Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงสร้างรายวิชา ป.2

โครงสร้างรายวิชา ป.2

Published by jarunpanakul, 2018-11-07 07:08:06

Description: โครงสร้างรายวิชา ป.2

Search

Read the Text Version

การออกแบบการจัดการเรียนรอู งิ มาตรฐานการเรยี นรู กลมุ สาระการเรียนรู วทิ ยาศาสตรวชิ า วิทยาศาสตร รหัสวิชา ว12101 ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 2 โดย ชื่อ นางอมลสิริ คาํ ฟู ตาํ แหนง พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 จังหวดั เชยี งใหม สํานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ผงั มโนทัศนรายวชิ าวิทยาศาสตร รหสั วิชา ว 12101 ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที่ 2 ปก ารศกึ ษา 2561หนว ยที่ 1 (20 ชั่วโมง) หนว ยที่ 2 (15ช่ัวโมง) ส่ิงมชี ีวิต ดนิ บานเรา รายวิชาวิทยาศาสตร ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี 5 จาํ นวน 80 ช่วั โมงหนว ยท่ี 3 (15 ชั่วโมง) หนว ยท่ี 4 (15 ชว่ั โมง) ของเลน ของใช แรงในธรรมชาติ หนว ยที่ 5 (15 ชั่วโมง) พลังงาน

คําอธบิ ายรายวชิ ารายวิชา วทิ ยาศาสตร กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตรชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1-2รหสั วชิ า ว 12101 เวลา 80 ช่วั โมง/ป ศกึ ษาและวเิ คราะห สิ่งทม่ี ีชวี ติ กบั สง่ิ ท่ีไมม ชี วี ิต หนาทข่ี องโครงสรางตางๆ ของพชื และสัตว ปจ จัยการดาํ รงชวี ิตการถา ยทอดลกั ษณะ ความสมั พนั ธข องสิ่งมีชวี ิตกบั สงิ่ แวดลอ ม การใชท รพั ยากรธรรมชาติ ปญ หาของทรัพยากรธรรมชาติ การทําของเลน ของใชใ นชวี ิตประจาํ วัน และคุณสมบัตขิ องวัสดุ ดินและสวนประกอบของดิน แหลงนํ้าในทอ งถ่นิ อากาศรอบๆ ตัวเรา อณุ หภูมขิ องอากาศ จักรวาลและอวกาศ โดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร การสบื เสาะหาความรู การสาํ รวจ ตรวจสอบ การสืบคนขอ มลู และการอภปิ ราย เพ่ือใหเ กิดความรู ความคดิ ความเขาใจ สามารถสื่อสารสง่ิ ท่ีเรียนรู มีความสามารถในการตัดสินใจนําความรูไปใชใ นชีวติ ประจําวัน มีจริยธรรม คุณธรรมและคา นิยมทีเ่ หมาะสมตวั ชว้ี ดัว 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5ว 1.2 ป.2/1ว 3.1 ป.2/1, ป.2/2ว 4.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3ว 5.1 ป.2/1, ป.2/2ว 6.1 ป.2/1ว 7.1 ป.2/1ว 8.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7รวม 22 ตัวช้ีวดั

การจัดทําโครง รายวชิ า วิทยาศาสตร รหัสวชิ า 12101 ชน้ั ประถมศึกที่ ช่อื หนวย รหัส มฐ. ตัวช้ีวดั /ผลการเรยี นรู เจรญิ เ1 สิ่งมชี ีวิต พชื มกี ว1.1 ป.2/1ทดลองและอธิบาย น้าํ แสง เปน พชื มีป ปจ จยั ทจ่ี าํ เปนตอ การดํารงชีวิตของพชื เครอ่ื ง ว1.1 ป.2/2อธบิ ายอาหาร นาํ้ อากาศ เปน ตองอ ปจจยั ทีจ่ ําเปน ตอการดํารงชีวิต และการ ไดแก เจริญเตบิ โตของพืชและสตั วและนาํ ความรูไป ใชป ระโยชน ธรรมช อาหา ว1.1 ป.2/3สาํ รวจและอธบิ าย พชื และสตั ว เนื้อสัต สามารถตอบสนองตอแสง อุณหภูมิ และการ อาหา สัมผสั ว1.1 ป.2/4ทดลองและอธิบาย รางกายของ มนุษยส ามารถ ตอบสนองตอแสง อุณหภมู ิ และการสมั ผัส ว1.1 ป.2/5อธบิ ายปจจยั ท่ี จาํ เปนตอ การดาํ รงชีวิต และการเจรญิ เติบโต ของมนษุ ย ว1.2 ป.2/1อธบิ ายประโยชนของพชื และสัตว ในทอ งถ่ิน

งสรา งรายวชิ ากษาปท ่ี 2 จํานวน 80 ชวั่ โมง ปการศกึ ษา 2561 สาระสาํ คัญ เวลา นํา้ หนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) K P A รวม ปจจยั ที่จาํ เปนตอ การดํารงชีวิตและการเติบโตของพืช ไดแ ก น้ํา แสง อาหาร และอากาศการตอบสนองตอแสง อุณหภูมิ และการสัมผัสประโยชนต อมนุษย คือ เปนอาหาร ท่ีอยูอาศยังนงุ หม และยารักษาโรค สัตวตาง ๆ สามารถดํารงชวี ติ และเจริญเติบโตได 20 642 12อาศัยปจ จยั ที่จาํ เปน ตอการดํารงชวี ิตและเจริญเติบโต อาหาร น้ํา อากาศ และที่อยูอาศัย สตั วแตละชนิดกินอาหารแตกตางกนั ขึ้นอยกู ับชาตขิ องสัตว ซึ่งสามารถแบง สัตวต ามเกณฑก ารกนิารได 3 ประเภท คือ สตั วกนิ พชื เปนอาหาร สัตวก ินตวเ ปน อาหาร และสตั วกินทั้งพืชและสตั วเปนาร

ท่ี ช่ือหนวย รหสั มฐ. ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู2. ดนิ บา นเรา ว6.1 ป2/1สํารวจและจําแนกประเภทของดนิ3. ของเลน ของใช โดยใชส มบตั ิทางกายภาพเปน เกณฑ และนํา กายภ4. แรงในธรรมชาติ ดินทร ความรูไปใชประโยชน ว3.1 ป2/1สังเกตและระบลุ ักษณะที่ปรากฏ แตกต หรือสมบตั ขิ องวสั ดทุ ี่ใชทําของเลน ของใชใ น ปลูกใ ชีวติ ประจาํ วัน ตอ งก ผา นได ว3.1 ป2/2จาํ แนกวัสดุทใี่ ชทําของเลนของใช ดนิ ทร ในชวี ิตประจําวันรวมทง้ั ระบเุ กณฑทใี่ ชจาํ แนก ๆ เช การซมึ แตกต สมบตั ว4.1 ป2/1ทดลองและอธิบายแรงทีเ่ กดิ จาก แม แมเ หล็ก แมเหล เหล็ก ว4.1 ป2/2อธิบายการนาํ แมเหลก็ มาใช ดงึ ดดู ประโยชน 2 แทง เม่อื นํา ว4.1 ป2/3ทดลองและอธบิ ายแรงไฟฟา ที่เกิด แรงผล จากการถูวัตถบุ างชนดิ เรยี กว แมเ หล

สาระสําคญั เวลา น้าํ หนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวม ดินแบง ออกเปน 3 ประเภท ตามสมบัติทาง 15 642 12ภาพของดิน ไดแ ก ดินเหนียว ดินรว น 15 642 12ราย พืชแตล ะชนดิ ตองการดนิ ในการเจริญเตบิ โตท่ีตา งกนั โดยพชื ทีต่ องการนา้ํ มาก ควรในดนิ เหนยี ว เน่อื งจากนํ้าซมึ ผา นไดช า พืชที่การน้าํ ปานกลาง ควรปลูกในดนิ รว นเน่อื งจากน้ําซึมดปานกลาง สวนพชื ที่ตอ งการนํา้ นอย ควรปลูกในราย เน่ืองจากนาํ้ ซึมผานไดเร็ว สมบตั ขิ องวัสดุ คอื ลกั ษณะเฉพาะของวสั ดุนน้ัชน ลกั ษณะพน้ื ผวิ นํา้ หนัก ความแข็ง ความยดื หยนุมนํา้ วตั ถุแตละชนดิ ทําจากวัสดทุ ีม่ ีสมบตั ิของวัสดทุ ่ีตา งกนั ตามลักษณะ การใชงาน และวสั ดแุ ตละชนิดมีตขิ องวสั ดุแตกตางกันมเ หล็กมสี มบัติสามารถดึงดูดวตั ถทุ ี่ทาํ ดว ยสาร 15 642 12 ล็ก โดยสารแมเหล็ก คือ วสั ดุท่เี ปนโลหะ ไดแ ก เหล็กกลา นกิ เกลิ และโคบอลต แมเหล็กมแี รงดและแรงผลกั ระหวางแทงแมเ หลก็ เมื่อนําแมเหลก็งที่มีขว้ั ตางกนั เขาใกลกัน จะมแี รงดงึ ดดู เกิดขึ้น และาแมเ หลก็ 2 แทงท่ีมีขั้วเหมอื นกันเขาใกลก ัน จะมีลกั เกิดขน้ึ สวนของแมเ หล็กที่ดึงดดู เหลก็ ไดด ีที่สุดวา ขว้ั โดยขั้วจะอยตู รงบรเิ วณปลายท้ัง 2 ขางของ ล็ก

ท่ี ชื่อหนวย รหสั มฐ. ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู แหลง5. พลังงาน พลงั งา ว5.1 ป2/1ทดลองและอธบิ ายไดวา ไฟฟา เปน เคลือ่ น พลงั งาน ทําหน ว5.1 ป2/2สาํ รวจและยกตัวอยาง แบตเต เคร่ืองใชไฟฟาในบานที่เปล่ยี นพลังงานไฟฟา ต้ังแต เปนพลงั งานอ่นื พลงั งา ว7.1 ป2/1สืบคน และอภิปรายความสําคัญ แบง เป ของดวงอาทติ ย วดั ผลกลางภาค วดั ผลปลายภาค รวมท้ังสิ้น

สาระสําคัญ เวลา นาํ้ หนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) KPA รวมงกําเนดิ ไฟฟา คือ แหลงกาํ เนิดพลังงาน าน คือ ความสามารถในการทาํ ใหวัตถุทาํ งานหรือ 15 642 12นท่ีได เซลลไฟฟา หรือ เซลลไฟฟาเคมี คอื เซลลท ี่นาที่เปล่ยี นรปู พลงั งานเคมีไปเปนพลงั งานไฟฟา ตอรี่ คือ แหลง กําเนิดไฟฟาทมี่ กี ารนําเซลลไ ฟฟาต 2 เซลลมาตอ เขาดวยกัน เพ่อื ใหส ามารถผลติ านไฟฟาไดมากขน้ึ ประเภทของแบตเตอร่ีปน 2 ประเภท 10 5 5 20 10 5 5 20 80 60 20 20 100

การวิเคราะหม าต วิชา วิทยาศาสตร ชั้นประถมศึกษาปท่ี 2 ( จาํ นวนมาตรฐานและตัวช้วี ัด รอู ะไร ทาํ อะไรว1.1 ป.2/1ทดลองและอธบิ าย นํา้ แสง รูอะไรเปนปจจยั ท่จี ําเปน ตอ การดาํ รงชวี ติ ของ ปจ จยั ท่จี าํ เปน ตอการดํารงชีวติ และกาพชืว1.1 ป.2/2อธบิ ายอาหาร นา้ํ อากาศ เจรญิ เตบิ โตของพชื ไดแ ก นา้ํ แสงเปนปจ จัยท่จี าํ เปน ตอการดาํ รงชวี ติ และ อาหาร และอากาศการเจริญเติบโตของพืชและสัตวแ ละนาํ พชื มกี ารตอบสนองตอแสง อุณหภมู ิ และความรไู ปใชป ระโยชน การสมั ผสัว1.1 ป.2/3สํารวจและอธิบาย พชื และ พืชมีประโยชนต อ มนุษย คือ เปน อาหารสตั วส ามารถตอบสนองตอแสง อุณหภูมิ อยอู าศยั เคร่ืองนงุ หม และยารกั ษาโรคและการสัมผัสว1.1 ป.2/4ทดลองและอธิบาย รา งกาย สัตวตา ง ๆ สามารถดาํ รงชีวติ และของมนษุ ยส ามารถ ตอบสนองตอแสง เจรญิ เติบโตไดตองอาศยั ปจ จัยท่จี าํ เปนตออุณหภมู ิ และการสมั ผัส การดํารงชวี ติ และเจรญิ เติบโต ไดแกว1.1 ป.2/5อธบิ ายปจ จัยท่ีจาํ เปนตอ การ อาหาร น้ํา อากาศ และที่อยูอาศัยดาํ รงชีวิต และการเจรญิ เตบิ โตของมนุษย สตั วแ ตล ะชนดิ กนิ อาหารแตกตางกนัว1.2 ป.2/1อธิบายประโยชนของพืชและ ข้ึนอยูกับธรรมชาติของสตั ว ซึ่งสามารถสตั วในทองถ่นิ แบงสตั วต ามเกณฑการกินอาหารได 3 ประเภท คือ สตั วกินพชื เปนอาหาร สตั ว กนิ เนื้อสัตวเ ปน อาหาร และสัตวกนิ ทัง้ พืชและสตั วเปน อาหาร ทําอะไร - ทดลองและอธบิ าย ปจ จัยท่ีจาํ เปน ตอ การดาํ รงชวี ติ ของพชื และการ

ตรฐานและตัวช้วี ดั ช่อื หนว ย สิ่งมชี ีวิต 20 ชัว่ โมง ) ปการศกึ ษา 2561 ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสําคัญ คุณลักษณะ คณุ ลักษณะ ของวิชา อนั พึงประสงค - ใบงาน 1. ความสามารถในาร - ชดุ การทดลอง การส่ือสาร 1. ความ 1. ใฝเ รียนรู 2. ความสามารถใน กระตือรือรน 2. มุง มั่นในการ - แบบทดสอบ การคิด 2. ความสนใจ ทํางานะ 3. มวี ินัยที่อว

เจริญเตบิ โตของพืชและสัตว และ ประโยชนของพืชในทองถ่ิน - ศึกษาองคประกอบรา งกายมนษุ ยและ การเจรญิ เติบโตของมนุษย การวเิ คราะหม าต วชิ า วทิ ยาศาสตร ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี 2 ( จาํ นวนมาตรฐานและตัวชี้วดั รูอ ะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ช้นิ งานว6.1 ป2/1สาํ รวจและ รอู ะไร - ใบงานจําแนกประเภทของดนิ โดยใช ดนิ แบง ออกเปน 3 - นําเสนอหนา ชั้นเรียนสมบตั ิทางกายภาพเปน เกณฑ ประเภท ตามสมบตั ิทางและนาํ ความรูไปใชป ระโยชน กายภาพของดิน ไดแ ก ดินเหนยี ว ดินรว น ดนิ ทราย ทาํ อะไร สํารวจและจําแนก ประเภทของดนิ โดยใช สมบัตทิ างกายภาพเปน เกณฑ และนําความรไู ปใช ประโยชน

ะตรฐานและตัวชวี้ ัด ชอ่ื หนว ย ดนิ บานเรา 15 ช่วั โมง ) ปการศึกษา 2561 สมรรถนะสาํ คญั คณุ ลกั ษณะของวิชา คุณลักษณะ อนั พึงประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน ส่อื สาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเ รียนรู 2. ความสามารถในการคดิ 2. มุง มนั่ ในการทาํ งาน 3. มวี ินยั

การวเิ คราะหม าต วิชา วิทยาศาสตร ชื่อ ชนั้ ประถมศึกษาปที่ 2 (จาํ นวนมาตรฐานและตัวช้วี ัด รูอ ะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ชน้ิ งานว3.1 ป2/1สงั เกตและ รอู ะไร - ใบงานระบลุ กั ษณะทปี่ รากฏ สมบตั ขิ องวสั ดุ คอื - ผงั ความคดิหรือสมบัติของวัสดุทใ่ี ช ลักษณะเฉพาะของวัสดุนัน้ ๆ - นาํ เสนอทําของเลน ของใชใ น เชน ลักษณะพืน้ ผิว น้าํ หนกัชีวิตประจําวัน ความแขง็ ความยดื หยุน การ ซึมนํ้า วัตถแุ ตละชนิดทําจากว3.1 ป2/2จาํ แนกวัสดุ วสั ดทุ ม่ี สี มบตั ขิ องวัสดุท่ีทใี่ ชทําของเลนของใชใ น แตกตางกันตามลักษณะ การใชชีวิตประจาํ วันรวมท้ัง งาน และวัสดแุ ตละชนิดมีระบเุ กณฑที่ใชจาํ แนก สมบัติของวสั ดแุ ตกตา งกัน ทาํ อะไร สังเกตและระบลุ ักษณะท่ี ปรากฏหรือสมบัติของวสั ดทุ ี่ใช ทําของเลน ของใชใ น ชีวิตประจาํ วัน และ จาํ แนกวสั ดุทใี่ ชทาํ ของเลน ของ ใชใ นชีวติ ประจํา วันรวมทง้ั ระบเุ กณฑทีใ่ ช จาํ แนก

ตรฐานและตัวชว้ี ัดอหนวย ของเลนของใช 15 ชวั่ โมง ) ปการศึกษา 2561สมรรถนะสาํ คัญ คณุ ลักษณะของวิชา คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรนส่ือสาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเรียนรู2. ความสามารถในการคดิ 2. มุงมน่ั ในการทํางาน 3. มวี นิ ัย

การวเิ คราะหมาต วิชา วทิ ยาศาสตร ชอ่ื ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี 2 (จาํ นวนมาตรฐานและตวั ช้ีวดั รอู ะไร ทําอะไร ภาระงาน/ชิ้นงานว4.1 ป2/1ทดลองและ รูอ ะไร - ใบงานอธบิ ายแรงท่ีเกดิ จาก แมเ หล็กมีสมบัตสิ ามารถ - ผังความคิดการเกิดแมเ หล็ก ดงึ ดดู วตั ถทุ ท่ี ําดวยสารแมเหล็ก แรง โดยสารแมเหลก็ คือ วัสดทุ เี่ ปน - ทดลองว4.1 ป2/2อธบิ ายการ โลหะ ไดแก เหล็ก เหล็กกลา - นาํ เสนอหนาช้นั เรยี นนาํ แมเหล็กมาใช นกิ เกิล และโคบอลต แมเหล็กมีประโยชน แรงดงึ ดดู และแรงผลักระหวา ง แทง แมเหล็ก เมอ่ื นําแมเหลก็ 2ว4.1 ป2/3 ทดลองและ แทง ที่มีขว้ั ตา งกันเขาใกลกนั จะมีอธบิ ายแรงไฟฟา ที่เกิด แรงดึงดดู เกดิ ขน้ึ และเมื่อนําจากการถูวัตถบุ างชนดิ แมเ หล็ก 2 แทง ทีม่ ีขัว้ เหมือนกัน เขาใกลกนั จะมีแรงผลกั เกดิ ขึ้น สวนของแมเ หล็กทีด่ งึ ดูดเหลก็ ได ดที ่สี ุด เรียกวา ขัว้ โดยขัว้ จะอยู ตรงบริเวณปลายท้งั 2 ขางของ แมเ หล็ก ทําอะไร วิเคราะห อธิบาย ทดลองแรงท่ี เกดิ จากแมเหล็กและแรงไฟฟาที่ เกิดจากการถูวตั ถุบางชนดิ

ตรฐานและตัวชีว้ ดัอหนว ย แรงในธรรมชาติ 15 ช่วั โมง ) ปการศึกษา 2561 สมรรถนะสาํ คัญ คุณลกั ษณะของวิชา คณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน สือ่ สาร 2. ความสนใจ 1. ใฝเรียนรู 2. ความสามารถในการคิด 2. มุงม่ันในการทํางาน 3. มวี ินยัน

การวิเคราะหม าต วชิ า วิทยาศาสตร ชนั้ ประถมศึกษาปที่ 2 (จํานวนมาตรฐานและตัวชีว้ ัด รอู ะไร ทาํ อะไร ภาระงาน/ชนิ้ งานว5.1 ป2/1ทดลองและ รูอะไร - ใบงานอธิบายไดวาไฟฟา เปน แหลงกาํ เนิดไฟฟา คือ - สรปุ องคความรูเร่ืองพลงั งาน แหลงกําเนิดพลงั งาน แหลง กาํ เนดิ พลังงานว5.1 ป2/2สํารวจและ พลังงาน คือ ความสามารถใน - นําเสนอหนาช้นั เรียนยกตวั อยาง การทาํ ใหวัตถุทาํ งานหรือเครื่องใชไฟฟาในบานที่ เคลือ่ นที่ได เซลลไฟฟา หรอืเปล่ยี นพลงั งานไฟฟา เซลลไฟฟาเคมี คอื เซลลท ี่ทาํเปนพลังงานอน่ื หนาท่ีเปล่ยี นรูปพลงั งานเคมีไปว7.1 ป2/1สบื คนและ เปน พลังงานไฟฟาอภิปรายความสําคัญ แบตเตอรี่ คือ แหลงกาํ เนิดไฟฟาของดวงอาทิตย ทม่ี กี ารนาํ เซลลไ ฟฟาตง้ั แต 2 เซลลม าตอเขาดวยกัน เพ่ือให สามารถผลติ พลงั งานไฟฟาไดมาก ข้นึ ประเภทของแบตเตอรี่ แบง เปน 2 ประเภท ทาํ อะไร ศกึ ษา แหลง กาํ เนิดไฟฟา เคร่อื งใชไฟฟา ในบาน อภปิ ราย และนาํ เสนอหนาชนั้ เรียน

ตรฐานและตัวช้ีวดั ชื่อหนว ย พลังงาน 15 ชว่ั โมง ) ปก ารศึกษา 2561 สมรรถนะสาํ คัญ คณุ ลักษณะของวิชา คุณลักษณะ อันพงึ ประสงค 1. ความสามารถในการ 1. ความกระตือรือรน 1. ใฝเรียนรูง สอ่ื สาร 2. ความสนใจ 2. มงุ ม่นั ในการทาํ งาน 3. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคดิน

การวดั และกา วิชา วทิ ยาศาสตร ช้ันประถมศกึ ษาปที่ 2 (จาํ นวน 1 เปาหมาย ภาระงาน/ชน้ิ งาน วสาระสําคัญ - ใบงาน - ตรวจใบ - สงั เกตกปจ จยั ท่จี ําเปนตอ การดาํ รงชีวิตและการ - ทาํ การทดลอง กลมุ วิธีก การทดลอเจรญิ เติบโตของพชื ไดแก นํ้า แสง อาหาร - แบบทดสอบ นาํ เสนองาและอากาศ - นําเสนองานพชื มีการตอบสนองตอ แสง อุณหภูมิ และการสมั ผสัพชื มปี ระโยชนต อมนุษย คือ เปนอาหาร ท่ีอยูอาศัย เคร่ืองนงุ หม และยารักษาโรคสตั วตา ง ๆ สามารถดาํ รงชีวติ และเจริญเตบิ โตไดตองอาศัยปจ จัยทจี่ ําเปนตอการดาํ รงชวี ติ และเจรญิ เติบโต ไดแกอาหาร นาํ้ อากาศ และที่อยอู าศัยสัตวแตละชนิดกินอาหารแตกตางกันขึ้นอยกู ับธรรมชาติของสตั ว ซึง่ สามารถแบงสตั วต ามเกณฑการกินอาหารได 3 ประเภทคอื สตั วกนิ พืชเปน อาหาร สัตวกนิ เน้ือสตั วเปน อาหาร และสตั วก นิ ท้ังพืชและสตั วเ ปนอาหาร

ารประเมินผล ชอ่ื หนว ย ส่ิงมีชวี ิต15 ชวั่ โมง ) ปก ารศึกษา 2561วธิ วี ัด เครื่องมือวดั เกณฑก ารใหค ะแนน คะแนนบงาน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลอง 20 คะแนนกระบวนงาน - แบบประเมินการนําเสนอ - การนาํ เสนอ ผา นรอยละการทดลอง ผล - กระบวนงานกลมุ 70 ขึ้นไปอง การ าน

การวัดและกา วชิ า วิทยาศาสตร ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 (จํานวน 1 เปา หมาย ภาระงาน/ช้ินงาน วธิ ีวสาระสําคัญ - ใบงาน - ตรวจใบงาน - สงั เกตกระบวดนิ แบงออกเปน 3 ประเภท - แบบทดสอบ การนําเสนองาตามสมบัติทางกายภาพของดิน - นาํ เสนองานไดแ ก ดนิ เหนียว ดินรวนดนิ ทรายพืชแตละชนิดตองการดนิ ในการเจรญิ เติบโตทแ่ี ตกตางกนั โดยพชื ท่ีตองการนาํ้ มาก ควรปลกู ในดินเหนียว เนื่องจากนํ้าซึมผานไดชา พชื ที่ตองการน้ําปานกลาง ควรปลกู ในดินรวนเน่อื งจากน้ําซมึ ผา นไดป านกลาง สว นพชื ท่ีตอ งการนํา้ นอ ย ควรปลกู ในดินทราย เน่อื งจากนํ้าซึมผานไดเรว็

ารประเมนิ ผลชื่อหนวย ดินบานเรา15 ชว่ั โมง ) ปการศึกษา 2561วดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑการใหคะแนน คะแนนน - แบบประเมนิ ใบงาน - การทดลองวนงานกลมุ น - แบบประเมนิ กระบวนงาน - การนําเสนอ กลมุ การนําเสนอ - กระบวนงานกลุม 15 คะแนน ผานรอยละ 70 ขึ้นไป

การวัดและกา วิชา วิทยาศาสตร ช่ือ ช้นั ประถมศึกษาปที่ 2 (จาํ นวน 1เปา หมาย ภาระงาน/ช้นิ งาน สมบตั ิของวสั ดุ คือ ลักษณะเฉพาะ - ใบงาน - ตรวจใของวัสดนุ น้ั ๆ เชน ลักษณะพ้ืนผิว นา้ํ หนัก - ผังความคิดความแข็ง ความยดื หยุน การซมึ นํา้ วตั ถแุ ต - นาํ เสนอ - ตรวจผละชนดิ ทําจากวัสดุที่มีสมบตั ขิ องวัสดทุ ่ี - สงั เกตแตกตางกนั ตามลักษณะ การใชง าน และวัสดุแตล ะชนิดมีสมบตั ิของวสั ดแุ ตกตางกัน

ารประเมนิ ผลอหนวย ของเลน ของใช15 ชั่วโมง ) ปก ารศึกษา 2561วิธวี ดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑการใหค ะแนน คะแนนใบงาน - แบบประเมนิ - การทดลอง 15 คะแนน ผานรอยละผังความคดิ - แบบประเมินใบงาน - การนาํ เสนอ 70 ขึ้นไปตการนาํ เสนอ - แบบประเมนิ ผังความคิด - กระบวนงานกลมุ - แบบประเมินการ นําเสนอ

การวดั และกา วิชา วิทยาศาสตร ช่ือ ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 2 (จํานวน 1 เปา หมาย ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธีวสาระสาํ คัญ - ใบงาน - ตรวจใบงาน - ตรวจ ผงั ควาแมเ หลก็ มสี มบตั สิ ามารถดึงดูด - ผังความคดิ การเกิดแรง แรง - ทดลอง - ตรวจผลการทวตั ถุที่ทาํ ดวยสารแมเ หล็ก โดยสาร - นําเสนอหนา ชน้ั เรียน - สงั เกตการนาํแมเ หล็ก คือ วสั ดุท่เี ปน โลหะ เรยี นไดแก เหล็ก เหล็กกลา นกิ เกิล และโคบอลต แมเ หล็กมีแรงดงึ ดูดและแรงผลกั ระหวางแทง แมเหล็ก เมอื่นาํ แมเหล็ก 2 แทง ทมี่ ีขัว้ ตางกนัเขา ใกลกัน จะมีแรงดงึ ดูดเกดิ ข้ึนและเม่ือนาํ แมเหล็ก 2 แทง ท่ีมขี วั้เหมือนกันเขา ใกลก นั จะมีแรงผลักเกิดขึน้ สวนของแมเ หล็กท่ีดงึ ดูดเหลก็ ไดดที ี่สดุ เรียกวา ข้วั โดยขั้วจะอยูต รงบรเิ วณปลายทงั้ 2 ขางของแมเ หลก็

ารประเมนิ ผลอหนวย แรงธรรมชาติ15 ชั่วโมง ) ปการศึกษา 2561วัด เครือ่ งมือวดั เกณฑก ารใหคะแนน คะแนน - แบบประเมินใบงาน - การทดลอง - การนําเสนอามคิดการเกดิ - แบบประเมินผังความคดิ - กระบวนงานกลุม - แบบประเมนิ การนาํ เสนอทดลอง - แบบประเมินการทดลองาเสนอหนาช้นั 15 คะแนน ผานรอ ยละ 70 ขึน้ ไป

การวัดและกา วชิ า วทิ ยาศาสตร ชนั้ ประถมศึกษาปที่ 2 (จาํ นวน 1 เปาหมาย ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธวีสาระสาํ คัญ - ใบงาน - ตรวจใบงาน - ตรวจการสรปุแหลงกาํ เนดิ ไฟฟา คอื - สรปุ องคความรเู รื่อง - สงั เกตการนํา เรียนแหลงกาํ เนดิ พลังงาน แหลง กําเนดิ พลังงานพลังงาน คือ ความสามารถในการ - นาํ เสนอหนาชั้นเรยี นทาํ ใหวัตถทุ าํ งานหรือเคล่อื นที่ไดเซลลไฟฟา หรอื เซลลไ ฟฟาเคมีคอื เซลลท ่ีทาํ หนาที่เปลี่ยนรปูพลังงานเคมีไปเปนพลังงานไฟฟาแบตเตอร่ี คือ แหลงกําเนดิ ไฟฟา ท่ีมีการนําเซลลไ ฟฟาตั้งแต 2 เซลลมาตอเขาดว ยกัน เพอ่ื ใหสามารถผลิตพลังงานไฟฟาไดมากขึ้นประเภทของแบตเตอรี่ แบง เปน2 ประเภท

ารประเมินผล ชอ่ื หนวย พลังงาน15 ชัว่ โมง ) ปการศึกษา 2561วดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑก ารใหคะแนน คะแนน - แบบประเมินใบงาน - การทดลองปงาน - แบบประเมนิ การนําเสนอ - การนําเสนอาเสนอหนาชน้ั - สรปุ องคความรูเรื่อง - กระบวนงานกลมุ แหลงกําเนิดพลังงาน 15 คะแนน ผา นรอยละ 70 ข้นึ ไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook