รายงานการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชพี ชมุ ชนหม่ทู 1่ี บา้ นบา้ นหลงั สอด ต.เกาะลนั ตานอ้ ย อ.เกาะลันตา จ.กระบ่ี นายวรวทิ สร้างสม รหัสประจาตัวนกั ศึกษา 611250018 รายงานฉบบั นเี้ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของวชิ าโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชพี ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ช้นั สงู สาขาปฏิบัตกิ ารฉุกเฉินการแพทย์ ชน้ั ปีที่ 2 รุน่ ที่ 15 วิทยาลัยการสาธารณสขุ สิรินธร จังหวดั ยะลา
ก คานา รายงานฉบับน้ีเปน็ ส่วนหนง่ึ ของวชิ าโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชพี ของนกั ศกึ ษาหลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชน้ั สูง สาขาปฏบิ ัตกิ ารฉกุ เฉนิ การแพทย์ วทิ ยาลัยการสาธารณสขุ สิรนิ ธร จงั หวดั ยะลา โดยการฝึกโครงการพัฒนาทกั ษะ วิชาชีพครงั้ นี้ นักศึกษา ไดฝ้ กึ ประสบการณใ์ นพน้ื ที่ ชมุ ชนหมู่บา้ น หม่ทู 1ี่ บา้ นหลังสอด ต.เกาะลนั ตานอ้ ย อ.เกาะลันตา จ.กระบ่ซี ึ่งเปน็ การศกึ ษาชมุ ชนในดา้ นตา่ งๆ มกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากชมุ ชน โดยการสัมภาษณ์ สงั เกต และจากขอ้ มลู ทตุ ิยภูมเิ พ่ือใหท้ ราบ และเขา้ ใจถงึ วิถขี องคนในชมุ ชน และมองเหน็ ถงึ สภาพปญั หาต่างๆทเี่ กดิ ขนึ้ ภายในชมุ ชน โดยเฉพาะ ปัญหาทางดา้ นฉกุ เฉนิ การแพทยแ์ ละนาไปส่กู ารวางแผนพัฒนา แกไ้ ขปญั หาชมุ ชนไดอ้ ยา่ งตรงจดุ และสอดคลอ้ งกับวถิ ี ชมุ ชน โดยการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน อนั นาไปสู่การมสี ุขภาพที่ดี และมคี ณุ ภาพชวี ิตท่ดี ีภายในชมุ ชน ซง่ึ ทาให้เกดิ การ พฒั นาอยา่ งย่งั ยืน เพื่อเตรยี มความพรอ้ มส่กู ารฝกึ ประสบการณจ์ ริง และเปน็ บุคลากรทางดา้ นสาธารณสุขต่อไป ผจู้ ดั ทาหวงั เปน็ อย่างย่ิงวา่ ข้อมลู ต่างๆ ในเล่มรายงานฉบบั นี้จะสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เกิดประโยชน์ และ เป็นแนวทางในการพฒั นา แกป้ ญั หาในดา้ นตา่ งๆของชมุ ชน และเพ่ือเปน็ แนวทางในการศกึ ษาต่อไป ผู้จัดทา นายวรวทิ สรา้ งสม รหัสนักศึกษา611250018
ข กิตตกิ รรมประกาศ การฝกึ โครงการพฒั นาทักษะวชิ าชพี ในครง้ั นี้ นกั ศกึ ษาหลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ช้นั สูง สาขาปฏิบัติการ ฉกุ เฉินการแพทย์ รุน่ ที่ 15 ช้ันปีที่ 2 วิทยาลยั การสาธารณสขุ สริ ินธร จังหวัดยะลา ไดท้ าการศกึ ษาในพ้นื ท่ีของตนเอง โดย การฝกึ โครงการพัฒนาทกั ษะวชิ าชีพครง้ั นนี้ ักศกึ ษาไดฝ้ ึกประสบการณใ์ นพืน้ ทีช่ มุ ชนหมู่บา้ นหลังสอด หมู่ที่ 1 ต.เกาะ ลนั ตานอ้ ย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบไี่ ดส้ าเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี โดยได้รบั ความกรณุ าคณุ จากบคุ คลหลายทา่ น ทางดา้ น นกั ศกึ ษารสู้ ึกซาบซง้ึ ในความกรณุ าที่มใี หจ้ งึ ใครข่ อขอบพระคณุ เป็นอย่างสงู ไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบพระคณุ อาจารย์ ดร.ภัคณฐั วรี ขจร ท่ไี ด้ใหค้ าแนะนา ท่ีได้ประสทิ ธปิ์ ระสาทวิชา กอ่ ใหเ้ กดิ ความรใู้ นการ ฝกึ ปฏิบตั งิ าน จนสามารถปฏบิ ตั งิ านไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ขอขอบคณุ เจา้ หนา้ ท่อี าสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหมบู่ ้านหลงั สอด หม่ทู ี่ 1 ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ. กระบี่ ท่ีคอยใหค้ าปรกึ ษา แนะนา และคอยชว่ ยเหลอื ตลอดการฝกึ โครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชพี และให้ความชว่ ยเหลือ แนะนา ให้คาปรึกษา ตลอดการฝกึ ปฏิบัติงานในคร้ังนี้ ขอขอบพระคณุ ชาวบา้ นหมบู่ า้ นหลังสอด หมูท่ ่ี 1 ต.เกาะลันตานอ้ ย อ.เกาะลันตา จ.กระบที่ ่คี อยชว่ ยเหลือและ ใหข้ อ้ มลู ในการศกึ ษาในครง้ั น้ี และเขา้ มามสี ่วนรว่ มในการดาเนนิ โครงการ ในทกุ กิจกรรมทศ่ี กึ ษาจดั ขึน้ และสาเรจ็ ลลุ ่วงไป ด้วยดี สดุ ทา้ ยน้ี นักศกึ ษาขอขอบพระคณุ ทกุ ทา่ นที่มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ทาให้การฝึกโครงการพัฒนาทกั ษะวชิ าชพี ในครงั้ นี้ ประสบความสาเรจ็ ลลุ ว่ งไปไดด้ ้วยดี
สารบญั ค เร่ือง คานา หน้า กติ ติกรรมประกาศ ก สารบญั ข บทท่ี 1 บทนา ค-ง 1 1.1 ความเปน็ มาและความสาคญั ของการฝกึ โครงการพัฒนาทกั ษะวชิ าชีพ 1 1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องวจิ ัย 2 1.3 กระบวนการเตรียมฝกึ โครงการพัฒนาทกั ษะวชิ าชพี 2 บทท่ี 2 บรบิ ทชมุ ชน 3 2.1แผนที่เดินดนิ 3 2.2ผังเครือญาติ 2.3โครงสร้างองค์กรชมุ ชน 3-6 2.4ระบบสขุ ภาพชุมชน9 7-8 2.5ปฏทิ นิ ชมุ ชน 2.6ประวตั ศิ าสตรช์ มุ ชน 10 2.7ประวตั ิบคุ คลสาคญั 11 บทท่ี 3 การวินิจฉยั ชุมชน 12 3.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 13 13-14
3.2 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล ง 3.3 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล 3.4 การวิเคราะหส์ าเหตุของปัญหา 14 3.5 ปัญหาและการจัดลาดบั ของปญั หา 14-24 บทท่ี 4 แผนงาน/โครงการ 24 4.1 แผนงาน/โครงการ 4.2 ระดับความพงึ พอใจตอ่ โครงการ 29 4.3 สรุปผลการดาเนนิ โครงการ บทที่ 5 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชพี อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 25 5.1 สรปุ ผลการฝกึ โครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 25 5.2 อภิปราย 25-37 5.3 ข้อเสนอแนะการฝกึ โครงการพฒั นาทักษะวชิ าชพี 38-39 ภาคผนวก 40 บรรณานกุ รม 40 40-41 41 42-51 52
1 บทท่ี 1 สว่ นนาโครงการ 1.1 ความเปน็ มาและความสาคัญของการฝกึ โครงการพฒั นาทักษะวิชาชพี โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM) เป็นภาวะทรี่ า่ งกายมนี ้าตาลในเลือดสูงกวา่ ปกติ เน่ืองจากการ ขาดฮอรโ์ มนอินซูลิน (Insulin) หรอื การด้ือต่อฮอร์โมนอนิ ซูลนิ ส่งผลให้กระบวนการดูดซึมน้าตาลในเลือดให้เป็น พลังงานของเซลลใ์ นร่างกายมีความผดิ ปกตหิ รือทา้ งานได้ไม่เตม็ ประสิทธภิ าพ จนเกดิ นา้ ตาลสะสมในเลือด ปรมิ าณมาก หากปล่อยใหร้ ่างกายอยใู่ นสภาวะน้ีเป็นเวลานานจะทา้ ให้อวยั วะตา่ ง ๆ เส่ือม เกดิ โรคและอาการ แทรกซ้อนข้นึ จากข้อมลู ของสหพนั ธเ์ บาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation: IDF) พบผูป้ วุ ย โรคเบาหวานทั่วโลกราว 425 ลา้ นคนในปี 2560 และคาดการณ์วา่ จะมีจา้ นวนผูป้ วุ ยดว้ ยโรคน้มี ากถึง 629 ล้าน คนในปี 2588 สา้ หรบั สถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทยพบวา่ คนไทยช่วงอายุ 20-79 ปี เป็น โรคเบาหวานร้อยละ 8.3 หรอื หมายความว่าใน 100 คน จะพบคนทป่ี วุ ยเป็นโรคเบาหวานประมาณ 8 คน และ จ้านวนมากกว่าครึ่งไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคเบาหวาน สถิติการพบผปู้ วุ ยดว้ ยโรคน้ียงั มีจ้านวนมากขนึ้ เรื่อย ๆ จนทา้ ให้ต้องมกี ารรณรงค์อย่างตอ่ เน่ืองถึงภยั ร้ายของโรค เพราะเป็นโรคเรื้อรงั ทรี่ ักษาไม่หายขาด มโี อกาสเส่ยี ง ตอ่ โรคแทรกซอ้ นลุกลามใหญ่โตจนตอ้ งสูญเสยี อวัยวะท่ีส้าคัญของร่างกาย ทางสหพนั ธ์เบาหวานนานาชาติ และ องค์การอนามยั โลก (WHO) จึงได้ก้าหนดให้วันที่ 14 พฤศจกิ ายนของทุกปีเป็นวนั เบาหวานโลก เพ่อื ใหต้ ระหนกั ถึงความส้าคัญของโรคนี้ ในปจั จุบนั ประเทศไทยยึดหลกั เกณฑ์ตามสมาคมเบาหวานแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาในการจ้าแนกผ้ปู วุ ย โรคเบาหวานดว้ ยการตรวจปริมาณน้าตาลในเลือด หากผลการตรวจหลงั งดอาหารและเคร่ืองดื่มมนี ้าตาลอยู่ กระแสเลือดไมเ่ กนิ 100 มลิ ลกิ รมั ต่อเดซลิ ิตร แสดงวา่ ระดับน้าตาลในเลือดปกติ ท้งั นรี้ ะดบั น้าตาลในเลอื ดยังบ่ง บอกถงึ ภาวะเส่ียงต่อการเปน็ เบาหวานได้ดว้ ย (Prediabetes) ซึง่ ผทู้ ่ีอยู่ในกลุ่มเสยี่ งต่อภาวะเป็นเบาหวาน สามารถพัฒนาการเกดิ โรคเบาหวานประเภทที่ 2 (เบาหวานทเ่ี กิดจากการที่ตับอ่อนผลติ ฮอร์โมนอนิ ซูลินได้ไม่ เพียงพอต่อการใช)้ โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดในสมองในอนาคตได้ง่ายขนึ้ ในแต่ละวนั จะมจี า้ นวนผูเ้ สียชวี ิตจากโรคเบาหวาน 200 คน หรอื 8 รายตอ่ ชั่วโมง และมีเพียง 10% ของผปู้ ุวย เบาหวานท่มี ีชีวติ อยู่โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ประเทศไทยมยี อดผู้เสยี ชีวติ ด้วยโรคเบาหวานเฉลย่ี ปลี ะกวา่ 8,000 คน และพบว่าคนรุ่นใหมม่ ีโอกาสเปน็ เบาหวานสูงขึ้นจากพฤตกิ รรมการด้าเนนิ ชีวิตท่เี ปล่ยี นไป สมาพนั ธเ์ บาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation: IDF) ได้กา้ หนดให้วนั ที่ 14 พฤศจกิ ายน ของทกุ ปีเป็นวนั เบาหวานโลก โดยไดก้ ้าหนดสาระส้าคัญประจ้าปี 2018-19 คือ “The Family and Diabetes” เพือ่ สรา้ งให้เกดิ ความตระหนักรู้เก่ยี วกบั ผลกระทบของโรคเบาหวานที่มตี ่อบคุ คลในครอบครัว นอกจากน้ียงั มุง่ ให้ ความร้แู ก่สมาชิกในครอบครัวในการจดั การดแู ลผู้ปวุ ยโรคเบาหวาน ตลอดจนการปูองกันโรคเบาหวานโดยการ ปรับพฤติกรรมการใช้ชวี ติ อีกด้วย
2 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การปูองกนั การเกิดโรคเบาหวาน 1.2.2 เพ่ือใหป้ ระชาชนที่มีกลุม่ เสีย่ งเก่ียวกบั โรคเบาหวานปรับพฤติกรรมเกยี่ วกับการบริโภค 1.2.3 เพื่อไมใ่ หป้ ระชาชนที่เป็นกลุม่ เสยี่ งเกดิ ภาวะแทรกซ้อนอกี ต่อไป 1.3 กระบวนการเตรยี มฝึกโครงการพัฒนาทกั ษะวิชาชีพ 1.3.1 กรอบแนวคิดการฝกึ โครงการพัฒนาทักษะวชิ าชพี การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชพี ปัญหาด้านสุขภาพในชมุ ชนหม่บู า้ นบา้ นหลงั สอด หม่ทู 1ี่ ต. เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบ่ี ภาพท่ี 1.1กรอบแนวคิดการเตรียมฝกึ โครงการพัฒนาทักษะวิชาชพี
3 บทที่ 2 บริบทชุมชน เครอ่ื งมอื 7 ชนิ้ เครือ่ งมอื 7 ชน้ิ เป็นเครื่องมือทใี่ ชใ้ นการเข้าถงึ พน้ื ที่ของชุมชน และบ่งบอกถงึ ความส้าคัญของกลุ่ม ผคู้ นวา่ มคี วามผกู พันธุใ์ นวงศ์สกุลเดียวกัน สามารถชว่ ยแนะน้าปัญหาบางอย่างของครอบครัวที่สามารถเกิดข้ึนได้ และยังท้าให้รู้จักกลุ่มงานต่างๆ ในชุมชน สามารถเข้าหาชุมชนได้ง่ายข้ึน ได้เรียนรู้การรักษาตนเองของคนใน ชุมชน เข้าใจวิถีชีวิตของคนในชุมชนและที่ส้าคัญเป็นเคร่ืองมือท่ีใช้เป็นใบเบิกทางเพ่ือการกลมกลืนเข้าหากับ ชุมชนนน้ั 1.แผนทเี่ ดินดิน 2. ผังเครือญาติ ผงั เครือญาติ คอื การถอดความสัมพนั ธใ์ นเชิงเครือญาติ หรือเชิงสานเลอื ดในชุมชน มีความส้าคัญต่อการ ท้าความเข้าใจชุมชนและสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมเมืองหรือสังคมชนบท เพราะเครือญาติเป็นความส้าคัญที่เป็น รากฐานท่ีสุดของชีวิตครอบครัว การท้าผังเครือญาติจึงมีส่วนส้าคัญในการท้าความเข้าใจระบบความส้าคัญใน ครอบครวั และชมุ ชน
4 เป้าหมายสาคัญของผงั เครอื ญาติ 1.เข้าใจโครงสรา้ งความสมั พนั ธ์เชงิ เครอื ญาตซิ ่ึงเป็นรากฐานของครอบครวั และชุมชน 2.รจู้ กั ตวั บคุ คลและความสัมพันธ์ทางสังคมของท่านนัน้ ได้ในระยะเวลาสน้ั 3.ช่วยสร้างความสัมพันธ์และความสนิทสนมคุ้นเคยระหว่างเจ้าหน้าท่ีกับชาวบ้านได้อย่างรวดเร็วและเกิด ความไวใ้ จซง่ึ กนั และกัน 4.ท้าใหท้ ราบเกย่ี วกับสขุ ภาพหรือโรคติดตอ่ ของคนในครอบครัว เพอื่ ปูองกนั และแก้ไขปัญหาสขุ ภาพนัน้ ๆได้ สญั ลักษณแ์ ทนบคุ คลในผงั เครือญาติ สัญลกั ษณ์แทนบุคคลทีเ่ สียชีวิตแล้ว สัญลักษณ์แทนผ้ชู าย สญั ลกั ษณ์แทนผู้หญิง สัญลักษณ์แทนการแต่งงาน
นายพงษว์ ิทย์ โสหัด นายไกรศร ทิมทอง แผนผังเค นางดวงหทัย ทิมทอง นางสจุ ิต ทมิ ทอง นายบญั ชา นางรอ่ เส้ยี นายทกั ษนิ ทิม นางสุไวดะ ท ด.ช.วชริ วิทย์ โสหสั ด.ช.สรวชิ ญ์ ทมิ ทอง ด.ญ.อาญาวนิ ทมิ ทอง ด.ช.กิตตนิ ัน ทิมทอง ด.ช.ทณชั
5 ครอื ญาติ ทิมทอง ทิมทอง มทอง นายแสนสุข ทมิ ทอง ทมิ ทอง นางโสรดา ทมิ ทอง ด.ญ.ไอรดา ทิมทอง ชชา ทมิ ทอง
6
7 3.โครงสร้างองค์กรชุมชน รายชอ่ื ประธานและอาสาสมัครชมุ ชน นายสวาท แข็งแรง ประธาน นายสตั ยา ขจดั ภยั นายวรี พงศ์ กลนั ตัน รองประธาน ฝ่ายปกครองหมบู่ า้ น
8 กลมุ่ สตรี นางอริน หวงั สป หัวหน้ากลมุ่ สตรี คณะกรรมการพัฒนาสตรเี ป็นกลุ่มเปูาหมายในการดา้ เนนิ การขับเคล่อื นการด้าเนินงานจัดประชุมสตรีใน หมู่บ้านเพื่อแนะน้าการจัดท้าครอบครัวพัฒนาตามคุณลักษณะท่ีก้าหนดร่วมกับครอบครัวเปูาหมายท่ีเข้าร่วม โครงการวางแผนการพัฒนาประสานองคก์ รหน่วยงานทเี่ ก่ียวขอ้ งเพ่ือรว่ มสง่ เสรมิ และพฒั นาครอบครัว กล่มุ ผู้สูงอายุ นายสกล เพยี งกจิ หัวหน้ากลมุ่ ผู้สงู อายุ ชมรมผู้สูงอายุเป็นการรวมกลุ่มของผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน ๖๐ ปีข้ึนไปอย่างน้อย ๒๐ คนและอาจมีคนวัย อื่นท้ังวัยท้างานเด็กเยาวชนเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมทบแต่ไม่ควรเกิน ๑ ใน ๔ของสมาชิกท่ีเป็นวัยสูงอายุโดยมี วัตถุประสงค์ตรงกันในการด้าเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ท้ังต่อตนเองครอบครัวชุมชนสังคมและมีการก้าหนด ระเบียบข้อบังคับในการบริหารชมรมท้ังน้ีชมรมผู้สูงอายุอาจอยู่ภายใต้สังกัดหน่วยงานองค์กรหรืออาจเป็นชมรม อสิ ระที่ไมส่ ังกัดหน่วยงานใดกไ็ ด้
4.ระบบสุขภาพ ร้านขายข คลีนคิ รา้ นข คลนิ ิกหมอวนดิ า ระบบสุขภาพชุมชน 1 ต.เกาะลนั ตานอ้ ย สถานพยาบาล ร.พ.สต.บ้านคลองโตนด
ของชา 9 ขายยา วดั บา้ นชะอวด ศาสนา หม่ทู ่ี 1 หมบู่ ้านบา้ นหลังสอด หมู่ท่ี มัสยดิ บา้ นหลงั สอด อ.เกาะลันตา จ.กระบ่ี สถานทีอ่ อกกาลังกาย สนามกฬี าโรงเรยี นบา้ นหลงั สอด
10 5.ปฏทิ นิ ชมุ ชน กมุ ภาพนั ธ์ มนี าคม เมษายน -หอยวิ่ง -งานแตงโม -ถอื ศลื อด มกราคม กรกฎาคม มิถุนายน สงิ หาคม - กจิ กรรมวันเดก็ -แขง่ กีฬาประจา้ ต้าบล พฤศจิกายน -วันฮารรี ายอ อฎ้ิลอัฎฮา แหง่ ชาติ ธันยาคม พฤษภาคม -วันฮารรี ายอ อฎ้ลิ ฟติ รี กนั ยายน ตลุ าคม กิจกรรมภายในแต่ละเดอื น กจิ กรรม เดอื น แขง่ ขันกีฬาเด็ก มกราคม กมุ ภาพนั ธ์ กฬี าพ้นื บา้ น มีนาคม ประกวดแตงโม เมษายน ร่วมละศลี อด พฤษภาคม มิถนุ ายน เยีย่ มสุสาน สิงหาคม พบปะพ่ีน้อง แข่งกีเยาวชน เย่ียมสุสาน พบปะพี่น้อง
11 6.ประวัตศิ าสตรช์ ุมชน ประวัตคิ วามเปน็ มา บ้านหลังสอดต้งั อยทู่ ี่หมู่ 6 ตาบลเกาะลนั ตาน้อยอดีตมพี น้ื ท่กี ารปกครองขนาดใหญ่ รวมถึง 5 หมูบ่ ้านคือ พนื้ ทห่ี มู่ 2 บ้านคลองหมากหมูท่ ่ี 3บ้านทงุ่ หมูท่ ี่ 4 บ้านโต๊ะใหญ่หมูท่ ี่ 5 บ้านคลองโตนดรหมูท่ ี่ 5 บา้ น ทอนสิบงซงึ่ ในอดีตกาล นยุคการค้า สาเนาจาก จีน อาหรับ มาลายู มีการใช้เส้นทางเรือลองลงทะเลตอนใต้ ของประเทศพม่า เลยี บชายฝังลงมาภาคใต้และเข้าสู่บรเิ วณชายฝง่ั ทะเลอนั ดามนั ของประเทศไทย และได้ ถอื เอาหมูบ่ า้ นบากันเป็นเปา้ หมายในการเดินเรือเพอ่ื แวะพักผอ่ น และสภาพแนวที่มีหัวเขา และหาดทราย ยาวเป็นท่ีสังเกตได้งา่ ย จนล่วงมาสมยั หลงั ยงั มกี ารคา้ สาเภาอยู่บ้านบากันจึงเปน็ ทพี่ ักหลบลมมรสุมและเริ่ม มผี ้คู นเข้ามาพัก และต้งั หลักแหล่ งยาลายมาเปน็ ชุมชน ภายในเวลาตอ่ มา เดิมน้ีท่บี า้ นหลังสอด มชี ื่อเดมิ ว่า บา้ นทงุ่ สอด หลงั จากนั้นได้มีชายคนหนึง่ เดนิ ทางมาจากหมูบ่ ้านบากันในปพี .ศ. ๒๓๒๕ เขาได้มาเหน็ ความ อดุ มสมบูรณ์ของบ้านทุ่งสอด และหลังจากน้นั ได้ไปชกั ชวนคนจากหมู่บ้านบากันให้มาดู หลงั จากนั้นชาวบ้าน ทอ่ี ยู่บา้ นบากนั ไดย้ ้ายเข้ามาอยู่และตง้ั รกรากและได้ตง้ั ช่ือน้ี ว่าบ้านท่งุ สอดดว้ ยความอุดมสมบูรณข์ องพ้นื ที่ ชาวบ้านไดต้ กลงกันเลี้ยงสัตว์ (ควาย) ทาให้สัตวเ์ ล้ียงท่เี ลี้ยงไว้แพรพ่ ันธอ์ ยา่ งรวดเร็วและในเวลาต่อมาได้มี โจรมาขโมยสัตว์ (ควาย) ที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไวไ้ ป“ สอด” หรอื เรยี นอีกอย่างหนึ่งวา่ “ ขอน” หลงั จากนนั้ ชาวบา้ นท่ีเล้ียงสตั ว์ไว้ (ควาย) ได้ออกมาตามหาจนเจอโจรได้ขโมยเอาไปซ่อนไวท้ ่ีหลังเขาบา้ น ทุง่ สอด นบั ตง้ั แต่นน้ั มาชาวบ้านทุกคนเลยเปลย่ี นจากบ้านทุ่งสอดมาเป็นบา้ นหลังลอดจนถงึ ปัจจบุ ัน ขนาดพืน้ ท่ีหมู่บ้าน มเี นือ้ ท่ีประมาณ-10,000ไร่ แยกเปน็ พืน้ ทเี่ พื่ออาศัยประมาณ-200ไร่ เป็นทที่ าการเกษตรประมาณ-5000ไร่ พ้ืนทสี่ าธารณะประมาณ 480ไร่ เขตพืน้ ที่ ทศิ เหนือตดิ กับหมู่ 10 บ้านขนุ สมุทร ตาบลเกาะกลาง ทศิ ไตต้ ิดกบั หมู่5 บา้ นคลองโตนด ตาบลเกาะลนั ตานอ้ ย ทศิ ตะวนั ออกติดกับหมู่ 2 บ้านคลองหมาก ตาบลเกาะลนั ตาน้อย ทิศตะวันตกติดทะเลอนั ดามัน อาชีพ อาชีพหลัก ประกอบอาชพี ท้านาและท้าสวน อาชพี เสริม ค้าขาย
12 7.ประวตั ิบคุ คลสาคัญ ข้อมลู ทวั่ ไป ชอ่ื นายสัมฤทธิ์ ห้าหวา เกิดเมื่อวันที่ 15 กมุ ภาพนั ธ์ 2502 ปัจจุบัน อายุ 61 ปี สัญชาติ ไทย ศาสนา อสิ ลาม ที่อยู่อาศยั บา้ นเลขที่ 102 หมู่ที่ 1 ต.เกาะลนั ตานอ้ ย อ.เกาะลันตา จ.กระบ่ี มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน ตนเปน็ บตุ รคนท่ี3 ประวัติดา้ นการศกึ ษา -ป4โรงเรยี นบ้านหลงั สอด -ป7โรงเรียนบา้ นศาลดาน -มส3โรงเรียนคลองท่อมราษฎร์รงั สรรค์ -โรงเรยี นนครพณชิ ยการ จังหวดั นครศรธี รรมราช ประวัตดิ ้านการทางาน -ลกู จา้ งเกรษตร -ผู้ใหญ่บา้ น 5ปี -ตัวแทนais 5ปี
13 บทที่ 3 การวนิ ิจฉยั ชุมชน การศกึ ษาชุมชนหม่ทู ่ี1บา้ นบา้ นหลงั สอด ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบี่ในครั้งนี้เปน็ การศึกษา ในรูปแบบ การส้ารวจ สงั เกต การสมั ภาษณ์ ซงึ่ มีข้นั ตอนในการวนิ ิจฉยั ชมุ ชนมีดงั น้ี การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูล ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล ปญั หาและการจัดลา้ ดับความส้าคญั ของปัญหา การวเิ คราะหส์ าเหตุของปญั หา 3.1 การเก็บรวบรวมข้อมลู 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมิ เปน็ การเก็บข้อมลู เพิ่มเติมจากแหลง่ ทุตยิ ภูมิ ซึ่งข้อมผุลดังกล่าวมีความสา้ คัญ มาก เพราะช่วยใหม้ องเหน็ สภาพปญั หาในชุมชนชดั เจนขน้ึ และข้อมลู ท่ีได้เป็นข้อมูลปจั จุบนั มากทีส่ ดุ วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมลู ปฐมภมู ปิ ระกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสังเกต เปน็ การสังเกตสภาพทว่ั ไปของชุมชนและพฤติกรรมต่างๆ ของประชาชนในชมุ ชน โดยท่ีผู้ถกู สงั เกตไมร่ ู้ตัว เพื่อน้าข้อมูลมาสนับสนนุ ในการวิเคราะห์ปัญหา 3.1.1.2 การสมั ภาษณ์ เป็นการสัมภาษณจ์ ากแบบสอบถามทเี่ ตรยี มคา้ ถามต่างๆ ไว้พรอ้ มแลว้ และจัดพิมพไ์ ว้ เปน็ แบบฟอรม์ เดยี วกนั สา้ หรับใช้กับผถู้ ูกสอบถามทุกคน โดยคา้ ถามจะเป็นท้งั ค้าถามแบบปลายปิดและแบบ ปลายเปดิ เพ่อื เปิดโอกาสใหผ้ ู้ถกู สัมภาษณ์แสดงความคดิ เห็น 3.1.2 การรวบรวมข้อมูลทุติยภมู ิ เป็นการรวบรวมข้อมลู ทุติยภมู ิ หรือข้อมลู ท่รี วบรวมไวเ้ ป็นองค์กรในหมู่บา้ น ซึง่ ขอ้ มูลดงั กล่าวนัน้ ท้าให้ทราบวา่ ควรหาขอ้ มลู ด้านใดเพม่ิ เตมิ เพ่ือนา้ มาใช้ในการสนับสนุนในกระบวนการคิด วิเคราะหป์ ัญหา การเก็บรวบรวมขอ้ มูลโดยใช้แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 5 ขัน้ ตอน ดังน้ี ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่วั ไป ตอนท่ี 2 ข้อมูลความรเู้ กย่ี วกับโรคเบาหวาน ตอนที่ 3 ข้อมูลด้านสุขภาพในชุมชน ตอนที่ 4 ข้อมลู ความรู้เกย่ี วกับโรคเบาหวาน ตอนท่ี 5 ข้อมูลความร้เู กยี่ วกับการดูแลสขุ ภาพเบ้อื งต้น 3.2 การวเิ คราะห์ข้อมลู
14 ข้อมูลท่ีได้จากการรวบรวมนั้นจะนา้ มาวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนการวิเคราะห์ข้อมลู ดังนี้ 3.2.1 บรรณาธิการข้อมูลดบิ เป็นการตรวจสอบความถกู ต้องและความสมบรู ณ์ของขอ้ มลู 3.2.2 การแจกแจงความถ่ี โดยใชโ้ ปรแกรมส้าเร็จรูป แลว้ น้ามาวเิ คราะห์ข้อมูลในรปู แบบ ร้อยละ และ น้าเสนอในรูปแบบกึ่งบทความ กงึ่ ตารางเพ่ือความสะดวก การเปรยี บเทยี บข้อมลู ส้าหรบั ข้อมูลเชิงปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มลู เชงิ ปริมาณคุณภาพ นา้ เสนอในรูปแบบบทความ เพื่อความเขา้ ใจ 3.3 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู จากการศึกษาชุมชนหมทู่ 1ี่ บา้ นบา้ นหลงั สอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบ่ีจ้านวนครัวเรอื น โดยประมาณ 10 หลังคาเรือน ได้รวบรวมข้อมลู จากรายงานตา่ งๆ จากสา้ นกั งานกระทรวงสาธารณสุข จงั หวดั กระบ่ีและอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจ้าหมบู่ ้านในชมุ ชน ซงึ่ จะน้าเสนอตามล้าดบั ดังต่อไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มูลทัว่ ไป จากการส้ารวจแบสอบถามประชาชนในชมุ ชน หม่ทู ี่ 1 บ้านบา้ นหลังสอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ทา้ ให้ทราบถงึ บริบทของชมุ ชน และปญั หาดา้ นสขุ ภาพ ตางรางที่ 1แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามในดา้ นเพศ N=10 เพศ จ้านวน รอ้ ยละ เพศชาย 3 30 % เพศหญงิ 7 70% รวม 10 100 % จากตาราง 1 พบว่า ประชาชนกลุ่มตัวอย่างในชุมชนมีเพศสภาพส่วนใหญ่พบว่าเป็นเพศหญิงมากท่ีสุด รอ้ ยละ 70 และเปน็ เพศชายร้อยละ 30 สรปุ ไดว้ ่า คนในชุมชน สวนใหญ่เปน็ เพศหญงิ มากกว่าเพศชาย ตางรางที่ 2แสดงคา่ ร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามในดา้ นอายุ N=10
15 อายุ จา้ นวน ร้อยละ 1. ต่้ากว่า 20 ปี -- 2. 20-30 ปี 1 10% 3. 31-40 ปี 5 50% 4. 41-50 ปี 2 20% 5. 51-60 ปี 2 20% 6. 60 ปีขึ้นไป -- รวม 10 100% จากตาราง2 พบว่า ประชาชนกลุ่มตัวอย่างในชุมชนส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 20-30 ปีขึ้นไป ร้อยละ 10 และอายุอยูใ่ นช่วง 31-40 ปี ร้อยละ 50 และอายุอยู่ในชว่ ง41-50 ปี รอ้ ยละ 20 และอายุอยู่ในช่วง 51-60 ปี ร้อยละ 20 สรปุ ไดว้ ่าผู้แบบสอบถามอยู่ในช่วงอายุ 30 ปีข้ึนไป จากตารางท่ี 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอายุส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุต่้ากว่า 30 ปี ร้อยละ 30 ช่วงอายุ 30ปีขน้ึ ไป ร้อยละ 70 สรปุ ไดว้ ่าประชากรในชุมชนท่ี ตางรางที่ 3แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านสถานภาพ N=10 จ้านวน ร้อยละ สถานภาพสมรส โสด 3 30 % สมรส 7 70% หยา่ ร้าง -- หม้ายเนื่องจากคสู่ มรสเสียชวี ิต - - รวม 10 100 % จากตารางท่ี3 พบว่าสถานภาพของประชาชนกลุ่มตวั อย่างส่วนใหญส่ มรส รอ้ ยละ 70 รองลงมามี สถานภาพโสด ร้อยละ 30 สรปุ ได้วา่ ประชากรในชมุ ชนสว่ นใหญท่ ่ีทา้ แบบสอบถามมีสถานภาพสมรสเป็นส่วน ใหญ่
16 ตารางท่ี 4แสดงคา่ รอ้ ยละของสถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามในดา้ นระดับการศึกษาสูงสดุ N=10 ระดับการศึกษาสูงสุด จ้านวน ร้อยละ ประถมศกึ ษา 3 30% มธั ยมศึกษาตอนต้น 2 20% มธั ยมศึกษาตอนปลาย 3 30% อนุปรญิ ญาตรี/ปวส. - - ปรญิ ญาตรี 2 20% ปรญิ ญาโท - - รวม 10 100 % จากตาราง4 พบว่า ประชาชนกล่มุ ตวั อย่างในชุมชนสว่ นใหญศ่ ึกษาอย่ใู นระดับประถมศึกษา รอ้ ยละ 30 รองลงมาศึกษาอย่ใู นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รอ้ ยละ30 รองลงมาศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ร้อยละ20 และรองลงมาศกึ ษาอยใู่ นระดบั ปรญิ ญาตรีขึน้ ไป ร้อยละ20 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ท่ที า้ แบบสอบถามมีระดับประถมศึกษาข้ึนไป ตารางที่ 5แสดงคา่ รอ้ ยละของสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอาชีพหลักของครอบครัว N=10 อาชพี หลักของครอบครัว จา้ นวน รอ้ ยละ รบั จา้ งทัว่ ไป 1 10 % เกษตรกร 5 50 % ประมง - - ขา้ ราชการ/ลกู จา้ งหรือ 2 20 % พนักงานของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ - - เจ้าหนา้ ทีอ่ งค์กรปกครองส่วน - -
17 ท้องถน่ิ คา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตัว -- พนกั งาน/ลูกจ้างเอกชน 2 20 % ว่างงาน/ไม่มีงานทา้ -- รวม 10 100 % จากตาราง 5 พบวา่ ประชาชนกลุ่มตวั อย่างในชมุ ชนส่วนใหญ่มอี าชพี เกษตรกร ร้อยละ 50 รองลงมาจะ ประกอบอาชีพขา้ ราชการ/ลกู จ้างหรอื พนักงานของรัฐ ร้อยละ20 รองลงประกอบอาชพี พนกั งาน/ลกู จ้างเอกชน ร้อยละ 20 และประกอบอาชีพรบั จา้ งทัว่ ไป ร้อยละ 10 สรปุ ได้ว่า ประชากรส่วนในชุมชนสว่ นใหญ่ที่ท้า แบบสอบถามอาชพี หลักของครอบครัวคือ อาชีพเกษตรกร ตารางท่ี 6แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นโรคประจาตัว N=10 โรคประจ้าตวั จ้านวน ร้อยละ ไมม่ โี รคประจา้ ตวั 6 60% มโี รคประจา้ ตวั 4 40% รวม 10 100% จากตารางที่ 6 พบว่า ประชาชนกลุ่มตัวอย่างในชุมชนส่วนใหญ่ไม่มีโรคประจ้าตัว ร้อยละ 60และมีโรค ประจ้าตวั ร้อยละ40 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชมุ ชนส่วนใหญท่ ีท่ ้าแบบสอบถามไม่มโี รคประจ้าตัว
18 ตางรางที่ 7แบบสอบถามข้อมลู สภาพปญั หาของประชาชนด้านเศรษฐกิจ มากทีส่ ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยทส่ี ดุ ที่ ปญั หาด้านเศรษฐกจิ 543 21 1 รายได้จากการประกอบอาชีพหลกั 10% 30% 30% 30% - ไมเ่ พียงพอ 2 ไมม่ ีอาชีพเสริม 20% 10% 40% 20% - 3 กเู้ งนิ จากหนี้นอกระบบและใน 10% 20% 20% 30% 20% ระบบเพ่ิมข่ึน 4 มรี ายได้ไม่เพยี งพอในการใช้จ่าย - 40% 40% 20% - ประจ้าเดือน.ในครวั เรอื น 5 มหี นสี้ นิ เพม่ิ ขน้ึ จากการประกอบ 20% 30% 40% 10% อาชีพ 6 การวา่ งงานของคนในชุมชน - 70% 10% 20% - เพิ่มขึ้น 7 ขาดทีด่ นิ ท้ากินเปน็ ของตนเอง - 40% 20% 20% 10% 8 เกดิ ภัยแล้งซ้าซากในชมุ ชน - 20% 60% - 10% 9 มกี ารเล่นการพนันในชุมชน - 40% 20% 30% - 10 ขาดความรูเ้ ก่ยี วกับเศรษฐกิจ - 30% 20% 40% พอเพียง จากตารางท่ี 7พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามข้อมูลสภาพปญั หาของปาะชาชนดา้ นเศรษฐกิจ สรปุ ไดว้ ่าปญั หา ทางด้านเศรษฐกจิ มีค่าเฉลีย่ เลขคณิตสูงที่สดุ คือ 3.7 และมคี ่าเบี่ยงเบนเลขมาตรฐานอยู่ที่ 0.42
19 ตารางท่ี 8แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านสงั คม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ที่ ปญั หาดา้ นสังคม ทสี่ ุด กลาง ทส่ี ุด 54 3 21 1 ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพิ่มข้นึ 30% 30% 20% 10% - 2 กลุ่มคนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซึ่ง – 20% 60% 20% - กันและกันทะเลาะเบาะแวง้ กัน ขาด ความสามัคคี 3 คนในชมุ ชนขาดจิตสา้ นึกในการ - 30% 50% 20% - พฒั นาตนเอง 4 คนในชมุ ชนขาดความชว่ ยเหลอื และ - - 70% 30% - เอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ 5 ความเหลื่อมล้าทางสงั คมของคนรวย - - 60% 30% - และคนจน ในชุมชน 6 สขุ ลักษณะเช่น ขยะมลู ฝอย/ฝุน - 20% 70% 10% - ละอองมลพิษใน ชมุ ชนเพม่ิ ขึน้ 7 ขาดสวสั ดิการของหมู่บ้าน - 30% 50% 20% - 8 ความเช่อื และประเพณีของหมูบ่ ้าน - 10% 50% 30% - ทา้ ใหข้ ัดแย้ง ทางสงั คม 9 เยาวชนทะเลาะวิวาทและไม่ได้เรยี น - 10% 50% 20% 10% ตอ่ 10 ขาดคนกลางในการแก้ปัญหาความ 10% 20% 20% 30% 20%
20 ขัดแย้งของคน ในหมบู่ ้าน จากตารางที่ 8 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของปาะชาชนด้านสังคม สรุปได้ว่า ปัญหาทางดา้ นสงั คม มคี ่าเฉล่ียเลขคณติ สงู ทีส่ ุด คอื 3.8 และมีค่าเบย่ี งเบนเลขมาตรฐานอย่ทู ี่ 0.48 ตารางท่ี 9แบบสอบถามข้อมูลสภาพปญั หาของประชาชนปญั หาดา้ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ท่ี ปญั หาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ที่สุด กลาง ทส่ี ุด สิ่งแวดล้อม 54 3 21 1 ระบบสาธารณปู โภคบริโภคของชมุ ชน เช่น - 40% 40% 20% - นา้ ประปาและไฟฟูาไม่เพียงพอ 2 ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมกี ารดแู ลความ - 30% 20% 30% 20% สะอาดของหมบู่ า้ น 3 ปาุ เสอื่ มโทรมและมีการทา้ ลายทรัพยากรของ - 40% 20% 40% - ชุมชนเพ่มิ ข้ึน 4 ประชาชนในชมุ ชนขาดความรใู้ นการบรหิ าร - 40% 20% 30% - จัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ ชมุ ชน 5 ขาดการมสี ่วนร่วมในการบริหารจดั การ - 40% 30% 30% - ทรพั ยากรธรรมชาติของคนในชุมชน
21 6 ประชาชนในชมุ ชนขาดจิตส้านกึ ในการอนุรักษ์ - 50% 30% 20% - ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มของชุมชน จากตารางที่ 9พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพ ปญั หาดา้ นการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติ สรุปไดว้ า่ ปญั หาดา้ นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ มคี ่าเฉลี่ยเลขคณติ สูงที่สดุ คือ 3.5และมคี ่าส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานอยู่ ที่ 0.71 ตารางท่ี 10แบบสอบถามข้อมูลสภาพปญั หาของประชาชนด้านอ่นื ๆ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ท่ี ปัญหาดา้ นอนื่ ๆ ที่สดุ กลาง ทส่ี ดุ 54 3 2 1 1 ประชาชนขัดแย้งแบ่งพรรคแบ่ง - - 60% 30% 20% พวก 2 เยาวชนขาดจติ สา้ นกึ ในชว่ ยเหลือ - 10% 60% 30% - กัน 3 ขาดแคลนแหล่งเงนิ ทุนเพือ่ พัฒนา - 30% 30% 10% 30% อาชพี 4 ขาดแหล่งน้า เพ่ือการเกษตรเพ่ือ - 40% 40% 10% 10% การประกอบอาชีพ 5 การประสานงานกบั ภาครฐั ไม่ - 30% 50% 20% - ตอ่ เนื่อง จากตารางท่ี 10พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาด้านอืน่ ๆ สรุปไดว้ า่ ปญั หาด้านอื่นๆ มีคา่ เฉล่ีย เลขคณิตสูงท่ีสุด คือ 3 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.52
22 ตารางที่ 11แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนดา้ นสุขภาพ บ่อย บอ่ ย นานๆ บางครงั้ ไมเ่ คย 2 1 ที่ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและ ที่สดุ คร้งั ครอบครวั 54 3 1 ประจา้ วันทา่ นทานอาหารครบ 3 มอื้ 60% 40% - - - 2 ทา่ นทานอาหารแต่ละมอื้ ครบทงั้ 5 หมู่ 10% 50% 40% - - 3 ทา่ นดม่ื เหลา้ 10% - 20% 10% 60% 4 ท่านชอบสูบบหุ รี่ - - - 30% 70% 5 ท่านออกก้าลงั กาย 40% 10% 20% 30% - 6 ท่านนอนหลับพกั ผอ่ น 8 ชม. - 40% 40% 20% - 7 ทา่ นล้างมือทกุ คร้งั ก่อนรบั ประทาน 50% 30% 20% - - อาหาร 8 ท่านตรวจสุขภาพเปน็ ประจา้ ทกุ ปี 20% 20% 30% - 30% 9 เม่อื มีไขห้ รืออาการเจบ็ ปุวยท่านซ้ือยา - 10% 60% 30% - ทานเอง 10 เมอ่ื ทา่ นมีอาการเจบ็ ปุวยทา่ นท้าตาม 40% 30% 20% 10% - คา้ แนะน้าของแพทย์อย่างเคร่งครดั 11 เม่อื ทา่ นมอี าการไขห้ รืออาการเจบ็ ปุวย 50% 20% 20% 10% - ท่านไปสถานพยาบาล เชน่ รพสต. รพ. คลนิ กิ 12 เม่ือเกดิ เหตุฉุกเฉินท่านโทร 1669 30% - 30% - 40% จากตารางที่ 11 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามข้อมูลสภาพปญั หาดา้ นสขุ ภาพ สรปุ ไดว้ ่า ปญั หาด้านสุขภาพ มี ค่าเฉล่ยี เลขคณิตสงู ท่สี ดุ คือ 1และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.71
ตารางท่ี 12แสดงค่าเฉลย่ี ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานของปัญหาในชุมชน 23 ปญั หา x S.D. ปญั หาดา้ นเศรษฐกิจ 3.18 0.19 ปญั หาดา้ นสงั คม 2.98 0.21 ปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม 3.17 0.09 ปญั หาดา้ นสขุ ภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตัวเองและครอบครวั 2.96 0.14 ปัญหาดา้ นอื่นๆ 2.58 0.27 ค่าเฉลยี่ รวม 3.00 0.18 จากตารางที่ 12 สรปุ ได้ว่า ปญั หาปญั หาด้านเศรษฐกจิ มีค่าเฉลยี่ เลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.18และมคี า่ เบี่ยงเบน มาตรฐานอยทู่ ี่ 0.19รองลงมาคือมีด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมมคี ่าเฉล่ียเลขคณติ สูงทสี่ ดุ คอื 3.17 และมคี ่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.09 สรุปการทาประชาคมชุมชนหม่บู ้านบ้านหลังลอด หมู่ท่ี1ต.เกาะลันตานอ้ ย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบี่ วนั พุธ ที่8 เมษายน 2563 เวลา 14.00-16.00 น. ทศ่ี าลาประชมุ ประจ้าหมู่บ้านบ้านหลงั ลอด หมทู่ ี่1ต.เกาะลัน ตานอ้ ย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบี่ผตู้ อบแบบสอบถาม 10 ชุด สรุปปญั หาของชมุ ชนหมูบ่ ้านบ้านหลังลอด หมู่ท่ี1ต. เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบ่ี 1. ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีคา่ เฉลี่ย 3.18 มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยูใ่ นเกณฑ์ปานกลาง 2. ปญั หาด้านสังคม มีคา่ เฉล่ีย2.98 มคี า่ ระดบั ความพงึ พอใจ อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง 3. ปญั หาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม มีค่าเฉลยี่ 3.17มี คา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยูใ่ น เกณฑ์ปานกลาง 4. ปัญหาด้านอ่นื ๆ มีค่าเฉล่ยี 2.58 มีคา่ ระดับความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 5. ปัญหาด้านสขุ ภาพ มคี ่าเฉลยี่ 2.9 มคี ่าระดบั ความพึงพอใจ อยูใ่ นเกณฑ์ปานกลาง นักศกึ ษาได้เล็งเหน็ วา่ ปัญหาด้านสขุ ภาพ ท่มี ีคา่ ระดับความพงึ พอใจ อยู่ในเกณฑ์น้อย ท่ีควรได้รบั การแกไ้ ข ทาง นกั ศกึ ษาจงึ ไดม้ าทา้ ประชาคมในวนั และเวลาดังกลา่ ว
24 การคดิ คะแนนจัดลาดบั ความสาคัญของปัญหาด้านสุขภาพ คะแนนรวม เกณฑ์การจดั ความสาคญั ของปัญหาของ John J.Hanlon วธิ บี วก วธิ คี ูณ A=ขนาดของปัญหาให้คะแนนระหว่าง 0-10 B=ความรนุ แรงของปญั หา ใหค้ ะแนนระหว่าง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏิบตั งิ าน ใหค้ ะแนนระหว่าง 0-10 D = ข้อจ้ากดั ให้คะแนน 0-1 สูตร Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 คะแนนขององค์ประกอบ ปัญหา ขนาดของ ความ ความยาก ความ ปญั หา รนุ แรง งา่ ย สนใจ 1.ไขห้ วัดใหญ่ 7 14 3 1 25 294 2.ไขเ้ ลอื ดออก 3 64 1 17 72 3.โรคเบาหวาน 4 85 1 18 160 4.ติดสรุ าเรอ้ื รงั 5 10 5 1 21 250 5.โรคเกีย่ วกบั ข้อและกระดูก 4 86 1 18 192 จากตารางพบว่า ปัญหาชุมชนอนั ดบั ท่ี 1 คอื ไข้หวดั ใหญ่ อันดับที่ 2 คอื สรุ าเร้อื รัง อันดบั ที่ 3 คอื โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดกู อนั ดับท่ี 4 คือ โรคเบาหวาน และล้าดบั ที่ 5 คอื ไข้เลือดออก ตามล้าดบั ที่มา : ภาควชิ าเวชศาสตรช์ ุมชน คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ( รศ.ดร.เพญ็ ประภา ศิวิโรจน์ )[email protected]
25 บทท่ี 4 แผนงานโครงการ จากการส้ารวจชมุ ชนหมู่ท่ี1 บ้านบ้านหลงั สอด ต.เกาะลันตานอ้ ย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ได้ลงสา้ รวจพ้นื ท่ี โดยใช้ แบบสอบถามข้อมลู วเิ คราะห์เพ่ือจดั ล้าดบั ความส้าคัญของปัญหา เพื่อหาวิธกี ารแกป้ ญั หาให้กบั ชมุ ชน จาก การศกึ ษาพบว่าชุมชนมปี ัญหาดา้ นสุขภาพของคนในชมุ ชน เป็นอนั ดบั แรก ดังนั้น จึงน้าปญั หาดา้ นสุขภาพ โรคเบาหวาน มาจัดโครงการเพือ่ ให้ความรกู้ ับคนในชุมชน เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคมุ ปอู งกันโรคไขห้ วัดใหญ่ทีถ่ ูกวธิ ีและเหมาะสม 4.1แผนงาน / โครงการ จากปัญหาท่ีพบ พบว่าเป็นปัญหาทที่ างชมุ ชนมีความต้องการให้ด้าเนนิ การ จากปญั หาดังกลา่ ว จึงได้ จัดท้าโครงการเพ่ือแกป้ ัญหาสุขภาพของชมุ ชน 1โครงการโดยมรี ายละเอยี ดดังน้ี ชอ่ื กิจกรรม/โครงการ : อบรมให้ความรู้เก่ียวกบั การดูแลเบาหวาน ชื่อ-สกลุ ผสู้ นอกจกิ รรม/โครงการ : นายวรวิท สร้างสม สังกัด : หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี ชนั้ สูงสาขาปฏบิ ตั ิการฉุกเฉนิ การแพทย์ ร่นุ ท่ี 15 ชั้น ปีที่2 1.หลักการและเหตผุ ล/ท่มี า/ปญั หา 1.1 หลักการและเหตุผล โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM) เป็นภาวะที่ร่างกายมนี า้ ตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนอื่ งจากการขาด ฮอรโ์ มนอินซูลิน (Insulin) หรือการดื้อต่อฮอรโ์ มนอินซลู ิน สง่ ผลใหก้ ระบวนการดดู ซมึ น้าตาลในเลอื ดให้เป็น พลังงานของเซลลใ์ นรา่ งกายมีความผิดปกตหิ รือทา้ งานได้ไม่เตม็ ประสทิ ธิภาพ จนเกิดนา้ ตาลสะสมในเลอื ด ปรมิ าณมาก หากปล่อยใหร้ า่ งกายอยใู่ นสภาวะน้เี ป็นเวลานานจะทา้ ให้อวยั วะต่าง ๆ เส่ือม เกิดโรคและอาการ แทรกซ้อนขึ้น จากข้อมลู ของสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation: IDF) พบผปู้ ุวย โรคเบาหวานทวั่ โลกราว 425 ลา้ นคนในปี 2560 และคาดการณว์ า่ จะมจี ้านวนผปู้ วุ ยดว้ ยโรคน้ีมากถงึ 629 ลา้ น คนในปี 2588 สา้ หรับสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทยพบวา่ คนไทยช่วงอายุ 20-79 ปี เป็น โรคเบาหวานรอ้ ยละ 8.3 หรือหมายความวา่ ใน 100 คน จะพบคนทป่ี ุวยเป็นโรคเบาหวานประมาณ 8 คน และ จา้ นวนมากกวา่ คร่ึงไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคเบาหวาน สถติ กิ ารพบผปู้ ุวยด้วยโรคน้ียังมีจ้านวนมากข้ึนเรื่อย ๆ จนท้าให้ตอ้ งมกี ารรณรงค์อยา่ งตอ่ เนื่องถึงภัยร้ายของโรค เพราะเปน็ โรคเร้ือรงั ทร่ี ักษาไม่หายขาด มโี อกาสเสี่ยง
26 ต่อโรคแทรกซ้อนลุกลามใหญ่โตจนตอ้ งสูญเสียอวัยวะทส่ี า้ คัญของรา่ งกาย ทางสหพนั ธ์เบาหวานนานาชาติ และ องค์การอนามัยโลก (WHO) จงึ ไดก้ ้าหนดใหว้ นั ที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปเี ปน็ วันเบาหวานโลก เพื่อให้ตระหนกั ถึงความสา้ คัญของโรคน้ี ในปัจจบุ นั ประเทศไทยยึดหลกั เกณฑ์ตามสมาคมเบาหวานแหง่ ประเทศสหรัฐอเมริกาในการจา้ แนกผปู้ ุวย โรคเบาหวานด้วยการตรวจปริมาณนา้ ตาลในเลือด หากผลการตรวจหลงั งดอาหารและเครอื่ งดื่มมนี ้าตาลอยู่ กระแสเลือดไม่เกิน 100 มลิ ลกิ รมั ตอ่ เดซลิ ติ ร แสดงวา่ ระดับนา้ ตาลในเลือดปกติ ท้ังนี้ระดับน้าตาลในเลือดยังบง่ บอกถึงภาวะเส่ียงต่อการเป็นเบาหวานไดด้ ว้ ย (Prediabetes) ซึ่งผู้ที่อย่ใู นกล่มุ เสยี่ งต่อภาวะเปน็ เบาหวาน สามารถพัฒนาการเกิดโรคเบาหวานประเภทท่ี 2 (เบาหวานทเ่ี กิดจากการท่ีตับอ่อนผลติ ฮอร์โมนอนิ ซลู นิ ได้ไม่ เพียงพอต่อการใช้) โรคหวั ใจ และโรคหลอดเลือดในสมองในอนาคตได้งา่ ยขนึ้ 1.1 วัตถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพอ่ื ให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การปูองกนั การเกดิ โรคเบาหวาน 1.2.2 เพ่อื ใหป้ ระชาชนทม่ี กี ลมุ่ เสยี่ งเกี่ยวกบั โรคเบาหวานปรบั พฤติกรรมเกยี่ วกับการบริโภค 1.2.3 เพอื่ ไม่ใหป้ ระชาชนทเ่ี ปน็ กลุ่มเสีย่ งเกดิ ภาวะแทรกซ้อนอีกต่อไป 1.3 กล่มุ เป้าหมาย อสม. และตัวแทนครัวเรือนหมูท่ 1ี่ บ้านบา้ นหลังสอด ต.เกาะลนั ตานอ้ ย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบี่จ้านวน 120 คน 1.4 เปา้ หมาย 1.4.1 เปา้ หมายเชงิ คุณภาพ - ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลและปูองกนั โรคเบาหวาน 1.4.2 เปา้ หมายเชงิ ปริมาณ - อสม. และตัวแทนครัวเรือนหมทู่ 1่ี บา้ นบ้านหลงั สอด ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบี่ เขา้ รว่ มโครงการรอ้ ยละ 60 1.5 ระยะเวลาดาเนินการ ตง้ั แต่วันที่ 8 เมษายน –11 เมษายน 2563 1.6 ดัชนีตวั ช้ีวดั ความสาเรจ็ 1.6.1 ประชาชนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคมุ ปอู งกนั โรคเบาหวาน 1.6.2ไดร้ ับความรว่ มมือจากประชาชนทุกครวั เรือนในการดูแลและปูองกันตนเองเปน็ อย่างดี
27 1.7 ผรู้ ับผิดชอบโครงการ นายวรวทิ สรา้ งสม นักศกึ ษาหลักสูตรฉุกเฉนิ การแพทย์รุ่นที่ 15 ชั้นปีที่ 2 1.8 สถานท่ดี าเนนิ โครงการ ศาลาประจ้าหมู่ท1่ี บ้านบ้านหลงั สอด ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบ่ี 1.9 ผลท่คี าดว่าจะได้รับ 1.9.1 ประชาชนมีการตื่นตัวในการปูองกนั ตนเองใหห้ า่ งไกลจากเบาหวาน 1.9.2 เกดิ ความเข้มแข็งขึ้นภายในครอบครัว ชมุ ชน และลดปัญหาการเกิดโรคเบาหวาน 2.แผนการดาเนินงาน 2.1 วธิ ีการดาเนนิ งาน กระบวนการ กิจกรรม เวลาดาเนนิ การ ผู้รบั ผดิ ชอบ การวางแผน 1. ประชุมวางแผน กา้ หนดวตั ถุประสงค์ 8 เมษายน นายวรวิท สรา้ งสม งบประมาณ ดัชนีชี้วัดความส้าเร็จ พัฒนา 2563 นกั ศึกษาหลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ โครงการฉบับสมบูรณเ์ พ่อื ขออนมุ ัติ ร่นุ ท่ี 15 ช้ันปีที่ 2 2. เม่ือโครงการได้รับอนุมัติแล้ว จึง มอบหมายหน้าที่รับผิดชอบภายในกลุ่มพร้อม ท้ังประสานผู้ที่เก่ียวข้อง ประสานงานชุมชน จดั เตรยี มวสั ดุ อปุ กรณท์ ี่ตอ้ งใช้
การปฏิบตั ิ 1.จดั โครงการตามกาหนดการ 9 เมษายน 28 1.1 วนั จดั กิจกรรม 2563 1.1.1 ทา้ แบบทดสอบก่อนให้ความรู้ นายวรวิท สร้างสม 1.1.2 การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ นักศกึ ษาหลักสูตรฉุกเฉนิ การแพทย์ เบาหวานและวิธกี ารปอู งกนั เบาหวาน รุ่นท่ี 15 ชน้ั ปีท่ี 2 1.1.3 กิจกรรมตอบค้าถามเกี่ยวกับความรู้ โรคเบาหวาน 1.1.4 จดั กิจกรรมกลุ่ม ระดมสมองภายใน กลมุ่ 1.1.6 ท้าแบบทดสอบหลังให้ความรู้ 1.1.7 ทา้ แบบประเมินความพึงพอใจ 1.2 วนั เดินรณรงค์ 1.2.1 ให้ความร้เู ร่ืองเบาหวาน 1.2.2 เดินรณรงค์ปูองกันโรคเบาหวาน 1.2.3 แจกแผน่ พบั เกย่ี วกับโรตเบาหวาน กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผู้รับผดิ ชอบ ประเมนิ ผล ประเมนิ ผลตามวตั ถปุ ระสงคด์ ้วย 9 เมษายน นายวรวทิ สรา้ งสม การปรบั ปรุง 1.แบบลงทะเบยี นเข้าร่วมโครงการ 2563 นกั ศึกษาหลักสตู รฉุกเฉนิ การแพทย์ หรอื น้าผลการ 2.ประเมินความรูก้ อ่ น-หลงั ให้ความรู้ รุน่ ท่ี 15 ช้ันปที ่ี 2 ประเมินไปใช้ 3.สั ง เ ก ต ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง ผู้ เ ข้ า ร่ ว ม 10เมษายน ประโยชน์ โครงการ 2563 นายวรวิท สร้างสม 1. ประชมุ ผจู้ ัดทา้ โครงการเพ่ือสรุปผลการ นักศกึ ษาหลักสตู รฉุกเฉินการแพทย์ ด้าเนินงานและเสนอแนะแนวทางเพ่ือ รนุ่ ที่ 15 ช้นั ปที ่ี 2 ปรบั ปรงุ พฒั นา
29 2.2 ผลการดาเนินงาน 2.2.1 การดาเนินงานในขัน้ ตอนการวางแผน - ประสานงานกับแกนนา้ อสม.หมู่ท1ี่ บา้ นบา้ นหลงั สอด ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบี่ นายวรวทิ สรา้ งสม นกั ศึกษาหลักสตู รฉกุ เฉนิ การแพทย์ จัดประชุมกนั กับแกนน้าอสม.หมู่ท่ี 1 เพอ่ื สอบถามปัญหาต่างๆทีเ่ กดิ ข้ึนในชมุ ชน และไดม้ ีการประชมุ กันภายในกลมุ่ เพ่อื วางแผนการด้าเนนิ งานกา้ หนด วตั ถปุ ระสงค์ วางแผนการใช้งบประมาณ หนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบ เพอ่ื ใหก้ ารดา้ เนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมี ประสิทธภิ าพ - ตดิ ตอ่ ประสานงานกับผู้ท่เี กี่ยวขอ้ งในชมุ ชน นายวรวทิ สร้างสม นักศกึ ษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ได้ตดิ ตอ่ จัดการขอสถานท่ีในการทา้ กิจกรรม เพอ่ื ใหก้ ารด้าเนนิ งานโครงการเปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ - ตดิ ต่อขอใชส้ ถานที่ 2.2.2การดาเนนิ งานในขั้นตอนการปฏิบตั ิ - เสนอร่างโครงการและปรบั แกไ้ ขโครงการรณรงค์ปูองกนั และควบคุมโรคเบาหวาน หมู่ที1่ บา้ นบา้ น หลังสอด ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ - จดั เตรียมเอกสารในการท้าโครงการ - จดั เตรยี มสถานท่ีในการจัดทา้ โครงการรณรงค์ปูองกนั และควบคุมโรคเบาหวานหมทู่ 1ี่ บ้านบา้ นหลงั สอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบ่ี - ดา้ เนินงานกจิ กรรมโครงการรณรงค์ปูองกันและควบคุมโรคเบาหวานหมูท่ ี่1 บ้านบ้านหลงั สอด ต.เกาะ ลนั ตานอ้ ย อ.เกาะลันตา จ.กระบด่ี ว้ ยการบรรยายให้ความรเู้ กย่ี วกับโรคเบาหวาน นายวรวิท สร้างสม นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉนิ การแพทย์ ได้เขา้ รับการอบรมใหค้ วามร้เู กี่ยวกบั การดูแล ตวั เองการรักษาอาการและการปอู งกนั เกยี่ วกับโรคเบาหวาน - รณรงคใ์ ห้ความรู้เรื่องโรคเบาหวาน 2.3 จานวนผู้เขา้ ร่วมโครงการ อสม. และตัวแทนครัวเรือนโรคเบาหวานหมทู่ 1ี่ บ้านบ้านหลงั สอด ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบ่ี 2.4 สถานที่ดาเนินการ ศาลาประจ้าโรคเบาหวานหมู่ที่1 บ้านบ้านหลงั สอด ต.เกาะลนั ตานอ้ ย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่
30 2.5 งบประมาณ งบประมาณรายจ่ายประจา้ ปี 2562 เงินแบง่ ผลจากการขายข้าวสารประจ้าชมุ ชนตามโครงการเศรษฐกิจ พอเพียง (สนับสนนุ จากอสม. โรคเบาหวานหมู่ท1่ี บ้านบ้านหลังสอด ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลนั ตา จ.กระบี่) จา้ นวนเงิน5,000 บาท (เกา้ พันหา้ รอ้ ยบาทถ้วน) โดยน้าไปใช้จา่ ยดงั นี้ 1. ค่าอาหารว่างและนา้ เปลา่ จา้ นวน100คนๆละ 1 มอ้ื ๆละ 20บาท เป็นเงนิ 2,000 บาท 2. ค่าอาหารกลางวัน จา้ นวน100คนๆละ 1 ม้อื ๆละ 25บาท เป็นเงิน 2,500 บาท 3. ค่าวทิ ยากร จา้ นวน 2 ช่วั โมงๆละ 100 บาท เป็นเงิน 200 บาท 4. ค่าจัดท้าปาู ยประชาสมั พันธ์ เปน็ เงนิ 200 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) 3. เครือ่ งมือและวธิ กี ารในการประเมนิ ผล หลงั จากท่ีได้ด้าเนนิ งานตามแผนของโครงการแลว้ นน้ั ซง่ึ ในขน้ั ตอนสดุ ท้ายจะเปน็ กิจกรรมในการ ประเมินผลโครงการหากพิจารณาถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างการวางแผนกับการประเมินผลโครงการพบว่ากิจกรรม ท้ังสองมีความสัมพันธ์ท่ีต้องด้าเนนิ การควบคู่กันโดยการวางแผนโครงการเปน็ กจิ กรรมของการกา้ หนดแนว ทางการนา้ ไปปฏิบัตเิ พอ่ื การบรรลวุ ัตถปุ ระสงคส์ ว่ นการประเมนิ ผลโครงการเปน็ กิจกรรมสุดทา้ ยในการพจิ ารณา ผลการดา้ เนนิ งานเปน็ ไปตามแผนที่ก้าหนดหรือไม่ 3. 1 เครื่องมือทีใ่ ช้ในการเก็บข้อมลู 3. 1. 1 แบบทดสอบความร้ทู ัศนคตแิ ละพฤติกรรมกอ่ น-หลงั ให้ความรู้ เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู เพ่ือการประเมนิ ในคร้งั นเ้ี ปน็ แบบสอบถามทผ่ี ู้รบั ผิดชอบโครงการไดส้ รา้ ง ขน้ึ ให้สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์และตวั ชี้วดั ของโครงการซง่ึ มรี ายละเอยี ดดังน้ี สว่ นท่ี 1 ข้อมูลพื้นฐานสว่ นบุคคล ได้แก่ เพศอายรุ ะดับการศึกษาอาชีพ ส่วนท่ี 2ความรูเ้ รื่องไข้หวดั ใหญแ่ บบสอบถามเป็นแบบเลอื กค้าตอบเพยี งคา้ ตอบเดียวคือถกู หรอื ผดิ จา้ นวน 10 ขอ้ ก้าหนดเกณฑ์การให้คะแนนดังน้ี ตอบถูกได้คะแนนเทา่ กบั 1 คะแนน ตอบผิดได้คะแนนเท่ากับ 0 คะแนน
31 สว่ นที่ 3ทศั นคตติ อ่ การปูองกันและควบคุมโรคไขห้ วดั ใหญ่แบบสอบถามเปน็ แบบเลือกค้าตอบเพยี ง ค้าตอบเดียวคือเห็นด้วยอยา่ งยงิ่ เหน็ ดว้ ยไมแ่ นใ่ จไม่เหน็ ดว้ ยไม่เหน็ ด้วยอย่างยิ่งข้อค้าถามมีทงั้ ด้านบวกและดา้ น ลบจา้ นวน 10 ขอ้ กา้ หนดเกณฑ์การให้คะแนนดังนี้ คา้ ถามเชิงบวก ค้าถามเชิงลบ เหน็ ด้วยอยา่ งยิ่ง ได้ 5 คะแนน ได้ 1 คะแนน เห็นด้วย ได้ 4คะแนน ได้ 2คะแนน ไมแ่ นใ่ จ ได3้ คะแนน ได้ 3คะแนน ไม่เห็นด้วย ได้ 2คะแนน ได้4คะแนน ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ได1้ คะแนน ได้5 คะแนน สว่ นท่ี 4พฤตกิ รรมการปฏบิ ัติตัวปอู งกนั โรคไขห้ วัดใหญแ่ บบสอบถามเปน็ แบบเลอื กตอบเพียงค้าตอบ เดียวคือปฏิบัตเิ ปน็ ประจ้า 7 วนั /สัปดาหป์ ฏบิ ตั ิบ่อยครง้ั 5-6 วัน/สัปดาหป์ ฏบิ ตั นิ านๆครัง้ 3-4 วนั /สัปดาห์ ปฏบิ ัติบางครั้ง 1-2 วนั /สปั ดาหไ์ มไ่ ด้ปฏบิ ัติเลยข้อคา้ ถามเชิงบวกจา้ นวน 10 ข้อกา้ หนดเกณฑ์การให้คะแนนดังน้ี ปฏบิ ัติเป็นประจา้ (7 วัน / สปั ดาห์) ได้ 5 คะแนน ปฏบิ ตั บิ ่อยครัง้ (5-6 วนั / สปั ดาห์) ได้ 4 คะแนน ปฏิบัตนิ านๆครง้ั (3-4 วัน / สปั ดาห์) ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิบางครงั้ (1-2 วนั / สปั ดาห์) ได้ 2 คะแนน ไม่ได้ปฏบิ ตั ิเลย ได้ 1 คะแนน 3.1.2 แบบประเมินความพงึ พอใจการเข้ารว่ มโครงการโดยเกณฑ์การให้คะแนนความพึงพอใจดังน้ี ระดบั ความพงึ พอใจมากท่ีสดุ 5 คะแนน ระดับความพึงพอใจมาก 4 คะแนน ระดับความพึงพอใจปานกลาง 3 คะแนน ระดับความพงึ พอใจน้อย 2 คะแนน ระดับความพึงพอใจนอ้ ยท่ีสุด 1 คะแนน
32 3.2 วิธกี ารเก็บรวบรวมข้อมูล 3.2.1 น้าสมุดบนั ทกึ การส้ารวจและแบบฟอร์มบนั ทกึ ใหผ้ เู้ ข้ารว่ มโครงการบนั ทึก ณ วนั ท้าโครงการ 3.2.2 ใหท้ า้ แบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรทู้ ัศนคตแิ ละพฤตกิ รรมจดั เก็บสมดุ บันทึกการส้ารวจคืนจาก ผ้เู ข้าร่วมโครงการนา้ มาประเมนิ ผล 3.2.3 หลังจากจดั ท้าโครงการ 1 สปั ดาห์ ทางผู้จัดท้าโครงการลงพน้ื ท่ที ่ีจดั ท้าโครงการอีกครง้ั โดยทา้ แบบบนั ทึกการส้ารวจการแพรร่ ะบาดของเช้ือโรค ผลการส้ารวจครงั้ ท่ี 1 จากการส้ารวจของผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ กับครง้ั ที่ 2 จากการลงส้ารวจเองของทางผจู้ ัดทา้ โครงการน้ามาเปรยี บเทียบและประเมินผล 3.2.4 สรปุ ผลจากแบบทดสอบกอ่ นและหลงั ให้ความร้ทู ัศนคติและพฤติกรรมจากแบบบันทึกการสา้ รวจ การแพร่ระบาดของเชือ้ โรค ครง้ั ท่ี 1 และครั้งท่ี 2 3. 3 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล การวิเคราะห์ข้อมลู ดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้ 1. การวเิ คราะห์ข้อมลู ส่วนบคุ คลใชส้ ถิติการแจกแจงความถี่ (Frequency) และร้อยละ Percentage) 2. การประเมินความพึงพอใจการประเมนิ ความรู้ใช้สถิติคา่ เฉล่ีย (X) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S. D.) 3. 4 เกณฑท์ ีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมูล 3.4.1แบบทดสอบความรู้ทัศนคตแิ ละพฤติกรรมกอ่ น-หลังใหค้ วามรู้ 3.4.1.1การแปลผลคะแนนสา้ หรบั เกณฑ์การประเมินระดับความร้เู กีย่ วกบั เรื่องไข้หวัดใหญ่ แบ่ง ออกเป็น 3 ระดับโดยใช้วิธีการก้าหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลักวิธีคดิ ของบลมู Bloorn ซ่ึงมรี ะดับคะแนน ดงั น้ี ระดบั ความรู้ ร้อยละ (ของคะแนนเต็ม) ระดับดี 80. 00 ขนึ้ ไป (8-10ข้อ) ระดับปานกลาง 50. 00-79. 99 (5-7ข้อ) ระดบั ควรปรับปรุง 1. 00-49. 99 (0-5ข้อ) 3.4.1.2 การแปลผลคะแนนส้าหรบั เกณฑ์การประเมินทัศนคติเกีย่ วกับการปูองกนั และควบคุมโรค ไขเ้ ลอื ดออกโดยใช้วิธีการก้าหนดเกณฑ์ตามชว่ งคะแนนตามหลักวิธคี ดิ ของเบสท์ ดังนี้ ระดับทศั นคติ ค่าระคับคะแนนเฉล่ีย ระดับสูง 3. 67-5. 00 ระดับปานกลาง 2. 34-3. 66 ระดับต่้า 1. 00-2. 3
33 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนส้าหรบั เกณฑ์บ่งชพี้ ฤติกรรมการออกกา้ ลงั กายโดยใชว้ ธิ กี ารก้าหนดเกณฑ์ ตามชว่ งคะแนนตามหลกั วิธคี ิดของเบสท์ ดังน้ี ระดับพฤตกิ รรม ค่าระดบั คะแนนเฉล่ีย ระดบั สงู 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต้่า 1.00 - 2.33 3.4.2แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการโดยเกณฑ์การใหค้ ะแนนความพงึ พอใจดงั น้ี คะแนนเฉลยี่ สูงกวา่ 4. 50 มีความพึงพอใจในระดบั มากท่สี ุด คะแนนเฉลยี่ ระหวา่ ง 3. 50-4. 49 มีความพึงพอใจในระดบั มาก คะแนนเฉลย่ี ระหวา่ ง 2. 50-3. 49 มคี วามพึงพอใจในระดบั ปานกลาง คะแนนเฉลย่ี ระหวา่ ง 1. 50-2. 49 มคี วามพึงพอใจในระดับน้อย คะแนนเฉลีย่ ต้่ากวา่ 1. 50 มคี วามพึงพอใจในระดับน้อยทส่ี ดุ 4.ผลการประเมินการดาเนินโครงการ 4.1 ข้อมูลทว่ั ไปของผ้ตู อบแบบประเมนิ ผู้เข้าร่วมโครงการมี 80คนจากจ้านวนทง้ั หมด 120 คนคิดเปน็ ร้อยละ 66.66 ซ่ึงข้อมลู ทั่วไปในเรือ่ งเพศ อายุระดับการศึกษาอาชีพสถานภาพมขี ้อมูลดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 4.1.1 เพศของผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ เพศ จานวน รอ้ ยละ ชาย 10 12.50 หญิง 70 87.50 รวม 80 100 จากตารางแสดงข้อมลู เพศของผเู้ ข้าร่วมโครงการพบวา่ เพศหญงิ มีจ้านวน 70 คนคดิ เป็นร้อยละ87.50 และเพศชายมีจ้านวน 10 คนคดิ เปน็ ร้อยละ 12.50ตารางท่ี 4.1.2อายขุ องผ้เู ข้าร่วมโครงการ อายุ จานวน รอ้ ยละ ตา้่ กว่า 20 ปี 8 10.00 25 31.25 20-40 30 37.50 41-50 7 8.75 50 ปขี ึ้นไป 80 100 รวม
34 จากตารางแสดงข้อมลู อายุของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการพบวา่ อายุ 50ปีข้ึนไปมีจา้ นวน 7คนคิดเปน็ ร้อยละ 8.75อายุ 41-50 ปมี ีจ้านวน 30 คนคิดเป็นร้อยละ 37.50อายุ 20-40ปีมจี ้านวน 25คนคิดเป็นร้อยละ31.25 อายุ ต้่ากวา่ 20 ปมี จี า้ นวน 8คนคิดเป็นรอ้ ยละ10.00 ตามล้าดบั ตารางท่ี 4.1.3ระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ระดับการศึกษา จานวน รอ้ ยละ ประถมศกึ ษา(ป.1-ป.6) 43 53.75 มัธยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) 18 22.50 มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) 7 8.75 ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ(ปวช.) 7 8.75 ปริญญาตรี 5 6.25 รวม 80 100 จากตารางแสดงข้อมูลระดบั การศึกษาของผู้เข้ารว่ มโครงการ พบว่า ระดบั ประถมศึกษา(ป.1-ป.6) มี จ้านวน 43 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 53.75 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) มี 18 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 22.50 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) มี 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 8.75 ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ(ปวช.)มี 7 คน คิด เป็นร้อยละ 8.75 และระดับปรญิ ญาตรี มี 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.25 ตามล้าดบั ตารางท่ี 4.1.4อาชีพของผเู้ ข้าร่วมโครงการ อาชีพหลกั ของครอบครัว จานวน รอ้ ยละ นักเรยี น/นกั ศึกษา 8 10.00 ขา้ ราชการ 5 6.25 เกษตรกรรม 50 62.50 คา้ ขาย/ธรุ กิจ 10 12.50 4 5.00 รบั จ้างทั่วไป/ลูกจ้าง 3 3.75 วา่ งงาน/ไม่มงี านท้า อืน่ ๆ 0 0 รวม 80 100 จากตารางแสดงข้อมูลอาชีพของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ พบว่า อาชีพเกษตรกรรมมจี ้านวน 50 คน คิดเป็น ร้อยละ 62.50 อาชีพคา้ ขาย/ธรุ กิจมีจา้ นวน10 คน คิดเปน็ ร้อยละ12.50 อาชพี นักเรียน/นกั ศึกษามจี ้านวน 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 10 อาชพี ข้าราชการมจี ้านวน5 คน คดิ เปน็ ร้อยละ6.25 อาชีพรบั จา้ งทวั่ ไป/ลกู จา้ ง มีจา้ นวน 4
35 คน คิดเป็นร้อยละ5 ว่างงาน/ไมม่ ีงานท้ามีจ้านวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ3.75 และอาชีพอื่นๆมีจา้ นวน 0 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0 ตามล้าดบั 4.2 ผลการทดสอบความรูจ้ ากการเข้าร่วมโครงการ ตางรางที่ 4.2.1ผลการทดสอบความรจู้ ากการเข้ารว่ มโครงการ รายการ ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผา่ นเกณฑ์ สูงสุด ตา่ สดุ เฉลี่ย จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ ก่อนเข้าอบรม 6 2 0.04 - - - - ผลการทดสอบ - - - 45 50.56 44 49.44 หลังเข้าอบรม 10 8 0.02 - - - - ผลการทดสอบ - - - 73 82.02 16 17.98 จากตารางที่ 4.2.1พบวา่ แกนน้าอสม. ทีเ่ ข้าร่วมโครงการมีคะแนนทดสอบความรกู้ ่อนเข้ารับการ บรรยายเกีย่ วกบั โรคไขห้ วัดใหญ่ไดค้ ะแนนสงู สุด 6 คะแนนคะแนนต้่าสุด 2 คะแนนและมคี ะแนนเฉลี่ย 0. 04 คะแนนมจี ้านวนผผู้ ่านเกณฑ์จา้ นวน 45 คนคดิ เปน็ ร้อยละ 50. 56 มจี า้ นวนผไู้ มผ่ ่านเกณฑจ์ า้ นวน 44 คนคดิ เปน็ ร้อยละ 49. 44 และหลังจากการเข้ารับการบรรยายเกี่ยวกับโรคไขห้ วัดใหญ่ มผี ู้ทดสอบความรู้ได้คะแนนสงู สุด 10 คะแนนคะแนนต่า้ สุด 8 คะแนนและมคี ะแนนเฉลย่ี 0. 02 คะแนนมีจา้ นวนผผู้ า่ นเกณฑจ์ า้ นวน 73 คนคดิ เปน็ รอ้ ยละ 82. 02 ซึ่งผ่านตามตวั ช้วี ัดในหัวขอ้ จุดประสงค์มผี ู้เขา้ รว่ มโครงการร้อยละ 80 มคี วามรู้เกยี่ วกบั การ ควบคุมปูองกันโรคไข้หวัดใหญใ่ นระดบั ดี ตารางที่ 4.2.2คะแนนการทดสอบประเมนิ ความรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการอย่างละเอียด คะแนน จานวน(คน) ร้อยละ 2 14 17.50 3 12 15.00 4 24 30.00 5 20 25.00 6 10 12.50 รวม 80 100 จากตารางที่ 4.2.2 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมนิ ความรู้กอ่ นเขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนนสูงสุด 6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 12.50 และต้่าสุด 2 คะแนน คิดเปน็ รอ้ ยละ 17..50
36 ตารางท่ี 4.2.3คะแนนการทดสอบประเมินความรู้หลงั เข้าร่วมโครงการอยา่ งละเอียด คะแนน จานวน(คน) รอ้ ยละ 8 25 31.25 9 38 47.50 10 17 21.25 รวม 80 100 จากตารางท่ี 4.2.3 พบว่าคะแนนทดสอบการประเมนิ ความร้หู ลังเข้ารว่ มโครงการ มีคะแนนสงู สุด 10 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 21.25 และคะแนนต่้าสุด 8 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 31.25 4.3 ผลการทาแบบประเมินความพึงพอใจ ตารางที่ 4.3.1คา่ เฉล่ยี ของความพึงพอใจต่อโครงการภาพรวม ลาดับท่ี ประเด็น ระดับความพึงพอใจ xֿ S.D. แปลผล 1. ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจัด 4.673 0.193 มากที่สุด กิจกรรม 4.786 0.173 มากท่ีสุด 2. ความพึงพอใจดา้ นวิทยากร 4.678 0.219 มากที่สดุ 3. ความพงึ พอใจด้านสง่ิ อา้ นวยความสะดวก 4.743 0.183 มากทส่ี ดุ 4. ความพงึ พอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม จากตารางที่ 4.3.1คา่ เฉล่ียของความพึงพอใจต่อโครงการภาพรวมพบวา่ มีความพงึ พอใจดา้ นคุณภาพ การใหบ้ ริการมากท่สี ุด (xֿ = 4. 833) รองลงมาความพงึ พอใจด้านเจา้ หน้าที่ผ้ใู ห้บริการ (xֿ =4, 786) และ ความพึงพอใจด้านกระบวนการ/ขั้นตอนการด้าเนนิ โครงการ (xֿ = 4. 673) นอ้ ยทีส่ ุด
37 ตารางท่ี 4.3.2ค่าเฉลย่ี ของผลประเมินความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มโครงการ รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ xֿ S.D. แปลผล 1. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการขั้นตอนการจดั กิจกรรม 4.55 0.52 สงู 2.23 1.22 สงู 1.1 รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 4.41 0.57 สูง 1.2 ลา้ ดบั ข้นั ตอนในการจัดกิจกรรม 2.23 1.22 ตา้่ 1.3 ระยะเวลาท่ีใช้ในการจดั กิจกรรม 4.50 0.55 สูง 1.4 เอกสารและสอื่ ประกอบในการจดั กจิ กรรม 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กจิ กรรม 4.56 0.59 สูง 2. ความพึงพอใจด้านวทิ ยากร 4.45 0.54 สูง 2.1 การถา่ ยทอดความรู้ของวิทยากรมีความชดั เจน 0.61 สูง 2.2 การตอบข้อซักถามในการจดั กิจกรรม 1.09 ตา้่ 3. ความพึงพอใจดา้ นสิ่งอานวยความสะดวก 0.72 สูง 3.1 สถานท่จี ดั กิจกรรม 4.43 3.2 มกี ารใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 2.11 0.65 สงู 4. ความพึงพอใจด้านคุณภาพการจดั กิจกรรม 0.34 สงู 4.1 ทา่ นไดร้ ับประโยชน์จากการเขา้ รว่ มกิจกรรมอย่าง 4.29 คมุ้ ค่า 4.29 4.2 ทา่ นสามารถน้าความรู้ที่ไดร้ ับไปประยุกตใ์ ชใ้ น 3.84 ชีวติ ประจา้ วัน ผลรวม
38 4.4 สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการ โครงการอบรมให้ความรู้ปูองกันโรคเบาหวานหมู่ที่ 1 ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่มี วัตถุประสงคเ์ พ่อื ปอู งกนั เฝาู ระวัง และควบคมุ การเกดิ โรคเบาหวานเพ่ิมมากข่ึนและส่งเสริมให้สถาบันครอบครัว มีความเขม้ แข็ง ลดปัญหาการการเกิดโรคเบาหวานเปูาหมายเชิงคุณภาพ คือประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ใน การดแู ลและปอู งกนั โรคเบาหวาน และเปูาหมายเชงิ ปรมิ าณ คอื อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมู่ท่ี 1 1 ต.เกาะลันตา น้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 60 ผู้รับผิดชอบโครงการ นายวรวิท สร้างสมนักศึกษา หลกั สูตรฉกุ เฉนิ การแพทย์ร่นุ ท่ี 15 ชน้ั ปที ่ี 2 โครงการนี้ได้ด้าเนินโครงการท่ีหมู่ที่ 1 1 ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบ่ีต้ังแต่วันท่ี 8 เมษายน-11 เมษายน 2563 ข้ันตอนการด้าเนินงานท่ีส้าคัญคือวันจัดกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมโครงการท้า แบบทดสอบก่อนและหลังให้ความรู้มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับโรค เบาหวานและวิธีการปูองกันการรักษา เพ่ือจะลดปัญหาการการเกิดโรคเบาหวานรวมทั้งท้ากิจกรรมกลุ่ม เพ่ือระดมสมองและท้าแบบประเมินความพึง พอใจส่วนวนั เดินรณรงค์มีให้ความรู้เร่ืองการปอู งกันโรคเบาหวานพรอ้ มท้งั แจกแผ่นพับให้แก่ประชาชน สรุปจากการท้าโครงการอบรมให้ความรู้ปูองกันลดปัญหาการการเกิดโรคเบาหวานในคร้ังน้ี พบว่าหลงั จากที่กลุ่มเปาู หมายที่เข้ารว่ มรบั ฟงั การให้ความรู้เรื่องการปูองกันโรคเบาหวานกลุ่มเปูาหมายมีความรู้ ความเขา้ ใจและรูจ้ กั เลือกใช้วธิ ีการปอู งกันตนเอง 4.5 ประโยชนจ์ ากการทากิจกรรม -ท้าใหเ้ กดิ การพัฒนาความคดิ และได้ฝกึ ทักษะการวางแผนอย่างเป็นระบบและการก้าหนดรูปแบบต่างๆ ให้สอดคลอ้ งกนั - ท้าให้ได้เรียนรู้เก่ียวกับการท้างานประสานงานและติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมท้ังมีการวาง แผนการท้างานอยา่ งมีระบบ -ไดฝ้ ึกทักษะการท้างานร่วมกับคนในชมุ ชนเพ่ือใช้เป็นแนวทางแก่การท้างานในอนาคต -การร้จู ักรับฟังความคิดเห็นของผอู้ น่ื รวมไปถึงการประสานงานหรือการติดต่อกับหนว่ ยงานตา่ งๆ -ทา้ ใหร้ ู้จักการแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ เม่อื เจอเหตุการณ์ท่ีไม่ได้เป็นไปตามแผนท่ีกา้ หนดไว้ 4. 6 ปญั หาและอุปสรรค -การด้าเนินโครงการไม่เปน็ ไปตามระยะเวลาทีก่ า้ หนด -ผสู้ ูงอายุมีเวลาจา้ กดั ทา้ ให้ต้องเร่งการจัดกจิ กรรม -นักศกึ ษาผูบ้ รรยายใหค้ วามรมู้ ีความตน่ื เต้นพูดเร็วจงึ ท้าใหผ้ สู้ งู อายุฟังไมท่ นั -เน่ืองจากกลุ่มเปูาหมายมจี ้านวนมากนกั ศกึ ษาผู้บรรยายจึงไม่สามารถตอบข้อซักถามไดอ้ ย่างทั่วถึง
39 4.7 ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรมคี วามพรอ้ มในการดา้ เนินโครงการมากกว่านี้ 2. การทา้ กจิ กรรมควรใชร้ ะยะเวลาให้สน้ั กระชบั 3. ควรใหผ้ ูเ้ ขา้ รว่ มโครงการมสี ่วนรว่ มมากขึน้ เช่นการถาม-ตอบเปน็ ต้น 4. สอื่ ทใ่ี ช้ควรเน้นท่ีรูปภาพมากกวา่ ตวั หนังสือรวมถงึ ควรใช้ตวั อักษรที่เห็นชดั เจน 5. ปรบั การพดู ให้ชา้ ลง 5. แนวทางการพฒั นางาน 5. 1 แนวทางการพัฒนางาน จากการจัดประชุมกลุ่มเพื่อพิจารณาหาข้อผิดพลาคปัญหาและอุปสรรคของการท้างานร่วมไป ถึงข้อเสนอแนะจากผู้ดูแลโครงการซึ่งน้ามาสะท้อนถึงข้อผิดพลาดและสาเหตุที่เกิดขึ้นและน้ามาพัฒนา ในการจดั โครงการหรือกิจกรรมอ่ืน ๆ รว่ มกับชมุ ชนต่อไป ปญั หา สาเหตุ แนวทางการแกไ้ ข การด้าเนินโครงการที่ไม่ เวลาในการประสานงานรวมไปถึง การด้าเนินงานคร้ังต่อไปจะต้องมี เป็นไปตามระยะเวลาที่ก้าหนด การบรรยายปรับแก้ล่าช้าและการ การวางแผนและจัดสรรเวลาในการ และประชาสมั พันธย์ ังไม่ท่ัวถึง ไม่รู้ก้าหนดการท้าให้ระยะเวลา ด้าเนินงานให้เป็นระบบไม่ยืดยื้อ ด้าเนินงานไมส่ ัมพันธก์ ับระยะเวลา เกินไปเพื่อให้ระยะเวลาเหมาะสม ที่ก้าหนดและการประชาสัมพันธ์ ตามท่กี า้ หนด ไม่ทว่ั ถงึ กา รพู ดต้ อง มีค ว า มมั่ นใ จ เน่ืองจากขาดประสบการณ์จึงท้า การด้าเนินงานในคร้ังต่อไปจะมีการ ใบหน้ายิ้มและการใช้น้าเสียง ต้อง ให้การพูดติดขัดและสถานท่ีเป็น วางแผนการเตรียมความพร้อมก่อน สม่้าเสมอ ลานกว้างจึงท้าให้เวลาพูดจะไม่ การเปน็ กจิ กรรม ค่อยไดย้ นิ น้าเสนอวิชาการส่ือท่ีควร เนื่องจากขาดประสบการณ์ในการ ในการวางแผนจัดท้ากิจกรรมครั้ง เน้นทีร่ ปู ภาพมากกว่าตัวหนงั สือ น้าเสนองานในแหล่งชุมชนจึงมี ต่ อ ไ ป จ ะ ต้ อ ง มี ก า ร ค้ า นึ ง ถึ ง การเนน้ ไปท่วี ิชาการ ก ลุ่ ม เ ปู า ห ม า ย แ ล ะ ร ะ ดั บ ค ว า ม รู้ ความสนใจของกลุ่มเปูาหมายท้ังน้ี สื่อจะต้องมีเนื้อหาที่กระชับและสื่อ ใหเ้ ข้าใจไดง้ า่ ย
40 บทที่ 5 สรปุ ผลโครงการพัฒนาทักษะวชิ าชีพ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะการจัดโครงการพัฒนาทักษะวิชาชพี ครงั้ นี้มีวัตถุประสงคเ์ พื่อให้นกั ศึกษา สามารถปฏิบตั กิ ระบวนการศึกษาชมุ ชนและแก้ไขปญั หาสุขภาพท่เี ก่ียวข้องกับงานดา้ นสุขภาพซ่ึงประกอบดว้ ย การศึกษาชุมชนการเตรียมชมุ ชนและการวินจิ ฉยั ชุมชนพร้อมทัง้ การแก้ไขปญั หาและพัฒนาชมุ ชนซง่ึ ประกอบไป ด้วยการวางแผนการด้าเนินการตามแผนและการประเมนิ ผลการดา้ เนนิ งานโดยมรี ายละเอียดดังนี้ 4.1 สรุปผลโครงการพัฒนาทักษะวชิ าชพี 4.2 อภิปรายผลโครงการพัฒนาทักษะวิชาชพี 4.3 ขอ้ เสนอแนะโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชพี 4.4 สรปุ ผลโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ 5.1.1 ขอ้ มูลทว่ั ไปจากการศึกษาชุมชนหมู่ท1ี่ บา้ นบา้ นหลงั สอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบ่ีสา้ รวจชุมชนโดยใชแ้ บบสอบถามพบว่าประชากรที่ตอบแบบสอบถามมชี ่วงอายตุ ่้ากว่า 20 ปีร้อยละ 10 ช่วงอายุ 20 ปีขึน้ ไปรอ้ ยละ 90 สรุปได้ว่าประชากรในชมุ ชนทีท่ า้ แบบสอบถามอย่ใู นชว่ งอายุ 20 ปขี ึ้นไปเปน็ เพศ หญิงคดิ เป็นร้อยละ 10 เปน็ เพศชายคิดเป็นร้อยละ 70 ประชากรสว่ นใหญท่ ี่ตอบแบบสอบถามมกี ารศกึ ษาระดับ ประถมศกึ ษา (ป.1-ป.6)ร้อยละ 50 รองลงมาระดับการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ม. 1-ม. 3) ร้อยละ 20ระดบั ปริญญาตรรี ้อยละ 6 5.1.2 ข้อมลู ด้านระบบสุขภาพจากการทปี่ ระชากรตอบแบบสอบถาม สรปุ ไดว้ า่ ปญั หาปญั หาดา้ นสุขภาพมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2. 08 และมีคา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0. 44 รองลงมาคอื มีด้านเศรษฐกิจ คา่ เฉลี่ยเลขคณติ สูงที่สดุ คอื 2.00 และมคี า่ เบ่ยี งเบนมาตรฐานอย่ทู ่ี 0.59 5.2 อภปิ รายผล จากการศึกษาชมุ ชน หมู่ท่ี1บ้านบา้ นหลงั สอด ต.เกาะลนั ตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่และการ จดั ล้าดับความส้าคญั ของปัญหาโดยการมีสว่ นรว่ มของชมุ ชนโดยการท้าประชาคมซึง่ พบว่าปัญหาทส่ี มควรคา้ เนนิ การแก้ไขเปน็ อนั ดับแรกคือด้านสุขภาพโรคเบาหวาน ด้วยเหตผุ ลดังกลา่ วจงึ ไดจ้ ัดท้าโครงการเพ่ือดา้ เนินการ แก้ไขปญั หาด้านสุขภาพเรื่องโรคเบาหวาน ในชุมชนหมทู่ ี่1บ้านบ้านหลังสอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ. กระบ่ี โดยมีกจิ กรรมในโครงการประกอบด้วย 3 กจิ กรรมหลกั คอื การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกบั โรคเบาหวาน
41 และวิธกี ารปอู งกันโรคเบาหวานกิจกรรมตอบค้าถามเกีย่ วกับความรู้โรคเบาหวานเดินรณรงคป์ ูองกนั โรคเบาหวานหลงั จากใหค้ วามรู้ซง่ึ สามารถอภปิ รายผลได้ดังนค้ี อื 5.2.1 กิจกรรมให้ความรู้เร่ืองโรคเบาหวานพบว่ามีตัวแทนครัวเรือนและผู้น้าชุมชนเข้าร่วมในกิจกรรม คิดเปน็ ร้อยละ 100 และผู้เขา้ รว่ มโครงการได้ความรเู้ ชงิ ทฤษฎเี พม่ิ มากขึ้นโดยสว่ นใหญ่อยู่ในระดับดีซึ่งบรรลุตาม เปูาหมายและการท่ปี ระชาชนมคี วามรเู้ กย่ี วกบั โรคเบาหวานมากขนึ้ ทา้ ให้ประชาชนมคี วามรู้ 5.2.3 กิจกรรมเดนิ รณรงค์ปูองกันโรคเบาหวาน พบว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ในเชิงปฏิบัติเพิ่มมาก ขน้ึ พบว่าประชาชนได้ใหค้ วามสนใจและร่วมกิจกรรมเป็นอยา่ งดีโดยประชาชนทเี่ ขา้ ร่วมโครงการส่วนใหญ่มีความ พึงพอใจอยู่ในระดับดมี ากกว่าร้อยละ 60 ซ่งึ จากการจัดท้าโครงการดังกล่าวน้ีท้าให้ประชาชนมีความรู้ทักษะและ สามารถปฏิบตั ไิ ดจ้ รงิ ในเรอื่ งโรคเบาหวาน 5.3 ข้อเสนอแนะการจดั โครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ 5.3.1 ข้อเสนอแนะ 5.3.1.1 ในการจัดโครงการควรมีการประชาสมั พันธ์ให้ทว่ั ถงึ และให้เขา้ ใจวัตถุประสงค์ของกิจกรรม 5.3.1.2 ควรมกี ารดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมใหม้ ากท่ีสุดโดยมีกิจกรรมสันทนาการละลาย พฤตกิ รรมกอ่ นเข้าเนือ้ หาบทเรียน 5.3.1.3 ควรมีการเพิ่มระยะเวลาในการจัดกิจกรรมโดยการติดตามและประเมินผลโครงการอย่าง ต่อเนือ่ งเพอื่ ประเมนิ วา่ ประชาชนมคี วามร้ใู นเรื่องเบาหวานมากแค่ไหน
Search