Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

Published by โรงเรียน บ้านนานวน, 2020-09-26 04:46:15

Description: หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

Search

Read the Text Version

96 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ข้อบงั คับคณะลูกเสือแห่งชาตวิ า่ ด้วยการปกครองหลักสูตร และวิชาพิเศษลกู เสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ (ฉบบั ที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ วิชาพเิ ศษลูกเสือ ประเภทสามญั รุ่นใหญ่ 76 วิชา 1. นกั ผจญภัย 2. นักดาราศาสตร์ 3. นักอุตนุ ิยมวทิ ยา 4. ผู้จัดการค่ายพักแรม 5. ผู้พิทกั ษ์ปา่ 6. นักเดินทางไกล 7. หัวหนา้ คนครัว 8. นักบกุ เบกิ 9. นกั สะกดรอย 10. นักธรรมชาตวิ ิทยา 11. การสอ่ื สารดว้ ยยานพาหนะ 12. นกั ดบั เพลงิ 13. นกั สัญญาน 14. นกั สารพดั ช่าง 15. นักโบราณคดี 16. นักสะสม 17. นักดนตรี 18. นักถา่ ยภาพ 19. นกั กีฬา 20. นกั กรฑี า 21. นกั พิมพด์ ดี 22. นักแสดงการบนั เทงิ 23. นกั ยิงปนื 24. ล่าม 25. หนา้ ทีพ่ ลเมือง 26. มคั คุเทศก์ 27. บรรณารกั ษ์ 28. เลขานกุ าร 29. พลาธิการ 30. ผชู้ ว่ ยจราจร 31. ชา่ งเขยี น 32. ชา่ งไฟฟา้

97 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) 33. ช่างวทิ ยุ 34. ชา่ งแผนที่ 35. ชา่ งเคร่อื งยนต์ 36. อีเล็กทรอนิกส์ 37. การหามิตร 38. การฝมี อื 39. การช่วยผู้ประสบภยั 40. การสาธารณสุข 41. การพยาบาล 42. การพดู ในที่สาธารณะ 43. การอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ 44. การประชาสัมพนั ธ์ 45. การสังคมสังเคราะห์ 46. การพฒั นาชุมชน 47. ชาวประมง 48. ตน้ เดน่ 49. ผู้นารอ่ ง 50. นกั เล่นเรอื ใบ 51. นักวา่ ยนา้ 52. นักพายเรอื 53. นักกระเชยี ง 54. กลาสเี รือ 55. การควบคุมการจราจรทางนา้ 56. การป้องกันความเสยี หายและดับเพลงิ ไหมบ้ นเรอื 57. การเรอื 58. การดารงชีพในทะเล 59. เครือ่ งหมายชาวเรือ 60. เครื่องหมายเชดิ ชูเกยี รตลิ ูกเสอื เหลา่ สมุทร 61. นกั เคร่ืองบินเลก็ 62. ช่างอากาศ 63. ยามอากาศ 64. การควบคุมการจราจรทางอากาศเบ้ืองต้น 65. การควบคมุ การจราจรทางอากาศ 66. การช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั และดบั เพลงิ อากาศยาน 67. การฝึกเป็นผูน้ า 68. นักปฏบิ ตั กิ ารทางจิตวิทยา(ปจว.) 69. การขอส่งทางอากาศ

98 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) 70. แผนทที่ หารและเข็มทิศ 71. เสนารักษ์ 72. การดารงชีพในถิ่นทรุ กนั ดาร 73. นักไต่ผา 74. เคร่ืองหมายการบิน 75. เคร่ืองหมายเชดิ ชูเกียรตลิ กู เสือเหล่าอากาศ 76. เครอ่ื งหมายผฝู้ กึ สอน

99 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) กจิ กรรมชุมนุม ชมรม การจัดกจิ กรรมชุมนุม ชมรม วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมชุมนุม ชมรม สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5 ประการ 5 ประการ กิจกรรมท่จี ดั กจิ กรรม กิจกรรมทจ่ี ดั เสริม ตามความสนใจของ ชุมนุม หลกั สูตร ผเู้ รียน ชมรม สถานศกึ ษาในดา้ น กิจกรรมท่ีจดั ความรู้และทกั ษะ ไดท้ ้งั ในและนอก ปฏิบตั ิของผเู้ รียน สถานศกึ ษา กิจกรรมที่จดั ให้ ท้งั ในและนอก เวลาเรียน กจิ กรรมชุมนุม กิจกรรมชุมนุม เป็นกิจกรรมท่ีผู้เรียนรวมกลุ่มกันจัดขึ้นตามความสามารถ ความถนัดและความ สนใจของผู้เรียน เพ่ือเติมเต็มความรู้ ความชานาญ ประสบการณ์ ทักษะ เจตคติเพื่อพัฒนาตนเองตาม ศักยภาพ หลกั การ กิจกรรมชุมนมุ มีหลักการท่สี าคัญดงั น้ี 1. เป็นกิจกรรมที่เกิดจากการสร้างสรรค์และออกแบบกจิ กรรมของผเู้ รียนตามความสมัครใจ 2. เปน็ กิจกรรมทผ่ี ู้เรียนรว่ มกนั ทางานเปน็ ทมี ชว่ ยกนั คิด ชว่ ยกนั ทา และช่วยกันแก้ปญั หา 3. เปน็ กิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาศกั ยภาพของผู้เรยี น 4. เป็นกจิ กรรมทเี่ หมาะสมกบั วยั และวุฒิภาวะของผเู้ รยี น รวมทงั้ บริบทของสถานศึกษา และทอ้ งถ่นิ

100 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ให้สอดคล้องกบั หลักสตู รพื้นฐานสถานศึกษา 2. เพอ่ื ใหม้ ีทกั ษะในการทางานร่วมกัน 3. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมที ักษะกระบวนการในการทางาน 4. เพอ่ื ให้รู้จกั การใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ 5. เพื่อให้มีความรบั ผดิ ชอบ ขยัน ประหยัด อดทนและมีจติ ใจเอ้อื เฟ้ือเผ่ือแผ่ ขอบข่าย กจิ กรรมชมุ นมุ มขี อบข่ายดังน้ี 1. เป็นกิจกรรมจดั ตามความสนใจของผูเ้ รียน 2. เปน็ กจิ กรรมทจี่ ดั เสริมหลักสูตรสถานศึกษาในด้านความรแู้ ละทกั ษะปฏบิ ัติ ของผู้เรียน 3. สามารถจัดไดท้ ัง้ ในและนอกสถานศกึ ษา และทงั้ ในเวลาและนอกเวลาเรียน การจดั กจิ กรรมชุมนุม การจดั กิจกรรมชุมนุมของโรงเรยี นบา้ นท่งุ นยุ้ ”มติ รภาพท4ี่ 9”.......มแี นวทางการปฏิบตั ดิ ังนี้ 1. ผูเ้ รียนร่วมกันจดั ตงั้ ชมุ นุมตามความสนใจและเชญิ ครเู ป็นที่ปรึกษาโดยรว่ มกนั ดาเนินกิจกรรมชุมนุม ตามระเบยี บปฏบิ ัติที่สถานศึกษา 2. ครูท่ีปรึกษามีการจัดตั้งชุมนุมอยู่แล้ว และเปิดรับสมัครนักเรียนท่ีมีความสนใจในการเข้าร่วม กจิ กรรมของชมุ นมุ 3. ครูท่ีปรกึ ษาและผู้เรยี นร่วมกนั จัดตง้ั กจิ กรรมชุมนมุ ตามความสนใจของทง้ั สองฝา่ ย 4. ผู้เรียนสามารถดาเนินกิจกรรมได้หลากหลายท้ังรูปแบบภายในหรือภายนอกห้องเรียนและ ระยะเวลาการจัดกิจกรรม เป็นระยะเวลา 1 ปีการศึกษา แต่นักเรียนท่ีต้องการย้ายชุมนุมใหม่ สามารถย้ายได้ในภาคเรียนท่ี 2 แต่นักเรียนต้องแจ้งครูที่ปรึกษาชุมนุมที่นักเรียนย้ายออกและ หัวหนา้ กิจกรรมชุมนุมรับทราบ 5. ผู้เรยี นมีการออกแบบประสบการณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้และเผยแพรก่ จิ กรรม 6. ครทู ี่ปรกึ ษากจิ กรรมประเมนิ ตามหลกั เกณฑก์ ารประเมนิ ชุมนุม ประเภทของกจิ กรรมชมุ นุม กจิ กรรมชมุ นุมมี 2 ประเภท ดังน้ี 1. กิจกรรมกลมุ่ เสรมิ ทักษะด้านวชิ าการ ไดแ้ กก่ ลุม่ สาระ 8 สาระ 2. กจิ กรรมชมุ นุม เลือกตามความถนดั และความสนใจ

101 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) กาหนดการจดั กจิ กรรมชุมนุม ท่ี กจิ กรรมชุมนมุ ระดบั ชัน้ /ชวั่ โมง ป.3 1. ชุมนุมรกั การอ่าน ป.1 ป.2 40 40 40 ท่ี กจิ กรรมชุมนมุ ระดบั ชน้ั /ชวั่ โมง ป.4 ป.5 ป.6 รวม 1. ชุมนมุ ภาษาไทย 10 10 10 30 2. ชุมนมุ คณติ ศาสตร์ 10 10 10 30 3. ชุมนมุ คอมพวิ เตอร์ 10 10 10 30 4. ชุมนมุ รกั การอ่าน 10 10 10 30 5. ชมุ นุมห้องสมดุ 10 10 10 30 6. ชุมนุมขนมไทย 10 10 10 10 7. ฯลฯ ระดับชั้น/ชั่วโมง ม.3 รวม ท่ี กิจกรรมชมุ นมุ ม.1 ม.2 8 20 66 8 20 1. ชมุ นมุ วทิ ยาศาสตร์ 66 8 20 2. ชุมนุมกีฬา 66 8 20 3. ชุมนมุ ภาษาองั กฤษ 66 8 20 4. ชุมนุมดนตรี 66 8 20 5. ชุมนุมคอมพิวเตอร์ 66 6 ชุมนมุ 108 อาชีพ 7 ฯลฯ

102 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ เป็นกจิ กรรมท่สี ง่ เสริมให้ผู้เรียนบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชนต์ ่อครอบครัว ชุมชน สังคม ท้องถ่ินและ ประเทศชาตติ ามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพอ่ื ช่วยขัดเกลาจิตใจของผ้เู รียนและเพื่อแสดงถึงความ รับผิดชอบ ความดีงาม มีความเมตตากรุณา มีความเสียสละต่อสังคม และมีจิตสาธารณะเพ่ือช่วยสร้าง สังคมให้อย่รู ว่ มกนั อย่างมีความสุข เชน่ กิจกรรมอาสาพัฒนาต่าง ๆ กจิ กรรมสร้างสรรค์สงั คม หลกั การ กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกิจกรรมท่ีต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเอง ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ โดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ ความสาคัญท้ังความรู้ และคุณธรรมจริยธรรม จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เรียนคิดสร้างสรรค์ออกแบบกิจกรรม บาเพญ็ ประโยชน์อยา่ งหลากหลายรปู แบบ เพื่อแสดงถึงความรับผดิ ชอบต่อสังคมในลักษณะจิตอาสา วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือให้ผเู้ รยี นบาเพญ็ ตนให้เป็นประโยชนต์ ่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สงั คมและประเทศชาติ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนออกแบบการจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตาม ความถนัดและความสนใจในลกั ษณะอาสาสมัคร 3. เพ่ือให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 4. เพ่ือให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรมจริยธรรมตาม คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมีจิตสาธารณะและใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ขอบขา่ ย เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมในลักษณะกิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ และกิจกรรมจิตอาสาโดยผู้เรียน ดาเนินการด้วยตนเองในลกั ษณะอาสาสมัครเพอ่ื แสดงถงึ ความรับผิดชอบ ความดงี ามความเสียสละต่อสังคม มีจติ อาสา และจิตสาธารณะ การจดั กจิ กรรม โรงเรียนกาหนดให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ได้ทั้งภายในและภายนอก โรงเรียน โดยใชร้ ปู แบบทีห่ ลากหลาย ดังรายละเอยี ดต่อไปนี้ 1. กาหนดให้ครูทปี่ รึกษาเป็นผู้รับผดิ ชอบ กากับ ดแู ล วางแผนการจดั กจิ กรรมรว่ มกบั นักเรียน 2. นักเรยี นบนั ทกึ การเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ลงในแบบบันทกึ การเข้าร่วม กิจกรรม โดยให้ครูที่ปรึกษาเป็นผู้ตรวจสอบ ซ่ึงผู้เรียนจะจัดกิจกรรมหรอื กิจกรรมเพ่ือสังคม และสาธารณประโยชนใ์ นเวลา สถานท่ี หรอื รปู แบบของกิจกรรมใดกไ็ ด้ 3. ครูท่ีปรึกษาเป็นผู้ประเมินผลกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยผู้เรียนต้องเข้าร่วม กิจกรรมใหค้ รบตามกรอบของโครงสรา้ งหลักสูตรโรงเรยี น การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรียนผู้เรียนสามารถเลือกจัดกจิ กรรมหรือ เขา้ รว่ มกิจกรรมไดท้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น ดังนี้

103 หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) 1. จัดกิจกรรมในลักษณะบูรณาการใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และประสบการณ์ของผู้เรียน โดย ผู้เรียนสามารถจัดกิจกรรมตามองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้และประสบการณ์ ซ่ึงสามารถจัดกิจกรรมได้ ดังนี้ 1.1 จดั กิจกรรมภายในโรงเรียน 1.2 จัดกจิ กรรมภายนอกโรงเรียน 2. จัดกิจกรรมลักษณะโครงการ โครงงาน หรือกิจกรรม หมายถึง กิจกรรมท่ีผู้เรียนนาเสนอการ จัดกิจกรรมต่อโรงเรียนเพ่ือขอความเห็นชอบในการจัดทาโครงการ โครงงาน หรือกิจกรรม ซึ่งมีระยะเวลา เรมิ่ ต้นและสิน้ สดุ ทีช่ ัดเจน โดยสามารถจัดกจิ กรรมได้ดงั นี้ 2.1 จัดกิจกรรมในโรงเรยี น 2.2 จดั กจิ กรรมนอกโรงเรยี น 3. จัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรอื่น หมายถึง กิจกรรมที่ผู้เรียนอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับ หน่วยงานหรือองค์กรอ่ืน ๆ ที่จัดกิจกรรมในลักษณะเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์โดยผู้เรียนสามารถ เลอื กเข้าร่วมกิจกรรมไดด้ งั น้ี 3.1 ร่วมกับหนว่ ยงานอน่ื ท่ีเขา้ มาจัดกิจกรรมในโรงเรียน 3.2 ร่วมกับหนว่ ยงานอน่ื ทจ่ี ัดกิจกรรมนอกโรงเรยี น เงื่อนไข เวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผเู้ รียนเขา้ รว่ มกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์อยา่ งต่อเน่ืองทุกภาค เรียน / ปี เน้นผู้เรียนเปน็ ผู้จัดกิจกรรมด้วยตนเองทกุ ขนั้ ตอนและต่อเนือ่ ง โดยมีครทู ี่ปรกึ ษาเป็นผตู้ รวจสอบและ ประเมินผลการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผู้เรียนจะจัดกิจกรรมหรือแสดงพฤติกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในเวลา สถานที่ หรือ รปู แบบของกิจกรรมใดกไ็ ด้

104 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมงต่อปี ลาดับที่ สาระกจิ กรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 2 ความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน ( พฤหัสบดีท่ี 2 ของเดอื นมิถุนายน ) 3 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียนและไปเวยี นเทียนทีว่ ัด 4 5 วันเขา้ พรรษาและวันปลูกต้นไม้แห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแล 1 6 รักษาไมด้ อกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( ข้นึ 15 7 8 ค่า เดือน 8 ) 9 10 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) วันแม่แห่งชาติ บาเพญ็ ประโยชนโ์ ดยดูแลรักษาไมด้ อกไม้ประดับ การ 1 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 12 สิงหาคม ) วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียน ( ขนึ้ 15 ค่า เดอื น 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ 1 การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 5 ธันวาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ 1 สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียน ( เสารท์ ่ี 2 ของเดอื นมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียน ( ข้นึ 15 ค่าเดอื น 3 ) รวมเวลา 10

105 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมงตอ่ ปี ลาดับที่ สาระกิจกรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 ความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน ( พฤหัสบดีท่ี 2 ของเดอื นมิถุนายน ) 1 2 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียนและไปเวยี นเทียนทีว่ ัด 3 วันเขา้ พรรษาและวันปลูกต้นไม้แห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแล 1 รักษาไมด้ อกไมป้ ระดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( ข้นึ 15 1 4 ค่า เดือน 8 ) 1 5 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 6 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) 1 7 วันแม่แห่งชาติ บาเพญ็ ประโยชนโ์ ดยดูแลรักษาไมด้ อกไม้ประดับ การ 1 8 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 12 สิงหาคม ) 1 9 วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 10 10 โรงเรียน ( ขนึ้ 15 ค่า เดอื น 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 5 ธันวาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( เสารท์ ่ี 2 ของเดอื นมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( ข้นึ 15 ค่าเดือน 3 ) รวมเวลา

106 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมงตอ่ ปี ลาดับที่ สาระกจิ กรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 ความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน ( พฤหัสบดีท่ี 2 ของเดอื นมิถุนายน ) 1 2 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียนและไปเวยี นเทียนทีว่ ัด 3 วันเขา้ พรรษาและวันปลูกต้นไม้แห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแล 1 รักษาไมด้ อกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( ข้นึ 15 1 4 ค่า เดือน 8 ) 1 5 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 6 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) 1 7 วันแม่แห่งชาติ บาเพญ็ ประโยชนโ์ ดยดูแลรักษาไมด้ อกไม้ประดับ การ 1 8 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 12 สิงหาคม ) 1 9 วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 10 10 โรงเรียน ( ขนึ้ 15 ค่า เดือน 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 5 ธันวาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรยี น ( เสารท์ ่ี 2 ของเดอื นมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( ข้นึ 15 ค่าเดอื น 3 ) รวมเวลา

107 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมงต่อปี ลาดับที่ สาระกจิ กรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 ความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน ( พฤหัสบดีท่ี 2 ของเดอื นมิถุนายน ) 1 2 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียนและไปเวยี นเทียนทีว่ ัด 3 วันเขา้ พรรษาและวันปลูกต้นไม้แห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแล 1 รักษาไมด้ อกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( ข้นึ 15 1 4 ค่า เดือน 8 ) 1 5 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 6 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) 1 7 วันแม่แห่งชาติ บาเพญ็ ประโยชนโ์ ดยดูแลรักษาไมด้ อกไม้ประดับ การ 1 8 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 12 สิงหาคม ) 1 9 วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 10 10 โรงเรียน ( ขนึ้ 15 ค่า เดอื น 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 5 ธันวาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( เสารท์ ่ี 2 ของเดอื นมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( ข้นึ 15 ค่าเดอื น 3 ) รวมเวลา

108 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมงตอ่ ปี ลาดับที่ สาระกิจกรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 ความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน ( พฤหัสบดีท่ี 2 ของเดอื นมิถุนายน ) 1 2 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียนและไปเวยี นเทียนทีว่ ัด 3 วันเขา้ พรรษาและวันปลูกต้นไม้แห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแล 1 รักษาไมด้ อกไมป้ ระดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( ข้นึ 15 1 4 ค่า เดือน 8 ) 1 5 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 6 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) 1 7 วันแม่แห่งชาติ บาเพญ็ ประโยชนโ์ ดยดูแลรักษาไมด้ อกไม้ประดับ การ 1 8 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 12 สิงหาคม ) 1 9 วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 10 10 โรงเรียน ( ขนึ้ 15 ค่า เดอื น 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 5 ธันวาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( เสารท์ ่ี 2 ของเดอื นมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( ข้นึ 15 ค่าเดือน 3 ) รวมเวลา

109 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรียน 10 ชั่วโมงตอ่ ปี ลาดับที่ สาระกจิ กรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 ความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( พฤหัสบดีที่ 2 ของเดือนมิถุนายน ) 1 2 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรียนและไปเวยี นเทยี นทว่ี ัด 3 วันเขา้ พรรษาและวันปลกู ต้นไม้แห่งชาติ บาเพญ็ ประโยชน์โดยดูแล 1 รักษาไมด้ อกไม้ประดบั การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( ข้นึ 15 1 4 ค่า เดือน 8 ) 1 5 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 6 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) 1 7 วันแม่แห่งชาติ บาเพ็ญประโยชนโ์ ดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การ 1 8 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 12 สิงหาคม ) 1 9 วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 10 10 โรงเรียน ( ขนึ้ 15 คา่ เดอื น 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 5 ธนั วาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( เสารท์ ่ี 2 ของเดือนมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( ข้นึ 15 คา่ เดอื น 3 ) รวมเวลา

110 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลาเรยี น 10 ชัว่ โมงต่อปี ลาดับที่ สาระกจิ กรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชนโ์ ดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 ความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น ( พฤหัสบดที ่ี 2 ของเดอื นมถิ นุ ายน ) 1 2 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรยี นและไปเวยี นเทยี นท่วี ัด 3 วันเขา้ พรรษาและวนั ปลกู ตน้ ไม้แห่งชาติ บาเพ็ญประโยชนโ์ ดยดูแล 1 รักษาไม้ดอกไมป้ ระดบั การทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( ขึ้น 15 1 4 ค่า เดือน 8 ) 1 5 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 6 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) 1 7 วันแม่แหง่ ชาติ บาเพญ็ ประโยชน์โดยดูแลรกั ษาไม้ดอกไมป้ ระดบั การ 1 8 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 12 สิงหาคม ) 1 9 วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 10 10 โรงเรยี น ( ข้นึ 15 คา่ เดือน 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 5 ธนั วาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรยี น ( เสารท์ ี่ 2 ของเดือนมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( ขึน้ 15 คา่ เดอื น 3 ) รวมเวลา

111 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 เวลาเรยี น 10 ช่ัวโมงตอ่ ปี ลาดับที่ สาระกจิ กรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชนโ์ ดยดูแลรกั ษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 ความสะอาดบรเิ วณโรงเรยี น ( พฤหสั บดที ี่ 2 ของเดือนมถิ นุ ายน ) 1 2 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรยี นและไปเวยี นเทยี นที่วัด 3 วันเขา้ พรรษาและวนั ปลกู ตน้ ไมแ้ ห่งชาติ บาเพ็ญประโยชนโ์ ดยดูแล 1 รักษาไม้ดอกไมป้ ระดบั การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( ขึน้ 15 1 4 ค่า เดือน 8 ) 1 5 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 6 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) 1 7 วันแม่แหง่ ชาติ บาเพญ็ ประโยชนโ์ ดยดูแลรกั ษาไม้ดอกไมป้ ระดบั การ 1 8 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 12 สงิ หาคม ) 1 9 วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 10 10 โรงเรยี น ( ข้นึ 15 คา่ เดือน 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 5 ธนั วาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรยี น ( เสารท์ ี่ 2 ของเดอื นมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( ขึน้ 15 คา่ เดอื น 3 ) รวมเวลา

112 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ตารางกาหนดสาระการจัดกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 10 ช่ัวโมงตอ่ ปี ลาดับที่ สาระกจิ กรรม เวลา 1 วันไหว้ครู บาเพ็ญประโยชนโ์ ดยดูแลรกั ษาไม้ดอกไม้ประดับ การทา 1 ความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน ( พฤหสั บดที ี่ 2 ของเดือนมถิ นุ ายน ) 1 2 วันวิสาขบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 1 โรงเรยี นและไปเวยี นเทยี นท่ีวัด 3 วันเขา้ พรรษาและวนั ปลกู ต้นไมแ้ ห่งชาติ บาเพ็ญประโยชนโ์ ดยดูแล 1 รักษาไม้ดอกไมป้ ระดบั การทาความสะอาดบริเวณโรงเรยี น ( ขึน้ 15 1 4 ค่า เดือน 8 ) 1 5 วันภาษาไทยแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาด 1 6 บรเิ วณโรงเรยี น ( 29 กรกฎาคม ) 1 7 วันแม่แหง่ ชาติ บาเพญ็ ประโยชนโ์ ดยดูแลรกั ษาไม้ดอกไมป้ ระดบั การ 1 8 ทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 12 สงิ หาคม ) 1 9 วันลอยกระทง บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ 10 10 โรงเรยี น ( ข้นึ 15 คา่ เดือน 12 ) วันพ่อแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยดูแลรักษาไม้ดอกไม้ประดับ การทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน ( 5 ธนั วาคม ) วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความ สะอาดบริเวณโรงเรยี น ( 1 มกราคม ) วันเด็กแห่งชาติ บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรยี น ( เสารท์ ี่ 2 ของเดือนมกราคม ) วันมาฆบูชา บาเพ็ญประโยชน์โดยการทาความสะอาดบริเวณ โรงเรียน ( ขึน้ 15 คา่ เดอื น 3 ) รวมเวลา

113 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) การประเมินผลกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน การประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรโรงเรียนบ้านานวน พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เป็นการประเมนิ การปฏบิ ัติกิจกรรมและผลงาน / ช้นิ งาน / คณุ ลักษณะของผูเ้ รียน โดยผู้เรียนต้องมี เวลาเข้าร่วมกิจกรรมตามเกณฑ์ที่กาหนดไว้ในแต่ละกิจกรรม ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษา กาหนด และใชเ้ ป็นข้อมลู ประเมินการเลื่อนชัน้ เรยี นและการจบการศกึ ษาระดับต่าง ๆ การประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้ารว่ มกิจกรรมการปฏบิ ัติกิจกรรม และผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด และใหผ้ ลการประเมินเป็นผ่านและไม่ผ่าน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น มี 3 ลักษณะ คือ 1. กจิ กรรมแนะแนว 2. กิจกรรมนกั เรยี น ซึง่ ประกอบด้วย 2.1 กจิ กรรมลกู เสอื เนตรนารี 2.2 กจิ กรรมชุมนมุ 3. กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ หลักการ การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรโรงเรียนบ้านทุ่งนุ้ย” มิตรภาพท่ี49”พุทธศักราช 2561ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ. 2560) เป็นการประเมินการปฏิบัติกิจกรรมหรือผลงาน/ช้ินงาน/คุณลักษณะของผู้เรียนเป็น ระยะอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นให้ผู้เรยี นค้นหาศักยภาพของตนเอง สะท้อนแนวคิดจากการปฏิบตั ิกิจกรรม การ ทางานกลมุ่ และการมจี ติ สาธารณะ โดยใหท้ ุกฝ่ายทเี่ กี่ยวขอ้ งมสี ว่ นรว่ มในการประเมิน แนวทางการประเมนิ การประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นมีแนวทางในการประเมนิ ตามแผนภาพ ดังน้ี กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรียน กิจกรรมเพือ่ สังคมและ ซ่อมเสริม สาธารณประโยชน์ ไม่ผา่ น ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ผา่ น 1. เวลาเขา้ ร่วมกิจกรรม ส่งผลการประเมนิ 2. การปฏิบตั ิกิจกรรม 3. ผลงาน/ช้ินงาน/ คุณลกั ษณะของ

114 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นได้กาหนดแนวทางท่ชี ัดเจนในการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2 ประการ คอื การประเมินพัฒนาผเู้ รยี นรายกจิ กรรม และการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นเพ่ือการตดั สิน 1. แนวทางการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นรายกจิ กรรม ดาเนนิ การดงั นี้ 1.1 ตรวจสอบเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียนให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนดไว้ โดย ผู้เรียนต้องมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด โดยการประเมินกิจกรรม พฒั นาผเู้ รียน จะต้องพิจารณาทง้ั เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและผลงานของผเู้ รียน ใหผ้ ล การประเมนิ เปน็ ผ่านและไมผ่ า่ น 1.2 ผู้เรียนทีม่ ีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑเ์ วลาการเขา้ รว่ มกจิ กรรม หรือเกณฑก์ ารปฏิบตั ิ กิจกรรมและผลงาน / ช้ินงานของผู้เรียน หรือท้ังสองเกณฑ์ถือว่าไม่ผ่านการประเมินผลกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน ผู้สอนต้องดาเนินการซ่อมเสริมและประเมินจนผ่าน ท้ังน้ีควรดาเนินการให้เสร็จส้ินในปีการศึกษาน้ัน ยกเวน้ มีเหตสุ ดุ วิสยั ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษา 2. แนวทางการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นเพือ่ การตัดสิน แนวทางการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นเพ่อื การตดั สินเลอื่ นชั้นและจบระดบั การศึกษา เป็นการประเมินการผ่านกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนเป็นรายปี / รายภาค เพ่อื สรปุ ผลการผ่านในแต่ละกิจกรรม สรปุ ผลรวมเพือ่ เล่ือนช้ันและประมวลผลรวมในปีสุดท้ายเพ่อื การจบแต่ละระดบั การศึกษาของโรงเรยี น โดย ดาเนนิ การดังนี้ 2.1 กาหนดใหม้ ผี ูร้ บั ผดิ ชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ของผเู้ รยี นทุกคนตลอดระดบั การศกึ ษา 2.2 ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินผลการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผ้เู รยี นเป็นราย บุคคลตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา เกณฑ์การจบแต่ละระดับการศึกษาท่ีสถานศึกษากาหนดนั้น ผู้เรียนจะต้อง ผ่านกิจกรรม 3 กจิ กรรมสาคัญ ดงั น้ี 2.2.1 กิจกรรมแนะแนว 2.2.2 กจิ กรรมนกั เรยี น - ระดับ ประถมศึกษา 1-6 กจิ กรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกจิ กรรมชมุ นุม - ระดบั ม. ต้น (ม.1-3) กิจกรรมลูกเสอื -เนตรนารี และกิจกรรมชมุ นมุ 2.2.3 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารประโยชน์ 2.3 งานทะเบียนและวดั ผลเปน็ ผู้ประมวลผลรวมปลายปีเพือ่ การประเมินการผา่ นชน้ั ปี / ระดับการศึกษา ทั้งนผี้ ู้เรยี นต้องมีผลการประเมนิ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ทกุ กจิ กรรม 2.4 เสนอผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาพจิ ารณาอนุมตั ิผลการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ผ่านเกณฑ์การจบแต่ละระดับการศกึ ษา

115 หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) เกณฑก์ ารตดั สิน ผู้เรียนจะตอ้ งได้รบั การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นและผา่ นเกณฑต์ ามที่สถานศึกษากาหนด โดย กาหนดเกณฑ์ในการประเมินอย่างเหมาะสม ดังนี้ 1. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาท้ังเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ในคู่มอื กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การกาหนดคุณภาพหรือ เกณฑ์ในการประเมินตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กาหนด ไว้ 2 ระดับ คือ ผ่าน และไม่ ผา่ น 2. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนประกอบด้วยกิจกรรม 4 ลักษณะ คือ 1) กิจกรรมแนะแนว 2) กจิ กรรมชมุ นุม 3) กจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารี 4) กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ 3. กาหนดประเด็นการประเมินให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมและกาหนด เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน ดงั น้ี เกณฑ์การตดั สินผลการประเมินรายกิจกรรม ผา่ น หมายถงึ ผูเ้ รียนมเี วลาเข้าร่วมกิจกรรมครบตามเกณฑ์ปฏบิ ตั ิ กจิ กรรม และมผี ลงาน / ชนิ้ งาน / คุณลักษณะตาม เกณฑ์ทสี่ ถานศึกษากาหนด ไมผ่ ่าน หมายถงึ ผู้เรยี นมเี วลาเข้าร่วมกจิ กรรมไมค่ รบตามเกณฑ์ ไม่ผา่ นการปฏิบตั ิกิจกรรม หรอื มีผลงาน/ชิน้ งาน / คุณลกั ษณะไมเ่ ป็นไปตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากาหนด เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นรายปี / รายภาค ผ่าน หมายถึง ผ้เู รยี นมีผลการประเมนิ ระดับ “ผา่ น” ในกิจกรรมสาคัญ ท้ัง 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ไมผ่ ่าน หมายถงึ ผเู้ รยี นมผี ลการประเมนิ ระดับ “ไม่ผ่าน” ในกจิ กรรม สาคัญกิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึงจาก 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ เกณฑก์ ารตดั สินผลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนเพอ่ื จบระดบั การศกึ ษา ผา่ น หมายถงึ ผเู้ รียนมีผลการประเมนิ ระดับ “ผา่ น” ทุกชัน้ ปี ในระดบั การศกึ ษานน้ั ไมผ่ า่ น หมายถึง ผู้เรียนมีผลการประเมินระดบั “ไม่ผา่ น” ทุกช้นั ปี ในระดบั การศึกษานั้น

116 หลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) 4. ใหใ้ ชต้ ัวอักษรแสดงผลการประเมินเป็น “ผ่าน” และ “ไมผ่ า่ น” ตามคาอธบิ ายดังนี้ ผลการประเมิน ความหมาย ผ่าน ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนร้อยละ 80 ของเวลาทั้งหมด ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและมผี ลงานตามเกณฑต์ ามท่แี ตล่ ะกจิ กรรมกาหนด ไม่ผา่ น ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนไมถ่ ึงรอ้ ยละ 80 ปฏิบัติกิจกรรม และมผี ลงานไม่เป็นไปตามเกณฑ์ตามทแี่ ตล่ ะกจิ กรรมกาหนด นักเรียนระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1-6 และช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม. 1-3) เข้าร่วมกจิ กรรม พฒั นาผเู้ รยี นและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามทส่ี ถานศึกษากาหนดทุกกิจกรรม ดังนี้ (1) กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี 40 ชั่วโมง/ปี (2) กิจกรรมชมุ นุม 40 ชวั่ โมง/ปี (3) กจิ กรรมแนะแนว 40 ชัว่ โมง/ปี (4) กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ 10 ชัว่ โมง/ป*ี (*กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ สอดแทรกอยู่ในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและ ภายนอกโรงเรียน) แนวทางแก้ไขนกั เรียนกรณไี มผ่ ่านเกณฑ์ กรณีที่ผู้เรียนไม่ผ่านกิจกรรมให้เป็นหน้าที่ของครูและผู้รับผิดชอบกิจกรรมนั้น ๆ ที่จะต้องซ่อม เสริมโดยให้ผู้เรียนดาเนินกิจกรรมจนครบตามเวลาที่ขาดหรือปฏิบัติกิจกรรมให้บรรลุตาม วัตถุประสงค์ ของกจิ กรรมนัน้ แล้วจงึ ประเมนิ ใหผ้ า่ นกิจกรรมเพ่อื บนั ทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรยี น ยกเว้นมเี หตสุ ุดวสิ ัยให้ รายงานผบู้ ริหารสถานศึกษาทราบเพ่อื ดาเนินการช่วยเหลือผเู้ รยี นอยา่ งเหมาะสมเป็นรายกรณีไป การเปล่ียนผลการเรียน “มผ” กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นในหลักสูตรโรงเรยี นบ้านท่งุ นุ้ย”มิตรภาพท4่ี 9”พุทธศกั ราช 2561ตามหลัก สูตนแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) กาหนดใหผ้ เู้ รียนเขา้ ร่วม กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น 3 กิจกรรม คือ 1) กจิ กรรมแนะแนว 2) กจิ กรรมนกั เรียน ซงึ่ ประกอบด้วย กจิ กรรม ลูกเสือ เนตรนารี และเลือกเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุม หรือชมรมอีก 1 กิจกรรม 3) กิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ ในกรณีที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “มผ” โรงเรียนมอบหมายให้ครูท่ีปรึกษากิจกรรมน้ัน ๆ เป็น ผรู้ บั ผิดชอบจัดซ่อมเสริม ให้ผเู้ รยี นทากิจกรรมในส่วนที่ผู้เรยี นไม่ไดเ้ ข้าร่วมหรือไม่ได้ทาจนครบถว้ น แล้วจึง เปลยี่ นผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ ท้ังนีต้ อ้ งดาเนินการให้เสร็จส้ินภายในภาคเรียนนน้ั ๆ ยกเว้น มเี หตสุ ดุ วิสัย ให้อยูใ่ นดุลยพินิจของโรงเรียนท่ีจะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน 1 ภาคเรียน แต่ต้อง ดาเนินการให้เสร็จส้ินภายในปีการศึกษาน้ัน

117 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ข้อเสนอแนะ การประเมินผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนัน้ จะตอ้ งคานึงถงึ สง่ิ ตอ่ ไปน้ี 1. ผู้เรียนมีเวลาการเข้าร่วมกจิ กรรมของผู้เรียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด โดยสถานศึกษา ควรกาหนดเวลาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนแต่ละกิจกรรม สาหรับกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชนผ์ ู้เรียนตอ้ งปฏิบัตกิ ิจกรรมครบตามโครงสร้างเวลาเรยี น 2. ผู้เรียนมีผลการปฏิบัติกิจกรรม และมีผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษา กาหนด โดยอาจจดั ให้ผูเ้ รยี นแสดงผลงาน แฟ้มสะสมงาน หรอื จัดนิทรรศการ 3. การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาอาจจัดกิจกรรมในลักษณะบูรณาการกิจกรรมหรือ โครงการต่าง ๆ เช่น กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมวันสาคัญ กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น ซึ่งสถานศึกษา สามารถประเมินผลการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวและนามาเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียนได้ 4. การจดั กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียนควรมอี งคป์ ระกอบในการดาเนินการ ดงั นี้ 4.1 มีครูท่ปี รึกษากิจกรรม และมแี ผนการดาเนนิ กิจกรรม 4.2 มีหลักฐาน ภาพถ่าย หรือแฟ้มสะสมงาน 4.3 มีผ้รู บั รองการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 4.4 มรี ายงานแสดงการเข้าร่วมกจิ กรรม

118 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ภาคผนวก

119 หลักสูตรกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ภาคผนวก ก คาส่งั แต่งต้งั คณะอนุกรรมการกลุม่ สาระการเรียนร้แู ละกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน โรงเรยี นบา้ นนานวน พทุ ธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

120 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) คาส่ังโรงเรยี นบา้ นนานวน ที่ 20 / ๒๕๖๓ เรอื่ ง แตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมการกล่มุ สาระการเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน ********************************* เพ่ือใหก้ ารบรหิ ารหลกั สตู รและงานวิชาการสถานศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานเปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ สอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด ๔ มาตรา ๒๗ ที่กาหนดให้ สถานศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานมีหนา้ ท่ีจดั ทาสาระของหลักสตู รเพอ่ื ความเป็นไทย ความเปน็ พลเมืองทด่ี ีของชาติ การดารงชวี ติ และการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพอื่ การศึกษาต่อ ในส่วนทเ่ี กยี่ วกับสภาพของปัญหาใน ชุมชน และสงั คม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์เพอ่ื เป็นสมาชิกท่ีดขี องครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาตแิ ละสอดคลอ้ งกับระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ด้วยคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตร และงานวชิ าการสถานศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พ.ศ.๒๕๔๔ อาศยั อานาจตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบริหารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๖ และท่แี ก้ไขเพิ่มเตมิ จงึ แตง่ ตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการสถานศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน โรงเรียนบ้านนานวนปีการศึกษา ๒๕๖๓ ดังนี้ ๑. นายปณธิ าร ห้าวหาญ ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นนานวน ประธานกรรมการ ๒. นางสาวณฐั ปภัสร์ แขมคา หัวหน้าการเรียนรู้ปฐมวัย กรรมการ ๓. นางบญุ ญา บุตรสวน หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย กรรมการ ๔. นางรชั นี บญุ เหลือง หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ กรรมการ ๔. นางสาวจันทิยา ปราณกี ิจ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ กรรมการ ๕. นายบรรดษิ ฐ์ เล่ือนเพช็ ร หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา กรรมการ ๖. นายสวาด บุญสรรค์ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาพลศกึ ษา กรรมการ ๗. นายบรรดษิ ฐ์ เลอื่ นเพ็ชร หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ กรรมการ ๘. นางสาวกติ ิยา ราชบรุ ี หวั หน้ากลุ่มสาระการงานอาชีพ และเทคโนโลยี กรรมการ ๙. นางเกศศนิ ี ยา่ งสุข หวั หน้ากลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ กรรมการ ๑๐. นางเกศศินี ยา่ งสุข หวั หน้างานแนะแนว กรรมการ ๑๑. นายสวาด บญุ สรรค์ หวั หนา้ งานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กรรมการ ๑๒. นางสาวจฑุ ามาศ พิมพ์ลา หวั หน้างานวดั และประเมินผล กรรมการ ๑๓. นางสาวจนั ทิยา ปราณีกิจ หวั หน้าฝ่ายวิชาการ กรรมการและเลขานกุ าร คณะกรรมการดาเนนิ การ มีหน้าทแ่ี ละดาเนินการจดั การตามข้นั ตอนทีก่ าหนด ดังน้ี ๑. วางแผนการดาเนินงานวชิ าการ กาหนดสาระรายละเอียดของหลักสูตรระดับสถานศึกษาและ แนวทางการจัดสัดส่วนสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และสภาพเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ท้องถิ่น

121 หลักสูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) ๒. จัดทาคู่มือการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กากับ ติดตาม ให้ คาปรึกษา เกย่ี วกับการพัฒนาหลักสูตร การจดั กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผลและการแนะแนว ให้สอดคลอ้ งและเปน็ ไปตามหลกั สตู รการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ๓. สง่ เสรมิ และสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการพัฒนาหลกั สูตร การจดั กระบวน การเรียนรู้ การ วดั และประเมินผลและการแนะแนวให้เป็นไปตามจุดหมายและแนวทางการดาเนินการของหลักสตู ร ๔. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ และชุมชน เพ่ือให้การใช้หลักสูตร เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและมีคุณภาพ ๕. ประชาสมั พันธ์หลักสูตรและการใช้หลกั สตู รแก่นักเรยี น ผู้ปกครอง ชุมชนและผเู้ ก่ียวข้องและนา ข้อมลู ปอ้ นกลับจากฝ่ายตา่ ง ๆ มาพิจารณาเพื่อปรบั ปรงุ และพฒั นาหลกั สตู รของสถานศึกษา ๖. สง่ เสริมสนบั สนนุ การวิจัยเกี่ยวกบั การพัฒนาหลกั สูตร และกระบวนการเรยี นรู้ ๗. ติดตามผลการเรยี นของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล ระดบั ชั้น และช่วงชั้น ระดบั วชิ า กลมุ่ วิชา ในแต่ ละปีการศึกษา เพื่อปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาการดาเนนิ งานดา้ นตา่ ง ๆ ของสถานศกึ ษา ๘. ตรวจสอบทบทวน ประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครู และการบริหารหลักสูตรระดับ สถานศึกษาในรอบปีที่ผ่านมา แล้ว ใช้ผลการประเมิน เพ่ือวางแผนพัฒนาการปฏิบัติงานของครูและการ บริหารหลกั สตู รปีการศกึ ษาต่อไป ๙. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบริหารหลักสูตรของสถานศึกษา โดยเน้นผลการพัฒนา คุณภาพนักเรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน คณะกรรมการบริหารหลักสูตรระดับเหนือ สถานศกึ ษา สาธารณชน และผู้เกี่ยวข้อง ๑๐. ใหด้ าเนินการประชุมคณะกรรมการอยา่ งนอ้ ยภาคเรยี นละ ๒ ครัง้ ท้ังน้ีให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุตาม วตั ถุประสงค์ทต่ี ้ังไว้ ตง้ั แต่บัดน้ีเป็นต้นไป สั่ง ณ วนั ที่ ๒ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ (ลงช่อื ) (นายปณิธาร ห้าวหาญ) ผ้อู านวยการโรงเรยี นบ้านนานวน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook