Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล

แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล

Published by 500bookchonlibrary, 2021-06-10 02:46:01

Description: แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล

Search

Read the Text Version

แนวทางการเล้ยี งลกู ยคุ ดิจทิ ัล 1

แนวทางการเลย้ี งลูกยุคดจิ ทิ ัล โครงการ “ขบั เคล่อื นงานคุม้ ครองเดก็ จากภยั ออนไลน์” สนบั สนนุ โดย สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.) ผู้เขยี นและรวบรวมขอ้ มลู : ดร.ศรีดา ตนั ทะอธพิ านชิ กราฟฟิก: สุพิชฌาย์ ชยั ธมั มะปกรณ์ ปก: สณุ ิษา ชรู ุง้ พมิ พ์ครงั้ ท่ี 1: พฤศจกิ ายน 2563 จำนวน 500 เลม่ ISBN: 978-616-91305-5-0 พมิ พ์ที่: บริษทั ทเี อส พรนิ้ ต้งิ มเี ดยี จำกัด 517 ถนนพระรามท่ี 2 ซอย 43 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรงุ เทพ 10150 เบอรโ์ ทรติดตอ่ 0-2870-0780 จัดทำโดย: มลู นธิ อิ นิ เทอรเ์ นต็ ร่วมพฒั นาไทย หอ้ ง 3c15 ชัน้ 3 เลขที่ 723 อาคารศภุ าคาร ถนนเจริญนคร แขวงคลองตน้ ไทร เขตคลองสาน กรงุ เทพ 10600 โทรศพั ท์: 0-2860-1358 โทรสาร: 0-2860-3437 เว็บไซต์: www.inetfoundation.or.th แนวทางการเลี้ยงลกู ยคุ ดจิ ทิ ัล 2

คำนำ ในยุคที่เด็กและเยาวชนอยู่กับโทรศัพท์มือถือและอินเทอรเ์ น็ตเกือบตลอดเวลา ต้ังแต่เช้า จนเข้านอน เราเหน็ คำศัพท์ใหม่ ๆ ปัญหาใหม่ๆ เช่น สงั คมก้มหน้า พฤติกรรมเนือยน่งิ อาการปวด คอ น้ิวล็อค วุ้นในตาเส่ือม ติดเกม ติดพนัน ถูกกลั่นแกล้งรังแกออนไลน์ เครียด ซึมเศร้า ปัญหา ขัดแย้งภายในครอบครัวเพ่ิมมากข้ึนเพราะลูกติดสื่อ มีกลุ่มเพ่ือน เน็ตไอดอล นักแคสเกม ท่ีพูด ภาษาเดยี วกันกับลูกแต่พอ่ แม่ไม่เข้าใจ เราเห็นเด็กเล็กเพิ่งหัดเดินเตาะแตะ แต่สามารถเอาน้ิวจ้ิม หรอื ไถ จอแท็บเลต็ (tablet) ค้นหาการต์ ูนหรือเพลงในช่อง YouTube ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว พ่อแม่ ตา่ งอวดกนั วา่ ลกู เราเก่งไอทีตง้ั แต่เล็ก ๆ ครอบครัว เปน็ ดา่ นแรกท่ีลูกได้เรยี นรู้การใช้สื่อเทคโนโลยี พอ่ แม่ผ้ปู กครองจึงควรมีความรู้ ความเข้าใจที่มากเพียงพอเก่ียวกับการใช้สื่อและเทคโนโลยีเพ่ือเสริมสร้างพัฒนาการตามช่วงวัย ของลูก ใช้อย่างไร ใช้เท่าไหร่จึงเหมาะสม มีผลกระทบด้านลบหรือไม่ จะป้องกันได้อยา่ งไร และ เม่ือมีปัญหาในการใช้งานแล้วจะขอความช่วยเหลือได้ท่ีไหน อย่างไร ฯลฯ คำถามเหล่าน้ีควรมี คำตอบสำหรับการเลย้ี งลกู ในยุคดิจิทลั เพ่ือไม่ให้พ่อแม่ผู้ปกครองใช้ส่ืออินเทอร์เนต็ หรอื เทคโนโลยี ในยคุ ดจิ ทิ ลั เปน็ พี่เลีย้ งลูก ไม่ทำให้ลูกตดิ สอื่ ตกเปน็ เหย่อื ของสื่อหรือการใช้สอ่ื ทไ่ี มเ่ หมาะสม และ ไม่ให้ลูกใช้สอ่ื ในการละเมิดหรือคกุ คามคนอ่นื เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แนวทางการเล้ียงลูกดิจิทัล ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครอบครวั ในการดูแลแนะนำบุตรหลานทเี่ ปน็ Digital Native ������ มูลนิธอิ ินเทอรเ์ นต็ รว่ มพัฒนาไทย ตลุ าคม 2563 แนวทางการเลย้ี งลูกยคุ ดิจิทัล 3

สารบญั หน้า 6 บทนำ 13 บทท่ี 1 สือ่ ออนไลน์กบั ผลกระทบตอ่ สขุ ภาวะ กาย จิต และสงั คม 13 พฤติกรรมเนือยนง่ิ 14 โรคตดิ อินเทอรเ์ นต็ 15 โรคติดเกม 23 โรคว้นุ ในตาเสือ่ ม 23 โรคตดิ พนนั 24 การพนนั ทำลายสมอง 26 โรคติดโทรศพั ทม์ ือถือ 27 การใช้ส่อื ออนไลนส์ กู่ ารฆ่าตวั ตาย 29 ภาวะซมึ เศรา้ จากเฟซบกุ๊ 30 การลอ่ ลวงเดก็ เพื่อวตั ถุประสงคท์ างเพศ 32 การแบล็กเมลทางเพศ 35 การเข้าถงึ ส่ือลามกอนาจารและทารณุ กรรมทางเพศ 35 การกล่นั แกลง้ ระรานทางไซเบอร์ 36 ความรุนแรงในสื่อ 37 สื่อกบั ความเครยี ดและความขัดแยง้ 39 ภัยและความเส่ียงอืน่ ๆ 43 บทที่ 2 บทบาทของพ่อแมผ่ ู้ปกครอง 44 บทบาทของบคุ คลแวดลอ้ มในการเฝา้ ระวงั และรับทราบเหตุ 46 กรณีกลั่นแกลง้ ระรานทางไซเบอร์ 46 46 สัญญาณเตอื นภัย 46 การพดู คยุ สอบถาม 50 วิธปี ฏิบัตเิ ม่ือลกู ถูกกลั่นแกลง้ ระรานทางไซเบอร์ 50 กรณีการละเมิดทางเพศออนไลน์ 50 สญั ญาณเตือนภัย 51 การพูดคุยสอบถาม ผลกระทบทเี่ กดิ ขึ้นกบั เดก็ ที่ถูกละเมิดทางเพศ 4 แนวทางการเลี้ยงลูกยคุ ดิจิทัล

วิธีปฏิบตั ิเมือ่ ลูกถกู ละเมิดทางเพศออนไลน์ 53 การดแู ลจติ ใจเดก็ ท่ีถูกทำรา้ ย 54 วิธีป้องกนั เพอื่ ไมใ่ หล้ ูกตกเปน็ เหยื่อ 54 วิธสี อนให้ลกู ป้องกนั ตวั เอง 55 ทักษะป้องกันตัวท่คี วรสอนเด็ก 56 บทที่ 3 ความรู้เบื้องต้นเกีย่ วกบั กฎหมาย 57 กฎหมายวา่ ดว้ ยการทำอนาจาร 57 กฎหมายวา่ ดว้ ยสื่อลามกอาจารเดก็ 58 กฎหมายวา่ ดว้ ยการขม่ ขแู่ บล็กเมล 59 กฎหมายว่าด้วยการกลัน่ แกลง้ ทางร่างกาย 59 กฎหมายวา่ ดว้ ยการหม่ินประมาท 59 พระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 60 ขัน้ ตอนการแจง้ ความ 61 ข้ันตอนการสบื สวนสอบสวน 62 การทำงานคมุ้ ครองเดก็ ท่ถี กู ละเมดิ ออนไลน์ 63 หลักปฏบิ ตั ิในการซกั ถามเดก็ 64 บทที่ 4 การเล้ียงลูกยคุ ดิจทิ ลั 65 อายเุ ด็กทเ่ี หมาะสมกบั การใช้สอ่ื 65 ส่ือตามชว่ งวัยของเดก็ 67 ทำไมเด็กและวัยรนุ่ จงึ ไม่ควรใชส้ อ่ื ออนไลนม์ ากเกนิ ไป 67 68 การเล้ียงลกู ยคุ ดิจทิ ัล 70 ทำความรู้จัก Parental Controls 72 พูดคยุ อยา่ งไรใหล้ ูกฟงั 76 ลูกใช้สื่อออนไลน์ทำอะไรไดบ้ า้ ง 79 ความฉลาดทางดจิ ทิ ลั 82 ภาคผนวก: หน่วยงานรบั แจง้ /ชว่ ยเหลือ 96 บทขอบคณุ 97 บรรณานกุ รม แนวทางการเล้ียงลกู ยคุ ดิจิทัล 5

บทนำ สำนักงานพัฒ นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ห รือ ETDA –Electronic Transaction Development Agency ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เผยผล สำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประเทศไทย ปี 2561 พบว่า คนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มข้ึนอย่าง ต่อเนื่อง มากถึง 10 ชั่วโมง 5 นาทีต่อวัน นิยมใช้โซเชียลมีเดีย อาทิ Facebook, Instagram, Twitter แ ล ะ Pantip สูงม าก ถึง 3 ชั่วโม ง 3 0 น าทีต่อ วัน ขณ ะที่ก า รรับ ชม วิดีโอ ส ต รีม มิ่ง เช่น YouTube หรือ Line TV มีช่ัวโมงการใช้งานเฉล่ียอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 35 นาทีต่อวัน ส่วนการใช้งาน แอปพลิเคชั่นพูดคุย เช่น Messenger หรือ Line เฉลี่ยอยู่ท่ี 2 ช่ัวโมงต่อวัน การเล่นเกมออนไลน์อยู่ท่ี 1 ชั่วโมง 51 นาทีต่อวัน ในปีเดียวกัน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เผยผลสำรวจพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนไทย ที่มีอายุระหว่าง 8-12 ปี จำนวน 1,300 คนท่ัวประเทศ ผ่านแบบสำรวจออนไลน์ DQ Screen Time Test รว่ มกับกลมุ่ ตัวอย่างเด็กอ่นื ๆ จากท่วั โลกท้ังส้นิ 37,967 คน พบว่า เด็กไทยมีโอกาสเสี่ยงภัยออนไลนร์ ้อยละ 60 ฟลิ ิปปินส์ ร้อยละ 73 อินโดนเี ซยี ร้อยละ 71 เวยี ดนาม รอ้ ยละ 68 สิงคโปร์ ร้อยละ 54 ในขณะที่ค่าเฉล่ีย ของโลกอยู่ท่ีรอ้ ยละ 56 เด็กไทยใช้เวลากับหน้าจอท่องอินเทอร์เน็ต 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย โลกถึง 3 ชั่วโมง โดยเข้าถงึ อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนสูงสุดร้อยละ 73 ในส่วนของภัยออนไลน์หรือปัญหา จากการใช้ชวี ิตในยุคดจิ ิทัลของเดก็ ไทยทพี่ บมากทสี่ ุดมี 4 ประเภท คือ (1) กล่นั แกล้งรงั แกทางออนไลน์ ท้งั ด่า กนั ดว้ ยข้อความหยาบคาย ตดั ตอ่ ภาพ ร้อยละ 49 (2) เข้าถงึ สื่อลามกและพดู คุยเรื่องเพศกบั คนแปลกหน้าใน โลกออนไลน์ ร้อยละ 19 (3) ตดิ เกม ร้อยละ 12 และ (4) ถูกล่อลวงออกไปพบคนแปลกหน้า รอ้ ยละ 7 ในช่วง COVID-19 ผลสำรวจนักเรียนชน้ั มัธยมต้นถึงมัธยมปลายในประเทศญ่ีปุ่น ในช่วงที่เดก็ หยุด เรยี นนานกว่าปกติ ใช้เวลาอยู่กบั อนิ เทอร์เน็ตและเกมออนไลน์ จำนวน 8,464 คน พบว่าเดก็ ม.ปลาย ใชเ้ วลา อยู่กับสมาร์ทโฟนเพมิ่ ขนึ้ รอ้ ยละ 71 ส่วน เด็ก ม.ต้น พบว่าใช้เวลาเพ่มิ ขน้ึ รอ้ ยละ 72 สว่ นใหญ่ถงึ รอ้ ยละ 80 ใช้ดูคลิปวดิ โี อบน YouTube ร้อยละ 40-50 ใช้แอปพลิเคชั่นในการเล่นเกมออนไลน์ จากการสำรวจข้อมูลสถานการณ์เด็กไทยกับภัยออนไลน์ ในปี 2562 โดย มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วม พัฒนาไทย ร่วมกับ ศูนย์ประสานงานขับเคลื่อนการสง่ เสรมิ และปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้ส่ือ ออนไลน์ (COPAT - Child Online Protection Action Thailand) ภายใต้ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์ กลุ่มตวั อยา่ งเป็นเดก็ อายุ 6-18 ปี จำนวน 15,318 คน พบว่า เด็กร้อยละ 39 ใชอ้ นิ เทอร์เน็ต 6-10 ช่วั โมงต่อวนั ร้อยละ 38 เลน่ เกมออนไลน์มากกวา่ 3 ช่ัวโมงต่อวัน ซง่ึ การใช้มากเกินไป เสย่ี งต่อการเสพติดเกมและอนิ เทอรเ์ น็ต เปน็ ปัญหาทางสุขภาพจิต เด็ก 1 ใน 3 เคยถูก กล่ันแกล้งระรานทางไซเบอร์ เพศทางเลือกโดนมากที่สุด คือ 1 ใน 2 เด็กร้อยละ 40 ไม่ได้บอกใครเก่ียวกับ แนวทางการเลยี้ งลกู ยุคดจิ ทิ ัล 6

เร่ืองท่ีโดนกล่ันแกล้ง สร้างความทุกข์ เก็บกด หดหู่ บาดแผลทางใจให้กับเด็ก ส่งผล เสียต่อร่างกาย ทำให้นอนไม่หลับ เจ็บป่วยเรื้อรัง เป็นโรคหวาดระแวง อาจนำไปสู่ปญั หาติดเหล้าหรือใช้สารเสพติด ทำร้าย ตัวเองถึงคดิ ฆา่ ตวั ตายได้ เด็กร้อยละ 74 เข้าถึงส่ือลามกอนาจารทางออนไลน์ ร้อยละ 50 เคยเห็น สือ่ ลามกอนาจารเด็ก ได้แก่ ภาพหรอื วดิ ีโอเดก็ ในท่าทางย่ัวยุอารมณ์เพศ การร่วม เพศระหว่างเด็กกับเด็กหรือเด็กกับผู้ใหญ่ เด็กร้อยละ 6 เคยครอบครองและ เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เด็กร้อยละ 2 ยอมรับว่าเคยบันทึกภาพหรือวิดีโอตนเองในลักษณะลามกอนาจารแล้วส่งให้ คนอนื่ ดว้ ย เด็กร้อยละ 25 (3,892 คน) ทต่ี อบแบบสอบถาม ยอมรบั วา่ เคยนัดพบกับเพือ่ นออนไลน์ ซ่ึงเมื่อไปตามนดั 199 คน ถูกเพ่ือนท่ีนัดพบพูดจาล้อเลยี น ดถู ูก ทำให้เสียใจ 80 คน ถูกหลอกให้เสียเงนิ หรือเสียทรพั ยส์ ินอื่น ๆ 73 คน ถูกละเมิดทางเพศ 67 คน ถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย และ 50 คน ถูกถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอแล้วนำไป ประจาน และ/หรือ ข่มข่เู รียกเงนิ ข้อมูลจากสายด่วนอินเทอร์เน็ตไทยฮอตไลน์ (www.thaihotline.org) โดย มูลนิธิอินเทอร์เน็ต ร่วมพัฒนาไทย ระบุจำนวนส่ือลามกอนาจารและการละเมิดทางเพศเด็กออนไลน์เพ่ิมข้ึนอย่างต่อเนื่อง จากปี 2560 ได้รับแจ้ง 1,421 รายการ เพ่ิมเป็น 4,223 รายการในปี 2561 และในปี 2562 ได้รับแจ้ง มากถึง 7,921 รายการ ทั้งยังพบการละเมิดทางเพศเด็กออนไลน์รูปแบบใหม่ ๆ เช่น การหลอกถ่าย โฆษณาสินค้าที่เด็กต้องเปิดเผยเน้ือตัว หลอกว่าเป็นโมเดลล่ิงจัดหาดารานางแบบนายแบบเข้าสู่วงการ หลอกให้เปิดกล้องถ่ายทอดสดโชว์หวิวแล้วบันทึกภาพเอาไว้ข่มขู่แบล็กเมล หลอกคบหาดูใจกับแม่เพื่อ หวังละเมิดลูก เป็นต้น การสำรวจสถานการณ์เดก็ ไทยกับภัยออนไลน์ ปี 2563 ระหว่างเดือน พฤษภาคม - กรกฎาคม 2563 ของ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ร่วมกับ COPAT กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กมัธยมศึกษา อายุ 12-18 ปี จำนวน 14,945 คน พบว่า เด็กร้อยละ 89 เช่ือว่า ในโลกออนไลน์ มภี ัยอนั ตรายหรือความเส่ียงต่าง ๆ ร้อยละ 61 เชื่อว่า เมื่อเผชิญภัยหรือความเสี่ยงภัยออนไลน์ สามารถจัดการแก้ไขปัญหาน้ันได้ด้วยตัวเอง ร้อยละ 83 เชื่อวา่ เมอ่ื เผชิญภัยหรือความเสย่ี งภัยออนไลน์ สามารถแนะนำช่วยเหลอื เพอื่ นได้ เด็กยังมีความเส่ียงในการเข้าถึงข้อมูลทีผ่ ิดกฎหมายทางออนไลน์ โดยเวบ็ ไซต์หรอื เน้ือหาข้อมลู ท่ีเด็ก เขา้ ถงึ มากท่สี ุด 4 อันดบั แรก คือ ความรนุ แรง ร้อยละ 49 การพนนั รอ้ ยละ 22 สื่อลามกอนาจาร ร้อยละ 20 และสารเสพตดิ ร้อยละ 16 สำหรับพฤติกรรมเสีย่ งภัยออนไลน์ 6 อันดับแรกของเด็ก คือ ซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ท่ีไม่รู้จัก ร้อยละ 44 รับคนแปลกหน้าเป็นเพื่อน ร้อยละ 39 ใส่ข้อมูลส่วนตัวบนส่ือโซเชียลมีเดีย รอ้ ยละ 26 การแชร์ ข้อมูลข่าวสารโดยไม่ได้ตรวจสอบ และ นำข้อมูล/ภาพ/เสียงมาใช้โดยไม่ได้ขออนุญาตหรอื อ้างอิงแหล่งท่ีมา รอ้ ยละ 24 เทา่ กัน และ เข้าถงึ ส่อื ลามกอนาจารออนไลน์ ร้อยละ 14 แนวทางการเลีย้ งลูกยุคดจิ ทิ ัล 7

เดก็ ใช้อินเทอร์เน็ต 3-5 ชม.ต่อวัน ร้อยละ 26 พอ ๆ กบั กลุ่มที่ใช้ 5-8 ชม.ต่อวัน ในขณะที่มเี ดก็ รอ้ ย ละ 15 ใช้ 8-10 ชม.ต่อวนั และร้อยละ 22 ใชม้ ากกวา่ 10 ชม.ต่อวัน เม่อื สอบถามชอ่ งทางการเข้าอินเทอร์เนต็ เดก็ ร้อยละ 81 ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตผา่ นแท็บเล็ตหรือสมารท์ โฟน โดยใชเ้ พอื่ การพกั ผ่อนหรอื ความบนั เทงิ เป็นวตั ถปุ ระสงค์หลัก ร้อยละ 61 เด็กร้อยละ 76 หรือ 11,384 คน เล่นเกมออนไลน์ ซ่ึงเมื่อมีคำถามที่ลึกข้ึน พบข้อมูลท่ีน่าสนใจ คือ เด็กรอ้ ยละ 30 เล่นเกม 3-10 ชม.ต่อวัน และมเี ด็กรอ้ ยละ 5 เล่นเกมมากกว่า 10 ชม.ต่อวัน ร้อยละ 10 บอก วา่ มีการพนันในเกมท่ีเล่น และร้อยละ 34 เตมิ เงนิ ซอื้ ของในเกม เม่อื สอบถามเรือ่ งผลของการเลน่ เกม เดก็ ร้อย ละ 43 ยอมรับว่า สนใจทำกจิ กรรมอย่างอื่นน้อยลงมาก ร้อยละ 20 บอกวา่ การเรียนแย่ลงมาก และ ร้อยละ 13 บอกว่า ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวแย่ลงมาก ในขณะที่เม่ือสังเกตพฤติกรรมตนเอง ร้อยละ 45 พบวา่ มักเล่นเกมเกนิ เวลาทไี่ ด้รับอนญุ าตหรอื เกินเวลาท่ีต้ังใจไว้ ร้อยละ 34 มกั อารมณเ์ สียเวลามใี ครมาบอก ให้เลิกเล่นเกม ร้อยละ 26 บอกว่า คนรอบตัวเห็นว่าเด็กมีพฤติกรรมบางอย่างเปลี่ยนไป เช่น หงุดหงิด ขีร้ ำคาญ หวั ร้อน ใชภ้ าษาหยาบคาย ฯลฯ ในขณะทีเ่ ด็ก ร้อยละ 35 บอกว่า ถกู คนรอบตวั มองว่า “ตดิ เกม” เดก็ 2,282 คน มีประสบการณ์โดนกล่ันแกล้งรังแกทางออนไลน์หรอื การระรานทางไซเบอร์ (Cyber Bullying) โดยถูกเรยี กด้วยถ้อยคำหยาบคาย ดหู ม่ิน มากท่ีสุด คือร้อยละ 69 รองลงมาคือ ถูกด่าทอ ให้ร้าย ใส่ความ รอ้ ยละ 44 ตามดว้ ยการถกู ต่อตา้ น กดี กันออกจากกล่มุ เพอ่ื นหรือสงั คม ร้อยละ 22 ถูกนำเร่ืองสว่ นตัว หรือความลับไปเผยแพร่ ร้อยละ 21 ถูกข่มขู่คุกคาม ร้อยละ 16 ถูกข่มขู่คุกคาม ร้อยละ 16 และ ถูกตัดต่อ แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล 8

รปู ภาพ/คลิปวิดโี อ ในทางเสื่อมเสีย รอ้ ยละ 9 เด็กร้อยละ 8 ของกลุ่มตวั อย่าง ยังเคยกลั่นแกล้งระรานคนอ่ืน ทางออนไลนด์ ้วย แนวทางการเลีย้ งลูกยคุ ดิจทิ ัล 9

เด็ก 2,573 คน หรือ ร้อยละ 17 ของกลุ่มตัวอย่าง เคยมีประสบการณ์เพื่อนรุ่นพ่ีหรือคนอ่ืนที่อายุ มากกว่าเข้ามาพูดคุยเรื่องเพศท่ีไม่เหมาะสม ส่งภาพ/วิดีโอ/ส่ือลามกอนาจาร เช่น ภาพเปลือยหน้าอก ก้น อวัยวะเพศ การรว่ มเพศ สำเรจ็ ความใคร่ โชวล์ ามก การข่มขืนกระทำชำเรา ฯลฯ เมอื่ ได้รับการติดต่อพูดคุย ด้วยเรอ่ื งดงั กลา่ ว เดก็ ร้อยละ 16 พดู คุยตอ่ เพราะคิดวา่ ไมใ่ ชเ่ รื่องเสียหายทจ่ี ะเรยี นรูเ้ ร่อื งเพศ เด็ก 641 คน (ร้อยละ 4 ของกลุ่มตัวอย่าง) เคย บันทึก (save) หรือ ดาวน์โหลด (download) ส่ือ ลามกอนาจารเดก็ (ตำ่ กว่า 18 ปี) มาเก็บไว้ในเคร่อื งคอมพิวเตอร์/โทรศัพทม์ ือถอื /อปุ กรณ์จัดเก็บข้อมูล หรือ พืน้ ที่ส่วนตัวบนอนิ เทอรเ์ น็ต และ เดก็ กลุม่ น้ีมากถึง ร้อยละ 45 เคยส่ง (send) ส่งต่อ (forward) หรือแบง่ ปัน (share) ส่ือลามกอนาจารเดก็ ท่ไี ด้มาใหก้ ับเพื่อนหรือคนอืน่ ทางออนไลน์ เด็ก 174 คน บอกว่า เคยถ่ายภาพหรือวิดีโอตนเอง ในลักษณะเปลือยหรอื ลามกอนาจาร และเด็ก กลุ่มน้ีมากถึงร้อยละ 43 เคยส่ง (send) หรือแบ่งปัน (share) ภาพหรือวิดีโอน้ันไปให้เพื่อนหรือคนอื่น ซ่ึง นำไปสูผ่ ลลพั ธท์ ไ่ี มพ่ ึงประสงค์ ไดแ้ ก่ มีคนนำภาพหรือวิดีโอน้ันมาข่มขู่เรียกเงนิ เรียกภาพ/วดิ ีโอเพิม่ (รอ้ ยละ 32) ภาพหรือวดิ ีโอนน้ั ถูกนำไปเผยแพร่ ทำใหอ้ ับอาย ไดร้ ับผลกระทบ (ร้อยละ 28) มีคนติดต่อมาขอนดั พบ หรอื ซ้อื บริการทางเพศ(ร้อยละ 18) ข้อมูลส่วนตัว 5 อันดับแรก ที่เด็กมักเปิดเผยกับเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันทาง ออนไลน์ ได้แก่ ช่ือ นามสกุล ช่ือเล่น ตามด้วย ข้อมูลความชอบส่วนตัว เช่น อาหารท่ีชอบกิน สถานท่ีที่ชอบไป กิจกรรมยามว่างที่ชอบทำ ช่ือ ที่อยู่ โรงเรียน ภาพถา่ ย และ หมายเลขโทรศัพทม์ ือถอื เด็ก 4,338 คน (รอ้ ยละ 29 ของกลุม่ ตัวอย่าง) คดิ ว่า เม่ือตดิ ต่อพดู คุยกับ เพอ่ื นทีร่ ู้จักกนั ทางออนไลน์สักระยะหน่ึง กถ็ ึงเวลานัดพบกนั จรงิ ๆ ได้ โดยมี รอ้ ยละ 7 ทตี่ อบวา่ 1 สปั ดาห์ทางออนไลนก์ เ็ พียงพอแล้วท่ีจะนัดเจอกนั ซงึ่ เด็ก 2,461 คน ท่ีตอบแบบสอบถาม ระบุว่า เคยนัดพบกบั เพื่อนออนไลน์ ในช่วง 12 เดือนทีผ่ ่านมาอย่าง น้อย 1 ครั้ง โดยมีร้อยละ 19 ท่บี อกว่ามีการนัดพบมากกว่า 10 คร้ังแล้ว เม่ือสอบถามเพ่ิมเติมว่า เมือ่ ไปตาม นัดแลว้ เกิดอะไรขึ้นบา้ ง รอ้ ยละ 38 ถูกพูดจาล้อเลยี น ดูถกู ทำให้เสียใจ ร้อยละ 12 ถกู หลอกเอาทรพั ยส์ นิ เงนิ ทอง ร้อยละ 4 ถูกทุบตี ทำรา้ ยรา่ งกาย รอ้ ยละ 3 ถูกทำอนาจาร ละเมดิ ทางเพศ เด็ก 2% ถูกถา่ ยภาพ/คลิป วดิ โี อ เอาไปประจาน ปัญหาด้านสุขภาพกายท่ีเห็น คือ เด็กติดจอ ติดอินเทอร์เน็ต ขาดโทรศัพท์มือถือไม่ได้ ทำให้มี พฤติกรรมเนอื ยนิ่ง เป็นโรคอว้ น น้ิวล็อก สายตาเสื่อม ปวดคอ บางรายเกดิ ความเครียดจากการใช้สอ่ื โซเชยี ล หรือติดตามข่าวสารออนไลน์มากจนเกินไป ปัญหาทางสุขภาพจิตท่ีพบมากข้ึน คือ เด็กติดเกม เลียนแบบ พฤติกรรมรนุ แรงในวดิ ีโอเกม บางเกมมกี ารเลน่ พนัน ทงั้ พนันในตัวเกมและผู้เล่นเดิมพันกันเอง เว็บไซต์พนัน บอลออนไลน์ ทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการพนนั มากขึ้น การติดพนันก่อปญั หาหน้ีสิน ความเครยี ด ปัญหา อาชญากรรมหาเงินมาจ่ายหนี้พนัน ส่งผลกระทบต่อชีวิตในด้านอื่น ๆ มี เว็บไซต์จำนวนมากที่มีเน้ือหา ผิดกฎหมายหรือเป็นอันตรายท่ีเด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เด็กและเยาวชนบางส่วนเป็นผู้ผลิต แนวทางการเลย้ี งลูกยุคดิจิทัล 10

เนื้อหาผิดกฎหมายเสียเอง เช่น ถ่ายคลิปลามกอนาจาร เสพกัญชา พ่อแม่หรือครูเป็นผู้ละเมิดเด็ก โดยการ หยอกลอ้ ประจาน นำภาพหรือวดิ ีโอการละเมิดเดก็ เข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต สำนกั ข่าวออนไลน์และผูใ้ ช้อ่นื ๆ โพสตว์ ิพากษ์วิจารณโ์ ดยใช้ถ้อยคำรุนแรง ซำ้ ร้ายยงั แชร์ตอ่ ไปในวงกว้าง ที่กล่าวมาแลว้ นัน้ เป็นภยั คุกคามต่อ เดก็ และเยาวชนที่ตอ้ งการมาตรการจัดการดูแลอย่างเรง่ ด่วนและมีประสิทธิภาพ พอ่ แม่ผปู้ กครองมีสว่ นสำคัญ อย่างย่ิงในการป้องกัน เฝ้าระวัง และรายงานเหตุ เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเด็กมากท่ีสุด เป็นคนกลุ่ม แรก ๆ ที่น่าจะรับรู้ปัญหาได้เร็ว ซึ่งก็จะต้องทำงานประสานเช่ือมโยงกับสหวิชาชีพและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกยี่ วขอ้ งเพือ่ ทำการชว่ ยเหลือเดก็ แนวทางการเล้ียงลกู ยุคดจิ ิทัล 11

แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล ฉบับนี้ จึงถูกพัฒนาขน้ึ ด้วยจุดมุ่งหมายเพ่ือให้ข้อมูลพ้ืนฐานเก่ียวกับ ปญั หาสถานการณ์ภยั ออนไลน์ต่อเดก็ และเยาวชน วิธีการดูแลเด็กและเยาวชนท่ีใช้สื่อเทคโนโลยี เพ่ือปอ้ งกัน ปัญหา อยา่ งเช่น การถกู ละเมดิ หรอื แสวงหาประโยชน์ทางเพศ การใช้สื่อท่ีไมเ่ หมาะสมอนั อาจส่งผลกระทบต่อ สุขภาวะทางกาย จิต และสังคม วิธีการเฝ้าระวัง การสังเกตอาการผิดปกติของบุตรหลาน การดูแลแก้ไข เบื้องต้น ก่อนประสานส่งต่อไปยังหน่วยงานบริการด้านสาธารณสุข หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือ หน่วยงานอน่ื ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง เพื่อทำการช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยยี วยาเด็ก และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย (หากมีความจำเป็น) รวมถึงการเสริมสร้างทักษะความฉลาดทางดิจิทัล (DQ – Digital Intelligence Quotient) และการใชส้ อ่ื ออนไลน์ในทางทปี่ ลอดภัยและสร้างสรรค์ เหมาะสมกับช่วงวัย แนวทางการเลี้ยงลูกยคุ ดิจทิ ัล 12

บทท่ี 1 สอื่ ออนไลนก์ บั ผลกระทบต่อสขุ ภาวะ กาย จิต และสงั คม พฤติกรรมเนอื ยนง่ิ ภาวะข้ีเกียจไม่เคล่ือนไหว นั่งนอนในกิจกรรมต่าง ๆ กลายเป็นพฤติกรรมเนือยนิ่ง (Sedentary behavior) คอื มีอัตราการเผาผลาญในรา่ งกายท่ีน้อยมาก ๆ เป็นภาวะทเี่ กิดขึ้นไดง้ ่ายกับคนในยคุ นี้ท่ีทำงาน กับคอมพวิ เตอร์หรอื คนท่ีติดจอ เม่ือทำบ่อย ๆ รา่ งกายก็ย่ำแย่ เพราะการเคลื่อนไหวการขยบั ทำให้กลา้ มเนื้อ ได้ทำงาน เกดิ การไหลเวยี น เป็นการกระตนุ้ ทุกระบบ ทั้งเลือด น้ำเหลือง ระบบเสน้ ประสาท และการทำงาน ของอวยั วะภายในใหเ้ กดิ ขนึ้ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ มีงานวิจยั ที่ระบวุ า่ พฤตกิ รรมเนือยนง่ิ เป็นหนง่ึ ในปัจจัยเสย่ี งของโรคไมต่ ดิ ต่อเรอื้ รังต่าง ๆ อาทิ ในผทู้ ี่ อายุ 18 ขึ้นไป มีความสัมพันธ์กับอัตราการตายจาก โรคหัวใจหลอดเลือด โรคเบาหวาน และภาวะของ เมตะบอลิคซินโดรม หรืออาจเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า “โรคอ้วนลงพุง” มีสาเหตุเริ่มต้นจากการใช้ชีวิตที่ ไมเ่ หมาะสม กินอาหารมากเกนิ ไป โดยเฉพาะอาหารทีม่ ีนำ้ ตาล และไขมนั สูง สว่ นเด็กทอี่ ายุไม่เกนิ 8 ปี ทำให้ เสี่ยงตอ่ โรคอว้ น ปัญหาความดัน ระดับคอเลสเตอรอล ความแขง็ แรงของกล้ามเนื้อ พฤติกรรมการเข้าสงั คม และผลการเรยี น เปน็ ตน้ แนวทางการเล้ยี งลูกยุคดจิ ทิ ัล 13

องค์การอนามยั โลก (WHO) แนะนำวา่ ถ้าต้องการมีสุขภาพท่ีดี ป้องกันโรคไม่ติดต่อท้ังหลายได้ ควรมี “กิจกรรมทางกาย” เป็นเวลาอย่างน้อย 150 นาทีต่อสปั ดาห์ หรือการใช้กำลังกายอย่างหนักเป็นเวลาไม่ต่ำ กวา่ 75 นาทตี ่อสปั ดาห์ ซึง่ การใช้กำลงั กายนี้สามารถนับรวมจากการทำงาน การเดินทาง และการใช้กำลังกาย ในเวลาพักผอ่ นเข้าด้วยกัน โดยสามารถใช้กจิ กรรมในชีวติ ประจำวัน เชน่ การถพู ื้น ทำสวน ยกของ ย้ายของ หรือแม้กระทั่งเดินช็อปปิ้ง มาทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นตอ้ งเปล่ียนชุดกฬี า เพียงแค่ ขยับให้ บ่อย ใหห้ นัก และให้มากเพียงพอ โรคตดิ อินเทอร์เน็ต โรคติดอินเทอร์เน็ต (Internet Addiction Disorder) จัดเป็นกลุ่มอาการทางจิตใจอย่างหน่ึง ซ่ึงเกิดจากการใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ในการเสพขอ้ มลู หรอื ข่าวสารมากเกินไป อาการของโรคติดอนิ เทอร์เน็ต ไดแ้ ก่ o ร้สู กึ หมกมุ่นกบั อินเทอรเ์ น็ต แมใ้ นเวลาทไ่ี ม่ได้ตอ่ เขา้ ระบบอนิ เทอร์เน็ต o มีความต้องการใช้อินเทอร์เนต็ เป็นเวลานานขึ้นอยเู่ ร่ือย ๆ o ไม่สามารถควบคมุ การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตได้ o รสู้ ึกหงุดหงิดเมื่อใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ นอ้ ยลง หรือหยดุ ใช้ o คิดว่าเมอ่ื ใช้อินเทอรเ์ น็ตแล้ว ทำใหต้ นเองรสู้ กึ ดีขึน้ o ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตในการหลกี เลย่ี งปญั หา o หลอกคนในครอบครัว หรอื เพอื่ น เรอื่ งการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตของตนเอง o มีอาการผดิ ปกตเิ ม่ือเลกิ ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต เช่น หดหู่ กระวนกระวาย แนวทางการเลยี้ งลกู ยคุ ดจิ ิทัล 14

หากสงั เกตบตุ รหลานหรือคนรอบขา้ งเรม่ิ มอี าการติดอินเทอร์เน็ต กค็ วรสะกิดให้ลด ละ เลกิ ให้ขยับ ลุกไปทำกิจกรรมอย่างอื่น และควรหากิจกรรมอื่นทดแทน โดยเริ่มจากการทำร่วมกันในครอบครัว พ่อแม่ ผปู้ กครองก็ต้องเป็นตัวอย่างท่ดี ีในการใช้อินเทอร์เน็ต โดยมีกฎกติกา ห้ามใช้ในเวลาครอบครัว เวลาทานขา้ ว ควรมีพนื้ ท่ีหรือเวลาปลอดมือถอื /อนิ เทอรเ์ น็ต ภายในบ้าน โรคตดิ เกม โรคติดเกม คือ โรคท่ีเกิดจากพฤติกรรมเสพติด ในทางสมองมีลักษณะคล้ายกับตดิ สารเสพติด เป็น อุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาสมอง พัฒนาการ และพฤติกรรมของเด็ก ส่วนใหญ่ติดจากการเล่นเกมผ่าน อินเทอร์เนต็ โดยมีอาการสำคัญคอื ใชเ้ วลาเลน่ นานเกินไป ขาดการควบคุมตนเองในการใชช้ วี ติ ปกติ เช่น การ กิน การนอน เสียหน้าท่ี การเรียนและการงาน สำหรับประเทศไทยมีเด็กติดเกมและมีปัญหาเสีย่ งตดิ เกม 2 ล้านคน เด็กติดเกม อาจมีได้หลายสาเหตุ เช่น มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ อยากได้การยอมรบั จากเพื่อน การเล่นเกมชนะและมีช่อื เสยี งในโลกของเกม ทำให้อยากเล่นเกมเพ่ิมมากข้ึนอีก การเลย้ี งดแู บบไม่มีระเบียบ วินัย ไม่มีกฎกติกา ทำให้เด็กไม่สามารถควบคุมตนเองได้ดี เล่นเกมติดพัน เล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนขาดความ รับผิดชอบต่อหน้าที่ โดยผู้ปกครองไมไ่ ดว้ า่ กล่าวตกั เตือน ปัญหาความเครยี ดจากครอบครวั หรือการเรียน อาจ ทำให้เด็กหนีไปเล่นเกม ระบายความเครียด ผู้ใหญ่ติดมือถือ ขาดระเบียบวินัย ไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นให้ทำ รว่ มกัน หรอื มเี พอ่ื นทเี่ อาแต่ชวนเลน่ เกม ถา้ ไมเ่ ล่นกเ็ ขา้ กล่มุ เพ่อื นไมไ่ ด้ ก็เปน็ สาเหตุทำใหเ้ ดก็ ตดิ เกมได้ พอ่ แม่ ผปู้ กครองและครูจงึ ควรแกไ้ ขปัญหาทต่ี ้นตอ อีสปอร์ต (E-sport) หรอื การแขง่ ขันวดิ ีโอเกมชิงรางวัล ผปู้ ระกอบการเกมและธุรกิจท่เี กย่ี วขอ้ งใช้คำ น้ีในการทำการตลาด โฆษณาเชิญชวนให้เด็กเล่มเกมมาก ๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียท่ีจะเกิดขึ้นกับตัวเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการเสพติดเกม ไม่สนใจการเรียน ค่าใช้จา่ ยท่ีเพิ่มมากขึ้น การเลียนแบบพฤติกรรมความรุนแรง ในเกม ปัญหาทางดา้ นสุขภาพ ข้อมูลจากกรมสขุ ภาพจิตพบจำนวนเดก็ ติดเกมเพ่ิมข้ึนมากกว่าเท่าตวั ใน 1 ปี (พ.ศ. 2560-2561) การเสพติดเกม ส่งผลเสียหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง เมื่อยเนื้อตัว การไหลเวียนของเลือดไม่ดีจนเกิดล่ิม เลือดทีข่ าเพราะน่ังเล่นเกมนานเกินไป โรคอ้วนเพราะขาดการออกกำลงั บางคนน่ังเล่นเกมไปด้วยกินไปด้วย ผลเสียด้านพัฒนาการสังคม เช่น มีปัญหาความสัมพันธ์กบั คนรอบข้าง แยกตัวออกจากกล่มุ เพ่ือนเพื่อไป เล่นเกม ผลเสยี ดา้ นพฤตกิ รรม เชน่ พฒั นาการล่าชา้ เนื่องจากไมไ่ ดฝ้ ึกฝนหยบิ จบั ขีดเขียนปนี ปา่ ยตามวัย อาจ เลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าวในเกม เด็กทีเ่ สพติดเกมจะมีความสามารถในการควบคุมตนเองต่ำ อดทนรอคอย ไม่ได้ เพราะเวลาเล่นเกมจะกดปุ่มไวแล้วมีการตอบสนองทันที ต่างจากในชีวิตจริงที่การทำอะไรสักอย่างให้ สำเร็จต้องใช้เวลานานและใช้ความพยายามสมำ่ เสมอ เช่น การเรียน การเล่นกีฬา ดนตรี ที่ต้องฝึกซ้อมมาก แนวทางการเลีย้ งลกู ยคุ ดจิ ทิ ัล 15

ไม่มอี ะไรไดม้ าง่าย ๆ การเลน่ เกมยังมีค่าใช้จ่ายด้วย ได้แก่ ค่าไฟ คา่ อินเทอร์เน็ต คา่ ช่วั โมงรา้ นเกม ค่าซ้ือของ หรือไอเทม็ (items) ในเกม เปน็ ตน้ นพ.เกียรติภมู ิ วงศ์รจิต เคยให้รายละเอียดเกย่ี วกับปัญหาพฤตกิ รรมเสพตดิ เกมว่า เป็นปัญหาจติ เวช เดก็ และวัยรนุ่ ทพ่ี บบ่อยในอายรุ ะหว่าง 6 – 18 ปี มคี วามสัมพันธก์ บั ชนิดของเกมประเภทตอ่ สูอ้ อนไลน์แบบมี ผลู้ งแขง่ เป็นทีมเปน็ หลกั และเกิดโรครว่ มทางจิตเวช เชน่ โรคสมาธิสนั้ วิตกกังวล ซมึ เศร้า อารมณ์แปรปรวน โรคตดิ สารเสพติด โรคจิต และโรคลมชกั โดยเฉล่ยี เด็กและวัยรนุ่ จะใชเ้ วลาเล่นเกมนาน 5 ชม.ตอ่ วนั และเล่น เกมแข่งขันต่อสู้ออนไลน์ 1 – 4 เกมสลับกันไป ซ่ึงเกินระดับความปลอดภัยในการเล่นเกม 9 ชั่วโมง /ต่อ สัปดาห์ เด็กมักแสดงอาการหงุดหงิด ก้าวร้าวเม่ือให้เลิกเล่น และมักไม่ทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบของ ตนเอง ซึ่งเกิดผลกระทบต่าง ๆ ตามมา ได้แก่ ปัญหาการเรียน สอบตก ไม่ยอมไปโรงเรียน ซ้ำช้ัน เรียน ไมจ่ บ จากการเลน่ นานเกนิ 4 ชวั่ โมงตอ่ วนั ข้นึ ไป พฤติกรรมเสยี่ งเรื่องเพศ ผา่ นการแช็ตในห้องเกม ปญั หาการ เตมิ เงนิ การซื้อขายและการพนัน พฤตกิ รรมก้าวร้าวทางวาจา เช่น การด่าทอด้วยภาษาหยาบคาย พฤติกรรม ก้าวรา้ วทางกาย เช่น การทุบตคี นอืน่ อาละวาดทำลายของ คกุ คามคนใกล้ชดิ รังแกกันทางส่อื สังคมออนไลน์ ใช้สารเสพตดิ ฆ่าตวั ตาย พฤติกรรมการกระทำความผดิ ลักขโมยเงนิ ย่องเบา เพ่ือให้ได้สมาร์ทโฟน การข่มขู่ เพอ่ื ให้ได้เงินและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในวัยรนุ่ เป็นต้น สำหรบั แนวทางแก้ไขปัญหาเด็กติดเกม รศ.ดร.ภญ.จิรภรณ์ อังวิทยาธร ภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัช ศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล ได้เขยี นบทความอธิบายไว้ว่า โรคติดเกม เกิดได้กับเด็กและผู้ใหญ่ ในกรณีท่ีเป็น เดก็ พ่อแม่หรือผูป้ กครองจะมีบทบาทสำคัญทสี่ ุด อย่ามองเกมท่ีเดก็ เล่นว่าไม่เป็นพิษเป็นภัยเหมือนเป็นของ เลน่ ชนดิ หนงึ่ ควรตระหนกั เสมอวา่ เดก็ มีโอกาสติดเกมไดเ้ หมอื นตดิ ส่งิ เสพตดิ กอ่ นทจ่ี ะอนุญาตใหเ้ ดก็ เล่นเกม ควรมีการสัญญาและตกลงกันกอ่ นวา่ จะต้องทำการบา้ น อา่ นหนังสือ หรอื อาบนำ้ กินขา้ วก่อนถงึ จะเล่นเกมได้ จำกัดเวลาเล่นเกม เลือกประเภทเกมให้เด็กเลน่ ให้รางวลั เม่ือเดก็ ทำตามที่ตกลงกันไวไ้ ด้ เกบ็ อุปกรณ์ในการ เล่นเกมรวมท้ังมือถือให้ห่างไกลจากเด็ก เบี่ยงเบนความสนใจของเด็กให้หันไปทำกิจกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะ กจิ กรรมทสี่ ามารถทำร่วมกับพ่อแม่ได้ เชน่ การอ่านหนังสือหรอื เล่านิทานกอ่ นนอน เล่นกีฬาทเ่ี ด็กชอบ พาไป เดนิ เท่ยี วในสวนสาธารณะ เป็นการเสริมสรา้ งความสัมพนั ธ์ระหว่างเด็กกับพอ่ แมใ่ หม้ ากข้ึน แนวทางการแก้ไข ได้แก่ การจำกัดเวลาเล่นเกม ครอบครัวหรือเพ่ือนสนิทช่วยห้ามช่วยเตือน ให้ กำลังใจ หรอื คอยชักชวนให้หนั ไปทำกิจกรรมอ่ืน ๆ เช่น เล่นกีฬา ออกกำลังกาย เล่นดนตรี ใช้เวลาว่างไปทำ กจิ กรรมท่ีเป็นสาธารณประโยชน์ ในรายที่ติดเกมรุนแรงมากอาจต้องพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ การเล่น เกมอย่างพอดี ทำให้ผ้เู ล่นไดร้ ับความสนุกสนานเพลิดเพลิน คลายเครียด ฝกึ ทักษะ สมาธิ การตัดสินใจ การ ประสานการทำงานของกล้ามเน้ือและประสาทระหว่างมือกับตา อย่างไรก็ตาม การเล่นเกมไม่ควรเล่น ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือหมกมุ่นมากจนทำให้เกิดอาการเสพติดและเกิดผลเสียต่อสุขภาพทางกายและ ทางดา้ นจติ ใจ การเล่มเกมไม่ให้เกิดโทษ ควรกำหนดกฎกติกา เบ้ืองต้นคือห้ามเด็ดขาดในการใช้เทคโนโลยีหรือ อปุ กรณ์จอใสตา่ ง ๆ เป็นพเ่ี ล้ียงเด็กในเดก็ อายุตำ่ กวา่ 2 ขวบ เนื่องจากจะสง่ ผลให้พัฒนาการล่าช้า ซน สมาธิ แนวทางการเลยี้ งลกู ยุคดิจทิ ัล 16

สั้น นอนไม่หลับ มีอาการของออทิสติกมากขึ้น ฯลฯ สำหรบั เด็กในช่วงปฐมวัย ไม่เกิน 5 ขวบ อาจใชส้ ื่อจอ เสรมิ การเรยี นรไู้ ด้โดยมคี รหู รอื ผปู้ กครองเป็นผเู้ ลอื กสอ่ื และชแ้ี นะเด็กไปดว้ ย วนั ละไมเ่ กนิ 1 ชม. เดก็ ควรไดร้ ับ การพัฒนาเร่อื งสมาธแิ ละทักษะทางสังคม เรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กบั สิ่งต่าง ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง จึงควรสนับสนุนให้เดก็ ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น ชมรม ชุมนุมต่าง ๆ ในโรงเรยี นมากกว่าอยู่หน้าจอสีเ่ หลีย่ ม เป็นเวลานาน ๆ ดังนั้น ครอบครัวต้องสร้างจุดแข็งในการอยู่ร่วมกับเกม เทคโนโลยี หรืออุปกรณ์หน้าจอใส ต่าง ๆ ด้วยหลกั ปฏิบตั ิในครอบครวั 3 ตอ้ ง 3 ไม่ ที่ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภริ มยศ์ านต์ิ ไดแ้ นะนำไว้ 3 ต้อง ได้แก่ o ตอ้ ง กำหนดเวลา (เช่น 1 ชัว่ โมงตอ่ วนั หลงั ทำการบา้ น/หนา้ ที่ ให้เรยี บรอ้ ยเสียก่อน) o ตอ้ ง กำหนดรายการใหล้ ูก (รายการ/กิจกรรมใดทำได้-ไมไ่ ด้ เว็บไซตแ์ บบใดควร-ไมค่ วรเข้า) o ต้อง เลน่ กบั ลูก (เพอ่ื สามารถชี้แนะถกู ผิด การคดิ วิเคราะห์ รเู้ ท่าทนั ข่าวสารขอ้ มลู ต่าง ๆ) 3 ไม่ ไดแ้ ก่ o ไม่ เป็นแบบอยา่ งทผ่ี ดิ o ไม่ ใชใ้ นเวลาครอบครวั เช่น เวลาทานขา้ ว เวลาทีค่ รอบครวั ทำกจิ กรรมรว่ มกนั o ไม่ ใช้ในหอ้ งนอน พ่อแมผ่ ปู้ กครองตอ้ งกำหนดขอบเขตหรอื พ้นื ท่ีเหลา่ นีใ้ นครอบครัว แนวทางการเลี้ยงลกู ยคุ ดจิ ทิ ัล 17

พญ.ทิพาวรรณ บรู ณะสิน จิตแพทยป์ ระจำ สถาบนั สุขภาพจติ เดก็ และวยั รุน่ ราชนครินทร์ ภายใต้ กรมสขุ ภาพจิต ได้ให้คำแนะนำสำหรับพ่อแม่ในการดแู ลลูกไม่ให้ตดิ เกม ดงั นี้ ข้อควรปฏิบัติ o ฝกึ วนิ ัยและความรับผิดชอบเปน็ อนั ดบั แรก o จำกดั เวลาการเล่นเกมแตล่ ะครง้ั ไมค่ วรเกนิ 1 ช่วั โมง o ควรสง่ เสรมิ การเล่นกีฬาทดแทนการเล่นวิดโี อเกม ข้อควรหลกี เล่ียง o อนญุ าตให้เล่นเกมในหอ้ งนอนสว่ นตวั o การเล่นเกมกอ่ นทำการบา้ น ก่อนเขา้ นอน o เกมต่อสู้ รุนแรง เตมิ เงิน เล่นพนันหรือเดิมพันในการเลน่ เกม ขอ้ ห้าม o หยิบยนื่ เกมให้เด็กแทนของเลน่ หรอื ของรางวลั o การเลน่ เกมนานเกนิ 2 ชว่ั โมงต่อวัน o เกมการพนันทกุ ชนิด การลงแข่งขนั ชิงเงินรางวลั ขณะมอี ายตุ ำ่ กวา่ 18 ปีบรบิ รู ณ์ เด็กทุกคนทเี่ ลน่ เกมออนไลน์ มคี วามเสยี่ ง “เสพตดิ เกม” พญ.ทิพาวรรณ บูรณะสิน มขี อ้ แนะนำ o เดก็ ปฐมวัย - กอ่ นวัยเรียน (0-5 ปี) ห้ามใช้สมาร์ทโฟนหรือส่ือจอใสหากอายยุ งั ไม่ถงึ 2 ขวบ และ ใชเ้ พยี งวนั ละไม่เกนิ 1 ชั่วโมง สำหรบั เดก็ อายุ 2-5 ขวบ ภายใตก้ ารดูแลแนะนำของพอ่ แมห่ รอื ครู o เด็กวัยเรียน - ก่อนวัยรุ่น (6-12 ปี) ห้ามปล่อยให้เล่นเกมโดยลำพัง ควรกำกับเวลาและความ รบั ผิดชอบอย่างใกลช้ ิด o วัยรุ่น (13-18 ปี) – เฝ้าระวังเกมท่ีมีเน้ือหาความรุนแรงและกำกับพฤติกรรมการเล่นเกมแนว MOBA – Multiplayer Online Battle Arena เช่น จำกัดเวลา จำกัดการเข้าถึง การพูดคุยใน เนื้อหาไม่เหมาะสม จำกัดการเติมเงิน ไม่ควรสนับสนุนการลงแข่งขันชิงรางวัลทุกรูปแบบ และ ควรหา้ มการพนันทุกชนิด o เยาวชน (18-25 ปี) – เฝ้าระวังพฤติกรรมท่ีมีแนวโน้มกระทำผิดกฎหมายและก่อหนี้สิน จากการพนนั แนวทางการเลยี้ งลูกยคุ ดจิ ทิ ัล 18

เมื่อลูกเริ่มมีพฤตกิ รรมเสพตดิ เกม ควรพูดคุยทำความเข้าใจกับเดก็ และวัยรนุ่ ตดิ ตามผลการเรยี น สภาวะอารมณ์ เบยี่ งเบนความสนใจดว้ ยกจิ กรรมทดแทนร่วมกับสมาชกิ ในครอบครวั เสียแต่เนิน่ ๆ หากพบ ความผิดปกตทิ างพฤติกรรมและอารมณ์ทเ่ี ร่มิ มคี วามรนุ แรง ควรพามาพบจติ แพทย์ สำหรบั น้อง ๆ เดก็ และเยาวชนทีเ่ ลน่ เกม แนะนำใหท้ ำแบบทดสอบการติดเกม และ แบบวดั ภูมคิ ้มุ กัน การตดิ เกม พอ่ แมผ่ ปู้ กครองกใ็ ช้แบบประเมินลกู ได้ ท่ีเว็บไซต์ Healthy Gamer (http://www1.si.mahidol.ac.th/Healtygamer/quiz) ของ คณะแพทยศ์ าสตร์ ศริ ริ าช ซึ่งเป็นแบบทดสอบ ออนไลน์ หลงั ทำเสรจ็ จะมกี ารรวมคะแนนและระบรุ ะดบั การตดิ เกมหรือระดบั ภมู ิคมุ้ กนั พร้อมคำแนะนำใน การปฏบิ ัตติ ัวเพอ่ื การปอ้ งกันแกไ้ ขปัญหาติดเกม แนวคำถามมีดงั น้ี แนวทางการเลีย้ งลกู ยุคดจิ ทิ ัล 19

ตวั อยา่ งคำถาม แบบทดสอบการตดิ เกม (ฉบบั เดก็ ) แนะนำใหท้ ำออนไลน์ (http://www1.si.mahidol.ac.th/Healtygamer/quiz) หากต้องการวดั ผล 1. ฉนั สนใจหรือทำกจิ กรรมอย่างอ่นื นอ้ ยลงมาก 2. ฉันมกั เลน่ เกมจนลมื เวลา 3. ความสมั พันธ์ระหว่างฉันกับคนในครอบครวั แย่ลง 4. ฉนั เคยเล่นเกมดึกมาก จนทำให้ตืน่ ไปเรียนไมไ่ หว 5. ฉนั มกั เลน่ เกมเกินเวลาที่ฉันไดร้ บั อนุญาตใหเ้ ล่น 6. ฉันมักอารมณเ์ สียเวลามใี ครมาบอกให้เลิกเล่นเกม 7. ฉนั เคยโดดเรียนเพือ่ ไปเลน่ เกม 8. เรอื่ งท่ีฉันคยุ กับเพอ่ื น ๆ มกั เปน็ เร่อื งเกี่ยวกบั เกม 9. ฉันใชเ้ วลาว่างส่วนใหญ่ไปกบั การเล่นเกม 10. การเรยี นของฉันแย่ลงกวา่ เดิมมาก 11. กลมุ่ เพอื่ นทฉี่ นั คบดว้ ยชอบเล่นเกมเหมอื นกัน 12. เวลาทีฉ่ นั พยายามหกั ห้ามใจตวั เองไม่ใหเ้ ล่นเกมมาก ฉนั มักทำไมส่ ำเร็จ 13. เงินของฉนั สว่ นใหญห่ มดไปกบั เกม (ซ้อื บัตรช่วั โมง หนงั สือเกม สิง่ ของในเกม) 14. หลายคนบอกวา่ อารมณข์ องฉันเปล่ยี นไป (เบอ่ื ง่าย หงดุ หงดิ ขร้ี ำคาญ) 15. หลายคนบอกวา่ พฤตกิ รรมของฉันเปลีย่ นไป (เถยี งเกง่ ไม่เชื่อฟงั ไมร่ บั ผดิ ชอบ) 16. หลายคนบอกวา่ ฉนั ติดเกม แนวทางการเล้ยี งลกู ยุคดจิ ิทัล 20

ตัวอยา่ งคำถาม แบบวัดภูมคิ ุ้มกันการติดเกม (ฉบบั เดก็ ) แนะนำให้ทำออนไลน์ (http://www1.si.mahidol.ac.th/Healtygamer/quiz) หากต้องการวัดผล 1. ฉนั พอใจในตนเอง 2. ฉนั เปน็ เด็กทีเ่ อาใจใสก่ ารเรยี น 3. ฉันเป็นคนทีร่ บั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ี 4. ฉนั เปน็ คนเครยี ดงา่ ย 5. ฉนั มกี จิ กรรมอน่ื ๆ ทำ (ท่ีไม่ใช่การเลน่ เกม) เพื่อคลายเครียด 6. ชีวิตฉนั มีความสขุ 7. ฉันมีสมาธใิ นการเรียน 8. ฉันเบอ่ื เรียน 9. ครอบครัวของเรารกั กันดี 10. ครอบครวั ของเราทำกจิ กรรมรว่ มกนั บอ่ ย ๆ 11. ฉันชอบเข้ารว่ มกจิ กรรม (ที่ไม่ใช่การเล่นเกม) กับเพอ่ื น ๆ 12. ฉันได้เลน่ เกมทุกครง้ั ท่ฉี นั อยากเลน่ 13. กลมุ่ เพอ่ื นที่ฉันคบดว้ ยเป็นกลมุ่ เดก็ เรียนหรือชอบทำกิจกรรม 14. ฉันเชอ่ื วา่ ฉนั สามารถทำสง่ิ ต่าง ๆ ใหส้ ำเร็จได้ 15. ฉันรสู้ ึกว่าพ่อแมเ่ ขา้ ใจฉัน 16. ฉันมกั คลายเครยี ดด้วยการเลน่ เกม แนวทางการเลี้ยงลกู ยคุ ดจิ ทิ ัล 21

ตวั อย่างคำถาม แบบทดสอบการติดเกม (ฉบบั ผปู้ กครอง) แนะนำให้ทำออนไลน์ (http://www1.si.mahidol.ac.th/Healtygamer/quiz) หากตอ้ งการวดั ผล 1. ลกู สนใจหรือทำกจิ กรรมอย่างอ่ืนนอ้ ยลงมาก 2. ลกู มกั เล่นเกมจนลมื เวลา 3. ความสมั พนั ธร์ ะหว่างลูกกบั คนในครอบครวั แยล่ ง 4. ลกู เคยเล่นเกมดกึ มาก จนทำใหต้ ่นื ไปเรยี นไม่ไหว 5. ลกู มกั เล่นเกมเกินเวลาท่ีฉนั อนญุ าตให้เลน่ 6. ลกู มักอารมณเ์ สียเวลาทีฉ่ นั บอกใหเ้ ลกิ เลน่ เกม 7. ลกู เคยหนเี รียนเพือ่ ไปเลน่ เกม 8. เรื่องทล่ี กู คยุ กับเพ่ือนๆ มกั เปน็ เรื่องเกีย่ วกับเกม 9. ลกู ใชเ้ วลาว่างสว่ นใหญไ่ ปกบั การเลน่ เกม 10. การเรยี นของลกู แย่ลงกว่าเดิมมาก 11. กลมุ่ เพอื่ นทล่ี ูกคบดว้ ย ชอบเล่นเกมเหมือนกบั ลกู 12. เวลาทฉี่ นั หา้ มลูกไม่ใหเ้ ลน่ เกมมาก ลกู มักทำไม่ได้ 13. ลูกใชเ้ งินสว่ นมากไปกบั เกม (ซื้อหนังสอื เกม สง่ิ ของในเกม) 14. อารมณข์ องลกู เปลย่ี นไป (เบอ่ื ง่าย หงดุ หงิด ขีร้ ำคาญ) 15. พฤติกรรมของลกู เปล่ยี นไป (เถยี งเก่ง ไม่เช่ือฟงั ไมร่ ับผดิ ชอบ) 16. ฉนั คิดว่าลกู ติดเกม แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล 22

โรควุ้นในตาเสอื่ ม สาเหตุหลักของโรคนี้เกดิ จากนำ้ ในว้นุ ตาเสอื่ ม โดยส่วนมากจะพบในผสู้ ูงอายุ หรือคนท่ีทำอาชีพทตี่ อ้ ง ใชส้ ายตามาก ๆ และผู้ท่สี ายตาส้ัน แต่ปัจจุบันกลับพบวา่ มคี นเปน็ โรควุ้นตาเส่ือม กันมากข้นึ จากสาเหตุที่อยู่ หนา้ จอกันทงั้ วัน ไมว่ า่ จะเล่นโทรศัพท์ อา่ นหนังสือ ดหู นัง เล่นเกม ตา่ งก็ทำผา่ นหนา้ จอกนั ทงั้ น้ัน ไม่วา่ จะผ่าน โทรศพั ท์ ผา่ นโทรทัศน์ ซง่ึ สาเหตุทที่ ำให้คนสายตาเสยี จากการมองจอมาจากสาเหตดุ ังนี้ 1. การมองตวั อกั ษรที่อยู่บนจอ ตาจะโฟกัสไมแ่ น่นอน ทำให้กลา้ มเนอ้ื ตาทำงานหนกั 2. การก้มมองแปน้ พิมพ์ตวั อกั ษร ทำให้ตาทำงานหนัก เพราะต้องปรับโฟกัสบอ่ ย 3. การเลื่อนดเู น้ือหาบนหนา้ จอ ซ่ึงทำให้ตาต้องปรับโฟกัสบ่อย ซ่ึงถ้าชอบอ่านหนงั สอื บนหน้าจอจะ ทำให้ติดนิสยั มา เมื่อมองส่งิ ต่าง ๆ ไมว่ า่ ใกล้หรือไกล ก็ต้องปรับโฟกสั การมองเสมอ อาการที่แสดงออกมา คือ ผู้ป่วยจะมีอาการมองเห็นเป็นจุดหรือเส้นคล้ายหยากไย่ลอยไปลอยมา โดยเฉพาะเวลามองในท่ีแสงสวา่ ง ตะกอนท่ีปรากฏน้ีจะอยูใ่ นวนุ้ ตา ในระยะแรกจะเห็นภาพตะกอนได้ชัดเจน แต่เม่อื เวลาผ่านไปสมองจะจำจดและทำใหผ้ ปู้ ว่ ยเห็นภาพตะกอนไดน้ อ้ ยลง เมอื่ วนุ้ ตาเหลวและหดตัวจะทำให้ เกิดการดึงรั้นที่ผิวจอตา ผู้ปว่ ยจะเห็นเป็นแสงคล้ายแฟลชในตา ซึ่งจะเหน็ ในที่มืดหรือเวลากลางคืน อาการน้ี จะหายไปเม่อื ว้นุ ตาร่อนออกจากจอตา ในบางรายแรงดึงท่ีเกิดข้ึนอาจทำใหจ้ อตาฉกี ขาดและหากปล่อยทิ้งไว้ ผปู้ ว่ ยอาจสญู เสียการมองเหน็ อยา่ งถาวรเลย แต่ในบางคร้งั การมองเหน็ จุดสดี ำอาจมาจากสาเหตอุ ืน่ เช่น มา่ น ตาอักเสบ เลอื ดออกในวุน้ ตา เปน็ ต้น ว้นุ ตาเส่อื ม สามารถเกิดข้นึ ไดก้ บั ทุกคน และยังไมม่ ีการรักษาใหห้ ายได้ เพราะมนั เกดิ จากการชราตาม อายุไขของเราเอง และในบางครั้งเกิดจากสิง่ ต่าง ๆ ท่ีมาทำให้วุ้นตาเส่ือมได้เร็วขึ้น เช่น การอยู่หน้าจอทงั้ วัน ซึง่ แนวทางการรักษาจักษแุ พทย์ก็จะรกั ษาตามอาการ เชน่ การยิงเลเซอร์ เพื่อรักษาจอประสาททฉ่ี ีกขาด การ ป้องกันจึงเป็นแนวทางที่ดีกวา่ คือ อย่าอ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์ เล่นคอมพิวเตอร์ ในที่มืด เพราะจะทำให้ สายตาส้ัน ซง่ึ สายตาส้ันจะทำให้วุ้นตาเส่อื มง่ายข้ึน อย่านอนหลับในทส่ี ว่าง ถึงจะหลับอยู่แต่ตายงั ได้รับแสงก็ ยงั ทำงานอยู่ ปอ้ งกันไมใ่ หต้ าถกู กระทบกระเทอื นแรง ๆ และทานอาหารใหค้ รบ 5 หมู่ โรคตดิ พนัน รอ้ ยละ 42.38 ของเด็กและเยาวชนเข้าสู่วงจรการพนัน โดยมีปัจจัยชักจูงให้เข้าสู่การเล่นการพนัน ออนไลน์ คือ สื่อโซเชยี ลมเี ดยี โดยเฟซบ๊กุ และเวบ็ ไซตด์ หู นังฟังเพลงเปน็ สอ่ื ท่มี ีอิทธพิ ลสูงสดุ (ทม่ี า: ยรู ีพอรต์ , 2562) การพนันออนไลนท์ เี่ ดก็ และเยาวชนนิยมมากทสี่ ดุ คือการพนนั ทายผลฟตุ บอล ในระหว่างปี 2558-2559 ไดม้ ีเว็บไซต์การพนันมากถึง 213,000 เวบ็ ไซต์ ทำให้เด็กและเยาวชนไทยเปน็ กลมุ่ เสี่ยงใหญใ่ นพนันออนไลน์ เนือ่ งจากเข้าถงึ งา่ ยและเล่นไดท้ กุ ที่ทุกเวลา (ทีม่ า: มลู นธิ สิ าธารณสขุ แหง่ ชาติ, 2559) กรมสขุ ภาพจิต (2561) ระบุ การติดพนัน คือมอี าการอย่างนอ้ ย 4 ใน 9 ข้อ ในชว่ ง 12 เดือนทีผ่ ่านมา 1. เพ่มิ จำนวนเงินในการเลน่ แตล่ ะคร้ัง เพอ่ื ใหร้ ู้สกึ ตน่ื เตน้ มากกว่าเดมิ แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล 23

2. รูส้ กึ กระสบั กระส่ายหรอื หงดุ หงิดเม่อื พยายามลดหรือเลกิ การพนัน 3. พยายามควบคุม ลด หรอื เลกิ การพนนั หลายครงั้ แต่ไม่สำเรจ็ 4. คดิ วกวนถงึ การพนันบ่อย ๆ เชน่ ยอ้ นนึกถึงช่วงเวลาเลน่ พนนั ท่ผี า่ นมา วางแผนการเล่นครงั้ ถดั ไป นึกถึงวิธกี ารหาเงนิ มาเล่นพนนั 5. เลน่ พนนั บอ่ ย ๆ เมอื่ รสู้ ึกตงึ เครยี ด 6. หลงั จากสูญเงินไปกับการพนนั แล้ว จะพยายามแก้ตวั ด้วยการไปเลน่ อกี บอ่ ยครง้ั 7. โกหกเพื่อปกปดิ การเลน่ พนัน 8. บกพรอ่ งหรอื สญู เสยี ความสัมพันธ์ หนา้ ทก่ี ารงาน การเรียน หรือโอกาสตา่ ง ๆ 9. ยอมทำตามคำสง่ั คนอน่ื เพอื่ ใหช้ ่วยเหลอื เร่อื งเงินในการเลน่ พนนั เดก็ ที่ติดพนนั ออนไลน์ จึงอาจเปน็ เด็กที่ตดิ อนิ เทอร์เนต็ มีพฤติกรรมเนือยน่งิ เป็นโรคอ้วน โรคเครยี ด แยกตวั จากสังคม มีปัญหาเร่ืองสัมพันธภาพ การเรยี น หน้าทก่ี ารงาน รวมถงึ ปัญหาเร่อื งค่าใช้จา่ ย หน้ีสิน ซ่ึง อาจนำไปสู่ปัญหาอ่ืนตามมา เช่น การก่ออาชญากรรมเพื่อหาเงินมาเล่นพนันหรือใช้หนี้พนัน ความรุนแรง การคา้ ประเวณี เข้าสธู่ ุรกิจพนนั ฯลฯ การพนันยงั มีผลทำลายสมองอย่างถาวรอีกด้วย การพนันทำลายสมอง แม้ว่าพันธกุ รรมมีส่วนสำคัญในการกำหนดพฒั นาการของสมอง แตม่ ีหลักฐานยนื ยนั ว่าประสบการณ์ท่ี เกดิ ขึน้ ในช่วงอายุก่อน 10 ปี มีผลอย่างมากต่อพัฒนาการของสมองด้านระบบคิดและสตปิ ัญญา ดังนั้นหาก เด็กเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมท่ีเต็มไปด้วยแหลง่ พนันหรอื เข้าถึงการพนนั ได้งา่ ย มีความเส่ียงสูงทจ่ี ะไดร้ ับ ผลกระทบน้ีไปตลอดชวี ิต เน่ืองจากการพัฒนาจนสมบูรณ์ของสมองแตล่ ะสว่ นเกดิ ไมพ่ รอ้ มกัน การพัฒนาของ สมองในชว่ งเด็กและวยั ร่นุ สมองส่วนทีม่ ีหน้าท่ีเกย่ี วกับอารมณแ์ ละความกล้าเสย่ี งแบบมทุ ะลุ จะเสรจ็ สมบูรณ์ กอ่ นสมองสว่ นหนา้ ซ่งึ มหี นา้ ท่ีเกีย่ วกบั การตัดสินใจ ยับย้ังชง่ั ใจ การแก้ปญั หา ฯลฯ สง่ ผลใหว้ ยั รนุ่ มแี นวโนม้ ใจ ร้อน วู่วาม ตัดสินใจหรือลงมือทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ทันได้คิดถึงผลท่ีจะตามมา แม้สมองจะประกอบด้วย โครงสร้างเซลล์แต่ละส่วนท่ีต้องทำงานประสานกันตลอดเวลา แต่กลับมีพัฒนาการของแต่ละส่วนไม่เท่ากัน สถาบนั วิจัยด้านสขุ ภาพจิตแหง่ ชาตขิ องสหรัฐอเมริกา (NIMH) ศึกษาพัฒนาการของโครงสร้างของสมองและ วงจรประสาทในอาสาสมัคร 387 คน อายุ 3–27 ปี ด้วยคล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ (MRI) พบวา่ การเจริญเตบิ โตของ สมองท่ีสัมพันธ์กับช่วงอายุแต่ละข้ันนั้น เก่ียวข้องกับความสามารถของการทำงานของสมอง มากกว่าขนาด สมองจริง ๆ และพบว่า เดก็ ผหู้ ญงิ จะมีปรมิ าตรสมองมากทีส่ ดุ ช่วงอายุ 10.5 ปี เด็กผชู้ ายช่วงอายุ 14.5 ปี แต่ ชว่ งเวลาที่สำคญั ที่สุดคือช่วง 6 ขวบท่ีสมองของเด็กท้งั สองเพศจะมีขนาดถึง 95% ของขนาดใหญ่สุด สำหรับ พฒั นาการของสมองพบว่า สมองส่วนที่ควบคุมการเคล่ือนไหวกล้ามเน้ือ และการรับรปู้ ระสาทสัมผัส พัฒนา สมบูรณ์ก่อนสมองส่วนที่เก่ียวข้องกับความฉลาดทางสังคม โดยสมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex) จะ พฒั นาสมบรู ณต์ อนอายุประมาณ 20 ปี ในชว่ งวัยรุ่นสมองสามารถเพ่ิมเน้ือสมองผ่านการเรียนร้แู ละการส่ังสม แนวทางการเลย้ี งลกู ยุคดจิ ทิ ัล 24

ประสบการณ์ ในชีวิต และสมองจะมีการปรับโครงสร้าง โดยคัดเซลล์ประสาทและเครือข่ายการเช่ือมโยง บางสว่ นทีไ่ ม่ได้ใช้งานท้ิงไป เพอ่ื ให้ประสิทธภิ าพการทำงานของสมองดีขน้ึ กระบวนการนีเ้ รยี กวา่ Pruning ถ้า ช่วงแหง่ การเรียนรู้นว้ี ัยรนุ่ หมกม่นุ หรือติดการพนนั จะสง่ ผลให้สมองสว่ นหน้าไมเ่ พิ่มเนอื้ สมอง สมองสว่ นหน้า จะไม่พฒั นาการอยา่ งถาวร และยังอาจถกู คดั ทิง้ เพราะไมไ่ ดใ้ ชง้ าน ส่งผลต่อระบบคิดและพฤติกรรมท่ีจะตดิ ตัว ไปตลอดชวี ิต โดยจะกลายเป็นผ้ใู หญท่ ี่ไมอ่ ดทนรอความสำเรจ็ จากการทำงาน แต่หวังได้เงนิ ง่าย ๆ และรวดเร็ว แนวทางการเล้ียงลูกยคุ ดจิ ิทัล 25

การพนันมีผลเปลี่ยนแปลงสมองได้อย่างชัดเจน ท้ังในระดับโครงสร้างและระดับการทำงาน ซ่ึงจะ รุนแรงมากขึ้นเม่ือเริม่ พนนั ตั้งแต่วยั เด็กและวัยรุ่น ส่งผลให้ขาดทักษะชวี ิต ความฉลาดทางสังคม รวมท้ังเพิ่ม ความเสีย่ งในการเกิดพฤตกิ รรมตอ่ ตา้ น การใชส้ ารเสพตดิ ลักขโมย และเกดิ โรคจิตเวชได้บอ่ ยและรนุ แรงกว่าผู้ ไมเ่ ลน่ พนัน หรือเร่มิ เลน่ พนนั ตอนเป็นผใู้ หญแ่ ลว้ ความเสยี หายของสมองที่สมั พนั ธ์กับการตดิ พนัน ดงั น้ี 1. ความสามารถในการตัดสินใจลดลง เพราะความสามารถในการประเมินผลทจ่ี ะตามมาในอนาคต บกพรอ่ ง และคาดเดาผลทางบวกผดิ พลาดได้อีกด้วย 2. ใช้เงินมือเติบ เพราะสมองส่วนหน้าที่ทำหน้าท่ีควบคุมตนเองและตัดสินใจอย่างรอบคอบน้ัน ทำงานบกพร่อง 3. เสย่ี งต่อพฤติกรรมลักขโมย ฉ้อฉล คอรัปชน่ั เม่ือโตข้ึน พบว่า หากเล่นพนันในวัยรนุ่ โตมามักจะ เล่นตอ่ และหากอยูใ่ นกลุม่ เพอื่ นไม่ดกี ็อาจจะถกู ชกั นำให้ลกั ขโมย หาเงนิ เลน่ พนัน 4. เสี่ยงต่อโรคจิตเวชและโรคติดสารเสพติดเพ่ิมขึ้น โดยเฉพาะรายที่เร่ิมเล่นตั้งแต่อายุยังน้อย ความบกพร่องของหน้าที่สมองหลาย ๆ สว่ นมีผลต่อความคิด พฤติกรรม อารมณ์ และมีโอกาส นำไปสู่อาการหรือโรคทางจิตเวชได้ เช่น โรคสมาธิส้ัน ซึมเศร้า สูบบุหร่ี ด่ืมสุรา และปัญหา สารเสพตดิ อนื่ ๆ รวมท้ังมพี ฤตกิ รรมต่อต้านแหกกฎ และพยายามฆ่าตาย โรคติดโทรศพั ทม์ อื ถอื พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบายคำว่า โนโมโฟเบีย (Nomophobia) หรือโรคติดโทรศัพท์มือถือ ว่า ในนยิ ามทางการแพทยน์ ้นั ไม่ใช่โรค แต่เป็นกลมุ่ อาการ อาการติดโทรศพั ทม์ ือถือ เป็นไปตามเทคโนโลยที เี่ ข้ามา ใหม่ ซง่ึ คำว่า “โนโม” เป็นคำที่ใชเ้ รียกแทน โน โมบายโฟน ส่วนคำว่า “โฟเบยี ” แปลวา่ กังวลอยา่ งมากตอ่ ส่ิง ใดส่ิงหน่ึงหรือกังวลมากเกินกว่าเหตุ จึงเรียกรวมกันเป็น “โนโมบายโฟนโฟเบีย” แต่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “โนโมโฟเบยี ” มาจากการทโี่ ทรศัพทม์ อื ถอื เขา้ มาเปน็ ส่วนหนึ่งของชีวติ ประจำวัน และเราเกิดความกงั วลใจว่า ถ้าไม่มีโทรศัพท์แล้วจะทำอย่างไร อาการแบบใดบ้างที่เข้าข่าย โนโมโฟเบีย หรือ อาการกลัวขาด โทรศัพท์มือถือ o พกโทรศัพท์ตดิ ตัวตลอดเวลา จะมีความกงั วลเมอื่ มอื ถอื ไมไ่ ด้อยูก่ ับตัว o เช็คโทรศัพท์ โซเชียลมเี ดีย หรือแอปพลเิ คช่ันตลอดเวลา ถงึ แม้จะไมม่ เี รอื่ งดว่ นก็ตาม o จับโทรศพั ท์ตลอดเวลาตัง้ แตต่ ่ืนจนถงึ ก่อนนอน o เมื่อหาโทรศัพท์ไม่เจอจะเครียด วติ กกังวลมากกวา่ หาของอย่างอ่ืนไม่เจอ o เล่นโทรศพั ทต์ ลอดเวลาในขณะท่ที ำกจิ กรรมอน่ื ๆ เช่น กินข้าว เขา้ หอ้ งน้ำ ขบั รถ o กลวั โทรศพั ทห์ ายแม้จะเกบ็ ไวใ้ นที่ปลอดภัยแล้ว คอยคลำกระเปา๋ ตลอดว่าโทรศัพท์ยังอยขู่ ้าง ๆ ตัว o ไม่เคยปดิ โทรศัพทม์ อื ถอื o เลน่ หรือคุยกบั คนในโทรศพั ทม์ ากกว่าคนรอบข้าง แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดจิ ทิ ัล 26

พญ.ทิพาวรรณ บูรณสนิ แพทย์ประจำสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุน่ ราชนครนิ ทร์ กล่าววา่ อาการ ติดโทรศัพทม์ ือถือจะส่งผลต่อการปฏิสัมพันธก์ ับคนรอบขา้ งและสังคม โดยเฉพาะด้านสุขภาพร่างกาย ซ่ึงจะ สง่ ผลให้มอี าการตา่ ง ๆ เหล่านี้ o นิว้ ล็อก เกดิ จากการใชน้ ว้ิ กด จ้ิม สไลด์ หน้าจอเปน็ ระยะเวลานาน o อาการทางสายตา เชน่ ตาลา้ ตาพรา่ ตาแหง้ เกิดจากเพง่ สายตาจอ้ งหน้าจอเลก็ ๆ ทม่ี แี สงจ้านาน เกินไป อาจส่งผลใหว้ ุ้นในตาเสอ่ื ม จอประสาทตาเส่อื ม o ปวดเมือ่ ยคอ บา่ ไหล่ จากการก้มหนา้ คอ้ มตัวลง ส่งผลใหเ้ ลอื ดไหลเวียนไม่สะดวก หากเล่นนาน อาจมีอาการปวดศีรษะตามมา รวมไปถงึ หมอนรองกระดูกเสอ่ื มสภาพก่อนวยั อันควร o โรคอว้ น แม้พฤตกิ รรมจะไมส่ ง่ ผลโดยตรง แต่การนัง่ ท้ังวันโดยไม่ลุกเดนิ ไปไหนเป็นปจั จัยเส่ียงที่ ทำให้เกิดโรคอ้วนและโรคเร้อื รังอนื่ ๆ ได้ การใชส้ อื่ สงั คมออนไลน์สู่การฆา่ ตัวตาย กรมสุขภาพจิต เผยวยั รุน่ ไทยฆ่าตวั ตายสำเร็จมากข้ึน ซึง่ มีสาเหตุมาจากปญั หาสขุ ภาพจิต และการใช้ สือ่ สังคมออนไลน์มากขน้ึ พร้อมแนะนำวา่ ควรปรึกษาเพอื่ น เพอื่ หาวิธแี ก้ปญั หา พญ.พรรณพิมล วิปุลากร เปิดเผยวา่ ช่วงปี 2550-2554 ประเทศไทยมีวัยรนุ่ ฆ่าตัวตายสำเรจ็ เฉล่ีย 170 คนต่อปี โดยในปี 2554 พบว่า วัยรนุ่ ไทยระหว่างอายุ 15-19 ปี มีอตั ราฆ่าตัวตายสำเร็จ อยู่ท่ี 3.43 ต่อ ประชากร 100,000 คน ส่วนมากเป็นผูช้ าย ซงึ่ ฆา่ ตัวตายด้วยวิธผี ูกคอตายมากท่ีสุด รอ้ ยละ 75.29 รองลงมา คอื การกนิ ยาฆา่ แมลง รอ้ ยละ 16.47 โดยมสี าเหตมุ าจากปัญหาสุขภาพจิต เชน่ ปญั หาการเรียน และสัมพันธภาพ ซง่ึ สญั ญาณเตอื นท่ีต้อง เฝา้ ระวัง ได้แก่ มีการส่ังเสีย หรือการเขียนจดหมายลาตาย การตัดพ้อตอ่ ว่า รสู้ ึกสิ้นหวัง หรือมปี ระวัติทำรา้ ย ตนเอง ซงึ่ วิธแี ก้ปัญหาทีด่ ีทสี่ ุด คือการเข้าถึงบรกิ ารสุขภาพจิตอยา่ งรวดเรว็ สำหรบั กรณีการใช้เทคโนโลยีหรอื เครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์ใหส้ ัญญาณการฆ่าตัวตาย พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ปจั จุบนั ทุกคนสามารถเข้าถึงสอื่ ออนไลน์ได้อยา่ งรวดเร็วและง่าย แต่ส่ือออนไลน์เปรียบเสมือนดาบ สองคมที่มีท้ังข้อดีและข้อเสีย คือเมื่อคนใช้ส่ือออนไลน์ จะทำให้ลืมสงั คมรอบตัว และขาดปฏิสัมพันธ์กับคน รอบข้าง ทำให้หลายคร้ังท่ีมีการประกาศฆ่าตัวตายผ่านส่ือออนไลน์ คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าผู้เขียนข้อความ เรียกรอ้ งความสนใจ และเปน็ เรอ่ื งไรส้ าระ ทำใหช้ ว่ ยเหลอื ไมท่ ัน นอกจากน้ี พญ.พรรณพิมล เสนอวธิ ีการแก้ปัญหาการฆ่าตวั ตายผา่ นส่ือออนไลน์ ดว้ ยการหยุดส่งต่อ ภาพซำ้ ๆ ในโลกออนไลน์ เพอ่ื หยุดการกระตุ้นอารมณ์และความรูส้ ึกของคนที่อยู่ในภาวะไมพ่ รอ้ มให้เกดิ การ ตัดสินใจเลียนแบบ รวมทั้งสรา้ งความสะเทอื นใจให้กับญาติผู้สูญเสีย พร้อมแนะว่าหากไม่สบายใจ วติ กกังวล หรือเครียดกับปญั หาชวี ิตควรหาเพ่ือนเพอื่ ปรึกษาพูดคยุ และชว่ ยกันคดิ แก้ไขปัญหา โดยไมค่ วรเกบ็ ไว้คนเดยี ว แนวทางการเล้ยี งลกู ยคุ ดจิ ทิ ัล 27

อย่างในกรณีที่มีการเผยแพร่เนื้อหาที่แสดงออกถึงความรุนแรง เช่น การทำร้ายตัวเอง ทำร้าย ผู้อื่น หรือการถ่ายทอดสดแสดงการฆ่าตัวตาย ส่งผลโดยตรงในเรื่องของการเรียนรู้ในสังคม โด ยเฉพาะ อิทธิพลที่มีต่อเด็กและวัยรุ่นที่ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีทักษะการแก้ไขปัญหาท่ีดีพอ อาจมีการเลียนแบบ พฤติกรรมได้ เนื่องจากคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด จึงไม่ควรส่งต่อหรือเผยแพร่เนื้อหาในลักษณะ ดังกล่าว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องของการฆ่าตัวตายก็ต้องมีปัจจัยหลายอย่างร่วมด้วย นอกเหนือจาก เลียนแบบพฤติกรรมตามเนื้อหาที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยปัญหาที่เกิดมากที่สุดมักเกิดกับ วัยรุ่นโดยเฉพาะ เนื่องจากความสามารถของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งช่ังใจยังพัฒนาได้ไม่ เท่ากับด้านของอารมณ์ ทำให้ขาดความส ามารถในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ในวัยรุ่นเองก็มี ความเครียดที่ค่อนข้างหลากหลาย เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลายด้าน ทั้งในด้านสรีระที่ เปล่ียนไป หรือในด้านความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นจากในวัยเด็ก รวมถึงเร่ืองเพ่ือนที่มีอิทธิพลต่อเด็ก วัยนี้ค่อนข้างมาก เร่ิมมีความรัก หรือมีความสนใจบางอย่างเป็นพิเศษ ส่งผลให้เกิดความเครียดและการ แสดงออกทางพฤติกรรมได้ และการใช้สื่อสังคมออนไลน์ก็มีส่วนต่อการแสดงออกทางพฤติกรรม ค่อนข้างมาก การดูแลเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์สำหรับเด็กวัยรุ่น คือ ผู้ปกครองควรเฝ้าสังเกตอยู่ ห่าง ๆ อาจใช้สื่อสังคมออนไลน์ร่วมกับเด็ก แต่ไม่ควรแสดงตัวตนมากนัก เนื่องจากการแสดงตัวมากไป อาจทำให้เด็กถอยหนี ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมที่ยากขึ้น คอยสังเกตดูว่าเด็กมีความสนใจในด้านไหน กดไลค์เนื้อหาประเภทใด และคอยให้คำแนะนำตามความเหมาะสม รวมถึงผู้ปกครองควรกำหนด เง่ือนไขการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็ก เพ่ือควบคุมปริมาณการใช้งานไม่ให้มากจนเกินไปและส่งผลเสีย ในท่ีสุด ในเรื่องของการถ่ายทอดสดฆ่าตัวตายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงการเผยแพร่ข้อความที่เป็น สัญญาณในการฆ่าตัวตาย ที่ปัจจุบันมีจำนวนเพ่ิมมากขึ้นท้ังในประเทศและต่างประเทศ จากผลสำรวจ พบว่ามีการฆ่าตัวตายสำเร็จเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ หรือไม่ และพบว่าคนที่มีพฤติกรรมเผยแพร่เนื้อหาทำนองน้ี อาจเกิดจากแรงจูงใจบางอย่าง เช่น การ ได้รับคอมเมนต์ หรือการได้รับการกดไลค์ รวมถึงผู้เผยแพร่อาจมีอาการทางจิตเวชอย่างอื่นร่วมด้วย จึงส่งผลให้มีพฤติกรรมการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม คนในครอบครัวมีบทบาทสำคัญท่ีสุด โดยการสอดส่องดูแลพฤติกรรมของบุตรหลาน สังเกตว่า นิสัยใจคอเปลี่ยนไปหรือไม่ มีอาการเก็บตัวหรือไม่ รวมถึงการเรียนถดถอยลงไหม ไปจนถึงพฤติกรรม การทานอาหาร การเข้านอน และท่ีสำคัญคือปริมาณการใช้สื่อออนไลน์ที่มากเกินไป ข้อแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพ่ือส่งผลด้านบวก พ่อแม่ผู้ปกครองควรช่วยเลือกส่ือ ที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก เหมาะสมกับการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัย และใช้ในปริมาณ เวลา แนวทางการเลีย้ งลกู ยคุ ดจิ ิทัล 28

ที่เหมาะสม ลดความสนใจหรือใส่ใจในทุกข้อมูล รวมไปถึงความร้สู กึ ที่อยากจะโพสต์สถานะตา่ ง ๆ ลงบนสื่อ โซเชียล เพราะการท่ีเราสนใจอย่างอน่ื มากจนเกินไป อาจทำให้เราละเลยที่จะสนใจตัวเองและการทำความ เข้าใจกับตัวเอง พยายามดูแลบุตรหลานไม่ให้ท้ิงความรับผิดชอบในภาระหน้าที่ต่าง ๆ อย่างการเรียน หรือการทำงานบ้าน อันเนื่องมาจากการเสพติดสื่อออนไลน์ ภาวะซึมเศร้าจากเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ไอที24ชั่วโมง (IT24Hrs.com) กล่าวถึงภาวะท่ีน่าสนใจและควรทำความรู้จัก เกี่ยวข้อง กับการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์และอาการทางจิตเวชเรียกว่า Facebook Depression Syndrome หรือภาวะซึมเศร้าจากเฟซบุ๊ก ซ่ึงจะมีลักษณะ ดังนี้ 1. มีความเข้าใจผิด สงสัยเก่ียวกับความเป็นจริงที่เป็นสุขของเพ่ือนๆ ในเฟซบุ๊กว่าจริงหรือไม่ 2. ตกเป็นเหย่ือทางอารมณ์ของกิจกรรมชีวิตประจำวันของผู้อ่ืน 3. มักเปรียบเทียบระดับคุณภาพชีวิตของตนเองกับเพื่อนๆ อยู่เสมอ 4. มักเปล่ียนรูปโปรไฟล์ของตนเองอยู่เสมอเพ่ือเรียกร้องความสนใจ เรียกยอดไลค์ 5. รู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อไม่สามารถอ่านข้อความข่าวสาร หรือสถานะของตัวเองในเฟซบุ๊ก ได้เหมือนท่ีทำเป็นปกติ 6. มักอัพเดทสถานะแบบดึงดูด หรือโพสต์บทความต่าง ๆ เช่น ขำขัน ข้อความแหลมคม วธิ ีรกั ษาและป้องกนั โรคซึมเศร้าจากเฟซบุ๊ก เรมิ่ ต้นจากการปรับพฤติกรรมการใชง้ านเฟซบุ๊ก หลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมเสยี่ งทจ่ี ะเชื่อมโยงกับกจิ กรรมเฟซบุ๊กท่ีอาจจะกอ่ ใหเ้ กดิ ภาวะซึมเศร้า ดังน้ี • หลีกเล่ียงการหลงใหลใน “ภาพพจน์ท่ีคนอ่ืนเสนอให้เราเห็น” เพราะใช่ว่าทุกคนจะมี ชีวติ ประจำวนั แบบทีโ่ พสต์ การลงอะไรในสื่อโซเชียลมักจะผา่ นการปรงุ แตง่ บดิ เบอื นออกมาให้ดูดีเสมอ • ลดความรู้สึกอิจฉาโดยการที่ไมส่ นใจ ไมส่ ังเกตชวี ติ ของคนอ่นื แนวทางการเลยี้ งลกู ยคุ ดิจทิ ัล 29

• พยายามหลกี เล่ยี งการยอมรบั คำเชิญจากเพ่อื นเก่าที่จะเป็นเพ่ือนในเฟซบกุ๊ • ลดการโพสต์ การอัปเดตสถานะ และการโต้ตอบกับเพอื่ นท่เี กินความจำเปน็ • ลดการเปรียบเทียบตวั เองกบั ผอู้ ่นื ในแง่ลบ เช่น “ทำไมคนนัน้ ชวี ิตดีจัง ไม่เหมอื นเราเลย” การล่อลวงเดก็ เพื่อวตั ถุประสงค์ทางเพศ (Online Grooming) คำวา่ Grooming หมายถงึ “การกระทำของผู้ใหญท่ ค่ี ่อย ๆ สรา้ งสานความสัมพันธห์ รือความรสู้ ึกดี ๆ เพื่อทำให้เด็ก ๆ เชื่อใจและไว้ใจ โดยมีจุดประสงค์เพ่ือหลอกลวง ล่วงละเมิดทางเพศ แสวงหาประโยชน์ ทางเพศ หรือการค้ามนุษย์” เหยื่อมักจะไม่ค่อยรู้ตัวว่ากำลังถูกหลอกและสิ่งที่เกิดข้ึนอยู่น้ีเป็นการละเมิด สว่ นใหญ่ ผู้ล่อลวง หรือ Groomer จะใช้ช่องทางสื่อโซเชียล SMS เกมออนไลน์ แอปพลิเคชน่ั เพื่อตดิ ตอ่ กับ เหยื่อ โดยคนเหล่านี้จะใช้เวลาในการติดตามสอดส่องโปรไฟล์ที่น่าสนใจเพื่อเก็บข้อมูลและใช้เป็นช่องทาง ในการเชื่อมความสัมพันธ์ บางครั้งอาจปลอมแปลงตัวตนให้เป็นเด็กด้วยกัน หรือสรา้ งบคุ ลิกลักษณะที่เหยื่อ จะสนใจ Groomer จะมองหาเดก็ ที่มคี วามม่นั ใจในตนเองต่ำหรอื ดูเปราะบาง ใจอ่อน อ่อนแอ จะส่งข้อความ ถึงเหย่ือและรอคอยการตอบกลับ เหยื่อท่ีถูกล่อลวงนั้นจะถูกนำไปแสวงหาประโยชน์ทางเพศด้วยการ เกล้ียกล่อมหรือโน้มน้าวใจให้เข้าร่วมกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมีเพิ่มมากข้ึน มากกว่าการล่วง ละเมิดเหยื่อโดยตรง การ Grooming เดก็ มีข้ันตอนเรม่ิ จากการเลือกเหยื่อ เช่น เดก็ ที่มักเกบ็ ตัว มีปมดอ้ ย แปลกแยก ขาด ความรักความอบอุ่น หรือเด็กที่พ่อแม่ทอดท้ิงให้อยู่ลำพัง Groomer จะเข้ามาทำความรู้จัก สร้างสัมพันธ์ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ โดยเตมิ เตม็ สิ่งที่ขาดหายให้เด็ก เช่น ให้เงิน ให้สงิ่ ของทเี่ ดก็ อยากได้ ให้ความรกั ความ อบอุ่น เม่อื สบโอกาสก็จะพยายามแยกเด็กออกไป เปน็ ต้นว่า พาไปเท่ียว พาไปท่ีพกั ของตนเอง เตรียมเดก็ ให้ พรอ้ มกับการล่วงละเมิดทางเพศ เช่น ให้ดูส่ือลามกอนาจารเด็ก เพ่ือชวนเชื่อว่าเด็ก ๆ กท็ ำแบบนี้กัน เมื่อมี เพศสัมพันธ์กับเด็กแล้ว ก็จะพยายามรักษาสัมพันธ์น้ันไว้โดยการให้สิ่งตอบแทนท่ีเด็กต้องการต่อไปเรื่อย ๆ หรือขม่ ขไู่ มใ่ ห้บอกพ่อแมห่ รอื ใครอื่น เด็กจะกลัวถกู ลงโทษหรอื กลัวสญู เสียสิง่ ทีเ่ คยได้รับจึงยอมทำตามแตโ่ ดย ดี Groomer มักจะถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอการละเมิดเด็กเอาไว้ด้วย เพ่ือเอาไว้ข่มขู่แบล็กเมลหรือซ้ือขาย แนวทางการเลีย้ งลูกยคุ ดจิ ทิ ัล 30

แลกเปล่ียนในวงผู้ท่ีมีรสนิยมทางเพศกับเด็กด้วยกัน อาจโน้มน้าวชักจูง ล่อลวง หรือพาเด็กไปให้บุคคลอ่ืน กระทำทางเพศโดยตนเองได้รับประโยชนด์ ว้ ย ซ่งึ ถอื เป็นการค้ามนุษย์ Grooming เป็นการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก (Child Sexual Exploitation หรือ CSE) รูปแบบหนึ่ง เด็กที่ตกเป็นเปา้ จะได้รับส่ิงตอบแทน เช่น ของขวัญ เงนิ หรอื ความรู้สึกดี ๆ ความรักใครเ่ สน่หา ความเป็นมิตร อันเป็นผลใหเ้ ด็กยินยอมท่ีจะมีเพศสัมพันธ์หรือร่วมในกจิ กรรมทางเพศต่าง ๆ กับ Groomer เด็กหรือวัยร่นุ มักจะติดกบั กลอุบายตา่ ง ๆ โดยหลงเชอื่ วา่ เปน็ ความรัก จนยอมมีความสัมพนั ธด์ ้วย หากเดก็ ๆ กำลังตกอย่ใู นสถานการณ์นี้จะมีสัญญาณบง่ ชี้ ได้แก่ o เก็บตัว มคี วามลับ หรอื มลี ับลมคมในมากข้นึ พฤตกิ รรมออนไลน์ตา่ ง ๆ กด็ นู ่าสงสยั ขึ้นด้วย o มแี ฟนที่อายมุ ากกวา่ หรือเป็นคนแก่ o ไปพบเพ่ือนในสถานที่ท่ผี ดิ ปกติ o มขี องใหม่ ๆ เชน่ เสอื้ ผา้ โทรศพั ท์ ของใช้ฟ่มุ เฟือย และไมส่ ามารถอธบิ ายทมี่ าได้ o เร่ิมลองด่ืมแอลกอฮอล์ สบู บุหร่ี หรือมีการใช้ยาเสพติด o ในวัยรุ่นอาจมีพฤติกรรมท่ีเปล่ียนไป แตกตา่ งจากเพ่ือนวยั เดียวกัน และไมส่ ามารถอธิบายถึง การเปลยี่ นแปลงนไี้ ด้ เช่น พฤติกรรมทางเพศท่ีไม่เหมาะสม ไม่ถกู กาลเทศะ พอ่ แมผ่ ู้ปกครองควรหม่ันสังเกตสัญญาณบ่งชีด้ ังกล่าว เด็กอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังถกู Grooming หรือไม่ อยากบอก เนื่องจากถูกบังคับข่มขู่จาก Groomer หรือกลัวว่าจะสูญเสียความรักหรือข้าวของเงินทองและ ความสะดวกสบายที่ได้รบั ทางบ้านจงึ ตอ้ งสร้างความเชื่อมน่ั ใหเ้ ด็กว่าเขาคอื เหยื่อท่ีกำลังถูกหลอก ถูกแสวงหา ประโยชน์ทางเพศ และจะได้รบั การช่วยเหลือ ปกป้องช่อื เสียง จะไม่มีความผิดหากร่วมมือเพื่อดำเนินคดีกับ Groomer เพื่อไม่ให้ไปกระทำกับเด็กคนอื่น ๆ อีกต่อไป การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก การผลิต เผยแพร่ ทำการค้าส่อื ลามกอนาจาร การกระทำอนาจารและการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก การค้า มนุษย์ ล้วนเป็นความผิดตามกฎหมายไทย พยานหลกั ฐานท่ีควรรวบรวมสง่ แจง้ เจ้าหน้าที่ทดี่ ูแลคดอี าชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แก่ ช่ือ email account หรือ Facebook ID หรือ Line ID ของ Groomer ข้อความพูดคุยสนทนาที่แสดงถึงกระบวนการ สร้างสัมพันธ์และความไว้วางใจเพื่อหวังละเมิดทางเพศเด็ก ข้อความพูดคยุ เร่อื งเพศหรือส่ือลามกอนาจารที่ ส่งให้เดก็ ดู หลกั ฐานการโอนเงนิ ต่าง ๆ แนวทางการเล้ียงลกู ยุคดจิ ิทัล 31

การแบลก็ เมลทางเพศ (Sextortion) เด็กอาจถูกล่อลวงไปละเมิดทางเพศจริง ๆ หรือถูกโน้มน้าวชักจูงหรือล่อลวงให้แสดงโชว์ลามกผ่าน กล้องแล้วถกู บนั ทกึ ภาพวดิ โี อเอาไวข้ ม่ ขู่เรยี กเงนิ นำไปเผยแพร่ ประจานให้เส่ือมเสียชือ่ เสยี ง หรือถูกนำไปขาย ทำเงินบนอินเทอร์เน็ต ซ่ึงภาพหรอื คลิปวิดีโอนั้นก็จะถูกนำมาใช้ข่มขู่เด็กให้ยินยอมในครั้งต่อ ๆ ไป ในกรณีท่ี เด็กถกู ล่อลวงชักจูงไปจรงิ ๆ อาจจะกลายเป็นการผลักดนั เขา้ ส่วู งการโสเภณเี ด็กหรือธุรกจิ ค้ากามเดก็ ตอ่ ไปได้ กรณีท่ีพบบ่อยในระยะหลังนี้ ได้แก่การ “แลกกล้อง” หมายถึงการถ่ายทอดสดพฤติกรรมทางเพศ ระหว่างสองฝา่ ย เดก็ จะถูกโนม้ นา้ วชกั จูงหรือล่อลวงใหก้ ระทำพฤตกิ รรมทางเพศ กระทำตอ่ ตนเอง กระทำกับ ผอู้ นื่ หรือถกู กระทำ โดยฝ่ายทเี่ ป็นเหย่ือไม่รตู้ ัววา่ กำลังถกู อีกฝา่ ยหนง่ึ ซึ่งเปน็ กลมุ่ มิจฉาชีพอัดคลิปวิดีโอเอาไว้ ข่มขู่เรียกเงิน เอาคลิปวิดีโอไปขายในกลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็ก หรือปล่อยขายทำกำไรบนเว็บไซต์ สือ่ ลามกอนาจารทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ เด็กหลายคนที่ตกเป็นเหยอ่ื จะมีความเครียด หดหู่ ด้วยกลัวว่าคลิปจะแพรก่ ระจายออกไปทำให้ไดร้ ับ ความอับอาย เสียหาย ส่งผลกระทบต่อการเรียน หน้าที่การงาน ครอบครัว และสถานะทางสังคม บางราย ซึมเศร้าจนถึงอยากฆ่าตัวตาย ด้วยทนรับส่ิงท่ีเกิดขึ้นไม่ได้ เพียงเพราะไว้ใจเพื่อนออนไลน์ บางคร้ังเด็ก พล้ังเผลอไปเพราะคนท่ีขอภาพลับน้ันคอื คนรักคนรู้ใจหรือแฟนกันนั่นเอง ด้วยรกั กนั ไว้ใจกนั อยากทำอะไร พิเศษ ๆ ให้กัน หรือคิดว่าจะสนุกด้วยกันแค่น้ัน แต่เม่ือเลิกกันแล้วหรือโทรศัพท์มือถือหาย ภาพหรือคลิปท่ี บันทึกไวก้ ็จะหลดุ เผยแพร่ไปทำใหไ้ ดร้ บั ผลกระทบ อาจมีคนตดิ ตอ่ ขอซื้อบริการทางเพศ หรอื ตกเปน็ เหยื่อของ การแบล็กเมลทางเพศและการละเมดิ ซำ้ ไม่สนิ้ สดุ สง่ิ ทถ่ี ูกโพสต์บนอินเทอร์เน็ตจะคงอยู่ตลอดไป แม้คลิปจะถกู ลบออกไปจากเว็บไซต์หน่ึงแล้ว แต่ก็อาจถูก upload หรือ share กลับมาได้อีกโดยคนท่ี save เก็บไว้แล้ว ดงั น้ัน การป้องกันตัวเป็นสิ่งท่ีดีท่สี ุด คือ อย่าไว้ใจเพ่ือนออนไลน์ อย่าถ่ายหรืออย่าให้ใครถ่ายภาพหรือวดิ ีโอ ส่วนตัวเป็นอนั ขาด พอ่ แม่ผปู้ กครองควรเตอื นบุตรหลานให้ “รกั ตัวเอง” อยา่ ไวใ้ จเพื่อน แฟน หรอื โทรศพั ทม์ อื ถอื เพราะ ไม่มอี ะไรรับประกันไดเ้ ลยว่าภาพที่ถา่ ยไปนั้นจะเปน็ ความลบั ตลอดไป วนั ท่ีเลิกรักกัน ภาพลับ อาจ ไม่ลบั อีก ตอ่ ไป โทรศัพทม์ ือถือทใี่ ช้ติดตวั เปน็ ประจำ วนั หนง่ึ ก็ตอ้ งขาย ซ่อม หรอื ทงิ้ สูญหาย ตอ้ งเปลย่ี นเครอื่ งใหม่ เคย สงสัยหรือไม่ว่าภาพถ่ายในนั้นจะไปไหนได้บ้าง ทราบหรือไม่ว่าการกดลบทิ้งภาพ ยังมีคนสามารถนำภาพ กลับมาได้ ดงั น้นั อยา่ ถา่ ยภาพลบั ไว้จะปลอดภัยที่สุด แนวทางการเลี้ยงลกู ยุคดจิ ิทัล 32

เม่อื คลิปหลุดแพร่กระจายไปแล้ว ควรทำอย่างไร 1. รวบรวมหลักฐาน เช่น ชื่อ หรือช่ือบัญชีเฟซบุ๊ก ไลน์ไอดี ของคนร้าย ข้อความการพูดคุยท่ี แสดงให้เห็นว่ามีการโน้มน้าวชักจูง ล่อลวง ขู่กรรโชก การหลอกต่าง ๆ เลขบัญชีการโอนเงิน หมายเลข โทรศัพท์ ภาพหรือคลปิ ที่รับ-สง่ กัน เพื่อแจ้งเจ้าหนา้ ท่ีตำรวจที่สถานีตำรวจ และ กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผดิ เก่ียวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) หรอื คณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิด ทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) หรือ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี (หน่วยงานใหม)่ เพอื่ ให้เข้ามาชว่ ยเหลือโดยเร็วทส่ี ดุ 2. อย่าเชื่อคำขู่โดยยอมจา่ ยเงนิ หรือทำตามขอ้ เสนอ เชน่ นัดไปเจอกัน หรือถ่ายภาพสง่ ใหอ้ ีก 3. ควร block การตดิ ตอ่ เพอ่ื ไมใ่ ห้โดนขซู่ ้ำซาก ไม่รับ/ไมค่ ยุ กบั คนแปลกหนา้ ในชว่ งนัน้ แนวทางการเล้ียงลูกยคุ ดจิ ทิ ัล 33

4. ทำจิตใจใหเ้ ขม้ แข็ง แจ้งลบภาพหรือคลิปที่หลุดไป แต่ต้องทำใจด้วยว่ามันอาจจะกลับข้ึนมา ไดอ้ ีก โดยคนท่ี save เกบ็ ไว้แล้ว 5. พยายามใช้ชีวิตตอ่ ไปให้ได้ ต้องเขม้ แข็ง อดทน ผิดเป็นครู ไมผ่ ดิ ซ้ำอีก แนวทางการเล้ยี งลูกยคุ ดิจทิ ัล 34

การเขา้ ถงึ สอื่ ลามกอนาจารและทารณุ กรรมทางเพศ บนอินเทอร์เน็ต เด็กมโี อกาสมากที่จะเข้าถงึ เน้ือหาท่ีผิดกฎหมาย/อันตราย ทง้ั โดยตั้งใจและไม่ต้ังใจ เช่น การสืบค้นข้อมูล ผลกระทบทางสุขภาพของเด็กและเยาวชน จากการเข้าถึงสื่อลามกอนาจารและถูก ทารุณกรรมทางเพศออนไลน์ มีดังนี้ o ผลกระทบต่อสุขภาพจิต เด็กอาจแสดงพฤติกรรมถดถอย ย้อนวัย เช่น ดูดน้ิวหัวแม่มือ อึฉี่รดที่ นอน อาการท่ีชัดเจนทส่ี ุดของการถูกทารณุ กรรมทางเพศคือการเลน่ เลียนแบบทางเพศ และการมีความรูค้ วาม สนใจทางเพศที่ไมส่ มควรกับวัย เดก็ อาจไม่สนใจไปโรงเรียนหรือเล่นกับเพอ่ื น มีปัญหาดา้ นการเรียน รวมท้ัง โรคสมาธิส้ัน อันธพาล เกเร ในช่วงวยั รุ่นอาจมกี ารตั้งครรภ์และพฤติกรรมทางเพศสุ่มเสี่ยง เหยอื่ ทารุณกรรม แจง้ การทำร้ายตัวเองเกอื บ 4 เท่าของปกติ o ผลกระทบต่อสุขภาพกาย เด็กทถ่ี ูกทารุณกรรม มกี ระบวนการคิดผิดปกติ ไม่สามารถคิดเป็นเหตุ เปน็ ผล ไม่ยอมรับเหตผุ ลใด ๆ ผูใ้ หญ่ทถี่ ูกทารณุ กรรมในวยั เด็ก ทำให้ขาดความมนั่ คงในจิตใจ หวาดระแวงว่า ผ้อู ืน่ คิดร้าย การกลัน่ แกลง้ ระรานทางไซเบอร์ (Cyber bullying) หมายถึง การใชส้ ื่อออนไลน์กลนั่ แกลง้ รงั แกคนอน่ื เช่น การโพสตข์ อ้ ความ รปู ภาพ หรอื คลิปวิดีโอเพือ่ ดา่ ทอ ใหร้ า้ ย แฉ ประจาน สร้างความเสียหาย ทำให้อับอาย กดี กันออกจากกลมุ่ เพื่อนหรือสังคม การตอบโต้ กันไปมา การแชร์ต่อ การที่มีคนอื่นมาผสมโรงด้วยความสนุกสะใจ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมเหยื่อ Cyber bullying มีเจตนาท่ีม่งุ รา้ ยใหอ้ บั อาย เจบ็ ใจ เสียใจ เปน็ การกระทำซำ้ ๆ ไม่ใช่คร้งั เดียวแล้วเลกิ นพ.ชาญวิทย์ พรนภดล หัวหน้าสาขาวิชาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะ แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า “เพ่ือน” เป็นกลุ่มท่ีมีอิทธิพลมากท่ีสุดต่อเด็กวัยรุ่นตอนต้น (early adolescence) อายุระหว่าง 13-15 ปี โดยเฉพาะเด็กนักเรียนช้ัน ม.ต้น ที่ตอ้ งการการยอมรับจากกลุ่มเพอื่ น (peer acceptance) และเริม่ ออกห่างจากพ่อแม่ เม่ือเด็กถูกกลน่ั แกล้งและไม่ได้รับการยอมรบั จากเพื่อนฝูง เดก็ จะมอี าการโดดเด่ียว แยกตวั ออกสังคม เร่มิ ไม่อยากไปโรงเรียน โดดเรยี น หนเี รยี น ขาดสมาธิ ผลการเรยี น ตกลง มีอาการซึมเศร้า ใช้สารเสพตดิ และอาจถึงขั้นทำรา้ ยตัวเองหรอื ฆ่าตวั ตายได้ พ่อแมผ่ ู้ปกครองจึงควรให้ การดูแลเอาใจใส่เดก็ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเป็นพิเศษ โดยสังเกตจากอาการที่จะเกิดจากการถูกกลั่นแกลง้ เช่น อาการซึมเศร้า พูดน้อยลง แยกตัว เก็บตัว ผลการเรียนตก ไม่อยากไปโรงเรียน ควรเสริมสร้างความรู้สึก มีคุณค่าในตัวเอง (self-esteem) ให้กับเด็ก ด้วยพลังแห่งความรัก ความอบอุ่นของครอบครัวนั้นเป็นปัจจัย สำคญั ยิ่ง เดก็ หลายคนทโ่ี ดนกลัน่ แกล้งระรานมักไม่กลา้ บอกพ่อแม่หรือครู เพราะกลัวจะถูกซ้ำเตมิ สมน้ำหน้า หรือไม่ไดร้ บั ความสนใจเพราะผใู้ หญอ่ าจมองว่าเปน็ เรอ่ื งของเดก็ หยอกลอ้ กันไปมาไม่นานกเ็ ลกิ แต่ในความเป็น แนวทางการเลีย้ งลูกยุคดิจทิ ัล 35

จริงแล้วผลท่ีเกิดข้ึนร้ายแรงกว่าที่คิด บางครง้ั เด็กกลัวพ่อแม่ริบโทรศัพท์มือถือ ห้ามใช้อินเทอร์เน็ต จึงเก็บ ปญั หานั้นไว้คนเดียว ทำใหเ้ กิดความกังวล เครียด ปิดตัวเองมากยง่ิ ข้ึน จนอาจเป็นโรคซึมเศร้า หดหู่ ไม่อยาก อยหู่ รือไมอ่ ยากมชี วี ิตอีกต่อไป พ่อแมจ่ ึงควรทำใจเยน็ ๆ รับฟังดว้ ยเหตุผล ไม่ใชอ้ ารมณ์ บอกลูกวา่ ส่ิงทเ่ี กดิ ข้ึนน้ันไม่ใชค่ วามผดิ ของ เขา ให้ลูกเข้มแข็ง อดทน อย่าไปให้ความสนใจมากเพราะยง่ิ ทำให้คนแกลง้ สนุกและทำต่อไปเรอื่ ย ๆ ช่วยลูก แก้ไขปัญหา เช่น block เพื่อนท่ีแกล้ง ลบข้อความหรือภาพที่โดนตัดต่อ ขอความช่วยเหลือจากครูหรือ เจ้าหน้าท่ีเพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดข้ึนอีก ก่อนหยิบย่ืนโทรศัพท์มือถือให้ลูกก็ต้องสอนให้เข้าใจว่ามีภัยอันตราย อะไรบ้างบนโลกไซเบอร์ เช่น การรับเพื่อนใหม่ การพูดคุยกับเพื่อน การโพสต์ข้อมูลหรือภาพส่วนตัวมาก เกนิ ไป ควรสอนใหล้ ูกรู้จกั การต้ังค่าความปลอดภัยในการใช้สือ่ โซเชียลมีเดีย เช่น ใน Facebook สามารถตั้ง ค่าไดว้ า่ จะให้ใครมาโพสต์อะไรบนพื้นท่ขี องเรา หรอื จะให้ใครเหน็ โพสต์ของเราไดบ้ า้ ง ในโรงเรียน ครคู วรสอน ทกั ษะรูเ้ ทา่ ทนั ส่ือใหเ้ ดก็ ๆ เลือกเชือ่ เลือกแชร์ข่าวสารข้อมูลที่รบั มา ตอ้ งฉุกคิดเสียก่อนวา่ หากไม่ใช่เร่อื งจริง แล้วส่งตอ่ กันไปจะเปน็ การให้ร้ายหรอื ละเมดิ ซำ้ เหยือ่ หรอื ไม่ ในส่วนของผูใ้ ห้บริการเวบ็ ไซต์หรอื โซเชยี ลมีเดีย ควรมกี ฎกตกิ าเพอ่ื ต่อต้านการกลนั่ แกลง้ รังแกกันบน พ้ืนท่ใี หบ้ ริการของตน โดยประกาศชดั เจนว่าห้ามทำและมมี าตรการดำเนินการกบั ผฝู้ า่ ฝนื ควรมีปมุ่ รับแจง้ หรอื รายงานกรณีถูกกลั่นแกล้งระรานเพอ่ื ให้เดก็ ขอความช่วยเหลือในการลบเน้ือหาที่ทำให้อับอายหรอื เส่ือมเสีย จดั เจา้ หนา้ ทค่ี อยให้คำปรกึ ษาแนะนำ ช่วยเหลือเยยี วยาจิตใจและความเสยี หายของเหยอื่ ประสานส่งต่อไปยัง สถานพยาบาล กรณีการกล่นั แกล้งระรานท่ีผิดกฎหมายจะต้องดำเนินคดกี ับผู้กระทำความผดิ ซึ่งผู้ใหบ้ ริการ เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียจะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายหรือหน่วยงานอ่ืน ๆ ตามความจำเปน็ ความรนุ แรงในสอื่ อีกหนึง่ ปญั หาทีเ่ หน็ เดน่ ชดั ไดแ้ ก่ ความรุนแรงในสื่อ เน่ืองจาก ความรุนแรงในครอบครัว ความรนุ แรง ในโรงเรียน ความรุนแรงในสงั คม สามารถถกู นำมาขยายซ้ำบนส่ือ โดยเฉพาะส่อื สังคมออนไลน์น้ันทำได้โดย การถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอแล้วส่งต่อ การโพสต์เรื่องราว ข้อความย่วั ยุปลุกปั่น การแสดงอารมณ์ การที่มีผู้ มารว่ มแสดงความคดิ เหน็ ในทางก้าวร้าว รุนแรง จาบจ้วงลว่ งละเมดิ ทำให้เรอ่ื งลกุ ลามบานปลาย คนท่ีไม่รู้จัก กนั บนโลกออนไลนก์ ลบั สรา้ งความเจบ็ ชำ้ ใหก้ ับเหยอื่ และครอบครวั แบบเท่าทวีคูณ ข่าวสารที่เก่ียวขอ้ งกับเด็ก ได้รับความสนใจจากส่ือมวลชนวชิ าชพี สื่อพลเมอื ง สอ่ื สมัครเล่น รวมถึง ประชาชนทั่วไป ในการนำเสนอผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะทางออนไลน์นั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก นอกจากจะเป็นประโยชนเ์ พ่อื การแจ้งข่าวสาร เตอื นภัย ใหค้ วามรู้ หรือระดมสรรพกำลังความคิดเหน็ เพ่อื การ ป้องกันแก้ไขปัญหาหรือเปล่ียนแปลงสังคมแล้ว บ่อยคร้ังจะทิ้งปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตวั เด็กและ แนวทางการเล้ยี งลูกยุคดิจิทัล 36

ครอบครัวไว้ภายหลังเสมอ เช่น การละเมิดอัตลักษณ์ ข้อมูลและความเป็นส่วนตัว การเปิดเผยความลบั และ ความเป็นอยู่อย่างสงบของเด็กและครอบครัว การกระทำซ้ำเติม ข่มเหงจิตใจ และความรู้สึกทุกข์เศร้า หวาดกลวั การเปดิ พ้ืนทส่ี าธารณะแสดงความคิดเหน็ จนนำไปส่กู ารเปิดเผยขอ้ มลู ส่วนตัวท่ีมากขึน้ การวิจารณ์ เด็กในทางเสียหาย การบิดเบือนข้อมูล ฯลฯ เหล่านี้ได้กลายมาเป็นปัญหาสำคัญของการนำเสนอข่าวท่ี เก่ยี วขอ้ งกับเด็ก ทุกภาคส่วนจึงควรจะต้องแสดงบทบาทเพ่ือลดผลกระทบและบรรเทาปัญหาที่เกิดข้ึน โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ส่ือมวลชน ผู้ทำหน้าที่ส่ือข่าว และประชาชนท่ัวไปท่ีสามารถโพสต์ แชร์ แสดงความเห็น ฯลฯ ก็ จะต้องมีหลักในการนำเสนอขา่ วสารโดยไมล่ ะเมิดสิทธเิ ดก็ คำนึงถงึ ประโยชน์สงู สดุ ของเด็กเปน็ สำคญั หลักปฏิบัติพ้ืนฐานในการนำเสนอข่าวเก่ียวกับเด็ก ได้แก่ การไม่เปิดเผยอัตลักษณ์ตัวตนของเด็ก เพราะอาจทำให้เด็กได้รับอันตราย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ถูกตีตรา กล่ันแกล้ง ล้อเลียน ฯลฯ ไม่ทำกราฟฟิก จำลองสถานการณ์หรอื เขียนข่าวลงในรายละเอียดจนเกนิ ไป เช่น ฉากการขม่ ขืนกระทำชำเรา การทารุณกรรม ทางร่างกาย ข้อความสนทนาล่อลวงเดก็ ฯลฯ เพราะอาจไม่ไดเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ สังคม แตเ่ ปน็ การทำรา้ ยซำ้ เด็ก และครอบครัว ทัง้ อาจทำให้เกิดการเลียนแบบ ไม่ควรเปิดให้มีการวิพากษ์วจิ ารณท์ ้ายขา่ ว เพราะอาจจะสรา้ ง ความบอบช้ำเพ่มิ ขึ้นให้เด็ก หรือทำให้เด็กตกอยใู่ นอันตราย ห้ามไมใ่ ห้เข้าถึงตัวเด็กโดยตรง เพราะอาจมกี าร ละเมิดเด็กหรือทำให้เสียรปู คดี เป็นตน้ พ่อแมผ่ ู้ปกครองควรอยู่กับเด็กและปกปอ้ งคมุ้ ครองเด็ก ทงั้ มีสิทธทิ ่จี ะ รอ้ งขอใหม้ ีนักสงั คมสงเคราะหห์ รอื จติ แพทย์อย่ดู ว้ ยในเวลาสอบสวนทางคดี สื่อกับความเครียดและความขัดแยง้ ในสถานการณ์การเมือง อาจมีความเห็นไม่ตรงกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว การเกาะติดขา่ วสาร ความเคลอ่ื นไหวทางการเมอื งในสอื่ โซเชยี ลมีเดีย แล้วนำมาถกกนั บนโตะ๊ อาหาร อาจนำมาซึง่ ความเครยี ดและ ความขัดแย้ง เนื่องจากต่างคนต่างก็มีแหล่งข่าวข้อมูลหรือการเสพสื่อเจาะลึกแตกต่างกันไป ข่าวสารข้อมูล บางอย่างต้องการการตรวจสอบก่อนเชื่อและแชร์ ตัวอย่างท่ีเห็นเด่นชัด ในช่วงที่มีกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องการการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ทำให้บางครอบครัวอาจมีปัญหา ขัดแย้ง พ่อแม่มองลูกว่าถูกชักจูง เช่ือคนง่าย ไร้สติ ส่วนลูกก็มองว่าพ่อแม่ล้าหลัง ไม่ทันโลก ฯลฯ กรณีน้ี พญ.จริ าภรณ์ อรุณากูร หรอื \"หมอโอ๋\" กุมารแพทย์เวชศาสตรว์ ัยร่นุ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ดี เจา้ ของเฟซบุ๊กแฟนเพจ “เลย้ี งลกู นอกบ้าน” ไดใ้ ห้คำแนะนำไว้อย่างนา่ สนใจ คุณหมอบอกว่า ให้ดีใจที่ลกู มองวา่ \"การเมืองเป็นเร่ืองของทกุ คน\" ประเทศจะไมพ่ ัฒนาด้วยวัยรุ่นที่ มองแต่ปัญหาของตัวเอง หลีกเล่ียงการใช้คำพูดตัดสิน ดูถูก บั่นทอนคุณค่า \"โง่\" \"อุตส่าหเ์ รยี นสูง\" \"ให้เคา้ จูง จมูก\" เพราะน่ันไม่ได้ทำให้เกิดการสื่อสารท่ีสร้างสันติ แต่ให้ \"รับฟัง\" แบบเปิดใจไม่รีบตัดสิน ลูกรู้สึกอะไร อดึ อัดอะไร มีความต้องการอะไร ให้คณุ ค่ากับอะไร ทำไมถึงคิดหรือเช่ือสิ่งนั้น ฟัง... ดว้ ยความต้องการท่ีจะ เข้าใจ ไม่ใชฟ่ ังเพื่อสง่ั สอน เคารพการให้ \"คุณค่า\" ในสิ่งท่ีแตกต่าง เพราะสมัยพ่อแม่อาจให้คุณค่าเรื่องการไม่ แนวทางการเล้ยี งลกู ยคุ ดจิ ทิ ัล 37

ตั้งคำถามกับคนที่เคารพหรือมีอำนาจ ส่วนเด็กสมัยนี้ให้คุณค่ากับสิทธิความเป็นมนุษย์ ความยุติธรรมและ ความเท่าเทียม ควรต้ังคำถามกับส่ิงที่ลกู ให้คณุ ค่า บอกลกู ถึงสิ่งทเ่ี ราให้คุณคา่ และท่ีมาของความเชื่อน้ัน และ สอนลกู ต้ังคำถามกบั ส่งิ ทีล่ ูกเชือ่ หรือถูกบอกมา อันไหนจริง เพราะอะไรถึงเชื่อสิง่ นั้น ช่วยลูกฝึกการวิเคราะห์ แยกแยะ ส่ิงที่ควรสอนลูกคือเร่ือง การเรียกร้องสิทธิ ไม่ควรกระทำโดยการละเมิดสิทธิของผู้อ่ืน การใช้ hate speech หรือถ้อยคำสร้างความเกลยี ดชัง การสรา้ งภาพเลวร้ายใหต้ ัวบุคคล อาจไม่นำไปสกู่ ารสรา้ งความเขา้ ใจ ในส่ิงทตี่ นต้องการ อธิบายลูกว่าความรกั ความศรัทธาของคนหลายคน อาจไมต่ ้องมีเหตุผล แต่เป็นเรอ่ื งท่ีเรา ควรใหค้ ุณคา่ อย่าทำลายหรอื ดูถูกความศรัทธาของผูอ้ ืน่ การที่วัยรนุ่ ลงมือลงแรงเรียกรอ้ งการเปล่ียนแปลงกบั ส่งิ ที่เชอ่ื มน่ั น่ันคือพลงั งานของวัยหนมุ่ สาว ท่เี ราควรรักษาไว้ สำหรบั คนทเ่ี กาะตดิ ขา่ วสารการเมืองหรอื เร่อื งอืน่ ๆ ทางสื่อโซเชยี ลมเี ดยี แลว้ เกิดความเครยี ด อึดอดั หรือไม่สบายใจ ควรงดใช้ส่ือหรืองดติดตามข่าวสารน้ัน ๆ เป็นการช่ัวคราว นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานต์ิ ท่ีปรกึ ษากรมสุขภาพจิต แนะนำว่า การรบั รู้ขา่ วสารต้องรับร้อู ยา่ งพอดี ไม่ควรเกิน 2 ชม.ตอ่ วัน และแบง่ เวลา ครึ่งหน่ึงรับรู้ขา่ วสารจากสือ่ ที่เป็นกลาง ไม่สุดขั้วจนเกินไป ช่วยทำให้เราไม่รู้สึกมีอารมณ์มาก เข้าใจอีกฝ่าย และมีทางออก ขอ้ มูลอะไรท่ไี ด้อา่ น ได้ยนิ แล้วทำใหร้ สู้ ึกโกรธ เสยี ใจ กลัว ก็กลบั มาดูแลใจตวั เองกันนะคะ สงั คมไม่ม่ันคง ย่ิงตอ้ งการใจท่ีมน่ั คง #ปา้ หมอขอขยาย (พญ.วนดิ า เปาอินทร)์ นพ.ยงยุทธ ยังได้ให้ขอ้ คิดเร่ืองสังคมไทยต้องช่วยกันไม่ให้เกิดความรุนแรง เพราะความแตกตา่ งทาง ความคดิ ไม่ได้เป็นความชั่วหรือเลว ความเหน็ ท่แี ตกต่างควรถือเป็นสินทรัพย์ของสังคมและทางออกส่วนใหญ่ ก็อยู่ระหว่าง 2 ข้ัวความคิด สำหรับหลักทางจิตวิทยาที่สำคัญท่ีจะลดการสร้างความเกลียดคือ หลัก 2 ไม่ 1 เตอื น 1 ไม่ คอื ไม่ผลติ ข้อความที่สร้างความเกลยี ดชงั 2 ไม่ คอื ไมส่ ่งต่อ ขอ้ ความที่สรา้ งความเกลียดชังที่จะยิ่งทวีความรูส้ กึ รนุ แรงมากขึ้น 1 เตอื น คือ เตอื นดว้ ยความหวงั ดีและสุภาพ เพราะการเตือนทำให้บคุ คลเกดิ ความยบั ยง้ั ชัง่ ใจมากขึ้น โดยเฉพาะคนท่อี ยใู่ นกลมุ่ สังคมเดียวกนั จะชว่ ยไดม้ าก แนวทางการเลยี้ งลูกยคุ ดจิ ทิ ัล 38

เราต้องช่วยกันทำ 2 ไม่ 1 เตือน เพ่ือยกระดับสงั คมให้สามารถยอมรบั ความแตกตา่ งโดยไมใ่ ช้ความ รุนแรงท้ังคำพูดและการกระทำ เรมิ่ จากการพูดคยุ กับลูกเราต้องเข้าใจก่อนวา่ ความเห็นต่างไม่ใช่ความดีเลว ซึ่งความเข้าใจนี้มีพ้ืนฐานอยู่แล้วจากสายสัมพันธ์ในครอบครัวและการให้คนรับฟังเรา เริ่มจากการท่ีเราต้อง รับฟงั เขาก่อน กจ็ ะนำไปสูก่ ารแลกเปล่ียนเรยี นรู้ เข้าใจเหตผุ ลซงึ่ กันและกัน ภยั และความเสี่ยงอื่น ๆ บนโลกออนไลน์ ยังมีภัยและความเส่ียงอื่น ๆ ท่ีมาจากเนื้อหาข้อมูล การติดต่อกับผู้คน รวมถึง พฤตกิ รรมสุ่มเสีย่ งของตวั เด็กเอง เชน่ o การเข้าถึงเนื้อหาข้อมูลที่ผิดกฎหมาย/อันตราย เป็นต้นว่า สื่อลามกอนาจาร สารเสพติด อาวุธ ความรุนแรง ลัทธิความเช่ือ ค่านิยมหรือพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม เด็กอาจ download หรือ save เน้ือหา ข้อมลู ท่ีผิดกฎหมายมาไว้ ส่งต่อ แชรเ์ นอื้ หาข้อมูลนั้นออกไป การมีสื่อลามกอนาจารเด็กไว้ในครอบครอง เป็น ความผิด การผลิต เผยแพร่ ส่งต่อ ทำการค้าส่ือลามกอนาจาร เป็นความผิด การเล่นพนัน เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงเว็บพนัน เป็นความผิด บางครั้งเด็กอาจทำส่ิงที่ผิดกฎหมาย เลียนแบบพฤติกรรม อันตราย เชน่ การค้ายา เสพยา ขายหรอื โฆษณาสินคา้ ผดิ กฎหมาย/ผิดศีลธรรม ฯลฯ พ่อแม่ผูป้ กครองจึงควร ดูแลแนะนำเด็กท่ีใช้สื่อออนไลน์ในเร่ืองของการเข้าถึงเนื้อหาข้อมูลที่ผิดกฎหมายหรือเป็นอันตราย การถูก โนม้ น้าวชักจงู ใหก้ ระทำหรือยุ่งเก่ยี วกบั สิ่งผิดกฎหมาย การเลยี นแบบเนต็ ไอดอลในทางทีไ่ ม่เหมาะสมตา่ ง ๆ o ถูกโกงเงินซ้ือสินค้า สินค้าคุณภาพต่ำ ไม่ได้รับสินค้า พ่อแม่ผู้ปกครองควรแนะนำเด็ก ๆ ให้รู้จัก เลือกซ้ือสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ท่ีเช่ือถือได้ เช่น มีการรับรองโดยหน่วยงานส่งเสริมร้านค้าออนไลน์หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) มีระบบการซ้ือขายจา่ ยเงินที่ไดม้ าตรฐาน มีการรับประกันสินคา้ กรณี การส่งคืนสินค้าต่าง ๆ ทำไดห้ รือไม่ ใครรับผดิ ชอบคา่ ใชจ้ า่ ย จะตอ้ งมเี งื่อนไขรายละเอยี ดให้อ่านอย่างชัดเจน และควรเก็บหลักฐานการสนทนา การโอนเงินต่าง ๆ ไว้ใชห้ ากมปี ัญหาในภายหลัง การตรวจสอบขอ้ มูลร้านค้า ให้มากที่สุด การอ่านความเหน็ /คำแนะนำของลกู ค้า หรือการส่ังซ้ือสินค้าแบบเกบ็ เงินปลายทาง ก็เป็นอีกวิธี ทจ่ี ะชว่ ยลดความเสยี่ งจากการซอ้ื สินคา้ ออนไลน์ แนวทางการเลยี้ งลกู ยุคดิจทิ ัล 39

แนวทางการเล้ยี งลกู ยคุ ดิจทิ ัล 40

o หลงเชือ่ ข่าวลวงข่าวปลอม ทำให้ตกเปน็ เหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น หลอกให้ลงทะเบยี นสมัคร งาน สมัครเป็นดารา/นางแบบ ร่วมลงทุน หรือการแชร์ข่าวสารข้อมูลปลอมท่ีเก่ียวข้องกับสุขภาพ ความปลอดภัย เศรษฐกิจ ฯลฯ นอกจากตัวเองและเพื่อนฝูงจะโดนหลอกแล้ว อาจทำให้สังคมต่ืนตระหนก เกิดผลร้ายตามวัตถุประสงค์ของผสู้ ร้างข่าวปลอมน้ันมา เชน่ ต้องการจูงใจหลอกลวงใหเ้ ชอ่ื เพือ่ ขายสินค้าหรือ บริการ ให้ร่วมลงทุน สร้างความนิยม หรือทำให้เกิดความรู้สึกต่อต้านเกลียดชัง ฯลฯ คำแนะนำเบื้องต้น ในการรับมือกับข่าวปลอมออนไลน์ ข้อแรกคือจะต้องตรวจสอบข้อมูลเสียก่อนว่ามาจากแหล่งท่ีน่าเชื่อถือ หรือไม่ ควรสืบค้นเพ่ิมเติมจากแหล่งข่าวหรือส่ืออ่ืน ๆ ว่ามีการพูดถึงเร่ืองนี้หรือไม่ พูดว่าอย่างไร และถ้า เปน็ ไปไดค้ วรติดต่อสอบถามโดยตรงกบั หน่วยงานหรอื บคุ คลทถ่ี ูกอ้างถึง ประการทีส่ องควรพจิ ารณาผลกระทบ ทเ่ี กดิ ข้ึนจากการนำข้อมูลข่าวสารนั้นมาใช้หรือสง่ ต่อ หากไม่ใช่เรื่องจริงจะส่งผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง ผลรา้ ยแรงหรือไม่ ประการสดุ ท้ายทอ่ี ยากจะให้พิจารณาด้วยก็คือ สง่ิ ที่จะส่งออกไปนน้ั เปน็ ประโยชน์ต่อสังคม สว่ นรวมจริงหรือไม่ ถา้ ไม่ใช่ ก็ไม่จำเปน็ ต้องส่งหรือแชร์ออกไปทุกครั้งที่ได้รับ กระทรวงดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจ และสังคม เปดิ ศนู ยต์ รวจสอบขา่ วลวงข่าวปลอม รายการชัวร์กอ่ นแชร์ ช่อง 9 อสมท. มรี ายการใหค้ วามรู้ และ เปดิ ใหส้ อบถามเรอ่ื งข่าวปลอมทแี่ พร่กระจายบนโลกออนไลน์ และเว็บไซต์ cofact.org เปิดใหท้ ุกคนมสี ่วนรว่ ม ในการตรวจสอบข่าวลวงข่าวปลอม พ่อแม่ผปู้ กครองควรชีแ้ นะบตุ รหลาน ฝึกฝนให้ลูกคิดวิเคราะห์ แยกแยะ ตง้ั ข้อสังเกต สืบคน้ หาความจริง กอ่ นทจ่ี ะเช่อื หรือแชร์ o การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปบนโลกออนไลน์ อาจทำให้เด็กตกอยู่ในอันตราย เช่น ถูก วิพากษ์วิจารณ์ ถกู นำรูปภาพไปตดั ตอ่ ให้เสียหาย ถกู นำขอ้ มูลไปแอบอ้างหรือใช้ในทางท่ีไมเ่ หมาะสม ถกู ตดิ ตอ่ หรอื รบกวนจากคนแปลกหน้า เด็กเล็กอาจถกู ลักพาตวั หรือถูกนำภาพไปใช้เพื่อการแสวงหาประโยชนท์ างเพศ วัยรุ่นอาจถูกลอ่ ลวง ละเมิดหรือคุกคามทางเพศผ่านหนา้ จอ รวมถงึ การนดั พบเพื่อละเมิดทางรา่ งกาย จงึ ควร แนะนำเดก็ ๆ อย่าไวใ้ จคนแปลกหนา้ ขอ้ เสนอทดี่ เี กนิ จริง และอยา่ นดั พบเพอื่ นออนไลนเ์ ป็นอนั ขาด o การหมิ่นประมาทออนไลน์ เกิดขึ้นได้จากการโพสต์ การแสดงความคิดเห็น การส่งต่อหรือแชร์ ข้อมลู ข่าวสารทไี่ ดร้ ับมา การเจตนาตัดตอ่ ภาพ บดิ เบอื นหรอื แตง่ เรือ่ งราวใสร่ ้าย ทำให้ผ้อู ่ืนไดร้ ับความเสยี หาย จึงควรเตือนเด็ก ๆ ให้ระมัดระวังการเชื่อ แชร์ โพสต์แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ จะต้องกระทำด้วยความ ระมดั ระวัง เคารพและใหเ้ กยี รตผิ ู้อื่นเสมอ o การแอบเข้าระบบคอมพิวเตอร์ อีเมล เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ หรือบัญชีใช้งานของผู้อ่ืน โดยไม่ได้รับอนุญาต การเปลี่ยนแปลงแก้ไข ลบ ทำลายข้อมูล ดักฟังข้อมูล ของผู้อื่น การเจาะ โจมตี ระบบ คอมพวิ เตอร์และเครอื ข่าย เปน็ ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าดว้ ยการกระทำความผดิ เก่ียวกับคอมพวิ เตอร์ o การตดั ต่อ แตง่ ภาพ ที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย อับอาย ถูกดูหมิน่ เกลยี ดชงั การเผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ ใหเ้ ขา้ ถึงเว็บไซต์พนัน แหล่งพนัน จัดให้มีการพนัน การเผยแพร่ภาพ/วิดีโอ/ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก การ แนวทางการเลยี้ งลกู ยุคดจิ ิทัล 41

เผยแพร่สง่ ตอ่ เนอื้ หาข้อมูลที่ผิดกฎหมาย เขา้ ข่ายหม่ินสถาบนั กระทบต่อความม่นั คงปลอดภยั ของประเทศ ความสงบเรยี บรอ้ ยของสงั คมและประชาชน เหลา่ นเี้ ป็นการกระทาท่ีผิดกฎหมาย o การกระทาบางอย่าง แมไ้ ม่ผิดกฎหมาย แต่ถือว่าไม่เหมาะสม ไม่เป็นประโยชนต์ ่อสงั คม เช่น การเผยแพร่เร่ืองราวหรือภาพความรุนแรง การยุยงปลกุ ป่ัน สรา้ งความแตกแยกเกลียดชัง ค่านิยมหรือ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เชน่ การแตง่ ตวั การแสดงผาดโผนอนั ตราย การลอ้ เล่นกบั ความรูส้ ึกของลกู เช่น พอ่ แม่แกลง้ บาดเจ็บรุนแรงหรอื ตายเพื่อดูปฏิกิริยาของลกู ฯลฯ เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทา ซึ่งพอ่ แม่ผปู้ กครอง ควรชีแ้ นะบุตรหลานให้รูเ้ ท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดีในการช่วยเผยแพร่ขอ้ มูลข่าวสาร เหลา่ นนั้ ไม่เลยี นแบบ และไมก่ ระทาต่อผอู้ น่ื รวมทงั้ พอ่ แม่ตอ้ งเป็นตวั อยา่ งทด่ี ใี นการใชส้ ื่อ แนวทางการเล้ยี งลกู ยคุ ดิจิทัล 42

บทท่ี 2 บทบาทของพอ่ แม่ผู้ปกครอง รศ.นพ. อดศิ กั ด์ิ ผลติ ผลการพมิ พ์ ผอู้ ำนวยการสถาบันแหง่ ชาติเพื่อการพฒั นาเดก็ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล กล่าวว่า มีงานวิจัยรองรับประเด็นเรื่องการเข้าถึงเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสมจากการใช้ส่ือออนไลน์ของเด็กและ เยาวชนพบว่า เนื้อหาท่ีไม่เหมาะสมมี 2 ประเภท คือ เน้ือหาเก่ียวกับความรุนแรง ซึ่งจะทำให้เด็กเกิด พฤตกิ รรมเลยี นแบบด้านความรุนแรง และเนื้อหาเกีย่ วกับทางเพศทีไ่ ม่เหมาะสม เปน็ เน้ือหาทเ่ี ผยแพร่บนโลก ออนไลน์ซึง่ ค้นหาได้งา่ ย การเลียนแบบอาจนำไปสกู่ ารเปลยี่ นพฤติกรรมของตัวเดก็ เพื่อทำร้ายผูอ้ ื่น ซงึ่ อาจจะ เป็นเด็กด้วยกันเองหรอื กลุ่มคนที่มลี ักษณะพิเศษ เมื่อเดก็ ที่ถกู กระทำได้รบั ผลกระทบจากพฤติกรรมก้าวร้าว ดังกล่าว จะมีผูป้ กครอง/คนดูแลเด็กสักกี่คนท่ีรแู้ ละเขา้ ใจ นกึ ถึงจติ ใจของเดก็ ว่าได้รับผลกระทบมากเพยี งใด บางคร้งั ทำใหเ้ ดก็ ถูกละเลยและเพิกเฉยทอดทงิ้ ซง่ึ การกระทำเหลา่ น้ไี ม่เปน็ ผลดกี ับเดก็ หนำซ้ำยังเป็นการสรา้ ง บาดแผลทางจติ ใจที่ฝังติดอยู่กับความทรงจำของเด็กตลอดเวลา พอ่ แม่ผปู้ กครองเปน็ คนแรกทสี่ ามารถรับรูไ้ ดถ้ งึ ความผดิ ปกตขิ องเดก็ เนื่องจากใกลช้ ดิ กบั เดก็ ที่สดุ เดก็ จะมีการเปล่ียนแปลงหลายอยา่ งเมอ่ื โดนกล่ันแกลง้ รงั แกออนไลน์ และเมอื่ โดนละเมดิ ทางเพศ โดยมบี ุคลกิ และ พฤตกิ รรมทเ่ี ปลย่ี นไปอยา่ งเห็นได้ชดั เช่น เครง่ ขรมึ คิดมาก ไม่เล่นสนุกสนาน เกบ็ ตวั หดหู่ ข้กี งั วล หวาดกลัว แยกตวั ออกจากเพอ่ื น อาจจะมีอาการหวาดผวาเมื่อตอ้ งเข้าสังคมท้งั ออนไลนแ์ ละออฟไลน์ เด็กอาจหลกี เลี่ยงท่ีจะเข้าสังคม หรือบางคนอาจจะหมกมุ่นกับการอา่ นความคิดเห็นต่าง ๆ ในคลิป หรือรปู ทีโ่ ดนละเมดิ แล้วเกดิ อาการซมึ เศรา้ แยกตัวออกจากเพ่อื น ส่วนเดก็ ทถ่ี ูกล่วงเกินทางเพศตั้งแต่ยงั อย่ใู น วยั เด็กเล็กจะแสดงให้เห็นถงึ พฤติกรรมที่ส่อไปทางเพศก่อนวัย (early sexualized behavior) เด็กจะเขา้ หา ผ้ใู หญ่คนอืน่ ในลกั ษณะทค่ี ล้ายคลึงกับสิ่งที่ตนได้เรยี นรู้จากผ้กู ระทำ เด็กอาจจะแสดงการเลียนแบบพฤตกิ รรม ยั่วยวนทางเพศของผู้ใหญ่ และเดก็ บางคนอาจกลายเป็นเด็กหมกมุ่นกบั การเล่นที่ส่อไปในทางเพศอย่างมาก และแสดงให้เห็นว่ามีความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับเร่ืองเพศของผู้ใหญ่ ในทางกลับกัน เด็กอาจมีความ หวาดระแวงกับเพศตรงข้ามหรือบุคคลท่ีมีลักษณะท่ีใกล้เคยี งกับบุคคลที่เคยละเมิดเด็กหรือกับบุคคลแปลก หน้าอื่นทุกคน เนื่องจากหวาดกลัวว่าจะถูกกระทำแบบเดียวกับท่ีเคยโดนมาอีก หากพบว่าเด็กมีอาการ หวาดระแวงคนอน่ื อย่างเหน็ ไดช้ ัด ควรเร่มิ สอบถามเพ่ือจะได้รู้สาเหตขุ องปัญหาและจะไดร้ ่วมหาวิธีแก้ไขตอ่ ไป ในส่วนของการถูกละเมิดทางเพศนัน้ บางครงั้ เด็กไม่ไดถ้ ูกละเมดิ แบบตัวต่อตวั แต่เป็นการโดนละเมิด ทางออนไลน์ เชน่ การเปิดกล้องแลว้ ใหถ้ า่ ยตอนกำลงั เปลือยหรอื หลอกให้สำเรจ็ ความใคร่ตัวเองใหด้ แู ล้วบันทกึ แนวทางการเลยี้ งลกู ยุคดจิ ทิ ัล 43

ไว้ และอาจถูกนำมาข่มขู่ บังคับให้ทำซ้ำ หรือบังคับให้จ่ายเงินเพื่อแลกกับการไม่ปล่อยคลิปและรูปภาพ ดังกลา่ ว นำไปสู่การถูกละเมิดซำ้ ๆ ได้ บทบาทของบคุ คลแวดลอ้ มในการเฝ้าระวงั และรบั ทราบเหตุ ในการดำเนินคดีกรณีการล่วงละเมิดต่อเดก็ ในโลกออนไลนน์ ้ันเจ้าหน้าทีผ่ ู้บังคบั ใช้กฎหมายอาจไม่ได้ เป็นบุคคลแรกที่รับทราบเหตุ โดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าหน้าที่มักจะไม่ได้รับการติดต่อโดยตรงจากเหยื่อหรือ ผ้ถู ูกกระทำแต่จะเปน็ รบั แจง้ เหตุจากคนใกล้ชดิ กับเด็กซ่ึงอาจเป็นครู พอ่ แม่ผู้ปกครอง ครอบครัว เพอื่ นสนิท หรืออาจเป็นบุคคลอ่นื ที่อยู่ใกล้ชิดเด็ก ดังน้ันผู้ใกล้ชดิ กับเด็กเหล่าน้ีจึงเป็นผู้มบี ทบาทสำคญั ต่อการตรวจพบ และช่วยเหลอื คุม้ ครองเด็กออกจากอนั ตราย คำแนะนำดังตอ่ ไปนีเ้ ป็นแนวทางปฏบิ ตั ิสำหรบั บคุ คลแวดล้อมเดก็ ในการเฝ้าระวังและการปฏิบตั ติ ่อเดก็ ทมี่ ีความเส่ยี งหรือกำลงั ถูกล่วงละเมดิ o เดก็ ท่กี ำลงั ถูกลว่ งละเมดิ อาจกำลงั พยายามจะบอกเลา่ เหตกุ ารณว์ ่าตนกำลังถูกลว่ งละเมดิ แตม่ กั จะ ไม่กล้าบอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟังตรง ๆ โดยอาจจะเล่าผ่านตัวอย่างเหตุการณ์หรือถามความคิดเห็นเกี่ยวกับ เหตุการณ์ต่าง ๆ ซ่ึงอาจเปน็ เรอื่ งไกลตวั เพือ่ ที่จะดปู ฏิกริ ยิ าตอบสนองก่อน ซง่ึ จดุ นีถ้ ือเปน็ จดุ สำคัญมาก เพราะ หากเพือ่ น ครู ผู้ปกครอง หรือครอบครัว ไดร้ ับฟงั แล้วมีการแสดงความคิดเห็นในเชงิ ลบหรือแสดงการตำหนิ ติเตยี น เด็กอาจรูส้ กึ ผิดที่จะเล่าเร่อื งต่อและปิดปากเงยี บ ดังนั้น ผูท้ อ่ี ยู่ใกล้ชดิ กับเดก็ จึงควรให้ความสนใจเมื่อ เดก็ มกี ารเล่าให้ฟังถึงเหตกุ ารณ์แปลก ๆ และพยายามจะพูดถงึ เหตุการณน์ ัน้ ในเชงิ บวกพรอ้ มสอดแทรกวธิ กี าร แกป้ ัญหาในบทสนทนามากกวา่ จะบอกว่าเหตุการณ์นนั้ เป็นเรื่องถูกผิด ไมค่ วรกระทำ เพอื่ ให้เด็กเปดิ ใจกล้าที่ จะเปดิ เผยถึงเหตกุ ารณท์ ี่เกิดข้นึ กับตนเอง o แมเ้ ดก็ ทีก่ ำลังถูกล่วงละเมดิ ไม่ต้องการทจ่ี ะบอกเลา่ เรอ่ื งราวของตนใหบ้ คุ คลอืน่ รับทราบ แต่ผู้ที่อยู่ ใกล้ชิดเด็กอาจสามารถรับรู้ความผิดปกติผ่านพฤติกรรม การแสดงออกทางอารมณ์ผ่านการเขียนข้อความ รูปภาพ หรือการโพสต์ข้อความในสือ่ ออนไลน์ตา่ ง ๆ ซง่ึ กรณีดังกล่าวหากสามารถนำเดก็ มาพบและพูดคุยกับ ผู้เชย่ี วชาญ จติ แพทย์ หรอื นักจิตวทิ ยาผูเ้ ชีย่ วชาญก็จะมีวิธีการในการตคี วามการแสดงออกทางอารมณ์ และมี วธิ พี ดู คุยใหเ้ ดก็ เปิดเผยความลับหรือเรอ่ื งท่กี งั วลใจออกมาได้ หากพบพฤติการณผ์ ิดปกตแิ ละสงสยั ว่าเดก็ อาจมี ปัญหาถูกล่วงละเมิด จึงควรนำเด็กไปปรึกษาจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือติดต่อขอคำปรึกษาที่หน่วยงานรับ บริการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ เช่น บ้านพักเด็กและครอบครัว หรือศูนย์ ช่วยเหลือสงั คม สายดว่ น หมายเลข 1300 o ให้ครหู รือผปู้ กครองสังเกตการณ์การใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคช่ัน (Application) ติดต่อสอ่ื สาร คุยสาย หาคู่ ที่เด็กอาจนำมาใช้ในเครื่อง เด็กอาจกำลังตกเป็นเป้าหมายของการล่วงละเมิดทางเพศ การใช้ โปรแกรมถ่ายทอดสดแนว Live Streaming หรือการถ่ายทอดสดออนไลน์ เช่น BeeTalk, Bigo Live, Kitty แนวทางการเล้ยี งลกู ยคุ ดิจทิ ัล 44

Live, Vibie, MLive ซึ่งกลุ่มผทู้ ่มี ีรสนิยมชอบเดก็ และกลมุ่ คนร้ายทกี่ ระทำความผิดลว่ งละเมดิ ทางเพศออนไลน์ ตอ่ เดก็ กลุ่มหาคู่ หรอื คา้ ประเวณี มักจะแฝงตัวเขา้ ไปใชบ้ ริการ o เด็กที่กำลังถูกล่วงละเมิดหรือกำลังถูกล่อลวงอาจไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เป็นความผิด หรือ ตนเองกำลังตกอยใู่ นภาวะเสี่ยงภยั อนั ตราย บางคร้ังก็อาจเปน็ ไปได้ว่าเด็กจะแสดงออกในการเข้าข้างฝั่งคนรา้ ย ซ่งึ เด็กอาจคิดว่าคนร้ายเปน็ ผู้ที่ตนไว้วางใจหรือเข้ามาช่วยเหลือเติมเต็มส่วนท่ีขาดให้กับเด็ก (โดยเฉพาะอย่าง ยง่ิ ในครอบครวั ทขี่ าดความอบอุ่น หรือมีข้อบกพร่องในการเล้ียงดู) หรอื เดก็ อาจมคี วามผกู พนั กบั คนร้าย แมจ้ ะ รวู้ ่าผิดแตก่ ็ไม่ต้องการใหค้ นรา้ ยต้องถูกลงโทษ ซ่ึง ผู้ปกครอง ครอบครัว หรือครู ท่ีกำลังเข้าไปช่วยเหลือเด็ก อาจจะต้องทำความเข้าใจความสบั สนของพฤติกรรมของเด็ก ไม่ควรแสดงพฤติกรรมกา้ วร้าวโตต้ อบ ที่สำคัญ จะตอ้ งแสดงการให้อภยั และพยายามดึงเดก็ กลับมา o ในกรณีท่ีครอบครัวตรวจพบว่าเด็กกำลังติดต่อกับบคุ คลต้องสงสัย หรือมีการตรวจพบว่าเด็กถูก ลว่ งละเมดิ เช่น พบการแช็ตพูดคุยกับคนร้าย มีการตรวจพบข้อความหรือสื่อลามกอนาจารในโทรศัพท์หรือ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรข์ องเด็ก หา้ มตอ่ ว่าหรือใชค้ วามรุนแรงในการลงโทษเดก็ ท่กี ำลงั ถูกล่วงละเมิดหรือกำลังถูก ล่อลวงเปน็ อันขาด แต่ควรนำเด็กไปปรกึ ษาจิตแพทย์ผ้เู ชี่ยวชาญหรือขอความชว่ ยเหลอื จากนักสงั คมสงเคราะห์ กอ่ น เพราะการลงโทษท่ีรนุ แรงจะทำใหเ้ ด็กปิดปากเงยี บไม่เปดิ เผยเหตุการณ์ หรอื อาจตดั สินใจหลบหนีออก จากบา้ นซ่ึงเป็นความเส่ยี งภัยมากข้นึ o พึงระลกึ ไว้เสมอว่ากระบวนการยตุ ธิ รรมไม่ได้ออกแบบไวร้ องรับความสับสนทางอารมณ์ของเด็กที่ ตกเป็นเหย่อื และเจา้ หน้าท่ีตำรวจอาจไม่ได้มีความเช่ียวชาญเพียงพอในการจดั การดูแลสภาพทางอารมณ์ของ เด็ก การนำเด็กไปแจ้งความตอ่ เจา้ หนา้ ท่ีตำรวจโดยตรงอาจมคี วามเสย่ี งท่ีจะทำใหเ้ ดก็ ถกู กระทบกระเทอื นดา้ น จิตใจตอ่ เด็กมากขึ้น ในกรณีทต่ี รวจพบการกระทำผิดในขณะทีเ่ ด็กยังอยู่ในความดแู ลของผู้ปกครอง (ไมไ่ ด้อยู่ ในภาวะเสี่ยงภัยเฉพาะหนา้ ) จึงควรมกี ารขอคำปรกึ ษาและขอความชว่ ยเหลอื จากนกั สังคมสงเคราะห์เสียกอ่ น ซึ่งหากจำเป็นจะตอ้ งแจ้งความกค็ วรมนี กั สงั คมสงเคราะหห์ รือนกั จิตวิทยาคอยใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดูแลด้วย เว้น แตเ่ ปน็ กรณฉี กุ เฉินหรือเด็กกำลังอยู่ในภาวะเส่ยี งอันตราย เชน่ กรณีเดก็ หนอี อกจากบ้าน หายตวั ไป หรอื กำลัง ตกอยู่ในมือคนร้าย ก็จำเปน็ จะต้องแจง้ เจา้ หน้าทตี่ ำรวจเข้าดำเนนิ การชว่ ยเหลอื ในทันที o การติดตอ่ ประสานงานกรณตี อ้ งการพาเด็กไปพบจติ แพทย์ โดยทัว่ ไปสามารถขอรับคำปรึกษาได้ใน โรงพยาบาลขนาดใหญ่ใกล้บ้าน หรือขอคำแนะนำจากสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง o กรณีตอ้ งการติดต่อหน่วยงานรับบรกิ ารของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนุษย์ เพื่อขอรบั บริการนักสังคมสงเคราะห์ช่วยดูแล ให้ติดต่อที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัด (พมจ.) ไดท้ ุกจงั หวัด หรือขอคำปรกึ ษาท่ี ศนู ย์ชว่ ยเหลอื สงั คม สายด่วน 1300 แนวทางการเลย้ี งลูกยุคดิจิทัล 45

o กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือกังวลว่าเด็กจะได้รับอันตราย สามารถแจ้งความได้ท่ีสถานีตำรวจท้องที่ ซึง่ หากไม่ทราบใหแ้ จ้งสายดว่ นเหตดุ ว่ นเหตุร้าย 191 หรือหากไมไ่ ด้รับความสะดวก สามารถตดิ ตอ่ กองกำกับ การสวัสดิภาพเดก็ และสตรี โทร 02 282 3892 ในพนื้ ทกี่ รุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์พทิ ักษ์เด็กสตรีครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพคส.ตร.) โทร 02 205 3429 หรือ 02 205 3432 หรือสายดว่ นรับเรื่องรอ้ งเรยี นหรือขอความช่วยเหลือ สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ 1599 กรณกี ลัน่ แกล้งระรานทางไซเบอร์ (Cyber bulllying) สัญญาณเตือนภยั o ไม่อยากไปโรงเรียน และผลการเรยี นแยล่ งอยา่ งเห็นได้ชัด o มีอาการซมึ เศรา้ วิตกกังวล o มีอาการแยกตวั จากเพื่อน อยคู่ นเดยี วหรือจมอยู่ในโลกส่วนตัว o หมกมุ่นกับสงั คมออนไลน์ o อาจมีอาการทางกายให้เหน็ ป่วยบ่อย o แสดงอาการผดิ ปกตเิ ม่ือเลน่ โทรศัพท์หรอื คอมพิวเตอร์ เช่น มีสีหนา้ วิตกกังวล โกรธหรอื อาย o อาการท่รี ุนแรงขึ้น อาจถึงขั้นทำร้ายตัวเองหรือพยายามฆ่าตวั ตาย การพดู คุยสอบถามเม่ือสงสยั วา่ ลกู ถูกกลัน่ แกล้งระรานทางไซเบอร์ โดยท่ัวไปเด็กที่ถูกรังแกมักไม่กล้าบอกเร่ืองราวหรือเหตุการณ์ท่ีถูกรังแกให้คนอ่ืนรับรู้ แต่การมี ความสัมพันธ์ทดี่ ีในครอบครัวจะทำให้ลกู สามารถคยุ กบั พอ่ แมไ่ ดท้ กุ เร่ือง ดังนั้น สงิ่ ทคี่ วรทำเปน็ พืน้ ฐานคือการ สรา้ งรากฐานความรกั ความเข้าใจและการรบั ฟังกันในครอบครัว พ่อแม่ควรพูดคุยกับลกู ทกุ วันถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ลกู ได้พบเจอในแต่ละวัน คำถามง่าย ๆ เช่น วนั น้ี ลกู เรียนอะไรบา้ ง ลกู เลน่ กับใครบ้าง ใครเปน็ เพอ่ื นสนทิ ของลกู ในสังคมออนไลนก์ เ็ ชน่ เดียวกัน หากลกู มบี ญั ชี ออนไลน์ พ่อแม่ก็ควรเปน็ เพ่ือนกับลกู ในสังคมน้ันด้วย แล้วคอยติดตามเฝ้าดอู ยูห่ ่าง ๆ ไม่ละลาบละลว้ ง เมื่อ เริม่ เห็นความผดิ ปกติ ความคดิ เห็นทเี่ ข้ามาโพสต์แบบไม่นา่ รกั หรอื ดูก้าวรา้ ว รุนแรง ควรสอบถามความเปน็ มา ของโพสตท์ ี่ดไู ม่ดีน้นั สอบถามความรสู้ กึ ของลูกวา่ รู้สึกเจ็บปวด โกรธ หรอื เสียใจหรือไม่ แตแ่ มว้ ่าเราอาจจะไม่ เห็นชัดในสังคมของลูก เน่อื งจากอาจโดนกล่ันแกลง้ ทอ่ี ื่น ถ้าสงสัยว่าลูกโดนรงั แก พอ่ แม่อาจจะเลยี บเคยี งถาม ถึงเพื่อนออนไลนข์ องลูกและซักถามถงึ ความรูส้ ึกของลูกทม่ี ตี ่อเพื่อน ๆ ได้ วธิ ปี ฏิบัตเิ ม่อื ลกู ถูกกลนั่ แกล้งระรานทางไซเบอร์ กอ่ นอื่นพ่อแมต่ ้องตระหนักวา่ การระรานทางออนไลนน์ ัน้ มอี ยู่จรงิ ไมใ่ ช่เรอ่ื งเลน่ ๆ หรือเปน็ เพยี งเรอ่ื ง เลก็ นอ้ ย หากรวู้ ่าลกู ถกู รงั แกทางออนไลน์ อยา่ ปลอ่ ยผา่ น ควรรบั ฟงั และหาทางช่วยเหลือ แนวทางการเล้ียงลกู ยุคดิจิทัล 46

ดา้ นการพูดคยุ และดแู ลเด็ก o ไม่มองปัญหาดงั กลา่ วว่าเป็นเรือ่ งเล็ก ใหค้ วามสำคัญกบั ปัญหาทเี่ กดิ ขึ้น o ควรบอกลูกวา่ สิ่งที่เกดิ ขึน้ ไมใ่ ชค่ วามผิดของลูก และให้กำลงั ใจ สรา้ งพลังแรงใจให้ลกู รู้สึกมีคุณค่า ในตัวเอง o หากสงสัยวา่ เดก็ มปี ัญหาดา้ นสขุ ภาพจติ ควรใหล้ ูกได้รบั การประเมนิ และดแู ลจากผเู้ ชี่ยวชาญ o หลีกเล่ียงพืน้ ที่เสย่ี ง ถา้ เปน็ ในสังคมออนไลน์ อาจตอ้ งงดใช้มือถือหรือคอมพวิ เตอร์ช่วั คราว o ถือเป็นโอกาสในการสอนลกู ใหใ้ ช้สอื่ อย่างระมัดระวงั และการตั้งคา่ ความเป็นสว่ นตวั ต่าง ๆ o สอนไม่ใหล้ กู โต้ตอบกลบั เพือ่ ลดความรนุ แรงของปัญหา o สอนลูกไม่ให้รังแกคนอ่ืน เป็นตัวอย่างท่ีดใี ห้ลูก ด้วยให้เกยี รติผู้อ่ืน ยอมรับในความแตกต่าง ไม่ เลอื กปฏบิ ัติ และไมใ่ ช่ความรุนแรงในครอบครวั แนวทางการเลยี้ งลูกยคุ ดจิ ทิ ัล 47

ดา้ นการจดั การรว่ มกบั โรงเรยี น หากเหตุเกิดขึ้นในโรงเรยี นหรือทราบว่าผู้กระทำผิดเปน็ เด็กหรือบุคลากรในโรงเรียน มีวิธกี ารปฏิบตั ิดงั น้ี o เก็บหลักฐานของการกล่ันแกล้งต่าง ๆ เพ่ือนำมาสอบสวนเร่ืองราว และนำมาแสดงกับผู้ท่ี เกี่ยวขอ้ งทราบเพอ่ื ร่วมกันแกป้ ัญหา เก็บรายละเอยี ดความถี่ของการถกู กลัน่ แกลง้ ดังกล่าวไว้ดว้ ย o แจง้ ครทู ี่โรงเรียนให้รับทราบถงึ สง่ิ ที่เกิดข้นึ เพ่ือชว่ ยกนั แกป้ ญั หา o ตดิ ตามสอบถามความคบื หนา้ กับครอู ยู่เสมอ o หากกงั วลเร่อื งความเครยี ดของเด็ก ให้ปรกึ ษาครแู นะแนวรว่ มดว้ ย o จดบนั ทึกการพูดคยุ กบั ครูหรือผเู้ กี่ยวข้องไว้เป็นหลกั ฐาน o ใหเ้ วลากับทางโรงเรยี นไดจ้ ดั การกบั ปัญหา o หากปัญหาไมไ่ ด้รับการแก้ไข อาจต้องใช้วธิ ีการตามกฎหมาย แนวทางการเลย้ี งลกู ยคุ ดิจทิ ัล 48

แนวทางการเล้ยี งลกู ยคุ ดิจทิ ัล 49

กรณกี ารละเมิดทางเพศออนไลน์ สญั ญาณเตือนภยั เดก็ ที่โดนละเมิดทางเพศออนไลนโ์ ดยเฉพาะนัน้ อาจจะสังเกตไดย้ ากกว่าเด็กท่โี ดนละเมิดทางเพศแบบ ตวั ต่อตัว เนื่องจากไม่มีหลักฐานทางร่างกายท่ีเห็นได้ชัด แต่กระน้ัน พ่อแม่ผ้ปู กครองก็อาจจะเห็นได้ว่าลูกมี พฤติกรรม หรือบุคลิกที่เปลีย่ นแปลงไป มีอาการเก็บตัวคล้ายกรณีถูกกลั่นแกล้งระรานออนไลน์ และ/หรอื มี พฤติกรรมการใช้เงินที่มากขึ้นโดยไม่มีเหตุผล เพราะเด็กอาจถูกข่มขู่เอาเงินด้วย แต่ในทางตรงกันข้าม เด็ก อาจจะมีเงนิ ใช้จ่ายมากขึน้ จากการท่ถี กู หลอกให้เงนิ เปน็ คา่ ตอบแทนเพอื่ ให้ถา่ ยรปู หรือคลิปโป๊ ดงั นนั้ สิง่ ท่ีพอ่ แมผ่ ปู้ กครองควรสอบถามเมื่อร้สู ึกถึงความผิดปกตดิ งั ต่อไปนี้ o มอี าการซมึ เศร้า วิตกกงั วล o บางคนมีพฤติกรรมการใชเ้ งินมากข้นึ ขอเงนิ บอ่ ยขน้ึ เนอ่ื งจากถูกขู่กรรโชกทรัพย์ o บางคนมีเงนิ ใชจ้ า่ ยมากขึน้ จากการถูกหลอกให้ขายรูปหรอื คลปิ ส่วนตัวของตนเอง o แสดงอาการผดิ ปกตเิ มอ่ื เล่นโทรศัพท์หรือคอมพวิ เตอร์ เช่น มสี ีหน้าวติ กกังวล โกรธหรืออาย เดก็ ที่ถูกละเมิดทางเพศออนไลน์อาจถกู ละเมิดทางเพศแบบตัวต่อตัวด้วย มลู นิธศิ ูนย์พิทกั ษ์สิทธิเด็ก ได้ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับสญั ญาณเตอื นที่ทำให้ทราบวา่ เด็กถกู ลว่ งละเมิดทางเพศและตอ้ งการความช่วยเหลอื ดังน้ี o มีบาดแผลฟกช้ำทางร่างกาย/อวยั วะเพศ o เดก็ มอี าการซมึ เศร้า /วิตกกงั วล อารมณ์แปรปรวน ไมส่ งุ สงิ ใคร เก็บตวั o กลัวคนบางประเภท o กลัวการกลบั บา้ น o กลวั การอยลู่ ำพังกับผูใ้ หญ่ o หนอี อกจากบ้าน o มีความคดิ อยากทำร้ายตัวเอง o มปี ญั หาด้านการเรียน o ฝันรา้ ย /นอนไมห่ ลบั ดงั นั้น หากพบวา่ ลกู มอี าการบางอยา่ งทน่ี า่ สงสัยใหเ้ รมิ่ พูดคุยซกั ถาม แล้วรว่ มกันหาวิธแี กป้ ญั หาตอ่ ไป การพูดคยุ สอบถามเมือ่ สงสัยว่าลกู ถูกละเมดิ ทางเพศออนไลน์ เช่นเดียวกับการถูกกล่ันแกล้งระรานทางไซเบอร์ เด็กมักจะไม่บอกใคร ยิ่งเป็นเรื่องการถูกละเมิด ทางเพศยิ่งเป็นเรื่องที่เดก็ รู้สกึ อบั อาย ไมก่ ล้าบอกใคร แตค่ วามสัมพันธ์ทีด่ ีในครอบครัวจะช่วยใหเ้ ด็กกล้าพูด กล้าเล่ามากข้ึน พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเปดิ ใจรบั ฟัง ไม่อคตคิ ดิ ว่าเด็กแตง่ เรื่อง ใหห้ าขอ้ มูลและหลกั ฐานให้ชดั เจน เมื่อทราบแน่ชัดแล้วตอ้ งตั้งสตใิ หด้ ี ไม่โวยวาย ไมโ่ ทษเป็นความผิดของลูก และพรอ้ มชว่ ยลกู แกป้ ญั หา แนวทางการเลยี้ งลกู ยคุ ดิจิทัล 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook