บันทึกขอ้ ความ สว่ นราชการ โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง) ที…่ …………………วนั ท่ี ………… เดอื น …………………….. พ.ศ. ๒๕๖๓ เรือ่ ง ขออนุญาตใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ เรียน ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวัสดิร์ าษฎร์บำรงุ ) ด้วยข้าพเจ้า นางสาวจิระพันธุ์ ปากวิเศษ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์ บำรุง) ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่การสอน รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ๑๔๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทำแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ ตามหลักการพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งแนบเอกสาร หน่วยการเรยี นที่ ๖ ชอื่ หนว่ ย เวลา เวลาเรียน ๑๐ ชัว่ โมง มาพรอ้ มกบั เอกสารนี้ จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดทราบ ลงชอ่ื (นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวเิ ศษ) ตำแหน่ง ครู ลงชื่อ (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ความเห็นผ้อู ำนวยการโรงเรยี น อนุญาต ไม่อนุญาต เพราะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ( นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คำสวัสด์ริ าษฎร์บำรงุ ) ............./................../.............
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๖ เรอ่ื ง เวลา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัส ค ๑๔๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ครูผูส้ อน นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวเิ ศษ โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิร์ าษฎรบ์ ำรุง) สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานี เขต ๑ สำนักานคณะกรรมการการศึกษาข้ึนพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ค๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 160 ชั่วโมง ศึกษาการอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับที่มาก กว่า100,000 และ 0 หลัก ค่าประจำหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก การเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูป กระจายการเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนที่มากกวา 100,000 ค่าประมาณของจำนวนนับ การใช้ เครื่องหมาย ≈ การบวก การลบ การคูณ การหาร การประมาณผลลัพธ์ การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยค สัญลักษณ์ โจทย์ปัญหาการบวกการลบ การคูณ และการหาร แบบรูปของจำนวนที่เกิดจากการคูณ การหาร ด้วยจำนวนเดียวกนั เสน้ ตรง สว่ นของเส้นตรง สว่ นประกอบของมุม ชนดิ ของมุม การวัดและการสรา้ งมมุ ชนิด และสมบัติของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม มุมฉาก ความหมาย การอ่านและเขียนเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหน่ึง ความหมาย การอา่ นและการเขียนทศนิยมไมเ่ กนิ สามตำแหน่ง หลกั ค่าประจำหลักและคา่ ของเลขโดดในแต่ละ หลักของทศนิยม การเขียนทศนิยมในรูปกระจาย การเปรียบเทียบและเรียงลำดับทศนิยม การบวก การลบ เศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบเศษส่วนและ จำนวนคละ การบวก การลบทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบทศนิยม การบอก ระยะเวลาเป็นวนาที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี การเปรยี บเทียบระยะเวลาโดยใช้ความสมั พันธ์ระหวา่ ง หน่วยเวลา การอ่านตารางเวลา โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา การเก็บรวบรวมข้อมูลและการจำแนกข้อมูล การ อ่านและการเขยี นแผนภูมแิ ท่ง (ไม่รวมการย่นระยะ) การอ่านตารางสองทาง โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อ พัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้ เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการ ท่ไี ด้ไปใชใ้ นการเรียนรู้สิง่ ตา่ ง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวันอย่างสรา้ งสรรค์ เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มี ความรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ มคี วามคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์และมีความเช่อื ม่ันในตนเอง รหัสตวั ชวี้ ดั ค. 1.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 ป.4/6 ป.4/7 ป.4/8 ป.4/9 ป.4/10 ป.4/11 ป.4/12 ป.4/13 ป.4/14 ป.4/15 ป.4/16 ค. 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ค. 2.2 ป.4/1 ป.4/2 ค. 3.1 ป.4/1 รวมทง้ั หมด 22 ตวั ช้วี ัด
ตารางวิเคราะหห์ ลกั สตู ร/ออ รหัส ค14101 วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถ ครูผสู้ อน นางสาวจิระพ หน่วยที่ มฐ. ตวั ชว้ี ัด จุดประสงค์การเรียนรู้ หน่วยท่ี 6 ค 2.1 ป.4/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของ 1.บอกเวลาโดยใช้จดุ และบอก เวลา โจทย์ปญั หาเกยี่ วกับเวลา เวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที การ อ่านเวลาได้ (K) 2.เขยี นเวลาโดยใช้จุดและ บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การอ่านเวลาได้ (P) 3.เห็นประโยชนแ์ ละความ จำเป็นในการนำการบอกเวลา และการอา่ นเวลาไปใชใ้ นชีวติ จริง (A) 1.บอกชว่ งเวลาได้ (K) 2.เขยี นแสดงช่วงเวลาได้ (P) 1.บอกเหตกุ ารณต์ า่ งๆได้ (K) 2.เขยี นแสดงกจิ กรรมต่างๆ ตามเวลาทก่ี ำหนดได้ (P)
อกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ ถมศึกษาปที ่ี 4 ปีการศกึ ษา 2563 พนั ธุ์ ปากวิเศษ สาระการเรียนรู้ กระบวนการ ช้ินงาน สื่อการสอน วัดผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมนิ เรียน 1. การบอกเวลา การ อธิบาย - 1.นาฬิกา 1.ทดสอบ 2 เขียนบอกเวลา โดยใช้ 2.บทเรียน (กอ่ นเรยี น) จดุ และอา่ น มัลติมีเดยี 2.ตรวจ เรือ่ งเวลา แบบฝึกหดั 1.การบอกช่วงเวลา 1.ประดษิ ฐ์ 1.นาฬิกา 1.ตรวจ 2 นาฬิกา 2.บทเรียน แบบฝึกหดั 1.การอา่ นตารางที่ กำหนดให้ มลั ตมิ ีเดยี เรอ่ื งเวลา - 1.ตาราง 1.ตรวจ 2 บันทกึ แบบฝึกหดั
หนว่ ยท่ี มฐ ตวั ชี้วดั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.บอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง หนว่ ยเวลาได้ (K) 2.เขียนแสดงความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งหน่วยเวลาได้ (P) 1.วิเคราะหโ์ จทย์ปญั หา เกยี่ วกบั เวลาได้ (K) 2.เขียนแสดงการหาคำตอบ ของโจทย์ปัญหาเก่ียวกบั เวลา ได้ (P)
สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชนิ้ งาน สือ่ การสอน วัดผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมนิ เรียน 2.การอ่านและการ กจิ กรรม บนั ทกึ กิจกรรมหรอื ต่างๆ เหตุการณต์ ่าง ๆ ทร่ี ะบุ เวลา 1.ความสัมพันธร์ ะหว่าง - 1.ปา้ ยมาตรา 1.ตรวจ 2 นาที ชั่วโมง วัน เวลา แบบฝึกหดั สปั ดาห์ เดือนและปี 2.มาตราเวลา 1.โจทย์ปัญหาและ - - 1.ทดสอบ 2 สถานการณ์เกยี่ วกบั (หลงั เรียน) เวลา 2.ตรวจ แบบฝกึ หดั
โรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ดริ์ าษฎร์บำรงุ ) โครงการสอนปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ รหสั ค๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลาเรยี น ๔ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ครูผสู้ อน นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวิเศษ สัปดาห์ คาบท่ี หน่วยการเรียนร/ู้ เรอ่ื ง มฐ/ตวั ชวี้ ัด ค ๑.๑ ป. ๔/๑ ๑-๓ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ จำนวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ ป. ๔/๒ ๑-๒ การบอกจำนวน การอา่ นและการเขยี นตัวหนังสือตัวเลข ฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยแทน ค ๑.๑ ป. ๔/๗ ป. ๔/๘ ๓ การเขยี นรปู กระจาย และคา่ ของตวั เลขในแตล่ ะหลัก ป. ๔/๑๐ ๔-๕ การเปรยี บเทียบจำนวน ป. ๔/๑๑ ๖-๗ การเรยี งลำดบั ป. ๔/๑๒ ๘-๙ แบบรูปของจำนวนท่ีเพมิ่ และลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั ค ๑.๑ ป. ๔/๗ ป. ๔/๙ ๑๐-๑๒ การประมาณค่าจำนวนใกลเ้ คียง ป. ๔/๑๑ ป. ๔/๑๒ ๔-๘ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ การบวกและการลบจำนวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ ค ๑.๑ ป. ๔/๗ ๑-๒ การบวกจำนวนทม่ี ีหลายหลกั ป. ๔/๙ ๓-๔ การบวกจำนวนที่มหี ลายหลกั และมีการทด ๑,๐๐๐,๐๐๐ ป. ๔/๑๑ ป. ๔/๑๒ ๕-๖ การบวกจำนวนทีม่ ีผลบวกไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ๗-๘ การบวกจำนวนสามจำนวน ๙-๑๐ การลบจำนวนท่มี ีหลายหลกั ๑๑-๑๓ การลบจำนวนทีม่ ีหลายหลกั และมีการกระจาย ๑๔-๑๖ การบวกและการลบระคน ๑๗-๑๙ โจทยป์ ญั หาการบวกและการลบ ๙-๑๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ การคณู ๑-๓ การคูณจำนวนที่มหี นึ่งหลักกบั จำนวนท่มี ีหลายหลัก ๔-๖ การคูณจำนวนท่ีมีสองหลกั กบั จำนวนที่มมี ากกว่าสองหลกั ๗-๙ การคูณจำนวนท่ีมากกว่าสองหลักกับจำนวนท่มี ากกวา่ ๑๐-๑๒ กสอารงคหูณลักจำนวนสามหลกั กับจำนวนที่มีสามหลัก ๑๓-๑๕ สรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณ ๑๖-๑๘ โจทย์ปญั หาการคูณ ๑๓-๑๗ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ การหาร ๑-๒ การหารที่ตัวหารมหี นงึ่ หลกั ๓-๔ การหารทีต่ วั หารมีสองหลัก
สปั ดาห์ คาบท่ี หน่วยการเรยี นรู/้ เร่อื ง มฐ/ตวั ช้ีวดั ๑๘-๒๑ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ การหาร ป. ๔/๑๑ ๒๒-๒๔ ป. ๔/๑๒ ๒๔-๒๘ ๕-๖ การหารทีต่ ัวหารมีสามหลัก ๒๘-๒๖ ๗-๙ การหารท่ีตัวหารไมเ่ กินสามหลกั ค ๑.๑ ป. ๔/๑๐ ๒๗-๒๘ ๑๐-๑๑ สร้างโจทยป์ ัญหาการหาร ป. ๔/๑๑ ๑๒-๑๔ โจทย์ปัญหาการหาร ป. ๔/๑๒ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๕ การบวก ลบ คณู และรหารจำนวนนบั ๑-๔ การบวก ลบ คูณ หารระคน ค ๒.๑ ป. ๔/๑ ๕-๘ การแกโ้ จทย์ปญั หาการบวก และการลบระคน ป.๓/๙ ๙-๑๒ การแกโ้ จทย์ปญั หาการคณู และการหารระคน ๑๓-๑๖ โจทย์ปญั หาการบวก การลบการคูณและการหารระคน ค ๑.๑ ป. ๔/๓ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๖ เวลา ป. ๔/๔ ๑-๒ การบอกเวลา การเขียนเวลาโดยใช้จุดและการอา่ น ๓-๔ การบอกชว่ งเวลา ค ๑.๑ ป. ๔/๑๓ ๕-๖ การอ่านตารางเวลา และการบันทึกเหตุการณ์หรือ ป. ๔/๑๔ กิจกรรมทีร่ ะบเุ วลา ค ๑.๑ ป. ๔/๕ ๗-๘ ความสมั พันธ์ระหวา่ งหนว่ ยเวลา ป. ๔/๖ ๙-๑๐ โจทย์ปัญหาและสถานการณเ์ กยี่ วกับเวลา หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๗ เศษส่วน ๑-๒ ความหมายของเศษส่วน เศษสว่ นแท้ เศษเกนิ ไม๓เ่ ก-๔ิน ๑๐๐จำ,๐น๐ว๐นคละ ๕-๖ การทำเศษสว่ นท่ีเท่ากบั จำนวนนบั ๗-๘ เศษส่วนทเ่ี ท่ากัน ๙-๑๐ เศษส่วนอย่างต่ำ ๑๑-๑๒ การเปรียบเทียบและเรยี งลำดบั เศษสว่ น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๘ การบวก ลบ เศษสว่ น ๑-๒ การบวก ลบ เศษสว่ นท่มี ีตวั ส่วนเทา่ กัน ๓-๔ การบวก ลบ เศษส่วนทีม่ ีตวั ส่วนไม่เท่ากนั ๕-๖ การบวก ลบ เศษสว่ นระคน ๗-๙ โจทยป์ ัญหาการบวก ลบ เศษสว่ น หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๙ ทศนยิ ม ๑-๒ การอา่ นและการเขียนทศนยิ มหนึ่งตำแหน่ง ๓ ค่าประจำหลกั ของทศนิยม
สปั ดาห์ คาบท่ี หนว่ ยการเรียนรู/้ เรอ่ื ง มฐ/ตวั ช้วี ดั (ต่อ) หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๙ ทศนยิ ม ค ๑.๑ ป. ๔/๑๕ ป. ๔/๑๖ ๔-๕ การเปรียบเทยี บทศนยิ ม ค ๒.๑ ป. ๔/๒ ๖-๗ การอา่ นและการเขยี นทศนิยมไม่เกนิ สามตำแหน่ง ค ๒.๒ ป. ๔/๑ ๘-๙ การเขียนทศนยิ มในรูปกระจาย ค ๒.๑ ป.๔/๒ ค ๒.๒ ป.๔/๑ ๒๙-๓๑ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑๐ การบวกลบทศนยิ มไม่เกินสามตำแหนง่ ๑-๓ การบวกทศนยิ มไม่เกินสามตำแหนง่ ค ๓.๑ ป.๔/๑ ๓๑-๓๕ ๔-๖ การลบทศนยิ มไม่เกินสามตำแหน่ง ๗-๑๑ โจทยป์ ญั หาการบวกและการลบทศนิยมทีม่ ผี ลลัพธ์ ไม่ เกินทศนยิ มสามตำแหน่ง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๑ มมุ ๑-๒ ระนาบ จดุ สว่ นของเส้นตรง เส้นตรง และรงั สี ๓-๔ มมุ จุดยอดมุม แขนของมุม การเรียกชื่อมุม ๕-๖ การเรียกชอ่ื มมุ และสัญลักษณแ์ ทนมุม ๗ ชนดิ ของมมุ ๘-๑๑ การวัดขนาดของมมุ ๑๒-๑๕ การสร้างมมุ โดยใชไ้ ม้โปรแทรกเตอร์ ๓๕-๓๗ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๑๒ รูปสเ่ี หล่ียมมุมฉาก ๑ ส่เี หลีย่ มมุมฉาก ๒ รูปสเี่ หล่ยี มทไ่ี ม่ใช่ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉาก ๓ แกนสมมาตรของรปู สีเ่ หล่ียม ๔ การสร้างรูปสีเ่ หล่ียมมมุ ฉาก ๕ ความยาวรอบรปู ส่เี หลี่ยม ๖ การหาพื้นท่ีรูปส่ีเหลีย่ มมมุ ฉาก ๗-๘ โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับความยาวรอบรปู สเ่ี หลยี่ ม ๓๘-๔๐ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๓ ข้อมลู และการนำเสนอขอ้ มลู ๑ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ๒ การอา่ นแผนภูมิแท่ง ๓ การเขยี นแผนภมู แิ ท่ง ๔-๕ แผนภูมิแท่งเปรยี บเทียบ ๖-๗ การอ่านตาราง สอบปลายภาค ๑-๒ ทบทวนบทเรียน ๓ ทบทวนบทเรียน
สปั ดาห์ คาบท่ี หนว่ ยการเรยี นร/ู้ เรอื่ ง มฐ/ตวั ชว้ี ดั สอบปลายภาค ๔ สอบปลายภาค ๕ สอบปลายภาค เทคนิค /กระบวนการ/ วธิ กี ารสอน การจดั การเรียนรู้ตามหลกั การพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นตอนที่ ๑ : เตรียมความพร้อม เพื่อเป็นการกระตุ้นสมอง ตามหลักการทำงานของสมอง เมื่อมีการเคลื่อนไหว ร่างกายอย่างมีความสุข สมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้มีความสำคัญมาก ช่วยให้มีจิตใจท่ี สงบและเกิดสมาธิ ซึ่งจะแตกต่างจาก เอนดอร์ฟิน (Endorphin) และ โดพามีน (Dopamine) ที่จะช่วยให้มีความสุขและ สนุกสนาน ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ว่า ทุกชั่วโมงที่ครูเข้าสอน ครูจะต้อง Warm Up ก่อนเสมอ โดยใช้เวลาไมเ่ กิน ๕ นาที ขั้นตอนท่ี ๒ : เรียนรู้ ในขน้ั ตอนนีจ้ ะคำนึงถงึ หลักการทำงานของสมองที่วา่ “เรยี นรจู้ ากงา่ ยไปหายาก เรียนรู้จาก ของจริง และจากการสัมผัส” จากการศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า “มือ” เป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสที่ส่งผล ต่อการเรียนรู้ได้ดีที่สุด รองลงมาคือ “ปาก” นั่นก็หมายถึง ต้องให้เด็กพูด หรือสื่อสาร การสื่อสารจะช่วยให้เด็กสามารถ เชื่อมโยงเรื่องได้ ดังนั้น การออกแบบรูปแบบการสอน สื่อการสอน คุณครูต้องคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองอย่างมาก การเรียนการสอนจึงจะประสบความสำเร็จ ในขั้นตอนที่ ๒ นี้ มีขั้นตอนย่อยที่สำคัญหนึ่งคือ “การสรุปในแต่ละชั่วโมง” ทางโรงเรียนได้สนบั สนนุ ให้มีการฝึกอบรม Graphic Organizer ให้แกค่ ุณครูทกุ กลุ่มสาระ ตลอดจนหนังสือท่ีเก่ียวข้องจาก ตา่ งประเทศ เพือ่ ให้คุณครใู ชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการสรปุ ทช่ี ว่ ยใหเ้ ด็กเกดิ ความสนกุ เกดิ การเรียนรู้ และจดจำไดง้ า่ ยขน้ึ ขั้นตอนที่ ๓ : ขั้นการฝึก ขัน้ นจ้ี ะสอดคลอ้ งกับหลักการทำงานของสมองที่ว่า “สมองจะจดจำได้ดีนำไปสู่ความจำ ระยะยาว (Long-term Memory) ต้องผ่านกระบวนการฝกึ ซ้ำๆ” คำว่า “ซ้ำๆ” ในที่นี้ไมไ่ ด้หมายถึง การทำโจทย์เดมิ ซ้ำๆ แต่หมายถึงการใช้หลักการ เช่น หลักการบวก ก็นำไปใช้กับการบวกที่แตกต่างกันออกไปในโจทย์ คุณครูจึงจำเป็นต้อง ออกแบบใบงานที่แตกตา่ งออกไป เพอ่ื ให้นกั เรยี นได้ฝกึ ฝนเร่ือยๆ ขั้นตอนที่ ๔ : ขั้นการสรุป ขั้นนี้เป็นการสรุปเมื่อจบบทเรียนหรือหน่วย ซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนที่ ๒ ซึ่งเป็นการ สรุปในแต่ละชั่วโมง ในขั้นตอนนี้เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย โดยใช้ Graphic Organizer ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยง ความรู้ภายในบทเรียน สอดคล้องกับหลักการทำงานของสมองที่ว่า “สมองเรียนรู้เป็นองค์รวม” ซึ่งขั้นตอนนี้มีความสำคญั ตอ่ เด็กมาก และเปน็ ขนั้ ตอนทคี่ ่อนขา้ งยาก ครเู องกจ็ ำเปน็ ตอ้ งฝึกฝนบอ่ ยๆ เช่นกนั ขั้นตอนที่ ๕ : ขั้นการประยุกต์ใช้ทันทีทันใด การที่เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั้น ทำให้เกิดการ เรียนรู้ไดถ้ ึงร้อยละ ๙๐ ดังนั้น เมื่อจบบทเรียน คุณครูต้องคิด ต้องออกแบบ เชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย นำข้อสอบมาให้เดก็ ทดลองทำ
การวดั และประเมินผล วธิ กี ารเกบ็ คะแนน คะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = ๗๐ : ๓๐ โดยแบ่งดงั น้ี เร่อื งทีเ่ กบ็ คะแนน คะแนน ประเภทเคร่ืองมือ ๑.คะแนนเกบ็ ก่อนกลางปี ๒๕ ๑.๑ ผลงานนกั เรยี น ๑๕ สมดุ แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ช้นิ งาน ๑.๒ ทดสอบหลังเรียน ๑๐ แบบทดสอบหลงั เรียน ๒. สอบกลางปี ๒๐ แบบทดสอบ ๓.คะแนนหลังกลางปี ๒๕ ๓.๑ ผลงานนกั เรียน ๑๕ สมดุ แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชิน้ งาน ๓.๒ ทดสอบหลงั เรยี น ๑๐ แบบทดสอบหลงั เรียน ๔.สอบปลายปี ๓๐ รวม ๑๐๐ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ -สือ่ ประจำหนว่ ยการจัดการเรยี นรู้ -หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์ และแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท
แผนผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นรู้/ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทักษะ/กระบวนการ(Process: P) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. บอกเวลาโดยใชจ้ ุดและบอก 1.เขยี นเวลาโดยใช้จุดและบอก 1. มีวินัย เวลาเปน็ นาฬิกาและนาที การ เวลาเป็นนาฬิกาและนาที การ 2. ใฝเ่ รียนรู้ อ่านเวลาได้ (K) อา่ นเวลาได้ (P) 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 2. บอกชว่ งเวลาได้ (K) 2.เขยี นแสดงชว่ งเวลาได้ (P) 3. บอกเหตุการณต์ ่างๆได้ (K) 3.เขียนแสดงกิจกรรมต่างๆตาม 4. บอกความสมั พันธร์ ะหว่าง เวลาทก่ี ำหนดได้ (P) หนว่ ยเวลาได้ (K) 4. เ ข ี ย น แ ส ด ง ค ว า ม ส ั ม พ ั น ธ์ 5. วิเคราะห์โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับ ระหว่างหน่วยเวลาได้ (P) เวลาได้ (K) 5.เขียนแสดงการหาคำตอบของ โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั เวลาได้ (P) เป้าหมายการเรียน เร่อื งเวลา หลักฐานการเรียนรู้ - ประดษิ ฐ์นาฬกิ า
แผนผงั มโนทัศนข์ นั้ ตอนการทำกจิ กรรมประกอบการจดั การเรียนรู้ดว้ ย การสอนตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ศกึ ษามาตรฐานการรเรียนรู้ / ตวั ชี้วัด และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ทำกิจกรรมโดยใชก้ ระบวนการจดั การเรยี นรู้ตามหลักการพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นท่ี 1 เตรียมความพร้อม ข้นั ท่ี 2 เรียนรู้ ขนั้ ที่ 3 ขั้นการฝึก ข้นั ที่ 4 ขัน้ การสรุป ข้นั ที่ 5 ขน้ั การประยกุ ต์ใช้ทันทที ันใด ทดสอบหลังเรียน (ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60)
ผงั มโนทัศน์ หนว่ ยการ หนว่ ยการเรีย จำนวน 1 แผนท่ี 1 การบอกเวลา การเขยี นบอก แผนท่ี 2 การบ เวลา โดยใช้จุดและอ่าน แผนที่ 5 โจทยป์ ญั ห แผนท่ี 4 ความสัมพันธร์ ะหว่างหน่วย เกยี่ วกับ เวลา การเรียนรแู้ บ ภาษาไทย 1.ฟังแสดงความคิดเห็น 2.พดู แสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถามอา่ นและสะกดคำ 3.การเขียนส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
รเรยี นร้ทู ่ี 6 เวลา ยนรู้ที่ 6 เวลา 10 ชัว่ โมง บอกช่วงเวลา แผนท่ี 3 การอ่านตารางเวลา และการ บันทึกเหตกุ ารณ์หรอื กิจกรรมที่ระบุเวลา หาและสถานการณ์ บเวลา บบบูรณาการ ศลิ ปะ : ทศั นศลิ ป์ 1. การออกแบบตกแต่งงานประดษิ ฐ์นาฬกิ า
แผนบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมภี มู ิคมุ้ กนั ในตัวที่ดี 1. ออกแบบการจัดกิจกรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรยี นร้สู ่งเสริมกระบวนการคดิ 1. ศึกษาแนวทางการจัดการเรยี นรลู้ ว่ งหน้า ตวั ชีว้ ัด 2. ใชเ้ ทคนิคการจดั การเรียนร้ทู ่ีหลากหลาย 2. จัดเตรียมการวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลอื กส่ือ แหล่งเรยี นรู้เหมาะสม สังเกตพฤติกรมนักเรียน 3. วัดผลประเมินผลตรงตามเนอ้ื หา เงอ่ื นไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. รูจ้ กั เทคนิคการสอนที่สง่ เสริมกระบวนการคิด และนักเรยี น 1. มคี วามขยนั เสยี สละ และม่งุ ม่ันในการจดั หาสือ่ มาพฒั นานักเรยี น สามารถเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ใหบ้ รรลุตามจุดประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพอ่ื พฒั นานักเรยี นโดยใช้เทคนคิ การสอนท่ี หลากหลาย นักเรยี น ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ท่ีดี 1. การใช้เวลาในการทำกิจกรรม/ภาระงาน 1. ฝกึ กระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 1. วางแผนการศกึ ษาค้นควา้ อิสระ ได้อย่างเหมาะสม ทนั เวลา 2. ฝึกกระบวนการแสดงข้ันตอนการหาผลลัพธ์ 2. นำความรเู้ ร่อื งเวลาไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน 2. เลอื กสมาชกิ กลุ่มได้เหมาะสมกับเนอ้ื หาที่ ได้ เรียนและศักยภาพของตน เง่ือนไขความรู้ เงือ่ นไขคณุ ธรรม 1. มีความรู้เร่อื งเวลาตลอดจนสามารถสรา้ งจัดทำช้นิ งาน ไดต้ าม 1. มีความรับผิดชอบ และปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงของกล่มุ วตั ถปุ ระสงค์ 2. มีสติ มีสมาธชิ ่วยเหลอื กนั ในการทำงานรว่ มกัน สง่ ผลตอ่ การพฒั นา 4 มติ ิใหย้ ่ังยนื ยอมรบั ต่อการเปล่ยี นแปลงในยุคโลกาภิวัฒน์ วตั ถุ สังคม สงิ่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความรูค้ วามเข้าใจ เรื่องเวลา มคี วามรู้และเข้าใจ มีความรู้และเข้าใจ มีความรแู้ ละเขา้ ใจการ กระบวนการทำงาน เกีย่ วกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ช่วยเหลอื แบ่งปัน กลุ่ม และสิง่ ต่าง ๆรอบตวั ทักษะ (P) สรา้ งชน้ิ งานนาฬกิ า ทำงานไดส้ ำเรจ็ ตาม ใช้แหลง่ เรยี นรู้โดยไม่ ช่วยเหลือ แบง่ ปันซงึ่ เปา้ หมาย ด้วย ทำลายส่ิงแวดล้อม กัน และกัน กระบวนการกลมุ่ คา่ นยิ ม (A) เหน็ ประโยชน์ของเรียนรู้ เกยี่ วกับเวลา เห็นคณุ ค่า และ เห็นคณุ คา่ ของการใช้ ปลูกฝงั นสิ ัยการ ภาคภูมิใจในการ แหล่งเรียนรู้โดยไม่ ชว่ ยเหลือแบง่ ปัน ทำงานรว่ มกันได้ ทำลายสิง่ แวดล้อม สำเรจ็
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เร่ือง เวลา เวลา 10 ช่วั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ท่ีตอ้ งการวัด และนำไปใช้ ตัวชี้วดั ป.4/1 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั เวลา 2. สาระสำคัญ การเขียนบอกเวลา โดยทวั่ ไปจะใช้จดุ คัน่ ระหว่างชว่ั โมงกบั นาทแี ลว้ ตอ่ ทา้ ยด้วยคำวา่ นาฬิกา โดยใช้ อกั ษรย่อว่า น. หนา้ ปดั นาฬิกาโดยทัว่ ไปมเี ข็มส้ัน เข็มยาว ตวั เลข และขีดแบ่งเวลา เข็มสั้นบอกเวลาเป็นชว่ั โมง เขม็ ยาว บอกเวลาเปน็ นาที บางคร้งั อาจมเี ข็มบางๆ เลก็ ๆ สำหรับบอกวินาทดี ้วยการเขยี นบอกเวลาทำได้ 2 ลักษณะ คือ การเขยี นบอกเวลาโดยใช้ภาษาพูด และการเขียนบอกเวลาโดยใชภ้ าษาเขยี น การอา่ นตารางเวลาช่วย ให้นกั เรยี นกำหนดเวลาในการเดินทางไดถ้ กู ตอ้ ง และการเขียนบันทกึ เหตกุ ารณ์ หรอื กิจกรรมสามารถเขยี นอยู่ใน รปู ตารางหรอื บนั ทึกไว้ จำนวนนับที่หารจำนวนนับตัง้ แตส่ องจำนวนขึน้ ไปไดล้ งตวั เรียกว่า ตวั หารร่วม หรอื ตวั ประกอบรว่ มของจำนวนนับเหล่าน้ัน การแก้โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับเวลา เปน็ การนำเวลามาบวก ลบ คณู หารกนั โดยต้ังหนว่ ยเวลาทีเ่ ป็นหน่วยใหญไ่ ว้ทางซา้ ยมือ และต้ังหนว่ ยเวลาท่เี ปน็ หน่วยย่อยไวท้ างขวามือ 3. สาระการเรยี นรู้ - การบอกเวลา การเขยี นบอกเวลา โดยใช้จดุ และอา่ น- จำนวนเฉพาะ - การบอกชว่ งเวลา - การอา่ นตารางทก่ี ำหนดให้ - การอา่ นและการบนั ทกึ กจิ กรรมหรอื เหตกุ ารณ์ต่างๆ ท่ีระบเุ วลา - ความสัมพนั ธร์ ะหว่างนาที ชัว่ โมง วัน สัปดาห์ เดือนและปี - มาตราเวลา - โจทยป์ ัญหาและสถานการณเ์ ก่ียวกบั เวลา 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ประดิษฐ์นาฬกิ า 7. การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 ตรวจแบบฝกึ หัดหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 ตรวจช้นิ งานหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 แบบฝึกหดั หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ สังเกตความมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่นั ใน ชิน้ งานหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ระดบั คุณภาพ 2 การทำงาน ผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมที่ 1 การบอกเวลา การเขียนเวลาโดยใชจ้ ดุ และการอา่ น ช่ัวโมงท่ี 1 1. ครูใหน้ กั เรยี นทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจาก น้ันใหน้ ักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทำแบบทดสอบบทเรยี นมัลตมิ เี ดีย 2. การสอนการบอกเวลา การเขยี นบอกเวลา โดยใชจ้ ดุ และอ่าน ครจู ดั กิจกรรมโดยให้นกั เรยี นศกึ ษาจาก บทเรยี นมลั ตมิ เี ดยี 3. นกั เรียนและครรู ว่ มสนทนากนั ถงึ เรอ่ื งเวลา และส่งิ ทีบ่ อกเวลาเรยี กวา่ นาฬกิ านักเรียนดูนาฬกิ าจำลอง สงั เกตส่วนประกอบของนาฬกิ า ชั่วโมงที่ 2 1. ครูละนกั เรยี นร่วมกนั สนทนาการหมุนของนาฬิกาว่าหมนุ ไปทางขวา การเดนิ ของเขม็ วินาที 1 รอบ จะเท่ากับเข็มนาที 1 ขดี และการเดนิ ของเข็มนาที 1 รอบ จะเทา่ กับการเดินของเขม็ ชัว่ โมง 1 ชอ่ งตวั เลขโดยทว่ั ๆ ไป เชน่ บ่ายโมง ตหี น่ึง เป็นต้น 2. ใหน้ กั เรยี นฝกึ ต้ังเข็มนาฬกิ าบนนาฬกิ าจำลองโดยครูบอกเวลาเป็นตวั เลขแลว้ ใหน้ กั เรียนตงั้ เขม็ นาฬกิ าไปพรอ้ มๆ กนั แลว้ ชว่ ยกันตรวจดูว่าถูกตอ้ งหรอื ไม่ ทำเชน่ น้หี ลายครั้ง 3. ให้นักเรยี นฝกึ ตัง้ เขม็ นาฬกิ าบนนาฬิกาจำลองโดยครบู อกเวลาเปน็ ตัวเลขแล้วให้นักเรยี นตั้งเขม็ นาฬกิ า ไปพรอ้ มๆ กนั แล้วชว่ ยกันตรวจดูวา่ ถูกต้องหรอื ไม่ ทำเช่นนหี้ ลายครัง้ 4. นกั เรยี นและครชู ว่ ยกนั สรปุ ความรเู้ รือ่ งนาฬกิ า ดงั น้ี -หนา้ ปดั นาฬิกามตี วั เลข 1 - 12 แสดงเวลาเปน็ ชว่ั โมง -แตล่ ะชว่ งของตัวเลขมีขดี 5 ขดี รวมมี 12 ชอ่ งตวั เลข มี 60 ขีด เท่ากบั 60 นาที
-มีเข็มบอกเวลา เป็นเข็มสั้น เข็มยาว และเขม็ บางเล็ก -หน่วยของเวลาเปน็ ช่วั โมง นาที และวนิ าที ซึ่งมีความสมั พนั ธก์ ันดังต่อไปนี้ 60 วนิ าที เป็น 1 นาที 60 นาที เปน็ 1 ชัว่ โมง 24 ชว่ั โมง เปน็ 1 วัน 5. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. กิจกรรมที่ 2 การบอกช่วงเวลา ชว่ั โมงที่ 1 1. ครใู ห้นักเรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลังจาก น้ันให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนเรื่องนาฬกิ าทีเ่ รยี นมาแลว้ 3. ให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ 2 กลุ่ม กลุ่ม 1 การบอกเวลาโดยใชภ้ าษาเขียนเวลากลางวัน และเวลากลางคืน กลุ่ม 2 การบอกเวลาโดยใช้จดุ เวลากลางวนั และเวลากลางคนื ชวั่ โมงท่ี 2 1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มแขง่ ขนั กนั ตามบตั รบอกเวลา แลว้ ให้ - กลมุ่ ที่ 1 บอกเวลาเป็นภาษาเขยี น - กลุ่ม 2 บอกเวลาโดยใชจ้ ุด 2. ตรวจสอบความถกู ต้อง กลุ่มใดถูกมากทส่ี ุด ตรงไหนผดิ ช่วยกนั แกไ้ ข 3. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ ความรเู้ ร่ืองการเขยี นบอกเวลาดงั น้ี - บอกเวลาโดยใช้ภาษาเขียน บอกเวลาเปน็ นาฬกิ ากบั นาทีโดยเขม็ ส้นั บอกเวลาเป็นนาฬิกา และเข็มยาวบอกเวลาเป็นนาที - การบอกเวลาโดยใช้จดุ ตวั เลขหนา้ จุดบอกเวลาเป็นนาฬิกา ตวั เลขหลังจุดบอกเวลาเปน็ นาที - ตวั เลขบอกนาฬิกา มตี ั้งแต่ 0 นาฬิกา ถึง 24 นาฬิกา และตัวเลขบอกนาทตี ง้ั แต่ 1 นาที 59 นาที 4. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. กิจกรรมท่ี 3 การอ่านตารางเวลา และการบนั ทึกเหตุการณห์ รือกจิ กรรมท่ีระบุเวลา ชัว่ โมงท่ี 1 1. ครูให้นกั เรียนทอ่ งสูตรคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจาก นัน้ ให้นักเรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ครนู ำแผนภมู ิตารางเวลาการเดินรถใหน้ กั เรียนดู แลว้ บอกสว่ นประกอบของตารางและใหน้ กั เรียนตอบ คำถาม 3. ครใู หน้ กั เรียนฝกึ อ่านตารางเวลาเดนิ รถ โดยครูอ่านให้นักเรยี นฟังเป็นตวั อย่าง 4. ครใู ห้นกั เรียนตอบคำถามจากข้อมูลในตารางการเดนิ รถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ชั่วโมงที่ 2 1. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกีย่ วกับกจิ วัตรประจำวัน หรอื การเดนิ ทางไปสถานทตี่ ่างๆ ทีน่ ักเรียนประทับใจ และถามนกั เรียนวา่ เคยจดบนั ทึกเหตกุ ารณเ์ หลา่ น้ันไวบ้ ้างหรอื ไม่ แล้วครูยกตวั อย่างบนั ทึกกิจกรรมให้นกั เรียนดู
2. ครใู ห้นกั เรียนศึกษาตวั อยา่ งการบันทกึ เหตุการณห์ รอื กิจกรรม แล้วให้นักเรยี นฝึกต้งั คำถาม-ตอบ คำถาม หลงั จากท่ีนกั เรียนเข้าใจเก่ียวกับการอา่ นตารางและบันทึกเหตกุ ารณ์หรอื กจิ กรรมแล้วครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภิปรายจนไดข้ ้อสรปุ วา่ - ตารางเวลา เปน็ แผนภมู ิแสดงกำหนดเวลาท่สี มั พันธ์กับกจิ กรรม เชน่ ตารางเวลารถไฟ ตารางสอน เปน็ ต้น - การบนั ทกึ เหตกุ ารณห์ รอื กจิ กรรม เปน็ การเขยี นบนั ทึกรายการกิจกรรมหรือเหตกุ ารณ์ ตา่ งๆ ท่ีกระทำไปแลว้ ในวนั เวลา สถานทต่ี า่ งๆ 3. ครูใหน้ ักเรียนฝกึ อ่านตารางและบนั ทึกเหตกุ ารณแ์ ละกิจกรรม โดยให้นกั เรยี นทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะ และประดษิ ฐน์ าฬกิ า 4. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ ความรเู้ ร่ืองการเขยี นบอกเวลาดงั น้ี - บอกเวลาโดยใชภ้ าษาเขียน บอกเวลาเปน็ นาฬกิ ากับนาทโี ดยเข็มส้นั บอกเวลาเปน็ นาฬิกา และเข็มยาวบอกเวลาเปน็ นาที - การบอกเวลาโดยใชจ้ ุด ตัวเลขหน้าจดุ บอกเวลาเปน็ นาฬิกา ตัวเลขหลงั จุดบอกเวลาเปน็ นาที - ตวั เลขบอกนาฬกิ า มีตง้ั แต่ 0 นาฬกิ า ถงึ 24 นาฬิกา และตัวเลขบอกนาทีตั้งแต่ 1 นาที 59 นาที 5. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. กิจกรรมท่ี 4 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งหนว่ ยเวลา ช่ัวโมงท่ี 1 1. ครใู ห้นกั เรยี นทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก นั้นให้นักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเก่ียวกบั มาตราเวลา โดยใหน้ กั เรยี นดูแผนภมู ิและอ่านพร้อมกนั 3. การสอนความสมั พนั ธ์ระหวา่ งนาที ชว่ั โมง วนั สปั ดาห์ เดอื นและปี ครจู ัดกิจกรรมโดยให้ นกั เรยี นศกึ ษาจากบทเรยี นมลั ตมิ เี ดยี 4. ครยู กตวั อยา่ งโจทยก์ ารเปลีย่ นหน่วยเวลาจากหน่วยหน่งึ เปน็ อกี หนว่ ยหนง่ึ โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ ของหนว่ ยเวลาทก่ี ำหนดในมาตราเวลา ช่ัวโมงที่ 2 1. ครูจดั กจิ กรรมโดยให้นกั เรยี นศกึ ษาจากบทเรียนมัลตมิ เี ดยี 2. ครยู กตวั อยา่ งการเปลี่ยนหนว่ ยเวลาหลายๆ ตัวอยา่ ง ให้นักเรยี นฝกึ เปล่ียนหน่วยเวลา แลว้ รว่ มกนั อภิปรายวธิ ีการเปลยี่ นหนว่ ยเวลา 3. ครยู กตวั อย่างโจทย์การเปลยี่ นหนว่ ยเวลาจากหนว่ ยใหญเ่ ป็นหน่วยยอ่ ย และจากหน่วยย่อยเปน็ หน่วย ใหญ่ หลังจากท่นี กั เรยี นเขา้ ใจเกยี่ วกบั เรือ่ ง ความสัมพนั ธร์ ะหว่างหน่วยเวลาแลว้ ครูและนักเรยี นรว่ มกันอภปิ ราย จนไดข้ ้อสรุปว่า - การเปลี่ยนหน่วยเวลา เป็นการเปลี่ยนหน่วยเวลาจากหน่วยหนึ่งเป็นอีกหน่วยหน่ึง โดยใช้ความสัมพันธ์ ของหนว่ ยเวลาทก่ี ำหนดในมาตราเวลามาชว่ ย 4. ใหน้ ักเรยี นแสดงวิธกี ารเปล่ยี นหน่วยเวลา โดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ของหนว่ ยเวลาทก่ี ำหนดในมาตราเวลา ทำลงในสมดุ และร่วมกันเฉลย
5. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ วา่ การเปล่ียนหนว่ ยเวลา เป็นการเปลย่ี นหนว่ ยเวลาจากหน่วยหน่ึงเป็นอีก หน่วยหนง่ึ โดยใช้ความสัมพนั ธ์ของหน่วยเวลาท่กี ำหนดในมาตราเวลามาช่วย 6. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมท่ี 5 โจทย์ปัญหาและสถานการณ์เกี่ยวกับเวลา ชวั่ โมงท่ี 1 1. ครูให้นกั เรยี นท่องสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจาก นนั้ ให้นกั เรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ 2. ครจู ัดกจิ กรรมโดยให้นักเรยี นศกึ ษาจากบทเรยี นมัลติมีเดีย 3. ครูตดิ แถบโจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั เวลาใหน้ ักเรยี นอ่าน แลว้ ซกั ถามนกั เรยี น 4. ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตการแสดงวธิ ที ำ แล้วร่วมกันอภปิ รายหลงั จากท่นี ักเรยี นเข้าใจเกี่ยวกบั การแกโ้ จทย์ ปญั หาเก่ยี วกบั เวลาแล้ว ครูและนักเรยี นรว่ มกันอภิปราย จนได้ข้อสรุปว่า - การแก้โจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั เวลา เป็นการนำหนว่ ยเวลามาบวก ลบ คูณ หรือหารกัน โดยต้ังหน่วยเวลา หนว่ ยใหญไ่ ว้ทางซา้ ยมือ และหนว่ ยยอ่ ยไวท้ างขวามือ - การแก้โจทย์ปญั หามีขนั้ ตอนเหมอื นการแก้โจทย์ปัญหาท่วั ไป คือ วเิ คราะหโ์ จทยว์ า่ โจทยก์ ำหนดอะไร ชวั่ โมงที่ 2 5. ครูใหน้ กั เรยี นฝึกแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั เวลา โดยครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน แข่งขันกนั แก้โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกับเวลา จากแถบโจทยป์ ัญหาทค่ี รตู ดิ บนกระดาน โดยครเู ปดิ ใหน้ กั เรยี นดู ทีละขอ้ กลมุ่ ใด ตอบไดถ้ กู ต้องภายในเวลาทค่ี รูกำหนดจะได้ขอ้ ละ 1 คะแนน จากนั้นใหต้ วั แทนกลุ่มทต่ี อบคำถามถูกตอ้ งมาแสดง วิธีทำให้เพื่อนดู แลว้ ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง 6. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ วา่ - การแก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับเวลา เป็นการนำหนว่ ยเวลามาบวก ลบ คูณ หรอื หารกนั โดยตง้ั หน่วยเวลา หน่วยใหญ่ไว้ทางซ้ายมือ และหนว่ ยย่อยไว้ทางขวามือ - การแกโ้ จทย์ปัญหามขี ั้นตอนเหมือนการแกโ้ จทย์ปัญหาทั่วไป คอื วเิ คราะห์โจทย์ว่า โจทยก์ ำหนดอะไร โจทยถ์ ามอะไร และใชว้ ิธีการใดหาคำตอบ แลว้ แสดงวธิ ที ำ 7. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบบทเรยี นมลั ติมเี ดีย 9. สอื่ / แหลง่ เรียนรู้ 1.แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - แบบทดสอบหลงั เรียน 2. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 3. นาฬิกา 4. บทเรียนมัลติมีเดีย เรื่องเวลา 5. แผนภูมติ ารางการเดินทาง และมาตราเวลา
โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรงุ ) อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ขอ้ สอบบทที่ 6 เวลา มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.4/1 คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนทำเคร่อื งหมาย x ทบั อักษรหน้าคำตอบท่ีถูกต้องทีส่ ุดเพยี งคำตอบเดียว จำนวน 10 ข้อ ขอ้ 1. รูปใดคือเวลา 22.05 น. ขอ้ 4 . หากตอนนเี้ ปน็ ตอนเชา้ นาฬิกาเรือนนจ้ี ะ อา่ นเวลาว่าอย่างไร ก. ข. ก. 6 นาฬิกา 45 นาที ข. หา้ นาฬิกา เก้านาที ค. ง. ค. ห้านาฬิกา ส่ีสิบห้านาที ขอ้ 2 . ขอ้ ใดอา่ นเวลาไดถ้ กู ตอ้ ง ง. 17 นาฬกิ า 45 นาที ก. 16.36 น. อา่ นวา่ สี่นาฬกิ า สามสบิ หกนาที ข้อ 5. ขอ้ ใดต่อไปนีก้ ลา่ วไมถ่ ูกตอ้ ง ข. 12.00 อา่ นวา่ หน่ึงสองนาฬิกา ก. 1 ชวั่ โมง มี 60 นาที ค. 3.50 น. อ่านว่า สามนาฬิกา ห้าศนู ย์นาที ข. ครง่ึ ชว่ั โมง มี 30 นาที ง. 22.41 น. อ่านวา่ ยส่ี บิ สองนาฬกิ า สส่ี บิ เอ็ด ค. 1 สปั ดาห์ มี 42 ชว่ั โมง ง. 1 วัน มี 24 ชั่วโมง นาที ขอ้ 3 . หากขณะนี้เวลา 23.59 น. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ ข้อ 6. สมใจออกจากห้างสรรพสนิ ค้าเวลา 14.00 น. ถูกตอ้ ง ถงึ บา้ นเวลา 16.00 น. สมใจใช้เวลาเดนิ ทางก่ีช่ัวโมง ก. อกี 2 นาที เป็นเวลา 00.02 น. ข. อกี 1 นาที เปน็ เวลา 00.00 น. ค. เม่ือ 60 นาทีทแี่ ล้ว เปน็ เวลา 22.59 น ก. 1 ชว่ั โมง ข. 4 ชว่ั โมง ง. เมอื่ 9 นาทีท่ีแล้ว เป็นเวลา 23.50 น. ค. 3 ชวั่ โมง ง. 2 ชวั่ โมง
ขอ้ 7. เพียวเรมิ่ ออกกำลงั กายเวลา 13.28 น. ใช้ เวลาออกกำลงั กาย 45 นาที เพียวจะออกกำลังกาย เสรจ็ เวลาใด ก. 12.43 น. ข. 14.03 น. ค. 14.13 น. ง. 14.23 น. ขอ้ 8. หยกขอคุณแมเ่ ล่นเกมส์ 1 ช่วั โมง 20 นาที หยกเร่ิมเล่นเกมสเ์ วลา 19.45 น. หยกจะเล่นเกมส์ เสรจ็ เวลาใด ก. 18.25 น. ข. 21.00 น. ค. 21.05 น. ง. 21.15 น. ขอ้ 9. เวลา 6 ชวั่ โมง 8 นาที คิดเปน็ กนี่ าที ก. 360 นาที ข. 68 นาที ค. 1,448 นาที ง. 368 นาที ข้อ 10. นายชพู กั เท่ียง ตอน 12.00 น. ขณะนนี้ ายชู พกั เทย่ี งแต่ นายชาติถามนายชวู ่าเลิกงานก่โี มง นาย ชายจงึ ตอบวา่ อกี 4 ชวั่ โมง อยากทราบว่านายชูเลิก งานเวลาเทา่ ใด ก. 16.00 น. ข. 21.00 น. ค. 8.00 น. ง. 18.00 น. *********** ขอให้ทุกคนโชคดี ************ ผู้ตรวจขอ้ สอบ ลงชอื่ .................................................ครผู ู้สอน (นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวิเศษ)
ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ดา้ น คำชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน ในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งว่าง ใหต้ รงกบั ระดับคะแนน และตามความเป็นจรงิ โดยมีเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั นี้ 4 = พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนมาก และบอ่ ยครั้งสม่ำเสมอ 3 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ 2 = พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง 1 = พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั บิ างครง้ั คุณลกั ษณะอนั ระดบั คะแนน พึงประสงค์ รายการประเมนิ 4 321 ดา้ น 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรกั และภูมใิ จในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภักดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ 2. ซือ่ สัตย์สจุ ริต 2.1 ปฏิบัตติ ามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงต่อความเป็นจรงิ ต่อผอู้ ื่น 3. มีวินัย 3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 3.2 แตง่ กายเรียบรอ้ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของหอ้ ง 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบันทกึ ความรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล 5. อยูอ่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรพั ย์สนิ และส่งิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด พอเพยี ง 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงิน 6. มงุ่ มน่ั ในการ 6.1 มคี วามตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานท่ไี ด้รับมอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออปุ สรรค เพ่ือให้งานสำเร็จ 7. รักความเปน็ 7.1 มจี ติ สำนกึ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รู้จกั การให้เพ่อื ส่วนรวม และเพ่ือผู้อน่ื 8.2 แสดงออกถงึ การมีนำ้ ใจหรือการใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้อ่ืน 8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญตนเพอ่ื ส่วนรวมเมอื่ มโี อกาส ช่ือ......................................................................................................................ช้ัน.................เลขที.่ .................
แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ผลการประเมิน รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ำรงุ ) ปีการศกึ ษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนน และสรปุ ผลการประเมินคุณภาพ เกณฑก์ ารให้คะแนน เลขที่ ชื่อ-สกลุ การป ิฏสัม ัพนธ์ ักน การสนทนาเร่ือง ่ีทกำหนด การติดต่อสื่อสาร พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม รวม ระดับคุณภาพ แปลผล 4 4 4 4 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดีมาก) ลงชือ่ .........................................ผปู้ ระเมนิ ได้คะแนน 11-13 คะแนน = 3 (ดี) (นางสาวจริ ะพันธ์ุ ปากวิเศษ) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน = 2 (พอใช)้ วัน....เดือน...............ป.ี ...... ไดค้ ะแนน 0-7 คะแนน = 1 (ปรับปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมินตอ้ งได้ 2 (พอใช)้ ขนึ้ ไป
แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมการทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรงุ ) ปกี ารศกึ ษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรุปผลการประเมินคณุ ภาพ ผลการประเมิน เลขท่ี ช่อื -สกลุ คะแนน ระดับคุณภาพ แปลผล 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดมี าก) ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมิน ไดค้ ะแนน 11-13 คะแนน =3 (ดี) (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวิเศษ) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช้) วัน....เดอื น...............ปี....... ได้คะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรบั ปรงุ ) * เกณฑผ์ า่ นการประเมินต้องได้ 2 (พอใช้) ขนึ้ ไป
แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมการทำแบบทดสอบ รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรงุ ) ปีการศกึ ษา 2562 คำชี้แจง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนนทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรียน และประเมินผล ผลการประเมนิ เลขที่ ชื่อ-สกุล คะแนนก่อนเรยี น(10) คะแนนหลังเรยี น(10) ร้อยละ ผ่าน/ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 * ( ผเู้ รียนต้องมีคะแนนสอบหลงั เรียนผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๖๐ ) ลงชอ่ื .........................................ผู้ประเมนิ (นางสาวจริ ะพันธุ์ ปากวิเศษ) วัน....เดอื น...............ปี.......
บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ สรปุ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ .....................คน คิดเป็นร้อยละ.................. ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนรู้..................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. 2. แนวทางแก้ไขนักเรยี นทไ่ี มผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ 3. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ไม่ผ่าน............ คน ผ่าน.............คน ดี..................คน ดีเยย่ี ม................คน ระดับดีขน้ึ ไป รอ้ ยละ..................... 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ไมผ่ า่ น............ คน ผา่ น.............คน ดี..................คน ดีเยย่ี ม................คน ระดบั ดขี ึ้นไป รอ้ ยละ..................... 5. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทำเครอื่ งหมาย / ในชอ่ งว่างท่ีตรงกับทักษะท่ีเกดิ การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา การสรา้ งสรรค์ ความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ การสอื่ สาร ด้านความรว่ มมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะผ้นู ำ ทักษะการเปลีย่ นแปลง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นการสอน/ปญั หา/ อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข • แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 เรื่องการบอกเวลา การเขยี นบอกเวลา โดยใชจ้ ดุ และอา่ น ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ • แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ืองการบอกช่วงเวลา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ • แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เรือ่ งการอา่ นตารางเวลา และการบันทกึ เหตกุ ารณห์ รอื กจิ กรรมท่ีระบเุ วลา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................
ผลการจัดการเรยี นการสอน/ปัญหา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ งความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งหน่วยเวลา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ • แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอ่ื งโจทย์ปัญหาและสถานการณ์เก่ียวกบั เวลา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวิเศษ) ความคดิ เหน็ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นร้/ู ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอื่ …………………………………………………… (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ .................../......................./......................... ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถ)ิ โรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คำสวัสดริ์ าษฎร์บำรงุ ) ................../......................./.........................
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 10 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เวลา เวลา 2 ช่วั โมง เร่อื ง การบอกเวลา การเขียนเวลาโดยใชจ้ ดุ และการอ่าน 1. สาระสำคัญ การเขยี นบอกเวลา โดยทัว่ ไปจะใชจ้ ดุ คน่ั ระหว่างช่วั โมงกับนาทีแล้วต่อทา้ ยดว้ ยคำว่า นาฬกิ า โดยใช้ อกั ษรยอ่ ว่า น. 2. ตัวชี้วัด ค 2 .1 ป.4/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลา 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกเวลาโดยใชจ้ ดุ และบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที การอ่านเวลาได้ (K) 2. เขียนเวลาโดยใชจ้ ดุ และบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที การอ่านเวลาได้ (P) 3. เหน็ ประโยชนแ์ ละความจำเป็นในการนำการบอกเวลาและการอ่านเวลาไปใช้ในชีวิตจรงิ (A) 4. สาระการเรียนรู้ การบอกเวลา การเขียนบอกเวลา โดยใชจ้ ุดและอ่าน 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ขนั้ ตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ กั เรียนท่องสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลงั จาก นั้นให้นกั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ และทำแบบทดสอบบทเรยี นมลั ติมีเดยี
ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. การสอนการบอกเวลา การเขยี นบอกเวลา โดยใช้จดุ และอา่ น ครจู ดั กิจกรรมโดยให้ นกั เรยี นศึกษาจากบทเรียนมลั ติมเี ดยี ดังนี้ 3. นกั เรยี นและครูรว่ มสนทนากันถงึ เร่ืองเวลา และสงิ่ ทบ่ี อกเวลาเรียกวา่ นาฬิกานกั เรียนดูนาฬิกาจำลอง สังเกตส่วนประกอบของนาฬกิ า ข้นั ตอนท่ี 2 : เรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 2 4. ครูละนกั เรยี นร่วมกันสนทนาการหมนุ ของนาฬิกาว่าหมนุ ไปทางขวา การเดนิ ของเข็มวินาที 1 รอบ จะเท่ากับเข็มนาที 1 ขีด และการเดนิ ของเขม็ นาที 1 รอบ จะเทา่ กับการเดินของเข็มชวั่ โมง 1 ชอ่ งตวั เลขโดยทั่วๆ ไป เชน่ บ่ายโมง ตีหนง่ึ เปน็ ตน้ ขั้นตอนที่ 3 : การฝกึ 5. ใหน้ กั เรยี นฝึกตงั้ เข็มนาฬิกาบนนาฬิกาจำลองโดยครูบอกเวลาเป็นตวั เลขแลว้ ให้นกั เรียนต้ังเข็ม นาฬิกาไปพรอ้ มๆ กนั แล้วช่วยกันตรวจดูวา่ ถกู ตอ้ งหรือไม่ ทำเชน่ นีห้ ลายครงั้ 6. ให้นักเรยี นฝึกตง้ั เขม็ นาฬกิ าบนนาฬิกาจำลองโดยครบู อกเวลาเปน็ ตวั เลขแลว้ ใหน้ กั เรียนตงั้ เขม็ นาฬกิ า ไปพรอ้ มๆ กนั แลว้ ช่วยกนั ตรวจดวู ่าถกู ตอ้ งหรือไม่ ทำเชน่ นหี้ ลายคร้งั ข้นั ตอนท่ี 4 : การสรุป 7. นกั เรยี นและครชู ว่ ยกนั สรปุ ความรเู้ รือ่ งนาฬกิ า ดงั น้ี -หน้าปดั นาฬกิ ามตี วั เลข 1 - 12 แสดงเวลาเป็นชวั่ โมง -แตล่ ะชว่ งของตัวเลขมขี ีด 5 ขดี รวมมี 12 ชอ่ งตัวเลข มี 60 ขีด เท่ากบั 60 นาที -มีเขม็ บอกเวลา เปน็ เขม็ ส้นั เขม็ ยาว และเข็มบางเล็ก -หน่วยของเวลาเปน็ ชวั่ โมง นาที และวนิ าที ซ่งึ มีความสมั พนั ธ์กนั ดังตอ่ ไปนี้ 60 วินาที เป็น 1 นาที 60 นาที เปน็ 1 ชั่วโมง 24 ชวั่ โมง เป็น 1 วัน ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที 8. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท.
8. การวัดผลและประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สังเกตความมีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน 2. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น การประเมินผล 1. ถอื เกณฑ์ผ่านจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผทู้ ไ่ี ดร้ ะดับคณุ ภาพต้ังแต่ ๒ ขนึ้ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผทู้ ี่ทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คุณภาพตั้งแต่ ๒ ขนึ้ ไป 3. ถือเกณฑ์ผ่านสำหรบั ผทู้ ี่ทำงานได้ระดบั คณุ ภาพต้งั แต่ ๒ ข้นึ ไป 4. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผทู้ ี่ทำงานทำแบบทดสอบก่อนเรยี นไดร้ ้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป 9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 3. นาฬกิ า 4. บทเรียนมัลติมเี ดยี เร่ืองเวลา
กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เวลา วชิ าคณิตศาสตร์ เวลา 10 ชว่ั โมง เร่ืองการบอกช่วงเวลา เวลา 2 ช่วั โมง 1. สาระสำคญั หนา้ ปัดนาฬกิ าโดยทว่ั ไปมเี ข็มส้ัน เข็มยาว ตวั เลข และขีดแบ่งเวลา เขม็ สน้ั บอกเวลาเป็นชวั่ โมง เข็มยาว บอกเวลาเปน็ นาที บางครงั้ อาจมีเข็มบางๆ เลก็ ๆ สำหรับบอกวนิ าทีด้วยการเขยี นบอกเวลาทำได้ 2 ลกั ษณะ คอื การเขยี นบอกเวลาโดยใช้ภาษาพูด และการเขยี นบอกเวลาโดยใช้ภาษาเขยี น 2. ตัวชวี้ ดั ค 2.1 ป.4/1 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลา 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกช่วงเวลาได้ (K) 2. เขยี นแสดงชว่ งเวลาได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ การบอกชว่ งเวลา 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ กั เรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจาก นั้นให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนที่ 2 : เรยี นรู้ 2. ครทู บทวนเรื่องนาฬกิ าท่ีเรยี นมาแลว้
ขั้นตอนท่ี 3 : การฝึก 3. ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็น 2 กลมุ่ กลุ่ม 1 การบอกเวลาโดยใชภ้ าษาเขียนเวลากลางวัน และเวลากลางคนื กลุ่ม 2 การบอกเวลาโดยใช้จดุ เวลากลางวันและเวลากลางคืน ช่วั โมงที่ 2 4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มแขง่ ขนั กนั ตามบตั รบอกเวลา แลว้ ให้ - กลมุ่ ที่ 1 บอกเวลาเป็นภาษาเขยี น - กลุ่ม 2 บอกเวลาโดยใชจ้ ุด 5. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง กลุ่มใดถูกมากที่สุด ตรงไหนผิดชว่ ยกันแกไ้ ข ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรุป 6. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ ความรเู้ ร่ืองการเขยี นบอกเวลาดงั น้ี - บอกเวลาโดยใช้ภาษาเขยี น บอกเวลาเปน็ นาฬกิ ากบั นาทโี ดยเข็มส้นั บอกเวลาเป็นนาฬิกา และเขม็ ยาวบอกเวลาเปน็ นาที - การบอกเวลาโดยใชจ้ ดุ ตวั เลขหน้าจดุ บอกเวลาเป็นนาฬิกา ตวั เลขหลังจดุ บอกเวลาเป็นนาที - ตวั เลขบอกนาฬิกา มตี ้งั แต่ 0 นาฬิกา ถงึ 24 นาฬิกา และตวั เลขบอกนาทตี งั้ แต่ 1 นาที 59 นาที ขนั้ ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ชท้ ันที 10. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมินผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ ม่นั ในการทำงาน 2. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน การประเมินผล 1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรับผทู้ ีไ่ ดร้ ะดบั คณุ ภาพต้ังแต่ ๒ ขนึ้ ไป 2. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ท่ที ำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพตั้งแต่ ๒ ขน้ึ ไป 3. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผทู้ ที่ ำงานได้ระดับคณุ ภาพตงั้ แต่ ๒ ขน้ึ ไป 9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 2. บทเรียนมลั ติมีเดีย เร่อื งเวลา 3. นาฬิกา
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 10 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เวลา เวลา 2 ช่ัวโมง เรอื่ งการอา่ นตารางเวลา และการบันทึกเหตุการณ์หรอื กิจกรรมทรี่ ะบเุ วลา 1. สาระสำคญั การอ่านตารางเวลาชว่ ยใหน้ ักเรียนกำหนดเวลาในการเดนิ ทางได้ถกู ตอ้ ง และการเขยี นบนั ทึกเหตกุ ารณ์ หรือกิจกรรมสามารถเขียนอยู่ในรปู ตารางหรือบนั ทึกไว้ 2. ตวั ช้ีวัด ค 2.1 ป.4/1 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับเวลา 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกเหตุการณต์ ่างๆได้ (K) 2. เขยี นแสดงกิจกรรมตา่ งๆตามเวลาทก่ี ำหนดได้ (P) 3. ประดิษฐ์นาฬกิ า (P) 4. สาระการเรยี นรู้ - การอา่ นตารางท่กี ำหนดให้ - การอ่านและการบนั ทกึ กิจกรรมหรือเหตุการณ์ตา่ งๆ ทร่ี ะบเุ วลา 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขัน้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ กั เรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จาก น้นั ให้นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรยี นรู้ 2. ครูนำแผนภมู ิตารางเวลาการเดินรถใหน้ ักเรียนดู แล้วบอกส่วนประกอบของตารางและใหน้ ักเรียนตอบ คำถาม ดังน้ี
กำหนดเวลาเดินรถไฟสายตะวนั ออกเฉียงเหนือ จากสถานกี รุงเทพฯ ถงึ สถานีสรุ นิ ทร์ ขบวนรถ ดว่ นพิเศษ ธรรมดา สถานี 971 63 กรงุ เทพฯ อ. 06.05 น. 15.25 น. นครราชสมี า ถ. 10.00 น. 21.15 น. อ. 10.10 น. 21.28 น. สรุ นิ ทร์ ถ. 00.57 น. 12.12 น. อ. หมายถงึ เวลาขบวนรถออก ถ. หมายถงึ เวลาขบวนรถถึง - ตารางนเ้ี ป็นตารางเวลาอะไร (ตารางเวลาเดนิ รถไฟสายตะวนั ออกเฉียงเหนอื จาก สถานกี รุงเทพฯ ถงึ สถานีสุรินทร์) - ในตารางใหข้ ้อมลู อะไรบ้าง (ชือ่ ตาราง, สถานีรถไฟ, ขบวนรถ, เวลาทีร่ ถออกและเวลาท่รี ถมาถงึ ) - ตารางนี้มปี ระโยชนอ์ ย่างไร (ทำให้ทราบเวลาเดินรถ เพราะรถจะออกตามเวลาทก่ี ำหนดแน่นอน) 3. ครูใหน้ กั เรียนฝกึ อา่ นตารางเวลาเดินรถ โดยครอู ่านใหน้ กั เรยี นฟงั เป็นตวั อยา่ ง ดงั นี้ - รถดว่ นพเิ ศษ 971 ออกจากสถานีกรงุ เทพฯ เวลา 06.05 น. ถงึ สถานีนครราชสมี า เวลา 10.00 น. - รถธรรมดา 63 ออกจากสถานกี รุงเทพฯ เวลา 15.25 น. ถึงสถานนี ครราชสมี า เวลา 21.15 น. 4. ครใู หน้ กั เรยี นตอบคำถามจากขอ้ มลู ในตารางการเดินรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนี้ - รถด่วนพเิ ศษ 971 ออกจากนครราชสีมาเวลาใด (10.10 น.) - รถธรรมดา 63 ถงึ สถานีสุรินทร์เวลาใด (00.57 น.) - รถขบวนใดออกจากกรุงเทพฯ เวลา 15.25 น. (รถธรรมดา 63) - รถขบวนด่วนพเิ ศษ 971 จากนครราชสีมาถึงสรุ นิ ทรใ์ ชเ้ วลาเทา่ ใด (2 ชั่วโมง 2 นาที) ชว่ั โมงท่ี 2 ขัน้ ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 5. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั กจิ วัตรประจำวนั หรือการเดนิ ทางไปสถานท่ตี ่างๆ ที่นักเรียนประทับใจ และถามนกั เรยี นว่าเคยจดบันทึกเหตกุ ารณเ์ หล่าน้ันไว้บ้างหรือไม่ แลว้ ครยู กตัวอยา่ งบันทึกกจิ กรรมใหน้ กั เรยี นดู ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 6. ครูให้นกั เรยี นศึกษาตวั อย่างการบันทกึ เหตกุ ารณห์ รอื กจิ กรรม แลว้ ใหน้ ักเรียนฝึกตงั้ คำถาม-ตอบ คำถาม หลังจากทนี่ ักเรยี นเขา้ ใจเกีย่ วกับการอ่านตารางและบันทกึ เหตกุ ารณ์หรือกิจกรรมแล้วครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายจนได้ขอ้ สรุปว่า
- ตารางเวลา เป็นแผนภูมแิ สดงกำหนดเวลาที่สมั พนั ธก์ บั กจิ กรรม เชน่ ตารางเวลารถไฟ ตารางสอน เปน็ ตน้ - การบนั ทึกเหตกุ ารณห์ รอื กจิ กรรม เป็นการเขยี นบนั ทึกรายการกจิ กรรมหรือเหตุการณ์ ต่างๆ ท่กี ระทำไปแลว้ ในวนั เวลา สถานทต่ี ่างๆ 7. ครใู ห้นกั เรียนฝึกอา่ นตารางและบนั ทกึ เหตุการณ์และกจิ กรรม โดยให้นกั เรียนทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะ และประดิษฐน์ าฬกิ า ขั้นตอนที่ 4 : การสรปุ 8. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ ความรเู้ ร่ืองการเขยี นบอกเวลาดงั น้ี - บอกเวลาโดยใช้ภาษาเขียน บอกเวลาเป็นนาฬกิ ากับนาทีโดยเขม็ ส้นั บอกเวลาเปน็ นาฬิกา และเขม็ ยาวบอกเวลาเปน็ นาที - การบอกเวลาโดยใชจ้ ุด ตัวเลขหน้าจดุ บอกเวลาเปน็ นาฬกิ า ตัวเลขหลังจุดบอกเวลาเป็นนาที - ตัวเลขบอกนาฬิกา มตี ้ังแต่ 0 นาฬกิ า ถึง 24 นาฬิกา และตัวเลขบอกนาทตี ง้ั แต่ 1 นาที 59 นาที ขนั้ ตอนที่ 5 : การประยุกต์ใชท้ ันที 9. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวัดผล 1. สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน 2. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน การประเมนิ ผล 1. ถอื เกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรับผทู้ ไ่ี ด้ระดบั คุณภาพต้งั แต่ ๒ ข้ึนไป 2. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรับผทู้ ่ีทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คุณภาพตั้งแต่ ๒ ข้ึนไป 3. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผูท้ ท่ี ำงานได้ระดบั คุณภาพต้ังแต่ ๒ ข้นึ ไป 9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 2. นาฬิกา 3. แผนภมู ิตารางการเดินทาง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 เวลา เวลา 10 ชั่วโมง เร่อื งความสมั พันธ์ระหวา่ งหน่วยเวลา เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ จำนวนนับท่หี ารจำนวนนบั ตงั้ แต่สองจำนวนข้นึ ไปไดล้ งตวั เรยี กวา่ ตัวหารรว่ ม หรอื ตวั ประกอบร่วมของ จำนวนนับเหลา่ น้นั 2. ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.4/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับเวลา 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความสมั พันธร์ ะหวา่ งหนว่ ยเวลาได้ (K) 2. เขียนแสดงความสัมพันธร์ ะหวา่ งหนว่ ยเวลาได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ 1. ความสัมพนั ธร์ ะหว่างนาที ช่ัวโมง วัน สปั ดาห์ เดอื นและปี 2. มาตราเวลา 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใชช้ วี ติ 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุง่ มั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงท่ี 1 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ กั เรยี นท่องสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลังจาก นนั้ ให้นกั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ
ข้ันตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครสู นทนากบั นักเรียนเก่ียวกบั มาตราเวลา โดยให้นกั เรียนดแู ผนภูมิและอ่านพร้อมกัน ดงั น้ี 60 วินาที เป็น 1 นาที 60 นาที เปน็ 1 ชัว่ โมง 24 ชั่วโมง เป็น 1 วนั 7 วัน เปน็ 1 สัปดาห์ 28, 29, 30 หรือ 31 วนั เป็น 1 เดือน 52 สปั ดาห์ เปน็ 1 ปี 12 เดือน เป็น 1 ปี 365 หรอื 366 วัน เป็น 1 ปี 3. การสอนความสมั พันธร์ ะหว่างนาที ชั่วโมง วัน สปั ดาห์ เดอื นและปี ครูจัดกจิ กรรมโดยให้ นกั เรยี นศึกษาจากบทเรียนมลั ติมเี ดยี ดงั นี้ 4. ครูยกตัวอย่างโจทยก์ ารเปล่ยี นหนว่ ยเวลาจากหน่วยหนงึ่ เปน็ อกี หน่วยหน่ึงโดยใช้ความสมั พนั ธ์ ของหน่วยเวลาที่กำหนดในมาตราเวลา ตัวอย่าง 120 วนิ าที คดิ เป็นกน่ี าที วธิ คี ดิ 60 วินาที เปน็ 1 นาที 120 วินาที เปน็ 120 ÷ 60 = 2 นาที ดงั นั้น 120 วินาที เทา่ กบั 2 นาที
ชวั่ โมงท่ี 2 ขัน้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 5. ครูจดั กจิ กรรมโดยใหน้ ักเรยี นศกึ ษาจากบทเรียนมลั ตมิ เี ดีย ดงั น้ี 6. ครยู กตวั อยา่ งการเปลย่ี นหน่วยเวลาหลายๆ ตวั อยา่ ง ใหน้ กั เรยี นฝกึ เปลยี่ นหนว่ ยเวลา แล้วร่วมกนั อภิปรายวิธกี ารเปลี่ยนหนว่ ยเวลา ดังนี้ การเปลี่ยนหนว่ ยเวลาจาก การเปลีย่ นหนว่ ยเวลาจาก หน่วยใหญ่เป็นหน่วยย่อย หน่วยย่อยเปน็ หน่วยใหญ่ จำนวนนาที × 60 = วินาที จำนวนวนิ าที ÷ 60 = นาที จำนวนชวั่ โมง × 60 = นาที จำนวนนาที ÷ 60 = ชวั่ โมง จำนวนวนั × 24 = ชว่ั โมง จำนวนช่ัวโมง ÷ 24 = วัน จำนวนสปั ดาห์ × 7 = วัน จำนวนวนั ÷ 7 = สัปดาห์ จำนวนเดอื น × 30 = วัน จำนวนวัน ÷ 30 = เดอื น จำนวนปี × 365 = วนั จำนวนสัปดาห์ ÷ 52 = ปี จำนวนปี × 52 = สัปดาห์ จำนวนเดือน ÷ 12 = ปี จำนวนปี × 12 = เดือน จำนวนวัน ÷ 365 = ปี 7. ครูยกตวั อย่างโจทย์การเปล่ยี นหนว่ ยเวลาจากหนว่ ยใหญเ่ ปน็ หนว่ ยย่อย และจากหน่วยยอ่ ยเปน็ หน่วย ใหญ่ ดงั นี้ ตัวอย่าง นดิ ทำงานวันละ 480 นาที คดิ เป็นก่ีชั่วโมง วิธคี ิด 60 นาที เปน็ 1 ชัว่ โมง 480 ÷ 60 = 8 ชัว่ โมง ดงั นัน้ นิดทำงานวันละ 8 ชวั่ โมง
หลังจากทีน่ กั เรยี นเขา้ ใจเกย่ี วกับเรอื่ ง ความสัมพันธ์ระหว่างหนว่ ยเวลาแล้ว ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภิปราย จนได้ขอ้ สรปุ ว่า - การเปลี่ยนหน่วยเวลา เป็นการเปลี่ยนหน่วยเวลาจากหน่วยหนึ่งเป็นอีกหน่วยหน่ึง โดยใช้ความสัมพันธ์ ของหนว่ ยเวลาทกี่ ำหนดในมาตราเวลามาชว่ ย ขั้นตอนที่ 3 : การฝึก 8. ให้นกั เรียนแสดงวิธกี ารเปลี่ยนหนว่ ยเวลา โดยใช้ความสมั พนั ธ์ของหนว่ ยเวลาท่กี ำหนดในมาตราเวลา ทำลงในสมุด และรว่ มกนั เฉลย ข้นั ตอนที่ 4 : การสรปุ 9. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ว่า การเปลีย่ นหน่วยเวลา เป็นการเปลีย่ นหน่วยเวลาจากหน่วยหนง่ึ เป็นอีก หน่วยหนึ่ง โดยใชค้ วามสัมพนั ธข์ องหน่วยเวลาทีก่ ำหนดในมาตราเวลามาชว่ ย ขั้นตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที 10. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมินผล การวัดผล 1. สงั เกตความมีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั ในการทำงาน 2. สังเกตการทำงาน 3. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑ์ผา่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรับผทู้ ี่ได้ระดบั คณุ ภาพต้ังแต่ ๒ ขึน้ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผทู้ ีท่ ำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพตง้ั แต่ ๒ ขนึ้ ไป 3. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผู้ทีท่ ำงานไดร้ ะดับคุณภาพตงั้ แต่ ๒ ขน้ึ ไป 9. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 2. แผนภมู มิ าตราเวลา 3. นาฬกิ า 4. บทเรียนมลั ตมิ เี ดีย เรอ่ื งเวลา
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เวลา เวลา 10 ชว่ั โมง เร่ืองโจทย์ปญั หาและสถานการณ์เกีย่ วกับเวลา เวลา 2 ช่วั โมง 1. สาระสำคัญ การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกยี่ วกับเวลา เป็นการนำเวลามาบวก ลบ คณู หารกันโดยตง้ั หนว่ ยเวลาท่ีเป็นหนว่ ย ใหญ่ไว้ทางซา้ ยมือ และต้ังหน่วยเวลาท่ีเปน็ หนว่ ยยอ่ ยไวท้ างขวามือ 2. ตวั ช้วี ัด ค 1 .1 ป.4/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกับเวลา 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. วเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั เวลาได้ (K) 2. เขยี นแสดงการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับเวลาได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ โจทย์ปญั หาและสถานการณเ์ กีย่ วกบั เวลา 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใชช้ วี ิต 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ 1 ขนั้ ตอนท่ี 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสูตรคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลังจาก นั้นใหน้ กั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครจู ัดกิจกรรมโดยใหน้ ักเรยี นศกึ ษาจากบทเรียนมัลตมิ เี ดีย ดงั นี้
3. ครูตดิ แถบโจทยป์ ัญหาเก่ียวกับเวลาให้นกั เรียนอา่ น แลว้ ซักถามนกั เรยี น ดงั น้ี ปัจจบุ ันนอ้ งอายุ 5 ปี 4 เดือน อีก 6 ปี 6 เดอื น น้องจะมอี ายกุ ่ีปี กเี่ ดอื น -สงิ่ ทโ่ี จทยก์ ำหนดให้คอื อะไร (อายขุ องน้องปัจจบุ นั ) - สง่ิ ที่โจทยถ์ ามคอื อะไร (อกี 6 ปี 6 เดอื น นอ้ งอายุกป่ี ี กีเ่ ดือน) - ใชว้ ิธีอะไรในการหาคำตอบ (วิธบี วก) จากน้นั ครแู สดงวธิ ีทำบนกระดานให้นกั เรยี นดูเปน็ ตวั อย่าง แล้วช่วยกนั หาคำตอบ ดงั น้ี วธิ ที ำ ปี เดือน น้องมอี ายุ 54 อกี 6 6 + นอ้ งจะมอี ายุ 11 10 ตอบ ๑๑ ปี ๑๐ เดือน 4. ครูให้นกั เรยี นสังเกตการแสดงวิธีทำ แล้วรว่ มกันอภปิ รายหลงั จากที่นักเรยี นเขา้ ใจเกย่ี วกับการแก้โจทย์ ปญั หาเก่ยี วกับเวลาแล้ว ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภิปราย จนไดข้ ้อสรปุ วา่ - การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับเวลา เป็นการนำหน่วยเวลามาบวก ลบ คูณ หรือหารกนั โดยตั้งหนว่ ยเวลา หน่วยใหญ่ไว้ทางซ้ายมือ และหน่วยยอ่ ยไว้ทางขวามอื - การแกโ้ จทยป์ ัญหามขี นั้ ตอนเหมือนการแก้โจทย์ปญั หาทั่วไป คือ วเิ คราะหโ์ จทย์ว่า โจทยก์ ำหนดอะไร โจทย์ถามอะไร และใช้วธิ กี ารใดหาคำตอบ แลว้ แสดงวิธีทำ ชั่วโมงที่ 2 ข้ันตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครใู หน้ กั เรียนฝกึ แกโ้ จทยป์ ญั หาเกย่ี วกับเวลา โดยครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แขง่ ขนั กนั แกโ้ จทย์ปญั หาเกย่ี วกับเวลา จากแถบโจทยป์ ัญหาทคี่ รตู ิดบนกระดาน โดยครเู ปิดให้นกั เรียนดู ทลี ะขอ้ กลุ่มใด ตอบไดถ้ ูกตอ้ งภายในเวลาทค่ี รกู ำหนดจะไดข้ ้อละ 1 คะแนน จากนั้นใหต้ วั แทนกลุม่ ที่ตอบคำถามถกู ตอ้ งมาแสดง วธิ ีทำใหเ้ พอ่ื นดู แลว้ ครูตรวจสอบความถูกต้อง ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรุป 6. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ว่า - การแกโ้ จทย์ปญั หาเก่ยี วกบั เวลา เป็นการนำหน่วยเวลามาบวก ลบ คูณ หรอื หารกนั โดยตง้ั หนว่ ยเวลา
หน่วยใหญไ่ ว้ทางซา้ ยมอื และหน่วยย่อยไว้ทางขวามือ - การแกโ้ จทยป์ ัญหามขี ้ันตอนเหมือนการแกโ้ จทย์ปญั หาท่ัวไป คือ วิเคราะหโ์ จทย์ว่า โจทยก์ ำหนดอะไร โจทยถ์ ามอะไร และใชว้ ธิ ีการใดหาคำตอบ แล้วแสดงวิธที ำ ขัน้ ตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใช้ทนั ที 7. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบบทเรยี นมัลตมิ ีเดยี 8. การวดั และประเมนิ ผล การวัดผล 1. สังเกตความมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล 1. ถอื เกณฑ์ผ่านจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผทู้ ่ีไดร้ ะดับคุณภาพตั้งแต่ ๒ ขึ้นไป 2. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรับผทู้ ่ที ำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คณุ ภาพต้งั แต่ ๒ ขน้ึ ไป 3. อเกณฑผ์ ่านสำหรบั ผู้ทท่ี ำงานไดร้ ะดบั คณุ ภาพต้ังแต่ ๒ ขึ้นไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 2. บทเรียนมัลตมิ ีเดยี เรอ่ื งเวลา
ภาคผนวก -รปู ดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ -แบบประเมนิ ฯ
พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 เรอ่ื ง เวลา เวลาทีใ่ ช้ 10 ชวั่ โมง รหสั วชิ า ค14101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ครผู สู้ อน นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวเิ ศษ กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มีความสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสดุ ที่สุด 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 หมายถึง นอ้ ยทีส่ ดุ ขอ้ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ท่ี 54321 1 ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้นา่ สนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลมุ เนือ้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นร้/ู สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์มีความเช่ือมโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเชอ่ื มโยงสัมพันธก์ นั ระหว่างชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ัด / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้และสาระการเรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผเู้ รียนใหม้ คี วามรู้ทกั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผู้เรยี น และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรูม้ ีความเหมาะสมสามารถนำผูเ้ รยี นไปสู่การสร้างชิ้นงาน/ภาระงาน 9 มีการประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด/กจิ กรรมการเรียนรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผเู้ รยี นตามมาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด/ผล การเรียนรู้ 11 สื่อการเรยี นรู้ในแตล่ ะกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกตใ์ ช้ไดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบตั ิจริงได้ ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................................. (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) ผปู้ ระเมิน
พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6 เรอ่ื ง เวลา เวลาที่ใช้ 10 ชัว่ โมง รหัสวิชา ค14101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ครผู สู้ อน นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวิเศษ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มคี วามสอดคลอ้ ง/เช่ือมโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสดุ ที่สุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ นอ้ ย 1 หมายถงึ นอ้ ยทีส่ ดุ ข้อ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ท่ี 54321 1 ชอื่ หนว่ ยการเรียนร้นู ่าสนใจ กะทัดรัด ชดั เจน ครอบคลมุ เน้ือหาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคม์ คี วามเช่อื มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเช่ือมโยงสัมพนั ธก์ นั ระหว่างชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด / ผลการเรยี นรูส้ าระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรู้และกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรียนร้มู ีความครอบคลมุ ในการพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี วามรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผ้เู รียน และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผเู้ รยี นไปสกู่ ารสรา้ งชน้ิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั /กิจกรรมการเรียนรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั /ผล การเรยี นรู้ 11 ส่อื การเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรม มีความเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใช้ไดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏิบัติจรงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผปู้ ระเมนิ
พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหนว่ ยการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรื่อง เวลา เวลาท่ใี ช้ 10 ชว่ั โมง รหัสวิชา ค14101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ครผู สู้ อน นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวิเศษ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน มีความสอดคลอ้ ง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสดุ ท่ีสดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถึง นอ้ ยท่ีสุด ขอ้ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ท่ี 54321 1 ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้น่าสนใจ กะทัดรัด ชดั เจน ครอบคลุมเนอ้ื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มคี วามเช่อื มโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับมาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเชื่อมโยงสัมพนั ธก์ นั ระหวา่ งชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ัด / ผลการเรยี นรูส้ าระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นร้แู ละกจิ กรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการเรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพฒั นาผูเ้ รียนให้มคี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคัญของผ้เู รียน และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8 กิจกรรมการเรียนร้มู คี วามเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสกู่ ารสรา้ งชน้ิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ดั /กิจกรรมการเรียนรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผูเ้ รยี นตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั /ผล การเรยี นรู้ 11 สอื่ การเรยี นรู้ในแตล่ ะกิจกรรม มีความเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใช้ไดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาได้เหมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั จิ รงิ ได้ ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชือ่ .................................................................. (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ผ้ปู ระเมนิ
Search