หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ความสามารถของระบบต่าง ๆ ในร่างกายประกอบด้วย ความสามารถเชิงสรีรวิทยาด้านต่าง ๆ ที่ ช่วยป้องกันบุคคลจากโรคท่ีมีสาเหตุจากภาวะการขาดการออกกาลังกาย นับเป็นปัจจุบันหรือตัวบ่งช้ีสาคัญ ของการมีสุขภาพดี ความสามารถหรือสมรรถนะเหล่านี้ สามารถปรับปรุงพัฒนาและคงสภาพได้ โดยการออก กาลังกายอย่างสมา่ เสมอ สมรรถภาพทางกายเพอ่ื สขุ ภาพมอี งคป์ ระกอบดงั น้ี 1. องค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition) ตามปกตแิ ลว้ ในรา่ งกายมนษุ ย์ประกอบด้วย กล้ามเน้ือ กระดกู ไขมนั และสว่ นอนื่ ๆ แต่ในสว่ นของสมรรถภาพทางกายน้ัน หมายถึง สดั ส่วนปรมิ าณ ไขมนั ในร่างกายกับมวลรา่ งกายท่ีปราศจากไขมัน โดยการวัดออกมาเปน็ เปอรเ์ ซ็นตไ์ ขมัน (% fat) ด้วยเคร่ือง 2. ความทนทานของระบบไหลเวียน โลหิต (Cardiorespiratory Endurance) หมายถึง สมรรถนะเชิงปฏิบตั ิของระบบไหลเวยี นโลหติ (หัวใจ หลอดเลือด) และระบบหายใจในการลาเลียงออกซเิ จน ไปยังเซลล์กล้ามเนื้อ ทาให้ร่างกายสามารถยืนหยัดที่จะทางานหรือออกกาลังกายที่ใช้กล้ามเน้ือมัดใหญ่เป็น ระยะเวลายาวนานได้ 3. ความออ่ นตวั หรอื ความยดื หย่นุ (Flexibility) หมายถึง พิสัยของการเคลื่อนไหวสูงสุดเทา่ ท่ีจะ ทาไดข้ องข้อตอ่ หรอื กลมุ่ ขอ้ ต่อ 4. ความทนทานหรือความอดทนของกล้ามเนื้อ (Muscular Endurance) หมายถงึ ความสามารถ ของกล้ามเน้ือมัดใดมัดหนึ่งหรือกลุ่มกล้ามเน้ือ ในการหดตัวซ้า ๆ เพื่อต้านแรงหรือความสามารถในการคง สภาพการหดตวั ครงั้ เดียวได้เปน็ ระยะเวลายาวนาน 5. ความแขง็ แรงของกล้ามเนอื้ (Muscular Strength) หมายถึง ปริมาณสงู สดุ ของแรงทก่ี ลา้ มเนอื้ มัดใดมดั หนึ่งหรือกลุ่มกลา้ มเนอ้ื สามารถออกแรงต้านทานได้ ในชว่ งการหดตวั 1 คร้ัง สขุ บัญญัติแห่งชาติ (National Health Disciplines) ข้อกาหนดที่เด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนท่ัวไป พึงปฏิบัติอย่างสม่าเสมอ จนเป็นสุขนิสัย เพื่อใหม้ ีสุขภาพดที งั้ รา่ งกาย จิตใจ และสังคม ซ่ึงกาหนดไว้ 10 ประการ ดงั นี้ 1. ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด 2. รักษาฟนั ให้แขง็ แรงและแปรงฟนั ทกุ วันอยา่ งถกู ตอ้ ง 3. ลา้ งมอื ให้สะอาดก่อนกนิ อาหารและหลังการขบั ถา่ ย 4. กินอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอนั ตราย และหลกี เล่ียงอาหารรสจัด สีฉดู ฉาด 5. งดบุหร่ี สรุ า สารเสพติด การพนัน และการสาสอ่ นทางเพศ 6. สรา้ งความสมั พนั ธใ์ นครอบครวั ใหอ้ บอ่นุ 7. ปอ้ งกนั อุบัตภิ ยั ด้วยการไมป่ ระมาท 8. ออกกาลังกายสมา่ เสมอและตรวจสุขภาพประจาปี 9. ทาจติ ใจให้ร่าเรงิ แจม่ ใสอยู่เสมอ 10.มสี านกึ ตอ่ ส่วนรวม ร่วมสร้างสรรค์สังคม สุขภาพ (Health) สขุ ภาวะ (Well – Being หรอื Wellness) ท่ีสมบรู ณแ์ ละเชื่อมโยงกันเปน็ องคร์ วมอย่างสมดลุ ทั้งมิติ ทางจติ วญิ ญาณ (มโนธรรม) ทางสงั คม ทางกาย และทางจติ ซึ่งมิได้หมายถึงเฉพาะความไมพ่ กิ ารและความ ไมม่ โี รคเท่านน้ั สนุ ทรยี ภาพของการเคลอ่ื นไหว (Movement Aesthetic)
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ศิลปะและความงดงามของท่วงท่าในการเคล่ือนไหวร่างกายในอิริยาบถต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลมาจาก ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบท่าทางการเคล่ือนไหวและการฝึกฝนจนเกิดความชานาญ สามารถแสดง ออกมาเปน็ ความกลมกลืนและต่อเนอ่ื ง แอโรบิก (Aerobic) กระบวนการสร้างพลังงานแบบต้องใช้อากาศ ซ่ึงในท่ีน้ี หมายถึง ออกซิเจน (Aerobic -energe delivery) ในการสร้างพลังงานของกล้ามเนอ้ื เพือ่ ทางานหรอื เคล่อื นไหว น้ัน กล้ามเน้อื จะมีวิธีการ 3 แบบ ทจี่ ะได้พลงั งานมา แบบท่ี 1 เปน็ การใชพ้ ลงั งานท่ีมสี ารองอย่ใู นกลา้ มเนอ้ื ซึ่งจะใชไ้ ดใ้ นเวลาไม่เกิน 3 วนิ าที แบบท่ี 2 การสงั เคราะห์พลงั งานโดยไม่ใช้ออกซเิ จน (Anaerobic energy delivery) ซ่งึ ใช้ได้ไม่เกนิ 10 วินาที แบบที่ 3 การสงั เคราะห์สารพลงั งาน โดยใชอ้ อกซเิ จน ละใช้สื่อการเรยี นรู ซ่ึงจะใช้พลงั งานไดร้ ะยะ เวลานาน
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ภาคผนวก ข แต่งตั้งคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู รและงานวชิ าการสถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) คาสง่ั โรงเรียนบา้ นนานวน ท่ี 20 / ๒๕๖๓ เรอ่ื ง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวชิ าการสถานศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน ********************************* เพื่อให้การบรหิ ารหลักสูตรและงานวชิ าการสถานศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานเป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ สอดคลอ้ งกบั พระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด ๔ มาตรา ๒๗ ท่ีกาหนดใหส้ ถานศึกษา ขั้นพน้ื ฐานมหี น้าทจี่ ดั ทาสาระของหลกั สตู รเพือ่ ความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองทด่ี ีของชาติ การดารงชวี ิต และการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพอ่ื การศกึ ษาต่อ ในสว่ นทเ่ี กี่ยวกับสภาพของปญั หาในชุมชน และสังคม ภูมิ ปัญญาท้องถนิ่ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์เพอื่ เป็นสมาชกิ ท่ีดีของครอบครัว ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาติและ สอดคล้องกับระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยคณะกรรมการบริหารหลกั สตู รและงานวชิ าการสถานศึกษา ขน้ั พืน้ ฐาน พ.ศ.๒๕๔๔ อาศยั อานาจตามมาตรา ๓๗ แหง่ พระราชบัญญตั ิระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเตมิ จงึ แต่งต้ังคณะกรรมการบริหารหลกั สูตร และงานวชิ าการสถานศกึ ษาข้นั พื้นฐาน โรงเรียนบา้ นนานวนปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ดังน้ี ๑. นายปณธิ าร หา้ วหาญ ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านนานวน ประธานกรรมการ ๒. นางสาวณัฐปภสั ร์ แขมคา หัวหน้าการเรียนรู้ปฐมวัย กรรมการ ๓. นางบุญญา บตุ รสวน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย กรรมการ ๔. นางรชั นี บญุ เหลอื ง หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ กรรมการ ๔. นางสาวจนั ทิยา ปราณกี ิจ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กรรมการ ๕. นายบรรดษิ ฐ์ เล่อื นเพช็ ร หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา กรรมการ ๖. นายสวาด บุญสรรค์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศกึ ษาพลศกึ ษา กรรมการ ๗. นายบรรดษิ ฐ์ เล่ือนเพช็ ร หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ กรรมการ ๘. นางสาวกติ ิยา ราชบุรี หัวหนา้ กลุ่มสาระการงานอาชีพ และเทคโนโลยี กรรมการ ๙. นางเกศศนิ ี ยา่ งสุข หวั หนา้ กลมุ่ สาระภาษาต่างประเทศ กรรมการ ๑๐. นางเกศศินี ย่างสขุ ๑๑. นายสวาด บุญสรรค์ หัวหน้างานแนะแนว กรรมการ ๑๒. นางสาวจฑุ ามาศ พิมพ์ลา ๑๓. นางสาวจนั ทิยา ปราณีกจิ หวั หนา้ งานกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กรรมการ หวั หนา้ งานวดั และประเมนิ ผล กรรมการ หัวหนา้ ฝ่ายวชิ าการ กรรมการและเลขานกุ าร คณะกรรมการดาเนินการ มหี นา้ ท่ีและดาเนนิ การจดั การตามขั้นตอนท่ีกาหนด ดังน้ี ๑. วางแผนการดาเนินงานวิชาการ กาหนดสาระรายละเอยี ดของหลักสูตรระดับสถานศึกษาและแนว ทางการจัดสัดส่วนสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ และสภาพเศรษฐกิจ สงั คม ศิลปวัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ๒. จัดทาคู่มือการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กากับ ติดตาม ให้ คาปรกึ ษา เก่ียวกับการพฒั นาหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลและการแนะแนวให้ สอดคล้องและเป็นไปตามหลักสูตรการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ๓. ส่งเสรมิ และสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรเก่ียวกับการพัฒนาหลกั สูตร การจัดกระบวน การเรียนรู้ การวัด และประเมินผลและการแนะแนวให้เป็นไปตามจุดหมายและแนวทางการดาเนนิ การของหลักสูตร ๔. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ และชุมชน เพ่ือให้การใช้หลักสูตร เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและมีคุณภาพ ๕. ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการใช้หลักสูตรแก่นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เก่ียวข้องและนา ข้อมูลป้อนกลับจากฝา่ ยต่าง ๆ มาพิจารณาเพือ่ ปรับปรงุ และพัฒนาหลกั สูตรของสถานศกึ ษา ๖. สง่ เสริมสนบั สนุนการวจิ ัยเกี่ยวกบั การพฒั นาหลกั สตู ร และกระบวนการเรยี นรู้ ๗. ติดตามผลการเรียนของนักเรียนเป็นรายบุคคล ระดับชั้น และช่วงชั้น ระดับวิชา กลุ่มวิชา ในแต่ ละปีการศึกษา เพ่ือปรับปรงุ แกไ้ ข และพฒั นาการดาเนินงานด้านตา่ ง ๆ ของสถานศึกษา ๘. ตรวจสอบทบทวน ประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครู และการบริหารหลักสูตรระดับ สถานศึกษาในรอบปีที่ผ่านมา แล้ว ใช้ผลการประเมิน เพื่อวางแผนพัฒนาการปฏิบัติงานของครูและการ บรหิ ารหลักสตู รปีการศึกษาต่อไป ๙. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบริหารหลักสูตรของสถานศึกษา โดยเน้นผลการพัฒนา คุณภาพนักเรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน คณะกรรมการบริหารหลักสูตรระดับเหนือ สถานศกึ ษา สาธารณชน และผูเ้ ก่ียวขอ้ ง ๑๐. ให้ดาเนินการประชมุ คณะกรรมการอยา่ งน้อยภาคเรียนละ ๒ ครั้ง ทั้งน้ีให้ผู้ได้รับการแต่งต้ังปฏิบัติหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุตาม วตั ถปุ ระสงคท์ ่ตี ง้ั ไว้ ตัง้ แต่บัดน้ีเป็นต้นไป สัง่ ณ วันท่ี ๒ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ (ลงช่อื ) (นายปณิธาร ห้าวหาญ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านนานวน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105