Occupational Health and Safety หนว่ ยการเรยี นท่ี 4 วศิ วกรรมความปลอดภยั Safety Engineering 1
วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ เพอื่ ใหผ้ เู ้ รยี นสามารถใชง้ าน จัดเกบ็ อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื เครอื่ งจกั ร และ ยานพาหนะ ตามขอ้ กาหนดการควบคมุ การใชแ้ ละการจดั เก็บ เพอ่ื ผเู ้ รยี นมคี วามรใู ้ นการเคลอ่ื นยา้ ยวสั ดุ เพอ่ื ผเู ้ รยี นมคี วามรแู ้ ละสามารถปฏบิ ตั งิ านเกยี่ วกบั ไฟฟ้าได ้ เพอื่ ผเู ้ รยี นมคี วามรแู ้ ละสามารถปฏบิ ตั งิ านกอ่ สรา้ งได ้ เพอ่ื ผเู ้ รยี นมคี วามรแู ้ ละสามารถป้องกนั และระงบั อคั คภี ยั ได ้ Occupational Health and Safety 2
ขอบเขตเนอื้ หา วศิ วกรรมความปลอดภยั การเลอื กใชเ้ ทคโนโลยที ม่ี อี ยใู่ หเ้ หมาะสมกบั นโยบาย และการปฏบิ ตั งิ าน สง่ิ ทพี่ จิ ารณาคดั สรรมาใชง้ านตา่ ง ๆ นัน้ ไดแ้ ก่ การออกแบบ การพัฒนา โครงสรา้ งสภาพแวดลอ้ มในการทางาน เครอ่ื งมอื เครอื่ งจกั ร ขนั้ ตอน กระบวนการผลติ ระบบบรหิ ารจัดการวสั ด–ุ อปุ กรณ์อานวยความสะดวกใน การปฏบิ ตั งิ าน เป็ นตน้ โดยมงุ่ เนน้ ใหผ้ ปู ้ ฏบิ ตั งิ านไดร้ ับความปลอดภยั Occupational Health and Safety 3
คาจากดั ความทค่ี วรรู้ วศิ วกรรมความปลอดภยั วศิ วกรรมความปลอดภยั หมายถงึ การนาความรทู ้ างคณติ ศาสตร์ และ วทิ ยาศาสตรม์ าประยกุ ตใ์ ชเ้ พอื่ ออกแบบและพัฒนาโครงสรา้ ง สภาพแวดลอ้ มในการทางาน เครอ่ื งมอื วสั ด–ุ อปุ กรณ์อานวยความสะดวก ในการปฏบิ ตั งิ าน เครอ่ื งจักร ขนั้ ตอนกระบวนการผลติ ระบบการจดั การ โดยการใชป้ ระโยชนจ์ ากสงิ่ ตา่ ง ๆ เหลา่ น้ี เพยี งอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ เพอื่ ใช ้ รว่ มกนั โดยมงุ่ เนน้ ใหผ้ ปู ้ ฏบิ ตั งิ านไดร้ ับความปลอดภยั สงู สดุ Occupational Health and Safety 4
การลอ๊ ค และ ป้ ายกญุ แจ 5 (Lock Out & Tag Out) การลอ๊ ก (Lock Out) หมายถงึ วธิ กี ารป้องกันไม่ใหเ้ กดิ อันตรายขน้ึ ขณะปฏบิ ัตงิ านเกย่ี วกับการซอ่ มบารุงดว้ ยการ ใสก่ ญุ แจป้ องกันการปลด เลอ่ื น หมุน คลาย โยก กด และ อน่ื ๆ อันเป็ นการป้ องกันการเปิดเครอ่ื งจักรในเวลาทย่ี ังไม่ พรอ้ มใหเ้ ครอ่ื งจักรทางาน ป้ ายชบี้ ง่ (Tag Out) หมายถงึ ป้ ายแสดงสถานการณ์ ทางานโดยแจง้ รายละเอยี ดใหผ้ ูพ้ บเห็นทราบว่า ขณะนี้มี การปฏบิ ัตงิ านเชน่ ไรกับอุปกรณ์ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ป้ ายชบ้ี ่งนี้จะ ตดิ ควบอยกู่ บั การล๊อคกญุ แจ (Lock Out) ทัง้ นี้เพอื่ ความ ปลอดภัยของผปู ้ ฏบิ ตั งิ านในขณะนัน้ Occupational Health and Safety
ขอ้ กาหนดการควบคมุ การใช้ และการจดั เก็บ วสั ด–ุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั ร และยานพาหนะ ความปลอดภยั ทกี่ าหนดใหผ้ ปู ้ ฏบิ ตั งิ านทกุ คนรู ้ และสอื่ สารในความหมาย เดยี วกนั เพอ่ื ความชดั เจนในการสรา้ งความปลอดภยั ใหแ้ กผ่ ปู ้ ฏบิ ตั งิ าน พจิ ารณาสแี ละเครอ่ื งหมายเพอื่ ความปลอดภยั จาก มาตรฐานอตุ สาหกรรม (มอก.635-2554) Occupational Health and Safety 6
สเี พอื่ ความปลอดภยั (มอก.635) 1.) สแี ดง แสดงถงึ อนั ตราย มคี วามหมายวา่ “หา้ ม” 2.) สเี หลอื ง แสดงถงึ การเตอื นใหร้ ะวงั 3.) สฟี ้า แสดงถงึ การบงั คบั ใหป้ ฏบิ ตั ติ าม 4.) สเี ขยี ว แสดงถงึ คาบอกกลา่ ว แนะนาในรปู แบบของป้ายนเิ ทศ หา้ ม เตอื น บงั คบั บอก Occupational Health and Safety 7
ความหมายของคาวา่ บงั คบั และ บอก “หา้ ม” หมายถงึ การหยุดดาเนนิ การ ละเวน้ หรอื ยกเลกิ การดาเนนิ การต่อ เชน่ หา้ มสบู บหุ รี่ “เตอื น” หมายถงึ การแจง้ เตอื นชบ้ี ง่ วา่ มอี นั ตราย เชน่ ระวังไฟฟ้าแรงสงู “บงั คบั ” หมายถงึ การแนะนาพรอ้ มกบั บังคับใหต้ อ้ งปฏบิ ัตติ ามคาแนะนานัน้ กอ่ น ผ่านเขา้ สพู่ ืน้ ทปี่ ฏบิ ัตงิ าน ถา้ ไม่อยู่ในเงอื่ นไขทกี่ าหนดหา้ มเขา้ พ้นื ทท่ี กี่ าหนดน้ี โดยเด็ดขาด เช่น บังคับใหใ้ ชห้ นา้ กากกันก๊าซพิษก่อนเขา้ สู่พื้นท่ีที่มีการฟ้ ุง กระจายของสารเคมี หากไม่ปฏบิ ัตติ ามไมอ่ นุญาตใหเ้ ขา้ สพู่ นื้ ทน่ี ัน้ เพราะจะเป็ น อนั ตรายหากฝ่ าฝื น “บอก” หมายถงึ การบอกกลา่ ว ประชาสมั พันธ์ แนะนา ชตี้ าแหน่ง ชท้ี ศิ ทาง เชน่ ป้ายแสดงทางหนีไฟ ป้ายแจง้ ทางออกฉุกเฉนิ ป้ายแสดงทต่ี ัง้ ของหน่วยพยาบาล เป็ นตน้ Occupational Health and Safety 8
เครอ่ื งหมายเพอื่ ความปลอดภยั กาหนดข้นึ เพ่ือใชส้ ่ือสารใหเ้ กดิ ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และ ป้องกนั การเกดิ อบุ ตั เิ หตุ โดยมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม (มอก.635) กาหนดรปู แบบ สพี น้ื สตี ดั สญั ลกั ษณ์ภาพ และความหมายไว ้ เครอื่ งหมายแบง่ ออกเป็ น 4 กลมุ่ 1.) เครอื่ งหมายหา้ ม 2.) เครอื่ งหมายเตอื น 3.) เครอ่ื งหมายบงั คบั 4.) เครอื่ งหมายบอก Occupational Health and Safety 9
เครอ่ื งหมายหา้ ม หมายถงึ การหา้ มปฏบิ ตั หิ รอื ดาเนนิ การในสงิ่ นนั้ รปู แบบ : เป็ นป้ายรปู วงกลม มเี สน้ แกนสแี ดงรอบรปู วงกลม และตดั ขวางเป็ นเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางดว้ ยมมุ 45 องศา จากมมุ บนซา้ ยสมู่ มุ ลา่ งขวาเสมอขอบรปู วงกลม โดยกาหนดใหพ้ น้ื ทขี่ องแถบสแี ดงทงั้ หมดมไี มน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 35 ของพนื้ ทที่ งั้ หมดของป้ายเครอื่ งหมาย สพี นื้ : ขาว สขี องสญั ลกั ษณภ์ าพ : ดา ตาแหนง่ ของสญั ลกั ษณภ์ าพ : กาหนดใหแ้ สดง สญั ลกั ษณ์ภาพไวต้ รงกลางของเครอื่ งหมาย โดยให ้ เสน้ แถบสแี ดงตดั ขวางทบั บนสญั ลกั ษณ์ภาพ Occupational Health and Safety 10
เครอื่ งหมายเตอื น หมายถงึ การเตอื นใหร้ ะวงั รปู แบบ : เป็ นรปู สามเหลย่ี มมเี สน้ แถบสดี าเป็ นเสน้ กรอบ รอบรปู สามเหลยี่ ม สพี น้ื : เหลอื งตอ้ งมอี ยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 50 ของพนื้ ท่ี ทงั้ หมดของเครอ่ื งหมาย สขี องสญั ลกั ษณภ์ าพ : ดา ตาแหนง่ ของสญั ลกั ษณภ์ าพ : ใหแ้ สดงไวต้ รงกลางของ เครอื่ งหมาย มขี นาดทเี่ ห็นไดเ้ ดน่ ชดั แตต่ อ้ งไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 50 ของพนื้ ทใี่ นกรอบสามเหลย่ี ม หมายเหตุ : เครอื่ งหมายเตอื นทนี่ าไปใชง้ านในพน้ื ที่ ภมู อิ ากาศ สลวั ทศั นะวสิ ยั มองเห็นไดใ้ นระยะใกล ้ ใหใ้ ช ้ สี สม้ หรอื สแี ดงวาวแสง แทนสเี หลอื งได ้ เพอื่ ใหส้ ามารถ มองเห็นไดใ้ นระยะไกลโดยเฉพาะเครอ่ื งหมายเตอื น เครอ่ื งจักรกาลงั ทางาน Occupational Health and Safety 11
เครอื่ งหมายบงั คบั หมายถงึ เครอื่ งหมายบงั คบั ใหต้ อ้ งปฏบิ ตั ติ ามขอ้ แนะนากอ่ นเขา้ สพู่ นื้ ทป่ี ฏบิ ตั งิ าน รปู แบบ : เป็ นรปู วงกลมไมม่ เี สน้ แถบรอบรปู วงกลม นัน้ สพี นื้ : ฟ้า ตอ้ งมอี ยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 50 ของพน้ื ท่ี ทงั้ หมดของเครอ่ื งหมาย สขี องสญั ลกั ษณภ์ าพ : ขาว ตาแหนง่ ของสญั ลกั ษณภ์ าพ : ใหแ้ สดง สญั ลกั ษณ์ภาพไวต้ รงกลางของเครอื่ งหมายและมี ขนาดไมเ่ กดิ รอ้ ยละ 50 ของพน้ื ทท่ี งั้ หมดในวงกลม แตต่ อ้ งสามารถเห็นไดเ้ ดน่ ชดั ในระยะไกล Occupational Health and Safety 12
เครอื่ งหมายบอก หมายถงึ เครอ่ื งหมายแนะนา บอกกลา่ ว ประชาสมั พนั ธ์ ชต้ี าแหนง่ นเิ ทศ ชท้ี ศิ ทาง เพอื่ อานวยความสะดวกในการสอ่ื สารใหไ้ ดร้ บั ความปลอดภยั รปู แบบ : เป็ นรปู สเ่ี หลย่ี มจัตรุ ัส หรอื สเี หลยี่ มผนื ผา้ มเี สน้ แถบสขี าวเป็ นกรอบรอบรปู สเี่ หลย่ี มหรอื ไมม่ กี ็ ได ้ สพี นื้ : เขยี ว ตอ้ งมอี ยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 50 ของพน้ื ท่ี ทงั้ หมดของเครอื่ งหมาย สขี องสญั ลกั ษณภ์ าพ : ขาว ตาแหนง่ ของสญั ลกั ษณภ์ าพ : ใหแ้ สดง สญั ลกั ษณ์ภาพไวต้ รงกลางของเครอ่ื งหมาย ใหม้ ี ขนาดทช่ี ดั เจนเห็นไดใ้ นระยะไกล แตต่ อ้ งมขี นาดไม่ เกดิ รอ้ ยละ 50 ของพน้ื ทเ่ี ครอ่ื งหมาย Occupational Health and Safety 13
กจิ กรรม ใหน้ ักศกึ ษาเขยี นแบบและจัดทาป้ายจรงิ ตามขอ้ กาหนดในมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม มอก. 635-2554 Occupational Health and Safety 14
อปุ กรณป์ ้ องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล (Personal Protective Equipment: PPE) ส ่ิง ใ ด ส ิ่ง ห นึ่ ง ท่ี ส ว ม ใ ส่ บ น อวัยวะส่วนใดส่วนหน่ึงหรือ หลาย ๆ ส่วนรวมกันเพื่อ ป้ อ ง กั น อั น ต ร า ย ห รื อ ล ด ค ว า ม รุ น แ ร ง จ า ก อั น ต ร า ย ใหแ้ กอ่ วยั วะทสี่ วมใส่ Occupational Health and Safety 15
ขอ้ พจิ ารณาในการเลอื กอปุ กรณป์ ้ องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล มหี ลกั การดงั นี้ (1) เลอื กใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะงานทเี่ ป็ นอนั ตราย (2) ควรมใี หเ้ ลอื กหลายแบบ อปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรายตอ้ งมใี หเ้ ลอื กใชต้ ามความพอใจ ทัง้ ขนาด สี และแบบใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะงาน (3) มขี นาดพอเหมาะกบั ผใู ้ ช ้ เครอ่ื งป้องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล ตอ้ งมขี นาดพอเหมาะกบั ขนาด และรปู รา่ งของผใู ้ ช ้ และจะตอ้ งเป็ นเครอื่ งป้องกนั อนั ตรายทใี่ ชเ้ ฉพาะบคุ คลไมค่ วร ใชร้ วมกนั (4) เป็ นอปุ กรณ์ทผี่ า่ นการทดสอบหรอื รับรองประสทิ ธภิ าพจากหน่วยงานรับรองทเี่ ชอ่ื ถอื ได ้ เชน่ มอก. ANSI เป็ นตน้ (5) มปี ระสทิ ธภิ าพในการป้องกนั อนั ตรายสงู อปุ กรณป์ ้องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล ตอ้ งใหม้ ี สมรรถนะในการป้องกนั อนั ตรายไดเ้ ป็ นอยา่ งดี Occupational Health and Safety 16
ขอ้ พจิ ารณาในการเลอื กอปุ กรณป์ ้ องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล มหี ลกั การดงั นี้ (ตอ่ ) (6) มนี ้าหนักเบา สวมใสส่ บาย อปุ กรณ์ทใ่ี ชจ้ ะตอ้ ง ไม่หนักเกนิ ไป ไม่คับ หรือหลวม เพราะจะทาให ้ ราคาญหรอื ตอ้ งรับน้าหนักมากเกนิ ไป (7) ใชง้ านไม่ยุ่งยาก ไม่ทาใหเ้ สยี เวลามากใน การศกึ ษาทาความเขา้ ใจ เพราะอาจจะทาใหผ้ ูใ้ ช ้ หลงลืมวธิ ีการใช ้ หรือเมื่อเกดิ เหตุการณ์ฉุกเฉิน นามาใชไ้ มท่ ันการณ์ (8) รักษาและดแู ลงา่ ย และสามารถจัดเกบ็ หลงั การ ใชใ้ หเ้ ป็ นระเบยี บ เพอื่ คงประสทิ ธภิ าพและยดื อายุ การใชง้ าน ดังนัน้ จะตอ้ งเป็ นอุปกรณ์ทเ่ี ก็บรักษา ไดส้ ะดวกไมย่ งุ่ ยาก (9) ทนทานและซอ่ มแซมไดง้ า่ ย Occupational Health and Safety 17
การใชอ้ ปุ กรณป์ ้ องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล 18 (1) ใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน (2) ตอ้ งอบรมใหร้ จู ้ ักวธิ กี ารใช ้ การเกบ็ รักษาใหถ้ กู วธิ ี เพอื่ ป้องกนั อนั ตรายทอ่ี าจจะเกดิ จากการใชเ้ ครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ ทไ่ี มถ่ กู วธิ ี (3) สรา้ งความเคยชนิ ในการอปุ กรณ์ โดยใหพ้ นักงานใชเ้ ครอ่ื งป้องกนั อนั ตราย ในชว่ งเวลาสนั้ ๆ ในระยะแรกของการทางาน และใหใ้ ชน้ าน ขนึ้ เรอื่ ย ๆ ตลอดระยะเวลาการทางานทัง้ นเ้ี พอื่ สรา้ งความเคยชนิ ให ้ เกดิ ขน้ึ อยา่ งสมา่ เสมอ (4) กาหนดเป็ นระเบยี บขอ้ บังคบั (5) จัดใหม้ ปี รมิ าณเพยี งพอกบั จานวนของผปู ้ ฏบิ ัตงิ านทจ่ี าเป็ นตอ้ งใช ้ (6) ทาความสะอาดอยา่ งสมา่ เสมอ ทัง้ กอ่ นและหลงั การใชโ้ ดยเฉพาะ อปุ กรณท์ ต่ี อ้ งใชร้ ว่ มกนั (7) ตรวจสอบและเกบ็ รักษาใหถ้ กู ตอ้ ง ตรวจสอบหลงั การใชว้ า่ ไมม่ สี งิ่ ใดชารดุ ซอ่ มแซมใหอ้ ยใู่ นสภาพทด่ี ี ควรจัดเกบ็ ใหถ้ กู ตอ้ ง Occupational Health and Safety
ประเภทของอปุ กรณป์ ้ องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล สามารถแบง่ ตามลกั ษณะการป้ องกนั อวยั วะสว่ นตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี (1) อปุ กรณป์ ้องกนั ศรี ษะ เครอ่ื งป้องกนั ศรี ษะ (Head protection) หรอื หมวกนริ ภยั (Safety hat) (2) อปุ กรณป์ ้องกนั หนา้ และและดวงตา และ อปุ กรณป์ ้องกนั หู (Ears – protection) (3) อปุ กรณป์ ้องกนั เทา้ และขา (4) อปุ กรณป์ ้องกนั ลาตวั (5) อปุ กรณ์ป้องกนั มอื และแขน (6) อปุ กรณ์ป้องกนั การตกจากทส่ี งู Occupational Health and Safety 19
กจิ กรรม การศกึ ษาประเภทและชนดิ อปุ กรณป์ ้ องกนั ภยั สว่ นบคุ คล แบง่ กลมุ่ นักศกึ ษาเป็ น 6 กลมุ่ ตามประเภทของอปุ กรณ์ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ อา่ น เนอื้ หาในหนา้ 79-84 และใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ มานาเสนอคณุ สมบตั แิ ละประเภท ของอปุ กรณ์ Occupational Health and Safety 20
เครอ่ื งมอื (Tools) เครอื่ งมอื ชว่ ยในการปฏบิ ตั งิ าน มปี ระโยชน์ 3 ประการ คอื (1) อานวยความสะดวกในการปฏบิ ตั งิ าน (2) ผอ่ นแรง หรอื ทนุ่ แรงใหแ้ กผ่ ปู ้ ฏบิ ตั ิ และ (3) เพอ่ื ความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั งิ าน Occupational Health and Safety 21
ประเภทของเครอื่ งมอื เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นงานอตุ สาหกรรมสามารถจาแนกตามประเภทไดด้ งั นี้ (1) จบั บบี คบี หนบี ไดแ้ ก่ คมี ปากกาจบั ชนิ้ งาน เป็ นตน้ (2) ตดั ไดแ้ ก่ กรรไกร มดี คมี ปากนกแกว้ เลอ่ื ยวงเดอื ย เป็ นตน้ (3) ไข ไช เจาะ เชน่ ไขควร สวา่ น เป็ นตน้ (4) ตอก กระแทก อดั บด เชน่ คอ้ น สกดั เครอื่ งบดอดั ดนิ เป็ นตน้ (5) ขดั ไส เจยี ร์ ปาด ไดแ้ ก่ เครอื่ งขดั กระดาษทราย กบไสไม ้ เครอื่ ง เจยี ระไน ตะไบ เป็ นตน้ Occupational Health and Safety 22
ประเภทของเครอ่ื งมอื เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นงานอตุ สาหกรรมสามารถจาแนกตามประเภทไดด้ งั นี้ (ตอ่ ) (6) เชอื่ ม ตอ่ ประสาน ไดแ้ ก่ เครอ่ื งเชอื่ มโลหะ ปืนยงิ กาว ยนื ยงิ ลวดเย็บ (7) ยดื โยง เคลอื่ นยา้ ย เชน่ รอก รถเข็น (8) วดั ระยะ จัดมมุ เชน่ ไมบ้ รรทดั เหล็ก ตลบั เมตร เหล็กฉาก วงเวยี น เวอรเ์ นยี รค์ าลเิ ปอร์ เป็ นตน้ (9) ตกั ตวง ขดุ เชน่ พลวั่ จอบ เสยี ม (10) ขนั เชน่ ประแจ แหวน ประแจปากตาย Occupational Health and Safety 23
ประเภทของเครอื่ งมอื เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นงานอตุ สาหกรรมสามารถจาแนกตามประเภทไดด้ งั นี้ (ตอ่ ) (11) ตรวจสอบ เชน่ มลั ตมิ ติ เตอร์ เกจวดั ความดนั (12) ผอ่ นแรง เชน่ แมแ่ รง (13) เครอ่ื งมอื เฉพาะงาน เชน่ เครอื่ งมอื แพทย์ (14) เครอ่ื งมอื ชว่ ยในการมองเห็น เชน่ กลอ้ งระดบั Occupational Health and Safety 24
ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการใชเ้ ครอ่ื งมอื (1) เลอื กใชเ้ ครอื่ งมอื ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะงาน (2) ตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งมอื ใหต้ รงตามคณุ ลกั ษณะของการออกแบบใหใ้ ชง้ าน เชน่ เครอื่ งตดั โลหะดว้ ยแผน่ ไฟเบอร์ ชนดิ ตัง้ พน้ื ไมค่ วรนาไปใชข้ ดั หรอื เจยี รโลหะ หรอื วสั ดอุ น่ื ใด เพราะแผน่ ไฟเบอรอ์ าจแตกกระเด็นใสผ่ อู ้ น่ื หรอื ตนเองไดร้ ับ บาดเจ็บ (3) ไมน่ าเครอื่ งมอื ทช่ี ารดุ มาใชง้ าน โดยเด็ดขาด (4) ควรศกึ ษาคมู่ อื และวธิ กี ารใชง้ าน เครอื่ งมอื นัน้ ๆ อยา่ งละเอยี ด Occupational Health and Safety 25
ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการใชเ้ ครอ่ื งมอื (5) ควรเลอื กขนาดของเครอ่ื งมอื ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะงานและแรงทก่ี ระทาตอ่ งาน (6) ควรตรวจเชค็ ตรวจสอบ ทาความสะอาดเครอื่ งมอื ตามคาแนะนาในคมู่ อื ของ เครอื่ งมอื แตล่ ะชนดิ ทัง้ กอ่ นใชง้ านและหลังใชง้ าน (7) เกบ็ รักษาเครอื่ งมอื กลบั ทอี่ ยา่ งเป็ นระเบยี บและถกู ตอ้ งตามคาแนะนาในคมู่ อื ของแตล่ ะชนดิ (8) คัดแยกเครอ่ื งมอื ทชี่ ารดุ ออกจากเครอื่ งมอื คณุ ภาพทกุ ครัง้ ทพี่ บเห็น Occupational Health and Safety 26
เครอื่ งจกั รกล เครอื่ งจกั รทใี่ ชอ้ ยใู่ นปัจจบุ นั สามารถจาแนกตามภาระงานหรอื หนา้ ทไี่ ด ้3 ประเภท คอื (1) เครอื่ งจักรตน้ กาลงั (Prime mover machinery) (2) เครอ่ื งจักรสง่ กาลงั (Transmission Machinery) (3) เครอ่ื งจกั รสาหรับการผลติ (Productions Machinery) 1 2 3 Occupational Health and Safety 27
เครอื่ งจกั รสาหรบั การผลติ สามารถจาแนกตามลกั ษณะ การผลติ ชน้ิ งานไดเ้ ป็ น 2 ประเภทใหญๆ่ (1) การตดั เป็ นลกั ษณะการทางานของเครอื่ งจักรทม่ี คี วามเกยี่ วขอ้ งกบั ความคมของ ชน้ิ สว่ นปลายทางกระทาตอ่ ชน้ิ งาน เครอื่ งจักรสาหรับการผลติ ทม่ี ลี กั ษณะของการตดั ไดแ้ ก่ เครอ่ื งตดั แบบกโิ ยตนิ เครอ่ื งกลงึ เครอื่ งไสปาดหนา้ เครอ่ื งเจยี ระไน เครอ่ื งบด ใบเลอื่ ย (2) การอดั เป็ นลกั ษณะการทางานของเครอื่ งจักรสาหรับการผลติ ทมี่ คี วามประสงคต์ อ่ ชนิ้ งานในลกั ษณะของการป๊ัมขน้ึ รปู การอดั สวมชนิ้ งาน การเจาะรู การดดั งอ การบด กระแทก Occupational Health and Safety 28
ลกั ษณะการทางานของเครอ่ื งจกั รกล แบง่ ตามลกั ษณะการเคลอื่ นไหว เครอื่ งจักรกลจะมกี ารเคลอื่ นไหวในลกั ษณะตา่ ง ๆ กนั ดงั น้ี (1) หมนุ รอบตวั เอง (2) การหมนุ แลว้ เกดิ การหนบี หรอื บบี (3) การเคลอ่ื นทแ่ี บบสลบั ไปมา รปู ภาพจาก http://www.osha.gov/ 29 Occupational Health and Safety
อนั ตรายทเี่ กดิ จากการทางานกบั เครอ่ื งจกั รกล มมี ลู เหตพุ อสรปุ ไดด้ งั นี้ (1) จากความบกพรอ่ งของเครอื่ งจกั ร (2) จากการกระทาของผใู ้ ชง้ านเครอื่ งจักรกล (3) จากสภาพแวดลอ้ มขณะปฏบิ ตั งิ านทไี่ มเ่ หมาะสม 1 2 3 Occupational Health and Safety 30
กจิ กรรม การวเิ คราะหม์ ลู เหตขุ องอนั ตราย ให ้ นศ. อา่ นเอกสารหนา้ 87-90 และ ยกตวั อยา่ งสถานะการณ์จรงิ ในมลู เหตอุ นั ตรายแต่ ละขอ้ (1) อนั ตรายจากความบกพรอ่ งเครอื่ งจกั ร มสี าเหตมุ าจาก อะไรบา้ ง 1.1.................................................................................... 1.2.................................................................................... 1.3.................................................................................... 1 Occupational Health and Safety 31
กจิ กรรม การวเิ คราะหม์ ลู เหตขุ องอนั ตราย ให ้ นศ. อา่ นเอกสารหนา้ 87-90 และ ยกตวั อยา่ งสถานะการณ์จรงิ ในมลู เหตอุ นั ตรายแต่ ละขอ้ (2) อนั ตรายจากการกระทาของผใู้ ชง้ านเครอ่ื งจกั ร มสี าเหตมุ า จากอะไรบา้ ง 2.1.................................................................................... 2.2.................................................................................... 2.3.................................................................................... 2.4.................................................................................... 2.5.................................................................................... 2 2.6.................................................................................... 2.7.................................................................................... 2.8.................................................................................... 2.9.................................................................................... 2.10................................................................................... Occupational Health and Safety 32
กจิ กรรม การวเิ คราะหม์ ลู เหตขุ องอนั ตราย ให ้ นศ. อา่ นเอกสารหนา้ 87-90 และ ยกตวั อยา่ งสถานะการณจ์ รงิ ในมลู เหตอุ นั ตรายแต่ ละขอ้ (3) อนั ตรายจากสภาพแวดลอ้ ลในการทางานมสี าเหตมุ าจาก อะไรบา้ ง 3.1.................................................................................... 3.2.................................................................................... 3.3.................................................................................... 3.4.................................................................................... 3 3.5.................................................................................... 3.6.................................................................................... 3.7.................................................................................... Occupational Health and Safety 33
กจิ กรรม อนั ตรายทเี่ กดิ จากการใชง้ านเครอ่ื งจกั รกลทม่ี สี ภาพความเสยี่ งสงู (ผปู้ ฏบิ ตั งิ านถกู สายพาน และเครอ่ื งจกั ร ดดู ดงึ ) รปู ท่ี 1 34 รปู ท่ี 2 ให ้ นศ. วเิ คราะหว์ า่ อบุ ตั เิ หตทุ งั้ สองกรณีมมี ลู เหตหุ ลักและยอ่ ยมาจากอะไร Occupational Health and Safety
ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการใชง้ านเครอ่ื งจกั รกล (1) แตง่ กายและใชอ้ ปุ กรณค์ มุ ้ ครองความปลอดภยั สว่ นบคุ คลใหเ้ หมาะสมกบั การ ใชง้ านเครอื่ งจักรนัน้ ๆ (2) สวมใสอ่ ปุ กรณ์คมุ ้ ครองความปลอดภยั สว่ นบคุ คลตลอดเวลาทอี่ ยใู่ นพน้ื ท่ี ปฏบิ ตั งิ าน (3) ศกึ ษาคมู่ อื และทาความเขา้ ใจในระบบการทางานของเครอื่ งจักร ทงั้ การเดนิ เครอ่ื งใชง้ าน ควบคมุ หยดุ ใชง้ าน ตลอดจนวธิ กี ารบารงุ รักษาและจัดเก็บ ใหม้ นั่ ใจ กอ่ นปฏบิ ตั งิ านกบั เครอ่ื งจักรกล (4) ปฏบิ ตั งิ านตามคาแนะนาของวศิ วกรผอู ้ อกแบบเครอ่ื งจักรกลอยา่ งเครง่ ครัด ไมล่ ัดขนั้ ตอน ไมเ่ รง่ ผลติ ชน้ิ งานจนเกนิ ขดี จากดั ทคี่ าแนะนากาหนด (5) ตรวจสภาพเครอื่ งจักรกอ่ น/หลังการใชง้ าน เพอ่ื ใหท้ ราบสภาพปัจจบุ นั ของ เครอื่ งจักรนัน้ หากพบสง่ิ ผดิ ปกติ ตอ้ งงดใชง้ านจนกวา่ จะไดร้ ับการแกไ้ ขใหอ้ ยใู่ น สภาพพรอ้ มใชง้ าน Occupational Health and Safety 35
ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการใชง้ านเครอ่ื งจกั รกล (6) ตอ้ งผา่ นการอบรมถงึ อนั ตรายทจ่ี ะไดร้ ับจากความผดิ พลาดทอ่ี าจจะเกดิ ขนึ้ เมอ่ื ใชง้ านเครอื่ งจักรนัน้ ตลอดจนรวู ้ ธิ ปี ฐมพยาบาลในเบอ้ื งตน้ กอ่ นใชง้ าน เครอ่ื งจักร (7) ตอ้ งรายงานความผดิ พลาดหรอื ผดิ ปกตขิ องเครอ่ื งจักรกลทนั ทที พ่ี บตอ่ หวั หนา้ งานหรอื ผรู ้ ับผดิ ชอบโดยตรง และใชง้ านเครอื่ งจักรนัน้ จนกวา่ จะไดร้ ับการ แกไ้ ข (8) หา้ มใชว้ สั ดอุ นื่ ทดแทนอปุ กรณห์ ลักทช่ี ารดุ (9) ปรับสภาพพนื้ ทปี่ ฏบิ ตั งิ านใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การยศาสตร์ เพอ่ื ลดความ เมอ่ื ยลา้ การบาดเจ็บ/เจ็บป่ วยจากการทางานและอบุ ตั เิ หตุ Occupational Health and Safety 36
การเคลอ่ื นยา้ ยวตั ถุ ดว้ ยกาลงั คน การเคลอื่ นยา้ ยวตั ถดุ ว้ ยกาลงั คนก็ยงั มคี วามจาเป็ นอยดู่ ว้ ยเหตผุ ลดงั น้ี (1) อปุ กรณ์เคลอื่ นยา้ ยอนื่ ๆ ไมส่ ามารถเขา้ ถงึ พนื้ ทปี่ ฏบิ ตั งิ านได ้ (2) ตอ้ งการความคลอ่ งตวั และวสั ดทุ ต่ี อ้ งเคลอื่ นยา้ ยมนี ้าหนักไมม่ าก (3) การนาวตั ถดุ บิ เขา้ สเู่ ครอ่ื งจกั รเพอ่ื การผลติ ทไ่ี มส่ ามารถใชแ้ ขนกล หรอื เครอ่ื งมอื อนื่ ใดได ้ (4) ตอ้ งการลาเลยี งวตั ถขุ น้ึ /ลงดว้ ยการเดนิ หรอื ปีนขนึ้ บนั ได Occupational Health and Safety 37
ขอ้ ปฏบิ ตั สิ าหรบั การเคลอื่ นยา้ ยวตั ถุ 38 ดว้ ยกาลงั คน (1) ตอ้ งไมฝ่ ื นยกวตั ถทุ ม่ี ขี นาดใหญห่ รอื น้าหนักมากเกนิ ความสามารถทจ่ี ะยกเอง ได ้ (2) วตั ถทุ จี่ ะยกตอ้ งมรี ปู รา่ ง-รปู ทรงทส่ี ามารถ จับยดึ ไดม้ น่ั คง และตอ้ งไมม่ คี วามแหลมคม (3) ตอ้ งไมเ่ คลอื่ นยา้ ยวตั ถใุ นพนื้ ทที่ มี่ คี วาม เสย่ี งโดยลาพัง เชน่ การเคลอื่ นยา้ ยวตั ถขุ นึ้ ลง บนั ไดทมี่ คี วามลาดชนั Occupational Health and Safety
ขอ้ ปฏบิ ตั สิ าหรบั การเคลอ่ื นยา้ ยวตั ถุ 39 ดว้ ยกาลงั คน (4) หลกี เลย่ี งการเคลอื่ นยา้ ยวตั ถขุ น้ึ ทสี่ งู ดว้ ยการยกทนู ขนึ้ เหนอื ศรี ษะ หากมคี วาม จาเป็ นควรใชบ้ นั ไดชว่ ย (5) ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งงอยอ่ เขา่ ลง เมอื่ ยกของ ขน้ึ จากพนื้ พงึ หลกี เลยี่ งการกม้ โนม้ ตวั ยกวตั ถุ นัน้ เพอื่ ความปลอดภยั ควรใหว้ ตั ถทุ ต่ี อ้ งการ เคลอ่ื นยา้ ยอยทู่ คี่ วามสงู ระดบั เอวของ ผปู ้ ฏบิ ตั งิ าน Occupational Health and Safety
กจิ กรรม ฝึ กการยกเคลอ่ื ยยา้ ยอยา่ งถกู วธิ ี (คลกิ ทร่ี ปู วดิ โี อมมุ บนทางขวาเพอ่ื ดเู ทคนคิ การยก) 40 Occupational Health and Safety
การเคลอ่ื นยา้ ยวตั ถุ 41 ดว้ ยรอก รอกมใี หเ้ ลอื กใชอ้ ยู่ 2 ชนดิ (1) รอกลวดสลงิ เป็ นอปุ กรณ์ผอ่ นแรงการยก เพอื่ เคลอื่ นยา้ ยวตั ถขุ นึ้ ลงในแนวดงิ่ ดว้ ย ลวดสลงิ (2) รอกโซ่ เป็ นอปุ กรณ์ผอ่ นแรงทถี่ กู ออกแบบใหใ้ ชง้ านเชน่ เดยี วกบั รอก ลวดสลงิ แตจ่ ะเปลยี่ นจากลวดสลงิ มาเป็ น โซ่ เพอื่ ความแมน่ ยาในการทางาน เนอื่ งจากแข็งแรง และ ลดการลนื่ ไถลจาก วงลอ้ ผอ่ นแรง Occupational Health and Safety
รอกลวดสลงิ 42 รอกมอื ใชก้ ารสาว หรอื ดงึ ลวดสลงิ ดว้ ยมอื บางชนดิ อาจมคี นั โยกแทนการสาวดว้ ยมอื เรยี กวา่ รอก ลวดสลงิ โยกมอื หรอื รอกลวดสลงิ มอื โยก รอกไฟฟ้ า เชน่ เดยี วกบั รอกมอื แตใ่ ชม้ อเตอรไ์ ฟฟ้าเป็ น อปุ กรณ์เสรมิ ชว่ ยสาวลวดสลงิ แทนมอื คน โดย ใชพ้ ลงั งานจากกระแสไฟฟ้า Occupational Health and Safety
รอกโซ่ มี 3 แบบใหญๆ่ (1) รอกโซม่ อื สาว (2) รอกโซม่ อื โยก (3) รอกโซไ่ ฟฟ้ า Occupational Health and Safety 43
การใชร้ อกรว่ มกบั เครน เมอื่ รอก (Hoists) ทางานรว่ มกบั คานเคลอ่ื นทไี่ ด ้ (Crane) จะทาใหก้ ารยก เคลอ่ื นยา้ ยวตั ถทุ าไดใ้ นรปู แบบของพน้ื ทป่ี ฏบิ ตั กิ ารทห่ี ลากหลายมากขน้ึ ตามความเหมาะสมของอปุ กรณ์ทเ่ี ลอื กใช ้ Occupational Health and Safety 44
ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการใชร้ อก (Hoists) และเครน (Crane) ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน เจา้ ของสถานประกอบกจิ การ วศิ วกร หรอื ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ ง จะตอ้ งปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี (1) เลอื กอปุ กรณ์รอกและเครนใหเ้ หมาะสมกบั รปู ทรง น้าหนัก ขนาดของวัตถทุ ี่ ตอ้ งการยกเคลอื่ นยา้ ย ตามสภาพแวดลอ้ มการทางานในพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั กิ าร (2) ยดึ โยงอปุ กรณ์ เครน และรอก ใหม้ ั่นคงแข็งแรง (3) ยดึ โยงวตั ถทุ ตี่ อ้ งการยกเคลอื่ นยา้ ยใหม้ ่นั คงกบั ขอเกยี่ วของรอก และมคี วาม สมดลุ เสมอ (4) รอกทจ่ี ะยกวัตถจุ ะตอ้ งอยใู่ นตาแหน่งตงั้ ฉากกบั วตั ถทุ ตี่ อ้ งการจะยกเสมอ พงึ หลกี เลย่ี งการยกลากวตั ถอุ อกจากตาแหน่งทตี่ งั้ เดมิ (5) กอ่ นทาการยกวัตถใุ หพ้ น้ พนื้ ทกุ ครัง้ จะตอ้ งม่นั ใจและใหส้ ญั ญาณแกบ่ คุ คลอน่ื ทอ่ี ยใู่ นบรเิ วณพน้ื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านนัน้ เสมอ Occupational Health and Safety 45
ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการใชร้ อก (Hoists) และเครน (Crane) (ตอ่ ) ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน เจา้ ของสถานประกอบกจิ การ วศิ วกร หรอื ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ ง จะตอ้ งปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ (6) การยกเคลอ่ื นยา้ ยวสั ดดุ ว้ ยรอกและเครนจะตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งชา้ ๆ และ มัน่ ใจวา่ ทกุ คนในพน้ื ทปี่ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งไดร้ ับความปลอดภยั (7) วตั ถทุ ถี่ กู ยก เคลอื่ นยา้ ยไปในอากาศจะตอ้ งมสี มดลุ มน่ั คง และถกู วางใน ตาแหน่งใหมด่ ว้ ยความสมดลุ และมั่นคงเชน่ กนั จงึ จะปลดตาขอรอกออกจากวตั ถไุ ด ้ (8) ผทู ้ ร่ี บั ผดิ ชอบในการควบคมุ รอกและเครนจะตอ้ งไดร้ ับการอบรมและผา่ นการ อนุญาตใหค้ วบคมุ รอกและเครนไดเ้ ทา่ นัน้ ผอู ้ นื่ ทไ่ี มเ่ กยี่ วขอ้ งหา้ มดาเนนิ การโดย พลการอยา่ งเด็ดขาด (9) รอกและเครนจะตอ้ งอยใู่ นสภาพพรอ้ มใชง้ านอยา่ งปลอดภัยดว้ ยการ บารงุ รักษาตามกาหนดและเมอ่ื เลกิ ใชง้ านจะตอ้ งถกู จัดเกบ็ ในตาแหน่งทปี่ ลอดภัย เสมอ Occupational Health and Safety 46
การเคลอื่ นยา้ ยวตั ถดุ ว้ ยสายพานลาเลยี ง นยิ มใชส้ ายพานลาเลยี ง เมอ่ื การเคลอ่ื นยา้ ยวตั ถใุ นแนวระนาบและลาด เอยี งในสว่ นของการผลติ Occupational Health and Safety 47
ขอ้ ปฏบิ ตั เิ พอื่ ความปลอดภยั ขณะทางานใกล้ สะพานลาเลยี ง (1) ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งสวมใสอปุ กรณค์ มุ ้ ครองความ ปลอดภยั สว่ นบคุ คลใหเ้ หมาะสมรัดกมุ ตอ้ งไมใ่ หม้ ี สว่ นใดสว่ นหนงึ่ สามารถพนั เขา้ กบั ระบบสายพาน ลาเลยี งได ้ (2) ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งประกอบครอบโซ่ ครอบเฟือง ครอบกลไกทม่ี กี ารเคลอื่ นไหวและกลไกขบั เคลอื่ น สายพานลาเลยี งเขา้ ทเี่ สมอ การปลอ่ ยเปลอื ยสง่ิ เคลอ่ื นไหวไวจ้ ะทาใหผ้ ปู ้ ฏบิ ตั งิ านไดร้ ับอนั ตราย จากการถกู หนบี ดงึ กระชากเขา้ สกู่ ลไก และไดร้ ับ บาดเจ็บ Occupational Health and Safety 48
ขอ้ ปฏบิ ตั เิ พอ่ื ความปลอดภยั ขณะทางานใกล้ สะพานลาเลยี ง (ตอ่ ) (3) การหยบิ ชนิ้ งานออกจากสานพานลาเลยี งจะตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั และมนั่ ใจวา่ ปลอดภยั เทา่ นัน้ (4) ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งไมข่ น้ึ ไปบนสายพานลาเลยี งเพอ่ื เคลอ่ื นทไ่ี ปกบั วตั ถบุ นสายพาน ลาเลยี งนัน้ โดยเด็ดขาด (5) ตอ้ งไมล่ ว้ งหยบิ สง่ิ ของทอี่ ยใู่ ตส้ ายพาน ลาเลยี งทกี่ าลงั เคลอ่ื นที่ หากตอ้ งการ ปฏบิ ตั กิ ารใด ๆ บรเิ วณใตส้ ายพานลาเลยี ง ตอ้ งหยดุ การทางานและทาการ Lock out และ Tag out กอ่ นเสมอ Occupational Health and Safety 49
การเคลอ่ื นยา้ ยวตั ถุ 50 ดว้ ยลฟิ ต์ (Lift) (1) เป็ นเครอ่ื งอานวยความสะดวกทใี่ ชใ้ นการขนสง่ เคลอ่ื นยา้ ยวตั ถจุ านวนมาก (2) มีน้าหนัก ขนาดท่ีแตกต่างกันไดใ้ นคราวเดยี ว เคลื่อนที่ขน้ึ -ลงในแนวดงิ่ โดยไม่จากัดระดับ ความสงู (3) ควบคุมระบบการทางานดว้ ยกลไกระบบรอก ลวดสลงิ ไฟฟ้ าและอเิ ล็กทรอนิกส์ ร่วมกับการ ถว่ งน้าหนักเพอ่ื ลดภาระการเอาชนะแรงโนม้ ถว่ ง ของโลก Occupational Health and Safety
Search