Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เห็นแก่ลูก

เห็นแก่ลูก

Published by pannapat6205, 2020-04-15 04:33:41

Description: เห็นแก่ลูก

Search

Read the Text Version

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explain Explore Expand Evaluate เปา หมายการเรยี นรู (หนา พมิ พแ ละตัวอักษรในกรอบนี้มีขนาดเลก็ กวา ฉบบั นกั เรียน 20%) • สรุปเนอื้ หาเรื่องเหน็ แกลกู • วิเคราะหว ถิ ไี ทยและคุณคา ดาน สงั คมเร่อื งเหน็ แกล ูก • สรปุ ความรูและขอคิดนาํ ไป ประยกุ ตใ ชใ นชีวติ จรงิ กระตุนความสนใจ ñหนว ยท่ี ใหน กั เรยี นแสดงความคดิ เห็นจาก บทละครพดู เร่ืองเห็นแก่ลูก ภาพหนาหนว ยการเรียนรู โดยครูต้งั คาํ ถามกระตุน ใหน ักเรียนแสดงความ คดิ เหน็ • หญิงสาวท่นี งั่ อยทู ี่พน้ื มีลักษณะ อยางไร • ชายคนท่นี ง่ั บนเกาอี้นา จะเปน ใคร สงั เกตจากอะไร • ชายที่ยืนอยูก าํ ลังรสู ึกอยา งไร • นักเรยี นคิดวา ตวั ละครใด ในภาพเปนเจา ของบาน และ ตัวละครตัวใดเปนแขก ตวั ช้วี ัด ละครพูดเปนบทละครที่แสดงโดย ■ สรปุ เนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทอ งถ่นิ ในระดบั ท่ียากยิ่งข้ึน (ท ๕.๑ ม.๓/๑) ■ วเิ คราะหว ถิ ไี ทยและคณุ คา จากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา น ใหตัวละครสนทนาโตตอบกัน เปนการ แสดงทไ่ี ดร บั อทิ ธพิ ลจากตะวนั ตก พระบาท- (ท ๕.๑ ม.๓/๒) สมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัวโปรดเกลาฯ ■ สรปุ ความรแู ละขอคิดจากการอานเพอ่ื นาํ ไปประยกุ ตใชในชีวิตจรงิ ใหตั้งโรงละครข้ึน ท้ังทรงพระราชนิพนธ (ท ๕.๑ ม.๓/๓) สาระการเรียนรูแกนกลาง บทละครเปนจํานวนมาก เน่ืองจากละครพูด เปนการแสดงท่ีจําลองชีวิตจริง จึงสอดแทรก ■ วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทองถ่ิน เกี่ยวกับศาสนา แนวคดิ คติเตอื นใจไวด วย หากผูอานไดอ านหรอื ประเพณี พธิ ีกรรม สภุ าษติ คาํ สอน เหตกุ ารณในประวัติศาสตร ชมอยางพินิจพิจารณาจะสามารถนําขอคิดมาปรับ บันเทงิ คดี ■ การวเิ คราะหว ิถีไทยและคณุ คาจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม ใชใ นชีวติ ประจําวันได 2 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate ๑ ความเปน็ มา สํารวจคนหา ละครเป็นศิลปะการแสดงประเภทหนึ่งของไทย ซึ่งแบ่งได้หลายประเภท ได้แก่ ละครร�า ใหนกั เรียนสืบคนพระราชประวตั ิ ละครร้อง ละครพูด ฯลฯ ละครร�า เป็นการแสดงละครประกอบการร้องและร�า มีดนตรีประกอบ ของรัชกาลท่ี 6 จากอินเทอรเน็ตหรอื ใช้ศิลปะการร้องและร�าตามแบบแผน ละครร้อง เป็นการแสดงท่ีผู้แสดงต้องมีความสามารถในการ แหลง เรียนรูอ น่ื ๆ ขับร้องประกอบการแสดง ละครพูด เป็นการแสดงละครท่ีมีการจัดฉาก แสง สี เสียงให้เหมือน ธรรมชาติ มีการพูดสนทนาโต้ตอบกัน ซ่ึงในบทจะบอกด้วยว่าตัวละครต้องแสดงกิริยาอาการอย่างไร • พระนามแฝงอื่นที่ทรงใชมีอะไร และพูดอย่างไร อกี บา ง ละครพูดเร่ืองเห็นแก่ลูก เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว • พระนามแฝงแตละพระนามทรง พระองค์ทรงใช้พระนามแฝงในบทพระราชนิพนธ์เร่ืองนี้ว่า พระขรรค์เพชร โดยมีจุดประสงค์เพ่ือใช้ ใชในโอกาสใด ใหนักเรียนชวย เปน็ บทสา� หรบั แสดงละครและใชส้ า� หรบั อา่ นเพอ่ื ความเพลดิ เพลนิ นอกจากนยี้ งั ทรงใชก้ ารแสดงละคร กนั คน หาอยา งนอ ย 5 พระนาม เป็นสื่อช่วยกล่อมเกลาอบรมจิตใจของประชาชนและมีพระราชประสงค์เพ่ือหาพระราชทรัพย์ส�าหรับ (แนวตอบ อัศวพาหุ (บทความ สร้างสาธารณสมบตั ิของชาติ ทางการเมืองและบทปลุกใจ) รามจิตติ (บทความเก่ียวกับ ละครพูดนอกจากจะใช้เพ่ือการแสดงแล้ว ยังสามารถใช้อ่านเพ่ือความบันเทิง ซ่ึงการอ่าน ทหาร) พันแหลม (บทความ บทละครพูดต้องอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์และพิจารณาเพื่อให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครที่ เกี่ยวกับทหารเรือ) ศรีอยุธยา ต้องแสดงพฤติกรรมในลักษณะต่างๆ ส่ิงที่ส�าคัญท่ีสุดของละครพูดคือบทสนทนาของตัวละครทุกตัว (บันเทิงคดีและสารคดีตางๆ ที่ ท่จี ะนา� ไปสู่ความหมายของการดา� เนนิ เร่อื ง แปลจากตางประเทศ) นายแกว นายขวัญ (นิทานเร่ืองเบ็ดเตล็ด ๒ ประวัตผิ ้แู ต่ง ตา งๆ) พระขรรคเพชร (บทละคร)) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาจฬุ าลงกรณ์ พระจุลจอมเกลา้ - อธิบายความรู เจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ (สมเด็จ- พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี) ทรงพระราชสมภพเม่ือวันที่ ๑ 1. พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา เจา มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๓ ตรงกบั วันเสาร์ เดอื นยี่ ข้ึน ๒ ค�่า ปีมะโรง อยหู วั ทที่ รงไดร บั พระสมญั ญาภไิ ชย ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจา้ ลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชริ าวุธ วา “สมเด็จพระมหาธีรราชเจา” หมายถึง ทรงเปนพระมหากษัตริย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเร่ิมศึกษา นกั ปราชญผยู ง่ิ ใหญ ในพระบรมมหาราชวงั ตอ่ มาไดเ้ สดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทรงศกึ ษาตอ่ • ใหนักเรียนอภิปรายแสดงความ ณ ประเทศอังกฤษ โดยทรงเชี่ยวชาญวิชาทหาร วิชาพลเรือน คดิ เหน็ วา พระองคท รงพระปรชี า และภาษาฝรั่งเศส หลังจากนั้นได้เสด็จเข้าศึกษาท่ีโรงเรียน สามารถอยา งไร นายร้อยทหารบกแซนด์เฮิสต์ เมื่อทรงส�าเร็จการศึกษาแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยู่หวั (แนวตอบ พระองคทรงพระปรีชา สามารถดานภาษาและวรรณคดี 3 เปนพิเศษ พระองคทรงเปน อัจฉริยะในดานกวีนิพนธและ (แนวตอบ นักเรยี นยกตวั อยา งไดหลากหลาย เชน ดานการประพันธ ทรงพระราช “เห็นแกว แวววับทีจ่ บั จติ ใยไมคิดอาจเออื้ มใหถ ึงที่ นพิ นธบ ทประพนั ธต า งๆ ท้งั รอย เม่อื ไมเ ออ้ื มจะไดอยางไรมี อนั มณีฤๅจะโลดไปถงึ มือ แกวและรอ ยกรอง) อนั ของสูงแมปองตอ งจิต ถาไมค ิดปนปา ยจะไดฤๅ มใิ ชข องตลาดทอ่ี าจซอื้ ฤๅแยงยอ้ื ถือไดโ ดยไมย อม” 2. ใหนักเรียนยกตัวอยางบทประพันธ บทประพนั ธนี้ใชไดก ับทกุ คน แสดงแนวคดิ วา ของดีมคี า หรอื ส่ิงท่ีนกั เรยี นปรารถนาอาจเปนการศึกษา ของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา เลา เรยี นท่จี ะประสบความสําเร็จไดนั้น ตองมีความพยายามอยา งมากจงึ จะไดส่ิงเหลา น้นั มา เปนตน) เจา อยหู วั มา 1 ตวั อยา ง พรอ มทงั้ ให เหตผุ ลที่ยกมา คูมือครู 3

4 คูมอื ครู @ มมุ IT อธบิ ายความรู Engage กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา ศกึ ษาเพิ่มเติมเกย่ี วกับพระราช 1. ใหน กั เรียนจบั คเู ลือกพระราช Explore ประวตั ริ ัชกาลท่ี 6 ไดท ่ี http//:www. นพิ นธใ นรัชกาลที่ 6 เรือ่ งทส่ี นใจ sainampeung.ac.th/chalengsak/ มาเลา ใหเพื่อนฟงหนา ชั้นเรยี น units/unit4/chapter4/chapter4-6/ Ram6_1_History.htm 2. ใหน กั เรียนแสดงทรรศนะตอ พระราชกรณยี กิจดานอักษร ศาสตร ของรชั กาลท่ี 6 บนั ทกึ ลงสมุด พระราชประวัติ ในรชั กาลท่ี ๖ รชั กาลที่ ๕ เสดจ็ สวรรคต สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช โปรดเกลาฯ ใหประกาศใชพ ระราชบัญญัตินามสกุล พระราชพิธโี สกันต เจา ฟามหาวชิราวธุ สยามมกฎุ ราชกุมาร เสด็จข้นึ เกิดสงครามโลกครงั้ ท่ี ๑ อธบิ ายความรู ครองราชยเ ปนรัชกาลท่ี ๖ ทรงยกฐานะโรงเรยี นมหาดเลก็ หลวงใหเ ปน ๒๔๒๓ ๒๔๓๕ ๒๔๕๓ จฬุ าลงกรณม หาวทิ ยาลยั นบั เปน มหาวทิ ยาลยั Explain ๒๔๓๖ แหง แรกของประเทศไทย ๒๔๔๐ ทหารอาสาไทยรว มเดินสวนสนาม ๒๔๔๒ ในสงครามโลกคร้ังที่ ๑ ณ กรุงปารีส ๒๔๕๖ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา - ๒๔๕๗ เจา อยหู วั สวรรคต สมเดจ็ พระเจา - ๒๔๕๙ นอ งยาเธอ เจา ฟา ประชาธปิ กศกั ด-ิ ๒๔๖๒ เดชน กรมหลวงสโุ ขทยั ธรรมราชา ทรงพระราชสมภพเมื่อ ๑ มกราคม พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลาเจา อยูห วั เสดจ็ ขน้ึ ครองราชยเ ปน รชั กาลที่ ๗ ทรงเปนพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลาฯ ใหส มเด็จเจา ฟา พระจุลจอมเกลาเจาอยหู ัวและ มหาวชริ าวธุ ฯ เสดจ็ ไปศกึ ษาตอ ทปี่ ระเทศองั กฤษ สมเด็จพระนางเจาเสาวภาผองศรี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกมุ าร ทรงเริม่ วชิ าทหารทโ่ี รงเรยี น ๒๔๖๘ ขยายความเขา ใจ นายรอยทหารบกแซนดเฮสิ ต ทรงไดร บั การสถาปนาเปน ๒๔๓๑ ทรงอบรมวชิ าปน ใหญที่กรมทหารราบเบาเดอรมั Expand สมเด็จเจา ฟามหาวชริ าวุธ (Royal Durham Light Infantry) ท่อี ัลเดอรชอต (Aldershot) และทรงเขาประจําการที่กรมทหารราบ กรมขนุ เทพทวาราวดี เบาเดอรัม จากนัน้ ทรงเขา ศึกษาท่ีวทิ ยาลยั ไครสตเ ชิรช มหาวิทยาลยั ออกซฟอรด โดยทรงศึกษาวชิ า ประวัตศิ าสตร เศรษฐศาสตรแ ละการปกครอง ๒๔๒๐ ๒๔๓๐ ๒๔๔๐ ๒๔๕๐๒๔๔๕ ๒๔๖๐ ๒๔๗๐ ตรวจสอบผล ๒๔๕๕ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช เจา ฟามหาวชิรณุ หิศ เสด็จพระราชดําเนนิ กลบั ประเทศไทยเมอื่ วนั ท่ี ๒๙๒๔๓๗ ๒๔๖๑ ตง้ั เมืองจําลองดสุ ิตธานี Evaluate สยามมกุฎราชกุมาร รชั ทายาทเสด็จสวรรคต รชั กาลท่ี ๕ มกราคม ทรงเขา รับราชการในกรมทหารมหาดเล็ก โปรดเกลาฯ ใหใ ชพ ุทธศกั ราชแทนรัตนโกสนิ ทรศ ก และจดั ตัง้ คลังออมสิน ปจ จบุ ันคือธนาคารออมสิน จงึ โปรดเกลาฯ สถาปนากรมขุนเทพทวาราวดเี ปน จนทรงไดร บั โปรดเกลา ฯ เปนผบู ังคบั การกรม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจาฟามหาวชิราวธุ ทรงเปน ผูร ักษาพระนคร เมอ่ื รชั กาลที่ ๕ ๒๔๔๗ โปรดเกลา ฯ ใหจ ดั ตงั้ กองเสอื ปา และตง้ั กองลกู เสอื ขนึ้ (ยอจากฉบบั นักเรยี น 20%) สยามมกุฎราชกมุ าร สืบแทน เสด็จประพาสตนครัง้ แรก ๒๔๔๘ ทรงผนวชตามพระราชประเพณี รัชกาลท่ี ๕ โปรดเกลา ฯ ใหสรางวงั พญาไท ๒๔๕๐ เกดิ เหตุการณกบฏ ร.ศ. ๑๓๐ เพอื่ เปลี่ยนแปลง ประทับจําพรรษาที่ พระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกมุ ารฯ ๒๔๕๒ การปกครอง วดั บวรนเิ วศราชวรวหิ าร เสด็จพระราชดําเนนิ ไปเมอื งเหนอื เพื่อ ๒๔๕๔ ๑ พรรษา ศกึ ษาประวัตศิ าสตรและโบราณคดี นายชารล ส แวน เดอก บอรน นาํ เครอื่ งบนิ แบบ ออรว ลิ ไรทม าแสดงทส่ี นามมา ปทมุ วนั เปน ครง้ั แรก ทรงเปน ผสู าํ เร็จราชการ แผน ดนิ เม่ือรชั กาลที่ ๕ เสนสญั ลกั ษณ เสด็จประพาสยโุ รปครั้งทสี่ อง และโปรดเกลาฯ ใหส รา ง ขอ มูลทัว่ ไป พระราชวังสนามจนั ทร ทีจ่ ังหวดั นครปฐม

กระตุน ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate ทรงศึกษาวชิ าประวัตศิ าสตร์และกฎหมายทมี่ หาวทิ ยาลยั ออกซฟอร์ดด้วย เมอ่ื สมเด็จพระบรมโอรสา- อธบิ ายความรู ธริ าชเจา้ ฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกฎุ ราชกุมารสนิ้ พระชนม์ พระองค์จงึ ทรงไดร้ บั สถาปนาเปน็ สมเดจ็ - พระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟา้ มหาวชริ าวธุ สยามมกฎุ ราชกมุ าร และเสดจ็ พระราชดา� เนนิ กลบั ประเทศไทย 1. ใหน ักเรียนอธิบายขอความทกี่ ลา ว เมือ่ พ.ศ. ๒๔๔๕ เสด็จข้ึนครองราชสมบตั ิใน พ.ศ. ๒๔๕๓ วา • บทละครพดู เรอ่ื งเหน็ แกล กู พระราชกรณยี กิจของพระองคม์ ีหลายด้าน เช่น การเมอื งการปกครอง เศรษฐกิจ การศกึ ษา เปน เร่อื งสัน้ ๆ เพยี งองกเดยี ว ศลิ ปะ อกั ษรศาสตร์ ซง่ึ พระองคท์ รงพระราชนพิ นธไ์ วเ้ ปน็ จา� นวนมาก เชน่ โคลนตดิ ลอ้ ยวิ แหง่ บรู พาทศิ หมายความวาอยา งไร บทเสภาสามคั คเี สวก ศกนุ ตลา มทั นะพาธา ซง่ึ ไดร้ บั ยกยอ่ งจากวรรณคดสี โมสรวา่ เปน็ ยอดของบทละคร- (แนวตอบ องก หมายถงึ ตอนหนง่ึ พูดค�าฉันท์และเรื่องหัวใจนักรบได้รับยกย่องให้เป็นยอดของบทละครพูด โดยทรงใช้พระนามแฝงใน ในบทละคร จึงหมายความวา พระราชนิพนธ์ เชน่ อศั วพาหุ รามจิตติ พระขรรค์เพชร Young Tommy และเนื่องในวาระฉลอง บทละครพดู เร่อื งเหน็ แกล ูก วันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี เม่อื วนั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๔ องคก์ ารศึกษา วิทยาศาสตร์ มเี พียงตอนเดยี วหรือฉากเดยี ว) และวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ (UNESCO) ไดป้ ระกาศยกยอ่ งพระองคใ์ หท้ รงเปน็ นกั ปราชญข์ องโลก 2. ใหนกั เรยี นจัดกลุมอธิบาย พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงครองราชสมบตั เิ ปน็ เวลา ๑๖ ปี ทรงมพี ระราชธดิ า ความหมายและววิ ัฒนาการของ เพียงพระองค์เดยี ว คือ สมเดจ็ เจา้ ฟา้ เพชรรตั นราชสดุ า สริ ิโสภาพัณณวดี ซึ่งประสตู แิ ต่พระนางเจ้า- บทละครพดู โดยใชแ ผนผงั ความคดิ สุวทั นา พระวรราชเทวี เมื่อวนั ที่ ๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๖๘ หลงั จากพระราชธดิ าประสตู ิได้ ๒ วัน พระองค์สวรรคตด้วยโรคพระโลหิตเป็นพิษในพระอุทร เม่ือวันท่ี ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘ เกร็ดแนะครู พระชนมพรรษา ๔๖ พรรษา ซง่ึ พระราชประวตั ิของพระองคส์ ามารถแสดงเป็นเสน้ เวลาไวใ้ นหนา้ ๔ ครเู พม่ิ เตมิ ความรเู รอ่ื งบทละครพดู ๓ ลักษณะคÓประพันธ์ ใหนักเรียน การเขียนบทละครพูดแต ละครพูด คือละครที่แสดงโดยใช้บทสนทนาโต้ตอบกันของตัวละคร ผู้แต่งจะเป็นผู้ก�าหนด เดมิ เขยี นเพื่อการแสดงละครเปนสวน ช่ือเร่ือง ตัวละครและฉากว่าควรมีลักษณะอย่างไร รวมไปถึงล�าดับการแสดงของตัวละครแต่ละตัว ใหญ แตในสมัยรัชกาลท่ี 6 บทละคร นอกจากบทละครพูดจะแต่งขึ้นเพื่อใช้ในการแสดงแล้วยังใช้อ่านได้ด้วย ซ่ึงการอ่านบทละครพูดให้ พูดไดเขียนข้ึนเพื่อใชเปนวรรณกรรม ไดร้ บั อรรถรสทางการประพนั ธแ์ ละแงค่ ดิ เตอื นใจ ผอู้ า่ นจะตอ้ งใชว้ จิ ารณญาณและจนิ ตนาการเพอ่ื เขา้ ใจ สําหรับอา นดวย อารมณค์ วามรสู้ กึ นกึ คดิ สาเหตขุ องพฤตกิ รรมตา่ งๆ ของตวั ละครผา่ นฉากและบทสนทนาของตวั ละคร นักเรียนควรรู บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก เป็นบทละครพูดขนาดสั้นที่มีความยาวเพียงองก์เดียวและมีฉาก เดียว ซึ่งหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล สันนิษฐานว่า บทละครพูดเร่ืองเห็นแก่ลูกน่าจะเป็นละครพูด องก หมายถึง ตอนหนึ่งๆ ในบท เรื่องแรกท่ีพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเองโดยมิได้แปลหรือดัดแปลงมาจากบทละครต่างประเทศ ละคร แตล ะตอนอาจมเี พยี งฉากเดยี ว โดยทรงใช้พระนามแฝงวา่ พระขรรค์เพชร หรือหลายฉากก็ได บทละครพดู เรอ่ื งเห็นแกล่ ูก แมจ้ ะเปน็ เร่ืองส้นั ๆ เพียงองกเ์ ดียวแตน่ บั ว่าเปน็ บทละครท่แี สดง คณุ ธรรมประการส�าคัญ คือ ความรักอนั ย่ิงใหญข่ องบิดามารดาท่มี ตี ่อบตุ รของตน ไม่ว่าจะต้องลา� บาก เพียงใด จะยอมทนเพื่อให้ลกู ได้มีความสขุ กาย สบายใจ เปน็ ความรกั ทไี่ มม่ สี งิ่ ใดเสมอเหมือน 5 คมู อื ครู 5

กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธิบายความรู (ยอ จากฉบบั นักเรียน 20%) ใหนักเรียนศึกษาเรื่องยอบทละคร ดว้ ยเหตนุ บ้ี ทละครพดู เรอื่ งเหน็ แกล่ กู จงึ ไดร้ บั คดั เลอื กใหน้ กั เรยี นระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาไดศ้ กึ ษา พูดเรื่องเห็นแกลูกมาลวงหนา แลว และยังไดร้ บั การแปลเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาจนี ภาษาเกาหลี ภาษามาเลย์ เปน็ ตน้ สรุปเร่ืองยอเปนความเรียง บันทึกลง สมุด ๔ เร่ืองยอ่ ขยายความเขาใจ บทละครพดู เรอื่ งเหน็ แกล่ กู เปน็ เรอ่ื งของชายสองคน คอื นายลา�้ (ทพิ เดชะ) และพระยาภกั ด-ี นฤนาถ ทั้งสองคนเคยเป็นเพ่ือนรักกันมาก่อน นายล�้าเคยรับราชการจนได้ต�าแหน่งทิพเดชะ ส่วน ใหนกั เรยี นลําดบั เหตกุ ารณจาก พระยาภักดนี ฤนาถ มีตา� แหน่งหลวงก�าธร ทัง้ สองคนหลงรักหญิงคนเดยี วกันคอื แมน่ วล ซ่ึงนายลา้� ได้ เรอื่ งยอเปนแผนผังความคดิ แต่งงานกับแม่นวลและมีบุตรสาวคนหน่ึงช่ือแม่ลออ แต่นายล้�าต้องโทษจ�าคุก ๑๐ ปี ฐานประพฤติ ทจุ รติ ต่อมาแมน่ วลเสียชีวติ ขณะน้นั แม่ลอออายไุ ด้เพียง ๒ ปี พระยาภักดนี ฤนาถจึงอุปการะแม่ลออ นกั เรียนควรรู โดยบอกเธอวา่ บดิ ามารดาที่เสยี ชวี ิตไปแล้วนน้ั เป็นคนดี บทละครพดู เร่ืองเหน็ แกล กู เมื่อนายลา้� ออกมาจากคกุ เขาหมดหนทางทา� มาหากิน และไดท้ ราบวา่ แมล่ ออกา� ลังจะเข้าพิธี เปนเรอื่ งทร่ี ัชกาลที่ 6 ทรงคิดสรา ง แต่งงานกับบุตรพระยารณชิตผู้ร่�ารวยจึงคิดจะมาพึ่งพา ส่วนพระยาภักดีนฤนาถแม้จะเป็นเพียงบิดา โครงเร่อื งข้ึนเองและมีบทละครพูด บญุ ธรรมแตก่ ร็ กั แมล่ ออเหมอื นลกู แทๆ้ ของตนจงึ พยายามไมใ่ หน้ ายลา�้ เขา้ มายงุ่ เกย่ี วกบั แมล่ ออ เพราะ เรอ่ื งอนื่ ๆ เชน จดั การรบั เสดจ็ ขนมสม เกรงวา่ แม่ลออจะถกู คนในสังคมรงั เกียจ แตเ่ มอ่ื นายลา้� ไดพ้ ูดคุยกับแมล่ ออและพบว่าเธอชืน่ ชมบิดา กับนํ้ายา ผูรา ยแผลง เปน ตน ทีแ่ ท้จริงว่าเปน็ บุรุษผแู้ สนดี น่าเคารพเลอื่ มใส ความรู้สกึ จงึ เปลยี่ นไป เขาไม่อาจลบภาพพ่อทแ่ี สนดี ในใจของแมล่ ออลงได้ ความเห็นแกต่ วั ของนายล�า้ จึงหมดไปและแปรเปลยี่ นเปน็ ความรสู้ กึ ทเ่ี ห็นแก่ลกู อยา่ งจรงิ ใจ นายลา�้ ไมอ่ าจแสดงตนเปน็ พอ่ ทแ่ี ทจ้ รงิ ของแมล่ ออได้ เพราะปรารถนาใหแ้ มล่ ออมคี วามสขุ กบั อนาคตวันข้างหน้า ๕ เนือ้ เร่อื ง บทละครพูดเรอื่ งเหน็ แก่ลูก ตัวละคร พระยาภกั ดีนฤนาถ นายลา้� (ทพิ เดชะ) อ้ายค�า (บา่ วพระยาภกั ดนี ฤนาถ) แม่ลออ ฉากหอ้ งหนงั สอื ในบ้านพระยาภกั ดีนฤนาถ มปี ระตูข้างซา้ ยเขา้ ไปในหอ้ งนอน ข้างขวาออก ไปเฉลยี งทางขึน้ ลง หลงั มหี น้าตา่ ง เครื่องประดบั ประดาไม่เป็นของมรี าคาแตใ่ ช้ไดด้ ีๆ พอเปิดม่าน อา้ ยคา� พานายล�้า (ทพิ เดชะ) เขา้ มาทางประตูขวา นายลา�้ นัน้ เป็นคนอายุราว ๔๐ แต่หน้าตาแก่ ผมหงอกหน้าย่นมาก แลจมูกออกจะแดงๆ เห็นได้ว่าเป็นคนกินเหล้าจัด แต่งกาย คอ่ นขา้ งจะปอนๆ แต่ยงั เหน็ ไดว้ ่าไดเ้ คยเป็นผดู้ มี าครงั้ หน่งึ แล้ว 6 6 คูม อื ครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate นายล�้า. : กแ็ ล้วเจ้าคณุ เม่ือไหรจ่ ะกลบั ? กระตนุ ความสนใจ อ้ายคา� . : เห็นจะไมช่ ้าแลว้ ครับ ทา่ นเคยกลับจากออฟฟศิ ราวบา่ ย ๕ โมงทุกวนั . ครนู าํ ภาพการแสดงละครแตล ะ ประเภทมาใหนักเรียนดู สนทนา นายล�้า. : ถ้ายงั ง้นั ฉนั คอยอยทู่ ีน่ ีก่ ็ได.้ ซักถาม อา้ ยคา� . : ครบั . (ลงนัง่ กบั พืน้ ท่รี มิ ประตขู วา.) • ละครแตละประเภทแตกตางกนั อยา งไร (ละครราํ ละครรอง นายลา้� . : (ดอู ้ายค�าแลว้ จงึ พดู .) แกไม่ตอ้ งนงั่ คอยอยู่กบั ฉันหรอก มีธรุ ะอะไรก็ไปทา� ละครพูด) เสียเถอะ. • นักเรียนเคยดูละครพูดบางหรือ อา้ ยค�า. : ครับ. (น่ังน่ิงไมล่ กุ ไป.) ไม เร่ืองอะไร (ครูใหนักเรียน ท่ีเคยดูมาเลาประสบการณให นายล้�า. : ฮือ! (มองดอู ้ายค�าคร่หู นึง่ แลว้ ไปยนื มองดูอะไรเล่นที่หนา้ ตา่ งสกั ครู่หนึง่ เพอื่ นฟงหนา ชัน้ เรียน) อ้ายคา� ก็ยงั นง่ั นงิ่ อยู่เฉยๆ จึงหนั ไปพูดอกี .) แกจะคอยอะไรอกี ละ่ ? • ละครพดู มลี ักษณะอยา งไร อา้ ยคา� . : เปลา่ ครับ. (แนวตอบ เปนการแสดงท่ีมีการ จัดฉาก แสง สี เสียง ใหเหมือน นายล�า้ . : ถา้ จะตอ้ งคอยอยู่เพราะฉันละก็ ฉนั ขอบอกว่าไม่จา� เป็น แกจะไปก็ได้. ธรรมชาติ มีการพูดสนทนาโตตอบ กัน และครูแนะวาตัวละครแสดง อา้ ยค�า. : ครับ. (นั่งนง่ิ ไมล่ กุ ไป.) กริ ยิ าอาการอยา งไร และพดู อยา งไร ส่ิงสําคัญที่สุดของละครพูดคือบท นายล�้า. : (ดอู า้ ยคา� อกี ครหู่ นึง่ แลว้ กห็ วั เราะ.) ฮะๆ ฮะๆ แกเหน็ ทา่ ทางฉนั มนั ไมไ่ ดก้ าร สนทนาของตัวละครทุกตัว จะนํา กระมงั แต่ท่จี ริงฉนั นะ่ เป็นผู้ดีเหมือนกัน มีตระกูลไม่ต�า่ ไม่เลวไปกว่าเจา้ คุณ ไปสูการดําเนินเร่ือง) ภกั ดเี ลย. สาํ รวจคนหา อ้ายค�า. : (ออกไมใ่ ครเ่ ช่อื .) ครบั . ใหนักเรียนสืบคนเนื้อหาบทละคร นายล้�า. : ฮื่อ! แกไม่เชอ่ื ! ทจี่ ริงแกกไ็ มน่ า่ เชอื่ รูปรา่ งฉนั มนั โทรมเต็มที เคร่อื งแตง่ ตวั เรอื่ งเหน็ แกล กู จากแหลง เรยี นรตู า งๆ หรือก็ปอนเต็มทียังงี้ แต่ฉนั สาบานไดเ้ ทียวว่า ฉนั จะไมแ่ ตะต้องส่งิ ของอะไร ของเจา้ คณุ ภกั ดีกอ่ นทจ่ี ะได้รบั อนุญาต เขา้ ใจไหม? อา้ ยค�า. : ครับ. (นายลา้� มองดอู า้ ยคา� เหน็ จะไมไ่ ปแนแ่ ลว้ ก็ถอนใจใหญ่ แลว้ ไปหยบิ หนงั สอื เลม่ หนึ่งมาน่งั อ่านท่ีเก้าอี้ เงียบอยู่คร่หู นึง่ .) (พระยาภักดีนฤนาถเข้ามาทางประตูขวา พระยาภกั ดีอายุราวนายล้า� หรอื จะ แกก่ วา่ นดิ หน่อย กิริยาทา่ ทางเป็นขุนนางผูใ้ หญ่ ฝ่ายอา้ ยคา� พอนายเข้ามา ก็ยกมือไหว้ แล้วต้งั ท่าจะพดู .) พระยาภักดี. : อะไรวะ? อา้ ยคา� . : รับประทานโทษขอรับ! (บุย้ ปากไปทางนายล�า้ .) พระยาภกั ด.ี : ใครวะ? อา้ ยคา� . : อา้ งว่าเป็นเกลอเกา่ ของใตเ้ ทา้ ผมบอกว่าใตเ้ ท้ายังไม่กลบั จากออฟฟศิ กไ็ ม่ ยอมไป เดนิ เรอ่ื ยขนึ้ มาทีน่ ี่ว่าจะมาคอยพบใต้เท้า. 7 คูม อื ครู 7

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบบั นกั เรียน 20%) ใหน กั เรยี นแบง กลมุ แลว สรปุ เนอ้ื หา พระยาภกั ด.ี : แล้วยังไงล่ะ? บทละครพดู เรอ่ื งเหน็ แกล กู เปน ภาษา อ้ายคา� . : เกล้าผมกต็ ามขนึ้ มาด้วย มานงั่ คมุ อย่นู ี.่ ของนกั เรยี นเอง จากนน้ั นกั เรยี นแตล ะ พระยาภกั ดี. : เออ! ดีละวะ! เอ็งออกไปนั่งคอยอยขู่ า้ งนอกกไ็ ด้. กลุมสงตัวแทนมาหนาช้ันเรียนนํา อา้ ยค�า. : ขอรับผม. เสนอการสรปุ เร่ืองยอ พระยาภกั ดี. : คอยอย่ใู กล้ๆ เผือ่ ข้าจะเรยี ก แล้วก็ถ้าคณุ ลออมา บอกขา้ ดว้ ยนะ. อา้ ยค�า. : ขอรับผม. (ออกไปทางประตขู วา.) (แนวตอบ นายล้ํากับพระยาภักดี- พระยาภักด.ี : (แลดูนายลา�้ อยคู่ ร่หู นึง่ แลว้ กระแอม.) ฮะแอม! นฤนาถเปน เพ่ือนกนั ท้งั สองรกั ผูหญิง นายล้า� . : (เหลียวมาเหน็ .) ออ้ ใต้เท้ากรณุ า ผมไหว ้ (ยกมือไหวแ้ ล้วลกุ ขน้ึ ยืน.) ใต้เทา้ คนเดียวกัน นายล้ําเปนคนกลาได กลาเสียแอบเลนการพนันและดื่มสุรา เห็นจะจ�าผมไม่ได้. นายล้ําไดแตงงานกับแมนวลมีบุตร พระยาภักดี. : (มองดู.) ฉันไม่สู้แน่ใจ ดูเหมือนจะจ�าไดค้ ลับคล้ายคลับคลา. สาว 1 คน ชื่อลออ นายล้ําตองโทษ นายลา�้ . : ก็ยงั งั้นซิครับ ใตเ้ ท้ามบี ญุ ข้นึ แล้วจะมาจดมาจ�าคนเชน่ ผมยงั ไงได.้ จําคุก 10 ป เพราะประพฤติทุจริต พระยาภกั ดี. : ฮือ! พศิ ๆ ไปกอ็ อกจะจา� ได ้ นายล�า้ ใชไ่ หม? พระยาภักดีนฤนาถเปนคนซื่อสัตย นายล�้า. : ขอรับ นายล�้า ทพิ เดชะ. สุจริต ขยันหม่ันเพียร จึงกาวหนาใน พระยาภักด.ี : ออ้ ๆ นัง่ เสียก่อนซ,ิ (น่ังทง้ั สองคนด้วยกนั .) เป็นยงั ไง สบายดีอย่ดู อกหรือ? ราชการ เมอื่ แมนวลเสียชีวติ บตุ รสาว นายล�้า. : ขอรบั ผมก็ไมเ่ จ็บไขม้ ีอาการถงึ จะล้มจะตายอะไร. อายุได 2 ป พระยาภักดีนฤนาถได พระยาภกั ดี. : แกแปลกไปมาก ดูแกไ่ ป. อุปการะแมลออเปนบุตรบุญธรรม นายลา้� . : ขอรับ ผมกร็ สู้ กึ ตวั วา่ ผมแกไ่ ปมาก. เล้ียงดูจนเปนสาว และกําลังจะ พระยาภกั ด.ี : ฉนั ยังไม่ได้พบแกเลยต้ังแต.่ .. แตงงาน พระยาภักดีนฤนาถบอก นายลา้� . : จรงิ ขอรบั หลายปมี าแล้ว สิบหา้ ปไี ดแ้ ล้ว. แมลออวาพอแมเสียชีวิตและเปน พระยาภักดี. : แหม! ยงั งนั้ เทียวหรือ? คนดีมาก รวมทั้งแมลออก็รักเคารพ นายลา้� . : แนล่ ะซคี รบั เมอื่ ... เมอื่ เกดิ ความขนึ้ นะ่ ใตเ้ ทา้ กบั ผมยงั หนุม่ อยดู่ ว้ ยกนั นีค่ รบั พระยาภักดีนฤนาถมาก นายลํ้าออก จากคุกตองการจะมาอยูกับลูก แต ผมเป็นทิพเดชะ ใต้เทา้ ยังเปน็ หลวงก�าธรอยยู่ ังไงละ่ . พระยาภกั ดนี ฤนาถกดี กนั ทกุ ทางเกรง พระยาภักด.ี : ถกู ล่ะๆ. วาแมลออจะถูกดูหม่ินเหยียดหยาม นายลา้� . : แลว้ กผ็ มยงั ต้องไป...เอ้อ... ไปเปน็ โทษเสยี สิบปยี ังไงล่ะครบั . แมลออไดพบกับนายล้ํา เธอช่ืนชม พระยาภักดี. : อือๆ! สูบบหุ รไ่ี หมล่ะ? พอ ทเ่ี ปน คนดนี า เคารพเลอื่ มใส ทาํ ให นายล�้า. : ขอบพระเดชพระคุณ. (รับบุหรีไ่ ปจุดสบู .) นายล้าํ ไมอ าจลบภาพพอ ทดี่ ีได พระยาภักดี. : แลว้ แกไปทา� อะไร เห็นหายไป. ความเห็นแกล ูกจงึ เสยี สละไมแ สดง ตนเปนพอ ) 8 นักเรยี นควรรู ขอรบั เปน คาํ ลงทา ยและคาํ ตอบรบั ซึ่งผูชายท่ีเปนผูนอยใชพูดกับผูใหญ กวา ปจจุบันไมนิยมใช “ขอรับ” แต ผูชายทุกคนจะใชคําวา “ครับ” โดย ทวั่ ไป 8 คมู อื ครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate นายลา้� . : ผมข้นึ ไปอยพู่ ษิ ณโุ ลกครบั พอพ้นโทษแลว้ ผมก็เลยเปิดไปให้พน้ บางกอก อธบิ ายความรู จะอยูด่ หู นา้ พวกพอ้ งยังไงได.้ ครูใหนักเรียนศึกษารูปแบบการ พระยาภักดี. : ถกู แลว้ , ถูกแล้ว, ทา� มาหากนิ ยงั ไงที่พษิ ณโุ ลก? เขียน และอธิบายการใชเครื่องหมาย วรรคตอนตางๆ ในบทละครพดู เรื่อง นายลา้� . : แตแ่ รก ผมพยายามหางานทา� ทางเสมียนบาญช ี ก็ไม่ส�าเรจ็ . (หัวเราะ.) เห็นแกลูก วา มีลักษณะเดนอยางไร พระยาภักด.ี : ฮอื ๆ! ในชน้ั ตน้ ๆ เห็นจะลา� บากจรงิ แล้วยังไงล่ะ? (แนวตอบ เปนการเขียนแบบบท ละคร มีวงเล็บแสดงอาการของตัว นายล้�า. : แลว้ ผมก็เขา้ หนุ้ คา้ ขายกบั เจก๊ สองสามคนดว้ ยกนั . ละคร เขยี นบทพดู สอ่ื สารโดยไมม กี าร บรรยาย และใชเ ครอ่ื งหมายวรรคตอน พระยาภกั ด.ี : แลว้ เปน็ ยงั ไง? แบบภาษาอังกฤษ) นายล้า� . : ก็ดีหรอกครบั พอไถๆ ไปได ้ ไม่สูฝ้ ดื เคืองนักแตภ่ ายหลงั อา้ ยผีโลภมนั กเ็ ข้า เกร็ดแนะครู ดลใจผมอีก. การยืมคําภาษาอังกฤษมาใชใน พระยาภกั ดี. : เอะ๊ ! อะไร เลน่ อยา่ งเกา่ อกี หรือ? ภาษาไทยมกั มสี าเหตมุ าจากวทิ ยาการ ตางๆ ที่ไทยรบั มา โดยนาํ มาทบั ศพั ท นายล้า� . : เปลา่ ขอรบั อ้ายอยา่ งเกา่ ผมเข็ด, แตถ่ ึงจะไม่เข็ดมนั ก็ท�าอย่างเก่าอีกไมไ่ ด ้ กรณที ค่ี าํ นนั้ ๆ เปน คาํ ใหม และยงั ไมม ี เพราะผมไมไ่ ดเ้ ปน็ ขา้ ราชการแลว้ อยา่ งทท่ี า� ครง้ั กอ่ น มนั กไ็ มม่ โี อกาสอยเู่ อง คําศัพทบ ัญญตั ใิ ชใ นภาษาไทย เชน ถูกไหมล่ะครบั ? offifi ce = ออฟฟศ หมายถงึ พระยาภักดี. : ถูกแลว้ เป็นเคราะหด์ ีของแกทไ่ี มม่ ีโอกาส. สํานกั งาน ท่ที าํ การ นายล้�า. : ทจ่ี รงิ ถึงมโี อกาสผมกไ็ มเ่ ลน่ อกี ผมก็แกจ่ นหัวหงอกแล้วตอ้ งมีความคิดดีขึ้น soda = โซดา หมายถงึ นา้ํ ทเี่ จอื ดว ย กวา่ แต่กอ่ นสักหนอ่ ย, การท่ผี มท�าอย่างครงั้ ก่อนนะ่ ผลที่ได้มนั ไม่มีน้า� หนัก โซเดียมไฮโดรเจนคารบอเนต น้ําท่ีมี เทา่ ผลทเ่ี สยี เลย, เพราะฉะนนั้ ผมจงึ ไดค้ ดิ หาหนทางทจี่ ะทา� การใหไ้ ดผ้ ลมากๆ แกสคารบอนไดออกไซดละลายและ และใหม้ ีทางล�าบากน้อยๆ. อดั ไวในขวด พระยาภกั ดี. : ฮือ! แล้วกท็ า� ยังไงละ่ ฉันหวงั ใจวา่ การที่ทา� นนั้ ไมเ่ ป็นสิ่งท่ผี ิดกฎหมาย, clinic = คลินกิ หมายถงึ แตท่ ่ีจรงิ นีก่ ็ไมต่ ้องกลา่ วเพราะถ้าผิดกฎหมายแกคงไมม่ าเลา่ ให้ฉันฟงั . สถานพยาบาล นายล�้า. : ออ้ ! เจา้ คณุ นกี่ ย็ งั ชา่ งพดู อยเู่ หมอื นหนมุ่ ๆ นะ่ เอง การทผ่ี มทา� นะ่ เปน็ การคา้ ขาย night club = ไนตคลับ หมายถึง ครับ. สถานเริงรมยที่เปดเวลากลางคืน ขายอาหาร เครื่องด่ืม มีดนตรี และ พระยาภักด.ี : คา้ อะไร? มกั จัดใหมีการแสดงดวย นายล�้า. : ฝน่ิ . นักเรยี นควรรู พระยาภักด.ี : ออื ! ไดก้ า� ไรดีหรอื ? ฝด เคอื ง เปน คาํ ซอ นเพอื่ ความหมาย มคี วามหมายวา ตดิ ขดั มไี มส จู ะพรอ ม นายลา�้ . : ฉิบหายหมดตัว. ใชสอย พระยาภักด.ี : อา้ ว! ทา� ไมยงั งั้น? นายล�้า. : เขาจับไดเ้ สียน่ะซิ เคราะหด์ ีทไี่ ม่ตดิ คุกเขา้ ไปด้วย. 9 คูมือครู 9

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธิบายความรู (ยอ จากฉบบั นักเรยี น 20%) ใหน ักเรยี นจบั คหู าคาํ อุทาน พระยาภักดี. : จรงิ เคราะห์ดี. จากบทละครพดู เร่อื งเห็นแกล กู นายล�้า. : รอดตวั ทห่ี มอความของผมด ี แกว้ ่าผมไม่รู้ไมเ่ ห็นดว้ ย, จีนกิมจนี เงก็ มากูเ้ งิน โดยยกตวั อยา งคําอุทานในเรอื่ ง และชว ยกนั อธิบายวาคําอุทานนั้น ผมไปวา่ จะไปทา� ทนุ ในการคา้ ขายลอ่ งเรอื ขา้ วหรอื อะไรอนั หนึง่ , ผมกจ็ า� ไมไ่ ด้ ใชในสถานการณใด ถนดั เสียแลว้ และจนี กิมจนี เง็กเอาเงนิ นน้ั ไปลงทุนซื้อฝิน่ ผมไมร่ ไู้ ม่เหน็ ด้วย, ทจี่ รงิ ผมระวงั ตวั มาก คอยเลย่ี งไมอ่ อกหนา้ ออกตาเลย เพราะยงั งนั้ ถงึ ไดห้ า (แนวตอบ เชน ฮืม! กจ็ นี กิมจีนเงก็ พยานมายันผมยากนกั . เลา? “ฮมื ” เปนคาํ อทุ านดว ยความ พระยาภักดี. : ฮอื ! กจ็ นี กมิ จนี เง็กเล่า? สงสยั เปนตน) นายล�้า. : ตดิ ตะรางอยู่ทพี่ ิษณุโลก. พระยาภักดี. : อ้อ! ขยายความเขา ใจ นายลา้� . : แหม! วนั นี้รอ้ นจรงิ ท�าใหร้ ะหายน�า้ พิลกึ . พระยาภักดี. : (เรยี ก.) อา้ ยค�า! ไปหาโซดามาถว้ ยเถอะ. ใหน ักเรยี นพจิ ารณาการใชคาํ อุทาน นายล�้า. : โซดาเปล่าหรือครับ? • ในปจ จบุ นั ใชค าํ อทุ านเหมอื นกบั ใน พระยาภกั ด.ี : จะเอาครมี โซดาก็ได้ หรือน�า้ แดง. นายล�้า. : นา้� เหลืองๆ ไมม่ ีหรือครับ มนั ค่อยชน่ื อกช่นื ใจหนอ่ ยหนึ่ง? เรอ่ื งหรอื ไม หากใชไ ดแกค าํ ใดบาง พระยาภักดี. : ไมม่ ี ถึงจะมฉี นั กไ็ ม่เห็นควรจะกินเวลาร้อนๆ ยงั ง.้ี (อา้ ยคา� ยกโซดาเขา้ มา และใชในสถานการณใด ทางขวา วางโซดาบนโตะ๊ แลว้ กลบั ออกไป นายลา�้ ยกโซดาขน้ึ ดม่ื ทา� หนา้ เหย (แนวตอบ ยังใชอยู ไดแกคําวา ฮือ! แลว้ วาง.) ฮอื ! เออ! ดลี ะวะ! แหม! ออื ๆ! เอะ! นายล�้า. : ทีพ่ ิษณโุ ลกกพ็ อหาอะไรด่ืมได้พอใช้เทยี วครบั . ออ ! อ่ือ! อาว! ออ ! พุธโธ! ออ! เอา! พระยาภักด.ี : (แลดหู นา้ นายลา�้ .) ฉนั เชอื่ , เชอ่ื ทเี ดยี ว เออ! นีแ่ นะ่ ฉนั ขอถามอะไรสกั หนอ่ ย อะ! ปจจุบันยังมีการใชคําอุทาน เถอะ แกมาหาฉนั วนั นีน้ ะ่ มธี รุ ะอะไร อยา่ เกรงใจเลย เสยี แรงเปน็ เกลอกนั มา เหลา น้ีอยู และคาํ วา พทุ โธ! มักใช แตเ่ ก่าแตแ่ ก.่ ในหมูผสู ูงอายุ) นายลา้� . : ผมมากต็ งั้ ใจมาเยยี่ มเจา้ คณุ นน่ั แหละอยา่ งหนึง่ อกี อยา่ งหนึง่ ผมนึกวา่ ถา้ มี โอกาสจะไดพ้ บแมล่ ออบ้าง. นักเรียนควรรู พระยาภักดี. : (หน้าตงึ .) อ้อ! นายลา้� . : เขาวา่ เปน็ สาวใหญแ่ ล้วไม่ใชห่ รอื ครับ? หมอความ หมายถงึ ทนายความ พระยาภักดี. : กส็ าวอายุ ๑๗ แล้ว. คอื ผูที่ไดร ับใบอนุญาตใหวาตาง นายล้�า. : ออ้ ! ถกู ครับ แลว้ เขาว่าเหมอื นแมเ่ ขาไมใ่ ชห่ รือครบั ? แกตา งคคู วามในคดคี วาม พระยาภกั ด.ี : กเ็ หมือน. นักเรยี นควรรู 10 นาํ้ เหลอื งๆ ในทน่ี ห้ี มายถงึ สรุ าฝรงั่ คือ บร่ันดหี รอื วิสกี้ซงึ่ มีนํ้าสีเหลอื ง 10 คมู อื ครู

กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate นายล้�า. : ผมจะพบสกั ทีไดไ้ หมครับ? อธบิ ายความรู พระยาภักดี. : ฉนั บอกไมไ่ ด้วา่ เม่ือไหร่จะมโี อกาสท่จี ะพบแมล่ ออ. จากบทประพันธใ นหนา 11 นี้ ใหนักเรียนอภิปรายรว มกัน ดังน้ี นายลา�้ . : นยั ว่านะ่ เจา้ คณุ ไมเ่ ตม็ ใจให้ผมพบยังงัน้ หรือ? • นกั เรยี นคิดวา นายลํา้ มลี ักษณะ พระยาภักดี. : ถา้ จะใหฉ้ นั ตอบตามใจจริงก็ต้องตอบวา่ ถ้าไม่พบไดด้ กี วา่ . นิสยั อยา งไร (แนวตอบ ตอบไดห ลากหลาย นายล้า� . : (ออกโกรธ.) ทา� ไม? เชน เปนคนโลภเหน็ แกเงนิ เปนตน) พระยาภักด.ี : จะให้ตอ้ งอธบิ ายไปทา� ไม แกควรจะเขา้ ใจไดเ้ องดเี ทยี ว. • บทพดู ของพระยาภกั ดเี หมาะสม นายล�้า. : เขา้ ใจยังไง? กบั สถานการณหรือไม อยางไร (แนวตอบ เหมาะสม เพราะใน พระยาภักด.ี : จะใหฉ้ ันพดู ตามตรงอีกหรือ? สถานการณที่นายลํ้ากําลังโมโห พระยาภกั ดกี พ็ ูดโดยใชเ หตผุ ล) นายล�า้ . : เชญิ . ขยายความเขา ใจ พระยาภกั ดี. : ถา้ อยา่ งงนั้ กเ็ อาซ ิ ที่ฉันไมเ่ ตม็ ใจใหแ้ กพบกับแมล่ ออกเ็ พราะแมล่ ออเป็นผู้ท่ี ไดร้ บั การอบรมอนั ดี สมควรแกผ่ มู้ ตี ระกลู , ควรหรอื ทห่ี ลอ่ นจะคบคา้ สมาคม ใหนกั เรยี นรวมกนั แสดงความคิดเห็น กับคน...เอ้อ... • หากนกั เรยี นเปนคนทีอ่ ยูในสงั คม นายลา้� . : คนขค้ี ุกข้ตี ะรางอยา่ งผม ยังงั้นหรือ? สมัยรัชกาลท่ี 6 นักเรียนจะใหอ ภยั และยอมรบั คนที่เคยติดคุก พระยาภกั ดี. : ฉันเสียใจ ทีแ่ กมาบังคับใหฉ้ นั ตอ้ งพดู ให้ระคายหูแกเชน่ นี.้ ตดิ ตะรางอยางนายล้ําหรอื ไม เพราะเหตุใด นายล�้า. : ทา� ไมในโลกนีม้ ผี มคนเดยี วหรือ ทเ่ี คยตดิ คุก, คนอื่นที่เคยติดคกุ แลว้ มาเท่ยี ว (แนวตอบ คําตอบขึน้ อยกู ับทัศนคติ ลอยหนา้ สมาคมอยู่ในหม่ผู ลู้ ากมากดี มถี มไปไมใ่ ช่หรือ? ของนกั เรียน แตค รคู วรแนะนาํ วา การใหอภยั เปนสิง่ ทีค่ วรทํา เพราะ พระยาภักดี. : ทางทจี่ ะตอ้ งรบั พระราชอาญามหี ลายทาง บางคนกพ็ ลาดอยา่ งโนน้ บางคน หากไมใหอ ภัยเขากจ็ ะไมมีโอกาส กพ็ ลาดอย่างนี้, ความผดิ ทค่ี นกระทา� กม็ หี ลายช้ัน. แกตัว และจะทําผดิ ซา้ํ อกี ) นายลา�้ . : ยังงน้ั ซิ ถงึ การฉ้อโกงก็มีหลายชนิดหลายช้ันเหมอื นกนั ถ้าไมย่ งั ง้ันคุณเอง นักเรยี นควรรู จะไดม้ าลอยหน้าเป็นพระยาอยหู่ รือ? ลอยหนา เปน คาํ ประสม คาํ วา พระยาภักดี. : ทแ่ี กพูดเช่นนี ้ ถ้าเป็นคนอนื่ เขาคงหาวา่ แกหม่นิ ประมาทเขา แต่ฉันนะ่ เปน็ คน ลอย + หนา หมายความวา ทําหนาตา ท่รี ูจ้ กั แกมาช้านานแล้ว เพราะฉะนัน้ พอจะใหอ้ ภยั ได้. ยักเย้ืองกลอกไปกลอกมา นายล�้า. : ขอบพระเดชพระคณุ ผมเขา้ ใจดแี ลว้ ถา้ ฉอ้ โกงเลก็ นอ้ ยจงึ่ จะมโี ทษ โกงใหเ้ ปน็ การใหญ่ไมเ่ ปน็ ไร. พระยาภักดี. : แกยังเขา้ ใจผดิ อยู่มาก การทีค่ นไดร้ ับพระราชอาญาคราวหนึง่ แล้ว ไมใ่ ชว่ ่า ใครๆ เขาจะพากันคอยตัดรอนไมใ่ ห้มีการผงกหวั ได้อกี ไมใ่ ช่เชน่ น้นั ถ้าใคร สา� แดงใหป้ รากฏวา่ รสู้ กึ เขด็ หลาบเกรงพระราชอาญา ละความประพฤตทิ ช่ี วั่ ประพฤติทางทดี่ ีแลว้ ก็คงจะต้องมีผู้รู้สกึ สงสารสกั คราวหนึง่ . 11 คูมอื ครู 11

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธิบายความรู (ยอจากฉบับนักเรียน 20%) “นายลา้ํ พา ยแพต อ “ภาพ” ทแ่ี มล ออ นายล้า� . : เจา้ คณุ จะพดู อยา่ งไรกพ็ ดู ได ้ เจา้ คณุ ไมเ่ คยตดิ คกุ จะมารยู้ งั ไงได ้ วา่ อา้ ยคนที่ วาดไว” ติดคกุ ออกมาแล้วนะ่ มันจะได้รับความลา� บากยงั ไง. • “ภาพ” ท่ีกลาวถึงนี้คืออะไรและ พระยาภกั ดี. : ฉันขอถามหน่อยเถอะ ว่าต้ังแต่แกพ้นโทษมาแล้วแกได้พยายามท่ีจะส�าแดง มีอิทธิพลตอมนุษยเราจริงหรือ ใหป้ รากฏอยา่ งไรบ้าง วา่ แกนะ่ ต้งั ใจจะประพฤติแตใ่ นทางที่ดีทีค่ วร? ไมอ ยางไร (แนวตอบ “ภาพ” ในที่น้ีคือ ภาพ นายล้�า. : ผมจะพยายามหรอื มพิ ยายามกไ็ มม่ ใี ครปรารถนาอินัง. ลักษณ เปนภาพท่ีเกิดจากความ พระยาภกั ดี. : อ้อ เพราะฉะน้ัน แกก็เลยปล่อยตัวไปตามใจของแกยังง้นั ซ.ิ นึกคิดที่คิดวาควรจะเปนเชนน้ัน นายล้�า. : (หวั เราะ.) เจา้ คณุ ตอ้ งเขา้ ใจวา่ ผมกร็ กั ชวี ติ ของผมเหมอื นกนั ทจ่ี ะใหผ้ มอดตาย มีอิทธิพลตอมนุษยเราจริง คน เราโดยทั่วไปจะรักษาภาพของ นนั้ เหลอื เกินนกั ผมหาไดท้ างไหนผมก็เอาทางน้นั . ตนเองซ่ึงเปนภาพที่ดีอยูเสมอ พระยาภกั ดี. : ฮอื ! แกอยากจะพบแม่ลออท�าไม? ภาพท่ีแมลออวาดไวคือ หนาตา นายล้า� . : ผมไมไ่ ด้เห็นหลอ่ น ต้ังแตห่ ล่อนอายไุ ด้ ๒ ปีเศษเทา่ น้ัน ผมก็อยากจะดูว่า เปนคนซื่อ ใจคอกวา งขวาง เปน คนดี) เด๋ียวนีห้ ล่อนจะเปน็ ยังไง. พระยาภกั ดี. : ออ้ ? นัน่ แน่รูปแมล่ ออ ฉายเมื่อเร็วๆ นีเ้ อง, (ลุกไปหยบิ รปู มาส่งใหน้ ายล�้า.) ขยายความเขาใจ ดรู ปู นี่ก็เท่ากบั ดูตัวเหมอื นกัน. นายล้ําเคยติดคุกและไมไดเปนคน นายล�้า. : (รบั รปู ไปดแู ลว้ พดู .) ฮอื ! เหมอื นแมจ่ รงิ ขอรบั ผมไดท้ ราบขา่ ววา่ จะแตง่ งาน ซอื่ สตั ยอ ยา งทีแ่ มล ออคิด ใหนกั เรียน ชวยกนั วิเคราะหว า กบั นายทองค�าลูกเจ้าคุณรณชติ ไม่ใช่หรอื ครับ? พระยาภักดี. : ยังงนั้ . • คนท่ีเคยตองโทษจําคุก เมื่อพน นายลา้� . : จะแต่งเมอ่ื ไรครับ? โทษแลวจะใชชีวิตอยูในสังคม พระยาภกั ดี. : ยงั ไมแ่ น่ เห็นจะในเรว็ ๆ นี.้ อยางไรบา ง นายลา้� . : ถา้ ก�าหนดวันแน่เมื่อไหร่ ใต้เท้าโปรดบอกให้ผมทราบดว้ ยนะครับ. (แนวตอบ หางานทํายาก เพราะ พระยาภกั ด.ี : จา� เปน็ หรือ? ไมมีใครอยากจางงานคนที่มี นายล้�า. : ผมจะได้มาชว่ ยงาน. ประวัติติดคุก เพื่อนฝูงรังเกียจ พระยาภกั ด.ี : อะไรแกจะมาดว้ ยหรือ ตริตรองเสยี ให้ตลอดหนอ่ ยเถอะ. ไมคบคาสมาคมดวย) นายล�า้ . : ผมเห็นควรตัวผมจะมารดน�า้ ดว้ ยนะครบั . พระยาภักด.ี : นีแ่ กเอาอะไรมานึก! นักเรยี นควรรู นายลา้� . : เอ๊ะ! เจา้ คุณนี่ชอบกลจรงิ ๆ กแ็ ม่ลออน่ะลกู ผมแทๆ้ ไมใ่ ชห่ รอื ? พระยาภักดี. : อ้อ? นี่แกพึ่งรู้สึกตัวแหละหรือว่าแม่ลออเป็นลูกแก ที่จริงฉันเองก็เกือบจะ ใตเทา เปนคําสรรพนามบุรุษท่ี 2 ทผี่ พู ดู พดู กบั เจา นายชน้ั สงู ปจ จบุ นั ไม ลมื เสยี แลว้ วา่ แกนะ่ เปน็ พ่อแม่ลออ. นิยมใชคํานี้ จะใชคําวา “ทาน” แทน เจานายชั้นสูงที่พดู ดว ย 12 12 คมู อื ครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate นายล้�า. : จริง, ผมมีความผดิ ทที่ ้ิงแม่ลออไปเสยี นาน นี่แม่ลออคงไม่รู้เลยละซิวา่ ผม อธิบายความรู เปน็ พ่อ เห็นจะนึกวา่ เจ้าคุณเป็นพ่อกระมงั . 1. ใหนักเรยี นยกสาํ นวนที่ปรากฏ พระยาภกั ด.ี : เขารู้ว่าฉันเปน็ แตพ่ ่อเลีย้ งเขา ฉนั บอกวา่ พ่อเขาตายเสียตง้ั แตเ่ ขายงั เลก็ ๆ ในเร่อื ง แลวอธิบายความหมาย เขาก็เลยนับถือฉนั เปน็ พ่อ. (แนวตอบ เชน มเี หยามีเรอื น หมายถงึ แตง งานแลว นายล้า� . : ก็แม่เขาไม่บอกไมเ่ ลา่ อะไรใหล้ กู เขารู้ม่ังเลยหรือ? เจา บญุ นายคณุ หมายถงึ ผมู บี ญุ คณุ หมาหัวเนา หมายถงึ คนซึง่ เปนท่ี พระยาภักดี. : เขาไม่ได้บอก. รังเกยี จของคนอน่ื จนไมสามารถ เขา กบั ใครได คนที่ไมม ีใครรกั หรือ นายล้�า. : ท�าไม? คบหา เปนตน) พระยาภักด.ี : แกไมค่ วรจะตอ้ งถามเลย แกรอู้ ยดู่ แี ลว้ วา่ ตงั้ แตแ่ รกไดแ้ มน่ วลมาแลว้ แกไม่ 2. ใหนักเรียนนําสํานวนที่พบในเร่ือง ได้ทา� ใหเ้ ขาเป็นท่ีพอใจเลยสกั ขณะจติ เดยี ว. เหน็ แกล กู เขยี นใสก ระดาษเลก็ ๆ ครู รวบรวมสํานวนของนักเรียนมาให นายลา้� . : จรงิ ซิ! นีเ่ จา้ คณุ คงนึกละซวิ า่ ถ้าแมน่ วลนะ่ ไดก้ ะเจา้ คุณเสียจะดีกว่า. นักเรียนจับสลาก ถาจับไดสํานวน ใดใหอานและอธิบายความหมาย พระยาภักด.ี : กห็ รอื มนั ไมจ่ รงิ เชน่ นน้ั ละ่ แมน่ วลเลอื กผวั ผดิ แทท้ เี ดยี ว เมอ่ื จะตายหลอ่ นกร็ สู้ กึ ของสํานวนน้นั ๆ จงึ ไดม้ อบแมล่ ออไวใ้ หเ้ ปน็ ลกู ฉนั ขอใหฉ้ นั เลยี้ งดใู หเ้ สมอลกู ในไสฉ้ นั เอง ฉนั กไ็ ดต้ งั้ ใจทะนุถนอมแมล่ ออเหมอื นลกู ในอกฉนั ฉนั ไดก้ ระทา� หนา้ ทพี่ อ่ ตลอดมา ขยายความเขาใจ โดยความเต็มใจจริงๆ, แม่ลออเองคงจะเป็นพยานว่าฉันไม่ได้กระท�าให้เสีย วาจาทีฉ่ ันใหไ้ ว้แกแ่ มน่ วลเลย. ครูและนักเรียนรวมกันยกตัวอยาง สํานวนท่ีเปรียบเทียบความรักของ นายลา้� . : จรงิ ผมนะ่ ได้ประพฤติไม่ดี บกพร่องในหนา้ ท่บี ดิ ามาก, แต่ตอ่ ไปผมจะต้ังใจ พอแมที่มีตอลูกในลักษณะเดียวกับ ประพฤตใิ หส้ มควร. ขอ ความทว่ี า “ขอใหฉ นั เลยี้ งดใู หเ สมอ ลูกในไส ฉนั เองกต็ ัง้ ใจทะนุถนอม พระยาภักดี. : ดูเกินเวลาเสียแล้ว แมล่ ออกจ็ ะมีเหย้ามเี รือนอย่แู ลว้ . แมล ออเหมอื นลูกในอกฉนั ” นายลา้� . : ผมไมเ่ ห็นจะเกินเวลาไปเลย. (แนวตอบ เชน รักลูกดงั แกว ตา ดวงใจ เปน ตน) พระยาภกั ดี. : แกคดิ จะทา� อะไร? นายล�้า. : ผมคดิ วา่ เปน็ หนา้ ทจ่ี ะตอ้ งมาอยใู่ กลช้ ดิ ลกู สาวผม เพอื่ จะไดช้ ว่ ยเหลอื เจอื จาน ในธรุ ะตา่ งๆ ตามเวลาอันสมควร. พระยาภกั ดี. : ฉันบอกแล้ววา่ เขาจะมเี หย้ามเี รอื นอยู่แล้ว. นายลา้� . : ทราบแลว้ , เมอ่ื ยังอยู่ในบ้านเจา้ คุณผมก็วางใจได้ นีจ่ ะแยกไปมีเหย้ามีเรือน ของตัวเองแลว้ ผมจะตอ้ งเข้ามาอยู่กบั เขาเพ่อื จะได้เป็นกา� ลังแก่เขาบ้าง. พระยาภกั ดี. : เอ๊ะ! แกนี่จะเป็นบา้ เสยี แล้วกระมัง? นายลา้� . : ท�าไม? พระยาภักดี. : แกจะคดิ ไปอยู่กบั ลูกสาวยงั งน้ั ยังไงได.้ 13 คมู ือครู 13

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธิบายความรู (ยอจากฉบบั นกั เรียน 20%) 1. ใหน ักเรียนคน หาคาํ บอกปฏิเสธ นายล้�า. : ทา� ไมครบั กผ็ ทู้ จ่ี ะมาเปน็ ลกู เขยผมนะ่ เขากม็ ง่ั มพี ออยไู่ มใ่ ชห่ รอื เขาจะเลย้ี ง คําวา “ไม” ในหนา 13-14 มที ้ังหมด ผมไวอ้ กี สักคนไม่ได้เทยี วหรือ? กี่คาํ และใชป ระกอบกบั คาํ ใดบา ง (แนวตอบ เชน ไมมี ไมร ู เปนตน) พระยาภกั ดี. : แกจะไปเป็นเจา้ บญุ นายคณุ อะไรเขา เขาจะได้เลีย้ งแก? นายล้า� . : ผมเปน็ พอ่ แมล่ ออ ดูก็มบี ญุ คณุ พอแลว้ . 2. นักเรียนอธิบายการใชค าํ ปฏิเสธ พระยาภกั ด.ี : เอ๊ะ! นีแ่ กจะขยายขึน้ วา่ แกเป็นพอ่ แม่ลออยงั งั้นหรอื ? “ไม” ทีป่ รากฏในบทละครพูดเรื่อง นายลา้� . : ก็ยงั งนั้ ซิขอรบั . เห็นแกลูก พระยาภักด.ี : พุทโธ่! นี่แกนะ่ ไมม่ คี วามเมตตาลกู แกบา้ งเลยเทยี วหรอื ถงึ ได้คดิ ร้ายแก่เขา (แนวตอบ คําวา “ไม” จะวางอยู ขางหนาตาํ แหนงคาํ กริยา และ ไดย้ งั งน้ั ? อยูข างหนาหรอื ขางหลังคําชวย นายล้�า. : คิดร้ายยงั ไง? หนากรยิ าบางคาํ ตัวอยา งการใช พระยาภกั ดี. : นายทองคา� เขาจะมาแตง่ กบั ลกู สาวคนเช่นแกได้อยู่หรือ? คําวา “ไม” ขา งหนาคําชวยหนา นายลา้� . : ถ้าเขารักแม่ลออจริงละก็ ถึงผมจะเป็นคนเลวกว่าที่ผมเป็นอยู่นี่ เขาคงไม่ กริยา “ฉนั ไมคอ ยโกรธใครงายๆ”) รังเกียจ. ขยายความเขาใจ พระยาภักดี. : ถึงนายทองค�าจะไม่รงั เกียจ คนอ่ืนๆ ก็คงต้องรังเกียจ, ใครเขาจะมาคบคา้ จากการสนทนาในชีวติ ประจําวัน สมาคมไดอ้ กี ตอ่ ไป ไปขา้ งไหนเขากจ็ ะแลดูพูดซุบซบิ กัน ถ้าใครเขาเลย่ี งได้ • นกั เรียนพบการใชค าํ ปฏเิ สธ เขาก็คงเล่ียง แกจะมาท�าให้แมล่ ออเปน็ หมาหวั เนา่ หรือ? นายล้�า. : เจา้ คณุ ! ผมจะต้องพดู ตามตรง ผมน่ะมันหมดทางหากนิ แล้ว ไม่แลเห็นทาง ดวยคําวา “ไม” อยา งไรบา ง อ่ืนนอกจากทจี่ ะอาศยั ลูกสาวใหเ้ ขาเลย้ี ง. (แนวตอบ พบดังนี้ ใชคําวา “ไม” พระยาภกั ดี. : อ๋อ! นีน่ ่ะ แกต้องการเงินยังง้นั หรอื ? เพ่ือใหคําเบาลง เชน เลว - ไมด ี นายล�้า. : ก็แนล่ ะ ไม่มีเงนิ ก็อดตายเทา่ นั้นเอง. ขี้เหร - ไมคอยสวย หรอื ไมสวย พระยาภักดี. : กจ็ ะพดู กนั เสยี ตรงๆ เทา่ นน้ั กจ็ ะแลว้ กนั เอาเถอะฉนั ใหแ้ กเดย๋ี วนีก้ ไ็ ด ้ เทา่ ไหร่ เปน ตน ใชคําวา “ไม” หนา คาํ กริยา ถึงจะพอ เอาไปสบิ ชัง่ ก่อนพอไหม? 2 คํา เชน ไมเ ดนิ กิน ไมนอนรอ งไห นายลา�้ . : ไมร่ บั ประทาน. เปน ตน ) เกร็ดแนะครู พระยาภกั ดี. : ยีส่ ิบชงั่ ! นายลา้� . : ไมร่ บั ประทาน. มาตราเงินไทยโบราณมีอตั รา ดังน้ี พระยาภกั ด.ี : หา้ สบิ ชั่ง! 1 ไพ = 1 เฟอ ง นายลา้� . : พทุ โธ!่ เจา้ คณุ ! แตท่ ผี่ มฉบิ หายไปในเรอ่ื งคา้ ฝน่ิ นน้ั กเ็ กอื บรอ้ ยชง่ั เขา้ ไปแลว้ . 2 เฟอง = 1 สลงึ พระยาภักดี. : เอา! ร้อยชั่งกเ็ อา! 4 สลงึ = 1 บาท นายล้�า. : ผมไม่อยากให้เจา้ คุณฉบิ หายหรอก. 4 บาท = 1 ตาํ ลึง 20 ตาํ ลงึ = 1 ช่ัง 14 ชง่ั 6 อา นวา เงิน 6 ช่ัง 7 ตาํ ลึง 3 บาท 2 สลงึ 1 เฟอ ง 3 ไพ ตาํ ลงึ บาท 73 เฟอ ง สลงึ 12 ไพ 3 14 คูมอื ครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate พระยาภักดี. : ช่างฉนั เถอะ ขอแตใ่ ห้แกรบั เงินรอ้ ยชงั่ แลว้ กไ็ ปเสียให้พน้ เถอะ. อธิบายความรู นายลา้� . : ถ้าหมดผมจะไปเอาที่ไหนอีกล่ะ? ผมไม่โง่นะเจ้าคุณ ถ้าให้ผมไปอยู่เสียกับ 1. ใหน ักเรียนศกึ ษาวิเคราะหและ ลูกสาวผม เงนิ กจ็ ะไม่เสียมาก. วจิ ารณลักษณะนิสัยของตวั ละคร พระยาภักด.ี : เงินน่ะฉันไม่เสียดายหรอก ฉันเสียดายชื่อและเสียดายความสุขของแม่ลออ ตอ ไปน้ี • พระยาภักดี มากกว่า. • นายลํา้ นายล้า� . : คุณจะใหผ้ มขายลกู ผมยงั งนั้ หรอื ? • แมลออ พระยาภกั ด.ี : จะเรียกว่ากระไรก็ตามใจเถอะ แต่ท่ีจริงฉันต้ังใจซื้อความสุขให้แก่แม่ลออ • อา ยคาํ แลว บันทึกความรูลงสมดุ เท่านั้น. นายล้า� . : ท่ีคุณจะมาพรากพ่อกับลกู เสียเชน่ นี้น่ะ คุณเหน็ สมควรแลว้ หรอื ? 2. ครูตรวจผลงานของนักเรียนแลว พระยาภกั ดี. : ฉนั เห็นสมควรแล้ว ฉันจงึ ไดป้ ระสงคท์ ีจ่ ะทา� แม่ลออน่ะดเี กนิ ทีจ่ ะเปน็ ลกู คน คัดเลือกผลงานท่ีวิเคราะหวิจารณ ไดดี มาเปนตัวอยาง 3 ช้ิน โดย เช่นแก ยังไง! จะตอ้ งการเงนิ เทา่ ไร ว่ามา! (ลุกขึ้นยืนจ้องนายล้า� .) ใหนักเรียนเจาของช้ินงานนําเสนอ นายลา้� . : ผมไม่ตอ้ งการเงนิ ของคุณ ผมจะพบกบั ลกู ผม. หนาช้ันเรยี น พระยาภักด.ี : ฉนั ไมย่ อมให้แกพบ จะเอาเงนิ เทา่ ไรจะให้. นายล้า� . : ผมไมเ่ อาเงนิ ของคุณ. ขยายความเขาใจ พระยาภกั ด.ี : ถา้ ยงั ง้ันกไ็ ปให้พน้ บ้านฉนั , ไป! นายล�า้ . : ผมไม่ไป, จะทา� ไมผม? นักเรียนคิดวาตัวละครใดในเรื่อง พระยาภกั ด.ี : นี่แน่, แกอย่ามาทา� อวดดีกบั ฉนั ไป! ท่ีควรนําเรื่องการปฏิบัติตนมาเปน นายล�้า. : ผมไม่ไป. (นง่ั ไขวห่ ้างกระดกิ ขาเฉย.) ตนแบบในการดําเนินชีวิต และตัว พระยาภกั ด.ี : อยา่ ทา� ให้เกิดเคืองมากขน้ึ หน่อยเลย ประเด๋ยี วฉนั จะเหนี่ยวใจไว้ไมอ่ ย.ู่ ละครตัวใดที่เราไมควรเอาแบบอยาง นายลา้� . : คณุ จะทา� ไมผม? ใหน กั เรียนรวมกนั แสดงความคิดเหน็ พระยาภักด.ี : ฉนั ไม่อยากท�าอะไรแก แตถ่ ้าแกไมไ่ ปล่ะก.็ .. นายล�า้ . : จะทา� ไมผม แหม! ทา� เกง่ จริงนะ เจา้ คุณนะ่ แกแ่ ลว้ นะครับ จะประพฤติเปน็ นักเรียนควรรู เด็กไปได้. จะเหน่ียวใจไวไ มอ ยู หมายถงึ พระยาภักดี. : จรงิ , ฉนั แกจ่ รงิ แตข่ อใหเ้ ขา้ ใจวา่ แกสฉู้ นั ไมไ่ ดน้ ะ ฉนั ไดเ้ ปรยี บแกมาก กา� ลงั รั้งไว ดึงไวไ มอ ยู ฉนั ยงั มพี อตวั กา� ลงั แกนะ่ มนั ออ่ นเสยี แลว้ ฤทธเิ์ หลา้ มนั เขา้ ไปฆา่ กา� ลงั แกเสยี หมดแลว้ . นายลา้� . : (หวั เราะเยาะ.) ฮะๆ! ชา่ งพดู จรงิ ยังไม่เบาบางลงกว่าเม่ือหนุ่มๆ เลย. พระยาภกั ดี. : (โกรธ.) ยังไง จะเอาเงินหรอื จะเอาแสม้ า้ ? 15 คมู ือครู 15

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบบั นักเรยี น 20%) นกั เรยี นอานบทประพันธห นา 16 น้ี นายลา�้ . : ผมไม่เอาทั้งสองอยา่ ง. นักเรยี นชว ยกนั พจิ ารณา พระยาภกั ด.ี : ถ้าอยา่ งงน้ั ก็ได้. นายลา�้ . : คุณพูดซ้า� ซากผมเบอ่ื เต็มทีแล้ว. • บทละครพูดเรอ่ื งเหน็ แกล ูก พระยาภกั ดี. : กถ็ า้ เมอ่ื พดู กนั ดๆี ไมช่ อบ กต็ อ้ งพดู กนั อยา่ งเดยี รฉาน! (ไปหยบิ แสม้ า้ ทแ่ี ขวน สะทอนสงั คมในสมยั นน้ั อยางไร บาง ไว้ที่ผนังลงมา.) เอาเถอะ! เป็นไรก็เป็นไป จะต้องเล่นงานเสียให้ลายไป (แนวตอบ ผูหญงิ ในสมยั นนั้ จะ ท้งั ตัวละ.(เงอ้ื แสม้ า้ จะตีนายลา้� .) ไดรับการเล้ียงดูใหเปนกุลสตรี นายล�้า. : (ตกใจลกุ ขน้ึ ยนื .) อะ๊ ! อ๊ะ! เจ้าคุณ! (ยกแขนขน้ึ ป้อง.) เคารพเชอ่ื ฟงคําส่งั สอนของ (อ้ายคา� เขา้ มาทางขวา พระยาภกั ดหี ย่อนมอื ลง.) ผใู หญ มสี มั มาคารวะ) อ้ายคา� . : ใต้เท้าขอรบั คณุ ลออขน้ึ กระไดมานี่แล้ว. (ออกไปตามทางเดมิ .) (พระยาภักดีรีบเอาแส้มา้ ไปแขวนไว้ตามท่ีเดิม.) ขยายความเขา ใจ นายล้�า. : (หัวเราะ.) ฮะๆ! เคราะห์ดีจรงิ ตกรกซ.ิ (แม่ลออเข้ามาทางขวา แม่ลอออายปุ ระมาณ ๑๗ ปี แตง่ กายอย่างไปเท่ียว นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น นอกบ้าน พ่ึงกลบั มา.) วา แม่ลออ. : แหม! คณุ พอ่ อะไรวนั นีก้ ลบั บา้ นวนั จรงิ ฉนั หมายจะกลบั มาใหท้ นั คณุ พอ่ กลบั ทเี ดียว. • บทบาทสถานะของผูห ญิงใน พระยาภกั ด.ี : (ยิม้ .) พ่อไดเ้ ลิกงานเรว็ หนอ่ ยกร็ ีบกลับมา. บทละครพดู เรอ่ื งเห็นแกลกู แม่ลออ. : (มองดูนายล้า� แลว้ หนั ไปพดู กบั พระยาภักด.ี ) นั่นใครคะ? แตกตางจากผหู ญงิ ในสงั คม พระยาภกั ด.ี : คนเขามาหาพอ่ . ปจจบุ ันอยา งไร นายล้า� . : ฉันเปน็ เกลอเกา่ ของเจ้าคณุ ท่านนับถอื ฉนั เหมือนนอ้ งยังไงขอรบั ? (แนวตอบ คาํ ตอบหลากหลาย ครู (พระยาภักดีพยกั หนา้ .) ควรชแ้ี นะวาสภาพสงั คมในอดีต แม่ลออ. : อ้อ! (ลงนั่งไหว้.) ถ้ายังง้ันดิฉันก็ต้องนับถือคุณเหมือนอาดิฉันเหมือนกัน กบั ปจจุบันแตกตางกัน บทบาท ทา� ไมดิฉันยังไมร่ ู้จกั คุณอาเลย. ของผูหญิงยอ มปรับเปล่ียนตาม นายล�้า. : ฉนั อยู่หัวเมือง พึ่งเข้ามา แต่ฉันเคยเห็นหล่อนแล้ว. สภาวะเหตกุ ารณ) แมล่ ออ. : เมอ่ื ไหรค่ ะ? ท�าไมดิฉนั จ�าไมไ่ ด้ ดิฉนั เป็นคนท่จี า� คนแนน่ ัก. นายล�า้ . : (ย้ิม.) หล่อนเห็นจะจ�าฉันไม่ได้เลย เมื่อฉันได้เห็นหล่อนครั้งก่อนนี้น่ะ อายุ นักเรียนควรรู หล่อนได้สองปีเทา่ น้นั . แมล่ ออ. : แหม! ถ้ายงั ง้นั คณุ คงรจู้ ักคณุ แม่ดิฉนั ละซคิ ะ. กลบั บา นวนั จริง หมายถึง มาเรว็ นายล�้า. : (แลดตู าพระยาภักดีแลว้ จงึ พูด เสียงออกเครอื ๆ.) ฉันรู้จกั คณุ แม่หลอ่ นด.ี กลับบา นต้งั แตห วั วัน กลบั บา นใน ชวงท่ยี ังไมค ํ่า คาํ วา “วัน” หมายถึง 16 ชวงเวลากลางวัน เรียกส้นั ๆ วา วัน นกั เรยี นควรรู เกลอ หมายถึง เพือ่ นเกา 16 คูมอื ครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate แม่ลออ. : ถา้ ยงั งนั้ ดฉิ นั กย็ ง่ิ ดใี จมากขน้ึ ทไี่ ดพ้ บคณุ กค็ ณุ พอ่ ดฉิ นั ทตี่ ายละ่ คะ รจู้ กั ไหม? ขยายความเขาใจ (นายลา้� พยกั หนา้ .) ถา้ ยงั งน้ั คณุ กด็ กี วา่ ดฉิ นั ดฉิ นั ไมร่ จู้ กั เลย, เคยเหน็ แตร่ ปู ท่ี ในหอ้ งคณุ แม ่ รปู รา่ งสงู ๆ หนา้ อกกวา้ ง ดฉิ นั ชา่ งชอบหนา้ เสยี จรงิ ๆ หนา้ ตาเปน็ “(ไหว) ดิฉันรับพรลวงหนาไวกอน. คนซ่อื ใจคอกว้างขวาง, ถ้าใครบอกดิฉันวา่ เปน็ คนไม่ด ี ดิฉนั ไมย่ อมเชอื่ เปน็ คุณพอคะ ชวยพูดจาชวนคุณอาให อันขาดเทียว แตท่ ่านก็เปน็ คนดจี ริงๆ อย่างท่ดี ฉิ ันนึกเดาเอาในใจ คุณพ่อนี่ อยูรดนํ้าดิฉันหนอยนะคะ ดิฉันจะ กไ็ ด้บอกดฉิ ันวา่ งั้น จรงิ ไหมคะคณุ พอ่ ? (พระยาภักดพี ยักหนา้ .) เขาในเรือนเสียทีละ คุณพอกับคุณอา คงอยากคยุ กนั อยา งผชู ายๆ สนกุ กวา . นายล้า� . : ถา้ ใครบอกหลอ่ นวา่ พอ่ หลอ่ นทตี่ ายนะ่ เปน็ คนไมด่ ลี ะกห็ ลอ่ นเปน็ ไมย่ อมเชอื่ (ออกไปทางประตูซาย)” เลยเทียวหรือ? • จากขอ ความขา งตนสะทอน แม่ลออ. : ดฉิ ันจะเชือ่ ยงั ไง ดใู นรปู กเ็ ห็นว่าเปน็ คนด.ี เออ! นีค่ ุณพอ่ บอกแล้วหรอื ยงั คา นยิ มใด และมีขอคดิ ใดท่ี เรอื่ งดิฉันจะแต่งงาน? นกั เรยี นนาํ ไปใชในชวี ิตได (แนวตอบ คา นยิ มการมี นายล้า� . : บอกแล้ว, ฉนั ยนิ ดีด้วย. สมั มาคารวะกบั บุคคลทั่วไป แม่ลออ. : คณุ อาต้องมารดนา้� ดฉิ นั นะคะ. และขอ คดิ ทนี่ กั เรียนนําไปใช นายลา้� . : ฉัน- เอ้อ- ฉนั จะตอ้ งรีบกลบั ไปหัวเมอื ง. ในชีวิตประจําวนั คอื การมี แมล่ ออ. : โธ!่ จะอยูร่ ดน�้าดฉิ ันหน่อยไมไ่ ดเ้ ทียวหรอื คะ? สัมมาคารวะยอ มเปน ทร่ี กั ใคร นายล้�า. : ฉนั จะขอตริตรองดูกอ่ น แต่ยงั ไงๆ ก็ด ี ถึงฉนั จะอยรู่ ดน้�าหลอ่ นไมไ่ ด้ ฉนั ก็คง ของบคุ คลท่วั ไปและการรจู ัก กาลเทศะ เมอื่ มีผูใ หญส นทนา ตง้ั ใจอวยพรใหห้ ลอ่ นมีความสขุ . กนั อยู ผูนอยควรหาโอกาส แมล่ ออ. : (ไหว้.) ดิฉันรับพรล่วงหน้าไว้ก่อน. คุณพ่อคะ ช่วยพูดจาชวนคุณอาให้อยู่ ปลีกตัวออกมาใหผ ใู หญไ ด สนทนากนั อยา งอสิ ระ) รดน้�าดิฉันหน่อยนะคะ ดิฉันจะเข้าไปในเรือนเสียทีละ คุณพ่อกับคุณอาคง อยากคุยกนั อย่างผู้ชายๆ สนุกกว่า. (ออกไปทางประตซู ้าย.) นายลา�้ . : (นงิ่ อยคู่ รหู่ นงึ่ แลว้ พดู เสยี งออกเครอื ๆ.) เจา้ คณุ ขอรบั ใตเ้ ทา้ พดู ถกู , เดก็ คนนี้ ดีเกินที่จะเป็นลูกผม ผมมันเลวทรามเกินท่ีจะเป็นพ่อเขา ผมพึ่งรู้สึก ความจริงเด๋ยี วนี้เอง. พระยาภักด.ี : (ตบบ่านายล�้า.) พอ่ ลา�้ ! นายล้�า. : หล่อนได้เขียนรูปพ่อของหล่อนข้ึนไว้ในใจเป็นคนดีไม่มีที่ติ ผมไม่ต้องการ จะลบรปู นนั้ เสยี เลย. (ถอดแหวนวงหนึง่ จากนว้ิ .) นีแ่ นะ่ ครบั แหวนนีเ้ ปน็ ของ แมน่ วล ผมไดต้ ดิ ไปดว้ ยสงิ่ เดียวเทา่ นี้แหละ เจ้าคุณไดโ้ ปรดเมตตาผมสักที พอถึงวนั แตง่ งานแมล่ ออ เจ้าคุณไดโ้ ปรดใหแ้ หวนนีแ้ ก่เขา บอกว่าเปน็ ของ รับไหวข้ องผม ส่งมาแทนตวั . พระยาภักด.ี : (รับแหวน.) ได้ซเิ พ่ือนเอย๋ ฉันจะจัดการตามแกส่ัง อย่าวิตกเลย. นายล�้า. : แล้วผมขออะไรอกี อยา่ ง. 17 คมู อื ครู 17

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate ขยายความเขาใจ (ยอจากฉบบั นักเรยี น 20%) ใหนักเรียนบอกโครงเรื่องของบท พระยาภักดี. : อะไร? ว่ามาเถอะ ฉันไมข่ ดั เลย. ละครพูดเร่ืองเห็นแกลูก แลวชวยกัน นายล�า้ . : อย่าได้บอกความจรงิ แกแ่ มล่ ออเลย ใหเ้ ขาคงนับถอื รปู ผมอนั เกา่ นนั้ วา่ เปน็ เขยี นบทละครพูดขนึ้ ใหม โดยยดึ โครงเรอ่ื งนี้เปน ตัวอยาง พอ่ เขา และให้นบั ถือตัวผมเปน็ เหมอื นอา. พระยาภกั ด.ี : เอาเถอะ, ฉนั จะท�าตามแกประสงค.์ (แนวตอบ โครงเร่ืองความรักของ นายล�้า. : ผมลาที พรุ่งนีเ้ ชา้ ผมจะกลับไปพิษณุโลก. พอสองแบบ คือ พอที่แทจริงกับพอ พระยาภักด.ี : เอาเงินไปใชม้ ่งั ซ.ิ (ไปไขกญุ แจ เปิดลน้ิ ชักโต๊ะหยบิ ธนบตั รออกมาป้ันหนึง่ .) บุญธรรม หากไดเล้ียงดูมาก็ยอมรัก ทําทุกอยางเพราะเห็นแกลูกมากกวา เอา้ ! นีแ่ นะ่ มสี กั สามสรี่ อ้ ยบาทไดอ้ ย ู่ เอาไปใชก้ อ่ นเถอะ ตอ้ งการอกี ถงึ คอ่ ย เห็นแกตัว สําหรับพอท่ีแทจริงแม บอกมาให้ฉันทราบ. เคยทําผิดมากอนเมื่อพบความรักที่ นายล�้า. : (เสียงเครือ.) เจา้ คณุ ! ผม...ผม... (เช็ดน�้าตา.) บริสุทธ์ิใจของลูกก็ทําใหลด ละ เลิก พระยาภักดี. : อ๊าย! ไมร่ ับไมไ่ ด ้ ไมร่ ับโกรธกนั เทยี ว. (ยัดเยยี ดธนบตั รใหน้ ายลา้� .) ความเหน็ แกตัว) นายลา้� . : (รบั ธนบตั ร.) ผมจะไมล่ มื พระเดชพระคณุ ใต้เทา้ จนตายทเี ดยี ว ขอให้เชอื่ ผม เถอะ. เกร็ดแนะครู พระยาภักด.ี : อย่าพูดให้มากนักเลย เงินใส่กระเป๋าเสียเถอะ แล้วก็คิดอ่านหาทางท�ามา หากนิ ต่อไปนะ. ครูช้ีแนะแนวทางการเขียนโครง นายล�้า. : ขอรบั ผมจะตง้ั ใจท�ามาหากินในทางอนั ชอบธรรมจริงๆ ทีเดยี ว ถ้าผมนะ่ คิด เร่ืองบทละครพูด (Plot) วาโครงเร่ือง โยกโยไ้ ปอย่างใดอย่างหนึ่งอีก ขออย่าใหผ้ มแคลว้ อาญาจักรเลย. ท่ีดีจะตองมีความสมบูรณในตัวเอง พระยาภกั ด.ี : เออๆ ต้งั ใจไว้ให้ดเี ถอะ นึกถึงแม่ลออบา้ งน่ะ. ประกอบดวยตอนตนเรื่อง ตอนกลาง นายล�้า. : ผมจะลมื หลอ่ นไมไ่ ดเ้ ลย จะเหน็ หนา้ หลอ่ นตดิ ตาไปจนวนั ตายทเี ดยี ว. ผมลาที และตอนจบ เหตกุ ารณท กุ ตอนมคี วาม ผมไม่จ�าเป็นทจ่ี ะต้องฝากแม่ลออแกเ่ จ้าคุณ เพราะเจา้ คณุ ไดเ้ ป็นพอ่ หล่อนดี สัมพันธกันอยางสมเหตุสมผลและ ยง่ิ ไปกวา่ ผมร้อยเทา่ พันทวี. (เช็ดนา้� ตา.) รบั กนั โดยตลอด พระยาภกั ด.ี : เอาเถอะ อยา่ วติ กเลย แมล่ ออน่ะฉันคงจะรกั ถนอมเหมอื นอยา่ งเดมิ . นายลา้� . : ผมเช่ือ, เชอ่ื แน่นอน! (ยกมอื ขน้ึ ไหว้.) ผมลาเจ้าคุณที. (พระยาภกั ดเี ขา้ ไปจบั มอื นายลา้� ตา่ งคนตา่ งแลดตู ากนั อยคู่ รหู่ นงึ่ แลว้ พระยา- ภักดีนึกอะไรขึ้นมาออกเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ หยิบรูปแม่ลออทั้งกรอบ ด้วยส่งให้นายล้า� นายล้า� รบั รูปไปดอู ยคู่ รู่หนึง่ ไหว้พระยาภักดอี ีกแล้วก็รบี เดินออกไปทางประตูขวา พระยาภักดียืนมองไปทางประตูครู่หนึ่ง แล้วก็ เดนิ ออกไปทห่ี นา้ ตา่ งทางดา้ นหลงั ยนื พงิ กรอบหนา้ ตา่ ง ตามองออกไปนอก หน้าต่างนิ่งอยู่จนปิดมา่ น.) จบเร่ือง 18 18 คูมอื ครู

กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate ๖ คÓศพั ท์ ควำมหมำย สาํ รวจคนหา คำ� ศัพท์ ท�าเสยี งดงั ใหผ้ ู้ฟังรสู้ ึกตัววา่ มีคนมา ใหนักเรียนรวบรวมคํายืมภาษา กระแอม มาจากค�าว่า เกล้ากระผม คา� ใชแ้ ทนตัวผ้พู ูดทเี่ ป็นเพศชาย พดู กับผทู้ สี่ ูงกวา่ ตางประเทศที่เปนภาษาอังกฤษ เชน เกล้ำผม ด้วยวัยและวฒุ หิ รือฐานะ คาํ วา “ออฟฟศ” มาอยา งนอ ย 10 คํา เพ่อื น นักเรียนสามารถรวบรวมคําจากเร่ือง เกลอ เปดิ เผย และสบื คน จากแหลงเรียนรอู น่ื ๆ ขยำย ขอบคุณ ใชพ้ ดู กบั ข้าราชการชั้นผใู้ หญ่ ผทู้ อ่ี าวโุ สกว่าท้งั ด้านฐานะ ความรู้ ขอบพระเดชพระคณุ ยศศักด์ิ (แนวตอบ เชน คลนิ กิ ออฟฟศ แฟชนั่ มาจากค�าว่า ขอรับกระผม ปจั จบุ ันใช้ว่า ครับผม เปน็ คา� ตอบรับของเพศชาย เคานเตอร แท็กซี่ โซดา เปนตน) ขอรบั ผม เพศหญงิ ใช้วา่ เจา้ คะ่ น�้าหวานผสมโซดา อธบิ ายความรู ครีมโซดำ ถ่ายภาพ ฉำย มาตราเงินสมยั โบราณ ๑ ชง่ั มีคา่ เทา่ กับ ๘๐ บาท ใหนักเรียนอธิบายความหมายของ ชั่ง พดู เก่ง มีคารมคมคาย คํายืมภาษาตางประเทศท่ีเปนภาษา ชำ่ งพดู สัตวช์ นั้ ต�่า อังกฤษ จากท่ีรวบรวมมาอยางนอย เดียรฉำน อา่ นว่า ตก - กะ - รก หมายถงึ ตกนรก คนละ 10 คํา ตามความเขาใจของ ตกรก หรอื คา� วา่ ใตเ้ ทา้ เปน็ สรรพนามบรุ ษุ ทส่ี อง แทนผทู้ เ่ี ราพดู ดว้ ยซง่ึ สงู ดว้ ยยศศกั ด์ิ นักเรียน ใตเ้ ท้ำกรณุ ำ ยา�่ แย่ โทรม ชอ่ื เดมิ ของกรุงเทพมหานคร (แนวตอบ ตวั อยา งเชน บำงกอก บัญชี คลนิ ิก หมายถึง สถานพยาบาล บำญชี ซอมซ่อ อัตคดั ขดั สน ออฟฟศ หมายถึง สาํ นกั งาน ปอนๆ ปกึ หนง่ึ แทก็ ซี่ หมายถงึ รถโดยสารสวน ปั้นหน่ึง ได้รบั โทษ ติดคุก บุคคล เปนตน ) เปน็ โทษ กระหาย ระหำย @ มมุ IT ศึกษาเพ่ิมเตมิ เกีย่ วกบั คําศัพท ในบทละครเรอ่ื งเหน็ แกลูกไดท ่ี http://www.kruthai40.com/สอ่ื นํา เรอ่ื งออนไลน-วจิ ยั และพฒั นา 19 คมู ือครู 19

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบบั นกั เรยี น 20%) 1. ใหน ักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ คำ� ศพั ท์ ควำมหมำย เกย่ี วกับบทสนทนา รบั ประทำนโทษขอรบั • บทสนทนาเหมาะสมกับ แล ปัจจบุ ันใช้ค�ำวำ่ ประทำนโทษหรือขอโทษ แนวเรือ่ งและตัวละครหรอื ไม ส�ำแดง และ ยกตัวอยางประกอบ หมอควำม แสดง (แนวตอบ เหมาะสม ตวั อยา งเชน หมำหวั เนำ่ ทนำยควำม คนท่ีเป็นท่ีรังเกียจของคนอื่นจนไม่สำมำรถเข้ำกับใครได้ คนท่ีไม่มีใครรักหรือ พระยาภกั ดี : เปนยงั ไง สบายดีอยู หล่อน คบหำ ดอกหรอื ? ออฟฟศิ สรรพนำมบุรษุ ที่ ๒ ใชแ้ ทนตวั หญงิ ที่พูดด้วย อำญำจกั ร ทท่ี ำ� งำน มำจำกคำ� ว่ำ office นายลํ้า : ขอรบั ผมกไ็ มเจ็บไมไข อินัง กำรลงโทษตำมกฎหมำย มอี าการถงึ จะลมตาย เอำใจใส่ เอำใจช่วย ดูแล เหลียวแล หรืออินังขังขอบ ใชใ้ นเชงิ ปฏเิ สธ อะไร ๗ บทวิเคราะห์ เมอ่ื พบหนากันกค็ วรถามสารทกุ ข สุกดิบกนั ดังบทสนทนาน้)ี บทละครพดู เรื่องเห็นแก่ลูก มีคณุ คำ่ ทสี่ ะทอ้ นออกมำในด้ำนต่ำงๆ ดังน้ี 2. ใหน กั เรยี นรวมกนั อภิปราย ๗.๑ คณุ คา่ ดา้ นเนอื้ หา • การตงั้ ช่อื เรื่องมีความสัมพนั ธ กบั เนอ้ื เร่ืองอยา งไร บทละครพดู เรอ่ื งเหน็ แก่ลกู ท่ีมีตัวละคร ดังนี้ คอื พระยำภักดนี ฤนำถ นำยล�้ำ แมล่ ออ และ (แนวตอบ ชอ่ื เรื่องมีความสมั พนั ธ อ้ำยค�ำ แม้ตัวละครในเรื่องจะมีน้อยแต่ลักษณะของโครงเรื่องมีควำมโดดเด่น กำรผูกเร่ืองมีควำม กับเนื้อเร่ืองเปนอยางดี เพราะ ต่อเน่ืองรำบรื่น ผู้ประพันธ์มีควำมประณีตในกำรด�ำเนินเร่ือง ลักษณะเด่นของเน้ือหำแสดงให้เห็นถึง ตอนจบจะเห็นไดวานายลํ้าเสีย ควำมเสียสละและควำมรกั ของผ้เู ปน็ พอ่ ทงั้ สอง คือ นำยล้ำ� พ่อผ้ใู ห้กำ� เนดิ และพระยำภกั ดนี ฤนำถผู้ซ่ึง สละความสุขสวนตนเพราะเห็น เป็นพ่อบุญธรรม ด้วยควำมเห็นแก่ลูกของนำยล�้ำจึงไม่เปิดเผยตน และพระยำภักดีนฤนำถยอมสละ แกค วามสขุ ของลกู จงึ สมั พนั ธก บั เงนิ ทองเปน็ จ�ำนวนมำกเพอื่ ควำมสุขของแมล่ ออ ชื่อเรื่องวา เหน็ แกลูก) แมล่ ออ : ถ้ายังง้ันดฉิ ันก็ย่ิงดีใจมากข้นึ ทไ่ี ดพ้ บคุณ กค็ ณุ พอ่ ของดิฉนั ท่ตี ายไปละ่ คะ รู้จัก นักเรียนควรรู ไหม? (นายลา้� พยกั หนา้ .) ถา้ ยงั งน้ั คณุ กด็ กี วา่ ดฉิ นั ดฉิ นั ไมร่ จู้ กั เลย, เคยเหน็ แต่ รปู ทใี่ นหอ้ งคณุ แม ่ รปู รา่ งสงู ๆ หนา้ อกกวา้ ง ดฉิ นั ชา่ งชอบหนา้ เสยี จรงิ ๆ หนา้ ตา อินงั เปนคาํ ลงทายทไ่ี มป รากฏ เปน็ คนซอ่ื ใจคอกวา้ งขวาง, ถา้ ใครบอกดฉิ นั วา่ เปน็ คนไมด่ ี ดฉิ นั ไมย่ อมเชอื่ เปน็ ใชในปจ จบุ นั แตจ ะปรากฏวา อนั ขาดเทยี ว แตท่ า่ นกเ็ ปน็ คนดจี รงิ ๆ อยา่ งทด่ี ฉิ นั นึกเอาในใจ คณุ พอ่ นีก่ ไ็ ดบ้ อก “อินงั ขงั ขอบ” ซ่งึ จะใชในเชงิ ปฏิเสธ ดิฉนั วา่ งน้ั จริงไหมคะคุณพอ่ ? (พระยาภกั ดพี ยกั หนา้ .) วา ไมอนิ ังขงั ขอบ คือ ไมเ อาใจใส 20 นักเรียนควรรู บทละครพดู ในชว งหลังรัชกาลที่ 6 การเขียนบทละครพูดมักเขียนเพ่ือใช แสดงละครอยางเดียว จนกระทั่งใน สมัยรัชกาลที่ 9 เปนยุคสมัยที่มีการ พัฒนาเครื่องมือส่ือสารมวลชน เชน วิทยุ โทรทัศน จึงเกิดการแสดงละคร พดู ในรปู ของ “ละครวทิ ย”ุ และ “ละคร โทรทศั น” 20 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate จากเน้ือหาตอนน้ีเป็นจุดคลี่คลายของเร่ือง ปมปัญหาและความขัดแย้งระหว่างพระยาภักดี- อธบิ ายความรู นฤนาถและนายลา้� เขม้ ขน้ มากขน้ึ เรอ่ื ยๆ และคลคี่ ลายลงเมอื่ นายลา้� ไดร้ บั รวู้ า่ ตลอดระยะเวลาทผี่ า่ นมา พอ่ ทแ่ี ทจ้ รงิ ในความทรงจา� ของแมล่ ออนนั้ เปน็ คนดี นา่ เคารพนบั ถอื โดยเธอเชอ่ื จากการฟงั คา� บอกเลา่ ใหนักเรียนนําเสนอกลวิธกี าร ของพระยาภักดีนฤนาถและจินตนาการจากรปู ถา่ ยทอี่ ยู่ภายในห้องของแมท่ ่เี สยี ชีวิตไปแลว้ ความเห็น ประพันธ การสรา งปมปญ หาให แก่ตนเองของนายล้�าจงึ ได้แปรเปลย่ี นเป็นความเหน็ แก่ลูก ตวั ละคร และจุดสงู สดุ ของเรอ่ื งน้ี (climax) วามลี ักษณะอยา งไร การดา� เนนิ เรอ่ื ง เรม่ิ เรอื่ งดว้ ยปมปญั หาของนายลา�้ เมอ่ื นายลา�้ ออกจากคกุ ไดไ้ ปประกอบอาชพี บนั ทกึ ความรลู งสมุด ต่างๆ ทไี่ ม่สุจริตและไมป่ ระสบความสา� เรจ็ จึงคดิ มาพึง่ พาลกู สาวทก่ี �าลงั จะแตง่ งานกับชายผูม้ ีฐานะดี ในขณะที่พระยาภักดีนฤนาถไม่ต้องการให้นายล�้าพบกับแม่ลออและแสดงตนว่าเป็นพ่อท่ีแท้จริง ด้วย (แนวตอบ คําตอบหลากหลายตาม ความรักท่ีมีต่อลูกและเกรงว่าแม่ลออจะอับอายขายหน้าที่มีพ่อเป็นคนทุจริต เป็นคนคดโกง เป็นคน พ้ืนฐานความรูของนักเรียน ครูควร ติดคุก ปมปัญหาทา� ให้การดา� เนนิ เรื่องเขม้ ข้นมากย่ิงขึ้นเม่ือนายลา�้ ดึงดันท่ีจะพบแมล่ ออใหไ้ ด้ แตท่ ้าย ชแ้ี นะแนวทางและหลกั การ ปมปญ หา ที่สุดแล้วกวีได้ค่อยๆ คลายปมปัญหาน้ันลง โดยใช้วิธีให้ผู้อ่านเข้าใจเองจากบทสนทนาของตัวละคร ของเร่ืองนี้อยูที่นายล้ําเดือดรอนเร่ือง และจบลงด้วยดีโดยพ่อท่ีแท้จริงเห็นแก่ลูกมากกว่าเห็นแก่ตัว ซ่ึงตามธรรมชาติของมนุษย์ส่วนใหญ่ เงินจึงหวังพ่ึงพาลูกสาวท่ีเปนลูก มักเห็นแก่ตัว เพราะมีสัญชาตญาณของการเอาตัวรอด แต่เม่ือได้พบกับความรักอันบริสุทธ์ิ ความ บุญธรรมของผูมีฐานะ จุดสูงสุดของ จรงิ ใจของลกู ท�าให้พ่อที่ไม่เคยท�าดีเลยเกิดความละอายแกใ่ จ เกิดความส�านึกผดิ ชอบชวั่ ดี เขาไมอ่ าจ เร่ืองคือ ตอนท่ีนายลํ้าโตเถียงกับ ลบภาพพอ่ ทแี่ สนดไี ปจากใจของลกู ได้ ในทสี่ ดุ จงึ ยอมมชี วี ติ ทลี่ า� บากตอ่ ไปเพราะเหน็ แกล่ กู ใหล้ กู มชี วี ติ พระยาภักดีเรื่องแมลอออยางรุนแรง ท่ีสุขสบาย ไม่เป็นท่ีรังเกียจของคนในสังคมดีกว่าท่ีจะให้ลูกรับรู้ความจริงอันปวดร้าว บทละครพูด พอมาถึงตอนที่แมลออเลาถึงพอท่ีแท เรือ่ งนี้แสดงให้เหน็ ถงึ ความรกั ของพ่อสองรูปแบบ คอื พ่อทีแ่ ท้จรงิ กับพอ่ บญุ ธรรมแม้ไมใ่ ช่พอ่ ที่แทจ้ ริง จรงิ วา เปน คนดี กน็ าํ ไปสกู ารคลค่ี ลาย หากได้เล้ียงดูมาก็ย่อมรัก หวังดีต่อลูกและท�าทุกอย่างเพราะเห็นแก่ลูกมากกว่าเห็นแก่ตัว ส�าหรับ ปมปญหา จุดจบของเรื่องนายลํ้า พ่อที่แท้จริงแม้จะเคยท�าตนไม่ดีมาก่อน แต่เม่ือพบความรักท่ีบริสุทธิ์จริงใจของลูกท�าให้ส�านึกและ ปดบังวาคนเปนพอที่แทจริงเพ่ือเห็น เสยี สละเพื่อลกู แกล ูก) ๗.๒ คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ เกร็ดแนะครู บทละครพูดเร่ืองเห็นแก่ลูก พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้ ครูแนะนําวา ปมขัดแยงหรือปม เปน็ เพยี งบทละครสน้ั ๆ มีตวั ละครเพยี ง ๔ ตวั แต่สามารถด�าเนินเร่อื งได้ราบร่ืน กระตุ้นความรสู้ กึ ของ ปญหาคือการสรางความขัดแยงเพื่อ ผู้อ่านให้ติดตามเร่ืองต่อไปจนกระท่ังเรื่องจบลงด้วยความสุขสมหวังของตัวละคร จากบทสนทนา ใหการดําเนินเร่ืองไปถึงการคลี่คลาย ของตัวละครภายในเร่ือง นอกจากจะท�าให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของกวีแล้ว ยัง ปม และจบเรื่องในที่สุด ปมขัดแยงมี ปรากฏคณุ คา่ ในดา้ นวรรณศิลป์ ดังนี้ ไดห ลายอยา ง เชน ปมขัดแยง ภายใน ใจของตัวละคร ปมขัดแยงของตัว ๑) กำรใช้บทสนทนำท่ีเหมำะสมกับสถำนภำพของตัวละคร กวีสามารถสร้าง ละครต้ังแตสองตัวข้ึนไป ปมขัดแยง บทสนทนาท่ีเหมาะสมกับสถานภาพของตัวละครท่ีกล่าวบทสนทนาน้ัน สถานภาพนี้ประกอบด้วย ของตวั ละครกบั สงั คมหรอื สง่ิ แวดลอ ม เปนตน จุดสูงสุดของเร่ืองเปนสวนที่ 21 ปญหาของเรื่องถูกขมวดปมถึงขีดสุด เปนสวนท่ีกระตุกใจผูอานถึงขีดสุด กอนเขาสูสวนคลายปมปญหาของ เรื่อง และจบเรื่องในที่สดุ คมู ือครู 21

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบับนักเรียน 20%) ใหนกั เรยี นวิเคราะหการใชภาษา ตา� แหน่งทางสงั คม ยศถาบรรดาศักด์ิ รวมไปถงึ อายุของตัวละคร ตัวอย่างเช่น นายล�า้ เมอื่ สนทนากับ • ภาษาท่ีปรากฏในบทละครพูดเรื่อง อ้ายค�าซง่ึ มสี ถานะเป็นบา่ วจะใช้สรรพนามแทนตัวว่า “ฉัน” และเรยี กอ้ายคา� ว่า “แก” แต่เมอ่ื สนทนา กบั พระยาภกั ดนี ฤนาถซง่ึ มบี รรดาศกั ดแิ์ ละตา� แหนง่ ทางสงั คมสงู กวา่ จะใชค้ า� วา่ “ผม” และเรยี กพระยา- เหน็ แกลกู มีลกั ษณะเดน อยา งไร ภักดีนฤนาถวา่ “ใตเ้ ทา้ ” ซึ่งแสดงถึงบรรดาศักด์ิการเป็นขนุ นาง อีกตัวอยา่ งคือเม่อื นายล�า้ สนทนากับ (แนวตอบ ใชคําส้ัน เรียบงาย มี แม่ลออซึ่งเปน็ ลกู สาวก็จะใช้คา� แทนตวั ว่า “ฉนั ” และเรยี กแม่ลออวา่ “หล่อน” เป็นตน้ ลักษณะเชน่ นี้ ถอยคําแสดงระดับภาษา สะทอน ท�าให้บทละครมคี วามสมจรงิ มากยง่ิ ขนึ้ ดังตัวอย่าง ใหเห็นฐานะที่แตกตาง เชน แก หลอน ผม ฉัน ทําใหเรื่องดูสมจริง การดาํ เนนิ เรือ่ งเรว็ ไมยดื เยอื้ ) ขยายความเขา ใจ นายลา้� . : ถา้ จะต้องคอยอยู่เพราะฉนั ละก็ ฉันขอบอกวา่ ไม่จ�าเปน็ แกจะไปกไ็ ด.้ อ้ายคา� . : ครบั . (น่งั นง่ิ ไม่ลุกไป.) 1. นกั เรยี นจบั คยู กตวั อยา งบทสนทนา นายล�า้ . : (ดอู า้ ยคา� อกี ครหู่ นึง่ แลว้ กห็ วั เราะ.) ฮะๆ ฮะๆ แกเหน็ ทา่ ทางฉนั มนั ไมไ่ ดก้ าร จากบทละครพูดเรื่องเห็นแกลูกท่ี ตวั ละครมกี ารใชภ าษาโดดเดน และ กระมงั แต่ท่จี ริงฉนั นะ่ เป็นผู้ดีเหมอื นกนั มตี ระกูลไม่ต�่าไมเ่ ลวไปกว่าเจ้าคณุ ใชบ ทสนทนาสอดคลอ งกบั ลกั ษณะ ภักดีเลย. นิสัยและอารมณความรูสึกของ ตวั ละครนนั้ ๆ คลู ะ 1 ตวั อยาง ... (แนวตอบ ตัวอยา งบทสนทนาใน พระยาภกั ดี. : นีแ่ กเอาอะไรมานึก! นายลา�้ . : เอ๊ะ! เจ้าคณุ นี่ชอบกลจรงิ ๆ กแ็ ม่ลออน่ะลกู ผมแท้ๆ ไม่ใช่หรือ? หนา 7-8 พระยาภกั ด.ี : อะไรวะ? ๒) กำรใช้บทสนทนำที่สอดคล้องกับลักษณะนิสัยและอำรมณ์ควำมรู้สึกของ อา ยคาํ . : รับประทานโทษ ตวั ละคร บทละครพดู ดา� เนนิ เรอื่ งผา่ นบทสนทนาเปน็ หลกั ทา� ใหก้ ารสอ่ื สารเรอ่ื งราวรวมไปถงึ ลกั ษณะ ของตวั ละครต้องส่ือผ่านบทสนทนานนั้ โดยกวสี รา้ งบทสนทนาทีช่ ว่ ยส่ือถงึ นิสยั และอารมณ์ความรสู้ ึก ขอรับ! (บยุ ปากไป ของตวั ละครไดเ้ ป็นอย่างดี ดังตวั อยา่ ง ทางนายลํ้า.) นายล�้า. : นา้� เหลอื งๆ ไม่มีหรือครับ มันคอ่ ยชน่ื อกชนื่ ใจหนอ่ ยหนึ่ง? พระยาภักดี. : ใครวะ? อายคาํ . : อา งวา เปน เกลอเกา บทสนทนาดังกล่าวแสดงให้เหน็ ลกั ษณะนสิ ยั ของนายลา้� วา่ เป็นคนท่ีติดสรุ า ของใตเ ทา ผมบอกวา นายล�า้ . : ผมเหน็ ควรตัวผมจะมารดนา้� ด้วยนะครบั . ใตเ ทา ยังไมกลบั จาก พระยาภกั ด.ี : นีแ่ กเอาอะไรมานึก! ออฟฟศ กไ็ มย อมไป เดนิ เร่อื ยขึน้ มาทีน่ วี่ า บทสนทนาดงั กลา่ วแสดงใหเ้ หน็ อารมณค์ วามรสู้ กึ ของพระยาภกั ดนี ฤนาถ มอี ารมณโ์ กรธ จะมาคอยพบใตเทา . ท่นี ายลา้� จะมางานแต่งงานของแม่ลออด้วย พระยาภกั ด.ี : แลวยงั ไงละ ? อายคํา. : เกลาผมก็ตามข้ึนมา 22 ดวย มาน่งั คุมอยนู ่.ี พระยาภกั ดี. : เออ! ดีละวะ! เอ็งออก ไปนัง่ คอยอยูข า งนอก ก็ได. อา ยคํา. : ขอรบั ผม.) 2. ใหนักเรียนแตละคูแสดงบทบาท สมมติ โดยใชบ ทสนทนาทน่ี ักเรียน ยกมาเปน ตวั อยา งในการแสดง 22 คมู ือครู

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate นอกจากนั้นแล้วบทสนทนาของตัวละครยังช่วยแสดงให้เห็นความรู้สึกของตัวละคร อธบิ ายความรู ท่เี ปลยี่ นแปลงไปตามเนอื้ เร่อื งได้อีกดว้ ย ดงั เชน่ เม่ือนายล�า้ มีปากเสยี งกบั พระยาภักดนี ฤนาถ นายล�้า จะใชส้ รรพนามเรยี กพระยาภักดีนฤนาถว่า “คณุ ” ส่วนพระยาภักดีนฤนาถจะเรียกนายล�้าวา่ “แก” ใหน ักเรียนรวมกนั แสดงความคิด แต่เม่ือเร่ืองราวคลี่คลายลงโดยนายล�้าเปล่ียนใจไม่มางานแต่งงานแล้ว บทสนทนาจึงใช้ค�าสรรพนาม เห็นในประเด็นตอ ไปนี้ เปล่ยี นแปลงไป ดังตัวอยา่ ง นายล�า้ . : (นงิ่ อยคู่ รหู่ นงึ่ แลว้ พดู เสยี งออกเครอื ๆ.) เจา้ คณุ ขอรบั ใตเ้ ทา้ พดู ถกู , เดก็ คนนี้ • การใชถอยคําทส่ี ื่อความหมาย ลกึ ซ้งึ สง ผลตอ ผูอ า นอยา งไร ดเี กนิ ทจี่ ะเปน็ ลกู ผม ผมมนั เลวทรามเกนิ ทจี่ ะเปน็ พอ่ เขา ผมพง่ึ รสู้ กึ ความจรงิ (แนวตอบ การใชถ อ ยคําท่สี อ่ื เด๋ียวนีเ้ อง. ความหมายลึกซ้ึง จะทาํ ให พระยาภักดี. : (ตบบา่ นายลา้� .) พ่อล�า้ ! ผอู า นเขาใจเรอื่ งราวและ พฤตกิ รรมของตัวละครไดดี จะเห็นได้ว่านายล�้ากลับมาเรียกพระยาภักดีนฤนาถอย่างยกย่องด้วยค�าว่า “เจ้าคุณ” ยิง่ ข้นึ เชน คําวา “เหนีย่ วใจ” หรอื “ใตเ้ ทา้ ” อกี ครง้ั แสดงใหเ้ หน็ ความรสู้ กึ ของนายลา�้ วา่ สา� นกึ ผดิ ในความเหน็ แกต่ วั ทม่ี อี ยกู่ อ่ นหนา้ นี้ ส่อื ใหเ ห็นอารมณข องตวั ละคร ขณะที่พระยาภักดีนฤนาถก็เข้าใจความเปลี่ยนแปลงนั้น จึงเรียกนายล�้าด้วยค�าที่แสดงความเห็นใจ วาพยายามยับยั้งใจ ไมทํา และยกยอ่ งวา่ “พอ่ ลา้� ” ความรนุ แรงทัง้ ท่ีโกรธมาก) จากตวั อย่างท่ไี ดย้ กมาแสดงให้เห็นวา่ บทละครเรอ่ื งนีใ้ ช้บทสนทนาทีส่ มจริงและชว่ ยสอื่ ขยายความเขา ใจ ถึงลักษณะนิสัยซ่ึงเป็นภูมิหลังของตัวละคร รวมถึงแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ท�าให้ผู้อ่าน เข้าใจในเน้อื เรอ่ื งได้อย่างแจ่มแจ้ง 1. ใหนักเรยี นนาํ ถอยคําทสี่ อ่ื ๓) กำรใช้ถ้อยค�ำทีส่ อ่ื ควำมหมำยลึกซ้ึง ในบทละครนี้มีการใช้ถ้อยค�าทีส่ ั้นกระชับ ความหมายลกึ ซง้ึ จากเนื้อเรอื่ ง แต่กินความมาก สามารถสื่อความหมายได้ลึกซ้ึง ท�าให้ผู้อ่านหรือผู้ชมเข้าใจเร่ืองราวได้ดียิ่งขึ้น ดัง มาแตง ประโยคคนละ 1 ประโยค ตวั อย่าง • (หนาตงึ ) ออ ! พระยาภักดี. : (หน้าตึง.) อ้อ! • ผงกหัว • เหนยี่ วใจ บทบรรยายนี้ท�าให้ผู้อ่านเห็นลักษณะสีหน้าของพระยาภักดีนฤนาถว่าเป็นเช่นไร และ ฯลฯ ยังท�าให้เข้าใจความรู้สึกของตัวละครในขณะนั้นว่ามีความไม่พอใจอีกด้วย แม้ว่าจะใช้ถ้อยค�าในการ บรรยายเพยี งสัน้ ๆ ก็ตาม 2. จากนนั้ ใหนกั เรยี นมานาํ เสนอ หนาชน้ั เรยี น แลว บันทกึ ประโยค การใช้ถ้อยค�าในบทสนทนา ดังตัวอยา่ ง ทน่ี ักเรยี นสนใจลงสมดุ อยางนอย พระยาภกั ด.ี : แกยังเข้าใจผดิ อยูม่ าก การที่คนไดร้ บั พระราชอาญาคราวหนึง่ แลว้ ไมใ่ ช่วา่ 5 ประโยค ใครๆ เขาจะพากนั คอยตดั รอนไม่ให้มกี ารผงกหวั ไดอ้ ีก... คา� วา่ “ผงกหวั ” ในทนี่ ห้ี มายถงึ มโี อกาสในการกลบั ตวั กลับใจท�ามาหากินอย่างสจุ ริต 23 คมู ือครู 23

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธิบายความรู (ยอ จากฉบบั นกั เรียน 20%) ใหนกั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ พระยาภักดี. : อย่าทา� ให้เกดิ เคืองมากข้ึนหนอ่ ยเลย ประเดย๋ี วฉนั จะเหนีย่ วใจไวไ้ มอ่ ยู่. การใชส ํานวนภาษาในบทละครพดู เรื่องเห็นแกล กู ทแี่ ตกตางจากปจจบุ นั คำ� วำ่ “เหนยี่ วใจ” ในทนี่ หี้ มำยถงึ ระงบั จติ ใจไมใ่ หล้ งมอื กระทำ� กำรรนุ แรงลงไป จะเหน็ ไดว้ ำ่ กวสี ำมำรถเลือกใชถ้ อ้ ยคำ� ท่สี ั้นกระชับแตส่ อ่ื ควำมไดก้ ว้ำงขวำง • นักเรยี นเขา ใจเนอ้ื ความโดยรวม ๔) การสอ่ื ความหมายโดยนยั หมำยถงึ กำรสอื่ ควำมหมำยออกมำโดยไมแ่ สดงออกมำ ของเรื่องไดอ ยา งไร ตรงๆ แตส่ ือ่ ผ่ำนค�ำพูดท่สี อ่ื เป็นนยั ใหท้ รำบ ดงั ตัวอยำ่ ง (แนวตอบ พิจารณาจากบริบท แวดลอมเชื่อมโยงกับคําที่เคย นายล้�า. : ทพี่ ษิ ณโุ ลกกพ็ อหาอะไรดื่มได้พอใช้เทียวครบั . พบหรือคําใกลเคียง เชน รดน้ํา พระยาภักดี. : (แลดูหน้านายล�้า.) ฉนั เชอ่ื , เชื่อทเี ดยี ว... คือ รดน้ําสังข รับประทานโทษ ปจ จบุ นั มกั ใชว า ขอประทานโทษ เปนตน) ขยายความเขาใจ บทสนทนำข้ำงต้นเป็นตอนที่พระยำภักดีนฤนำถสั่งให้อ้ำยค�ำน�ำโซดำมำให้นำยล้�ำดื่ม ค�ำพูดของนำยล�้ำส่ือเป็นนัยให้ทรำบว่ำ สิ่งท่ีนำยล้�ำชอบด่ืมก็คือสุรำ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมำโดยตรง ใหนักเรียนยกตัวอยางสํานวน ขณะทบ่ี ทสนทนำของพระยำภกั ดนี ฤนำถกส็ อ่ื ใหท้ รำบวำ่ พระยำภกั ดนี ฤนำถเขำ้ ใจสง่ิ ทน่ี ำยลำ้� กลำ่ วถงึ สุภาษิตไทยที่สะทอนคานิยมของคน แม้ไม่ได้กล่ำวอย่ำงตรงไปตรงมำ เพรำะพระยำภักดีนฤนำถเห็นหน้ำนำยล้�ำซ่ึงแสดงถึงอำกำรของ ไทย คนตดิ สุรำ (แนวตอบ การตอ นรบั แขกของสงั คม ๕) การใชส้ �านวน ในบทละครพูดเรื่องน้ีพบสำ� นวนหลำยส�ำนวน ดงั ตวั อยำ่ ง ไทย “อันธรรมเนียมไทยแทแตโบราณ ใครมาถงึ เรือนชานตองตอนรบั ”) มเี หย้ำมีเรือน หมำยถงึ แต่งงำน มีครอบครัว เจำ้ บุญนำยคณุ หมำยถงึ เคยทำ� บุญคณุ แกเ่ ขำไว้มำก หมำหวั เน่ำ หมำยถึง คนทไ่ี ม่มีใครคบค้ำสมำคมดว้ ย กำรใชส้ ำ� นวนทำ� ใหบ้ ทสนทนำสำมำรถสอ่ื ควำมหมำยไดอ้ ยำ่ งกนิ ควำมกวำ้ งขวำงมำกขน้ึ และยังช่วยน�ำเสนอควำมคดิ บำงอย่ำงของตัวละครไดอ้ ีกดว้ ย ดังตัวอย่ำง พระยาภกั ด.ี : ถึงนายทองค�าจะไม่รงั เกียจ คนอ่ืนๆ ก็คงต้องรังเกียจ, ใครเขาจะมาคบคา้ สมาคมไดอ้ ีกต่อไป ไปข้างไหนเขากจ็ ะแลดพู ดู ซบุ ซบิ กัน ถ้าใครเขาเลี่ยงได้ เขากค็ งเล่ยี ง แกจะมาทา� ให้แมล่ ออเป็นหมาหวั เนา่ หรอื ? จำกบทสนทนำขำ้ งตน้ พระยำภกั ดีนฤนำถใชส้ ำ� นวนว่ำ “หมาหวั เน่า” เป็นกำรใชภ้ ำษำ ทก่ี นิ ควำมเพอ่ื สอื่ ใหน้ ำยลำ้� เขำ้ ใจอยำ่ งชดั เจนถงึ สภำพทจี่ ะเกดิ ขน้ึ กบั แมล่ ออ คอื ไมม่ ใี ครคบคำ้ สมำคม ดว้ ย นอกจำกนัน้ แลว้ ยังเป็นกำรใชภ้ ำษำแบบตรงไปตรงมำ เพ่อื ตกั เตือนใหน้ ำยลำ�้ ฉกุ คดิ 24 24 คูมอื ครู

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate ๗.๓ คณุ คา่ ดา้ นสงั คมและสะทอ้ นวถิ ไี ทย อธิบายความรู บทละครพูดเรื่องเห็นแกล่ กู พระราชนิพนธ์ในรัชกาลท่ี ๖ เปน็ วรรณคดีที่เกิดขน้ึ ในช่วงเวลา ครแู ละนกั เรียนรว มกนั อภปิ รายวา ที่สังคมไทยรับกระแสวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาปรับใช้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบทละครพูดเร่ือง • ขนบธรรมเนียม และคานิยมที่ เห็นแก่ลูก ก็มิได้มุ่งสะท้อนสภาพสังคมเฉพาะด้าน แต่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทาง วฒั นธรรมทไ่ี ดม้ กี ารนา� มาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ ขา้ กบั ธรรมเนยี มไทย นอกจากนยี้ งั สะทอ้ นสภาพความเปน็ จรงิ ปรากฏในเรื่องยังคงมีใหเห็นใน ของสงั คมวา่ ไมว่ า่ ยคุ สมยั ใดสงั คมยอ่ มมที ง้ั ดา้ นมดื และดา้ นสวา่ ง คนดแี ละคนไมด่ ยี อ่ มปะปนกนั สะทอ้ น ปจจบุ นั หรอื ไม ใหนักเรียนรวมกัน ให้เหน็ สภาพชวี ิต ความคิด ความเชือ่ ความรูใ้ นสังคม ณ ช่วงเวลาน้นั ดังนี้ ยกตัวอยาง ๑) ธรรมเนียมกำรต้อนรับแขก ทุกครอบครัวในสังคมไทยย่อมได้รับการปลูกฝัง (แนวตอบขนบธรรมเนยี มทยี่ งั ปรากฏ จากคนรุ่นพ่อรุ่นแมเ่ สมอวา่ “เปน็ ธรรมเนียมไทยแทแ้ ตโ่ บราณ ใครมาถึงเรือนชานตอ้ งต้อนรบั ” การ ในปจจุบัน เชน การตอนรับแขก ตอ้ นรับแขกดว้ ยความเตม็ ใจและเลี้ยงรบั รองอย่างดที ี่สดุ ถือเป็นมารยาททางสงั คมประการหนึง่ และผู้ อยา งดี การพดู คยุ สอบถามสารทกุ ข ทไ่ี ดร้ ับการตอ้ นรับยอ่ มประทบั ใจและกลา่ วถงึ ในความมนี �้าใจของเจา้ บ้าน บทละครพดู เรื่องเหน็ แก่ลกู สกุ ดบิ การใหโ อกาสคนทเี่ คยทาํ ผดิ ได้สะท้อนใหเ้ หน็ ธรรมเนยี มดงั กลา่ วขา้ งตน้ ไว้ ดงั ตวั อย่าง แตกลับตัวเปนคนดี เปนตน และ คานิยมท่ีคนไทยยังมีอยู คือ การ นายล�้า. : แหม! วันนี้รอ้ นจรงิ ท�าให้ระหายน้�าพิลึก. อบรมเลี้ยงดูบุตรหลานใหมีกิริยา พระยาภกั ด.ี : (เรียก.) อ้ายคา� ! ไปหาโซดามาถ้วยเถอะ. มารยาทดแี ละเชือ่ ฟง ผูใหญ) นายล้�า. : โซดาเปล่าหรือครบั ? • นักเรียนคดิ วาธรรมเนียมและ พระยาภักดี. : จะเอาครีมโซดากไ็ ด ้ หรือน้�าแดง. คา นยิ มนนั้ มขี อ ดขี อ ดอยอยา งไร (แนวตอบ มขี อดี คอื ทาํ ใหคงความ จากบทสนทนาได้สะท้อนให้เห็นธรรมเนียมในการต้อนรับแขกและในขณะเดียวกัน เปนไทยและวิถีชีวิตของคนไทยท่ีมี ยงั ไดส้ ะทอ้ นให้เหน็ ว่าเคร่ืองด่ืมท่ใี ชร้ ับรองแขกของคนไทยได้เปลี่ยนแปลงไป แตเ่ ดมิ เครือ่ งดม่ื ส�าหรบั นํา้ ใจเอ้อื เฟอ เผ่อื แผกัน) รบั รองแขก คอื นา้� ฝน นา�้ สะอาด แตจ่ ากเรอ่ื งไดเ้ ปลย่ี นเครอ่ื งดม่ื โดยใชน้ า�้ ครมี โซดาคอื นา้� หวานสเี ขยี ว ผสมน�้าโซดา สะท้อนใหเ้ หน็ การรบั วัฒนธรรมการด่มื น้�าหวานซ่งึ เปน็ เครือ่ งดม่ื จากตะวนั ตก ขยายความเขาใจ ๒) กำรก�ำหนดค่ำและรูปแบบของเงิน ในสมัยอดีตเงินตราไม่ใช่ตัวแปรส�าคัญใน สงั คม ในระบบเศรษฐกิจไทยจะใช้ระบบแลกเปลย่ี นสินคา้ ซงึ่ กนั และกัน ต่อมาเมอ่ื สงั คมมีโครงสร้างท่ี นกั เรยี นรว มกันแสดงความคดิ เห็น ซบั ซอ้ น มรี ะบบเศรษฐกจิ ทช่ี ดั เจนมากขนึ้ ระบบเงนิ ตราจงึ เขา้ มาเปน็ สอื่ กลางในการซอ้ื ขายแลกเปลย่ี น เกีย่ วกับคานิยมในสังคมไทย บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก ได้สะท้อนระบบเศรษฐกิจท่ีมีการก�าหนดค่าของเงิน โดยมีมาตราการ แลกเปลย่ี นวา่ ๑๐๐ สตางคม์ คี า่ เทา่ กบั ๑ บาท ๔ บาทเปน็ หนงึ่ ตา� ลงึ ๒๐ ตา� ลงึ เปน็ หนงึ่ ชง่ั ดงั ตวั อยา่ ง • นักเรียนคิดวาคานิยมท่ีนับถือ คนมฐี านะจากอดตี มาถงึ ปจ จบุ นั พระยาภักดี. : กจ็ ะพดู กนั เสยี ตรงๆ เทา่ นน้ั กจ็ ะแลว้ กนั เอาเถอะฉนั ใหแ้ กเดย๋ี วนีก้ ไ็ ด ้ เทา่ ไหร่ นน้ั เปลี่ยนแปลงหรือไมอยา งไร ถึงจะพอ เอาไปสบิ ช่งั กอ่ นพอไหม? (แนวตอบ ปจจุบันยังมีคนบาง กลุมนิยมและนับถือคนมีฐานะ นายล�้า. : ไม่รับประทาน. อยู แตค นสวนใหญเปลย่ี นแปลง ทั ศ น ค ติ ม า นิ ย ม นั บ ถื อ แ ล ะ 25 ยกยองคนที่มีความรู ความ สามารถ มคี วามดี ความซอ่ื สตั ย มากกวา ) B พ้นื ฐานอาชีพ B ครคู วรเสนอแนะแนวทางการพฒั นาความรทู างภาษาจากการอา นวรรณคดี และวรรณกรรมไทย โดยเฉพาะความรูทางดานคําศัพทตางๆ ที่กวีเลือกใชหรือการสรางศัพทใหม นักเรียนจะมี คลังศัพทกวางขึ้น และจะเปนประโยชนในการสรรคําเพื่อใชในการประพันธงานประเภทตางๆ อยา งสรางสรรค ฝก ฝนสูเสน ทางการเปน นกั ประพันธ คูมือครู 25

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate อธิบายความรู (ยอ จากฉบับนักเรยี น 20%) ใหนกั เรยี นเปรียบเทยี บมาตราเงนิ พระยาภักดี. : ย่ีสบิ ช่ัง! ของไทย แลว บันทกึ ลงสมุด นายลา้� . : ไมร่ ับประทาน. มาตราเงินไทยโบราณเปน ดงั น้ี จากตวั อยา่ งสะทอ้ นใหเ้ หน็ การกา� หนดคา่ เงนิ ในสมยั รชั กาลท่ี ๖ นอกจากนใ้ี นบทละคร- 2 เฟอ ง = 1 สลงึ พูดเรอ่ื งเห็นแก่ลกู ยงั สะท้อนรูปแบบของเงนิ ไวด้ ังนี้ 4 สลึง = 1 บาท 4 บาท = 1 ตาํ ลึง พระยาภกั ดี. : เอาเงนิ ไปใช้มง่ั ซิ. (ไปไขกุญแจ เปิดล้นิ ชักโต๊ะหยิบธนบัตรออกมาปนั้ หนึง่ .) 20 ตําลึง = 1 ชงั่ จากบทประพนั ธต อนทพ่ี ระยาภักดี จากตวั อย่างแสดงให้เหน็ วา่ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ มีการใช้เงินตราในรูปแบบธนบตั รแล้ว เสนอเงินใหนายลํ้าเพ่ือเปนการแลก- และสะทอ้ นให้เหน็ การรับเอาวิทยาการจากตา่ งประเทศเข้ามาพฒั นาชาติไทย เปล่ียนไมใหนายลํ้ามายุงเกี่ยวกับ ๓) คำ่ นยิ มกำรนบั ถอื บคุ คลทเ่ี พยี บพรอ้ มทงั้ รปู สมบตั แิ ละทรพั ยส์ มบตั ิ บทละคร- แมลออ พระยาภักดีเสนอเงินให พูดเร่ืองเห็นแก่ลูก ได้สะท้อนให้เห็นค่านิยมของคนไทยท่ีนับถือบุคคลจากรูปลักษณ์ภายนอกโดยมิได้ นายลา้ํ จํานวน 10 ช่งั 20 ชัง่ และ 50 มองถึงคุณธรรมความดีของบุคคลผู้น้ัน บุคคลใดมีความประพฤติด่างพร้อย ท�าให้เสียชื่อเสียง ชั่ง ใหนักเรียนแปลงคาเงินจากชั่งให เกียรติยศ ไมว่ ่าจะเคยเปน็ คนดีหรอื เป็นคนเลวมาก่อนกต็ าม เมื่อชีวติ มมี ลทินก็ท�าให้เปน็ ทีร่ ังเกยี จของ เปน บาท ตามจาํ นวนเงินนน้ั สังคม ดังนัน้ พระยาภักดีนฤนาถจงึ กลวั ทจ่ี ะใหแ้ มล่ ออพบกับนายล�้าซงึ่ เปน็ พอ่ ท่ีแทจ้ ริง ดงั ตวั อยา่ ง (แนวตอบ 10 ชง่ั = 800 บาท นายล�า้ . : กย็ งั งนั้ ซิขอรบั . 20 ชง่ั = 1,600 บาท พระยาภักด.ี : พุทโธ่! นีแ่ กนะ่ ไม่มคี วามเมตตาลกู แกบ้างเลยเทียวหรอื ถึงได้คดิ รา้ ยแกเ่ ขา 50 ชั่ง = 4,000 บาท) ไดย้ งั ง้นั ? ขยายความเขาใจ นายล้า� . : คิดรา้ ยยังไง? พระยาภกั ด.ี : นายทองค�าเขาจะมาแตง่ กบั ลกู สาวคนเช่นแกไดอ้ ยู่หรอื ? นักเรียนเปรยี บเทยี บคาเงนิ โบราณ นายล�้า. : ถา้ เขารักแม่ลออจริงละก็ ถึงผมจะเป็นคนเลวกวา่ ทผ่ี มเปน็ อยนู่ ี่ เขาคงไม่ ใหชดั เจน โดยเปรียบเทียบคาเงนิ กบั สินคาหรอื คา จา งในปจ จุบนั รงั เกียจ. พระยาภักด.ี : ถงึ นายทองค�าจะไมร่ งั เกียจ คนอน่ื ๆ ก็คงต้องรงั เกียจ, ใครเขาจะมาคบคา้ (แนวตอบ เงินเดือนของขาราชการ ไดร บั เพยี งเดือนละ 20 บาท ซง่ึ เทากบั สมาคมได้อีกต่อไป ไปขา้ งไหนเขากจ็ ะแลดพู ดู ซบุ ซบิ กนั ถา้ ใครเขาเลยี่ งได้ เงินเดือนของขาราชการในปจจุบัน เขากค็ งเลี่ยง แกจะมาท�าใหแ้ ม่ลออเปน็ หมาหวั เนา่ หรอื ? ประมาณเดอื นละ 10,000 บาท แสดง วาเงินจํานวน 20 บาท ในสมัยกอน จากบทสนทนาจะเห็นว่าพระยาภักดีนฤนาถไม่ต้องการให้นายล�้าซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ได้พบ สามารถใชจ า ยไดเ พยี งพอใน 1 เดอื น) กับแม่ลออ โดยผู้อ่านจะทราบได้จากบทสนทนาของตัวละคร ถึงสาเหตุส�าคัญท่ีพระยาภักดีนฤนาถ ไมต่ อ้ งการใหแ้ มล่ ออรคู้ วามจรงิ เพราะไมต่ อ้ งการใหเ้ ปน็ ทรี่ งั เกยี จของสงั คมทมี่ พี อ่ แทๆ้ เปน็ คนประพฤติ ไม่ถูกทา� นองคลองธรรมและเคยตดิ คุกมากอ่ น 26 26 คูมือครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Engage Explore Evaluate นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมการนับถือคนมีฐานะ บางคนเห็นคนอ่ืนมีฐานะ อธิบายความรู มีเงินทอง มีทรัพย์สินมากมาย จึงอยากมีบ้าง โดยการหาวิธีรวยทางลัด เช่น เล่นการพนัน คา้ ยาเสพตดิ คดโกง ขโมย จีป้ ล้นหรือใชอ้ �านาจหนา้ ทแ่ี สวงหาประโยชน์สว่ นตน ผ้ทู หี่ าวิธีรวยทางลดั นกั เรียนรว มกันแสดงความคดิ เห็น เช่นน้มี กั ลม้ เหลวในชีวติ ดังเชน่ ชีวิตของนายล้�า หากตอ้ งการมีชีวติ ทีเ่ ปน็ สขุ ควรขยันหมน่ั เพยี ร ตัง้ ใจ เกยี่ วกับคณุ คา ดา นสงั คมจาก ปฏิบตั หิ น้าที่ รูจ้ กั ความพอดี พอเพยี ง ไม่ฟงุ้ เฟ้อ หมั่นเก็บออม ก็จะพอมพี อกนิ และเจรญิ ก้าวหน้าใน บทละครพูดเรือ่ งเห็นแกลกู หนา้ ท่กี ารงานตามอตั ภาพ หากเรารู้จักพอเพียงก็จะสามารถใช้ชีวติ ได้อยา่ งไม่ลา� บาก มคี วามสขุ กาย สบายใจ ไมต่ ้องดิ้นรนฟุ้งเฟอ้ ทา� ใหต้ ิดหน้สี ิน เปน็ ปัญหาท่กี ระทบตอ่ การดา� เนนิ ชีวติ ประจา� วัน • ในขอทว่ี า “แสดงใหเหน็ ถึง ๔) แสดงให้เห็นถึงสัจธรรมของมนุษย์ มนุษย์ทุกคนย่อมเห็นแก่ตัวเป็นธรรมดา สจั ธรรมของมนษุ ย” นักเรียน แต่พ่อแม่ย่อมเห็นแก่ลูกมากกว่าตนเอง ต้องเสียสละทุกอย่างเพ่ือลูก แม้กระท่ังนายล�้าเองที่จากลูก เหน็ ดวยหรอื ไมอยางไร ไปตัง้ แตแ่ มล่ อออายุได้ ๒ ปี ยังต้องต่อสกู้ ับความรสู้ ึกเห็นแก่ตวั หรอื เห็นแกล่ กู ของตนเองและในทส่ี ุด (แนวตอบ เห็นดวย เพราะเร่ืองนี้ อ�านาจฝ่ายสูงก็ชนะ นายล้�ายอมจากไปผจญกับความยากล�าบากเพราะเห็นแก่ลูกมากกว่า จึงเป็น แสดงใหเห็นถึงความเสียสละ เรอื่ งท่นี ่ายกย่องทเ่ี ขาเคยท�าผดิ แต่ก็สา� นกึ ตัวได้ ดงั บทสนทนา ของพอแมเพื่อลูกอยางเดนชัด ซ่ึงเปนสัจธรรมท่ีดีงาม ลูกจะ นายลา้� . : หลอ่ นไดเ้ ขยี นรปู พอ่ ของหลอ่ นขน้ึ ไวใ้ นใจเปน็ คนดไี มม่ ที ต่ี ิ ผมไมต่ อ้ งการจะลบ ระลึกถึงบุญคุณของพอแมเสมอ รปู นนั้ เสยี เลย. (ถอดแหวนวงหนึง่ จากนวิ้ .) นีแ่ นะ่ ครบั แหวนนีเ้ ปน็ ของแมน่ วล เมื่อมีโอกาสก็ควรจะตอบแทน ผมไดต้ ิดไปด้วยส่ิงเดยี วเท่านีแ้ หละ เจ้าคณุ ได้โปรดเมตตาผมสกั ท ี พอถงึ วนั พระคณุ ทาน) แตง่ งานแมล่ ออ เจา้ คณุ ไดโ้ ปรดใหแ้ หวนนีแ้ กเ่ ขา บอกวา่ เปน็ ของรบั ไหวข้ อง ผม สง่ มาแทนตัว. ขยายความเขา ใจ พระยาภกั ด.ี : (รบั แหวน.) ได้ซเิ พอื่ นเอ๋ย ฉนั จะจัดการตามแกส่ัง อยา่ วติ กเลย. ใหนักเรียนยกตัวอยางการเสียสละ นายล้�า. : แลว้ ผมขออะไรอกี อยา่ ง. ของคนในครอบครวั บรรยายลงใน พระยาภกั ด.ี : อะไร? วา่ มาเถอะ ฉันไมข่ ดั เลย. สมุดสงครู ความยาวอยางนอ ย นายล้า� . : อยา่ ไดบ้ อกความจรงิ แก่แม่ลออเลย ให้เขาคงนบั ถอื รูปผมอันเก่านนั้ วา่ เปน็ 15 บรรทัด พ่อเขา และใหน้ ับถือตัวผมเป็นเหมือนอา. นกั เรียนควรรู พระยาภักด.ี : เอาเถอะ, ฉนั จะทา� ตามแกประสงค์. พอเพียง เปน แนวคิดการดาํ รงชวี ิต นายลา้� . : ผมลาท ี พรุ่งนีเ้ ชา้ ผมจะกลับพิษณโุ ลก. และปฏิบัตติ นของคนทุกระดับท่ี พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร- มหาภมู ิพลอดุลยเดชมีพระราชดาํ รสั ช้แี นะใหชาวไทยนําไปปฏบิ ตั ิ จากบทสนทนา นายลา้� ไมส่ ามารถจะเหน็ แกป่ ระโยชนส์ ว่ นตนมากกวา่ ความรกั อนั บรสิ ทุ ธิ์ เบศรู รณษาฐกกาิจรพอเพียง ความเทดิ ทนู ทแ่ี มล่ ออมตี อ่ เขาไดเ้ ลย พลงั แหง่ ความดแี ละความรกั ทา� ใหพ้ อ่ คนหนงึ่ ทใ่ี นครงั้ หนงึ่ ไมเ่ คย ไดด้ ูแลใกล้ชิดลกู กลับตัวกลับใจ สละความสุขสบายและผลประโยชนส์ ว่ นตนเพอ่ื ความสุขของลกู ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายใน ประเด็นตอไปน้ี หากนักเรียนมีเพื่อน 27 หรือคนใกลชิดท่ีมีอุปนิสัยหรือการ ดํารงชีวิตเชนเดียวกับ “นายลํ้า” นักเรียนจะมีวิธีช้ีแนะหรือตักเตือน อยางไร ใหผูน้ันสามารถดํารงตนอยู ในสงั คมโดยพงึ่ พาตนเองไดอ ยา งปกติ และไมสรางความเดือดรอนใหผูอ่ืน จากนนั้ ใหน กั เรยี นรว มกนั สรปุ และครู ช้แี นะเพ่ิมเติม คมู ือครู 27

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Evaluate Engage Explore Explain ขยายความเขาใจ (ยอจากฉบบั นักเรยี น 20%) 1. ใหนักเรียนแตละคนบอกขอคิดท่ี ๗.๔ ขอ้ คดิ ทสี่ ามารถนา� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจา� วนั ไดจากเรื่อง อยา งนอ ยคนละ 2 ขอ (แนวตอบ นักเรียนอาจตอบซํ้ากนั ได บทละครพูดเร่ืองเห็นแก่ลูก เป็นบทละครท่ีมีขนาดส้ัน ปมปัญหาไม่ซับซ้อนมากนัก แต่กวี แตครูควรกระตนุ ใหตอบอยา ง ท�าให้เรื่องมีความน่าติดตามด้วยการด�าเนินเร่ืองและการใช้ภาษาที่ประณีตงดงาม ส่ือความได้ชัดเจน หลากหลายตามความเขาใจ ตรงไปตรงมา กระทบอารมณค์ วามรสู้ กึ ของผอู้ า่ น ทา� ใหม้ องเหน็ ขอ้ คดิ หลายประการทก่ี วสี อดแทรกไว้ ของนักเรยี น) และสามารถนา� มาประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในชีวิตประจา� วันได้ ดงั นี้ ๑) สถำบันครอบครัวมีควำมส�ำคัญต่อโครงสร้ำงสังคมไทย ผู้ท่ีเป็นพ่อแม่มี 2. ใหนกั เรียนนําขอ คดิ ทไี่ ดจากเรอื่ ง หน้าท่ีต้องอุปถัมภ์ เล้ียงดู ส่ังสอนอบรมบุตรให้เป็นคนดีของสังคมโดยไม่เรียกร้องผลประโยชน์ ถ้า แตง เปน คาํ ขวัญ แสดงไวท่ีปาย พ่อแม่หรือหัวหน้าครอบครัวดี บุตรหลานก็จะให้ความเคารพ เช่ือฟัง รักและศรัทธา บุตรหลานจะ นเิ ทศหนา ชั้นเรยี น ยดึ ถอื พอ่ แมเ่ ปน็ แบบอยา่ งและประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ าม ถา้ ครอบครวั ดสี งั คมกจ็ ะดี ดงั นนั้ พอ่ แมค่ วรอบรม (แนวตอบ ตัวอยา งเชน การพนัน เลย้ี งดูลูกอยา่ งดี เป็นคนดีใหล้ กู เห็น เป็นแบบอยา่ งเพ่อื เป็นรากฐานของสงั คมท่ีดีและมีความสขุ เปนยาพษิ ทําลายชวี ติ ทําลาย ๒) คนดีย่อมมผี ้นู บั ถือ หากเราต้องการใหค้ นเคารพนับถือ เราตอ้ งทา� ตนใหเ้ ปน็ คน ครอบครวั ) มเี กยี รติ เชอ่ื ถอื ได้ คอื เป็นคนทปี่ ระพฤติดี ซื่อตรง จริงใจ ท้งั ต่อหน้าและลับหลงั ให้สมกบั ทผี่ อู้ ่นื รกั นับถือและช่ืนชม หากต่อหน้าท�าอย่างหน่ึง ลับหลังท�าอีกอย่างหน่ึงจะไม่ได้รับการเคารพนับถือจาก ตรวจสอบผล บคุ คลอ่ืนๆ อีกต่อไป ๓) อย่ำท�ำตนเองให้ตกต่�ำเพรำะกำรกระท�ำของตนเอง ความคิดและการกระท�า 1. นักเรียนสรปุ เร่ืองยอ บทละครพูด เป็นเคร่ืองก�ากับคุณภาพและเป็นเครื่องตัดสินคุณค่าของความเป็นคน สอดคล้องกับหลักธรรม เรือ่ งเห็นแกล ูก และเรียงลําดบั ในพระพทุ ธศาสนาทก่ี ลา่ วไวว้ า่ บคุ คลยอ่ มไดร้ บั ผลจากการกระทา� ของตนเอง หากบคุ คลผนู้ น้ั ประกอบ เรื่องเปนแผนผงั ความคิดได กรรมดีย่อมได้รับสิ่งดีตอบแทน ผู้คนสรรเสริญในคุณงามความดีท่ีได้สร้างไว้ แต่ถ้าหากประพฤติ ไม่ถูกต้อง ทุจริตหรือไม่ใฝ่ในทางดี ใฝ่ในอบายมุขก็จะน�าไปสู่หนทางแห่งความหายนะ ท�าให้ชีวิต 2. นกั เรยี นบอกโครงเรอ่ื งของบทละคร ลม้ เหลวทงั้ ชวี ติ สว่ นตวั และครอบครวั ตา� แหนง่ หนา้ ทก่ี ารงาน และคนในสงั คมไมใ่ หค้ วามเคารพนบั ถอื พดู เรอ่ื งเห็นแกล กู และเขียนบท ชวี ติ พบกับความเดือดรอ้ นเหมือนดงั เช่นนายล�้าที่ต้องติดคกุ เพราะการกระทา� ทีผ่ ิดกฎหมายของตนเอง ละครพูดโดยยดึ โครงเรื่องเดมิ ได บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ เป็นบทละครท่ีมี 3. นักเรียนวิเคราะหลกั ษณะเดนของ โครงเรื่องไม่ซับซ้อน เน้นการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาด้วยบทสนทนาของตัวละคร การใชภาษาจากบทสนทนาของ ผู้อ่านจะทราบภูมิหลังของตัวละครแต่ละตัว อันเป็นสาเหตุที่ผลักดันให้ตัวละครคิดและ ตวั ละครในบทละครพดู เร่ืองเหน็ - แสดงพฤติกรรมตา่ งๆ ออกมา ผอู้ า่ นจะเขา้ ใจอารมณค์ วามรสู้ กึ ของนายลÓ้ พระยาภักดี- แกลกู ได นฤนาถ แมล่ ออและอา้ ยคÓ ผา่ นการใชภ้ าษาทกี่ ระชบั ใชค้ Óนอ้ ยแตก่ นิ ความมาก แนวคดิ สÓคญั ของเรอ่ื งไดส้ ะทอ้ นใหเ้ หน็ ความรกั ทยี่ งิ่ ใหญข่ องบดิ ามารดาทม่ี ตี อ่ บตุ ร นอกจากน้ี 4. นักเรยี นยกตัวอยา งสาํ นวนสภุ าษติ เมอ่ื ผอู้ า่ นไดอ้ า่ นอยา่ งพนิ จิ ใครค่ รวญจะไดข้ อ้ คดิ ตา่ งๆ ทสี่ ามารถนÓไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ไทยจากบทละครพดู เรอื่ งเหน็ แกล กู ประจÓวนั ได้ ทสี่ ะทอ นเรอื่ งคา นยิ มของคนไทยได 28 เกร็ดแนะครู ครูแนะความรูเพิ่มเติมใหนักเรียน เ กี่ ย ว กั บ บ ท ล ะ ค ร พู ด แ ร ก เ ร่ิ ม นั้ น บทละครพูดจะเปนบทละครท่ีใช ศิลปะการพูดเปนหลักในการดําเนิน เรื่องไมมีการรํา มีแตการพูด นั่ง ยืน เดิน เม่ือผูแตงตองการใหตัวละคร แสดงสีหนาทาทางอยางไร ก็จะใช วิธีอธิบายไวในวงเล็บ นอกจากน้ี หากผูแตงตองการใหตัวละครบอก ความคดิ แกค นดกู จ็ ะใชว ธิ ใี หต วั ละคร ปองปากพูดดังๆ กับคนดู สมมติวา ตัวละครอน่ื ๆ บนเวทีไมไ ดยิน 28 คูมือครู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook