บทความความรสู้ ุขภาพจติ 1 จาก การประชมุ เชงิ ปฏิบัตกิ ารเพ่อื พฒั นาศกั ยภาพนักสื่อสารสุขภาพจติ กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
ช่ือหนังสอื บทความความรสู้ ขุ ภาพจิต จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการเพือ่ พัฒนาศกั ยภาพนกั สือ่ สารสุขภาพจิต กรมสุขภาพจติ ปี 2558 สิงหาคม 2558 บรรณาธกิ าร กองสขุ ภาพจติ สังคม กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ พมิ พค์ รั้งที่ 1 บริษัท บยี อนด์ พับลิสชง่ิ จ�ำ กดั จัดพิมพโ์ ดย 100 เล่ม พมิ พ์ท่ ี จำ�นวนพิมพ์
คาํ นํา การสื่อสารถือเปนองคประกอบสําคัญองคประกอบหนึ่งของการสงเสริมสุขภาพจิต เน่ืองจาก ทําใหป ระชาชนไดร ับขอมลู ความรู ขาวสารดานสุขภาพจิตท่ีจําเปน เพื่อสรางความเขาใจ ความตระหนัก ตลอด ถงึ การดแู ลสขุ ภาพจิตดวยตนเองได การส่อื สารผานบทความเปนสิ่งที่ผูเขียนตองการส่ือสารขอเท็จจริง และหรือ ความคดิ เห็นในเร่ืองใดเรอ่ื งหน่ึง โดยมีวัตถุประสงคเพ่ือใหความรู ความเขาใจ หรือใหความบันเทิง และเปนการ กระตนุ ใหประชาชนตระหนักและเกิดพฤตกิ รรมสุขภาพจิตที่ถกู ตอ ง สําหรบั หนังสือบทความความรสู ุขภาพจิต จากการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพ นักสื่อสารสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต คร้ังท่ี 2 ไดรวบรวมบทความ ความรูสุขภาพจิตท่ีผูเขารวมโครงการ ประชุมเชงิ ปฏบิ ตั ิการเพ่ือพฒั นาศกั ยภาพนักสื่อสารสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต คร้ังที่ 2 เขียนขึ้น ผูจัดทําหวัง เปน อยางย่งิ วา หนงั สือเลม น้จี ะเปน ประโยชนในการดาํ เนินงานเผยแพรค วามรสู ุขภาพจติ ตอ ไป คณะผจู ดั ทาํ สงิ หาคม 2558 บทความความร้สู ุขภาพจติ ก จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการเพ่อื พัฒนาศกั ยภาพนักสือ่ สารสุขภาพจติ กรมสุขภาพจติ ปี 2558
สารบญั หนา คํานาํ ก สารบญั ข “ความสุข” สมบัติทใ่ี ครๆ ก็อยากเปนเจา ของ 1 “ชวี ิตวุนวาย ของเจาชายไบโพลา ร” 2 “พลิก” ชวี ิต 3 15 สญั ญาณอัลไซเมอร 4 กลับบานเกา 5 ครอบครวั ...กับการดูแลผปู วยจติ เวช 6 ความสุข...อยูท ่ไี หน? 7 ความสุขสรา งได เมอื่ สูงวยั 8 ฉันไมไ ดบ า นะ! 9 ชวี ิตสดุ โตง ...ของเจาบอล 10 ชีวิตอนั มืดมนของ “ออย” 11 ดยู ังไง ใครซมึ เศรา 12 เธอผูไ มแพ 13 เบอื่ เรอ่ื งเพศ...ชีวติ คไู รส ุข 14 พลงั ใจทา มกลางวิกฤต 15 มาทาํ ความรูจักและชวยเหลอื เดก็ สมาธสิ ัน้ กันเถอะ 16 ไมรจู กั ฉนั ...ไมร ูจักเธอ 18 รบั มอื ...เม่ือตกงาน 19 เรอื่ งเลากรณศี ึกษา 20 เลีย้ งลูกอยางไรเส่ยี งตอไอคิวอีควิ ตาํ่ 21 เศรา...แลว ไง 22 สถานการณข องกลมุ ชาติพนั ธทุ ่ผี า นมา 23 สบายดีจะเดก็ ไทย 24 สมอง...ยาเสพติด...โรคจติ เกย่ี วพันกันอยางไร 25 สองขัว้ ...ซอนวญิ ญาณ 26 สง่ิ เลก็ ๆ ทีเ่ รียกวา “โรคเครยี ด” 28 ข บทความความรสู้ ุขภาพจติ จาก การประชมุ เชิงปฏิบัตกิ ารเพื่อพฒั นาศกั ยภาพนกั สอ่ื สารสขุ ภาพจิต กรมสุขภาพจติ ปี 2558
สขุ ใจท้ังผใู ห...ดีใจทั้งผูรบั 29 สุขอยา งสูงวัย...กายใจเปน สุข 30 หลงั คาแดง...บานนม้ี ีรกั จติ ตกปวยใจ แวะมาเยยี วยา 31 อยูรว มกบั ผูติดสุราอยางมคี วามสขุ 33 บทความความรูส้ ขุ ภาพจิต ค จาก การประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ ารเพ่ือพฒั นาศักยภาพนกั ส่อื สารสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต ปี 2558
ง บทความความรสู้ ขุ ภาพจิต จาก การประชมุ เชงิ ปฏิบัตกิ ารเพือ่ พฒั นาศกั ยภาพนกั ส่อื สารสขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
“ความสขุ ” สมบตั ทิ ใี่ ครๆ กอ็ ยากเปนเจาของ สพุ รรณี แกน แกว “ความสขุ ” คาํ ส้นั ๆ ท่ใี ครๆ รจู ักและปรารถนาท่ีจะไดม าเปน เจาของ แตไมใชทุกคนท่ีจะได มันมาเปนเจาของอยางสมบูรณ เพราะอะไรน่ันหรือ?? ถึงแมวาความสุขเกิดข้ึนไดจากหลายๆ สิ่ง เชน ความสุขของบางคนเกิดจากการไดเปนเจาของวัตถุที่ช่ืนชอบและปรารถนา บางคนมีความสุขไดดวยตัวของ ตนเองแมว าจะมสี ง่ิ ท่ีปรารถนาอยางสมบูรณหรือไม ในขณะที่บางคนความสุขเกิดขึ้นจากความคาดหวังในตัว ผูอืน่ เมอ่ื ความคาดหวังไมเ ปนดง่ั ทห่ี วังใจกเ็ กดิ ความทกุ ข ความทุกขน้ันคืออะไร? โดยสวนตัวเช่ือวา ความทุกขเปนส่ิงที่เจาของความทุกขสรางขึ้นมา ดวยตัวเอง ไมวาทกุ ขจะเกี่ยวของกับคนหรือวตั ถสุ ง่ิ ของหรือไม ความทุกขเกิดจากความคาดหวังตอส่ิงตางๆ ที่ มีมากเกินไป เพราะเฉพาะน้ันการไมเปนทุกขอาจทําไดโดยการไมคาดหวังมากเกินไปท้ังท่ีเปนความคาดหวัง ในตัวเองและความคาดหวงั จากผอู นื่ เพราะความคาดหวังนี้แหละ กอใหเกิดความทุกข ซ่ึงเปนตนเหตุของการ ไมม ีความสขุ ของคน กลา วไดวาการไดมาซึ่งความสุขน้ันไมใชเรื่องงาย แตก็ไมใชเรื่องยาก คนทุกคนสามารถเปน เจาของความสขุ ไดดว ยตัวเอง ในขณะทีค่ วามสขุ จะหนีไปไกลหรือไมนั้นก็เกิดขึ้นจากตัวเองท้ังส้ิน การควบคุม อารมณ ความรูส กึ ของตนเองในการดําเนินชีวิตจึงเปนสิ่งสําคัญ การไมคาดหวังสิ่งตางๆที่เกิดขึ้นมากเกินไปก็ เชน กนั จะชว ยใหความทุกขไ มเขามาใกลตัว ในขณะที่ความสุขจะขยับเขามาใกล เขามาใกลๆใหเจาตัวมีเปน เจา ของ บทความความรู้สุขภาพจิต 1 จาก การประชุมเชงิ ปฏิบตั กิ ารเพื่อพัฒนาศกั ยภาพนกั สอื่ สารสุขภาพจติ กรมสุขภาพจติ ปี 2558
“ชีวติ วุน วาย ของเจา ชายไบโพลาร” ชชั วาลย นอยวังฆัง โรคไบโพลาร หรือท่ีรูจักกันในอีกช่ือคือ โรคอารมณสองขั้ว ซึ่งเปนโรคทางจิตเวช ท่ีมีความ บกพรอ งดา นการควบคุมอารมณป ระเภทหน่งึ ลกั ษณะอาการ คือ มสี องบุคลิกอยูในคนๆ เดยี วกัน ทั้งดานบวก และดานลบ ในดานบวกกจ็ ะเปน ลักษณะอารมณดี รื่นเริงมีความสุขมากกวาปกติ โดยไมทราบสาเหตุท่ีแนชัด เม่ือเทียบกับคนรอบขาง สวนในกรณีดานลบเม่ือเกิดอาการไมพอใจ จะหงุดหงิด ซึมเศรา หรือโกรธก็จะ แสดงออกมากกวา ปกตเิ ชน เดยี วกนั บางคนอารมณสลับไปมา เดี๋ยวดีเด๋ียวรายภายในเวลาไมน าน การดําเนนิ ชวี ติ ของบุคคลที่เปนโรคไบโพลาร หรือคนที่มีความเส่ียงท่ีจะมีอาการ จะมีปญหา ในการดําเนินชีวิตท่ีตางจากคนปกติ บางคร้ังเขาอาจจะไมรูตัวเองวาตัวเองปวย ไมรูตัวเองวาไดแสดงกิริยา อาการอะไรออกไปบาง หรือบางคนไมสามารถควบคุมอารมณตัวเองได เม่ือเจอกับสถานการณตางๆ ทําให แสดงพฤติกรรมที่แปลกจากเดมิ มีความสุขมาก หรือโกรธจนนา กลวั ทําใหคนรอบขางตกใจ และอาจจะสัมผัส ไดวาเขามีความผิดปกติไป ทําใหคนรอบขางรูสึกไมดีกับเขา และแสดงออกกับเขาในทาทีท่ีเปลี่ยนไป เชน ไมอ ยากเกย่ี วของดวย กลัว หรือรงั เกยี จเขา ซ่งึ ย่งิ ทําใหเขามีอาการแยลง หมดกําลังใจในการดําเนินชีวิต และ มีพฤติกรรมที่แยลงกวาเดิม จนเปนที่จับจองของทุกคน เวลาไปไหน จะทําอะไรก็จะไมเปนตัวของตัวเอง เพราะเกรงวาจะถกู จบั ผดิ ตลอดเวลา ซึง่ ทาํ ใหการดาํ เนนิ ชีวิตของเขาวุน วายไปหมด โรคไบโพลารเปน โรคทีส่ ามารถรกั ษาไดเ หมือนกับโรคอืน่ ๆ นอกจากการพบจิตแพทย ไมขาด ยา และที่สําคัญขอเพียงแคคนรอบขางใหความสนใจ เอาใจใส ใหการดูแล ปฏิบัติกับเขาเหมือนกับคนปกติ ท่ัวไป ใหโอกาส และสง เสรมิ สุขภาพจิต พูดคุยแตสิ่งดีๆ ไมกระตุนใหเขาเกิดอาการเขาก็จะสามารถใชชีวิตอยู ในสังคมไดอยางมคี วามสุข 2 บทความความร้สู ุขภาพจิต จาก การประชุมเชงิ ปฏิบตั ิการเพอ่ื พฒั นาศักยภาพนักสื่อสารสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจติ ปี 2558
\"พลกิ \" ชีวติ รชตพรณ คงดิษฐ \"พลิก\" หมายถึง กลับ เปลยี่ น แตในการเปลีย่ นกน็ าจะยอมมีท้ังดแี ละไมดี พลิก! คําๆ นี้ไดเขา มาอยูในชีวิตของเด็กผหู ญิงคนหน่ึง นอ งตอง อายุ 12 ป มีความสดใส ราเรงิ เรียนหนังสือเกง มีความกตัญู ชวยเหลืองานบาน แบบไมมีบกพรอง พอและแม แยกทางกัน นองตองอาศัยอยูกับตายาย แตนองตองก็ใชชีวิตแบบเด็กทั่วไป สดใส รา เรงิ อารมณดี เปน ท่รี กั ของคนในครอบครัว \"พลิก\" ชีวิต ของคํ่าของวันหน่ึง ตองไปนอนท่ีหางนากับตายาย (ตาของตองเปนคนเสียงดัง โวยวาย ชอบตวาดใสยาย) ตองนอนหลับอยูดีๆ ก็ตองสะดุงสุดตัวกลางดึก เมื่อไดยินเสียงตาเมาเหลามาตบตี ยาย ขวางโทรศัพทใสหนายายจนเลือดไหลออกจมูก เมื่อเห็นภาพนั้นตองรองไหโฮ และกรีดรองลั่นสุดเสียง กลางทงุ นา ทําใหตาตอ งหยุดชะงักเพราะความสงสารหลาน และจากน้นั ชีวิต ตอง กต็ องพลกิ . หลังจากคืนน้ัน ตองกลายเปนเด็กที่เงียบๆ เก็บตัว ซึมเศรา ไมคอยพูดจากับใคร ไมยอมไป เรียนหนังสืออีกเลย จะพูดจาเสียงดังตะคอกใสตากับตลอด ไมยอมออกจากบานเพราะตองจะเห็นคนตาย เลือดไหลเต็มหนาตลอด และชวงพลบคํ่า ตองจะมีอาการปวดหัวรุนแรง รองไห น้ําเสียงเปล่ียน ถาเปน ชาวบา นก็เรยี กวาผเี ขา ตอง จะคยุ ราเรงิ ซักถามคุยเกงกวา ปกติ แตจะคยุ เฉพาะกบั คนท่ีตองไวใจ ตากับยายพา ตองไปหา หมอแตหมอผีนะคะ อาบน้ํามนต คนทรง ไปทั่วสารทศิ อาการตองก็ไมด ีขึ้น ดิฉันจึงแนะนําใหพามา โรงพยาบาลจติ เวชนครสวรรคราชนครินทร แพทยวินิจฉัยวาตองเปนไบโพลารคะ เปนอายุนอยมาก ตองเร่ิม เขารับการรกั ษาอยางตอ เนื่อง และอาการดีข้ึนตามลําดบั \"พลกิ \" ชีวติ ตองอกี สง่ิ คงไมใชยาอยา งเดียว แตเปนเพราะยาทางใจที่ตากับยายชวยกันเยียวยา ตอง ต้ังแตนนั้ มาตาไมเ คยทะเลาะกับยายใหตองไดเ หน็ อีกเลย และแมของตองเองก็กลับบานมาหาตองบอยขึ้น ตองยายเรียนทก่ี ารศกึ ษานอกโรงเรยี น เพื่อนฝงู ก็รักตอง ตองไดกลบั มาเปน เด็กท่สี ดใสรา เรงิ สมวัยอกี ครั้ง \"พลกิ \" ชวี ติ จะใหดีข้ึน หรือเลวรา ยลง ข้ึนอยกู ับความรักท่ีทกุ ครอบครัวกาํ หนดได \"ความสขุ เริม่ ตน ไดท บ่ี านคะ \" บทความความรู้สุขภาพจติ 3 จาก การประชุมเชงิ ปฏิบัตกิ ารเพอ่ื พัฒนาศักยภาพนกั สื่อสารสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
15 สัญญาณอลั ไซเมอร จิตรา จนิ ารตั น คณุ เปน คนข้ีลมื ใชไหมคะ ลมื วาวางกระเปาไวท ี่ไหน ลืมวาตองทําอะไร ท้ัง ๆท่ีเตือนตัวเองมา ตลอดทั้งวัน ลืมวาทานขาวกับอะไร ทั้งที่ทานไปเมื่อกี้ หรืออะไรท่ีเคยทําเปนปกติอยูแลว แตอยูๆ ก็ลืมเสีย เฉยๆ บางทีนอี่ าจจะไมใชอาการข้ีลืมธรรมดานะคะ มันอาจเปน สัญญาณเตือนของโรคที่รายแรงกไ็ ด เพ่ือใหปรับตัวรับโรคน้ีไดทัน ลองมาสํารวจตัวเองดูวาคุณอาจจะกําลังเขาขายการเปน อลั ไซเมอรห รอื ไม 1. หงดุ หงดิ อารมณเ สยี งา ยกวาปกติ 2. การตัดสนิ ใจแยล ง เปล่ยี นใจงาย 3. งานหรอื กิจกรรมทเี่ คยทาํ อยปู ระจํา จะกลายเปน งานทที่ ําไดยากข้นึ 4. วางของผิดทีผ่ ิดทาง 5. สับสนเร่ืองเวลา มกั คิดวา เวลาผานไปนานกวา ปกติ 6. สื่อสารกับคนอ่นื ยากขนึ้ โดยเฉพาะการพดู มกั จะเรยี งคาํ ผิด พูดผดิ 7. เดินออกไปขางนอกอยา งไมมจี ดุ หมาย ไมร วู า จะไปไหน 8. ทํากจิ กรรมบางอยางซํา้ ๆ 9. ไมค อยดูแลตวั เอง 10. แสดงพฤตกิ รรมไมเ หมาะสม 11. รูสึกหวาดระแวงอยตู ลอดเวลา 12. นอนหลบั ยาก 13. ถอยหางออกจากครอบครวั เพ่อื น กจิ กรรมเดมิ ๆ ทเ่ี คยทํา 14. ชอบทํากิจกรรมเหมอื นเดก็ ๆ 15. พูดจาและแสดงอาการกาวราว น่ีเปนเพยี งวธิ สี งั เกตอาการเบ้ืองตน ที่คุณสามารถสํารวจไดดวยตัวคุณเอง ถาพบวามีอาการ มากกวา 5 ขอ อาจเขาขา ยโรคอัลไซเมอร ทางท่ีดคี ือลองไปพบแพทยเ พื่อตรวจอาการเพมิ่ เติมจะดีที่สุด เพราะ โรคนีไ้ มมที างรักษา เราสามารถปอ งกันหรือชะลอใหมนั เกดิ ชาลงได 4 บทความความร้สู ขุ ภาพจิต จาก การประชมุ เชงิ ปฏิบัตกิ ารเพือ่ พัฒนาศักยภาพนักสอ่ื สารสขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
กลบั บา นเกา เพยี งจันทร วงศทวสี ขุ “คงไปไหนไมร อดละสิ ถึงไดกลับมา” “บอกแลว หนาแบบนี้ ออกไปไมนาน เดี๋ยวก็ กลับมา” หากพิจารณาประโยคบอกเลาดังกลาวอาจดูธรรมดา แตมันคือประโยคท่ีสะเทือนใจสําหรับ บุคคลท่ีเจอประโยคนไ้ี มนอย หลายทา นอาจมีประสบการณกับตัวเองหรือพบเจอจากคนรอบขาง ในกรณี ท่ีลาออกจากงานเดิม แลวกลับมาทํางานใหมอีกคร้ังในสถานประกอบการเดิม พบเจอหัวหนา เพื่อน รวมงาน บรรยากาศเดมิ ๆ จะปรบั ตัวอยา งไร ใหก ลบั มาทํางานไดอยางมคี วามสขุ คงไมใชเ รื่องแปลกทส่ี ถานประกอบการจะรับพนักงานเกา เขาทํางานอีกคร้ัง ถาคุณจาก ไปดวยดี ท้ังนายจา งและเพ่ือนรว มงานยังมคี วามรูส กึ ทดี่ ตี อคุณอยู อยากใหค ุณไดล องปรับมมุ มองความคิด หากคุณตองการกลบั ไปทาํ งานทเ่ี กา ควรเปน เพราะคณุ มั่นใจวา คุณมีคุณคาสาํ หรบั ท่เี กา ไมใชเพราะวาคุณ ไมมที ีไ่ ป แตคงเปนโอกาส จงั หวะท่เี หมาะสมประจวบเหมาะพอดี ในการเร่มิ งานใหมในสถานท่ีเดิม หลาย คนอาจมีความรูสึกกังวล ในเรื่องการปรับตัวจะทําอยางไร เรามีเคล็ด (ไม) ลับมาแนะนํา เริ่มตน จาก การเตรียมคําอธบิ าย นายจา งเกาตอ งอยากรูเ หตผุ ลทคี่ ณุ ลาออกและ กลบั มาอีกคร้ังอยางแนนอน เตรียม คาํ อธิบายไวใ หด ี เชน - คุณออกไปเพราะอยากคนหาประสบการณใหม แตตอนน้ีคุณรูแลววาที่นี่ใหสิ่งท่ีคุณ ตอ งการในอาชพี อยา งแทจริง และท่ีนค่ี ือท่ี ๆ ดีทสี่ ุดท่ีคุณจะไดแ สดงความสามารถอยางเตม็ ศักยภาพ - คุณเปนคนมีฝมือ สรางช่ือเสียงใหกับบริษัท อีกทั้งยังคุนเคยกับระบบงานของที่น่ีเปน อยา งดี เขา ใจวัฒนธรรมองคกร ขอบขายงาน ตลอดจนมีทักษะและความสามารถในการทํางาน นี้มากอน เม่อื เทยี บกับการจา งพนักงานใหมท่ีตอ งใชเวลาในการสอนงานและเรยี นรงู าน เปน ตน เคลด็ (ไม) ลบั อกี ประการหนึง่ กค็ อื การพิสูจนต นเอง เมื่อคุณไดกลับเขาทํางานอีกคร้ัง คุณอาจพบวา ทุกอยางไมเหมอื นเดมิ รอยเปอรเ ซน็ ต อาจมีคนทม่ี องคุณไมดี ซุบซบิ นนิ ทาบางก็ไมตองสนใจ ทาํ งานใหเตม็ ทีเ่ พอ่ื พสิ จู นต นเองวา คุณคคู วรกบั งานน้ี ตอใหใครเขามาใหมก็ไมส ามารถทาํ งานน้ีไดดีเทาคุณ แลวเสยี งนกเสียงกาและสายตาดแู คลนเหลา นัน้ กจ็ ะหายไปเอง นอกจากนีย้ งั มคี าถาหากคณุ ทองแลวคาถาบทนี้จะเปนภูมิคุมกันใหกับจิตใจ คือ คาถา 3 คํา จํางายๆ ของกรมสุขภาพจิต คือ \"อึด ฮึด สู\" โดย อึด หมายถึง ศักยภาพที่ทนตอแรงกดดันไดดี ฮึด หมายถงึ มีกําลงั ใจเขม แข็ง และ สู หมายถงึ การตอสเู อาชนะอปุ สรรคตางๆที่เกิดขึน้ กรมสขุ ภาพจิตขอเปน สวนหนึ่งในการสรางภูมิคุมกันใหประชาชน มีปญหาสุขภาพจิต โทรสายดวนสุขภาพจิต 1323 ยินดี ใหบ รกิ ารคะ แหลงขอ มลู http://www.bus.rmutt.ac.th/journal/pdf/vol7-no2-04.pdf http://pantip.com/topic/32278183 http://www.dmhweb.dmh.go.th/jvsk/inter/link/Html/kown2.html บทความความรู้สขุ ภาพจิต 5 จาก การประชุมเชิงปฏบิ ัติการเพอ่ื พัฒนาศกั ยภาพนักสื่อสารสุขภาพจติ กรมสุขภาพจติ ปี 2558
ครอบครัว...กับการดแู ลผปู วยจติ เวช พิมลศรี จนิ า การเจบ็ ปว ยดว ยโรคทางจิตเวชมีโอกาสเปน โรคเร้ือรงั สงู และจําเปนตองไดร ับการรักษาอยาง ตอ เนื่อง เพื่อควบคุมอาการและปอ งกันมิใหอาการกําเริบ ครอบครัวจึงมีสวนสําคัญย่ิงตอการทําหนาที่ดูแลให ผปู ว ยไดม ีโอกาสรบั การรกั ษาตามแผนการรกั ษาของแพทย เพ่อื ใหเ ขาสามารถดาํ เนินชีวิตอยูกับครอบครัวและ สงั คมไดตามอตั ภาพ ครอบครวั ควรดแู ลผูป ว ยจิตเวชเรอื่ งใดบาง 1. การรบั ประทานยา ผดู ูแลควรใหผ ปู วยไดร ับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย ไม ควรเพม่ิ หรอื ลดยา หรือกินยาเฉพายาบางชนิด รับประทานยาใหสม่ําเสมอหากมีอาการเปลี่ยนแปลง ควรพา ผูปว ยไปพบแพทย 2. กิจวัตรประจาํ วัน ผปู ว ยทางจิตมักไมคอยสนใจตัวเอง ดังน้ันญาติควรกระตุนใหผูปวยได ทํากจิ วตั รประจาํ วันดวยตนเอง พยายามใหผ ูป วยไดช วยเหลือตนเองใหมากทส่ี ุด 3. การทาํ งาน ผูด แู ลควรกระตนุ ใหผ ปู ว ยไดม ีสวนรวมในการทํางาน เชน งานบาน หรืองาน อาชพี เพ่ือใหผ ูปว ยรูสกึ ภาคภูมิใจ มคี วามรับผดิ ชอบ และไมค ดิ ฟงุ ซา น 4. การมีสวนรวมกับกิจกรรมทางสังคม ผูดูแลควรเปดโอกาสใหผูปวยไดรวมกิจกรรมใน ชุมชน เชน งานเทศกาลตา งๆ รว มกจิ กรรมทางศาสนา เปนจิตอาสา เปนตน เพ่ือใหสังคมเกิดการยอมรับและ ลดอคติตอ ผูป ว ยจิตเวช ผปู วยทางจติ จะสามารถอยกู ับครอบครัวไดน านเทาใดโดยไมม อี าการกําเริบน้ัน ขึ้นอยูกับการ ดูแลเอาใจใสจากญาติ หรือผูดูแลดวยเชนกัน นอกจากน้ีการยอมรับ ไมลอเลียน ไมซํ้ากันมีความเมตตาตอ ผูปวยจิตเวชก็จะชวยใหพวกเขาเหลานี้ สามารถอยูรวมกับครอบครัวแลสังคมไดอยางมีศักด์ิศรี และมีความ สบายใจมากขนึ้ 6 บทความความรสู้ ุขภาพจติ จาก การประชมุ เชิงปฏิบัติการเพอื่ พัฒนาศกั ยภาพนักส่อื สารสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
ความสุข...อยทู ี่ไหน? “ไดแ คน ผ้ี มกข็ อบคุณมากแลว ครับ กราบขอบคุณทุกๆ คนนะครบั ” เสียงแหบเครอื ออกจาก ปากชายสงู วัย ผมสีดอกเลา นัยนตาเออลน ดว ยความปลมื้ ปติ บา นสวนอยูหา งออกจากชมุ ชน ราวๆ หา กโิ ลเมตร ทางเขา เปน คันดนิ ท่ีขุดจากสองฟากฝง ข้ึนมาถมเพอื่ ทาํ เปนทางสญั จร ฤดูฝนลาํ บากมาก รถยนตเขา ไมถงึ ...ใชเ ดินเทาอยางเดียว ทมี งานจติ อาสามโี อกาสลงพื้นทแ่ี ละไดเห็นความยากลําบากของลุงแดง ซง่ึ มีลูกปวยเปน โรค จติ เภท ไมมบี า นอยอู าศยั มเี พียงผา ใบขึงเชอื กสี่มุม ทาํ เปน เพงิ หลังคาเพือ่ หลบแดดฝนอยกู ลางปา รายลอ ม ดว ยไรออ ย และปา มันสําปะหลัง เราชาวจติ อาสารวบรวมปจ จัยไดจํานวนหนงึ่ และนาํ ไปซือ้ วสั ดุอุปกรณท่ีพอหาไดแ ละรวมกนั เพ่อื ลงมือทาํ บา นใหลุงแดง ปจ จยั ท่ีไดร วบรวมมาซอ้ื ไดเ พยี งเหลก็ และสงั กะสี โชคดีทล่ี ุงแดงแกมีเสาเกาๆ อยู แลว ทมี จงึ ปรกึ ษาหารอื กนั และตัดสินใจ “ทาํ เทา ที่ทาํ ได” ลงมอื ขุดหลุมต้งั เสา ขึน้ โครงหลงั คา แลว ก็มงุ ใชเ วลาท้ังหมด 3 วนั บานลุงแดงกเ็ ร่ิมเห็นเปน รปู ราง ที่มเี พียงหลงั คา ไมมฝี าขาง...แตง บประมาณหมดลงแลว ในวนั สดุ ทายกอนราํ่ ลา “ไดแคหลังคานะลุง” ลุงแดงยกสองมอื พนมท่ัวหวั น้าํ ตาคลอเบา กลา วดวยเสยี งแหบเครอื “ไดแ คนี้ลุงก็ขอบคุณมากแลว ”... บทความความรูส้ ขุ ภาพจิต 7 จาก การประชมุ เชิงปฏิบัตกิ ารเพ่อื พฒั นาศกั ยภาพนกั สอ่ื สารสุขภาพจติ กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
ความสุขสรา งได เมอื่ สูงวัย “ผูส งู อาย”ุ หรืออาจเรยี กวา คนแก คนชรา หรือผูสูงวัย เปนบุคคลที่ตองพ่ึงพา มีปญหาจาก การเส่อื มถอยของรา งกาย ซึ่งเปนไปตามธรรมชาติ ตามวัยทเี่ พ่มิ มากข้นึ รวมท้ังการมีโรคเรื้อรังตางๆ นํามาซ่ึง ความเจ็บปวดดานรางกายและดานจิตใจ เพราะเปนวัยแหงงการพลัดพรากสูญเสีย ดังน้ันอาจพูดไดวา วัยนี้ เปนวัยที่ตองการดูแลเฉพาะแตกตางจากวัยอื่นๆ นอกเหนือจากการดูแลทางกายแลว การดูแลทางใจก็เปน สงิ่ สาํ คัญที่ญาติหรือคนใกลชิดตองเอาใจใส เพราะสุดทายแลว... เปาหมายของวัยสูงอายุ คือ การมีสุขภาพดี มีความสขุ กบั ลกู หลาน มเี พือ่ นฝูง มีสังคม ความสขุ ทั้งหลายขน้ึ อยูกับตัวของผูส ูงอายเุ องวาจะเลอื กสุขแบบไหน วางแผนดี ชีวติ มีสขุ การวางแผนชีวิตในทุกชวงอายุ มีความจําเปนอยางมากที่ทุกคนควรทํา เพราะวาจุดหมาย ปลายทางไมมีใครคาดเดาไดวา ชีวิตเราจะเปนแบบไหน รูแตเพียงวาระหวางทางเราสามารถพบเจอกับ ความสุขไดต ลอดไป จนถงึ วยั สดุ ทายของชวี ิต ซึ่งจะเกิดขึ้นไดกต็ อเมอื่ มาจากการวางแผนในวัยตนและวัยกลาง ที่ดี ความสขุ ในวัยสงู อายุ จึงควรวางแผนใหครอบคลุมท้งั 5 มิติ ไดแก สขุ สบาย (เนนการดูแลเอา ใจใสสุขภาพรา งกายของตนเองใหแ ขง็ แรงอยเู สมอ) สขุ สงา (เนนการทํากิจกรรมที่กอใหเกิดความภาคภูมิใจใน ตนเอง เห็นคณุ คาของตนเอง) สขุ สวาง (เนนการฝก สมองใหสามารถจาํ ลกู จําหลานได ไมห ลงลืม) สุขสนุก (เนน การเขารวมกิจกรรม หม่ันหากิจกรรมท่ีชื่นชอบและสนใจ) สุขสงบ (สามารถควบคุมอารมณ และยอมรับส่ิง ตางๆ ท่ีเกดิ ขนึ้ ตามความเปน จรงิ ) แ น ว ท า ง ส ร า ง สุ ข เ บื้ อ ง ต น เ ป น เ พี ย ง ตั ว เ ลื อ ก ห นึ่ ง ที่ ท า น ส า ม า ร ถ นํ า ไ ป ป รั บ ใ ช ไ ด ใ น ชีวิตประจาํ วันเชอ่ื วา หากทา นเรมิ่ ตน วางแผนนับต้งั แตว นั น้ี ในอนาคตอันใกลทา นจะมีหนทางสูการกาวไปสูการ เปนผูสูงอายุ หรือคนแกท่ีมีความสุขครบท้ัง 5 มิติ ตลอดจนสามารถทําคุณประโยชนเพื่อสังคมและ ประเทศชาติตอ ไปได 8 บทความความรสู้ ุขภาพจติ จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการเพื่อพฒั นาศักยภาพนกั สือ่ สารสขุ ภาพจิต กรมสุขภาพจิต ปี 2558
ฉันไมไ ดบานะ! สันติ แซล ้ี คนเราทุกคนน้นั มีโอกาสทจ่ี ะเจ็บปวยไดเสมอ บางคนอาจจะเจ็บปวยทางกาย ทางจิต หรือ ทั้งสองทางกไ็ ด ข้นึ อยูกับบุคคลแตละบุคคล รวมทั้งส่ิงแวดลอมรอบๆ ตัวบุคคลน้ันดวย สําหรับคนที่เจ็บปวย ทางกาย ทกุ คนมกั จะเรียกเขาวา \"ผปู วย\" หรือ \"คนปวย\" หรือ \"ปวย\" แตในทางตรงกันขาม คนที่เจ็บปวยทาง จติ หรือมีความผิดปกติทางจิต ทุกคนกลับมักจะเรียกเขาวา \"คนบา\" หรือ \"ไอบา\" หรือ \"บา\" แทนที่จะเรียก เขาเหลาน้ันวา \"ผูป ว ย\" เพราะจรงิ ๆ แลวคนท่ีเจบ็ ปวยทางจติ หรือ \"ผูปวยทางจิต\" ก็คอื ผูท ่ีมคี วามผิดปกติทาง จติ ไดแ ก อาการผิดปกติของจิตใจที่แสดงออกมาทางพฤติกรรม ทางอารมณ ทางความคิด ทางความจํา ทาง สติปญญา ทางประสาทการรับรู หรอื การรเู วลา สถานที่ หรอื บคุ คล รวมทั้ง อาการผิดปกติของจิตใจที่เกิดจาก สรุ าหรอื สารอ่ืนที่ออกฤทธ์ติ อจติ และประสาท ซึ่งจาํ เปนตอ งไดรบั การบาํ บัดรักษา การท่ีคนเรามักจะเรียกผูปวยทางจิตวา \"คนบา\" หรือ “ไอบา” นั้น ทําใหหลายๆ คนมี ทศั นคตดิ านลบตอผปู วย สง ผลใหผปู ว ยดงั กลา วไมไ ดร ับการบําบัดรักษาอยา งถูกตองและเหมาะสม เปนเหตุให ความผิดปกติทางจิตทวีความรุนแรงมากขนึ้ จนกอ ใหเ กิดอันตรายรายแรงทั้งตอชีวิต ตอรางกาย หรือทรัพยสิน ของตนเองหรือผูอ่ืนได ...มาถึงตรงน้ีแลว... คงไมมีใครอยากใหเหตุการณดังกลาวเกิดข้ึนกับตนเอง หรือ ครอบครวั ของตนเองแนน อน คงถึงเวลาแลวท่ีเราจะเร่ิมตน มองผมู คี วามผิดปกตทิ างจติ หรือผูปญหาสุขภาพจิต วา คือ \"ผปู ว ย\" ไมใ ช \"คนบา \" ย้าํ ! คือ \"ผปู วย\" ไมใช \"คนบา\"... เพ่ือที่สังคมของเราจะไดมีความนา อยูมากข้ึน บทความความรู้สุขภาพจิต 9 จาก การประชมุ เชิงปฏิบตั กิ ารเพอ่ื พัฒนาศกั ยภาพนกั สอื่ สารสขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
ชีวิตสดุ โตง …ของเจาบอล นิภา ชาญสวสั ดิ์ เจาบอล... เด็กนอยหนาตานารัก อวน ขาว เกิดและเติบโตในกรุงเทพ ทางบานมี อาชีพคาขาย เงินทองไมเคยขัดสนเรียกวาเจาบอลสบายมาต้ังแตเกิด ปากับมารักและตามใจ ทําใหเจา บอล มีทกุ อยา งเหมือนท่เี พ่อื นเขามีกัน ชวี ติ ของเจา บอลเมอื่ กา วเขาสวู ัยรุน เปล่ยี นจากหนามือเปนหลัง มอื ชีวิตเต็มไปดวยความทะเยอทะยาน ฝนอยากเปนโนน อยากทํานี่ตลอดเวลา แตไมเคยสําเร็จหรือได อะไรเปนช้นิ เปน อันสักอยางเดยี ว จากเด็กนอยนารัก กลายเปนวัยรุนเลือดรอน หงุดหงิด กาวราว ใชเงินเหมือนเบ้ีย ชอบเลี้ยงเพอ่ื นฝงู อยากไดอะไรเปนตองได ท่ีหนักกวานั้นคือด่ืมสุราและเขาบอน ชอบลุน ชอบเส่ียงโชค การเรียนเริ่มตกต่ํา ในท่ีสุดก็เรียนไมจบ ขณะที่เพื่อนๆเตรียมตัวเขามหาวิทยาลัย ปากับมาเสียใจ เปน ท่สี ุดทเ่ี จาบอลนาํ ความอปั ยศอดสู มาสคู รอบครัว เจาบอลท่เี คยราเรงิ กลายเปนคนเก็บเนื้อเก็บตัว ไม พบปะผูคน ไมเห็นคณุ คา ของตนเอง วัน ๆ เอาแตน อน สิ้นหวังกับชวี ติ และในกลางดกึ ของคืนวันหน่ึงเจา บอลพยามจะกระโดดตกึ เพ่ือจบชีวิตของตนเอง โชคดีที่ปาต่นื มาเจอจงึ ชวยไวไ ดท นั ในท่ีสุด...เจาบอลก็ไดรับการบําบัดจากจิตแพทย และไดรับการวินิจฉัยวาเปนโรค ไบโพลาร หรือโรคอารมณสองข้ัว สาเหตุเกดิ จากความผิดปกตขิ องสารเคมีในสมอง ทําใหเกดิ การเปลี่ยนแปลงของอารมณแบบสุดขั้ว อารมณพุงสูง (Mania) ราเริง สุขลน พูดมาก ความคิดพร่ังพรู หงุดหงิด ฉุนเฉียวงาย เท่ียวเตร ใชจายฟุมเฟอย ชอบ แจกเงิน ไมหลับไมนอน อารมณด่ิงเศรา(Depression) เบื่อหนาย ทอแท เฉ่ือยชา วิตกกังวล ไมมี ความสขุ สน้ิ หวัง รูสึกวา ชวี ิตไรคา เกนิ กวา ทจี่ ะดาํ รงอยตู อ ไปไดอ ีก ทุกวนั น้ี...เจาบอล ปาและมา ผานพน วกิ ฤตนั้นมาได และยอมใหเจาเพ่ือนใหมไบโพลาร เขามาเปนสวนหนึ่งของชีวิต ดวยการใชยาชวยใหสารเคมีในสมองกลับสูสมดุลดังเดิม แตเหนือสิ่งอื่นใด การเขาใจ และการยอมรับ จากคนรอบขา ง เปรยี บเสมือนน้ําทพิ ยชโลมใจใหเ จาบอล... อดทนกบั ชวี ิตที่ สดุ โตง ...ในรางเดียวของเขาตอไปได แลวคุณละพรอมหรือยัง...ท่ีจะใหโอกาสและแบงปน ชวยใหพวกเขาเหลานั้น ไดก า วเดินไปพบกับแสงสวางทีป่ ลายอโุ มงค 10 บทความความร้สู ุขภาพจติ จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการเพ่ือพัฒนาศกั ยภาพนักส่อื สารสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจิต ปี 2558
ชวี ติ อนั มืดมนของ “ออย” “ออ ย” หญิงวยั 40 ป หนาตาดี เธอเปน ลูกสาวคนเดียวของครอบครัว ฐานะดี อาศัยอยูกับ แมและสามี พอเสียชีวิตหลายปแลว จากเหตุการณที่พอเสียชีวิตโดยกะทันหัน เธอไมสามารถทําใจได รูสึก สูญเสียกับการจากไป หลังจากพอเสียชีวิต เธอเร่ิมเก็บตัว ไมอยากคุยกับใคร ซึมลงเร่ือยๆ จนแมและสามี ตัดสินใจพาไปพบแพทยท่ี โรงพยาบาลแหงหนึ่ง แพทยบอกวาเธอปวยเปนโรคซึมเศรา เธอเก็บตัวไมออกไป ไหนเลย พูดคุยกับแมและสามีนอยมาก ท้ัง 2 คนก็ไดใหกําลังใจตลอดเวลาและดูแลเปนอยางดี อาการเธอก็ เรม่ิ ดขี ึน้ เล็กนอย วันหน่ึงเธอไดฟงรายการวิทยุท่ีฉันจัด ณ สถานีวิทยุชุมชนแหงหน่ึง ไดจดเบอรโทรศัพทไว ทนั ที และทอ งจําชือ่ ของฉนั ไวในใจ “หมอเจย๊ี บ” เธอบอกวาไดยินเสียงแลวรูสึกถูกใจ จะเปนคนที่จะชวยเธอ ได เธอตัดสนิ ใจโทรมา เธอบอกวาดีใจมากทีฉ่ ันรับโทรศัพท และดีใจมากข้ึนอีก เม่ือฉันตอบวา “แนนอน ไดสิ คะ” หลงั จากน้ันเธอไดพรงั่ พรคู ําถามมามากมาย จนฉันหัวเราะและบอกวาใจเย็น ๆ เธอบอกวา “ชอบเสียง หัวเราะพ่ีจังและรูสึกรกั ขน้ึ มาทันที ” และมีคําถามหนึ่งท่ีเธอย้ําถามฉัน เธอถามเบาๆ วา “เปนซึมเศราชีวิต จะแยม้ัย จะหายไดอยางไร นองหาทางออกไมได ”เธอรองไหอยางหนัก จนฉันตองหยุด ใหเวลาเมื่อเธอ พรอม ก็ไดคุยกันแบบถอดใจ เอาใจเขามาใสเ รา ซึ่งใหเธอคนหาคุณคาในตัวเองใหเจอและการสรางพลังดวย ตวั เอง ก็เปนส่ิงหนึง่ ท่ีจะชว ยใหเ ธอมคี วามเขมแข็งทางใจได ฉันพูดวา “เธอยังมีแมและสามีคอยดูแล ไมเคย ปลอยใหเธอโดดเด่ียว แตท่ีเธอรูสึกโดดเด่ียวเพราะเธอทําตัวเธอเอง ตองเปล่ียนตัวเองใหได” คําถามทุก คาํ ถาม คําตอบทุกคําตอบเหมือนตรงกับท่ีใจเธอตองการหมด เธอบอกวา“ขอบคุณท่ีมาชวยเปดทางใหเธอ พน จากความมดื มน ขอบคณุ ท่ีไดรูจ กั กัน” การทาํ ใหค นๆหนึ่งหลุดพนจากความทุกข ทําใหฉันมานั่งคิดวา การรักษาดวยเครื่องมือแพง ๆ ยังไมไดผลเทากับการคุยกันเพียง 5 นาที เมื่อไหรเราใชตามอง เราจะเห็นแตภายนอก ความคิดท่ีถูกลอม กรอบ แตถ าเราใชทง้ั ตาและใจมอง จะเห็นวา จรงิ ๆ มีอะไรอีกหลายอยาง ที่ไมตองเรียนมาก็รักษาใหได หลาย คร้ังที่พบวาเม่ือหยุดพูด หยุดคิด แลวปลอยตัวเองสักพัก เราจะไดยินหัวใจเราบอกความตองการของตัวเอง เชนกันเมือ่ ไหรทเี่ ราตองการฟงหวั ใจคนอ่ืนเรากต็ อ งพดู นอ ยลง ใชหวั ใจฟง เขาใหม ากข้นึ บทความความรู้สขุ ภาพจติ 11 จาก การประชุมเชิงปฏิบัตกิ ารเพื่อพัฒนาศักยภาพนกั ส่ือสารสขุ ภาพจิต กรมสุขภาพจติ ปี 2558
ดูยงั ไง ใครซึมเศรา ชยพล สันติวรากร จากการที่ไดพ บเหน็ ผูปว ยสวนใหญไมทราบวา ตวั เองเปน โรคซมึ เศราและไมไ ดรบั การรักษาทง้ั ทป่ี จ จุบันมียา และวิธกี ารรกั ษาที่ไดผลดี หากพบวา คนทรี่ ูจ ักมอี าการดังตอไปนี้ รีบแนะนําใหเขา พบจติ แพทย โรคซมึ เศรา เปนการปว ยทั้งรางกายและจติ ใจ และความคดิ ซ่ึงผลของโรคกระทบตอ ชีวิตประจาํ วนั เชน การรับประทานอาหาร การหลับนอน คณุ อาจเคยเห็นสัญญาณดงั กลาวกับคนใกลชิด แต อาการของโรคซึมเศราจรงิ ๆเปนยงั ไงไปดกู นั 4 สัญญาณอาการซมึ เศรา 1. การเปลย่ี นแปลงทางอารมณ รูส กึ ซมึ เศรา กังวลอยูตลอดเวลา หงดุ หงิดฉุนเฉยี ว โกรธงาย ไมอ ยูสุข 2. การเปลี่ยนแปลงทางความคดิ รูสกึ สน้ิ หวัง มองโลกในแงร าย รสู ึกตวั เองไรค า 3. การเปลี่ยนแปลงการเรยี นรหู รอื การทาํ งาน ไมส นใจสิง่ แวดลอ ม ความสนกุ งานอดิเรก หรอื กิจกรรมที่ เพมิ่ ความสนุก 4. พฤตกิ รรมเปล่ยี นแปลง นอนไมห ลับ ตื่นเร็ว หรอื หลับมากเกินไป บางคนเบ่ืออาหาร โรคซมึ เศรา อาจเกดิ ในคนทม่ี กี ารสญู เสียหรอื โรคซึมเศรา อาจเกดิ ในคนทีม่ ีโรคประจําตัวหรือเกดิ ใน คนปกตทิ ั่วๆไป หากพบสัญญาณดังกลาวกบั คนใกลช ิด เพื่อนรวมงาน หรือคนทเ่ี ราตอ งการ ใหการ ชว ยเหลือ ใหเขาไปพดู คยุ แนะนํา รบั ฟง เพ่ือนาํ เขา สูระบบการรักษา และใหกําลังใจเพราะโรคน้ี สามารถรักษาได 12 บทความความรู้สขุ ภาพจติ จาก การประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ ารเพื่อพัฒนาศักยภาพนกั สอื่ สารสุขภาพจติ กรมสุขภาพจติ ปี 2558
เธอผไู มแ พ ศศิรกานต รงุ สกุล เด็กผูหญิงวัยรุนรูปรางทวม สวมเส้ือยืดสีชมพูกางเกงขาส้ันสีฟาอยูเปนประจํา เดินเขามา ทักทายเจาหนาที่งานสุขภาพจิต “สวัสดีคะ คุณหมอคนสวย” พรอมกับยกมือไหว ทั้งเจาหนาที่โรงพยาบาล ชุมชน และคนท่ัวไปมกั คนุ หนา เธอเปน อยา งดี นับตั้งแตเธอมาโรงพยาบาลครั้งแรกกับมารดา เพ่ือขอใบสงตัว ไปรักษาโรคภาวะปญญาออน (Mental Retardation) ท่ีโรงพยาบาลศูนยประจําจังหวัด เธอก็กลายเปน สมาชกิ อีกคนหนงึ่ ของโรงพยาบาลชุมชนแหงน้ี เพราะเธอมกั จะมาพรอมกับมารดาทุกครั้ง ทต่ี องมาขอใบสงตัว และรกั ษาตามทีห่ มอไดน ัดทคี ลนิ กิ เบาหวาน ความดนั “จุมจิ๋ม” มักจะทักทายเจาหนาที่งานสุขภาพจิต และจําช่ือเลนของทุกคนได เธอชอบท่ีจะ พดู คยุ และสนทนาเปน ประโยคงายๆ เชน ไปไหนมา, กินขาหรือยัง เปนตน เม่ือพอใจแลวก็จะเดินกลับไปหา มารดาท่ีนั่งรอรับยา เธอไมไดประกอบอาชีพ แตก็สามารถดูแลตัวเองไดในการทํากิจวัตรประจําวัน และยัง สามารถดูแลมารดายาท่ปี ว ยและตอ งนอนในโรงพยาบาลได เชน เชด็ ตัว, คอยบอกพยาบาลเม่ือมารดาตองการ อะไร เปน ตน จุมจม๋ิ เปน ตวั อยา งหนง่ึ ของผมู ีภาวะปญญาออ น (MR) และอยูในครอบครัวที่เขาใจ มีมารดา คอยดแู ล คอยฝก จากท่เี ธอมีพัฒนาการทีล่ า ชา มขี ีดความสามารถท่จี าํ กดั ในการส่ือความหมาย การชวยเหลือ ตนเอง สมั พันธภาพทางสังคม ครอบครัวของจุมจิ๋มไดรับความรูความเขาใจ ใชความอดทนพยายามและมุงมั่น เพอื่ ใหเ ธอสามารดูแลตัวเองได มีสมั พนั ธภาพกบั ผูอนื่ อกี ท้งั ยังสามารถทํางานท่ีไมซับซอนได ซ่ึงเชื่อวายังมีอีก หลายครอบครัวท่ีตองดูแลผูท่ีมีภาวะปญญาออน (MR) หากคนในครอบครัวมีความเขาใจ พยายาม หาขอมูล ฝก ฝน ดแู ล พยายามควบคุมอารมณ และคนในครอบครัว สังคมชวยเหลือกนั ผูที่มีภาวะทางปญญาออน (MR) จะสามารถเพมิ่ ขีดความสามารถในการดูแลตนเองไดโดยไมเปนภาระใหกับคนในครอบครัวและสังคม โดยอีก สิง่ หนึ่งทมี่ ีความสําคัญ น่ันกค็ ือ กาํ ลงั ใจซึง่ กันและกนั นนั่ เอง บทความความรสู้ ขุ ภาพจิต 13 จาก การประชุมเชงิ ปฏิบตั กิ ารเพ่ือพฒั นาศกั ยภาพนักสอื่ สารสขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
เบอื่ เร่ืองเพศ...ชวี ติ คูไรสขุ ความเบ่ือหนา ยเร่ืองเพศสัมพนั ธเปนปญ หาท่ีชีวิตคูหลายคูพบเจอ ซ่ึงข้ึนอยูกับหลายปจจัยที่ นอกเหนือจากปจจัยทางชีวภาพ ซ่ึงไดแก ภาวะสุขภาพท่ัวไป โรคประจําตัว ปจจัยท่ีสําคัญอื่นๆ ไดแก ความสมั พันธในชวี ติ คู สภาพจติ ใจและอารมณข องแตละฝาย อาจเกิดจากความเครียดจากการทํางาน รวมท้ัง ทศั นคตทิ ีไ่ มดีเก่ยี วกับเพศสัมพนั ธดวย โดยคสู มรสตอ งปรบั ความคิดและทัศนคติเก่ียวกับการมีเพศสัมพันธเสีย ใหม คือ ตองไมม องเร่อื งเพศวาเปนเรื่องสกปรก หรือเปนบาป การมีความสุขทางเพศเปนส่ิงสําคัญและควรเปนที่พึงพอใจในชีวิตสมรส ควรเปดเผย ความรสู ึกพึงพอใจหรือความชอบใหอีกฝายหน่ึงรู ไมควรปลอยใหปญหาเร้ือรัง หากไมหาวิธีแกไขก็จะไมดีขึ้น โดยเฉพาะฝายภรรยามักมีความตองการแตกตางจากสามี เชน มีความตองการทางเพศนอยกวา และมักให ความสาํ คญั กับความสมั พนั ธใ กลช ดิ มากกวา การมเี พศสมั พนั ธ ภรรยาจงึ ใชค วามอดทน หรือจําใจมีเพศสัมพันธ เพอื่ ใหส ามีมีความสขุ และพึงพอใจ ในระยะยาวอาจเกิดความเบื่อหนาย และไมมีความสุข จนถึงขั้นมีอคติกับ การมเี พศสมั พันธ ตอ งเอาใจใสตอความตองการของกันและกัน เชน สามีตองตอบสนองตอความตองการของ ภรรยาดวย ตระหนักวาหญิง-ชาย มีความรูสึกและความตองการที่แตกตางกัน สามีมักคิดวาเม่ือตนเองมี ความสุขแลวภรรยาก็จะมีความสุขดวย จึงละเลยความตองการของภรรยา ทําใหภรรยาขาดความสุขและไม อยากมีเพศสัมพันธ ความสุขทางเพศสัมพันธไมไดอ ยูเฉพาะเวลารวมเพศ การกระตุนอารมณและความรูสึกก็เปน ส่ิงท่ีสําคัญโดยเฉพาะในผูหญิง หากสามีละเลยจะทําใหภรรยารูสึกเหมือนวาตนเปนวัตถุทางเพศเทาน้ัน บางครั้งความเบ่ือหนายเรื่องเพศสัมพันธอาจจะเกิดจากความซํ้าซากจําเจ หากไดเปล่ียนบรรยากาศหรือ สถานที่บางกอ็ าจทําใหดีขึ้น ในคูสมรสท่ีฝายใดฝายหน่ึงสุขภาพไมดีน้ัน ควรใหความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และ พยายามตอบสนองความตอ งการเทา ที่จะเปนไปได หากทําไมไดคูสมรสควรหากิจกรรมอ่ืนเขามาทดแทนเพ่ือ สรา งความสุขของชวี ติ คแู ทนได เชน ทํางานอดิเรก เท่ยี วตามตา งจังหวดั ออกกําลงั กายดวยกัน เปนตน 14 บทความความร้สู ุขภาพจติ จาก การประชุมเชิงปฏิบัติการเพือ่ พัฒนาศกั ยภาพนักสอื่ สารสุขภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
พลังใจทามกลางวกิ ฤต สังคมที่มีคนเปนองคประกอบ โดยสวนมากมักพบกับความวุนวาย ตามมาดวยปญหา อุปสรรคในทส่ี ดุ เมื่อคนตองเผชิญกับภาวะวิกฤตอยางหลีกเล่ียงไมไดท่ีเห็นไดชัดไมวาจะเปนการท่ีตองเผชิญ กับโรคภัยไขเจบ็ วิกฤตเศรษฐกจิ สถานการณก ารเมือง สถานการณภัยพิบัติตามธรรมชาติ หรือแมแตภัยพิบัติ ที่เกิดจากนา้ํ มอื มนุษย อยา งเชน ทางชายแดนใตของประเทศไทย ซ่ึงปญหาเหลานั้นจําเปนท่ีจะตองอดทน สู และฝาฟนสง่ิ เหลา น้ันไปใหได ดว ย 2 แขน 2 ขา และ 1 หวั ใจ การจะกาวผานปญหาไปใหไดน้ันไมใชเรื่องงาย แตก ็คงไมย ากเกินความสามารถที่จะทํา/ท่ีจะเปน แตวิธีการมากมายในการแกปญหาของแตละคนก็แตกตาง กันไป แตว ธิ ีไหนทีจ่ ะเหมาะสม หรอื ดีทีส่ ุด อาจไมใชรูปแบบตายตัวนัก อาจจะมีก็แต แนวทางไหนที่จะนําพา ไปสูการแกป ญ หาอยา งยง่ั ยืนนนั่ เอง ดวยสภาวะที่บุคคลพบปญหาและสามารถกาวผานปญหาน้ันๆ มาได ดวยการปรับทัศนคติ เปลี่ยนวธิ ีการคิดและมคี วามยืดหยุนตอสถานการณตา งๆ อกี ทงั้ ยงั เปนสวนในการเพ่ิมภูมิคุมกันทางจิตใจ เรา เรียกส่ิงนั้นวา “พลังสุขภาพจิต” หรือ Resilience Quotient: RQ ดวยมีหลักการสําคัญงายๆ เพียง 3 ประการเทานน้ั อีกทั้งยังจดจาํ ไดไมยาก คือ “อดึ ฮึด ส”ู ดวย พลังอึด จะนําพาใหบุคคลฝาฟนปญหาภายใตแรงขับภายในตนเองวา ความกดดันท่ี ผานเขามาในคร้ังน้ีจะผานไปไดโดยเร็ว ดวยความสามารถในการควบคุมอารมณของตนใหอยูในระดับที่ เหมาะสมตอความกดดนั เหลานัน้ พลังฮึด ถอื เปนกําลงั ใจที่ดีและหาไดไ มยาก ทง้ั จากตนเองและบคุ คลรอบขาง ดว ย แนวความคดิ ท่วี า ปญหาเหลานนั้ จะผา นพนไปในอีกไมช าและจะตอ งผา นไปไดดวยดี พลงั สดุ ทา ย พลังสู สใู นทีน่ ี้ไมไ ดเ ชิญชวนใหคุณหรือใครเดนออกไปฟาดฟนหรือโจมตกี ับ บุคคลอ่ืน แตหมายถงึ ใหคณุ สู สกู ับปญหาดว ยสติและสมาธิภายใตค วามเหมาะสม หรอื แมแ ตการปรับตวั ใหเ ขา กับสถานการณน ้ันๆ ใหจ งได เพียงแคคณุ หยุดตงึ ยดื หยุนบา ง ปรับหรอื รบั สงิ่ ใหมๆ เขา มาในชวี ิต และคิดมองในมุมบวก อยอู ยา งสมาํ่ เสมอ เพยี งเทา น้ีชีวติ ที่ดูจะไมสวยหรู วนุ วาย อาจกลายเปน วันธรรมดาทแี่ สนวเิ ศษขึ้นมา ดว ย ทักษะของการใชช ีวิตอยางผมู พี ลงั สุขภาพจิตก็เปนได บทความความร้สู ุขภาพจิต 15 จาก การประชุมเชิงปฏิบตั กิ ารเพ่อื พฒั นาศกั ยภาพนกั สอ่ื สารสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจิต ปี 2558
มาทําความรจู ักและชว ยเหลือเดก็ สมาธิสน้ั กันเถอะ ปราณี ฉันทพจน เมื่อไปในสถานทีต่ างๆ เชน รานอาหาร หางสรรพสินคา เราอาจจะมีโอกาสไดพบเจอเด็กมาพรอม ผูป กครองทเ่ี รารูสึกวาเด็กซนมาก ไมสามารถอยูน่ิงๆไดเลย แมวาผูปกครองจะปรามเปนระยะๆ หรือเห็นวามีการ โพสหรอื แชรขอ มูลใน Internet แสดงความคิดเห็นวา “ดูแลเดก็ หนอย ลูกคนไมไดนารักสําหรับทุกคนในสังคมนะ” หรือบางครง้ั อาจแสดงความคดิ เหน็ ดวยถอยคําท่รี นุ แรง เชน “เดก็ เปรต เด็กนรก เดก็ พอ แมไ มส่งั สอน” จึงอยากให ไดรูจักกับโรคสมาธิสั้น )Attention Deficit Hyperactivity Disorder : ADHD) ซึ่งเด็กท่ีเปนโรคนี้จะมีปญหาดาน การควบคมุ ตนเองจนกอใหเกิดปญหาแกคนรอบขางไดบอยๆ อาการโรคสมาธสิ ้ันจะมีอาการเดน คือ 1)ซุกซน อยูไม นงิ่ 2) ไมม สี มาธิ 3)หนุ หันพลนั แลน การบําบดั รกั ษาโรคสมาธิสั้น 1. การรกั ษาดว ยยา ทําใหเ ด็กน่งิ ซนนอยลง ดูสงบลงและมีสมาธมิ ากขน้ึ มคี วามสามารถในการควบคุมตัวเอง 2. การปรับเปลย่ี นพฤติกรรมและการชวยเหลือทางดานจิตใจ ชวยใหเด็กมีสมาธิ มีความอดทน ควรใหขอมูลแก พอ แมโดยเฉพาะความเขา ใจผดิ ทีค่ ดิ วาเดก็ ดื้อหรือเกียจคราน 3. การชว ยเหลือดา นการเรยี น ประสานงานกับครูเพ่อื จดั การเรียนการสอนใหเหมาะกับเดก็ การรกั ษาสมาธิสัน้ ทด่ี ี คอื การผสมผสานการรักษาหลายๆดาน การรักษาอยางถูกวิธจะทําใหเด็ก รสู กึ มีคุณคาในตวั เองเพม่ิ ขึน้ ความสัมพนั ธกบั เพือ่ นหรือคนรอบขา งดีข้ึน พอแมควรทําอยา งไรเมอ่ื ลกู เปน โรคสมาธสิ นั้ พอ แมตอ งเรยี นรูเ ทคนคิ ทถ่ี กู ตองเพื่อชวยในการจัดการกบั พฤตกิ รรม ที่เปน ปญหาของเดก็ ดงั นี้ 1. ปรับทัศนคติที่มีตอเด็ก โรคสมาธิสั้นเปนความผิดปกติของการทํางานของสมอง พฤติกรรมท่ีกอปญหาของเด็ก ไมไ ดเ กิดขึ้นจากความตัง้ ใจที่จะกอกวนใหเ กดิ ปญหา แตเ พราะเด็กไมส ามารถควบคมุ ตนเองได ไมไ ดแกลง ไมใชนิสัย ไมด ี ไมใชเดก็ ดอื้ ไมอดทน ไมใชส อนไมจาํ ไมใ ชไ มม คี วามรบั ผิดชอบ 2. ใชเทคนคิ การปรับพฤติกรรมทไ่ี มทาํ ลายความรสู กึ มีคุณคาในตัวเองของเดก็ ดังนี้ - ลดส่งิ เรา จัดหาสถานท่ีใหเ ดก็ ทําการบา น อานหนงั สอื โดยไมม ใี ครรบกวน และไมมีส่ิงทําใหเด็กเสียสมาธิ เชน ทีวี หรอื ของเลนอยูใ กล ๆ - เพิ่มสมาธิ ถาเด็กวอกแวกหรือหมดสมาธิงาย มีผูใหญน่ังประกบระหวางทําการบาน เพื่อใหงานเสร็จ และ เวลาสัง่ ใหเดก็ ทาํ งาน ควรใหเดก็ พูดทวนคําสัง่ ทพ่ี อ แมเ พิ่งส่งั ไปทันที เพื่อใหม่ันใจวาเด็กฟงคําสั่งและเขาใจวาพอแม ตอ งการใหเ ขาทําอะไร 16 บทความความรู้สุขภาพจิต จาก การประชมุ เชิงปฏบิ ตั กิ ารเพื่อพฒั นาศักยภาพนกั สือ่ สารสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจติ ปี 2558
- เพ่ิมการควบคุมตนเอง จัดตารางกิจกรรมใหชัดเจน เม่ือเด็กทําผิดพอแมและบุคคลอ่ืนในบานตอง พยายามควบคุมอารมณ อยาตวาดตําหนิเด็กหรือลงโทษทางกายอยางรุนแรง การใชความรุนแรงกับเด็กสมาธิส้ันจะทําให เดก็ โตข้ึนมาเปน เดก็ กาวรา วและใชค วามรนุ แรงในการแกป ญหา โรคสมาธิส้ันคนพบมานานกวา 100 ป เม่ือกอนไมไดเปนที่รูจักกันแพรหลาย ปจจุบันเกณฑการ วินจิ ฉัยโรคของแพทยม คี วามชัดเจน ครแู ละผูปกครองมีความรูเก่ยี วกบั โรคน้ีเพิ่มข้ึน ทําใหเด็กท่ีมีอาการเขาขายโรค สมาธิสัน้ ถูกคนพบและไดร ับการวินิจฉัยมากขึ้น เลยทําใหดูเหมือนวาเปนการแพรระบาดหรือเปนแฟชั่นของสังคม ปจจุบัน การสามารถสงั เกตพฤติกรรมผิดปกติของเด็กเบ้ืองตน ก็จะชวยใหเดก็ ไดเ ขาสรู ะบบบําบดั รกั ษาอาการสมาธิ สั้นสงผลดีกบั ผูปว ยโรคสมาธิสน้ั ตอไป บทความความรู้สุขภาพจติ 17 จาก การประชมุ เชงิ ปฏิบัติการเพอื่ พัฒนาศกั ยภาพนกั สือ่ สารสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจิต ปี 2558
ไมร ูจักฉัน...ไมรูจ ักเธอ พรศริ ิ หาระพันธุ “คุณตาคะ คุณตามาทําอะไรแถวนี้คะ” คุณตาไมพูดจา ตามองไปขางหนา เหมอลอย “คุณ ตาน่งั กอ นนะคะ ทานนํา้ กอนคะ” เด็กนอ ยบอกคุณตา สกั พักมีคุณยายคนหน่ึงเดินมา “อีหนูเอยเห็นคุณตาม้ัย ลูก เดนิ มาแถวนี้ม้ัย” คุณยายรุนราวคราวเดียวกันกับคุณตาเดินมาถาม “ออ คุณตานอนอยูตรงนั้นคะ” เด็ก นอยบอกพรอมชี้มือไปทเ่ี ถยี งนา “เหน็ แกเดินมาถามวา สบายม้ัย แลวคุณตาก็นอนหลับไปคะ” เสียงเจ้ือยแจว ของเดก็ จอ ยเจรากับคณุ ยายอยางคลอ งแคลว คุณยายเลาวา “บางวันคุณตาก็เดินไปไกลมาก บางวันทานขาว แลว กบ็ อกวายงั ไมไ ดทาน เวลาลกู เตามาหาคุณตากไ็ มร จู กั และกลัวลกู และจะถามชื่อลูกซํา้ ๆ วาเปน ใครมาจาก ไหน” ผูเขียนจําไดข ึ้นใจ คณุ ตาและคุณยายสองคนน้ีอยูบานติดกับผูเขียน และเด็กนอยในวันนี้ก็คือผูเขียนใน วนั น้ี อาการท่ีคุณตาเปนนั้นหลายๆ คนคงรูจักกันดี วาเปนโรคอยางหนึ่ง ซ่ึงโรคนี้จะเกิดกับ ผสู ูงอายุ ซ่งึ ก็คือโรคอัลไซเมอร โรคน้ีมักจะมีอาการคอยเปนคอยไปแตจะรุนแรงเพ่ิมมากข้ึนเร่ือยๆ อาการท่ี เกิดขน้ึ นั้นจะไปกระทบกับกระบวนความจําในปจ จบุ นั ซง่ึ เปน อาการของคุณตา ในระยะเร่มิ แรกอาจไมไ ดเ กดิ ข้ึนตลอดเวลา บางครั้งผูปวยยังดูดี ความผิดปกติที่มากขึ้นจะมี ผลตอการวางแผน การตัดสินใจ และในท่ีสุดจะมีผลตอการดําเนินชีวิตประจําวัน อารมณเปล่ียนแปลง ข้ึนๆ ลงๆ หงดุ หงดิ โมโห หรือมีอาการซมึ เศรา กอใหเกดิ ปญ หาในครอบคารวั โรคอัลไซเมอร เปนโรคที่ไมส ามารถรักษาใหหายขาดได ผปู วยตองไดรับการดูแลอยางใกลชิด ลูกหลานทอ่ี ยูดวย และผทู ่ีเปนคชู วี ิตก็อาจจะตอ งศกึ ษาการดูแลผปู วยโรคน้ี ซึ่งจะไดพบกับวิธีการตางๆ ในการ ดูแล ในฉบบั ตอ ไป 18 บทความความรสู้ ขุ ภาพจิต จาก การประชมุ เชงิ ปฏิบัตกิ ารเพ่อื พฒั นาศกั ยภาพนักส่ือสารสขุ ภาพจิต กรมสุขภาพจติ ปี 2558
รบั มอื ...เมื่อตกงาน อานนท ฉตั รทอง สถานการณต างๆ ในปจจุบนั กาํ ลงั ทาํ ใหใ ครหลายคนอยูใ นภาวะท่ไี มสงบ หนึ่งในผลกระทบ ทร่ี ุนแรงมากทีส่ ุดทางเศรษฐกิจ คอื ปญหาการตกงาน การตกงานแบบทไี่ มค าดคดิ มากอ น หลายคนไมอ ยาก เชอ่ื วา เหตุการณเชน น้ีจะเกิดข้นึ กับตนเอง แตการตกงาน การปรับเปล่ียนตาํ แหนง และการถูกไลอ อก กก็ ลาย มาเปน เงอ่ื นไขธรรมดาทเ่ี กดิ ขึน้ ไดตลอดเวลา โดยไมเ ลอื กอายุ เชอื้ ชาติ หรอื อาชีพ ก็ทําใหม นุษยเ งนิ เดือนอยา ง พวกเราตอ งตระหนกั ถงึ ส่งิ เหลา น้นั มากข้นึ โดยทวั่ ไป เราทราบดีอยแู ลววา ควรทาํ อยา งไรกับตนเอง ดงั นั้น ควรหาทางพฒั นาความ มั่นคงทางจติ ใจหรือความรูสกึ ของตนเองใหดขี ึน้ และหาหนทางในการกา วไปขางหนา เพื่ออนาคตท่ดี ีกวา แทนทจี่ ะจมอยูกบั อดตี ท่ีผานไปแลว คุณลองพิจารณาสิง่ เหลาน้ี - ไมใชตัวคนเดียว หากมคี รอบครัวของตนเอง การตกงานอาจกอ ใหเกดิ ปญหาดานการเงิน ซึ่งมี ผลกระทบกับคนในครอบครัวโดยตรง ตอ งวางแผนการใชเ งนิ ภายในครอบครัวใหม - คํานวณคา ใชจาย แนนอนวา จะตองมกี ารวางแผนการใชเงินใหม ตอ งประหยดั ลดคาใชจ า ยท้งั ใน สว นทจี่ าํ เปน และไมจําเปน ลง โดยอาจจะเร่ิมจากการทานขาวทีบ่ า นบอยข้นึ ซอ้ื ของในรานขายสนิ คาราคา ประหยัด หากสถานการณแยมาก อาจตองนําสิ่งของภายในบานไปแลกเปลี่ยนเปนเงินเพือ่ มาใชจาย เมือ่ คุณ หางานทําไดอกี ครงั้ คณุ จะมองเห็นคุณคาของการใชเงินและตดั ส่งิ ท่ไี มจ ําเปนออกไป เพอ่ื ออมเงนิ ไวใ ชใ นคราว จาํ เปนซ่ึงอาจเกดิ ข้นึ ไดอีกในอนาคต - ทบทวนสิ่งตา งๆ หากตอ งการเวลาในการคดิ ทบทวนเกีย่ วกบั เปา หมายในการทํางาน นคี่ อื ชว งเวลาท่ีเหมาะสมท่ีสุดสําหรบั การใครครวญ ในกรณที ่ียงั ตอ งการหางานใหมท ํา ควรใชโ อกาสนใ้ี นการ ไตรต รองวา เปา หมายในการทาํ งานของตนเองคืออะไร และไดใ ชค วามรูความสามารถของตนเองเต็มทแ่ี ลว หรือ ยัง? และมีเวลาในการทําตามใจตนเองเพียงพอหรอื ยัง? อยากทํางานแบบเปนทีม หรือทํางานแบบตัวตนเดยี ว? เปาหมายในการทาํ งานในอีกหาปขางหนา? และจะแนใจไดอ ยา งไรวา หนาที่การานใหมจ ะทาํ ใหป ระสบ ความสาํ เรจ็ และกา วไปสเู ปาหมายท่ีตนเองตองการได? จงพยายามหาคําตอบใหก ับคําถามที่นา เบื่อเหลาน้ใี หได เพราะจะชว ยใหเ ราสามารถกําหนดเปาหมายในการสมัครงานได ซ่งึ หนาท่ีการงานใหม จะทาํ ใหตนเองและคน รอบขางมีความสขุ มากย่ิงข้ึน แมวาคุณอาจจะไมมีงานทําในตอนน้ี แตอ ยา ปลอ ยใหต นเองตอ งตกเปนเหยื่อจาก สถานการณท่ีเลวราย ควรมองหาโอกาสท่ีจะพฒั นาตนเอง ตองรจู ักปรบั ตัวเพ่ือความอยรู อด เพราะชวี ติ นัน้ ขนึ้ อยูกบั การควบคมุ และความเชอื่ ม่ันในตนเอง ดังน้ัน จงเริ่มตั้งแตต อนน้ี บทความความร้สู ุขภาพจิต 19 จาก การประชมุ เชิงปฏิบัติการเพอ่ื พฒั นาศักยภาพนักสอ่ื สารสุขภาพจติ กรมสุขภาพจิต ปี 2558
เรอื่ งเลา: กรณศี กึ ษา สุดา ยทุ ธโท ผูปวยหลายรายที่มปี ญ หาซบั ซอน ควรไดรบั การตดิ ตามดูแลตอ เนื่องท่ีบาน ด่ังเชนผูปวยราย น้ีเปนผูปวยนอก โรงพยาบาลจิตเวชแหงหน่ึง ผูปวยชื่อนางวี ใจนอย (นามสมมุติ) อายุ 65 ป น้ําหนัก 64 กโิ ลกรัม อาชีพวางงาน เช้ือชาติ ไทย การศึกษา ประถม ศาสนาพุทธ สถานภาพ หมาย บานเดิมอยู จังหวัด ลพบุรี การวินิจฉัยโรค Major Depressive Disorder เปน DM, HT, ไขมันสูง นาน 2 ป รักษาโรงพยาบาล ท่ัวไปแหงหนึ่งในจังหวัดสงขลาสม่ําเสมอ อาชีพรับจางซักผา ตอมาเปนแมบานของโรงพยาบาลแหงหนึ่งใน จงั หวัดสงขลา วันละ 100 บาท ทาํ วนั เวนวัน มีลูก 3 คน อยตู า งจงั หวัด ตดิ ตอ ลูกสาวได แตลูกสาวไมมาเยี่ยม คดิ วาปว ยเลก็ นอ ย สามีเสยี ชวี ิตนานแลว จากเรือถกู โจรปลน อาการสําคัญ คดิ มาก นอยใจงาย กลัวตาย ไมกลาเขาใกลคนใสชุดสีดํา ไมกลาอยูคนเดียว มอี าการ มา 1 เดอื น นอนสะดงุ บอ ย เครียด คิดวาตนเองไรคา ทอแท หมดกําลังใจ ไมมีใครสนใจ ไมมีใครรัก เพราะปวยหลายโรค อายุมาก คนอ่ืนเขารังเกียจ ผล2Q 2 คะแนน 9Q 16 คะแนน เมื่อ 10 ปกอน รับจางที่ บา นแหง หนึง่ เจา ของบา นมหี ลายคน หลายวยั หลายอารมณ ทกุ คนจะปลดปลอยอารมณลงไปท่ีผูปวย เชน ขวา งปาจาน ชามใสอาหาร ใสผูป ว ย จนอาหารหกเละเทอะ ผูปว ยกต็ องทําความสะอาดเศษอาหาร ดุดาใหเสีย ๆหาย ๆ รุนแรง ตลอด ผูปวยไมไดแสดงความไมพอใจใหนายจางเห็น ไดแตทนแลวก็ทน ทําใหเปนคนเงียบ นิ่งเฉย ไมคอยพูดกับใคร ขณะอยูคนเดียวรูสึกกลัว ผวา วังเวงในบาน เครียด ซึมเศรา ไปรักษาที่คลินิก เปน โรคซมึ เศรา ทาํ งานได 7 เดือน ลาออกมาเชาบานอยคู นเดยี ว ปจจุบันวางงาน อยูคนเดียว ลูกๆไมมาดูแล แมยามปวยไข หรือไดรับการผาตัด เพื่อนบาน เซ็นยนิ ยอมเขารกั ษาในโรงพยาบาล และชวยกันบริจาคคารักษา คาเดินทางมาพบแพทยทุกครั้ง อาหารแต ละวันไมมีจะรับประทาน เพื่อนบานแบงให ไดกินบาง ไมไดกินบาง นํ้าหนักตัวลดลง เดือนละ 1 กิโลกรัม เพ่ือนบานจะมาดูท่ีหองเปนชวงๆ เน่ืองจากมักจะเก็บตัวอยูในหองคนเดียวเกือบตลอด นาน ๆจึงจะลงไป พูดคยุ กับเพ่ือนบานบาง เพอื่ นบานอาชพี ขายของหาบเร ถ่ัวตม เผือกมัน ไขปง ผลไม แตละคนก็กลับมาบาน ตอนเย็น ๆ หรอื บางวนั ก็มืดคา่ํ ชว งกลางวันผปู วยจะอยคู นเดียว ไดร ับยา Fluoxetine 20 mg 1 mg 1เมด็ หลงั อาหารเชา T5 1 เม็ด 2 ครั้ง หลังอาหารเชา เย็น D5 1 เม็ด กอนนอน ไดสงเสริมการเห็นคุณคาในตนเอง เนนใหผูปวยเขาใจความรูสึกท่ีดีของตนเอง วา ตนเองมคี ณุ คา มคี วามสามารถ มีความสาํ คญั ปรบั เปล่ยี นความคิดโดยการสรางความหวงั สรา งแรงจูงใจในตน 20 บทความความรู้สขุ ภาพจิต จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการเพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพนกั ส่อื สารสขุ ภาพจิต กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
เล้ยี งลกู อยางไรเสี่ยงตอไอคิวอคี ิวตา่ํ เบญญาภา สมลกั ษณ การดําเนนิ ชีวิตของครอบครัวและการเลยี้ งดูลูก ในปจ จบุ นั มีแนวโนมทีจ่ ะสงผลใหเดก็ กลายเปน คนทมี่ ี ไอควิ อคี ิวตํ่าลงจรงิ หรอื ? ลองคน หาวิธกี ารเลี้ยงดูของคุณวาเปน แบบน้หี รอื เปลา? ๑. เล้ียงแบบสบายเกินไป จะมีผลทําใหเด็กขาดความอดทน ไมใชความพยายามของตนเอง แกป ญ หาเองไมไ ด เวลาเผชญิ กบั ความลําบากจะยอมแพงายๆ ๒. เลยี้ งแบบไมใหช ว ยเหลือตนเอง แมแตเ ร่ืองเลก็ ๆนอ ยๆ จะทาํ ใหเดก็ กลายเปน คนแกป ญหาไมเปน ขาดความสามารถในการปรบั ตัวใหเหมาะสมกบั สังคมหรอื สถานการณรอบขางทเี่ ปล่ียนแปลง ๓. เลยี้ งแบบโตไมสมวัย พอแมที่มักจะปลอยใหลูกมีพฤติกรรมแบบเด็ก ทั้งๆท่ีเขาสูวัยรุน จะทําให เดก็ ไมม ีวุฒภิ าวะ ใชชวี ติ เรอ่ื ยเปอย ขาดความกระตอื รือรน และไมมแี รงจงู ใจที่จะพฒั นาตวั เอง ๔. เลีย้ งแบบเนนเรียนมากเกินไป เด็กที่มัวแตใชเวลาสวนใหญไปกับการเรียนพิเศษก็จะขาดทักษะ อื่นๆ เชน การเขาสังคม ดนตรี กีฬา เด็กบางคนที่พ่ึงคุณครูหรือพอแมมากเกินหรือพอแมชวยทําการบาน ก็มักจะตดิ นิสัยพ่งึ พาผอู ื่น และไมข วนขวายหาความรูดวยตนเอง ๕. เลีย้ งแบบใชค วามรนุ แรง เดก็ ทถี่ กู กระทาํ รุนแรงไมว า ทางวาจาหรือทางกาย จะเกิดความรสู ึก วติ กกังวล กลัว กดดัน เครียด โกรธ อยากแกแคน เด็กบางคนถึงข้ันคิดหนีออกจากบาน หรือจมอยูกับความ ทุกขเปน เวลานาน อารมณเสียงาย ยิ่งถา เด็กทอ่ี ยูในครอบครัวที่มีแตการใชความรุนแรง เห็นพฤติกรรมรุนแรง ของผูใหญ หรือเคยถูกกระทํารุนแรงทางกาย จะเลียนแบบและมีพฤติกรรมใชความรุนแรงมากกวาเด็ก ท่ีเติบโตมาในครอบครวั ที่ไมม กี ารใชความรนุ แรง ๖. เล้ยี งดวยทีวหี รอื แท็บเล็ต เด็กเหน็ ภาพความรุนแรงหรือพฤติกรรมไมเหมาะสมผานทางโทรทัศน หรือแท็บเลต็ วนั ละหลายๆ ครัง้ จะสงผลตอการเลียนแบบพฤติกรรม และความฉลาดทางอารมณของเด็กทั้ง ทางตรงและทางออม เห็นภาพการดื่มเหลา สูบบุหรี่ การฆากัน การฆาตัวตาย บอยครั้ง จึงไมแปลกใจวา ทําไมเดก็ สมยั นี้ ถึงดม่ื แอลกอฮอลแ ละสูบบุหรเ่ี ร็ว และมพี ฤติกรรมกาวราวรุนแรง ถาจะใหดีพอแมหรือผูเลี้ยง ควรใชโทรทัศนเปนเครอื่ งมอื สรา งไอคิวอคี ิวใหส ูงข้นึ ดวยการน่ัง ดูโทรทัศนพรอมเด็ก เพื่อจะไดแนะนําในส่ิงที่ ถกู ทคี่ วร และเปดโลกทางความคดิ ดว ยการเลอื กดรู ายการที่มสี าระมากกวา บนั เทิง ถาพอแมหรือผูเล้ียงรูอยางนี้แลว ยังคงจะทําแบบเดิมไหม? หรือวาจะลองเปล่ียนวิธีการเลี้ยงดูใหม โดยเรม่ิ ตน จากครอบครวั ใชเ วลารวมกัน ผูกพันดวยความรัก ความรูสึกดี ๆ การใชคําพูดท่ีดีตอกัน ฝกใหเด็ก รับผิดชอบและลงมือทําดวยตนเอง พอแมหรือผูเลี้ยงดูคอยสนับสนุนและใหกําลังใจ ลดความคาดหวังแตให เกียรติและการยอมรบั แทน บทความความร้สู ุขภาพจิต 21 จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพนักส่อื สารสุขภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
เศรา ...แลวไง ศริ ิจนั ทร สุขใจ ปจจุบันนี้ตองยอมรับวา “โรคซึมเศรา” เปนปญหาดานสาธารณสุขที่สําคัญและไดรับความ สนใจจากคนในสงั คมกนั มาก แตจะมสี ักกี่คนที่เขาใจและรเู รือ่ งโรคซึมเศราไดอ ยา งถกู ตอ ง หลายคนไมก ลาท่ีจะ ไปตรวจทีโ่ รงพยาบาลจติ เวชกลัวถูกมองวาเปน “บา” แตกลับไมกลัววาถามีอาการซึมเศรามาก ๆ อาจจะทํา รา ยตัวเองหรอื ฆา ตัวตายได โรคซมึ เศรา ไมใชโ รคจิต สามารถรักษาหายได สาเหตุการเกิดโรคไมทราบแนชัดวาเกิดจาก อะไร แตมีปจ จัยที่เก่ียวของคือ เปนโรคที่มีความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมองบริเวณสวนท่ีเกี่ยวของ กับการควบคุมและการแสดงออกของอารมณ พนั ธุกรรมเปน ปจ จัยหนึ่งทําใหเกิดโรคซึมเศรา หรือเหตุการณ ท่กี อ ความเครยี ดในชีวติ อาการสาํ คัญ 1. มีอารมณเ ศรา อารมณเ ศรามีเกอื บตลอดวนั และเปนทกุ วัน บางวันอาจเปน มากบางวันอาจเปน นอย 2. ความสนใจหรอื ความเพลิดเพลนิ ในกจิ กรรมตางๆท่เี คยทํา แทบทั้งหมดลดลงอยา งมาก 3. เบอ่ื อาหารจนนํา้ หนกั ลดลงหรอื บวงรายอาจมีความอยากอาหารเพม่ิ ขนึ้ 4. นอนไมหลับ หรือหลับมากแทบทุกวัน สวนใหญจะนอนไมหลับ กระสับกระสาย หลับดึกแตจะตื่นเชา 1-2 ชงั่ โมงกอ นเวลาปกตทิ เี่ คยตนื่ และไมส ดชนื่ 5. ทําอะไรชา พูดชา เคลอ่ื นไหวชา 6. ออ นเพลยี หรอื ไรเรย่ี วแรงท้งั วันและแทบทกุ วนั 7. รูสกึ ตนเองไรค าหรอื รสู ึกผดิ มากเกนิ ควร 8. สมาธิหรือความคดิ อานชา ลดลง 9. คดิ อยากตายไมอ ยากมีชีวติ อยู บางรายรุนแรงอาจมอี าการประสาทหลอน หแู วว ลองสังเกตอาการตัวเอง ถาคิดวาตัวเองเริ่มมีความเครียดหรือไมสบายใจ หรือเริ่มมีอาการ ทีก่ ลา วมา เพื่อใหแนใจวาปวยหรือไม สามารถไปรับการตรวจประเมินโรคซึมเศราไดที่ โรงพยาบาลใกลบาน ซ่ึง “โรคซมึ เศรา สามารถรักษาใหหายได” ดวยการรับประทานยาตานเศรา และถามีอาการซึมเศราในระดับ นอยๆไมตองรบั ประทานยา แคอ อกกําลงั กายทกุ วนั วันละ 30 – 45 นาที สามารถลดอาการเศรา ได ขอ มูลจากหนงั สือ โรคซมึ เศรา โดยนายแพทย ธรณนิ ทร กองสขุ 22 บทความความรสู้ ขุ ภาพจิต จาก การประชมุ เชิงปฏบิ ัตกิ ารเพอื่ พฒั นาศกั ยภาพนกั ส่ือสารสขุ ภาพจิต กรมสุขภาพจติ ปี 2558
สถานการณของกลุม ชาตพิ ันธทุ ผี่ า นมา นายชพู งษ สงั ขผ ลพิ นั ธ การพัฒนาประเทศในรอบ 20 ปท่ีผานมา ปรากฏวาสวนใหญไดเนนหนักการขยายฐานและ อัตราการเจริญเติบโตทางดานเศรษฐกิจ ซ่ึงไดสงผลกระทบทางดานสังคม การเมือง และการ ปกครองหลายดาน และจะเห็นไดวา ผลของการพฒั นาเศรษฐกิจนั้นยังไมไดกระจายไปสูคนสวนใหญเทาท่ีควร กอ ใหเกดิ ปญ หาตามมาดงั น้ี 1. สภาพโครงสรางสังคม ยังมิไดรับการพัฒนาใหสอดคลองกับการเปล่ียนแปลงทางดานเศรษฐกิจ กลาวคือการเปล่ยี นแปลงโครงสรา งของระบบเศรษฐกิจ ทาํ ใหฐ านอุตสาหกรรมขยายตัวขึ้นอยางรวดเร็วในเขต เมือง โดยเฉพาะในกรงุ เทพมหานคร ขณะเดียวกนั ระบบการผลิตของภาคเกษตรในชนบทก็ไดเปลี่ยนแปลงไป จากการผลิตเพยี งพออยูพอกนิ มาเปน การผลิตเพ่อื การคาและรายได เปนผลใหเกิดกลุมบุคคลอาชีพใหมหลาย ประเภทขึ้น ทําใหความสัมพันธระหวางคนในสังคมเปล่ียนแปลงไป และเกิดความไมสมดุล เกิดปญหาความ เหลอ่ื มลา้ํ เหลานไ้ี ด 2. ระบบการเมือง การปกครอง ถึงแมจะมีวิวัฒนาการมาต้ังแตป 2475 เปนตนมาก็ตาม ระบบ ราชการที่เปนอยูก็ยังไมไดพัฒนาจากแนวความคิดท่ีวาขาราชการเปนผูปกครองประชาชนแทนท่ีจะเปนผู บริการประชาชนตามลกั ษณะของระบบการพัฒนาบริหารใหม และมิไดสง เสริมใหประชาชนหรือองคกรชุมชน เขามามีบทบาทในการพัฒนาหรอื มสี วนรว มในการปฏบิ ัตงิ านหรือติดตามผลงานของขาราชการเทาท่ีควร 3. การเพิ่มข้ึนอยางรวดเร็วของจํานวนประชากรไมไดสัดสวนกับทรัพยากรเศรษฐกิจท่ีมีอยูหรือไม สัมพันธก บั โอกาสการมีงานทาํ ไดก อใหเ กดิ ปญ หาสงั คมตามมาอีกหลายดาน ตลอดท้ังการอพยพยายถ่ิน ความ แออัดและการขาดแคลนที่อยูอาศยั ในเมอื ง ย่งิ ทําใหเ กดิ สภาพแวดลอมทางสังคมที่มีผลกระทบตอสุขภาพกาย และสขุ ภาพจิตของประชาชนในเมืองโดยทั่วไป เกิดปญหาการใชแรงงานเด็กและสตรี และเกิดผลกระทบตอ สถาบันครอบครวั และสงผลสะทอนถงึ สังคมโดยสว นรวมในทสี่ ดุ 4. ความเสื่อมโทรมของวัฒนธรรม ทําใหเกิดปญหาในสังคมเพราะการพัฒนาท่ีผานมาไดทําใหการ ส่ือสารคมนาคม กา วหนาขน้ึ อยา งรวดเร็ว มีผลทําใหเกดิ การเปลยี่ นแปลงคานยิ มที่ขัดกับวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม หลายอยางโดยไดร บั อทิ ธิภาพคานยิ มทางวัตถเุ กดิ ความตองการในส่ิงฟุมเฟอยมากข้ึน จึงทําใหสังคมโดยท่ัวไป ขาดการประหยดั มัธยสั ถ ปจจุบัน ประเพณีปฏิบัติของแตละกลุมชาติพันธุเปล่ียนแปลงไปมากไมวาจะเปนคนเมือง, คนพน้ื ราบหรอื แมแตค นชนเผาเองเนอ่ื งจากวถิ ีชีวติ เปลี่ยนไปจากการรกุ คืบเขา มาของประเทศ ตะวันตก ซึ่งคน ชนเผาไดรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงนี้อยางมาก เนื่องจากการเขามาของเทคโนโลยีตาง ๆ เครอ่ื งใชไ ฟฟา การคมนาคมทส่ี ะดวกรวดเร็วขึ้น ทําใหความทันสมัยตาง ๆ เหลาน้ันเขาไปในชุมชนคนชนเผา อยา งรวดเรว็ บทความความร้สู ุขภาพจิต 23 จาก การประชมุ เชิงปฏิบัตกิ ารเพ่ือพัฒนาศกั ยภาพนักสือ่ สารสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
สบายดีจะเด็กไทย ตัวคุณเตรียมพรอมเขาสู AEC แลวหรือยัง ตอนคุณพาลูกไปสงท่ีโรงเรียน ก็จะเห็น ปรากฏการณท่ีนอกจากจะเห็นธงชาติไทยผืนใหญ แลวยังจะเห็นธงชาติตางๆในกลุมประเทศอาเซียน ถาไม สงั เกตเหน็ ถอื วา เชยมาก เพราะเขารณรงคมามากวา 3 ปแลว ผานสอ่ื ตางๆ เอาละเขาเร่ืองเลยแลวกัน คําวา “สบายดี” เปนคําทักทายคลายกับคําวา “สวัสดี” ใน ภาษาไทย หากคุณติดตามนอง ณัชชา ลูกสาวพ่ีบอบ ก็จะมีประโยคท่ีติดปากคือ ดูปากณัชชานะคะ ทั้ง ภาษาจนี ภาษาอังกฤษ ณชั ชาออกเสยี งไดอยา งชัดเจนกับเจาของภาษา เกิดอะไรขึ้นกับเด็กมหัศจรรยคนนี้ เกิดและโตในเมืองไทย พูดภาษาตางประเทศไดชัด ปรากฏการณน้ีจึงเกิดขึ้นในชวงวัยเด็กเทาน้ัน ภาษาอังกฤษเรียกวา Golden Opportunity คือโอกาสทอง ของการสอนภาษาที่ 2 หรือ 3 ของลูกนอยคุณ มาลองสังเกตกันสมัยเราเด็กๆ ภาษาอังกฤษเราเร่ิมตอน ป.5 ตอนน้นั เราก็อายุ 10 หรือ 11 ป ถอื วา ชา ไปแลว เม่อื เราอยากใหล ูกนอยของคณุ เขา สู AEC อยางมั่นใจ ใหเร่ิม ภาษาทสี่ องพรอ มกบั เด็กที่เริ่มพูดเลย โอกาสทองของภาษาท่ี 2,3 จะอยูในชวง 18 เดือน – 9 ป จะเห็นไดวา รนุ คุณพอ คุณแมอยา งเราภาษาท่ี 2 คอื ภาษาไทย หากเกดิ ข้นึ ทอี่ สี านภาษาแรกกค็ ือภาษาอสี าน ดังนั้นอยากให ลกู คณุ พดู ภาษาที่ 2 ไดเ ลยทนั ทนี ะครับ อยารอใหส ายไป 24 บทความความร้สู ุขภาพจิต จาก การประชมุ เชิงปฏิบตั ิการเพอ่ื พัฒนาศกั ยภาพนกั สอื่ สารสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
สมอง...ยาเสพติด...โรคจติ เก่ยี วพนั กันอยา งไร นันทนา รัตนากร การใชสารเสพติด นอกจากสงผลเกิดปญหาสุขภาพกาย ใจและอารมณของผูเสพแลว ยังสงผล กระทบตอครอบครัว เปน ภัยตอความสงบสขุ ของสังคม และเปนปญ หาระดับชาติ การตดิ สารเสพตดิ เปนกระบวนการตอ เน่อื งที่เกิดขึ้นอยางรวดเร็ว โดยเฉพาะสารเมทแอมเฟตา มีน ซงึ่ มีผลตอสมอง คือ สมองสว นคิด และสมองสว นความรูสกึ ถูกทําลายอยางถาวร สมองฝอลง และสูญเสียการ ทํางาน ไมสามารถยบั ย้ังความตอ งการหรอื ควบคมุ อารมณค วามรสู กึ ของตนเองได ปญหาการใชสารเสพติด...รนุ แรงแคไ หน ? ปญหาการใชสารเสพติดหรือสารเมทแอมเฟตามีน เปนปญหาใหญท่ีมีการแพรระบาดไปท่ัวโลก พบวา ประชากรกวา 35 ลา นคนเสพสารน้ี และมคี วามรุนแรงสูงข้นึ ในประเทศแถบเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต สารกลุมเมทแอมเฟตามีนทแี่ พรร ะบาดมากท่สี ดุ มี 4 ลกั ษณะคือ 1) ชนดิ เมด็ หรือ “ยาบา” ซ่ึงมี สารเมทแอมเฟตามีนประมาณ 10-30% 2) ชนิดเกร็ด หรือ “ไอซ” มีสารเมทแอมเฟตามีน ประมาณ 90% 3) ชนดิ ผง และ 4) ชนดิ น้ํามนั ขน ในประเทศไทย พบวา ผใู ช “ยาบา” มอี ายนุ อ ยลงในกลุมเยาวชนอายุ 15-19 ป และอายุต่ํากวา 15 ป มกี ารใช “ไอซ” มากขนึ้ ซงึ่ ความรนุ แรงมากกวา “ยาบา” หลายเทา การใชเมทแอมเฟตามีน มีความสัมพันธกับการเกิดอาการทางจิต หรือเรียกวาเกิด “ภาวะโรค รวมจติ เวชสารเสพตดิ ” ซึ่งเม่อื สารดังกลาวผา นเขาสูส มอง มีผลทําใหสารสื่อนําประสาท หรือ “สารโดปามีน” ใน สมองผิดปกติ เกิดอาการทางจิต ถึงแมอาการทางจิตจะหายไปไดหลังหยุดเสพยา แตอาจพัฒนากลายเปนโรคจิต เวชเรือ้ รังได แลวจะหางไกลจากการเสพยา...ไดอ ยา งไร? สิ่งสําคัญคือ การเสริมสรางความเขมแข็งทางใจต้ังแตวัยเด็ก ท้ังในครอบครัว โรงเรียน และ ชุมชน ในครอบครัวทําอะไรไดบาง....มีผลงานวิจัยพบวา เด็กท่ีมีความเขมแข็งทางใจสวนมากมีความ ผูกพันใกลชิดกับผใู หญอยา งนอ ยหน่ึงคน ซ่ึงไมจําเปนวาตองเปนบิดา มารดา อาจเปนญาติ ครูอาจารย หรือผูนํา ศาสนาในชุมชน ซึ่งสามารถใหการดูแลท่ีม่ันคง ใหความรัก ความเอาใจใสที่เหมาะสมและเพียงพอตอความ ตองการของเดก็ กระตุน ใหเดก็ คดิ อยางอสิ ระ เปนตวั ของตัวเองตามความเหมาะสมกับอายุ ในโรงเรียนและชุมชน.... สนับสนุนใหฝกทักษะชีวิต สรางความมั่นใจในตนเอง สรางจิตสํานึก สาธารณะ ปลูกฝงการทาํ ความดแี ละบาํ เพญ็ ประโยชนตอชุมชน การสรา งความตระหนักใหเ ดก็ และเยาวชนมีพลังใจท่เี ขมแข็ง มีทกั ษะชวี ิตที่ดี แกไ ขปญหาชีวิตได โดยไมใชย าเสพตดิ จะทาํ ใหเ ตบิ โตเปนประชากรทีม่ คี ณุ ภาพตอ การพัฒนาประเทศตลอดไป... บทความความรู้สขุ ภาพจติ 25 จาก การประชุมเชงิ ปฏิบัติการเพอ่ื พฒั นาศักยภาพนักสื่อสารสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
สองขั้ว...ซอ นวิญญาณ จําป คําหอมกุล โรคท่ผี ูปว ยมอี ารมณสุดขวั้ ตั้งแตซ ึมเศราไปถึงคลุม คลง่ั สุดๆ จงึ เรียกโรคน้วี า “โรคจิตอารมณ คลุมคล่ังและซึมเศรา (manic Depressive Disorder)” โรคอารมณสองขั้วเปนโรคท่ีอันตรายมาก และมี พฤตกิ รรมท่มี คี วามเสีย่ งทอ่ี าจนําไปสกู ารฆาตวั ตายได สามารถรักษาไดโ ดยการบาํ บัดและทานยา อาการคลมุ คลั่ง อาการหงดุ หงิด กระวนกระวาย กระฉับกระเฉง ชางพูดมาก บุมบาม ใชจายสุรุยสุราย ชอบ แสดงอาํ นาจ มีอารมณเคลม้ิ สขุ อารมณซมึ เศรา จะมกี ารการตรงขามทงั้ หมด คอื เสียใจมาก รองไห รูสึกตัวเองไรคา ไมมีพลังงาน ไมมีความ ภาคภูมใิ จ พอใจ มปี ญ หาในการนอนหลับ ชนิด...สองข้วั อาการของโรคอารมณสองขั้วมีหลายชนิด ซ่ึงโดยรวมแลวคือ จะมีอาการซึมเศราและคลุม คล่งั ตา งระดบั กันไป ประกอบดว ย ไบโพลาร I, ไบโพลาร II, Cyclothymic, ไบโพลารแบบผสม และไบโพลาร แบบ Rapid-Cycling ไบโพลาร I อาการของผปู ว ยประเภทนี้สาเหตุจากมีอาการคลุมคลั่งอยางหนึ่งเกิดขึ้นในชวงท่ี มีอารมณร ว มกบั พฤตกิ รรมทไ่ี มป กตซิ ง่ึ ไปมผี ลตอ การดาํ เนินชีวิต ไบโพลา ร II ลักษณะอาการคลายกับ ไบโพลาร I แตชวงอารมณระหวางสองขั้วจะมีมากกวา แตก ย็ งั ไมแ สดงอาการคลุมคลงั่ มาก ไบโพลารแ บบ Rapid-Cycling ผูปวยประเภทนีเ้ คยมีอาการคลุมคล่งั หรือซึมเศรามากกวา 4 ครั้งข้ึนไปในรอบป ซ่งึ ไบโพลารชนดิ นพี้ บประมาณ 10-20% ของผปู วย ไบโพลารแบบผสม สวนใหญแลวผูปวยไบโพลารจะมีอารมณสลับกันไประหวางสองขั้วใน เวลาที่ไมปกติ แตไบโพลารชนิดนี้ผูปวยจะเคยมีอาการท้ังคลุมคลั่งและซึมเศราอยางตอเนื่อง หรือติดตอกัน อยา งมาก Cyclothymic ผูปวยจะแสดงอาการทางอารมณแบบไบโพลารแตไมมาก บางทีจึงเรียกวา Cyclothymic เพราะอาการนอ ยกวาโรคอารมณสองขวั้ ท่สี ดุ ข้วั กวา สองข้ัว...เด็กเลก็ ...วัยรนุ เนือ่ งจากเดก็ มคี วามเสี่ยงมากที่จะเปนหากคนใกลชิด เชน พอ-แม พ่ีนอง หรือญาติเปนโรค ดังกลาว ซึ่งพอแมอาจไมเขาใจวาอะไรท่ีเปนสาเหตุใหลูกมีอาการเชนน้ี ในเด็กเล็กและวัยรุนน้ันอารมณมัก แปรปรวนแบบไมม ีเหตุผลไดงายอยูแลว แตในเด็กปวยแบบไบโพลาร อารมณที่เปล่ียนน้ีมักมีอาการอยางอ่ืน 26 บทความความร้สู ขุ ภาพจิต จาก การประชมุ เชิงปฏบิ ัตกิ ารเพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพนกั สอ่ื สารสขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
รวมดว ย เชน การเปล่ียนพฤติกรรม ซึ่งเวลาที่เกดิ จะเห็นไดช ดั เจน เรียกวา เปน ตอนอารมณเลยทีเดียว (mood episode) การเกิดอารมณคลุมคลั่ง (mania) ในเด็กมีจํานวนครั้งที่เกิดนอยกวาในผูใหญ อยางนอยก็สัปดาห ละคร้ัง จะเปนชวงท่ีมีความสุขมากๆ กาวราว หรือมีอารมณโกรธ ซ่ึงจะมีอาการอ่ืนๆ ตามมา เชน ตองการ เวลานอนนอย กระปร้ีกระเปรา มีความม่ันใจในตัวเองสูงมาก พูดเร็ว คิดหลายๆ เร่ืองในขณะเดียวกัน ไมมี สมาธิ หาจุดสนใจไมได ชอบจับอวัยวะเพศตัวเอง ใชภาษาที่หมกมุนเร่ืองเพศ และชอบที่จะเขาใกลคนอ่ืนใน ลกั ษณะไปทางเร่ืองเพศ มกี ารกระทาํ ทีไ่ มเหมาะสม หรือกาวกายตอ สงั คม ยา...อารมณ (mood stabilizer) 1. Lithium (เรียกกันวา Esaklith หรือ Lithobid) ซึ่ง FDA ไดประกาศวาสามารถรักษาไดท้ังอาการ ซมึ เศรา และคลมุ คลง่ั 2. ยากันชัก (Anticonvulsants) ซึ่งใชรักษาโรคลมชัก หรือลมบาหมู สามารถนํามาใชในการควบคุม อารมณไดเ ชนกนั เชน 2.1 Valproic acid หรือ divalproex sodium (Depalote) ใน FDA กลาววาใชรักษาอาการคลุม คล่ัง และเปนอีกตัวเลือกหนึ่งแทน lithium แตก็มีขอควรระวังพิเศษในการใชสําหรับเพศหญิง โดยเฉพาะท่ี อายุไมเ กิน 20 ป 2.2 Lamotrigine (Lamictal) ใน FDA กลาววา ใหใ ชรักษาอาการซึมเศรา นอกจากนี้ยังมีตัวยาอื่นๆ เชน gabapebtin (Neurontin). Topiramate (Topamax), และ oxcarbaqepine (Trileptal) เปน ตน ยา Valproic acid Lamotrigine เปนยาท่ี FDA ไดมีคําเตือนเกี่ยวกับการบริโภคไววา อาจไป เพิม่ ความเส่ยี งตอความคิดและพฤตกิ รรมในการฆา ตัวตายได บทความความรสู้ ขุ ภาพจติ 27 จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารเพือ่ พฒั นาศกั ยภาพนกั สือ่ สารสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
ส่งิ เล็กๆ ทีเ่ รยี กวา “ โรคเครียด” สงั คมเมอื งในปจ จุบัน มกี ารพัฒนาและเจรญิ กา วหนา ในทกุ ๆดาน ไมว าจะเปนดา นการศึกษา และ ดานเทคโนโลยีตางๆ มากมาย ซ่งึ คนเมอื งสวนใหญ มีความตองการและใหความสําคญั กับสิ่งเหลาน้ีมาก จงึ พยายาม ขวนขวายใหไดมาซ่งึ เทคโนโลยี หรือสง่ิ อาํ นวยความสะดวกตา งๆ เพอ่ื ใหท ันยคุ ทันสมัยไมอายใคร จนลมื นกึ ไปวา สง่ิ เหลา น้ันมีความจําเปนกบั ชวี ิตเราจริงหรอื ไม แตต องใหไ ดม าเหมือนคนอนื่ เขา โดยหารูไมวา สิ่งเลก็ ๆท่เี รียกวา “ โรคเครยี ด ” กําลงั ถามหาทา นอยู โรคเครียด ในสงั คมเมอื ง เกดิ ขนึ้ ไดกับทุกเพศ ทุกวยั ไมวา จะเปน เดก็ หรือผูใ หญ สําหรับเด็กนั้น หลักๆคอื ตองการของเลน อยากไดโ ทรศพั ทมือถือเหมือนเพ่อื น หรือหากไมไดเ ขาเรียนในสถานศึกษาท่มี ชี ่อื ก็จะเกิด ความเครยี ด กนิ ไมได นอนไมหลบั หรือที่เหน็ บอยๆ ในขาวเดก็ ฆา ตัวตาย เนือ่ งจากผลการเรยี นไมด ี หรือสอบเขา โรงเรยี นท่มี ีช่อื เสยี งไมไ ด แตสําหรับวยั ทํางานหรอื วัยผใู หญนัน้ ตอ งเผชิญกับความเครียดมากกวา เชน ในชีวติ ประจําวนั เครยี ดจาก รถติด งาน เพอ่ื น ความรกั หนสี้ ิน ความตอ งการมคี อมพิวเตอร มโี ทรศัพทม ือถือราคาแพง มรี ถ ซงึ่ เกดิ สะสมข้ึนไดท ุกวนั รา งกายไมสามารถตอบสนองหรอื แสดงออกตอ ความเครยี ดนัน้ ได จนถกู สะสมใหเปน ความเครยี ด เรอ้ื รัง ความเครียด ถอื เปนระบบเตอื นภัยของรา งกาย ใหเ ตรยี มพรอ มเพอื่ ท่ีจะทําสิ่งใดส่ิงหนงึ่ ทาํ เพือ่ ใหพน จาก ความเครียดนี้ จนหลายคนตัดสนิ ใจผิดพลาด โดยการไปปลน จี้ หรอื หนปี ญหาโดยการฆาตัวตาย ก็มีใหเห็นในขา ว แทบจะทกุ วัน ความเครยี ดเหลาน้ี รางกายไมสามารถทาํ อะไรได เพราะเกดิ โดยท่ไี มร ตู ัว ทําใหฮ อรโ มนความเครียด กลมุ น้ี สะสมในรางกายจนกระทัง่ เกิดอาการทางสุขภาพกายและมผี ลทางจติ ใจ อาการหลักๆ อาจสังเกตได เชน ทาง รา งกาย จะมอี าการ ปวดหวั ปวดกลา มเน้ือ นอนไมห ลับ หูออ้ื มอื เย็น ออนเพลียงา ย ทองเสีย ทางจิตใจ ไดแ ก ความสามารถในการตดั สินใจนอยลง ไมม สี มาธิ ไมมีความคิดสรางสรรค ไมพ รอมจะเรียนรสู งิ่ ใหม ขี้ลืมบอ ยๆ ทาง อารมณ ไดแ ก มีความวิตกกงั วล หงดุ หงิด บางคร้ังมอี าการซมึ เศรา รอ งไหงา ย โกรธงา ย ทางพฤตกิ รรม ไดแ ก กนิ เกง ข้ึน รสู กึ ไมอยากยงุ กบั ใคร อยากแยกตัว ตดิ บุหร่ีหรือสุรา นอนไมห ลับ เปนตน ดงั น้นั เราควรหดั สงั เกตใหร เู ทาทันโรคเครยี ด หากเรารจู ักการจัดการกับความเครียด และรูจัก วธิ กี ารแกไขกับความเครียดแลว โรคเครียด จะไมสงผลกระทบตอ รา งกายและจิตใจของคนเมืองไดแ นน อน ยิ่งถา เรา สามารถปลอ ยวาง ไมว าจะเปนเรือ่ งของโทรศพั ทม ือถือ อนิ เตอรเ น็ท ไดน ัน้ บางทชี วี ติ เรากอ็ าจจะมคี วามสขุ มากข้ึน กวานกี้ ็ได อยาลมื วา ในสมยั ปู ยา ตา ยาย ของเรา พวกทา นไมม โี ทรศัพทมอื ถอื ไมม ีอนิ เตอรเ นท็ ทานกย็ งั มชี ีวติ อยู อยา งมีความสขุ ได 28 บทความความร้สู ุขภาพจิต จาก การประชมุ เชิงปฏิบตั กิ ารเพ่ือพัฒนาศกั ยภาพนักสอ่ื สารสุขภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
สขุ ใจท้งั ผใู ห. ..ดใี จทัง้ ผรู ับ ธนาภรณ ชาวชน่ื สุข ชวงเวลาการทํางานเรามักพบเจอผูคนมากมาย มีทั้งคนปกติและไมปกติ อาจจะเขามาขอ คําแนะนาํ ขอความชว ยเหลือ ดว ยหนาที่ความรบั ผดิ ชอบเราตองทําใหเตม็ ท่ี พยายามชวยเหลือใหผูรับสบายใจ เม่อื เราเหน็ รอยย้ิมเรากส็ ขุ ใจ งานบริการ คือ หัวใจสาํ คญั และเปน ส่ิงทเี่ รารกั พอรักแลว รูสกึ อยากเปน ผใู ห เมอื่ เวลาท่ีเราได ใหค ําปรึกษาใครสักคนหรอื ไดชว ยเหลือแลวจะดีใจทุกคร้ัง ขอยกตัวอยางเคสการใหคําปรึกษาการนําผูปวยมา รักษา แตผปู วยไมย อมรบั ตวั เองคนรอบขางพูดก็ไมฟงจนเวลาผา นไปอาการเร่ิมหนักข้ึนจนถึงขั้นทํารายตัวเอง เลยมาขอคําปรึกษาจะทําอยางไรดี เราจึงใหขอมูลวา พอแมตองพาผูปวยมาหาหมอใหไดนะคะ ถาถึงขั้นทํา รายตัวเองคนรอบขางก็คงไมปลอดภัยแนๆยังไงก็ตองพาตัวมาใหได เราจึงใหคําแนะนําวา การรักษาไมไดนา กลวั อยางทีค่ ิดอยา งเพิ่งคิดไปเองลองมาคยุ และปรกึ ษาคณุ หมอกอ น แตหากคุณมาโรงพยาบาลแลวไมสบายใจ คุณสามารถโทรปรึกษาทางสายดวนสุขภาพจิตกอนไดคะ เบอร 1323 โทรฟรี 24 ชั่วโมงอาจจะเปนทางเลือก หน่ึงในการตัดสินใจใหตัวผูปวยยอมเขารับการรักษา แตในอุปสรรคยอมมีโอกาสเม่ือผูปวยนั้นคิดไดเองวา ตวั เองอยากหาย เขาจงึ เปน ผูเ ดนิ เขามารับการรักษาดว ยตัวเองโดยไมป ฏเิ สธ พอผูป วยมาถึงโรงพยาบาลพรอม พอ แม เหน็ หนาเราผใู หค ําปรึกษาเขาดีใจและยิ้มทั้งนํ้าตาท่ีวันนั้นตัดสินใจมาปรึกษาเรา วายังไงตองพาเขามา รกั ษาใหได จากวันนนั้ ถึงตอนนี้ผปู ว ยมีอาการดีข้นึ เวลาญาติมารับยาเห็นเราก็ดีใจและขอบคณุ เรามาก ในท่สี ดุ แลว เมื่อเราไดช ว ยเหลือใครสกั คน แมแ คจ ะเปน คําปรกึ ษาที่เล็กนอยบางคร้ังการที่เขา ไดเ ลาแลว สบายใจ เราผูฟงก็ยินดีรบั ฟง เราจะดีใจทุกครัง้ วา การเปน ผูใหน ้นั ดีอยางนท้ี ีเ่ อง ตามช่ือเร่ืองสุขใจทั้ง ผใู ห ดใี จท้งั ผรู ับ บทความความร้สู ุขภาพจติ 29 จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ พัฒนาศกั ยภาพนกั สือ่ สารสุขภาพจติ กรมสุขภาพจิต ปี 2558
\"สุขอยางสูงวยั ... กายใจเปน สขุ \" สรศกั ดิ์ นาคสขุ มูล ผูส งู อายุ บคุ คลผูมากดว ยประสบการณ ท้งั ความรคู วามสามารถทคี่ วรคา แกก ารเคารพนับถือ ยกยอง ใหเ กียรตแิ ละไดร ับการดแู ล การเปล่ียนแปลงสูว ัยสงู อายุ นบั เปนอีกชวงชีวิตหน่ึงที่บุคคลตองเผชิญกับ การเปล่ียนแปลงทงั้ ดา นรา งกายและจิตใจไปพรอมๆกนั ดา นรางกายเปนการเปลย่ี นแปลงในทางท่ีเสื่อมถอยลง เชน สายตาฝาฟาง หูตึง หรอื ภาวะทางสมอง เปน ตน สวนการเปล่ียนแปลงดานจิตใจ เชน การสูญเสียคนที่รัก หรอื ความรสู ึกถูกทอดทิ้งจากลกู หลาน จนกระทั่งบางคร้ังผสู ูงอายจุ ําเปนตองดึงภูมิคุมกันทางจิตใจ (defense mechanism) ออกมาใชไมวาจะเปนการเจบ็ ปวยเพ่ือดึงดูดใหลูกหลานมาดูแลใกลชิด หรือการกลับไปแตงตัว สวยงามเหมือนสมัยหนมุ สาว เพ่อื ลดความรสู ึกเศรา หดหู และไรคาในตนเอง การดงึ ภูมคิ มุ กนั ทางจิตใจออกมาใชนั้นไมใชสัญญาณที่ดี แตการดูแลบุคคลในวัยสูงอายุจาก ลูกหลานตางหากคือสัญญาณอันวิเศษของทานเหลานั้น การดูแลทางรางกายไมวาจะเปนการดูแลเรื่องโรค ประจาํ ตวั การตรวจรางกาย หรือการรับประทานอาหารท่ีดีนับวาเปนส่งิ สาํ คัญแลว แตปฏิเสธไมไดวาการดูแล ดานจิตใจของบุคคลในวัยน้ีเปนส่ิงท่ีสําคัญกวา ความรัก ความเขาใจในการเปล่ียนแปลง วิธีการดูแล หรือ แมก ระทง่ั การพดู คุย ลวนเปนวิธีงายๆท่ีลูกหลานสามารถปฏิบัติได เพื่อลดภาวะซึมเศรา หรืออาการเจ็บปวย ทางดานรางกายทีน่ ับจะเสอ่ื มโทรมลงไปทกุ วนั และยงั เปนการเสริมสรางความเขมแข็งในจิตใจ เพิ่มความรูสึก เหน็ คุณคา ในตนเองแกบ คุ คลผูสูงอายุอีกเชน กัน การใหความสําคัญ และ ความรวมมือรวมใจ ของสมาชิกทุกคนในครอบครัว คือพลังอัน ยิ่งใหญใ นการดําเนนิ ชีวติ และการดํารงอยอู ยางมีความสขุ ของปชู นียบคุ คลอันเปน ทีร่ ักของบา น 30 บทความความรู้สขุ ภาพจติ จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเพือ่ พัฒนาศักยภาพนกั ส่ือสารสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจติ ปี 2558
หลงั คาแดง...บานน้ีมรี ัก จติ ตกปว ยใจ แวะมาเยยี วยา ชนสินนั ท ธนาพฒั นธ นนท ผมเผา รกรงุ รงั เดนิ พูดอยคู นเดียว เด๋ียวย้ิม เดี๋ยวรองไห!!! นี่ไมใชฉากหน่ึงในละครภาคคํ่า ทหี่ ลายคนตดิ ตามชมแนๆ แตน ่ีคือเร่อื งจรงิ ของใครหลายๆ คนที่ตองกลายเปน ผปู ว ยจิตเวช...? ท้ังท่ีตัวเขาหรือ เธออาจจะไมรับรูหรือทุกขรอนใดๆ เลย แตความเจ็บปวยทางใจเปนทุกขอันย่ิงใหญของคนในครอบครัว...? อยา งทเ่ี หน็ เปน ขาวคราวใหญโ ต เพราะจิตปว ย แตไ มม ีใครรู ถาพดู ถึงผูปวยโรคจิตเวช หรือที่หลายๆ คนมักจะคุนชินกับคําวา ...บา บางก็เรียก...ไอโรค จิตหรือพวกโรคประสาท แนนอนวา...ใครก็ตามที่ตองอยูใกลกับคนท่ีตองสงสัยวา...จะปวย หลายคน หวาดกลวั ระแวง และไมอ ยากอยใู กล แมแตเขาเหลานั้นจะเปนคนหนึ่งในครอบครัวก็ตาม...? มีคนต้ังคําถาม วา โรคจิตเกดิ จากสาเหตใุ ด...? คาํ ตอบกอ็ ยา งทจ่ี ติ แพทยหลายๆ ทานไดพูดไปแลว...? แตอีกแงมุมหน่ึงท่ีคนใน สังคม หรือครอบครวั ควรจะใสใจคือความผิดปกติ หรือส่ิงท่ีผิดแปลกไปจากเดิม...ในแตวันนี้ดูผิดๆ เพี้ยนๆ ไป มากมายนกั เม่อื มคี วามเครยี ดเกิดขึ้น!!! แนนอนวิธีการจัดการแกปญหาของแตละคนยอมแตกตางกันไป ในขณะทบ่ี างคนเลือกทจี่ ะปรกึ ษาหารอื กับคนใกลชิด แตบางคนก็เลือกท่ีจะเก็บงําความทุกขใจเหลานั้นเอาไว เพยี งลาํ พงั !!! และแลวเหตุการณท ไ่ี มค าดฝนก็เกดิ ขน้ึ เมื่อเขาตองกลายเปนผปู วยจิตเวช แมกไมส เี ขียวขจี ประดลู าํ ตนใหญแ ข็งแรง บรรยากาศชางนาร่ืนรมย เพลิดเพลินตากับตนไม นานาพันธุ...หลายคนนกึ แปลกใจนเ่ี หรอโรงพยาบาลบา !!! หรอื หลังคาแดง...ไมเห็นจะนากลัวอยางท่ีคิดไวหรือ ตามคําบอกเลาเลยแมสักนดิ 100 กวาปแลวท่ี “หลังคาแดง” ไดทําหนาท่ีพักใจ คลายทุกขใหคนอยางคลาคล่ําที่ตอง เจ็บปวยดวยโรคจิต ไมวาจะเปนโรคซึมเศรา โรคไบโพลาร หรืออีกหลายโรคอยางโรคจิตเภท (Schizophrenia) นพ.สินเงนิ สุขสมปอง ผอู าํ นวยการสถาบันจติ เวชศาสตรเจาพระยา ไดเลาวาโรคจิตเภท มีสาเหตุเกิดจากหลายปจจยั เชน กรรมพันธุ ความผดิ ปกติของสมอง ความเครียด หรือการใชสารเสพติด โดย ผูปว ยจะมีอาการรนุ แรงคอ นขางมากในแงของการรับรูตัวเอง และรับรูส่ิงแวดลอมรอบขาง ความคิดผิดเพี้ยน จากความเปนจริง เชน มีอาการหลงผิด คิดวาผูอ่ืนจะมาทําราย คิดวาตนเองสงกระแสจิตได เปนผูวิเศษมี อิทธฤิ ทธ์ิเหนือคนธรรมดา จากขอมูลของกรมสุขภาพจติ ท่ีระบุวา...มีผปู วยดว ยโรคจติ เภทถึง 2.6 ลานคนในโลก มีเพียง คร่ึงหนง่ึ ของผปู วยจิตเภทที่เขาถึงบริการบําบัดรักษาได สวนใหญเกือบรอยละ 90 ของผูปวยที่อยูในประเทศ กําลังพัฒนาไมส ามารถเขา ถึงการบาํ บดั รักษา จากรายงานจํานวนผูปวยนอกจิตเวชของกรมสุขภาพจิต พบโรค จติ เภทเปน โรคทางจิตเวชท่พี บมากทส่ี ุดเปนอันดับ 1 มีจํานวนมากกวา 1 ใน 3 ของผูปวยนอกจิตเวชท้ังหมด พบ 388,369 ราย จาก 1,109,183 รายและพบในผปู ว ยในจิตเวช 20,634 รายจาก 42,861 ราย โรคจิตเวชเปนโรคทรี่ ักษาได เชน เดยี วกับการเจ็บปว ยดว ยโรคทางกาย ย่งิ เขารับการรักษาแต เนิ่นๆ ยิ่งดี เมื่อมีอาการดีขึ้นแลวผูปวยตองกินยา เพ่ือควบคุมอาการไมใหกําเริบ ผูปวยสามารถใชชีวิตอยูใน ชมุ ชนไดตามปกติ แตต องระวงั เปน พิเศษคอื ปญ หาการขาดยา หรือลดยา รวมถงึ การใชสารเสพติด โดยเฉพาะ บทความความรสู้ ขุ ภาพจิต 31 จาก การประชุมเชิงปฏบิ ัตกิ ารเพอื่ พฒั นาศกั ยภาพนกั สื่อสารสขุ ภาพจิต กรมสุขภาพจิต ปี 2558
ยาบา และเครื่องดม่ื แอลกอฮอลทุกชนดิ เพราะจะทาํ ใหผูปวยเกิดอาการทางจิต ญาติตองดูแลอยางใกลชิดหาก พบวาผูปว ยนอนไมห ลบั หงุดหงิด มีความคิดแปลกๆ กาวราว วิตกกังวล หวาดกลัว ฉุนเฉียวงาย ขอใหรีบพา ไปพบแพทย ทกุ ๆ ครั้งท่ีมีขาวผูปวยจิตเวชไปกอเหตุ!!! ผูคนในสังคมรูสึกหวาดกลัวผูตองหาในรางของ ผปู ว ยจติ เวช แตอ ีกมุมหน่ึงของสงั คมสะทอ นใหเ หน็ วา การดแู ลผูปวยจิตเวชใหทุเลาเบาบางลง!! คงไมใช เปนหนาท่ีของใครบางคนเทา นัน้ !!! ทุกๆ คนสามารถชว ยพวกเคาไดเพียงใสใจดูแลคนใกลชิดทุกครั้งที่ทุกขใจ หรือเลือกท่ีจะเดนิ เขามาท่ีโรงพยาบาลจติ เวชใกลบ าน สถาบนั จติ เวชสมเดจ็ เจา พระยา หรอื หลังคาแดงท่ีหลายคนคุนเคย ก็พรอมท่ีจะชวยใหคลาย ทกุ ขใจลงได จากคําบอกเลาของผปู ว ยและญาตผิ ปู ว ยท่ีไดแ วะเวยี นเขามาที่บานหลังนี้ตามท่ีนัดหมาย เคารูสึก อบอนุ ทุกๆ คร้งั ที่ไดมาเยอื นบานหลังนี้ ทๆ่ี เคยเปน ที่พกั ใจ หลอ หลอมใจใหเข็มแข็งมีพลังท่ีจะกาวเดินออกไป เพือ่ ทําประโยชนใ หส ังคม!!! มใิ ชเ ปน ภาระของใครหลายๆ คนอกี แลว 32 บทความความร้สู ุขภาพจติ จาก การประชุมเชิงปฏิบัตกิ ารเพ่ือพฒั นาศักยภาพนกั สอ่ื สารสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจติ ปี 2558
อยรู ว มกบั ผตู ดิ สุราอยา งมีความสขุ ทศั วรรณ ปญ ญารกั ษา การตดิ สรุ านั้นเปนอาการท่ีตองไดร บั การรกั ษาโดยปกติแลว ผูทีต่ ดิ สรุ ามักมพี ฤตกิ รรมการตดิ เมอื่ เลิกไดก ็จะกลบั ไปดมื่ ซ้ําอกี เปนแบบนซี้ า้ํ แลว ซํา้ เลา สมาชิกในครอบครัวและผูใกลชิดจําเปน ตองมคี วาม เขา ใจในการชว ยเหลอื และการอยูร ว มกบั ผูติดสุราได จะเปนการชว ยใหเขาหายจากอาการติดสรุ าได โดยลอง ปฏบิ ัติตามวธิ ีท่ีจะแนะนาํ ดงั นี้ อยางแรกที่ตองเรยี นรูค อื “เรียนร”ู อาการท่ีเกดิ ข้ึนกับผูตดิ สุราเพอื่ ใหเ กิดการแสวงหาส่งิ ที่ จาํ เปน ในการดํารงชวี ิต ซึ่งเมอื่ คนเราไดร บั การตอบสนองดงั กลาวแลวก็จะเกดิ ความสุขขึน้ เชน เดียวกนั กับการ ดืม่ สรุ าจะเปน การกระตุนใหสมองหลั่งสารที่ใหค วามรูสึกเปน สุข ทาํ ใหผูทตี่ ิดสุรานั้นเกดิ ความเคยชิน และ ตองการหาสุรามาดื่มมากขึน้ อกี จงึ เกิดอาการติดสุราในทส่ี ุด และไมสามารถควบคมุ การดม่ื ของตนเองได หาก มีการขาดสรุ าอาจทําใหเ กดิ อาการมือส่ัน ใจส่ัน นอนไมหลับ เปนตน ดังนั้นผทู ่ีอยูร วมกับผูตดิ สรุ าตอ งเขาใจวา ผูติดสุรานน้ั เปนผูป ว ยทีต่ อ งการไดรบั การชวยเหลอื เมือ่ รแู ลววา ผตู ิดสรุ าคือผูป วยท่ีตอ งไดร ับการชว ยเหลอื สมาชิกในครอบครัวจะตอ ง “แนะนาํ ” ใหผตู ิดสรุ าเขารับการบาํ บดั รักษา โดยใหผ ตู ิดสุราไดตดั สินใจเอง เราไมค วรบังคบั หรอื แสดงความไม พอใจหากผูติดสรุ าเริ่มใหความสนใจในการเลิกสรุ าแตไ มเขา รับการบาํ บัดสักที เมอื่ ผูต ดิ สุรายอมเขา รบั การบําบดั แลว เราไมควรคาดหวงั วาเขาจะเลิกสุราไดเ ต็มรอ ย เพราะ อาการตดิ สรุ านนั้ เปน โรคเรื้อรงั ทส่ี ามารถกลบั ไปด่ืมซํ้าไดอกี สมาชกิ ในครอบครัวจึงตองคอย “ใหกําลงั ใจ” แสดงความเห็นใจกับผูตดิ สรุ าอยางนมุ นวล และอยาหยดุ ชวยเหลอื ผูตดิ สุรา เพราะการจะเลกิ สรุ าไดนน้ั จะตอ ง อาศัยแรงบันดาลใจ และกาํ ลังใจจากครอบครัวและผทู ่ีใกลชิดดว ย นอกจากน้นั แลว เราควร “สรา งความรับผิดชอบและปรบั ความคิด” ของผตู ดิ สุรา สนบั สนุน กิจกรรมทีเ่ ขาใหความสนใจเพ่อื ไมใ หเขาคิดแตเ ร่อื งการดม่ื สุรา ส่งิ ทส่ี าํ คญั อีกอยา งหนึ่งคือ “อยา ใชความรนุ แรงในทกุ ประเภท” ไมวาจะเปน การพูดขมขู การบน การตําหนิ การดาวา สั่งสอน สิ่งเหลานลี้ วนทําใหเ กดิ การขัดเคืองใจและการตอตา นในที่สุด ย่ิงไปกวา นั้นแลว นอ่ี าจเปนสาเหตใุ นการกระตุนใหเขากลบั ไปดมื่ ซาํ้ อีกดวย สมาชิกในครอบครัวจะตอ งพดู คยุ กนั ใหเ ขาใจในการใหการดูแลผูต ิดสรุ า โดยเฉพาะการ พูดคยุ กับลูกใหเขา ใจอาการของการตดิ สรุ า ไมค วรพดู ใหเกิดความเกลียดชัง หรือความรสู กึ ที่ไมด ตี อผูตดิ สุรา นอกจากนีแ้ ลว ควร “ปลอยวาง” จากพฤติกรรมการติดสุราของผูต ิดสุรา ไมควรเครงครดั มากจนเกินไป และ อยา ลืมวา ผูทอี่ ยูร ว มกับผูติดสรุ าควรมคี วามอดทนและเขาใจในพฤตกิ รรมตางๆ ทเี่ กิดข้ึน มองในแงด เี สมอ ให ความรกั และมกี ารรวมมอื อยางจรงิ จัง และจรงิ ใจระหวา งผตู ิดสรุ าและสมาชิกในครอบครัว การเลิกสรุ านั้นยาก แตสามารถทําได เพยี งแตการที่จะอยรู วมกับผูต ิดสุราไดนั้นจะตองมี ความเขาใจ เหน็ อกเห็นใจ จงึ จะสามารถอยรู วมกนั ไดอยา งมคี วามสุข บทความความรสู้ ขุ ภาพจิต 33 จาก การประชมุ เชิงปฏิบัตกิ ารเพอื่ พฒั นาศักยภาพนักสอ่ื สารสขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจิต ปี 2558
34 บทความความร้สู ุขภาพจิต จาก การประชมุ เชงิ ปฏิบตั ิการเพ่ือพฒั นาศกั ยภาพนกั สอ่ื สารสขุ ภาพจติ กรมสุขภาพจติ ปี 2558
Search
Read the Text Version
- 1 - 42
Pages: