Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปทานกุรมความตาย

ปทานกุรมความตาย

Description: ปทานกุรมความตาย

Keywords: ความตาย

Search

Read the Text Version

ทองเลน / ทงเลน ทองเลน / ทงเลน เป็นคำาภาษาธิเบต หมายถึง “การให้และการรับ” พทุ ธศาสนาสายวชั รยานมคี วามเช่ือว่า ทองเลนจะช่วยเผยใหเ้ หน็ สจั ธรรมแห่ง ความทกุ ขแ์ ละจติ ใจทถี่ กู ปดิ กนั้ ของผอู้ นื่ และเขา้ ไปทาำ ลายพลงั ทป่ี ดิ กน้ั จติ ใจนนั้ รากฐานของทองเลนคอื ความกรณุ า เราสามารถประยุกต์แนวทางการทำาทองเลนมาใช้ในการเยียวยา ด้วย การทำาสมาธิภาวนาเพื่อแผ่ความกรุณาไปยังผู้ท่ีกำาลังเป็นทุกข์ ใช้จินตนาการ วาดภาพว่า ผปู้ ฏบิ ัติรบั เอาความทกุ ข์และความเจบ็ ปวดของผู้อืน่ มาไว้ทต่ี วั เอง และมอบความสขุ ความดี ความกรณุ ากลบั ไป วิธีการทำาทองเลน เร่ิมจากการน่ังสำารวมจิต ตามลมหายใจอย่างสงบ แลว้ จนิ ตนาการอญั เชญิ พระพทุ ธเจา้ หรอื พระโพธสิ ตั วท์ เี่ คารพนบั ถอื มาปรากฏ ตรงหน้า ทำาใจให้ผอ่ งแผว้ ปีติ จนน่ิงสงบ 100

จินตนาการถึงคนที่เรารู้สึกใกล้ชิดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนที่กาำ ลังมี ความทุกข์และเจ็บปวด ขณะทหี่ ายใจเข้า ใหจ้ ินตนาการวา่ เรารับเอาความ ทกุ ขค์ วามเจบ็ ปวดทง้ั หมดของเขาทเ่ี ปน็ กลมุ่ ควนั สดี าำ เขา้ มาในตวั เราดว้ ยจติ กรณุ า จนิ ตนาการวา่ กลุ่มควนั ดำาแผ่มาปกคลุมและห่อหุ้มตัวเรา ในขณะท่ี เราพร้อมรับความทุกข์ความเจ็บปวดของเขาอย่างเต็มท่ี นั่งเจริญเมตตา กรณุ าจนกลมุ่ ควนั ดาำ เรมิ่ กลายเปน็ ลาำ แสงบรสิ ทุ ธิ์ แลว้ เปดิ ใจของเราสง่ ผา่ น ความสุข ความกรุณา และความปีติกลับไปเป็นรัศมีเหลืองทองแผ่ชโลม ตวั เขา จนิ ตนาการวา่ เขารสู้ กึ ดขี นึ้ อกศุ ลกรรมและความทกุ ข์ ความเจบ็ ปวด ต่างๆ หายไป กลายเปน็ ความสขุ สงบ การทำาทองเลนไม่ใช่เพ่ือให้ผู้ปฏิบัติมีความทุกข์ หรือเจ็บปวดตาม ผู้อ่ืน แต่เป็นการชำาระล้างความยึดติดในตัวตน ละวางความกลัวว่าตนจะ เป็นทุกข์ และฝึกความกรุณา หากไม่ถนัดในการสร้างจินตนาการ ขอให้ ใช้ความรู้สึกในการรับรู้ความทุกข์ท่ีเข้ามา และส่งความรู้สึกแห่งกรุณา ออกไปแทน 101

ส่วนที่ 6 วัฒนธรรม กบั การตาย ก�รร้จู ักคว�มต�ยในแงม่ มุ ท�งวฒั นธรรมซงึ่ หม�ยถึง ชุดคว�มเชื่อ คว�มหม�ย ตลอดจนแบบแผนประเพณี จะช่วยให้เร�เกย่ี วขอ้ งสัมพนั ธก์ ับคว�มต�ยไดอ้ ย�่ งถูกต้อง ตลอดจนแสดงคว�มเค�รพผู้ต�ยและญ�ตมิ ติ ร ไดอ้ ย�่ งเหม�ะสม 102



ความเชือ่ เร่อื งเวลาตาย ชาวจีนมีความเชื่อที่สัมพันธ์กับโหราศาสตร์ ตลอดเวลา ท้งั เรอ่ื งฤกษย์ าม เร่ืองฮวงจยุ้ ความเชื่อ เรอื่ งเวลาตายจงึ สาำ คญั ชาวจนี บางกลมุ่ มคี วามเชอ่ื วา่ ถา้ ผ้ตู ายเสียชวี ติ ในช่วงเช้าถงึ เทีย่ ง ผู้ตายจะเอาบุญกุศลไป 1 มอ้ื เหลอื ไวใ้ ห้ กบั ลูกหลาน 2 มื้อ ถ้าเสยี ชีวติ ในชว่ งบ่าย ผู้ตายจะเอาไป 2 ม้อื เหลือไวใ้ ห้ ลกู หลาน 1 มือ้ หากเสียชวี ิตระหว่าง 6 โมงเย็นถงึ เทีย่ งคนื ถอื วา่ ผตู้ ายเอา ติดตัวไปท้ัง 3 ม้ือ ไม่เหลืออะไรไว้ให้ลูกหลานเลย ส่วนคนที่ตายก่อนเช้า วันใหม่ ยังไม่ได้ทานอะไรสักมื้อ ถือว่าไม่ได้เอาบุญกุศลไปด้วย ท้ิงไว้ให้ ลกู หลานทั้งหมด ชาวจีนถือว่า การตายท่ีดีท่ีสุดคือการตายให้เหลือ “มื้อ” (หมายถึง บุญกศุ ล) ไวใ้ หล้ ูกหลานมากท่ีสุด เพราะจะทาำ ใหล้ กู หลานเจรญิ รงุ่ เรอื ง การเข้าใจความเช่ือดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการทำางานของทีมดูแล ในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ใกล้ตายให้ตรงตามความต้องการของผู้ป่วย และญาติ หรือช่วยให้ญาติสามารถตัดสินใจงดใช้เคร่ืองช่วยชีวิตต่อผู้ป่วยได้ ในเวลาท่ีเหมาะสม 104

ตายฉับพลนั (ตายโหง) การตายด้วยอุบัติเหตุร้ายแรงหรือถูกทำาร้ายอย่างรุนแรง จนร่างกาย บาดเจ็บสาหัส ความเจ็บปวดจากบาดแผลมักส่งผลให้ผู้บาดเจ็บหวาดกลัว ทุกข์ทรมาน ทรุ นทุราย ส่งผลให้จิตสุดท้ายไมส่ งบ ตายแลว้ ไปสูท่ คุ ติภมู ิ การตายฉบั พลันยงั รวมถึงเหตไุ ม่คาดฝนั ตา่ งๆ ไมว่ ่าจะเป็นหวั ใจวาย ตาย เสลดติดคอ นอนหลับไมต่ นื่ หรอื โดนฟ้าผา่ เป็นตน้ การตายในลกั ษณะดงั กลา่ วมกั ถกู นยิ ามวา่ เปน็ การตายไมด่ ี แตห่ ากใน ชว่ งขณะสุดทา้ ย ผู้ใกลต้ ายสามารถรวบรวมสติ ระลึกถงึ สิ่งดงี าม ปลอ่ ยวาง ความคิดอกุศล และน้อมนำาจิตใจไปสู่สุคติภูมิได้ ย่อมนับเป็นการตายที่ดี เชน่ กัน 105

ตายตาหลบั การตายตาหลบั มคี วามหมายสองประการ คอื 1) สภาพทผ่ี ตู้ าย ตายโดยท่ี เปลอื กตาปิดสนทิ และ 2) การตายอย่างหมดห่วงกงั วล ตายอยา่ งวางใจ ภาพของผู้ตายที่เสียชีวิตในสภาพหลับตา เป็นภาพท่ีทำาให้ผู้พบเห็น เกิดความสบายใจ เพราะการหลับตาถูกเชื่อมโยงเข้ากับการนอนหลับพักผ่อน การปล่อยวาง ความหมดห่วงกังวล ในขณะที่การลืมตาค้างเป็นเวลานาน ถกู เชอ่ื มโยงกบั ความตน่ื ตระหนก ความคา้ งคาใจ ผดิ ธรรมชาตขิ องมนษุ ยซ์ งึ่ ตอ้ ง กระพริบตาบอ่ ยๆ ดังนน้ั เมื่อผูต้ ายเสียชีวิตในสภาพที่หลับตา ผใู้ กล้ชิดมกั รสู้ กึ อนุ่ ใจว่าผตู้ ายไดจ้ ากไปอย่างสงบ หากผู้ตายมีตาที่เปิดค้าง อาจเกิดจากสาเหตุทางกาย หรือทางจิตใจ ผใู้ กลช้ ดิ อาจกระซบิ นาำ ทางใหผ้ ใู้ กลต้ ายปลอ่ ยวางความหว่ งกงั วล เดนิ ทางไปสสู่ คุ ติ แลว้ จงึ ปดิ เปลอื กตาลงเบาๆ เมอ่ื ผตู้ ายเพง่ิ เสยี ชวี ติ ไมน่ าน เพราะหากทอดเวลา นานออกไปจะปดิ เปลือกตาไดย้ ากขน้ึ เนอื่ งจากรา่ งกายเกิดการแขง็ ตัว 106

คาํ เทียบเคียงตอ่ ความตาย ความตายเป็นปรากฏการณ์สำาคัญของทุกสังคม จงึ มคี าำ อปุ มาอปุ มยั เกย่ี วกบั ความตายมากมาย สะทอ้ น ถึงความเช่ือและทัศนคติต่อความตายของแต่ละสังคม คาำ อปุ มายงั กระตนุ้ ทาำ ใหเ้ กดิ การทบทวนหรอื ฉกุ คดิ เรอ่ื ง ความตายในมมุ มองใหม่ด้วย 107

การเดินทาง การเดนิ ทางเปน็ คาำ อปุ มาเกยี่ วกบั ความตายทใ่ี ชก้ นั อยา่ งกวา้ งขวาง ในหลายวฒั นธรรม เปน็ การสะทอ้ นถงึ ความเชอื่ ทวี่ า่ ชวี ติ มไิ ดส้ นิ้ สดุ ลงเมอ่ื รา่ งกายตายไปแลว้ ในทางศาสนา เมือ่ ชวี ิตยุตลิ ง คอื การตายทางรา่ งกาย แตจ่ ติ หรอื วญิ ญาณ จะยงั คงอยแู่ ละเดินทางไปสู่สภาวะใหมๆ่ เช่น ไปเกิดใหม่ หรอื เดนิ ทางไปพบพระเจ้า ในทางพุทธศาสนามองว่า ความตายเป็นโอกาสท่ีจะได้เรียนรู้ ประสบการณ์ สงั่ สมความดี และพฒั นาสตปิ ญั ญาจนสามารถเขา้ ถงึ สจั ธรรม บรรลุนิพพาน ไม่ต้องกลับมาเกดิ อีกตอ่ ไป ความเชื่อดังกล่าว จะช่วยลดความกลัวตาย โดยเฉพาะความกลัว ตัวตนจะดบั สูญหลงั จากตายไปแลว้ ลงได้ 108

เปลย่ี นบา้ นใหม่ คำาอุปมาของความตาย ว่าร่างกายเหมือนบ้าน อนั เปน็ ทอี่ ยอู่ าศยั ของจติ หรอื วญิ ญาณ วนั หนงึ่ เมอ่ื บา้ น เสอ่ื มโทรมจนกระทงั่ ผพุ งั ไปตามกาลเวลา ไมส่ ามารถใช้ เปน็ ทอ่ี าศยั ของจติ หรอื วญิ ญาณไดอ้ กี ตอ่ ไป จงึ ตอ้ งออก ไปอยูใ่ นบา้ นใหมท่ ด่ี กี ว่าบ้านหลงั เดมิ ทผ่ี ุพังไปแลว้ ความเชอ่ื ดงั กลา่ วปรากฏอยใู่ นสงั คมทเ่ี ชอ่ื ในเรอ่ื ง การเวยี นวา่ ยตายเกดิ จนกวา่ จะบรรลโุ มกษะ (ในศาสนา พราหมณ-์ ฮนิ ด)ู หรอื บรรลนุ พิ พาน (ในศาสนาพทุ ธ) และ เป็นปัจจัยหนึ่งที่เอื้อให้ผู้ใกล้ตายจากไปอย่างสงบได้ เพราะช่วยลดความกลัวตาย หรือกลัวตัวตนจะดับสูญ หลังจากตายไปแล้วลงได้ 109

เปล่ียนภพภมู ิ ตามความเชอ่ื ในพุทธศาสนา ชวี ติ มไิ ดส้ ิน้ สดุ ที่ความตาย หลังจาก ตายแลว้ ชวี ติ ยงั คงดาำ เนนิ อยา่ งสบื เนอื่ งตอ่ ไปในรปู แบบตา่ งๆ ตามภพภมู ิ หรือสภาพแวดลอ้ มทีแ่ ตกตา่ งกัน เช่น นรก โลกมนษุ ย์ สวรรค์ ฯลฯ ชีวิตจะไปเกิดในภพภูมิใด เป็นผลจากการทำาความดีหรือความชั่ว ในอดีต หากทำาความดีเมื่อตายย่อมมีโอกาสไปเกิดในภพภูมิท่ีดี เช่น เกดิ ในสวรรค์ หรอื มีโอกาสพฒั นาจิตใจให้ดีย่ิงขนึ้ หากทาำ ชั่วจะเกิดผลใน ทางตรงข้าม ความเชอื่ เรอื่ งภพภมู ิ จะชว่ ยใหผ้ คู้ นมกี าำ ลงั ใจในการทาำ ดี ภาคภมู ใิ จ ในความดขี องตน ไมเ่ สยี ดายชวี ติ ในยามใกลต้ าย วางใจและไมก่ ลวั โลกหนา้ ซง่ึ เป็นปจั จัยที่เกื้อหนนุ ต่อการตายอยา่ งสงบ สำาหรบั ผู้เห็นว่า แม้จะอย่ใู นภพภมู ทิ ี่ดี แต่กย็ ังคงตอ้ งตดิ อยู่ในห้วง แห่งการเวียนว่ายตายเกิดไม่สิ้นสุดอยู่น่ันเอง เขาย่อมเลือก บาำ เพญ็ เพยี ร อบรมพฒั นาจติ และปญั ญาตอ่ ไปจนเกดิ ความรแู้ จง้ หลดุ พน้ จากการเวียนว่ายในภพภมู ิโดยสิน้ เชิง 110

111

สว่ นท่ี 7 การตายและ การเตรียมตัว ตาย ห�กคว�มต�ยคือก�รเดนิ ท�ง ประเดน็ ต่�งๆ ดังต่อไปน ี้ คือก�รฝึกฝน เตรยี มเสบยี ง และอปุ กรณ์ทจี่ �ำ เปน็ ส�ำ หรับก�รเดินท�ง สู่สภ�วะใหมอ่ ย�่ งร�บรื่นและปลอดภัย 112

113

มรณานสุ ติ การเจริญมรณานสุ ติ การเจรญิ มรณานุสติ หรือมรณานสุ ติ คอื การ ระลกึ ถงึ ความตายอยเู่ สมอ เปน็ สมั มาสตปิ ระเภทหนงึ่ ทท่ี กุ คนควรปฏบิ ตั ิ มเี ปา้ หมายคอื การกลบั มาทบทวน และดำาเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท เร่งทำาความดี สรา้ งความคนุ้ เคยตอ่ ความพลดั พรากสญู เสยี หากทาำ แลว้ จติ ใจเศรา้ หมอง หดหู่ เกดิ อาการซมึ เศรา้ แสดงวา่ ทำาไม่ถกู วิธี ควรต้องปรกึ ษาผูม้ คี วามรใู้ นด้านนี้ มรณานุสติมี 2 ส่วนคือ 1) การระลึกถึงความจริงว่า เราจะต้องตาย อยา่ งแน่นอน และตายไดท้ ุกเมือ่ ไม่ว่าพร่งุ นี้ วนั น้ี ชวั่ โมงนี้ นาทีน้ี 2) การถาม ตัวเองวา่ เราพรอ้ มตายหรอื ยัง หากยงั ไมพ่ ร้อม เพราะเหตใุ ดจงึ ไม่พร้อม การเจริญมรณานสุ ติทง้ั 2 ส่วนจะเช่อื มโยงมาสูก่ ารปฏิบตั ิ ช่วยกระตนุ้ ใหข้ วนขวายทาำ ความดี ไมผ่ ดั ผอ่ นในการทาำ หนา้ ทท่ี ส่ี าำ คญั ตอ่ ตนเอง ครอบครวั ญาตมิ ติ ร หรอื สว่ นรวม หลกี หนจี ากความชว่ั ฝกึ ฝนจติ ใจใหเ้ รยี นรกู้ ารปลอ่ ยวาง จากความยดึ ตดิ ถือมัน่ ในสง่ิ ตา่ งๆ และเหน็ คณุ คา่ ของส่งิ ที่มอี ยใู่ นปจั จบุ นั 114

การระลกึ ถงึ ความตายสามารถฝกึ ได้หลายทาง เช่น 1. ซ้อมต�ยก่อนนอน ทุกวันก่อนนอน พิจารณาว่า คืนนี้อาจเป็นคืน สดุ ทา้ ยของเรา รา่ งกายทเ่ี คยเคลอ่ื นไหวจะแนน่ ง่ิ เยน็ ชดื และตายในทส่ี ดุ จงั หวะ นใ้ี ห้ระลึกว่าคนรัก การงาน ทรัพย์สมบัติ และชีวิตของเรา เป็นสิ่งท่ีต้องละไว้ เบอ้ื งหลงั ไมส่ ามารถนำาไปด้วยได้ จากนัน้ ใหส้ ำารวจใจตนเองวา่ เราพร้อมจะ ปลอ่ ยวางได้แคไ่ หน เรายังติดข้องห่วงกงั วลส่ิงใด 2. ซ้อมต�ยขณะเดินท�ง จินตนาการว่า เป็นการเดินทางครั้งสุดท้าย หากเกิดอุบัติเหตถุ งึ ตายในระหวา่ งการเดนิ ทาง เราจะวางใจอย่างไร เราพรอ้ ม จะตายหรอื ไม่ มสี ่ิงใดที่คัง่ คา้ งอยู่ เราจะปล่อยวางได้หรอื ไม่หากต้องตาย 3. เงนิ ห�ย สญู เสียทรัพย์ ระลกึ วา่ หากเราตายไป ทรัพย์สมบตั ติ ่างๆ ทเ่ี คยแสวงหาสะสมมาได้ ตอ้ งสญู เสยี ไปทง้ั หมด หากยงั ทาำ ใจไมไ่ ดก้ ารตายอยา่ ง สงบคงจะเกิดได้ยาก 4. ก�รนกึ ถงึ ง�นศพของตนเอง เมอ่ื เราตาย เราอยากใหค้ นทม่ี างานศพ พดู ถงึ เราแบบไหน เราไดท้ าำ ความดตี อ่ บคุ คลตา่ งๆ มากพอแลว้ หรอื ยงั หากวา่ ยงั คงยากทใี่ ครจะพดู ถึงเราในทางทดี่ ี จึงควรเร่งขวนขวายทำาความดี 5. ก�รพจิ �รณ�ถงึ คว�มเน�่ เปอ่ื ยของร�่ งก�ย เมอ่ื เราตายไป รา่ งกาย ทเ่ี รารกั เราหว่ ง ทเ่ี คยยดื หยนุ่ ไดก้ ลบั เรม่ิ แขง็ ทเ่ี คยอนุ่ กลบั เยน็ ชดื ทเี่ คยปรงุ แตง่ ใหส้ วยงามเร่มิ สกปรก ส่งกลน่ิ เหมน็ น้ำาเหลืองไหลออกจากรา่ ง ไม่มีใครอยาก อยใู่ กลช้ ดิ ขอ้ พจิ ารณาเหลา่ นเ้ี ปน็ ไปเพอ่ื คลายความยดึ ตดิ ในรา่ งกายและรปู ลกั ษณ์ ท่สี วยงาม 115

อภยั -อโหสกิ รรม อภัย คือ ไม่มีภัยต่อผู้อื่น ไม่เป็นศัตรู ไม่เป็น อันตรายตอ่ ผู้อน่ื หากใครทาำ ให้เราโกรธ เรายกโทษให้ หรอื ไม่มีโทสะตอบ น่ันคือการทำาอภยั ทาน อโหสกิ รรม คอื กรรมทไี่ มส่ ง่ ผลแกผ่ กู้ ระทาำ กรรม อีกตอ่ ไป วิธอี โหสิกรรมวิธีหน่งึ คือ การยกโทษให้ เชน่ เม่ือเราประพฤติล่วงเกินผู้อ่ืนด้วยกาย วาจา หรือใจ แลว้ ไปขอใหผ้ ทู้ เี่ ราประพฤตลิ ว่ งเกนิ ยกโทษให้ เมอื่ เขายกโทษใหแ้ ลว้ ถอื วา่ กรรม นั้นเปน็ อโหสิกรรม ไมใ่ หผ้ ลอกี ตอ่ ไปทงั้ ในชาตนิ ี้และชาตหิ น้า อโหสกิ รรมจึงมี ความหมายวา่ การเลกิ แล้วตอ่ กนั การไมเ่ อาโทษกัน การเลิกจองเวรกนั การใหอ้ ภยั การอโหสกิ รรม จะกอ่ ใหเ้ กดิ ความรกั ใคร่ อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสงบ สามารถกำาจัดความโกรธ ความแค้น ความพยาบาทให้หลุดพ้นไปได้ เป็นการ ชนะใจตัวเอง ทำาใหจ้ ิตใจเบาสบายและแจม่ ใส การเปดิ โอกาสใหผ้ ใู้ กลต้ ายไดส้ ะสางความรสู้ กึ ขนุ่ แคน้ เคอื งใจ ขออโหสกิ รรม ตอ่ ผทู้ ต่ี นไดเ้ คยลว่ งเกนิ ไว้ และใหอ้ ภยั แกผ่ ทู้ เ่ี คยทาำ ความเจบ็ แคน้ ขนุ่ เคอื งกบั ตน จะช่วยให้ผู้ใกล้ตายได้ปลดเปลื้องความรู้สึกผิด เกิดความสบายใจ และจากไป ดว้ ยความสงบได้ 116

นาํ ทาง บอกทาง กระบวนการช่วยเหลอื ผูป้ ว่ ยใหจ้ ากไปอยา่ งสงบในช่วงสุดทา้ ยของชวี ิต ในศาสนาพทุ ธ นยิ มใหพ้ ระสงฆม์ าสวดใหพ้ ร นาำ ภาวนา หรอื พดู นอ้ มนาำ จติ ใหเ้ ปน็ ไปในทางกุศล ในศาสนาอิสลาม นิยมมาสวดพระคมั ภีรอ์ ัลกรุ อ่าน ใน ศาสนาคริสต์บางนิกาย จะเชิญบาทหลวงมาทาำ พิธศี ีลเจมิ คนไข้ (ศลี ทาสุดท้าย) ในทางพุทธศาสนา นอกจากการนิมนต์พระสงฆ์มาช่วยบอกทางแล้ว ครอบครัว ญาติผใู้ หญห่ รือคนใกลช้ ดิ ท่ผี ูป้ ว่ ยนบั ถือกส็ ามารถเปน็ ผ้ชู ่วยนำาทาง ได้เช่นกนั เชน่ การช่วยปลดเปลอ้ื งความกงั วล บอกให้ผ้ปู ่วยจากไปโดยไม่ตอ้ ง เปน็ หว่ งคนขา้ งหลงั การบอกเลา่ ถงึ คณุ ความดที ผี่ า่ นมาของผปู้ ว่ ย การประกอบ พิธีกรรมน้อมนำาให้ผู้ใกล้ตายเกาะเก่ียวในสิ่งดีงาม เช่น การสวดมนต์ การขอ อโหสกิ รรม เป็นตน้ 117

สติ ความรตู้ วั ท่ัวพร้อมในปจั จุบันขณะ การรู้สิง่ ทเ่ี กิดข้ึนในกายและใจ ของตน ในทางพุทธศาสนา การตายที่ดี คือ ตายอย่างมีสติ เพราะจิตท่ี ประกอบด้วยสติ เป็นจติ ทเี่ ป็นกุศล จึงชว่ ยปดิ กั้นอบาย สติเป็นเครื่องช่วยให้ใช้ปัญญาพิจารณา ความจริงขณะตาย เห็นความจริงว่าร่างกาย เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน จนจิตใจ ปล่อยวางความยึดติดถือม่ันในสิ่งต่างๆ และตายอยา่ งสงบได้ การเจริญสติหรอื การพฒั นาใหจ้ ิตมี ความฉับไวรู้เท่าทันสภาวะอารมณ์ที่เกิดข้ึน ทาำ ไดห้ ลากหลายวธิ ี เชน่ การภาวนาตามลมหายใจ การรู้กายทีเ่ คลอื่ นไหว รู้ใจทค่ี ดิ นกึ เปน็ ตน้ 118

สถานท่ตี าย คนสว่ นใหญท่ ร่ี ตู้ วั วา่ กาำ ลงั จะเสยี ชวี ติ มกั อยากกลบั ไปอยทู่ บี่ า้ นของ ตนเอง เพราะเป็นสถานที่ท่ีคุ้นเคย แวดล้อมไปด้วยลูกหลานญาติมิตร ทาำ ใหร้ สู้ กึ อบอนุ่ และสบายใจ จดั สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ออื้ ตอ่ ความสขุ สบายได้ งา่ ย และทาำ พธิ ีกรรมเพ่อื ชว่ ยเหลือทางจติ วิญญาณได้สะดวก แต่การกลับไปตายที่บ้านในสังคมปัจจุบันทำาได้ยาก เพราะสภาพ ความเป็นอยู่ที่ลูกหลานต้องดิ้นรนทำามาหากิน จึงมีเวลาน้อย หรือขาด ความรใู้ นการดูแลผปู้ ว่ ย ในกรณีท่ผี ูป้ ่วยระยะสดุ ทา้ ยจาำ เป็นตอ้ งรักษาตัว อยู่ท่โี รงพยาบาล ควรจัดสภาพบรรยากาศในห้องผู้ปว่ ยให้ผอ่ นคลายทสี่ ดุ เท่าท่ีจะเป็นไปได้ เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายด้วยกัน อย่างมีคุณภาพและจากไปอยา่ งสงบ 119

บรจิ าคร่างกาย การอทุ ศิ รา่ งกายเพอ่ื การศกึ ษา วจิ ยั หรอื การรกั ษาทางการแพทย์ ในกรณีนี้ร่างกายของผู้ตายจะกลายเป็น “อาจารย์ใหญ่” ให้สถาบัน ทางการศึกษาได้ใช้ในการเรียนการสอน ค้นคว้าวิจัย ต่อยอด องค์ความรู้ในการรักษาเยยี วยาผู้ป่วย หากผู้บรจิ าคได้สละรา่ งกายด้วย ทา่ ทที ี่ถูกตอ้ ง กล่าวคอื บริจาคด้วยจิตคิดเก้อื กูลประโยชนต์ ่อผอู้ นื่ ดว้ ย ใจรู้เท่าทันว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา ก็จะช่วยปล่อยวางความยึดติดใน ร่างกาย หากระลึกถึงคุณความดีอันเกิดจากการบริจาคทานคร้ังนี้ก่อน ตาย บญุ กศุ ลทีไ่ ดท้ ำาย่อมกลายเปน็ ปัจจัยชว่ ยให้จากไปอย่างสงบ 120

บริจาคอวยั วะ การบรจิ าคอวัยวะตา่ งจากการบริจาครา่ งกาย คอื มุ่งเน้นการบรจิ าค ชิ้นส่วนอวัยวะเพื่อการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งสามารถบริจาคตามชิ้นส่วน ที่ประสงค์จะบริจาค เช่น ดวงตา หัวใจ ตับ ปอด ไต หรืออวัยวะทุกส่วน ทีส่ ามารถบรจิ าคได้ การบริจาคอวัยวะแตกต่างจากการบริจาคร่างกาย คือ แม้แพทย์จะ ทาำ การผ่าตดั อวยั วะไปใชแ้ ลว้ ร่างกายของผู้ตายยังจะสามารถนำาไปประกอบ พิธีทางศาสนาได้ต่อไป ในขณะท่ีการบริจาคร่างกายน้ัน ญาติจะไม่ได้รับศพ กลบั มาทำาพิธที างศาสนา ทั้งนี้แม้ผู้บริจาคร่างกายหรืออวัยวะจะแสดงความจำานงการบริจาค ไว้แล้ว แต่แพทย์ก็อาจวินิจฉัยไม่นำาร่างกายไปใช้ในการศึกษาค้นคว้า หรือ ไม่ผ่าช้ินส่วนอวัยวะไปใช้งานก็ได้ เพราะไม่ผ่านเกณฑ์ตามเง่ือนไขที่ทาง สถานพยาบาล หรอื สถานการศึกษาทไี่ ด้กำาหนดไว้ หากผตู้ ายเคยแสดงความจาำ นงบรจิ าคอวยั วะไว้ ญาตคิ วรตดิ ตอ่ ศนู ยร์ บั อวยั วะ โทรศัพทห์ มายเลข 1666 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากเป็นความจำานง บริจาคดวงตาไว้ ควรตดิ ตอ่ ภายใน 6 ชั่วโมงหลังการตาย 121

ความปรารถนากอ่ นตาย กอ่ นเสยี ชวี ติ ผปู้ ว่ ยอาจมคี วามปรารถนาทตี่ อ้ งทาำ ใหบ้ รรลกุ อ่ นตาย เช่น ได้พบคนท่ีไม่ได้พบกันมานาน ได้กินอาหารท่ีไม่ได้กินเพราะความ เจบ็ ป่วย ได้ถา่ ยภาพกับลกู หลานท่ีกำาลงั จะรับปรญิ ญา สาำ หรับเดก็ เล็กๆ ที่ ปว่ ยหนกั บางคนอาจจะอยากได้ของเลน่ หรือไปเท่ยี วสวนสนุก เปน็ ตน้ การช่วยให้ผู้ใกล้ตายได้ทำาในสิ่งที่ใฝ่ฝันในวาระสุดท้ายของชีวิต เป็นการสรา้ งความแช่มชื่นใหแ้ กจ่ ิตใจ สรา้ งกำาลังใจ เติมเต็มชีวติ ใหส้ มบูรณ์ เปน็ ปจั จัยหนึ่งทจี่ ะช่วยใหผ้ ้ใู กล้ตายจากไปอย่างสงบได้ 122

การปลอ่ ยวาง อปุ สรรคของการตายดี คอื การยดึ ตดิ ถอื มนั่ ในสง่ิ ตา่ งๆ ปฏเิ สธขดั ขนื ความพลัดพราก ไมว่ า่ จะเป็นการพรากจากทรัพย์สมบัติ เกียรตยิ ศชือ่ เสียง การงาน คนท่รี กั ความสขุ รา่ งกาย ตัวตน จงึ ทำาให้ความตายเป็นความทกุ ข์ ความอยากได้ อยากมี อยากเป็นในสิ่งต่างๆ แมแ้ ต่ความอยากไป ภพภมู ิที่ดี เชน่ ไปเกดิ ในสวรรค์ ไม่อยากตกนรก ลว้ นเป็นอุปสรรคตอ่ การ ตายดี การปลอ่ ยวางจากสง่ิ ตา่ งๆ จะชว่ ยใหเ้ กดิ ความโปรง่ เบา พรอ้ มตอ้ นรบั ความตาย จึงควรฝกึ ฝนดว้ ยการเจริญมรณานสุ ติ (ดูคำาวา่ “มรณานุสตฯิ ”) ในกรณีท่ีผู้ป่วยระยะสุดท้ายยังไม่สามารถปล่อยวางได้ด้วยตัวเอง ผู้ใกล้ชิดอาจช่วยเหลือด้วยการนำาทางหรือบอกทางแก่ผู้ป่วยได้ (ดูคำาว่า “นาำ ทาง บอกทาง”) 123

กลา่ วอาํ ลา การเปิดเผยความในใจให้ผู้ใกล้ตายรับรู้ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ในขณะทีส่ ญั ญาณชพี ออ่ นลงเป็นลำาดับ เป็นขัน้ ตอนสาำ คญั เพื่อให้ลกู หลาน ญาตมิ ติ รกลา่ วคำาอำาลาเปน็ ครง้ั สุดทา้ ย โดยการพดู ถงึ ความรสู้ ึกดีๆ ที่มตี อ่ ผใู้ กลต้ าย ชน่ื ชม และขอบคณุ ในความดขี องผใู้ กลต้ ายทไ่ี ดก้ ระทาำ มา ขอขมา ในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน ก่อนจะน้อมนำาให้ผู้ใกล้ตายปล่อยวางส่ิงต่างๆ ไม่ต้อง กงั วลใดๆ หรอื ระลึกถงึ พระรตั นตรัยหรือส่ิงศกั ดิ์สทิ ธิท์ ี่นับถอื แมว้ า่ บางคนจะเคยกลา่ วคาำ อาำ ลาผปู้ ว่ ยไปแลว้ แตก่ ารกลา่ วคาำ อาำ ลา ก่อนสิ้นลมก็เป็นส่ิงท่ีมีประโยชน์ ญาติมิตรควรรักษาบรรยากาศให้สงบ ละเว้นการแทรกแซงรา่ งกายหรือยื้อชวี ติ ผ้ปู ่วย 124



บทสง่ ทา้ ย หนังสือ “ปทานุกรมความตาย” น้ี เดิมทีทีมงานโครงการเผชิญความตาย อยา่ งสงบ เพยี งตอ้ งการรวบรวมคาำ ศพั ท์ พรอ้ มทง้ั บนั ทกึ หมายเหตขุ อ้ คดิ ทเี่ กย่ี วกบั การใช้ชีวิตที่ดี และเผชิญความตายอย่างสงบ แต่เม่ือได้ลงมือเรียบเรียงกลุ่มคำา กลบั พบวา่ ประเดน็ ตา่ งๆ ทห่ี นงั สอื อา้ งถงึ ตา่ งกม็ คี วามลกึ ซง้ึ ละเอยี ดออ่ น ตอ้ งกาำ กบั ความถูกตอ้ งดว้ ยความรทู้ างวิชาการ การทาำ หนงั สอื เลม่ นจ้ี งึ ยากกวา่ ทค่ี าดหมาย อาจมขี อ้ ความในหนงั สอื บางจดุ ทผ่ี ดิ พลาดหรอื ไมค่ รบถว้ นสมบรู ณ์ ทมี งานนอ้ มรบั คาำ ตเิ ตยี น และขอขอ้ แนะนาำ จาก ท่านทั้งหลาย สาำ หรบั การพฒั นาองคค์ วามรูแ้ ละปรับแกใ้ นการพิมพ์ครงั้ ตอ่ ไป ทีมงานขอขอบพระคุณพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ทก่ี รณุ าเขียนคาำ นำาและ ให้คำาแนะนำา ขอบพระคุณพระวิชิต ธัมมชิโต และนายแพทย์เต็มศักด์ิ พ่ึงรัศมี ทช่ี ว่ ยตรวจทานและปรบั แกเ้ นอ้ื หาใหถ้ กู ตอ้ ง ขอขอบพระคณุ ผเู้ ขยี นหลกั คณุ พรทวี ยอดมงคล ในความพยายามและตง้ั ใจคน้ ควา้ ความรตู้ า่ งๆ ทอ่ี ยใู่ นเลม่ อยา่ งถงึ ทส่ี ดุ กศุ ลใดๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการจดั พมิ พเ์ ผยแพร่ “ปทานกุ รมความตายฯ” ทมี งาน ขออุทิศแด่ผู้วายชนม์และครูบาอาจารย์ ท่านเหล่าน้ันคือท่ีมาของความรู้ท้ังมวล ในหนงั สอื เลม่ น้ี 126



หนังสือ ทีค่ วรอา่ น เพม่ิ เติม กรรณจรยิ า สขุ รงุ่ . 2549. สขุ สดุ ท�้ ยทปี่ ล�ยท�ง: เผชญิ คว�มต�ยอย�่ งสงบ. กรงุ เทพฯ: หจก.สามลดา. โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ และคณะ. 2557. วฒั นธรรมคว�มต�ยกบั ว�ระสุดท�้ ยของ ชีวิต: คู่มือเรียนรู้มิติสังคมของก�รดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้�ย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรงุ เทพฯ: บริษัทหนงั สอื ดีวัน จำากดั . โชเกยี ล ริมโปเช. 2554. ประตูสูส่ ภ�วะใหม่. แปลจากเรือ่ ง The Tibetan Book of Living and Dying โดยพระไพศาล วิสาโล. พมิ พ์คร้ังท่ี 5. กรุงเทพฯ: สาำ นักพมิ พ์ มลู นธิ โิ กมลคีมทอง. ประเสรฐิ เลศิ สงวนสนิ ชยั และคณะ. 2556. ก�รดแู ลผปู้ ว่ ยระยะสดุ ท�้ ย. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 9. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พอ์ ักษรสัมพนั ธ์ (1987) จาำ กดั . พระดษุ ฏี เมธงั กโุ ร และคณะ. 2557. คว�มต�ยในทศั นะของพทุ ธท�สภกิ ข.ุ พมิ พค์ รง้ั ท่ี 2. กรุงเทพฯ: หจก.สามลดา. พระไพศาล วสิ าโล และคณะ. 2556. เผชญิ คว�มต�ยอย่�งสงบ เลม่ 1 แนวคดิ และ กระบวนก�รเรยี นรู้. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ: หจก.สามลดา. พระไพศาล วิสาโล. 2557. ระลึกถึงคว�มต�ยสบ�ยนัก: ก�รเจริญมรณสติในชีวิต ประจำ�วนั . พมิ พค์ รงั้ ที่ 14. กรงุ เทพฯ: หจก.สามลดา. แสวง บญุ เฉลมิ วลิ าสและไพศาล ลม้ิ สถติ ย.์ 2552. กอ่ นวนั ผลดั ใบ หนงั สอื แสดงเจตน� ก�รจ�กไปในว�ระสุดท้�ย. พิมพ์ครง้ั ท่ี 3. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์เดอื นตลุ า. 128


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook