Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book

E-book

Published by รออายู มาหะมุ, 2021-12-27 17:28:26

Description: E-book

Search

Read the Text Version

คำศัพท์ ไวยำกรณ์ และสำนวนภำษำอังกฤษท่ี จำเป็ นต้องใช้ในงำนวิชำกำร และกำรศึกษำข้ันสงู

คำศัพท์ ไวยากรณแ์ ละสำนวนภาษาองั กฤษที่จำเป็นต้องใชใ้ นงานวชิ าการ และการศกึ ษาข้นั สูง 1. คำศพั ท์ (Vocabulary) ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย abstract บทคดั ย่อ achievement สมั ฤทธผิ ล adult education การศึกษาผู้ใหญ่/ผ้มู ีประสบการณ์ andragogy ศาสตร์การสอน(ผู้ใหญ่/ผู้มีประสบการณ)์ analogy การเปรียบเทียบ assignment การมอบหมาย audience ผ้ชู ม ผูด้ ู, ผู้ฟงั assessment การประเมนิ bibliography บรรณานุกรม behavioral objective วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม brain-based Learning การเรียนรโู้ ดยใช้สมองเปน็ ฐาน case-based learning การเรียนร้โู ดยใช้กรณเี ป็นฐาน citation การกล่าวอ้าง clarify ทำให้เขา้ ใจงา่ ย coherent ซึง่ สอดคล้อง ซึ่งเห็นพอ้ งตรงกนั cognition ปญั ญา compare เปรยี บเทยี บ

ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย competency สมรรถนะ/ความสามารถ competency-based teaching การสอนแบบเน้นความสามารถ comprehension ความเขา้ ใจอยา่ งลึกซงึ้ conation เจตจำนง/ประสงค์ (พลงั ขับเคลอ่ื นส่กู ารแสดงออก/ปฏิบัต)ิ conclusion ส่วนสุดท้าย contrast ความแตกตา่ ง ความตรงกนั ขา้ ม contemplative education จติ ตปญั ญาศกึ ษา document ใช้เอกสารประกอบ ใชเ้ อกสารยืนยัน, ยืนยันดว้ ยเอกสาร draft ฉบบั รา่ ง, ร่าง edit แก้ไข ทำให้ถกู ต้อง essay ความเรยี ง ขอ้ เขียน, บทความ, เรียงความ evaluation การประเมินผล experiential learning การเรียนรผู้ า่ นประสบการณต์ รง footnote เชิงอรรถ คำอธบิ ายท่พี ิมพไ์ ว้ส่วนลา่ ง formative assessment การประเมินช่วงพฒั นา general objective วัตถปุ ระสงค์ทั่วไป grading system ระบบเกรด heutagogy ศาสตรก์ ารสอนผู้อาศัยความมุ่งม่ันแห่งตนในการเรียนรู้ information สารสนเทศ introduction การแนะนำตวั

ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย inquiry-based learning การเรียนร้โู ดยใช้การสบื ค้นเปน็ ฐาน inspiration แรงบัลดาลใจ knowledge ความรู/้ องคค์ วามรู้ learning approach แนวทางการเรยี นรู้ learning curve เสน้ โคง้ การเรียนรู้ learning experience ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ learning pattern/profile แบบรูป/โพรไฟล์/ขอ้ มลู แสดงลกั ษณะเฉพาะการเรียนรู้ learning progress ความก้าวหนา้ ทางการเรยี นรู้ measurement การวดั ผล metaphor คำอปุ มา คำเปรยี บเทยี บ metacognition, metacognitive ability อภปิ ัญญาหรือการรคู้ ิดในตน, ความสามารถทางอภิปญั ญา motivation แรงจงู ใจ outcome ผลลัพธ์ paradigm กระบวนทศั น์ pedagogy ศาสตรก์ ารสอน (เยาวชน) performance ความสามารถ/การปฏบิ ตั ิการ paragraph ย่อหน้า ตอนหนึ่งของข้อความ paraphrase การถอดความ การแปลความ precise แมน่ ยำ แนน่ อน, ถูกตอ้ ง, เท่ียงตรง problem-based learning การเรียนร้โู ดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน

ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย project-based learning การเรียนร้โู ดยใช้โครงงานเป็นฐาน quotation สิ่งที่อา้ งองิ ถงึ การอา้ ง, คำอา้ งองิ research การวิจัย การศกึ ษา, การค้นคว้า research-based learning การเรยี นรโู้ ดยใช้การวิจยั เป็นฐาน scope ขอบเขต ขอบข่าย source ต้นกำเนดิ ทม่ี า, แหลง่ กำเนิด standard-based assessment การประเมนิ ฐานมาตรฐาน standard-referenced assessment การประเมนิ องิ มาตรฐาน structure โครง, โครงรา่ ง, แผน style ท่า, ท่าทาง, แบบ summary ทำหัวขอ้ , ยอ่ ใจความ summative assessment การประเมนิ รวมยอด support สนับสนุน taxonomy of educational objective อนกุ รมวธิ านจุดประสงคท์ างการศกึ ษา theme หัวขอ้ ประเดน็ หลกั , ใจความสำคัญ, สาระสำคัญ, แกน่ สาร thesis ข้อสมมุติ topic เร่อื ง, เรอ่ื งพดู transition การเปลี่ยน, การผ่าน transformative learning การเรียนรู้เพ่อื การเปล่ียนแปลง

2. ไวยากรณ์ (Grammar) 2.1 Present Tense (ปัจจบุ ันกาล) กลา่ วถึงเรอื่ งราวในปัจจุบนั • Present Simple Tense โครงสร้าง : S. + V.1 (s/es) หลักการใช้ : บอกเลา่ ขอ้ เท็จจรงิ ทว่ั ไป ของคน สัตว์ สง่ิ ของ สถานที่ … ตัวอย่างประโยค - I eat rice every day. (ฉนั กินข้าวทุกวนั ) - A cat has four legs. (แมวมสี ่ขี า) - The bank opens at 8.30 a.m. (ธนาคารเปิดทำการเวลา 08.30 น.) • Present Continuous Tense โครงสร้าง : S. + is, am, are + Ving หลักการใช้ : บอกเลา่ เหตุการณ์ทกี่ ำลังเกิดข้ึนขณะน้ี หรอื บอกเลา่ เหตุการณ์ทก่ี ำลังจะเกดิ ข้นึ จริงในอนาคต ตัวอยา่ งประโยค - I am eating rice now. (ฉันกำลังกนิ ขา้ วอยตู่ อนน้ี) - I am going to Paris next month. (ฉันกำลงั จะไปปารสี เดือนหน้า) - We are visiting our grandfather tomorrow. (พวกเรากำลงั จะไปเย่ยี มปูพ่ รุง่ นี้) • Present Perfect Tense โครงสรา้ ง : S. + has, have + V3 หลักการใช้ : บอกเล่าเหตุการณ์ทด่ี ำเนนิ เสรจ็ แล้ว หรอื บอกเลา่ เหตกุ ารณท์ ี่ดำเนนิ มาไดใ้ น ระยะเวลาหน่งึ จนถงึ ปัจจบุ นั ตัวอย่างประโยค - I have drunk milk. (ฉนั ดม่ื นมแล้ว (ดม่ื เสร็จแล้ว)) - She has finished her homework. (หล่อนทำการบา้ นเสร็จแล้ว) - My father has lived here since 2007. (พ่อของฉนั อาศยั อยู่ทนี่ ตี่ ้ังแตป่ ี 2007)

• Present Perfect Continuous Tense โครงสร้าง : S. + has, have + been + Ving หลักการใช้ : บอกเล่าเหตุการณ์ทด่ี ำเนนิ มาได้ในระยะเวลาหนงึ่ จนถงึ ปัจจบุ ันคลา้ ย present perfect tense แตเ่ ป็นการเน้นย้ำวา่ ทำอยา่ งตอ่ เน่ือง ตวั อยา่ งประโยค - I have been studying English language since 8 o'clock. (ฉันเรยี นภาษาอังกฤษ (อยา่ งตอ่ เน่อื ง) ตงั้ แต่ 8 โมง) - She has been exercising for 30 minutes. (หล่อนออกกำลงั กาย (อย่างตอ่ เนอื่ ง) เปน็ เวลา 30 นาที) - He has been studying here since 2012. (เขาเรยี นทน่ี ี่ (อย่างตอ่ เนื่อง) ตง้ั แต่ปี 2012 (ไม่เคยยา้ ยไปที่อน่ื )) 2.2 Past Tense (อดีตกาล) กลา่ วถงึ เรือ่ งราวในอดตี • Past Simple Tense โครงสร้าง : S. + V2 หลักการใช้ : บอกเล่าเหตกุ ารณ์ในอดีต ทีเ่ กิดขน้ึ ณ จุดเวลาใดเวลาหนง่ึ ตัวอย่างประโยค - I went to school yesterday. (ฉนั ไปโรงเรยี นเมื่อวานน้ี) - She watched this movie last year. (หล่อนดูหนังเร่ืองนี้ปีท่แี ลว้ ) - Krist visited his parents two weeks ago. (คริสไปเยย่ี มพอ่ แม่ของเขาเมือ่ สองสัปดาหก์ ่อน) • Past Continuous Tense โครงสร้าง : S. + was, were + Ving หลักการใช้ : บอกเลา่ เหตุการณ์ทก่ี ำลังเกิดขึน้ ในอดตี แลว้ มอี ีกเหตกุ ารณ์หนง่ึ แทรกขน้ึ มา ตัวอย่างประโยค - We were eating dinner when dad came home. (พวกเรากำลงั กินข้าวเยน็ อยู่ ตอนที่พ่อมาถงึ บา้ น) - She was taking a bath when my mom called her. (หลอ่ นกำลังอาบนำ้ อยู่ ตอนที่คณุ แมโ่ ทรหาหลอ่ น)

- Mark was driving home when it started to rain. (มาร์คกำลังขับรถกลบั บ้าน ตอนทีฝ่ นเรมิ่ ตก) • Past Perfect Tense โครงสรา้ ง : S. + had + V3 หลักการใช้ : บอกเล่าเหตกุ ารณ์ที่สนิ้ สุดแล้วในอดตี ก่อนจะมอี ีกเหตุการณต์ ามมา ตัวอย่างประโยค - They had had dinner before they went movie. (พวกเขาไดก้ ินข้าว กอ่ นพวกเขาไปดูหนัง) - The train had left when we got to the station. (รถไฟออกไปแลว้ ตอนทเ่ี ราไปถึงสถานี) - I had drunk hot cocoa before I went to bed. (ฉันได้ดื่มโกโกร้ ้อน ก่อนท่ฉี ันเขา้ นอน (ด่มื กอ่ น)) • Past Perfect Tense โครงสร้าง : S. + had + been + Ving หลกั การใช้ : บอกเล่าเหตุการณท์ ่ีเกดิ ขน้ึ ในอดตี และดำเนนิ มาเปน็ ระยะเวลาหน่งึ เนน้ การบอก เวลามากกวา่ การกระทำ ตัวอยา่ งประโยค - I had been waiting for the plane for three hours before it arrived. (ฉนั รอเคร่ืองบินเปน็ เวลา(ตงั้ ) 3 ชั่วโมง (นะ) กอ่ นท่มี ันจะมาถึง) - We had been driving for one hour when we saw that camel. (พวกเราขับรถ (ต้งั ) 1 ชว่ั โมง (แนะ่ ) ตอนทีพ่ วกเราเหน็ อูฐตวั นั้น) - They had been playing football for four hours when it started to rain. (พวกเขาไดเ้ ลน่ ฟุตบอล (ตั้ง) 4 ช่ัวโมง กอ่ นทีฝ่ นเริ่มตก (วนั นี้เล่นได้นาน ปกติไม่เกิน ช่ัวโมงก็ตกแลว้ ))

2.3 Future Tense (อนาคตกาล) กล่าวถึงเร่ืองราวในอนาคต • Future Simple Tense โครงสร้าง : S. + will + V1 หลักการใช้ : บอกเลา่ คาดการณ์เหตุการท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต ตวั อยา่ งประโยค - I will watch Thida Wanon drama this evening. (ฉันจะดูละครธิดาวานรเย็นนี้ (เพ่ือนบอกว่าสนกุ จะลองดูหน่อย)) - You will eat beef steak tonight. (คุณจะกนิ สเตก็ เนอื้ คืนน้ี (คุณเคยบอกไว้ ว่าจะกินคืนนี้)) - She will buy a motorcycle next month. (หลอ่ นจะซ้อื รถจกั รยานยนต์เดือนหนา้ (หล่อนว่าเดนิ ไปเรียนแลว้ เหน่ือย)) • Future Continuous Tense โครงสรา้ ง : S. + will + be + Ving หลกั การใช้ : บอกเล่าเหตกุ ารณ์ทก่ี ำลังเกิดขึ้นอย่ใู นอนาคต ตัวอยา่ งประโยค - I will be going Chiang Mai at 6 o’clock tomorrow. (ฉนั จะกำลงั ไปเชียงใหมเ่ วลา 6 นาฬกิ า วันพรุ่งนี้) - She will be waiting when you arrive. (หล่อนจะกำลงั รอคอย เม่อื คุณมาถงึ ) - At six o’clock, I will be eating dinner with my parents. (เวลา 6 นาฬกิ า ฉนั จะกำลังกนิ ข้าวกบั พอ่ แม่ของฉัน) • Future Perfect Tense โครงสรา้ ง : S. + will + have + V3 หลักการใช้ : บอกเล่าเหตกุ ารณ์ทส่ี ้ินสุดแลว้ ในอนาคต ตัวอยา่ งประโยค - I will have gone office at 7 o’clock tomorrow. (ฉันจะไปถึงสำนกั งานเรียบร้อยแลว้ เวลา 7 นาฬิกา วนั พรงุ่ น้ี) - She will have gone when you arrive. (หลอ่ น(คง)จะไปแลว้ เมอื่ คุณมาถงึ )

- I will have done cooking when my mom gets home. (ฉัน(คง)จะทำกับข้าวเสรจ็ แล้ว ตอนทแี่ ม่มาถงึ ) • Future Perfect Continuous Tense โครงสร้าง : S. + will + have + been + Ving หลกั การใช้ : บอกเลา่ เหตกุ ารณ์ทด่ี ำเนินมาไดร้ ะยะเวลาหนง่ึ ในอนาคต ก่อนมีอกี เหตกุ ารณ์หนง่ึ แทรกเข้ามา ตวั อยา่ งประโยค - I will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow. (ฉนั จะได้กำลังกนิ ข้าวเชา้ เปน็ เวลา 30 นาทีแลว้ ณ เวลา 8 นาฬกิ า วันพร่งุ น้ี) - You will have been waiting for two hours when the plane arrives. (คณุ จะได้กำลงั รอ เป็นเวลาสองชว่ั โมง เมอื่ เคร่อื งบินมาถงึ ) - At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on the farm for two hours. (เวลา 10 นาฬกิ าพรุ่งนี้ พวกเราจะไดก้ ำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชว่ั โมงแลว้ ) 3. สำนวน (Idiom) • A light bulb moment ความหมาย : ปงิ๊ ไอเดยี , ชว่ งเวลาท่ีมคี วามคดิ ดี ๆ ผุดขึน้ ตัวอย่างประโยค : It was a light-bulb moment for me when I am going to travel. (ฉนั มีชว่ งเวลาทมี่ ีความคดิ ดี ๆ ผุดข้นึ ตอนท่ีฉันได้ไปเที่ยว) • A piece of cake ความหมาย : เรอื่ งหมู ๆ ง่ายเหมือนปลอกกลว้ ยเข้าปาก ตัวอยา่ งประโยค : It's easier than I thought. It's a piece of cake. (มนั ง่ายกว่าที่ฉนั คิดไว้ งา่ ยมากเหมอื นปอกกล้วยเขา้ ปากเลยละ่ ) • A storm in a teacup ความหมาย : เร่อื งเลก็ น้อย ทำเรือ่ งเลก็ ให้เปน็ เรือ่ งใหญ่ ตวั อย่างประโยค : Don’t listen to my brother. He’s always making a storm in a teacup. (อย่าไปฟังที่นอ้ งชายฉนั พดู เลย เขาน่ะชอบทำเรือ่ งเล็กใหเ้ ป็นเร่อื งใหญเ่ สมอ)

• Bear in mind ความหมาย : ใหจ้ ำไว้, ตระหนกั ไว้ ตัวอย่างประโยค : Tourists must bear in mind that they are visitors in the forest. Please don't disturb the animals. (นกั ทอ่ งเท่ยี วควรตระหนกั ว่าเขาเป็นผู้เย่ยี มเยยี นในปา่ กรุณาอย่ารบกวนสตั ว์) • Bite off more than you can chew ความหมาย : ทำอะไรเกินตวั , ทำอะไรท่ีเกินความสามารถของตวั เอง ตัวอย่างประโยค : It feels like I bite off more than I can chew when I promised to solve this project in 6 months. (ฉนั รสู้ ึกทำอะไรเกินความสามารถของตัวเองไปหน่อย ทจี่ ะสญั ญาว่าจะแกป้ ัญหาโปรเจกตน์ ้ี ภายใน 6 เดอื น) • Break the ice ความหมาย : ละลายพฤตกิ รรม ตัวอย่างประโยค : It’s always easiest to break the ice after I’ve had a few drinks. (มันงา่ ยสำหรับการละลายพฤตกิ รรม หลังจากท่ีดื่มไป 2-3 แกว้ ) • Burn the candle at both ends ความหมาย : ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตวั อย่างประโยค : I’ve been burning the candle at both ends trying to finish this project in time. (หมูน่ ้ีเราตน่ื แตไ่ กโ่ ห่ ทำงานตอ่ จนถึงดึกด่ืน เพ่อื ทำงานใหเ้ สร็จทันเวลา) • Cut throat ความหมาย : เขม้ ขน้ , รุนแรง, โหด ตัวอย่างประโยค : Scrapping of price fixing legislation led to a cut-throat battle for supermarket customers. (การยกเลกิ กฎหมายการกำหนดราคา ทำให้เกดิ การแขง่ ขันท่ีดุเดอื ดสำหรับลูกคา้ ซุปเปอรม์ ารเ์ กต็ )

• Down the drain ความหมาย : สูญเปลา่ , เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ตวั อยา่ งประโยค : All of my efforts to move on seem to be going down the drain, When he text to me. (ความพยายามจะกา้ วไปขา้ งหน้าของฉนั สูญเปลา่ เม่ือเขาส่งข้อความมาทกั ) • Down the rabbit hole ความหมาย : เจอเรอ่ื งไม่ปกติ, ตกอยู่ในสถานการณท์ ี่ไม่คาดฝนั ตวั อย่างประโยค : I feel down the rabbit hole when I see my friend going with my boyfriend. (ฉนั ตกอยใู่ นเหตกุ ารณ์ท่ีไม่คาดฝัน เมอื่ ฉันเหน็ เพื่อนไปกับแฟนของฉนั ) • Feel at home ความหมาย : ร้สู ึกสบายใจ (กับสถานทห่ี รอื สงิ่ แวดลอ้ ม) ตัวอย่างประโยค : I feel at home when I'm with you. (ฉันรสู้ ึกสบายใจเมื่ออย่กู บั คุณ) • Get a grip ความหมาย : ตั้งสติ ตัวอย่างประโยค : In this situation. You should get a grip. And apology what that you make a mistake. (ในสถานการณแ์ บบนี้ คุณควรตั้งสตแิ ละขอโทษในสงิ่ ทคี่ ณุ ทำผิด) • Get a foot in the door ความหมาย : ผา่ นข้ันเเรกของขัน้ ตอนหรอื กระบวนการที่ยาว ตัวอยา่ งประโยค : Can you help my sister to get her foot in the door. (คุณชว่ ยน้องสาวฉันให้ผา่ นขนั้ แรกไปหนอ่ ยน่ะ) • Get the picture ความหมาย : เข้าใจเร่อื งราวท้งั หมด, เข้าใจสถานการณ์ ตวั อย่างประโยค : When she told me about her work. I get the picture suddenly. (เม่อื เธอพดู ถงึ งานของเธอ ฉันก็เขา้ ใจสถานการณ์ท้ังหมดไดท้ ันที)

• Give someone a hand ความหมาย : ช่วยเหลือ ตวั อยา่ งประโยค : Can you give me a hand putting away these toys? (คณุ ช่วยฉันเก็บของเลน่ เหล่านหี้ นอ่ ยไดไ้ หม) • Hands are tied ความหมาย : ไม่สามารถทำได้ ถงึ แม้จะอยากทำให้ก็ตาม ตัวอย่างประโยค : Unfortunately, our hands are tied because of COVID-19. We can't meet friends at a school. (เสยี ด่ายที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ แม้จะอยากทำก็ตามเพราะ COVID-19 เราไมส่ ามารถไปเจอ เพอ่ื นที่โรงเรียนได้) • Heart in your mouth ความหมาย : อาการประหมา่ ตื่นเต้น ทำตวั ไม่ถกู ตัวอย่างประโยค : I had my heart in my mouth when I saw a stunt show. (ฉันกลวั จนหวั ใจตกไปตาตุ่มเวลาท่ีดูการแสดงผาดโผน) • Jump to conclusions ความหมาย : ด่วนตัดสนิ ใจหรือรีบตัดสนิ ใจ ตวั อย่างประโยค : Don't jump to conclusions. Wait until you know everything. (อย่าเพงิ่ ดว่ นตัดสินใจรอจนกระทง่ั คุณรู้ทุกอย่างก่อน) • Keep posted ความหมาย : คอยสง่ ขา่ วคราว/ความคืบหนา้ , คอยอัพเดตเรื่องราว ตัวอยา่ งประโยค : The doctors kept me posted about my condition. (หมอให้ฉนั คอยสง่ ข่าวความคืบหน้า เกย่ี วกับอาการของฉนั ) • Know something inside out ความหมาย : รแู้ บบละเอยี ดหรือรทู้ งั้ หมด ตวั อย่างประโยค : Why don't you ask your sister ? She know inside out. (ทำไมคณุ ไม่ถสมพ่สี าวคุณ หลอ่ นรทู้ ้ังหมดเก่ียวกบั มัน)

• Learn the ropes ความหมาย : เรยี นรงู้ านใหม่ ๆ ตวั อย่างประโยค : The new-jobber had to learn the ropes for improved their skills. (เดก็ ใหม่ทีเ่ พง่ิ เร่ิมทำงาน ควรทจี่ ะเรียนร้งู านใหม่ ๆ เพอ่ื ที่จะพัฒนาทักษะของตวั เอง) • Raised the bar ความหมาย : เพ่ิมมาตรฐานให้สงู ข้นึ , ยกระดบั , สรา้ งมาตรฐานใหม่ (ให้สูง / ดกี วา่ เดิม) ตวั อย่างประโยค : The Olympic athlete plans to raise the bar by setting a new world record. (นกั กีฬาโอลิมปกิ วางแผนเพอ่ื ท่ีจะเพิ่มมาตรฐานให้สงู ขึน้ เพอื่ ทจ่ี ะสรา้ งสถิติโลกใหม่) • See eye to eye ความหมาย : เหน็ ด้วยกับความคิดเห็นของอกี ฝ่าย ตวั อย่างประโยค : They finally saw eye to eye on the business deal. (ในทีส่ ุดพวกเขาก็ตกลงธรุ กจิ กนั ได้) • Take a leaf out of someone's book ความหมาย : เอาเปน็ ตวั อยา่ ง / เลยี นแบบ / ทำตาม ตัวอย่างประโยค : If you want to lose some weight, you should take a leaf out of trainer's book. (ถ้าคุณตอ้ งการลดนำ้ หนกั คุณควรทำตามเทรนเนอร์นะ) • Up in the air ความหมาย : ยงั ไม่แนน่ อน, ยงั ไมถ่ กู ตดั สินใจ ตวั อย่างประโยค : Everything is still up in the air until Covid-19 situation is better. (ทกุ อยา่ งยังไม่แน่นอน จนกว่าสถานการณ์ COVID-19 จะดีขนึ้ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook