Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 2 อันตรายจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน

หน่วยที่ 2 อันตรายจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน

Published by parakorn007, 2019-09-18 03:39:02

Description: หน่วยที่ 2 อันตรายจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นที่ 2 อนั ตรายจากสภาพแวดลอ้ มการทางาน Workplace Environmental Hazards Occupational Health and Safety 1

วตั ถปุ ระสงคบ์ ทเรยี น  เพอ่ื ใหผ้ เู ้ รยี นไดท้ ราบถงึ แหลง่ อนั ตรายทส่ี ามารถพบเห็นไดจ้ าก สภาพแวดลอ้ มในการทางานในสถานประกอบกจิ การ  ผเู ้ รยี นไดท้ ราบถงึ สาเหตขุ องการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ (Causes of Accident) จาก แหลง่ อนั ตรายตา่ งๆ สาเหตขุ องการเกดิ โรคและการเจ็บป่ วยจากการทางาน ทงั้ เกดิ จากตัวเหตขุ องโรค ทางกายภาพ ทางเคมี ทางชวี ภาพ ทางการย ศาสตร์  ผเู ้ รยี นไดเ้ รยี นรถู ้ งึ การชบ้ี ง่ อนั ตราย การประเมนิ ความเสย่ี ง เพอ่ื ใหท้ ราบถงึ การ กาหนดระดับความรนุ แรงของอนั ตราย โอกาสทจ่ี ะเกดิ ของอนั ตราย และการ ประมาณระดบั ของความเสยี่ ง (Determine risk) Occupational Health and Safety 2

ประโยชนห์ รอื สงิ่ ทน่ี กั ศกึ ษาจะไดร้ บั  บอกแหลง่ อนั ตรายทสี่ ามารถพบเห็นไดจ้ ากสภาพแวดลอ้ มในการทางานใน สถานประกอบกจิ การทว่ั ไป ทัง้ ดา้ นกายภาพ ดา้ นชวี ภาพ ดา้ นเคมี และ ดา้ น การยศาสตร์ ได ้  อธบิ าย กลไกของการเกดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละโรคจากการทางาน ในสภาพแวดลอ้ ม การทางาน ได ้  สามารถชบ้ี ง่ อนั ตรายในสภาพแวดลอ้ มการทางานจากสถานการณต์ วั อยา่ งได ้ ถกู ตอ้ งทงั้ หมด  สามารถประเมนิ ความเสยี่ ง ดว้ ยการระบรุ ะดับความรนุ แรงของอนั ตราย โอกาส ทจี่ ะเกดิ ของอนั ตราย และการประมาณระดบั ของความเสยี่ งได ้  สามารถระบแุ หลง่ อนั ตรายและแนวปฏบิ ตั ติ อ่ แหลง่ อนั ตราย ทมี่ คี วามเสย่ี งไม่ อาจยอมรับได ้ และความเสยี่ งยอมรับได ้ Occupational Health and Safety 3

คานยิ ามทส่ี าคญั  อนั ตราย (Hazard) หมายถงึ สงิ่ หรอื สถานการณท์ อี่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ การบาดเจ็บ หรอื เจ็บป่ วยจากการทางาน ความเสยี หายตอ่ ทรัพยส์ นิ ความเสยี หายตอ่ สภาพแวดลอ้ มในการทางาน หรอื ตอ่ สาธารณชน หรอื สง่ิ ตา่ ง ๆ เหลา่ นี้ รวมกนั  การชบ้ี ง่ อนั ตราย (Hazard Identification) หมายถงึ กระบวนการในการคน้ หา อนั ตรายทมี่ อี ยแู่ ละการระบลุ ักษณะอนั ตราย  ความเสย่ี ง (Risk) หมายถงึ ผลลัพธข์ องความน่าจะเกดิ อนั ตรายและผลจาก อนั ตรายนัน้  การประเมนิ ความเสย่ี ง (Risk Assessment) หมายถงึ กระบวนการประมาณ ระดับของความเสยี่ ง และการตัดสนิ วา่ ความเสยี่ งนัน้ อยใู่ นระดบั ใด Occupational Health and Safety 4

คานยิ ามทส่ี าคญั อบุ ตั กิ ารณ์ (Incident) หมายถงึ เหตกุ ารณ์ทเ่ี กยี่ วเนอื่ งจากการทางานซง่ึ ทา ใหเ้ กดิ หรอื อาจเกดิ การบาดเจ็บ หรอื ความเจ็บป่ วยจากการทางาน หรอื การ เสยี ชวี ติ อบุ ตั เิ หตุ (Accident) หมายถงึ อบุ ตั กิ ารณท์ ม่ี ผี ลทาใหเ้ กดิ การบาดเจ็บ ความ เจ็บป่ วยจากการทางาน หรอื การเสยี ชวี ติ เหตกุ ารณเ์ กอื บเกดิ อบุ ตั เิ หตุ (Near miss) หมายถงึ อบุ ตั กิ ารณท์ ไ่ี มม่ ผี ลถงึ การบาดเจ็บ ความเจ็บป่ วยจากการทางาน หรอื การเสยี ชวี ติ อกี ความหมายหนง่ึ คอื เหตกุ ารณ์ทไี่ มพ่ งึ ประสงค์ แตเ่ มอื่ เกดิ ขน้ึ แลว้ มแี นวโนม้ ทจี่ ะกอ่ ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตุ Occupational Health and Safety 5

คานยิ ามทสี่ าคญั 6 ระดบั ความเสยี่ งทยี่ อมรบั ได้ หมายถงึ ระดบั ความเสยี่ งทอ่ี งคก์ รยอมรับโดยไม่ จาเป็ นตอ้ งเพมิ่ มาตรการควบคุมอกี ซง่ึ ไดจ้ าก การพิจารณา การประเมินความเสี่ยงแลว้ ว่า โอกาสที่จะเกดิ และความรุนแรงท่ีจะเกดิ ข้ึนมี เพยี งเล็กนอ้ ย ระดับความเสยี่ งทีย่ อมรับไดอ้ าจเป็ นผลมาจาก การมมี าตรการทเ่ี หมาะสมในการลด หรอื ควบคมุ ความเสย่ี ง Occupational Health and Safety

อบุ ตั กิ ารณ์ อบุ ตั เิ หตุ และ เหตกุ ารณเ์ กอื บไป นักศกึ ษาวเิ คราะหส์ ถานะการณต์ า่ งๆ วา่ อนั ไหนเป็ น อบุ ตั กิ ารณ์ อบุ ตั เิ หตุ และ เกอื บไป ดว้ ยการคาดเดาวา่ จะมเี หตกุ ารณ์อะไรทเี่ ป็ นไปไดท้ จ่ี ะเกดิ ขนึ้ กบั คนไดก้ บั ผเู ้ ลน่ กายกรรม ไตล่ วด Occupational Health and Safety 7

สภาพแวดลอ้ มการทางาน (Workplace Environmental) หมายถงึ สง่ิ ตา่ งๆ ทอ่ี ยรู่ อบตวั ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านในขณะทกี่ าลงั ทางาน ประกอบดว้ ยปัจจยั 4 ประเภท คอื (1) ปัจจัยสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ เชน่ ความรอ้ น แสง เสยี ง ความ สนั่ สะเทอื น รังสี และอน่ื ๆ (2) ปัจจัยสภาพแวดลอ้ มทางเคมี ไดแ้ ก่ สารเคมชี นดิ ตา่ งๆ (3) ปัจจยั สภาพแวดลอ้ มทางชวี ภาพ ไดแ้ ก่ แบคทเี รยี ไวรัส เชอื้ โรคตา่ งๆ (4) ปัจจัยสภาพแวดลอ้ มทางการยศาสตร์ หรอื เออรก์ อนอมคิ ส์ (Ergonomics Environment) Occupational Health and Safety 8

อนั ตรายในสภาพแวดลอ้ มการทางาน แบง่ ไดเ้ ป็ น 4 ปจั จยั หรอื 4 กลมุ่ (1) ปัจจัยสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ เชน่ ผังโรงงาน เครอ่ื งจักร ความรอ้ น แสง เสยี ง ความสนั่ สะเทอื น รังสี และอนื่ ๆ (2) ปัจจัยสภาพแวดลอ้ มทางเคมี ไดแ้ ก่ สารเคมี และวตั ถมุ พี ษิ ชนดิ ตา่ งๆ (3) ปัจจัยสภาพแวดลอ้ มทางชวี ภาพ ไดแ้ ก่ แบคทเี รยี ไวรัส เชอื้ โรคตา่ งๆ (4) ปัจจัยสภาพแวดลอ้ มทางการยศาสตร์ หรอื เออรก์ อนอมคิ ส์ (Ergonomics Environment) ไดแ้ ก่ ความไมเ่ หมาะสมของคนและสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ รวมถงึ การจดั การองคก์ ร คา่ จา้ ง คา่ ตอบแทน ชวั่ โมงการทางาน ตาแหน่งงาน สมั พันธภาพระหวา่ งบคุ คล และ อนื่ ๆ ปจั จยั เหลา่ นส้ี ามารถกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายแกผ่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านได้ Occupational Health and Safety 9

แหลง่ อนั ตรายทเ่ี กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ (Physical Environmental Hazards) หมายถงึ สงิ่ ทไ่ี มม่ ชี วี ติ สสารและพลังงานทอี่ ยรู่ อบตวั ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านในขณะทก่ี าลัง ทางาน ไดแ้ ก่ วัสด-ุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมอื เครอ่ื งจักร ความรอ้ น แสง เสยี ง ความ สนั่ สะเทอื น รังสี และ อน่ื ๆ พอแบง่ เป็ นปัจจัยตา่ งๆ ไดด้ งั น้ี (1) ผังโรงงาน (2) เครอื่ งจักรกล (3) เครอ่ื งมอื (4) เครอ่ื งเคลอื่ นยา้ ย (5) ระบบไฟฟ้า (6) แหลง่ พลงั อน่ื ๆ ทไี่ มใ่ ชไ่ ฟฟ้า (7) พน้ื ทอ่ี บั อากาศ (8) บรเิ วณงานกอ่ สรา้ ง (9) อปุ กรณ์ทางานทมี่ กี ารสน่ั สะเทอื น Occupational Health and Safety 10

แหลง่ อนั ตรายจาก การวางผงั โรงงาน (1) พน้ื ทใ่ี ชง้ านไมม่ ขี อบเขตทชี่ ดั เจน (2) ทางสญั จรแคบและสบั สนวนุ่ วาย (3) ทางเขา้ ของวัตถดุ บิ เป็ นทางเดยี วกนั กบั ทางออกของผลผลติ (4) ทางออกฉุกเฉนิ หรอื ทางหนไี ฟอยใู่ นตาแหน่งไมเ่ หมาะสมหรอื มกี องวสั ดขุ วาง อยู่ (5) ขนั้ ตอนการผลติ ไมเ่ ป็ นลาดับกนั มกี ารขนยา้ ยวัสดตุ ดั ขวางเสน้ ทางระหวา่ งกนั (6) การเคลอ่ื นยา้ ยวตั ถเุ หนอื ศรี ษะไมอ่ ยใู่ นพน้ื ทเ่ี ฉพาะมเี สน้ ทางลาเลยี งตดั ผา่ นผู ้ ทก่ี าลงั ปฏบิ ตั งิ านในสว่ นอนื่ ดา้ นลา่ ง Occupational Health and Safety 11

แหลง่ อนั ตรายจาก การวางผงั โรงงาน ผังโรงงานควรมกี าร กาหนดขอบเขตการชดั งานชดั เจน มคี วามกวา้ งของพนื้ ท่ี เหมาะสม กบั การใช ้ งาน และเป็ นไปตาม ขอ้ กาหนดการ กฏหมาย เชน่ ทางหนี ไฟ เป็ นตน้ หาเอกาสารเพมิ่ เตมิ ไดจ้ ากเวปไซท์ ราชกจิ จานุเบกษา http://www.ratchakitcha.soc.go.th 12 Occupational Health and Safety

แหลง่ อนั ตรายจาก การวางผงั โรงงาน (ตอ่ ) (7) การระบายอากาศและการกาจดั กลน่ิ หรอื ไอพษิ ไมด่ พี อ (8) เครอื่ งจักรกลมเี สยี งดงั เกนิ มาตรฐาน (9) อณุ หภมู ใิ นพนื้ ทท่ี างานสงู กวา่ มาตรฐาน (10) ระดบั แสงสวา่ งในพน้ื ทใี่ ชง้ านไมเ่ หมาะสมกบั ลกั ษณะงานนัน้ ๆ (11) พนื้ ทร่ี ะหวา่ งเครอื่ งจักรไมเ่ ออื้ อานวยตอ่ งานซอ่ มบารงุ (12) ระบบควบคมุ พลังงานไฟฟ้าและการใชง้ านไมไ่ ดม้ าตรฐานหรอื ขาดการดแู ล ตรวจสอบ ตลอดจนจัดวางไวใ้ นตาแหน่งไมเ่ หมาะสมกบั การใชง้ าน (13) ระบบป้องกนั อคั คภี ัยและอปุ กรณ์ดบั เพลงิ เกา่ ขาดการดแู ล ตรวจสอบ และ อยใู่ นตาแหน่งไมเ่ หมาะสมกบั การใชง้ านเมอื่ เกดิ เหตุ Occupational Health and Safety 13

แหลง่ อนั ตรายจากเครอ่ื งจกั ร โดยทว่ั ไปเครอื่ งจกั รในงานอตุ สาหกรรมแบง่ ออกได้ 3 ประเภท (1) เครอื่ งจักรตน้ กาลัง (Prime mover machinery) เครอื่ งจักรทใ่ี ชเ้ ปลยี่ นพลังงานรปู แบบหนงึ่ ไปเป็ นพลงั งานรปู แบบใหมท่ ี่ ตอ้ งการ (2) เครอ่ื งสง่ กาลัง (Transmission machinery) อปุ กรณ์สง่ ผา่ นพลังงานจากเครอ่ื งจักรตน้ กาลังไปสเู่ ครอื่ งจักรสาหรับการผลติ โดยทั่วไปจะตอ้ งมรี ะบบป้องกนั เหตฉุ ุกเฉนิ เพอ่ื ตดั ทอนกาลงั จากเครอื่ งตน้ กาลังมใิ หส้ รา้ งความเสยี หายตอ่ เครอื่ งจักรสาหรับการผลติ เมอื่ เกดิ เหตทุ ไ่ี มพ่ งึ ประสงคข์ นึ้ (3) เครอ่ื งจักรสาหรับการผลติ (Productions machinery) เครอื่ งอานวยความสะดวกทช่ี ว่ ยใหส้ ามารถผลติ ชนิ้ งานออกมาไดต้ ามตอ้ งการ Occupational Health and Safety 14

ตวั อยา่ งเครอ่ื งจกั รตน้ กาลงั เชน่ หมอ้ นา้ เครอื่ งป่นั ไฟ เป็ นตน้ Occupational Health and Safety 15

ตวั อยา่ งเครอ่ื งสง่ กาลงั เชน่ สายพาน เพลา เฟื อง เป็ นตน้ Occupational Health and Safety 16

ตวั อยา่ งเครอื่ งจกั รสาหรบั การผลติ เชน่ เครอื่ งตดั เครอ่ื งบด ป๊มั กดั เจาะ ใส เป็ นตน้ Occupational Health and Safety 17

แหลง่ อนั ตรายจาก เครอ่ื งมอื (Tools) แบง่ ไดเ้ ป็ น 2 กลมุ่ 1) อปุ กรณอ์ านวยความสะดวกในกระบวนการผลติ และงานซอ่ มบารงุ ไดแ้ ก่ คมี ไขควง คอ้ น ประแจ เครอื่ งมอื วดั เครอ่ื งมอื พเิ ศษเฉพาะงาน ฯลฯ หากไมไ่ ดม้ าตรฐาน หรอื ไมเ่ หมาะสมอาจจะทาใหเ้ กดิ อนั ตรายไดร้ ับบาดเจ็บ 2) อปุ กรณป์ ้องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล(PPE : Personal Protective Equipment) ขณะ ปฏบิ ตั งิ านในกระบวนการผลติ และงานซอ่ มบารงุ ถา้ ไมไ่ ดม้ าตรฐานก็จะทางานอยใู่ น สภาพเสยี่ งไมส่ ามารถป้องกนั อนั ตรายได ้ Occupational Health and Safety ห า ก ใ ช ง้ า น ผิ ด ป ร ะ เ ภ ท หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามขอ้ กาหนด ของ การใชง้ า น เ คร่ือง มือ และอุปกรณ์นั้น ๆ ผูใ้ ชง้ าน มั ก ไ ด ้รั บ บ า ด เ จ็ บ จ า ก เครื่องมือหรืออุปกรณ์นั้น ๆ เป็ นลาดบั แรกเสมอ 18

แหลง่ อนั ตรายจาก เครอ่ื งเคลอื่ นยา้ ย หยบิ ยก หรอื ลาเลยี งวสั ดุ เป็ นอปุ กรณห์ รอื เครอื่ งอานวยความสะดวกและใชช้ ว่ ยทนุ แรงในการหยบิ ยก ลาเลยี ง หรอื เคลอ่ื นยา้ ยสง่ิ ของตา่ งๆ ลดการใชแ้ รง ทางานไดร้ วดเร็วขนึ้ เชน่ เชอื ก รอก โซ่ ลวดสลงิ ปัน้ จ่ัน เครน รถยกหรอื โฟรค์ ลฟิ ท์ สายพานลาเลยี ง ลฟิ ทข์ นสง่ รถเข็น แมแ่ รง รถบรรทกุ เป็ นตน้ อนั ตรายมสี าเหตจุ ากการขาดใชผ้ ดิ วธิ ี ขาดการบารงุ รักษาทาใหเ้ กดิ ความเสยี หาย ขณะใชง้ าน สง่ ผลอนั ตรายหรอื การบาดเจ็บของผปู ้ ฏบิ ตั งิ าน Occupational Health and Safety 19

กรณีศกึ ษาอบุ ตั เิ หตกุ ารใชร้ ถโฟรค์ ลฟิ ท์ และกจิ กรรม  ให ้ นศ. ดวู ดิ โี อแลว้ สรปุ วา่ อบุ ตั เิ หตทุ งั้ 10 กรณมี อี ะไรบา้ ง  วเิ คราะหว์ า่ อบุ ตั เิ หตเุ หลา่ นัน้ มสี าเหตมุ าจากอะไร  ใหเ้ สนอแนะวา่ จะป้องกนั อยา่ งไร Occupational Health and Safety 20

แหลง่ อนั ตรายจาก ระบบไฟฟ้ าและอปุ กรณค์ วบคมุ พลงั งานไฟฟ้ า หาเอกาสารเพมิ่ เตมิ ไดจ้ ากเวปไซท์ ราชกจิ จานุเบกษา http://www.ratchakitcha.soc.go.th 21 Occupational Health and Safety

แหลง่ อนั ตรายจาก ระบบไฟฟ้ าและอปุ กรณค์ วบคมุ พลงั งานไฟฟ้ า พลงั งานไฟฟ้ าทใ่ี ชใ้ นงานอตุ สาหกรรมสามารถแบง่ ไดเ้ ป็ น 2 สว่ น คอื (1) สว่ นควบคมุ อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (ซง่ึ จะใชแ้ รงดันไฟฟ้าตา่ และมักเป็ น แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ไดแ้ ก่ 5 โวลต์ 12 โวลต์ เป็ นตน้ ) (2) ส่วนไฟฟ้ ากาลังใชส้ าหรับระบบการผลติ (ซงึ่ จะเป็ นแรงดันไฟฟ้ าสูง (Electric Power) และนยิ มใชแ้ รงดันไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ทค่ี วามถี่ ระดบั 50 เฮริ ตซ์ ไดแ้ ก่ 220 โวลต์ และ 380 โวลต์ เป็ นตน้ Occupational Health and Safety 22

แหลง่ อนั ตรายจาก แหลง่ พลงั งาน (Energy Place) เป็ นแหลง่ พลงั งานรปู แบบตา่ ง ๆ ทปี่ ้อนใหแ้ กเ่ ครอื่ งตน้ กาลงั เพอ่ื เป็ นพลงั ขบั เคลอื่ นใหเ้ ครอื่ งจกั รการผลติ แหลง่ พลงั งาน ไดแ้ ก่ พลงั งานไฟฟ้า พลงั งานความรอ้ น พลงั งานไอน้า พลงั งานปรมาณู พลงั งานน้า พลงั งานจากการสนั ดาป และ อน่ื ๆ Occupational Health and Safety 23

แหลง่ อนั ตราย ทอ่ี บั อากาศ ประดานา้ และการทางานในทส่ี งู หมายถงึ พนื้ ทท่ี ม่ี กี ารไหลเวยี นของอากาศไมด่ ี ทาใหม้ ปี รมิ าณออกซเิ จน อยนู่ อ้ ย เชน่ ในหอ้ งทป่ี ิดมดิ ชดิ ในถงั ทมี่ ชี อ่ งระบายอากาศนอ้ ย งานใตด้ นิ ถงั น้ามนั อโุ มงค์ ถงั น้า บอ่ น้า การทางานทสี่ งู บนอากาศ (เชน่ อาคารสงู ปัน้ จัน่ เครน) เนอ่ื งจากยง่ิ สงู ปรมิ าณของออกซเิ จนจะเหลอื นอ้ ย และ การทางานในน้า (เชน่ นักประดา น้า การเชอ่ื มโลหะใตน้ ้า การเดนิ ทอ่ ใตน้ ้า เป็ นตน้ ) ซง่ึ ถอื วา่ เป็ นการ ปฏบิ ตั งิ านในทอี่ บั อากาศ Occupational Health and Safety 24

แหลง่ อนั ตราย ทอ่ี บั อากาศ ประดานา้ และการทางานในทส่ี งู ขอ้ ปฏบิ ตั ทิ ส่ี าคญั ในการทางาน  จะตอ้ งคดั เลอื กผปู ้ ฏบิ ตั งิ านทม่ี สี ขุ ภาพแข็งแรง ไดร้ ับการตรวจสขุ ภาพ  มที ดสอบสมรรถภาพรา่ งกายมาอยา่ งดี มพี ลานามยั สมบรู ณ์ผา่ นเกณฑ์ มาตรฐาน  ตอ้ งผา่ นการอบรมทดสอบ มใี บอนุญาตประกอบวชิ าชพี เฉพาะ และมี ประสบการณ์สงู เขา้ ทางาน  การปฏบิ ตั งิ านแตล่ ะครัง้ จะตอ้ งมผี ชู ้ ว่ ยเหลอื รว่ มปฏบิ ตั งิ านอยดู่ ว้ ยเสมอ หา้ มทางานตามลาพัง  ไมอ่ นุญาตใหอ้ าสาสมคั ร คอื ผสู ้ มคั รใจทไี่ มผ่ า่ นการทดสอบมากอ่ นเขา้ ทางานแทนผรู ้ บั ผดิ ชอบเดมิ โดยเด็ดขาด Occupational Health and Safety 25

แหลง่ อนั ตราย บรเิ วณงานกอ่ สรา้ ง พน้ื ทท่ี มี่ กี ารกอ่ สรา้ ง การปรับปรงุ การขยาย การตอ่ เตมิ อาคาร และอน่ื ๆ ตอ้ งมกี ารควบคมุ และจดั การอยา่ งรอบครอบเพราะมกั จะเป็ นพน้ื ทท่ี มี่ คี วาม เสยี่ งอยมู่ าก สามารถกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายรนุ แรง และมผี ลในวงกวา้ ง Occupational Health and Safety 26

กจิ กรรม 27  ใหน้ ักศกึ ษาอา่ นกฏกระทรวงนี้ และ อภปิ รายรว่ มกนั  ทอี่ บั อากาศคอื สถานทใ่ี ด มอี นั ตราย อยา่ งไร  การทางานในสถานทอี่ บั อากาศตอ้ ง ตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความ ปลอดภยั Occupational Health and Safety

แหลง่ อนั ตราย อปุ กรณก์ ารทางานทม่ี คี วามสน่ั สะเทอื น เป็ นการทางานทตี่ อ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ประเภทเครอื่ งเจาะ เครอ่ื งสกดั การทบุ ทาลายอาคาร เครอื่ งบดอดั เครอ่ื งป๊ัมขน้ึ รปู ฯลฯ ผลเสยี เมอื่ ทางานตอ่ เนอ่ื งนานๆ  ทาใหป้ ลายประสาทไดร้ ับความสญู เสยี ความรสู ้ กึ  เกดิ อาการชาทอี่ วยั วะสว่ นนัน้ และอาจถงึ ขนั้ ไรค้ วามรสู ้ กึ ถาวรได ้  อาจทาใหผ้ ปู ้ ฏบิ ตั งิ านสญู เสยี อวยั วะโดยไมร่ ตู ้ วั  อาจทาใหผ้ ปู ้ ฏบิ ตั งิ านหตู งึ ประสทิ ธภิ าพการรับฟังเสอ่ื มสภาพ Occupational Health and Safety 28

แหลง่ อนั ตรายทเี่ กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางเคมี (Chemical Environmental Hazards) การมกี ารใชส้ ารหรอื วตั ถทุ ไ่ี วไฟและเป็ นพษิ ซงึ่ สถานทจ่ี ับเก็บ พนื้ ทใ่ี ชง้ าน ตลอดจนพนื้ ในการลาเลยี งสารหรอื วัตถเุ หลา่ นไ้ี ปใชง้ านลว้ นเป็ นสถานทอ่ี นั ตราย รวมทงั้ เมอ่ื เกดิ อคั คภี ยั พน้ื ทเ่ี หลา่ นัน้ อาจจะปลดปลอ่ ยหรอื เกดิ การร่ัวไหลของวตั ถุ เป็ นพษิ ตา่ งๆ ซงึ่ แหลง่ อนั ตรายทางเคมพี อสรปุ ไดด้ งั นี้ (1) บรเิ วณทเ่ี กดิ อคั คภี ยั (2) บรเิ วบทจ่ี ัดเก็บ ใชส้ ารเคมแี ละวัตถมุ พี ษิ รวมถงึ วัตถมุ พี ษิ ทเ่ี หลอื จากการผลติ (3) บรเิ วณจัดเกบ็ -ใชง้ านวตั ถไุ วไฟและวัตถรุ ะเบดิ (4) งานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั สารกดั กรอ่ น และรังสจี ะสง่ ผลอนั ตรายตอ่ สภาพแวดลอ้ ม การทางาน ชมุ ชน และตัวผปู ้ ฏบิ ตั งิ าน Occupational Health and Safety 29

อนั ตรายทเี่ กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางเคมี บรเิ วณทเ่ี กดิ อคั คภี ยั  บริเวณสถานที่เกิดอัคคีภัยยังมี อันตรายแฝงทัง้ จากสารเคมีเป็ น พษิ การแพร่กระจายของรังสี การ พังทลายของวัตถุ การแพร่กระจาย ความรอ้ น อากาศเป็ นพิษ การฟ้ ุง ก ร ะ จ า ย ข อ ง ฝ่ ุ น ค วั น ก า ร แพรก่ ระจายของเชอื้ โรค และ อนื่ ๆ Occupational Health and Safety 30

อนั ตรายทเี่ กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางเคมี บรเิ วบทจี่ ดั เก็บ ใชส้ ารเคมแี ละวตั ถมุ พี ษิ  สารเคมีและวัตถุมีพษิ ที่ใชใ้ นการผลติ จะตอ้ งจัดเก็บใหถ้ ูกตอ้ ง ไม่ใหเ้ กดิ การฟ้ ุง กระจาย อาจผลแบบเฉียบพลนั ตอ่ ผปู ้ ฏบิ ตั งิ าน หรอื สะสมในรา่ งกายจนเกดิ โรคตา่ งๆ  กรณตี ก หก หลน่ หรอื มเี หลอื ทง้ิ จากกระบวนการผลติ จะตอ้ งกาจัดอยา่ งถกู วธิ ี  การมไี วใ้ ชง้ านของวัตถุมพี ษิ และสารเคมอี ันตราย จาเป็ นตอ้ งมกี ารศกึ ษารายละเอยี ด จากผผู ้ ลติ ถงึ คณุ สมบตั ติ า่ งๆ ทเ่ี ป็ นอนั ตราย  การศกึ ษาขอ้ มลู การใช ้ การจัดเก็บ และการจากดั รวมถงึ ปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ สามารถศกึ ษาได ้ จากเอกสารทเ่ี รยี กวา่ MSDS (Material Safety Data Sheet) ของสารนัน้ ๆ ซง่ึ สามารถขอไดจ้ าก ผผู ้ ลติ  หาความรเู ้ พมิ่ เตมิ จาก พรบ.วตั ถอุ นั ตราย หาเอกาสารเพม่ิ เตมิ ไดจ้ ากเวปไซท์ ราชกจิ จานุเบกษา http://www.ratchakitcha.soc.go.th 31 Occupational Health and Safety

อนั ตรายทเี่ กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางเคมี 32 บรเิ วณจดั เก็บ-ใชง้ านวตั ถไุ วไฟ และวตั ถรุ ะเบดิ  วตั ถไุ วไฟ หรอื วตั ถรุ ะเบดิ สามารถดไู ดจ้ ากอณุ หภมู จิ ดุ ตดิ ไฟ (flash point)  วตั ถไุ วไฟ อาจจะอยใู่ นสภาพของแขง็ ของเหลว หรอื กา๊ ซกไ็ ด ้  วตั ถไุ วไฟ ทพี่ บใชก้ นั อยทู่ วั่ ไป เชน่ ทนิ เนอร์ น้ามนั เชอ้ื เพลงิ แกส๊ สารตวั ทาละลาย เป็ นตน้  สาหรับวตั ถรุ ะเบดิ เป็ นวตั ถคุ วบคมุ หากมไี วใ้ น ครอบครองจะตอ้ งแจง้ ใหห้ น่วยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งทราบ  วตั ถรุ ะเบดิ มกั ใชใ้ นกจิ การเฉพาะ เชน่ กจิ การเหมอื งแร่ กจิ การปนู ซเิ มนต์ ตอ้ งมกี ารควบคมุ การใชง้ านอยา่ ง เครง่ ครัด หากเกดิ อบุ ตั เิ หตจะสง่ ผลเสยี หายอยา่ งรนุ แรง และกวา้ งไกล หาเอกาสารเพมิ่ เตมิ ไดจ้ ากเวปไซท์ ราชกจิ จานุเบกษา http://www.ratchakitcha.soc.go.th Occupational Health and Safety

แหลง่ อนั ตรายจาก งานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั สารกดั กรอ่ น และรงั สี  มใี ชอ้ ยใู่ นกจิ การเฉพาะ เชน่ โรงพยาบาล คอื ฝ่ ายรังสเี ทคนคิ หรอื เอ็กซเ์ รย์ (X-ray) โรงงานผลติ ไฟฟ้าดว้ ยพลงั งานปรมาณู โรงงานผลติ แบตเตอร่ี เป็ นตน้  สารดงั กลา่ วไดแ้ ก่ สารละลายจาพวกกรดตา่ ง ๆ แรเ่ รเดยี ม สารกมั มนั ตภาพรังสี เป็ น ตน้  สง่ ผลโดยตรงตอ่ ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านทสี่ มั ผสั กบั สารเหลา่ นัน้ ความรนุ แรงขน้ึ อยกู่ บั ปรมิ าณที่ ไดร้ ับ อาจจะสง่ ผลทันที หรอื เกดิ การสะสมในรา่ งกายเป็ นเวลานาน ซงึ่ มผี ลตอ่ การ สญู เสยี อวยั วะ สขุ ภาพออ่ นแอ และเสยี ชวี ติ ได ้ ควรควบคมุ ตรวจวดั เขม้ งวด Occupational Health and Safety 33

อนั ตรายทเ่ี กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางชวี ภาพ (Biological Environmental Hazards) เกดิ จากพาหะนาเชอื้ โรคบางชนดิ เขา้ สพู่ นื้ ทท่ี างาน หรอื บางครัง้ อาจไดร้ ับเชอื้ โรค จากพน้ื ทที่ างานกลบั ไปยังทอี่ ยอู่ าศัย ซง่ึ ปัจจัยทท่ี าใหเ้ กดิ อนั ตรายใน สภาพแวดลอ้ มทางชวี ภาพ สามารถจาแนกองคป์ ระกอบสาคญั ได ้ 3 ประการ (1) ตวั โรค (Agent : A) (2) ตวั คน (Host : H) (3) สง่ิ แวดลอ้ ม (Environment : E) Agent Host Environment Occupational Health and Safety 34

แหลง่ อนั ตรายทเี่ กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางชวี ภาพ (Biological Environmental Hazards) (1)แหลง่ แพรก่ ระจายของเชอื้ โรค เชน่ โรงพยาบาล โรงงานฆา่ สตั ว์ โรงงานกาจัดขยะ ฟารม์ เลย้ี งสตั ว์ เป็ นตน้ แหลง่ ประกอบกจิ การ เหลา่ นี้ มกั มเี ชอื้ โรคปนเปื้อนในสภาพแวดลอ้ ม หลากหลายชนดิ เชน่ ไวรัส แบคทเี รยี รา รคิ เก็ต เซยี คลาไมเดยี ปรสติ และอน่ื ๆ (2)แหลง่ พาหะของโรค พาหะของโรคสามารถเป็ นไดท้ งั้ คน และสตั ว์ ดังนัน้ สถานประกอบกจิ การใดทมี่ ปี รมิ าณของ คนงานมาก หรอื เป็ นแหลง่ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สตั วท์ ่ี เป็ นพาหะของโรค จดั เป็ นแหลง่ อนั ตรายอกี ประเภทหนง่ึ Occupational Health and Safety 35

แหลง่ อนั ตรายทเ่ี กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางการยศาสตร์ (Ergonomics Environmental Hazards) การยศาสตร์ (Ergonomics) เกี่ยวกับการปรับสภาพงานใหเ้ หมาะสมกับความสามารถของ ผูป้ ฏิบัติงานทัง้ ร่างกายและจิตใจ ครอบคลุมการออกแบบผลิตภัณฑ์ เคร่ืองจักร เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ สภาพแวดลอ้ มการทางาน สถานท่ี ปฏบิ ัตงิ าน และระบบการจัดการงาน โดยมีแนวคดิ เพ่ือปรับปรุงใหก้ าร ทางานของผูป้ ฏบิ ัตงิ านมีความสะดวกสบายเป็ นไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ผปู ้ ฏบิ ตั งิ านมสี ขุ ภาพอนามยั และความเป็ นอยทู่ ดี่ ี Occupational Health and Safety 36

แหลง่ อนั ตรายทเ่ี กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางการยศาสตร์ (Ergonomics Environmental Hazards) พน้ื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านแบง่ เป็ น 2 สว่ น (1)พน้ื ทสี่ ว่ นกลาง เป็ นพนื้ ทห่ี รอื บรเิ วณทผี่ ปู ้ ฏบิ ตั งิ านใชร้ ว่ มกนั ไดแ้ ก่ บรเิ วณทางสญั จร ชอ่ งทางเขา้ -ออก ชอ่ งทางหนไี ฟ เสน้ ทางลาเลยี ง-ขนสง่ พน้ื ทจี่ ัดเกบ็ -วางวตั ถดุ บิ - ผลผลติ และอน่ื ๆ (2)พนื้ ทส่ี ว่ นทางาน เป็ นพน้ื ทห่ี รอื บรเิ วณทผี่ ปู ้ ฏบิ ตั งิ านใชส้ าหรับปฏบิ ตั งิ าน ในหนา้ ทต่ี ามความรับผดิ ชอบของตน ไดแ้ ก่ งานป๊ัมขน้ึ รปู งานไส งานกลงึ งานกดั งานประกอบ งานควบคมุ งานธรุ การ งานคอมพวิ เตอร์ และอนื่ ๆ  การจัดการพนื้ ทไี่ มถ่ กู ตอ้ งตามหลกั การยศาสตรจ์ ะสง่ ผลใหม้ โี อกาสเกดิ อบุ ตั เิ หตขุ นึ้ ไดส้ งู และมกั เกดิ เพราะความเครยี ดความเมอ่ื ยลา้ ของ ผปู ้ ฏบิ ัตงิ านในพน้ื ทที่ ไี่ มเ่ หมาะสม Occupational Health and Safety 37

แหลง่ อนั ตรายทเ่ี กดิ จากปจั จยั สภาพแวดลอ้ มทางการยศาสตร์ (Ergonomics Environmental Hazards) ลกั ษณะการปฏบิ ตั งิ าน (1) ระยะเวลาการทางาน ระยะเวลาทย่ี าวนานสง่ ผลตอ่ ความลา้ สขุ ภาพ และความเครยี ด (2)อริ ยิ าบถในการทางาน ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว การใชแ้ รง ทไ่ี ม่ เหมาะสมสง่ ผลตอ่ ความลา้ การบาดเจ็บ ของ พนักงาน (3)สวสั ดกิ ารพนกั งาน การทางานทคี่ วามเสยี่ งสงู ขวัญกาลังและความ ม่นั คงทไ่ี มด่ ี ทาใหเ้ กดิ ความเครยี ด ขาดสมาธิ ในการทางาน สง่ ผลตอ่ อบุ ตั เิ หตุ นาไปสคู่ วาม สญู เสยี ทัง้ พนักงานและชอ่ื เสยี งขององคก์ ร ความเชอื่ มัน่ จากลกู คา้ Occupational Health and Safety 38

กลไกของการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ (Mechanism of Accident) แบง่ สาเหตจุ ากปจั จยั ตา่ ง ๆ ได้ 4 ประการ ดงั น้ี 1.1 สาเหตจุ ากระบบการจดั การ ขาดความเอาใจใส่ ขาดการสรา้ งจติ สานกึ ในดา้ นความปลอดภัย ขาดระบบ การจัดการอาชวี อนามยั ความปลอดภยั และสภาพแวดลอ้ มการทางาน ขาดการ สนับสนุนอปุ กรณค์ มุ ้ ครองความปลอดภัยสว่ นบคุ คล เครอ่ื งมอื สาหรับอานวยความ สะดวกในการปฏบิ ตั งิ าน และเครอ่ื งจักรทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพตรงตามมาตรฐานความ ปลอดภัยสากล 1.2 สาเหตจุ ากสมรรถภาพของบคุ ลากร ความไมเ่ หมาะสมจากรปู รา่ ง สดั สว่ น สขุ ภาพ พลานามยั ความสมบรู ณข์ อง รา่ งกาย ปราศจากโรคภัยไขเ้ จ็บ และสมรรถนะของรา่ งกาย (ความแข็งแรง สามารถตา้ นทานสภาวะงานตา่ ง ๆ ได)้ Occupational Health and Safety 39

กลไกของการเกดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละโรคจากการทางาน 1.3 สาเหตจุ ากการปฏบิ ตั งิ านของบคุ ลากร ขาดความรคู ้ วามสามารถและประสบการณ์ ขาดการเอาใจใสแ่ ละจติ สานกึ ทาการโดยประมาททงั้ ทรี่ แู ้ ละไมร่ ู ้ (รเู ้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ์ และ รแู ้ ลว้ ยงั ทา) 1.4 สาเหตจุ ากสภาพแวดลอ้ มการทางาน สภาพแวดลอ้ มในขณะปฏบิ ตั งิ านในสถานประกอบกจิ การ โดยกาหนด สภาพแวดลอ้ มดงั กลา่ วไว ้ 4 ดา้ น คอื ดา้ นกายภาพ ดา้ นชวี ภาพ ดา้ นเคมี และดา้ นการยศาสตร์ Occupational Health and Safety 40

กลไกของการเกดิ โรคและการเจ็บป่ วยจากการทางาน (Mechanism of Ailments) สาเหตจุ ากปจั จยั ตา่ ง ๆ ได้ 3 ประการ ดงั น้ี 1. เกดิ จากตวั เหตขุ องโรค (Agent : A) (1) โดยตรง สถานประกอบกจิ การ เป็ นแหลง่ กาเนดิ ของเชอ้ื โรคเอง เชน่ หอ้ ง แล็บทางชวี ภาพ โรงพยาบาล โรงงานฆา่ สตั ว์ และอนื่ ๆ (2) โดยออ้ ม ไดร้ ับเชอ้ื โรคมาจากแหลง่ อนื่ เชน่ จากพนักงาน จากวตั ถดุ บิ ทส่ี ง่ั มา เพอ่ื การผลติ จากสตั วเ์ ป็ นพาหะ ไดแ้ ก่ ไขห้ วดั นก เป็ นตน้ 2. เกดิ จากผปู้ ฏบิ ตั งิ าน (Host : H) พนักงานเป็ นพาหนะนาโรค เชน่ ไวรัสตบั อกั เสบ หรอื แพรก่ ระจายเมอื่ เจ็บป่ วย เชน่ ไขห้ วดั วณั โรค เป็ นตน้ 3 เกดิ จากสงิ่ แวดลอ้ ม (Environment : E) สภาพแวดลอ้ มของตวั โรค ไดแ้ ก่ อณุ หภมู ิ ปรมิ าณของตวั โรค โอกาสของการ แพรก่ ระจาย สภาพแวดลอ้ มของตวั คน ไดแ้ ก่ ปรมิ าณของพนักงานในพน้ื ทป่ี ฏบิ ตั งิ าน สง่ ผลให ้ เกดิ การกระจายไดง้ า่ ยและรวดเร็ว Occupational Health and Safety 41

กลไกของการเกดิ โรคและการเจ็บป่ วยจากการทางาน (Mechanism of Ailments) กลไกของการเกดิ โรคและการเจ็บป่ วยจากการ ทางาน ทงั้ 3 ประการทก่ี ลา่ วมา มคี วามสมั พันธก์ นั โดยตรง กลไกของการเกดิ โรคและการเจ็บป่ วยจากการ ทางาน คอื ตัวโรค (A) ตวั คน (H) และสง่ิ แวดลอ้ ม (E) มคี วามสมดลุ (รปู บน) สถานประกอบกจิ การนัน้ จะไมเ่ กดิ โรคและเกดิ การเจ็บป่ วยจากการทางานขนึ้ ในพนื้ ทแ่ี น่นอน ความไมส่ มดลุ ของกลไลทงั้ 3 (รปู ลา่ ง) เชน่ ปรมิ าณตวั โรคเพม่ิ (a) จะนาไปสกู่ ารเจ็บป่ วยและ สง่ ผลใหเ้ กดิ โรคจากการทางาน Occupational Health and Safety 42

กลไกของการเกดิ โรคและการเจ็บป่ วยจากการทางาน (Mechanism of Ailments) เมอ่ื ใดกต็ ามทส่ี ถานประกอบกจิ การปลอ่ ยให ้ มผี ตู ้ ดิ เชอ้ื (h) เขา้ สพู่ น้ื ทปี่ ฏบิ ตั งิ าน และ ทางานรวมกบั ผอู ้ นื่ เมอ่ื นัน้ ยอ่ มเปิดโอกาสให ้ เกดิ ความไมส่ มดลุ ขนึ้ ในกลไกของการเกดิ โรค จะปรับสมดลุ ของกลไกทงั้ 3 ประการ อยา่ งไร??? Occupational Health and Safety 43

กจิ กรรม การปรบั สมดลุ ของ กลไกของการเกดิ โรคและการเจ็บป่ วยจากการทางาน (Mechanism of Ailments) ใหน้ ักศกึ ษาอา่ นหนังสอื หนา้ ท่ี 52 และสรปุ วา่ รปู สองรปู นม้ี คี วามหมายอยา่ งไร การจดั การควบคมุ กลไกแตล่ ะตัวมผี ลตอ่ การเกดิ โรคและการเจ็บป่ วยอยา่ งไร Occupational Health and Safety 44

การทบทวนสถานการณ์ดา้ นความปลอดภยั การทบทวนสถานการณด์ า้ นความปลอดภยั มแี นวทางพจิ ารณา ดงั น้ี 1. การชบี้ ง่ อนั ตราย (Hazard Identification) 2. การประเมนิ ความเสย่ี ง (Risk Assessment) 3. การประมาณระดบั ของความเสย่ี ง (Determine risk) Occupational Health and Safety 45

การชบี้ ง่ อนั ตราย ซงึ่ มปี จั จยั ใหพ้ จิ ารณาใน 3 ประการ 1. ระบแุ หลง่ อันตรายในสถานทท่ี จ่ี ะปฏบิ ตั งิ าน ทัง้ 4 ดา้ น ใหไ้ ดค้ อื ดา้ นกายภาพ ดา้ นเคมี ดา้ นชวี ภาพ และดา้ น การยศาสตร์ วา่ มอี ะไรบา้ ง 2. พิจ า ร ณ า ผ ล ก ร ะ ท บ ทั้ง 4 ด า้ น คือ บุค ค ล วั ต ถุ สงิ่ แวดลอ้ ม และสงั คม วา่ เป็ นอยา่ งไรเมอื่ อนั ตรายอบุ ัติ ขนึ้ 3. ลักษณะของการเกดิ อันตราย จะเกดิ ขนิ้ อย่างไร เช่น ลื่น หกลม้ ตกจากท่ีสูง ถูกหนีบ ถูกกระแทก ตี ท่ิม แทง บาด ตัด บด กดทับ รวมถงึ การลุกไหม ้ ระเบดิ กดั ทาลายดว้ ยสารเคมี ความสน่ั สะเทอื น เสยี ง เป็ นตน้ Occupational Health and Safety 46

ลกั ษณะการเกดิ อนั ตรายตา่ งๆ มแี นวทางการพจิ ารณา ดงั น้ี (1) การลน่ื หกลม้ เชน่ คนงานสง่ สนิ คา้ เหยยี บพน้ื ทม่ี ผี ทู ้ าน้ามนั เครอื่ งหกไว ้ (2) การตกจากทต่ี า่ งระดบั เชน่ คนงานกอ่ สรา้ งตกจากนั่งรา้ นขณะกาลังเก็บรวบรวมอปุ กรณ์ (3) การกระแทก ตี เชน่ คนงานใชป้ ระแจแหวนทชี่ ารดุ ขนั น็อตทาใหป้ ระแจแตกมอื กระแทกเครอ่ื งจักร ไดร้ บั บาดเจ็บ (4) การกระแทกกบั วตั ถทุ เี่ คลอื่ นไหว เชน่ คนงานถกู รถขนถา่ ยสนิ คา้ ชน (5) การหนบี บบี เชน่ พนักงานซอ่ มลฟิ ทถ์ กู ลฟิ ทห์ นบี ขณะกาลังซอ่ มบารงุ (6) การทม่ิ แทง บาด ตดั เชน่ คนงานถกู เหล็กเสน้ เสยี บทะลมุ อื (7) การบด กดทบั เชน่ คนงานถกู เครอ่ื งบดเนอ้ื บดมอื ตคู ้ อนเทนเนอรล์ ม้ ทบั คนงาน เป็ นตน้ (8) การลกุ ไหม้ ระเบดิ เชน่ ไฟไหม ้ คอมเพสเซอรแ์ อรร์ ะเบดิ เป็ นตน้ (9) การกดั ซมึ ผา่ น ไหลผา่ น เชน่ การสมั ผสั กบั ความเย็น การสมั ผสั กบั สารเคมี การสดู ดมไอระเหย ของทนิ เนอร์ การถกู ไฟฟ้าดดู เป็ นตน้ (10)การสน่ั สะเทอื น และเสยี ง เชน่ เครอื่ งเจาะกระแทกพนื้ คอนกรตี เป็ นเวลานานอาจทาใหเ้ กดิ อาการ ชาที่ มอื และแขนได ้ เป็ นตน้ รวมถงึ เสยี งดงั เกนิ ไป Occupational Health and Safety 47

กจิ กรรม การชบ้ี ง่ อนั ตราย ใหน้ ักศกึ ษาแบง่ กลมุ่ ดรู ปู และชว่ ยกนั วเิ คราะหว์ า่ รปู ทเี่ หน็ เป็ นเหตกุ ารณอ์ ะไร มกี จิ กรรมอะไร และมี อนั ตรายอะไรบา้ งทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขนึ้ อยา่ งละเอยี ด และเสนอแนะแนวทางป้องกนั แกไ้ ข http://www.jniosh.go.jp/icpro/jicosh-old/english/cases/sacl/saigai03e/saigai03e.htm 48 Occupational Health and Safety

กจิ กรรม การชบ้ี ง่ อนั ตราย ใหน้ ักศกึ ษาแบง่ กลมุ่ ดรู ปู และชว่ ยกนั วเิ คราะหว์ า่ รปู ทเี่ หน็ เป็ นเหตกุ ารณอ์ ะไร มกี จิ กรรมอะไร และมี อนั ตรายอะไรบา้ งทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขนึ้ อยา่ งละเอยี ด และเสนอแนะแนวทางป้องกนั แกไ้ ข http://www.jniosh.go.jp/icpro/jicosh-old/english/cases/sacl/saigai03e/saigai03e.htm 49 Occupational Health and Safety

กจิ กรรม การชบี้ ง่ อนั ตราย ใหน้ ักศกึ ษาแบง่ กลมุ่ ดรู ปู และชว่ ยกนั วเิ คราะหว์ า่ รปู ทเ่ี หน็ เป็ นเหตกุ ารณอ์ ะไร มกี จิ กรรมอะไร และมี อนั ตรายอะไรบา้ งทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ อยา่ งละเอยี ด และเสนอแนะแนวทางป้องกนั แกไ้ ข http://www.jniosh.go.jp/icpro/jicosh-old/english/cases/sacl/saigai03e/saigai03e.htm 50 Occupational Health and Safety


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook