Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ : ความสัมพันธ์เชิงอำนาจในครอบครัวของคนจีนพลัดถิ่น

พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ : ความสัมพันธ์เชิงอำนาจในครอบครัวของคนจีนพลัดถิ่น

Published by nkhwanchanok, 2019-12-27 02:49:07

Description: บทความเผยแพร่เป็นส่วนหนึ่งงานวิจัย

Keywords: พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ

Search

Read the Text Version

บทบรรณาธกิ าร Rajabhat Journal of Sciences, Humanities & Social Sciences เปนวารสารวิชาการ ท่ีอยูในฐานขอมูลการตีพิมพ/การอางอิงของวารสารระดับประเทศในกลุมอาเซียน (ASEAN Citation Index: ACI) และฐานขอมูลระดับชาติ กลุมท่ี 1 จากศูนยดัชนกี ารอางอิงวารสารไทย (Thai Journal Citation Index: TCI) วารสารปที่ 20 ฉบับที่ 2 ไดพิจารณาคัดเลือกผลงานที่มีคุณภาพ จํานวนท้ังสิ้น 20 บทความ ซ่ึงผานการประเมินโดยผูทรงคุณวุฒิพิจารณาคุณภาพบทความ (peer review) จึงทําใหแตละบทความ ลวนมคี ุณคาทางวิชาการ และสามารถนําไปใชเปนเอกสารอางองิ เพื่อการผลติ ผลงานทางวชิ าการได กองบรรณาธิการและคณะกรรมการจัดทําวารสารฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ขอขอบคุณผูทรงคุณวุฒิพิจารณาคุณภาพบทความ ตลอดจนผูอานและผูสนใจทุกทานท่ีติดตามผลงานท่ี ตีพิมพในวารสาร นําผลงานไปอางอิงหรือสงตนฉบับเพ่ือตีพิมพในวารสารน้ี กองบรรณาธิการหวังเปน อยางย่งิ วาจะไดรบั เกียรตแิ ละความอนเุ คราะหจากทานในโอกาสตอไป รองศาสตราจารย ดร.ธันวดี ศรธี าวิรตั น บรรณาธกิ าร

สารบัญ บทความวจิ ัย ละครราํ ลกึ รัชกาลทเี่ กา: อุดมการณกษตั รยิ นิยมกับอตุ สาหกรรมบันเทงิ ไทย ENGENDERING PUBLIC MOURNING OF KING RAMA IX THROUGH DRAMA SERIES: ROYALISM AND THAI ENTERTAINMENT INDUSTRY กรพนิ ธุ พัวพันสวัสด์ิ 207 การปรบั ตวั ของหมอพืน้ บานในศตวรรษท่ี 21 ของกลุมชาติพันธไุ ทดาํ ภาคเหนอื ของไทย THE ADAPTATION OF 21ST CENTURY FOLK HEALERS OF TAI DAM ETHNIC GROUP IN NORTHERN THAILAND 222 อรรถพล รอดแกว มนตรี ศรีราชเลา และพนสั โพธบิ ัติ ระบบพลวตั สําหรบั ระบบของปญหาเซตยอยแปรผนั DYNAMICAL SYSTEM FOR THE SYSTEM OF VARIATIONAL INCLUSION PROBLEM จติ ติพร ตังควเิ วชกุล และนรนิ ทร เพชรโรจน 236 ภาวะสองรปู แบบทางเพศและอัตราสวนเพศของแมลงหางดีด XENYLLA SP. SEXUAL DIMORPHISM AND SEX RATIO OF SPRINGTAIL XENYLLA SP. 248 เกษม คงนิรันดรสุข การศกึ ษาคณุ ลักษณะและการเลือกใชกจิ กรรมดานความปลอดภัยในงานกอสรางอาคารขนาดกลางและเล็ก A STUDY ON CHARACTERISTICS AND SAFETY PROGRAM SELECTION IN MEDIUM AND SMALL CONSTRUCTION PROJECTS ศิวัตม กมลคุณานนท 256 AN ECLECTIC METHOD: A COOPERATIVE TASK-BASED LEARNING METHOD IN DEVELOPING STUDENTS’ ENGLISH 268 SPEAKING SKILLS AT PHITSANULOK PITTAYAKOM SCHOOL Jade Oliver N. Dabon, Sakon Kerdpol, and Weerapong Inthong การพฒั นาคมู ือทองเท่ียวเชิงวฒั นธรรมงานสกุลชางเมืองเพชร ฉบบั จีน - องั กฤษ – ไทย THE DEVELOPMENT OF CULTURAL TOURISM GUIDEBOOK FOR PHETCHABURI’S ART AND CRAFT 285 (CHINESE-ENGLISH-THAI VERSION) กรกมล ธนะโรจนรุงเรอื ง ความสัมพนั ธระหวางแรงจูงใจในการปฏิบตั งิ านกบั ความผูกพันตอองคกรของบคุ ลากรธรุ กจิ ขนสง จังหวัดสงขลา THE RELATIONSHIP BETWEEN JOB MOTIVATIONS AND ORGANIZATIONAL COMMITMENT OF TRANSPORTATION BUSINESS PERSONNEL IN SONGKHLA PROVINCE นาตยา โชติกุล และดวงฤดี อทุ ัยหอม 295 แหลงใหมของอะไมเลสในใบกระถินออน 308 318 A NOVEL SOURCE OF AMYLASE IN YOUNG LEUCAENA LEAVES 327 รัตนา วงศชูพนั ธ อนรรฆนงค ราชศริ ิ ณัฐพันธ สงวนศกั ดิบ์ ารมี นูรา มะแซ และรตั ตญิ า มงั กรฤทธิ์ เสถียรภาพกํากับวงกวางของแบบจําลอง เอส ไอ อาร ที่มอี ตั ราการตดิ เชอื้ แบบไมเชงิ เสน GLOBAL STABILITY OF SIR MODEL WITH NONLINEAR INCIDENCE RATE สลลิ ทิพย แดงกองโค ความสมั พันธระหวางความรอบรูดานสขุ ภาพกับพฤตกิ รรมการดํารงอยูอยางมสี ขุ ภาวะที่ดีในผสู ูงอายุ ตําบลบานจอมทอง อาํ เภอเมือง จงั หวัดพิษณุโลก THE RELATIONSHIP BETWEEN HEALTH LITERACY AND HEALTHY LIFESTYLE BEHAVIOR AMONG THE ELDERLY IN BAN CHOM THONG SUB-DISTRICT, MUEANG DISTRICT, PHITSANULOK PROVINCE. กิ่งแกว สาํ รวยร่นื จิรยิ าพร แกวกาญจนะวงษ และณัฐวดี คาํ ออนดี

สารบัญสา(ตรบอ)ัญ บคุ ลกิ ภาพกบั การกาํ กับตนเองในการควบคมุ นํา้ หนกั ของนักศกึ ษา 338 PERSONALITY TRAITS AND SELF-REGULATION OF WEIGHT CONTROL AMONG UNDERGRADUATE STUDENTS สทิ ธิชยั ทองวร การประเมนิ อตั ราการเตบิ โตและประสทิ ธิภาพการใชราํ ขาวสาลรี วมกบั ใบตาํ ลงึ ในการเล้ยี งตวั ออนดวง (ZOPHOBAS ATRATUS FABRICIUS) (COLEOPTERA: TENEBRIONIDAE) EVALUATION OF GROWTH RATE AND FEED CONVERSION EFFICIENCY OF DARKLING BEETLE ZOPHOBAS ATRATUS FABRICIUS (COLEOPTERA: TENEBRIONIDAE) ON WHEAT (TRITICUM AESTIVUM) BRAN AND IVY GOURD (COCCINIA GRANDIS) LEAF จงิ เหยาะ แซลอ และสงั วรณ กจิ ทวี 354 ปจจัยที่มอี ทิ ธิพลตอการตดั สินใจใชธาตุอาหารพชื รูปแบบใหมของเกษตรกรผปู ลูกขาวเขตอาํ เภอนครหลวง 364 จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา FACTORS INFLUENCING THE ADOPTION INTENTION OF MODERN PLANT NUTRITION FOR RICE FARMERS IN THE NAKORNLUANG DISTRICT, AYUTTHAYA PROVINCE สรุ ิยา สรุ ิยกานนท และสกอตต เอส. รอช ประสบการณของผใู หคาํ ปรกึ ษาทท่ี าํ งานกบั ผรู ับบรกิ ารที่มคี วามหลากหลายทางเพศในประเทศไทย: การวิจัยทฤษฎีฐานราก EXPERIENCE OF COUNSELLORS WORKING WITH LESBIAN, GAY, BISEXUAL AND TRANSGENDER CLIENTS IN THAILAND: A GROUNDED THEORY METHOD เปนไท เทวนิ ทร อมราพร สรุ การ ฐาศุกร จนั ประเสริฐ และนฤมล พระใหญ 380 พันธุไมชายนา้ํ กบั การเปล่ียนแปลงความเปนเมืองบรเิ วณรมิ คลองรงั สิตประยรู ศักด์ิ จังหวัดปทมุ ธานี 394 RIPARIAN PLANTS IN URABNIZATION OF KHONG-RANGSIT PAYULSAK, PATHUM THANI PROVINCE สุกญั ญา ชยั พงษ ผลของโปรแกรมกลมุ สมั พนั ธทีม่ ตี อลักษณะมงุ อนาคตควบคุมของนักเรียนมัธยมศกึ ษาปที่ 3 โรงเรียนศิรมิ าตยเทวี อาํ เภอพาน จังหวัดเชียงราย EFFECT OF GROUP DYNAMIC PROGRAM ON MATHAYOMSUKSA 3 STUDENRS’ FUTURE ORIENTED SELF-CONTROL OF SIRIMATTHEVI SCHOOL, PHAN, CHIANGRAI ธญั พิชชา เชมือ่ และวีรวรรณ วงศปนเพ็ชร 404 พุทธศกั ราชอัสดงกบั ทรงจาํ ของทรงจําของแมวกหุ ลาบดํา: ความสมั พนั ธเชิงอาํ นาจในครอบครัวของคนจนี พลดั ถ่นิ DESCENDANT OF THE CENTURY AND THE MEMORY OF THE MEMORY OF THE BLACK ROSE-CAT: POWER STATUS IN THE EXILED CHINESE FAMILY เปรมวทิ ย ววิ ัฒนเศรษฐ และขวญั ชนก นยั จรญั 418 RADIATION EXPOSED: A SOCIOLOGICAL INVESTIGATION OF CHERNOBYL 434 Fabio Calzolari การพฒั นาผลติ ภัณฑไอศกรีมลูกจัน 450 DEVELOPMENT OF DIOSPYROS DECANDRA LOUR. ICE CREAM วิรัชยา อินทะกันฑ และอภิญญา มานะโรจน

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 พทุ ธศกั ราชอสั ดงกบั ทรงจําของทรงจําของแมวกุหลาบดาํ : ความสัมพันธเชิงอาํ นาจในครอบครัวของคนจนี พลัดถิน่ DESCENDANT OF THE CENTURY AND THE MEMORY OF THE MEMORY OF THE BLACK ROSE-CAT: POWER STATUS IN THE EXILED CHINESE FAMILY เปรมวทิ ย วิวัฒนเศรษฐ1 และขวัญชนก นยั จรญั 2* Premvit Vivattanaseth1, and Khwanchanok Naijarun2* 1School of Liberal Arts, University of Phayao 2Faculty of Humanities and Social Sciences, Pibulsongkram Rajabhat University *corresponding author e-mail: [email protected] Received: 8 August 2019; Revised: 7 November 2019; Accepted: 12 November 2019 บทคดั ยอ งานวิจัยฉบับนม้ี วี ตั ถปุ ระสงคเพื่อวเิ คราะหความสัมพันธเชงิ อํานาจในครอบครัวที่ปรากฏ ในวิถีชีวิตของคนจีนพลัดถ่ินในนวนิยายพุทธศักราชอัสดงกับทรงจําของทรงจําของแมวกุหลาบดํา ดําเนินการวิจัยโดยใชระเบียบวิธีวิจัยเชงิ คุณภาพ โดยใชกรอบแนวคิดลักษณะอํานาจ 3 ลกั ษณะ ไดแก การควบคุม การใชอทิ ธพิ ล และการครอบงาํ นําเสนอผลการวจิ ัยในรูปแบบของการพรรณนา วิเคราะห ผลการวิจัยพบความสัมพันธเชงิ อํานาจในครอบครัวที่สงผลตอวถิ ีชีวิตของคนจีนพลัดถ่ิน ปรากฏลกั ษณะของการใชอํานาจ ไดแก การควบคมุ การใชอิทธิพล และการครอบงํา ลักษณะของ การใชอํานาจขึ้นอยูกับสถานะของบุคคลน้ันที่มีในครอบครัว จําแนกเปน 6 ลักษณะ ไดแก ความสัมพันธเชิงอํานาจระหวางสามีและภรรยา พอกับลูก แมกับลูก พ่ีกับนอง ลูกแทกับ ลูกบุญธรรม และความไรอํานาจของตัวละครหญิง เฉพาะเพศชายมีการผลัดเปล่ียนอํานาจกัน อํานาจสงู สุดคืออาํ นาจควบคุมอยูทผี่ ชู ายที่บรหิ ารกิจการของครอบครวั สวนเพศหญิงอํานาจสงู สุด อยูทแ่ี ม ผูหญิงจงึ มักใชอาํ นาจในลกั ษณะของการครอบงํา สวนการใชอาํ นาจในลักษณะอิทธพิ ลเปน การใชอาํ นาจเฉพาะสถานการณและบรบิ ททฝี่ ายตรงขามมีสถานะเปนรอง คาํ สาํ คญั : พทุ ธศกั ราชอสั ดงกบั ทรงจาํ ของทรงจาํ ของแมวกหุ ลาบดาํ ความสัมพันธเชิงอํานาจ คนจนี พลัดถ่ิน 418

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 Abstract The study aims to investigate the power status of the exiled Chinese family from descendant of the century and the memory of the memory of the black rose-cat. The research was conducted by using a qualitative method. The research framework was three power characteristics: control, influence, and domination. The data was analyzed and presented by descriptive methods. The findings reveal that three power images; control, influence, and domination exist and have a strong influence on the Chinese family. According to personal status in their family, there are 6 characteristics of power; the power image between husbands and wives, fathers and children, mothers and children, brothers and sisters, the biological children and the adoptive children and the non-power status of the female individuals in the novel. There is a reshuffle of power among the men in the family only. The most powerful status belongs to the men who take control of the family. For women, the one who has the most power is mothers, but this is less than men’s power. Women tend to use domination to take control of the family’s members. For influence, it is applicable in some cases and contexts; the biological child expresses some power on the adoptive child. Keywords: descendant of the century and the memory of the memory of the black rose-cat, power status, the exiled chinese บทนํา นวนิยาย เรื่อง พุทธศักราชอัสดงกับทรงจําของทรงจําของแมวกุหลาบดํา ของ วีรพร นติ ิประภา เปนนวนิยายท่ไี ดรับรางวลั จากหลายองคกร อาทิ รางวัลดีเดน ประจําป 2560 จากสํานักงาน การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน (สพฐ.) รางวัลรองชนะเลิศอันดับท่ี 1 เซเวนบุคอวอรด คร้ังท่ี 24 ประจําป 2560 และไดรับรางวัลวรรณกรรมสรางสรรคยอดเยย่ี มแหงอาเซยี น (ซไี รต) ประจาํ ป 2561 นวนยิ ายเรื่อง นี้บอกเลาเรอื่ งราวของกลมุ คนจนี ทอ่ี พยพเขามาอยูในประเทศไทยในราวตอนกลางสมัยรัชกาลท่ี 6 แหงกรงุ รัตนโกสินทร ผานครอบครัวของตัวละครคือ ต้ังจือตงและเสง่ียม รวมถึงลูก ๆ ทั้งลูกบุญธรรม และลูกแท ดวยเหตุท่ีมีท้ังลูกบญุ ธรรมและลูกแทผนวกกับคานิยมของคนจีนท่ีรักลูกชาย จึงทําให เกิดการใชอํานาจในครอบครัวหลายลักษณะปรากฏในวิถีชีวิตของครอบครัวคนจีน เชน ระบบคิด แบบปตาธิปไตยที่มีอิทธิพลตอระบบคิดของคนจีน ซึ่ง Sangkhaphannanon, (2016) ไดกลาวถึง 419

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 ระบบปตาธปิ ไตยวาเปนเงื่อนไขสาํ คัญในการกดข่ีครอบงําสตรี ท่ีอยูบนพื้นฐานของระบบความสัมพันธ เชิงอาํ นาจ และการจัดลาํ ดับชั้นท่ีไมเทาเทยี มกนั ระหวางบุรษุ และสตรี สรปุ คอื การปกครองในระบบ ครอบครัวท่ีเพศชายเปนใหญ อันเปนระบบคิดท่ีถูกปลูกฝงอยใู นวฒั นธรรมคนจีนมาชานาน ดังท่ี Rodsub (2012) กลาววาสังคมวัฒนธรรมจีนปรากฏประเพณีและวฒั นธรรมทแี่ สดงความไมเสมอ ภาคระหวางชายกบั หญงิ รวมถงึ การกดข่ี การสรางมายาคติใหผหู ญิงถูกครอบงาํ ทางความคดิ วา ตน น้ันดอยคาไมอาจทัดเทียมชาย เชน เร่อื งการรัดขอเทาของผูหญิงจีน ตลอดจนปรัชญาของลัทธิของ ขงจอ๊ื (confucianism) อนั เปนวัฒนธรรมความเชื่อดั้งเดิมที่ชาวจีนยึดถือเปนแนวปฏิบัติก็แสดงให เห็นวาผูหญิงมีสถานภาพเปนรองผูชาย ปรากฏผานหลักสําคัญ 3 ประการ คือ 1) การเคารพบูชา บรรพบุรษุ 2) ความเช่ือเรอื่ งวิญญาณ และ 3) ความเชื่อเรื่องสวรรค หลักความเชือ่ ท้งั สามลวนแฝง นัยยะทางการเมืองการปกครองอันมีผูชายเปนใหญ รวมถึงอํานาจในพ้ืนท่ีที่แสดงสถานะของหญิง วาไมมีสิทธ์ิรุกล้ําเขามาในปริมณฑลของชาย ทายาทท่ีเปนผูชายคนโตจะเปนผูดูแลสืบทอดกิจการ ท้ังหมด จะเห็นไดวาระบบคิดแบบปตาธิปไตยไดปรากฏใหเห็นในนวนิยายและสงผลตอวิถีการ ดาํ เนินชีวิตของตวั ละครรวมถงึ โครงเร่ืองดวย แตก็มใิ ชท้งั หมดเหมอื นกับนวนิยายที่สะทอนภาพวิถี ชีวิตคนจีนพลัดถิ่นในไทยที่ถูกแตงข้ึนมาในอดีต เนื่องจากนวนิยายเรื่องนี้ตัวละครผูชายท่ีเปนผูนํา ครอบครัวมี 2 คน มลี ักษณะการใชอํานาจท่ตี างกัน โดยตัวละครรุนพอไมไดใชการปกครองในแบบ เผด็จการชายเปนใหญไปเสียท้ังหมด เพราะเขาเคารพความคิดเห็นของภรรยาและลูกสาวดวย สวนตัวละครรุนที่ 2 คือรุนลูกใชอํานาจอยางมัวเมาจนทําใหครอบครัวประสบแตความหายนะ ดงั ที่ Thipdet et al. (2019) ไดศึกษาเร่อื งสั้นของชาติ กอบจติ ติ นกั เขียนรางวลั ซีไรตในแงมมุ ของ ภาษากับอุดมการณวา มนุษยมีความพยายามท่ีจองจะเอาเปรียบ แยงชิงผลประโยชนกันอยู ตลอดเวลาโดยไมคํานึงถึงความถูกตองทางศีลธรรม ผูที่เขาถึงทรัพยากรไดมากกวามักจะมีอํานาจ ความไดเปรียบมากกวา อีกท้ังยังพรอมท่ีจะฉกฉวยเอาประโยชนจากคนที่ออนดอยกวา ดังนั้นจึง เปนท่ีนาสนใจวานวนิยายที่เลาเรื่องราวของคนจีนที่ถูกประพันธข้ึนใหมไดรับอิทธิพลของสังคม สมัยใหมนั้นทําใหระบบคิดแบบปตาธิปไตยลดบทบาทลงหรือไม และการใชอํานาจในครอบครัว เปนไปในลักษณะใด รวมถึงความสัมพันธเชิงอํานาจที่ถูกกลาวถึงในเรื่อง สงผลกระทบตอวถิ ีชีวิต ของคนจีนพลดั ถนิ่ มากนอยเพียงใด อํานาจ ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานใหคํานิยามวา “สิทธิ, ความสามารถหรือส่ิงที่สามารถทําหรือบันดาลใหเกิดสิ่งใดสงิ่ หนึ่ง กําลัง ความรุนแรง การบังคับ” (Thai Royal Society, 2013) ซึ่งออนเซ็นและมาเจอร (อางใน Wanchana, 2014) กลาวถึงอํานาจวา อํานาจคือ ความสามารถของบุคคลหรือกลุมบุคคลท่ีจะสรางผลกระทบตอพฤติกรรมหรือ ความคิดเห็นของคนอ่ืน อํานาจเปนกระบวนการท่ีมีพลวัตไมหยุดนิ่ง โดยไดอธิบายความสัมพันธ 420

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 ของการใชอํานาจวา การแสดงตัวของอํานาจมักปรากฏ 3 ลักษณะ คือ การควบคุม (control) เปนการใชอํานาจท่ีผูใชสามารถจํากัดทางเลือกหรือกําหนดพฤติกรรมของผูรับอํานาจไดอยาง แมนยํา การใชอิทธิพล (influence) เปนการใชอํานาจท่ีผูใชไมสามารถจํากัดทางเลือกหรือกําหนด พฤติกรรมของผูรับอํานาจไดอยางชัดเจน และการครอบงํา (domination) เปนรูปแบบของการใช อํานาจในระดับสังคม เปนอํานาจเหนือ สามารถทําใหเปนไปตามได จะเห็นวาอํานาจมีความเปน พลวตั ไมมีใครครอบครองอํานาจไดอยางแทจริง ท้ังน้ีในนวนิยายพุทธศักราชอัสดงกับทรงจําของ ทรงจําของแมวกุหลาบดําที่นําเสนอเร่ืองราวของครอบครัวคนจีนพลดั ถิ่น ปรากฏการใชอํานาจใน หลายลักษณะและอํานาจดงั กลาวสงผลตอวิถีชวี ิตของคนดวย ซึง่ อํานาจในลกั ษณะตาง ๆ ที่ปรากฏ ในเนอ้ื เร่ืองถอื เปนจดุ เดนที่สรางความนาสนใจใหแกนวนิยายเร่ืองนี้ คณะผูวิจัยจึงสนใจที่จะศึกษา ความสมั พันธเชงิ อาํ นาจในครอบครัวของคนจีนพลัดถิ่น โดยมีวัตถุประสงคเพื่อวเิ คราะหความสัมพันธ เชิงอํานาจในครอบครัวท่ีปรากฏในวิถีชีวิตของคนจีนพลัดถ่ิน และพิจารณาลักษณะการใชอํานาจ รวมถึงระบบคิดเก่ียวกับอํานาจของคนจีนพลัดถิ่นท่ีปรากฏในนวนิยายเรื่องพุทธศักราชอัสดงกับ ทรงจาํ ของทรงจําของแมวกุหลาบดาํ ท้งั น้ผี ลของการวจิ ยั นอกจากจะทําใหเขาใจในระบบคิด ปจจัย แหงพฤตกิ รรม และวิถกี ารดําเนนิ ชีวติ ของชาวจีนในอดีตแลว ยังสามารถนาํ ความรูไปบูรณาการใน การจัดการเรียนการสอน ทั้งทางดานวรรณกรรม สังคมวิทยา และพฤติกรรมศาสตร ไดอีกดวย วิธีดาํ เนินการวจิ ยั การวิเคราะหความสัมพันธเชิงอํานาจในครอบครัวของคนจีนพลัดถิ่นครั้งนี้ใชระเบียบ วิธวี ิจัยเชิงคุณภาพ (qualitative research) โดยใชขอมูลจากนวนิยายเร่ืองพุทธศักราชอัสดงกับ ทรงจาํ ของทรงจําของแมวกหุ ลาบดาํ ของวรี พร นิติประภา มาจําแนกลกั ษณะการใชอํานาจตามแนวคิด ของออนเซ็นและมาเจอร (อางใน Wanchana, 2014) คือ การควบคุม (control) การใชอิทธพิ ล (influence) และการครอบงํา (domination) แลวนาํ มาวเิ คราะหความสัมพันธเชิงอํานาจในครอบครัว ของคนจีนพลดั ถ่ินที่ปรากฏในนวนยิ าย โดยนาํ เสนอในรูปแบบของการพรรณนาวิเคราะห ผลการวิจัย ผลการวิจัยพบความสัมพันธเชิงอํานาจในครอบครัวท่ีปรากฏในวิถีชีวิตของคนจีน พลัดถิ่น และลักษณะการใชอํานาจรวมถึงระบบคิดเก่ียวกับอํานาจของคนจีนพลัดถ่ินทีป่ รากฏใน นวนยิ ายเรอ่ื งพุทธศกั ราชอสั ดงกบั ทรงจําของทรงจําของแมวกหุ ลาบดาํ ดังน้ี 1. ความสัมพันธเชิงอาํ นาจทีป่ รากฏในวิถีชีวิตของคนจีนพลัดถน่ิ ความสมั พนั ธเชงิ อํานาจท่ีปรากฏในวถิ ีชีวิตของคนจีนพลดั ถน่ิ ในนวนยิ าย เร่อื ง พุทธศกั ราช อสั ดงกบั ทรงจําของทรงจําของแมวกุหลาบดาํ จากการวิเคราะหพบการใชอํานาจของตัวละครในลักษณะ 421

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 การควบคุม (control) การใชอิทธิพล (influence) และการครอบงํา (domination) เนื่องจากอํานาจ เปนส่ิงท่ีสามารถเล่ือนไหลไปตามสถานะของบุคคลที่มีในครอบครัว ดังน้ันผูวิจัย จึงขอนําเสนอ ผลการวิจัยตามคูของตัวละครที่ปรากฏความสัมพันธเชิงอํานาจ จํานวน 6 ลักษณะ ไดแก ความสัมพันธเชิงอํานาจระหวางสามีและภรรยา ความสัมพันธเชิงอํานาจระหวางพอกับลูก ความสัมพันธเชิงอํานาจแมกับลูก (แมกับลูกแท และแมกับลูกบุญธรรม) ความสัมพันธเชิงอํานาจ ระหวางพ่ีกับนอง (พ่ีชายกับนองสาว) ความสัมพันธเชิงอํานาจระหวางลูกแทกับลูกบุญธรรม และ ความไรอํานาจของตวั ละครหญิง ดังน้ี 1.1 อาํ นาจระหวางสามีและภรรยา จากการศึกษา พบอํานาจระหวางสามีภรรยาแบงออกเปน 2 ลักษณะ ไดแก อํานาจท่ีสามีเปนผูควบคุม กลาวคือ สามีในครอบครัวของคนจีนมีอํานาจสูงสุดในการควบคุม สมาชิกในครอบครัว เปนผูกําหนดชะตากรรมของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผูหญิงจะถูก ควบคมุ โดยผูชาย น่นั วาหมายความวาสามีใชอํานาจโดยการเปนผูควบคุม (control) สวนภรรยามี สถานะเปนผูอยูภายใตอํานาจการควบคุมตามธรรมเนียมปฏิบัติ และลักษณะที่ 2 คือ แมอํานาจ ในทางปฏิบัติจะถูกควบคุมโดยสามี แตภรรยาก็มีวิธีการใชอํานาจทางออมในลักษณะของ การครอบงํา (domination) เพราะภรรยาไมมีอํานาจในการควบคุมสามีในทางตรงได จึงตองใช อํานาจทางออมเพือ่ ใหความคิดของตนไดนําไปปฏิบตั ิหรือเปนทย่ี อมรบั ดงั นี้ ก. อํานาจที่สามีเปนผูควบคุม (control) สวนภรรยามีสถานะเปนผูอยูภายใต อํานาจการควบคมุ จากการวิเคราะหพบวาอํานาจที่ต้ังจือตงมีปรากฏสวนมากเปนอํานาจนอกบาน เปนเร่ืองเก่ียวกบั ความมน่ั คงทางเศรษฐกจิ ความคิดในเร่อื งของการวางรากฐานใหครอบครัวมีสถานะ ทางการเงินที่ดี และเปนที่ยอมรับในสังคม ซ่ึงอํานาจที่ปรากฏในลักษณะน้ีคือ ตงสามารถตัดสินใจ ทุกอยางไดโดยทไ่ี มตองปรกึ ษาผูใด สวนเสง่ยี มซึง่ เปนภรรยากม็ หี นาท่ยี อมรับชะตากรรมท่ีสามีกําหนด รวมถึงผิ่งมุย ภรรยาซึ่งมีอายุเพียง 15 ป ที่ตงตองการใชเปนเคร่ืองมือในการสืบสานความหวัง แหงการกลบั มาอาศัยแผนดนิ เกดิ ตอนบน้ั ปลายชีวติ ดงั ปรากฏเนือ้ หาในตวั บทอยหู ลายตอน เชน ตงตองการคนดูแลทรัพยสินของเขาที่เมืองจีน เขาจึงไปขอเด็กผูหญิงมาเปน ภรรยา เพอ่ื ใหดูแลทรัพยสนิ ในชวงระหวางที่เขายังทาํ มาหากนิ อยูทเ่ี มอื งไทย แสดงใหเหน็ ชดั เจนวา สามีมีอํานาจโดยชอบธรรมในการควบคุมใหภรรยาอยูภายใตอํานาจของเขา อีกนัยหน่ึงคือการใช ผหู ญิงเพอื่ เปนเครือ่ งมอื ในการตอบสนองความตองการของผูชาย ดงั ขอความวา 422

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 เพ่ือจะมีคนอยูดูแลทรัพยสินทางเมืองจีน ตาทวดตงยังไปขอเด็กผูหญิงใน หมูบานมาเปนเมียดวยคนหน่ึง ชื่อผ่ิงมุย อายุสิบหา ผิวขาวละเอียดเนียนและเยยี บเย็น ราวหมอกตนฤดู ... หลังอยกู นิ ฉันสามีภรรยากบั ผิ่งมุยไดเพียงสามเดอื น...ตาทวดตงกก็ ลบั เมืองไทย ปถดั มาเขาก็ไดลกู ชายจากความรักเดียวดายแสนสน้ั นนั่ อีกคน (Nitiprapha, 2018) ดวยอํานาจของสามี เปนอํานาจที่ภรรยาไมอาจทัดทานได ดังน้ันภรรยาจึงตองเปนผู รองรบั และปรับตัวอยภู ายใตอาํ นาจควบคุมนน้ั ดังเชนเสง่ยี ม เมื่อทราบวาสามีไปมีภรรยาที่สองอยู ท่ีเมอื งจีน เสง่ยี มจงึ พยายามทจ่ี ะปรับตัวยอมรับในสง่ิ ทเ่ี กิดขึน้ อีกทงั้ เมือ่ ทราบวาสามีตองการไปต้ัง รกรากอยูที่เมืองจีน ซ่ึงไมอาจทัดทานได จึงตองพยายามปรับตัวเพ่ือท่ีจะใหมีภาพลักษณที่ดกี วา ภรรยาท่ีเมืองจนี ดงั ปรากฏในขอความวา ยายทวดเสง่ียมกมหนากมตาตอสูกับการมาถึงของมัชฌิมวัยไปตามลําพัง เงยี บ ๆ จดจอใจกับการจะอพยพไปตั้งรกรากบนแผนดินใหญในฐานะเมียคนโต ผูมีสิทธ์ิ สมบูรณเหนืออาณาจักรบาน พยายามพัฒนาตนใหมีอารยะกวาเมียสาวลูกชาวนา ฝกเรียนเขียนอานภาษาแตจิ๋ว หัดฟงเพลงท่ีฝงมาในริว้ รองของจานแผนเสียงจากเซี่ยงไฮ พยายามชนิ กับการใสเสือ้ ฉองซ้ําอนั แสนจะอดึ อดั (Nitiprapha, 2018) ข. ภรรยาใชอํานาจทางออมในลักษณะของการครอบงํา (domination) เพื่อแสดง ความคดิ เหน็ และบงการสามี จากเหตุการณตอนหนง่ึ ในเรื่องพบวา เสงย่ี มจัดการใหจิตรไสวแตงงาน กับยี่สุน ซ่งึ ในขณะน้ันทุกคนในครอบครัวรูวาจงสวางชอบพอกับย่ีสุนอยู แตดวยอีกเหตุผลหนึ่งคือ จงสวางเปนเพียงลูกบุญธรรม ในตอนแรกตงไมพอใจที่เสง่ียมจัดการใหจิตรไสวแตงงานกับย่ีสุน แตถูกการครอบงาํ จากเสงย่ี มจึงจาํ ตองทําตาม ดังขอความทวี่ า ผูหญงิ ต้งั เยอะแยะ ทําไมเลือกจะมาแตงเอากับคนนี้ ตาทวดตงถามเสียงดัง … แลวลองนึกดูดี ๆ นา เรากบั อาคงุ ลีเปนเพ่ือนรกั จะมาดองเปนทองแผนกันท้ังที ไปเอาลกู สาวเขามาเปนเมยี ลกู คนทีไ่ มใชเลอื ดเนือ้ เชื้อไข พอแมหรือไมมหี ัวนอนปลายเทา กอนจะลดเสยี งลงเปนกระซิบ ความจริงมี ... ยังไงก็เปนความจริงอยูวนั ยังค่ํา ... ตาทวด ตงอ้ําอ้ึง เงยี บใบไมรูจะตอบเมียวาอยางไร เขาไมเคยคิดถึงเรื่องนี้มากอน ง้ันก็ลองบอก ความจริงกับเขา แลวคอยฟงเสียงผูหญิงจะวายังไง ... ตาทวดตงตอบไดแคนั้น หัวใจเขา สลายจนบอกไมไดวาปวดแปลบทร่ี ูสึกทุกนาทีนนั่ มาจากท่ีไหน (Nitiprapha, 2018) 423

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 ตงถูกเสงี่ยมครอบงําความคดิ วาจงสวางไมใชลูกของตน จึงมีความคิดท่ีคลอยตาม และ ทบทวนวาถาหากวาจงสวางจะมีสิทธิในทรพั ยสินกิจการของตนคนละคร่ึงกับจิตรไสวจะไมเปนการ สมควร เพราะจงสวางเปนแคลูกหญิงเผาถานท่ีตนขอมาเลี้ยง ตงจึงใชอํานาจของความเปนผูนํา ครอบครัวเขาควบคุมสมาชกิ ในครอบครัว โดยใหจิตรไสวแตงงานกับย่สี ุน ดังขอความวา เสือหนุมอยถู ํา้ เดียวตอนยงั ไมมลี ูกมเี มยี คับแคบแคไหนก็อยูดวยกันได ไมตองใช เน้ือท่ีมาก ตาทวดตงวา แตพอถึงเวลาจะเอาเมียเอาลูก...ตอใหรักกันยังไงก็ตองเกิดเปน สงคราม ผพู อหลุดปากออกมาอยางยากลําบาก กรอดกราดกัดฟนราวกบั เจ็บชํ้า ไมใชเขา ไมรักลูกชายคนนี้ เขาเลี้ยงอาหวังมาต้ังแตตีนเทาฝาหอย นอยหน่ึงลูกก็ไมเคยทําใหขุน ของ ... จู ๆ เขาก็ตองมาตระหนักวาอาหวังลูกหญิงเผาถานไมมีหัวนอนปลายเทาคนน้ัน เขมแขง็ กวาลกู ในไสของเขาเองเปนไหน ๆ และหากไมจดั การใหเรียบรอยลูกแท ๆ ก็อาจ ไมมีโอกาสครอบครองอาณาจกั รที่เขาทมุ ลงทัง้ ชวี ติ สรางมา จู ๆ มันก็เปนไปไมไดท่ีจะใหลูกเล้ียงจะมามีสิทธิเสียงเทาเทียมลูกแทใน สายเลือด (Nitiprapha, 2018) จากการวเิ คราะหเหตุการณตาง ๆ ที่เกิดขึ้นพบวา มีหลายตอนที่เสง่ยี มใชการครอบงํา เพ่ือใหตงผูเปนสามีเห็นดีเห็นงามกับความคิดของตน และใชตงเปนเคร่ืองมือในการถายทอด ความคิด ซงึ่ เม่อื ตงเปนผูส่ือสารความคดิ จงึ ไปสูอํานาจในทางปฏิบัติ ซึ่งสมาชกิ ในครอบครัวคนอ่ืน ไมสามารถปฏิเสธได เพราะตงเปนผคู วบคุมสมาชิกทง้ั หมดในครอบครัว 1.2 อํานาจระหวางพอกับลกู อํานาจระหวางพอกับลูกทป่ี รากฏในนวนิยาย พบวามี 2 ลักษณะ คือ พอกับลูกแท และพอกับลูกบุญธรรม ซ่ึงลูกแทและลูกบุญธรรมมีสถานะท่ีแตกตางกัน จึงไดรับการปฏิบัติท่ี แตกตางกันดวย ดงั น้ี ก. พอกบั ลกู แท ลูกแทของตงกับเสง่ียม มีจํานวน 4 คน ไดแก จรุงสิน เจริดศรี จิตรไสว และ จรัสแสง จะเห็นวาจิตรไสวเปนลูกชายแท ๆ เพียงคนเดียวของตระกูล ดังน้ันจิตรไสวจึงเปน ความหวังของพอกับแมในการสืบทอดธุรกิจของครอบครัว ความสัมพันธเชิงอํานาจระหวางพอกับ ลูกแทมีดงั น้ี พอเปนผูมีอํานาจเด็ดขาดในครอบครัว เปนเจาชีวิตของลกู สาวและภรรยา แต จะใหเกียรติลูกชายซึ่งเปนเพศชายเหมือนกัน เพราะลูกชายจะเปนผูรับสืบทอดกิจการตอจากพอ ลักษณะอํานาจแบบนี้เปนไปตามการปกครองแบบปตาธิปไตยหรือการปกครองแบบชายเปนใหญ 424

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 ดังนน้ั พอจงึ มกั ใหลกู ชายไปติดตอการงานนอกบาน สวนลูกสาวมีหนาท่อี ยูเรอื น หรือทํางานเล็ก ๆ นอย ๆ ดังความตอนท่ีตงและจิตไสวไปประชุมกําหนดราคาคาปลีก สวนจงสวางไปเจรจาซื้อขาย ขาวเปลือก ลูกสาวคือเจริดศรีดูแลงานในบาน จรุงสินไดรับคําส่ังใหไปชวยเฝารานขาวสารของ ครอบครัว ดงั ขอความทป่ี รากฏวา จงสวางมีนัดเจรจาซื้อขายขาวเปลือกกับกลุมพอคาเมืองปราจีน ฯ ที่โรงสี บางคลา ตาทวดตงกับจิตไสวมปี ระชุมกําหนดราคาคาปลีกกับพันธมิตรขาวท่ีรานยี่ เจริด ศรีชวยกันกับสามีจัดเก็บสงคืนขาวของท่ีหยิบยืมใครตอใครมาใชในงาน จรัสแสงไป โรงเรียน ยายทวดเสง่ียมทําความสะอาดบาน เหลือแตจรุงสินซึ่งยังไมกลับไปราชบุรีท่ี วางอยู จึงถูกตาทวดตงขอใหไปชวยเฝารานขาวสาร (Nitiprapha, 2018) อํานาจระหวางพอกับลูกแทท่ีปรากฏการใชอํานาจท้ังที่พอมีตอลูก ซึ่งเปนอํานาจใน ลักษณะการควบคุม และอํานาจที่ลูกมีตอพอ ซึ่งเปนการใชอํานาจในระดับรองลงมาคือการใช อทิ ธพิ ลใหพอปฏบิ ัตติ าม กลาวคอื เปนลักษณะการใชอาํ นาจทีผ่ ใู ชอาํ นาจไมสามารถจํากดั ทางเลอื ก หรือกําหนดพฤติกรรมตอบสนองของผูรับอํานาจไดอยางชัดเจน ซ่ึงการใชอํานาจในลักษณะน้ีท่ี ปรากฏมีเพียงคนเดียว คือ จิตรไสว ลูกชายคนเดียวของตงเทานั้น ดังเชนในตอนท่ีจิตรไสวเลือก เรยี นโรงเรยี นนายเรือ ตงคดั คานถึงขั้นขูวาจะตัดพอตัดลูกแตจิตรไสวก็ไมสนใจ จนตงตองเปนฝาย ยอมเอง แสดงใหเห็นถึงการใชอทิ ธพิ ลในฐานะลกู ชายคนเดียว ดังขอความทวี่ า โดยไมมีใครคาดคิด จิตรไสวก็ตัดสนิ ใจเขาเรียนในโรงเรียนนายเรือ ตาทวดตง คานหัวชนฝา เขาลงทนุ สงลกู ชายไปเรียนเมืองจีนก็เพ่ือใหศึกษาคาขาย จะไดมาชวยกัน ดูแลกิจการภายหนา ... แตสงจดหมายทัดทานถึงข้ันตัดขาดพอลูกไปอยางไรก็ไรผล ใน ท่ีสดุ ตาทวดตงกต็ องจาํ นวนปลอยเลยตามเลยไป (Nitiprapha, 2018) ข. พอกับลูกบุญธรรม ลูกบุญธรรมท่ีปรากฏในเรื่อง คือ จงสวาง ซึ่งเปนลูกชายของหญิงชาวจีน ตงและ เสง่ยี มไปขอจงสวางมาเลี้ยงตั้งแตแรกคลอด จึงนับวาจงสวางเปนลูกชายคนโตในครอบครัวของตง แตอยูมาไมนานเมือ่ เสงย่ี มคลอดลกู ชาย สถานะของจงสวางก็เปลี่ยนไปจากลกู ชายทีเ่ คยไดรับความ รัก กลายเปนเพียงเคร่ืองมือในการทําธุรกิจ เมื่อจงสวางทราบวาตนเองเปนเพียงลูกเล้ียงจึงลด ความสาํ คญั ของตนเองในบทบาทของลูกชายลงมาเปนเพยี งเบี้ยลางใหกับทุกคน โดยเฉพาะพอที่ใช อาํ นาจควบคุมเขาไดทกุ อยาง ลกู บุญธรรมไมมีศักด์ิและสิทธเิ์ ทียบเทากับลูกที่แท จงสวางจึงมักตก เปนเบี้ยลางใหกับอํานาจของพอและแมเสมอ พอกับแมมักจะใชอํานาจเพื่อควบคมุ เขาท้ังทางตรง 425

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 และทางออม เชน ใชใหไปตามหานองชาย ใชเปนเครอื่ งมอื ในการธรุ กิจ ซึ่งสุดทายธุรกิจท่ีมที ั้งหมด กไ็ มไดตกถึงเขา แตตกอยูกบั ลูกชายทีแ่ ทเทาน้นั และแมแตผหู ญิงท่เี ขารัก ก็ยังถูกแยงชิงโดยการใช อาํ นาจควบคุมของพอและแม ดงั ขอความที่วา ทุกคนรู เขาเองก็รู ...ทาํ ไมจะไม เขารดู กี วาใครวาเกิดอะไรขน้ึ ทุกสิ่งในชีวิตเขา ลวนผกผันขื่นขมจากเหตผุ ลเพยี งขอเดยี ว...เขาเปนลกู เลีย้ ง และไมวาจะพยายามเทาไหร บากบัน่ เพียงไร อดทนแคไหน เขากไ็ มอาจเปลย่ี นความจรงิ ขอน้ีได (Nitiprapha, 2018) 1.3 อํานาจระหวางแมกบั ลูก อํานาจระหวางแมกับลูกท่ีปรากฏในนวนิยาย พบวามี 2 ลักษณะ คือ แมกับลูก แท และแมกับลูกบุญธรรม ซึ่งลูกแทและลูกบุญธรรมมีสถานะที่แตกตางกัน จึงไดรับการปฏิบัติท่ี แตกตางกันดวย นอกจากนนั้ ปรากฏอาํ นาจความอยุติธรรมระหวางเพศอันเปนผลใหการปฏิบัติของ แมตอลกู แทและลูกบญุ ธรรมแตกตางไปดวย โดยเพศชายจะไดรับการยกยองมากกวาเพศหญิง ดังนี้ ก. แมกับลกู แท เสง่ยี มพดู จาหวานลอมแกมบงั คบั ใหเจรดิ ศรีแตงงานครงั้ ที่สองกบั ชายลกู ครึ่ง จนี แคะกับแตจ๋วิ โดยท่เี ธอใชอาํ นาจในลักษณะของการใชอาํ นาจบังคบั ลูกสาว กลาวคือ เม่ือลูกสาว ไมเห็นดีเหน็ งามดวย กเ็ ปลีย่ นวธิ กี ารเปนดาและดถู กู เพือ่ ใหลูกสาวเปลี่ยนใจ ดังปรากฏในขอความ วา พอแมสื่อมาทาบทาม ยายทวดเสง่ียมก็รีบชักแมนํ้าท้ังหา หวานลอม อายุอานามเอ็งก็ไมนอยแลวนะอีศรี ผัวรึก็มีมากอน คนนี้ถึงแกนิดแกหนอยก็จะเปนไรมี ...แลวหนมุ กวาน้กี ็ใชเขาจะอยากไดผูหญิงใชแลวสันดานอยางเอ็งเปนเมีย ฟงยังไมทันจบ เจริดศรีรูสกึ พะอืดพะอมขนึ้ ทันที ก่ีครั้งกห่ี นกนั ท่รี สู กึ อยากจะไปใหพน ๆ ... กี่คร้ังกี่หนที่ ตองทนกับความรสู ึก ...วาแมไมรัก ... มินาผัวเกาเขาถึงเฉดเอาแตหมอขาวไมทันดํา เจ็บแสบเหมือนโดน กระซวกแทงกลางใจซํ้า ๆ และงายดายพอกันกับการแตงงานหนกอน ... เจริดศรีตอบ ตกลง (Nitiprapha, 2018) ในขณะทเ่ี ม่ือเปนกรณีของจิตรไสวทม่ี นี สิ ยั ชอบไปลกั เล็กขโมยนอย เสง่ยี มกับไมเคยวา อะไร และยังบอกอกี วาหากจิตรไสวอยากไดอะไรก็ใหบอกกบั แม และแมจะหาซอื้ ใหไดทุกอยาง ดงั ปรากฏในขอความวา 426

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 ตอนเดก็ เวลาเกดิ ถกู ใจขาวของของเพือ่ นท่ีโรงเรียนเขา เขากม็ กั เผลอหยบิ เอา มาเปนของของตัวเสียเฉย ๆ และยงั เคยถงึ กบั ถกู พอฟาดเอาแรง ๆ ดวยเขม็ ขัดครั้งหนงึ่ เม่ือจับไดวาไปขโมยนาฬกิ าพกของแปะฮงรานตะปูมา ... ไหวอยากไดอะไรบอกแม ลกู ไมลักเอาของของคนอืน่ มาเขาใจไหม ลักเลก็ ขโมย นอยเปนเรอ่ื งนาละอาย มีแตคนยากจนเทานัน้ จาํ เปนทาํ เงนิ ทองเรามี ถงึ ไมใชเศรษฐี เจาสัวเรากซ็ ื้อหาใหไหวไดทกุ อยาง (Nitiprapha, 2018) จากขอความท่ียกมาเปรียบเทียบแสดงใหเห็นวาการปฏิบัติของแมที่มีตอลูกสาวและ ลูกชายแตกตางกนั กลาวคือ ในกรณีของลกู สาวแมจะใชการบังคบั ดุดา เมื่อลูกสาวไมปฏิบัติตามท้ัง ๆ ท่ีไมใชเร่ืองรายแรง ขณะเดียวกันหากเปนลูกชายแมจะกระทาํ ความผิด จากตัวอยางคือขโมยของ ผอู ื่น แมกลบั ไมดุดา แตบอกเพยี งวาถาหากอยากไดใหมาบอกแมแมจะหาซอ้ื ใหทกุ อยาง การปฏบิ ตั ิ ของแมจึงแสดงใหเหน็ วาแมเปนลูกแท ๆ แมกร็ ักลูกชายมากกวาลูกสาว ข. แมกบั ลูกบุญธรรม เสงีย่ มรักลูกของตนเองมากกวาลกู บญุ ธรรมอยางจงสวาง เสง่ียมแสดงออกโดยผาน การกระทําทอี่ ยตุ ิธรรมเสมอ ดังขอความท่เี จริดศรเี ลาเร่ืองราวของเสงย่ี มกบั จงสวาง ดังน้ี ขางแมรึกแ็ สนจะลาํ เอยี ง พรากลกู พรากแมเขามา แตพอมลี ูกของตวั เองก็เกิด จะลกู เขาลูกเราขนึ้ ลืมคาํ มน่ั สัญญาท่ีใหไวกับแมเขาไปเสยี หมด (Nitiprapha, 2018) เมื่อจงสวางรูความจริงวาตนไมใชลูกท่ีแทจริงของเสง่ยี ม ทําใหเสง่ียมปฏิบัติตอจงสวาง ดวยความลําเอียงไดโดยไมสนใจใคร โดยที่เสง่ียมหันไปเอาอกเอาใจจิตรไสวลูกชายของเธออยาง ออกนอกหนา ทําใหจงสวางรูสึกขาดความมั่นคงในครอบครัวแสดงใหเห็นถึงอํานาจในทางปฏิบัติท่ี แมปฏบิ ัติตอลกู เลย้ี งอยางไรความยตุ ิธรรม มขี อความปรากฏดงั นี้ เขาไมไดรูสึกอะไรเลยจะวาไป มคี นไมนอยเปนลกู ขอมาเลยี้ งในโลก แตหลงั จาก เทความลับออกจากอกได แมก็เหมือนกับไมตองคอยระมัดระวัง แมเร่ิมเอาอกเอาใจ จิตรไสวออกนอกหนา พอพอแมลําเอียงลกู ๆ ทเ่ี หลอื ก็รสู ึกไมมั่นคง แลวใครสักคนก็ตอง เปนผชู ดใช และแนนอน... ตองไมใชลูกคนโปรด เชนนั้นทีเ่ ขาตกเปนเหยอื่ (Nitiprapha, 2018) 1.4 อาํ นาจระหวางพี่กับนอง อํานาจระหวางพ่กี บั นองทีป่ รากฏในนวนยิ ายปรากฏใหเห็นในลกั ษณะของอํานาจ ระหวางพี่ชายกับนองสาว กลาวคอื พชี่ ายมอี ํานาจเบด็ เสร็จในการควบคุมความคดิ และการกระทํา 427

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 ของนองสาว เน่ืองจากพชี่ ายเปนเหมอื นตวั แทนของพอ จากตัวบทปรากฏเพยี งพฤตกิ รรมของพ่ชี าย คือ จติ รไสวเทานั้นท่ีใชอํานาจเผดจ็ การบงั คบั นองสาวคือจรสั แสง ซึ่งปรากฏเพียงหนึ่งตอน ดังนี้ ก. พี่ชายกับนองสาว จิตรไสวใชอํานาจของผชู ายเขาควบคมุ นองสาวคือจรสั แสง กลาวคือ ในตอนที่ มีจดหมายจากครทู ่ปี นังมาบอกท่ีบานวาจรสั แสงไมเขาเรยี นและมีชายหนุมมาติดพัน ในตอนน้ันตง และจงสวางไมอยู อํานาจในครอบครัวจึงตกเปนจิตรไสว ดังนั้นเมื่อไดรับจดหมาย จิตรไสวก็ เดินทางไปปนังทันที และเขาก็ใชกําลังบีบบังคับใหนองสาวกลับบาน ซ่ึงในขณะนั้นจรัสแสงมิได เต็มใจแตไมอาจขัดขืนอํานาจของพี่ชายไดมีขอความปรากฏดงั นี้ จติ รไสวพังประตหู องเขาไปพบท้งั คูเปลือยเปลาหลบั ใหลในออมกอดกันและกัน นูรฮัมสรูลไมไดทันมีโอกาสไดพูดอะไรแมแตคําเดียว จิตรไสวกระโดดเขาลากเขาลงจาก เตียงพรอมกับขึ้นครอมรัวกําปนเขาใสหนาไมยั้ง จรัสแสงเอาแตกรีดรอง ... รองตอน จิตรไสวกระชากจับเธอใสเส้ือผาราวกับยังเปนเด็ก รองตอนเขาหันไปตะคอกเตะหนุม นอยทซ่ี ุกหนาสะอึกสะอืน้ ตรงมมุ หองซาํ้ อีกสองครง้ั สั่งลา รองตอนพ่ีลากพรากเธอจากรัก แรกทีง่ ดงามราวกับความฝนนั่นไปตลอดกาล (Nitiprapha, 2018) 1.5 อาํ นาจระหวางลกู แทกับลกู บุญธรรม ความแตกตางระหวางลูกที่แทจริงกับลูกบุญธรรมแสดงใหเห็นถึงลูกท่ีแทจริงมี อํานาจเหนือกวาลูกบุญธรรม โดยไมมีเร่ืองเพศมาเปนตัวกําหนด อํานาจของลูกท่ีแทจริงมีอิทธิพล (Influence) ในการกําหนดชะตากรรมใหกับลูกบุญธรรม และลูกบุญธรรมจะตองตกอยูภายใต อํานาจ ถึงแมจะไมใชการใชอํานาจโดยตรงแบบการควบคุม แตก็มีลักษณะของการใชอํานาจท่ี รองลงมา ก็คือการใชอทิ ธิพลน่ันเอง ดงั ตัวอยางของเหตกุ ารณตอไปน้ี จรงุ สนิ รคู วามจริงวาจงสวางไมใชพ่ีนองจริง ๆ ของตน แตเปนเพียงเด็กชายที่พอ กบั แมขอมาเล้ยี ง ทาํ ใหจรงุ สนิ เกดิ อคติตอจงสวาง จึงหวานลอมใชอิทธิพลของความเปนพ่ีสาวเปาหู ใหเจริดศรตี ง้ั แงรังเกยี จจงสวางดวย ดงั ขอความทีว่ า ยายสินก็อคติคนนอยอยูเมื่อไหร พอมารูวาเขาลูกเล้ียงก็ไมอยากไดเขาเปน หวั หนาครอบครวั มัวคดิ เลก็ คิดนอยคอยแตจะหาเรอื่ งมาคอนขอดเอากับเขา ประเดย๋ี ววา พอตาสวางเอาเมีย...กิจการสมบัติจะตกเปนของคนอื่นไกลบาง ... ไมแตแคน้ันนะ ยังถือ ตัวดวย ปนปงเยน็ ชาไมใหความสนทิ สนม ทาํ กับเขาเหมอื นเปนคนอนื่ ไมใชพ่ที ้งั ๆ ท่โี ตมา ดวยกนั (Nitiprapha, 2018) 428

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 พอพอแมลําเอียงลูก ๆ ที่เหลือก็รูสึกไมม่ันคง แลวใครสักคนก็ตองเปนผูชดใช และแนนอน... ตองไมใชลูกคนโปรด เชนน้ันที่เขาตกเปนเหย่ือ จรุงสินกับเจริดศรีซัดโถม ขุนเคืองของพวกเธอมาลงท่ีเขา แตชางเถิด มันก็แคเร่ืองหยุมหยิมขี้หมูรา เขาไมอยาก นกึ ถึง รงั แตจะทําใหขมข่ืนโดยไมชวยใหอะไรดีขึน้ (Nitiprapha, 2018) จิตรไสวเชื่อวาท้ังพอและแมตองการใหเขาครอบครองสิทธิ์ในการสืบทอดกิจการของ ตระกลู เพยี งผเู ดียว โดยไมมพี ีช่ ายซงึ่ เปนแคลูกเล้ียงมาเกย่ี วของ ถึงแมวาพี่ชายจะชวยสรางรากฐาน ความม่ันคงทางธรุ กิจสบื ตอมาจากพอโดยท่ีพช่ี ายไมเคยเรียกรองส่งิ ใดเลยก็ตาม ซึง่ ความคิดของพอ และแมกต็ รงกับความคดิ ของเขา ดังขอความท่วี า เปนครัง้ แรกวาทุกอยางถกู กําหนดเอาไวแลว ใหทรัพยสนิ กิจการของครอบครัว ตองตกเปนของเขา ... และของเขาแตเพียงผูเดียวเทานั้น เขาเชื่อมาตลอดวาทรัพยสิน กิจการจะตกเปนของเขากับพี่กันคนละครึ่งวันหนึ่ง ซ่ึงไมมีเหตุผลที่จะไมเปนเชนนั้น จงสวางบากบ่ันแผวถางทุกอยางมากับมือ เขาทําทีหลังมาแบงครึ่งจะวาไปก็หาไดเปน ธรรมนัก หากแตยังคงตองเปนเชนน้ันดวยเหตวุ าเขาเปนลูกแท ๆ (Nitiprapha, 2018) จติ รไสวคดิ วาเขาตองการเอาชนะจงสวาง และดวยฐานอํานาจท่ีเขาไดรับจากพอและแม ในฐานะลูกท่ีแทจริง เขาทําลายอํานาจและอิทธิพลของพี่ชายท่ีมีครอบครัว รวมถึงอํานาจที่มีตอ คนงานในโรงสไี ปจนหมดสิ้น และถอนรากถอนโคนอิทธิพลของพี่ชายโดยการอาศัยอํานาจจากพอ แมแยงชิงคนรกั ส่ิงนี้ทาํ ลายความหวังทั้งหมดของจงสวาง ซ่ึงจิตรไสวคิดวาการกระทาํ ของเขาเปน การ “กําราบแมทพั นายกองลงไดและถือวาไดรบั ชยั ชนะ” ดงั ขอความปรากฏ อยางไรเสียก็ตองเปนเขาอยูดีไมเร็วก็ชา ท่ีจะเปนคนเขามาดูแลทรัพยสมบัติ กิจการ และหากตองเปนเชนน้ัน...ใช...กองทัพ กองทัพน่ันอยางไรหรือมใิ ชท่ีบมเพาะเขา มา วาตอใหยึดผืนดินมาไดสุดหลาจับไพรพลมาเปนเชลยไดเรือนลาน หากยังยึดนคร หลวงไมได กําราบแมทัพนายกองลงไดไมหมดจดก็ไมอาจถือวาไดรับชัยชนะ หัวใจ ตางหากท่ีตองรูวาอยูที่ส่ิงใด หัวใจตางหากตองลักริบมาใหได หัวใจน่ันที่ตองเก็บกดบด บีบใหบอบชา้ํ ส้ินแรง แมพอกับแมจะไมพูดออกมาตรง ๆ แตก็คงคิดเชนเดียวกัน วาหาก ไมมผี ูหญิงสนับสนุนเปนกําลงั ใจใหจงสวาง ปลอยเขาแตกราวอางวางทุกอยางก็คงจะงาย เขา (Nitiprapha, 2018) 429

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 1.6 ความไรอํานาจของตัวละครหญิง ตัวละครหญงิ ที่ปรากฏในเร่ือง เปนผไู มมสี ิทธไิ มมบี ทบาทสาํ คัญและไมมีอํานาจใด ๆ ในครอบครัว โดยเฉพาะตัวละครที่อยใู นสถานภาพของ “ลูกสาว” หากแตเสงี่ยมท่มี ีสถานภาพเปน แม แมจะมีอํานาจภายในบาน แตก็ไมสามารถใชอํานาจในการควบคุมผูชายคือ สามี ซึ่งเปนผูมี อํานาจสูงสดุ และไมสามารถควบคุมลูกชายได ดังนั้น จึงใชอํานาจโดยการครอบงาํ ความคิดของผู เปนใหญ คือ ตง ซ่งึ เปนสามีของเธอ เพราะอํานาจที่สั่งการจากตงเปนอํานาจเบ็ดเสร็จ ไมมีผูใดใน ครอบครวั ขดั ขืนได ดงั ตัวอยางเหตกุ ารณทแ่ี สดงความไรอํานาจของตัวละครหญิงดงั น้ี ตอนท่ีจงสวางผิดหวังจากความรัก สมาชิกทุกคนในครอบครัวรูดีวาเสงี่ยมและตง เปนผูทําผิด เน่ืองจากใคร ๆ ก็รูวาย่ีสุนเปนคนรักของจงสวางพ่ีชายคนโต แตก็ไมมีใครทัดทาน อํานาจของตงได หลังจากท่ีจงสวางทราบขาวเรื่องการแตงงานของจิตรไสวกับยี่สุน เขาจึงหาย ออกไปจากบานโดยไมมีใครออกตามหา บรรดานองสาวของเขาก็ไมอาจทัดทานอํานาจของพอกับ แมได ดงั ขอความปรากฏ วา จรัสแสงที่กรีดรองจนเสียงแหบหายเหมือนครั้งลมจ้ําเบาใสกองขี้หมาในหลุม หลบภัย และเจริดศรที จ่ี ับรถไฟกลบั มาอาละวาดขวางปาขาวของแตกพังท้ังบาน เตี่ยเอา แตพูดวาตองสืบทอดวงศตระกูล คนหัวโบราณนี่นะหนูดาว ก็แลวตาสวางใชแซของใคร อยูรึ เลือดเขากรีดออกมามันไมเปนสีแดงเหมอื นของตาไสวของใครหรืออยางไร คราวจะ ใชเขาทาํ งาน ทาํ ไมถงึ ไมคิดวาเขาเปนคนอน่ื (Nitiprapha, 2018) เหตกุ ารณตาง ๆ ไดแสดงใหเห็นวาผูหญิงตองตกอยูภายใตอํานาจของผูชาย ตองยอมรับ กับการตกอยูภายใตอํานาจนั้นโดยดุษฎี ดังเชนยี่สุนที่ตองยอมตกอยูภายใตอํานาจควบคุมของ จิตรไสว แมแตชวี ิตเธอก็ปกปองไวไมได ดงั ขอความปรากฏ คือ ย่สี ุนกลัน้ หายใจ สะบัดหนาไปมาในนํ้าทที่ วมทบเต็มคันถึงหลังคา และรถก็จม ลงถึงกนแมนํ้าแลว ... เธอกรีดรองขอชีวติ เขาดวยแรงใจทั้งหมดท่ีมี...ลั่นดังอยูแตขางใน อก ไดโปรดเถิดพี่ไหว ปลอยฉัน ปลอย ไดโปรด แตจิตรไสวยังคงน่ังมองเธออยางสงบ กลางแสงวิบไหวแปลกประหลาดของประกายแดดลอดผานและพรายฟอง แหละจน มองเห็นดวงตาเขามองมาอยางออนโดยที่สุด ยี่สุนก็ถึงตระหนักวามันไมมีทางเปนอื่นไป จากนีไ้ ดอีก เธอหยุดด้ินรน สงบลงตาม เฝามองความตายคอย ๆ รุกคืบเขาครอบครอง เธอทีละนอยจากเงาสะทอนในดวงตาของเขา (Nitiprapha, 2018) 430

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 2. ลักษณะการใชอํานาจรวมถงึ ระบบคิดเกี่ยวกับอาํ นาจของคนจนี พลัดถน่ิ ทปี่ รากฏ ในนวนิยายเรอ่ื งพทุ ธศกั ราชอัสดงกบั ทรงจาํ ของทรงจาํ ของแมวกหุ ลาบดาํ ลักษณะการใชอํานาจของบุคคลในครอบครัวคนจีนพลัดถิ่นท่ีปรากฏในนวนิยาย เร่ือง พุทธศักราชอัสดงกับทรงจําของทรงจําของแมวกุหลาบดํา ยังถูกครอบคลุมไปดวยระบบคิด แบบปตาธิปไตย (Patriarchal) ท่ีใหความสาํ คัญกับเพศชาย หัวหนาครอบครัวมีอํานาจควบคุม เบ็ดเสร็จ แตอํานาจของหัวหนาครอบครัวมีการถายโอนจากพอ (ตั้งจือตง) ไปสูลูกชายคนโต (จิตรไสว) ทําใหสถานภาพของลูกชายเปล่ียนแปลงจากลูกไปสูผูนํา อํานาจก็ถูกเปล่ียนถายดวย ซ่งึ จากเดิมจิตรไสวใชอํานาจแบบอิทธิพลในฐานะลูกชายท่ีแทจริงก็กลายมาเปนสามารถใชอํานาจ แบบควบคุมไดเบ็ดเสร็จ สวนพอจะตองลดบทบาทของตนเองลงกลายเปนเพียงที่ปรึกษาใหกับ ลกู ชายเทาน้ัน ตัวละครหญงิ ที่มอี ํานาจมากทสี่ ดุ คอื เสง่ียม กลาวไดวาผูหญิงทมี่ อี ํานาจมากที่สุดใน ครอบครัว คือ แม แตท้ังน้ีอํานาจท่ีแมมีเปนเพียงอํานาจแหงการครอบงําความคิดของหัวหนา ครอบครัวเทานั้น แตไมอาจส่ังการหรอื ใชอํานาจไดเทากับหัวหนาครอบครัว และอํานาจของแมจะ สิ้นสุดลงเมื่อแมเสียชีวิตเทาน้ัน สวนลูกสาวไมมีสิทธิ์มเี สียงใด ๆ ในครอบครัว ลูกสาวจึงเปนเพียง ผอู ยูภายใตอํานาจส่ังการของผนู าํ ครอบครวั ดังน้ันตวั ละครลกู สาว คอื จรุงสิน เจรดิ ศรี จรัสแสง จึง เปนภาพแทนของตัวละครที่แสดงใหเห็นถึงความไรอํานาจของตัวละครหญิง ซ่ึงตอกย้ําระบบคิด แบบปตาธิไตยในสังคมของคนจีนพลดั ถิ่นยุคน้นั ผานวรรณกรรมไดอยางชัดเจน อภปิ รายผลการวิจยั จากผลการวจิ ัยพบวาในสังคมชาวจนี เพศชายเปนเพศทมี่ อี ํานาจและจะมีการผลัดเปลย่ี น และถายเทอํานาจกัน โดยอํานาจสูงสุดอยูท่ีพอซึ่งทําหนาท่ีบริหารกิจการของครอบครัว แตเม่ือ ลูกชายข้ึนบริหารหรือเปนผูนํา อํานาจควบคุมสูงสุดจะถายทอดไปอยูที่ลูกชาย ในขณะที่พอจะ เปล่ียนสถานะเปนเพียงที่ปรึกษา สวนเพศหญิงอํานาจสูงสุดอยูที่แม ลูกสาวไมมีสิทธิมีเสียง และไมมีอาํ นาจใด ๆ ในครอบครวั เปนไดเพียงแตผูตามเทานัน้ แตอยางไรก็ตามอํานาจของแมจะมี ไมมากเทากับอาํ นาจของพอทีเ่ ปนผูนําครอบครัว ดังนน้ั การใชอํานาจของแม จึงปรากฏในลักษณะ ของการครอบงําสามี เพื่อใหสามีปฏิบัติตามความคิดของตน สวนการควบคุมเปนอํานาจท่ีใชได เฉพาะผูนําครอบครัว และการใชอิทธิพลใชไดเมื่ออีกฝายมีสถานะเปนรอง เชน ลูกแทใชอิทธิพล เพื่อ “กด” ลูกบุญธรรม ผลการวจิ ัยนี้สอดคลองกับผลการวิจัยของ Phanuwattanakul, (2009) ท่ีศึกษาเร่ืองอัตลักษณของคนไทยเช้ือสายจีนทามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยขอคนพบประการหนึ่งพบวา อํานาจในสังคมของกลุมคนไทยเช้ือสายจีนเปนส่ิงท่ีไมหยุดนิ่ง ตายตวั แตเล่ือนไหลไปมาบนพ้ืนท่ที างสงั คม และไมไดผูกขาดเบ็ดเสร็จ แตอํานาจไดเคล่ือนตวั เขา 431

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 ไปยงั จดุ ทเี่ ลก็ และคุนเคยทสี่ ดุ และจดุ ท่มี ีขอบขายกวางขวางท่ีสุดในความสัมพันธทางสังคมระหวาง มนุษยทุกที่ อํานาจมีอยูทุกที่และทุกคนซ่ึงขึ้นอยูกับชวงเวลา สถานการณ และประโยชนบาง ประการ และสอดคลองกับผลการวิจัยของ Pranithayasai, (2001) ที่ศกึ ษาเรื่อง ผูชายในครอบครัว จนี กรณศี กึ ษา: ครอบครัวคนจีนแตจ๋วิ ในตาํ บลมหาชัย อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ผลการวิจัย ประเด็นหนึ่งพบวาโครงสรางของครอบครัวจีนจะมีลักษณะท่ีสามีเปนหัวหนาครอบครัว และมี อาํ นาจในการปกครองภายในบานโดยเด็ดขาด ผูสบื สกลุ จะตองเปนชายเทานั้น สิทธแิ ละหนาท่ขี อง บุคคลภายในครอบครวั นั้นแบงแยกอยางชัดเจนตามอาวุโส อายุ และเพศ ผูอาวุโสจะไดรับการ ปฏิบัติติดวยความเคารพจากผูอื่นอาวุโสกวา ความหวังในการไดรับมรดกจะเปนของฝายชายแต เพียงผูเดียว สําหรับบุตรสาวจะไดสวนแบงท่ีพอแมจัดใหตอนแตงงานสําหรับไวใชจายสวนตัว เทานั้น จากโครงสรางทางสังคมดังกลาวทําใหสถานภาพ และบทบาทของผูหญิงถูกมองขาม ความสําคญั เปนสภาวะทีด่ าํ รงอยูภายใตความกดดนั จากผลการวจิ ยั ทําใหไดขอคนพบวาความสัมพันธ เชิงอํานาจในครอบครัวคนจีนพลัดถิ่นนั้น แมผูที่มีอํานาจโดยตรงจะเปนเฉพาะผูชาย แตใน ขณะเดียวกนั ผหู ญิงก็พยายามแสวงหาอํานาจของตนเองเชนกัน หากแตผูหญิงจะถูกบีบดวยกรอบ ประเพณีของสังคมปตาธิปไตย ทําใหผูหญิงตองคนหาวิธีการแสดงอํานาจในทางออม คือ การเขาครอบงําความคิดของผูนําท่ีมีอํานาจมากกวา นั่นก็คือสามีหรือหัวหนาครอบครัว นอกจากนั้นอํานาจของฝายชายมพี ลวัตจากรุนไปสูรนุ คือจากพอสูลูกชาย แตอํานาจของฝายหญิง เปนอํานาจแบบผูกขาดคืออํานาจในบานจะอยูท่ีแมเทานั้น ท้ังน้ี อํานาจของแมจะไมมีการพลวัต เลื่อนไหลแบบอาํ นาจของผูนาํ ครอบครัว แตจะส้ินสุดลงเม่ือเสียชีวติ เทาน้ัน ทั้งนี้การใชอํานาจของ ผนู าํ ครอบครวั ซงึ่ เปนอาํ นาจแบบควบคมุ ที่ไมมีใครปฏิเสธไดจะสงผลกระทบตอวิถีชีวติ ของสมาชิก ในครอบครัวอยางหลีกเล่ียงไมได แมผลทเี่ กิดข้ึนจะเปนไปในลักษณะใดก็ตาม เน่ืองจากไมมีใคร ปฏิเสธอํานาจควบคุมน้ีได ทั้งนี้ผูวิจัยมีขอเสนอสําหรับการวิจัยคร้ังตอไป คือ ควรมีการศึกษา ความสัมพันธเชิงอํานาจในครอบครัวคนจีนพลัดถ่ินท่ีอาศัยอยูในประเทศไทย และนํามา เปรียบเทียบกับความสัมพันธเชิงอํานาจในครอบครัวที่ปรากฏในวรรณกรรม เพื่อนําไปสูการทํา ความเขาใจและอยูรวมกันอยางสงบสุขของกลุมคน สรุปผลการวิจัย ความสมั พันธเชงิ อาํ นาจในครอบครัวทสี่ งผลตอวิถีชีวติ ของคนจีนพลัดถิ่น จากนวนิยาย เรื่องพุทธศักราชอัสดงกับทรงจําของทรงจําของแมวกุหลาบดํา ปรากฏลักษณะของการใชอํานาจ ไดแก การควบคุม (control) การใชอิทธิพล (influence) และการครอบงํา (domination) ซึ่งลักษณะ ของการใชอํานาจดังกลาวข้ึนอยูกับสถานะของบุคคลน้ันที่มีในครอบครัว คือความสัมพันธ 432

Rajabhat J. Sci. Humanit. Soc. Sci. 20(2): 418-433, 2019 เชิงอํานาจระหวางสามีและภรรยา ความสัมพันธเชิงอํานาจระหวางพอกับลูก ความสัมพันธ เชิงอาํ นาจระหวางแมกับลูก (แมกับลูกแท และแมกบั ลกู บุญธรรม) ความสมั พนั ธเชงิ อาํ นาจระหวาง พ่ีกับนอง ความสัมพันธเชงิ อํานาจระหวางลูกแทกับลูกบุญธรรม และความไรอํานาจของตวั ละคร หญิง ในขณะเดยี วกันบทสรุปของเหตุการณตางไดแสดงใหเห็นวาการใชอํานาจของผูนําครอบครัว ลวนสงผลกระทบโดยตรงตอวิถีชีวิตของสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากอํานาจของผูนําเปนอํานาจ ควบคมุ ทไ่ี มมีผูใดในครอบครวั สามารถขัดขืนได ถงึ แมวาอาํ นาจน้ันจะไมถูกตองหรือไมเหมาะสมกต็ าม เอกสารอางอิง Nitiprapha V. Descendant of the Century and the Memory of The Memory of The Black Rose- Cat. 2nd ed. Bangkok: Matichon; 2018. Phanuwattanakul W. Identity of Chinese – Thai people in multi-culture. Parichart Journal, 2009; 22(1): 140-152. Pranithayasai K. Men’s roles in Chinese family. A case study: Teochew Chinese family in Mahachai, Muang, Samutsongkarm province. Thesis. Graduate school, Silpakorn University; 2001. Rodsub N. Paternalism: An inequality of men and women in Asian society. in Journal of Burirum Rajabhat University, 2012; (2): 30-46. Sangkhaphannanon T. Literature & Theory. Pathumthani: Nakorn; 2016. Thipdet B, Vivattanaseth P, Thipdet U. Language and Economic Ideology: A Study of Chart Korbjitti’s short stories. in Journal of Humanities and Social Sciences University of Phayao, 2019; 7(1) : 138-150. Thai Royal Society. Dictionary of Thai Royal Society 2011. 2nd ed. Bangkok. Siriwattana inter printing; 2013. Wanchana S. Theory of Power. Bangkok: Political Science Association of Kasetsart University; 2014. 433