สถานทที อ่ งทยี ว ○ Phangngaพังงาบา้ นฉนั
หมูเกาะสุรินทรหมูเกาะสรุ นิ ทร แหลงดําน้ําตืม้ ชมปะการงั และสตั วน้ํา ที่ ส ว ย ท่ี สุ ด ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไท ย และระดับโลกดวยเหอะ...เอาจรงิ ! ทนี่ ี่ไมไดมดี ีแคโ ลกใตนํา้ เพราะบนบกกส็ วยมากกกกก หาดทรายก็ขาวละเอียด นาํ้ กใ็ สใส สีก็สว ยสวย ฟากเ็ ปด จา อากาศกด็ ีด๊ ี แคน อนหมลมอาบแดดก็มีความสขุ หลาวววว ปะ...ไปเที่ยวกันนน ขอเขา สโู หมดมงลงแปบ นรี ูสึกดด๊ี ีและรสู ึกอยากจะขอบคณุ ทุกๆ คนที่เกี่ยวของ (อุทยานแหงชาติชาวมอแกน ชาวพังงา นกั ทองเทีย่ วและทกุ ๆ คน) ทีช่ วยกนั รักและ(อนุ)รักษท ะเลไทยและทาํ ใหท่นี ีย่ งั คงสวย strong แมว าจะเคยผานเหตุการณส นึ ามิปลายป '47 หรือปญ หาปะการังฟอกขาวเมอ่ื หลายปท ผ่ี า นมา ย่ิงประทบั ใจไปอกี เพราะท่นี เ่ี ปน หน่งึ ในทรปิ ที่ทาํ ใหนรี ูสกึ วา\"การไปเทยี่ วทีท่ ี่สวยงามมากๆ ของไทยและมรดกของคนไทยทุกคน ควรตองใหมีทางเลอื กใหคนทุกฐานะเขา ถึงได...มนั ตอ งไมแพงขนาดนน้ั สิ\" ยิง่ ถา ศึกษาขอมลู มาดีๆ น่ีทาํ ใหเรารูจ กั เลือกใชเ งินตามฐานานุรปู และความพอใจไดด กี ารมาเท่ยี วทห่ี มเู กาะสรุ นิ ทร
ยามวา งชีวิตประจาํ วนั ที่น่ี เริม่ ตน และสิ้นสุดวันประมาณนี้...ตนื่ นอนจากเตน ทดว ยเสียงคล่ืนและเสยี งนก ไมใชเ พราะเสียงนาฬิกาปลุก ตืน่ มาเดนิ เลนหรอื จะว◌ ิ◌่งออกกําลังกายรมิ หาดทกั ทายปเู สฉวนเลก็ นอย รบี ไปทานขาวเชา ไมใชเพราะกลวั วา จะออกจากบา นสายและรถจะตดิ แตท่ีตอ งรบี เพราะอยากใหอาหารยอ ยและขบั ถายกอนทจ่ี ะไปดาํ นํา้ (แมฉ่ีในทะเล...ทําได แตก ารคใี นทะเลนน้ั ...ทําไมไ ด...หรือจะทํา?)ดาํ นา้ํ รอบเชา เรอื ออก 9 โมง เพราะฉะน้นั 8.50 น. เราคอยเรม่ิ ออกเดนิ ทางดวยเทา จากหนาหาดไปหลังหาดดว ยระยะทาง200 เมตร รถไมตดิ ดาํ น้าํ เสร็จ เรือกลับหาด เพ่อื ใหเราไดท านอาหารกลางวนั ผอนคลาย ชมววิ แลวออกไปดาํ นํ้ารอบบายตอนเกอื บๆ บายสองประมาณสโ่ี มงคร่งึ กลับมาเลนน้าํ อาบแดด ชมพระอาทติ ยตกดิน ทานขา ว แลว กเ็ ขา นอนดูนาฬกิ าน่ีเพ่งิ จะทมุ ครงึ่ งน้ั วันนีข้ อนอนดึกหนอยไปดูดาวตอนสองทมุ แลวคอยเขา นอน ยง่ิ คนื วันพระจันทรเ ตม็ ดวงนมี่ นั สวางจายังกับ spotlight เลยนะ
อุทยานแหง ชาตหิ มูเ กาะสรุ ินทรม ภี ูมิอากาศแบบมรสุม แบง เปน 3 ฤดู ไดแ ก ฤดรู อน เร่ิมตง้ั แตก ลางเดอื นกมุ ภาพันธถ ึงกลางเดือนพฤษภาคม ระยะน้ีเปนชวงวา งจากฤดูมรสมุ จึงมลี มจากทิศตะวันออกเฉียงใตพ ัดปกคลุมทาํ ใหมอี ากาศรอนอบอา วทวั่ ไป เดอื นที่มีอากาศรอนท่สี ดุ คอื เดอื น เมษายน ฤดรู อนจงึเปนฤดูท่ีเหมาะกับการเดนิ ทางไปสหู มูเ กาะสรุ ินทรมากท่ีสดุ ฤดฝู น เร่มิ ตัง้ แตก ลางเดอื นพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เปน ฤดูท่ีมรสุมตะวันตกเฉียงใตพัดปกคลมุ และมรี องความกดอากาศตํ่าเปนระยะๆ อกี ดว ยทาํ ใหม ฝี นตกมากตลอดฤดู และเดือนกันยายนจะมีฝนตกมากท่ีสุด ปรมิ าณนาํ้ ฝนเฉลยี่ ในแตล ะป จะมคี า มากกวา 3,000 มิลลิเมตร ฤดูหนาว เรมิ่ ตั้งแตกลางเดือนตลุ าคมถึงเดอื นกมุ ภาพันธ เปนฤดูท่มี ลี มมรสมุ ตะวนั ออก เฉียงเหนอื พดั ผา นทําใหอากาศเย็นทว่ั ไป แตเน่ืองจากเปนบรเิ วณทม่ี ีทะเลลอ มรอบเกาะ อุณหภูมจิ ะลดลงเพียงเลก็ นอ ย อากาศจงึ ไมห นาวเยน็ มากนกั โดยจะมฝี นตกท่วั ไปแตปรมิ าณไมมากเหมือนในฤดฝู น ความชนื้ สมั พทั ธจ งึ อยใู นเกณฑส งู ตลอดท้งั ป เพราะไดร บั อิทธิพลจากมรสมุ ทง้ั 2 ฤดู คาเฉลี่ยตลอดทั้งปประมาณ 83 -84 เปอรเซนต
หมูเ กาะพพี ีกระบ่ี...เมืองชายทะเลในฝน งดงามดวยหาดทรายสขี าว น้าํ ทะเลใส ๆ ปะการังแสนสวย ถํ้าโตรกชะโงกผา และหมูเ กาะนอ ยใหญก วา 100 เกาะ รวมกนั เปนมนตรเ สนหท ีส่ รางความประทบั ใจใหแ กน ักทอ งเท่ยี วทมี่ าเยอื นจังหวดั กระบ่ี มาเยือนกระบ่ีทัง้ ทหี ากใครไมไ ดไปเทย่ี ว \"หมูเกาะพีพี\" ก็เหมือนมาไมถ งึ กระบ่นี ะคะ ถาอยา งนัน้ กระปุกดอทคอมจะพาเพ่ือน ๆ ไปทาํ ความรูจ กั กบั \"หมเู กาะพีพี\" กนั ใหมากข้นึ เผ่อื วันไหนมโี อกาสไดไปจะไดน ําไปเปนขอมลู วางแผนโปรแกรมในการทองเท่ยี วไดคะ \"หมเู กาะพีพี\" เปน หมูเกาะกลางทะเล อยูห า งจากอาํ เภอเมอื ง 42 กโิ ลเมตร เดิมชาวทะเลเรียกหมูเ กาะน้วี า \"ปูเลาปอ าป\" คําวา \"ปเู ลา\" แปลวา เกาะ คําวา \"ปอ าป\" แปลวา ตน ไมทะเลชนิดหนึง่ จําพวกแสม และโกงกาง ตอ มาเรียกวา \"ตนปป\" ซง่ึ ภายหลังกลายเสยี งเปน \"พีพี\" ซึง่ ไดช่อื วา เปน อาณาจกั รแหง บปุ ผาใตสมุทร นกั ทองเทย่ี วทม่ี าเที่ยวหมูเ กาะน้ี สวนใหญมาเพ่ือดําน้ําดปู ะการัง ดอกไมทะเล และปลาหลากสที ม่ี สี สี ันสวยงาม นอกจากนย้ี งั มีเกาะตา ง ๆ ทอี่ ยรู ะหวา งเสน ทางเดินเรือกระบี่
เริ่มกนั ที่ \"เกาะพพี ีดอน\" มพี ้ืนท่ปี ระมาณ 28 ตารางกิโลเมตร จุดเดนของเกาะคือเวงิ้ อาวคทู มี่ ีความสวยงามติดอันดับโลกของ \"อาวตนไทร\" และ \"อาวโละดาลัม\" ทงั้ นี้อาวตนไทรเปน ท่ีต้ังของทาเรอื เกาะพีพีและมีสถานท่ีพักและรา นคา จาํ นวนมาก จากอา วตนไทรสามารถเดินขึน้ เขาไปยังจุดชมววิ ท่ีสามารถมองเหน็ เวิง้ อาวคูไ ด อยา งไรกต็ ามเกาะพพี ีดอนยังมีหาดทรายและอา วทีส่ วยงามกระจายอยูรอบเกาะ บางแหงมีทีพ่ กั บรกิ าร เชน หาดแหลมหิน หาดยาว อา วโละบาเกา ทางเหนือของเกาะคือ \"แหลมตง\" เปน ทต่ี ัง้ ของหมบู านชาวเลประมาณ 15-20 ครอบครัว สว นใหญอพยพมาจากเกาะหลีเปะ ในอทุ ยานแหง ชาตติ ะรเุ ตา จงั หวัดสตูล บริเวณแหลมตงมธี รรมชาติใตท ะเลทสี่ วยงาม และบนหาดยังมีทีพ่ กั ไวใ หบริการแกนกั ทองเทย่ี วอกี ดว ย นอกจากนีท้ างทิศตะวันออกเฉยี งเหนอื ยงั มี \"ถ้าํ ไวก้ิง\" เมอ่ื ป พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช เสดจ็ ประพาสถ้ําแหงนี้ และทรงพระราชทานนามใหมว า \"ถ้าํ พญานาค\" ตามรปู รางหนิ กอ นหนึง่ ท่คี ลายเศยี รพญานาค อนั เปน ท่เี คารพสกั การะของชาวบา นท่ีมาเก็บรงั นกนางแอนบนเกาะแหง น้ี
ถนนคนเดนิ ตะก่ัวปา (เมอื งเกา)ดูเหมือนวา การเดินถนนคนเดนิ จะเปนอีกสิ่งหน่ึงทน่ี กั ทอ งเที่ยวไมควรพลาด พอเรารูมาวา จังหวัดพังงากม็ ถี นนคนเดินกับเขาดว ย เราจึงไมรั้งรอรบี มุง ตรงไป “ถนนศรีตะกว่ั ปา” ถนนสายวฒั นธรรมที่เตม็ เปยมไปดวยกล่นิ อายของวนั วาน ซง่ึ อายุยนื ยาวนบั 200 ป ขอกระซบิ คราวๆ วา ใครท่ีช่นื ชอบขนมหวาน อาหารโบราณเปน ทนุ เดมิ อยแู ลว ยง่ิ ไมค วรพลาดการมาเทยี่ วถนนสายน้ีดว ยประการทงั้ ปวง “ถนนศรตี ะกั่วปา ” สถานท่ตี ัง้ ของ “ถนนคนเดินตะกวั่ ปา” ในอดตี เคยเปนถนนสายทคี่ กึ คักทส่ี ดุ ในจงั หวัดพังงา นน่ั เพราะ ยา นน้มี คี นจนี เขามาทาํ เหมอื งแรดีบกุ เปนจํานวนมาก ดังนน้ั เมืองจงึ กอรางสรางตัวข้ึน และมีความคกึ คกั ตลอด 24 ชวั่ โมง สวนสองฟากฝง ถนนก็เตม็ ไปดว ยตึกแถวสไตลชโิ นโปรตุกสี ทีแ่ ตละหลังเต็มไปดว ยเอกลกั ษณจากลวดลายปูนปน ซมุ ประตูโคง ลายแกะสลักไม และตวั ตึกสสี นั สวยงาม จวบจนถงึ ปจ จุบนั ท่ียงั คงเสนห และมนตข ลังไวในบรรยากาศแบบเกาๆ ไมเ สื่อมคลาย เมือ่ หมดยคุ ทองของการทําเหมอื ง ถนนศรีตะกว่ั ปาจึงเงียบเหงาลงไปถนัดตาเพราะชาวพ้ืนท่ีตา งเกบ็ ตัวอยูในบา น จนเมื่อไมก ี่ปม านี้เองทถี่ นนสายน้กี ลับมามีชีวติ ชวี าอกี ครั้ง โดยเฉพาะวนั อาทติ ยท ี่มถี นนคนเดนิ สองขา งทางจะเต็มไปดว ยรา นคา ท่พี อ คาแมข ายตา งกย็ ้มิ แยม ทักทายลกู คา และตักนนู หยิบนใี่ หช ิมกนั กอ นตดั สนิ ใจซื้อ แถมมติ รภาพของคนในพน้ื ที่อันนารักเพราะคุณตา คณุ ยาย คุณปา คุณอา ตางรจู ักกันหมด เราจงึ ไดยนิ เสียงพดู คยุ ทักทายกนั อยูไ มขาดสาย
เมืองเกา ภูเกต็ภเู ก็ตยังจดั วา เปน เมอื งทมี่ ีประวัติศาสตรแ ละความรุงเรืองอันยาวนานอีกเมอื งหน่งึ ของไทยโดยหนึ่งในรอยอดีต อันรุง เรืองของภเู กต็ ตึกเกาแบบชิโน-โปรตุกสี ถกู สรางขึ้นเปนคร้ังแรกเมื่อป พ.ศ. 2446 เนื่องจากการทาํ เหมือง แรท เี่ ติบโตทาํ ใหช าวจีน และชาวตะวนั ตก ตา งหลัง่ ไหลเขา มาทีเ่ มืองภเู กต็ เปน จํานวนมาก เมอ่ื เขาสูเขตเทศบาลเมอื ง ภเู ก็ตส่ิงแรกท่ผี ไู ปเยือนจะรูส กึ สะดุดตากค็ อื ตึกเกา ทตี่ ั้งตระหงา นอยูใ นยา นการ คา เกา เเกข องเมอื ง เปน อาคารสไตล ชโิ นโปรตกุ สี ทผี่ สมผสานเอาความเปนศิลปะตะวนั ตกและตะวันออก เขาไวด ว ยกนั อยางกลมกลืน จนเปนเอกลักษณท ี่โดดเดนของเมอื งภูเก็ต ตกึ เกาเหลาน้กี ระจายอยูท่วั ตัวเมอื งภเู ก็ต สามารถเดนิ ชม ไดอยา งตอ เนอื่ ง นอกจากนย้ี งั มีรา นอาหารอรอ ยหลายเจาใหเท่ยี วไปกินไปอยา งเพลิดเพลินและทางเทศบาล เมืองภูเก็ต กไ็ ดเหน็ ถงึ ความสาํ คญั ของสถาปตยกรรมเหลาน้ีโดยไดท ําการอนุรักษรปู แบบสถาปต ยกรรมชโิ นโปรตกุ สี นี้ ไวและจดั ใหเ ปนอีกหน่ึงตัวเลือก ของการทองเท่ยี ว จัดใหมีเสนทางเดนิ ชมเมืองเกา ภเู กต็ เพื่อใหน ักทองเทย่ี วได สมั ผสั กบั ความสวยงามของบา นเรอื นเกาแก ของภเู กต็ และสถาปต ยกรรมชิโนโปรตุกสี ทสี่ วยงาม พรอมๆกับได สมั ผัสวัฒนธรรมและวถิ ชี ีวติ ความเปนอยู ของคนภเู ก็ตและ ทส่ี าํ คญั อาหารอรอยเล่อื งชื่อการเดิน ชมเมืองเกา เสนหแ หง ชิโนโปรตกุ ีส เปนเสนทางประวัติศาสตรท ีค่ วรคา แกการศึกษายิง่ เปนถนนสายประวติ ศิ าสตรอันเกาแก ตรงชวงนจี้ ะมีอาคารตกึ แถวเกาทม่ี ีรปู แบบเดมิ ๆเกาะกลมุ กันอยูเปนจาํ นวนมากรวมถึงรา นคา รานอาหารตา ง เรม่ิ ตนจาก สี่แยกถ.ถลางตดั กับถ.ภเู ก็ตไปจนสดุ ส่แี ยกตัดกบั ถ.เยาวราช มีตึกแถวกวา 151 คหู าโดยมตี กึ แถว ตัวตกึ มี รูปแบบการตกแตง ชองหนา ตา งโคง ตามแบบสถาปต ยกรรมยุคนโี อคลาสสิค มลี วดลายทด่ี งามเนนธรรมชาตเิ ถาไม ใบไม และรูปสัตว ตึกแถวบรเิ วณนมี้ ี ลักษณะ เดนอยูท ป่ี ระตดู า นหนา เปน แบบบานเฟย มไมเ กาแก ชวงเสาจะ กวา งเทากบั ตึก 2 คูหารวมกัน มกี ารนาํ ศลิ ปะการเจาะชอ ง หนา ตางและ ลวดลายปนู ปน แบบอารต เดโคมาใชไ ดอยาง กลมกลืน และสวยงาม ซง่ึ ในปจจุบันบานเรือนและอาคารหลายหลงั กไ็ ดม ี การทาสีใหม แตย ังคงรูปแบบเดมิ ไว นอกจากนี้ยงั มซี อยรมณีย ซอยเลก็ ๆระหวา งเสน ถนนถลาง มมี ีอาคาร สสี นั หลายสที ้ังชมพู เหลือง น้ําเงินเปน อกี หนง่ึ เสน ทางท่นี กั ทองเทีย่ วไมควรพลาด
สะพานสารสินสะพานสารสนิ เปนสะพานท่เี ชอื่ มระหวางจงั หวดั พงั งากบั จังหวดั ภเู กต็ เปน สะพานแรกทมี่ กี ารสรา งเพอ่ื ขามจากจงั หวัดพงั งาไปภเู ก็ต เชื่อมตอ ระหวา งบา นทาฉัตรไชยและบานทานุนของจงั หวัดพงั งา โดยทางหลวงแผนดนิ หมายเลข 402 มีความยาวทั้งหมด 660 เมตร เปด ใชเม่อื 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 สะพานสารสนิ เปนทีร่ จู กั กนั ดีในฐานะเปนสถานทที่ ่ีเปน ตาํ นานความรักของหนุมสาวสองคนทไ่ี มส มหวัง คือ โกดาํ (ดาํ แซต นั ) กบั กว๊ิ (กาญจนา แซหงอ) ที่มคี วามแตกตางกันทางฐานะ ดวยโกดําเปนเพยี งคนขับรถสองแถวรับจางและรบั จา งกรดี ยาง ขณะทก่ี ๊ิวมฐี านะทด่ี ีกวา และเปน นกั ศกึ ษาวิทยาลัยครู โดยทีผ่ ูใหญทางบา นของกิว๊ ไดก ดี ก้นั ทัง้ สองคบหากนั ในที่สดุ ท้ังคจู งึ ตดั สินใจกระโดดน้ําตายทก่ี ลางสะพานสารสนิ ดวยการใชผา ขาวมามัดตวั ทงั้ สองไวดว ยกัน เม่อื วนั ท่ี22 กุมภาพันธ พ.ศ. 2516 ซง่ึ เร่อื งราวของท้ังคูโดง ดงั เปน ทรี่ จู ักไปท่วั และมกี ารสรา งเปนภาพยนตรและละครโทรทศั น คือ สะพานรักสารสิน ในป พ.ศ. 2530นาํ แสดงโดย รอน บรรจงสรา ง และจินตรา สขุ พัฒน และ สะพานรกั สารสิน ในป พ.ศ. 2541 นําแสดงโดย นนั ทวฒั น อาศริ พจนกลุ และคทรีนา กลอส ซ่งึ เปนละครโทรทัศน ออกอากาศทางชอง 3
เขือ่ นเชีย่ วหลาน (เข่อื นรชั ชประภา)เขือ่ นเชีย่ วหลาน หรอื เขื่อนรชั ชประภา แหลงทอ งเที่ยวทไี่ ดร ับฉายาวา เปน กยุ หลนิ เมอื งไทย เพราะมีความสวยงามของเทอื กเขาหนิ ปูนที่เหมือนกันกบั กุย หลินท่ีประเทศจีน ซ่ึงเขือ่ นเชี่ยวหลานเปนเขอ่ื นทก่ี อ สรา งข้นึ มาตามแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหงชาติ ฉบับที่ 4 เพ่อืชว ยอาํ นวยประโยชนใ นดา นสงั คม เศรษฐกจิ และสงั คมแหงชาติ โดยเขือ่ นเชย่ี วหลานจดั เปนเขื่อนอเนกประสงคท ีส่ าํ คญั แหง หน่ึงในภาคใตซงึ่ สรา งข้ึนมาเพ่อื พฒั นาแหลง น้ําและพลงั งานไฟฟา ตง้ั อยใู นจงั หวดั สุราษฎรธ านี โดยเขอื่ นเช่ียวหลานเม่อื สรางเสร็จแลว ไดร บั พระมหากรณุ าธคิ ุณจากพระบาทสมเด็จพระเจา อยหู ัว พระราชทานนามเขื่อนแหงนี้วา “เขื่อนรชั ชประภา” ซง่ึ มีความหมายวา “แสงสวางแหงราชอาณาจกั ร” เข่ือนเช่ียวหลาน เปน โครงการเฉลิมพระเกยี รติฯ เน่ืองในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ในป พ.ศ. 2530 และพระราชพิธีรัชมงั คลาภเิ ษก ในป พ.ศ. 2531 สรางปด กน้ั ลาํ นาํ้ คลองแสงที่บา นเชยี่ วหลาน ต.เขาพัง อ.บา นตาขนุ จ.สุราษฎรธ านี เริม่ ดําเนินลงมือกอสรางวันท่ี 9 ก.พ. 2525 กอสรางแลวเสร็จในเดอื น ก.ย. 2530 และในวันพธุ ท่ี 30 ก.ย. 2530 พระบาทสมเด็จพระเจา อยูหวั พรอมดวยสมเด็จพระเทพรัตรราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ไดเสดจ็ พระราชดาํ เนนิ เปดเขอื่ นเชยี่ วหลาน และโรงไฟฟาพลงั นาํ้ ซงึ่ เขอื่ นเช่ียวหลานเปน เขือ่ นประเภทเขอ่ื นหนิ ถมแกนดินเหนียว มีความจุ 5,640 ลา นลกู บาศกเมตร ขนาดพ้ืนที่อา งเก็บนํา้ 185 ตารางกโิ ลเมตร มีปริมาณน้ําไหลเขาอา งเฉลีย่ 3,057 ลา นลูกบาศกเมตรตอ ป ขนาดสันเข่ือน ความยาว 761 เมตร ความสงู 94 เมตร และมเี ข่ือนปด กนั้ ชองเขาอีก 6แหง อยูบนฝง ขวาของแมน้าํ 5 แหง กับฝงซา ยของแมน้ํา 1 แหง
แพ500ไรแพ500 ไรเดมิ ตั้งอยูในบรเิ วณทะเลใน 500 ไรตรงขา มกับถํ้าปะการัง ซง่ึ การเดนิ ทางไปแพ500 ไร เดมิ นั้นตองเดนิ ขา มภเู ขา ซง่ึ เปน ระยะทาง 1 กิโลเมตร ทางแพเนนกลมุ ลูกคา ทีร่ กัความสงบ ชอบความเปนสวนตวั และรกั ธรรมชาติเปนสําคญั ตอมาเพือ่ ใหส ามารถใหบริการลกู คา ไดท กุ เพศทกุ วัย จงึ ไดยายท่ีต้ังมาตง้ั อยูใกลๆ กบั ตน นา้ํ ของเช่ยี วหลาน ซง่ึ ทําเลใหมน้ีมีจุดเดนท่ี เปนอา วสว นตัว พ้ืนนาํ้ ใสสะอาดสเี ขียวเขม และออนสลบั ไปมา วิวทิวทัศนภาพภูเขาหนิ ปูนแบบพานอรามา เหมอื นภาพวาด และมีแหลงทอ งเท่ียวแทบทงั้ หมด อยรู ายลอม รวมถึงสายหมอกยามเชา แทบจะกลา วไดวา “ตลอดท้ังป” เลยทเี ดียว
เกาะปน ยีเกาะปน หยีหรือบา นกลางนา้ํ ซง่ึ ต้ังอยูท ี่ ตําบลเกาะปนหยี อาํ เภอเมือง จังหวดั พังงา ชื่อนี้มีท่มี าเนอ่ื งจาก “โตะบาบู” ผนู าํ ชาวอนิ โดนีเซยี อพยพมาเม่ือ 200 ปกอน เม่อื มาเจอเกาะปนหยไี ดข้ึนไปปก ธงใหพ รรคพวกที่อพยพ มาดวยกันรูวา เปน สถานที่ เหมาะสมทจี่ ะต้งั บานเรือน คาํ วา “ปน หยี” แปลวา “ธง” มลี ักษณะเปน หมูบา นท่ีต้งั เรยี งราย อยูบ นทะเลมีท่ดี ินนิดเดยี วซงึ่ เอาไวเปนที่ สรา งมสั ยิดและกุโบว ชาวเกาะสวนใหญนับถือศาสนาอิสลาม และสรา งหมูบานแทบทัง้ หมดดา นหนา ของหนา ผาหนิ ปูนเหนอื นาํ้ ทะเล ชาวบา นสว นใหญป ระกอบอาชพี ทาํ ประมงพ้นื บา น ตลอดจนมรี า นขายของทร่ี ะลึกและรา นอาหารมากมายบนเกาะ เปนแหลงที่ นกั ทอ งเท่ียวจากทั่วโลกมาแวะเยี่ยม ชมมีสินคาทร่ี ะลกึ จาํ หนา ย เชน ผลิตภณั ฑจ ากเปลอื กหอย ผา บาติก สรอ ย กําไล แหวน ทที่ ํามา จากหอยมุก และยังมผี ลิตภณั ฑอนื่ ๆ อกี เชน น้ําพริกกุงเสียบ กะปและเปนจุดพักทานอาหาร นกั ทองเทยี่ ว มกั นยิ มมาทาน อาหารกลางวันทเี่ กาะปน หยี
การเดินทางไปเกาะปน หยีหรอื เหมาเรือหางยาวจากทาเรือ ไปได ลาํ ละประมาณ 1200 - 2500 บาท โดยราคาจะแปรผัน ตามจาํ นวนคน ใชเวลาประมาณ 3-4 ชว่ั โมง โดยเร่มิ จากการลองเรอื ชมทัศนียภาพของอา วพงั งา ผานเขาตางๆ เชน เขาหมาจู เกาะหอ ง ถ้าํ ลอด เกาะปนหยี เขาพิงกัน เขาตะปูหรือซื้อแพคเกจทัวรท อ งเทีย่ วจากจงั หวัดภเู กต็ หรอื พังงา ซึ่งมใี หบริการมากมาย โปรแกรมทองเท่ยี ว ใชเ วลาประมาณครึ่งวนั คิดราคาหวั ละ 1000 บาทขนึ้ ไป รวมอาหาร 1 ม้ือ
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: