Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารหลักสูตร พก.ศพช.อุบลฯ

เอกสารหลักสูตร พก.ศพช.อุบลฯ

Published by Thaksinanan Suebsimma, 2019-07-02 00:13:05

Description: เอกสารหลักสูตร พก.ศพช.อุบลฯ

Search

Read the Text Version

ชือ่ เอกสาร เอกสารหลักสตู รฝกึ อบรมพัฒนากรศนู ย์ศึกษาและพฒั นาชุมชนอุบลราชธานี ประเภท หลักสตู ร “พฒั นากรขวัญใจชุมชน” เอกสารวชิ าการ ลักษณะเอกสาร เอกสารอัดสาเนาเยบ็ เลม่ ผู้อานวยการศนู ย์ศึกษาและพฒั นาชุมชนอบุ ลราชธานี ทป่ี รึกษา นายวิลาศ บุญโต คณะผจู้ ัดทา นางสาวทักษิณานันท์ สบื สมิ มา นกั จัดการงานทัว่ ไปชานาญการ นางเพญ็ ศรี วรบตุ ร นกั ทรัพยากรบุคคลชานาญการ นางสาวทบั ทมิ แท่งคา นกั ทรพั ยากรบคุ คลชานาญการ นางสาวกัลยา โพธวิ ฒั น์ นกั ทรัพยากรบุคคล (พนักงานราชการ) นางสาวชนาทพิ ย์สยนานนท์ นกั ทรัพยากรบคุ คล (พนักงานราชการ) ปที ่พี ิมพ์ 2562 แหล่งเผยแพร่ สถาบันการพฒั นาชุมชน เว็บไซตศ์ นู ย์ศึกษาและพฒั นาชมุ ชนอุบลราชธานี

คานา เอกสารสรุปผลการดาเนินโครงการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนากรเพ่ือขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ กรมการพัฒนาชุมชน กิจกรรมท่ี 2 ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนากร : หลักสูตร “ พัฒนากรขวัญใจชุมชน” จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือใช้เป็นแนวทางประกอบการฝึกอบรม หลกั สตู รพัฒนากรระหว่างประจาการประจาปงี บประมาณ ในเขตพ้นื ท่ีบรกิ ารของศูนยศ์ ึกษาและพฒั นาชุมชน ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี หวังว่าเอกสารเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อสถาบันการพัฒนา ชุมชน และหนว่ ยงานอื่น ๆ ในสงั กดั กรมการพัฒนาชมุ ชน ศูนย์ศกึ ษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี มิถนุ ายน 2562

สารบัญ หน้า คานา 1 สารบัญ 31 ส่วนที่ 1 ผลการศึกษาความต้องการในการฝกึ อบรมพฒั นากร 32 ส่วนท่ี 2 สถานการณ์ทเ่ี ก่ียวข้องกบั หลักสตู ร 34 สว่ นท่ี 3 คณุ ลักษณะของการพัฒนากร 35 ส่วนท่ี 4 เป้าหมายของหลักสูตร/วตั ถุประสงคห์ ลักสตู ร 37 ส่วนที่ 5 ผลผลิต/ผลลัพธ์หลกั สูตร 38 สว่ นที่ 6 หมวดวชิ า 46 ส่วนที่ 7 สังเขปรายวชิ า ส่วนท่ี 8 แผนการสอน

1 สว่ นท่ี 1 ผลการศกึ ษาความต้องการในการฝกึ อบรมพัฒนากร ศูนยศ์ กึ ษาและพฒั นาชุมชนอบุ ลราชธานี 1. ความเปน็ มาและวตั ถุประสงค์ สิ่งแรกสาหรับกระบวนการจัดการฝึกอบรม คือ การหาความจาเป็นในการฝึกอบรม หรือ Training needs ก่อน ซึ่งมีวิธีการแสวงหาหลายรูปแบบ กรมการพัฒนาชุมชน โดย ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อุบลราชธานไี ด้เลือกใชเ้ ครื่องมือเป็นแบบสอบถามความคดิ เห็นในการเก็บข้อมลู เพื่อหาความต้องการท่จี าเป็น ในการฝึกอบรมพฒั นากร โดยสง่ แบบสอบถามไปให้กลมุ่ เปา้ หมายกรอกข้อมลู แสดงความคดิ เห็นและส่งคืนมา พฒั นากร เปน็ ขา้ ราชการ “แนวหนา้ ” ของกรมการพัฒนาชุมชนที่ไปทางานอย่างใกล้ชิดกับประชาชน ผู้นา กลุ่ม องค์กร เครือข่าย และหน่วยงานภาคีการพัฒนาเข้าถึงในตาบล หมู่บ้าน และครัวเรือน พัฒนากร จึงเป็น “หัวใจสาคัญ” ของกรมการพัฒนาชุมชน ดังนั้น พัฒนากร จึงเป็นข้าราชการที่มีบทบาทสาคัญยิ่ง ในการขับเคลื่อนนโยบายและยทุ ธศาสตรใ์ หบ้ รรลผุ ลเปน็ รูปธรรม กรมการพัฒนาชุมชน จึงให้ความสาคัญกระบวนการฝึกอบรมท้ัง 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการประเมิน หาความจาเป็นของการฝึกอบรม ขั้นตอนการออกแบบหลักสูตรการฝึกอบรมตามความจาเป็น ข้ันตอนการ เลือกวิธีการฝึกอบรม และขั้นตอนการประเมินประสิทธิภาพการฝึกอบรม ซึ่งความจาเป็นในการฝึกอบรม จะต้องสอดคล้องกับความสาคัญของงาน ซึ่งประกอบด้วยการเพ่ิมพูนความรู้ (Knowledge) การเพิ่มทักษะ (Skill) และการสร้างเสริม/เปล่ยี นแปลงและพฒั นาทศั นคติ (Attitudes) เพ่ือให้หลักสูตรการฝึกอบรมมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับมาตรฐานสมรรถนะและระดับ สมรรถนะข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน จึงเห็นควรปรับปรุงหลักสูตรในเร่ืองดังกล่าว โดยการสารวจความ คิดเห็นจากผู้ที่เก่ียวข้องทุกระดับและนามากาหนดหลักสูตรที่เหมาะสมมากที่สุด ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อุบลราชธานี จึงได้ดาเนินการเก็บข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอาเภอ พัฒนากร และผู้นาท้องท่ี ผู้นาท้องถิ่น อช.ผู้นา อช.ผู้แทนกลุ่ม OTOP /OTOP นวัตวิถี ผู้นาสัมมาชีพชุมชน คณะกรรมการ กลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลติ และคณะกรรมการกองทนุ พฒั นาบทบาทสตรี วิธกี ารประเมนิ 1. กลมุ่ เปา้ หมายที่ใช้ในการประเมิน คอื 1) พฒั นาการจังหวดั 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรสี ะเกษ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวดั นครพนม จังหวดั มุกดาหาร จังหวดั ยโสธรและจังหวัดอานาจเจริญ ซงึ่ มีผตู้ อบแบบสอบถาม จานวน 5 จงั หวัด คดิ เปน็ 71.42 % และไมต่ อบแบบสอบถาม จานวน 2 จังหวัด ได้แก่ จงั หวดั นครพนม จังหวดั มกุ ดาหาร 2) พัฒนาการอาเภอ 102 อาเภอ จาก 7 จังหวัด ตามขอ้ 1) มีผตู้ อบแบบสอบถาม 65 คน คิดเปน็ 63 % 3) พฒั นากร จานวน 204 คน จาก 7 จงั หวดั ตามข้อ 1) มีผู้ตอบแบบสอบถาม 132 คน คิดเปน็ 64.70 % 4) ผู้นาท้องที่ ผู้นาท้องถิ่น อช.ผู้นา อช.ผู้แทนกลุ่ม OTOP /OTOP นวัตวิถี ผู้นาสัมมาชีพชุมชน คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต และคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จานวน 510 คน จาก 7 จงั หวัดตามข้อ 1) มีผู้ตอบแบบสอบถาม จานวน 376 คน คดิ เป็น 73.72%

2 2. เครอื่ งมือท่ีใชใ้ นการจัดการเก็บข้อมลู ใชแ้ บบสอบถามแยกออกเป็น ส่วนที่ 1 ข้อมลู เกย่ี วกบั ผ้ตู อบ ส่วนที่ 2 ความคิดเหน็ เกี่ยวกับองค์ความรทู้ จี่ าเป็นของพฒั นากร ส่วนท่ี 3 ความคดิ เห็นเกี่ยวกับทักษะทีจ่ าเป็นของพัฒนากร สว่ นท่ี 4 ความคดิ เห็นเกย่ี วกับทัศนคติ สว่ นท่ี 5 ความคดิ เห็นอน่ื ในการตอบแบบสอบถาม จะมลี กั ษณะแบบการตอบคาถาม 2 ลกั ษณะ 1) ทาเครือ่ งหมาย ในหวั ข้อทีท่ า่ นเลอื ก (5= มากท่ีสุด 4 =มาก 3=ปานกลาง 2 =นอ้ ย 1= น้อย ทีส่ ุด) 2) เตมิ ข้อความตามความคดิ เหน็ ของทา่ นในกรณีทที่ ่านมคี วามคดิ เหน็ เพิ่มเติม สามารถเพิ่มเติมไดใ้ น แต่ละข้อไดโ้ ดยอสิ ระ เกณฑก์ ารประเมิน การแปลความหมายระดับความคดิ เหน็ ของกลุ่มเปา้ หมาย โดยพจิ ารณาจากคะแนนที่ได้จาก แบบสอบถามนามาหาค่าเฉลี่ย (X) แล้วใชแ้ ปลความหมายตามเกณฑก์ ารประเมนิ คา่ ความคดิ เห็นดงั นี้ - ค่าเฉลีย่ ท่ีได้รับจากการวิเคราะห์ระหวา่ ง 4.50 – 5.00 มีค่าเท่ากบั มากท่สี ุด - ค่าเฉล่ียท่ีไดร้ บั จากการวิเคราะห์ระหว่าง 3.50 – 4.49 มีค่าเทา่ กับ มาก - คา่ เฉลี่ยที่ได้รับจากการวิเคราะหร์ ะหวา่ ง 2.50 – 3.49 มีค่าเทา่ กบั ปานกลาง - คา่ เฉลีย่ ที่ได้รับจากการวเิ คราะหร์ ะหวา่ ง 1.50 – 2.49 มีคา่ เท่ากบั นอ้ ย - ค่าเฉลี่ยท่ีได้รับจากการวเิ คราะห์ระหว่าง 1.00 – 1.49 มีค่าเทา่ กับ นอ้ ยท่สี ดุ

3 จาแนกตามประเภทกลมุ่ เป้าหมาย ดังนี้ จานวน รอ้ ยละ 1.พฒั นาการจังหวดั 4 80.00 ตารางท่ี 1 แสดงข้อมูลทวั่ ไป 1 20.00 ประเดน็ 1 20.00 1) เพศ 2 40.00 2 40.00 - ชาย - หญงิ 5 100.00 2) อายุ - 54 ปี 1 20.00 - 58 ปี 3 60.00 - 60 ปี 1 20.00 3) ตาแหนง่ พฒั นาการจงั หวัด 4) การศึกษา (1) ป.ตรี (2) ป.โท (3) ป.เอก จากตารางที่ 1 ขอ้ มูลท่ัวไป พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามเป็นเพศหญิง 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 20 เพศชาย 4 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 80 อายุ 60 ปี จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 40 รองลงมาตามลาดับคือ อายุ 58 ปี จานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 40 อายุ 54 ปี จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ส่วนใหญ่สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมาปริญญาตรี และปริญญาเอกอย่างละ 1 คน เท่ากันคิดเป็นร้อยละ 20 ผู้ตอบแบบสอบถามทุกคน ตดาราารงงทตี่า2แหนง่ พฒั นาการจงั หวดั

4 หวั ข้อวิชา ระดบั คะแนน ค่า การ มาก ป า น น้ อ ย แปรผล ระดับ ทสี่ ุด มาก กลาง น้อย ทีส่ ดุ เฉล่ยี มากที่สุด ระดับ 1. ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การพัฒนาชุมชน\" มีความ 4 1 0 0 0 มาก ระดับ จ า เ ป็ น กั บห ลัก สูตรก ารฝึก อ บรมพั ฒ นา ก รมาก -น้อย มากทส่ี ุด ระดับ เพียงใด 80.00 20.00 0.00 0.00 0.00 4.80 มากท่สี ุด 2. ท่านคิดว่าองคค์ วามรู้ \"การบรหิ ารจดั การองค์ความรู้\" 2 2 1 00 ระดบั มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก ระดบั มาก-น้อยเพียงใด 40.00 40.00 20.00 0.00 0.00 4.20 มากทสี่ ุด ระดบั 3. ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การบริหารแผนงาน/ 4 1 0 00 มาก โครงการ\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรม ระดับ มาก พัฒนากร มาก-นอ้ ยเพยี งใด 80.00 20.00 0.00 0.00 0.00 4.80 ระดบั 4. ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การบริหารสารสนเทศ\" 3 2 0 00 มาก มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก มาก-นอ้ ยเพยี งใด 60.00 40.00 0.00 0.00 0.00 4.60 5. ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"องค์กรและระบบราชการ\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก-นอ้ ยเพียงใด 3 1 1 00 60.00 20.00 20.00 0.00 0.00 4.40 4.60 6. ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การจัดซื้อ - จัดจ้างพัสดุ\" 3 2 0 00 4.00 มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร 4.40 มาก-นอ้ ยเพยี งใด 60.00 40.00 0.00 0.00 0.00 7. ท่านคดิ ว่าองคค์ วามรู้ \"งานธรุ การและงานสารบรรณ\" 1 3 1 00 มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก-นอ้ ยเพยี งใด 20.00 60.00 20.00 0.00 0.00 8. ท่านคิดว่าองค์ความรู้\"เกี่ยวกับสถานการณ์ 2 3 0 00 การเปลี่ยนแปลงสาคัญในปัจจุบัน\"มีความจาเป็น กบั หลกั สตู รการฝึกอบรมมาก-น้อยเพียงใด 40.00 60.00 0.00 0.00 0.00 9. ท่านคิดว่าองค์ความรู้\"ความรู้เรื่องกฎหมาย\"มีความ จาเปน็ กับหลกั สูตรการฝึกอบรมมาก-น้อยเพยี งใด 2 3 0 00 ภาพรวม 40.00 60.00 0.00 0.00 0.00 4.40 4.47

5 จากตารางท่ี 2 พบวา่ พัฒนาการจังหวัดกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเก่ียวกับองค์ความรู้ท่ีจาเป็นสาหรับพัฒนากรในความคาดหวัง โดยภาพรวมอยู่ในระดบั มาก คา่ เฉลยี่ 4.47 เรียงลาดับคา่ เฉลี่ยจากมากไปหานอ้ ย ดังนี้ - องค์ความรู้ด้าน การพัฒนาชุมชน และด้าน การบริหารแผนงาน/โครงการ มีความจาเป็นกับหลักสูตร การฝกึ อบรมพฒั นากรอยู่ในระดับมากทส่ี ดุ คา่ เฉล่ีย 4.80 รองลงมาตามลาดับคือ - องค์ความรู้ด้าน การบริหารสารสนเทศ และด้าน การจัดซ้ือ จัดจ้างพัสดุ มีความจาเป็นกับหลักสูตร การฝกึ อบรมพฒั นากรอยู่ในระดับมากทสี่ ุด ค่าเฉลย่ี 4.60 - องค์ความรู้ดา้ น การบรหิ ารองคก์ รและระบบราชการ ด้านสถานการณ์การเปล่ยี นแปลงที่สาคัญในปจั จุบัน และ องค์ความรู้ด้านกฎหมาย มีความจาเป็นกบั หลกั สูตรการฝกึ อบรมพฒั นากรอยู่ในระดับมาก คา่ เฉลี่ย 4.40 - องค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการองค์ความรู้ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดบั มาก ค่าเฉลย่ี 4.20 - องค์ความรู้ด้านงานธุรการและงานสารบรรณ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยใู่ นระดบั มาก คา่ เฉลีย่ 4.00

6 ตารางที่ 3 ความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ทกั ษะที่จาเปน็ สาหรบั พัฒนากรทีพ่ ัฒนาการจงั หวดั คาดหวัง หวั ข้อวิชา ระดับคะแนน 1. ท่านคิดว่าทักษะดา้ น \"การใชค้ อมพิวเตอร\"์ มี มาก มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อย คา่ การ ความจาเปน็ กับหลักสตู รการฝึกอบรมพฒั นากรมาก- ทส่ี ุด ทีส่ ุด เฉล่ยี แปรผล นอ้ ยเพยี งใด 3 60.00 2 0 00 ระดบั 2. ทา่ นคิดวา่ ทักษะด้าน \"การใชเ้ คร่ืองมือส่ือสาร และการส่ือสารในยุคดจิ ิทลั \" มคี วามจาเป็นกบั 3 40.00 0.00 0.00 0.00 4.60 มากทส่ี ุด หลกั สตู รการฝกึ อบรมพัฒนากร มาก-นอ้ ยเพยี งใด 60.00 2 0 00 ระดบั 3. ท่านคดิ ว่าทกั ษะด้าน \"การเป็นวทิ ยากร 3 กระบวนการ\" มีความจาเปน็ กับหลกั สตู รการ 60.00 40.00 0.00 0.00 0.00 4.60 มากที่สุด ฝกึ อบรมพัฒนากรมาก-น้อยเพยี งใด 1 2 0 00 ระดับ 4. ทา่ นคดิ ว่าทักษะดา้ น \"การสร้างพนั ธมติ รในการ 20.00 ทางาน\"มีความจาเป็นกบั หลกั สตู รการฝกึ อบรม 40.00 0.00 0.00 0.00 4.60 มากที่สดุ พฒั นากรมาก-น้อยเพยี งใด 4.00 5. ทา่ นคิดว่าทักษะด้าน\"การทางานเป็นทีม\"มีความ 4 0 00 ระดับ จาเปน็ กบั หลักสตู รการฝกึ อบรมพฒั นากร มาก-น้อย เพียงใด 80.00 0.00 0.00 0.00 4.20 มาก 1.00 0.00 0.00 0.00 ระดับ 80.00 20.00 0.00 0.00 0.00 4.80 มากท่สี ุด ภาพรวม 4.56 มากที่สดุ จากตารางที่ 3 พบวา่ พัฒนาการจังหวัดกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเก่ียวกับ ทักษะที่จาเป็นสาหรับพัฒนากรท่ีพัฒนาการจังหวัด คาดหวัง โดยภาพรวมอย่ใู นระดับมากที่สดุ คา่ เฉล่ีย 4.56 เรียงลาดับค่าเฉลย่ี จากมากไปหานอ้ ย ดงั นี้ - ทักษะด้านการทางานเป็นทีม มีความจาเป็นกับหลักสตู รการฝกึ อบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมากท่ีสุด ค่าเฉลี่ย 4.80 รองลงมาตามลาดับคือ - ทักษะด้านการใช้คอมพิวเตอร์ ทักษะการใช้เคร่ืองมือการสื่อสารและการส่ือสารในยุคดิจิทัล และทักษะด้าน การเปน็ วิทยากรกระบวนการ มีความจาเป็นกับหลกั สตู รการฝกึ อบรมพฒั นากรอยู่ในระดบั มากที่สดุ ค่าเฉลีย่ 4.60 - ทักษะด้านการสร้างพันธมิตรในการทางาน มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก คา่ เฉลย่ี 4.20

7 ตารางท่ี 4 ความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั ทัศนคติ ท่จี าเป็นสาหรบั พฒั นากรในความคาดหวังของพฒั นาการจงั หวดั หวั ข้อวชิ า ระดับคะแนน มาก มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ย ค่า การ ทส่ี ดุ ที่สุด เฉลย่ี แปรผล 1. ท่านคดิ วา่ ทศั นคตดิ ้าน\"การคดิ วเิ คราะห\"์ มี 5 0 0 0 0 ระดบั ความจาเปน็ กับหลกั สตู รการฝึกอบรมพัฒนากร มาก-นอ้ ยเพยี งใด 100.00 0.00 0.00 0.00 0.00 5.00 มากท่สี ุด 2. ทา่ นคิดว่าทศั นคตดิ า้ น\"การใส่ใจและพฒั นา 1 4 0 0 0 ระดับ ผ้อู ื่น\"มคี วามจาเป็นกับหลกั สตู รการฝกึ อบรมมาก- น้อยเพยี งใด 20.00 80.00 0.00 0.00 0.00 4.20 มาก 3. ท่านคดิ ว่าทัศนคตดิ ้าน\"การศลิ ปะการสื่อสารจงู 3 2 0 00 ระดบั ใจ\"มีความจาเปน็ กบั หลักสตู รการฝึกอบรมพฒั นา กรมาก-น้อยเพียงใด 60.00 40.00 0.00 0.00 0.00 4.60 มากทีส่ ดุ 4. ทา่ นคดิ ทัศนคตดิ ้าน\"รกั และศรทั ธาองค์กร/ 3 2 0 00 ระดับ ประชาชน\"มคี วามจาเปน็ กบั หลักสูตรการ ฝกึ อบรมพัฒนากรมาก-นอ้ ยเพยี งใด 60.00 40.00 0.00 0.00 0.00 4.60 มากทีส่ ดุ 5. ทา่ นคดิ วา่ ทัศนคติด้าน\"คณุ ธรรมและ จรยิ ธรรม\"มีความจาเปน็ กับหลักสตู รการฝกึ อบรม 3.00 2.00 0.00 0.00 0.00 ระดบั พฒั นากรมาก-นอ้ ยเพยี งใด 60.00 40.00 0.00 0.00 0.00 4.60 มากทส่ี ุด ภาพรวม 4.60 มากทสี่ ดุ จากตารางที่ 4 พบว่า พัฒนาการจังหวัดกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเกี่ยวกับ ทัศนคติที่จาเป็นสาหรับพัฒนากรที่พัฒนาการจังหวดั คาดหวัง โดยภาพรวมอยใู่ นระดบั มากที่สดุ ค่าเฉลีย่ 4.60 เรยี งลาดับคา่ เฉลี่ยจากมากไปหานอ้ ย ดังนี้ - ทัศนคติด้านการคิดวิเคราะห์ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมากท่ีสุด คา่ เฉลีย่ 5.00 รองลงมาตามลาดบั คอื - ทัศนคติด้านการศิลปะการสื่อสารจูงใจ ด้านรักและศรัทธาองค์กร/ประชาชน และด้านคุณธรรมและจริยธรรม มคี วามจาเปน็ กับหลกั สตู รการฝกึ อบรมพัฒนากรอย่ใู นระดบั มากทส่ี ดุ ค่าเฉล่ีย 4.60 - ทัศนคติด้านการใส่ใจและพัฒนาผู้อื่น มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลีย่ 4.20

8 2.พัฒนากร ตารางที่ 5 แสดงข้อมูลทว่ั ไป ประเด็น จานวน รอ้ ยละ 1) เพศ 49 37.12 - ชาย 83 62.88 - หญงิ 51 38.64 2) อายุ 53 40.15 - 30–49 ปี 28 21.21 - 40–49 ปี - 50-59 ปี 132 100.00 3) ตาแหน่ง 86 65.15 พฒั นากร 46 34.85 0 0.00 4) การศึกษา (1) ป.ตรี (2) ป.โท (3) อื่น ๆ จากตารางท่ี 5 ข้อมลู ทว่ั ไป พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิง 83 คน คิดเป็นร้อยละ 62.88 เพศชาย 49 คน คิดเป็นร้อยละ 37.12 อายุ 30-49 ปี จานวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 38.64 รองลงมาตามลาดับคือ อายุ 40-49 ปี จานวน 53 คน คิดเป็นร้อยละ 40.15 อายุ 50-59 ปี จานวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 21.21 ส่วนใหญ่สาเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรี จานวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 65.15 รองลงมาปริญญาโท จานวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 34.85 ผู้ตอบแบบสอบถามทกุ คนดารงตาแหนง่ พฒั นากร

9 ตารางที่ 6 ความคดิ เห็นเกี่ยวกับองค์ความรู้ที่จาเปน็ สาหรับพฒั นากร ระดับคะแนน หวั ข้อวิชา มาก มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อย คา่ การ ท่ีสดุ ท่สี ุด เฉลยี่ แปรผล 41 1. ท่านคิดวา่ องคค์ วามรู้ \"การพฒั นาชุมชน\" 74 31.06 10 2 5 ระดับ มีความจาเปน็ กับหลกั สตู รการฝึกอบรมพฒั นากร 56.06 66 มาก-น้อยเพยี งใด 50 50.00 7.58 1.52 3.79 4.34 มาก 37.88 57 10 6 0 ระดับ 2. ทา่ นคิดว่าองคค์ วามรู้ \"การบรหิ ารจดั การองค์ 63 43.18 ความร\"ู้ มีความจาเป็นกับหลักสตู รการฝึกอบรม 47.73 70 7.58 4.55 0.00 4.21 มาก พฒั นากร มาก-นอ้ ยเพียงใด 45 53.03 6 42 ระดับ 34.09 3. ทา่ นคดิ วา่ องคค์ วามรู้ \"การบรหิ ารแผนงาน/ 60.00 4.55 3.03 1.52 4.33 มาก โครงการ\" มคี วามจาเป็นกับหลกั สตู รการ 53.00 45.45 13 3 1 ระดับ ฝกึ อบรมพัฒนากร มาก-นอ้ ยเพียงใด 40.15 28 21.21 9.85 2.27 0.76 4.17 มาก 4. ทา่ นคดิ วา่ องคค์ วามรู้ \"การบรหิ ารสารสนเทศ\" 48 มีความจาเปน็ กับหลกั สูตรการฝึกอบรมพฒั นากร 36.36 15.00 4.00 0.00 ระดับ มาก-น้อยเพยี งใด 55 11.36 3.03 0.00 4.23 มาก 41.67 5. ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"องคก์ รและระบบ 12 6 1 ระดบั ราชการ\" มีความจาเปน็ กับหลกั สตู รการฝกึ อบรม 40.00 พฒั นากร มาก-น้อยเพยี งใด 30.30 9.09 4.55 0.76 4.44 มาก 26 5 1 ระดบั 6. ทา่ นคิดว่าองคค์ วามรู้ \"การจัดซอื้ - จัดจา้ ง 85 พัสดุ\" มีความจาเป็นกบั หลกั สูตรการฝกึ อบรม 64.39 19.70 3.79 0.76 4.10 มาก พัฒนากร มาก-นอ้ ยเพยี งใด 52 22 0 0 ระดบั 39.39 7. ท่านคดิ วา่ องค์ความรู้ \"งานธรุ การและงานสาร 55 16.67 0.00 0.00 4.25 มาก บรรณ\" มีความจาเป็นกับหลกั สูตรการฝึกอบรม 41.67 พฒั นากร มาก-น้อยเพียงใด 9.00 2.00 0.00 ระดบั 81.00 6.82 1.52 0.00 4.52 มากท่สี ดุ 8. ท่านคิดว่าองคค์ วามร\"ู้ เกี่ยวกบั สถานการณก์ าร 4.29 มากท่ีสดุ เปลย่ี นแปลงสาคญั ในปัจจบุ นั \"มคี วามจาเปน็ กบั หลักสตู รการฝึกอบรมมาก-นอ้ ยเพยี งใด 9. ท่านคิดว่าองค์ความร\"ู้ ความร้เู รอ่ื งกฎหมาย\" มีความจาเปน็ กับหลกั สตู รการฝกึ อบรมมาก-นอ้ ย เพยี งใด 61.36 ภาพรวม

10 จากตารางท่ี 6 พบว่า พัฒนากรกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเก่ียวกับองค์ความรู้มีความจาเป็นสาหรับพัฒนากรในความ คาดหวัง โดยภาพรวมอยใู่ นระดับมาก ค่าเฉลีย่ 4.29 เรียงลาดบั ค่าเฉลีย่ จากมากไปหานอ้ ย ดงั น้ี - องค์ความรู้ด้าน ความรู้เร่ืองกฎหมาย มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยใู่ นระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52 - องค์ความรู้ด้าน การจัดซ้ือ จัดจ้างพัสดุ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลย่ี 4.44 - องค์ความรู้ด้าน การพัฒนาชุมชน มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับ มาก ค่าเฉล่ีย 4.34 - องค์ความรู้ด้าน การบริหารแผนงาน/โครงการ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดบั มาก คา่ เฉลี่ย 4.33 - องค์ความรู้ด้าน สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงท่ีสาคัญในปัจจุบัน มีความจาเป็นกับหลักสูตรการ ฝึกอบรมพฒั นากรอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลีย่ 4.25 - องค์ความรู้ด้าน องค์กรและระบบราชการ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดบั มาก คา่ เฉลย่ี 4.23 - องค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการองค์ความรู้ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ยี 4.21 - องค์ความรู้ด้าน การบริหารสารสนเทศ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดับมาก คา่ เฉลย่ี 4.17 - องค์ความรู้ด้าน งานธุรการและงานสารบรรณ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดบั มาก ค่าเฉลยี่ 4.10

11 ตารางท่ี 7 ความคิดเห็นเกย่ี วกับ ทกั ษะทจ่ี าเป็นสาหรบั พัฒนากรท่ีพฒั นากร หวั ข้อวิชา ระดบั คะแนน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย คา่ การ ทส่ี ดุ กลาง ทีส่ ุด เฉลีย่ แปรผล 1. ทา่ นคดิ ว่าทกั ษะด้าน \"การใชค้ อมพิวเตอร\"์ มีความ 73 44 14 1 0 ระดบั จาเปน็ กบั หลักสตู รการฝึกอบรมพฒั นากรมาก-น้อย เพยี งใด 55.30 33.33 10.61 0.76 0.00 4.43 มาก 2. ท่านคดิ ว่าทักษะด้าน \"การใชเ้ ครือ่ งมอื สอ่ื สารและการ 70 51 11 0 0 ระดบั สอื่ สารในยุคดิจทิ ลั \" มีความจาเปน็ กับหลกั สตู รการ ฝึกอบรมพฒั นากร มาก-น้อยเพียงใด 53.03 38.64 8.33 0.00 0.00 4.45 มาก 3. ทา่ นคดิ ว่าทกั ษะดา้ น \"การเป็นวทิ ยากรกระบวนการ\" 77 46 9 0 0 ระดับ มคี วามจาเปน็ กบั หลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร 58.33 34.85 6.82 0.00 0.00 4.52 มาก-นอ้ ยเพียงใด มาก ทีส่ ดุ 4. ท่านคิดว่าทกั ษะดา้ น \"การสร้างพนั ธมิตรในการทางาน\" 70 45 15 2 0 ระดับ มีความจาเปน็ กบั หลักสูตรการฝกึ อบรมพฒั นากร มาก-น้อยเพียงใด 53.03 34.09 11.36 1.52 0.00 4.39 มาก 5. ท่านคดิ วา่ ทักษะด้าน\"การทางานเป็นทีม\"มคี วามจาเปน็ กับหลักสตู รการฝกึ อบรมพัฒนากร มาก-น้อยเพียงใด 76.00 43.00 13.00 4.00 0.00 ระดับ มาก 57.58 32.58 9.85 3.03 0.00 4.54 ทส่ี ุด ภาพรวม 3.19 ปาน กลาง จากตารางที่ 7 พบว่า พัฒนากรกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเกี่ยวกับ ทักษะที่จาเป็นสาหรับพัฒนากรท่ีพัฒนากร คาดหวงั โดยภาพรวมอย่ใู นระดบั ปานกลาง คา่ เฉลยี่ 3.19 เรียงลาดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ - ทักษะด้านการทางานเป็นทีม มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก ที่สดุ คา่ เฉล่ยี 4.54 รองลงมาตามลาดบั คอื - ทักษะด้านการเป็นวิทยากรกระบวนการ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยูใ่ นระดบั มากทส่ี ดุ ค่าเฉลยี่ 4.52 - ทักษะการใช้เครื่องมือการสื่อสารและการส่ือสารในยุคดิจิทัล มีความจาเป็นกับหลักสูตรการ ฝกึ อบรมพฒั นากรอยู่ในระดบั มาก คา่ เฉลีย่ 4.45 - ทักษะด้านการใช้คอมพิวเตอร์ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก คา่ เฉลี่ย 4.43 - ทักษะด้านการสร้างพันธมิตรในการทางาน มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดับมาก คา่ เฉลย่ี 4.39

12 ตารางท่ี 8 ความคิดเห็นเก่ยี วกับ ทัศนคติ ท่จี าเป็นสาหรับพฒั นากรในความคาดหวังของพฒั นากร หัวข้อวิชา ระดบั คะแนน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย คา่ การ ท่สี ดุ กลาง ทส่ี ดุ เฉลย่ี แปรผล 1. ท่านคดิ วา่ ทัศนคตดิ า้ น\"การคดิ วิเคราะห์\"มคี วาม 67 53 12 00 ระดับ จาเป็นกบั หลักสูตรการฝกึ อบรมพฒั นากร 50.76 40.15 9.09 0.00 0.00 4.42 มาก มาก-น้อยเพียงใด 2. ทา่ นคดิ วา่ ทศั นคติด้าน\"การใสใ่ จและพฒั นาผอู้ ่ืน\" 59 60 13 00 ระดบั มีความจาเปน็ กับหลกั สตู รการฝกึ อบรม 44.70 45.45 9.85 0.00 0.00 4.35 มาก มาก-นอ้ ยเพียงใด 3. ทา่ นคิดวา่ ทัศนคติดา้ น\"การศลิ ปะการสื่อสารจงู ใจ\" 64 59 9 00 ระดับ มคี วามจาเป็นกบั หลักสูตรการฝกึ อบรมพฒั นากร 6.82 0.00 0.00 4.42 มาก มาก-น้อยเพยี งใด 48.48 44.70 4. ท่านคดิ ทัศนคตดิ า้ น\"รกั และศรทั ธาองคก์ ร/ 66 50 16 0 0 ระดับ ประชาชน\"มีความจาเปน็ กบั หลกั สูตรการฝึกอบรม 50.00 37.88 12.12 0.00 0.00 4.38 มาก พัฒนากรมาก-นอ้ ยเพยี งใด 5. ทา่ นคดิ วา่ ทศั นคตดิ า้ น\"คณุ ธรรมและจริยธรรม\"มี ความจาเป็นกบั หลักสตู รการฝึกอบรมพัฒนากร 82.00 34.00 16.00 0.00 0.00 ระดบั มาก-น้อยเพยี งใด 62.12 25.76 12.12 0.00 0.00 4.50 มากทสี่ ุด ภาพรวม 3.15 ปานกลาง จากตารางที่ 8 พบว่า พัฒนากรกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเกี่ยวกับ ทัศนคติที่จาเป็นสาหรับพัฒนากรท่ีพัฒนากรหวัง โดยภาพรวมอยู่ในระดบั ปานกลาง ค่าเฉล่ยี 3.15 เรียงลาดับค่าเฉล่ยี จากมากไปหาน้อย ดงั น้ี - ทัศนคติด้านคุณธรรมและจริยธรรม มีความจาเป็นกับหลักสตู รการฝกึ อบรมพัฒนากรอยู่ในระดับ มากท่ีสดุ ค่าเฉลย่ี 4.50 รองลงมาตามลาดบั คอื - ทัศนคติด้านการคิดวิเคราะห์ และ ทัศนคติด้านการศิลปะการสื่อสารจูงใจ มีความจาเป็นกับ หลกั สูตรการฝกึ อบรมพัฒนากรอยใู่ นระดับมาก ค่าเฉลยี่ 4.42 - ทัศนคติด้านรักและศรัทธาองค์กร/ประชาชน มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลย่ี 4.38 - ทัศนคติด้านการใส่ใจและพัฒนาผู้อื่น มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลีย่ 4.35

13 3. พัฒนาการอาเภอ ตอนที่ 9 แสดงข้อมูลทั่วไป ประเดน็ จานวน ร้อยละ 1) เพศ 35 53.85 - ชาย 30 46.15 - หญงิ 16 24.62 2) อายุ 47 72.31 - 40–49 ปี 2 3.08 - 50–59 ปี - 60 ปขี ึ้นไป 65 100.00 3) ตาแหน่ง 30 46.15 พัฒนาการอาเภอ 34 52.31 1 1.54 4) การศกึ ษา (1) ป.ตรี (2) ป.โท (3) ป.เอก (4) อ่นื ๆ จากตารางที่ 9 ข้อมูลท่ัวไปพบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงจานวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 46.15 เพศชาย 35 คน คิดเป็นร้อย ละ 53.85 อายุ 60 ปีขึ้นไป จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 3.08 รองลงมาตามลาดับคือ อายุ 50-59 ปี จานวน 47 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 72.31 อายุ 40-49 ปี จานวน 16 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 24.62 ส่วนใหญ่สาเร็จการศึกษา ระดับปริญญาโท จานวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 52.31 รองลงมาปริญญาตรี จานวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 46.15 และปรญิ ญาเอก 1 คน เท่ากันคดิ เป็นร้อยละ 1.54 ผู้ตอบแบบสอบถามทุกคนดารงตาแหนง่ พัฒนาการ อาเภอ

14 สว่ นท่ี 10 ความคดิ เห็นเก่ยี วกบั องค์ความรทู้ ี่จาเปน็ สาหรับพัฒนาการอาเภอ หัวข้อวิชา ระดบั คะแนน มากทสี่ ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อย ค่า การ ทีส่ ุด เฉล่ยี แปรผล 1. ทา่ นคิดว่าองคค์ วามรู้ \"การพฒั นาชุมชน\" มคี วามจาเปน็ กบั หลกั สูตรการฝกึ อบรมพัฒนา 56 9 0 0 0 ระดับ กรมาก-น้อยเพยี งใด 86.15 13.85 0.00 0.00 0.00 4.86 มากที่สดุ 2. ท่านคิดว่าองคค์ วามรู้ \"การบรหิ ารจัดการองค์ 40 21 3 10 ระดับ ความร\"ู้ มีความจาเปน็ กบั หลกั สตู รการฝกึ อบรม 61.54 32.31 4.62 1.54 0.00 4.54 มากที่สดุ พัฒนากร มาก-นอ้ ยเพียงใด 3. ท่านคดิ วา่ องคค์ วามรู้ \"การบรหิ ารแผนงาน/ 35 21 8 1 0 ระดับ โครงการ\" มคี วามจาเปน็ กบั หลักสูตรการ มาก 53.85 32.31 12.31 1.54 0.00 4.38 ฝกึ อบรมพัฒนากร มาก-น้อยเพียงใด 4. ทา่ นคดิ ว่าองคค์ วามรู้ \"การบรหิ าร 43 17 5 0 0 ระดับ สารสนเทศ\" มีความจาเป็นกับหลกั สตู รการ ฝกึ อบรมพฒั นากร มาก-นอ้ ยเพยี งใด 66.15 26.15 7.69 0.00 0.00 4.58 มากทสี่ ุด 5. ทา่ นคดิ ว่าองค์ความรู้ \"องค์กรและระบบ ราชการ\" มีความจาเป็นกับหลกั สตู รการ 34.00 26.00 5.00 0.00 0.00 ระดบั ฝกึ อบรมพฒั นากร มาก-นอ้ ยเพยี งใด 52.31 40.00 7.69 0.00 0.00 4.45 มาก 6. ทา่ นคิดว่าองค์ความรู้ \"การจดั ซอ้ื - จดั จ้าง 47 9 9 0 0 ระดับ พสั ดุ\" มคี วามจาเปน็ กับหลกั สตู รการฝกึ อบรม พัฒนากร มาก-น้อยเพยี งใด 72.31 13.85 13.85 0.00 0.00 4.58 มากทส่ี ดุ 7. ทา่ นคิดว่าองคค์ วามรู้ \"งานธรุ การและงาน 35 12 15 2 1 ระดบั สารบรรณ\" มีความจาเป็นกับหลกั สตู รการ ฝกึ อบรมพฒั นากร มาก-น้อยเพยี งใด 53.85 18.46 23.08 3.08 1.54 4.20 มาก 8. ท่านคดิ วา่ องค์ความร\"ู้ เกย่ี วกับสถานการณ์ 34 27 3 10 ระดบั การเปลย่ี นแปลงสาคญั ในปจั จบุ นั \"มคี วาม จาเปน็ กับหลักสูตรการฝกึ อบรมมาก-นอ้ ย 52.31 41.54 4.62 1.54 0.00 4.45 มาก เพียงใด 9. ท่านคิดวา่ องคค์ วามรู้\"ความรเู้ รอื่ งกฎหมาย\"มี ระดบั ความจาเปน็ กบั หลักสตู รการฝึกอบรมมาก-นอ้ ย 32.00 26.00 6.00 1.00 0.00 เพียงใด 49.23 40.00 9.23 1.54 0.00 4.37 มาก ภาพรวม 4.49 มาก

15 จากตารางที่ 10 พบว่า พัฒนาการอาเภอกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดเห็นเก่ียวกับองค์ความรู้ที่จาเป็นสาหรับพัฒนากรในความ คาดหวังโดยภาพรวมอย่ใู นระดับมาก คา่ เฉล่ีย 4.49 เรียงลาดบั ค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ - องคค์ วามรดู้ ้าน การพัฒนาชุมชน มีความจาเป็นกบั หลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนาการ มีความจาเป็น กบั หลักสตู รการฝกึ อบรมพฒั นากรอยู่ในระดบั มากท่สี ุด คา่ เฉลยี่ 4.86 รองลงมาตามลาดบั คือ - องค์ความรู้ด้านการบรหิ ารสารสนเทศ และ การจัดซ้ือ-จัดจ้าง พัสดุ มีความจาเป็นกับหลักสตู รการ ฝึกอบรมพฒั นากรอย่ใู นระดับมากท่ีสดุ คา่ เฉลี่ย 4.58 รองลงมาตามลาดบั คือ - องค์ความรู้ การบริหารจัดการองค์ความรู้ มีความจาเป็นกับหลักสูตรพัฒนากรอยู่ในระดับมากที่สดุ ค่าเฉลย่ี 4.54 - องค์ความรู้ด้านสถานการณ์การเปล่ียนแปลงที่สาคัญในปัจจุบนั และด้านองค์กรและระบบราชการ มีความจาเป็นกบั หลักสตู รการ ฝกึ อบรมพฒั นากรอยู่ในระดับมาก คา่ เฉลยี่ 4.45 - องค์ความรู้ด้านการบริหารแผนงาน/โครงการ มีความจาเป็นกับหลักสูตรพัฒนากรอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลยี่ 4.38 - องคค์ วามรดู้ า้ น กฎหมาย มีความจาเปน็ กับหลักสตู รการฝกึ อบรมอยใู่ นระดบั มาก คา่ เฉลยี่ 4.37 - องค์ความรู้ งานธุรการและงานสารบรรณ มคี วามจาเป็นกับหลักสตู รพัฒนากรอย่ใู นระดบั มาก ค่าเฉลย่ี 4.20

4.ผ้นู าชมุ ชน/กลุ่ม/องค์กร/เครือขา่ ย จานวน 16 ตารางท่ี 11 แสดงข้อมูลท่ัวไป 170 รอ้ ยละ 206 ประเดน็ 45.21 16 54.79 1) เพศ 27 - ชาย 134 4.26 - หญิง 178 7.18 19 35.64 2) อายุ 47.34 - ต่ากวา่ 30 ปี 115 5.05 - 30 -39 ปี 38 - 40–49 ปี 88 30.59 - 50–59 ปี 48 10.11 - 60 ปีขึ้นไป 50 23.40 29 12.77 3) ตาแหนง่ 28 13.30 (1) ผูน้ าท้องที่ 51 7.71 (2) ผู้นาท้องถน่ิ 7.45 (3) อช./ผูน้ าอช. 20 13.56 (4) ผ้แู ทนกลุ่ม OTOP 77 (5) ผู้นาสมั มาชพี ชมุ ชน 216 5.32 (6) กม.โครงการแก้ไขปัญญาความยากจน (กข.คจ.) 53 20.48 (7) กม.กลมุ่ ออมทรัพยเ์ พื่อการผลิต 3 57.45 (8) กม.สตรี 4 14.10 0.80 4) การศกึ ษา 1.06 (1) ประถมศกึ ษา (2) ม.ตน้ (3) ม.ปลาย (4) ป.ตรี (6) ป.โท (7) อืน่ ๆ

17 จากตารางที่ 11 ขอ้ มลู ท่วั ไป พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิง 206 คน คิดเป็นร้อยละ 54.79 เพศชาย 170 คน คิดเป็นร้อยละ 45.21 อายุ 60 ปีข้ึนไป จานวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 5.05 รองลงมาตามลาดับคือ อายุ 50-59 ปี จานวน 178 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 47.34 อายุ 40-49 ปี จานวน 134 คน คิดเปน็ ร้อยละ 35.64 รองลงมาตามลาดับคือ อายุ 30-39 ปี จานวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 7.18 รองลงมาตามลาดับคือ อายุต่ากว่า 30 ปี จานวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 4.26 ส่วนใหญ่สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 216 คน คิดเป็นร้อยละ 57.45 รองลงมาสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 20.48 รองลงมา สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จานวน 53 คน คิดเป็นร้อยละ 14.10 รองลงมาสาเร็จการศึกษาระดับ ประถมศึกษา จานวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 5.32รองลงมาสาเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทร จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 0.80 และสาเร็จการศึกษาระดับอื่น ๆ จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 1.06 ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่ดารงตาแหน่งผู้นาท้องที่ จานวน 115 คน คิดเป็นร้อยละ 30.59 รองลงมาดารงตาแหน่ง อช./ผู้นา อช. จานวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 23.40 รองลงมาดารงตาแหน่งคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จานวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 13.56 รองลงมาดารงตาแหน่งผู้นาสัมมาชีพชุมชน จานวน 50 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 13.30 รองลงมาดารงตาแหน่งผ้แู ทนกลุ่ม OTOP จานวน 48 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 12.77 รองลงมาดารง ตาแหน่งผู้นาท้องถิ่น จานวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 10.11 รองลงมาดารงตาแหน่งคณะกรรมการโครงการ แก้ไขปญั หาความยากจน (กข.คจ.) จานวน 28 คน คิดเปน็ ร้อยละ 7.45 รองลงมาดารงตาแหน่งคณะกรรมการ กลุ่มออมทรพั ยเ์ พื่อการผลติ จานวน 28 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 7.45

18 ตารางท่ี 12 ความคิดเหน็ เก่ียวกบั พฒั นากรในความคาดหวงั ของท่าน หัวข้อวิชา มาก ระดับคะแนน ค่า การ ที่สดุ มาก เฉลี่ย แปรผล 1. การบรกิ าร 202 157 ปาน น้อย 2. การเปน็ พเี่ ลย้ี ง 53.72 41.76 กลาง น้อย ท่สี ดุ ระดับ 3. มคี วามรูท้ ีห่ ลากหลาย 214 147 17 0 0 4.49 มาก 56.91 39.10 4.52 0.00 0.00 4. เป็นนกั ประสานงาน 194 160 15 0 0 ระดับ 5. เปน็ นกั ประชาสมั พนั ธ์ 51.60 42.55 4.53 มากทส่ี ดุ 180 164 3.99 0.00 0.00 6. มีมนษุ ยส์ มั พันธ์ 47.87 43.62 22 0 0 ระดับ 175.00 175.00 7. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม 46.54 46.54 5.85 0.00 0.00 4.46 มาก 217 146 28 0 0 ระดบั 8. ตดิ ตาม ประเมินผลการดาเนินการ 57.71 38.83 7.45 0.00 0.00 ดาเนินงานต่อเน่ือง 26.00 0.00 0.00 4.36 มาก 9. การสื่อสาร รวดเรว็ ทันสมยั 210 158 ระดบั 55.85 42.02 6.91 0.00 0.00 10. มีความจรงิ ใจ 167 170 13 0 0 4.40 มาก 44.41 45.21 ระดบั 11. นกั แก้ปัญหา 186.00 158.00 3.46 0.00 0.00 49.47 42.02 4.54 มากท่สี ุด 225.00 139.00 800 ระดบั 59.84 36.97 197.00 156.00 2.13 0.00 0.00 4.54 มากทีส่ ุด 52.39 41.49 37 0 0 ระดับ ภาพรวม 9.84 0.00 0.00 8.00 0.00 0.00 4.32 มาก ระดบั 2.13 0.00 0.00 12.00 0.00 0.00 4.22 มาก ระดบั 3.19 0.00 0.00 26.00 0.00 0.00 4.57 มากทส่ี ุด ระดับ 6.91 0.00 0.00 4.49 มาก 4.45 มาก

19 จากตารางที่ 12 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนากรในความคาดหวังโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก คา่ เฉลี่ย 4.45 และเม่ือพจิ ารณาเรยี งคา่ เฉลีย่ จากมากไปหาน้อย ดังน้ี - มีความจริงใจ อยู่ในระดบั มากทีส่ ดุ คา่ เฉลย่ี 4.57 รองลงมาตามลาดับ คือ - มีมนษุ ยส์ มั พันธ์และมคี ณุ ธรรม จริยธรรม อยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ คา่ เฉล่ีย 4.54 - การเป็นพ่เี ลีย้ ง อยูใ่ นระดบั มากทสี่ ดุ ค่าเฉลี่ย 4.53 - การบรกิ ารและนกั แก้ปัญหา อยใู่ นระดบั มาก ค่าเฉลยี่ 4.49 - มีความรูท้ หี่ ลากหลาย อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลย่ี 4.46 - เป็นนักประชาสัมพนั ธ์ อยใู่ นระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.40 - เป็นนักประสานงาน อยู่ในระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.36 - ติดตาม ประเมนิ ผลการดาเนินการดาเนินงานตอ่ เนอ่ื ง อยใู่ นระดับมาก คา่ เฉล่ยี 4.32 - การสอ่ื สาร รวดเร็ว ทันสมัย อย่ใู นระดับมาก คา่ เฉลีย่ 4.22

20 ประมวลผลภาพรวม ผลการสารวจความคดิ เหน็ เรื่องความต้องการที่จาเป็นในการฝกึ อบรมพฒั นากร (สาหรับพัฒนากร) 5 4 3 2 1 202 ตารางท่ี 13 ความคิดเหน็ เก่ียวกับองคค์ วามรู้ท่ีจาเป็นสาหรบั พฒั นากร หวั ข้อวิชา ระดับคะแนน 1. ท่านคดิ วา่ องค์ความรู้ \"การพฒั นาชุมชน\" มี มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย คา่ การ ความจาเป็นกับหลักสตู รการฝกึ อบรมพฒั นากร ที่สดุ กลาง ที่สดุ เฉล่ีย แปรผล มาก-นอ้ ยเพียงใด 51 134 25.25 10 2 5 ระดบั 2. ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การบรหิ ารจัดการองค์ 66.34 89 4.52 มากทีส่ ุด ความรู้\" มีความจาเปน็ กบั หลักสตู รการฝึกอบรม 92 44.06 4.95 0.99 2.48 พฒั นากร มาก-นอ้ ยเพียงใด 45.54 79 14 7 0 ระดับ 102 39.11 4.32 มาก 3. ทา่ นคิดว่าองคค์ วามรู้ \"การบรหิ ารแผนงาน/ 50.50 89 6.93 3.47 0.00 โครงการ\" มีความจาเป็นกับหลกั สตู รการฝกึ อบรม 91 44.06 14 5 2 ระดับ พฒั นากร มาก-น้อยเพียงใด 45.05 4.36 มาก 87.00 6.93 2.48 0.99 4. ทา่ นคดิ วา่ องคค์ วามรู้ \"การบรหิ ารสารสนเทศ\" 90.00 43.07 18 3 1 ระดับ มคี วามจาเปน็ กบั หลกั สูตรการฝกึ อบรมพฒั นากร 44.55 39 4.32 มาก มาก-นอ้ ยเพียงใด 135 19.31 8.91 1.49 0.50 5. ท่านคิดวา่ องค์ความรู้ \"องคก์ รและระบบราชการ\" 66.83 63 ระดับ มคี วามจาเป็นกับหลกั สตู รการฝกึ อบรมพฒั นากร 88 31.19 21.00 4.00 0.00 4.30 มาก มาก-น้อยเพยี งใด 43.56 85 10.40 1.98 0.00 91 42.08 21 6 1 ระดบั 6. ทา่ นคดิ ว่าองคค์ วามรู้ \"การจัดซอื้ - จัดจา้ งพสั ด\"ุ 45.05 4.49 มาก มีความจาเป็นกับหลักสตู รการฝกึ อบรมพัฒนากร 69.00 10.40 2.97 0.50 มาก-นอ้ ยเพยี งใด 115.00 42 7 2 ระดับ 4.13 มาก 7. ทา่ นคดิ ว่าองคค์ วามรู้ \"งานธุรการและงานสาร 20.79 3.47 0.99 บรรณ\" มีความจาเปน็ กบั หลกั สูตรการฝกึ อบรม 25 1 0 ระดบั พฒั นากร มาก-น้อยเพียงใด 4.32 มาก 12.38 0.50 0.00 8. ท่านคิดว่าองคค์ วามรู้\"เกี่ยวกบั สถานการณ์การ ระดับ เปลย่ี นแปลงสาคญั ในปัจจบุ ัน\"มคี วามจาเป็นกับ 15.00 3.00 0.00 หลกั สตู รการฝกึ อบรมมาก-นอ้ ยเพยี งใด 9. ท่านคดิ วา่ องค์ความร้\"ู ความรเู้ รอื่ งกฎหมาย\"มี ความจาเปน็ กบั หลักสตู รการฝกึ อบรมมาก-น้อย เพยี งใด 56.93 34.16 7.43 1.49 0.00 4.47 มาก ภาพรวม 4.36 มาก

21 จากตารางท่ี 13 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถาม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ความรู้มีความจาเป็นสาหรับพัฒนากรในความ คาดหวัง โดยภาพรวมอย่ใู นระดบั มาก คา่ เฉลยี่ 4.36 เรยี งลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย ดังนี้ - องคค์ วามรดู้ ้าน การพัฒนาชุมชน มคี วามจาเปน็ กบั หลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก ที่ คา่ เฉลยี่ 4.52 เรียงลาดับค่าเฉลยี่ จากมากไปหานอ้ ย ดงั นี้ - องค์ความรู้ด้าน การจัดซ้ือ จัดจ้างพัสดุ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยใู่ นระดับมาก ค่าเฉล่ยี 4.49 - องค์ความรู้ด้าน ความรู้เรื่องกฎหมาย มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดบั มาก คา่ เฉลยี่ 4.47 - องค์ความรู้ด้าน การบริหารแผนงาน/โครงการ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดบั มาก ค่าเฉล่ยี 4.36 - องค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการองค์ความรู้ ด้านการบริหารสารสนเทศ ด้านสถานการณ์ การเปลยี่ นแปลงท่ีสาคัญในปัจจบุ นั มคี วามจาเปน็ กบั หลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.32 - องค์ความรู้ด้าน องค์กรและระบบราชการ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยใู่ นระดับมาก ค่าเฉลย่ี 4.30 - องค์ความรู้ด้าน งานธุรการและงานสารบรรณ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยู่ในระดบั มาก ค่าเฉลีย่ 4.13

22 ตารางท่ี 14 ความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ทักษะทจี่ าเปน็ สาหรับพฒั นากรที่พฒั นากร หัวข้อวิชา ระดบั คะแนน 1. ท่านคิดว่าทกั ษะด้าน \"การใช้คอมพวิ เตอร์\" มีความ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ค่า การ จาเป็นกับหลกั สูตรการฝึกอบรมพฒั นากรมาก-นอ้ ย ทส่ี ดุ 58 กลาง ท่ีสดุ เฉลย่ี แปรผล เพยี งใด 123 28.71 60.89 64 18 3 0 ระดับ 2. ทา่ นคิดวา่ ทักษะด้าน \"การใชเ้ ครอ่ื งมอื ส่ือสารและ 115 31.68 การสอื่ สารในยุคดจิ ิทลั \" มคี วามจาเป็นกับหลักสูตรการ 56.93 65 8.91 1.49 0.00 4.49 มาก ฝึกอบรมพฒั นากร มาก-นอ้ ยเพียงใด 119 21 2 0 ระดบั 32.18 3. ท่านคิดว่าทักษะด้าน \"การเปน็ วทิ ยากรกระบวนการ\" 58.91 76 10.40 0.99 0.00 4.45 มาก มคี วามจาเป็นกบั หลักสตู รการฝกึ อบรมพัฒนากร 104 37.62 18 0 0 ระดับ มาก-นอ้ ยเพียงใด 51.49 มาก 64.00 8.91 0.00 0.00 4. ท่านคิดวา่ ทกั ษะดา้ น \"การสร้างพันธมิตรในการ 124.00 19 3 0 4.50 ทส่ี ุด ทางาน\"มีความจาเปน็ กบั หลักสตู รการฝกึ อบรมพัฒนา ระดบั กรมาก-นอ้ ยเพยี งใด 9.41 1.49 0.00 5. ท่านคดิ วา่ ทกั ษะด้าน\"การทางานเป็นทมี \"มคี วาม 4.39 มาก จาเป็นกบั หลกั สตู รการฝกึ อบรมพฒั นากร มาก-น้อย 10.00 4.00 0.00 เพยี งใด 4.95 1.98 0.00 ระดบั 61.39 31.68 มาก ภาพรวม 4.52 ทส่ี ุด 4.47 มาก จากตารางที่ 14 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับ ทักษะท่ีจาเป็นสาหรับพัฒนากรที่พัฒนากรคาดหวัง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก คา่ เฉล่ีย 4.47 เรียงลาดบั คา่ เฉลย่ี จากมากไปหาน้อย ดังน้ี - ทักษะด้านการทางานเป็นทีม มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก ทีส่ ดุ ค่าเฉลี่ย 4.52 รองลงมาตามลาดับคอื - ทักษะด้านการเป็นวิทยากรกระบวนการ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อย่ใู นระดับมากท่สี ดุ คา่ เฉลย่ี 4.50 - ทักษะด้านการใช้คอมพิวเตอร์ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก คา่ เฉลยี่ 4.49 - ทักษะการใช้เคร่ืองมือการสื่อสารและการสื่อสารในยุคดิจิทัล มีความจาเป็นกับหลักสูตรการ ฝกึ อบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก คา่ เฉล่ยี 4.45 - ทักษะด้านการสร้างพันธมิตรในการทางาน มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยใู่ นระดบั มาก ค่าเฉลยี่ 4.39

23 ตารางท่ี 15 ความคดิ เหน็ เก่ียวกบั ทศั นคติ ที่จาเป็นสาหรับพัฒนากรในความคาดหวังของพฒั นากร หวั ข้อวิชา ระดบั คะแนน 1. ท่านคิดว่าทศั นคตดิ ้าน\"การคิดวเิ คราะห\"์ มีความจาเปน็ มาก ปาน นอ้ ย ค่า การ กับหลักสตู รการฝึกอบรมพัฒนากรมาก-นอ้ ยเพียงใด ท่สี ุด มาก กลาง นอ้ ย ทส่ี ดุ เฉลี่ย แปรผล 100 82 20 0 0 ระดบั 49.50 40.59 9.90 0.00 0.00 4.40 มาก 2. ท่านคิดว่าทศั นคตดิ า้ น\"การใสใ่ จและพฒั นาผู้อื่น\" 86 89 25 2 0 ระดับ มีความจาเปน็ กับหลกั สูตรการฝกึ อบรมมาก-นอ้ ยเพียงใด 42.57 44.06 12.38 0.99 0.00 4.28 มาก 3. ทา่ นคิดว่าทศั นคติดา้ น\"การศลิ ปะการสอ่ื สารจงู ใจ\" 102 85 13 1 1 ระดบั มคี วามจาเป็นกบั หลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรมาก-น้อย 50.50 42.08 6.44 0.50 0.50 4.42 มาก เพียงใด 4. ท่านคิดทัศนคติดา้ น\"รักและศรทั ธาองคก์ ร/ประชาชน\" 117 64 20 1 0 ระดับ มคี วามจาเป็นกับหลกั สตู รการฝึกอบรมพฒั นากรมาก-น้อย 57.92 31.68 9.90 0.50 0.00 4.47 มาก เพียงใด 5. ท่านคิดว่าทศั นคติดา้ น\"คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม\" มีความ 140.00 45.00 17.00 0.00 0.00 ระดับ จาเปน็ กับหลักสูตรการฝกึ อบรมพฒั นากรมาก-น้อยเพียงใด 69.31 22.28 8.42 0.00 0.00 4.61 มากท่สี ดุ ภาพรวม 4.43 มาก จากตารางที่ 15 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับ ทัศนคติท่ีจาเป็นสาหรับพัฒนากรท่ีพัฒนากรหวัง โดยภาพรวมอย่ใู นระดับมาก ค่าเฉล่ยี 4.43 เรยี งลาดับค่าเฉลย่ี จากมากไปหาน้อย ดังนี้ - ทัศนคติด้านคุณธรรมและจริยธรรม มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับ มากท่ีสุด คา่ เฉลี่ย 4.61 รองลงมาตามลาดบั คือ - ทัศนคติด้านรักและศรัทธาองค์กร/ประชาชน มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยใู่ นระดับมาก คา่ เฉลี่ย 4.47 - ทัศนคติด้านการศิลปะการส่ือสารจูงใจ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร อยใู่ นระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.42 - ทัศนคติด้านการคิดวิเคราะห์ มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรอยู่ในระดับมาก คา่ เฉล่ยี 4.40 - ทศั นคตดิ ้านการใส่ใจและพัฒนาผู้อน่ื มคี วามจาเปน็ กบั หลักสตู รการฝึกอบรมพฒั นากรอยู่ในระดับ มาก ค่าเฉลย่ี 4.28

24 ส่วนท่ี 5 ความคดิ เหน็ อื่น ๆ /ขอ้ เสนอเพม่ิ เติมแยกตามประเด็น 5.1 ความคิดเหน็ เกย่ี วกับความรู้ทีจ่ าเป็นสาหรบั พัฒนากร 1) ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การพัฒนาชุมชน\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก - น้อยเพียงใด - จาเป็นเพราะพัฒนากรต้องมีองค์ความรู้ในการพัฒนาชุมชนวิธีการเทคนิคการทางานในพ้ืนท่ี เพื่อการพฒั นาชมุ ชน - นกั พฒั นาต้องพัฒนาความรู้อยตู่ ลอดเวลา - เพราะกรมการพัฒนาชุมชนมีบทบาทหน้าท่ีในการพัฒนาชุมชน องค์ความรู้การพัฒนาชุมชน จึงมีความจาเป็นมากสาหรบั การปฏิบตั ิงานในชุมชน - การลงพ้ืนท่ีจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนกับชาวบ้านเป็นการสร้าง องคค์ วามรูใ้ ห้พฒั นากรในการปฏบิ ัตหิ น้าทีร่ ว่ มกบั หน่วยงานภาคีอืน่ ๆ ในพืน้ ท่ดี ว้ ย - การทางานต้องใช้หลักการพัฒนาชุมชนในการส่งเสริมการมีส่วนร่วม และเป็นผู้นาทางสังคม มากกวา่ ผนู้ าทางเศรษฐกจิ - เปน็ พน้ื ฐานสาคญั ในการทางานในพ้ืนท่ี 2) ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การบริหารจัดการองค์ความรู้\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรม พฒั นากรมาก - นอ้ ยเพยี งใด - เป็นการฝึกฝนให้ความรู้กับพัฒนากรในการจัดการกับองค์ความรู้ที่สั่งสมมา บทเรียนที่พบ ในทง้ั กอ่ น และหลงั ดาเนนิ กิจกรรมแต่ละกิจกรรมสรา้ งเป็นรูปธรรม - เป็นหลักในการรวบรวมองค์ความรู้ต่าง ๆ เพ่ือนามาปรับใช้ และวางแผนในการทางานสู่ชุมชน อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ - เพ่ือเป็นการกระจายองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับบุคคลอื่น แต่ต้องนาไปสู่ การปฏิบตั ิ ให้ได้ - พัฒนากรจะได้มีความรู้ในการสรุป รวบรวมความรู้และสามารถถ่ายทอดความรู้ในการพัฒนา ชุมชนตามภารกจิ กรมฯ ใหแ้ ก่ชมุ ชนไดบ้ รรลุวัตถปุ ระสงค์ 3) ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การบริหารแผนงาน/โครงการ\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรม พัฒนากรมาก - นอ้ ยเพียงใด - การบริหารแผนงานโครงการสาหรับพัฒนากรเป็นส่ิงสาคัญมาก เพราะพัฒนากรต้องทา ทุกกระบวนการอย่แู ลว้ จะได้เหน็ ผลลัพธ์ความสาเร็จหรือความล้มเหลวของโครงการ - นาองคค์ วามรไู้ ปพัฒนาบริหารจดั การโครงการไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ - เปน็ เครอ่ื งมือในการปฏิบัติงาน ทาให้เกิดการปฏบิ ัติงานราบรื่นและสามรถตรวจสอบความสาเรจ็ ได้ - ปัจจุบันพัฒนากรทางานภายใต้กรอบงบประมาณ กิจกรรมตามยุทธศาสตรก์ รมการพฒั นาชุมชน - ปจั จุบนั งานมีมาก งบมมี าก เวลาจากดั ต้องบริหารจดั การแผนตามโครงการให้ดี 4) ท่านคดิ ว่าองค์ความรู้ \"การบริหารสารสนเทศ\" มีความจาเปน็ กบั หลักสูตรการฝึกอบรมพฒั นากร มาก - น้อยเพียงใด - สารสนเทศเขา้ มามบี ทบาทมากในปัจจุบัน จึงมีความสาคญั อย่างยง่ิ หากไม่รูเ้ ท่าทันเทคโนโลยี ก็ตามไมท่ นั คนหรอื สังคมอ่ืน ๆ - ไทยแลนด์ 4.0 เทคโนโลยีมีความสาคญั ในการทางาน

25 - ทาให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานแต่ต้องให้เหมาะกับงานพช. อีกท้ัง เคร่ืองมอื /อปุ กรณ์กรมตอ้ งสนับสนุนให้มีความทันสมัย - การดาเนินงานและการปฏิบัติงานในปัจจุบันต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ ในการทางาน โดยเฉพาะการสรา้ งแบบสอบถามในระบบสารสนเทศ - ข้อมลู สารสนเทศมีจานวนมาก ตอ้ งมีการบรหิ ารระบบสารสนเทศให้ดี เพอ่ื การนาไปใช้ประโยชน์ 5) ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"องค์กรและระบบราชการ\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรม พฒั นากร มาก - นอ้ ยเพยี งใด - จาเป็นอย่างมากพัฒนากรต้องมีความเข้าใจในองค์กรและระบบราชการอย่างถ่องแท้ เรียนรู้ ทจ่ี ะตอ้ งอยใู่ นระบบราชการของไทยใหไ้ ด้ - ใหร้ บู้ ทบาทหน้าทีข่ องตนเองและเป็นแนวทางในการปฏบิ ัตงิ านต่อไป - เพอื่ แบง่ ปนั ความรู้ และเพม่ิ ทักษะในการปฏิบัตงิ าน - องค์กรและระบบราชการต้องให้ความเป็นธรรม/ยุติธรรมในการทางานแก่จนเท่าเทียมกัน และ มีเส้นทางความก้าวหนา้ ที่เอ้ืออานวย - ทาให้พัฒนากรได้ทราบบทบาทและหน้าท่ีของตนเองและความก้าวหน้าในอาชีพข้าราชการ ไดร้ ขู้ อบขา่ ยการปฏบิ ัตหิ นา้ ทีด่ ้วย 6) ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"การจัดซ้ือ-จัดจ้างพัสดุ\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก - นอ้ ยเพยี งใด - จาเป็นระดับหน่ึง แต่ไม่ทุกคนที่ต้องทาหน้าท่ีน้ี ด้วยภารกิจงานทั้งในพื้นท่ีและระบบรายงาน ทม่ี ากมายอยแู่ ล้ว - มีประโยชน์ได้ทราบแนวทางเป็นองค์ความรู้ แต่ไม่เห็นควรให้นักวิชาการพัฒนาชุมชนเป็นธุรการ เป็นการเงนิ เอง ควรมีเจ้าหนา้ ท่ี การเงนิ ในส่วนแยกต่าง - พัฒนากรทางานเกยี่ วกับการจดั ซ้อื -จัดจา้ ง จาเป็นตอ้ งมคี วามร้เู กีย่ วกับการจดั ซื้อ-จดั จ้าง แต่ควรมีเจ้าหนา้ ที่ธุรการ และการเงินประจาทกุ อาเภอ เพ่ือพัฒนากรจะได้ปฏิบัตหิ น้าท่ี - พัฒนากรทางานภายใต้กรอบงบประมาณ ทาเป็นการจัดซื้อ จัดจ้าง การฝึกอบรม ท่ีต้องมี องคค์ วามรู้ในการดาเนินการ 7) ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"งานธุรการและงานสารบรรณ\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรม พฒั นากรมาก - นอ้ ยเพยี งใดความคดิ เหน็ /เหตผุ ล - จาเปน็ ต้องเรียนรูแ้ ละปฏบิ ัตติ ามทั้งงานธรุ การและงานสารบรรณ - ควรมคี วามรู้ใหพ้ ัฒนาตนเอง แต่ควรมีจนท.ธุรการ การเงินแยก พก. จะไดท้ างานพัฒนาศักยภาพ ชมุ ชนตามภารกิจ พนั ธกิจไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี - เพ่ือจัดระบบระเบยี บเอกสารในการปฏิบตั งิ านใหม้ คี วามคล่องตัวและสามารถตรวจสอบได้ แตต่ อ้ งมจี นท.ธุรการประจาสนง.สพช.อ. - ใน สพอ.ไม่มีเจ้าหน้าท่ีดา้ นน้ี พัฒนากรจะตอ้ งทาเอง 8) ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"เกี่ยวกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสาคัญในปัจจุบัน\" มีความจาเป็น กบั หลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรมาก - น้อยเพียงใด - สาคัญมากในยุคโลกาภิวัตน์ สถานการณ์เปล่ียนแปลงตลอดเวลาในทุก ๆ ด้าน จึงจาเป็นต้องมี องคค์ วามรู้และภูมิคมุ้ กันท่ดี ี - พก.ต้องพัฒนาเปลี่ยนแปลงในทันโลกปัจจุบันแล้วนาองค์ความรู้น้ันมาพัฒนาตน ผู้นา องค์กร ในชมุ ชนใหเ้ กดิ ประโยชน์

26 - การปฏิบตั ิงานตอ้ งมีความรกู้ บั สถานการณืปัจจุบนั เพ่ือพัฒนางานใหก้ า้ วทันกับเหตุการณป์ ัจจบุ นั - พัฒนากรต้องทราบและสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันได้ เพื่อเป็นแนวทางในการ สนบั สนุนประชาชน - พฒั นากรจะตอ้ งรู้เท่าทันกับสถานการณ์ทเ่ี ปล่ยี นแปลงไป ต้องปรบั ตวั ให้เขา้ กบั สถานการณ์ 9) ท่านคิดว่าองค์ความรู้ \"ความรู้เรื่องกฎหมาย\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก - น้อยเพยี งใด - การปฏิบัติงานบางอย่างจาเป็นต้องอิงกฎหมายจึงจาเป็นต้องมีองค์ความรู้เร่ืองกฎหมายท่ีจาเป็น ในการปฏบิ ัติงาน - การดแู ลกองทนุ และการทางานในปจั จบุ ัน จาเปน็ ต้องมีความรู้ กฎหมาย ควรทา ไมค่ วรทา เพื่อนาความรู้ไปใช้ในการปฏิบัตงิ านต้องให้งา่ ย สอดคลอ้ งกับงานพช.ท่ปี ฏิบัติ - มกี ฎหมายทีเ่ ขา้ มาเกีย่ วข้องกบั งานพัฒนาชุมชนเพ่ิมให้ เชน่ กองทนุ พฒั นาบทบาทสตรี - กฎหมายจะตอ้ งรู้ จะอา้ งวา่ ไมร่ ู้กฎหมายไม่ได้ พรบ.ข้าราชการพลเรอื น, บริหารราชการแผ่นดนิ ฯ 5.2 ความคิดเหน็ เก่ยี วกบั ทักษะ ทีจ่ าเปน็ สาหรับพฒั นากร 1) ท่านคิดว่าทักษะด้าน \"การใช้คอมพิวเตอร์\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก - น้อยเพียงใด - จาเป็นมากในปัจจุบัน พัฒนากรเกือบทุกคนที่มีคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค และโทรศัพท์มือถือ จงึ จาเป็นต้องเสรมิ สรา้ งทักษะดา้ นการใช้คอมพิวเตอร์ - คอมพิวเตอร์สามารถช่วยในการพัฒนา/ทางานให้เกิดประสิทธิผลมากย่ิงข้ึน เพื่อความคล่องตัว รวดเรว็ และก่อให้เกิดประสทิ ธิภาพในการปฏิบัตงิ าน 2) ท่านคิดว่าทักษะด้าน \"การใช้เครื่องมือสื่อสารและการส่ือสารในยุคดิจิทัล\" มีความจาเป็น กับหลกั สตู รการฝกึ อบรมพฒั นากรมาก - นอ้ ยเพียงใด - จาเปน็ อย่างมากในปจั จุบันทาให้การทางานได้สะดวกรวดเรว็ มากย่ิงขนึ้ จึงจาเป็นต้องสรา้ งทักษะ ดงั กลา่ ว - การปฏบิ ตั ิงานใหร้ วดเร็วทนั เหตกุ ารณแ์ ละต้องพฒั นาอยตู่ ลอด - การปฏิบตั งิ าน แมก้ ระทง่ั การดารงชวี ติ กต็ ้องมีการตดิ ตอ่ ส่ือสาร 3) ท่านคิดว่าทักษะด้าน \"การเป็นวิทยากรกระบวนการ\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรม พัฒนากรมาก - นอ้ ยเพียงใด - จาเป็นเป็นการสร้างทกั ษะใหแ้ กพ่ ฒั นากรในการทางานในพ้นื ที่ - การขบั เคลือ่ นงานพัฒนาชมุ ชนจาเป็นตอ้ งมีองคค์ วามรูข้ ับเคลือ่ นงาน - งานพฒั นาชุมชนตอ้ งวิทยากรกระบวนการ - เป็นหวั ใจในการปฏบิ ตั ิงานด้านพื้นที่ 4) ท่านคิดว่าทักษะด้าน \"การสร้างพันธมิตรในการทางาน\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรม พฒั นากรมาก - น้อยเพียงใด - จาเป็นอย่างมาก เน่ืองจากปัจจุบันต้องอาศัยพันธมิตรในพื้นท่ีภาคีการพัฒนา จึงจะประสบ ผลสาเร็จเครอื ขา่ ยการพฒั นา ช่วยใหง้ านของกรมสาเรจ็ มากข้นึ - เพ่ือเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และมีเครือข่ายในการปฏิบัติงาน ทาให้การปฏิบัติงานคล่องตัว และ มีประสิทธภิ าพ เกิดประสิทธผิ ล

27 5) ทา่ นคดิ วา่ ทกั ษะดา้ น \"การทางานเป็นทีม\" มีความจาเปน็ กบั หลกั สูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก - นอ้ ยเพยี งใด - จาเป็น เนือ่ งจากการทางานตอ้ งเป็นทีมไมส่ ามารถทางานคนเดียวได้ - ทมี ช่วยกนั ปฏบิ ตั ิงานให้เกดิ ผลสมั ฤทธ์ิไดเ้ ร็วขนึ้ แต่บางงานต้อง พช.ทางานจึงจะเกิดผล - เป็นการร่วมแรงรว่ มใจกันในการทางาน ทาให้เกิดประสทิ ธิภาพในการปฏบิ ัติงาน 5.3 ความคิดเห็นเก่ยี วกับทัศคตทิ ี่จาเป็นสาหรับพฒั นากร 1) ท่านคิดทัศนคติด้าน \"การคิดวิเคราะห์\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก - น้อยเพยี งใด - ในสถานการณืปัจจุบันหากไม่คิดวิเคราะห์ด้วยเหตุผลสถานการณ์แวดล้อมท่ีเปลี่ยนแปลงไป จะทาใหก้ ารทางานใหป้ ระสบผลสาเร็จ - นายุทธศาสตร์ชาติ กรม จังหวัด ประชาชน โดยมีการคิดวิเคราะห์เป็นสื่อกลาง จึงจะประสบ ความสาเร็จ - เป็นกระบวนการจติ สานึกของแตล่ ะคน สามรถเพ่มิ ทักษะในการคิดวเิ คราะหไ์ ด้ 2) ท่านคิดทัศนคติด้าน \"การใส่ใจและพัฒนาผู้อ่ืน\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก - น้อยเพยี งใดความคดิ เหน็ /เหตผุ ล - การเขา้ ใจเห็นอกเหน็ ใจคนอน่ื และพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน จึงจะสามารถอยู่ร่วมกันในสงั คมได้ - พัฒนาเพ่ิมสมรรถนะแบบองค์รวมแต่ทาได้ยาก เป็นการทาเชิงคุณภาพ การวัดผลไม่ชัดเจน แต่สาเรจ็ จะเกดิ ความคุ้มค่า - การใส่ใจและพัฒนาผู้อื่นทาให้เราทราบปัญหาและความต้องการของเขา ทาให้การปฏิบัติงาน และการพฒั นาประสบความสาเรจ็ - \"ใจเขา ใจเรา\" พฒั นาตนเองกอ่ นพฒั นาผูอ้ ื่น 3) ท่านคดิ ทัศนคตดิ า้ น \"การศลิ ปะการส่อื สารจงู ใจ\" มีความจาเปน็ กับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก - น้อยเพียงใด - จาเป็นอย่างมาก ต้องใช้ทักษะสุลปะการส่ือสารจูงใจ โน้มน้าวใจคนอ่ืน ให้เห็นไปในแนวทาง เดยี วกบั ท่ีเราตอ้ งการ - ให้ประชาชนเห็นแนวทางการพัฒนาตนเอง ตามแนวทางของ พช.ได้ เพราะพฒั นากรปฏิบัตงิ านในพน้ื ที่ ตอ้ งมีการตดิ ต่อสื่อสารและสร้างแรงจูงใจในการทางาน - มีพนั ธมติ รแลว้ เราต้องมศี ลิ ปะในการจูงใจให้ผู้อน่ื มารว่ มทางานกบั เรา \"All Win\" 4) ท่านคิดทัศนคติด้าน \"รักและศรัทธาองค์กร/ประชาชน\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรม พัฒนากรมาก - นอ้ ยเพียงใด - จาเปน็ มาก ตอ้ งสร้างความรักความศรทั ธาองคก์ รให้กับพฒั นากร - ให้เกิดความภาคภูมิใจในการเป็นพัฒนาชุมชน แล้วจะทาให้บุคลากรปฏิบัติงานอย่างเต็มท่ี (เชิงจิตวทิ ยา) - เมื่อเกดิ ความรักความศรัทธาการปฏบิ ัตงิ านก็มีความสุขสง่ ผลให้เกดิ ความสาเร็จในการปฏิบัตงิ าน - เปา้ หมายหลัก พช.คือ ประชาชน / องคก์ ร เราจะต้องรกั เข้าใจ ศรัทธาเขา

28 5) ท่านคิดทัศนคติด้าน \"คุณธรรมและจริยธรรม\" มีความจาเป็นกับหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากร มาก-น้อยเพียงใด - จาเป็นอย่างมาก ต้องเสริมสร้างให้เกิดความตระหนัก การทางานร่วมกับคนอ่ืนต้องมีท้ังคุณธรรม และจรยิ ธรรม - สรา้ งความเปน็ คน ให้บคุ ลากร - มคี วามสาคัญในการปฏบิ ตั งิ าน - หลกั ธรรมาภิบาล ได้งานจากเขา ปริมาณและคณุ ภาพ 6. ทา่ นคิดว่าพัฒนากรในปัจจุบนั เปน็ อย่างไร - บริบทของสังคมเปลี่ยน พัฒนากรต้องทางานภายใต้ยุคข้อมูล บริการท่ีรวดเร็ว และเทคโนโลยี ที่ทันสมัย ดังนั้นกระบวนการสร้างการเรียนรู้ และการมีส่วนร่วมจึงได้ใช้น้อยลง พัฒนากรจึงทางานเหมือน ปล่อยผ่านไมม่ ีความเช่อื มโยง ไม่มีความผกู พันธแ์ ละไม่มคี วามต่อเน่ือง ทางานเป็นชิ้น ๆ งานไป - การทางานสังคมแตกต่างจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นทางด้านความสัมพันธ์กับผู้นาชุมชน แต่ความ เข้มข้นน้อยลงอาจจะเน่ืองมาจากการเปล่ียนแปลงบริบทางสังคม การติดต่อสื่อสารสะดวก รวดเร็วขึ้น กว่าแต่ก่อน - มีความรู้ความสามารถในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน แต่ประสบการณ์การทางานในพื้นท่ีน้อย การเข้าถึงชุมชน ผู้นา และยึดประชาชนเป็นเป้าหมายการทางาน มุ่งผลสัมฤทธิ์ ยังต้องได้รับการพัฒนา ใหเ้ พ่มิ มากขนึ้ - ยังมีความจาเป็นท่ีจะลงพ้ืนที่ เกาะติดพื้นท่ี ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง 2. ใช้หลักปรัชญา กระบวนการพัฒนาชุมชน 3. จะต้องบริหารจัดการตนเอง คน งาน ให้ดีงานมาก คนนอ้ ย - ปัจจุบันองค์กรพัฒนาชุมชนในจังหวัดของเรา มีความกะทัดรัด / คล่องตัวในการปฏิบัตงิ าน แต่อาจ น้อยไป ทาให้มขี ้อจากดั ในการขับเคล่อื นงานที่มีค่อนข้างมาก เช่น เรอ่ื งการยืมเงนิ / การเบกิ จา่ ยเงิน เปน็ ตน้ 7.ส่งิ ทท่ี า่ นคาดหวงั ต่อพฒั นากรในอนาคตควรเป็นอย่างไร - อยากเห็นพัฒนากรที่ใช้เครื่องมืองานพัฒนาชุมชนเป็นกลไกในการสร้างชุมชนเข้มแข้งและสามารถ วิเคราะห์ กาหนดเปา้ หมายในการทางานและร้ทู ศิ ทางในการทางาน สามารถทางานในชมุ ชนได้อย่างมคี วามสุข และชมุ ชนมีความสุขที่ได้ทางานกับพัฒนากร - พัฒนากรจะเป็นผู้นาการเปล่ยี นแปลงของคนในชุมชน นาภูมิปัญญาท้องถ่ินมาสร้างมูลค่าเพ่ิม และ สร้างให้คนในชมุ ชนรู้รักการจัดการองค์ความรู้ในชุมชน - เปน็ นักยทุ ธศาสตรแ์ ละนกั พฒั นามืออาชพี - เป็นนักบริหารจัดการ (ตน คน งาน) 2. ใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนา 3. เป็นนักประสานงาน มนษุ ย์สัมพนั ธ์ทดี่ ี 4. มคี วามคล่องตัว รวดเรว็ ถูกต้อง 5. มีทศั นคติทีดี ทางบวก (4) 6. มีธรรมาภบิ าล - อยากเห็นผู้บริหาร และพัฒนากรมีองค์ความรู้ในงานพัฒนาชุมชน / งานยุทธศาสตร์ และงานอ่ืน ๆ / พัฒนากรมเี วลาเขา้ ไปคลุกคลีกับพนี่ อ้ งประชาชนมากข้ึน

29 8. ทา่ นคดิ ว่าถ้าจะทางานให้ดีทา่ นควรได้รบั การพัฒนาเร่อื งใดบ้าง และมีวธิ กี ารพฒั นาอยา่ งไร - การศกึ ษาดงู านองค์กรทีเ่ ปน็ เลิศ - พฒั นาคน พฒั นางาน - การอบรมความรู้ทางคณุ ธรรม/จริยธรรม - พัฒนาดา้ นบคุ ลิกภาพ/ภาวะผูน้ า - การสร้างจิตสานกึ การทางานเป็นทีม - สร้างกระบวนการมีส่วนรว่ มและการรว่ มกับภาคกี ารพัฒนา - การจดั ซือ้ จัดจ้าง งานพสั ดุ คอมพวิ เตอร์ - เสน้ ทางความกา้ วหนา้ ต้องชัดเจน - การปฏิบตั ิตงิ านแบบมืออาชพี - พัฒนาด้านภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร - ระเบียบกฎหมายและความรเู้ บ้อื งต้นกฎหมาย - เทคนคิ การเป็นวิทยากร - ระบบการค้า Online 9. ปญั หาและอปุ สรรคในการทางานพัฒนาชมุ ชนในมมุ มองของทา่ นเปน็ อย่างไร 1) ปัญหา - งานท่ไี ดร้ บั เวลานอ้ ยมาก ต้องดาเนนิ การให้เสร็จทันเวลา - ไมม่ คี วามรูด้ ้านการเงนิ จึงทางานแบบเสยี งๆ ทาหลายครงั้ เน่ืองจากผดิ พลาด - ปัญหาดา้ น คน ระบบ และงบประมาณ (บุคลากรนอ้ ย ผลสมั ฤทธง์ิ าน งบประมาณน้อย ไม่ต่อเนื่อง) - งานมาก/รบั งานภารกิจอนื่ มามากเกนิ ไป - ระบบรายงานเยอะเกนิ ไป ซา้ ซ้อน - ขาดจุดยืนในการทางาน เปา้ หมายไมช่ ดั - บุคลากรสว่ นมากเปน็ คนรนุ่ ใหม่ ยังขาดความรูแ้ ละประสบการณ์ ทาให้การทางานไมป่ ระสบ ผลสาเร็จ - ความหลากหลายของวฒุ กิ ารศึกษาในการสมัครสอบของพฒั นากร ทาใหม้ ีการโอน ลาออก ขาดการต่อเนื่องของงานในพ้ืนท่ี 2) อุปสรรค - งานหลากหลาย/ ไม่ชดั เจน/งานไม่ต่อเนื่อง - มีภาวะความเสีย่ งตอ่ การตรวจสอบจาก สตง. สงู มาก - การทางานทมี่ ีขีดจากัด คน/เวลา/งาน - งบประมาณเรง่ รดั การเบิกจา่ ย มผี ลทาให้งานไมส่ าเร็จแต่เสร็จ - นโยบายรฐั บาล นโยบายผูบ้ ริหาร เน้นปรมิ าณมากกว่าคณุ ภาพ - การขยายตวั ของสังคมเมือง วิถีชีวิตของคนในชุมชนเปลี่ยนไป - ชุมชนเมืองไม่เหมาะในการทางานพัฒนาชุมชนหลายเรื่อง เช่น สัมมาชีพ หมู่บ้านเศรษฐกิจ พอเพียง ทุนชมุ ชน

30 10. ข้อจากดั ในการปฏิบัตงิ านของพัฒนากรในปจั จบุ ัน - พัฒนากรนอ้ ย ไม่เหมาะสมกบั พนื้ ที่ - งานพัฒนาชมุ ชนมหี ลากหลาย พฒั นากรขาดประสบการณ์ - ขาดแรงจงู ใจความก้าวหน้าในอาชีพที่เหมาะสม - หว้ งระยะเวลาตามไตรมาสที่กาหนดใหเ้ สรจ็ - รับผดิ ชอบหลายตาบล และตอ้ งรับผิดชอบเทศบาลด้วย - การเกลยี่ อตั รากาลัง พฒั นากรให้เหมาะสมในพนื้ ที(่ อาเภอ SML) - พฒั นากรทางานการเงิน ทไ่ี ม่ตรงกับภารกจิ - การเร่งเบิก–จ่ายงบประมาณตามรายไตรมาส สพอ.ไม่มีเจ้าหน้าทธี่ ุรการ ต้องเสนอแต่งตั้งพัฒนากร ๑ คน มาทาหน้าที่เจ้าหน้าที่พัสดุ (ต้องเร่งเบิกจ่ายเงินและปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ ตาบล หมู่บ้าน ทร่ี บั ผิดชอบ - ความศรทั ธาและอุดมการณง์ านพัฒนาชุมชนลดน้อยลง - พึ่งพาเทคโนโลยีในการทางานมากเกินไป จนละเลยการสร้างความสัมพันธ์และความเช่ือมั่นกับ ประชาชน/ผู้นาชมุ ชน - งานตามนโยบายและงานตามภารกจิ มีมาก แตเ่ วลาในการปฏบิ ตั มิ จี ากัด 11. ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ - อตั รากาลงั ในแต่ละจังหวดั มีความแตกต่าง (จงั หวดั SML) - ควรมีเจ้าหน้าท่ีพัสด/ุ การเงินระดบั อาเภอ(พนง.ราชการ/ลูกจ้างรายป/ี ลูกจ้างชัว่ คราว) - เพิ่มพฒั นากร บคุ ลากรเพ่มิ พฒั นากรจะรบั ผดิ ชอบคนละ 3 - 4 ตาบล - การฝึกอบรมควรเน้นในเรอื่ งของผลลัพธม์ ากกว่า ไม่ควรระบหุ รอื บังคับโดยเฉพาะการแต่งกาย ถา้ จะบังคบั ควรให้ใส่ชุดข้าราชการทุกวันจันทร์ วันพธุ ใสท่ ีม To be number one (ควรสนบั สนุนใหเ้ ลย) - ลดรายงาน หรอื เช่ือมโยงระบบรายงานให้สามารถนามาใช้โดยไม่ต้องรายงานซ้า - เพมิ่ ขวญั และกาลงั ใจ และเส้นทางความก้าวหน้าของพฒั นากร - อยากให้มีการทบทวนความรูแ้ ก่พัฒนาการอาเภอ พฒั นากร และนกั วิชาการทกุ ปี - ปัจจุบันจากการเรียกบรรจุแต่งตั้งพัฒนากรใหม่ๆ จะสังเกตได้ว่า ผู้ได้รับการเรียกบรรจุ จะขอสละสิทธ์ิมาก ซง่ึ เป็นปรากฏการณท์ ่ีแปลกใหม่ เมือ่ กอ่ นไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ กรมฯ ควรพจิ ารณาว่า ทาไมถึงมเี หตุการณแ์ บบนี้ - ควรเชิญวิทยากรภาคเอกชน มาเปิดมุมมองที่แตกต่าง เพื่อจะได้กลับไปพัฒนางานให้เกิด ประสทิ ธภิ าพ - พัฒนา/ออกแบบงาน พช. ให้มคี วามทันสมยั เหมาะกับเหตุการณ์ - พัฒนาบุคลากรของ พช. ในทุกระดับให้มีสมรรถนะที่สูง สามารถแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ อยา่ งเป็นรปู ธรรม - ทางานผา่ นองค์กรชุมชน

31 สว่ นท่ี 2 สถานการณ์ทเี่ กี่ยวข้องกับหลักสตู ร ปีงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2562 กรมการพัฒนาชุมชน โดยสถาบันการพัฒนาชุมชนได้ดาเนิน โครงการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนากรเพื่อขับเคล่ือนยุทธศาสตร์กรมการพัฒนา ซ่ึงประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมท่ี 1 ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างแบบสารวจหาความต้องการท่ีจาเป็นในการฝึกอบรม พัฒนากร ระหว่างวันท่ี 24 – 27 ธันวาคม 2561 และกิจกรรมที่ 2 ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างและพัฒนา หลักสูตรฝึกอบรมพัฒนากร ระหว่างวันท่ี 14 - 17 พฤษภาคม 2562 ท้ัง 2 กิจกรรม ได้ดาเนินการ ณ ศูนย์ ศึกษาและพัฒนาชมุ ชนชลบุรี กิจกรรมที่ 1 ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างแบบสารวจหาความต้องการที่จาเป็นในการฝึกอบรมพัฒนา กร ได้มอบหมายให้ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน ทั้ง 11 แห่ง ดาเนินการออกแบบสารวจความคิดเห็น เรื่อง ความตอ้ งการที่จาเป็นในการฝึกอบรมพฒั นากร โดยการจัดเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย ประกอบดว้ ย พฒั นาการ จังหวัด พัฒนาการอาเภอ พัฒนากร และผู้นากลุ่ม/องค์กร/เครือข่าย ผู้นาท้องที่/ท้องถ่ิน ที่เก่ียวข้อง พร้อม สรุปนาเสนอผลการสารวจเพื่อออกแบบหลกั สูตรการฝึกอบรมพัฒนากรในเขตพ้ืนท่ีบริการของศูนย์ศึกษาและ พัฒนาชุมชน ซึ่งศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี ได้นาเสนอผลการสารวจความคิดเห็นของ กลุ่มเป้าหมาย รายละเอยี ดปรากฏตามเอกสารสว่ นท่ี 1 กิจกรรมท่ี 2 ประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนากร ผลจากการสารวจ ความคิดเห็นความต้องการท่ีจาเป็นในการฝึกอบรมพัฒนากรในเขตพ้ืนท่ีบริการของศูนย์ศึกษาและพัฒนา ชุมชนอุบลราชธานี สรุปได้ว่าลักษณะสาคัญของพัฒนากร คือ ระบบและวิธีการทางานของพัฒนากรเปน็ แบบ พ่ีสอนน้อง สาหรับการทางานกบั ชุมชนสว่ นใหญย่ ังคงทางานกนั แบบเครอื ญาติ จากข้อมูลคุณลักษณะของพัฒนากร ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี จึงได้ออกแบบพัฒนา กรในเขตพน้ื ทีบ่ ริการภายใต้ชอ่ื โมเดล “HERO ไทบา้ น” โดยมีคุณลกั ษณะเด่น คอื เก่ง = มคี วามรู้ ทักษะการปฏบิ ตั งิ าน การส่ือสาร การเจรจาต่อรอง การประสานงาน เปน็ นักวางแผน ทางานเป็นระบบ ทางานเป็นทีม กลา้ หาญ และกลา้ แสดงออก ดี = บุคลิกภาพดี อัธยาศยั ดี คิดบวก มศี รทั ธา รักองคก์ ร มีน้าใจใฝ่รู้ มคี ุณธรรม = ซ่อื สตั ย์สุจริต มกี ลั ยามิตร จิตอาสา นาชุมชน = ให้เกียรติ ให้ความสาคัญกับผู้นา กลุ่ม/องค์กร/เครือข่าย เป็นพ่ีเล้ียง เป็นท่ีปรึกษา เข้าใจและเข้าถึงชมุ ชน เพ่ือให้หลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนากรในเขตพ้ืนที่บริการของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อุบลราชธานีมีประสิทธิภาพและเน้ือหาหลักสูตรตรงตามความต้องการของพ้ืนท่ี จากข้อมูลผลสารวจความ คิดเห็นฯ และข้อเสนอแนะของคณะที่ปรึกษาโครงการฯ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี จึงได้สร้าง หลักสูตรฝึกอบรมพัฒนากรในเขตพ้ืนท่ีบริการภายใต้ช่ือหลักสูตร “พัฒนากรขวัญใจชุมชน” ดาเนินการ 3 วัน 2 คืน รายละเอียดหลักสตู รได้นาเสนอในส่วนตอ่ ไป

32 สว่ นที่ 3 คณุ ลกั ษณะของพัฒนากร คณุ ลักษณะของพัฒนากรของเขตจงั หวดั ในพ้ืนท่ีบริการศูนยศ์ ึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี ผลการสารวจความคดิ เหน็ ความตอ้ งการที่จาเป็นในการฝกึ อบรมพัฒนากรในเขตพ้นื ท่ีบริการของศูนย์ ศกึ ษาและพฒั นาชมุ ชนอบุ ลราชธานี สรุปภาพรวมดังน้ี ความตอ้ งการในการฝกึ อบรมพฒั นากรของศูนยศ์ ึกษาและพัฒนาชมุ ชนอุบลราชธานี จาแนกได้ 4 หมวด คือ หมวดความรู้ ประกอบด้วย 1) การหลักการพฒั นาชมุ ชนกับสถานการณ์การเปลยี่ นแปลง 2) ยทุ ธศาสตร์การขับเคลือ่ นภารกิจกรมการพฒั นาชมุ ชน 3) นโยบาย ยุทธศาสตร์/โครงการของรฐั ทีท่ ่ีเกีย่ วข้อง 4) ทศิ ทางการพัฒนาประเทศ 5) ความรพู้ เิ ศษอืน่ ๆ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศดิจทิ ลั การจดั ซื้อจัดจ้าง และกฎระเบียบที่เก่ียวข้อง หมวดทกั ษะการทางาน ประกอบดว้ ย 1) สนับสนนุ บทบาทผเู้ อื้ออานวยการ : คดิ วเิ คราะห์ สื่อสาร แกป้ ัญหาความขัดแย้ง รวม/จัดกลุ่ม เทคนคิ การถา่ ยทอด ฟัง สังเกตการณ์ ใชค้ าถาม กลมุ่ สมั พันธ์ 2) สนับสนุนบทบาทศึกษาชมุ ชน/ใหค้ วามรแู้ ก่ชุมชน : ฝึกอบรม ประชมุ ผลติ และใช้ส่อื แรงบันดาลใจ จิตวทิ ยาชมุ ชน 3) สนบั สนุนบทบาทผู้ประสานงาน : ประชุม ใชส้ ่ือ สอ่ื สาร บริหารกลมุ่ เจรจาต่อรอง ตัดสนิ ใจ ประชาสมั พนั ธ์ 4) สนบั สนุนบทบาทนักบรู ณาการงานพัฒนาชุมชน : คิดรวบยอด แปลงนโยบายสกู่ ารปฏบิ ัติ พฒั นาแบบ องค์รวม วางแผน เชิงรกุ บริหารโครงการ แก้ปญั หาความขดั แย้ง ทางานเปน็ ทีม

33 หมวดทัศนคติ ประกอบดว้ ย 1) ต่องาน : คดิ บวก รกั งานพฒั นา สรา้ งสรรค์ ริเรมิ่ อดทน เชอ่ื ศรทั ธาปรชั ญา และหลกั การพฒั นาชมุ ชน เห็น ความสาคญั ของงาน 2) ต่อประชาชน/ชุมชน : ใหเ้ กียรตใิ ห้ความสาคญั กบั ผูน้ า เชอื่ ศกั ยภาพชุมชน เข้าใจชมุ ชนอย่างลึกซงึ้ 3) ต่อองค์กร : ภักดตี อ่ องคก์ ร มคี วามรสู้ ึกเปน็ เจ้าขององค์กร เชือ่ มนั่ และยอมรบั นโยบาย เปา้ หมาย ยุทธศาสตร์ กรมฯ 4) ตอ่ ผู้บงั คับบญั ชา/เพอ่ื นร่วมงาน : มนี า้ ใจ ไวว้ างใจ ภมู ใิ จผลงานของทมี มองผบู้ งั คบั บัญชา/เพื่อนร่วมงาน ในแง่ดี เห็นคณุ ค่าคนอ่ืน 5) ต่อตนเอง : เห็นคุณคา่ ตนเอง มองงานหนกั และยากเปน็ ส่งิ ท้าทาย กล้าหาญ ดาเนนิ ชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นวถิ ี หมวดบุคลิกภาพ ประกอบด้วย 1) ภายนอก : ย้มิ แยม้ แจม่ ใส อธั ยาศยั ดี เป็นกลั ยาณมิตร แตง่ กายดี สภุ าพ กริยาทา่ ทางแสดงออกถึงการรกั ษา ภาพลกั ษณข์ อง พช.แสดงตนอยา่ งเหมาะสม 2) ภายใน : - จิตใจ ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ มีคณุ ธรรม ศลี ธรรม จริยธรรม จติ อาสา กล้าหาญ เมตตา มองเชงิ บวก เช่อื ม่นั ใน ตนเอง ความคดิ /สติปัญญา คดิ /ทางานเปน็ ระบบ มเี ปา้ หมาย ริเรม่ิ ใฝ่รู้ ควบคุมอารมณ์ แสดงออกได้ดีและมี อารมณข์ ัน ข้อเสนอแนะ 1. นาองคค์ วามรูท้ ีจ่ าเป็นมาบรรจไุ วใ้ นหลักสตู ร เพมิ่ เตมิ ด้าน การจดั ซ้อื จัดจา้ ง 2. เพิม่ พูนทกั ษะจาเปน็ (เทคโนโลยีสารสนเทศ การสอื่ สารยุคดิจิทลั ) 3. สร้างอดุ มการณก์ ารทางานพฒั นาชมุ ชน

34 ส่วนที่ 4 เป้าหมายและวตั ถปุ ระสงค์ของหลักสตู ร หลกั สตู รการฝึกอบรมพฒั นากร พ.ศ.2563 ของศนู ยศ์ ึกษาและพฒั นาชมุ ชนอุบลราชธานี เปา้ หมาย หลกั สตู ร : พฒั นากรขวัญใจชุมชน วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจหลักการพฒั นาชมุ ชน 2. เพอื่ ใหส้ ามารถนาไปปฏิบัติงานได้ 3. เพ่อื ใหร้ เู้ ท่าทันสถานการณ์การเปลย่ี นแปลง

35 สว่ นท่ี 5 ผลผลิต/ผลลัพธข์ องหลกั สูตร เนือ้ หาวิชา Module รายวชิ า ผลผลติ 1.หลักการพัฒนาชมุ ชน -ผู้เขา้ อบรมสามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลักการวิธีการ 1.1 ปรับฐานการเรียนรูด้ ้วยการ กระบวนการพฒั นาชมุ ชนในสถานการณ์ 2.ยุทธศาสตรก์ รมฯ ละลายพฤติกรรม ทเี่ ปลี่ยนแปลง - หลักการเรียนรู้ ยดึ หลัก 4 ส - หลัก 3 ป - ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการ - ปรัชญาการเรยี นรู้ ขั บ เ ค ลื่ อ น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ แ ล ะ แ น ว ท า ง ก า ร 1.2 หลักการพัฒนาชมุ ชน ขับเคล่ือนกิจกรรมตามยุทธศาสตร์ประจาปี งบประมาณ และนาความรู้ไปใช้ในการ - ความหมายและความสาคัญ ปฏิบัติงานได้อยา่ งถกู ตอ้ งตรงตามท่กี รมกาหนด ของหลักการพฒั นาชมุ ชน - การประยุกต์ใชห้ ลกั และ ปรชั ญาการพฒั นาชมุ ชนใน สถานการณ์ปจั จบุ ัน - เลา่ ขานงานพฒั นาชุมชนจาก พ่ีสนู่ ้อง - เวทีแลกเปลย่ี นเรียนรู้ 2.1 การขบั เคล่ือนยุทธศาสตร์ กรมการพัฒนาชุมชน - ประเด็นยุทธศาสตร์และกล ยทุ ธ์การขับเคล่ือนภารกิจ - ความเชือ่ มโยงของยุทธศาสตร์ ชาติ 20 ปี กบั แผนพัฒนา เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2580) - ภาพรวมการขับเคลื่อนชมุ ชน ของกรมการพฒั นาชุมชน ประจาปีงบประมาณ - แผนปฏบิ ัตงิ านและแผนการใช้ จา่ ยงบประมาณประจาปี - ปฏทิ นิ การทางานตามไตรมาส ประจาปงี บประมาณ - แนวทางการดาเนินกจิ กรรม ตามยทุ ธศาสตร์กรมการพัฒนา ชมุ ชนประจาปีงบประมาณ

36 เนื้อหาวิชา Module รายวชิ า ผลผลติ 3.การบริหาร 2.2 การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ - ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับแนว การเปล่ยี นแปลง กรมการพัฒนาชุมชนในยคุ ทางการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการ ดิจทิ ัล - แนวทางการพฒั นาทักษะด้าน และบคุ ลากรภาครฐั ในยุคดจิ ิทัล ดิจทิ ัลของขา้ ราชการและ - ผู้เข้าอบรมสามารถสร้าง Platform /รูปแบบ บคุ ลากรภาครฐั ในยุคดจิ ทิ ลั การทางานพัฒนาชมุ ชนในยคุ ดจิ ทิ ัล - การสร้าง Platform /รปู แบบ การทางานพฒั นาชมุ ชนในยุค ดิจิทัลของพฒั นากรเพ่ือให้ ขบั เคล่อื นกจิ กรรมตาม ยุทธศาสตรก์ รมการพัฒนาชมุ ชน ประจาปีงบประมาณ 3.1 นโยบาย/ยุทธศาสตร์ชาติฯ 1) ผู้เขา้ อบรมและเข้าใจนโยบาย/ยุทธชาติฯ/ โครงการของรัฐ โครงการของรฐั 3.2 กฎหมาย/กฎ/ระเบยี บ 2) ผเู้ ข้าอบรมรแู้ ละเขา้ ใจและสามารถบริหาร จดั การงบประมาณถูกต้องตามระเบียบ - การบรหิ ารการเงนิ การคลงั 3) ผเู้ ขา้ อบรมรแู้ ละสามารถใช้เทคโนโลยีในการ 3.3 เทคโนโลยสี ารสนเทศและ ส่ือสาร การปฏิบัตงิ าน การประชาสัมพนั ธ์ การส่อื สารในยคุ ดิจทิ ัล

37 ส่วนท่ี 6 หมวดวชิ า หมวดวิชา 1 หมวดวชิ า 2 หมวดวิชา 3 หลกั การพัฒนาชุมชน การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมฯ การบรหิ ารการเปล่ียนแปลง วัตถปุ ระสงค์ : เพือ่ ให้มคี วามรู้ วัตถุประสงค์ : เพ่อื ขับเคลือ่ น วตั ถปุ ระสงค์ : เพอื่ ใหร้ ้เู ท่าทัน ความเข้าใจหลักการพัฒนาชุมชน ยทุ ธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน สถานการณ์การเปล่ยี นแปลง ในสถานการณป์ จั จุบนั ใหบ้ รรลุเปา้ หมาย วชิ า : วชิ า : วิชา : 1.นโยบาย/ยุทธศาสตร์ชาติ 1.ปรบั ฐานการเรียนรดู้ ้วยการ 1.การขับเคล่ือนยุทธศาสตร์กรมการ ละลายพฤติกรรม พฒั นาชุมชนประจาปีงบประมาณ /โครงการของรฐั 2.หลกั การพฒั นาชุมชนกับ 2.การขับเคล่ือนยุทธศาสตร์กรมการ 2.กฎหมาย/กฎ/ระเบยี บ สถานการณ์การเปลย่ี นแปลง พัฒนาชุมชนในยุคดจิ ทิ ลั - การเงินการคลัง - กองทนุ ชุมชนตา่ ง ๆ 3.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่อื สารในยคุ ดจิ ทิ ลั

38 ส่วนท่ี 7 สงั เขปวิชา วชิ า : การปรับฐานการเรียนรดู้ ว้ ยการละลายพฤตกิ รรม วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหผ้ ูเ้ ข้ารับการฝึกอบรมรจู้ กั และคุ้นเคยกัน 2. เพอื่ ใหผ้ ู้เขา้ รบั การฝึกอบรมเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการเรยี นรู้ 3. เพือ่ ใหผ้ เู้ ข้ารบั การฝึกอบรมได้ร่วมกนั กาหนดกฎ กตกิ า ข้อตกลงในการเรยี นรู้รว่ มกนั ขอบเขตประเดน็ เน้ือหาการเรยี นรู้ 1. หลักการเรยี นรู้ ยดึ หลกั 4 ส ประกอบด้วย 1.1 สาระ 1.2 ส่วนรว่ ม 1.3 สรา้ งสรรค์ 1.4 สนกุ สนาน 2. หลกั 3 ป ประกอบดว้ ย 2.1 ปรบั ตัว 2.2 เปดิ ใจ 2.3 ปิดมอื ถือ 3. ปรัชญาการเรยี นรู้ 3.1 ไมม่ ใี ครร้ทู ุกเรื่อง 3.2 เรยี นรดู้ ว้ ยการฝึกปฏิบัติ 3.3 แลกเปลย่ี นเรียนรู้รว่ มกันเปน็ กระบวนการกา้ วไปทลี ะขนั้ 3.4 เรยี นรูเ้ พ่ือให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงไปส่สู ิง่ ท่ดี ีขึน้ 3.5 การเรยี นรูค้ ือกระบวนการในการกาหนดตนเองไม่มใี ครบังคับเราได้ ระยะเวลา : 2.00 ชัว่ โมง กิจกรรม/วิธกี าร 1. เพลง 2. เกม 3. ฝกึ ปฏบิ ัติ 4. การมสี ่วนรว่ ม สอื่ /วัสด/ุ อุปกรณ์ 1. เพลง 2. เกม 3. สอื่ Power Point

39 การประเมนิ ผล 1. การสังเกตพฤติกรรม 2. ประเมนิ ผลรายวิชา ผลลัพธ์ 1. ผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมสนกุ สนาน คุ้นเคยกนั มากขึ้น 2. มกี ฎ กตกิ า การเรียนรู้รว่ มกัน 3. ผเู้ ข้ารับการฝึกอบรมมีความพร้อมทจ่ี ะเรยี นรใู้ นประเด็นเน้อื หาวชิ าตอ่ ไป

40 สงั เขปวิชา วชิ า : สถานการณ์การเปลี่ยนแปลง วัตถปุ ระสงค์ เพอื่ ใหผ้ ู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรคู้ วามเข้าใจในสถานการณก์ ารเปลยี่ นแปลงท่สี าคัญ ขอบเขตประเดน็ เน้ือหาการเรียนรู้ 1. ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 2. แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบบั ท่ี 12 3. นโยบาย โครงการสาคญั ของรฐั บาล ระยะเวลา : 1.30 ชัว่ โมง กจิ กรรม/วิธีการ 1. การบรรยายประกอบส่ือ 2. การมีส่วนร่วม/การระดมความคิด สื่อ/วัสดุ/อุปกรณ์ 1. ส่อื Power Point 2. ชุดเครื่องเสยี ง 3. ประเดน็ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ การประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤติกรรม 2. ประเมินผลรายวิชา ผลลัพธ์ 1. ผู้เขา้ รับการฝึกอบรมมคี วามรู้ความเข้าใจในสถานการณ์การเปล่ียนแปลงทส่ี าคญั 2. ผเู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมสามารถนาองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รบั ไปประยุกต์ใชใ้ นการ ปฏบิ ัตงิ าน

41 สงั เขปวชิ า วชิ า : หลักการพัฒนาชุมชนกับสถานการณก์ ารเปลยี่ นแปลง วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหผ้ ู้เข้ารับการฝึกอบรมมคี วามรู้ความเขา้ ใจในหลักการพฒั นาชุมชน 2. เพื่อให้ผูเ้ ขา้ รบั การฝึกอบรมร้เู ทา่ ทันสถานการณ์การเปล่ียนแปลง ขอบเขตประเดน็ เนื้อหาการเรียนรู้ 1. ความหมายและความสาคัญของหลักการพัฒนาชุมชน 2. การประยุกต์ใช้หลกั และปรัชญาการพฒั นาชุมชนในสถานการณ์ปัจจบุ ัน 3. เลา่ ขานงานพัฒนาชุมชนจากพ่สี ูน่ ้อง 4. เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระยะเวลา : 3.30 ชั่วโมง กิจกรรม/วธิ กี าร 1. การบรรยายประกอบสื่อ 2. เวทีเสวนาจากพ่ีสู่นอ้ ง 3. การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ 4. การมสี ว่ นรว่ ม/การระดมความคิด สอ่ื /วสั ด/ุ อปุ กรณ์ 1. สื่อ Power Point 2. ชุดเคร่อื งเสยี ง 3. ประเดน็ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ 4. เพลงมารช์ พฒั นาชุมชน 5. คลปิ เพลงมารช์ พัฒนากร 6. คลิปเพลงภาพชวี ติ นกั พัฒนา การประเมินผล 1. การสงั เกตพฤตกิ รรม 2. ประเมินผลรายวชิ า ผลลพั ธ์ 1. ผู้เข้ารับการฝกึ อบรมมีความรู้ความเข้าใจหลกั การพฒั นาชมุ ชนในสถานการณ์ปัจจบุ นั 2. ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมสามารถนาองคค์ วามรู้และประสบการณท์ ่ีได้รบั ไปประยุกตใ์ ช้ในการ ปฏบิ ัตงิ าน

42 สังเขปวิชา วชิ า : การขบั เคล่ือนยทุ ธศาสตรก์ รมการพัฒนาชุมชน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อใหผ้ ู้เข้ารับการฝกึ อบรมมีความรู้ความเขา้ ใจในแนวทางการขบั เคลื่อนกจิ กรรมตามยทุ ธศาสตร์ กรมการพัฒนาชมุ ชนประจาปีงบประมาณ 2. เพอื่ ใหผ้ เู้ ข้ารับการฝึกอบรมสามารถดาเนินกจิ กรรมตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชนประจาปี งบประมาณได้ตามแนวทางที่กรมกาหนด ขอบเขตประเด็นเน้ือหาการเรียนรู้ 1. ยุทธศาสตรก์ รมการพัฒนาชมุ ชน 2. ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์และกลยุทธ์การขบั เคล่ือนภารกจิ 3. ความเชื่อมโยงของยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี กับแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2580) 4. ภาพรวมการขบั เคลอ่ื นชมุ ชนของกรมการพัฒนาชมุ ชน ประจาปงี บประมาณ 5. แผนปฏิบตั ิงานและแผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณประจาปี 6. ปฏทิ ินการทางานตามไตรมาส ประจาปงี บประมาณ 7. แนวทางการดาเนินกจิ กรรมตามยทุ ธศาสตร์กรมการพัฒนาชมุ ชนประจาปีงบประมาณ ระยะเวลา : 3.00 ชั่วโมง กจิ กรรม/วิธีการ 1. การบรรยายประกอบสื่อ 2. คลิป VDO สือ่ /วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1. ส่ือ Power Point 2. ชุดเคร่อื งเสียง การประเมินผล 1. การสงั เกตพฤตกิ รรม 2. ประเมนิ ผลรายวชิ า ผลลพั ธ์ - ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อน กิจกรรมตามยุทธศาสตร์ประจาปีงบประมาณ และนาความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตรงตามที่ กรมกาหนด

43 สังเขปวชิ า วิชา : การขบั เคลื่อนยทุ ธศาสตรก์ รมการพฒั นาชุมชนในยคุ ดจิ ทิ ัล วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในแนวทางการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของ ขา้ ราชการและบุคลากรภาครฐั ในยุคดิจทิ ัล 2. เพื่อให้ผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมสามารถสร้าง Platform /รูปแบบการทางานพฒั นาชุมชนในยคุ ดิจทิ ลั ขอบเขตประเด็นเนื้อหาการเรียนรู้ 1. แนวทางการพฒั นาทักษะดา้ นดจิ ทิ ัลของข้าราชการและบุคลากรภาครฐั ในยุคดิจทิ ลั 2. การสร้าง Platform /รูปแบบการทางานพัฒนาชุมชนในยุคดิจิทัลของพัฒนากรเพ่ือให้ขับเคล่ือน กจิ กรรมตามยุทธศาสตรก์ รมการพัฒนาชมุ ชนประจาปงี บประมาณ ระยะเวลา : 3.30 ชั่วโมง กจิ กรรม/วิธกี าร 1. การบรรยายประกอบส่อื 2. คลปิ VDO 3. แบง่ กลมุ่ ฝกึ ปฏิบตั ิการออกแบบงาน สอื่ /วัสดุ/อุปกรณ์ 1. ส่อื Power Point 2. ชุดเคร่อื งเสียง 3. ใบงาน 4. บอรด์ 5. กระดาษฟลปิ ชาร์ท 6. ปากกาเคมี 7. กระดาษ Post it การประเมนิ ผล 1. การสังเกตพฤติกรรม 2. ประเมนิ ผลรายวชิ า ผลลัพธ์ - ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับแนวทางการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการและ บคุ ลากรภาครัฐในยคุ ดจิ ิทลั - ผเู้ ข้าอบรมสามารถสรา้ ง Platform /รปู แบบการทางานพัฒนาชมุ ชนในยุคดิจทิ ลั

44 สังเขปวชิ า วิชา : การบริหารการเงิน – การคลงั วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ เู้ ข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับพระราชบญั ญัตจิ ัดซอื้ จดั จ้าง ปี 2560 และการรา่ งแนวทางการจัดทาขอบเขตของงาน (Terms Of Reference : TOR) 2. เพือ่ ใหผ้ ้เู ขา้ รับการฝึกอบรมมคี วามรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั ระเบยี บคา่ ใช้จา่ ยว่าดว้ ยการฝึกอบรม และอนื่ ๆ ขอบเขตประเด็นเนอ้ื หาการเรยี นรู้ 1. พระราชบญั ญัติการจดั ซ้ือจัดจ่าง ปี พ.ศ. 2560 และการร่าง TOR 2. ระเบียบค่าใชจ้ า่ ยว่าดว้ ยการฝกึ อบรม และอ่ืน ๆ 3. ประเด็นปัญหาท่ี สานักงานการตรวจเงินแผน่ ดิน (สตง.) ตรวจพบบอ่ ย ระยะเวลา : 3.00 ชวั่ โมง กจิ กรรม/วธิ กี าร 1. การบรรยายประกอบสอ่ื 2. เวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ 3. การมีส่วนรว่ ม/การระดมความคดิ โดยการแบ่งกลมุ่ ฝึกปฏิบตั ริ ่าง TOR สื่อ/วัสดุ/อุปกรณ์ 1. สอ่ื Power Point 2. ชุดเครอื่ งเสยี ง 3. ประเดน็ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ 4. บอร์ด 5. กระดาษฟลิปชาร์ท 6. ปากกาเคมี การประเมนิ ผล 1. การสังเกตพฤตกิ รรม 2. ประเมนิ ผลรายวิชา 3. ประเมินผลจากช้ินงาน ผลลัพธ์ ผู้เข้ารบั การฝกึ อบรมมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การบริหารการเงนิ -การคลงั และสามารถนาความรู้ ไปใชใ้ นการปฏิบัติงานได้อยา่ งถกู ต้องตรงตามระเบยี บ

45 สงั เขปวชิ า วชิ า : เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในยุคดิจทิ ัล วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ให้ผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจและใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการปฏบิ ัติงาน การสอ่ื สาร และการประชาสัมพนั ธใ์ นยุคดิจิทลั 2. เพือ่ ใหผ้ ้เู ขา้ รับการฝกึ อบรมสามารถประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการเพ่มิ ประสทิ ธิภาพ การปฏิบตั งิ าน ขอบเขตประเด็นเนื้อหาการเรยี นรู้ 1. เทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีจาเปน็ ในยุคดจิ ทิ ัล 2. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในยุคดจิ ทิ ัลในการเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการสือ่ สาร/การ ประชาสัมพันธ์ในการปฏิบัติงาน 3. การขับเคลอื่ นงานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในยคุ ดจิ ิทัล ระยะเวลา : 3.00 ช่วั โมง กจิ กรรม/วธิ กี าร 1. การบรรยายประกอบส่ือ 2. คลปิ VDO 3. แบ่งกล่มุ ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารออกแบบงาน ส่ือ/วสั ดุ/อุปกรณ์ 1. สือ่ Power Point 2. ชุดเครอ่ื งเสียง 3. ใบงาน 4. บอรด์ 5. กระดาษฟลปิ ชารท์ 6. ปากกาเคมี การประเมินผล 1. การสงั เกตพฤติกรรม 2. ประเมินผลรายวชิ า 3. ประเมินผลจากชิ้นงาน ผลลพั ธ์ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และสามารถนา ความรู้ด้าน IT เพิ่มประสทิ ธิภาพในการปฏบิ ัติงาน

สว่ น แผนกา ตารางฝกึ อบรมหลกั สูตร ศูนยศ์ กึ ษาและพัฒนา เวลา 09.00 น. – 12.00 น. วัน วนั ที่ 1 07.30น.-08.30 น. 08.30น.-09.30 น. 09.30-10.30 น. - ลงทะเบียน/ - ปฐมนเิ ทศ - ปรบั ฐานการเรียนรู้ รายงานตวั - พิธเี ปดิ ด้วยการละลาย วนั ที่ 2 08.00 น.-09.00 น. - เวทีแลกเปล่ียน พฤติกรรม เรยี นรู้ 09.00 น.-12.00 น. วนั ท่ี 3 08.00 น.-09.00 น. - การขบั เคลือ่ นยุทธศาสตรก์ รมกา 09.00 น.-12.00 น. - เวทแี ลกเปลยี่ น - การบริหารการเงิน – กา เรยี นรู้ หมายเหตุ 1. เคารพธงชาติ เวลา 08.00 น. 2. อาหารเชา้ เวลา 0 4. อาหารเยน็ เวลา 18.00 น.-19.00 น. 5. อาหารวา่ ง ภาคเช


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook