ข้ึนไป 2. ทาแบบทดสอบถกู 1.วดั จากแบบทดสอบ 1.แบบทดสอบหลงั เรียน 60 % ข้ึนไป ชนิดปรนยั 4 ตวั เลือก 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 กระบวนการ การทดลองในช้นั เรียน ทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ ข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะที่พึง การสงั เกตพฤติกรรมความ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 ประสงค์ สนใจ และต้งั ใจเรียน สนใจและต้งั ใจเรียน ข้ึนไป ความคดิ เห็นของผู้บังคบั บญั ชา ความเห็นรองผอู้ านวยการ ความเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สถานศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ลงชื่อ................................................................. ลงช่ือ....................................................... ( นางสุจิตร อนนั ตนมณี) (นางสาวกมลวรรณ วพิ รรณะ) ความเหน็ ของผ้บู ริหารโรงเรียน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงช่ือ.......................................................... ( นายธวชั ชยั เนตินิธิวฒั นพงศ)์ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นใหญ่พิทยาคม ……………/………………/……………..

แบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เรื่อง แนวคดิ เกยี่ วกบั เรโซแนนซ์และหลกั การทานายรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ 1. เขียนสูตรโครงสร้างแบบเส้นและเปรียบเทียบความยาวพนั ธะ C กบั O ในโมเลกุล CO2 , CH2O , และ CH3OH 2. เขียนโครงสร้างแบบเรโซแนนซ์ของ NO2- , NO3- และเปรียบเทียบความยาวพนั ธะ N กบั O ในสารท้งั สอง 3.จงบอกรูปร่างโมเลกลุ ของสารต่อไปน้ี ก. ฟอสฟี น (PH3) ง. คาร์บอนไดซลั ไฟด์ (CS2) ข. เมทิลคลอไรด์ (CH3Cl) จ. ไฮโดรเจนฟอสเฟตไอออน (HPO42-) ค. ไนโตรซิลโบร์ไมด์ (NOBr) ฉ. ซลั ไฟตไ์ อออน (SO32-) 4.จงเติมตารางใหส้ มบูรณ์ สารประกอบ อิเลก็ ตรอนคู่ รูปร่างโมเลกลุ หรือไอออน หรือไอออน ร่วมพนั ธะ โดดเด่ียว รวม 1. SeH2 2 24 มุมงอ 2. GeCl4 3. HgBr2 4. AsF3 5. TeF6 6. KrF2 7. AlBr3 8. SeF4 9. POCl3 10. SOCl2 11. PH4+ 12. NH2- 13. PCl6- 14. AlCl4- 15. BrF4- 16. H3O+

เฉลยแบบฝึ กเสริมประสบการณ์ เร่ือง แนวคิดเกยี่ วกบั เรโซแนนซ์และหลกั การทานายรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ 1.เฉลย สูตรแบบเส้นตรง CO2 คือ O = C = O O CH2O คือ H - C - H H H-C-O-H CH3OH คือ H เม่ือเปรียบเทียบความยาวพนั ธะ C กบั O ใน CO2 = CH2O < CH3OH 2.เฉลย O-N=O O=N-O - โครงสร้างเรโซแนนซ์ของ NO2- คือ พนั ธะ N - O ใชอ้ ิเล็กตรอนเฉล่ียขา้ งละ 1 1 คู่ 2 โครงสร้างเรโซแนนซ์ของ NO3- คือ O- O- O N N N OO OO OO แบบ 1 แบบ 2 แบบ 3 พนั ธะ N - O ใชอ้ ิเลก็ ตรอนเฉล่ียขา้ งละ 1 1 คู่ 3 ดงั น้นั ความยาวพนั ธะใน NO2- < NO3-

3. เฉลย ข. Cl CH ก. P H HH H H ทรงส่ีหน้า พีระมิดฐานสามเหลยี่ ม ค. O N Br มุมงอ ง. S = C = S เสน้ ตรง จ. H O 2- ฉ. S O 3- P O OO O O ทรงส่ีหนา้ P เป็ นอะตอมกลาง พีระมิดฐานสามเหลี่ยม 4.เฉลย สารประกอบ อิเล็กตรอนคู่ รูปร่างโมเลกลุ หรือไอออน หรือไอออน ร่วมพนั ธะ โดดเด่ียว รวม 1. SeH2 2 24 มุมงอ 2. GeCl4 3. HgBr2 4 04 ทรงสี่หนา้ 4. AsF3 5. TeF6 2 02 เส้นตรง 6. KrF2 7. AlBr3 3 1 4 พิระมิดฐานสามเหล่ียม 8. SeF4 6 06 ทรงแปดหนา้ 2 35 เส้นตรง 3 0 3 สามเหลี่ยมแบนราบ 4 1 5 ทรงสี่หนา้ ท่ีบิดไป (Distorted) 9. POCl3 4 04 ทรงส่ีหนา้ 10. SOCl2 3 1 4 พิระมิดฐานสามเหลี่ยม 11. PH4+ 12. NH2- 4 04 ทรงสี่หนา้ 13. PCl6- 14. AlCl4- 2 24 มุมงอ 15. BrF4- 16. H3O+ 6 06 ทรงแปดหนา้ 4 04 ทรงสี่หนา้ 4 2 6 ส่ีเหลี่ยมแบนราบ 3 1 4 พีระมิดฐานสามเหล่ียม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 รายวชิ าเคมี 1 รหัสวชิ า ว41205 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนพนาสนวทิ ยา ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2549 สาระท่ี 3 หน่วยที่ 2 เร่ือง สภาพข้วั ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ เวลา 2.00 ช่ัวโมง มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง ยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้ัน ม.4-6 สารวจตรวจสอบและวเิ คราะห์ขอ้ มูล อภิปรายและอธิบายการ เกิดพนั ธะเคมีในโมเลกุลหรือในโครงผลึกของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารในเร่ือง จุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะกบั แรงยดึ เหนี่ยว ระหวา่ งอนุภาคของสารน้นั ………………………………………………………………………………………………………. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ปลายทาง อธิบายการเกิดพนั ธะ การเขียนสูตร การเรียกช่ือ และระบุชนิดของพนั ธะโคเวเลนตใ์ น โมเลกลุ ความยาวพนั ธะ พลงั งานพนั ธะโมเลกลุ มีข้วั กบั ไม่มีข้วั ได้ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั นาทาง 1. อธิบายสภาพข้วั และทิศทางของข้วั ในโมเลกุลโคเวเลนตไ์ ด้ เนื้อหา (รายละเอียดของเน้ือหา อยใู่ นใบความรู้ท่ี 17) - สภาพข้วั ของโมเลกลุ - พนั ธะโคเวเลนตร์ ะหวา่ งอะตอมท่ีมีคา่ อิเล็กโทรเนกาติวติ ีเทา่ กนั - พนั ธะโคเวเลนตร์ ะหวา่ งอะตอมท่ีมีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีตา่ งกนั - ลกั ษณะสาคญั ของพนั ธะโคเวเลนตม์ ีข้วั - การเขียนสัญลกั ษณ์แสดงข้วั ของพนั ธะ - โมเลกุลที่มีรูปร่างสมมาตร - โมเลกลุ ที่มีรูปร่างไม่สมมาตร

การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ ครูทบทวนความรู้พร้อมยกตวั อยา่ งการเกิดพนั ธะในโมเลกุลโคเวเลนตต์ า่ งๆ ที่มีการใช้ อิเล็กจตรอนร่วมกนั เป็นคู่ แลว้ นาอภิปรายใหน้ กั เรียนคิดต่อไปวา่ อิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะน้ี ควรอยู่ ตรงส่วนใดระหวา่ งอะตอมคู่สร้างพนั ธะ เพอื่ นาไปสู่เร่ือง สภาพข้วั ของพนั ธะและสภาพข้วั ของ โมเลกลุ โคเวเลนต์ 2. ข้นั สารวจและค้นหา 1. ครูนาอภิปรายและใหค้ วามรู้เรื่องสภาพข้วั ของโมเลกลุ ตามรายละเอียดในใบความรู้ ท่ี 17 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเพ่อื ตอบคาถามเก่ียวกบั ความมีข้วั ในโมเลกลุ ของน้า ซ่ึงควรอธิบายไดว้ า่ พนั ธะ O-H ท้งั สองเป็นพนั ธะมีข้วั ท่ีมีอานาจไฟฟ้าเท่ากนั แต่อะตอมของ O มี อิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว 2 คู่ จึงทาใหโ้ มเลกุลของน้ามีรูปร่างเป็นมุมงอ อานาจไฟฟ้าของพนั ธะ หกั ลา้ งกนั ไม่หมด น้าจึงเป็ นโมเลกุลโคเวเลนตม์ ีข้วั โดยดา้ น O แสดงอานาจไฟฟ้าค่อนขา้ งลบและ H แสดงอานาจไฟฟ้าค่อนขา้ งบวก 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ทาแบบฝึกเสริมประสบการณ์ โดยครูยกตวั อยา่ ง ดงั น้ี ตัวอย่างท่ี 1 จงเปรียบเทียบสภาพข้วั ระหวา่ งคู่อะตอมต่อไปน้ี 1.1 Li - F และ Li – I 1.4 H - F และ H - I 1.2 C - S และ P – P 1.5 B - C และ B - F 1.3 C - O และ C – S 1.6 C - Si และ C - S คาตอบ 1.1 Li - F > Li – I 1.4 H - F > H - I 1.2 C - S > P – P 1.5 B - C < B - F 1.3 C - O > C – S 1.6 C - Si > C - S ตัวอย่างท่ี 2 จงทานายมุมระหวา่ งพนั ธะ S - C - S และ H - S - H ใน CS2 และ H2S คาตอบ S = 1C = S H S2 H อะตอมกลาง S ใน H2S มีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวมากกวา่ อะตอม C ใน CS2 ดงั น้นั มุม ระหวา่ งพนั ธะ S - C - S (1) กางมากกวา่ มุมระหวา่ งพนั ธะ H - S - H (2) ใน H2S

ตวั อย่างท่ี 3 จงยกตวั อยา่ ง 3.1โมเลกลุ ไมม่ ีข้วั และมีพนั ธะไมม่ ีข้วั 3.3โมเลกลุ มีข้วั และมีพนั ธะมีข้วั 3.2โมเลกลุ ไมม่ ีข้วั แต่มีพนั ธะมีข้วั 3.4โมเลกลุ มีข้วั แตม่ ีพนั ธะไม่มีข้วั คาตอบ 3.1 N2 , O2 , Cl2 3.2 CH4 , BF3 , SF6 3.3 SO2 , NH3 , OF2 3.4 O3 อะตอมกลางมีอิเล็กตรอนคู่โดดเด่ียวเหลือ 1 คูแ่ สดงข้วั เล็กนอ้ ย 4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกเสริมประสบการณ์ และนาผลท่ีไดม้ าอภิปรายและ เฉลย และแบ่งปันความรู้ร่วมกนั 5. ครูเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนสอบถามเน้ือหา เรื่อง สภาพข้วั ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ วา่ มี ส่วนไหนท่ีไม่เขา้ ใจและใหค้ วามรู้เพ่มิ เติมในส่วนน้นั 3. ข้นั ลงข้อสรุป 1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั เน้ือหาท่ีไดเ้ รียนในวนั น้ี 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบ เรื่อง สภาพข้วั ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ จากน้นั นกั เรียนและครู ร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ นกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ ครูยกยอ่ งชมเชย ส่วนนกั เรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑใ์ ห้ กลบั ไปทบทวนความรู้ใหม่ แลว้ เขียนสรุปความมาใหค้ รูอา่ นในคาบต่อไป 3. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาความรู้ เรื่อง แรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ ซ่ึงจะเรียนในคาบต่อไปมาล่วงหนา้ ส่ือการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ท่ี 17 เรื่อง สภาพข้วั ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ 2. หนงั สือเรียนวชิ าเคมี 1 ของ สสวท. 3. แบบทดสอบ เรื่อง สภาพข้วั ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ 4. แบบฝึกเสริมประสบการณ์

การวดั ผลประเมินผล การวดั ผลประเมนิ ผลดา้ น วธิ ีการวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารผา่ น 1.การสรุปความคิดรวบ 1. ทาไดถ้ ูกตอ้ ง 70 % 1. ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ 1.การสรุปความคิดรวบยอด ยอด ข้ึนไป 2. ทาแบบทดสอบถกู 1.วดั จากแบบทดสอบ 1.แบบทดสอบหลงั เรียน 60 % ข้ึนไป ชนิดปรนยั 4 ตวั เลือก 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตจากการปฏิบตั ิกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 กระบวนการ ในช้นั เรียน ทางาน ข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพงึ การสงั เกตพฤติกรรมความ แบบสงั เกตพฤติกรรมความ ไดค้ ะแนนในระดบั 2 ประสงค์ สนใจ และต้งั ใจเรียน สนใจและต้งั ใจเรียน ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ความคดิ เหน็ ของผู้บังคับบญั ชา ความเห็นรองผอู้ านวยการ ความเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สถานศึกษา วทิ ยาศาสตร์ ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ................................................. ................................................... ลงช่ือ................................................................. ลงชื่อ....................................................... ( นางสุจิตร อนนั ตนมณี) (นางสาวกมลวรรณ วิพรรณะ) ความเห็นของผ้บู ริหารโรงเรียน ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ลงช่ือ.......................................................... ( นายธวชั ชยั เนตินิธิวฒั นพงศ)์ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นใหญพ่ ิทยาคม ……………/………………/……………..


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook