โรงเรยี นกสณิ ธรเซนต์ปเี ตอร์ พชื ใบเลีย้ งเดย่ี ว พชื ใบเล้ยี งคู่ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ิต ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตวั ชวี้ ดั ว 1.2 ป.4/1 บรรยายหนา้ ทขี่ องราก ลาตน้ ใบ และดอกของพชื ดอก โดยใชข้ อ้ มลู ทรี่ วบรวมได้
ประเภทของพืชจาแนกจากใบเลย้ี ง พชื ใบเลยี้ งเดย่ี ว พืชใบเลย้ี งเดย่ี ว คือ พชื ทเ่ี มือ่ ใบแรกแทงออกมาจากเมลด็ มใี บเดยี ว และเมอ่ื เติบโตขนึ้ จะเหน็ ลาตน้ เปน็ ขอ้ ปลอ้ งอยา่ งชดั เจน ได้แก่ พืชจาพวกหญ้า ข้าว ข้าวโพด ออ้ ย ไผ่ พชื เหล่านจี้ ะมใี บเรยี งตวั เปน็ เลขคห่ี รอื ใบเดยี ว เส้นบนใบจะเรยี งตวั แบบ ขนานไปตามแนวยาวของใบ ลาตน้ มกั เรยี ว และเปน็ พืชลม้ ลกุ เปน็ สว่ นมาก พืชในกลมุ่ นีม้ ีระบบรากฝอย แนน่ อนวา่ พวกมนั มดี อก และจานวนกลบี ดอกของพืชกลมุ่ นจ้ี ะมี 3 กลีบหรอื ทวคี ณู ของ 3
พืชใบเลีย้ งคู่ พืชใบเลย้ี งค่จู ะงอกออกจากเมล็ดพรอ้ มกับใบเลี้ยง 2 ใบ และเมือ่ เจริญเติบโตเต็มท่ีแลว้ จะเห็นข้อและปล้องในส่วนของลาตน้ ไม่ชดั เจน เนื่องจากมนั มกั จะมีเปลือกแขง็ ห่อหมุ้ และยังมกี าร เจรญิ เติบโตออกด้านข้าง มีกงิ่ ก้านสาขา แผ่ทกุ ทิศทางเพ่ือเกบ็ เกีย่ วแสงแดดไดม้ ากกว่า รากของพืชใบเล้ยี งคู่เปน็ ระบบรากแก้ว
พชื ใบเลย้ี งเด่ยี ว พืชใบเลย้ี งคู่ ใบเลีย้ ง
พชื ใบเลย้ี งเดี่ยว พชื ใบเลย้ี งคู่ ราก
พชื ใบเลย้ี งเด่ยี ว พชื ใบเลย้ี งคู่ ลาต้น
พชื ใบเลย้ี งเดี่ยว พืชใบเลย้ี งคู่ ใบ/เส้นใบ
พชื ใบเลย้ี งเด่ยี ว พืชใบเลย้ี งคู่ กลบี ดอก
เด่ยี วพชื ใบเล้ยี ง พืชดอก คู่พชื ใบเล้ียง กลบี ดอก มีจำนวน 3 หรอื มจี ำนวน 4-5 หรือ กลีบดอก ลำตน้ ทวคี ูณของ 3 ทวคี ูณของ 4-5 ลำตน้ ใบ ใบ ใบเลย้ี ง ลำตน้ เปน็ ลำต้นเป็นขอ้ ปล้อง ใบเลยี้ ง รำก ข้อปลอ้ งชดั เจน ไม่ชดั เจน รำก ใบเรยี วแคบ ใบกว้ำง เสน้ ใบเปน็ เป็นเส้นขนำน ร่ำงแห มใี บเลี้ยง 1 ใบ มใี บเล้ยี ง 2 ใบ ในระยะที่งอก ในระยะที่งอก ออกจำกเมลด็ ออกจำกเมลด็ มรี ะบบ มรี ะบบ รำกฝอย รำกแก้ว
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: