การฝึกปฏิบัติวิชาชีพครู ระหว่างเรียน 2 : PRACTICUM 2 นางสาวสุพรรษา ชำนาญ รหัส 6312106016 คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ก คำนำ ใบงานการฝกึ ปฏบิ ัติวชิ าชีพครรู ะหวา่ งเรยี น 2 ชดุ น้ี เปน็ สั่วหนึง่ ของการออกฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู ชดุ วิชา “การฝกึ ปฏบิ ัติงานระหว่างเรยี น 2 (Practicum 2)” นักศึกษาจัดทำขึ้นเพ่ือบนั ทกึ ตามท่ไี ด้ฝึก ประสบการณ์วชิ าชีพครเู ก่ยี วกับเรื่อง การฝกึ ทกั ษะการจัดการเรยี นรู้ การฝกึ ทักษะทางภาษาและการสอ่ื สาร การฝึกกระบวนการคดิ การฝึกทกั ษะการใช้เทคโนโลยเี พอื่ การเรยี นรู้ จรรยาบรรณครู การวดั และประเมนิ ผล การเรียนรู้ จึงทำให้ไดเ้ รยี นรแู้ ละได้รบั ประสบการณ์ใหม่ ๆ ขอบขอบคณุ ทางคณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพบิ ลู สงคราม ท่ีไดม้ อบโอกาสแกน่ ักศึกษาครู ได้ ออกไปสงั เกตการณส์ อนในสถานท่ีจรงิ และสถานการณจ์ รงิ ณ โรงเรยี นกงไกรลาศวิทยา อำเภอกงไกรลาศ จังหวดั สโุ ขทยั ศึกษาประสบการณเ์ พอื่ นำไปใช้ในการเรียนรู้และพฒั นาตนเองใหเ้ ป็นครทู ีม่ ีประสิทธภิ าพใน อนาคตตอ่ ไป สพุ รรษา ชำนาญ นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
ข สารบญั คำนำ ก สารบญั ข ใบงานที่ 1 การวเิ คราะหห์ ลกั สตู รสถานศึกษา 1 การวเิ คราะหก์ ลุ่มสาระ 2 ขั้นท่ี 1 การวเิ คราะห์ความสมั พันธ์ระหว่าง 2 มาตรฐานการเรยี นรูก้ ลุ่มสาระกบั ตวั ชี้วัดชั้นปี/ตัวชวี้ ัดรายภาค ข้ันที่ 2 การวเิ คราะห์ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง 3 สาระการเรยี นรชู้ ่วงชัน้ กับสาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ขั้นที่ 3 การวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธ์ระหว่าง 4 ตวั ช้วี ัด กบั ความร/ู้ ทักษะ/คณุ ลกั ษณะฯ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ระดับชนั้ .มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ขั้นท่ี 4 การจดั ทำคำอธิบายรายวชิ า 7 ข้นั ท่ี 5 การจัดทำโครงสร้างรายวชิ า 8 ข้ันท่ี 6 การจดั ทำแผนการจดั การเรียนรู้ 11 -แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 11 -แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 24 -แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 31 ใบงานท่ี 2 การประกันคณุ ภาพการศกึ ษาทีส่ อดคลอ้ งกับสถานศึกษา 37 1.กรอกการประเมินคณุ ภาพการศึกษาที่สอดคล้องกบั สถานศึกษา 38 ระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน 2.สรุปการประเมนิ คุณภาพการศึกษาทสี่ อดคลอ้ งกบั สถานศึกษา 38 ตามกรอบมาตรฐานการศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2561 ระดบั การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน ใบงานที่ 3 การวิเคราะห์แนวทางในการพัฒนาตนเอง 41 1.วเิ คราะห์ SWOT ของตนเอง 42 2.สรุปการวิเคราะห์ตนเองเพ่ือเป็นแนวทางนำไปสู่การเปน็ ครมู อื อาชีพท่เี ท่าทนั ต่อการเปลี่ยนแปลงทั้ง ทางด้านศาสตร์วชิ าชพี ครู และศาสตรส์ าขาวชิ าเอก 43 ใบงานท่ี 4 การรายงานการเข้าร่วมโครงการส่งเสรมิ อนุรกั ษว์ ฒั นธรรม 45 และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ินในสถานศึกษา 1. โครงการสง่ เสริม อนุรกั ษ์วฒั นธรรม และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน 46 2.การทบทวนหลังปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) 51
3.ภาพนกั ศกึ ษาเขา้ ร่วมโครงการสง่ เสริม อนรุ ักษว์ ัฒนธรรม ค และภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่นของสถานศกึ ษา 52 4. สรุป 56 ภาคผนวก 57
ง ใบงานการฝกึ ปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ครรู ะหวา่ งเรียน 2 (Practicum 2) ใบงานท่ี 1 การวเิ คราะหห์ ลักสูตรสถานศึกษา ใบงานท่ี 2 การประกันคณุ ภาพการศกึ ษาท่สี อดคล้องกบั สถานศกึ ษา ใบงานท่ี 3 การวเิ คราะหแ์ นวทางในการพฒั นาตนเอง ใบงานท่ี 4 การรายงานการเขา้ รว่ มโครงการสง่ เสริม อนรุ ักษ์วฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่นในสถานศึกษา
1 ใบงานท่ี 1 การวิเคราะหห์ ลักสูตรสถานศกึ ษา วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้นกั ศกึ ษามคี วามรคู้ วามเข้าใจในการวิเคราะห์หลักสตู ร ตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ทีต่ รงกบั วชิ าเอกของตน 2. เพื่อใหน้ กั ศกึ ษาสามารถฝกึ ปฏิบตั ิวเิ คราะหห์ ลักสูตรได้ตามข้ันตอน 3. เพอื่ ใหน้ กั ศึกษาสามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระทีต่ รงกบั วิชาเอกได้ อย่างเหมาะสม 4. เพื่อให้นักศึกษาสามารถฝึกปฏิบัตกิ ารสอนในสถานการณใ์ นชั้นเรยี นจริงได้ ขอบขา่ ยของงาน 1. ใหน้ ักศึกษาศกึ ษาหลกั สตู รกลมุ่ สาระทตี่ รงกบั วิชาเอกของตนแล้วทำการวเิ คราะห์หลักสูตรตาม ข้ันตอนทีก่ ำหนดให้ 2. เขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ใหส้ อดคลอ้ งกบั หนว่ ยการเรยี นรู้ 3. วางแผนการจดั การเรียนร้ทู ่จี ะนำไปทดลองปฏบิ ัติการสอนในชน้ั เรียน 4. ทดลองปฏิบัติการจัดการเรียนรู้ ผู้เก่ียวขอ้ ง/แหลง่ ข้อมลู 1. ครนู ิเทศก์ / ครพู ีเ่ ล้ยี ง 2. เอกสารหลกั สตู รสถานศกึ ษาตามกลุม่ สาระ 3. เอกสารหลกั สตู ร / เอกสารประกอบหลักสตู ร 4. แผนการจัดการเรยี นรู้
2 การวเิ คราะหห์ ลักสูตรกล่มุ สาระ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ ชื่อสถานศึกษาโรงเรยี นกงไกรลาศวิทยา อำเภอกงไกรลาศ จงั หวดั สุโขทยั ***************************************************************************************** ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระกับตัวชี้วัดชั้นปี/ตัวชี้วัด รายภาค มาตรฐานการเรยี นรกู้ ล่มุ สาระ ตัวชีว้ ดั ชน้ั ปี / ตัวชวี้ ดั รายภาค ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ม.2/2 เขา้ ใจและใชก้ ารแยกตัวประกอบของ สาระที่ 1 จำนวนและการ พหนุ ามดีกรสี องในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์ ดำเนนิ การ ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรปู ม.2/1 ใช้ความรูท้ างเรขาคณิตและเคร่ืองมอื เช่น วงเวยี นและ ความสัมพนั ธ์ ฟังกช์ นั ลำดับและ เสน้ ตรง รวมทง้ั โปรแกรม The Geometer’s Sketcpad หรอื อนกุ รม และนำไปใช้ โปรแกรมเรขาคณติ พลวตั อืน่ ๆ เพื่อสร้างรูปเรขาคณิต ตลอดจนนำความรู้เก่ียวกับการสรา้ งไปประยกุ ต์ในการ สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณิต แก้ปัญหาในชีวติ จรงิ ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รปู ม.2/2 นำความร้เู กยี่ วกับสมบตั ิของเส้นขนาน เรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณิต และรูปสามเหลยี่ มไปใช้ในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างรูปเรขาคณติ ม.2/4 เขา้ ใจและใช้สมบตั ขิ องรปู สามเหลีย่ มที่เท่ากันทุก และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และ ประการแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์และปญั หาในชวี ติ จริง นำไปใช้ ม.2/1 เขา้ ใจและใชค้ วามรู้ทางสถิตใิ นการนำเสนอขอ้ มูลและ วิเคราะห์ข้อมลู จากแผนภาพจดุ แผนภาพตน้ ไม-้ ใบ ฮสิ โตแก สาระที่ 3 สถติ แิ ละความนา่ จะเป็น รม และค่ากลางของขอ้ มูล และแปลความหมายผลลพั ธ์ ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ รวมทัง้ นำสถิตไิ ปใช้ในชีวิตจริง โดยใชเ้ ทคโนโลยที เี่ หมาะสม และใชค้ วามรทู้ างสถิตใิ นการ แก้ปญั หา
3 ข้ันที่ 2 การวเิ คราะห์ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสาระการเรยี นรู้ช่วงชนั้ กับสาระการเรียนรู้แกนกลาง ตัวชว้ี ัดช้นั ปี / รายภาค สาระการเรียนรู้แกนกลาง ค 1.2 การแยกตวั ประกอบของพหนุ าม ตัวชว้ี ัด ม.2/2 เขา้ ใจและใชก้ ารแยกตัว -การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ประกอบของพหุนามดกี รสี องในการ โดยใช้ แก้ปญั หาคณติ ศาสตร์ -สมบตั ิการแจกแจง -กำลังสองสมบูรณ์ -ผลต่างของกำลงั สอง ค 2.2 การสร้างทางเรขาคณิต ตัวช้ีวัด ม.2/1 ใชค้ วามรทู้ างเรขาคณติ -การนำความรู้เก่ยี วกับการสรา้ งทางเรขาคณติ ไปใช้ในชีวติ และเคร่อื งมือ เชน่ วงเวยี นและเส้นตรง จริง รวมทัง้ โปรแกรม The Geometer’s เสน้ ขนาน Sketcpad หรอื โปรแกรมเรขาคณิต -สมบัติเกย่ี วกับเสน้ ขนานและรปู สามเหลย่ี ม พลวตั อื่นๆ เพอื่ สร้างรปู เรขาคณติ ความเท่ากันทกุ ประการ ตลอดจนนำความรูเ้ ก่ยี วกับการสร้างไป -ความเท่ากันทุกประการของรูปสามเหล่ยี ม ประยุกต์ในการแกป้ ญั หาในชวี ิตจรงิ -การนำความรู้เก่ยี วกบั ความเท่ากนั ม.2/2 นำความรเู้ ก่ียวกบั สมบตั ิ ทกุ ประการไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา ของเสน้ ขนาน และรูปสามเหล่ยี มไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา คณิตศาสตร์ ม.2/4 เขา้ ใจและใช้สมบตั ิของรปู สามเหล่ียมท่เี ท่ากันทุกประการแกป้ ญั หา คณิตศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวติ จริง ค 3.1 สถิติ ตัวชีว้ ัด ม.2/1 เข้าใจและใชค้ วามรูท้ าง -การนำเสนอและวเิ คราะห์ข้อมลู สถติ ใิ นการนำเสนอขอ้ มูลและวิเคราะห์ -แผนภาพจดุ ขอ้ มูลจากแผนภาพจดุ แผนภาพตน้ ไม-้ -แผนภาพตน้ ไม-้ ใบ ใบ ฮิสโตแกรม และคา่ กลางของข้อมลู -ฮิสโตแกรม และแปลความหมายผลลัพธ์ รวมทงั้ นำ -คา่ กลางของข้อมูล สถิติไปใช้ในชวี ิตจริง โดยใชเ้ ทคโนโลยีที่ -การแปลความหมายผลลัพธ์ เหมาะสม -การนำสถิตไิ ปใช้ในชีวิตจรงิ
4 ขั้นที่ 3 การวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหว่าง ตวั ชว้ี ดั กับ ความร/ู้ ทกั ษะ/คุณลกั ษณะฯ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ระดบั ชั้น.มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ตวั ช้ีวดั ความรู้ ทกั ษะ / คุณลักษณะฯ ค 1.2 กระบวนการ 1.มีวินยั ตัวชีว้ ัด ม.2/2 เขา้ ใจและใช้ การแยกตัว 1. 2.ใฝเ่ รยี นรู้ การแยกตัวประกอบของพหุ ประกอบของ ความสามารถ 3.มงุ่ มั่นในการทำงาน นามดีกรสี องในการแกป้ ญั หา ในการคดิ คณติ ศาสตร์ พหุนำม 1.1. ทกั ษะ 1.มีวินยั - การแยกตัว การคดิ วิเคราะห์ 2.ใฝ่เรียนรู้ ค 2.2 ประกอบของ 1.2. ทกั ษะ 3.ม่งุ ม่ันในการทำงาน ตัวชว้ี ดั ม.2/1 ใชค้ วามรู้ทาง พหนุ ามดกี รี การคิด เรขาคณติ และเครื่องมือ เชน่ สร้างสรรค์ วงเวียนและเส้นตรง รวมทั้ง สอง 1.3. ทกั ษะ โปรแกรม The โดยใช้ การประยกุ ตใ์ ช้ Geometer’s Sketcpad o สมบัตกิ าร ความรู้ แจกแจง 1.4. ทักษะ o กำลงั สอง การคิดอย่างมี สมบูรณ์ วิจารณญาณ o ผลต่างของ 2. กำลังสอง ความสามารถ ในการสอ่ื สาร การสร้างทาง 3. เรขาคณิต ความสามารถ - การนำ ในการ ความรู้ แกป้ ญั หา เก่ยี วกับการ 1. ความสามารถ สร้าง ในการคดิ 1.1. ทักษะ การคิดวเิ คราะห์
หรอื โปรแกรมเรขาคณิต ทางเรขาคณิต 1.2. ทกั ษะ 5 พลวตั อน่ื ๆ เพือ่ สรา้ งรปู ไปใชใ้ นชีวติ การคดิ เรขาคณติ ตลอดจนนำความรู้ สร้างสรรค์ 1.มีวินยั เกยี่ วกบั การสรา้ งไปประยุกต์ จริง 1.3. ทกั ษะ 2.ใฝ่เรยี นรู้ ในการแก้ปญั หาในชีวิตจรงิ การประยกุ ต์ใช้ 3.มุง่ มั่นในการทำงาน เสน้ ขนาน ความรู้ ค 2.2 - สมบัติ 1.4. ทักษะ ตวั ชวี้ ดั ม.2/2 นำความรู้ เกย่ี วกับเส้น การคดิ อย่างมี เก่ียวกับสมบตั ิของเสน้ ขนาน ขนานและรูป วิจารณญาณ และรปู สามเหลยี่ มไปใช้ใน สามเหลย่ี ม 2. การแกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์ ความสามารถ ในการสื่อสาร 3. ความสามารถ ในการ แก้ปัญหา 1. ความสามารถ ในการคดิ 1.1. ทกั ษะ การคดิ วเิ คราะห์ 1.2. ทกั ษะ การคิด สรา้ งสรรค์ 1.3. ทักษะ การประยกุ ต์ใช้ ความรู้ 1.4. ทกั ษะ การคิดอย่างมี วิจารณญาณ 2. ความสามารถ ในการส่ือสาร
ค 2.2 3. 6 ตัวชีว้ ดั ม.2/4 เขา้ ใจและใช้ ความสามารถ สมบตั ิของรปู สามเหลย่ี มที่ ในการ 1.มีวินยั เทา่ กนั ทุกประการแก้ปัญหา แก้ปญั หา 2.ใฝเ่ รยี นรู้ คณิตศาสตร์และปัญหาใน ความเทา่ กนั 1. 3.มุ่งม่ันในการทำงาน ชีวิตจรงิ ทกุ ประการ ความสามารถ - ความเท่ากนั ในการคิด 1.มวี ินยั ค 3.1 ทุกประการ 1.1. ทกั ษะ 2.ใฝเ่ รียนรู้ ตัวชี้วัด ม.2/1 เขา้ ใจและใช้ ของรูป การคดิ วเิ คราะห์ 3.ม่งุ ม่ันในการทำงาน ความรูท้ างสถติ ิในการ สามเหล่ียม 1.2. ทักษะ นำเสนอขอ้ มลู และวิเคราะห์ - การนำ การคิด ข้อมูลจากแผนภาพจดุ ความรู้ สรา้ งสรรค์ แผนภาพต้นไม-้ ใบ ฮสิ โตแก เกย่ี วกับความ 1.3. ทักษะ รม และคา่ กลางของขอ้ มลู เท่ากนั การประยุกต์ใช้ และแปลความหมายผลลัพธ์ ทกุ ประการไป ความรู้ รวมท้งั นำสถติ ไิ ปใชใ้ นชวี ิต ใชใ้ นการ 1.4. ทักษะ แกป้ ญั หา การคิดอย่างมี วจิ ารณญาณ 2. ความสามารถ ในการสอ่ื สาร 3. ความสามารถ ในการ แก้ปัญหา สถติ ิ 1. - การนำเสนอ ความสามารถ และวิเคราะห์ ในการคดิ ขอ้ มูล 1.1. ทกั ษะ o แผนภาพจุด การคดิ วเิ คราะห์ o แผนภาพตน้ 1.2. ทักษะ - ใบ การคดิ o ฮิสโทแกรม สรา้ งสรรค์ 1.3. ทกั ษะ
7 จรงิ โดยใชเ้ ทคโนโลยที ี่ o คา่ กลางของ การประยุกต์ใช้ เหมาะสม ขอ้ มลู ความรู้ - การแปล 1.4. ทักษะ ความหมาย การคิดอยา่ งมี ผลลัพธ์ วจิ ารณญาณ - การนำสถติ ิ 2. ไปใช้ในชวี ติ ความสามารถ จริง ในการสื่อสาร 3. ความสามารถ ในการ แกป้ ญั หา ข้นั ที่ 4 การจัดทำคำอธิบายรายวิชา คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชาคณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 จำนวนเวลาเรยี น 1 ภาค จำนวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ศึกษา ฝกึ ทักษะ / กระบวนการในสาระตอ่ ไปนี้ สถติ ิ การนำเสนอและวเิ คราะห์ขอ้ มลู แผนภาพจุด แผนภาพต้น – ใบ ฮิสโทแกรม ค่ากลางของข้อมูล การแปลความหมายผลลพั ธ์ การนำสถิตไิ ปใชใ้ นชีวติ จริง ความเท่ากนั ทกุ ประการของรูปสามเหลย่ี ม การนำความร้เู กย่ี วกับความเท่ากันทกุ ประการไปใช้ในการ แกป้ ัญหา เสน้ ขนาน สมบตั ิเก่ียวกับเสน้ ขนานและรูปสามเหลย่ี ม การสร้างทางเรขาคณิต การนำความรู้ เก่ียวกับการสร้างทางเรขาคณิตไปใช้ในชวี ติ จรงิ การแยกตวั ประกอบพหุนามดกี รสี อง การแยกตัวประกอบ ของพหนุ ามดีกรสี องโดยใชส้ มบตั ิการแจกแจง กำลังสองสมบูรณ์ ผลต่างของกำลงั สอง โดยใชท้ กั ษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสอื่ สาร การส่ือ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการเช่ือมโยงความร้ตู ่างๆ ทางคณติ ศาสตร์กบั ศาสตรอ์ ื่นๆ รวมถงึ การ เชื่อมโยงโลกและท้องถน่ิ ประชาคมอาเซียน และมีความคดิ สร้างสรรค์ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
8 เพ่อื ใหส้ ามารถทำงานไดอ้ ย่างมรี ะบบ มรี ะเบยี บวินยั มคี วามรอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มี วจิ ารณญาณและมคี วามเชือ่ ม่นั ในตนเอง มคี า่ นิยมในเชงิ ความพอเพียง พร้อมตระหนักในคุณคา่ และเจตคติที่ ดตี ่อคณิตศาสตร์ ตัวชวี้ ัด ค 1.2 ม.2/2 ค 2.2 ม.2/1 ค 2.2 ม.2/2 ต 2.2 ม.2/4 ค 3.1 ม.2/1 รวม 5 ตวั ชี้วดั ขั้นที่ 5 การจัดทำโครงสร้างรายวิชา โครงสรา้ งรายวชิ าคณติ ศาสตร์ ระดบั ❑ มธั ยมศกึ ษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 60 จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต โครงสรา้ งรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 22102จำนวน 1.5 หน่วยกิต จำนวนเวลา 60 ช่วั โมง หน่วย ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั / เวลา น้ำหนกั ที่ การเรยี นรู้ การเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ดั ความคดิ รวบยอด (ชั่วโมง) คะแนน 1 สถติ ิ(2) ค 3.1 ม.2/1 สถติ ิ เปน็ ขอ้ มูลที่เก็บ 15 15 รวบรวมมาได้ และข้อมลู หมายถงึ ข้อเทจ็ จรงิ ท่ี อาจจะเปน็ ตวั เลขหรอื ตวั อกั ษร ดงั นั้น สถิติ หมายถงึ ข้อเทจ็ จริงทเ่ี ป็น ตัวเลขหรือลายลักษณอ์ ักษร ท่เี กบ็ รวบรวมมาได้ จาก
2 ความเท่ากนั ค 2.2 ม.2/4 ข้อมลู มากๆ สถติ ิอาจเป็น 12 9 ทุกประการ ยอดรวมของข้อมลู 15 15 3 เสน้ ขนาน ค 2.2 ม.2/2 สถิติ เปน็ ศาสตร์ทวี่ า่ ดว้ ย 15 ระเบยี บวธิ กี ารทางสถิติ ซ่งึ ประกอบด้วย การเก็บ รวบรวมขอ้ มลู การนาเสนอ ขอ้ มูล การวิเคราะห์ขอ้ มลู และการตคี วามหมายขอ้ มลู รปู สามเหลย่ี มสองรูปเทา่ กัน ทุกประการ เมอ่ื ดา้ นเทา่ กัน ทกุ ดา้ นแบบด้านตอ่ ดา้ น และมุมเทา่ กันทุกมมุ แบบ มมุ ตอ่ มุม แลว้ เลอื่ นรปู สามเหลย่ี มสองรปู มาทบั กัน จะทบั กันสนิทพอดี 31 42 75 86 เรียก 1, 2 , 7 และ 8 ว่า มุมภายนอก เรียก 3 , 4 , 5 และ 6 วา่ มมุ ภายใน เรียก 1 และ 5 , 2 และ 6 , 7 และ 3 , 8 และ 4 ว่าเป็นมุมภายนอกและมุม ภายในที่อย่บู นตรงข้ามบน ขา้ งเดยี วกันของเสน้ ตดั ถ้า เสน้ ตรงสองเสน้ ขนานกนั และมเี ส้นตดั แล้วมุม ภายนอกและมมุ ภายในท่อี ยู่ ตรงข้ามบนขา้ งเดียวกันของ
เสน้ ตัดจะมีขนาดเทา่ กันถ้า 10 เสน้ ตรงเส้นหน่ึงตดั เสน้ ตรง 10 คูห่ นง่ึ ทำให้มมุ ภายนอก 5 และมุมภายในทอ่ี ยูต่ รงขา้ ม 6 20 บนขา้ งเดยี วกันของเสน้ ตดั มี 20 100 ขนาดเท่ากนั แล้วเสน้ ตรงคู่ นนั้ จะขนานกัน 4 การให้เหตผุ ล ค2.2 ม.2/1 วงเวยี นและสันตรง เป็น 9 ทางเรขาคณติ เครื่องมือในการสร้าง พ้นื ฐานทางเรขาคณติ ซึง่ ต้องสรา้ งตามลำดับข้ันตอน จึงจะได้ส่วนของเสน้ ตรง และขนาดของมุมตามท่ี ตอ้ งการและนำการสรา้ ง พน้ื ฐานนไ้ี ปสรา้ งรูป เรขาคณิตสองมติ ิ โดย สามารถเขยี นข้ันตอนการ สรา้ ง และนำไปสืบเสาะ สังเกต และคาดการณ์ เกีย่ วกบั สมบัติทางเรขาคณิต ได้ 5 การแยกตวั ค1.2 ม.2/2 พหุนามดีกรีสองสามารถ 3 ประกอบของ แยกตวั ประกอบไดต้ วั พหุนามดกี รีสอง ประกอบเป็นพหุนามดกี รี หนงึ่ มอี ยู่ดว้ ยกนั หลายวธิ ี เช่น การใชส้ มบัตกิ ารแจก แจง กำลงั สองสมั บูรณ์ ผลตา่ งกำลังสอง สามารถ นำไปใช้แกป้ ญั หาทาง คณิตศาสตรไ์ ด้ รวมระหว่างภาค 54 สอบกลางภาค 3 สอบปลายภาค 3 รวม 60
11 ข้ันท่ี 6 การจัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ชื่อหน่วยสถติ (ิ 2) ภาคเรียนท2ี่ /2564 แผนที่ 1 เร่อื งค่ากลางของขอ้ มลู (คา่ เฉลีย่ เลขคณติ ) เวลาสอน 2 ชว่ั โมง สอนวันท.่ี .........เดือน.............................. พ.ศ........... ชื่อผสู้ อนนางสาวสพุ รรษา ชำนาญ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคัญ ค่าเฉลีย่ เลขคณิต (mean) คือ จำนวนท่ไี ด้จากการหารผลบวกของข้อมลู ทั้งหมดดว้ ยจำนวนข้อมูล มาตรฐาน สาระท่ี 3 สถติ ิและความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติและการใช้ความรู้ทางสถติ ิในการแก้ปัญหา ตวั ช้วี ัด ม.2/1 เขา้ ใจและใช้ความร้ทู างสถิตใิ นการนำเสนอข้อมลู และวเิ คราะห์ขอ้ มลู จากแผนภาพจุด แผนภาพต้นไม้-ใบ ฮิสโตแกรม และคา่ กลางของขอ้ มลู และแปลความหมายผลลัพธ์ รวมทั้งนำสถิติไปใชใ้ นชีวิต จริง โดยใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายถึงความหมายและวิธีการหาค่าของค่าเฉลย่ี เลขคณิตได้ 2.นกั เรยี นสามารถหาคา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของขอ้ มลู ทไ่ี มแ่ จกแจงความถไ่ี ด้ 3.นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นการสอนและมงุ่ มน่ั ในการเรยี น สาระการเรยี นรู้ ค่ากลางของข้อมลู -คา่ เฉล่ยี เลขคณิต สมรรถนะสำคญั 1.ความสามารถในการคิด 1.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 1.2 ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ 1.3 ทกั ษะการประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ 1.4 ทักษะการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ 2. ความสามารถในการสื่อสาร
12 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.มีวนิ ยั 2.ใฝเ่ รียนรู้ 3.มงุ่ ม่นั ในการทำงาน กิจกรรมการเรียนรู้ (ชว่ั โมงท1่ี ) ข้นั นำ 1. ครูกล่าวนำถึงเร่อื งคา่ กลางของข้อมูล วา่ “คา่ กลางของขอ้ มลู ม3ี แบบคือ คา่ เฉล่ยี เลขคณติ มธั ยฐาน และฐานนยิ ม คา่ กลางแบบแรกทจ่ี ะเรียนนนั่ ก็คือ “ค่าเฉลี่ยเลขคณติ ” ทเี่ ป็นค่ากลางชนดิ หน่งึ ” 2. ครอู ธบิ ายความหมายของค่ากลางของขอ้ มูลวา่ (คา่ กลางของขอ้ มลู คอื การเลอื กตัวแทนที่บง่ บอกลกั ษณะที่ตอ้ งการทราบของขอ้ มูลในชุดใดชุดหนึ่ง จะใช้วธิ ีใดวธิ ีหนึ่งตามวตั ถุประสงคท์ ่ีจะนำขอ้ มูลไปใช้หรือตามความเหมาะสมของขอ้ มลู ) ข้นั สอน 3. ครูกลา่ วถงึ ค่ากลางของข้อมลู แบบท่หี นงึ่ คือ คา่ เฉล่ียเลขคณติ และใหพ้ จิ ารณาสถานการณต์ อ่ ไปนี้ (เมอ่ื ฤดรู ้อนทผ่ี า่ นมา ติก๊ และเพอ่ื น ๆ รวม 5 คน ไปเทย่ี วเกาะช้าง จังหวดั ตราด เปน็ เวลา 3 วัน 2 คนื ระหวา่ งท่เี ท่ยี วนัน้ มีคา่ ใชจ้ ่ายท่แี ต่ละคนทดลองจา่ ยก่อน ดังนี้ ตก๊ิ จา่ ย 5,500 บาท เพื่อนคนที่หนงึ่ จา่ ย 5,000 บาท คนที่สองจา่ ย 6,400 บาท คนทส่ี ามจา่ ย 4,300 บาท และคนท่สี ีจ่ า่ ย 5,800 บาท เมือ่ นำค่าใช้จ่ายของทุกคนมารวมกัน จะไดเ้ ป็น 5,500+5,000+6,400+4,300+5,800 เทา่ กับ 27,000 บาท แล้วเฉลีย่ เปน็ เงนิ ทแี่ ต่ละคนจะต้องจา่ ยเท่ากบั 27,000 = 5,400 บาท) 5 4. ครเู ขยี นและอธิบายความหมายของคา่ เฉลีย่ เลขคณติ บนกระดานวา่ (ค่าเฉล่ยี เลขคณิต (arithmetic mean) คือ จำนวนท่ไี ดจ้ ากการหารผลบวกของข้อมลู ทง้ั หมดดว้ ย จำนวนขอ้ มลู หรอื เรียกส้นั ๆวา่ คา่ เฉลีย่ (mean)) 5. ครอู ธิบายและสอนขน้ั ตอนวิธกี ารหาค่าเฉลี่ยเลขคณติ (1.นำข้อมลู ทกุ ตัวมาบวกกัน 2.นำผลบวกในขอ้ 1 มาหารดว้ ยจำนวนข้อมลู ทั้งหมด 3.ผลทีไ่ ดจ้ ากข้อ 2 เรยี กวา่ “คา่ เฉลี่ยเลขคณิต” สตู รหาค่าเฉลี่ยเลขคณติ คือ คา่ เฉลีย่ เลขคณิต= ผลรวมของข้อมูลท้ังหมด ) จำนวนข้อมลู ทัง้ หมด 6. หลังจากอธิบายถงึ ความหมายของค่าเฉลยี่ เลขคณิตและวธิ ีการหาคา่ เฉล่ยี เลขคณติ แล้ว ครู ยกตวั อยา่ งเพ่ืออธบิ ายให้นักเรยี นได้เขา้ ใจยิ่งข้ึน อยา่ งนอ้ ย2ตัวอย่าง ระหวา่ งแสดงวิธีทำให้ซกั ถามนกั เรียนแต่ ละคนจนครบ ตวั อยา่ งท1่ี คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรยี น 10 คน เป็นดงั นี้ 5 7 10 6 5 4 4 8 5 และ 6 จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบของนกั เรยี น 10 คนน้ี
13 วิธีทำ คา่ เฉลีย่ เลขคณิต= ผลรวมของขอ้ มลู ทงั้ หมด จำนวนข้อมูลท้ังหมด ค่าเฉล่ียเลขคณิตของคะแนนสอบ เท่ากบั 5+7+10+6+5+4+4+8+5+6 10 = 60 10 = 6 คะแนน หรืออาจกลา่ วว่า คะแนนเฉลย่ี วิชาคณติ ศาสตร์ของนักเรยี นกลุม่ นเี้ ปน็ 6 คะแนน ตอบ คา่ เฉล่ียเลขคณิตของคะแนนสอบของนกั เรยี น 10 คนนี้ คอื 6 คะแนน เนือ่ งจากข้อมลู ในตวั อย่างที่ 1 ขา้ งต้น มคี ะแนนซ้ำกัน ดงั ตาราง คะแนน 4 5 6 7 8 10 ความถี่ 2 3 2 1 1 1 จากตาราง นกั เรียนอาจหาคา่ เฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบได้อีกวธิ ีหนึ่ง ดงั น้ี คา่ เฉลี่ยเลขคณติ = ผลรวมของข้อมูลทง้ั หมด จำนวนข้อมูลทัง้ หมด ค่าเฉล่ียเลขคณติ ของคะแนนสอบ เท่ากับ (2×4)+(3×5)+(2×6)+(1×7)+(1×8)+(1×10) 10 = 60 10 = 6 คะแนน ตวั อยา่ งท2่ี พนักงานบริษทั แหง่ หนง่ึ มีรายไดต้ ่อเดือน เปน็ ดังน้ี รายได้ต่อเดือน (บาท) 15,000 16,000 19,000 21,000 25,000 จำนวนพนกั งาน (คน) 20 8 10 7 5 1) บริษัทแห่งน้ีมีจานวนพนกั งานทง้ั หมดก่ีคน 2) ในเวลา 1 เดือน บริษทั ตอ้ งจ่ายเงนิ ใหพ้ นกั งานเปน็ เงนิ ท้ังหมดกบ่ี าท 3) รายไดเ้ ฉล่ยี ต่อเดือนของพนักงานบริษทั แหง่ นเ้ี ป็นเทา่ ใด วิธีทำ 1) จำนวนพนกั งานทั้งหมด = 20 + 8 + 10 + 7 +5 = 50 ดงั นัน้ บริษทั แห่งนีม้ ีพนกั งานทัง้ หมด 50 คน 2) ในเวลา 1 เดอื น บริษัทตอ้ งจ่ายเงินใหพ้ นักงานเปน็ เงินท้ังหมดเทา่ กับ (20×15,000) + (8×16,000) + (10+19,000) + (7×21,000) + (5×25,000) = 890,000 ดงั นั้น ในเวลา 1 เดือน บรษิ ทั ตอ้ งจา่ ยเงนิ ให้พนักงานเปน็ เงนิ ท้ังหมด 890,000 บาท 3) รายไดเ้ ฉลีย่ ต่อเดอื นของพนกั งานในบรษิ ทั นี้
14 คา่ เฉล่ียเลขคณติ = ผลรวมของขอ้ มูลทง้ั หมด จำนวนข้อมูลท้ังหมด = 890,000 50 = 17,800 ดงั น้นั รายได้เฉล่ยี ต่อเดอื นของพนกั งานบริษทั แหง่ น้ีเท่ากบั 17,800 บาท ขน้ั สรุป 7. เมอ่ื อธิบายความหมายและวธิ ีการหาค่าเฉลีย่ เลขคณติ จบ ให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั (แบบฝึกหัด 1.4 ก. ขอ้ 1.- 3. (หน้าที่42 หนงั สือคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน ม.2 เล่ม 2)) แบบฝกึ หดั 1.4 ก. 1. จงหาค่าเฉลยี่ ของเลขคณิตของข้อมูลในแต่ละชุดตอ่ ไปน้ี 1) 3, 2, 5, 8, 14, 14, 5, 3 และ 17 2) 2.8, 2.1, 5.7, 2.1, 3.3, 2.8, 2.8, 3.2, 2.1 และ 5.1 3) 72, 86, 90, 65, 72 และ 68 4) 150, 86, 225, 345, 410, 330 และ 176 2. จงหาจำนวนต่างๆตามเงื่อนไขในแต่ละขอ้ ตอ่ ไปนม้ี าขอ้ ละ 1 ชุด 1) จำนวน 4 จำนวน โดยทีแ่ ต่ละจำนวนไม่เทา่ กับ 25 แต่มคี า่ เฉลยี่ เทา่ กับ 25 2) จำนวน 4 จำนวน ท่ีมพี สิ ัยเทา่ กับ 21 และมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 32 3) จำนวน 5 จำนวน ซึ่งมีคา่ ต้ังแต่ 90 ถงึ 120 โดยมีจำนวนหนึ่งเปน็ 110 และมีค่าเฉล่ีย เทา่ กบั 110 4) จำนวน 5 จำนวน ซึ่งมคี ่าเฉลี่ยเทา่ กับ 50 โดยมีสองจำนวนที่มีคา่ น้อยกว่าคา่ เฉลย่ี สว่ น อกี สามจำนวนมคี ่ามากกว่าคา่ เฉล่ยี 3. ในรอบหนึง่ ปีของการผลติ สนิ คา้ ของบรษิ ทั แห่งหนง่ึ เมอ่ื เคร่อื งจกั รเสยี จำนวนช่ัวโมงที่ เคร่ืองจกั รไม่สามารถผลิตสนิ คา้ แตล่ ะคร้ังเปน็ ดังน้ี 2, 5, 1, 2, 14, 10, 11, 18, 14, 28, 26, 23, 31, 38 และ 40 จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1) เครอ่ื งจกั รเสียทง้ั หมดกคี่ ร้งั 2) จำนวนช่ัวโมงทีน่ อ้ ยท่สี ุดท่ีเคร่ืองจักรไม่สามารถผลติ ส้ินค้าได้เปน็ เท่าใด 3) จำนวนช่ัวโมงทีม่ ากที่สกุ ท่ีเครือ่ งจักรไมส่ ามารถผลติ สนิ คา้ ไดเ้ ป็นเท่าใด 4) จงหาค่าเฉลีย่ ของจำนวนช่วั โมงท่เี ครื่องจกั รไม่สามารถผลิตสินค้าได้ 8.หลังจากจบเนอื้ หาเรอ่ื งค่าเฉลี่ยเลขคณิต ทำการทดสอบเกบ็ คะแนนเรือ่ งคา่ เฉลีย่ เลขคณิต ใบงานสำหรับทดสอบเกบ็ คะแนน
15 ช่ือ …………………………………………………………….……………………… ช้ัน…………...……… เลขที่ ……………… ใบงานที่ 1 เรื่อง ค่าเฉล่ยี เลขคณิต (1) หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง คา่ เฉลีย่ เลขคณิต รายวชิ าคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหสั วชิ า ค22102 ภาคเรยี นที่ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 จุดประสงค์ 1.นกั เรยี นสามารถหาค่าเฉลย่ี เลขคณิตของขอ้ มูลทไ่ี ม่แจกแจงความถ่ีได้ คำช้แี จง: ใหน้ กั เรยี นเติมคำตอบลงในชอ่ งว่าง 1) จำนวนผู้โดยสารของรถประจำทาง 5 คัน 36 คน 41 คน 35 คน 39 คน 34 คน มผี ้โู ดยสารรถประจำทางจำนวน ...............คัน จำนวนผโู้ ดยสารทัง้ หมดทน่ี ัง่ ในรถประจำทาง ...............คน โดยเฉลี่ยมผี โู้ ดยสารในรถประจำทาง ...............คน
16 2) จงเติมจำนวนลงในตารางให้สมบรู ณ์ ผลรวม จำนวน คา่ เฉลยี่ ของข้อมูล ข้อมูล ข้อท่ี ข้อมูล …………… …………… 108 …………… …………… 1 12 17 18 21 23 17 …………… …………… 2 25 23 24 27 30 23 29 39 …………… 5 …………… 3 25 30 18 37 40 …………… …………… 4 43 45 38 34 37 41 42 …………… …………… 23.2 5 23 22.6 23.8 23.4 3) ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบข้างบนเตมิ ลงในชอ่ งคำตอบใหถ้ กู ต้อง 3.1 นกั เรยี นกลมุ่ หนงึ่ มคี วามสงู รวม 1,336 เซนติเมตร ความสงู เฉลย่ี 167 เซนติเมตร นักเรยี น กลมุ่ นี้มีกค่ี น ตอบ............................................. 3.2 ข้อมูลชดุ หนึง่ มีคา่ เปน็ 2, 7, x, x, 10, 17 ค่าเฉลี่ยเลขคณติ เท่ากับ 8 แลว้ x มคี า่ เท่าใด ตอบ............................................. 3.3 ข้อมลู ชดุ หนึง่ มคี ่าเป็น 6, 6, 7, 8, 9, 13, 14 มคี า่ เฉลยี่ เลขคณิตเทา่ กับเท่าใด ตอบ.............................................
17 3.4 ข้อมูลชดุ หนึง่ เรียงจากมากไปนอ้ ย ดังนี้ 17, 14, 14, 11, 6, 4, x พิสัยเท่ากับ 13 ค่าเฉล่ยี เลข คณติ ของข้อมูลชุดน้ีเป็นเทา่ ไร ตอบ............................................. 4) ค่าเฉลยี่ เลขคณติ นำ้ หนกั ของนักเรียน 4 คน เท่ากับ 42.5 กโิ ลกรัม ถา้ มนี ักเรยี นซ่ึงมีนำ้ หนัก 48 กิโลกรมั มาเพม่ิ อีก 1 คน คา่ เฉล่ียเลขคณติ ของน้ำหนักของนักเรียน 5 คน มีคา่ เทา่ ไร วธิ ที ำ
18 (ชั่วโมงท2ี่ ) ขน้ั นำ 1. ครูทบทวนความหมายและการหาค่าเฉล่ียของเลขคณิต โดยการถามตอบ ขั้นสอน 2. ครูยกตวั อย่างโจทย์ปญั หาของค่าเฉลี่ยเลขคณติ ทีซ่ ับซอ้ นขน้ึ ตวั อยา่ งท3ี่ พัชรีสำรวจเงนิ ค่าอาหารกลางวันของนักเรียนสองกล่มุ กลมุ่ A จำนวน 10 คน และกลุ่ม B จำนวน 15 คน พบวา่ นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มใชเ้ งนิ เปน็ คา่ อาหารกลางวนั โดยเฉลย่ี ดงั น้ี นกั เรยี นกลมุ่ A ใชเ้ งนิ เฉล่ียคนละ 47.20 บาท นกั เรยี นกลมุ่ B ใชเ้ งินเฉลย่ี คนละ 35.40 บาท จงหาวา่ นักเรยี น 25 คนนี้ ใชเ้ งนิ เฉลยี่ คนละเทา่ ไหร่ วิธีทำ เน่อื งจาก นกั เรียนกลมุ่ A จำนวน 10 คน ใช้เงนิ เฉลย่ี คนละ 47.20 บาท ดงั นน้ั นกั เรียนกลุ่ม A จำนวน 10 คน ใช้เงินเปน็ คา่ อาหารกลางวนั รวม ค่าเฉล่ยี เลขคณิต= ผลรวมของข้อมูลทงั้ หมด จำนวนข้อมูลทงั้ หมด จะได้ 47.20 = ผลรวมของขอ้ มลู ทงั้ หมด 10 ดงั นั้น ผลรวมของขอ้ มลู ทัง้ หมด = ค่าเฉล่ีย × จำนวนข้อมูลทั้งหมด ผลรวมของข้อมูลท้งั หมด = 47.20 × 10 = 472 บาท เน่อื งจาก นกั เรยี นกลุม่ B จำนวน 15 คน ใช้เงินเฉล่ยี คนละ 35.40 บาท ดงั นัน้ นักเรยี นกลมุ่ B จำนวน 15 คน ใชเ้ งนิ คา่ อาหารกลางวันรวม คา่ เฉล่ียเลขคณิต= ผลรวมของขอ้ มลู ทงั้ หมด จำนวนข้อมลู ทงั้ หมด จะได้ 35.40 = ผลรวมของขอ้ มลู ทัง้ หมด 15 ดังนน้ั ผลรวมของขอ้ มลู ทั้งหมด = คา่ เฉล่ีย × จำนวนขอ้ มลู ทง้ั หมด ผลรวมของขอ้ มลู ทงั้ หมด = 35.40 × 15 = 531 บาท จะได้ ค่าเฉลยี่ ของเงินคา่ อาหารกลางวนั ของนักเรียน 25 คน เปน็ 472+531 25 = 1003 25 = 40.12 บาท นั่นคอื นักเรยี น 25 คนนี้ใชเ้ งนิ เปน็ คา่ อาหารกลางวันเฉล่ยี คนละ 40.12 บาท ตอบ 40.12 บาท
19 ตวั อยา่ งท4ี่ น้ำหนกั เฉล่ยี ของนักเรยี นกลุ่มหนงึ่ ซึ่งมี 7 คน เปน็ 52.7 กโิ ลกรัม เม่อื รวมน้ำหนักของ ปรีชาเพ่มิ อกี จะทำใหน้ ักหนกั ของนกั เรยี นทัง้ แปดคนน้ีเปน็ 56.5 กิโลกรมั จงหาน้ำหนกั ของปรชี า วิธีทำ เนื่องจาก นักเรยี น 7 คน มนี ้ำหนกั เฉล่ยี 52.7 กโิ ลกรมั ดงั นน้ั นักเรียน 7 คนนมี้ ีน้ำหนกั รวม 7×52.7 = 368.9 กโิ ลกรมั และเนือ่ งจาก นักเรยี น 8 คน มีนำ้ หนกั เฉล่ยี 56.5 กิโลกรมั ดงั นน้ั นกั เรียน 8 คน มนี ำ้ หนักเฉล่ีย 8×56.5 = 452 กิโลกรัม น่ันคือ น้ำหนกั ของปรีชาเท่ากับ 452 – 368.9 = 83.1 กโิ ลกรัม ตอบ 83.1 กโิ ลกรมั ข้นั สรุป 3. หลังจากอธบิ ายเพิ่มเติมจบ ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัด (แบบฝึกหัด1.4 ก. ข้อ 4.- 6. โดยเลอื กทำ เพียง 1 ข้อ (หน้าท4ี่ 3 หนงั สอื คณติ ศาสตร์พื้นฐาน ม.2 เล่ม 2)) แบบฝึกหัด 1.4 ก. 4. คา่ เฉลย่ี ของคะแนนสอบของนักเรยี นชาย 6 คน และนกั เรยี นหญงิ 4 คน เปน็ 51 คะแนน 1) จงหาคะแนนรวมของคะแนนสอบของนักเรยี นทัง้ สิบคนนี้ 2) ถา้ คา่ เฉลย่ี ของคะแนนสอบของนักเรียนชายเปน็ 49 คะแนน จงหาค่าเฉล่ยี ของคะแนน สอบของนักเรียนหญิง 5. ใน 6 วนั สมปองเก็บเงนิ ใสก่ ระปุกได้รวมท้ังสิน 120 บาท ในวนั ท่ี 7 สมปองจะต้องเก็บ เงนิ ใหไ้ ด้เทา่ ไหร่ คา่ เฉลยี่ จงึ จะเพม่ิ ขึน้ อกี 2 บาท 6. ดลิ กเรียนอยู่ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี3 มผี ลการเรยี น 5 ภาคเรยี นท่ีผา่ นมาดังน้ี ผลการเรยี นเฉลี่ย จำนวนหน่วยกิต ม.1 ภาคเรยี นที่ 1 3.20 15.0 ภาคเรยี นท่ี 2 4.00 15.0 ม.2 ภาคเรียนท่ี 1 3.50 14.5 ภาคเรียนท่ี 2 3.00 16.5 ม.3 ภาคเรียนท่ี 1 3.65 16.5 จงหาผลการเรยี นเฉลยี่ ท้งั หา้ ภาคเรียนของดิลก 4. หลงั จากจบเนอื้ หาเรื่องค่าเฉลีย่ เลขคณิต ทำการทดสอบเก็บคะแนนเรือ่ งคา่ เฉล่ียเลขคณิต ใบงานสำหรับทดสอบเก็บคะแนน
20 ใบงานที่ 2 เรื่อง ค่าเฉลี่ยเลขคณติ (2) หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง ค่าเฉล่ยี เลขคณติ รายวิชาคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน รหัสวชิ า ค22102 ภาคเรยี นที่ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 1. ชอื่ ………………………….………………สกุล................................................ ชน้ั ................... เลขที.่ .................. 2. ชอ่ื ………………………….………………สกุล................................................ ชนั้ ................... เลขท่.ี .................. 3. ชอ่ื ………………………….………………สกุล................................................ ชั้น ................... เลขท.ี่ .................. 4. ชอื่ ………………………….………………สกลุ ................................................ ชัน้ ................... เลขท.ี่ .................. 5. ช่อื ………………………….………………สกลุ ................................................ ชน้ั ................... เลขท.ี่ .................. 6. ชอ่ื ………………………….………………สกุล................................................ ชั้น ................... เลขท.ี่ .................. จุดประสงค์ 1.นกั เรยี นสามารถแก้โจทย์ปญั หาค่าเฉลี่ยเลขคณติ ได้ คำชแ้ี จง: ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี 1. การใช้จ่ายเงินประจำวันของนกั เรยี นกลมุ่ หนงึ่ ซึ่งมี 30 คน มดี ังนี้ ใชว้ ันละ 30 บาท มี 5 คน ใช้วันละ 40 บาท มี 17 คน ใช้วนั ละ 50 บาท มี 6 คน ใชว้ ันละ 60 บาท มี 2 คน จงหาค่าเฉล่ยี เลขคณิต …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… 2. นำ้ หนกั ของนกั เรยี นกลมุ่ หน่ึง ซงึ่ มี 20 คน หนัก 52 กโิ ลกรัม มี 4 คน หนัก 48 กิโลกรมั มี 3 คน หนกั 60 กิโลกรัม มี 5 คน หนัก 56 กโิ ลกรมั มี 7 คน และมี 44 กโิ ลกรัม 1 คน จงหานำ้ หนกั เฉลีย่ ของนักเรยี นกลุ่มน้ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… 3. จากข้อมูลตอ่ ไปน้ี 5, 1, 2, 3, 3, 4, 2, 2, 4, 3, 5, 1, 5, 5, 5 จงหาคา่ เฉล่ยี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……
21 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ส่อื และแหล่งเรียนรู้ -หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 -ใบงานท่ี 1 เรอื่ งค่าเฉลีย่ เลขคณติ (1) -ใบงานท่ี 2 เรอ่ื งคา่ เฉลี่ยเลขคณติ (2) การวดั ผลและประเมนิ ผล จุดประสงค์ วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ 1.นกั เรยี นสามารถ -ตรวจแบบฝกึ หัด 1.4 -แบบฝึกหัด 1.4 ก. - ตรวจสอบความถกู ต้อง อธิบายถึงความหมาย ก. และความเขา้ ใจ และวธิ ีการหาคา่ ของ ค่าเฉลยี่ เลขคณติ ได้ -ตรวจใบงานที่1 เร่อื ง -ใบงานท่ี 1 เรอ่ื งค่าเฉลย่ี -ทำไดถ้ ูกตอ้ งไม่น้อยกว่า 2.นกั เรยี นสามารถหา คา่ เฉลยี่ เลขคณติ (1) เลขคณิต(1) และ .ใบงาน รอ้ ยละ 50 ถอื ว่าผา่ น ค่าเฉล่ียเลขคณิตของ และใบงานท2ี่ เร่ือง ที่ 2 เรื่องค่าเฉลย่ี เลข เกณฑ์ ขอ้ มูลท่ีไมแ่ จกแจง คา่ เฉลี่ยเลขคณิต(2) คณิต(2) ความถไี่ ด้ 3.นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มใน -การเขา้ เรยี น - การเข้าเรียน - เข้าเรยี นตรงเวลา กจิ กรรมการเรยี นการ -การมสี ว่ นร่วมใน - การทางานในชัน้ เรยี น - เม่อื ครถู ามนกั เรยี นมี สอนและมงุ่ มนั่ ในการ กิจกรรมการเรยี นการ - การบ้านทไี่ ดร้ บั ความกระตือรือรน้ และ เรียน สอน มอบหมาย ความสนใจในการตอบ
22 - รบั ผิดชอบงานที่ไดร้ บั มอบหมาย เกณฑก์ ารประเมินการทำกิจกรรมและใบงาน ดังนี้ รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป หมายถงึ ดมี าก รอ้ ยละ 70-79 หมายถึง ดี ร้อยละ 60-69 หมายถงึ ปานกลาง รอ้ ยละ 50-59 หมายถงึ ผ่าน ตำ่ กว่า รอ้ ยละ 50 หมายถึง ปรบั ปรุง กจิ กรรมเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... บนั ทึกความคดิ เหน็ ของครพู เี่ ลย้ี งก่อนสอน .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ลงชือ่ .............................................................. วนั /เดอื น/ปี............................ บนั ทึกความคดิ เห็นครพู ี่เล้ียงหลงั สอน .......................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................................ วัน/เดอื น/ปี............................ บันทึกผลหลงั สอน ผลการสอน .......................................................................................................................................................................... ปัญหา/อปุ สรรค .......................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ..........................................................................................................................................................................
23 ลงชอื่ .......................................................นกั ศึกษา วัน/เดอื น/ปี.......................... ลงชื่อ……………………………………….. (ครูพี่เลยี้ ง / ครูนิเทศ / ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา)
24 แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระคณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตรพ์ ้นื ฐาน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 ชื่อหนว่ ยสถติ (ิ 2) ภาคเรียนท2่ี /2564 แผนท่ี 2 เรือ่ งค่ากลางของขอ้ มูล(มธั ยฐาน) เวลาสอน 1 ชว่ั โมง สอนวันท.ี่ .........เดือน.............................. พ.ศ........... ชื่อผสู้ อนนางสาวสุพรรษา ชำนาญ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคัญ มธั ยฐาน (median) คอื คา่ คา่ หนงึ่ ซ่งึ เมอ่ื เรยี งขอ้ มูลจากมากไปน้อยหรอื จากนอ้ ยไปมากแลว้ จำนวน ของขอ้ มลู ทน่ี อ้ ยกวา่ หรือเทา่ กบั ค่าน้ัน จะเทา่ กบั จำนวนของข้อมูลท่มี ากกว่าหรอื เทา่ กบั คา่ นนั้ มาตรฐาน สาระที่ 3 สถติ ิและความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติและการใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการแกป้ ญั หา ตัวช้ีวดั ม.2/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิตใิ นการนำเสนอข้อมลู และวเิ คราะห์ข้อมูลจากแผนภาพจุด แผนภาพตน้ ไม้-ใบ ฮสิ โตแกรม และค่ากลางของขอ้ มูล และแปลความหมายผลลัพธ์ รวมท้ังนำสถติ ิไปใชใ้ นชวี ิต จรงิ โดยใชเ้ ทคโนโลยีท่ีเหมาะสม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.นกั เรยี นสามารถอธิบายถงึ ความหมายและวธิ ีการหาคา่ ของมธั ยฐานได้ 2.นกั เรยี นสามารถหาคา่ มธั ยฐานได้ 3.นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นการสอนและมงุ่ มน่ั ในการเรยี น สาระการเรยี นรู้ คา่ กลางของขอ้ มูล -มัธยฐาน สมรรถนะสำคญั 1.ความสามารถในการคิด 1.1 ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 1.2 ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ 1.3 ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้ 1.4 ทักษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ 2. ความสามารถในการส่ือสาร
25 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.มวี ินัย 2.ใฝ่เรยี นรู้ 3.มงุ่ มั่นในการทำงาน กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำ 1. ครทู บทวนความรู้ของคา่ กลางของข้อมูลในแบบแรกทเ่ี รียนก่อนหนา้ น้ี นน่ั กค็ อื “คา่ เฉลีย่ เลขคณติ ” เพ่ือเปรียบเทียบประโยชน์ทีแ่ ตกต่างกันของค่ากลางทง้ั สองแบบนใ้ี ห้นักเรยี นได้เขา้ ใจ โดยการถามตอบ 2. ครกู ล่าวนำถงึ เรื่องทจ่ี ะสอนวา่ เป็นเนอ้ื หาหนึง่ ในเรอ่ื งของค่ากลางของข้อมลู นัน่ ก็คือ “มัธยฐาน” ท่ี เปน็ ค่ากลางชนดิ หน่งึ ขนั้ สอน 3. ครูให้นักเรียนพิจารณาขอ้ มูลต่อไปน้ี พนกั งาน 7 คนของบรษิ ทั แหง่ หนง่ึ มรี ายไดต้ ่อเดือน ดงั นี้ 300,000 บาท 60,000 บาท 36,000 บาท 32,000 บาท 30,000 บาท 28,000 บาท และ 18,000 บาท ผลบวกของรายไดข้ องพนักงาน 7 คน เท่ากบั 300,000+60,000+36,000+32,000+30,000+28,000+18,000 = 504,000 บาท ดังนนั้ ค่าเฉลีย่ เลขคณติ เท่ากับ 504,000 = 72,000 บาท 7 ถ้าเราใชค้ ่าเฉลย่ี เลขคณิตน้ีเปน็ ตัวแทนแสดงรายไดต้ อ่ เดือนของพนักงานกล่มุ น้ี ค่าดังกลา่ วจะไม่ เหมาะสม เพราะจากพนักงานทั้งหมด 7 คน มีพนักงานถึง 6 คนทแ่ี ตล่ ะคนมีรายไดต้ ำ่ กวา่ 72,000 บาท ลองพิจารณาการหาค่ากลางของขอ้ มูลอีกวธิ ีหนง่ึ ซง่ึ ไดจ้ ากการเรยี งขอ้ มูลจากน้อยไปมาก แลว้ เลือก ข้อมูลท่ีอยู่ตรงกลางของข้อมลู ทงั้ หมด ดังนี้ 18,000 28,000 30,000 32,000 36,000 60,000 300,000 ขอ้ มูลที่อยู่ตรงกลาง จะเห็นว่า ขอ้ มลู ท่ีอยูต่ รงกลางของข้อมลู ทงั้ หมด คือ 32,000 ซึ่งเปน็ รายได้ที่ใกล้เคียงกบั รายได้ของ พนกั งานสว่ นใหญ่ ดงั นั้น ค่ากลางทเ่ี หมาะสมเปน็ ตวั แทนของข้อมูลชุดนี้ คือ 32,000 บาท ในทางสถติ ิ เรยี กคา่ กลางดังกล่าววา่ มัธยฐาน (median)
26 4.ครอู ธิบายความหมายของมัธยฐาน (มธั ยฐาน (median) คอื คา่ คา่ หนงึ่ ซง่ึ เมอื่ เรยี งขอ้ มลู จากมากไปนอ้ ยหรอื จากนอ้ ยไปมากแลว้ จำนวน ของข้อมูลท่ีนอ้ ยกวา่ หรอื เทา่ กับค่านัน้ จะเท่ากับ จำนวนของขอ้ มูลทม่ี ากกว่าหรอื เท่ากบั คา่ น้นั สตู รการหาตำแหนง่ ของมัธยฐาน คอื ตำแหนง่ ของมัธยฐาน= จำนวนข้อมลู ทงั้ หมด+1 ) 2 5. ครอู ธบิ ายและสอนวธิ กี ารหามัธยฐานตามขน้ั ตอน (1.เรียงลำดบั สมาชกิ ในชุดข้อมูลจากมากไปน้อยหรอื นอ้ ยไปมาก 2.ถ้าจำนวนข้อมูลท้ังหมดเปน็ จำนวนคี่ มัธยฐาน คอื ข้อมลู ท่ีอยู่ตรงกลาง เชน่ ข้อมลู 10, 13, 14, 15, 17, 21, 25, 27, 32 4จำนวน 4จำนวน ข้อมูลที่อยู่ตรงกลาง ตำแหน่งมธั ยฐาน คอื 9+1 = 5 2 มัธยฐาน คือ 17 3.ถ้าจำนวนขอ้ มูลทง้ั หมดเปน็ จำนวนคู่ จะใช้คา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของข้อมลู คทู่ ี่อยู่ตรงกลางเปน็ มัธยฐาน เชน่ ข้อมูล 5, 5, 7, 7, 14, 16, 20, 20 3จำนวน 3จำนวน ขอ้ มลู คู่ทอี่ ยูต่ รงกลาง ตำแหน่งมัธยฐาน คอื 8+1 = 4.5 2 ดงั นัน้ ตำแหนง่ คือ 4 และ 5 มัธยฐาน คอื 7+14 = 10.5 ) 2 6. หลงั จากอธบิ ายถึงความหมายของมัธยฐานและวิธกี ารหามธั ยฐานแลว้ ครยู กตัวอยา่ งเพ่อื อธิบายให้ นกั เรยี นไดเ้ หน็ ภาพและเขา้ ใจยง่ิ ขน้ึ อยา่ งนอ้ ย2ตวั อยา่ ง ระหวา่ งแสดงวิธที ำให้ซักถามนักเรยี นแตล่ ะคนจน ครบ ตวั อย่างท1ี่ จงหามธั ยฐานของข้อมูล 20, 25, 21, 24, 22, 26, 20 วิธที ำ จำนวนขอ้ มลู ทั้งหมด = 7 ตำแหน่งของมธั ยมฐาน = 7 + 12 = 4 จัดเรียงขอ้ มูลจากน้อยไปมากได้ ดงั นี้ 20 20 21 22 24 25 26 ตำแหนง่ ท่ี 4 ดังนนั้ มธั ยฐานของขอ้ มูลชดุ น้เี ท่ากบั 22
27 ตวั อย่างท2ี่ จงหามธั ยฐานของคะแนนสอบของนักเรียน 20 คน ดงั ในตาราง คะแนน 10 15 20 30 ความถ่ี (คน) 4 6 5 5 วิธีทำ เรยี งลำดับคะแนนทง้ั หมดจากน้อยไปมากตามจำนวนนักเรียนไดด้ งั นี้ ขอ้ มูล 10, 10, 10, 10, 15, 15, 15, 15, 15, 15, 20, 20, 20, 20, 20, 30, 30, 30, 30, 30 ขอ้ มลู คู่ทอ่ี ยูต่ รงกลาง เน่อื งจาก จำนวนขอ้ มลู เปน็ จำนวนคู่ จะใชค้ ่าเฉลี่ยเลขคณิตของขอ้ มูลคู่ทอี่ ยตู่ รงกลางเปน็ มธั ยฐาน ดังนั้น มัธยฐานของคะแนนสอบ เท่ากบั 15+20 = 17.5 คะแนน 2 ตอบ 17.5 คะแนน ขน้ั สรุป 7. เมอ่ื ครอู ธิบายความหมายและวิธีการหามัธยฐานเสรจ็ ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั (แบบฝกึ หดั 1.4 ข. ข้อ 1. - 2. (หน้าท5่ี 0-51 หนงั สอื คณิตศาสตร์พืน้ ฐาน ม.2 เลม่ 2)) แบบฝกึ หัด 1.4 ข. 1. จงหามธั ยฐานของข้อมูลแต่ละชดุ ต่อไปน้ี 1) 15, 18, 17, 17, 29, 25, 37, 49 และ 62 2) 0.8, 5.1, 11.3, 7.2, 0.8, 6.5, 4.3 และ 10.2 3) 72, 56, 48, 72, 58, 90 และ 72 4) 10, 20, 12, 12, 20, 16, 12, 15, 11 และ 12 2. จงหาจำนวนตา่ ง ๆ ตามเงื่อนไขในแตล่ ะขอ้ ต่อไปนีม้ าข้อละ 1 ชุด 1) จำนวน 4 จำนวน โดยทีแ่ ตล่ ะจำนวนไมเ่ ท่ากบั 25 แตม่ ีมัธยฐานเท่ากบั 25 2) จำนวน 4 จำนวน ทมี่ พี ิสัยเทา่ กบั 21 และมีมธั ยฐานเทา่ กับ 32 3) จำนวน 5 จำนวน ซ่งึ อยรู่ ะหวา่ ง 90 ถึง 120 โดยมคี ่าเฉล่ียเทา่ กับ 110 และมมี ธั ยฐานเทา่ กับ 105 4) จำนวน 5 จำนวน ซึง่ มีคา่ เฉลีย่ เทา่ กับ 20 มธั ยฐานเทา่ กบั 10 และพิสยั เท่ากับ 50 8. หลังจากจบเนอื้ หาเร่อื งมัธยฐาน ทำการทดสอบเก็บคะแนนเรื่องมัธยฐาน ใบงานสำหรับทดสอบเกบ็ คะแนน
28 ชอื่ ……………………………………….…………………...…… ช้ัน…………...... เลขท่ี ……………… ใบงานที่ 1 เรอื่ ง มธั ยฐาน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง มัธยฐาน รายวชิ า คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวชิ า ค22102 ภาคเรียนที่ 2 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 จดุ ประสงค์ นกั เรยี นสามารถหาคา่ มธั ยฐานได้ คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ 1. จงหามัธยฐานของขอ้ มลู ตอ่ ไปนี้ 126, 120, 131, 125,124, 121,125, 128, 130, 132, 125, 135 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… 2.จงหามธั ยฐานของข้อมูลตอ่ ไปนี้ 12, 12, 13, 15, 14, 11, 15, 18, 13, 15, 13, 14, 16 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… 3. จงหามธั ยฐานของข้อมูลต่อไปนี้ 146, 150, 131, 145, 144, 151, 145, 148, 150, 152 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… 4. จงหามัธยฐานของข้อมูลตอ่ ไปน้ี 26, 10, 21, 22, 24, 21, 25, 28, 23, 22, 25, 26, 22 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
29 ส่ือและแหลง่ เรยี นรู้ -หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 -ใบงานที่ 1 เรอื่ งมธั ยฐาน การวดั ผลและประเมินผล จุดประสงค์ วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ 1.นกั เรยี นสามารถ -ตรวจแบบฝกึ หดั 1.4 ข. -แบบฝกึ หดั ข. - ตรวจสอบความถูกตอ้ ง อธิบายถงึ ความหมาย และความเขา้ ใจ และวธิ ีการหาค่า -ตรวจใบงานท่ี 1 เรอื่ งมัธย -ใบงานท่ี 1 เรอื่ งมัธยฐาน ของมัธยฐานได้ ฐาน -ทำได้ถกู ตอ้ งไมน่ อ้ ยกวา่ 2.นกั เรยี นสามารถหา - การเข้าเรียน รอ้ ยละ 50 ถอื วา่ ผ่าน ค่ามัธยฐานได้ - การทางานในช้นั เรียน เกณฑ์ - การบ้านทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย - เขา้ เรียนตรงเวลา 3.นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มใน -การเขา้ เรยี น - เมื่อครูถามนกั เรียนมี กิจกรรมการเรยี นการ -การมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรม ความกระตือรอื ร้นและ สอนและม่งุ มน่ั ในการ การเรียนการสอน ความสนใจในการตอบ เรยี น - รับผดิ ชอบงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย เกณฑก์ ารประเมนิ การทำกิจกรรมและใบงาน ดังนี้ ร้อยละ 80 ขึน้ ไป หมายถงึ ดีมาก รอ้ ยละ 70-79 หมายถึง ดี รอ้ ยละ 60-69 หมายถงึ ปานกลาง รอ้ ยละ 50-59 หมายถึง ผา่ น ต่ำกว่า 50 หมายถึง ปรับปรงุ กิจกรรมเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... บนั ทึกความคดิ เหน็ ของครพู เี่ ล้ียงกอ่ นสอน .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ลงชือ่ .............................................................. วัน/เดอื น/ป.ี ...........................
30 บนั ทึกความคดิ เหน็ ครูพเ่ี ล้ียงหลังสอน .......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................ วัน/เดือน/ปี............................ บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการสอน .......................................................................................................................................................................... ปญั หา/อปุ สรรค .......................................................................................................................................................................... แนวทางแกไ้ ข .......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .......................................................นกั ศึกษา วัน/เดือน/ป.ี ......................... ลงช่อื ……………………………………….. (ครพู ่ีเล้ยี ง / ครูนิเทศ / ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา)
31 แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์พื้นฐาน ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ช่ือหน่วยสถิต(ิ 2) ภาคเรยี นท2ี่ /2564 แผนท่ี 3 เร่อื งค่ากลางของข้อมูล(ฐานนิยม) เวลาสอน 1 ชวั่ โมง สอนวันท.ี่ .........เดือน.............................. พ.ศ........... ชือ่ ผู้สอนนางสาวสุพรรษา ชำนาญ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์ ************************************************************************************ สาระสำคัญ ฐานนิยม (mode) คือ ข้อมูลทม่ี ีความถี่สงู สดุ ในข้อมลู ชดุ หนึง่ ๆ มาตรฐาน สาระที่ 3 สถติ ิและความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ แิ ละการใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการแก้ปญั หา ตัวช้วี ดั ม.2/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนำเสนอข้อมลู และวเิ คราะหข์ ้อมูลจากแผนภาพจุด แผนภาพต้นไม้-ใบ ฮสิ โตแกรม และค่ากลางของขอ้ มลู และแปลความหมายผลลพั ธ์ รวมท้งั นำสถิตไิ ปใช้ในชวี ติ จรงิ โดยใช้เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.นกั เรยี นสามารถอธิบายถึงความหมายและวธิ กี ารหาค่าของฐานนิยมได้ 2.นกั เรยี นสามารถหาฐานนิยมได้ 3.นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นการสอนและมงุ่ มน่ั ในการเรยี น สาระการเรยี นรู้ คา่ กลางของขอ้ มลู -ฐานนิยม สมรรถนะสำคัญ 1.ความสามารถในการคิด 1.1 ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 1.2 ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ 1.3 ทักษะการประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ 1.4 ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 2. ความสามารถในการสื่อสาร
32 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ . 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มงุ่ มนั่ ในการทำงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครกู ล่าวนำถงึ เรื่องที่จะสอนวา่ เปน็ เนอ้ื หาหนง่ึ ในเรื่องของคา่ กลางของขอ้ มลู นน่ั กค็ อื “ฐานนยิ ม” ท่ีเปน็ ค่ากลางชนิดหนึง่ 2. ครทู บทวนความร้ขู องค่ากลางของข้อมลู ในสองแบบแรกที่เรียนกอ่ นหน้านี้ น่ันก็คือ “คา่ เฉล่ยี เลข คณิตและมธั ยฐาน” เพอื่ เปรยี บเทยี บประโยชนท์ แ่ี ตกตา่ งกนั ของคา่ กลางในแตล่ ะแบบนี้ใหน้ ักเรยี นได้เข้าใจ ขน้ั สอน 3. ครใู ห้นกั เรยี นพจิ ารณาสถานการณ์ตอ่ ไปน้ี นกั เรยี นกลมุ่ หนง่ึ ตอ้ งการทราบวา่ เพอ่ื น ๆ ทุกคนในชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี2 ชอบกฬี าชนดิ ใดมากทสี่ ดุ จากกีฬาฟุตบอล บาสเกตบอล และเทนนสิ นกั เรยี นกลมุ่ นจ้ี งึ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยการสอบถาม นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่2 ทุกคน จำนวน 250 คน เมอื่ ได้ข้อมลู ครบถว้ นแล้ว จงึ นำมาจำแนกตาม ความชอบมากท่ีสดุ ได้ผลดงั นี้ ชอบฟุตบอล 120 คน ชอบบาสเกตบอล 90 คน ชอบเทนนสิ 40 คน นกั เรยี นกลมุ่ นจ้ี งึ สรปุ ไดว้ ่า เพอื่ น ๆ ของเขาชอบฟุตบอลมากทสี่ ุด 4. ครูกล่าวว่า ในทางสถิติ เรยี กขอ้ มูลทมี่ คี นชอบมากที่สดุ น้ีวา่ ฐานนยิ ม (mode) ครูอธิบายเนือ้ หา และความหมายของฐานนิยม (ฐานนยิ ม (mode) คอื ข้อมลู ทม่ี คี วามถส่ี ูงสดุ ในขอ้ มลู ชดุ หนึง่ ๆ) 5.ครอู ธบิ ายและสอนวิธีการหาฐานนิยมตามข้นั ตอน (1.ถ้าข้อมลู ชดุ หน่งึ มขี อ้ มูลทมี่ ีความถีส่ ูงสุดเพยี งขอ้ มูลเดยี ว ฐานนิยม คือ ขอ้ มูลทม่ี ีความถ่ีสงู สดุ น้นั เชน่ 4, 3, 3, 7, 5, 8, 7, 9, 7, 3, 2, 2, 7 และ 5 เมอ่ื นาข้อมลู มาจำแนกจะไดด้ งั ตาราง คะแนน 2 3 4 5 7 8 9 จำนวนนักเรียน(คน) 2 3 1 2 4 1 1 จะเห็นวา่ นกั เรียนทส่ี อบได้ 2 คะแนน มี 2 คน 3 คะแนน มี 3 คน 4 คะแนน มี 1 คน
33 5 คะแนน มี 2 คน 7 คะแนน มี 4 คน 8 คะแนน มี 1 คน 9 คะแนน มี 1 คน คะแนนท่นี กั เรยี นสว่ นใหญท่ าได้ คือ 7 คะแนน ดงั นนั้ ฐานนิยมของขอ้ มูลชดุ น้ี คอื 7 คะแนน 2.ถา้ ข้อมูลชดุ หนึ่ง มีข้อมลู แตล่ ะตวั มคี วามถี่เท่ากนั หมด จะถอื วา่ ข้อมูลชุดน้ันไม่มีฐานนิยม 3.ถา้ ข้อมูลชุดหน่งึ มขี ้อมูลทม่ี ีความถี่เท่ากนั มากกว่าหน่ึงขอ้ มูล ในทีน่ จี้ ะไม่พจิ ารณาหาฐานนยิ มของ ข้อมูล ) 5. ครยู กตัวอยา่ งเพ่อื อธบิ ายให้นักเรียนไดเ้ หน็ ภาพและเขา้ ใจยง่ิ ขน้ึ อย่างน้อย2ตัวอยา่ ง ระหวา่ งแสดง วธิ ีทำให้ซักถามนกั เรียนแต่ละคนจนครบ ตวั อยา่ งท1ี่ คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตรข์ องนกั เรยี นจานวน 10 คน เป็นดังน้ี 8 9 10 10 3 5 6 10 6 1 1) ใหห้ าฐานนยิ มของขอ้ มูลชดุ น้ี 2) ถา้ มนี กั เรยี นเพ่ิมมา 2 คน ซึง่ ได้คะแนนสอบเป็น 6 และ 8 คะแนน ฐานนิยมของข้อมูลชุด น้ีจะเป็นเท่าใด วธิ ีทำ 1) หาฐานนิยมของขอ้ มูลชุดนี้ ดงั น้ี 1 3 5 6 6 8 9 10 10 10 ข้อมูลทีม่ ีความถ่ีสูงสุด ดงั นนั้ ฐานนิยมของข้อมูลชุดนี้ คอื 10 2) ถา้ มีนักเรยี นเพมิ่ มา 2 คน ซง่ึ ได้คะแนนสอบเป็น 6 และ 8 คะแนน จะไดว้ า่ มขี ้อมลู ที่ซ้ำกันมากทีส่ ุด 2 ขอ้ มลู คอื 6 คะแนน และ 10 คะแนน ดงั นน้ั ข้อมูลชุดนไ้ี มม่ ีฐานนิยม ตวั อย่างท2ี่ จากการสำรวจเบอร์รองเท้าของคน 200 คน ปรากฏผลดงั นี้ เบอรร์ องเทา้ 1 4 1 5 1 32 42 52 ความถ่ี (คน) 40 35 75 30 20 จงหาวา่ คนกลุ่มน้สี ่วนใหญใ่ ชร้ องเทา้ เบอรใ์ ด วิธีทำ เนือ่ งจากรองเท้าเบอร์ 4 1 มีความถ่ีสูงสุดเทา่ กับ 75 2 จะได้ฐานนิยมคอื เบอร์ 4 1 2 ดังน้นั คนกลุ่มนสี้ ว่ นใหญใ่ ช้รองเทา้ เบอร์ 4 1 2 ตอบ เบอร์ 4 1 2
34 ข้ันสรุป 6. เมอื่ ครอู ธิบายความหมายและวิธีการหาฐานนยิ มเสรจ็ ใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั (แบบฝึกหัด1.4 ข. ขอ้ 3. (หนา้ ท5่ี 1 หนังสือคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ม.2 เล่ม 2)) แบบฝึกหัด 1.4 ข. 3. จงหาฐานนยิ มของข้อมูลแตล่ ะชุดตอ่ ไปนี้ 1) 5, 7, 4, 8, 7, 11, 7, 4, 10 และ 8 2) 41.4, 38.5, 40.1, 37.3, 38.7, 35.2, 43.9 และ 39.9 3) 15, 18, 11, 11, 21, 15, 18, 17, 11, 15 และ 11 7. หลังจากจบเน้ือหาเรื่องฐานนยิ ม ทำการทดสอบเกบ็ คะแนนเร่ืองฐานนยิ ม ใบงานสำหรับทดสอบเก็บคะแนน ชอ่ื ……………………………………….…………………...…… ชัน้ …………...... เลขท่ี ……………… ใบงานท่ี 1 เร่อื ง ฐานนิยม หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ฐานนยิ ม รายวชิ า คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน รหสั วชิ า ค22102 ภาคเรยี นท่ี 2 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 จดุ ประสงค์ 1. นกั เรยี นสามารถหาคา่ ฐานนิยมได้ คำชี้แจง : จงหาฐานนิยมของข้อมูลต่อไปน้ี 1. 110 130 130 160 170 200 190 ฐานนยิ ม คือ………………………………………………………………………………… 2. 250 126 128 203 226 229 225 250 ฐานนิยม คอื ………………………………………………………………………………… 3. ความสูงของนักเรียนชุดหน่งึ เป็นดงั นี้ 157 156 160 151 175 163 158 ฐานนิยม คือ ………………………………………………………………………………… 4. คะแนนชุดหนง่ึ มดี ังน้ี 5, 14, 6, x, 6, 8, 8, 9, 5, 11, 10 ถ้าคา่ เฉลย่ี เลขคณิตในคะแนนชุดนเ้ี ทา่ กบั 8 จงหาฐานนยิ ม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………..…………………………………............
35 5. สำรวจข้อมลู ของนักเรยี นจำนวน 10 คน ทนี่ ำเงนิ มาโรงเรยี นในแตล่ ะวัน ได้ดังนี้ 18 20 x 16 17 20 19 15 10 16 ถ้าค่าเฉล่ยี เลขคณิตเทา่ กบั 17 และมธั ยฐานเทา่ กบั 17.5 จงหาฐานนยิ ม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………..…………………………………............ สอื่ และแหลง่ เรยี นรู้ -หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 -ใบงานท่ี 1 เร่อื งฐานนยิ ม การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์ 1.นกั เรยี นสามารถ -ตรวจแบบฝกึ หดั 1.4 -แบบฝกึ หดั 1.4 ข. - ตรวจสอบความถกู ต้อง อธบิ ายถึงความหมาย ข. และความเขา้ ใจ และวธิ ีการหาค่าของฐาน นิยมได้ 2.นกั เรยี นสามารถหา -ตรวจใบงานที่ 1 เร่อื ง -ใบงานท่ี 1 เรอ่ื งฐานนิยม -ทำไดถ้ ูกต้องไม่นอ้ ยกว่า ฐานนยิ มได้ ฐานนิยม ร้อยละ 50 ถือว่าผ่าน เกณฑ์ 3.นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มใน -การเข้าเรยี น - การเขา้ เรียน - เข้าเรียนตรงเวลา กจิ กรรมการเรยี นการ -การมีส่วนร่วมใน - การทางานในชน้ั เรยี น - เมอื่ ครูถามนกั เรยี นมี สอนและมงุ่ มั่นในการ กิจกรรมการเรยี นการ - การบ้านทไี่ ดร้ ับ ความกระตือรือรน้ และ เรียน สอน มอบหมาย ความสนใจในการตอบ - รับผิดชอบงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย
36 กจิ กรรมเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... บนั ทึกความคดิ เห็นของครพู เ่ี ลย้ี งก่อนสอน .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ลงชือ่ .............................................................. วนั /เดือน/ปี............................ บนั ทึกความคดิ เหน็ ครูพเ่ี ลยี้ งหลงั สอน .......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................ วัน/เดอื น/ปี............................ บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการสอน .......................................................................................................................................................................... ปัญหา/อปุ สรรค .......................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไข .......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .......................................................นักศึกษา วัน/เดอื น/ปี.......................... ลงชอ่ื ……………………………………….. (ครพู ีเ่ ลยี้ ง / ครูนิเทศ / ผู้บรหิ ารสถานศึกษา)
37 ใบงานท่ี 2 การประกันคณุ ภาพการศกึ ษาทสี่ อดคลอ้ งกบั สถานศกึ ษา วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจในโครงสร้างระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้อง กับสถานศึกษาแต่ละระดับ (ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ระดับปฐมวัย, ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศนู ย์การศึกษาพิเศษ) 2. เพอ่ื ใหน้ กั ศึกษามีความรคู้ วามเข้าใจในมาตรฐานการศกึ ษา ในแต่ละระดบั (ระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน , ระดบั ปฐมวยั , ระดบั การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ) 3. เพอ่ื ใหน้ กั ศึกษาสามารถฝึกปฏิบตั ิงานประกนั คณุ ภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานศกึ ษาได้จริง ขอบข่ายของงาน ให้นักศึกษา ศึกษาโครงสร้างระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานศึกษา แต่ละระดับ ในแตล่ ะมาตรฐานตามที่กำหนดให้ ผเู้ กี่ยวข้อง/แหลง่ ข้อมลู 1. ครูนิเทศก์ / ครูพ่เี ล้ียง 2. เอกสารประกนั คุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา
38 1. กรอกการประเมินคณุ ภาพการศึกษาที่สอดคลอ้ งกับสถานศึกษา ระดับการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ชอื่ สถานศกึ ษาโรงเรยี นกงไกรลาศวทิ ยา รอบท่ี 4 ประเดน็ การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน 1. แนวคดิ หลักในการประเมนิ คณุ ภาพ การศกึ ษาของสถานศึกษา 2. วตั ถุประสงค์ในการประเมนิ คณุ ภาพ การศกึ ษาของสถานศกึ ษา 3. เป้าหมายในการประเมนิ คุณภาพการศึกษา ของสถานศึกษา 4. วิธกี ารประเมิน 5. ขัน้ ตอนการดำเนินงานในการประเมนิ คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 2. สรุปการประเมินคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานศึกษา ตามกรอบมาตรฐานการศึกษา พทุ ธศักราช 2561 ระดบั การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน 2.1 มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผ้เู รยี น โรงเรียนกงไกรลาศวิทยาได้ กำหนดวสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ ในการพัฒนาผู้เรยี นสู่มาตรฐานสากล สามารถบรู ณาการทกั ษะวิชาการ ทักษะชีวิต และปลกู ฝงั ให้ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม คณุ ลกั ษณะท่ี พงึ ประสงค์บนพื้นฐานของความเปน็ ไทย ร่วมกนั อนรุ กั ษ์วฒั นธรรมท้องถิ่นและส่ิงแวดลอ้ ม โดยน้อม นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาเปน็ หลกั คดิ ในการดำเนนิ การพัฒนาผเู้ รยี นดา้ นผลสัมฤทธ์ิ ด้านวชิ าการ ให้เปน็ บคุ คลท่ีมคี วามสามารถในการอ่านการเขียน การสอ่ื สาร และการคิดคำนวณ การ คดิ วิเคราะห์ คดิ อย่างมวี ิจารณญาณ อภิปรายแลกเปล่ียนความคดิ เห็นและแกป้ ัญหา การสร้าง นวตั กรรม การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสูตร สถานศึกษา มคี วามรู้ ทกั ษะพืน้ ฐาน และเจตคติที่ดตี อ่ งานอาชีพ ควบคกู่ บั การพฒั นาคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึง ประสงค์ของผู้เรยี น มคี ณุ ลักษณะและค่านยิ มหลัก 12 ประการภมู ใิ จในท้องถ่ิน อยู่ร่วมกันบนความ
39 แตกตา่ งและหลากหลาย และมีสขุ ภาวะทางร่างกายและ จิตสงั คมท่ีดี ดว้ ยจุดเนน้ ผูเ้ รียนดว้ ย \" ไมผ้ ลดั สง่ ตอ่ ความด\"ี โดยใช้กจิ กรรมโครงการต่างๆ ดว้ ยวงจรคุณภาพควบคกู่ บั สอดแทรกหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ซ่งึ มกี ารดำเนินการในการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ด้านผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการประเมนิ การอ่านคิดวเิ คราะห์ เขียน สงู กวา่ คา่ เปา้ หมายทก่ี ำหนด ผเู้ รยี นมที กั ษะในการดำรงชวี ิต และสามารถนำความรูไ้ ประยกุ ตใ์ ช้ ในชวี ิตประจำวัน โดยนอ้ มนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ หลักคิดในการทำงาน มีความ ภูมิใจในท้องถนิ่ ยอมรบั ความแตกต่างระหว่างบคุ คล มสี ุขภาวะและสุนทรียภาพทีด่ ี สงู กวา่ คา่ เปา้ หมายทก่ี ำหนด 2.1.1 ผลสมั ฤทธท์ิ างวิชาการของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการอา่ น การเขยี น การสื่อสาร และการคดิ คำนวณ 2) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความ คดิ เหน็ และแกป้ ัญหา 3) มีความสามารถในการสร้างนวตั กรรม 4) มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 5) มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศกึ ษา 6) มคี วามรู้ ทกั ษะพืน้ ฐาน และเจตคติทดี่ ตี ่องานอาชพี 2.1.2 คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ของผู้เรยี น 1) การมคี ุณลักษณะและคา่ นยิ มท่ดี ีตามทสี่ ถานศึกษากำหนด 2) ความภมู ใิ จในทอ้ งถ่ินและความเป็นไทย 3) การยอมรับทจี่ ะอยรู่ ่วมกันบนความแตกตา่ งและหลากหลาย 4) สุขภาวะทางร่างกายและจิตสงั คม 2.2 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ โรงเรียนกงไกรลาศวิทยา มีระบบการทำงาน โดยใช้ระบบงานหลัก และระบบงานสนับสนุน บริหารงานโดยใช้ระบบวงจรคุณภาพ (PDCA) ร่วมกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี โครงสรา้ งการบริหารโรงเรยี นแบง่ เปน็ 7 กลมุ่ งาน แบ่งออกเปน็ ระบบงานหลัก 3 กล่มุ งานคือ กลุ่มงาน วิชาการ กลุ่มงานกิจการนักเรียน และกลุ่มงานแผนงานและงานประกันคุณภาพการศึกษา และ ระบบงานสนับสนุน แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มงาน คือ กลุ่มงานบุคคล กลุ่มงานธุรการ กลุ่มงานอาคารและ สถานที่ และกลุ่มงานงบประมาณ กำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพ การจัดการศึกษา จัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติที่สอดคล้องกับผลการจัดการศึกษาและผลการ ดำเนินการปีที่ผ่านมา พัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานหลักสูตรของสถานศึกษา มีการพัฒนาคุณภาพครู
40 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ ภายใต้รูปแบบการ A.KLW Model ส่งผลให้โรงเรียน ได้รับรางวลั ดา้ นการบรหิ ารจดั การ ดงั นี้ - โล่ประกาศเกียรติคุณ ของนายกรัฐมนตรี ในฐานะกลุ่มพลังเครือข่ายเยาวชนที่มีจิตอาสา ส่งเสริมศีล5 ค่านิยมหลัก 12 ประการ และขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ \"พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา\"ภายใต้โครงการกล้าแผ่นดินด้วยเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีพุทธศักราช 2563 โดยเครอื ข่ายเพอ่ื นฯ คณุ ธรรม และกระทรวงวฒั นธรรม - เป็นสถานศึกษานำร่อง โครงการ TFE (Teams For Education) ประจำปีงบประมาณ 2563 สำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร - โล่ประกาศเกียรติคุณ ของกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะกลุ่มเยาวชนจิตอาสาภาคี จัด กจิ กรรมกล้า อาสา ตามโครงการกล้าแผ่นดินด้วยพลังบวร ประจำปี 2563 โดยเครือข่ายเพื่อนฯ คุณธรรม และ กระทรวงวฒั นธรรม - ได้รับรางวัล ระดับเหรียญทอง กิจกรรมโครงงานพัฒนาจริยคุณ โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.ระดบั เขต พ้ืนท่ี สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 38 2.3 มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเี่ น้นผู้เรียนเป็นสำคญั โรงเรยี นกงไกรลาศวิทยา พัฒนาผ้เู รียนใหเ้ ปน็ ไปตามเป้าหมายของหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้น พ้ืนฐานพุทธศักราช 2551(ฉบบั ปรับปรงุ 2560) และหลกั สูตรสถานศึกษา โดยครผู สู้ อนทกุ คนต้องมีการ วเิ คราะหห์ ลักสูตรจดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้และจดั กระบวนการเรียนร้ทู เี่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ส่งเสรมิ ให้ ครจู ดั การเรยี นการสอนเนน้ การปฏบิ ัติ ให้ผูเ้ รียนผ่านกระบวนการคดิ ปฏิบัตจิ ริง มีการบรหิ ารจัดการชนั้ เรียน เชิงบวก สร้างปฏสิ ัมพันธท์ ่ดี รี ะหว่างครูและผเู้ รยี น ครูรจู้ ักผูเ้ รยี นเปน็ รายบคุ คล มกี ารตรวจสอบและประเมิน ผูเ้ รยี นอย่างเป็นระบบ ตลอดจนนำผลมาพฒั นาผเู้ รยี น รวมทง้ั ร่วมกันแลกเปล่ียนเรียนรู้ และประสบการณ์ (PLC) ระหวา่ งครู ดว้ ยกัน เปน็ ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวิชาชพี จดุ เด่นของการดำเนินการด้านกระบวนการ จัดการเรยี นการสอนสอนท่ีเนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ คอื จัดกระบวนการเรียนการสอนผ่านกระบวนการคดิ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ โดยนอ้ มนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาเป็นหลักคิดในการดำเนินงาน นำสู่การ ปฏิบตั ิจรงิ และเช่อื มโยงกับชวี ิตประจำวัน ลงช่ือ……………………………………….. (ครูพีเ่ ลยี้ ง / ครูนิเทศก์ / ผู้บริหารสถานศกึ ษา)
41 ใบงานที่ 3 การวิเคราะหแ์ นวทางในการพฒั นาตนเอง วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ตนเองนำไปสู่การพัฒนาตนเองให้มี ความเปน็ ครมู อื อาชพี ทีเ่ ท่าทันต่อการเปลย่ี นแปลงทั้งทางดา้ นศาสตรว์ ชิ าชีพครู และศาสตรส์ าขาวชิ าเอก ขอบขา่ ยงาน 1. ให้นักศึกษาทำการวิเคราะห์ตนเอง SWOT นำไปสู่การพัฒนาตนเองให้มีความเป็นครูมืออาชีพ ทีเ่ ท่าทนั ตอ่ การเปลีย่ นแปลงทัง้ ทางดา้ นศาสตรว์ ิชาชีพครแู ละศาสตร์สาขาวิชาเอก 2. สรุปการเคราะห์ตนเองเพื่อเป็นแนวทางนำไปสู่การเป็นครูมืออาชีพที่เท่าทัน ต่อการเปลี่ยนแปลงท้ังทางด้านศาสตร์วชิ าชพี ครูและศาสตรส์ าขาวิชาเอก ผู้เกี่ยวขอ้ ง / แหล่งข้อมลู 1. นักศึกษา 2. ครพู ี่เลย้ี ง/เพอ่ื นกั ศึกษา/อาจารย์นเิ ทศก์
42 1. วเิ คราะห์ SWOT ของตนเอง ชื่อผ้วู เิ คราะห์นางสาวสุพรรษา ชำนาญ วชิ าเอกคณติ ศาสตร์ วนั ที่ 14 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2564 คำอธบิ าย หมายความว่า จดุ แขง็ S (Strength) หมายความวา่ จุดออ่ น W (Weakness) หมายความว่า โอกาส O (Opportunity) หมายความวา่ อุปสรรค T (Threat) SW (จุดแขง็ ของตนเอง) (จุดออ่ นของตนเอง) -เปน็ คนทม่ี คี วามม่งุ ม่ันอยากท่ีจะถา่ ยถอดความรู้ -เปน็ คนเกรงใจผูอ้ ื่นมากเกนิ ไป โดยเฉพาะในการ และสร้างความเขา้ ใจในคณติ ศาสตร์ให้กับ ทำงานหรอื ในการขอความชว่ ยเหลือ เพราะคดิ ว่า นกั เรยี น ตัวเองจะเปน็ ภาระให้กับบุคคลเหล่านัน้ ทำใหใ้ น -ประพฤตติ นเปน็ แบบอย่างที่ดใี หแ้ ก่นักเรยี น พดู บางครั้งไมก่ ลา้ ที่จะพดู ขอความช่วยเหลอื หรอื ไพเราะ สุภาพเรยี บรอ้ ย มมี ารยาท และเคารพ ปรกึ ษาปญั หากบั บุคคลอ่ืน ผู้อื่น -ความรูพ้ ืน้ ฐานเก่ียวกบั คณติ ศาสตร์ยังไม่แนน่ มี -เปน็ คนทเ่ี ขา้ ใจผอู้ ่ืน และใส่ใจสง่ิ รอบตวั จงึ ความกังวลในการให้คำชีแ้ นะแก่นักเรยี น เพราะ มกั จะสังเกตเห็นถงึ สิ่งท่ผี ู้คนมองขา้ ม กลัววา่ จะสร้างมโนทศั นท์ ี่คลาดเคลอื่ นใหแ้ ก่ นกั เรยี น O T (โอกาสที่ตนเองไดร้ ับ) (อปุ สรรคทพ่ี บเจอ) -โอกาสในการสอนและการชว่ ยเหลอื งานใน -ไมม่ ั่นใจในตนเอง กลวั ทจ่ี ะผดิ พลาด และสร้าง โรงเรียน ทำใหไ้ ด้รับประสบการณ์ใหมๆ่ ท่ไี ดจ้ าก ความเขา้ ใจในคณติ ศาสตรท์ ผ่ี ดิ ๆให้แกน่ ักเรยี น การทำงาน -สถาณการณ์โรคระบาดโคโรน่าไวรสั 2019
43 -โอกาสทไี่ ด้รับความไว้ใจ เชือ่ ใจ จากนักเรียน ทำ -เดก็ นักเรียนมคี วามเท่าทันเทคโนโลยี ให้ ให้ไดเ้ ปน็ ทป่ี รกึ ษาชว่ ยแกข้ อ้ สงสัย หรอื ชว่ ยให้ ความสำคญั กบั การใช้เทคโนโลยี จงึ ละเลยการ คำแนะนำ ฝึกฝนทกั ษะการคดิ คำนวณ ทำใหน้ ักเรียนมี ปญั หาในทกั ษะนอี้ ย่างแพรห่ ลาย 2. สรุปการวิเคราะห์ตนเองเพื่อเป็นแนวทางนำไปสู่การเป็นครูมืออาชีพที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทง้ั ทางดา้ นศาสตรว์ ชิ าชพี ครู และศาสตร์สาขาวชิ าเอก จุดแข็ง คือ -เป็นคนท่ีมคี วามมงุ่ มน่ั อยากทจี่ ะถ่ายถอดความรู้และสร้างความเขา้ ใจในคณติ ศาสตร์ใหก้ ับ นกั เรยี น -ประพฤติตนเป็นแบบอย่างท่ดี ใี หแ้ ก่นักเรยี น พูดไพเราะ สภุ าพเรยี บรอ้ ย มีมารยาท และเคารพ ผู้อื่น -เปน็ คนที่เขา้ ใจผ้อู ืน่ และใส่ใจสงิ่ รอบตัว จงึ มักจะสังเกตเห็นถงึ ส่งิ ทผ่ี ้คู นมองข้าม จดุ ออ่ น คือ -เปน็ คนเกรงใจผู้อ่นื มากเกินไป โดยเฉพาะในการทำงานหรอื ในการขอความช่วยเหลอื เพราะคิดว่า ตวั เองจะเปน็ ภาระใหก้ ับบคุ คลเหล่านัน้ ทำให้ในบางคร้งั ไม่กลา้ ทจ่ี ะพดู ขอความชว่ ยเหลอื หรอื ปรึกษาปญั หากับ บคุ คลอ่นื -ความรู้พน้ื ฐานเกย่ี วกบั คณติ ศาสตรย์ งั ไมแ่ นน่ มคี วามกงั วลในการใหค้ ำช้ีแนะแกน่ ักเรียน เพราะ กลวั ว่าจะสรา้ งมโนทศั น์ท่ีคลาดเคล่อื นใหแ้ กน่ กั เรยี น โอกาสทต่ี นเองไดร้ ับ คอื -โอกาสในการสอนและการชว่ ยเหลืองานในโรงเรียน ทำให้ไดร้ ับประสบการณ์ใหมๆ่ ท่ี ไดจ้ ากการทำงาน -โอกาสที่ได้รับความไว้ใจ เชอ่ื ใจ จากนกั เรียน ทำใหไ้ ด้เป็นที่ปรกึ ษาช่วยแก้ขอ้ สงสัย หรอื ชว่ ยใหค้ ำแนะนำ อปุ สรรคที่เจอ คือ -ไม่ม่นั ใจในตนเอง กลวั ที่จะผิดพลาด และสรา้ งความเขา้ ใจในคณติ ศาสตรท์ ผี่ ิดๆให้แก่ นกั เรยี น -สถาณการณโ์ รคระบาดโคโรน่าไวรสั 2019 -เดก็ นักเรียนมคี วามเทา่ ทนั เทคโนโลยี ให้ความสำคัญกับการใชเ้ ทคโนโลยี จงึ ละเลยการ ฝกึ ฝนทักษะการคิดคำนวณ ทำให้นักเรียนมปี ญั หาในทักษะน้อี ย่างแพร่หลาย
44 ดังน้นั จากการวิเคราะหต์ นเอง ทำให้ค้นพบและเขา้ ใจในตวั เองมากยิ่งขึ้น ได้รู้จุดออ่ น จุดแข็ง หรือแม้กระทั่ง โอกาสรวมทั้งอุปสรรคท่ีได้พบเจอ สง่ิ เหล่านจี้ ึงกลายมาเปน็ คมู่ ือในการพัฒนาตนเองของนักศกึ ษาใหก้ ลายเปน็ ครูมอื อาชพี ท่เี ทา่ ทนั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงในอนาคต ซึ่งการฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู 2 ในครง้ั น้ี กถ็ อื เปน็ การ ฝึกฝน และศกึ ษาเส้นทางการเปน็ ครูให้กบั ตัวเอง เพ่อื เปน็ ครูมืออาชพี ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ ลงชอ่ื .......................................................นักศึกษา วัน/เดือน/ปี............................ ลงชอ่ื .............................................................. (ครพู เ่ี ลยี้ ง/ ครนู ิเทศก)์
45 ใบงานท่ี 4 แบบรายงานโครงการสง่ เสริม อนุรักษ์วฒั นธรรม และภูมปิ ัญญาท้องถิ่นของสถานศกึ ษา จุดประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจลักษณะของโครงการที่ส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ 2. เพือ่ ใหน้ ักศึกษาสามารถเขียนโครงการพฒั นาผูเ้ รียนตามรูปแบบที่กำหนดได้ 3. เพื่อให้นักศึกษาเขียนรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการเมื่อโครงการเสร็จ สิ้นแล้วได้ อย่างถกู ตอ้ ง ขอบขา่ ยของงาน 1. ให้นักศึกษาเขียนโครงการทีส่ ่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือเขียนโครงการที่ บูรณาการตามเนื้อหาวิชาของตนเองที่สง่ เสรมิ อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเขียนตามรูปแบบ ที่กำหนด 2. ให้นกั ศกึ ษาดำเนินและเข้ารว่ มโครงการท่ีสง่ เสริม อนุรกั ษ์วฒั นธรรม และภูมิปัญญาท้องถ่ิน 3. ให้นักศึกษานำผลจากการเรียนรู้โครงการที่ส่งเสริม อนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ของสถานศึกษาเขียนรายงาน และนำไปประเมินสะท้อนกลับ (AAR) โดยนำผลมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในรูปแบบ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาตนเองให้มีความรอบรู้ทันสมัยและทันต่อ การเปลยี่ นแปลง ในวันสัมมนาหลงั ฝกึ ประสบการวิชาชพี ครู ผเู้ กยี่ วขอ้ ง/ แหลง่ ข้อมลู 1. ครพู ่เี ลยี้ ง 2. ครูผูร้ ับผดิ ชอบโครงการทสี่ ่งเสริม อนรุ ักษว์ ัฒนธรรม และภูมิปญั ญาท้องถิ่นของสถานศึกษา 3. แผนปฏิบัติการ 4. รายงานการประเมินตนเอง (SAR)
Search