Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อาหารญี่ปุ่น

อาหารญี่ปุ่น

Published by thitipat2, 2021-12-16 08:52:44

Description: อาหารญี่ปุ่น

Search

Read the Text Version

JAFPOAONDESSE นาย ฐิติพัฒน์ โกนาคม ม.6/7 เลขที่ 20 ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 ธันวาคม 2564



อ า ห า ร ค า ว

1. ซูชิ/ซาชิมิ (SUSHI / SASHIMI) เห็นหน้าค่าตาคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกัน มากมาย เพราะเป็นอาหารญี่ปุ่นที่หลายคนคงจะ รู้จักกันมาบ้างแล้ว แต่ต้องแยกกันนิดนึงว่าซูชิ กับ ซาซิมิ แตกต่างกันอย่างไร ซูชิ เป็นข้าวปั้ นชิ้นพอดี คำ มีทั้งแบบห่อและไม่ห่อสาหร่าย ตกแต่งหน้า ด้วยเนื้อปลาหรืออาหารทะเลต่างๆ ซึ่งการเป็นข้าว ปั้ นพอดีคำนั้นทำให้เหราะกับมื้ออาหารที่เริ่งรีบ ส่วนซาซิมิ เป็นประเภทเนื้อปลาหรืออาหารทะเล สดๆ มักจะกินคู่กับ โชยุ วาซาบิ ขิงดอง

2. ราเมน/อูด้ง (RAMEN / UDON) ราเมนเป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่น ซึ่งมีต้น กำเนิดมาจากประเทศจีน มักจะทานกับ เนื้อ หมู สาหร่าย คามาโบโกะ ต้นหอม และ บางครั้งจะมีข้าวโพด ราเมนมีการปรุงรสแตก ต่างกันตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช่นในเกาะ คีวชู ต้นกำเนิดของราเม็งทงกตสึ (ราเม็งซุปกระดูก หมู) หรือในเกาะฮกไกโด ต้นกำเนิดของราเม็งมิโซะ(ราเม็งเต้าเจี้ยว) อุด้งเป็นอาหารญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมชนิดหนึ่ง ทำจากแป้งสาลี ลักษณะเป็นเส้น หนา ยาว มีสี ขาว นิยมรับประทานทานร้อน ๆ ในซุปใส ซึ่งทำ จากดาชิ (หัวเชื้อน้ำซุป) และโชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) และมิริง (เหล้าสำหรับปรุงอาหาร) อุด้งมีชื่อ เรียกหลายชื่อ ขึ้นอยู่กับอาหารที่นำมาวางบน เส้นอูด้ง

3. เนื้อย่าง (YAKINIKU) ยากินิกุ แปลว่าเนื้อย่าง หมายถึงปิ้งย่างแบบญี่ปุ่นที่มักเป็นเตาถ่าน ต่างจากไทย หรือเกาหลีที่ปิ้งย่างบนเตาเหล็กทำให้ได้กลิ่นหอมของถ่าน วัตถุดิบที่นำมาปิ้งมีทั้งเนื้อ สัตว์ เครื่องในและผัก ยากินิกุมักทานกันในมื้อสังสรรค์ เครื่องดื่มต่างๆ และเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์จึงเป็นอีกองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ ยากินิกุ จะต่างจากยากิโทริที่มีความ คล้ายคลึงกัน ตรงที่ความสนุกของยากินิกุจะอยู่ที่การย่างทานเอง ขณะที่ยากิโทริจะมี คนย่างให้

4. เทมปุระ (TEMPURA) เทมปุระ” อาหารขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งที่ได้รับ ความนิยมไม่แพ้ซูชิหรือสุกี้ยากี้ เทมปุระ คือ การนำกุ้ง ปลา ฟักทอง มันเทศ เป็นต้น ไปชุบแป้งที่ผสมไข่แล้วทอด ในประเทศญี่ปุ่น มีร้านขายเทมปุระมากมาย และยังเป็นอาหาร ที่นิยมทำรับประทานกันเองที่บ้านด้วย การทอดเท็มปูระจะใช้ไฟแรง โดยเอาวัตถุดิบ ชุบแป้งบางๆ แล้วลงทอดด้วยระยะเวลาที่สั้น เพียง 30–40 วินาทีเท่านั้น เพื่อคงความสด ของวัตถุดิบให้ได้มากที่สุด

5. หอยนางรม (KAKI) หอยนางรม เป็นหนึ่งในอาหารทะเลที่เป็นที่นิยมของชาวไทย และคนทั่วโลก สามารถ นำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย รสชาติอร่อย สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดๆ และ แบบปรุงสุกในหลายๆ รูปแบบ อบ นึ่ง ผัด ทอด ฯลฯ นอกจากรสชาติอร่อยเป็นเอกลักษณ์ แล้ว หอยนางรมยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างที่น่าสนใจอีกด้วย เช่น 1.แร่ธาตุสังกะสีที่อยู่ในหอยนางรมช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง เพิ่มการตื่นตัว 2.ช่วยบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าได้ด้วย 3.วิตามินบี 1 และ บี 2 ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ และหัวใจ 4.วิตามินซี ช่วยบำรุงผิวพรรณ

6. ไก่ทอดคาราอาเกะ (KARAAGE) ไก่ทอดแบบญี่ปุ่น ทำโดยการนำเนื้อไก่ไปปรุงรสแล้วชุบแป้งสาลีทอดในน้ำมันที่ร้อน จัด ด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่ม มักเสิร์ฟคู่กับกะหล่ำปลีตัดเลี่ยน บางครั้งคาราอาเกะอาจใช้ เนื้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่เนื้อไก่ เช่น ปลา หรือผักต่างๆ และอาจไม่ชุบแป้งก็ได้ แต่จะต้องทอดใน น้ำมันร้อนจัดให้กรอบ อีกอย่างที่มักเห็นมาพร้อมกับคาราอาเกะคือเลม่อน คาราอาเกะจะปรุงรสมาแล้วจึงไม่ ต้องจิ้มซอสอีก คนญี่ปุ่นจะนิยมบีบเลม่อนเพิ่มรสชาติเอา

7. ข้าวหน้าเนื้อ (GYUDON) กิวด้ง หรือที่คนไทยเรียกว่า \"ข้าวหน้า เนื้อ\" เป็นดมบุริอีกประเภทหนึ่ง ส่วนประ กอบหลักๆ ที่เห็นกันประจำก็คือ เนื้อวัว และหัวหอมใหญ่ นำมาตุ๋นแบบที่ทำดม บุริทั่วไป น้ำซอสที่ใช้ปรุงกิวด้งส่วนใหญ่ จะนิยมใช้ผงดาชิต้มทำน้ำซุป แล้วก็ปรุง รสด้วยโชยุและมิริน บางสูตรก็จะใส่เส้นชิ ระตะกิ คือเส้นที่ทำจากวุ้นคนเนียะขุ ลง ไปตุ๋นด้วย เมื่อตุ๋นเสร็จแล้วก็นำไปราด ข้าวทาน ก่อนทานก็จะราดด้วยไข่ดิบ ปกติคนญี่ปุ่นจะทานกับเครื่องเคียง เช่น มีขิงดอง, พริกชิจิมิ (เป็นพริก 7 รสของ ญี่ปุ่น คล้ายกับพริกป่นของไทย) และซุป มิโซะ

8. ข้าวแกงกะหรี่ (KARE RAISU) ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น คือ หนึ่งในเมนูที่เป็นตัวแทนแห่งอาหารญี่ปุ่น แกงกะหรี่สำเร็จรูปมีทั้งแบบก้อนและแบบน้ำ เครื่องที่มักใส่คือมันฝรั่ง แครอท หัวหอม และเนื้อสัตว์ต่างๆ เมื่อเคี่ยวจนข้นแล้วจะราดลงบนข้าว สวยร้อนๆ อาจทานกับผักดองตัดเลี่ยน นอกจากเครื่องในแกงแล้ว แกงกะหรี่ยังนิยมทานกับเมนูของทอด อย่าง ทงคัตสึอีกด้วย เมนูนี้จะเรียกว่า คัตสึคาเร

9. ทาโกะยากิ (TAKOYAKI) ทาโกยากิ (TAKOYAKI) หรือที่เราเรียกว่าขนมครกญี่ปุ่น ทำจากแป้ง ผสมกะหล่ำปลีสับละเอียด หยอดลงในพิมพ์เหล็กทรงครึ่งวงกลม ใส่ ปลาหมึกลงไปตรงกลาง ย่างจนเปลือกแป้งกรอบแล้วประกบฝาสองข้าง เป็นลูกกลม ราดซอส มายองเนส สาหร่ายและปลาย่าง เป็นของขึ้นชื่อ ของคันไซโดยเฉพาะโอซาก้า タコชื่อทาโกยากิ มาจากคำว่า ทาโกะ ( ) ที่แปลว่าปลาหมึกยักษ์ และ 焼きยากิ ( ) ที่แปลว่าปิ้งหรือย่าง ไส้ของทาโกยากิดั้งเดิมจึงเป็น ปลาหมึกยักษ์ แต่ปัจจุบันมีการดัดแปลงไส้หลากหลาย ได้แก่ ข้าวโพด หอยเชลล์ เมนไทโกะ ชีส กิมจิ เป็นต้น

10. ทงคัตสึ (TONKATSU) ทงคัตสึ เป็นอาหารญี่ปุ่น ทำจากเนื้อหมูหั่นเป็นแผ่นหนาราวสอง เซนติเมตร หมักด้วยเกลือและพริกไทย โรยแป้งบาง ๆ ชุบแป้งผสมไข่ และน้ำอันตีจนเหลวเข้ากัน ชุบเกล็ดขนมปังซึ่งเรียก \"ปังโกะ\" (PANKO) อีกชั้น แล้วทอดจนสุก ทงคัตสึจะราดด้วยซอสรสเปรี้ยวอมหวานที่ เรียกว่าซอสทงคัตสึ มักเสิร์ฟคู่กับกะหล่ำ ปลีหั่นฝอย ซึ่งช่วยตัดเลี่ยนได้ดี อาจทาน เป็นเซ็ตกับข้าวและซุปมิโสะ



อาหารหวาน

1. ดังโงะ (DANGO) ดังโงะ (DANGO) เป็นขนมญี่ปุ่นโบราณที่ มีหน้าตาคล้าย ๆ ลูกชิ้นปิ้ง ตัวขนมกลม ๆ นั้น ทำจากแป้งข้าวเจ้า เนื้อแป้งให้ความหนึบ ๆ เวลาทาน ดังโงะนั้นมีหลายประเภท แต่ที่เห็น ทั่วไปจะเป็นแป้งสีขาวเสียบไม้แล้วราดด้วย ซอสโชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) รสเค็ม ๆ หวานๆ นอกจาก นี้ก็ยังมี ฮานามิดังโงะ (HANAMI DANGO) ซึ่งมี 3 สี คือ ชมพู ขาว และเขียว เป็นขนมที่ให้ความ เป็นญี่ปุ่นมาก ดังโงะ เป็นขนมพื้นบ้านของคนญี่ปุ่น ซึ่งสามารถหารับประทานได้ทั้งปี ดัง โงะแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันขึ้น กับวิธีการนำมารับประทานและ ฤดูกาล

2. ไดฟุกุ (DAIFUKU) ไดฟุกุ คือ โมจิประเภทหนึ่ง นำเอา 大福ชื่อไดฟุกุ ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า โชคดี ( ) แป้งข้าวเหนียวมาห่อไส้ถั่วแดงกวน และคลุกผงแป้งด้านนอกให้หยิบได้ จึงถือเป็นขนมที่ชื่อเป็นมงคลและนิยมเป็น สะดวก ปัจจุบันมีการเปลี่ยนไส้ด้านใน เป็นผลไม้ เช่น ส้ม กีวี โดยเฉพาะสต ให้ของฝากหรือให้ในโอกาสต่างๆ รอเบอร์รีที่เรียกกันว่า อิจิโกะไดฟุกุ หรืออาจเปลี่ยนถั่วแดงเป็นถั่วขาว ไดฟุกุมีหลากหลายแบบ ทั่วไปจะเป็นสีขาว ครีมชาเขียว คัสตาร์ด หรือครีมสด เขียวอ่อน ชมพูอ่อน สอดไส้อังโกะ มี 2 ต่างๆ ขนาด ขนาดแรกประมาณเหรียญครึ่งดอล ล่า อีกขนาดหนึ่งขนาดประมาณฝ่ามือ บาง ขนมจะเป็นไส้ผลไม้ หรือ ไม่ก็ผลไม้ผสมอัง โกะ หรือ เมลอนบด

โดรายากิ คือ แป้งแพนเค้กสอง 3. โดรายากิ ชิ้นประกบกันโดยมีไส้ถั่วแดงกวน (DORAYAKI) ตรงกลาง เป็นขนมญี่ปุ่นที่ได้รับ อิทธิพลจากตะวันตกด้วยการนำ เอาแป้งเค้กมาใช้ แต่ยังคง เอกลักษณ์ของขนมญี่ปุ่นอย่างถั่ว แดงกวนเอาไว้ ปัจจุบันไส้ของโด รายากิมีทั้งไส้ครีม ช็อกโกแลต มันเทศ เกาลัด ผลไม้ และไส้ ไอศกรีม ในปัจจุบันนี้ขนมโดรายากิมี ความหลากหลายของขนมโดรา ยากิที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นนั้นมี ขนาดที่แตกต่างกันออกไป ทั้งที่ เป็นชิ้นเล็ก ไล่ไปจนถึงชิ้นใหญ่ ตามความชอบของลูกค้าที่เลือก ซื้อ

4. เมล่อนปัง (MELONPAN) เมล่อนปัง คือลูกครึ่งระหว่างขนมปังกับคุกกี้ ด้านในจะเป็นขนมปังนุ่มๆ ส่วนด้านนอก จะหุ้มด้วยคุกกี้กรอบคลุกน้ำตาล ทำให้มีสัมผัสกรอบนอกนุ่มในอันเป็นเอกลักษณ์ ความจริงแล้ว เมล่อนปัง ไม่ได้มีกลิ่นหรือ รสเมล่อนแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะผิว แตกๆ ของคุกกี้นั้นคล้ายกับผิวของเมลอน พันธุ์ MUSKMELON จึงได้ชื่อนี้มา ว่ากันว่าเมล่อนปังปรากฏในญี่ปุ่นราวยุคโช วะ ที่มาของเมล่อนปังยังคงไม่ปรากฏ แน่ชัดว่ากำเนิดมาจากไหน แต่ในปัจจุบัน ทั่วโลกต่างรับรู้ตรงกันว่าเมล่อนปังเป็น ขนมปังสัญชาติญี่ปุ่น

5. วาราบิโมจิ (WARABI MOCHI) วาราบิโมจิ มีลักษณะเป็นวุ้นใสคล้ายเยลลี แต่มีความเหนียวกว่า ทำด้วยแป้งจากต้นวา ราบิ ชาวญี่ปุ่นนิยมทานกันในฤดูร้อนโดยโรยผงคินาโกะและราดน้ำคุโรมิตซึ ปัจจุบันมี การประยุกต์มากมาย เช่นทำเป็นรสมัทฉะ ใส่ในพาร์เฟ่ต์หรือชานมไข่มุก เป็นต้น โดยคำนิยามแล้ว วาราบิโมจิไม่ใช่ โมจิ เพราะไม่ได้ทำจากแป้งที่ทำ วาราบิโมจิของแท้ในสมัยก่อนนั้นทำจากต้นวาราบิ จากข้าว ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า และเนื้อเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่วาราบิโมจิที่ทำจากแป้ง ทำไมถึงเรียกว่าโมจิ วาราบิ 100% ราคาแพงและมีอายุการเก็บที่สั้นมาก “แป้งวาราบิ” ที่ใช้ปัจจุบันจึงทำมาจากส่วนผสมของ มันฝรั่ง รากบัว และอื่นๆ จึงทำให้เป็นสีใส

6. ไทยากิ (TAIYAKI) ไทยากิ ทำจากแป้งสาลีสอดไส้ถั่วแดงกวน นำไปย่างในพิมพ์เหล็กจนเป็นรูปปลา โดย หยอดแป้งลงในพิมพ์สองฝั่ งแล้วนำมาประกบ กัน ปัจจุบันไส้ด้านในมีความหลากหลายมาก ขึ้น เช่น ไส้ครีม ช็อกโกแลต ชาเชียว เกาลัด เป็นต้น แต่มักคงรูปร่างปลาไว้เช่นเดิม ไทยากิทำเป็นรูปปลาไท หรือปลากะพงแดง ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นปลามงคล เพราะคำว่าไทนั้น めでたいคล้ายกับคำว่า เมเดไท ( ) ที่แปลว่า ยินดี

7. พุดดิ้งญี่ปุ่น (JAPANESE PUDDING) หรือจะเรียกว่า คัสตาร์ด พุดดิ้ง ขนมพุดดิ้งนี้ถือเป็นขนม พื้นฐานใครๆ ก็ทำได้ ไม่ยุ่งยาก อุปกรณ์ไม่เยอะ เป็นขนมที่ นิยมทำกันในวันหยุดกับครบ ครัว ให้เด็กๆ หรือคนใน ครอบครัวได้มีกิจกรรมทำ พร้อมทั้งได้กินขนมอร่อยๆ แถมยังเอาแบ่งเพื่อนบ้านได้อีก ด้วย

8. โยคัง (YOKAN) โยคัง (YOKAN) คือวุ้นถั่วแดงกวน ทำจากถั่วแดง คุณสมบัติอีกอย่างที่คาด กวนเนื้อละเอียดผสมวุ้นและน้ำตาล จากนั้นเทใส่พิมพ์ ไม่ถึงของขนมโยคังคือเก็บ หรือนำไปขึ้นรูป มักทำเป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า รสชาติ ไว้ได้นาน อย่างเช่น เอโยคัง หวานจัด จึงนิยมทานคู่กับชาเขียวรสขม รวมถึงในพิธี ชงชา ปัจจุบันมีการใส่ลูกเล่นต่างๆ เช่น ใส่เนื้อผลไม้ (えいようかん)ยี่ห้ออิ หรือเกาลัดลงไปผสม แต่งสีและลวดลายให้สวยงามทัน มุระยะ (井村屋)ที่ สมัย คิดค้นให้เก็บได้นานกว่า ปกติมากถึง 5 ปี 6 เดือน เพื่อสามารถเก็บเป็นอาหาร ยามฉุกเฉินเวลามีเหตุภัย พิบัติธรรมชาติ นอกจากนี้ ร่างกายยังดูดซึมสารอาหาร ได้ง่าย และเก็บไว้ใน อุณหภูมิปกติได้แม้ไม่ได้นำ เข้าตู้เย็น

9. คอมเปโต (KOMPEITO) คอมเปโต คือ ลูกอมเม็ดเล็ก ผิว เป็นหนามทู่ๆ สีสันสดใส รสหวาน แหลม จึงนิยมทานกับน้ำชา กล่าว กันว่าคอมเปโตมาจากโปรตุเกส ตั้งแต่สมัยก่อนสงคราม ซึ่งชื่อคอม เปโตก็มาจากภาษาโปรตุเกส CONFEITO แปลว่าขนมน้ำตาล คอมเปโตทำโดยการใส่เม็ดน้ำตาลทรายหรือข้าวเหนียวนึ่งที่บดให้เป็นเศษเล็กๆ เข้าไปในเตาหมุนที่เรียกว่าโดระ จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำตาลที่เคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อม เข้าไปขณะหมุนโดระ น้ำเชื่อมจะเข้าไปเกาะกับน้ำตาลทรายหรือข้าวเหนียวและ ขยายใหญ่ขึ้นเมื่อหมุนไปเรื่อยๆ กระบวนการนี้เองที่ทำให้คอมเปโตเกิดหนามขึ้นโดยธรรมชาติ อาจต้องใช้เวลา ถึง 2 สัปดาห์กว่าขนมจะแห้งและได้ขนาดที่ต้องการ คอมเปโตคือขนมที่สวยน่ารัก อายุการเก็บนาน และมีความเป็นญี่ปุ่น จึงเหมาะ กับการซื้อเป็นของฝากไม่น้อย

10. ซากุระโมจิ (SAKURAMOCHI) หากพูดถึงขนมที่เป็นของคู่กับฤดูชม ซากุระแล้วก็ต้องนึกถึงซากุระโมจิ เป็น ขนมที่ให้ได้สัมผัสถึงฤดูใบไม้ผลิ ซากุระ โมจิมีทั้งแบบตำรับคันโตและตำรับคัน ไซ ภาพของซากุระโมจิที่แต่ละคนนึกถึง จึงอาจแตกต่างกันไป ซากุระโมจิ (SAKURAMOCHI) เป็นขนม ทำจากถั่วแดงกวน แล้วห่อด้วยแป้งโม จิสีซากุระ และห่ออีกชั้นด้วยใบซากุระที่ นำไปคลุกกับเกลือ รสชาติหวานของโม จิกับความเค็มของใบซากุระเข้ากันได้ เป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกเคลิบเคลิ้มไป กับกลิ่นของซากุระและรสสัมผัสของโม จิ ช่างเป็นขนมประจำฤดูใบไม้ผลิโดย แท้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook