การออกแบบการจดั การเรียนรู้องิ มาตรฐานการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 โดย นางอมลสริ ิ คำฟู ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ สำนกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
ผังมโนทัศน์ รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 15101 ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 หน่วยที่ 1 (15 ชั่วโมง) หน่วยที่ 2 (15 ชั่วโมง) ความหลากหลายของ การถา่ ยทอดลักษณะทาง ส่ิงมีชีวิต พนั ธกุ รรม หน่วยท่ี 3 (15 ช่ัวโมง) รายวิชาวิทยาศาสตร์ หนว่ ยท่ี 4 (15 ช่ัวโมง) สสาร และเทคโนโลยี แรงและการเคล่ือนท่ี ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 จำนวน 120 ชั่วโมง หนว่ ยท่ี 5 (15 ชั่วโมง) หนว่ ยท่ี 6 (20 ชั่วโมง) พลงั งาน โลกและอวกาศ หนว่ ยที่ 7 (15 ชั่วโมง) เทคโนโลยี
การจัดทำโครง รายวชิ า วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ปร ที่ ชอ่ื หน่วย รหสั มฐ. ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.1 ป5/1 บรรยายโครงสรา้ ง และ - ส ลักษณะของสิ่งมชี ีวิตท่ีเหมาะสมกบั การดำรงชวี ติ เหม ซึ่ง เปน็ ผลมาจากการปรับตัวของส่ิงมีชีวติ ใน แต่ ปร ละแหลง่ ท่ีอยู่ แต ใบ มีร 1 ความหลากหลาย มาตรฐาน ว 1.1 ป 5/2 อธบิ ายความสัมพันธ์ เคล ของส่ิงมชี วี ติ ระหว่างสิ่งมชี ีวิตกับส่ิงมชี วี ิต -ใ มาตรฐาน ว 1.1 ป 5/3 เขยี นโซ่อาหารและระบุ กนั ตอ่ บทบาทหน้าท่ีของสิง่ มชี วี ติ ที่เป็นผู้ผลิตและ เปน็ ผู้บรโิ ภคในโซ่อาหารและความสมั พนั ธ์ระหว่าง ลูก สงิ่ มีชวี ติ กับ -ส มาตรฐาน ว 1.1 ป 5/4 ตระหนักในคุณคา่ ของ ทอ สิ่งแวดล้อมทีม่ ีต่อ การดำรงชีวิตของส่งิ มีชวี ติ โดย บท มสี ว่ นร่วม ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
งสร้างรายวิชา ระถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 80 ชวั่ โมง สาระสำคัญ เวลา น้ำหนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม สิ่งมชี ีวติ ท้งั พชื และสัตว์มโี ครงสร้างและลักษณะ ท่ี 10 621 10 มาะสมในแตล่ ะแหลง่ ที่อยู่ ซึ่งเป็นผลมาจาก การ รบั ตัวของสง่ิ มีชีวิต เพ่ือให้ดำรงชีวิตและอยู่รอดได้ใน 5 621 10 ต่ละแหลง่ ท่ีอยู่ เช่น ผักตบชวามชี ่องอากาศในก้าน บ ช่วยใหล้ อยนำ้ ได้ ตน้ โกงกางทีข่ น้ึ อยใู่ น ปา่ ชายเลน รากค้ำจุนทำใหล้ ำต้นไมล่ ้ม ปลามคี รบี ช่วยในการ ลื่อนท่ใี นน้ำ ในแหล่งที่อยูห่ นง่ึ ๆ สิ่งมชี วี ิตจะมีความสัมพนั ธ์ ซ่ึง นและกนั และสมั พันธก์ ับสง่ิ ไมม่ ชี ีวติ เพื่อประโยชน์ อการดำรงชวี ติ เช่น ความสัมพนั ธ์กัน ดา้ นการกินกัน นอาหาร เปน็ แหลง่ ท่ีอยู่อาศยั หลบภยั และเล้ียงดู กออ่ น ใชอ้ ากาศในการหายใจ ส่ิงมีชีวติ มกี ารกนิ กนั เปน็ อาหารโดยกนิ ต่อกัน เป็น อด ๆ ในรูปแบบของโซอ่ าหารทำให้สามารถระบุ ทบาทหน้าท่ีของสงิ่ มีชวี ิตเป็นผู้ผลติ และผ้บู รโิ ภค
ท่ี ชื่อหน่วย รหสั มฐ. ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ การถา่ ยทอด ว 1.2 ป 5/1 อธบิ ายลักษณะทางพนั ธกุ รรมทม่ี ี - ส 2 ลักษณะทาง การถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สตั ว์ และ สืบ พันธุกรรม มนษุ ย์ จะ ว 1.2 ป 5/2 แสดงความอยากรอู้ ยากเห็นโดยการ ทำ ถามคำถามเกี่ยวกบั ลกั ษณะที่คล้ายคลงึ กนั ของ ส่ิง ตนเองกับพ่อแม่ -พ ลัก -ส ลัก -ม ผม ลัก
สาระสำคญั เวลา น้ำหนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม สิง่ มีชวี ติ ทั้งพชื สตั ว์ และมนุษย์ เมอ่ื โตเต็มท่จี ะมกี าร บพนั ธเุ์ พอ่ื เพ่มิ จำนวนและดำรงพันธุ์ โดยลกู ทีเ่ กดิ มา ะไดร้ ับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ ำใหม้ ีลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมท่ีเฉพาะแตกตา่ งจาก งมีชีวติ ชนดิ อืน่ พชื มกี ารถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม เช่น 15 10 8 2 20 กษณะของใบ สีดอก สตั วม์ กี ารถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม เชน่ สีขน กษณะของขน ลักษณะของหู มนษุ ยม์ ีการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม เชน่ เชงิ มท่หี นา้ ผาก ลักย้มิ ลักษณะหนังตำ การหอ่ ลนิ้ กษณะของต่ิงหู
ที่ ชอื่ หน่วย รหสั มฐ. ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ ว 2.1 ป 5/1 อธบิ ายการเปล่ียนสถานะของ - การเปล่ยี น สสาร เมื่อทำให้สสารร้อนขน้ึ หรอื เย็นลง กายภาพ เม โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ สสารที่เป็น หลอมเหลว ของเหลวจะ ลดความรอ้ ของเหลว เร 3 จนถึงระดับ เรียกว่า การ สสาร ของแขง็ เป็น ระเหิด สว่ น โดยไม่ผ่าน ว 2.1 ป 5/2 อธบิ ายการละลายของสารใน - เมื่อใสส่ าร น้ำ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ทกุ ส่วน แส ว 2.1 ป 5/3 วิเคราะห์การเปลย่ี นแปลงของ - เมื่อผสมส สาร เมือ่ เกิดการเปลีย่ นแปลงทางเคมี โดย ตา่ งจากสาร แลว้ มสี ารให ใชห้ ลักฐานเชิงประจกั ษ์ เปล่ียนแปล สารเดิม หร เพิม่ ขึ้นหรือ
สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม นสถานะของสสารเป็นการเปลี่ยนแปลงทาง ม่ือเพิ่มความร้อนให้กับสสารถงึ ระดับหนึง่ จะทำให้ นของแขง็ เปล่ยี นสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การ ว และเม่ือเพ่ิม ความร้อนต่อไปจนถึงอีกระดบั หนึ่ง ะเปลยี่ นเปน็ แกส๊ เรียกว่า การกลายเปน็ ไอ แต่เมือ่ อนลงถึงระดับหน่ึงแก๊สจะเปลย่ี นสถานะเปน็ 4 211 4 รยี กว่า การควบแนน่ และถา้ ลดความร้อนต่อไปอกี บหนงึ่ ของเหลวจะเปล่ียนสถานะเป็นของแข็ง รแขง็ ตวั สสารบางชนิดสามารถเปลยี่ นสถานะจาก นแกส๊ โดยไม่ผ่านการเปน็ ของเหลว เรยี กวา่ การ นแก๊สบางชนิดสามารถเปล่ียนสถานะเปน็ ของแข็ง การเป็นของเหลว เรยี กวา่ การะเหิดกลบั รลงในน้ำแล้วสารน้ันรวมเปน็ เน้อื เดียวกันกับนำ้ ทั่ว 4 211 4 สดงว่าสารเกดิ สาร 2 ชนดิ ขึ้นไปแล้วมสี ารใหม่เกดิ ขึ้น ซ่ึงมสี มบัติ 4 211 4 รเดิม หรือเม่ือสารชนดิ เดียว เกิดการเปลี่ยนแปลง หม่เกดิ ขนึ้ การเปลี่ยนแปลงน้เี รียกวา่ การ ลงทางเคมี ซ่ึงสงั เกตไดจ้ ากมีสี หรอื กล่นิ ต่างจาก รือ มีฟองแก๊ส หรือมีตะกอนเกดิ ขนึ้ หรือมกี าร อลดลงของอณุ หภูมิ
ท่ี ชือ่ หน่วย รหัส มฐ. ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ ว 2.1 ป 5/4 วเิ คราะห์และระบกุ ารเปลี่ยนแปลงที่ - เม่อื สา ผนั กลบั ไดแ้ ละการเปล่ียนแปลงทผ่ี ันกลับไม่ได้ เป็นสาร หลอมเห เกิดการ สารเดิม เผาไหม้ ว 2.1 ป 5/1 อธิบายวธิ กี ารหาแรงลัพธ์ของแรง - แรงลพั หลายแรงในแนวเดยี วกันที่กระทำต่อวตั ถุในกรณีที่ ของแรง ผลรวมข 4 วัตถอุ ยูน่ ิ่งจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ และมที ิศ ว 2.1 ป 5/2 เขยี นแผนภาพแสดงแรงทีก่ ระทำต่อ ทง้ั สองเ วัตถทุ ่ีอยู่ในแนวเดียวกันและแรงลพั ธท์ ี่กระทำต่อ ขา้ มกนั แรงและการ วตั ถุ เป็นศนู ย เคล่อื นที่ ว 2.1 ป 5/3ใชเ้ คร่อื งช่งั สปรงิ ในการวดั แรงที่ - การเข กระทำตอ่ วตั ถุ ไดโ้ ดยใช ความยา ว 2.1 ป 5/4 ระบุผลของแรงเสยี ดทานท่ีมตี ่อ การ - แรงเส เปลีย่ นแปลงการเคล่ือนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชงิ เพือ่ ต้าน วตั ถทุ ่ีอย ประจกั ษ์ พื้นผวิ น ว 2.1 ป 5/5 เขียนแผนภาพแสดงแรงเสียดทาน เคลอื่ นท และแรง ที่อย่ใู นแนวเดยี วกันท่กี ระทำต่อวตั ถุ หรือหยดุ
สาระสำคัญ เวลา น้ำหนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม ารเกดิ การเปลย่ี นแปลงแล้ว สารสามารถเปล่ียนกลับ 111 4 รเดมิ ได้ เปน็ การเปลย่ี นแปลงท่ผี นั กลบั ได้ เช่น การ 3 หลว การกลายเป็นไอ การละลาย แต่สารบางอย่าง 431 8 รเปล่ยี นแปลง แล้วไมส่ ามารถเปลี่ยนกลับเปน็ 10 มได้ เปน็ การเปล่ยี นแปลงที่ผันกลบั ไม่ได้ เชน่ การ 421 7 การเกดิ สนมิ 5 พธ์เปน็ ผลรวมของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ โดยแรงลัพธ์ ง 2 แรงที่กระทำต่อวัตถุเดียวกันจะมขี นาดเทา่ กับ ของแรงท้ังสองเม่ือแรงท้งั สอง อยู่ในแนวเดียวกัน ศทางเดียวกัน แต่จะมีขนาดเท่ากับผลต่างของแรง เม่ือแรงทั้งสอง อยใู่ นแนวเดียวกนั แต่มีทิศทางตรง สำหรบั วตั ถุทีอ่ ยนู่ ิ่ง แรงลพั ธท์ กี่ ระทำต่อวตั ถุมีค่า ย์ ขียนแผนภาพของแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถสุ ามารถเขียน ชล้ กู ศร โดยหวั ลกู ศรแสดงทิศทางของแรง และ าวของลกู ศรแสดงขนาดของแรงที่กระทำตอ่ วัตถุ สียดทานเป็นแรงที่เกดิ ขึ้นระหว่างผวิ สมั ผสั ของวัตถุ นการเคลื่อนท่ีของวัตถุน้ัน โดยถา้ ออกแรงกระทำตอ่ ยู่นงิ่ บนพนื้ ผวิ หน่งึ ให้เคลอื่ นท่ี แรงเสยี ดทานจาก น้ันก็จะตา้ นการเคลื่อนทขี่ องวตั ถุ แต่ถำ้ วตั ถกุ ำลัง ที่ แรงเสียดทานกจ็ ะทำให้วตั ถนุ ั้นเคลือ่ นท่ีชำ้ ลง ดน่ิง
ที่ ชื่อหน่วย รหัส มฐ. ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ 5 พลังงาน ว 2.3 ป 5/1 อธิบายการไดย้ ินเสยี งผา่ นตวั กลาง - จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ขอ ตวั ว 2.3 ป 5/2 ระบตุ วั แปร ทดลองและอธิบาย - เส ลกั ษณะและการเกิดเสยี งสงู เสียงต่ำ ว 2.3 ป 5/3 ออกแบบกำรทดลองและอธบิ าย คว ลักษณะและการเกิดเสยี งดัง เสียงค่อย ว 2.3 ป 5/4 วดั ระดับเสียงโดยใชเ้ ครือ่ งมือวัด แห ระดบั เสยี ง ว 2.3 ป 5/5 ตระหนักในคุณคำ่ ของความรู้เร่ือง ถ้ำ ระดับเสยี งโดยเสนอแนะแนวทางในการหลกี เลีย่ ง และลดมลพิษทางเสยี ง ไดย้ เมอื่ แต เสยี - เส ก่อ เปน็
สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม การได้ยินเสียงนนั้ ต้องอาศัยตวั กลางโดยอาจเป็น 5 431 8 องแข็ง ของเหลว หรอื อากาศ เสียงจะสง่ ผา่ น วกลางมายงั หู สยี งท่ีได้ยินมีระดับสูงตำ่ ของเสียงตา่ งกันขน้ึ กับ วามถขี่ องการส่ันของแหลง่ กำเนดิ เสียง โดยเม่ือ หลง่ กำเนิดเสียงส่นั ดว้ ยความถตี่ ำ่ จะเกิดเสยี งต่ำ แต่ ำสั่นด้วยความถ่ีสงู จะเกดิ เสียงสงู สว่ นเสยี งดงั คอ่ ยที่ ยินขนึ้ กบั พลงั งานการสน่ั ของแหล่งกำเนดิ เสยี ง โดย 7 อแหลง่ กำเนิดเสียงสนั่ พลงั งานมากจะเกิดเสียงดัง 10 4 2 1 ต่ถา้ แหลง่ กำเนดิ เสียงสน่ั ด้วยพลังงานน้อยจะเกดิ ยงค่อย สียงดังมาก ๆ เปน็ อนั ตรายต่อการได้ยินและเสยี งที่ อให้เกิดความรำคาญเปน็ มลพษิ ทางเสียง เดซิเบล นหนว่ ยท่ีบอกถงึ ความดังของเสยี ง
ท่ี ชือ่ หน่วย รหสั มฐ. ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ว 3.1 ป 5/1 เปรียบเทยี บความแตกต่าง - ดาวท่มี องเหน็ ของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษ์จาก บรรยากาศของ แบบจำลอง แหลง่ กำเนิดแส แหล่งกำเนิดแส อาทิตยต์ กกระท ว 3.1 ป 5/2 ใชแ้ ผนท่ดี าวระบุตำแหน่ง - การมองเห็นก และเส้นทาง การขึน้ และตกของกลุ่มดาว ผู้สงั เกต กลุ่มด ฤกษ์บนทอ้ งฟา้ และอธิบายแบบรูป ฤกษ์แต่ละดวงเ ตามเสน้ ทางเดิม 6 โลกและอวกาศ เสน้ ทางการขนึ้ และตก ของกลมุ่ ดาว ตำแหน่งและกา ฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี ทำไดโ้ ดยใชแ้ ผ ปรากฏ ผสู้ งั เกต สงั เกตดาวในท ว 3.2 ป 5/1 เปรยี บเทยี บปริมาณน้ำใน - โลกมที ง้ั นำ้ จืด แตล่ ะแหล่ง และระบุปริมาณน้ำท่มี นษุ ย์ ผวิ ดนิ เช่น ทะเ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ จากข้อมูล นำ้ ในดนิ และน ประมาณร้อยล ทร่ี วบรวมได้ เหลืออกี ประมา จดื จากมากไปน ดินเยือกแขง็ คง ความช้ืนในบรร
สาระสำคญั เวลา น้ำหนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม นบนท้องฟา้ อยู่ในอวกาศซึ่งเปน็ บรเิ วณท่ีอยูน่ อก 11 - 10 งโลกมีทงั้ ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์เปน็ 4 สงจงึ สามารถมองเห็นได้ ส่วนดาวเคราะห์ ไม่ใช่ 21 - 3 สง แตส่ ามารถมองเห็นไดเ้ น่ืองจากแสงจากดวง 3 ทบดาวเคราะห์แลว้ สะทอ้ นเขา้ ส่ตู ำ 11 - 2 กลมุ่ ดาวฤกษม์ ีรูปร่างตา่ ง ๆ เกดิ จากจินตนาการของ 3 ดาวฤกษต์ ่าง ๆ ทีป่ รากฏในท้องฟา้ แต่ละกลมุ่ มดี าว เรยี งกันทต่ี ำแหน่งคงท่ี และมีเสน้ ทางการข้นึ และตก มทุกคนื ซึง่ จะปรากฏตำแหน่งเดิมการสงั เกต ารขนึ้ และตกของดาวฤกษ์และกล่มุ ดาวฤกษ์สามารถ ผนทด่ี าว ซ่ึงระบุมุมทิศและมุมเงยที่กลมุ่ ดาวน้ัน ตสามารถใชม้ ือในการประมาณค่าของมุมเงยเมือ่ ท้องฟา้ ดและน้ำเคม็ ซึ่งอยใู่ นแหลง่ น้ำต่าง ๆ ท่มี ีทัง้ แหล่งน้ำ เล มหาสมุทร บงึ แมน่ ำ้ และแหล่งน้ำใตด้ ิน เชน่ น้ำบาดาล นำ้ ทั้งหมดของโลกแบง่ เปน็ น้ำเคม็ ละ 97.5ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรและแหลง่ นำ้ อน่ื ๆ และท่ี าณร้อยละ 2.5 เป็นนำ้ จืด ถำ้ เรยี งลำดบั ปรมิ าณน้ำ น้อยจะอย่ทู ี่ ธารน้ำแขง็ และพดื น้ำแข็ง นำ้ ใต้ดนิ ชัน้ งตัวและนำ้ แข็งใต้ดนิ ทะเลสาบ ความชืน้ ในดิน รยากาศ บงึ แม่น้ำ และนำ้ ในส่งิ มีชีวิต
ท่ี ชื่อหน่วย รหัส มฐ. ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ ว 3.2 ป 5/2 ตระหนักถงึ คุณคา่ ของน้ำโดย - นำ้ จืดทีม่ น นำเสนอแนวทาง การใชน้ ้ำอย่างประหยดั ประหยัดแล และการอนุรักษ์นำ้ ว 3.2 ป 5/3 สร้างแบบจำลองทอ่ี ธบิ ายการ - วัฏจกั รนำ้ หมนุ เวียน ของนำ้ ในวฏั จกั รน้ำ ต่อเน่ืองระห พฤติกรรมก ว 3.2 ป 5/4 เปรียบเทยี บกระบวนการเกิด - ไอน้ำในอา เมฆ หมอก นำ้ คา้ ง และน้ำค้างแขง็ จาก ลอย เช่น เก แบบจำลอง เมือ่ ละอองน มาก เรียกว ว 3.2 ป 5/5 เปรียบเทยี บกระบวนการเกิด พื้นดิน เรียก ฝน หิมะ และลูกเหบ็ จากข้อมูลท่รี วบรวม อยู่บนพ้ืนผวิ ได้ พื้นดนิ ต่ำกว - ฝน หมิ ะ ล ที่ตกจากฟ้า จนอากาศไม
สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม นุษยน์ ำมาใช้ไดม้ ีปริมาณนอ้ ยมาก จงึ ควรใชน้ ้ำอย่าง ละรว่ มกนั อนรุ ักษ์น้ำ 3 11- 2 ำ เป็นการหมนุ เวียนของนำ้ ทีม่ ีแบบรูป ซ้ำเดิม และ 2 11 - 2 หว่างน้ำในบรรยากาศ นำ้ ผิวดิน และนำ้ ใต้ดิน โดย 2 11 - 2 การดำรงชีวิตของพืชและสัตวส์ ง่ ผลต่อวฏั จกั รน้ำ 3 11 - 2 ากาศจะควบแนน่ เป็นละอองนำ้ เลก็ ๆ โดยมลี ะออง กลอื ฝนุ่ ละออง เกสรดอกไม้ เปน็ อนุภาคแกนกลาง น้ำจำนวนมากเกาะกลมุ่ รวมกนั ลอยอยู่สูงจากพ้ืนดิน วา่ เมฆ แตล่ ะอองน้ำทีเ่ กาะกลุ่มรวมกันอยู่ใกล้ กว่า หมอก ส่วนไอนำ้ ทคี่ วบแน่นเป็นละอองนำ้ เกาะ ววตั ถใุ กลพ้ ืน้ ดนิ เรยี กวา่ นำ้ ค้าง ถ้ำอุณหภูมิ ใกล้ วา่ จดุ เยือกแข็ง น้ำค้างกจ็ ะกลายเป็นน้ำค้างแขง็ ลูกเห็บ เป็นหยาดนำ้ ฟ้าซึ่งเปน็ น้ำท่มี สี ถานะตา่ ง ๆ าถงึ พื้นดนิ ฝน เกดิ จากละอองนำ้ ในเมฆที่รวมตวั กัน มส่ ามารถ
ที่ ชื่อหน่วย รหัส มฐ. ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ 7 เทคโนโลยี ว 4.2 ป 5/1 ใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการ - การออกแ แก้ปญั หา การอธิบายการทำงาน การ หรือผงั งาน คาดการณ์ผลลัพธ์ จากปญั หาอยา่ งงา่ ย เง่อื นไขท่ีคร ความต้องก คำสั่ง เม่อื พ จนกวา่ จะได โปรแกรมขอ ได้ดยี ่งิ ข้ึน ว 4.2 ป 5/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรม - การค้นหา ที่มีการใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะอย่างงา่ ย คน้ หา การ ตรวจหาข้อผดิ พลาดและแก้ไข โปรแกรมสน ติดต่อสอ่ื สา กลุม่ ประช ความรู้ ควา การประเมิน สอดคลอ้ ง ส ข้อมลู ผู้เขยี ครบทกุ ดา้ น
สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนักคะแนน คะแนน (ช.ม.) KK รวม แบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขยี น เป็นข้อความ การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มกี ารตรวจสอบ 3 รอบคลมุ ทุกกรณีเพือ่ ให้ไดผ้ ลลพั ธท์ ี่ถกู ต้องตรงตาม การ หากมีข้อผดิ พลาดให้ตรวจสอบการทำงาน ทีละ พบจดุ ท่ีทำใหผ้ ลลัพธ์ไมถ่ ูกต้อง ให้ทำการแก้ไข ดผ้ ลลัพธ์ท่ีถูกต้องการฝึกตรวจหาข้อผดิ พลาดจาก องผูอ้ ื่นจะช่วยพัฒนาทักษะการหาสาเหตขุ องปัญหา าข้อมูลในอินเทอรเ์ น็ต และการพจิ ารณาผลการ 3 รติดต่อสอื่ สารผา่ นอินเทอร์เนต็ เช่น อีเมล บลอ็ ก นทนา การเขียนจดหมาย การใชอ้ ินเทอร์เน็ตในการ ารและทำงานร่วมกนั เชน่ ใช้นดั หมายในการประชุม ชำสัมพนั ธ์กจิ กรรมในห้องเรียน การแลกเปลยี่ น ามคดิ เห็นในการเรียน ภายใต้การดูแลของครู นความนา่ เช่ือถือของข้อมูล เช่น เปรยี บเทยี บความ สมบรู ณข์ องขอ้ มลู จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของ ยน วันทเี่ ผยแพรข่ ้อมลู ข้อมลู ท่ีดตี ้องมีรายละเอียด น เช่น ข้อดีและข้อเสีย ประโยชน์และโทษ
ว 4.2 ป 5/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอ - การรวบร ข้อมูลและสารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์โดย จะทำให้ได้ส ใช้ซอฟต์แวรห์ รือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี ได้อยา่ งมีปร หลากหลาย เพอ่ื แกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวนั - การใช้ซอฟ การรวบรวม จะชว่ ยให้ก - ตวั อยา่ งป เพ่ือนำเสนอ ทำแบบสำร นำเสนอข้อ ว 4.2 ป 5/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ - อนั ตรายจ อยา่ งปลอดภยั มีมารยาท เข้าใจสทิ ธแิ ละ - มารยาทใน หนา้ ท่ขี องตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน แจง้ - ใช้เทคโนโ ผู้เกี่ยวขอ้ งเม่ือพบข้อมลู หรือบุคคลที่ไม่ เหมาะสม วดั ผลกลางภาค วัดผลปลายภาค รวมทั้งสิ้น
รวมขอ้ มูล ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมนิ ผล 5 สารสนเทศเพื่อใชใ้ นการแก้ปัญหาหรอื การตดั สนิ ใจ ระสทิ ธภิ าพ ฟตแ์ วรห์ รอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ต ทหี่ ลากหลายใน ม ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมนิ ผล นำเสนอ การแก้ปัญหาทำได้อย่างรวดเร็ว ถกู ต้อง และแม่นยำ ปัญหา เช่น ถ่ายภาพและสำรวจแผนท่ี ในท้องถิ่น อแนวทางในการจัดการพนื้ ทว่ี า่ งใหเ้ กิดประโยชน์ รวจความคิดเหน็ ออนไลน์ และวิเคราะห์ขอ้ มลู อมูลโดยการใช้ Blog หรือ web page จากการใช้งานและอาชญากรรม ทางอนิ เทอร์เน็ต 4 นการติดต่อส่ือสารผา่ นอินเทอร์เนต็ โลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย 10 5 5 20 10 5 5 20 120 53 33 12 100
การวเิ คราะหม์ าต วิชา วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชอ่ื หนว่ ย ควา มาตรฐานและตวั ช้วี ัด รู้อะไร ทำอะไร ภาระ มาตรฐาน ว 1.1 ป5/1 รอู้ ะไร - ใบงา บรรยายโครงสร้าง และ - สง่ิ มีชีวติ ทั้งพชื และสตั วม์ ีโครงสรา้ งและลักษณะ - ผังคว ลกั ษณะของส่งิ มชี วี ิตท่ี ทเี่ หมาะสมในแต่ละแหล่งที่อยู่ ซึ่งเปน็ ผลมาจาก เหมาะสมกับการ การปรบั ตวั ของสิ่งมีชีวิต เพ่ือใหด้ ำรงชีวิตและอยู่ ดำรงชวี ิตซ่งึ เป็นผลมา รอดได้ในแต่ละแหลง่ ที่อยู่ เชน่ ผกั ตบชวามชี อ่ ง จากการปรบั ตัวของ อากาศในก้านใบ ชว่ ยให้ลอยน้ำได้ ต้นโกงกางที่ สิง่ มีชีวติ ใน แตล่ ะแหลง่ ขนึ้ อยใู่ น ป่าชายเลนมีรากค้ำจนุ ทำใหล้ ำต้นไมล่ ม้ ทอี่ ยู่ ปลามคี รีบช่วยในการเคลื่อนที่ในนำ้ ทำอะไร ศกึ ษาโครงสร้าง ลกั ษณะของสงิ่ มีชวี ติ และการ ปรบั ตวั ของส่ิงมชี ีวติ
ตรฐานและตัวช้ีวัด ามหลากหลายของสิ่งมีชวี ติ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ะงาน/ช้นิ งาน สมรรถนะสำคัญ คณุ ลักษณะของ คุณลักษณะ วิชา อันพงึ ประสงค์ าน วามคดิ 1. ความสามารถในการ 1. ความ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ม่งุ มน่ั ในการ ส่อื สาร กระตือรอื ร้น ทำงาน 3.มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ความสนใจ
มาตรฐานและตวั ชว้ี ัด รู้อะไร ทำอะไร ภาระ มาตรฐาน ว 1.1 ป 5/2 ร้อู ะไร - ใบงา อธิบายความสัมพันธ์ - ในแหลง่ ท่อี ยู่หน่ึง ๆ สิง่ มีชวี ิตจะมคี วามสมั พันธ์ - ผังห ระหว่างสงิ่ มีชวี ิตกบั ซึง่ กันและกนั และสัมพันธ์กับส่ิงไมม่ ีชวี ิต เพื่อ สง่ิ มีชวี ติ ประโยชน์ต่อการดำรงชวี ติ เชน่ ความสมั พนั ธก์ นั มาตรฐาน ว 1.1 ป 5/3 ด้านการกนิ กันเปน็ อาหาร เป็นแหล่งทอี่ ยู่อาศยั เขียนโซอ่ าหารและระบุ หลบภยั และเลี้ยงดูลกู อ่อน ใช้อากาศในการ บทบาทหน้าที่ของ หายใจ สิง่ มีชวี ิตทเี่ ปน็ ผู้ผลิต - สิ่งมีชวี ติ มีการกนิ กันเป็นอาหารโดยกนิ ตอ่ กนั เป็นทอด ๆ ในรปู แบบของโซ่อาหารทำให้ และผู้บรโิ ภคในโซ่ สามารถระบุบทบาทหนา้ ท่ีของสงิ่ มีชวี ติ เป็น อาหารและ ผู้ผลิตและผู้บริโภค ความสัมพนั ธ์ระหว่าง ส่ิงมชี วี ิตกบั ทำอะไร มาตรฐาน ว 1.1 ป 5/4 - ศึกษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ มีชวี ิตกับ ตระหนักในคุณค่าของ สงิ่ มีชวี ิต สง่ิ แวดล้อมทีม่ ีตอ่ การ - เขียนโซ่อาหารและระบุบทบาทหน้าท่ขี อง ดำรงชวี ติ ของสงิ่ มีชีวติ สิ่งมชี ีวิตทเ่ี ปน็ ผู้ผลติ และผู้บริโภคในโซ่อาหาร โดยมีส่วนร่วม ในการ และความสมั พันธร์ ะหวา่ งสง่ิ มีชีวติ กบั ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
ะงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะสำคัญ คณุ ลักษณะของ คุณลักษณะ วิชา อันพึงประสงค์ าน ห่วงโช่อาหาร 1. ความสามารถในการ 1. ความ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งมั่นในการ สอ่ื สาร กระตือรือรน้ ทำงาน 3. มีวนิ ัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ความสนใจ
มาตรฐานและตัวชีว้ ัด รู้อะไร ทำอะไร ภ ว 1.2 ป 5/1 อธิบายลกั ษณะ รูอ้ ะไร -ใ ทางพันธกุ รรมท่ีมีการ - ส่งิ มีชีวติ ทงั้ พชื สตั ว์ และมนุษย์ เมื่อโต -ผ ถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลกู ของ พืช สตั ว์ และมนุษย์ เตม็ ทจี่ ะมีการสืบพนั ธ์ุเพื่อเพ่ิมจำนวนและดำรง ว 1.2 ป 5/2 แสดงความ อยากรู้อยากเหน็ โดยการถาม พันธ์ุ โดยลูกท่ีเกิดมาจะไดร้ ับการถา่ ยทอด คำถามเกยี่ วกับลักษณะท่ี คล้ายคลึงกนั ของตนเองกบั ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมจากพ่อแม่ทำใหม้ ี พอ่ แม่ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมท่ีเฉพาะแตกต่างจาก สิ่งมีชวี ติ ชนดิ อืน่ - พชื มกี ารถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม เช่น ลกั ษณะของใบ สดี อก - สตั ว์มกี ารถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม เช่น สีขน ลักษณะของขน ลักษณะของหู - มนษุ ย์มกี ารถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม เช่น เชงิ ผมท่หี นา้ ผาก ลกั ยิม้ ลกั ษณะหนังตำ การห่อลน้ิ ลกั ษณะของตง่ิ หู ทำอะไร - ศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม
ภาระงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะสำคัญ คุณลกั ษณะของ คณุ ลกั ษณะ วิชา อนั พึงประสงค์ ใบงาน 1. ความสามารถใน ผงั ความคดิ การส่อื สาร 1. ความ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ความสามารถใน กระตือรือร้น 2. มุง่ มัน่ ในการ การคิด 2. ความสนใจ ทำงาน 3. วินัย
มาตรฐานและตวั ชว้ี ัด รู้อะไร ทำอะไร ภ ว 2.1 ป 5/1 อธิบายการ ร้อู ะไร -ท เปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อ - การเปล่ียนสถานะของสสารเป็นการ -ใ ทำใหส้ สารร้อนข้ึนหรือเย็นลง เปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เม่ือเพ่ิมความร้อน -ร โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ใหก้ บั สสารถงึ ระดบั หน่งึ จะทำใหส้ สารท่ีเปน็ ของแข็งเปล่ยี นสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว และเมือ่ เพ่มิ ความร้อนต่อไป จนถึงอีกระดบั หนึ่งของเหลวจะเปลีย่ นเปน็ แกส๊ เรยี กวา่ การกลายเปน็ ไอ แต่เม่ือลดความร้อน ลงถงึ ระดับหน่ึงแกส๊ จะเปล่ยี นสถานะเป็น ของเหลว เรียกว่า การควบแนน่ และถา้ ลด ความร้อนต่อไปอีกจนถึงระดับหน่ึงของเหลวจะ เปลี่ยนสถานะเป็นของแขง็ เรียกว่า การแขง็ ตวั สสารบางชนิดสามารถเปลย่ี นสถานะจาก ของแข็งเป็นแกส๊ โดยไมผ่ ่านการเปน็ ของเหลว เรยี กว่า การระเหิด ส่วนแกส๊ บางชนดิ สามารถ เปล่ียนสถานะเปน็ ของแข็งโดยไมผ่ า่ น การเป็น ของเหลว เรยี กวา่ การะเหิดกลับ ทำอะไร - ออกแบบการทดลอง ทำการทดลอง วเิ คราะห์ เขียนอธิบายการทดลอง
ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะของ คุณลกั ษณะ วชิ า อนั พงึ ประสงค์ ทดลอง 1. ความสามารถใน ใบงาน การสอ่ื สาร 1. ความ 1. ใฝ่เรยี นรู้ รายงานการทดลอง 2. ความสามารถใน กระตือรือร้น 2. มุ่งมน่ั ในการ การคิด 2. ความสนใจ ทำงาน 3. มวี ินยั
มาตรฐานและตัวชวี้ ดั รู้อะไร ทำอะไร ภ ว 2.1 ป 5/2 อธิบายการ รอู้ ะไร -ท ละลายของสารในน้ำ โดยใช้ - เมอ่ื ใส่สารลงในนำ้ แลว้ สารน้ันรวมเปน็ เน้อื -ใ หลกั ฐานเชิงประจักษ์ เดียวกนั กับน้ำท่วั ทุกสว่ น แสดงว่าสารเกดิ -ร การละลาย เรยี กสารผสมที่ได้วา่ สารละลาย ทำอะไร - ออกแบบการทดลอง ทำการทดลอง วเิ คราะห์ เขียนอธิบายการทดลอง ว 2.1 ป 5/3วิเคราะหก์ าร รู้อะไร -ท เปลยี่ นแปลงของสาร เมื่อเกดิ - เมื่อผสมสาร 2 ชนิดขน้ึ ไปแลว้ มีสารใหม่ - ใ การเปลยี่ นแปลงทางเคมี โดย เกิดขึ้น ซงึ่ มสี มบตั ิตา่ งจากสารเดิม หรือเม่ือสาร - ร ชนิดเดียว เกิดการเปล่ยี นแปลงแลว้ มีสารใหม่ ใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เกิดขึ้น การเปลย่ี นแปลงนี้เรยี กวา่ การ เปล่ยี นแปลงทางเคมี ซ่งึ สงั เกตไดจ้ ากมสี ี หรอื กล่ินตา่ งจากสารเดิม หรือ มีฟองแกส๊ หรือมี ตะกอนเกิดขึน้ หรอื มีการเพม่ิ ข้ึนหรือลดลงของ อณุ หภมู ิ ทำอะไร - ออกแบบการทดลอง ทำการทดลอง วิเคราะห์ เขยี นอธิบายการทดลอง
ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสำคัญ คุณลกั ษณะของ คุณลักษณะ วชิ า อันพึงประสงค์ ทดลอง 1. ความสามารถใน ใบงาน การส่อื สาร 1. ความ 1. ใฝเ่ รียนรู้ รายงานการทดลอง 2. ความสามารถใน กระตือรอื ร้น 2. มงุ่ มั่นในการ การคดิ 2. ความสนใจ ทำงาน 3. มวี นิ ัย ทดลอง 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. ใฝเ่ รียนรู้ ใบงาน การส่อื สาร กระตือรือร้น 2. มุ่งมั่นในการ รายงานการทดลอง 2. ความสามารถใน 2. ความสนใจ ทำงาน การคิด 3. มีวนิ ยั
มาตรฐานและตวั ชวี้ ัด รู้อะไร ทำอะไร ภ ว 2.1 ป 5/4 วเิ คราะห์และ รอู้ ะไร -ท ระบุการเปลี่ยนแปลงทีผ่ นั - เม่ือสารเกดิ การเปล่ยี นแปลงแล้ว สาร -ใ กลับได้และการเปลีย่ นแปลง สามารถเปลีย่ นกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการ -ร ท่ผี นั กลบั ไม่ได้ เปล่ียนแปลงที่ผันกลับได้ เชน่ การหลอมเหลว การกลายเปน็ ไอ การละลาย แต่สารบางอย่าง เกดิ การเปลี่ยนแปลง แล้วไม่สามารถเปล่ียน กลบั เป็นสารเดิมได้ เปน็ การเปล่ยี นแปลงทีผ่ นั กลบั ไม่ได้ เชน่ การเผาไหม้ การเกดิ สนมิ ว 2.1 ป 5/1 อธบิ ายวิธีการ ทำอะไร -ท หาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรง - ออกแบบการทดลอง ทำการทดลอง วเิ คราะห์ -ใ ในแนวเดยี วกนั ทก่ี ระทำต่อ เขียนอธบิ ายการทดลอง -ร วัตถใุ นกรณีท่วี ัตถุอยนู่ ่ิงจาก รูอ้ ะไร หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ - แรงลพั ธ์เปน็ ผลรวมของแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ ว 2.1 ป 5/2 เขียนแผนภาพ แสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุที่ โดยแรงลพั ธข์ องแรง 2 แรงท่ีกระทำต่อวัตถุ อยู่ในแนวเดียวกันและแรง ลัพธ์ที่กระทำต่อวตั ถุ เดียวกนั จะมีขนาดเท่ากับผลรวมของแรงทง้ั สอง เม่อื แรงทง้ั สอง อยใู่ นแนวเดียวกันและมีทิศทาง เดยี วกนั แต่จะมีขนาดเทา่ กบั ผลตา่ งของแรงทัง้ สองเมื่อแรงท้ังสอง อยใู่ นแนวเดยี วกันแต่มีทิศ ทางตรงข้ามกัน สำหรบั วัตถุที่อยู่นง่ิ แรงลพั ธ์ท่ี กระทำต่อวตั ถุมีคา่ เป็นศูนย์
ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสำคญั คณุ ลกั ษณะของ คุณลักษณะ วชิ า อันพึงประสงค์ ทดลอง 1. ความสามารถใน ใบงาน การส่อื สาร 1. ความ 1. ใฝเ่ รียนรู้ รายงานการทดลอง 2. ความสามารถใน กระตือรอื ร้น 2. มงุ่ มั่นในการ การคิด 2. ความสนใจ ทำงาน 3. มวี นิ ัย ทดลอง 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. ใฝเ่ รียนรู้ ใบงาน การส่อื สาร กระตือรือร้น 2. มุ่งมัน่ ในการ รายงานการทดลอง 2. ความสามารถใน 2. ความสนใจ ทำงาน การคิด 3. มีวนิ ยั
ว 2.1 ป 5/3 ใช้เครอื่ งชัง่ - การเขยี นแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวตั ถุ สปรงิ ในการวัดแรงท่ีกระทำ สามารถเขียนได้โดยใช้ลูกศร โดยหวั ลูกศรแสดง ต่อวตั ถุ ทศิ ทางของแรง และความยาวของลูกศรแสดง ขนาดของแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ ทำอะไร - เขยี นแผนภาพแสดงแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถทุ ี่อยู่ ในแนวเดยี วกันและแรงลัพธท์ ่ีกระทำตอ่ วัตถุ - ทำการทดลอง
มาตรฐานและตวั ชี้วัด รู้อะไร ทำอะไร ภ ว 2.2 ป 5/4 ระบผุ ลของแรง รู้อะไร -ท เสียดทานท่มี ตี ่อ การ - แรงเสยี ดทานเปน็ แรงที่เกิดข้นึ ระหว่าง - ใ เปลยี่ นแปลงการเคล่ือนท่ีของ ผิวสัมผัสของวตั ถุ เพื่อต้านการเคลอ่ื นที่ของ - ร วัตถุนั้น โดยถ้าออกแรงกระทำต่อวตั ถทุ ่ีอย่นู ่งิ วัตถุจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ บนพน้ื ผิวหนึ่งใหเ้ คลือ่ นที่ แรงเสียดทานจาก พ้ืนผิวน้นั ก็จะตา้ นการเคล่ือนท่ีของวตั ถุ แตถ่ ้ำ ว 2.1 ป 5/5 เขยี นแผนภาพ วัตถุกำลังเคล่ือนที่ แรงเสียดทานกจ็ ะทำใหว้ ัตถุ แสดงแรงเสียดทานและแรง นั้นเคลื่อนที่ช้ำลง หรือหยดุ นิ่ง ทอี่ ยู่ในแนวเดยี วกันที่กระทำ ตอ่ วัตถุ ทำอะไร - ออกแบบการทดลอง ทำการทดลอง วิเคราะห์ เขียนอธบิ ายการทดลอง
ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะของ คุณลกั ษณะ วชิ า อนั พงึ ประสงค์ ทดลอง 1. ความสามารถใน ใบงาน การสอ่ื สาร 1. ความ 1. ใฝ่เรียนรู้ รายงานการทดลอง 2. ความสามารถใน กระตือรือร้น 2. มุ่งมน่ั ในการ การคิด 2. ความสนใจ ทำงาน 3. มวี ินยั
มาตรฐานและตัวชว้ี ัด รอู้ ะไร ทำอะไร ว 2.3 ป 5/1 อธบิ ายการไดย้ ินเสียง รู้อะไร ผ่านตวั กลาง จากหลักฐานเชงิ - การไดย้ นิ เสียงน้ันตอ้ งอาศัยตวั กลางโดยอาจเป็น ประจกั ษ์ ของแข็ง ของเหลว หรอื อากาศ เสยี งจะส่งผ่านตัวกล มายังหู ทำอะไร - ออกแบบการทดลอง ทำการทดลอง วเิ คราะห์เขยี อธบิ ายการทดลอง ว 2.3 ป 5/2 ระบตุ วั แปร ทดลอง รอู้ ะไร และอธิบาย ลักษณะและการเกดิ - เสยี งท่ีไดย้ นิ มรี ะดบั สงู ต่ำของเสยี งต่างกันขึ้นกับคว เสียงสงู เสยี งต่ำ ของการสนั่ ของแหลง่ กำเนิดเสียง โดยเมื่อแหล่งกำเน ว 2.3 ป 5/3 ออกแบบกำรทดลอง เสยี งส่ันดว้ ยความถ่ตี ำ่ จะเกดิ เสียงต่ำ แต่ถำ้ ส่นั ด้วย และอธบิ าย ลักษณะและการเกิด ความถส่ี ูงจะเกดิ เสยี งสูง ส่วนเสียงดังคอ่ ยท่ีได้ยนิ ขึ้น เสยี งดงั เสยี งคอ่ ย พลังงานการสน่ั ของแหลง่ กำเนดิ เสียง โดยเม่ือ ว 2.3 ป 5/4 วัดระดบั เสยี งโดยใช้ แหล่งกำเนิดเสียงส่ันพลังงานมากจะเกดิ เสยี งดัง แต เครื่องมอื วดั ระดบั เสยี ง แหลง่ กำเนดิ เสยี งสั่นดว้ ยพลังงานน้อยจะเกดิ เสียงคอ่ ว 2.3 ป 5/5 ตระหนักในคุณคำ่ - เสยี งดังมาก ๆ เป็นอนั ตรายตอ่ การได้ยินและเสียง ของความรู้เร่ืองระดบั เสียงโดย ก่อใหเ้ กดิ ความรำคาญเป็นมลพษิ ทางเสยี ง เดซิเบลเ เสนอแนะแนวทางในการหลีกเล่ียง หนว่ ยท่บี อกถึงความดังของเสียง และลดมลพิษทางเสยี ง ทำอะไร - ออกแบบการทดลอง ทำการทดลองการเกดิ เสยี ง วิเคราะหเ์ ขียนอธิบายการทดลอง
ภาระงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะสำคญั คุณลักษณะของ คุณลกั ษณะ วิชา อันพึงประสงค์ - ทดลอง 1. ความสามารถ 1. ความ 1. ใฝเ่ รียนรู้ น - ใบงาน ในการสื่อสาร กระตือรอื รน้ 2. มงุ่ มั่นในการ ลาง - รายงานการ 2. ความสามารถ 2. ความสนใจ ทำงาน ทดลอง ในการคิด 3. มวี นิ ัย ยน - ทดลองการเกิด 1. ความสามารถ 1. ความ 1. ใฝ่เรียนรู้ วามถี่ เสียง ในการสื่อสาร กระตือรือรน้ 2. มุ่งมนั่ ในการ นิด - ใบงาน 2. ความสามารถ 2. ความสนใจ ทำงาน ในการคดิ 3. มวี นิ ยั - รายงานการ นกบั ทดลอง ต่ถ้า อย งที่ เปน็
มาตรฐานและตัวช้วี ดั รอู้ ะไร ทำอะไร ว 3.1 ป 5/1 เปรยี บเทยี บความ รอู้ ะไร แตกตา่ งของดาวเคราะห์และดาว - ดาวทม่ี องเหน็ บนท้องฟ้าอยใู่ นอวกาศซึ่งเป็นบรเิ ฤกษ์จากแบบจำลอง ทอี่ ยูน่ อกบรรยากาศของโลกมที ้งั ดาวฤกษ์และดาว เคราะห์ ดาวฤกษเ์ ปน็ แหลง่ กำเนิดแสงจึงสามารถ ว 3.1 ป 5/2 ใช้แผนทด่ี าวระบุ มองเห็นได้ สว่ นดาวเคราะห์ ไมใ่ ช่แหล่งกำเนดิ แสง ตำแหนง่ และเส้นทาง การขนึ้ และ สามารถมองเหน็ ได้เนอ่ื งจากแสงจากดวงอาทติ ยต์ ก ตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า กระทบดาวเคราะห์แล้วสะท้อนเขา้ สตู่ ำ และอธิบายแบบรปู เส้นทางการข้ึน ทำอะไร และตก ของกล่มุ ดาวฤกษ์บน - ศึกษาดวงดาวบนท้องฟ้า ทอ้ งฟ้าในรอบปี รูอ้ ะไร - การมองเหน็ กลุ่มดาวฤกษ์มีรปู ร่างตา่ ง ๆ เกิดจาก จินตนาการของผู้สงั เกต กลุ่มดาวฤกษ์ตา่ ง ๆ ที่ปราก ในทอ้ งฟ้าแต่ละกลุ่มมดี าวฤกษ์แตล่ ะดวงเรียงกนั ท่ี ตำแหน่งคงที่ และมีเสน้ ทางการขนึ้ และตกตามเสน้ ท เดมิ ทุกคืน ซง่ึ จะปรากฏตำแหน่งเดิมการสงั เกตตำแ และการขน้ึ และตกของดาวฤกษ์และกลมุ่ ดาวฤกษ์ สามารถทำได้โดยใชแ้ ผนท่ีดาว ซงึ่ ระบุมุมทิศและมุม ท่กี ลุ่มดาวนน้ั ปรากฏ ผู้สังเกตสามารถใชม้ ือในการ ประมาณคา่ ของมมุ เงยเม่ือสงั เกตดาวในท้องฟา้ ทำอะไร - ศึกษาแผนท่ีดาว - ศกึ ษาดวงดาวบนท้องฟ้า
ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสำคัญ คณุ ลักษณะของ คุณลักษณะ วิชา อันพึงประสงค์ - ใบงาน 1. ความสามารถ 1. ความ 1. ใฝ่เรยี นรู้ เวณ ในการสอ่ื สาร กระตือรอื รน้ 2. มุ่งม่นั ในการ 2. ความสามารถ 2. ความสนใจ ทำงาน ในการคิด 3. มีวนิ ัย แต่ - ใบงาน 1. ความสามารถ 1. ความ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ ก - แผนท่ดี าว ในการสื่อสาร กระตือรอื ร้น 2. มงุ่ ม่ันในการ กฏ 2. ความสามารถ 2. ความสนใจ ทำงาน ในการคิด 3. มีวนิ ยั ทาง แหนง่ มเงย
มาตรฐานและตัวชีว้ ัด รูอ้ ะไร ทำอะไร ว 3.2 ป 5/1 เปรียบเทยี บปรมิ าณ รอู้ ะไร นำ้ ในแตล่ ะแหลง่ และระบุปริมาณ - โลกมที ้งั น้ำจดื และนำ้ เค็มซึ่งอย่ใู นแหล่งนำ้ ต่าง ๆ ท น้ำท่ีมนษุ ยส์ ามารถนำมาใช้ ทง้ั แหลง่ นำ้ ผิวดิน เช่น ทะเล มหาสมทุ ร บงึ แมน่ ้ำ แ ประโยชนไ์ ด้ จากข้อมลู ทรี่ วบรวม แหล่งน้ำใต้ดิน เช่น นำ้ ในดิน และนำ้ บาดาล นำ้ ท้ังห ได้ ของโลกแบ่งเป็นนำ้ เค็มประมาณร้อยละ 97.5ซึ่งอยใู่ มหาสมุทรและแหล่งนำ้ อื่น ๆ และทเ่ี หลืออีกประมา ร้อยละ 2.5 เปน็ นำ้ จดื ถำ้ เรยี งลำดับปรมิ าณน้ำจดื จ มากไปน้อยจะอยู่ท่ี ธารน้ำแข็งและพืดน้ำแข็ง น้ำใต ชัน้ ดนิ เยือกแข็งคงตวั และนำ้ แข็งใต้ดิน ทะเลสาบ ความชื้นในดนิ ความช้ืนในบรรยากาศ บงึ แม่นำ้ แล น้ำในสงิ่ มีชวี ติ ทำอะไร - ศกึ ษา เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแตล่ ะแหล่ง และ ปรมิ าณนำ้ ที่มนุษย์สามารถนำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ว 3.2 ป 5/2ตระหนักถึงคณุ ค่าของ รอู้ ะไร นำ้ โดยนำเสนอแนวทาง การใช้น้ำ - น้ำจืดทีม่ นษุ ย์นำมาใช้ไดม้ ีปริมาณนอ้ ยมาก จงึ ควร อยา่ งประหยัดและการอนรุ ักษ์นำ้ น้ำอย่างประหยดั และรว่ มกันอนรุ กั ษ์น้ำ ทำอะไร - ศกึ ษาแนวทางการใชน้ ำ้ -นำเสนอข้อมูล
ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสำคัญ คณุ ลักษณะของ คุณลกั ษณะ วชิ า อันพงึ ประสงค์ - ใบงาน 1. ความสามารถ 1. ความ 1. ใฝเ่ รียนรู้ ท่ีมี ในการสื่อสาร กระตือรือรน้ 2. มุ่งมนั่ ในการ และ 2. ความสามารถ 2. ความสนใจ ทำงาน หมด ในการคดิ 3. มีวินัย ใน าณ จาก ต้ดิน ละ ะระบุ 1. ความสามารถ 1. ความ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ ในการสอ่ื สาร กระตือรอื รน้ 2. มุ่งม่ันในการ - ใบงาน 2. ความสามารถ 2. ความสนใจ ทำงาน รใช้ ในการคดิ 3. มีวินยั
มาตรฐานและตัวชว้ี ัด รู้อะไร ทำอะไร ว 3.2 ป 5/3 สรา้ ง รูอ้ ะไร แบบจำลองท่ีอธบิ ายการ หมนุ เวียน ของนำ้ ในวฏั จกั ร - วฏั จกั รน้ำ เปน็ การหมุนเวียนของนำ้ ทีม่ แี บบรูป ซ้ำเดมิ แ น้ำ ต่อเน่ืองระหว่างน้ำในบรรยากาศ นำ้ ผิวดนิ และน้ำใต้ดิน โ พฤติกรรมการดำรงชีวติ ของพืชและสัตว์ส่งผลต่อวฏั จกั รนำ้ ว 3.2 ป 5/4 เปรยี บเทียบ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก ทำอะไร นำ้ คา้ ง และน้ำค้างแขง็ จาก - ศกึ ษาวฏั จักรของน้ำ แบบจำลอง - สร้างแบบจำลองท่ีอธบิ ายการหมุนเวยี น ของนำ้ ในวฏั จกั ร รู้อะไร - ไอนำ้ ในอากาศจะควบแนน่ เป็นละอองน้ำเลก็ ๆ โดยมีละ ลอย เชน่ เกลอื ฝนุ่ ละออง เกสรดอกไม้ เป็นอนภุ าคแกนก เม่อื ละอองนำ้ จำนวนมากเกาะกลุ่มรวมกันลอยอยสู่ ูงจากพ มาก เรียกว่า เมฆ แตล่ ะอองน้ำท่ีเกาะกลุ่มรวมกนั อยู่ใกล้ พน้ื ดิน เรียกวา่ หมอก สว่ นไอน้ำที่ควบแน่นเปน็ ละอองนำ้ เ อยู่บนพ้ืนผิววตั ถุใกลพ้ น้ื ดนิ เรยี กว่า นำ้ คา้ ง ถ้ำอณุ หภูมิ ใก พน้ื ดินตำ่ กวา่ จุดเยือกแข็ง นำ้ คา้ งก็จะกลายเปน็ นำ้ ค้างแข็ง รอู้ ะไร - ศกึ ษากระบวนการเกิดเมฆ หมอก นำ้ ค้าง และนำ้ ค้างแขง็
คุณลักษณะ ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสำคญั คุณลกั ษณะของวิชา อันพงึ ประสงค์ - ใบงานวฏั จักรของ 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือรน้ 1. ใฝ่เรียนรู้ และ น้ำ การแกป้ ัญหา 2. ความสนใจ 2. มุ่งมนั่ ใน โดย - แบบจำลอง 2. ความสามารถใน การทำงาน ำ การคิด 3. มวี นิ ัย รน้ำ - ใบงานการทดลอง 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือร้น 1. ใฝเ่ รยี นรู้ ะออง การควบแน่น การแก้ปัญหา 2. ความสนใจ 2. ม่งุ มน่ั ใน กลาง - แบบฝกึ หัด 2. ความสามารถใน การทำงาน พื้นดนิ การคิด 3. มีวนิ ัย เกาะ กล้ ง ง
มาตรฐานและตัวชว้ี ัด รู้อะไร ทำอะไร ว 3.2 ป 5/5 เปรียบเทยี บ รอู้ ะไร กระบวนการเกดิ ฝน หมิ ะ - ฝน หมิ ะ ลูกเห็บ เป็นหยาดน้ำฟา้ ซ่ึงเปน็ น้ำท่ีมีสถานะตา่ ง และลกู เหบ็ จากขอ้ มูลท่ี ทตี่ กจากฟ้าถงึ พ้นื ดิน ฝน เกดิ จากละอองน้ำในเมฆทีร่ วมตัว รวบรวมได้ จนอากาศไม่สามารถ ทำอะไร - ศกึ ษาและเปรียบเทยี บกระบวนการเกดิ ฝน หิมะ และลูกเ
ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสำคญั คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะของวิชา อันพึง ประสงค์ - ใบงาน 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือร้น 1. ใฝ่เรยี นรู้ งๆ การแก้ปัญหา วกนั 2. ความสามารถใน 2. ความสนใจ 2. มงุ่ มน่ั ใน การคดิ การทำงาน 3. มีวนิ ยั เหบ็
มาตรฐานและตวั ช้ีวัด รู้อะไร ทำอะไร ว 4.2 ป 5/1 ใช้เหตุผลเชิง รู้อะไร ตรรกะในการแกป้ ัญหา การ - การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรือเงอื่ นไข อธิบายการทำงาน การ ครอบคลุมทุกกรณีมาใชพ้ ิจารณา ในการแก้ปัญหา การอธิบ คาดการณผ์ ลลพั ธ์ จาก การทำงาน หรือ การคาดการณผ์ ลลัพธ์ ปัญหาอย่างง่าย - สถานะเริ่มต้นของการทำงานท่ีแตกต่างกันจะให้ผลลัพธท์ แตกตา่ งกัน - ตัวอยา่ งปัญหา เช่น เกม Sudoku , โปรแกรมทำนายตวั เ โปรแกรมสร้างรูปเรขาคณิตตามค่าข้อมลู เข้า, การจัดลำดบั ทำงานบ้านในช่วงวันหยุด, จัดวางของในครัว ทำอะไร - ทำใบงาน - เขยี นโปรแกรม
ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสำคญั คุณลกั ษณะ คณุ ลักษณะของวิชา อนั พึง ประสงค์ - ใบงาน 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือรน้ 1. ใฝเ่ รียนรู้ ขท่ี - แบบทดสอบ การแกป้ ัญหา บาย 2. ความสามารถใน 2. ความสนใจ 2. ม่งุ มน่ั ใน การคดิ ที่ 3. ความสามารถใน การทำงาน การใช้เทคโนโลยี 3. มีวนิ ัย เลข, บการ
มาตรฐานและตวั ช้ีวัด รอู้ ะไร ทำอะไร ว 4.2 ป 5/2 ออกแบบ ร้อู ะไร และเขยี นโปรแกรมทีม่ ี - การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียน เปน็ ข้อความ การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ ผงั งาน อย่างง่าย ตรวจหา - การออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่ีมีการตรวจสอบเง่อื นไขท่ี ขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไข ครอบคลุมทกุ กรณเี พื่อให้ได้ผลลัพธ์ท่ีถกู ต้องตรงตามความตอ้ ง - หากมีขอ้ ผดิ พลาดใหต้ รวจสอบการทำงาน ทลี ะคำส่ัง เม่ือพบ ทที่ ำใหผ้ ลลัพธไ์ มถ่ ูกต้อง ให้ทำการแก้ไขจนกว่าจะไดผ้ ลลัพธ์ท ถูกต้อง - การฝึกตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดจากโปรแกรมของผู้อ่นื จะช่วยพัฒ ทกั ษะการหาสาเหตขุ องปัญหาได้ดีย่งิ ขนึ้ - ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ โปรแกรมตรวจสอบเลขคู่เลขคี่ โปรแ รบั ข้อมูลนำ้ หนักหรอื สว่ นสงู แล้วแสดงผลความสมส่วนของร่าง , โปรแกรมสงั่ ให้ ตวั ละครทำตามเงอ่ื นไขทกี่ ำหนด - ซอฟตแ์ วร์ท่ีใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, logo ทำอะไร ออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขยี น เปน็ ข้อความ หรือผ งาน
ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสำคัญ คุณลกั ษณะของวิชา คณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ - เขียนโปรกรม 1. ความสามารถใน 1. ความกระตือรือร้น 1. ใฝเ่ รียนรู้ หรือ การแก้ปัญหา 2. ความสามารถใน 2. ความสนใจ 2. มงุ่ มนั่ ในการ งการ การคิด บจดุ 3. ความสามารถใน ทำงาน ที่ การใช้เทคโนโลยี 3. มวี ินัย ฒนา แกรม งกาย ผงั
Search