Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มิติที่1หลักสูตร(1)

มิติที่1หลักสูตร(1)

Published by เดชา โพนทอง, 2021-05-28 07:51:52

Description: มิติที่1หลักสูตร(1)

Search

Read the Text Version

48 ไดด้ ว้ ยตนเอง 11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ต้องเขยี นระบุวิธกี ารประเมินผล ทสี่ อดคล้อง กับเป้าหมายการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระสาคัญ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สมรรถนะสาคัญ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ต้องกาหนดผู้มสี ่วนร่วมในการวัดและประเมินผล อาจนาเสนอ ดงั ตาราง ดังน้ี เป้าหมายการเรียนรู้ หลักฐานแสดงผลการเรยี น วธิ วี ัดผล เครื่องมอื วัดผล ……………………………… จุดประสงค์การเรยี นรู้ ..................................... ............................................ ……………………………… คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ……………………………………… ……………………………… ……………………………… …………………………….. ……………………………………… ……………………………… ……………………………… สมรรถนะสาคัญ …………………………….. 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรียนรู้ เปน็ ภาระงานท่ใี ห้ผู้เรยี นทาเพือ่ แสดงพัฒนาการ ของผู้เรียน ตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวช้วี ัด ท่เี ปน็ รปู ธรรม มรี ่องรอยหลักฐานที่สมั พนั ธ์กบั เปา้ หมาย ได้แก่ 1.1 ผลผลติ : ผลผลติ ของนักเรยี น เชน่ รายงานทเี่ ป็นรปู เลม่ สิง่ ประดิษฐ์ แบบจาลอง แผนภูมิ แฟ้มสะสมงาน ผังมโนทศั น์ การเขยี นอนุทิน การเขียนความเรยี ง คาตอบท่ีผู้เรียนสร้างเอง โครงงาน ฯลฯ 1.2 ผลการปฏิบัติ : การรายงานดว้ ยวาจา การสาธิต การทดลอง การปฏิบตั งิ าน ภาคสนาม การอภิปราย การจัดนทิ รรศการ การสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรียน รายงานผลการประเมนิ ตนเอง ของ ผเู้ รยี น ฯลฯ 2. วธิ ีวัดผล ใหร้ ะบวุ ิธวี ดั ผลตามจุดประสงคก์ ารเรียนรแู้ ละกิจกรรมทจี่ ดั การเรยี นการสอน ให้สอดคล้องและสมั พันธ์ เชน่ การสังเกต การทดสอบ การประเมิน การสอบถาม การสัมภาษณ์ การประเมนิ ตนเอง ฯลฯ เครอ่ื งมือวดั ผล ใหร้ ะบุเครื่องมอื วดั ผลทส่ี มั พันธก์ บั วธิ ีวดั ผล เชน่ การสงั เกต ใช้แบบบันทึกการสังเกต แบบทดสอบ ใชแ้ บบทดสอบ แบบสอบถาม ใช้แบบสอบถาม การสัมภาษณ์ ใชแ้ บบสัมภาษณ์ การประเมนิ ตนเอง ใช้แบบประเมนิ ตนเอง เป็นต้น เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้

49 เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 25๕1 เปน็ เอกสารทางวชิ าการทีส่ ถานศกึ ษาต้องจัดทาแยกเป็นรปู เล่มจากหลักสตู ร สถานศึกษาตามสาระการเรยี นรู้ ท้งั 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพ่อื ให้ครูใชเ้ ปน็ คมู่ ือในการจัดการเรยี นการสอนให้บรรลุวตั ถุประสงค์ของหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 25๕1 และ เพ่อื ความสะดวกของครูในการนาไปใชใ้ นการจัดทาแผนการ จดั การเรยี นรู้ โดยมอี งค์ประกอบทสี่ าคญั ดังน้ี 1. ส่วนท่ี 1 ประกอบดว้ ยสว่ นสาคญั คอื ความนา วิสัยทศั น์ หลักการ จุดมุง่ หมาย สมรรถนะ สาคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ส่วนท่ี 2 ประกอบด้วยสว่ นสาคัญ คือ ทกุ สาระการเรียนรปู้ ระกอบด้วย ทาไมต้องเรยี น...(ใส่ชอ่ื วชิ า)...เรียนร้อู ะไรใน...(ใส่ช่ือวชิ า) คณุ ภาพผูเ้ รยี น ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวทางการวัด ประเมนิ ผล 3. สว่ นท่ี 3 ประกอบด้วยคาอธบิ ายรายวิชาและโครงสรา้ งรายวชิ า 4. สว่ นที่ 4 ประกอบด้วยหน่วยการเรยี นรู้ 5.ส่วนที่ 5 การวดั และประเมนิ ผลกลมุ่ สาระการเรียนรู้.................. 6. เกณฑ์การจบการศกึ ษา เปน็ ส่วนทสี่ ถานศึกษากาหนดคุณสมบัติของผู้ทจี่ ะจบการศึกษา แต่ละระดับ โดยพัฒนาเกณฑ์ดังกล่าวให้สอดคลอ้ งสมั พนั ธ์กับเกณฑก์ ารจบหลกั สูตรแกนกลาง แตส่ ถานศึกษา จะตอ้ งจัดทาระเบียบวา่ ด้วยการวัดและประเมินผลการเรยี นเพอื่ ใชค้ วบคู่กบั หลักสตู ร สถานศกึ ษา  ภาคผนวก  คาส่ังแต่งต้งั คณะกรรมการจดั ทา....... ฯลฯ หมายเหตุ : การจัดทาเอกสารรายวิชาเพิม่ เติมสามารถปรับองคป์ ระกอบของเน้ือหาตามความ เหมาะสม แต่ควรใหค้ รอบคลมุ ทุกองค์ประกอบสาคญั

