แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.๓

บวกและการลบ โดยการต้งั โจทย์ 2-3 ข้อ แล้วสุ่มใหน้ ักเรียนตอบคำถามวา่ “ตวั ไมท่ ราบคา่ คือจำนวนใด” ๑๐.ครูตั้งคำถามกระตุ้นความคิด โดยยกตัวอย่างอีกครั้งด้วยการเขียนโจทย์บนกระดาน เช่น 85,179 -  = 48,627 ให้นักเรียนร่วมกันหาคำตอบ จากนั้นครูเขียนโจทย์ 36,912 + 48,627 =  บนกระดาน ใหน้ ักเรียนรว่ มกันอธบิ ายความสมั พนั ธข์ องโจทย์ทั้งสอง ๑๑.ครูและนักเรียนรว่ มกนั เขยี นสรปุ การหาคำตอบทัง้ สองขอ้ บนกระดานอีกคร้งั ดังนี้ 85,179 – 36,912 = 48,627 36,912 + 48,627 = 85,179 จากความสัมพนั ธ์ท่กี ล่าวมา ครถู ามนกั เรียนวา่ นักเรียนคดิ วา่ 85,179 – 36,912 =  (48,627) ๑๒.ครยู กตัวอย่างอกี ครง้ั โดยครเู ขียนโจทยบ์ นกระดาน เช่น 62,483 -  = 10,334 ให้ นกั เรียนรว่ มกันหาคำตอบ จากนั้นครูเขียนโจทย์ 52,149 + 10,334 =  บนกระดาน ให้นักเรียน พจิ ารณาความสัมพันธ์จากโจทยท์ ี่ครูเขยี นบนกระดาน ๑๓.ครเู ขียนสรปุ การหาคำตอบทงั้ สามขอ้ บนกระดานอีกคร้ัง ดงั นี้ 62,483 – 52,149 = 10,334 52,149 + 10,334 = 62,483 ๑๔. ครูให้นักเรยี นจดั กลุ่ม กลุ่ม 3-4 คน เพ่ือสร้างปา้ ยแสดงวิธกี ารหาคำตอบการบวก ลบ จำนวนไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ ชว่ั โมงท่ี ๒ ๑๕. ครูให้นักเรียนเสนอผลงานป้ายแสดงวิธีการหาคำตอบการบวก ลบจำนวนไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ ๑๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยค สัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ สามารถใช้ความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการบวกและการลบมาช่วย ในการหาคำตอบ กล่าวคือ ผลบวกของสองจำนวนใด ๆ เมื่อลบด้วยจำนวนใดจำนวนหนึ่งในสองจำนวนน้ั น จะได้ผลลบเทา่ กับอกี จำนวนหน่งึ เสมอ ๑๗. ครูให้นกั เรียนทำแบบทดสอบ 9. ส่อื / แหล่งเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน 2. แบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. 3. บตั รตัวเลข 4. บัตรแสดงสนิ ค้า 5. แผน่ ตารางหนว่ ย สิบ รอ้ ย

โรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี ขอ้ สอบบทที่ 2 การบวกและการลบจำนวนนับที่ผลลพั ธแ์ ละตัวตง้ั ไมเ่ กนิ 100,000 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 รหัสวชิ า คสตร์ 13101 คะแนนเต็ ม 30 คะแ นน เวลา 60 นาที คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นทำเครือ่ งหมาย x ทับอกั ษรหนา้ คำตอบที่ถูกตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดียว จำนวน 20 ข้อ ขอ้ 1. วันแรกนิสาเกบ็ มะมว่ งได้ 5,647 ลกู วันท่ี ข้อ 5 . ค่าอาหารกระต่าย 625 บาท ค่าอาหารแมว สองเกบ็ ได้ 7,985 ลกู ขายไป 4,098 ลูก นสิ าเหลอื แพงกวา่ กระตา่ ย 278 บาท ค่าอาหารสนุ ัขแพงกวา่ มะม่วงกลี่ กู อาหารแมว 1,200 บาท ต้องจ่ายค่าอาหารสตั ว์ ทัง้ หมดกบี่ าท ก. 13,632 ลูก ข. 9,534 ลกู ค. 17,730 ลูก ง. 1,760 ลูก ก. 3,631 บาท ข. 1,131 บาท ค. 3,630 บาท ง. 2,100 บาท ข้อ 2 . ในหอ้ งสมดุ มหี นังสือวิชาภาษาไทยและ ภาษาองั กฤษทง้ั หมด 94,010 เล่ม ถ้าเปน็ หนงั สือ ขอ้ 6. ค่าไฟเดอื นแรก 1,200 บาท เดือนทีส่ อง ภาษาไทย 5,590 เล่ม จะมหี นังสอื ภาษาอังกฤษกี่ 2,650 บาท เดือนทีส่ ามถกู กว่าเดอื นที่สอง 800 เลม่ บาท รวมค่าไฟทั้งสามเดอื นเป็นก่ีบาท ก. 99,600 เล่ม ข. 88,420 เลม่ ค. 99,500 เลม่ ง. 88,520 เลม่ ก. 3,050 บาท ข. 5,700 บาท ค. 4,650 บาท ง. 7,300 บาท ข้อ 3 . แมค่ ้าขายส้ม 36,500 กิโลกรมั ขายทเุ รียน 61,400 กโิ ลกรมั แม่คา้ ขายทุเรียนมากกว่าสม้ ขอ้ 7. นดุ าได้เงนิ จากพอ่ 500 บาท แมใ่ หเ้ พม่ิ อกี กกี่ โิ ลกรมั 200 บาท นดุ าตอ้ งการซื้อชุดเครอ่ื งเขียนราคา 2,400 บาท นดุ าขาดเงินอีกกีบ่ าทถึงจะซอ้ื ชดุ เคร่ือง ก. 97,900 กโิ ลกรัม เขยี นได้ ข. 97,000 กิโลกรัม ค. 24,900 กิโลกรมั ก. 2,100 บาท ข. 3,100 บาท ค. 2,700 บาท ง. 1,700 บาท ง. 24,000 กิโลกรมั ข้อ 8. พดั ลมราคา 4,800 บาท ทีวีแพงกว่าพัดลม ข้อ 4 . แมเ่ ลีย้ งปลา 2,300 ตัว พอ่ เลี้ยงหมู 1,700 5,200 บาท เครอื่ งเสียงแพงกวา่ ทวี ี 12,500 บาท เคร่ืองเสียงราคากีบ่ าท ตัว พเี่ ล้ยี งไก่ 2,000 ตัว รวมแลว้ เล้ียงสัตว์ท้ังหมด ก. 2,500 บาท ข. 25,000 บาท กีต่ ัว ค. 22,500 บาท ง. 22,000 บาท ก. 5,800 ตัว ข. 5,900 ตวั ค. 6,100 ตวั ง. 6,000 ตวั

ข้อ 9. เดือนแรกขายข้าวมันไกไ่ ด้ 15,675 กล่อง ขอ้ 14. โรงเรยี นแหง่ หน่ึง เดิมมีคุณครูท้งั หมด 195 เดอื นที่สองขายไดม้ ากกว่าเดือนแรก 5,690 กลอ่ ง เดือนทส่ี ามขายไดน้ ้อยกวา่ เดอื นทสี่ อง 2,000 กลอ่ ง คน ซึ่งมีคณุ ครทู ตี่ อ้ งเกษียณอายุในปีน้ี 19 คน อยากทราบว่าขายข้าวมันไก่เดือนที่สามมากกว่า เดอื นแรกก่กี ล่อง และในปีการศึกษาหน้าน้ันจะมนี กั เรยี นเพ่ิมขึน้ มาก ก. 3,690 กลอ่ ง ข. 27,660 กลอ่ ง จงึ ทำให้โรงเรยี นต้องการใหม้ คี ุณครูทจ่ี ะต้องสอนใน ค. 19,365 กล่อง ง. 35,040 กล่อง ปหี น้าเพ่มิ ขน้ึ เปน็ 180 คน ดงั นั้นโรงเรียนจะต้อง เปดิ รับสมัครคุณครูอีกจำนวนกี่คนจึงจะเพยี งพอกับ จำนวนทต่ี ้องการ ข้อ 10. วันแรกขายปลาได้ 12,000 บาท วนั ทีส่ อง ก. 14 คน ข. 4 คน ขายไดม้ ากกว่าวันแรก 3,560 บาท รวมแล้วทงั้ สอง วันขายปลาได้ก่ีบาท ค. 24 คน ง. 394 คน ก. 20,440 บาท ข. 8,440 บาท ข้อ 15. รถราคา 89,000 บาท น้ำออมเงินได้ ค. 27,560 บาท ง. 15,560 บาท 54,000 บาท นำ้ เข้าโรงพยาบาลเสียค่ารกั ษาจำนวน 7,640 บาท ดังนน้ั น้ำจะต้องหาเงินเพ่มิ ก่บี าท ขอ้ 11. จำนวนใดทีน่ ้อยกวา่ ผลบวกของ 24,000 ก. 42,640 บาท ข. 35,000 บาท กบั 32,120 อยู่ 3,604 ค. 24,640 บาท ง. 37,360 บาท ก. 56,120 ข. 59,724 ข้อ 16. วนั ดตี อ้ งการซอื้ โนต๊ บคุ๊ ใหม่ ราคา 26,990 ค. 52,516 ง. 53,716 บาท ซง่ึ มีค่าลงโปรแกรมอีก 200 บาท วนั ดีเก็บออม เงนิ ได้ 5,400 บาท วันดจี ึงอยากขอเงินพ่อเพือ่ ซือ้ ขอ้ 12. สวนผลไม้มีต้นสม้ และตน้ มะมว่ งรวมกัน โนต๊ บุ๊คเคร่อื งใหม่ ดงั นั้นวันดคี วรจะขอเงินพอ่ ก่บี าท 1,250 ตน้ ซงึ่ ต้นส้มท่ีออกผลน้นั มีจำนวน850 ต้น ก. 32,390 บาท ข. 21,790 บาท ต้นมะม่วงที่ออกผลมี 36 ตน้ ดังนั้นต้นท่ไี มอ่ อกผล ค. 32,590 บาท ง. 21,590 บาท จะมีก่ตี ้น ข้อ 17. มีนา เมษา และตุลา ทัง้ 3 คน อายุรวมกนั แลว้ เทา่ กับ 72 ปี โดยเมษาและตุลาอายเุ ท่ากนั ก. 436 ต้น ข. 364 ต้น ค. 2,064 ต้น ง. 2,136 ตน้ คือ 22 ปี ดงั นน้ั มนี าอายุกี่ปี ข้อ 13. ขายชานมไข่มกุ ได้ 11,345 แกว้ ขาย ก. 28 ปี ข. 70 ปี น้ำอดั ลมได้ 3,265 แก้ว ขายกาแฟไดน้ ้อยกว่า น้ำอัดลม200 แก้ว รวมขายน้ำท้ังหมดได้กแี่ กว้ ค. 94 ปี ง. 116 ปี ก. 14,410 แกว้ ข. 18,075 แกว้ ขอ้ 18. 26,205 + ∆ = 31,692 และ ⎔ – ค. 14,610 แกว้ ง. 17,675 แก้ว 16,957 = 25,200 ถา้ กำหนดให้ ⎔ - ∆ มคี า่ ตรงกับขอ้ ใด ก. 36,760 ข. 47,644 ค. 36,670 ง. 42,157

ขอ้ 19. พอ่ ขายรถคนั แรกได้กำไร 36,000 บาท คัน ทสี่ องได้กำไรน้อยกวา่ คนั แรก 24,900 บาท คนั ที่ สามได้กำไรมากกว่าคันแรก 9,800 บาท รวมพ่อได้ กำไรจากการขายรถท้งั สามคนั กบี่ าท ก. 92,900 บาท ข. 70,700 บาท ค. 20,900 บาท ง. 1,300 บาท ข้อ 20. ตน้ หอมมีฟาร์มสัตวข์ นาดใหญซ่ ง่ึ มีไก่ 8,565 ตวั มีหมนู ้อยกว่าไก่ 603 ตัว มีเปด็ น้อยกว่า หมู 1,675 ตัว ตน้ หอมมเี ปด็ ทงั้ หมดก่ีตัว เขียน ประโยคสญั ลักษณไ์ ด้ตามข้อใด ก. (8,565 - 603) – 1,675 = □ ข. (8,565 + 603) – 1,675 = □ ค. (8,565 - 603) + 1,675 = □ ง. (8,565 + 603) + 1,675 = □ *********** ขอให้ทกุ คนโชคดี ************ ผ้ตู รวจข้อสอบ ลงชื่อ.................................................ครูผ้สู อน (...............................................)

ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ดา้ น คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งว่าง ใหต้ รงกบั ระดับคะแนน และตามความเปน็ จริง โดยมเี กณฑก์ ารให้คะแนน ดังน้ี 4 = พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัตชิ ัดเจนมาก และบอ่ ยครัง้ สม่ำเสมอ 3 = พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิชดั เจนและสมำ่ เสมอ 2 = พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง 1 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางคร้งั คณุ ลกั ษณะอนั ระดับคะแนน พึงประสงค์ รายการประเมิน 4 321 ด้าน 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรัก และภมู ิใจในความเปน็ ชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภกั ดตี อ่ สถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ 2. ซ่อื สัตย์ 2.1 ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบา้ น สุจรติ 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเป็นจรงิ ต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ต่อผู้อน่ื 3. มวี นิ ยั 3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของห้อง 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรยี นอย่างประหยัด พอเพียง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6. มุ่งมัน่ ในการ 6.1 มีความตงั้ ใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั ทำงาน มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรค เพือ่ ให้งาน สำเรจ็ 7. รักความเปน็ 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ 8.1 รู้จักการให้เพ่อื ส่วนรวม และเพื่อผอู้ นื่ สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมนี ้ำใจหรือการให้ความชว่ ยเหลอื ผอู้ ืน่ 8.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมบำเพ็ญตนเพ่ือส่วนรวมเม่ือมโี อกาส ชอื่ ......................................................................................................................ช้ัน.................เลขที.่ .................

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ผลการประเมนิ รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) ปกี ารศกึ ษา 2562 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรปุ ผลการประเมนิ คุณภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เลขที่ ชื่อ-สกลุ การป ิฏสัมพันธ์กัน การสนทนาเ ื่รอง ่ีทกำหนด การ ิตด ่ตอ ื่สอสาร พฤ ิตกรรมการทำงานก ุ่ลม รวม ระดับ ุคณภาพ แปลผล 4 4 4 4 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดีมาก) ลงชือ่ .........................................ผปู้ ระเมนิ ได้คะแนน 11-13 คะแนน =3 (ดี) (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวิเศษ) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช้) วนั ....เดอื น...............ปี....... ไดค้ ะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรบั ปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ต้องได้ 2 (พอใช)้ ขนึ้ ไป

แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) ปีการศกึ ษา 2562 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนน และสรปุ ผลการประเมินคุณภาพ ผลการประเมนิ เลขท่ี ชอื่ -สกลุ คะแนน ระดับ ุคณภาพ แปลผล 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดมี าก) ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมิน ไดค้ ะแนน 11-13 คะแนน =3 (ดี) (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวเิ ศษ) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช้) วัน....เดอื น...............ปี....... ได้คะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรบั ปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมินต้องได้ 2 (พอใช)้ ข้นึ ไป

แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมการทำแบบทดสอบ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ดิร์ าษฎร์บำรงุ ) ปกี ารศกึ ษา 2562 คำช้ีแจง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนนทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน และประเมนิ ผล ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนก่อนเรียน(10) คะแนนหลังเรยี น(10) ้รอยละ ่ผาน/ไม่ ่ผาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 * ( ผู้เรยี นตอ้ งมคี ะแนนสอบหลงั เรยี นผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๖๐ ) ลงช่อื .........................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวิเศษ) วัน....เดอื น...............ป.ี ......

บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ สรุปผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1.นักเรียนจำนวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนร.ู้ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................. 2. แนวทางแก้ไขนกั เรยี นที่ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ......................................................................................................................... ................................... ............................................................................................................................. ............................... 3.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ไมผ่ า่ น............ คน ผ่าน.............คน ด.ี .................คน ดีเย่ียม................คน ระดบั ดขี น้ึ ไป ร้อยละ..................... 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น ไมผ่ ่าน............ คน ผา่ น.............คน ดี..................คน ดเี ยี่ยม................คน ระดับดขี น้ึ ไป ร้อยละ..................... ผลการจัดการเรียนการสอน/ปัญหา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................ ................................ • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ........................................................................................................................................................ ........................ • แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................................ • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่ือง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................................ • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๖ เรื่อง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ..................................................................................................................................... .......................................... ........................................................................................ ........................................................................................

ผลการจัดการเรียนการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแก้ไข • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรื่อง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๘ เร่ือง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๙ เรื่อง......................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................................ ลงช่ือ.................................................. (นางสาวจิระพนั ธุ์ ปากวิเศษ) ความคดิ เห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ .................../......................./......................... ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. .................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. .................................................................... ............................................................... .............................................................................................. .................................... ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวกนั ยาภทั ร ภทั รโสตถิ) โรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวัสดิร์ าษฎร์บำรงุ ) ................../......................./.........................

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ การบวกและการลบจำนวนท่ีมีผลลัพธ์ไม่เกิน 100,000 เวลา ๑๘ ช่วั โมง เร่ือง การบวกจำนวนสองจำนวนท่มี ผี ลบวกไมเ่ กิน 1,000 ไมม่ ีตัวทดและมตี ัวทด เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. สาระสำคญั การบวกจำนวนสองจำนวนทีม่ ผี ลบวกไม่เกนิ 1,000 ทีไ่ มม่ กี ารทด ให้บวกจำนวนทีอ่ ย่ใู นหลักเดียวกันเขา้ ด้วยกนั โดยเรม่ิ บวกจากหลักหนว่ ยกอ่ น การบวกสองจำนวนเขา้ ด้วยกันที่มกี ารทดจากหลักหน่วยไปหลกั สิบ เมือ่ ผลบวกของจำนวนในหลกั หน่วยเป็นสองหลักและมีการทดจากหลกั สบิ ไปหลักร้อย เมื่อผลบวกของจำนวนในหลัก สิบเปน็ สองหลกั ๒. ตวั ช้ีวดั ค 1.1 ป.3/5 : หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค สัญลักษณ์แสดงการลบของจำนวนไม่เกิน 100,000 และ 0 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. หาผลบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไม่เกนิ 1,000 ไม่มีทดและมตี วั ทดได้ (K) ๒. เขยี นแสดงวธิ กี ารหาผลบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเ่ กนิ 1,000ไม่มีทดและมตี ัวทดได้ถกู ต้อง(P) ๓. นำความร้เู กยี่ วกบั การบวกจำนวนสองจำนวนที่มผี ลบวกไม่เกนิ 1,000 ไมม่ ีทดและมตี ัวทดไปใช้ แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเ่ กนิ 1,000 ไม่มที ด 2. การบวกจำนวนสองจำนวนท่มี ีผลบวกไมเ่ กิน 1,000 มที ด ๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๖. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ๒. มุ่งม่ันในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ขนั้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นนั้ ให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนที่ ๒ : เรียนรู้ ๒. นกั เรียนร่วมกันหาผลบวกของเลขจำนวนสองหลักท่ีมผี ลบวกไมเ่ กิน 100 เชน่ 75 + 24 =  60 + 29 =  35 + 27 =  44 + 26 = 

๓. ทำกิจกรรมเช่นเดียวกบั ในข้อ 1. อีกประมาณ 5 ขอ้ ใครหาคำตอบไดเ้ ร็วและถกู ต้องมาก ทสี่ ดุ ครูให้คำชมเชย ๔. นกั เรียนดแู ผนภาพแสดงการบวกจำนวนที่มสี ามหลักไม่มกี ารทด ๕. ครอู ธิบายการบวกจำนวนทม่ี สี ามหลักสองจำนวนไมม่ ีการทดตามแผนภาพ เชน่ 367 + 231 เช่น 3 6 7 + หลักหนว่ ยนำเลข 7 + 1 ได้ผลลัพธ์เป็น 8 2 3 1 หลักสบิ นำเลข 6 + 3 ไดผ้ ลลัพธเ์ ป็น 9 8 9 5 หลักร้อยนำเลข 3 + 2 ได้ผลลัพธเ์ ป็น 5 หลกั หนว่ ย ใหน้ ำ 7 มาบวกกับหน่ึง 1 ได้ผลลพั ธ์เปน็ 8 แล้วนำ 8 ไปใสไ่ วใ้ นช่องทีต่ รงกับหลักหนว่ ย หลักสบิ ให้นำ 6 มาบวกกับ 3 ไดผ้ ลลพั ธเ์ ปน็ 9 นำเลข 9 ไปใสไ่ วใ้ นช่องท่ีตรงกับหลกั สิบ หลักร้อย ใหน้ ำ 3 มาบวกกบั 2 ได้ผลลพั ธเ์ ปน็ 5 นำเลข 5 ไปใส่ไวใ้ ห้ตรงกบั หลักร้อย ดงั น้ัน 367 + 231 ได้ผลลัพธ์เปน็ 598 ขัน้ ตอนท่ี ๓ : การฝึก ๖. ครตู ้ังโจทย์บนกระดานใหน้ กั เรยี นออกมาแสดงวิธีการบวกตามข้อ 2. อีก 4 - 6 ขอ้ จนนกั เรียนเขา้ ใจ 1) 730 + 2) 240 + 3) 297 + 221 149 402 951 389 699 4) 134 + 5) 456 + 6) 302 + 455 313 521 589 769 823 ขน้ั ตอนท่ี ๔ : การสรปุ ๗. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สง่ิ ที่ไดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ดังนี้ หลักการบวกจำนวนสองจำนวนท่ี มีสามหลักตามแนวตั้งไม่มกี ารทด คอื ให้นำตวั เลขในหลักเดียวกันมาบวกเข้าด้วยกัน โดยให้บวกในหลกั หนว่ ยก่อนแล้วคอ่ ยบวกในหลกั สิบและหลักร้อยตามลำดับ ข้นั ตอนที่ ๕ : การประยกุ ต์ใชท้ ันที ๘. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงที่ ๒ ขน้ั ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้นั ให้นกั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบกอ่ นเรียน ขัน้ ตอนที่ ๒ : เรียนรู้ ๒. นักเรียนร่วมกันหาผลบวกของเลขจำนวนสามหลักทีม่ ีผลบวกไม่เกนิ 1,000 โดยไมม่ ีการทด เชน่ 715 + 204 =  605 + 291 =  325 + 274 =  434 + 265 = 

๓. ครตู ิดบตั รภาพแสดงสนิ ค้าบนกระดาน ดงั นี้ ๔. ครูสนทนากบั นักเรยี นว่าหากนกั เรียนต้องการซื้อสนิ ค้าท้งั สองอย่างตามภาพนตี้ ้องจ่ายเงิน เทา่ ไร ครูเขียนประโยคสัญลกั ษณ์ 598 + 297 =  ครแู นะนำการเขยี นการบวกในแนวตัง้ ดงั น้ี หลกั ร้อย หลักสบิ 598 บหาลทักหน่วย 297 บาท 5 9 8+ 297 จากน้นั เริม่ บวกจากขวาไปซา้ ย ครูถามว่า ผลบวกในหลกั หนว่ ยเป็นเท่าไร (15 หน่วย) มกี ีส่ บิ ก่ี หนว่ ย (1 สบิ กับ 5 หนว่ ย) จงึ ใส่ 5 ในหลกั หนว่ ยและทด 1 สบิ ในหลักสบิ รวมกบั ผลบวกในหลักสิบ (9 สิบ กับ 9 สบิ ได้ 18 สบิ รวมกบั 1 สบิ เป็น 19 สิบ) ใส่ 9 ในหลักสบิ และทด 1 รอ้ ยในหลักรอ้ ย รวมกับ ผลบวกในหลกั รอ้ ย (5 รอ้ ย กับ 2 ร้อย ได้ 7 ร้อย รวมกบั 1 ร้อย เปน็ 8 ร้อย) ใส่ 8 ในหลกั ร้อย ซงึ่ ครู เขียนไดด้ ังน้ี หลกั ร้อย หลกั สบิ หลกั หน่วย 11 5 9 8+ 297 895 ๕. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าในการเขียนแสดงการบวกในแนวตั้ง ไม่จำเป็นต้องเขียนชื่อหลักกำกับ แต่ต้องเขียนเลขโดดที่อยู่ในหลักเดียวกันให้ตรงกัน และนำจำนวนที่อยู่ในหลักเดียวกันมาบวกกัน โดยหา ผลบวกในหลักหน่วยก่อน จากนั้นจึงหาผลบวกในหลักสิบ หลักร้อย ตามลำดับ ครูเขียนแสดงการหา ผลบวกดังน้ี 11 598 + 297 895

ข้นั ตอนที่ ๓ : การฝกึ ๖. ครกู ำหนดโจทยก์ ารบวกให้นกั เรียนหาผลบวก พรอ้ มแสดงวิธีทำ เชน่ 1) 11 2) 1 3) 1 594 + 185 + 608 + 347 407 115 941 592 723 4) 11 5) 1 6) 11 397 + 562 + 374 + 465 354 326 862 916 700 ขน้ั ตอนที่ ๔ : การสรปุ ๗.ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ สิ่งท่ไี ด้เรียนรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ การหาผลบวกของจำนวนสองจำนวน ให้นำจำนวนท่อี ยใู่ นหลักเดียวกนั มาบวกกัน ถา้ ผลบวกของจำนวนในหลกั ใดเป็นจำนวนสองหลกั ใหท้ ด จำนวนที่ครบสิบไปรวมกบั จำนวนทีอ่ ยถู่ ัดไปทางซา้ ย ขนั้ ตอนท่ี ๕ : การประยกุ ต์ใชท้ ันที ๘. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวัดผลและประเมนิ ผล การวดั ผล ๑. สงั เกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน ๒. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ๓. สังเกตการทำงาน ๔. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น การประเมินผล 1. ถือเกณฑ์ผา่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผู้ที่ได้ระดบั คุณภาพตงั้ แต่ ๒ ขึ้นไป ๒. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรับผทู้ ที่ ำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตง้ั แต่ ๒ ข้ึนไป ๓. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ท่ีทำงานไดร้ ะดบั คุณภาพต้งั แต่ ๒ ขึ้นไป ๔. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผ้ทู ี่ทำงานทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนได้ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป ๙. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ ๑. บัตรตวั เลข ๒. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. และแบบทดสอบก่อนเรียน

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๒ การบวกและการลบจำนวนม่ีมลี ัพธ์ไมเ่ กิน 100,000 เวลา ๑๘ ชว่ั โมง เรื่องการบวกจำนวนสองจำนวนท่มี ีผลบวกไม่เกนิ 10,000 ไมม่ ที ดและมีตัวทด เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. สาระสำคญั การหาผลบวกของจำนวนสองจำนวนให้นำจำนวนท่ีอยู่ในหลกั เดยี วกนั มาบวกกันถา้ ผลบวกของจำนวนใน หลักใดครบสิบใหท้ ดจำนวนท่ีครบสิบไปรวมกบั จำนวนท่ีอยู่ในหลักถัดไปทางซ้ายมือ ๒. ตัวช้ีวดั ค 1.1 ป.3/5 : หาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยค สัญลักษณแ์ สดงการลบของจำนวนไม่เกนิ 100,000 และ 0 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. หาผลบวกจำนวนสองจำนวนท่ีมผี ลบวกไมเ่ กิน 10,000 ไมม่ ีทดและมีตัวทด ได้ (K) ๒. เขียนแสดงวธิ กี ารหาผลบวกจำนวนสองจำนวนทีม่ ีผลบวกไมเ่ กนิ 10,000ไมม่ ที ดและมตี ัวทดไดถ้ กู ต้อง (P) ๓. นำความรู้เกีย่ วกบั การบวกจำนวนสองจำนวนท่มี ผี ลบวกไม่เกิน10,000ไม่มีทดและมีตวั ทดไปใช้แกป้ ญั หา ทางคณิตศาสตร์ได้ (A) 4. สาระการเรียนรู้ ๑. การบวกจำนวนสองจำนวนทมี่ ผี ลบวกไม่เกนิ 10,000 ไมม่ ีทด ๒. การบวกจำนวนสองจำนวนทม่ี ีผลบวกไมเ่ กนิ 10,000 มีตัวทด 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ ๒. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้ันตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้นั ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขั้นตอนท่ี ๒ : เรยี นรู้ ๒. ครูทบทวนการบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไม่เกิน 10,000 ไมม่ ที ด โดยตดิ บัตรภาพ แสดงสินค้าบนกระดาน ดังนี้

๓. ครสู นทนากับนกั เรยี นวา่ หากนักเรียนต้องการซื้อสนิ ค้าท้ังสองอยา่ งตามภาพนี้ ตอ้ งจา่ ยเงิน เท่าไร ให้นักเรยี นหาผลบวก จากนัน้ ครสู ่มุ นกั เรียนออกมาเขยี นแสดงวิธที ำและหาคำตอบ โดยมคี รแู ละ เพ่อื นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง ๔. ครแู นะนำการหาผลบวกของจำนวนสองจำนวนท่ีมีผลบวกไม่เกนิ 10,000 มีทดด้วยการ ยกตัวอย่าง ดังนี้ 5,916 + 1,805 =  วิธีทำ การบวกในหลกั หนว่ ย นำ 6 หนว่ ย บวกกับ 5 หน่วย ได้ 11 หนว่ ย หรอื 1 สบิ กบั 1 หน่วย เขียน 1 ไวใ้ นหลักหนว่ ยและทด 1 ในหลักสบิ 1 5 9 1 6 + 1 8 0 5 1 การบวกในหลกั สบิ นำ 1 สิบ บวกกบั 0 สิบ ได้ 1 สบิ บวกกบั ตัวทด 1 สิบ ได้ 2 สบิ เขียน 2 ไว้ในหลกั สิบ 1 5 9 1 6 + 1 8 0 5 21 การบวกในหลกั รอ้ ย นำ 9 ร้อย บวกกบั 8 ร้อย ได้ 17 รอ้ ย หรือ 1 พันกบั 7 ร้อย เขยี น 7 ไว้ในหลักร้อยและทด 1 ในหลกั พนั 11 5 9 1 6 + 1 8 0 5 721 การบวกในหลักพัน นำ 5 พัน บวกกบั 1 พนั ได้ 6 พนั บวกกบั ตวั ทด 1 พันได้ 7 พัน เขียน 7 ไว้ในหลักพัน 11 5 9 1 6 + 1 8 0 5 7721 ดังนนั้ 5,916 + 1,805 = 7,721

ช่ัวโมงที่ ๒ ขน้ั ตอนท่ี ๓ : การฝึก ๕. ครูกำหนดโจทย์การบวกให้นักเรียนหาผลบวก แลว้ ครูสุ่มเลือกตวั แทนนกั เรียนให้แสดงวิธีทำ โดยครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เช่น 3,720 + 4,592 =  5,546 + 2,998 =  2,865 + 3,886 =  1,269 + 7,593 =  6,842 + 1,938 =  ขน้ั ตอนที่ ๔ : การสรปุ ๖. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรรู้ ่วมกัน ดังนี้ การหาผลบวกของจำนวนสองจำนวน ให้นำจำนวนท่ีอย่ใู นหลกั เดียวกันมาบวกกนั ถา้ ผลบวกของจำนวนในหลักใดมากกว่าหรือเทา่ กับสบิ ให้ใส่ จำนวนทเี่ กนิ สบิ หรอื ศนู ย์ในหลกั เดิมแลว้ ทดสบิ ไปรวมกบั จำนวนในหลกั ถดั ไปทางซ้ายมือ ขั้นตอนท่ี ๕ : การประยกุ ต์ใช้ทนั ที ๗. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวัดผล ๕. สงั เกตความมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มน่ั ในการทำงาน ๖. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ๗. สงั เกตการทำงาน การประเมนิ ผล 2. ถอื เกณฑ์ผา่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรับผทู้ ี่ได้ระดับคุณภาพตง้ั แต่ ๒ ขน้ึ ไป ๑. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผทู้ ี่ทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพตัง้ แต่ ๒ ขน้ึ ไป ๒. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ท่ีทำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตัง้ แต่ ๒ ข้ึนไป ๙. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ ๑. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ๒. บตั รภาพแสดงสนิ คา้

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ การบวกและการลบจำนวนท่ีมผี ลลัพธ์ไมเ่ กนิ 100,000 เวลา ๑๘ ช่วั โมง เร่อื งการบวกจำนวนสองจำนวนท่ีมผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 ไมม่ ที ดและมีตวั ทด เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. สาระสำคัญ การบวกจำนวนสองจำนวนทมี่ ีผลบวกไมเ่ กนิ 100,000 ทีไ่ มม่ กี ารทด ใหบ้ วกจำนวนทอี่ ยู่ในหลกั เดียวกันเขา้ ด้วยกัน โดยเร่มิ บวกจากหลักหน่วยก่อน การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเ่ กิน 100,000 ทมี่ กี ารทด โดย นำจำนวนที่อยใู่ นหลักเดยี วกันมาบวกกนั เรม่ิ บวกจากหลกั หน่วยกอ่ น ถ้าผลบวกในหลกั ใดเปน็ จำนวนสองหลกั ให้ ทดจำนวนที่ครบสบิ ไปยงั หลักถัดไปทางซ้าย ๒. ตัวช้ีวัด ค 1.1 ป.3/5 : หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการลบของจำนวนไม่เกิน 100,000 และ 0 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. หาผลบวกจำนวนสองจำนวนท่มี ีผลบวกไมเ่ กิน 100,000 ไมม่ ที ดและมตี วั ทดได้ (K) ๒. เขยี นแสดงวธิ กี ารหาผลบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไม่เกิน100,000ไม่มที ดและมตี วั ทดได้ ถูกตอ้ ง (P) ๓. นำความรเู้ กย่ี วกบั การบวกจำนวนสองจำนวนทมี่ ีผลบวกไม่เกนิ 100,000 ไม่มีทดและมตี วั ทดไปใช้ แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตรไ์ ด้ (A) 4. สาระการเรยี นรู้ ๑. การบวกจำนวนสองจำนวนทมี่ ผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 ไมม่ ที ด ๒. การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไมเ่ กิน 100,000 มีตวั ทด 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการคิด ๒. ความสามารถในการแก้ปัญหา 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ ๒. ม่งุ มั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ข้ันตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้นั ให้นักเรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ

ขน้ั ตอนท่ี ๒ : เรยี นรู้ ๒. ครูทบทวนความรเู้ กีย่ วกบั การบวกจำนวนสองจำนวนที่มผี ลบวกไม่เกนิ 10,000 มีทด โดยตัง้ โจทยแ์ ล้วเขียนบนกระดาน จากน้นั ขออาสาสมัครออกมาแสดงวธิ ีทำบนกระดาน 7,432 + 1,966 =  1 7 4 3 2 + 1 9 6 6 9398 ๓. ครแู นะนำการหาผลบวกของจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 ไม่มที ดด้วยการ ยกตัวอย่าง ดังน้ี 34,209 + 31,470 =  3 4 2 0 9 + 3 1 4 7 0 65679 24,742 + 42,206 =  2 4 7 4 2 + 4 2 2 0 6 66948 43,452 + 16,121 =  4 3 4 5 2 + 1 6 1 2 1 59573 ขั้นตอนท่ี ๓ : การฝึก ๔. ครูกำหนดโจทย์การบวกให้นกั เรยี นหาผลบวก แล้วครใู หน้ กั เรยี นแสดงวธิ ีทำ โดยครูและ นักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เชน่ 25,109 + 13,490 =  42,452 + 34,337 =  73,212 + 13,271 =  12,346 + 34,543 = 

ขั้นตอนท่ี ๔ : การสรุป ๕. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงทีไ่ ดเ้ รียนร้รู ่วมกนั ดงั น้ี การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวก ไม่เกนิ 100,000 ไม่มที ด ให้บวกจำนวนที่อยู่ในหลักเดียวกันเขา้ ดว้ ยกนั โดยเร่มิ บวกจากหลกั หน่วยก่อน ขน้ั ตอนท่ี ๕ : การประยกุ ต์ใช้ทันที ๖. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงท่ี ๒ ข้ันตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นัน้ ให้นกั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ข้นั ตอนท่ี ๒ : เรยี นรู้ ๒. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกบั การบวกจำนวนสองจำนวนท่ีมผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 มีทด โดย ตั้งโจทยแ์ ลว้ เขยี นบนกระดาน จากนน้ั ขออาสาสมัครออกมาแสดงวิธที ำบนกระดาน 32,432 + 55,326 =  3 2 4 3 2 + 5 5 3 2 6 87758 ๓. ครูแนะนำการหาผลบวกของจำนวนสองจำนวนท่ีมผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 มีทดดว้ ยการ ยกตวั อยา่ ง ดงั น้ี 63,295 + 13,498 =  วธิ ที ำ การบวกในหลกั หนว่ ย นำ 5 หนว่ ย บวกกับ 8 หน่วย ได้ 13 หนว่ ย หรือ 1 สบิ กบั 3 หนว่ ย เขียน 3 ไว้ในหลักหน่วยและทด 1 ในหลักสบิ 1 6 3 2 9 5 + 1 3 4 9 8 3 การบวกในหลกั สิบ นำ 9 สบิ บวกกบั 9 สบิ ได้ 18 สบิ บวกกบั ตัวทด 1 สิบ ได้ 19 สบิ เขียน 9 ไวใ้ นหลกั สิบและทด 1 ในหลักรอ้ ย 11 6 3 2 9 5 + 1 3 4 9 8 93

การบวกในหลักรอ้ ย นำ 2 ร้อย บวกกบั 4 ร้อย ได้ 6 รอ้ ย บวกกบั ตัวทด 1 รอ้ ย ได้ 7 รอ้ ย เขยี น 7 ไว้ในหลักรอ้ ย 11 6 3 2 9 5 + 1 3 4 9 8 793 การบวกในหลกั พนั นำ 3 พัน บวกกับ 3 พนั ได้ 6 พนั เขียน 6 ไวใ้ นหลักพัน 11 6 3 2 9 5 + 1 3 4 9 8 6793 การบวกในหลกั พัน นำ 5 พัน บวกกบั 1 พนั ได้ 6 พัน บวกกบั ตวั ทด 1 พนั ได้ 7 พัน เขยี น 7 ไวใ้ นหลกั พัน 11 6 3 2 9 5 + 1 3 4 9 8 76793 ดังน้นั 63,295 + 13,498 = 76,793 ขั้นตอนท่ี ๓ : การฝึก ๔. ครูกำหนดโจทยก์ ารบวกใหน้ ักเรียนหาผลบวก แลว้ ครูส่มุ เลือกตวั แทนนกั เรียนใหแ้ สดงวิธที ำ โดยครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เช่น 19,405 + 68,891 =  28,942 + 43,840 =  67,309 + 28,173 =  16,674 + 56,721 =  34,419 + 28,127 =  ขน้ั ตอนท่ี ๔ : การสรปุ ๕. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การหาผลบวกของจำนวนสอง จำนวน ใหน้ ำจำนวนท่อี ย่ใู นหลกั เดียวกนั มาบวกกัน ถ้าผลบวกของจำนวนหลักใดครบสบิ ให้ทดจำนวนท่ี ครบสิบไปรวมกับจำนวนที่อยู่ในหลักถัดไปทางซ้ายมือ การบวกจำนวนสองจำนวนเมื่อสลับที่กันผลบวก ยังคงเท่าเดมิ ข้นั ตอนท่ี ๕ : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที ๖. ครูให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท.

8. การวัดและประเมนิ ผล การวัดผล ๑. สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน ๒. แบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ๓. สงั เกตการทำงาน การประเมินผล ๑. ถือเกณฑ์ผา่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรับผทู้ ่ีได้ระดับคุณภาพต้งั แต่ ๒ ขนึ้ ไป ๒. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรับผูท้ ี่ทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตัง้ แต่ ๒ ข้ึนไป ๓. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ท่ีทำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตัง้ แต่ ๒ ข้ึนไป ๙. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท.

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์ไมเ่ กนิ 100,000 เวลา ๑๘ ชวั่ โมง เร่ืองการบวกจำนวนสามจำนวนท่มี ีผลบวกไม่เกนิ 100,000 เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. สาระสำคญั การหาผลบวกของจำนวนสามจำนวนใช้หลกั การเดยี วกันกับการหาผลงบวกของจำนวนสองจำนวน กล่าวคือ การนำจำนวนท่อี ยใู่ นหลกั เดียวกันรวมกัน ถา้ ผลบวกของจำนวนในหลกั ใดครบสบิ ใหท้ ดจำนวนทคี่ รบสบิ ไปรวม กับจำนวนทอ่ี ยู่ในหลักถัดไปด้านซ้ายมือ ๒. ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ป.3/5 : หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยคสญั ลักษณ์แสดง การลบของจำนวนไม่เกิน 100,000 และ 0 3.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. หาผลบวกจำนวนสามจำนวนทมี่ ีผลบวกไม่เกนิ 100,000 ได้ (K) ๒. เขยี นแสดงวธิ กี ารหาผลบวกจำนวนสามจำนวนท่ีมีผลบวกไมเ่ กนิ 100,000 ไดถ้ กู ต้อง (P) ๓. นำความรเู้ กี่ยวกบั การบวกจำนวนสามจำนวนท่มี ีผลบวกไมเ่ กิน100,000ไปใชแ้ ก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ ได้ (A) 4. สาระการเรยี นรู้ การบวกจำนวนสามจำนวนที่มีผลบวกไม่เกิน 100,000 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ชั่วโมงที่ ๑ ๑. ความสามารถในการคิด ๒. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๓. ความสามารถในการใชช้ ีวติ 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ ๒. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั ตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นั้นให้นักเรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนที่ ๒ : เรียนรู้ ๒. นำโจทย์การบวกจำนวนท่ีมีหลักเดียวกนั สามจำนวนมาใหน้ ักเรยี นช่วยกนั หาคำตอบ เชน่ 7+9+8=

๓. นำโจทยก์ ารบวกจำนวนท่ีมีสองหลักมาใหน้ ักเรยี นช่วยกนั หาคำตอบ เช่น 39 + 26 + 17 =  ๔. ทำกิจกรรมเช่นเดยี วกบั ในข้อ 1. อีกประมาณ 5 ขอ้ ใครหาคำตอบไดเ้ รว็ และถูกต้องมากท่ีสุด ครใู หค้ ำชมเชย ขนั้ ตอนที่ ๓ : การฝึก ๕. ครเู ขยี นโจทย์ปญั หาการบวกจำนวนสามจำนวนบนกระดาน ดงั นี้ 22,356 + 4,469 + 17,647 =  ขัน้ ท่ี 1 นำจำนวนสองจำนวนแรกบวกกัน 11 2 2 3 5 6 + 4 4 6 9 26825 ขัน้ ท่ี 2 นำผลลัพธท์ ไ่ี ดจ้ ากการบวกสองจำนวนแรกมาบวกกบั จำนวนท่ีสาม 11 1 2 6 8 2 5 + 1 7 6 4 7 44472 ๖. ครูกำหนดโจทย์การบวกใหน้ กั เรียนหาผลบวก แล้วครสู ่มุ เลอื กตัวแทนนักเรยี นให้แสดงวธิ ที ำ โดยครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เชน่ 7,236 + 19,405 + 68,891 =  28,942 + 43,840 + 8,469 =  67,309 + 9,427 + 28,173 =  16,674 + 3,745 + 56,721 =  34,419 + 28,127 + 5,893 = 

ขัน้ ตอนท่ี ๔ : การสรุป ๗. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปสิ่งที่ไดเ้ รียนรู้รว่ มกัน ดังน้ี การบวกจำนวนสามจำนวนท่ีมีผลบวก ไม่เกิน 100,000 บวกจำนวนที่อยู่ในหลักเดียวกันเข้าด้วยกัน โดยเริ่มจากบวกหลักหน่วยก่อน มีสอง ข้นั ตอน คอื นำจำนวนสองจำนวนบวกกนั กอ่ นจากนั้นนำผลลัพธท์ ่ไี ดบ้ วกเข้ากบั อกี จำนวนทีเ่ หลือ ขน้ั ตอนที่ ๕ : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที ๘. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี ๒ ขนั้ ตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นน้ั ใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนที่ ๒ : เรียนรู้ ๒. ครูกล่าวทักทายและทบทวนความรเู้ กยี่ วกับการบวกจำนวนสามจำนวนท่ีมีผลบวกไม่เกนิ 100,000 โดยครตู ง้ั โจทยบ์ นกระดานแล้วขออาสาสมัครนกั เรียนออกมาแสดงวธิ ที ำพร้อมทั้งตรวจคำตอบ ครแู ละนักเรยี นท่ีเหลอื รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ๓. ครเู ขียนโจทยป์ ัญหาการบวกจำนวนสามจำนวนบนกระดาน ดงั นี้ 39,495 + 18,304 + 23,947 =  ขนั้ ที่ 1 นำจำนวนสองจำนวนแรกบวกกัน 1 3 9 4 9 5 + 1 8 3 0 4 57799 ขั้นที่ 2 นำผลลพั ธท์ ีไ่ ด้จากการบวกสองจำนวนแรกมาบวกกับจำนวนท่ีสาม 1111 5 7 7 9 9 + 2 3 9 4 7 81746

49,845 + 14,356 + 20,904 =  ขั้นท่ี 1 นำจำนวนสองจำนวนแรกบวกกัน 1111 4 9 8 4 5 + 1 4 3 5 6 64201 ขน้ั ที่ 2 นำผลลพั ธท์ ี่ไดจ้ ากการบวกสองจำนวนแรกมาบวกกับจำนวนที่สาม 1 64201+ 20904 85105 ๔. ครูตงั้ โจทย์การบวกจำนวนสามจำนวนท่ีมผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 แลว้ เขียนบนกระดาน จากนนั้ สุม่ นกั เรยี นออกมาแสดงวธิ ที ำ โดยครแู ละนกั เรียนทเี่ หลือรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ๕. ครูตง้ั คำถามนกั เรียนท่สี ามารถหาคำตอบไดอ้ ย่างรวดเรว็ วา่ มีวิธีคดิ อย่างไร จากนน้ั ครแู ละ นักเรยี นอภิปรายรว่ มกนั เก่ียวกบั วธิ กี ารบวกจำนวนสามจำนวนที่มีผลบวกไม่เกนิ 100,000 (ให้บวก จำนวนท่ีอยู่ในหลักเดียวกันเข้าดว้ ยกัน โดยเร่มิ จากบวกหลักหน่วยก่อน มสี องขน้ั ตอน คอื นำจำนวนสอง จำนวนบวกกนั กอ่ น จากนั่นนำผลลัพธท์ ไ่ี ด้บวกกับอีกจำนวนทเี่ หลอื ) ขน้ั ตอนท่ี ๔ : การสรุป ๖. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปสิง่ ที่ไดเ้ รียนรู้รว่ มกนั ดังน้ี การบวกจำนวนสามจำนวนใช้วิธี เดียวกนั กบั การบวกจำนวนสองจำนวน คอื การบวกจำนวนทีอ่ ยู่ในหลักเดยี วกันเขา้ ดว้ ยกัน โดยบวก จำนวนแรกกบั จำนวนหลงั ก่อน เมอื่ ได้ผลลพั ธแ์ ลว้ ใหน้ ำผลลัพธม์ าบวกกบั จำนวนท่ีเหลือ ขั้นตอนที่ ๕ : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที ๘. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมนิ ผล การวัดผล ๑. สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ ม่ันในการทำงาน ๒. สังเกตการทำงาน ๓. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. การประเมินผล ๑. ถือเกณฑ์ผา่ นจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผ้ทู ่ีได้ระดับคุณภาพตงั้ แต่ ๒ ขนึ้ ไป ๒. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรบั ผทู้ ี่ทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคณุ ภาพต้ังแต่ ๒ ขึ้นไป ๓. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผูท้ ี่ทำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตัง้ แต่ ๒ ข้ึนไป ๙. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท.

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๕ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๒ การบวกและการลบจำนวนที่มผี ลลัพธ์ไมเ่ กนิ 100,000 เวลา ๑๘ ช่ัวโมง เร่ืองการลบจำนวนสองจำนวนทมี่ ตี ัวตัง้ ไม่เกิน 1,000 ไม่มกี ารกระจายและมีการกระจาย เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. สาระสำคัญ การลบจำนวนสองจำนวนท่มี ีสามหลกั ใช้วิธีนำจำนวนตัวเลขทีอ่ ย่ใู นหลักเดียวกนั มาลบกนั ทำให้จำนวน ตวั ตง้ั ลดลงเทา่ กับตวั เลขทล่ี บน้นั การลบจะมกี ารกระจายจากหลกั สิบไปหลักหน่วย เม่อื ตัวเลขในหลกั หน่วยของ ตวั ตง้ั มีคา่ น้อยกว่าตัวเลขในหลกั หน่วยของตัวลบ ๒. ตัวชว้ี ัด ค 1.1 ป.3/5 : หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลกั ษณ์ แสดงการลบของจำนวนไม่เกิน 100,000 และ 0 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. หาผลลบของจำนวนสองจำนวนท่ีมีตวั ต้ังไมเ่ กิน 1,000 ไม่มกี ารกระจายและมกี ารกระจายได้ (K) ๒. เขียนแสดงวิธีการหาผลลบจำนวนสองจำนวนที่มตี ัวตั้งไม่เกิน 100,000 ไม่มีการกระจายและมีการ กระจายไดถ้ กู ตอ้ ง (P) ๓. นำความรู้เกี่ยวกับการลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ไม่มีการกระจายและมีการ กระจาย ไปใชแ้ กป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) 4. สาระการเรียนรู้ การลบจำนวนสองจำนวนท่มี ตี วั ต้ังไม่เกนิ 1,000 ไมม่ ีการกระจายและมกี ารกระจาย 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการคดิ ๒. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๓. ความสามารถในการใชช้ ีวติ 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. ใฝ่เรียนรู้ ๒. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี ๑ ข้ันตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้นั ใหน้ กั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ข้นั ตอนที่ ๒ : เรียนรู้ ๒. ทบทวนเรื่องการลบ เริ่มตั้งแต่การลบจำนวนที่มีหนึ่งหลัก สองหลัก โดยครูตั้งโจทย์บน กระดานให้นกั เรยี นยกมอื ตอบ คนทต่ี อบถูกกอ่ นเพ่ือน ครูและเพอ่ื นในช้ันเรียนชมชยโดยการปรบมือให้

๓. ทำกิจกรรมเช่นเดยี วกับในขอ้ 1. อกี ประมาณ 8-10 ขอ้ ๔. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรุปเกย่ี วกบั การลบจำนวนสองจำนวนทม่ี หี นง่ึ หลกั และสองหลัก ข้ันตอนที่ ๓ : การฝึก ๕. ครหู ยิบแผน่ ตารางร้อย แผ่นตารางสิบ แผน่ ตารางหน่วย มาแสดงการหาผลลบของจำนวนท่ี มสี ามหลัก ไม่มกี ารกระจาย เช่น 256 – 124 =  ๖. ให้อาสาสมัครออกมาหยิบตารางร้อยมา 2 แผ่น ตารางสิบมา 5 แผ่น และตารางหน่วย 6 แผ่น แล้วให้นักเรียนหยบิ แผ่นตารางหน่วยออก 4 แผ่น หยิบตารางสิบออก 2 แผ่น และหยิบตารางร้อยออก 1 แผ่น แล้วครูถามนักเรียนว่าตารางที่เหลืออยู่เป็นเท่าใด (132) พร้อมทั้งเขียนแสดงวิธีทำในรูปกระจายให้ นกั เรยี นดดู ว้ ย ๗. ครใู หน้ ักเรียนดูแผนภาพแสดงการหาผลลบโดยวิธีลดั ดังนี้ 3 8 6 - หลกั หน่วย 6 – 1 ไดผ้ ลลพั ธ์ 5 2 3 1 หลกั สิบ 8 – 3 ได้ผลลัพธ์ 5 1 5 5 หลกั ร้อย 3 – 2 ไดผ้ ลลัพธ์ 1 ๘. ครูอธิบายวิธกี ารลบตามแผนภาพ ดงั นี้ หลักหนว่ ย ให้นำ 6 มาลบออก 1 ไดผ้ ลลพั ธเ์ ป็น 5 แล้วนำ 5 ไปใส่ไวใ้ นช่องทต่ี รงกับหลักหนว่ ย หลกั สิบ ให้นำ 8 มาลบออก 3 ไดผ้ ลลัพธเ์ ป็น 5 นำเลข 5 ไปใส่ไว้ในช่องทตี่ รงกบั หลักสิบ หลกั ร้อย ใหน้ ำ 3 มาลบออก 2 ไดผ้ ลลัพธเ์ ป็น 1 นำเลข 1 ไปใสไ่ ว้ใหต้ รงกบั หลกั รอ้ ย ดังน้นั 386 - 231 ไดผ้ ลลพั ธเ์ ป็น 155 ๙. ครูตัง้ โจทย์บนกระดานให้นักเรยี นออกมาแสดงวธิ ีการลบตามข้อ 3. อีก 3 - 4 ขอ้ จนนักเรียน เขา้ ใจ ขั้นตอนที่ ๔ : การสรปุ ๑๐. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปส่งิ ท่ไี ดเ้ รียนรูร้ ว่ มกัน ดังนี้ หลักการลบจำนวนสองจำนวนทีม่ ี สามหลักตามแนวตง้ั ไม่มีการกระจาย คือ ให้นำตัวเลขในหลกั เดียวกนั มาลบออกจากกนั โดยให้ลบในหลัก หน่วยก่อนแลว้ ค่อยลงในหลักสบิ และหลกั รอ้ ยตามลำดับ ขั้นตอนที่ ๕ : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที ๑๑. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงท่ี ๒ ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้ันใหน้ กั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขนั้ ตอนที่ ๒ : เรียนรู้ ๒. รว่ มกันสนทนาถงึ การลบของเลขจำนวนสามหลักท่ีมีตัวตัง้ ไมเ่ กิน 1,000 ไม่มีการกระจาย เช่น 377 - 212 =  698 - 435 =  456 - 223 =  786 - 546 = 

๓. ทำกจิ กรรมเช่นเดียวกบั ในขอ้ 1. อีกประมาณ 5 ขอ้ ใครหาคำตอบได้เรว็ และถกู ต้องมากทีส่ ดุ ครใู หค้ ำชมเชย ๔. ครูหยิบแผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสบิ แผน่ ตารางหนว่ ย มาแสดงการหาผลลบของจำนวนที่ มสี ามหลกั มกี ารกระจายจากหลกั สิบไปหลักหนว่ ย เชน่ 272 – 124 =  โดยหยบิ ตารางรอ้ ยมา 2 แผน่ ตารางสบิ มา 7 แผ่น และตารางหน่วย 2 แผน่ - การลบหลักหน่วยตอ้ งหยิบแผน่ ตารางหน่วยออก 4 แผ่น ครูให้นักเรียนสังเกต ว่าตารางหน่วยมีแค่ 2 แผน่ จึงจำเป็นจะต้องกระจายตารางสิบออก 1 แผน่ และหยบิ ตารางหนว่ ยมาแทน 10 แผ่น รวมกับของเดิม 2 แผน่ ก็จะมีตารางหน่วยทัง้ หมด 12 แผน่ หยบิ ออก 4 แผ่น เหลอื 8 แผ่น - การลบในหลกั สบิ ตารางสบิ กจ็ ะเหลอื 6 แผน่ หยิบออก 2 แผน่ เหลือ 4 แผ่น - การลบในหลกั รอ้ ย หยบิ ตารางรอ้ ยออก 1 แผ่น ตารางรอ้ ยเหลือ 1 แผ่น ๕. ให้อาสาสมัครออกมาหยิบตารางร้อยมา 2 แผ่น ตารางสิบมา 5 แผ่น และตารางหน่วย 6 แผ่น แล้วให้นักเรียนหยบิ แผ่นตารางหน่วยออก 4 แผ่น หยิบตารางสิบออก 2 แผ่น และหยิบตารางร้อยออก 1 แผ่น แล้วครูถามนักเรียนว่าตารางที่เหลืออยู่เป็นเท่าใด (132) พร้อมทั้งเขียนแสดงวิธีทำในรูปกระจายให้ นักเรียนดูด้วย ข้ันตอนท่ี ๓ : การฝกึ ๖. ครใู หน้ ักเรยี นดูแผนภาพแสดงการหาผลลบที่มีการกระจายจากหลักร้อยไปหาหลกั สบิ โดยวธิ ี ลัด ดังน้ี 5 11 6 1 6 - หลักหน่วย 6 หน่วยลบดวั ย 4 หนว่ ย ได้ 2 หนว่ ย 2 3 4 หลักสิบกระจายจากหลกั รอ้ ย เปน็ 11 สบิ ลบดว้ ย 3 สิบ ได้ 8 สิบ 3 8 2 หลกั รอ้ ยกระจายไปหลักสิบเหลอื 5 ร้อยลบด้วย 2 ร้อย ได้ 3 ร้อย ๗. ครูอธิบายวิธีการลบตามแผนภาพ ดงั นี้ หลักหน่วย ให้นำ 6 หน่วยมาลบออก 4 หนว่ ย ไดผ้ ลลัพธเ์ ป็น 2 นำเลข 2 ไปใสไ่ วใ้ ห้ตรงกับหลกั หน่วย หลกั สิบ 1 สบิ มีคา่ น้อยกวา่ 3 สิบ ตอ้ งกระจายมาจากหลักร้อย เปน็ 11 สิบ นำมาลบออก 3 สิบ เหลือ 8 สิบ นำ 8 ไปใส่ไวใ้ นชอ่ งท่ีตรงกับหลกั สิบ หลกั ร้อย กระจายให้หลกั สบิ เหลอื 5 ร้อย นำมาลบออกดว้ ย 2 ร้อย เหลอื 3 รอ้ ย นำเลข 3 ไปใส่ไว้ในชอ่ งท่ี ตรงกบั หลกั ร้อย ดังนน้ั 616 - 234 ได้ผลลัพธ์เปน็ 382 ๘. ครูตัง้ โจทย์บนกระดานให้นกั เรียนออกมาแสดงวิธกี ารลบตามข้อ 6. อีก 3 - 4 ขอ้ จนนกั เรยี น เข้าใจ ข้นั ตอนที่ ๔ : การสรปุ ๙.ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสงิ่ ที่ได้เรียนรู้รว่ มกนั ดงั นี้ หลักการลบจำนวนสองจำนวนที่มสี าม หลักตามแนวต้งั และมกี ารกระจายจากหลกั รอ้ ยไปหลักสบิ คอื การลบจะมีการกระจายจากหลักรอ้ ยไปหลัก สิบเมอ่ื ตัวเลขในหลักสบิ ของตัวตง้ั มคี ่านอ้ ยกวา่ ตัวเลขของหลักสบิ ในตวั ลบ

ขนั้ ตอนที่ ๕ : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที ๑๑. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวดั ผล ๑. สงั เกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ๒. สงั เกตการทำงาน ๓. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล ๑. ถอื เกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผู้ท่ีไดร้ ะดบั คุณภาพตั้งแต่ ๒ ข้ึนไป ๒. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรบั ผู้ทท่ี ำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดับคณุ ภาพตัง้ แต่ ๒ ขึ้นไป ๓. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผทู้ ี่ทำงานได้ระดบั คณุ ภาพตง้ั แต่ ๒ ข้นึ ไป ๙. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ ๑. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ๒. แผ่นตารางร้อย แผ่นตารางสิบ แผ่นตารางหน่วย

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธไ์ ม่เกิน 100,000 เวลา ๑๘ ชั่วโมง เรอ่ื งการลบจำนวนสองจำนวนท่ีมตี ัวตัง้ ไมเ่ กิน ๑๐,000 ไม่มีการกระจายและมีการกระจาย เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. สาระสำคัญ การหาผลลบของจำนวนสองจำนวนทีม่ ีตัวต้ังไมเ่ กนิ 10,000 ให้นำจำนวนทีอ่ ยู่ในหลกั เดยี วกนั ของตัวต้ัง ลบด้วยจำนวนทอ่ี ยูใ่ นหลกั เดยี วกันของตวั ลบ การหาผลลบของจำนวนสองจำนวนท่มี ตี ัวตงั้ ไม่เกนิ 10,000 ให้นำ จำนวนทอ่ี ย่ใู นหลกั เดียวกนั ของตัวต้งั ลบดว้ ยจำนวนทอี่ ยู่ในหลกั เดยี วกนั ของตัวลบ ถา้ จำนวนในหลักใดของตวั ตง้ั นอ้ ยกวา่ จำนวนในหลักน้นั ของตัวลบ ต้องกระจายจำนวนของตวั ตั้งจากหลกั ท่ีอยู่ถัดไปทางซ้ายมอื มารวมกับ จำนวนในหลกั นั้นของตวั ต้งั แล้วจึงหาผลลบ ๒. ตวั ช้ีวดั ค 1.1 ป.3/5 : หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจำนวนไม่เกนิ 100,000 และ 0 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. หาผลลบของจำนวนสองจำนวนที่มตี วั ต้ังไมเ่ กนิ 1๐,000 ไมม่ กี ารกระจายและมกี ารกระจายได้ (K) ๒. เขียนแสดงวิธีการหาผลลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 10,000 ไม่มีการกระจายและมีการ กระจายได้ถูกต้อง (P) ๓. นำความรู้เกี่ยวกับการลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 1๐,000 ไม่มีการกระจายและมีการ กระจาย ไปใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ (A) 4. สาระการเรยี นรู้ การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตวั ตัง้ ไมเ่ กิน 10,000 ไมม่ กี ารกระจายและมกี ารกระจาย 5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการคดิ ๒. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๓. ความสามารถในการใช้ชวี ิต 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. ใฝ่เรียนรู้ ๒. มงุ่ มั่นในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ ๑ ขั้นตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นัน้ ให้นกั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้

ขัน้ ตอนท่ี ๒ : เรยี นรู้ ๒. ครูทบทวนการลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 1,000 ไม่มีการกระจาย โดยติดบัตร ภาพแสดงสินค้าบนกระดาน ดังน้ี ๓. ครถู ามนกั เรยี นวา่ นาฬิการาคามากกว่ากระเป๋าอยเู่ ทา่ ใด ๔. ครูเขียนประโยคสญั ลกั ษณบ์ นกระดาน ดงั น้ี 978 – 435 =  จากนน้ั ครถู ามนักเรียน ดงั นี้ 97-8 บ9า7ท8 มกี ี่รอ้ ย กบั ก่ีสบิ กับกีห่ นว่ ย4(395ร้อบยาทกับ 7 สิบ กับ 8 หนว่ ย) - ลบด้วย 435 หมายความว่าอยา่ งไร (เอาออก 4 รอ้ ย กบั 3 สบิ กับ 5 หน่วย) ๕. ครแู นะนำนักเรยี นว่าการลบเริ่มจากทางขวา แลว้ ถามนักเรียนตอ่ ว่า - 8 หน่วย เอาออก 5 หน่วย เหลือก่ีหนว่ ย (3 หนว่ ย) - 7 สิบ เอาออก 3 สิบ เหลอื กสี่ บิ (4 สบิ ) - 9 ร้อย เอาออก 4 รอ้ ย เหลือกร่ี ้อย (5 ร้อย) ครแู นะนำการเขยี นแสดงการลบ ดังน้ี 978 - 435 543 ๖. ครตู ดิ บตั รภาพแสดงสนิ ค้าบนกระดาน ดงั น้ี ๗. ครูสนทนากับนกั เรียนว่าพัดลมราคาน้อยกวา่ โทรศัพท์มือถืออยเู่ ท่าใด ๘. ครูเขยี นประโยคสัญลักษณ์ 6,575 – 1,234 =  ครแู นะนำการเขยี นการบวกในแนวตง้ั ดังนี้ 1,234 บาท 6,575 บาท หลกั พัน หลักร้อย หลกั สบิ หลกั หน่วย 657 5- 123 4 534 1

๙. ครูอธบิ ายเพมิ่ เติมวา่ ในการเขียนแสดงการลบในแนวต้ัง ไม่จำเปน็ ต้องเขียนช่อื หลกั กำกับ แต่ ต้องเขยี นเลขโดดทอี่ ยใู่ นหลักเดยี วกนั ให้ตรงกนั ดังนี้ 6575 - 1234 5341 ขั้นตอนท่ี ๓ : การฝกึ ๑๑.ครูกำหนดโจทยก์ ารบวกใหน้ กั เรียนหาผลบวก แลว้ ครสู ่มุ เลอื กตวั แทนนักเรียนให้แสดงวิธี ทำ โดยครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง เชน่ 1) 8730 - 2) 8930 - 3) 5789 - 3520 5210 4657 5210 3720 1132 4) 6804 - 5) 2654 + 6) 5962 + 2802 1451 3740 4002 1203 2222 ขน้ั ตอนที่ ๔ : การสรุป ๑๑.ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ทไี่ ดเ้ รยี นร้รู ว่ มกนั ดงั น้ี การหาผลลบของจำนวนของจำนวน สองจำนวน ใหน้ ำจำนวนทอ่ี ยู่ในหลกั เดียวกันของตวั ตง้ั ลบด้วยจำนวนท่ีอยู่ในหลกั เดียวกันของตวั ลบ ขน้ั ตอนท่ี ๕ : การประยกุ ตใ์ ช้ทนั ที ๑๒. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี ๒ ขัน้ ตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นน้ั ใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ข้ันตอนที่ ๒ : เรยี นรู้ ๒. ครูทบทวนการลบจำนวนสองจำนวนทีม่ ีตวั ตงั้ ไมเ่ กนิ 10,000 ไมม่ กี ารกระจาย โดยติดบตั ร ภาพแสดงสนิ ค้าบนกระดาน ดังนี้ ครูถามนกั เรยี นว่า จักรยานราคาแพงกว่าเครื่องบนิ บงั คบั เท่าไร 3,985 บาท 1,653 บาท

๓. ครูเขียนประโยคสญั ลักษณ์บนกระดาน ดงั น้ี 3,985 – 1,653 =  จากนนั้ ครแู นะนำการ เขียนแสดงการลบ ดังนี้ 3 9 8 5 - 1 6 5 3 23 3 2 ๔. ครูแนะนำการลบจำนวนสองจำนวนเพม่ิ เตมิ ว่าการหาผลลบของจำนวนของจำนวนสอง จำนวน ถา้ จำนวนในหลกั ใดของตัวต้งั นอ้ ยกว่าจำนวนในหลกั นั้นของตัวลบ ต้องกระจายจำนวนของตัวต้งั จากหลักทอี่ ยถู่ ัดไปทางซา้ ยมือมารวมกับจำนวนในหลักนัน้ ดงั ตวั อย่าง 5,825 - 1,976 =  4 17 11 15 5 8 2 5 - 1 9 7 6 38 4 9 ขั้นท่ี 1 การลบในหลกั หนว่ ย คือ 5 หน่วย ลบ 6 หน่วย ไมไ่ ด้ จึงกระจายจากหลักสบิ มา 1 สบิ หรือ 10 หนว่ ย รวมเป็น 15 หน่วย แลว้ จงึ ลบดว้ ย 6 หน่วย เหลอื 9 หนว่ ย เขยี น 9 ในหลกั หน่วย ขน้ั ท่ี 2 การลบในหลกั สบิ คือ 2 สบิ กระจายไป 1 สิบ เหลือ 1 สิบ ลบด้วย 7 สบิ ไม่ได้ จงึ กระจายจาก หลักรอ้ ยมา 1 ร้อย หรอื 10 สิบ รวมเป็น 11 สิบ แล้วจงึ ลบดว้ ย 7 สบิ เหลอื 4 สบิ เขยี น 4 ใน หลักสิบ ขั้นที่ 3 การลบในหลกั รอ้ ย คอื 8 รอ้ ยกระจายไป 1 ร้อย เหลือ 7 รอ้ ย ลบด้วย 9 รอ้ ยไมไ่ ด้ จึงกระจาย จากหลักพนั มา 1 พัน หรือ 10 ร้อย รวมเป็น 17 ร้อย แลว้ จงึ ลบด้วย 9 ร้อย เหลือ 8 รอ้ ย ขนั้ ท่ี 4 การลบในหลักพัน คือ 5 พันกระจายไป 1 พัน เหลือ 4 พัน ลบด้วย 1 พัน เหลือ 3 พัน เขียน 3 ในหลกั พัน ๕. ครูยกตัวอย่างเพิ่มเติม 2 – 3 ตัวอย่าง โดยครูแสดงวิธีทำเพื่อหาคำตอบไปพร้อมกับนักเรียน แล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามหากมีข้อสงสัยที่ยังไม่เข้าใจ เพื่อเป็นการตรวจสอบความเข้าใจของ นกั เรยี น 4,521 - 2,374 =  4 11 11 4 5 2 1 - 2 3 7 4 21 4 7

8,123 - 4,932 =  7 10 12 8 1 2 3 - 4 9 3 2 31 9 1 ขัน้ ตอนท่ี ๓ : การฝึก ๖. ครูกำหนดโจทย์การลบให้นักเรียนหาผลลบ แล้วครูสุ่มเลือกตัวแทนนักเรียนให้แสดงวิธี ทำ โดยครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เชน่ 6,720 - 4,592 =  5,546 - 2,998 =  7,865 - 3,886 =  9,269 - 4,593 =  ขั้นตอนที่ ๔ : การสรุป ๗. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รียนร้รู ว่ มกัน ดังน้ี การลบจำนวนสองจำนวนจะตอ้ ง นำจำนวนท่อี ยใู่ นหลักเดียวกนั ของตัวต้งั ลบดว้ ยจำนวนท่อี ยู่ในหลักเดยี วกันของตัวลบ ถ้าจำนวนในหลัก ใดของตวั ตง้ั นอ้ ยกว่าจำนวนในหลกั น้นั ของตวั ลบ ต้องกระจายจำนวนของตัวตั้งจากหลักทอี่ ยู่ถัดไปทาง ซ้ายมอื มารวมกบั จำนวนในหลกั นั้น ขั้นตอนท่ี ๕ : การประยกุ ตใ์ ชท้ นั ที ๘. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมนิ ผล การวัดผล ๑. สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน ๒. สงั เกตการทำงาน ๓. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมินผล ๑. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรบั ผทู้ ี่ไดร้ ะดับคณุ ภาพต้ังแต่ ๒ ขน้ึ ไป ๒. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรบั ผูท้ ที่ ำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตงั้ แต่ ๒ ข้นึ ไป ๓. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผูท้ ีท่ ำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตัง้ แต่ ๒ ข้นึ ไป ๙. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ ๑. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ๒. บัตรภาพแสดงสินคา้

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๗ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ การบวกและการลบจำนวนที่มผี ลลัพธไ์ ม่เกิน 100,000 เวลา ๑๘ ช่ัวโมง เรอ่ื งการลบจำนวนสองจำนวนท่มี ีตัวตัง้ ไม่เกิน๑๐๐,000ไมม่ ีการกระจายและมกี ารกระจาย เวลา ๒ชั่วโมง ๑. สาระสำคญั การหาผลลบของจำนวนสองจำนวนทม่ี ีตวั ต้งั ไม่เกิน 100,000 ใหน้ ำจำนวนทีอ่ ย่ใู นหลักเดียวกนั ของตวั ต้งั ลบด้วยจำนวนท่ีอยใู่ นหลกั เดยี วกนั ของตัวลบการหาผลลบของจำนวนสองจำนวนทม่ี ีตวั ต้งั ไมเ่ กิน 10,000 ให้ นำจำนวนท่อี ยู่ในหลักเดยี วกนั ของตัวตัง้ ลบดว้ ยจำนวนที่อยู่ในหลักเดยี วกันของตวั ลบ ถา้ จำนวนในหลักใดของตวั ต้งั น้อยกวา่ จำนวนในหลกั น้ันของตวั ลบ ต้องกระจายจำนวนของตวั ตงั้ จากหลกั ทีอ่ ยู่ถดั ไปทางซา้ ยมือมารวมกับ จำนวนในหลักนน้ั ของตวั ตัง้ แล้วจงึ หาผลลบ ๒. ตวั ชว้ี ดั ค 1.1 ป.3/5 : หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจำนวนไม่เกนิ 100,000 และ 0 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. หาผลลบของจำนวนสองจำนวนทีม่ ตี วั ต้ังไม่เกนิ 1๐๐,000 ไมม่ ีการกระจายและมีการกระจายได้ (K) ๒. เขียนแสดงวิธีการหาผลลบจำนวนสองจำนวนที่มตี ัวตัง้ ไม่เกิน 100,000 ไม่มีการกระจายและมีการ กระจายไดถ้ กู ต้อง (P) ๓. นำความรู้เกย่ี วกับการลบจำนวนสองจำนวนทมี่ ตี วั ตัง้ ไมเ่ กิน 1๐๐,000 ไม่มีการกระจายและมีการ กระจาย ไปใช้แกป้ ัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A) 4. สาระการเรียนรู้ การลบจำนวนสองจำนวนทมี่ ตี วั ตัง้ ไมเ่ กนิ 1๐๐,000 ไม่มีการกระจายและมีการกระจาย 5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการคดิ ๒. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๓. ความสามารถในการใช้ชวี ิต 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ๒. มุง่ มนั่ ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี ๑ ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้นั ใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ

ขั้นตอนท่ี ๒ : เรยี นรู้ ๒. ครทู บทวนความรู้เกีย่ วกับการลบจำนวนสองจำนวนท่ีมีตัวตัง้ ไมเ่ กิน 10,000 โดยตัง้ โจทย์แลว้ เขยี นบนกระดาน จากนัน้ ขออาสาสมัครออกมาแสดงวิธีทำบนกระดาน 7,432 - 1,966 =  6 13 12 12 7 4 3 2 - 1 9 6 6 54 6 6 ๓. ครูนำโจทย์การลบที่มีตัวตั้งไม่เกิน 100,000 ที่ไม่มีการกระจายมาให้นักเรียนร่วมกันหา คำตอบ ในการตั้งโจทยต์ ้องตั้งตวั เลขในหลักเดียวกันให้ตรงกนั แลว้ ให้นำจำนวนท่ีอยใู่ นหลักเดียวกันมาลบกัน โดยเรม่ิ ลบในหลกั หน่วยก่อน (ครูยกตัวอย่าง 2-3 ข้อ เพ่ือใหน้ กั เรยี นเกิดความเขา้ ใจ) ครแู ละนักเรียนร่วมกัน หาคำตอบไปพรอ้ มๆ กนั 49,844 - 23,730 =  4 9 8 4 4 - 2 3 7 3 0 26114 67,891 - 22,181 =  6 7 8 9 1 - 2 2 1 8 1 45710 69,665 - 18,263 =  6 9 6 6 5 - 1 8 2 6 3 51402

ข้ันตอนท่ี ๓ : การฝกึ ๔. ครกู ำหนดโจทย์การลบให้นักเรยี นหาผลลบ แล้วครสู มุ่ เลือกตัวแทนนักเรียนใหแ้ สดงวิธที ำ โดยครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง เช่น 25,949 - 13,409 =  42,452 - 31,330 =  73,278 - 13,271 =  34,543 - 12,342 =  50,486 - 40,380 =  ข้นั ตอนท่ี ๔ : การสรุป ๕. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงทไี่ ดเ้ รียนรู้รว่ มกัน ดงั นี้ การหาผลลบของจำนวนของจำนวน สองจำนวน ให้นำจำนวนทีอ่ ย่ใู นหลักเดยี วกนั ของตวั ตั้งลบดว้ ยจำนวนท่อี ยใู่ นหลักเดยี วกันของตวั ลบ ขัน้ ตอนท่ี ๕ : การประยุกต์ใช้ทนั ที ๖. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชว่ั โมงที่ ๑ ขน้ั ตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม ๑. ครูให้นักเรียนท่องสูตรคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก น้นั ให้นกั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ข้นั ตอนท่ี ๒ : เรยี นรู้ ๒. ครทู บทวนความรู้เก่ยี วกบั การลบจำนวนสองจำนวนที่มีตัวต้ังไม่เกนิ 100,000 ไมม่ ีการ กระจาย โดยตงั้ โจทยแ์ ล้วเขยี นบนกระดาน จากนัน้ ขออาสาสมัครออกมาแสดงวิธีทำบนกระดาน 75,966 - 24,743 =  7 5 9 6 6 - 2 4 7 4 3 51 2 2 3 ๓. ครูแนะนำการลบจำนวนสองจำนวนเพิม่ เตมิ วา่ การหาผลลบของจำนวนของจำนวนสอง จำนวน ถา้ จำนวนในหลักใดของตัวตง้ั นอ้ ยกวา่ จำนวนในหลักนนั้ ของตัวลบ ตอ้ งกระจายจำนวนของตวั ตง้ั จากหลกั ทอ่ี ยถู่ ดั ไปทางซา้ ยมือมารวมกบั จำนวนในหลักนัน้ ดงั ตัวอยา่ ง 46,732 – 19,949 =  3 15 16 12 12 4 6 7 3 2 - 1 9 9 4 9 26 7 8 3

ขน้ั ที่ 1 การลบในหลกั หนว่ ย คอื 2 หนว่ ย ลบ 9 หน่วยไมไ่ ด้ จึงกระจายจากหลกั สบิ มา 1 สบิ หรือ 10 หนว่ ย รวมเปน็ 12 หนว่ ย แล้วจงึ ลบดว้ ย 9 หนว่ ย เหลือ 3 หนว่ ย เขยี น 3 ในหลกั หนว่ ย ขั้นที่ 2 การลบในหลักสิบ คือ 3 สบิ กระจายไป 1 สบิ เหลอื 2 สิบ ลบด้วย 4 สิบไม่ได้ จึงกระจายจากหลกั รอ้ ยมา 1 ร้อย หรือ 10 สิบ รวมเป็น 12 สิบ แล้วจงึ ลบดว้ ย 4 สบิ เหลอื 8 สิบ เขยี น 8 ในหลกั สิบ ขน้ั ที่ 3 การลบในหลักรอ้ ย คอื 7 รอ้ ยกระจายไป 1 ร้อย เหลอื 6 รอ้ ย ลบดว้ ย 9 ร้อยไม่ได้ จงึ กระจายจากหลกั พนั มา 1 พัน หรอื 10 ร้อย รวมเปน็ 16 รอ้ ย แลว้ จงึ ลบดว้ ย 9 ร้อย เหลอื 7 ร้อย ข้ันท่ี 4 การลบในหลกั พัน คอื 6 พันกระจายไป 1 พนั เหลือ 5 พนั ลบดว้ ย 9 พนั ไม่ได้ จึง กระจายจากหลักหม่นื มา 1 หมื่น หรอื 10 พัน รวมเปน็ 15 พนั แลว้ จึงลบด้วย 9 พัน เหลือ 6 พนั เขยี น 6 ในหลกั พัน ข้ันที่ 5 การลบในหลกั หมนื่ คือ 4 หมื่นกระจายไป 1 หม่ืน เหลอื 3 หมืน่ ลบด้วย 1 หม่ืน เหลือ 2 หมืน่ เขยี น 2 ในหลกั หม่ืน ๔. ครูยกตัวอย่างเพ่ิมเติม 2 – 3 ตัวอย่าง โดยครูแสดงวิธีทำเพื่อหาคำตอบไปพร้อมกับนักเรียน แล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามหากมีข้อสงสัยที่ยังไม่เข้าใจ เพื่อเป็นการตรวจสอบความเข้าใจของ นักเรียน 75,922 – 39,875 =  6 15 8 11 12 7 5 9 2 2 - 3 9 8 7 5 36 0 4 7 98,742 – 73,829 =  7 17 3 12 9 8 7 4 2 - 7 3 8 2 9 24 9 1 3 ขน้ั ตอนที่ ๓ : การฝกึ ๕. ครูกำหนดโจทยก์ ารลบให้นักเรยี นหาผลลบ แล้วครสู ุ่มเลอื กตวั แทนนกั เรยี นให้แสดงวิธีทำ โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง เช่น 36,720 - 14,592 =  75,546 - 22,998 = 

57,865 - 43,886 =  69,269 - 44,593 =  ชวั่ โมงที่ ๒ ขนั้ ตอนที่ ๔ : การสรุป ๖. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปสิ่งทไ่ี ด้เรียนรู้รว่ มกนั ดังนี้ การหาผลลบของจำนวนสอง จำนวน ใหน้ ำจำนวนที่อยู่ในหลกั เดียวกนั ของตัวต้ังลบดว้ ยจำนวนท่ีอย่ใู นหลักเดยี วกนั ของตวั ลบ ถา้ จำนวนในหลักใดของตวั ตัง้ นอ้ ยกว่าจำนวนในหลกั นั้นของตวั ลบ ต้องกระจายจำนวนของตวั ตัง้ จากหลกั ท่ี อย่ถู ดั ไปทางซ้ายมือมารวมกบั จำนวนในหลักนั้น ขั้นตอนที่ ๕ : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที ๗. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมนิ ผล การวดั ผล ๑. สังเกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน ๒. สังเกตการทำงาน ๓. แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. การประเมินผล ๑. ถอื เกณฑ์ผ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรับผทู้ ่ีได้ระดับคณุ ภาพตั้งแต่ ๒ ข้นึ ไป ๒. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรับผทู้ ที่ ำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดับคณุ ภาพตั้งแต่ ๒ ขน้ึ ไป ๓. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรบั ผู้ทท่ี ำงานไดร้ ะดับคุณภาพตั้งแต่ ๒ ขึ้นไป ๙. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท.

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ การบวกและการลบจำนวนท่ีมผี ลลัพธไ์ มเ่ กนิ 100,000 เวลา ๑๘ ชว่ั โมง เรื่องการลบจำนวนสามจำนวนทมี่ ีตัวต้งั ไมเ่ กนิ 100,000 เวลา ๒ ช่วั โมง ๑. สาระสำคญั หลกั การลบจำนวนสามจำนวน ใหน้ ำจำนวนที่อยู่ในหลักเดียวกันมาลบกนั ถา้ เลขโดดของตวั ตั้งในหลัก เดยี วกนั น้อยกวา่ ตวั ลบให้กระจายหลกั ทางซ้ายมอื ของตวั ตั้งมาเพมิ่ ในหลกั นนั้ โดยจะหาผลลบของจำนวนสอง จำนวนแรกกอ่ น แลว้ จึงนำจำนวนทเ่ี หลอื มาลบออกจากผลลพั ธ์ท่ีได้ ๒. ตวั ชีว้ ัด ค 1.1 ป.3/5 : หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการลบของจำนวนไม่เกนิ 100,000 และ 0 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. หาผลลบของจำนวนสามจำนวนท่มี ีตัวตง้ั ไม่เกนิ 100,000 ได้ (K) ๒. เขียนแสดงวิธกี ารหาผลลบจำนวนสามจำนวนท่ีมีตัวตั้งไม่เกิน 100,000 ไดถ้ กู ตอ้ ง (P) ๓. นำความรู้เกี่ยวกับการลบจำนวนสามจำนวนที่มีตัวตั้งไม่เกิน 100,000 ไปใช้แก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ได้ (A) 4. สาระการเรยี นรู้ การลบจำนวนสามจำนวนทมี่ ตี วั ตัง้ ไม่เกนิ 100,000 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการคิด ๒. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๓. ความสามารถในการใชช้ ีวติ 6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ๒. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี ๑ ข้ันตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม ๑. ครูใหน้ กั เรียนท่องสูตรคณู โดยใช้แกว้ และตาราง ๙ ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จาก นั้นใหน้ กั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขั้นตอนท่ี ๒ : เรียนรู้ ๒. นำโจทย์การลบจำนวนทม่ี ีหลกั เดยี วกนั สามจำนวนมาให้นักเรียนชว่ ยกันหาคำตอบ เช่น 9–3–2 =

๓. นำโจทย์การลบจำนวนท่มี สี องหลักมาให้นักเรียนชว่ ยกันหาคำตอบ เช่น 96 – 12 - 21 =  ๔. ทำกิจกรรมเช่นเดยี วกับในขอ้ 1. อีกประมาณ 5 ข้อ ใครหาคำตอบได้เรว็ และถกู ต้องมากท่ีสดุ ครใู ห้คำชมเชย ๕. ครูเขียนโจทย์ปญั หาการบวกจำนวนสามจำนวนบนกระดาน ดงั น้ี 66,700 – 13,801 – 9,397 =  ข้ันท่ี 1 ลบสองจำนวนแรกก่อน 5 16 9 10 6 6 7 0 0 - 1 3 8 0 1 52 8 9 9 ข้ันที่ 2 นำผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ากการลบสองจำนวนแรกมาลบกบั จำนวนที่สาม 4 12 5 2 8 9 9 - 9 3 9 7 43 5 0 2 ขั้นตอนท่ี ๓ : การฝึก ๖.ครูกำหนดโจทย์การลบให้นักเรียนหาผลลบ แล้วครูสุ่มเลือกตัวแทนนักเรียนให้แสดงวิธีทำ โดยครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เชน่ 68,891 - 7,236 - 19,405 =  43,840 - 28,942 - 8,469 =  67,309 - 9,427 - 28,173 =  56,721 - 16,674 - 3,745 =  34,419 - 28,127 - 5,893 = 

ขนั้ ตอนท่ี ๔ : การสรุป ๗. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ สิง่ ท่ไี ด้เรยี นรรู้ ว่ มกนั ดงั นี้ เกย่ี วกบั การลบจำนวนสามจำนวนวา่ ใหน้ ำจำนวนที่อย่ใู นหลักเดยี วกันมาลบกัน ถา้ เลขโดดของตวั ตง้ั ในหลกั เดยี วกันน้อยกว่าตัวลบให้ กระจายหลกั ทางซ้ายมือของตัวตง้ั มาเพม่ิ ในหลักนนั้ โดยจะหาผลลบของจำนวนสองจำนวนแรกกอ่ น แลว้ จงึ นำจำนวนท่เี หลอื มาลบออกจากผลลัพธ์ที่ได้ ขนั้ ตอนที่ ๕ : การประยกุ ตใ์ ชท้ นั ที ๘. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงท่ี ๒ ขั้นตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม ๑. ครูให้นักเรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใช้แก้วและตาราง ๙ ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจาก น้นั ให้นกั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนที่ ๒ : เรียนรู้ ๒. ทบทวนเรอื่ งการลบจำนวนสองจำนวนทั้งมีการกระจายและไม่มีการกระจาย โดยครูตงั้ โจทย์ บนกระดานให้นักเรียนชว่ ยกนั หาคำตอบ ใครตอบได้ถกู ก่อน เพื่อนในชนั้ รว่ มกนั ปรบมือชมเชย ๓. ทำกิจกรรมเช่นเดียวกับในข้อ 2. อีกประมาณ 5 ข้อ ใครหาคำตอบได้เร็วและถูกต้องมากที่สุด ครูให้คำชมเชย ๔. ครูเขียนโจทยป์ ัญหาการบวกจำนวนสามจำนวนบนกระดาน ดังนี้ 80,399 – 23,416 – 10,988 =  ขั้นที่ 1 ลบสองจำนวนแรกกอ่ น 7 9 13 8 0 3 9 9 - 2 3 4 1 6 56 9 8 3 ขน้ั ที่ 2 นำผลลพั ธ์ท่ไี ด้จากการลบสองจำนวนแรกมาลบกับจำนวนทส่ี าม 5 18 17 13 5 6 9 8 3 - 1 0 9 8 8 45 9 9 5

49,845 - 14,356 - 20,904 =  ขั้นที่ 1 ลบสองจำนวนแรกกอ่ น 7 13 15 4 9 8 4 5 - 1 4 3 5 6 3548 9 ขัน้ ท่ี 2 นำผลลพั ธท์ ไี่ ด้จากการลบสองจำนวนแรกมาลบกับจำนวนทส่ี าม 4 14 3 5 4 8 9 - 2 0 9 0 4 14585 ๕. ครตู งั้ โจทยก์ ารลบจำนวนสามจำนวนท่มี ีตัวต้งั ไม่เกิน 100,000 แล้วเขียนบนกระดาน จากนน้ั ส่มุ นกั เรยี นออกมาแสดงวธิ ที ำ โดยครแู ละนกั เรยี นทีเ่ หลือร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ข้นั ตอนที่ ๓ : การฝึก ๖. ครตู ้ังคำถามนกั เรยี นท่สี ามารถหาคำตอบได้อย่างรวดเรว็ ว่า มวี ิธคี ดิ อย่างไร จากนนั้ ครแู ละ นักเรยี นอภิปรายร่วมกนั เก่ียวกับวิธีการลบจำนวนสามจำนวนท่มี ผี ลบวกไมเ่ กิน 100,000 (ให้นำจำนวนที่ อยูใ่ นหลักเดียวกันมาลบกนั ถ้าเลขโดดของตัวต้ังในหลกั เดียวกนั น้อยกวา่ ตวั ลบให้กระจายหลักทาง ซ้ายมือของตัวต้ังมาเพิ่มในหลักน้ัน โดยจะหาผลลบของจำนวนสองจำนวนแรกกอ่ น แลว้ จงึ นำจำนวนที่ เหลอื มาลบออกจากผลลพั ธ์ที่ได้) ขน้ั ตอนที่ ๔ : การสรุป ๗. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งที่ได้เรียนรูร้ ่วมกนั ดังนี้ เกี่ยวกบั การลบจำนวนสามจำนวนวา่ ใหน้ ำจำนวนทีอ่ ยูใ่ นหลกั เดยี วกันมาลบกัน ถ้าเลขโดดของตัวตั้งในหลกั เดยี วกันน้อยกว่าตัวลบให้ กระจายหลักทางซ้ายมอื ของตวั ตั้งมาเพ่ิมในหลักน้นั โดยจะหาผลลบของจำนวนสองจำนวนแรกก่อน แล้วจึงนำจำนวนท่ีเหลือมาลบออกจากผลลพั ธท์ ่ีได้ ขนั้ ตอนที่ ๕ : การประยุกตใ์ ช้ทันที ๘. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท.

8. การวัดและประเมนิ ผล การวดั ผล ๑. สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน ๒. สงั เกตการทำงาน ๓. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล ๑. ถือเกณฑ์ผ่านจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรับผทู้ ี่ได้ระดับคุณภาพต้ังแต่ ๒ ข้นึ ไป ๒. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผทู้ ี่ทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพตงั้ แต่ ๒ ข้ึนไป ๓. ถือเกณฑ์ผ่านสำหรับผทู้ ท่ี ำงานกลุม่ ได้ระดับคุณภาพต้งั แต่ ๒ ข้นึ ไป ๙. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท.

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๙ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์ไม่เกิน 100,000 เวลา ๑๘ ช่วั โมง เรือ่ งการหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและการลบ เวลา ๒ ชัว่ โมง ๑. สาระสำคัญ การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์การบวกและประโยคสญั ลักษณ์การลบ ทำไดโ้ ดยใช้ ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ ๒. ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.3/5 : หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการลบของจำนวนไม่เกิน 100,000 และ 0 3.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สามารถหาคำตอบของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและการลบได้ (K) ๒. เขยี นแสดงวธิ ีการหาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าโดยใช้สมั พนั ธ์ของการบวกและการลบได้ถูกต้อง (P) ๓. สร้างปา้ ยแสดงวิธกี ารหาคำตอบการบวก ลบจำนวนไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ ๔. นำความรู้เกี่ยวกับการหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบไปใช้ แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ (A) 4. สาระการเรยี นรู้ การหาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและการลบ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการคดิ ๒. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๓. ความสามารถในการใชช้ วี ติ 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ ๒. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี ๑ ขั้นตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม ๑. ครูให้นกั เรียนท่องสตู รคณู โดยใช้แกว้ และตาราง ๙ ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลังจาก นนั้ ใหน้ ักเรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนท่ี ๒ : เรยี นรู้ ๒. ครูเขียนโจทย์บนกระดาน ดังนี้ 52,432 + 14,579 = 67,011

67,011 – 52,432 = 14,579 67,011 – 14,579 = 52,432 ๓. จากนั้นครูให้นักเรียนสังเกตโจทย์ที่ครูเขียนบนกระดาน โดยครูถามนักเรียนว่า “โจทย์ที่ครู เขียนบนกระดานทั้งสามข้อมีความสัมพันธ์กันอย่างไร” (ผลบวกของสองจำนวนใดๆ เมื่อลบด้วยจำนวนใด จำนวนหนึ่งในสองจำนวนนน้ั จะได้ผลลบเทา่ กับอีกจำนวนหนึง่ เสมอ) ๔. ครูเขียนโจทย์บนกระดานอีกคร้ัง เชน่  + 25,243 = 57,812 ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันหา คำตอบ จากน้นั ครูเขยี นโจทย์ 57,812 – 32,569 =  และ 57,812 – 25,243 =  บนกระดาน แลว้ ให้ นักเรยี นร่วมกันหาคำตอบ พร้อมทงั้ พจิ ารณาความสัมพันธจ์ ากโจทยท์ ค่ี รูเขยี นบนกระดาน ๕. ครูเขียนสรุปการหาคำตอบท้ังสามข้อบนกระดานอีกครง้ั ดังนี้ 32,569 + 25,243 = 57,812 57,812 – 32,569 = 25,243 57,812 – 25,243 = 32,569 ๖. ครยู กตัวอยา่ งอกี ครง้ั โดยครูเขียนโจทยบ์ นกระดาน เชน่ 79,138 -  = 44,341 ให้นกั เรียน ร่วมกันหาคำตอบ จากนั้นครูเขียนโจทย์ 34,138 + 44,341 =  บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณา ความสมั พันธ์จากโจทยท์ ่คี รเู ขยี นบนกระดาน ๗. ครูเขยี นสรุปการหาคำตอบท้ังสามขอ้ บนกระดานอีกคร้ัง ดงั น้ี 79,138 – 34,138 = 44,341 34,138 + 44,341 = 79,138 ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยค สัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ สามารถใช้ความรู้เกีย่ วกับความสัมพันธ์ของการบวกและการลบมาช่วย ในการหาคำตอบ กล่าวคือ ผลบวกของสองจำนวนใด ๆ เมื่อลบด้วยจำนวนใดจำนวนหนึ่งในสองจำนวนน้ัน จะได้ผลลบเทา่ กับอกี จำนวนหนงึ่ เสมอ ๙. ครูทักทายและทบทวนความรูเ้ ก่ียวกบั การหาตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการ บวกและการลบ โดยการตัง้ โจทย์ 2-3 ขอ้ แลว้ ส่มุ ให้นักเรยี นตอบคำถามว่า “ตวั ไมท่ ราบคา่ คือจำนวนใด” ขั้นตอนท่ี ๓ : การฝึก ๑๔. ครูตั้งคำถามกระตุ้นความคิด โดยยกตัวอย่างอีกครั้งด้วยการเขียนโจทย์บนกระดาน เช่น 85,179 -  = 48,627 ให้นักเรียนร่วมกันหาคำตอบ จากนั้นครูเขียนโจทย์ 36,912 + 48,627 =  บนกระดาน ให้นกั เรียนรว่ มกนั อธิบายความสมั พันธข์ องโจทยท์ ้ังสอง

๑๕.ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เขียนสรปุ การหาคำตอบทงั้ สองขอ้ บนกระดานอีกครงั้ ดงั นี้ 85,179 – 36,912 = 48,627 36,912 + 48,627 = 85,179 จากความสัมพันธท์ ก่ี ล่าวมา ครถู ามนกั เรยี นว่า นักเรียนคิดวา่ 85,179 – 36,912 =  (48,627) ๑๖.ครยู กตวั อย่างอีกครั้ง โดยครูเขียนโจทยบ์ นกระดาน เช่น 62,483 -  = 10,334 ให้ นกั เรียนรว่ มกนั หาคำตอบ จากน้ันครูเขียนโจทย์ 52,149 + 10,334 =  บนกระดาน ใหน้ ักเรียน พิจารณาความสมั พนั ธจ์ ากโจทย์ท่ีครเู ขยี นบนกระดาน ๑๗.ครูเขียนสรปุ การหาคำตอบทง้ั สามข้อบนกระดานอีกครัง้ ดงั นี้ 62,483 – 52,149 = 10,334 52,149 + 10,334 = 62,483 ๑๔. ครูให้นกั เรยี นจัดกลมุ่ กล่มุ 3-4 คน เพอื่ สร้างป้ายแสดงวิธีการหาคำตอบการบวก ลบ จำนวนไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ ชวั่ โมงท่ี ๒ ขนั้ ตอนท่ี ๔ : การสรปุ ๑๕. ครูให้นักเรียนเสนอผลงานป้ายแสดงวิธีการหาคำตอบการบวก ลบจำนวนไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ ๑๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยค สัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ สามารถใช้ความรู้เกีย่ วกับความสัมพันธ์ของการบวกและการลบมาช่วย ในการหาคำตอบ กล่าวคือ ผลบวกของสองจำนวนใด ๆ เมื่อลบด้วยจำนวนใดจำนวนหนึ่งในสองจำนวนนั้ น จะได้ผลลบเทา่ กบั อกี จำนวนหนึง่ เสมอ ข้ันตอนท่ี ๕ : การประยกุ ตใ์ ชท้ นั ที ๑๗. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบ 8. การวัดและประเมนิ ผล การวัดผล ๑. สังเกตความมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน ๒. สงั เกตการทำงานกลุม่ ๓. แบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ๔. แบบทดสอบหลงั เรยี น การประเมินผล ๑. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรับผู้ท่ีไดร้ ะดับคณุ ภาพตั้งแต่ ๒ ขนึ้ ไป ๒. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผทู้ ีท่ ำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพตง้ั แต่ ๒ ข้นึ ไป ๓. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรับผทู้ ่ที ำงานกลมุ่ ได้ระดับคณุ ภาพตงั้ แต่ ๒ ข้นึ ไป ๔. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรับผู้ทท่ี ำงานทำแบบทดสอบหลังเรียนไดร้ อ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป ๙. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ ๑. แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ๒. แผ่นตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสิบ แผน่ ตารางหน่วย

ภาคผนวก -รปู ดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ -แบบประเมนิ ฯ

พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรงุ ) แบบประเมนิ หน่วยการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่องการบวก และลบจำนวนท่ีมผี ลบวกไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ เวลาที่ใช้ ๑๘ ชั่วโมง รหสั วิชา ค๑๓๑๐๑ รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ครผู ู้สอน นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวเิ ศษ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ มคี วามสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดทส่ี ดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ นอ้ ย 1 หมายถึง น้อยทส่ี ดุ ข้อ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ที่ 54321 1 ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้นา่ สนใจ กะทัดรัด ชดั เจน ครอบคลุมเน้ือหาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอนั พึงประสงคม์ คี วามเช่ือมโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด/ผล การเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเชือ่ มโยงสัมพนั ธก์ ันระหว่างชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วดั / ผลการเรียนรูส้ าระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรูแ้ ละกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการ เรียนรู้ 7 กจิ กรรมการเรยี นรูม้ คี วามครอบคลุมในการพฒั นาผู้เรยี นใหม้ คี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผเู้ รียนไปสู่การสร้างชิน้ งาน/ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /กจิ กรรม การเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ 11 สื่อการเรียนรู้ในแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกบั เวลาและการนำไปประยุกต์ใชไ้ ดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบตั ิจรงิ ได้ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ........................................................................ ลงช่ือ.................................................................. (นางสาวแพรวรุง่ ศรีประภา) ผู้ประเมนิ