หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2562) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระโลกดาราศาสตร์และอวกาศ (สาระเพ่ิมเติม) สำนักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ประกาศโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 เรอ่ื ง ใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2562) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ………………………………. ตามที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้ประกาศใช้หลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2553 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562) โดยเริ่มใช้หลักสูตรดังกล่าวกับนักเรียนทุกระดับชั้นในปี การศึกษา 2553 ต่อมาในปีการศึกษา 2561 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้เพิ่มรายวิชาเพิม่ เติมเพื่อให้ สอดคล้องรับกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะ กระบวนการคิด วิเคราะห์ มีเวลาในการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะ การปลูกฝัง คุณธรรมจริยธรรม การสร้างวินัย การมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ยึดมั่น ในสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รวมถึงการสอนศีลธรรมแก่นักเรียนโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 ได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2562) สอดคล้องตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การบริหารจดั การเวลา เรียนและปรับมาตรฐานและตัวชี้วัด สอดคล้องกับ คำสั่ง สพฐ. ที่ 1239/60 และประกาศ สพฐ.ลงวันที่ 8 มกราคม 2561 เป็นทเี่ รียบร้อยแลว้ ทงั้ นี้หลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พ้นื ฐาน เม่ือวนั ที่ 20 เมษายน 2562 จงึ ประกาศใหใ้ ชห้ ลักสตู รโรงเรยี นตัง้ แตบ่ ดั น้เี ปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วนั ที่ 20 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2562 ลงชอื่ ลงชื่อ (นายกฤกษฎ์ิ พยัคกาฬ) (นางวลิ าวลั ย์ ปาล)ี ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31
ความนำ ความสำคญั หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) มีความสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ เป็นแนวทางให้ผู้บริหาร สถานศกึ ษา ครู ตลอดจนผเู้ กย่ี วข้องกบั การจัดการศึกษาของโรงเรยี น ในการจัดมวลประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียน ได้พัฒนาให้บรรลุถึงคุณภาพตามมาตรฐานในการพัฒนาเยาวชนของชาติ นอกเหนือจากการใช้เป็นแนวทาง หรือข้อกำหนดในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้บรรลุตามจุดหมายของการจัดการศึกษาแล้ว หลักสูตร สถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) ที่พัฒนาขึ้นยังเป็นหลักสตู รที่มจี ุดมุง่ หมายให้ครอบครัว ชุมชน องค์กรใน ท้องถิ่น ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมจัดการศึกษาของโรงเรียน โดยมีแนวทางสำคัญที่โรงเรียนกำหนดไว้ใน หลักสตู รโรงเรยี น ดงั น้ี 1. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความสนุกสนาน และความเพลิดเพลนิ ในการเรียนรู้เปรียบเสมือนเปน็ วิธีสร้างกำลังใจ และเร้าให้เกิดความก้าวหนา้ แก่ผู้เรียนให้ มากที่สุด มีความรู้สูงสุด ผู้เรียนทุกคนมีความเข้มแข็ง ความสนใจ มีประสบการณ์และความมั่นใจ เรียนและ ทำงานอย่างเป็นอิสระและร่วมใจกัน มีทักษะในการอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น รู้ข้อมูลสารสนเทศและ เทคโนโลยสี ือ่ สาร ส่งเสริมจติ ใจท่อี ยากร้อู ยากเห็นและมกี ระบวนการคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล 2. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) ส่งเสริมการพัฒนาด้านจิตวิญญาณ จริยธรรม สังคมและวฒั นธรรม พัฒนาหลักการในการจำแนกระหว่างถูกและผิด เข้าใจและศรัทธาในความเช่ือ ของตน ความเชอื่ และวฒั นธรรมที่แตกต่างกัน พฒั นาหลักคุณธรรมและความอิสระของผู้เรยี น และช่วยให้เป็น พลเมืองที่มีความรับผิดชอบ สามารถช่วยพัฒนาสังคมให้เป็นธรรมขึ้น มีความเสมอภาค พัฒนาความตระหนัก เข้าใจและยอมรับสภาพแวดล้อมที่ตนดำรงชีวิตอยู่ ยึดมั่นในข้อตกลงร่วมกันต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับ สว่ นตน ระดับทอ้ งถน่ิ ระดบั ชาตแิ ละระดับโลก สรา้ งให้ผูเ้ รียนมีความพร้อมในการเป็นผู้บริโภคที่ตัดสินใจแบบ มีข้อมูล เป็นอสิ ระและมคี วามรับผิดชอบ 3. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) สง่ เสรมิ ให้ผ้เู รียน มที ักษะที่จำเป็นสาหรับ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นสำคัญ เตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ พร้อมที่จะประกอบ อาชีพ เมื่อจบการศึกษา หรือสามารถศกึ ษาตอ่ ในระดบั ทส่ี ูงขน้ึ สามารถแข่งขนั และอยู่ร่วมกบั ประชาคมโลกได้
ธรรมชาต/ิ ลักษณะเฉพาะ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) เป็นหลักสูตรที่โรงเรียนได้พัฒนาขึ้นเพื่อพัฒนา ผู้เรียนในระดับประถมศึกษา โดยยึดองค์ประกอบหลักสำคัญ 5 ส่วน คือ 1) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐานพุทธศักราช 2551 2) มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2562) ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 2) นโยบายการจดั การเรียนการสอนหน้าท่ีพลเมือง 4) กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น และ 5) สาระสำคัญ จุดเน้นท่ีโรงเรียนพัฒนาเพิ่มเติม เป็นกรอบในการจัดทำ รายละเอียดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนด เหมาะสมกับสภาพชุมชนและท้องถิ่น และจุดเน้นของโรงเรียน โดยหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) ที่พัฒนาขึ้นมีลักษณะของ หลกั สูตร ดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรเฉพาะของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 สำหรับจัดการศึกษาในหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานจดั ในระดบั ประถมศกึ ษา (ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 6) 2. เป็นหลักสูตรที่มีความเป็นเอกภาพสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สำหรับใหค้ รูผสู้ อนนำไปจดั การเรียนรไู้ ด้อยา่ งหลากหลาย โดยกำหนดให้มรี ายละเอยี ด ดงั น้ี 2.1 สาระการเรียนรู้ที่โรงเรียนใช้เป็นหลักเพื่อสร้างพื้นฐานการคิด การเรียนรู้และการ แกป้ ญั หาประกอบดว้ ย ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2.2 สาระการเรียนรู้ที่เสริมสร้างความเป็นมนุษย์ ศักยภาพการคิดและการทำงาน ประกอบดว้ ย สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ศลิ ปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยแี ละภาษาองั กฤษ 2.3 สาระการเรียนรเู้ พ่มิ เตมิ โดยจดั ทำเปน็ รายวชิ า/กจิ กรรมเพิ่มเตมิ ตามความเหมาะสมและ สอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียน สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ความต้องการของผู้เรียน และบริบทของโรงเรียน และเพิม่ วิชาหนา้ ที่พลเมืองให้สอดคลอ้ งกบั นโยบายหนว่ ยเหนือด้วย 2.4 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และ สงั คม เสรมิ สร้างการเรียนร้นู อกจากกล่มุ สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ และการพฒั นาตนตามศกั ยภาพ 2.5 การกำหนดมาตรฐานของโรงเรียนที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับต่างๆ เพื่อเป็น เป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน จัดทำรายละเอียดสาระการเรียนรู้ และจัด กระบวนการเรยี นรู้ใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพในชมุ ชน สังคมและภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ 3. มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) เป็นหลักสูตรท่ีมีมาตรฐานเปน็ ตัวกำหนดเกีย่ วกับความรู้ ทักษะ กระบวนการ สมรรถนะและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เพื่อเป็นแนวทางในการประกันคุณภาพการศึกษา โดยมีการกำหนด มาตรฐานไว้ ดงั นี้
3.1 มาตรฐานหลักสูตร เป็นมาตรฐานด้านผู้เรียนหรอื ผลผลิตของหลักสูตรโรงเรียน เกิดขึ้นจาก การจัดกจิ กรรมตามโครงสร้างของหลักสูตรท้ังหมดของครูและใชเ้ ปน็ แนวทางในการตรวจสอบคุณภาพโดยรวม ของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรในทุกระดับ ซึ่งโรงเรียนต้องใช้สำหรับการประเมินตนเองเพือ่ จัดทำรายงาน ประจำปีตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลใน การกำหนดแนวปฏิบัติในการ สง่ เสรมิ กำกบั ตดิ ตาม ดูแลและปรับปรุงคณุ ภาพ เพ่อื ให้ไดต้ ามมาตรฐานทีก่ ำหนด 3.1 มีตัวชี้วดั ช้ันปี เปน็ เปา้ หมายระบสุ ่งิ ท่ีนกั เรยี นพงึ รู้และปฏบิ ัติได้ รวมทัง้ คณุ ลักษณะของผู้เรียน ในแตล่ ะระดับช้ันซ่ึงสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มคี วามเฉพาะเจาะจง และมคี วามเป็นรูปธรรม นำไปใช้ในการ กำหนดเน้ือหา จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดประเมินผลเพื่อตรวจสอบ คณุ ภาพผู้เรียน ตรวจสอบพัฒนาการผู้เรียน ความรู้ ทักษะ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึง ประสงค์ และเป็นหลักในการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากการศึกษาในระบบ นอกระบบและตาม อธั ยาศยั 3.3 มีความเป็นสากล ความเป็นสากลของหลักสูตรโรงเรียน คือมุ่งให้ผู้เรียนมีความ รู้ ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจัดการสิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญาท้องถิ่น มี คุณลักษณะทีจ่ ำเป็นในการอยู่ในสังคม ได้แก่ ความซอ่ื สัตย์ ความรับผดิ ชอบ การตรงตอ่ เวลา การเสยี สละ การ เอื้อเฟื้อ โดยอยู่บนพื้นฐานของความพอดีระหว่างการเป็นผู้นำ และผู้ตาม การทำงานเป็นทีม และการทำงาน ตามลำพัง การแขง่ ขัน การรูจ้ ักพอ และการร่วมมือกนั เพื่อสงั คม วิทยาการสมัยใหม่และภูมิปัญญาท้องถิ่น การ รับวัฒนธรรมต่างประเทศและการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยการฝึกฝนทักษะเฉพาะทางและการบูรณาการใน ลกั ษณะทเี่ ปน็ องค์รวม 4. มีความยืดหยุ่น หลากหลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) เป็นหลักสูตรที่ โรงเรียนจัดทำรายละเอียดต่างๆ ขึ้นเอง โดยยึดโครงสร้างหลักที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น เป็นขอบข่ายในการจัดทำ จึงทำให้หลักสูตรของ โรงเรียนมีความยืดหยุ่นหลากหลาย สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่าง ยง่ิ มีความเหมาะสมกับตัวผู้เรยี น 5. การวดั และประเมินผลเนน้ หลักการพน้ื ฐานสองประการคือการประเมินเพ่ือพัฒนาผูเ้ รียนและเพ่ือ ตัดสินผลการเรียน โดยผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการ เรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษาและ ระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เปน็ กระบวนการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน และใช้ผลการประเมินเป็น ข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้าและความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจน ข้อมูลทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ การส่งเสริมให้ผู้เรยี นเกดิ การพฒั นาและเรียนรู้อย่างเต็มตามศกั ยภาพ วิสัยทศั น์หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2562) มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่มีสมบูรณ์ มีความ
สมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภูมิใจในท้องถิ่น มีสำนึกความเป็น พลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มี ความรู้และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนสามารถ เรยี นรูแ้ ละพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ จุดมงุ่ หมายหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติโดยมนุษย์ใช้กระบวนการสังเกตสำรวจ ตรวจสอบและการทดลองเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและนำผลมาจัดระบบหลกั การแนวคิดและทฤษฎี ดังน้ันการเรยี นการสอนวทิ ยาศาสตรจ์ ึงมุ่งเนน้ ใหผ้ ู้เรียนไดเ้ ป็นผูเ้ รยี นรแู้ ละคน้ พบด้วยตนเองมากที่สุดน่ันคือให้ ได้ทั้งกระบวนการและองค์ความรู้ตั้งแต่วัยเริ่มแรกก่อนเข้าเรียนเมื่ออยู่ในสถานศึกษาและเมื่อออกจาก สถานศึกษาไปประกอบอาชีพแล้ว การจัดการเรียนการสอนวทิ ยาศาสตรใ์ นสถานศึกษามีเปา้ หมายสำคัญดังนี้ 1. เพือ่ ให้เข้าใจหลักการทฤษฎที ่ีเปน็ พน้ื ฐานในวิทยาศาสตร์ 2. เพื่อใหเ้ ข้าใจขอบเขตธรรมชาติและข้อจำกัดของวิทยาศาสตร์ 3. เพ่ือให้มีทกั ษะที่สำคัญในการศึกษาคน้ คว้าและคดิ ค้นทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. เพือ่ พฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการความสามารถในการแกป้ ญั หาและการจดั การทกั ษะใน การสือ่ สารและความสามารถในการตัดสินใจ 5. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมวลมนุษย์และสภาพแวดล้อมใน เชิงท่มี ีอทิ ธิพลและผลกระทบซึ่งกนั และกนั 6. เพื่อนำความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและ การดำรงชวี ิต 7. เพื่อให้เป็นคนมีจิตวิทยาศาสตร์มีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยอี ยา่ งสรา้ งสรรค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พทุ ธศกั ราช 2562 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุงพทุ ธศักราช 2562) มุ่งใหผ้ ้เู รียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึกและทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการ เลือกใช้วิธกี ารสอ่ื สารท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพอื่ การตดั สินใจเกยี่ วกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่เผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข ปญั หา และมีการตดั สินใจทีม่ ีประสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทเี่ กิดขนึ้ ต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆ ไปใช้ใน การดำเนินชวี ิตประจำวัน การเรยี นรู้ด้วยตนเอง การเรยี นร้อู ยา่ งต่อเน่ืองการทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสงั คม ดว้ ยการสร้างเสริมความสมั พันธอ์ ันดีระหว่างบุคคล การจดั การปญั หาและความขดั แยง้ ต่างๆ อย่างเหมาะสม การ ปรับตัวให้ทันกบั การเปลยี่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลีกเลีย่ งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ท่สี ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใชเ้ ทคโนโลยดี ้านต่างๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การ แกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสมและมีคุณธรรม คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2562) มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ื นในสังคมได้อย่างมี ความสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก มี 8 ประการ ไดแ้ ก่ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซื่อสตั ย์สุจริต 3. มีวินยั 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 6. มุ่งม่ันในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ❖ เข้าใจการลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์กลไกการรักษาดุลยภาพของมนุษย์ภูมิคุ้มกันใน ร่างกายของมนุษย์และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันการใช้ประโยชน์จากสารต่างๆที่พืชสร้างขึ้น
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมวิวัฒนาการที่ทำให้เกิดคว ามหลากหลาย ของสง่ิ มีชีวิตความสำคญั และผลของเทคโนโลยที างดีเอน็ เอต่อมนุษย์สิ่งมชี ีวติ และสง่ิ แวดล้อม ❖ เข้าใจความหลากหลายของไบโอมในเขตภมู ิศาสตรต์ ่างๆของโลกการเปลีย่ นแปลงแทนที่ในระบบ นิเวศปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาส่งิ แวดล้อม ❖ เข้าใจชนิดของอนุภาคสำคัญที่เป็นส่วนประกอบในโครงสร้างอะตอมสมบัติบางประการของธาตุ การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคและสมบัติต่างๆของสารที่มีความสัมพันธ์ กับแรงยึดเหนี่ยวพันธะเคมีโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ การเกิดปฏิกิริยาเคมีปัจจัยที่มีผลต่ออัตรา การเกิดปฏิกิริยาเคมีและการเขียนสมการเคมี ❖ เข้าใจปริมาณทเี่ ก่ียวกบั การเคลอ่ื นท่คี วามสมั พันธร์ ะหวา่ งแรงมวลและความเร่งผลของความเร่งท่ี มีต่อการเคลื่อนที่แบบต่างๆของวัตถุแรงโน้มถ่วงแรงแม่เหล็กความสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กและ กระแสไฟฟ้าและแรงภายในนิวเคลยี ส ❖ เข้าใจพลังงานนิวเคลียร์ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงานการเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็น พลังงานไฟฟ้าเทคโนโลยีด้านพลังงานการสะท้อนการหักเหการเลี้ยวเบนและการรวมคลื่นการได้ยิน ปรากฏการณ์ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับเสียงสีกับการมองเหน็ สีคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้าและประโยชน์ของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า ❖ เข้าใจการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลกสาเหตุและรูปแบบการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีท่ี สมั พันธ์กบั การเกิดลกั ษณะธรณีสัณฐานสาเหตุกระบวนการเกดิ แผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดสึนามิผลกระทบแนว ทางการเฝ้าระวังและการปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภยั ❖ เข้าใจผลของแรงเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศแรงคอริออลิสที่มีต่อการหมุนเวียน ของอากาศการหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูดและผลที่มีต่อภูมิอากาศความสัมพันธ์ของการหมุนเวียน ของอากาศและการหมุนเวียนของกระแสน้ำผิวหน้าในมหาสมุทรและผลต่อลักษณะลมฟ้าอากาศสิ่งมีชีวิต และ สิ่งแวดล้อมปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกและแนวปฏิบัติเพื่อลดกิจกรรมของมนุษย์ที่ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกรวมทั้งการแปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่สำคัญจากแผนท่ี อากาศและขอ้ มลู สารสนเทศ ❖ เขา้ ใจการกำเนดิ และการเปล่ียนแปลงพลงั งานสสารขนาดอุณหภมู ิของเอกภพหลกั ฐานทสี่ นับสนุน ทฤษฎีบิกแบงประเภทของกาแล็กซีโครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือกกระบวนการเกิดและ การสร้างพลงั งานปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อความส่องสว่างของดาวฤกษแ์ ละความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่างกับโชติ มาตรของดาวฤกษ์ความสัมพันธ์ระหว่างสีอุณหภูมิผิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์วิวัฒนาการและการ เปลี่ยนแปลงสมบัติบางประการของดาวฤกษ์ กระบวนการเกิดระบบสุริยะการแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตการเกิดลมสุริยะพายุสุริยะและผลที่มีต่อโลกรวมทั้งการสำรวจ อวกาศและการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธ์ระหว่างส่ิงไม่มชี ีวิตกับสิ่งมีชีวิต และ ความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ แก้ไขปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มรวมทง้ั นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพืน้ ฐานของสิ่งมีชวี ติ การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสมั พันธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าที่ของระบบตา่ ง ๆของสตั ว์และมนุษยท์ ่ีทำงานสัมพันธ์ กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทัง้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมสารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและ วิวฒั นาการของสง่ิ มีชวี ิต รวมท้ังนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบตั ิของสสารกับ โครงสรา้ งและแรงยดึ เหนยี่ วระหว่างอนุภาค หลกั และธรรมชาตขิ องการเปลย่ี นแปลงสถานะ ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจำวัน ผลของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคล่ือนท่ี แบบตา่ งๆ ของวตั ถรุ วมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถา่ ยโอนพลังงานปฏิสมั พันธร์ ะหวา่ ง สสารและพลงั งาน พลงั งานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาตขิ องคล่นื ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กบั เสียง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และววิ ัฒนาการของเอกภพกาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการ ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทง้ั ผลต่อส่งิ มชี ีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมทีม่ ีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ
พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิต สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม
การกำหนดตัวชว้ี ดั รายปี กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สาระ มาตรฐาน ตัวช้ีวัดรายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.1 1. สบื ค้นขอ้ มูลและอธบิ าย ชวี ภาพ เขา้ ใจความ ความสมั พนั ธ์ของสภาพทาง หลากหลายของ ภูมิศาสตรบ์ นโลกกบั ความ ระบบนเิ วศ หลากหลายของไบโอม และ ความสมั พันธ์ ยกตวั อยา่ งไบโอมชนิดตา่ งๆ ระหวา่ งสิง่ ไม่มีชวี ติ 2. สบื คน้ ข้อมูล อภิปรายสาเหตุ กบั สิง่ มชี วี ติ และ และยกตวั อย่างการเปลีย่ นแปลง ความสัมพนั ธ์ แทนทีข่ องระบบนเิ วศ ระหว่างสิ่งมชี ีวติ กบั 3. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายและ ส่ิงมชี ีวิตต่างๆใน ยกตัวอย่างเกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลง ระบบนเิ วศ การ ขององค์ประกอบทางกายภาพ ถ่ายทอดพลงั งาน 4. สบื คน้ ข้อมูลและอภิปรายเกีย่ วกับ การเปลี่ยนแปลง ปัญหาและ มนุษยใ์ ช้ แทนที่ในระบบ ทรพั ยากรธรรมชาตโิ ดยปราศจาก นิเวศ ความหมาย ผลกระทบท่ีมีตอ่ ทรัพยากรธรรมชาติ ของประชากร และความระมัดระวัง และมีการ ปญั หาและ พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ สงิ่ แวดล้อม ผลกระทบท่ีมีตอ่ พร้อมทงั้ นำเสนอแนวทางในการ ทรัพยากรธรรมชาติ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการ และสง่ิ แวดลอ้ ม แกไ้ ขปัญหาสง่ ผลต่อการเปล่ียนแปลง แนวทางในการ อนรุ ักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติสง่ิ แวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาติ และการแกไ้ ข ปัญหาสง่ิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั นำความรู้ไป ใชป้ ระโยชน์
สาระ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัดรายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.2 1. อธิบายโครงสร้างและสมบัตขิ องเยอ่ื ชวี ภาพ เขา้ ใจสมบตั ิของ หุม้ เซลลท์ สี่ ัมพนั ธ์กับการลำเลียงสาร สงิ่ มชี วี ิต หนว่ ย และเปรียบเทยี บ การลำเลียงสารผ่าน พ้นื ฐานของ เยอ่ื ห้มุ เซลลแ์ บบตา่ งๆ สง่ิ มีชีวติ การ 2. อธิบายการควบคุมดุลยภาพของ ลำเลียงสารเขา้ นำ้ และสารใน เลือดโดยการทำงาน และออกจาก ของไต เซลล์ 3. อธิบายการควบคุมดุลยภาพของ ความสมั พันธ์ กรด-เบสของการทำงานของไตและ ของโครงสรา้ ง ปอด และหน้าที่ของ 4. อธิบายการควบคุมดลุ ยภาพของ ระบบตา่ งๆ ของสัตว์และ อุณหภูมิภายในระบบหมนุ เวยี นเลอื ด มนุษย์ทที่ ำงาน ผวิ หนังและกล้ามเน้ือโครงร่าง สัมพนั ธ์กนั 5. อธิบายและเขยี นแผนผงั เกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ การตอบสนองร่างกายแบบไม่จำเพาะ ของโครงสรา้ ง และแบบจำเพาะตอ่ แปลกปลอมของ และหน้าท่ขี อง ร่างกาย อวัยวะตา่ งๆ 6. สืบค้นข้อมูล อธบิ ายและยกตวั อยา่ ง ของพืชทที่ ำงาน โรคหรืออาการทเ่ี กิดจากความผิดปกติ สมั พันธ์กัน ของระบบภมู คิ ุ้มกัน รวมทงั้ นำ ความรไู้ ปใช้ ประโยชน์
สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ดั รายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.2 1. อธบิ ายโครงสรา้ งและสมบตั ิของ ชวี ภาพ เข้าใจสมบตั ิของ เยอ่ื หุ้มเซลลท์ ี่ สมั พนั ธก์ ับการ ส่ิงมชี ีวิต หนว่ ย ลำเลียงสาร และเปรียบเทยี บ พ้นื ฐานของ การลำเลยี งสารผา่ นเยอ่ื หุม้ เซลล์ สิ่งมชี วี ติ การ แบบตา่ งๆ ลำเลียงสารเขา้ 2. อธบิ ายการควบคุมดลุ ยภาพ และออกจาก ของนำ้ และสารใน เลือดโดยการ เซลล์ ทำงานของไต ความสัมพนั ธ์ 3. อธิบายการควบคุมดุลยภาพ ของโครงสร้าง ของกรด-เบสของการทำงานของ และหนา้ ทขี่ อง ไตและปอด ระบบต่าง ๆ ของสตั ว์และ 4. อธิบายการควบคุมดลุ ยภาพของ มนษุ ยท์ ี่ทำงาน อุณหภมู ิภายในระบบหมุนเวยี น สัมพนั ธก์ นั เลอื ดผิวหนังและกล้ามเน้ือโครงรา่ ง ความสัมพนั ธ์ 5. อธบิ ายและเขยี นแผนผงั เกย่ี วกบั ของโครงสรา้ ง การตอบสนองร่างกายแบบไม่ และหนา้ ที่ ของ จำเพาะและแบบจำเพาะต่อ อวยั วะตา่ ง ๆ แปลกปลอมของร่างกาย ของพชื ท่ีทำงาน 6. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ าย และ สมั พนั ธ์กัน ยกตัวอย่างโรคหรืออาการท่เี กิดจาก ความผดิ ปกติของระบบ ภูมิคุ้มกัน รวมทง้ั นำ ความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั รายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.2 7. อธิบายภาวะภมู ิค้มุ กันบกพรอ่ งที่มี ชีวภาพ เขา้ ใจสมบตั ิของ สาเหตุมาจากการตดิ เช้ือ HIV ส่งิ มชี ีวิต หน่วย 8. ทดสอบและบอกชนดิ ของสารอาหาร ที่ พืน้ ฐานของ พืชสังเคราะห์ได้ สง่ิ มชี ีวติ การ 9. สืบค้นขอ้ มูล อภิปรายและยกตัวอยา่ ง ลำเลียงสารเขา้ เกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชนจ์ ากสารตา่ ง ๆ ท่ี และออกจาก พืชบางชนดิ สรา้ งขึน้ เซลล์ 10. ออกแบบการทดลอง ทดลอง ความสมั พนั ธ์ และอธบิ าย เก่ียวกับปัจจัยภายนอกท่ี ของโครงสร้าง มผี ลต่อการเจริญเตบิ โตของพืช และหนา้ ทีข่ อง 11. สบื ค้นข้อมลู เกย่ี วกับสารควบคุมการ ระบบตา่ ง ๆ เจริญเตบิ โตของพืชท่ีมนุษย์สังเคราะห์ขึ้น ของสัตว์และ และยกตวั อยา่ งการนำมาประยุกตใ์ ช้ มนุษยท์ ีท่ ำงาน ทางดา้ นการเกษตรของพชื สัมพันธก์ นั 12. สงั เกตและอธิบายการตอบสนองขอ ความสัมพันธ์ สิ่งเรา้ ในรูปแบบตา่ งๆ ทมี่ ีผลต่อการ ของโครงสรา้ ง เจรญิ เติบโตของพืช และหน้าท่ีของ อวยั วะต่าง ๆ ของพืชทท่ี ำงาน สัมพันธ์กนั รวมทงั้ นำ ความร้ไู ปใช้ ประโยชน์
สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัดรายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.3 1. อธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ ง ชีวภาพ เขา้ ใจ ยีน การสงั เคราะห์ โปรตีนและ กระบวนการ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม และความสำคัญ 2. อธบิ ายหลกั การถา่ ยทอด ของการ ลักษณะทถ่ี ูกควบคุม ดว้ ยยีนที่อยู่ ถ่ายทอด บนโครโมโซมเพศและมัลตเิ ปลิ ลกั ษณะทาง แอลลีล พนั ธกุ รรม สาร 3. อธบิ ายผลที่เกดิ จากการ พนั ธกุ รรม การ เปลย่ี นแปลงลำดบั นวิ คลโี อไทด์ เปลีย่ นแปลง ในดีเอ็นเอต่อการแสดงลักษณะ ทางพันธุกรรมท่ี ของ ส่งิ มีชวี ติ มผี ลต่อสิง่ มชี ีวติ ความ 4. สืบคน้ ข้อมลู และยกตัวอย่าง หลากหลาย การนำมวิ เทชัน ไปใช้ประโยชน์ ทางชีวภาพและ 5. สืบคน้ ขอ้ มลู และอภปิ รายผล วิวฒั นาการของ ของเทคโนโลยี ทางดเี อ็นเอทมี่ ตี ่อ ส่ิงมชี วี ิต รวมทั้ง มนษุ ย์และสิ่งแวดล้อม นำความรไู้ ปใช้ 6. สืบค้นขอ้ มลู อธิบาย และ ประโยชน์ ยกตัวอย่าง ความหลากหลายของ สงิ่ มชี ีวิต ซงึ่ เป็นผลมาจาก วิวฒั นาการ
สาระ มาตรฐาน ตัวช้ีวดั รายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระที่ 2 มาตรฐาน ว 2.1 วทิ ยาศาสตร์ เข้าใจสมบัติของสสาร 1. ระบุว่าสารเป็นธาตหุ รอื สารประกอบ กายภาพ องค์ประกอบของ และอยู่ในรปู อะตอมโมเลกุล หรอื ไอออน สสาร ความสัมพันธ์ จากสูตรเคมี ระหว่างสมบตั ิ ของ 2. เปรียบเทยี บความเหมือนและความ สสารกบั โครงสรา้ ง แตกต่าง ของแบบจำลองอะตอมของโบร์ และแรงยดึ เหน่ียว กบั แบบจำลอง อะตอมแบบกลมุ่ หมอก ระหวา่ งอนุภาค หลัก 3. ระบจุ ำนวนโปรตอน นวิ ตรอน และ และธรรมชาติของ อเิ ล็กตรอน ของอะตอมและไอออนท่ี การเปลีย่ นแปลง เกดิ จากอะตอมเดยี ว สถานะของสสาร 4. เขียนสัญลกั ษณ์นวิ เคลียรข์ องธาตุและ การเกดิ สารละลาย ระบุการเปน็ ไอโซโทป และการเกดิ ปฏกิ ิรยิ า 5. ระบุหม่แู ละคาบของธาตุและระบวุ า่ เคมี ธาตุเป็น โลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ กลุ่ม ธาตุเรพรีเซนเททีฟหรือกลมุ่ ธาตุ แทรนซิชันจากตารางธาตุ 6. เปรยี บเทยี บสมบัติการนำไฟฟ้า การใหแ้ ละรับ อิเล็กตรอนระหว่างธาตุ ในกล่มุ โลหะกบั อโลหะ 7. สืบคน้ ข้อมลู และนำเสนอตัวอย่าง ประโยชน์และ อันตรายที่เกิดจากธาตุ เรพรีเซนเททีฟและธาตุแทรนซิชนั 8. ระบุวา่ พันธะโคเวเลนต์เปน็ พนั ธะ เด่ียว พนั ธะคูห่ รือพันธะสาม และระบุ จำนวนค่อู เิ ล็กตรอน ระหวา่ งอะตอมคู่ รว่ มพันธะจากสูตรโครงสรา้ ง
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตวั ช้ีวดั รายปี ม. 6 ม. 5 สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 9. ระบุสภาพขว้ั ของสารท่โี มเลกลุ กายภาพ เขา้ ใจสมบัติของ ประกอบดว้ ย 2 อะตอม สสาร 10. ระบสุ ารท่ีเกดิ พันธะไฮโดรเจน องคป์ ระกอบ ไดจ้ ากสตู ร โครงสร้าง ของสสาร 11. อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างจุดเดือด ความสมั พนั ธ์ ของสารโคเวเลนต์กบั แรงดึงดดู ระหวา่ ง ระหว่างสมบัติ โมเลกุลตามสภาพขัว้ หรอื การเกิดพนั ธะ ของสสารกบั ไฮโดรเจน โครงสรา้ งและ 12. เขียนสูตรเคมีของไอออนและ แรงยึดเหน่ียว สารประกอบไอออนิก ระหว่างอนภุ าค 13. ระบวุ า่ สารเกิดการละลายแบบแตกตวั หลักและ หรือ ไม่แตกตวั พร้อมใหเ้ หตุผลและระบวุ า่ ธรรมชาตขิ อง สารละลายท่ีไดเ้ ปน็ สารละลาย อเิ ล็กโทรไลต์ การ หรือนอนอิเลก็ โทรไลต์ เปลย่ี นแปลง 14. ระบุสารประกอบอนิ ทรีย์ประเภท สถานะของ ไฮโดรคาร์บอนว่าอิม่ ตวั หรอื ไม่อม่ิ ตัวจากสูตร สสาร การเกดิ โครงสร้าง สารละลาย และ 15. สบื ค้นขอ้ มลู และเปรยี บเทยี บสมบตั ิ การ ทางกายภาพระหวา่ งพอลเิ มอรแ์ ละ มอ เกิดปฏกิ ิรยิ า นอเมอร์ ของพอลิเมอร์ชนดิ น้ัน เคมี 16. ระบุสมบตั ิความเป็นกรด-เบส จาก โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ 17. อธิบายสมบตั ิการละลายในตัวทำละลาย ชนดิ ตา่ ง ๆ ของสาร 18. วเิ คราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ ระหวา่ ง โครงสรา้ งกับสมบัตเิ ทอร์มอ พลาสติกและเทอรม์ อเซตของพอลเิ มอร์ และการนำพอลเิ มอรไ์ ปใช้ประโยชน์
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตวั ชวี้ ัดรายปี ม. 6 ม. 5 สาระท่ี 2 มาตรฐาน ว 2.1 19. สืบคน้ ข้อมลู และนำเสนอผลกระทบของการใช้ วทิ ยาศาสตร์ เข้าใจสมบตั ิของ ผลติ ภณั ฑ์พอลเิ มอร์ทีม่ ีต่อสงิ่ มีชีวติ และสงิ่ แวดล้อม พรอ้ ม กายภาพ สสาร แนวทางปอ้ งกนั หรอื แก้ไข 20. ระบสุ ูตรเคมีของสารต้ังต้น ผลติ ภณั ฑ์และแปล องคป์ ระกอบ ของสสาร ความหมายของสัญลักษณ์ในสมการเคมีของปฏิกริ ิยาเคมี ความสมั พันธ์ 21. ทดลองและอธบิ ายผลของความเขม้ ข้น พนื้ ที่ผิว ระหวา่ งสมบตั ิ อณุ หภมู ิและตวั เร่งปฏกิ ริ ิยาทีม่ ีผลต่ออัตราการ ของสสารกับ เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี โครงสร้างและ 22. สบื คน้ ขอ้ มูลและอธบิ ายปัจจัยทีม่ ผี ลตอ่ อัตรา การ แรงยดึ เหนี่ยว เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีท่ใี ชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั หรือใน ระหวา่ งอนภุ าค อตุ สาหกรรม หลักและ 23. อธิบายความหมายของปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์ ธรรมชาติ ของ 24. อธบิ ายสมบัติของสารกัมมันตรังสี และคำนวณ การ คร่ึงชวี ติ และปริมาณของสารกัมมันตรงั สี เปลยี่ นแปลง 25. สบื ค้นขอ้ มูลและนำเสนอตวั อย่างประโยชน์ ของสาร สถานะของ กัมมันตรังสีและการป้องกันอันตราย ทเี่ กิดจาก สสาร การเกดิ กัมมนั ตภาพรงั สี สารละลาย และ การเกิด ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตัวชว้ี ัดรายปี ม. 6 ม. 5 สาระที่ 2 มาตรฐาน ว 2.2 1. วิเคราะห์และแปลความหมายขอ้ มูลความเรว็ กบั เวลา วทิ ยาศาสตร์ เข้าใจธรรมชาติ ของการเคล่ือนทีข่ องวตั ถุ เพือ่ อธบิ ายความเร่งของวัตถุ กายภาพ ของแรงใน 2. สงั เกตและอธิบายการหาแรงลพั ธท์ ่ีเกดิ จากแรงหลาย แรงทอ่ี ยู่ในระนาบเดียวกันท่ีกระทำต่อวัตถุโดย ชีวิตประจำวัน ผลของแรงท่ี การเขยี นแผนภาพการรวมแบบ เวกเตอร์ กระทำตอ่ วตั ถุ 3. สงั เกต วเิ คราะหแ์ ละอธิบายความสมั พันธ์ระหว่าง ลักษณะการ ความเร่งของวัตถกุ ับแรงลพั ธท์ ี่กระทำต่อวตั ถแุ ละมวลของ เคลอื่ นทีแ่ บบ วัตถุ ต่างๆ ของวัตถุ 4. สังเกตและอธิบายแรงกริ ยิ าและแรงปฏิกิรยิ าระหวา่ ง รวมทง้ั นำ วัตถุค่หู นง่ึ ๆ ความรู้ไปใช้ 5. สังเกตและอธิบายผลของความเรง่ ท่ีมีต่อการเคลือ่ นที่ ประโยชน์ แบบตา่ งๆ ของวตั ถุ ไดแ้ ก่ การเคลื่อนทแี่ นวตรง การ เคลอ่ื นทแี่ บบโพรเจกไทล์ การเคลือ่ นที่แบบวงกลมและ การเคลือ่ นที่แบบสั่น 6. สืบคน้ ข้อมลู และอธบิ ายแรงโนม้ ถ่วงทเ่ี ก่ียวกับการ เคลอื่ นที่ของวตั ถุต่าง ๆ รอบโลก 7. สงั เกตและอธบิ ายการเกดิ สนามแม่เหล็ก เนื่องจาก กระแสไฟฟ้า 8. สงั เกตและอธิบายแรงแม่เหลก็ ทกี่ ระทำตอ่ อนภุ าคท่ีมี ประจไุ ฟฟ้าท่เี คล่ือนทใี่ นสนามแม่เหล็กและแรงแม่เหลก็ ที่ กระทำตอ่ ลวดตวั นำทมี่ ีกระแสไฟฟ้าผา่ นในสนามแม่เหล็ก รวมทั้งอธิบายหลักการทำงาน 9. สงั เกตและอธิบายการเกดิ อีเอ็มเอฟ รวมท้งั ยกตัวอยา่ งการนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 10. สืบค้นขอ้ มูลและอธิบายแรงเขม้ และแรงออ่ น
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตัวชี้วดั รายปี ม. 6 ม. 5 สาระท่ี 2 มาตรฐาน ว 2.3 1. สืบค้นข้อมลู และอธบิ ายพลังงานนิวเคลยี ร์ฟิชชนั วทิ ยาศาสตร์ เขา้ ใจ และฟิวชัน และความสมั พันธ์ระหวา่ งมวลกับ กายภาพ ความหมายของ พลังงานทป่ี ลดปล่อยออกมาจากฟชิ ชนั และฟวิ ชัน พลังงาน การ 2. สบื คน้ ข้อมลู และอธิบายการเปล่ยี นพลังงาน เปลีย่ นแปลง ทดแทนเป็นพลงั งานไฟฟ้า รวมท้งั สบื คน้ และ และการถ่าย อภิปรายเก่ียวกบั เทคโนโลยที นี่ ำมาแกป้ ัญหา หรอื โอนพลงั งาน ตอบสนองความต้องการทางด้านพลงั งาน โดยเนน้ ปฏิสัมพนั ธ์ ดา้ นประสิทธภิ าพและความคุ้มคา่ ดา้ นคา่ ใชจ้ า่ ย ระหว่างสสาร 3. สงั เกตและอธิบายการสะท้อน การหกั เห การ และพลงั งาน เลี้ยวเบน และการรวมคลน่ื พลังงานใน 4. สังเกตและอธิบายความถี่ธรรมชาติ การสนั่ พ้อง ชวี ิตประจำวัน และผลทีเ่ กิดขน้ึ จากการส่ันพ้อง ธรรมชาติ ของ 5. สังเกตและอธิบายการสะท้อน การหักเห การ คลนื่ เลี้ยวเบนและการรวมคลนื่ ของคลื่นเสียง ปรากฏการณ์ที่ 6. สบื ค้นขอ้ มูลและอธิบายความสมั พันธร์ ะหวา่ ง เกีย่ วขอ้ งกับ ความเข้มเสยี งกับระดับเสยี งและผลของความถ่ีกับ เสียง แสง และ ระดบั เสียงที่มีตอ่ การไดย้ นิ เสยี ง คลน่ื 7. สงั เกตและอธิบายการเกิดเสยี งสะทอ้ นกลับ บีต แม่เหลก็ ไฟฟา้ ดอปเพลอร์ และการสน่ั พ้องของเสยี ง รวมท้งั นำ 8. สืบคน้ ขอ้ มูลและยกตัวอย่างการนำความรู้ ความรู้ไปใช้ เก่ียวกับเสยี งไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั ประโยชน์ 9. สังเกตและอธิบายการมองเห็นสขี องวัตถุ และ ความผิดปกติในการมองเห็นสี 10. สงั เกตและอธบิ ายการทำงานของแผน่ กรอง แสงสี การผสมแสงสี การผสมสารสี และการ นำไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวนั
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตวั ชว้ี ดั รายปี ม. 6 ม. 5 สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.3 11. สบื ค้นข้อมูลและอธบิ ายคลื่น กายภาพ เข้าใจ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ สว่ นประกอบคลนื่ ความหมายของ แม่เหลก็ ไฟฟ้า และหลักการทำงาน พลังงาน การ ของอปุ กรณบ์ างชนิดท่ีอาศัยคลนื่ เปลี่ยนแปลง แมเ่ หล็กไฟฟา้ และการถา่ ย 12. สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายการ โอนพลังงาน สื่อสาร โดยอาศยั คลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ ปฏสิ มั พันธ์ ในการสง่ ผ่านสารสนเทศ และ ระหวา่ งสสาร เปรยี บเทยี บการสื่อสารด้วยสัญญาณ และพลงั งาน อนาลอ็ กกบั สัญญาณดิจิทัล พลังงานใน ชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของ คล่นื ปรากฏการณ์ท่ี เกย่ี วข้องกบั เสียง แสง และ คลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นำ ความรู้ไปใช้ ประโยชน์
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ม. 5 ตัวชี้วดั รายปี ม. 6 สาระท่ี 3 มาตรฐาน ว 3.1 1. อธิบายการกำเนิดและการเปลยี่ นแปลงพลังงาน อณุ หภมู ิของ วทิ ยาศาสตร์ เข้าใจ เอกภพหลังเกิดทฤษฎบี ิกแบง ตามวิวัฒนาการของเอกภพ โลกและ องคป์ ระกอบ 2. อธิบายหลกั ฐานท่ีสนบั สนุนทฤษฎบี กิ แบง จากความสมั พันธ์ อวกาศ ลักษณะ ระหวา่ งความเร็วกบั ระยะทางของกาแลก็ ซี รวมทั้งขอ้ มลู การค้นพบ ไมโครเวฟ พื้นหลงั จากอวกาศ กระบวนการ 3. อธบิ ายโครงสรา้ งและองค์ประกอบของกาแลก็ ซี ทางชา้ งเผือก เกดิ และ และระบุตำแหนง่ ของระบบสรุ ยิ ะ พร้อมอธบิ ายเช่อื มโยงกับการ วิวฒั นาการของ สังเกตเหน็ ทางช้างเผือกของคนบนโลก เอกภพ 4. อธบิ ายกระบวนการเกดิ ดาวฤกษ์ โดยแสดงการเปล่ียนแปลง กาแลก็ ซี ดาว ความดนั อุณหภมู ิ ขนาด จากดาวฤกษก์ อ่ นเกดิ จนเปน็ ดาวฤกษ์ ฤกษ์และระบบ 5. ระบปุ ัจจัยทสี่ ง่ ผลตอ่ ความสอ่ งสว่างของ ดาวฤกษ์ และอธบิ าย สรุ ยิ ะ รวมทง้ั ความสัมพันธร์ ะหว่างความ สอ่ งสวา่ งกับโชตมิ าตรของดาวฤกษ์ ปฏสิ ัมพนั ธ์ 6. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างสี อุณหภมู ผิ ิว และสเปกตรมั ของ ภายในระบบ ดาวฤกษ์ สรุ ยิ ะ ทส่ี ง่ ผล 7. อธิบายลำดบั ววิ ัฒนาการทสี่ ัมพนั ธก์ บั มวลตง้ั ตน้ และวเิ คราะห์ การเปลย่ี นแปลงสมบตั บิ างประการของดาวฤกษ์ ต่อส่ิงมชี ีวติ และ 8. อธิบายกระบวนการเกดิ ระบบสุริยะและการแบ่งเขตบรวิ ารของ การประยุกตใ์ ช้ ดวงอาทติ ย์และลักษณะของ ดาวเคราะห์ที่เอ้อื ตอ่ การดำรงชวี ิต เทคโนโลยี 9. อธบิ ายโครงสรา้ งของดวงอาทติ ย์ การเกิด ลมสรุ ิยะ พายุสุรยิ ะ อวกาศ และสบื ค้นข้อมลู วเิ คราะห์ นำเสนอปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ท่ี เก่ยี วขอ้ ง กับผลของลมสรุ ยิ ะและพายุสุริยะที่มีต่อโลก รวมทงั้ ประเทศไทย 10. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบายการสำรวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ ในช่วงความยาวคลื่นตา่ งๆดาวเทียม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ และ นำเสนอแนวคิดการนำความรทู้ างดา้ นเทคโนโลยอี วกาศมา ประยกุ ต์ใช้ ในชีวิตประจำวันหรอื ในอนาคต
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตัวช้วี ัดรายปี ม. 5 ม. 6 สาระท่ี 3 มาตรฐาน ว 3.2 วทิ ยาศาสตร์ เขา้ ใจ 1. อธบิ ายการแบ่งชั้นและสมบัตขิ อง โลก และ องคป์ ระกอบ โครงสร้างโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมลู ที่ อวกาศ และ สนับสนนุ ความสัมพันธ์ 2. อธิบายหลกั ฐานทางธรณีวิทยาทส่ี นับสนุน ของระบบโลก การเคล่อื นทข่ี องแผ่นธรณี กระบวนการ 3. ระบสุ าเหตแุ ละอธบิ ายรปู แบบแนวรอยตอ่ เปลี่ยนแปลง ของแผน่ ธรณีท่สี มั พันธ์กับการเคลือ่ นท่ีของ ภายในโลกและ แผน่ ธรณี พรอ้ มยกตวั อย่างหลักฐาน ทาง บนผวิ โลก ธรณี ธรณีวิทยาท่ีพบ พบิ ตั ภิ ัย 4. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟ กระบวนการ ระเบิด รวมทงั้ สบื คน้ ข้อมลู พ้ืนทเ่ี สี่ยงภยั เปล่ยี นแปลง ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั ลมฟา้ อากาศ และการปฏบิ ตั ติ น ให้ปลอดภัย และภมู อิ ากาศ 5. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกดิ ขนาดและ โลก รวมท้งั ผล ความรนุ แรงและผลจากแผน่ ดินไหว รวมท้ัง ต่อส่งิ มีชีวิตและ สบื คน้ ข้อมลู พื้นทีเ่ ส่ยี งภัย ออกแบบและ สง่ิ แวดล้อม นำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ิ ตนให้ปลอดภัย 6. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดและผลจากสึ นามิ รวมทง้ั สืบค้นขอ้ มูลพ้นื ทเ่ี ส่ยี งภยั ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัย 7. อธิบายปจั จยั สำคัญท่มี ผี ลต่อการไดร้ บั พลงั งาน จากดวงอาทติ ยแ์ ตกต่างกันในแต่ละ บริเวณของโลก 8. อธิบายการหมนุ เวียนของอากาศ ทีเ่ ปน็ ผลมาจากความแตกตา่ งของความกดอากาศ
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตัวชี้วัดรายปี ม. 5 ม. 6 สาระที่ 3 มาตรฐาน ว 3.2 9. อธบิ ายทศิ ทางการเคลื่อนท่ขี องอากาศ วทิ ยาศาสตร์โลก เข้าใจ ทเ่ี ป็น ผลมาจากการหมุนรอบตวั เองของ โลก และอวกาศ องค์ประกอบ 10. อธบิ ายการหมุนเวียนของอากาศตาม เขต ละติจดู และผลทีม่ ีตอ่ ภมู ิอากาศ และ 11. อธบิ ายปัจจยั ท่ีทำให้เกดิ การ หมนุ เวยี นของน้ำ ผวิ หนา้ ในมหาสมทุ ร ความสมั พันธ์ และรูปแบบการหมุนเวียนของน้ำผวิ หนา้ ใน มหาสมทุ ร ของระบบโลก 12. อธบิ ายผลของการหมนุ เวยี นของ อากาศและน้ำผิวหนา้ ในมหาสมทุ รท่มี ีต่อ กระบวนการ ลักษณะ ภมู อิ ากาศ ลมฟา้ อากาศ สง่ิ มชี ีวิตและส่ิงแวดล้อม เปลย่ี นแปลง 13. อธบิ ายปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ การ เปล่ยี นแปลง ภูมิอากาศของโลก พรอ้ มทัง้ ภายในโลกและ นำเสนอแนวปฏบิ ตั ิ เพื่อลดกิจกรรมของ มนุษย์ท่สี ง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลง บนผวิ โลก ธรณี ภูมิอากาศโลก 14. แปลความหมายสญั ลกั ษณ์ลมฟ้า พิบตั ิภยั อากาศท่สี ำคัญจากแผนที่อากาศ และนำ ขอ้ มลู สารสนเทศต่างๆ มาวางแผนการ กระบวนการ ดำเนนิ ชวี ติ ใหส้ อดคล้องกับสภาพลมฟ้า อากาศ เปลี่ยนแปลง ลมฟา้ อากาศ และภูมอิ ากาศ โลก รวมท้งั ผล ตอ่ สิ่งมีชวี ติ และ สิ่งแวดล้อม
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั รายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 1. วเิ คราะห์แนวคิดหลกั ของเทคโนโลยี 1. ประยุกตใ์ ช้ความรแู้ ละ เข้าใจแนวคิด ความสัมพันธ์กับศาสตร์อ่นื โดยเฉพาะ ทักษะจากศาสตรต์ า่ ง ๆ หลกั ของ วิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทัง้ รวมทั้งทรพั ยากรในการทำ เทคโนโลยเี พื่อ ประเมนิ ผลกระทบทจี่ ะเกิดขึ้นต่อมนษุ ย์ โครงงานเพ่ือแกป้ ัญหา หรือ การดำรงชีวิตใน สงั คม เศรษฐกจิ และส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ เป็น พฒั นางาน สังคมทมี่ ีการ แนวทางในการพัฒนา เปลยี่ นแปลง 2. ระบปุ ญั หาหรอื ความตอ้ งการท่ีมี อย่างรวดเรว็ ใช้ ผลกระทบต่อสงั คม รวบรวม วิเคราะห์ ความรแู้ ละ ขอ้ มูลและแนวคิด ท่ีเก่ียวข้องกบั ปญั หาที่มี ทักษะทางด้าน ความซบั ซ้อน เพ่ือสังเคราะห์วธิ กี าร วทิ ยาศาสตร์ เทคนคิ ในการแกป้ ญั หา โดยคำนงึ ถึงความ คณิตศาสตร์ ถูกต้องด้านทรัพย์สนิ ทางปญั ญา และ ศาสตร์ 3. ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา โดยวเิ คราะห์ อืน่ ๆ เพื่อ เปรยี บเทยี บและตดั สนิ ใจเลอื กข้อมลู ที่ แก้ปัญหาหรือ จำเป็น ภายใตเ้ งือ่ นไขและทรพั ยากรทมี่ ี พฒั นางานอยา่ ง อยู่ นำเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาให้ผูอ้ นื่ มีความคดิ เขา้ ใจด้วยเทคนิค หรอื วิธีการที่ สร้างสรรค์ ด้วย หลากหลาย โดยใช้ซอฟต์แวร์ ช่วยในการ กระบวนการ ออกแบบ วางแผนขั้นตอนการทำงานและ ออกแบบเชิง ดำเนินการแกป้ ัญหา วศิ วกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยีอยา่ ง เหมาะสม โดย คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อ ชีวติ สงั คมและ สงิ่ แวดล้อม
สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัดรายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ เขา้ ใจแนวคิด และใหเ้ หตผุ ล ของปญั หาหรือ หลกั ของ ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบ เทคโนโลยีเพอื่ เงื่อนไข หาแนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข การดำรงชวี ิตใน และนำเสนอผลการแกป้ ญั หา พร้อม สงั คมทีม่ ีการ ท้งั เสนอ แนวทางการพฒั นาต่อยอด เปลยี่ นแปลง 5. ใช้ความรแู้ ละทักษะเกย่ี วกับวัสดุ อยา่ งรวดเรว็ ใช้ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและ ความรู้และ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และเทคโนโลยที ี่ ทักษะทางด้าน ซบั ซอ้ นในการแกป้ ญั หาหรือพฒั นา วิทยาศาสตร์ งานได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม และ คณิตศาสตร์ ปลอดภัย และศาสตร์อ่ืนๆ เพ่ือแกป้ ัญหา หรือพฒั นางาน อยา่ งมีความคิด สร้างสรรค์ ด้วย กระบวนการ ออกแบบเชิง วิศวกรรม เลอื กใช้ เทคโนโลยอี ย่าง เหมาะสม โดย คำนึงถึง ผลกระทบต่อ ชีวติ สงั คมและ สิ่งแวดลอ้ ม
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตัวชว้ี ัดรายปี ม. 6 1. ประยุกตใ์ ช้ ม. 5 1. ใชเ้ ทคโนโลยี สาระท่ี 4 มาตรฐาน ว 4.2 แนวคดิ เชิงคำนวณใน สารสนเทศในการ เทคโนโลยี เข้าใจและใช้ การพฒั นาโครงงานที่ 1. รวบรวม วิเคราะห์ นำเสนอ และ แบง่ ปนั แนวคิดเชงิ มกี ารบรู ณาการกับ ขอ้ มูล และใช้ความรู้ ข้อมูลอย่างปลอดภยั มี คำนวณในการ วิชาอน่ื อยา่ ง ดา้ นวทิ ยาการ จรยิ ธรรมและวิเคราะห์ แก้ปญั หาท่ีพบ สร้างสรรค์ และ คอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล การเปล่ยี นแปลง ในชวี ิตจรงิ อยา่ ง เชอ่ื มโยงกับชวี ติ จรงิ เทคโนโลยสี ารสนเทศใน เทคโนโลยีสารสนเทศทม่ี ี เป็นขั้นตอนและ การแก้ปัญหาหรอื เพมิ่ ผลต่อการดำเนนิ ชวี ติ เปน็ ระบบ ใช้ มลู คา่ ใหก้ ับบริการหรือ อาชีพ สังคมและ เทคโนโลยี ผลติ ภัณฑ์ท่ีใช้ในชีวติ วฒั นธรรม สารสนเทศและ จริง การสือ่ สารใน การเรียนรู้ การ ทำงาน และการ แก้ปญั หาได้ อยา่ งมี ประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมี จริยธรรม
ผลการเรียนรแู้ ละสาระการเรยี นร้เู พิ่มเตมิ วิทยาศาสตรเ์ พม่ิ เติม ผู้เรยี นจะได้เรียนรสู้ าระสำคญั ดงั นี้ ✧ ชวี วทิ ยา เรยี นรเู้ กีย่ วกับ การศึกษาชีววิทยา สารทเี่ ป็นองคป์ ระกอบของสิง่ มีชวี ิต เซลลข์ อง สิ่งมีชวี ติ พันธกุ รรมและการถ่ายทอด ววิ ัฒนาการความหลากหลายทางชีวภาพ โครงสรา้ งและการทำงานของสว่ น ต่าง ๆ ในพืชดอก ระบบและการทำงานในอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ และมนุษย์ และสิง่ มีชีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม ✧ เคมี เรยี นร้เู กยี่ วกับ ปริมาณสาร องค์ประกอบและสมบัตขิ องสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร ทักษะและการแก้ปัญหาทางเคมี ✧ ฟสิ ิกส์ เรยี นรู้เก่ียวกับ ธรรมชาตแิ ละการคน้ พบทางฟสิ ิกส์ แรงและการเคล่ือนทแี่ ละพลังงาน ✧ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เรยี นรเู้ กี่ยวกบั โลกและกระบวนการเปลย่ี นแปลงทางธรณวี ิทยา ข้อมลู ทางธรณวี ทิ ยาและการนำไปใช้ประโยชน์ การถ่ายโอนพลงั งานความร้อนของโลก การเปลย่ี นแปลงลักษณะ ลมฟ้าอากาศกบั การดำรงชวี ติ ของมนษุ ย์ โลกในเอกภพ และดาราศาสตร์ กบั มนษุ ย์ สาระวทิ ยาศาสตร์เพ่ิมเตมิ สาระชวี วทิ ยา 1. เขา้ ใจธรรมชาตขิ องสง่ิ มีชวี ิต การศกึ ษาชวี วิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารท่ีเปน็ องค์ประกอบ ของส่ิงมชี ีวติ ปฏกิ ิรยิ าเคมใี นเซลล์ของสิ่งมีชวี ิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและหนา้ ที่ของเซลล์ การลำเลยี งสารเข้า และออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์และการหายใจระดับเซลล์ 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัตแิ ละหนา้ ที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลาย ทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความ หลากหลายของส่งิ มชี ีวิตและอนุกรมวธิ าน รวมทง้ั นำความรู้ ไปใช้ประโยชน์ 3. เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การลำเลียงของพืช การ สังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโตและการตอบสนองของพืช รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมทั้งการหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสาร และการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพและพฤติกรรมของสตั ว์ รวมทัง้ นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ 5. เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียน สารในระบบ นิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศประชากรและรูปแบบการ เพิ่มของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการใชป้ ระโยชนแ์ ละแนว ทางการแก้ไขปญั หา
สาระเคมี 1. เขา้ ใจโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมแี ละสมบตั ิของสาร แก๊สและสมบัติของแกส๊ ประเภทและสมบัตขิ องสารประกอบอินทรยี ์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนำความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ 2. เขา้ ใจการเขยี นและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพนั ธ์ในปฏิกิริยาเคมี อตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุล ในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 3. เข้าใจหลกั การทำปฏบิ ตั ิการเคมี การวัดปรมิ าณสาร หนว่ ยวดั และการเปลี่ยนหนว่ ย การคำนวณ ปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทั้งการบูรณาการความรู้และทักษะในการอธบิ ายปรากฏการณใ์ น ชีวิตประจำวนั และการแก้ปญั หาทางเคมี สาระฟิสกิ ส์ 1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์ พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. เข้าใจการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย ธรรมชาติของคลื่นเสียงและการได้ยิน ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสงและการเห็นปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแสง รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 3. เข้าใจแรงไฟฟ้าและกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความจุไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าและกฎของ โอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทำกับประจุไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนำ แม่เหล็กไฟฟ้า และกฎของ ฟาราเดย์ ไฟฟ้ากระแสสลบั คลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ และการสอื่ สาร รวมทงั้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 4. เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของ วัสดุ และมอดุลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีส ความตึงผิวและแรงหนืดของ ของเหลว ของไหลอุดมคติ และสมการแบร์นูลลี กฎของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรงนิวเคลียร์ ปฏกิ ริ ยิ านวิ เคลียร์ พลังงานนวิ เคลียร์ ฟิสิกส์อนภุ าค รวมท้ังนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1. เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัยและผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม การศึกษาลำดับชน้ั หิน ทรพั ยากรธรณี แผนท่ีและการนำไปใช้ประโยชน์ 2. เข้าใจสมดุลพลังงานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมุนเวียนของน้ำ ในมหาสมุทร การ เกดิ เมฆ การเปลีย่ นแปลงภูมิอากาศโลกและผลต่อสง่ิ มชี ีวิตและสง่ิ แวดล้อม รวมทั้งการพยากรณอ์ ากาศ 3. เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะกระบวนการเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์และ ระบบสุริยะ ความสัมพันธ์ของดาราศาสตร์กับมนุษย์จากการศึกษาตำแหน่ง ดาวบนทรงกลมฟ้าและปฏิสัมพันธ์ ภายในระบบสรุ ยิ ะ รวมท้ังการประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ
การกำหนดผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรู้รายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระ 1. เข้าใจ 1. อธบิ าย และสรุปสมบัตทิ ส่ี ำคญั ของสง่ิ มชี วี ิต ชีววิทยา ธรรมชาติของ และความสมั พันธข์ องการจัดระบบในสงิ่ มชี วี ิต ท่ี สงิ่ มีชวี ติ ทำใหส้ ่งิ มีชวี ติ ดำรงชีวิตอยู่ได้ การศกึ ษา 2. อภปิ ราย และบอกความสำคัญของการระบุ ชีววิทยาและ ปัญหา ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งปญั หา สมมติฐาน วิธีการทาง และวิธกี ารตรวจสอบสมมติฐาน รวมทงั้ ออกแบบ วิทยาศาสตร์ การทดลองเพ่ือตรวจสอบสมมติฐาน สารทีเ่ ปน็ 3. สืบค้นข้อมลู อธบิ ายเกีย่ วกับสมบัตขิ องนำ้ องคป์ ระกอบ และบอกความสำคญั ของน้ำท่ีมตี อ่ ส่งิ มชี วี ติ และ ของสงิ่ มีชวี ิต ยกตัวอยา่ งธาตุชนดิ ตา่ งๆ ท่มี ีความสำคญั ต่อ ปฏิกิริยาเคมีใน รา่ งกายสง่ิ มีชวี ติ เซลลข์ อง 4. สบื คน้ ข้อมลู อธบิ ายโครงสร้างของ ส่งิ มีชีวิต กลอ้ ง คารโ์ บไฮเดรต ระบุกล่มุ ของคาร์โบไฮเดรต จลุ ทรรศน์ รวมทั้งความสำคัญของคาร์โบไฮเดรตที่มตี ่อ โครงสรา้ งและ ส่งิ มชี ีวติ หน้าท่ีของเซลล์ 5. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายโครงสร้างของโปรตีน การลำเลยี งสาร และความสำคัญของโปรตนี ท่ีมตี อ่ ส่ิงมชี วี ิต เขา้ และออก 6. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ ายโครงสร้างของลิพดิ และ จากเซลล์ การ ความสำคญั ของลิพิดที่มีต่อสิ่งมีชีวติ แบ่งเซลล์ และ 7. อธบิ ายโครงสร้างของกรดนวิ คลอิ ิกและระบุ การหายใจ ชนดิ ของกรดนวิ คลอิ ิก และความสำคัญของกรด ระดับเซลล์ นวิ คลอิ กิ ท่ีมตี ่อสิง่ มชี วี ติ 8. สืบคน้ ข้อมูลและอธิบายปฏกิ ริ ยิ าเคมที ่ี เกิดข้ึนในส่ิงมีชีวติ
สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนร้รู ายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระ ชวี วิทยา 1. เข้าใจ 9. อธบิ ายการทำงานของเอนไซมใ์ นการเร่ง ธรรมชาติ ปฏกิ ิรยิ า เคมใี นสิง่ มีชวี ติ และระบปุ จั จัยทม่ี ผี ล ของสิง่ มชี ีวิต ต่อการทำงาน ของเอนไซม์ การศกึ ษา 10. บอกวิธกี าร และเตรยี มตัวอยา่ งสงิ่ มชี ีวติ ชีววทิ ยาและ เพื่อศึกษาภายใต้กล้องจลุ ทรรศน์ใชแ้ สงวัด วิธกี ารทาง ขนาดโดยประมาณ และวาดภาพที่ปรากฏ วทิ ยาศาสตร์ ภายใต้กลอ้ ง บอกวิธีการใช้ และการดูแลรกั ษา กลอ้ งจลุ ทรรศนใ์ ชแ้ สงท่ถี กู ต้อง สารท่เี ป็น 11. อธบิ ายโครงสร้างและหน้าทข่ี องสว่ นท่ี องค์ประกอบ ห่อหุ้มเซลลข์ องเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์ 12. สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ ายและระบชุ นิดและ ของส่ิงมีชวี ติ หน้าทีข่ องออร์แกเนลล์ ปฏิกิริยาเคมี 13. อธิบายโครงสรา้ งและหน้าที่ของนวิ เคลยี ส ในเซลลข์ อง 14. อธิบาย และเปรียบเทยี บการแพร่ ออสโม สง่ิ มีชีวติ ซิส การแพร่แบบฟาซิลเิ ทต และแอก กล้อง ทีฟทรานสปอร์ต จลุ ทรรศน์ 15. สืบคน้ ข้อมลู อธิบาย และเขยี นแผนภาพ โครงสรา้ ง การลำเลยี งสารโมเลกลุ ใหญอ่ อกจากเซลล์ และหน้าท่ี ด้วยกระบวนการเอกโซไซโทซิสและการลำเลียง ของเซลล์ สารโมเลกลุ ใหญเ่ ขา้ สเู่ ซลลด์ ้วยกระบวนการ การลำเลยี ง เอนโดไซโทซสิ สารเขา้ และ 16. สังเกตการแบง่ นวิ เคลียสแบบไมโทซสิ และ ออกจาก แบบไมโอซสิ จากตวั อยา่ งภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ พร้อมทง้ั อธบิ ายและเปรียบเทยี บการแบง่ เซลล์ การ นวิ เคลยี สแบบไมโทซสิ และแบบไมโอซสิ แบ่งเซลล์ 17. อธบิ าย เปรยี บเทยี บและสรุปขั้นตอน และการ การหายใจระดบั เซลลใ์ นภาวะท่มี อี อกซเิ จน หายใจระดบั เพยี งพอ และภาวะท่ีมอี อกซเิ จนไมเ่ พยี งพอ เซลล์
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรู้รายปี ม. 4 ม.5 ม.6 สาระชวี วิทยา 2. เขา้ ใจการ 1. สืบคน้ ข้อมูล อธบิ าย 1. อภิปรายความสำคญั ถา่ ยทอดลักษณะ และสรปุ ผลการทดลอง ของความหลากหลายทาง ทางพันธุกรรม ของเมนเดล ชวี ภาพ และความ เชื่อมโยงระหว่างความ การถ่ายทอดยนี 2. อธบิ าย และสรุปกฎแห่ง หลากหลายทางพนั ธุกรรม การแยก และ กฎแหง่ การ ความหลากหลายของสปีชีส์ บนโครโมโซม รวมกลมุ่ อยา่ งอิสระ และนำ และความหลากหลายของ สมบัติ และหนา้ ที่ กฎของ เมนเดลน้ี ไป ระบบนิเวศ ของสารพนั ธกุ รรม อธบิ ายการถา่ ยทอด 2. อธิบายการเกิดเซลล์ การเกดิ มิวเทชัน ลักษณะทาง พนั ธกุ รรมและ เริม่ แรกของสงิ่ มชี ีวติ และ เทคโนโลยที างดี ใชใ้ นการคำนวณโอกาสใน เอ็นเอ หลักฐาน การ เกดิ ฟีโนไทปแ์ ละจโี น ขอ้ มูลและแนวคิด ไทป์แบบต่าง ๆ ของรนุ่ ววิ ัฒนาการของสงิ่ มีชีวติ เก่ียวกบั F1 และ F2 เซลลเ์ ดียว วิวฒั นาการของ สิ่งมชี ีวติ ภาวะ 3. สบื ค้นข้อมลู วเิ คราะห์ 3. อธิบายลกั ษณะสำคญั สมดุลของฮารด์ ี- อธบิ าย และสรปุ เก่ียวกับ และยกตวั อย่างส่ิงมชี วี ติ ไวนเ์ บริ ์ก การ การถา่ ยทอดลักษณะทาง กลมุ่ แบคทเี รีย ส่งิ มชี ีวิต เกิดสปชี ีสใ์ หม่ พันธกุ รรม ท่เี ป็น สว่ นขยาย กลุม่ โพรทสิ ต์ ส่ิงมชี วี ติ ความหลากหลาย ของพันธศุ าสตรเ์ มนเดล กลุ่มพชื สงิ่ มชี ีวติ กลุม่ ฟงั ทางชวี ภาพ 4. สืบค้นขอ้ มูล วเิ คราะห์ ไจ และสงิ่ มชี วี ติ กลุม่ สตั ว์ กำเนดิ ของ และเปรยี บเทยี บลกั ษณะทาง ส่ิงมีชวี ติ ความ พนั ธุกรรมท่มี ีการแปรผันไม่ 4. อธิบายและยกตัวอย่าง หลากหลาย ของ ต่อเนอื่ ง และลกั ษณะทาง การจำแนกสิ่งมีชีวิต จาก สิ่งมีชีวติ และ พันธกุ รรมที่มีการแปรผัน ห ม ว ด ห ม ู ่ ใ ห ญ ่ จ น ถึ ง อนุกรมวธิ าน ต่อเนอ่ื ง หมวดหมู่ย่อยและวธิ ี เขียน รวมทงั้ นำความรู้ 5. อธิบายการถ่ายทอดยีนบน ชื่อวิทยาศาสตร์ในลำดับ ไปใชป้ ระโยชน์ โครโมโซมและยกตัวอย่าง ขัน้ สปชี ีส์ ลักษณะทางพันธุกรรมทีถ่ ูก 5. สรา้ งไดโคโทมัสคียใ์ น ควบคมุ ดว้ ยยนี บนออโตโซม การระบุสง่ิ มีชวี ิตหรอื และยนี บนโครโมโซมเพศ ตวั อยา่ งท่ีกำหนดออกเปน็ หมวดหมู่
สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรู้รายปี ม.6 ม. 4 ม.5 สาระชวี วิทยา 2. เข้าใจการ 6. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบาย ถา่ ยทอดลกั ษณะ สมบัตแิ ละหนา้ ทีข่ อง สาร ทางพันธกุ รรม พันธุกรรม โครงสรา้ งและ การถา่ ยทอดยนี องค์ประกอบ ทางเคมีของ DNA และสรุปการจำลอง บนโครโมโซม DNA สมบตั ิ และหน้าที่ 7. อธิบายและระบขุ นั้ ตอนใน ของสารพนั ธุกรรม กระบวนการ สังเคราะห์ การเกิดมิวเทชนั โปรตนี และหนา้ ท่ีของ DNA เทคโนโลยีทางดี และ RNA แตล่ ะชนิดใน เอน็ เอ หลักฐาน กระบวนการสงั เคราะห์ ขอ้ มูลและแนวคดิ โปรตนี เกีย่ วกบั 8. สรุปความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ววิ ัฒนาการของ สารพนั ธุกรรม แอลลลี โปรตนี สิ่งมีชวี ติ ภาวะ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมและ สมดลุ ของฮาร์ดี- เช่อื มโยงกับความรเู้ รื่องพันธุ ไวนเ์ บิร์ก การ ศาสตรเ์ มนเดล เกิดสปีชีส์ใหม่ 9. สืบค้นข้อมูลและอธิบาย ความหลากหลาย การเกิดมิวเทชัน ระดับยีน และระดับโครโมโซม สาเหตุ ทางชีวภาพ การเกิดมิวเทชัน รวมทั้ง กำเนดิ ของ ย ก ต ั ว อ ย ่ า ง โ ร ค แ ล ะ ก ลุ่ ม สิง่ มชี วี ิต ความ อาการที่เป็นผลของการเกิด หลากหลาย ของ มวิ เทชัน ส่ิงมีชวี ิต และ 10. อธิบายหลักการสร้าง อนกุ รมวธิ าน สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม รวมทัง้ นำความรู้ โดยใชด้ เี อน็ เอรคี อมบแิ นนท์ ไปใชป้ ระโยชน์ 11. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนำ เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไป ประยุกต์ใช้ทั้งในด้าน สิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตรและ อุตสาหกรรม และข้อควร คำนงึ ถงึ ดา้ นชวี จรยิ ธรรม
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรูร้ ายปี ม.6 ม. 4 ม.5 สาระชวี วิทยา 2. เข้าใจการ 12. สบื คน้ ข้อมลู และอธบิ าย ถ่ายทอดลักษณะ เกี่ยวกับหลกั ฐาน ทส่ี นับสนนุ และข้อมลู ทใ่ี ช้อธบิ ายการเกิด ทางพันธกุ รรม ววิ ฒั นาการของสิง่ มชี วี ติ การถ่ายทอดยนี 13. อธิบายและเปรยี บเทียบ บนโครโมโซม แนวคดิ เก่ยี วกับ วิวัฒนาการ สมบัติ และหนา้ ที่ ของสิง่ มชี วี ิตของฌอง ลา ของสารพนั ธุกรรม มาร์ก และทฤษฎเี กี่ยวกับ การเกิดมวิ เทชัน ววิ ัฒนาการของสงิ่ มีชวี ติ ของ เทคโนโลยีทางดี ชาลส์ ดารว์ นิ เอน็ เอ หลกั ฐาน 14. ระบสุ าระสำคญั และ ข้อมูลและแนวคิด อธบิ ายเงื่อนไขของภาวะ เก่ียวกับ สมดลุ ของฮาร์ดี-ไวน์เบริ ์ก วิวฒั นาการของ ปัจจัยที่ทำใหเ้ กดิ การ สง่ิ มชี วี ิต ภาวะ เปล่ียนแปลงความถขี่ อง แอลลลี ในประชากร พรอ้ ม สมดุลของฮารด์ ี- ทง้ั คำนวณหาความถ่ี ของ ไวน์เบิรก์ การ แอลลลี และจโี นไทปข์ อง เกิดสปชี ีสใ์ หม่ ประชากร โดยใชห้ ลักของ ความหลากหลาย ฮาร์ด-ี ไวนเ์ บริ ์ก ทางชีวภาพ 15. สบื คน้ ขอ้ มลู อภปิ ราย กำเนดิ ของ และอธบิ าย กระบวนการ ส่ิงมชี ีวติ ความ เกิดสปีชีส์ใหม่ของส่ิงมีชวี ิต หลากหลาย ของ ส่ิงมชี วี ิต และ อนุกรมวิธาน รวมทัง้ นำความรู้ ไปใช้ประโยชน์
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นรรู้ ายปี ม. 6 ม. 5 สาระ 3. เขา้ ใจ 1. อธบิ ายเกี่ยวกับชนิดและลักษณะของ ชีววิทยา ส่วนประกอบ เนอ้ื เยอ่ื พชื และเขยี นแผนผงั เพอื่ สรปุ ชนิด ของพชื การ ของเนือ้ เยื่อพืช แลกเปลี่ยนแก๊ส 2. สังเกต อธบิ ายและเปรียบเทยี บ และคายน้ำของ โครงสรา้ ง ภายในของรากพชื ใบเลยี้ งเดี่ยว พืช การลำเลียง และรากพชื ใบเล้ยี งคู่จากการตัดตามขวาง ของพืช การ 3. สังเกต อธบิ าย และเปรยี บเทยี บ สงั เคราะหด์ ว้ ย โครงสรา้ ง ภายในของลำต้นพืชใบเลี้ยงเดย่ี ว แสง การ และลำต้นพชื ใบเลยี้ งค่จู ากการตัดตาม สบื พนั ธ์ขุ องพืช ขวาง ดอกและการ 4. สงั เกต และอธิบายโครงสร้างภายในของ เจริญเตบิ โตและ ใบพืช จากการตดั ตามขวาง การ ตอบสนอง 5. สบื ค้นข้อมูล สังเกต และอธบิ ายการ ของพชื รวมทงั้ แลกเปลี่ยน แก๊สและการคายน้ำของพชื นำความรูไ้ ปใช้ 6. สืบค้นขอ้ มลู และอธิบายกลไกการ ประโยชน์ ลำเลียงนำ้ และธาตอุ าหารของพืช 7. สบื ค้นข้อมลู อธบิ ายความสำคัญของธาตุ อาหารและยกตวั อยา่ งธาตุอาหารท่สี ำคญั ที่ มผี ลต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื 8. อธบิ ายกลไกการลำเลียงอาหารในพืช 9. สบื คน้ ข้อมลู และสรุปการศกึ ษาทีไ่ ดจ้ าก การ ทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดตี เกี่ยวกบั กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง 10. อธบิ ายขัน้ ตอนท่ีเกิดขนึ้ ในกระบวนการ สงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื C3 11. เปรยี บเทียบกลไกการตรงึ คาร์บอนไดออกไซด์ ในพืช C3 พืช C4 และพืช CAM
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนรรู้ ายปี ม. 6 ม. 5 สาระ 3. เขา้ ใจ ชีววิทยา สว่ นประกอบ 12. สืบค้นขอ้ มูล อภปิ รายและสรปุ ปัจจัย ของพืช การ ความเขม้ ของแสงความเขม้ ขน้ ของ แลกเปลีย่ นแก๊ส คารบ์ อนไดออกไซด์และอณุ หภูมิ ทีม่ ีผลตอ่ และคายนำ้ ของ การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช พืช การลำเลียง 13. อธิบายวฏั จกั รชีวติ แบบสลบั ของพืช ของพืช การ ดอก สังเคราะห์ด้วย 14. อธบิ ายและเปรยี บเทียบกระบวนการ แสง การ สร้าง เซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศผแู้ ละเพศเมียของพชื สืบพนั ธ์ุของพืช ดอกและอธิบายการปฏสิ นธิของพืชดอก ดอกและการ 15. อธบิ ายการเกดิ เมลด็ และการเกิดผลของ เจรญิ เตบิ โตและ พืชดอก โครงสรา้ งของเมล็ดและผล และ การ ตอบสนอง ยกตัวอย่าง การใชป้ ระโยชนจ์ ากโครงสร้าง ของพืช รวมท้ัง ตา่ งๆ ของเมลด็ และผล นำความร้ไู ปใช้ 16. ทดลองและอธบิ ายเกยี่ วกับปัจจัยตา่ งๆ ประโยชน์ ที่มผี ลตอ่ การงอกของเมลด็ สภาพพักตวั ของ เมลด็ และบอกแนวทางในการแกส้ ภาพพัก ตวั ของเมล็ด 17. สบื คน้ ข้อมูล อธิบายบทบาทและ หน้าท่ีของออกซิน ไซโทไคนิน จิบเบอ- เรลลิน เอทิลนี และกรดแอบไซซกิ และ อภิปรายเก่ยี วกับการนำไปใชป้ ระโยชน์ ทางการเกษตร 18. สืบค้นขอ้ มลู ทดลองและอภิปราย เก่ยี วกบั ส่ิงเร้าภายนอกทีม่ ีผลตอ่ การ เจรญิ เตบิ โตของพชื
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนรรู้ ายปี ม. 6 ม. 5 สาระ 4. เขา้ ใจการ 1. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ ายและ 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และ ชีววิทยา ย่อยอาหารของ เปรยี บเทยี บโครงสร้างและ สัตวแ์ ละมนุษย์ กระบวนการย่อยอาหารของสตั วท์ ี่ เปรยี บเทียบโครงสร้าง และหน้าทข่ี อง การหายใจและ ไม่มีทางเดนิ อาหารสตั ว์ท่ีมีทางเดนิ ระบบประสาทของไฮดรา พลานาเรยี การแลกเปล่ยี น อาหารแบบไมส่ มบรู ณแ์ ละสตั วท์ ีม่ ี ไสเ้ ดอื นดิน กงุ้ หอย แมลงและสัตว์มี แกส๊ การ ทางเดินอาหารแบบสมบรู ณ์ กระดกู สนั หลัง ลำเลยี งสารและ 2. สังเกต อธิบายการกินอาหารของ 2. อธบิ ายเก่ยี วกับโครงสร้างและ การหมนุ เวียน ไฮดราและพลานาเรยี หนา้ ทข่ี อง เซลลป์ ระสาท เลอื ด ภูมคิ มุ้ กัน 3. อธิบายเกยี่ วกบั โครงสรา้ ง หน้าที่ 3. อธบิ ายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ และกระบวนการย่อยอาหารและ ศักย์ไฟฟา้ ทเ่ี ยอื่ หมุ้ เซลลข์ องเซลล์ ประสาท และกลไก การถ่ายทอดกระแส ของรา่ งกาย การดดู ซมึ สารอาหารภายในระบบ ประสาท การขบั ถ่าย ยอ่ ยอาหารของมนุษย์ 4. อธบิ าย และสรุปเก่ียวกับโครงสร้าง การรบั รู้ และ 4. สืบค้นข้อมลู อธบิ ายและ ของระบบประสาทส่วนกลางและระบบ การตอบสนอง เปรยี บเทียบโครงสรา้ ง ท่ที ำหนา้ ท่ี ประสาทรอบนอก การเคลือ่ นท่ี แลกเปลยี่ นแกส๊ ของฟองนำ้ 5. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและ การสบื พันธุ์และ ไฮดรา พลานาเรยี ไสเ้ ดือนดิน หน้าที่ของ ส่วนต่าง ๆ ในสมองส่วน การเจรญิ เติบโต แมลง ปลา กบและนก หน้า สมองส่วนกลาง สมองส่วนหลัง 5. สงั เกต และอธบิ ายโครงสรา้ งของ และไขสันหลงั ฮอรโ์ มนกับ ปอดในสตั ว์ เลย้ี งลกู ด้วยน้ำนม 6. สืบคน้ ข้อมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และ การรกั ษา 6. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายโครงสรา้ งที่ ยกตัวอยา่ งการทำงานของระบบ ดลุ ยภาพ และ ใช้ในการ แลกเปลี่ยนแกส๊ และ 7. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายโครงสรา้ งและ พฤติกรรมของ กระบวนการแลกเปลยี่ น แกส๊ ของ หนา้ ที่ของ ตา หู จมูก ล้นิ และผวิ หนงั ของ สตั ว์ รวมทั้งนำ มนษุ ย์ มนุษย์ ยกตัวอยา่ งโรคตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วข้อง ความรู้ไปใช้ 7. อธิบายการทำงานของปอด และ และบอกแนวทางในการ ดแู ลปอ้ งกัน ประโยชน์ ทดลองวดั ปรมิ าตรของอากาศใน และรกั ษา การหายใจออกของมนุษย์ 8. สังเกต และอธิบายการหาตำแหน่งของ จดุ บอด โฟเวยี และความไวในการรบั สัมผสั ของผิวหนัง
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นร้รู ายปี ม. 6 ม. 5 สาระ 4. เขา้ ใจการ 8. สืบค้นข้อมูลอธิบายและ 9. สบื ค้นขอ้ มลู อธิบายและ ชีววิทยา ย่อยอาหารของ เปรียบเทียบระบบหมุนเวียน เปรยี บเทียบโครงสรา้ งและหน้าท่ขี อง สัตว์และมนษุ ย์ เ ล ื อ ด แ บ บ เ ป ิ ด แ ล ะ ร ะ บ บ อวยั วะที่เกยี่ วข้องกับการเคล่ือนที่ การหายใจและ ของแมงกะพรนุ หมกึ ดาวทะเล การแลกเปลีย่ น หมุนเวยี น เลอื ดแบบปิด แกส๊ การ 9. สงั เกตและอธบิ ายทศิ ทางการ ไส้เดอื นดิน แมลง ปลา และนก ลำเลียงสารและ ไหลของเลือด และการเคลอ่ื นท่ี 10. สืบคน้ ข้อมลู และอธิบาย การหมุนเวียน ของเซลลเ์ มด็ เลอื ดในหางปลา โครงสร้างและหน้าทข่ี องกระดกู เลอื ด ภมู คิ มุ้ กัน และสรปุ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง และกลา้ มเนื้อทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การ ของรา่ งกาย เคล่ือนไหวและการเคลือ่ นทข่ี อง การขับถ่าย ขนาดของหลอดเลือด กับ การรบั รู้ และ ความเรว็ ในการไหลของเลอื ด มนษุ ย์ การตอบสนอง 10. อธบิ ายโครงสร้างและการ 11. สังเกตและอธิบายการทำงาน การเคลื่อนท่ี ของขอ้ ตอ่ ชนดิ ตา่ ง ๆ และการ การสืบพนั ธแุ์ ละ ทำงานของหวั ใจ การเจรญิ เตบิ โต ทำงานของกลา้ มเน้อื โครงรา่ ง ท่ี ฮอรโ์ มนกบั การ และหลอดเลอื ดในมนษุ ย์ รักษา เกี่ยวขอ้ งกบั การเคลือ่ นไหวและการ ดุลยภาพ และ 11. สงั เกต และอธบิ าย พฤติกรรมของ เคล่ือนทข่ี องมนษุ ย์ สัตว์ รวมทั้งนำ โครงสรา้ งหัวใจของสตั ว์ ความร้ไู ปใช้ เลีย้ งลูกดว้ ยนำ้ นม ทิศทางการ 12. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ ายและ ประโยชน์ ไหลของเลือดผา่ นหวั ใจของ ยกตวั อยา่ ง การสบื พนั ธ์ุแบบไม่ มนุษย์ และเขยี นแผนผงั สรปุ อาศยั เพศและการสืบพันธ์ุ แบบ การหมนุ เวียนเลอื ดของมนษุ ย์ อาศยั เพศในสัตว์ 12. สบื คน้ ขอ้ มลู ระบคุ วาม 13. สบื คน้ ข้อมลู อธบิ าย แตกต่างของเซลลเ์ มด็ เลอื ดแดง โครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ อง อวยั วะ เซลลเ์ มด็ เลือดขาวเพลตเลต ในระบบสบื พนั ธเุ์ พศชายและ ระบบ สืบพนั ธเ์ุ พศหญิง และพลาสมา 14. อธบิ ายกระบวนการสรา้ งสเปริ ์ม 13. อธิบายหมู่เลือดและ กระบวนการ สรา้ งเซลลไ์ ข่ และการ หลักการใหแ้ ละรบั เลือด ปฏิสนธใิ นมนษุ ย์ ABO และระบบ Rh 14. อธบิ าย และสรปุ เก่ยี วกับ 15. อธบิ ายการเจริญเตบิ โตระยะ ส่วนประกอบและ หนา้ ทข่ี อง เอม็ บรโิ อและระยะหลงั เอ็มบริโอ นำ้ เหลอื ง รวมทัง้ โครงสรา้ งและ ของกบ ไกแ่ ละมนุษย์ หน้าทขี่ องหลอดนำ้ เหลือง และ 16. อธบิ ายการเจรญิ เติบโตระยะ เอ็มบรโิ อและระยะหลังเอม็ บรโิ อ ตอ่ มน้ำเหลือง 15. สืบค้นข้อมลู อธบิ ายและ ของกบ ไก่ และมนษุ ย์ เปรียบเทยี บกลไก การต่อตา้ น หรอื ทำลายสง่ิ แปลกปลอม แบบ ไม่จำเพาะและแบบจำเพาะ
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นรรู้ ายปี ม. 6 ม. 5 สาระ 4. เข้าใจการ 16. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ าย และ 17. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ าย และเขยี น ชีววิทยา ยอ่ ยอาหารของ เปรียบเทยี บ การสรา้ ง แผนผงั สรปุ หนา้ ทข่ี องฮอร์โมนจาก สัตว์และมนษุ ย์ ภูมิคุม้ กนั กอ่ เองและภมู คิ ุ้มกัน ตอ่ มไร้ท่อและเน้ือเยอ่ื ท่ีสรา้ ง การหายใจและ รบั มา ฮอรโ์ มน การแลกเปลย่ี น 17. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธิบาย 18. สืบค้นข้อมลู อธบิ าย แกส๊ การ เปรยี บเทยี บ และยกตวั อย่าง ลำเลียงสารและ เกย่ี วกบั ความผดิ ปกตขิ องระบบ พฤตกิ รรมที่เป็นมาแต่กำเนิด และ การหมนุ เวียน พฤติกรรมที่เกดิ จากการเรียนรู้ เลอื ด ภมู ิคุม้ กนั ภูมคิ มุ้ กันที่ทำใหเ้ กดิ เอดส์ ของสตั ว์ ของรา่ งกาย ภูมแิ พ้ การสร้างภมู ติ ้านทานต่อ 19. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย และ การขับถ่าย ยกตัวอย่าง ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง การรับรู้ และ เนอื้ เย่ือตนเอง พฤติกรรมกับววิ ฒั นาการของระบบ การตอบสนอง ประสาท การเคล่ือนท่ี 18. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายและ 20. สบื คน้ ข้อมูล อธิบาย และ การสบื พนั ธุแ์ ละ ยกตัวอย่างการส่อื สาร ระหว่างสัตวท์ ี่ การเจริญเติบโต เปรยี บเทยี บ โครงสรา้ งและ ทำให้สัตว์แสดงพฤตกิ รรม ฮอรโ์ มนกบั การ หนา้ ท่ใี นการกำจดั ของเสยี ออก จากรา่ งกายของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง และสตั วม์ กี ระดูกสนั หลัง 19. อธิบายโครงสรา้ งและหนา้ ที่ ของไต และ โครงสรา้ งท่ใี ช้ ลำเลียงปสั สาวะออกจาก รา่ งกาย 20. อธบิ ายกลไกการทำงานของ รักษา หนว่ ยไต ในการ กำจดั ของเสยี ดุลยภาพ และ ออกจากร่างกาย และเขยี น พฤติกรรมของ แผนผังสรุปขนั้ ตอนการกำจัด สัตว์ รวมทั้งนำ ของเสีย ออกจากร่างกายโดย ความรู้ไปใช้ หน่วยไต ประโยชน์ 21. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย และ ยกตวั อย่างเกยี่ วกบั ความ ผดิ ปกตขิ องไตอันเน่ืองมาจาก โรคต่าง ๆ
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นรู้รายปี ม. 5 ม. 6 สาระ 5. เข้าใจแนวคิด ชีววิทยา เก่ยี วกบั ระบบนิเวศ 1. วเิ คราะห์ อธิบาย และยกตัวอย่างกระบวนการ กระบวนการ ถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ ถา่ ยทอดพลังงาน 2. อธิบาย ยกตวั อยา่ งการเกดิ ไบโอแมกนิฟิเคชัน และ การหมนุ เวยี น และบอกแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอแมก- สารในระบบนิเวศ นฟิ เิ คชัน ความหลากหลาย 3. สบื คน้ ขอ้ มลู และเขียนแผนภาพ เพื่ออธิบาย ของไบโอม การ วัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถัน และวฏั จกั ร เปล่ยี นแปลงแทนท่ี ฟอสฟอรสั ของสงิ่ มีชวี ติ ใน 4. สบื ค้นข้อมลู ยกตัวอย่าง และอธิบายลกั ษณะ ระบบนิเวศ ของไบโอมท่กี ระจายอยตู่ ามเขตภูมิศาสตรต์ า่ งๆ บน ประชากรและ โลก รูปแบบการเพิ่ม 5. สบื ค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง อธิบาย และเปรยี บเทียบ ของประชากร การเปล่ียนแปลงแทนท่ีแบบปฐมภมู ิ และ การ ทรัพยากรธรรมชาติ เปลย่ี นแปลงแทนท่ีแบบทุติยภูมิ และสง่ิ แวดล้อม ปัญหาและ 6. สืบค้นข้อมูล อธิบาย ยกตัวอย่าง และสรุป ผลกระทบที่เกดิ เกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของประชากรของ จากการใช้ ส่ิงมีชวี ิตบางชนดิ ประโยชน์ และ 7. สืบค้นข้อมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และยกตัวอย่าง แนวทางการแกไ้ ข การเพม่ิ ของประชากรแบบเอก็ โพเนนเชยี ลและการ ปญั หา เพิ่มของประชากรแบบลอจิสตกิ 8. อธิบายและยกตัวอยา่ งปจั จัยทีค่ วบคมุ การเติบโต ของประชากร 9. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหา การขาดแคลนนำ้ การเกิดมลพษิ ทางนำ้ และ ผลกระทบท่ีมตี ่อมนษุ ยแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม รวมท้ัง เสนอแนวทางการวางแผนการจดั การน้ำ 10. วิเคราะห์ อภปิ ราย และสรุปปัญหามลพิษทาง อากาศ และผลกระทบที่มตี ่อมนษุ ยแ์ ละ สิง่ แวดลอ้ ม รวมท้งั เสนอแนวทางการแกไ้ ขปัญหา
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนรู้รายปี ม. 5 ม. 6 สาระ 5. เข้าใจแนวคดิ ชีววิทยา เกย่ี วกบั ระบบนิเวศ 11. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรุปปญั หาทีเ่ กดิ กบั กระบวนการ ทรัพยากรดนิ และผลกระทบท่ีมตี ่อมนุษยแ์ ละ ถ่ายทอดพลังงาน ส่งิ แวดล้อม รวมทง้ั เสนอแนวทางการแก้ไข และ การหมนุ เวยี น 12. วิเคราะห์ อภปิ ราย และสรปุ ปัญหา ผลกระทบ สารในระบบนเิ วศ ทีเ่ กิดจากการทำลายปา่ ไม้ รวมทั้งเสนอ แนวทางใน ความหลากหลาย การปอ้ งกนั การทำลายป่าไมแ้ ละ การอนุรักษ์ป่าไม้ ของไบโอม การ 13. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหา ผลกระทบ เปล่ยี นแปลงแทนที่ ท่ีทำใหส้ ตั ว์ป่ามจี ำนวนลดลง และแนวทาง ในการ ของส่ิงมชี ีวติ ใน อนรุ กั ษ์สัตวป์ ่า ระบบนิเวศ ประชากรและ รปู แบบการเพ่ิม ของประชากร ทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม ปญั หาและ ผลกระทบทเ่ี กิด จากการใช้ ประโยชน์ และ แนวทางการแกไ้ ข ปญั หา
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนรู้รายปี ม. 6 สาระเคมี ม. 5 1. สืบค้นขอ้ มูลและ 1. เข้าใจ 1. สบื คน้ ข้อมลู นำเสนอตวั อย่าง 1. อธิบายความสัมพนั ธ์ สารประกอบอินทรีย์ท่ี โครงสร้าง สมมติฐาน การทดลอง และคำนวณปริมาตร มีพนั ธะเดยี่ ว พันธะคู่ ความดนั หรอื อณุ หภูมิ หรอื พันธะสามที่พบใน อะตอม การ หรอื ผลการทดลองที่ ของแกส๊ ท่ภี าวะตา่ ง ๆ ชวี ิตประจำวนั ตามกฎของบอยล์ กฎของ 2. เขียนสตู รโครงสร้าง จดั เรยี งธาตใุ น เปน็ ประจักษ์พยานใน ชารล์ กฎของ เกยล์ สู แซก ลิวอสิ สูตรโครงสรา้ ง 2. คำนวณปริมาตร ความ แบบย่อ และสตู ร ตารางธาตุ การเสนอ แบบจำลอง ดนั หรอื อณุ หภมู ิ ของแกส๊ โครงสรา้ งแบบเส้น ท่ีภาวะต่าง ๆ ตามกฎรวม ของสารประกอบ สมบัติของธาตุ อะตอมของ แกส๊ อนิ ทรยี ์ 3. คำนวณปรมิ าตร ความ 3. วิเคราะห์โครงสรา้ ง พันธะเคมีและ นกั วิทยาศาสตร์ และ ดนั อุณหภูมิ จำนวนโมล และระบุประเภท ของ หรือมวลของแกส๊ จาก สารประกอบอินทรยี ์ สมบตั ขิ องสาร อธบิ ายวิวฒั นาการของ ความสมั พันธ์ตามกฎของ จากหม่ฟู ังกช์ ัน อาโวกาโดร และกฎแกส๊ แก๊สและสมบัติ แบบจำลองอะตอม อุดมคติ 4. เขยี นสูตรโครงสรา้ ง 4. คำนวณความดนั ย่อย และเรยี กชอื่ ของแกส๊ 2. เขียนสญั ลักษณ์ หรอื จำนวนโมลของแก๊ส สารประกอบ อนิ ทรีย์ ในแกส๊ ผสม โดยใชก้ ฎ ประเภทตา่ ง ๆ ที่มหี มู่ ประเภทและ นิวเคลยี รข์ องธาตุ และ ความดนั ย่อยของดอลตนั ฟงั กช์ ันไมเ่ กนิ 1 หมู่ 5. อธิบายการแพรข่ อง ตามระบบ IUPAC สมบัตขิ อง ระบุ จำนวนโปรตอน แก๊สโดยใชท้ ฤษฎีจลน์ ของแกส๊ คำนวณและ 5. เขียนไอโซเมอร์ สารประกอบ นิวตรอน และ เปรยี บเทยี บอตั รา การ โครงสรา้ งของ แพร่ของแก๊ส โดยใช้กฎ สารประกอบ อินทรีย์ อินทรยี ์และพอ อเิ ลก็ ตรอนของ การแพร่ผ่านของเกรแฮม ประเภทตา่ ง ๆ ลิเมอร์ รวมท้งั อะตอมจากสัญลกั ษณ์ การนำความรู้ไป นิวเคลียร์ รวมทั้งบอก ใชป้ ระโยชน์ ความหมายของ ไอโซโทป 3. อธิบาย และเขยี น การจดั เรยี งอเิ ล็กตรอน ในระดับพลังงานหลัก และระดบั พลังงานย่อย เมอ่ื ทราบเลขอะตอม ของธาตุ 4. ระบุหมู่ คาบ ความ เป็นโลหะ อโลหะ และ กง่ึ โลหะ ของธาตเุ รพรี เซนเททีฟและธาตุ แทรนซิชนั ในตาราง ธาตุ
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรูร้ ายปี สาระเคมี 1. เขา้ ใจ ม. 4 ม. 5 ม. 6 โครงสร้าง อะตอม การ 5. วเิ คราะห์ และบอก 6. สบื คน้ ข้อมูล 6. วิเคราะห์ และ จดั เรยี งธาตใุ น ตารางธาตุ แนวโนม้ สมบตั ิของธาตุ นำเสนอตวั อย่าง และ เปรยี บเทยี บจดุ เดือดและ สมบตั ิของธาตุ พันธะเคมแี ละ เรพรเี ซนเททีฟตามหมู่ อธบิ ายการ ประยกุ ต์ใช้ การละลายในนำ้ ของ สมบัตขิ องสาร แก๊สและสมบัติ และตามคาบ ความรเู้ ก่ยี วกบั สมบตั ิ สารประกอบอนิ ทรียท์ ีม่ ี หมู่ ของแกส๊ ประเภทและ 6. บอกสมบัติของธาตุ และกฎต่าง ๆ ของ ฟังกช์ นั ขนาดโมเลกลุ หรือ สมบัติของ สารประกอบ โลหะแทรนซชิ ัน และ แก๊สในการอธิบาย โครงสรา้ งตา่ งกนั อินทรียแ์ ละ พอลิเมอร์ เปรยี บเทียบสมบตั กิ ับ ปรากฏการณ์ หรือ 7. ระบปุ ระเภทของ รวมท้งั การนำ ความรู้ไปใช้ ธาตุโลหะในกลุ่มธาตุ แก้ปัญหาใน สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ประโยชน์ เรพรีเซนเททีฟ ชีวิตประจำวันและใน และเขยี นผลติ ภณั ฑจ์ าก 7. อธิบายสมบตั ิ และ อุตสาหกรรม ปฏกิ ิรยิ าการเผาไหม้ คำนวณครงึ่ ชีวติ ของ ปฏิกริ ยิ ากับโบรมีน หรือ ไอโซโทป กัมมันตรังสี ปฏกิ ริ ิยากับ โพแทสเซียม 8. สบื คน้ ข้อมูล และ เปอรแ์ มงกาเนต ยกตวั อยา่ งการนำธาตุ 8. เขยี นสมการเคมแี ละ มาใชป้ ระโยชน์ รวมทั้ง อธบิ ายการเกิดปฏิกิริยา ผลกระทบต่อสิง่ มชี วี ติ เอสเทอริฟเิ คชัน ปฏิกริ ยิ า และสิ่งแวดลอ้ ม การสงั เคราะหเ์ อไมด์ 9. อธิบายการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลิซสิ และ ไอออนและการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าสะปอนนิฟิเคชนั พนั ธะไอออนิก โดยใช้ 9. ทดสอบปฏกิ ิริยา แผนภาพหรือ เอสเทอริฟเิ คชนั ปฏิกิริยา สัญลักษณ์ แบบจุดของ ไฮโดรลซิ ิส และปฏกิ ิริยา ลวิ อสิ สะปอนนิฟเิ คชัน 10. เขียนสูตร และ 10. สืบค้นข้อมูล และ เรยี กชื่อสารประกอบ นำเสนอตวั อยา่ งการนำ ไอออนิก สารประกอบอินทรีย์ไปใช้ ประโยชน์ในชีวติ ประจำวัน และอตุ สาหกรรม
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนร้รู ายปี ม. 6 สาระเคมี ม. 5 11. ระบปุ ระเภทของ ปฏิกิรยิ าการเกดิ 1. เขา้ ใจ 11. คำนวณพลงั งานที่ พอลเิ มอร์ จากโครงสร้าง ของมอนอเมอรห์ รือ โครงสรา้ ง เกี่ยวขอ้ งกบั ปฏิกริ ิยา การ พอลิเมอร์ 12. วเิ คราะห์ และอธิบาย อะตอม การ เกดิ สารประกอบไอออนิก ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง โครงสรา้ งและสมบัติของ จัดเรยี งธาตใุ น จากวัฏจกั รบอร์น-ฮาเบอร์ พอลิเมอร์ รวมทง้ั การ นำไปใชป้ ระโยชน์ ตารางธาตุ 12. อธิบายสมบัติของ 13. ทดสอบ และระบุ ประเภทของพลาสติก สมบัติของธาตุ สารประกอบไอออนิก และผลิตภัณฑย์ าง รวมท้งั การนำไปใช้ประโยชน์ พันธะเคมแี ละ 13. เขยี นสมการไอออนิก 14. อธบิ ายผลของการ ปรบั เปล่ียนโครงสรา้ ง สมบัตขิ องสาร และสมการไอออนกิ สทุ ธิ และการสงั เคราะห์ พอลเิ มอรท์ ี่มตี ่อสมบัติ แก๊สและสมบัติ ของปฏิกิรยิ าของ ของพอลเิ มอร์ 15. สบื ค้นข้อมลู และ ของแก๊ส สารประกอบไอออนกิ นำเสนอตัวอย่าง ผลกระทบ จากการใชแ้ ละ ประเภทและ 14. อธบิ ายการเกิดพนั ธะ การกำจัดผลิตภัณฑ์ พอลิเมอร์และแนว สมบัตขิ อง โคเวเลนตแ์ บบพันธะเดย่ี ว ทางแก้ไข สารประกอบ พันธะคู่ และพันธะสาม อนิ ทรยี ์และพอ ด้วยโครงสร้างลิวอสิ ลเิ มอร์ รวมท้ัง 15. เขยี นสูตร และ การนำความรู้ไป เรยี กช่อื สาร โคเวเลนต์ ใชป้ ระโยชน์
สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรรู้ ายปี ม. 5 ม. 6 สาระเคมี ม. 4 1. เขา้ ใจ 16. วเิ คราะห์ และเปรียบเทียบความยาวพนั ธะและ โครงสรา้ ง พลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์ รวมทงั้ คำนวณ อะตอม การ พลงั งานทีเ่ กีย่ วข้องกบั ปฏกิ ิริยาของ สารโคเวเลนต์ จดั เรียงธาตใุ น จากพลังงานพนั ธะ ตารางธาตุ 17. คาดคะเนรปู รา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ โดยใช้ สมบัตขิ องธาตุ ทฤษฎีการผลักระหว่างค่อู เิ ล็กตรอนในวงเวเลนซ์และ พนั ธะเคมแี ละ ระบสุ ภาพข้ัวของโมเลกุลโคเวเลนต์ สมบตั ิของสาร 18. ระบุชนดิ ของแรงยดึ เหนยี่ วระหว่างโมเลกลุ แกส๊ และสมบัติ โคเวเลนต์ และเปรียบเทยี บจุดหลอมเหลว จดุ เดอื ด ของแกส๊ และการละลายน้ำของสารโคเวเลนต์ ประเภทและ 19. สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายสมบัตขิ องสาร สมบัติของ โคเวเลนตโ์ ครงรา่ งตาขา่ ยชนิดตา่ ง ๆ สารประกอบ 20. อธบิ ายการเกิดพันธะโลหะและสมบัตขิ องโลหะ อนิ ทรยี แ์ ละพอ 21. เปรยี บเทยี บสมบัตบิ างประการของสารประกอบ ลิเมอร์ รวมทั้ง ไอออนกิ สารโคเวเลนต์และโลหะ สืบค้นขอ้ มูล และ การนำความรู้ไป นำเสนอตัวอยา่ งการใช้ประโยชนข์ องสารประกอบไอ ใชป้ ระโยชน์ ออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ ได้อย่างเหมาะสม
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนรรู้ ายปี ม. 6 สาระเคมี ม. 5 2. เข้าใจการ 1. แปลความหมาย 1. ทดลอง และเขยี นกราฟการ เขยี นและการ สญั ลกั ษณใ์ นสมการ เพมิ่ ข้ึนหรือลดลง ดลุ สมการเคมี เคมี เขยี นและดลุ ของสารที่ทำการวัดในปฏิกิรยิ า ปรมิ าณสัมพันธ์ สมการเคมขี อง 2. คำนวณอตั ราการเกิดปฏกิ ิริยา ในปฏิกิริยาเคมี ปฏิกิรยิ าเคมีบางชนิด เคมี และเขียนกราฟเพิ่มขน้ึ ของ อัตราการ 2. คำนวณปริมาณ สารท่ีไม่ไดว้ ัด เกดิ ปฏิกิรยิ า ของสารในปฏิกริ ิยา 3. เขียนแผนภาพและอธิบายทศิ เคมี สมดุลใน เคมี ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ทางการชนกัน ของอนภุ าคและ ปฏกิ ริ ิยาเคมี มวลสาร พลังงานทีส่ ่งผลต่ออตั รา การ สมบตั ิและ 3. คำนวณปริมาณของ เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี ปฏกิ ริ ิยาของ 4. ทดลอง และอธิบายผลของ กรด–เบส สารในปฏกิ ริ ิยาเคมี ที่ ความเขม้ ข้น พ้นื ท่ผี วิ ปฏกิ ริ ยิ ารีดอกซ์ เก่ยี วขอ้ งกบั ความ ของสารตงั้ ต้น อณุ หภูมิและตัวเรง่ และเซลล์ เข้มข้นของสารละลาย ปฏกิ ิรยิ าทม่ี ี เคมไี ฟฟ้า 4. คำนวณปรมิ าณของ ต่ออตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี รวมทง้ั การนำ สารในปฏกิ ิรยิ าเคมี ท่ี 5. เปรยี บเทยี บอัตราการ ความรู้ไปใช้ เกยี่ วขอ้ งกบั ปรมิ าตร เกดิ ปฏกิ ิริยาเม่ือมีการ ประโยชน์ แกส๊ เปล่ยี นแปลงความเข้มข้น พนื้ ทผ่ี ิว 5. คำนวณปรมิ าณของ ของสารตง้ั ตน้ สารในปฏิกริ ิยาเคมี อุณหภมู ิ และตวั เรง่ ปฏกิ ิริยา หลายขัน้ ตอน 6. ยกตัวอยา่ ง และอธบิ ายปัจจยั 6. ระบสุ ารกำหนด ทม่ี ีผลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยา ปรมิ าณ และคำนวณ เคมีในชวี ติ ประจำวัน หรือ ปรมิ าณสารตา่ ง ๆ ใน อตุ สาหกรรม ปฏิกริ ยิ าเคมี 7. คำนวณผลได้รอ้ ยละ 7. ทดสอบ และอธิบาย ความหมายของ ปฏิกิริยาผนั กลับ ของผลติ ภณั ฑ์ใน ปฏกิ ิรยิ าเคมี ได้และภาวะสมดลุ
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนรู้รายปี ม. 6 ม. 5 สาระเคมี 2. เข้าใจการ 8. อธบิ ายการเปลย่ี นแปลงความ เขยี นและการ เขม้ ขน้ ของสาร อตั ราการ ดลุ สมการเคมี เกิดปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ และอตั รา ปรมิ าณสมั พันธ์ การเกิดปฏิกิริยายอ้ นกลบั เม่ือเริม่ ในปฏิกริ ยิ าเคมี ปฏกิ ิรยิ า จนกระทงั่ ระบบอยใู่ นภาวะ อัตราการ สมดุล เกดิ ปฏิกริ ิยา 9. คำนวณคา่ คงท่สี มดุลของปฏิกิริยา เคมี สมดลุ ใน 10. คำนวณความเขม้ ขน้ ของสารท่ี ปฏิกิรยิ าเคมี ภาวะสมดลุ สมบตั แิ ละ 11. คำนวณค่าคงที่สมดลุ หรือความ ปฏิกริ ยิ าของ เขม้ ข้นของปฏกิ ิรยิ าหลายขัน้ ตอน กรด–เบส 12. ระบุปจั จัยทมี่ ีผลต่อภาวะสมดลุ ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ และ ค่าคงทีส่ มดลุ ของระบบ รวมท้งั และเซลล์ คาดคะเน การเปล่ยี นแปลงทีเ่ กิดขน้ึ เคมไี ฟฟ้า เม่ือภาวะสมดลุ ของระบบถูกรบกวน รวมท้ังการนำ โดยใชห้ ลกั ของเลอชาเตอลเิ อ ความร้ไู ปใช้ ประโยชน์ 13. ยกตัวอยา่ ง และอธบิ ายสมดุล เคมขี อง กระบวนการทเี่ กิดข้ึนใน สิ่งมีชวี ิต ปรากฏการณ์ในธรรมชาติ และกระบวนการในอตุ สาหกรรม 14. ระบุ และอธบิ ายวา่ สารเปน็ กรด หรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด–เบสของ อาร์เรเนยี ส เบรินสเตด–ลาวรี และลวิ อสิ
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนร้รู ายปี ม. 6 ม. 5 สาระเคมี 2. เข้าใจการ 15. ระบคุ กู่ รด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด- เขยี นและการ เบส ของเบรินสเตด-ลาวรี ดุลสมการเคมี 16. คำนวณและเปรยี บเทยี บความสามารถ ปริมาณสมั พนั ธ์ ในการแตกตวั หรอื ความแรงของกรดและ ในปฏิกริ ิยาเคมี เบส อัตราการ 17. คำนวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดร เกดิ ปฏกิ ริ ิยา เนียม ไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของ เคมี สมดลุ ใน สารละลายกรดและเบส ปฏิกิรยิ าเคมี 18. เขียนสมการเคมีแสดปฏกิ ิรยิ า สมบตั แิ ละ สะเทิน และระบุความเปน็ กรด-เบสของ ปฏิกิริยาของ สารละลาย หลงั การสะเทิน กรด–เบส 19. เขียนปฏิกิรยิ าไฮโดรลซิ สิ ของเกลอื และ ปฏกิ ิริยารดี อกซ์ ระบุความเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ และเซลล์ 20. ทดลอง และอธิบายหลักการการ เคมีไฟฟ้า ไทเทรต และเลือกใชอ้ นิ ดเิ คเตอรท์ ีเ่ หมาะสม รวมทั้งการนำ สำหรบั การไทเทรตกรด-เบส ความรไู้ ปใช้ 21. คำนวณปริมาณสารหรือความเข้มข้น ประโยชน์ ของ สารละลายกรดหรอื เบสจากการ ไทเทรต 22. อธิบายสมบัติ องคป์ ระกอบ และ ประโยชน์ ของสารละลายบัฟเฟอร์ 23. สืบคน้ ข้อมูล และนำเสนอตัวอยา่ งการใช้ ประโยชน์ และการแก้ปญั หาโดยใชค้ วามรู้ เกยี่ วกับกรด–เบส 24. คำนวณเลขออกซิเดชนั และระบุ ปฏกิ ริ ิยา ที่เปน็ ปฏิกิริยารีดอกซ์
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรียนรรู้ ายปี ม. 6 ม. 5 สาระเคมี 2. เข้าใจการ 25. วเิ คราะห์การเปลีย่ นแปลงเลข เขยี นและการ ออกซิเดชนั และระบุตัวรดี ิวซ์และตัว ดลุ สมการเคมี ออกซิไดส์ รวมทั้ง เขียนครึง่ ปฏกิ ิรยิ า ปริมาณสมั พันธ์ ออกซเิ ดชันและคร่ึงปฏกิ ริ ิยารีดักชันของ ในปฏกิ ริ ิยาเคมี ปฏกิ ิริยารดี อกซ์ อตั ราการ 26. ทดลอง และเปรียบเทยี บความสามารถ เกดิ ปฏกิ ิรยิ า ในการ เป็นตวั รดี วิ ซ์หรือตวั ออกซิไดส์และ เคมี สมดุลใน เขยี นแสดง ปฏิกริ ิยารดี อกซ์ ปฏกิ ิริยาเคมี 27. ดลุ สมการรีดอกซ์ดว้ ยการใชเ้ ลข สมบัติและ ออกซิเดชันและวธิ ีคร่งึ ปฏกิ ริ ิยา ปฏิกิรยิ าของ 28. ระบุองคป์ ระกอบของเซลลเ์ คมีไฟฟา้ กรด–เบส และเขยี นสมการเคมขี องปฏกิ ริ ยิ าทแ่ี อโนด ปฏิกิรยิ ารีดอกซ์ และแคโทด ปฏกิ ิรยิ ารวมและแผนภาพเซลล์ และเซลล์ 29. คำนวณค่าศกั ย์ไฟฟา้ มาตรฐานของ เคมีไฟฟา้ เซลล์ และระบปุ ระเภทของเซลลเ์ คมไี ฟฟ้า รวมทัง้ การนำ ข้ัวไฟฟา้ และปฏกิ ริ ิยาเคมที เ่ี กิดขึ้น ความรูไ้ ปใช้ 30. อธบิ ายหลกั การทำงาน และเขยี น ประโยชน์ สมการแสดงปฏิกริ ยิ าของเซลลป์ ฐมภมู แิ ละ เซลลท์ ุตยิ ภมู ิ
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นร้รู ายปี ม. 6 ม. 5 สาระเคมี 2. เข้าใจการ 31. ทดลองชบุ โลหะและแยกสารเคมีด้วย เขยี นและการ กระแส ไฟฟ้าและอธบิ ายหลักการทาง ดลุ สมการเคมี เคมไี ฟฟ้าท่ีใช้ในการชุบโลหะ การแยก ปรมิ าณสมั พนั ธ์ สารเคมดี ้วยกระแส ไฟฟ้า การทำโลหะให้ ในปฏกิ ิริยาเคมี บรสิ ุทธ์แิ ละการป้องกัน การกัดกรอ่ นของ อัตราการ โลหะ เกดิ ปฏิกริ ยิ า 32. สบื คน้ ข้อมูลและนำเสนอตัวอย่าง เคมี สมดุลใน ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยที ีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั ปฏิกริ ิยาเคมี เซลลเ์ คมไี ฟฟา้ ในชวี ิตประจำวัน สมบัตแิ ละ ปฏกิ ิรยิ าของ กรด–เบส ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์ และเซลล์ เคมไี ฟฟา้ รวมทั้งการนำ ความรู้ไปใช้ ประโยชน์
Search