เทคโนโลยีการสื่อสาร 20-6-22

เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร สื่ อ ส า ร ข้ อ มู ล แ ล ะ ร ะ บ บ เ ค รื อ ข่ า ย

คานา การดาเนินชีวิตประจาวนั ของมนษุ ยใ์ นปัจจบุ นั มีคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีเสมอ เนือ้ หาในหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกสน์ ีก้ ล่าวถงึ ความหมายของการ สื่อสารองคป์ ระกอบ ทศิ ทางของการสือ่ สารขอ้ มลู ชนิดของสญั ญาณขอ้ มลู สื่อกลางในการส่อื สารขอ้ มลู อปุ กรณส์ าหรบั เช่ือมตอ่ ระหวา่ งเครอื ขา่ ย ประเภทโครงสรา้ งเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ เอกสารนีใ้ ชส้ าหรบั ประกอบการเรยี นวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ เพ่ือใชก้ ารเรยี นรูแ้ ละพฒั นาตนเองของผเู้ รยี นใหท้ นั เทคโนโลยี และ ใชง้ านไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ

สารบัญ หนา้ 2 เรอ่ื ง 2 1. ความหมายของการส่อื สารขอ้ มลู และเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 3 2. องคป์ ระกอบของการสือ่ สารขอ้ มลู 5 3. ทิศทางของการสือ่ สารขอ้ มลู 5 4. ชนิดของสญั ญาณขอ้ มลู 9 5. สื่อกลางในการสื่อสารขอ้ มลู 13 6. อปุ กรณส์ าหรบั เช่ือมตอ่ ระหวา่ งเครอื ขา่ ย 15 7. ประเภทของเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ 8. โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์

การสื่อสารข้อมูล เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ( )( ) การสื่อสารข้อมูล คอื การรับ-ส่งโอนย้ายหรอื แลกเปล่ยี น หมายถึง การนาเครอ่ื งคอมพิวเตอรต์ งั้ แต่ 2 เครอ่ื งขนึ้ ไปเช่ือมตอ่ กนั ข้อมูลและสารสนเทศระหว่างอุปกรณส์ ่อื สารตา่ งๆผ่านสอื่ นา โดยใชอ้ ปุ กรณส์ อ่ื สาร ข้อมูล ความหมายของการส่อื สารขอ้ มลู และเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ การสือ่ สารขอ้ มลู หมายถงึ การแลกเปล่ยี นโอนยา้ ยขอ้ มลู และ สารสนเทศ

องค์ประกอบของการส่ือสารข้อมูล 1.ผสู้ ง่ ขอ้ มลู ( ) หมายถึงอปุ กรณท์ ่ีสง่ ขอ้ มลู ไปยงั จดุ หมายท่ีตอ้ งการ 2.ผรู้ บั ขอ้ มลู ( ) หมายถึง อปุ กรณท์ ่ีทาหนา้ ท่ีรบั ขอ้ มลู ท่ีถกู สง่ มาจากผสู้ ง่ ขอ้ มลู 3.ขอ้ มลู ( ) หมายถึง ส่งิ ท่ีผสู้ ง่ ตอ้ งการสง่ ไปยงั ผรู้ บั อาจจะอยใู่ นรูปแบบขอ้ ความ เสยี ง ภาพเคล่ือนไหว และอ่ืนๆ 4.ส่ือนาขอ้ มลู ( ) หมายถึง ส่งิ ท่ีทาหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางในการขนถา่ ยขอ้ มลู จากผสู้ ง่ ไปยงั ผร็ บั เช่น สายเคเบลิ สายใยแกว้ นาแสง คล่นื วิทยุ คลน่ื ไม่โครเวฟ เป็นตน้ 5.โพลโทคอล( ) หมายถงึ กฎเกณฑห์ รอื วิธีท่ีถกู กาหนดขนึ้ เพ่ือการสอ่ื สารขอ้ มลู ซงึ้ ทงั้ ผสู้ ง่ และผรู้ บั ตกลงกนั ไวก้ อ่ น

ทิศทางของการสื่อสารข้อมูล ทศิ ทางของการสอื่ สารขอ้ มลู หมายถึง ทิศทางของสญั ญาณท่ีเดนิ ทางจากอปุ กรณร์ บั ขอ้ มลู โดยผา่ นสอื่ นาขอ้ มลู ทศิ ทางของการส่อื สารขอ้ มลู แบง่ ออกเป็น 3 รูปแบบ ดงั นี้ 1. แบบทิศทางเดียว( ) 2.แบบกง่ึ สองทิศทาง( ) 3.แบบสองทศิ ทาง( )

ขอ้ มูลจะถกู สง่ ไปในทางเดยี วเทา่ น้ัน เชน่ การกระจายเสยี งของสถานีวทิ ยุ การเผยแพรภ่ าพและรายการตา่ งๆ ของสถานีโทรทศั น์ เป็ นตน้ simplex

เป็นรูปแบบการส่อื สารท่ีทงั้ สองฝ่ายสามารถสง่ ขอ้ มลู สวนทางกนั ไดแ้ ตต่ อ้ งสลบั กนั สง่ เชน่ วทิ ยสุ อ่ื สารของตารวจ

• สามารถสง่ ขอ้ มลู สวนทางกนั ไดต้ ลอดในชว่ งเวลาเดียวกนั เชน่ การพดู คยุ โทรศพั ท์ การวีดีโอคอล ไมต่ อ้ งกดสวติ ชเ์ พ่ือเปล่ียนสถานะกอ่ นท่ีจะ สื่อสาร

ชนิดของสัญญาณข้อมูล สญั ญาณแอนะลอ็ ก สญั ญาณดิจิทลั () (DIGITAL SIGNAL) เป็นสญั ญาณแบบไมต่ อ่ เน่ืองเป็นสญั ญาณท่ีใชแ้ ทนขอ้ มลู ใน เป็นสญั ญาณแบบตอ่ เน่ืองมีลกั ษณะเป็นคล่ืนไซน์ (sine wave) คอมพิวเตอรอ์ ยใู่ นระบบของเลขฐานสอง คือ 0 กบั 1 โดยแตล่ ะคลืน่ จะมีความถ่ีและความเขม้ ตา่ งกนั

ส่ือกลางในการส่ือสารข้อมูล ทาหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางในการส่ือสารขอ้ มลู ในรูปแบบของสญั ญาณไฟฟ้าจากผสู้ ง่ ไปยงั ผรู้ บั ขอ้ มลู สามารถเป็นสื่อกลางออกเป็น 2 ประเภท คอื ส่อื นา ขอ้ มลู แบบมีสาย(wired media) และส่อื นาขอ้ มลู แบบไรส้ าย(wireless media)

สื่อกลางในการส่ือสารข้อมูล สอื่ นาขอ้ มลู แบบมีสาย (wired media) สายคบู่ ิดเกลียว (twisted-pair cable:UTP,STP) • ท่ีนิยมใชม้ ี 3 ชนิด ไดแ้ ก่ • สายคบู่ ิดเกลยี ว(twisted-pair cable:UTP,STP) • สายคบู่ ดิ เกลียวท่ีพบเห็นโดยท่วั ไป คือ สายโทรศพั ทม์ ีฉนวนหมุ้ • สายโคเอกเซียล(coaxial cable) จบั คพู่ นั เป็นเกลยี วเพ่ือลดสญั ญาณรบกวน ประกอบดว้ ยสาย • สายใยแกว้ นาแสง(optical cable) ทองแดง 2 เสน้ สายคตู่ เี กลยี ว1คู่ จะแทนการสอ่ื สารได้ 1 ชอ่ งทางส่อื สาร • สายคบู่ ดิ เกลียว ท่ีใชก้ บั คอมพิวเตอรเ์ ป็นสายทองแดง8เสน้ 4คู่ แลว้ เช่ือมตอ่ ดว้ ยคอนเนคเตอร์

ส่ือกลางในการสื่อสารข้อมูล สายคู่บดิ เกลียว (twisted-pair cable:UTP,STP) สายคู่บดิ เกลยี ว (twisted-pair cable:UTP,STP) สายคบู่ ดิ เกลยี วไมห่ มุ้ ชนวน(Unshielded Twisted Pair : สายคบู่ ดิ เกรยี วแบบมีฉนวน (Shielded Twisted Pair : UTP ) สายแบบยทู ีพีเสน้ สายท่ีมีราคาถกู และหาง่ายแตป่ ้องกนั STP ) สายแบบ STP เป็นสายแบบมีฉนวนปอ้ งกนั ชนวนโลหะ สญั ญาณรบกวนจากอานาจแมเ่ หลก็ ไดไ้ มด่ เี ทา่ สายแบบSTP สญั ญาณรบกวนท่ีมีความถ่ีสงู ไดร้ าคาจะแพงกว่าสายยทู ีพีมาก สามารถต่นื สายไดย้ าวกว่ายทู ่ีพี่

สื่อกลางในการส่ือสารข้อมูล สายโคแอกเซียล ประกอบดว้ ยแกนทองแดงหมุ้ ดว้ ยฉนวนภายนอกฉนวน ก็ถกู หมุ้ ดว้ ยโลหะอกี ชนั้ หน่งึ เพ่อื ปอ้ งกนั สนามไฟฟ้ารบกวนจาก ภายนอกและสายดนิ (ลกั ษณะเป็นฝอย) แลว้ หมุ้ ดว้ ยฉนวนบางอีกที สายโคแอกเซยี ล สามารถรองรบั ความเรว็ สงู สดุ ในการ รบั และสง่ ขอ้ มลู ท่ี 10 mbps สายนาสญั ญาณแบบนีจ้ ะใช้ connecter เฉพาะในการเช่ือมตอ่ กบั เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ และจดุ ตา่ งๆ ภายในเครอื ขา่ ย ปัจจบุ นั ไดเ้ ปลย่ี นสายดินลวดทองแดงเสน้ ลวดเงินทงั้ นีเ้ พ่อื ปอ้ งกนั อาการรบกวนท่ีเกิดจาก สายสญั ญาณขา้ งเคียง

สื่อกลางในการส่ือสารข้อมูล สายใยแก้วนาแสง (optical cable) • เป็นสายนาสญั ญาณท่ีใชร้ ูปแบบของแสงในการรบั สง่ ขอ้ มลู อปุ กรณท์ งั้ สองตวั มีหนา้ ท่ีแปลงสญั ญาณแสงใหเ้ ป็น สญั ญาณท่ีเครอ่ื งคอมพวิ เตอรร์ ูจ้ กั (ดิจิตอล) สายใยแกว้ นาแสง มีประสทิ ธิภาพในการรบั สง่ ขอ้ มลู เรว็ ท่ีสดุ เม่ือ เปรยี บเทียบกบั ไซดก์ นั ยาฉนั อ่นื รองรบั ความเรว็ ในการรบั ส5่ 65-1300 mbps • ขอ้ ดี ทนทานตอ่ คลน่ื รบกวน ดว้ ยชนวนฉนั นอก สญั ญาณคงท่ีในการสง่ ขอ้ มลู แม่ระยะทางไกลไมต่ อ้ งอาศยั อปุ กรณเ์ พ่มิ สญั ญาณ มีความปลอดภยั ของขอ้ มลู สงู กวา่ สายเคเบลิ ชนิดอ่ืน • ขอ้ จากดั มีราคาแพงเน่ืองจากตน้ ทนุ การผลติ สงู มีความยงุ่ ยากในการติดตงั้ และการบารุงรกั ษา

ส่ือกลางในการส่ือสารข้อมูล สอื่ นาข้อมูลแบบไร้สาย (wireless media) สามารถสง่ ขอ้ มลู ไดท้ กุ ทศิ ทางโดยมีอากาศเป็นตวั กลางในการสอ่ื สาร ซง่ึ สื่อนาขอ้ มลู แบบไรส้ ายจะประกอบดว้ ย คล่นื วทิ ยุ ไมโครเวฟ แสงอนิ ฟราเรด การสื่อสารผา่ นดาวเทียมเป็นตน้

ส่ือกลางในการส่ือสารข้อมูล สื่อนาข้อมูลแบบไร้สาย (WIRELESS MEDIA) คลื่นวทิ ยุ เป็นส่อื กลางในการใชส้ ง่ สญั ญาณไป ไมโครเวฟ เป็นส่ือกลางชนิดหน่งึ ท่ีมีความถ่ีสงู ระดบั GHz ในอากาศโดยสามารถสง่ ในระยะทางใกลแ้ ละ ไกล เป็นคลน่ื เสน้ ตรงในระดบั สายตา ตอ้ งมีการรบั สง่ ตามยอดตึก/เขา เพ่ือสง่ ตอ่ สญั ญาณท่ีมีความเรว็ สงู สามารถตดิ ตงั้ ไดง้ ่ายและ ประหยดั สภาวะอากาศมีฝนตกสญั ญาณ * สญั ญาณไมโครเวฟมี ขอ้ จากดั เรอ่ื งระยะทา

สื่อกลางในการสื่อสารข้อมูล ส่ือนาข้อมูลแบบไร้สาย(WIRELESS MEDIA) • แสงอินฟราเรด เป็นสอื่ กลางท่ีใชจ้ ดั สง่ ขอ้ มลู ระยะใกลเ้ ชน่ • การส่ือสารผ่านดาวเทยี ม มีสถานีภาคพืน้ ดินทาหนา้ ท่ีสง่ remote control วิทย/ุ ทีวี มีความถ่ีสนั้ และชอ่ งทาง สญั ญาณไปยงั ดาวเทียมและดาวเทียมก็จะทาหนา้ ท่ีเป็นสถานี สือ่ สารนอ้ ย มีความเรว็ ประมาณ 4-16 mbps ทะลผุ า่ นวตั ถุ ทวนสญั ญาณกอ่ นท่ีสง่ สญั ญาณขอ้ มลู ไปตอ่ ยงั สถานีภาคพืน้ ดิน ไมไ่ ดต้ อ้ งวางแนวเสน้ ตรงไมเ่ กิน1-2เมตร ท่ีทาหนา้ ท่ีรบั สญั ญาณการสอ่ื สารผา่ นดาวเทียมจะมีระยะทางท่ี ไกลมากนิยมใชก้ บั การสอื่ สารระหวา่ งประเทศ

อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อระหว่างเครือข่าย ระบบเครอื ขา่ ยท่ีใชใ้ นการเช่ือมตอ่ ภายในหนว่ ยงาน หรอื องคก์ รตา่ งๆ อาจจะมีหลายเครอื ขา่ ยภายในระหวา่ งหนว่ ยงาน เดยี วกนั ระยะทางในการเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ย มีระยะทางไกลหรอื เป็นการเช่ือมตอ่ ระหวา่ งเครอื ขา่ ยระหวา่ งอาคาร และเพ่ิม จานวนเครอ่ื งคอมพิวเตอรเ์ ครอื ขา่ ย ไดแ้ ก่ การด์ เช่ือมโยงเครอื ขา่ ย ฮบั / สวติ ซ์ เราทเ์ ตอร์ โมเด็ม AocessPoint Wireless Card

อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อระหว่างเครือข่าย • ฮบั /สวทิ ซ(์ hub/switch) เป็น อปุ กรณท์ ่ีทาหนา้ ท่ีเช่ือมตอ่ คอมพวิ เตอรห์ ลายหลายเครอ่ื งเขา้ ดว้ ยกนั และเป็นอปุ กรณท์ ่ีช่วยในการ กระจายสญั ญาณ โดยท่ีฮบั จะมีการแบง่ ชอ่ งสญั ยานตามจานวนผใู้ ชแ้ ต switch ไมม่ ีการแบง่ การทางานของฮับ(hub)

อุปกรณ์สาหรับเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย ความแตกต่างระหว่างฮับ สวิทซ์( ) Hub เป็น เพียงตวั ขยายสญั ญาณขอ้ ม/ู จดั การสญั ญาณท่ีสง่ มา Switch จะ มีการทางานท่ีซบั ซอ้ นกว่า การรบั -สง่ จากคอมพิวเตอรแ์ ละกระจายสญั ญาณไปยงั คอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งอ่ืนๆ ขอ้ มลู จากพอรต์ หน่งึ ของอปุ กรณไ์ ปยงั อีกพอรต์ ปลายทางท่ีเช่ือมอยู่ หากมีการสง่ สญั ญาณพรอ้ มพรอ้ มกนั ความเรว็ จะลดลงไมเ่ หมาะท่ี กบั อกี เครอ่ื งพ่ีตอ้ งการสง่ ขอ้ มลู สง่ ขอ้ มลู ไดพ้ รอ้ มกนั ในเวลาเดยี วกนั จะนามาใชก้ บั เครอ่ื ขา่ ยขนาดใหญ่ เป็นท่ีนิยมใชใ้ นงานระบบเครอื ขา่ ยมากกวา่ ฮบั

อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อระหว่างเครือข่าย การ์ดเช่ือมโยงเครือข่าย( ) เป็นอปุ กรณท์ ่ีทาหนา้ ท่ีเช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรเ์ ขา้ กบั สายเคเบิลของเครอื ขา่ ย และควบคมุ การรบั สง่ ขอ้ มลู ระหวา่ งคอมพวิ เตอร์ กบั เครอื ขา่ ยบางครงั้ เรยี กว่า

อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อระหว่างเครือข่าย เราท์เตอร์( ) เป็นอปุ กรณท์ ่ีทาหนา้ ท่ีเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ยแตล่ ะประเภทเขา้ ดว้ ยกนั โดยคน้ หาเสน้ ทางท่ีดที ่ีสดุ ในการสง่ ผา่ นขอ้ มลู

อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อระหว่างเครือข่าย โมเด็ม( ) เป็นอปุ กรณท์ ่ีทาหนา้ ท่ีแปลงสญั ญาณดจิ ิตอลของคอมพวิ เตอรใ์ หส้ ามารถว่งิ บนสายโทรศพั ท์ (สญั ญาณอนาลอก) เพ่ือทาการตดิ ติอส่ือสารไดม้ ี 2 ชนิด คือ แบบตดิ ตงั้ ภายใน และแบบตดิ ตงั้ ภายนอก

อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อระหว่างเครือข่าย ลักษณะการเชื่อมต่อโมเด็ม

อุปกรณ์สาหรับเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย ใชใ้ นการเช่ือมตอ่ กบั เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ กลบั ระบบเครอื ขา่ ยแบบไรส้ า( ) หรอื เรยี กแบบสนั้ ๆ วา่ ซง่ึ จะทาหนา้ ท่ีเป็นจดุ กระจายและเช่ือมตอ่ สญั ญาณแบบไรส้ าย เพ่อื เช่ือมตอ่ ปกรณไ์ รส้ ายทกุ ชนิด

อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อระหว่างเครือข่าย ติดตงั้ บนเครอ่ื งคอมพิวเตอรเ์ พ่อื เช่ือมตอ่ กบั ระบบเครอื ข่ายแบบไรส้ าย

ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง เ ค รื อ ข่ า ย ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ • ระบบเครือข่ายแบ่งออกเป็ น 3ประเภท ดงั นี้ • 1.Wan(wide area network) • 2.Man(metropolitan area network ) • 3.Lan(local area network )

ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่ายระยะใกล้: ( ) เป็นการเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ยขนาดเลก็ ในพนื้ ท่ีไมใ่ หญ่มากนกั เช่น ภายในหอ้ ง หรอื ภายในตวั อาคาร จดุ ประสงคข์ องการ เช่ือมตอ่ คอื แบง่ ปันทรพั ยากรท่ีมีอยอู่ ยา่ งจากดั เชน่ ฟิลเตอรเ์ ทนเนอรร์ วมทงั้ ขอ้ มลู และโปรแกรมตา่ งๆรวมถึงอานวยความ สะดวกในการตดิ ตอ่ ส่อื สาร

ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง เ ค รื อ ข่ า ย ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ระบบเครือข่ายระหว่างเมือง ( เป็นการเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ยท่ีมีขนาดท่ีใหญ่ขนึ้ กวา่ แลนดม์ กั เกิดจากการเช่ือมโยงเครอื ขา่ ยแลนดใ์ นบรเิ วณเดียวกนั เขา้ ดว้ ยกนั เชน่ การเช่ือมตอ่ ระหวา่ งองคก์ รกบั องคก์ ร

ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง เ ค รื อ ข่ า ย ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ระบบเครือข่ายระยะไกล () เป็นเครอื ขา่ ยบรเิ วณกวา้ งซง่ึ อาจมขี อบเขตการเช่ือมตอ่ ท่ีกวา้ งไกลขนึ้ จากแลนดแ์ ละแมนซง่ึ ไม่เช่ือมตอ่ จะกอ่ ใหเ้ กิดเป็น ระบบเครอื ขา่ ยในประเทศจงั หวดั หรอื ขา้ มทวีปได้

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ • โครงสร้างเครือขา่ ยคอมพิวเตอร(์ ) คอื การนาเอาคอมพวิ เตอรม์ าเช่ือมตอ่ กนั เพ่ือ ประโยชนข์ องการสอ่ื สารรูปแบบการจดั การความคอมพิวเตอร์ การเดนิ สายสญั ญาณคอมพิวเตอรใ์ นเครอื ขา่ ยรวมถึง หลกั การของไหลเวยี นของขอ้ มลู ในเครอื ขา่ ยสามารถทาไดห้ ลายรูปแบบ แตล่ กั ษณะท่ีนิยมใชน้ นั้ มอี ยู่ดว้ ยกนั 4 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 1. โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยแบบสั ( ) 2. โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยแบบดาว( ) 3. โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยแบบวงแหวน( ) 4. โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยแบบเมซ( )

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ • โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส(bus topology) เป็น ลกั ษณะของการนาเครอ่ื งคอมพิวเตอรม์ าเช่ือมตอ่ กบั ระบบ เครอื ขา่ ยดว้ ยสายเคเบลิ ยาวตอ่ เน่ืองกนั ไปเรอ่ื ยเรอ่ื ยโดยมีคนเนคตอรใ์ นการเช่ือมตอ่ โดยลกั ษณะของการสง่ ขอ้ มลู รบั ขอ้ มลู จะเป็นการสง่ ขอ้ มลู ท่ีรกั เครอ่ื งในชว่ งเวลาหนง่ึ เท่านนั้ • ข้อดี เป็นโครงสรา้ งท่ีเช่ือมตอ่ งา่ ยไมซ่ บั ซอ้ นประหยดั สายสญั ญาณ • ขอ้ เสีย หากมีการสง่ ขอ้ มลู จากคอมพิวเตอรส์ องเครอ่ื งพรอ้ มกนั จะทาใหข้ อ้ มลู สญู หายเน่ืองจากการชนของขอ้ มลู การสง่ ขอ้ มลู ใหม่

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ • โครงสร้างเครือขา่ ยแบบดาว(star topology) เครอื ขา่ ย แบบดาวคอื คอมพิวเตอรท์ กุ เครอ่ื งจะตอ้ งตอ่ กบั อปุ กรณท์ ่ีอยHู UB เพยี งตวั เดียว เม่ือตอ้ งการสง่ ขอ้ มลู จะตอ้ งสง่ ผา่ นHUB ก่อนเป็นรูปแบบการตอ่ ท่ีนิยมมากท่ีสดุ • ข้อดี งา่ ยตอ่ การตรวจเชค็ เม่ือคอมพิวเตอรม์ ีปัญหาสง่ ขอ้ มลู ไมไ่ ดล้ ดปัญหาการชนของขอ้ มลู • ข้อเสีย HUB เป็นตวั กลางของก็สง่ ขอ้ มลู ถา้ เสียระบบก็ลม่

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ • โครงสร้างเครือขา่ ยแบบวงแหวน(ring topology) เครอื ขา่ ยแบบวงแหวนคือ การตอ่ สายผา่ นคอมพิวเตอรแ์ ละแตล่ ะ เครอ่ื งเป็นวงการสง่ ขอ้ มลู จะสง่ ผา่ นวงแหวนรถผ่านนะมงึ วนั โดยผา่ นเคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ ตล่ ะเครอ่ื งท่ีรองรบั ขอ้ มลู • ข้อดี เครอ่ื งคอมพิวเตอรใ์ นเครอื ข่ายจะมีโอกาสในการสง่ ขอ้ มลู ไดเ้ ท่าเทียมกนั ไมม่ ีปัญหาเรอ่ื งการชนของขอ้ มลู • ข้อจากดั การสง่ ขอ้ มลู จะชา้ กวา่ ทกุ ระบบเพราะตอ้ งสง่ ผ่านทีละเครอ่ื งตน้ ทนุ เครอ่ื งท่ีรองรบั ขอ้ มลู

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ • โครงสร้างเครือขา่ ยแบบเมซ(mesh topology) เป็น การเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ยท่ีสมบรู ณเ์ ครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ กุ เครอ่ื งในเครอื ขา่ ยท่ีเช่ือมตอ่ ถึงกนั ไดท้ งั้ หมดดว้ ยสญั ญาณมีความเป็นอิสระในการสง่ ขอ้ มู • ข้อดี ในกรณีสายเคเบลิ้ บางทรายชารุดเครอื ขา่ ยทงั้ หมดยงั สามารถใชไ้ ดท้ าใหร้ ะบบมีเสถียรภาพโม • ข้อจากัด สนิ้ เปลืองคา่ ใชจ้ า่ ยใชส้ ายเคเบลิ มากกวา่ การตอ่ แบบอ่ืนๆยากตอ่ การตดิ ตงั้ เดินสายเคลื่อนยา้ ยปรบั เปล่ียนและ การประมลู สาแบบเครอื ขา่ ย

ตัวอย่างของการส่ือสารโทรคมนาคม • การคุยกนั ผ่านทางโทรศัพท์ • การเล่นเกมออนไลนต์ า่ งๆ • การส่งอีเมล • การคุยกนั ผ่านวิทยุ • ชัดแชท • การดโู ทรทศั นเ์ คเบลิ ทวี ี • การส่งโทรเลข • การส่งแฟกซ์ • การส่งโทรสาร

จัดทาโดย นาย มูฮาหมัดนาบีล สะแต ปวส.1 สารวจ