music

ดนตรียอดนิยม ประวตั ิความเป็นมาของดนตรีสากลดนตรีเป็นส่วนหน่ึงของวถิ ีชีวติ มนุษย์ มนุษยร์ ู้จกั นาดนตรีมาใชป้ ระโยชน์ต้งั แต่ยคุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ หลงั จากท่ี มนุษยร์ ู้จกั การจดบนั ทึกขอ้ มูล จึงทาใหค้ นรุ่นหลงั ไดท้ ราบประวตั ิความเป็นมาของดนตรี การศึกษาประวตั ิศาสตร์ดนตรี ทาใหเ้ ราเขา้ ใจมนุษยด์ ว้ ยกนั มากข้ึน เขา้ ใจวถิ ีชีวติ ความเป็นอยู่ และเขา้ ใจการสืบทอดทาง วฒั นธรรมดนตรี การ กาเนิดของเครื่องดนตรีเกิดข้ึนต้งั แต่สมยั โบราณ โดยมนุษยร์ ู้จกั การสร้างเครื่องดนตรีง่ายๆ จากธรรมชาติ รอบขา้ งคือ เร่ิมจากการปรบมือผวิ ปาก เคาะหิน หรือนากิ่งไมม้ าตีกนั ซ่ึงต่อมาไดม้ ีการสรา้ งเคร่ืองดนตรีท่ีมีรูป ทรงลกั ษณะต่างๆ ที่แตกต่างกนั ไปในแต่ละชนชาติ โดยมีการแลกเปล่ียนศิลปวฒั นธรรมและลกั ษณะเครื่อง ดนตรีของชนชาติ ต่างๆ โดยเฉพาะเคร่ืองดนตรีสากลท่ีเป็นเครื่องดนตรีของชาวตะวนั ตกที่นา มาเล่นกนั แพร่หลายในปัจจุบนั สาหรับการกาเนิดของดนตรีตะวนั ตกน้นั มาจากเครื่องดนตรีของชนชาติ กรีกโบราณที่สร้างเคร่ืองดนตรีข้ึนมา 3 ชนิดคือ ไลรา คีธารา และออโรสจนต่อมามีการพฒั นาสร้างเคร่ืองดนตรีประเภทต่างๆ ท้งั ประเภทเคร่ืองสายเคร่ืองเป่ า เครื่องทองเหลือง เคร่ืองตี และเครื่องดีดหรือเคร่ืองเคาะ เช่นไวโอลิน ฟลุต ทรัมเป็ต กลองชุด กีตาร์ ฯลฯโดยพบเคร่ืองดนตรีสากลไดใ้ นวงดนตรีสากลประเภทต่างๆ ต้งั แต่สมยั โบราณ จนถึงปัจจุบนั

กีตา้ ร์กีต้าร์ เป็นเคร่ืองเลน่ ดนตรีชนิดหนงึ่ ซง่ึ นิยมในหมวู่ ยั รุ่น สะดวกในการพกพา สว่ นมากมกั ะะนาตดิ ปปในการทอ่ งเท่ียวตา่ ง ๆ และนามาเลน่ เพอ่ื ความบนั เทงิ สนกุ สนาน เพลดิ เพลนิ

คียบ์ อร์ดเคร่ืองดนตรีในกลมุ่ นีม้ กั นิยมเรียกทบั ศพั ท์ในภาษาองั กฤษวา่ “เคร่ืองดนตรีประเภทคีย์บอร์ด” ลกั ษณะเดน่ ของเครื่องดนตรีท่ีอยใู่ นกลมุ่ นีก้ ็คือมลี มิ่ นิว้ สาหรับกดเพ่อื ปรับเปล่ียนระดบั เสียงดนตรี ล่มิ นิว้ สาหรับกดเรียกวา่ “คีย์ (Key)” เครื่องดนตรีแตล่ ะชนิดมีะานวนคีย์ปมเ่ ทา่ กนั โดยปกตสิ ีของคีย์เป็นสีขาวกบั ดา คีย์สดี าโผลส่ งู ขนึ ้ มามากกวา่ คยี ์สีขาวการเกิดเสียงของเครื่องดนตรีในกลมุ่ นีม้ ีหลายลกั ษณะเชน่ เปี ยโน ฮาร์ปสคิ อร์ด คลาวิคอร์ดเกิดเสยี งโดยการกดคยี ์ที่ต้องการแล้วคยี ์นนั้ ะะสง่ แรงปปที่กลปกตา่ ง ๆ ภายในเคร่ืองเพอื่ ท่ีะะปปทาให้สายโลหะท่ขี งึ ตงึ สน่ั สะเทือนทาให้เกิดเสียงดงั ขนึ ้ เครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดบางชนิดใช้ลมพน่ ปปยงั ลิน้โลหะให้สนั่ สะเทือนทาให้เกิดเสยี ง ในปัะะบุ นั นิยมใช้น้อยมากเชน่ ออร์แกน แอกคอร์เดยี น สาหรับเมโลเดียนและเมโลดิกาซงึ่ นามาใช้ประกอบการเรียนการสอนในโรงเรียนระดบั อนบุ าละนถึงระดบัประถมศกึ ษานนั้ ก็ะดั อยใู่ นเคร่ืองดนตรีประเภทคยี ์บอร์ดเชน่ กนั

แซกโซโฟน\"แซกโซโฟน\" ประดษิ ฐ์ขนึ ้ เม่ือค.ศ.1840 ท่ีนครปารีส โดย \"อดอล์ฟ แซกซ์\" (ค.ศ.1814-1894) ชาวเบลเยยี ม ประวตั ศิ าสตร์ดนตรีบนั ทกึ วา่ นายวงโยธวาทติ ผ้หู นงึ่ ติดตอ่ แซกซ์ให้ประดิษฐ์เครื่องเป่ าชนิดใดก็ปด้ทใี่ ห้เสยี งดงั เพ่ือใช้ในวงโยธวาทิต และต้องการให้เคร่ืองดนตรีชนิดใหมน่ ีม้ ีเสียงคล้ายเคร่ืองลมปม้ด้วย แซกซ์นำเอำเคร่ืองดนตรีประเภทเคร่ืองทองเหลอื งชนิดหน่ึงท่ีล้ำสมยั แล้ว เรียกว่ำ โอฟิ ไคลด์-ophicleide มำถอดท่เี ป่ ำอนั เดมิ ออก แล้วเอำท่เี ป่ ำของคลำริเนตใส่แทน แก้กลไกของกระเด่อื งท่ปี ิ ดรูอีกเล็กน้อย แล้วแซกโซโฟนเลำแรกของโลกกถ็ ือกำเนิดขนึ้เสยี งของแซกโซโฟนเะิดะ้า สร้างความรู้สกึ แปลกหเู หมอื นการผสมผสานระหวา่ งเชลโล คอร์องั แกลส์ และคลาริเนต บรรเลงปด้ทงั้เสียงกระซบิ กระซาบ ออ่ นหวานนมุ่ นวล หรือแผดะนแสบโสตประสาท ะงึ เหมาะสาหรับใช้เป็นเคร่ืองดนตรีบรรเลงเด่ียว ะากวงโยธวาทิต เดนิ ทางสวู่ งแะ๊ซ ที่สดุ แซกโซโฟนก็กลายเป็นเคร่ืองดนตรีที่แะ๊ซะะขาดเสียมปิ ด้ ทงั้ ยงั เป็นท่ีนิยมในการบรรเลงบทเพลงคลาสสคิ สมยั ใหมป่ ม่น้อย แซกโซโฟนมีทงั้ หมด 6 ขนำด ได้แก่ โซปรำริโน โซปรำโน อลั โต เทเนอร์ บำริโทน และเบส

กลองชุดกลองชดุ เป็นชื่อเรียกภาษาปทย มีความหมายถึง กลองหลายใบ ภาษาองั กฤษใชคช่ือร้ ังเ้TรลeียะกaหกกmลลลาอยอDงใงชบชrดุดุ uเคปปmา็รนวะภา่กาหอษ“บรแือาดะอ้๊วJสงั aยก(sJฤกasษลsอDวsงา่)rลuกDั หษmaมณnาะยcทตถeงั้า่ึงสงDอๆดงหrนชลuต่ือาmรมยีแีคใะmบว๊สาiมแnซหลง่ึ gมะใชฉา้กยาหลบเมหอหามงลยชือถาดุนยึงรกกอ่วนัลนั มอมบคงารชอืรรดุวเลมใกชงาก้บรนั ะบรงึรรโเเรดลรเียยลงกะใงชงวกั ้หผา่ล้บวูอJะรงaเรตเsล้นsงรเาDพียrงuคmนเดยีแวละกยลงั มองีชดุ นีต้ ามประวตั ิของดนตรีปม่ปรากฏวา่ ปด้เข้าร่วมบรรเลงกบั วงดนตรีดรุ ิยางค์สากล ซง่ึ เป็นวงดนตรีขนาดใหญ่ แตใ่ ช้บรรเลงร่วมกบั วงดนตรีแะ๊ส และวงดนตรีท่ีมีเคร่ืองดนตรีน้อยชนิ ้ บรรเลงปด้แก่ วงคอมโบ้ (Combo) วงสตริงคอมโบ้ (StringCombกoล)องฯละฯดั วา่ เป็นเคร่ืองดนตรีที่เกา่ แก่ที่สดุ ในะาพวกเคร่ืองดนตรีทงั้ หมด ในอดตี มนษุ ย์ขงึ หนงั สตั ว์บนรูกลวงของท่อนปม้ และตหี นงั สตั ว์ด้วยนิว้ และมือ ะากการศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์พบวา่ คนตีกลองพืน้ เมืองะะตีกกาลรอเงตเ้นป็รนาะงั คหนวตะีกสลาอหงรพับยกาายราเตม้นปรราับรปะรหุงววา่ ธิ งีกเผาา่ร แตป่ ัะะบุ นั พบวา่ การบรรเลงกลองชดุ ะะเดน่ ที่สดุ ในสว่ นของวงดนตรี สาหรับบรรเลง โดยบรรเลงตามะงั หวะท่ีปด้ยนิ แล้วนามาปรับปรุงโดยการคิดค้นระบบใหม่ขนึ ้ ซง่ึ นบั วา่ เป็นระบบท่ีปด้ริเร่ิมขนึ ้ เป็นครัง้แรก โดยการบนั ทกึ อตั ราสว่ นของะงั หวะกลองในบทเพลง การบนั ทกึบทเพลงนนั้ ประกอบด้วย ทานองเพลง การประสานเสยี งและะงั หวะ ทาให้ดนตรีมกี ารประสานเสียงกลมกลนื เพม่ิ ความปพเราะมากยงิ่ ขนึ ้ การริเริ่มพฒั นากลองชดุ เป็นครัง้ แรก โดยเริ่มต้นะากบทเพลงะงั หวะวอลซ์ (Waltz)

บทสรุปเกี่ยวกบั เครื่องเล่นดนตรีสากลเคร่ืองเลน่ ดนตรีดงั กลา่ วข้างต้นเป็นเพยี งบางสว่ นเท่านนั้ ยงั มีอีกมากมาย ซงึ่ ล้วนแล้วแตส่ ร้างเสียงเพลงอนัปพเราะ และความประทบั ใะแกผ่ ้ปู ด้ยนิ ปด้ฟัง โดยปกติะะนิยมใช้สาหรับงานตา่ ง ๆ ความเหมาะสม และบรรยากาศ เพือ่ สร้างความสขุ ทางใะะงึ ขอแนะนาเป็นข้อมลู และความชอบของแตล่ ะบคุ คลทต่ี ้องการ