ประสบการณ์เดินทางครัง้ นีข้ องผม เป็นอีกทริปหนง่ึ ที่นา่ ประทบั ใจท่ีสดุ ผมได้ทา อะไรครัง้ แรกในชีวิตหลายอยา่ งเชน่ การเลน่ สกีที่เป็นเรื่องไกลตวั ผมมาก และการได้ชมท่งุ ดอกทิว ลปิ สีสนั สดใส ชชู ่อละลานตาเตม็ ทงุ่ ใครจะคดิ วา่ สามารถทาได้ในประเทศอินเดียแทนที่จะเป็น ยโุ รปในราคาที่ถกู กวา่ กนั เยอะ รวมทงั้ การนงั่ เคร่ืองบนิ จากเมืองไทยจนจบทริปถงึ 5 ต่อ แต่ คา่ ใช้จ่ายทงั้ ทริปในราคาแคป่ ระมาณ 30,000 บาทเท่านนั้ กบั ระยะเวลา 10 วนั ซงึ่ ถ้าไปกบั ทวั ร์ เขาขายกนั ที60,000 บาทเป็นอยา่ งต่า ยิ่งไปคนเดียวก็ต้องจา่ ยแพงกวา่ ไปเป็ นคเู่ พม่ิ อีก 5,000 บาทเพราะต้องนอนคนเดียว การเดินทางครัง้ นี ้ผมพยายามใช้เวลาทกุ นาที ให้ค้มุ ค่าเก็บเก่ียวประสบการณ์ ให้ได้มากท่ีสดุ เท่าท่ีจะทาได้ เพราะถึงแม้วา่ จะประทบั ใจสถานท่ีเหล่านนั้ แค่ไหนก็ตาม ผมก็ไม่คดิ จะกลบั มาอีก เพราะยงั มีอีกหลายสถานที่ บนโลกใบนี ้รอให้เราไปเย่ียมเยือนและสมั ผสั อีก มากมาย แตส่ าหรับ ลาดกั และแคชเมียร์แหง่ นี ้ ผมต้องกลบั มาทบทวนคาพดู ของตวั เองใหม่ แนน่ อนผมสญั ญากบั ตวั เองเอาไว้แล้วว่า ผมจะกลบั มาเยือนสถานที่แห่งนีอ้ ีกแน่นอนไมช่ ้าก็เร็ว หนงั สือเล่มนี ้เป็นงานเขียนครัง้ แรกของผม จดุ ม่งุ หมายของการเขียนหนงั สือก็ คืออยากเลา่ อยากถ่ายทอด แบ่งปันประสบการณ์ และส่งิ สาคญั ท่ีสดุ ก็คือการสร้างแรงบนั ดาลใจ ให้ใครบางคนท่ีอา่ นหนงั สือที่ผมเขียน ลกุ ขนึ ้ มาแพค็ กระเป๋ าออกเดินทางท่องโลกตามความฝันของ ตวั เอง ซงึ่ ผมรู้ตวั ดีวา่ สานวนการเขียนยงั ไม่ดีพอ ยงั ต้องปรับปรุงแก้ไขอีกมาก จะว่าเป็นการฝึก การเขียนสารคดีท่องเท่ียวก็วา่ ได้ การเลา่ เรื่องยงั ไม่น่าติดตาม การร้อยเร่ืองอาจจะน่าเบื่อหนา่ ย หากใครเข้ามาอ่านแล้วช่วยแนะนา ตชิ ม ด้วยนะครับ
A Diehard Traveller ให้กาลงั ใจผ้เู ขียน จิก กดั โขก สบั [email protected] อนิ เดียประเทศท่ีมีความหลากหลายทางด้านภมู ิประเทศ มีอากาศมากมาย หลายแบบทงั้ หนาวและร้อน แม้แต่ทะเลทราย ภเู ขาหมิ ะ ซง่ึ ประเทศไทยไม่มี นน่ั คือสาเหตวุ า่ ทาไม อนิ เดียตอนเหนืออยา่ ง ลาดกั และแคชเมียร์ ถึงเป็นหนงึ่ ในจดุ ม่งุ หมายของคนไทยท่ีอยากจะมา เยี่ยมเยือนสกั ครัง้ หนง่ึ ในชีวิต ซงึ่ หนงึ่ ในนนั้ ก็มีผมรวมอยดู่ ้วย ได้ยินช่ือเสียงเรื่องความงดงาม ทศั นียภาพอนั แปลกตามานานแล้ว เมื่อมีโอกาสผมจงึ ไมร่ ีรอท่ีจะทาตามความฝันของตวั เอง ผมวางแผนการเดนิ ทางมาด้วยตวั เอง จากการอ่านหนงั สือ หนงั สือค่มู ือทอ่ ง และค้นคว้ามาจากอินเตอร์เนต็ ผมวางแผนแบบนกั ท่องเที่ยวแบกเป้ กิน อยู่ ประหยดั ซง่ึ เป็นการ เดินทางในแบบฉบบั ของผมเอง ที่ไมจ่ าเป็นต้องมีเงนิ มากมายก็สามารถเดินทางทอ่ งเที่ยวไป ต่างประเทศได้ ได้ไปยงั สถานท่ีตา่ งๆได้ซมึ ซบั ความงามของธรรมชาติ ได้เห็น ได้สมั ผสั บรรยากาศ เช่นกนั กบั นกั ท่องเที่ยวคนอื่น เพียงแต่ต้องเลือกวางแผนการเดินทางให้รัดกมุ เลือกโรงแรมท่ีราคา ไม่สงู มาก เลือกตวั๋ เคร่ืองบนิ ในช่วงโปรโมชน่ั เลือกกินแบบคนท้องถ่ิน หรูบ้าง ติดดินบ้างบาง
โอกาส แคน่ ีก้ ็สามารถท่นุ คา่ ใช้จา่ ยลงไปได้เยอะทีเดียว โดยเฉพาะคา่ ตวั๋ เคร่ืองบินของสายการ บนิ ต้นทนุ ต่าและควรจองชว่ งโปรโมชน่ั แรงบนั ดาลใจของผมสาหรับอินเดียตอนเหนือก็คือ ผมอยากมาเห็น วฒั นธรรมของชาวทเิ บตพลดั ถ่ินที่ลาดกั ซงึ่ นบั ถือศาสนาพทุ ธ วา่ เขาใช้ชีวติ กนั ยงั ไงทา่ มกลาง ธรรมชาตทิ ่ีสวยแปลกตาที่ผมไมเ่ คยเหน็ มาก่อน อยากเห็นเทือกเขาหิมาลยั อยากเหน็ ภเู ขาหิมะ อยากมาสมั ผสั กบั ชาวมสุ ลมิ ซงึ่ แตกต่างจากคนอินเดียค่อนประเทศที่เป็นชาวฮินดู อยากเห็นความ แตกตา่ งทงั้ ขนบธรรมเนียม รูปร่าง หน้าตา วฒั นธรรม ของชาวแคชเมียร์ การเดินทางไปลาดกั และ แคชเมียร์ เปรียบเหมือนกบั การเดนิ ทางไปอีกยงั ประเทศหนง่ึ ที่ไม่ใชอ่ ินเดีย นึกแค่นีก้ ็กระต้นุ ตอ่ ม การเดินทางให้ทางานแล้ว สารบญั • ตอนที่ 1 ตกเครื่องบินครัง้ แรกในชีวติ 6 • ตอนที่ 2 นอนท่ีสนามบนิ ครัง้ แรกในชีวติ 9 • ตอนท่ี 3 บนิ ลดั ฟ้ าม่งุ หน้าสลู่ าดกั 14 • ตอนท่ี 4 เมืองเลห์จติ วญิ ญาณแห่งชาวพทุ ธ 20
• ตอนท่ี 5 ใต้อ้อมกอดของขนุ เขา 28 • ตอนที 6 สีสนั แหง่ เมือง Leh 35 • ตอนที่ 7 ม่งุ หน้าส่แู คชเมียร์ 43 ตลาดนา้ ทะเลสาบดาล 51 ตอนที่ 8 ชมทงุ่ ดอกมสั ตาร์ดพาฮาลแกม 58 • ตอนท่ี 9 ตะลยุ กลุ มาร์ก สวิตเซอร์แลนด์แดนภารตะ 63 • ตอนท่ี 10 ขนึ ้ กระเช้าลอยฟ้ า ชมยอดเขากลุ มาร์ก 70 • ตอนท่ี 11 เมนนู า้ แข็งใส สไตล์คนเมืองร้อน 77 • ตอนที่ 12 เรียนสกีถกู ที่สดุ ในโลก 83 • ตอนที่ 13 ชมท่งุ ดอกทิวลปิ ในวนั นพรา 88 • ตอนที่ 14 พระยาน้อยชมตลาด 98 • ตอนที่ 15 เดนิ เลน่ ตลาดเมืองเก่า ศรีนาการ์ 105 • ตอนที่ 16 โบกมืออาลาแคชเมียร์ 117 • ตอนที่ 17
1. ตอนที่ 1 ตกเครื่องบินคร้ังแรกในชีวติ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทริปนีผ้ มจะตกเคร่ืองบนิ รู้ถงึ ไหนอายถึงนนั่ มนั เกิดจาก ความงี่เง่าประมาทเลินเล่อของตวั เองแท้ๆ เพราะเช็คอินเร็วมีเวลาเหลือเยอะเลยไปเดินเล่นจนลืมดู เวลา คนส่วนมากตกเคร่ืองเพราะไปสนามบนิ ไม่ทนั แตน่ ี่ตวั เองตกเครื่องเพราะวา่ มวั แต่เดนิ ดู สินค้าเพลนิ ชมิ ขนมออกร้านนนั้ เข้าร้านนีเ้ป็นว่าเล่น เดนิ ฉีดนา้ หอมสารพดั กลนิ่ อย่างสบายอรุ า ทงั้ ที่ปกตเิ ป็นคนไมใ่ ส่นา้ หอม แตด่ ้วยความอยากทดลองวา่ แตล่ ะกลน่ิ แต่ละยี่ห้อกลนิ่ ไหนน่าจะ โน้มน้าวให้ผมหนั มาใช้นา้ หอมเผ่ือจะได้ตวั หอมกบั เขามงั่ มวั แต่ไปจ้องมองนางฟ้ าชาวบราซลิ เล่ียน Adriana Lima ของชดุ ชนั้ ใน victoria’s Secret ท่ีสดุ แสนจะเซก็ ซ่ี นี่ถ้าผมเป็นผ้หู ญิงคงจะไมล่ งั เล ที่จะอดุ หนนุ ชดุ ชนั้ ในสักชนิ ้ สองชิน้ แน่ๆ จะได้เซก็ ซ่ีแบบเหล่าบรรดานางฟ้ าทงั้ หลาย ทกุ ครัง้ ท่ีผมเดนิ ทางมาสวุ รรณภมู ิ ผมเช็คอิน เสร็จเม่ือไร ก็ชอบมาจ้องมองท่ีร้านนีป้ ระจา ดวู า่ นางฟ้ าคนไหน จะได้โชว์อย่หู น้าร้านบ้าง เดินเข้าไปชมิ ขนมที่เหลา่ พนกั งานเอามาให้ลองชิมฟรีแตก่ ็ไม่ได้อดุ หนนุ ไม่เหมือน อีตาแขกอนิ เดีย ท่ีนอกจากจะไมอ่ ดุ หนนุ แล้ว ยงั เวียนเทียนมาชมิ ซะหลายรอบ แบบหน้าไม่มี ยางอาย ชมิ แล้วก็ไม่ซอื ้ สกั ที จนพนกั งานขายถึงกบั ทนไม่ไหว พดู ออกมาด้วยความไมพ่ อใจ “ only one piece na ka ” อีตาแขกจอมตะกละ เลยหน้าม้านเดินหนีไปเลย คนอนิ เดียนี่ร้ายไม่ใช่ เลน่ ผมกาลงั จะไปเท่ียวอนิ เดียเป็นครัง้ ท่ี 2 ประสบการณ์ครัง้ แรกของการเที่ยวอนิ เดียแถวราชา สถาน ตงั้ แต่ New delhi ,Agra ,Jaipur, Jodhpur, Jaisalmer ผมรู้ซงึ ้ ดีกบั วลีท่ีว่า “ เจองกู ับเจอแขก ให้ตีแขกก่อน ” เพราะความเพลิดเพลนิ กบั การเดินชมสนิ ค้าในสนามบนิ หารู้ไมว่ ่ามนั นามาซงึ่ ความเดือดร้อนให้ตวั เองอยา่ งไม่นา่ ให้อภยั เขาคงประกาศเรียกช่ืออย่หู ลายรอบ จนครัง้ ครัง้
สดุ ท้ายก็ไมไ่ ด้ยิน เคยได้ยนิ แต่กบั ผ้โู ดยสารคนอื่น ไม่นกึ วา่ จะมาเกิดกบั ตวั เอง จนมารู้สกึ ตวั อีกที เหลือบดนู าฬกิ าข้อมือ ถงึ รู้ว่าเลยเวลาแล้ว ว่งิ หน้าตาตื่นไปที่เคาเตอร์ประชาสมั พนั ธ์ให้เขาเชค็ เท่ียวบนิ ว่าเคร่ืองออกไปยงั ประชาสมั พนั ธ์บอกวา่ นา่ จะยงั ทนั อย่เู คร่ืองยงั ไม่ออก เธอรีบยก โทรศพั ท์โทรไปหาพนกั งานท่ีประตทู างออกขนึ ้ เคร่ืองของสายการบนิ แอร์เอเชีย เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างผม ไม่มีใครรับสาย เธอให้ผมรีบว่งิ มาท่ี Gate ทางขนึ ้ เครื่องบนิ อาจจะยงั ทนั ผมรีบว่ิงสดุ ชีวิต ปรากฏว่ามีแต่ความว่างเปล่าไมม่ ีใครอย่สู กั คน แสดงวา่ เครื่องบนิ เพง่ิ จะ take off ออกไป ความรู้สกึ ตวั เบาหววิ หวั ใจหลน่ มาที่ตาต่มุ มนั เป็นแบบนีน้ ี่เอง แสดงวา่ ผมตกเคร่ืองจริงๆแล้ว เดินคอตกมาท่ีเคาเตอร์ประชาสมั พนั ธ์ที่เดิม เธอบอกให้รอก่อนเธอ จะโทรตามเจ้าหน้าท่ีของสายการบนิ แอร์เอเซยี ให้มารับตวั ผ้โู ดยสารท่ีตกเคร่ือง เพอ่ื ไปรับกระเป๋ า คืนพร้อมกบั ทาเรื่องแจ้งเจ้าหน้าท่ีของสนามบินว่ามีผ้โู ดยสารตกเครื่อง พนกั งานตา่ งรู้สกึ สงสารและเห็นใจที่ผมตกเคร่ือง แตท่ าไงได้ ความผิดผมคน เดียวล้วนๆ พวกเขาเลยพากนั ช่วยเชค็ ตามเคาเตอร์ของสายการบนิ ตา่ งๆวา่ คืนนีย้ งั มีเที่ยวบินไปนิ วเดลีอย่หู รือเปลา่ ช่างน่ารักจริงๆเลย พนกั งานพยายามเดินไปเชค็ ตามสายการบนิ ตา่ งๆแล้ว ปรากฏวา่ ทกุ สายการบนิ มงุ่ หน้าส่นู ิวเดลีหมดแล้ว เพราะตอนนนั้ เวลาก็ปาเข้าไป 5 ท่มุ แล้ว นอกจากจะตกเครื่องท่ีสวุ รรณภมู แิ ล้วผมยงั ตกเครื่องที่นิวเดลีอีกเที่ยว เพราะพรุ่งนีผ้ มจองสายการ บิน go air ของอินเดียไว้รอบ 6 โมงเช้าไปเมืองเลห์ไว้เรียบร้อยแล้ว หมดหนทางที่จะไปอนิ เดียให้ ได้ในคืนนีแ้ ล้ว ผมต้องเสียเงนิ จองตว๋ั ใหมว่ นั พรุ่งนี ้ เพราะเป็นสายการบนิ ต้นทนุ ต่าไม่คืนเงิน อย่แู ล้ว นอกจากภาษีสนามบินที่ไม่ต้องจา่ ยเพมิ่ นงั่ แทก็ ซีก่ ลบั มานอนสมนา้ หน้าตวั เองท่ีบ้าน ตก เครื่องบนิ เท่ียวเดียวยงั ชา้ ใจขนาดนี ้แถมยงั ตกเคร่ืองที่นวิ เดลีอีกเท่ียว ชา้ ใจสองเด้ง ไมร่ ู้จะ บรรยายความรู้สกึ ออกมาเป็นคาพดู ยงั ไง ผมได้แต่สาบานกบั ตวั เองว่า ตกเครื่องบนิ คราวนี ้จะ เป็นครัง้ แรกและครัง้ สดุ ท้ายในชีวติ ของผม
ตอนท่ี 2 นอนทส่ี นามบนิ คร้ังแรกในชีวติ หลงั จากท่ีเชค็ อินที่สนามบนิ สวุ รรณภมู ิแล้ว ความทรงจาอนั เลวร้ายเมื่อวานยงั ตามมาหลอกหลอนผมอยู่ หลงั จากเช็คอนิ แล้ว ไม่ไปไหนทงั้ นนั้ เดนิ ไปที่ Gate ประตขู นึ ้ เคร่ือง แล้วนง่ั รออยา่ งสงบเสงี่ยมเจียมตวั ไม่ออกไประริกระรีแ้ บบเม่ือวานแล้ว นงั่ รอขนึ ้ เคร่ืองไปพร้อมกบั ชาวอินเดียที่เขาต้อนรับผมอยา่ งอบอนุ่ ด้วยกล่นิ อนั เป็นเอกลกั ษณ์ของพ่ีน้องชาวภารตะ คงจะ เป็นด้วยเคร่ืองเทศท่ีพวกเขากินกนั มาตงั้ แต่บรรพบรุ ุษที่ทาให้เขามีกลน่ิ ตวั อนั เป็นเอกลกั ษณ์ สาหรับชาวอินเดียด้วยกนั แล้ว อาจจะไมร่ ู้สกึ อะไร เพราะคงค้นุ เคยกบั กลิ่นตวั แบบนีข้ องพวกเขา อย่แู ล้ว แตผ่ มสิ ต้องล้วงเอายาดม ยาหมอ่ งออกมาทา ไมอ่ ยา่ งนนั้ คงต้องสลบก่อนขนึ ้ เคร่ืองบนิ แนๆ่ มาถึงนวิ เดลีตอนเที่ยงคืน นงั่ รถ shuttle bus ฟรี จากสนามบินอนิ ทริ า คาน ที ( Indira Gandhi International Airport ) มาท่ีสนามบินภายในประเทศตอ่ ทนั ที พอมาถงึ สนามบินภายในประเทศผมรีบมองหาเคาน์เตอร์ของสายการบนิ go air โชคดีท่ีสายการบนิ ยงั เปิด ทาการอยู่ ซง่ึ สายการบินอ่ืนปิดให้บริการหมดแล้ว ผมยื่นตวั๋ e-ticket ให้พนกั งานดวู า่ ผมตกเคร่ืองเมื่อวานนี ้จะช่วยผมยงั ไงได้ บ้าง เจ้าหน้าท่ีบอกว่าต้องจองใหมอ่ ยา่ งเดียวแม้แต่ภาษีสนามบินก็ไมไ่ ด้คืน ดีที่ตอนนีเ้ป็นชว่ งโลว์
ซีซนั่ ราคาตวั๋ เลยไมแ่ พงเทา่ ไหร่ ทายงั ไงได้ทกุ อยา่ งท่ีเกิดขนึ ้ มนั เป็นความผดิ ของผมเอง จะโทษ ใครได้ล่ะ ดๆู ไปแล้วเคาน์เตอร์ขายตวั๋ ของ go air เหมือนการซือ้ ตวั๋ รถบสั มากกวา่ เหน็ ชาวอนิ เดียว ลากกระเป๋ ามาซอื ้ ตวั๋ กนั ไม่ขาดสาย คงไม่ค่อยนยิ มจองกนั ทางอินเตอร์เน็ต มิน่าละ่ ดกึ ดื่นขนาดนี ้ ยงั เปิดเคาน์เตอร์ขายตวั๋ กนั อยู่ เที่ยวบินไปเมืองเลห์เท่ียวแรกออก 6 โมงเช้า กว่าจะถึงเวลานนั้ ก็อีกหลาย ชว่ั โมงของีบเอาแรงไว้ก่อน ผมเลยไปนงั่ รอข้างในสนามบิน สนามบินทกุ แห่งของอนิ เดียมกั จะมี ทหารถือปื น เดนิ ตรวจอย่ทู กุ ท่ี ใครไม่มีหลกั ฐานก็เข้าข้างในไม่ได้ ต้องโชว์ตว๋ั กบั พาสปอร์ตให้ ทหารดกู ่อนวา่ เราเป็นผ้โู ดยสารจริงๆถึงจะอนญุ าตให้เข้าได้ ส่วนญาติๆที่มาส่งก็รออย่ขู ้างนอก ซงึ่ ต่างกบั สนามบนิ สวุ รรณภมู ิ ใครจะเข้าไปส่งญาตกิ ็ได้ ล่าลากนั จนพอใจกนั เลยทีเดียว ตอนแรก ผมก็งงอย่เู หมือนกนั แต่น่ีคือครัง้ ท่ี 2 ของผมที่มาอินเดียจงึ รู้สกึ เฉยๆ ผมยงั เคยถามเขาเล่นๆตอน มาครัง้ แรกว่า ถ้าทาหลกั ตว๋ั e- ticket หายแล้วจะให้เข้าสนามบินไหม เขาตอบยมิ ้ ตลกๆว่า ไม่ให้ เข้า ซง่ึ ผมก็ไม่รู้เหมือนกนั ว่าถ้าไม่มีหลกั ฐานขนึ ้ มาจริงๆจะทาอยา่ งไร เขาจะไมใ่ ห้เข้าจริงๆเหรอ เข้ามารอตรงเคาน์เตอร์เช็คอนิ เห็นผ้โู ดยสารนง่ั รอกนั อย่บู ้างแล้ว สว่ นใหญ่จะ เป็นชาวอินเดีย กวาดสายตามองไปรอบๆเห็นฝร่ังคลมุ โปงนอนกนั หลายคน กะวา่ จะเข้าไปตอ่ แถวนอนกบั นกั เดนิ ทางเหลา่ นนั้ ฝึกไว้จะได้ชนิ เพราะอนาคตต้องได้ทาแบบนีอ้ ีกแน่ๆ จะได้ไม่ต้อง ปรับตวั อะไรมาก เพราะน่ีคือครัง้ แรกในชีวติ จริงๆที่ได้นอนท่ีสนามบิน ริอ่านจะเป็นนกั เดนิ ทาง แนวพเนจรร่อนเร่ต้องอย่งู ่ายกินงา่ ยแบบนีแ้ หล่ะ เห็นเจ้าพนกั งานสายการบนิ Go air มาตรวจตราความเรียบร้อย เลยเดินไป บอกพนกั งานให้เดนิ มาปลกุ ผมด้วยเม่ือถงึ เวลาเช็คอนิ ทงั้ ท่ีตงั้ นาฬกิ าปลกุ ไว้แล้ว มองหามมุ สงบ เอาผ้าบาตกิ ผืนใหญ่ที่ซอื ้ มาจากทะเลภาคใต้เป็นผ้าปทู ่ีนอน พอทงิ ้ ตวั ลงนอนกลบั รู้สกึ แปลกที่นอน ไมห่ ลบั ซะงนั้
มองดเู พ่ือนร่วมชะตากรรมข้างๆ หลบั อตุ ไุ มร่ ู้ร้อนรู้หนาวกนั เลย พยายามจะขม่ ตาให้หลบั แตก่ ็ทาไมไ่ ด้เลย คิดไปคิดมาอาการหวาดผวาจากการตกเคร่ืองยงั ตามมาหลอกหลอน ผมอยู่ เหมือนคนประสาท ถ้าเกิดหลบั เพลินมือถือไม่ปลกุ หรือเจ้าหน้าท่ีลืมล่ะจะทาอยา่ งไรผมไม่ ต้องตกเคร่ืองอีกครัง้ เหรอ อีกอยา่ งบรรยากาศในสนามบนิ มนั ก็ไม่ได้เป็นใจสกั เท่าไหร่ ถึงแม้จะหรี่ไฟในบาง จดุ ยงั พอมีบางมมุ ที่มืดพอจะแทรกทงิ ้ ตวั ลงนอนได้ สดุ ท้ายต้องลกุ จากท่ีนอน นงั่ สะลืมสะลือ สปั หงกไปพร้อมกบั ผ้โู ดยสารคนอ่ืนๆรอจนกวา่ จะถงึ เวลาเช็คอนิ นอนกลางดินกินกลางทรายกลาง ป่ าเขาลาบากกวา่ นีก้ ็เคยมาแล้ว แต่พอนอนท่ีสนามบินกลบั หลบั ไมล่ ง ทริปนีแ้ คเ่ ร่ิมต้นก็มนั ส์ซะ แล้ว นอกจากจะตกเครื่องบนิ ครัง้ แรกในชีวิตแล้ว ยงั ได้นอนท่ีสนามบนิ ครัง้ แรกในชีวติ อีกด้วย
บรรยายภาพ – ย่านการค้าใจกลางเมืองเลห์ ตอนท่ี 3 บินลดั ฟ้ ามุ่งหน้าสู่ลาดกั หลังจากเชค็ อนิ เรียบร้อยแล้ว ระหว่างท่นี ่ังรอขนึ้ เคร่ืองท่หี ้องพัก ผู้โดยสารเร่ิมทยอยมาเร่ือยๆ เงยหน้าขึน้ มองกเ็ จอรอยยมิ้ ทกั ทายจากคุณป้ าสองคน หน้าตาแบบชาวจนี ดยู งั ไงกไ็ ม่ใช่ชาวอินเดียแน่นอน ไม่ต้องเดาให้ยาก ชาวเมืองเลห์ ต้อนรับผมอย่างอบอุ่นตัง้ แต่ยังไม่เหยยี บแผ่นดนิ ของเขาเลยด้วยซา้ พอผู้โดยสารขึน้ เคร่ืองครบแล้ว ถงึ ได้รู้ว่าเคร่ืองบนิ เท่ยี วนีเ้ กอื บเตม็ ลาเลยทเี ดยี ว มีท่วี ่างไม่ก่ที ่เี อง เคร่ืองบนิ ทะยานขึน้ สู่ท้องฟ้ าสักพัก ม่านฟ้ ากเ็ ปิ ด แสงพระอาทติ ย์ ตอนเช้าส่องแสงสีทองเป็ นลายาว ทะลุผ่านปยุ เมฆอันอ่อนนุ่ม ต้อนรับวันใหม่ท่ีกาลังจะ มาเยือน ผมมองลงไปข้างล่างแทบหยดุ หายใจ ยอดเขาท่ปี กคลุมไปด้วยหมิ ะสีขาว สะอาดตานับร้อยๆยอด เรียงรายสุดลูกหลู ูกตา หยบิ กล้องมาถ่ายรูปอย่างไม่รู้จักเบ่อื ส่วนผู้โดยสารคนอ่ืนบางคนกน็ ่ังคุยกัน บางคนกน็ ่ังหลับ ไม่เหน็ มีใครดทู ่าทางว่าต่ืนต้น เลย เขาคงเหน็ จนเอียนแล้วเพราะผู้โดยสารส่วนมากจะเป็ นชาวพืน้ เมืองทงั้ นัน้ คงจะเหน็ จนเอียน เขาคงไม่เข้าใจคนท่เี กดิ เมืองร้อนแบบผม ถงึ แม้ว่าจะเหน็ ยอดเขาหมิ ะมาหลายครัง้ แล้วกต็ ามแต่กอ็ ดต่นื เต้น ไม่ได้อย่ดู ี น่ีคือเหตุผลว่าทาไมผมถงึ ชอบน่ังตดิ หน้าต่างนัก เวลาประมาณเกือบ 1 ช่ัวโมงท่ที อดสายตาชมยอดเขาหมิ ะทาไมมันมคี วามรู้สึกว่าเร็วจังเลย เคร่ืองบนิ ค่อยๆบนิ ลงต่าเร่ือยๆใกล้จะถงึ เมืองเลห์แล้ว มองจากหน้าต่างเหน็ แต่ภเู ขาสีนา้ ตาลอมเทาไม่มีสี เขียวของต้นไม้แม้แต่นิดเดยี ว มองเหน็ แม่นา้ ไหลผ่านไปตามหบุ เขาเป็ นสายๆ คดเคีย้ ว ไปตามภเู ขาท่มี ีแต่ความแห้งแล้งของทะเลทราย ส่วนยอดเขาสูงกจ็ ะปกคลุมด้วยหมิ ะขาว
โพลน เป็ นทศั นียภาพท่แี ปลกตามาก เหมือนว่าเรากาลังจะมาเยอื นโลกอีกโลกหน่ึงซ่งึ ไม่ คุ้นเคย แต่มันกส็ วยแปลกตาไปอีกแบบ เมอื งเลห์ (Leh) เมืองหลวงของแคว้น ลาดกั (Ladakh ) รู้จักในนาม ทเิ บตน้อย (Little Tibet) เน่ืองจากเป็ นดนิ แดนของชาวทเิ บตพลัดถ่นิ ท่ลี ีภ้ ัยการเมืองมา อาศัยอยู่ดนิ แดนเหนือสุดของอินเดีย ท่ขี นาบไปด้วยเทอื กเขาหมิ าลัยตอนใต้ และ เทอื กเขาคาราโครัมทางด้านเหนือ ภูมิประเทศจงึ เป็ นภูเขาสูงปกคลมุ ไปด้วยหมิ ะ สลับซับซ้อน เดอื นนีเ้ ป็ นช่วงโลว์ซีซ่นั ของเมืองเลห์ กจิ การด้านการท่องเท่ยี วต่างๆกไ็ ม่ เปิ ดให้บริการ แม้แต่ร้านอาหาร เอเจนซ่ตี ่างๆกห็ ายาก ต่างปิ ดบริการกันถ้วนหน้า ผม ไม่ได้จองโรงแรมมาล่วงหน้า เพราะช่วงนีเ้ ป็ นช่วงปลอดจากนักท่องเท่ยี วคิดว่าคงหาห้อง ท่ถี ูกใจ ได้ไม่ยากเยน็ นัก คนขับแทก็ ซ่ี พาผมมาส่งเกสเฮ้าส์แห่งหน่ึงช่ือ T.setan Guest House ซ่งึ อยู่ห่างจากตลาดจดุ ศูนย์กลางของเมืองไม่มากนัก ดสู ภาพห้องราคา 250 รูปี ใช้ได้ ทเี ดียวส่งิ ท่ผี มชอบมากท่สี ุดกค็ ือ หน้าต่างห้องนีม้ องเหน็ ภเู ขาหมิ ะท่ปี กคลุมอย่บู นยอด เขาในมุมท่สี วยมาก ถงึ กบั เพ้อด้วยความต่นื เต้นอย่คู นเดียว น่ีมันสวรรค์ชัดๆ เกสเฮ้าส์ แห่งนีม้ ีเพียงผมคนเดยี วเท่านัน้ ท่ีเป็ นลูกค้า ช่างเป็ นแขกท่มี ีความสาคญั ซะเหลือเกนิ ผมจดั การกบั กระเป๋ าตัวเองเตรียมเอาเสือ้ กันหนาวออกมาแขวนจะ ได้หยบิ มาใช้ง่ายๆเพราะอากาศตอนนีห้ นาวเยน็ เหลือเกนิ อย่างนีส้ ิถงึ จะเรียกว่าหนีร้อน มาพ่งึ เยน็ เพราะอากาศเดอื นเมษายนท่เี มืองไทย มันโหดร้ายน้อยซะเม่ือไหร่กันเล่า แล้ว กต็ ้องเซง็ สุดขีด เสือ้ ผ้าของผมเลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยนา้ หวานเฮลบลูบอยนา้ เขียวกับนา้ แดง ดนั มาแตกเลอะเตม็ กระเป๋ า พอเจ้าของท่พี กั เหน็ กเ็ ลยให้ผมเอาเสือ้ ไปซัก ดที ่ไี ม่ เปื้อนทงั้ กระเป๋ าไม่อย่างนัน้ คงแย่กว่านี้ ตกลงกบั คนขับให้เขาขับรถนาเท่ยี วไปเท่ยี วรอบๆเมืองเลห์ก่อน ผมกางหนังสือไกด์บ๊คุ ให้เขาดูว่าวันนีจ้ ะไปไหนได้บ้าง จริงๆแล้วผมอยากไปเท่ยี ว ทะเลสาบปันกอง (pangong )มากท่สี ุด แต่สาหรับการเหมารถไปคนเดียวมันแพงมากตงั้ 5,000 รูปี เพราะระยะทางไกลมากจากตัวเมืองเลห์ ผมไม่รู้ว่าจะแชร์เหมารถไปกับใคร
ผมเลยบอกคนขับกับเจ้าเกสเฮส์ ว่าพรุ่งนีผ้ มอยากไปทะเลสาบปันกองให้หาคนแชร์รถไป กบั ผมด้วย วันนีเ้ ขาจะพาผมไปดวู ัดต่างๆท่อี ยู่นอกเมืองเลห์ท่อี ย่เู ส้นทาง เดียวกนั เพราะวัดท่เี มืองเลห์นีม้ ีหลายท่เี หลือเกนิ แต่ละท่กี ก็ ระจายกันไปคนละทศิ คนละ ทาง ผมชอบเลห์อีกอย่างกต็ รงท่รี าคาค่าโดยสารแต่ละท่จี ะมีราคาตายตัวอย่แู ล้ว ไม่ต้อง กลัวว่าจะโดนโกง มีราคามาตรฐานท่กี าหนดไว้แล้ว ตามระยะทางใกล้ไกล ไม่ต้องไปสู้รบ ตบมือกับคนขับเจ้าเล่ห์เหมือนท่ผี ่านมา ราคาอยู่ท่ี 1,700 รูปี แต่เขาเหน็ ผมมาคนเดียว เขาเลยลดให้ผม 1,500 รูปี วัดเฮมิส ( Hemis gompa) เป็ นวัดท่ใี หญ่โต มีอย่หู ลายหลัง สร้างตดิ กับเชิงเขาอันแห้งแล้ง บนยอดเขามีหมิ ะปกคลุมบ้างประปราย อยู่ห่างจากเลห์ประมาณ 45 กโิ ลเมตร สร้างเม่ือต้นศตวรรษท่ี 17 ดอู ายแุ ล้วเก่าแก่ทเี ดยี ว วันนีด้ ูจะร้าง นักท่องเท่ยี ว มีผมเพยี งคนเดียวเท่านัน้ ท่มี าเย่ียมเยอื น วัดเก่าแก่ใหญ่โตทาไมถงึ ได้ เงียบเหงาโดดเด่ียวแบบนี้ เหมือนมาชมวัดร้างมากกว่า อาจจะเป็ นพระว่าผมมาเท่ยี ว ค่อนข้างเช้าและเป็ นช่วงหน้าหนาว ซ่งึ นักท่องเท่ยี วน้อยกเ็ ป็ นได้ ผมไม่เจอพระแม้แต่รูปเดยี ว ไม่รู้ท่านหลบไปอยู่ท่ไี หนกันหมด เจอ เพียงคนงานท่กี าลังซ่อมแซมถนนหนทางเข้าวัดกลุ่มหน่ึง ไม่น่าเช่ือว่าวัดแห่งนีจ้ ะ เปิ ดรับนักท่องเท่ยี วให้เข้าพกั ได้ น่าสนใจทเี ดยี วเพราะคนไทยน่าจะคุ้นเคยกบั การพกั ท่ี วัดอย่แู ล้ว ถ้าอยากจะหาความสงบ เรียนรู้วิถีชาวพทุ ธอีกนิกาย ซ่งึ เป็ นพทุ ธคนละ นิกายกับเถรวาทแบบไทย แต่ผมกไ็ ม่ทราบว่า ราคาเท่าไหร่ มีเง่อื นไขยังไง เพราะไม่เหน็ พระสักรูปไม่รู้จะถามใคร
บรรยายภาพ - วัดเฮมิส ( Hemis gompa) คนขับพามาเท่ยี วชมวัดเป็ นท่แี รกซ่งึ เร่ิมจากวัดท่ไี กลท่สี ุดแล้วค่อยขับ รถย้อนกลับเข้าเมือง ซ่งึ เส้นทางนีเ้ ป็ นทางเส้นเดียวกับท่ไี ปมะนาลี เสียดายท่ผี มไม่ได้น่ัง รถโดยสารมาจากมะนาลี เพราะช่วงนีเ้ ป็ นปลายฤดหู นาวหมิ ะยังไม่ละลายเส้นทางยงั ไม่ เปิ ดให้รถว่งิ ใครจะมาช่วงเดือนเมษายนจงึ ต้องมาทางเคร่ืองบนิ อย่างเดียว ผมเคยสัมผัสความกล่ินอายวัดทเิ บตมาบ้างแล้วในเมืองจงเตีย้ น ประเทศจีน วัดซงจ้านหลนิ ซ่งึ อลังการกว่าวัดเฮมสิ มาก เลยมีความรู้สกึ เฉยๆมากกว่า การมาชมวัดแห่งนีข้ องผมในวันนีเ้ ลยไม่ได้สร้างความประทบั ใจเท่าไหร่ แต่กไ็ ม่ลืมท่จี ะ ไปอธิฐานขอพรท่วี งล้อหมุน เพ่อื เป็ นขวัญและกาลังใจให้ตวั เอง ท่มี ตี วั หนังสือเขียนว่า Please Rotate Prayer Wheels Clockwise อยู่ด้านหน้า
สภาพภูมปิ ระเทศของเลห์ ดูแห้งแล้งเหมือนดาวดวงไหนสักแห่งท่ผี ม ไม่คุ้นเคย ผมไม่รีรอท่จี ะบอกให้ Stazin จอดรถเม่ือเจอววิ ภูเขาหมิ ะสวย ๆ ผมไม่แน่ใจ ว่า คนท่นี ่ีจะมองมันยงั ไง แต่สาหรับผม มองว่ามันสวยแปลกตาดี แต่ถ้าให้มาใช้ชีวิตอยู่ ท่นี ่ีผมกไ็ ม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้ตลอดรอดฝ่ังหรือเปล่า คนขับเป็ นหนุ่มโสดอายุ 28 ปี ช่ือstazin เขาเป็ นชาวทเิ บตท่เี กดิ และโต ท่นี ่ีเขาเป็ นคนท่อี ัธยาศัยดเี หมือนกับชาวเมืองเลห์ท่วั ไป ท่นี ับถือสาสนาพทุ ธ เขาทางาน ขับรถมานานแล้ว กับเงนิ เดือน 4,000 รูปี ไม่รวมค่าคอมมชิ ช่ัน ผมไม่ได้ถามเหรอกเขา เล่าให้ฟังเอง เพราะการถามเร่ืองเงนิ เดือนไม่ว่าสังคมประเทศไหนคงไม่เหมาะไม่ควร เขาเคยขับไปส่งนักท่องเท่ยี วจากเลห์ไปแคชเมียร์มาหลายครัง้ แล้ว ผมหผู ่ึงทนั ทเี พราะ อยากเหน็ วิวทวิ ทศั น์ระหว่างทางมาก “ เมืองไทย ทะเลคงสวยมากสนิ ะครับ ผมเกดิ มายังไม่เคยเหน็ ทะเลเลย ” stazin ถามผมในขณะท่ขี ับรถอยู่ “ ถ้าคุณอยากเหน็ ทะเล ไปท่เี มือง Goa กไ็ ด้น่ี ผมยังอยากไปเท่ยี วเลย ไม่ต้องไปถงึ เมืองไทยหรอก ” “ นอกจากทะเลแล้ว คุณอยากไปเท่ยี วไหนเหรอ ” ผมถามStazin “ สงิ คโปร์ ผมเคยดใู นหนัง มันสะอาดและทนั สมัยมากเลย แล้วกอ็ ยากไปเท่ยี ว เมืองไทยด้วย ” ผมว่าเขากต็ อบเอาใจผมไปงนั้ แหล่ะ ดทู ่าทางเขาแทบจะไม่รู้จักเมืองไทย เลยด้วยซา้ “ ทะเลท่เี มืองไทยสวยมาก แต่กไ็ ม่มีภูเขาหมิ ะแบบท่นี ่ี แต่อินเดียมที กุ อย่าง ทงั้ ทะเล หมิ ะ ทะเลทราย ” stazin ทาท่าเออออห่อหมก ไปกบั ผมด้วย “ เพราะอย่างนีใ้ ช่ไหม คุณได้ถงึ เดนิ ทางมาท่นี ่ี ” แน่นอนคนเราเดนิ ทางไกล กแ็ สวงหา ในส่ิงท่แี ตกต่างจากบ้านตัวเองทงั้ นัน้ แหล่ะ
ปล. Stazin ได้เหน็ ทะเลครัง้ แรกในชีวิตแล้วท่เี มือง Goa ตามท่ผี มแนะนา เขาไปกับ ภรรยาสองคน ดูเขามีความสุขและต่นื เต้นมากทเี ดยี ว ส่วนผมกไ็ ด้ไปเมือง Goa เช่นกัน
ตอนที่ 4 เมอื งเลห์จติ วญิ ญาณแห่งชาวพุทธ ระหวา่ งทางมีชาวบ้านยืนโบกรถเข้าตวั เมืองด้วย แต่ Stazin รอให้ผม อนญุ าตก่อนวา่ จะให้จอดรับไหม ผมไม่ขดั ข้องอยแู่ ล้วมีท่ีว่างเหลือเฟือ แถวนีด้ กู นั ดารคงหารถ เข้าเมืองยาก แตเ่ ขาให้เหตผุ ลว่าเราต้องแวะเท่ียววดั ตามรายทางอีกหลายที่ กลวั ชาวบ้านจะ เสียเวลารอ เขาเลยไมจ่ อดรับ ผมเห็นด้วยกบั เขาเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่มีคนโบกรถขออาศยั เข้าเมืองแคร่ ายเดียว ตามรายทางยงั เห็นมีอีก 2-3 ราย วดั ตกิ เซ่ (Thiksey gompa ) อยตู่ ดิ กบั ถนนสายหลกั เชน่ เดียวกบั วดั เฮมิส ถงึ วดั แหง่ นีจ้ ะมีชื่อเสียงโดง่ ดงั กว่าวดั เฮมสิ มาก แตก่ ็ไม่คอ่ ยมีนกั ท่องเท่ียวมาเย่ืยมเยือนเลย ดู เงียบเหงามากไม่เหน็ พระสกั รูปเชน่ เดียวกนั ผมก็ลืมถามคนขบั ว่าท่านไปหลบอย่ไู หนกนั หมด วดั ติกเซส่ ร้างขนึ ้ มาตงั้ แตศ่ ตวรรษที่ 15 ซงึ่ เป็นวดั นกิ าย เกลกุ ปะ นกิ ายหมวกเหลือง ซงึ่ เป็นนกิ าย เดียวกบั องค์ดาไลลามะองค์ปัจจบุ นั ผมเคยเหน็ ในหนงั สือทอ่ งเที่ยว เป็นวดั ท่ีสวยมาก หนงั สือนาเที่ยวเลม่ ไหนก็ ต้องมีรูปวดั นีต้ ลอด วดั แหง่ นีต้ งั้ อย่บู นเนินเขาที่ไม่สงู มากนกั ตงั้ ตระง่านอยบู่ นเนินเขา โดดเด่น เป็นสง่า สามารถขบั รถขนึ ้ ไปท่ีลานจอดรถของวดั ได้ พอขนึ ้ ไปบนวดั มองเห็นวิวทิวทศั น์เทือกเขา
สวยงามสดุ ลกู หลู กู ตา มองเห็นบ้านเรือนชาวเมืองข้างล่างเป็นหยอ่ มๆเหมือนเมืองต๊กุ ตาจาลอง มองเห็นแม่นา้ สินธุ ( Indus River ) ที่คนขบั บอกว่าไหลเข้าประเทศปากีสถาน รูปปัน้ พระศรีอาริยเมตไตรย์ ( Maitreya Buddha ) หรือท่ีฝรั่งเรียกว่า Future Buddha ตามความเชื่อของชาวทเิ บต พระพทุ ธศาสนา มีอายเุ พยี ง 5,000 ปี ซงึ่ ตอนนีใ้ ช้เวลามาถงึ คร่ึงทางแล้ว จากนนั้ ก็จะเสื่อมสญู สนิ ้ พระพทุ ธเจ้าองค์ปัจจบุ นั ท่ีชาวพทุ ธกราบไหว้กนั อยทู่ กุ วนั นี ้ ก็คือ พระพทุ ธเจ้าองค์ที่ 27 สว่ น พระศรีอาริยเมตไตรย์ก็คือตวั แทนของพระพทุ ธเจ้าองค์ใหม่ใน อนาคตองค์ที่ 28 นน่ั เอง ชาวทิเบตเชื่อว่า หากใครได้สร้างพระพทุ ธรูปพระศรีอาริยไตรย์หรือได้ วาดภาพของท่านลงในภาพทงั กา ตายไปก็จะได้ขนึ ้ สวรรค์ชนั้ ฟ้ า
บรรยายภาพ - รูปปั้น พระศรีอาริยเมตไตรย์ ( Maitreya Buddha Future Buddha ) อยู่ในวัดตกิ เซ่ รูปปัน้ พระอาริยเมตไตรย์ ตงั้ อยกู่ ลางวดั มีความสงู เท่าตกึ 2 ชนั้ เลยทีเดียว ด่านลา่ งจะเป็นฐาน พอขนึ ้ ไปบนวดั อีกชนั้ ก็จะเจอกบั พระพกั ตร์ของท่านพอดี ซงึ่ สามารถจดุ ธูป เทียนกราบไหว้ได้ จะว่าไปแล้วหากใครมาเยือนเมืองเลห์แล้ว ไมไ่ ด้มากราบไหว้หรือเย่ียมชม รูป ปัน้ นีแ้ สดงวา่ มาไมถ่ งึ เมืองเลห์ก็คงไมผ่ ิดนกั เพราะวดั แห่งนีค้ ือจดุ เด่นอีกแหง่ ของวดั พทุ ธแบบ ทิเบตที่มีมากมายหลายวดั ท่ีอย่รู ายล้อมเมืองเลห์ Stazin ถามว่าอยากจะไปดวู ดั อีกไหม เพราะตามรายทางยงั มีวดั ให้เยี่ยมชม อีก แต่อาการงว่ งนอน และเพลียจากการเดินทางตอนกลางคืน ทาให้ผมต้องยอมแพ้ แม้วา่ ตวั เองจะเป็นชาวพทุ ธก็ตามทงั้ ๆที่ใจยงั อยากแตส่ งั ขารมนั ไมไ่ หว ตอนนี ้อยากจะพกั ผ่อนหลบั นอน เต็มทน ทงั้ ที่เวลาแค่บ่าย 2โมงเทา่ นนั้ เอง ขอกลบั มานอนพกั ผ่อนเอาแรงก่อน ไม่มีกะจิตกะใจจะ ดอู ยา่ งอ่ืนตอ่ แล้ว มาตื่นเอาตอนเกือบ 6 โมงเย็น ครอบครัวท่ีผมพกั ด้วยประกอบด้วยสมาชิก 3 คนมีหวั หน้าครอบครัวช่ือ Thupstanและ ภรรยากบั หลานสาวแสนซนผมขอเรียกเธอว่าคณุ แม่บ้าน สว่ นหลานของเธอ ผมเรียกว่า หนนู ้อยแก้มแดงแล้วกนั เพราะแก้มหนนู ้อยแดงยงั กะลกู มะเขือเทศ สกุ เลย ผมจาช่ือเธอทงั้ สองไมไ่ ด้จริงๆมนั ยากมากกบั การท่ีจะจาชื่อของชาวทิเบต และผมก็ไมไ่ ด้ จดใส่สมดุ ซะด้วยสิ ผมเคยประเมินค่าช่ือของชาวตะวนั ตกที่มีช่ือซา้ ๆกนั มนั ช่างไม่สร้างสรรค์เอา ซะเลยอยา่ ง David , peter , Adam, Sarah ,Jennifer บอกเราครัง้ เดียวก็จาได้ขนึ ้ ใจแล้วมนั ดี อย่างนีน้ ่ีเอง คณุ แมบ่ ้านเรียกให้ผมไปนง่ั เล่นที่ห้องรับแขก รอทานอาหารเย็น ตอนที่ผม ตดั สนิ ใจว่าจะพกั ท่ีนี่ ผมบอกวา่ จะทานอาหารที่น่ี 2 มือ้ คือมือ้ เช้ากบั มือ้ เย็น เพราะผมอยากเรียนรู้
อาหารแบบลาดกั แท้ๆ แม้วา่ จะแอบหวน่ั ๆวา่ คงไม่ถกู ปากแน่ๆ อีกอย่างชว่ งนีห้ าอาหารกิน คอ่ นข้างยากเพราะว่า ร้านอาหารต่างปิดกิจการกนั หมด ไปเดินที่ตลาดแทบจะหาร้านอาหารไมไ่ ด้ เลย มีเพียงร้านขนมปังท้องถิ่นเทา่ นนั้ ที่พอจะหามากินกนั ตายได้บ้าง วนั นีอ้ ากาศหนาวมากจงึ มีพดั ลม Heater มาเปิดให้ความอบอนุ่ ดแู ล้วก็ แปลกดีเหมือนกนั เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นเคร่ืองแบบนีม้ าก่อนเลยก็คงจะเปรียบได้กบั พดั ลมท่ี เมืองไทย แต่กลบั มีไอร้อนออกมาให้ความอบอนุ่ แทน วนั นีท้ ่ีห้องรับแขกประจาบ้านมีเพยี งผมคน เดียว ปกติถ้าช่วงฤดทู อ่ งเที่ยวจะมีแขกที่มาพกั ท่ีนี่มารอทานอาหารเยน็ เตม็ ไปหมด เป็นแขกคน เดียวของบ้านชา่ งดมู ีความสาคญั ซะเหลือเกิน อาหารเยน็ มือ้ นี ้ผมได้นงั่ ทานพร้อมกบั สมาชิกของ บ้านทงั้ 3 คน พร้อมหน้าพร้อมตา อาหารเรียกนา้ ยอ่ ยคือเครื่องดื่มที่ออกรสหวานนิดๆสีคล้ายๆนา้ ชามีถั่วลสิ ง เป็นส่วนผสม รสชาตหิ าความกลมกลอ่ มอร่อยไมไ่ ด้เลย ตามด้วยอาหารหลกั ซปุ ผกั ผสมเต้าหู้ รสชาตไิ มถ่ กู ปากอยา่ งท่ีคดิ ไว้ไม่มีผดิ ผมก็ไมไ่ ด้คาดหวงั อะไรมากมายกบั อาหารแบบลาดกั หรอก สาหรับผมแล้วมนั เป็นอาหารที่กินเพียงเพอื่ จะให้มีชีวติ รอดแค่นนั้ เอง ผมยงั จาการมาเท่ียวอินเดีย ครัง้ แรกท่ี ราชาสถาน ได้ดี ทริปนนั้ ผมรอดตายเพราะประทงั ชีวติ ด้วยผลไม้เป็นหลกั ตลอด 8 วนั ท่ี ใช้ชีวิตในอินเดีย
บรรยายภาพ - มะเขือเทศทเิ บตน้อย จอมซน ผมเคยได้ยนิ ช่ือเสียงห้องนา้ เมืองเลห์มานาน ว่ายงั เป็ นส้วมหลุม หลังจาก เสร็จกจิ กต็ กั ดนิ กลบแทนการราดนา้ ผ่านไปสักระยะกจ็ ะกลายเป็ นป๋ ยุ ชัน้ ดีไว้ใส่พืชผัก สวนครัว น่าท่งึ จริงๆแม้แต่ของเสียกก็ ลายเป็ นของมีประโยชน์ขนึ้ มาได้ คงจะคล้ายๆกับ เมืองจนี ท่ใี ช้ของเสียจากมนุษย์สดๆรดผัก กันเลย โดยจะปล่อยให้ไหลไปกับรางสู่แปลง ผักโดยตรง ผักท่ไี ด้รับป๋ ยุ นีจ้ ะเจริญเตบิ โตเร็วกว่าป๋ ุยแบบอ่ืนมาก รสชาตหิ วานกรอบผม กไ็ ม่เคยเหน็ กบั ตาหรอก นึกภาพไม่ออกเหมือนกนั รับรู้จากการอ่านหนังสือและเร่ืองเล่าจาก ปากต่อปากเท่านัน้ ผมอยากมีโอกาสลองใช้ห้องนา้ แบบเลห์บ้างจังเลย ว่ามันจะเป็ น
แบบไหนนะ เพราะเคยใช้ห้องนา้ แบบไม่มีประตู อันลือล่ันของประเทศจนี มาแล้ว แต่ วันนีไ้ ม่มีห้องนา้ แบบนัน้ ให้ใช้แล้ว เพราะเกสเฮ้าส์ท่ผี มพัก กเ็ หมือนกับโรงแรมท่วั ไป ห้องนา้ แบบนัน้ คงมีอยู่นอกเมืองหรือบางท่กี ระมัง อากาศท่หี นาวจัดของเมืองเลห์ ตอนอาบนา้ เขาจงึ ผสมนา้ อุ่น จากเคร่ืองทานา้ ร้อน ให้ผมอาบ จะอาบนา้ ตอนไหนกบ็ อกเขา จะได้นา้ ร้อนผสมใส่กระ แป๋ งใบเลก็ ไว้คอยเรา นา้ ท่อี าบกต็ ้องใช้อย่างจากดั จะจ้วงตกั แบบกระหน่าตามอาเภอใจ ไม่ได้ เพราะนา้ ท่นี ่ีค่อนข้างหายาก ใช้นา้ ท่ลี ะลายมาจากหมิ ะบนยอดเขา อากาศหนาว แบบนีส้ าหรับผมแค่นีก้ เ็ กนิ พอแล้ว ไอ้ครัน้ จะซกั แห้งไม่อาบเลย กด็ ยู งั ไงๆอยู่สาหรับคน ท่มี าจากเมืองร้อน ท่ชี ินกับการอาบนา้ วันละ 2 รอบ ไม่ใช่ชาวชนเผ่าดอกไม้ชาวลาดัก ท่ี จะอาบนา้ เดอื นละครัง้ หรือบางคนสามเดือนอาบนา้ ที
บรรยายภาพ – หมู่บ้านเลก็ ๆแห่งหน่ึงของเมืองเลห์มองจากด้านบนวัด Thiksey Gompa บรรยายภาพ – ครอบครัวเจ้าของเกสเฮาส์ ชาวเมืองเลห์
ตอนที่ 5 ใต้อ้อมกอดของขนุ เขา เม่ือคืนนอนหลบั เป็นตายภายใต้ผ้าหม่ อ่นุ ที่ thupstan หวั หน้าครอบครัวขนมาให้ ผมซะสะใจไปเลย คงกลวั ผมจะหนาว เพราะที่นี่ไม่มีเตียงไฟฟ้ าเหมือนท่ีเมืองจีน ต่ืนมาประมาณ 7 โมงเช้า เดนิ ไปท่ีหน้าต่างมองออกไปข้างนอก ภาพท่ีเห็นข้างหน้า ชา่ งสวยงามเหลือเกิน ภเู ขาตงั้ ตระงา่ นอยขู่ ้างหน้าสดุ ลกู หลู กู ตา สลบั ซบั ซ้อนลดหลนั่ กนั ไป ข้างบนยอดเขาปกคลมุ ไปด้วยหิมะ อ่อนน่มุ ขาวสะอาดตา ด้านล่างของบริเวณหลงั บ้าน คณุ แมบ่ ้านกาลงั เตรียมดนิ เพ่ือจะเพาะปลกู ผกั ใน ฤดรู ้อนที่กาลงั จะมาถงึ ภาพที่เห็นทาให้ผมนกึ ถงึ คณุ แมข่ นึ ้ มาทนั ที ผ้หู ญิงสองคนนีอ้ ยหู่ ่างกนั คน ละมมุ โลก ตา่ งภาษา ตา่ งวฒั นธรรมและเชือ้ ชาติ แต่บทบาทและหน้าที่ของความเป็นแม่ ไม่ได้ แตกต่างกนั เลย ฉากหลงั ของคณุ แม่ของผมเป็ นป่ ากล้วย แต่ฉากหลงั ของที่นี่เป็นภเู ขาที่ปกคลมุ หิมะสงู ชนั ผมแอบมองเธออย่นู านจนเธอสงั เกตเหน็ เธอกล่าวทกั ทายอรุณสวสั ดพ์ิ ร้อมกบั รอยยมิ ้ ในขณะท่ีมือยงั ถือพลวั่ อยู่
ตอนเดก็ ผมต่ืนขนึ ้ มามองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ก็เจอคณุ แมถ่ ือจอบอยทู่ กุ เช้าเช่นกนั ผมโตมาทกุ วนั นีก้ ็เพราะจอบและเสียมของคณุ แมท่ ี่ขดุ ดินปลกุ ผกั เลีย้ งผมมาแบบนีน้ ่ี แหละ่ เจอภาพท่ีประทบั ใจขนาดนีม้ ีหรือท่ี ผมจะไมไ่ ปสมั ผสั แบบใกล้ชิด ลงไปดเู ธอเตรียมดินปลกู ผกั ทงั้ ๆที่หน้ายงั ไมไ่ ด้ล้างเลย แปลงผกั ท่ีนี่ทาเป็นแปลงตารางเล็กๆ เพือ่ กกั นา้ ไว้ตอนปลอ่ ยนา้ เข้ามา ส่วน นา้ ก็เป็นนา้ ที่ละลายมาจากหมิ ะบนยอดเขาสงู ไหลมาตามร่องนา้ ผา่ นหน้าบ้านของใครของมนั ใครจะใช้นา้ ก็เปิดทางเดินของนา้ เข้าแปลงผกั เม่ือได้ที่แล้วก็ปิดทางเดนิ ของนา้ เป็นวิถีชีวิต และภมู ิ ปัญญาพนื ้ บ้านท่ีสืบทอดกนั มารุ่นสรู่ ุ่น พอนา้ แห้งก็เอาผ้าพลาสติกมาคลมุ ไว้ ย่งิ มาดใู กล้ๆก็ย่งิ
นกึ ถงึ อดีตสมยั เด็กๆของตวั เอง ท่ีเคยช่วยแม่เตรียมแปลงปลกู ผกั คอยหยอดเมล็ดข้าวโพดเดนิ ตามหลงั แม่ที่ขดุ หลมุ ไว้รอก่อนหน้า แล้วก็ใช้เท้ากลบ “ คณุ รู้ไหม ตอนผมเป็นเดก็ ก็ช่วยคณุ แมท่ างานแบบนีแ้ หละ่ ” ผมรีบคยุ โว “ เมื่อก่อน ฉันก็มีคนช่วยเหมือนกนั นะ แตต่ อนนีล้ กู ชายทงั้ 2 คน ของฉนั เขาไปเรียนหนงั สือท่ี มหาวทิ ยาลยั ใน นวิ เดลี ” เธอคงเห็นผมสนใจแปลงผกั มาก ก็เลยพาผมไปดแู ปลงผกั ในร่มของเธอ ตอน แรกผมเห็นโรงเรือน มงุ พลาสตกิ สีขาว ผมก็ไมท่ ราบหรอกว่า น่ีคือโรงเรือนผกั ในร่ม ท่ีต้องใช้ พลาสติกทาเป็ นหลงั คาก็เพราะวา่ กนั หิมะตกใสน่ น่ั เองและก็วางก้อนหินทบั ไว้บนหลงั คาพลาสติก กนั ลมพดั เพราะตอนนีย้ งั เป็นฤดหู นาวอยู่ ปลกู ผกั กลางแจ้งไมไ่ ด้ ต้องปลกู ในโรงเรือนผกั ถึงจะโต มีทงั้ ผกั กวางต้งุ และ ผกั กาด ผกั ดนู ่ากินมาก “ เดี๋ยวตอนเย็น ฉนั จะผดั ผกั ให้กินนะ ตอนนีผ้ กั หายากราคาแพงมากเลย ต้องนาเข้ามาจากเมืองอื่น ” ดเู หมือนเธอจะรู้ใจ โชคดีอะไรอย่างนีท้ ี่ได้มาพกั กบั ครอบครัวนี ้ ได้ เรียนรู้และเหน็ วถิ ีชีวติ ของชาวทิเบตแบบใกล้ชดิ Stazin คนขบั รถ มาแจ้งข่าววา่ วนั นีไ้ ม่มีใครไปทะเลสาบปันกองเลย เขาถามหา กบั เพื่อนร่วมอาชีพจนหมดแล้วก็ไม่มีใครไปทะเลสาบปันกองเลย เพราะชว่ งนีน้ กั ท่องเท่ียวน้อย มาก ถ้าเป็นชว่ งฤดทู อ่ งเท่ียวล่ะก็หาง่ายมาก แค่มาลงชื่อไว้ เจ้าของเกสเฮ้าส์ก็จะจดั การหาคนแชร์ เหมารถให้ “ ที่น่ีเคยมีคนไทยมาพกั ด้วยนะ ” Thustans เอารูปถ่ายหน่มุ ไทยมาให้ผมดู พร้อมกบั นกั ท่องเท่ียวคนอื่น ภาพเหล่านนั้ ถ่ายหน้าร้อนท่ีหน้าบ้าน ดอกไม้บานสะพร่ังสวยงาม ซง่ึ แตกตา่ งกบั ตอนนีม้ าก ท่ีมีแต่ความแห้งแล้ง รวมทงั้ สมดุ ลายเซน็ ของนกั ท่องเท่ียวทว่ั โลก ท่ีเขียน ความประทบั ใจ ฝากไว้เป็นอนสุ รณ์ ผมเปิดดไู ม่มีนกั ทอ่ งเท่ียวไทยเลย เลยจดั การเขียนเป็น ภาษาไทยซะเลย
“ เด๋ียวกลบั ถงึ เมืองไทย ผมจะสง่ รูปมาให้นะครับ ” ผมตงั้ ใจจะทาเหมือนกบั นกั ท่องเท่ียวคนอ่ืนทว่ั โลกท่ีมาพกั ท่ีน่ี อาหารเช้าวนั นีป้ รุงโดยคณุ แม่บ้าน ที่วางจอบวางเสียมชวั่ คราว เข้าครัวมา ทาอาหารให้สมาชิกในบ้าน ผมรู้สกึ ช่ืนชมเธอมาก นอกจากทางานปลกุ ผกั สวนครัวแล้ว หน้าท่ีของ แม่ครัวก็ต้องไมข่ าดตกบกพร่อง อาหารเช้ามือ้ นีค้ ือขนมปัง คล้ายๆนาน ผมก็ไมร่ ู้หรอกวา่ มนั เรียกวา่ อะไรกินกบั แยมผลไม้ แม้จะค้นุ เคยกบั แยมผลไม้ แต่ไมค่ ้นุ เคยกบั ขนมปังแบบลาดกั เลยมนั ชา่ งจืดชืดไม่มีรสชาติเอาเสียเลย เพราะปกตผิ มจะกินกบั ขนมปังแผ่น นงั่ กินพร้อมกบั สมาชกิ ครอบครัวเหมือนเดิม ผมกลายเป็นสมาชกิ ของครอบครัวนีไ้ ปแล้วโดยปริยาย
เจดีย์สนั ติภาพ Shanti stupa คือจดุ หมายปลายทางของผม มองเหน็ ตงั้ แตอ่ ยู่ บนเคร่ืองบินแล้ว และมองเห็นได้จากหน้าตา่ งห้องนอนของผมเช่นกนั เจดีย์สนั ติภาพแหง่ นีส้ ร้าง โดยพระนกั บวชชาวญี่ป่ นุ สร้างขนึ ้ เพ่ือประกาศศาสนาและสนั ติภาพของชาวโลก เดนิ จากที่พกั ลดั เลีย้ วตามลาธารที่ตอนนี ้ไมม่ ีนา้ สกั หยด แวะทกั ทายพดู คยุ กบั ชาวบ้านพอหอมปากหอมคอ คนที่นี่อธั ยาศยั ดีมาก พวกเขาคงจะค้นุ เคยกบั นกั ท่องเท่ียวเป็นอย่างดี กวา่ จะถงึ ไต่บนั ไดมาถึงข้างบนก็เลน่ เอาเหน่ือยเหมือนกนั พกั ถ่ายรูปเป็นระยะ เดนิ ขนึ ้ บนั ไดยงิ่ สงู ก็ย่งิ เห็นววิ ทิวทศั น์สวยขนึ ้ อากาศท่ีนี่เบาบางทาให้เหนื่อยง่ายกว่าปกติ แต่ ผมก็ไม่ค่อยรู้สกึ เท่าไหร่ แทบจะไม่รู้สกึ ตวั เลยด้วยซา้ คงเพราะเพลินและต่ืนตาต่ืนใจกบั ความสวย ของภเู ขาหมิ ะที่เป็นภเู ขาสงู เสียดฟ้ า โอบล้อมเมืองเลห์เอาไว้ อาการ Altitude sickness อาการแพ้ความกดอากาศในที่มีความสงู มากๆที่ว่า มนั เป็นยงั ไงก็ไมร่ ู้จกั กบั ความสงู 3,500 เมตรจากระดบั นา้ ทะเลของเมืองเลห์ เพราะตอนท่ีไป แชงกรีลา ก็ไม่มีความรู้สึกวา่ แตกตา่ งเหมือนกนั อาจจะเป็นเพราะความสงู ไม่มากเทา่ ไหร่หรือ อาจจะเป็นเพราะสขุ ภาพของผมยงั แข็งแรงอย่กู ็ได้ แต่ก็เคยรู้มาว่ามีนกั ท่องเที่ยวชาวไทยเสียชีวติ มาแล้วตอนที่ไปเท่ียวแชงกรีลา พอปี นบนั ไดมาถงึ ข้างบน อยากจะตะโกนออกไปให้ขนุ เขารับรู้ว่า ข้ามาถงึ แล้ว เหมือนท่ีเคยตงั้ ใจไว้ว่าสกั วนั หนงึ่ ผมจะมาเยือนเมืองแห่งนีใ้ ห้ได้ ได้แต่รอคอยวนั นนั้ จะมาถึง วนั นีค้ วามฝันเป็นจริงแล้ว ตอนนีม้ ีเพยี งนกั ทอ่ งเท่ียวคือผมคนเดียวเท่านนั้ มองไปทางไหนมีแต่ ความวา่ งเปล่า ที่น่ีถือว่าเป็นจดุ ชมววิ ท่ีสวยโรแมนติกมาก สามารถมองเห็นเมืองเลห์ ข้างลา่ งสดุ ลกู หลู กู ตา แม้แต่ Sankar gompa วดั อีกแห่งที่ตงั้ อยบู่ นเนินเขาอีกลกู เช่นกนั วดั Sankar gompa ใช้ความพยายามในการปี นบนั ได ไมต่ า่ งกบั เจดีย์ สนั ติภาพ ขณะที่กาลงั จะถึงจดุ หมาย ละอองสีขาวจากฟากฟ้ า โปรยปรายลงมาเบาๆ ผมอธิฐาน
ให้มนั หลน่ ลงมามากกว่านี ้ แตเ่ หมือนโชคจะไม่เข้าข้างผม ละอองหมิ ะมลายหายสนิ ้ ไปอยา่ ง รวดเร็ว เคยเจอแต่หมิ ะท่ีกองอย่บู นพืน้ แตย่ งั ไม่เคยสมั ผสั กบั หมิ ะตกมากฟากฟ้ าเลย เจอนกั ท่องเท่ียวสองสามี ภรรยาชาวเยอรมนั อย่ทู ี่น่ีก่อนหน้าผมนานแล้ว กาลงั จะเดินทางกลบั แต่ก็ยงั ฉกฉวยโอกาสให้พวกเขาถ่ายรูปให้ผมได้ทนั และยงั ได้ทาหน้าท่ีเป็ นทตู ประชาสมั พนั ธ์ให้สองคนนีเ้ดนิ ทางไปเที่ยวเมืองไทยด้วย วิวด้านบนที่วดั แหง่ นี ้สวยไมแ่ พ้เจดีย์ สนั ติภาพเชน่ กนั แต่ที่ดีกวา่ ก็คือเจอนกั ทอ่ งเที่ยวชาวออสเตรเลีย กาลงั ยืนซมึ ซบั บรรยากาศอนั สวยงาม ของภเู ขาหมิ ะที่อย่นู ายรอบ 360 องศาของเมืองเลห์ “ คณุ จะอย่ลู าดกั นานเทา่ ไหร่ครับ ” ผมเอ่ยถามนกั ทอ่ งเที่ยวชาวออสเตรเลีย “ 3 สปั ดาห์ครับ ผมตงั้ ใจจะไปให้ทว่ั ลาดกั เลย ผมชอบชว่ งที่นกั ท่องเที่ยวน้อยแบบนี ้แหล่ะ มนั ไม่ ว่นุ วาย ” น่าอจิ ฉาจงั เลย ผ้หู ญิงออสเตรเลียที่ผมเจอที่ร้านขายของท่ีระลกึ ก็เที่ยวลาดกั 3 สปั ดาห์เชน่ กนั ในขณะท่ีผม พรุ่งนีต้ ้องเดินทางจากลาดกั แล้ว ทงั้ ที่ยงั มีท่ีผมอยากไปอีกบานเบอะ เยอะแยะ ถ้าไม่ตกเคร่ืองบิน ผมคงมีเวลาเพม่ิ ขนึ ้ อีกวนั “ แต่ผมไม่ชอบเลย ไปไหนก็ไม่สะดวก ร้านค้าก็ปิดกิจการเกือบหมด ” สงั คม หน้าท่ีการงาน วิถีชีวติ วฒั นธรรม คงทาให้เรามีมมุ มองที่ต่างกนั ถ้าผมเลือกได้ผมคงไม่ เลือกที่จะมาชว่ งวนั หยดุ ยาวเทศกาลสงกรานต์แบบนี ้ ผมจะมาหน้าร้อนจะได้ไปไหนสะดวก ไม่ ต้องพลาดสถานท่ีสวยๆแบบทริปนี ้ “ ผมเคยไปเท่ียวเมืองไทย 2 ครัง้ แล้วนะ ผมชอบเชียงใหม่กบั กระบี่มากเลย ” “ แล้วคณุ ไมช่ อบพทั ยาเหรอ ” ผมถามเผื่อหยง่ั เชิง
“ ผม ชอบศิลปะ วฒั นธรรม ชอบธรรมชาติ ประเทศไทยมีวดั สวยๆตงั้ เยอะ ทะเลก็สวยมาก ” ไม่ ว่าเขาจะพดู มาจากใจจริงหรือแคส่ ร้างภาพ คาตอบของเขาทาเอาผมใจชืน้ ขอบคณุ สวรรค์ ไมใ่ ช่ นกั ทอ่ งเที่ยวทกุ คนที่มองเหน็ เมืองไทยเป็นแค่ ดินแดนแหง่ เซก็ ส์ ราคาถกู เทา่ นนั้ บรรยายภาพ - ววิ ด้านบนจาก วัด Sankar gompa
ตอนท่ี 6 สีสันแห่งเมอื ง Leh ตลาด Main Bazaar สถานท่ีน่าสนใจมากที่สดุ แห่งหนง่ึ ของลาดกั เสน่ห์ของ ตลาดแห่งนีค้ ือความหลากหลาย ความมีชีวติ ชีวาอย่างแท้จริง เดินผา่ นชมุ ชนมสุ ลมิ เลก็ ๆที่แทรก ตวั อย่ใู นหมู่ ชาวพทุ ธลาดกั โดยมีมสั ยิดเป็นศนู ย์รวมจิตใจ ตงั้ เดน่ เป็นสง่าอยใู่ จกลางเมือง ชมุ ชน มสุ ลิมเหลา่ นี ้มีความโดดเด่นแตกตา่ ง ทงั้ ด้าน ศาสนา จารีตประเพณี แม้กระทงั่ รูปร่างหน้าตา ที่ มองเหน็ ครัง้ แรก ก็พอจะแยกออกได้แล้ว มนั เป็นการผสมผสานที่ลงตวั มาก แต่งแต้มให้เมืองเล็กๆ แหง่ นี ้มีสีสนั และน่าสนใจขนึ ้ มาก แม้จะมีความหลากหลาย และแตกตา่ งแต่ก็ไม่แตกแยก พวก เขาอย่ดู ้วยกนั อย่างสงบ
มีร้านทาขนมปังหลายเจ้าของชมุ ชนมสุ ลิมเหล่านี ้ เขาจะนวดแป้ งเป็นก้อน กลมๆ แล้วเอาไปแปะองั กบั เตาดิน ลกั ษณะเหมือนโอ่งนา้ พอสกุ กรอบได้ที่ก็มาวางใสถ่ าดสเต นเลท ไว้ขายให้กบั คนที่เดินผ่านไปมา มีทงั้ ลกั ษณะแผน่ แป้ งกลมๆคล้ายนาน และขนมปังกรอบ เป็นก้อนๆ ผมลองซอื ้ กินดู รสชาตชิ ่างจืดชืดเหลือเกิน สมกบั ราคาถกู ๆของมนั แตใ่ นยามที่อาหาร การกินหายากเหมือนเชน่ ในตอนนี ้ ก็พอชว่ ยให้ขนมปังรสชาติจืดชืด พอก้อมแกล้มประทงั ชีวิตไป ได้ ตลาดใจกลางเมือง เห็นคนเขามงุ ดอู ะไรก็ไมร่ ู้เตม็ ถนนสองข้างทาง เลยรีบ เข้าไปดู ปรากกฎวา่ เป็นขบวนแห่ของลามะท่ีสวมหมวกแดงเหมือนหงอนไก่ที่เคยเห็นในหนงั สือ และสารคดีท่องเท่ียว เดินขบวนร่วมกบั เหลา่ บรรดาเณรน้อยที่ เดนิ เป่ าปี่ ตีกลอง ผ่านใจกลาง
ถนน ทา่ มกลางความสนใจของเหล่าชาวเมืองเลห์และนกั ท่องเที่ยวชาวตะวนั ตก ท่ีตา่ งก็กดชตั เตอร์กนั ยกใหญ่ บางคนวิ่งตามขบวนแห่ของลามะ ดกั หน้าดกั หลงั เหมือนปาปารัตซี่ก็ไม่ปาน ผมก็ไม่รู้วา่ จะมีงานแบบนีด้ ้วย เพียงแค่บงั เอิญผา่ นมาเห็น แม้ว่าจะไม่รู้วา่ ลามะเหลา่ นนั้ แห่ขบวน เพอ่ื จดุ ประสงค์ใด แตก่ ็ถือว่าโชคดีที่ได้ดทู นั แม้ว่าจะไม่กี่นาที แล้วขบวน แหก่ ็เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนหายลบั ไปกบั ตา แล้วทกุ อยา่ งก็กลับส่ปู กตอิ ยา่ งรวดเร็ว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขนึ ้
บรรยายภาพ - หนุ่มมุสลมิ ขายขนมปังหน้าร้าน ใจกลางเมืองเลห์ ตลาดกลางเมืองเลห์ คือความมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นร้านขาย ของท่ีระลกึ ให้กบั นกั ทอ่ งเท่ียว ผลิตผลทางการเกษตรท่ีส่วนมากจะเป็นหวั สว่ นพชื ผกั สีเขียวเป็ น ต้นเป็นใบนนั้ คงจะหายากเตม็ ทน ในชว่ งหน้าหนาวแบบนี ้ เดินไปท่ีไหนก็น่าสนใจไปหมด แม้ไม่มี มมุ ไหนท่ีนา่ สนใจมากนกั แตก่ ็ไมน่ ่าเบื่อ แคไ่ ด้เดนิ ดชู าวบ้าน เอาผลติ ผลทางการเกษตรมา วางขาย ไม่ว่าจะเป็ นหวั มนั แกว มนั ฝรั่ง หอม กระเทียม ก็สร้างความประทบั ใจแล้ว นอกจากนนั้ ยงั มีผลไม้ตากแห้ง ไม่ว่าจะเป็นเมล็ด Almond , walnut , apricot มากมายหลายเจ้า เต็มสอง ทางเดินฟตุ ปาท ร้านขายของท่ีระลกึ จาพวกกระเป๋ า ย่าม ถงุ มือ ผ้าพนั คอ หมวกไหมพรม สีสนั สดใสละลานตา ก็ดนู า่ ซอื ้ หา แม้ไมไ่ ด้จบั จองเป็นเจ้าของ แคไ่ ด้เดินดกู ็สร้างความเพลนิ เพลนิ ได้ แล้ว ทงั้ สินค้าคนท้องถิ่นและสินค้าท่ีนามาจากท่ีอื่น ทงั้ เคร่ืองประดบั ต่างหู เสือ้ ผ้า ผ้าคลมุ ไหล่ สร้อยคอพร้อมจี ้ สร้อยคอลกู ปัด โดยเฉพาะลกู ปัดโบราณอายนุ บั พนั ปี แบบ ลกู ปัดทราวดีซงึ่ ผม สะสมอยู่ แตพ่ อเห็นราคาของมนั แล้ว คงต้องถอย เพราะไม่แน่ใจวา่ มนั เป็นของแท้เก่าแก่จริงหรือ เปล่า Thupstan นอกจากจะเป็นเจ้าของเกสเอ้าท์แล้วเขายงั มีร้านหนงั สือนา่ รักที่ตงั้ อยู่ ใจกลางเมืองเลห์ ซง่ึ เป็นร้านหนงั สือสารคดีท่องเท่ียว พ๊อกเก๊ตบ๊คุ ภาษาต่างๆ ไว้แลกเปลี่ยน ซอื ้ ขายกนั นอกจากนนั้ ยงั มีโปสการ์ดสถานท่ีแสนสวยทว่ั ลาดกั ไม่วา่ จะเป็นวดั ต่างๆ ทะเลสาบปัน กอง ทะเลสาบโมริริ และววิ เทือกเขาหมิ าลยั อนั สงู เสียดฟ้ า แต่ที่สะดดุ ตาผมมากที่สดุ คือ ภาพโปสการ์ดชนเผ่าดอกไม้ ไมว่ ่าหญิงหรือชายจะ มีดอกไม้ตดิ ไว้บนหวั ผมพอจะทราบข้อมลู ของชนเผา่ นีม้ าบ้าง โดยเฉพาะเร่ืองท่ีทาเอาผมทง่ึ มาก ว่า ชนเผา่ นีอ้ าบนา้ แคเ่ ดือนละครัง้ เท่านนั้ ผมถาม Thupstan เขาบอกวา่ ชนเผา่ นีอ้ ยไู่ กลจากตวั
เมืองพอสมควร ผมชว่ ยอดุ หนนุ ภาพโปสการ์ดซะหลายใบ จ้องมองภาพเหลา่ นนั้ แล้วได้แต่ถอน หายใจด้วยความเสียดายพร้อมกบั สบถ ด้วยความอาฆาตอยใู่ นใจ “ ฝากไว้ก่อนเถอะ คราวหน้าผมจะกลับมาแก้แค้นให้ได้ ” ผดั ผกั อาหารเย็น ตามคาพดู ของคณุ แมบ่ ้าน ไม่น่าเชื่อว่าจะได้กินผกั ปลอด สารพษิ ที่อยใู่ นโรงเรือนพลาสตกิ วนั นีไ้ ด้กินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากนั เหมือนเมื่อวาน มีญาติ ของเจ้าบ้านและสมาชิกใหม่ ลกู จ้างชาวเนปาล มาเพม่ิ บรรยากาศดเู ป็นกนั เอง นี่ถ้าพกั ตาม โรงแรมคงไมไ่ ด้ บรรยากาศแบบนี ้ รสชาติผดั ผกั วนั นี ้ เป็ นผดั ท่ีแยท่ ี่สดุ ท่ีเคยกิน มนั จืดชืดไร้ รสชาติเหมือนอาหารมือ้ ท่ีผา่ นมา เพราะไมไ่ ด้ใส่ ซอสถว่ั เหลือง ซีอวิ ้ ขาว นา้ มนั หอย ไมก่ ลม กลอ่ มเหมือนผดั ผกั เมนโู ปรดของผมท่ีเคยกิน แต่ผมก็รู้สกึ ดีที่ได้ร่วมวงทานอาหารกบั สมาชิกของ ครอบครัว รสชาติอาจไม่สาคญั เท่าบรรยากาศและความรู้สกึ
บรรยายภาพ - วัด Sankar gompa
ตอนที่ 7 มุ่งหน้าสู่แคชเมยี ร์ จา่ ยเฉพาะคา่ ห้อง 2 คืน 500 รูปี ประมาณ 265 บาท ซงึ่ ถือว่าถกู มาก ส่วน อาหาร thupstan และคณุ แมบ่ ้านไม่คิดแม้แต่รูปี เดียว สองสามีภรรยาใจดีกบั ผมมาก อาจจะเป็น เพราะถกู ชะตากบั ผม ด้วยความท่ีเป็นชาวพทุ ธเหมือนกนั นบั ถือศาสดาองค์เดียวกนั หรืออาจจะ มีทศั นคติที่ดีตอ่ คนไทยหรืออะไรผมก็ไม่ทราบ แต่ผมรับรู้ถงึ ความอบอนุ่ เป็นกนั เอง เมื่อมาพกั ท่ีนี่ แม้จะเป็นระยะเวลาแค่ 2 วนั เหมือนเป็นสมาชกิ ของครอบครัวมากกว่า แม้วา่ ครอบครัวนีจ้ ะทา ธรุ กิจ แต่ก็ไมไ่ ด้ยดึ มนั่ ผลประโยชน์แคอ่ ยา่ งเดียว ถ้าเป็นไปได้ผมไมอ่ ยากจะจากที่น่ีไปเลย อยากจะอย่ทู ี่น่ีสกั 7 วนั stazin โทรมาบอกว่ามารับผมไปสนามบนิ ไม่ได้เพราะวนั นีต้ ้องพาแขกไปเท่ียว แตเ่ ช้า thupstan เลยต้องขบั รถไปสง่ ผมเองที่สนามบินเอง โดยมีแมห่ นนู ้อยแก้มแดงหลานสาว แสนซน ร้องขอไปด้วย โบกมือลาคณุ แมบ่ ้านเธอบอกวา่ ถ้ามาคราวหน้าให้มาพกั กบั ครอบครัวเธอ อีก ผมต้องหาโอกาสมาเย่ียมเยือนที่น่ีอีกให้ได้ มีหลายอยา่ งท่ีผมพลาด ไม่วา่ จะเป็น วดั อีกหลายแหง่ ทะเลสาบปันกอง ชนเผ่าดอกไม้ และวถิ ีชีวิตของชาวทเิ บตที่อยนู่ อกเมือง ถ้าบญุ
ถึงผมก็อยากมาหน้าร้อนและเดินทางด้วยรถประจาทาง จากมะนาลีมา เมืองเลห์ ทิวทศั น์ข้าง ทางคงจะสวยมากและอยากจะไปแคชเมียร์ด้วยรถประจาทางเช่นกนั เสียงคยุ กนั จอแจเป็นภาษาไทย ที่แสนจะค้นุ เคย ถ้าเป็นที่อื่น คงไม่ใชเ่ รื่องแปลก นกั แต่ชว่ งนีอ้ ย่ใู นช่วงวนั หยดุ ยาว เทศกาลสงกรานต์ของไทย ลาดกั คือจดุ หมายปลายทางที่คน ไทยใฝ่ ฝัน เพราะความเป็นเมืองร้อนท่ีไม่มีภเู ขาหิมะสวยแบบลาดกั นน่ั เอง ด้วยความที่พดู ภาษา เดียวกนั ทาให้เราค้นุ เคยกนั อย่างรวดเร็ว คนไทยกล่มุ นีม้ าด้วยกนั 9 คน ต่างก็แชร์ข้อมลู วา่ ไปเท่ียวไหนกนั มาบ้าง การท่ีพวก เขามากนั เป็นกล่มุ เลยสามารถเหมารถไปเที่ยวนอกเมืองได้ ซงึ่ ตา่ งกบั ผม หวั เดียวกระเทียมลีบ อยากจะไปไหนต้องเหมารถไปคนเดียว ไมม่ ีคนหาร ถ้าผมมาหน้าทอ่ งเท่ียว ก็คงไม่มีปัญหา “ กระเป๋ าเสือ้ ผ้าของใคร ช่วยไปยืนยนั ด้วยครับ ” เจ้าหน้าท่ีสนามบนิ ชีไ้ ปท่ี กระเป๋ าที่เหลืออย่ใู บเดียว “ ของผมเองครับ ” มวั แต่คยุ เพลิน คนอ่ืนเขาออกไปยืนยนั กระเป๋ ากนั หมดแล้ว เน่ืองจากลาดกั และแคชเมียร์เป็นชายแดนท่ีมีความอ่อนไหวทางการเมืองสงู จงึ ต้องเข้มงวดในเร่ืองความปลอดภยั เป็นพเิ ศษ เม่ือเชค็ อนิ แล้ว ก่อนนากระเป๋ าขนึ ้ เคร่ืองบิน ผ้โู ดยสารต้องไปยืนยนั ความเป็นเจ้าของ สมั ภาระของตน Air india ทะยานขนึ ้ ฟ้ า พร้อมกบั วิวทวิ ทศั น์ ภเู ขาหมิ ะเป็ นร้อยเป็นพนั ลกู สวยงาม อยากจะเอือ้ มมือไปจบั หิมะสาวสะอาดจงั เลย สกั พกั พอพ้นภเู ขาหิมะก็มาถงึ อีกน่าน ฟ้ า มองลงไปเหน็ ทงุ่ สีเขียวและสีเหลืองอร่ามเตม็ ท้องทงุ่ แสดงว่ามาถึงแคสเมียร์แล้ว ผมคิดว่ามนั นา่ จะเป็นเป็ นทงุ่ ดอกมสั ตาร์ด ภาพถ่ายใหญ่ยกั ษ์ภเู ขาหิมะ ของกลุ มาร์คที่ตดิ อยทู่ ี่สนามบิน ทาเอาผมถึงกบั ตกตะลงึ หมิ ะสีขาวสะอาดปกคลมุ เทือกเขาอนั สลบั ซบั ซ้อน ตดั กบั ต้นสนสีเขียวขจี อยใู่ ต้ท้องฟ้ า อนั สดใส การทอ่ งเท่ียวอินเดียโปรโมทวา่ น่ีคือ สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย พร้อมกบั บอก
งบประมาณเปรียบเทียบระหว่างกลุ มาร์คกบั สวิสเซอร์แลนในราคาท่ีแตกตา่ งกนั มาก แต่ได้ บรรยากาศแบบสวิสเซอร์แลนด์ มนั เป็ นภาพท่ีสวยมาก จนผมชกั จะอดใจไมไ่ หวอยากเจอของ จริงเร็วๆเสียแล้ว เจ้าหน้าที่สนามบนิ บอกวา่ เมื่อวานนีม้ ีกลมุ่ คนไทยมาที่เมืองศรีนาการ์ประมาณ 300 กว่าคน ซง่ึ สว่ นใหญ่มากบั ทวั ร์ ทาเอาประหลาดใจ ไมน่ า่ เช่ือว่าคนไทยจะเยอะขนาดนี ้ งาน นีค้ งได้เจอคนไทยทว่ั เมืองศรีนาการ์แนๆ่ ผมยงั ลงั เลวา่ จะขอตามไปกบั กล่มุ คนไทย หรือว่าจะฉายเดี่ยวดี เพราะเห็นกลมุ่ นนั้ ต่อรองกบั นายหน้าโรงแรมยือ้ กนั ไปยือ้ กนั มานานเหลือเกิน จนคนท่ีมาเท่ียวบินเดียวกนั เขาไป ไหนตอ่ ไหนกนั หมดแล้ว ใจหนงึ่ ก็อยากไปกบั พวกเขาด้วยใจหนง่ึ ก็อยากอย่คู นเดียว และผมก็ไม่ แน่ใจวา่ เขาอยากจะให้ผมไปด้วยหรือเปล่า สาหรับคนท่ีไปไหนมาไหนคนเดียวทกุ ทริปมนั เป็นเร่ือง เลก็ มากสาหรับผม “ จะเข้ารวมกล่มุ กบั พวกเราไหมคะ ” หนง่ึ ในสมาชิกเอ่ยปากขนึ ้ มา ผมรอคาถาม นีม้ านานแล้ว 10 ชีวิตก็ม่งุ หน้าส่เู มืองศรีนาการ์เสียทีด้วยรถตู้ คืนนีจ้ ะนอนบนบ้านเรือท่ี ทะเลสาบดาล ( Dal Lake )ซงึ่ ดเู หมือนจะเป็นข้อบงั คบั ท่ีใครมาศรีนาการ์แล้วไมไ่ ด้นอนบ้านเรือ ดู เหมือนจะมาไม่ถึงแคชเมียร์ วนั นีผ้ มขอเป็นผ้ตู ามแล้วกนั หวั หน้ากลมุ่ เอาไงก็เอากนั มากบั เขาก็ ต้องเป็นผ้ตู ามท่ีดีอย่าเรื่องมาก เพราะตอนนีเ้รากาลงั จะลงเรือลาเดียวกนั แล้วน่ี แถมยงั เป็นเรือ สดุ พเิ ศษ ช่ือวา่ ชิคารา(Shikara) ซะด้วยสิ
บรรยายภาพ – ชีวิตชีวาสีสันของทะเลสาบดาล หลงั จากที่จดั การเรื่องตา่ งๆในเมืองเสร็จแล้ว กล่มุ สาวๆขอกลบั ไปพกั ผอ่ นท่ีบ้าน เรือ เพราะคงเหน่ือยหน่ายกบั การต่อรองกบั เอเจนซ่ีท่องเท่ียวของอินเดีย นี่ขนาดแนะนาจาก หนงั สือ Lonely Planet แล้วยงั ไม่น่าเช่ือถือพดู จาวกวนั ไปมาดไู ม่น่าไว้ใจทาให้เสียเวลามาก เลย ทาให้พวกเราพลาดไปไมท่ นั เวลาชมสวนดอกทิวลิป เพราะเลยเวลาปิดทาการแล้ว พ่ีนนท์ก็เลยชวนผมน้องต้นและสาวเจ๊ียบ ไปเดนิ เล่นในเมืองเก่า โดยเหมา รถต๊กุ ต๊กุ ตอนแรกกะว่าจะขนึ ้ รถเมล์แตพ่ อเห็นสภาพผ้โู ดยสารแออดั ยดั เยียดล้นทะลกั ออกมา
นอกรถแล้วเปลี่ยนใจทนั ที ดไุ ปแล้วเมืองเมืองศรีนาการ์เป็นเมืองท่ีว่นุ วายพอสมควร รถก็เยอะคน ก็แยะ มาถงึ มสั ยิด Jama Masjid ซง่ึ ป็นมสั ยิด ท่ีเก่าแก่ตงั้ อย่ใู จกลางเมืองเก่า สาหรับ ผ้หู ญิงต้องคลมุ ผมจงึ จะเข้าไปได้ ตรงกลางมสั ยดิ มีนา้ พดุ ้วย ข้างในชาวมสุ ลิมกาลงั ละหมาดกนั อย่พู อดี บางคนก็พาลกู หลานมานง่ั เล่นท่ีสนามหญ้า เด็กๆที่น่ีหน้าตาน่ารักมากกระเดียดไปทาง แขกขาวบางคนก็เหมือนฝร่ัง ได้ถ่ายรูปเดก็ หลายคน โดยเฉพาะเด็กน้อยผ้ชู ายหน้าตาบ้องแบ๊วน่า กอดเหลือเกิน อายปุ ระมาณหนงึ่ ขวบ อารมณ์ดียมิ ้ ส้กู ล้องตลอด โดยมีคณุ แม่นงั่ ดอู ย่ขู ้างๆเห็น พวกเราเอ็นดเู ด็กเธอก็ปล่อยให้พวกเราถ่ายรูปกบั หนนู ้อยตามสบาย พวกเราก็เลยรุมกดชตั เตอร์ ใสห่ นนู ้อยไม่ยงั้ ผมมีความสขุ กบั การถ่ายรูปเด็กๆมาก แตล่ ะคนหน้าตานา่ รักเหลือเกิน ไมว่ ่า จะเดก็ ผ้ชู ายหรือเด็กผ้หู ญิง แม้กระทง่ั ผ้ใู หญ่ก็ชอบให้ถ่ายรูปให้ พอถ่ายเสร็จเราก็โชว์ให้เขาดู พอ เห็นรูปตวั เองแล้วยมิ ้ น้อยยมิ ้ ใหญ่ คงเป็นเพราะคนท่ีนี่ไมค่ ่อยได้มีโอกาสถ่ายรูปเท่าไหร่ บางคนก็ ให้ e-mail ไว้ เพื่อสง่ รูปให้เขา แต่บางคนแคเ่ หน็ รูปตวั เองบนกล้องก็ดีใจแล้ว
ออกจากมสั ยดิ พวกเรามาเดินเลน่ ในเมืองเก่าดวู ิถีชีวิตของชาวศรีนาการ์ เมือง เก่าแหง่ นีช้ ่างสมกบั ช่ือจริงๆบ้านเรือนของที่น่ีเก่าจนเห็นหลงั คาเป็นสงั กะสีสีแดงอมนา้ ตาล ตวั บ้านสร้างจากอิฐสีนา้ ตาลและไม้ปนกนั ไป คนมสุ ลิมที่นี่เป็นมิตรกบั นกั ทอ่ งเที่ยวมากพอเหน็ พวก เราก็ร้ อง “ Thailand Thailand ” ผมถามว่าทาไมถึงรู้วา่ พวกเรามาจากเมืองไทย เขาบอก ว่าตอนนีไ้ ปไหนเจอแต่นกั ท่องเท่ียวไทยเป็นสว่ นใหญ่ ผมก็เลยบอกวา่ เป็ นช่วงหยดุ ยาวของ เมืองไทย คนไทยออกไปเที่ยวต่างประเทศเยอะและเป้ าหมายหนงึ่ ท่ีคนไทยสนใจก็คือแคสเมียร์ แหง่ นีแ้ หล่ะ
เห็นประตบู ้านหลงั หนง่ึ สีสนั ลวดลายงามก็เลยพากนั ไปถ่ายรูปกบั ประตบู ้าน เขา หญิงชาวมสุ ลิมเจ้าของบ้านคงได้ยนิ เสียงพวกเราคยุ กนั ก็เลยเปิดประตอู อกมาดู เชือ้ เชิญให้ เข้าไปในบ้าน พวกเราก็เลยเข้าไปแบบงงๆ ตอนนีเ้ธออย่กู บั ลกู ชายตวั น้อยสองคน พอลกู ชายของ เธอเหน็ กล้องก็ว่งิ เข้าไปในบ้านไปอ้มุ ไก่มาถ่ายรูปด้วย ก่อนกลบั พ่ีนนท์ให้ยาหมอ่ งตราลิงถือลกู ท้อ เจ้าของบ้านเป็นที่ระลกึ ด้วย พี่นนท์บอกวา่ คนอนิ เดียชอบลิง ถ้าเป็นชาวฮินดลู ะก็แนน่ อนเพราะลงิ เป็นพวกเดียวกบั หนมุ านที่ชาวฮินดนู บั ถือ แตช่ าวมสุ ลิมน่ีสผิ มก็ไม่แน่ใจเหมือนกนั แต่ดแู ล้วคน แคชเมียร์ดนู า่ รักเป็นมติ รกบั นกั ท่องเท่ียวมากทีเดียว เดินชมเมืองกนั อย่ดู ีๆก็มีเดก็ นกั เรียนหญิง2 คนมาทกั ทาย คงอยากจะฝึก ภาษากบั ชาวตา่ งชาติ พร้อมกบั ยื่นขนมที่เธอกาลงั เดนิ กินอยสู่ ่งให้เราชิมคนละชนิ ้ สาวเจี๊ยบก็เลย เตือนวา่ อย่ากินหมดทกุ คนนะ อาจจะโดนวางยาก็ได้ เหลือไว้คนหนง่ึ เผ่ือมีอะไรจะได้ตามคนมา ชว่ ย ผมก็อดขนั ในความรอบคอบของเธอไมไ่ ด้ เดนิ คยุ กนั ไปเร่ือยๆเธอก็ชวนพวกเราไปเย่ียมบ้าน เธอ แตด่ ทู า่ ทางจะไกล พวกเราก็เลยไมไ่ ป เพราะตอนนีก้ ็เร่ิมมืดแล้ว พวกเราก็เลยนง่ั รถต๊กุ ต๊กุ กลบั วนั แรกของการมาเยือนแคชเมียร์ของผมมีความรู้สกึ ว่าผมเร่ิมจะหลงรักแคช เมียร์เข้าให้แล้ว ได้มานอนบ้านเรือที่ทะเลสาบดาลสมใจอยาก แถมยงั มีเพ่อื นเที่ยวอีกตา่ งหาก อะไรจะดีขนาดนี ้ จดุ หมายปลายทางอาจไม่สาคัญเท่ากับเร่ืองราวท่เี จอระหว่างทาง มันเป็ นอย่างนีน้ ่ีเอง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128