Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 047 โชติวัฒน์ ข่ายม่าน_ฐานฅนติดดิน

047 โชติวัฒน์ ข่ายม่าน_ฐานฅนติดดิน

Published by จีรพร ทองหอม, 2021-09-28 15:17:57

Description: 047 โชติวัฒน์ ข่ายม่าน_ฐานฅนติดดิน

Search

Read the Text Version

บ้านหน่ึงหลัง ต้องตัดต้นไม้ที่มีอายุครึ่งค่อนชีวิตของคน หรือระเบิด ภูเขาหิน เพ่ือ นามาสร้าง ป่าไม้หรือภูเขาหินเหล่าน้ี คงไม่มีโอกาสที่จะ กลับมาเป็นแบบเดิมได้อีก ป่าเขาและ ธรรมชาตทิ มี่ อี ยนู่ ้อยแล้ว คงต้อง หมดไป บ้านปกติหนึง่ หลัง มีอายปุ ระมาณ ๕๐ ปี ปูนจะเร่ิมร่อน ต้องรือ้ ท้ิง แตบ่ า้ นดินท่ีจังหวัดอุบลราชธานี เป็นห้องแถว ที่ชาวจีนล่องตามน้าโขง มาค้าขายและ ไดส้ รา้ งขนึ้ ปจั จุบนั มอี ายุเกอื บ ๑๐๐ ปี ถึงแม้ไม้ที่เป็น องค์ประกอบจะผุกร่อนไป แต่ในส่วนของ ดินก็ยงั คงอยู่ ไม่เส่อื มสลาย บ้านดินจึงเป็นบ้านที่มีความคงทนแข็งแรง คุณภาพ เทียบเท่า หรือดี กวา่ บา้ นปกติ

--22-- เตรยี มการก่อนสรา้ งบา้ นดนิ ๑. แรงงาน ในการทาบ้านดนิ ขนาด ๔ x ๔ ตารางเมตร ใช้แรงงาน ๒-๓ คน แตถ่ ้า เปน็ อาคารหลงั ใหญ่อาจใช้แรงงานมากกวา่ แรงงานจากเพ่ือนหรือเพื่อนบ้านทส่ี นใจจะ ชว่ ยไดม้ าก และทาให้เสรจ็ ได้ตามตอ้ งการ ๒. เวลา เวลาในการสร้างบ้านดนิ แยกเปน็ สองสว่ น คือ เวลาในการทาก้อนดินกับเวลาใน การสรา้ งตัวอาคาร - เวลาในการทาก้อนดิน คานวณจากพื้นที่ ๑ ตร.ม. ใชก้ ้อนดนิ ๓๕ ก้อน บา้ น ขนาด ๔ x ๖ เมตร มีหนา้ ต่าง ๔ ชอ่ ง และประตู ๑ ช่อง จะใชก้ ้อนอิฐดนิ ดิบ ๑,๐๐๐ ถึง ๑,๒๐๐ ก้อน ถ้าวนั หน่งึ ทาได้ ๑๒๐ ก้อน ระยะเวลา ๑๒ วัน ก็จะไดก้ อ้ นดินตาม ต้องการ - เวลาในการกอ่ ตวั อาคาร ตอ้ งคานวณ ประกอบกบั จานวนคน เช่น บา้ นขนาด ๔ x ๖ ตร.ม. มกี าลังคนประมาณ ๓-๔ คน จะใชเ้ วลาสรา้ งประมาณ ๑๔ วัน (ไม่ รวมเวลาทาสีเพราะต้องรอใหด้ ินแห้ง จึง จะสามารถทาสีดนิ ได้) ๓. แหล่งดิน ดนิ รว่ นปนทรายนน้ั เหมาะแก่ การทาก้อนดนิ ดบิ ทสี่ ดุ พจิ ารณาลักษณะ ดิน ในพน้ื ที่และระยะทางการขนส่งดินทีจ่ ะ ทาใหต้ น้ ทุนเพ่มิ ขน้ึ

-3- -3- การทดสอบดินในพ้ืนท่ี ดนิ ท่ีดีในการนามาทากอ้ นดนิ ดบิ คือดนิ ร่วนปนทราย ในแถบภาคอสี าน วิธีที่๑ ทดสอบโดยนาดินมาบดให้ละเอียด ใส่ลงไปในขวดแก้วใสแล้วละลายกับน้า ผสมเกลอื เลก็ น้อย เขย่าแรงๆ ทิ้งไว้ให้ดินตก ตะกอนดินจะแยกตัวเป็น ๓ ช้ัน โดยช้ันบน จะเป็น ดนิ เหนยี วช้ันกลางจะเป็นดินตะกอน และชั้นล่างจะเป็นดินทราย ดินที่ใช้ทาบ้านดินได้ดี จะต้องมี ดนิ ชน้ั บนกบั ช้ันกลางหนารวมกันประมาณร้อยละ ๓๐-๕๐ ถ้าน้อยกว่าร้อยละ ๓๐ ต้องมีการเติม ดินเหนยี วในดินท่ีจะสรา้ งอาคาร แต่ถ้าช้ันบนและช้นั กลางรวมกันแล้วมากกว่าร้อยละ ๕๐ ต้องใส่ ทรายลงไปผสม ดินชั้นล่างสดุ จะต้องมีสัดสว่ นประมาณรอ้ ยละ ๕๐-๗๐ วิธีท่ี ๒ ทดสอบโดยการปั้นเป็นแท่งเท่ากับ นิ้วโป้ง แล้วทาการแกว่งดูถ้าดินไม่ขาด เป็น สองทอ่ น แสดงวา่ มสี ว่ นของดนิ เหนยี วมาก เกินไป ตอ้ งเตมิ ดนิ ทรายเขา้ ไป หากแกว่ง แล้วดิน รว่ งทันที แสดงว่ามสี ่วนของทราย มากเกินไปตอ้ งเตมิ ดินเหนยี วเพ่ิม วิธีท่ี ๓ ทดลองป้ันเป็นแผ่นเท่าขนมคุกก้ี แล้วตากแดดให้แห้ง จากนั้นลองหักถ้าดิน แตกละเอียดแสดงว่าดินเป็นดินทรายต้องเพ่ิมดินเหนียวเข้าไป แต่ถ้าหักไม่ได้แสดง ว่าดินเป็นดิน เหนียว ต้องเพ่ิมดินทรายเข้าไป และถ้าทดลองหักแล้วดินแตกเป็นสองถึง สามส่วนแสดงว่าดินมี ความเหมาะสม อุปกรณ์ทาบา้ นดิน • ไมแ้ บบขนาดกวา้ งคูณยาวคูณสูงเท่า กบั ๘ x ๑๖ x ๓ น้วิ • ถงั ปนู ประมาณ ๔-๖ ใบ • จอบขุดดิน ๑ – ๒ ดา้ ม • เกยี งฉาบปนู • แปรงทาสี และฟองน้า • ระดบั น้า • วสั ดุมุงหลงั คาและไมท้ าโครงหลังคา • ตะปู • ทีป่ าดปูนเวลาฉาบเรยี บ • จอบขดุ ดนิ ๑ – ๒ ดา้ ม • เกยี งฉาบปูน • แปรงทาสี และฟองนา้ • ระดบั น้า • วัสดมุ ุงหลงั คา และไมท้ าโครงหลังคา • ตะปู • ท่ีปาดปนู เวลาฉาบเรียบ • ไม้จบั ระดบั (ถ้าตอ้ งการ) • กะละมังผสมสดี นิ ทา • ถงั ใส่น้า

-4- -4- การเลอื กพ้นื ทส่ี ร้างบ้าน การเลือกพื้นทมี่ ีขอ้ ควรระวังดงั น้ี • บริเวณที่จะสร้างบ้านดิน จะต้องเป็นบริเวณที่ไม่มีน้าท่วมขัง เพราะอาจทาให้ฐาน รากบ้านพัง • บริเวณที่จะสร้างบ้านดินต้องไม่เป็นท่ีน้าไหลผ่าน หรือหากเลี่ยงไม่ได้ต้องมีการ ทาทางน้าใหไ้ หลผา่ นไปทางอน่ื • เป็นที่ดอนหรือมีการถมดนิ ใหส้ งู กวา่ บรเิ วณโดยรอบ การเทคานฐานราก คานฐานรากเปน็ ส่วนสาคัญในการยึดโครงสร้างบ้านดินที่นิยมในเมืองไทย มีด้วย กัน ๒ ชนิด คือ ๑. ฐานรากจากก้อนหิน โดยการนาหินมาวางเรียงเป็นชั้นๆ วิธีนี้ช่วยประหยัดต้นทุน ในการสรา้ งไปไดม้ าก ๒. ฐานรากจากคอนกรีต เหมาะสาหรับผู้ทม่ี ีทุนมาก เพราะฐานรากจะแขง็ แรงกวา่ การทาก้อนอิฐดนิ ดบิ ส่วนผสมในการทามี ๓ อยา่ ง คือ นา้ ดนิ รว่ นปนทราย และแกลบดิบจากโรงสี วธิ ีการทา ๑. ขดุ ดนิ ที่ในพ้ืนทีใ่ ห้ร่วนซยุ ตามตอ้ งการ ๒. ปลอ่ ยน้าให้ท่วมขงั ในบ่อดิน ทิ้งไว้ใหด้ นิ อ่ิมตวั ประมาณ ๒-๓ ชว่ั โมง ๓. เหยยี บนวดดนิ ใหเ้ ปน็ โคลนแล้วใส่แกลบดิบลงไปในดินโคลน อัตราส่วน ๑:๑ ๔. เหยยี บนวดดนิ และแกลบอกี ครง้ั ให้ดนิ โคลนและแกลบเขา้ กนั ๕. นาไปเทใสไ่ มแ้ บบทีเ่ ตรยี มไว้ ๖. หลงั จากอดั ดินจนเตม็ แบบแล้ว ยกไม้แบบออกจะไดก้ อ้ นดนิ ดบิ ทีย่ งั ไม่แหง้ ๗. ทิ้งอิฐตากแดดให้แห้งประมาณ ๓ วัน แล้วทาการพลิกก้อนดินตั้งขึ้นตากก้อนดิน ต่ออีก ๔-๕ วัน เพอ่ื ใหด้ ินแห้งท้งั กอ้ น จะได้ก้อนอิฐดินดิบที่พรอ้ มจะนาไปทาบา้ น

-5- -5- การก่อผนังบ้านดิน ก่อนการก่อผนังดิน ต้องทาการผสมดินก่อ โดยใช้ดิน ๑ ส่วน ต่อแกลบ ๑ ส่วน ผสม ใหเ้ ขา้ กนั ดนิ กอ่ ตอ้ งใสน่ า้ มากกวา่ การทากอ้ นดนิ ดบิ อย่าให้เหลวหรือข้นเกนิ ไป ขัน้ ตอนการกอ่ ผนัง ๑. วางดนิ ก่อลงไปก่อน แล้วนาก้อนดนิ ดิบมาวางทบั กดให้แน่น จากนั้นก่อเรียงต่อกัน ไปเร่อื ยๆ จนจบชนั้ แรก ๒. ในการก่อชั้นต่อไป ต้องวางสลับกับชั้นแรกเพื่อให้ผนังเกิดความแข็งแรง การก่อ ผนงั ใหท้ าแบบค่อยเปน็ คอ่ ยไปกอ่ ทีละช้นั และระวงั อย่าใหผ้ นงั เอยี ง ๓. ในกรณีท่ที าช่องหน้าตา่ งหรอื ประตโู ดยไมใ่ ช้วงกบ ใหเ้ วน้ ช่องว่างที่จะเป็นหน้าต่าง และประตไู ว้ ๔. หากมวี งกบหนา้ ตา่ งใหต้ ง้ั ไว้กอ่ นแล้วค่อยๆ กอ่ ก้อนดินชดิ วงกบ การต้ังวงกบประตู และหน้าต่างในการวางแผนสร้างบ้านดิน ต้องมีการกาหนดจุดในการใส่ช่องหน้าต่างและประตูให้ แนน่ อน ซง่ึ เม่ือกาหนดจุดได้แล้วก็ให้นาวงกบมาต้ังในจุดน้ันแล้วใช้ไม้ค้ายันไว้ เมื่อทาการก่อผนัง กาแพง ใหก้ อ่ ชนกบั วงกบประตูและหนา้ ตา่ งได้เลย

-6- -6- การใสช่ ่องลมในบ้านดิน ช่องลมที่นิยมทามีด้วยกัน ๒ แบบ คือ ช่องลมแบบสามเหล่ียม และช่องลมแบบ ส่เี หลยี่ ม ซงึ่ ในการใส่ชอ่ งลมนัน้ สามารถใสไ่ ด้หลายช้นั แล้วแต่ความต้องการ เม่ือใส่ช่องลมแล้วต้อง มีการก่อดินทบั อกี ๑– ๒ ชนั้ เพอ่ื ความแขง็ แรงของขอบผนังดิน การฉาบผนังดนิ ให้ผสมดินเช่นเดียวกับการทาดินก่อ และก้อนดินดิบ แต่ผสมให้เหลวกว่าการฉาบ ทาได้ ๒ วิธี ตามความชอบ คอื ๑. การฉาบด้วยมอื โดยใช้อุ้งมือคอ่ ยๆ ปาดขึ้นอย่างช้าๆ ห้ามปาดลงเพราะดินจะหก เสียหาย ในการฉาบดว้ ยมอื นี้จะได้พน้ื ผวิ ท่ีค่อนขา้ งขรุขระ ๒. การฉาบโดยใชเ้ กียงฉาบปูน ซ่งึ จะได้ผิวของผนงั ดินค่อนขา้ งเรยี บ การทาสีดนิ ผนังดินถ้าไม่มกี ารเคลอื บจะทาใหข้ องในบ้านเปอ้ื นฝุน่ ได้ง่าย การเคลอื บผนังด้วยสีดิน (ตัวเคลือบผนัง) จะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าว ซึ่งในต่างประเทศมีการใช้ตัวเคลือบผนังอยู่หลาย ชนิด แตท่ ่ีได้ทดลองวา่ เหมาะกบั สภาพเมอื งไทยมสี ่วนผสม ดงั นี้ • ดนิ สีนามารอ่ นจนไดส้ ดี นิ ๑ ส่วน • ดินทรายรอ่ น ๑ สว่ น • กาวแปง้ เปียก ๑ ส่วน นาส่วนผสมท้ังสามมาเทลงในกะละมังปากกวา้ งแลว้ คลกุ เคลา้ ให้เขา้ กัน ระวังอยา่ ให้ เหลวเพราะเวลาทาสดี นิ จะยดึ ตดิ ผนังไดไ้ มด่ ี

--77-- การทาสดี นิ ๑. ใช้มือทาโดยใชอ้ ุง้ มือคอ่ ยๆ ลูบขึน้ ๒. ใช้แปรงทาสีทาหรอื ใชแ้ ปรงลูกกลง้ิ วธิ นี ี้ต้องผสมให้สีดินเหลวกวา่ ปกติ การทาโครงสรา้ งหลังคาบ้านดิน ในการทาหลังคาที่นิยมมอี ยู่ ๔ แบบ คือ หลังคาหญ้า (ราคาถกู ที่สุด) หลงั คาสังกะสี หลงั คากระเบ้ือง และหลังคาดนิ (ใชด้ นิ ป้ันเป็นหลังคาแล้วใชป้ นู ฉาบบางๆ กนั นา้ เขา้ ) การทาเสาดนิ โดยการนาดินมาก่อเป็นชั้นๆ สลับกันไปช้ันละ ๒ ก้อน ให้ได้ความสูงตามต้องการ โดยในการก่อดนิ เมอ่ื กอ่ ได้ ๕-๖ ชั้น ตอ้ งมกี ารพกั ดินให้แหง้ ก่อนแล้วจึงก่อต่อไป เพื่อให้ดินชั้นล่าง แข็งตัวกอ่ นที่จะวางคานยึดหัวเสาดนิ ต้องรอให้เสาดินแห้งดีเสียก่อนจึงจะสามารถรับน้าหนักของ โครงหลงั คาได้ เสาดินที่ถกู ฉาบผวิ นอกแลว้ จะมีความแข็งแรงไมแ่ พ้เสาปูน บนหัวเสาสามารถฝังไม้ หรือฝังเหลก็ เพอ่ื เป็นตัวยึดโครงหลังคาได้ตามตอ้ งการ การทาห้องน้าดิน บ้านดินสามารถทาห้องน้าได้เหมือนบ้านท่ัวๆ ไป โดยมีวิธีการ คือ ก่อผนังดินเป็น กาแพงเหมือนก่อผนังท่ัวไป แล้วตีตะแกรง ลวด กับผนังดิน หลังจากน้ันจึงฉาบด้วยปูน เท่าน้ีก็ สามารถได้ผนงั หอ้ งนา้ ดินทีก่ ันน้าได้ หากต้องการปกู ระเบือ้ งผนงั ก็สามารถทาได้ตามปกติ การทาฝ้าดิน บ้านดินจะไม่เย็นเลยถ้าเราไม่สามารถป้องกันความร้อนที่แผ่ลงมาจากหลังคาได้ เพราะความร้อนจะเข้ามาจากสองทาง คือ ทางผนัง และทางหลังคา หลังคาหญ้า หรือหลังคาดิน จะช่วยกันความรอ้ นได้ดีกวา่ กระเบ้อื งหรอื สังกะสี และการทาฝา้ ดนิ เสริม จะช่วยกันความร้อนได้ดี ยิ่งข้ึน การทาฝ้าดนิ มีวิธกี าร ดงั นี้

-8- -8- ๑. ทาผนังดินใหเ้ สร็จเรียบรอ้ ยเสียกอ่ น ๒. เตรียมอปุ กรณ์ในการทาฝา้ ดนิ ซง่ึ ได้แก่ • ไม้เนอื้ แขง็ ที่สามารถรบั น้าหนักของดนิ ได้ เชน่ ไม้ยูคา ไม้สน • ไมไ้ ผ่ หรอื ไมส้ น • กอ้ นดินดิบท่ีแหง้ แลว้ • ตาขา่ ยเชือก หรอื ตาขา่ ยลวด • ตะปู หรือลวดสาหรบั มัด • ดนิ ผสมแกลบสาหรับฉาบ ๓. นาไม้เน้ือแข็งวางพาดระหว่างผนังดินท้ังสองด้าน โดยวางไม้ให้มีระยะห่าง ประมาณ ๒๐ – ๓๐ ซม. ๔. นาไม้ไผ่หรอื ไม้ยคู าขนาดเล็กมาวางพาดบนไม้เนือ้ เขง็ อกี ครั้ง ๕. นาตะแกรงมาวางพาดบนไม้ไผ่ 6. นาดินกอ่ มาวางบนตะแกรง จากนั้นนาก้อนดินวางในแนวนอน โดยมีดินเหลวเป็น ตวั เชอ่ื ม ๗. คอ่ ยๆ วางดินจนเตม็ พนื้ ที่ ๘. ฉาบดา้ นใตข้ องฝา้ ดนิ ดว้ ยดินฉาบ ๙. หลงั จากดนิ แห้งให้จึงทาสีดินอีกครั้ง โดยส่วนที่เป็นไม้สามารถใช้สีพลาสติกหรือสี น้ามนั ทาได้ บา้ นดนิ หน้าฝน การทาบ้านดินส่วนใหญ่จะเว้นช่วงหน้าฝนไว้ เพราะไม่สามารถทาก้อนดินได้ ดังนั้น ในช่วงท่ีผ่านมาจะเห็นได้ว่าหลายที่งดทาบ้านดินหน้าฝน แต่จากการศึกษาทดลองพบว่ามีวิธีท่ี สามารถทาบ้านดินในหน้าฝนได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพ่ิมในส่วนของวัสดุกันฝนด้วยการทา “อุโมงค์ อบก้อนดนิ ” ซง่ึ สามารถทาให้กอ้ นดนิ แห้งได้เร็วข้นึ โดยทาโครงหลงั คาเปน็ รปู จัว่ สูงประมาณ ๗๐– ๘๐ ซม. เป็นแนวยาวตามปริมาณของอิฐ และวางแนวตามทิศทางลม เมื่อมีฝนตกให้นาผ้ากันฝน มาคลมุ แตถ่ า้ ฝนไม่ตกใหน้ าผา้ ออก ส่วนการทาตวั บ้านดินกใ็ ห้ทาเสาหลังคาคลุมกันฝนในลักษณะ เดียวกนั

-9- -9-


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook