บทที่ 4 | รูปเรขาคณิต คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 ตามแกนสมมาตรแนวนอนแล้วจึงวาดอกี ข้างหนึง่ ใหส้ มบรู ณ์ ตามแกนสมมาตรแนวตง้ั ท�ำ นอง หนังสือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 เดยี วกนั ถา้ เลอื กแกนสมมาตรแนวตงั้ ตอ้ งกำ�หนด บทท่ี 4 | รปู เรขาคณิต จุดทจี่ ะลากเสน้ ใหห้ ่างจากแกนสมมาตรให้ระยะ ห่างเทา่ กนั ตามแกนสมมาตรแนวตง้ั แล้วจึงวาด กิจกรรม ตอ่ ให้เปน็ รูปท่ีมีแกนสมมาตร 2 แกน อกี ข้างหนง่ึ ใหส้ มบรู ณต์ ามแกนสมมาตรแนวนอน อปุ กรณ์ 1. ใบกจิ กรรม 2. ดนิ สอสี จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบ วธิ ีจัดกิจกรรม ความถกู ต้อง และน�ำ เสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น 1. ครแู จกใบกจิ กรรมให้นกั เรยี นคนละ 1 แผ่น นกั เรยี นแต่ละคนอาจได้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ การวาดรปู ต่อจุดให้ ใบกจิ กรรมท่ไี ม่เหมือนกัน ไดร้ ปู ท่มี แี กนสมมาตร 2 แกน โดยใช้กระดาษจุด 2. ให้นกั เรยี นลากเส้นต่อจุดให้ได้รูปทีม่ ีเส้นประเปน็ แกนสมมาตร เมอ่ื ก�ำ หนดแกนสมมาตรให้ 2 แกนและรปู สว่ นหนง่ึ ของรปู 2 แกน ระบายสใี ห้สวยงาม และตัง้ ช่อื ภาพ ของแกนสมมาตรให้ ท�ำ ไดโ้ ดยลากเสน้ ผา่ นจดุ 3. นกั เรยี นนำาเสนอผลงาน ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง บนกระดาษจุดที่มีระยะห่างจากแกนสมมาตร เท่ากันกบั รูปอกี ขา้ งหนงึ่ ของแกนสมมาตร อาจ ตวั อยา่ งใบกจิ กรรม เริ่มจากแกนสมมาตร แกนใดแกนหนึ่งก่อน แล้ว ใช้วธิ กี ารเดียวกันในการวาดรปู อีกขา้ งหนึ่งของ กจิ กรรม ต่อให้เปน็ รปู ที่มแี กนสมมาตร 2 แกน แกนสมมาตรอีกแกนหน่ึง ชื่อภาพ…เค…ร…่ือ…งห…ม…าย…บ…ว…ก ………….. การตรวจสอบความเขา้ ใจ | 157สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเปน็ หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 รายบคุ คลตามหนังสอื เรยี นหน้า 158 โดย บทที่ 4 | รปู เรขาคณิต ใหน้ ักเรยี นเลือกรปู ทีเ่ ปน็ รูปท่ีน�ำ มาตอ่ กับรปู ทีก่ �ำ หนดให้แล้วไดร้ ปู ท่ีมแี กนสมมาตรตามท่ี ตรวจสอบความเขา้ ใจ ก�ำ หนด ครูและนกั เรียนตรวจสอบความถูกตอ้ ง และรว่ มกนั สรุปสิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ เลอื ก ก ข หรือ ค ทเ่ี ปน็ รปู เมอ่ื นำามาตอ่ กับรปู ท่กี าำ หนดใหแ้ ล้วได้รปู ที่มีแกนสมมาตร 1 สิ่งที่ไดเ้ รยี นรู้ กขค สามารถน�ำ ความรเู้ กย่ี วกบั รปู ทม่ี แี กนสมมาตร มาประดษิ ฐเ์ ป็นผลงานตา่ ง ๆ ขอ้ ค. จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหดั 4.4 2 หนา้ 108 - 109 กขค ขอ้ ก. แบบฝึกหัด 4.4 สิ่งทไี่ ดเ้ รียนรู้ สามารถนาำ ความรู้เกีย่ วกบั รปู ทีม่ แี กนสมมาตรมาประดิษฐ์ เปน็ ผลงานตา่ ง ๆ 158 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 157สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | รปู เรขาคณติ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 หนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ร่วมคิดร่วมท�ำ (1 ช่ัวโมง) บทที่ 4 | รูปเรขาคณติ กิจกรรม ร่วมคดิ ร่วมทาำ สร้างสรรค์ด้วยสมมาตร กิจกรรม สร้างสรรคด์ ว้ ยสมมาตร อุปกรณ์ อุปกรณ ์ 1 ชุด ประกอบดว้ ย − กระดาษสตี า่ ง ๆ − กรรไกร 1. กระดาษสตี ่าง ๆ 2. กรรไกร − กาว − ดินสอสี 3. กาว 4. ดนิ สอสี วิธจี ดั กิจกรรม 1. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กล่มุ กลุม่ ละเท่า ๆ กนั และแจกอุปกรณ์กลมุ่ ละ 1 ชุด 2. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ สร้างสรรคผ์ ลงานโดยใชก้ ารพับ วาด และตดั กระดาษ ให้เปน็ รูปทมี่ ีแกนสมมาตร แล้วนาำ มาประดิษฐ ์ ตกแต่งให้สวยงาม ตง้ั ชอื่ จากนั้นนาำ เสนอผลงาน ตัวอย่างผลงาน ชื่อผลงาน…………………………………............................................ วธิ ีจดั กิจกรรม ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ ใหน้ กั เรยี น แตล่ ะกลมุ่ รบั อปุ กรณ์กลมุ่ ละ 1 ชดุ แลว้ ให้ นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสร้างสรรคผ์ ลงานโดย แบบฝกึ ทา้ ทาย นำ�ความรเู้ รอ่ื งการพับ วาด และตดั กระดาษ | 159สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นรปู ทม่ี ีแกนสมมาตร แลว้ น�ำ มาประดิษฐ์ เปน็ รูปต่าง ๆ ตกแตง่ ให้สวยงาม พร้อมทง้ั ต้ังชอ่ื ภาพ จากนนั้ ให้แตล่ ะกลมุ่ น�ำ เสนอผลงาน ครอู าจใหน้ กั เรยี นร่วมกนั พิจารณางานของเพ่ือน ๆ วา่ รปู ทส่ี ร้างสรรค์ขนึ้ นนั้ เป็นรูปท่ีมี แกนสมมาตรหรือไม่ มีรปู ท่มี แี กนสมมาตรกรี่ ูป และแตล่ ะรูปมีจำ�นวนแกนสมมาตรก่แี กน จากนั้นใหน้ กั เรยี นทำ�แบบฝกึ ทา้ ทาย หนา้ 110 - 111 ตัวอยา่ งรูปท่ีมแี กนสมมาตร 158 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 4 | รปู เรขาคณติ คูม่ อื ครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 คณติ คดิ ท้าทาย 1. (NT 2555) ก�ำ หนดรปู ส่เี หลีย่ มผืนผา้ ดงั ภาพ ถา้ ลากเสน้ ตามแกนสมมาตร ทกุ เสน้ จะได้รปู สเี่ หล่ยี มรปู เลก็ ทส่ี ุดกี่รปู 1) 2 2) 4 3) 6 4) 8 2. (NT 2556) ก�ำ หนดรปู สีเ่ หลย่ี มจัตุรสั ดงั ภาพ ถ้าลากเส้นตามแกนสมมาตรทกุ เส้นจะได้รูปสามเหล่ยี ม รปู เล็กที่สุดกีร่ ูป 1) 2 2) 4 3) 6 4) 8 3. (NT 2559) ในช่วั โมงวชิ างานประดิษฐ� นกั เรยี นห�องหนง่ึ ทำกิจกรรมประดษิ ฐ�พดั เป�นรูปต�าง ๆ ดังนี้ พดั ของเอมอร พัดของวชิ ยั พัดของสาล่ี พดั ของมนี า จากขอ้ มลู ข้างตน้ ถ้าไม่พจิ ารณาดา้ มของพดั ข้อใดถูกต้อง 1) มพี ัดของนักเรยี น 1 คน ท่ไี ม่มีแกนสมมาตร 2) พัดของวชิ ยั มจี �ำ นวนแกนสมมาตรมากกวา่ พัดของสาลี่ 3) พัดของเอมอรมีจำ�นวนแกนสมมาตรเท่ากับพัดของวชิ ัย 4) มีพัดของนักเรียน 2 คน ทม่ี จี ำ�นวนแกนสมมาตรมากกว่า 1 แกน | 159สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | รปู เรขาคณติ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 1 ตวั อยา่ งแบบทดสอบท้ายบท ตวั อยา่ งแบบทดสอบนใ้ี ชใ้ นการประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นเพอ่ื พฒั นานกั เรยี นหากมนี กั เรยี นคนใด ท่ไี มส่ ามารถท�ำ แบบทดสอบนไ้ี ดค้ รคู วรให้นักเรียนคนน้นั ฝึกทกั ษะมากข้นึ โดยอาจใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ในหนงั สอื เสรมิ เพ่มิ ปญั ญาของสสวท.หรือแบบฝกึ อื่นท่เี หน็ วา่ สมควร ซึ่งแบบทดสอบทา้ ยบทน้ี มจี �ำ นวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการท�ำ แบบทดสอบ 20 นาที และวเิ คราะห์ เป็นรายจุดประสงค์การเรยี นรูไ้ ด้ดงั น้ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้อที่ ระบุรูปเรขาคณิตสองมิตทิ ่ีมแี กนสมมาตรและจำ�นวนแกนสมมาตร 1-10 ตวั อย่างแบบทดสอบท้ายบท บทท่ี 4 เลอื ก ก ข หรือ ค ที่เป็นคำ�ตอบทีถ่ ูกต้อง 1. รูปใดเปน็ รูปทม่ี ีแกนสมมาตร ก. ข. ค. 2. รปู ใดเปน็ รปู ทมี่ ีแกนสมมาตร 1 แกน ค. ก. ข. 3. ข้อใดเปน็ รปู ทีม่ แี กนสมมาตรเทา่ กับรปู ที่กำ�หนดให้ ก. ข. ค. 160 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 4 | รปู เรขาคณติ คูม่ ือครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 จากรููปใช้ต้ อบคำำ�ถามข้อ้ 4 - 5 4. จากรูปทีก่ ำ�หนดใหม้ รี ูปทจ่ี �ำ นวนแกนสมมาตรเท่ากบั จำ�นวนดา้ นกีร่ ูป ก. 1 รูป ข. 2 รปู ค. 3 รูป 5. จากรูปท่ีก�ำ หนดใหม้ รี ปู ท่ีมแี กนสมมาตร 4 แกนท้ังหมดกร่ี ูป ก. 3 รูป ข. 2 รปู ค. 1 รปู 6. รปู เรขาคณติ รปู ใดมีแกนสมมาตรมากทีส่ ุด ก. ข. ค. 7. พบั ครงึ่ กระดาษตามรอยเสน้ ประ วาดตามเสน้ แลว้ ตัดตามรอยวาด คลี่กระดาษทีต่ ดั ออกมาไดร้ ปู ใด ก. ข. ค. | 161สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | รูปเรขาคณิต ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 8. รูปในข้อใด เมื่อพบั ครงึ่ กระดาษตามรอยเส้นประ วาดตามเสน้ แล้วตัดตามรอยวาด คลี่กระดาษ ออกมาไมไ่ ดร้ ปู ตามทีก่ ำ�หนด ก. ข. ค. 9. รปู น้ีเปน็ รูปท่ีมแี กนสมมาตร เมอ่ื เขียนแกนสมมาตรและแสดงรปู ขา้ งหนึ่ง ของแกนสมมาตร ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้อง ก. ข. ค. 10. เมื่อลากเสน้ ต่อจดุ ให้ไดร้ ปู ท่มี ีเสน้ ประเปน็ แกนสมมาตร จะไดร้ ูปในข้อใด ก. ข. ค. เฉลยแบบทดสอบท้า้ ยบท บทที่่� 4 1. ข 2. ก 3. ค 4. ข 5. ก 6. ค 7. ก 8. ค 9. ข 10. ก 162 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว คูม่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 บทที่ 5 แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว จุดประสงค์การเรยี นรู้และสาระสำ�คญั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระสำ�คัญ นกั เรียนสามารถ • ข้อมลู เปน็ ขอ้ เท็จจรงิ ของสิง่ ทีส่ นใจ การเก็บ รวบรวมข้อมูลอาจใชก้ ารสงั เกต การสอบถาม 1. เก็บรวบรวมขอ้ มลู และจ�ำ แนกข้อมลู ซ่ึงการเกบ็ รวบรวมข้อมลู และการจำ�แนก (หวั ข้อ 5.1) ข้อมลู ท�ำ ให้สะดวกตอ่ การน�ำ ข้อมูลไปใช้ 2. อา่ นและเขียนแผนภมู ิรูปภาพ • แผนภมู ริ ูปภาพเป็นแผนภูมิทนี่ �ำ เสนอข้อมลู (หัวขอ้ 5.2 - 5.3) โดยใช้รูปภาพแทนจำ�นวนสิ่งตา่ ง ๆ ถ้าเป็น ขอ้ มลู ของสิ่งเดียวกัน รูปภาพทไ่ี ด้ต้องเปน็ 3. ใชข้ อ้ มูลจากแผนภูมริ ปู ภาพในการหา รูปภาพทเ่ี หมือนกนั และมขี นาดเทา่ กัน ค�ำ ตอบของโจทย์ปญั หา ซงึ่ ประกอบดว้ ย ช่ือแผนภูมิ ตัวแผนภูมิ และข้อกำ�หนด (หัวขอ้ 5.2 - 5.3) • ขอ้ มลู ชดุ เดยี วกนั สามารถเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ โดยใช้ขอ้ กำ�หนดทีแ่ ตกตา่ งกัน และจำ�นวน รปู ภาพที่เขียนในแผนภูมิรปู ภาพขึน้ อย่กู บั ข้อมูลและขอ้ กำ�หนด 4. อา่ นและเขียนตารางทางเดียวจากขอ้ มลู • การน�ำ เสนอข้อมลู อาจนำ�เสนอดว้ ย ทีเ่ ป็นจ�ำ นวนนบั ตารางทางเดียว ซ่งึ ตารางทางเดียว (หวั ขอ้ 5.4 - 5.5) ประกอบด้วยชอื่ ตารางและตาราง ทม่ี หี ัวตารางและรายละเอยี ดของขอ้ มลู 5. ใชข้ ้อมลู จากตารางทางเดียวในการหาคำ�ตอบ ของโจทยป์ ัญหา (หัวข้อ 5.4 - 5.5) | 163สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 การวเิ คราะห์เน้ือหากบั ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หวั ขอ้ เนอ้ื หา เวลา ทกั ษะและกระบวนการ (ชัว่ โมง) ทางคณิตศาสตร์ 1 12345 2 เตรียมความพร้อม 1 5.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการจ�ำ แนกขอ้ มูล 3 5.2 การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพ 1 5.3 การเขยี นแผนภูมริ ปู ภาพ 2 5.4 การอา่ นตารางทางเดยี ว 1 5.5 การเขยี นตารางทางเดยี ว ร่วมคดิ ร่วมท�ำ 1 การแก้ปญั หา 2 การสอ่ื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3 การเชอ่ื มโยง 4 การใหเ้ หตผุ ล 5 การคดิ สรา้ งสรรค์ คำ�สำ�คญั ขอ้ มลู การเก็บรวบรวมขอ้ มลู การสังเกต การสอบถาม การจำ�แนกข้อมลู เกณฑใ์ นการจ�ำ แนกข้อมลู การบนั ทึกขอ้ มลู การนำ�เสนอข้อมลู แผนภูมิรปู ภาพ ข้อก�ำ หนด ตารางทางเดยี ว ความรู้หรือทักษะพ้นื ฐานของนกั เรยี น 1. การบวก การลบ การคณู และการหารจ�ำ นวนนบั 2. การเปรียบเทียบจ�ำ นวนนับ 3. แผนภมู ริ ปู ภาพอย่างง่าย 4. การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพทม่ี ีข้อกำ�หนด 1 รปู แทน 1 หน่วย 5 หนว่ ย หรอื 10 หนว่ ย 164 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นหนา้ 160 - 189 2. แบบฝกึ หดั หน้า 112 - 135 3. แบบบันทึกกิจกรรม ใบกจิ กรรม บัตรข้อมูล บตั รภาพตา่ ง ๆ และอปุ กรณต์ ่าง ๆ ท่ีใช้ประกอบกจิ กรรม ดังน้ี แบบบันทกึ กิจกรรม • บตั รภาพ • บัตรข้อมลู • กระดาษ A4 •• กระดาษกาวย่น 4. ส่ือเพมิ่ เติมหน้า 164 167 177 178 184 และ189 (Download ได้จาก QR code หนา้ 160) 5. สือ่ วีดิทศั น์ (QR code) • แผนภูมริ ปู ภาพหน้า 173 เวลาทใี่ ช้จัดการเรยี นร ู้ 11 ชัว่ โมง | 165สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 การจดั การเรียนรู้ การเตรียมความพร้อม (1 ชั่วโมง) บทที ่ 5 แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว เรียนจบบทน้ีแล้ว นักเรยี นสามารถ เก็บรวบรวมข้อมูลและจำาแนกขอ้ มูล ผกั ท่เี ก็บได้ในวนั จันทร์มีดงั น้ี อา่ นและเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ สอ่ื เพิ่มเตมิ • ใชข้ อ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู ภาพในการหาคาำ ตอบของโจทยป์ ญั หา ผักชี 130 ตน้ อา่ นและเขยี นตารางทางเดยี วจากขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ จาำ นวนนบั คะน้า 91 ต้น ใชข้ อ้ มลู จากตารางทางเดยี วในการหาคาำ ตอบของโจทยป์ ญั หา ผักกาดหอม 35 ต้น กวางตงุ้ 40 ต้น ต้นหอม 37 ตน้ จะนำาเสนอข้อมูลอย่างไร เพราะเหตุใด 1. ใชข้ อ้ มูลในหนังสือเรยี นหน้าเปิดบท เพื่อกระตุ้นให้นกั เรยี นเหน็ ความสำ�คัญเก่ยี วกับ การนำ�เสนอขอ้ มลู โดยใชค้ �ำ ถาม เชน่ − ภาพหน้าเปดิ บทเป็นภาพเก่ยี วกับอะไร (นักเรยี นเกบ็ ผกั และนำ�ไปกองรวมกนั ) − ผกั ท่ีเกบ็ ไดม้ อี ะไรบ้าง (ผกั ชี คะนา้ ผักกาดหอม กวางตงุ้ ตน้ หอม) − ขอ้ มูลนเ้ี ปน็ ข้อมูลเกย่ี วกบั อะไร (จำ�นวนผกั ที่เกบ็ ไดใ้ นวนั จนั ทร)์ − เก็บผักชีไดก้ ่ีต้น (130 ต้น) − ถา้ เราจะน�ำ เสนอขอ้ มูลจ�ำ นวนผกั ท่เี ก็บไดใ้ นวนั จนั ทร์ เราจะนำ�เสนอขอ้ มลู อย่างไร เพราะเหตุใด อาจมนี ักเรียนบางคนตอบค�ำ ถามได้ ตอบได้ไมค่ รอบคลุม หรอื ตอบไมไ่ ด้ ครูนำ�เข้าสบู่ ทเรยี นว่า ในบทเรยี นท่จี ะเรยี นต่อไปน้ี จะเป็นเรอื่ งเกยี่ วกับการน�ำ เสนอขอ้ มูลดว้ ยแผนภูมริ ูปภาพและ ตารางทางเดยี ว ซึ่งจะใช้ตอบคำ�ถามเหล่าน้ไี ด้ 2. ก่อนเรยี นเรือ่ งการเก็บรวมรวบขอ้ มลู และการจำ�แนกข้อมลู ครคู วรตรวจสอบความรู้ พืน้ ฐานของนกั เรยี นเร่อื งแผนภูมิรปู ภาพ โดยให้นักเรียนร่วมกนั พิจารณาแผนภูมิรูปภาพ 166 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ตามหนังสือเรยี นหน้า 162 ท้ังสองแผนภมู วิ า่ เหมือนกันหรอื แตกต่างกันอย่างไร นกั เรยี นอาจมี คำ�ตอบหลากหลาย เช่น − เป็นแผนภมู ิรูปภาพเหมอื นกนั − มรี ายการแสดงวนั จันทร์ถึงวันศกุ ร์ หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 เหมอื นกนั บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว เตรยี มความพรอ้ ม − ชนดิ ของพืชท่ีเกบ็ แตกตา่ งกนั คือ จำานวนมะเขอื เทศที่ออมสนิ เก็บได้ จำานวนแตงกวาทอ่ี อมสินเก็บได้ มะเขอื เทศกับแตงกวา ตั้งแตว่ นั จันทร์ถึงวันศุกร์ ต้งั แตว่ นั จนั ทร์ถงึ วันศกุ ร์ − แสดงรายการในแนวทแ่ี ตกตา่ งกนั คือ จนั ทร์ องั คาร รายการอยู่แนวต้งั กับรายการอยู่ จนั ทร์ อังคาร พธุ พฤหัสบดี ศกุ ร์ พธุ แนวนอน กำาหนดให ้ แทนจำานวนมะเขือเทศ 5 ผล พฤหัสบดี − มขี อ้ กำ�หนดต่างกัน คือ 1 รูปแทน จ�ำ นวน 5 ผลกบั 10 ผล ศุกร์ กำาหนดให้ แทนจำานวน แตงกวา 10 ผล − ใชร้ ปู ภาพในแผนภูมติ า่ งกัน คือ จากแผนภูมิรปู ภาพ ตอบคำาถาม ใช้วงกลมกับรูปส่เี หลยี่ ม 1 ออมสินเกบ็ มะเขือเทศได้มากท่ีสดุ ในวนั ใดและเกบ็ ได้ก่ีผล วันจนั ทร์ เก็บได้ 25 ผล ครใู ชค้ �ำ ถามเพอ่ื ทบทวนการอา่ นแผนภมู ริ ปู ภาพ 2 ออมสินเกบ็ แตงกวาไดม้ ากท่สี ุดในวนั ใดและเก็บได้ก่ีผล วนั จนั ทร์ เก็บได้ 40 ผล เมอ่ื ก�ำ หนดรปู 1 รปู แทน 5 หนว่ ยหรอื 10 หนว่ ย 3 วันพฤหสั บดีออมสินเกบ็ แตงกวาไดม้ ากกวา่ หรอื น้อยกวา่ มะเขอื เทศ มากกวา่ เชน่ 4 รวม 5 วนั ออมสนิ เกบ็ แตงกวาไดม้ ากกว่าหรอื นอ้ ยกว่ามะเขือเทศ มากกว่า 5 ถา้ วันศุกรเ์ ก็บมะเขือเทศไดเ้ พมิ่ อีก 20 ผล วนั ศุกรใ์ นแผนภูมจิ ะม ี ก่ีรปู 7 รปู − วนั องั คารเกบ็ มะเขือเทศได้ก่ีผล 6 มะเขือเทศทเ่ี ก็บไดใ้ นวันพฤหสั บดีเท่ากับแตงกวาท่ีเก็บได้ในวันอังคารหรือไม่ เท่ากับ แบบฝกึ หัดเตรยี มความพรอ้ ม 162 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (15 ผล) − วันอังคารเกบ็ แตงกวาไดก้ ่ีผล (20 ผล) − รปู แทนจำ�นวนแตงกวากีผ่ ล (5 ผล) − วันพฤหสั บดีเก็บแตงกวาได้กีผ่ ล (25 ผล) จากนั้นครูให้นกั เรียนตอบค�ำ ถามตามหนงั สอื เรียนหนา้ 162 เพอื่ เตรียมความพรอ้ ม เป็นรายกล่มุ แล้วร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง โดยครูอาจแนะน�ำ ใหน้ กั เรียนหาจ�ำ นวนมะเขอื เทศ และแตงกวาใหค้ รบทกุ วนั เพอ่ื สะดวกในการตอบค�ำ ถาม ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ให้นักเรยี นทำ�แบบฝกึ หดั เตรียมความพรอ้ มเป็นรายบุคคลหนา้ 112 - 113 | 167สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 5.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และการจ�ำ แนกขอ้ มลู (2 ชั่วโมง) จุดประสงค์ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจำ�แนกข้อมูล สอ่ื การเรยี นรู้ - บัตรภาพ - แบบบันทกึ กิจกรรม แนวการจดั การเรยี นรู้ หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.3 บทท ี่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว การพัฒนาความรู้ 5.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการจาำ แนกขอ้ มลู 1. ครตู ดิ ภาพสตั วต์ า่ ง ๆ ตามหนงั สอื เรยี น พฒั นาความรู้ หนา้ 163 บนกระดานแลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบคำ�ถามว่ามีสัตวก์ ่ชี นดิ (17 ชนิด) และ มีอะไรบ้าง ลงิ แรด สิงโต งู อูฐ ผงึ้ ช้าง เสอื นกฟลามงิ โก้ ควาย กา ปลา ยีราฟ นกกระยาง เต่า จระเข้ กบ จำาแนกสัตว์ในภาพได้ก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง จากน้ันถามนกั เรยี นวา่ ถา้ ตอ้ งแบ่งสตั ว์เหลา่ น้ี 2 ประเภท คอื สตั ว์ทม่ี ขี าและสตั วท์ ไี่ มม่ ีขา นักเรียนจะแบง่ เป็นก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง 2 ประเภท คือสตั ว์ทีม่ ีป�กและสัตวท์ ไ่ี มม่ ปี ก� ค�ำ ตอบขึ้นอยู่กบั นักเรยี น แลว้ ครคู วรอภปิ ราย 3 ประเภท คอื สัตวท์ อ่ี าศยั อยบู่ นบก สตั ว์ท่ีอาศัยอยใู่ นนำา้ ให้ไดข้ อ้ สงั เกตว่า สัตว์ท่ีอยู่ในประเภทเดียวกนั และสัตวท์ ีอ่ าศยั อยู่ทง้ั บนบกและในนำา้ จะตอ้ งมลี ักษณะเหมอื นกนั ตามเกณฑ์ที่ ใช้จดั ประเภทน้นั เช่น แบง่ เปน็ 2 ประเภท สตั วท์ เ่ี ราจดั ใหอ้ ยปู่ ระเภทเดยี วกนั จะตอ้ งมลี กั ษณะเหมอื นกนั ตามเกณฑท์ ใ่ี ช้ จดั ประเภทนน้ั เชน่ จดั ประเภทตามทอ่ี ยอู่ าศยั จดั ประเภทตามรปู รา่ งลกั ษณะ | 163สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเภทสัตว์มีขากับประเภทสัตวไ์ ม่มขี า หรอื ประเภทสัตวม์ ีปีกกับประเภทสตั ว์ไม่มปี ีก แบง่ เป็น 3 ประเภท ประเภทสตั ว์ทอ่ี าศยั อยูบ่ นบก ประเภทสัตว์ท่อี าศัยอยู่ในน้ำ� และประเภทสัตว์ที่อาศยั อยู่ทั้งบนบกและในน้�ำ ครแู ละนกั เรยี น รว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครูอาจสมุ่ ใหน้ กั เรยี นบางคนออกมาน�ำ เสนอพร้อมกับบอกเกณฑ์ ท่ีใช้ในการแบง่ ประเภทของสตั ว์ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปวา่ ในการจัดประเภทของสัตวช์ นิดต่าง ๆ ใหอ้ ยูใ่ นประเภทเดยี วกัน จะต้องมลี กั ษณะเหมือนกนั ตามเกณฑท์ เ่ี ราก�ำ หนด 168 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 2. ครใู หน้ ักเรยี นทำ�กิจกรรม “พวกใครพวกมัน” หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.3 ตามหนังสอื เรียนในหน้า 164 โดยใหน้ ักเรยี นแบ่งเป็นกลุม่ บทท่ ี 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั และแจกอปุ กรณใ์ หน้ กั เรยี นกลมุ่ ละ 1 ชดุ กจิ กรรม พวกใคร พวกมัน อปุ กรณ ์ 1 ชดุ ประกอบดว้ ย บัตรภาพ จำานวน 15 ใบ ตวั อย่างบัตรภาพ ซึ่งจะประกอบดว้ ยบัตรภาพจ�ำ นวน 15 ใบ ครูอาจใช้ บตั รภาพในสอ่ื เพม่ิ เตมิ ของหนงั สอื เรยี นบทนจ้ี าก QR Code หน้าแรกของบท เมื่อนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ไดบ้ ัตรภาพแลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั สงั เกตวา่ บตั รภาพทไ่ี ดร้ บั นน้ั เปน็ บตั รภาพ เก่ยี วกับอะไร แลว้ ถ้าจะจ�ำ แนกบตั รภาพเหลา่ นน้ั ออก วิธีจัดกจิ กรรม เปน็ กลมุ่ นกั เรยี นมวี ธิ จี �ำ แนกบตั รภาพเหลา่ นน้ั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั และแจกอปุ กรณก์ ลมุ่ ละ 1 ชดุ ให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั จำ�แนกบัตรภาพและ 2. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ จำาแนกบตั รภาพตามเกณฑท์ ี่สมาชิกในกล่มุ ไดต้ กลงกัน 3. ให้ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มนำาเสนอผลงาน บอกเกณฑท์ ใ่ี ชจ้ �ำ แนก เช่น จ�ำ แนกออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเภทเคร่อื งดม่ื 164 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเภทผลไม้ ประเภทขนม จ�ำ แนกเป็น 2 ประเภท คอื ประเภทมภี าชนะใสก่ บั ประเภทไมม่ ภี าชนะใส่ แลว้ ใหน้ กั เรยี น แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนมาน�ำ เสนอผลการจ�ำ แนกบตั รภาพและเกณฑท์ ใ่ี ชจ้ �ำ แนกบตั รภาพ 3. เมื่อนักเรยี นได้เรยี นรูเ้ กี่ยวกบั การจ�ำ แนกข้อมูลแล้วต่อไปนักเรยี นจะไดเ้ รียนรู้เก่ยี วกับ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู โดยก่อนที่จะใหน้ กั เรยี นไดเ้ รียนรเู้ ก่ยี วกบั การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ครูอาจสรุป เร่อื งการจ�ำ แนกขอ้ มลู อีกคร้งั หนง่ึ ดังนี้ การจำ�แนกขอ้ มูลน้นั ตอ้ งมเี กณฑท์ ีใ่ ชใ้ นการจ�ำ แนกขอ้ มลู เพือ่ ให้ข้อมูลประเภทเดยี วกนั อยูใ่ นกลุ่มเดียวกนั และสะดวกในการน�ำ ข้อมูลไปใช้ จากนนั้ ครนู �ำ เขา้ ส่กู ารเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใชก้ ารถาม - ตอบ เช่น ถ้านกั เรียนต้องการรู้ข้อมูล เกี่ยวกับวิธกี ารเดินทางมาโรงเรียนของเพ่อื นในห้องเรียน หนงั สอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 แลว้ นักเรียนจะต้องทำ�อย่างไรจงึ จะได้ข้อมลู นนั้ มา บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว (ถามเพอ่ื นในหอ้ งเรยี นหรอื เดนิ ไปดวู า่ เพอ่ื นเดนิ ทางมาโรงเรยี น ดว้ ยวิธใี ด) จากน้ันครใู ห้นกั เรยี นดภู าพตามหนงั สือเรียน หนา้ โรงเรยี นของเรามรี ถอะไรว่ิงผา่ นบา้ ง ไปดูกัน หน้า 165 แล้วใชก้ ารถาม - ตอบเพอื่ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ สถานการณ์ในรปู ภาพ ดงั นี้ − ถ้านักเรยี นอยากรู้วา่ หนา้ โรงเรียนมรี ถชนิดใด จำานวนรถชนดิ ต่าง ๆ ท่วี ่งิ ผ่านหนา้ โรงเรียน วง่ิ ผา่ นบา้ ง ควรท�ำ อยา่ งไร (ไปยนื ดหู รอื สงั เกตทห่ี นา้ โรงเรยี น) เวลา 7.30 น. ถงึ 7.35 น. − ขณะที่ยนื ดูหรอื สังเกตรถทว่ี งิ่ ผ่านหนา้ โรงเรียน นักเรยี นควรเกบ็ ขอ้ มูลอยา่ งไร (จดบันทกึ ) รถยนต ์ 16 คนั รถจักรยาน 7 คนั รถจักรยานยนต ์ 13 คนั รถต้ ู 4 คัน ตั้งแต่เวลา 7 นาฬกิ า 30 นาท ี ถงึ 7 นาฬิกา 35 นาที มรี ถว่ิงผ่านหนา้ โรงเรยี นของเราทงั้ หมด 40 คัน รถทีว่ ่งิ ผา่ นหน้าโรงเรยี นของเรามากทสี่ ุดคือรถยนต์ การสังเกตแล้วบันทึกขอ้ มูลเปน็ วธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู วิธีหน่งึ ข้อมลู ท่ไี ด้จากการสังเกตเป็นข้อมูลทเี่ กบ็ มาโดยตรงจากสถานการณ์จรงิ | 165สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 169สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 ครูน�ำ อภปิ รายเก่ียวกับการบนั ทกึ ข้อมลู ว่านกั เรยี นอาจใช้การจดบนั ทกึ รถทว่ี ง่ิ ผา่ นทลี ะคัน เช่น รถยนต ์ รถจักรยานยนต์ รถตู้ รถยนต์ รถจักรยาน รถจกั ยานยนต ์ รถยนต์ หรอื เขียนชนดิ ของรถแลว้ ใชร้ อยขดี เชน่ รถยนต์ รถจกั รยานยนต์ รถตู้ ครตู ดิ ภาพแสดงจ�ำ นวนรถชนดิ ตา่ ง ๆ ทว่ี ง่ิ ผา่ นหนา้ โรงเรยี น แลว้ รว่ มกนั สรปุ กบั นกั เรยี นวา่ เมอ่ื นกั เรยี นสงั เกตรถทว่ี ง่ิ ผา่ น หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทท ่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว หน้าโรงเรียนแล้วนกั เรยี นตอ้ งนับจำ�นวนรถแต่ละชนดิ ตอ้ งการรู้ว่าเพือ่ น ๆ ในห้องชอบกินไอศกรีมรสอะไรบา้ ง แล้วเขียนสรุปข้อมลู ดงั รูปในหนังสอื เรียนหน้า 165 ไปถามเพอ่ื น ๆ ดสู ิ จากน้นั ครใู ชค้ �ำ ถามใหน้ ักเรียนหาคำ�ตอบแลว้ รว่ มกนั เฉลย เช่น − รถทส่ี งั เกตเหน็ วา่ ผา่ นหนา้ โรงเรยี น เวลา 7.30 น. ผลการสอบถามเพอื่ น จาำ นวนเพ่อื นท่ีชอบกินไอศกรมี รสตา่ ง ๆ ถึง 7.35 น. มีก่ีชนดิ อะไรบ้าง (4 ชนดิ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถต้)ู ไอศกรมี รอยขีด มะนาว 3 คน มะนาว ส้ม 2 คน − มรี ถจกั รยานยนต์จำ�นวนกี่คัน (13 คนั ) สตรอว์เบอรร์ ี 6 คน สม้ ช็อกโกแลต 10 คน สตรอวเ์ บอรร์ ี วานลิ ลา 4 คน ชอ็ กโกแลต วานิลลา เพ่อื นในหอ้ งชอบกนิ ไอศกรมี รสช็อกโกแลตมากทสี่ ดุ − มรี ถชนดิ ใดผ่านหนา้ โรงเรียนมากที่สุด (รถยนต์) มเี พอ่ื นชอบกินไอศกรีมรสสม้ ดว้ ยนะ ครอู ธิบายว่า การท�ำ ลักษณะเช่นนเี้ ป็นการเกบ็ รวบรวม ข้อมลู จากสถานการณจ์ ริง โดยการสังเกตแลว้ บันทกึ ข้อมูล การสอบถามเป็นการเก็บรวบรวมข้อมลู อกี วธิ หี นึ่ง ขอ้ มูลทไี่ ด้จาก การสอบถามเป็นข้อมูลทเี่ กบ็ มาโดยตรงจากสถานการณ์จรงิ 166 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และข้อมลู ทีไ่ ด้อาจบนั ทกึ ในรปู แบบตา่ ง ๆ กนั จากนนั้ ครใู ห้นักเรยี นทดลองเกบ็ รวบรวมข้อมูลด้วยวิธอี น่ื เช่น การสอบถาม 4. ครถู ามนกั เรียนว่าถ้าต้องการร้วู ่าเพ่อื นในห้องชอบกนิ ไอศกรีมรสอะไรบา้ ง จะตอ้ งท�ำ อยา่ งไรจงึ จะไดข้ อ้ มลู มา ครใู หต้ วั แทนหอ้ งถามเพอ่ื นแตล่ ะคนวา่ ชอบกนิ ไอศกรมี รสอะไรบา้ ง แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู บนกระดาน อาจบนั ทกึ ขอ้ มลู เปน็ รอยขดี แลว้ น�ำ เสนอเปน็ ตวั เลขแสดงจ�ำ นวน ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 166 จากนน้ั ครูถามคำ�ถามเก่ียวกับขอ้ มูลในตาราง แลว้ รว่ มกนั สรปุ ว่า การท�ำ ลกั ษณะเชน่ นี้เป็นการเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากสถานการณ์จริง โดยการถามคำ�ถามแลว้ บันทกึ ขอ้ มูล และข้อมลู ท่ีได้ อาจบนั ทึกในรูปแบบตา่ ง ๆ กนั 170 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว คู่มอื ครรู ายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 5. ครนู �ำ เข้าสู่กิจกรรม “ร้จู กั เพ่ือน” หนงั สือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 โดยเล่าสถานการณต์ ามหนังสือเรียนหน้า 166 บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว แล้วรว่ มกนั อภิปรายเก่ียวกบั ขอ้ มลู ท่ีได้จาก การสอบถาม โดยอาจใชค้ ำ�ถามดงั น้ี กจิ กรรม รู้จักเพือ่ น − ถ้าอยากรู้ว่าเพ่ือนในหอ้ งชอบกิน อุปกรณ์ แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ไอศกรมี รสอะไร นักเรยี นจะท�ำ อย่างไร (สอบถามเพอื่ นทีละคน) วิธีจดั กจิ กรรม 1. ครูถามนักเรยี นวา่ ถา้ ต้องการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลของเพ่ือนในห้อง นักเรยี นสนใจ ทจ่ี ะเกบ็ ขอ้ มลู เรื่องอะไรบ้าง เชน่ วนั เกิด กีฬาที่ชอบ ดนตรีที่ชอบ สีทชี่ อบ จากนัน้ ครูนำาหวั ขอ้ ทน่ี ักเรยี นสนใจไปทำาฉลาก 2. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนมาจบั ฉลาก 3. ครแู จกแบบบนั ทกึ กิจกรรมให้นกั เรยี นไปเก็บรวบรวมข้อมูลตามหวั ขอ้ ท่ีกลมุ่ ของตนเองจับฉลากได้ 4. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาำ เสนอขอ้ มลู ทเ่ี กบ็ รวบรวมได้ − จากหนังสือเรียนหน้า 166 ต้นกลา้ ตวั อย่างแบบบนั ทกึ กิจกรรม บันทึกผลการสอบถามเพอ่ื นอย่างไร (ใชร้ อยขีด สที ีช่ อบ รอยขีด จาำ นวน (คน) แทนเพ่อื นที่ชอบไอศกรีมรสต่าง ๆ) เหลือง ชมพู − เพอ่ื นในหอ้ งชอบกนิ ไอศกรมี เขียว รสอะไรบา้ ง (มะนาว สม้ สตรอวเ์ บอรร์ ี ชอ็ กโกแลต และวานลิ ลา) ฟ้า ม่วง แดง อืน่ ๆ ครตู ดิ ภาพแสดงจ�ำ นวนเพ่อื นทช่ี อบกนิ ไอศกรมี รสต่าง ๆ แล้วอธบิ ายว่าจากข้อมลู ทตี่ น้ กล้า | 167สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บันทึกสามารถสรปุ ข้อมลู ไดด้ งั ภาพนี้ตาม หนงั สอื เรยี นหน้า 166 จากนัน้ ครใู ช้ค�ำ ถามให้นักเรยี นหาคำ�ตอบแลว้ ร่วมกนั เฉลย เชน่ − เพอ่ื นชอบกินไอศกรีมรสอะไรมากท่สี ดุ (ช็อกโกแลต) − เพอ่ื นชอบกินไอศกรีมรสสตรอว์เบอรร์ กี ีค่ น (6 คน) − เพอ่ื นชอบกินไอศกรมี รสอะไรนอ้ ยท่สี ุด (สม้ ) − เพื่อนชอบกินไอศกรีมทง้ั หมดกร่ี สชาติ (5) จากน้นั ครูอธบิ ายวา่ ถ้าเราจะท�ำ กจิ กรรมในลักษณะเดียวกบั ทต่ี น้ กล้าท�ำ การสำ�รวจเพอื่ นในหอ้ ง ทชี่ อบกนิ ไอศกรมี รสตา่ ง ๆ เราจะตอ้ งทำ�อยา่ งไรบ้าง แลว้ ครูใหน้ กั เรยี นทำ�กิจกรรม “รู้จกั เพ่อื น” ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 167 โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลมุ่ แล้วให้นกั เรียนจบั ฉลากหวั ขอ้ ทจี่ ะตอ้ ง เก็บรวบรวมข้อมลู จากเพอื่ นในหอ้ ง เช่น วันทเ่ี กดิ สีที่ชอบ งานอดเิ รกท่ีชอบทำ� โดยครแู จก แบบบนั ทกึ กจิ กรรมใหน้ ักเรียนกลมุ่ ละ 1 แผ่น ซง่ึ ครอู าจใชแ้ บบบนั ทกึ กจิ กรรมของหนงั สือเรยี นบทนี้ จาก QR Code หน้าแรกของบท จากนั้นครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกันตัง้ ค�ำ ถามเกย่ี วกบั ข้อมูล ทก่ี ลุ่มตนเองเก็บมาได้ แล้วใหเ้ พื่อนกลุ่มอื่นตอบ ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง | 171สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครูรายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทท่ี 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว 6. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยใหน้ ักเรียนฝึกจ�ำ แนกรถประเภทต่าง ๆ จากรูปภาพ ตรวจสอบความเขา้ ใจ เขียนตวั เลขแสดงจำานวนรถแต่ละประเภทลงในตาราง แลว้ กรอกขอ้ มลู ลงในตารางตามหนงั สือเรียนหน้า 168 โดยครอู าจใชค้ �ำ ถาม ดังนี้ − จากรูปภาพมีรถก่ปี ระเภท อะไรบ้าง (4 ประเภท จำานวนรถประเภทต่าง ๆ ไดแ้ ก่ รถน่ังส่วนบคุ คล รถประจำ�ทาง รถบรรทุก และ รถจกั รยานยนต)์ ประเภทของรถ จาำ นวน (คนั ) รถนั่งสว่ นบคุ คล 6 รถประจาำ ทาง 2 4 รถบรรทุก 3 รถจกั รยานยนต์ − ถา้ นักเรียนตอ้ งการทราบวา่ รถแตล่ ะประเภท สิง่ ทไี่ ด้เรียนรู้ มีกคี่ นั ต้องท�ำ อย่างไร (นับภาพรถในแตล่ ะประเภท) ข้อมูลเปน็ ขอ้ เทจ็ จริงของสิง่ ท่สี นใจ ซ่งึ ไดจ้ ากการเกบ็ รวบรวม การเกบ็ รวบรวมข้อมลู อาจใช้การสงั เกต การสอบถาม การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจาำ แนกขอ้ มลู ทาำ ใหส้ ะดวกตอ่ การนาำ ขอ้ มลู ไปใช้ จากนัน้ ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปส่งิ ท่ไี ด้เรยี นรู้ แบบฝกึ หัด 5.1 168 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่งิ ท่ไี ด้เรียนรู้ ขอ้ มูลเป็นขอ้ เทจ็ จรงิ ของส่ิงท่สี นใจซง่ึ ไดจ้ ากการเก็บรวบรวม • การเก็บรวบรวมขอ้ มูลอาจใชก้ ารสงั เกต การสอบถาม •• การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจำ�แนกขอ้ มูล ทำ�ใหส้ ะดวกตอ่ การน�ำ ขอ้ มลู ไปใช้ จากนน้ั ให้นกั เรยี นทำ�แบบฝึกหัด 5.1 หน้า 114 - 117 5.2 การอา่ นแผนภูมริ ูปภาพ (1 ชวั่ โมง) หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 จดุ ประสงค์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว อา่ นแผนภูมิรูปภาพ 5.2 การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพ สื่อการเรยี นรู้ พฒั นาความรู้ − บัตรแผนภูมิรูปภาพ ครสู อบถามนักเรยี นเก่ยี วกบั สที ีน่ ักเรยี นชอบ และแสดงเป็นแผนภูมริ ูปภาพดังนี้ จำานวนนกั เรียนช้ัน ป. 3/1 ที่ชอบสีต่าง ๆ แนวการจดั การเรียนรู ้ ฟ้า แดง เหลอื ง นาำ้ ตาล เขยี ว ชมพู การพฒั นาความรู้ กำาหนดให้ แทนจำานวนนกั เรยี น 3 คน แผนภูมริ ปู ภาพนแ้ี สดงอะไร จาำ นวนนกั เรียนชัน้ ป.3/1 ทชี่ อบสีตา่ ง ๆ 1. ครูแนะน�ำ การน�ำ เสนอข้อมลู ด้วยแผนภูมิรูปภาพ มีข้อกำาหนดว่าอย่างไร เมอื่ นกั เรยี นจ�ำ แนกข้อมูลและเก็บรวบรวมข้อมลู มาแล้ว กาำ หนดให้ แทนจำานวนนักเรยี น 3 คน แผนภมู ริ ูปภาพมสี ว่ นประกอบอะไรบา้ ง เพอ่ื ให้สามารถนำ�ข้อมูลไปใช้ประโยชนไ์ ด้มากขึน้ จึงต้อง ชื่อแผนภูม ิ ตัวแผนภูมิ และข้อกำาหนด นำ�ขอ้ มูลน้ันมาน�ำ เสนอในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การน�ำ เสนอ | 169สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อมูลเปน็ แผนภูมริ ูปภาพ จากนั้นครูติดแผนภมู ริ ูปภาพตามหนังสือเรียนหนา้ 169 ใชค้ ำ�ถาม เก่ยี วกบั แผนภมู ริ ปู ภาพ แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกันหาคำ�ตอบ และรว่ มกนั ตรวจสอบคำ�ตอบ เช่น 172 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว คมู่ ือครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เลม่ 1 − ช่อื ของแผนภมู ิรปู ภาพนค้ี ืออะไร (จำ�นวนนกั เรยี นชัน้ ป.3/1 ท่ชี อบสตี ่าง ๆ) − แทนจำ�นวนของอะไร (จำ�นวนนกั เรยี น) − รปู 1 รูปแทนจำ�นวนนักเรียนกคี่ น (3 คน) − สีท่ีนักเรยี นชอบมีกีส่ ี (6 สี) สีอะไรบา้ ง (ฟ้า แดง เหลือง น้�ำ ตาล เขยี ว ชมพู) − มนี กั เรยี นชอบสแี ดงก่ีคน (9 คน) คิดได้อยา่ งไร (นับจำ�นวนรูป ได้ 3 รปู และ 1 รปู แทนจำ�นวนนักเรียน 3 คน ดังนน้ั มีนกั เรยี นชอบสีแดงทง้ั หมด 3 × 3 = 9 คน) จากนั้นครอู ธิบายถึงส่วนประกอบของแผนภูมิ รูปภาพวา่ ประกอบดว้ ย ชอ่ื แผนภมู ิ ตวั แผนภมู ิ หนังสือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 และข้อก�ำ หนด บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว 2. ครูยกตวั อยา่ งแผนภมู ิรปู ภาพลักษณะ จำานวนพันธ์ผุ กั ที่ขายไดใ้ น 1 สปั ดาห์ รปู แทนจาำ นวนพนั ธ์ุผกั กี่ซอง ทต่ี า่ งจากแผนภมู ริ ูปภาพหนา้ 169 คะนา้ ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 170 โดยตดิ แผนภมู ริ ปู ภาพ ผกั กาดขาว 20 ซอง บนกระดาน ใหน้ กั เรียนบอกสิง่ ท่ีทราบจาก มะเขือเทศ รูป แทนจาำ นวนพนั ธุ์ผกั ก่ซี อง ฟกั เขยี ว ฟกั ทอง กำาหนดให้ แทนจาำ นวนพนั ธ์ุผกั 20 ซอง แผนภูมิรูปภาพ หรอื ครูอาจใชค้ �ำ ถาม เชน่ 10 ซอง เพราะ เป็นครงึ่ หนึง่ ของ − ช่ือของแผนภมู ริ ปู ภาพคืออะไร (จ�ำ นวนพันธผ์ุ กั ท่ีขายไดใ้ น 1 สปั ดาห)์ ใน 1 สัปดาห ์ ขายพันธผ์ุ กั คะน้าได้กีซ่ อง คิดไดอ้ ยา่ งไร − พนั ธผ์ุ กั ทข่ี ายไดม้ กี ช่ี นดิ (5 ชนดิ ) นับ ได้ 5 รูป และ 1 รปู แทน 20 ซอง ดังนนั้ ขายพนั ธ์ุผักคะน้าได้ 5 × 20 = 100 ซอง อะไรบ้าง (คะนา้ ผักกาดขาว มะเขอื เทศ ใน 1 สัปดาห์ ขายพนั ธ์ุฟกั เขยี วไดก้ ีซ่ อง คิดไดอ้ ยา่ งไร ฟักเขียว และฟกั ทอง) นับ ได ้ 3 รปู คิดเป็น 3 × 20 = 60 ซอง − ขายมะเขอื เทศไดก้ ีซ่ อง (40 ซอง) และ แทนจำานวนพนั ธุ์ผัก 10 ซอง ดงั นน้ั ขายพันธ์ุฟักเขยี วได ้ 60 + 10 = 70 ซอง คดิ ได้อย่างไร (นบั จ�ำ นวนรปู ได้ 2 รปู และ ตอบคำาถาม ขายพันธ์ุผักชนดิ ใดบา้ งที่รวมกนั แล้วไดเ้ ท่ากบั จำานวนพันธ์ผุ กั คะน้าท่ขี ายได้ 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 20 ซอง ดงั น้ันขาย มะเขอื เทศรวมกบั ฟักทอง หรือ ผกั กาดขาวรวมกบั ฟกั เขียว 170 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มะเขอื เทศได้ 2 × 20 = 40 ซอง) − ขายฟักทองไดก้ ซี่ อง (60 ซอง) คิดได้ อยา่ งไร (นบั จำ�นวนรูป ได้ 3 รูป และ 1 รปู แทนจำ�นวนผัก 20 ซอง ดงั น้ันขายฟกั ทอง ได้ 3 × 20 = 60 ซอง) − ขายผักกาดขาวไดก้ ่ีซอง (30 ซอง) คดิ ไดอ้ ยา่ งไร (นบั จ�ำ นวนรูป ได้ 1 รปู คิดเปน็ 20 ซอง และ แทนจำ�นวนผกั 10 ซอง ดังนั้นขายผกั กาดขาวได้ 20 + 10 = 30 ซอง) ถ้านักเรียนไม่สามารถตอบคำ�ถามสดุ ท้ายได้ ครูอาจแนะน�ำ กอ่ นวา่ จากข้อกำ�หนด แทนจำ�นวน พันธ์ุผัก 20 ซอง ดงั นน้ั แทนจ�ำ นวนพันธผ์ุ กั 10 ซอง ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกันตอบค�ำ ถาม ในกรอบท้ายหนังสอื เรียนหนา้ 170 แล้วใหต้ วั แทนนักเรยี นออกมานำ�เสนอวิธีคิด โดยครูอาจแนะนำ� ใหน้ ักเรยี นหาจ�ำ นวนพนั ธ์ผุ ักแต่ละชนดิ ก่อนเพื่อสะดวกในการตอบค�ำ ถาม | 173สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 หนงั สอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 3. ครตู ดิ แผนภมู ริ ปู ภาพบนกระดานตามหนงั สอื เรยี น บทที่ 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว หนา้ 171 ใหน้ กั เรยี นจบั คบู่ อกสง่ิ ทท่ี ราบจากแผนภมู ริ ปู ภาพ หรือ ครอู าจใชค้ ำ�ถาม เช่น งานอดเิ รกของนกั เรียนโรงเรียนแห่งหนึง่ เลีย้ งสตั ว์ − แผนภมู ริ ปู ภาพแสดงอะไร (งานอดเิ รกของนกั เรยี น เลน่ ดนตรี โรงเรียนแห่งหนง่ึ ) เล่นกฬี า สะสมแสตมป์ − งานอดิเรกมกี ปี่ ระเภท (4 ประเภท) อะไรบา้ ง กำาหนดให้ แทนจำานวนนักเรียน 30 คน (เลยี้ งสตั ว์ เลน่ ดนตรี เล่นกีฬา และสะสมแสตมป์) มีนักเรยี นเล่นกีฬามากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ นักเรียนสะสมแสตมป์กี่คน − รปู แทนจ�ำ นวนนักเรียนกค่ี น (15 คน) เพราะเหตุใด (รปู เป็นครึ่งหนึ่งของรปู ดงั นนั้ รูป มีนักเรียนเล่นกีฬา (5 × 30) + 15 = 165 คน มนี ักเรียนสะสมแสตมป ์ 4 × 30 = 120 คน คดิ เป็น 30 ÷ 2 = 15 คน) ดงั นัน้ มีนักเรียนเล่นกีฬามากกวา่ นกั เรียนสะสมแสตมป์ − มีนกั เรียนเล้ียงสตั วก์ ่ีคน (90 คน) คิดได้อยา่ งไร และมากกว่าอย่ ู 165 − 120 = 45 คน (นบั จ�ำ นวนรปู ได้ 3 รปู และ 1 รูปแทนจ�ำ นวน เล่นกีฬา นกั เรยี น 30 คน ดงั นน้ั มนี กั เรยี นเลย้ี งสตั ว์ 3 × 30 = 90 คน) สะสมแสตมป์ − มนี กั เรียนเล่นดนตรกี ่คี น (75 คน) คิดได้อย่างไร จาำ นวน ของนกั เรยี นเลน่ กฬี ามากกวา่ ของนกั เรยี นสะสมแสตมปอ์ ย ู่ (นบั จ�ำ นวนรปู ได้ 2 รปู คดิ เปน็ จ�ำ นวนนกั เรยี น ดงั น้นั มีนกั เรยี นเลน่ กฬี ามากกวา่ นักเรียนสะสมแสตมป์และมากกวา่ อยู่ 2 × 30 = 60 คน และรปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 30 + 15 = 45 คน 15 คน ดงั นน้ั มนี กั เรยี นเลน่ ดนตรี 60 + 15 = 75 คน) ครใู ห้ นกั เรยี นชว่ ยกันตอบค�ำ ถามในกรอบทา้ ยหนงั สอื เรียนหนา้ ตอบคำาถาม 171 แลว้ ให้ตัวแทนนกั เรยี นออกมานำ�เสนอวธิ ีคดิ โดยครู อาจแนะน�ำ ใหน้ กั เรยี นหาจ�ำ นวนนักเรยี นในงานอดิเรก 1 งานอดเิ รกของนักเรียนโรงเรียนนี้มอี ะไรบา้ ง งานอดเิ รกแตล่ ะประเภท แต่ละประเภทไว้เพือ่ สะดวกต่อการตอบคำ�ถาม มนี กั เรียนกค่ี น เลย้ี งสตั ว ์ เลน่ ดนตร ี เลน่ กฬี า สะสมแสตมป์ มี 90 คน มี 75 คน มี 165 คน มี 120 คน การตรวจสอบความเข้าใจ 2 มีนักเรียนเลน่ ดนตรีน้อยกวา่ หรือมากกว่านกั เรียนเล่นกีฬาก่คี น นอ้ ยกวา่ 90 คน 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยใหน้ ักเรียนตอบคำ�ถามตามหนังสือเรียนหนา้ 172 3 งานอดเิ รกอะไรเมอื่ นาำ จำานวนนักเรยี นทท่ี าำ งานอดิเรกนน้ั มารวมกันแลว้ โดยครอู าจแนะน�ำ ให้นกั เรียนหาจำ�นวนนักเรยี นท่ีเล่นกีฬา เทา่ กบั จาำ นวนนักเรียนเลน่ กีฬา เลยี้ งสัตวก์ บั เลน่ ดนตรี แต่ละประเภทก่อนเพื่อสะดวกต่อการตอบค�ำ ถาม จากนนั้ ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รยี นรู้ | 171สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทที่ 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว ตรวจสอบความเขา้ ใจ จำานวนนกั เรยี นท่ีชอบเล่นกีฬาชนิดตา่ ง ๆ ฟตุ บอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ ปงิ ปอง เทนนสิ กาำ หนดให้ แทนจำานวนนกั เรยี น 50 คน ตอบคำาถาม 1 นกั เรียนชอบเลน่ เทนนสิ กค่ี น 75 คน 2 ตอ้ งมนี กั เรยี นชอบเลน่ ตะกรอ้ เพม่ิ อกี กค่ี นจงึ จะเทา่ กบั จาำ นวนนกั เรยี นทช่ี อบเลน่ ฟตุ บอล 150 คน 3 มีนกั เรียนชอบเลน่ วอลเลย์บอลมากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ เลน่ ปิงปองก่คี น นอ้ ยกวา่ 100 คน สิ่งท่ีได้เรยี นรู้ แผนภูมิรูปภาพ เป็นแผนภูมทิ ่ีนำาเสนอขอ้ มูลโดยใช้รูปภาพแทนจาำ นวน ส่งิ ตา่ ง ๆ ถา้ เปน็ ขอ้ มูลของสง่ิ เดยี วกัน รูปภาพที่ใช้ต้องเปน็ รูปภาพ ทเ่ี หมอื นกนั และมีขนาดเทา่ กนั จาำ นวนท่แี ท้จริงของสง่ิ ต่าง ๆ อาจไมเ่ ท่ากับจำานวนรูปภาพ ในแผนภูมิรูปภาพ ขน้ึ อยูก่ บั ขอ้ กำาหนดในแผนภูมริ ูปภาพ แบบฝกึ หัด 5.2 172 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้ • แผนภูมริ ูปภาพ เป็นแผนภมู ทิ ่ีนำ�เสนอขอ้ มลู โดยใช้รูปภาพแทนจ�ำ นวนสิ่งตา่ ง ๆ ถา้ เปน็ ข้อมลู ของสงิ่ เดียวกนั รูปภาพท่ีใช้ตอ้ งเปน็ รปู ภาพ ทีเ่ หมอื นกันและมขี นาดเทา่ กัน 174 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว คูม่ อื ครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 • จ�ำ นวนทแ่ี ทจ้ ริงของสิง่ ตา่ ง ๆ อาจไมเ่ ทา่ กบั จำ�นวนรูปภาพในแผนภูมริ ูปภาพ ขึน้ อยู่กับ ขอ้ ก�ำ หนดในแผนภูมิรปู ภาพ จากนั้นใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝกึ หัด 5.2 หน้า 118 - 119 5.3 การเขียนแผนภมู ิรปู ภาพ (3 ช่วั โมง) จุดประสงค ์ เขียนแผนภมู ิรปู ภาพ ส่ือการเรยี นรู้ − บัตรข้อมลู แนวการจัดการเรยี นรู ้ หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทท ่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว การพัฒนาความรู้ 5.3 การเขยี นแผนภมู ิรูปภาพ 1. กอ่ นเรยี นเรอ่ื งการเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ พฒั นาความรู้ ครอู าจน�ำ เข้าส่บู ทเรียนโดยใช้การถาม - ตอบ ครสู อบถามนักเรยี นช้ันป.3 เกย่ี วกบั ขนมทน่ี ักเรียนชอบกินไดข้ อ้ มลู ดังนี้ แผนภมู ริ ปู ภาพ เกี่ยวกบั แผนภูมริ ปู ภาพ เชน่ ชอบกนิ เคก้ 21 คน ชอบกนิ ขนมโตเกียว 12 คน ชอบกินเยลล่ ี 18 คน ชอบกินโดนัท 24 คน ชอบกินขนมไข่ 9 คน − แผนภูมริ ปู ภาพประกอบดว้ ยอะไรบ้าง ถา้ นาำ เสนอขอ้ มูลน้ดี ้วยแผนภมู ริ ูปภาพ จะใหช้ อื่ แผนภมู ิว่าอะไร (ชื่อแผนภมู ิ ตวั แผนภูมิ และขอ้ ก�ำ หนด) หรอื จาำ นวนนักเรยี นชนั้ ป.3 ทช่ี อบกนิ ขนมชนิดต่าง ๆ ครูอาจใชส้ ือ่ วดิ ที ศั น์เรอ่ื งแผนภมู ิรูปภาพจาก QR Code ในหนังสอื เรียนหน้า 173 จะเป็น กอ่ นเขยี นแผนภูมิต้องรูว้ ่า จะกาำ หนดใหร้ ปู ภาพ 1 รปู แทนจำานวนนักเรยี นกี่คน การอธิบายเก่ยี วกบั การน�ำ เสนอขอ้ มลู ด้วย โดยพิจารณาจากข้อมลู แตล่ ะรายการ เช่น จำานวนของทุกรายการขา้ งต้น แผนภมู ริ ปู ภาพ จากนน้ั ครยู กตวั อยา่ งสถานการณ์ เปน็ จำานวนท่ีหารด้วย 3 ลงตัว จึงกาำ หนดรูปภาพ 1 รูป แทนจำานวนนกั เรียน ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 173 เก่ยี วกบั ขนม 3 คน ดังน้ัน ท่ีนกั เรียนชอบกิน และถามคำ�ถามเกี่ยวกับ การเขียนแผนภมู ิรปู ภาพ ใหน้ กั เรียนตอบค�ำ ถาม นักเรียนชอบกินเคก้ 21 คน แทนด้วยรปู ภาพ 21 ÷ 3 = 7 รปู ดงั นี้ นักเรียนชอบกนิ ขนมโตเกยี ว 12 คน แทนดว้ ยรูปภาพ 12 ÷ 3 = 4 รปู นกั เรียนชอบกินเยลล ่ี 18 คน แทนด้วยรูปภาพ 18 ÷ 3 = 6 รูป นกั เรยี นชอบกินโดนทั 24 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 24 ÷ 3 = 8 รูป นักเรียนชอบกนิ ขนมไข่ 9 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 9 ÷ 3 = 3 รปู | 173สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี − ส่วนประกอบของแผนภูมิรูปภาพ มอี ะไรบ้าง (ช่ือแผนภูมิ ตวั แผนภูมิ และ ขอ้ ก�ำ หนด) − ถ้าต้องการเขยี นแผนภูมิรูปภาพแสดงข้อมลู นีช้ ่อื ของแผนภมู ิรปู ภาพนค้ี ืออะไร (จ�ำ นวน นกั เรียนชน้ั ป.3 ทชี่ อบกินขนมชนิดตา่ ง ๆ) − ขอ้ มูลมกี ่ีรายการ (5 รายการ) อะไรบ้าง (ชอบกนิ เค้ก 21 คน ชอบกินขนมโตเกียว 12 คน ชอบกินเยลล่ี 18 คน ชอบกินโดนัท 24 คน และชอบกินขนมไข่ 9 คน) | 175สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 ครูใหน้ กั เรียนเขียนแผนภูมริ ปู ภาพทม่ี ชี ื่อแผนภูมคิ อื จำ�นวนนกั เรียนช้ัน ป.3 ที่ชอบกินขนมชนดิ ตา่ ง ๆ ที่มี 5 รายการ ตามขอ้ มูลขา้ งตน้ โดยใหน้ ักเรียนก�ำ หนดรูปอะไรในการเขียนกไ็ ด้ และเขยี น ข้อกำ�หนดเป็นรปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนักเรยี น 1 คน นกั เรยี นอาจเขียนแผนภูมิรปู ภาพได้ดังนี้ เค้ก จ�ำ นวนนักเรียนชน้ั ป.3 ทช่ี อบกินขนมชนิดต่าง ๆ ขนมโตเกียว เยลลี่ ก�ำ หนดให้ แทนจำ�นวนนกั เรียน 1 คน โดนัท ขนมไข่ ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั อา่ นแผนภมู ิรูปภาพทเี่ ขยี นขนึ้ เชน่ แผนภมู ริ ูปภาพน้นี �ำ เสนอจำ�นวน นกั เรยี นช้นั ป.3 ท่ชี อบกินขนมชนดิ ต่าง ๆ ดังนี้ ชอบกนิ เคก้ 21 คน ชอบกนิ ขนมโตเกียว 12 คน ชอบกินเยลล่ี 18 คน ชอบกนิ โดนทั 24 คน และชอบกนิ ขนมไข่ 9 คน โดยมขี อ้ ก�ำ หนดรูป 1 รปู แทนจำ�นวนนักเรียน 1 คน จากนั้นครถู ามนกั เรยี นว่า ถ้าต้องการกำ�หนดใหร้ ปู 1 รูปแทนจ�ำ นวน นกั เรียนมากกวา่ 1 คน นกั เรียนจะกำ�หนดใหร้ ูป 1 รูปแทนจำ�นวนนกั เรียนกี่คน โดยพจิ ารณาจาก อะไร (พจิ ารณาจากจ�ำ นวนข้อมลู ในแตล่ ะรายการ) ครอู าจอธบิ ายเพม่ิ เตมิ โดยให้นักเรียนพิจารณา จำ�นวนขอ้ มลู ในแต่ละรายการ ดงั น้ี 21 12 18 24 และ 9 แลว้ ถามนกั เรียนว่ามีจำ�นวนใดทหี่ าร จ�ำ นวนเหล่านีล้ งตวั บ้าง (2 3 4 6 7 8 9) และในจำ�นวนที่หารลงตวั นี้ มจี ำ�นวนใดบา้ งท่หี าร จ�ำ นวนข้อมลู ในแตล่ ะรายการลงตัวทั้งหมด (3) ครถู ามนกั เรยี นวา่ จะตอ้ งก�ำ หนดให้รูป 1 รปู ใน แผนภูมริ ปู ภาพแทนจำ�นวนนกั เรยี นกค่ี น (ก�ำ หนดรปู 1 รูป แทนจำ�นวนนักเรยี น 3 คน) จากนั้นครใู หน้ กั เรียนช่วยกันพิจารณาว่าขอ้ มูลในแต่ละรายการต้องวาดรปู ก่รี ปู ดงั น้ี ชอบกนิ เคก้ 21 คน ตอ้ งวาดรูป 21 ÷ 3 = 7 รูป ชอบกินขนมโตเกียว 12 คน ตอ้ งวาดรูป 12 ÷ 3 = 4 รูป ชอบกนิ เยลล่ี 18 คน ต้องวาดรูป 18 ÷ 3 = 6 รปู ชอบกนิ โดนัท 24 คน ตอ้ งวาดรปู 24 ÷ 3 = 8 รูป และชอบกินขนมไข่ 9 คน ต้องวาดรปู 9 ÷ 3 = 3 รูป จากน้ันครูและนักเรยี นร่วมกันเขียนแผนภูมิรปู ภาพโดยก�ำ หนดให้รปู 1 รูป แทนจำ�นวน นักเรยี น 3 คน ไดแ้ ผนภมู ริ ปู ภาพ ดงั นี้ 176 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 จำ�นวนนักเรยี นช้นั ป. 3 ทช่ี อบกินขนมชนดิ ต่าง ๆ เคก้ ขนม เยลลี่ โดนัท ขนมไข่ โตเกียว แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 3 คน ก�ำ หนดให ้ จากนน้ั ครูแบ่งนกั เรียนเปน็ กลมุ่ แล้วใหแ้ ตล่ ะกล่มุ หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 ช่วยกันเขียนแผนภมู ิรูปภาพแสดงจำ�นวนนักเรยี น ป.3 ท่ี บทที่ 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว สะสมของชนดิ ตา่ ง ๆ ตามขอ้ มูลในกรอบท้ายหนงั สือเรยี น เขียนแผนภมู ิรูปภาพแสดงจาำ นวนนกั เรียนชัน้ ป.3 ทชี่ อบกนิ ขนมชนดิ ต่าง ๆ หนา้ 174 โดยครูอาจใชค้ �ำ ถามเพอ่ื ชว่ ยใหน้ กั เรยี นเขียน โดยกาำ หนด แทนจำานวนนักเรยี น 3 คน ดังน้ี จำานวนนกั เรียนชั้นป. 3 ท่ชี อบกนิ ขนมชนิดตา่ ง ๆ แผนภมู ิรปู ภาพได้ เชน่ − ชอ่ื ของแผนภมู ริ ปู ภาพนค้ี อื อะไร (จ�ำ นวนนกั เรยี น ชั้นป.3 ท่สี ะสมของชนิดตา่ ง ๆ) − รูป แทนจ�ำ นวนนักเรยี นก่คี น (4 คน) เค้ก ขนมโตเกยี ว เยลลี่ โดนทั ขนมไข่ − มีนักเรียนสะสมตุก๊ ตา 8 คน จะต้องวาดรปู กร่ี ปู (2 รปู ) คดิ ไดอ้ ยา่ งไร ( 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น กำาหนดให้ แทนจำานวนนักเรยี น 3 คน 4 คน ดงั นน้ั นกั เรยี น 8 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 8 ÷ 4 = 2 รปู ) − มนี กั เรยี นสะสมหนังสอื การ์ตนู 12 คน จะตอ้ ง เขียนแผนภมู ิรปู ภาพแสดงจำานวนนกั เรียนชัน้ ป.3 ท่ีสะสมของชนดิ ตา่ ง ๆ วาดรปู กี่รูป (3 รูป) คดิ ไดอ้ ยา่ งไร ( 1 รูปแทน โดยกำาหนด แทนจาำ นวนนกั เรียน 4 คน จ�ำ นวนนกั เรยี น 4 คน ดงั นั้นนกั เรียน 12 คน แทนดว้ ย สะสมตุ๊กตา 8 คน สะสมหนงั สือการ์ตนู 12 คน สะสมลกู แก้ว สะสมรถของเล่น 4 คน 16 คน 174 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฉลย จ�ำ นวนนักเรยี นชนั้ ป.3 ท่ีสะสมของชนิดตา่ ง ๆ รูปภาพ 12 ÷ 4 = 3 รูป) − มนี ักเรยี นสะสมลูกแก้ว 4 คน จะต้องวาดรูป ก่รี ปู (1 รูป) คดิ ไดอ้ ย่างไร ( 1 รูปแทนจ�ำ นวนนกั เรยี น ตุ๊กตา หนังสือการ์ตูน ลูกแก้ว รถของเลน่ 4 คน ดงั นน้ั นักเรียน 4 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 4 ÷ 4 = 1 รปู ) ก�ำ หนดให ้ แทนจ�ำ นวนนักเรยี น 4 คน − มนี ักเรียนสะสมรถของเลน่ 16 คน จะตอ้ งวาดรปู กร่ี ูป (4 รูป) คิดได้อยา่ งไร ( 1 รูปแทนจำ�นวนนักเรยี น 4 คน ดังน้นั นักเรียน 16 คน แทนด้วยรูปภาพ 16 ÷ 4 = 4 รูป) ครสู ุ่มตัวแทนนักเรยี นออกมานำ�เสนอผลงาน แล้วครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง | 177สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดียว ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 2. จากขอ้ มลู จ�ำ นวนนกั เรยี นทช่ี อบกนิ ขนมชนดิ ตา่ ง ๆ ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 174 นน้ั ครถู าม นกั เรยี นวา่ ถา้ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนอน่ื ทไ่ี มใ่ ช่ 3 จะเปน็ จ�ำ นวนอน่ื ไดห้ รอื ไม่ ครอู ธบิ าย เพม่ิ เตมิ วา่ ในการก�ำ หนดรปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี นกค่ี นนน้ั พจิ ารณาจากจ�ำ นวนขอ้ มลู ในแตล่ ะ รายการวา่ มจี �ำ นวนใดบา้ งทห่ี ารจ�ำ นวนขอ้ มลู ในแตล่ ะรายการลงตวั ในทน่ี ม้ี ี 3 ทส่ี ามารถหารจ�ำ นวน ขอ้ มลู ทกุ รายการลงตวั ซง่ึ ไมม่ จี �ำ นวนอน่ื อกี ทส่ี ามารถหารจ�ำ นวนขอ้ มลู ทกุ รายการลงตวั ครถู าม นกั เรยี นวา่ ถา้ เราน�ำ จ�ำ นวนทไ่ี มส่ ามารถหารจ�ำ นวนขอ้ มลู ทกุ รายการลงตวั มาก�ำ หนดเปน็ ขอ้ ก�ำ หนด ไดห้ รอื ไม่ เชน่ จากขอ้ มลู น้ี จะก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คนไดห้ รอื ไม่ หรอื ก�ำ หนดให้ รปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 6 คนไดห้ รอื ไม่ นกั เรยี นอาจตอบวา่ ไมไ่ ด้ ครจู งึ อธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา่ การก�ำ หนดรปู 1 รปู ในแผนภมู ริ ปู ภาพแทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน นน้ั ถงึ แมว้ า่ 2 จะหารจ�ำ นวนขอ้ มลู แตล่ ะรายการไมล่ งตวั แตน่ กั เรยี นจะสงั เกตไดว้ า่ 2 หารขอ้ มลู บางรายการลงตวั และบางรายการหารแลว้ เหลอื เศษ 1 จงึ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน และรปู ครง่ึ รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน ดงั นน้ั จงึ วาดรปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน และวาดรปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน โดยเขยี นขอ้ ก�ำ หนดวา่ ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ อกี วา่ ถา้ ก�ำ หนด รปู 1 รปู ในแผนภมู ริ ปู ภาพแทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 6 คน จะไดว้ า่ 6 หารจ�ำ นวนขอ้ มลู แตล่ ะรายการ ไมล่ งตวั แตน่ กั เรยี นจะสงั เกตไดว้ า่ 6 หารขอ้ มลู บางรายการลงตวั และบางรายการหารแลว้ เหลอื เศษ 3 จงึ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 6 คน และรปู ครง่ึ รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 3 คน ดงั นน้ั จงึ วาดรปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 6 คน และวาดรปู แทนจ�ำ นวนนกั เรียน 3 คน โดยเขียนข้อกำ�หนดวา่ กำ�หนดให้ แทนจ�ำ นวนนักเรยี น 6 คน และเขยี นแผนภูมิรูปภาพไดด้ ังนี้ จำ�นวนนักเรยี นชั้น ป.3 ทช่ี อบกนิ ขนมชนิดตา่ ง ๆ เคก้ ขนมโตเกยี ว เยลลี่ โดนทั ขนมไข่ กำ�หนดให้ แทนจำ�นวนนักเรียน 6 คน จากนั้นครูยกตวั อยา่ งข้อมลู ทีต่ อ้ งนำ�เสนอด้วยแผนภูมริ ปู ภาพท่มี ีลกั ษณะไม่เต็มรูปโดยให้นักเรยี น พิจารณาขอ้ มูลผกั ท่ีนักเรยี นชน้ั ป.3 เกบ็ ไดใ้ นวันศุกร์ ตามหนงั สือเรยี นหน้า 175 โดยครูแนะน�ำ ว่า นอกจากจะใชร้ ปู ภาพท่ีมลี กั ษณะเตม็ รปู แสดงจำ�นวนหรอื ปรมิ าณของส่ิงตา่ ง ๆ ได้แล้ว ยังสามารถ ใชร้ ูปภาพที่มลี ักษณะไม่เตม็ รูปหรอื มลี กั ษณะคร่งึ รปู เพ่ือแสดงจ�ำ นวนหรอื ปรมิ าณของส่งิ ตา่ ง ๆ ตามข้อกำ�หนดได้ เช่น ในแผนภมู ิรปู ภาพตามหนงั สือเรียนหนา้ 171 178 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 จากนั้นครใู ห้นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายว่า ถา้ จะน�ำ ขอ้ มูลในหนังสือเรียนหนา้ 175 จำ�นวนผักที่ เกบ็ ได้ในวันศกุ ร์ ดงั นี้ ผักชี 40 ต้น คะน้า 35 ต้น ผักกาดหอม 30 ตน้ กวางตุ้ง 15 ตน้ ต้นหอม 20 ตน้ น�ำ ขอ้ มลู น้ี มาเขียนแผนภมู ริ ูปภาพ จะก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รูปแทนจำ�นวนผกั กตี่ น้ บา้ ง พรอ้ มทง้ั บอกเหตผุ ล ตวั อยา่ งค�ำ ตอบของนกั เรยี น เชน่ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 2 ตน้ 5 ตน้ หรอื 10 ตน้ ครูให้ นักเรียนอธิบายเหตุผล เช่น กำ�หนดให้รปู 1 รปู แทนจำ�นวนผกั 5 ตน้ เนอ่ื งจากจ�ำ นวนผักแตล่ ะชนดิ ท่เี กบ็ ได้หารดว้ ย 5 ลงตวั หรอื ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 2 ตน้ เนอ่ื งจากจ�ำ นวนผกั บางชนดิ ทเ่ี กบ็ ไดห้ ารด้วย 2 ลงตัว และจำ�นวนผกั บางชนดิ ที่เกบ็ ได้หารด้วย 2 แลว้ เหลอื เศษ 1 ดังน้นั จึงก�ำ หนด ให้รูป 1 รปู แทนจำ�นวนผัก 2 ตน้ และสามารถวาดครึ่งรูป แทนจ�ำ นวนผัก 1 ต้นได้ หรอื ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 10 ตน้ เนอ่ื งจากจ�ำ นวนผกั บางชนดิ ทเ่ี กบ็ ไดห้ ารดว้ ย 10 ลงตวั และจ�ำ นวนผกั บาง ชนดิ ทเ่ี กบ็ ไดห้ ารดว้ ย 10 แลว้ เหลอื เศษ 5 ดงั นน้ั จงึ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 10 ตน้ และสามารถ วาดคร่งึ รปู แทนจ�ำ นวนผกั 5 ตน้ ได้ ครแู บ่งนกั เรียนเปน็ กล่มุ แลว้ ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สังเกตวา่ การเขยี นแผนภูมริ ูปภาพแสดงจ�ำ นวนผกั ท่ีนกั เรยี นชน้ั ป.3 เก็บได้ในวันศกุ ร์ หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 หนงั สือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทที่ 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว บทท่ี 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ผกั ทน่ี ักเรียนชั้น ป.3 เก็บไดใ้ นวันศกุ รเ์ ป็นดังน้ี จากขอ้ มูลเดิม ถ้ากำาหนด แทนจาำ นวนผัก 5 ต้น เขยี นแผนภมู ิรปู ภาพ ผกั ช ี 40 ตน้ คะนา้ 35 ตน้ ผักกาดหอม 30 ตน้ ไดด้ ังนี้ กวางต้งุ 15 ต้น ตน้ หอม 20 ต้น ถา้ นำาเสนอขอ้ มลู น้ีด้วยแผนภมู ริ ูปภาพ จะให้ช่อื แผนภูมวิ า่ อะไร แผนภูมริ ปู ภาพแสดงจำานวนผกั ที่นกั เรยี นช้นั ป.3 เกบ็ ได้ในวนั ศุกร์ จำานวนผักท่นี ักเรยี นชั้น ป.3 เก็บได้ในวันศกุ ร์ ผักชี คะนา้ ผักกาดหอม กวางตงุ้ ตน้ หอม เขียนแผนภมู ริ ูปภาพแสดงจำานวนผักท่นี กั เรยี นช้ันป.3 เกบ็ ไดใ้ นวนั ศกุ ร์ กาำ หนดให ้ แทนจำานวนผัก 5 ตน้ โดยกำาหนด แทนจาำ นวนผัก 2 ต้น ดังน้ี แผนภูมริ ปู ภาพแสดงจำานวนผกั ทน่ี กั เรียนช้ันป.3 เกบ็ ไดใ้ นวันศกุ ร์ จากข้อมลู เดมิ ถ้ากำาหนด แทนจาำ นวนผกั 10 ต้น เขียนแผนภูมิรูปภาพ ได้ดังน้ี แผนภมู ิรูปภาพแสดงจาำ นวนผักทน่ี ักเรยี นช้ันป.3 เกบ็ ไดใ้ นวนั ศกุ ร์ ผักชี คะน้า ผักกาดหอม กวางตงุ้ ต้นหอม กาำ หนดให้ แทนจาำ นวนผัก 10 ต้น ผกั ชี คะน้า ผกั กาดหอม กวางตุ้ง ต้นหอม ขอ้ มลู ชดุ เดียวกนั สามารถเขยี นแผนภมู ิรูปภาพ กำาหนดให้ แทนจาำ นวนผัก 2 ต้น โดยใชข้ อ้ กาำ หนดท่แี ตกต่างกนั ได้ | 175สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 176 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มขี ้นั ตอนการเขยี นแตล่ ะแผนภมู ริ ปู ภาพอยา่ งไร ถา้ แตล่ ะแผนภมู ริ ปู ภาพมขี อ้ ก�ำ หนดทแ่ี ตกตา่ งกนั ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 175 และ 176 จากน้ันครูสุม่ เลอื กนักเรียนมาอธบิ ายข้นั ตอนการเขยี น แผนภมู ริ ปู ภาพแตล่ ะแผนภมู ริ ปู ภาพใหเ้ พอ่ื นฟงั โดยครรู ว่ มใหค้ �ำ แนะน�ำ ในกรณที น่ี กั เรยี นอธบิ าย ไมค่ รอบคลมุ | 179สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เลม่ 1 ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ว่า ข้อมลู ชุดเดยี วกัน หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 สามารถเขยี นแผนภมู ิรูปภาพโดยใช้ขอ้ ก�ำ หนด บทท่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว ทแ่ี ตกตา่ งกนั ได้ กจิ กรรม สนกุ กบั การเขียนแผนภมู ริ ูปภาพ 3. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ทำ�กิจกรรม อุปกรณ์ บตั รข้อมูล “สนกุ กบั การเขียนแผนภูมริ ปู ภาพ” ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 177 โดยครอู าจใชบ้ ตั รขอ้ มลู ตัวอยา่ งบตั รขอ้ มลู จากสอื่ ของหนังสือเรียนบทน้ใี น QR Code หนา้ แรกของบท และครแู นะน�ำ ใหน้ กั เรียน เขยี นแผนภูมิรปู ภาพแสดงจำานวนนักเรยี นท่ีเลี้ยงสัตว์ชนดิ ต่าง ๆ เขยี นเปน็ แผนภูมิรปู ภาพทั้งแนวตงั้ และแนวนอน โดยกาำ หนดรูป 1 รปู แทนจำานวนนักเรยี น 4 คน เพอ่ื ใหเ้ หน็ ความหลากหลายในการน�ำ เสนอขอ้ มลู ด้วยแผนภูมริ ูปภาพ เลยี้ งสนุ ัข 28 คน เลย้ี งกระต่าย 8 คน เลย้ี งหนูแฮมสเตอร์ 12 คน เล้ียงแมว 16 คน การตรวจสอบความเข้าใจ เลีย้ งนก เลย้ี งปลาสวยงาม 20 คน 8 คน 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น เปน็ รายบุคคล โดยให้นักเรยี นเขยี นแผนภมู ิ เขยี นแผนภมู ริ ูปภาพแสดงจำานวนอาหารจานเดยี วทรี่ า้ นอาหารขายได้ รูปภาพจากข้อมลู ตามหนังสอื เรียนหนา้ 178 โดยกาำ หนดรูป 1 รปู แทนจาำ นวนอาหาร 6 จาน ครูอาจใช้คำ�ถามเพ่อื ช่วยใหน้ ักเรยี นเขียน แผนภูมริ ูปภาพได้ เช่น ขา้ วไข่เจียว 18 จาน ข้าวไข่พะโล้ 12 จาน ข้าวผดั กะเพรา 27 จาน ข้าวผดั ป ู 24 จาน − ชอ่ื แผนภมู ริ ปู ภาพคอื อะไร (จ�ำ นวนขวด ขา้ วไก่ทอด 15 จาน ผดั ไทยกุ้งสด ทข่ี นุ เกบ็ ไดใ้ นโรงเรยี น) 9 จาน − มขี วดกี่ประเภท (5 ประเภท) อะไรบา้ ง วธิ ีจดั กจิ กรรม (ขวดน�ำ้ ดม่ื ขวดนมสด ขวดน�ำ้ เตา้ หู้ ขวดน�ำ้ ผลไม้ 1. ครแู บ่งนักเรยี นเป็นกล่มุ กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน แล้วแจกบัตรขอ้ มูลกลุ่มละ 1 บัตร และขวดนมเปรี้ยว) 2. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มเขยี นแผนภูมริ ปู ภาพแสดงข้อมูลทอี่ ยใู่ นบัตร 3. ใหต้ ัวแทนแตล่ ะกลุ่มออกมานาำ เสนอ − ก�ำ หนดให้ 1 รปู แทนจ�ำ นวนกข่ี วด (10 ขวด) เฉลย | 177สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี − ถา้ มีขวดน�้ำ ดมื่ 40 ขวด ตอ้ งระบายสี จ�ำ นวนนกั เรยี นที่เลีย้ งสตั ว์ชนดิ ตา่ ง ๆ กี่รูป (4 รูป) คิดได้อย่างไร ( 1 รูป แทนจ�ำ นวน 10 ขวด ดังน้ันขวดน�้ำ ดม่ื 40 ขวด สนุ ขั หนแู ฮมสเตอร์ นก กระตา่ ย แมว ปลาสวยงาม ตอ้ งระบายสี 4 รูป) กำ�หนดให้ แทนจำ�นวนนกั เรยี น 4 คน จากน้ันครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปสิง่ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้ จ�ำ นวนอาหารจานเดียวทร่ี า้ นอาหารขายได้ ขา้ ว ขา้ วผดั ข้าว ขา้ ว ข้าวผัดปู ผดั ไทย ไขเ่ จยี ว กระเพรา ไกท่ อด ไข่พะโล้ กุง้ สด กำ�หนดให ้ แทนจำ�นวนอาหาร 6 จาน 180 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดียว ค่มู ือครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 ส่งิ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 • การเขยี นแผนภมู ิรปู ภาพต้องมี บทที่ 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว ชอ่ื แผนภมู ิ ตวั แผนภมู แิ ละขอ้ ก�ำ หนด ตรวจสอบความเข้าใจ • ข้อมลู ชดุ เดียวกนั สามารถเขยี น สปั ดาหท์ ่ผี า่ นมาขุนจำาแนกขวดทใ่ี ช้แล้วในโรงเรียนได้เปน็ ขวดน้ำาด่มื 40 ขวด ขวดนมสด 20 ขวด ขวดน้ำาเตา้ หู้ 10 ขวด ขวดน้ำาผลไม้ 35 ขวด และขวดนมเปรย้ี ว 15 ขวด ใหน้ กั เรียน แผนภูมริ ูปภาพโดยใชข้ ้อก�ำ หนดทแ่ี ตกต่างกนั ชว่ ยขุนเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพ จำ�นวนรูปภาพท่ีเขยี นในแผนภมู ริ ปู ภาพ ข้ึนอย่กู ับข้อมลู และข้อก�ำ หนด ช่ือแผนภูมิ ...................จ..�ำ ..น...ว..น...ข...ว..ด...ท..ข่ี...นุ ...เ.ก...บ็ ...ไ.ด...ใ้ .น...โ..ร..ง..เ.ร..ยี...น.................... จากนนั้ ให้นักเรียนท�ำ แบบฝึกหดั 5.3 ขวดนำ้าดื่ม ขวดนมสด ขวดน้ำาเตา้ หู้ ขวดนาำ้ ผลไม้ ขวดนมเปร้ียว หน้า 120 - 124 กาำ หนดให ้ แทนจาำ นวนขวด 10 ขวด 5.4 การอ่านตารางทางเดยี ว (1 ชว่ั โมง) ส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้ จดุ ประสงค์ การเขยี นแผนภูมิรูปภาพต้องมีชอื่ แผนภูมิ ตัวแผนภูมิ และข้อกำาหนด อ่านตารางทางเดยี ว ขอ้ มลู ชดุ เดยี วกนั สามารถเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพโดยใชข้ อ้ กาำ หนด สอื่ การเรยี นรู้ ทีแ่ ตกต่างกัน จำานวนรปู ภาพทีเ่ ขียนในแผนภูมริ ปู ภาพ ขึ้นอยูก่ ับข้อมูลและขอ้ กำาหนด − บตั รภาพรปู ปลาชนดิ ตา่ ง ๆ ในหนา้ 180 แบบฝึกหดั 5.3 แนวการจัดการเรียนร้ ู การพฒั นาความรู้ 178 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. ครูเกรนิ่ น�ำ เขา้ ส่บู ทเรียนว่า นอกจาก หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 การนำ�เสนอข้อมลู ดว้ ยแผนภูมริ ูปภาพแล้ว บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว อาจน�ำ เสนอข้อมูลดว้ ยรูปแบบอ่นื ได้อีก นัน่ คอื ตารางทางเดยี วทเี่ ราจะเรยี นกันในชั่วโมงน้ี 5.4 การอ่านตารางทางเดียว ครเู ล่าสถานการณ์เกี่ยวกบั ข้อมลู การเดินทาง มาโรงเรียนของนักเรียนตามหนงั สอื เรยี น พัฒนาความรู้ หนา้ 179 จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายว่า ตารางทางเดยี วทง้ั สองแบบเหมอื นกันหรือ ข้อมลู การเดนิ ทางมาโรงเรยี นของนกั เรียนโดยพาหนะชนดิ ตา่ ง ๆ ดงั นี้ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร ตวั อย่างคำ�ตอบ เชน่ รถยนต ์ 13 คน รถเมล์ 5 คน รถสองแถว 6 คน รถตรู้ ับจ้าง 5 คน − ชอ่ื ตารางเหมือนกนั การนาำ เสนอขอ้ มูลนอกจากนาำ เสนอด้วยแผนภมู ิรูปภาพแลว้ ชือ่ ตาราง − หวั ตารางมี 2 หัวขอ้ เหมอื นกัน อาจนาำ เสนอดว้ ย ตารางทางเดยี ว ดังนี้ − รายละเอียดของขอ้ มูลเหมือนกัน − หวั ตารางอยู่ทศิ ทางต่างกนั จาำ นวนนกั เรียนทเี่ ดินทางมาโรงเรียนโดยพาหนะชนิดต่าง ๆ หวั ตาราง ชนดิ ของพาหนะ จาำ นวน (คน) รายละเอียด รถยนต์ 13 ของขอ้ มลู รถเมล์ 5 รถสองแถว 6 รถตูร้ บั จ้าง 5 หรอื อาจนาำ เสนอด้วยตารางทางเดยี วอกี แบบหนึ่งไดด้ งั น้ี ช่ือตาราง จำานวนนักเรียนท่ีเดนิ ทางมาโรงเรยี นโดยพาหนะชนิดตา่ ง ๆ ชนิดของพาหนะ รถยนต์ รถเมล์ รถสองแถว รถต้รู บั จ้าง จาำ นวน (คน) 13 5 6 5 หัวตาราง รายละเอียดของข้อมลู ตารางทางเดยี ว ประกอบด้วย ช่ือตารางและตารางทมี่ หี ัวตารางและ รายละเอียดของข้อมูล | 179สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 181สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 จากการอภปิ รายนกั เรียนควรได้ข้อสรุปว่า ตารางทางเดยี ว บทที่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว ประกอบดว้ ย ชื่อตารางและตารางทม่ี หี ัวตารางและ รายละเอียดของขอ้ มลู ซงึ่ สามารถเขียนหัวตารางไวท้ าง จาำ นวนนกั เรยี นทีเ่ ดินทางมาโรงเรียนโดยพาหนะชนดิ ตา่ ง ๆ ดา้ นบนหรอื ดา้ นซา้ ยกไ็ ด้ ชนิดของพาหนะ จาำ นวน (คน) 2. ครูให้นกั เรยี นร่วมกนั พิจารณาตารางทางเดียว แสดงจ�ำ นวนนักเรียนทีเ่ ดินทางมาโรงเรียนโดยพาหนะ รถยนต์ 13 ชนิดต่าง ๆ ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 180 จากนน้ั ครูอาจใช้ คำ�ถามเกีย่ วกับตารางทางเดยี ว ใหน้ กั เรยี นหาค�ำ ตอบ รถเมล์ 5 แล้วร่วมกนั ตรวจค�ำ ตอบ เช่น รถสองแถว 6 − ตารางทางเดยี วแสดงอะไร (จ�ำ นวนนกั เรียนที่ เดินทางมาโรงเรยี นโดยพาหนะชนิดตา่ ง ๆ) รถตูร้ ับจา้ ง 5 − ตารางนม้ี ีหัวตารางอย่ดู ้านใด (ดา้ นบน) อ่านขอ้ มูลจากตารางไดด้ ังนี้ − นักเรยี นเดนิ ทางมาโรงเรยี นด้วยพาหนะกชี่ นิด มนี กั เรียนเดินทางมาโรงเรยี นโดยรถยนต ์ 13 คน (4 ชนิด) อะไรบ้าง (รถยนต์ รถเมล์ รถสองแถว รถต้รู ับจา้ ง) − นกั เรียนส่วนใหญ่เดินทางมาโรงเรยี นดว้ ยพาหนะ มนี ักเรียนเดินทางมาโรงเรยี นโดยรถเมล์ 5 คน ชนิดใด (รถยนต์) จากนั้นครูใหน้ ักเรยี นร่วมกนั พิจารณาตารางทางเดยี ว มนี ักเรยี นเดนิ ทางมาโรงเรยี นโดยรถสองแถว 6 คน ทแ่ี สดงจ�ำ นวนปลาสวยงามทร่ี า้ น ป.ปลา ขายไดใ้ น 1 สปั ดาห์ ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 180 ครอู าจแสดงบตั รภาพรูปปลา มีนกั เรียนเดนิ ทางมาโรงเรยี นโดยรถต้รู ับจา้ ง 5 คน แตล่ ะชนดิ ประกอบ เพอ่ื สรา้ งความสนใจใหก้ บั นกั เรยี น เชน่ จำานวนปลาสวยงามที่ร้าน ป.ปลา ขายไดใ้ น 1 สัปดาห์ ชนิดของปลา นอี อน สอดหางดาบ หางนกยงู แพะ เสือเยอรมัน จาำ นวน (ตวั ) 90 84 120 65 75 ใน 1 สปั ดาห์ร้าน ป.ปลา ขายปลาสวยงามไดช้ นิดละกีต่ วั ร้าน ป.ปลา ขายปลานีออนได้ 90 ตัว รา้ น ป.ปลา ขายปลาสอดหางดาบได ้ 84 ตวั และขายปลาหางนกยงู ได ้ 120 ตวั รา้ น ป.ปลา ขายปลาแพะได ้ 65 ตวั และขายปลาเสอื เยอรมนั ได ้ 75 ตวั 180 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทที่ 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว จำานวนนกั เรยี นทเ่ี ขา้ รับบรกิ ารดว้ ยอาการตา่ ง ๆ ทหี่ อ้ งพยาบาลของโรงเรียนในเดอื นพฤศจกิ ายน อาการ จำานวน (คน) ปวดศรี ษะ 52 เปน็ ไข้ 31 ผื่นคัน 25 ปวดท้อง 29 แผลสด 12 ตอบคำาถาม 1 นกั เรยี นเข้ารับบริการที่ห้องพยาบาลดว้ ยอาการปวดทอ้ งจำานวนกี่คน 29 คน 2 นักเรยี นเขา้ รับบริการทีห่ อ้ งพยาบาลดว้ ยอาการใดมากทีส่ ดุ ปวดศรษี ะ 3 เรยี งลาำ ดับอาการตามจำานวนนกั เรยี นเขา้ รับบรกิ ารที่หอ้ งพยาบาล จากนอ้ ยไปมาก แผลสด ผน่ื คนั ปวดทอ้ ง เปน็ ไข้ ปวดศรษี ะ 4 จาำ นวนนกั เรียนเขา้ รับบริการทหี่ อ้ งพยาบาลด้วยอาการปวดศีรษะมากกว่า อาการผ่นื คันเท่าไร 27 คน 5 ในเดอื นพฤศจกิ ายนมนี กั เรียนเข้ารับบรกิ ารทห่ี อ้ งพยาบาลทง้ั หมดก่คี น 149 คน นำาขอ้ มูลไปใช้ประโยชน์ในการเตรียมยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ สาำ หรับห้องพยาบาลและเปน็ ขอ้ มลู พืน้ ฐานในการปอ้ งกัน โรคตา่ ง ๆ ที่จะเกดิ ขนึ้ กับนักเรยี น | 181สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลานอี อน ปลาสอดหางดาบ ปลาหางนกยูง ปลาแพะ ปลาเสือเยอรมนั 182 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกสง่ิ ทท่ี ราบจากตาราง เชน่ − ตารางทางเดยี วแสดงจำ�นวนปลา หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทที่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว สวยงามทีร่ ้าน ป.ปลา ขายไดใ้ น 1 สัปดาห์ − มปี ลา 5 ชนดิ ท่ขี ายได้ใน 1 สปั ดาห์ ตรวจสอบความเขา้ ใจ ไดแ้ กป่ ลานอี อน ปลาสอดหางดาบ ปลาหางนกยงู จาำ นวนหนงั สือทน่ี กั เรียนยืมจากห้องสมุดของโรงเรียนในวันจนั ทร์ถึงวนั ศุกร์ ปลาแพะ และปลาเสอื เยอรมัน วัน จันทร์ อังคาร พธุ พฤหัสบดี ศกุ ร์ − ร้าน ป.ปลาขายปลาหางนกยงู ได้ จำ�นวนมากท่สี ุด จำานวน (เลม่ ) 58 84 109 66 75 3. ครูใหน้ ักเรียนแบง่ กลุม่ ช่วยกนั ตอบ ตอบคำาถาม ค�ำ ถามตามหนงั สือเรียนหน้า 181 แลว้ ครูสมุ่ ให้ นักเรยี นบางกลุม่ ออกมาน�ำ เสนอ ครูและ 1 นกั เรยี นยืมหนงั สือในวนั ใดมากทสี่ ดุ วันพุธ นักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง ถ้ามี 2 นกั เรียนยืมหนงั สอื ในวันองั คารมากกวา่ วันจนั ทร์ก่ีเลม่ 26 เลม่ นักเรียนกลุม่ ใดตอบคำ�ถามผดิ ครูแกไ้ ขใหถ้ กู ต้อง 3 เรียงลำาดับวันตามจาำ นวนหนังสือที่นักเรียนยมื จากน้อยไปมาก จนั ทร์ พฤหสั บดี ศุกร์ องั คาร พธุ ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ วา่ การนำ�เสนอข้อมูลในรูป 4 วันจันทร์ถงึ วนั ศกุ ร์นักเรียนยืมหนงั สอื ท้ังหมดกเ่ี ล่ม 392 เล่ม ตารางทางเดียวสามารถน�ำ ขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชน์ ตอ่ ไปไดง้ า่ ยไม่ตอ้ งเสียเวลาในการเขียนขอ้ มลู ซำ�้ สง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ การนาำ เสนอขอ้ มลู อาจนาำ เสนอด้วยตารางทางเดียว ตารางทางเดียวประกอบดว้ ย ชอ่ื ตารางและตารางท่มี หี ัวตาราง และรายละเอยี ดของข้อมลู แบบฝกึ หดั 5.4 182 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การตรวจสอบความเขา้ ใจ 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบุคคลโดยให้ตอบคำ�ถามในหนังสือเรียนหนา้ 182 ครอู าจใช้ค�ำ ถามเพมิ่ เตมิ ดังนี้ − ตารางแสดงจ�ำ นวนหนังสอื ท่ีนกั เรยี นยมื กี่วนั (5 วนั ) วันอะไรบ้าง (วันจนั ทร์ วนั องั คาร วนั พุธ วนั พฤหัสบดี วันศุกร์) − วนั พธุ นกั เรยี นยมื หนงั สือกเี่ ลม่ (109 เลม่ ) − ถ้าอยากทราบวา่ นักเรยี นยืมหนงั สอื วนั พธุ มากกว่าวนั องั คารกีเ่ ลม่ ต้องทำ�อย่างไร (น�ำ จ�ำ นวนหนงั สอื ทย่ี มื ในวนั พธุ ลบดว้ ยจ�ำ นวนหนงั สอื ทย่ี มื ในวนั องั คาร จะไดเ้ ปน็ 109 − 84 = 25 เลม่ ) ครูและนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุปส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรู้ สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ •• การนำ�เสนอข้อมูลอาจนำ�เสนอดว้ ยตารางทางเดียว ตารางทางเดยี วประกอบด้วย ชือ่ ตารางและตารางทมี่ หี ัวตารางและรายละเอยี ดของข้อมลู จากนัน้ ให้นักเรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 5.4 หนา้ 125 - 127 | 183สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 5.5 การเขยี นตารางทางเดียว (2 ช่วั โมง) หนังสือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 จุดประสงค ์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว เขยี นตารางทางเดยี วจากข้อมลู ท่เี ปน็ จำ�นวนนบั 5.5 การเขยี นตารางทางเดียว สอ่ื การเรียนรู้ พฒั นาความรู้ − ตารางข้อมลู สภาพอากาศของประเทศไทย ใบบัวสอบถามเพื่อน ๆ เกย่ี วกับงานอดิเรกที่เพ่อื นแต่ละคนทำาไดข้ ้อมลู ดงั น้ี เดอื นกนั ยายน ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 186 อ่านหนังสอื 12 คน เลน่ กีฬา 4 คน ทาำ อาหาร 6 คน รอ้ งเพลง 5 คน นาำ ขอ้ มลู มาเขียนตารางทางเดียวได้อยา่ งไร เขียนชือ่ ตาราง คอื จาำ นวนเพ่ือนที่ทาำ งานอดิเรกประเภทต่าง ๆ เขียนตารางซึ่งมีหวั ตารางและรายละเอียดของขอ้ มูล ได้ตารางทางเดยี ว ดังนี้ จาำ นวนเพอื่ นทที่ าำ งานอดเิ รกประเภทตา่ ง ๆ งานอดเิ รก อา่ นหนังสือ เล่นกฬี า ทาำ อาหาร รอ้ งเพลง 5 แนวการจดั การเรยี นร ู้ จำานวน (คน) 12 4 6 การพฒั นาความรู้ หรอื เขียนตารางทางเดยี วแบบนก้ี ไ็ ด้ จาำ นวนเพอ่ื นทท่ี าำ งานอดเิ รกประเภทตา่ ง ๆ การเขียนตารางทางเดยี วต้องมชี อื่ ตาราง งานอดเิ รก จำานวน (คน) และตารางทม่ี ีหัวตารางและ รายละเอียดของข้อมูล อา่ นหนังสือ 12 1. ครสู าธติ การเขยี นตารางทางเดยี วจากขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ เลน่ กีฬา 4 ทำาอาหาร 6 จ�ำ นวนนบั ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 183 ทลี ะขน้ั ตอนเรม่ิ จาก ร้องเพลง 5 | 183สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเขยี นชอ่ื ตาราง การเขยี นตาราง การเขยี นหวั ตารางและ การเขยี นรายละเอยี ดของขอ้ มลู ในตาราง และครเู นน้ ย�ำ้ วา่ สามารถเขยี นตารางทางเดยี วไดส้ องแบบ ทง้ั แบบทม่ี หี วั ตาราง หนงั สือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทท ่ี 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว อยู่ด้านบนและแบบท่มี หี ัวตารางอยู่ด้านซ้าย แต่ถา้ ขอ้ มูล กจิ กรรม เขยี นตารางทางเดยี ว อปุ กรณ์ บตั รข้อมลู ตัวอยา่ งบัตรขอ้ มลู มหี ลายรายการ การเขยี นตารางแบบทม่ี หี วั ตารางอยดู่ า้ นบน จาำ นวนปากกาประเภทต่าง ๆ ท่ีสหกรณโ์ รงเรียนขายได้ใน 1 สปั ดาห์ ดังน้ี จะสะดวกกวา่ เพราะถา้ เขยี นตารางแบบทม่ี หี วั ตารางอยดู่ า้ นซา้ ย ปากกาแดง 40 ดา้ ม ปากกาน้ำาเงิน 60 ด้าม ปากกาดำา 33 ด้าม ปากกาไวท์บอร์ด 24 ดา้ ม ปากกาเมจิก 35 ดา้ ม ปากกาเน้นขอ้ ความ 18 ด้าม อาจท�ำ ใหก้ ารเขยี นรายละเอยี ดของขอ้ มลู ลงในตารางไมค่ รบถว้ น จาำ นวนนักเรียนระดบั ชน้ั ต่าง ๆ ของโรงเรยี นแหง่ หน่ึง ดงั นี้ 2. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กลุม่ แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่ม ป.1 จาำ นวน 85 คน ป.2 จาำ นวน 116 คน 101 คน ป.3 จาำ นวน 79 คน ป.4 จำานวน 124 คน ท�ำ กจิ กรรม “เขยี นตารางทางเดยี ว” ตามหนังสือเรียนหน้า ป.5 จำานวน 98 คน ป.6 จาำ นวน 184 โดยครูอาจใช้บัตรข้อมลู ทเ่ี ปน็ จำ�นวนนับจากสื่อของ วธิ ีจดั กิจกรรม หนงั สือเรยี นบทน้ใี น QR Code หน้าแรกของบทและครูควร 1. ครแู บง่ นกั เรียนเป็นกล่มุ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ สมุ่ หยบิ บัตรข้อมลู กลมุ่ ละ 1 บัตร 2. ใหน้ ักเรียนเขยี นตารางทางเดียวจากขอ้ มลู ในบัตรขอ้ มูล 3. ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มนาำ เสนอผลงาน แจกกระดาษทมี่ ีเส้นตารางเพ่อื ความสะดวกในการเขียนตาราง ครสู มุ่ นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำ�เสนอจนครบทกุ กลมุ่ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 184 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฉลย 1 จ�ำ นวนปากกาประเภทต่าง ๆ ทสี่ หกรณโ์ รงเรียนขายได้ใน 1 สัปดาห์ 2 จ�ำ นวนนักเรยี นระดบั ชั้นตา่ ง ๆ ของโรงเรียนแห่งหน่ึง ปากกาประเภทตา่ ง ๆ ปากกาแดง ปากกาด�ำ ปากกาเมจกิ ปากกา ปากกา ปากกา ระดับชัน้ ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 น�ำ้ เงนิ ไวทบ์ อรด์ เนน้ ขอ้ ความ จ�ำ นวน (ด้าม) 40 33 35 60 24 18 จำ�นวน (คน) 85 116 79 101 98 124 หรอื จำ�นวนปากกาประเภทตา่ ง ๆ ที่สหกรณ์โรงเรยี นขายไดใ้ น 1 สัปดาห์ หรอื จ�ำ นวนนักเรียนระดับชั้นตา่ ง ๆ ของโรงเรยี นแห่งหนงึ่ ปากกาประเภทตา่ ง ๆ จ�ำ นวน (ดา้ ม) ระดบั ชั้น จ�ำ นวน (คน) ป.1 85 ปากกาแดง 40 ป.2 116 ปากกาด�ำ 33 ป.3 79 ปากกาเมจกิ 35 ป.4 101 ปากกานำ�้ เงิน 60 ป.5 98 ปากกาไวท์บอร์ด 24 ป.6 124 ปากกาเนน้ ข้อความ 18 184 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว คมู่ ือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 1 3. จากนัน้ ครูให้นักเรียนแต่ละกล่มุ หนังสือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 ชว่ ยกันเขยี นตารางทางเดียวจากข้อมลู ที่เปน็ บทท ี่ 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว จ�ำ นวนนบั ตามหนังสอื เรียนหน้า 185 กลมุ่ ละ 1 ข้อโดยครใู ชค้ �ำ ถามเพื่อชว่ ยใหน้ ักเรยี น เขยี นตารางทางเดียวจากข้อมูลทก่ี ำาหนด เขียนตารางทางเดยี วได้ เช่น ในขอ้ 1 ครอู าจ ใช้คำ�ถาม ดังน้ี 1 จำานวนเงนิ ออมของใบบวั ในเวลา 6 เดอื น ดังนี้ − ชอ่ื ตารางคอื อะไร (จำ�นวนเงนิ ออม มกราคม 320 บาท กมุ ภาพนั ธ ์ 232 บาท ของใบบัวในเวลา 6 เดอื น) มีนาคม 175 บาท เมษายน 456 บาท พฤษภาคม 214 บาท มถิ ุนายน 270 บาท − จะตอ้ งมหี ัวตารางก่ชี อ่ ง (2 ช่อง) อะไรบ้าง (เดือนและจ�ำ นวนเงิน (บาท)) 2 พลงั งานทีร่ ่างกายไดร้ ับจากอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ ดงั นี้ − จะตอ้ งมีช่องรายละเอยี ดของข้อมูล ขา้ วราดคะน้าน้ำามันหอย 1 จาน 220 กิโลแคลอร่ี กี่ช่อง (6 ชอ่ ง) อะไรบา้ ง (มกราคม กุมภาพันธ์ ข้าวไข่เจยี ว 1 จาน 445 กิโลแคลอรี่ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มถิ นุ ายน) ข้าวกุง้ ทอดกระเทยี ม 1 จาน 495 กิโลแคลอรี่ ในขอ้ 2 ครูอาจใช้ค�ำ ถามดงั น้ี ขา้ วหมกึ ผดั นา้ำ พรกิ เผา 1 จาน 535 กิโลแคลอรี่ − ช่ือตารางคอื อะไร (พลังงานที่ร่างกาย ข้อมูลจากกองโภชนาการกรมอนามยั ไดร้ บั จากอาหารชนิดตา่ ง ๆ 1 จาน) กโิ ลแคลอร่ ี เปน็ หนว่ ยวดั พลงั งาน มักจะเหน็ ได้จาก − จะตอ้ งมหี วั ตารางกชี่ ่อง (2 ช่อง) ฉลากข้างกล่องบรรจุอาหารตา่ ง ๆ มไี วเ้ พ่อื บอกปรมิ าณ อะไรบ้าง (ชอ่ื อาหารและพลงั งาน (กโิ ลแคลอร่)ี ) แคลอรี่ของอาหารทีไ่ ด้รับเม่ือทานอาหารน้นั เข้าไป − จะตอ้ งมีช่องรายละเอยี ดของข้อมูล กช่ี อ่ ง (4 ชอ่ ง) อะไรบา้ ง (ขา้ วราดคะนา้ น�ำ้ มนั หอย | 185สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขา้ วไข่เจียว ข้าวกงุ้ ทอดกระเทียม ขา้ วหมกึ ผดั นำ�้ พรกิ เผา) เฉลย จำ�นวนเงินออมของใบบวั ในเวลา 6 เดือน 1 มกราคม กุมภาพนั ธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถนุ ายน เดอื น เงนิ (บาท) 320 232 175 456 214 270 หรือ จ�ำ นวนเงินออมของใบบวั ข้อในเวลา 6 เดอื น เดือน เงนิ (บาท) มกราคม 320 กมุ ภาพนั ธ์ 232 มนี าคม 175 เมษายน 456 พฤษภาคม 214 มถิ ุนายน 270 2 พลงั งานท่รี ่างกายได้รบั จากอาหารชนดิ ต่าง ๆ 1 จาน อาหาร ข้าวราดคะน้า ขา้ วไข่เจยี ว ข้าวกงุ้ ข้าวหมกึ พลงั งาน นำ�้ มันหอย 445 ทอดกระเทยี ม ผดั นำ้�พริกเผา (กิโลแคลอร่ี) 220 495 535 หรอื พลงั งานทร่ี า่ งกายไดร้ บั จากอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ 1 จาน อาหาร พลงั งาน (กโิ ลแคลอร่ี) ข้าวราดคะน้านำ้�มนั หอย 220 ขา้ วไข่เจยี ว 445 ขา้ วก้งุ ทอดกระเทยี ม 495 ข้าวหมึกผดั น�้ำ พรกิ เผา 535 | 185สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 4. ครูติดตารางข้อมลู สภาพอากาศของ หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 ประเทศไทยเดอื นกันยายนตามหนงั สอื เรียน บทท่ี 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดียว หน้า 186 แล้วใหน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ ข้อมลู สภาพอากาศของประเทศไทยเดือนกนั ยายนเป็นดังน้ี ตอบคำ�ถามดงั น้ี 123456 7 − เดอื นกนั ยายนมีก่วี นั (30 วัน) 14 − เดอื นกันยายนเป็นฤดูกาลใดของ 8 9 10 11 12 13 21 ประเทศไทย (ฤดูฝน) 28 15 16 17 18 19 20 ฝนฟา้ คะนอง 22 23 24 25 26 27 29 30 สัญลักษณ์แทนสภาพอากาศ มเี มฆบางสว่ น ฝนเลก็ นอ้ ย ทอ้ งฟา้ โปรง่ มเี มฆมาก ครอู าจอธบิ ายเพม่ิ เติมว่าประเทศไทยมี 3 ฤดกู าล ชว่ ยกนั สรุปสภาพอากาศเดอื นกนั ยายน ได้แก่ ฤดรู อ้ น (กลางเดอื นกมุ ภาพันธ์ถึงกลางเดอื น ทอ้ งฟ้าโปรง่ 7 วนั พฤษภาคม) ฤดฝู น (กลางเดือนพฤษภาคมถึง มีเมฆมาก 6 วัน มีเมฆบางสว่ น 5 วนั กลางเดอื นตลุ าคม) และฤดหู นาว (กลางเดอื น ฝนเลก็ นอ้ ย 8 วนั ตุลาคมถึงกลางเดือนกมุ ภาพันธ)์ ทีม่ า: สารานุกรมไทยส�ำ หรับเยาวชนฯ เล่มที่ 4 ฝนฟา้ คะนอง 4 วัน เรอื่ งที่ 6 ภมู ิอากาศ เขยี นตารางทางเดยี วจากข้อมูล ดังนี้ − เดอื นกนั ยายนมสี ภาพอากาศกแ่ี บบ (5 แบบ) แบบใดบา้ ง (ทอ้ งฟา้ โปรง่ มีเมฆมาก จำานวนวันทีม่ ีสภาพอากาศประเภทตา่ ง ๆ ของประเทศไทยเดือนกันยายน สภาพอากาศ ทอ้ งฟ้าโปร่ง มีเมฆมาก มเี มฆบางส่วน ฝนเล็กนอ้ ย ฝนฟา้ คะนอง จาำ นวน (วนั ) 7 6 5 8 4 186 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มเี มฆบางส่วน ฝนเลก็ นอ้ ย และฝนฟ้าคะนอง) − ตารางในหน้า 186 มหี วั ตารางอยู่ด้านใด (ดา้ นซา้ ย) ครยู กตัวอยา่ งการเขียนตารางทางเดยี วท่เี ป็นการน�ำ เสนอขอ้ มลู เดียวกันแต่เขียนหัวตาราง ไว้ดา้ นบน ดงั นี้ จ�ำ นวนวันทีม่ ีสภาพอากาศประเภทต่าง ๆ ของประเทศไทยเดือนกันยายน สภาพอากาศ จ�ำ นวน (วัน) ทอ้ งฟ้าโปร่ง 7 มเี มฆมาก 6 มเี มฆบางสว่ น 5 ฝนเล็กน้อย 8 ฝนฟา้ คะนอง 4 186 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 5. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั เขยี น ตารางทางเดียวแสดงจำ�นวนจังหวดั ท่มี ีสภาพ หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 ปา่ ไมแ้ บบตา่ ง ๆ ของประเทศไทยตามหนงั สอื เรยี น บทที่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว หน้า 187 โดยครูใชค้ �ำ ถามชว่ ยให้นกั เรียน เขยี นตารางทางเดียวได้ ดงั นี้ เขยี นตารางทางเดยี วแสดงจาำ นวนจงั หวดั ทม่ี สี ภาพปา่ ไมแ้ บบตา่ ง ๆ ของประเทศไทย − ประเทศไทยมกี ่ีจังหวัด (77 จังหวัด) เชยี งราย − สภาพปา่ ไม้ในประเทศไทยมกี ีแ่ บบ (4 แบบ) แมฮ� �องสอน พะเยา − อะไรบา้ ง (แหง้ แลง้ เริ่มจะแล้ง คอ่ นขา้ งอุดมสมบูรณ์ และอุดมสมบูรณ)์ เชียงใหม� ลำปาง นา� น − จากรปู แผนท่ปี ระเทศไทย จังหวดั ทม่ี สี ีเขียวเขม้ แสดงถงึ อะไร (จังหวัดท่ีมปี า่ ลำพูน แพร� บงึ กาฬ อุดมสมบูรณ์) − มกี ี่จงั หวัด (3 จงั หวดั ) หนองคาย − จากรปู แผนทป่ี ระเทศไทย จังหวดั ที่มีสีเขยี วอ่อนแสดงถงึ อะไร (จงั หวดั ทมี่ ีป่า อตุ รดิตถ� เลย อดุ รธานี นครพนม คอ่ นขา้ งอดุ มสมบรู ณ)์ ตาก สุโขทัย พษิ ณโุ ลก หนองบัวลำภู สกลนคร − มีก่ีจงั หวัด (10 จังหวดั ) − จากรปู แผนที่ประเทศไทย จังหวัดที่มี ขอนแก�น กาฬสินธุ� มุกดาหาร สีเหลืองแสดงถงึ อะไร (จังหวัดท่มี ีปา่ เริม่ จะแลง้ ) มกี จี่ งั หวัด (23 จงั หวดั ) กำแพงเพชร พจิ ิตร เพชรบรู ณ� − จากรปู แผนท่ปี ระเทศไทย จังหวัด ชัยภูมิ ทม่ี ีสสี ้มแสดงถงึ อะไร (จงั หวัดท่มี ปี ่าแห้งแลง้ ) มหาสารคาม ยโสธร − มกี ่จี งั หวัด (41 จังหวัด) − ตารางทางเดียวมีช่อื ตารางวา่ อะไร นครสวรรค� ร�อยเอด็ อำนาจเจรญิ (จำ�นวนจังหวดั ที่มสี ภาพป่าไม้แบบตา่ ง ๆ ของประเทศไทย) อทุ ยั ธานี อบุ ลราชธานี ศรีสะเกษ ชัยนาท ลพบรุ ี นครราชสมี า กาญจนบรุ ี สพุ รรณบุรี สิงห�บรุ ี บุรีรมั ย� สุรินทร� อา� งทอง สระบุรี พระนครศรี อยุธยา นครนายก สมทุ รสงคราม ปทุมธานี ปราจีนบุรี นครปฐม ฉะเชิงเทรา สระแก�ว ราชบุรี ชลบรุ ี เพชรบรุ ี ระยอง จันทบุรี ตราด ประจวบครี ขี นั ธ� สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรสาคร ชุมพร ระนอง สรุ าษฎร�ธานี แหง� แลง� พังงา นครสีธรรมราช (ป�าไมเ� หลือนอ� ยกวา� 21%) ภูเก็ต กระบี่ เรมิ่ จะแล�ง ตรัง พัทลงุ (ป�าไม�เหลอื 21%-50%) สตูล สงขลา ปต� ตานี ยะลา ค�อนขา� งอุดมสมบูรณ� นราธิวาส (ป�าไมเ� หลอื 51%-70%) อดุ มสมบรู ณ� (ป�าไมเ� หลือมากกวา� 70%) | 187สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฉลย จ�ำ นวนจังหวัดท่ีมสี ภาพปา่ ไมแ้ บบต่าง ๆ ของประเทศไทย สภาพป่าไม้ แห้งแลง้ เร่มิ จะแล้ง คอ่ นข้าง อุดมสมบรู ณ์ อดุ มสมบรู ณ์ จ�ำ นวน (จงั หวดั ) 41 23 10 3 หรือ จำ�นวนจังหวดั ทม่ี สี ภาพป่าไม้แบบต่าง ๆ ของประเทศไทย สภาพป่าไม้แบบตา่ ง ๆ จำ�นวน (จังหวัด) แห้งแล้ง 41 เร่ิมจะแล้ง 23 ค่อนข้างอุดมสมบรู ณ์ 10 อดุ มสมบูรณ์ 3 | 187สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 ครสู ุม่ นักเรยี นบางกลมุ่ ออกมาน�ำ เสนอตารางทางเดยี วทง้ั สองแบบ ได้แก่ แบบทม่ี หี วั ตารางอยู่ดา้ นบน จ�ำ นวนจงั หวัดทีม่ สี ภาพป่าไมแ้ บบตา่ ง ๆ ของประเทศไทย สภาพป่าไมแ้ บบต่าง ๆ จ�ำ นวน (จังหวดั ) แหง้ แลง้ 41 เร่ิมจะแลง้ 23 ค่อนขา้ งอุดมสมบรู ณ์ 10 อุดมสมบูรณ์ 3 แบบที่มีหวั ตารางอยู่ด้านซ้าย จ�ำ นวนจังหวัดที่มสี ภาพปา่ ไม้แบบตา่ ง ๆ ของประเทศไทย สภาพป่าไมแ้ บบต่าง ๆ แห้งแลง้ เริ่มจะแลง้ ค่อนข้างอุดมสมบรู ณ์ อดุ มสมบูรณ์ จ�ำ นวน (จงั หวัด) 41 23 10 3 เฉลย หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.3 จำำ�นวนผัักชนิิดต่า่ ง ๆ ที่�แ่ ก้ว้ ตาเก็็บได้ใ้ นโรงเรีียนในวัันจันั ทร์์ บทท่ ี 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว ตรวจสอบความเขา้ ใจ ชนดิ ของผกั ผกั ชี คะนา้ ผักกาดหอม กวางตุ้ง ตน้ หอม เขียนตารางทางเดยี วจากข้อมูลที่กาำ หนด จำ�นวน (ต้น) 130 91 35 40 37 วนั จันทร์แกว้ ตานับจาำ นวนผกั ท่ีเก็บในโรงเรยี นได้ข้อมลู ดังนี้ ผักช ี 130 ตน้ หรอื คะน้า 91 ต้น จำ�ำ นวนผักั ชนิดิ ต่่าง ๆ ที่แ�่ ก้ว้ ตาเก็บ็ ได้้ในโรงเรีียนในวัันจันั ทร์์ ผักกาดหอม 35 ตน้ กวางต้งุ 40 ตน้ ชนิดของผัก จ�ำ นวน (ต้น) ต้นหอม 37 ตน้ ผักชี 130 คะนา้ 91 ผกั กาดหอม 35 กวางตุ้ง 40 ตน้ หอม 37 สงิ่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ แบบฝกึ หดั 5.5 การเขยี นตารางทางเดียวตอ้ งมชี ่ือตารางและตารางที่มหี วั ตาราง และรายละเอียดของขอ้ มลู 188 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การตรวจสอบความเข้าใจ 6. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยใหน้ กั เรยี นเขียนตารางทางเดียวจาก ขอ้ มูลทกี่ ำ�หนดให้ ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 188 โดยครอู าจใชค้ ำ�ถามเพอื่ ช่วยให้นกั เรียนเขียนตาราง ทางเดยี วได้ ดงั น้ี 188 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว คู่มือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 − ตารางน้มี ชี ่ือตารางวา่ อะไร (จำ�นวนผักชนิดตา่ ง ๆ ที่แก้วตาเกบ็ ไดใ้ นโรงเรยี นในวนั จันทร)์ − หวั ตารางมีกชี่ ่อง (2 ชอ่ ง) − หวั ตารางจะเขียนวา่ อะไรบา้ ง (ชนิดของผักและจ�ำ นวน (ตน้ )) − ถ้าเขียนตารางท่มี ีหัวตารางอยู่ดา้ นบนสว่ นรายละเอียดของข้อมลู จะมีกีแ่ ถว (5 แถว) ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบตารางทางเดยี วท่ีเขียนได้ดังนี้ แบบทีม่ หี วั ตารางอยู่ดา้ นบน จ�ำ นวนผกั ชนดิ ตา่ ง ๆ ทีแ่ ก้วตาเก็บได้ในโรงเรียนในวันจนั ทร์ ชนิดของผัก จ�ำ นวน (ตน้ ) ผักชี 130 คะน้า 91 ผกั กาดหอม 35 กวางตุง้ 40 ต้นหอม 37 แบบท่ีมหี วั ตารางอยู่ดา้ นซ้าย จำ�นวนผักชนดิ ตา่ ง ๆ ท่แี ก้วตาเก็บได้ในโรงเรยี นในวนั จันทร์ ชนดิ ของผัก ผักชี คะนา้ ผักกาดหอม กวางตงุ้ ต้นหอม จ�ำ นวน (ตน้ ) 130 91 35 40 37 จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ สง่ิ ท่ีได้เรยี นรู้ การเขียนตารางทางเดียวต้องมชี ือ่ ตารางและตารางทมี่ ีหวั ตารางและรายละเอยี ดของข้อมูล จากนั้นใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 5.5 หน้า 128 - 132 | 189สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 ร่วมคิดรว่ มทำ� (1 ชว่ั โมง) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 กิจกรรม บทท่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว อาหารสุดโปรด รว่ มคดิ ร่วมทาำ อุปกรณ์ กจิ กรรม อาหารสดุ โปรด − กระดาษ A4 ตดั เปน็ 4 สว่ นเทา่ ๆ กนั อปุ กรณ์ กระดาษสำาหรบั เขียนช่ืออาหาร (กระดาษ A4 ตัดเป็น 4 สว่ นเท่า ๆ กนั ) − กระดาษกาวยน่ กระดาษกาวยน่ และบัตรขอ้ มลู − บตั รข้อมูล วิธีจัดกจิ กรรม วธิ ีจดั กิจกรรม 1. ครูแจกกระดาษใหน้ กั เรยี นคนละ 1 แผน่ เขยี นชือ่ อาหารที่ตนเองชอบมากท่สี ุด 1 อยา่ ง เชน่ ไก่ทอด แกงจดื ไข่เจียว แกงเขยี วหวาน ข้าวผดั แล้วนาำ ไปตดิ 1. ครใู หน้ ักเรียนทำ�กจิ กรรม บนกระดาน “อาหารสุดโปรด” ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 189 ถา้ นกั เรยี นมีจำ�นวนน้อย ครอู าจใชบ้ ตั รข้อมลู 2. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายเพ่ือหาข้อสรปุ ประเภทของอาหารทีน่ กั เรียนชอบ เชน่ ประเภททอด ประเภทต้ม ประเภทผัด ประเภทแกง 3. นักเรียนนาำ กระดาษทีเ่ ขียนชอ่ื อาหารของตนเองไปติดตามประเภทอาหาร 4. ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน ใหแ้ ต่ละกลุ่มนำาเสนอข้อมูล ดว้ ยตารางทางเดียว แลว้ ออกมานาำ เสนอพร้อมตงั้ คาำ ถามเก่ียวกับข้อมลู ในตาราง ใหเ้ พอ่ื นในห้องชว่ ยกันตอบ หมายเหต ุ กรณีท่มี จี าำ นวนนกั เรียนนอ้ ย ครอู าจจัดกจิ กรรมโดยใชข้ อ้ มูล ในบัตรข้อมลู ตวั อยา่ งบัตรข้อมูล ข้าวมันไก่ ขา้ วผดั แกงสม้ ไขต่ ม้ ไก่ทอด ผดั วนุ้ เสน้ แกงเขยี วหวาน ไขล่ ูกเขย แกงจืดฟัก ผดั ผักรวม ปลาทอด บวบผดั ไข่ ไขเ่ จียว หมูทอด ต้มยำา ไขพ่ ะโล้ จากส่อื เพิ่มเตมิ ในหนังสอื เรยี นบทน้ี ปลาททู อด ยาำ ไส้กรอก ต้มข่าไก่ แกงจืดเตา้ หู้ จาก QR Code หน้าแรกของบท แบบฝึกทา้ ทาย 2. ครอู าจชว่ ยตรวจสอบความถูกต้อง | 189สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของขอ้ มูล กอ่ นท่นี ักเรยี นจะนำ�ขอ้ มลู ไปเขียน ตารางทางเดยี ว 3. เม่ือนักเรียนตอ้ งตั้งคำ�ถามเกยี่ วกบั ข้อมูลในตาราง ให้เพ่อื นช่วยกนั ตอบ ครูอาจชว่ ยให้คำ�ชแี้ นะในการสรา้ งคำ�ถามท่ีมคี วามหลากหลาย จากน้นั ใหน้ กั เรียนทำ�แบบฝกึ ท้าทาย หน้า 133 - 135 190 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว คู่มือครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 คณติ คิดท้าทาย 1. (NT 2561) รา้ นค้าสหกรณ์โรงเรยี นตดิ ราคาสินคา้ ดังตาราง รายการ ราคาต่อหนว่ ย (บาท) สมุดปกแข็ง 25 สมุดวาดเขียน 10 ดินสอ 5 ไม้บรรทดั 5 ยางลบ 5 สีไม้ 35 สดุ าเลือกซือ้ สนิ ค้าตามข้อใด จ่ายเงินนอ้ ยทสี่ ดุ 1) สมุดปกแข็ง 2 เล่ม ดินสอ 3 แทง่ 2) สมุดปกแขง็ 3 เลม่ สมดุ วาดเขียน 1 เลม่ 3) สมดุ ปกแข็ง 1 เลม่ สีไม้ 1 กลอ่ ง 4) สไี ม้ ดนิ สอ ยางลบ และไมบ้ รรทัด อยา่ งละ 1 ชิน้ 2. (NT 2561) แผนภูมิแสดงจ�ำ นวนสตั ว์ชนดิ ตา่ ง ๆ ในสวนสัตวแ์ ห่งหน่งึ ดังน้ี ลิง เสือ ชา้ ง ม้า ฮิปโป ก�ำ หนดให้ รูปสตั ว์ 1 รปู แทนจำ�นวนสัตว์ 10 ตัว จากแผนภูมิ ขอ้ ใดถูกต้อง 1) จำ�นวนชา้ งรวมกบั ม้า มีจำ�นวนมากกวา่ ลิง 2) จำ�นวนฮิปโปรวมกับเสือ มจี �ำ นวนนอ้ ยกวา่ ช้าง 3) ลิงมีจำ�นวนเทา่ กบั จ�ำ นวนของเสอื รวมกับชา้ ง 4) สวนสตั ว์แห่งนมี้ จี ำ�นวนสัตว์ทั้งหมด 120 ตวั | 191สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 3. (NT 2559) อายุของพนักงาน 4 คน ของบริษทั แหง่ หน่งึ ในเดอื นเมษายน ปี 2559 เปน็ ดงั น้ี ช่อื ปอง แพรว แปน้ จอย อายุ 25 ปี 3 เดือน 27 ปี 8 เดอื น 29 ปี 2 เดือน 24 ปี 8 เดือน จากขอ้ มลู ข้างต้น ข้อใดถูกตอ้ ง 1) แปน้ อายมุ ากกวา่ แพรว 4 เดอื น และจอยอายนุ อ้ ยกว่าปอง 1 ปี 5 เดอื น 2) แป้นอายุมากกวา่ แพรว 4 เดอื น และจอยอายนุ ้อยกวา่ ปอง 7 เดือน 3) แปน้ อายุมากกว่าแพรว 1ปี 6 เดอื น และจอยอายุน้อยกว่าปอง 1 ปี 5 เดอื น 4) แปน้ อายุมากกวา่ แพรว 1ปี 6 เดอื น และจอยอายนุ อ้ ยกวา่ ปอง 7 เดอื น 4. (NT 2559) เดก็ หญิงแหวนใจไปเยยี่ มลงุ จันทบี่ ้าน พบวา่ ลุงจันเลย้ี งสตั วไ์ ว้ ดังนี้ ไก่ 12 ตัว เปด็ นอ้ ยกว่าไก่ 4 ตวั หา่ นนอ้ ยกว่าเป็ด 5 ตวั และวัวมากกวา่ ห่าน 1 ตวั จากข้อมลู ข้างตน้ การนำ�เสนอข้อมลู จำ�นวนสตั วเ์ ลยี้ งของลงุ จันในข้อใดถูกต้อง ชนดิ จ�ำ นวน (ตวั ) 2) ชนดิ จ�ำ นวน (ตวั ) เปด็ 1) ว วั ห่าน ไก่ หา่ น วัว เปด็ ไก่ ชนดิ จ�ำ นวน (ตวั ) ชนดิ จ�ำ นวน (ตวั ) ไก่ 3) หา่ น 4) ววั หา่ น ไก่ เปด็ วัว เปด็ 192 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดียว คมู่ ือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 5. (NT 2559) จำ�นวนเงนิ ท่ไี ด้มาโรงเรยี นในเวลา 1 สปั ดาห์ ของนกั เรยี น ช้ัน ป.3 จำ�นวน 5 คน แก้ว เกตุ กอ้ ง ไก่ กิง่ กำ�หนดให้ แทนจำ�นวนเงนิ 20 บาท จากขอ้ มูลขา้ งตน้ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง 1) เกตุได้เงนิ นอ้ ยท่ีสดุ ซงึ่ เทา่ กับ 180 บาท 2) แกว้ ไดเ้ งิน 220 บาท ซงึ่ มากกวา่ เงนิ ของกง่ิ 40 บาท 3) จ�ำ นวนเงินของไกก่ ับกิ่งรวมกนั มากกว่าจำ�นวนเงนิ ของก้อง 220 บาท 4) จ�ำ นวนเงนิ ของเกตกุ บั กง่ิ รวมกนั นอ้ ยกว่าจ�ำ นวนเงนิ ของก้องกบั ไก่รวมกัน 80 บาท 6. (NT 2558) สุรวฒุ ปิ ลกู ตน้ ไม้ 5 ชนิด ไวใ้ นสวน ดังนี้ จำ�นวนตน้ ไม้ 5 ชนดิ ในสวนของสรุ วฒุ ิ ชนดิ ต้นไม้ เงาะ ละมุด มะม่วง ชมพู่ 55 จำ�นวน (ตน้ ) 135 80 97 จากขอ้ มูล ข้อใดถกู ตอ้ ง 1) ปลูกตน้ เงาะมากกว่าต้นละมุดรวมกบั ตน้ ชมพู่ 2) ปลูกต้นเงาะมากกว่าตน้ ละมดุ รวมกบั ตน้ มะมว่ ง 3) ผลรวมของจ�ำ นวนต้นไมท้ ง้ั 4 ชนดิ เทา่ กับ 367 ตน้ 4) ปลูกต้นเงาะรวมกบั ต้นชมพูม่ ากกวา่ ต้นละมดุ รวมกับต้นมะมว่ งอยู่ 17 ต้น | 193สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 7. (NT 2558) พจิ ารณาแผนภูมิ แสดงจำ�นวนนกั เรยี นช้นั ป.1 ถึง ป.4 ของโรงเรียนบา้ นแสนสุขวทิ ยา ปีการศกึ ษา 2557 จ�ำ นวนนักเรยี น ป.1-ป.4 โรงเรียนบา้ นแสนสุขวทิ ยา ปีการศึกษา 2557 ชั้น จำ�นวนนกั เรียน (คน) ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ก�ำ หนด แทนนักเรยี น 3 คน จากขอ้ มลู ถ้าต้องการให้นักเรยี นเลน่ เกมเปน็ ทมี ทมี ละ 5 คน นักเรยี นชนั้ ใดที่จะได้เลน่ เกม เปน็ ทีมโดยไมม่ ีนกั เรยี นเหลือเป็นกองเชียร์ 1) ป.1 2) ป.2 3) ป.3 4) ป.4 194 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว คมู่ อื ครูรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 ตัวอยา่ งแบบทดสอบท้ายบท ตัวอยา่ งแบบทดสอบนี้ใชใ้ นการประเมนิ ผลระหวา่ งเรียนเพอื่ พัฒนานกั เรียนหากมนี กั เรียนคนใด ทไี่ ม่สามารถท�ำ แบบทดสอบนไี้ ดค้ รูควรให้นักเรยี นคนนน้ั ฝกึ ทกั ษะมากขนึ้ โดยอาจใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ในหนงั สือเสริมเพม่ิ ปัญญาของสสวท.หรือแบบฝกึ อนื่ ทีเ่ ห็นว่าสมควร ซง่ึ แบบทดสอบทา้ ยบทน้ี มจี ำ�นวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ใชเ้ วลาในการทำ�แบบทดสอบ 20 นาที และวิเคราะห์เป็น รายจุดประสงค์การเรียนรู้ไดด้ งั นี้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขอ้ ท่ี 1. เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและจำ�แนกข้อมูล 1-2 2. อ่านและเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพ 3-6 3. ใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมิรูปภาพในการหาค�ำ ตอบของโจทย์ปญั หา 3-5 4. อ่านและเขียนตารางทางเดยี วจากขอ้ มูลท่เี ป็นจ�ำ นวนนบั 7-8 5. ใช้ขอ้ มลู จากตารางทางเดยี วในการหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา 9 - 10 ตวั อย่างแบบทดสอบทา้ ยบท บทท่ี 5 เลอื ก ก ข หรือ ค ท่เี ป็นค�ำ ตอบทถ่ี กู ต้อง 1. ครูสอบถามนักเรียนหอ้ ง ป.3/2 วา่ ชอบกนิ อะไรมากท่สี ดุ ได้ข้อมลู ดังนี้ ทุเรยี น ไอศกรีม ขา้ วหมูแดง แตงโม ข้าวเหนยี วมะมว่ ง ก๋วยเต๋ยี ว ไกท่ อด ราดหนา้ ไขพ่ ะโล้ เค้ก เยลล่ี กุ้งเผา หมึกยา่ ง ชมพู่ ส้มโอ มะมว่ ง ก้งุ อบวนุ้ เสน้ ชอ็ กโกแลต ปูนง่ึ สตรอวเ์ บอรร์ ี เงาะ ขนมถว้ ย น�ำ้ แข็งใส แกงจืด จากขอ้ มูลครูควรจ�ำ แนกข้อมูลเปน็ กปี่ ระเภท อะไรบ้าง ข้อใดเหมาะสมที่สุด ก. 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภทอาหาร และประเภทไมเ่ ป็นอาหาร ข. 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภทอาหารคาว และประเภทอาหารหวาน ค. 3 ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภทอาหารคาว ประเภทอาหารหวาน และประเภทผลไม้ | 195สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 2. จากข้อมลู ในขอ้ 1 ถ้าจ�ำ แนกขอ้ มลู ออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทผลไม้ และประเภทไมเ่ ป็นผลไม้ เขียนรอยขีดแสดงขอ้ มูลในตารางไดด้ ังนี้ ประเภทข้อมูล รอยขดี ผลไม้ ไมเ่ ปน็ ผลไม้ รอยขีดทแ่ี สดงข้อมลู ประเภทไม่เป็นผลไมต้ รงกบั ข้อใด ก. ข. ค. 3. แผนภูมริ ูปภาพแสดงจ�ำ นวนคนออกก�ำ ลังกายในสวนสาธารณะแห่งหน่งึ 5 วนั ดงั นี้ จำ�นวนคนออกก�ำ ลังกายในสวนสาธารณะแหง่ หน่ึง 5 วัน วนั จันทร์ วันอังคาร วนั พธุ วันพฤหสั บดี วนั ศุกร์ ก�ำ หนดให ้ แทนจ�ำ นวน 50 คน จากแผนภูมิรูปภาพข้อใดต่อไปนก้ี ลา่ วถกู ตอ้ ง ก. วนั พฤหสั บดีมีคนออกกำ�ลงั กายในสวนสาธารณะน้อยกวา่ วันศกุ ร์ 25 คน ข. วันองั คารมคี นออกก�ำ ลงั กายในสวนสาธารณะมากท่สี ุด จ�ำ นวน 250 คน ค. คนออกก�ำ ลังกายในสวนสาธารณะวนั พฤหสั บดีมากกวา่ วันจันทร์ 50 คน 196 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว คู่มือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 จากแผนภมู ริ ูปภาพตอบคำ�ถามข้อ 4 - 6 จ�ำ นวนขนมท่ีสหกรณโ์ รงเรียนขายไดใ้ น 1 วัน ขนมชนั้ โดนทั ขนมตาล ขนมกล้วย เค้ก กำ�หนดให้ แทนขนมจำ�นวน 4 ชน้ิ 4. ถ้าสหกรณโ์ รงเรียนขายขนมกล้วยชน้ิ ละ 8 บาท และเค้กชน้ิ ละ 25 บาท จะขายขนมกล้วย และเคก้ ได้เงนิ กบี่ าท ก. 230 บาท ข. 246 บาท ค. 296 บาท 5. ถา้ สหกรณ์โรงเรยี นขายขนมชั้นไดม้ ากกวา่ โดนทั 8 ชิน้ จะขายโดนัทได้กช่ี ิ้น ก. 12 ช้ิน ข. 28 ชน้ิ ค. 32 ช้ิน 6. ถา้ สหกรณโ์ รงเรยี นขายโดนัทได้ 14 ชิ้น ในแผนภูมริ ปู ภาพตอ้ งวาดรูปแทนจำ�นวนโดนัท ทข่ี ายไดต้ รงกับข้อใด ก. ข. ค. | 197สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 ใชข้ ้อมลู ตอบค�ำ ถามขอ้ 7 – 8 ครูให้นกั เรียนช้นั ป.3 ตดิ บตั รภาพกิจกรรมทน่ี ักเรยี นชื่นชอบบนกระดานไดข้ ้อมลู ดงั นี้ กจิ กรรม จำ�นวน (คน) เลจ่นาดกนขอ้ตมรีูลเขียนเป็นตารางทางเด6ียวได้ดังนี้ เลน่ อนิ เทอรเ์ นต็ 10 เท่ยี วสวนสนกุ 9 อ่านหนังสอื 5 7. ข้อใดเปน็ ข้อมลู ท่เี ติมในตารางทางเดียวให้สมบูรณแ์ ละถกู ตอ้ ง ก. เล่นเทนนิส 6 ข. เล่นฟตุ บอล 3 ค. เล่นกีฬา 6 8. จากตารางทางเดียวขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. นกั เรียนชื่นชอบกจิ กรรมอ่านหนงั สือน้อยทส่ี ดุ ข. นกั เรยี นชืน่ ชอบกจิ กรรมเลน่ อินเทอรเ์ น็ตมากกวา่ กิจกรรมอา่ นหนงั สอื 6 คน ค. นกั เรียนชน่ื ชอบกจิ กรรมเลน่ ดนตรนี ้อยกวา่ กิจกรรมเที่ยวสวนสนุก 2 คน 198 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว คู่มือครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 9. ใบบวั เร่มิ บันทกึ ข้อมูลการออมเงินของตนเองในเดือนมนี าคม พ.ศ. 2563 ดังนี้ จ�ำ นวนเงินออมแต่ละวนั ของใบบวั ในเดือนมนี าคม พ.ศ. 2563 วันท่ี 1 2 3 4 5 6 7 จ�ำ นวนเงิน (บาท) 6 12 18 24 30 36 ......... จากขอ้ มลู ถ้าใบบวั ออมเงนิ ในวันถัดไปเป็นจ�ำ นวนเงินที่เพิม่ ขน้ึ ไปเร่ือย ๆ ในอตั ราทเี่ ท่ากัน ตามตาราง วันที่ 7 มนี าคม 2563 ใบบัวออมเงินก่ีบาท ก. 37 บาท ข. 38 บาท ค. 42 บาท 10. เมื่อครบ 10 วัน ใบบัวออมเงินได้ทงั้ หมดกีบ่ าท ก. 230 บาท ข. 330 บาท ค. 520 บาท เฉลยแบบทดสอบท้ายบท บทท่ี 5 1. ค 2. ข 3. ก 4. ก 5. ก 6. ข 7. ค 8. ก 9. ค 10. ข | 199สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษส่วน ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 บทที่ 6 เศษสว่ น จุดประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ละสาระสำ�คัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำ�คัญ นกั เรียนสามารถ • เศษสว่ นเป็นสญั ลกั ษณ์แสดงจำ�นวน ซึ่งประกอบด้วยตัวเศษและตวั สว่ น ตวั เศษ 1. บอกเศษสว่ นทแ่ี สดงปรมิ าณของสิ่งต่าง ๆ และแสดงสงิ่ ต่าง ๆ ตามเศษสว่ นท่กี �ำ หนด แสดงจ�ำ นวนของสว่ นทกี่ ลา่ วถึง เขียนไว้ โดยที่ตวั เศษนอ้ ยกวา่ หรอื เทา่ กับตวั สว่ น (หัวขอ้ 6.1) ดา้ นบนของเสน้ คัน่ ตวั สว่ นแสดงจ�ำ นวน 2. อา่ นและเขยี นเศษสว่ นแสดงปริมาณของ ของสว่ นท่เี ท่า ๆ กนั ทัง้ หมด เขยี นไวด้ ้านลา่ ง ส่งิ ต่าง ๆ โดยทต่ี ัวเศษนอ้ ยกว่าหรอื เท่ากับ ตวั สว่ น • ของเส้นค่ัน เชน่ 1 1 2 (หัวขอ้ 6.1) 2 4 5 เ ศษส่วนทต่ี ัวเศษเทา่ กับตวั ส่วนมีค่าเทา่ กับ 1 3. เปรยี บเทียบเศษส่วนท่ีตวั สว่ นเทา่ กัน • การเปรียบเทยี บเศษสว่ นที่ตัวส่วนเท่ากนั โดยที่ตัวเศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กับตวั สว่ น ให้ดูทีต่ วั เศษ ถา้ ตัวเศษของเศษส่วนใด (หัวขอ้ 6.2) มากกวา่ เศษสว่ นนัน้ จะมากกว่า • การเรียงล�ำ ดบั เศษส่วนทต่ี วั สว่ นเท่ากัน ใหพ้ ิจารณาตัวเศษ ถ้าเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ น จากมากไปนอ้ ย ใหเ้ ขียนเศษสว่ นเรยี งลำ�ดับ จากเศษส่วนท่ตี ัวเศษมากไปน้อย ถา้ เรยี ง ล�ำ ดับเศษส่วนจากนอ้ ยไปมาก ให้เขียน เศษสว่ นเรยี งลำ�ดบั จากเศษสว่ นที่ตวั เศษ นอ้ ยไปมาก 200 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | เศษส่วน คู่มือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสำ�คญั นกั เรียนสามารถ 4. เปรยี บเทยี บเศษสว่ นท่ีตวั เศษเท่ากัน • การเปรยี บเทยี บเศษสว่ นทต่ี วั เศษเทา่ กนั โดยทีต่ วั เศษน้อยกวา่ หรอื เทา่ กับตวั สว่ น ใหด้ ทู ต่ี วั สว่ น ถา้ ตวั สว่ นของเศษสว่ นใด มากกวา่ เศษสว่ นนน้ั จะนอ้ ยกวา่ (หัวข้อ 6.3) • การเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ นทต่ี วั เศษเทา่ กนั 5. หาผลบวกของเศษส่วนที่ตวั ส่วนเท่ากัน ใหพ้ จิ ารณาตวั สว่ น ถา้ เรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ น โดยทผ่ี ลบวกไมเ่ กิน 1 จากมากไปนอ้ ย ใหเ้ ขยี นเศษสว่ นเรยี งล�ำ ดบั จากเศษสว่ นทต่ี วั สว่ นนอ้ ยไปมาก ถา้ เรยี ง (หวั ข้อ 6.4) ล�ำ ดบั เศษสว่ นจากนอ้ ยไปมาก ใหเ้ ขยี น 6. หาผลลบของเศษส่วนทต่ี ัวสว่ นเท่ากัน เศษสว่ นเรยี งล�ำ ดบั จากเศษสว่ นทต่ี วั สว่ น (หัวขอ้ 6.5) มากไปนอ้ ย 7. แสดงวธิ หี าคำ�ตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก เศษส่วนท่ีตวั ส่วนเทา่ กนั และผลบวก • การหาผลบวกของเศษส่วนทีต่ วั ส่วนเทา่ กัน ไมเ่ กิน 1 ใหน้ �ำ ตัวเศษบวกกัน โดยตัวสว่ นคงเดิม (หัวข้อ 6.6 - 6.7) • การหาผลลบของเศษส่วนท่ตี วั สว่ นเทา่ กนั ให้นำ�ตวั เศษลบกัน โดยตวั สว่ นคงเดมิ • การแกโ้ จทยป์ ญั หาท�ำ ไดโ้ ดยอา่ นท�ำ ความเขา้ ใจ ปญั หา วางแผนแก้ปัญหา หาคำ�ตอบ และ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบ 8. แสดงวธิ ีหาค�ำ ตอบของโจทย์ปัญหาการลบ เศษส่วนทตี่ วั สว่ นเท่ากนั (หัวขอ้ 6.6 - 6.7) | 201สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษสว่ น ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 การวเิ คราะห์เนื้อหากบั ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ หวั ขอ้ เนอื้ หา เวลา ทักษะและกระบวนการ (ชัว่ โมง) ทางคณิตศาสตร์ 1 12345 2 เตรียมความพรอ้ ม 6.1 การอ่านและการเขียนเศษส่วน 6.2 การเปรียบเทียบและเรียงล�ำ ดบั เศษสว่ น 2 ท่ีตวั ส่วนเท่ากนั 6.3 การเปรียบเทยี บและเรียงลำ�ดับเศษสว่ น 2 ทีต่ ัวเศษเท่ากัน 1 6.4 การบวกเศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั 1 6.5 การลบเศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั 1 6.6 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ เศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั (1) 6.7 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ 1 เศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั (2) 1 ร่วมคดิ ร่วมทำ� 1 การแกป้ ญั หา 2 การสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ 3 การเชื่อมโยง 4 การให้เหตุผล 5 การคดิ สร้างสรรค์ 202 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 6 | เศษสว่ น คูม่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 คำ�ส�ำ คญั เศษสว่ น ตวั เศษ ตวั สว่ น การบวกเศษส่วน การลบเศษสว่ น การเปรยี บเทยี บเศษสว่ น โจทยป์ ญั หาการบวกเศษสว่ น โจทยป์ ัญหาการลบเศษส่วน ความรู้หรือทักษะพ้ืนฐานของนกั เรียน 1. การพับกระดาษทเี่ ป็นการแบ่งกระดาษออกเป็นส่วนทเ่ี ท่ากัน 2. รูปเรขาคณติ ชนดิ ตา่ ง ๆ 3. การบวกและการลบจ�ำ นวนนับ 4. การเปรยี บเทียบและเรียงล�ำ ดบั จำ�นวนนบั สอื่ และแหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนหน้า 190 - 227 2. แบบฝึกหดั หน้า 136 - 166 3. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ใบกิจกรรม บัตรภาพตา่ ง ๆ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทีใ่ ช้ประกอบกจิ กรรม ดังนี้ กระดาษรูปสเ่ี หลย่ี มทม่ี คี วามยาวแต่ละดา้ นเท่ากับความกว้างของกระดาษ A4 • บตั รภาพเค้ก • กระดาษแผ่นเล็ก •• ชุดกิจกรรมเศษสว่ นแสนสนกุ ประกอบดว้ ย บตั รเศษส่วน บตั รภาพท่รี ะบายสี แสดงเศษสว่ น และบัตรค�ำ อ่านเศษส่วนอย่างละ 10 บตั ร บัตรภาพโหลแกว้ โหลพลาสติก หรอื เหยือกน�ำ้ • น้�ำ ผลไม้ชนดิ ต่าง ๆ เช่น นำ้�ส้ม น้ำ�ฝร่ัง น้ำ�สบั ปะรด เปน็ ต้น หรือนมเยน็ หรอื นำ้�สี •• แถบกระดาษสี 4. สื่อเพิ่มเตมิ หนา้ 197 และ 227 (Download ไดจ้ าก QR code หน้า 190) เวลาทีใ่ ชจ้ ดั การเรียนรู้ 12 ชว่ั โมง | 203สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | เศษส่วน ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 แกว้ ตาหยิบขนมชั้นใบเตย 4 ชนิ้ กับขนมชัน้ อญั ชนั 1 ชิน้ แกว้ ตาได้ขนมช้นั การจดั การเรยี นรู้ ท้ังหมดคิดเปน็ เศษสว่ นเทา่ ไรของถาด การเตรยี มความพรอ้ ม (1 ชวั่ โมง) ขนมชน้ั ใขบนเตมยชัน้ ใบเตย ขนมชั้นอขญั นชมันชัน้ อัญชนั ขนมเปย� กขปนูนมเป�ยกปูน บทที ่ 6 เศษส่วน ถาดทุกถาดมขี นาดเทา่ กัน และ ขนมทุกถาดตัดเปน็ 6 ชิ้น เท่า ๆ กัน เรยี นจบบทน้ีแล้ว นักเรยี นสามารถ บอกเศษส่วนทแี่ สดงปรมิ าณของส่งิ ต่าง ๆ และแสดงสงิ่ ตา่ ง ๆ ตามเศษส่วนทก่ี าำ หนด โดยที่ตวั เศษน้อยกว่าหรือเทา่ กับตวั สว่ น อา่ นและเขยี นเศษส่วนแสดงปริมาณของส่งิ ตา่ ง ๆ โดยทต่ี ัวเศษ นอ้ ยกว่าหรอื เทา่ กับตวั สว่ น สื่อเพิ่มเติม เปรยี บเทยี บเศษส่วนท่ีตัวสว่ นเท่ากัน โดยท่ตี วั เศษนอ้ ยกว่าหรอื เทา่ กบั ตัวส่วน เปรยี บเทยี บเศษสว่ นที่ตวั เศษเท่ากนั โดยที่ตวั เศษนอ้ ยกวา่ หรอื เทา่ กบั ตัวสว่ น หาผลบวกของเศษสว่ นท่ตี ัวส่วนเท่ากัน โดยทีผ่ ลบวกไม่เกนิ 1 หาผลลบของเศษส่วนท่ตี วั ส่วนเทา่ กัน แสดงวธิ ีหาคำาตอบของโจทย์ปญั หาการบวกเศษสว่ น ที่ตวั สว่ นเทา่ กันและผลบวกไมเ่ กิน 1 แสดงวธิ ีหาคำาตอบของโจทย์ปญั หาการลบเศษส่วน ท่ตี วั สว่ นเท่ากัน 1. ใชข้ ้อมูลในหนังสอื เรียนหน้าเปิดบท สนทนากับนกั เรยี นเพ่ือกระตุ้นความสนใจเก่ยี วกบั สถานการณ์ในชีวิตประจำ�วันและการแบ่งสิง่ ต่าง ๆ ออกเป็นสว่ นทเ่ี ทา่ กนั โดยใชค้ ำ�ถาม เช่น − ในภาพมขี นมอะไรบา้ ง (ขนมชั้นใบเตย ขนมชัน้ อญั ชนั ขนมเปยี กปนู สังขยาฟกั ทอง) − ขนมแต่ละชนดิ มลี กั ษณะอยา่ งไร (ขนมชน้ั และขนมเปียกปูนอยู่ในถาด แตล่ ะถาดมีขนาด เทา่ กัน ขนมแต่ละถาดแบ่งเป็น 6 ช้นิ เทา่ ๆ กัน สังขยาฟักทองแบง่ เปน็ 5 ชิน้ เท่า ๆ กัน) จากนัน้ ครูใชค้ ำ�ถามเกี่ยวกบั การแบง่ ขนมช้ันและขนมเปียกปูนเพื่อนำ�เข้าสูบ่ ทเรยี น เชน่ − ถา้ มีขนมเปียกปูนเตม็ ถาดจะได้ขนมเปียกปูนทั้งหมดก่ีช้ิน (6 ชิ้น) − เหลือขนมเปียกปนู ในถาดกช่ี ้นิ (1 ชิ้น) จากขนมเปียกปนู ทั้งหมดก่ีชิ้น (6 ช้ิน) − กนิ ขนมเปียกปูนไปแล้วก่ีชิ้น (5 ชน้ิ ) − ถาดทแ่ี กว้ ตาถือมขี นมชน้ั กี่ชน้ิ (5 ชนิ้ ) เป็นขนมชนั้ ใบเตยก่ีช้ิน (4 ชิน้ ) เป็นขนมชั้นอญั ชนั กี่ชิ้น (1 ช้นิ ) ถ้าแก้วตามีขนมชั้นเตม็ ถาดจะมีขนมช้นั กี่ชนิ้ (6 ชน้ิ ) แก้วตามีขนมชั้นท้งั หมด คิดเปน็ เศษสว่ นเทา่ ไรของถาด นักเรยี นอาจตอบคำ�ถามสดุ ทา้ ยไม่ได้ ครนู ำ�เข้าสู่บทเรียนโดยการแนะน�ำ วา่ ในบทเรยี นนจ้ี ะเรียน เกยี่ วกับจ�ำ นวนอกี ชนดิ หนึ่งทไ่ี มใ่ ชจ่ �ำ นวนนบั ซ่ึงเรียกจำ�นวนนั้นวา่ เศษส่วน 204 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | เศษสว่ น คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 2. ครใู หน้ กั เรียนท�ำ กจิ กรรม พับเป็นส่วนเทา่ ๆ กนั หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 เพื่อเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี นเร่อื งเศษส่วน บทท่ี 6 | เศษส่วน เตรยี มความพร้อม ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 192 โดยครเู ตรยี มกระดาษรปู สเ่ี หลย่ี ม กจิ กรรม พบั เปน็ สว่ นเท่า ๆ กัน ทม่ี คี วามยาวแตล่ ะดา้ นเทา่ กบั ความกวา้ งของกระดาษ A4 หรอื ครูอาจใหน้ ักเรียนเตรียมกระดาษมาเอง คนละสถ่ี ึงหา้ แผน่ อุปกรณ์ 1. กระดาษรปู สีเ่ หล่ยี มทมี่ คี วามยาวแตล่ ะด้านเท่ากบั ความกว้าง จากนน้ั ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ และแจกกระดาษรปู ส่เี หลย่ี ม ของกระดาษ A4 กลุ่มละ 10 แผ่นหรอื ตามความเหมาะสม ครเู ริม่ กิจกรรม โดยใช้ค�ำ ถามกระตุ้นนักเรียนวา่ 2. ไมบ้ รรทัด 3. ดินสอ วิธีจดั กิจกรรม 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน และแจกกระดาษรปู ส่ีเหลยี่ ม กลุ่มละ 10 แผ่น 2. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั หาวธิ ีพับกระดาษ 1 แผ่น เปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั ใหไ้ ดว้ ธิ ที แ่ี ตกต่างกันมากทีส่ ุด แล้วขีดเสน้ ตามรอยพับ พรอ้ มนาำ เสนอวธิ ีพบั และ ร่วมกันตรวจสอบ 3. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั หาวธิ พี บั กระดาษ 1 แผน่ เพอ่ื แบง่ กระดาษ ออกเปน็ 4 สว่ น และ 8 สว่ นเท่า ๆ กนั ตามลาำ ดบั ใหไ้ ดว้ ธิ ีทีแ่ ตกตา่ งกันมากทส่ี ดุ แล้วขีดเสน้ ตามรอยพับ พร้อมนำาเสนอวิธพี ับและร่วมกนั ตรวจสอบ − ถา้ ครูจะพับกระดาษแผ่นนเ้ี พือ่ แบง่ กระดาษ ออกเป็น 2 ส่วน เทา่ ๆ กัน ครูจะพับได้อย่างไร 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 จากนั้นครใู หน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ช่วยกนั หาวธิ พี บั กระดาษ 1 แผน่ ออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั จะมวี ธิ พี บั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 192 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใหไ้ ดว้ ธิ ที แ่ี ตกตา่ งกนั มากทส่ี ดุ แลว้ ขดี เสน้ ตามรอยพบั ในระหวา่ งท�ำ กิจกรรมครหู ยิบตวั อยา่ งการพบั กระดาษทเ่ี ตรยี มไว้หรือกระดาษท่ีนกั เรยี นพับแลว้ มาสนทนากับนกั เรยี น โดยใช้คำ�ถามวา่ − นักเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งไรวา่ กระดาษ 1 แผน่ ที่นำ�มาพับนนั้ รอยพับจะแบ่งกระดาษออกเป็น 2 ส่วนท่ีเทา่ กนั ซึ่งนักเรียนอาจให้เหตุผลว่า กระดาษ 2 ส่วนน้ที ับกันสนิท โดยลองตดั ตามรอยพบั แลว้ นำ�กระดาษ 2 สว่ นนม้ี าซอ้ นทบั กนั ไดพ้ อดี เปน็ ตน้ เมอ่ื นกั เรยี นแนใ่ จวา่ กระดาษทง้ั 2 สว่ นเทา่ กนั แลว้ ใหน้ กั เรยี นขดี เส้นตามรอยพับ จากนั้นครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกันหาวิธพี ับกระดาษ 1 แผ่น เพอื่ แบง่ กระดาษออกเป็น 2 สว่ น เท่า ๆ กนั ใหไ้ ด้วธิ ที แ่ี ตกต่างกนั มากท่สี ุด แลว้ ขดี เส้นตามรอยพบั ขณะทนี่ ักเรยี นทำ�กิจกรรม ครูเดินดนู ักเรียนแต่ละกลมุ่ แลว้ เลือกกล่มุ ทีม่ วี ธิ ีพับทแี่ ตกตา่ งกันให้ออกมา นำ�เสนอและอภปิ รายรว่ มกนั หนา้ ชนั้ เรยี นโดยครใู ชค้ ำ�ถามดงั ต่อไปนี้ − รอยพบั แบง่ กระดาษแผ่นน้เี ป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กนั ใช่หรอื ไม่ − นกั เรียนรูไ้ ดอ้ ย่างไรว่า รอยพบั แบ่งกระดาษเป็น 2 ส่วนเทา่ กนั − มีวิธพี ับกระดาษ 1 แผน่ ใหเ้ ป็น 2 สว่ น เท่า ๆ กนั ไดอ้ ย่างไรบ้าง จากนั้นครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกันพับกระดาษเพ่ือแบง่ กระดาษออกเปน็ 4 ส่วนเท่า ๆ กัน แลว้ ใหน้ �ำ เสนอวธิ พี บั กระดาษทแ่ี ตกตา่ งกนั และอภปิ รายรว่ มกนั แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ พบั กระดาษ เพอ่ื แบง่ กระดาษออกเปน็ 8 สว่ นเทา่ ๆ กนั น�ำ เสนอวธิ พี บั กระดาษทแ่ี ตกตา่ งกนั และอภปิ รายรว่ มกนั ครสู นทนากบั นกั เรยี นวา่ จากกจิ กรรมทน่ี กั เรยี นพบั กระดาษเพอ่ื แบง่ กระดาษออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั 4 สว่ นเท่า ๆ กัน และ 8 สว่ นเท่า ๆ กนั เป็นการแบง่ กระดาษ 1 แผ่น ออกเปน็ สว่ นท่เี ท่า ๆ กนั คลา้ ยกบั การแบง่ ขนม 1 ถาด ออกเปน็ สว่ นทีเ่ ทา่ ๆ กนั ในหน้าเปิดบทของบทเรียนนี้ ซงึ่ เป็นการกล่าวถงึ จำ�นวนอกี ชนดิ หนงึ่ ทีเ่ รยี กว่า เศษสว่ น | 205สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษสว่ น ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 6.1 การอา่ นและการเขียนเศษส่วน (2 ชวั่ โมง) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 จุดประสงค์ บทที่ 6 | เศษส่วน − บอกเศษสว่ นทแ่ี สดงปรมิ าณของสง่ิ ตา่ ง ๆ 6.1 การอ่านและการเขียนเศษส่วน และแสดงสิง่ ตา่ ง ๆ ตามเศษสว่ นที่กำ�หนด โดยท่ตี วั เศษน้อยกว่าหรือเท่ากบั ตวั ส่วน พัฒนาความรู้ − อ่านและเขียนเศษสว่ นทแ่ี สดงปริมาณ 11 ของส่ิงต่าง ๆ โดยที่ตัวเศษนอ้ ยกวา่ หรือเท่ากับ 22 ตวั สว่ น เค้ก 1 ก้อน แบ่งเค้ก 1 ก้อน เป็น 2 ช้ิน เทา่ ๆ กนั สอื่ การเรยี นรู้ เคก้ แต่ละชน้ิ เป็น 1 ใน 2 ของเค้ก 1 กอ้ น 1 − บัตรภาพเคก้ 2 − กระดาษแผน่ เลก็ เขียนเศษส่วนแสดงจาำ นวนของเค้กแตล่ ะชิน้ เปน็ − บตั รเศษสว่ น − บัตรภาพทรี่ ะบายสแี สดงเศษสว่ น 1 อา่ นวา่ เศษหนึ่งสว่ นสอง − บตั รคำ�อ่านเศษส่วน 2 1 เปน็ ตวั เศษ 2 เปน็ ตัวสว่ น เศษสว่ นเป็นสัญลักษณ์แสดงจาำ นวน ซงึ่ ประกอบด้วยตวั เศษและตวั ส่วน ตัวเศษแสดงจำานวนของส่วนที่กล่าวถึง เขยี นไวด้ า้ นบนของเสน้ คัน่ ตวั สว่ นแสดงจำานวนของส่วนทีเ่ ทา่ ๆ กนั ทั้งหมด เขยี นไว้ดา้ นลา่ งของเส้นค่นั ขนมปงั 1 แผน่ แบง่ เป็น 2 ชนิ้ เทา่ ๆ กนั เขียนเศษสว่ นแสดงจำานวนของขนมปังแตล่ ะชน้ิ 1 ได้อย่างไร อ่านวา่ อย่างไร 2 อ่านวา่ เศษหน่ึงสว่ นสอง แนวการจดั การเรียนรู้ | 193สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพฒั นาความรู้ 1. ครูนำ�เขา้ สู่บทเรยี นโดยนำ�สื่อของจริงมาแบ่งออกเป็น 2 สว่ น เทา่ ๆ กัน เชน่ ขนมช้นั ขนมปังแผน่ โดยถามนกั เรยี นวา่ − ถ้าตอ้ งการแบง่ ขนมชนั้ ออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั จะตอ้ งแบง่ อย่างไร จากนนั้ ครูตดิ บัตรภาพขนมเคก้ ที่แบ่งออกเป็น 2 สว่ น เท่า ๆ กัน และแจกบตั รภาพเค้ก ทแ่ี บง่ ออกเป็น 2 สว่ น เทา่ ๆ กัน ให้นักเรียนคนละ 1 บัตร แล้วตดั บตั รภาพเค้กตามเส้นทีแ่ บ่งไว้ ครถู ามนักเรียนดงั น้ี − เค้ก 1 ก้อน แบง่ ออกเป็นกีช่ ้นิ ( 2 ชิน้ ) − แตล่ ะชน้ิ เท่ากนั หรอื ไม่ (เท่ากัน) ครูอธบิ ายว่า เคก้ 1 กอ้ น แบ่งเปน็ 2 ช้นิ เท่า ๆ กนั เคก้ แตล่ ะช้นิ เป็น 1 ใน 2 ของเคก้ 1 กอ้ น จำ�นวนท่แี สดงปรมิ าณของเค้กแตล่ ะชนิ้ เรยี กว่า เศษสว่ น เขยี นเศษสว่ นแสดงจ�ำ นวนของเคก้ 1 แตล่ ะชน้ิ เป็น 2 อา่ นวา่ เศษหนึ่งสว่ นสอง โดย 1 คือ ตวั เศษแสดงจ�ำ นวนของสว่ นทกี่ ล่าวถงึ เขยี นไวด้ า้ นบนของเส้นคัน่ 2 คือ ตัวสว่ นแสดงจ�ำ นวนของส่วนทีเ่ ท่า ๆ กนั ท้ังหมด เขยี นไวด้ า้ นลา่ ง ของเสน้ ค่นั ตามรูปในหนงั สือเรยี นหน้า 193 ที่แบ่งเค้ก 1 ก้อน เปน็ 2 ส่วนเทา่ ๆ กัน ดังนี้ 206 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 573
Pages: