วิจัยในชั้นเรียน

2.7 นาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ท่ีสร้างให้ผูเ้ ชี่ยวชาญจานวน 3 ท่าน ไดต้ รวจสอบความถูกตอ้ ง ซ่ึงเป็นครูผสู้ อนคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบความเท่ียงตรง เพ่ือประเมินค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ซ่ึงมีค่าความ สอดคลอ้ งเท่ากบั 0.90 แสดงวา่ บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย มีความเหมาะสมสามารถ นาไปทดลองกบั กลุ่มตวั อยา่ งได้ 2.8 นาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย มาปรับปรุงตามคาแนะนาและ ขอ้ เสนอแนะของผเู้ ชี่ยวชาญ โดยปรับบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย บางขอ้ ใหม้ ีความ เหมาะสมกบั ความสามารถของนักเรียนไม่ยากไม่ง่ายเกินไป รวมท้งั ปรับขนาดของ อกั ษรและภาษาที่ใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 2.9 หลงั จากปรับปรุงบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลาแลว้ นาไปทดลองกบั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ตามข้นั ตอนดงั น้ี 2.9.1 ข้ันหาประสิทธิภาพแบบรายบุคคลทดลองกับนักเรียน ทดลองแบบหน่ึงต่อหน่ึง (1:1) นาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา ไปทดลอง กบั นกั เรียน 3 คน ที่กาลงั ศึกษาอยู่ในช้ันประถมศึกษาปี ที่ 5 ปี การศึกษา 2563 ซ่ึงเป็ น นกั เรียนที่เรียนดี 1 คน ปานกลาง 1 คน และเรียนอ่อน 1 คน ของโรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) อาเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทุมธานี เพ่ือประเมินผลระหว่างใช้ และประเมินหลงั ใช้ และตรวจสอบ ความเหมาะสม ดา้ นอื่น ๆ เช่น การส่ือความหมาย ของภาษา และศึกษาพฤติกรรมของนกั เรียนที่ตอบสนองต่อการเรียนในดา้ นการใชเ้ วลา สานวนภาษาที่ใชค้ วามยากง่ายของเน้ือหา ลาดบั ข้นั ตอนกิจกรรม ความชดั เจนของคาสั่ง และความน่าสนใจของบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 70.48/73.33 ซ่ึงค่าประสิทธิภาพท่ีไดต้ ่ากว่าเกณฑท์ ่ีกาหนด และพบขอ้ บกพร่องดงั น้ีคือ บางกิจกรรมครูตอ้ งอธิบายคาส่ังเพ่ิมเติม บางกิจกรรม พิมพค์ าตกหล่น พิมพส์ ัญลกั ษณ์ ผดิ จานวนขอ้ ของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ในบางเล่มมีมากเกินไป นกั เรียนทาไม่

เสร็จในเวลาที่กาหนด ขอ้ บกพร่องต่าง ๆ ผูศ้ ึกษาไดป้ รับปรุงแกไ้ ข เพื่อนาไปทดลองหา ประสิทธิภาพแบบกลุ่มเลก็ ต่อไป 2.9.2 ข้ันหาประสิ ทธิภาพแบบกลุ่มเล็กหลังจากนาบทเรี ยน คอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย มาปรับปรุงแกไ้ ขแลว้ ไดน้ าไปทดลองกบั นกั เรียนจานวน 10 คน นอกเหนือจาก 3 คนขา้ งตน้ โดย 10 คน น้นั เป็นนกั เรียนที่เรียนดี 3 คน ปานกลาง 4 คน และเรียนอ่อน 3 คน ที่กาลงั ศกึ ษาอยใู่ นช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คา สวสั ด์ิราษฎร์บารุง) อาเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทุมธานี ปี การศึกษา 2563 เพื่อหา ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และความบกพร่องของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา ตามแผนการจดั การเรียนรู้โดยมีการประเมินระหว่างใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา แลว้ ทดสอบหลงั การใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา ในแต่ละบทเรียน รวมท้งั หมด 4 บทเรียน มีค่าประสิทธิภาพเท่ากบั 70.29/71.00 ซ่ึงค่า ประสิทธิภาพที่ไดต้ ่ากวา่ เกณฑท์ ่ีกาหนดจึงทาใหต้ อ้ งปรับปรุงแกไ้ ข แลว้ นาไปทดลอง กบั นกั เรียนกลุ่มภาคสนามต่อไป 2.9.3 ข้ันหาประสิทธิภาพแบบภาคสนามทดลองกับนักเรี ยน โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 จานวน 30 คน น้นั เป็นนกั เรียนที่เรียนดี 10 คน ปานกลาง 12 คน และเรียนอ่อน 8 คน ท่ีกาลงั ศึกษาอยใู่ นช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) อาเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทุมธานี ปี การศึกษา 2563 โดยก่อนหาประสิทธิภาพภาคสนามมีการปรับปรุง ตามคาแนะนาในข้ันตอนหาประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็ก จึงทาให้มีค่าประสิทธิภาพ เท่ากบั 80.95/84.33 ซ่ึงค่าประสิทธิภาพท่ีได้สูงกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดแสดงว่าบทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียมีความเหมาะสม สามารถนาไปทดลองกบั กลุ่มตวั อยา่ งได้ 2.10 นาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา ของนกั เรียน ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 นาไปทดลองกบั นกั เรียนกลุ่มตวั อยา่ ง

3. การสร้างแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ผวู้ จิ ยั ได้ สร้างแบบทดสอบจานวน 1 ชุด มีข้นั ตอนในการสร้างดงั น้ี 3.1 ศึกษาเอกสารหลกั สูตรการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 คู่มือ การวดั และประเมินผล กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 3.2 ศึกษาทฤษฎีและหลักการสร้างแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทาง การศึกษา 3.3 วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ผลการเรียนรู้สาระการเรียนรู้และ กาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เพ่ือสร้างแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้วิชา คณิตศาสตร์ เรื่องเวลา โดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย 3.4 สร้างแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ เร่ือง เวลา ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตวั เลือก กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนโดยขอ้ ที่ถูกใหค้ ะแนนขอ้ ละ 1 คะแนน ขอ้ ท่ีผดิ หรือไม่ตอบ ใหค้ ะแนนขอ้ ละ 0 คะแนน ใหค้ รอบคลุมสาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 3.5 นาแบบทดสอบท้งั หมดที่สร้างข้ึนเสนอต่อผเู้ ช่ียวชาญเพอ่ื ตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง และนาขอ้ เสนอแนะมาปรับปรุงแกไ้ ขในบางขอ้ ที่คาตอบไม่เหมาะสม ซ่ึงมี ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลงั เรียนวิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองเวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใชบ้ ทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา อยรู่ ะหว่าง 0.63-1.00 แสดงวา่ แบบทดสอบสอดคลอ้ ง กบั วตั ถุประสงค์ 3.6 ปรับปรุงแบบทดสอบ แลว้ นาแบบทดสอบเสนอต่อผูเ้ ชี่ยวชาญ ชุด เดียวกบั ท่ีใชป้ ระเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา เพ่ือประเมินตรวจสอบ

ความถูกตอ้ งตรงตามสาระการเรียนรู้และความสอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั โดยใชแ้ บบประเมิน IOC และการกาหนดคะแนน ความคิดเห็นเป็นดงั น้ี คะแนน +1 สาหรับขอ้ สอบ ขอ้ ท่ีมีความสอดคลอ้ ง คะแนน 0 สาหรับขอ้ สอบ ขอ้ ท่ีไม่แน่ใจวา่ มีความสอดคลอ้ ง คะแนน -1 สาหรับขอ้ สอบ ขอ้ ที่ไม่มีความสอดคลอ้ ง 3.7 นาแบบทดสอบท่ีปรับปรุงแกไ้ ขแลว้ ตามความเห็นของผูเ้ ช่ียวชาญ ไปหาคุณภาพกบั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์ บารุง) จงั หวดั ปทุมธานี จานวน 20 คน แลว้ นามาวิเคราะห์รายขอ้ เพ่ือหาค่าอานาจ จาแนก (r) และค่าความยากง่าย (p) ของแบบทดสอบ คดั เลือกขอ้ สอบท่ีมีค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.20 – 0.80 และมีค่าอานาจจาแนก (r) ต้งั แต่ 0.20 ข้ึนไป โดยคดั เลือกไว้ จานวน 10 ขอ้ และนาไปหาความเชื่อมนั่ ของแบบทดสอบท้งั ฉบบั โดยใชส้ ูตร KR-20 ของคูเดอร์ –ริชาร์ดสนั (Kuder – Richardson) มีค่าดงั น้ี 3.7.1 หาค่าความยากง่าย (P) และค่าอานาจจาแนก (B) จานวน 10 ขอ้ ผวู้ ิจยั ไดค้ ดั เลือกขอ้ สอบที่มีค่าความยากง่ายอยใู่ นระดบั 0.29 – 0.71 และมีค่าอานาจ จาแนกอยใู่ นระหว่าง 0.35 – 0.68 จานวน 10 ขอ้ ท่ีเป็นไปตามเกณฑท์ ่ีกาหนดเพื่อนาไป ทดลองกบั กลุ่มตวั อยา่ ง 3.7.2 ค่าความเช่ือมน่ั (Reliability) ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองเวลา ของนักเรียนช้ัน ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 ท่ีเรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ที่คดั เลือกไวจ้ านวน 10 ขอ้ มีค่าเท่ากบั 0.73 3.8 นาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลงั เรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดยใช้บทเรี ยน

คอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย ไปทดลองกบั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) จานวน 20 คน 3.9 จดั พมิ พแ์ บบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน และหลงั เรียนวชิ า คณิตศาสตร์ เร่ือง เวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 ที่เรียนโดยใชบ้ ทเรียน คอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย เพอ่ื นาไปทดสอบกบั นกั เรียนกลุ่มตวั อยา่ ง 4. การสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ต่อการเรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา มีข้นั ตอนในการสร้างดงั น้ี 4.1 ศึกษาทฤษฎี หลกั การ แนวคิด และเอกสาร งานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั วิธีการสร้างแบบสอบถามความพงึ พอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ต่อการเรียน โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา 4.2 วเิ คราะห์เน้ือหาที่วดั เลือกรูปแบบเคร่ืองมือที่วดั 4.3 สร้างแบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ต่อการเรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา แบ่งเป็น 2 ตอนดงั น้ี ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ต่อการเรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา ซ่ึงเป็นวิธีของลิเคิร์ท (Likert) โดยใชร้ ูปแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดบั จานวนท้งั หมด 10 ขอ้ มีเกณฑด์ งั น้ี ความพึงพอใจอยใู่ นระดบั มากที่สุด ใหค้ ะแนน 5 คะแนน ความพึงพอใจอยใู่ นระดบั มาก ใหค้ ะแนน 4 คะแนน ความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ปานกลาง ใหค้ ะแนน 3 คะแนน ความพึงพอใจในระดบั พอใช้ ใหค้ ะแนน 2 คะแนน ความพึงพอใจอยใู่ นระดบั ตอ้ งปรับปรุง ใหค้ ะแนน 1 คะแนน ค่าเฉล่ีย 4.51 - 5.00 หมายถึง มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั มากท่ีสุด

ค่าเฉล่ีย 3.51 - 4.50 หมายถึง มีความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั มาก ค่าเฉล่ีย 2.51 - 3.50 หมายถึง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง ค่าเฉล่ีย 1.51 - 2.50 หมายถึง มีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั พอใช้ ค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 หมายถึง มีความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ปรับปรุง โดยมีรายการประเมินจานวน 10 ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี 1) วธิ ีการจดั การเรียนรู้ท่ีเริ่มตน้ ดว้ ยการทบทวนความรู้คาบเรียนที่ผา่ น มา 2) บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ช่วยทาให้เขา้ ใจเน้ือหา เรื่องเวลา มากข้ึน 3) การทาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ประกอบการจดั การเรียนรู้ทา ใหน้ กั เรียนแกป้ ัญหา เร่ืองเวลา ได้ 4) ในช้นั เรียนเป็นบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 5) ครูสนบั สนุนและเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดอ้ ภิปรายเพือ่ แลกเปล่ียน ความรู้กบั เพอ่ื น 6) นกั เรียนพอใจต่อการวดั และประเมินผล ดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลาย 7) มีการวดั และประเมินผลเพอื่ ตรวจสอบความกา้ วหนา้ สม่าเสมอ 8) นกั เรียนเขา้ ใจเน้ือหาและการแกป้ ัญหา เรื่อง การคูณ ไดถ้ ูกตอ้ ง 9) วชิ าคณิตศาสตร์ สามารถประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ 10) นักเรี ยนเข้าใจวิชาคณิ ตศาสตร์ มากข้ึนจากการทาบทเรี ยน คอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย ตอนท่ี 2 เป็ นขอ้ คาถามให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การใช้บทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดยให้นกั เรียน ตอบแบบสอบถามหลงั สิ้นสุดการเรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย 4.3 นาแบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ต่อการเรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา ไปใหผ้ เู้ ชี่ยวชาญพิจารณา

ความเหมาะสมของขอ้ ความและตรวจความเที่ยงตรงเพื่อตรวจสอบหาค่าดชั นีความ สอดคลอ้ ง (Index of Item Objective Congruence : IOC) ของแบบประเมิน แลว้ เลือกขอ้ คาถาม ท่ีมีค่าดชั นีความสอดคลอ้ งต้งั แต่ 0.50 ข้ึนไป (บุญชม ศรีสะอาด, 2545) โดยใช้ เกณฑก์ ารประเมินผลดงั น้ี +1 หมายถึง แน่ใจวา่ แบบประเมินตรงตามประเดน็ การถามขอ้ น้นั 0 หมายถึง ไม่แน่ใจวา่ แบบประเมินตรงตามประเดน็ การถามขอ้ น้นั หรือไม่ -1 หมายถึง แน่ใจวา่ แบบประเมินไม่ตรงตามประเดน็ การถามขอ้ น้นั ซ่ึงมีค่าดชั นีความสอดคลอ้ งเท่ากบั 1.00 4.4 จดั พิมพแ์ บบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ต่อการเรียน โดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา 4.5 นาแบบสอบถามความพงึ พอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 ต่อ การเรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา ใหน้ กั เรียนตอบแบบสอบถาม หลงั สิ้นสุดการเรียน การเกบ็ รวบรวมข้อมูล การศกึ ษาวจิ ยั ในคร้ังน้ีเป็นการศึกษาวจิ ยั เชิงก่ึงทดลอง ประชากรเป็นนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) ปี การศึกษา 2563 จานวน 1 หอ้ งมีจานวนนกั เรียน 43 คน ซ่ึงไดม้ าจากการสุ่มอยา่ งง่าย (Simple Random sampling) ผวู้ จิ ยั ไดเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มูลดงั น้ี 1. การพฒั นาหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ผูว้ ิจยั ไดส้ ร้างบทเรียน จานวน 4 บทเรียน เร่ือง

เวลา แลว้ นาไปใหผ้ เู้ ชี่ยวชาญตรวจสอบหาค่าดชั นีความสอดคลอ้ ง จากน้นั จึงนาบทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ไปหาประสิทธิภาพ 3 ข้นั ตอนดงั น้ี 1.1 หาประสิทธิภาพแบบรายบุคคล (individual Tryout) การทดลองกับ นกั เรียน โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 จานวน 3 คนท่ีไม่ใช่กลุ่มตวั อยา่ ง แบ่งเป็น เก่ง 1 คน ปานกลาง 1 คน และ อ่อน 1 คน เพื่อดูความ เหมาะสมของเน้ือหา และความยากง่ายของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 แลว้ นาผลมาคานวณหาค่าประสิทธิภาพของ บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย 1.2 หาประสิทธิภาพแบบกลุ่มเลก็ (Small Group Tryout) ทดลองกบั นกั เรียน โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 จานวน 10 คน ท่ี ไม่ใช่กลุ่มตวั อยา่ ง เก่ง 3 คน ปานกลาง 4 คน และเรียนอ่อน 3 คน เพ่ือดูความเหมาะสม ของเน้ือหาและความยากง่ายของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย ท่ีไดป้ รับปรุงแลว้ นาผล มาคานวณหาค่าประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย 1.3 หาประสิทธิภาพแบบภาคสนาม (Field Tryout) ทดลองกบั นกั เรียน โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 จานวน 30 คน ที่ ไม่ใช่กลุ่มตวั อยา่ ง เก่ง 10 คน ปานกลาง 12 คน และเรียนอ่อน 8 คน เพือ่ ดูความเหมาะสม ของเน้ือหา และความยากง่ายของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ที่ปรับปรุงแลว้ จากบทเรี ยนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่ อง เวลา สาหรับนักเรี ยนช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ที่ผูว้ ิจัยได้สร้างข้ึนจานวน 1 เรื่อง และหาค่าประสิทธิภาพแล้ว นาไปใชท้ ดลองกบั นกั เรียนกลุ่มตวั อยา่ งตามแผนการจดั การเรียนรู้ต่อไป 2. การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วชิ าคณิตศาสตร์ เร่ือง เวลา ของนกั เรียน ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย การศึกษาวิจยั ในคร้ังน้ี

ผวู้ จิ ยั ใชแ้ บบแผนการทดลองแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนและหลงั (The One Group Pre- test Post-test Design) การศึกษาวิจัยในคร้ังน้ี ผูว้ ิจัยได้ดาเนินการวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน คณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดีย ดาเนินการตามข้นั ตอนดงั น้ี 2.1 ทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน วชิ าคณิตศาสตร์ เร่ืองเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ที่เรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ที่สร้าง ข้ึนจานวน 10 ขอ้ ใชเ้ วลา 30 นาที 2.2 จดั การเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ เร่ือง เวลา โดย ใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย จานวน 5 แผน 10 ชวั่ โมง 2 สัปดาห์ 2.3 ทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลงั เรียนวชิ าคณิตศาสตร์ เร่ือง เวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ท่ีเรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ท่ีสร้าง ข้ึนจานวน 10 ขอ้ ใชเ้ วลา 30 นาที 3. การศึกษาความพงึ พอใจของนักเรียนต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา หลงั จากเสร็จสิ้นการจดั การเรียนรู้ เรื่องเวลา เรียบร้อยแลว้ ผวู้ จิ ยั ใหน้ กั เรียนทาแบบ วดั ความพงึ พอใจต่อการใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา จานวน 10 ขอ้ และ นามาหาค่าเฉลี่ย ( X ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เพื่อเปรียบเทียบกบั เกณฑท์ ่ี กาหนด การวเิ คราะห์ข้อมูล การศึกษาวิจยั ในคร้ังน้ีผูว้ ิจยั ไดเ้ ก็บรวบรวมคะแนนของนักเรียนท่ีไดจ้ ากการ เรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 มาวเิ คราะห์ขอ้ มูล ดงั น้ี

1. การพฒั นาหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ผวู้ จิ ยั ไดร้ วบรวมคะแนนของนกั เรียนท่ีไดจ้ ากการ เรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ระหว่างเรียน (E1) ของนักเรียนกลุ่มตวั อย่างมา วิเคราะห์ขอ้ มูลโดยใชส้ ถิติร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และประสิทธิภาพ (E1 /E2 ) 2. การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ผวู้ ิจยั ไดร้ วบรวมคะแนนของ นกั เรียนที่ไดจ้ ากการทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนกบั หลงั เรียน (E2) ของนักเรียนกลุ่มตวั อย่างมาทดสอบสมมติฐานของการศึกษาวิจยั โดยใช้สถิติ Dependent Samples t- test 3. การศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ต่อการเรียนโดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ือง เวลา ผวู้ ิจยั ไดน้ าคะแนนของนกั เรียนกลุ่มตวั อย่าง จากการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจโดยให้นักเรี ยนตอบแบบสอบถามความพึง พอใจหลงั สิ้นสุดการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่อง เวลา สาหรับ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 มาวเิ คราะห์ขอ้ มูลโดยใชส้ ถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน สถติ ิทใ่ี ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1. สถติ ิพน้ื ฐาน ได้แก่ 1.1 ร้อยละ (Percentage) โดยใชส้ ูตร (บุญชม ศรีสะอาด,2545, หนา้ 104) p = f  100 N เมื่อ P หมายถึง ร้อยละ f หมายถึง ความถ่ีท่ีตอ้ งการแปลงใหเ้ ป็นร้อยละ N หมายถึง จานวนความถี่ท้งั หมด

1.2 ค่าเฉลี่ย (Mean)โดยคานวณจากสูตร = เมื่อ หมายถึง คะแนนเฉล่ีย  x หมายถึง ผลรวมคะแนนของแต่ละคนยกกาลงั สอง N หมายถึง จานวนนกั เรียนท้งั หมดในกลุ่มทดลอง 1.3 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใชส้ ูตร (บุญชม ศรี สะอาด,2545, หนา้ 106) เมื่อ σ หมายถึง ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน  x2 หมายถึง ผลรวมคะแนนของแต่ละคนยกกาลงั สอง x2 หมายถึง ผลรวมคะแนนของแต่ละคนท้งั หมดยก กาลงั สอง N หมายถึง จานวนนกั เรียนท้งั หมดในกลุ่มทดลอง 2. สถติ ิหาคุณภาพของเคร่ืองมือทใี่ ช้ในการวจิ ยั ประกอบด้วย 2.1 การหาค่าความเท่ียงตรงตามเน้ือหาของแบบทดสอบแต่ละข้อ กับ จุดประสงค์การเรียนรู้และเน้ือหา โดยใช้สูตร IOC (Index of Objective Congruence) เป็ นค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของผูเ้ ชี่ยวชาญท้งั หมดตามวิธีของ โรวิเนลลี (Rovinelli) และแฮมเบิลตนั (Hambleton) (สมนึก ภทั ทิยธนี,2546, หนา้ 221) ดงั น้ี IOC  R N

เมื่อ IOC หมายถึง ดชั นีความสอดคลอ้ งระหวา่ งจุดประสงค์ กบั เน้ือหา หรือระหวา่ งขอ้ สอบกบั จุดประสงค์ R หมายถึง ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของ ผเู้ ชี่ยวชาญท้งั หมด N หมายถึง จานวนผเู้ ชี่ยวชาญ 2.2 การหาค่าอานาจจาแนก (Discrimination) ของแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยใชส้ ูตรของเบรนแนน (Brennan) (บุญชม ศรีสะอาด, 2545, หนา้ 90 ) เม่ือ B B U L n1 n2 หมายถึง ค่าอานาจจาแนก U หมายถึง จานวนผสู้ อบในกลุ่มเก่งตอบถูก L หมายถึง จานวนผสู้ อบในกลุ่มอ่อนตอบถูก n1 หมายถึง จานวนผสู้ อบในกลุ่มเก่ง n2 หมายถึง จานวนนกั เรียนในกลุ่มอ่อน 2.3 การหาค่าระดบั ความยาก (P) ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียน โดยใชส้ ูตรของเบรนแนน (Brennan) (บุญชม ศรีสะอาด, 2545, หนา้ 84 ) ดงั น้ี P = R N เม่ือ P หมายถึง ระดบั ความยาก

R หมายถึง จานวนผตู้ อบถูกท้งั หมด N หมายถึง จานวนนกั เรียนสอบท้งั หมด 2.4 การหาค่าความเชื่อมนั่ (Reliability) ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน โดยใชส้ ูตร KR-20 (ลว้ นสายยศ และองั คณา สายยศ ,2543, หนา้ 197-198) r SPtt = n 1  q     n 1 2  t เม่ือ rtt หมายถึง ค่าความเชื่อมน่ั ของแบบทดสอบ P หมายถึง สดั ส่วนของผทู้ าไดใ้ นขอ้ หน่ึง ๆ นนั่ คือ สดั ส่วนของคนทาถูกกบั คนท้งั หมด q หมายถึง สดั ส่วนของผทู้ าผดิ ในขอ้ หน่ึงๆ หรือคือ 1- p n หมายถึง จานวนขอ้ สอบแบบทดสอบ S2 หมายถึง ความแปรปรวนของคะแนนท้งั ฉบบั t 3. สถติ ิทใี่ ช้ทดสอบสมมติฐาน 3.1 การวเิ คราะหป์ ระสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 โดยใชส้ ูตร E1 / E2 ดงั น้ี X E1  N 100 A Y E2  N 100 B เมื่อ E1 หมายถึง ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการคิดเป็นร้อยละ

E2 หมายถึง ค่าประสิทธิภาพของผลลพั ธ์ X หมายถึง คะแนนรวมจากการทาชุดฝึกทกั ษะหรือ แบบทดสอบ Y หมายถึง คะแนนรวมจากการทาแบบทดสอบหลงั เรียน N หมายถึง จานวนนกั เรียนท้งั หมดในกลุ่มทดลอง A หมายถึง คะแนนเตม็ ของบทเรียนทุกชุดรวมกนั B หมายถึง คะแนนเตม็ ของแบบทดสอบหลงั เรียน 3.2 ทดสอบความแตกต่างระหวา่ งคะแนนเฉล่ียโดยใชส้ ถิติ Dependent Samples t-test t   D ; df = n-1 N  D2   D2 N 1 เมื่อ t หมายถึง ค่าสถิติท่ีใชใ้ นการพิจารณาใน t – distribution D หมายถึง ความแตกต่างของคะแนนแต่ละคู่ N หมายถึง จานวนกลุ่มตวั อยา่ งหรือจานวนคะแนนแต่ละคู่  D หมายถึง ผลรวมท้งั หมดของผลต่างของคะแนนก่อนเรียน และหลงั เรียน  D2 หมายถึง ผลรวมของกาลงั สองของผลต่างของคะแนนก่อน เรียนและหลงั เรียน

บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล การศึกษาวิจยั เรื่อง “พฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เร่ืองเวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4” มี วตั ถุประสงค์ของการวิจยั เพ่ือพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 ให้มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพ่ือพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดย ใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ืองเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 และเพ่ือ ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 ต่อการเรียนโดยใช้บทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ผูว้ ิจยั ไดก้ าหนดสัญลกั ษณ์และนาเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล ตามลาดบั ต่อไปน้ี สัญลกั ษณ์ที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ในการวเิ คราะห์ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการทดลอง และแปลความหมายของผลการ วเิ คราะห์ขอ้ มูลเพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจความหมายท่ีตรงกนั ผวู้ จิ ยั จึงไดก้ าหนดสญั ลกั ษณ์ท่ีใชใ้ น การวเิ คราะหข์ อ้ มูลดงั ต่อไปน้ี X หมายถึง ค่าเฉล่ียของแบบทดสอบและแบบสอบถาม S.D. หมายถึง ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแบบทดสอบและแบบสอบถาม N หมายถึง จานวนนกั เรียนในกลุ่มตวั อยา่ ง t หมายถึง ค่าสถิติในการแจกแจงขอ้ มูล P หมายถึง ระดบั นยั สาคญั ของการทดสอบทางสถิติ

E1 หมายถึง คะแนนเฉลี่ยร้อยละของคะแนนท่ีนกั เรียนไดจ้ ากการเรียน บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียระหวา่ งเรียนของนกั เรียนกลุ่มตวั อยา่ ง ไดร้ ้อยละ 80 E2 หมายถึง คะแนนเฉล่ียร้อยละของคะแนนท่ีนกั เรียนท้งั หมดที่ทา แบบทดสอบบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียหลงั เรียนของนกั เรียนกลุ่มตวั อยา่ ง ไดร้ ้อย ละ 80 Sig หมายถึง ความน่าจะเป็นท่ีคานวณไดจ้ ากค่าสถิติท่ีใชใ้ นการทดสอบ สมมติฐาน การวเิ คราะห์ผลข้อมูลและแปลความหมาย การวิเคราะห์ผลข้อมลู และแปลความหมาย แบ่งออกเป็ น 3 ตอน คอื ตอนที่ 1 ผลการพฒั นาบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ใหม้ ีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ตอนที่ 2 ผลการพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยการใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 หลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียน ตอนท่ี 3 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ต่อการ ใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ืองเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล ตอนท่ี 1 ผลการพฒั นาบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดยี เรื่องเวลา ของนักเรียน ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

ตาราง 1 การหาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ มัลติมีเดีย เรื่ องเวลา ของนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ข้นั ทดลองหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ของนกั เรียน ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 รายบุคคล ( 3 ) กลุ่มเลก็ ( 10 ) ภาคสนาม ( 30 ) E1/E2 E1/E2 E1/E2 70.48/73.33 70.29/71.00 80.95/84.33 จากตาราง 1 พบวา่ การหาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ในการทดลองรายบุคคล เท่ากบั 70.48/73.33 และ กลุ่มเล็ก เท่ากบั 70.29/71.00 ซ่ึงต่ากว่าเกณฑ์ท่ีกาหนด 80/80 ส่วนการทดลองแบบ ภาคสนาม เท่ากบั 80.95/84.33 ซ่ึงเป็นไปตามเกณฑท์ ่ีกาหนด 80/80 ตอนท่ี 2 ผลการพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวชิ าคณติ ศาสตร์ โดยการใช้ บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ตมิ เี ดยี เร่ืองเวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 หลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรียน ตาราง 2 คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมเี ดยี เร่ืองเวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4

การทดสอบ จานวนคน S.D. t Sig ทดสอบก่อนเรียน 28 3.21 1.64 -17.729 .000 ทดสอบหลงั เรียน 28 8.54 0.69 *p < .05 จากตาราง 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เร่ือง เวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ก่อนเรียนและหลงั เรียน จานวน 43 คน วเิ คราะห์ t – test แบบ Dependent พบวา่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนมีค่าเฉล่ีย เท่ากบั 3.21 ส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน เท่ากบั 1.64 ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลงั เรียนมีค่าเฉล่ีย เท่ากบั 8.54 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากบั 0.69 เมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลงั เรียน พบว่าค่าเฉลี่ยหลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 ซ่ึง สอดคลอ้ งกบั สมมติฐานของการวิจยั คือ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 ท่ีเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย หลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียน แสดงวา่ นกั เรียนมีความรู้เพ่ิมมากข้ึน ตอนที่ 3 ผลการศึกษาความพงึ พอใจของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 ต่อการ ใช้บทเรียนคอมพวิ เตอร์มัลตมิ ีเดยี เร่ืองเวลา ตาราง 3 ค่าเฉลย่ี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานของแบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี 4 มผี ลต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย เรื่องเวลา

ขอ้ ความ S.D. แปลความหมาย 1. วธิ ีการจดั การเรียนรู้ที่เริ่มตน้ ดว้ ยการทบทวนความรู้ 3.71 0.81 มาก คาบเรียนที่ผา่ นมา 2. บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย ช่วยทาใหเ้ ขา้ ใจ 3.75 0.80 มาก เน้ือหา เร่ือง เวลา มากข้ึน 3. การทาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ประกอบการ 3.82 0.72 มาก จดั การเรียนรู้ทาใหน้ กั เรียนแกป้ ัญหา เรื่อง เวลา ได้ 4. ในช้นั เรียนเป็นบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4.00 0.54 มาก 5. เพอ่ื ครูสนบั สนุนและเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนได้ 3.64 0.62 มาก อภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้กบั เพื่อน 3.68 0.77 มาก 6. นกั เรียนพอใจต่อการวดั และประเมินผล ดว้ ยวธิ ีการ ที่หลากหลาย 3.89 0.69 มาก 7. มีการวดั และประเมินผลเพอ่ื ตรวจสอบ ความกา้ วหนา้ สม่าเสมอ 3.89 0.69 มาก 8. นกั เรียนเขา้ ใจเน้ือหาและการแกป้ ัญหา เรื่อง เวลา ไดถ้ ูกตอ้ ง 9. วชิ าคณิตศาสตร์ สามารถประยกุ ตใ์ ชใ้ น 3.75 0.75 ชีวติ ประจาวนั ได้ มาก 10. นกั เรียนเขา้ ใจวชิ าคณิตศาสตร์มากข้ึนจากการทา 3.89 0.63 บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย มาก รวม 3.80 0.70 มาก

จากตาราง 3 พบว่า ผลการศึกษาความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ต่อการใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา โดยภาพรวมนกั เรียนมีความพึง พอใจอยู่ในระดบั มากโดยไดค้ ะแนนเฉล่ียเท่ากบั 3.80 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากบั 0.70 เมื่อพิจารณาเป็ นรายขอ้ พบว่านักเรียนมึความพึงพอใจเก่ียวกบั ในช้นั เรียนเป็ น บรรยากาศแห่งการเรียนรู้ อยู่ในระดบั มากท่ีสุด โดยให้คะแนนเฉลี่ยเท่ากบั 4.00 ส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากบั 0.54 รองลงมา คือ มีการวดั และประเมินผลเพ่ือตรวจสอบ ความกา้ วหนา้ สม่าเสมอ นกั เรียนเขา้ ใจเน้ือหาและการแกป้ ัญหา เร่ือง เวลา ไดถ้ ูกตอ้ ง และนกั เรียนเขา้ ใจวิชาคณิตศาสตร์มากข้ึนจากการทาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย อยู่ ในระดบั มาก โดยไดค้ ะแนนเฉล่ียเท่ากบั 3.89 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากบั 0.69,0.69 และ 0.63 ตามลาดับ และครูสนับสนุนและเปิ ดโอกาสให้นักเรียนได้อภิปรายเพื่อ แลกเปลี่ยนความรู้กบั เพ่ือน อยใู่ นระดบั ปานกลาง โดยไดค้ ะแนนเฉล่ียต่าสุดเท่ากบั 3.64 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากบั 0.62

บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ การศึกษาวิจัยในคร้ังน้ี ศึกษาเร่ือง การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชา คณิตศาสตร์โดยใช้บทเรี ยนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย เรื่องเวลา ของนักเรี ยนช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยดังน้ี (1) เพ่ือสร้างและหา ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ใหม้ ีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพ่ือพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยการใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรียน (3) เพื่อศึกษา ความพึงพอใจของนกั เรียนต่อการใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ผวู้ ิจยั ใช้ แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนและหลัง (The One Group Pre-test Post-test Design) กลุ่มตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการวิจยั คร้ังน้ีเป็นนกั เรียน ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) ปี การศึกษา 2563 จานวน 1 ห้องเรียน 43 คน ซ่ึงไดม้ าจากการสุ่มอย่างง่าย (simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจยั ไดแ้ ก่ แผนการจดั การเรียนรู้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย แบบทดสอบผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเวลา สาหรับ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผูเ้ ชี่ยวชาญเพื่อหาค่าความ สอดคลอ้ งของ แผนการจดั การเรียนรู้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย แบบทดสอบ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และแบบสอบถามความพงึ พอใจ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ผวู้ จิ ยั ดาเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเองดงั น้ี 1. การพฒั นาหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ืองเวลา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 มี 3 ข้นั ตอน โดยทดลองกบั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี

5 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารุง) คือ (1) หาประสิทธิภาพแบบรายบุคคล (2) หาประสิทธิภาพแบบกลุ่มเลก็ (3) หาประสิทธิภาพแบบภาคสนาม 2. การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เร่ืองเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ผูว้ ิจยั ใชแ้ บบแผนการทดลองแบบกลุ่มเดียว ทดลองก่อนและหลงั (The One Group Pre-test Post-test Design) โดยดาเนินการตาม ข้นั ตอน ดงั น้ี (1) ทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ (2) จัดการเรียนรู้ตามแผนการจดั การเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองเวลา โดยใชบ้ ทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย จานวน 5 แผน 10 ชว่ั โมง 2 สัปดาห์ (3) ทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ การเรียนหลงั เรียนวชิ าคณิตศาสตร์ เรื่องเวลา 3. การศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ต่อการเรียนโดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ืองเวลา โดยให้นักเรียนตอบแบบสอบถามความพึง พอใจต่อการเรียน หลงั จากเรียน โดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา การวเิ คราะห์ขอ้ มูลผวู้ จิ ยั ไดเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มูลดงั น้ี 1. การพฒั นาหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา โดย ใชส้ ถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และประสิทธิภาพ (E1/ E2) 2. การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ โดยใชส้ ถิติ ค่าเฉล่ีย ส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน Dependent Sample t - test 3. การศกึ ษาความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 ต่อการเรียนโดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย โดยใชส้ ถิติค่าเฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน

สรุปผลการศึกษาวจิ ยั จากการศกึ ษาวจิ ยั คร้ังน้ี ผวู้ จิ ยั พบวา่ 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เร่ืองเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 มีประสิทธิภาพ (E1/ E2) เท่ากบั 82.08/81.82 ซ่ึงสูงกวา่ เกณฑท์ ่ีกาหนดไว้ 80/80 2. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่ องเวลา ของนักเรี ยนช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียนอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 3. ความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ต่อการเรียนโดยใชบ้ ทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา มีความพึงพอใจอยใู่ น ระดบั มาก อภิปรายผล การศึกษา เรื่องการพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ท่ีเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ผูว้ ิจยั ไดน้ าผลการศึกษามาอภิปรายไดด้ งั น้ี 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 จานวน 43 คน มีประสิทธิภาพ (E1/ E2 ) เท่ากบั 82.08/81.82 ซ่ึงสูงกว่าเกณฑท์ ี่กาหนด 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้งั ไว้ ซ่ึงการสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ไดผ้ า่ น กระบวนการข้นั ตอน และการหลกั การสร้างอย่างเป็ นระบบ คือ กาหนดจุดมุ่งหมาย ศึกษาหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวดั เขียนวตั ถุประสงค์ ใหส้ อดคลอ้ งตามหลกั จิตวทิ ยาการเรียนรู้และเหมาะสมกบั วยั ของผูเ้ รียน เรียงลาดบั จาก ง่ายไปหายาก มีภาพประกอบที่สวยงามดึงดูดความสนใจของผเู้ รียน และจดั การเรียนการ สอนใหผ้ เู้ รียนเรียนอยา่ งมีความสุข ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั แนวการสร้างบทเรียนคอมพวิ เตอร์ มลั ติมีเดีย ของ ลกั ขณา ภูวิลยั (2552, หนา้ 45) กล่าววา่ การสอนคณิตศาสตร์น้นั จะตอ้ ง

มีการเตรียมความพร้อมใหก้ บั ผูเ้ รียน จดั เน้ือหาใหต้ ่อเน่ือง เรียงลาดบั จากง่ายไปหายาก ตามความตอ้ งการและความสนใจของผูเ้ รียน มีเทคนิคในการสอน ใชส้ ่ือการเรียนการ สอนท่ีมีคุณภาพ เนน้ ใหผ้ เู้ รียนมีความเขา้ ใจ จนสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างมีความสุข สุวิทย์ เมษินทรีย์ (2550 : 164) กล่าวว่าสังคมไทยแบ่งบทบาทให้ โรงเรียนจดั การเรียนรู้ ในขณะที่พ่อแม่ผปู้ กครองมีหนา้ ที่เล้ียงดูบุตรหลานท่ีบา้ น โอกาส การเรียนรู้จึงเกิดข้ึนในโรงเรียนมากกว่านอกโรงเรียน ซ่ึงเป็ นการตีกรอบการเรียนรู้ท่ี แคบมาก การพฒั นาการเรียนรู้ของนักเรียนตอ้ ง อยู่ในแนวคิดร่วมมือกนั ระหว่างครู/ โรงเรียน ครอบครัว/พ่อแม่และชุมชน มีเป้าหมายเพ่ือสร้างโอกาส การเรียนรู้ให้กบั นกั เรียนซ่ึงรวมถึงโอกาสการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ในโลกกวา้ ง โดยไม่มีระยะเวลาสิ้นสุด อีกท้งั ผลการศึกษาวิจยั ยงั สอดคลอ้ งกบั โชติกา วชั รเดชโภคิน และรสริน พิมลบรรยงก์ (2559) ไดท้ าการศึกษาวิจยั เพ่ือพฒั นาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย โดยใช้ แบบฝึ ก ทักษะชนิดเกม วิชาภาษาอังกฤษ เร่ื อง Things Around Me สาหรับนักเรี ยนช้ัน ประถมศึกษาปี ที่ 3 เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนระหว่าง การสอนด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย โดยใชแ้ บบฝึ กทกั ษะชนิดเกม กบั การสอนปกติ กลุ่ม ตวั อย่างท่ีใช้ในการวิจยั ได้แก่ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 3 โรงเรียนวดั สระแกว้ สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 1 ท่ีกาลงั ศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2558 จานวน 8 ห้องเรียน จานวนนักเรียน 351 คน ได้มาโดยการสุ่ม ตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม จานวน 3 ห้องเรี ยน แบ่งออกเป็ น กลุ่มท่ีใช้ในการหา ประสิทธิภาพ 1 ห้องเรียน จานวน 45 คน และกลุ่มที่ใช้ในการทดลอง จานวน 2 หอ้ งเรียน คือ กลุ่มทดลอง จานวน 45 คน และกลุ่มควบคุม จานวน 49 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ ในการวิจัย ประกอบด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย แผนการจดั การเรี ยนรู้ 70 แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สถิติที่ใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ไดแ้ ก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพของ

บทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดียโดยใชแ้ บบฝึ กทกั ษะชนิดเกม เร่ือง Things Around Me วชิ าภาษาองั กฤษสาหรับนกั เรียน ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 3 มีค่า E1/E2 เท่ากบั 76.25/77.22 สูงกว่า เกณฑท์ ่ีต้งั ไวท้ ี่ 75/75 ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนหลงั เรียนของกลุ่มท่ีสอนโดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย โดยใชแ้ บบฝึ กทกั ษะ ชนิดเกมสูงกว่ากลุ่มท่ีสอนแบบ ปกติ อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 2. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ เรื่องเวลา ของเรียนช้นั ประถมศึกษา ปี ที่ 4 โดยใช้สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย จานวน 43 คนมีผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 เป็ นไปตาม สมมติฐานที่ต้งั ไวแ้ สดงใหเ้ ห็นวา่ การจดั การเรียนรู้โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ท่ีผวู้ จิ ยั ไดส้ ร้างข้ึนมีการเรียงลาดบั จากเน้ือหาจากง่ายไปหายาก เนน้ กระบวนการปฏิบตั ิ จริงมีข้ันตอนในการแก้ปัญหา กระตุ้นให้นักเรียนได้ฝึ กทาบทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดียดว้ ยตนเอง กระตุน้ ให้นักเรียนไดฝ้ ึ กปฏิบตั ิจริงและการจดั การเรียนรู้ที่เปิ ด โอกาสให้นกั เรียนมีอิสระในการเรียนรู้โดยใหผ้ ูเ้ รียนท่ีเก่งกว่าช่วยแนะนาเพ่ือนท่ีอ่อน กวา่ พร้อมกบั การใหค้ าปรึกษาของครู การศึกษาวจิ ยั ในคร้ังน้ีสามารถพฒั นาผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงข้ึนได้ เพราะมีการตรวจสอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดีย จากผูเ้ ช่ียวชาญก่อนที่จะนาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียไปทดลอง ซ่ึง สอดคลอ้ งกบั ผลการศึกษาวิจยั ของ ไข่มุก มณีศรี (2554, หนา้ 57) ไดใ้ ห้ความหมายวา่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน หมายถึง ความสาเร็จในดา้ นความรู้ ทกั ษะ และสมรรถภาพดา้ น ต่าง ๆ ของสมองหรือประสบการณ์ที่ไดจ้ ากการเรียนรู้อนั เป็ นผลมาจากการเรียนการ สอน การฝึ กฝนหรือประสบการณ์ต่าง ๆ ของแต่ละบุคคลสามารถวดั ไดโ้ ดยการทดสอบ ดว้ ยวธิ ีต่าง ๆ อีกท้งั ผลการศึกษาวิจยั ยงั สอดคลอ้ งกบั อติพร ปานพุ่ม และวงกต ศรีอุไร (2557) ไดท้ าการศึกษาวิจยั เพ่ือพฒั นาส่ือมลั ติมีเดียแบบมีปฏิสัมพนั ธ์เร่ืองการทดลอง วิทยาศาสตร์บนระบบปฏิบตั ิการ แอนดรอยด์ สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 2 มี

วตั ถุประสงคเ์ พ่อื 1) พฒั นาส่ือมลั ติมีเดีย แบบมีปฏิสมั พนั ธเ์ รื่องการทดลอง วทิ ยาศาสตร์ บน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สาหรับนักเรี ยนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี2 2) หา ประสิทธิภาพของส่ือมลั ติมีเดียแบบมีปฏิสัมพนั ธ์ให้ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจ ของผูใ้ ชส้ ่ือมลั ติมีเดียแบบมีปฏิสัมพนั ธ์ กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใช้ เป็นนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนบา้ นศรีไค จงั หวดั อุบลราชธานี จานวน 30 คน เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจยั ได้แก่ ส่ือ มลั ติมีเดียแบบมีปฏิสัมพนั ธ์เร่ืองการทดลอง วิทยาศาสตร์บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี2 แบบทดสอบ และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติท่ีใช้ ได้แก่ ค่าเฉล่ีย และส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการวิจยั พบว่าสื่อ มลั ติมีเดียแบบมีปฏิสัมพนั ธ์ท่ีพฒั นาข้ึนมี ประสิทธิภาพเท่ากบั 81.00/89.75 สูงกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ 80/80 และผูใ้ ชม้ ีความพึง พอใจต่อสื่อมลั ติมีเดียแบบมีปฏิสมั พนั ธ์ที่พฒั นาข้ึนในระดบั มาก (ˉx = 4.50, S.D. = 0.75)������̅ 3. ความพึงพอใจของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 ต่อการเรียนโดยใช้สร้าง บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย เรื่องเวลา อยู่ในระดบั มาก ( ˉx = 3.80 , S.D. = 0.70 ) เน่ืองจากนักเรียนได้เรียนรู้และแลกเปล่ียนเรียนรู้ซ่ึงกนั และกัน มีการแบ่งปันและ ช่วยเหลือทรัพยากรการเรียนรู้ มีการใหก้ าลงั ใจซ่ึงกนั และกนั และคนเก่งช่วยเหลือคนท่ี อ่อนกว่านอกจากน้ียังสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุ พรรษา ครุ ฑเงิน (2555) ได้ ทาการศึกษาวิจยั เพ่ือพฒั นาส่ือมลั ติมีเดียเพ่ือการเรียนรู้ เรื่อง ขอ้ มูลสารสนเทศสาหรับ นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ต้งั สมมุติฐานว่า นักเรียนมีคะแนนหลังเรียน ด้วยสื่อ มลั ติมีเดียเพือ่ การเรียนรู้ เรื่องขอ้ มูลสารสนเทศ สูงกวา่ ก่อนเรียน ผลการวจิ ยั พบวา่ 1) ส่ือ มลั ติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ เรื่องขอ้ มูลสารสนเทศ สาหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 มี ประสิทธิภาพ 82.43/84.80 เป็ นไปตามเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ 2) ผลการเรียนรู้ดว้ ยตวั เอง ดว้ ยส่ือมลั ติมีเดียเพ่อื การเรียนรู้ เร่ืองขอ้ มูลสารสนเทศ สาหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 หลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียน อยา่ งมีนยั สาคญั ที่ 0.5 3) ความพึงพอใจของนกั เรียนที่มี

ต่อสื่อมลั ติมีเดียเพือ่ การเรียนรู้ เร่ืองขอ้ มูลสารสนเทศ สาหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1อยใู่ นระดบั มาก ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะในการนาไปใช้ 1. ครูผสู้ อนควรใหค้ วามสาคญั กบั การวางแผนพฒั นาอยา่ งมีระบบ เนื่องจากการ เรียนคณิตศาสตร์เรียนแลว้ สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ 2. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ครูควรให้นกั เรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิ กิจกรรม เพ่ือใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นากระบวนการคิดไดอ้ ยา่ งอิสระ 3. ครูผูส้ อนจะตอ้ งศึกษาข้นั ตอนในการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ให้ ละเอียดให้เขา้ ใจในการดาเนินกิจกรรมแต่ละข้นั ตอนเพื่อสร้างความมน่ั ใจในการสอน และมีความถูกตอ้ งในการปฏิบตั ิ 4. ใหน้ กั เรียนฝึกฝนตนเองในการทาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย บ่อย ๆ 5. ครูผสู้ อนควรประกาศผลการสอบทุกคร้ัง เพอ่ื ใหน้ กั เรียนทราบถึงขอ้ บกพร่อง ของตวั เอง 6. ครูผสู้ อนควรมีการสร้างแรงจูงใจใหก้ บั นกั เรียน เพ่ือกระตุน้ ใหน้ กั เรียนสนใน ในกิจกรรมการเรียนการสอน 7. ครูผสู้ อนควรกระตุน้ ใหน้ กั เรียนเกิดทกั ษะกระบวนการคิดในการจดั การเรียน การสอน ข้อเสนอแนะในการศึกษาคร้ังต่อไป 1. ครู ผู้สอนควรให้ความสาคัญกับการศึกษาข้อมูลในการสร้างบทเรี ยน คอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย อยา่ งเป็นระบบและละเอียดถ่ีถว้ น

2. การทาวิจยั ในคร้ังต่อไปควรนาไปประยุกตใ์ ช้กบั เน้ือหาอื่น ๆ ของรายวิชา คณิตศาสตร์ ในทุกช้นั เรียน 3. ครูผสู้ อนควรเนน้ การวิจยั ทางคณิตศาสตร์ ที่สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาได้

ภาคผนวก ก รายนามผู้เช่ียวชาญตรวจสอบเครื่องมือ

รายช่ือผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเคร่ืองมือ 1. นางสาวเสาวลกั ษณ์ เกตุแกว้ วฒุ ิการศึกษา คบ. คอมพวิ เตอร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั มหาสารคาม ตาแหน่ง ครู (คอมพวิ เตอร์) วทิ ยฐานะ - โรงเรียนราชมนตรี (ปล้ืม-เชื่อมนุกลู ) 2. นายดนุพล นิโอ๊ะ วฒุ ิการศึกษา คบ. คอมพิวเตอร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั พระนครศรีอยธุ ยา ตาแหน่ง ครู (คอมพวิ เตอร์) วทิ ยฐานะ - โรงเรียนประเทียบวทิ ยาทาน 3. นางสาวสุชาดา วนั สี วฒุ ิการศึกษา คบ. คอมพิวเตอร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั พระนครศรีอยธุ ยา ตาแหน่ง ครู (คอมพิวเตอร์) วทิ ยฐานะ - โรงเรียนวดั มงคล

ภาคผนวก ค ผลการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ - ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการ บอกเวลา การเขียนเวลาโดยใชจ้ ุดและการอ่าน ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย - ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการ บอกช่วงเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดีย - ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการ อ่านตารางเวลา และการบนั ทึกเหตุการณ์หรือกิจกรรมท่ีระบุเวลา ของนกั เรียน ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย - ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความสัมพนั ธ์ระหว่างหน่วยเวลา ของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย - ค่าดัชนีความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทยป์ ัญหาและสถานการณ์เกี่ยวกบั เวลาของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดย ใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย - ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดีย

ภาคผนวก ค (ต่อ) ผลการตรวจสอบคุณภาพเคร่ืองมือ - ค่าดชั นีความสอดคลอ้ งของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนและ หลงั เรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเวลา ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้ บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย - ค่าความยากง่าย ค่าอานาจจาแนก และค่าความเชื่อมน่ั ของแบบทดสอบวดั ผล สัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนและหลงั เรียน วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองเวลา ของนกั เรียน ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย - ค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรี ยนช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี 4

ตาราง 4 ค่าดชั นคี วามสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการบอก เวลา การเขยี นเวลาโดยใช้จุดและการอ่าน ของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดยี ข้อ ประเดน็ ผู้เช่ียวชาญ แปล (คน) ∑ ������ IOC ความหมาย 1 มีความสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ตาม หลกั สูตร 123 ใชไ้ ด้ + 1 + 1 + 1 3.00 1.00 2 สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ใชไ้ ด้ 3 ครอบคลมุ เน้ือหาสาระการเรียนรู้ตามหลกั สูตร +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 4 การเรียงลาดบั ของเน้ือหาสาระการเรียนรู้ + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 5 เน้ือหามคี วามยากง่ายเหมาะสม +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 6 บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียมรี ูปแบบ ใชไ้ ด้ 0 + 1 +1 2.00 0.67 หลากหลาย +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 7 เหมาะสมกบั วฒุ ิภาวะและวยั ของผเู้ รียน ใชไ้ ด้ 8 ความเหมาะสมของภาษาท่ีใช้ +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 9 ความเหมาะสมของเวลาท่ีใช้ +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 10 ภาพประกอบในเอกสารน่าสนใจ +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 11 คาช้ีแจงการใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย +1 + 1 +1 3.00 1.00 +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ ชดั เจน สมบูรณ์ ครบถว้ น 12 เป็ นบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียที่เนน้ +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ +1 + 1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 13 กิจกรรมเป็นกลุ่มและรายบุคคลมีความเหมาะสม +1 +1 +1 3.00 1.00 14 แกป้ ัญหาการเรียนการสอนเรื่องบทประยกุ ตไ์ ด้ +1 +1 +1 3.00 1.00 15 ประยกุ ตใ์ ชใ้ นกิจกรรมกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืนๆ 2.87 0.96 ได้ ค่าเฉลยี่

ตาราง 5 ค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการบอก ช่วงเวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดยี ข้อ ประเดน็ ผู้เชี่ยวชาญ ∑ ������ IOC แปล (คน) ความหมาย 1 มีความสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ตาม หลกั สูตร 12 3 2 สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั +1 +1 + 1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 3 ครอบคลุมเน้ือหาสาระการเรียนรู้ตามหลกั สูตร 4 การเรียงลาดบั ของเน้ือหาสาระการเรียนรู้ +1 0 + 1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 5 เน้ือหามีความยากง่ายเหมาะสม +1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 6 บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียมีรูปแบบ 0 +1 ใชไ้ ด้ +1 +1 + 1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ หลากหลาย 0 +1 + 1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 7 เหมาะสมกบั วฒุ ิภาวะและวยั ของผเู้ รียน + 1 2.00 0.67 8 ความเหมาะสมของภาษาท่ีใช้ 9 ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ +1 +1 + 1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 10 ภาพประกอบในเอกสารน่าสนใจ +1 +1 + 1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 11 คาช้ีแจงการใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย 0 +1 + 1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ +1 +1 + 1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ สมบูรณ์ ครบถว้ น +1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 12 เป็นบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียที่เนน้ 0 +1 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 13 กิจกรรมเป็นกลุ่มและรายบุคคลมีความ +1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ เหมาะสม +1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 14 แกป้ ัญหาการเรียนการสอนเรื่องบทประยกุ ตไ์ ด้ +1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 15 ประยกุ ตใ์ ชใ้ นกิจกรรมกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ 2.60 0.87 ได้ ค่าเฉลยี่

ตาราง 6 ค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองการอ่าน ตารางเวลา และการบันทึกเหตุการณ์ หรื อกิจกรรมท่ีระบุเวลา ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปี ท่ี 4 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย ข้อ ประเดน็ ผู้เชี่ยวชาญ ∑ ������ IOC แปล (คน) ความหมาย 123 1 มีความสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ตาม + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ หลกั สูตร + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 2 สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 3 ครอบคลมุ เน้ือหาสาระการเรียนรู้ตามหลกั สูตร + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 4 การเรียงลาดบั ของเน้ือหาสาระการเรียนรู้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 5 เน้ือหามคี วามยากง่ายเหมาะสม +1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 6 บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียมรี ูปแบบ + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ หลากหลาย +1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 7 เหมาะสมกบั วฒุ ิภาวะและวยั ของผเู้ รียน 8 ความเหมาะสมของภาษาที่ใช้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 9 ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ 0 +1 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 10 ภาพประกอบในเอกสารน่าสนใจ +1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 11 คาช้ีแจงการใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ ชดั เจน สมบูรณ์ ครบถว้ น 12 เป็ นบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียที่เนน้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ 13 กิจกรรมเป็นกลมุ่ และรายบุคคลมคี วามเหมาะสม + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 14 แกป้ ัญหาการเรียนการสอนเร่ืองบทประยกุ ตไ์ ด้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 15 ประยกุ ตใ์ ชใ้ นกิจกรรมกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนๆ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ ได้ ค่าเฉลยี่ 2.60 0.87

ตาราง 7 ค่ าดัชนีความสอดคล้ องของแผนการจัดการเรี ยนรู้ท่ี 4 วิชาคณิ ตศาสตร์ เร่ื อง ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยเวลา ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้บทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดยี ข้อ ประเดน็ ผู้เช่ียวชาญ ∑ ������ IOC แปล ความหมาย 1 มีความสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ตาม (คน) หลกั สูตร 123 2 สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 3 ครอบคลมุ เน้ือหาสาระการเรียนรู้ตามหลกั สูตร + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 4 การเรียงลาดบั ของเน้ือหาสาระการเรียนรู้ 5 เน้ือหามคี วามยากง่ายเหมาะสม + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 6 บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียมีรูปแบบหลากหลาย + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 7 เหมาะสมกบั วฒุ ิภาวะและวยั ของผเู้ รียน + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 8 ความเหมาะสมของภาษาท่ีใช้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 9 ความเหมาะสมของเวลาท่ีใช้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 10 ภาพประกอบในเอกสารน่าสนใจ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 11 คาช้ีแจงการใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียชดั เจน + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ สมบูรณ์ ครบถว้ น + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 12 เป็ นบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียท่ีเนน้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 13 กิจกรรมเป็นกลุ่มและรายบุคคลมีความเหมาะสม 14 แกป้ ัญหาการเรียนการสอนเร่ืองบทประยกุ ตไ์ ด้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 15 ประยกุ ตใ์ ชใ้ นกิจกรรมกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ได้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ ค่าเฉลย่ี 2.73 0.91

ตาราง 8 ค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหา และสถานการณ์ เกี่ยวกับเวลาของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้ บทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดยี ข้อ ประเดน็ ผู้เชี่ยวชาญ ∑ ������ IOC แปล ความหมาย 1 มีความสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ตาม (คน) หลกั สูตร 123 2 สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั 3 ครอบคลุมเน้ือหาสาระการเรียนรู้ตามหลกั สูตร + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 4 การเรียงลาดบั ของเน้ือหาสาระการเรียนรู้ 5 เน้ือหามคี วามยากง่ายเหมาะสม + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 6 บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียมรี ูปแบบหลากหลาย + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 7 เหมาะสมกบั วฒุ ิภาวะและวยั ของผเู้ รียน + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 8 ความเหมาะสมของภาษาท่ีใช้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 9 ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 10 ภาพประกอบในเอกสารน่าสนใจ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 11 คาช้ีแจงการใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียชดั เจน + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ สมบูรณ์ ครบถว้ น + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 12 เป็ นบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียที่เนน้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 13 กิจกรรมเป็นกลมุ่ และรายบุคคลมคี วามเหมาะสม 14 แกป้ ัญหาการเรียนการสอนเรื่องบทประยกุ ตไ์ ด้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 15 ประยกุ ตใ์ ชใ้ นกิจกรรมกลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืนๆ ได้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ ค่าเฉลย่ี 2.73 0.91

ตาราง 9 ค่าดัชนีความสอดคล้องของบทเรียนคอมพิวเตอร์ มัลติมีเดียวิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองเวลา ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดยี ข้อ ประเดน็ ผ้เู ช่ียวชาญ ∑ ������ IOC แปล (คน) ความหมาย 123 1 เน้ือหาในการทาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ ครอบคลมุ หลกั สูตร 2 เน้ือหามคี วามเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั 0 +1 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ จุดประสงคใ์ นการทาบทเรียนคอมพวิ เตอร์ มลั ติมีเดีย 3 บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียมกี ารฝึ ก + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ กระบวนการคิดและการแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ 4 เน้ือหาในบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียมีความ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ สอดคลอ้ งกนั ทุกข้นั ตอน + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 5 เน้ือหาในบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียเป็ นไป ตามลาดบั ข้นั ตอน เรียนรู้จากเรื่องง่ายไปหายาก 6 ภาษาที่ใชใ้ นการทาบทเรียนคอมพวิ เตอร์ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ มลั ติมีเดียมีการใชภ้ าษาไดถ้ กู ตอ้ งชดั เจนและ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ เขา้ ใจง่าย 7 บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียมขี นาดตวั อกั ษร และภาพประกอบที่เหมาะสม 8 บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียมีรูปเล่มสวยงาม + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ เหมาะสมกบั การนาไปใช้ + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 9 บทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียสามารถนาไปใช้ ไดอ้ ยา่ งสะดวกประหยดั และคุม้ ค่า 10 แบบฝึ กทกั ษะเหมาะสมกบั นกั เรียน + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ ค่าเฉลย่ี 2.70 0.90

ตาราง 10 ค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนและหลงั เรียน วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองเวลา ของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 โดยใช้บทเรียน คอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดยี ข้อ รายการประเมิน ผ้เู ชี่ยวชาญ ∑ ������ IOC แปล (คน) ความหมาย 123 1 ขอ้ สอบขอ้ ที่ 1 + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 2 ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 2 + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 3 ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 3 + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 4 ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 4 0 +1 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 5 ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 5 + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 6 ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 6 + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 7 ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 7 + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 8 ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 8 + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 9 ขอ้ สอบขอ้ ที่ 9 0 +1 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 10 ขอ้ สอบขอ้ ที่ 10 + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ ค่าเฉลย่ี 2.60 0.87

ตาราง 11 ค่าความยากง่าย ค่าอานาจจาแนก และค่าความเชื่อม่ันของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนก่อนและหลงั เรียน วิชาคณิตศาสตร์ เร่ืองเวลา ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษา ปี ที่ 4 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดยี รายการประเมนิ ค่าความยากง่าย ค่าอานาจจาแนก แปลคุณภาพ (P) (B) ข้อสอบ ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 1 ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 2 0.53 0.53 ใชไ้ ด้ ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 3 0.60 0.40 ใชไ้ ด้ ขอ้ สอบขอ้ ที่ 4 0.40 0.35 ใชไ้ ด้ ขอ้ สอบขอ้ ที่ 5 0.47 0.53 ใชไ้ ด้ ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 6 0.63 0.60 ใชไ้ ด้ ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 7 0.29 0.68 ใชไ้ ด้ ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 8 0.43 0.60 ใชไ้ ด้ ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 9 0.71 0.53 ใชไ้ ด้ ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 10 0.53 0.40 ใชไ้ ด้ 0.40 0.53 ใชไ้ ด้

ตาราง 12 ค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 ข้อ ประเด็น ผ้เู ชี่ยวชาญ ∑ ������ IOC แปล (คน) ความหมาย 1 วธิ ีการจดั การเรียนรู้ท่ีเริ่มตน้ ดว้ ยการทบทวน ความรู้คาบเรียนที่ผา่ นมา 123 2 บทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดียช่วยทาให้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ เขา้ ใจเน้ือหา เรื่อง การคูณ มากข้ึน + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 3 การทาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ประกอบการจดั การเรียนรู้ทาใหน้ กั เรียน + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ แกป้ ัญหา เรื่อง เวลา ได้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ 4 ในช้นั เรียนเป็นบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 0 +1 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 5 ครูสนบั สนุนและเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนได้ + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ อภิปรายเพ่ือแลกเปล่ียนความรู้กบั เพ่ือน 0 +1 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 6 นกั เรียนพอใจต่อการวดั และประเมินผล ดว้ ย + 1 +1 +1 3.00 1.00 ใชไ้ ด้ วธิ ีการที่หลากหลาย + 1 0 +1 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ 7 มีการวดั และประเมินผลเพ่ือตรวจสอบ + 1 +1 0 2.00 0.67 ใชไ้ ด้ ความกา้ วหนา้ สม่าเสมอ 2.50 0.84 8 นกั เรียนเขา้ ใจเน้ือหาและการแกป้ ัญหา เร่ือง เวลา ไดถ้ ูกตอ้ ง 9 วชิ าคณิตศาสตร์ สามารถประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ได้ 10 นกั เรียนเขา้ ใจวชิ าคณิตศาสตร์มากข้ึนจากการ ทาบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมีเดีย ค่าเฉลย่ี

ภาคผนวก ง ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มัลตมิ เี ดยี - ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียแบบรายบุคคล (Individual Tryout) - ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย แบบกลุ่มเลก็ (Small Group Tryout) - ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดีย แบบภาคสนาม (Field Tryout) - ค่าประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ติมีเดียบทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดีย ทดลองจริงกบั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 4

ตาราง 13 ผลการคานวณหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย แบบรายบคุ คล (Individual Tryout) คะแนน คะแนนบทเรียนคอมพวิ เตอร์มัลติมเี ดยี ระหว่างเรียน คะแนน สอบ สอบ คนที่ ก่อน บทเรียน 1 บทเรียน 2 บทเรียน 3 บทเรียน 4 รวม หลงั เรียน เรียน 10 7 10 8 10 35 10 1 3 5 7 4 7 23 7 2 4 6 8 4 8 26 7 3 2 6 8 5 6 25 8 รวม 9 17 23 13 21 74 22 E1 / E2 = 70.48 / 73.33

ตาราง 14 ผลการคานวณหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย แบบกลุ่มเลก็ (Small Group Tryout) คะแนน คะแนนบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ตมิ ีเดียระหว่างเรียน คะแนน คนที่ สอบ สอบ ก่อนเรียน บทเรียน 1 บทเรียน 2 บทเรียน 3 บทเรียน 4 รวม หลงั เรียน 10 7 10 8 10 35 10 13 5 7 5 8 25 7 23 6 8 5 6 25 8 33 6 7 5 8 26 8 42 5 7 4 7 23 7 54 5 7 4 7 23 7 65 5 8 5 7 25 7 74 5 7 6 7 25 8 83 5 7 4 7 23 7 94 6 8 4 8 26 6 10 2 6 8 5 6 25 6 รวม 33 54 74 47 71 246 71 E1 / E2 = 70.29 / 71.00

ตาราง 15 ผลการคานวณหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย แบบภาคสนาม (Field Tryout) คนที่ คะแนน คะแนนบทเรียนคอมพวิ เตอร์มลั ตมิ ีเดยี ระหว่างเรียน คะแนน สอบ บทเรียน 1 บทเรียน 2 บทเรียน 3 บทเรียน 4 รวม สอบ ก่อนเรียน หลงั เรียน 10 7 10 8 10 35 10 1 3 7 9 8 9 33 8 2 4 7 9 4 9 29 9 3 3 7 9 5 9 30 8 4 3 7 9 5 8 29 9 5 3 7 8 7 8 30 10 6 3 7 8 7 8 30 8 7 2 7 9 7 8 31 8 8 1 7 8 7 8 30 8 9 3 6 9 7 8 30 8 10 2 7 9 6 8 30 8 11 1 6 9 6 7 28 8 12 1 7 9 6 7 29 8 13 1 7 8 6 7 28 9 14 1 7 6 7 8 28 8 15 2 7 6 7 8 28 10 16 3 7 7 7 8 29 8 17 4 4 7 8 7 26 8 18 3 4 7 8 8 27 8 19 4 4 7 6 8 25 9 20 5 4 7 5 8 24 9 21 5 4 9 7 8 28 9 22 4 5 9 5 8 27 8 23 3 5 9 7 8 29 9

ตาราง 15 (ต่อ) ผลการคานวณหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย แบบภาคสนาม (Field Tryout) คนท่ี คะแนน คะแนนบทเรียนคอมพวิ เตอร์มัลตมิ เี ดียระหว่างเรียน คะแนน สอบ บทเรียน 1 บทเรียน 2 บทเรียน 3 บทเรียน 4 รวม สอบ ก่อนเรียน หลงั เรียน 10 7 10 8 10 35 10 24 2 5 9 7 8 29 9 25 6 6 9 5 8 28 9 26 7 6 9 5 8 28 10 27 6 6 9 5 8 28 8 28 7 6 9 5 8 28 8 29 6 6 9 5 8 26 7 30 5 5 9 5 8 25 7 รวม 103 180 250 185 235 850 253 E1 / E2 = 80.95 / 84.33

ภาคผนวก จ คะแนนสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนก่อนเรียนและหลงั เรียน

ตาราง 16 คะแนนสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลงั เรียน คนท่ี คะแนนสอบก่อนเรียน ( 10 คะแนน ) คะแนนสอบหลังเรียน ( 10 คะแนน ) 13 8 24 9 33 8 43 9 53 10 63 8 72 8 81 8 93 8 10 2 8 11 1 8 12 1 8 13 1 9 14 1 8 15 2 9 16 3 8 17 4 8 18 3 8 19 4 9 20 5 8 21 5 8 22 4 8

ตาราง 16 (ต่อ) คะแนนสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลงั เรียน คนท่ี คะแนนสอบก่อนเรียน ( 10 คะแนน ) คะแนนสอบหลงั เรียน ( 10 คะแนน ) 23 3 8 24 2 9 25 6 8 26 7 10 27 6 8 28 7 9 29 6 8 30 7 9 31 6 8 32 7 8 33 7 9 34 6 8 35 7 8 36 6 9 37 7 8 38 6 9 39 7 10 40 7 10 41 6 9 42 7 8 43 6 10 X 3.21 8.54 S.D. 1.64 0.69

ภาคผนวก ฉ ผลการทดสอบสมมตฐิ านของการวจิ ยั