50 การนาหลกั สูตรสถานศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ไปใช้ การนาหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 255๑ ไปใชน้ ั้น มีขนั้ ตอนตามลาดบั คือ ครนู าโครงสร้างแตล่ ะรายวิชาท่รี ะบุจานวนช่ัวโมงทช่ี ดั เจนของแต่ละหนว่ ยการเรียนรู้ ไปออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ เพื่อไปพัฒนาผเู้ รียนใหบ้ รรลมุ าตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วดั ออกแบบหน่วย การเรียนรู้ทีส่ ะท้อนมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วัด จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นใหน้ กั เรยี นลงมอื ปฏิบตั ิด้วยตนเอง เพ่ือให้เกดิ การเรียนรู้ ครูเปน็ ผจู้ ดั เตรยี มส่ือ นวตั กรรม วัสดุ อปุ กรณ์ แหลง่ การเรยี นรู้ เครอ่ื งมอื และอานวยความสะดวกใหน้ กั เรยี นได้ทากจิ กรรม ครจู ดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ ท่ใี หน้ ักเรียนได้ลงมือปฏิบัติที่ตอบสนองตัวชวี้ ัดในแต่ละหน่วยและแต่ละแผนการจดั การเรยี นรู้ และครูทาการวัด และประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจรงิ ทีส่ อดคล้องกบั ตัวชวี้ ัด และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ พรอ้ มกบั นาผลการวัด และประเมนิ ผลการเรียนรมู้ าปรับปรุงและพัฒนา ให้นักเรยี นแต่ละคนบรรลตุ ามตวั ชี้วัด เต็มตามศักยภาพ ของแตล่ ะคนอย่างตอ่ เนื่อง (ยืนยง ราชวงษ.์ 2561 : 1) การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้เป็นขัน้ ตอนที่สาคัญของการใชห้ ลักสูตรสถานศึกษาเพราะเปน็ การนามาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชีว้ ัดสูก่ ารปฏิบัติในการจัดการเรยี นร้เู พ่ือพฒั นาผู้เรยี น การออกแบบ การจดั การเรยี นรู้ทส่ี านักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเสนอแนะ คอื การออกแบบการจัดการเรยี นรู้ โดยใชเ้ ทคนคิ Backward Design ซง่ึ มี 3 ขน้ั ตอน ดงั นี้ 1. กำหนดเปา้ หมายการเรียนรู้ ทีป่ ระกอบด้วย มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ช้ีวัด สมรรถนะสาคัญ ของผ้เู รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และคุณลกั ษณะผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ทต่ี ้องการให้ผ้เู รยี นเกิด นามาจดั ทาเป็นหน่วยการเรยี นรแู้ ต่ละหนว่ ยการเรียนรพู้ ร้อมกบั ระบรุ หสั มาตรฐานการเรียนรู้ระดับชั้น และตวั ชวี้ ัดที่นามาจดั หน่วยการเรยี นรูท้ ัง้ หมด 1.๑ กาหนดสาระสาคัญสาหรับแตล่ ะหนว่ ยการเรียนรู้ เป็นขอ้ ความท่ีระบุวา่ ผเู้ รียนรู้อะไร มีทักษะอะไร (อาจจะมีคณุ ลักษณะอยา่ งไรดว้ ย) และหน่วยนี้มีคณุ คา่ ตอ่ ผเู้ รียนอยา่ งไรในระยะสั้นและระยะยาวโดยรอ้ ยเรียง ข้อมูลของทกุ ตัวชวี้ ดั และเขยี นเป็น Concept ภาพรวมของหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ีต้องการ ให้เปน็ องคค์ วามรู้ เปน็ ความเขา้ ใจทีฝ่ งั ติดตวั ผเู้ รียนไปเป็นเวลานาน และสามารถนามาใช้ไดเ้ มื่อต้องการซึ่งมีวธิ ีเขียน 4 แนวทาง ไดแ้ ก่ 1.๑.1 เขียนลกั ษณะหลักเกณฑ์ หรือหลกั การ เช่น“พชื จะตอบสนองต่อแสง เสียง และ การสมั ผัส ซ่ึงเปน็ สภาพแวดล้อมภายนอก” “การบวก เปน็ การนาจานวนตงั้ แต่สองจานวนข้ึนไปมา รวมกนั จานวนทไ่ี ดจ้ ากการรวมจานวนต่างๆ เข้าดว้ ยกันเรียกว่า ผลรวม หรอื ผลบวก และใช้ เคร่ืองหมาย + เป็นสัญลักษณ์แสดงการบวก” 1.๑.2 เขยี นลกั ษณะความคดิ รวบยอดเชน่ “พืชและสตั วต์ ้องการอาหาร น้าและอากาศ เพือ่ การดารงชวี ติ และการเจรญิ เตบิ โต” หรอื เขียนแบบความเข้าใจท่คี งทน เชน่ “อาหาร นา้ และ อากาศ เป็นปัจจัยท่ีสาคัญต่อการดารงชีวิตและการเจริญเติบโตของพชื และสตั ว์” “ความเข้าใจจานวน นบั สญั ลักษณ์ที่ใชใ้ นสมการ การบวก ลบ คูณ หาร จานวนนับ และความเท่ากัน ทาให้สามารถแก้ ปัญหา ภายใตข้ ้อจากดั ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวันได้” “การดารงชีวติ ท่ามกลางการเปลย่ี นแปลงโดย ประยกุ ตใ์ ช้แนวคิดปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียงทาใหช้ วี ิตมีความสุข”

51 1.๑.3 เขียนลักษณะกระบวนการ (กรณีทีภ่ าพรวมของหน่วยฯ เนน้ กระบวนการ) เช่น หนว่ ยการเรยี นรู้ทเี่ นน้ กระบวนการแกป้ ัญหา เขียนสาระสาคัญได้ คือ “การวเิ คราะหส์ าเหตุของ ปญั หา อย่างกว้างขวางหลายมิติ กาหนดทางเลอื กในการแกส้ าเหตุของปญั หาอยา่ งหลากหลาย เลอื กทางเลือก ในการแกป้ ัญหาอยา่ ง เหมาะสม ดาเนินการแกป้ ัญหาตามทางเลือกที่กาหนด ประเมินและ ปรับปรุง การแกป้ ัญหาอยา่ งรอบคอบเปน็ ระยะ ๆ ช่วยใหส้ ามารถแกป้ ญั หาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ” 1.๑.4 เขยี นลกั ษณะความสมั พนั ธเ์ ช่น “วิธกี ารดารงชีวติ ของมนุษย์ มผี ลกระทบต่อระบบ นิเวศ ในสายนา้ ” 2. กำหนดหลกั ฐานทเี่ ปน็ ผลการเรียนรู้ของผูเ้ รียน ตามเป้าหมายการเรยี นรู้ท่ีกาหนดใน 1 เป้าหมาย การเรยี นรู้ อาจจะมีหลกั ฐาน (ผลงาน/ชิน้ งาน/ภาระงาน) มากกวา่ 1 อยา่ งก็ได้ เพ่ือเปน็ การยืนยนั สรา้ งความมน่ั ใจ ให้กับครผู ูส้ อนวา่ ผู้เรียนมีความเข้าใจในเรื่องน้นั ๆ จริง และหลกั ฐานทเี่ ปน็ ผลการเรยี นรู้ 1 อยา่ งอาจจะตอบ ไดห้ ลายเป้าหมายกเ็ ปน็ ได้ สามารถเขยี นซ้ากันหลายเป้าหมายได้ เนอื่ งจากเป็นหลักฐานท่ีเป็นผลการเรียนรู้ ของผูเ้ รียนท่ชี ดั เจน 3. ออกแบบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวดาเนนิ การ ดังนี้ 3.1 จัดลาดบั หลกั ฐานทเี่ ปน็ ผลการเรียนรู้ โดยนาหลักฐานท้งั หมดในขน้ั ท่ี 2 (หลักฐานที่ซา้ กนั จดั ลาดบั ครัง้ เดยี ว) ตามลาดับทค่ี รผู ้สู อนจะทาการสอนผูเ้ รียน ใหเ้ ปน็ ลาดบั ที่เหมาะสม 3.2 กาหนดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยนาหลักฐานท่เี ป็นผลการเรยี นรูเ้ ป็นหลกั ในการออกแบบ การจดั การเรียนรู้ เพ่อื ให้ผู้เรียนทากจิ กรรมสร้างผลงาน/ชนิ้ งาน ภาระงานได้ตามที่กาหนด ในขนั้ ท่ี 2 ดว้ ยตวั ของผ้เู รียนเอง โดยครูเป็นคนกาหนดกจิ กรรมให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรูอ้ ย่างเขา้ ใจ แล้วทางานได้บรรลเุ ป้าหมาย การเรียนรูข้ อง หน่วยการเรยี นรู้ทกี่ าหนด การกาหนดกจิ กรรมทีเ่ น้นกระบวนการเรยี นรู้แบบ Active Learning คอื นกั เรยี นมบี ทบาทในการแสวงหาความรูแ้ ละเรียนร้อู ย่างมีปฏสิ มั พันธ์จนเกิดความรู้ ความเข้าใจ นาไป ประยุกต์ใช้ สามารถวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ ค่าหรือสรา้ งสรรค์ส่งิ ตา่ งๆ และพัฒนาตนเองเต็มความสามารถ รวมถงึ การจดั ประสบการณ์การเรยี นรูใ้ ห้ ได้ร่วมอภิปราย ให้ฝึกทกั ษะการสือ่ สาร ทาใหผ้ ลการเรียนร้เู พิ่มขึน้ เปน็ ร้อยละ 70 การนาเสนอผลงานทางการเรียนรูใ้ นสถานการณ์จาลอง ทง้ั มีการฝกึ ปฏิบัติในสภาพจริง การเชอ่ื มโยงสถานการณ์ต่างๆ จะทาให้ผลการเรียนรู้เกดิ ขึ้นถึงรอ้ ยละ90 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ Active learning เปน็ สง่ิ สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถึงความคิดทแ่ี ตกต่าง ของนักเรียน เราจะเห็นว่ารูปแบบการเรยี นการสอนที่ผสู้ อนใชม้ ากท่ีสุดคือการพดู และผู้เรียนเป็นผูฟ้ งั แต่การเรียน การสอนใน ลักษณะนีจ้ ะไมส่ ามารถพัฒนาใหผ้ ู้เรยี นนาความรู้ท่ีไดจ้ ากการเรยี นในห้องเรยี นไปปฏบิ ัตไิ ด้ดดี งั นั้น ผู้สอนต้องสร้างโอกาสใหน้ ักเรียนไดม้ สี ว่ นร่วมทาหนา้ ท่เี พ่ือชว่ ยให้นักเรียนเข้าใจและเกิดเป็นแสงไฟแหง่ การเรียนรู้ ของนักเรียนเปน็ สาคญั ต้องใหน้ ักเรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ทัง้ น้ีผสู้ อนจาเป็นต้องหากลยทุ ธ์ต่างๆ ดงึ ดูดใจให้นกั เรยี นเกิดกระบวนการเรยี นรูอ้ ยา่ งนา่ สนใจและเทคนิคตา่ งๆ ที่ใช้ในการเรียนการสอนเพอื่ ใหเ้ กิด ประโยชน์มากทีส่ ดุ กจิ กรรมการเรียนรูแ้ บบ Active Learning มหี ลากหลายวิธี เชน่ Active Reading เป็น การอา่ นบทความแลว้ แลกเปลี่ยนเรยี นร้กู ันแลว้ เขยี นแผนผงั มโนทศั น์ Brainstorming กาหนดหัวขอ้ และเวลา แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกนั อภปิ รายหาข้อสรปุ แล้วนาเสนอแนวคิด Concept Map ลกั ษณะคล้ายการเขียน Mind Map แต่การเขียนแผนผังมโนทศั นจ์ ะแสดงแนวคิดและใช้คาเช่ือมโยงระหว่าง แนวคิด Gallery Walk กาหนดหวั ขอ้ เร่ือง เขยี นแนวคดิ วิธกี าร ลงบนกระดาษโปสเตอรแ์ ลว้ ติดไว้รอบๆ ห้องเพ่ือให้แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ระหวา่ งการเดนิ ชมผลงาน Jigsaw ครผู ู้สอนเลือกเนอื้ หาที่ แบ่งเป็นส่วนๆ แบ่งผเู้ รยี นเป็นกลุ่มสมาชกิ แต่ละคนเลอื ก เนอื้ หาทต่ี นสนใจแล้วไปร่วมกับสมาชิกจากกล่มุ อนื่ เพอ่ื ศึกษาทาความเขา้ ใจหรอื หาคาตอบรว่ มกันในกลุ่ม จากนน้ั กลบั ไปสอนท่ีกลุ่มเดมิ ของตนจนครบถ้วน Problem/Project-based Learning หรือ Case Study

52 ใช้เร่ืองจรงิ หรอื ปญั หาท่ี เกดิ ขึ้นจรงิ ในชุมชน บ้าน โรงเรียนหรอื ท่เี กดิ ขึ้นกบั บุคคลใด บคุ คลหนง่ึ เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียน คิดวเิ คราะหแ์ ละหาทางแกป้ ัญหาท่เี กิดข้นึ โดยการบูรณาการความรู้ ทไี่ ด้เรียนกบั ประสบการณต์ รงหรือสบื เสาะหา ความรู้เพิ่มเตมิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรใู้ นห้องเรยี นไมว่ า่ จะเปน็ การจดั กจิ กรรมรายบุคคล กจิ กรรมคู่ กจิ กรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลมุ่ โครงงานรว่ มกัน การจัดกจิ กรรมควรต้องมกี ารวางแผน ตง้ั วตั ถปุ ระสงค์ กล่มุ เป้าหมาย จัดกิจกรรม เมื่อไร อย่างไร ทส่ี าคัญกุญแจสูค่ วามสาเร็จในการจดั กจิ กรรมนัน้ จะต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ หรือกลวิธใี หม่ๆ พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยเริ่มจากกล่มุ เล็กๆ ใชเ้ วลาในช่วงส้ันๆ โดยควรแจง้ วัตถปุ ระสงค์ ต้ังแตว่ ันแรกให้ผเู้ รียนทราบชดั เจน และเริ่มกจิ รรมต้งั แต่ต้นภาคเรยี น จัดบรรยากาศในห้องเรยี นใหผ้ เู้ รยี นน่ัง เป็นคหู่ รอื เป็นกลุม่ โดยมสี มาชกิ ท่มี ีความสามารถ หลากหลาย การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ี่เอื้อต่อสภาพแวดล้อม คานึงถงึ ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล วิเคราะหป์ ัญหาในการเรยี นรแู้ ล้วนามาแกป้ ัญหาหรอื พัฒนาซ่ึงจะสง่ ผล ตอ่ ผู้เรียนให้มีพฒั นาการ การเรยี นรทู้ ีด่ ขี ้ึน ทันต่อสภาวะโลกปัจจุบันท่มี ีการเปลย่ี นแปลงในหลายๆ ดา้ น อย่างรวดเรว็ การจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้ มีองคป์ ระกอบที่สาคญั ของแผนการจดั การเรียนรู้ คือ สาระสาคัญ มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้วี ดั คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น การบรู ณาการโดยมีการเช่ือมโยงกบั สาระการเรยี นรู้ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้เดยี วกันหรือต่างกลุม่ สาระการเรียนรู้ ที่ผา่ นกระบวนการวิเคราะหว์ ่ามีความสอดคลอ้ งกับสาระการเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั และกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่คี วรมีการ สง่ เสรมิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียนท่สี อดคล้องกับสาระการเรียนรู้สว่ น จดุ ประสงค์การเรียนรคู้ วรเขยี น ใหค้ รอบคลุมพฤติกรรมของผเู้ รียน คอื ด้านพุทธพิ สิ ัย ทกั ษะพสิ ยั และจิตพสิ ยั และสอดคลอ้ งกับตวั ชีว้ ดั ทไ่ี ด้กาหนดไว้ การวดั และประเมินผลการเรยี นรตู้ ้องสอดคลอ้ งกบั ตวั ช้วี ัดและจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การกาหนดเกณฑก์ ารประเมิน ซ่ึงอาจจะประกอบดว้ ย ประเดน็ การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร/เครือ่ งมือ และเกณฑ์การวัดและประเมินผลในสว่ นของสาระการเรยี นรู้ ขอบข่ายของเนื้อหาสาระท่ีแบง่ ย่อยมาจาก หนว่ ยการเรยี นรู้ ทไ่ี ดม้ าจากการออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ การกาหนดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ผู้เรียน เป็นสาคญั โดยมีการระบุ สือ่ วัสดุ อุปกรณ์ แหลง่ การเรียนรู้ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง และสว่ นสาคัญสดุ ท้าย คอื บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้/หลังสอน ที่ควรบนั ทึกให้ละเอยี ดเกยี่ วกับผลการสอนที่สอดคล้องกบั กิจกรรมการเรียนรู้วิธีการวดั และประเมินผล และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ท่ีกาหนดไวใ้ นแผนและเขียนนาเสนอ ปญั หาทเี่ กิดขึ้นจากทจ่ี ัดกิจกรรม รวมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขหรือทางเลือกที่เปน็ ไปได้

53 บทสรปุ กระทรวงศึกษาธกิ ารได้ประกาศใช้หลกั สูตรการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ใหเ้ ป็นหลกั สตู ร แกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจดุ หมายและมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชี้วดั เป็นเป้าหมายและกรอบทศิ ทาง ในการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชวี ิต และมศี ักยภาพในการแข่งขนั เวทีระดบั ชาตแิ ละ เวทีโลก พรอ้ มกันน้ีได้พัฒนาหลักสูตร ให้สอดคลอ้ งกบั พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542และแก้ไข เพ่ิมเตมิ (ฉบบั ท2่ี ) พ.ศ. 2545 ท่ีม่งุ เน้นกระจายอานาจทางการศึกษา ใหท้ อ้ งถ่ินและสถานศึกษามีบทบาทและ มสี ่วนรว่ มในการพฒั นาหลกั สูตร เพือ่ ให้สอดคล้องกบั สภาพความต้องการของท้องถนิ่ ในอดตี สถานศึกษา เปน็ ผู้รบั ผิดชอบใน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหบ้ รรลจุ ุดหมายตามหลักสตู รกลางที่กระทรวงศึกษาธิการ ไดก้ าหนดไว้เท่านน้ั ปจั จุบันแนวความคดิ ดงั กลา่ วเปล่ยี นไป มีการกระจายอานาจและมอบหมายให้สถานศึกษา มอี านาจตดั สินใจในกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น จงึ มผี ู้นา แนวความคดิ นี้บรรจุไว้ในพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 เพื่อใหบ้ งั เกดิ ผลในการปฏิบัติ ดังข้อความในวรรคสอง มาตรา 27 ท่วี า่ ให้สถานศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน มีหนา้ ทจี่ ดั ทาสาระ หลักสตู รตามวัตถุประสงค์ในวรรคหนึง่ ในส่วนท่เี ก่ยี วกบั สภาพปัญหาในชมุ ชนและสงั คม ภูมิปัญญา ท้องถ่ิน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพ่อื เปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี องครอบครวั ชุมชน สังคม และประเทศชาติ (สานกั งานปฏริ ปู การศกึ ษา ม.ป.ป. : 15) ดังนั้น การจดั ทาหลักสูตรสถานศกึ ษาจงึ ควรเกิดจาก ความร่วมมือ ของบคุ ลากรทกุ ฝา่ ยในสถานศึกษา ซงึ่ ไดแ้ ก่ ผู้บรหิ ารสถานศึกษา ครผู สู้ อน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา เพ่ือที่จะพฒั นาหลกั สูตร ให้สอดคล้องกบั สภาพและบริบทของ สถานศึกษาและสอดคล้องกับสภาพความต้องการ พัฒนาการจดั การศึกษาของท้องถิ่น ในการบริหารหลักสตู รหรอื การนาหลักสูตรไปใช้ในสถานศึกษา ไมว่ า่ จะใชโ้ ดยผู้บริหาร สถานศกึ ษา หรอื ครผู ้สู อนท่ี ไดร้ ับมอบหมายให้รับผิดชอบงานทางวชิ าการ หรอื โดยครูผู้สอนกต็ ามนั้น ควรมีความรู้ ความเขา้ ใจเรื่องการพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษา เพราะเป็นส่งิ ท่ีจาเปน็ อย่างยงิ่ ใน การกาหนดเปา้ หมาย ของการพฒั นาผูเ้ รยี นให้มีคุณภาพตามเปา้ หมายของหลกั สูตรการศกึ ษา ระดับประเทศรวมทัง้ ดาเนินการ ประเมนิ ผลการใช้หลกั สูตร เพอื่ ให้เกิดการพัฒนาหลักสูตรสถานศกึ ษาอยา่ งต่อเนือ่ ง

54 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). แนวทางการจัดการเรียนรู้ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา ข้ัน พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศ ไทย. ______. (2553). แนวทางการบรหิ ารจัดการหลกั สตู ร ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศ ไทย. ______. (2553). แนวทางการวัดและประเมินผล ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย. ______. (2553). หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. ______. (2560). มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560). กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. ไตรรงค์ เจนการ.(2550). Backward Design เพือ่ การศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชีว้ ดั และพฒั นา กิจกรรมการเรียนการสอนและการประเมินผล.(พมิ พ์ครั้งที่ 2). กรงุ เทพฯ : สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. นันทวัน ขาสาราญ. การเขียนจดุ ประสงค์การเรียนรู้. (ออนไลน์) เข้าถึงข้อมูลได้จาก https://sites.google.com/site/bthreiyn1234/bth-thi1 (สบื ค้นเมื่อ10 ตลุ าคม 2561). ยนื ยง ราชวงษ์.(2561). การนำหลักสูตรสถานศกึ ษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ไปใช.้ เอกสารประกอบการอบรมปฏบิ ัตกิ ารพฒั นาศักยภาพบุคลากร ตามนโยบายมติ ิคุณภาพ 5 รู้ สกู่ ารปฏิบตั ริ ะดับสถานศึกษา.พระนครศรีอยุธยา : สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2. ถา่ ยเอกสาร. ยืนยง ราชวงษ์ (2548). การวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พอื่ พฒั นาคุณภาพผเู้ รียนอยา่ ง เป็นระบบ. พระนครศรีอยุธยา : สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 1. ถ่ายเอกสาร. สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน. (2561). เอกสารประกอบการประชมุ เชิงปฏิบตั กิ าร พัฒนาบุคลากรหลักเพื่อสร้างความเขา้ ใจ เรือ่ งการนามาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้วี ดั กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตรฯ์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ไปสู่การปฏิบัติ. ถา่ ยเอกสาร.

คำสั่งสำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๒ ที่ 56 / ๒๕๖3 เรื่อง แต่งตง้ั คณะกรรมการจัดทำคมู่ อื 6 มติ คิ ณุ ภาพสกู่ ารปฏิบัติ ********************************* เพอ่ื ใหก้ ารขบั เคลอื่ นการนำหลักสูตรสถานศึกษาสหู่ อ้ งเรยี นได้อยา่ งมีประสิทธิภาพสอดคล้องกบั พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และตามทกี่ ระทรวงศกึ ษาธิการ โดยสถาบันสง่ เสริมการสอน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจัดทำมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชวี้ ัด กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) และสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานได้ดำเนนิ การ จัดทำสาระภมู ิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 และเพอื่ ใหก้ ารจดั ทำหลักสตู รสถานศกึ ษา ตาม หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 เป็นปจั จุบนั และสามารถนำหลักสูตรสถานศกึ ษาสู่ หอ้ งเรยี นไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญตั ริ ะเบยี บบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ.๒๕๔๖ และที่แกไ้ ขเพ่มิ เติม จึงแตง่ ตง้ั คณะกรรมการจัดทำค่มู อื 6 มติ คิ ุณภาพสู่การปฏิบัติ สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 2 ดงั นี้ 1. คณะกรรมการอำนวยการ ผูอ้ ำนวยการสำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา ๑.1 นายบรู พา พรหมสิงห์ ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 2 ประธานกรรมการ 1.2 นายชาญชัย ทองแสน รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษา ๑.๓ นายสมาน บุญจะนะ ประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 รองประธานกรรมการ ๑.๔ นายสุคดิ พนั ธุ์พรม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา 1.๕ นายอดุ มศักด์ิ ปอโนนสงู ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 2 รองประธานกรรมการ ๑.๖ นายสุรยิ นต์ อินทร์อุดม 1.๗ นางสาวศศิธร นาคดิลก รองผูอ้ ำนวยการสำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษา ๑.๘ นางสนุ ยี ์ อุทมุ ทอง ๑.๙ นางสภุ าวดี ปกครอง ประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 รองประธานกรรมการ ผอู้ ำนวยการกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผล กรรมการ การจดั การศึกษา ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการ ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการและเลขานกุ าร ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการและผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร ศึกษานิเทศก์ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ /.....คณะกรรมการ ๒

มหี น้าท่ี : วางแผนการดำเนนิ งานการขับเคลือ่ น ๖ มติ คิ ุณภาพสู่การปฏบิ ัติให้สอดคล้องกับ หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) สภาพเศรษฐกจิ สงั คม ศลิ ปวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ตลอดทง้ั ให้คำปรกึ ษาและใหค้ วามชว่ ยเหลือคณะกรรมการดำเนินงาน 2. คณะกรรมการดำเนนิ งาน ประกอบด้วย ๒.๑ คณะกรรมการจดั ทำคู่มอื ๖ มติ ิคณุ ภาพสูก่ ารปฏิบัติ ๒.๑.๑ มติ ิที่ ๑ การพฒั นาหลักสตู รสถานศึกษา ประกอบด้วย ๒.๑.๑.๑ นางสาวศศธิ ร นาคดิลก ศกึ ษานิเทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๑.๒ นายสุรชยั ไผ่ตง ผอ.ร.ร.บา้ นโคกผักหวานโนนรงั สี รองประธานกรรมการ ๒.๑.๑.๓ นางสนุ ีย์ อทุ มุ ทอง ศึกษานเิ ทศก์ กรรมการ ๒.๑.๑.๔ นางสรอ้ ยทพิ ย์ ทองใหญ่ ครู ร.ร.อนบุ าลศรีธาตุ กรรมการ ๒.๑.๑.๕ นางสกุ ัญญา ศรเี สาวงษ์ ครู ร.ร.บา้ นสวรรค์ราษฎร์ กรรมการ ๒.๑.๑.๖ นางเยาวลกั ษณ์ สุวรรณดวง ครู ร.ร.บา้ นหว้ ยเกง้ิ วัฒนเสรีราษฎรบ์ ำรงุ กรรมการและเลขานุการ ๒.๑.๑.๗ นางสาวอ้อยใจ ปากวิเศษ ครู ร.ร.อนบุ าลศรธี าตุ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๒.๑.๑.๘ นางสาวนธิ ิทัศน์ แก้วเกดิ มี ครู ร.ร.บ้านหว้ ยเกิง้ วัฒนเสรีราษฎร์บำรุง กรรมการและผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร มหี น้าท่ี จดั ทำคู่มือการพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา หลกั สูตรปฐมวยั ระเบียบการวดั ผลประเมินผล กรอบหลกั สตู รท้องถ่ินของเขตพนื้ ที่การศึกษา และอ่ืนๆทเี่ กย่ี วข้อง พรอ้ มทงั้ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของเอกสาร ก่อนจัดทำเป็นรูปเลม่ ท่สี มบรู ณ์ ๒.๑.๒ มติ ิที่ ๒ การจดั การเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย ๒.๑.๒.๑ นายสุริยนต์ อนิ ทร์อดุ ม ศึกษานเิ ทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๒.๒ นางสาววรศิ รา เชญิ ชม ศกึ ษานเิ ทศก์ รองประธานกรรมการ ๒.๑.๒.๓ นางทับทิม ภคู รองทอง ครู ร.ร.บา้ นกุดขนวน กรรมการ ๒.๑.๒.๔ นางนงลักษณ์ ทองมาศ ครู ร.ร.บา้ นหนองประเสรฐิ กรรมการ ๒.๑.๒.๕ นายวราวฒั น์ โสภารัตน์ ครู ร.ร.อนบุ าลศรธี าตุ กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร มหี นา้ ที่ จัดทำคู่มือการจดั การเรียนรู้ จติ วิทยาการเรยี นรู้ และอนื่ ๆที่เก่ียวข้อง พร้อมท้ัง ตรวจสอบความถกู ต้องของเอกสารก่อนจัดทำเปน็ รปู เลม่ ทสี่ มบรู ณ์ ๒.๑.๓ มติ ิที่ ๓ การใชส้ อื่ /ส่ือเทคโนโลยี ประกอบดว้ ย ๒.๑.๓.๑ นายปรดี า พงษ์วุฒนิ ันท์ ศกึ ษานิเทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๓.๒ นายณัฐชา ทัศนิยม ผอ.ร.ร.บ้านบะยาว รองประธานกรรมการ ๒.๑.๓.๓ นายพีระพัฒน์ อนุรกั ษ์ ครู ร.ร.บา้ นคำเตา้ แกว้ หินลาด กรรมการ ๒.๑.๓.๔ นายมนวฒั น์ คำรินทร์ ครู ร.ร.บา้ นดงเมอื ง (ดงเมอื งวทิ ยา) กรรมการ ๒.๑.๓.๕ นางสาวพัชรินทร์ นาคดิลก ธุรการ ร.ร.อนุบาลโนนสะอาด กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานุการ มหี น้าที่ จัดทำคู่มอื การใชส้ อื่ /ส่ือเทคโนโลยี และอน่ื ๆทเ่ี กี่ยวข้อง พร้อมท้ังตรวจสอบความถกู ต้อง ของเอกสารกอ่ นจดั ทำเป็นรูปเลม่ ทีส่ มบรู ณ์ /2.1.4... ๓

๒.๑.๔ มติ ทิ ่ี ๔ การวดั และประเมินผล ๒.๑.๔.๑ นางฐิตินันท์ อุปการ ศึกษานเิ ทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๔.๒ นางจริ ะพร เสนาภักดี ครู ร.ร.อนบุ าลประจกั ษ์ศิลปาคม รองประธานกรรมการ ๒.๑.๔.๓ นางสุธารี แสงกลา้ ครู ร.ร.บา้ นดงกลาง กรรมการ ๒.๑.๔.๔ นางปิยฉัตร จติ รดี ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการและเลขานกุ าร มหี น้าท่ี จัดทำค่มู อื การวัดและประเมินผล และอืน่ ๆท่เี กยี่ วข้อง พร้อมทั้งตรวจสอบความถกู ต้อง ของเอกสารก่อนจัดทำเป็นรปู เล่มท่สี มบูรณ์ ๒.๑.๕ มติ ิที่ ๕ การนเิ ทศภายใน ๒.๑.๕.๑ นายอุดมศกั ด์ิ ปอโนนสงู ผอ.กลุ่มนิเทศฯ ประธานกรรมการ ๒.๑.๕.๒ นายสทุ ธริ ักษ์ แสงนาค ผอ.ร.ร.บา้ นเหลา่ หมากบา้ เชยี งสม รองประธานกรรมการ ๒.๑.๕.๓ นางสาววิมล เถาวัลย์ ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ ๒.๑.๕.๔ นางรดั ดา วทิ ยากร ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการและเลขานกุ าร มหี นา้ ที่ จดั ทำคู่มือการนิเทศภายใน และอน่ื ๆท่เี กย่ี วขอ้ ง พรอ้ มท้งั ตรวจสอบความถกู ต้อง ของเอกสารก่อนจัดทำเป็นรูปเล่มที่สมบรู ณ์ ๒.๑.๖ มติ ิที่ ๖ การวจิ ยั ในช้นั เรียน ๒.๑.๖.๑ นางสุภาวดี ปกครอง ศึกษานิเทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๖.๒ นางจุรีพร ช่นื นริ ันดร์ ครู ร.ร.บา้ นกุดขนวน กรรมการ ๒.๑.๖.๓ นางสาวจนั ทร์สดุ า ลี้พงษ์กลุ ครู ร.ร.บ้านเมอื งปัง กรรมการ มหี น้าท่ี จดั ทำคู่มือการวิจัยในชั้นเรียน และอืน่ ๆทีเ่ กย่ี วขอ้ ง พร้อมท้งั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ของเอกสารกอ่ นจัดทำเปน็ รูปเล่มท่สี มบูรณ์ ๒.๒ คณะกรรมการจัดทำรปู เลม่ เอกสาร ประกอบดว้ ย ๒.๒.๑ นายสุรชัย ไผ่ตง ผอ.ร.ร.บา้ นโคกผกั หวานโนนรังสี ประธานกรรมการ ๒.๒.๒ นายณฐั ชา ทศั นยิ ม ผอ.ร.ร.บา้ นบะยาว รองประธานกรรมการ ๒.๒.๓ นายพีระพัฒน์ อนรุ ักษ์ ครู ร.ร.บ้านคำเต้าแก้วหนิ ลาด กรรมการ ๒.๒.๔ นายวราวฒั น์ โสภารตั น์ ครู ร.ร.อนบุ าลศรธี าตุ กรรมการ ๒.๓.๕ นายมนวฒั น์ คำรินทร์ ครู ร.ร.บ้านดงเมือง (ดงเมืองวิทยา) กรรมการและเลขานกุ าร มหี นา้ ท่ี ออกแบบและจดั ทำปกเอกสารคมู่ ือ ๖ มติ คิ ุณภาพสูก่ ารปฏบิ ัตทิ กุ มติ ิ ทง้ั น้ีให้ผไู้ ด้รับการแตง่ ตงั้ ปฏิบัตหิ น้าทที่ ี่ได้รบั มอบหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และบรรลุตามวตั ถปุ ระสงค์ ทต่ี ัง้ ไว้ ต้ังแตบ่ ดั นเ้ี ปน็ ตน้ ไป สัง่ ณ วันท่ี ๒ เดอื น มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๓ (นายบูรพา พรหมสงิ ห์) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook