E-BOOK กลุ่ม 3

คำนำ โครงงานช้นิ น้ีเป็นสว่ นหนึ่งของวชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี (ว 32105)โดยมีจดุ ประสงคเ์ พื่อศึกษาโครงงานเรอื่ งโคมไฟไมไ้ ผ่ จดั ทาข้นึ เพื่อ เหน็ ถึงประโยชนข์ องทรพั ยากรทางธรรมชาตทิ มี่ ปี ระโยชนใ์ นดา้ นตา่ งๆ ทางคณะผจู้ ดั ทา ไดเ้ ลอื กเป็นไมไ้ ผซ่ ง่ึ มีประโยชนด์ า้ นความเหนียวความแข็งแรง และสามารถนามา ประดษิ ฐเ์ ป็นสงิ่ ของไดห้ ลากหลาย เพ่ือตกแตง่ และใชง้ าน ทางคณะผจู้ ดั ทาหวงั วา่ โครงงานช้นิ น้ีจะมปี ระโยชนต์ อ่ ผูท้ ไี่ ดเ้ ขา้ มาศกึ ษา ไมม่ ากก็นอ้ ย หากมีขอ้ แนะนาหรอื ผดิ พลาดประการใด คณะผูจ้ ดั ทาขออภยั มา ณ ทน่ี ้ีดว้ ย คณะผจู้ ดั ทา 26 กนั ยายน 2564 ก

สำรบญั หนำ้ ก เรอื่ ง ข คานา 1 สารบญั 2 ทม่ี าและความสาคญั 3 วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 4 ขน้ั ตอนการดาเนินงาน 5 วสั ดุและอุปกรณใ์ นการผลิต 6 ผลของการดาเนินงาน ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั ข

ท่ีมำและควำมสำคญั โคมไฟเป็นของใชแ้ ละของตกแตง่ ภายในบา้ นและนอกบา้ น ซงึ่ โคมไฟ เป็นสงิ่ ทอ่ี านวยความสะดวกใหเ้ ราสามารถมองเห็นในทม่ี ดื ได้ เพราะโคมไฟเป็น สงิ่ ทใ่ี หแ้ สงสวา่ งในเวลากลางคนื หรอื แมแ้ ตใ่ นทม่ี ืด โคมไฟมอี ยู2่ ลกั ษณะคอื โคม ไฟแบบตง้ั โตะ๊ และโคมไฟแบบแขวน ซง่ึ โคมไฟแบบตง้ั โตะ๊ เป็นโคมไฟทใ่ี ชภ้ ายใน บา้ นและวางไวใ้ นจดุ ตา่ งๆเชน่ บนโตะ๊ ทางาน เพ่ือใหแ้ สงสวา่ งกบั บรเิ วณนน้ั ๆ แลว้ ยงั ใชเ้ ป็นของตกแตง่ ภายในบา้ นไดอ้ กี ดว้ ย เน่ืองจากภายในทอ้ งถ่ินของเรามีไมไ้ ผท่ ใ่ี นปัจจบุ นั ไมค่ อ่ ยนิยมมา นามาใชส้ กั เทา่ ไหร่ และจากทไ่ี ดศ้ กึ ษาคณุ สมบตั ขิ องไมไ้ ผ่ ทาใหร้ ูข้ อ้ มลู ของไมไ้ ผ่ วา่ ไมไ้ ผเ่ ป็นไมย้ ืนตน้ และมคี ณุ สมบตั เิ ป็นไมท้ เ่ี หนียวและมีความแข็งแรง ซงึ่ สามารถนามาประดษิ ฐเ์ ป็นของใชต้ กแตง่ ภายในบา้ นไดผ้ ูจ้ ดั ทาเลยนา ทรพั ยากรธรรมชาตภิ ายในทอ้ งถิ่นมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ดงั นน้ั คณะผจู้ ดั ทาจงึ ไดค้ ดิ จะจดั ทาโคมไฟจากกระบอกไมไ้ ผ่ จากที่ ไดศ้ ึกษาขอ้ มูลคณุ สมบตั ขิ อ้ ดแี ละขอ้ เสยี แลว้ พบวา่ กิ่งไมไ้ ผเ่ ป็นไมท้ เ่ี หนียวและมี ความแข็งแรง ซงึ่ สามารถนาไปประดษิ ฐเ์ ป็นของใชแ้ ละของตกแตง่ ภายในบา้ นได้ หลากหลายและยงั สามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นเรอ่ื งตา่ งๆไดอ้ กี ดว้ ย 1

วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงำน 1.เพื่อฝึกทกั ษะในการคดิ ออกแบบ 2.เพ่ือพฒั นาสงิ่ ประดษิ ฐใ์ หม้ ีรูปรา่ งทหี่ ลากหลาย และน่าใชม้ ากยิ่งข้ึน 3.เพ่ือนาทรพั ยากรธรรมชาตใิ นทอ้ งถิ่นมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 2

ขนั้ ตอนกำรดำเนินงำน 1. นากระบอกไมไ้ ผท่ เ่ี ตรยี มมาตดั เอา 1 ขอ้ แลว้ มาทาความสะอาดดว้ ย นา้ เปลา่ 2. นาสะหวา่ นมาเจาะรู ดา้ นขา้ งของกระบอกไมไ้ ผ่ 3. นากระดาษทรายมาขดั ใหก้ ระบอกไมไ้ ผใ่ หเ้ รยี บและสวยงาม 4. ประกอบ ปลก๊ั ไฟเขา้ กบั สาย และฐานหลอดไฟ 5. เจาะรูดา้ นทเ่ี ป็นกน้ โคมไฟเพื่อสอดสายไฟเขา้ ไป แลว้ ทาการตดิ ตงั้ ฐาน หลอดไฟเขา้ ไปในกระบอกไมไ้ ผ่ 6. ยงิ กาวรอ้ นอดั เขา้ ไปใหฐ้ านหลอดไฟเพ่ือใหห้ ลอดไฟยึดแน่น 7. นาหลอดไฟทเ่ี ตรยี มมาประกอบเขา้ ฐานหลอดไฟ 8. ทาสเี คลือบฐานโคมไฟ เพื่อใหเ้ งาสวยงาม 3

วสั ดแุ ละอปุ กรณใ์ นกำรผลติ 1.กระบอกไมไ้ ผ่ 13.เทปพนั สายไฟ 2.เครอื่ งตดั ไม้ 14.สเี คลือบเงา 3.สวา่ นเจาะรู 15.แปรงทาสี 4.กระดาษทราย 5.กรรไกร 6.ฐานโคมไฟ 7.กาวยาง 8.ปื นยิง 9.หลอดไฟ 10.สายไฟ 11.ปลกั๊ ไฟ 12.ไขควง 4

ผลของกำรดำเนินงำน ผูจ้ ดั ทาไดน้ าโคมไฟจากกระบอกไมไ้ ผน่ ้ีไปทดลองพบวา่ สามารถ ใชไ้ ดจ้ รงิ และเหมาะแกก่ ารนาไปตกแตง่ ภายในบรเิ วณบา้ น อาจจะเป็น บรเิ วณทม่ี ีพ้ืนทเี่ ล็กๆหรอื นาไปวางไวบ้ นโตะ๊ ทางาน 5

ประโยชนท์ ่ีคำดว่ำจะไดร้ บั 1.นาเวลาวา่ งมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 2.สามารถสรา้ งรายไดแ้ ก่ครอบครวั หรอื แกช่ ุมชนได้ 3.นาทรพั ยากรธรรมชาตมิ าใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ งู สุด 4.ไดโ้ คมไฟทเี่ ราสามารถประดษิ ฐเ์ องไดโ้ ดยทไ่ี มต่ อ้ งซ้อื 6

สมำชกิ 1.นางสาวรตนพร มะลทิ อง เลขท2ี่ 0 2.นางสาวศิรนิ ทร์ ภเู วยี ง เลขท2่ี 6 3.นางสาวขวญั ฤทยั มีชนะ เลขท3ี่ 5 4.นางสาวอาภสั สรา สงั ขอ์ ว่ ม เลขท3ี่ 7 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่5/3

E-BOOK กำรออกแบบและเทคโนโลยี (ว 32105)