47 00 8.3.2 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามข้อสงสยั 8.4 ข้ันฝึกทกั ษะ 8.4.1 ครูให้นักเรียนทุกคนทาใบงาน ควอร์ไทล์ของข้อมูล ใช้เวลา 10 นาที ครูส่งใบงานให้ นักเรียนผ่านช่องทาง Google Classroom โดยแจ้งนักเรียนผ่านช่องทาง Line (นักเรียนอาจจะปร๊ินเอกสาร แล้วทาลงใบงาน หรือถ้าไม่สะดวกอาจเขียนคาตอบลงสมุดแล้วถ่ายภาพส่งงานในอัลบั้ม (นักเรียนส่งงานผ่าน ช่องทาง Line หรอื ใน Google Classroom ไดท้ ั้ง 2 ชอ่ งทาง) 8.4.2 ในขณะท่ีนักเรียนทาใบงาน ครูคอยให้คาแนะนา ช่วยเหลือ และตอบข้อซักถามของ นักเรียน รวมท้ังเน้นนักเรียนในเร่ืองของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน (โดยใหเ้ ปิดไมค์ ยกมอื แล้วถามทลี ะคน) 8.5 ข้นั ประเมินผล 8.5.1 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายโดยการตรวจคาตอบจากเฉลยใบงาน เรื่อง ควอร์ไทล์ของ ขอ้ มลู 8.5.2 นักเรียนแต่ละคนสรุปผลคะแนนของตนเองท่ีได้จากการทาใบงาน ควอร์ไทล์ แล้วแจ้ง คะแนนครูทีละคน 8.5.3 ครูผูส้ อนมอบหมายใหน้ ักเรียนไปศึกษาหาความรูเ้ พิ่มเติมจากแหลง่ เรียนรูอ้ ื่นๆ จาก อินเตอรเ์ น็ต (Google, Youtube) 9. ภำระงำน / ชนิ้ งำน 9.1 ใบงาน เรื่อง ควอร์ไทล์ของขอ้ มลู 9.2 กิจกรรม ตาไว คิดไว ไปกบั Quartile 10. ส่ือ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 10.1 สื่อกำรเรยี นรู้ 10.1.1 ใบงาน หนว่ ยที่ 6 เรอ่ื ง สถิติ (3) ดังนี้ 1) ใบงาน เร่อื ง ควอรไ์ ทล์ของข้อมลู 2) ส่อื พาวเวอรพ์ อยท์ เร่ือง ควอร์ไทล์ 3) กิจกรรม ตาไว คิดไว ไปกบั Quartile 10.1.2 Application Google Classroom, Google Meet และ Line 10.2 แหลง่ กำรเรียนรู้ 10.2.1 Google 10.2.2 Youtube
48 00 11. กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีกำรวัด เครือ่ งมอื เกณฑก์ ำรประเมนิ 1. ดำ้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) 1.1 นกั เรยี นสามารถ ตรวจจาก นกั เรยี นทาใบงาน เรอื่ ง ควอรไ์ ทลข์ องข้อมลู ไดถ้ ูกตอ้ งอยา่ งน้อยร้อยละ 60 ข้นึ ไป จึงผ่าน หาควอร์ไทล์ของขอ้ มูลท่ี - ใบงาน เรื่อง - ใบงาน เรือ่ ง เกณฑ์ ควอรไ์ ทล์ของขอ้ มูล กาหนดให้ โดยใชม้ ธั ยฐานได้ ควอรไ์ ทล์ของขอ้ มลู แบบประเมิน นกั เรยี นมคี ณุ ลักษณะอยู่ในระดบั ดขี ึ้นไป มี พฤตกิ รรม เกณฑด์ ังน้ี 2. ดำ้ นจิตพสิ ยั (Affective domain) การเรยี น 3 คะแนน หมายถึง ดีมาก 2 คะแนน หมายถงึ ดี 2.1 นกั เรยี นเกดิ ความใฝ่ สงั เกต - ใบงาน เร่ือง 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ ควอร์ไทล์ของข้อมูล 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ เรยี นรู้ มีความเพยี รพยายาม ประเมนิ พฤติกรรม นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง ควอรไ์ ทลข์ องข้อมูล ในการเรียน และให้ ขณะรว่ มกิจกรรมการ ได้ถูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 60 ขึ้นไป จงึ ผา่ น เกณฑ์ ความสาคญั กบั การเข้ารว่ ม เรยี น กิจกรรมการเรียนรู้ 2.2 นักเรียนเกดิ ความ มุง่ มนั่ ในการทางาน เอาใจ ใสใ่ นหน้าทท่ี ี่ไดร้ ับ มอบหมาย และมคี วาม รับผดิ ชอบในการทางานให้ สาเรจ็ 3. ดำ้ นทักษะพิสัย (Psychomotor domain) 3.1 นักเรยี นรู้วิธกี าร และ ตรวจจาก ข้นั ตอนในการหาค่าควอร์ - ใบงาน เร่ือง ไทลข์ องขอ้ มูล โดยใช้ ควอร์ไทล์ของขอ้ มลู มธั ยฐานได้ 3.2 นกั เรยี นสามารถ แกป้ ญั หา และเลือกวิธกี ารท่ี ใชใ้ นการหาคา่ ควอร์ไทล์ของ ขอ้ มูล โดยใชม้ ัธยฐานได้
49 00 แบบวเิ ครำะหก์ ำรประเมินผลกำรเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วยวัตถปุ ระสงคก์ าร เรียนรูท้ ี่ต้องการวดั และความสอดคล้องดา้ นพุทธิพิสัย ทกั ษะพสิ ยั และจิตพิสยั พฤตกิ รรมกำรประเมิน เทคนคิ วตั ถปุ ระสงค์ ระดับพฤติกรรม (%) กำร พทุ ธิพสิ ัย ทกั ษะพิสัย จิตพิสยั ประเมนิ 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นกั เรยี น 20 20 20 20 20 100 1.แบบ สามารถหาควอร์ ประเมนิ ใบ ไทล์ของขอ้ มลู ท่ี งาน เร่ือง กาหนดให้ โดย ควอร์ไทล์ ใช้มธั ยฐานได้ ของขอ้ มลู (ความ ถูกตอ้ ง) 2. นกั เรียนเกดิ 10 10 10 10 10 50 แบบสังเกต ความใฝเ่ รยี นรู้ มี พฤตกิ รรม ความเพยี ร การเรยี น พยายามในการ เรยี น และให้ ความสาคัญกบั การเขา้ รว่ ม กิจกรรมการ เรียนรู้ 3. นักเรยี นเกิด 10 10 10 10 10 50 แบบสงั เกต ความมงุ่ มนั่ ใน พฤติกรรม การทางาน เอาใจ การเรยี น ใส่ในหน้าทีท่ ่ี ได้รับมอบหมาย และมีความ รบั ผิดชอบในการ ทางานใหส้ าเรจ็ 4. นักเรยี นรู้ 10 10 10 10 40 1.แบบ วธิ ีการ และ ประเมนิ ใบ ขน้ั ตอนในการหา งาน เรอ่ื ง ค่าควอรไ์ ทลข์ อง ควอรืไทล์ ข้อมลู โดยใช้ ของข้อมลู มธั ยฐานได้ (ความ ถกู ต้อง)
50 00 พฤตกิ รรมกำรประเมิน เทคนิค วตั ถุประสงค์ ระดับพฤตกิ รรม (%) กำร พุทธิพสิ ัย ทักษะพสิ ัย จติ พสิ ยั ประเมนิ 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 5. นักเรียน 10 10 10 10 10 10 60 แบบ สามารถแกป้ ญั หา ประเมินใบ และเลือกวธิ ีการ งาน เรอื่ ง ทใ่ี ชใ้ นการหา ควอรไ์ ทล์ คา่ ควอร์ไทลข์ อง ของขอ้ มูล ขอ้ มูล โดยใชม้ ธั ย (วิธกี ารและ ฐานได้ ข้ันตอนใน การหา ผลลพั ธ)์ รวม 100 100 100 **หมำยเหตุ: ควำมหมำยของตำรำงวเิ ครำะหก์ ำรประเมิน พทุ ธพิ ิสัย จิตพิสยั ทกั ษะพสิ ยั 1 = ความจา 1 = การรบั รู้ส่งิ เรา้ 1 = การรับรู้ 2 = การตระเตรียม 2 = เข้าใจ 2 = การตอบสนอง 3 = การตอบสนองตามคาชีแ้ นะ 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 3 = การสรา้ งคุณค่า 5 = การตอบสนองที่ซับซ้อนข้นึ 6 = การดัดแปลงให้เหมาะสม 4 = วเิ คราะห์ 4 = การจัดระบบคุณค่า 9 = การรเิ ริม่ ใหม่ 5 = ประเมนิ คา่ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ยั 6 = สรา้ งสรรค์
51 00 คำอธบิ ำยประกอบกำรประเมนิ ด้ำนพทุ ธิพสิ ยั (Cognitive domain) แบบประเมินใบงำน เรือ่ ง ควอร์ไทลข์ องข้อมลู (ควำมถูกต้อง) คำชแี้ จง : ใหผ้ ูป้ ระเมนิ ทาการประเมินใบงานตามเกณฑ์การประเมนิ กจิ กรรม ลำดบั ที่ ชื่อ - สกลุ ระดับคะแนน สรปุ กำรประเมิน 1 4 3 2 1 0 ผ่ำน ไมผ่ ำ่ น 2 3 4 5 ลงชือ่ .....................................................ผู้ประเมิน ( นางสาวเรณู คณุ เอนก) วันท่.ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑ์กำรประเมินกจิ กรรม : ใบงำน เรือ่ ง ควอรไ์ ทล์ของขอ้ มูล (ควำมถกู ต้อง) เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางตอ่ ไปนี้ ประเดน็ ทป่ี ระเมิน 4 ระดับคะแนน 1 0 32 เนื้อหาสาระของ ผลงานมีความถูกตอ้ ง เน้ือหาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เน้อื หาสาระของ ผลงานไมถ่ กู ต้อง สมบูรณ์ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไม่ถูกต้อง หรือไม่ปรากฏ สมบูรณ์ เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ การส่งงาน (ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ (ถูกต้องสมบูรณ์ (ถูกต้องสมบูรณ์ (ถูกต้องสมบรู ณ์ (ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ตา่ กว่า 1 ขอ้ ) 2 ข้อ) 2 ข้อ) 2 ข้อ) 1 ขอ้ ) เกณฑ์กำรผำ่ นกำรประเมิน : นักเรยี นมีระดบั คะแนน 2 ข้ึนไป (คิดเปน็ ร้อยละ 60 ข้ึนไป)
52 00 คำอธิบำยประกอบกำรประเมนิ ด้ำนจิตพสิ ัย (Affective domain) แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรเรยี น คำช้แี จง : ใหผ้ ้ปู ระเมินทาการประเมนิ พฤติกรรมการเรียนของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินแบบสงั เกต พฤติกรรมการเรียน (ความใฝ่เรียนร้)ู ควำมใฝ่เรียนรู้ ลำดับ ชอ่ื - สกลุ ความเพียรพยายาม การเข้าร่วมกิจกรรม สรุปกำรประเมนิ ที่ ผ่ำน ไม่ผำ่ น ในการเรียน การเรยี นรู้ 3 21 0 32 1 0 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมนิ ( นางสาวเรณู คณุ เอนก ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ำรประเมินพฤติกรรมกำรเรียน : เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ประเดน็ ท่ีประเมนิ 3 ระดบั คะแนน 0 21 1. ความใฝ่รู้ ดา้ นความ เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรง เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรียนไมต่ รง เพียรพยายามในการเรียน ตง้ั ใจเรียน เอาใจ เวลา ตง้ั ใจเรยี น ตงั้ ใจเรียน เอาใจ เวลาไม่ตงั้ ใจเรยี น ใสก่ ารเรยี นเปน็ เอาใจใส่การ ใส่การเรยี นเปน็ และไมเ่ อาใจใส่ใน ประจา เรยี นบ่อยครง้ั บางครั้ง การเรยี น 2. ความใฝ่รู้ ดา้ นการเข้า ใหค้ วามรว่ มมอื ใน ให้ความร่วมมือ ให้ความร่วมมอื ใน ไมใ่ หค้ วามร่วมมือ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการ ในกิจกรรมการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ในกจิ กรรมการ เรียนร้อู ย่าง เรียนรู้อย่าง เป็นบางครั้ง เรยี นรู้ สมา่ เสมอเปน็ สมา่ เสมอ ประจา บอ่ ยคร้ัง เกณฑก์ ำรผำ่ นกำรประเมนิ : นักเรยี นมีระดับคะแนนเฉลีย่ 2 ข้นึ ไป (คิดเป็นร้อยละ 50 ขึ้นไป)
53 00 คำอธิบำยประกอบกำรประเมิน ดำ้ นทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมินใบงำน เร่ือง ควอรไ์ ทล์ (วธิ ีกำรและข้นั ตอนในกำรหำผลลพั ธ์) คำชี้แจง : ให้ผูป้ ระเมินทาการประเมินใบงาน เร่ือง ควอร์ไทล์ตามเกณฑ์การประเมนิ ใบงาน (วธิ กี ารและขน้ั ตอนในการหาผลลัพธ์) ลำดบั ท่ี ชอ่ื - สกลุ ระดับคะแนน สรปุ กำรประเมนิ 1 4 3 2 1 0 ผ่ำน ไม่ผำ่ น 2 3 4 5 ลงชอ่ื .....................................................ผู้ประเมนิ ( นางสาวเรณู คุณเอนก ) วนั ที่.............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์กำรประเมนิ กิจกรรม (วิธีกำรและขัน้ ตอนในกำรหำผลลพั ธ์) : เกณฑก์ ำรให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางต่อไปน้ี ประเดน็ ทปี่ ระเมิน 4 3 ระดับคะแนน 1 0 ผลงานมีวธิ กี ารและ ผลงานมีวิธีการ ผลงานมวี ธิ ีการ 2 ผลงานมีวธิ ีการ ผลงานมีวิธีการ ข้ันตอนในการหาผลลัพธ์ และขัน้ ตอนใน และข้ันตอนใน และข้ันตอนใน และขน้ั ตอนใน ท่ีถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ การหาผลลพั ธ์ การหาผลลพั ธ์ ผลงานมวี ิธกี าร การหาผลลัพธ์ การหาผลลพั ธ์ (ถูกต้องสมบูรณ์) ถูกตอ้ งเป็นส่วน และข้นั ตอนใน ไม่ถูกตอ้ งเป็น ไมห่ รือไม่ 2 ขอ้ ) ใหญ่ การหาผลลพั ธ์ สว่ นใหญ่ ปรากฏการส่ง 2 ข้อ) ถกู ตอ้ งบาง 1 ข้อ) งาน ประเดน็ (ตา่ กว่า 1 ข้อ) 2 ขอ้ ) เกณฑก์ ำรผ่ำนกำรประเมนิ : นกั เรยี นมีระดบั คะแนน 3 ข้ึนไป (คิดเปน็ ร้อยละ 70 ขึ้นไป)
54 00 12. บันทึกผลกำรจดั กำรเรยี นรู้ ควำมสำเร็จในกำรจดั กำรเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหำและอุปสรรคในกำรจดั กำรเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทำงกำรแกไ้ ขปัญหำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.....................................................ผูส้ อน ( นางสาวเรณู คุณเอนก ) วันที.่ ............เดอื น.....................พ.ศ...........
55 00 13. ควำมคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง สถิติ (3) ในแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง ควอรไ์ ทล์ เรียบร้อยแล้ว โดยมคี วามคดิ เหน็ ดังน้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด สอดคลอ้ ง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทีเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม ไมไ่ ด้นากระบวนการเรียนรูท้ ีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้ 4. การใชส้ ่ือการเรยี นรู้ มีความเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรียนร้ขู องผ้เู รียน ไมส่ ่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวดั และการประเมนิ ผล สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ ไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรียนรูไ้ ปใช้ นาไปใช้ไดจ้ ริง ควรปรับปรงุ กอ่ นนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ .................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... .................................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นางสมจิตต์ มาฆะสิทธิ์) ตาแหน่ง หวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ วนั ท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
56 00 14. ควำมคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหำร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง สถิติ (3) ในแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง ควอร์ไทล์ เรยี บร้อยแล้ว โดยมคี วามคดิ เหน็ ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชีว้ ัด สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสาคญั มาใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไมไ่ ด้นากระบวนการเรยี นรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้ 4. การใช้สือ่ การเรียนรู้ มีความเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผู้เรยี น ไม่ส่งเสรมิ การเรยี นร้ขู องผู้เรียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรยี นรูไ้ ปใช้ นาไปใช้ได้จริง ควรปรับปรงุ กอ่ นนาไปใช้ ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโรงเรียนวงั จนั ทร์วิทยา กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. .............
57 00 ส่อื ประกอบกำรนำเสนอ (PowerPoint) เร่อื ง ควอรไ์ ทล์
58 00
กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 4 59 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 รายวชิ า คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน 5 00 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 เรือ่ ง สถติ ิ (3) เรอื่ ง แผนภาพกล่อง ภาคเรียนท่ี 1 รหัสวิชา ค 23101 ผ้สู อน นางสาวเรณู คณุ เอนก ปีการศึกษา 2564 เวลา 8 ชวั่ โมง เวลา 1 ชว่ั โมง 1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระท่ี 3 สถติ ิและควำมนำ่ จะป็น มำตรฐำน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถติ ิในการแกป้ ญั หา 2. ตวั ชี้วัด ค 3.1 ม.3/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิตใิ นการนาเสนอ และวิเคราะห์ขอ้ มลู จากแผนภาพ กลอ่ งและแปรความหมายผลลัพธ์ รวมทง้ั นาสถติ ไิ ปใช้ในชวี ิตจริง โดยใช้ เทคโนโลยที ี่เหมาะสม 3. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 1. ด้ำนพุทธิพิสัย (Cognitive domain) 1.1 นักเรยี นสามารถสร้างแผนภาพกลอ่ งจากข้อมลู ท่กี าหนดให้ได้ถกู ต้องอย่างน้อยร้อยละ 60 ขนึ้ ไป 2. ด้ำนจติ พสิ ัย (Affective domain) 2.1 นกั เรยี นเกดิ ความใฝเ่ รยี นรู้ มีความเพียรพยายามในการเรียน และให้ความสาคัญกับการ เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้อยู่ในระดบั ดี 2.2 นักเรียนเกิดความมุ่งม่ันในการทางาน เอาใจใส่ในหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย และมีความ รบั ผดิ ชอบในการทางานใหส้ าเรจ็ อยใู่ นระดับดี 3. ด้ำนทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) 3.1 นักเรยี นรู้วิธกี าร และขน้ั ตอนในการสร้างแผนภาพกลอ่ งได้ถูกตอ้ งร้อยละ 60 ข้นึ ไป 4. สำระสำคัญ การสร้างแผนภาพกล่องต้องใชค้ ่าทส่ี าคญั 5 ค่า คือ คา่ ตา่ สดุ ของขอ้ มลู ค่าสงู สุดของข้อมลู ควอรไ์ ทล์ ที่ 1 (Q1) ควอร์ไทล์ท่ี 2 (Q2) และควอร์ไทลท์ ี่ 3 (Q3) ควอร์ไทล์ท้งั สาม เป็นคา่ ณ ตาแหน่งที่แบง่ ข้อมูล ออกเป็น 4 สว่ นเทา่ ๆ กนั เมอื่ เรียงข้อมูลจากน้อยไปมากค่า ณ ตาแหน่งทแ่ี บ่งขอ้ มูลดังกล่าว เรียกว่า ควอร์ ไทล์ท1ี (Q1) ควอรไ์ ทล์ท่ี 2 (Q2) และควอร์ไทลท์ ี่ 3 (Q3) ตามลาดบั
60 00 5. สำระกำรเรยี นรู้ วธิ กี ารสรา้ งแผนภาพกล่อง มีดังน้ี 1. เรยี งข้อมลู จากน้อยไปมาก 2. หาค่าต่าสุดของขอ้ มูล คา่ สูงสดุ ของขอ้ มูล ควอร์ไทลที่ 2 (Q2) ควอรไ์ ทล์ท่ี 1 (Q1) และควอร์ไทล์ ท่ี 3 (Q3) 3. นาค่าท่ีไดใ้ นขอ้ 2 มาลงจุดเหนือเสน้ ในแนวนอนทม่ี ีสเกล 4. สรา้ งกล่องรปู สเ่ี หล่ียมมมุ ฉากโดยให้ขอบด้านซา้ ยและด้านขวาของกล่องตรงกับตาแหน่งท่ีเป็น Q1 และ Q3 ตามลาดบั จากน้ัน ลากเส้นภายในกล่องทตี่ รงกบั ตาแหน่งทีเ่ ปน็ Q2 5. สร้างวิสเกอร์โดยลากเส้นจากจุดท่ีตรงกับ Q1 ไปยังจุดท่ีตรงกับค่าต่าสุดของข้อมูล และลากเส้น จากจดุ ทต่ี รงกบั Q3 ไปยังจดุ ท่ีตรงกับค่าสงู สดุ ของขอ้ มูล 6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 6.1 ความสามารถในการส่ือสาร 9.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 ใฝ่เรยี นรู้ 7.2 มุ่งมัน่ ในการทางาน 8. กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ 8.1 ขัน้ นำ 8.1.1 ครสู ง่ ลิงค์หอ้ งเรียนใน Google Classroom ผา่ นชอ่ งทาง Line 8.1.2 ครทู กั ทายนกั เรยี น และทบทวนความรู้เกยี่ วกับค่าควอรไ์ ทล์ ถึงวิธีการและข้ันตอนในการหาค่า ดังน้ี 1) เรียงข้อมูลจากน้อยไปมาก 2) หามัธยฐานของข้อมูล จะได้ควอร์ไทล์ท่ี 2 3) หามัธยฐานของข้อมูล เฉพาะข้อมูลท่ีอยู่ในลาดับที่ต่ากว่าควอร์ไทล์ท่ี 2 จะได้มัธยฐานดังกล่าวเป็นควอร์ไทล์ท่ี 1 4) หามัธยฐานของ ข้อมลู เฉพาะขอ้ มลู ท่อี ย่ใู นลาดบั ทส่ี ูงกว่าควอรไ์ ทลท์ ่ี 2 จะไดม้ ัธยฐานดงั กล่าวเป็นควอรไ์ ทล์ท่ี 3 8.1.3 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายการหาค่าควอรไ์ ทล์ 8.1.4 ครคู รูอธิบายองคป์ ระกอบของแผนภาพกลอ่ ง และอภปิ รายเกี่ยวกับขนั้ ตอนและวิธกี ารสร้าง แผนภาพกลอ่ ง โดยเนน้ ให้นกั เรียนสังเกตวา่ ระยะจากค่าต่าสุดถึง Q1 จาก Q1 ถึง Q2 จาก Q2 ถงึ Q3 และ จาก Q3 ถงึ ค่าสงู สดุ แตล่ ะชว่ งไม่จาเป็นต้องเทา่ กนั ท้ังนี้ เพราะการกระจายของขอ้ มลู ในแต่ละช่วงอาจ แตกตา่ งกัน แม้วา่ Q1 , Q2 และ Q3 จะแบ่งจานวนขอ้ มลู ออกเปน็ 4 สว่ นเท่า ๆ กนั ดังแผนภาพตอ่ ไปน้ี
61 00 8.1.5 ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนซักถามขอ้ สงสยั เก่ียวกบั การสรา้ งแผนภาพกล่อง 8.2 ข้นั สอน 8.2.1 ครูเปิดส่ือประกอบการนาเสนอ (PowerPoint) เร่ือง แผนภาพกล่อง เพื่อประกอบการอธิบาย ความหมาย และการหาควอร์ไทล์ของข้อมูล 8.2.2 ครูให้นักเรียนพิจารณาส่ือประกอบการสอน เรื่อง แผนภาพกล่อง และอธิบายข้ันตอนในการ สร้างแผนภาพกลอ่ ง ดังน้ี 1. เรียงข้อมลู จากน้อยไปมาก 2. หาค่าตา่ สุดของขอ้ มลู ค่าสูงสดุ ของข้อมูล ควอรไ์ ทลที่ 2 (Q2) ควอร์ไทล์ท่ี 1 (Q1) และ ควอรไ์ ทล์ที่ 3 (Q3) 3. นาค่าทไี่ ดใ้ นขอ้ 2 มาลงจุดเหนอื เสน้ ในแนวนอนทมี่ สี เกล ดงั รปู 4. สร้างกลอ่ งรปู ส่เี หล่ียมมุมฉากโดยให้ขอบด้านซ้ายและด้านขวาของกล่องตรงกับตาแหน่ง ท่เี ปน็ Q1 และ Q3 ตามลาดบั จากนนั้ ลากเสน้ ภายในกล่องทีต่ รงกบั ตาแหนง่ ทเ่ี ป็น Q2 ดังรปู 5. สร้างวิสเกอร์โดยลากเส้นจากจุดที่ตรงกับ Q1 ไปยังจุดที่ตรงกับค่าต่าสุดของข้อมูล และ ลากเส้น จากจุดทต่ี รงกับ Q3 ไปยงั จุดท่ีตรงกบั ค่าสูงสดุ ของข้อมลู ดังรูป
62 00 8.2.3 ครยู กตัวอยา่ งการสร้างแผนภาพกลอ่ ง ดงั น้ี ตวั อยำ่ งที่ จงสร้างแผนภาพกล่องจากข้อมูลต่อไปนี้ 99, 56, 17, 13, 89, 51, 47, 74, 20, 76 86, 22, 98, 75, 37, 53, 38, 68, 62, 17 วิธีทา 1) เรยี งลาดับข้อมูลจากน้อยไปหามาก จะได้ 13, 17, 17, 20, 22, 37, 38, 47, 51, 53, 56, 62, 68, 74, 75, 76, 86, 89, 98, 99 2) หาคา่ ตา่ สุดของข้อมลู คา่ สูงสดุ ของข้อมูล ควอรไ์ ทลที่ 2 (Q2) ควอรไ์ ทลท์ ่ี 1 (Q1) และ ควอรไ์ ทล์ท่ี 3 (Q3) ค่าต่าสุด = 13 และ ค่าสูงสดุ = 99 (Q2) = 53 56 54.5 2 22 37 (Q1) = 2 29.5 (Q3) = 75 76 75.5 2 3) นาค่าท่ีได้ในข้อ 2 มาลงจดุ เหนอื เสน้ ในแนวนอนท่มี สี เกล ดังรปู 4) สรา้ งกล่องรปู สเ่ี หลี่ยมมมุ ฉากโดยใหข้ อบด้านซา้ ยและด้านขวาของกล่องตรงกับตาแหน่ง ทเี่ ปน็ Q1 และ Q3 ตามลาดบั จากน้นั ลากเสน้ ภายในกล่องท่ีตรงกบั ตาแหน่งท่ีเปน็ Q2 ดังรูป 5) สร้างวิสเกอร์โดยลากเส้นจากจุดที่ตรงกับ Q1 ไปยังจุดท่ีตรงกับค่าต่าสุดของข้อมูล และ ลากเสน้ จากจดุ ที่ตรงกับ Q3 ไปยังจุดทีต่ รงกบั ค่าสูงสุดของข้อมูล ดงั รปู
63 00 8.2.5 ครูและนักเรียนอภปิ รายรว่ มกนั เก่ียวกับข้นั ตอนในการสร้างแผนภาพกล่องท้ัง 5 ขน้ั ตอน 8.2.6 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามขอ้ สงสัย 8.3 ขนั้ สรปุ 8.3.1 นกั เรียนรว่ มกันสรปุ สิ่งทไ่ี ดเ้ รียนรู้ในชว่ั โมงนี้ ดงั น้ี วิธีการสร้างแผนภาพกลอ่ ง มีดังนี้ 1. เรียงขอ้ มูลจากนอ้ ยไปมาก 2. หาค่าต่าสดุ ของขอ้ มูล ค่าสูงสุดของขอ้ มูล ควอรไ์ ทลที่ 2 (Q2) ควอร์ไทลท์ ่ี 1 (Q1) และ ควอร์ไทล์ที่ 3 (Q3) 3. นาค่าท่ไี ดใ้ นขอ้ 2 มาลงจุดเหนือเสน้ ในแนวนอนทีม่ ีสเกล 4. สร้างกลอ่ งรปู สี่เหลยี่ มมุมฉากโดยใหข้ อบด้านซ้ายและดา้ นขวาของกล่องตรงกบั ตาแหนง่ ทีเ่ ป็น Q1 และ Q3 ตามลาดับ จากนัน้ ลากเสน้ ภายในกลอ่ งทีต่ รงกบั ตาแหนง่ ท่เี ป็น Q2 5. สรา้ งวิสเกอร์โดยลากเส้นจากจดุ ท่ีตรงกับ Q1 ไปยงั จดุ ที่ตรงกับค่าตา่ สุดของข้อมูล และ ลากเส้นจากจดุ ที่ตรงกบั Q3 ไปยงั จุดท่ตี รงกบั คา่ สูงสดุ ของข้อมูล 8.4 ขนั้ ฝกึ ทกั ษะ 8.4.1 ครใู ห้นกั เรยี นทุกคนทาใบงาน แผนภาพกลอ่ ง ใชเ้ วลา 10 นาที ครสู ่งใบงานให้นักเรียนผ่าน ช่องทาง Google Classroom โดยแจ้งนักเรียนผ่านช่องทาง Line (นักเรียนอาจจะปร๊ินเอกสารแล้วทาลงใบ งาน หรอื ถ้าไมส่ ะดวกอาจเขยี นคาตอบลงสมดุ แลว้ ถ่ายภาพสง่ งานในอัลบ้ัม (นักเรียนส่งงานผ่านช่องทาง Line หรือ ใน Google Classroom ไดท้ ง้ั 2 ช่องทาง) 8.4.2 ในขณะที่นักเรียนทาใบงาน ครูคอยให้คาแนะนา ช่วยเหลือ และตอบข้อซักถามของ นักเรียน รวมทั้งเน้นนักเรียนในเร่ืองของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน (โดยให้เปดิ ไมค์ ยกมือ แล้วถามทลี ะคน) 8.5 ขนั้ ประเมินผล 8.5.1 นกั เรียนและครรู ่วมกันอภิปรายโดยการตรวจคาตอบจากเฉลยใบงาน เรอ่ื ง แผนภาพกลอ่ ง 8.5.2 นักเรียนแต่ละคนสรุปผลคะแนนของตนเองที่ได้จากการทาใบงาน แผนภาพกล่อง แล้วแจ้ง คะแนนครูทลี ะคน 8.5.3 ครูผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนไปศกึ ษาหาความรู้เพ่ิมเติมจากแหลง่ เรียนรู้อืน่ ๆ จาก อนิ เตอรเ์ น็ต (Google, Youtube) 9. ภำระงำน / ช้นิ งำน 9.1 ใบงาน เรื่อง แผนภาพกล่อง
64 00 10. ส่ือ / อุปกรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 10.1 ส่ือกำรเรียนรู้ 10.1.1 ใบงาน หน่วยท่ี 6 เรอ่ื ง สถติ ิ (3) ดังน้ี 1) ใบงาน เร่ือง แผนภาพกล่อง 2) สือ่ พาวเวอรพ์ อยท์ เรื่อง แผนภาพกลอ่ ง 10.1.2 Application Google Classroom, Google Meet และ Line 10.2 แหล่งกำรเรียนรู้ 10.2.1 Google 10.2.2 Youtube 11. กำรวัดและประเมินผลกำรเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วิธกี ำรวดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ำรประเมนิ 1. ด้ำนพทุ ธพิ สิ ัย (Cognitive domain) นักเรียนทาใบงาน เรื่อง แผนภาพกลอ่ งได้ ถกู ตอ้ งอย่างน้อยร้อยละ 60 ข้นึ ไป จึงผ่าน 1.1 นักเรียนสามารถสรา้ ง ตรวจจาก เกณฑ์ แผนภาพกล่องจากข้อมลู ท่ี - ใบงาน เรื่อง - ใบงาน เร่ือง นกั เรยี นมคี ณุ ลกั ษณะอยู่ในระดบั ดีขึน้ ไป มี แผนภาพกล่อง เกณฑด์ ังน้ี กาหนดใหไ้ ด้ แผนภาพกลอ่ ง แบบประเมนิ 3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก พฤติกรรม 2 คะแนน หมายถงึ ดี 2. ดำ้ นจติ พสิ ยั (Affective domain) การเรยี น 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง 2.1 นักเรียนเกดิ ความใฝ่ สังเกต - ใบงาน เรื่อง แผนภาพกล่อง นักเรยี นทาใบงาน เร่อื ง แผนภาพกล่องได้ เรียนรู้ มีความเพียรพยายาม ประเมินพฤติกรรม ถูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 60 ข้ึนไป จงึ ผา่ น เกณฑ์ ในการเรยี น และให้ ขณะรว่ มกจิ กรรมการ ความสาคญั กับการเข้าร่วม เรียน กจิ กรรมการเรียนรู้ 2.2 นกั เรียนเกดิ ความ มงุ่ ม่ันในการทางาน เอาใจ ใส่ในหน้าทที่ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย และมคี วาม รับผิดชอบในการทางานให้ สาเรจ็ 3. ดำ้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) 3.1 นกั เรียนรู้วธิ ีการ และ ตรวจจาก ขั้นตอนในการสรา้ ง - ใบงาน เร่อื ง แผนภาพกล่องได้ แผนภาพกล่อง
65 00 แบบวิเครำะห์กำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วยวตั ถปุ ระสงค์การ เรยี นร้ทู ีต่ อ้ งการวดั และความสอดคล้องดา้ นพุทธิพสิ ัย ทกั ษะพิสัย และจิตพิสยั พฤตกิ รรมกำรประเมิน เทคนิค วตั ถุประสงค์ ระดับพฤตกิ รรม (%) กำร พทุ ธิพสิ ัย ทักษะพสิ ัย จติ พิสัย ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นกั เรยี น 20 20 20 20 20 100 1.แบบ สามารถสร้าง ประเมนิ ใบ แผนภาพกลอ่ ง งาน เร่อื ง จากข้อมลู ที่ แผนภาพ กาหนดให้ได้ กลอ่ ง (ความ ถูกต้อง) 2. นกั เรยี นเกิด 10 10 10 10 10 50 แบบสังเกต ความใฝ่เรียนรู้ มี พฤตกิ รรม ความเพียร การเรียน พยายามในการ เรยี น และให้ ความสาคญั กบั การเขา้ รว่ ม กจิ กรรมการ เรยี นรู้ 3. นกั เรยี นเกิด 10 10 10 10 10 50 แบบสังเกต ความมุ่งม่นั ใน พฤตกิ รรม การทางาน เอาใจ การเรียน ใส่ในหนา้ ทท่ี ี่ ไดร้ บั มอบหมาย และมีความ รบั ผดิ ชอบในการ ทางานให้สาเรจ็ 4. นักเรียนรู้ 10 20 20 20 20 10 100 1.แบบ วิธกี าร และ ประเมินใบ ขั้นตอนในการ งาน เรื่อง สรา้ งแผนภาพ แผนภาพ กลอ่ งได้ กล่อง (ความ ถูกตอ้ ง) รวม 100 100 100
**หมำยเหตุ: ควำมหมำยของตำรำงวเิ ครำะห์กำรประเมิน 66 00 พทุ ธพิ ิสัย จิตพิสัย ทกั ษะพิสยั 1 = ความจา 1 = การรบั รู้สิ่งเร้า 1 = การรับรู้ 2 = การตระเตรียม 2 = เขา้ ใจ 2 = การตอบสนอง 3 = การตอบสนองตามคาชแี้ นะ 4 = การสรา้ งกลไก 3 = นาไปใช้ 3 = การสรา้ งคณุ ค่า 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนข้ึน 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 4 = วิเคราะห์ 4 = การจัดระบบคุณค่า 7 = การรเิ ร่ิมใหม่ 5 = ประเมินคา่ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ัย 6 = สรา้ งสรรค์
67 00 คำอธิบำยประกอบกำรประเมนิ ดำ้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมินใบงำน เร่อื ง แผนภำพกลอ่ ง (ควำมถูกต้อง) คำชีแ้ จง : ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทาการประเมนิ ใบงานตามเกณฑก์ ารประเมินกจิ กรรม ลำดบั ท่ี ชอื่ - สกลุ ระดบั คะแนน สรุปกำรประเมิน 1 4 3 2 1 0 ผำ่ น ไม่ผำ่ น 2 3 4 5 ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมนิ ( นางสาวเรณู คณุ เอนก) วนั ท.่ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ำรประเมนิ กจิ กรรม : ใบงำน เรื่อง แผนภำพกล่อง (ควำมถูกต้อง) เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ประเด็นท่ีประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 เน้ือหาสาระของ ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง เน้อื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไม่ปรากฏ สมบรู ณ์ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง การส่งงาน สมบูรณ์ เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ (ถูกต้องสมบรู ณ์ ตา่ กว่า 1 ข้อ) (ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ (ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ (ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ (ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 2 ข้อ) 2 ขอ้ ) 2 ข้อ) 1 ขอ้ ) เกณฑ์กำรผ่ำนกำรประเมิน : นกั เรียนมีระดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คิดเป็นร้อยละ 60 ขนึ้ ไป)
68 00 คำอธิบำยประกอบกำรประเมนิ ด้ำนจิตพสิ ัย (Affective domain) แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรเรยี น คำช้แี จง : ใหผ้ ้ปู ระเมินทาการประเมนิ พฤติกรรมการเรียนของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินแบบสงั เกต พฤติกรรมการเรียน (ความใฝ่เรียนร้)ู ควำมใฝ่เรียนรู้ ลำดับ ชอ่ื - สกลุ ความเพียรพยายาม การเข้าร่วมกิจกรรม สรุปกำรประเมนิ ที่ ผ่ำน ไม่ผำ่ น ในการเรียน การเรยี นรู้ 3 21 0 32 1 0 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมนิ ( นางสาวเรณู คณุ เอนก ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ำรประเมินพฤติกรรมกำรเรียน : เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ประเดน็ ท่ีประเมนิ 3 ระดบั คะแนน 0 21 1. ความใฝ่รู้ ดา้ นความ เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรง เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรียนไมต่ รง เพียรพยายามในการเรียน ตง้ั ใจเรียน เอาใจ เวลา ตง้ั ใจเรยี น ตงั้ ใจเรียน เอาใจ เวลาไม่ตงั้ ใจเรยี น ใสก่ ารเรยี นเปน็ เอาใจใส่การ ใส่การเรยี นเปน็ และไมเ่ อาใจใส่ใน ประจา เรยี นบ่อยครง้ั บางครั้ง การเรยี น 2. ความใฝ่รู้ ดา้ นการเข้า ใหค้ วามรว่ มมอื ใน ให้ความร่วมมือ ให้ความร่วมมอื ใน ไมใ่ หค้ วามร่วมมือ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการ ในกิจกรรมการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ในกจิ กรรมการ เรียนร้อู ย่าง เรียนรู้อย่าง เป็นบางครั้ง เรยี นรู้ สมา่ เสมอเปน็ สมา่ เสมอ ประจา บอ่ ยคร้ัง เกณฑก์ ำรผำ่ นกำรประเมนิ : นักเรยี นมีระดับคะแนนเฉลีย่ 2 ข้นึ ไป (คิดเป็นร้อยละ 50 ขึ้นไป)
69 00 คำอธบิ ำยประกอบกำรประเมนิ ด้ำนทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมินใบงำน เรื่อง แผนภำพกล่อง (วธิ ีกำรและข้ันตอนในกำรหำผลลัพธ์) คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้ประเมนิ ทาการประเมนิ ใบงาน เร่อื ง แผนภาพกล่องตามเกณฑ์การประเมินใบงาน (วธิ ีการและข้ันตอนในการหาผลลพั ธ์) ลำดบั ท่ี ชือ่ - สกลุ ระดับคะแนน สรปุ กำรประเมนิ 1 4 3 2 1 0 ผ่ำน ไม่ผ่ำน 2 3 4 5 ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมนิ ( นางสาวเรณู คุณเอนก ) วนั ท่.ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ำรประเมนิ กิจกรรม (วธิ กี ำรและขนั้ ตอนในกำรหำผลลพั ธ)์ : เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน : พิจารณาดังตารางตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ท่ีประเมิน 4 3 ระดับคะแนน 1 0 ผลงานมีวธิ ีการและ ผลงานมีวิธีการ ผลงานมวี ธิ ีการ 2 ผลงานมวี ธิ ีการ ผลงานมวี ิธีการ ขน้ั ตอนในการหาผลลพั ธ์ และขั้นตอนใน และข้นั ตอนใน และขั้นตอนใน และข้ันตอนใน ที่ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ การหาผลลัพธ์ การหาผลลัพธ์ ผลงานมีวิธีการ การหาผลลพั ธ์ การหาผลลพั ธ์ (ถูกต้องสมบรู ณ์) ถูกต้องเป็นสว่ น และขนั้ ตอนใน ไม่ถกู ต้องเปน็ ไมห่ รอื ไม่ 2 ขอ้ ) ใหญ่ การหาผลลัพธ์ สว่ นใหญ่ ปรากฏการสง่ 2 ข้อ) ถกู ตอ้ งบาง 1 ข้อ) งาน ประเดน็ (ต่ากว่า 1 ขอ้ ) 2 ข้อ) เกณฑ์กำรผ่ำนกำรประเมนิ : นกั เรยี นมีระดับคะแนน 3 ข้ึนไป (คิดเปน็ ร้อยละ 70 ขึน้ ไป)
70 00 12. บันทกึ ผลกำรจดั กำรเรยี นรู้ ควำมสำเร็จในกำรจัดกำรเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หำและอุปสรรคในกำรจัดกำรเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………… แนวทำงกำรแกไ้ ขปญั หำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .....................................................ผูส้ อน ( นางสาวเรณู คณุ เอนก ) วนั ท.่ี ............เดือน.....................พ.ศ...........
71 00 13. ควำมคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหนำ้ กลุ่มสำระกำรเรียนรคู้ ณิตศำสตร์ ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนรู้หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง สถติ ิ (3) ในแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง แผนภาพกลอ่ ง เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมคี วามคิดเหน็ ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ดั สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นากระบวนการเรียนรู้ทเี่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญมาใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม ไม่ไดน้ ากระบวนการเรียนรทู้ ่เี น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ 4. การใชส้ ือ่ การเรียนรู้ มีความเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น ไมส่ ่งเสริมการเรยี นรู้ของผู้เรยี น 5. การวัดและการประเมินผล สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ ไม่สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรบั ปรงุ ก่อนนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ .................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... ................................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นางสมจติ ต์ มาฆะสทิ ธ)์ิ ตาแหนง่ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วนั ท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............
72 00 14. ควำมคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ำร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรู้หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง สถติ ิ (3) ในแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง แผนภาพกล่อง เรียบรอ้ ยแลว้ โดยมีความคดิ เห็น ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้ีวดั สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นากระบวนการเรียนรู้ท่เี นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ไมไ่ ดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ที่เน้นผูเ้ รียนเป็นสาคญั มาใช้ 4. การใช้สือ่ การเรยี นรู้ มคี วามเหมาะสมและสง่ เสริมการเรยี นรู้ของผู้เรียน ไม่สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผู้เรียน 5. การวดั และการประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรยี นรไู้ ปใช้ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... ............................... ลงชอื่ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผ่อง) ตาแหน่ง รองผอู้ านวยการโรงเรียนวงั จนั ทร์วิทยา กลมุ่ บริหารงานวชิ าการ วันที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. .............
73 00 ส่อื ประกอบกำรนำเสนอ (PowerPoint) เรื่อง แผนภำพกล่อง
74 00
แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ 5 75 00 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ า คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน 5 รหัสวิชา ค 23101 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 8 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรอื่ ง สถติ ิ (3) เวลา 1 ชว่ั โมง เร่อื ง แผนภาพกล่องกับการกระจายข้อมลู ผสู้ อน นางสาวเรณู คณุ เอนก 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระที่ 3 สถติ ิและควำมน่ำจะป็น มำตรฐำน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรูท้ างสถติ ิในการแก้ปัญหา 2. ตัวช้ีวัด เขา้ ใจและใช้ความรู้ทางสถิตใิ นการนาเสนอ และวเิ คราะหข์ ้อมูลจากแผนภาพ ค 3.1 ม.3/1 กลอ่ งและแปรความหมายผลลพั ธ์ รวมทั้งนาสถิติไปใช้ในชวี ติ จริง โดยใช้ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม 3. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1. ด้ำนพุทธพิ สิ ยั (Cognitive domain) 1.1 นักเรยี นสามารถอ่าน และแปลความหมายของแผนภาพกล่องได้ถูกต้องอย่างน้อย รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป 2. ด้ำนจิตพสิ ัย (Affective domain) 2.1 นักเรยี นเกดิ ความใฝเ่ รียนรู้ มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี น และใหค้ วามสาคัญกบั การ เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้อยู่ในระดบั ดี 2.2 นักเรียนเกิดความมุ่งม่ันในการทางาน เอาใจใส่ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และมีความ รับผิดชอบในการทางานให้สาเร็จอยูใ่ นระดับดี 3. ด้ำนทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) 3.1 นักเรียนสามารถอ่าน วิเคราะห์ และแปลความหมายผลลัพธ์ท่ีนาเสนอในรูปแผนภาพ กล่องได้ถกู ต้องรอ้ ยละ 60 ขึ้นไป 4. สำระสำคัญ แผนภาพกลอ่ งเป็นเครื่องมือหนึ่งทางสถติ ิท่ีใช้นาเสนอข้อมูล โดยใช้ควอร์ไทล์แบ่งขอ้ มลู ออกเป็น 4 ส่วน แต่ละสว่ นมจี านวนข้อมูลเท่าๆ กัน แผนภาพกลอ่ งชว่ ยใหเ้ ห็นภาพการกระจายของข้อมลู ท้ังชดุ ในแตล่ ะ ชว่ งได้ชัดเจนกว่าการพิจารณาจากควอร์ไทล์โดยตรง
76 00 5. สำระกำรเรยี นรู้ การอา่ นและการแปลความหมายแผนภาพกล่อง เปน็ ดงั น้ี 1. การกระจายแบบเบ้ขวา คือ ข้อมูลท่ีอยู่ระหว่าง Q1 กับ Q2 มีการกระจายน้อยกว่าข้อมูลท่ีอยู่ ระหวา่ ง Q2 กบั Q3 (พื้นที่ของรปู สเ่ี หลยี่ มผนื ผ้าทางดา้ นซา้ ยน้อยกวา่ ด้านขวา) 2. การกระจายแบบเบ้ซ้าย คือ ข้อมูลท่ีอยู่ระหว่าง Q1 กับ Q2 มีการกระจายมากกว่าข้อมูลที่อยู่ ระหว่าง Q2 กับ Q3 (พน้ื ที่ของรูปสเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ ทางด้านซ้ายมากกว่าด้านขวา) 3. การกระจายแบบปกติ คือ ข้อมูลท่ีอยู่ระหว่าง Q1 กับ Q2 มีการกระจายเท่ากับข้อมูลที่อยู่ ระหว่าง Q2 กบั Q3 (พนื้ ทขี่ องรูปสเี่ หล่ียมผืนผา้ ทางด้านซา้ ยเท่ากับด้านขวา) 6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคดิ 6.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รียนรู้ 7.2 มุง่ มัน่ ในการทางาน 8. กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ 8.1 ขน้ั นำ 8.1.1 ครสู ง่ ลิงคห์ อ้ งเรยี นใน Google Classroom ผ่านชอ่ งทาง Line 8.1.2 ครูทักทายนักเรียน และทบทวนความรู้เก่ียวกับแผนภาพกล่อง ถึงวิธีการและข้ันตอนในการ สร้างแผนภาพกล่อง ดังนี้ 1) เรียงข้อมูลจากน้อยไปมาก 2) หาค่าต่าสุดของข้อมูล ค่าสูงสุดของข้อมูล ควอร์ ไทลท่ี 2 (Q2) ควอร์ไทลท์ ่ี 1 (Q1) และควอร์ไทล์ที่ 3 (Q3) 3) นาคา่ ท่ีไดใ้ นข้อ 2 มาลงจุดเหนือเส้นในแนวนอน ทมี่ ีสเกล 4) สรา้ งกล่องรูปสเ่ี หลี่ยมมุมฉากโดยให้ขอบด้านซา้ ยและด้านขวาของกล่องตรงกับตาแหน่งที่เป็น Q1 และ Q3 ตามลาดับ จากนั้น ลากเสน้ ภายในกล่องทตี่ รงกบั ตาแหน่งทเี่ ป็น Q2 5) สร้างวสิ เกอรโ์ ดยลากเส้นจาก จุดท่ีตรงกับ Q1 ไปยังจุดท่ีตรงกับค่าต่าสุดของข้อมูล และลากเส้นจากจุดที่ตรงกับ Q3 ไปยังจุดที่ตรงกับ คา่ สูงสุดของขอ้ มูล 8.1.3 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายขน้ั ตอนการสร้างแผนภาพกล่อง 8.1.4 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั 8.2 ขัน้ สอน 8.2.1 ครูเปิดส่ือประกอบการนาเสนอ (PowerPoint) เรื่อง แผนภาพกล่องกับการกระจายข้อมูล เพ่ือประกอบการอธบิ ายการกระจายของข้อมูล
77 00 8.2.2 ครใู ห้นักเรียนพิจารณาส่ือประกอบการสอน เรื่อง แผนภาพกลอ่ งกับการกระจายข้อมูล 8.2.3 ครูอธิบายการนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภาพกล่องพร้อมกับอธิบายการกระจายของข้อมูล โดย เน้นย้าว่า ในตัวกล่องแต่ละช่วงยาวไม่เท่ากัน แต่จะมีข้อมูล 25% เท่าๆ กัน นั่นคือ ถ้ามีช่วงท่ียาวกว่าน่ันก็ หมายความว่ามีการกระจายตัวของข้อมูลมากว่า ส่วนช่วงที่ส้ันกว่าก็หมายความว่าช่วงนั้นกระจุกตัวมากกว่า หรอื มีการกระจายตวั น้อยกว่านนั่ เอง 8.2.4 ครสู านทนาซกั ถามคาถามนกั เรยี น โดยกระตุ้นคาถามว่า “ครูสามารถวาดกล่องให้สูงๆ ได้ไหม ไหมคะ” นักเรียนตอบ “ได้” ครูเสริมแรงนักเรียนโยบอกว่า “เก่งมาก” แล้วอธิบายเพ่ิมเติมว่า “เราสามารถ กลอ่ งให้สูงแค่ไหนก็ได้ เพราะความสงู ของกลอ่ งไม่ได้ชว่ ยใหข้ ้อมูลมกี ารกระจายตวั เพมิ่ มากขึน้ ” 8.25 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปราย และสังเกตการนาเสนอแผนภาพกล่องจนได้ข้อสรุป อีกว่า ความยาวของกลอ่ งจะเทา่ กับ Q3 - Q1 8.2.5 ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเก่ียวกับการกระจายของข้อมูลท้ัง 3 ลักษณะของแผนภาพ กล่อง 8.2.6 ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสัย 8.3 ข้ันสรปุ 8.3.1 นักเรียนรว่ มกนั สรุปสิง่ ที่ไดเ้ รียนรู้ในชั่วโมงนี้ ดงั นี้ การอ่านและการแปลความแผนภาพกลอ่ ง เปน็ ดังนี้ 1. การกระจายแบบเบ้ขวา คือ ข้อมูลที่อยู่ระหว่าง Q1 กับ Q2 มีการกระจายน้อยกว่าข้อมูลท่ีอยู่ ระหว่าง Q2 กับ Q3 (พน้ื ทข่ี องรูปส่ีเหลย่ี มผืนผา้ ทางดา้ นซา้ ยนอ้ ยกว่าดา้ นขวา) 2. การกระจายแบบเบ้ซ้าย คือ ข้อมูลท่ีอยู่ระหว่าง Q1 กับ Q2 มีการกระจายมากกว่าข้อมูลท่ีอยู่ ระหว่าง Q2 กบั Q3 (พื้นทีข่ องรูปสเี่ หลย่ี มผนื ผา้ ทางดา้ นซ้ายมากกวา่ ด้านขวา) 3. การกระจายแบบปกติ คือ ข้อมูลที่อยู่ระหว่าง Q1 กับ Q2 มีการกระจายเท่ากับข้อมูลท่ีอยู่ ระหว่าง Q2 กับ Q3 (พนื้ ท่ขี องรปู สเ่ี หลย่ี มผนื ผ้าทางด้านซ้ายเทา่ กับด้านขวา) 8.4 ขั้นฝึกทกั ษะ 8.4.1 ครใู ห้นกั เรยี นทกุ คนทาใบงาน แผนภาพกลอ่ ง ใชเ้ วลา 10 นาที ครูส่งใบงานให้นักเรียนผ่าน ช่องทาง Google Classroom โดยแจ้งนักเรียนผ่านช่องทาง Line (นักเรียนอาจจะปร๊ินเอกสารแล้วทาลงใบ งาน หรอื ถา้ ไม่สะดวกอาจเขียนคาตอบลงสมดุ แล้วถา่ ยภาพสง่ งานในอัลบั้ม (นักเรียนส่งงานผ่านช่องทาง Line หรือ ใน Google Classroom ไดท้ ้ัง 2 ชอ่ งทาง)
78 00 8.4.2 ในขณะท่ีนักเรียนทาใบงาน ครูคอยให้คาแนะนา ช่วยเหลือ และตอบข้อซักถามของ นักเรียน รวมท้ังเน้นนักเรียนในเรื่องของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน (โดยให้เปิดไมค์ ยกมือ แล้วถามทลี ะคน) 8.5 ขั้นประเมนิ ผล 8.5.1 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายโดยการตรวจคาตอบจากเฉลยใบงาน เร่ือง แผนภาพกล่อง กับการกระจายขอ้ มลู 8.5.2 นักเรียนแต่ละคนสรุปผลคะแนนของตนเองที่ได้จากการทาใบงาน แผนภาพกล่องกับการ กระจายขอ้ มูล แล้วแจง้ คะแนนครูทลี ะคน 8.5.3 ครผู สู้ อนมอบหมายใหน้ ักเรยี นไปศึกษาหาความรู้เพ่ิมเตมิ จากแหล่งเรียนร้อู นื่ ๆ จาก อนิ เตอรเ์ น็ต (Google, Youtube) 9. ภำระงำน / ชิน้ งำน 9.1 ใบงาน เร่ือง แผนภาพกล่องกับการกระจายข้อมูล 10. สื่อ / อุปกรณ์ / แหลง่ เรียนรู้ 10.1 สื่อกำรเรียนรู้ 10.1.1 ใบงาน หนว่ ยท่ี 6 เรอ่ื ง สถติ ิ (3) ดังน้ี 1) ใบงาน เร่อื ง แผนภาพกล่องกับการกระจายข้อมลู 2) สือ่ พาวเวอรพ์ อยท์ เร่ือง แผนภาพกล่องกบั การกระจายข้อมูล 10.1.2 Application Google Classroom, Google Meet และ Line 10.2 แหลง่ กำรเรียนรู้ 10.2.1 Google 10.2.2 Youtube
79 00 11. กำรวดั และประเมินผลกำรเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วิธีกำรวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์กำรประเมิน 1. ด้ำนพุทธพิ สิ ัย (Cognitive domain) นักเรียนทาใบงาน เร่ือง แผนภาพกล่องกับ การกระจายข้อมลู ไดถ้ ูกต้องอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 1.1 นักเรยี นสามารถอา่ น ตรวจจาก 60 ขึน้ ไป จงึ ผ่านเกณฑ์ และแปลความหมายของ - ใบงาน เร่อื ง - ใบงาน เร่ือง นกั เรียนมีคณุ ลักษณะอยูใ่ นระดบั ดขี น้ึ ไป มี แผนภาพกลอ่ งกับ เกณฑด์ ังน้ี แผนภาพกลอ่ งได้ แผนภาพกล่องกบั การ การกระจายขอ้ มูล 3 คะแนน หมายถึง ดมี าก แบบประเมิน 2 คะแนน หมายถงึ ดี กระจายข้อมลู พฤตกิ รรม 1 คะแนน หมายถึง พอใช้ การเรยี น 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง 2. ด้ำนจติ พิสยั (Affective domain) - ใบงาน เร่ือง นกั เรียนทาใบงาน เรื่อง แผนภาพกล่องกับ 2.1 นักเรยี นเกดิ ความใฝ่ สงั เกต แผนภาพกลอ่ งกับ การกระจายขอ้ มูลไดถ้ กู ต้องอยา่ งนอ้ ยร้อยละ การกระจายข้อมูล 60 ขน้ึ ไป จงึ ผ่านเกณฑ์ เรียนรู้ มีความเพยี รพยายาม ประเมนิ พฤตกิ รรม ในการเรยี น และให้ ขณะรว่ มกจิ กรรมการ ความสาคญั กับการเขา้ ร่วม เรียน กิจกรรมการเรียนรู้ 2.2 นกั เรียนเกดิ ความ มุ่งมัน่ ในการทางาน เอาใจ ใส่ในหนา้ ท่ที ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย และมคี วาม รบั ผิดชอบในการทางานให้ สาเรจ็ 3. ดำ้ นทกั ษะพสิ ยั (Psychomotor domain) 3.1 นักเรียนสามารถอ่าน ตรวจจาก วเิ คราะห์ และแปล - ใบงาน เรื่อง ความหมายผลลพั ธท์ ี่ แผนภาพกล่องกับการ นาเสนอในรปู แผนภาพ กระจายข้อมลู กล่องได้
80 00 แบบวเิ ครำะห์กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ยวตั ถุประสงคก์ าร เรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และความสอดคลอ้ งดา้ นพุทธพิ ิสัย ทกั ษะพสิ ยั และจิตพิสัย พฤตกิ รรมกำรประเมนิ เทคนิค วตั ถุประสงค์ ระดับพฤติกรรม (%) กำร พุทธพิ สิ ัย ทกั ษะพิสัย จิตพสิ ยั ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นกั เรียน 20 20 20 20 20 100 1.แบบ ประเมนิ ใบ สามารถอ่าน และ งาน เรื่อง แผนภาพ แปลความหมาย กล่องกบั การ กระจาย ของแผนภาพ กลอ่ งได้ ขอ้ มูล (ความ ถกู ตอ้ ง) 2. นักเรียนเกิด 10 10 10 10 10 50 แบบสงั เกต ความใฝเ่ รยี นรู้ มี พฤติกรรม ความเพยี ร การเรยี น พยายามในการ เรียน และให้ ความสาคญั กบั การเข้ารว่ ม กจิ กรรมการ เรียนรู้ 3. นักเรียนเกิด 10 10 10 10 10 50 แบบสังเกต ความมุ่งมนั่ ใน พฤตกิ รรม การทางาน เอาใจ การเรียน ใสใ่ นหนา้ ท่ีที่ ได้รับมอบหมาย และมคี วาม รบั ผดิ ชอบในการ ทางานให้สาเรจ็ 4. นกั เรยี น 10 20 20 20 20 10 100 1.แบบ สามารถอา่ น ประเมนิ ใบ วิเคราะห์ และ งาน เรอ่ื ง แปลความหมาย แผนภาพ ผลลพั ธ์ทนี่ าเสนอ กล่องกบั การ ในรูปแผนภาพ กระจาย กลอ่ งได้ ขอ้ มูล (ความ ถกู ตอ้ ง) รวม 100 100 100
**หมำยเหตุ: ควำมหมำยของตำรำงวเิ ครำะห์กำรประเมิน 81 00 พทุ ธพิ ิสัย จติ พิสัย ทกั ษะพิสยั 1 = ความจา 1 = การรบั รู้ส่งิ เรา้ 1 = การรับรู้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = เขา้ ใจ 2 = การตอบสนอง 3 = การตอบสนองตามคาช้ีแนะ 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 3 = การสรา้ งคณุ ค่า 5 = การตอบสนองทซี่ บั ซ้อนข้ึน 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 4 = วิเคราะห์ 4 = การจัดระบบคุณคา่ 7 = การริเรม่ิ ใหม่ 5 = ประเมินคา่ 5 = การสร้างลักษณะนิสัย 6 = สรา้ งสรรค์
82 00 คำอธิบำยประกอบกำรประเมนิ ดำ้ นพุทธิพิสัย (Cognitive domain) แบบประเมินใบงำน เร่อื ง แผนภำพกล่องกับกำรกระจำยข้อมูล (ควำมถูกต้อง) คำชี้แจง : ให้ผ้ปู ระเมินทาการประเมนิ ใบงานตามเกณฑก์ ารประเมินกจิ กรรม ลำดบั ที่ ช่อื - สกลุ ระดับคะแนน สรปุ กำรประเมนิ 1 4 3 2 1 0 ผำ่ น ไม่ผ่ำน 2 3 4 5 ลงชือ่ .....................................................ผู้ประเมนิ ( นางสาวเรณู คณุ เอนก) วนั ท.่ี ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ำรประเมินกจิ กรรม : ใบงำน เรือ่ ง แผนภำพกล่องกบั กำรกระจำยข้อมลู (ควำมถกู ตอ้ ง) เกณฑก์ ำรให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางต่อไปนี้ ประเดน็ ทปี่ ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 ผลงานมีความถูกต้อง เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ สมบรู ณ์ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไม่ถกู ต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง สมบรู ณ์ เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ หรอื ไม่ปรากฏ (ถูกต้องสมบรู ณ์ (ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ (ถูกตอ้ งสมบูรณ์ (ถูกตอ้ งสมบูรณ์ การส่งงาน 2 ขอ้ ) 2 ขอ้ ) 2 ข้อ) 1 ข้อ) (ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ต่ากว่า 1 ข้อ) เกณฑก์ ำรผำ่ นกำรประเมนิ : นกั เรยี นมีระดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คิดเปน็ ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป)
83 00 คำอธิบำยประกอบกำรประเมนิ ด้ำนจิตพสิ ัย (Affective domain) แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรเรยี น คำช้แี จง : ใหผ้ ้ปู ระเมินทาการประเมนิ พฤติกรรมการเรียนของนักเรยี น ตามเกณฑก์ ารประเมินแบบสงั เกต พฤติกรรมการเรียน (ความใฝ่เรียนร้)ู ควำมใฝ่เรียนรู้ ลำดับ ชอ่ื - สกลุ ความเพียรพยายาม การเข้าร่วมกิจกรรม สรุปกำรประเมนิ ที่ ผ่ำน ไม่ผำ่ น ในการเรียน การเรยี นรู้ 3 21 0 32 1 0 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมนิ ( นางสาวเรณู คณุ เอนก ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ำรประเมินพฤติกรรมกำรเรียน : เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ประเดน็ ท่ีประเมนิ 3 ระดบั คะแนน 0 21 1. ความใฝ่รู้ ดา้ นความ เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรง เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรียนไมต่ รง เพียรพยายามในการเรียน ตง้ั ใจเรียน เอาใจ เวลา ตง้ั ใจเรยี น ตงั้ ใจเรียน เอาใจ เวลาไม่ตงั้ ใจเรยี น ใสก่ ารเรยี นเปน็ เอาใจใส่การ ใส่การเรยี นเปน็ และไมเ่ อาใจใส่ใน ประจา เรยี นบ่อยครง้ั บางครั้ง การเรยี น 2. ความใฝ่รู้ ดา้ นการเข้า ใหค้ วามรว่ มมอื ใน ให้ความร่วมมือ ให้ความร่วมมอื ใน ไมใ่ หค้ วามร่วมมือ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการ ในกิจกรรมการ กจิ กรรมการเรียนรู้ ในกจิ กรรมการ เรียนร้อู ย่าง เรียนรู้อย่าง เป็นบางครั้ง เรยี นรู้ สมา่ เสมอเปน็ สมา่ เสมอ ประจา บอ่ ยคร้ัง เกณฑก์ ำรผำ่ นกำรประเมนิ : นักเรยี นมีระดับคะแนนเฉลีย่ 2 ข้นึ ไป (คิดเป็นร้อยละ 50 ขึ้นไป)
84 00 คำอธิบำยประกอบกำรประเมนิ ดำ้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมินใบงำน เร่ือง แผนภำพกลอ่ งกับกำรกระจำยขอ้ มูล (วิธกี ำรและขน้ั ตอนในกำรหำผลลพั ธ)์ คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้ประเมินทาการประเมินใบงาน เร่อื ง แผนภาพกล่องกบั การกระจายข้อมูลตามเกณฑ์การ ประเมนิ ใบงาน (วิธกี ารและข้นั ตอนในการหาผลลพั ธ)์ ลำดับท่ี ช่ือ - สกลุ ระดับคะแนน สรปุ กำรประเมิน 1 4 3 2 1 0 ผ่ำน ไม่ผ่ำน 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมนิ ( นางสาวเรณู คณุ เอนก ) วันท.่ี ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์กำรประเมนิ กจิ กรรม (วิธกี ำรและขัน้ ตอนในกำรหำผลลพั ธ์) : เกณฑก์ ำรให้คะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปน้ี ประเด็นที่ประเมนิ 4 3 ระดบั คะแนน 1 0 ผลงานมีวธิ กี ารและ ผลงานมวี ิธีการ ผลงานมวี ธิ กี าร 2 ผลงานมีวธิ กี าร ผลงานมีวิธกี าร ข้ันตอนในการหาผลลพั ธ์ และขัน้ ตอนใน และข้ันตอนใน และข้นั ตอนใน และขน้ั ตอนใน ที่ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ การหาผลลัพธ์ การหาผลลพั ธ์ ผลงานมวี ิธีการ การหาผลลัพธ์ การหาผลลพั ธ์ (ถกู ต้องสมบูรณ์) ถูกต้องเปน็ ส่วน และขั้นตอนใน ไม่ถูกตอ้ งเป็น ไม่หรอื ไม่ 2 ขอ้ ) ใหญ่ การหาผลลัพธ์ ส่วนใหญ่ ปรากฏการสง่ 2 ขอ้ ) ถูกต้องบาง 1 ข้อ) งาน ประเด็น (ตา่ กว่า 1 ข้อ) 2 ข้อ) เกณฑ์กำรผำ่ นกำรประเมนิ : นกั เรยี นมีระดบั คะแนน 3 ขึ้นไป (คิดเป็นร้อยละ 70 ขนึ้ ไป)
85 00 12. บันทกึ ผลกำรจัดกำรเรยี นรู้ ควำมสำเรจ็ ในกำรจัดกำรเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… ปญั หำและอปุ สรรคในกำรจัดกำรเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………..………………………… แนวทำงกำรแก้ไขปัญหำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.....................................................ผ้สู อน ( นางสาวเรณู คุณเอนก ) วนั ที.่ ............เดือน.....................พ.ศ...........
86 00 13. ควำมคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนำ้ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้คู ณติ ศำสตร์ ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง สถิติ (3) ในแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เร่ือง แผนภาพกล่องกับการกระจายข้อมูล เรียบร้อยแล้ว โดยมีความคดิ เห็น ดงั น้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ช้ีวัด สอดคลอ้ ง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ท่เี นน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคัญมาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม ไม่ได้นากระบวนการเรียนร้ทู ่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรียนรู้ มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ของผ้เู รยี น 5. การวดั และการประเมินผล สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรยี นรไู้ ปใช้ นาไปใชไ้ ด้จรงิ ควรปรบั ปรุงกอ่ นนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ .................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... ................................................................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสมจติ ต์ มาฆะสิทธ์ิ) ตาแหน่ง หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ วันที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............
87 00 14. ควำมคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ำร ไดต้ รวจแผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรอื่ ง สถิติ (3) ในแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เรื่อง แผนภาพกล่องกับการกระจายขอ้ มลู เรียบร้อยแลว้ โดยมคี วามคดิ เห็น ดังนี้ 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ัด สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั มาใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม ไม่ได้นากระบวนการเรยี นร้ทู ี่เน้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญมาใช้ 4. การใช้ส่อื การเรียนรู้ มคี วามเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ไม่ส่งเสริมการเรียนรขู้ องผู้เรยี น 5. การวัดและการประเมินผล สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรียนรูไ้ ปใช้ นาไปใชไ้ ด้จริง ควรปรบั ปรุงกอ่ นนาไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ..................................................... (นางสมชั ญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผู้อานวยการโรงเรียนวงั จนั ทร์วทิ ยา กลุ่มบริหารงานวิชาการ วนั ที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. .............
88 00 ส่อื ประกอบกำรนำเสนอ (PowerPoint) เรื่อง แผนภำพกลอ่ งกบั กำรกระจำยข้อมลู
89 00
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ี่ 6 90 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 รายวชิ า คณิตศาสตร์พื้นฐาน 5 00 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรือ่ ง สถติ ิ (3) เรอื่ ง การเปรียบเทียบแผนภาพกล่อง ภาคเรยี นท่ี 1 รหัสวิชา ค 23101 ผสู้ อน นางสาวเรณู คุณเอนก ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 8 ชวั่ โมง เวลา 1 ชวั่ โมง 1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระท่ี 3 สถติ แิ ละควำมนำ่ จะปน็ มำตรฐำน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปญั หา 2. ตวั ชี้วัด เขา้ ใจและใชค้ วามรู้ทางสถิตใิ นการนาเสนอ และวเิ คราะห์ขอ้ มลู จากแผนภาพ ค 3.1 ม.3/1 กล่องและแปรความหมายผลลัพธ์ รวมท้ังนาสถติ ิไปใชใ้ นชีวิตจริง โดยใช้ เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสม 3. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1. ด้ำนพทุ ธิพิสัย (Cognitive domain) 1.1 นกั เรยี นสามารถเปรียบเทยี บขอ้ มลู ท่อี ่านได้จากแผนภาพกล่องได้ถูกต้องอยา่ งน้อย รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป 2. ด้ำนจติ พิสยั (Affective domain) 2.1 นักเรยี นเกิดความใฝ่เรยี นรู้ มคี วามเพียรพยายามในการเรยี น และให้ความสาคัญกบั การ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้อยู่ในระดบั ดี 2.2 นักเรียนเกิดความมุ่งม่ันในการทางาน เอาใจใส่ในหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย และมีความ รบั ผิดชอบในการทางานใหส้ าเรจ็ อยู่ในระดบั ดี 3. ด้ำนทักษะพิสยั (Psychomotor domain) 3.1 นกั เรยี นสามารถเปรียบเทียบขอ้ มลู ท่อี ่านได้จากแผนภาพกล่องที่แสดงข้อมูลมากกว่า 1 ชดุ และใชข้ ้อมลู ในการคาดคะเน สรปุ ผลและตัดสนิ ใจ ได้ถูกต้องร้อยละ 60 ขนึ้ ไป 4. สำระสำคัญ แผนภาพกลอ่ งเป็นเครื่องมือหนงึ่ ทางสถติ ทิ ี่ใช้นาเสนอข้อมูล โดยใช้ควอรไ์ ทล์แบ่งขอ้ มลู ออกเป็น 4 สว่ น แตล่ ะส่วนมีจานวนข้อมูลเท่าๆ กัน แผนภาพกลอ่ งชว่ ยใหเ้ หน็ ภาพการกระจายของข้อมูลท้ังชดุ ในแต่ละ ชว่ งได้ชัดเจนกว่าการพิจารณาจากควอร์ไทล์โดยตรง ท้งั นแี้ ผนภาพกล่องยังสามารถใช้ในการเปรยี บเทียบการ กระจายของขอ้ มลู ท่มี ีลักษณะและหนว่ ยวัดเดียวกนั ตงั้ แตส่ องชดุ ขึน้ ไป
91 00 5. สำระกำรเรียนรู้ การอ่าน แปลความหมาย และวเิ คราะห์ เพ่ือเปรียบเทียบข้อมลู ที่นาเสนอในรูปแผนภาพกลอ่ ง รวมทง้ั คาดคะเน สรุปผล และตดั สนิ ใจเกย่ี วกับสถานการณแ์ ละปัญหาในชีวิตจรงิ 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการส่อื สาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รียนรู้ 7.2 มุ่งมั่นในการทางาน 8. กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ 8.1 ข้นั นำ 8.1.1 ครสู ง่ ลงิ ค์ห้องเรยี นใน Google Classroom ผ่านช่องทาง Line 8.1.2 ครทู ักทายนักเรยี น และทบทวนความร้เู ก่ียวกับแผนภาพกลอ่ งกบั การกระจายข้อมลู ดงั น้ี 1) การกระจายแบบเบ้ขวา คือ ข้อมูลที่อยู่ระหว่าง Q1 กับ Q2 มีการกระจายน้อยกว่าข้อมูลท่ีอยู่ระหว่าง Q2 กบั Q3 (พื้นที่ของรูปสี่เหล่ียมผืนผ้าทางด้านซ้ายน้อยกว่าด้านขวา) 2) การกระจายแบบเบ้ซ้าย คือ ข้อมูลที่อยู่ ระหว่าง Q1 กบั Q2 มีการกระจายมากกว่าข้อมูลท่ีอยู่ระหว่าง Q2 กับ Q3 (พื้นท่ีของรูปสี่เหล่ียมผืนผ้าทางด้าน ซ้ายมากกวา่ ดา้ นขวา) 3) การกระจายแบบปกติ คือ ข้อมลู ท่ีอยรู่ ะหวา่ ง Q1 กับ Q2 มีการกระจายเท่ากับข้อมูล ท่อี ยูร่ ะหว่าง Q2 กับ Q3 (พ้นื ทีข่ องรปู สีเ่ หลยี่ มผนื ผา้ ทางดา้ นซา้ ยเทา่ กบั ด้านขวา) 8.1.3 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายเกีย่ วกับการการะจายขอ้ มูล 8.1.4 ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั 8.2 ขน้ั สอน 8.2.1 ครเู ปดิ สอื่ ประกอบการนาเสนอ (PowerPoint) เร่ือง การเปรยี บเทยี บแผนภาพกลอ่ ง เพื่อประกอบการอธิบายการเปรยี บเทียบของขอ้ มลู
92 00 8.2.2 ครูให้นักเรียนพิจารณาสือ่ ประกอบการสอน เรอ่ื ง การเปรยี บเทียบแผนภาพกล่อง 8.2.3 ครูอธิบายการเปรียบเทียบแผนภาพกล่องพร้อมกับอธิบายเสริมถึงค่าของพิสัย ว่าใช้พิจารณา ความแตกตา่ งขอ้ มูลได้ และบอกการกระจายขอ้ มลู ได้อย่างคร่าวๆ คือ ถ้าพิสัยมีค่ามาก แสดงว่าข้อมูลมีความ แตกตา่ งกนั มาก หรือข้อมูลมีการกระจายมาก แต่ถ้าพิสัยมีค่าน้อย แสดงว่าข้อมูลมีความแตกต่างกันน้อย หรือ ขอ้ มูลมีการกระจายนอ้ ย 8.2.4 ครูสนทนาซักถามคาถามนักเรียน โดยกระตุ้นคาถามว่า “มีสิ่งอื่นท่ีจะช่วยให้เราเห็นการ กระจายของข้อมูลอีกไหม”นักเรียนตอบ “มี” ครูเสริมแรงนักเรียน แล้วอธิบายเพิ่มเติมว่า “เราสามารถใช้ แผนภาพกล่องช่วยให้เห็นภาพของการกระจายของข้อมูลอย่างคร่าวๆ และช่วยในการเปรียบเทียบข้อมูล ตั้งแต่ 2 ชดุ ขึ้นไป ท่มี ลี ักษณะเหมอื นกัน และมหี น่วยเดียวกันไดอ้ กี ดว้ ย” 8.2.5 ครูและนักเรียนรว่ มกันอภิปรายการเปรียบเทยี บแผนภาพกล่อง 8.2.6 ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั 8.3 ขั้นสรุป 8.3.1 นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งที่ได้เรยี นรูใ้ นชั่วโมงน้ี ดงั น้ี การอ่าน แปลความหมาย และวิเคราะห์ เพอื่ เปรียบเทยี บข้อมูลทน่ี าเสนอในรปู แผนภาพกลอ่ ง รวมทงั้ คาดคะเน สรปุ ผล และตดั สินใจเกี่ยวกบั สถานการณ์และปัญหาในชีวิตจริง 8.4 ขัน้ ฝึกทักษะ 8.4.1 ครูให้นักเรียนทุกคนทาใบงาน การเปรียบเทียบแผนภาพกล่อง ใช้เวลา 10 นาที ครูส่งใบ งานให้นักเรียนผ่านช่องทาง Google Classroom โดยแจ้งนักเรียนผ่านช่องทาง Line (นักเรียนอาจจะปร๊ิน เอกสารแล้วทาลงใบงาน หรือถ้าไม่สะดวกอาจเขียนคาตอบลงสมุดแล้วถ่ายภาพส่งงานในอัลบั้ม (นักเรียนส่ง งานผ่านช่องทาง Line หรือ ใน Google Classroom ได้ทงั้ 2 ชอ่ งทาง) 8.4.2 ในขณะที่นักเรียนทาใบงาน ครูคอยให้คาแนะนา ช่วยเหลือ และตอบข้อซักถามของ นักเรียน รวมท้ังเน้นนักเรียนในเร่ืองของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน (โดยให้เปิดไมค์ ยกมอื แล้วถามทลี ะคน) 8.5 ขน้ั ประเมนิ ผล 8.5.1 นกั เรียนและครรู ว่ มกันอภปิ รายโดยการตรวจคาตอบจากเฉลยใบงาน เร่ือง การเปรียบเทียบ แผนภาพกล่อง 8.5.2 นกั เรยี นแตล่ ะคนสรุปผลคะแนนของตนเองท่ีได้จากการทาใบงาน การเปรียบเทียบแผนภาพ กล่อง แลว้ แจ้งคะแนนครูทลี ะคน 8.5.3 ครูผสู้ อนมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาหาความรเู้ พิ่มเติมจากแหลง่ เรียนรอู้ ่นื ๆ จาก อินเตอร์เน็ต (Google, Youtube)
93 00 9. ภำระงำน / ช้ินงำน 9.1 ใบงาน เร่ือง การเปรียบเทยี บแผนภาพกล่อง 10. สื่อ / อุปกรณ์ / แหลง่ เรียนรู้ 10.1 ส่ือกำรเรยี นรู้ 10.1.1 ใบงาน หนว่ ยท่ี 6 เรอ่ื ง สถิติ (3) ดังน้ี 1) ใบงาน เรอ่ื ง การเปรียบเทียบแผนภาพกล่อง 2) สือ่ พาวเวอรพ์ อยท์ เรื่อง การเปรียบเทยี บแผนภาพกล่อง 10.1.2 Application Google Classroom, Google Meet และ Line 10.2 แหล่งกำรเรียนรู้ 10.2.1 Google 10.2.2 Youtube 11. กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีกำรวดั เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. ด้ำนพทุ ธพิ ิสัย (Cognitive domain) 1.1 นกั เรียนสามารถ ตรวจจาก นักเรียนทาใบงาน เร่อื ง การเปรยี บเทียบ แผนภาพกลอ่ งได้ถูกต้องอย่างน้อยรอ้ ยละ 60 เปรียบเทยี บข้อมลู ท่อี า่ นได้ - ใบงาน เร่ือง - ใบงาน เรือ่ ง ขึ้นไป จงึ ผา่ นเกณฑ์ การเปรยี บเทยี บ จากแผนภาพกล่องได้ การเปรยี บเทียบ แผนภาพกลอ่ ง แผนภาพกลอ่ ง 2. ดำ้ นจติ พิสัย (Affective domain) 2.1 นักเรียนเกดิ ความใฝ่ สังเกต แบบประเมนิ นักเรยี นมคี ณุ ลักษณะอยใู่ นระดบั ดีข้นึ ไป มี พฤติกรรม เกณฑด์ ังน้ี เรียนรู้ มีความเพียรพยายาม ประเมินพฤติกรรม การเรยี น 3 คะแนน หมายถึง ดมี าก 2 คะแนน หมายถึง ดี ในการเรียน และให้ ขณะร่วมกจิ กรรมการ 1 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ ความสาคญั กับการเขา้ ร่วม เรียน กิจกรรมการเรยี นรู้ 2.2 นกั เรียนเกดิ ความ มุ่งมัน่ ในการทางาน เอาใจ ใส่ในหน้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย และมคี วาม รับผดิ ชอบในการทางานให้ สาเรจ็
94 00 จุดประสงค์ วธิ ีกำรวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ำรประเมนิ 3. ด้ำนทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) 3.1 นักเรยี นสามารถ ตรวจจาก นักเรียนทาใบงาน เร่อื ง การเปรยี บเทียบ แผนภาพกล่อง ได้ถกู ต้องอย่างน้อยร้อยละ เปรยี บเทยี บขอ้ มูลทีอ่ ่านได้ - ใบงาน เรือ่ ง - ใบงาน เรื่อง 60 ข้ึนไป จึงผ่านเกณฑ์ การเปรยี บเทียบ จากแผนภาพกล่องที่แสดง การเปรยี บเทียบ แผนภาพกล่อง ขอ้ มลู มากกว่า 1 ชดุ และใช้ แผนภาพกล่อง ขอ้ มลู ในการคาดคะเน สรุปผลและตดั สินใจได้
95 00 แบบวเิ ครำะห์กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ยวตั ถุประสงคก์ าร เรียนรู้ทตี่ อ้ งการวดั และความสอดคล้องดา้ นพุทธพิ ิสยั ทกั ษะพิสยั และจิตพสิ ัย พฤตกิ รรมกำรประเมนิ เทคนิค วตั ถปุ ระสงค์ ระดับพฤติกรรม (%) กำร พุทธิพสิ ยั ทกั ษะพิสยั จติ พสิ ยั ประเมิน 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1. นกั เรยี น 20 20 20 20 20 100 1.แบบ สามารถ ประเมนิ ใบ เปรียบเทียบ งาน เรอื่ ง ขอ้ มูลที่อ่านได้ การ จากแผนภาพ เปรยี บเทียบ กลอ่ งได้ แผนภาพ กลอ่ ง (ความ ถูกตอ้ ง) 2. นกั เรียนเกดิ 10 10 10 10 10 50 แบบสังเกต ความใฝเ่ รียนรู้ มี พฤติกรรม ความเพียร การเรยี น พยายามในการ เรียน และให้ ความสาคัญกับการ เข้ารว่ มกจิ กรรม การเรียนรู้ 3. นักเรียนเกิด 10 10 10 10 10 50 แบบสงั เกต ความมงุ่ มน่ั ในการ พฤตกิ รรม ทางาน เอาใจใสใ่ น การเรยี น หน้าทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย และมี ความรบั ผดิ ชอบใน การทางานให้ สาเร็จ 4. นักเรยี น 10 20 20 20 20 10 100 1.แบบ สามารถ ประเมนิ ใบ เปรยี บเทียบข้อมูล งาน เรอ่ื ง ทอี่ า่ นไดจ้ าก การ แผนภาพกลอ่ งที่ เปรยี บเทียบ แสดงขอ้ มูล แผนภาพ มากกว่า 1 ชุด กล่อง (ความ และใช้ขอ้ มูลในการ ถกู ตอ้ ง) คาดคะเน สรปุ ผล และตดั สนิ ใจได้ รวม 100 100 100
**หมำยเหตุ: ควำมหมำยของตำรำงวเิ ครำะห์กำรประเมิน 96 00 พทุ ธพิ ิสัย จติ พิสัย ทกั ษะพิสยั 1 = ความจา 1 = การรบั รู้ส่งิ เรา้ 1 = การรับรู้ 2 = การตระเตรยี ม 2 = เขา้ ใจ 2 = การตอบสนอง 3 = การตอบสนองตามคาช้ีแนะ 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 3 = การสรา้ งคณุ ค่า 5 = การตอบสนองทซี่ บั ซ้อนข้ึน 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 4 = วิเคราะห์ 4 = การจัดระบบคุณคา่ 8 = การริเรม่ิ ใหม่ 5 = ประเมินคา่ 5 = การสร้างลักษณะนิสัย 6 = สรา้ งสรรค์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138